MR.LOVE เหนือกฎรัก
บทที่ 2
เหนือณรงค์นั่งเหม่ออยู่บนโซฟาหนังตัวใหญ่ ภายในเพ็นท์เฮาส์สุดหรูของ ‘ว่าที่’ คู่จิ้น
“เฮ้” อติกานต์ในชุดอยู่บ้านดก้าวเท้าเดินลงมาจากบันไดเอ่ยทักทายขึ้น “นึกว่ากลับไปแล้ว”
ชายหนุ่มในชุดเมื่อคืน นั้นคือเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำและกางเกงพอดีเรียวขาสีเดียวกันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงเจ้าของห้อง แล้วเอ่ยถามในสิ่งที่ค้างคาใจออกไป “ตกลงระหว่างเราสองคนนี่มันมีเกิดอะไรเกิดขึ้นไหม”
“ผมบอกให้คุณลองคิด”
“ก็เพราะมันคิดไม่ออกยังไงล่ะโว้ย!”
“อย่ามาขึ้นเสียงกับผม” ใบหน้าหล่อเหลาของอติกานต์ในเวลานี้เรียบนิ่งไร้คลื่นอารมณ์ขณะกล่าว... ทำให้อารมณ์ที่กำลังลุกโชนของเหนือณรงค์มอดดับลงไปทันที
“ขอโทษผมทำตัวไม่ถูก” เจ้าของใบหน้าเข้มสลดลง พร้อมกับมองหน้าคู่สนทนาด้วยแววตาหง่อยๆ “ผมยอมรับว่ากำลังสติแตกกับเรื่องของเรา”
อติกานต์กดเดินผ่านคนที่นั่งอยู่เพื่อไปที่เครื่องชงกาแฟ แล้วยืนกอดอกรอน้ำสีเข้มให้ไหลลงมาใส่แก้ว “เราจะมีหรือไม่มีมันทำให้คุณเดือดร้อนหรือยังไง”
“ผมก็ต้องเดือดร้อนสิ”
“คนอย่างคุณไม่น่าจะคิดมากเรื่องนี้”
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อนในชีวิต แล้วคุณจะไม่ให้ผมคิดมากได้ยังไง!” เขากล่าวด้วยท่าทีฉุนเฉียว
“จะนอนกับเพศไหนก็ไม่มีอะไรต่างหรอก หรือว่าคุณเหนือณรงค์ไม่เคยวันไนท์สแตนด์กับใครมาก่อน” อติกานต์พูด ขณะยกแก้วกาแฟขึ้นสัมผัสรสชาติ ‘ขม’ ของน้ำสีเข้มภายในแก้ว
เหนือณรงค์ไม่ยอมตอบคำถามของอติกานต์ แต่เขากลับสวนถามด้วยเรื่องที่ติดค้างในใจตนเองแทน ด้วยรูปประโยคที่ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก “แล้วตกลงเราสองคนนอนด้วยกันใช่ไหม”
อติกานต์ยิ้ม เมื่อถูกชายกนุ่มถามคำถามแบบเดิมๆ อีกครั้ง แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้สีหน้าบนหน้าชวนมองของเขาแทบจะแทนคำตอบจากปากของชายหนุ่มเองได้
เหนือณรงค์ขนลุกไปทั้งตัวเมื่อเห็นรอยยิ้มสวย... แต่แฝงเล่ห์เหลี่ยมบางอย่างเอาไว้ ก่อนจะกลั้นใจเถามต่อ เพื่อความในใจ แม้ในใจของตนจะรู้คำตอบที่จะได้รับอยู่แล้วก็ตาม “ผมเอาคุณ”
อติกานต์วางแก้วลงบนเคาร์เตอร์บาร์ ก่อนจะวางมือทิ้งสองข้างลงบนนั้นเพื่อจะโน้มตัวลงมา จนคอเสื้อยืดที่ค่อนข้างกว้างหย่อนลงพอ จะทำให้คนบางคนเห็นร่องรอยตามเนื้อตัวของเขา
ดวงตาคมเบิกกว้างเมื่อเห็นรอยจุมพิตและรอยฟันที่เขียวและม่วงช้ำบนผิวเนื้อสีขาวจัด
“ผมได้กับคุณแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด”
“ใครกดใคร” คำถามนี้คนถามถามด้วยสีหน้าจริงจังกว่าประโยคก่อนมาก
“ร่างกายคุณคุณก็น่าจะรู้ดีที่สุด”
“เวรเอ๊ย!” เหนือณรงค์ผุดลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาหาคนที่ยืนอยู่ในห้องครัวขนาดเล็ก โดยเขาเลือกที่จะยืนอยู่ในพื้นที่ห้องรับแขก ซึ่งระหว่างสองหนุ่มมีเคาร์เตอร์บาร์กางกั้นเอาไว้ “ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องแบบนี่มันเกิดขึ้น“
อติกานต์เหยียดยิ้ม ก่อนจะยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาเท้าปลายคางเอาไว้ “เพราะคุณน่าสนใจ”
“แต่ผมไม่ใช่เกย์”
“เรื่องความต้องการของร่างกายไม่เห็นเกี่ยวว่าเราจะเป็นอะไร”
เหนือณรงค์มองหน้าคนที่กำลังใช้สายตาโลมเลียเขา!
“ผมชอบผู้หญิง”
“แล้วไง”
“ทำไมคุณไม่ขัดขืน”
“ก็บอกแล้วว่าผมสนใจคุณ”
“ปัดโธ่! วันนี้เราสองคนจะคุยกันรู้เรื่องไหม”
“คุณดูหงุดหงิดจังนะ”
“ก็มันน่าหงุดหงิดไหม ผมถามอะไรไปคุณก็ไม่ยอมตอบคำถามตรงๆ เลย”
อติกานต์มองหมาป่าตัวน้องของเที่กำลังหัวเสียใส่ ก่อนจะยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มในสีหน้า เพราะเอื้อเอ็นดูในท่าทีของอีกฝ่าย
“แล้วสนใจให้ผมทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นไหม”
“คุณจะทำอะไร”
“นั่งลงสิ”
และเหมือนเดิม เหนือณรงค์หย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้สตูที่อยู่ใกล้ๆ อย่างว่าง่าย ขณะที่สายตาก็จับจ้องมองคนที่กำลังเดินอ้อมเคาร์เตอร์ที่กางกั้นแบ่งเขตแดนของเขาและอติกานต์เพื่อจะออกมาหา ‘เหยื่อ’ ที่นั่งรออยู่อย่างว่าง่าย
ใครจะคิดว่า ‘หมาป่าตัวน้อย’ จะน่ารักแสนเชื่องจนพูดอะไรก็ยอมทำตามแบบนี้...
“กางขาให้มันกว้างกว่านี้” เสียงของคนพูดแหบพร่ากว่าปกติ จนคนได้ยินหัวใจกระตุกวูบแต่ก้ยอมทำตาม... อย่างว่าง่าย “กว้างกว่านี้อีก”
เหนือณรงค์ทำตามคำบัญชาของอีกฝ่ายราวกับถูกมนต์สะกด โดยทันทีที่เขาปฏิบัติตามคำสั่งของอีกฝ่าย ร่างสูงเพรียวของอติกานต์ก้าวมาหยุดยืนอยู่ระหว่างต้นขาของ
“คุณจะทำอะไร” เหนือณรงค์รู้ตัวเมื่อกล่าวออกไปแล้วว่าเสียงของเขาเขาเองก็กำลังแหบพร่าไม่แพ้อีกฝ่าย เมื่ออารมณ์ซ่านสยิวโลดแล่นไปทั่วเซลล์ประสาทการรับรู้ของเขา จนแม้แต่ปลายลิ้นของเขาก็ยังอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงไปหมด
“ผมก็กำลังจะปลอบคุณอยู่นี่ไง”
“ปลอบผมทำไม”
“ก็เพื่อไม่ให้คุณรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา” พอพูดจบเรียวปากของอติกานต์ก็โฉบวูบลงมา แล้วแนบเบียดเข้ากับริมฝีปากสีแดงจัดของเหนือณรงค์
เรียวลิ้นของทั้งสองก็กำลังกอดเกี่ยวกันและกัน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุกผลัดกันน้อมรับการไล่ต้อนของอีกฝ่ายอย่างรู้หน้าที่
“ผมชอบนะ” อติกานต์พูดเมื่อริมฝีปากของเขาถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ “ของที่อยู่บนลิ้นของคุณมันทำให้ผมรู้สึกดี”
ชายหนุ่มหมายถึงจิวเวอร์ลี่ที่ถูกใช้เพื่อเจาะลงไปบนเรียวลิ้นของเหนือณรงค์
“อือ” เหนือณรงค์จัดการกดศีรษะของอีกฝ่ายเข้ามาหา เพื่อจะจุมพิตต่อ.. เมื่อเขาเกิดติดใจลีลาการจูบของอติกานต์แล้วในเวลานี้.. และยังรู้สึกไม่พอ
นายแบบเข้าขั้นเสพติดรสสัมผัสและลีลาการยั่วยวนของอีกฝ่าย....
“เดี๋ยว” อติกานต์พูดขัดขึ้นมา ก่อนที่เรียวปากของชายหนุ่มทั้งสองจะบรรจบกัน
“ห้ามทำไม” เหนือณรงค์เหลือบตาขึ้นมองคนที่กำลังยืนค้ำศีรษะตนอยู่
“คุณจะโอเคแน่หรือ” ปากถามแต่สายตากำลังหว่านเสน่ห์ใส่เขา แล้วไหนจะฝ่ามือร้อนๆ ที่ลูบบนแผงอกของเหนือณรงค์
ทั้งคำถามและการกระทำของอติกานต์เรียกเสียงคำรามในลำคอของคนที่ ‘เคย’ ยืนยันเสียงหนักว่าตนไม่ได้พิศวาบุรุษเพศ... มาก่อน
“เดี๋ยวนี้เลย!” เหนือณรงค์หายใจติดขัดขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของอติกานต์เขี่ยเบาๆ บนยอดอกของเขา ก่อนที่การเคลื่อนไหวของท้องนิ้วอีกฝ่ายจะเปลี่ยนจากการ ‘เกลี่ย’ เป็น ‘บดขยี้’ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขารุนแรงขึ้น
จนเหนือณรงค์กลายเป็นคนที่เกิดอาการสำลักคำพูดของตัวเอง “ผะ... ผม ต้องการให้คุณบอกมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคนบ้างเมื่อคืน”
“หึ!” คนถูกถามส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ในคอ ขณะเดียวกันกับที่ฝ่ายเขาจัดการปลดกระดุมกางเกงของเหนือณรงค์ ก่อนจะสอดมือเข้าไปลูบไล้ส่วนกลางของร่างกายที่ร้อนผ่าวของคนที่นั่งอยู่ “ลุกขึ้นหน่อยสิ“
“ทำไม”
“ผมจะถอดกางเกงให้”
ทันทีที่ได้รับรู้จุดประสงค์ของอีกฝ่าย เหนือณรงค์ไม่เพียงขยับกายลุกอย่างเดียว เขายังเป็นฝ่ายช่วยจัดการดึงกางเกงที่เกาะอยู่บนสะโพกให้มันเลื่อนลงไปไว้อยู่บนหน้าขาพร้อมๆ กันกับกางเกงชั้นในที่สวมอยู่
โดยสายตาดำขลับเฝ้ามองอีกฝ่ายค่อยๆ ยอบตัวลงนั่ง
“เมื่อคืนผมทำแบบนี้กับคุณ” อติกานต์ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจใส่สิ่งที่กอบกุมเอาไว้ในอุ้งมือ แล้วอ้าปากรับเอาร่างกายของเขาเข้าไป
“โอ้มาย...” เหนือณรงค์ครางเบาๆ เมื่อถูกรับเข้าไปในปากร้อนระอุของหนุ่มหน้าหวาน “อ้ะ... อ้ะ”
เขาคำรามเสียงครางต่ำราวกับสัตว์ป่าที่กำลังสมสู่กับคู่ของมันออกมา เมื่อความสุขกำลังถูกมอบให้ด้วยปากแสนเซ็กซี่ของชายหนุ่มคนนั้น... ผู้ชายคนแรกที่เขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย
ดวงตาของเหนือณรงค์จับตามองทุกการโยกไหวของศีรษะที่ถูกปกคลุกด้วยเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน และต้องส่งเสียงร้องด้วยความสุขสมออกมา เมื่อเรียวลิ้นที่ทั้งวนทั้งปาดบนร่างกายของเขากำลังทำให้เขาเกือบจะ
“อ้า!” เหนือณรงค์ส่งเสียงในลำคอ เมื่อสายธารความร้อนพุ่งออกมาจากตัวตนของเขาเรียบร้อยแล้ว
ร่างกายของเหนือณรงค์ถูกปลอยเป็นอิสระ ความเย็นที่สัมผัสส่วนที่ไวต่อสัมผัสทำให้ร่างกายที่ถูกกระตุ้นของเหนือณรงค์กระตุกเบาๆ พร้อมกับความเสียดายเอ่อหล่นเมื่อเขาถูกปล่อยเป็นอิสระ... เมื่อรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ภายในอุ้งปากของอติกานต์แล้ว
“นี่คือสิ่งที่ผมทำกับคุณ”
เหนือณรงค์เบิกตากว้างเมื่อเห็นเจ้าของเรียวหน้าสวนราวกับสตรีเพศกำลังกลืนกินทุกอย่างของเขาเข้าไปอย่างไม่คิดจะรังเกียจมันแม้แต่น้อย
“คุณกินมัน”
“อื้อ” อติกานต์ยกปลายนิ้วขึ้นปาดมุมปาก แล้วค่อยๆ ลุกขึ้น
“เราทำกันแค่นี้”
“แต่คนละท่า เพราะเมื่อคืนคุณนอนอยู่” คนฟังหน้าแดง ผิดกับคนพูดที่แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย
“ในเมื่อผมหลับแล้วรอยบนตัวคุณ”
“ผมเองก็แปลกใจ” อติกานต์มองสบตาดำขลับของนายแบบหนุ่มตรงๆ “คุณเหมือนจะไม่ได้สติ แต่พอเอาเข้าจริง คุณก็ให้ความร่วมมือทุกอย่าง แถมยังฝากรอบพวกนี้ไว้บนตัวผมได้ทั้งๆ ที่เมาจนหมดสภาพ ผมไม่อยากจะคิดว่าถ้าตอนไม่เมาจะมันส์ขนาดไหน”
คนฟังหน้าแดง ก่อนจะเป็นฝ่ายหลุบตาลงเพื่อหลบสายตาเย้าย้วนของอติกานต์
“ตกลงเราไปถึงไหนกันแล้ว”
“ลองทายดูสิ”
“แล้ว” ทำไมไม่ทำมันให้ผมดูว่าเราไปถึงไหนกันแล้ว ประโยคในหัวยังไม่ทันหลุดออกมาจากปากของเหนือณรงค์ อีกฝ่ายก็พูดแทรกขึ้นมา
“คุณจะทำจริงๆ เหรอคุณเหนือณรงค์” อติกานต์ลากชื่อของคนจตรงหน้าเสียงยาวอย่างจงใจ ‘ยั่ว’ “คนที่ไม่ใช่เกย์อย่างคุณจะรับสิ่งที่เรา ‘ทำ’ กันไปเมื่อคืนได้แน่หรือ ผู้ชายแท้ๆ ไม่มีใครเขาทำกันหรอกนะ”
เหนือณรงค์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะพูดออกไป “แต่ผมอยากรู้งว่าเราสองคนไปถึงไหนกันแล้ว”
“แต่ผมทำมันกับคุณไม่ได้แล้ว”
“เพราะอะไร” เหนือรงค์เงยหน้าขึ้นมองขณะเอ่ยถามเสียงเข้มด้วยความหงุดหงิดใจ... โดยไม่รู้ตัว
“เพราะว่า” อติกานต์ถอยออกห่างจากช่องว่างระหว่างเรียวขาของเหนือณรงค์ “ถุงยางในห้องผมหมดแล้ว”
มือแข็งแรงฉวยคว้าแขนของอติกานต์เพื่อรั้งไม่ให้เขาถอยห่างออกไป ก่อนเสียงห้าวจะเอ่ยขณะสีหน้าของนายแบบหนุ่มดูดุดันจนน่าตกใจ... และเร้าอารมณ์คนมองในเวลาเดียวกัน
“แต่ในกระเป๋าตังค์ผมยังมี” เหนือณรงค์ใช้มืออีกครั้งเอื้อมไปที่กระเป๋าหลังของกางเกงที่ตนสวมเพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์แบรด์หรูราคาหลายหมื่นออกมา แล้วหยิบซองฟอยล์ที่ซ่อนอยู่ในช่องใดช่องหนึ่งในกระเป๋าสตางค์ออกมาโชว์ว่าเขาเป็นประเภทที่รอบคอบพอจะพกถุงยางอนามัยติดตัวไปด้วยทุกที่จริงๆ
“รอบคอบดี” อติกานต์หัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วก้มใบหน้าลงไปประทับจุมพิตลบนเรียวปากน่าจูบของนายแบบหนุ่ม ก่อนจะไล้เรียวลิ้นฉ่ำชื่นเพื่อให้เหนือณรงค์เปิดปาก ซึ่งชายหนุ่มก็รับรู้สัญญาณอย่างคนเจนจัด
ทันทีที่เหนือณรงค์เปิดแย้มรอบยิ้มขึ้น อติกานต์บรรจงมอบรสชาติของเขาเองที่อบอวลอยู่อุ้งปากของตนในคนเป็นเจ้าของได้ ‘ร่วม’ เป็นผู้ที่ได้รับรู้รสชาติของร่างกายนายแบบหนุ่มเอง
ร่างกายที่แนบชิดของเขาทำให้อติกานต์รู้สึกอบอุ่นอย่างไม่เคยเป็น เขาอยากจะหันไปมองใบหน้าของคนด้านหลังที่ดูเหมือนว่าจะกำลังหลับสนิทอยู่
แต่เพราะลำแขนแข็งแรงที่กอดเอวของเขาเอาไว้แน่นทำให้คนตัวบางกว่าอย่างเขาเคลื่อนกายไม่สะดวกอย่างที่ใจต้องการ
อติกานต์ผ่อนลมหายใจออกมา แล้วหันไปมองคนด้านหลัง “คุณเหนือ”
“หื้อ”
“ตื่นได้แล้ว”
“อือ” ส่งเสียงในลำคอแบบขอไปที แล้วลากตัวอติกานต์มากอดเอาไว้แน่นกว่าเดิม
“คุณเหนือ!”
“อะไร” ปลายจมูกของเขาแนบลงบนไหล่ของอติกานต์
“ลุก!”
“เพิ่งกระแทกคุณไปหลายยก ตอนนี้ผมลุกอีกไม่ไหวแล้ว ขอพักก่อนได้ไหม”
“ผมไม่ได้หมายถึงลุกแบบนั้น ผมหมายถึงคนเป็นผู้ชายแท้ๆ แมนๆ ที่เพิ่งได้กับเกย์ไป ควรจะตื่นนอนแล้วลุกออกไปจากเตียงของเกย์อย่างผมได้แล้ว!”
“ไม่”
“นี่คุณ!” ทุกอย่างดูผิดไปหมด เขาไม่คิดว่าหลังจากคนที่มีอาการต่อต้ายความสัมผัสที่เกิดขึ้นเมือคืน พอมีโอกาสได้มีเซ็กส์กับเขาอีกครั้งจะดูผ่อนคลายจนเป็นธรรมชาติได้มากขนาดนี้ เขาคาดหวังว่าเหนือณรงค์จะรีบลุกหนีไปทันทีที่เสร็จกิจ!
แต่นี่กลับไม่ใช่ นายแบบหนุ่มยังมีหน้าต่ออีกหลายรอบ แล้วยังทิ้งตัวลงนอนหลับอย่างสบายอารมณ์เบนี้อีก!
“คุณจะมานอนแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำไมจะไม่ได้”
“ผมไม่อนุญาต ลุก แล้วออกไป”
ร่างสูงใหญ่ของเหนือณรงค์ขยับ แม้เพียงเบาๆ ก็ส่งให้เตียงยวบลงไป และสิ่งที่อติกานต์ไม่คสดคิดคือ ร่างของเขาถูกฉุดขึ้นไปนอนทับบนตัวของอีกฝ่าย
“ได้แล้วจะเขี่ยทิ้งว่างั้น”
“เอ่อ!” คราวนี้คนที่คิดว่าเป็นฝ่ายคุมเกมกลับสติแตกซะเอง เมื่อเห็นท่าทีและสายตาของ ‘คู่นอน’ เบอร์ล่าสุดของตนเอง “ปล่อย แล้วออกไปเลย”
“เป็นพวกชอบความสัมพันธ์แบบคืนเดียวหรือยังไงคุณน่ะ” เหนือณรงค์กล่าวเสียงนิ่ง... เยียบเย็นจนน่ากลัว
“ใช่” ดวงตาสีน้ำตาลมองหน้ามองสบตาคนเบื้องล่างนิ่ง
“งั้นแสดงว่าคุณแหกกฎตัวเองเรียบร้อยแล้วคุณเลิฟ เพราะคุณเพิ่งมีเซ็กส์กับผมอีกครั้งเมื่อเช้า ผมถือว่ามันเป็นครั้งที่สองของเรา”
“ไม่”
“ทำไม”
“เพราะเมื่อคืนผมกับคุณยังไม่ได้มีอะไรกัน เมื่อเช้าเป็นเซ็กส์ครั้งแรกของเราสองคน”
คิ้วหนาคนฟังเลิกขึ้น “แสดงว่าคุณตั้งใจพูดให้ผมเข้าใจผิด”
“คุณเมาจนไม่มีปัญญาจะทำอะไรทั้งนั้นแหละ ผมแค่ใช้ปากกับคุณ”
“แล้วรอยพวกนี้”
“รอยของผู้ชายคนก่อนที่ผมเอามานอนด้วย”
ดวงตาคนได้ยินลุกวาว... ไปด้วยเปลวไฟ!
เหนือณรงค์ทุ่มร่างอีกฝ่ายลงบนเตียง แล้วจัดการพาร่างที่หนากว่าของตนไปคร่อมทับ “งั้นผมจะจัดการตีตราทับรอยพวกนั้นให้หมด รอยบนตัวคุณจะได้มีแค่ร่องรอยของผมเพียงคนเดียว”
นายแบบหนุ่งนั่งผงาดอยู่เหนือเจ้าของห้อง ขณะเหยียดยิ้มเย็นชาออกมา
“อย่านะคุณเหนือ”
“คุณคงไม่รู้จักผมเท่าไหร่สินะคุณเลิฟ” เหนือณรงค์โน้มใบหน้าลงไปใกล้ แล้วเลียริมฝีปากล่างเจ้าของนัยน์ตาทรงเสน่ห์เบาๆ “ผมเป็นพวกขี้หวงของ”
นายแบหนุ่มจับอีกฝ่ายคว่ำหน้า ก่อนจะยืดตัวขึ้นคุกเข่าไว้กับที่นอน แล้วขยับกายเข้าไปแนบสะโพกแน่นๆ ของอีกฝ่าย
“ผมไม่ใช่ของของคุณ” อติกานต์รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ซึ่งเขารู้ว่าเหนือณรงค์กำลัง ‘จัดการ’ กับร่างกายของเขาเองอยู่ในเวลานี้
“แต่ผมว่าใช่” มือของเขากระตุ้นเร้าร่างกายตัวเองรออยู่ตั้งแต่เริ่มมีปากเสียงกันแล้ว ขณะใช้แขนอีกช้างเกี่ยวตัวอีกคนให้สะโพกของอติกานต์ยกลอยขึ้น
“ไม่ อ้ะ!” ความชุ่มชื่นของบทรักครั้งก่อนยังคงอยู่ ทำให้ความงแข็งแกร่งของเหนือณรงค์สามารถเสือกไสพาตัวตนของเขาเข้าไปภายในร่างกายที่คับแน่นของอติกานต์ได้อย่างไม่ลำบาก
“คุณเหนือ!” อติกานต์ขบกรามแน่น เมื่อร่างกายถูกรุกรานจากคนตัวโตด้านบน
“หื้อ” เหนือณรงค์ส่งเสียในลำคอ ขณะปลายลิ้นของเขาไล้เลียยอดอกสีสดของคนใต้ร่างจนเปียกฉ่ำไปหมด
“คุณไม่ได้ใส่ถุงยาง”
“มันหมดแล้ว”
“งั้นออกไป!” เขาพยายามผลักอกของอีกฝ่ายให้เคลื่อนออกจากร่างกายของตน
“เสียใจด้วย” สะโพกของเขาขยับหนักๆ “ผมออกไม่ได้จริงๆ”
“ไม่!”
ความใหญ่โตดันเข้าไปจนสุด ซึ่งการกระทำของเหนือณรงค์ทำให้อติกานต์ซ่านสยิว แล้วยิ่งกว่านั้นคือมือแข็งแรงของเหนือณรงค์แตะต้องถูกตัวตนของเขาในเวลานี้ และกำลังสัมผัสชักนำร่างกายของเขาเพื่อทำให้ร่างกายของเขาเคลื่อนไปสู่จุดที่เกินกว่าจะควบคุม พร้อมกับที่สะโพกของฝ่ายนั้นขยับเคลื่อนอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
“ผมบอกให้คุณออกไป” เสียงเข้มงวดและเฉียบขาดของอติกานต์ทำให้เจ้าของสะโหพที่กำลังเคลื่อนไหวหยุดชะงัก
“คุณจะให้ผมเอามันออกไปจริงๆ งั้นเหรอ” เหนือณรงค์ขบกรามเค้นเสียงถามออกมาอย่างยากลำบาก
“ออกไป” คนที่ต้องต่อสู้กับความต้องการทางร่างกายไม่แพ้กับคนด้านหลังเอ่ย ขณะที่ร่างกายของชายหนุ่มเองก็เรียกร้องการเติมเต็มไม่ต่างกัน แต่เพราะเหนือณรงค์ตั้งใจจะทำลายกฎที่เขาตั้งเอาไว้ทุกครั้งที่มีความสัมพันธ์ทางกาย ทำให้สัมพันธ์สวาทครั้งนี้ไม่สามารถไปต่อได้!
‘ถุงยางไม่น่ามาหมดเอาตอนนี้เลยจริงๆ!’ นายแบบหนุ่มคิดในใจอย่างหัวเสีย
“แต่ว่าเรา” เหนือณรงค์กำลังจะอ้าปากหาข้ออ้างพูดออกไป เพื่อหวังจะช่วยให้ ‘โชค’ เข้าข้างทำให้เขาได้ไปต่อในบนเรียนใหม่ของชีวิตที่เพิ่งจะมีโอกาสลิ่มลองรสชาติความสัมพันธ์แบบใหม่
และดูเหมือนว่าตัวเขาเองก็ชักจะติดใจหนทางใหม่ที่ได้สัมผัสขึ้นมาแล้วด้วย... แล้วพอจะสานต่อ ‘อีกรอบ’ ในครั้งนี้ กลับถูกว่าที่คู่จิ้นเอ่ยปากเบรกจนเขาหัวแทบทิ่ม
“ออกไปจากตัวผมเดี๋ยวนี้!” ร่างกายของทั้งคู่หลุดอกอจากกันทันที่จาก ‘คำบัญชา’ ของฝ่าย ‘ถูกกด’
“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” เหนือณรงค์กล่าวอย่างหัวเสีย ขณะทิ้งบั้นท้ายเปลือยเปล่าลงนั่งบนเตียง
อติกานต์เหลียวใบหน้าหันมามองคนที่บ่นพึมพำอยู่ ก่อนที่ดาราหนุ่มจะขยับลงจากเตียง “ถ้าผมออกมาจากห้องน้ำ หวังว่าจะไม่เห็นหน้าคุณแล้ว”
“คุณไล่ผม”
“หรือต้องให้เรียก รปภ. มาหิ้วออกไปไหม คุณถึงจะเข้าใจว่าผมไม่ต้องการกายใจร่วมกับคุณในห้องนี้แล้ว”
อติกานต์เหลือบตามองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีดที่ถูกทำให้ขาดในบางจุด แต่กลับไม่ดูเกรอะกรังใดๆ เลย เมื่อชายหนุ่มคนข้างกายเป็นคนสวม
เขาไม่เห็นดวงตาของอีกฝ่าย เพราะเหนือณรงค์ใส่แว่นตากันแดดอยู่
“ตามนี้นะครับน้องเหนือ กล้องที่จะถ่ายคือกล้องนี้” ผู้ช่วยผู้กำกับเอ่ย พร้อมชี้ไปยังกล้องขนาดใหญ่ซึ่งมีช่างกล้องยืนอยู่ด้านหลัง “จำบทได้แล้วใช่ไหม”
“ครับ”
“งั้นถอดแว่นออกเลย”
“ครับ” นายแบบหนุ่มรับคำเดิม ก่อนจะดึงแว่นตากันแดดที่สวมอยู่ไปส่งให้กับทีมงานที่มายืนรอ ซึ่งเขาหรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อปรับให้สายตาเข้ากับแสงได้ ก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนอยู่เคียงข้าง
“ก่อนหน้านี้หายไปไหน”
อติกานต์ใช้วิธีการเงียบ ไม่ยอมตอบ ทำราวกับอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุ
“ทำไมคุณไม่มาเวิรค์ช้อปกับผมเลย” เขายังไม่ยอมเดินออกห่างจากอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ฉากนี้เป็นแกที่เขาต้องเดินชนกับอติกานต์ ซึ่งเขาต้องไปเดินหลบที่มุมเสา ก่อนจะเดินเข้ามาปะทะกัน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์สุดร้อนแรงของนายแบบ.. อาชีพเดียวกันกันเขาของตัวละคร และนักศึกษาสุดเนิร์ดที่ซ่อนเสน่ห์เย้ายวนเอาไว้ภายในท่าทีคงแก่เรียนของคนตรงหน้า
อติกานต์เกือบรู้สึกว่าคนตรงหน้ากำลังงอน... และรอให้เขาง้อ สุดท้ายก็ยอมพูดด้วย
“ยุ่งอยู่” แต่อย่าหวังว่าเขาจะง้อ! “คุณเดินไปตรงเสาได้แล้ว”
“เกือบสามอาทิตย์”
“ช่วงนี้ผมยุ่ง”
“เอาหวีหน่อยไหมจะได้ยุ่งน้อยลง”
พุดจบก็หมุนตัวเดินจากไป หล่อยให้คนยังรับมุกไม่ทันยินนิ่ง แต่เพียงครู่ อติกานต์ก็ต้องหลุดยิ้มออกมา เพราะคิดออกแล้วว่าเหตุใดเหนือณรงค์ถึงได้หยิบยื่นเสนอ ‘หวี’ ให้กับ คนที่พูดว่า ‘ผมยุ่ง’ อย่างเขา
การถ่ายทำในวันนี้ราบรื่นจนน่าตกใจ คนที่เคยมีประวัติการแสดงยอดแย่กลับแสดงออกมาได้อย่างดีจนเขาที่เตรียมใจมาว่าต้องถ่ายหลายเทคกับอดไม่ได้ที่จะเปลกใจ และแอบชื่นชมนักแสดงมือใหม่อยู่ในใจ
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เจ้าของเรือนร่างสูงยืนรออยู่หน้าห้องแต่งตัว และเอ่ยออกมาทันทีที่ประตูห้องแต่งตัวของเขาเปิดออก
“ผมมีธุระ”
“แต่เราต้องคุยกัน”
“ผมไม่ว่าง”
“จะเดินตามไปดีๆ หรือต้องให้ผมใช้วิธีของผม”
“คุณจะทำอะไรผมคุณเหนือ จะใช้กำลังงั้นเหรอ” เขาเยียดยิ้มเยาะ “ผมไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่จะสู้แรงผู้ชายอย่างไม่ได้นะ”
“แล้วแน่ใจหรือว่าคุณสู้ได้ ถ้าผมเอาจริงขึ้นมา วันนั้นผมจับคุณกดอีกรอบไปแล้ว” เขาพูดเสียงเข้ม “แต่เพราะผมเคารพการตัดสินใจของคุณต่างหาก ถึงยอมกัดฟันปล่อยคุณไป”
“คุณต้องการอะไร”
“ไปคุยกัน”
“ที่ไหน”
“ถ้าบอกว่าบนเตียงผมคุณจะไปไหม”
“ไม่”
“งั้นบนเตียงคุณก็ได้”
“ไม่ทั้งนั้น” อติกานต?รู้สึกถึงใบหน้าที่ร้อนวูบขึ้น เมื่ออีกฝ่ายตั้งใจไล่ต้อนเพื่อให้เขาหวนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างกัน
เหนือณรงค์หัวเราะเบาๆ ออกมา “ร้านอาหารใกล้ๆ นี่แหละ ผมหาเอาไว้แล้ว”
“แถวนี่ที่ว่ามันแถวไหน”
“เอาไลน์มาสิ เดี๋ยวผมแชร์โลเคชั่นไปให้”
“บอกชื่อร้านมาก็จบ เดี๋ยวผมไปเสริต์หาสถานที่เอาเองได้”
“ถ้าผมอธิบายเส้นทางไปเดี๋ยวคุณจะงงเปล่าๆ สถานที่มันค่อนข้างจะซับซ้อน”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมเปิดแผนที่แล้วไปเองได้” เขาไม่ยอมง่าย “ผมเก่ง”
“อย่าเรื่องมากน่าเลิฟ”
คำเรียกอย่างสนิทสนมของคนตรงหน้าทำให้อติกานต์ต้องแปลกใจ... เล็กน้อย และรู้สึกว่าควรบยอมๆ เพื่อให้เรื่องมันจบๆ
“ก็ได้” พูดจบยอมบอกชื่อไลน์ของตนออกไปเพื่อให้อีกฝ่ายแอดไลน์มา
“แต่จริงๆ ผมว่าเราไปพร้อมกันเลยก็ได้นะ”
คำพูดของเหนือณรงค์ทำให้อติกานต์เลิกคิ้วด้วยความงุนงง “คุณหมายความว่ายังไงที่ว่านั่งรถไปพร้อมกัน”
“พอดีเมื่อกี้ผมลืมไปน่ะว่าตัวเองไม่ได้ขับรถมา วันนี้มีรถกองขับไปรับที่คอนโดฯ แต่คุณน่ะขับมาไม่ใช่หรือไง ผมเห็นรถคุณจอดอยู่”
“คุณเนี่ยนะที่ลืมไปว่าตัวเองไม่ได้ขับรถมากอง” อติกานต์ถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
“อือ” พูดจบก็เป็นฝ่ายเดินนำไป เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่ารถของคู่จิ้นตัวเองจอดอยู่ที่ไหน แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกฝ่าย ก็เลยหันไปกวักมือเรียก “เดินตามมาเร็วๆ สิเลิฟ คุณยืนรออะไรอยู่”
บรรยากาศในร้านอาหารกึ่งคลับในเวลานี้ค่อนข้างจะเงียบ เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน... ซึ่งที่น่าหงุดหงิดคือร้านไม่ได้มายากอย่างที่คนบ้างคนบอก!
มันออกจะมาง่ายแสนง่าย เพราะตั้งอยู่ในย่านเที่ยวกลางคืนใจกลางเมือง
“กินอะไรไหมเลิฟ”
อติกานต์เหลือบตาขึ้นจากหน้าจอมือถือ “ไม่ รีบๆ พูดเรื่องของคุณมา ผมมีธุระ”
เหนือณรงค์ยกนาฬิการาคาแพงบนข้อมือขึ้นดูเวลา...
“มีนัดงั้นเหรอ กับใครล่ะ” ท่าทีของแหนือณรงค์เรียบเรื่อยไม่แสดงท่าทีไม่พอใจใดๆ ออกมาแม้แต่น้อยขณะเอ่ยถาม
“คนสำคัญ”
คนที่ได้คำตอบไม่น่าพอใจเพียงไหวไหล่ แจ่ไม่พยายามจะเซ้าซี้ต่อ “ตกลงอยากดื่มอะไรไหม”
“ไม่”
“น้องครับ ขอน้ำเปล่าสองแก้ว” ชายหนุ่มหันไปสั่งพนักงาน “วันนั้นผมขอโทษ”
คิ้วได้รูปของอติกานต์เลิกขึ้นอย่างแปลกใจ เมื่อได้รับคำขอโทษจากปากคนตรงหน้าแบบนี้ “ผมไม่ถือ”
“แต่ผมถือ”
อติกานต์ถอนดหายใจออกอย่างหมดความอดทน “ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น แค่เซ็กส์คืนเดียว”
“แต่ผมยังไม่พอ”
“คุณติดใจประตูหลังผมว่างั้นเถอะ”
“เลิฟ หน้าคุณก็ออกจะหวาน แต่ปากคุณนี่”
“หมา”
เหนือณรงค์โคลงศีรษะเบาๆ ก่อนพูดออกไป “สำหรับผมคุณแค่เป็นคนที่พูดตรงไปตรงมาเกินไปต่างหาก”
“ก็ไม่เห็นว่าต้องพูดอ้อมค้อมให้เสียเวลา” ชายหนุ่มยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นจิบ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าปากของเขากำลังถูกจับตามองด้วยสายตาหิวโหยของใครบางคน
“เลิฟ”
“หื้อ”
“คืนนี้ผมไปหาที่คอนโดฯ นะ”
คำพูดของเหนือณรงค์ทำเอาอติกานต์สำลักน้ำที่เพิ่งดื่มเข้าไป “ไม่!”
“ผมจะไปหา”
“บอกว่าไม่ให้มาไง!”
“แต่ว่า”
“กฎของผมคือไม่นอนซ้ำเป็นครั้งที่สองกับใคร!” หลังมือขาวจัดถูกยกขึ้นมาปากมุมปากที่เปรอะเปื้อนน้ำลวกๆ “หยุดพยายามได้แล้ว ผมไม่ต้องการนอนกับคุณแล้ว สำหรับคุณครั้งเดียวก็เกินพอ”
“ลีลาผมไม่เด็ดตรงไหน”
“หุบปาก” อติกานต์กระแทกแก้วน้ำในมือลงบนโต๊ะ จนน้ำกระเฉาะออกมา “เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น!”
พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินจากไปไม่สนใจคนที่นั่งติดรถมาด้วย... ว่าจะกลับยังไง!