ตอนที่ 5
จริงไหม?
เพทายเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ เมื่อก้าวเข้ามาในห้องเรียนของอาโป แล้วเห็นว่าบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ มีแก้วกาแฟของร้านริมนาตั้งอยู่ แค่ดูก็รู้ว่าเป็นแบบที่เขาชอบดื่ม
ไม่มีใครรู้ว่าเขาชอบดื่มกาแฟร้านนี้ นอกจากเจ้าของสวนดอกไม้เพียงคนเดียว เมื่อกี้ก็นั่งรถออกจากบ้านมาด้วยกัน แล้วไปสั่งให้เขาตอนไหน
ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองกำลังเป็นไบโพล่าร์ เดี๋ยวก็มองเจ้านายในแง่ไม่ดี เดี๋ยวก็มองในแง่ดี เมื่อวานโมโหนิดๆ ตอนนี้ดันรู้สึกดีด้วย ปรับอารมณ์แทบไม่ถูก
“อาเพทำลาย” เด็กชายอาโปเงยหน้าขึ้นมองเมื่อเห็นเขายืนนิ่ง เพทายหันไปยิ้มให้เด็กชายตัวน้อย
“ไม่มีอะไรครับ อาโปไปนั่งรออาที่โซฟาก่อน เดี๋ยวอาหยิบหนังสือไปให้”
“คับ” เด็กชายอาโปเดินไปนั่งรอที่โซฟาตัวใหญ่ เพทายหยิบหนังสือและแบบฝึกหัดออกจากกระเป๋าที่นำมาด้วย จัดการเก็บกระเป๋าใส่ลิ้นชักโต๊ะ ไม่ลืมหยิบกาแฟติดมือมาด้วย
ชายหนุ่มหยิบแบบฝึกหัดเล่มหนึ่งขึ้นมากางตรงหน้าเด็กชาย
“วันนี้เราจะหัดเขียนตัวอักษรภาษาไทยกันครับ เดี๋ยวอาจะเขียนให้อาโปดูก่อน แล้วอาโปเขียนตาม"
"คับ" เด็กชายพยักหน้า
เพทายลากไปตามจุดไขปลาที่มีให้ เด็กชายอาโปมองตามด้วยความสนใจ
"พูดตามอานะครับ กอไก่"
"กอก่าย"
"เก่งมากครับ ทีนี้อาโปเขียนบ้าง เขียนเสร็จหนึ่งตัวก็ออกเสียงหนึ่งครั้งครับ"
เพทายรอจนเด็กชายเขียนและออกเสียงครบห้าครั้ง
“ทีนี้อาจะยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ อักษรกอไก่ ก็อย่างเช่น ไก่ กา กรรไกร กระดาษ อาโปรู้จักไหมครับ”
“ลู้จาก” เด็กชายพยักหน้า
“ลองพูดตามอาสิครับ ไก่ กา กรรไกร กระดาษ”
“ก่าย กา กานกาย กะดาด”
“เก่งมากครับ ต่อไปก็ขอไข่” เพทายลากเส้นให้เด็กชายดูเหมือนเดิม รอจนเด็กชายเขียนเสร็จ เขาจึงเริ่มยกตัวอย่างให้ฟัง
“อักษรขอไข่ก็อย่างเช่น แขน ข้าว ไข่..”
“ขูนน” เด็กชายอาโปยิ้มกว้าง พูดด้วยเสียงดังฟังชัด ดวงตาที่มองมาสุกสว่าง
“หึๆ ชื่อนี้ห้ามลืมเป็นอันขาดใช่ไหมครับ”
“คับ” เด็กชายตัวน้อยพยักหน้าขึงขัง
“รักพี่ขุนมากใช่ไหมเรา” เพทายมองเด็กชายตัวน้อยด้วยสายตาเอ็นดู
“แฟนกาน” เด็กชายอาโปยิ้มหวาน ดวงตาเป็นประกาย
“อะไรนะ!” เพทายหัวเราะเสียงดัง ขำหน้าตาเจ้าเล่ห์ของเด็กชายตัวน้อย
“แฟนกาน”
“แล้วรู้ไหมครับว่าแฟนหมายถึงอะไร”
“ลู้ฉฺ โปลู้”
“ไหนบอกอาหน่อยสิครับ ว่าแฟนหมายถึงอะไร”
“ล้ากกานก้ะเป็นแฟนกาน”
“ใครบอกอาโปครับ”
“ลิ” เด็กชายอาโปตอบชัดถ้อยชัดคำ พร้อมกับรอยยิ้มหวาน เพทายปวดหัวขึ้นมาทันที ไม่แน่ใจแล้วว่าควรให้มะลิเป็นคนเลี้ยงเด็กชายเพทายหรือไม่ จำมาแต่ละอย่างดีๆ ทั้งนั้น
“อาเพก็รักอาโปเหมือนกัน งั้นอาก็เป็นแฟนอาโปใช่ไหมครับ” เพทายพูดเพื่อให้เด็กชายเห็นความแตกต่าง ว่ารักไม่ได้มีความหมายเดียว
เด็กชายอาโปชะงัก เงยหน้าขึ้นมองเขา สีหน้าคิดหนัก
“อาเพล้ากพ่อแทนด้ายเป่า” เด็กชายตัวน้อยต่อรอง ก็เขามีขุนแล้วนี่นา
เพทายปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่น เลิกคิดจะอธิบายเรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร โตขึ้นอีกนิดเด็กชายจะเข้าใจเอง
“ทำอะไรกัน” คำถามดังขึ้นเกือบพร้อมกับเสียงเปิดประตู สารินยืนเด่นเป็นสง่า จ้องมาที่เขา
“ครับ?”
“เสียงหัวเราะคุณดังไปถึงห้องผม”
“โอ๊ะ! ขอโทษครับ” เพทายขอโทษอีกฝ่าย เขาไม่ได้เปิดแอร์เพราะอากาศกำลังดี จึงใช้วิธีเปิดหน้าต่างห้องแทน เสียงคงดังไปถึงห้องข้างๆ
“คือผมสอนอาโปเขียนตัวอักษรภาษาไทยอยู่ครับ แล้วผมขำคำพูดของอาโป เลยเผลอหัวเราะดังไปนิด”
“อาโปพูดอะไร”
“พ่อก้ะอาเพเป็นแฟนกาน”
!!!
ในห้องเงียบสนิท เด็กชายอาโปยิ้มหวาน ดีใจที่ไม่ต้องมีแฟนสองคน แต่เพทายกำลังเหงื่อตก เมื่อกี้มันขำอยู่หรอกแต่ตอนนี้เขาหัวเราะไม่ออก โดยเฉพาะเมื่อตาดุๆ ของสารินตวัดมามอง
“คือเรื่องมันยาวครับ” เพทายพูดเสียงแห้ง และแห้งไปถึงรอยยิ้ม
“ยาวแค่ไหนก็เล่ามา ผมอยากรู้ว่าทำไมอาโปถึงพูดแบบนั้น”
“ครับ” เพทายเหลือบสายตาไปมองเด็กชายอาโป หาเรื่องให้อาอีกแล้วเจ้าตัวแสบ
“หึ”
เพทายพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของสาริน
“ผมไม่ได้อธิบายต่อครับ คิดว่าน่าจะยิ่งทำให้แกสับสน เลยปล่อยไป”
“ดีแล้วมันไม่จำเป็น เดี๋ยวก็ลืมเอง”
“ครับ”
“สอนต่อเถอะ” เจ้านายของเขาลุกขึ้นยืน เดินตรงไปที่ประตู
“เดี๋ยวครับ” เพทายรีบเรียกเอาไว้เมื่อนึกบางอย่างได้
“อะไร” สารินหันกลับมามองเขา
“ขอบคุณครับ” เพทายยกแก้วกาแฟขึ้นให้ชายหนุ่มดู
“กาแฟ?”
“ครับ”
“ขอบคุณผมทำไม” ดวงตาคู่นั้นแสดงชัดว่าไม่เข้าใจเรื่องนี้
“หา!” เพทายมึนตึบ หน้าเหวอ หรือของคนอื่นเอามาวางไว้ ซวยแล้ว เขาดันหยิบมาดื่มหน้าตาเฉย ไม่ถามไถ่ให้ดีก่อน
“หึๆ”
เพทายอ้าปากค้างเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ ร่างเปิดประตูออก
“ผมให้คนไปซื้อที่ร้าน ถามจากเจ้าของว่าคุณชอบดื่มแบบไหน มากับอาโปทุกเช้าแบบนี้คงไม่มีเวลาแวะไป”
เพทายได้สติตอนร่างสูงเดินผ่านประตูออกไป เขารีบตะโกนตามหลัง
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไร” เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนประตูจะปิดลง
เพทายกะพริบตาเบาๆ เขาเริ่มคิดว่าคนที่เป็นไบโพล่าร์น่าจะเป็นคุณเจ้าของสวนดอกไม้มากกว่า เดี๋ยวใจดี เดี๋ยวร้ายกาจ เขาตามอารมณ์อีกฝ่ายไม่ทันจริงๆ
• • • • • • • •
“ผมจะกลับแล้วครับ” เพทายเดินไปบอกสารินที่ห้อง
“อย่าเพิ่งกลับ”
“คุณสารินมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ต่อไปให้ทานข้าวกลางวันที่นี่ เสร็จแล้วค่อยกลับ”
“ได้ครับ”
เพราะมันเป็นคำสั่ง เพทายจึงตอบรับโดยไม่ได้ซักถามอะไร ก็ดีเหมือนกัน อาโปคงดีใจที่จะได้ทานข้าวเที่ยงกับพ่อทุกวัน
“พรุ่งนี้เช้าเตรียมตัวมาออฟฟิศด้วย”
เพทายชะงักช้อนที่กำลังตักข้าว เงยหน้าขึ้นมองเจ้านาย พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ อาโปไม่ต้องเรียนหนังสือ
“พรุ่งนี้คนงานจะทำห้องเรียนของอาโป เผื่อคุณอยากมาคุมเอง อยากมาหรือเปล่า”
“อยากมาครับ” เพทายรีบตอบทันที เขาจะได้กำหนดเองว่าอะไรควรอยู่ตรงไหน
“โปก้ะมา” เด็กชายอาโปรีบบอกพ่อ
“พรุ่งนี้อยู่กับพี่มะลิสักวัน อาเพทายต้องมาทำงานไม่มีเวลาดูแลลูก”
เพทายเห็นเด็กชายอาโปหงอยก็อดสงสารไม่ได้ เขารู้ว่าสารินคงไม่อยากให้ลูกโดนฝุ่น หรือพวกกลิ่นสี แต่เด็กชายยังเล็กจึงไม่เข้าใจ
“ผมพาอาโปมาได้ไหมครับ จะให้มะลิมาด้วย ตอนผมทำงานก็ให้มะลิดูแลไป อาจจะรบกวนขอยืมห้องประชุมสักวัน จะได้ไม่โดนฝุ่น”
สายตาที่มองมาลุ่มลึก เพทายเดาไม่ออกว่าเจ้านายของเขาคิดอะไรอยู่
“ถ้าแบบนั้นก็ได้”
“ขอบคุณครับ” เพทายยิ้มกว้าง ยิ่งเห็นท่าทางดีใจของเด็กชายอาโป เขาก็ยิ่งดีใจ
“ดีใจทำไม” เสียงถามกลั้วหัวเราะ ดวงตาที่มองมาเป็นประกายขำ
“ครับ?”
“แค่ผมอนุญาตให้พาอาโปมาได้ ต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็มันดีใจนี่ครับ” เพทายไม่รู้ว่าเขาต้องตอบว่าอย่างไร เขาจึงตอบอย่างที่พูดไป
“หึๆ”
“โปก้ะดีจาย” เด็กชายอาโปยิ้มหวาน
“อาเพ อาเพค้าบ” หนูน้อยจับแขนเสื้อเขาดึงเบาๆ
“ครับ”
“โปหยักห้ายขุนมาด้วย” ดวงตาเด็กชายออดอ้อน เพทายอดยิ้มไม่ได้
ฉลาดนะเจ้าตัวยุ่ง รู้ด้วยว่าต้องขอใคร” เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู
“อาเพจายดีที่ฉุด” เด็กชายยิ้มหวาน สบตากับเขา
“พูดขนาดนี้ก็ต้องได้อยู่แล้วครับ พรุ่งนี้เราพาพี่ขุนมาด้วย”
“เย่” เด็กชายอาโปชูมือขึ้น ยิ้มกว้าง
“งั้นวันนี้ต้องกินข้าวเยอะๆ อาเพจะได้มีกำลังใจพามา”
“โปกินโหมดเลย”
“เก่งมากครับ” เพทายลูบศีรษะเด็กชายตัวน้อย เขามองเด็กชายด้วยดวงตาอ่อนแสง ไม่รู้เลยว่าดวงตาของคนที่มองเขาก็เช่นกัน
• • • • • • • •
“คุณเพคะ”
“หือ?” เพทายหันไปมองมะลิ อีกฝ่ายมีสีหน้าแปลกๆ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน
“มีอะไร”
“คือ..” มะลิมีสีหน้าเกรงใจ แต่ก็ปนไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“จะพูดอะไรก็พูดมา”
“คุณเพเป็นแฟนกับคุณสารินเหรอคะ”
“หะ!” ดวงตาชายหนุ่มเบิกกว้าง “อะไรนะ!”
“ก็คุณหนูอาโปบอกมะลิว่าคุณเพเป็นแฟนกับคุณสาริน จริงหรือเปล่าคะ”
เพทายถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่มองหน้ามะลิ
“จริงไหมคะ”
“มันจะไปจริงได้ยังไง” เพทายพูดด้วยเสียงอ่อนใจ ลูกชายกับคุณพ่อพอกันจริงๆ ทำเขาหัวหมุนได้ไม่เว้นแต่ละวัน
:::: ♥ TBC ♥::::
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin