คาดว่าคงจะลงอีกครั้งวันเสาร์แน่เลยชะมะ
สบประมาทว่ะ เลยรีบมาลงเลย ฮ่าๆ***
Round 16... WILD SEX
ผมไม่ทันได้ถามอะไร คนตรงหน้าก็ถลาเข้ามากอดอย่างแรง มือเย็นๆ ของมันที่สัมผัสต้นคอผมบ่งบอกว่ายืนรออยู่ภายนอกนานขนาดไหน...
“ด..เดี๋ยว” มันระดมจูบลงบนริมฝีปากผมจนไม่ทันได้ตั้งตัว ลิ้นเย็นชืดสอดไล้เข้ามาในโพรงปาก พยายามควานหาลิ้นผมอย่างรุนแรง กลิ่นแอลกอฮอลล์ลอยแตะจมูก โดยที่ผมไม่รู้ว่ามันเป็นของใคร...เพราะผมเองก็เพิ่งดื่มมาเหมือนกัน
ผมได้แต่ยืนงง กว่าจะรู้ตัวต่อต้าน ลิ้นผมก็อยู่ในอาณัติมันเสียแล้ว ....มันดันตัวผมให้ถอยหลังไปเรื่อย ทั้งๆ ที่ริมฝีปากยังโลมเลียกันไม่ขาด ผมเองก็จำใจต้องถอยตามมันแต่ขืนตัวไว้ให้เดินช้าๆ เพราะกลัวสะดุดล้ม
“เดี๋ยว มาร์ช....อืมมม....มาร์ช.....”
“มาร์ช!” ผมตัดสินใจยกสองมือขึ้นดึงหน้ามันออกจากปากผมก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิด ไอ้มาร์ชจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองผม...ตามันปรือแดงเยิ้มดูแล้วยั่วชะมัด
“มาได้ไง” ผมกลืนน้ำลายก่อนหนึ่งอึกถึงจะคั้นคำพูดออกมาถามมันได้...
“...แก้ว” มันพูดแล้วจึงดึงมือที่แปะอยู่บนต้นคอผมให้โน้มลงไปจูบอีกครั้ง คราวนี้ไอ้มาร์ชทั้งดูด ทั้งดึง โลมเลียของเล่นภายในปากผม เล่นเอาสติแทบกระเจิง...
“แล้ว....อืมมมมม...” ผมไม่รู้ว่ามันทำแบบนี้ทำไม มันเจออะไรมา รู้แต่ว่าทุกครั้งที่ผมลืมตาดูมันหลังจากที่ปากเราประกบกัน มันจะหลับตาบ้างปรือตาขึ้นมามองบ้าง ....แต่ที่แน่ๆ ไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่แฝงไว้ในแววตานิ่งคู่นี้ได้เลย
ผมถอยหลังมาเรื่อยจากแรงดันของมันจนล้มลงกับโซฟาสีแดงตัวใหญ่ในห้อง...ไอ้มาร์ชล้มลงมาทับตัวผม ปากก็ยังนัวเนียไม่ห่าง มือสองข้างของผมที่จับไหล่อีกฝ่าย...กำไว้แน่น เริ่มจะหมดความอดทน จึงเริ่มออกแรงดึงตัวมันให้ออกห่าง...
“ทำไม...” มันพูดเสียงหอบเบาๆ...เมื่อรู้สึกว่าใบหน้าโดนรั้งให้ออกมา ทั้งๆ ที่สายตายังคงจ้องริมฝีปากผมราวกับเด็กน้อยอยากกินขนมหวาน..
“นั่นเป็นคำถามของกูมากกว่า...มึงเป็นอะไร” ผมกลั้นใจท่องยุบหนอพองหนอไว้ข้างในแล้วถามมันไป โดยใช้มืออีกข้างเชยคางมันขึ้นให้หันมามองตาผม...ไม่ใช่ปาก
“ไม่ได้เป็นอะไร แต่อยากมีอะไร...” คำตอบของมันเล่นเอาผมอึ้ง...อยากมีอะไร....กับกู??
มันปัดมือผมที่คางตัวเองออก แล้วก้มลงตะบี้ตะบันจูบผมต่อ...ท่าทางจะฟังไม่รู้เรื่องซะแล้ว ผมเลยจัดการรวบตัวมัน แล้วพลิกตัวเพื่อที่จะควบคุมร่างข้างใต้ได้โดยง่าย ไอ้มาร์ชดูตกใจไปเล็กน้อย สังเกตจากอาการจูบที่สะดุดกึก...ตอนนี้ร่างมันอยู่เบื้องล่างผมแล้ว..โดยที่ขาข้างหนึ่งยังพาดอยู่บนตัวผม...มือสองข้างถูกรวบเข้าหากันวางไว้บนหน้าอก...ดวงตาคู่สวยที่ผมเคยหลงใหล ณ แรกเจอกำลังจ้องมองกลับมาอย่างไม่ลดละ...ไม่ได้ ...ไอ้ซัน ไม่ได้ รวบรวมสมาธิ ตั้งสติสิเว้ย...แต่จะกระเจิงก็เพราะไอ้นิ้วเรียวยาวนี่ มันเอาแต่ลูบไปมาตรงหน้าอก...แล้วเลื่อนขึ้นมาบนไหปลาร้า...คอ คาง และแก้มผม เหมือนตั้งใจจะยั่ว... คำถามมากมายผุดขึ้นในใจ แต่ก็ไม่กล้าถามออกไป มันเหมือนมีอะไรบางอย่าง...ที่บอกว่าไม่ควรทำแบบนี้ ทุกๆ อย่าง ทั้งเพราะพวกเราเป็นผู้ชายทั้งคู่ แล้วไหนจะเรื่องวุ่นวายต่างๆ มากมาย มันเป็นใคร ทำอะไร ที่ไหน ยังไง ไม่มีอะไรเป็นเหตุชักจูงพอที่จะให้เราสมควรทำเรื่องแบบนี้ได้เลย....ความคิดฝั่งนี้ดูจะมีน้ำหนักพอน่าเชื่อถือห้ามผมไม่ให้ดำเนินการต่อ...
แต่อีกใจหนึ่ง...กลับไม่มีคำถามอะไร มันว่างเปล่า...ล่องลอย
แล้วนี่กูควรจะเชื่อข้างไหนดี…
“อืมมมมม....อือ.....” มันยกมือสองข้างขึ้นแนบข้างแก้มผมเป็นเชิงเร่งเร้าให้สอดลิ้นบดขยี้ริมฝีปากมันหนักหน่วงยิ่งขึ้น ผ่านไปสักพักมือเราสองคนก็สะเปะสะปะปัดป่ายไปมาบนร่างของกันและกัน ตัวแนบชิดติดกันจนแทบจะหลอมละลายเป็นร่างเดียว ผมบดขยี้ท่อนล่างลงกับส่วนล่างของมัน บ่งบอกความแข็งขืนเสียดสีกันไปมาใต้กางเกงตัวหนา ผมลงมือปลดกระดุม รูดซิปกางเกงตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วเตะไปข้างๆ โซฟา ส่วนไอ้มาร์ชก็ทำเช่นเดียวกันแต่ช้ากว่าเพราะมันไม่ถนัดเนื่องจากมีตัวผมทับอยู่ ผมจึงเอื้อมมือลงไปช่วยมันดึงออกจากก้น รูดลงตามขา...จนมันออกไป...โดยที่ตาเราสองคนยังจ้องกันอยู่ ผมก้มลงไปจูบมันนัวเนียอีกครั้ง ลิ้นประสานลิ้น ดูดดึงกันไปมาจนครางอือหอบแฮ่ก...ผมละปากออกจากมัน แต่ก็ไม่วายโดนดึงกลับลงไปใหม่ วนอยู่แบบนั้น
“....กูมีนี่นะ” ผมดึงมือมันที่ลูบหน้าอกผมอยู่ให้เลื่อนลงไปกำท่อนแข็งร้อนผ่านบ็อกเซอร์ตัวบาง
“กูก็มี” มันยกสะโพกเบียดท่อนล่างของมันเข้ากับผม โดยที่มือมันเริ่มกอบกุมขยำไอ้ลูกชายผมอย่างเบามือ
“ซี้ดด...อา...แล้ว...มึงยังอยากทำอยู่เหรอ” ผมถามมันทั้งๆ ที่หลับตาปี๋ เพลิดเพลินกับมือของคนตรงหน้าที่กำลังปรนเปรอรูดขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมขยับสะโพก
“หรือมึงไม่อยาก”
ผมกระชากบ็อกเซอร์ตัวน้อยของมันลงทันทีหลังจากที่ได้ยินคำถามพร้อมกับสายตายั่วของอีกฝ่าย มันเองก็กระดกก้นรับเพื่อให้ผมถอดออกได้สะดวกยิ่งขึ้น คราวนี้ผมเห็นเต็มๆ ตาเลยล่ะครับว่าผิวภายในของมันขาวแค่ไหน...โดยเฉพาะตรงรอยขอบกางเกงในที่เป็นสีขาวตัดกับส่วนอื่น...ท่าทางจะว่ายน้ำบ่อย...ผิวยังเนียนลื่นยามสัมผัส...
“อือออ...” ไอ้มาร์ชร้องครางเมื่อผมค่อยๆ จับลูกชายมันที่ตอนนี้เปียกแฉะชี้หน้าผมอย่างเอาเป็นเอาตาย แล้วค่อยๆ รูดขึ้นลง... มืออีกข้างก็ดึงเสื้อมันขึ้นเลิกจนถึงหน้าอก แล้วก้มหน้าลงไล้เลียหัวนมมัน...
“อ๊ะ...มะ..ไม่ต้อง กูไม่ใช่ผู้หญิง” มันเอามือพยายามดันหัวผมออกจากหน้าอก แต่ผมไม่ฟัง ยังคงลงลิ้นให้มันอยู่แบบนั้นจนมันแอ่นอก หลับตา เหงื่อแตกซ่ก ครางไม่เป็นสรรพ เพราะท่อนล่างก็โดนจู่โจมกระหน่ำไม่ขาดสาย
เหมือนมันจะกลัวเป็นฝ่ายเอาเปรียบ เลยเลื่อนมือตัวเองจากกุมที่หัวผม...ไปที่ “หัว” อีกอย่างนึง... ไอ้หัวอย่างหลังเนี่ยมันเสียวกว่าชัดๆ เล่นเอาผมถึงกับต้องเม้มปากกัดฟันเผลอครางซี้ดออกมา ผมละจากหน้าอกมันขึ้นมาจูบปากกันอีกครั้งเพื่อนที่จะขยับตัวให้มันเล่นกับส่วนล่างของผมได้ถนัด...เราส่งลิ้นเข้าปากกันและกันอย่างรุนแรงจนน้ำลายแทบจะเยิ้มไหลออกมา...ผมพลิกหน้าหันไปด้านซ้ายทีขวาทีตามจังหวะที่จูบ คิ้วขมวดบ้างเมื่อสัมผัสจากฝ่ามืออีกฝ่ายที่ทั้งเบาบางแต่ก็รัดแน่นแล้วแต่อารมณ์จะพาไป...ตัวไอ้มาร์ชเองก็หลับตาปี๋ ครางตลอดเวลาที่ผมรูดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว หน้าอกเกร็งค้างจนผมกลัวว่ามันจะหยุดหายใจเมื่อการดำเนินใกล้มาถึงจุดสิ้นสุด
แต่ผมไม่ยอมให้มันจบเพียงแค่นั้น...
“อ๊ะ....อื้อ” ไอ้มาร์ชสะดุ้งเมื่อผมบีบก้นมันอย่างแรง แล้วแหวกนิ้วที่เปียกชื่นจากท่อนแข็งของเราทั้งสองลงไปในช่องทางอุ่นรัดด้านหลัง ผมรู้ว่าผู้ชายกับผู้ชายน่ะเค้าทำกันยังไง ไม่ใช่เด็กใสซื่ออินโนเซนต์นี่ครับที่ถึงกับจะไม่รู้เลยเสียทีเดียว เพียงแค่ภาคปฏิบัติยังไม่เคยลองก็เท่านั้น
ผมคิดในใจว่ามันต้องทักท้วงแน่ๆ จึงกดตัวลงเพื่อบีบร่างมันไว้ไม่ให้ดิ้น....ที่ไหนได้มันกลับทำเพียงยกหลังมือขึ้นปิดหน้า กัดฟัน หลับตาแน่น...ใบหน้าขาวกลายเป็นสีแดงจัดเมื่อผมดันนิ้วเข้าไปลึกกว่าเดิมจนเกือบสุด
“โอ๊ะ...” มันร้องขึ้นดังอีกครั้งแต่ก็กัดปากตัวเองให้เงียบ เมื่อผมดึงนิ้วชี้ตัวเองออกมา แล้วกดนิ้วกลางเพิ่มเข้าไปพร้อมกันอีกที
ผมดึงมือมันที่ปิดหน้าออกแล้วพรมจูบตามดวงตา แก้มขาว จมูกโด่ง และริมฝีปากสีแดงไปเรื่อยๆ....พร้อมกับที่นิ้วก็ดึงเข้าออกสลับกันไปมาอยู่อย่างนั้น เจ้าท่อนแข็งของไอ้มาร์ชก็ชูเด่นเป็นสง่าสั่นระริก ท่าทางจะเริ่มเสียวไม่ใช่น้อย เพราะจากที่บีบเกร็งแน่น ก็เริ่มผ่อนคลายลงแล้วตอดรัดนิ้วผมเป็นช่วงๆ ....
“มาร์ช...” ผมกระซิบข้างใบหูแดงของมัน แล้วงับทีนึงสาเหตุเพราะความหมั่นเขี้ยว...ทำไมน่ารักอย่างงี้วะ ทั้งร่างกายที่ดิ้นพราดๆ บวกกับเสียงครางทุ้มเบาๆ ...เร้าใจชะมัด
“อือ....” มันครางหอบตอบ
“รู้ใช่มั้ยว่าเป็นยังไงต่อ” ผมก้มลงหอมที่แก้มมัน โดยที่ถอนนิ้วออกมาแล้ว....ไอ้มาร์ชสะดุ้งเยือก หลับตาแน่น มันไม่ตอบ แต่พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ...ยิ่งทำให้ผมได้ใจ ผมก้มลงไปจูบปากมันอยากหนักหน่วงอีกรอบ มันยกมือขึ้นโอบคอผม ลูบไปมาบนแผ่นหลังผมอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเบียดสะโพกตัวเองเข้าหาผม รู้ตัวบ้างมั้ยว่ามันยิ่งกระตุ้นอารมณ์หื่นได้มากมายขนาดไหน....
ผมหยัดตัวขึ้น มองร่างขาวที่นอนตัวโงเล็กน้อยเพราะพื้นที่จำกัดบนโซฟา ลุกขึ้นไปหยิบซองบางอย่างจากกระเป๋าตังค์ที่มักติดตัวไว้เสมอมาใส่ในมือ แล้วดึงเสื้อตัวเองขึ้น ถอดออกจากทางหัว...ผมเห็นไอ้มาร์ชหน้ายิ่งแดงเมื่อเห็นแผงอกแล้วลอนกล้ามท้องผม มันเบนหน้าหนีไปอีกทางไม่ยอมสบตาจนผมอดหัวเราะไม่ได้ ผมโน้มตัวลงไปจูบมันอีกครั้งแล้วไล้ไปตามซอกคอขาว หนวดแข็งเป็นตอที่เพิ่งขึ้นถูไปมาตามร่างกายไอ้มาร์ชจนเป็นรอยแดงยิ่งเพิ่มเสียงครางระงม ในขณะที่มันกำลังเผลอผมจึงจัดการฉีกซองถุงยางแล้วสวมเข้ากับปืนใหญ่ตัวเอง พร้อมออกรบ...
“ซี้ดดด อืออ.....อือ...โอย”
มันร้องไม่เป็นภาษาเมื่อผมทะลุทะลวงพยายามดันปืนใหญ่ตัวเองลงไปในช่องทางแคบนั้น ก้นมันเริ่มเกร็งจนบีบตัวแน่นเข้าหากันทั้งๆ ที่ผมยังใส่ส่วนหัวเข้าไปไม่หมด...พอมันเกร็งเท่านั้นแหล่ะครับ ผมถึงกับครางซี้ดหลับตาแน่น กัดฟันจนสันกรามนูน...ผมบีบนวดคลึงที่ก้นมันเพื่อให้มันคลายกล้ามเนื้อบ้าง...แต่มันก็ยังคงเกร็งอยู่แบบนั้น ผมจึงโน้มตัวลงไปแลกจูบและไซร้มันต่อ จังหวะที่ก้มลงไปก็ยิ่งดันส่วนหัวให้ลึกไปเท่านั้น ไอ้มาร์ชถึงกับสะดุ้งยันตัวหนี แต่ผมดึงไหล่กดเอาไว้มันจึงไม่สามารถหลบได้...จนส่วนหัวเข้าไปได้หมด...
“เจ็บมั้ย” ผมถามเสียงกระเส่า เพราะมันแน่นเหลือเกิน...อีกฝ่ายไม่ตอบแต่น้ำตาเล็ด ทำไงได้ล่ะ จะให้หยุดก็คงไม่ได้แล้ว เล่นกระตุ้นอารมณ์ให้ซะขนาดนี้
ผมเริ่มขยับเบาๆ เนิบๆ...แต่นาน เข้าออกแบบนั้น พร้อมกับเริ่มเร่งมือช่วยลูกชายไอ้มาร์ชที่ตอนนี้อ่อนปวกเปียกเพราะความเจ็บให้กลับมาผงาดอีกครั้ง และผมก็ทำสำเร็จเมื่อสัมผัสกับความแข็งขืนหลังจากเล่นกับมันสักพัก
“อึก...อูยย..” มันกั้นเสียงแต่ก็ร้องออกมาให้ได้ยิน เมื่อผมดันจนเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปจมมิดด้าม...
ผมหันไปจูบปากกับมันอยู่เนิ่นนาน...เพื่อให้มันผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนสะโพกก็ไม่อยู่นิ่ง ยังขยับเนิบนาบเข้าออกทีละน้อย รอจนกว่าไอ้มาร์ชจะทำความคุ้นเคยกับลูกชายผมซะก่อน
“ซัน...” มันลืมตาเรียกผมเสียงหอบเบา
“ครับ” ผมยิ้มตอบอย่างพอใจที่มันเรียกชื่อผมเป็นครั้งแรกระหว่างการร่วมรัก...
“ทำแรงๆ เลย....ขอร้องล่ะ ช่วยทำให้แรงๆ ที” มันหลับตากลืนน้ำลายบอกผม เหมือนกับว่ากล้ำกลืนที่จะพูดมากเหลือเกิน จนผมอดหน้าเสียไม่ได้
“แต่เดี๋ยวเจ็บ....”
“ไม่เป็นไร ทำให้เจ็บไปเลย...ให้เจ็บมากๆ..” ผมไม่พูดต่อ แต่ดึงคอผมให้โน้มตัวลงไปจูบปากมันอีกครั้งจนปากเราแทบจะติดกันเป็นหนึ่งเดียว...ส่วนสะโพกมันก็ยกขึ้นตอบรับการกระแทกของผมอย่างสาแก่ใจ หน้าตามันเหยเกจากแรงกระแทก แต่ลูกชายมันก็แข็งสู้ ยิ่งกระแทกแรงยิ่งแข็ง จนผมไม่รู้ว่ามันเจ็บหรือเสียวกันแน่...
ผมยันตัวขึ้นแล้วเอาสองมือยึดสะโพกขาวมันไว้ยกสูงกระแทกกระทั้นอย่างสะใจตามคำขอจนกล้ามขึ้นปูดโปนไปทุกสัดส่วน...ไอ้มาร์ชยกมือขึ้นแตะที่หน้าท้องผมเหมือนจะห้าม แต่ก็ลดมือกลับไปเกาะที่โซฟาแทน เพราะตัวมันก็สั่นสะเทือนเงยหน้าเงยหลังกัดปากตัวเองจนช้ำเลือด น้ำตาไหล หน้าแดงแปร๊ดราวกับโดนบีบคอจนเลือดคั่ง
“อีก...แรงอีก” มันสั่ง ทั้งๆ ที่น้ำตาไหลเป็นสาย กลั้นหายใจเพราะถ้าให้หายใจตามจังหวะคงตามไม่ทัน
“ยังไม่เห็นเจ็บเลย...ฮึก บอกให้เอาให้เจ็บไง! ไม่ได้ยินเรอะ!” ไอ้มาร์ชตะโกนเสียงดัง ผมที่หน้ามืดอยู่แล้วได้ยินอย่างนั้นเลยยิ่งโมโห ดึงแท่นแข็งที่เปล่งบวมออกมาจนเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปหนักๆ แรงๆ จนอีกฝ่ายสะดุ้งโหยงสั่นระริก...ผมเร่งซอยถี่ ทิ้งแรงหนักเป็นบางช่วงจนร่างข้างใต้ครางหวือ มันส่ายหน้าไปมา หลับตาแน่น มือจิกผ้าโซฟาจนแทบจะเป็นรู
“ซี้ดดด... ฮ่า” ผมเผลอครางออกมาเช่นเดียวกันเมื่ออีกฝ่ายตอดรัดแน่น หลังจากที่น้ำสีขาวกระฉูดออกมาเลอะเต็มหน้าท้องตัวเอง จึงเร่งกระแทกอีกไม่กี่ที ผมก็ถึงจุดสุดยอดไปตามๆ กัน...
“อืม ใช่ มาร์ชอยู่กับเรา”
ผมนั่งริมเตียงคิงไซส์ของตัวเองโดยสวมกางเกงขาสั้นอยู่ตัวเดียว มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์กรอกเสียงลงไปตามสายเบาๆ เพราะกลัวคนที่นอนข้างๆ จะตื่น...
“แก้วไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเราดูแลมาร์ชเอง” ผมตอบไปเมื่อคนที่อยู่ในสายบอกให้ผมไปส่งมาร์ชที่โรงแรมตามเดิม เพราะทุกคนกำลังตามหามันวุ่น
ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในระหว่าง 4 วันเต็มๆ ที่ผมกับมันไม่ได้เจอกัน แต่ฟังจากน้ำเสียงแก้วแล้วท่าทางจะหนักไม่ใช่เล่น...แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเพราะกลัวจะโดนหาว่าเข้าไปล่วงล้ำเรื่องส่วนตัวของเขามากเกิน...แค่ความสัมพันธ์ทางกาย มันคงไม่สามารถบอกได้อย่างเต็มปากว่าทั้งผมและมาร์ชได้ก้าวเลยเขตแดนของคำว่า “เพื่อน” ไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไร แค่เซ็กเฟรนด์รึเปล่า? ยิ่งในเวลาเครียดๆ แบบนี้ด้วยแล้ว คนเราต่างก็คงต้องการอ้อมกอดจากใครสักคน มันเป็นของแน่นอน แต่อีกจุดที่ทำให้ผมสงสัยไม่หายคือ...ทำไมมันต้องมาหาผม?
ผม...ที่เป็นผู้ชาย....
ผม... ที่ไม่ค่อยจะถูกกับมัน ไม่แน่มันอาจจะเกลียดผมด้วยซ้ำ
ทำไม?
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่า ผมต้องการมัน...และผมไม่รู้ว่านี่คือรักหรือเปล่า มันแตกต่างจากรักที่แล้วๆ มา ความรักที่ทำให้หัวใจผมชุ่มชื่น ตื่นเต้นราวกับลอยได้อยู่ตลอดเวลา แต่กับไอ้มาร์ช...มันทีทั้งชุ่มชื่น ตื่นเต้น หวาดเสียว และเจ็บปวด ทรมาน งุนงง วุ่นวาย เพ้อเจ้อ ....ดูซิ ชนาดเพิ่งเจอมันไม่นานยังเป็นได้มากมายขนาดนี้...นี่ผมเป็นบ้าไปแล้วรึเปล่า?
เฮ้ออออ ทำไมวะ ...ผมล้มตัวลงค่อยๆ พยุงตัวมันเข้ามาในอ้อมกอดผม จูบเบาๆ ที่หน้าผากอันเคยชื้นเหงื่อจากเพศสัมพันธ์ที่ร้อนแรง มันหลับตานิ่ง ลมหายใจผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะแสดงถึงอาการหลับลึก ผมมองตาที่ปิดสนิทของมัน...ขอบตาช้ำเชียว ใต้ตาก็ดำ เหมือนคนอดนอนมาหลายวัน แต่แผลช้ำตรงปากก็หายไปมากแล้ว หน้ามันขาวเลยเห็นได้ชัดครับว่าตรงไหนเป็นรอยอะไร โดนอะไรมาบ้าง
ผมเอามือที่สอดใต้หลังคอมันดึงเข้าตัวเอง...ส่วนอีกมือก็ลูบเบาๆ แถวเอวคอด ไล้ไปมาตามหลังเนียน...มันเหมือนจะรู้สึกตัวหน่อยนึง ซุกเข้าหาที่ซอกคอผมแล้วหลับสนิทอีกที
“หึหึหึ” ผมหัวเราะกับไอ้ปีศาจที่ตอนนี้กลายร่างเป็นเด็กน้อย หลับตาทำหน้าพริ้มกับไออกอุ่น
“กูเป็น
ปีกให้มึงไม่ได้....แต่กูเป็น
พระอาทิตย์ให้มึงได้นะ มาร์ช....”
ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น...และไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า แต่รอยยิ้มจางๆ จากปากแดงนั่นทำให้ผมอิ่มเอมและพอใจ ผมก้มลงจูบปากนั่นอีกรอบ แล้วเอื้อมมือไปปิดไฟหัวเตียง หลับใหลในนิทราด้วยกัน
***TBC
ใช้อีโมแค่ 3 ตัวนะครับ ผู้อ่านที่รัก