เพื่อนร่วมงานแบบที่ 11
เพื่อนร่วมงานบางคนก็น่าแกล้งแต่พอแกล้งไปแล้วบางทีก็นึกสงสารขึ้นมา
เสื้อโค้ตที่เบลสวมอยู่ หนาพอที่จะทำให้ไม่รู้สึกอะไรกับอากาศในห้องเย็น แต่สำหรับชยาแล้วเสื้อผ้าที่สวมอยู่ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
ยืนนิ่ง ๆ ไม่ได้และเดินไปเดินมาอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ชยายกฝ่ามือทั้งสองข้างประกบกันและถูไปมา เป่ามือเพื่อให้อุ่นขึ้นบ้าง แต่ก็แทบไม่ช่วยอะไรเลย และเบลที่นั่งมองชยาที่เดินไปเดินมาก็เริ่มเวียนหัว พยายามไม่มองแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะต้องทัก
“มันไม่มีอะไรดีไปกว่ามานั่งด้วยกันตรงนี้หรอก”
ไม่ได้อยากเรียกให้มานั่งด้วย แต่ก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่สามารถเดินไปเดินมาแบบนั้นได้ทั้งคืนแน่ และชยาก็หันมามองหน้าเบลและถอนหายใจยาว
ชยาไม่ใช่คนเจ้าทิฐิ ในเวลาแบบนี้การพยายามหาทางเอาตัวรอดไปจนกว่าจะมีคนมาเปิดประตูห้องเย็นในเช้าของอีกวันสำคัญกว่าทะเลาะกับเบล
“พรุ่งนี้ประตูจะเปิดกี่โมง”
เอ่ยถามเบลที่นั่งอยู่แล้วเบลก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา
“แปดโมงเช้า กว่าจะถึงตอนนั้นก็พยายามอย่าหนาวตายไปก่อนก็พอ”
ชยารู้ว่าเบลไม่หนาวตายแน่ แต่ชยาไม่รู้ว่าตัวเองจะหนาวตายไปก่อนหรือเปล่า ตอนนี้มือเริ่มแข็งและปากก็เริ่มซีด หนาวจนรู้สึกว่าฟันกำลังกระทบกันและชยาก็ดึงแขนเบลมากอดเอาไว้ทันที
“เฮ้ย อะไรของคุณเนี่ย”
ก็น่าจะเห็นอยู่แล้วว่าทำอะไร...
“ผมไม่ได้คิดอยากจะกอดแขนคุณหรอกนะ แต่ถ้าไม่ทำผมก็จะต้องหนาวตาย”
เบลคิดว่าเป็นเรื่องที่แย่มากที่ต้องมาติดอยู่ในห้องเย็นกับชยาแบบนี้
จากที่กอดแขนเบลเฉย ๆ ตอนนี้ชยาขยับเข้ามาใกล้อีกนิดและเบียดกายเข้าใกล้มากขึ้น จนเบลรำคาญ พยายามดึงแขนออก แต่ชยาก็ไม่ยอมปล่อย สุดท้ายก็เลยได้แต่เบือนหน้าหนี ถึงอยากจะสะบัดแขนไม่ให้อีกฝ่ายกอด แต่ถ้าทำแบบนั้น ถ้าชยาหนาวตายในห้องนี้ขึ้นมาคงไม่ดีแน่
เสียงฟันที่กระทบกันของชยาดังมากพอให้เบลต้องขมวดคิ้วมุ่น มองคนที่หนาวจนตัวสั่นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจยาว ถึงตอนนี้เรื่องที่ไม่ชอบหน้ากันก็คงต้องทำเป็นลืม ๆ ไปบ้าง
“คุณหนักเท่าไหร่”
ไม่ใช่เรื่องที่อยากรู้แต่ในเวลานี้ถ้าพอรู้น้ำหนักของอีกฝ่ายบ้างก็น่าจะพอรู้ได้ว่าจะทำอะไรต่อไป
“คุณจะรู้ไปทำไม”
“ไม่ทำไมหรอก ช่างเถอะ”
เบลไม่อยากรู้อีกแล้ว รูดซิปเสื้อโค้ตลงและดึงแขนให้ชยาขยับขึ้นมานั่งอยู่บนตัก และกดหัวของชยาให้เข้ามาซุกอยู่ในอ้อมแขน กอดเอาไว้ด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ และถึงแม้จะรู้สึกไม่ดีที่ต้องทำเรื่องที่ไม่คิดว่าจะต้องทำ แต่ถ้าอยากมีชีวิตรอดไปถึงตอนเช้า ชยาที่ไม่อยากอยู่ในสภาพนี้กับเบลก็ต้องฝืนใจทำ
“แม่งเอ้ย ทำอะไรอยู่วะกู”
เบลบ่นพึมพำเสียงเบาและชยาก็ตอบกลับมาในแบบเดียวกัน
“แล้วนึกว่าผมอยากจะทำแบบนี้หรือไง”
ไม่ได้มองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างต้องทำเรื่องที่ต้องฝืนใจทำ ชยาซุกกายอยู่ในอ้อมแขนของเบล และเบลก็กอดชยาเอาไว้แบบนั้น
ต่างฝ่ายต่างรู้สึกไม่ดีที่ต้องทำเรื่องที่ไม่อยากทำเพื่อเอาตัวรอดในสภาพอากาศที่หนาวจนแม้จะพูดก็ยังลำบาก
“ผมจะนึกซะว่ากอดหมากอดแมวก็แล้วกัน”
“ผมก็จะนึกว่าให้หมาแมวกอดเหมือนกัน”
“ปากดีนะคุณชยา”
“ก็ไม่น้อยไปกว่าคุณหรอกนะคุณเบล”
+++
เบลเริ่มชินกับร่างกายของชยาที่แนบชิดเข้ามาแล้ว ตอนแรกรู้สึกอึดอัดแต่ตอนนี้เบลกำลังมองคนที่ซุกซบอยู่ในอ้อมแขนนิ่ง ๆ เห็นแล้วก็เริ่มรู้สึกอิจฉาและหมั่นไส้อีกฝ่ายขึ้นมา
สบายจริงนะ ขึ้นมานั่งอยู่บนตักแล้วก็หลับสบายเลย รู้มั้ยว่ามันทั้งหนักทั้งกำลังทำให้ขาเป็นเหน็บจนจะขยับไม่ได้อยู่แล้ว
เบลเบะหน้าด้วยความรำคาญและตอนที่ขยับตัว ชยาก็รู้สึกตัวและเงยหน้าขึ้นมอง
“ทำอะไรของคุณ อยู่เฉย ๆ ไม่ได้หรือไง”
เป็นฝ่ายขึ้นมาเกยอยู่บนตัวคนอื่นแท้ ๆ นอกจากไม่สำนึกแล้วยังจะมีหน้ามาปากดีใส่อีก
เบลก็แค่จะขยับตัวเพราะความเมื่อยล้าแต่ชยาก็กอดเบลแน่นขึ้นจนแทบจะขยับตัวไม่ได้
“นี่ คุณอย่าขยับตัวให้มากนักได้มั้ย”
ไอ้คุณชยา...หาเรื่องดีนักนะ
ชอบใช่มั้ยแบบนี้ อยากจะเกาะแบบนี้ไปตลอดจริง ๆ ใช่มั้ย งั้นก็ได้...
“ที่จริงตอนนี้ ก็มีแค่ผมกับคุณใช่มั้ยคุณชยา”
เบลแกล้งทำเสียงกระเส่าแบบแปลก ๆ ใส่ และชยาก็นิ่วหน้าด้วยเพราะเสียงพูดของเบลที่ได้ยิน ผละใบหน้าออกห่าง และมองหน้าของเบลที่ตอนแรกขมวดคิ้วมุ่นแต่ตอนนี้กำลังมองหน้าชยาแปลก ๆ และเริ่มอมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก
“อะไร”
เบลก็แค่แกล้งส่งยิ้มให้กับคนที่มาเกยทับอยู่บนตักและรั้งเอวของชยาเข้ามาใกล้อีกนิด
“คุณ...อ่ะ คุณเบล อะไรของคุณ”
เห็นอีกฝ่ายทำหน้าเลิ่กลั่กตื่นตกใจแล้วก็นึกสนุกขึ้นมา นี่คิดจริง ๆ เหรอว่าจะทำอะไรแปลก ๆ ด้วย บ้าหรือเปล่า
“ผมหนาวจะแย่”
คำพูดและท่าทางของเบลดูผิดไปจากที่เคยเห็น และเมื่อฝ่ามืออุ่น ๆ เริ่มลูบไล้ไปที่แผ่นหลังและสะโพก ชยาก็ใช้มือยันอกของเบลเอาไว้และพยายามขืนตัวลุกขึ้นยืนทันที
“ผมหนาวมากเลยนะคุณรู้ใช่มั้ย”
คำพูดของเบลฟังดูประหลาดมากเกินกว่าจะเป็นคำพูดแบบปกติและชยาก็ผลักเบลออกห่าง
“พูดบ้าอะไร บ้าไปแล้วหรือไง”
พยายามจะลุกขึ้นหนี แต่ถูกดึงแขนเอาไว้ และเมื่อผลักให้อีกฝ่ายออกห่างก็ถูกรั้งเข้ามากอดเอาไว้
“ผมหนาวไง หนาวมาก ผมก็อยากหายหนาว ตอนนี้มีคุณคนเดียวที่ทำให้ผมหายหนาวได้”
หมายความว่ายังไง
ยิ่งออกแรงผลักและพยายามลุกขึ้นยิ่งเหมือนกระตุ้นให้อีกฝ่ายอยากแกล้ง สุดท้ายชยาสะบัดตัวหนีการกอดรัดของเบลเต็มแรงและเบลก็ล็อคแขนของชยาเอาไว้และกดลงบนพื้นทันที
“คุณชยา คุณชยา คุณชยา”
เรียกคนที่โดนกดเอาไว้จนไม่สามารถขยับได้ด้วยเสียงกระเส่า และชยาก็เบิกตากว้างตอนที่เบลพลิกร่างของชยากลับมาหาและคร่อมทับอยู่เหนือร่าง แววตาที่มองมาดูน่ากลัวมากจนชยาต้องร้องตะโกนเสียงดังโวยวาย
“เป็นบ้าหรือไง อย่ามาเล่นแบบนี้นะ”
ทำไมล่ะก็อยากเล่น ถ้าจะเล่นแล้วคุณชยาจะทำไม
เบลก็แค่โน้มใบหน้าลงไปอีกนิดและกระซิบบอกชยาเสียงกระเส่า
“ผมหนาวมากจนจะเป็นบ้า”
แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว แบบนี้มันเกินไปแล้ว
“ปล่อยนะโว้ยยย”
ชยาได้แต่ดิ้นรนอยู่อย่างนั้น แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ตอนที่เบลโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ดวงตาภายใต้กรอบแว่นเบิกกว้างและชยาก็เบี่ยงหน้าหลบตอนที่เบลโน้มใบหน้าลงมาใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกัน
“งื้ออออออ”
เบลมองชยาที่หลับตาแน่น ทั้งหน้าตาท่าทางดูตลกมากจนทำให้ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองได้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความขำกับท่าทางที่แสดงออกของคนที่โดนกดข้อมือเอาไว้และเบลก็ยอมลุกขึ้นและปล่อยชยาให้เป็นอิสระ
ตลกมาก ทั้งตลกทั้งขำกับท่าทางที่แสดงออกของอีกฝ่าย
ชยารีบลุกขึ้นนั่งทันทีและขยับตัวถอยห่างไปอยู่ที่มุมห้องและมองหน้าของเบลด้วยความกลัว โดนแกล้งและอีกฝ่ายคงสนุกมากที่ได้ทำแบบนี้ ทั้งที่ชยากลัวแทบตาย กลัวว่าจะโดนทำร้าย กลัวจะโดนเบลทำอะไรแย่ ๆ ในนี้ แต่สุดท้ายก็เป็นแค่เรื่องสนุกของอีกฝ่ายเท่านั้น
ชยาได้แต่นั่งกอดเข่าเอาไว้แน่นและเหลือบมองคนที่หัวเราะไม่หยุด
ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะหนาวตายอยู่ในนี้หรือเปล่า แต่เบลก็ยังแกล้งทำเรื่องแบบนี้ได้โดยไม่รู้สึกรู้สา
ทั้งที่กลัวมาก
ทั้งที่...กลัวว่ากว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้าอาจจะหนาวตายในนี้
ชยาซุกหน้าลงที่หัวเข่า ทั้งหิว ทั้งหนาว ทั้งกลัว ทั้งโกรธที่โดนแกล้ง และคนที่ต้องติดอยู่ด้วยกัน ก็ไม่นึกสงสารชยาบ้างเลย
ทำไมต้องแกล้งกันถึงขนาดนี้ด้วย เกลียดกันก็พอรู้ แต่ในเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ ทำไมถึงไม่คิดหาวิธีที่จะอยู่รอดด้วยกันไปถึงตอนเช้า
ชยาไม่เข้าใจ เบลทำแบบนี้เพื่ออะไร
+++
ถ้าขืนปล่อยไว้อย่างนั้นอีกฝ่ายคงหนาวตายแน่ ๆ เสียงฟันกระทบกันของคนที่นั่งกอดเข่าและซุกซบใบหน้าอยู่บนหัวเข่า ทำให้เบลต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ความเย็นในห้องถึงไม่มากนักแต่ถ้าอยู่นาน ๆ ก็มีสิทธิ์หนาวตายได้ง่าย ๆ
เบลลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาคนที่นั่งกอดเข่านิ่ง ๆ และเรียกให้ชยาเงยหน้ามาคุยกัน
“นี่”
เรียกให้อีกฝ่ายได้ยินและชยาก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาคุย น้ำเสียงที่ตอบกลับมาก็ฟังแทบไม่รู้เรื่องจนเบลจับใจความไม่ได้ว่าชยาพูดว่าอะไร
“อย่ามายุ่ง”
ใครจะไปอยากยุ่งด้วยวะ แค่กลัวจะหนาวตายแค่นั้น
“นี่”
เรียกอีกครั้งและเบลก็ขมวดคิ้วมุ่น เพราะชยาไม่ยอมตอบรับ
“ไม่ใช่อะไรนะ ผมแค่ไม่อยากให้คุณหนาวตายในนี้ ไม่งั้นมันจะเป็นบาปเป็นกรรมกับผมไปด้วย”
พูดให้อีกฝ่ายเข้าใจ แต่ชยาก็ยังไม่ยอมเงยหน้ามาคุยกันดี ๆ
“คุณชยา”
เรียกด้วยน้ำเสียงเข้ม ๆ แต่ชยาก็ยังไม่ตอบ และเบลที่หมดความอดทนก็ดึงแขนชยาให้ลุกขึ้นยืนทันที
“ไปนั่งด้วยกันตรงโน้น เดี๋ยวก็...ตาย...”
ดึงแขนให้ชยาลุกขึ้นได้ก็จริง แต่ดวงตาภายใต้กรอบแว่นที่แดงก่ำ ก็ทำให้เบลพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายแอบร้องไห้
รู้ว่ากลัวแต่ไม่นึกว่าจะร้องไห้จริง ๆ และตอนนี้เบลก็พูดไม่ออกเพราะเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง
ลากแขนให้ชยาเดินกลับมาที่มุมห้องตรงที่นั่งอยู่และไม่หนาวเท่าตรงที่ชยานั่ง ทรุดกายลงนั่งและก็เห็นว่าชยายกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาอยู่หลายครั้งแต่ไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ
เบลถอดแขนเสื้อคลุมที่ตัวเองใส่อยู่ออกหนึ่งข้าง และลากชยาที่ขืนตัวออกห่างให้เข้ามาในอ้อมแขนอีกครั้ง กอดอีกฝ่ายเอาไว้ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรกัน และกดหัวของชยาให้ซบอยู่ที่ไหล่และครั้งนี้คนในอ้อมแขนยอมทำตามเงียบ ๆ โดยไม่มีปากเสียง
อุณหภูมิในห้องยังคงเย็นจัดแต่อุณหภูมิร่างกายของคนสองคนที่แนบชิดกันและต้องพยายามหาทางอยู่รอดให้พ้นไปถึงรุ่งเช้าของอีกวัน เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ร่างกายอุ่น ๆ ที่แนบสนิทเข้าหากันช่วยให้คลายจากความหนาวเย็นได้บ้างและเบลก็กอดชยาแน่นขึ้นอีกหน่อยตอนที่ชยาเบียดกายเข้าหา
ไม่มีอะไรมากไปกว่าพยายามจะเอาตัวรอดให้ได้จนกว่าจะถึงตอนเช้าของอีกวันตอนที่มีคนมาเปิดห้อง เบลยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูและถอนหายใจยาวกระซิบบอกคนในอ้อมแขนเสียงเบา
“อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ถ้ายังไม่อยากหนาวตายก็อดทนอยู่อย่างนี้ไปก่อนแล้วกัน"
TBC.