ตอนที่ 19 : อยู่ที่คน “มึงจะไปหรือเปล่า” ไผ่ถามพายุ เมื่ออ่านข้อความของเพื่อนร่วมก๊วนเกมให้ฟัง ว่าอีกฝ่ายชวนไปเล่นเกมที่บ้าน
“ไปสิวะ” พายุตอบรับ เขากำลังติดเกมนี้ ยิ่งเล่นด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ยิ่งสนุก
“งั้นกูตอบตกลงนะ”
“เออ บอกว่าเราไปสี่คน”
“พวกมึงไปกันเถอะ กูขอกลับห้องดีกว่า มีหนังสือที่อยากอ่าน” ปัณณ์ปฏิเสธ เขาไม่ใช่สายเกมสักเท่าไหร่
“ไปด้วยกัน” พายุหันไปชวนเมื่อปัณณ์ปฏิเสธ
“มึงไปเถอะ กูไม่ชอบเล่นเกมพวกนี้ มึงก็รู้”
“ก็เอาหนังสือไปอ่านที่นั่นด้วย”
“กูไม่ได้เอามา ซื้อเก็บไว้ที่ห้อง ดองมานานแล้ว”
“กลับห้องมึงก่อนก็ได้ ให้ไอ้พวกนี้ไปก่อน พวกมึงบอกไอ้ฟิล์มด้วยแล้วกัน ว่ากูไปแต่ช้าหน่อย”
“ได้” ไผ่พยักหน้ารับ
“แต่กูนอนอ่านอยู่ห้องสบายกว่า มึงจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่ากูจะเบื่อไหม จะได้เล่นได้เต็มที่”
“งั้นกูไปนั่งเล่นที่ห้องมึง เล่นที่ไหนก็เหมือนกัน พวกมึงเอาไง” พายุหันไปถามอีกสองเสียงทีเหลือ
“ไม่มีปัญหา กูเล่นที่ไหนก็ได้ แค่ไม่ต้องเล่นคนเดียวก็พอ”
“อยู่ห้องมึงก็เล่นกันหลายคน” ไผ่ขัดนนท์ขึ้นมา “ทำอย่างกับมึงสู้คนเดียวในเกม”
“ไม่ต้องขัดกูเลยไอ้ไผ่ มึงก็รู้ว่ากูหมายถึงอะไร เล่นคนเดียวเวลาสบถจะไปมันอะไรวะ ต้องอยู่กันหลายๆ คน”
“เหงาก็บอกมา ทีหลังก็บอกกู กูจะไปอยู่เป็นเพื่อน”
“เหงาเชี่ยไร! กูไม่มีคนให้ด่าโว้ย” นนท์โวยวายหน้าแดง
“บรื้อ”
“เป็นอะไร” นนท์หันไปถามพายุ เมื่ออีกฝ่ายทำเสียงประหลาดแถมทำตัวสั่นเบาๆ
“กูขนลุก แม่งไม่คุ้นเลยว่ะ เวลาเห็นพวกมึงจีบกัน เลี่ยนฉิบหาย”
“อะไรของมึง! หาเรื่องพวกกูชัดๆ” นนท์ร้อนตัว
“อ๋อมีแบ่งพวก เดี๋ยวนี้มึงเป็นคู่กันแล้วใช่ไหม กูจะได้รู้ไว้”
“กู...กูไม่ได้หมายถึงแบบนั้นโว้ย”
“นนท์” ปัณณ์เรียกเพื่อนด้วยน้ำเสียงขำปนอ่อนใจ “มึงไม่รู้จักนิสัยพายุมันเหรอ ยิ่งมึงโวยวายมันก็ยิ่งแกล้งมึงสนุกไป”
“เห็นไหม!” นนท์ชี้หน้าเพื่อนสนิท “ไอ้ปัณณ์คอนเฟิร์มแล้วว่ามึงแกล้งกู”
“หึๆ แบบนี้ไงกูถึงชอบมัน” ไผ่มองเพื่อนรักด้วยสายตาขำปนเอ็นดู
“เหี้ยไผ่มึงนี่ทุกเม็ด ดูหน้าไอ้นนท์มันมั้ง รุกมากๆ ระวังมันหนีไปกระโดดน้ำตาย” พายุหัวเราะลั่น เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนสนิทอย่างนนท์ ตกลงมันจะอายหรือมันจะเหวอกันแน่วะ
“พอๆ พวกมึงเอาแค่หอมปากหอมคอพอ กูสงสารมัน” ปัณณ์ปรามสองหนุ่มที่ยังหัวเราะกันอย่างครื้นเครง
“มึงน่ารักที่สุดเลยปัณณ์” นนท์โผเข้าหาเพื่อน แต่โดนสกัดดาวรุ่งด้วยขาที่ยื่นออกมาขัด จนหัวเกือบทิ่ม
“มากไป”
“อะไรวะ! กูจะบอกให้รู้นะ กูรู้จักไอ้ปัณณ์ก่อนมึงอีก กูรู้จักมันเป็นคนแรกของกลุ่ม” นนท์ท้าวความหลังสมัยเพิ่งเข้าปีหนึ่งใหม่ๆ
“คนแรกแล้วไงวะ ถึงยังไงปัณณ์มันก็รักกูที่สุด”
“ไอ้หลงตัวเอง” นนท์ทำอะไรไม่ได้นอกจากสรรเสริญเพื่อน
“มึงผิดแล้ว กูไม่ได้หลงตัวเอง เพราะกูหลงปัณณ์มากกว่าว่ะ”
“ไอ้เหี้ย!”
“ฮ่าๆ” ไผ่หัวเราะเสียงดัง “ว่าแต่กูมึงมันก็พอกันล่ะวะ”
“ไม่อย่างนั้นมึงกับกูจะเป็นเพื่อนกันเหรอ” พายุยักคิ้วให้ไผ่
“ตกลงพวกมึงจะกัดกันอยู่นี่ใช่ไหม กูจะได้กลับห้องก่อน” ปัณณ์ลุกขึ้นยืน รู้จักทุกคนดีว่าวิธีไหนจะทำให้สงบลงได้
“มึงเลย” นนท์บ่นเพื่อน รีบลุกขึ้นตามปัณณ์ “กินอะไรดีวะปัณณ์ แวะกินก่อนไหมหรือจะซื้อเข้าไปกินที่ห้อง”
“กูยังไงก็ได้”
“สั่งเข้าไปเถอะ คงมาส่งหลังเราถึงห้องปัณณ์ไม่นาน กินเสร็จจะได้เริ่มเลย” ไผ่ออกความคิดเห็น เพราะส่งข้อความไปนัดเพื่อนไว้แล้ว
“เข้าท่าดี ตามนั้น” พายุดึงกระเป๋าของปัณณ์มาสะพายให้ ยิ้มให้เมื่อปัณณ์มองมา สำหรับพายุแล้วไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ทำแบบนี้ให้ปัณณ์เสมอ เพียงแค่ต่างสถานะออกไป เมื่อก่อนแบบเพื่อนตอนนี้แบบคนรัก
“ไปไหน” พายุเพิ่งพักจากการเล่นเกม มองคนที่ลุกขึ้นจากเตียงนอน
“ลงไปซื้อขนมให้พวกมึง หมดแล้วนี่”
“ซื้อเบียร์ให้กูด้วย คืนนี้ยาว” ไผ่เปิดกระเป๋าเงินส่งธนบัตรใบละพันให้เพื่อน
“กูไปด้วย” พายุลุกขึ้นยืน
“เฮ้ยไม่ได้! เดี๋ยวจะเล่นต่อแล้ว” นนท์ร้องห้าม
“พวกมึงเล่นกันไปเลย กูจะไปเป็นเพื่อนปัณณ์”
“ไม่ต้อง กูไปเองได้ มึงอยู่เล่นต่อเถอะ”
“ไม่เป็นไร กูจะได้ไปช่วยมึงถือของ”
“มันหนักซะทีไหนกูถือได้สบาย ชิลมาก”
“แต่...”
“ฮ่าๆ กูขำว่ะ” นนท์ไม่ใช่แค่พูดแต่หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ให้รู้ว่าตัวเองขำจริงๆ
“ขำอะไรของมึงไอ้นนท์”
“อ้าวกูขำไม่ได้เหรอวะ มึงจะทำหน้าเป็นยักษ์ใส่กูทำไม” นนท์โวยวายเมื่อพายุหันมาตีหน้ายักษ์ใส่
“จะบอกไม่บอกว่ามึงขำอะไร” นนท์รีบขยับตัวหลบเท้าของพายุ
“เออบอกก็ได้ ไม่ได้กลัวหรอกนะ กูแค่ไม่อยากมีเรื่อง”
“หึๆ” นนท์หันขวับไปถลึงตาใส่เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของไผ่ ก่อนหันกลับไปตอบคำถาม
“ก็แต่ก่อนไอ้พายุมันเป็นพวกขี้รำคาญจะตายห่า สาวคนไหนทำตัวติดกับมันเป็นตังเมมีเลิก สาวไหนชอบวีนที่มันเล่นเกมก็เลิก บอกคนเราต้องมีชีวิตส่วนตัว แล้วไงวะ นี่มึงเจออย่างในฝันเลยนะเว้ย ไอ้ปัณณ์แม่งเข้าใจมึงทุกอย่าง ไม่ตามตอแยด้วย แล้วมึงจะงอแงทำซากอะไร” พายุปิดปากเงียบจะเถียงก็เถียงไม่ออก
“เออจริงของไอ้นนท์ มึงเป็นไบโพล่าเหรอวะ ตกลงเอาไงแน่”
“ก็ปัณณ์มันเข้าใจ ไม่เคยเหวี่ยงไร้เหตุผลนี่หว่า” คนแก้ตัวพูดเสียงอ้อมแอ้มอยู่ในคอ
“สรุปคือมึงกำลังเป็นเสียเอง ปัณณ์มันอยากอ่านหนังสือสบายๆ มึงก็พาพวกกูยกโขยงตามมา นี่ก็ไม่ยอมให้มันลงไปคนเดียว มึงจะกวนมันทำไม ไหนว่าต้องมีเวลาส่วนตัวบ้าง”
“แล้วไงวะ ก็กูรักของกู โอ๊ย! “ พายุลูบแขนเมื่อถูกปรามด้วยการฟาดหนักๆ เข้าทีกลางหลัง มีแฟนเป็นผู้ชายมันก็จะโหดๆ แบบนี้
“ทีนี้เข้าใจคนอื่นหรือยัง” พายุหันไปมองคนฟาด รีบส่งยิ้มเอาใจไปให้เมื่ออีกฝ่ายทำหน้านิ่ง
“มึงรำคาญกูเหรอ” น้ำเสียงคนถามเต็มไปด้วยความออดอ้อน จนนนท์อยากอัดคลิปแฉเพื่อน ว่ามีมุมนี้กับเขาเหมือนกัน
“เปล่า แค่ถามว่าเข้าใจคนอื่นแล้วใช่ไหม นิดๆ หน่อยๆ ทำรำคาญ รู้หรือยังว่าเขาทำลงไปเพราะอะไร”
“เข้าใจแล้ว แต่ก็ไม่เอาอยู่ดี”
“ก็แล้วถ้ากูตามมึงบ้างล่ะ ถ้าวันหนึ่งกูเกิดเป็นขึ้นมา ใครจะไปรู้ กูอาจจะตามหึงตามจิกมึงบ้างก็ได้”
“ก็ดีสิ” คนตอบยิ้มตาวาว
“กูถามจริงๆ”
“กูก็ตอบจริงๆ กูอยากให้มึงไปด้วยทุกที่” ดวงตาจริงจังของพายุทำให้ปัณณ์ต้องพยายามกลั้นยิ้ม ไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ใจ “ถ้าเป็นมึงแบบไหนก็ดีทั้งนั้น” รอยยิ้มที่เปลี่ยนเป็นอบอุ่นอ่อนโยน ทำเอาใจของปัณณ์อ่อนยวบ ที่เขาเผลอรักเพื่อนสนิทก็เพราะพายุเป็นแบบนี้
“คือถ้ามึงหวานกันพอแล้ว กูฝากซื้อปลาหมึกย่าง เจ้าหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวด้วย” นนท์พูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจแต่ดวงตาฉายความสุขที่ได้ขัดจังหวะเพื่อน
“ไอ้ไผ่จัดการเมียมึงที ยุ่งฉิบหาย”
“กูไม่ใช่!”
“เดี๋ยวมึงก็ใช่” พายุยักคิ้ว ส่งสายตาท้าทายไปให้นนท์
“ปัณณ์มึงดูนะ แฟนมึงโคตรเลว”
“หึๆ เถียงกูไม่ออก ต้องหาคนช่วยเหรอวะ กระจอกฉิบหาย”
“ตกลงจะให้กูไปคนเดียวใช่ไหม ดูมึงอยากอยู่เถียงกับไอ้นนท์มากกว่า”
“เปล่า” พายุหน้าจ๋อย รีบสงบปากสงบคำ
“ฮ่าๆ กูชนะเว้ย มึงมันเข้าสมาคมคนกลัวเมียแล้ว” นนท์ตะโกนไล่หลังเมื่อพายุทำได้แค่เดินเร็วๆ ตามปัณณ์ออกไป
“กูก็อยากเข้าชมรมนี้เหมือนกัน เมื่อไหร่จะได้เข้า” เสียงพูดด้วยน้ำเสียงขำปนเจ้าเล่ห์ ดังมาจากคนนั่งใกล้ นนท์สะดุ้งโหยง มัวแต่ฮึกเหิมที่นานๆ ครั้งจะทำพายุจ๋อยได้ ลืมคิดว่าคนที่นั่งข้างๆ ก็ใช่ย่อย
“อยากเข้ามึงก็ไปหาผู้หญิงดีๆ สักคนมาเป็นแฟน”
“ไม่ล่ะ กูไม่อยากเห็นคนแถวนี้ร้องไห้”
“ทะ.ทำไมกูต้องร้อง”
“เพราะมึงรักกูเหมือนที่กูรักมึงไง หรือต้องให้พิสูจน์” หน้าเจ้าเล่ห์ยื่นเข้ามาใกล้ ทำให้นนท์ต้องถอยหน้าหนี
“เชี่ย! อย่านะโว้ยนี่มันห้องไอ้ปัณณ์” นนท์ยกมือขึ้นกั้นไว้ก่อนด้วยความตกใจ
“หึๆ แปลว่าถ้าเป็นห้องมึงกูทำได้ใช่ไหม”
“นะ..ไหนมึงบอกอยากเข้าชมรมกลัวเมีย แม่งขู่เอาๆ บ้าหรือเปล่าวะ” นนท์คิดจริงๆ ว่านี่มันขัดกันชัดๆ ไบโพล่าพอๆ กับไอ้พายุ
“นนท์”
“อะไร!”
“มึงตอบรับกูแล้วมึงรู้ตัวหรือเปล่า”
!!! เชี่ย!!
“ฮ่าๆ”
“ส่งถุงมา” พายุยื่นมือที่ถือถุงอยู่แล้วไปหาปัณณ์ พวกเขาเพิ่งเดินออกจากร้านสะดวกซื้อ เพื่อกลับไปที่หอพัก
“กูถือได้” ปัณณ์ไม่ยอมส่งให้ พายุถือถุงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว หนักกว่าที่เขาถือถุงขนมสองถุงกับถุงปลาหมึกปิ้งไม่รู้กี่เท่า
“เอาน่าส่งมา มึงถือสองมือแล้ว”
“ก็แยกถือแบบนี้มันไม่หนัก”
“ปัณณ์” นานแล้วที่พายุไม่ทำเสียงดุใส่เขา ตั้งแต่เจ้าตัวเริ่มรู้สึกมีใจนั่นแหละ
“ก็ได้” ปัณณ์ยอมส่งถุงขนมไปให้ถุงหนึ่ง แต่ยังถือที่เหลือเอาไว้เอง
“มึงไม่แยกถือล่ะ” ปัณณ์อดบอกไม่ได้ เมื่อเห็นพายุรวบถุงไปถือรวมไว้มือเดียว
“กูจะได้ทำแบบนี้ไง” ปัณณ์หน้าแดงเรื่อ เมื่อพายุคว้ามือข้างที่ว่างของเขาไปจับ “ดีกว่าเป็นไหนๆ” รอยยิ้มพรายทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูดียิ่งขึ้นไปอีก
“ไม่อายเหรอวะคนมองแล้ว” ปัณณ์หลุบตาลงด้วยความเขิน
“อายทำไม เดินแบบนี้มีความสุขกว่าตั้งเยอะ” คนพูดน้ำเสียงร่าเริง บ่งบอกว่ามีความสุขจริงๆ
“ไอ้บ้า” หัวใจของปัณณ์เต้นแรง บ้าเอ๊ยมึงจะทำให้กูรักไปถึงไหนวะพายุ
“ปัณณ์”
“หือ” ปัณณ์เหลือบสายตาขึ้นมอง
“ที่ไอ้นนท์กับไอ้ไผ่พูดก็ถูกนะ”
“เรื่องไหน เรื่องที่ว่ามึงเป็นไบโพล่าเหรอ”
“เปล่ากูว่ากูไม่ได้เป็น ถ้าเป็นกูก็ต้องแสดงออกกับมึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาสิ แต่นี่ถ้าไม่นับความรู้สึกที่เปลี่ยนไป กูแสดงออกกับมึงเกือบเหมือนเดิม”
“อืม” ปัณณ์พยักหน้าเห็นด้วย พายุดีกับเขาอย่างไรก็อย่างนั้น
“กูว่าการแสดงออกของกูต่อใครอีกคน มันไม่ได้อยู่ที่นิสัย ว่าเหมือนหรือต่างกัน ไม่ได้อยู่ด้วยว่าหน้าตาเป็นยังไง เพศไหน มันอยู่ที่ว่าคนๆ นั้นเป็นใครมากกว่า”
“พายุ” ปัณณ์เผลอหยุดเดิน เพื่อมองหน้าอีกฝ่ายให้ชัดๆ
“เพราะเป็นมึงกูถึงมีความสุข เพราะเป็นมึงกูถึงอยากอยู่ด้วย กูแค่รู้ตัวช้ากว่ามึงเท่านั้นเอง”
“.....”
“กูว่ากูอาจจะรักมึงก่อนมึงรักกูก็ได้นะ มึงว่าไหม” สายตาสองคู่ประสานกันนิ่ง ก่อนที่ปัณณ์จะคลี่ยิ้มออกมา
“รู้ช้าก็ไม่เป็นไร มึงโง่กว่ากู กูรู้”
“หมดกัน” พายุทำหน้าเซ็ง จูงมือปัณณ์ให้เดินต่อ “กูอุตส่าห์จะโรแมนติก”
“หึๆ”
“กูพูดจริงนะปัณณ์”
“อืม”
“แค่นี้?”
“จะเอาแค่ไหน” ปัณณ์ทำหน้าเฉยๆ เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น จนคนจับมือต้องเร่งฝีเท้าตาม “แค่นี้ของมึงกูก็เขินจะแย่แล้ว ใจเต้นแรงฉิบหาย”
“ปัณณ์” พายุยิ้มกว้าง ยิ่งเห็นคนพูดหน้าแดงเรื่อก็ยิ่งดีใจ “ไม่เป็นไรเดี๋ยวมึงก็ชิน เพราะกูจะทำให้มึงใจเต้นแรงแบบนี้ไปตลอด กูไม่สัญญา เพราะอย่างกูทำได้อยู่แล้ว”
“หลงตัวเอง”
“หึๆ มึงก็รู้ว่ากูหลงใคร”
ปัณณ์ไม่คิดตอบ กูไม่เชื่อที่มึงพูด เพราะตลอดไปมันนาน แต่กูจะอยู่ตรงนี้ รอพิสูจน์มึงนะพายุ ปัณณ์มองตรงไปข้างหน้า ปล่อยให้พายุจับจูงมือเดินไปด้วยกัน
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin