บทที่ 11"สวัสดี"ใบหน้าเรียวยาวพร้อมรอยยิ้มหลอนประสาทเป็นภาพแรกที่ต้อนรับเขา
ออกจากห้วงนิทรา แวบแรกของวันก็ต้อนรับกันอย่างนี้
แล้วชีวิตวันนี้ทั้งวันของเขา จะไม่หม่นหมองไปทั้งวันหรอกหรือ
ชายหนุ่มผู้ซึ่งถูกความอยากรู้อยากเห็นชักนำให้สองเท้าย่างก้าวเข้ามา
ในสถานที่อันตราย สถานที่ที่ถูกใครต่อใครห้ามปรามมาโดยตลอด
วันนี้ครบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เขาอยู่ที่นี่
ตอนแรกก็ตกใจไม่น้อยถึงขั้นเป็นลมล้มพับไปซะอย่างนั้น
แต่ใครจะรู้ว่า ที่นี่กลับถูกใจเขาเสียยิ่งกว่าการเรียนหนังสือในทุกๆวัน
ที่คฤหาสน์หลังใหญ่นั่นตั้งเยอะ
"ไม่ต้องใกล้มากก็ได้"
ปั้นผลักคนที่เอาหน้าตาสยองเข้าใกล้ให้ออกห่าง เขาลุกขึ้นจากเตียงเดี่ยว
ที่มีผ้าปูสีขาวหม่นออกแล้วลุกเดินเข้าห้องน้ำไป
เพียงไม่นานประตูไม้เก่าๆก็ถูกเปิดออก และใบหน้าสยองที่เหมือนกับ
คนเมื่อครู่ก็ย่างเข้ามาพร้อมถาดอาหารในมือ
"ของฉันล่ะ?"
"ไม่มี อยากกินก็ไปหากินเอง"
"ฉันอยากกินอย่างนี้"
นี้วชี้ไปที่ถาดอาหารในมืออีกคนแล้วทำหน้ามุ่ย
"ไม่ได้! อันนี้ของเจ้าเด็กน้อย"
"ก็ดี จริงๆให้กินเข้าไปเยอะๆ จะได้มีแรง"
ความคิดต่ออาหารตรงหน้าเปลี่ยนทันที
เมื่อพูดถึงเจ้าเด็กน้อยที่เดินเข้าห้องน้ำไปเมื่อครู่
ใบหน้ายิ้มหยีที่เป็นปกติแก่ผู้พบเห็น บัดนี้มุ่ยทั้งคู่
ประหลาดที่เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงสีหน้าใดออกไป
อีกฝ่ายหนึ่งจะมีสีหน้าเช่นนั้นตามทันที คล้ายกับว่าพวกเขาทั้งคู่
ส่องกระจกอยู่ตลอดเวลา ครั้นยืนอยู่ใกล้ๆกัน
"ผมพร้อมแล้ว เราไปกันเถอะ"
"กินนี่ซะก่อน ฉันทำเองกับมือ"
เมื่อใบหน้าที่กลับมายิ้มอีกครั้งใบหน้าหนึ่ง ได้ยินว่าอาหารในถาดเป็นฝีมือของอีกใบหน้าหนึ่ง
ใบหน้านั้นก็มุ่ยขึ้นมาอีกครั้ง และใบหน้าที่ถือถาดอยู่ จู่ๆก็มุ่ยตามกัน
แรกๆชายหนุ่มก็แปลกใจ แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้ว และคิดว่าพวกเขา ช่างเหมือนกันซะเหลือเกิน
ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธต่ออาหารหน้าตาน่ารับประทานตรงหน้า
เพราะจากการได้ลองชิมแล้ว ก็นับว่าเป็นรสชาติที่หรูหราระดับภัตตาคารเลยก็ว่าได้
ชายหนุ่มตักอาหารเข้าปากพร้อมรอยยิ้ม เคี้ยวแล้วกลืนคำแล้วคำเล่า
โดยที่สองใบหน้าสยองยังคงมีสีหน้ามุ่ยตลอดการกินข้าวเช้านี้
เมื่ออาหารในจานถูกตักจนหมด ใบหน้าที่มุ่ยจึงกลับมายิ้มสยองเช่นเดิมอีกครั้ง
"วันนี้พวกคุณต้องทำอะไรบ้าง"
ชายหนุ่มถามออกไปด้วยแววตาตื่นเต้นสุดๆ ที่นี่สนุกเหลือเชื่อ
วันก่อนแฝดสยองพาเขาไปดูห้องปรุงยาพิษของบ้างตระกูลฝาน
ด้วยของมีพิษชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นใบไม้พิษ แมลงพิษ
ยังมีของบางสิ่งที่เป็นของใช้ แต่กลับเอามาสกัดเป็นยาพิษได้ด้วย
นั่นทำให้เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกันกับเมื่อวาน ที่ห้องๆหนึ่งในอาคารสีแดงนี้
มีการประกอบพิธีกรรมอะไรบางอย่าง โดยที่แฝดสยองเล่าว่า
มันคือพิธีกรรมปลุกจิตมหาอุตในร่างกายมนุษย์ ให้ออกมาโลดแล่นภายนอก
เพื่อทำงานต่างๆให้บ้านตระกูลฝาน ทำให้คนๆนั้นแข็งแกร่งกว่าปกติ
โดยแฝดสยองเล่าให้ฟังถึงที่มาอย่างละเอียดของพิธีกรรมนี้
ปั้นนึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่แฝดสยองเล่าหลากหลายความลับให้เขาฟัง
ทั้งๆที่เขาไม่แน่ใจว่าสองคนนี้จะรู้จักว่าเขาเป็นใคร มาจากไหนรึเปล่าด้วยซ้ำ
แต่อย่างไรก็ดี ที่นี่มีอะไรสนุกๆที่เขาคาดไม่ถึงอยู่มากมาย
เรียกได้ว่าครบวงจร
"เธอเห็นแอ่งน้ำด้านหลังอาคารนี้รึเปล่า"
เด็กน้อยของสองแฝดพยักหน้าเบา เขาจำได้ว่าตอนแอบออกมาสำรวจที่นี่ครั้งแรก
ได้เดินวนไป และพบกับแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของอาคารสีแดงแห่งนี้
"เราจะไปที่นั่นกัน"
"ไปทำอะไรหรือ?"
"ตกจระเข้"
ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆเสียงหัวเราะร่วนชวนผอืดผอม ผสานกันดังระงมคล้ายว่าจะไม่มีหยุดลงง่ายๆ
ใบหน้ายิ้มหยีพร้อมเสียงหัวเราะบัดนี้ บ่งบอกว่าใบหน้านั้นกำลังยิ้มออกมาจริงๆ
ด้วยความตื่นเต้นคึกคะนองอะไรบางอย่างที่ชวนเสียวสันหลังสิ้นดี
ใบหน้าชวนสยองฉบับพ่อครัวเดินนำลงไปชั้นสอง และหยุดลง
ด้านข้างบันไดที่พาดระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นสอง
ทาบมือลงไปบนราวบันไดที่ถูกทาฉาบไล้ไปด้วยสีแดง
เพียงไม่นานผนังอีกฝั่งของราวบันไดก็ยุบลงไป
แล้วค่อยๆเคลื่อนออกจากกัน จนเกิดเห็นเป็นทางเดินลับ
ที่ถูกซ่อนอยู่
แฝดสยองฉบับพ่อครัวเดินนำเข้าไปด้านใน ไม่รอช้าที่อีกสองคนที่มาพร้อมกัน
จะเดินตามเข้าไป และประตูก็ค่อยๆปิดลงอัตโนมัติ
ทั้งสามเดินลงบันไดหินปูนไป ลึกลงเรื่อยๆเป็นรูปแบบวงกลม
เดินมาสักพักก็จะพบกับทางแยกสามทาง
โดยพ่อครัวนรกได้นำไปทางซ้ายมือ เดินเข้าไปไม่นาน ก็พบกับบันได
ที่เปลี่ยนจากทางทอดลง เป็นทางขึ้น
เดินไปอีกไม่นาน ก็พบกับประตูสีเทา
แฝดฉบับพ่อครัวทาบมือลงบนประตูนั้นเช่นเดียวกับราวบันไดเมื่อครู่
และประตูก็ค่อยๆเลื่อนออกทางขวามือ
ด้านหน้าเป็นแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ครั้งแรกในรอบหนึ่งสัปดาห์ของปั้น
เขารู้สึกแสบตาไม่น้อย เช่นเดียวกัน กับสองใบหน้าสยอง
ที่แม้จะสวมแว่นตาดำตลอดเวลา ก็ยังคงยืนสงบนิ่งเพื่อปรับโฟกัสอยู่ดี
"มาโผล่ตรงนี้ได้ไงเนี่ย"
ชายหนุ่มตลึงกับทางลับที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีจริงๆบนโลกใบนี้
เขาเริ่มประมวลภาพออกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
เป็นที่ๆใกล้กับจุดที่เขาเคยเดินมา แต่ใกล้แอ่งน้ำมากกว่าที่เคยมา
แอ่งน้ำสีขุ่น ไม่น่าเชื่อว่าจะมีจระเข้อาศัยอยู่ได้ ไม่เห็นมีลอยขึ้นมาสักตัว
แล้วยังไง คนพวกนี้กินเนื้อจระเข้งั้นหรือ
"พร้อมรึยัง?"
"พร้อมอะไร?"
ใบหน้าสยองใบหน้าหนึ่งเอ่ยขึ้นมาทางเขา
เขายังแยกไม่ออกจริงๆว่าใครเป็นใคร
หากแต่เขาไม่ค่อยเข้าใจ สองคนนี้จะให้เขาลองตกจระเข้ยังหรือ?
"ตกจระเข้"
"จะให้ผมเป็นคนจับเหรอ"
"ป่าว..."
"จะให้ช่วยเป็นเหยื่อให้หน่อย"
ไม่รอช้าใบหน้าสยองที่ยืนใกล้กว่า คว้าแขนของชายหนุ่มขึ้นมา
แล้วชักมีดเล็กที่ซ่อนไว้ใต้เสื้อคลุม กรีดลงบนแขนเขาเป็นแนวขวาง
โลหิตสีแดงสดไหลออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
แขนอีกข้างถูกคว้าไว้ แล้วกรีดลงไปอีกหนึ่งแผล
ขณะนี้ความกลัวที่ไม่คาดคิดแล่นผ่านตามรอยกรีด
สองขาพยายามวิ่งหนีมัจุราชหน้ายิ้ม
หากแต่อย่างไร ก็ไม่มีทางหนีพ้นผู้มีความไวเช่นสองคนนี้ได้เลย
เขาถูกจับตรึงไปใกล้แอ่งน้ำขึ้นเรื่อยๆ
และเมื่อสุดพื้นดิน สองแฝดนรกก็โยนเขาลงไปในน้ำสีขุ่น
ด้วยใบหน้ายิ้มร่าทะลุแว่นดำทั้งคู่
ตู๊มมมมม !!!เด็กหนุ่มไร้หลักยึดและไร้แรงด้วยเสียเลือดไปมากพักหนึ่งแล้ว
เขาพยายามใช้แรกเฮือกสุดท้ายตะเกียกตะกายขึ้นมายังขอบฝั่ง
แต่ไม่ทันการ เมื่อหันกลับไปด้านหลัง
ก็เห็นคล้ายๆขอนไม้ที่ลอยใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
และใช่แน่ๆ ตกจระเข้ที่ไอ้แฝดโรคจิตคู่นี้พูดถึง
คราวนี้คงถึงคราวตายของเข้าแน่แล้ว แต่น่าแปลกที่ภายใน
แม้จะร้อนรนเพียงใด แต่ก็ยังคงรู้สึกถึงความสงบได้
ใกล้แล้วสินะ ไม่เคยคาดคิดเลยว่าสุดท้ายจะต้องตายกลายเป็นอาหารจระเข้
หมดแรงดิ้นรนแล้ว ยังเหลืออะไรที่ไม่ได้ทำตั้งหลายอย่าง
เขาปล่อยกายไปกับสายน้ำ และฝูงจระเข้ที่รุมเข้ามา
หวังฉีกทึ้ง ลิ้มรสอาหารอันโอชะนี้ให้สมใจ
และภาพสุดท้ายที่เขาเห็นก็ยังคงเป็นเลือดเขาที่ไหลออกไม่ยอมหยุด
...นี่เองสินะ ผลแห่งความอยากรู้อยากเห็น .......................โปรดติดตามตอนต่อไปสวัสดีคุณ
sirin_chadada ค่ะ ^^ : ขออภัยในความงงนะคะ ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้มาแบบสั้นๆนะคะ ขอบคุณที่ยังคงติดตามกันเรื่อยมาค่ะ
สวัสดีคุณ
xexezero ค่ะ ^^ : ปั้นกับว่านคนละคนนะคะ และคาดว่าน่าจะยังต้อง งง
กันต่อไปเรื่อยๆ อิอิ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
สวัสดีคุณ
mild-dy ค่ะ ^^ : ติชมกันได้นะคะ คาดว่าเรื่องนี้
จะออกทะเลแบบเมดิเตอเรเนียนไปเรื่อยๆค่ะ ฮ่าๆๆๆ