เค้านะ ใครๆ ก็ชอบด่าว่า "นิสัยดราม่า"
พอเขียนนิยาย ก็ถูกคนอ่านด่าว่า "ตัวเอกน่ารำคาญ"
เวลามีคนถามว่า นิยายคุณเป็นแนวอะไรก็มักจะยิ้มทำตาใสซื่อแล้วตอบว่า "ดราม่าค่ะ!"
เอาจริงๆ คือ ไม่ใช่นักเขียนที่เก่ง ให้เขียนอะไรโดนๆ มีสาระทำไม่ได้ ให้เขียนแบบละครหลังข่าวก็รู้สึกเบื่อความน้ำเน่า ทำแบบคนอื่นไม่ได้จริงๆ
แต่เราเบื่อคนอยู่ประเภทนึง พวกแบบ"มึงไม่รู้ตัวเหรอวะ?" เคยเจอมั้ยบางทีเจอคนๆ นึง เค้าจะมีนิสัยที่ทำให้เราพูดแบบนี้แหละ ด้วยความเยอะของเค้าเองนี่แหละที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้น ถ้าเป็นคนสติดีๆ มีเหตุผล ใจเย็น เป็นผู้ใหญ่ เค้าจะทำอีกแบบ เรื่องก็จะไม่เกิด
เราเลยชอบเขียนตัวละครที่มีลักษณะเป็นแบบนี้ มันดราม่าในตัวมันเอง ไม่ต้องเอาเหตุการณ์อะไรมาเป็นปัจจัยเสริม แล้วความดราม่าก็จะแปรผันตามนิสัยตัวละคร แต่เราจะไม่ชอบแบบสาวน้อยร้อยเคราะห์อ่ะ รู้จักมังงะเรื่อง F4 มั้ย ยัยนางเอกนี่มันสาวน้อยร้อยเคราะห์ชัดๆ ไอ้ดราม่าประเภทต้องเสกเหตุการณ์อะไรต่อมิอะไรเข้าไปนี่เราไม่ชอบ รู้สึกมันจงใจดราม่า เราชอบอะไรที่แบบ "มันดราม่าก็เพราะเอ็งนั่นแหละ!"
แต่คนอ่านจะบอกว่า "ไม่เวิร์ก" คือมันน่ารำคาญ เพราะอะไร? เพราะตัวละครขาดเสน่ห์ให้คนรัก คนอ่านเค้าก็อยากมีส่วนร่วมนะคุณเขียนตัวละครออกมาได้น่าตบเค้าก็ไม่อยากเอาใจช่วยหรอก แต่ถ้าเรื่องคุณดีพอเค้าจะอยากติดตามเรื่อง แต่คือความรักความผูกพันในตัวละครมันไม่มีอ่ะ คนอ่านจะมีความสงสารได้ง่ายกว่าถ้าตัวละครถูกกระทำ จากเมะ จากเคะ จากชาวบ้านในเรื่อง จากเหตุสุดวิสัยซักอย่าง อะไรก็ได้ แต่เราดันเขียนให้ตัวละครกระทำเองล้วนๆ ใครที่ไหนจะมาเชียร์อ่ะ?
เวลาเขียนเลยต้องหาจุดเด่นอื่นมาเสริมกลบเรียกยอดวิว (อ่ะให้พูดตรงๆ อ่ะนะ)
เรื่องแรกเราเขียนไว้คนก็อินค่อนข้างเยอะนะ เราเล่นปมแบบคุณน้องต้นทำตัวเองทั้งนั้น แต่มันแบ่งเลยว่าคนที่อินและชอบมีหยิบมือ ส่วนใหญ่เค้าจะพูดแบบ "ใช่เลย เราก็รู้จักคนแบบนี้" อะไรประมาณนั้น ออกแนวผู้ใหญ่หน่อย อ่านแบบลุ้นสามวันสามคืนบอกหยุดไม่ได้ ส่วนมากเค้าจะอินเพราะมีประสบการณ์คล้ายๆในเรื่องมาก่อน (จากการวิเคราะห์คอมเม้น)
เราก็ใช้โทนดราม่าเพราะนิสัยที่แตกต่างกันของคู่รัก ปมในเรื่องนี่เป็นสาเหตุรองเลย ไม่ค่อยมีเหตุการณ์น่าสงสารพีคๆ เป็นเรื่องที่แบบว่าคนอ่านคงตะโกนว่า "เฮ้ยทำไมมึงงี่เง่างี้วะ!" แบบรู้ว่าอยากเดินไปตบตัวละครอ่ะ แต่มันไม่ใช่แบบ "โอ๊ย สงสารจังเลย อิน ซึ้ง" หรืออะไรที่ทำให้คนรักและจดจำผลงาน เราเขียนให้"โดน" ไม่ได้เขียนให้"ซึ้ง"
เราเลือกให้มันจบแฮปปี้เพราะเราแต่งให้ตัวละครมันมีการเรียนรู้ คาแรคเตอร์เค้าต้องมีการพัฒนาจากเหตุการณ์ในเรื่อง ตัวละครอยากมีความสุขเค้าก็ต้องแสวงหาความสุข มันก็ต้องเขียนไปตามนั้น จะมานั่งโชว์สกิลเทพ อวดความอินดี้ เอาให้เป็นกระแสว่าฉันจบเท่นะ มันก็ไม่ใช่อ่ะ ตัวละครไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อทำแบบนั้น มันขัดแย้งกับบุคลิกเค้า เราไม่ทรยศต่อสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นแบบนั้น
พอดราม่าเรื่องปัจจุบัน บอกเลย เจ็บกับยอดวิวและคอมเม้นจากงานก่อน อยากเพิ่มศักยภาพตัวเอง พูดตรงๆ เลยว่า "หมั่นไส้ชื่อเรื่องเรทๆ" เออ กูจะเอาเรทมาล่อมั่ง! ดูดิจะมีคนหลงเข้ามาอ่านเยอะมั้ยวะ? ไอ้ตูดไม่ฟิตนี่คนรอหื่นเต็มเลยนะ ฮ่าๆ (ถ้าแฟนคลับนิยายเรื่องนี้ผ่านมารับรู้สันดานชั่วร้ายของคนแต่งก็อย่าโกรธกันเลยนะ บอกแล้นคนแต่งคนนี้แม่มเกรียน)
มันมาจากประโยคนี้ในหัวจริงๆ แล้วค่อยเขียนเรื่องออกมาเป็นรูปร่าง มีปมหลักของเรื่องซึ่งเกี่ยวกับการที่ผู้ชายแท้ๆจะกลายเป็นเกย์ (ชิหัย! นักเขียนสปอยงานตัวเองเต็มๆ!) แล้วเราก็จับเอาวัตถุดิบนี้มาผสมกันเป็นเรื่องดราม่า นอกจากนี้ด้วยความที่ตั้งชื่อเรื่องในเชิงส่อ เราก็เลยต้องใส่ความหื่นลงไปเรียกแฟนคลับ
ตอนแรกๆ นี่ใส่มุกหื่นเสื่อมๆ ลงไปเพียบ เป็นช่วงที่จะทำให้คนอ่านชินกับนิสัยของตัวละคร คนอ่านจะไม่ทันรู้ตัวหรอก แต่พอรับไปซ้ำๆ ก็จะ "อ๋อ อีเติ้ลมันง๊องแง๊งงี้แหละ เอาแต่ใจ ปากเสียชอบพูด(ทำ)ไม่คิด" ซึ่งนิสัยนี้จะทำให้กลายเป็นประเด็น
แต่พอมันเริ่มดราม่า เอาสิเรางานหนักเลย เราจะดราม่ายังไงให้มัน "ดราม่านะเออ!" แต่ต้องรักษาฐานแฟนคลับที่ชอบเรื่องหื่นๆ ไว้ได้ เราเลยแต่งนิยายเรื่องนี้ด้วยคอนเซ็ปแบบ "ดราม่านะ แต่เสื่อม" แล้วในแต่ละตอนเราก็จะมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ เช่น เขียนข่มขืนแบบฮาๆ เขียนฉากได้กันแบบดราม่า แต่ทุกตอนเราก็จะพยายามตบมุกฮาๆ ไว้หน่อยนึงเพื่อรักษาบรรยากาศของโทนเรื่อง
แล้วเราก็เขียนตัวละครผู้เล่าแบบมึนหน่อยๆ ด้วย เค้าจะมีคาแรคเตอร์ชัดมาก ช่วงที่เริ่มสนใจ ชอบแล้วแต่ไม่รู้ตัว เริ่มปฏิเสธความชอบของตัวเอง จนถึงขั้นที่ท้อแท้สิ้นหวัง แล้วก็มีกลไกป้องกันตัวเอง เราจะเล่าเป็นช่วงๆ ไปอ่ะ จะไม่ถนัดเรื่องการผูกเรื่องราว แต่จะชอบเขียนแบบเป็นขั้นๆ แบบนี้แทน แล้วเราก็จะเล่าให้คนอ่านฟังว่า "ไอ้คนแบบนี้นะ มันมีวิธีจัดการปัญหาชีวิตยังไงนะ มันจะส่งผลให้...นะ มาดูกันนะ" ไม่ใช่แบบ "เดี๋ยวจะเกิดเรื่องขึ้แล้วอย่างงี้อย่างงั้น"
แล้วคราวนี้เราก็ลองปรับดูด้วย คือออกแบบตัวละครออกมาให้ "น่าสงสาร" เค้าถูกกระทำนะ แต่เค้าก็ยังพยายามสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้คนก็เชียร์กันเยอะนะ ความสงสารมาเพียบ แต่เดี๋ยวต้องลองดูต่อๆ ไปว่าเราจะเรียกกระแสขัดใจจากคนอ่านได้รึเปล่า อารมณ์แบบ "โอ๊ย ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะ..." คือเข้าใจว่าถ้ามันดราม่าหน่วงนานเกินไปแล้วแฟนๆ จะเริ่มมีปฏิกิริยาแบบนี้อ่ะ เพราะเรื่องนี้แต่งไปลงไป เลยพอแก้ไขปรับได้นิดหน่อย
คือในหัวเราอ่ะ คิดแบบนี้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าคนอ่านๆ แล้วจะคิดยังไง เวลาที่เราเขียนออกมาตอนนึงแล้วรู้สึก "เฮ้ยแม่งโคตรดราม่าเลย!" คนอ่านดันไม่เศร้าตามอ่ะ เฉยๆ กัน แต่พอเราเขียนอย่างอื่นไป เราเฉยๆ รู้สึกว่าก็แค่ความงี่เง่าของตัวละคร คนอ่านดันแบบ "สงสารจุงเบยค่ะ" เอาดิ งงดิครัช!
มันก็ขึ้นกะการตีความอ่ะว่า "ดราม่า" ของแต่ละคนคืออะไร ของเรามันคือ "เรื่องไร้สาระที่กลายมาเป็นเรื่องเพราะนิสัยงี่เง่า" ดราม่าของเราไม่ได้แปลว่าเรื่องเศร้าเสียน้ำตาง่ะ
คนอ่านนิยายเราจะไม่มีใครบอกว่า "เศร้า" แบบที่ออกมาบอกว่ามันสุดโศก เพราะเราจะให้แสงสว่างกับตัวละครของเราเสมอ เราพูดตลอดว่าเราเขียนนิยายโทนอบอุ่นนะ เน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ฟีลกู๊ด แต่คนอ่านจะรู้สึกว่านิยายเราหน่วงนิดๆ ประมาณนั้นมากกว่า คือเศร้า ร้องไห้ แต่ยังยิ้มได้ ตัวละครอึนๆ แต่ก็ยังลุกขึ้นสู้ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้แบบ "โอ๊ยดราม่าไม่ไหวแระ ช็อกอยู่" อะไรทำนองนั้น
ก็ดูเอาจิ คนเขียนตอบสไตล์กวนTeenสลัดขนาดนี้แล้ว จะมานั่งเขียนนิยายน้ำตาท่วมมันก็คงเป็นไม่ได้อ่ะ มันก็จะออกแนวเกรียนๆ งี้แหละ
#เขิน #นานๆทีโผล่ออกจากห้องนิยายมาแพล่ม #อย่าว่าเค้านะเค้ารู้ว่าเค้าเกรียน