หัวข้อ: มีเรื่องจะปรึกษาครับ ):

[TOPPINGPAN]

555555ว้าวๆอะไรกันนี่  ตอนเนี้ขอแซวแล้วกัน55555555

[shockiiezz]

ขอโทษคร้าบบบ ตอนนี้ใช้ ยูเซ่อร์นี้แล้วน้ะครับ พอดีว่าอันเก่ามีปันหานิดหน่อย T^T ก็เลยเปลี่ยนนะครับบ
ก็มีเรื่องอัพเดทเล็กๆ ครับ ทุกคนจำไอ J ได้มั้ยครับบบ มันกับเพื่อนคนนั้นอคติต่อกันอย่างรุนแรงครับ
คือ ผมมักจะได้สิทธิพิเศษหลายๆ อย่างจาก คนนั้นของผมและก็ไอ้ J เปนประจำครับ ไอคนนั้นของผมก็ชอบประชดผมว่า เออ
ทีกับไอเจอ่ะ ทักได้ ทีกับเค้าทักไม่ได้ ผมก้บอกว่า มันเปนข้อความเก่าๆ ที่ค้างๆ ไว้ครับ มันก้นู่นนี่นั่น ไอ J เองก้ชอบบ่นผมครับว่าอีรั้วมันอะไรของมันทีกับมึงไม่เหนเปนไรเลย ทีกับกูนะอะไร ๆก็กู (ไอรั้วนี่คือชื่อที่ไอ J มันตั้งให้เค้าเพราะว่าเค้าดัดฟันคับ )คือเรามีงานกลุ่มกันครับ สิ่งที่พบคือตอนแบ่งงานคับ เพื่อนคนนั้นของผม (ขอเรียกว่ารั้วไปเลยได้ป่ะ ๕๕๕๕) เค้าก้แบบ สั่งทุกคนในกลุ่ม ยกเว้นผมอ่ะ ไอ J นี่ได้หน้าที่หนักสุดครับ คือทำรุปเล่มเพียงคนเดียว แล้วพอผมถามว่าผมทำอะไร รั้วตอบมาว่า ก็แกคิดแล้วไง คนคิดก้คนนึงสิ รวมงานก้คนนึงสิ ผมก็แบบเอ่อ.... เงียบไปเลย ๕๕๕๕๕ แล้วคิดในใจว่า เห้ยเหมือนเราไร้ตัวตนในกลุ่มมากไม่ได้ทำไรเลย ไอเจ้า J ก้ทำงานหนักชะมัด ผมเลยบอกกับ J ว่า เออ เด่วกูช่วยนะ ก้เลยตกลงกันว่าจะทำงานครับ สรุป งานเปลี่ยน ทุกคนทำหน้าที่เบาลงหมด ผมไม่ต้องทำเหมือนเดิม ไอเจ้า J โดนหน้าที่เดิมหนักเหมือนเดิมครับ กลุ่มมี ห้าคนเหมือนมีสี่คน โดยที่คนที่ห้าคือผม ๕๕๕๕๕๕๕ คือตอนนี้ผมรุ้สึกว่ามันอคติกันรุนแรงมากครับ รั้วไม่พูดไรผมก็พอรุ้สิ่งที่คิดครับ ส่วนไอ J มันโหมกระหน่ำเป็นลมพายุใส่ผมบ่อยเลย แล้วชอบพูดแบบว่า เออ รั้วแม่งชอบมึงแน่มึงเสดแน่ มึงไปดูแลผัวหรือเมียมึงด้วยนะ อะไรเงี้ย ผมก็เขินแต่ก้กลบเกลื่อนคับ (คิดในใจมึงไม่รุ้อะไรซะแล้วกูจะป๊ะกันอยุ่แล้วฟายยย ๕๕๕๕) ตอนนี้ปัญหาใหม่คือ ผมจะทำยังไงให้ไอ J กับรั้ว คุยกันเหมือนเดิมครับ เมื่อก่อนมันเปนดูโอ้กันเลยน้ะ = = พอมีปันหาเรื่องก่อน ก็เปลี่ยนไปเลย แล้วเริ่มอคติกันมากขึ้นเรื่อยๆ รั้วก็ชอบคิดว่าผมชอบไอ J เลยหึงหรือไงไม่รู้ แล้วไอ J ก็คิดว่ารั้วชอบผมแล้วไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็น บวกกับอะไรหลายๆ อย่าง เลยทำซะเกือบจะเกลียดกันแล้ว เอ้อ ไอJ มันบอกผมด้วยนะครับว่าตอนยืมโทสับรั้วมาเล่น เคยเห็นว่ารั้วเปิดดูรูปผู้ชายเปลือยร่างอยู่ด้วย ๕๕๕๕๕๕ ผมก้แบบ โหแม่งเปนจริงๆ ด้วย อะไรงี้ แต่คือผมก็ยังเปนห่วงความสัมพันของทั้งสองคนอยุ่นะครับ ผมอยากให้มันดีกว่านี้ อยากให้มันกลับเปนเหมือนเดิม ภายนอกมันเหมือนไม่มีอะไร แต่ผมคนกลาง ผมรุ้สึกได้ ผมรับได้เต็มๆ คือ ไอ J ไม่ชอบคนที่ผมชอบ และ รั้ว ก็ไม่ชอบให้ผมอยู่กับไอ J ด้วย(คืออยู่ด้วยกันผมสนิทกับไอ Jมากๆ เลยไงบางทีผมซบเล่น กอดคอคุยโม้ยาวสามสิบร้อยล้านแปดเรื่องราวกับไอ J ได้) ผมอยู่กับไอ J บางทีผมโดนรั้วประชดนะครับ บางทีก็มองค้อน พูดกระชากเสียงด้วย ผมเลยไม่อยากให้มีปัญหาไรมาก ซึ่งไอ J ก็ไม่ชอบด้วย มันทำให้อคติกันมากขึ้น ทางแก้ปัญหาคือการที่ผมต้องแยกออกมาอยู่คนเดียวเหรอ ๕๕๕๕๕๕ J ก้เพื่อนสนิท รั้วก็แทบจะเปนที่รักอยู่ล้ะ ๕๕๕๕๕๕ ผมเลยอยากถามเพื่อนๆ ครับ รบกวนช่วยด้วยหาทางออกไม่ได้จริง ๆ นะ TT ไอ J ก็ทิฐิสูงมาก รั้วก็เงียบเกิน ผมล้ะหน่ายยยยยย

ปล.ไม่ได้อัพเดทเรื่องความสัมพันน้ะคร้าบบบ ๕๕๕๕๕ มีปันหามาเลยขอคำปรึกษา
ปล๒. ขอบคุณทุกกำลังใจเช่นเดิมครับ ส่วนเรื่องรายละเอียด เรื่องคืนสำราญรักนั้น ถ้าอยากฟังก็ลองรีเควสมาได้ครับ ๕๕๕๕๕แต่ไม่ละเอียดมากนะ เขิน 

[snowboxs]

แย่จังเลยเนอะ สองคนที่เราแคร์ไม่เข้าใจกันซะงั้น
ถ้าเป็นตัวเราคงจะแนะนำให้ทั้งคู่คุยกันอ่ะดี ๆ อ่ะ
ก่อนอื่นคุณก็ต้องบอกรั้วก่อนเรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับ J
ยืนยันไปเลยว่าเพื่อนจริง ๆ เพราะจะทำให้อาการหึงน้อยลง
เมื่ออาการหึงน้อยลง อารม์ขุ่นมัวก็น้อยลง งาน J อาจน้อยลง
เมื่อ J ได้รับความยุติธรรม ก็คงจะทิฐิน้อยลง แหะ ๆ ช่วยได้บ้างป่าวหว่า

แต่จะเป็นกำลังให้ผ่านทั้ง 2 เรื่องใหญ่ และรวมถึงเรื่องย่อย ๆ ไปได้ด้วยดีนะคะ

[Dark_Noah]

ไม่รู้จะให้คำปรึกษาอะไรเลย คนนึงก็เพื่อน คนนึงก็คนที่ชอบ
จะให้สองคนนั้นยอมคุยกันตรงๆ ก็ยาก จะให้มันยอมอ่อนให้กันก็ยาก
เฮ้อ เราคงให้ได้แค่กำลังใจอ่ะค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ 

[papikochan]

ขั้นแรกอธิบายให้คุณแฟนว่ากับเพื่อนไม่ได้มีไรกันจริงๆค่ะ
สำหรับกับคุณเพื่อนวางตัวปกติค่ะ
แต่ขอให้คุณแฟนเข้าใจเราก็พพอ
ขอให้ผ่านปัญหาไปได้ดีนะคะ

[fanfic2010]

เพิ่งเข้ามาอ่าน ขอตอบรวบทีเดียวเลยนะครับ

น้องครับ....น้องบอกว่า เกือบมีอะไรกับเพื่อน แล้วไอ้ที่ช่วยกันทำโลกสวยด้วยมือเราเนี่ย เสร็จกันภายนอกเนี่ย มันคืออะไรครับ?
หรือต้องสอดใส่ถึงจะเรียกว่า "มีอะไร" ???? ผมอาจจะแก่ไปแล้วมั้ง เลยไม่ค่อยเข้าใจภาษาวัยรุ่น 

ถ้ายังไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์ ไม่อยากเสียใจ แล้วอาจจะเสียเพื่อนไปด้วย
ขอแนะนำว่า ให้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะไปทำ "อะไร" แบบข้างต้นอีกนะครับ
ของพรรค์นี้ พอได้ลองแล้วครั้งนึง มักจะติดใจ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์
ยิ่งอีกฝ่ายเป็นคนที่เราพึงใจด้วย ยิ่งแล้วใหญ่ ปลั๊กไฟกับเต้าเสียบพร้อมจะสปาร์คกันได้ทุกเมื่อ
มันเหมือนบุหรี่น่ะแหละ ตอนแรกทุกคนก็คิดว่า ตัวเองมีจิตใจเข้มแข็งกว่าคนอื่น ไม่มีทางติด แล้วสุดท้ายก็สูบจนติดบุหรี่จนได้
แต่ถ้าคิดว่า เช็กส์เป็นเรื่องปกติในชีวิต เหมือน กิน ขี้ ปี้ นอน ไม่มีความหมายใด ๆ ก็แล้วแต่นะครับ

ส่วนเรื่องที่ถามเกี่ยวกับปัญหาเพื่อนสองคนนั้น จากที่เล่ามา ก็อาจเป็นไปได้ว่า ทั้งสองคนอาจมีใจให้ จขกท นะครับ
ต้องสังเกตูการณ์และเก็บข้อมูลมากกว่านี้หน่อย
เวลาอยู่พร้อมหน้ากัน จขกท ควรวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจนออกนอกหน้า
ไอ้ที่ซุกซบโอบไหล่ที่เคยทำ ก็ต้องระมัดระวัง อย่าไปแสดงออกเวลาที่อยู่กันพร้อมหน้า
เพราะยิ่งจะทำให้ความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น เพราะแต่ละฝายก็อยากเป็นคนสำคัญในสายตาของ จขกท กันทั้งนั้น
ถ้าอึดอัดลำบากใจ ก็ลองเลียบเคียงสอบถามทั้งสองคนดูสิครับ
ว่า จากที่เคยรักกันจี๋ ดีกันจ๋า ทำไมถึงได้มึนตึงต่อกัน
บอกไปเลยว่า จขกท อึดอัดใจ เพราะเป็นเพื่อนที่รักมากทั้งสองคน หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ

ป.ล. ถ้ามีใครมาถกเสื้อขึ้นต่อหน้าผมตอนกำลังนัวเนียนี่ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
ผมก็คงตีความว่า เขากำลังเชิญชวนให้ตะลุยแดนมหัศจรรย์ ก็คงทำเหมือนที่เพื่อนทำแหละครับ ^_^

[shockiiezz]

คือความจริงแล้ว ผมลืมบอกไปครับ ว่าไอ J มันมีแฟนแล้ว มันกะแฟนรักกันมากด้วย แต่ที่ผมสนิทกับไอ J เปนพิเศษ เพราะมันเป็นฝ่ายคุยกับผมบ่อยๆ ส่วนรั้วเนี่ยนิสัยส่วนตัวมันเอาแต่ใจมากอยุ่แล้วครับ วันนี้ก็แบบหน้าตึงใส่ผมทั้งวันเลย ผมไม่รู้จะพูดอะไร เค้าก็คงไม่พูดอะไรกับผมมาก ผมก็เลยไม่รุ้อ่ะครับ ได้แต่ฟังจากไอเจ้า J อย่างเดียว โดยส่วนตัวผมคิดว่า เค้าทั้งสองคนให้ความสำคัญกับผมในฐานะที่ต่างกันนะ สำหรับ J ผมว่ามันให้คำว่าเพื่อนสนิทมากๆ ส่วนรั้วไม่รู้ว่าให้คำว่าคนอื่นหรือคนพิเศษ อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ อะไรที่มันทำกับเพื่อนคนอื่น ผมจะไม่ค่อยได้รับสิ่งเหล่านั้นเลย ผมพยายามวางตัวเป็นกลางมากที่สุดแล้วครับ พยายามสุดๆ แล้ว ผมไม่พูดกับ J มากจนเกินไป และผมก็ไม่ได้ใส่ใจรั้วมากจนเกินไป ผมแทบไม่มองหน้าทั้งคู่ด้วยซ้ำ แต่แค่เวลาผมมีอะไรผมมักจะโทรบอก J (ในช่วงนี้เพราะว่าผมกับ J ติดต่อกันบ่อย) ซึ่งรั้วก็น่าจะรุ้แต่ก็ไม่น่าจะเอาไปคิดทั้งหมด (ในความคิดผม)เค้าเคยพูดว่าเค้าไม่น้อยใจจนเก็บมาคิดมาก ผมก็เชื่อเค้านะครับ แต่ก็เอาเถอะครับ ผมก็คิดว่าถ้าเป็นผมผมก็คงคิดบ้าง (ขนาดตอนนี้ผมยังคิดน้อยใจเค้าตั้งเยอะแยะ) ผมจะพยายามให้มากกว่านี้นะครับ ทั้งเรื่องรั้วเรื่อง J = = โดนเตตัสรั้วไปวันนี้หน้าตึงเลยครับ "น่าเสียดายเวลา" ผมกลัวว่ามันหมายถึงเวลาที่ J กับ มันเป็นเพื่อนกันมาจังเลยครับ
ก็ขอบคุณทุกๆ กำลังใจและคำแนะนำนะครับ

ปล.ผมจะพยายามไม่ให้มันมีเหตุการณ์เกินเลยกว่านี้ครับ แต่วันนั้นที่ถกเสื้อเพราะเหงื่อแตกจนเตียงเปียกจริงๆ ครับ เลยถกขึ้น วันอื่นร้อนมากผมก็ไม่ถกนะ
ปล๒.ผมกับรั้วยังไม่ได้เป็นแฟนกันนะครับ ^^

[greenoak]

อ่านที่จั่วกระทู้ไว้ ตั้งใจจะเข้ามาวิเคราะห์(พฤติกรรม)ให้เป็นจุดๆ แต่เห็นกระทู้วิ่งมาถึงหน้า 7 แล้วววววววว 
เลยคิดว่าน่าจะเป็น long story งั้น...เดี๋ยวขอไล่อ่านให้หมดก่อนละกันครับ แล้วผมจะมาวิเคราะห์แบบรวบยอดให้ 

แต่...
แต่...
แอบเห็นด้วยกับพี่ปุ้มอีกแล้วว่าถ้าไม่อยากเีสียเพื่อน เสียมิตรภาพดีๆ อย่าให้มีเรื่องเกี่ยวกับเซ็กเข้ามาเอี่ยวอีกเป็นอันขาดเชียวครับ ถ้าทุกอย่างยังคลุมเครืออยู่แบบนี้อ่านะ!!!!!!!!


+1 ให้คร้าบบบ  

[Naenprin]

 

คืออ่านแล้วไม่รู้ว่าจะบอกยังงัยเลย


เพราะเราเองก็ไม่รุ้ว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้เราจะทำยังงัย

แต่ถถ้าเป็นเรา เราคงพูดเคลียร์กับคนทั้งคู่แบบตรงๆ

ใครสงสัยเรื่องอะไรก็เคลียร์ให้มันจบ พูดออกมาทุกอย่าง

ในเมื่อทั้งสองก็ต่างสนิทกันอยู่แล้ว

อีกอย่างทั้งคู่ก็น่าจะรู้ว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนยังงัย

ยังงัยก้เป็นกำลังใให้แก้ปัญหานี้ได้โดยเร็วนะคะ

[snowboxs]

  เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผ่านทุก ๆ เรื่องได้ด้วยดีและเร็ว ๆ นะคะ

[กิมตี๋หัดขับ]

เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว  มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน(คนพิเศษ) มังคระ   

แต่ที่บอกว่ายังไม่ได้มีอาลุยกัน แล้วนู๊บอกว่า เคยถึงฝั่งฝันร่วมกัน  ถ้าเป็นอิชั้นๆจะถือว่า เรามีอาลุยกันแล้วนะคะ



ปล. มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน 

[bosslovely]

รอลุ้น ให้เป็นแฟนกันเร็วๆ บางคู่พอมีอะไรกันแล้วเค้าก็เป็นแฟนนะ อิอิ

[TOPPINGPAN]

เอาใจช่วยนะครับบบบบ ทุกเรื่องเลยยย

[snowboxs]

ไม่มาอัพเดตให้รู้หน่อยเหรอคะ
แหะๆ ไม่ได้เจือกนะ แต่แค่อยากรู้

[bosslovely]

หายไปไหนอ่ะครับ :-)

[shockiiezz]

ขอโทดที่หายไปนานนะครับ ช่วงนี้ผมกับรั้ววิกฤตมากๆ เลย ช่วงสอบด้วยน่ะครับเลยไม่ได้เข้ามา
ตอนนี้ผมกับรั้วแทบไม่มองหน้ากันเลยครับ มันมีช่วงนึงรั้วเค้าเปนไรไม่รุ้ ผมเลยประชดเค้ากลับไม่คุยกะเค้า แล้วก้ไม่นอนห้องเค้าไปนอนห้องเพื่อนคนอื่น ช่วงนี้้ค้าเลยไม่คุยกับผม ผมอยากคุยกะเค้าม่ก เมื่อคืนผมเลยส่งข้อความไปว่าตั้งใจสอบนะ สู้ๆ แล้วเจอกัน เค้าไม่ตอบกลับหรือทำตัวว่ามีอะไรเกิดขึ้นนะครับ  ผมรอดุพรุ่งนี้เพราะผมต้องซ้อมรับน้องน่ะครับ ผมก้จะเจอกับเค้าอีก วันปกติ ดค้าแทบไม่คิดว่ามีผมอยุ่ในสายตาเบยมั้ง เค้าโทรหาเพื่อนคนที่ผมนอนด้วย แต่ไท่เคยคิดจะโทรหาผม น้อยใจครับ แต่ช่างมัน ผมไม่อยากทำตัวเปนเดกๆ แล้ว ผมอยากปล่อยวาง แต่ผมก้คิดถึงเค้ามากๆ ผมไม่รุ้หรอกว่าเค้าคิดยังไง เค้าเคยบอกกะผมว่าชอบผมเหมือนกัน แต่การกระทำมันไม่ใช่ หรือเปนเพราะที่นิสัยของเค้ากันแน่ ผมไม่เข้าใจจริงๆ ไม่แน่ จบเทอมนี้ผมอาจจะลาออกย้ายที่เรียนแล้วด้วย ถ้ามันยังคาราคาซังแบบนี้ผมว่ามันก้ไม่เคลียกัน อีกอย่างเค้าก้ยังไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าผมอาจจะซิ่วไปที่อื่น เพราะผมยังไม่ได้บอก แต่ตอนนี้ผมเหนื่อยมากจริงๆ กับการไล่ตาม (':

ปล.ทั่ไม่ไปนอนห้องเค้ามะใช่แค่ประชดนะครับ ผมกลัวมันเกินเลยขนาดไปป๊ะกัน
ปล2 ขอโทดด้วยนะครับอัพน้อยเล่าไม่มาก มันอึนๆ 5555 ขอบคุนทุกกำลังใจนะครับ

[Dark_Noah]

จะซิ่วจริงๆ หรอคะ ที่จะซิ่วเพราะเรื่องของเขาอย่างเดียวรึป่าว ถ้าแค่เพราะเขา เราว่าอย่าซิ่วเลยค่ะ
เราเป็นคนนึงที่เข้าเอกที่อยากเข้าไม่ได้ แต่ไม่อยากซิ่วเพราะมันเสียเวลา เสียดายเวลาในชีวิตน่ะค่ะ
การที่เราจบช้า เท่ากับเราอาจประสบความสำเร็จหรือโอกาสในชีวิตอะไรช้าด้วยนะคะ
อยากให้อดทนและเข้มแข็งอีกนิดนึงนะคะ แค่คนๆ เดียว ไม่อยากให้เอามามีผลกับอนาคตเลยค่ะ
การที่เราซิ่ว ไม่ใช่แค่เราหรือเพื่อนนะคะที่มีผลกระทบ การที่เราจบช้า หรือประสบความสำเร็จช้า
พ่อแม่เองก็รู้สึกนะคะ เราเคยเรียนม.ปลายช้าเพราะไปเรียนพาณิชย์มา ทำให้เสียเวลา
เพื่อนบางคนจะเรียนจบแล้ว แต่เราช้ากว่า พ่อแม่เราก็อายุมากแล้ว ยิ่งเราโตขึ้นค่าใช้จ่ายก็มากขึ้น
เรายังต้องเสียเวลาเพราะเรายังไม่ได้วุฒิการศึกษาไปช่วยผ่อนแรงพวกท่านอีก
ส่วนเรื่องของคุณสองคน ตอนนี้อาจเป็นแค่บทพิสูจน์ความรู้สึกเท่านั้นก็ได้ ยังไงลองเข้าไปคุยกับเขาตรงๆ เถอะค่ะ
ถ้าเขาไม่คุย ก็เข้าไปคุยเอง เขาอาจไม่กล้าเริ่มก่อน แล้วยิ่งถ้าเงียบทั้งสองฝ่าย ให้ความเงียบคุยกัน
บางทีสิ่งที่เราไม่ได้ยินก็สร้างความบานปลายได้นะคะ ลองเข้าหา และเปิดใจคุยกันอีกนิด
ส่วนตัวเราก็ว่าคุณก็ยอมเขามากแล้ว ลองบอกเขาว่าคุณรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน และคุณทนมาขนาดไหนแล้ว ทนได้แค่ไหน
เผื่อเขาอาจคิดได้ขึ้นมาก็ได้ หรือถ้าความรู้สึกมันเชื่อมกันไม่ได้ เราอยากให้คิดซะว่ามันคือประสบการณ์ของชีวิต
การหลงรักเพื่อนตัวเองมันทำให้เรามีความทรงจำยังไงในช่วงชีวิตนึง อยากให้จดจำแหละเก็บไว้ให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น
ไม่อยากให้หนีเพราะเรื่องความรักค่ะ ไม่อยากให้ปล่อยให้อารมณ์ ความรู้สึก ความน้อยใจมาเปลี่ยนชีวิตคุณ
ยังไงลองนึกถึงเรื่องที่เราพูดดูนะคะ แต่ถ้าจะซิ่วเพราะมีปัญหากับวิชาหรือมหาลัยที่เรียน หรืออื่นๆ ด้วยก็ว่าไป

สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ 

[PoP~Pu]

เห็นด้วยกับคุณMemaykung นะคะว่าถ้าซิ่วเพราะเขาอย่างเดียวก็อย่าเลยดีกว่า
แต่ถ้าด้วยเหตุผลอื่นและคุณคิดมาดีแล้ว ก็ต้องขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของคุณค่ะ
แต่เราว่าคุณควรจะบอกคุณรั้วนะคะ ถึงสถานะคุณกับคุณรั้วไม่ชัดเจน
แต่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนพิเศษของกันและกัน การที่คุณจะซิ่วแล้วคุณรั้วมารู้จากคุณทีหลังหรือรู้จากคนอื่น
มันจะเสียความรู้สึกมากๆเลยนะคะ
เท่าที่อ่านมาเหมือนคุณรั้วค่อนข้างจะโลกส่วนตัวสูงหรือเปล่า?55 เหมือนเป็นอะไรไม่ค่อยพูดไม่ค่อยบอก
เหมือนปัญหาคู่ของคุณคือไม่ค่อยได้พูดคุยกัน
ลองนะคะ ลองพูดคุยกันเราว่าอะไรๆน่าจะดีขึ้น
เอาใจช่วยค่ะ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องความรัก อิอิ

[shockiiezz]

ผมอาจจะซิ่วเพราะมีปัญหานิดหน่อยครับ คือผมเลือกที่จะส่งตัวเองเรียน  ไม่อยากเป็นภาระให้ที่บ้านครับ เลยเลือกที่จะไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ค่าเทอมถูกกว่าส่วนเรื่องของรั้วผมก็ไม่รู้ครับ หลังจากที่ส่งข้อความไปว่าให้ตั้งใจสอบนะ เขาก็มาเล่นด้วยกับผม แล้วก็ยิ้ม มานั่งข้างๆ นั่งเล่น แต่ก็ไม่ได้มากมายเหมือนแต่ก่อน ช่วงนี้ผมกับเค้าไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันหรอกครับ บางครั้งเราก็ดูไร้ตัวตนสำหรับกันและกันไปเลย ถามว่าเรื่องรั้วเป็นปัจจัยในการย้ายที่เรียนหรือเปล่า ตอบได้เลยว่าไม่ครับ ผมคิดว่าถ้าผมย้ายที่เรียนเพราะเค้ามันก็เกินไปแล้ว เค้าไม่ใช่ทุกอย่างของผมสักหน่อย คนที่ผลักดันผมข้างหลังคงสำคัญกว่าครับ อีกอย่างเค้าไม่ได้แสดงอะไรว่าพิเศษออกมามากเท่าไหร่ เลยทำให้ความพิเศษของกันและกันมันลดลงล่ะมั้งครับ ยังไงก็ขอบคุณมากๆ นะครับสำหรับคำแนะนำและกำลังใจ ถ้ายังไงก็จะมาอัพเดทเรื่อยๆ ครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยอัพเดท เพราะผมก็ปลีกตัวออกห่างรั้วนิดนึงครับ แต่คืนนี้คิดถึง ว่าจะชวนมาดูหนังผี ล้ะเสดแล้วก็หลอกแต๊ะอั๋ง ซะเลย ๕๕๕๕๕๕๕ ล้อเล่นนะครับ แต่อาจจะเป็นเรื่องจริง 

[papikochan]

จะตัดสินยังไงก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วค่า
แต่ขอให้ความสัพมพันธ์ยังราบรื่นดีอูยู่นะคะ
เขาอาจจะเป็นคนชอบงอลและรอให้เราง้ออยู่ก็ได้นะคะ
ฟังจากที่เล่าๆมาแล้วดูเหมือนคุณรั้วขี้งอลมากเลย
ลองๆง้อเค้าดูหน่อยละกันค่ะ แต่ถ้าเราก็งอลเค้าไม่คุยกับเค้าเหมือนกัน
ต่างฝ่ายต่างถือทิฐิกันแบบนี้มันจะแย่เอานะคะ
เรื่องจะซิ่วก็บอกเค้าหน่อยละกัน เผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้นมาบ้าง
แต่ถ้าคุณจะตัดขาดเขาเลยก็ไม่ต้องบอกเลยให้รู้ตอนเราซิ่วไปแล้วนั่นแหละดีค่ะ
 

[Dark_Noah]

โอเคค่ะ ยังไงก็สู้ๆ นะคะ ขอให้ได้สิ่งที่ดีและสมหวังเสมอนะคะ 

[Chifuu]

ขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะคะ ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องส่วนตัว
แต่ถ้าคุณจะซิ่วจริงๆก็ควรบอกคุณรั้วนะคะ
อย่าว่าแต่คนพิเศษเลยค่ะแค่เพื่อนกัน
ถ้าเพื่อนจะซิ่วแล้วเรามารู้ตอนกระชั้นชิดมากๆ มันน่าน้อยใจค่ะ 555
ไงก็สู้ๆนะคะ

[Naenprin]

 

ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ

บางทีการที่เราหายไปโดยไม่บอก มันอาจจะทำให้เค้ารู้ใจตัวเองมากขึ้นก็ได้

เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้นะคะ

[fanfic2010]

ถ้าจะเปลี่ยนที่เรียน เพราะปัจจัยด้านการเงิน
ทำไมไม่ลองขอทุน กยส. ดูล่ะ หรือว่าเคยลองแล้ว?

สมัยนี้การแข่งขันด้านแรงงานสูงมาก ยิ่งจบช้า ยิ่งเสียโอกาส
เดี๋ยวนี้จบปริญญาตรีอาจหางานไม่ได้ หรือได้งานต่ำกว่าวุฒิการศึกษา
ถ้าไม่มีประสบการณ์หรือความสามารถพิเศษ
เช่น ภาษาอังกฤษ ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ MS Offices ฯลฯ

ระบบการศึกษาบ้านเรายังยึดติดกับค่านิยมเรื่องปริญญาบัตร
มุ่งเน้นให้คนจบออกมาแล้วไปทำงานเป็นลูกจ้าง มากกว่าเป็นเจ้าของกิจการ
ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฯลฯ เขาล้ำหน้าเราไปหลายช่วงตัวแล้ว
เขามุ่งเน้นให้คนของเขาออกมาทำธุรกิจ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจให้กับประเทศ

ยิ่งอีก 2 ปีข้างหน้า เราจะเปิดเสรีทางการค้ากับประเทศอื่นในอาเซียน
ซึ่งจะทำให้คนในประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ในกลุ่มประเทศอาเซียน
โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตทำงาน เมื่อเป็นดังนี้ ก็จะเกิดการไหลของแรงงานฝีมือดีไปยังประเทศต่าง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย เพราะข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ตรงกลางประเทศอื่น ๆ
และค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก รวมถึงวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมของไทยที่เปิดกว้างกับคนทุกเชื้อชาติ ศาสนา

แต่บ้านเรายังขาดการเตรียมความพร้อมให้กับคนของเรา ยังไม่รู้ว่า จะปรับหลักสูตรอะไร อย่างไรบ้าง?
ขณะที่ประเทศอื่นเขาวางแผนกันไปแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน
นักศึกษาไทยกว่า 60% ทักษะด้านภาษาอ่อนถึงอ่อนมาก แถมยังไม่ค่อยสนใจหรือตื่นตัวเท่าที่ควร
เรียกว่า ถ้าเลี่ยงได้ กรูก็เลี่ยงที่จะใช้ภาษาอังกฤษ เพราะขาดความมั่นใจในตัวเอง
หรือไม่ก็อ้างเพื่อปลอบใจตัวเองว่า มันไม่ใช่ภาษาแม่ บ้านเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่น บลา ๆ ๆ
แม้แต่ภาษาไทย ยังเขียนผิดเขียนถูก ยังใช้คำ ใช้สรรพนามไม่ค่อยถูก
แล้วเราจะไปสู้คนชาติอื่นได้อย่างไร

ขณะที่เวียดนามเขาประกาศปักธงการศึกษาบ้านเขาไปแล้วว่า
เขาจะต้องพัฒนาการศึกษาเด็กของเขาให้เหนือกว่าเรา
ตอนนี้เขาปรับหลักสูตรให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับหลักสูตรสากลมากขึ้น
ทั้งด้านการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและทักษะการทำงานอื่น ๆ
อย่าลืมว่า เวียดนามเคยเป็นอาณานิคมฝรั่งเศสมาก่อน เพราะฉะนั้นเขาได้เปรียบเรื่องภาษาฝรั่งเศส
ถ้าเพิ่มภาษาอังกฤษเข้าไปอีก คิดดูว่า ถ้าเราเป็นนายจ้าง ต้องการจะจ้างคน เราจะจ้างคนชาติไหน?
คิดแล้วก็เครียด เป็นห่วงเด็กไทยจริง ๆ 

[shockiiezz]

ขอบคุณทุกๆ คนมากครับ และขอบคุณพี่ fanfic เปนอย่างมากครับ แนะนำอะไรดีๆ ตลอด แต่เรื่องขอทุนอะไรผมทำไปหมดแล้วครับ แต่เนื่องด้วยผมไม่อยากเปนภาระทั้งเรื่อง กินอยู่ครับ จำนวนเงินที่ได้ไม่พอที่จะใช้ชีวิตทั้งเดือนได้ครับ ผมทำงานเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ เรื่องการซิ่วตอนนี้ก็คิดว่าคงยืดเวลาไปก่อนครับ อาจจะไม่ เกรดก็จะออกแล้วครับ ขอบคุณทุกคนจริงๆ ครับ

   เข้าเรื่องรั้วกันต่อนะครับ ๕๕๕๕๕ ผมกับรั้วตอนนี้ไม่ได้คุยกันเลย เราปิดเทอมกันแล้วครับ ผมจะไม่ได้เจอหน้าเค้าอีก สามเดือน ตอนนี้ก็ไม่รู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไรครับ ความจริงก็มีรับน้องที่เข้ามาใหม่นะครับ แต่ผมคงไม่ได้ไปช่วย อาจจะทำงานหนักมากๆ สามเดือนเลยกว่าผมจะเปิดเทอมตั้งเดือนสิงหาแน่ะครับ เนื่องจาก มอเข้าอาเซียน วันนี้ก็กลับไปอ่านบทสนทนาในเฟสบุ๊คของผมกับเค้าครับ ผมยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้อยู่เลย แต่ผมก็ว่าคำพูดเค้าที่ดูเฉยชาในเฟสบุ๊คในปัจจุบัน มันก็ไม่ได้แตกต่างจากวันแรกๆ ที่เราคุยกันมากนักครับ เรื่องการใช้ชีวิตในมอ ผมไปนั่งใกล้ๆ เค้าเค้ายังไม่อยากนั่งกับผมเลยครับ ดูเหมือนเค้าพยายามตีตัวออกห่างมากๆ เลย ผมก็คิดแล้วก็เริ่มถอยห่างแล้วล่ะครับ ผมคิดว่าเค้าคงกลัวว่าเค้าจะเป็นเกย์ครับ เค้าไม่คุยกับผม ผมไปนอนห้องเพื่อนอีกคนแทนการนอนห้องเค้าเพราะกลัวอะไรที่มันมากกว่าเดิม เค้าก็เลือกที่จะโทรหาเพื่อนคนที่ผมนอนด้วยนะครับ โดยที่ไม่คิดจะโทรหาผมเลย ทานข้าวก้ไม่ชวนผม ไปไหนก็ไม่ชวนผม ผมเลยคิดว่า อืม มันคงเป็นงี้แหละ ทั้งปัจจุบันและอนาคต ผมอยากให้ทุกอย่างมันดีขึ้นนะครับ (เหมือนที่ผ่านมาหรือดีกว่าไปเลย) อย่างน้อยก็อยากให้เค้าคิดว่าผมเป็นเพื่อนคนนึงบ้าง ผมก็เข้าใจนะครับ บางทีเรามอบสถานะอะไรให้ใครคนนึงไปแล้วมันย้อนกลับไม่ได้ เพราะเขาเองก็บอกว่าเขาก็รู้สึกดี ๆ กับผมเช่นกัน ผมกับรั้วถึงปัจจุบันจะไม่คุยกันเท่าไหร่นะครับ นับจำนวนครั้งหรือคำพูดที่คุยกันได้ในแต่ละวันเลยล่ะครับ แต่เราก็เหมือนยังให้เกียรติกันอยู่นะครับ ยังคงเหมือนเดิมที่ไม่พูดคำหยาบ มีอ้อนกันบ้างถึงแม้จะน้อยลงก็เถอะ แต่ทุกครั้งที่เค้าอ้อนผม เหมือนเค้าก็จะหยุดชะงักและคิดแล้วก็ไม่เล่นกับผมต่อเหมือนกับว่ากลัวคนอื่นมองอย่างนั้นแหละครับ ผมก็เข้าใจนะครับว่าเค้าต้องปิดบังตัวตน เพราะผมก็เปนแบบนั้น แต่ผมก็อยากให้เค้าคิดถึงผมบ้างว่า ผมจะรู้สึกยังไง (เหมือนเด็กเรียกร้องเลยอ่า) เมื่อก่อนเดินเล่นที่ห้างยังเคยจับมือ ลูบหัว กันเดินในห้างเลยครับ ปัจจุบันนี่ยืนใกล้กันยังไม่ยืนเลยครับ (หรือว่าเค้ารังเกียจเราหว่า๕๕๕) ผมคิดว่าปิดเทอมสอง - สามเดือนนี้ ไม่เจอกันไม่คุยกันเลย ความรู้สึกมันคงลดลงบ้างแหละครับ แล้วอะไร ๆ มันก็ดีขึ้น เจออีกทีปีสอง ผมและเค้า อาจจะลืมทุก ๆ อย่างที่เคยให้กันก็ได้ ผมคุยกันมาก็จะปีแล้วนะเนี่ย ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ คู่ของผมอาจจะเกิดจากการไม่ค่อยคุยกันนั่นแหละครับ ความจริงแล้วผมไม่ได้เป็นคนถือทิฐิอะไรหรอกครับ ผมอายที่จะพูดกับเค้ามากกว่า ผมกลัวที่ว่าผมพูดอะไรไปแล้วเค้าจะรู้สึกยังไง ถ้าเค้าไม่ชอบที่ผมพูดเค้าจะรู้สึกยังไง มันเกิดจากการที่เราแคร์ฝ่ายตรงข้ามครับ แต่เอาเถอะครับ ตอนนี้ อารมณ์ ปล่อยวาง แต่ก็เศร้า เหมือนกันนะ ฮ่า ๆ อย่างผมนี่เรียกว่ายังไงเนี่ยทำตัวเหมือนแฟนกัน คุยกันแบบน่ารัก แต่ภายในกลับห่างกันมาก ๆ เลย

ปล. ขอบคุณทุกคนอีกทีนะครับ ที่ติดตาม ให้กำลังใจ และให้แต่คำแนะนำที่ดีๆ เสมอมา จะมาอัพเดทเรื่อยๆ คร้าบบผ๊ม

[Naenprin]

 

คืออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเศร้าจังเลย

ก็อย่างที่ได้เคยบอกไปว่า บางทีการที่เราห่างกันมากๆ มันอาจจะทำให้เค้าคิดได้ก็ได้

ว่าเค้ารู้สึกอย่างเรากับเรากันแน่ แต่ถ้าเค้ายังปิดตัวเองแบบนี้ ก็ยากที่เราจะทำให้เค้าเปิดว่าตกลงแล้ว เค้าจะเป็นอะไร

ยังงัยก็เป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆ

[snowboxs]

พี่ว่ารั้วคงสับสนและต่อต้านความเป็นตัวตนหรือเปล่า
ถ้าเขายังไม่พร้อมที่จะออกมาจากจุดที่เขาเคยเป็น
ก็คงทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ทำใจเป็นได้แค่เพื่อนไป
แล้วน้องเองก็ไม่ต้องไปเสียดายความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนแบบนั้นหรอกค่ะ
ถ้าคิดจะถอย ก็ต้องถอยให้ถึงที่สุด ทำและรู้สึกแค่ที่เพื่อนทำให้กันแค่นั้นพอ
ถ้าถอยไม่ได้ก็ลุย ไม่ต้องทำอะไรมาก ก็แค่ถามความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ว่าคืออะไร
ถ้าเขาว่าอย่างไรก็ต้องปล่อยให้เป็นอย่างนั้น น้องเองจะได้ชัดเจนในความรู้สึกด้วย
น้องจะได้จัดการความรู้สึกของตัวเองได้ และจะได้วางตัวให้ถูกกับสถานะที่เขาให้เป็น
เพราะเรื่องระหว่างน้องกับรั้วมันคงไม่เลวร้ายไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้วล่ะค่ะ
ถ้าจะต้องห่างกัน ก็จะได้รู้สถานะในความห่าง ไม่ต้องปล่อยให้ตัวเองจินตนาการผิด ๆ อีก

ปล.เรื่องซิ่วพี่อยากให้ตัดสินใจดี ๆ เพราะตอนนี้ก็ขึ้นปี 2 แล้วนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ 

[thehackzzi]

ขออนุญาตตามอ่านก่อนนะ

อ๊าาากก ไม่ทันถ่ายทอดสดเลยยยย

[TOPPINGPAN]

ผมว่าลองเปิดอกคุยกันดีกว่าไม๊ครับ  เคยมีคนบอกไว้ว่า   คนเราไม่ตายด้วย­น้ำมือใคร..ก็ตา­ยด้วยความคิดของ­ตัวเอง #ClubFriday  ตามนี้แล้วกันครับ  สู้ๆน้า^^

[shockiiezz]

ครับผม ตอนนี้อะไรๆ ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางครับ
ในที่สุดก็ปิดเทอมยาววๆ ครับ ช่วงเดือน มิถุนาก็จะมีไปรับน้องบ้าง แต่ผมคงไม่ได้ไปหรอกครับ
เพราะคงง่วนอยู่แต่กับการทำงาน ทุกคนยังจำไอ J ได้มั้ยคับ ผมกับเจ ยังติดต่อกันเรื่อยๆ ครับ
เล่นเกม คุยกัน ถามสารทุกข์สุขดิบกัน แต่กับรั้วผมไม่เลยนะครับ เหมือนต่างฝ่ายต่างไม่คุย
วันนี้ เพื่อนโพสเตตัสในเฟสครับ แบบแท็กผมกับเพื่อนคนอื่นๆ รวมถึงรั้วด้วย
ก็มีคุยกันบ้าง ผมก็ไปกดถูกใจของรั้วเค้าครับ เค้าก็กดกลับ แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกัน
ผมเหนเค้ากดไลค์ ผมเลยเข้าไปหน้าวอลเค้าคับก็เหนเตตัสประมาณว่า
ขยับเข้ามาอีกนิด ขยับความสัมพันธ์.... แล้วก็ทิ้งท้ายว่า ถ้าได้เป็นแฟนจะดูแลอย่างดี ครับ
สงสัยเค้าก็คงมีใจให้คนอื่นไปแล้วครับ ผมไม่ใช่คนพิเศษสำหรับเค้าแล้วล่ะ ๕๕๕๕๕๕
ช่วงก่อนหน้านี้เค้าก็รักษาระยะห่างแบบสุด ๆ เลยนะครับไม่ยืนใกล้ ไม่อยู่ใกล้ ไม่คุย
ผมคิดว่า เค้าคงเป็นแบบที่เพื่อน ๆ บอก แหละครับ ที่ว่าไม่ยอมรับตัวตน : )
คงต้องรอให้อะไรดีขึ้น ดีขึ้น ล่ะมั้งครับ แล้วคงจบที่สถานะแค่เพื่อนกัน
ช่วงนี้ก็มีคนเข้ามาคุย(จีบ)กับผมเรื่อยๆ ครับ (เห็นงี้ผมก็หล่อนะ ๕๕๕ ดีกรีเดือนคณะนะคร้าบ เอิ๊กๆ อวดหน่อย)
แต่ผมก็ไม่ได้ให้ความหวังใครนะครับ เพราะรู้สึกยังชอบรั้วอยู่
ผมจะรอวันที่ รั้ว เค้ากล้าที่จะคุยกับผมแบบเพื่อนปกตินะครับ เพราะตอนนี้ จิตใจผมมันตกไปอยู่ตรงนั้นแล้ว
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามครับ ถ้ายังไงมีเรื่องอะไรอีกจะมาโม้ให้ฟังอีกนะคร้าบ :')

ปล. เอ้อลืมบอกไป ไอ J กับ รั้วนี่กลับมาคุยกันปกติแล้วนะครับ มีแต่ผมนี่แหละที่กับรั้วยังไม่ปกติ
ปล๒. รักทู๊กโคนนนน