ตาเหลือง สัญญาณเตือนตับอักเสบที่ไม่ควรมองข้าม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ตาเหลือง สัญญาณเตือนตับอักเสบที่ไม่ควรมองข้าม  (อ่าน 232 ครั้ง)

ออฟไลน์ airrii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตาเหลืองเป็นอาการที่หลายคนอาจสงสัยว่าเกิดจากอะไร และเป็นสัญญาณเตือนของโรคใดบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ ตับอักเสบ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการตาเหลือง การเข้าใจสาเหตุและอาการของโรคนี้จะช่วยให้เรารับมือและป้องกันได้อย่างถูกวิธี

ตาเหลืองเกิดจากอะไร
อาการตาเหลืองหรือที่เรียกว่าภาวะดีซ่าน (Jaundice) เกิดจากการสะสมของสารบิลิรูบิน (bilirubin) ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานผิดปกติของตับ ทำให้สารนี้ไม่สามารถถูกขจัดออกจากร่างกายได้อย่างปกติ ส่งผลให้ผิวหนังและตาขาวกลายเป็นสีเหลือง



สาเหตุของตาเหลืองและโรคตับอักเสบ
    ตับอักเสบ (Hepatitis)
    เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของเนื้อตับ ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคนี้
    ไวรัสตับอักเสบ (Hepatitis Virus)
    เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของตับอักเสบและภาวะดีซ่าน โดยมีหลายชนิด เช่น
    ไวรัสตับอักเสบเอ (HAV)
    ไวรัสตับอักเสบบี (HBV)
    ไวรัสตับอักเสบซี (HCV)
    ไวรัสตับอักเสบดี (HDV)
    ไวรัสตับอักเสบเอฟ (HEV)

ไวรัสเหล่านี้สามารถแพร่กระจายผ่านทางอาหาร น้ำดื่ม การสัมผัสเลือด หรือสารคัดหลั่ง รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ โรคตับอื่น ๆ
    - เช่น ตับแข็ง ตับวาย หรือความผิดปกติของทางเดินน้ำดี ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะดีซ่านเช่นกัน
    - ภาวะแทรกซ้อนจากโรคอื่น ๆ
    เช่น โรคโลหิตจาง โรคตับอ่อนอักเสบ หรือภาวะที่มีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงอย่างรุนแรง

อาการของตาเหลืองและตับอักเสบ
    ๐ ตาขาวและผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
    ๐ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้
    ๐ ปวดท้องบริเวณตับ
    ๐ มีกลิ่นตัวผิดปกติ
    ๐ ปัสสาวะสีเข้มและอุจจาระสีอ่อน

วิธีป้องกันและดูแลตัวเอง
    รักษาความสะอาดและสุขอนามัย ส่วนใหญ่ของไวรัสตับอักเสบสามารถป้องกันได้ด้วยการล้างมืออย่างถูกวิธี
    หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
    รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีและเอ (สำหรับบางชนิด)
    ตรวจสุขภาพเป็นประจำ และรีบพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ

ตาเหลืองเกิดจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบบ่อยและรุนแรงที่สุดคือ ไวรัสตับอักเสบ ซึ่งเป็นโรคที่ควรได้รับความสนใจเป็นพิเศษ หากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ตับวายหรือมะเร็งตับได้ การรู้จักสาเหตุและอาการของตับอักเสบ รวมถึงการป้องกันอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Share This Topic To FaceBook

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด