แค่สองเราได้สบสายตา
ก็เข้าใจว่าใครคิดอะไร
แต่ฉันรู้อยู่เต็มหัวใจ
ว่าเราควรจะหยุดไว้แค่นั้น
Yeah yeah yeah..
มันเป็นเพียงเสื้อผ้าที่ทำให้เธอ sexy เมื่อสวมใส่
มันเป็นเพียงแค่บรรยากาศที่กล่อมให้เราต่างเคลิ้มไป
มันเป็นเส้นบางบางที่คั่นระหว่างความรักและความใคร่..
Hey…yeah yeah yeah..
และเธอคือความงดงาม
แบบที่ฉันเคยตามหาเพียงไร
แต่ฉันต้องห้ามใจให้ได้
ไม่อาจทำให้เธอเป็นของฉัน
มันเป็นเพียงเสื้อผ้าที่ทำให้เธอ sexy เมื่อสวมใส่
มันเป็นเพียงแค่บรรยากาศที่กล่อมให้เราต่างเคลิ้มไป
มันเป็นเส้นบางบางที่คั่นระหว่างความรักและความใคร่..
Hey…yeah yeah yeah..
คืนนี้ของเราเป็นคืนที่หนึ่ง
ไม่ใช่หนึ่งคืนเท่านั้น
อยากให้เธอรู้ว่าฉันเห็นเธอสำคัญ
และมีความหมายเพียงใด
ให้มันเป็นคืนหนึ่งที่ได้โรแมนติก
กับเธอก็พอรู้ไหม
เพราะรักของเรายิ่งใหญ่ มากกว่า One Night Stand
(เพลงคืนที่หนึ่ง : ชิน ชินวุฒ)
************************************************
ปากบางประกบลงมาที่ปากแดงๆทันทีที่วางคนตัวเล็กลงบนเตียง มือเล็กทุบที่อกหนาไม่แรงนักเพื่อเตือนว่าอากาศกำลังจะหมดแล้ว ปากบางค่อยๆเลื่อนลงมาเพื่อสำรวจส่วนอื่นๆของร่างกายที่โผล่พ้นเสื้อออกมา เมื่อไม่ได้ดั่งใจมือหนาก็จัดการเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างขาวออกไปโดยเร็ว แล้วปากบางๆก็ได้สำรวจไปทุกส่วนของร่างกาย ร่างเล็กบิดเร้าอย่างรัญจวนเมื่อมือหนาเริ่มกอบกุมส่วนอ่อนไหวไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกมือก็วุ่นอยู่กับยอดอกสีอ่อนที่ชูชันสู้มือ
“อ้าาาาาา”
ยิ่งเสียงครางดังเท่าไหร่ คนตัวใหญ่ยิ่งรุกคนตัวเล็กหนักขึ้นจนปากแดงครางออกมาไม่เป็นภาษา เมื่ออารมณ์พุ่งมากขึ้นเขาก็จัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกบ้างเพื่อให้ร่างกายเขาได้สัมผัสร่างเล็กมากขึ้น สองร่างเบียดเสียดจนแทบเป็นเนื้อเดียวกัน มือหนายังรูดรั้งแก่นกายเล็กอยู่ ส่วนอีกมือก็เลื่อนลงไปสำรวจเพื่อที่ต้องห้ามที่ยังไม่เคยมีใครได้สัมผัส เขาป้ายน้ำข้นขาวที่ปริ่มออกมาจากส่วยยอดของคนตัวเล็กมาเป็นสารช่วยหล่อลื่น นิ่วแรกกดลงไปอย่างอย่างลำบาก
“โอ้ย เจ็บ”
“ผ่อนคลายนะครับคนดี”
เขาพูดปลอบแล้วเลื่อนหน้าไปจูบเพื่อให้คนตัวเล็กผ่อนคลาย เมื่อแรงตอดรัดคลายลงจนสอดนิ้วแรกเข้าไปได้สุดนิ้วที่สองก็ตามมาติดๆ รงตอดรัดนิ้วทำให้คนตัวสูงกว่าทนไม่ไหว เขาถอนนิ้วออกแล้วจับแก่นกายใหญ่ของตัวเองที่พร้อมเต็มที่ไปจ่อที่ทางเข้า เขาค่อยๆกด
“เจ็บ เอาออกไป”
ตากลมโตมีน้ำใสๆเอ่อจนล้นออกมา เขาเลยต้องจูบปลอบใจให้เด็กน้อยของเขาได้ผ่อนคลาย แค่เพียงส่วนหัวเขาไปเขาก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว
“อดทนหน่อยนะครับ แล้เราจะมีความสุดด้วยกัน”
เมื่อไปได้จนสุดเขาก็แช่ไว้สักพักให้ช่องทางเล็กได้ปรับตัวแล้วจึงค่อยๆขยับจากช้าไปเร็ว
“ซี๊ดดด แน่นฉิบหายเลยว่ะ”
“อ๊ะๆๆ”
เสียงเนื้อกระทบเนื้อปนกับเสียงครางของสองร่างที่แนบแน่นกันอยู่บนเตียงกว้างดังลั่นห้องใหญ่ ร่างสูงเร่งจังหวะเมื่อรู้สึกถึงแรงตอดรัดถี่ๆที่ช่วงล่างเป็นสัญญาณว่าคนตัวเล็กกำลังจะถึงฝั่งฝันแล้ว ไม่นานร่างเล็กก็กระตุกเกร็งแล้วปล่อยน้ำสีขาวขุ่นจนเปื้อนขึ้นมาถึงหน้าอกขาวที่ขยับขึ้นลงจากอาการหอบ ร่างสูงกระแทงเร็วๆอีกสองสามครั้งก็ไปแตะขอบสวรรค์เช่นเดียวกับคนตัวเล็ก ทั้งสองคนทิ้งตัวลงนอนข้างๆกัน แขนแกร่งคว้าคนตัวเล็กมากอดไว้ทั้งตัว แล้วทั้งคู่ก็หลับลงไปในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน
“อืมมม”
เสียงครางอย่างแผ่วเบาออกมาจากคนตัวเล็กที่รู้สึกไม่สบายตัว ผมมองหน้าขาวใสจนเรียกได้ว่าซีดเลยด้วยซ้ำ ขนตางอนยาวเป็นแพแนบลงกับแก้มขาวยามที่เจ้าของที่อยู่ในอ้อมกอดผมหลับอยู่ ปากสีแดงอวบอิ่มครางออกมา คงจะรู้สึกไม่สบายสินะ ผมรับรู้ได้จากไอร้อนที่แผ่ออกมาจากคนที่ผมนอนกอดอยู่ ถึงจะรู้ว่าคนตัวเล็กไม่สบายแต่ผมก็ไม่อยากจะผละออกไปจากร่างนุ่มนิ่มนี้เลย ไม่อยากจะเชื้อเลยว่าเมื่อคืนผมกับคนคนนี้มีอะไรที่ลึกซึ้งต่อกัน อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือว่าอะไรก็ตาม แต่ผมยอมรับเลยว่า ครั้งนี้เป็นเซ็กส์ที่ผมมีความสุขที่สุด สุขจนผมไม่อยากจะได้รับจากคนอื่นอีกนอกจากคนคนนี้
“โอ้ยยย ปวดหัวจัง แม่ครับ แซมปวดหัว ขอยาหน่อยครับ”
แซมพูดโดยที่ยังไม่ลืมตา
“ตื่นแล้วหรอ ปวดหัวใช่ไหม เดี๋ยวฉันไปเอายาให้นะ”
ตาโตเบิกโพลนขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงที่ไม่คุ้น ผมมองคนตรงหน้าที่มีอาการตกใจเกินเหตุแล้วอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ แต่ผมก็ทำได้แค่ยิ้มกว้างไปให้เท่านั้น
“นายเป็นใครแล้วมาอยู่ที่ห้องฉันได้ไง โอ้ยย!!”
แซมที่โวยวายแล้วขยับตัวหนีผมร้องออกมา คงจะเจ็บตรงนั้นสินะ เมื่อคืนผมก็จัดหนักจนลืมนึกถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดกับคนตัวเล็กเลย และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของแซมด้วยจึงทำให้เจ็บมากเป็นพิเศษ
“อย่างเพิ่งขยับสิ นอนอยู่นิ่งๆเดี๋ยวฉันไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้ก่อน จะได้กินข้าวกินยา”
ผมจับแซมให้นอนดีๆแล้วลุกออกจากเตียง แซมตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นผมในสภาพเปลือยเปล่า
“ทำไมนายถึงอยู่ในสภาพนี้ หรือว่า…เฮ้ยยย!!! โอ้ยย!! นายทำอะไรฉันเนี่ย”
แซมเปิดดูตัวเองที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มแล้วร้องออกมาอย่างตกใจ
“ฉันไม่ได้ทำคนเดียวสักหน่อย เราช่วยกันทำต่างหาก”
ทันทีที่ผมพูดจบประโยค หมอนใบใหญ่ก็ปลิวตรงมาทันที ผมหลบหมอนไปหัวเราะไป คิดหรอว่าผมจะสำนึกผิด ไม่หรอกครั้ง เพราะผมตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
“ไอ้บ้า! ไอ้ลามก!! ไอ้โรคจิต!!!”
และสารพัดคำด่าที่คนตัวเล็กสามารถนึกออกมาด่าผม เวลาที่แซมโมโหก็ยิ่งดูน่ารักเพราะหน้าที่เคยซีดกลับแดงเถือกไปทั้งหน้าไม่รู้เพราะโมโหหรือเขินกันแน่
“อย่าขยับมากสิ เดี๋ยวมันก็อักเสบหรอก”
“ไม่ต้องพูดมากเลย ฉันจะกลับบ้าน ส่งเสื้อผ้ามาให้ด้วย”
แซมบอกผมด้วยเสียงที่ห้วนและหน้าตาที่บูดบึ้งแต่ก็ยังคงความน่ารักในสายตาผม
“แต่นายไม่สบายจะกลับได้ไง แล้วเรื่องของเราเมื่อคืนล่ะ”
“นายก็ถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน เพราะฉันก็จะลืมๆมันไปเหมือนกัน ฉันไม่เสียหายและนายก็ไม่เสียหายอะไร ถึงจะเสียความรู้สึกนิดๆ แต่ก็ไม่เป็นไร one night stand โอเคนะ”
“ฉันไม่ยอมหรอก ไม่ว่ายังไงฉันก็จะรับผิดชอบ”
แซมพูดแบบนั้นมันทำให้ผมทั้งโกรธและน้อยใจ ผมอุตส่าห์ทำให้เมื่อคืนเป็นคืนที่น่าจดจำสำหรับเรา แต่แซมกลับบอกว่าจะลืมมัน ผมเป็นคนทำให้เกิดเรื่องนี้ ผมก็อยากจะรับผิดชอบอะไรบ้าง ถึงแม้ว่าแซมจะไม่ยอม แต่ผมก็ยินดีจะให้
“แล้วนายจะทำไง จะไปขอฉันจากพ่อแม่หรือไง”
“ฉันทำอย่างนั้นก็ได้นะ ถ้านายต้องการ”
“โอ้ยย!! ฉันไม่อยากพูดกับนายแล้ว ยิ่งพูดยิ่งปวดหัว”
แซมถึงหัวตัวเองอย่างขัดใจ
“งั้นนายก็ไม่ต้องพูดแล้วนอนพักเฉยก็พอ เดี๋ยวฉันไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้”
คุณจะทำยังไงถ้าเกิดไปมีอะไรกับผู้ชายที่รู้จักกันแค่คืนเดียว คงจะไม่แปลกถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่รักสนุก แต่ไม่ใช่ผมที่เป็นผู้ชาย และผมก็ไม่ใช่ผู้ชายที่แบบว่า one night stand จะมีอะไรกับใครโดยมีความสัมพันธ์แค่คืนเดียว สำหรับผมมันเป็นเรื่องที่น่าตกใจจนไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายได้ แต่ผมจะทำไงได้
ในเมื่อไทม์แม็กชีนมันไม่มีอยู่จริง เรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วเราก็ต้องยอมรับมัน และทำใจกับมันให้ได้ แต่สำหรับผมมันคงจะยากสักหน่อย ถึงปากจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ในใจนี่โคตรจะรู้สึกแย่เลย ผมเพิ่งจะโดนแฟนบอกเลิกมา และในคืนเดียวกันผมก็ดันไปเมาจนเผลอมีอะไรกับผู้ชายอีก จะมีใครโชคร้ายซ้ำซ้อนในคืนเดียวเท่ากับผมอีกไหม และไอ้ตัวโชคร้ายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยผมไปง่ายๆ
“นายจะเช็ดให้ตัวฉันเปื่อยเลยหรือไง พอได้แล้วมันหนาว”
ผมบอกไอ้ตัวโชคร้ายที่กำลังเช็ดแขนผม จริงๆก็ไม่ได้แรงอะไรมากหรอกครับ แต่ผมรำคาญเลยขอโวยวายสักหน่อย
“ฉันไม่ได้ชื่อฉัน ฉันชื่อฟรีน และฉันอายุมากกว่านาย เพราะฉะนั้น นายต้องเรียกฉันว่าพี่ฟรีน”
“ฉันไม่ได้ชื่อนาย ฉันชื่อแซม และฉันอายุน้อยกว่านาย เพราะฉะนั้น นายต้องเรียกฉันว่าน้องแซม”
ผมตอบกลับไปด้วยประโยคที่คล้ายๆกัน ทำไมก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เราไม่รู้จักกันไม่ก่อน แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจผู้ชายคนนี้ แค่รู้สึกเสียใจที่เสียเอกราชให้ผู้ชายด้วยกันเท่านั้น
“ก็ได้ครับน้องแซม เดี๋ยวพี่ฟรีนจะไปเอาข้าวกับยามาให้น้องแซมกินนะครับ น้องแซมรอแปลบนึงนะ”
“กวน-ตีน”
ผมด่าพี่ฟรีนไปโดยไม่ออกเสียง แต่เขาคงจะอ่านปากได้ว่าผมด่าว่าอะไร เขาทำเพียงหัวเราะเบาๆให้ผมแล้วเดินออกไป ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างเมื่อยล้า เมื่อคืนนี้ผมไปทำศึกมาหรือไงกัน ทำไมถึงได้รู้สึกปวดไปทั้งตัวแบบนี้ ถึงแม้เมื่อคืนผมจะเมามาก แต่ผมก็พอจะจำเรื่องราวได้รางๆว่าเมื่อคืนผมมีความสุขมากแค่ไหน ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแบบนี้กับใครโดยเฉพาะกับผู้ชาย มากสุดก็แค่จูบกับผู้หญิง แต่ผมกลับรู้สึกดีกับเรื่องเมื่อคืน
“มาแล้วครับ โจ๊กร้อนๆ โทษทีนะ พอดีห้องพี่ไม่มีอะไรเลย แซมกินโจ๊กไปก่อนแล้วกันนะ”
“ก็ดีกว่าอดตาย”
ผมรับถ้วยร้อนๆมาถือไว้แล้วกินเองเพราะความหิว เมื่อคืนไม่ได้กินอะไรแถมยังใช้พลังงานไปเยอะอีกต่างหาก ขอกินชดเชยก่อนแล้วกัน
“เรื่องเมื่อคืนพี่ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ผิดที่เมาจนไม่รู้เรื่องอะไร นายอย่าคิดมากน่า”
“พี่อยากรับผิดชอบ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ท้องหรอกน่า”
ผมตอบทั้งๆที่ยังไม่หยุดกิน ก็คนมันหิวจริงๆนี่หน่า
“แต่พี่คิดว่า พี่เริ่มจะชอบแซมขึ้นมาจริงๆแล้วสิ”
พรู้ดดด!!
โจ๊กที่ผมยังไม่ทันได้กลืนลงคอ บัดนี้ได้ลอยไปอยู่บนหน้าและเสื้อพี่ฟรีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พี่เขาทำหน้านิ่งจนผมเริ่มกลัวว่าพี่เขาจะโกรธ แต่ถ้ามีคนมาพ้นโจ๊กใส่ผมแบบนี้เป็นผมผมก็โกรธว่ะ
“ขอโทษ ก็เพราะพี่น่ะแหละ พูดเล่นอะไรก็ไม่รู้ ฉันก็ตกใจน่ะสิ”
ผมแกล้งมำเป็นโมโหกลบเกลื่อน
“พี่ไม่ได้พูดเล่น พี่ชอบเราจริงๆ
เมื่อคืนไม่ว่าเราจะเป็นอะไรกัน แต่ตอนนี้และตลอดไปพี่อยากเป็นคนที่อยู่ข้างๆแซม”
ผมอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่คิดว่าคนที่ผมเพิ่งรู้จังเมื่อคืน จะเป็นคนพูดประโยคที่ผมคิดว่าจะได้กับใครสักคน ใครสักคนที่ผมโดนเขาทิ้งมาเมื่อคืน
“ขอบคุณนะ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะชอบพี่กลับได้ตอนไหน ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน เป็นเดือนเป็นปี หรืออาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้ ”
ตาพี่ฟรีนดูวูบไหวลงทันที นี่ผมใจร้ายเกินไปหรือเปล่า แต่ผมเคยได้ยินมานะว่า
ถ้าเราไม่รักใครก็อย่าไปให้ความหวังเขา หรือตอบรับรักเขาเพราะความสงสาร เพราะมันจะทำให้เขาเสียใจมากกว่าเราบอกเขาไปว่าเราไม่ได้รัก ผมเลยต้องตอบพี่เขาไปตรงๆ ถึงมันจะทำให้พี่เขาเจ็บ แต่มันก็คือความจริง
“ไม่เป็นไรหรอก กินโจ๊กต่อเถอะ จะได้กินยา”
“แต่แซมจะพยายามชอบพี่กลับให้ได้นะ”
ผมพูดเบาจะเหมือนกระซิบ แต่เพราะในห้องเงียบมากทำให้เสียงผมดังพอที่จะทำให้คนเศร้าได้ยินและยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ
“ขอบคุณนะแซม พี่ก็จะพยายามรักแซมให้มากกว่าวันนี้นะ”
ผมกับพี่ฟรีนมองหน้ากันจนผมเขิน ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ เคยไหมที่เขินจนรู้สึกว่ามือไม้มันเกะกะไปหมดจนอยากจะตัดมันทิ้งไปซะให้ได้
“เลิกมองได้แล้ว มองอย่างนี้แล้วแซมจะกินโจ๊กลงได้ไง”
“ก็ได้ครับ งั้นแซมกินไปก่อนนะ พี่ขอไปล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
หลังจากพี่ฟรีนเขาห้องน้ำไป ผมก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่ใช่อึดอัดที่อยู่กับพี่เขานะครับ ผมแค่โล่งใจที่ทำให้พี่เขายิ้มได้อีกครั้ง ผมไม่ชอบเลยที่พี่ฟรีนทำหน้าเศร้าๆ คงเพราะหน้าเศร้าๆไม่เหมาะกับตาโต จมูกโด่งๆ ปากบางๆ คิ้วเข้มๆของพี่เขา
ผมไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่วันนี้ผมได้ทำในสิ่งที่ตัวผมต้องการจะทำก็พอแล้วใช่ไหมครับ ถึงผมจะเพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อคืน แต่เมื่อคืนกับวันนี้ไม่ใช่วันเดียวกันสักหน่อย ผมจะมามัวจมอยู่กับอดีตที่ไม่ได้ทำให้ผมมีความสุขทำไมกัน“คิดอะไรอยู่ครับ”
พี่ฟรีนนั่งลงที่โซฟาข้างๆผม
“แซมคิดถึงตอนที่เราเจอกันครั้งแรกอยู่ ทำไมวันนั้นพี่ฟรีนถึงได้สนใจแซมอะ”
ผมนอนลงบนตักพี่ฟรีน พี่ฟรีนก็เอามือมาลูบหัวผมเบาๆ เพลินดีครับ ผมชอบให้พี่ฟรีนทำแบบนี้
“คงเพราะแซมหน้าตาดีด้วยล่ะมั้งพี่ถึงได้สะดุดตา และอีกอย่างใครจะไม่สนใจเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่เอาแต่กระดกเหล้าและร้องไห้ลั่นร้าน ใครไม่มองแซมก็บ้าแล้ว”
“โห แซมร้องไห้ดังขนาดนั้นเลยหรอ ตอนนั้นแซมคงจะเมามากเลยไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง”
“แล้วเรื่องบนเตียงแซมจำได้ไหมครับ เพราะถ้าแซมจำไม่ได้ พี่จะได้เตือนความจำให้”
พี่ฟรีนก้มหน้ามาใกล้ผมแล้วทำหน้าหื่นใส่ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนผมก็ยังคงเขินกับหน้าตาแบบนี้ของพี่ฟรีนอยู่
“ไม่ต้องเลย แซมจำได้อยู่แล้ว ก็พี่ฟรีนเล่นเตือนความจำแซมทุกอาทิตย์ จำไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว”
ผมบอกแต่ไม่ยอมมองหน้าพี่ฟรีนเอาแต่หมุดหน้ากับตักพี่ฟรีนอย่างเดียว
“แต่พี่อยากทำให้แซมจำเรื่องวันนั้นได้ชัดเจนขึ้น เรามาทวนความจำกันอีกครั้งนะครับ”
ยังไม่รอให้ผมตอบพี่ฟรีนก็อุ้มผมเข้าไปในห้อง และเหตุการณ์ต่อจากนั้นจะเป็นยังไง ก็ลองย้อนกลับไปอ่านต้นเรื่องกันนะครับ
มาไวไปไว
แปบเสร็จปุ๊บลงปั๊บ
หวังว่าจะถูกใจกันน้า ติชมกันเต็มที่เลยจ้า เรารออ่านความคิดเห็นอยู่