โรงพยาบาลทุกที่ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ รัฐบาลหรือเอกชนต่างมีคนตาย ส่วนเรื่องของวิญญาณนั้น....เป็นวิจารณญาณของแต่ละบุคคล เราเองเรียนสายวิทย์สุขภาพมา ดังนั้นอาจจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ 100% แต่ถามว่ากลัวไหม? กลัวมาก เพราะเรากลัว เราเลยต้องหาเหตุผลประกอบสิ่งต่างๆ ที่พบเจอหรือได้ยินเพื่อข่มความกลัวเอาไว้
userไหนโชว์ข้อความนี้แจ้ง admin แบนเลยเวปไวรัสแน่นอนว่าเราจะต้องเจอสิ่งเร้นลับอย่างหนีไม่พ้นตั้งแต่สมัยเรียนและเราต้องหาหลักฐานและเหตุผลประกอบ จนจบมาทำงานที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งได้ประมาณ 2 ปี รพ.เรารับเคสฉุกเฉินนอกเวลามากขึ้น และแพทย์ไม่เกี่ยงเคสจะหนักจะเบาเรารับหมด เพราะเราต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่บางครั้งเราก็อาจจะมีขี้เกียจบางเป็นธรรมดาเพราะอาจโดยเรียกช่วงดึกซึ่งเป็นเวลานอน แต่นั้นมันคืองานและอาชีพของเรา แน่นอนบางเคสอาการหนักมาก คือประเมินเบื้องต้นแล้วว่าไม่รอด แต่เราต้องทำสุดความสามารถให้คนไข้กลับมา บางคนรอดบางคนตาย นั้นคือสัจจธรรมของชีวิต แต่เรื่องประหลาดทำไมถึงเกิดช่วง 4-5 เดือนนี้ละ เราก็ไม่เข้าใจ ครั้งแรกที่เราได้ยินเรื่องเร้นลับคือ ผู้ช่วยพยาบาลเวรเช้ามีหน้าที่เชคอุณหภูมิและความพร้อมของห้องเพื่อรับคนไข้มาทำหัตถการ นางมีชื่อว่า "มายด์" วันนั้นนางเล่าว่านางเป็นเวรเช้าได้เข้าไปเตรียมห้องและเทน้ำจากเครื่องดูดความชื้นในห้องล้างเครื่องมือซึ่งอยู่ด้านหลังห้องหัตถการ และมีประตูบานเลื่อนโดยมีช่องกระจกใสเล็กๆ ที่สามารมองเข้าไปในห้องหัตถการได้ ด้วยความที่ว่าห้องหัตถการไม่ได้เปิดไฟนางเห็นเป็นเงาดำอยู่ในห้องหัตถการผ่านช่องกระจกเล็กๆ แต่นางไม่คิดอะไรและกลัวว่าจะมีคนมาขโมยของในห้องหรือช่างมาเชคอุปกรณ์แล้วไม่บอกมากกว่า นางจึงเปิดประตูเข้าไปและตะโกนว่าว่า"นั้นใคร" แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ และประตูบานเลื่อนใหญ่ที่นำคนไข้เข้าห้องก็ไม่ได้เปิดออก แล้วเงาดำนั้นหายไปไหน ที่นางเห็นนั้นมันคืออะไร ในขณะนั้นนางคิดว่านางตาฝาดแน่ แต่ใจนั้นกับบอกและชี้ชัดว่าเป็นสิ่งอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน
ทางเข้าuserไหนโชว์ข้อความนี้แจ้ง admin แบนเลยเวปไวรัส ในเวลาไม่นานประมาณ 2-3 วัน ผู้ช่วยพยาบาลอีกคนเวรเช้าชื่อ "ฟ้า" ได้เข้าไปเตรียมของและเทน้ำ ในระหว่างนั้นนางเข้าห้องน้ำที่ห้องเปลี่ยนชุดหญิงจะถ่ายหนักถ่ายเบาอะไรก็แล้วแต่ นางได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดิน ซึ่งบอกก่อนว่าการที่คนภายนอกจะเข้ามาภายในแผนกได้ต้องเปลี่ยนเป็นรองเท้าสะอาดและใส่เสื้อคลุม ซึ่งมีโซนเปลี่ยนแค่ห้องเปลี่ยนชุดเท่านั้น โดยเป็นเสียงรองเท้าแตะกระทบกับพื้นดัง "แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ" ตามจังหวะการเดินของเท้า เข้าไปในห้องหัตถการและเสียงนั้นก็เดินวนเวียนอยู่อย่างนั้น เนื่องด้วยนางได้ฟังเรื่องเล่าจากมายด์ไป นางไม่แม้แต่จะทักได้แต่นั่งเงียบๆ ฟังเสียงรองเท้าแตะกระทบกับพื้นต่อไป จนเสียงนั้นเดินออกมาจากห้องหัตถการ นางจึงโล่งอกว่าคงไปแล้ว แต่เปล่าเลยเสียงนั้นตรงเข้ามาห้องเปลี่ยนชุดแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าห้องน้ำที่ฟ้าเข้า ไร้ซึ่งเสียงใดๆ เงียบมาก เงียบจนนางตัวสั่น จะกรี๊ดก็กลัว จะวิ่งหนีพรวดออกไปก็กลัว ได้แต่ภาวนาขอให้ได้ยินเสียงฝีเท้านั้นเดินจากไปทางอื่น การเงียบกินเวลาอยู่ชั่วครู่ประมาณ 2 นาที แต่เป็น 2 นาที ที่เหมือน 2 ชั่วโมงสำหรับฟ้า จนเสียงฝีเท้านั้นได้เดิน "แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ" กลับไปห้องหัตถการ ฟ้าไม่รอช้านางรีบวิ่งออกจากห้องเปลี่ยนชุดทางประตูข้างห้องอย่างทันใดนั้น และออกไปนั่งสงบสติด้านนอก จนเราและพี่ๆ มาเข้าเวรเพื่อเตรียมคนไข้ ฟ้าเล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟัง แรกๆ พวกเราก็ไม่เชื่อหรอก บอกว่าตาฝาดเหมือนไอ้มายด์หรือป่าว เราทุกคนต่างเคลือบแคลงใจ ยกเว้นมายด์ที่มีแววตาหวาดกลัวมากแล้วเหมือนจะเข้าใจฟ้าทุกอย่าง พวกเรากลัวน้องเสียขวัญจึงโทรไปถามช่างและแม่บ้านว่าได้มาทำความสะอาดหรือเชคอุปกรณ์หรือไม่ แต่กลายเป็นว่าเมื่อเช้ายังไม่มีใครเข้ามาทำความสะอาดหรือเชคอุปกรณ์เลย..... นี่คือการแกล้งกันหรือสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่ เดี๋ยวเรามาเล่าต่อ
สมัครuserไหนโชว์ข้อความนี้แจ้ง admin แบนเลยเวปไวรัส