[เรื่องสั้น] Angelic Lover : One Night Only (ตอนเดียวจบ) (8/1/2560) (--จบแล้ว--)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Angelic Lover : One Night Only (ตอนเดียวจบ) (8/1/2560) (--จบแล้ว--)  (อ่าน 1667 ครั้ง)

ออฟไลน์ virgindevil

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 23:58:21 โดย virgindevil »

ออฟไลน์ virgindevil

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Title : Angelic Lover : One Night Only
Author : virgindevil
Rate : PG-13
Type : Romantic Comedy
Talk : เรื่องของเรื่องเกิดจากความประทับใจในวัยเด็กกับหนังเรื่องหนึ่ง และเป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกที่โพสต์ที่นี่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ^^



ปล...ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ...


***************************************

== Angelic Lover : One Night Only  ==



(((ร้องขอสิร้องขอ)))


(((ถ้าเธอขอแล้วฉันจะให้)))


(((เพียงแค่ร่ำร้องออกมาจากหัวใจ)))


(((ทุกสิ่งจะเป็นไปตามเธอปรารถนา)))


...
...
...


...พระเจ้าครับ...


...ตอนนี้ผมกำลังมีความรัก...


...หลังจากวินาทีแรกที่ผมได้พบคนๆนั้น...ผมก็รู้ตัวว่า..


...ชั่วชีวิตนี้...ผมรักใครไม่ได้อีกแล้ว...


...แต่เรื่องระหว่างเรามันคงเป็นไปไม่ได้สินะ...


...ได้โปรดเถอะครับ...อย่าทรมานผมไปมากกว่านี้เลย...


...ถ้าพระองค์เมตตาผมจริง...ก็ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นทีนะครับ...


...อย่างน้อย...ก็เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับผมในปีนี้...


...แค่วันเดียวก็ยังดีนะครับ...


...ชยาวุธ...คนน่าสงสาร...TT^TT



...
...
...


กระดาษจดหมายสีฟ้าอ่อนลายปลาโลมาถูกเขียนขึ้นด้วยลายมือหวัดๆ ก่อนที่เจ้าของลายมือนั้นจะพับมันแล้วยัดใส่ซองสีเดียวกันและเก็บเข้ากระเป๋าสะพายใบเก่งอย่างระมัดระวัง ร่างสูงพรูลมหายใจออกมาจนหมดปอดพลางเงยหน้ามองท้องฟ้ายามราตรีที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวผ่านกระจกใสบานใหญ่ของร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์หรูในย่านไฮโซใจกลางกรุงเทพฯ ณ ช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่คงอยู่ในห้วงนิทราอันเป็นสุข ทว่าสำหรับเขาแล้วดูราวกับว่าค่ำคืนนี้ยังคงดำเนินไปอีกยาวไกลเหลือเกิน...

...น่าแปลก ที่ใจกลางกรุงเทพฯในค่ำคืนนี้ กลับมีดาวเต็มท้องฟ้า...


ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดพอดีตัวสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาดๆสีเข้ม ใบหน้าขาวจัดหล่อเหลาอย่างร้ายกาจรับกับผมหยักศกยาวระต้นคอสีดำสนิทที่ถูกมัดไว้อย่างลวกๆ ริมฝีปากหยักได้รูปเม้มแน่นคล้ายตกอยู่ในห้วงภวังค์ ร่างสูงยืนเท้าเอวมองหุ่นโชว์ที่เพิ่งถูกนำมาตั้งในร้านเป็นวันแรกด้วยแววตาเหม่อลอย ดวงตาคมสีเปลือกไม้มองลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำผึ้งไร้แววที่ประดับบนใบหน้าน่ารักไม่ต่างจากเทวดาองค์น้อยตรงหน้าก่อนจะเลื่อนสายตาสำรวจรูปจำลองมนุษย์ที่เพิ่งส่งมาจากโรงงาน รูปร่างโปร่งบางเต็มเปี่ยมไปด้วยกล้ามเนื้อสมส่วนในแบบของเด็กหนุ่ม ทว่ากลับดูสะโอดสะอง ผิวกายที่ช่างบรรจงเสกสรรปั้นแต่งให้ขาวอมชมพูเรื่อๆยามต้องแสงจันทร์ที่สาดส่องมาจากภายนอกดูราวกับมีชีวิต...เขานั่งมองเจ้าหุ่นตัวนี้มานานแค่ไหนไม่รู้ได้...สิ่งที่รู้มีเพียงความรู้สึกประหลาดที่ไหลบ่าจนเอ่อล้นหัวใจ...


“ใครหนอช่างทำได้...ทำไมต้องปั้นให้หุ่นโชว์เสื้อผ้าผู้ชาย...น่ารักขนาดนี้ด้วย?”


“นี่นาย...ฉันชื่อวุธ...ชยาวุธ...มาเป็นแฟนกันเถอะนะ” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยขึ้นเบาๆกับสิ่งไร้ชีวิตตรงหน้า


“จะเรียกว่าอะไรดีนะ...อืมมม...เด็กหนุ่ม...น่ารัก...ชื่อกานต์แล้วกันดีไหม?” แต่แล้วในที่สุดชายหนุ่มก็กลับต้องหัวเราะเยาะกับความแสนคิดพิเรนของตัวเอง


‘หึ...เป็นแฟนกับหุ่นโชว์เสื้อผ้าแถมยังไปตั้งชื่อให้อีก...ชยาวุธเอ๊ยยยย!...แกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ’


...ทำงานหนักจนเพ้อเจ้อ....หรือไม่ก็เหงาจนเพี้ยน...


...แน่ๆเลยกู...


เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่อยู่ความคิดเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี ร่างสูงก็สะบัดหัวตัวเองเพื่อให้ความคิดประหลาดนั้นกระเด็นออกไปพลางหันกลับไปสนใจการจัดดิสเพลย์หน้าร้านที่ยังคงเหลืออยู่อีกเล็กน้อยจนเสร็จ จากนั้นจึงหยิบเสื้อผ้าคอเลคชั่นใหม่ที่เตรียมไว้มาสวมให้หุ่นโชว์แสนน่ารักที่ถูกจัดท่าให้นั่งยิ้มหวานอยู่บนเก้าอี้ทรงสูงกลางตู้ ก่อนจะถอยหลังไปอีกสองสามก้าวเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยโดยรวมเป็นครั้งสุดท้าย...


“กานต์...นายนี่เข้ากับบรรยากาศของความสดใสจริงๆเลยนะ...รู้ไหม?...ว่ารอยยิ้มแบบนี้มันทำให้คืนนี้สว่างไสวจนฉันแสบตาไปหมดแล้ว” ชยาวุธเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ริมฝีปากหยักประดับรอยยิ้มถูกใจกับผลงานของตัวเองก่อนจะปิดไฟตู้โชว์หน้าร้านและล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา


ร่างสูงก้าวเอื่อยๆออกมาตามทางเล็กๆสู่ถนนด้านนอกของร้านพลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือทรงสปอร์ต แต่แล้วดวงตาคมกลับต้องเบิกโพลงเมื่อเห็นตัวเลขบนหน้าปัดที่บ่งชี้ว่าเป็นเวลาเกือบจะตีสามเข้าไปแล้ว


“จะบ้าตาย...ดึกขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?” ชายหนุ่มสบถกับตัวเองด้วยความตกใจที่เผลอทำงานจนลืมเวลาขนาดนี้ ขืนพรุ่งนี้มาทำงานสายมีหวังโดนเจ้านายบ่นหูชาอีกแน่ๆ...เขาจึงตัดสินใจเร่งฝีเท้าจากเดินเป็นวิ่งเพื่อให้ถึงที่พักโดยเร็วที่สุด...อย่างน้อย...มีเวลานอนเพิ่มขึ้นอีกสัก 5-10 นาทีก็ยังดีล่ะว้า...


ณ ความเงียบสนิทที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง บนท้องถนนอันมืดมิด ในยามค่ำคืนที่ปราศจากแสงไฟ คงเหลือเพียงแสงจันทร์สีเหลืองนวลของคืนเดือนเพ็ญที่สาดส่อง ภายในตู้โชว์กระจกใสหน้าร้านเสื้อผ้าแห่งนั้น ดวงตากลมสีน้ำผึ้งไร้แววค่อยๆเกิดประกายประหลาดวูบขึ้นมาก่อนจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว...


“...ชยาวุธ...เราเป็นแฟนกันแล้วนะ...”


(((ร้องขอสิร้องขอ)))


(((ถ้าเธอขอแล้วฉันจะให้)))


(((เพียงแค่ร่ำร้องออกมาจากหัวใจ)))


(((ทุกสิ่งจะเป็นไปตามเธอปรารถนา)))



...


...


...


Rrrrrr Rrrrrr


Rrrrrr Rrrrrr


Rrrrrr Rrrrrr



เสียงโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียงแผดลั่นต้อนรับสนธยาที่มาเยือน แม้ว่าดีกรีความดังของมันจะรุนแรงพอให้หลายๆคนตกใจจนสะดุ้งตื่น ทว่ากลับไม่ระคายหูร่างสูงที่ยังคงหลับสนิทอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาเลยแม้แต่น้อย ปฏิกิริยาตอบรับสิ่งน่ารำคาญนั้นกลับมีเพียงแค่พลิกกายหนีไปอีกฝั่งของเตียงเท่านั้น


ทว่าเมื่อความพยายามดิ้นรนกลับไม่ได้ช่วยให้ต้นเสียงชวนปวดประสาทนั้นเบาบางลง ตรงกันข้าม คราวนี้ทั้งโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน...หรือแม้แต่นาฬิกาปลุก ต่างพร้อมใจกันดังประชันเสียงแสบแก้วหู ร่างสูงจึงจำใจต้องงัวเงียขึ้นรับสายในที่สุด...


“ฮัลโหล...ตอนนี้ไอ้วุธ ตายไปแล้วครับ...กรุณาฝากข้อความไว้...ถ้ามันฟื้นขึ้นมาจะโทรกลับ” ชยาวุธตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงงัวเงียสุดชีวิต ไม่สนใจแล้วว่าคนที่โทรมาคือใคร...แต่การรบกวนคนนอนหลับถือเป็นบาปอันใหญ่หลวง...


“เออ...ฝากบอกมันด้วยว่าให้มาที่ร้านเดี๋ยวนี้เลย...ถ้าภายใน 15 นาทีนี้ยังมาไม่ถึง...มันได้ตายจริงๆแน่!!!” เสียงหวานหูจากปลายสายกราดเกรี้ยวอย่างน่ากลัวกระชากร่างสูงขึ้นจากที่นอนทันทีก่อนจะหันหน้าตาลีตาเหลือกไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียง...


“เฮ้ย! ฉิบหาย!!!...ห้าโมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย...หลับข้ามวันข้ามคืนขนาดนี้ได้ไงวะ...” ขายาวดีดพรวดขึ้นจากเตียง หายงัวเงียเป็นปลิดทิ้งพร้อมทั้งพาร่างของตัวเองวิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว...


ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที ชยาวุธก็วิ่งหัวฟูมาถึงร้านก่อนจะทิ้งกายลงบนโซฟารับแขก สูดอากาศเข้าปอดเร็วๆไม่ต่างจากหมาหอบแดด ใบหน้าหล่อเหลาชุ่มเหงื่อจนผมหยักศกยาวระต้นคอเปียกลู่ดูกระเซอะกระเซิง


“มีอะไรเจ๊...ถึงได้โทรตามแต่ไก่โห่แบบนี้...รู้รึเปล่าว่าเมื่อคืนกว่าผมจะออกจากร้านน่ะมันกี่โมงกัน” เสียงทุ้มบ่นไปหอบไป มือใหญ่รวบผมที่กระเซอะกระเซิงเป็นหางม้าอย่างลวกๆ ก่อนจะเงยหน้าสบตาหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของร้าน...


“ไก่บ้านบิดาแกโห่ตอนนี้รึไง!...นี่มันห้าโมงนะยะ...ห้าโมงเย็น!...ฉันรู้ว่าแกกลับดึกมาก...แล้วก็ขอลางานในวันนี้ไว้แล้ว...แต่หน้าร้านนั่นมันอะไรกัน...หุ่นโชว์ตัวใหม่ของฉันทำไมถึงมีสภาพแบบนี้ยะ” เมธินี หรือเจ๊เมย์ หญิงสาวญาติผู้พี่ของชยาวุธบ่นลั่นร้านพลางวาดนิ้วเรียวสั่นระริกด้วยความโกรธชี้ไปยังต้นตอของปัญหาที่ด้านหน้าร้าน รั้งให้ดวงตาคมเหลือบมองตาม...


ทว่าเมื่อเห็นสภาพภายในตู้โชว์ที่เขามั่นใจว่าได้จัดตกแต่งไว้แล้วอย่างดีเมื่อคืนที่ผ่านมา บัดนี้กลับอยู่ในสภาพไม่ต่างจากสมรภูมิรบ ของตกแต่งกระจัดกระจายราวกับถูกพายุไซโคลนถล่ม ไม่เว้นแม้แต่หุ่นโชว์แสนน่ารักที่ในเวลานี้อยู่ในสภาพมอมแมมเหมือนไปมุดท่อมาอย่างนั้นแหละ...


“เป็นไปไม่ได้...เมื่อคืนมันยังดีๆอยู่เลย...แล้วตอนนี้ทำไมเป็นงี้อ่ะเจ๊...ขโมย...ต้องมีขโมยขึ้นร้านแน่ๆเลย” ชยาวุธฟันธง เพราะเขามั่นใจว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ...ที่สำคัญ...ไอเดียสุดเริ่ดของเขา...ทำไมชั่วข้ามคืนมันถึงเละไม่มีชิ้นดีได้ขนาดนี้เนี่ยยยยยยยย


มือใหญ่ขยุ้มผมบนศีรษะตัวเองที่เพิ่งจะรวบเอาไว้จนยุ่งฟูอย่างขัดใจเมื่อผลงานชิ้นโบว์แดงที่เขาบรรจงรังสรรค์มันขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อคืนนี้กลับตกอยู่ในสภาพที่แม้แต่ตัวเองยังรับไม่ได้ จนแทบอยากจะกรีดร้องออกมาเป็นภาษาต่างดาวให้มันรู้แล้วรู้รอดไป…


“งั้นแปลว่าแกลืมล็อคกุญแจใช่ไหม?” หญิงสาวที่เปรียบเสมือนพี่สาวแท้ๆของชายหนุ่มลุกขึ้นเท้าเอวถลึงตาใส่ แม้หลายๆคนจะมองว่า เมธินี ทั้งเก่ง อัธยาศัยดี ที่สำคัญงดงามเหมือนนางฟ้า...แต่สำหรับชยาวุธแล้ว...อีเจ๊คนนี้แม่มดชัดๆ...


“อะไรไม่ได้ล็อค...กับมือเลยครับกับมือ ขอบอกกกก...เจ๊อย่ามา!!!” ร่างสูงเถียงคอเป็นเอ็น เขามั่นใจว่าไม่มีทางพลาดแน่ๆเรื่องล็อคร้าน เพราะทุกคืนที่อยู่ทำงานล่วงเวลาจนดึก ชยาวุธมักจะตรวจตราความเรียบร้อยเป็นอย่างดีเสมอก่อนจะออกจากร้าน…


“ผี…ผีหลอกแน่ๆเลยเจ๊” เสียงทุ้มหวานหูหาข้อสรุปออกมาเสร็จสรรพ รั้งให้ใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวข้างกายตวัดกลับมามองอย่างอึ้งๆ


“โอ้โห!!!...ฉันเปิดร้านวันนี้ตามกำหนดไม่ได้ เสียหายเท่าไหร่รู้มั้ย...แกรับผิดชอบไหวเรอะ!!!...ง่ายดีนี่…หาเหตุผลไม่ได้ก็สรุปเอาว่าผีหลอก…ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงฉันขอให้คืนนี้แกโดนผีหลอกจนถึงเช้าเลยละกัน…เพราะแกต้องอยู่ซ่อมงานให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ขึ้นพรุ่งนี้…รู้ไว้ซะด้วยไอ้วุธ!” คำตัดสินประกาศิตทำเอาชยาวุธทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มอย่างหมดแรง งานตกแต่งหน้าร้านที่เขาใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์เต็มๆกว่าจะออกมาเรียบร้อยกลับต้องถูกรวบยอดทำให้เสร็จภายในวันเดียว แบบนี้ไม่ตายก็บ้าแล้ว


“แต่วันนี้วันเกิดผมนะเจ๊…จะใจร้ายให้ผมทำงานงกๆ แทนที่จะไปฉลองกับแฟนเหรอคร้าบบบบบ” ร่างสูงเอามือประสานกันที่กลางอกพลางกระพริบตาปริบๆออดอ้อนอย่างที่ตัวเองคิดว่า(คงจะ)ดูน่ารักที่สุดในโลกแล้ว...หวังใจว่าพี่สาวคนสวยแสนใจดี(?)จะอนุโลมให้เขาพอมีเวลาฉลองวันเกิดแบบโฮมอโลนเหงาๆให้กับตัวเองบ้าง...


“อย่ามาตอแหล! แกมีแฟนที่ไหนกันหา...ไอ้วุธ!  แหมๆๆ...จะไปฉลองกับแฟน หาเรื่องอู้งานเหรอยะ! เดี๋ยวแม่กัดหูขาด ไม่รู้ล่ะ! งานไม่เสร็จไม่ต้องไปไหนเลย นอนมันที่ร้านนี่แหละ!” เมธินีออกคำสั่งเด็ดขาด นิ้วเรียวยาวผ่านการตกแต่งอย่างดีกรีดปลายเล็บสีแดงสดชี้ใบหน้าหล่อเหลาของญาติผู้น้องที่มีศักดิ์เป็นลูกจ้าง...(หรือว่าทาส)...ที่นั่งตีหน้าสลดหดหู่เหมือนหมาหงอย แต่แล้วริมฝีปากสวยสีสดก็ค่อยๆแย้มรอยยิ้มหวานหยดเสียจนคนเห็นขนลุกวาบๆด้วยความหวาดกลัว หญิงสาวค่อยๆเคลื่อนกายเข้าหาร่างสูงที่เขยิบถอยห่างออกไปเรื่อยๆอย่างรู้ทัน


“แล้วอย่าให้ฉันรู้นะว่าแกหนีงาน...ไม่งั้น...ฉันจะวางยานอนหลับแก...แล้วเจี๋ยนคิกคาปู้แกซะ...เข้าใจมั้ยไอ้คุณชยาวุธ!!!” นายจ้างสาวตะคอกเสียงลั่นก่อนจะเดินสะบัดก้นออกจากร้านโดยแสร้งทำเป็นหงุดหงิด...


หึหึหึ ดีซะอีก วันนี้ไม่ต้องเปิดร้าน จะได้หนีไปเดทกับแฟน วุธ...แกรับกรรมไปคนเดียวแล้วกันนะจ๊ะไอ้น้องรัก...


...
...
...


“โว้ยยยยยย...ยัยแม่มดหนังเหี่ยว...ร้ายกาจนักนะ...ฮือออออ...แล้วนี่มันอะไรกันวะ...ตั้งใจทำงานแทบตาย...เวรตะไลที่ไหนทำพังขนาดนี้เนี่ย...อย่าให้รู้นะ...แม่งงงง...พ่อจะจับมาแล้วเอาไอติมยัดปากให้แข็งตายกันไปข้างนึงเลย...โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ชยาวุธทั่งสบถ ทั้งบ่น ทั้งด่าอย่างหัวเสียในขณะที่เดินตรงไปยังตู้โชว์ต้นเหตุแล้วมองซากที่เคยเป็นดิสเพลย์อันสวยงามอย่างหมดแรง...


ชายหนุ่มเดินไปรูดผ้าม่านปิดกระจกส่วนที่เปิดโล่งไว้สำหรับให้ผู้คนผ่านไปผ่านมาชื่นชมกับภาพความสวยงามของสิ่งที่ตกแต่งไว้ภายในด้วยความเซ็งสุดชีวิตจนสภาพตู้โชว์ขนาดใหญ่กลายเป็นเพียงห้องทึบๆห้องหนึ่ง ก่อนจะกลับมาจัดการเก็บกวาดความระเกะระกะภายในอย่างรวดเร็ว...


ดวงตาคมเหลือบไปมองหุ่นโชว์แสนน่ารักที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนพื้น และค่อยๆช้อนร่างนั้นขึ้นมาอย่างทะนุถนอม มือใหญ่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงของตัวเองขึ้นมาบรรจงเช็ดรอยเปื้อนบนใบหน้าน่ารักสดใสอย่างเบามือ ดูเหมือนว่าเขาจะเสียเวลากับการทำความสะอาดเจ้าหุ่นโชว์ร่างเล็กนี้นานพอดู จนกระทั่งเป็นที่พอใจ ชายหนุ่มจึงจัดวางท่าทางของหุ่นโชว์ที่เขาตั้งชื่อไว้ว่ากานต์ในท่าทางที่ออกแบบไว้เมื่อคืนนี้


“กานต์...นายเลอะเทอะหมดเลยเห็นไหม?...เมื่อคืนนี้คงไม่ใช่ฝีมือนายหรอกเนอะ...เพราะถ้าทำจริงๆ...ฉันจะจับมาตีก้นให้ร้องไม่ออกไปเลย” ชายหนุ่มบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวขณะที่ในสมองก็หัวเราะเยาะความคิดพิเรนๆของตัวเองอีกครั้ง...แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมหนอ...เวลาอยู่ต่อหน้าเจ้าหุ่นกานต์...เขาถึงไม่คิดว่าเด็กคนนี้คือหุ่นโชว์เสื้อผ้าเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กลับเชื่ออยู่ลึกๆว่าวัตถุไร้ชีวิตร่างเล็กนี้เหมือนกับจะเข้าใจสิ่งที่เขาพูดอย่างนั้นแหละ...


...ก็นายยิ้มตอบฉันตลอดเลยนี่นา...กานต์...


‘วุธธธธธ~...จะตีก้นผมจริงเหรออออออ’


เสียงแหบๆทว่าฟังดูหวานหูลอยมาแผ่วเบาในจังหวะที่ร่างสูงหันหลังให้กานต์เพื่อจัดของตกแต่งให้อยู่ในตำแหน่งเดิมที่เขาได้จัดวางไว้เมื่อคืนนี้ ความรู้สึกเย็นวาบประหลาดรินรดอยู่ที่ต้นคอแกร่งจนทำให้เสียวสันหลังวาบพร้อมทั้งอาการขนลุกไปทั่วตัว นี่ถ้าไม่เพราะรวบผมไว้อย่างดีแล้ว เขามั่นใจได้เลยว่าขนหัวก็คงต้องลุกตั้งอย่างไม่ต้องสงสัย...


...ไม่รู้รึไง...ว่า ชยาวุธ...กลัวผีที่สุดในโลกกกกกกกก...>[]<...


ดวงตาคมค่อยๆเหลือบมองไปด้านหลังอย่างกล้าๆกลัวๆ ในใจก็หวาดหวั่นว่าหากสิ่งที่เห็น...เป็นแบบเดียวกับที่คิดอยู่...เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร...ไม่ช็อกตาตั้งชักกระแด่วอยู่กับพื้นไม่ต้องเรียกชยาวุธเลยเหอะ...


...ทว่า...สิ่งที่พบ...กลับมีเพียงแค่ความว่างเปล่า...กับกานต์...ที่ยังคงนั่งยิ้มหวานอยู่เช่นเดิม...


“โถ่เอ๊ยยยย!...หูแว่ว...พระอาทิตย์ยังไม่ตกเลยแท้ๆ...จะมีผีได้ไงวะ” เสียงทุ้มพึมพำเบาๆปลอบใจตัวเองไปตามเรื่องตามราว ร่างสูงสะบัดหัวแรงๆเพื่อไล่ความคิดน่าหวาดเสียวออกจากสมองแล้วหันกลับไปขะมักเขม้นกับงานตรงหน้าต่อ ยังดีที่ภาพดิสเพลย์ทั้งหมดอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึงมั่นใจว่าหากลุยเต็มที่...งานทั้งหมดคนเสร็จเรียบร้อยภายในคืนนี้แน่นอน...


...
...
...


(((ร้องขอสิร้องขอ)))


(((ถ้าเธอขอแล้วฉันจะให้)))


(((เพียงแค่ร่ำร้องออกมาจากหัวใจ)))


(((ทุกสิ่งจะเป็นไปตามเธอปรารถนา)))



เสียงเพลงท่วงทำนองหวานหูลอยมาแผ่วเบา เนื้อความในเพลงนั้นถูกร้องซ้ำไปซ้ำมาคล้ายกับว่ากำลังเห่กล่อมฉุดรั้งให้ผู้ที่ได้ยินตกอยู่ในภวังค์ ดวงตาสีเปลือกไม้เหม่อมองลึกลงไปในดวงตาสีหวานไร้แววตรงหน้าที่ค่อยๆเกิดประกายแสงสีทองประหลาดไหววูบเป็นจุดเล็กๆอยู่ภายใน...เงียบงัน...ปราศจากสุ้มเสียงใด มากไปกว่าเสียงครางแผ่วเบาของเครื่องปรับอากาศ...


...และ...


...เสียงหายใจของคนสองคน...


...เอ๊ะ!...


...คนสองคน...


“วุธ”


“ชยาวุธ...”


“เรียกผมมาเหรอ?”


“คุณขอใช่ไหม?”


“วุธ”


เขาไม่รู้สึกตัวเลยว่าเดินเข้าหาร่างเล็กนั่นได้อย่างไร กว่าจะรู้ตัวอีกทีใบหน้ากลมๆแสนน่ารักนั่นก็ลอยเด่นอยู่เบื้องหน้า ดวงตากลมสวยสีน้ำผึ้งเป็นประกายงดงามท่ามกลางยามค่ำคืน...พระอาทิตย์ตกแล้ว...เวลานี้ล่วงเลยเข้าสู่ยามราตรี...


...ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลอง...เหงาๆ...เพียงคนเดียว...


...คนเดียวงั้นรึ????...


ดวงตากลมโตค่อยๆหรี่เล็กลงพร้อมกับริมฝีปากสีสวยที่น่าจะเงางามเพราะแล็กเกอร์ค่อยๆแย้มยิ้มสดใส มือเล็กที่น่าจะแห้งแข็งเพราะถูกหล่อขึ้นจากเรซิ่นยกขึ้นลูบผิวแก้มขาวจัดแผ่วเบา...


...สัมผัสนั้นที่เขารู้สึก...มันช่างนุ่มนวล...หอมหวาน...เกินกว่าจะหาถ้อยคำใดมาอธิบาย...


กลิ่นหอมอ่อนๆที่แม้แต่ตัวเองยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามันคืออะไร โชยมาแผ่วเบาแต่ปลายจมูกจนเผลอสูดเข้าปอดแรงๆ ทว่ากลับแผ่นซ่านไปทั่วหัวใจ กลิ่นที่สดใสดุจรุ่งอรุณในยามเช้า ไร้เดียงสาและสดชื่นเหมือนหยาดน้ำค้างแรกในต้นฤดูหนาว ความสุขที่ไม่เคยคิดว่าจะพานพบค่อยๆไหลบ่าเข้าครอบคลุมไปทุกอณูความรู้สึก...


“สุขสันต์วันเกิดนะ...ชยาวุธ”


เชี่ยแล้ว...ผี...ผีหลอกแน่ๆ...แล้วทำไมกูไม่ช็อกตายวะเนี่ย!!!!!!!!


“ผมเป็นของขวัญวันเกิดของคุณ...คืนนี้...คืนเดียวเท่านั้น”


...ไอ้เชี่ยวุธ...แหกปากดิวะ...มึงโดนผีหลอกอยู่นะเว้ยยยยยยยย!!!!!!!... เสียงโวยวายดังลั่นอยู่ในหัวของชายหนุ่ม


ริมฝีปากสวยที่น่าจะเย็นชืดประทับแผ่วเบาที่ข้างแก้มสาก...คล้ายจะปลุกให้ตื่นจากภวังค์อันลุ่มลึก...แต่ดูเหมือนกลับทำให้เขาดำดิ่ง...ทำไมช่างอบอุ่น และนุ่มนวลเหลือเกิน...


...พระเจ้าครับ...


...ได้โปรด...


...หยุดลมหายใจผมที...


“ผะ...ผี...ผีหลอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ร่างสูงกระเด้งพรวดออกห่างจากร่างตรงหน้าราวกับต้องของร้อน นิ้วยาวชี้ไปยังตัวต้นตอที่ยังคงยืนกอดอกตาแป๋วเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว หากแต่แววตาวับวาวนั้นดูเหมือนจะขุ่นเคืองอยู่ไม่น้อยที่ถูกตราหน้าว่าเป็นผี...

“ผมไม่ใช่ผีนะ!” ริมฝีปากสวยที่เขามักจะชอบเหม่อมองยื่นยู่อย่างขัดใจ แต่ทำไมหนอ...ถึงได้ดูน่ารักจนละสายตาไม่ได้เลย...


ชยาวุธทำอะไรไม่ถูก ความรู้สึกหลายอย่างตีกันยุ่งอยู่ในหัว เมื่อสมองสั่งการว่าสิ่งที่(เหมือน)จะมีชีวิตตรงหน้าต้องเป็นผีอย่างแน่นอน...แต่ร่างกายและความรู้สึกกลับไม่ตอบสนอง...ใจหนึ่งอยากจะวิ่งหนีแล้วแหกปากกรี๊ดให้เหมือนตุ๊ดโดนน้ำร้อนลวก...แต่อีกใจหนึ่งกลับปรารถนาจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ไว้...


...อย่าที่เขาเคยร้องขอ...


“มะ...ไม่ใช่ผี...แล้วนายเป็นตัวอะไรน่ะ!”


“ไม่คิดว่าผมเป็นเทวดาบ้างเหรอ?...เชอะ!” ใบหน้าหวานใสเชิดขึ้นพร้อมกับยู่ปากอย่างถือดี


...น่ารักอีกแล้ว...


“หึหึหึ...ฮ่าฮ่าฮ่า” ความจริงสถานการณ์แบบนี้มันก็น่ากลัวอยู่หรอก...แต่ว่า...แม้แต่ตัวเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมคนที่กลัวผีที่สุดในโลกอย่างชยาวุธ...เพียงแค่เด็กหนุ่มตรงหน้าทำท่าน่าเอ็นดู...กลับทำให้เขาร่าเริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ถึงขนาดนี้???


“หัวเราะอะไรของคุณน่ะ?”


“ฮ่าฮ่าฮ่า...เทวดา...ฮ่าฮ่าฮ่า”


“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ~!!!”


“ฮ่าฮ่าฮ่า...หยุด...ฮ่าฮ่า...หยุดไม่ได้”


“ฮึ่ยยยย!!!...ก็บอกว่าให้หยุดหัวเราะไง...ไอ้บ้า!!” มือเล็กทุบปั้กๆเข้าที่แผงอกแข็งแรงในแบบที่เจ้าตัวคิดว่าคงแรงที่สุดในโลกแล้ว แต่สำหรับชายหนุ่ม...ช่างเหมือนกับถูกลูกแมวตัวเล็กๆเอาขาหน้ามาวางแปะไว้เบาๆอย่างนั้นแหละ...


...วันเกิดปีที่ 23 ของเขา...คงไม่เงียบเหงาอย่างที่คิดแล้วสินะ...


“ว่าแต่...นายเป็นแบบนี้ได้ไงอ่ะ?” เมื่อหัวเราะจนเหนื่อย ชยาวุธจึงถามสิ่งที่ค้างคาใจ ความจริงแล้วเขาเรียบเรียงมันไม่ถูกมากกว่า ที่จู่ๆหุ่นโชว์เสื้อผ้าก็กลายร่างเป็นเด็กหนุ่มแสนน่ารัก...บอกตรงๆว่ากานต์ในแบบนี้...น่ารักกว่าตอนเป็นหุ่นเยอะเลย...


“ก็...คุณขอ...” เทวดาองค์น้อยกระโดดขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัวสูงพลางตั้งเข่าขึ้นพร้อมทั้งวางข้อศอกเพื่อเท้าคาง ใบหน้าน่ารักเอียงน้อยๆในขณะที่ให้คำตอบ...


...บอกว่าอย่าน่ารักไง...ไม่ได้ยินเหรอ???...


“ฉันขอ...ตอนไหน?”




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-01-2017 00:02:58 โดย virgindevil »

ออฟไลน์ virgindevil

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เทวดาหนุ่มน้อยหรี่ตามองร่างสูงตรงหน้าพลางยกมือขึ้นพร้อมกับดีดนิ้วดังเป๊าะเบาๆ กระดาษจดหมายสีฟ้าลวดลายปลาโลมาก็ปรากฏขึ้นในทันที มือบางสะบัดกระดาษแผ่นนั้นให้คลี่ออกก่อนจะเริ่มต้นอ่านเสียงดังลั่น...


“...พระเจ้าครับ...


...ตอนนี้ผมกำลังมีความรัก...


...หลังจากวินาทีแรกที่ผมได้พบคนๆนั้น...ผมก็รู้ตัวว่า..


...ชั่วชีวิตนี้...ผมรักใครไม่ได้อีกแล้ว...


...แต่เรื่องระหว่างเรามันคงเป็นไปไม่ได้สินะ...


...ได้โปรดเถอะครับ...อย่าทรมานผมไปมากกว่านี้เลย...


...ถ้าพระองค์เมตตาผมจริง...ก็ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นทีนะครับ...


...อย่างน้อย...ก็เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับผมในปีนี้...


...แค่วันเดียวก็ยังดีนะครับ...


...ช...ยา...วุธ...คนน่าสงสาร...TT^TT”


“เฮ้ยยยยยยยย!!” ร่างสูงแหกปากลั่น ไม่คิดว่าจดหมายถึงพระเจ้าที่เขาแอบเขียนแล้วเก็บไว้อย่างมิดชิดจะไปอยู่ในมือของเทวดาตัวแสบได้ ที่สำคัญเนื้อความในจดหมายฉบับนั้นที่ควรจะเป็นความลับของเขาเพียงคนเดียวกลับถูกเปิดเผยเสียไม่เหลือชิ้นดีขนาดนี้...


...จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี่ย...


“พอๆๆ...หวังว่าเรื่องที่ฉันต้องอยู่โยงจัดการความระเกะระกะแบบนี้ คงไม่ใช่เพราะฝีมือนายหรอกนะ”


“ถ้าผมไม่ทำ...วันนี้คุณจะได้เจอผมเหรอ?” อดีตหุ่นเด็กหนุ่มตอบเสียงอ้อนๆพร้อมทั้งจ้องคนถามตาแป๋ว


“แต่มันทำให้ฉันอดฉลองวันเกิด...เพราะต้องทำงานงกๆอยู่นี่ไง”


“ก็ฉลองกับผมที่นี่ไง...ไปฉลองคนเดียวไม่เหงาหรือไง”


“ถ้าไม่เหงาแล้วจะขอเหรอ?”


“ถ้างั้น...มาทำให้คืนนี้เป็นงานฉลองวันเกิดที่มีความสุขที่สุดด้วยกันเถอะนะฮะ” เสียงแหบหวานร้องบอก ใบหน้าน่ารักในยามที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มดูราวกับฉาบไล้ด้วยแสงสีทอง...สว่างไสวเสียจนแม้ท้องฟ้ากว้างใหญ่แสนมืดมนในยามราตรียังศิโรราบ


“แล้วงาน?”


แทนคำตอบเทวดาน้อยยกนิ้วขึ้นดีดเบาๆ แสงสีทองสว่างจ้าจนชยาวุธต้องหลับตาหนี เพียงเสี้ยววินาที...ภาพตู้โชว์สวยงามที่เขาเฝ้าลงมือลงแรงอย่างยากลำบากมาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆก็กลับสู่สภาพเดิม ราวกับว่าสภาพข้าวของเครื่องตกแต่งที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ร่างเล็กกอดอกเชิดหน้ายักคิ้วน้อยๆ ราวกับตัวเองเป็นผู้ชนะ...


“เทวดาเหรอ...ปิศาจสิไม่ว่า”


ริมฝีปากสวยเชิดขึ้นด้วยความหมั่นไส้ของคนปากดี เมื่อกี้ยังหาว่าเขาเป็นผีอยู่เลย ตอนนี้กลับหาว่าเป็นปิศาจอีก ไม่คิดเลยว่าผู้ชายช่างฝัน หน้าตาดีๆ ท่าทางขยันขันแข็งแบบนี้จะปากจัดเหมือนกัน...ไม่น่าเปลืองตัวมาเสียเวลาอยู่ด้วยเลย...


“ไปเดทกันเถอะนะ...” มือเรียวยกขึ้นดึงริมฝีปากล่างของชายหนุ่มแรงๆก่อนจะปล่อยให้มันดีดตัวกลับไปตามแรงปฏิกิริยาจนคนถูกแกล้งต้องยกมือขึ้นปิดปากตัวเองพร้อมทั้งส่งสายตาขัดใจไปให้...


...
...
...


บนเนินดินที่ปกคลุมไปด้วยต้นหญ้าหนาแน่นที่ริมแม่น้ำเจ้าประยาในยามค่ำคืน ท่ามกลางลมหอมหอบกลิ่นไอดินโชยมาแผ่วเบาพอให้สดชื่น มีร่างของคนสองคนทอดกายนอนอยู่เคียงข้างกัน สายตาสองคู่เหม่อมองตรงไปยังจุดหมายเดียวกัน...ดวงดาวบนท้องฟ้า...


“นายมาจากที่นั่นเหรอ?” เสียงทุ้มถามเบาๆพลางชี้นิ้วไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว


“อือ”


“แล้วทำไมถึงเป็นฉันล่ะ?”


“เพราะคุณขอไง”


“พ้นคืนนี้แล้ว...นายก็ต้องกลับไปสินะ”


“อืม”


“แล้วพวกเรา...จะได้เจอกันอีกไหม?”


“ไม่รู้สิ...ถ้ามีเหตุให้เจอ...คงเจอกัน...ล่ะมั้ง”


“แล้วถ้าไม่มีล่ะ?” ชยาวุธละสายตาจากดวงดาวแสนสวยบนท้องฟ้ากลับมามองลูกแก้วใสสีน้ำผึ้งที่ไหวระริก...หากไม่โกหกล่ะก็...ดวงตาของกานต์ในเวลานี้...น่ามองกว่าดาวบนฟ้าเป็นไหนๆ


“ก็...ไม่รู้สิ...คง...ไม่เจอมั้ง” ร่างเล็กเลื่อนศีรษะกลมไปวางลงบนบ่ากว้างของคนข้างกาย เสียงแหบหวานฟังดูสั่นไหว ทว่ามันช่างบางเบาเกินกว่าที่ใครอีกคนจะจับสังเกตได้...


คนตัวสูงสูดกลิ่นอายหอมอ่อนๆที่โชยมาจากร่างเล็กที่พาดศีรษะอยู่บนบ่าของเขา ราวกับว่าปรารถนาจะซึมซับและจดจำความรู้สึกของค่ำคืนนี้ไว้...ไม่เคยรู้เลยว่า...อะไร...ทำให้มันเกิดขึ้น...หากเวลานี้ไม่ต้องการเหตุผลใด...เขาก็อยากจะบอกว่า...วินาทีนี้...กานต์คือคนรัก...


...คนรักเพียงคนเดียว...


“ฉันมีความสุขจังเลย...นายรู้ไหม...วันเกิดปีนี้เป็นปีที่มีความสุขที่สุดแล้ว”


“ผมก็เหมือนกัน”


“กานต์...ถ้าฉันร้องขออีกครั้ง...เราจะได้เจอไหม?”


“วุธ...คุณขอแล้วไง...คืนนี้...ผมเป็นของขวัญวันเกิดของคุณนะ...อยากได้อะไรจากผมรึเปล่า?” มือเล็กกำมือใหญ่ที่พาดรอบกายไว้แน่น...ไม่มีใครเดาความคิดของเทวดาร่างเล็กได้...จะมีก็แต่เพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่จะรู้ว่า...


...ตัวเองรู้สึกอย่างไร...


“อยากให้...พรุ่งนี้...ไม่มีวันมาถึง...ขอให้...ค่ำคืนนี้เป็นนิรันดร์...มีแค่ฉันกับนาย...มีแค่เราเพียงสองคน” เสียงทุ้มพึมพำแผ่วเบาคล้ายเพียงเพื่อให้ตัวเองเท่านั้นที่ได้ยิน แต่ชายหนุ่มก็รู้ว่าเทวดาตัวน้อยในอ้อมกอดคงได้ยินคำอธิษฐานนั้นเช่นกัน


“เที่ยงคืนแล้วนะ...เลยวันเกิดคุณแล้ว...สิ่งที่คุณขอผมคงให้ไม่ได้...ผมให้คุณได้เพียงเท่านี้นะฮะ...สุขสันต์วันเกิดนะ...วุธ”


เทวดาองค์น้อยยันกายขึ้นจากอ้อมกอดอบอุ่น ดวงตาสีหวานสะท้อนแสงดาวเป็นประกายจนอีกฝ่ายเผลอมองอย่างหลงใหล ก่อนที่ใบหน้าหวานจะค่อยๆโน้มลงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากสวยจรดลงแผ่วเบาเหนือเรียวปากหยักได้รูป ค่อยๆป้อนรสชาติหอมหวานอ้อยอิ่ง เหมือนขนนกแตะสัมผัสผิวน้ำแต่เพียงบางเบา เพียงเท่านั้นก็มากเกินพอจะชักพาสติสัมปชัญญะของร่างสูงให้ดำดิ่ง


ก่อนที่ทุกอย่างจะสิ้นสุด ชยาวุธสัมผัสได้ถึงรสหวานล้ำที่ปลายลิ้นก่อนที่มันจะแผ่นซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย กานต์ช่างร้ายกาจ...ที่เลือกจะฝังร่องรอยบางอย่างไว้ให้จดจำไม่มีวันลืม...


...
...
...


...ไม่ต้องการเพียงค่ำคืนนี้...


...ฉันจะเจอนายอีกไหม...


...อยากเจอ...


...อยากเจอเหลือเกิน...


...
...
...


(((ร้องขอสิร้องขอ)))


(((ถ้าเธอขอแล้วฉันจะให้)))


(((เพียงแค่ร่ำร้องออกมาจากหัวใจ)))


(((ทุกสิ่งจะเป็นไปตามเธอปรารถนา)))



เสียงแหบหวานร้องเพลงแผ่วเบาราวกับกำลังกล่อมเด็กน้อยให้กลับเข้าสู่ห้วงนิทรา เปลือกตาของชายหนุ่มค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไปพร้อมกับสติสัมปชัญญะทั้งหมด...


...
...
...


“วุธ”


“วุธ”


“นี่!...ไอ้วุธ...ตื่นเดี๋ยวนี้นะ...มานอนอะไรตรงนี้...ฉันจะเปิดร้าน!!!”


“อืม...กานต์”


(((พลั่ก)))


“โอ๊ย!...อะไรอ่ะเจ๊...เจ็บนะเฮ้ย...ถีบมาได้เต็มตีนเลยเนี่ย!!!” ชยาวุธกระเด้งตัวขึ้นจากพื้นทันที มือใหญ่ลูบหน้าลูบตาตัวเองด้วยความงงงวย


จำได้ว่าเมื่อคืนเขานอนอยู่กับกานต์ที่ริมแม่น้ำนี่นา...แล้วจากนั้น...ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย...


“ลุกไปเลยไป...อยากนอนก็ไปนอนในห้องทำงานฉันโน่น...จะเปิดร้าน...เกะกะ...ชิ้วๆ” เสียงหวานของเมธินีตะโกนลั่นพร้อมกับหยิบเศษผ้าที่วางพาดอยู่มาปัดๆไล่อย่างไม่จริงจังนัก


เมื่อร่างสูงตื่นเต็มตาแล้วลุกขึ้นจากพื้น ก่อนที่จะออกไปจากตู้โชว์ที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ดวงตาคมเหลือบมองไปยังหุ่นโชว์ร่างเล็กที่นั่งยิ้มอยู่ตรงเก้าอี้ แต่แล้วเขาก็กลับต้องเบิกตากว้างขึ้นเมื่อหุ่นที่เขาตั้งชื่อไว้ว่า “กานต์” ไม่ได้มีหน้าตาแบบที่เคยเป็นอยู่ ใบหน้าที่แสนน่ารักแตกต่างจากหุ่นโชว์ทั่วๆไป บัดนี้กลับกลายเป็นเพียงหุ่นไร้ชีวิตแบบเดิมๆที่เขาเคยเห็น...


“เจ๊เมย์...เจ๊เปลี่ยนหุ่นผมเหรอ?” เสียงทุ้มท้วงขึ้นดังลั่น


“เปลี่ยนอะไรของแก...หุ่นตัวนี้แกเป็นคนสั่งมาเองไม่ใช่รึไง?”


“ไม่...ไม่ใช่...หุ่นที่ผมสั่งมาไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้”


“ตอแหล...ดูรูปซะ...ที่ถ่ายมาให้ฉันดูตอนที่ไปเลือกน่ะ” เมธินีคว้ารูปที่ติดอยู่ในแฟ้มงานให้ชยาวุธดู...รูปที่เหมือนกับหุ่นโชว์ตัวนี้ไม่ผิดเพี้ยน!...


“เพี้ยนแล้วไอ้วุธ...สงสัยเมื่อคืนไม่ได้นอน...ไปไป๊...กลับบ้านไปนอนเลยไป...วันนี้ฉันให้แกหยุดหนึ่งวัน”


“ผมไปนะเจ๊” ชายหนุ่มรับคำเหมือนคนหมดแรง เขาไม่รู้เลยว่าเดินไปหยิบกระเป๋าอย่างไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเดินออกมาจากร้านได้อย่างไร สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเทวดาน้อยองค์นั้นมีเพียง...ความทรงจำของเขาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา...


...ค่ำคืนที่เขาเชื่อว่า มันจะเป็นวันเกิดที่มีความสุขที่สุดในชีวิต...


ร่างสูงเดินเหม่อไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ความพลุกพล่านรอบกายกลับไม่สร้างความรู้สึกใดไปมากกว่าความว่างเปล่าและเบาโหวงในหัวใจ นี่เขาผ่านพ้นวันเกิดที่มีความสุขที่สุดเพื่อพบกับวันรุ่งขึ้นที่หงอยเหงาเช่นเดิมอีกแล้วเหรอ?...


มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อมีใครบางคนเดินชนเขาเข้าอย่างจังจนล้มลงกับพื้น ทว่าในเวลานี้เขาไม่มีอารมณ์จะโกรธหรือโวยวายเลยแม้แต่น้อย จะทำได้ก็เพียงแค่ลุกขึ้นยืน ปัดฝุ่นที่ติดตามตัว ก่อนจะเดินต่อไป...


“ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” เสียงขอโทษคุ้นหูฉุดให้ชายหนุ่มตื่นจากห้วงภวังค์


ชยาวุธหันควับไปทางต้นเสียง สิ่งที่เห็นกลับทำให้ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ความรู้สึกมากมายพลันหลั่งไหลจนเจ็บไปหมดทั้งอก


...ใบหน้าน่ารักสดใสที่เขาไม่มีวันลืม...


...ร่างเล็กน่ากอดที่ไม่มีวันเลือนหายไปจากความรู้สึก...


...รอยยิ้มสดใสที่แปรเปลี่ยนโลกทั้งใบของเขาให้สว่างไสว...


...และริมฝีปากหวานล้ำที่เขาไม่มีวันลืมเลือน...


...กานต์...



...คำขอของฉันเป็นผลแล้วใช่ไหม...


...


...


...


Angelic Lover : One Night Only


~END~

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น่ารัก ............................... ขอบคุณครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด