In A day (วาเลนไทน์กับพี่ชายที่แสนดี)"กุหลาบมั้ยครับ กุหลาบ ดอกโตๆสวยๆ ดอกละห้าสิบบาทครับ"
"วันนี้วันวาเลนไทน์นะครับ ซื้อกุหลาบไปให้แฟนมั้ยครับพี่ ดอกละห้าสิบบาทเอง"
"พี่ครับ ซื้อดอกกุหลาบไปให้แฟนมั้ยครับ"
ผมยืนขายดอกกุหลาบอยู่ที่ลานกว้างริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ผมเลยไปรับดอกกุหลาบจากแม่ค้าในตลาดมาขาย
ผม นายวายุ พิพัฒนโชค อายุ18ปี ซื่อเล่น วา อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกแล้วครับ ผมอาศัยอยู่กับแม่แล้วก็น้องชายอีกหนึ่งคน บ้านของผมอยู่ในชุมชนแออัดแห่งหนึ่งซึ่งก็โดนไล่ที่มาอีกที เพราะเมื่อหลายปีก่อนเจ้าของที่เดิมเอาที่ไปสร้างหมู่บ้านหรู ชุมชนแออัดที่ผมอยู่ก็เลยอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านหรูแห่งนั้น ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างความรวยกับความจนอย่างชัดเจน ด้วยความที่พ่อของผมทิ้งแม่และน้องไปตั้งแต่น้องชายยังแบเบาะ ผมก็เลยต้องเป็นกำลังหลักของครอบครัว คอยดูแม่และน้องชาย แม่ของผมรับจ้างเลี้ยงเด็กแถวๆบ้าน ได้เงินเดือนไม่มาก แต่ก็พอสำหรับใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนผมเองก็ต้องทำงานหลังเลิกเรียน ไม่ได้มีเวลาไปเที่ยวเล่นเหมือนเพื่อนคนอื่นๆเค้าหรอกครับ โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าดีๆก็ไม่มีเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ บางทีก็นึกน้อยใจอยู่เหมือนกัน แต่ทำไงได้หล่ะครับ คนเราเลือกเกิดไม่ได้นี่นา
นี่ถ้าเจ้าวินน้องชายของผมไม่รบเร้าอยากจะกินไอศกรีมสเวนเซ่นหล่ะก็ ผมคงไม่มายืนขายดอกกุหลาบอยู่อย่างนี้หรอกครับ
"พี่วาาาาาา" เจ้าวินที่เพิ่งกลับจากโรงเรียนวิ่งมาหาผมพร้อมกับเรียกชื่อผมมาแต่ไกล ปีนี้เจ้าวินก็อยู่ป.6แล้วครับ
"อ้าว วิน เลิกเรียนแล้วทำไมไม่กลับบ้านหล่ะเนี่ย มาหาพี่ทำไม"
"เพื่อนผมบอกว่าเห็นพี่วายืนขายดอกกุหลาบอยู่ตรงนี้ ผมเลยจะมาช่วยขายครับ"
"เห้อ ไม่ต้องเลย พี่ขายเองได้ เราน่ะกลับบ้านไปทำการบ้านเถอะ เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง" ผมทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าน้องชาย เอามือลูบหัวน้องชายด้วยความเอ็นดู ผมรักน้องชายของผมมากครับ เราโตมาด้วยกัน ลำบากมาด้วยกัน นึกถึงวันที่เจ้าวินร้องหิวนมแล้วแม่ไม่มีตังค์ซื้อนมกล่องให้กิน ต้องชงนมข้นหวานให้กินแทนแล้วก็สะอื้นในใจ ผมต้องไปขอนมโรงเรียนจากเพื่อนๆที่ไม่กินเอามาไว้ให้น้อง
"แต่ว่า..."
"ไม่มีแต่ รีบกลับบ้านไปเลยเราอ่ะ ฝากบอกแม่ด้วยนะว่ากินข้าวไปก่อนเลยไม่ต้องรอพี่ กว่าจะขายหมดคงดึกหน่อย" ผมบอกเจ้าวิน มันก็พยักหน้าแล้วก็หันหลังเดินกลับบ้านด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก เพราะผมไม่ให้อยู่ขายดอกกุหลาบด้วย
"กุหลาบมั้ยครับ กุหลาบสวยๆดอกโตๆ ดอกละห้าสิบบาทครับ" ผมยืนขายดอกกุหลาบต่อไปเรื่อยๆ จุดตรงนี้เป็นลานกว้างริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนเย็นๆก็จะมีคนมาเดินเล่น นั่งเล่น คนที่เป็นแฟนกันก็จะเดินจับมือกันมาเป็นคู่ๆ ผมเลยเลือกที่จะมาขายดอกกุหลาบตรงบริเวณนี้ แต่ว่าวันนี้คงเป็นวันที่โชคไม่ดีสำหรับผม ดอกกุหลาบห้าสิบดอกในตะกร้าที่ผมรับมาจากในตลาดยังอยู่ครบ ขายไม่ได้เลยซักดอก ถ้าผมขายหมดห้าสิบดอกผมก็จะได้ตังค์ค่าจ้างขายห้าร้อยบาท พอสำหรับที่จะพาเจ้าวินไปกินไอศกรีมที่อยากกิน
"พี่ครับ ซื้อดอกกุหลาบมั้ยครับ" ผมเดินเข้าไปหานักศึกษาคนนึง ผมเห็นตั้งนานละว่าพี่คนนี้มานั่งมองแม่น้ำอยู่ตรงนี้นานแล้ว คงจะมารอแฟน ผมเลยถือโอกาสเอากุหลาบมาขายให้ซะเลย
"พี่ครับ ซื้อดอกกุหลาบไว้ให้แฟนมั้ยครับ ดอกละห้าสิบบาทเอง" ผมเดินไปยืนตรงหน้าพี่คนนั้นแล้วก็วางตะกร้าที่ใส่กุหลาบตรงหน้าพี่เขา
"ไม่ซื้อ"
"พี่ครับ ช่วยซื้อหน่อยนะครับ วันนี้ผมยังขายไม่ได้เลย ช่วยซื้อหน่อยนะครับพี่" ผมอ้อนพี่เค้าอีก ทั้งๆที่เห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มทำหน้าตาไม่พอใจ
"กูไม่ซื้อ มึงไปไกลๆเลย"
ผมยืนอึ้งไปเพราะโดนคนตรงหน้าที่ท่าทางเกรี้ยวกราดตะคอกใส่ ผมเองก็ผิดที่ตื้อพี่เขาอยู่ได้ ก็เลยต้องเดินออกมาเงียบๆ ขืนอยู่ต่อไปคงได้เจอตีนแน่ๆ
ผมเดินเร่ขายกุหลาบอยู่ตรงบริเวณนั้น แล้วก็เลิกสนใจไอ้พี่บ้านั่น ตอนค่ำๆคนเริ่มมาเยอะก็พอจะขายได้บ้าง แต่ก็ยังเหลือกุหลาบเยอะอยู่
สามทุ่มแล้ว กุหลาบก็ยังเหลืออยู่เยอะ ผมเองก็หิว เพราะยังไม่ได้กินข้าวเลย
ห้าทุ่ม ผมยังเหลือกุหลาบอยู่สิบห้าดอก แถมยังเริ่มเหี่ยวแล้วด้วย ท้องก็ร้องเพราะความหิว ผมทรุดตัวลงนั่งตรงบันไดท่าน้ำ นั่งมองเรือนำเที่ยวที่พานักท่องเที่ยวล่องแม่น้ำเจ้าพระยาแล่นผ่านไปผ่านมา พลางมองดอกกุหลาบที่เหลืออยู่ ถ้าสิบห้าดอกนี้ขายไม่ได้ ผมก็ได้ตังค์ไม่ถึงห้าร้อย คงไม่พอที่จะพาเจ้าวินไปกินไอศกรีมร้านนั้นได้
"กุหลาบเหลือกี่ดอก" เสียงใครคนหนึ่งเอ่ยปากถามผม
ผมหันไปมองเจ้าของเสียงที่นั่งลงตรงขั้นบันไดข้างๆผม
ไอ้พี่เกรี้ยวกราดคนนั้นนั่นเอง
"สิบห้าดอกครับ"
"อ่ะ พี่ซื้อหมดเลย" พี่เกรี้ยวกราดคนนั้นยื่นแบงค์พันมาให้ผม
"ไม่ต้องทอน"
"เอ่อ พี่ครับ กุหลาบมันเหี่ยวหมดแล้ว ผมขายให้พี่ไม่ได้หรอกครับ"
"แล้วจะเหลือกลับไปแบบนี้หรอ เหลือตั้งสิบห้าดอก นายจะได้ตังค์ค่าจ้างขายซักกี่บาทหล่ะ แถมยังเหลือกุหลาบเหี่ยวๆกลับไปอีก โดนดุแน่ๆ"
"ก็จริงของพี่" ผมพูดขึ้นมาเบาๆแล้วก็ก้มหน้าคิดหนัก กุหลาบเหลือตั้งสิบห้าดอกแถมยังเหี่ยวอีก เอากลับไปคืนร้านก็โดนเจ้เฉ่งกบาลแน่ๆ
"แต่ว่ามันเริ่มเหี่ยวแล้วอ่ะครับ"
"เอามาเถอะน่า อ่ะนี่ตังค์เอาไปพันนึงเลยไม่ต้องทอน"
"ไม่ได้ครับพี่ผมต้องทอนให้พี่สองร้อยห้าสิบบาท"
"ตังค์ทอนนายเอาเก็บไว้เถอะ ข้าวก็ยังไม่ได้กินไม่ใช่หรอ"
"พี่รู้ได้ไงอ่ะ"
"ก็พี่มานั่งอยู่ตรงนี้ตั้งนานละ นายก็ขายอยู่ตรงนี้ตลอด เดินผ่านไปผ่านมา ทำไมจะไม่รู้หล่ะ ไม่เห็นได้กินอะไรเลยซักนิด"
ผมหันหน้าไปมองไอ้พี่เกรี้ยวกราดที่ตอนนี้ไม่มีท่าทีเกรี้ยวกราดเลยซักนิด แถมยังพูดจาดีมากๆอีกด้วย
"แล้วทำไมพี่ยังไม่กลับบ้าน พี่มารอแฟนหรอครับ"
คนถูกถามเงียบไปซักพัก ก่อนที่จะตอบผม
"อือ มารอเค้าแต่เค้าก็ไม่มา ช่างเถอะ ป่ะ ไปหาไรกินกันเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"
"ไม่เป็นไรครับพี่ ผมขายดอกกุหลาบหมดแล้ว ผมกลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวแม่กับน้องจะเป็นห่วงอ่ะครับ"
"อือ แต่ว่า นายชื่ออะไร"
"ผมชื่อวาครับ พี่หล่ะครับชื่ออะไร"
"พี่ชื่อทาวน์ครับ"
"ครับพี่ทาวน์ ขอบคุณนะครับที่ช่วยซื้อกุหลาบเหี่ยวๆของผม" ผมหันไปขอบคุณพี่ทาวน์แล้วก็ยิ้มให้แก
พี่ทาวน์ ที่นั่งอยู่ข้างๆผม แกสูงมากครับ น่าจะ180เซนได้ ในขณะที่ผมเองสูงแค่175 เซนฯ พี่ทาวน์แกขาว จมูกโด่ง หน้าตาหล่อมากเลยครับ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะโดนสาวเบี้ยวนัดไม่มาหา
ผมลุกขึ้นยืน พี่ทาวน์แกก็ลุกขึ้นยืนด้วย พร้อมกับทำท่าบิดขี้เกียจ
"พี่ครับ ดอกกุหลาบพวกนี้พี่จะเอากลับยังไงอ่ะ"
"อ่อ เดี๋ยวเอาไปใว้ที่รถพี่ครับ แล้วเราอ่ะกลับบ้านยังไง"
"นั่งรถเมล์กลับครับพี่ แค่สามป้ายเอง"
"อยู่หมู่บ้านไหนหล่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้นะ" พี่ทาวน์ออกปากอาสาไปส่งผม
"เอ่อ...ไม่เป็นไรครับพี่ ผมกลับเองได้"
"อย่าดื้อดิวะ อยู่ตรงไหนบอกมา" คนที่โดนขัดใจเริ่มมีท่าทีเกรี้ยวกราด
"ข้างๆหมู่บ้านศิวิไลซ์อ่ะครับ"
"อ่อ ข้างๆหมู่บ้านพี่เลย ทางผ่านๆ ไปกับพี่เดี๋ยวพี่ไปส่ง" พี่ทาวน์บอกผมแล้วก็เอื้อมแขนยาวๆของแกมากอดคอผม ทำเอาผมหัวใจเต้นแรง ไม่เคยโดนใครกอดคอแบบถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้มาก่อน
"กินก๋วยเตี๋ยวกันก่อนมั้ย" พี่ทาวน์พาผมแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างถนน
"พี่หิวหรอครับ"
"วาแหล่ะ ต้องกินได้แล้ว ดึกแล้วยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ตอนเย็นไม่ใช่หรอ" พี่ทาวน์บอกผม แล้วก็พาผมเข้าไปร้านก๋วยเตี๋ยวข้างถนน ถึงจะเป็นร้านรถเข็นเฟรนไชน์ดังข้างถนน แต่ผมก็ไม่ค่อยได้ลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวแบบนี้บ่อยนัก
"อ่ะ สั่งเลย เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"
ผมสั่งก๋วยเตี๋ยวมากิน พี่ทาวน์ก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวกับผมด้วย
"ทำไมวาต้องมาขายดอกกุหลาบแบบนี้อ่ะ เลิกเรียนแล้วทำไมไม่กลับบ้าน"
"เอ่อ ผม....คือ...คือน้องชายผมอยากกินไอศกรีมสเวนเซ่นอ่ะครับ แต่ผมไม่มีตังค์พาไปกินก็เลยต้องมาขายดอกกุหลาบ หาตังค์พาน้องไปกินครับ" ผมบอกพี่ทาวน์ ก็เงยหน้ามามองผมในทันที
"ไม่มีตังค์ แล้วพ่อแม่หล่ะ"
"ผมอยู่กับแม่ครับ พ่อของผม เอ่อ...."
"โอเคๆ ไม่ต้องเล่าต่อละ" พี่ทาวน์บอกผม เหมือนกับรู้ว่าผมไม่อยากพูดถึงพ่อ
"มีเบอร์ติดต่อมั้ย พี่ขอหน่อยสิ วันเสาร์จะมารับไปกินไอติม"
"ไม่มีหรอกครับพี่ ผมไม่มีโทรศัพท์" ผมบอกพี่ทาวน์
ยิ่งคุยกับแกก็ยิ่งรู้สึกว่า ผมกับพี่ทาวน์ สถานะเราต่างกันมาก ผมดูเป็นคนต้อยต่ำไปเลย
หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ พี่ทาวน์ก็พาผมเดินไปที่รถของแก เป็นรถเก๋งยี่ห้อดัง พี่แกเปิดประตูให้ผมนั่งข้างหน้า แล้วก็ขับรถพาผมกลับบ้าน
"พี่ทาวน์ครับ พี่จอดตรงศาลาข้างหน้านะครับ"
"ไม่เป็นไรพี่ขับไปส่งถึงบ้านก็ได้ครับ"
"เอ่อ ทางมันแคบครับพี่ รถเข้าไปไม่สะดวกหรอกครับ ส่งแค่ตรงนี้แหล่ะ เดี๋ยวผมเดินเข้าไปเองครับ" ความจริงผมไม่อยากให้พี่ทาวน์เห็นสภาพที่อยู่ของผมมากกว่า เลยขอลงตรงทางเข้าแทน
พี่ทาวน์จอดรถตรงศาลาข้างหน้าทางเข้าชุมชนของผม ซึ่งอยู่ติดกับรั้วของหมู่บ้านพี่ทาวน์เลย ผมขอบคุณพี่ทาวน์แล้วก็ลงจากรถ พี่ทาวน์แกก็ตามผมลงมาด้วย
"เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่บ้าน ตอนนี้ดึกแล้ว วาเข้าไปคนเดียวมันอันตราย"
"ไม่เป็นไรครับพี่ ผมเดินเข้าไปได้ครับ"
"ทำไมชอบขัดใจจังวะ" พี่ทาวน์ว่าผมแล้วก็เดินเข้ามากอดคอพาผมเดินเข้าไปในชุมชนแออัดของผม
ผมกับพี่ทาวน์เดินมาถึงหน้าบ้านที่เป็นเพียงบ้านเช่าหลังเล็กๆ ผนังเป็นไม้อัดง่ายๆ หลังคาสังกะสีที่บางแผ่นก็ผุ พี่ทาวน์ดูอึ้งๆไปกับบ้านที่ผมอยู่
"นี่ บ้านวาหรอ"
"ใช่ครับพี่ ผมบอกแล้วไงว่าพี่ไม่ต้องเข้ามา"
"แม่คร้าบบบพี่วากลับมาแล้ว" เสียงเจ้าวินดังมาจากในบ้านแล้วก็วิ่งออกมาหาผม
ร่างสูงของพี่ทาวน์ที่ยืนข้างๆผมทำให้เจ้าวินถึงกับต้องหยุดกึ้ก แล้วก็มองพี่ทาวน์ด้วยความแปลกใจ
"ใครอ่ะครับพี่วา"
"พี่เขาชื่อทาวน์ สวัสดีพี่เขาสิ" ผมบอกเจ้าวิน เจ้าวินก็ยกมือไหว้สวัสดีพี่ทาวน์
"สวัสดีครับ คนนี้เองหรอที่อยากกินสเวนเซ่นน่ะ"
"ครับพี่ พี่จะพาผมไปกินหรอครับ" เจ้าวินถามพี่ทาวน์ด้วยท่าทางดีใจ
"ได้สิครับ วันเสาร์นี้พี่จะมารับไปกินไอติมนะครับ"
"เย้....จริงๆนะครับ ไม่หลอกวินนะพี่"
"ครับ วันเสาร์นี้เจอกัน" พี่ทาวน์บอกเจ้าวินพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบผมบนหัวของเจ้าวินอย่างเอ็นดู
"เอ่อ พี่ทาวน์ครับ ไม่รบกวนพี่ดีกว่า" ผมรีบบอกพี่ทาวน์ แกก็หันมายิ้มกับผม
"รบกวนอะไรกัน พี่รู้ว่านายรักน้องมาก ถึงได้ยอมมาขายดอกกุหลาบเพื่อพาน้องไปกินไอติม พี่ก็เลยอยากจะพาไปเลี้ยงอ่ะ นายจะได้เก็บตังค์ที่ขายกุหลาบได้ไว้ใช้จ่ายอย่างอื่น"
"ผมเกรงใจพี่อ่ะครับ"
"เกรงใจทำไม อย่าคิดมากน่า เอาเป็นว่า วันเสาร์เก้าโมงเดี๋ยวพี่เดินเข้ามาหาที่บ้านนะ แต่งตัวรอหล่ะทั้งสองคนเลย"
วันเสาร์พี่ทาวน์มาหาผมตามนัด พาผมกับเจ้าวินไปกินไอศกรีมสเวนเซนตามที่บอกไว้ แถมยังซื้อโทรศัพท์ให้ผมด้วย ถึงจะไม่ใช่เครื่องที่แพงมาก แต่มันก็ใช้ได้ และนอกเหนือจากนั้น อาทิตย์ต่อมาก็มีคนมาที่บ้านของพี่ทาวน์ มารับแม่ ผมแล้วก็เจ้าวิน เข้าไปอยู่ในบ้านของพี่ทาวน์ในหมู่บ้านใหญ่นั้น ให้แม่ของผมไปเป็นแม่บ้าน มีบ้านพักหลังเล็กๆให้แม่กับผมได้อยู่อาศัย แล้วคุณพ่อคุณแม่ของพี่ทาวน์ก็ยังรับอุปการผมกับเจ้าวิน ในเรื่องของการเรียนอีกด้วย
ขอบคุณครับพี่ทาวน์ พี่ชายที่แสนดีของผม
****************************************************