Listen to my heart ........♥ ตอนพิเศษ : เมื่อเธอหายไป (17/02/2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Listen to my heart ........♥ ตอนพิเศษ : เมื่อเธอหายไป (17/02/2018)  (อ่าน 33231 ครั้ง)

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ ดราม่ากำลังดี ชอบๆ o13

ออฟไลน์ XXIXII

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านรวดเดียวจบเลย ดราม่าดี เจ็บปวดตามตัวละครเลย 55555
มาคอมเม้นท์ให้กำลังใจไรเตอร์นะคะ ขอให้มีกำลังใจแต่งเรื่องต่อๆไปนะคะ

ออฟไลน์ earthhhs

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รำคาญพระเอกตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องเลย ตอนแรกก็งี่เง่าไม่คิดจะรับฟังคนอื่นเลย ทิฐิเยอะจังนะ พอหลังกลับมาเจอกันก็ทำตัวได้แบบ เอิ่มคุณพี่ทำกับเขาไส้เยอะขนาดนั้นที่ตัวเองโดนบ้างน้อยใจ ยอมแพ้ตลอดคือนายเอกนี่พยายามจนถึงที่สุดมากๆคุณพี่ยังไม่สนใจเลย ที่ตาตัวเองละพยายามมากพอรึยัง เหอะ! แต่เรายังค้างคาหลายๆอย่าง ปั้นจะได้เจอเดียร์อีกไหมจะกลับไปเจอบ้านนั้นอีกหรือเปล่า อยากอ่านมุมมองของพี่อธินหลังจากนี้ และสำหรับเราเราคิดว่าสิ่งที่พระเอกได้รับยังไม่พอกับสิ่งที่น้องปั้นต้องเจอเพราะมึงงง //ขอบคุณที่แต่งเรื่องราวดีๆ สนุกมาก อินมากจ้า เกือบโดดเรียนกลับมาอ่านเลยเนี่ย :hao5:

ออฟไลน์ Alchemist_toey

  • I'm Cassiopeia
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
  Listen to my heart
ตอนพิเศษ : หน้าที่สุดท้าย





สายลมเย็นปะทะมาอีกระลอกหนึ่ง เหมือนลืมเอาความเหน็บหนาวกลับคืนไปด้วย รอบกายถึงได้มีแต่กลิ่นอายของความอ้างว้างโดดเดี่ยว ราวกับว่าเส้นทางต่อจากนี้จะมีแค่เขาคนเดียวเป็นผู้เดินทาง

ร่างสูงดึงใครอีกคนเข้ามากอด เมื่อคิดว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ความกลัว ความว่างเปล่า
ทุกความรู้สึกที่ได้สัมผัส สอนให้เขารู้แล้วว่าจะต้องเจอกับอะไรหลังจากนี้ ชีวิตที่ไร้หัวใจนั้นเหน็บหนาวเพียงใด
ชายหนุ่มแทบไม่มีเรี่ยวแรง ต้องการแค่ความอบอุ่นช่วยต่อเติมช่วงเวลาที่เหลือ ที่เคยห่วงว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรตอนนี้แค่ได้เจอกัน
เขาก็รู้สึกขอบคุณมากแล้วที่ปั้นไม่รังเกียจ

สองสัปดาห์ที่ไม่เจอเขายังอ่อนแอขนาดนี้ หากต้องปล่อยมือจากกันจริงๆ ไม่รู้เลยว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร

เนิ่นนาน...กว่าจะเรียบเรียงคำพูดได้

“พี่อยากเอาแต่ใจ อยากทำทุกอย่างเพื่อให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม อยากหลอกตัวเองอีกสักครั้ง แต่ว่าตอนนี้ พี่เริ่มเหนื่อยแล้ว...”
น้ำเสียงสั่นเครือบอกอาการของคนพูดได้ดีกว่าสิ่งใด คนที่ไม่เคยอ่อนแอในสายตา คนที่เป็นที่พึ่งพาให้ผู้อื่นอยู่เสมอ ทว่าบัดนี้นั้น...

“พี่อธิน...”

“ขอถามครั้งสุดท้ายนะปั้น ครั้งนี้อย่าโกหกตัวเอง อย่ากลัวว่าจะทำให้พี่เสียใจ” สองแขนกระชับร่างในอ้อมกอดแนบแน่น หายใจเข้าลึก พยายามรวบรวมคำพูด

“ยังรักหมอนั่นอยู่ใช่รึเปล่า?” น้ำเสียงอ่อนโยนกว่าทุกครั้ง ไม่มีอารมณ์โกรธแค้นขุ่นเคืองใดๆ เหลือแฝง เพราะทำใจยอมรับความจริงข้อนั้นได้แล้ว

เหลือเพียงแต่...คำยืนยัน

อธินไม่ได้รับคำตอบในทันที แต่เขารู้สึกถึงแรงสะอื้นของคนในอ้อมกอด อีกทั้งฝ่ามือที่แนบอยู่บนแผ่นหลังของเขาก็เริ่มกระชับแน่น
ความรู้สึกให้คำตอบแทนคำพูด

ร่างบางพยักหน้ารัว หากถามว่าใครเห็นแก่ตัวที่สุด คนที่ไม่น่าให้อภัยที่สุด ที่ผ่านมานั้น...ก็คือเขาเอง

“ผมขอโทษ ขอโทษที่ปล่อยให้เวลามันล่วงเลยมานานขนาดนี้ ความจริงผมน่าจะชัดเจน...” คนตัวเล็กกว่ารู้สึกผิดเกินกว่าจะให้อภัยตัวเอง เมื่อเงยหน้ามองพี่อธินและรับรู้ถึงความเจ็บปวดในดวงตาคู่นั้น

“ตอนนี้ปั้นยังมีเวลาอยู่นะ...”

“ผมไม่สมควรจะมีความสุข ผมรู้ตัวเองดีครับ”

“อย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิ...”

“ผมกลัวแม้กระทั่งความคิดของตัวเองว่ามันจะเป็นสิ่งที่ผิด กลัวว่าความปรารถนาของผมจะทำร้ายคนอื่น กลัวว่าหากแสดงความต้องการไปแล้วจะกลายเป็นการเห็นแก่ตัว”

“ปั้นของพี่ไม่ใช่คนแบบนั้น...” เขาต่างหากที่เห็นแก่ตัว รวบรัดทุกอย่างมาเป็นของตัวเอง ทั้งที่ควรเว้นระยะห่างให้อีกฝ่ายได้ทบทวนใจตัวเอง และทั้งๆ ที่รู้สึกว่าฝืนต่อไปไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ ซ้ำยังคิดหาทางบังคับใจอีกฝ่ายเรื่อยมา

“พี่อธิน”

“จากนี้ทำตามที่หัวใจบอกเถอะนะ”

“ทำไมพี่ถึงดีกับผม ทั้งที่ผมตอบแทนอะไรให้พี่ไม่ได้เลย”

“เพราะว่าพี่รัก...” และเป็นหนทางเดียวที่จะชดเชยทุกอย่างให้ได้ ทดแทนความผิดครั้งใหญ่ในอดีต

จบคำพูดนั้นปั้นก็กอดอีกฝ่ายแน่น ไม่สามารถพูดอะไรต่อได้อีก เพราะยิ่งรู้เหตุผล ก็ยิ่งทำให้เกลียดตัวเองมากขึ้นทุกที
ในใจได้แต่ภาวนา ขอให้สักวันหนึ่งผู้ชายคนนี้ได้เจอกับเจ้าของหัวใจที่แท้จริง คนที่จะไม่ทำให้ผิดหวัง


และรักพี่อธินที่แสนดีคนนี้อย่างสุดหัวใจ...






............................................

มาส่งพี่อธินด้วยตอนพิเศษสั้นๆ นี้ (หน้าที่สุดท้าย) ฮือๆ เศร้าใจยิ่งนัก ทำไม ทำไม :hao5:
หลังจากนี้ติดตามชีวิตพี่อธินของเราต่อได้ในเรื่อง Dear to me นะคะ

ก่อนอื่นเข้ามาก็ตกใจเลย ขอบคุณคุณ  UNCHXLXX ที่เขียนแนะนำนิยายเรื่องนี้ในกระทู้
จึงทำให้ได้รับกำลังใจมากมายขนาดนี้ รู้สึกขอบคุณจริงๆ และดีใจมากที่นิยายเรื่องนี้สร้างความสุข (เอ้ะ หรือสร้างน้ำตาให้กับผู้อ่านกันแน่นะ)
จะเก็บไปเป็นแรงใจในการเขียนต่อไปนะคะ

ส่วนตอนพิเศษหลังจากนี้จะว่าด้วยเรื่องราวที่ไม่ต้องใช้เสียงหัวใจในการบอกผ่านความรู้สึกแล้ว
เพราะตัวละครจะได้แสดงออกอย่างเต็มที่ ตรงกับความรู้สึก
ตอนแรกก็กะจะรอให้เรื่องน้องเดียร์ ให้เหตุการณ์ในเรื่องใกล้เคียงกันแล้วค่อยเขียนตอนพิเศษ
แต่ตอนนี้อดใจรอไม่ไหว เอามาลงเลยละกัน อิอิ  :o8:

ขอให้มีความสุขกันนะคะ ร่ายยาวนิดนึง เอิ้กกกกกก  :bye2:
มีต่ออีกตอนด้านล่างจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2018 19:19:59 โดย Alchemist_toey »

ออฟไลน์ Alchemist_toey

  • I'm Cassiopeia
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
  Listen to my heart
ตอนพิเศษ : เมื่อเธอหายไป






“ยังไม่กลับหรือ”

“อือ”

“เออ เรื่องเด็กมนุษย์คนนั้น สรุปเค้าลาออกไปแล้วนะ ”

มือที่จับพู่กันชะงักนิ่ง รอฟังสิ่งที่เพื่อนเล่า

“น่าเห็นใจจริงๆ แต่ให้ทำไงได้ล่ะ”

“....”   

“แล้วนั่น มือไปโดนอะไรมาวะ”

“ช่างเถอะ เสร็จแล้วฝากปิดห้องด้วยนะ”

ชายหนุ่มเก็บพู่กันและอุปกรณ์ต่างๆ เข้าที่ คว้ากระเป๋าและรีบเดินออกจากห้องห้องจิตรกรรม ราวกับต้องการหนีจากอะไรสักอย่าง ไม่สนใจเพื่อนๆ ในคณะคนอื่นๆ ที่พากันทักทายเมื่อเจอเขา

สายลมเย็นปะทะใบหน้า บนดาดฟ้าของตึกคณะ ที่ที่มองเห็นดวงดาวชัดเจนที่สุด แต่ทว่าเวลานี้แม้แต่ภาพเบื้องหน้าก็ยังเลือนรางไปหมด

เพราะน้ำตาของเขาเอง

“ปั้น..ขอโทษ”

แล้วสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ จะไปมีประโยชน์อะไรอีก ในเมื่อเวลานี้คนที่เขาเคยเดินหนีมาตลอด กลับไม่อยู่กวนใจกันอีกต่อไปแล้ว

“ขอโทษจริงๆ”

ฉันขอโทษ…

ขอโทษที่ช่วยเหลือนายไม่ได้

สองมือที่เต็มไปด้วยรอยแผล ระบายโทสะใส่ขอบกำแพง

ความเจ็บปวดอย่างนั้นหรือ...ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
วันนั้นเองที่ชีวิตได้สัมผัสคำว่าว่างเปล่า...อย่างแท้จริง


จากหนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หนึ่งปี...และยาวนานเข้าสู่ปีที่สอง...ทุกอย่างว่างเปล่ามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นความเคยชิน
จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้รับคำถามจากรุ่นน้องในคณะ หลังจากเด็กพวกนั้นได้อ่านแรงบันดาลใจของเขาในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นหนึ่ง ที่ได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร ทำให้เกิดข้อสงสัย วันนี้ก็เลยยกโขยงกันมาเยี่ยมเยียน มาเฝ้าดูการทำงานชิ้นใหม่ของเขาถึงตึกคณะ

“รักครั้งแรกเชียวหรือนี่ ไม่อยากจะเชื่อว่าเฮียเราจะมีมุมโรแมนติกกะเขาด้วย”

“วาเลนไทน์เหรอ...ไหนเล่าให้ฟังหน่อย”

“หุบปากเลยพวกมึง”

“วาดมากี่วันเนี่ย กว่าจะได้ดอกกุหลาบเยอะขนาดนี้”

“กูบอกว่าให้ออกไปไง”

“ไปก็ได้ๆ แต่วาดเสร็จแล้วอย่าลืมโพสเต็มๆ ให้ดูด้วยนะเฮีย”

รดิศเกือบจะตามไปไล่กระทืบไอ้เด็กกลุ่มนั้นแล้วเชียวที่บังอาจเข้ามาทำให้เขาเสียสมาธิ ตอนนี้ในหัวมีแต่ภาพวันเก่าๆ เข้ามาไม่หยุด พอนึกถึงทีไรใจก็ไม่สงบเลย

กี่เดือน กี่ปีมาแล้วที่เขาต้องจมอยู่ในสภาพเช่นนี้...

ปั้น...ฉันคิดถึงนาย

น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมา ตอนนึกขึ้นว่าอีกฝ่ายอาจจะลืมกันไปแล้ว

แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะพยายามตามหา แต่เหมือนอีกฝ่ายได้จงใจหายไปจากชีวิตของเขาและทุกๆ คน นอกจากความทรงจำที่มีด้วยกัน ตัวตนของฝ่ายนั้นก็ดูเหมือนจะเลือนรางลงทุกที เขาถึงต้องเขียนทุกความรู้สึกที่มีลงไปในรูปภาพเหล่านี้ และถ่ายทอดทุกช่วงเวลา ที่มีความรู้สึกไว้ในผลงานต่างๆ หลายคนที่รู้จักเขาผ่านทางผลงานก็คงคิดว่านายรดิศคนนี้ช่างเป็นหนุ่มโรแมนติก
แต่จริงๆ ทุกสิ่งที่สื่อออกไปก็เป็นแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง

ตนตัวของเขาจริงๆ น่ะหรือ...

เลวร้ายเกินกว่าจะให้อภัย

หากใครพยายามถามถึงบุคคลที่เขาอ้างถึงว่าเป็นรักแรก น่าขันสิ้นดี ที่เขาไม่สามารถพูดออกไปได้ อย่างเต็มปาก แม้แต่รูปถ่ายสักใบของเขาคนนั้นก็ไม่เคยมี

สงสัยอยู่เหมือนกันว่าที่ผ่านมา...มัวทำบ้าอะไรอยู่

นอกจากภาพในความทรงจำที่เขียนขึ้นมาเอง ทุกๆ ปีเขาได้แต่จินตนาการไปว่าปั้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ในสมุดสเก็ตซ์จึงมีแต่ภาพของคนๆ เดียวที่เปลี่ยนแปลงอิริยาบถ สีหน้า เสื้อผ้า ทรงผม หากจะให้นับจำนวนก็คงไม่ถ้วน

นี่ก็ใกล้วาเลนไทน์ปีที่สามแล้วนะ...

แน่นอนว่าหลายคนพยายามส่งดอกไม้ ของขวัญ หรือช็อกโกแลตต่างๆ มาให้มากมายไม่ต่างจากเมื่อก่อนเท่าไหร่นัก แต่ว่าเขาไม่แม้แต่จะรับของใครเลยสักคน ไม่อยากทำร้ายจิตใจใครอีกแล้ว หลังจากบอกเลิกกับแฟนที่คบกันเพราะต้องการประชดประชัน
ใครบางคน เขาก็ครองตัวเป็นโสดมาตลอด...

รดิศเปิดแชทอ่านข้อความที่น้องเดียร์ส่งเข้ามา เห็นเป็นรูปเจ้าตัวถ่ายที่ซุ้มหัวใจสีแดงมาให้ดู ตอนนั้นพวกเขาจึงมีโอกาสได้คุยกันเล็กน้อย

“ผมลองทำช็อกโกแลตที่พี่ปั้นเคยทำให้ครั้งนั้นด้วยล่ะ แต่รสชาติอาจจะแย่กว่ามาก พี่ว่างแล้วก็เข้ามาชิมที่บ้านได้นะ” แน่นอนว่าเย็นวันนั้นเขาก็ตรงไปที่บ้านน้องเดียร์ทันที นานๆ ครั้งที่เขาจะมาเยี่ยมที่นี่ ครามรู้สึกที่คิดถึงใครอีกคนก็ท่วมท้นขึ้นมา

“พี่ไม่ได้ข่าวอะไรเลยเหรอ?”

ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัว ใบหน้าของน้องชายที่เฝ้ารอคำตอบก็พลอยหม่นหมองไปด้วย

“เพราะแม่คนเดียวเลย”

“ใจเย็นๆ ก่อนนะ พี่รู้ว่าเดียร์ยังเสียใจ พี่ปั้นไม่โกรธเดียร์หรอก ตอนนี้รอให้เขาพร้อมที่จะมาเจอพวกเราดีไหม”

“เมื่อไหร่ล่ะครับ เดียร์แค่รู้สึกเหมือนว่าพี่ปั้นจะไม่กลับมาหาเราแล้ว”
ใจจริงรดิศก็คิดเช่นนั้น สำหรับสถานที่ที่แทบไม่มีความทรงจำดีๆ เกิดขึ้นเลย เขาไม่กล้าหวังว่ามันจะทำให้ใครอยากย้อนกลับมา

ร่างสูงขอเข้าไปสำรวจในห้องเดิมของปั้น ข้าวของบางส่วนยังคงวางไว้ตำแหน่งเดิม ชายหนุ่มลองเปิดในลิ้นชัก เขาเห็นผ้าปักลายที่เจ้าตัวยังทำไม่เสร็จเก็บไว้ ลวดลายเล็กๆ น่ารักทำให้นึกถึงคนที่มักจะใส่ใจกับสิ่งรอบตัว รดิศอมยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าที่
กำลังตั้งใจอยู่กับมัน

แล้วสายตาก็เจอสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่สอดไว้ด้านในสุด

เมื่อเปิดดูก็เห็นภาพเขียนเก่าที่เขาเคยวาด มันเป็นครั้งแรกที่เขามาหาปั้นที่นี่

ไม่ได้เอาไปด้วยหรือ...

แน่ล่ะ มีใครอยากจะเก็บมันไว้บ้าง ฝีมือก็ไม่ได้เรื่องขนาดนี้ ลายเส้นแสดงให้รู้ว่าผู้วาดนั้นประหม่ามากแค่ไหน
นาย...อยู่ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง...

นิ้วเรียวยาวลูบเบาๆ ลงบนแผ่นกระดาษ

สมุดเล็กๆ เล่มนี้ เจ้าของคงตั้งใจทิ้งมันไว้ ไม่ต่างอะไรจากเขาเอง


“จะกลับแล้วหรือพี่”

“อื้ม”

“รอแปบนะ” น้องเดียร์หายเข้าไปในห้องและกลับออกมาพร้อมด้วยอัลบั้มภาพชุดหนึ่ง แล้วยื่นให้ รดิศเปิดดูด้วยความสงสัย

ในนั้นเป็นภาพถ่ายของคนที่เขากำลังคิดถึง เลยอดไม่ได้ที่จะน้ำตาซึมในระหว่างที่เปิดดูไปเรื่อยๆ ดูเหมือนน้องเดียร์ตั้งใจจะคัดเฉพาะภาพที่มีปั้นมาใส่ไว้เป็นพิเศษ เขายังจำภาพบางมุมในวันเกิดน้องเดียร์ปีนั้นได้เป็นอย่างดี 

“พี่เก็บไว้นะครับ”

พี่ชายพยักหน้า ไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรดี ตอนนี้อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับอีกฝ่าย ล้วนเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับเขา ราวช่วยต่อลมหายใจคนรอไปได้อีกระยะหนึ่ง 


ภาพของเขาได้รับคัดเลือกเข้าแสดงในนิทรรศการโดยจัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านใจกลางเมือง ชายหนุ่มหวังเหลือเกินว่า หากใครคนนั้นแวะเวียนมาที่นี่ ได้หยุดมองมันสักเสี้ยวนาที

อยากให้รู้ว่ามีใครกำลังคิดถึง และอยากขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา...

“ดีใจด้วยนะเฮีย แหม สีสันสดใสเห็นมาตั้งแต่ยืนหน้าห้างโน่น”

“เว่อร์ไป”

“ตกลงบอกได้รึยังว่าคนไหน แล้วเขาจะมาด้วยป่าว”

“หยุดเสือกเรื่องกูได้ไหม”

“คนดังซะอย่าง ใครก็อยากเสือกอยู่แล้ว” พวกนั้นหัวเราะอย่างหน้าไม่อาย ก่อนจะมอบดอกกุหลาบหลากสีสันให้เขาเป็นการ
แสดงความยินดี พร้อมด้วยการเข้ามาถ่ายรูปหมู่


พอทุกคนทยอยกันกลับแล้ว ก็เหลือเพียงแต่เขาที่ยืนว่างเปล่าอยู่ที่เดิม จนพวกไอ้นนท์กับไอ้บีมเข้ามาหาและชวนไปหาร้านกินข้าว

“กูได้ข่าวน้องปั้นด้วยว่ะ”

รดิศชะงัก มือที่ถือช้อนเริ่มสั่น เขาวางมันลงเบาๆ

“เห็นเขาว่า...ปั้นอยู่กับแฟนที่ต่างประเทศ”

“มึงตั้งใจจะพูดอะไร”

“กูว่ามึงตัดใจเหอะว่ะ”

“แค่นั้นหรือ”

“กูรู้ว่ามันยาก แต่กูแค่อยากให้มึงอยู่กับปัจจุบัน หัดมองรอบตัวบ้าง ไม่ใช่จมปลักอยู่กับเรื่องนี้ กูรู้ว่ามึงเสียใจนะ แต่ปั้นเขามีชีวิตใหม่แล้ว มีคนที่ทำให้เขามีความสุข นั่นคือเรื่องจริง”

“แล้วกูไม่มีสิทธิ์จะรักเขาหรือ”

“เห้ย! พวกมึงใจเย็น”

รดิศมองเพื่อนทั้งสอง รู้ว่าพวกมันเป็นห่วงแค่ไหนที่เขาเป็นแบบนี้

“บอกตรงๆ ว่ากูใจสั่นไม่น้อยเลยที่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับเขา เข้าใจความรู้สึกใช่ไหม แต่กูจะไม่เชื่อใครทั้งนั้นจนกว่าจะได้เห็นกับตา”

“เออ!...ถึงวันนั้นมึงก็ทำใจให้ได้ก็แล้วกัน”

นนท์หัวเสีย ชายหนุ่มลุกขึ้นและเดินออกจากร้าน ไม่สนใจใครหน้าไหนที่มองมา บีมหันไปเห็นสีหน้าทุกข์ใจของรดิศ เขาเองใจจริงก็อยากเตือนมันเช่นกัน

แต่เห็นท่าทางแบบนั้นทีไร...ก็พูดไม่ออก

“มึงมีอะไรจะพูดหรือเปล่า”

“เอ่อ...”

“พูดมาเถอะ...”

“ในฐานะเพื่อนนะ...ก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจมึงหรอก ที่น้องปั้นตั้งใจหายไปเลยแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาอยากมีชีวิตใหม่หรือ...ทั้งกู ทั้งไอ้นนท์อยู่ข้างมึงนะเว้ย ไม่อยากให้มึงรอเก้ออยู่ฝ่ายเดียว เข้าใจใช่ไหม?”

“บีม ปล่อยให้กูรอเถอะ”

“เพื่ออะไรวะ...ก่อนหน้านี้กูยอมรับนะว่าสนับสนุนมึงกับน้องเขาเต็มที่ แต่ตอนนี้...มันยากจริงๆ ว่ะ”

“...ถึงเวลานั้นแล้ว...ถ้ามันไปต่อไม่ได้จริงๆ ใจกูจะให้คำตอบเอง”

“เออๆ ก็อย่าฝืนนักล่ะ”

แล้วเขาก็ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมา เข้าสู่ปีสุดท้ายในชีวิตมหาวิทยาลัย

“เฮีย นี่จะบอกได้รึยังว่าเขาคือใคร ถามมาเป็นปีๆ แล้วนะ” เด็กหนุ่มอยู่ช่วยงานรุ่นพี่ วันนี้เป็นวันแสดงผลงานวันสุดท้ายของนักศึกษาปีที่ 4 เมื่อเสร็จสิ้นก็ยังช่วยขนของกลับมาที่ตึกคณะอีก แน่นอนว่าเหลือเวลาไม่มากแล้วที่เขาจะได้สัมผัสกับความเป็นกันเองของรุ่นพี่กลุ่มนี้

“มึงก็รอต่อไปเหอะ”

“ใครอ่ะพี่บีม...เขามีตัวตนอยู่จริงๆ ใช่ไหม?”

“มีสิ...”

“ใครอ่ะ”

“นี่ไอ้รัน มึงเฝ้าถามมันอยู่นั่นแหละ ตั้งแต่เข้าปีหนึ่งละ ถามจริง ชอบมันอ่อ?”

“ป่าว ก็แค่อยากรู้” ท่าทางแบบนั้น เป็นใครก็ดูออก

“นี่จะบอกให้นะไอ้น้อง มึงอ่ะมาช้าไปห้าปี”

“เออ ถึงได้บอกอยู่นี่ไงว่าไม่ต้องรอ” นนท์เดินเข้ามาสมทบ เจรจากันแบบไม่อ้อมค้อมอย่างลูกผู้ชาย “ถ้าอยากให้มันมองใครนะ ก็รอให้เจ้าของหัวใจมันกลับมาพร้อมกับแฟนใหม่ก่อน ตอนนั้นมึงถึงจะมีสิทธิ์ หรืออาจจะไม่มีสิทธิ์เลยก็ได้ เพราะเพื่อนกูมันไม่
คิดจะตัดใจ ทีนี้มึงเข้าใจรึยัง” นนท์พูดตรงๆ อย่างไม่รักษาน้ำใจ จึงได้เห็นท่าทางหงอยๆ ของรุ่นน้องตอนเดินออกไป


จากวันนั้นก็ไม่มีรุ่นน้องคนเดิมเข้ามาวุ่นวายกับเขาอีก นับเป็นช่วงเวลาที่ใจของเขาเข้าขั้นเย็นชาอย่างแท้จริง





ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
ก้อนะ   ก้อเพราะทำตัวเองนั่นแหละ 

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เราชอบพี่อธินมากกว่าถึงแม้จะทำเรื่องไม่ดีแต่ก็รู้ว่ารักและพร้อมที่จะดูแลปกป้องปั้นจริงๆ
ขอบคุณค่ะะ  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
3p ได้ไหม ไม่อยากให้พี่ อธิน เสียใจ แต่เอะ ถ้างั้นน้องเดียร์ก็ไม่มีคนปราบสิเนอะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ซึมไปเลยรดิศ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
รอตอนพิเศษๆๆๆ จะำด้โชว์หวานแล้วใช่มะ อิอิ

พี่อธินน้องเดียร์ ก็รอน่ะ

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ชอบอธินมากกว่ารดิศ แต่สิ่งที่อธินทำไปก็แย่จริงๆ เพราะทำให้น้องปั้นเจอเรื่องไม่ดี โดนสังคมตราหน้าจนต้องลาออกจากมหาลัยและโดนไล่ออกจากบ้าน สรุปพระเอกพระรองแย่ทั้งคู่ สงสารน้องปั้นจริงๆ  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ลุ้นระทึก ด่าพระเอกจนเหน็ดเหนื่อยอ่ะ ความรักนี่ซับซ้อนจริงๆ
กว่าจะมารักกันได้ ก็รักกันให้มากๆ นะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ สนุกมาก สงสารปั้นที่สุด

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
การมัวแต่อมพะนำ ไม่พูดกันให้เข้าใจนี่ทำให้สองคนเดินทางกันยาวนานจริงๆ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ส่วนตัวเราสงสารพี่อธินมากกว่าแล้วพี่เขาอย่างน้อยก็ทำอะไรเพื่อความรัก ถึงจะไม่ดีก็เถอะ  :hao5:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ pee122

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด