CHAPTER 1
โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง
“ข้าวหอม… มาหลบอยู่นี่เอง” ขณะที่ผมกำลังนั่งกินข้าวเย็นอยู่ที่แคนทีนนั้น น้ำเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นเรียกชื่อของผม
“อ้าว… พี่ปาร์ค” เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอก็เจอเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี พี่ปาร์คหนุ่มหล่อหน้าตี๋สุดฮ็อตรุ่นพี่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะต้องมารับใบประกาศการจบการศึกษาจากรั้วโรงเรียนของเรา ตอนนี้ในโรงเรียนมีนักเรียนบางกลุ่มกำลังช่วยกันทำความสะอาดรอบๆ บริเวณโรงเรียนก่อนที่โรงเรียนจะปิดยาว และเข้าสู่ช่วงการปิดเทอมอย่างจริงจัง พอเห็นว่าเป็นพี่ปาร์ค ผมก็เอ่ยตอบรับ วางช้อนกับส้อมลงแล้วยิ้มให้พี่เขา
“เซ็นเสื้อให้พี่หน่อย” พี่ปาร์คพูดยิ้มๆ แล้วก็ส่งปากกาเคมีสีสันสดใสมาให้ผม
“เอาจริงเหรอพี่”
“จริงดิ” พี่ปาร์คตอบ ก่อนจะนั่งลงคร่อมเก้าอี้ตัวยาวโดยหันหน้าเข้ามาหาผมและเขยิบตัวเข้ามาใกล้ๆ เพื่อให้ผมเซ็นได้ถนัดๆ เขายิ้มมองหน้าผมพร้อมกับยักคิ้วให้กันหนึ่งจึก ชี้นิ้วตัวเองลงบนอกเสื้อข้างซ้ายย้ำๆ อยู่แบบนั้น ผมมองหน้าพี่ปาร์คนิ่งๆ จน…
“เอ้ายังนิ่งอยู่อีกข้าวหอมเร็วดิ เดี๋ยวพี่จะกลับบ้านแล้ว”
“อ๊ะ… เอ่อ” เมื่อเห็นว่าผมช้าพี่ปาร์คก็จับมือผมข้างที่ถือปากกาอยู่ แล้วดึงปลอกปากกาออกก่อนจะดึงมือผมให้ไปจี้อยู่ที่บริเวณอกเสื้อข้างซ้ายของเขา ผมทำอะไรไม่ถูก เลยรีบเซ็นลงไป ส่วนใหญ่ก็เขียนอวยพรให้พี่เขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยที่พี่เขาอยากจะเข้า บอกว่าเขาเป็นพี่ที่ดีมากๆ เนื่องจากพื้นที่จำกัดผมเลยเขียนได้ไม่เยอะ พอเขียนจบผมก็ลงชื่อตัวเองตามด้วยหัวใจดวงเล็กๆ ผมยิ้มนิดๆ กับสิ่งนั้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาปะทะเข้ากับใบหน้าพี่ปาร์คที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ผมได้แต่จ้องหน้าพี่เขาอยู่แบบนั้นสติหลุดลอยหายไปเมื่อสบตาเข้ากับดวงตาซุกซนของเขา พี่ปาร์คเลื่อนสายตาสำรวจไปทั่วไปหน้าของผม ก่อนที่เราจะผละออกจากกันเพราะเสียงของนักเรียนที่เดินผ่านมายังบริเวณนี้ดังขึ้น
“อะแฮ่ม… ขอบใจมากข้าวหอม ไปเปลี่ยนสียางฟันใหม่ได้แล้ว พี่เบื่อสีนี้แล้ว” พี่เขาลุกขึ้นยืนกระแอมไอก่อนจะพูดกับผมเสร็จ ก็ส่งมือนั่นมายีหัวผมเบาๆ ผมเบี่ยงหัวหลบมือเขาไปมา
“ก็ว่าจะเปลี่ยนอยู่แล้วนะ ข้าวนัดคิวหมอบาสไว้แล้วด้วยพี่ปาร์ค”
“ยังทำกับไอหมอฟันขี้หลีคนนั้นอยู่อีกเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ก็ร้านใกล้บ้านนี่เนอะ”
“อืมๆ… เอ้อ เย็นนี้พวกไอแต๊กจะมาฉลองกันที่บ้านพี่อ่ะ แวะไปด้วยล่ะ”
“โอเค พี่ปาร์ค เดี๋ยวข้าวจะรีบไปนะ”
“เออ พี่ไปก่อนนะ รีบกลับไปเตรียมของกิน”
“ครับ บ๊ายบาย” ผมยิ้มแล้วโบกมือลา พี่ปาร์คพยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกไป พอพี่ปาร์คเดินออกไปผมก็หันกลับมาจัดการข้าวในจานต่อ พอทานหมดผมก็นำจานไปเก็บแล้วรีบเดินทางกลับบ้านทันที
หลังจากที่กลับบ้านผมก็รีบช่วยแม่จัดกระเป๋าเก็บข้าวของทุกอย่างลงในลังและพอเห็นว่าใกล้ได้เวลาผมก็ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวชิลล์ๆ บอกแม่เสร็จ แล้วก็รีบเดินทางไปยังบ้านของพี่ปาร์คที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไรนัก ทันทีที่ถึงหน้าบ้านผมก็กดกริ่งหน้าบ้านทันที รอไม่นานนักพี่ปาร์คก็เดินออกมาเปิดประตูให้
“เข้ามาก่อนข้าวหอม”
พี่ปาร์คเปิดประตูรั้วให้ผมแล้วเอ่ยให้ผมเข้าบ้าน ผมพยักหน้าแล้วรีบเดินเข้ามาถอดรองเท้าแตะไว้หน้าประตูบ้าน ผมมองจำนวนรองเท้าหลายคู่ตรงนั้นพวกพี่ๆ เขาคงมาถึงกันแล้ว ผมยืนรอพี่ปาร์คปิดประตูรั้วเพื่อที่จะได้เข้าตัวบ้านพร้อมกัน
“อ้าว!! น้องข้าวหอมของพี่แต๊กมาด้วยเหรอครับ มาๆ มานั่งตรงนี้เลย” ทันที่ที่ก้าวเข้ามาในตัวบ้านเสียงของพี่แต๊กก็ดังขึ้นทันที ผมยิ้มแหยๆ ส่งให้เขา
“สวัสดีครับพี่แต๊ก พี่ไทม์ พี่บอย พี่แทน พี่เพียว” ผมยกมือไหว้พี่ๆ ทุกคนที่นั่งกินกันอยู่บริเวณกลางบ้าน
“ไอเชี่ยไทม์กระเถิบไปดิ กูจะให้น้องข้าวหอมนั่งข้างกู” พี่แต๊กใช้ขายันๆ พี่ไทม์ให้ถอยออกไป ผมหลุดขำออกมานิดๆ
“ข้าวหอมของมึงก็เหี้ยล่ะ ไอแต๊ก น้องกู!” พี่ปาร์คเดินมากอดคอผมแล้วลากให้มานั่งลงที่มุมนึง
“แหม ไอสัด น้องกูๆ พี่น้องท้องชนกันเปล่าครับไอปาร์ค” พี่ไทม์พูดเสียงดัง
“ไม่ๆ ไม่ใช่นะครับพี่ไทม์” ผมเบิกตากว้างกับประโยคนั้นของพี่ไทม์ เอ่ยพร้อมกับมือสองข้างยกขึ้นปฏิเสธเป็นพัลวัล
“ไอเชี่ยไทม์พูดไรเกรงใจน้องบ้าง ไอห่า” พี่ปาร์คเอื้อมมือไปตบหัวพี่ไทม์ดังป๊าป เสียงหัวเราะดังสนั่น ผมยิ้มนิดๆ มองหน้าพี่ๆ แต่ละคน
“ผสมไรดีครับน้องข้าวหอม” พี่เพียวที่นั่งข้างผมหันมาถามถึงเครื่องดื่มที่จะชงให้ผม
“เอ่อ… ผสมน้ำอัดลมก็ได้ครับ”
“เฮ้ยๆ กินเป็นเหรอเราอ่ะ? เอาน้ำอัดลมให้น้องพอไม่ต้องชง” พี่ปาร์ครีบแย้งขึ้น
“ผมดื่มได้ๆ” ผมหันไปพูดกับพี่ปาร์ค เคยดื่มอยู่แต่ไม่ค่อยบ่อยครับ ถ้าผสมน้ำอัดลมผมพอจะดื่มได้
“ไม่เอา พี่ไม่ให้ดื่ม”
“ห่วงเชี่ยไรนักหนาไอปาร์ค นี่น้องหรือเมียเนี่ย หวงขนาดนี้มึงชอบน้องมันเปล่าวะ? น้องมันก็บอกอยู่ว่าดื่มได้นะ” พี่แทนที่นั่งแงะถั่วเอ่ยพูดขึ้นติดตลก
“มึงอย่าตลก ไอแทน กูไม่ได้ชอบน้อง!” ผมสะอึกไปเลยกับคำพูดนั้น ในใจมันหวิวๆ อารมณ์น้อยใจนิดๆ ผุดขึ้นมา
ทำไมน่ะเหรอครับ? นั่นเป็นเพราะว่าผมรักพี่เขา และรักมากด้วย พี่ปาร์คเป็นรุ่นพี่คนเดียวที่ผมสนิทด้วยจริงๆ อาจจะเป็นเพราะว่าบ้านเราอยู่ใกล้กัน เราไป-กลับโรงเรียนด้วยกันบ่อยๆ และช่วงปิดเทอมเราก็ทำอะไรร่วมกันเยอะ จริงๆ พี่เขาพึ่งย้ายบ้านมาตอนผมอยู่ ม.3 ส่วนพี่เขาขึ้น ม.4 และด้วยวัยที่ไม่ห่างกัน รวมไปถึงระแวกบ้านของเราก็มีเพื่อนบ้านอยู่ไม่มากและคนที่อายุไล่เลี่ยกันกับผมก็มีแค่พี่ปาร์ค จึงทำให้เราสนิทกันและเล่นกันบ่อยๆ ตอนไหนที่ผมรู้สึกตัวว่าชอบพี่ปาร์คน่ะเหรอครับ? ช่วงนั้นมันเป็นช่วงซัมเมอร์ ตอนที่ผมจะขึ้น ม.4 พี่เขาขึ้น ม.5 ในวันนั้นผมได้รู้ว่าพี่เขามีเดทกับใครคนนึงอยู่แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นใครพี่เขาคุยโทรศัพท์กับคนๆ นั้นตอนที่มาค้างบ้านผมน่ะครับ ในตอนนั้นน่ะผมรู้สึกเบื่อๆ ไม่อยากทำอะไร พยายามหลบหน้าพี่เขา พูดจากับพี่เขาห้วนๆ จนเราทะเลาะกันไปพักนึง ผมนำเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนแต่ไม่ได้บอกเพื่อนว่าผมชอบใคร และเพราะคำตอบที่เพื่อนผมให้มานั้นมันก็ทำให้ผมรู้ตัวว่าผมรักเขา พอรู้ตัวว่าผมรู้สึกยังไง ผมก็ไปขอโทษพี่เขา แต่ผมก็ไม่เคยบอกความรู้สึกของตัวเองหรอกครับ ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเรามันพังลงถ้าเกิดผมบอกไปพี่เขาไม่คิดอะไรเราอาจจะมองหน้ากันไม่ติดเลย เผลอๆ พี่เขาจะเกลียดผมไปด้วย ผมยอมรับว่าความรู้สึกนี้มันเกิดจากความใกล้ชิดซึ่งมันไม่ควรจะเกิดขึ้นเพราะเราเป็นพี่น้องกัน ถึงจะไม่ใช้พี่น้องแท้ๆ ก็ตาม และไม่ว่าจะทำยังไงผมก็เลิกรู้สึกแบบนี้กับพี่ปาร์คไม่ได้เลย ไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ไม่มีทางทำได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมต้องเห็นพี่ปาร์คคบกับใครต่อใคร ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง ครับ… พี่ปาร์คเป็นเสือไบแต่เอาเข้าจริงๆ พี่ปาร์คก็มีแฟนไม่เยอะ แค่สองสามคนมั้งครับ นานๆ ทีจะเปลี่ยนแฟนที เพราะพี่ปาร์คคบใครก็จะคบแค่คนเดียวแต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทั้งๆ ที่พี่ปาร์คแสนดีขนาดนี้ แต่คนพวกนั้นเป็นฝ่ายที่นอกใจพี่ปาร์คก่อนและเลิกลากันไป และช่วงเวลาที่พี่ปาร์คเศร้า… ก็เป็นผมที่อยู่ข้างพี่เขาตลอด ปลอบใจเขา ร้องไห้กับเขา ผมต้องเก็บความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ เห็นพี่เขาคบกับใครต่อใครก็ต้องบอกตัวเองเอาไว้ว่าเราเป็นแค่น้อง
แต่ในวันนี้ผมจะไม่รออีกแล้ว เวลาของผมมันจะไม่เหลือแล้ว…
ผมต้องบอกให้พี่เขารู้ ไม่ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นยังไง ผมต้องให้เขารู้
“มึงอย่าเครียดดิไอห่ากูล้อเล่น”
“เออ! ส่วนเราอ่ะ อยากกินก็กินไป เมาไม่ไปส่งนะ”
เขาพูดไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน ผมก้มหน้านิ่งๆ สูดลมหายใจเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา แล้วเอ่ยรับคำเสียงเบา หันไปบอกพี่เพียวว่าเอาเครื่องดื่มผสมอะไรยังไง ผมนั่งหงอยๆ ดื่มเครื่องดื่มไปเรื่อยๆ หลายแก้ว พี่ปาร์คไม่คุยกับผมเลย มีแต่พวกเพื่อนๆ พี่เขาชวนผมคุยตลอด เวลาก็เดินไปเรื่อยๆ จนเริ่มดึก เราดื่มกันไปหลายแก้ว ตอนนี้เราทุกคนเริ่มกรึ่มๆ ส่วนผมน่ะเหรอ นั่นเอเลี่ยนใช่ไหม คึคึ ทำไมหัวมันโตๆ
“อายยยยยยยยยพี่ปากกกก!” จู่ๆ ผมแหกปากตะโกนลั่นบ้าน
“เฮ้ยๆ ข้าวหอม เมามากแล้วเนี่ย” ผมกระชากแขนพี่ปาร์คให้หันมามองทางผม
“เปนนนนบ้าไรอะพี่ ทามมมายยม่ายมองหน้าข้าวววเลยยยห๊ะ” หัวผมมันหนักๆ ตาจะปิดอยู่แล้วใบหน้าร้อนๆ ด้วย
“พี่…”
“ข้าววววววถามมมมก็ตอบบบดิพี่” ผมพูดเสียงยานคางหัวโงนเงนไปมา จนพี่ปาร์คต้องจับให้ผมนั่งนิ่งๆ เสียงหัวเราะดังมาจากรอบๆ ข้าง
“เมามากแล้วข้าวหอม ไปนอนดีกว่าไหม?”
“ไม่! ข้าวไม่นอนนนน พี่ปากกกกกกตอบข้าวววมา เอิ๊ก” ผมหยิบแก้วขึ้นมาจะดื่มแต่เมื่อยกแก้วกระดกดันไม่มีอะไรไหลเข้าปากผมเลยคว่ำแล้วเทๆ “อ้าวววหมด พี่เพียวเติมให้ข้าวหน่อยยยย” ผมเอ่ยแล้วส่งแก้วไปให้พี่เพียว
“ไม่เอา พอแล้วข้าวหอมเลิกกินได้แล้ว”
“ไม่เอาข้าวจะกินนนนน!”
“ข้าวหอม! อย่าดื้อนะ!” พี่ปาร์คตะคอกใส่ ผมสะดุ้งและนั่นทำให้สติผมเริ่มกลับมานิดๆ
“ฮึก… พี่ปากดุ พี่ปาก ดุข้าว”
“ก็เราดื้อนี่ข้าวหอม เลิกดื้อแล้วให้พี่พาไปนอนโอเคไหม?”
“ไม่! พี่ปาก” ผมพูดแค่นั้นแล้วออกแรงที่มีอยู่น้อยนิดพยุงตัวเองแล้วส่งใบหน้าเข้าไปหาพี่ปาร์ค กดปากตัวเองลงไปบนปากของอีกคนแล้วแนบไว้เนิ่นนาน
“เฮ้ย!” เสียงตกใจดังขึ้นมาจากรอบข้าง ผมแตะริมฝีปากของตัวเองลงไว้เบาๆ ไม่ลืมตามองหน้าคนตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว
“มึงทำเหี้ยไรของมึงไอข้าว!” ผมถูกจับให้ผละออกโดยมือของพี่ปาร์ค พอจบประโยคนั้นร่างของผมก็ถูกผลักกระเด็นออกมาจากตรงนั้น
“อ๊ะ!” ผมนอนนิ่งอยู่บนพื้นนั่น หลับตาลงช้าๆ ผมได้คำตอบของเรื่องนี้แล้วล่ะ
“มึงทำเหี้ยอะไร!” พี่ปาร์คตะคอกผมเสียงดังลั่น เสียงพี่ๆ คนอื่นคอยบอกให้พี่ปาร์คใจเย็นอยู่ไม่ไกล
“ฮึกพี่ปาร์ค ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่รู้ไหมว่าผมคิดยังไง?” น้ำตาผมค่อยๆ ไหลออกมาช้าๆ ทั้งๆ ที่ผมยังคงหลับตาอยู่
“คิดเหี้ยไรของมึง!” เขายังคงพ่นคำหยาบใส่ผมอย่างต่อเนื่อง
“ผมไม่เคย…ฮึก ไม่เคยบอกให้พี่รู้ว่าผมรู้สึกยังไง ผมไม่เคยบอก… ผมไม่ได้คิดกับพี่ ฮึก… แค่พี่น้อง… และในวันนี้ผมจะบอก…ฮึก บอกว่าผมรักพี่… พี่ได้ยินไหมว่าผมรักพี่! ตลอดเวลา… ฮึก ตลอดเวลาที่ต้องเฝ้าเห็นพี่คบใครต่อใคร และพอพี่เลิกกับพวกเขาก็เป็นผมที่ต้องคอยปลอบพี่! พี่…ฮึก… !” ผมพูดรัวเร็วปนสะอื้นไห้อยู่บนพื้น ใครสักคนพยายามจะพยุงผมขึ้นแต่ผมใช้มือปฏิเสธ ขอให้ผมพูดให้จบก่อนแล้วผมจะไม่มาให้พี่เห็นอีกเลย
“…”
“ผมไม่ได้ต้องการให้พี่…ฮึก รักผมตอบ หรืออะไร ในวันนี้ที่ผมต้องบอกความรู้สึกก็เพราะเวลาของผมมันจะไม่เหลือแล้ว ผมต้องรีบ…ฮึก บอก ไม่ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง ผมต้องบอกว่าผมรัก ผมรัก ผมรัก ผมรัก… ฮึกพี่!” พูดจบผมก็พยุงตัวเองลุกขึ้น ลืมตามองหน้าพี่ปาร์คทั้งน้ำตา ผมเซไปเล็กน้อยพี่ปาร์คจะเข้ามาพยุงผมแต่เขาก็ชะงักไปแล้วยืนมองผมด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่สามารถอ่านออกได้เลยว่าพี่เขาคิดอะไรแววตาพี่เขามันดูสับสนไปหมด ม่านน้ำตาค่อยๆ รื้นขึ้นมาบดบังผมใช้มือปาดมันทิ้งเพื่อจะได้มองหน้าพี่ปาร์คได้ชัดๆ เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ผมจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยออกมาเสียงเบา ว่า
“ลาก่อนพี่”
จบประโยคนั้นผมก็รีบหันหลังวิ่งออกจากบ้านทันที เสียงของเพื่อนๆ พี่ปาร์คเรียกผมไว้แต่ผมไม่สนใจ ผมวิ่งออกมาได้สักพักก็สะดุดล้มเข่ากระแทกพื้น ถลอกเลือดออก แต่มันเทียบไม่ได้เลยล่ะกับอาการปวดตึบๆ ที่หน้าอกข้างซ้ายของผมมันเจ็บกว่าเยอะเลย ผมรีบยันตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งกลับบ้าน ทันทีที่ถึงบ้านผมก็รีบวิ่งขึ้นห้องนอนทันที เดินไปนั่งลงที่ซอกข้างตู้เสื้อผ้าขดตัวอยู่ในนั้นกอดเข่าตัวเองร้องไห้กับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าพี่ปาร์คไม่ได้คิดอะไรกับผมเลย แถมยังรังเกียจกันอีกด้วย ผมร้องไห้จนหมดแรงและเผลอหลับคาซอกข้างตู้นั้นไป
รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แม่เข้ามาปลุกผมแล้วบอกว่าเราเดินทางกันแล้ว ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมันหนักไปหมดรอบๆ บริเวณดวงตา ผมปวดตาด้วย แม่ตกใจกับแผลที่ขาผมแล้วก็ดวงตาที่บวมช้ำ ผมบอกแม่ไปว่า แผลที่ขาเกิดจากการที่ผมเมาแล้วระหว่างทางเดินกลับบ้านเกิดสะดุดล้ม ส่วนตาที่บวมช้ำแบบนี้ก็เป็นเพราะว่าสิ่งที่ดื่มไปเมื่อคืนเลยมันเลยเป็นแบบนี้ ดีที่แม่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อบอกให้ผมรีบไปอาบน้ำแล้วก็ทำแผล รถขนของจะมาแล้ว… ที่ผมบอกว่าเวลาของผมมันไม่เหลือแล้วนั่นก็เพราะผมจะต้องย้ายบ้านแล้ว ย้ายไปอยู่ที่อื่น ผมถอดเสื้อออกแล้วเดินมาหยิบกล่องของขวัญที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา ผมถือมันแล้วจ้องมันอยู่แบบนั้นพร้อมกับน้ำตาที่รื้นขึ้นมาจนภาพมันพร่ามัวไปหมด ผมยืนร้องไห้อยู่แบบนั้นนานนับนาที ก่อนจะปาดน้ำตาออกแล้ววางกล่องของขวัญนั้นลง เดินเข้าห้องน้ำเปิดฝักบัวให้น้ำไหลลงมาชำระล้างร่างกาย ผมปล่อยหยดน้ำตาไหลออกมาพร้อมกับสายน้ำ ผมใช้เวลาในห้องน้ำค่อนข้างที่จะนานกว่าปกติ หลังจากออกมาจากห้องน้ำผมก็แต่งตัว และนั่งเขียนจดหมายฉบับนึงจนเสร็จ ก็จัดการเก็บข้าวของที่จะเอาไปใส่ไว้บนรถของพ่อแล้วเดินลงมาข้างล่างทันที เปิดประตูรถเข้าไปนั่งรอเวลาที่จะไป และพอถึงเวลาพ่อกับแม่ของผมก็ขึ้นมาบนรถ
“แล้วนี่ข้าวหอมบอกพี่ปาร์คเขารึยังครับ? ว่าเราย้ายบ้านน่ะ?” ทันทีที่ขึ้นรถมาแม่ก็เอ่ยถามผม
“เอ่อ… บอกแล้วครับแม่ พ่อครับเดี๋ยวตอนผ่านบ้านพี่ปาร์คพ่อหยุดรถให้ข้าวแป๊ปนึงนะครับ”
ผมเลือกที่จะโกหกแม่ออกไป แล้วก็หันไปพูดกับพ่อๆ พยักหน้าให้ ผมหันกลับมานั่งมองกล่องของขวัญนั้นในมือ ทันทีที่รถจอดอยู่ที่หน้าบ้านของพี่ปาร์ค ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เปิดประตูรถลงไป เดินไปหยุดที่รั้วหน้าบ้าน ผมไม่ได้กดกริ่งเรียกใคร ผมแค่มองเข้าไปยังห้องนอนของพี่ปาร์คที่อยู่ชั้นบน มองค้างอยู่แบบนั้นเนิ่นนาน ก่อนที่จะถอนสายตาออกมาแล้ววางกล่องของขวัญและกระดาษที่มีข้อความอยู่ในนั้นที่ผมพึ่งเขียน วางของทั้งสองไว้ในตู้จดหมายเสร็จ ผมก็เดินกลับมาขึ้นรถทันที นั่งมองภาพของบ้านหลังนั้น บ้านของพี่ปาร์คเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกจากบริเวณนั้น ผมมองจนภาพของบ้านหลังใหญ่นั่นลับสายตาไป ผมจึงหันกลับมา รักนี้ผมจะเก็บมันไว้อย่างดี เก็บมันไว้ให้พี่คนเดียว…
เปิดจดหมายของข้าวหอม
พี่ปาร์ค :3 นี่ข้าวหอม หอมมากด้วย
พี่ปาร์ค ข้าวขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อวานนะ ข้าวไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น ข้าวแค่ตั้งใจว่าจะบอกความในใจของข้าวที่มีกับพี่เท่านั้น ไม่ได้จะล่วงเกินอะไร ขอโทษที่ทำให้พี่ต้องอายนะครับ กว่าพี่จะตื่นมาอ่านจดหมายนี้ข้าวก็คงไปไกลแล้วมั้ง ขอบคุณเวลาที่ผ่านมานะพี่ปาร์ค ขอบคุณที่เป็นเพื่อนเล่นกับข้าวมาตลอด พี่เป็นพี่ที่โครตดีๆ มากเลยนะ แต่ข้าวแย่เองที่รู้สึกกับพี่แบบนี้กับพี่มันไม่ใช่เรื่องเลยเนอะ ของชิ้นนี้ที่ข้าวให้ ไม่รู้ว่าพี่จะชอบไหมนะ เป็นสิ่งของขวัญวันเรียนจบของพี่แล้วก็เป็นสิ่งของตอบแทนเวลาทั้งหมดที่พี่อยู่เป็นเพื่อนข้าว คอยสอน คอยปกป้องข้าว ข้าวรู้ว่าตัวเองเป็นภาระมาตลอด ต่อไปนี้พี่ไม่ต้องมาคอยทำอะไรแบบนั้นแล้วนะเนี่ย ต้องขอบคุณข้าวเลยนะ! ข้าวน่ะ จะเข้มแข็งขึ้นอย่างที่พี่บอก ข้าวจะไม่ให้ใครมารังแกข้าวได้แล้ว ข้าวจะสู้กับทุกคนที่จะมารังแกข้าว พี่ปาร์คไม่ต้องห่วงข้าวเลยนะ เอ้อแล้วก็อีกเรื่องข้าวรู้ว่าพี่ปาร์คจะต้องได้เข้าเรียนที่นั่นแน่ๆ ข้าวเชื่อเพราะพี่ปาร์คเรียนเก่ง สู้ๆ นะพี่ปาร์ค ข้าวก็จะทำทางของข้าวให้ดีที่สุดเหมือนกันล่ะ ข้าวจะเป็นนักร้องให้ได้ๆ พี่คอยติดตามผลงานของข้าวด้วยนะ ขอบคุณสำหรับทุกช่วงเวลาเลยครับ มีความสุขที่สุด ข้าวจะไม่ลืมมันแน่นอน
ลาก่อนพี่ปาร์คของน้องข้าว ^_^
2BCON.คำบรรยายเยอะไปไหมนะ 5555555
^_^