วันที่ 1
โห้ยยยยยยยยยยยยยยย
บรรยากาศโคตรจะดีฉิบหายยยยยยย
ผมคือ ไอ้หนึ่ง
หนุ่มร่างขาว หน้าใส ขวัญใจเก้งกวาง
พวกหล่อนไม่รู้ซะแล้วว่าฉันก็พวกเดียวกันกับพวกหล่อนนั่นแหละ
แค่ไม่แสดงอาการไม่ได้แปลว่าฉันไม่ได้เป็นนะยะ
อ๋อ
ช่วงนี้คือช่วงปิดเทอมฤดูร้อนน่ะ
พึ่งสอบเสร็จเมื่อวานเลย
แล้วก็ดิ่งมาเที่ยวต่างจังหวัดคนเดียวในวันถัดมา
ก็ใจมันว้อนท์
อะไรก็ขัดขวางไม่ได้
ปิ๊บบบบบ ปิ๊บบบบ
โอะ
รถประจำทางมาแล้ว
รถประจำทางของที่นี่สะดวกดีนะ ไม่ต้องนั่งคอย ออกมารับลูกค้าทุกๆ 15 นาที
เอาละไหนๆก็ขึ้นมาบนรถแล้ว
เซลฟี่หน่อยดีกว่าาาาาา
หนึ่ง
สอง
ซั่มมมมม
( เสียงกดชัดเตอร์ )
หู้ยยยยยย
เรานี่มันน่ารักใช้ได้
“ ขอโทษนะครับ ”
“ ที่นั่งข้างๆมีใครนั่งแล้วหรือยังครับ ” ชายหนุ่มตัวสูง ผิวสีน้ำผึ้ง ผมหน้าม้า ดักหยิกลอนหน่อยๆ เสื้อฮาวาย กับ ยีนส์สีดำ
นักดนตรีสินะ ..
“ ยะ..ยังครับ ”
“ อ๋อ ”
“ งั้นผมนั่งนะครับ ”
เวลาผ่านไปสักพัก ..
ทำไมบรรยากาศมันเงียบขนาดนี้วะ
ไม่ชินเลย
ทำไมทั้งรถมันเงียบขนาดนี้ ..
งั้นฟังเพลงดีกว่า ..
อื๊ดดดดดด อื๊ดดดดด
ชะ..เชี้ยยยย
แบตหมดดดดด
แบตสำรองก็ไมได้เอามาาา
ฉิบหายยยยยยยย
ไม่เอาชีวิตเราจะจบลงตรงนี้ไมได้นะ
แผนที่ ห้องพัก อยู่ในโทรศัพท์หมดเลย
เอายังไงดีวะ
..
.
แต่ว่าเอ๊ะ
( เหลือบตามองคนข้างๆ )
เข้าจะมือแบตสำรองพกติดตัวไว้มั้ยวะ ?
ถาม
ไม่ถาม
ถาม
ไม่ถาม
ถ๊ามมมมมมมมมมมมมมมม
ถ้ามึงไม่ถามนะ มึงไม่มีที่พักนะไอ้โง่
“ ขะ..คุณครับ ”
“ แฮ่ .. ”
“ ขอโทษนะครับ คุณพอจะมีแบตสำรองพกติดตัวมาด้วยหรือเปล่า ”
“ พอดีโทรศัพท์ผมแบตหมด แล้วข้อมูลห้องพัก ชื่อโรงแรม ทั้งหมดมันอยู่ในโทรศัพท์น่ะครับ ”
“ อ๋อ ”
“ ได้ครับ มีครับ ”
หู้ยยยย
หล่อแล้วยังใจดีอีกกกก
“ ขอบคุณครับ ”
ปื๊บบบบ
นี่แน่ะ
ตัวอักษรรูปแอปเปื้ลทำงาน
“ ขอโทษนะครับ แต่ว่า .. คุณพักที่ไหนหรอครับ ? ” เขาถาม
“ ผมหรอ ? ”
“ ครับ ”
“ อ๋อ รอแปปนะครับ รอเครื่องปิดติดสักพัก ”
โห้ยยยยยยย
ถามหาที่พักนี่จะจีบกูปะวะ
โอเค
สามีไม่มี ยังไม่ปฎิเสธ
“ โอะ ”
“ นี่ครับคุณ ”
“ เอ่อ .. น่าจะชื่อโรงแรม ”
“ เดอะ เม้าท์เท็น ครับ ”
“ โห้ยยยยย ”
“ ที่เดียวกับผมเลย ”
“ ผมเล่นดนตรีที่นั่นคืนนี้ ”
“ อย่าลืมไปดูผมเล่นนะครับ แลกกับที่ให้ยืมแบตสำรอง ( ยิ้มพิฆาต ) ” ชายหนุ่มตัวสูงตอบ
ฉิบหาย
ไม่ได้จีบกูหรอกหรอ
ชวนไปดูดนตรีเฉยเลย
“ ขะ..ครับ ”
“ ไม่ต้องเกร็งนะคุณ ”
“ ผมชื่อ อาทิตย์ ”
“ ยินดีที่ได้รู้จัก ”
“ คุณละครับ ? ”
“ อะ..อ๋อ ”
“ น่ะนะ..หนึ่งครับ ”
ชีห่า
ทำไมเฟรนด์ลี่จังวะ
อย่างว่าละนะ .. นักดนตรี
“ เห้ยยยคุณ ไม่ต้องเกร็งนะ ”
“ แล้วนี่คุณมาเที่ยวหรอ ? ”
“ มาคนเดียว ? ”
“ ครับ ”
“ มาคนเดียว ”
“ กำลังจะไปที่พักนั่นแหละครับ ”
“ ดีเลย เดี๋ยวผมไปส่งนะ ”
“ ไปคนเดียวคุณไปไม่ถูกแน่ๆ ”
ว่างรึไง ?
ไม่ซ้อมหรอดนตรีอะ
เล่นวันนี้ไม่ใช่อ๋อ ?
( คิดในใจ )
“ ก็ได้ ขอบคุณนะครับ ”
“ เห้ยคุณไม่ต้องมารยาทขนาดนั้น ” เขาบอก
“ ได้ไงละคุณ ก็เรายังไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ”
“ งั้น .. ”
“ เรารู้จักกันแล้ว ไม่ต้องพูดเพราะกับผมนะครับ เป็นตัวของคุณเองนั่นแหละ ”
“ เอางั้นอ๋อ ? ”
“ อื้ม ”
“ กะด้ะ ”
“ แหม .. ท่าออกเลยนะ ”
“ รู้เลยอะว่าเป็น ”
“ เป็นแล้วชอบมะ ? ” ฉันถาม
“ ชอบๆ ”
ห๊ะ ?
“ คนแบบหนึ่งอยู่ด้วยแล้วสนุก ”
อ๋อนี่มันอย่างงี้นี่เอง
อิเดาะ
มีเพื่อนสาวเยอะว่างั้นเถอะ
“ แล้วนี่วางแพลนไปไหนบ้าง ”
“ อยู่กี่วันอะ ” เขาถาม
“ ประมาณ 1 อาทิตย์ ”
“ แต่ไม่ได้อยากไปเที่ยวแบบเช้าเข้าห้าง เย็นเข้าห้างไรงี้นะ ”
“ อยากไปเดินรับลมที่พัดแรงๆเข้ามาที่หน้า อยากไปถ่ายรูป ชอบอะไรที่เป็นธรรมชาติๆอะ ”
“ เอางี้ ”
“ ถ้าเย็นนี้หนึ่งไปดูเราเล่นดนตรี พรุ่งนี้เราจะหนึ่งไปเที่ยว ”
“ ที่นี่ถิ่นเรา เดี๋ยวเราพาไปเอง ”
“ เดี๋ยวนะ ”
“ ปกตินี่เฟรนลี่แบบนี่กับทุกคนปะเนี๊ยะ ”
“ เราพึ่งรู้จักกันนะเว้ย ”
“ จริงๆเราไม่ได้พึ่งรู้จักกันหรอกนะ ” เขาตอบ
“ บ้านเราอยู่ที่นี่ แต่เราไม่ได้อยู่ที่นี่ ”
“ หาาา ”
“ ยังไงนะ ขอใหม่อีกรอบ ”
“ เราเกิดที่นี่ เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ไปเรียนอยู่ที่อื่น ”
“ จริงๆก็ไม่ถือว่าเรียนหรอก เราพึ่งเรียนจบมาหมาดๆ แต่ยังไม่อยากทำงาน ก็เลยอาศัยเล่นดนตรีกับวงไปเรื่อยๆ ”
“ เห้ย งั้นก็เป็นพี่หนึ่งอะดิ ” ฉันถาม
“ อืม ก็ใช่ ”
“ งั้นเราไม่ควรเป็นเพื่อนกันเนอะ ”
“ กราบสวัสดีครับพี่หนึ่ง ”
“ กวนตีน ” เขาตอบ
“ 555555555555555 ”
“ นี่แหละ ตัวหนึ่ง ”
“ แล้วทำไมถึงบอกว่าเราไม่ใช่ว่าพึ่งเคยรู้จักกันละ ? ”
“ ก็เราเคยเจอกันมาแล้ว ”
ตอนไหนวะ
ทำไมจำไม่ได้
“ ตอนไหนวะพี่ ”
“ คนอย่างแกมันจะไปจำใครได้อยู่นั่น ”
อ้าว ..
“ แล้วไมง่ะ ”
“ ก็อยากให้จำไง ถึงพูดแบบนี้ ”
“ เราคือรุ่นพี่คณะหนึ่ง ”
อ้าวฉิบหายยยยย
ทำไมเป็นแบบนี้ ( น้ำตาไหลพรากๆ )
“ ก็หนึ่งไม่ค่อยเข้ากิจกรรมหนี่งจำพี่ไม่ได้หรอก ”
เออวะ ..
ไม่ค่อยเข้าจริงๆ
“ เป็นเด็กที่สนใจแต่สิ่งที่ตัวเองสนใจเท่านั้น ”
“ เนี่ย นิยามของแก ไอ้หนึ่ง ”
“ โถ่พี่ ก็มีนิดน่าาาา ”
“ นิดนึงพ่อง เดี๋ยวก็เบิร์ดกะโหลกให้ ”
“ อีกปีเดียวก็จบแล้วนะ เข้าบ้างกิจกรรมน่ะ ”
“ ก็.. คนเรามันต้องมีเหตุผลอยู่แล้วเปล่า ถึงไม่เข้าอะ ”
“ เหตุผลอะไรวะ ? ”
“ พี่ไม่ต้องรู้หรอก รู้ไปพี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ”
“ โวะ ไอ้เด็กบ้า ”
“ บ้าแล้วชอบปะละ ”
“ เออ ชอบ ”
“ ชอบแบบไหนอ้าาา ชอบแบบอยากจีบป้าาา ”
“ ทะลึ่ง ”
“ แล้วเพื่อนละ ไปไหนหมด ”
“ เพื่อนที่อยู่บ้านเกิดอะไร มีเยอะ มีเป็นแก๊งค์เลย ”
“ แต่ที่มอไม่ค่อยมีวะ ”
“ ก็นั่นแหละ ไอ้เด็กไม่ชอบเข้ากิจกรรม ”
“ เอ้า อย่ามาเหมารวมดิพี่ ก็บอกว่ามีเหตุผลไงวะ ”
“ เออๆ ก็ได้ ”
“ ว่าแต่พี่เหอะ ทำไมถึงทำเป็นไม่รู้จักน้องตอนแรก ”
“ ใครบอกว่าทำเป็นไม่รู้จัก ” เขาเถียง
“ ก็เห็นนั่งเงียบตั้งนาน ก็คิดว่าไม่รู้จักกันอะดิ ถ้าหนึ่งไม่ทักพี่ก่อน เราคงไม่ได้คุยกัน ”
“ พี่ทักเราก่อนนะ ”
“ ที่นั่งข้างๆมีใครนั่งแล้วหรือยังครับ ”
“ จำได้มะ ? ” เขาถาม
..
เออ
ก็ได้วะ
“ แล้วนี่อีกนานปะพี่ กว่าจะถึงปลายทางที่เราต้องลง ” ฉันถาม
“ เดี๋ยวป้ายหน้าก็ลงได้แล้ว ” เขาตอบ
“ นี่พี่ทิต ”
“ ว่า ”
“ พี่ว่า .. ”
“ เอ่อ .. ถ้าสมมุติว่า ถ้าพี่กำลังรักใครสักคน แต่ว่าเวลาที่พี่จะอยู่กับเค้า หรือ ได้มองเห็นเค้า เหลือแค่นิดเดียว พี่จะทำยังไง ? ”
“ อย่างแรกเลย ถ้าเค้ายังไม่รู้ว่าพี่รัก พี่จะบอกเค้า ”
“ อย่างที่สอง พี่จะทำทุกอย่างที่เค้าอยากให้พี่ทำให้ ”
“ และอย่างสุดท้าย ทำไมถึงถามคำถามแบบนี้ ไปแอบชอบใครมา ? ”
“ ก็เปล่า .. ” ฉันตอบ
“ แค่อยากรู้ว่า ถ้าเป็นผู้ชายแบบพี่จะทำยังไง ”
“ จะเอาไปใช้อะดิ ใช่มั้ย ? ” เขาถาม
“ พี่นี่มัน .. ”
“ เอ่อ ก็อาจจะ ”
กริ๊ง กริ๊งง
( เสียงปุ่มกดรถให้หยุด )
“ เอาละ ”
“ ถึงแล้ว ”
“ ลงกัน ” เขาบอก
“ ถึงแล้วอ๋อ ”
“ อืม ”
ใช้เวลาไม่นานเราสองคนก็เดินมาถึงหน้าที่พักของผมและที่เล่นดนตรีของพี่ทิต
“ เอ่า ”
“ ถึงแล้ว ไปเช็คอินซะ ”
“ แล้วเดี๋ยวเย็นๆ พี่จะขึ้นไปรับลงมากินข้าวนะ ”
“ แหม ทำตัวเป็นพี่ที่ดี ”
“ คนหล่อเค้าก็ต้องคู่กับอะไรดีๆแบบนี้แหละ ” เขาตอบ
“ แหวะ มโน ”
“ เราก็มโนเก่งไม่ต่างจากพี่หรอก ”
“ คิดว่าตัวเองน่ารักอยู่บ่อยๆละสิ หึ ”
โห้ย ทำไมมันรู้วะ
“ แหวะ ทำมาเป็นรู้ทัน ”
“ แน่น๊อน ทั้งหล่อทั้งเก่ง ”
“ เอี่ยยยย ”
“ ไป ไปเช็คอินแล้วขึ้นไปพักผ่อนได้แล้ว ”
เวลาพักผ่อนช่างแสนผ่านไปไวเหลือเกิน
นอนพักได้แปปๆ ยามราตรีก็มาเยือนซะแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ หนึ่งเว้ยยย ”
“ ไปกินข้าวกัน ”
พึ่งจะบ่นได้ไม่ทันขาดคำ
มาละ
บ๊ายบายเวลาพักผ่ออน
“ แปปนะพี่ กำลังออกไป ”
“ ให้อีก 2 นาที ”
“ เอ่ออออ ”
“ รู้แล้วน่าาาา ”
“ เลิกเร่งได้แล่ว ”
“ ก็ได้ ”
ไม่เกิน 2 นาที
ประตูก็เปิดออก
แอ๊ดดด ..
“ เสร็จแล่ว ”
“ แล้วนี่พี่ต้องไปเล่นดนตรีกี่โมง ไม่ใช่ว่าต้องไปซ้อมก่อนขึ้นเวหรอ ? ”
“ ไอ้เรื่องกินข้าวนี่พี่ไม่ต้องห่วงนะ หนึ่หากินเองได้ ”
“ วันนี้ นักร้องนำเค้าป่วยอะ ”
“ มีวงมาเล่นแทนพี่แล้ว ” สีหน้าของเขาดูเศร้า
“ เอาน่าาาา ”
“ ไม่ต้องเศร้า เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ พี่มาเล่นให้หนึ่งฟังแทนก็ได้ ”
“ จริงนะ ? ” เขาถาม
“ จริงดิ แล้วพี่เล่นอะไรละในวง ? ”
“ ฉิบหายยย เท่ห์สุด ”
“ เทห์แล้วชอบปะละ ” เขาถาม
“ ชอบแหละ ชอบผู้ชายเล่นกีตาร์นะ ไม่ได้ชอบพี่ ”
เขาขำ
“ กวนตีนดี ”
“ แน่นอน ” ฉันตอบ
“ แล้วอยากกินอะไรละ อยากกินที่นี่ หรือ ข้างนอก ? ” เขาถาม
“ เอาตรงที่พี่คิดว่าอร่อย ”
เขายิ้ม
“ งั้นตามพี่มา ”
แค่ 10 นาทีเท่านั้น ชายร่างสูงหยุดเดิน
หันหลังกลับมามองฉัน
“ อาหารข้างทางน่ะ กินได้ใช่มั้ย ? ”
“ ได้อยู่แล้ว ของชอบหนึ่งเลยพี่ทิต ”
รอบๆตัวเรามีร้านอาหารที่ตั้งอยู่ข้างทางเต็มไปหมดเลย
“ คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ย ว่าใกล้ๆโรงแรมจะมีร้านอาหารข้างทางแบบนี้ด้วย ”
“ ชอบใช่มั้ยละ ? ” เขาถาม
“ อื้ม ” ฉันตอบ
“ กินอะไรกันดี ” เขาเริ่มถามคำถามอีกครั้ง
“ บะหมีไหม ? ”
“ หมี่เหลืองแห้งต้มยำ ” เขาพูดขึ้นมาลอยๆ
“ ทำไมรู้ ” ฉันถาม
ชายหนุ่มนิ่งไปสักพัก เหมือนกับว่ากำลังคิดคำตอบอยู่
“ ก็.. ใครๆก็ชอบกินกันทั้งนั้นแหละ แค่เดาๆ ”
“ ให้มันจริง ไม่ใช่ว่าตอนอยู่มอแอบตามน้องหรอกนะ ? ”
ชายหนุ่มนิ่งไปอีกแล้ว ..
“ อืม ”
“ จะเรียกว่าตามก็ได้ ”
“ ห๊ะ ? ”
“ ก็ตั้งแต่หนึ่งไม่เข้ากิจกรรม เราถูกเบื้องบนสั่งให้ตามดูหนึ่ง ”
“ แต่ไม่ใช่แบบตามติดชีวิตทุกย่างก้าว อะไรแบบนั้นนะ ”
“ แค่ตอนที่ว่าง แล้วอยู่มอเท่านั้น ”
“ พี่ก็เลยรู้ว่าทิตชอบกินอะไร .. ? ” ฉันถาม
“ อืม ”
เขาคงรู้สึกผิดที่บอกความจริงกับเราละมั้ง ?
คงจะกลัวว่าเราจะเดินหนีไปหรือเปล่า
ถึงได้ตอบสั้นๆและทำหน้าแบบนั้น
เอาละ ..
พี่เค้าคงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
“ แล้วทำไมพี่ถึงรู้ว่าฉันจะมาทีนี่ ” ฉันถาม
“ ไม่ใช่นะ ”
“ เรื่องที่นี่เราไม่ได้ตามหนึ่งมานะ ”
“ เราแค่กลับมาบ้านน่ะ ”
“ แล้วก็บังเอิญเจอหนึ่ง ”
“ อย่างงั้นหรอกหรอ .. ”
ฉันยิ้ม
“ งั้นเราไปกินข้าวกันดีกว่า ”
“ หมี่เหลืองต้มยำสินะ ”
ฉันเริ่มยิ้มอีกครั้ง พร้อมกับหัวเราะ
หน้าตาของเขาดูดีขึ้นมาแล้วนิดๆ
คงกลัวมากเลยละสิ ..
“ ไป ตามพี่มา พี่จะพาไปร้านเด็ก ”
“ ให้มันได้อย่างที่พูดนะพี่ชาย ”
“ ครับผม น้องหนึ่ง ” เขาทำหน้าล้อเลียน
ร้านที่พี่ทิตเลือกพาฉันไป คือร้านบะหมี่รถเข็นข้างทาง
แปลกที่เป็นแค่ร้านขายอาหารข้างทาง แต่ยิ่งมองยิ่งน่านั่ง
พี่ทิตเริ่มสั่งอาหารให้เราสองคนกับแม่ค้า
แถมยังเดิมไปสั่งหมูสะเต๊ะร้านข้างๆให้ด้วย
ดูแลดีจริงๆ
“ มาแล้วจ้า ”
“ หมี่เหลืองแห้งต้มยำ สองที่ ” แม่ค้าขายบะหมี่เดินยกชามบะหมี่มาให้เราสองคน
“ หมูเต๊ะก็ได้ละจ้า ” นั่นก็แม่ค้าอีกคนกำลังเดินมา
มองดูแล้วตลกดี
อะไรจะพร้อมกันขนาดนั้น .. ( ขำในใจ )
“ หนึ่งเชื่อไหม พี่คิดว่าหนึ่งจะเป็นประเภทที่กรี๊ดก๊าดนู้นนี่นั่นไปทั่ว โวยวาย กินข้าวข้างทางไม่ได้ ” เขาพูดเปิดประโยคสนทนา
“ แหมพี่ คนเราไม่เหมือนกันทุกคนไหมละ ”
“ หนึ่งเป็นจริง แต่หนึ่งก็เรียบร้อยเป็น หนึ่งรู้ว่าตอนไหนที่ควรพูดห้วน ตอนไหนที่ควรพูดดี
ตอนไหนที่ควรพูดห้วนกับใคร ตอนไหนที่ควรพูดดีกับใคร
หนึ่งก็เหมือนคนอื่นนั่นแหละ พูดกูมึงได้ ด่าแรงๆได้ พูดแรงๆได้
แต่หนึ่งแค่เลือกใช้ให้มันถูกเวลา ถูกสถานที่ ”
“ แหม คนดี ” เขาแซว
“ แน่น๊อนน ”
เค้าพูด “ เหอะ ” พวกกับท่าเบ๋ปากที่ทำยังไงก็ยังดูหล่ออยู่ดี
“ พอก่อน ”
“ กินก่อนมั้ยข้าวอะ เย็นหมดแล้ว ” ฉันแทรก
หลังจากพูดจบ
ชายหนุ่มค่อยๆเริ่มปรุงเครื่องปรุงลงไปในอาหารของตน
“ นี่พี่ ”
“ ปรุงให้บ้างดิ ” ฉันกวน
“ มีมือมีแขนก็ทำเองดิ ”
“ ก็ของพี่มันน่าอร่อย ”
“ แล้วพี่ก็บอกเองหนิ ว่าจะพามากินข้าวอร่อย แล้วถ้าพี่ไม่ปรุงให้ มันจะอร่อยปะละ ”
เขาส่ายหัว แล้วยกถ้วยบะหมี่ของเขามาเปลี่ยนกับถ้วยบะหมี่ที่วางอยู่หน้าฉัน
“ ขอบคุณนะ ” ฉันตอบ
“ อื้ม ” เขาตอบกลับ
“ พี่รู้มั้ย ทำไมฉันถึงไม่เข้ากิจกรรม ”
“ รู้ดิ ”
“ ไหนว่ามา ”
“ ก็แกขี้เกียจ ”
“ รู้ไม่จริง ” ฉันตอบ
“ แล้วมันยังไง ” เขาถาม
“ ตอนนี้หนึ่งยังไม่บอกพี่หรอก ไว้ถึงเวลาแล้วจะบอก ”
“ ทำไมต้องทำให้พี่สงสัยด้วยวะ ” เขาถาม
“ ถ้าพี่รู้ก่อนมันก็ไม่สนุกดิ ” ฉันตอบ
“ ไปๆ กินข้าวไป ”
หลังจากที่เราอิ่มหนำสำราญไปกับบะหมี่อันโอชะแล้ว
ก็ถึงเวลาของพี่ชายที่พึ่งรู้จักได้ 1 วัน
“ อะ ”
“ ถึงห้องแล้ว ”
“ ลงไปเอากีตาร์มานะ ”
“ เดี๋ยวหนึ่งรอในห้อง ” ฉันบอกเขา
“ ครับผม ”
ใช้เวลาแค่ 2 นาทีชายหนุ่มก็เปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมกับกีตาร์ตัวคู่ใจ
“ อยากฟังเพลงอะไร ” เขาถาม
“ เพลงอะไรก็ได้ที่พี่คิดว่า พี่เล่นเพราะ แล้วก็ร้องเพราะที่สุด ”
“ จัดให้ ”
ชายหนุ่มค่อยๆเริ่มเกาคอร์ดกีตาร์ ก่อนจะเริ่มร้อง
“ ที่ฉันยืนอยู่ มันคือที่เดิม
ครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน
มีเรื่องราวมากมายร้อยพัน
ที่ที่เรารักกัน ลืมไปหรือยัง .. ”
“ เมื่อต้องไกลห่าง อ้างว้างเหลือเกิน
เหมือนถูกทิ้งอยู่กลางทะเล
กลางคลื่นลมที่โหดร้าย ไม่อาจเคยพัดหัวใจของฉันเปลี่ยนไปเลย ”
“ คิดถึงฉันอยู่ไหม ..
คำว่ารักจืดจางลงไหม
ฟ้าเปลี่ยนไปแค่ไหน
แต่ว่าฉันยังเหมือนเดิม .. ”
“ รู้ .. หรือเปล่า
ต่อให้ฉันต้องเหงาเท่าไหร่
ฉันจะรอแค่เธอเท่านั้น
ใช้โอกาสจากการไม่เหลือใคร
ให้เธอมั่นใจ ว่าฉันรักได้แค่เธอ ”
“ อยากให้รู้ .. ฉันจะรอแค่เธอ ”
ฉันจะรอ ( Always ) – แพรว คณิตกุล
เสียงทุ้มๆนุ่มๆแบบนี้ เนื้อร้อง ทำนอง การเกาของพี่ทิต
เป็นยากล่อมประสาทได้ดีเลยทีเดียว
ก่อนที่เพลงจะจบลง ฉันก็จมไปกับความฝันซะแล้ว ..
“ หลับไปแล้วหรอ ไอ้ตัวเล็ก ”
สัมผัสได้ถึงบางอย่างอุ่นๆที่ค่อยๆสัมผัสลงมาบนผิวหน้า
ค่อยๆสัมผัสลงมาอย่างอ่อนโยน ..
“ จำพี่ไม่ได้ ”
“ จำพี่ไม่ได้เลยหรอ .. ”
เสียงกระซิบบางอย่างของใครสักคนค่อยๆเบาลงไปอย่างช้าๆ ..
2BC .