บทที่ 18 ใครชอบใครนะ
Moon Thanaphat
[/b]
ผมกำลังมองดูหลังของคนตัวเล็กที่กำลังง่วนหน้าตั้งอกตั้งใจกับการทำอาหารในครัว ผมมองน้องแทบจะไม่วางตาไม่ใช่อะไรนะแค่อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้เพราะตะวันดูไม่ได้ชำนาญในการเข้าครัวขนาดนั้น ท่าทางการใช้อุปกรณ์แต่ละอย่างผมหวาดเสียวไปหมด พอออกตัวว่าจะทำให้ตะวันก็ไม่ยอม แถมบังคับให้ผมนั่งรอห้ามขยับห้ามเข้าไปวุ่นวายเขาในครัวอีกต่างหาก
“ตะวัน เป็นไงบ้าง?” อีกคนหันกลับมามองหน้าผมแล้วยกแขนเท้าสะเอวสองข้างอย่างหงุดหงิด
“พี่มูนนนน พี่มูนถามตะวันหลายรอบแล้วนะ ตะวันทำได้น่า...” น้องทำหน้ายุ่งๆ
“ตะวัน.. อะไรไหม้หรือเปล่า?” ผมถาม เมื่อเห็นควันโขมงลอยมาจากด้านหลังของอีกคน
“เฮ้ยยยย เพราะพี่มูนนั่นแหละชวนตะวันคุย ดูสิ เกือบจะไหม้แล้ว” ตะวันโวยวายเมื่อหันกลับไปแล้วเห็นอาหารที่ตัวเองกำลังทำเริ่มเละ ก่อนที่จะหันมาชี้นิ้วขู่ผม
“พี่มูนนั่งอยู่เฉยๆไปเลย ตะวันขอเวลาอีกแปปนึง เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว
“ขอเวลาทำอาหารให้เสร็จหรือขอเวลาพังครัว?”
“พี่มูน ! อย่ามาดูถูกตะวันนะ ตะวันนี่แข่งกับเชฟกระทะเหล็กได้เลยนะจะบอกให้” น้องกอดอกแล้วดูจะมั่นใจเอามากๆ
“แต่เราทำนานแล้วนะ”
“เอาน่า อยากกินของอร่อยๆก็รอหน่อย” ก่อนที่จะหมุนตัวกลับไปทำอาหารต่อ ผมส่ายหัวไปมาเมื่อมองเห็นสภาพห้องครัวตัวเองที่เละเทะไปแล้ว จะรอดไหมเนี่ย
Fb.
Moon Thanaphat เจ้าดื้อบอกจะไปแข่งกับเชฟกระทะเหล็ก with ตะวัน อัศวถาวรานุกูล
ผมลงรูปตะวันที่แอบถ่ายจากด้านหลังโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้และเป็นตอนที่ครัวยังไม่เละเทะด้วย
Man thawin : ห้องพี่? พี่ทำไมกล้าให้มันเข้าครัว
After you : ดูก็รู้ว่าต้องอร่อย
Lemon now : +แมน
Momomo : +แมน
BoomBoom’z : เดี๋ยวผมรีบโทรเรียกรถดับเพลิงไว้ให้
BigBro : ห่า บูม มันจะขนาดนั้นเลยหรอวะ 55555
ลิลลี่ที่สวยๆ : อิจฉาตาร้อนมากกู โทรสั่งแกร็บก่อน
บ้านคนหล่อ : พบคนขิงว่ามีคนทำอาหารให้กิน
ผมนั่งอ่านคอมเม้นท์ไปขำไปเพราะเห็นด้วยกับที่เพื่อนๆตะวันบอก แต่ไม่นานน้องก็เดินมาหาผมที่สภาพมีเหงื่อเล็กน้อย
“ทำอาหารหรือไปรบมา?”
“พี่มูน ! ไปทำอาหารมาสิ ปะๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว กินได้ชัวร์” ตะวันดึงแขนผมให้เดินยังไปโต๊ะอาหาร
ผมยืนสำรวจดูอาหารที่ตะวันทำจนครบทุกจาน ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียวที่มีไหม้แค่ขอบๆ แกงจืดที่ไม่มั่นใจว่าจะจืดสมชื่อหรือเปล่า ผัดกะเพราที่ดูสีเข้มจนจะเค็มเกินไปหรือเปล่า แต่รวมๆแล้วผมรู้ว่าตะวันใส่ความตั้งใจเข้าไปมากอยู่พอสมควร
“นั่งๆ” น้องดันให้ผมนั่งลง ก่อนที่ตัวเองจะอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง
“พี่ไม่เคยเห็นเราทำอาหารกินเอง เลยคิดว่าทำไม่เป็น”
“ทำได้สิ มันจะไปยากอะไร แต่ตะวันไม่ค่อยได้ทำ ซื้อกินง่ายกว่า” ผมพยักหน้า ก่อนจะตักไข่เจียวมาลองชิม แล้วตามมาด้วยผัดกะเพราและแกงจืด
“อืม...” น้องยังนั่งนิ่ง รอให้ผมพูดอะไรสักอย่างออกมา แต่ตอนนี้ผมต้องขอประมวลในหัวตัวเองก่อน
“ว่ายังไง อร่อยม้ะ?”
“ก็... ไม่ได้อร่อยขนาดนั้น แต่กินได้” ผมยิ้มให้
“หมายความว่ายังไง?” ตะวันทำหน้ายุ่งแบบยุ่งมากๆ
“ก็กินได้ ไม่ได้รู้สึกว่าไม่อร่อย หรือกินไม่ได้ไง”
“งั้นก็อร่อยสิ”
“เอ่อ... ก็ไม่ถึงกับอร่อยไง”
“พี่มูน ไม่อร่อย มันก็เท่ากับอร่อยไง พี่มูนจะปากแข็งทำไมเนี่ย ชมออกมาเลย”
“ตะวัน....”
“ก็มันจริงไหมล่ะ?” อีกคนพูดอย่างเอาใจ
“ฮ่าๆๆๆ ยอมๆ อร่อยๆ เห็นแก่ความตั้งใจของเราหรอกนะ”
“ก็มันแน่ล่ะ”
อาหารที่น้องทำมันก็อย่างที่ผมบอกไปว่าไม่ได้อร่อยขนาดนั้นแต่มันกินได้ จริงๆก็กะว่าจะอวยน้องไปเลยดีกว่าแต่คิดไปคิดมาเลือกที่จะบอกตรงๆจะดีกว่า ตะวันจะได้รู้ว่าฝีมือที่แท้จริงของตัวเป็นยังไง ความจริงน้องน่าจะรู้ถึงฝีมือตัวเองแต่แค่ทำเป็นมั่นใจเพื่อไม่ให้เสียความมั่นใจก็เท่านั้น
“งั้นไว้ตะวันจะฝึกเข้าครัวบ่อยๆ”
“ให้พี่ทำให้กินก็ได้”
“ก็ตะวันอยากทำให้พี่มูน”
“พี่กลัวเราลำบาก”
“ไม่เห็นลำบาก”
“กลัวทำครัวพัง”
“โห ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง” อีกคนขมวดคิ้ว
“ก็กลัวตะวันเจ็บตัว”
“หึหึ ทั้งรัก ทั้งหลงตะวันอะไรขนาดนั้น”
“พองลมได้แบบนี้มีคนเดียวนิ”
“พี่มูน!”
“พี่มูน!”
“อะไร เรียกซะเสียงดังเลย”
“แอบถ่ายรูปตะวัน” หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จแล้วผมเลยอาสาจัดการทำความสะอาดให้ อีกคนเลยพึ่งจะได้จับมือถือ
“แล้วไม่ได้หรอ?” ผมเช็ดมือแล้วรีบเดินเข้าไปหาตะวัน
“ถ่ายด้วยกัน” น้องบอกก่อนที่จะยกมือถือขึ้นมาเตรียมถ่ายรูป ซึ่งผมก็ยังทำหน้างงอยู่ ปกติตะวันค่อนข้างจะอายที่ต้องทำอะไรแบบนี้
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่อยากถ่ายกับตะวันหรอ?”
“เดี๋ยว ไม่ใช่ พี่แค่งงนิดหน่อย”
“งงทำไมเล่า มาๆขยับเข้ามาใกล้ๆตะวัน” ผมขยับเข้าไปอย่างที่น้องบอกแต่เหมือนจะไม่พอใจ ตะวันเลยขยับมานั่งแทรกตรงกลางระหว่างขาผมกลายเป็นว่าเรานั่งซ้อนกัน ตะวันจะรู้ตัวไหมว่าเราแนบชิดกันขนาดไหน ผมจะบ้าตาย !
“ยื่นหน้าหล่อๆเข้ามาสิพี่มูน” ผมยื่นหน้าเข้าไปวางไว้ที่ไหล่ของอีกคน
“ยิ้มด้วยน๊า หนึ่ง สอง ชั่ม”
แชะ !
ผมไม่ได้หันไปมองกล้องเพียงแต่เอียงหน้ามองตะวัน ส่วนน้องก็กลับไม่มองกล้องเหมือนที่คิดไว้แต่หันกลับมาผมแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้หน้าเราชิดกันมากจนจมูกชนจมูก
“อะ เอ่อ....”
“ถ่ายอีกไหม?” ผมยังคงอยู่ในท่าเดิมแล้วน้องก็ยังไม่ได้ขยับไปไหน
“มะ มะไม่แล้ว” พอรู้ตัวน้องก็ขยับหน้าออก
“ว๊า อดเลยพี่”
“ตีเนียน” น้องว่าก่อนจะเอนตัวทับผมจนผมต้องเอนไปพิงที่โซฟา สายตาก็มองไปที่มือถือของตะวันที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังดูรูป
“แคปชั่นอะไรดีอะ?”
“อยากจูบพี่มูน”
“มันใช่ไหมล่ะ” อีกคนทำเสียงขัดใจเบาๆ ก่อนจะทำถ้าคิดไปคิดมาแล้วพิมพ์อะไรสักอย่างโดยบังไว้ไม่ให้ผมเห็น
“ความลับหรอ?”
“เปิดดูเองสิ ก่อนที่ตะวันจะดับหน้าจอมือถือแล้วซุกหน้าลงมาที่ตัวผม” ผมต้องใจแข็งวันละกี่รอบเนี่ยย ทำไมขยันอ้อนกันจังวะช่วงนี้
Fb.
ตะวัน อัศวถาวรานุกูล จงรัก จงหลง ตะวันแค่คนเดียว with Moon Thanaphat
After you : โอ๊ยย พี่อาฟเจ็บที่ใจ
DewBro ที่หล่อกว่า BigBro : เจอแบบนี้ไอ้หล่อมีชีวิตอยู่ไหมวะ 5555
BigBro : แค่นี้เพื่อนพี่ก็ไปไหนไม่รอดแล้ว
Man thawin : เกินไป
Veevy very cool : จะฟ้องเฮียภู @ภูผา อัศวถาวรานุกูล
Lemon now : แม่จะตี !
เพจคิ้วท์บอย (รวมพลคนหล่อกำลังสอง) : โอ๊ยยยยย อิจฉาในความหวานนะคะ เห็นใจคนโสดด้วยย
ลิลลี่ที่สวยๆ : ทำไมกูต้องเข้ามาเจออะไรแบบนี้ด้วย ลูกชั้นนนนน
บ้านคนหล่อ : น่ารักกกกก
BoomBoom’z : อ้อนชิบหาย
ผมยิ้มกว้างให้กับแคปชั่นของคนที่ซุกหน้าอยู่ที่ตัวของผม อยากจะฟัดให้จมโซฟาเลยจริงๆ แต่ผมก็ต้องข่มใจตัวเองไว้ไม่ให้ทำอะไรน้องแต่ก็ขอนิดๆหน่อยแล้วกันพอให้ชื่นใจ ผมแอบก้มลงไปขโมยหอมแก้มของอีกคนแต่น้องก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาเพียงแค่บ่นให้เล็กน้อย
“นิสัยไม่ดี”
“อะไรนะ ว่าพี่หรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ มาหอมแก้มกันแบบนี้ได้ไง”
“อยากทำมากกว่านี้อีก”
“พอเลย” น้องพูดเบาๆ ดูก็รู้ว่าอีกคนคิดไปถึงไหนจนทำให้ตัวเองเขิน
“ทำไมอ้อนเก่งจัง?”
“ไม่อยากให้อ้อนใช่ไหม?”
“อยากครับ อยากให้อ้อน แต่แค่มันแปลกๆนิ”
“พี่มูน....”
“ว่าไง?”
“รักตะวันไหม?”
“รักสิ ถามทำไม?”
“แล้วจะรักตลอดไปไหม?”
“ไม่รู้สิ”
“งืออ”
“ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรักตลอดไปไหม รู้แค่ว่าอยากจะรักตะวันแบบนี้ไปเรื่อยๆ”
“จะเบื่อตะวันไหม?”
“ไม่”
“ถ้าตะวันดื้อล่ะ?”
“ก็ดื้อให้น้อยลงสิ”
“ก็... ก็ถ้าตะวันยังดื้อมากๆล่ะ?”
“เดี๋ยวพี่จะปราบเด็กดื้อเอง” น้องค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา สีหน้าน้องเหมือนมีความกังวลอะไรสักอย่าง ไม่มั่นใจในตัวผมงั้นหรอ?
“ถ้ามีคนที่ถูกใจพี่มูนเข้ามาจีบล่ะ?”
“พี่ถูกใจแค่ตะวัน กังวลอะไรอยู่ตะวัน พี่ทำอะไรให้ไม่มั่นใจงั้นหรอ?”
“ไม่ๆ พี่มูนแค่หน้าตาดีเกินไปต่างหาก เลยทำให้ตะวันกังวลแบบนี้”
“ห๊ะ? อะไรนะ?”
“ก็เพราะใบหน้าหล่อๆแบบนี้ไง มีแต่คนจ้องจะเข้าหาพี่มูน”
“นี่เรากังวลเรื่องนี้?”
“ก็ไม่เชิง แต่เวลาเราออกไปไหนนะ มีแต่คนมองพี่มูน มองเหมือนจะสิงพี่มูนเลย ตะวันนะอยากจะขังพี่มูนไว้ขังไม่ให้ออกไปไหนเลย” น้องบอกในขณะที่ทำหน้ามุ่ยๆ
“แบบนี้นี่เองหรืออ้อนบ่อยๆ”
“กะก็.... ตะวันหวงพี่มูนนี่”
“ดีใจจัง”
“ยิ้มทำไม ตะวันเครียดนะ ตะวันกำลังทำตัวไม่น่ารัก”
“ไม่น่ารักตรงไหน สำหรับพี่ตะวันน่ารักมากๆ น่ารักทุกเวลาอะแหละ” ผมค่อยๆนิ้วเกลี่ยไปที่แก้มขาวๆ
“รุ่นน้องปีหนึ่งที่คณะตะวันชอบพี่มูน”
“แล้วยังไงทีนี้?”
“น้องเขาน่ารัก”
“ไหนมาดูหน่อย น่ารักจริงหรอ?”
“ไม่ ไม่ให้ดู ไม่ให้เห็น ไม่ให้รู้จัก ห้าม” ตะวันยกมือขึ้นมาทำมือห้าม ห้ามจริงจังเลยแหละ
“แล้วถ้าเขาเข้ามาทักพี่ล่ะ พี่ก็ต้องรู้จักอยู่ดี” ผมพูดลองใจน้อง
“เฮ้อ นี่ไงที่ตะวันกลัว” ฉันถอนหายใจอย่างแรง
“ไม่เชื่อใจพี่หรอครับ?”
“ไม่เชื่อใจคนอื่นต่างหาก”
“งั้นก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลยนี่”
“ก็.......”
“พี่รักตะวันคนเดียว สนใจตะวันคนเดียว คนอื่นไม่อยู่ในสายตาเลย” ผมบอกเสียงหนักแน่นจนน้องจ้องหน้าผม
“มันก็อดคิดไม่ได้นี่”
“ก็ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นแหละ คิดถึงแค่พี่ก็พอ”
“งือออ อยากจะเก็บไว้ดูคนเดียวเลยจริงๆ” น้องใช้มือสองข้างประคองไว้ที่แก้มผม แล้วมองหน้าผมนิ่งๆ
“เราเองก็หลงพี่มากๆอะแหละ”
“รักด้วย หลงด้วย หวงด้วย” ปากยู่ๆนั่นบอกออกมา จนผมนึกหมั่นเขี้ยว
จุ๊บ
!
!
ตะวันจุ๊บผม โอ้โห ในใจผมนี่วิ่งเต้นละแต่ต้องนิ่งเก็บอาการไว้ก่อน เมื่อผมไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไปตะวันก็ก้มลงมาจุ๊บผมอีกครั้ง อย่างกับจะย้ำว่านี่คือของเขา ผมเป็นของเขา
“เอ่อ ใช่พี่มูนไหมครับ?” มีรุ่นน้องผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักผม ดูจากการแต่งตัวแล้วน่าจะเป็นเด็กปีหนึ่งซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนด้วย
“ครับ? มีอะไรกับพี่หรอ?” ผมถามกลับไป
“อ่อ ผมไม่คิดว่าจะเจอพี่โรงอาหารนิเทศฯ ผมตกใจนิดหน่อย พอมองใกล้ๆพี่หล่อมากเลยนะครับ” น้องมันเอ่ยชมแล้วยิ้มมาให้ ผมงงอยู่เหมือนกันแต่ก็ยิ้มๆกลับไป
“แล้วพี่รอพี่ตะวันหรอ?”
“อืม”
“งั้นให้ผมนั่งเป็นเพื่อนไหม? ภาคฟิล์มปี 3 น่าจะยังไม่เลิก” น้องมันไม่รอให้ผมตอบ มันกลับนั่งลงตรงข้ามผมทันที
“รู้ได้ไงว่าพี่มารอใคร?”
“แหมพี่ ข่าวพี่ดังจะตายไป ใครๆก็รู้ว่าพี่คบกับพี่ตะวัน” ผมหรี่ตามองคนตรงหน้า
“เราเรียนฟิล์มหรอ?”
“ใช่ครับปี 1 อ่อ ผมชื่อไผ่นะครับ อยากแนะนำตัวแม้พี่จะไม่ได้ถามก็เถอะ” ผมค่อนข้างตลกกับท่าทางของเด็กที่ชื่อไผ่ น้องมันดูเฟรนลี่เข้ากับคนง่ายดี เข้ามาทักทายคุยกับผมง่ายๆซึ่งหลายคนไม่กล้าทำแบบนี้
“แล้วมากินข้าวคนเดียวหรอ?” ผมถามกลับเมื่อเห็นว่ามาคนเดียว
“ใช่ครับ เพื่อนพากันกลับหมดแล้ว”
“ไม่มีเรียนแล้ว แต่ยังมากินข้าวที่โรงอาหารคณะแสดงว่าข้าวที่นี่อร่อย”
“ก็ไม่ขนาดนั้นนะพี่ แต่แค่มีคนที่อยากเจอเลยมา” มันยิ้มให้ผมก่อนจะล้วงเอามือถือขึ้นมาเล่น นี่มันจะนั่งอยู่แบบนี้จริงๆหรอ
ผมหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาเล่นบ้างข้อความของตะวันแจ้งเตือนมาว่าตะวันพึ่งเลิกและกำลังเดินมาหาผมที่นี่ รอไม่ถึง 5 นาที คนที่ผมต้องการเจอก็เดินเข้ามาแต่มาด้วยท่าทางที่คาดเดาไม่ได้เท่าไหร่นั่งลงข้างๆผมแล้วสายตาจ้องแต่เด็กที่ชื่อไผ่
“รู้จักกันหรอ?” ตะวันถามขึ้น
“เมื่อกี้อะ น้องมันมารอเป็นเพื่อน” ผมตอบกลับไป
“ทำไมต้องรอเป็นเพื่อนอะ?” น้องทำหน้าตาไม่เข้าใจ
“ก็ผมเห็นพี่มูนนั่งอยู่คนเดียวอะ อ.สั่งเยอะหรอพี่ตะวัน?” ประโยคเมื่อกี้ผมเดาเอาว่าสองคนนี้น่าจะรู้จักกันอยู่แล้ว
“ไม่เยอะ แล้วเพื่อนมึงไปไหน?” ตะวันถามไผ่
“หนีกลับหมดแล้วพี่”
“แล้วรู้จักกันหรอ?” ผมมองหน้าสองคนนี้สลับกัน
“ไผ่ รุ่นน้องสาขา” ตะวันบอกพร้อมคล้องแขนผมไว้
“ผมรู้จักพี่ตะวันตอนรับน้องครับ สต๊าฟที่ไม่ได้ดูแลน้องเลย ฮ่าๆ” ไผ่มันบอก แต่เหมือนผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
“ดูแลเหอะ ใส่ร้ายกูจังเลย” ตะวันบอก
“ดูแลแต่สาวๆดิพี่ รุ่นน้องผู้ชายก็แห้งเหี่ยวไปดิ”
“ปากมากจังวะ” ตะวันหันมายิ้มแห้งๆให้ผม ซึ่งผมก็ส่ายหน้าให้เล็กน้อย
“เอ่อ พี่ตะวันช่วงนี้ได้ออกไปถ่ายรูปไหนบ้างไหมอะ?”
“ไม่ค่อยอะ แต่ว่าจะหาเวลาไปอยู่ ห่างหายไปนาน”
“งั้นถ้าพี่จะไปชวนผมด้วยสิ อยากให้พี่สอน”
“ทำมาเป็นอยากให้สอน ถ่ายรูปออกจะเก่ง”
“ไม่เก่งเท่าพี่ตะวันหรอก รูปที่พี่ถ่ายอะมันยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผม” ผมสะดุดกับทำพูดของไผ่ เลยนั่งฟังสองคนนี้คุยกัน
“ไม่ต้องมายอกูเลยย ไว้จะชวน”
“พูดแล้วนะ งั้นผมไปละ” ตะวันมองไผ่เดินออกไป
“หิวไหม?” ผมหันไปถามตะวัน
“หิว แต่เราไปกินที่อื่นไหม ที่นี่คนเริ่มเยอะแล้ว” ผมเลยพยักหน้าให้
ผมกับตะวันออกจากมหาลัยมุ่งตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งเพื่อหาอะไรกินแล้วตะวันจะได้ซื้อของเข้าห้องด้วย ตะวันตัดสินใจไม่นานเลือกเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นทันทีพอถึงก็สั่งอาหารจนลืมคิดไปว่ามากันสองคน
“น่าจะหิวจริงแหละ”
“ก็ลืมไปว่าอย่าสั่งตอนหิว พี่มูนไม่ห้ามกันเลยอะ” น้องมองไปที่อาหารที่เหลือเยอะอยู่บนโต๊ะ
“ไม่อยากขัด กินไม่หมดห่อกลับก็ได้ อาจจะหิวตอนดึก”
“ใครเขาหิวตอนดึกกัน ไม่มีหรอก”
“ตะวันไงจะใคร หืม?”
“ตะวันคนเดิมไม่มีแล้ว มีแต่ตะวันคนจะผอม”
“รอบที่แล้วก็พูดแบบนี้ สุดท้ายก็ตบะแตก”
“ก็มีคนคอยให้ท้ายตลอดไง” ทำปากยู่จนผมอยากบีบ
“อะๆ จะคอยดู”
“พี่มูน มาทำไรอะ?”
ในขณะที่กำลังเลือกซื้อของเข้าห้อง จู่ๆก็มีเสียงคนทักจากทางด้านหลัง ผมหันไปเจอกับรุ่นน้องที่พึ่งได้รู้จักกันไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
“มาซื้อของ แล้ว?”
“เหมือนกันพี่ ของที่ห้องหมดน่ะ”
“พี่...” ตะวันที่เดินเข้ามาเหมือนพึ่งจะสังเกตเห็นอีกคน “ไผ่...”
“เอ้า พี่ตะวัน บังเอิญเนอะวันนี้”
“เออ มาซื้อของหรอ? งั้นกูไปก่อนนะ รีบ” ตะวันบอกแถมไม่รอให้ไผ่ได้ตอบอะไรก็รีบดึงแขนผมไปจากตรงนั้นทันที
“ทำไมรีบขนาดนั้นด้วย มีอะไรกับไผ่งั้นหรอ?” ผมถามตะวันเมื่อมาถึงห้อง
“ก็...”
“ก็อะไร?” ผมถามเสียงเข้ม
“มันชอบพี่”
“อะไรนะ”
“ไผ่มันชอบพี่มูน!”