[เรื่องสั้น] ฟันเฟือง CH.3 [10-06-2017]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ฟันเฟือง CH.3 [10-06-2017]  (อ่าน 1448 ครั้ง)

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)




เรื่องสั้น
ฟันเฟือง
เขียนโดย  Blue-Legend


( คุณ  Blue-Legend ฝากอัพนิยายค่ะ เนื่องจากใช้บอร์ดไม่เป็น ชีวิตพี่ชายท่านนี้มีความงงงวย )









Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-06-2017 21:05:08 โดย Boorina »

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: [เรื่องสั้น] ฟันเฟือง CH.1 [06-06-2017]
«ตอบ #1 เมื่อ06-06-2017 17:45:48 »


ฟันเฟือง
เขียนโดย  Blue-Legend


ตอนที่ 1



คุณเคยฝันอะไรซ้ำๆไหม?

“ไอ้สิง มึงจะไปไหนวะ”

เสียงทุ้มแหบเรียกรั้งร่างโปร่งบางให้ชะงักก้าว แสดงความเปิ่นด้วยการสะดุดขาตัวเองหกล้มหน้าทิ่มดิน ทำเอาเจ้าของเสียงทุ้มแหบหลุดหัวเราะพรืดยาว เดชะบุญไม่มีขี้หมากองอยู่แถวนั้น

ไร้เสียงตอบรับจากเจ้าของนาม ‘สิง’ เจ้าตัวเพียงชันเข่าหยัดร่างขึ้นโชว์ลาดไหล่กว้างสมชายแก่คู่สนทนาท่ามกลางความเงียบงันในวัยเบญเพส เรียกอารมณ์ฉุนเฉียวของร่างหนาเจ้าของเสียงแหบทุ้มให้เดือดปุด

 “ถามไม่ตอบ หยิ่งนะมึง”

แม้จะอารมณ์เสียกับแผ่นหลังโปร่งที่เผชิญ แต่กลับเลือกที่จะเอ่ยแซว เหตุเพราะภายในใจตระหนักได้ถึงความวูบไหวบางอย่างที่ไม่ปกติ ฉุดให้บางสิ่งภายในสะท้านวูบ

เจ้าของร่างโปร่งเพียงไหวไหล่น้อยๆ

“ไอ้เงิน กู...ต้องไปแล้ว” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงลังเลปนหวาดหวั่น

“ไป? ไปไหนวะ? อย่าบอกว่ามึงปวดขี้” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงล้อเลียนเต็มสตรีม หมายปลุกเร้าบรรยากาศหม่นที่ลอยตลบอบอวลจนน่าอึดอัด

เจ้าของร่างโปร่งเพียงผินหน้ากลับหยัดยิ้มหมองเศร้า เสี้ยวหน้าขาวเนียนของสิงมีแววหม่นอย่างเห็นได้ชัด และเป็นเพียงภาพเดียวที่เงินจดจำได้ ก่อนสิงจะเดินจากไป

“สิง! ไอ้สิง! เชี่ยสิงงงงง!” แม้จะร้องตะโกนดังเท่าไหร่ ร่างนั้นก็ไม่เคยหันหลังกลับ มีเพียงคำพูดเดียวที่สะท้อนก้องอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา

“ทะเล...กูชอบทะเล ช...ช่วย....” แล้วขาดหายไปก่อนจะจบประโยค

   รองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินเข้มหยุดอยู่กลางชานชาลารถไฟ พร้อมตั๋วโดยสารซึ่งมีหาดใหญ่เป็นจุดหมายปลายทาง  สายตากวาดมองผู้คนคราคร่ำต่างเดินสวนกันไปมาอย่างขวักไขว่ เตรียมออกเดินทางไปยังจุดหมายที่แตกต่าง เพื่อนกลุ่มหนึ่งส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอย่างตื่นเต้นอยู่ข้างขบวนรถไฟด่วนพิเศษสาย 35 มุ่งตรงสู่หาดใหญ่รอบเวลา 14.35 น.

   เงินก้มมองตั๋วในมือระบุเลขขบวน ‘รถเร็ว’ สาย 171 ออกเดินทางเวลา 13.00 น. สลับกับนาฬิกาข้อมือ มีเวลาอีกราวครึ่งชั่วโมงก่อนรถไฟจะแล่นออกจากสถานี จึงตัดสินใจเดินไปทิ้งตัวลงบนม้านั่งที่ว่าง ปลดกระเป๋าเป้สีดำลงข้างตัว ควานหาหมากฝรั่งรสมิ้นต์ในกระเป๋าแจ็กเก็ตสีเขียวขี้ม้าที่มักมีติดตัวอยู่เสมอมาเคี้ยวหยุบหยับฆ่าเวลา หยิบหูฟังสีขาวสะอาดเสียบเข้าหูข้างขวา
เสียงหวูดเตือนครั้งที่ 1...

   เงินเหลือบมองผู้คนเดินที่ผ่านไปมา กระทั่งสบเข้ากับเด็กชายตัวเล็ก ผิวขาวผ่องตากลมโตแป๋วคู่หนึ่งจ้องเขาไม่วางตา จำต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ก่อนจะรั้งสายตากลับมายังต้นขาอวบของตัวเองที่สั่นดิ๊กๆโดยไม่รู้ตัว ไม่ต้องใช้หมองนั่งมาธิเหมือนอิ๊กคิวซัง ก็เข้าใจได้ทันที

เสตามองตอบดวงตากลมแป๋วเล็กคู่นั้น พลางหยัดยิ้มเก้อๆ กลับได้รับรอยยิ้มมิดตาหยีตอบกลับ ก่อนเจ้าตัวเล็กจะถูกชายหนุ่มวัยกลางคนลากตัวจากไป

   ‘มึงหยุดสั่นขาซักทีได้มั้ยวะไอ้เงิน กูเวียนหัวตาลาย จะอ้วก’

   ‘แพ้ท้องหรือเปล่าไอ้สิง’

   ‘แพ้ท้องพระบิดามึงสิเงิน กูเป็นผู้ชาย ไอ้หน้าหมี...ถามจริงมึงสั่นขาเงี้ย ไม่เมื่อยบ้างหรือไงวะ’

   ‘เมื่อยตรงไหนวะไอ้โต เป็นการบริหารกล้ามเนื้อขา มึงลองดูบ้างสิ’

   ‘เอาจริงๆ’

‘กูชินจนเป็นปกติไปแล้วว่ะ ฮ่าๆ’

   ‘ถุ๊ยยยย ไอ้เงินเอ้ยยย...ปกติสำหรับมึง แต่ไม่ปกติสำหรับคนอื่น นั่งสั่นขาดิ๊กๆเป็นเจ้าเข้า ใครก็มองว่าประหลาด’

   ‘แล้วมึงล่ะเชี่ยสิง...’

   ‘ไม่ กูชิน เห็นมึงสั่นขาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่...’

   ‘แต่กูรำคาญลูกกะตา ไอ้สลัด! อีกอย่าง จะเรียกสิง หรือเรียกโต มึงก็เอาสักชื่อ ถ้าให้ดีก็เรียก สิงโตเต็มๆไปเลยไอ้ห่ารากเอ้ยยย’

   นึกย้อนกลับไปให้ต้องคลี่ยิ้มออกโดยไม่รู้ตัว ไอ้สิงโตคือเพื่อนสนิท อ๊ะๆ แต่ไม่ใช่คิดไม่ซื่อนะ เพราะถ้าจะให้พูดจริงๆแล้ว สำหรับเขา สิงโตคือพรหมลิขิต เป็นคนเดียวกับที่เขาเคยฝันถึงอยู่บ่อยครั้งเมื่อเยาว์วัยแน่นอน เขามั่นใจแม้จะจำได้เพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างที่หม่นเศร้า กับเสียงทุ้มนุ่มที่บาดลึกก็ตาม

   อีกอย่าง ตั้งแต่เขารู้จักมัน เขาก็ไม่เคยฝันถึงคนชื่อ ‘สิง’ อีกเลย...

   และเขาได้ตัดสินใจแล้ว หลังจากการเดินทาง เขาจะสารภาพความรู้สึกที่มีทั้งหมดกับมัน...

   ถึงแม้จะยังไม่ค่อยมั่นใจ ถึงแม้ผู้ชายสองคนมันจะดูแปลกๆไปหน่อย และถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าผู้ชายสองคนมันทำกันยังไง? เอ่อ เขาไม่ได้หื่นนะ เพียงแค่...เขาจริงจังในความสัมพันธ์นี้ต่างหาก ก็ต้องคิดไว้บ้าง

   เสียงหวูดเตือนครั้งที่ 2…

   เงินเลือกทะเลเป็นจุดหมายปลายทาง...

   จริงๆเขาชอบน้ำตก ซกเล็กนะ แซ่บดี...เอ้ยย น้ำตกมันเย็นสบายต่างหาก เขาชอบความรู้สึกครั้งนั่งเล่นอยู่บนโขดหินริมน้ำตกขนาดใหญ่ ทอดกายเปลือยเปล่ารับสัมผัสละอองขนาดเล็กที่ตกจากที่สูงแล้วสาดกระเซ็นกระทบทุกอณูทั่วผิวกายจนเปียกชุ่ม แต่ที่เลือกทะเลเพราะการเดินทางครั้งนี้...มันเกิดขึ้นเพราะไอ้สิง

   ‘ทะเล กูชอบทะเล’

   เงินตัดสินใจหยัดตัวลุกขึ้นบิดตัวคลายความเมื่อยล้า และวางความคิดทุกอย่างลง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังขบวนรถไฟสาย 171 อันเป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทาง

   กระชับแจ็คเก็ตสีเขียวขี้ม้าแนบตัว ก่อนคว้ากระเป๋าเป้สีดำสนิทขึ้นมาสะพายข้าง ปากเคี้ยวหยุบหยับรับรู้รสหมากฝรั่ง สาวเท้าออกเดิน

แต่กลับต้องชะงักเมื่อรู้สึกถึงแรงรั้งน้อยๆที่ชายเสื้อ ปรายตามองสบร่างเล็กๆยืนเบะปากกลั้นสะอึกสะอื้นฮึกๆ ร่างหนาพลันแข็งเกร็งขึ้นมาในทันใด

   “ฮึก...พ...พ่อ...”

   ‘พ่อบ้านแกสิ ไอ้เปี๊ยก! กูยังไม่แก่ขนาดมีลูกโว้ยย’ เงินสบถในใจ

   “พ...พ่อ...ห...หาย...ฮึก”

   อารมณ์เดือดปุดกับเส้นเลือดปูดโปนข้างขมับพลันค่อยจางหาย เมื่อเข้าใจถึงสิ่งที่ไอ้เปี๊ยกตัวกระจ้อยเอ่ยสะอื้น รอยยิ้มมิดตาหยียังคงติดในความทรงจำ แต่โทษใครไม่ได้ เพราะเสือกโง่ไม่ทันได้สังเกตลักษณะชายที่มากับเด็กคนนี้เอง มือเล็กๆยังคงกำชายเสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวขี้ม้าแน่นจนยับยู่ ราวกับจะยึดเป็นที่พึ่ง

ทอดตามองร่างเล็กที่สั่นน้อยๆพลันให้เกิดสงสารขึ้นจับใจ เสียเพียงอย่างเดียวว่า...

   เงินคุยกับเด็กไม่เป็น! เวรตะไลไหมล่ะ

   ‘กูเกลียดเด็กโว้ยยยยยย’

เป็นเสียงจากความในใจของเงินผู้เป็นโรคไม่ถูกกับเด็ก ไม่รู้จะพูดจะวางตัวยังไง อย่าหวังว่าจะเห็นเขาคุยเล่นน่ารักๆปัญญาอ่อนแลบลิ้นแบร่ให้เด็กหัวเราะคิกคัก ร่างถึกหนาแต่ทำตัวปัญญาอ่อน แค่คิดสภาพเขาก็รับตัวเองไม่ได้ เพราะฉะนั้นเวลามีเด็กเข้าหาจึงมักเกิดตัวแข็งทื่อขึ้นมาโดยพลัน

สายตาปราดเหลือบเห็นกระดาษยับยู่ในมือเล็กๆที่ทิ้งลงข้างตัว จึงตัดสินใจนั่งยองๆ มือใหญ่เอื้อมคว้าแขนเจ้าเปี๊ยก หยิบกระดาษสีขาวมาเพ่งมอง จุดหมายปลายทาง ‘ชุมทางหาดใหญ่’ กระแทกเข้าตาอย่างจัง

   เงินเหยียดตัวขึ้นสอดส่ายสายตาล่อกแล่กมองหาตัวช่วย สะดุดเข้ากับนายสถานีในชุดสีกากีหลบอยู่ข้างขบวนรถสาย 171 ไม่ไกล ก้าวเท้าหมายเข้าไปขอความช่วยเหลือ แต่ต้องชะงักอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวเปี๊ยกกระโดดกอดต้นขาอวบที่มีผ้ายีนส์เนื้อหนากั้น

   “เฮ้ย ไอ้เปี๊ยก ปล่อยสิวะ”

   เขาไม่รู้ว่านี่เป็นวิธีการพูดกับเด็กที่ถูกต้องหรือเปล่า สั้น ห้วนและกระชับตรงประเด็น เข้าใจง่าย คิดเหมาเองเสร็จสรรพว่าคงได้อยู่นะ

   แต่เจ้าตัวจ้อยกลับส่ายหัวดิ๊ก เขาสะบัดขาเบาๆกะให้มันปล่อย แต่มันกลับยึดแน่นอย่างกับลูกหมีโคอาล่า กลายเป็นว่าหัวมันกระเด้งกระดอนกระทบต้นขาดึ๋งดั๋ง

   ประสาทจะแดก นี่มันอะไรกับเขานักหนา เขาไม่ใข่แม่กาเหว่า และไอ้เปี๊ยกมันก็ไม่ใช่ลูกกาที่เพิ่งฟักออกจากเปลือกไข่ แต่ไหงมันถึงติดเขาแจอย่างนี้

    ถ้าจะพูดจริงๆแล้ว เขาซะอีกที่ใกล้เคียงอีกาเพราะสีผิวที่ดำคล้ำ

   เงินถอนหายใจยาวพรืดอย่างปลงๆ เอื้อมมือไปผลักหัวทุยๆของเจ้าตัวเล็กให้ห่างจากต้นขาเงยขึ้นสบมองดวงหน้า ตาเล็กๆยังคงสั่นไหวระริกมีหยาดน้ำเอ่อคลอ

เงินขบริมฝีปากอย่างช่างใจ

   “เดี๋ยวพาไปหาพ่อ ปล่อยก่อน”

แม้เงินจะพยายามพูดอย่างนุ่มนวลที่สุด มันก็ยังออกมาเรียบแข็งอยู่ดี แต่กลับเป็นผลเมื่อมือเล็กๆคลายออกจากต้นขา มือข้างหนึ่งยังยื้อผ้ายีนส์เนื้อหนาไว้

   ดวงตากลมโตใสแจ๋วยังคงจ้องชายร่างสูงบึกไม่วางตา แม้ร่างจะดูถึกทะมึนเหมือนโจรห้าร้อยกระจอกๆ ในสายตาของเด็กคนอื่นอาจกลัวจนร้องไห้จ้า แต่ภายในดวงตาเล็กๆกลับจดจำเพียงรอยยิ้มเป็นมิตรที่มอบให้ตน ทั้งที่กลัวแทบตายแต่ก็ยังเผลอจ้องเพราะหน้าขาที่สั่นไหว

ดวงหน้าน้อยๆยังหลงเหลือร่องรอยเปียกชื้นจากคราบน้ำตา นัยน์ตาคลอเคลียไปด้วยน้ำใสๆที่พร้อมจะแตกไหลพรั่งพรูออกมาได้ทุกเมื่อ แก้มขึ้นสีชมพูระเรื่อจากการกลั้นสะอื้นฮึก ตัดกับผิวขาวๆจนเห็นเด่นชัด

   ดวงตาคมสบมองใบหน้าเล็กราวกับต้องมนต์สะกด ก่อนที่จะได้คิดทบทวนนิ้วใหญ่หนาก็เอื้อมไปเกลี่ยคราบน้ำตาที่ข้างแก้มบางเบา ผิวนุ่มนิ่มช่างต่างกับนิ้วมือสากกระด้างของหนุ่มวัยฉกรรจ์อย่างเงินโดยสิ้นเชิง จนหวั่นว่าจะไปสร้างริ้วรอยให้กับใบหน้าใสๆเข้า

   ดวงหน้าเล็กเผยรอยยิ้มน้อยๆ แต่กลับทำให้ร่างสูงใหญ่ชะงักกึก เป็นรอยยิ้มเดียวกับที่เขาได้รับบนม้านั่งบนชานชาลารถไฟเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่เมื่อได้พิศมองใกล้ๆ มันกลับทำให้เขาคุ้นเคยอย่างประหลาด รู้สึกถูกชะตาและทำให้เขาคิดถึง...

   รอยยิ้มหม่นเศร้าบนเสี้ยวหน้าด้านข้าง

   เสียงหวูดเตือนครั้งที่ 3…บ่งบอกว่าเหลือเวลาอีกเพียง 5 นาที รถไฟจะแล่นออกจากสถานี

   ...และเรียกร่างสูงใหญ่ให้ตื่นจากภวังค์ ส่ายหัวพรืดบอกกับตัวเองว่าเป็นไปไม่ได้ ความคิดสับสนปนเปจนมั่วเมจับต้นชนปลายไม่ถูก

   หรือจะเป็นลูกของไอ้สิงโตที่แอบไปไข่ทิ้งไว้?

   หรืออาจเป็นญาติห่างๆ?

   จะอะไรก็แล้วแต่ เวลาก็เหลือน้อยลงทุกที ร่างหนาเหลือบมองนายสถานีคนเดิมทำหน้าที่โบกขบวนรถแนะนำผู้โดยสารอย่างวุ่นวาย ภายในสมองประมวลผลหาทางช่วยเหลือเจ้าตัวจ้อยที่ยืนนิ่งขยำกางเกงยีนส์สีเข้มแน่นสลับกับความคิดว่าไอ้เปี๊ยกคือลูกไอ้เพื่อนซี้จนตีรวน พลันจุดหมายปลายทางบนตั๋วในมือเล็กๆผุดขึ้นในสมอง

   ‘ชุมทางหาดใหญ่’

   เวลาบีบคั้นเข้ามา เสมองขบวนรถกับนายสถานีทำหน้าที่เร่งผู้โดยสารระลอกสุดท้ายสลับกับไอ้เปี๊ยกอย่างลังเล ตัดสินใจคว้ามือเล็กๆโฉบถวาวิ่งสุดตัวไปยังท้ายขบวนได้ทันก่อนรถไฟจะแล่นออกในนาทีต่อมา

   เมื่อมีจุดหมายปลายทางเดียวกันจะแปลกอะไรเล่าถ้าพ่อของเด็กคนนี้จะอยู่บนขบวนรถไฟคันนี้

   มันอาจเป็นสิ่งที่เงินคิดไปเอง แต่นาทีที่อุ้งมือใหญ่หนากระชับมือเล็กแน่นกลับรู้สึกเหมือนได้ฉุดรั้งไอ้สิงในความฝันกลับคืน พร้อมเสียงกระซิบแว่วดังมาตามสายลมว่า...

   ...พาผมไปด้วย...

   ชั่วขณะนั้น เงินเชื่อในการตัดสินใจของตัวเองอย่างยิ่งยวด พร้อมความรู้สึกที่เหือดหายไปนานจากความทรงจำที่ปะทุขึ้นจนแทบทะลัก

   แต่ความเชื่อมั่นกลับคงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อรถไฟแล่นออกจากสถานีได้สักพัก ร่างสูงหอบหายใจเหนื่อยแฮ่กได้พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจเดินหาที่นั่ง ตระหนักได้ว่าควรตามหาพ่อให้ไอ้ตัวเล็กซะก่อน จึงคว้าตั๋วโดยสารในมือเล็กๆขึ้นมาเพ่งมองเลขที่นั่ง กลับต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมอยู่รอมร่อ เมื่อปรากฏตัวหนังสือ ‘รถด่วนพิเศษ’ สาย 35 บนตั๋วสีขาวสะอาดตา

   ชิบหายแล้วมั้ยล่ะ ไอ้เงิน!










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2017 16:15:30 โดย Boorina »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อะไร? ยังไง? เนื้อเรื่องน่าติดตามครัช  :ped149:

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
CH.2




        เป็นความสะเพร่า ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ใครก็ได้ช่วยเอาไม้หน้าสามฟาดที่กระหม่อมเงินแรงๆที เขายอมรับผิดทุกกระทง ข้อหาลักพาตัวเด็กนี่มันถึงขั้นโดนสับหัวด้วยเครื่องประหารหัวสุนัขป่ะวะ


   “ไอ้เปี๊ยก!” อะไรวะ พูดแค่นี้ทำไมต้องสะดุ้ง


   “จำเบอร์พ่อแกได้มั้ย” ดีมาก ส่ายหัวพรืดแทนคำตอบ


ตายห่า ตายโหง ตายไม่ได้ผุดได้เกิดกันล่ะทีนี้ ไอ้เงิน ไปพาลูกเค้ามา พ่อเค้าจะกระวนกระวายใจขนาดไหน ทำได้เพียงก้มหน้ากุมขมับอย่างอับจนหนทาง

   ก่อนมือเล็กๆจะเอื้อมมากระตุกที่ต้นแขน ปรายตาเหลือบมองด้วยความสงสัยปนอารมณ์เสีย คือเขากำลังเครียดอย่าเพิ่งมากวนตอนนี้ได้มั้ยไอ้เปี๊ยก ชีวิตเขาเครียดเรื่องรักไม่พอใช่มั้ย พระเจ้าเล่นตลกอะไรกับชีวิตเงิน


แต่กลับต้องสะดุดเมื่อมือเล็กๆยื่นมาเบื้องหน้าพร้อมกระดาษขาวในมือที่ไม่ใช่ตั๋วโดยสาร เลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน


   “อะไร”


   “เบอร์พ่อ” ได้ยินคำตอบแทบถลาไปฉกมาไว้ในมือแทบไม่ทัน เพ่งมองกระดาษใบจิ๋วในมือราวกับมันเป็นทองคำล้ำค่า


   “รอดตายแล้วไอ้เงิน” พูดงึมงำกับตัวเองเบาๆ จ้องข้อมูลในกระดาษใบเล็ก มีครบทั้งชื่อ ที่อยู่และเบอร์ผู้ติดต่อ ถือว่าพ่อไอ้เปี๊ยกเป็นคนที่รอบคอบพอสมควร


   “ไหนว่าจำเบอร์พ่อไม่ได้ไงวะ ไอ้เปี๊ยก!” เผลอตวาดเสียงดังจนไอ้เปี๊ยกสะดุ้งตัวโยน ทำท่าเบะปากจะร้องอีกรอบ
บรรลัยล่ะ ลืมตัว ถ้ามันแหกปากร้องขึ้นมา เงินปลอบเด็กไม่เป็นนะโว้ยยย อย่าร้องเชียวนะ


จ้องด้วยสายตาลุ้นระทึก ไอ้ตัวเล็กกลั้นสะอื้นฮึกๆ ก่อนจะค่อยอ้าปากกว้างขึ้นและ...


   “เอาหมากฝรั่งไปแดก!” สุดยอดวิทยายุทธแกะหมากฝรั่งรสมินต์เร็วที่สุดในชีวิตจับยัดปากมัน มันถึงหุบปากลงเคี้ยวตุ้ยๆเงียบลงได้


   “อ่อยอ่ะ” เออ พูดไปเคี้ยวไปแถมยิ้มได้อย่างมีความสุขเขาก็รอดตัวล่ะ ดูท่าทางมันจะชอบขนมแฮะ โชคดีที่เงินมักพกหมากฝรั่งติดตัวเสมอ


   “เคี้ยวไปเรื่อยๆ ห้ามกลืนนะ พอมันจืดแล้วก็คายใส่กระดาษห่อแล้วเอาทิ้ง”

   “ไมอ่ะ อ่อยออก เสียดาย” ส่ายหัวระอากับความไร้เดียงสาแบบเด็กๆ ชีวิตนี้เคยกินหมากฝรั่งมั้ยวะ

   “หมากฝรั่งมันเหนียว เห็นมั้ยขนาดเคี้ยวยังไงมันก็ไม่ขาด ถ้าแกกลืนลงไป มันจะไปพันตับไตไส้พุงแก ทำให้ปวดท้อง เคยปวดท้องอึมั้ย?” หัวเล็กๆกระเด้งขึ้นลงแทนคำตอบ


   “มันจะปวดมากกว่าปวดอึล้านเท่า!” เจ้าเปี๊ยกพยักหน้าหงึกหงักอย่างแรงรับทราบด้วยใบหน้าซีดเผือด จนเงินแอบหลุดขำ


   “เข้าใจแล้วคับ จะไม่กลืน เคี้ยวหมดแล้วจะคายทิ้ง” เขาดูเลวไหมวะที่แกล้งขู่เด็ก สะใจดีพิลึกแฮะ วะฮะฮะฮ่า แต่ถ้าไม่พูดขู่ไว้มันกลืนลงไปแล้วจะยุ่ง


   หันกลับมาสนใจข้อมูลในมือ ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า ก่อนตัดสินใจกดโทรออกอย่างไม่ลังเล เพราะถ้าเป็นลูกเขาหายไปก็คงกระวนกระวายใจไม่น้อย


   เสียงสัญญาณรอสายดังไม่นานก็มีผู้รับ จึงกล่าวแนะนำตัวเล็กน้อยก่อนอธิบายสถานการณ์ตามความเป็นจริง พลางกล่าวขอโทษขอโพยยกใหญ่ โชคดีที่พ่อเจ้าหนูนั่นดูจะใจดีกว่าที่คาด ไม่คิดเอาเรื่อง แถมยังฝากฝังให้เงินช่วยดูแลจนกว่าเขาจะหาขบวนรถใหม่ตามมารับ ดูเหมือนจะพลาดรถไฟเที่ยว 14.35 น. เพราะมัวแต่ตามหาเจ้าเปี๊ยกให้วุ่น


   “ไอ้เปี๊ยก พ่อแกจะคุยด้วย” พูดพลางยื่นโทรศัพท์มือถือให้มัน มันตีสีหน้ามึนๆก่อนมือเล็กๆจะรับโทรศัพท์ไป เอ่อ แล้วลื่นหลุดมือจนเกือบร่วง ดีที่เขาคว้าไว้ได้ทัน ก็เข้าใจนะว่าโทรศัพท์เครื่องใหญ่ จึงตัดสินใจกุมมือเล็กๆช่วยถือโทรศัพท์แนบหู


   “ผมจะเป็นเด็กดีครับพ่อ”


   “พี่ชายใจดี แต่หน้าตาน่ากลัว แถมตัวล่ำถึกด้วย” อ้าว นี่ไอ้เปี๊ยกมันด่าเขาหนิ ไอ้เด็กเวร แต่ใบหน้ายิ้มร่าเมื่อได้คุยกับพ่อก็ทำเอาเขาโกรธไม่ลง


   “พี่ชายตวาดใส่ผมด้วย แต่ผมไม่ร้อง ผมเก่งคับ ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้”


‘ได้ทีฟ้องพ่อเลยนะ ได้ข่าวที่แกไม่ร้องเพราะได้หมากฝรั่งช่วยชีวิต แล้วไอ้ที่สะอื้นฮึกๆอย่าให้แฉ’ เงินคิดในใจ


   เหลือบมองเจ้าเปี๊ยกด้วยความหมั่นไส้ เป็นเด็กเป็นเล็กหัดประจบประแจง เจ้าตัวจ้อยพูดจ้ออีกเล็กน้อยก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้เงิน พ่อของมันกำชับเขาเล็กน้อยก่อนจะวางสายไป


   โชคดีที่ที่นั่งที่เงินจองไม่มีผู้ร่วมทาง ภายในคอกที่นั่งสำหรับสี่คนจึงมีเพียงเขากับเจ้าเปี๊ยกนั่งได้อย่างสบายๆ หลังจากนั่งสงบสติอารมณ์ได้สักพัก และเรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี ลมโกรกที่พัดผ่านใบหน้าเย็นสบายจึงดึงหนังตาให้ตกลงมา


   ก่อนจะรู้สึกได้ถึงมือเล็กเอื้อมมาเขย่าต้นขาซึ่งกระดิกขึ้นลงอย่างเคยชิน ทำเอาเงินสะดุ้งโหยงเบิกตาโพรง


   ‘ไอ้เปี๊ยก! ขัดความสุขกูจัง คนจะหลับจะนอน’


   “มีไรวะ” ตอบเสียงฟึดฟัดอย่างรำคาญ แต่ไอ้เปี๊ยกที่เริงร่ากลับไม่สลดลงเลยสักนิด บอกเขาทีว่ามันเป็นคนเดียวกับเด็กที่สะอึกสะอื้นร้องเรียกหาพ่อ


   “หิววววว”


   ลากเสียงยาวจ้องตาใสแจ๋วมาที่เงิน ตากลมโตของมันราวกับลูกหมาตัวน้อยร้องขออาหาร คือถึงเขาจะไม่ชอบเด็ก แต่มีเด็กตาดำๆมาจ้องแล้วบอกหิวเงี้ย เขาก็ใจอ่อนเหมือนกันนะ ยิ่งเห็นตาละห้อยจ้องไปที่ไก่ย่างซึ่งแม่ค้าเดินผ่านไปมาล่อน้ำลายหลายรอบด้วยแล้ว แบงค์สีแดงก็ถูกควักออกมาจากกระเป๋าอย่างง่ายดาย แลกได้ไก่มาหนึ่งตัว ข้าวเหนียวสามห่อ กับน้ำอีกสองขวด


   แล้วจะใครซะอีกล่ะที่ต้องทำหน้าที่แกะไก่ปั้นข้าวเหนียวมายัดใส่ปากมัน...นี่เขากลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปแล้วเหรอวะ!


   “เอาตูดๆๆ”


‘เชี่ย ของโปรดกู ไอ้เด็กช่างแดก ไอ้เด็กกินล้างกินผลาญ จำไว้เลยนะมึง’ ได้เพียงคิดในใจ


   “เนื้อไก่มีโปรตีน แดกเข้าไปเยอะๆ อย่าเรื่องมาก” เอ่ยพลางปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อนยื่นจ่อปาก


   “ไม่เอา จะเอาตูด” ว่าพลางเชิดหน้าหนี


‘ถรุย! น่ารักตายแหละไอ้ตัวเล็ก’ นั่นทำให้เงินยิ่งรู้สึกหมั่นไส้เด็กมากขึ้น


   “ตูดมันมีแต่ไขมัน ไม่ดีต่อร่างกาย” พูดดีมีสาระน่าเชื่อถือ


   เปล่า เขาจะเก็บไว้แดกเองต่างหาก เสียสละขนาดไหนแดกของมีโทษ อ๊า อ้วนดี ชอบ


   “จะกินตูด” พูดพลางทำแก้มป่อง เดี๋ยวปั๊ดตบหัวทิ่ม



   “จะแดกไม่แดก”




   “ไม่”


   “ดี ลูกผุ้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ” พูดจบก็เงื้อมมือไปแคะตูดไก่ชิ้นอวบเยิ้ม ปั้นเป็นก้อนผสมกับข้าวเหนียว แอบเหล่มองเจ้าตัวเล็กที่กอดอกวางท่า แต่สายตาเหลียวมองตูดไก่ในมือตาละห้อย


‘สะใจโว้ย ได้แกล้งเด็ก’


   เงินแกล้งทำเป็นไม่สนใจพอปั้นเป็นก้อนพอดีคำได้ที่ก็เตรียมจะโยนเข้าปาก ลาภปากกูล่ะ


   หมับ


   หงับ


   “เฮ้ยยย ตูดกู! นิ้วกู! ไอ้เปี๊ยกกกกกก!!!”


   “หงับๆ แจ๊บๆ ซู้ดๆ แผล่บๆ”


   คงไม่ต้องบอกว่าลาภปากชิ้นโตได้เข้าไปอยู่ในปากไอ้ตัวจ้อยเรียบร้อยแล้ว มันคว้าแขนเงินหมับ ยื่นหัวเล็กเล็กงับทั้งตูดไก่ ข้าวเหนียวและนิ้วมือเขาเข้าไปทั้งก้อน ไม่เพียงเท่านั้น ดูท่ามันจะเอร็ดอร่อยมากจนลืมตัว ทั้งดูดทั้งเลียนิ้ว ที่เปื้อนคราบมันๆ ซึ่งมีรสของไก่ย่างติดปลายนิ้วจากการแกะจนสะอาด


   มันหลับตาพริ้ม เคลิบเคลิ้มเหมือนได้ลิ้มรสอาหารอันโอชะ...ริมฝีปากอมชมพูรูดขึ้นลงอย่างเอร็ดอร่อย ลิ้นนุ่มๆตวัดไล้เลียตามง่ามนิ้วจนเปียกชื้นไปทั้งด้าม สัมผัสจากลิ้นอุ่นๆเกี่ยวกระหวัดพันนิ้วจนชุลมุน ผสมปนเปไปกับน้ำล่อลื่นจากโพรงปากเล็กๆ
ปลายฟันซี่เล็กกระทบขบกัดเบาๆที่ปลายนิ้วจากการเคี้ยวอาหาร เงินเกิดอาการสยิวกิ้วจากลำตัวไล่ไปจนถึงส่วนล่าง



   นี่เขากำลังคิดห้าอัปปรีย์อะไรอยู่วะ


   “ปล่อย!!” เงินตวาดลั่น ชักนิ้วพรวด ด้วยสำนึกผิดชอบชั่วดีทั้งที่กำลังเคลิบเคลิ้มจนใบหน้าร้อนผะผ่าว


   “อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก!” พูดจบก็เดินฉิวผ่านตัวมันไปด้วยความเดือดดาล


   เงินหนีมาหลบอยู่ทางเชื่อมระหว่างขบวน ทรุดตัวลงนั่งระหว่างขั้นบันได ระงับสติอารมณ์ที่มันกระเจิดกระเจิง ผ่อนลมหายใจช้ายาว ไม่ได้โกรธคนตัวเล็ก แต่โกรธตัวเองมากกว่า ที่ปล่อยให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มไปตามอารมณ์จนคิดไปถึงไหนต่อไหน รู้ว่าไอ้เปี๊ยกมันก็แค่เด็ก ทำอะไรตามความคิดประสาเด็ก แต่เขาเองต่างห่างที่เหี้ย เป็นผู้ใหญ่ซะเปล่าแต่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์


   ปล่อยให้เวลาผ่านไป นั่งสงบจิตสงบใจชมทุ่งหญ้าเขียวขจี ที่ทอดตัวผ่านตลอดเส้นทาง จนอารมณ์เย็นลงบวกกับแดดยามเย็นที่ไล่มาจนรู้สึกร้อน คิดได้ว่าสมควรแก่เวลา ปล่อยให้ไอ้เปี๊ยกอยู่คนเดียวนานพอควร หยัดตัวขึ้น ทอดเท้าเดินกลับที่


   แปลกใจเล็กๆเมื่อเห็นตัวกระจ้อยนั่งคุกเข่าอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน แต่กลับรู้สึกละอายเกินกว่าที่จะทักทายมัน จึงโฉบผ่านไปทิ้งตัวลงข้างหน้าต่าง เสมองออกไปด้านนอก



   “กินมั้ยครับ” เสียงเล็กใสดังแทรกความเงียบ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมิใช่เสือกจึงเหสายตาเหล่มองมันนิดหน่อย
ภาพที่ปรากฏที่ปลายหางตาคือข้าวเหนียวไก่ย่างปั้นเป็นก้อนไม่เป็นรูปร่างพิลึกกึกกือในมือเล็กๆ ทั้งสองเปรอะเปื้อนข้าวเหนียวเป็นเม็ดติดตามง่ามนิ้วเกลื่อนกลาด ไหนจะเศษไก่กับคราบมันๆอีก บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ามันคงใช้ความพยายามเป็นอย่างสูงกับผลงานในอุ้งมือ


   แต่ที่เงินไม่เข้าใจคือความหมายของสิ่งที่ไอ้ตัวเล็กทำ มันต้องการสื่ออะไร หรือเขาโง่เกินไปที่จะคิดได้ หัวคิ้วขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด ผินหน้าจ้องมันเต็มสองตา


   ร่างเล็กในชุดแจ็คเก็ตยีนต์ตัวน้อยนั่งก้มหน้างุดห่อตัวราวกับทำอะไรผิดแล้วสำนึกได้ ยิ่งทำให้เขางงงวยเข้าไปใหญ่ เหลือบมองเศษซากไก่ย่างที่แบบนห่อวางอยู่ข้างกันเละไม่มีชิ้นดี


‘ของกินดีๆทำเสียหายหมด แกต้องการอะไรไอ้เปี๊ยก!’ เงินคิด


   “พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะครับ” อาจเพราะเงินนิ่งเงียบและไม่มีทีท่าจะปริปากพูดอะไร เจ้าตัวจ้อยจึงเอ่ยเสียงสั่นคล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อ และมันก็ทำให้เขาเข้าใจความหมายของการกระทำ เงื้อมมือไปคว้าก้อนข้าวเหนียวมาพิจารณา ก่อนจะโยนเข้าปากเคี้ยวหยุบหยับ


   เจ้าตัวเปี๊ยกจ้องเขาไม่วางตาอย่างลุ้นระทึก แอบขำทีท่ามันน้อยๆ แต่แกล้งทำเมินไม่สนใจ ก่อนจะกลืนเอื้อกลงคอ



   “อืมมมมมมม” แกล้งลากเสียวยาวอย่างพิจารณาจนตัวเล็กๆของมันเกร็งไปทั้งร่างอย่างลุ้นๆ


   “อร่อย” พอคำพูดนี้หลุดพ้นริมฝีปาก ดวงหน้าน้อยๆก็เผยยิ้มแฉ่งมิดตาหยีที่คุ้นเคย ก่อนจะกุลีกุจอใช้อุ้งมือตะปบไก่แล้วใช้แรงฉีกทึ้งอีกครั้ง



   “งั้นกินอีกนะครับ” คือที่บอกว่าอร่อยมันก็ข้าวเหนียวไก่ย่างป่ะวะ ถึงสภาพมันจะทุเรศทุรังไปบ้าง รสชาติโดยรวมก็ไม่เปลี่ยน แต่พอมาเห็นกระบวนการผลิตแล้ว เงินชักอย่างขย้อนเอาไอ้ก้อนเมื่อกี้ออกมาจริงๆ


เขาเอื้อมมือไปคว้ามือเล็กของมันชะงักไว้


   “พอแล้ว อิ่มแล้ว”


   “แต่...”


   “อิ่มแล้วจริงๆ มานี่...มาล้างมือมา ไอ้เปี๊ยก” เงินเอ่ยพลางกระชากมันตัวลอยมายืนหว่างขา จับมือเล็กยื่นออกนอกหน้าต่าง คว้าขวดน้ำเทราดทำความสะอาด ควานหาผ้าผืนเล็กๆในกระเป๋าเป้มาเช็ดมือจนแห้ง


   “ขอโทษครับ” เจ้าเปี๊ยกที่นั่งสงบเสงี่ยมเรียบร้อยอยู่ข้างๆเอ่ยแทรกในขณะที่เงินเก็บเศษซากไก่ยัดลงถุง เรียกให้ต้องผงกหัวตีสีหน้าฉงน


   “ว่าไรนะ ไอ้เปี๊ยก”


   “ขอโทษที่แย่งตูดไก่กินครับ”


   “ห๊ะ!”


‘งงสิวะ งงเต็ก งงเป็นไก่ตาแตก’ สมองเงินตีรวนด้วยความมึนงงก่อนจะเรียบเรียงคำพูดตอบกลับไป


   “ไม่เป็นไรหรอก พี่แค่แกล้งแกเล่น” พูดอย่างไม่ใส่ใจหันมาหยิบห่อข้าวเหนียวยัดลงถุงตามไก่ไป


   “แต่พี่ชายโกรธ หน้าแดงด้วย แล้วก็เดินหนีผมไปเลย” เสียงใสแจ๋วทำเงินชะงักอีกรอบอย่างอึ้งๆ กับความเข้าใจผิดของคนตัวเล็ก


เขาไม่ได้โกรธมันเลยสักนิด มันคิดไปได้ไงว่าเขาโกรธ โมโหตัวเองมากกว่า ส่วนที่หน้าแดงเพราะเขาอายยยยไง ทั้งโกรธตัวเอง ทั้งอายก็ต้องเดินหนีป่ะ แล้วเขาจะอธิบายมันยังไงดี


   “ไม่ได้โกรธ” แค่อาย...คำนี้ขอพูดในใจแล้วกัน


   “แต่...”


   “บอกว่าไม่ได้โกรธก็ไม่ได้โกรธสิ” พูดพลางเอื้อมมือไปลูบหัวมันเบาๆ เผยรอยยิ้มละมุนด้วยความเอ็นดู ส่วนเจ้าตัวเล็กเพียงมองผมตาค้าง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มมิดตาหยีส่งกลับมา


   “ง่วง” เสียงใสงัวเงียดังแทรกขณะที่เงินจัดการเอาถุงขยะแขวนกับตะขอเกี่ยวข้างพนักม้านั่ง ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักของคนตัวเล็กปีนขึ้นมาบนตักที่กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้า



   “เฮ้ยย อะไรวะไอ้เปี๊ยก” และก็เหมือนเดิม มันไม่มีทีท่าสะทกสะท้านกับตัวที่กระเด้งกระดอนเพราะขาที่สั่นจนเป็นเขาเองที่ต้องหยุดลง อ้าปากหาวหวอด มือเล็กๆขยี้ตางัวเงียก่อนจะขดตัวลงนอนบนตักแล้วหลับปุ๋ยไปแทบจะในทันที


   ถอนหายใจเฮือกโตพิศมองเสี้ยวหน้าขาวฝาดขึ้นสีริ้วอย่างระอา เอื้อมมือปัดเส้นผมที่แยงคิ้วจนมือเล็กๆป่ายไปมาอย่างรำคาญ



   คนเข้ากับเด็กไม่ค่อยได้อย่างเงินกลับดูเหมือนจะเข้ากับไอ้เปี๊ยกได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะการกระทำของคนตัวเล็กไร้เดียงสาที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างคนสนิทคุ้นเคย ช่วยขยับความสัมพันธ์ให้ชิดใกล้อย่างไม่ประหม่า ทั้งๆที่ถ้าเป็นเด็กคนอื่นจะขยาดกลัวเขากันทั้งนั้น



   ทอดมองร่างเล็กๆที่ขยับบิดตัวเปลี่ยนท่าคลายความเมื่อยแล้วต้องให้แอบคลี่ยิ้มออกมา มันทำให้เงินมีความสุขแปลกๆจนลืมคิดถึงใครอีกคนที่จากมา บางทีเจ้าตัวเปี๊ยกนี่อาจจะช่วยเขาได้



เพราะงั้นจะให้ยืมตักที่อุดมไปด้วยมัดไขมันอวบนุ่มต่างฟูกก็แล้วกัน



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] ฟันเฟือง CH.2 [07-06-2017]
«ตอบ #4 เมื่อ07-06-2017 23:03:02 »

ตัวเล็กเป็นเด็กน่ารัก   :m3: :m3: :m3:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: [เรื่องสั้น] ฟันเฟือง CH.2 [07-06-2017]
«ตอบ #5 เมื่อ07-06-2017 23:38:16 »

เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่หนอ

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: [เรื่องสั้น] ฟันเฟือง CH.3 [10-06-2017]
«ตอบ #6 เมื่อ10-06-2017 21:04:38 »






   ขบวนรถด่วนสาย 171 ครึกครื้นขึ้นมาในทันใดเมื่อมีเด็กชายร่างเล็กร่วมสร้างสีสันในการเดินทาง วิ่งพล่านจากหัวรถจักรยันตู้โดยสารสุดท้าย ตีซี้ผู้โดยสารยันพนักงานห้ามล้อที่เปลี่ยนบทบาทหน้าที่มาตรวจตั๋ว ปล่อยผู้ปกครองจำเป็นร่างถึกหนานั่งแข็งเกร็งส่งสายตาวาวโรจน์ตามร่างเล็กด้วยความหงุดหงิดไว้กับหน้าขาที่ชาวาบจากการโดนตะคริวแดก

   ส่วนสาเหตุน่ะเหรอ...

   “พี่เงิน กินหนมๆ”

   เสียงเล็กเริงร่าเอ่ยแทรกพร้อมปล่อยสารพัดขนมที่หอบมาเต็มชายเสื้อกองเกลื่อนกลาดข้างร่างสูง สายตาคมดุตวัดมองตามอย่างอารมณ์เสีย ไม่ใช่เพราะเจ้าตัวเปี๊ยกเป็นมิตรเกินไปจนทำลายความสงบเงียบในการเดินทาง หรือเป็นห่วงลุงๆป้าๆที่โดนไอ้จ้อยนี่หลอกล่อเอาของกิน แต่เป็นเพราะ...

   เขาอยากสั่นขาโว้ยยยยย

   ตั้งแต่ตอนที่ตัวเล็กๆของไอ้เปี๊ยกนอนหลับปุ๋ยบนตักเขาแล้ว เขาจำต้องนั่งนิ่งเป็นรูปปั้นเดวิดเพราะกลัวจะไปรบกวนการนอนของคนตัวเล็กเข้า แม้ว่าน้ำหนักราว 20 กิโลกรัมจะไม่ได้มากมาย แต่เมื่อมันถูกกดทับบนหน้าขาเป็นชั่วโมง อาการตะคริวแดกจึงได้เริ่มก่อตัวแต่บัดนั้น แค่กระดิกนิ้วหัวแม่โป้งเท้าเพียงนิดเดียว อาการแปลบปลาบก็จะแล่นจากปลายเส้นประสาทกระจายไปทั่วตัว ทุกอณูขุมขนพร้อมใจกันลุกซู่ซ่าแสบซี้ดไปถึงทรวงแทบน้ำตาเล็ด เป็นความทรมานอย่างแสนสาหัสซึ่งถ้าใครไม่มาเจอกับตัวก็คงไม่รู้

“พี่เงินเป็นไร ทำไมหน้าบูดเป็นตูดแมวเซา”

ส่งสายตาอาฆาตให้แก่ใบหน้าขาวใสไร้เดียงสาเอียงคอทำหน้าฉงน แต่คำพูดคำจาแสนใสซื่อบริสุทธิ์ปนกวนบาทาเล็กๆซึ่งเจ้าตัวอาจไม่ได้ตั้งใจ ยิ่งทำให้เขานึกย้อนไปในช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาแสนสุขของคนตัวเล็กที่เผยใบหน้ายิ้มร่าในยามหลับ ขยับริมฝีปากแจ๊บๆอย่างมีความสุข แต่เป็นช่วงเวลานรกสำหรับเขา

มือเล็กที่สอดเข้ามาภายใต้เสื้อยืดสีดำขยำขยี้พุงเขาอย่างเมามันส์ในอารมณ์ ทั้งลูบไล้ไปมาอย่างเพลิดเพลิน บางจังหวะก็ใช้เล็บจิกลงไปจนเขาสะดุ้งเฮือก แทบอยากกระชากทึ้งร่างเล็กเหวี่ยงควงสามรอบโยนออกนอกหน้าต่าง ให้ไปนอนหลับไหลในป่าข้างทางซะให้รู้แล้วรู้รอด จะอะไรซะอีก ก็เขาไวต่อสัมผัสบริเวณรอบเอวหรือเรียกให้ถูกอีกอย่างว่าบ้าจี้นั่นเอง

ฆ่าเขาให้ตกนรกหมกไหม้ปีนต้นงิ้วให้หนามแหลมทิ่มแทงเลือดอาบท่วมโทรมกายถึงยอด โดนอีกาปากเหล็กจิกตาหลุดจากเบ้า ตกจากความสูงตึกใบหยกกว่าร้อยชั้นลงในกระทะทองแดงเดือดปุดยังดีซะกว่าบ้าจี้บวกตะคริวแดก

“เปล่า”

เสียงกดต่ำแผ่รังสีทะมึนโอบล้อมรอบขบวนรถไฟสายความจริง มุ่งฝ่าความมืดครึ้มในยามหัวค่ำท่ามกลางแสงจันทร์นวลผ่องที่ส่องลอดผ่านบานหน้าต่างมากระทบผิวขาวราวสำลีของร่างเล็กซึ่งกำลังปีนขึ้นมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆเขา โดยไร้การรับรู้พลังด้านลบ

“กินมั้ยวะ”

มือเอื้อมคว้าขนมกรุบกรอบในถุงลมโป่งพองที่อัดแน่นขึ้นมาชูหรา และทันทีที่หัวเล็กๆผงกขึ้นลงพร้อมรอยยิ้มแฉ่ง มือใหญ่หนาก็ตะปบปุลงบนซองจนแฝบก่อนที่เจ้าตัวจะรู้ตัว เงินผงะเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด ก่อนจะยื่นขนมจ่อปากคนตัวเล็ก

ขนาดตะคริวแดกขากับบ้าจี้จนตัวสั่นเทิ้มเขายังทน...จะแปลกอะไรเล่า

รถไฟยังคงแล่นแหวกความมืดมิดในยามราตรีกาลช่วงหัวค่ำที่ค่อยคืบคลานเข้ามาผ่านสถานีแล้วสถานีเล่าจนกระทั่งค่อยชะลอความเร็วและหยุดลงในที่สุด

“ไอ้เปี๊ยก จะลงมั้ย”

“ลง?”

“เค้าจอดพัก 30 นาที” เสียงทุ้มอธิบายขยายความเมื่อสีหน้าคนตัวเล็กยังคงเอ๋อเร๋อ แต่ก็ยังไร้การตอบรับ เงินถอนหายใจเฮือกโตก่อนตัดสินใจ

“งั้นรออยู่นี่นะ ห้ามไปไหน เข้าใจมั้ย”

“ครับ!” ตอบรับแข็งขันพร้อมเผยร้อยยิ้มกว้างมิดตาหยีอย่างเคย มือหนาเอื้อมยีหัวคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู สบนัยน์ตากลมโตแป๋วก่อนชะงักค้างแล้วชักมือกลับ

มีเพียงความเงียบกับตากลมโตบ้องแบ๊วกระพริบสองสามครั้งจ้องร่างสูงนิ่งในภวังค์ความคิด

‘เขาเนี่ยนะ...เขาเนี่ยนะ...ลูบหัวไอ้เปี๊ยก ฝนจะต้องตก ฟ้าจะต้องร้อง โลกจะต้องถึงวันโลกาวินาศแน่ๆ’

สมองสั่งให้เงินหมุนตัวกลับแล้วออกเดิน

“จะไปไหนอ่ะ” เสียงเล็กเรียกรั้งให้ชะงักก้าว ก่อนจะตัดสินใจเดินต่อ ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าไปสนใจ

“จะไปไหนอ่ะ ฮึก” เสียงพูดพร้อมสะอื้นคล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อทำเอาคนที่บอกตัวเองว่าจะไม่สนใจ เผลอพลั้งตอบกลับ

“ไปเดินตลาด” เงินจำได้ว่ามีตลาดเล็กๆไม่ไกลจากสถานีนัก

“ไปด้วย” คนตัวเล็กเอ่ยเจื้อยแจ้วกระโดดลงจากที่นั่งมายืนอยู่หลังคนร่างสูง เงินขบริมฝีปากอย่างใช้ความคิด ก่อนพยักหน้า

“อุ้มหน่อย”

“ห๊ะ” เงินอุทานหันกลับมา สองแขนเล็กอ้ากว้างยื่นมาเบื้องหน้า

การกระทำชัดเจนกว่าคำพูด แม้เขาจะได้ยินเต็มสองรูหูก็ยังหลอกตัวเองได้ เขาไม่น่าหันกลับไปเลย น่าจะตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป

“ไม่โว้ยยยยยยย” เงินส่งเสียงร้องปฏิเสธลั่น ยังไงเขาก็ไม่อุ้มไอ้เปี๊ยกนี่แน่

“อุ้มๆๆๆๆๆๆ” เสียงเล็กพูดย้ำๆซ้ำๆ พร้อมเดินเข้ามากระตุกกางเกงยีนส์เนื้อหนา

“ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ” และเขาก็ปฏิเสธซ้ำๆเสียงแข็ง เรียกรั้งสายตาหลายคู่ให้หันมาสนใจว่าเด็กกะโปโลที่ไหนทะเลาะกัน

“อุ้ม ฮึก” ท่าไม้ตายสุดท้ายทำเอาเงินเงียบกริบ คนตัวเล็กเริ่มเบะปากจะร้องไห้จ้าอีกรอบ ทำเอาเขาเริ่มเดือดปุด เป็นเด็กไม่ได้อะไรดั่งใจก็เบะปากร้องไห้ ง่ายดีนะ

จริงๆแล้วเขาควรจะทิ้งเจ้าเด็กนี่ ควรสั่งสอนให้มันได้รู้ว่าไม่มีอะไรได้ดั่งใจไปทุกอย่าง แต่กว่าจะทันได้คิด มือใหญ่หนาก็ยื่นไปตรงหน้าเสียแล้ว

คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นสบมองนิ่ง

“จับไว้”

ร่างจ้อยพยักหน้าหงึกก่อนอุ้งมือเล็กจะเอื้อมคว้านิ้วก้อยอวบอูมไปกุม

“แน่นๆนะโว้ย” แกล้งโวยวายกลบเกลื่อนพร้อมฉุดรั้งร่างเล็กที่กุมนิ้วก้อยเขาแน่นให้เดินตามต้อยๆ

แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่กลายเป็นเขากุมมือเล็กๆนั่นไว้แทน...

สองร่างต่างขนาดเดินแหวกผู้คนไปตามทางเล็กๆซึ่งมีแผงลอยของพ่อค้าแม่ค้าตั้งอยู่สองข้างทางเรื่อยเรียงเข้าไป คนตัวเล็กตื่นเต้นกับทุกอย่างที่ได้พบราวกับมันเป็นสิ่งแปลกใหม่มหัศจรรย์อันดับที่สิบเอ็ดของโลกซึ่งเพิ่งถูกค้นพบ และมันก็เป็นเหมือนแม่เหล็กแกนโลกขนาดใหญ่ที่ดึงดูดให้คนอย่างเงิน ซึ่งผ่านโลกมากว่าสิบแปดปีได้ตื่นตาตื่นใจด้วยอีกครั้ง

“นี่อะไร”

“วุ้น”

“จาอาววววววววววววววววววว” เจ้าตัวเล็กลากเสียงยาวร้องจ้า เมื่อเงินพยายามลากมันกลับขบวนรถ

คิดผิด...เขาคิดผิดมหันต์ที่พาไอ้ตัวเล็กนี่มาเดินด้วย เจออะไรแปลกมันชี้จะเอาหมด พอเสียงแข็งบอกว่าไม่ได้ก็ร้องไห้งอแงแล้วเขาก็ใจอ่อนทุกที กลายเป็นว่ามือหนึ่งจูงไอ้เปี๊ยก อีกมือหอบหิ้วของพะรุงพะรังทั้งของกินของชำร่วยครบ ถ้าซื้ออีกก็คงจัดงานแต่งงานได้เลย

“มันเยอะแล้วเนี่ย เห็นมั้ย กินไม่หมดแล้ว” เงินพูดอย่างใจเย็นพลางชูของในมือโบกไปมาตรงหน้า

“จะเอาพี่หมี เพนกวิน จะเอาๆๆๆๆ” พูดมานานนมคนตัวเล็กก็ไม่มีทีท่าจะยอมแพ้กับขนมเจ้าปัญหาตรงหน้า มันคือวุ้นกะทิใบเตยในถ้วยรูปสัตว์ ถอนหายใจยาวเฮือกอย่างปลงตก

“อันสุดท้ายแล้วนะ”

“สุดท้ายๆๆๆ” พยักหน้าหงึกหงักยิ้มแป้น แต่ร่างสูงก็ยังจ้องเขม็งอย่างไม่วางใจ

“สัญญา?”

“สัญญาครับ” ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก็พบว่าใกล้ได้เวลาที่ขบวนรถจะออกเดินทางอีกครั้ง คราวนี้แม้ว่าเจ้าตัวเล็กจะร้องไห้อยากได้อะไรอีก เขาก็คงต้องลากมันกลับไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นอาจไม่ทันเวลา

“ป้าครับ วุ้นห้าสิบ”

“เย้ๆๆๆๆ พี่หมี เพนกวินนนนน” คนตัวเล็กกระโดดเหยงร้องดีใจ ทำเอาเงินเผลอหลุดยิ้มตาม

และถ้าเขารู้ว่าสัญญาแล้ว ไอ้เปี๊ยกจะว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ เขาควรจะจำไว้ไปใช้คราวหน้า แม้จะทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจ ไม่คิดว่าเด็กตัวเล็กจะยึดมั่นในคำสัญญาก็ตาม

ระหว่างเดินทางกลับเด็กชายดูจะมีความสุขกับวุ้นพี่หมีที่ประกบเป็นคู่กับเพนกวินในมือเสียเหลือเกิน ได้แต่จ้องแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่มีทีท่าว่าจะกิน จนต้องเอ็ดตะโรเสียยกใหญ่ จึงยกวุ้นพี่หมีมาดูดดุนเล็มเลียละเลียดทีละน้อยอย่างเสียดาย

“พี่เงิน...ให้เพนกวิน” คนตัวเล็กเอ่ยพร้อมยื่นถ้วยวุ้นเล็กๆในมือมาเบื้องหน้า เงินรับมาอย่างงุนงง

“ให้?”

“ครับ” คนตัวเล็กฉีกยิ้มกว้างพยักหน้ารับหงึกหงัก เงินพิจารณาถ้วยวุ้นในมือสลับมองหน้าเด็กชาย ก่อนตัดสินใจส่งเข้าปากทั้งก้อนเคี้ยวหยับๆ

เอื้อกกก

“อร่อย ขอบใจนะ” ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเจ้าตัวจ้อยนั้นคืออะไร แต่เพียงคำพูดที่เอ่ยออกไป เรียกรอยยิ้มมิดตาหยีที่คุ้นเคยได้เขาก็พอใจ

“เข้าห้องน้ำมั้ย?” เงินเอ่ยถามเมื่อก้าวเข้ามาภายในสถานี เจ้าเปี๊ยกส่ายหน้าพรืด

“งั้นขึ้นไปรอบนรถนะ” เด็กชายพยักหน้าหงึกหงักเข้าใจ เขาจึงหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไป

สภาพห้องน้ำบนรถไฟค่อนข้างชั่วคราวแบบขอไปที เหมาะสำหรับคนที่ไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะทั้งเสียงและกลิ่น รวมถึงระบบถ่ายเทของเสียเปรียบเหมือนส้วมหลุมสมัยมนุษย์ยุคหิน ความสะอาดระดับโรงแรมห้าดาวเทียบไม่ติดฝุ่น คนส่วนใหญ่จึงอาศัยใช้ห้องน้ำตามสถานีต่างๆที่ไปหยุดพักเสียมากกว่า

เดินออกจากห้องน้ำพร้อมของพะรุงพะรังที่แบ่งมาถือสองมือได้ถนัด เพราะไม่ต้องจูงคนตัวเล็ก ก้าวเท้าขึ้นขบวนรถไฟผิวปากอย่างสบายอารมณ์ เนื่องจากได้ออกมาเดินยืดเส้นยืดสายจากการนั่งอยู่ในที่แคบๆราวหกชั่วโมง ล้วงหมากฝรั่งในเสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวขี้ม้ามาเคี้ยวหยุบหยับ

หยุดยืนอยู่หน้าคอกที่นั่งซึ่งอาศัยเดินทางมาร่วมครึ่งวันเมื่อชายตากวาดมองหาคนตัวเล็กกลับพบเพียงความว่างเปล่า สอดส่ายสายตาตามทางเดินไปยังหัวขบวนและท้ายขบวนสลับกัน หวังเพียงเห็นร่างเล็กในชุดแจ็ดเก็ตยีนส์วิ่งเล่นอย่างที่เคย

“ลุงครับ เห็นเด็กที่มากับผมขึ้นมายังครับ” ตัดสินใจสอดถามคู่สามีภรรยาสูงอายุคู่หนึ่งที่เจ้าเปี๊ยกผละมาเล่นด้วยบ่อยครั้งในคอกถัดกัน

“ยังนะพ่อหนุ่ม แม่เธอเห็นบ้างมั้ย”

“ไม่นี่จ๊ะ หรือจะไปวิ่งเล่นอยู่หรือเปล่า...พ่อคุณ พ่อคนตรวจตั๋ว เห็นเด็กที่มากับหนุ่มคนนี้ขึ้นมาหรือยัง” หญิงสูงวัยตัดสินใจเรียกถามพนักงานห้ามล้อที่เดินผ่านมาพอดี ส่วนชายหนุ่มร่างบึกหนาเพียงรอฟังด้วยใจลุ้นระทึก

“ยังนะครับ เข้าห้องน้ำอยู่หรือเปล่า อีกห้านาทีรถจะออกแล้วนะครับ” เจ้าหน้าที่ตอบกลับก่อนจะขอตัวไปตรวจความเรียบร้อยในส่วนอื่น ภายในใจของเด็กหนุ่มร่างสูงคล้ำกลับร้อนรนแทบเป็นบ้า

หายไปไหนกันนะ

เจ้าตัวพรวดพราดลงจากรถไฟด้วยความเร่งรีบ กระโจนเข้าไปในห้องน้ำเพื่อตามหาแต่ก็ไม่พบ สอบถามนายสถานีก็ไม่เห็นวี่แวว ยิ่งทำให้ร้อนใจ นึกโทษตัวเองถึงความสะเพร่า เด็กตัวเล็กแค่นั้นยังไม่ค่อยรู้ประสีประสาดี จะถูกคนลวง หรือเดินหลงไปที่ไหนก็ได้ ทำไมเขาไม่คิดให้ดีกว่านี้

เงินวิ่งพล่านตั้งแต่หัวยันท้ายสถานีแต่ก็ไร้ซึ่งวี่แวว เขาทรุดตัวลงแทบพื้นชันเข่ากำหมัดแน่น ขบริมฝีปากจนห้อเลือด อยากจะเอาหมัดทุบแบบคนบ้า แต่ก็รู้ว่ามันไม่ช่วยอะไร เขาต้องคิด...คิดสิว่าไอ้ตัวเล็กมันจะไปไหนได้

รวบรวมกำลังขึ้นเงยหน้าสอดส่ายสายตาโดยรอบอีกครั้งสบเข้ากับขบวนรถไฟอีกฟากสถานีที่กำลังจะแล่นออกในอีกนาทีข้างหน้า แม้เขาจะไม่แน่ใจนักแต่ลำตัวก็โฉบถลาข้ามรางรถไฟไปยังอีกฟากของสถานี ตาลีตาเหลือกวิ่งแล่นจากหัวขบวนยันท้ายขบวน

“ไอ้เปี๊ยก! ไอ้เปี๊ยกโว้ยยย!” ปากก็ร้องตะโกนเรียกหา สายตาก็พุ่งตรงไปยังหน้าต่างที่แล่นผ่านไปทีละบาน ก่อนสัญญาณวูดเตือนจะดังขึ้น และรถขบวนดังกล่าวเริ่มแล่นออกจาสถานีช้าๆ

“พี่เงิน!” เสียงเล็กแว่วมาตามสายลมไม่ดังนักแต่เขาก็ได้ยินชัดเจน เงินหันขวับกวาดตาไปตามหน้าต่างขบวนที่แล่นผ่านไปช้าๆก่อนจะสบเข้ากับใบหน้าเล็กในตู้โดยสารที่ยื่นออกมาผ่านหน้าต่างถัดไปสามตู้ เงินเร่งฝีเท้าไล่ตามจนทัน

“พี่เงิน!” เสียงเล็กร้องเรียกจ้า สะอื้นฮึกจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เกาะขอบหน้าต่างแน่น เงินทำได้เพียงวิ่งตามแล้วสอดส่ายสายตาหาทางช่วย แต่ก็ดูเหมือนจะสายเกินไปเมื่อความเร็วรถไฟเพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้เขาต้องสาวเท้าฉับเพื่อตามให้ทัน

“โดด! โดดเลย!” ไม่รู้ด้วยอะไรดลใจ อาจเพราะเท้าที่วิ่งตามกำลังจะไปสุดสถานีไม่กี่อึดใจข้างหน้า เจ้าตัวเล็กส่ายหน้าหวือตัวสั่น

“โดด ไอ้เปี๊ยก พี่รอรับอยู่ ไม่ต้องกลัว!” เขาตะโกนบอกอ้าแขนกางพยักหน้ามองคนตัวเล็กอย่างให้ความเชื่อมั่น ถึงเขาจะไม่ค่อยมั่นใจนักก็เถอะ แต่เขาบอกกับตัวเองว่าต้องรับได้สิ

คนตัวเล็กมองตามการกระทำของคนตัวสูงทั้งที่ตัวสั่นหวาดกลัว แต่แขนที่กางอ้ารอรับเขามันก็ดูปลอดภัยอาจจะปลอดภัยกว่าแขนเล็กๆที่กางอ้าเรียกร้องให้คนร่างสูงโอบอุ้มตนในคราแรก

ร่างเล็กตัดสินใจปีนโฉบถลาสุดตัวหลับตาปี๋ออกจากหน้าต่างท่ามกลางเสียงหวีดร้องของคนในขบวนและนายสถานีที่วิ่งตามมาไม่ไกล ร่างบึกหนาสับขาวิ่งสุดตัวแทบหมดแรง  ซ้ำร้ายในนาทีนั้นเกิดข้อเท้าพลิกจนแทบล้มคะมำ ตัวเล็กๆลอยหวืออยู่กลางอากาศในขณะที่เงินใช้มือยันพื้น ก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจกระโจนสุดตัว รองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินเข้มที่รองรับน้ำหนักตัวที่เหลือเพียงข้างถีบพื้นถลาพุ่งตัวลอย แขนอ้าเงื้อมสุดมือรองรับคนตัวเล็กไว้ได้ทันก่อนกลิ้งครูดไปกับพื้น

ท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องกระทบพื้นชานชาลา นายสถานีที่วิ่งหน้าตื่นมาแต่ไกล ร่างบึกหนาที่ไถลครูดไปตามพื้นจะมีรอยถลอก ข้อเท้าจะเคล็ด แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดเขา...ปลอดภัย

 +++ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  ปล. ตัวเล็กเป็นเด็กน้อยน่ารักจริงๆ ค่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: [เรื่องสั้น] ฟันเฟือง CH.3 [10-06-2017]
«ตอบ #7 เมื่อ10-06-2017 21:21:16 »

โธ่ ขึ้นรถไฟผิดขบวนเสียอย่างนั้น

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] ฟันเฟือง CH.3 [10-06-2017]
«ตอบ #8 เมื่อ10-06-2017 23:20:53 »

กรรม...ตกใจแทบแย่  :o

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด