หัวข้อ: [แบบสัมภาษณ์] สาเหตุที่ทำให้เป็นเกย์

[destiny_dr]

สวัสดีค่ะ ..
พอดีว่ามีรายงานต้องทำ ..และข้าน้อยเลือกหัวข้อ "สาเหตุที่เป็นเกย์" (ตามประสาสาววาย- -)
วันนี้เลยแวะมาขอข้อมูลที่นี่ ถ้ามีใครสนใจจะให้ข้อมูล เอ่อ ..แอดเฟสบุ๊คมาเลยค่ะ มีลิ้งที่ด้านล่าง
ส่วนการสัมภาษณ์ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ สอบถามทั่วๆไป ..
เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เป็นเกย์ไม่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่(?)
แล้วก็ทัศนคติอีกเล็กน้อย ..หรือสำหรับคนที่คิดว่าปัจจัยที่ทำให้เป็นเกย์ของตัวเองนั้นแปลกแหวกแนวกว่าใครๆ
และใคร่อยากบอกต่อก็ได้เลยค่ะ ยินดีรับฟังข้อมูล ..

ด้วยรักและใคร่(?)
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

>> https://www.facebook.com/dearly.chpd<<

[Poseidon]

ย้อนไปตอน ม.2 ตอนนี้ผม ปี1
จุดเริ่มต้นคือการชอบวงเกาหลี Super Junior เพราะเพื่อน ผญ มันชอบเอาเพลงมากรอกหูทุกวัน จนผมชอบวงนี้ จากนั้น ก็เริ่มอ่าน ฟิค ของสมาชิกในวง อ่านแล้วก็สนุกดี จากนั้น เริ่มคืบคลานมาอ่าน นิยายเกย์ทั่วไป จนเหมือนค้นพบว่า อ่า ตัวเรานั้นไซร้ ชอบผู้ชายเหรอวะเนี่ย เหมือนมันค่อยๆซึมไปทีละน้อย พอรู้ตัวอีกที ก็ประมาณว่า ทำไมกุมอง ผช ว่าหล่อจัง เลยเป็นตั้งแต่บัดนั้น จนถึงปัจจุบัน  บางคนคิดว่าปัญญาอ่อน แต่นี่คือเรื่องจริงครับ ผมอาจเล่าได้ไม่ลื่นไหลนะครับ เขียนตามความรู้ึสึก

[fanfic2010]

ของผมเนี่ยประมาณว่า อกหักจากผู้หญิงมา เลยเมาแล้วเสียเอกราช
ตกกระไดพลอยเกย์ แบบไม่เต็มใจ แต่เป็นความตั้งใจของแฟนผม
ผมก็เลยใช้วิธียืมหอกสนองคืนผู้ใช้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนี่
ทุกวันนี้ เราก็เลยผลัดกันประลองยุทธ์กันอยู่ 555555

[broke-back]

เพราะอะไร..ไม่รู้
รู้ตัวก็เป็นแล้ว
สงสัยคงจะเป็นที่ gene ใส่รหัสเอาไว้
ตอนที่..ไซโกต กำลังจะเป็น..เอมบริโอ
แหงซะ
 

นี่ตู
..born to be gay..
เหรอว่ะ

กร๊ากกกกก
 

[nicky_B]

ตอนเด็กชอบโดนเพื่อนนักเลงในห้องแกล้งและรังแก มันชอบตบหัว กอดแรงๆ ทำเหมือนข่มขืนซอกคอ จับจู๋ etc

แต่เวลาช่วยตัวเองยังจิ้นว่ามีไรกะผู้หญิง  ชอบเพื่อนในห้องคนนั้นคนนี้ที่เป็นผู้หญิงปกติ

มา ม.1 ไอ้ที่นั่งด้วยกันมันชอบลวนลาม แบบแกล้งนั่นแหละ ชอบเอาตัวมากระแทกตูดเราเวลาเผลอ เราเกลียดมันมากตอนนั้น  ตอนนั้นเรายังไม่รู้จักคำว่าเกย์นะ

ขึ้น ม2 มันย้ายโรงเรียน เราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย

พอมารู้จักอินเตอร์เน็ทตอน ม4 เลยรู้มากขึ้นว่าเกย์คืออะไร
พอมารู้จักเล้า 2ปีก่อน ...อ่านนิยายครั้งแรกแถมเป็นนิยายวายเลยค้นพบว่าตัวเองชอบเล้าชอบอ่านนิยาย
พออ่านจนซึมซับเลยกลับมาหวนคิดเกี่ยวกับตัวเองตอนเด็ก เหมือนเป็นนายเอกในนิยาย 555+
แต่ที่ๆเราอยู่มันยังไม่เปิดกว้างในเรื่องรักเพศเดียวกัน เลยคิดๆว่ามันไม่เหมือนในนิยายเลยซะทีเดียว 
 
สรุปว่าเราจิ้นผู้ชายเป็นตอน ม.ปลาย หลังจากอ่านนิยาย

ส่วนตอนนี้ความชอบคือชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย


ป.ล เมื่อวันก่อน ไปเจอเำฟสไอ้ที่นั่งกับเราตอน ม1 มา.. มันคงจำเราไม่ได้ แต่เราจำมันได้ (มันหล่อมาก 55+) 

เอ้ย เอาไปเอามารู้สึกจะไม่ได้ตอบกระทู้เลย ฮ่าๆ 
 

[Dark_Noah]

ของผมเนี่ยประมาณว่า อกหักจากผู้หญิงมา เลยเมาแล้วเสียเอกราช
ตกกระไดพลอยเกย์ แบบไม่เต็มใจ แต่เป็นความตั้งใจของแฟนผม
ผมก็เลยใช้วิธียืมหอกสนองคืนผู้ใช้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนี่
ทุกวันนี้ เราก็เลยผลัดกันประลองยุทธ์กันอยู่ 555555

หูย เรื่องราวน่าสนใจจัง อยากทราบรายละเอียดมากกว่านี้จังเลยค่ะ 

[GBlk]

ดำแค่นิสัยเหมือนเกย์

แต่ยังไม่อยากเป็นเกย์

ยังชอบผุ้หญิง ... แต่ไม่ปฏิเสธผู้ชาย....

เลยไม่จำเป็นต้องลงความเห็น... ชิมิ....ชิมิ ~~~

[Giant~Termite]

ไนซ์รู้สึกชอบความแข็งแกร่งของร่างกายผู้ชายตั้งแต่เรียนประถม ปั่นจักรยานผ่านหน้าบ้านที่ลูกชายเพิ่งไปเป็นทหารเกณฑ์กลับมา ยิ่งเห็นกล้ามเป็นมัด ๆ แล้วใจสั่นอย่างแรง
ยิ่งช่วงนั้นโดนพี่ชายลูกของป้าพยายามจะทำมิดีมิร้าย แต่ขัดขืนเพราะกลัว เลยอดได้จับอาวุธลับพี่ชายเลย (มารู้ทีหลังว่าของพี่แกใหญ่มาก แอบไปเห็นตอนที่เขากำลังให้รุ่นน้องที่โรงเรียนทำออรัลให้)
แต่เริ่มรู้สึกรักครั้งแรกตอน ม.3 มีเพื่อนชายที่ดูขรึม ๆ แอบมองเราอยู่ ผ่านไปหนึ่งเทอมไม่รู้เรื่องเลย จนได้ไปทัศนศึกษาต่างจังหวัดด้วยกัน เขามานอนข้าง ๆ เราแล้วกอดเราไว้ทั้งคืน พอตอนเช้าไปเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์ด้วยกัน ก็เดินจับมือกันตลอดเลย รู้สึกมีความสุขมาก ก่อนจะแยกย้ายจากกันเขาหน้าเศร้ามาบอกกับเราว่าอย่าทิ้งเขาไปไหนนะ ให้อยู่ดูแลกันก่อน แต่สุดท้ายก็ต้องแยกย้ายจบม.ปลายก็ไม่ได้เจอกันอีก ตอนนี้เขาแต่งงานมีลูกไปแล้ว
ส่วนปัจจุบันยัง "โสด"  อิอิ

เล่ามาเยอะแยะ ไล่สาเหตุที่นึกได้จากประสบการณ์และความรู้สึกตัวเองเลยนะ
สำหรับไนซ์แล้วคิดว่าสภาพแวดล้อมเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของตัวเอง
ตอนเด็กแม่ไม่ค่อยให้ไปเล่นกับเพื่อนผู้ชายเพราะกลัวเราจะซน เลยมีแต่เพื่อนผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่
นิสัยก็จะออกแนว ๆ ผู้หญิง อีกอย่างคือพ่อแม่มักทะเลาะกันบ่อยและคิดว่าพ่อเป็นผู้ชายทำไมต้องทำร้ายแม่ด้วย
อันนี้เลยฝังใจว่าซักวันหนึ่งเราจะต้องกำหราบพวกผู้ชายให้มาอยู่ใต้เราให้ได้
แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลย สำหรับไนซ์แล้วคิดว่าตัวเองเป็นเกย์มาตั้งแต่เกิดเพราะแม่ให้ยีนส์มาเยอะ อันนี้ชัวร์แน่นอนจ้าาาา...

ปล.ยาวไปหน่อย ไม่รู้ว่าได้สาระบ้างป่าว อิอิ

[mrt]

ขอบคุณสำหรับคำถามครับ ไม่เคยถามตัวเองเหมือนกัน
ตอนแรกคิดว่าเพราะมีคนมาจีบเยอะ คือตอนมัธยมค่อนข้างฮอตครับ
ฮอตได้ไงก็ไม่รู้ ฮอตแบบเงียบๆเรียบร้อยเนี่ยแหละ ในโรงเรียนสหด้วยนะ
โดยเฉพาะ ม.ต้นเนี่ย  แก๊งค์หัวโจกเปลี่ยนคาบเรียนทีไร
เดินผ่านหน้าห้องต้องส่งเสียงแซวเข้ามา เรียกชื่อบ้าง ขนาดอาจารย์อยู่ยังกล้า
ทุกเช้าก็จะมีห้องติดกันมาจีบล้อมหน้าล้อมหลัง   คิดว่าสุดท้ายโดนโน้มน้าว

แต่ถามใจตัวเองลึกๆ มันไม่ใช่  คำตอบจริงๆก็สั้นๆง่ายๆแค่นี้เอง

เพราะใจมันต้องการความรักและความอบอุ่นจากมนุษย์เพศชาย

[หมอตัวเปียก]

ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่จุดเริ่มต้นอาจจะเป็นเพราะรอบตัวเรามีแต่พี่น้อง ญาติผู้ชายมั้งครับ (ในรุ่นๆเดียวกัน) ประกอบกับหน้าตา รูปร่าง เลยทำให้เขาทำกับเราเหมือนเด็กผู้หญิง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องอย่างว่าอะครับ (ตอนนั้นประถมเอง) 

พอเข้ามัธยมก็มีเพื่อนมาลวนลามบ่อย บางคนลากไปห้องเก็บของ ห้องน้ำ แต่ตอนนั้นไม่ได้มีอะไรกันนะกลัว มันพยายามใส่เข้ามาแต่ใส่ไม่ได้ หรือบางคนก็ชอบมาเอามือเราไปจับของมัน ชีวิตเลยเติบโตมาเป็นเกย์นี้แหละครับ 

ห้าๆ อ่านดูแล้วงงๆ แต่สุดท้ายก็เป็นเกย์แบบนี้แหละ 

[GBlk]

^

บระโจ๊กเจ้า !

ประสบการณ์น่ากลัวมาก....


เคยแค่โดนหลอกจี้ กอด กับจับตัวบ่อยๆ แค่นั้นเอง

แต่ถึงกลุ่มเราจะเป็นชายล้วน ก็เป็นชายแบบเรียบร้อย ขี้อายนะ เลยไม่มีการมาฉก จับ ดอกจำปี มีแต่เล่นล็อคตัวจี้ ไล่จับ อะไรประมาณนั้นเท่านั้นแหละ

หลังจากจบมาก็ยังโดนจับแขน จับข้อมือบ่อยๆ บางคนก็พูดด้วยว่านิ่มดี


เราเองมารู้ตัวหลังเข้ามาเล้านี่แหละ ว่ามันคือการหลอกจับ เพราะตัวเรานิ่ม...

ตอนแรกคิดว่า ผู้ชายทั่วๆไป ก็จับเนื้อตัวกันเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะพวกเดียวกัน

แต่พออ่านนิยายแล้วเลยสังเกตได้ ว่าคำพูด กิริยาอาการ และสายตา รวมถึงความถี่ และวิธีในการจับ มันเป็นแบบนิยาย ไม่ใช่แบบชายทั่วๆไปเค้าจับกัน

โดยเฉพาะสายตา กับคำพูดนี่ สังเกตแล้วทำให้พึงรู้ตัว (ในวัยชรา 25 กว่าๆ นี่แหละ) ว่า กรูโดยผู้ชายจีบ~

ตอนหลังเลยไม่ให้มันจับกันแล้ว... จับปุ๊บก็เบี่ยงออกทันที... เดี๋ยวมันหาว่า ให้ความหวัง...

ที่พยายามหลบเลี่ยงเพิ่มอีกอย่าง คือ เปลือยท่อนบนเวลาอาบน้ำ หรือ อบ คือเราสบายๆ คิดว่าผู้ชายที่ไหนเค้าก็ทำกัน

ตอนหลัง พออ่านนิยาย กับสังเกตุคำพูดและสายตา ถึงได้รู้ว่า คนรอบข้างมันไม่มองตัวเราเป็นแบบผูั้ชายเท่าไหร่... ตอนหลังเลยพยายามใส่ท่อนบนด้วย ถ้าไอ้กลุ่นนั้นอยู่... แต่ถ้าพวกมันไม่อยู่ ก็ชิลๆเหมือนเดิม จะอายอะไรกัน ไม่ได้แก้ผ้าโทงๆสักหน่อย

เฮ่อๆ~ โง่จริงๆเลยตรู!

[iamgays]

  ไม่กล้าบอกอะครับว่าเป็นเกย์เพราะว่า อายอะ แต่ว่าพอจะใบ้ ๆ ให้ได้ว่าสาเหตุที่ผมเป็นเกย์นั้น เพราะก่อนหน้านี้ไปจีบใครก็ไม่ติด ผู้หญิงนะครับเลยคิดว่าตนเองไม่ถูกชะตาหญิงสาวเลย เลยคิดว่าตนเองชอบผู้ชายมากกว่า และสร้างจุดสนใจให้ผู้ชายมากกว่าคงเป็นอย่างนั้นมั้งครับ สาเหตุผมว่ามีไม่กี่อย่างหรอกครับ อาจจะอกหักรักคุดหรือว่าเป็นมาตั้งแต่กำเนิด

[plasster]

ส่วนตัวผม ตอนนี้ไม่เคยมีอาการใจเต้น หวั่นไหวกับใคร  เห็นผู้ชายถอดเสื้อต่อหน้าก็เฉยๆ  แต่ผมมีอาการประหม่าเวลาอยู่กับผู้หญิงน่ารักๆ แบบว่าทำอะไรไม่ถูก(แต่ไมไ่ด้ต้องการมาเป็นแฟนนะครับ) มีคนๆเดียวที่ทำผมหวั่นไหวคือ....คนที่ผมเคยรัก...ปัจจุบันผมไม่มีอาการกับใครไม่ว่าชายหรือหญิง เอ๊ะผมเป็นเกย์ป่าวเนี่ย 

[info001]

ตอนเด็กๆ ก็ปกติเหมือนเด็กทั่วๆไป ถึงแม้บางครั้ง จะมีเด็กผู้ชายแอบมาจูบแก้ม
ก็ยังเฉยๆ ออกจะไม่พอใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ขออนุญาต(ถ้าขอก่อน อาจยอมก็ได้ 55)
มารู้ตัวเองช่วงประถมปลาย ว่าเราไม่เหมือนคนอื่น เพราะรู้สึกชอบเพื่อนคนหนึ่ง
เพื่อนคนนี้ หล่อตี๋ สูงขาว สาวๆชอบ แต่มันแกล้งเราให้เจ็บอยู่บ่อยๆ
บางทีก็มาอยู่ใกล้ๆ คอยทำดีด้วย จนรู้สึกสับสน ว่าในใจมันคิดอะไรกันแน่
แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เรานั่งอยู่บนราวระเบียงเพลินๆ  เขาก็ค่อยๆ เดินเข้ามา จ้องหน้าเรานิ่งๆ
แล้วก็เข้ามากอด อุ้มเราลงมาจากระเบียง  จากนั้นมา...ทุกอย่างก็ปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
(ช่วงนั้นคงแค่อารมณ์พาไป ได้แต่ปลอบใจตัวเอง..เฮ้อ)
สรุปว่า ที่ตัวเองไม่เหมือนคนอื่น ก็อาจมีสาเหตุมาจาก
   1. สภาพสิ่งแวดล้อม เช่น ขาดต้นแบบที่เป็นเพศชาย
   2. เป็นมาตั้งแต่เกิด  แต่เราเพิ่งมารู้ตัวเองตอนโต หรือเมื่อมีบางสิ่งมากระตุ้น
   3. เป็นเรื่องของวิบากกรรม จากการผิดศีลข้อ 3 ตามหลักกฎแห่งกรรม ที่มีอธิบายไว้ในพุทธศาสนา

ดังนั้น ถ้าวิเคราะห์จากสาเหตุดังกล่าว หากเรายอมรับในสาเหตุที่ 3 เป็นหลัก ส่วนสาเหตุอื่นๆ นั้นเป็นส่วนเสริม
คนไหนที่ไม่มีวิบากรรม ทำอย่างไรเขาก็ไม่เป็น แต่คนไหนที่มีวิบากกรรม ก็มีโอกาสเป็นได้ค่อนข้างมาก แต่ไม่ทุกคน 
ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น เชื้อวิบากกรรมมากหรือน้อย  สภาพแวดล้อม สภาพจิตใจ และอื่นๆ
บางคนอาจชอบผู้ชายอยู่บ้างแต่ไม่มาก  และมีจิตใจเข้มแข็ง  อยากใช้ชีวิตเหมือนชายทั่วไป
ก็แต่งงานมีครอบครัวกันตามปกติ ซึ่งมีอยู่ไม่น้อย   จึงยากที่จะสรุปได้ว่าใครเป็น หรือไม่เป็น และอะไรเป็นสาเหตุ
ถ้าเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน  หากมีอะไรที่อธิบายไม่ได้ (กูก็ไม่รู้)  ก็มักจะใช้คำว่า " ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด " 555

[GBlk]

^

เสริมข้อสาม

๔. ความตั้งใจจะเป็น/จะคิด/จะพูด/จะทำ  ในแบบ  ผู้ชาย/ผู้หญิง/เกย์/คิง/ควีน/เลส/ทอม/ดี/ไบ/โบท/มาโซ/เรโช/คอมโบ้/พินอคคิโอ้/โคล่า/ช่าๆๆ/อ๊าาางงงงงงง~~~

ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ ตามสูตรต่อไปนี้ ...

----------------------------------------------------------------------------------


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต


สังโยคสูตร
             [๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมบรรยายอันเป็นสังโยคะทั้ง
วิสังโยคะแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุ
เหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ธรรมบรรยายอันเป็นสังโยคะทั้งวิสังโยคะเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็หญิง
ย่อมสนใจสภาพแห่งหญิงในภายใน กิริยา ท่าทาง ความไว้ตัว ความพอใจ
เสียง และเครื่องประดับของหญิง เขาย่อมยินดี พอใจ ในสภาพของตนนั้นๆ
เขายินดี พอใจในสภาพของตนนั้นๆ แล้ว ย่อมสนใจถึงสภาพของชายใน
ภายนอก กิริยา ท่าทาง ความไว้ตัว ความพอใจ เสียง และเครื่องประดับ
ของชาย ย่อมยินดี พอใจในสภาพของชายนั้นๆ เขายินดี พอใจในสภาพของ
ชายนั้นๆ แล้ว ย่อมมุ่งหวังการสมาคมกับชาย และสุขโสมนัสที่เกิดเพราะการ
สมาคมกับชายเป็นเหตุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ผู้พอใจในภาวะแห่งหญิงก็ถึง
ความเกี่ยวข้องในชาย ด้วยอาการอย่างนี้แล หญิงจึงไม่ล่วงพ้นภาวะแห่งหญิง
ไปได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชายย่อมสนใจสภาพแห่งชายในภายใน กิริยา ท่าทาง
ความไว้ตัว ความพอใจ เสียงและเครื่องประดับของชาย เขาย่อมยินดี พอใจ
ในสภาพของตน เขายินดีพอใจในสภาพของตนนั้นๆ แล้ว ย่อมสนใจถึงสภาพ
ของหญิงในภายนอก กิริยา ท่าทาง ความไว้ตัว ความพอใจ เสียง และเครื่อง
ประดับของหญิง ย่อมยินดี พอใจในสภาพของหญิงนั้นๆ แล้วย่อมมุ่งหวังการ
สมาคมกับหญิง และสุขโสมนัสที่เกิดเพราะการสมาคมกับหญิงเป็นเหตุ ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย สัตว์ผู้พอใจในภาวะแห่งชายก็ถึงความเกี่ยวข้องในหญิง ด้วยอาการ
อย่างนี้แล ชายจึงไม่ล่วงพ้นภาวะแห่งชายไปได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความ
เกี่ยวข้องย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้แล ฯ
             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนความไม่เกี่ยวข้องเป็นอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย
หญิงย่อมไม่สนใจในสภาพของหญิงในภายใน กิริยา ท่าทาง ความไว้ตัว ความ
พอใจ เสียงและเครื่องประดับของหญิง เขาไม่ยินดี ไม่พอใจในสภาพแห่งหญิง
ย่อมไม่สนใจถึงสภาพแห่งชายในภายนอก กิริยา ท่าทาง ความไว้ตัว ความ
พอใจ เสียงและเครื่องประดับแห่งชาย เขาไม่ยินดี ไม่พอใจในสภาพแห่งชาย
นั้นๆ แล้ว ย่อมไม่มุ่งหวังการสมาคมกับชายในภายนอก และสุขโสมนัสที่เกิด
เพราะการสมาคมกับชาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ผู้ไม่พอใจในสภาพแห่งหญิง
ก็ถึงความไม่เกี่ยวข้องในชาย ด้วยอาการอย่างนี้แล หญิงจึงล่วงพ้นสภาพแห่ง
หญิงไปได้ ฯ
             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชายย่อมไม่สนใจในสภาพแห่งชาย กิริยา ท่าทาง
ความไว้ตัว ความพอใจ เสียงและเครื่องประดับของชาย เขาไม่ยินดี ไม่พอใจ
ในสภาพแห่งชายนั้นๆ แล้ว ย่อมไม่สนใจถึงสภาพแห่งหญิงในภายนอก กิริยา
ท่าทาง ความไว้ตัว ความพอใจ เสียงและเครื่องประดับของหญิง เขาไม่ยินดี
ไม่พอใจในสภาพแห่งหญิงนั้นๆ แล้ว ย่อมไม่มุ่งหวังการสมาคมกับหญิงใน
ภายนอก และสุขโสมนัสที่เกิดเพราะการสมาคมนั้นเป็นเหตุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัตว์ผู้ไม่พอใจในสภาพแห่งชาย ก็ถึงความไม่เกี่ยวข้องในหญิง ด้วยอาการอย่างนี้
แล ชายจึงล่วงพ้นภาวะแห่งชายไปได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความไม่เกี่ยวข้องย่อม
มีด้วยอาการอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แลชื่อว่าธรรมบรรยายอันเป็นทั้ง
สังโยคะและวิสังโยคะ ฯ
จบสูตรที่ ๘

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  บรรทัดที่ ๑๒๙๘ - ๑๓๓๙.  หน้าที่  ๕๗ - ๕๙.
 http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=23&A=1298&Z=1339&pagebreak=0
             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=48
             สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓
http://www.84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๒๓
http://www.84000.org/tipitaka/read/?index_23

[^^KENTA^^]

ผนเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นจริงๆก็ตอนเข้ามาอ่านนิยายในเล้านี่แหละครับ...มันใช่เลย(เมื่อก่อนยังสับสนอยู่อะครับ)..ผมเคยอ่านนิยายช/ญสารภาพตามตรงนะครับ คือมันไม่ใช่ แบบอ่านแล้วไม่มีอารมณ์ร่วมกับนิยายเลย..แต่เมื่อผมลองมาอ่านนิยายboy's love บอกได้คำเดียว นี่แหละ"ใช่เลย"()

[esundarn]

เซลล์มันเรียกร้อง คิดว่ามันเป็นไปตามธรรมชาติเองเลย
ตอน ม.ต้น บางครั้งจะรู้สึกว่าอยากจะทำมิดีมิร้ายกับเพื่อนชาย  ไม่เคยฝันว่ามี sex กับผู้หญิง มีต่ผู้ชายเท่านั้น
อีกอย่างน้อยครั้งมากที่จะชายตามองผู้หญิงอ่ะ ส่วนมากจะรู้สึกว่าผู้ชายสะดุดตามากกว่า

[lovely_boyzazz]

อืมมเอาไงดีละ   เอาเป็นว่าเป็นคนที่เกิดมาอยู่ท่ามกลางผู้ชาย มีพี่ชาย 2 คน แล้วก็ น้าชายอีก 6 แล้วก็ญาติๆ ที่เป็นผู้ชายอีกเพียบ
หลายคนอาจจะบอกว่าไม่เห็นเกี่ยว อยู่ท่ามกลางผู้ชายน่าจะแมนๆ มากกว่า แต่ผมประมาณว่าเกิดมาเป็นลูกคนสุดท้อง แล้วพี่ๆ น้าๆ ก็ชอบมาเล่นด้วย มาดูแล แล้วเราก็รู้สึกว่าพี่ๆ น้าๆ ดูหล่อ ดูเท่ห์ดีจังอยากเป็นแบบนั้นมั่ง แล้วตอนเด็กๆ ก็จะชอบให้คนนั้นคนนี้อุ้ม โดนอุ้มโดนกอดแล้วรู้สึกดีจัง อะไรประมาณนี้ แล้วพอโตมาหน่อย พี่ๆ เรา มันก็เจ้าชู้กันซะ ก้เลยชอบแต่งตัวกันเราก็เห็นแล้วรู้สึกชอบดี จากที่เคยอยากเป็นก็เลยกลายมาเป็นอยากได้มาเป็นของตัวเองแทน 555+ แต่ไม่ได้หมายถึงพี่ตัวเองนะ หมายถึงคนอื่นๆ ที่ลักษณะเหมือนพี่เราอะไรประมาณนี้

อ่อ อีกเรื่อง ตอนก่อนเกิด พ่ออยากให้ออกมาเป็นหญิง จะไ้ด่้สลับกันกับพี่ๆ ชาย หญิง ชาย แล้วก็เรา (ที่พ่ออยากให้เป็นหญิง)
แล้วของเล่นทุกอย่างก็เลยกลายเป็นของผู้หญิงซะงั้น ไม่รู้ข้อนี้เกี่ยวหรือเปล่านะ

แต่เมื่อก่อนเราก็เคยมีแฟนเป็นหญิงนะ มามีแฟนผู้ชายตอน 16 มั้งอย่างที่บอกแหละ ดูแล้วมันเหมือนพี่ชายเราดี 

ตอบมาซะยาวเวิ่นเว้อเลยไม่รู้หาสาระได้เปล่าอะนะ ^^

[GBlk]

^

ที่บ้านเป็นใจหรอ ?

เคยมีคนรู้จักคนหนึ่ง ที่บ้านเขาก็เป็นใจเหมือนกัน ขนาดให้กินยาคุมแต่เด็กเลยแหละ

น่ากลัวมาก พ่อแม่แบบให้กินยาคุมแต่เด็กนี้ ~

[lovely_boyzazz]

^

ที่บ้านเป็นใจหรอ ?

เคยมีคนรู้จักคนหนึ่ง ที่บ้านเขาก็เป็นใจเหมือนกัน ขนาดให้กินยาคุมแต่เด็กเลยแหละ

น่ากลัวมาก พ่อแม่แบบให้กินยาคุมแต่เด็กนี้ ~

อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พาแฟนไปอยู่บ้านได้อะ แล้วที่บ้านก็รู้ และรับได้แต่ผมก็ไม่ได้สาวแตกนะ ก็แค่ผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้ชาย 555+  สมัยก่อนตอนยังไม่มีมือถือใช้ แฟน(เก่า) โทรมาจีบผ่านเบอร์พ่ออะ (แล้วพ่อก็จะบอกว่าลูกๆ แฟนโทรมา)   ตอนเลิกกันกับแฟนเก่า พี่ชายก็ไปดักต่อยเขาซะงั้น โทษฐานทำน้องร้องไห้ ซะงั้น แบบนี้เรียกรับได้หรือส่งเสริมผมก็ไม่รู้เหมือนก้ัน ^^

[Dark_Noah]

*ขอนอกเรื่องหน่อยนะคะ*

ชอบอ่านกระทู้นี้มากเลย รู้สึกเหมือนได้อ่านเรื่องสั้น 

^
^
^
ครอบครัวน่ารักจังเลยค่ะ ทั้งพ่อ ทั้งพี่ชาย 

[jimmyFG]

ตอน ป.4 แอบเอาหนังโป๊ชายหญิงมาดู

ดูไปดูมา ดันชอบดูผู้ชายมากว่าผู้หญิง เอิ๊คคคๆ

นั่นแหละคือจุดค้นพบ

[lolipop55]

จุดเริ่มต้นเพราะ  หมอทำคลอดหล่อครับ   

[GBlk]

^

ตั้งกะคลอดเลยจริงๆ -*-


ยังดี ... ที่ไม่ใช่เพราะแอบชอบเทวดาชั้นเดียวกัน ... แล้วตกสวรรค์ตาย... เลยติดนิสัยมาตอนเกิดพอดี...  !-"-|

[12990]

ถ้าจะถามกันตรง ๆ ผมว่ามันตอบยากนะครับ ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรเพราะ ปัจจัยมาจากหลายทาง

ผมไม่เคยมีแฟนเลยตั้งแต่เกิดมาจนตอนนี้อยู่ปีสาม(ไม่บอกอายุแฮ่ะ แต่ใบ้แล้วนะ)หน้าตาเป็นอาวุธมั้งครับ ฮ่า ๆ ผมก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันนะว่าจริง ๆ แล้วเรื่องเพศสถานะมันละเอียดได้เพียงนี้  ตอนอยู่มัธยมผมก็ไม่ได้รับรู้หรอก เกย์ อะไรว่ะ  งงมากตอนนั้น  พอขึ้นมหาลัย  บังเอิญอยู่ในคณะที่หลงเหลือผู้ชายน้อยซะอีก (เดากันเอานะครับมออื่นผมไม่รู้แต่ที่ผมเรียนผู้ชายเป้นสิ่งมีชีวิตที่เหลือน้อยมาก)  ผมก็ไม่แน่ใจนะว่าจริง ๆ แล้วผมชอบผู้ชายจริง ๆ หรือเปล่า แต่สำหรับผู้หญิงผมก็คิดว่าแค่เป็นเพื่อนกันเท่านั้น  จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เอง  มีเพื่อนสาววาย(คณะผมเยอะมาก เพิ่งรู้ที่หลังว่าเค้าเรียกสาววาย)  คุยกันเรื่องนิยายที่ตัวเองก็กำลังอ่านอยู่ ผมนั่งใกล้ ๆ ตอนนั้นก็ฟังมันเล่าไปรอเรียนแลป มีศัพท์หนึ่งเกิดขึ้นมา  "นายเอก" ไอ้ผมก็งงเข้าไปใหญ่เพราะพระเอกผมก็ว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่นายเอกมันยังไง  แล้วสาววายกลุ่มใหญ่ก็เม้ากันอย่างออกรสออกชาติ ว่าสนุกแบบนั้นแบบนี้  เธอก็เล่ากันบอกนายเอกน่ารักมาก  ตอนนั้น ทำให้ผมอยากรู้มากมันคืออะไร นายเอก ตกเย็นก็ไปเปิดคอมหาในอากู๋  อ่อ  เป็นแบบนี้นี่เองหรอ  มันมีแบบนี้ด้วยหรอ  ผมงงอยู่ตอนนั้น  ผมเลยลองหาเนื้อเรื่องที่เธอเล่ากันที่ว่าสนุกนักหนา  เรื่อง หรือมึงจะเล่นเพื่อน(เป็นนิยายเรื่องแรกที่ผมอ่าน)  ตอนอ่านแรก ๆ ก็งง ๆ อยู่กับศัพท์แปลก ๆ คอมเมนต์ของนักอ่าน  ที่เม้นกันออกรสมาก  พออ่านไปสักครึ่งเรื่องเอ๊ะ มันยังไง ๆ อยู่นะ  คิดว่าจะเลิกอ่าน แต่ตกวันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์  ว่าง ๆ พอดีช่วงนั้นอ่านให้จบซะเลย  พออ่านจบรู้สึกมีอารมณ์ร่วม  แปลกดีแฮ่ะ  เพิ่งเคยสังเกตอารมณืตัวเอง  เพื่อการค้นพบตัวตนที่แท้จริง  มีอีกเรื่องที่เธอเล่ากันอีก ระเบียงรัก  ผมก็แอบมาอ่านแบบเงียบ ๆ คนเดียวจนจบ  เอ่อเว่ย  เริ่มสนุกอ่ะ แต่เรื่องมันเศร้า ๆ นะ แต่ผมก็ชอบ  อารมณ์ตอนนั้นก็ค่อนข้างต่อต้านตัวเองเล็ก ๆ แต่ก็ต้องเงียบไว้  รู้สึกสนุกกับการอ่านจากจบเรื่องนั้นก็ต่อไปเรื่องนี้  จนตอนนี้  นับไม่ถ้วน ตอนนั้นก็อ่านแต่ไม่มีเพื่อนคุยก็อ่านแล้วเม้ากับตัวเองคนเดียว (อย่าว่าผมบ้านะฮ่า ๆ )  ไม่นานก้มีข่าวเกี่ยวกับเพื่อนในคณะแอบเล่นเพื่อน  ตอนนั้นผมก็แอบดูอยู่ห่าง ๆ จนเขาทั้งคู่  รักกันจริง ๆ ความรู้สึกตอนนั้นมันมีความสุขแบบบอกไม่ถูก(มารู้ทีหลังอีกแล้วครับว่า อารมณ์ฟินฮ่า ๆ ) จนตอนนี้ก็แอบเป็นกำลังใจเงียบ ๆ ให้เขาทั้งคู่  เพราะเขารักกันมาก  เริ่มจะเข้าใจมากขึ้น  แล้วลองคิดมาหาตัวเอง  เออสงสัยตัวเอง ฟิน กับเค้าไปเรื่อย  ถ้าตัวเองเป็นผู้ชายทั้งแท่งคงไม่บ้าจิ้นให้ผู้ชายรักกันหรอกมั้ง  เก็บคำถามไว้ในใจเงียบ ๆ จนวันหนึ่งเพื่อนของรูมเมทสมัยตอนปีหนึ่ง  เราก็ค่อนข้างสนิทกันครับ  เพราะตอนปีหนึ่งผมไม่คอยมีเพื่อนในคณะ ก็กลับหอบ่อย ๆ ไปอยู่ห้องกะรูมเมท เพื่อนรูมเมทก็อยู่ด้วย  รวมแล้วแต่ละวันจะมีคนอยู่ในห้องหกคนครับ หอในนะครับอยู่รวมสี่คนเพื่อนโรงเรียนเก่าหนึ่งคนที่เป็นรูมเมทเพื่อน รร เก่าอีกหนึ่งคนแต่คนละห้อง  แล้วก็รูมเมทสอง เพื่อนรูมเมทหนึ่ง  ก็มีคณะบริหารสามคนครับ วิทยา สอง แล้วก็ผม ซึ่งคณะผมก็เรียนกับวิทยาเกือบทุกตัวตอนนั้นยังไม่เข้าคณะครับ ปีหนึ่ง เน้นเรียนวิทยาอย่างเดียว  เราจึงสนิทกันมากทั้งหกคน จบปีหนึ่งทุกคนต่างก็หาหอกัน  ทุกคนก็ต้องการอิสระมากขึ้นรวมทั้งผมด้วย  เราหกคนอยู่คนละหอกันเลย  ก็จะมีเพื่อนของรูมเมทคนหนึ่งครับที่ทำอะไรแปลก ๆ ผมก็สงสัยนะไอ้นี่มันเปนไงว่ะ ชอบหยอดจังว่ะ  น่ารัก เฮอะ น่ารักไงฟ่ะ งงมันแล้วก็สรรหามาหยอดแต่ตอนนั้นผมก็ไม่เล่าให้เพื่อนคนอื่นฟังนะครับเค้าก็ทำแบบนั้นมาหลายเืดือน  ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะยังไง  คั้นจะถามไปว่าจีบเราหรอ  ก็กลัวเสียเพื่อนและเสียหน้าด้วยแต่เป็นแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยสบายใจนะ  เลยตัดสินใจถามไปว่า (ขอใ้ช้นามสมมติละกันครับว่า เอ แล้วแทนชื่อผมว่าบี) เอเราถามจริง ๆ นะ อย่าว่าเราสอดเลย เอเป็นเกย์ใช่ไหม ถามผ่านเฟสนะครับตอนนั้น ฝากข้อความไว้ดวย  ไม่กล้าถามผ่านแชท รอสองวันบอกตรง ๆ ว่าผมใจคอไม่ดีมาก  แล้วเค้าก็ไม่ตอบ ผม  ก็ไม่คิดไรมาก เค้าก็ไม่เลิกหยอดครับแต่ผมก็คิดได้แค่เพื่อนจริง ๆ เราก็คุยกันเป็นเพื่อนกันเหมือนรูมเมทเก่าอะครับ  ให้ความสำัญเหมือนเดิมกับทุกคน  ผมก็ไม่ค่อยจะมีเวลาครับพอเรียนปีสองปีสาม  ผลัดมาตลอด  จนกลัวเพื่อนรู้สึกไม่ดีด้วย เพราะตอนรวมรูมเมทไปกินกัน  ผมก็เบี้ยวจนเพื่อนเริ่มเหวี่ยงใส่  ก็ก้มหน้ารับไปครับ  แล้วก็จะยกโขยงมาห้องผมเลย  ผมก็เออ  ไหน ๆ ก็มาแล้ว  ผมจะไม่ท่องกายวิภาคสักวันคงไม่ตาย  ก็เล่นกันจนทุกคนกลับ  เป็นแบบนี้มาเดือนครั้งครับ  ผมก็ชอบนะเพื่อนยังคิดถึง เห็นเรียนหนักมันก็หาเรื่องมาเฮ จนได้  นับถือ แต่ไม่ได้นอนห้องผมนะครับเพราะเพื่อนพอกินเสร็จก็กลับห้องไป  จนเมื่อประมาณเดือน กรกฎาคมนี้เอง  เพื่อนรูมเมทเค้าก็ขอมานอนด้วย ผมก็จะปฏิเสธได้ไงละครับ มาก็มาสิ  ในใจก็หวั่น ๆ นะ จนเที่ยงคืนเค้าก็โทรมาให้ไปรับหน้าหอ  ผมก็ลงไปรับ  แล้วคุยกันสักพัก  แล้วจะปิดไฟนอนครับ  พอปิดไฟปั๊บ  เค้าถอดกลางเกงออก  บอกร้อนทั้งที่เค้าใส่กางเกงขาสั้นนะครับ  ผมตกใจนะตอนนั้นแต่ก็เออ  ไม่เป็นไรมั้งผมตัวใหญ่กว่า ฮ่า ๆ ผมก็นอนข้าง ๆ เค้าละ  เตียงใหญ่มากครับ เจ็ดฟุตอ่ะมีสองเตียงครับแต่ผมอยู่คนเดียว  นอนดิ้นครับ  แล้วเค้าก็พูดขึ้นว่า  บีเอขอมีอะไรกับบีได้ป่ะ  ตอนนั้นเหงื่อตกครับ  ผมก็ตอบไปว่า  บ้าดิ  อย่ามาอำ  เดี๋ยวโดน ก็ออกแนวฮาไว้ครับ  เค้า้ก็เงียบแล้วจับมือผมไปจับไอ้นั้นเค้า  ผมชักมือกลับอย่ารวดเร็ว  แล้วก็  เอทำไรอ่ะ  บีไม่สนุกด้วยนะ  เล่นไรแบบนี้  เค้าก็  ไหนบอกว่าเหงาไหงอยากมีแฟน  ผมก็ ใช่บีอยากมีแฟน  แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ล้อเล่นกับบีนะ  บีอยากมีอะไรกับคนที่บีรักจริง ๆ  แล้วตอนนั้นก็ถามต่อครับแล้วเอรู้ได้ไงว่าเออยากมีแฟนเป็นผู้ชาย  เค้าก็ตอบว่า  ก็พอรู้ ๆ ผมก็  อ้าวเว้ยไอ้นี้   ชัดขนาดนั้นเลยหรอว่ะ  ผมเลยถามไปอีก  แต่มาคิดดูวันนั้นบรรยากาศมันก็อึดอัดนะผมว่า  ผมกลัวมาก  ฮ่า ๆ ทั้งที่ตัวโตกว่า  รู้ได้ไงว่าเราเป็นแบบไหน  เค้าก็  ไม่รู้ดิ  แต่เราจะเอาบี  ตอบแบบหน้าด้าน ๆ นี้ละ  เออ  ดีเหมือนกัน  ผมก็หาทางหยุดครับวันนั้นเราก็ปรับความเข้าใจกันว่าเพื่อนก็คือเพื่อน  และผมคงทำแบบนั้นไม่ได้เพราะ จริง ๆ แล้วผมเวอร์จิ้นมาก  ทั้งตัว  ฮ่า ๆ  หลายคนแอบมั่นใส้ผม ว่า ทำไมไม่จัดไป เล่นตัวหรือเปล่า  ผมตอบตามความรู้สึกจริง ๆ คือ มันเป็นอารมณ์ที่อยู่เหนือเหตุผลครับ  เพื่อนก็คือเพื่อน ๆ ผมก็ไม่ได้ต้องการเรื่องแบบนี้ในเมื่อผมก้อยู่คนเดียวมาได้  อยู่รอคนที่อยู่กันเพราะรักดีกว่านะครับ เพราะอยู่แบบเพื่อนอยู่ได้แบบสบายใจ ไม่อยากเสียเพื่อนด้วยไงครับ  ผมก็เหงานะเหงามาก  บางทีเรียนเครียด ๆ ก็เก็บไว้คนเดียว  แม่ก็ไม่อยากบอกท่านครับ  กลัวคิดหนัก  ผมก็อยากมีคนรู้ใจแต่ถ้าโทรหลังอาหารแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนครับ  ผมก็มารู้เมื่อไม่นานมานี้เองครับ  ว่า  จริง ๆ แล้วผมก็แอบชอบคน ๆ หนึ่งอยู่แล้วเค้าเป็นผู้ชายที่มีแฟนแล้วด้วย ฮ่า ๆ เป็นผู้หญิง  ดับไหมละครับ  คนที่เล็งไว้ก็เป็นซะแบบนี้  เออให้มันได้แบบนี้  เพราะคนนี้เค้าเป็นผู้ชายคนแรกที่ผมว่าผมชอบเค้านะ ด้วยลักษณะหลาย ๆ อย่างที่ผมคิดว่าพอจะเหมือน ๆ กันบ้าง หน้าตาผมว่ามันมาทีหลังครับ  อาจจะไม่จริงสำหรับใครหลายคน แต่ผมเชื่อว่าความรู้สึกและเข้าใจกันไปกันได้ดีว่าครับ  เพราะผมก็หน้าตาบ้าน ๆ ฮ่า ๆ แต่ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้ไม่สามารถที่จะทำอะไรออกไปตามที่ตัวเองคิดไว้  เช่น อยากมีแฟน ถ้ามีเข้ามาจริง ๆ และพอคุยกันได้บ้าง ก็ต้องคุยกันแบบเงียบ ๆ  ผมว่าคุณทุกคนที่มีโอกาสได้คบกัน รักกันแบบหลายคู่ที่ผมเห็นเดินตามห้างกอดคอกัน น่ารักดี  ก็มีอิจฉาบ้างนะครับตามประสาคนโสดและเวอร์จิ้น  ฮ่า ๆ เรียนจบค่อยว่ากันเพราะตอนนี้ และอีกสามปีกว่า  คงแก่ คงหาไม่ได้แล้วตอนนั้น  ก็พร้อมจะโสดไปครับ  โสดและเวอร์จิ้นอย่างมีความสุข  ฮ่า ๆ รอคนจ้างไปปักตระไคร้เล่น ๆ ฮ่า ๆ  สำหรับเพื่อนคนนั้น  ตอนนี้ก็คุยกันปกติแล้วเค้าก็คุยเรื่องอย่างว่าให้ผมฟัง  ว่าวันนนี้เค้าออนแคมฟรอกได้คู่ด้วย  ฮ่า ๆ เราไป ก็จบบนเตียง  ผมก็เออ ๆ ไปตามเรื่องเพราะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายนี้ครับ  เราฝักใฝ่รักใส ๆ ไร้ความเจ็บบั้นท้าย ฮ่า ๆ แต่คงมีเฉพาะในนิยาย  แต่เดี๋ยวนี้ก้มีแต่พระเอกจับกดนายเอกเนาะ  ฮ่า ๆ  ช่วงนี้จะสอบแล้วครับ  แต่ยังไม่อ่านสืออีก สิบ วัน ตายแน่ ๆ ผม  สรุปแล้วผมเป็นไปตอบกระทู้หรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจตัวเอง  แต่ได้เล่าก็มีความสุขดีครับ  ไม่มีที่ไปเล่า ก็เอามาลงตรงนี้ครับ ฮ่า ๆ แล้วบ้านไม่รู้หรอ(หลายคนถามหลายคนใครถามเมิงฟ่ะ) ผมว่าเค้าคิดว่าผมเด็กเรียนมั้งถึงรู้เค้าก็คงไม่พูด แต่ตอนนี้เค้าก็ขอให้ผมเรียนจบ  เค้าไม่เคยพูดเรื่องอื่นกับผมเลยนอกจากเรื่องเรียน  แฟนไม่เคยถามผมเลยว่ามีไหม  ก้อยู่กันแบบนี้  เพราะผมไม่มีโอกาสได้อยู่บ้านด้วย ปิดเทอมก็ทำงานด้วยครับ  จะได้รู้ว่ามันหายากมาก  แต่ก็ใช้เก่งเหมือนเดิมนะ  ฮ่า ๆ ผมว่าผมก็มีความรู้สึกดีมีความสุขกับชีวิตเรื่อยเปื่อยของผมนะ  แต่เรื่องที่ผมไม่ค่อยมีความสุขกับมันคือ  คณะที่เรียนครับ มันไม่เหมาะกับตัวเอง  อย่างผมต้องไปคุมคนงาน  แบบนั้น เหมาะกับหน้าตาผมดี ฮ่า ๆ ก็เรียนไปครับตามครอบครัว  เค้าว่ามาแบบนี้ก็ไปตามเค้าละ  เดี๋ยวเค้าไม่ส่งเสียอีกเดี๋ยวจะได้เป็น เหมือนนายเอก เงินน่ะ มีไหมว่ะ เด๋วเศร้ากว่าเดิม  แต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ผมก็แทบไม่ได้ใช้เงินทางบ้านเลยนะครับ  สงสารพ่อกะแม่ครับ  เค้าก็บ่นเรื่องผมไม่ค่อยอยู่บ้านแม้แติปิดเทอม  เค้าก็บอกว่าเรียนหนัก ๆ มาปีหนึ่งก็ปิดเทอมพักบ้าง  ผมก็อยากพักนะแต่ตอนนี้เรามีอะไรที่ยังไม่พร้อมหลายอย่าง  และมันได้ประสบการณ์ชีวิต สอนให้ทำงานเป็นครับ พอมีเวลาก็หาใช้เอง  รู้คุณค่าดี  เหนื่อย ๆ บ้างก็ดีเหมือนกันครับ  ได้รสชาติดี หลายคนอาจมองว่าจะนิยายไปไหน  ผมอยากบอกเหลือเกินว่า  ชีวิตแต่ละคนมันเกิดมาด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่เหมือนกันสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน จะรอวาสนาก็คงตายจนจะเจอมั้งครับ  ผมคงไม่รอรับอย่างเดียวมันไม่ใช่ผมมั้งครับ  ต้องหาเอง สู้ด้วยตัวเอง  ดังนั้นหลาย ๆ ปัจจัยที่กล่าวมา  ก็จึืงเป็นสาเหตูให้เป็นเกย์ที่แตกต่างกัน  ทำให้เกย์มีอยู่ทุกระดับชั้นของสังคมครับ  บางคนสถานทางสังคมเป็นใจ เปิดเผยได้เต็มที่ บางคนก็อย่างว่าละครับ  ผมก็เป็นเหมือนกัน  คนที่เปิดเผยได้ ก็ให้มีความสุขกับชีวิตคู่กันต่อไปนะครับ รักกันนาน ๆ ปรับความเข้าใจกันทุกเรื่อง แม้บางทีเราอาจจะมองว่างี้เหง้า แต่จริง ๆ แล้วอีกฝ่ายกลับคิดคนละทางกัน  ความรักมันละเอียดอ่อนมากนะครับ  สำหรับคนโสดก็ไม่ต้องเสียใจไปครับ  คิดสะว่าผมยังอยู่เป็นเพื่อนร่วมโลกกับคุณ  ฮ่า ๆ  สักวันมันคงมีเข้ามาเองเหมือนในนิยาย  มั้งครับ  อย่างผมยังคิดเลยว่าถ้าตัดปัญหาหน้าตากับปัญญา ฐานะ ออก  ก็คงเป็นคนที่พอไปวัดตอนเย็น ๆ ได้มั้งครับ  คิดเองอีกแล้ว  สุดท้ายจริง ๆ ก็ขอให้ทุกคู้รักกันนาน ๆ ผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปด้วยกันนะครับ สาววายก็ขอให้มีคู้จิ้นกันเยอะ ๆ หนุ่มโสดหน้าตาดีก็ไม่ต้องคิดมาก  เดี๋ยวมันก็เข้ามา  หนุ่มโสดที่หน้าตาดีในแบบของเราซึ่งผมก็เป็นสับเซตในนี้  ก็หวังว่าวันหนึ่งจะมีผู้มองข้ามเรื่องหน้าตา ปัญญาและฐานะ  หันมามองความงามทางจิตใจ(ซึ่งผมมีน้อยมากฮ่า ๆ )  และความเข้ากันได้ทางความคิดแล้วจับมือเดินไปข้าง ๆ กันแบบไม่แคร์สื่อ(ตื่น ๆ บอกตัวเองที่เพ้อ)   แล้วก็จากไปแบบเงียบ ๆ กับtext book เล่มหนา ๆ กับสิบเอ็ดวิชาในเวลาสิบวัน เออ  สวรรค์จริง ๆ คร้าบบบบบบบบ

[esundarn]

อ่านเรื่องของคุณ 12990  แรก ๆ ก็ฮาดี ออกแนวอารมณ์สาววาย อ่านไปอ่านมารู้สึกมีความสุขจัง

[noppakanz]

ผมเลิกกับแฟนคนนึงซึ่งรักมากๆ แล้วก็มีเพื่อนผู้ชายคนนึงเข้ามาปลอบ ทำให้รู้สึกดี รู้สึกไว้ใจ เชื่อใจ ผมเลยเป็นเกย์ละคบกับคนที่มาปลอบ เป็นเวลาปีกว่าๆละ 

[info001]

ความเป็นเกย์ไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ คือ เข้าแล้ว ไม่ค่อย ยอมออก .....555

ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ  เราก็มีโอกาสพบเจอกับสิ่งดีๆ ได้เสมอ (ประโยคเชยๆ ที่เอาไว้ปลอบใจตัวเอง) 

[thehackzzi]

เรท 18+


.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.




จำได้ว่า ตอนเด็กๆ จะประถม3 หรือไม่ก็ 4 นี่ล่ะ จะมีหลานคนนึงมาเล่นที่บ้านด้วย และตอนนั้น คือ ก็ตามประสาเด็กๆ ครับ หาเรื่องเล่นอะไรแปลกใหม่

เลยถามหลานผม (อายุห่างกันประมาณ 5 ปี หน้าตาแบบคมเข้มด้วยอ่ะ โดยเฉพาะคิ้ว หนามาก ฟินเบยย - ตอนนั้นยังไม่รู้คำว่า ฟินนะ) ว่า พี่ขอจับจู๋เราได้เปล่า (ที่ถาม ไม่ได้คิดอะไรเลยครับ)

หลานมันก็ตอบกลับมาว่า เปลี่ยนกันจับล่ะกัน (มันก็ตอบง่ายๆ เลย ไม่ได้คิดอะไรมากมาย)

ตอนนั้นที่ได้จับ เหมือนคล้ายๆ จับมือ ไม่ได้มีอารงอารมณ์อะไรเลยครับ

แต่พอหลายวันเข้า อ้าวเห้ย! ทำไมมันสนุกฟ่ะเนี่ย เปลี่ยนสลับกันจับไปมา อยู่ในบ้านบ้าง หรือที่ห้องน้ำบ้าง (ตอนไม่มีใครอยู่) แบบว่ามีอารมณ์ร่วม จู่เริ่มตอบสนองเบย ทั้งผมแล้วก็หลานด้วย คือเปลี่ยนกันจับ เปลี่ยนขัดจรวดบ้าง จนรู้สึกถึงจุดสุดยอด (ตอนนั้นไม่รู้ด้วยว่า มันคืออะไร รู้แค่ มันเสียวๆ แค่นั้น)

จนนานเข้าประมาณ ปีกว่าๆ มั้งนะ (ไม่ได้จับกันทุกวันนะครับ เดือนละ ครั้ง 2 ครั้ง เพราะหลานมันมาเล่นที่บ้านไม่บ่อยเท่าไหร่) หลานมันไปอยู่ต่างจังหวัด ทำให้ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

ส่วนผม เมื่อหลานมันไม่อยู่ มันก็เริ่มทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเริ่มจะชอบเรื่องนี้เข้าเสียแล้ว จนเกิดเป็นการนำเอาไปจินตนาการต่อเลย

ล่วงเลยมาจนถึง 10 กว่าปีมั้งนะ ก็ได้เห็นหลานคนนั้นอีกครั้ง แม่เจ้า...... ฟินยิ่งกว่าเดิมอีก คือ จากที่ตอนเด็กๆ มันคมเข้มอยู่แล้วอ่ะ พอตอนโตขึ้นมา หล่อกว่าเก่าอีก แต่หลานผมมันเป็นคนตัวไม่สูงเท่าไหร่นะครับ คนตัวเล็กๆ (เตี้ย) แต่หุ่นหนามากครับ มีกล้ามด้วย ส่วนผมก็เป็นไอ้โย่งครับ สูงผอม (แต่ไม่ถึงกับแห้งนะ)

คือตอนที่เห็น แบบว่า ตื่นเต้นครับ จำได้ว่า หลานมันมางานอะไรซักอย่างนี่แหละ เห็นกันโดยบังเอิญ ก็ไม่ได้ทักกันนะ เพราะทีแรกที่เห็นยังจำไม่ค่อยได้

แล้วก็วันหนึ่ง หลานมันมาหาผมที่บ้าน คิดว่าคงจะมาทักทายผมนั้นแหละ (ตัวผมเองก็ไม่ได้ทักตั้งแต่ตอนนั้นหรอกครับ เนื่องจากมีปัญหาหลายอย่าง เลยไม่ค่อยได้คุยกัน) ผมก็กำลังนั่งเล่นคอมอยู่  แล้วแอบมาพูดที่ด้านหลังหูผมเบาๆ "ทำอะไรอยู่เหรอพี่"

ห่านนนน ตกใจหมดเบย มาไม่ให้สุ้มให้เสียง (พูดในใจ) ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไป ได้แต่ตกใจและยิ้มกลับไป

คือมันมีหลายๆ เหตุการณ์ ให้ผมได้บังเอิญเจอหลานผมคนนั้นด้วยครับ พูดง่ายๆ เลยล่ะกัน ผมแอบชอบหลานตัวเองครับ แต่ก็นะ ก็ได้แต่ชอบนั้นแหละ  และผมก็แอบคิดไปนะว่า หลานผมมันจะจำเหตุการณ์ตอนเด็กๆ ได้หรือเปล่านะ ถ้าจำได้ มันจะรู้สึกยังไงนะ เคยคิดนะว่า อยากจะลองย้อนกลับไปทำแบบนั้นอีกครั้ง (ฮ่าๆ - ก็ได้แต่คิด)

ยิ่งมารู้ทีหลังว่า หลานมันมีเมียแล้ว ก็เลยคิดโล่งอกปนเสียดายว่า "หลานตรู มันปรกติ ไม่ได้ผิดปรกติเหมือนตรูนี่หว่า" ก็แอบดีใจเล็กๆ ครับ ที่ไม่ได้ทำให้หลานตัวเอง เดินมาทางสายนี้

จนตอนนี้ หลานมันก็มาเยี่ยมญาตข้างๆ บ้านผม นานๆ ครั้ง ก็ไม่ได้คุยหรือทักอะไรกันหรอกครับ ผมเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่ และเมื่อตอนสงกรานต์ที่ผ่านมานี้ ก็ได้เป็นเล่นสงกรานต์ทั้งครอบครัวของหลานมันด้วย โดยที่ผมเป็นคนนั่งอยู่หลังรถปิคอัพ ส่วนหลานมันเป็นคนขับ เหมือนเดิม เห็นกันก็แค่ยิ่มใส่กัน ไม่ได้พูดคุยอะไร (จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังไม่ลืมเรื่องตอนเด็กๆ อยู่เลย)

นี่คือ เหตุการณ์ในชีวิตที่เกิดขึ้นกับผมครับ และนี่ คงเป็นเหตุผลหลักของผมที่จำได้ว่า ทำไมตัวเองถึงได้มาเป็นแบบนี้ (ผมไม่เปิดเผยนะครับ ที่ทำงานไม่มีใครรู้ซักคน ผมก็แมนๆ ผู้ชายธรรมดานี่แหละ แต่จะเด่นหน่อยก็เรื่องความสูงตัวเองนี่ล่ะ ที่สูงเกินบ้านเกินเมืองเขา จนหลายคนบ่นและอยากจะกระโดดถีบบ้างก็มี ฮ่าๆ ก็อาจจะมีบางคนมาแซวบ้าง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ในใจ เฮ้ย ทำไมมรึงรู้ฟ่ะ)

และที่ทำให้ผมรู้จักเล้านี้ อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ คิดว่าบังเอิญหลงเข้ามาหรือเปล่านะ และที่จำได้ ที่ผมอ่านนิยายเรื่องแรกคือ เพราะรักครับผม เขียนโดยคุณ GoodLuck เป็นเรื่องเกี่ยวกับ เต้กะปอม เด็กช่าง ที่แอบมีสัมพันธ์กันเบาๆ ตอนเด็กๆ เป็นเรื่องแรกที่ผมอ่าน และที่สำคัญ คนเขียน เขาเขียนไม่จบด้วย!!!  (ตอนนี้ผมก็ยังเก็บไว้ด้วยนะ เผื่อซักวัน จขกท. จะมาต่อ แต่ก็ไม่ได้นำพา โดยดองเค็ม และกระทู้ก็ถูกลบออกจากเล้าตามกาลเวลา) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมไม่อ่านนิยายเรื่องไหนอีกเลยที่ยังเขียนไม่เสร็จ เพราะมันมีเรื่องนี้ ฝังใจผม เข็ด ขยาดมาเลย (รออ่านเมื่อตอนที่จบอย่างเดียวเท่านั้น - หรือไม่ก็ เราจะชอบเรื่องนั้นจริงๆ เท่านั้น)

สรุปแล้ว สาเหตุที่ทำให้ผมเป็นอยู่ตอนนี้ได้คือ วัยเด็กของผมเองครับ ที่คิดหาเรื่องเล่นพิเรนท์ๆ

[mahaki]

เป็นไบอ่ะตอบได้ไหมคะ  สำหรับเราบอนทูบีค่ะ ไม่ได้มีเหตุดารณ์พลิกผันอะไรในชีวิต มีแค่เหตุการณ์ที่ทำให้รู้ตัวค่ะ เมื่อก่อนไม่รู้ว่าไบเซ็กซ์ชวลคืออะไรเลยเข้าใจว่าตัวเองเป็นทอมแต่ติดที่ว่ายังชอบผู้ชาย ไม่เคยรังเกียจผู้หญิงเอาจริงๆเราชอบผู้หญิงก่อนจะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ