พิมพ์หน้านี้ - ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: eak_Krub ที่ 25-02-2009 22:34:46

หัวข้อ: ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 25-02-2009 22:34:46
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



...............................................................................
...............................................................................


ห้ามยังไง...ก็จะรัก


ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ  (โดนคุณชายบังคับ)

นาย  เอกณรินทร์  ชื่อเล่น  เอก
วัน เดือน ปี เกิด  :  4  เม.ย.  2530
ส่วนสูง  :  173 ซม.
น้ำหนัก : 65 กก.
นิสัย : น่ารัก
อาชีพ : นักศึกษา
สไตล์การแต่งตัว : เสื้อเชิร์ต กางยีนส์ หรือ แสลค รองเท้าผ้าใบ  รองเท้าคัทชู
แนวเพลงที่ชอบ : ได้ทุกแนวขอให้เพราะเป็นใช้ได้
ภาพยนตร์ที่ชอบ : ดราม่า คอมมันดี้  
สีที่ชอบ : ขาว ดำ
สัตว์เลี้ยง  : สุนัขพันธุ์ ชิสุ  ชื่อ Se’nor
อาหารที่ชอบ : ขนมจีนแกงเขียวหวาน
สิ่งที่เกลียด : เวลาคุณชายหนีเที่ยวกลางคืน



นาย  สิทธิพงษ์  ชื่อเล่น  ตั้ม
วัน เดือน ปี เกิด  :  8  เม.ย.  2530
ส่วนสูง  :  175 ซม.
น้ำหนัก : 60 กก.
นิสัย : เอาแต่ใจ  ขี้อ้อน  หลงตัวเอง  ใจร้อน  ชอบคิดมาก  ไม่ค่อยแคร์คน  ขี้ประชด มั่นใจในตัวเองสูง (เขียน 3 วันก็ไม่จบ)  แต่ก็รักครอบครัว
อาชีพ : พนักงานบริษัทโฆษณา
สไตล์การแต่งตัว : เสื้อตามแฟนชั่น  เค้าจะมีทุกแนว  กางเกงยีนส์  ไม่ค่อยชอบใส่แสลค  เพราะบ่นว่าเก็บของลับยาก  แต่ทียีนส์ขาเดฟละใส่เอาๆ
แนวเพลงที่ชอบ : ทุกแนว  โดยเฉพาะอินดี้  จะชอบเป็นพิเศษ  วงที่ชื่นชอบมาก  คือ Tattoo Colour  กับ Mild
ภาพยนตร์ที่ชอบ : ทุกประเภท แต่เน้นที่หนังไทย
สีที่ชอบ : ส้ม  เขียวอ่อน ถ้าเป็นสดๆแล้วจะชอบมาก
สัตว์เลี้ยง  : สุนัขพันธุ์  ไซบีเรี่ยน ฮัสกี้  ชื่อ  Devil   กับ  พุดเดิ้ล  ชื่อ  Angle
อาหารที่ชอบ : กาแฟ
สิ่งที่เกลียด : รองเท้ามีกลิ่นอับ  (แต่ไม่เคยซักเองเลย)


   ที่ผมมาเขียนเรื่องนี้ขึ้น  เพื่อให้คนที่ติดตามเรื่องที่คุณชายเขียนอ่านเรื่องนี้ในอีกมุมมองหนึ่ง  แต่เหตุผลหลักจริงๆ  ก็คือ  ผมพลั้งปากไปรับคำถ้าจากคุณชายเข้า    ถ้าไม่เขียนก็กลัวเสียฟอร์ม  ผมอาจจะเขียนไม่เก่งเท่าไหร่  แต่ก็พยายามอย่างที่สุดแล้ว  มีข้อผิดพลาดประการใดก็ขอติชมกันได้นะครับ


ตอนที่ 1  วันรับน้อง

   ผมกำลังเดินไปบ้านของนุ่นซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผมไม่ไกลนัก  เพราะพ่อผมให้ชวนนุ่นไป รร.  พร้อมๆกัน   เดี่ยวพ่อจะไปส่ง  จริงๆแล้วผมกับนุ่นไม่ได้รู้จักอะไรกันหรอกครับ  แค่เห็นหน้าทุกวันแต่ไม่เคยพูดคุยกันซักครั้ง  เพราะนุ่นเค้าไปเรียนชั้นประถมใน รร.  ที่อยู่  อ.เมือง  แต่ผมเรียนอยู่ที่ รร.ใกล้บ้านนี้เอง  แต่พ่อแม่เราสองคนรู้จักกันและไปมาหาสู่กันบ่อยๆ

   พ่อใช่เวลาขับรถประมาณชั่วโมงกว่าๆก็มาถึง  ผมบอกให้พ่อจอดรถหน้า รร. เดี่ยวจะเดินเข้าไปเอง  พ่อจะได้ไม่ต้องหาที่เลี้ยวรถให้ยุ่งยาก  เมื่อเดินเข้าไปใน รร.  เราสองคนก็มุ่งตรงไปยังบอร์ดประกาศ  เพื่อจะดูว่าอยู่ห้องไหน  แต่เหมือนกับสวรรค์เป็นใจให้ผมและนุ่นอยู่ห้องเดียวกัน  เพราะผมเป็นคนเดียวของ รร. เก่า  ที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี้  เลยทำให้ผมไม่มีเพื่อนซักครั้ง  แต่ก็ยังดีที่ได้อนยยู่ห้องเดียวกันกับนุ่น  

   เมื่อรู้ว่าอยู่ห้องไหนแล้ว  เราสองคนก็เดินตรงไปยังห้องประชุมทันที  เพราะใกล้จะได้เวลาเริ่มประชุมแล้ว  การปรพชุมจะมีเฉพาะช่วงเช้า  แล้วรุ่นพี่เค้าจะปล่อยให้พักรับประทานอาหารกลางวัน  และจะแยกตามห้องเรียนเพื่อจะเข้าฐานรับน้อง   ผมกับนุ่นเราเลยเดินไปรอที่เพื่อนๆคนอื่นที่ฐาน 14 เพราะห้องผมจะเริ่มฐานแรกที่ฐานนี้  เราสองคนก็นั่งคุยกันได้สักพัก  คนอื่นๆก็ทยอยกันมาที่ฐานที่ละคนสองคนจนครบ   จากนั้นรุ่นพี่ก็แนะนำตัวและฐานนี้ต้องทำอะไรบ้าง

“เอาละครับน้องๆ  ฐานนี้มันจะเป็นกิจกรรมละลายพฤติกรรม  พี่จะให้น้องจับคู่กันแล้วถามรายละเอียดคนข้างๆ  แล้วเดียวพี่จุซุ่มจับมา 5 คู่  ถ้าคู่ไหนตอบผิดจะโดนลงโทษ “   เมื่อพี่เค้าพูดจบผมก็หันไปห่นุ่นทันที  แต่พบว่านุ่นมันกันไปจับคู่กับเพื่อนมันอยู่แล้ว  ผมหันมาอีกด้านหนึ่งก็พบผู้ชายคนหนึ่ง  หน้าตาออกแนวกวนตีน  แต่มันก็ดูดีเหมาะกับตีนมาก  ผมเห็นเค้าหันซ้ายทีขวาที  แต่ไม่ได้สนใจผม  ผมเลยตัดสินใจถามออกไปเลย

“นายชื่ออะไร”

“...................”  เค้าไม่ตอบกลับมา  มัวแต่หันซ้านแลขวาอะไรไม่รู้

“นาย  เราถามว่าชื่ออะไร”  ผมเพิ่มเสียงให้มันดังกว่าเมื่อกี้  แต่เหมือนจะไม่ได้ผล  เพราะไอบ้านั้นยังเงียบอยู่

“เห้ย นาย  เราถามว่าชื่อไร”  คราวนี้ผมตะโกนใส่หน้าไอบ้านั้น  ซึ่งก็ได้ผล  เพราะมันชะงัก  แล้วหันมาพูดว่า

“เฮ้ย ไรว่ะ หาเรื่องหรือไง”  เสียงของมันที่ตอบกลับมานั้นดังจนทำให้ทุกคนหันมามอง  ผมเห็นหน้ามันแล้ว  น่ากลัวมาก ผมเลยตอบกลับไปแบบจ่อยๆ

“เออ..เออ....เราขอโทษ พอดีพี่เค้าให้ถามประวัติคนใกล้ๆนะ  เราเลยถามนาย  เดี่ยวพี่เค้าจะซุ้ม เลือกคน แล้วจะถาม ใครตอบคำถามผิด โดนทำโทษ”

“เออ  แล้วก็ไม่บอก”  เสียงมันเบาลง  ผมเลยตัดสินใจถามมันใหม่

“นายชื่ออไร”

“เราชื่อโต้ง”  

   ผมกับนายคนนั้นนั่งพลัดกันถามอยู่หลายเรื่องมาก   เมื่อถามกันเสร็จแล้ว  ผมก็เลยเดินมาดูประวัติของนายคนนั้นที่อยู่ในเป้ของผม  เพราะเมื่อกี้ในห้องประชุม  ผมเป็นคนเก็บรวบรวมแบบฟอร์มประวัติของนักเรียน  เลยทำให้ผมรูว่าที่ไอบ้านั้นมันบอกผมล้วนแต่เป็นข้อมูลเท็จทั้งนั้น    ผมไม่ได้โกรธเขาหรอกครับ  แต่สงสัยมากกว่าว่าเขาทำแบบนั้นไปทำไม  ทำไปเพื่ออะไร
   
   รุ่นพี่ได้ซุ่มเลือกที่ละคู่  จนผ่านไปทั้ง 4 คู่แล้วจนมาถึงคู่สุดท้าย  พี่เขาเลือกผม  ผมก็เลยต้องลุกขึ้น  โดยมีไอบ้ามันลุกขึ้นตาม  หน้าตาตอนนี้ของมันดูไม่ได้เลย  ดูน่ากลัวยังไงไม่รู้  เหมือนมันไม่มีอารมณ์ร่วมยังไงยังงั้น  แล้วพี่เขาก็เริ่มคำถามไอบ้าก่อน  มันก็ตอบถูกหมดแหละครับ   จากนั้นพี่เขาก็หันมาถามผมบ้าง

“เอ้า แล้วเพื่อน้องชื่อเล่นว่าไร” ผมได้ยินคำถาม  ก็ส่งยิ้มกวนๆไปให้มันจึกนึง  แล้วตอบไปว่า

“เค้า ชื่อ ตั้ม ครับ”

“เห้ย” ไอบ้าอุทาน ออกไปดังมากครับ  มันคงสงสัยว่าผมรู้ได้อย่างไร

“เรา ได้ยินสาวๆ  เค้าคุยกันนะ” ผมกระซิบบอกมัน  แล้วส่งยิ้มให้มันอีกครั้ง   ซึ่งคำถามต่อมาผมก็ตอบได้หมด จนมาถึงคำถามสุดท้าย

“Kมันขนาดเท่าไรว่ะ” เมื่อสิ้นสุดคำถาม  ผมถึงกับอึ้ง มองหน้าไอบ้าทันที  แล้วเสียงกรี๊ด เสียงหัวเราะ  ของเด็กทั้งห้องก็ดังขึ้นมาทันที  

“......”  ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไร  แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมก้มลงไปมองเป้ามัน   สรุปผมกับไอบ้าก็โดนทำโทษ  เพราะผมตอบผิด  พอกลับมาที่นั่ง  มันก็โวยวายผมใหญ่

“มึงตอบแบบนังได้ไงว่ะ”

“แบบไหน”

“ก็ที่มึงตอบว่า ของกู 2 นิ้ว  ตอบมาได้ไง  ใช่อะไรคิดว่ะ”

   มันบ่นอยู่อย่างนั้น  ตลอดเวลา  จนกิจกรรมรับน้องเสร็จ  พี่ๆก็ปล่อยให้กลับบ้าน  ผมเดินตามหานุ่น  เพราะว่าจะได้กลับบ้านด้วยกัน  แต่หายังไงก็ไม่เจอ  ผมเลยเดินออกมาหน้า รร.เพื่อจะกลับบ้าน  แต่เจอตั้มกำลังจะเดินออกจาก  รร.พอดี  ผมเลยเข้าไปทัก  เผื่อว่าจะกลับทางเดียวกีน

“นายกลับทางไหน”  ผมเดินไปหาตั้ม  แล้วถามว่า

“ทำไม”  เสียงมันจะห้วนๆ แข็งๆ  สงสัยยังไม่หายโกรธผม

“ป่าว ถ้ากลับทางเดียวกัน จะได้กลับพร้อมกัน”

“เรากลับไปทางในเมืองอ่ะ อ๊ะ  รถมาแล้ว”  รถที่จะไปในเมืองผ่านมาพอดี  

“เราไปคนละทางกัน งั้นนายไปเหอะ”  

“เออ ไปละ”  

“เออ เดี๊ยว ขอเบอร์โทรได้ป่ะ” มันกำลังจะวิ่งไป  แต่ผมอยากได้เบอร์โทรติดต่อ  เลยขอมัน

“07X-XXXXXX ไปละ”  

“แล้ว ว่างๆ จะโทรไป  เราไปก่อนนะ  แล้ววันจันทร์ เจอกัน”  เมื่อพูดจบ  ผมก็เดินข้ามถนนไปขึ้นรถฝั่งตกข้ามทันที  ตลอดทางผมก็นั่งดูเบอร์โทรที่ตั้มให้มา  แล้วนั่งยิ้มคนเดียว  ผมเริ่มสงสัยตัวเองว่า  ทำไมผมถึงต้องมานั่งยิ้มคนเดียวกับแค่การนั่งมองเบอร์โทรศัพท์  

   วันนี้มันเป็นวันแรกที่ผมกับตั้มเจอกัน  เพราะก่อนหน้านี้  ตอนที่เรียนปรับพื้นฐานผมไม่เคยเจอตั้มมาก่อน  เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ  จะว่าไปตั้มมันก็หน้าตาธรรมดานะ  ไม่ได้หล่ออะไรหรอก  แต่ด้วยความที่มันเป็นคนคุยด้วยสนุก  อัธยาศัยดี  มีมนุษยสัมพันธ์รอบตัว  เลยทำให้มีคนที่ออยากจะเข้าหาเยอะ    คุณเคยเจอคนแบบนี้ไม่ครับ  คนที่เราพบครั้งแรกแล้วรู้สึกว่า  เขามีแรงดึงดูดอะไรบ้างอย่างที่ทำให้เราอยากรู้จักคนๆนั้นจัง  นั้นแหละครับ  คุณชายของผมเป็นแบบนั้นเลย  อันนี้ไม่ใช่ความคิดผมคนเดียวนะครับ  ใครหลายๆคนที่ผมรู้จักก็บอกกับผมแบบนั้นเหมือนกัน


My Diary :  วันนี้ผมเจอคนๆ นึง  เขาเป็นคนที่แปลก  แต่เป็นคนดี  อยากรู้จักคนๆนี้จัง


.................................................................
.................................................................

เพิ่งจะเขียนเป็นครั้งแรก  ผิดพลาดประการใด  ก็ขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณคุณชายที่ช่วยสอน  แต่ขอถามหน่อย  ช้าไปป่ะ



                                                                                                                                                     รักนะ  ตี๋ใหญ่
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 25-02-2009 22:56:28
กรี๊ดดดดดดดดด   มาเจิมเรื่องใหม่   :mc4: :mc4: :mc4:

ได้ข่าวว่าคนแต่งน่ารัก  ขอ  :กอด1: ทีนะน้องเอก
  :-[ :-[ :-[
พร้อม +1 ให้เลยนะ   :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 25-02-2009 22:59:56
เหอเหอ

ยอมสอนด้วยโว้ยยยยยยยยยยยย

ไม่น่าเชื่อ

นึกว่าจะท่ามาฟอร์มเยอะไปตลอด

เข้ามาเป็นกำลังใจให้เอกด้วยนะจ๊ะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: The Lover ที่ 25-02-2009 23:09:58
 :pig2: :pig2: :pig2:

เข้ามาให้กำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: Manji+ ที่ 26-02-2009 00:47:13
โห เป็นอีกฝั่งด้วยแฮะ
ถึงจะรู้เรื่องแล้ว แต่น่าจะคนละอารมณ์ เป็นกำลังใจคับ :mc4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: Huo_To ที่ 26-02-2009 01:46:06
ห้ามยังไง ก็จะรัก   ถูกต้องนะค้าบบ 

อิอิ ทู้โน้นแอบอ่านไม่ได้เมนท์เลยเรา กร้ากกก    :jul3:

แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ น้องเอก กับ คุณชาย เสมอนะคับ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: GiNg ที่ 26-02-2009 02:40:54
ขอแซวหน่อยเหอะ
ประวัติ ด้านบน ทำไมของน้องเอกนิดเดียว

แต่ของตั้มซะยาวเลยล่ะ

 :jul3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 26-02-2009 02:59:52
.................................

อนาถถถถถถถถถ  ถอ ถุง ยาวๆ

 :z3: :z3: :z3:

แอบย่องมาเม้นตอนดึกๆ

เพราะโดนสั่งห้าม  ไม่ให้เข้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 26-02-2009 07:06:30
 :L2:

มาให้กำลังใจพี่เอกครับ  :กอด1:

+1 ให้ อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 26-02-2009 08:03:09
 :mc4: :mc4: :mc4:
มาเจิมเรื่องเก่าที่เอามาเล่าใหม่โดยคนใกล้ตัวคุณชายตั้ม คิๆ
แล้วจะรออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 26-02-2009 08:10:26
มาให้กำลังใจค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 26-02-2009 08:12:27
+1 พี่เอกคะ


jubหน่อยน่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 26-02-2009 08:59:10
มาตรการแฉเกิดขึ้นแว้ว   :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 26-02-2009 10:08:43
 :mc4: ต้อนรับน้องเอกจ้า

 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-02-2009 11:36:28
จิ้มเรื่องใหม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z13:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-02-2009 12:52:38
แค่เข้ามาในเล้า...
มาเล่าเรื่อง...
ก็น่ารักแล้ว น้องเอก

 :L2:เป็นกำลังใจให้อีกคนนึง +1 ต้อนรับน้องเอก  :pig2:
ป้อล่อ...แอบอิจฉาไอ่คุงตั้ม จังวุ้ยยยย o18
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 26-02-2009 15:49:15
 o13 เรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 26-02-2009 16:26:35
ต้อนรับเรื่องใหม่ ~!!!

เหตุการณ์เดียวกัน  แต่อ่านอีกมุมนึง  ก็ให้ได้อีกความรู้สึก ^__^

เป็นกำลังใจให้ครับ  ...  รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 26-02-2009 18:21:30
เอาใจช่วยน้องเอกครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 26-02-2009 20:31:19
มีการแย่งเรดติงกานแน่ๆคู่นี้

รอตอนต่อไปอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 26-02-2009 20:45:17
มีการแย่งเรดติงกานแน่ๆคู่นี้

รอตอนต่อไปอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 26-02-2009 22:46:42
 :mc4:ฉลองเรื่องใหม่  +1 ให้เป็นกำลังใจด้วยนะครับ

ขอให้ขยัน ๆ ลง แต่ละตอนขอให้ยาววววววว....... :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: go_018 ที่ 26-02-2009 23:08:27
 :haun4:
เป็นกำลังใจให้ในการเขียนด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 26-02-2009 23:24:03
ได้ข่าวมาว่านายตั้มสกัดดาวรุ่งน่าดู

มีการห้ามคนในบอร์ดที่โพสเรื่องของเค้า  ห้ามมาอ่านเรื่องนี้ 555+

ปอลอ ป่าวฟ้องน้า แค่บอกเฉยๆๆเอง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 26-02-2009 23:30:39
โอ๊ะ โอ  เอกน่ารัก เข้ามาเชียร์  :man1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: saraball ที่ 26-02-2009 23:36:23
เปงกำลังใจให้นะคับ

เรื่องใหม่

มาต่อเร็วๆนะ

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 27-02-2009 00:38:57
เข้ามารอ

พี่เอกเค่อะ

สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

อิอิ

เปนกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: panpan ที่ 27-02-2009 07:57:46
น้องเอก  น่ารักมากกกกกกก

มาต่อเร็วๆ นะ  อยากเห็นอีกมุมมองนึง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 27-02-2009 21:13:18
รีบๆมาต่อนะคร๊าฟฟ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 28-02-2009 01:43:22
 :กอด1:


อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 28-02-2009 21:26:57
หายไปไหนครับ

มาๆๆต่อซะดีๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 28-02-2009 22:43:38
น้องเอกหายไปไหนอ่ะ  ทำไมไม่มาต่ออ่ะ   :m15:

 หรือโดนใครกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้  :serius2:


 :L2: :L2: :L2:
 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 01-03-2009 01:23:34



มาให้กำลังใจเอกครับ

อิอิ


หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 01-03-2009 16:40:48
มารอด้วย :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 01-03-2009 20:49:48
ไม่เห็นมาต่อเลยอ่ะ

รออยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 02-03-2009 09:08:53
ทักทายครับทุกคน   ผมนายตั้มเองนะครับ

พอดีได้รับคำสั่งมาจากเจ้าของทู้ว่าให้ลงเรื่องให้ด้วย

จริงๆ  ก็ไม่อยากลงให้หรอกนะครับ

แต่เห็นว่ารางวัลตอบแทนงาม  เลยมาลงให้สักตอน

555+   แล้งตอนต่อไปก็ต้องมารอจนกว่าเจ้าของงทู้จะลงมาจาก  กรุงเต๊พเอาเองนะครับ

ลงให้ตอนเดียวมันก็ฝืนใจสุดๆ  อ่ะ  ผิดวิสัย  ยอดชายนายตั้มหมด

แล้วเจ้าของทู้ยังฝากบอกว่า.....อะไรแล้วก็ไม่รู้  จำไม่ได้  555

ไปก่อนนะครับ  เดี่ยวต้องไปทำงานแล้ววววววววววว


..............................................................
..............................................................


ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน

   วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก  หลังจากเข้าแถวแล้ว  ผมก็เดินขึ้นมาบนห้องแต่ผมคงมาช้าไปเพราะที่นั่งในห้องตอนนี้เต็มหมดทุกโต๊ะแล้ว  ผมหันไปเห็นตั้ม  ซึ่งตอนนี้ยืนอยู่หลังห้องมองซ้ายแลขวาหาโต๊ะนั่งเหมือนกับผม  สรุปแล้วคนที่มาทีหลังพร้อมผมก็ไม่มีที่นั่งเพราะโต๊ะไม่พอ  เราต้องเดินไปหาโต๊ะเพิ่ม  โดยมีตั้มเป็นตัวตั้งตัวตีในการแบ่งทีมกันไปหาโต๊ะ   ผมเดินตามมันไปหาภารโรงของ รร.  แล้วก็ได้คำตอบว่าเราต้องไปเอาโต๊ะกับเกาอี้ที่โรงเก็บของ

   เมื่อไปถึงผมก็เจอโต๊ะกับเกาอี้กองกันสูงกว่าหัวผมอีก  ลักษณะการกองมันจะไม่เป็นระเบียบแต่จะซ้อนๆกัน  ผมเดินตรงไปดึงๆ  เก้าอี้แต่ถึงยังไงก็ไม่ออก  จะดึงแรงๆก็กลัวมันจะถล่มลงมา  ผมเลยต้องค่อยๆดึง

“โอ๊ยยย  ไอเชี่ยเอก”  ผมหันไปดูว่าตั้ม  มันร้องทำไม  แต่ภาพที่เห็นคือ  มันนั่งกองกับพื้น  เอามือกุมหน้าแข้งตัวเอง  ผมเลยวิ่งไปดู

“เห้ยโทดที  เจ็บป่าว  ไหนดูหน่อยดิ”   ผมพูดพร้อมเอามือไปจับที่แผลมัน  ซ฿งตอนนี้เริ่มบวมขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

“ไอเชี่ย  เจ็บนะโว้ย  มาจิ้มอยู่ไหน หน้าแข็งกูนะ ไม่ใช่อุนจิ”  มันด่าผม  แล้วก็หันไปเป่าแผลมันต่อ

“เออๆ  โทดที  ลุกไหวป่าว  ไปห้องพยาบาลก่อนป่ะ”  ผมลุกขึ้นยืนแล้วพยุงมันไปห้องพยาบาล  ระหว่างทางผมก็รู้สึกเหมือนกับโดนจ้อง  เลยหันหน้าไปดู  ก็เจอว่ามันกำลังจ้องผมอยู่

“มองรัยอ่ะ”

“ป่าว มองหน้ามึง ทำไมไม่มีสิวเลยว่ะ  ใช้ไรอ่ะ”   ผมรู้ว่าตั้ม กำลังเฉไฉผมอยู่  ผมเลยแกล้งอำเล่น

“น้ำว่าว” 

“เห้ย....”

“ล้อเล่น  เราไม่ได้ใช้ไรหรอก”

   จากนั้นผมกับตั้ม  เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก  จนถึงห้องพยาบาลแล้วผมก็ขอตัวออกมาก่อน  เพราะจะกลับไปข้นโต๊ะขึ้นห้อง  เมื่อผมได้โต๊ะกับเก้าอี้แล้วผมก็ยกขึ้นมาไว้บนห้องแล้วนั่งรออาจารย์เข้าสอน  แต่ผมนึกขึ้นได้ว่าตั้มยังไม่มีโต๊ะนั่ง  ผมเลยวิ่งลงไปเพื่อจะขนโต๊กับเก้าอี้มาให้ตั้มอีกชุด  ตอนที่ผมกำลังจะวางโต๊ะที่แบกมาลงขาโต๊ะก็ไปฟาดใครซักคนหนึ่ง

“โอ๊ยยยย”  เสียงร้องของคนทำให้ผมต้องลดระดับโต๊ะ  เพื่อจะมองว่าผมเดินชนใคร  แล้วผมก็พบว่าคนที่โดนผมเอาขาโต๊ะฟาดก็คือตั้ม  แล้วตอนนี้หน้าผากมันก็มีเลือดไหลออกมาด้วย   ผมเลยเดินเข้าไปเพื่อจะดูแผล  แต่ด้วยความลืมตัวว่า  ผมยังแบกโต๊ะอยู่  ขาโต๊ะเลยแทงเข้าไปที่ข้างลำตัวมันอีกครั้ง

“โอ๊ย!!! ก่อนมึงเดินมาหากู ช่วยเอาโต๊ะลงก่อนได้ไหมว่ะ”

   แล้วสักพักอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้อง  แล้วให้เพื่อนๆคนอื่น  พามันไปส่งห้องพยาบาล  ตอนแรกผมจะพยุกมันไปส่ง  แต่โดนมันห้าม  มันบอกว่ายังไม่อยากตกบันได้ตายตอนนี้  ผมก็เลยต้องนั่งคอยมันในห้องเพื่อจะขอโทษมัน   แล้วสักพักเพื่อนคนที่ไปส่งตั้มที่ห้องพยาบาลก็กลับมา  ผมถามว่าเป็นไงบ้าง  แต่คำตอบที่ได้มาทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นไปอีก  เพราะต้องนำส่ง รพ.เพื่อไปเย็บแผลเพราะว่าแผลมันลึก

   และทั้งวันตั้มก็ไม่ได้กลับมาเรียนอีกเลย  ตกเย็นเมื่อผมกลับถึงบ้าน  ผมก็โทรไปหาตั้มที่บ้าน  แต่แม่เป็นคนรับ  บอกว่าตอนนี้ตั้มหลับอยู่  ผมเลยไม่อยากจะรบกวนเวลานอนของมัน  เพราะแม่บอกว่าจะไปปลุกให้ 

   เช้าวันต่อมา  ผมมาถึง  รร.ผมก็นั่งกับนุ่นที่สวนป่าเพื่อรอเวลาเข้าแถว  โต๊ะที่ผมนั่งตอนนี้ก็มีนุ่น  โม เปิ้ล บุ้ง เบียร์ หนุ่มแล้วก็ผม  เรารู้จักกันตอนรับน้อง  แต่ตลอดเวลาผมจะมองหาตั้มว่ามันมาถึงหรือยัง  เพราะเด็กในห้องผมส่วนใหญ่จะนั่งกันอยู่แถวนี้ทั้งหมด  เพราะใกล้จะได้เวลาเข้าแถวแล้ว  แต่ผมก็ไม่เจอตั้ม  เมื่อแยกย้ายเข้าห้องเรียนผมก็เดินขึ้นมาบนห้อง  ก็เจอว่าตั้มนั่งอยู่ที่โต๊ะอยู่แล้ว  ผมเลยเดินเข้าไปหา

“เห้ย ตั้ม เราขอโทษนะ เรื่องเมื่อวานนะ”

“เออ ไม่ป็นรัย  แล้วนี้นายจะทำไรอ่ะ”  ผมก็งงว่าตั้ม ถามผมทำไม  เพราะก็เห็นอยู่ว่าผมเอาหนังสือเก็บไว้ใต้โต๊ะ

“เอ้า เก็บหนังสือดิ ถามโง่ๆ”  ตั้มหันมามองผม  น่าตาน่ากลัวมาก  แต่ผมกลับสนุก  เพราะไม่คิดว่าจะยั่วโมโหขึ้น

“รู้แล้ว แต่ที่ถามเนี๊ย  แปลว่านายนั่งโต๊ะนี้หรอ”

“อืม ก็เมื่อวานเราเห็นนายยังไม่มีที่นั่งนะ  เราเลยยกเก้าอี้ กับโต๊ะมานั่งเป็นเพื่อนนาย กลัวนายเหงาถ้านั่งคนเดียว”

“เห้ย ไอตี๋”  เสียงไออาร์มเรียกตั้ม  ผมรู้จักกับอาร์มตอนเรียนปรับพื้นฐาน  เพราะเราอยู่ห้องเดียวกันมาก่อน  แต่ไม่สนิทกันมาก  แล้วตอนนี้ตั้มก็หันซ้ายหันขวา  ก่อนพูดกับผมว่า “เค้าเรียกมึงป่าวว่ะ”

“เราไม่ได้ชื่อตี๋ เราชื่อเอก”  แล้วผมก็รู้ว่าไออาร์ม เรียกใคร  เพราะตอนนี้มันมายืนอยู่หน้าโต๊ะของตั้ม

“เห้ย ไอตี๋ หยิ่งจริงนะมึง เรียกแล้วทำไม่สนใจ”  ไออาร์ม  เปิดฉากต่อว่าตั้ม

“นายเรียกใครว่าตี๋”  ตั้มหันไปเถียงกับไออาร์ม

“เราเรียกนายนั้นแหละ”  อันอาร์มตอบกลับมา

“กูชื่อ  ตั้ม  ไม่ใช่ชื่อตี๋  มึงดูปากกูชัดๆ  กูชื่อตั้ม”  ตั้มมันชี้ที่ปาก  ตอนที่กำลังพูดอยู่

“เออ  ชื่อรัยก็เรื่องของมึง  แต่กูเรียกตี๋นี้แหละ  เข้ากับหน้ามึงดี”

“เชรี่ย  เรื่องของมึง  แล้วมึงมีไร”

   ผมนั่งมองสองคนนั้นเถียงกันอยู่  ตอนแรกก็แปลกใจนะครับว่ามันสองคนเพิ่งเคยคุยกัน  แต่ทำไมเถียงกันอย่างกับเคยรู้จักกันมาก่อน  แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก  แล้วธุระของไออาร์มก็คือ  มีคนเอาเบอร์มาให้ตั้ม  ผมก็ยื่นหน้าไปดูว่าใคร  แล้วผมก็รู้ว่าเป็นบุ้งเองที่ให้เบอร์ตั้ม  เมื่อเช้าผมก็ได้ยินแล้วละครับ  ว่าบุ้งมันบกเพื่อนว่ามันชอบตั้ม   แต่แล้วไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงต้องหงุดหงิดด้วย  กับการที่บุ้งให้เบอร์ตั้ม  ผมเลยลุกขึ้นยืน  แล้วเก้าอี้ที่ผมเลื่อนไปข้างหลังผมดันไปชนคนข้างหลังได้  ผมกำลังหันไปขอโทษ

“โอ๊ย !!!  อีกแล้วนะ ไอเอกกกก”   คนที่ล้มลงไปกองที่พื้นคือตั้ม  แล้วเด็กทั้งห้องก็หันมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น  แล้วก็พากันหัวเราะ

“เหย โทดทีว่ะ ไม่ได้ตั้งใจ”

“เห้ย ไม่ได้ตั้งใจของมึง แต่ละครั้ง ต้องทำกูเจ็บตัวตลอดเลยให้ตายดิ” 

   ผมเลยเข้าไปพยุงให้มันลุกขึ้นยืน  แล้วมันบอกให้ผมพยุงไปส่งมันที่โต๊ะบุ้ง  ผมก็พยุงมันไปส่ง  แล้วผมก็เดินออกจากห้องมาเลย  ผมไม่รู้เป็นอะไร  ทำไมผมต้องหงุดหงิดมันด้วย  ทำไมผมต้องโกรธบุ้งที่ให้เบอร์ตั้ม  ผมดีใจที่มันยอมให้ผมพยุงมัน  แต่ผมก็กลับมาโกรธมันตอนที่มันสั่งให้ผมพยุงมันไปหาบุ้ง  ผมเกิดอาการน้อยใจ  ผมลงมานั่งข้างล่างอาคารเรียน  รอจนกว่าออดเขาเรียนจะดัง   เมื่อผมเดินขึ้นไปบนห้อง  มันก็ทำให้ผมน้อยใจอีกครั้ง  มันไม่ถามผมด้วยซ้ำว่าผมหายไปไหนมา  ผมคงสำคัญตัวเองมากไปก็ได้  เลยทำได้แค่นั่งน้อยใจ  แต่ผมอยากจะคุยกับมัน  แต่มันไม่คุยกับผมเลย



My Diary : น้อยใจจัง  เศร้าเหมือนหมาหงอย  แล้วเราเป็นไรเนี๊ย  ชอบเขาหรือไงถึงอยากเป็นคนสำคัญของเขา   อย่าสำคัญตัวมากไปนะ  เจียมตัวบางดิ



ปล.  My Diary  ผมเอามาจากบางท่อน บางตอนของไดอะรี่ที่ผมเขียนตอนที่เกิดเหตุการณ์
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 02-03-2009 13:34:44
น้องเอกน่าสงสารจัง   :กอด1:

ตั้มมันต้องโดนอย่างนี้  :beat: :beat: :beat:

มาทำร้ายจิตใจเอก

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 02-03-2009 17:07:01
ฮ่าๆๆๆๆ

พี่เอกเอาอีกก เล่าอีกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 02-03-2009 17:43:54
ไม่รู้จะสงสารเอกที่หงอยดี รึสงสารตั้มที่เจ็บตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าดี  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 02-03-2009 21:32:31
น้องเอก เขียนไดได้น่ารักดี^^

หุ หุ  ไม่ทันระวังทำตั้มเจ็บตัวบ่อย ๆ  กับคนอื่นเป็นไหมนิ  :o8:

ขอบคุณนะครับ  ...  เล่าได้น่ารัก ใส ๆ ดี ชอบครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 02-03-2009 22:24:20
เอกช่างไร้เดียงสา อิอิ ไม่เหมือนอีกคน  :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 02-03-2009 23:46:09
น่าสงสาร เอกยังไม่รุใจตัวเอง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 03-03-2009 00:41:30
 :impress3:


เศร้า...
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 03-03-2009 01:43:45
น่ารักดีที่เอกเขียน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-03-2009 22:13:26
เรทติ้งกำลังมาแล้ว เอก  :z2:

เป็นกำลังใจให้นะครับ +1 ให้อีกนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 03-03-2009 22:52:18
มาต่อบ่อย ๆ นะจ้ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 04-03-2009 14:23:53
ในที่สุดก็มาต่อแระ ดีจัยจางเลย

มาต่ออีกไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-03-2009 21:49:41
แค่ 2 ตอน ก็พอจะมองออกแล้วว่า....
เอก...น่ารัก จริงอย่างที่ตั้มบอกน่านแหละ
เล่าเรื่องแบบใสๆ เป็นกันเอง ตรงไปตรงมา
ยังงี้คงจะเปิด...ด้านมืดของ อย่ารักกรู ได้อย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ แน่ๆๆๆๆ
 :pig4:ขอบคุณครับ เอก +1 เป็นกำลังใจให้เอก ที่รักของนายตั้มเค้าแหละ หุหุ
ป้อล่อ...ลืมไปอย่างหนึ่ง  ขอ :กอด1: เอก แน่นๆ เพราะในนี้คงไม่มีใครตามมาหวง ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 2 วันเปิดเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 05-03-2009 02:41:36
ตอนนี้ตีสองกว่าแล้วววววว

ยังนอนไม่หลับ  ต้องลุกขึ้นมาเปิดคอม

แล้วมาพิมพ์ข้อความหาเจ้าของทู้นี้

และบอกว่า  คิดถึงจัง

อุ้ย  เขิล   :-[ :-[

ส่งงานเสร็จแล้ว  สอบเสร็จแล้ว  ก็รบๆกลับมาเน๊อ

ไอบ้านนอกเข้ากรุง  เพราะหนุ่มใต้คิดถึงอย่างแรง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้)
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 05-03-2009 08:22:08
ทักทายยามเช้า  ผมนายตั้มมาลงให้เองคร๊าบบบบบ

เอิ๊กๆๆๆ   อยากให้มีเม้นแบบนี้ที่ทู้โน้นบ้างจัง

แอบอิจฉาเล็กน้อยถึงปานกลาง  จนถึงขั้นมากที่สุด

...........................................................
...........................................................


ตอนที่ 3  น้อยใจ

   คาบพักเที่ยงของวันนี้ผม เบียร์ อาร์ม หนุ่ม เจษ และตั้ม  ก็พากันลงมากินข้าว แต่เมื่อลงมาถึงก็พบว่ามีคนอยู่เต็มโรงอาหารแล้ว ซึ่งหนุ่มกับเบียร์เรารู้จักกันตอนรับน้องแล้ว  แต่เจษกับอาร์มเพิ่งมารู้จักกันที่หลัง  เพราะสองคนนี้มันจะรู้จักกับตั้มก่อน  แล้วพอผมไปไหนมาไหนกับตั้ม เราก็จะมักพ่วงท้ายเพื่อนไปด้วย  เลยทำให้เราเริ่มสนิทกันมาก

“นั่งไหน” ผมหันไปถามเพื่อนๆ

“ตรงไหนก็ได้”  เจษตอบ  แต่ผมคิดในใจ  ตรงไหนของมัน อยู่ที่ไหนว่ะ

“งั้นมึงก็ไปนั่งกับพื้นนะ  ป่ะไออาร์ม หาข้าวกระแทกปากกัน”  ตั้มพูดกับเจษ  แล้วกอดคออาร์มเดินออกไป  ผมก็หันซ้ายแลขวาเพื่อจะหาที่นั่ง

“โอ๊ย !!!” ผมหันกลับมาเพราะได้ยินเสียงคนร้อง แต่ภาพที่เห็นคือตั้มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น เอามือกุมปาก 

             ผมกำลังเดินไปจะช่วยพยุง  แต่ก็ไม่ทันแล้ว  เพราะพี่บาสช่วยพยุงตัวมันขึ้นแล้ว ตอนแรกผมกะว่าจะยืนรอตั้ม แต่เบียร์เดินมากอดคอแล้วพาผมเดินไปซื้อข้าว  เมื่อได้ข้าวเสร็จผมก็เดินหาที่นั่งจนได้ที่ๆ โต๊ะหนึ่งกำลังมีคนจะลุกผมกับเบียร์เลยเดินไปรอให้พวกเขาเดินไปแล้วรอนั่ง

“เปรี๊ยะ” 

“โอ๊ย อะไรของนาย”  ผมพูดขึ้นหลังจากหันไปดูว่าใครตบหัวผม  พร้อมกับเอามือลูบหัวตัวเอง 

“แมร่งทิ้งกู”  ตั้มบอกพร้อมนั่งลงกับมานั่งข้างๆผม

“อ้าว ก็เห็นมีคนคอยเอาใจแล้วนิ  เราเลยไม่อยากไปขัดจังหวะ”   สาบานได้เลยว่าตอนนั้น ผมไม่ได้คิดที่จะพูดประชดมันเลย

“เป็นเชี่ยไรอีก  หึงกูหรอ”  มันพูดหร้อมยื่นหน้ามาหาผม 

“................”  ผมไม่ได้พูดอะไร  เพราะกำลังอึ้งที่ตั้มเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมแบบนี้

“แล้วทำไมมึงต้องหน้าแดงด้วย”  ผมเอามือลูบหน้าตัวเองทันที  หันไปมองเพื่อนคนอื่น  มันก็หันมาดูผมทั้งหมดเลย

“เปล่า  แกงมันเผ็ดนะ”  ผมไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี  รู้แต่ว่าอายมาก  แล้วผมก็ลุกขึ้นเดินขึ้นห้องมาเลย

   ผมเดินขึ้นห้องมาก็ไม่เจอใครอยู่ในห้อง ผมก็เลยหยิบหนังสือเพลงที่อยู่ใต้โต๊ะเบียร์มาร้องเล่นแก้เซ็ง  แต่เมื่อเปิดหนังสือได้สองสามหน้าท้องผมก็ร้องขึ้นมาอีก  เพราะผมได้กินแค่ไม่กี่คำก็เดินหนีออกมาก่อน  จะว่าไปทำไมผมต้องเขินอายมันด้วยก็ไม่รู้  หรือว่าผมจะชอบตั้ม  ไม่จริงหรอกมั้งเพราะผมเองก็ยังชอบผู้หญิงอยู่น่ะ

   ผมกำลังจะเดินลงไปหาอะไรกิน  แต่พวกเพื่อนๆผมก็เดินขึ้นมาบนห้อง  ผมเลยไม่ได้ลงไปกินเพราะตั้มซื้อขนมกับนมมาให้ผมกิน  ตั้มบอกว่าสงสารกลัวหิวตาย  เพราะข้าวก็กินได้ไม่กี่คำ  ผมก็รับมากินแต่ไม่ได้พูดอะไรกับตั้ม  เพราะอะไรนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน  ชีวิตประจำวันของผมกับเพื่อนๆก็ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกไปจากเด็กมัธยมทั่วไป  เช้ามาเรียน เที่ยงกิข้าว เย็นเตะฟุตบอล เล่นบาส  แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน  แต่นับวันเพื่อนในกลุ่มผมก็เพิ่มขึ้นๆเรื่อยๆ ก็จะมี ผม ตั้ม เบียร์ หนุ่ม เจษ อาร์ม โม นุ่น บุ้ง เปิ้ล พี่บิ๊ก พี่เดียร์ พี่ปิง พี่บอย พี่อาร์ท

   ตอนนี้ผมกับเพื่อนๆกำลังเดินลงมานั่งที่สวนป่ากัน  แต่เมื่อไปถึงก็มีคนเรียกผมให้เข้าไปคุยด้วย เป็นคนที่ผมรู้จักกันตอนเรียนปรับพื้นฐานแต่ก็ไม่ได้สนิทด้วย

“เอก  เพื่อนเอกมีแฟนแล้วหรอ”  ผู้หญิงคนที่เรียกผมมา

“คนไหนหรอ”  ผมถามกลับไป

“ก็คนที่นั่งริม หน้าตี๋ๆอ่ะ  มีแฟนยัง” 

“ไม่รู้ดิ  แต่น่าจะไม่มี”

“หรอ  ช่วยถามให้หน่อยดิว่า  เอาเบอร์เราไปแล้ว  ไม่คิดจะโทรหาบ้างเลยหรอ”

“อือ  เดี่ยวค่อยถามให้”

   ผมกำลังจะลุกขึ้นกลับมาที่โต๊ะ  แต่เพื่อนของผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้นมาแต่ผมว่ามันเป็นคำพูดเชิงถามมากกว่านะครับ  ไม่ว่าจะเป็น  ตั้มเป็นคนเจ้าชู้  จีบไปทั่ว แต่ไม่เคยจริงจังกับใคร  แล้วเขายังเล่าต่ออีกว่า เมื่อวานนี้เขาเห็นตั้มไปนั่งกับโต๊ะพี่ ม.6 คนหนึ่งแล้วนั่งกอดกัน  แต่มีคนที่ตั้มเคยจีบเดินผ่านมาเห็น  ผู้หญิงสองคนนั้นก็เลยมีปากเสียงกัน  แต่ตั้มชิ่งหนีออกมาเลย  แล้วอีกหลายๆเรื่อง  และสุดท้ายทุกคนก็หันมาถามผมว่าทุกเรื่องเป็นความจริงไหม  แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงต้องมานั่งแก้ตัวให้กับตั้มด้วย  ผมรู้สึกไม่พอใจ  ไม่พอใจเอามากๆด้วย  ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ  ผมเห็นตั้มนั่งคุยกับเพื่อนๆ  หัวเราะ  ยิ้มได้อย่างมีความสุข ทำให้ผมยิ่งโกรธไปกันใหญ่

“ตั้ม ตกลงมึงจะเลือกใคร”  เป็นครั้งแรกเลยครับ  ที่ผมระเบิดอารมณ์ออกมาแบบนี้  ทุกคนในโต๊ะคงแปลกใจผม  เลยหันมาดูที่ผมกันทั้งหมดรวมถึงโต๊ะข้างๆด้วย

“เรื่องอะไรว่ะ มึงโกรธอะรัยกู  กูยังไม่ได้ทำไรเลย”

“กูถามว่า ตกลงมึงจะเลือกใคร”

“เลือกอะไร เลือกใคร กูไม่เลือก  เพราะกูมีพี่เดียร์อยู่ในใจแล้ว”  มันยังมีอารมณ์มาจีบคนอื่น  แล้วผมก็ยิ่งเดือดไปใหญ่

“ไอเชี่ยตั้ม  มึงหุบปากไปเลย  แล้วพี่เดียร์ก็ไม่ต้องไปเชื่อมันนะ  มันจีบทิ้งจีบขว้างไปเรื่อย กูละสงสารคนที่จะเอามึงเป็นแฟนจริงๆ”

“มึงว่าใครเชี่ย  มึงพูดแบบนี้ มึงจะเอาใช่ป่ะ  เอาดิ  เข้ามาเลย”  ตั้มพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาหาผม

“เห้ยยยย  พูดกันดีๆดิว่ะ  เพื่อนกันทั้งนั้น”  หนุ่มเดินเข้ามาดึงตั้มที่ตอนนี้เกือบจะถึงตัวผมอยู่แล้ว

“มึงก็ตอบมาดิว่ะ  ว่ามึงจะเลือกใคร  เอาซักคน  กูไม่สนุกนะโว้ย  กับการที่ต้องมาแก้ต่างให้มึง  ต้องตอบคำถามคนโน้นทีคนนี้ที”  จริงๆก็ไม่ได้มีคนเข้ามาถามผมเยอะหรอกครับ  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเลย

“กูไม่เลือก  มีอะไรไหม  กูพอใจให้เป็นแบบนี้และกูก็ไม่เคยขอให้มึงทำ”   แล้วตั้มก็เดินออกไป

   ผมกำลังอึ้งกับคำพูดสุดท้ายของตั้ม  ผมพูดกับตัวเองว่า  เออใช่  เขาไม่เคยขอให้เราทำ  แล้วทำไมเราต้องทำเราเข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น  สมแล้วที่จะโดนเขาด่า  แล้วเราผิดตรงไหนหรอกับการแก้ต่างให้เพื่อน  ผมผิดหรอที่ไม่อยากให้คนอื่นมองตั้มในทางที่ไม่ดี  แล้วผมก็ต้องตื่นจากความคิดตัวเองเพราะหนุ่มเข้ามาสะกิดถามว่าเป็นอะไรไหม  ผมก็เลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

   ผมเดินมาถึงห้องน้ำก็ต้องตรงไปที่อ่างล้างหน้าก่อ  เพราะตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าน้ำตามันจะไหลออกมาแล้ว  ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากร้องไห้ผมเสียใจกับคำพูดของตั้ม  ผมกำลังจะเดินออกแต่ตอนหันไปก็เจอหนุ่มพอดี 

“เข้าห้องน้ำหรอ”  ผมถามหนุ่ม  หนุ่มก็พยักหน้า  ผมกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำแต่หนุ่มก็ถามผมว่า

“เอกชอบไอตี๋หรอ”  ผมหยุดมองหน้าหนุ่ม

“บ้าหรอ เราผู้ชายนะโว้ย”

“มันไม่เกี่ยวหรอกว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง  มันอยู่ที่ว่าชอบหรือไม่ชอบแค่นั้น  เพศไม่เกี่ยวหรอก”  หนุ่มพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“เราไม่รู้  เราไม่รู้จริงๆ” 

“เอกเคยรู้สึกไม่พอใจไอตี๋เวลาที่ มันไปจีบคนอื่น  นั่งคุยกับคนอื่นอย่างสนุก  เคยรู้สึกว่าเหงาที่ไม่มีมันอยู่ข้างๆ  แล้วคอยมองหามันเวลาที่มันไม่อยู่ใกล้  เคยรู้สึกเจ็บเวลามันเจ็บ  เคยเป็นห่วงมันเวลาที่มันผิดหวัง เสียใจ  เคยน้อยใจมันเวลาที่มันไม่สนใจ  เคยรู้สึกเสียใจเวลาที่โดนมันต่อว่าแรงๆไหม”  หนุ่มพูดมายาวมาก  ผมก็พยักหน้าตอบหนุ่ม  ตามความจริง  เพราะทุกอย่างที่หนุ่มถามมามันจริงหมด

“แต่เราว่ามันก็เหมือนกับเพื่อนทุกคนน่ะ”

“แล้วเอกเคยรู้สึกแบบนี้กับหนุ่มไหม  เอกเคยรู้สึกแบบนี้กับอาร์ม เจษ เบียร์หรือเพื่อนคนอื่นไหม” 

“ก็มีบ้าง”  ผมตอบอย่างไม่แน่ใจ

“ไม่แน่ใจใช่ไหม  เพราะอะไรรู้ไหม”  ผมก็ส่ายหน้า  “เพราะว่าอะไร  ตัวเอกเองก็น่าจะรู้แค่กล้าที่จะยอมรับมันก็พอ”

“หนุ่มไม่เกลียดเราหรอ  ไม่รังเกียจเราหรอ”

“ใครจะไปเกลียดมึง  กูคบมึงเป็นเพื่อนนะ  กูไม่ได้หวังผลตอบแทนจากมึง  แค่มึงเป็นมึงแบบนี้กูก็ไม่มีข้อแม้แล้ว”  อาร์มพูดออกมาหร้อมกับเดินเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับเจษ

“เอกไม่ต้องกลัวหรอกนะ  ไม่ว่าเอกจะเป็นอะไร ยังไงเราก็เป็นเพื่อนเอกเสมอ”  เจษเข้ามากอดคอผมแล้วพาเดินออกจากห้องน้ำ

   พวกเราสี่คนเดินออกมาจากห้องน้ำตรงมาที่โต๊ะที่ตอนนี้มีเพื่อนๆ และพี่ๆนั่งอยู่  พี่เดียร์บอกว่าตั้มกลับบ้านไปแล้ว 

“เอก สู้ๆ  อย่ายอมแพ้”  พี่เดียร์พูดขึ้นมา  ผมมองหน้าพี่เดียร์อย่าง งงๆ

“พี่ยังว่างนะน้องเอก”  พี่อาร์ทพูดเสริมมา
“พี่ก็ว่างนะครับ”  พี่ปิงเอาบ้าง 

“อะไรกันครับ  ผมไม่เข้าใจ”  ผมพูดขึ้นมา  เพราะเริ่มรู้สึกงงมาก
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย กำลังจะทำอะไรอย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้นะ  ป่ะเปิ้ลกลับบ้าน”  บุ้งพูดเสียงห้วนๆ  แล้วหันไปชวนเปิ้ลกลับบ้าน  ทุกคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาเพราะว่างงและอึ้งกับการกระทำของบุ้ง

“สงสัยยาหมด”  โมพูดขึ้นมา  ยิ่งทำให้คนอื่นๆ  หัวเราะกันไปใหญ่

“หรือไม่ก็ลืมเขย่าขวด”  เบียร์เสริม  แล้วหันไปมองโมแล้วสองคนนั้นก็ยิ้มให้กัน  ผมมองดูแล้วรู้สึกว่าสองคนนี้แปลกๆ  แต่ก็ม่ได้พูดอะไรเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา

   พวกเราใช้เวลาคุยกันอีกไม่นานก็แยกย้ายกันกลับบ้าน  ผมเดินมารอรถที่ป้ายรถประจำทางทันเวลารถเที่ยวสุดท้ายพอดี  โดยที่หนุ่มกับเบียร์มานั่งรอรถเป็นเพื่อนระหว่างรอรถ  สองคนนี้ก็ชวนผมคุยเรื่องตั้มซะส่วนใหญ่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย  จนรถมาผมก็เลยต้องกลับก่อน 

My Diary :  รู้แล้วว่าชอบ  แต่รู้สึกเจ็บมากกว่า

.......................................................................
.......................................................................

เอ่อ  จะบอกงัยดีอ่ะ  เอกมันเก็บรายละเอียดเยอะมาก  แล้วบางเรื่องผมก็ไม่รู้เลย  อย่างเช่นเรื่องที่มันไปคุยกะไอหนุ่มที่ในห้องน้ำ  อย่างนี้ผมคงต้องตามอ่านด้วยคนแล้วละมั้ง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 05-03-2009 09:45:27
พอรู้ว่าเริ่มรัก  แทนที่จะสุข กลับเจ็บปวด
แต่ในเมื่อมันรักไปแล้ว     จะให้ทำยังไง
นอกจากรักต่อไป เผื่อสักวันเขาจะเข้าใจ

 :L2: :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 05-03-2009 10:21:19
น่าสงสารคนแอบรักเพื่อน  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 05-03-2009 12:02:39
ตบ ลุงตั้มมมม   :z1:

เศร้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-03-2009 12:13:28
เมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่า...รัก
ความรู้สึก...มันก็ไปไกลเสียแล้ว
ก่อนที่จะเริ่มรู้สึกตัวเสียอีก

 :pig4:ขอบคุณครับ ตั้ม เอาเรื่องมาลงให้
 :pig4:ขอบคุณครับ เอก เขียนเรื่องใสๆให้อ่านกัน
 :L1:เอก&ตั้ม +1 ให้สองคนครับ :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 05-03-2009 15:58:25
 :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 05-03-2009 21:03:36
กระทู้นี้จะหวานไปแระ มีบอกความในใจผ่านกระทู้ด้วยอ่ะ WOW~~! อิจฉา

น้องเอกเล่าเรื่องได้น่ารักอีกแล้วววว ^_^;  ... รู้ใจตัวเองเร็วดีจัง

ขอบคุณคุณชายตั้มและน้องเอกสำหรับเรื่องเล่าน่ารัก ๆ ครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 05-03-2009 21:17:12
พอรู้ตัวว่ารัก ก็เลยมีอาการเจ็บ แป๊บ ๆ  :เฮ้อ:

มารออ่านตอนต่อไป ว่าเอกจะจัดการปัญหานี้ยังไง

ปล. มีหน้าที่ลงก็ลงไป อย่าได้แซวข้ามกระทู้  ไม่งั้นเอกกลับมาจะ...... :jul3:

      +1 ให้เอกนะครับ ไปกระทู้นู้น ค่อย + ให้นะตั้ม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: my honey ที่ 06-03-2009 00:06:23
    คู่เน้เค้าน่าร๊ากกานเจงๆมีโพสต์หั้ยกานด้วย   o13



    +1 หั้ยพี่เอกกะพี่ตั้ม :m1:เรยโทษฐานทำตัวด้ายน่ารักมากมาย :m3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 06-03-2009 08:16:25
 :z2: :z2: :z2: :z2:
แวะมาเป็นกำลังใจให้เอกน๊า
ตั้มเขียนเรื่องต่อให้ไวรออ่านอยู่อย่ามา ช้า ชิชิ o18
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 06-03-2009 13:20:33
 :impress3:

เป็นอย่างนั้นไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 07-03-2009 00:56:32
น่าสงสารเอกอ่า

แอบรักเพื่อนมานเศร้าเนอะ :jul1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 07-03-2009 04:37:31
 :z3: พลาดอ้ะ
เพิ่งได้เข้ามาอ่านทู้นี้
แต่ยังไม่ได้อ่านทู้นู้นของตั้มเลย
ต้องรีบไปตามอ่านอย่างเร็วซะุแล้ว
บวก 1 ให้ทั้งเอกและตั้มเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 07-03-2009 06:39:40
เอกมีกำลังใจจากเพื่อนๆดีจริงๆ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ (นายตั้มมาลงให้ก
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 07-03-2009 07:11:01
มาทักทายตอนเช้า  ก่อนจะบินไปเมืองหลวงว่า

จริงๆแล้ว  เมื่อวานผมได้สายตรงมาจากเมืองหลวงว่า

ให้ผมช่วยลง เรื่องนี้ใหอีกตอน ผมก็โอเคเด่วลงให้

แต่พอไปหาๆ ค้นๆ  ดูในแฟ้มงานของมัน

ปรากฏว่ามันมีหลายตอนมาก  แต่แมร่งไมมันไม่เขียนชื่อตอน

หรือลำดับตอนด้วยว๊า  แล้วกูจะรู้ไหมว่ามึงจะให้ลงตอนไหน  (แอบบ่นในใจ)

ผมเลยโทรกลับไปหามัน  มันบอกว่าไงรู้ป่ะ

มันบอกว่าก็เอาตอนต่อไปไง  ผมถามมันว่าแล้วตอนไหนเล่า 

มันก็บอกกลับมาว่า  ลองอ่านเรื่องตอนที่แล้ว  ว่าถึงตรงไหน  แล้วเอาตอนต่อไปมาลง

พระเจ้าช่วยกล้วยทอดหมด  มันอยู่เวิร์ดอยู่เป็น สิบๆ ครั้นจะให้ผมเปิดดูที่ละงานทั้งคืนก็หาไม่เจอ

ก็คุณพี่ท่านไม่พิมพ์ชื่อตอนทีหนึ่งแล้ว  ยังไม่ตั้งชื่อไฟล์อีก  เวลกำ   ผมก็เลยตัดใจที่จะไม่ลงให้มัน 

จะกล่าวโทษอะไร  ก็ไปว่าไอบ้านนอกเข้ากรุงเองก็แล้วกัน  ผมไม่เกี่ยว  อร๊ากกกกกกกกกกกกก

 :z2: :z2: :z2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 07-03-2009 07:23:40
 :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
มาจิ้มเด็กบ้านนอกที่หลง คนน่ารักเข้ากรุง

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 07-03-2009 12:27:38


 . . . .ก่อนนั้นเคยไปอ่านของคุณตั้มมานิดหน่อย ยังไม่ได้ตาม  .. . . พอคุณเอกมาลงอีกคนอยากอ่านของคุณเอกค่ะ

 . . . ชอบอ่านของผู้ถูกกระทำ(ทารุณทางใจนะ คิดไร  :m28: ) แต่ตอนยังน้อยๆ อยู่ไปอ่านของคุณตั้มก่อนคงไม่ว่านะคะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 07-03-2009 18:38:09
 :L2:....หวาดดีจ่ะ...คุณชายน่ารัก...
....เอาเม้นแรกซึ่งยังหาสาระไม่ได้ไปก่อนนะ...
....กร๊ากกกกกกกกกก..ตั้ม...2 นิ้วเองเหรอ...
....ป๋อหลอ..เอก อยู่มหาลัยไหนใน กทม.เปิดเทอม
จะทำตัวเป็น Fc ที่ดีเอาเสบียงไปส่งให้....เอาปล่าว...
...อิคุณชายลีลา มันค้อนเอาละ... :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 07-03-2009 22:14:42
คนอะไร ไม่มีปัญญาลงให้ แล้วมาทำเป็นโวยวาย

คงกลัวเรทติ้ง ทู้นี้แรงกว่าละซิ  :z2:

ไม่ได้ลง ก็ +1 ให้กับทู้นี้อีก ดีเปล่าน้องตั้ม  :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 08-03-2009 03:51:46
เง้ยยย

ได้ไงอ่ะคุงพี่

รออ่านอยุ่ม้ายยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: amito ที่ 08-03-2009 04:31:00
ตามอ่านเรื่องโน้นอยู่เหมือนกันค่ะ เพื่งอ่านถึงตอน 11 เห็นเรื่องใหม่(ด้านมืด)เลยเข้ามาอ่านด้วย

เขียนแบบนี้ดีนะคะจะได้รายละเอียดเพิ่มขึ้น คราวนี้จะรออ่านพร้อมๆกันเลยดีกว่า

รีบเร่งให้ทันเค้านะคะ เค้านำไปลิบๆแล้ว

 :bye2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 08-03-2009 18:26:34
งั้นก็ต้องรอให้พี่เอกมาลงให้อ่าจิ  :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 08-03-2009 19:39:13
เหอเหอ

เอกเอ้ย  วันหลังอย่าฝากความหวังไว้กับไอ้เด็กบ้านี่เล้ยยย

พึ่งไม่ได้จิงจิ๊ง คนไรว้าาาาา  :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: my honey ที่ 08-03-2009 19:41:06
พี่ตั้มม่ายอัพม่ายเปงรัย :m14:


เด๋วรอหั้ยพี่เอกมาอัพหั้ยก้อด้าย..แต่ขอยาวๆหน่อยน๊า :impress3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 09-03-2009 09:37:14
กรี๊ดดดดดดดดดดดด   น้องเอก  น่ารัก  :กอด1:


พักนี้ ไม่ได้เข้าเล้า  เลยพลาด ไม่ได้มาเจิมเรื่องนี้เลย   
กว่าจะเข้ามา  ก็ลงไปสามตอนละ

เป็นกำลังใจให้นะคะ  น้องเอก   :L2:


ขอบคุณตั้มด้วย ที่ช่วยลงเรื่องให้   น่ารักเหมือนกันนะเรา  :m4:

 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: ( = ___ = ) ที่ 09-03-2009 11:33:07

เพิ่งได้เข้ามาอ่าน...

เป็นกำลังใจให้จ้ะ นุ้งเอก :L2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 09-03-2009 20:09:21
เข้ามาตามเชียร์ น้องเอกดีกว่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: OHmeza019 ที่ 09-03-2009 22:54:21
ตามเชียร์ ๆๆ  ทั้งคู่เลยค้าบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 09-03-2009 23:56:38
เออ นั่นดิ ไม่ลงชื่อตอนแล้วจารู้ได้ไง

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก :m20:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 10-03-2009 07:14:59
ผมยังรอพี่อยู่นะคร๊าบบ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 3 น้อยใจ.....เข้ามาแจ้งข่
เริ่มหัวข้อโดย: nugaa01 ที่ 10-03-2009 07:38:06
อ่าจริงด้วย...รู้แล้วลืมอะไร
ลืมเม้มให้เอกนี่เอง อ่านมาตั้งสี่หน้าและ
ต้องช่วย ดัน ๆเอก ไม่ดันตั๊มและ รักเอกมากกว่า
อะหู ๆ  :man1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้า&#
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 11-03-2009 10:09:15
ตอนที่ 4  คลี่คลาย Part I

   ตอนแรกผมคิดว่า วันรุ่งขึ้นผมกับตั้มเราจะกลับมาคุยกันอย่างปกติ  แต่เมื่อตั้มเห็นผมตั้มก็เดินหนี  แล้วมีอยู่ข้างหนึ่งตั้มคุยอยู่กับเพื่อนๆ  แล้วหันมาเหน็บแหนมผมแรกๆผมก็ไม่ได้คิดอะไร  แต่มาพักหลังๆมันจะบ่อยขึ้นผมก็เริ่มที่จะไม่พอใจบ้าง  โกรธบ้าง  ส่งผลให้ผมมีความคิดว่า  ถ้าตั้มไม่ขอโทษผม  ผมก็จะไม่คุยกับตั้มตลอดไป  ผมย้ายที่นั่งไปนั่งคู่กับหนุ่มโดยให้เจษมานั่งกับตั้มที่หลังห้อง 

   จนเวลาล่วงเลยไปเป็นเดือนเหมือนกัน  เข้าสู่ช่วงกีฬาภายในหรือเรียกง่ายๆว่ากีฬาสี  ผมเลือกที่จะเล่นบาสเกสบอลเพราะเป็นชนิดกีฬาที่ผมชอบมากและถนัดที่สุด  ซึ่งจะต้องเข้าซ้อมบาสกันทุกตอนเย็น  และวันนี้ก็เช่นเดียวกันผมมานั่งรอพี่ที่จะคุมพวกผมซ็อมบาสอยู่ข้างๆสนามบาส

“นั่งด้วยได้ป่ะ”  ผมหันไปดูก็พบว่าตั้มนั้นเองที่เข้ามาทักผม

“.....................”  แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป  ทำเป็นไม่สนใจ

“เป็นอะไร  ไม่สบายหรอ”  ตั้มพูดพร้อมกับเอามือมาอังที่หน้าผากผม  ผมเลยใช้มือปัดมือตั้มออก

“มึงเป็นเหี๊ยไรว่ะ  ไม่พอใจอะไรกูก็บอกมาดิ  มึงไม่พูดแล้วกูจะรู้ไหม”  ผมยิ่งโกรธตั้มมากขึ้นอีก

“เออ  กูมันเหี้ย  งั้นคนดีๆอย่างมึง  ก็อย่ามายุ่งกับคนเหี้ยๆอย่างกู  เด่ยวจะติดโรคเหี้ยจากกู”  ผมพูดประชดตั้มเสียงดังมาก ตั้มกำหมัดแน่นแล้วทำท่าจะชกผม  แต่มีคนยื่นมือมาห้ามไว้ก่อน

“อะไรกันครับน้องตั้ม  ถึงกับจะลงไม้ลงมือกันเลย  มีอะไรก็พูดดีๆซฺครับ”  พี่บาสพูดกับตั้มแล้วหันมามองผม

“พี่ก็ดูมันดิ  ผมเข้ามาพูดด้วยดีๆ  แต่มันไม่ยอมพูดกับผม” ตั้มหันไปพูดกับพี่บาส

“แล้วทำไมน้องเอกไม่คุยกับตั้มละครับ”  พี่บาสหันมาถามผม

“พี่ก็ถามมันเองแล้วกัน  ว่ามันทำผิดอะไรไว้”  ผมบอกกับพี่บาส  แต่โดนตั้มสวนกลับมาว่า

“กูทำอะไรผิด  กูไม่เคยทำอะไรผิดทำไมกูต้องยอมรับด้วย”  ผมได้ยินที่ตั้มพูดก็ถึงกับต้องกำหมัดแน่  เพื่อระงับสติอารมณ์ตัวเอง  แต่ก็ไม่วายที่จะพูดประชดออกไป

“เออ  กูลืมไปมึงมันเทวดา ทำไรก็ไม่ผิด แบบนี้แหละน๊า  คนมันถูกตามใจจนเสียคน  จะทำอะไรก็ได้  ใครจะเป็นจะตายไม่เคยสนใจ”

“ไอเอกกกกก”  ตั้มตะเบ็งเสียงออกมา  พร้อมสะบัดพี่บาสจนหลุดแล้วเข้ามาหาผม  แต่ก็โดนพี่บาสจับไว้ได้อีกครั้ง

“พี่ว่าน้องเอกกลับไปก่อนดีกว่านะครับ  เดี่ยวตรงนี้พี่จัดการเอง”   พี่บาสคงกลัวว่าผมกับตั้มต้องต่อยกันแน่ถ้าขืนยังยืนประจันหน้ากัน  เลยบอกให้ผมกลับไปก่อน

   ผมเดินออกมาจากสนามบาส  เพื่อจะเดินไปหาพี่เอ็มจะขอพี่เขากลับบ้านก่อน  ผมเดินตรงมายังอาคาร ม.ปลายก็เจอพี่เอ็มอยู่กับเพื่อนๆในห้องเก็ยวัสดุของสีที่อยู่ใต้อาคารพอดี  ผมเลยตรงเข้าไปหา

“พี่เอ็มครับ  วันนี้ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ  รู้สึกไม่ค่อยสบาย”

“อ้าวหรอ  เออๆ  ไม่เป็นไรกลับไปพักให้หายก่อนไป   แล้วค่อยมาซ็อมวันหลังก็ได้”

“ขอบคุณครับพี่”  ผมยกมือไหว้พี่เอ็ม แล้วเดินออกมาเลย

   ผมเดินตรงมาที่ห้องน้ำ  เมื่อเข้ามาในห้องน้ำปิดประตูห้องลงกลอนได้เท่านั้นแหละครับ  น้ำตาไม่รู้ว่ามาจากไหนเยอะแยะพร้อมใจกันพรั่งพรูออกมาจากตาทั้งสองข้าง  ไหลลงมาอาบแก้มผมยังกับสายน้ำ  ผมร้องออกมาแต่ไม่มีแม้เสียงร้องไห้หรือเสียงสะอื้นออกมาจากปากผม  ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมน้ำตาถึงไหลออกมาทั้งๆที่ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองร้องไห้  ถามว่าผมเสียใจไหม  ตอบได้เลยว่าทั้งเสียใจทั้งน้อยใจ  น้ำตาผมออกมาได้สักระยะก็แห้งเหือดหายไป  ผมหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อออกมาเช็ดคราบน้ำตา  แล้วเดินออกจากห้องน้ำเพื่อจะไปล้างหน้า  เมื่อรู้สึกสดชื่นขึ้นมาแล้วผมก็เดินออกจากห้องน้ำแล้วเดินตรงไปยังหน้า  รร.  เพื่อจะรอรถกลับบ้าน


...................................................................
..................................................................
...................................................................


   เช้านี้ผมมาถึง รร.เร็วกว่าปกติ  ผมตรงที่จะขึ้นห้องไปเลยเมื่อมองไม่เห็นเพื่อนๆผมที่โต๊ะในสวนป่า  เมื่อไปถึงห้องผมก็เจอหนุ่ม อาร์ม เจษ  อยู่ในห้องแล้ว  เมื่อทั้งสามคนเห็นผมก็เดินมาหามผมทันที  แล้วถามผมว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น  ผมเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฟังทั้งหมด

“แล้วทำไมเอกไม่คุยกับมัน  ยังไม่หายโกรธมันหรอ”  หนุ่มถามผม

“ถามว่าอยากคุยไหม  ตอบได้เลยว่ามาก  แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน  เวลาเห็นหน้าแล้ว  มันหงุดหงิดที่ใจทุกครั้ง”

   เราสี่คนก็นั่งคุยกับไปได้สักพักตั้มก็เดินเข้ามาในห้องผมหันไปเห็นพอดี  แต่ผมก็ต้องหันหน้ากลับเพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน  แล้วอาร์มก็วิ่งเข้าไปหาตั้ม  ผมได้ยินสองคนนั้นคุยกันบ้างไม่ได้ยินบ้าง  แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร  ผมหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน สักพักพวกนั้นก็ลงไปกินข้าวกันแต่ผมไม่ได้ลงไปด้วย  เพราะว่ากินมาแล้วจากที่บ้านแล้ว  ผมอ่านหนังสือเล่นได้สักพักโมก็มาขอให้ไปเป็นเพื่อนซื้อน้ำดื่ม  ผมก็ลงไปกับ  เมื่อผ่านโต๊ะที่ตั้มนั่งผมก็ได้ยินตั้มกำลังนั่งจ้ออยู่กับสาวๆโต๊ะข้างๆ

“งั้นแปลว่าน้องตั้ม ยังไม่มีแฟนซิ  แบบนี้เพื่อนพี่ยังมี ความหวังอ่ะดิ”  ผู้หญิงคนหนึ่งจากโต๊ะตะโกนถามออกมา

“ไม่ได้รังเกลียดนิครับ”  ตั้มพูดพร้อมส่งยิ้มไปให้ 

“ชิห์”  ผมส่งเสียงออกมาด้วยความรำคาญใจอย่างลืมตัว  เมื่อผมรู้ตัวว่าส่งเสียงดังไปจนทำให้ตั้มได้ยินผมก็เดินออกมาเลย

   หลังเลิกเรียนผมก็เดินตรงไปที่ห้องน้ำเปลี่ยนชุดเป็นชุดบาส  แล้วเดินไปรอเพื่อนๆพี่ๆที่สนามบาส  ซึ่งสนามมันจะอยู่ใกล้ๆกับสนามวอลเล่ย์บอลที่ตั้มจะซ้อม  ผมนั่งมองไปยังสนามวิลเล่ย์บอลดูว่าตั้มมาถึงยัง  สงสัยผมคงจะมุ่งสมาธิไปที่สนามวอลเล่ย์บอลมากไปจึงทำให้ไม่ทันรู้ตัวว่ามีคนมานั่งอยู่ใกล้  เมื่อผมหันกลับมาก็เจอตั้มนั่งอยู่ใกล้ๆ  ผมถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยแต่ต้องเก็บอาการเอาไว้

“ซ้อมเสร็จรอด้วย  มีเรื่องจะคุย”  ผมพูดออกมาแล้ววิ่งออกไปเลย

   ก็ดีเหมือนกันครับจะได้เคลียร์ให้จบๆกันไปเลย  ผมนั่งรอพวกพี่ๆและเพื่อนได้สักพักทุกคนก็มาถึง  เราเลยต้องวอร์มร่างกายกัน  เริ่มจากการขยายกล้ามเนื้อ  วิ่งรอบสนาม  ฯลฯ  เมื่อได้เวลาเลิกซ้อม  ผมก็เดินตรงไปอาบน้ำจากนั้นก็เดินมาที่โต๊ะเพื่อจะเก็บข้าวของลงกระเป๋า  ดูเวลามันใกล้จะถึงเวลารถเที่ยวสุดท้ายมาแล้ว  ผมเลยตัดสินใจที่จะไม่รอ  เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้ดีกว่า

............................................
............................................
............................................
............................................

   จากวันที่ตั้มเข้ามาบอกผมว่ามีเรื่องจะคุยด้วย  จวบจนวันนี้เป็นวันกิจกรรมกีฬาสีเราก็ยังไม่ได้คุยกันเลย  จะว่าผมหลบหน้าตั้มก็ไม่เชิงหรอกครับ  เพราะตลอดเวลาผมกับตั้มไม่ได้มีโอกาสที่จะอยู่ด้วยกันตามลำพังเลย  เราเลยไม่ได้คุยกัน   จะว่าผมยังโกรธตั้มอยู่ไหม  ความรู้สึกมันก็ไม่เชิงโกรธหรอกครับ  จะเรียกว่าว่าน้อยใจก็ไม่ได้  เพราะมันไม่ไช่ทั้งหมดของความรู้สึกตอนนั้น 

   ตอนนี้ผมกับเพื่อนๆวอร์มร่างกายที่สนามบาสเกตบอล  ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีตั้มด้วย  เพราะตั้มลง 2 ชนิดกีฬาแต่บาสตั้มขอลงเป็นสำรอง  แต่จริงๆแล้วพี่เอ็มอย่างได้ตั้มเป็นตัวจริงมากกว่า  แต่ตั้มบอกว่าเดี่ยวจะไม่มีแรงเล่นวอลเล่ย์บอล  พี่เอ็มเลยยอมตั้ม   การแข่งขันครึ่งแรกเริ่มโดยพลัดกันรุกและรับคะแนนก็ไม่ได้ห่างกันมากจนจบครึ่งแรก  ผมก็เดินมาพักเหนื่อยที่ม้านั่งผมเห็นตั้มหยิบผ้าเย็นจะเอามาให้ผม  แต่ผมทำเป็นไม่สนใจหันไปบอกพี่เอ็มว่าขอผ้าเย็นหน่อย  มันเหลือบตาไปมองที่ตั้มนิดหนึงเห็นสีหน้าตั้มแล้วก็เกิดสงสารขึ้นมานิดๆ  กำลังจะเรียกให้มานวดให้หน่อย  แต่ตั้มก็เดินออกไปแล้ว  ผมก็เลยเลิกสนใจตั้มเพราะว่าภารกิจหลักกำลังรอผมอยู่   หลังจากวางแผนการเล่นช่วงหลังได้แล้วก็พอดีกับกรรมการเรียกลงสนาม  เกมส์ครึ่งหลังสีของผมแก้เกมส์ได้ดีกว่าฝ่ายตรงข้ามทำให้เราชนะมาแบบสบายๆ  และรอชิงชนะเลิศในช่วงบ่าย  

   ตลอดช่วงพักเที่ยงผมจะเดินหลบหน้าตั้มตลอด  เพราะว่าไม่อยากคุยอะไรด้วยตอนนี้บวกกับว่ายังเหนื่อยอยู่  เดี่ยวจะพาลทะเลาะกันไปใหญ่  จนได้เวลาแข่งผมก็เดินกลับมาที่สนามบาสเช่นเดียวกับตั้มที่จะต้องลงแข่งเช่นกัน  การแข่งขันก็ไม่ได้หนักอะไรมากมายทำให้ทีมผมทำคะแนนนำห่างตั้งแต่เริ่มและสุดท้ายก็ชนะไปอย่างง่ายได้  เมื่อแจข่งจบพี่ๆก็ชวนกันไปเชียร์วอลเล่ย์บอลกัน  เพราะว่าทีมสีของเรากำลังตามอยู่  เมื่อผมไปถึงก็เห็นคุณชายนั่งกับพื้นให้พี่อ้นนวดให้อยู่ 

“พี่เอ็ม  เป็นยังไงบ้าง  แพ้ชนะ” 

“ไอตั้ม  มึงคุยกะกู  หรือคุยกับใครว่ะ”  จะไม่ให้พี่เอ็มบ่นได้ไงครับ  เพราะปากถามพี่เอ็ม  แต่ตามองมาที่ผม

“แหะๆๆ” ตั้มยืนหัวแล้วเอามือเกาหัวตัวเอง

“ชนะวะ” พี่เอ็มบอกกับตั้ม

   หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าตั้มคุยอะไรกับพี่เอ็มต่อ  เพราะผมเดินมาหาเพื่อนๆที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของสนาม  ผมเดินไปนั่งแทรกระหว่างเบียร์กับหนุ่ม แล้วเอาหัวซบไหล่หนุ่มด้วยความเหนื่อย

“เหนื่อยหรอ”  หนุ่มถามผม  พร้อมส่งน้ำให้  แต่ผมส่ายหน้าเพราะไม่อยากดื่ม

“ก็นิดหน่อย  แต่น้อยใจจัง  ไม่มีใครไปเชียร์เราเลย”

“พวกเรารู้ว่ายังไงบาสก็ชนะ  แต่วอลเล่ย์ดิ  ไม่รู้จะออกหัวออกก้อย”  หนุ่มบอกกับผม

“ของีบหน่อยนะ”  ผมบอกกับหนุ่ม  หนุ่มไม่พูดอะไร  แต่จับหัวผมไปนอนหนุนตักมัน

   ผมงีบหลับไปได้สักระยะ  ก็ต้องตกใจตื่นเพราะเสียงเพื่อนๆผม  ร้องกันเสียงดังมาก  ผมเลยลุกขึ้นดูว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็มองไม่เห็นเพราะมีคนมุงดูอยู่เต็มไปหมด  จะถามเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้น  ทุกคนก็วิ่งไปที่สนามกันหมดแล้ว  ผมยืนชะโงกดูอยู่นานว่าเกิดอะไรขึ้น  แล้วสักพักก็เห็นเจษเดินพยุงตั้มออกมา  ตอนนั้นผมบอกไม่ถูกว่าผมรู้สึกยังไงเหมือนกัน  ผมวิ่งไปหาหนุ่มกับเบียร์  จึงได้รู้ว่าตั้มข้อเท้าพลิก  จากนั้นเราสามคนก็เดินไปที่ห้องพยาบาล  เมื่อไปถึงก็เจอเจษนั่งรออยู่หน้าห้องกับเพื่อนคนอื่นๆ

“เข้าไปดิ”  เจษบอกกับผม  ผมเลยเดินเข้าไปในห้องพยาบาล

   เมื่อผมเดินเข้าไปก็เห็นตั้มนอนหลับตาอยู่   อยู่บนเตียงพยาบาลผมเลยลากเก้าอี้ไปนั่งข้างๆเตียง

“หนุ่มมาแล้วหรอ  เดี่ยวแปปนะ  กำลังสบายเลย”  ตั้มพูดขณะที่ยังหลั[ตาอยู่

“.........” 

“เห้ยหนุ่ม  กูว่าไอเอกโครตใจดำเลย  ขนาดกูเจ็บมันยังไม่สนใจกูเลย  แมร่ง ไม่รู้จะโกรธกูไปถึงไหน” 

“........”  ผมเงียบไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี  ผมควรจะโกรธตั้มอีกต่อไปไหม 

“มึงเป็นรัยว่ะ  อมเหรียญบาทอยู่หรอ  ถึงไม่พูดนะ”

“เรา ขอโทษ”  แต่เรื่องนี้ผมก็มีส่วนผิดอยู่ด้วย  ผมเลยขอโทษตั้ม  เพราะว่ามาถึงตอนนี้ผมลองถามตัวเองว่า  ผมโกรธตั้มเพราะอะไร  ทำไมถึงโกรธ  แล้วผมก็พบคำตอบว่า  คงเพราะผมเห็นแก่ตัวคิดอยากให้ตั้มสนใจผมคนเดียว  พอมีคนเข้ามาชอบตั้มผมก็เกิดความคิดว่ากลัวจะไม่รับความสำคัญจากตั้ม  ทั้งๆที่ตั้มก็ทำตัวปกติ  ผมไม่พอใจตั้มเรื่องที่โดนแซว  โดนด่า  โดนล้อ  แต่ทำไมเมื่อก่อนผมทนได้ละ

“เห้ย !!! ไอเอกกกก   โอ๊ยยยยย”  ตั้ม  ร้องออกมา  พร้อมกับเด้งตัวขึ้นมานั่ง  แต่สงสัยจะลืมตัวว่าเจ็บเท้าอยู่

“เห้ย  เจ็บมากป่าว”  ผมลุกขึ้นจะไปจับดูที่ข้อเท้าว่าเป็นอะไรมากไหม  แต่ตั้มก็ชักเท้ากลับ

“เป็นห่วงกูด้วยหรอ  ยังสนใจอยู่อีกหรอ  ว่ากูจะเป็นจะตายยังงัย”

“เราขอโทษ  ให้เราทำไรก็ยอม”  ผมกลัวว่าตั้มจะเกลียดผม  เลยทำให้ผมพูดแบบนั้นออกไป

“............”  แล้วตั้มก็นั่งหันหลังให้ผม  ไม่พูดอะไรออกมา

“เราขอโทษ ที่เราไม่ยอมคุยกับนายดีๆ”  ผมเริ่มน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

“หิวแล้ว ไปหารัยกินกัน”  ผมมองตั้มอย่างงงๆ  ว่าตั้มพูดอะไร  แต่พอเอากลับมาคิดดีๆ  เวลาตั้มโกรธใครแล้วพอหายโกรธ  ตั้มจะใช้วิธีเปลี่ยนเรื่องคุยทันที

“อือป่ะ  เดี่ยวมื้อนี้เราเลี้ยงเอง” ผมพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตากับแขนเสื้อ

“อืม” 

              จากนั้นเราสองคนก็เดินออกจากห้องพยาบาล  เมื่ออกมาเพื่อนๆผมก็มองหน้าผมว่าเกิดอะไรขึ้น  คงเห็นว่าผมตาแดงๆ  แต่ก็ไม่มีใครถามอะไร  แล้วเบียร์บอกว่าเดี่ยว  ตอนเย็นเดี่ยวพี่เค้าจะพาไปเลี้ยงหมูกระทะ  ผมก็ไม่ได้รับปากว่าจะไป  แต่โดนลูกตื้อของตั้มผมก็เลยยอมไป  จากนั้นผมก็พยุงตั้มไปที่โรงอาหารต่อ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 11-03-2009 12:22:12
^
^
^

ไมมันจบไม่สมบูรณ์อ่ะ  มาแก้ด่วน

 :m16: :m16: :m16:

ทำเป็นอวดเก่ง  เป็นไงล่ะ

 :laugh: :laugh: :laugh:

แล้วทีหลังก็ไม่ต้องลงให้ยาวนะ 

ขยันพิมพ์  แต่ไม่ขยันอัพ  มันก็เท่านั้น
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 11-03-2009 12:23:20
รอตอนต่อไปนะครับ

มาลงไวๆๆนะครับถ้ามีเวลาอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 11-03-2009 14:09:04
พี่เอกค่ะ ไม่ต้องสนใจไอคุณพี่ตั้มที่ด่าได้โล่ ด่าหมิวซะเสียเลย อิอิ

เด๋วพี่เอกก้เก่งเอง ฮ่าๆ

สู้ๆเน้

ปล. รักพี่เอก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 11-03-2009 14:28:15
 :man1:

พี่เอกอย่าไปสนใจพี่ตั้มเลย

พวกเรารออ่านอยู่  :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 11-03-2009 17:41:25
นายตั้ม นี่ ตามมากัดตลอดเลยนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 11-03-2009 17:51:36
พี่เอกเคอะ

ไม่ต้องสนใจ อิพี่ตั้มหรอกค่ะ

อัพ แต่พิมยาวๆ

ก็โอเคคุ้มกันอยุ่

อิอิ

รอได้จ้า

พี่ตั้มม แล้วมะไหร่จะไปต่อของตัวเอง ห๊ะ!!! ...
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 11-03-2009 20:05:01
^
^
^

ไมมันจบไม่สมบูรณ์อ่ะ  มาแก้ด่วน

 :m16: :m16: :m16:

ทำเป็นอวดเก่ง  เป็นไงล่ะ

 :laugh: :laugh: :laugh:

แล้วทีหลังก็ไม่ต้องลงให้ยาวนะ 

ขยันพิมพ์  แต่ไม่ขยันอัพ  มันก็เท่านั้น

ระวังเรทติ้งตกนะ  ตั้ม   :laugh: :laugh: :laugh:

 :beat: :beat: :beat:  อย่างนี้ต้องสั่งสอน

ให้กำลังใจ เอกต่อไป  อย่างไปสนใจ เสียงนกเสียงกาเลย

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 11-03-2009 20:30:47
มา  :กอด1: น้องเอกจ้ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 11-03-2009 22:25:11
ไปเมนท์ทางนู้นแล้ว แวะมาเมนต์ทู้นี้บ้าง  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: my honey ที่ 11-03-2009 23:15:03
^
^
^

ไมมันจบไม่สมบูรณ์อ่ะ  มาแก้ด่วน

 :m16: :m16: :m16:

ทำเป็นอวดเก่ง  เป็นไงล่ะ

 :laugh: :laugh: :laugh:

แล้วทีหลังก็ไม่ต้องลงให้ยาวนะ 

ขยันพิมพ์  แต่ไม่ขยันอัพ  มันก็เท่านั้น


 o12 มาว่าพี่เอกเค้า..(ล้อเล่นของพี่ตั้มนั่นแหละ :m23:)ว่าแต่พี่เอกไปอัพของตัวเองเลยพี่ตั้ม


+1ให้พี่เอกเร้ยยยยย :L2: :L2:


น่ารักก้อน่ารัก    อัพก้อยาว   อย่างงี้รักตายเร้ย :m3:


แร้วมาต่อเร็วๆน๊า :กอด1:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: amito ที่ 12-03-2009 03:47:37
มารายงานตัวให้ทราบว่ามาตามอ่านแล้วนะคะ

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 12-03-2009 03:58:20
มาอ่านทู้นี้ต่อแล้ว

อ่านแล้ว รักเอก เชียร์เอก เป็นกำลังใจให้เอก  :กอด1:

บวก 1 ให้เอกด้วยจ๊ะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 12-03-2009 07:10:20
 :z1:เจอกันอีกแล้ว พี่น้ำตาล  พลุนแล้วมั่ง  55555.....

นายตั้ม อย่าพาล เห็นเรทติ้ง ทู้นี้กำลังแรง เลยอิจฉา

น้องเอก อย่าไปสน อัพเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เก่งเอง +1 เป็นกำลังใจ ให้ครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part I
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 12-03-2009 11:38:50
ตอนที่ 4  คลี่คลาย Part II

“กินไรดี”  ผมถามตั้ม

“เอาตำไทไม่ใส่ปู  ไก้ย่างเอาเนื้อสะโพกนะ  แล้วก็ลูกชิ้นย่างเอาหมูนะไม่เอาเนื้อ  ฯลฯ”

   เมื่อได้รายการแล้วผมก็เดินไปซื้อของตามคำสั่ง  แต่ก็มีลืมบ้างก็ต้องเดินกลับมาถามใหม่ถึงสองสามรอบ  แต่ก็ต้องยอมละครับ  เอาใจซ่ะหน่อย 

“ทำไมมึงไม่ยอมคุยกับกูดีๆว่ะ”  อยู่ๆตั้มก็ถามผม

“ตอนแรกเรานึกว่านายจะโกรธเรา  เราเลยขออยู่ห่างๆนาย  เผื่อนายจะได้สบายใจ” 

“กูก็ไม่ได้โกรธไรมึงนิ   แต่ก็มีบ้าง”

“อือ  แต่ตอนที่เราทะเลาะกันที่สนามบาส  เราโกรธนายมากเลย”

“ทำไม”

“เราไม่คิดว่านายจะชกเรา  เราทั้งโกรธ  ทั้งเสียใจ”

“เอก  มึงจำไว้นะ  ตอนนั้นกูก็แค่น้อยใจมึง  แต่กูไม่เคยคิดที่จะทำร้ายมึงเลยนะ  มึงคือเพื่อนที่กูรัก” 

   แล้วก็คุยกันไปเรื่อยๆ   จนเพื่อนๆผมมาตาม  แล้วเรากพากันไปที่ร้านหมูกะทะที่พี่ๆนัดไว้  เมื่อไปถึงร้านหนุ่มก็มากระซิบบอกว่าให้ผมขึ้นไปร้องเพลง  ตอนแรกก็ไม่กล้าไปหรอกครับ  แต่สุดท้ายผมก็ขึ้นไป

“สวัสดีครับ  วันนี้ผมขอเป็นนักร้องจำเป็นสักวันนะครับ  ผมขอมอบเพลงนี้ให้กับคนที่คนที่ผมแอบชอบ  และมอบให้เพื่อนๆ พี่ชาวสีเขียวทุกคนนะครับ”   เมื่อพูดจบผมก็ได้รับเสียงตรบมือเกรียวกราว  ผมหันไปบอกพี่ที่นั่งคุมเครื่องว่าผมจะร้องเพลงคนแรก  ของพี่เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์

   ที่ผมเลือกที่จะร้องเพลงนี้ส่วนหนึ่งมาจากความชอบส่วนหนึ่ง  ผมมักจะฟังเพลงนี้เป็นเพลงแรกทุกครั้งที่เปิดเพลงฟัง  อาจจะเป็นเพลงประจำชาติผมไปแล้วก็ได้  และอีกส่วนหนึ่งที่ร้องเพลงนี้เพื่อจะบอกคนที่ผมแอบชอบอยู่ว่า  เขาคือคนแรกที่ผมชอบ  และจะเป็นคนเดียวตลอดไป  ตลอดเวลาที่ร้องเพลงผมจะมองไปยังที่โต๊ะผมแต่จะว่าไปจุดเดียวที่ผมมองก็คือไอตี๋น่ารักที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นนั่นเอง  แต่ก็มีบ้างที่มองไปทางอื่นพื่อจะไม่ให้มีคนสงสัยในตัวผม

   เมื่อผมร้องจบผมก็เกิดนึกอยากจะแกล้งไอตี๋ขึ้นมาทันที  ผมเลยพูดออกไมค์เชิญตั้มขึ้นมาร้องเพลง  แล้วก็ได้เสียงปรบมือสนันสนุนจากเพื่อนๆพี่ๆ  เลยทให้ตั้มต้องเดินเขย่งๆขึ้นมาร้องเพลง  ผมเลยเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ  ตลอดทางเดินผมก็ต้องตอบคำถามพี่ๆหลายคำถามมากไม่ว่าจะ

- น้องเอกร้องให้ใครครับ
- น้องเอกแอบชอบใคร
- ฯลฯ

   ผมก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง  จนผมกลับมาถึงโต๊ะ  ผมก็โดนเพื่อนแซวจนทำอะไรไม่ถูก  แต่ผมไม่ได้หันไปมองตั้มนะครับ  เพราะผมนั่งหันหลังให้เวลที  แต่ผมขอโมเมเอาเองแล้วกันว่าเพลงที่ตั้มร้องนั้น  ตั้มร้องให้ผม  ผมก็นั่งกินไปฟังเพลงไป  แล้วนั่งอมยิ้มไปคนเดียว  จนตั้มร้องจบ

“โอ๊ยยยย  ตบหัวเราทำไม”  ผมลูบหัวตัวเองแล้วหันไปดูตั้ม  ก็รู้แล้วละครับ  ว่าตั้มตบผมทำไม  แต่ก็แกล้งน้อยใจนิดหน่อยพอเป็นพิธี

“ไม่มีไร  แค่อยากตบ  อ่ะไก่หมดแล้ว  ไปตักให้หน่อย”  ตั้มพูดหน้าตาแล้วทำหน้าตาใสซื่อเหมือนไม่มีอะไร  แล้วส่งจานให้ผม  แต่ผมไม่รับ

“อยากกินก็ไปตักเอง”  ผมยังแอบน้อยใจ  จริงๆก็จะไปตักให้ตั้งแต่เห็นว่าหมดแล้วละครับ  เพราะตั้มชอบกินไก่มาก แต่ต้องเล่นตัวนิดนึง

“เออ เดี่ยวกูเดินเป็นไอเป๋  ไปตักเองก็ได้  แมร่งแค่นี้ก็ไม่ได้”  ตั้มก็บ่นไปเรื่อยตามแบบฉบับ  คุณชายโดนขัดใจ

   ผมก็รอดูท่าทีว่าคุณชายตั้มจะทำยังไง  แต่ถ้าผมเดาไม่ผิด  คุณชายจะหยุดกินทุกอย่างทันทีไม่แตะต้องอะไรทั้งสิ้น  และมันก็เป็นไปตามที่ผมคาดเดาเอาไว้  เพราะตั้มโดนที่บ้านตามใจตลอด  จะว่าไงได้ละครับ  เป็นลูกชายคนโตและเป็นหลานชายคนโตของที่บ้าน  ก็เลยโดนโอ๋มาตั้งแต่เด็ก  แล้วไอนิสัยเอาแต่ใจตัวเองเนี๊ยไม่มีใครเกินได้สักคน  พอไม่ได้ดั่งใจก็จะนิ่งเงียบไม่พูดไม่จากับใคร  แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆ  ก็จะอาละวาดจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้  ผมก็เลยต้องทำตามที่คุณชายต้องการ  เพราะกลัวว่าร้านเขาจะพัง    เมื่อผมเดินกลับมาหลังจากได้ไก่ตามที่คุณชายต้องการแล้ว  ผมก็โดนบุ้งเรียกก่อนจะเดินไปถึงโต๊ะ  ผมก็เลยต้องหยุดคุยด้วยก่อน

“เอก  ผู้หญิงมีตั้งเยอะทำไมไม่ไปชอบ”  บุ้งมองหน้าผมแบบเหยียดๆ  ก่อนจะพูดออกมา

“บุ้งพูดอะไร  เอกงง”   ผมยังไม่เข้าใจกับคำพูดของบุ้งครับ

“แกคิดจะทำอะไรก็น่าจะรู้ตัวดี  อย่ามาทำเป็นใสซื่อ”  บุ้งพูดเสียงดังขึ้น  ทำให้คนอื่นๆ  ที่โต๊ะหันมามองผม  แต่คนอื่นที่ว่าก็คือ  นุ่น โม เปิ้ล  และเพื่อนคนอื่นๆ อีก 2 คน

“บุ้งหมายความว่าไงพูดมาตรงๆเลยดีกว่า”

   แต่บุ้งก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา  หันหน้ากลับไปที่โต๊ะแล้วคุยกับเพื่อนๆต่อ  ผมก็เลยหันหลังกลับแล้วเดินออกมาอย่างเหม่อๆ งงๆ กับคำพูดของบุ้ง  แล้วผมก็ต้องตื่นจากพวังเพราะ  จานที่ผมถือมานั้นไปชนเข้ากับคน  แล้วพอผมก้มลงไปดู  ก็พบว่าจานตอนนี้เหลือแต่ความว่างเปล่า  แล้วเนื้อไก่ หมู กุ้ง  ก็ทำการย้ยสำมะโนครัวไปอยู่ตามตัวของตั้มเรียบร้อยแล้ว   ตอนแรกตั้มก็บ่นไปตามเรื่องตามราว  ผมก็ยังไม่ได้ฟังอะไร  เพราะคำพูดของบุ้งมันยังคอยกวนใจผมอยู่ตลอดเวลา  ผมพาตั้มไปล้างเนื้อล้างตัว  แล้วเดินออกมาที่โต๊ะกัน  ตั้มขอให้เบียร์ไปส่งที่บ้าน  ผมเลยต้องตามตั้มกลับบ้านด้วยเช่นกัน

   เมื่อมาถึงบ้านผมกับตั้มก็เดินไปนั่งคุยกับพ่อแม่ตั้มกันที่ห้องนั่งเล่น  ผมมาบ้านตั้มหลายครั้งแล้วครับ  เลยทำให้ผมค่อนข้างสนิทกับครอบครัวของตั้มเป็นพิเศษ  พ่อตั้มเป็นคนใจดี  พูดจามีหลักการ  มีเหตุผลซึ่งตรงข้ามกับลูกชายเลยทีเดียว  ส่วนแม่ท่านเป็นคนน่ารักครับ แต่มักจะโดนตั้มแกล้งตลอดผมชอบดูเวลาตั้มกับแม่ทะเลาะกัน  เพราะดูๆไปก็น่ารักดีครับแม่ลูกคู่นี้  มักจะมีคำพูดจาประชดใส่กันบ้าง  งอนใส่กันบ้าง  และแม่ก็มักจะแกล้งตั้มโดยเอาผมเป็นเครื่องมือในการแกล้ง  ผมคุยกับพวกท่านได้สักพักก็โดนไล่ให้ไปอาบน้ำอาบท่านอน

“มึงร้องเพลงให้ใคร  บอกมาเลย  อย่าช้า”  ตั้มถามผมทันทีที่เราเข้ามาในห้อง

“ป่าว  แค่อยากจะร้อง”  เมื่อพูดจบผมก็เดินไปเปิดเพลงฟัง  มันก็คือเพลงที่ผมร้องวันนี้นั้นแหละครับ

“เห็นมึงประกาศซะขนาดนั้น  อย่ามาๆ”  ตั้มยืนชี้หน้าผมที่หน้าห้องน้ำ

“สักวันเราจะบอกนาย  แล้ววันนั้นนายจะได้รู้”  จริงๆแล้วผมไม่กล้าบอกตั้มมากกว่า  ทั้งที่ใจจริงแล้ว  อยากบอกซะแทบขาดใจ  แต่อีกใจก็กลัวคำตอบ  กลัวความสัมพันธ์ของเราสองคนจะเปลี่ยนไป  ถ้าถึงวันนั้นผมคงทนไม่ได้

“อ่ะ  มึงไปอาบก่อนนะ  เด่วกูเก็บของแล้วจะจัดที่นอนให้”  ผมยื่นมือไปรับผ้าเช็ดตัวจากตั้ม  แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ

“เสร็จแล้ว  ไปอาบดิ” ผมพูดขึ้นหลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำ  แล้วเดินเข้าไปประคองตั้ม

“ไม่ต้องเดินเองได้”

“อวดเก่ง ถ้าเกิดล้มขึ้นมาทำไง  แม่นายฝากให้เราดูแล  เดี่ยวนายเป็นรัยขึ้นมา  เราก็ซวยดิ”  ถึงแม่ไม่ฝากบอกผม  ผมก็ตั้งใจที่จะทำอยู่แล้ว

“เอ๊าออกไปดิ คนจะอาบน้ำ” 

“ไม่เป็นรัย  จะอยู่เป็นเพื่อนเดี่ยวเกิดลื่นให้ห้องน้ำมาจะทำไง”  ตอนนั้นสาบานให้ตายก็ได้  ผมไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆครับ  แค่กลัวว่าตั้มจะลื่นหกล้มเท่านั้นเอง

“ไม่เป็นรัย  กูโตแล้ว กูดูแลตัวเองได้”

“อวดเก่งอีกแล้ว  เป็นห่วงนะเนี๊ย  ถ้าไม่ห่วงคงไม่มาเฝ้าหรอก” 

“บอกว่าไม่เป็นรัยก็ไม่เป็นรัยดิ”  ตั้มพูดขึ้นพร้อมกับดันตัวผมให้ออกจากห้องน้ำ 

 “โอ๊ย !!!”  ผมหันไปดูว่าตั้มร้องทำไม

“เห้ย  เป็นรัย  เจ็บป่าว  เป็นงัยละ  อวดเก่งจนได้เรื่อง  หยุด !!!!   ไม่ต้องพูดเลย  อาบไป  ถ้าอายก็อาบทั้งกางเกงในนั้นแหละ  อ่ะโด่ด้วงกวางของนายนะ  ต้องใช่กล้องจุลทรรศน์ถึงจะมองเห็น  ได้มาไม่เยอะแล้วยังจะมาทำอาย”   ผมเห็นว่าตั้มกำลังจะอ้อปากพูด  ผมเลยสวดยาวไม่เปิดโอกาสให้ตั้มได้พูด

“เชี่ย ถ้าของกูด้วงกวาง   ของมึงก็หนอนชาเขียวซิว่ะ 555  แล้วก็ต้องใช้กล้องส่องทางไกลถึงจะมองเห็นใช้ป่ะ”  ตั้มยังมีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงกับผม  แต่ผมก็ต้องขอยอมแพ้  เพราะถ้าเรื่องลับฝีปากแล้วไม่มีใครเกินคุณชายได้เลย

“เออ  ไม่เถียงด้วยแล้ว  อาบไปเลยไม่ต้องพูดมาก” 

“เป็นรัยหน้าแดงเลย  ไม่สบายป่าว” 

“ป่าวไม่ได้เป็นรัยหรอก”  จะให้บอกได้ยังไง  ว่าผมเขิน  ผมเลยเดินออกจากห้องไปเลย  ว่าจะไปซื้อยามาทาให้ตั้มหน่อย  เพราะถ้าไม่ได้นวดยาเลย  เดี่ยวจะบวมไปกันใหญ่

“อ้าวว  โกรธรัยกูอีกว่ะ” 

“ไปไหนมาหรอ  โกรธรัยเราหรือเปล่า”  ตั้มถามผมเสียงอ่อยๆ  ทำหน้าตาน่าสงสารมาก

“เปล่า  ไปซื้อยามา  ทำไม  เดี่ยวนี้แคร์ความรู้สึกคนอื่นเป็นแล้วหรอ”  ผมก็แค่แปลกใจนิดหน่อย  เพราะปกติ  ตั้มจะเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรรอบตัวสักเท่าไหร่  ไม่สนใจว่าใครจะเป็นอะไร  ทำอะไร  รู้สึกยังไง

“เออ  ทำไมเมื่อก่อนกูเป็นคนแบบนั้นจริงหรอ”

“แบบไหน”

“แบบที่มึงเคยด่ากูไง  ว่ากูจะทำอะไรก็ทำ  ใครจะเป็นจะตายไม่เคยสนใจอ่ะ” 

“อือ  เมื่อก่อนนายเป็นคนแบบนั้น  นายไม่สนใจความรู้สึกของคนรอบข้างเลยว่าเค้าจะเป็นยังงัย  รู้สึกยังงัยกับการกระทำของนาย” 

“แล้วต่อไปกูต้องทำตัวยังงัย”

“นายก็ต้องคิดก่อนจะทำอะไร  ง่ายๆนะ  นายลองนึกว่านายอยากให้คนนั้นปฏิบัติกับนายยังงัย  นายก็ทำแบบนั้นกับคนนั้น  ปรับเปลี่ยนความคิดตัวเองซะใหม่ เลิกเอาแต่ใจ  เลิกใช้ตัวเองเป็นที่ตั้ง  และสุดท้ายเลิกใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา”

“อืม  จะพยายามนะ  ขอบใจมาก” 

“อ่ะมา เดี่ยวนวดข้อเท้าให้” 

“แล้วไปซื้อยาที่ไหนมาหรอ” 

“คลีนิค  หน้า รพ.”

“แล้วไปถูกหรอ” 

“เมื่อกี้เราถามแม่นะ  ว่าจะไปซื้อยาต้องไปซื้อที่ไหน  แล้วไปยังงัย” 

   หลังจากนั้นผมก็จัดการลากที่นอนออกมาจากใต้เตียงของตั้ม  มันจะเป็นฟูกปูนอนสำหรับคนเดียวอ่ะครับ  แล้วอยู่ดีๆตั้มก็ลงมานอนด้วย  ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ  ดีซะอีกเราจะได้นอนคุยกัน  หลังจากไม่ได้คุยกันมานาน  แต่ด้วยความที่วันนี้เราสองคนใช้แรงกับการเล่นกีฬามากไปหน่อย  เลยทำให้เราหลับเร็วกว่าปกติ 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 12-03-2009 11:54:10
  :z13:  น้องเอก

เห็นถึงความน่ารักของน้องเอก ที่มีต่อคุณชายแล้ว ต้อง +1 ให้อีก 

เพราะมาแฉด้านมืดของคุณชาย ได้  o13
 :L2: :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: Ploy-Tawan ที่ 12-03-2009 12:09:31
อ่านของตั้มแล้วมาอ่านของเอก

ทำให้เข้าใจจิตใจของแต่ละฝ่ายมากขึ้น

ดูเป็นคนอ่อนไหวทั้งคู่เนอะ

ตั้มก็น่ารัก เอกก็น่ารัก

สรุป...รักทั้งคู่นะ :กอด1:

หนึ่งในไม่กี่คนที่จะรัก  เมื่อรักแล้ว  ขอให้รักกันตลอดไป...
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 12-03-2009 12:31:37
 :กอด1: พี่เอกหน่อย น่ารัก น่ากอดจิงๆ เขินๆจัง อิอิ  :impress3:





หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 12-03-2009 12:44:04
ขอบคุณนะครับที่ มาต่อหั้ยไวๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 12-03-2009 13:29:32
น่าล๊าก  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 12-03-2009 19:59:54
แล้วก็เข้าใจกัน :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 12-03-2009 20:25:23
พี่เอกน่าร๊ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 13-03-2009 00:51:53
อ่า เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว โล่งๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 13-03-2009 01:15:51
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 13-03-2009 14:15:30
รอๆๆอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 14-03-2009 03:03:38
บวก 1 ให้กับความน่ารักของน้องเอก
ตั้มเห็นปะ น้องเอกดูแลคนเจ็บอย่างดีเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 14-03-2009 14:38:21
ไม่เห้นมาเลยครับ

รอๆๆอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 14-03-2009 16:27:05
 :L2: :L2: :L2:
มาเป็นกำลังใจให้เอกคราบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 14-03-2009 16:30:20
น่ารักดีครับ เอก
ทำไงได้...เอกรักตั้ม เข้าไปแล้วนี่น่ะ
ก็ต้องดูแล รักษา(นิสัย)ไอ่คุงตั้มต่อปายยยยยยย
เหอะเหอะ   o18

 :L2:ขอบคุณครับ เอก :L2: ถ้าว่างแล้วมาเล่าเรื่องต่อนะ +1ให้กับ 2 ตอนล่าสุด
ป้อล่อ...ฝาก :seng2ped:ให้เจ้าตั้ม ข้ามกระทู้ หุหุ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 4 คลี่คลาย Part II
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 15-03-2009 17:57:01
มาช่วยน้องเอกดัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 15-03-2009 18:46:54
ตอนที่ 5  คุณชายป่วย


“สวัสดีครับ”  ผมรับโทรศัพท์

“เออ เอกหรอ  กูเอง”  แค่เสียงผมก็จำได้แล้วละครับว่าใคร  แต่ยังไม่มีอารมณ์จะคุยด้วย เลยตอบกลับไปสั้น

“อือ”

“เดี่ยวกูไปถึงนครเย็นๆนะ  มึงมารับกูด้วย” 

“ทำไม”

“กูจะไปเที่ยวบ้านมึง”

“อือๆ”   แล้วผมก็กดวางไปเลย

   ผมเดินไปบอกพ่อว่าตั้มจะกลับมาจากค่ายลูกเสื้อแห่งชาติวันนี้  มาถึงประมาณเย็นๆ  แล้วให้ไปรับที่ รร.  พ่อผมเลยไปแต่งตัว  ส่วนผมนั่งรอข้างล่าง  ก่อนไปตั้มสัญญาว่าจะโทรมาหาผมทุกวัน  แต่ก็ไม่มีสักวันเลยที่จะโทรมา  พอคิดแล้วมันก็น้อยใจ  พาลไม่อยากเห็นหน้า  ทั้งที่คิดถึงมาก 

   ผมกับพ่อมาถึง รร.ก่อนตั้มเล็กน้อย  ตอนแรกว่าจะวิ่งไปช่วยถือของแต่คิดอีกที  ไม่เอาดีกว่า  แล้วสักพักก็เห็นตั้มเดินลงรถมาแต่หยุดคุยกับพี่บาสสักพักก็เดินมาที่ผมกับพ่อ  มาถึงตั้มก็ทักทายพ่อ  ส่วนผมนั้นแยกออกมาหานุ่น  เพราะแม่นุ่นฝากให้รับนุ่นกลับมาด้วย 

“นุ่น  นุ่น”  ผมยืนเรียกนุ่น  จากทางหน้าต่าง  เพราะเห็นนุ่นยังนั่งเก็บของอยู่

“อ้าว   ว่าไงเอก  มาได้ไง” 

“มากับพ่อ  มารับตั้ม  ไปกลับด้วยกัน”

“เออ  ดีๆ  เดี่ยวโมไปด้วย  มันจะไปเที่ยวบ้านเรา”

“อือ  ส่งกะเป๋ามา  เดี่ยวเราช่วยถือ”

   แล้วผม นุ่นและโม  ก็เดินไปที่รถ  เพื่อจะเอากระเป๋าไปเก็บแล้วเดินไปที่พ่อ   พ่อผมบอกว่าจะพาไปกินข้าวกันก่อน  ไอคุณชายก็บอกว่าอยากกินสุกี้  พ่อผมก็พาทันทีตามใจอย่างกับเป็นลูกตัวเอง 

“อ่ะ ของฝาก”  อยู่ดีๆ  ตั้มก็ยื่นถุงขนมมาให้ผม  แต่ผมนิ่งเงียบ  ไม่อยากรับ  ผมแค่อยากทำให้ตั้มรู้ว่าผมไม่พอใจ  แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รับรู้อะไรเลย

“รับๆไปดิ  เมื่อยมือแล้วนะ”  ผมยังนิ่งอยู่

“จะเอาไม่เอา  คนอุตสาห์ซื้อมาฝาก  ขอบคุณสักคำก็ไม่มี  แล้วยังจะไม่มารับของคนอื่นเค้าอีก”  ตั้มพูดเสียงดังจนพ่อ  ต้องหันมาดูผม  ทำให้ผมไม่กล้าเล่นตัวมาก 

“เอามาดิ”  แล้วผมก็ยืนมือไปรับขนม  เมื่อเอามาแกะดู  ผมก็พบว่าขนมที่ตั้มซื้อมากฝากล้วนแต่เป็นของที่ผมชอบทั้งสิ้น  ผมไม่คิดว่าตั้มจะจำได้ว่าผมชอบอะไร  มันทำให้ผมรู้สึกดี  จนเผลอยิ้มออกมา

..................................................................................
..................................................................................
..................................................................................

   เมื่อมาถึงร้านคุณชายตั้มก็เอาแต่สั่งไม่เหมือนกับสองสาวที่นั่งเงียบไม่ปริปาก  โดยเฉพาะโมที่สงบเงี่ยมเจียตัวสุดๆ  ซึ่งต่างกับตัวจริงที่เป็นสาวมั่น  พูดจาเสียงดังไม่อายใคร  สงสัยจะเกร็งๆพ่อผม  จนพ่อผมเดินออกไปซื้อของโมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่   แล้วตั้มก็ถามว่าผมเป็นอะไร  แต่ผมก็ไม่ตอบอะไรไป  จนตั้มรำคาญไม่พูดอะไรออกมาเอาแต่กินอย่างเดียว  แล้วอยู่ดีๆโมก็พูดออกมาจนทำให้ผมกับตั้มเกือบจะสำลักลูกชิ้นเกือบติดคอตาย

“พวกมึงสองคนงอนกันเหมือนแฟนเลยว่ะ”

“เชี่ยดิมึง อย่าพูดแบบนี้อีกนะ กูกะมันไม่มีไรกัน” ตั้มพูดออกมา  แต่เสียงดังไปไกลเกือบไมล์ได้  จนโต๊ะข้างๆ  หันมาดู

“เอกเป็นรัย  หน้าแดงเลยหรอ โมมันแกล้งอำเองอย่าคิดมากนะ”  ผมหันไปดูหน้าโม  แต่ผมว่าโมมันไม่ได้แกล้งหรอกครับ  เหมือนโมจะดูออกว่าผมชอบตั้มจริงๆ

“เออ....เรา   เราไม่เป็นรัย  แค่ไอน้ำในหม้อต้มมันเข้าหน้านะ  มันเลยทำให้หน้าเราแดง”  ผมไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวว่ายังไงดี  เพราะผมเองยังรู้สึกได้เลยว่าเลือดภายในตัวมันสูบฉีดขึ้นมาบนหน้าผมอย่างแรง

“เห้ย  หรือว่ามึงชอบไอตั้มว่ะ”  โมยังแกล้วผมต่อ  แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป  เพราะยิ่งพูดมันก็ยิ่งเหมือนแก้ตัว

“เชี่ยอีกแล้วนะมึง  แซวมันอยู่ได้ จะแดกอีกไหมเนี๊ย”  ตั้มพูดออกมาอีกครั้ง  โมจึงหยุดที่จะแซวผม

   ตั้มกับโมก็นั่งเถียงกันไปเถียงกันมาจนพ่อผมเดินกลับมานั้นแหละครับถึงจะหยุดเถียงกัน  เมื่อพวกเราทานกันสักพักก็ได้เวลากลับบ้าน  แต่ระหว่างทางที่จะกลับไปที่รถพี่บาสก็เดินเข้ามาทักพวกผม  แล้วพี่บาสก็ขอไปเที่ยวด้วย  ส่วนตัวผมนั้นไม่ได้ติดขัดอะไรอยู่แล้ว เมื่อกลับไปถึงบ้านแม่ผมก็เดินออกมารับลูกชายคนใหม่  ซึ่งคุณชายเองเมื่อเห็นแม่ผมก็ถึงกับโยนกะเป๋าทิ้งแล้ววิ่งไปหาแม่ผม  ผมได้แต่คิดในใจว่า  มันจะคิดถึงอะไรกันขนาดนั้น  จากนั้นพวกผมก็ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำกัน

“มึงจะไม่คุยกับกูเลยใช่ไหม  กูไปทำรัยให้มึงไม่พอใจป่าววะ หรือว่ามึงอึดอัดที่กูจะมานอนด้วย เดี่ยวกูไปนอนที่รีสอร์ท...ก็ได้นะ  เพื่อความสบายใจ”  ตั้มพูดขึ้นหลังจากพี่บาสเดินเข้าไปในห้องน้ำ  แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูเหมือนจะแฝงไปด้วยความน้อยใจ

“ป่าว  เราแค่น้อยใจ  นายหายไปตั้ง 5 วัน  แล้วไม่ติดต่อมาเลย  เราเหงา  เราไม่รู้จะคุยกับใคร  เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม  เราโทรคุยกับ ไอหนุ่ม ไอเบียร์ ไอเจษ พอวางสายปุ๊ปเราก็ยังเหงาอยู่ดี”  ผมพูดไปแล้วน้ำตามันพาลจะไหล  จะไม่ให้ผมเหงาได้นังไงกันละครับ  เพรทุกคืนก่อนนอนเราจะโทรคุยกันแทบทุกวัน  แล้วเวลาอยู่โรงเรียนเห็นผมอยู่ตรงไหนก็มักจะเห็นตั้มอยู่ตรงนั้น  แล้วอยู่ดีๆวันหนึ่งตั้มก็มาขาดการติดต่อไปเลย

   เมื่อพูดจบตั้มอึ้งไปนิดนึง  ก่อนจะกวักมือผมให้เดินไปหา  ผมก็เดินไปตามที่ตั้มสั่ง  แล้วตั้มก็ดึงผมเข้าไปกอด ทีนี้น้ำตาผมไม่รู้มาจากไหนเพราะมันไหลออกมาอย่างมากมาย  ตั้มยกมือเช็ดน้ำตาให้ผม  ใครหลายคนมักจะคิดว่าตั้มเป็นคนนิสัยแย่  เห็นแก่ตัว  ไม่สนใจจิตใจคนรอบข้าง  เป็นพวกหัวแข็ง เผด็จการ  หรืออะไรอีกมากมาย  แต่คนเหล่านั้นไม่เคยสัมผัสอีกมุมของตั้ม  มันเป็นมุมที่ทำให้ผมชอบคนๆนี้  ตั้มมักจะเป็นห่วงเป็นใยผม  มักจะคอยดูแลผม  เมื่อจะทำอะไรตั้มมักจะให้ผมเป็นคนตัดสินใจ  ตั้มมักจะอ่อนโยนกับผมเสมอเมื่อเราอยู่ด้วยกันสองคน

   ผมกับตั้มเราต้องแยกออกจากกันเพราะพี่บาสเดินออกมาจากห้องน้ำ  พี่บาสมองเราสองคนแต่ไม่ได้พูดอะไรแล้วหันกลับไปแต่งตัว  จากนั้นเราสามคนก็ลงไปข้างล่างเพราะนัดนุ่นกับโมว่าจะไปนั่งร้านน้ำชาหน้าปากซอยกัน เมื่อไปถึงทุกคนก็ต่างสั่งรายการของตนเองแต่เมื่อถึงตอนตั้มสั่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องมองหน้าผมกับตั้มแปลกๆ

“กูเอากาแฟร้อน  ส่วนของเอก  เอานมร้อนนะ จะได้หลับบายๆ  แล้วก็เอาขนมปังอบ  กับขนมปังแยม  เอกกินแยมไร  เอาสตรอฯ ดีกว่า  เราอยากกิน”  ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร  แค่ดีใจที่ตั้มจำในสิ่งที่ผมชอบกินได้  และปรกติเวลาเราไปกินอะไรกันตั้มก็จะเป็นคนสั่งอาหารให้ผมแทบทุกครั้ง

“มีไรหรอพวกมึง  สงสัยไรดูทำหน้าเข้า พี่บาสด้วย  สงสัยติดเชื่อบ้าไอโมแน่เลย”  ตั้มพูดขึ้นมาอีกครั้ง  หลังจากเงยหน้าขึ้นมาพบว่า  พี่บาส โม นุ่น  จ้องหน้าผมกับตั้มสลับกัน

   หลังจากนั้นเราก็คุยกันไปกินกันไปเรื่อยๆ  จนอิ่มก็จัดการจ่ายเงินแล้วเดินกลับบ้าน  ผมหันมาเดินคู่กับนุ่น  เพราะตั้มบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับโม  พวกเราเดินกันมาเรื่อยๆจนถึงบ้าน  ผมก็เลยบอกตั้มว่าให้เข้าบ้านไปก่อน  เดี่ยวจะเดินไปส่งนุ่นกับโมที่บ้าน

“เอก  แกชอบไอตั้มใช่ไหม”  โมเดินมาหยุดตรงหน้าผม  แล้วเอามือชี้ที่หน้า

“ใครบอก”

“แล้วมันจริงไหม” 

“ก็แล้วไง”

“แล้วแกคิดว่าพี่บาสชอบมันป่ะ”

“ไม่รู้ดิ น่าจะชอบมั้ง  ไม่รู้เหมือนกัน โมถามทำไม”

“ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง คืออย่างนี้นะ ตอนเข้าค่ายพี่บาษมาสารภาพรักกับไอตั้ม”

“เฮ้ย จริงดิ แล้วตั้มว่าไง”

“ก็ไม่เห็นมันจะว่าอะไรนะ มันเฉยๆ ทำตัวปกติดี”

   ผมค่อนข้างจะมั่นใจว่าตั้มไม่ได้คิดอะไรกับพี่บาสจริงๆ เพราะถ้าลองตั้มได้ทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  นั้นแสดงว่าตั้มได้ขีดเส้นให้กับความสัมพันธ์ระหว่างตั้มกับคนนั้นเรียบร้อยแล้ว

   เมื่อผมเดินกลับมาถึงบ้านหลังจากไปส่งสองสาวให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว ผมกับพี่บาสก็พากันเข้าบ้านแล้วผมก็พบว่าตอนนี้แม่ผมโดนยึดซะแล้ว  ด้วยฝีมือของยอดชายนายหน้าตี๋  โดยตั้มนั้นนอนหนุนตักแม่ผมดูโทรทัศน์อยู่  ผมเดินไปจัดการแย่งแม่ผมคืนแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะแม่ผมนั้นร่วมด้วยช่วยกันกับตั้ม ในการผลักไสไล่ส่งผมให้ไปนั่งกับพ่อ  พวกผมสามคนใช้เวลาคุยกับพ่อและแม่ได้ไม่นานคุณชายก็เกิดอาการง่วง  เราเลยพากันขึ้นมานอนกัน  อาจจะด้วยความเหนื่อยล้าที่มันสะสมมาหลายวันเลยทำให้พี่บาสกับตั้มหลับอย่างรวดเร็ว 

   เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาพบว่าสองคนนั้นยังไม่ตื่น  แต่ผมไม่ได้ปลุกหรอกนะครับ  ขอยอมรับเลยว่าผมไม่กล้าปลุกตั้มให้ตื่นจากการนอน เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งตอนผมไปนอนที่บ้านตั้ม  แล้ววันนั้นผมก็ปลุกให้ตั้มตื่น  แต่ผลจากความดีที่ผมทำนั้นก็คือ การถูกถีบให้ตกที่นอน  ตามด้วยหมอน และปิดท้ายด้วยการสวดให้ศีลให้พรรับอรุณจากคุณชาย  ผมต้องค่อยๆลุกจากที่นอน และย่องเข้าห้องน้ำ  ปฏิบัติภารกิจทุกอย่างด้วยการใช้เสียงให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้และต้องทำอย่างรวดเร็วด้วย  เพราะผมได้นัด โมกับนุ่นว่าเราจะไปซื้อของที่ตลาดกัน  เพื่อจะเอามาจัดปาร์ตี้กันในตอนเย็น

   เมื่อแต่งตัวเสร็จผมก็เดินลงมาข้างล่าง  เอารายการซื้ออาหารที่แม่จดไว้ให้  จากนั้นก็ขับมอเตอร์ไซต์ไปบ้านนุ่นแล้วเราสามคนก็ตรงไปที่ตลาดทันที

“เอก ทิ้งปลาย่างไว้ไม่กลัวแมวขโมยไปกินหรือไง”  ผมรู้สึกว่าระยะหลังมานี้ โมมันจะชอบแซวผมอยู่ตลอดเลยครับ

“มันเรื่องของเขา เราห้ามอะไรไม่ได้หรอก”

“จ๊า  แล้วอย่ามานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่านะจ๊ะ  พ่อหนุ่มหน้าบาง  ทีหลังชอบเขาก็รีบๆบอกไปดิ  เดี่ยวหมาก็คาบไปแดกก่อนหรอก”  โมยังพูดไปเรื่อยๆ  ผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง  เพราะจะมัวแต่เดินคุยกันก็กลัวคนที่เดินตามหลังเรามาจะรำคาญเอา  เพราะตอนนี้คนในตลาดเยอะมาก  พวกผมเลยรีบซื้อของให้ครบแล้วเดินทางกลับกันทันที

   ผมขับรถกลับมาถึงบ้านเห็นตั้มนั่งคุยกับพี่บาสที่สนามข้างบ้าน  มันทำให้ผมเกิดความไม่ค่อยมั่นใจขึ้นมาทันที เพราะทั้งคู่นั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน  ยิ้มแย้มตลอดเวลา  แล้วสักพักตั้มก็เดินเข้ามาจะช่วยถือของผม  แต่ผมไม่ยอมให้ตั้มช่วยถือผมเดินกลับเข้าบ้านไปทันที  ตามด้วยเสียงหัวเราะของโมกับนุ่น  แต่ผมไม่ได้หันไปดูหรอกครับว่าสองคนนั้นหัวเราะทำไม  แล้วผมเป็นอะไรไปเนี๊ย  หึงตั้มหรอ  ผมไม่มีสิทธิ์หึงตั้มนิ  ในเมื่อเราสองคนเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน  เพื่อนกันเท่านั้น

“มึงเป็นรัยอีกเนี๊ย  บอกมาเลยอย่ามาเงียบกูอึดอัด  แล้วพักหลังมานี้กูเห็นมึงเป็นบ่อยจังเลยนะไอโรคอมดอกพิกุลทองเนี๊ย  หัดคายออกมาบ้างก็ได้  เผื่อกูจะได้เอาไปขายบ้าง จะได้รวยเหมือนคนอื่นๆ”  ตั้มบ่นใส่ผมหลังจากเดินตามผมขึ้นมาบนห้อง  เพื่อจะมาเปลี่ยนขุดไปเที่ยวทะเลกัน

“นายกับพี่บาสตกลงเป็นอะไรกัน”  ผมรวบรวมความกล้าอยู่นาน  เพื่อจะจะถามคำถามนี้  เพราะผมกลัวคำตอบที่อาจจะทำให้ผมเสียใจ

“กูไม่ได้เป็นอะไรกับพี่บาส ถึงกูเป็นก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับมึง  มึงจะสนใจไปทำไมว่ะ”  ตอนตั้มพูดประโยคนี้จบ  ผมอยากจะบอกตั้มเหลือเกินว่า  ผมเจ็บ  เจ็บที่หัวใจ  เจ็บกับคำพูดของตั้ม  ผมเลยพูดตัดพ้อไปว่า

“เออ  เราลืมไป  เราก็แค่คนอื่นสำหรับนาย  ไม่ใช่เพื่อนนายเหมือนกับโม ที่พอนายมีอะไรก็จะเล่าให้ฟัง เราขอโทษที่เข้าไปยุ่ง”

“มึงรู้แล้ว  แต่กูกับพี่เขาไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนะ กูปฏิเสธพี่เขาไปแล้ว”

“อือ เราขอโทษ” 

“เออ ไม่เป็นไร  สงสัยอะไรทีหลังก็ถามกูตรงๆได้เลย  แล้วไอคำว่าไม่ใช่เพื่อนของกูนี้ อย่าให้ได้ยินอีกนะ ไม่งั้นกูโกรธมึงจริงแน่”

“แล้วทำไมนายไม่คบกับพี่เขาละ นายเองก็ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ใช่หรอ”

“กูผู้ชายนะโว้ย  แล้วอีกอย่างถ้ากูมีแฟน กูกลัวคนแถวนี้เหงาแล้วโทรไปร้องไห้กับกูอีก  กูรอให้มันมีแฟนก่อนแล้วกูค่อยมี”

“สัญญานะ”  ผมพูดพร้อมชูนิ้วก้อยให้ตั้ม  ซึ่งตั้มเองก็เอานิ้วก้อยเข้ามาเกี่ยวกับน้อวก้อยของผม

“สัญญา  ไปเหอะเดี่ยวหมาบ้าในตัวไอโมจะออกมาอาละวาดอีก”  ตั้มพูดซะผมเห็นภาพเลย

   แล้วพวกผมก็เดินทางไปทะเลกันครับ  เป็นหาดเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียง  เงียบสงบและที่สำคัญน้ำทะเลสวยดีครับ  ผมมักจะมานั่งอ่านหนังสือที่นี้เป็นประจำ  เมื่อจอดรถได้คุณชายตั้มก็วิ่งลงทะเลไปเลย  ไม่สนใจข้างของที่อยู่ในมือแล้วด้วยครับ  วันนี้ทำให้ผมเพิ่งรู้อีกอย่างครับว่าตั้มเป็นคนชอบเล่นน้ำทะเล  แต่ไม่ชอบเล่นน้ำตก  ผมถามตั้มว่าไม่ทากันแดดหรอ  ตั้มบอกว่าไม่เอา  ตั้มเป็นคนแพ้โลชั่นทุกชนิดครับ  ทาแล้วจะขึ้นผื่นคัน  (ทำให้ยิ่งโตยิ่งดำ)  เมือก่อนตั้มเป็นคนขาวครับ  ขาวแบบคนจีนไม่ถึงกับขาวซีดนะครับ  แต่ตอนนี้กลายเป็นคนผิวเหลืองแดงไปแล้ว  เพราะโดนแดดเผ่า  พวกเราเล่นน้ำกันนานไปหน่อยจนลืมดูเวลาแต่เมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์เริ่มตกดินแล้วเราก็เลยพากันขึ้นเพื่อจะกลับบ้าน  พอไปถึงบ้านก็พบว่าพ่อกับแม่ได้จัดการเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ในการสังสรรค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว  พวกผมเลยขอตัวไปอาบน้ำแต่งหล่อกันก่อน

   ผม โม นุ่น  เราสามคนรับหน้าที่เป็นคนย่างบาร์บีคิว  ก็ย่างกันไปคุยกันไปหันมาอีกทีพ่อกับตั้มก็นั่งชนแก้วกันแล้ว  ตอนแรกผมก็แปลกใจว่าทำไมตั้มถึงกินเบียร์  เลยเดินไปถาม  แต่คำตอบที่ได้คือ  พ่อผมอนุญาตให้ตั้มดื่มเองครับ  เพื่อจะหัดไว้เผื่อเข้าสังคม  แต่พ่อครับจะมาหัดอะไรกันตอนนี้พวกผมยังไม่ถึง 15 กันเลยนะครับ  ผมก็วิ่งไปๆมาๆ เข้าเอกบ้านเป็นสิบๆรอบ  หิวก็หิว  เพราะมัวแต่ย่างให้คนอื่นกินแต่ตัวเองยังไม่ได้กินเลย  จนตั้มเห็นมั้งครับ  เลยเรียกผมให้ไปกินและเป็นคนป้อนให้ผมด้วยเพราะมือผมสกปรกอยู่  ผมก็นั่งกินนั่งคุยไปเรื่อยจนผมขอตัวไปห้องน้ำกลับมาอีกทีตั้มก็หายไปแล้ว  ผมเลยเดินไปนั่งคุยกับโมและนุ่น

“โม ตั้มไปไหน”  ผมถามทันทีที่ผมนั่งลง

“เมาหมดสภาพ พี่บาสพาขึ้นไปนอนแล้ว”

“อ้าว หรอ”

“แต่ฉันว่าแกน่าจะขึ้นไปดูสักหน่อยนะ  หายไปตั้งนานแล้ว”  โมพูดเหมือนจะกระซิบมากกว่าถ้าไม่ยื่นหน้ามาใกล้ๆ ผมเองก็คงจะไม่ได้ยินเหมือนกัน

“เขาคงจะหลับกันแล้วมั้ง  นี้ก็ดึกแล้ว”

“แต่ฉันไม่ไหวใจพี่บาส  ดูท่าทางพี่เขาจะชอบมันเอามากเหมือนกันนะ” 

“คิดมากไปหรือเปล่า”

“เออน่า แกกูขึ้นๆไปดูมันหน่อยแล้วกัน”

   ผมก็เลยตัดสินใจเดินขึ้นมาบนห้อง  เพราะไม่ว่าจะพูดยังไงโมมันก็หาเหตุผลมาหักล้างผมได้ทุกข้อ  เมื่อผมเดินขึ้นมาบนห้องเปิดประตู  ผมก็ถึงกับตกใจกับภาพที่เห็นคือ  พี่บาสกำลังประกบอยู่กับปากของตั้มซึ่งตวพี่บาสเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

“พี่บาสทำแบบนี้กับเพื่อนผมได้ยังไง”  ผมเดินเข้าไปพลักพี่บาส  จนพี่บาสเซลงไปนั่งที่พื้นข้างๆเตียงนอน

“พี่ พี่ พี่แค่”  ผมรอฟังว่าพี่บาสจะพูดว่าอะไร  แต่สุดท้ายแล้วพี่บาสก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ทีหลังอย่าทำแบบนี้กับเพื่อนผมอีกนะ  แล้วจะหาว่าผมไม่เตือน”  ผมชี้หน้าต่อว่าพี่บาส  ความรู้สึกผมตอนนั้น คือผมโกรธ เกลียด จนถึงไม่อยากมองหน้า  ถึงผมไม่ใช่เจ้าของตัวตั้ม  แต่ผมก็ไม่ยอมให้ใครมาทำกับตั้มแบบนี้หรอก

“พี่ขอโทษ พี่แค่รู้สึกชอบตั้ม  ชอบมาก  มากจน”  แล้วพี่บาสก็ร้องไห้ออกมา  มาถึงตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกสงสารพี่บาส 

“จนขาดสติ พี่บอกว่าพี่ชอบตั้ม ใช่ พี่มีสิทธิที่จะชอบใครก็ได้บนโลกนี้  แต่พี่ไม่มีสิทธิที่จะทำแบบนี้กับใคร”

“พี่ขอโทษ น้องเอกจะเกลียดพี่ก็ได้นะ  แต่พี่ไม่ได้ตั้งใจ”

“พี่บาส  ผมไม่เคยเกลียดพี่เลยนะ  แต่สิ่งที่ผมเกลียดคือการกระทำของพี่มากกว่า”

   หลังจากนั้นพี่บาสก็พร่ำแต่ขอโทษขอโพยผม  ผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีกผมบอกให้พี่บาสนอนได้แล้ว  ไม่ต้องคิดมาก  ผมเดินลงมาข้างล่างเอาน้ำใส่กะละมังเพื่อจะเอาไปเช็ดตัวให้ตั้ม  จากนั้นผมก็ไปอาบน้ำแล้วกลับเข้ามานอน

   รุ่งเช้าผมตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนเดินออกจากห้อง  ผมมองไปข้างตัวก็ไม่เจอพี่บาสเห็นแต่ตั้มหลับอยู่หันไปดูกระเป๋าพี่บาสที่หน้าตู้เสื้อผ้าก็ไม่มี  ผมคิดว่าพี่บาสคงจะกลับแล้ว  พี่เขาคงอายผมมากและรู้สึกผิดด้วยเลยคิดจะกลับบ้านก่อน  ผมไม่รอช้าผมกระโดลุกจากที่นอนแล้ววิ่งลงไปข้างล่างก็ทันพี่บาสซึ่งกำลังลาแม่ผมอยู่

“น้องเอกพี่กลับก่อนนะ”  พี่บาสหันมาบอกลาผมพร้อมส่งรอยยิ้มที่ดูแล้วเศร้าๆ  ผมเลยอาสาขับรถไปส่งพี่บาสที่หน้าปากซอย

“พี่บาสอย่าคิดมากนะพี่  ผมเข้าใจความรู้สึกพี่ดี”  แต่ผมไม่กล้าบอกพี่บาสหรอกครับว่าผมเองก็ชอบตั้มเหมือนกัน  แต่ดูจากท่าทางพี่บาส  ถึงผมไม่บอกพี่บาสก็น่าจะเดาออกนะครับ

“ครับ  พี่ขอบคุณน้องเอกมากนะครับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ที่โรงเรียน”

   เมื่อผมส่งพี่บาสขึ้นรถแล้วผมก็ขับรถกลับมาบ้าน  เดินเข้ามาในห้องนอนผมก็ได้ยินเสียงเหมือนคนอ้วกดังมาจากห้องน้ำ  ผมเลยวิ่งไปดูก็พบว่าคุณชายกำลังนั่งกอดชักโครกอยู่  ผมเดินเข้าไปลูบหลังให้ตั้ม

   ผมพาตั้มกลับมานอนแล้วลงไปข้างล่าง  ผมเอาข้าวสวยจากในหม้อเอามาทำเป็นข้าวต้มให้คุณชายและหันไปเตรียมน้ำเพื่อจะเช็ดตัว  เมื่อได้ของทุกอย่างครบผมก็เดินขึ้นห้องดึงตัวตั้มขึ้นมาให้กินข้าว  ตั้มก็รับถ้วยข้าวต้มไปกินอย่างว่าง่าย  ส่วนผมก็จัดการเช็ดตัวให้ตั้ม  ผมเลยตัดสินใจเล่าเรื่องพี่บาสให้ตั้มฟัง  แต่ดูเจ้าตัวเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร  แต่กลับภูมิใจในตัวเองว่ามีเสน่ห์ถึงขั้นเกือบโดนคนอื่นข่มขืน  ผมละกลุ้มใจกับการหลงตัวเองของตั้ม  แต่นี้ก็เป็นอีกหนึ่งข้อดีของตัวตั้ม  ที่เลือกจะมองโลกในแง่ดีของมุมที่ชั่วร้าย  ทำให้จุดด้อยเพียงจุดเดียวกลายมาเป็นจุดเด่นของจุดนับล้านจุดได้

   ผมเดินลงมาหาพ่อข้างล่างบอกให้พ่อพาตั้มไปส่งที่บ้าน  แล้วผมก็เดินไปตามโมที่บ้านนุ่นเพื่อจะได้กลับบ้านพร้อมกัน  พ่อผมเมื่อเห็นสภาพตั้มก็ถึงกับหัวเราะไม่หยุดเพราะตั้มตอนนี้ดูไม่ต่างไปจากเด็กเลยครับ  ช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้เลย  จะเดินก็ต้องให้คนอื่นพยุง จะหยิบแก้วน้ำมาดื่มก็ไม่มีแรงถือต้องเป็นภาระผมที่ต้องช่วยป้อนให้  แต่ผมก็ยินดีที่จะทำนะครับ

   เมื่อมาถึงบ้านผมก็พาตั้มขึ้นไปนอนข้างบน  แล้วจัดการหายาให้ตั้มกินเพราะเริ่มจะตัวร้อนเหมือนจะมีไข้  และเช็ดตัวให้ตั้มอีกที  ผมบอกให้ตั้มนอนไปก่อนเพราะผมจะออกไปซื้อข้าวที่หน้าหมู่บ้าน  แต่เมื่อไปถึงร้านกลับปิดผมเลยต้องเดินกลับมาเพื่อจะเอารถไปซื้อข้าวข้างนอก  กว่าผมจะหาร้านขายข้าวต้มได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร  และสุดท้ายผมก็เจอปัญหาเข้าจนได้  เพราะผมดันจำทางกลับบ้านไม่ถูกแล้วผมขับรถเวียนอยู่หลายรอบแต่สุดท้ายก็หาทางออกสู่ถนนใหญ่ไม่ได้  เลยตัดสินใจจอดรถโทรฯไปที่บ้านตั้ม  แต่ไม่มีคนรับสงสัยตั้มจะอยู่บนห้องเลยไม่ได้ยินสียงโทรศัพท์  เลยใช้วิธีสุดท้ายที่ผมพอจะคิดออกคือ  ถามทางเอาจากคนแถวนั้น  ผมก็ขับรถไปเรื่อยๆเจอใครก็ถามทางจากคนนั้นเอา  จนผมสามารถกลับมาถึงบ้านได้   เมื่อผมจอดรถดับเครื่องก็เห็นตั้มวิ่งมาหน้าบ้านแล้วตะโกนถามผมทันที

“มึงไปไหนมา  เป็นชั่วโมง  กูเป็นห่วงมึงนะ  นึกว่ามึงจะเป็นอะไรไปซะแล้ว”  ผมรู้สึกดีใจมากกว่าเสียใจที่โดนตั้มด่านะครับ  เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้ว่าตั้มเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเองหันมาห่วงใยคนรอบข้าง

“แล้วลุกมาทำไมเนี๊ย  ยังตัวร้อนอยู่ไม่ใช่หรอ  เราออกไปซื้อข้าวต้มที่ตลาดโต้รุ่งมานะ  แต่เกิดหลงทางเลยทำให้กลับมาช้า”

“ขอบใจนะ  แต่ทีหน้าทีหลังถ้าไปไม่ถูกก็ไม่ต้องไป  เดี่ยวเกิดกลับบ้านมาไม่ได้ทำไง  แล้วนี้กลับมาถูกยังไง” 

“เราก็ถามทางเค้ามาตลอดนั้นแหละ  นั่งตรงนี้แหละ  เดี่ยวไปแกะโจ๊กมาให้กิน”  ผมตอบตั้มแล้วเดินเข้าไปแกะถุงข้าวต้มใส่ถ้วยให้ตั้ม

   ตั้มกินได้ไม่มากแล้วก็หยุดกินบอกว่าอิ่มแล้ว  ผมเลยเดินไปหยิบยามาให้แล้วพาตั้มขึ้นไปนอน  ส่วนผมนั้นเดินเข้าไปอาบน้ำและออกมาจัดการปูที่นอน ปิดไฟแล้วล้มตัวนอน  แล้วอยู่ดีๆตั้มก็บอกว่าขอนอนด้วยผมก็ไม่ไดว่าอะไร

“กอดหน่อยดิ  หนาวจริงๆ”  ตั้มพูดออกมาหลังจากลงมานอน  ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรตั้มก็ซุกตัวเข้ามาใกล้ๆกับตัวผม  ผมรู้สึกว่าตัวตั้มสั่นๆท่าทางจะหนาวมากผมเลยเอามือไปโอบตัวตั้มให้รู้สึกอุ่นขึ้น  จากนั้นเราสองคนก็หลับไป


........................................................
........................................................

ฝากข่าว : ใครเป็นแฟนหงส์เหมือนกับผม  ช่วยกันซ้ำเติมคุณชายด้วยนะครับ  เอาหนักๆเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 15-03-2009 19:21:54
น้องเอก น่ารักจริง ๆ  ดูแลคุณชายตั้มดีมากๆ ๆ

แต่ว่าไปซ้ำเติมคุณชายมาก ๆ ระวังเขาเอาคืนนะ  :-[

 :laugh: :laugh: :laugh:




หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 15-03-2009 19:22:37
กีสสสสสสสสสสสสส

นู๋เปงแฟนหงส์ค่ะ พี่เอกกก


อิอิ ^________________^


สมน้ำหน้าเนาะ

โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 15-03-2009 20:18:03
555+ จะให้ซ้ำอีกหลอ คิคิ
รักพี่เอก ขอกอดหน่อย หุหุ ชื่นใจจจจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 15-03-2009 20:43:04
หนทางรักระหว่างตั้มกับเอก ยาวไกลเหลือเกินนนนน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 15-03-2009 20:52:28
อ่านทันแล้ว :impress2:
เอาใจช่วยพี่เอกค้าบ
จัดการให้อยู่หมัด
คนเอาแต่ใจที่น่าร้ากกกกกก :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: Ploy-Tawan ที่ 15-03-2009 21:00:22
ในที่่สุดเอกก็มาต่อเสียที หลังจากรอมานาน

เอกเป็นคนที่จำรายละเอียดต่างๆ ได้ดีมาก เก็บทุกเม็ด น่ารักจริงๆ

ขอชมว่าภาษาเขียน ยิ่งเขียนยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ คำผิดน้อยลง

มีเวลาก็มาต่อบ่อยๆนะจ๊ะ

รออ่านอยู่

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: Black Angel ที่ 15-03-2009 21:00:36
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

แฟนหงส์ครับ

เอ แต่ว่าอายุยังไม่ครบ 15 เหรอครับ

แต่ก็น่ารักดีนะครับ ใสใสดี

ขอบคุณที่นำเรื่องน่ารักมาให้อ่านนะครับ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 15-03-2009 21:13:31
ไม่เอานะน้องเอก อย่าไปซ้ำเติมที่รักอย่างนั้นสิจ๊ะ

เด่วที่รัก ไม่  :oo1:  คนที่แย่น่ะ น้องเอกนะจ๊ะ


ปล. เป็นกำลังใจสำหรับตอนต่อไปจ้ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 15-03-2009 21:21:21
ไม่เอานะน้องเอก อย่าไปซ้ำเติมที่รักอย่างนั้นสิจ๊ะ

เด่วที่รัก ไม่  :oo1:  คนที่แย่น่ะ น้องเอกนะจ๊ะ


ปล. เป็นกำลังใจสำหรับตอนต่อไปจ้ะ

 :laugh: :laugh: :laugh:

ชอบเม้นนี้อ่ะ  ฟังไว้บ้างนะ

แล้วไอคนเขียนนะ  หยุดยิ้มได้แล้วน๊า

ยิ้มบ้ายิ้มบออยู่ได้

ใกล้จะเหมือนคนบ้าพบเหรียญบาทเข้าไปทุกที
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 15-03-2009 22:08:11
้เอ่ออออออออออออ

ขอคุณพี่เสนอความคิดนิดส์นึงนะคะ

น้องเอกที่รักของพี่

ซ้ำเติมมันให้หนักไปเลยค่ะ

จัดให้หนัก

โทษฐานที่ทับถมเราก่อนลุยไปเลยค่ะ

ไม่ต้องฟังใคร

ทำในสิ่งที่อยากทำ

คุณพี่สนับสนุนค่ะ

โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอ  :กอด1: ทีนะจ๊ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 15-03-2009 22:21:18
ยิ่งอ่านยิ่งตอกย้ำว่า....
เอกรักตั้มมากจริงๆ
เป็นความโชคดีของไอ่คุงตั้มเค้าล่ะ
มีคนรักแสนดี น่ารักอีกตะหาก

 :pig4:ขอบคุณครับ เอก ขอกอดแทนไอ่คุงชายทีนึงน่ะ  :กอด1: +1ให้คร้าบ
ป้อล่อ1...เอกมาลงเรื่องแต่ละตอน ยาวทุกตอนเลย อ่านจุใจดี
ป้อล่อ2...ฝากบอกไอ่คุงชายตั้มด้วยนะเอก...มานลงแต่ละตอน สั้นมั่ง ยาวมั่ง อารายของมานก็ไม่รู้ เด๋วยืดเด๋วหด หุหุ
 :L1:เอก&ตั้ม :L1:
***ManU FC  :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 16-03-2009 00:03:34
ไม่เอานะน้องเอก อย่าไปซ้ำเติมที่รักอย่างนั้นสิจ๊ะ

เด่วที่รัก ไม่  :oo1:  คนที่แย่น่ะ น้องเอกนะจ๊ะ


ปล. เป็นกำลังใจสำหรับตอนต่อไปจ้ะ

 :laugh: :laugh: :laugh:

ชอบเม้นนี้อ่ะ  ฟังไว้บ้างนะ

แล้วไอคนเขียนนะ  หยุดยิ้มได้แล้วน๊า

ยิ้มบ้ายิ้มบออยู่ได้

ใกล้จะเหมือนคนบ้าพบเหรียญบาทเข้าไปทุกที
^
^
หลักฐานชัดเจน ตั้มเนี่ยชอบรังแกเอกจังเลย  มาว่าน้องเอกอีกแระ o18

น้องเอกลงเรื่องยาวได้ใจ ขอบคุณนะจ๊ะ บวก 1 ให้เอกด้วยจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 16-03-2009 00:10:18


<------------พิจารณาดูครับ


ใครเป็นแฟนหงษ์ ตัวจริง


อิอิ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 16-03-2009 07:29:11
ป้อล่อ1...เอกมาลงเรื่องแต่ละตอน ยาวทุกตอนเลย อ่านจุใจดี
ป้อล่อ2...ฝากบอกไอ่คุงชายตั้มด้วยนะเอก...มานลงแต่ละตอน สั้นมั่ง ยาวมั่ง อารายของมานก็ไม่รู้ เด๋วยืดเด๋วหด หุหุ
 :L1:เอก&ตั้ม :L1:
***ManU FC  :z1:

ใช่ซี๊  ยอดชายนายตั้ม  มันหมดความหมายแล้วนิ

ชิชิ  แต่พอให้อภัยได้  เพราะเรามันเด็กผีเหมือนกัน

เอิ๊กกกกก  บอลแพ้  คนไม่แพ้   


ไม่เอานะน้องเอก อย่าไปซ้ำเติมที่รักอย่างนั้นสิจ๊ะ

เด่วที่รัก ไม่  :oo1:  คนที่แย่น่ะ น้องเอกนะจ๊ะ


ปล. เป็นกำลังใจสำหรับตอนต่อไปจ้ะ

 :laugh: :laugh: :laugh:

ชอบเม้นนี้อ่ะ  ฟังไว้บ้างนะ

แล้วไอคนเขียนนะ  หยุดยิ้มได้แล้วน๊า

ยิ้มบ้ายิ้มบออยู่ได้

ใกล้จะเหมือนคนบ้าพบเหรียญบาทเข้าไปทุกที
^
^
หลักฐานชัดเจน ตั้มเนี่ยชอบรังแกเอกจังเลย  มาว่าน้องเอกอีกแระ o18

น้องเอกลงเรื่องยาวได้ใจ ขอบคุณนะจ๊ะ บวก 1 ให้เอกด้วยจ้า  :กอด1:


เค้าเรียกว่ารักหรอกจึงหยอกเล่น
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 16-03-2009 07:52:26
มาคิดถึงน้องเอก

มา  :z13: น้องตั้ม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 16-03-2009 11:36:59
 :z13: พี่ตั้ม  :laugh:


 o13 ขนาดยังไม่เป็นแฟนกันดูแลกันขนาดนี้

พี่เอกสุดย๊อดดด


หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 16-03-2009 18:13:15
อยากได้แบบน้องเอกสักคน  มี เหลือปะแบบนี้อะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 17-03-2009 00:18:42
เอกมาลงเอง  ยาวสะใจดี 555+
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 17-03-2009 07:19:49
โบราณว่า " คนล้มอย่าข้าม  " นะครับ น้องเอก ( เอาให้หนัก ) :jul3:

พูดมาได้  " บอลแพ้ คนไม่แพ้ "  หยั่งงี้ต้องงด .... 3 เดือน น้องเอกจัดการ

ยุให้เค้าตีกันแล้วรีบหลบ ก่อนโดน  :z6:


รอตอนต่อไปอยู่นะครับน้องเอก เป็นกำลังใจให้จัดการกับพวก.... :z2:+1 ให้ด้วย นา
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 17-03-2009 13:06:36
สวัสดีครับ ทุกคน

ผมเข้ามาแจ้งข่าวว่า  เอกไม่สบายนอนอยู่ รพ.

เลยไม่ได้มาลงเรื่องชั่วควาว

นี้ผมก็กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

แล้วก็ต้องรีบกลับไปเฝ้ามันต่อ

เพราะเดี่ยวพอมันตื่นมาแล้วไม่เจอใครจะงอแงอีก

เมื่อหายป่วยเมื่อไหร่เดี่ยวผมกับเอกจะมาต่อเรื่องให้อีกนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 17-03-2009 14:04:02
 :z13: :z13: :z13: คุณชาย  ดูแลน้องเอกดี ๆ นะ

ขอให้น้องเอกหายเร็ว ๆ  นะ

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 17-03-2009 22:07:49
 :L2:
ขอให้น้องเอกหายป่วยเร็วๆนะจ๊ะ
น้องตั้มก้อดูแลตัวเองด้วยนะ  :กอด1:
ขอบคุณที่มาแจ้งข่าวจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 19-03-2009 11:02:31
หายยังน้องเอก  :L2: :L2: :L2:

คุณชายไม่มีเวลามาแจ้งข่าวเลยเหรอ  :beat: :beat: :beat:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 19-03-2009 15:20:03
เข้ามาบอกเล่าเก้าสิบ  เกี่ยวกับอาการแฟนของป๋ม

ตอนนี้อาการเอกก็ยังเหมือนเดิม

ไข้ยังสูง  เมื่อเช้าวัดได้ เกือบ 40  ตัวร้อนมาก

เดี่ยวก็บ่นว่าร้อนเดี่ยวก็หนาว  ผมต้องเฝ้าตลอด 24 ชม.

นี้คุณนายก็บอกให้ผมกลับมานอนพักผ่อนที่บ้าน  เพราะโดนบ่นว่าอยู่ยังกะผีดิบ

แต่เมื่อกลับมาแล้วจะนอนก็นอนไม่หลับ  พลิกตัวไปมาไม่รู้กี่ตลบแล้วก็ยังไม่หลับ  เลยมานั่งอ่านนิยาย

เพื่อว่าจะช่วยให้ง่วงบ้าง  เพราะเดี่ยวคืนนี้ก็ต้องกลับไปเฝ้าไข้อีก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 19-03-2009 15:46:01
 :L2: :L2: :L2:
เอาดอกไม้มาเยี่ยมเอก
หายป่วยเร็วๆนะครับ
 :L2: :L2: :L2:
ป้อล่อ....ทำได้ดีมากเลยตั้ม  ทำให้คนรักได้ยังงี้ซิ 
เฝ้าคนป่วยดีๆเด้อ อย่าล้มเจ็บไปอีกคนล่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 19-03-2009 15:48:22
ง้า~!!  น้องเอกไม่สบาย  เป็นห่วงจัง   :monkeysad:

หลายวันแล้วไข้ยังไม่ลด อาจต้องคุยกับคุณหมอถามสาเหตุและวิธีการที่ดีกว่าดีไหมครับ  ...  ผมเคยมีประสบการณ์ เพื่อนป่วยเป็นไข้รักษาอยู่จะเกือบอาทิตย์ไข้ไม่ลด ต้องติดต่อโคอาจารย์หมอให้วุ่นตรวจจ่ายยาตัวใหม่ แม่เจ้าได้ยาตัวใหม่วันเดียวไข้ลด

 :L2:  เป็นกำลังใจให้น้องเอกหายเร็ว ๆ
ตั้มเองก็พักผ่อนบ้าง อยู่โรงพยาบาลร่างกายต้องแข็งแรงไม่งั้นอาจป่วยได้ ... ดูแลตัวเองดี ๆ นะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: over_time ที่ 19-03-2009 18:48:03
 :L2:ขอให้น้องเอกหายป่วยไวๆนะคะ :L2:
พึ่งได้อ่านเรื่องของน้องเอก ได้อ่านเรื่อง "อย่ารักกู" แล้ว ได้มารับรู้ในมุมมองของน้องเอก ทำให้เข้าใจความคิด ความรู้สึกของอีกคนได้ดีขึ้น เล่าได้สนุกน่าติดตามไม่แพ้กันเลยค่ะ
หายดีแข็งแรงแล้วมาเล่าต่อนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 19-03-2009 23:03:06
มาเยี่ยมน้องเอกสองทู้เลย
หายป่วยเร็วๆ สุขภาพแข็งแรงๆ นะน้องเอก  :L2:
มีกำลังใจดีคอยเฝ้าไข้อยู่แล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 20-03-2009 09:19:56
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทักทายทู๊กคนด้วยความเบิกบานสบายใจ

มีข่าวดีมาบอก  ตอนนี้เอกมันไข้ลดลงไปเหลือ 38 แว้ววว

ถ้ายังลดลงเรื่อยๆแบบนี้  หมอบอกว่าพรุ่งนี้ก็ออกจาก  รพ  ได้แล้วววว

แต่เมื่อคืนตัวผมก็ต้องนอนรับน้ำเกลือตั้ง 1 ขวด  กรรม

กูไม่ได้เป็งไรสักหน่อยแค่หน้ามืดแป๊ปเดียวเอง  คุณนายก็เว่อร์ไปหาว่าผมไม่แข็งแรง

แต่เรื่องนั้นช่างมันเหอะ  ยังไงเดี่ยวเอกมันก็จะได้ออกจาก รพ.แว้ววววววววววว

 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 21-03-2009 00:22:56
อ่านของตั้มถึงหน้าสิบ แต่เห็นเอกลงเลยลัดคิวตั้มมาอ่านก่อน  :laugh:

มาส่งกำลังใจให้เอกกกก  :L2:

ดูแลสุขภาพด้วยน้า  :3123:

เดี๋ยวกลับไปอ่านของตั้มต่อ อย่าเพิ่งน้อยจายยยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 21-03-2009 06:58:26
 :L2:แวะมาเยี่ยมในทู้นี้ด้วย หายไว ๆ นะครับ น้องเอกของ.... ( อยากได้เติมเอาเองนะตั้ม )

เป็นกำลังใจให้ หายป่วยไว ๆ คิดถึง ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 21-03-2009 17:25:17
 :z2: :z2: :z2: :z2:
แวะมาดันกระทู้ให้น้องเอก อิๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 22-03-2009 11:18:51
เอาน่าคนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วง  เอกหายไวๆๆน้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 22-03-2009 11:25:05
มาเยี่ยมน้องเอก ดีขึ้นบ้างรึยัง

แล้วมีใครกวนไหม  :beat: :beat: :beat:

นอกพักเยอะ นะ หายเร็ว ๆ นะ  :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 22-03-2009 19:34:52
 :L2:   ส่งดอกไม้เยี่ยมน้องเอกครับ  ....  หายหรือยังเอ่ย

คนดูแลแข็งแรงดีใช่ม่าย   

คิดถึง  เป็นห่วงทั้งคู่น้า   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 22-03-2009 20:49:07
ใกล้หายยัง...หายเร็ว ๆ น๊า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 5 คุณชายป่วย
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 22-03-2009 23:09:06
สวัสดีครับทุกคน  ขอโทษด้วยที่ห่างหายไปนาน  ตอนนี้ร่างกายผมกลับมาเป็นปรกติแล้ว  ต้องขอบคุณทุกความห่วงใยและทุกกำลังใจนะครับ  ขอบคุณมาก  ขอบคุณด้วยใจจริง

  ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก

   งานกิจกรรมสัมพันธ์เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ในชุมนุมออกมาโชว์หรือวางขายกัน  แต่ชุมนุมที่ผมอยู่เป็นชุมนุมที่จัดขึ้นเพื่อจะสนองความต้องการของรุ่นพี่ที่ไม่อยากจะทำอะไรในชั่วโมงกิจกรรม  เลยตั้งชุมนุนสิบสี่ขึ้นมา  การรับสมาชิกก็จะมีเฉพาะเด็กมมัธยมต้นเท่านั้นและจะต้องเป็นนักเรียนที่อยู่ในห้องสิบสี่เท่านั้นอีกด้วย  ในคาบชุมนุมเราก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ  เอาแต่นอน เล่น และอาจจะมีบ้างที่มานั่งติวหนังสือแต่ก็น้อยมาก

   และวันนี้ก็เป็นวันที่กิจกรรมนี้เวียนมาถึงพอดี  ผมมาถึง รร.แต่เช้า  เพราะผมกับตั้มได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปซื้อของที่จะนำมาขายในงาน  เมื่อเดินมาถึงสวนป่าตั้มก็หยุดเดินและมองไปยังพี่ๆที่กำลังจัดสถานที่กันอยู่  ผมมองตามสายตาของตั้มก็พบว่าบุคลลที่ตั้มมองอยู่นั้นคือพี่บาส  ผมจึงห้ามไม่ให้ตั้มเข้าไปหาพี่บาส  ไม่ใช่เพราะผมหึงหรอกนะครับ  แต่ผมอยากให้พี่บาสตัดใจจากตั้มได้จริงๆ

   และกิจกรรมอีกกิจกรรมหนึ่งที่จัดขึ้นในวันนี้ด้วยคือ  กิจกรรมปัจฉิมนิเทศน์นักเรียนที่จะจบในปีการศึกษานี้  นักเรียนชั้นปีอื่นๆต้องมาตั้งแถวตอนรับพี่ ม.6  ที่กำลังจะเดินออกจากห้องประชุมเพื่อที่จะได้แลกของที่ระลึกกัน  ผมหันไปคุยกับรุ่นพี่คนหนึ่งแต่แล้วผมก็ต้องหันกลับไปดูว่าคนอื่นๆเขามองอะไรกัน  และสิ่งที่ผมเห็นคือ  ตั้มยืนประจันหน้าอยู่กับพี่บาส  ผมกับเพื่อนคนอื่นเลยวิ่งเข้าไปเพื่อจะดึงตั้มออกมา  แต่เมื่อไปถึงตั้มก็กำลังมีปากเสียงกับเพื่อนของพี่บาสอยู่  (บทสนทนาผมขอหลอกของตั้มมานะครับ)

“กูบอกว่า กูมีเรื่องคุยกับพี่เค้า  คนอื่นไม่เกี่ยว”  ตั้มตวาดใส่หน้าเพื่อนพี่บาส  เสียงดังจนผมกับเพื่อนๆอึ้ง  รวมถึงพี่คนนั้นด้วย
“มึงจะเอาหรืองัย”  พี่คนนั้นพูด  พร้อมกับกำคอเสื้อผม  แล้วง้างมัดจะชกตั้ม แต่โดนเบียร์กระโดดทีบ
“หยุด !!!   ตั้ม !!!  มีไรว่ามา”  พี่บาสตะโกนออกมาเสียงดังมาก  และสีหน้าบอกว่ากำลังโกรธมาก
“พี่ไปกับผม  หรือจะให้ผมพูดตรงนี้ก็ได้นะ”  ตั้มพูดกับพี่บาส 
“ก็ไปซิ” พี่บาสตอบ
“ตั้ม  เราไปด้วย”  ผมเดินเข้าไปจับมือตั้ม  แล้วขอที่จะไปด้วย  อย่างน้อยผมอาจจะทำให้ตั้มใจเย็นลงบ้างก็ได้
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง  เดี่ยวกูไปเอง  พวกมึงก็ไม่ต้องตามมาด้วย  รวมทั้งมึงด้วย”  ตั้มบอกกับผมและเพื่อนๆ  แล้วเดินจูงมือพี่บาสออกไป

   ผมทนที่ตะยืนรอตรงนั้นไม่ไหวครับ  ผมไม่สนใจหากจะมีใครว่าผมนิสัยไม่ดีที่แอบไปฟังคนอื่นคุยกัน  แต่จะให้ผมยืนรออยู่อย่างนี้ผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน  ผมเลยตัดสินใจที่จะเดินตามตั้มไป  เมื่อผมไปถึงผมก็ถึงกับตกใจเพราะภาพที่ผมเห็นนั้นคือ  ตั้มกับพี่บาสกำลังกอดกัน  หน้าผมชาอกมันแน่ๆ  ใจเต้นแรง  มือสั่นๆ  ตาเริ่มจะมองภาพไม่ชัด  ทำไมผมต้องมาเห็นภาพแบบนี้ด้วย  ทำไมผมถึงกลัว  แล้วผมกลัวอะไร  นั้นคือความรู้สึกของผมตอนนั้น  แต่สุดท้ายแล้วผมก็กลับมารู้สึกโล่งใจกับคำพูดของตั้มที่พูดกับพี่บาสว่า

“ขอบคุณนะครับ  สำหรับความหวังดีที่พี่มอบไว้ให้ผม  แต่ผมรับไม่ไหวจริงๆนะครับ  อาจจะดูใจร้ายไปหน่อย  แต่ผมขอให้พี่เลิกรักผมเถอะครับ  อย่าให้ผมถึงกับต้องทำเป็นไม่รู้จักพี่เลยนะครับ” 

   สำหรับผมคำพูดนี้เมื่อตั้มพูดกับคนอื่นนั้น  มันทำให้ผมรู้สึกดี  ผมสบายใจ  ผมดีใจ  แต่พี่บาสละ  พี่บาสจะรู้สึกยังไง  แล้วถ้าเกิดคำพูดนี้ถูกใช้กับผมผมจะรู้สึกยังไง  ผมคงจะไม่มีแรงที่จะทรงตัวได้  เพราะหากใครได้ฟังคำนี้แล้ว  คงรู้ว่ามันโหดร้ายแค่ไหน  ไหนจะโดนปฎฺเสธรักแล้วยังโดนห้ามรักอีก  และร้ายแรงสุดก็จะถูกเมินถูกทำเหมือนกับคนไม่รู้จักกัน  มันจะทรมานแค่ไหนที่เรารักคนๆหนึ่ง  แล้วคนๆนั้นปฏิเสธการมีตัวตนของเรา  ทำเหมือนกับเราเป็นเพียงฝุ่นละออง  เป็นอากาศธาตุที่มีอยู่จริงแต่มองไม่เห็น

ปล. แค่นี้ก่อนนะครับ  ผมต้องมานั่งพิมพ์ใหม่  เพราะไฟล์เก่าที่ผมพิมพ์ไว้แล้วโดนตั้มลบทิ้งหมดแล้ว กู้ก็ไม่ได้  ผมถามว่าลบของผมทำไม  ตั้มก็ตอบกลับมาว่า  ต่อไปไม่ต้องพิมพ์แล้ว  ไม่ต้องลงแล้ว  ให้ผมหยุดทำ  เพราะผมมัวแต่นั่งพิมพ์หามรุ่งหามค่ำ  ไม่ยอมหลับยอมนอนเลยส่งผลให้ไม่สบาย  ผมก็ไม่กล้าเถียงอะไร  เพราะสีหน้าตั้มน่ากลัวมาก  ตั้มโกรธผมเรื่องไม่สบายมาก  แต่ทุกเหตุผลที่ตั้มว่ามามันก็จริง  แต่เรื่องที่จะไม่ให้ผมพิมพ์เรื่องต่อนี้ผมคงทำตามไม่ได้  เพราะผมไม่อยากทำอะไรค้างๆคาๆ  และนี้ผมก็ต้องแอบพิมพ์และแอบลง  ผมต้องทำตอนที่ตั้มไม่อยู่บ้าน  แต่เมื่อไหร่ที่ตั้มรู้เรื่อง  ผมก็คงโดนด่าอีกรอบอย่างแน่นอน  ยังไงก็ขอกำลังใจ  เอาในช่วยผมด้วยนะครับ 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 22-03-2009 23:12:01
ฮ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย

คุณน้องเอกทำแบบนี้ไม่ดีนะคะ

เกิดตั้มมันรู้ว่าแอบทำเด๋วมันจะโกรธเอานะคะ

คุณพี่ขอเตือนเอาไว้ก่อน

เป็นห่วงนะคะ

ถ้าทางที่ดีอยากทำก็ไปบอกตั้มดี ๆ ดีกว่านะ

แล้วก็อย่าทำแบบเดิมจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีก

ไม่มีใครอยากให้เอกทำแบบนี้หรอกนะ

เวลาไม่สบายน่ะคนอื่นเค้าเป็นห่วงนะจ๊ะ

ดูแลรักษาสุขภาพด้วย

อยากจะลงเรื่องเล่าไม่มีใครว่าแต่ควรทำแต่พองามนะจ๊ะ

จะได้ไม่เจ็บไม่ไข้นะ

รักและเป็นห่วงจ้า

ปล.ฝากบอกตั้มด้วยนะพอดีช่วงนี้ขี้เกียจออนไว้คุยกันจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 22-03-2009 23:56:22
เข้ามา ขอบคุณเอก  ก็ขอให้ตกลงกันให้ได้นะคะ   ก็ขอให้ตั้มเข้าใจเอกด้วยว่า เอกเป็นคนทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด  ขอให้เอกได้ทำตามจุดประสงค์ตัวเองเถอะนะคะ   แต่เอกก็อย่าหักโหมล่ะกันให้พอดีๆ

รักและเป็นห่วงทั้งสองคนค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 23-03-2009 00:10:22
ถ้าลงต่อก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ
ไม่เป็นไรรออ่านเรื่อยๆได้ จ้า
ดูแลสุขภาพกันทั้งสองคนเลยนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 23-03-2009 00:24:26
 :m16: :m16: :m16:

น่าเบื่อว่ะ  กูจะเลิกสนใจแล้ว

พอใจป่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 23-03-2009 00:37:11
ถ้าจะแต่งก็อย่าหักโหมนะ แต่งจนเข้าโรงพยาบาลก็ไม่ไหวเหมือนกันนะจ๊ะเอก

เอาแต่พอดี ว่างๆค่อยแต่ง เขียนซักชั่วโมงก็พัก อาทิตย์นึงลงตอนสองตอนก็ได้

อย่าหักโหมจนเสียสุขภาพนะ ตั้มเค้าเป็นห่วงทุกคนในบอร์ดก็เป็นห่วงนะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 23-03-2009 06:35:01
เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคน อย่าทำให้เรื่องเล็ก กลายเป็นเรื่องใหญ่นะครับ

นายตั้ม  :n1: นายเอก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 23-03-2009 07:07:44
ถ้าทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะครับ


แต่ถ้าทำแล้วมีความทุกข์ ก็อย่าทำเลยนะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-03-2009 07:53:26
ดีใจด้วยนะจ๊ะน้องเอกที่หายป่วยแล้ว
แต่หายแล้วก้อต้องห่วงใยใส่ใจสุขภาพเราด้วยนะ
อย่าทำอะไรหักโหม ที่เค้าห้ามก้อเพราะเค้ารักเค้าห่วง
ลงเรื่องต่อเพื่อสานต่อสิ่งที่ทำไม่ให้มันค้างคาก้อเป็นสิ่งที่ดี
แต่อย่างไรตอนนี้อย่าลืมให้สุขภาพมาอันดับต้นๆนะ
เวลาเราป่วย คนที่เค้ารักเรา เค้าจะทุกข์และวิตกกังวลมากกว่าเราอีกนะจ๊ะ  :กอด1:
บวก 1 ให้กำลังใจน้องเอกจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 23-03-2009 08:41:13
ดีใจที่น้องเอกหายป่วยแล้วนะ แต่ถ้าจะลงเรื่องต่อก็อย่าหักโหม
แล้วก็นะแอบมาลง ตั้มก็รู้อยู่ดี ทำอะไรก็บอกตั้มไปเถอะ ที่ตั้ม
ว่าหรือด่า ก็เพราะห่วงน้องเอก เพราะงั้นทำอะไรก็อย่าหักโหม
เกิน เพราะมีหลายคนที่เป็นห่วงน้องเอก เวลาน้องเอกไม่สบาย
ทุกคนก็เป็นห่วงนะ ส่วนเรื่องนี้จะมาลงเมื่อไรก็ได้ มีเวลาก็มาลง
ไม่มีเวลาก็ยังไม่ต้องลง เพราะทุกคนรอได้  ถ้าน้องเอกไม่สบาย
เพราะเอาเวลาพักผ่อนมาเขียนเรื่อง ไม่ก็จะไม่สบายใจทั้งคนลงเรื่อง
และคนอ่านนะ  ยังไงก็รักษาสุขภาพนะ

+1 ให้กับความขยัน และเป็นกำลังให้นะ

 :L2: :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: Ploy-Tawan ที่ 23-03-2009 12:46:22
ขอบคุณที่มาอัพเรื่องต่อนะจ๊ะ
แต่...อย่าถึงกับทำให้ตั้มงอนเลยนะ
ก็คนมันห่วงอะเนอะ
ถ้าพิมพ์ช้า ก็ค่อยๆ พิมพ์วันละนิด อย่าหักโหมอย่างที่ทุกคนว่า
อาทิตย์นึงโพสต์สักตอนสองตอนก็ไม่มีใครว่า  เรารอได้
สุขภาพสำคัญที่สุด

ขอบคุณที่รักคนอ่าน ไม่อยากให้ตนเองและคนอ่านค้างๆ คาๆ น่ารักจังเลย o13
คุยกับตั้ม พบกันครึ่งทางได้ไหม
เป็นกำลังใจให้   :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 23-03-2009 13:04:13
...ไอ้คุณชาย มันงอนอีกแล้ว....
...ตั้ม..แกเข้าใจคำว่า...รับผิดชอบ...ไม๊
...วันนี้..เอก..ลงนิดเดียว..เพราะอะไร...
...การบ้านโว๊ย...เอาไปคิด... :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-03-2009 14:39:46
...ไอ้คุณชาย มันงอนอีกแล้ว....
...ตั้ม..แกเข้าใจคำว่า...รับผิดชอบ...ไม๊
...วันนี้..เอก..ลงนิดเดียว..เพราะอะไร...
...การบ้านโว๊ย...เอาไปคิด... :เฮ้อ:
:m4: :m4: :m4: Love_NT19 พูดได้ถูกใจ เข้าเป้า ตรงประเด็น +1ให้เลยคร้าบ
เอ เอ่ เอ้ เอ๊ เอ๋......กลัวแต่ว่า ตั้มมานจะไม่ยอมเข้าใจ น่ะซิ มานดื้อจะตาย ฮ่าฮ่า  :jul3:
ป้อล่อ....อยากงอน งอนเลยตั้ม ไม่ง้ออยู่แล้นนนนนนน ฮิฮิ :z1:
Edit.........................
เข้ามาอีกที ลืมมมมมมมมม
 :L2:ดีใจด้วยน้องเอก หายป่วยแล้ว งั้นก็มารับ  :กอด1: กอดหนึ่งทีเป็นของขวัญนะคร้าบ +1ให้กำลังใจในการเล่าเรื่องต่อปายยยยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 23-03-2009 16:47:20
อย่าหักโหมมากดิ

นาทีมาลงก็ได้
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 23-03-2009 19:11:37
ฮ่าๆๆ

พี่เอกมาลงแว้วว

อย่าหักโหมนะคะ เค้าคงเปงห่วงพี่อ่ะแหละ อิอิ

ลงได้ แต่ต้อง ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยเน่ออ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 23-03-2009 20:36:55
หายป่วยแล้วเนอะ เอก    :กอด1:

พักผ่อนเยอะๆ  อย่าอดนอนอีกหละ  ดูแลสุขภาพด้วย

บางที ก็เชื่อตั้มบ้างเหอะ   อย่าหักโหมอีก  แบ่งเวลาให้ถูกนะ  

ก็แค่  ไม่อยากให้เอกป่วยอีก   :L2:



แต่ตั้มอ่ะ ก็อย่าบังคับเอกนักเลย  ดุจริงเฟ้ย แฟนใครเนี่ย   :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 25-03-2009 14:36:11
มารอน้องเอก  คุณชายเขาจะปล่อยตัวมาไหมเนี๊ย  :monkeysad:

 :กอด1: คิดถึง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 27-03-2009 20:26:49
 :L2:   ส่งกำลังใจให้น้องเอก   และ   :กอด1: กอดคุณชายตั้ม

พบกันครึ่งทางก็น่าจะดี  ???

น้องเอกพิมพ์ต่อให้จบอย่างที่ตั้งใจ  แต่ก็ดูแลสุขภาพ อย่าหักโหมพิมพ์ที่ละนิด นาน ๆ ต่อเรื่องก็ได้ ตั้มจะได้ไม่ห่วงอะไรไง

ดูแลกันและกันดี ๆ นะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 28-03-2009 20:13:45
....ฮาโหลๆๆๆ..น้องเอก..โดน..ตี๋ใหญ่..สั่งเก็บ..ไปแล้วมั้ง... :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 28-03-2009 20:38:09
 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
มาดิ้นรอทั้งคุณชาย และตี๋ใหญ่ อิๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: dokjarn ที่ 31-03-2009 15:35:49
:z2: :z2: :z2:

ผมอ่านเรื่องนี้ด้วยความเพลิดเพลิน

น้องเอก..น่ารักอย่างที่เขาพูดกันจริงๆ

ยังไม่ได้อ่านอีกด้านนึงเลย

อิ อิ ต้องกลับไปอ่านมุมที่ คุณชายตั้มเขียนแล้วมั๊ย

ท่าจะเป็นเรื่องที่น่ารักของ 2 คนนี้อ่ะ

+1 ให้กับความน่ารัก

และขยันจนป่วย...

เป็นกำลังใจให้เน้อ
 :z2: :pig4: :pig4: :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 02-04-2009 01:38:36
อย่าหักโหมนักหล่ะ

อัพเปงบางเวลาที่ว่างก้อได้  ไม่อยากให้ทะเลาะกัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 02-04-2009 09:01:16
ยางรอตอนต่อ ไปอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 02-04-2009 12:45:01
กลับมาแล้ว ยินดีด้วยที่หายป่วย ยังไงก็เอาแต่พอดีนะจ้ะ รักษาสุขภาพตัวเองไว้ก่อน  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 03-04-2009 11:22:57
อย่าลืมมาต่อไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 04-04-2009 07:59:05
Happy Birth Day

ครับ

ที่รัก


 :c3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 04-04-2009 08:37:18
วันเกิดน้องเอกหรือจ๊ะ
 :b:
 :HBD2:       :HBD2:       :HBD2:

สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ
ขอให้น้องเอกสุขภาพแข็งแรง มีความสุขมากมาย
พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต มีคนรักเยอะๆ
เป็นที่รักของนายตั้มและรักคนชื่อตั้มนานแสนนานจ้า


 :a:      :HBD5:      :a:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 04-04-2009 09:16:30
(http://) (http://dl2.glitter-graphics.net/pub/642/642442s5am4b2ugx.gif) (http://www.glitter-graphics.com)

:a13:สุขสันต์วันเกิดนะ น้องเอก :a13:
มีความสุขมาก ๆ  นะ  คิดอะไรก็ขอให้ได้นะ ขอให้ประสบความสำเร็จทางด้านการเรียน
และการงาน  รวมถึงความรัก  ขอให้มีรักที่มั่นคงและเป็นนิรันดร์นะ
 :b: :b: :b:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้า&#
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 04-04-2009 15:59:03
:b:

h^pPY BirTH~DaY*

na พี่เอก

LovE LovE~na & S^ranghae

T^ke~c^rE"na

H^pPY~H^pPY

แก่ขึ้นอีกปีแล้วน่ะค๊ะ
ก็ขอให้มีค.สุข
ลัลลา~
ทิ้งเรื่องแย่ๆไว รอความสุขข้างหน้า
และขอให้ พี่ตั้มกับพี่เอก รักกันอยู่แบบนี้ตลอดไป

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 04-04-2009 20:01:52
:HBD3: HBD :HBD3:

มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง

คิดสิ่งใดขอให้สมหวัง

^^พระคุ้มครองค่ะ^^  
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 05-04-2009 14:28:29
:a:
ขอให้เอกมีความสุขมากๆน๊า
ทำอะไรก็สมดังปรารถนา
พานพบแต่สิ่งดีๆ คนดีๆ เรื่องราวดีๆน๊า
 :HBD2: :HBD2: :HBD2:
:b: :b: :b:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 05-04-2009 15:11:17
 :L1: :L1: : :L2: :L2: :L2: :L2: :L1: :L1::

ขอให้มีคามสุขกับความรัก และคนรักนะจ๊ะ

เพิ่งจะได้อ่าน ครั้งแรก  สนุกดี ชอบๆ

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 05-04-2009 17:28:43
(http://widget.sanook.com/static_content/full/graphic/c8a31985c64ffe7d73f0e20affb15f4e_1204185590.gif)


สุขสันต์วันเกิดน้องเอกย้อนหลังครับ

มีความสุขมาก ๆ สมหวังในทุก ๆ เรื่องนะครับ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 05-04-2009 22:38:15
แวะมาดู
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: iamhappywood ที่ 06-04-2009 03:46:10
I want to read story written by khun chai a krab.
How can I find it?
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: gon_natt ที่ 09-04-2009 13:41:07
 :m22: :m22: :m22:

โผล่ออกมา สวัสดี(กระทู้นี้ด้วย)

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องราวน่ารักๆจากมุมมองของทั้งสองฝ่าย

จะรออ่านนะค่ะ

เป็นกำลังใจให้

 :L2: :กอด1: :L2: :กอด1: :L2: :กอด1:

--

ปล.สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังที่ทู้นู่นไปแล้ว แต่ขออีแล้วกันน้า ^^

สุขสันต์วันเกิดพี่เอกกับพี่ตั้มย้อนหลังด้วยค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆน้า

 :HBD3:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 09-04-2009 16:12:37
พักผ่อนเยอะ ๆ อย่าดื้อกะตั้มน๊า

เค้าพูดรัยก็เชื่อเค้าหน่อย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 09-04-2009 16:36:48
ไม่เห็นมาต่อเลยครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 10-04-2009 01:47:45
หลังสงกรานต์จะมารออ่านต่อนะจ๊ะ

มาไม่บ่อย แต่ยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาก ก็โอเช
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 14-04-2009 16:44:06
คิดถึง คิดถึง คิดถึงพี่เองจังเย้ยย
 :impress2:

สงการนต์เที่ยวให้สนุกน่ะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 15-04-2009 09:24:26
็HBd พี่เอกย้อนหลังด้วยค่า

อ่านรวดเดียวจากกระทู้พี่ตั้ม แล้วก็ตามมาถึงนี่เพราะพี่ตั้งบอกว่าไม่ให้มาอ่านกระทู้นี้

แต่ทำไงได้อะ

ห้ามยังไง... ก็จะอ่าน 55555555+  เอ๋ แอบตรงกะชื่อเรื่องไปรึเปล่า

พี่เอกออกจะน่ารักอ่า XD

แอบหมั่นไส้พี่ตั้มด้วยเห๊อ อันที่จริง คริๆ


แต่ว่า...  พี่ตั้มน่ารักขึ้นมาก   เพราะตอนที่พี่ตั้มดูแลพี่เอกอย่างดีเนี่ยละ

ชอบมากมายยยยยยยยยย แอร๊ยยยย


XD




 :กอด1: :กอด1:

แฮปปี้วันสงกรานต์จ้า

XD


มีความสุขมากๆ น้อ  :-[ :-[ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 19-04-2009 11:28:15
ไปอ่านเรื่องน้องตั้มมา เลยเข้ามารอน้องเอก
 :call: :call: :call: :call: :call: :call:
มาไวๆนะ แต่ไม่ต้องหักโหมนะ

ปล.ตั้มอยู่นครแล้วใช่มั้ยอะจ๊ะ สงสัยง่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 20-04-2009 18:29:14
 :z10: :z10: :z10:

เฮ้ เฮ้ เฮ้  เรื่องโน้นเค้าต่อเรื่องแล้วน๊า

 :m12: เมื่อไหร่จะมาต่ออ่ะ

หรือว่า  :m20:  ไม่มีแรงต่อเรื่อง  หิ้ววววววว

เอาแรงไปทำรัยหมดอ่ะ  :m14:

ปายละ  เตะบอลดีกว่า  ตื่นแล้วไปรับด้วย

 :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-04-2009 21:45:31
^
^
 :z13: จิ้มแทนน้องเอก
น้องเอกไม่ต้องไปสนใจ ไอ่คุณรีบน
เพราะมานไม่น่าสนจายเล๊ยยยย สักกะติ๊ดเดียว
 :กอด1: เอก คนน่ารัก  :กอด1: ถ้าน้องเอกว่างแล้ว มาเล่าเรื่องต่อก็ดีเหมือนกันนะ  :3123:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-04-2009 01:17:14
อิอิ................ขอเปงสมาชิกใหม่เรื่องนี้ด้วยคนนะค๊าฟ


บอกได้ว่าพี่เอกเปงคนที่สื่อความรู้สึกเศร้าได้ดีเลยนะนี่................อีกอย่างเปงคนชอบอ่านเรื่องแบบนี้ด้วยจิ


ไม่รู้เปงอารายอ่านของผู้(ถูกกระทำ)ที่ไร.............มานเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกได้ดีซะนี่(ทั้งๆที่ตัวเองก้อไม่เคยมีความรักก่ะเค้า555 :laugh: :laugh:)


ยังไงก้อมาต่อด้วยนะค๊าฟ............จะรอให้มาต่อเน้อ อยากอ่านต่อมากมาย


ถ้าจะบอกว่าขออ่านกระทู้นี่...............อย่างเดียวได้มั้ยฮะเนี่ย(จะผิดมั้ยหว่าถ้าไม่อ่านของคุณชายท่าน แหะๆ)


ชอบง่ากลับกานแอบรักใครสักคน.............ถึงเรื่องนี่มานจะแฮปปี้ในตอนปัจจุบัน แต่แรกๆก้อแอบชอบอยุ๋ดี


ยังไงก้ออย่าลืมมาต่อเน้อค๊าฟ.............เปงกำลังใจให้ค๊าฟพี่เอก สู้ๆเน้อค๊าฟ :impress2: :impress2:


ปล........กรุณาตอบรับเปงสมาชิกใหม่ด้วยเน้อค๊าฟ อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: gon_natt ที่ 24-04-2009 16:15:29
เข้ามบอกง่าคิดถึงพี่เอกกะพี่ตั้มแว้วววว

พี่เอกเขามาทักทายหน่อยจิ


 :L2:รออ่านตอนต่อไปจากพี่เอกอยู่นะค้าบบบบ

อ๊ะ!!~ แต่ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพนะค่ะ เป็นห่วงๆ ^^ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: [W]olf[T]ricky ที่ 25-04-2009 14:33:35
หนุกมากมายๆๆๆ สงสารพี่บาสแหะ เฮ้อออออออออออออ รีบๆมาอัฟนะคร๊าฟฟฟฟฟฟฟ o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ตอนที่ 6 มันก็แค่อกหัก
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-05-2009 21:49:27
คิดถึงนะคับ เอก
ม่ายรู้หมู่นี้ไอ่คุงชายของเอกเป็นอาราย
มันทำตัวโคตรรั่วเลยอ่ะ หนักข้อขึ้นทุกวัน
ยังไงก็...เอกช่วยดูแลไอ่คุงชายมันมากๆนะ
 :เฮ้อ: เป็นห่วงเอกน่ะ...กลัวจะมีแฟนเป็นคนบ้า

 :กอด1:ดูแลตัวเองด้วยนะน้องเอก +1ให้ก่อน เผื่อว่าเอกว่างแล้วจะได้รีบมาเล่าเรื่องต่อให้ คริ คริ :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้า&#
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 03-05-2009 13:18:08
ต่อไปผมจะไม่ได้ลงเป็นตอนๆแล้วนะครับ  คือตอนนี้จันทร์ถึงศุกร์ผมต้องฝึกงาน

เสาร์ อาทิตย์ก็ต้องกลับไปที่บ้าน    มีบ้างที่ต้องบินไป-กลับ  กรุงเทพ - นคร

เอาเป็นว่าผมจะอัพเดทหัวเรื่องให้ก็แล้วกันนะครับว่าผมมาลงแล้ว

ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีมาให้เสมอ  แต่ผมขอระบายหน่อยได้ไหม

ตอนแรกตั้มบอกว่า  มันเป็นปัญหาของเราสองคน  คนอื่นเขาไม่รู้เรื่อง

อย่าไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน  โอเคผมยอมฟัง  แต่ผมจะเข้ามาที่บอร์ดแห้งนี้ถึงวันที่ผมลงเรื่องจบเท่านั้น

แต่ผมจะไม่ห้ามให้ตั้มเขามาในบอร์ดนี้หรอกนะครับ 

เหตุผลที่ผมไม่เข้ามานั้นมันมีหลายอย่าง  แต่หลักๆเลย  ผมไม่ชอบเมลล์ของคนที่อยู่ในมุมมืดที่คอยส่งมาต่อว่า  ต่อขานผมกับตั้ม

ผมไม่เคยคิดดูถูกใคร  ผมไม่เคยให้ร้ายใคร  แต่ทำไมคนเหล่านั้นต้องคอยมาทำแบบนี้กับผม

หรือเพราะคุณอิจฉาในความรักของเราสองคน  ผมไม่เคยบอกว่าความรักของเราสองคนเป็นความรักที่ดีที่สุด  เป็นความรักที่วิเศษสุด

ผมไม่เคยคิดว่าเราสองคนจะเป็นพวกเลิศเลอเพอร์เฟ็ค  เราไม่ใช่เทวดาที่จะทนรับการดูถูกจากคุณแล้วไม่รู้สึกอะไร

เราไม่ใช่ถังขยะที่คุณคิดจะเอาความคิดน่าขนะแขยงมาทิ้งใส่  เราเป็นแค่ปุถุชนทั่วไปที่มีความรู้สึก  มีความโกรธ เกลียด  แต่เราจะไม่ตอบโต้คุณถ้าไม่จำเป็น

เรามีจุดประสงค์ที่จะลงเรื่องนี้  นั้นก็คือ  เพื่อบอกคนที่เรารักว่าเรายังจำเรื่องราว  เหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาได้  มันคือความทรงจำที่ดีของเราสองคน

ถ้าถามว่าเราเอามาลงให้คนอื่นอ่านทำไม  เพราะว่าเราอยากให้คนที่อยากรู้  อยากอ่านเรื่องของเรา  อยากให้พวกเขารู้สึกซาบซึ้งไปกับเรา

ถ้าคุณไม่อยากอ่านคุณก็ปิดไปซิ  ทำไมต้องมาตอบโต้เราสองคนด้วยเหตุการณ์ทุเรศๆแบบนั้น 

เอาเป็นว่าตอนนี้ผมไม่คิดติดค้างอะไรคุณแล้ว  ผมจะคิดแค่ว่า

ผมเดินไปเตะถังขยะ  แล้วเศษขยะมันกระเด็นมาโดนเท้าผม  ผมจะไม่โกรธโทษอะไรทั้งสิ้นที่ทำให้เท้าผมสกปรก เพราะผมแค่เช็ดมันออกมันก็ไม่สกปรกแล้ว

คุณคงคิดได้นะครับว่าผมหมายถึงอะไร   ขอโทษด้วยสำหรับคนทุกคนที่ชื่นชอบในตัวผมและเรื่องราวของผม  ที่ต้องมานั่งทนอ่านกับข้อความไร้สาระแบบนี้เอาเป็นว่าไปเข้าเรื่องราวเลยดีกว่า



ผมเดินออกมาจากตรงที่ตั้มกับพี่บาสคุยกันอยู่อย่างเงียบๆ  ออกมาด้วยความรู้สึกที่หลากหลายทั้งดีใจ สะเทือนใจ กลัว ความรู้สึกเหล่านี้มันวนเวียนอยู่ในสมองสลับไปสลับมา  ผมเดินกลับมาที่ซู้มและต้องสลัดความคิดความรู้สึกต่างๆออกไปก่อน  เพราะผมมีนาที่ที่ต้องรับผิดชอบนั้นคือการเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านของชุมนุม  ไม่นานตั้มก็กลับมาผมและคนอื่นๆก็เดินเข้าไปถามด้วยความอยากรู้ว่าพูดอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมาจากนั้นตั้มก็เดินขึ้นเวทีไปกับเบียร์เพื่อที่จะร้องเพลงให้พี่ๆที่จบการศึกษา
   ตั้มเดินมาบอกผมว่าจะขึ้นไปเอาของบนห้องหลังจากลงเวทีมาแล้ว  เมื่อเวลาผ่านไปได้ซักระยะผมเบียร์ก็เดินกลับมาผมเลยเดินไปถามว่าตั้มไปไหน  แล้วคำตอบที่ได้ก็คือ  ตั้มยืนคุยกับบุ้งอยู่หน้าห้อง  ผมเลยเดินขึ้นไปด้วยความอยากรู้ว่าเขาสองคนคุยอะไรกัน  แต่ระหว่างทางเดินบันไดผมก็พบว่าตั้มกำลังเดินลงมาพอดี  แต่ภาพที่ผมเห็นนั้นคือตั้มกับบุ้งเดินจูงมือกันลงมา  บอกตรงๆเลยนะครับว่าผมค่อนข้างช็อคกับภาพนั้นพอสำควร  ผมได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองไม่ว่าจะเป็น  เขาสองคนเป็นแฟนกันหรอ  ไหนสัญญาว่าจะไม่มีแฟนจนกว่าเราจะมีแฟน  ต่อไปเราต้องอยู่คนเดียวแล้วใช่ไหม  หรือเราอกหักหรอ   ทำไมมันรู้สึกอึดอัดกับการที่ต้องมายืนตรงนี้

  “บุ้ง  ขอตั้มเป็นแฟนเองแหละ” อยู่ดีๆบุ้งก็พูดออกมา  พร้อมสงยิ้มให้ผม  แต่ยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกสมเพช เหยียดหยาม 
 “กูไปก่อนนะ” คำที่ผมอยากได้ยินจากปากตั้มคือ  เรื่องที่บุ้งพูดมันไม่จริงแต่นี้อะไร  บอกผมว่าไปก่อนนะ  ผมไม่ได้อยากได้ยินคำนี้  ผมอยากให้คำพูดบุ้งเป็นเรื่องไม่จริง ทำไมตั้มไม่ปฏิเสธออกไป  จากนั้นตั้มก็เดินลงบันไดไปกับบุ้ง 

   ทันทีที่ตั้มกับบุ้งเดินผ่านผมไปน้ำตาผมไหลออกมาอย่างกับเขือนแตก  ผมเดินขึ้นมาบนห้องปิดประตูลงกลอน  นั่งฟุบกับโต๊ะปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาในสมองผมนั้นตอนนี้คิดแต่เรื่องตั้มกับบุ้งนานจนผมหลับไป 
   ผมตื่นขึ้นมารู้สึกปวดหัว ปวดตา  ดูเวลาก็บ่ายโมงกว่าๆแล้ว  ผมเดินไปที่ประตูแล้วเปิดออก
“โอ๊ยยยย !!! หัวกู” ประตูที่ผมเปิดเมื่อตะกี้คงไปชนใครแน่เลย  ผมก้มไปมองกำลังจะพูดขอโทษ  แต่ผมกลับหัวเราะออกมาแทนเพราะคยที่นั่งอยู่บนพื้นนั้นคือตั้ม
“เห้ย  เป็นไรมากไหม  โทษทีไม่ได้ตั้งใจ  นึกว่าไม่มีใครอยู่ ถ้ารู้ว่านายอยู่หน้าประตูเราจะได้เปิดแรงๆกว่านี้”  ผมตัดสินใจก่อนออกจากห้องแล้วว่าจะไม่เสียใจกับเรื่องนี้ต่อไปเลยสงยิ้มให้ตั้มแล้วพยุงตัวให้ลุกขึ้นยืน
“มึงเป็นอะไรหรือเปล่า  ทำไมตาแดงๆ  มึงร้องไห้มาหรอ”
“เปล่าไม่มีอะไร”
“มึงอย่ามาโกหก  บอกกูมามึงร้องไห้ทำไม  ใครทำอะไรมึง  บอกกูมา  เดี่ยวกูไปจัดการให้” พูดจบตั้มก็ดึงผมไปกอด  จะกอดทำไม  นายยิ่งทำแบบนี้เรายิ่งตัดใจไม่ได้  เลิกบ้างได้แล้วนิสัยให้ความหวังคนอื่นแบบนี้
“นายไม่รู้จริงหรอเราร้องไห้เรื่องอะไร  นายไม่รู้จริงๆเลยหรือไงว่าตลอดเวลาเราคิดยังงัยกับนาย  เราชอบนาย  ชอบมานานแล้วด้วย  เราก็ไม่รู้ว่าเราชอบนายตั้งแต่เมื่อไหร่  แต่รู้ตัวอีกทีก็ชอบนายแล้ว  แล้วไอที่เราร้องไห้เนี๊ย  เพราะเรากลัว.....” ผมหยุดไปในตอนท้าย  ผมอยากจะบอกตั้มว่าผมชอบตั้ม  ชอบแบบคนรัก  แต่แล้วคำพูดของตั้มกับพี่บาสทำให้ผมต้องหยุด  บอกตามตรงเลยว่าผมกลัว  กลัวจะเป็นเหมือนพี่บาส
“เอกกลัวเหงาหรอ  ไม่ต้องกลัวนะ  เราสัญญาว่าเราจะไม่ปล่อยนายให้เหงา  นายยังเป็นคนสำคัญสำหรับเราเสมอ  เราสัญญา”  ผมผละออกจากอ้อมกอดผม มันรู้สึกว่าดีแล้วที่ตั้มคิดไปทางนั้น  ดีกว่าตั้มรู้ว่าผมคิดไม่ซื่อกับตั้ม  แต่แล้วผมก็ไม่สามารถเก็บความรู้สึกไวได้อีกแล้ว  ผมเลยตัดสินใจที่จะบอกออกไป
“ขออะไรข้อได้ไหม  อย่าห้ามไม่ให้เรารักนาย อย่าปฏิเสธความหวังดี  อย่าทำเป็นไม่รับรู้ความรู้สึกเรา  ถ้านายทำไม่ได้เราคงทนไม่ไหว”
“ไหนว่าข้อเดียว  ที่มึงขอมานะไม่รู้กี่ข้อ”  ตั้มยิ้มให้ผม  นั้นเป็นสัญญาณดีว่าตั้มไม่ได้รังเกียจความรู้สึกผม  ตั้มไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกผม  ตั้มรับรู้แล้วว่าผมรู้สึกยังไงกับตัวเอง
“แล้วได้ไหม  ขอแค่นี้เอง” ตั้มไม่ตอบแต่พยักหน้า  เห็นดังนั้นมันก็ทำให้ผมยิ้มได้อีกครั้งแล้ว  ผมรู้สึกดีที่ตั้มรับรู้ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแฟนกัน  แต่ได้แค่นี้ก็พอแล้วละครับ
   ตั้มกับบุ้งเริ่มมีปัญหากันบ่อยในระยะหลัง  คงเกิดจากการที่ตั้มไม่ค่อยสนใจ  ไม่เอาใจบุ้งเท่าไหร่แต่ในความเห็นผมแล้วจะโทษตั้มฝ่ายเดียวก็ไม่ได้เพราะว่าถ้าเป็นผม  ผมก็คงทนไม่ได้ตริงๆ  เช้าก็ต้องไปรับที่บ้าน  เที่ยงก็ตองอยู่ด้วยกันกินข้าวด้วยกันนั่งคุยด้วยกัน  แล้วในกลุ่มบุ้งก็จะมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้นแล้วตั้มเป็นผู้ชายคนเดียว  ตกเย็นก็ต้องไปส่งบ้าน  เสาร์อาทิตย์ก็ต้องรับไปเที่ยว  ทำให้ตั้มไม่มีเวลาส่วนตัว  ไม่มีรเวลาให้เพื่อนๆซึ่งมันทำให้ตั้มอึดอัดและตัดสินใจที่จะทำตัวห่างๆบุ้งจนถึงวันฟังผลสอบ
   ผมกับเพื่อนๆคนอื่นนั่งคอยให้ถึงเวลาเข้าห้องกันที่โต๊ะประจำ  ไม่นานตั้มก็มาถึงมาพร้อมกับมอเตอร์ไซต์ที่ผมไม่กล้านั่งเท่าไหร่  เพราะได้ยินแค่เสียงท่อผมก็จำได้แล้วว่าใครเป็นเจ้าของรถ  เพราะมีอยู่คนเดียวแหละครับที่กล้าขับรถท่อดังๆแบบนั้น  เพราะคนอื่นเขาจะจอดรถไว้ข้างหลังโรงเรียน  แต่ก็ไม่เคยมีอาจารย์คนไหนด่าตั้มเลยนะครับ  จะว่าได้ไงเด็กกิจกรรมของโรงเรียน  ตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันกิจกรรมต่างๆ  แล้วยังเป็นนักกีฬาโรงเรียนอีกด้วย  เมื่อตั้มเดินมาถึงผมก็เห็นบุ้งเดินมาจากไหนไม่รู้มาถึงก็กระชากไหล่ตั้มให้หันไปหาตัวเอง
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์บุ้ง”  บุ้งถามตั้ม
“ก็ไม่ได้อยู่บ้าน  แล้วจะรับได้ยังไง”
“แล้วกลางคืนละ  ออกไปไหนหรอ สี่ห้าทุ่ม  ถึงยังไม่อยู่บ้าน”
“ก็......”  ตอนนี้ผมกับเพื่อนได้แต่นั่งเงียบๆ  ไม่มีใครพูดอะไร
“ไม่ต้องมาก็.....เลยนะ  ทำแบบนี้อยากเลิกกับบุ้งใช่ไหม  บอกมาซิ”
“บุ้ง  โมว่าค่อยๆพูดนะ  มีอะไรคุยกันดีๆ  อย่าใช้อารมณ์นะ”  โมเข้าไปห้ามบุ้ง
“ไม่ต้องหรอกโม  ให้บุ้งเค้าพูดออกมาให้หมด”  ตั้มห้ามโม  สงสัยวันนี้ตั้มคงจะทำให้เรื่องมันจบแน่ๆ
“อยากเลิกมากเลยใช่ไหม  ทำไมละ  ตั้มเบื่อบุ้งหรอ บุ้งไม่ดีตรงไหน  ความสำคัญของบุ้งสู้เพื่อนตั้มไม่ได้เลยหรือไง  เวลาบุ้งขอให้ตั้มไปไหนมาไหนกับบุ้งตั้มก็พูดแต่ว่าเดี่ยวถามเพื่อนก่อนบ้างละ  อยู่กับคนนั้นบ้าง  คนนี้บ้าง  คอยหาข้ออ้างตลอด  ทำไมตั้มต้องคอยแคร์แต่ความรู้สึกของคนอื่น  แต่ตั้มไม่แคร์ความรู้สึกของบุ้งบ้างละ”  ผมถึงกับสะดุ้งเพราะคำพูดของบุ้งนั้น  กระทบผมเต็มๆ  เพราะทุกครั้งที่บุ้งโทรมาไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรือเปล่า  ตั้มจะอยู่กับผมตลอด ตอนนี้ผมเริ่มน้ำตาไหลออกมา  ผมโกรธตัวเองที่เป็นคนสร้างปัญหาทำให้คนอื่นต้องเลิกกัน  ผมเกลียดตัวเองที่เห็นแก่ตัวทีร่ยึดตั้มให้อยู่กับผม  ขอให้ตั้มไม่ไปไหนมาไหนกับบุ้งโดยไม่มีผม

“บุ้งตั้มขอโทษนะ  แต่เราหยุดแค่ตรงนี้นะ  บุ้งเองก็เหนื่อยที่จะวิ่งตามตั้ม  บอกตรงๆตั้มก็เหนื่อยที่คอยจะหนีบุ้งด้วย  บุ้งจำได้ไหม  ว่าบุ้งเคยบบอกว่าถ้าเราคบกันแล้วมันยังไม่เวิร์ค  เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกัน  ตั้มขอทำตามนั้นนะบุ้ง  อย่าโกรธตั้ม  อย่ามารักตั้มอีกเลย” เมื่อคั้มพูดจบบุ่งถึงกับอึ้งและนิ่งไปเลย  โมก็เลยพาบุ้งออกไปจากตรงนั้น
   หลังจากบุ้งไปแล้วตั้มกกับเพื่อนๆก็คอยปลอบผม  ตั้มบอกว่าไม่ใช่เพราะผมหรอกที่ทำให้เขาสองคนเลิกกัน  แต่ปัญหามันอยู่ที่เขาสองคนถึงไม่มีผมตั้มก็ต้องเลิกกับบุ้งอยู่ดี  เมื่อฟังผลเสร็จซึ่งเกรดที่ออกมาก็ถือว่าดีพวกผมก็เลยมุ่งตรงไปยังบ้านตั้มกัน  เพราะแม่ได้ทำอาหารรออยู่แล้ว
   ตกเย็นวันนั้นพ่อกับแม่ของตั้มก็พาผมกับตั้มออกมายังห้างฯ  ม่บอกว่าจะมาซื้อของให้คุณชายตั้มตามสัญญา  จะว่าผมอิจฉาตั้มก็ได้ที่พ่อกับแม่ตามใจตั้มแบบนี้  แต่ไม่ใช่ว่าจะตามใจจนเสียคน  ไม่ว่าตั้มจะอยากได้อะไรพ่อกับแม่ไม่เคยปฏิเสธแต่ต้องหาเหตุผลมาให้ได้ว่าจะเอาไปเพื่ออะไร  และต้องทำตามข้อแลกเปลี่ยน  ซึ่งครั้งนี้ตั้มได้สัญญากับที่บ้านว่าถ้าได้ผลการเรียนมากกว่า 3.50 จะขอมือถือเครื่องหนึ่ง  ซึ่งตั้มก็ทำได้แต่ผมก็แปลกใจอย่างหนึ่งคือ  ตั้มไม่เคยอ่านหนังสือเลยไม่ว่าจะตอนไหนแม้แต่ก่อนสอบด้วย  ผมเห็นวันๆเอาแต่เล่นเกมส์กับขับรถเที่ยว  ผมนั่งรอตั้มเลือกโทรศัพท์กับพ่อ  ตั้มเดินกลับมาพร้อมกับถึงใส่มือถือสองถุงแล้วส่งให้ผมถึงหนึ่ง  ตอนแรกผมก็ไม่รับหรอกครับเพราะผมไม่มีความจำเป็นที่จะใช้  แต่ด้วยเหตุผลของแม่ตั้มผมก็เลยต้องรับไว้
   
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.20 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 03-05-2009 13:46:36
ว้าว   คิดถึงเอกจัง    :กอด1:

อย่าไปใส่ใจความคิดคนมากเลยเอก  นานาจิตตัง 
ทิ้งไปเหอะ ขยะพวกนั้น 


เป็นกำลังใจให้นะคับ   :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.20 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 03-05-2009 13:55:08
 :เฮ้อ:   บอกแล้วว่าอย่าไปคิกมากก็ไม่เชื่อ

แล้วเอามาป่าวประกาศทำไมเนี๊ย   :z3:

แล้วทีหลังถ้าคิดจะลงเรื่องยาวๆก็มาตรวจสอบบ้างนะว่ามันสมบูรณ์ไหม

รีบกลับมาแก้ด่วนเลย  อิอิ

 :oo1:

ทำโทษซะเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.20 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 03-05-2009 14:07:36
 :z13: คุณชาย รีบน 

ดีใจที่น้องเอกมาต่อเรื่อง   :กอด1:  เป็นกำลังใจให้นะ อย่าไปสนใจ อะไรที่มันไม่ดีเลย
มองข้ามไปบ้างอะไร บ้าง นะ   :L2:

 :เฮ้อ: สำหรับตอนนี้ก็ยังสงสารน้องเอก อยู่ ดี

แล้วจะรอตอนต่อไปนะ +1 เป็นกำลังใจนะ  :L2:

 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.20 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 03-05-2009 14:14:31
ดีใจที่น้องเอกมาต่อเรื่องแล้ว

เห็นที่แจ้งไว้แล้ว น่าสงสารจัง ทำใจให้สบายนะจ้ะ คนขี้อิจฉาเราอย่าไปใส่ใจเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.20 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 03-05-2009 14:52:27
ง่ะ k.น้องตั้ม  มาตรวจสอบภรรเมียเหรอจ๊ะ 

แล้วเรื่องตัวเองละ ไปต่อมารึยัง  เดี่ยวจะเข้าไปดู  :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.20 น.
เริ่มหัวข้อโดย: gon_natt ที่ 03-05-2009 16:08:07
โอ๋ๆๆ...พี่เอกอย่าเก็บขยะมารกใจรกสมองนะค่ะ...เป็นกำลังใจให้น้า
 :กอด1:
เห็นบอกไว้ว่ากำลังฝึกงาน สู้ๆนะค่ะ
 :L2:

^_________________^

 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.20 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 03-05-2009 16:15:23
           เมื่อกลับมาถึงบ้านพวกเพื่อนๆผมก็นั่งทานกันบ้างแล้ว  และพี่ปิงก็มานั่งอยู่แล้วด้วย  ผมเลยขอตัวเอาของไปเก็บในบ้านก่อน  ผมเดินเข้ามาในบ้านแล้วกำลังจะเดินกลับออกไปแต่พี่ปิงก็มายืนรออยูหน้าประตูห้อง
“พี่ปิงมีอะไรเปล่า”  ผมทักพี่ปิง
“พี่ขอคุยหน่อยได้ไหมว่ะ”  ผมก็พยักหน้าแล้วพาพี่ปิงเข้าไปคุยในห้อง
“พี่มีอะไร”
“เข้าเรื่องเลยนะ  พี่ตั้มอ็งว่ะ  พี่ไม่รู้ว่าพี่ชอบเอ็งเมื่อไหร่  แต่มารู้ตัวอีกทีสายตาพี่ก็คอยมองหาแต่เอ็ง  พี่ไม่รู้ว่าพี่เป็นเกย์หรือเปล่าแต่ถ้าเพื่อเอ็.แล้ว  พี่ยอมเป็นว่ะ”  คำพูดของพี่ปิงทำเอาผมอึ้งไปขั่วขณะ  ถ้าไม่ได้พี่ปิงเรียกผมก็คงยังอยู่ในภวังค์ต่อไป
“แต่...เอกมีคนที่ชอบแล้วนะพี่”
“พี่รู้ว่าอ็งชอบใคร  พี่เห็นว่าเอ็งมองคนนั้นด้วยสายตาแบบไหน  แต่เอ็งจะไปทนกับการแอบรักแอบชอบใครทำไม  ลองเปิดใจให้พี่เข้าไปได้ไหม  พี่เชื่อนะว่าสักวันเอ็งจะรักพี่ได้  พี่อาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด  แต่เพื่อเอ็งแล้ว  พี่ยอมเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง”  ผมว่าพี่ปิงต้องไปจำมาจากละครเรื่องไหนสักเรื่องแน่  แต่มันก็ทำให้คนฟังถึงกับรู้สึกดีกับผู้พูดได้นะ
“ครับ  แต่...ผม....”  ผมไม่รู้จะตอบพี่ปิงยังไง  จะปฏิเสธก็ไม่กล้า  จะตอบรับก็ไม่กล้าอยู่ดี
“เอาเป็นว่าเราลองดูๆไปก่อนได้ไหม  ไม่ต้องตกลงเป็นแฟนกันก่อน  แค่ไม่ปฏิเสธพี่ก็พอ”
“ครับ”  ผมตอบกลับไปสั้นๆ  แต่ความหมายของผมไม่รู้ว่าพี่ปิงจะเข้าใจว่าอย่างไร  แต่สำหรับผมแล้ว  มันไม่ใช่คำตอบตกลงหรือว่าปฏิเสธ
   ผมลงมาข้างล่างพร้อมกับพี่ปิงตั้มมองผมด้วยความแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรผมก็เลยไม่ได้เล่าอะไรให้ตั้มหรือใครๆฟัง  พี่ปิงเองก็ไม่ได้มีปฏิกิรินาใดๆให้ใครสงสัย  พวกผมก็เลยนั่งกินและดื่มไปเรื่อยๆ
   เมื่องานฉลองจบลงผมก็ลากร่างอันโทรมและเหม็นไปด้วยกลิ่นเหล้าเบียร์ของคุณชายขึ้นมาบนห้องแล้วจัดการเช็ดตั้วให้คุณชาย  เพราะผมจำได้ว่าตั้มเป็นพวกที่ประเภทถ้าไม่ได้อาบน้ำจะนอนไม่หลับกระสับกระส่ายทั้งคืน  อย่างน้อยก็ขอให้ได้เช็ดตัวสักนิดก็ยังดี

“ตั้ม  เช็ดตัวก่อนนะ  อย่าเพิ่งหลับ” ตั้มชอบให้ผมพูดจาเพราะๆเวลาตั้มเมาซึ่ง  ตั้มเองก็จะพูดเพราะๆกับผมเหมือนกัน
“ปวดหัวไหม  เดี่ยวเอกไปเอายามาให้”  ตั้มส่ายหน้าปฏิเสธ
“เอก  รอตั้มไหวไหม  แต่ถ้าวันไหนเอกเจอคนที่ถูกใจ  เอกก็อย่าปิดกลั้นตัวเองนะ”  ผมบอกไม่ถูกว่าผมควรจะดีใจกับคำพูดนี้หรือเสียใจกับคำพูดนี้ดี
“เอกบอกแล้วไงว่านานแค่ไหนก็จะรอ”  แต่ผมเลือกที่จะตอบแบบนี้  แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าผมจะรอตั้มได้นานแค่ไหน
   หลังจากนั้นผมก็จัดการเก็บของเข้าที่แล้วเข้าไปอาบน้ำออกมาอีกทีตั้มกับเบียร์ก็หลับไปแล้ว  ผมเลยต้องมุดตัวเข้าไปแทรกตั้มนอนด้วยเพราะผมไม่สนิทใจที่จะไปนอนกับเบียร์บนที่นอน  อาจจะเป็นเพราะผมไม่เคยนอนกับเบียร์หรือเพื่อนคนอื่นๆด้วย
   เช้าวันถัดมาผมก็ต้องเดินทางกลับไปที่บ้าน  เพราะแม่ผมบอกว่าจะไปธุระต่างจังหวัดกับพ่อหลายวัน  ผมก็เลยต้องกลับไปเฝ้าบ้าน  ส่วนตั้มเองก็ต้องอยู่ช่วยพ่อทำบัญชีที่บ้านเลยทำให้ผมกับตั้มไม่ได้เจอกันช่วงระยะหนึ่ง  ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะเหงาเพราะอยู่คนเดียว  แต่ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว  เพราะว่าพี่ปิงคอยโทรมาคุยด้วยตลอดแล้วก็มีบ้างที่นุ่นจะเดินมาเที่ยว เล่น  นั่ง  นอนที่บ้านผม  ผมกับนุ่นและโมเราค่อนข้างจะสนิทกันมาก  ผมจะเอาเรื่องไปปรึกษากับสองคนนี้บ่อยๆ  ไม่ว่าจะเรื่องอะไรแม้แต่เรื่องพี่ปิงเอกก็ตาม 

“ครับพี่ปิง”  ผมรับสายจากพี่ปิง”
“น้องเอกอยู่ไหรครับ”
“อยู่บ้านครับ  พี่ปิงมีอะไรโทรมาแต่เช้า”
“พี่โทรมาขอกำลังใจ  ตอนนี้พี่กำลังจะเข้าห้องสอบแล้ว”  คือพี่ปิงจะสอบเข้าเรียนต่อสายอาชีพที่วิทยาลัยเทคนิคฯนะครับ
“อ๋อครับ  งั้นสู้ๆนะครับพี่ปิง  ตั้งใจสอบด้วยแล้วขอให้ทำได้นะครับ  อย่าแค่ได้ทำ”
“ครัมผม  พี่คิดถึงเอกจัง  เดี่ยวพี่สอบเสร็จพี่ไปหาน้องเอกได้ไหม”
“แล้วแต่พี่ครับ  ผมยังไงก็ได้แต่บ้านผมอยู่ไกลนะพี่”
“ครับ  เดี่ยวพี่สอบเสร็จแล้วพี่จะไปหา”
   เมื่อวางสายจากพี่ปิงได้ไม่นานตั้มก็โทรเข้ามาพอดี  ผมก็เลยต้องรีบไปรับ
“ว่าไง”  ผมทักตั้ม
“ว่าไงอะไร  เมื่อกี้คุยกับใครอยู่ตั้งนานโทรก็ไม่ติด”  เสียงตั้มฟังดูหงุดหงิดๆ  คงจะมีใครไปขัดใจอีกแน่แท้
“คุยกับพี่ปิงอยู่  มีอะไรไหม”
“เออดี  รู้สึกช่วงหลังจะคุยกับพี่ปิงบ่อยจริงนะ  เราไม่สำคัญแล้วใช่ไหม” 
“ตั้มเป็นอะไรอีกเนี๊ย  เราไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“เออ  งั้นแค่นี้แหละ”   พูดจบตั้มก็วางสายไปเลย  ผมโทรกลับไปอีกทีตั้มก็ปิดเครื่องหนีไปเลย  โทรเข้าไปที่บ้านก็สายไม่ว่าง  ผมคิดว่าตั้มคงถอดสายโทรศัพท์ทิ้ง  เพราะตั้มเป็นบ่อยถ้าไม่อยากคุยกับใคร

   ผมเลยตัดใจไม่ติดต่อกลับไปเพราะยังไงก็ติดต่อไม่ได้แล้ว  คงทำได้แค่รอจนกว่าจะติดต่อกลับมา   ผมรออยู่นานจนเบื่อเลยเดินไปชวนนุ่นที่บ้าน  กะว่าจะไปเดินตลาดหาซื้อขนมกิน  ดูโน่นดูนี้ไปเรื่อยๆ  จนช่วงสายๆก็กลับบ้านกัน  ผมกลับมาถึงบ้านได้สักพักก็ได้ยินเสียงรถบีบแตรอยู่หน้าบ้านผม  ผมก็วิ่งไปดูว่าเป็นใคร

“อ้าวพี่ปิง  สวัสดีครับ”  ผมเห็นพี่ปิงนั่งอยู่ในรถผมก็เลยวิ่งไปเปิดประตูรั้วให้  แล้วยกมือไหว้พี่ปิง
“โหยไหว้พี่แบบนี้  พี่ก็แก่กันพอดี”
“มาถูกได้ไงเนี๊ย  ไม่เคยมาไม่ใช่หรอ”
“พี่โทรไปถามทางจากไอตั้มเอาน่ะ”
   หลังจากทักทายกันเป็นที่เรียบร้อยผมก็เลยชวนพี่ปิงเข้ามาคุยในบ้าน  เราคุยกันได้สักพักพี่ปิงก็ชวนผมไปเที่ยวในเมืองกันผมก็เลยวิ่งไปชวนนุ่นด้วย  นุ่นก็ตกลงจากนั้นเราก็ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำแต่งตัวแล้วมุ่งตรงมายังในเมือง
   เรามาเดินเล่นกันที่ห้าง  หิวก็กินกินแล้วก็เดินเที่ยวต่อ  เข้าร้านโน้นออกร้านนี้ก็สนุกไปอีกแบบเพราะว่าถ้ามากับตั้มหรือเพื่อนคนอื่นๆผมจะไม่ได้เดินเลือกซื้อของเท่าไหร่  เพราะเพื่อนผมส่วนใหญ่เป็นพวกอยู่กับที่หลี่สาวไปเรื่อยไม่ค่อยเดินเลือกซื้อของสักเท่าไหร่  เมื่อเราเดินกันจนเมื่อยพี่ปิงเลยขออาสาเลี้ยงหนังเราสักเรื่อง  ซึ่งผมกับนุ่นเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร   ตลอดเวลาดูหนังพี่ปิงจะคอยเอามือมาถูกๆมือผม  ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่หันไปยิ้มให้  แต่พอเริ่มบ่อยขึ้นผมก็เริ่มรำคาญ

“พี่ปิงถ้าอยากจับก็จับ  กล้าๆหน่อย”  พูดไปแล้วผมก็ตกใจตัวเองไม่คิดว่าผมจะกล้าพูดออกไป  จะขอคืนคำพูดก็ไม่ทันแล้ว  เพราะพี่ปิงจับมือผมทันทีที่ผมพูดจบ

   เราดูหนังไปได้สักพักพี่ปิงก็หลับ  แต่ก็ไม่ได้หลับธรรมดาเอาหัวมาพิงที่ไหล่ผมอีก  ผมก็ไม่กล้าปลุกพี่ปิงหรอกครับเกรงใจด้วย  คิดได้แค่ว่าสงสัยพี่ปิงคงเหนื่อยกับการสอบและคงหล้าสะสมมาจากการอ่านหนังสือมาหลายวัน  จนหนังจบพี่ปิงก็ตื่นพอดี  จนผมสงสัยว่าพี่ปิงแกล้งหลับหรือเปล่า  แต่ก็ไม่กล้าถามพี่ปิงหรอกครับ
   ตลอดช่วงปิดเทอมพี่ปิงจะคอยโทรมาหาผมตลอดหรือไม่ก็จะมาหาผมถึงบ้านเลย  จนวันหนึ่งพี่ปิงถามผมว่าผมยอมรับพี่ปิงเป็นแฟนได้หรือยัง  ผมเลยตอบไปว่าแล้วทุกวันนี้มันคืออะไร  เท่านั้นแหละครับพี่ปิงถึงกับกระโดดกอดผมทันที  ผมบอกไม่ถูกหรอกครับว่าทำไมผมถึงรับตอบตกลงเป็นแฟนกับพี่ปิง  ผมคิดแค่ว่า  ‘ผู้ชายคนนี้พิสูจน์ให้ผมเห็นถึงหลายๆครั้งว่า  เขาชอบผมจริงๆ  ผมเสียสละทุกสิ่งให้ผม  คนดีๆแบบนี้ผมไม่อยากทำให้เขาเจ็บปวด  เสียใจเพราะผม  ผมขอเลือกที่จะเจ็บเอง’
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate ที่ 03-05-2009 16:54:07
^
^
^
จิ้ม พี่เอก   :z13:  :z13:

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 03-05-2009 17:13:49
มีต่อภาคเย็นด้วย    ดีจัง   
เคยสงสัยอยู่  ว่าพี่ปิงทำไง  ถึงเป็นแฟนกะเอกได้ 
พี่ปิงก็ดีกับเอกจริงๆแหละเนอะ   

แต่คนที่เอกรัก ไม่ใช่พี่ปิง 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 03-05-2009 21:23:26
 o13สู้ๆๆนะน้องเอก อย่าคิดมาก ช่างเค้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-05-2009 22:03:26
กำลังสับสนอยู่ใช่เปล่าน้องเอก

ถ้าว่างก็มาต่อนะครับ เป็นกำลังใจให้น้องเอก

อย่าไปใส่ใจกับเรื่องที่ไม่ควรใส่ใจ +1 ให้เป็นของฝากละกัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 03-05-2009 22:32:25
มาลงแล้ว เย่เย่  :-[

ตอนนี้ตกลงคบกับพี่ปิงซะแล้ววว

ตอนก่อนที่เห็นตั้มกะบุ้งเดินมาด้วยกันคงช็อกน่าดูเลย...  :เฮ้อ:

PS: ใครว่าไรไม่ต้องสนใจหรอ ยังมีอีกหลายคนที่ชื่นชอบและติดตามเรื่องของตั้มกะเอกอยู่นะ สู้ๆ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 03-05-2009 22:45:46
เป็นธรรมดา  มีคนชอบ มีคนไม่ชอบ  แต่คนที่เขาติดตามจริงๆ ล่ะจะเป็นแบบไหน

เป็นกำลังใจให้เอก& ตั้ม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 03-05-2009 22:50:37
มาเป็นกำลังใจให้น้องเอกนะคะ  :L2:

และรอตอนต่อไปด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 03-05-2009 23:46:48
เอก ข้าศึก บุก จัดการเลย

 :mc4: ชิ้วๆๆ

กลับไปต่อของตัวเองเลยนะ

ตั้ม โอเอ้ เชียว  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 03-05-2009 23:54:57
น้องเอกเล่าเรื่องแบบนี้ อ่านง่าย สบายๆ
ลำดับเหตุการณ์ต่อเนื่อง อ่านแล้วเข้าใจ เห็นภาพตามที่เล่า
มีรายละเอียดเพิ่มเติม ทำให้เข้าใจเรื่องราวความรักของเอกกะตั้มมากขึ้น

ไม่แปลกใจนะ เวลาอ่านเรื่องนู้นของตั้ม ทุกคนรู้สึกว่าเอกเป็นคนน่ารักมากมาย  
แล้วพอมาอ่านเรื่องนี้ของเอก ก็รู้สึกว่าตั้มเป็นคนน่ารักมากมาย เหมือนกัน
อาจจะเป็นเพราะว่า ทั้งเอกและตั้ม ต่างคนก็เล่าถึงคนรักของกันและกันล่ะมั้ง
ความรักที่มีให้กันเป็นอย่างไง มันก็เลยออกมาทางการเล่า เป็นตัวหนังสือที่สื่อออกมายังงี้

 :กอด1:ขอบคุณคับ น้องเอก ดูแลตัวเอง ดูแลคุงชาย ดูแลความรักให้ดีทุกวันนะคับ  :L1: +1 ให้น้องเอก  
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 04-05-2009 07:22:34
 :a5:

เป็นแฟนกะพี่ปิงแล้วหรอ?

เหอะๆ

มาต่อไวๆนะคับ จาดิ้นรอ  :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 04-05-2009 08:41:47
โห มีมาต่ออีกตอนด้วย

แต่ว่านะ ตอนนี้รู้สึกสงสารคุณชายไงไม่รู้

คุณชายไม่รู้เรื่องเลยนิ   :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 04-05-2009 09:33:11
 :oni1:








 :m7:










 :m32:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-05-2009 11:55:59
^
^
^
จึ๊ก จึ๊ก จึ๊ก  :z13:
ฮ่าฮ่า ได้เวลามรึงเสียตรู๊ดดดดด ให้ตรูแล้วว่ะตั้ม เอิ้กเอิ้ก
 :z1:

ที่นี้ไม่ใช่ที่จะมาวิ่งเล่นนาวุ้ยยยยย ไอ่คุงชาย แฮ่ แฮ่   :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 04-05-2009 12:30:28
 :กอด1: น้องเอก
ทำแบบที่น้องเอกสบายใจแล้วกันนะจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้ และขอบคุณมากจ้า ที่ถึงแม้จะเจอเรื่องอะไรก็ยังจะมาต่อเรื่องให้จนจบ

อ่านตอนนี้เข้าใจเรื่องการคบกะพี่ปิงในมุมมองของน้องเอกเลย
เข้าใจว่าทำไม และเพราะอะไร มันไม่ใช่อารมณ์ประชด
แต่เป็นเพราะความพยายามของคนคนหนึ่ง กับปัจจัยอีกหลายอย่าง

บวก 1 แต้มนะจ๊ะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 04-05-2009 15:36:51
 :L2:...หวัดดีน้องเอก..รู้จัก log in นี้ไหม...sexyman ไปจัดการหน่อย
...เห็นเข้ามาป่วน กระทู้นี้บ่อยๆๆ เค้าเป็นอะไรของเค้าเนี่ย
...สงสัย...แอบรักเจ้าของกระทู้แหงๆๆ..บางที่ก็เข้ามาวิ่งเล่นเฉยๆๆไม่พูดไม่จา

...ส่วนเรื่องโดนภัยมือคุกคาม ...ก็นะอโหสิ ไปเถอะ
...บางคนเนี่ย ก็มีหลายๆๆอารมณ์ในตัวเอง บางทีเค้ายังไม่เข้าใจตัวเค้าเองเลย
...พวกนี้น่าสงสาร  เอามาโพสหน้าบอร์ดก็ดีเผื่อเค้าจะคิดได้บ้าง ว่าทำไปเพื่ออะไร  :กอด1:

...น้องเอกคนเนี้ย sexyman ถ้าจะว่างนะเอามาตรวจ proof ดีไหมจะได้ไม่วิ่งเล่นซุกซน
...เห็นทำอยู่ไม่กี่อย่าง เมา เล่นบอล วิ่งเล่น จิกกัด เจ้าของกระทู้นี้ อิอิ วอนแล้วตรู :z2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 04-05-2009 16:21:16
...น้องเอกคนเนี้ย sexyman ถ้าจะว่างนะเอามาตรวจ proof ดีไหมจะได้ไม่วิ่งเล่นซุกซน
...เห็นทำอยู่ไม่กี่อย่าง เมา เล่นบอล วิ่งเล่น จิกกัด เจ้าของกระทู้นี้ อิอิ วอนแล้วตรู :z2: :L2:


ก่อนอื่นขอ   :beat:  ก่อนปรักปรำเค้าได้ไง    :o12:

เค้าทำอย่างอื่นอีกตั้งมากมายน๊า  ยกตัวอย่างเลยคือ   :oo1:  จขกท.  อ่ะ

 :angry2:  เข้าใจไว้ด้วยน๊า



ปล.  เด่วต้องไปรับ  จขกท.  แล้วอ่ะครับ  ใกล้เลิกงานแล้ว  บั๊บบาย  แล้วเจอกานคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ

ปล.2  รีบๆ  ไปดูหนัง  ม.3  ปี 4  กันน๊า  เพราะ  จขกท.ดูแล้วถึงกับอินจัดทรายเข้าตากันเลยทีเดียว   :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Markkii~Mewon ที่ 04-05-2009 17:53:36
เข้ามาอ่านทีเดวจนจบเลยย

ตอนแรกก็ว่าชื่อเรื่องในวงเล็บ (อย่ารักกู) คุ้นๆๆ

พอเปิดมาก็อ้าวพี่เอกนี่เองงง

ฮ้าๆๆๆๆๆๆ


พี่เอกสู้ๆๆน้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 06-05-2009 00:26:56
กร๊ากกกกกกกกกกกกกก  อินจัด จน ทราย เข้า ตา


หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 06-05-2009 18:27:15
 :m32:








 :m7:








 :m22:








 :m12:  เน่ๆๆๆ   ทู้โน้นเค้าต่อแล้วน๊า   มัวทำรัยอยู่อ่ะ




สงสัยเจองานหนัก    :m11:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 06-05-2009 19:23:17
เย้ๆ พี่เอกมาต่อแล้ว เค้าคิดถึงจัง

คุณลุงตั้ม ไปขี้ไป๊ คิคิ

รักพี่เอกคั๊ฟฟ :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++3 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.15 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 06-05-2009 21:32:39
          เช้าวันนี้พี่ปิงโทรมาหาผมบอกว่าจะเข้ามาหาผม  แต่ผมบอกกลับไปว่าจะเข้าไปในเมืองพอดีเดี่ยวค่อยไปเจอกันเพราะว่าตั้มโทรมาหาผมเมื่อเช้าว่าให้ไปอยู่เป็นเพื่อนอยู่บ้านคนเดียวเหงา   เมื่อผมมาถึงบ้านตั้มผมก็เห็นตั้มกำลังนอนอยู่บนแปลแขวนข้างบ้านผมก็เลยกะว่าจะไปทำให้ตั้มตกใจหน่อยแต่ด้วยความซุ่มซ่ามผมเดินสะดึดก้อนกินแล้วนั้นเสียหลักไปผลักตั้มตกแปล  คุณชายลุกขึ้นมาได้ก็ด่าผมใหญ่เลยว่าเล่นอะไรเหมือนเด็ก  ผมก็ต้องจ๋อยไปตามระเบียบ
   ตั้มขึ้นไปอาบน้ำเพราะว่าโดนโมโทรตามให้ไปดูหนังผมเลยบอกว่าจะรออยู่ข้างล่างนี้แหละ  เมื่อตั้มเดินไปสักพักพี่ปิงก็โทรมา
“ครับพี่ปิง”  ผมรับสายพี่ปิง
“น้องเอกอยู่ไหนครับ”
“บ้านตั้ม  พี่ปิงอยู่ไหน”
“พี่อยู่ที่บ้าน  เดี่ยวพี่ไปรับนะครับ”
“แล้วแต่พี่ครับ”
   หลังจากพี่ปิงวางสายไปไม่ถึง 15 นาทีพี่ปิงก็ขับรถมาถึงบ้านตั้ม  เพราะบ้านตั้มกับบ้านพี่ปิงอยู่ระแวกเดียวกัน  พี่ปิงบอกว่าจะไปทำธุระที่เทศบาลผมเลยต้องไปเป็นเพื่อนพี่ปิง  กะว่าพอไปถึงจะโทรบอกตั้ม  แต่ไม่ทันแล้วครับตั้มโทรมาก่อนแล้ว  คำแรกที่ถามนั้นผมก็รู้ว่าตั้มโกรธผมมากที่ผมออกมาโดยไม่ได้บอกกล่าว  ผมเลยบอกตั้มไปว่าเดียวตามไปให้ไปก่อนได้เลย
   เมื่อเสร็จธุระผมกับพี่ปิงก็ตามไปสมทบกับเพื่อนๆคนอื่นๆซึ่งตอนนี้พวกนั้นนั่งรออยู่ที่ร้านอาหารเรียบร้อยแล้ว  พอผมกับพี่ปิงเดินเข้าไปในร้านทุกคนก็หันมามองผมกับพี่ปิงอย่างสงสัยแต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไร  นอกจากโม   

“พี่ขอน้องเอกเป็นแฟนเองแหละครับ”  เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของพี่ปิงถึงกับอึ้ง  ผมหันไปมองตั้มซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ตั้มหันมามองผม  ใบหน้าตั้มเหมือนมีเครื่องหมายคำถามอันใหญ่อยู่กลางหน้า  ตั้มคงอยากถามผมหลายๆอย่างแต่ก็ไม่ถาม  ตั้มเอาแต่จ้องหน้าผมจนผมต้องคอยหลบสายตาเพราะผมรู้สายตาตั้มไม่ไหวจริงๆ  และเหมือนพี่ปิงจะรู้พี่ปิงเอามือมาจับมือผมแล้วบีบเบาๆเป็นระยะเหมือนกับให้กำลังใจผม
   หลังจากนั้นพวกผมก็พากันขึ้นไปเพื่อจะเข้าโรงหนังแต่ติดตรงที่พวกตั้มไม่ได้จองตั๋วให้พี่ปิงเพราะไม่ได้คิดว่าพี่ปิงจะมาด้วย  และตั้มก็เป็นคนเสียสละไม่ดูหนังเรื่องนั้น  ตลอดเวลาดูหนังผมดูไม่รู้เรื่องเลยเพราะผมเอาแต่ร้องไห้  ถ้าไม่ได้ปิงคอยปลอบผมคงทนอยู่ตรงนั้นไม่ไหว  แต่สุดท้ายแล้วผมก็ต้องเดินออกมาจากโรงหนังพี่ปิงตามผมมา  แล้วจูงมือผมเดินกลับมาที่รถ  ตอนนั้นผมไม่ได้อายใครทั้งสิ้นผมปล่อยให้ตัวเองร้องไห้  แต่พี่ปิงคงไม่อยากให้ใครเห้นผมในตอนนี้พี่ปิงเลยขับรถออกมาแล้วพาผมไปนั่งที่สวนสาธารณะ  เมื่อผมสบายใจแล้วพี่ปิงก็พาผมกลับมาส่งที่บ้านตั้ม  เมื่อมาถึงผมก็เห็นตั้มกับเบียร์นั่งกินเบียร์กันอยู่ข้างบ้าน
   ผมกับพี่ปิงเดินเข้าไปร่วมวงด้วย  ตลอดเวลาคั้มจะคอยมองหน้าผมแล้วตามด้วยกระดกเหล้าเข้าปากผมเกือบจะลุกขึ้นเดินหนีไปตั้งหลายครั้งแล้ว  แต่ก็โดนพี่ปิงดึงไว้ก่อน  พี่ปิงคอยจับมือผมและบีบเบาตลอดเวลา  จนพี่ปิงต้องกลับบ้านเพราะโดนพ่อโทรตามผมเลยขึ้นไปบนห้องตอนแรกกะว่าจะไปนอนที่ห้องว่างแต่ห้องมันก็ล็อค  ผมเลยต้องกลับไปนอนที่ห้องของตั้ม
   ผมเข้าไปอาบน้ำในห้องนเออกมาอีกทีผมก็เจอตั้มนอนอยู่บนที่นอนแล้ว  ผมเลยเดินลงไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ตั้ม  ส่วนเบียร์ก็เข้าไปอาบน้ำ
“สบายตัวขึ้นยัง”  ผมพูดกับตั้มตอนที่เห็นว่าตั้มลืมตา
“ทำไมต้องทำแบบนี้กับกูอีก” ผมได้ยินคำนี้จากตั้ม  ผมก็รู้ว่าตั้มหมายถึงอะไร  และผมก็รู้สึกผิดต่อตั้มด้วย
“ขอโทษ  ขอโทษจริงๆ”  ผมตอบกลับไปทั้งน้ำตาม
“ทำไมต้องขอโทษ  ในเมื่อมึงเลือกที่จะให้เป็นแบบนี้  แต่ขอถามหน่อยเหอะ  มึงบอกกูว่าจะรอ  แล้วที่มึงทำมันหมายความว่ายังไง” ผมรู้ว่าตั้มประชดผมที่พูดแบบนั้น  แต่มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่เพราะน้ำตาของตั้มไหลออกมาทั้งสองข้าง  ตั้มคงเสียใจและเจ็บปวดกับการกระทำของผม
“...........”  ผมไม่กล้าพูดอะไรออกไป  เพราะผมไม่อยากแก้ตัวใดๆ  ความผิดทั้งหมดผมขอรับคนเดียว
“ช่างมันเหอะ  กูจะนอน  ง่วงแล้ว”  เมื่อพูดเสร็จตั้มก็หันหลังให้ผม

   ผมลงมานอนที่ฝูกข้างล่างไม่นานเบียร์ก็ออกมาจากห้องน้ำ  ผมเลยนอนคุยกับเบียร์ เลยทำให้ผมได้รู้ว่าการที่ผมตัดสินใจคบกับพี่ปิงนั้นต่างก็ทำให้หลายฝ่ายเจ็บ  และใครอีกหลายคนก็ได้รับผลกระทบ 
   เช้านี้ผมตื่นมาผมหันไปดูว่ามีใครตื่นหรือยังแต่ก็พบว่ายังไม่มีใครตื่อนผมเลยเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา  อาบน้ำแล้วออกมาแต่งตัวเพื่อจะไปซื้อข้าวต้มมาให้เบียร์กับตั้มกิน   ระหว่างรอข้าวต้มพี่ปิงก็เดินมาจากไหนไม่รู้เข้ามาทักผม
“พี่ปิงไปไหนมา”
“พี่มาซื้อโจ๊กให้แม่  แล้วน้องเอกซื้ออะไร”
“โจ๊กครับ  เอาไปฝากตั้มกับเบียร์ด้วย”
“แปลว่าน้องเอกไม่ทานอะไรที  งั้นเดียวพี่ไปรับนะไปกินติ๋มซำกัน”
“ก็ได้ครับ  แล้วเดียวเอกรอที่บ้านนะ”
   เมื่อนัดแนะกันเสร็จผมเลยขับรถกลับมาที่บ้านและเดินขึ้นไปเพื่อจะเปลี่ยนชุด   แล้วออกมารอพี่ปิงหน้าบ้าน  สักพักพี่ปิงก็มาถึง  ผมกับพี่ปิงเราไปกินอาหารเช้ากันแถวๆหน้าวัดพระมหาธาตุจากนั้นก็เดินไปเที่ยวตลาดเสาร์-อาทิตย์กันต่อ  เพราะพี่ปิงต้องไปซื้อกับข้าวให้แม่  แล้วจากนั้นก็ไปเดินซื้อของที่โลตัสเพื่อจะเอาไปเข้าร้านที่บ้านพี่ปิง  เมื่อธุระของพี่ปิงเสร็จพี่ปิงก็กลับมาส่งผมที่บ้าน  เมื่อมาถึงบ้านผมก็เห็นโมวิ่งออกมาหาผมหน้าตาตื่นและร้องไห้ด้วย  ผมเห็นดังนั้นก็ตกใจคิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ  จะถามโมก็ไม่ทันเพราะโมจูงมือผมแล้วลากขึ้นไปบนห้องตั้ม
   เมื่อเข้าไปในห้องผมถึงกับนิ่งไปชั่วขณะแล้วพอตั้งสติได้น้ำตาผมก็ไหลออกมาด้วยความตกใจ  เพราะสภาพที่ผมเห็นนั้นคือตั้มนอนตัวสั่นสะท้านแล้วเพ้อตลอดเวลา  ผมเลยตะโกนเรียกพี่ปิงแล้วบอกให้พี่ปิงเอารถออกแล้วพาตั้มไปส่ง รพ.   ตลอดทางผมนั่งหลังมากับตั้มผมกอดตั้มไว้ตลอดและตั้มเองก็กอดผมไว้ตั้มตัวสั่นน้อยลงจนมาถึง รพ.
“พี่ปิงตั้มจะเป็นอะไรมากไหม”  ผมเห็นพี่ปิงเดินมา  ผมเลยวิ่งเข้าไปกอดพี่ปิงแล้วถามพี่ปิง
“น้องเอกใจเย็นๆก่อนนะ  ตั้มแค่ไม่สบายไม่เป็นอะไรมากหรอก”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี”
“พี่อิจฉาตั้มนะ  พี่ไม่รู้ว่าถ้าพี่เป็นแบบนั้น  น้องเอกจะห่วงพี่แบบนี้หรือเปล่า”
“พี่ปิงอย่ามาพูดแบบนี้อีกน่ะ  ถ้าให้ตั้มเลือกระหว่างพี่กับตั้ม  เอกตอบได้เลยว่าเอกเลือกตั้ม”
“น้องเอก  แคร์พี่บ้างได้ไหม  รับรู้บ้างได้ไหมว่าพี่รู้สึกยังไงเวลาที่เห็นแฟนตัวเองเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นออกนอกหน้า”
“เอกไม่สนหรอกนะว่าใครจะรู้สึกยังไง  เอกแคร์แค่ว่าตั้มจะเป็นยังไงมากกว่า  ถ้าพี่รับไม่ได้หรือทนไม่ได้เราก็เลิกกัน”
“พี่ขอโทษน้องเอก  พี่ขอโทษ”



เอาไปเท่านี้ก่อนนะครับ  ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ครับ  ว่าจะลงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว  แต่โดนลากไปดูบอลด้วย  เลยไม่ได้มาลงให้
ขอบคุณทุกกำลังใจ  ทั้งในเมนท์และข้อความที่ส่งมาให้นะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 06-05-2009 21:57:55
 :กอด1: น้องเอก

 :m21: คือว่านะ แคร์คุณชายตั้มขนาดนั้น แต่ทำไมยังไปคบกับพี่ปิงล่ะ

คุณชายก็เจ็บ พี่ปิงก็เจ็บ น้องเอกก็เจ็บ   หรือพี่อ่านตกตรงไหนไปปล่าวอ่ะนี่

เลยไม่เข้าใจน้องเองเท่าไร ใจอยู่กะคุยชาย แต่ไมคบกะพี่ปิง  :serius2:

ปล. น้องเอกโดนลากไปดูบอลอย่างเดียวเหรอ   :z1:

อย่างนี้ต้องจัดการคุณชาย ชิมิ  :beat:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 06-05-2009 22:13:31
อ่านตอนนี้แล้ว ถึงเข้าใจ ถึงคำว่า "ด้านมืด" ของชื่อเรื่อง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 06-05-2009 22:51:25
อ่านตอนนี้แล้วมันก็บีบหัวใจเหมือนกันนะ เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกตั้มมากขึ้น
แต่ก็เห็นใจพี่ปิงเหมือนกันนะ และก็เข้าใจเอกด้วย อ่านตอนนี้แล้วกดดันจิงๆ  :z10:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 06-05-2009 23:01:22
 :L2:...2 คนนี่ ก็เป็นแบบนี้ ชอบแอบซ่อน..ชอบฝืนความรู้สึก..
...ชอบทำให้..ตัวเอง..เจ็บ..ดีนะ กว่าจะรู้ใจตัวเอง..ยังไม่สาย
...เห็นไหม ตัวป่วนประจำกระทู้วิ่งไปวิ่งมา..แล้วก็ชวน..ดูบอล :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 06-05-2009 23:22:34
คนดี กะ คนรัก
มันต่างกัน
 :m13:

 :กอด1:ขอบคุณครับ น้องเอก +1 เล่าแล้วทำให้เข้าใจเหตุการณ์ได้มากขึ้นครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 07-05-2009 08:03:00
 :oni1:






 :oni2:







 :a9: :a3: :a11:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: dokjarn ที่ 07-05-2009 10:21:58
 :L1:

อ่านยังไงก็ชอบ

ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย

เอกน่ารักเสมอ สำหรับคนอ่าน

และ....คุณชายตั้ม

เป็นกำลังใจให้นะครับ

อย่าไปสนคนป่วนใจ

ปล่อยเขาไปเเด๋ยวก็ฝ่อไปเอง

 :pig4: :pig4:

 :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 07-05-2009 10:47:39
อยากได้แบบน้องเอกอีกสักคนเหลือบ้างไหม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้า&#
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 07-05-2009 11:53:50
จะสงสารใครดีเนี้ย
ความรักหน่อ ความรัก
รักพี่เอกค่ะ รักทุกวันนน จุ๊บๆ

พี่เอก ไอพี่ตั้มด่าหมิวว่าสมควรตาย ฝากโยนลงบ่อขี้ด้วยน่ะคะ จับขังในห้องน้ำสักวันก้ได้ คิคิ o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 07-05-2009 12:14:26
รอตอนต่อไป

แต่อย่าหั้ยนานนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 08-05-2009 11:44:03
 :เฮ้อ:

รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++6 พฤษภาคม 2552 เวลา 21.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 08-05-2009 19:23:18
          ผมนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินได้เกือบๆชั่วโมง  คุณหมอก็เรียกเจ้าของไข้เข้าไปพบผมก็เดินเข้าไปหาคุณหมอ  สรุปแล้วตั้มต้องนอนพักฝืนร่างกายที่ รร. เพื่อดูอาการไปก่อนเนื่องจากมีไข้สูงกว่าปกติมาก  ผมกับเพื่อนๆทุกคนไม่ได้ไปไหนเลย  เราอยู่รอตั้มตื่นมาทุกคนคงเป็นห่วงตั้ม  สีหน้าแต่ละคนดูจะเป็นกังวลกับอาการของตั้ม  โดยเฉพาะนุ่นกับโมนั้นร้องไห้เกือบตลอดเวลา  หยุดร้องได้ไม่นานก็ต้องกลับมาร้องอีกเพราะทนเห็นสภาพตั้มตอนสั่นสะท้านและเพ้อไม่ไหว  ผมเองถึงไม่ได้เป็นเป็นเหมือนตั้มแต่แค่ผมเห็นสภาพตั้มผมก็รู้แล้วว่ามันทรมานแค่ไหน
   พวกเรานั่งรอ ยืนรอได้สักพักตั้มก็ฟื้นขึ้นมาแต่  คุยกันได้ไม่นานตั้มก็หลับไปอีกคงจะเพลียและง่วงด้วยฤทธิ์ยา  จากนั้นทุกคนก็สลับกันไปทานข้าวแต่ผมไม่ได้ไปหรอกครับผมอยากที่จะอยู่เฝ้าตั้ม  ผมอยากจะอยู่ตอนที่ตั้มตื่น  ผมอยากจะคุยกับตั้ม  ผมอยากบอกตั้มว่าผมขอโทษ  ผมอยากขอโทษตั้ม  ผมพร้อมที่จะเลิกกับพี่ปิงได้ทุกเวลา  ใครจะว่าผมเห็นแก่ตัว  ผมเลว ผมชั่วยังไงผมก็ยอม  ขอแค่ตั้มกลับมาเป็นตั้มคนเดิม  ขอให้เราสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็พอแล้ว  ผมรอได้สักพักพ่อกับแม่ก็เข้ามาในห้อง  ผมนั่งคุยรายละเอียดกับท่านได้สักพัก  ท่านก็ให้ผมกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  เพราะท่านขอให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนตั้มในคืนนี้  สำหรับผมแล้วไม่ขอให้ผมทำ  ผมก็ขอทำเองอยู่แล้ว
   ผมกลับไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บของที่จำเป็นอย่างรวดเร็วเพราะผมอยากจะเห็นหน้าตั้มตอนที่ตื่นแล้ว  ผมกลัวพลาดโอกาสนั้น  แต่แล้วผมก็พลาดโอกาสนั้นจริงๆ  เพราะตอนที่ผมเดินเข้าไปในห้องผมเห็นตั้มนั่งยิ้มกับเพื่อนๆคนอื่นแต่พอเห็นผมปุ๊บตั้มก็หุบยิ้มทันทีแล้วทุกคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย  จากนั้นทุกคนก็ขิตัวกลับก่อนเพราะเริ่มจะดึดแล้ว  เลยเหลือผมกับตั้มสองคนในห้อง 

“กินข้าวยัง”  ผมอยากคุยกับตั้ม  แต่ผมไม่รู้ว่าผมจะเริ่มยังไงดี  แต่ไม่ว่าผมจะถามอะไรตั้มก็ไม่ยอมตอบกลับมาสักคำตอบเดียว  ผมเลยเดินไปหยิบผ้าที่พี่พยาบาลเอามาให้  เพื่อจะใช้เช็ดตัวให้ตั้ม  ตั้มก็ยอมให้ผมทำโดยดี  ผมคิดในใจว่าถ้าผมกับพี่เลิกกันผมกับตั้มเราอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม  ไม่ต้องเป็นแฟนกันก็ได้  แต่ขอให้ได้อยู่ด้วยกันตลอดก็พอแล้ว  ผมเลยตัดสินใจที่จะพูดเรื่องนี้กับตั้ม

“เราจะไปบอกเลิกพี่ปิง”
“ทำไม”  ตั้มถามผมด้วยน้ำเสียงตกใจ
“เพราะนาย”
“ไม่ได้  พี่เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด  มึงจะไปบอกเลิกพี่เค้าทำไม”  ตั้มตะคอก เสียงดังใส่ผม  จนผมตกใจร้องไห้ออกมา
“แล้วนายจะให้เราทำยังไง  เราทำอะไรไม่ถูกแล้ว  เราไม่มีความสุขที่เห็นนายต้องทำตัวแบบนี้”
 “กูง่วงแล้ว  นอนก่อนนะ”  ตั้มเงียบไปก่อนจะตอบกลับมา
   ผมเดินกลับไปปิดไฟแล้วกลับมานอนที่โซฟาผมนอนร้องอยู่นานมาก  พร้อมกับคิดไปว่า  ถ้าวันนั้นผมไม่รับปากที่จะคบกับพี่ปิง  วันนี้ตั้มก็คงไม่เป็นแบบนี้  ถ้าวันนั้นผมกล้าพอที่จะปฏิเสธใครหลายๆคนคงไม่ต้องมาเสียใจเพราะผม  พี่ปิงคงไม่ต้องทนทรมานกับการที่เห็นแฟนตัวเองมีใจให้คนอื่น  เพื่อนๆคงไม่ต้องมาคอยเป็นกังวล เป็นห่วงตั้มแบบนี้  ผมโทษตัวเอง  โทษที่ไม่เข้มแข็งพอ  โทษที่ไม่มีความกล้า  ผมรู้สึกเกลียดตัวเองไม่มักจะทำอะไรไม่ได้เรื่อง  ต้องคอยพึงพาคนอื่นตลอด  ผมนอนคิดอยู่อย่างนี้สลับไปสลับมาจนผมหลับไป  แต่ผมก็รู้สึกตัวเหมือนมีคนเอาผ้าห่มมาห่มให้ผม  ผมเลยลืมตาขึ้นมองเห็นใบหน้าตัมกำลังก้มลงต่ำมาเรื่อยๆ  ผมจ้องมองตาตั้มคู่นั้นอยู่นานเพราะผมไม่ได้สบตาคู่นี้มานานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้  ผมอยากจะมองไปนานๆ  แล้วอยู่ๆตั้มก็ก้มลงมาจูบที่หน้าผากผม  แล้วพูดว่า

“นอนซะนะ”  แล้วผมก็เอามือตั้มมากุมไว้ที่หน้าอกแล้วหลับไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 08-05-2009 19:34:26
 :z13: วันนี้จิ้มน้องเอกได้ทัน อิอิ

เชียร์ต่อไปค่ะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 08-05-2009 19:46:18
 :กอด1:...คงอึดอัด กันทั้งคู่เนอะ
...คนนึงก็..รัก..ตั้งแต่แรกแล้วแต่..ปากแข็ง
...คนนึงก็..รัก..ตั้งแต่แรกแล้วแต่..กลัวเขา...ไม่รักตอบ
...สุดท้ายเลย..เจ็บ..ทั้งคู่.. :กอด1:
...วันนี้ตัวแสบ ไปไหนฟะ ไม่มาวิ่ง เล่น แซว จขกท :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 08-05-2009 20:06:05
 :monkeysad:  สงสารน้องเอก จังเลย   

 ไม่มีอะไรจะพูดอ่ะ  :sad11:

  เป็นกำลังใจให้ และรอตอนต่อไปนะ  :กอด1:


หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 08-05-2009 20:06:45
มาแว้ววววว


 :oni1: :oni1:

มาวิ่งลั้ลล้า


อายจัง  มีคนบ่นคิดถึง   :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 08-05-2009 20:09:51
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 08-05-2009 20:43:23
อ่านตอนนี้ แล้วสงสาร ตั้ม กะ เอกมากมาย    :กอด1:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-05-2009 21:15:49
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า...มันไม่ใช่ด้านมืด
สว่างยังกะกระจกใส

เจ้าความไม่แน่ใจเนี่ยะ มันเกิดได้กับทุกคน
ไม่แน่ใจคนอื่น ไม่แน่ใจตัวเอง
คนเราย่อมสับสนบ้าง เป็นธรรมดา

 :กอด1:ขอบคุณคับ เอก +1ให้ ถึงสั้นแต่ไม่ค้างคา
 :impress2:ตั้ม ละเอียดอ่อนแสร้งกระด้าง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 08-05-2009 21:45:29
มันอาจจะเป็นช่วงชีวิตนึงที่สับสน ใครๆก็เจอกันได้ สับสน จนให้ทำสิ่งต่างๆไป

แล้วก็กลับมาคิดว่าไม่น่าทำมันเลย แต่ไม่ว่ายังไง สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นเหมือนครู

เหมือนบทเรียนที่ทำให้เราเรียนรู้และเติบโตอย่างเข้มแข็ง ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 08-05-2009 21:56:20
น่าสงสารจริง ๆ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 09-05-2009 00:40:05
 :monkeysad:


มาตามต่อแล้วจ้า...



ใครอิจฉาพี่เอกกะพี่ตั้มหรอ ?

ช่างเค้าเถอะ

ลบข้อความไปซะ

อย่าสนเค้าเลย

ก็พี่เอกมีคนที่รักอยู่ในนี้มากมาย

แล้วก็คุณชายที่อยู่กะพี่เอกด้วยอะ


+1 ให้น๊าาาา

 :กอด1:พี่เอก

 :กอด1:พี่ตั้ม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 09-05-2009 01:30:14
 :sad4: :sad4: :sad4:  สงสารเอกกะ :sad4:ตั้ :sad4:มตอนนั้นจังเลย
ตอนนั้น เอกกลัวตั้ม  แต่.....
ตอนนี้   ตั้ม...?...เอก  :laugh: :laugh: :laugh:

เตมเอาเอง   :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 09-05-2009 08:46:14
มาให้กำลังใจพี่เอก

ถึงจะสั้นแต่ก็ขอบคุณที่มาต่อให้คร๊าบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 09-05-2009 12:18:05
 :กอด1: ขอกอดพี่เอกด้วย ค.รัก และ ค.คิดถึง

 :-[ :o8:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 09-05-2009 21:56:53
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 09-05-2009 23:24:18
 :sad4: น่าสงสาร เอก ชมัด :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 10-05-2009 00:32:12
^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luv_yj ที่ 10-05-2009 21:40:40
ตามมา ๆ จากทู้นู้นนนน หึหึ

อ่านตอนนี้แล้วน่าสงสารง่ะ

ทั้งตั้ม ทั้งเอกเลย

ฮืออ :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 10-05-2009 21:47:09
เอกน่ารักอะ.... :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 10-05-2009 22:24:15
หมั่นไส้คนบางคน ทู้ตัวเองไม่ไปต่อ มาป่วนทู้น้องเอก :z2:

+1 ให้นะครับ น้องเอกคนน่ารัก .... ของนายตั้ม ( หรือเปล่าว้า )

เป็นกำลังใจให้นะครับ ว่างเมื่อไหร่ค่อยมาต่อก็ได้จะรออยู่ นะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: gon_natt ที่ 10-05-2009 23:32:22
เข้าใจความรู้สึกที่ไม่กล้าปฏิเสธอ่ะ
เพราะบ้างเรื่องแน๊ทก็เป็นเหมือนกัน ^^"

อ่านแล้วซึ้งกะความรักของพี่เอกอ่ะ ^//////////////^

รออ่านตอนต่อนไปนะค่ะ ^^ :L2:

แต่ช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยได้มาอ่านอ่ะ เศร้าๆ T^T
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-05-2009 00:04:29
น้องเอก คืนนี้เจ้าตั้มพาไปฉลองให้ Man U อีกเหรอเปล่าอ่ะ
ขัดใจคุงชายบ้างก็ได้  :really2: เมาบ่อยๆ คนรักจะเสียสุขภาพนะคร้าบบบ
 :กอด1:กอดทีนุงนะ น้องเอก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 12-05-2009 15:56:48
 :z2:

เมื่อไหร่จะมาน๊า









 : 222222:


เมื่อไหร่จะมาน๊า






 :เฮ้อ:


รอจนเหนื่อยก็ยังไม่น๊า

ไปแหละไม่หนุกเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 12-05-2009 21:35:53
 :กอด1:^
..จิ้มตัวป่วน ปล่อยตัว..ที่รัก..ออกมาซักทีสิ
..จะได้มาโพสต่อ ทำเป็นหน้าตาย ก็กักตัวไว้มิใช่หรือ
..ว๊าก จะแซว ไอ้น้องตั้ม ดันโพสไม่ไป กรรม:กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.23 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eiei ที่ 13-05-2009 00:08:01
55555555+

เพิ่งเข้ามาอ่านอนะ
แล้วแบบว่าเกิดวันเดี๋ญวกะเราเลยงะ
แต่เรา2531

เข้ามากำลังจะเริ่มอ่านอ้าว เกิดวันเดียวกันซะงั้น 555+

4 เดือน 4 งะ


เข้าๆคนหน้าตาดีเกิดวันเดียวกัน  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้า&#
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 13-05-2009 10:58:06
            ผมกลับมาอยู่บ้านหลังจากตั้มออกจากรพ.แล้ว  ตั้มไม่ยอมพูดหรือคยกับผมสักคำเดียวตลอดเวลาที่อยู่ในรพ.เพราะสาเหตุนี้ผมเลยตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านเพราะผมทนไม่ได้กับการเงียบของตั้ม  ผมเริ่มอึดอัดจนถึงเครียดถึงขั้นทานอะไรไม่ได้ทานทีไรก็อ้วกออกจนหมด  ผมกลับมาอยู่บ้านแล้วก็ยังเป็นอยู่ดีที่ได้พ่อกับแม่คอยช่วยเหลือ  คอยเข้ามาพูดคุยไม่อย่างนั้นผมคงคิดแต่เรื่องของตั้มตลอดและสงผลให้ร่างกายผมเจ็บป่วยไปกันใหญ่  ส่วนพี่ปิงก็ยังโทรมาคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอยู่ตลอด

“ครับพี่ปิงว่างไหมครับ”  ผมกำลังจะเข้าไปในเมืองเลยตัดสินใจโทรหาพี่ปิง
“ก็นิดหน่อยครับ  น้องเอกมีอะไรหรือเปล่า”
“เดี่ยวเอกจะเข้าไปในเมืองครับ  ถ้าพี่ว่างไปเดินเล่นกันไหม”
“เดี่ยวพี่ไปรับน้องเอกที่บ้านดีกว่านะครับ  อีกชั่วโมงพี่คงถึง”
“ไม่เป็นรัยครับพี่  พ่อไปส่งครับตอนนี้ก็ใกล้จะถึงแล้วครับ”
“โอเคครับ  ตามใจน้องเอกงั้นพี่รออยู่ที่ลิกอร์แล้วกันนะครับ”
“ได้ครับ”

   พ่อผมใช้เวลาขับรถมาไม่นานก็ถึงจุดหมายจากนั้นผมก็เดินไปที่ร้านลิกอร์เพื่อจะนั่งรอพี่ปิง  ระหว่างนั่งรอผมก็เดินไปเลือกเบเกอร์รี่เพื่อจะมานั่งทานเล่นๆเพื่อฆ่าเวลา  จนพี่ผิงมาถึง

“น้องเอกจะมาซื้ออะไรหรอครับ”   พี่ผองถามผมระหว่างที่เดินเลือกของอยู่
“มาหาของขวัญให้ตั้มนะครับพี่ปิง”  ผมบอกพี่ปิง
“อ๋อครับ  พี่ว่าเราแยกๆกันเดินดูดีกว่านะ  เดี่ยวพี่ไปดูฟังโน้น  น้องเอกดูฟังนี้โอเคนะครับ”
   ผมก็เดินๆดูไปเรื่อยๆก็เจอสร้อยเส้นหนึ่งเป็นสร้อยเงินทั่วๆไป  แต่สะดุดตาตรงจี้มันเพราะมันเป็นจี้ไม่กางเขนแบบที่ตั้มเคยบอกผมว่าอยากได้ตอนที่นั่งดูนิตยาสารกัน  แต่หาซื้อไม่ได้ผมเลยตัดสินใจที่จะซื้อทันทีโดยไม่ต้องคิดมาก  หลังจากได้ของมาแล้วผมก็เดินมาหาพี่ปิงจากนั้นเราก็เดินไปทานอะไรกันที่ร้านคอนม 
“อ่ะพี่ให้  สุขสันต์วันเกิดครับ”   พี่ปิงส่งกล่องนาฬิกาให้ผม
“พี่ปิงรู้ได้ไง  เอกไม่ได้บอกใครเลยนะครับ  แต่ยังไงก็ขอบคุณครับพี่”   จริงๆวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดผมแต่ผมไม่ได้บอกใครหรอกครับ  เพราะคิดไว้ว่าจะอยู่ทานข้าวกับครอบครัวที่บ้าน
“เป็นแฟนกัน  ก็ต้องรู้กันทุกเรื่อง”
“พี่ปิงไปทานข้าวบ้านเอกไหม”
“ได้หรอ  ถ้าได้พี่ก็ไม่เกรงใจนะครับ”  พี่ปิงทำท่าทางดีใจที่ผมชวนไปทานข้าวที่บ้าน

   เราสองคนก็เดินทางกลับมาที่บ้านของผม  เมื่อมาถึงบ้านผมก็เดินเข้าไปช่วยแม่ทำกับข้าวในครัว  ส่วนพี่ปิงก็คอยเป็นลูกมือให้ผมกับแม่ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งทานข้าวกันจนอิ่ม แม่ผมชวนพี่ปิงนอนที่นี้ไม่อยากให้ขับรถกลับเพราะมันดึกแล้วด้วย พี่ปิงเลยตกลงนอนที่นี้  ผมกับพี่ปิงเราขึ้นไปบนห้องกันหลังจากเก็บกวาดล้างจานเสร็จแล้ว
   เมื่อเข้ามาในห้องผมก็เอาผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าให้พี่ปิงเปลี่ยนหลังจากอาบน้ำเสร็จจากนั้นผมก็เข้าไปอาบน้ำบ้าง  เมื่อออกมาจากห้องน้ำผมก็เห็นพี่ปิงนอนอยู่บนพื้น  ผมเลยถามพี่ปิงว่าทำไมไปนอนต้องนั้น  คำตอบที่ได้กลับมาคือ
“พี่ไม่อยากนอนเบียดน้องเอก  กลัวน้องเอกอึดอัด”  อาจจะเป็นเพราะเตียงผมเป็นเตียงสำหรับนอนคนเดียวและคงเล็กไปที่จะให้ผู้ชายตัวใหญ่ๆสองคนนอนด้วยกัน
“อย่างนั้นพี่ก็ขึ้นไปนอนข้างบน  เดี่ยวเอกนอนข้างล่างเอง”
“ไม่เป็นไร  น้องเอกนอนข้างบนนั้นแหละ”
“ได้ยังไง  พี่เป็นแขกนะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็นอนข้างล่างด้วยกันเลย”  พี่ปิงเสนพร้อมกับลากผ้ามาปูนอนข้างล่างผมก็เลยต้องเลยตามเลย   ผมเดินไปปิดไฟจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนข้างๆพี่ปิง
“น้องเอกครับ  พี่ขอกอดได้ไหม”
“แล้วแต่พี่ปิงครับ”
   เมื่อผมพูดจบพี่ปิงก็เอามือมากอดตัวผมแล้วกระชับให้แน่นขึ้น  ผมคงทำผิกกับพี่ปิงอย่างไม่น่าให้อภัยเพราะตลอดเวลาที่พี่ปิงกอดผมนั้นผมนึกถึงแต่หน้าคนที่ผมรัก  ผมมักจะคิดว่าถ้าคนที่กอดอยู่นี้เป็นตั้ม  ผมก็คงจะมีความสุขมากคงทำให้ผมอุ่นทั้งกายและอุ่นทั้งใจ  แต่ตอนนี้ผมอุ่นแค่กายแต่ไม่อุ่นใจ   
   พี่ปิงกอดผมได้สักพัก  จากนั้นพี่ปิงก็เอามือมาลูบๆถวหน้าอกผมและไล่ลงต่ำเรื่อยๆ  ด้วยความตกใจผมดึงมือพี่ปิงออก  แล้วลุกขึ้นนั่งมองหน้าพี่ปิง  พี่ปิงเองคงตกใจเช่นกันเลยลุกขึ้นนั่งแล้วเราสองคนก็มองหน้ากัน  ผมรู้ว่พี่ปิงต้องการอะไรแต่ผมไม่สามารถให้พี่ปิงได้  อาจจะเป็นเพราะผมไม่ได้มีใจให้พี่ปิง  ผมเลยทำอย่างว่ากับพี่ปิงไม่ได้  เซ็กส์สำหรับผมนั้นมันต้องมีกับคนที่ผมรักเท่านั้น  ไม่ใช่มีเพื่อระบายความใคร่
“พี่ขอโทษน้องเอก  พี่ขอโทษ  พี่ไม่ได้”  พี่ปิงพูดพร้อมกับเอามือผมไปกุมไว้
“พี่ปิงจะบอกว่พี่ไม่ได้ตั้งใจ  แต่ถ้าผมไม่ห้ามพี่จะหยุดไหม”  ผมไม่ได้โกรธพี่ปิงหรอกนะครับ
“น้องเอกอย่าโกรธพี่นะครับ  พี่สัญญาพี่จะไม่ทำอีก”
“พี่ปิงไม่ต้องกลัวเอกโกรธหรอกนะครับ  เอกเข้าใจดีว่าพี่ต้องการอะไร  แต่ผมให้พี่ไม่ได้จริงๆ  ผมไม่สามารถทำกับพี่ได้  เพราะอะไรพี่รู้ไหม  แค่ตอนที่พี่กอดผม  ผมยังคิดถึงคนอื่น  ผมอยากให้คนๆนั้นมากอดผมแทนทีจะเป็นพี่ด้วยซ้ำ”  ผมพูดออกไปทั้งน้ำตา
“น้องเอกใจร้ายมากรู้ไหม  ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่รู้ว่าพี่เป็นอะไรสำหรับน้องเอก  แต่ทีหน้าทีหลังโกหกพี่บ้างก็ได้  ไม่ต้องพูดความจริงทั้งหมด  พี่เจ็บนะ  เจ็บมากเลย”  พี่ปิงพูดพร้อมทั้งน้ำตาเช่นกัน  แล้วเอามือทุบที่หน้าอกตอนท้ายประโยค 
   จากนั้นความเงียบก็เข้ามาเยือนเราสองคนปล่อยให้น้ำตาตัวเองไหลออกมา  ผมเสียใจที่ผมทำให้คนที่รักผมเจ็บ  ผมรู้สึกแย่กับตัวเอง  เกลียดตัวเองมากขึ้นทุกวัน  ผมคอยถามตัวเองตลอดว่าทำไมผมถึงรักคนๆนี้ไม่ได้สักที  ทำไมเวลาที่ผมเหงาผมถึงไม่นึกถึงคนนี้เป็นคนแรก  ส่วนพี่ปิงคงเจ็บปวดใจกับการที่ต้องมารักคนที่ไม่ได้มีใจให้ตัวเองแม้แต่น้อย 
   อยู่ดีๆ  พี่ปิงก็ดึงผมเข้าไปกอด เป็นกอดที่แน่นที่สุดที่พี่ปิงกอดผม  จากนั้นก็จูบลงบนหน้าผาก  เปลือกตา  จมูก  และปาก  แล้วพี่ปิงก็ล้มตัวลงนอน  ผมอยากให้พี่ปิงสบายใจ  เพราะฉะนั้นผมคงต้องแสดงออกต่อพี่ปิงในฐานะแฟนบ้างผมเลยก้มตัวลงไปจูบพี่ปิงหนึ่งครั้งแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆพี่ปิง  จากนั้นเราสองคนก็หลับไปพร้อมกับน้ำตาที่ไม่รู้ว่าหยุดไหลไปเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 13-05-2009 11:09:08
น่าสงสารพี่ปิงนะ   พี่ปิงดีกะเอกมากเลย   

แต่ทำไงได้หละ  ก็ใจเอก มันมีเจ้าของแล้วนี่นา   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 13-05-2009 11:18:36
ต่างคนต่างเจ็บ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 13-05-2009 12:05:35
 :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 13-05-2009 12:35:28
สงสารพี่ปิงอา :o12:
รักพี่ปิงกะพี่เอกงับ 555+
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 13-05-2009 13:41:31
สงสารพี่ปิงอา :o12:
รักพี่ปิงกะพี่เอกงับ 555+
 :กอด1:



 :a14:

งอลไอกลิ้งแหละ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: TinaJunior ที่ 13-05-2009 13:49:39
 :monkeysad:ปิง กับเอก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 13-05-2009 14:04:49
สงสารพี่ปิงอา :o12:
รักพี่ปิงกะพี่เอกงับ 555+
 :กอด1:



 :a14:

งอลไอกลิ้งแหละ


+55555 รักลุงตั้ม ด้วยก็ได้ แต่รักน้อยกว่าพี่ปิงนะคะ

อย่างอลน่ะ เด๋วหั้ยพี่เอกจุ๊บ1ที แล้วมาจุ๊บกะหมิวต่อ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 13-05-2009 14:47:09
 :monkeysad: สงสารพี่ปิง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 13-05-2009 14:59:43
เจ็บจี๊ดที่ใจแทนปิงเลย
อย่างว่าแหละ...ไปรักคนที่เค้ามีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว

 :L1:ขอบคุณคับ เอก +1 ให้กับความน่ารัก เล่าตรงไปตรงมาดี :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 13-05-2009 15:13:19
เจ็บจี๊ดที่ใจแทนปิงเลย
อย่างว่าแหละ...ไปรักคนที่เค้ามีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว

 :L1:ขอบคุณคับ เอก +1 ให้กับความน่ารัก เล่าตรงไปตรงมาดี :กอด1:


ทีกับเรามืเคยเลยที่จะชมแบบนี้

 :a14:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 13-05-2009 15:14:10
สงสารใครดี    ..... พี่ปิงกับตั้ม


บอก1เอก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 13-05-2009 18:42:19
น่าสงสารรรรรรรรร

เจ็บทั้งคู่  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 13-05-2009 18:54:16
 :sad4:

เอกตรงดี
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 13-05-2009 21:25:51
 :m15: อ่านตอนนี้แล้วสงสารทั้งพี่ปิงและน้องเอก

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 13-05-2009 21:35:32
อ่านแล้วรู้สึกสงสารพี่ปิง  :monkeysad:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 13-05-2009 21:38:05
อ่านตอนนี้ รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศแบบนี้จัง

หันซ้ายก็เจ็บ หันขวาก็เจ็บ อยู่ที่คนกลางละว่าจะตัดสินใจแก้ปัญหานี้ยังไง

+1 ให้น้องเอกนะครับ แต่สา... น้องเอกนี้กวนกระทู้อยู่ได้ไม่ไปต่อกระทู้ตัวเอง

หรือมาควบคุม แต่อย่างว่าแหละ มีแฟนน่ารัก ก็เลยต้องทำตัวเป็น ... หวง ...

ไปละครับ ก่อนโดน ... ( ที่ไม่ใช้อีโม้ เพราะประหยัดทรัพยากรของเล้า ) เป็นคนดีเนอะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 14-05-2009 00:32:51
:laugh:

คนนี้ใจร้ายเนอะ  555

คิดถึงน้องเอก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 14-05-2009 01:33:34
มันก็เจ็บกันหมดล่ะ ณ ตอนนั้น ณ จุดๆ นั้น
 :monkeysad:




 :sad4:




 :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 15-05-2009 23:21:07
อ่านแล้วจิงๆก็เห็นใจทั้งคู่อ่ะ

แต่เมื่อมันสวนทาง มันเลยพูดยาก

 :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 17-05-2009 13:59:34
ช่วยดัน หล่นไปหน้า 2 แระ

รอน้องเอกมาเล่าต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 18-05-2009 07:45:55
หลังจากวันที่พี่ปิงมาค้างที่บ้านผมจนมาถึงวันนี้ก็ผ่านไป 3 วันแล้วและวันนี้ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของคนสำคัญสำหรับผม  ผมนั่งรอโทรศัพท์จากตั้มทั้งวัน  แต่ก็ไม่มีบางครั้งมีสายเข้ามาผมก็รีบวิ่งมาดูพอเห้นหน้าจอแสดงชื่อว่าไม่ใช่ชื่อตั้มก็เกิดอาการไม่อยากรับขึ้นมาเลยปิดเครื่องไปเลย  จากนั้นผมก็เดินขึ้นไปนอนบนห้องและเป็นอีกครั้งที่ผมนอนหลับทั้งน้ำตา
   ผมตื่นมาอีกทีในห้องก็มือสนิทแล้วเดินลงมาด้านล่างก็เจอแม่นั่งดูโทรทัศน์กับพ่ออยู่  แม่เห็นผมก็บอกว่าเมื่อตะกี้โมโทรมา  ผมก็เลยเดินขึ้นไปบนห้องเปิดมือถือว่าจะโทรหาโม  แต่โมก็โทรเข้ามาก่อนพอดี
“ว่าไงโม”  ผมทักโม
“เอกอยู่ไหน  ทำไมไม่มาบ้านตั้ม  ไม่รู้หรือไงว่าวันนี้วันเกิดตั้ม”  โมต่อว่าผมด้วยน้ำเสียงแข็งๆ
“รู้ดิโม  แต่เจ้าของงานเข้าไม่ชวนเราไม่กล้าไปหรอก”  ผมบอกกับโมไป
“เห้ยแกยังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหม  ทำไมเรื่องแค่นี้ต้องมาคิดมาก  แล้วตกลงแกอยากมาไหม  เดี่ยวให้เบียร์ไปรับ”
“โมเราอยากไปนะ  เราอยากไปมากมากกว่าทุกคนในงานด้วยซ้ำ  แต่เราไปไม่ได้  โมก็รู้ว่าทำไม”  ผมพูดออกไปแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง  ผมเริ่มรู้สึกว่าช่วงหลังมานี้ผมร้องไห้บ่อยมาก
“เออๆ  เรื่องนั้นช่างมันเห๊อะ  เดี่ยวเรากับเบียร์จะไปรับแก  แต่งตัวรอไว้เลย”
“ไม่ต้องหรอกโม  เราจะนอนแล้ว แค่นี้นะ”
   ผมวางสายจากโมแล้วล้มตัวลงนอนกับที่นอน  ตอนนี้ผมยังนอนร้องไห้อยู่แต่น้ำตาผมไม่ได้ไหลออกมามีเพียงอาการสะอื้นเท่านั้น  น้ำตาผมคงไหลออกมาหมดตัวแล้วเลยทำให้ตอนนี้เพียงหยดเดียวมันก็ไม่มีออกมาให้เห็น  การถูกทิ้งหรือถูกลืมมันทรมานแค่ไหนผมก็เพิ่งจะได้สัมผัสมันก็ครั้งนี้นี่เอง  มันเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุน  ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว  มองไปทางไหนมีแต่ความว่างเปล่า  มันหนาวเหน็บไปถึงกระดูก   ผมปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในภวังค์อยู่อย่างนั้นจนผมจำอะไรไม่ได้อีกเลย
   หลงายวันต่อมาผมได้รับสายจาดเบียร์บอกว่าจะไปเที่ยวเกาะสมุยกัน  ผมเลยไปขอพ่อกับแม่แล้วตอบตกลงเบียร์ไป  และวันรุ่งขึ้นเบียร์ก็มารับผมที่บ้าน  ผมพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆและตั้มด้วย  ตั้มไม่พูดคุยอะไรกับผมสักคำ  เมื่อไปถึงเกาะก็มีญาติเบียร์มารอรับอยู่แล้ว  พี่คนนั้นชื่ออะตอมเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเบียร์จากนั้นพี่เขาก็นำทางไปยังรีสอร์ทของพี่เขา  เมื่อไปถึงพวกผมก็ขนของเข้าที่พักกันขณะจัดของอยู่โทรศัพท์ผมก็มีสายเข้า  ผมเลยเดินออกมารับสายที่หลังบ้าน
“ครับพี่ปิง”  พี่ปิงโทรเข้ามาหาผม
“น้องเอกอยู่ไหนครับ”
“สมุยครับพี่  มีอะไรหรือเปล่า”
“ไปตั้งแต่เมื่อไหร่  ทำไมไม่บอกพี่เลย”
“เพิ่งมาถึงครับ”
“หรอ  พี่ก็เพิ่งออกจากค่ายเหมือนกัน  เอาเป็นว่าพรุ่งนี้พี่ตามไปด้วยดีกว่า”
“แล้วแต่พี่ครับ  เอกยังไงก็ได้”
   หลังจากจบการสนทนา  ผมก็เดินมาสมทบกับเพื่อนๆที่นั่งตั้ววงคุยกันอยู่ที่หน้าบ้าน  ตลอดเวลาผมคอยแต่มองตั้ม  หวังว่าตั้มหันมายิ้มหรือถามไถ่พูดคุยกับผมบ้าง  แต่ก็ไม่มีเลยถึงแม้ว่าจะมีเสียงคุยของผู้คนไม่ขาดแต่ผมก็ยังรู้สึกว่าบริเวรรอบๆตัวผมยังเงียบอยู่  ผมทนเก็บความรู้สึกกดดันแบบนี้ไม่ไหว  ต้องการจะคุยกับตั้มให้รู้เรื่องไปเลย  จะเป็นเพื่อนกันต่อไปหรือไม่ก็ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลย
“ตั้ม  เรามีเรื่องอยากคุยด้วย”  ไ
“กูยังไม่ว่างคุยตอนนี้  ถ้ากูว่างเมื่อไหร่กูจะไปคุยด้วย”  แล้วตั้มก็เดินเข้าบ้านไปเลย



PS.เอาไปเท่านี้ก่อนนะครับ  เพราะโดนแย่งใช้คอมตลอด  เลยไม่มีเวลาลงเรื่องมากพอ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 18-05-2009 07:47:20
 :laugh:  สั้นดีแท้

 :oo1:  ก่อนไปทำงานดีป่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 18-05-2009 07:59:19
^
^
จิ้มตัวป่วน   :z13: 
ถามใครเหรอตั้ม   :-[  (แล้วได้คำตอบป่ะ )


อ่อ ตอนนี้ ตั้มใจร้ายมาก     :z3:
 :กอด1:โอ๋ๆ น้องเอก

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 18-05-2009 08:15:24
สงสารน้องเอก
พี่ปิงก็เหมือนกัน
แต่ตั้มใจแข็งจริงๆนะ

อ่านมุมน้องเอกบ้างก็เพิ่มความชัดเจนอีกเยอะเลย
ขอบคุณน้องเอก และ บวก 1 แต้มจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 18-05-2009 08:54:28
 :m15: สงสารอ่ะ แต่ก็เข้าใจทุกฝ่ายนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 18-05-2009 10:52:47
รักมี๊เอกที่สุดเลยยย
เศร้าจัง เฮ้อ  :o12:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 18-05-2009 12:00:53
สั้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 18-05-2009 13:34:24

  .. .รู้สึกว่าด้านมืดรันทดมากเลยค่ะ กลับมาอ่านอีกครั้ง รอตอนต่อไปนะคะ อย่าไปรักมันเลยค่ะ เอก ปู้จายเยอะแยะ

ไม่ต้องง้อมานน นน น น (สร้างความร้าวฉานคืองานของเรา อิอิ) รักพี่ปิงค่ะ มาทางนี้ก็ได้นะคะ รอรับอยุ่ค่า  .. .
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 18-05-2009 13:53:44
สั้นมากๆๆเลยครับ

มาต่อแบบเยอะๆหน่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 13 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 18-05-2009 14:09:47
:laugh:  สั้นดีแท้

 :oo1:  ก่อนไปทำงานดีป่ะ
        ^
...หื่นข้ามกระทู้เลยว่ะ...
...อ่านที่น้องเอกเล่า บีบคั้นมากๆๆ สงสารด้วย เหมือนแอบรักเขาอยู่ข้างเดียว
...แต่ทำไมอ่านของอีกคน ไม่เคยมีความรู้สึกนี้วะ มีแต่ มส ว่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 18-05-2009 15:27:51
 :กอด1: พี่เอก
มัน... บอกไม่ถูกอ่ะ   โดนบีบคั้นขนาดนี้
แต่พี่เอกก็ยังรักพี่ตั้ม  :monkeysad:

 :beat: พี่ตั้ม ดีกว่า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 18-05-2009 17:16:41
น่าสงสารพี่เอกอ่า

แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของทั้งคู่แหละครับ

-----------------------------------------

สั้นไปหน่อย

แต่ก็ดีใจที่พี่เอกมาต่อเรื่องให้คร๊าบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 18-05-2009 17:22:15
เป็นกำลังใจให้น้องเอก นะ   :L2:

มาสั้น ๆ ก็ไม่เป็นไร เพราะเข้าใจว่ามีตัวป่วน  :beat:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 18-05-2009 17:45:43
 :เฮ้อ:


หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 18-05-2009 21:46:58
ทำอะไรที่มันตรงข้ามกับใจของเรา
ความทุกข์มักจะท่วมท้นใจ  :monkeysad:

 :กอด1:น้องเอก
บวก 1ให้น้องเอก รีบเอาคอมฯของเราคืนมาให้ได้
 :beat: ไปใช้คอมฯของมรึงซิวุ้ย ไอ่คุงชายตั้ม เด๋วปั๊ดเหนี่ยว
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 18-05-2009 21:53:19
ทำเป็นเล่นตัวนะ นายตั้ม เดี๋ยวจะโดน  o22

เป็นกำลังใจให้น้องเอกเสมอนะครับ +1 ให้เป็นคะแนนสะสม ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: crazykung ที่ 19-05-2009 00:27:11
ตามอ่านของพี่เอกทันแล้ว

เอิกๆๆ เมื่อไหร่พี่เอกจะตามทันเรื่องพี่ตั้ม มีบางตอนอยากรู้ตอนเป็น ver พี่เอก

ขอบคุนพี่เอกที่อุส่าพิมให้พวกเราอ่านครับ

 :pig4: :pig4:

มีเวลาอย่าลืมมาเยี่ยมพวกเราบ้างเน้อ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 19-05-2009 18:41:10
อน่ะ เค้า กำ ลัง เศร้า

มา ชวน ทำ ....  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 20-05-2009 00:19:25
 :m16: :m16: ใครมาแย่งใช้คอมเนี่ย เดี๋ยวปั๊ด :beat:
แต่ว่าน้องเอก :-[มาต่อสั้นๆ แต่บ่อยๆกดีนะคะ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 21-05-2009 13:02:30
 o18  ใครมาต่อว่าผม

 :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 21-05-2009 23:52:05
^
^
โอ๊ยยยยยย....ม่ายมีครายเค้าว่าอาราย คุงชาย หรอกคร้าบบบบ
ครายเค้าจะกล้า....ต่อว่า

แต่ถ้ายังงี้ --->  :beat:
หรือยังงี้  --->   :z6:

ไม่แน่ใจว่ะ ตั้ม ฮ่าฮ่า

ไหนๆ ก็เข้ามาเยี่ยนเยียนน้องเอกแล้ว ขอกอด  :กอด1: ก่อนออกจากทู้ไป ฮิ้ววววววว.....
and +1 ให้น้องเอกสะสมไว้ซื้อคอมพ์ตัวใหม่-ใช้คนเดียว นะคร้าบบ
**** ชะอุ๊ยยยยย...บวกให้แล้ว มัน = 69 อ่ะ หวังว่า คุงชายเห็งแล้ว ไม่คิดอะไรหื่นๆกะน้องเอกหรอกนะ ครึครึ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 พฤษภาคม 2552 เวลา 07.46 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 22-05-2009 16:51:36
ตลอดเวลาตั้มจะค่อยเลี่ยงหรือไม่ก็หลบหน้าผมตลอด  แต่ผมก็จะไม่ยอมลดความพยายามหรอกครับไม่ว่ายังไงก็ต้องคุยกันให้ได้ และโอกาสก็มาถึงเพราะเย็นวันนั้นตอนที่กำลังมีปาร์ตี้กันอยู่ตั้มเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อนเพื่อที่จะไปเล่นน้ำทะเล  ผมเลยเดินตามไปห่างๆ  และผมหยุดที่ชายหาดและเรียกตั้มที่กำลังลอยตัวอยู่ในทะเล  เมื่อเห็นผมตั้มก็เดินขึ้นจากน้ำและตรงขึ้นบ้านไปเลย  แต่ผมดึงมือตั้มเอาไว้

“ชาตินี้เราจะไม่คุยกันแล้วใช่ไหม  นายไม่อยากคุยกับเราแล้วใช่ไหม”  ผมพูดออกไปทั้งน้ำตา  ผมทนเก็บความรู้สึกแบบนี้ไม่ไหวแล้ว
“มึงรู้ไหมว่าทำไมกูต้องหนีมึง ใช่กูชอบมึง  แต่ก็แค่นั้น  กูทำอะไรไม่ได้  กูทำได้แค่กูต้องเลิกชอบมึง  แล้วกูก็ต้องทำให้ได้  และวิธีที่จะทำให้กูลืมมึงได้คือ  กูต้องไม่อยู่ใกล้ๆมึง  มันมีวิธีนี้วิธีเดียว”  ตั้มบีบที่ต้อนแขนผมแล้วเขย่า  พร้อมกับตวาดเสียงใส่ผม
“ไม่เอาได้ไหม  เราทนไม่ได้ถ้านายทำเป็นไม่สนใจเรา” 
“ไม่ชอบใช่ไหม  งั้นแบบนี้มึงคงชอบ”  ตั้มดึงมันเดินลงไปในทะเล
“ตั้มทำไรอ่ะ  อย่าทำไรบ้าๆนะ  ปล่อยๆๆๆ”  ตั้มลากผมมาหยุดอยู่กลางทะเล  ระดับน้ำเท่าๆเอวจากนั้นก็ดึงตัวผมเข้าไปกอด 
“ขออยู่แบบนี้สักพักนะ” 
   เราสองคนกอดกันอยู่อย่างนั้นนานมาก  น้ำตาผมก็ยังไหลออกมาไม่หยุด  ผมรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยผมก็ได้รู้ว่าตั้มไม่ได้เกลียดผม
“มึงช่วยบอกกูหน่อย  ว่าต่อไปกูต้องทำยังไง  กูคิดอะไรไม่ออกแล้ว”   แล้วตั้มก็ร้องไห้ออกมา  เป็นไม่กี่ครั้งหรอกครับที่ผมเห็นตั้มร้องไห้  มาถึงตอนนี้ผมรับรู้ความรู้สึกของตั้มได้แล้ว  ผมรู้ว่าเราสองคนคิดตรงกันแต่ด้วยความที่ผมมีบ่วงผูกคออยู่แล้ว  และผมเองก็ไม่อยากจะทำร้ายความรู้สึกของใคร  ถึงแม้ว่าผมอยากจะทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจสักเท่าไหร่
   


   เช้าวันต่อมาผมชวนเบียร์ไปรับพี่ปิงที่ท่าเรือเพราะผมเองขับรถก็ไม่เป็นอีกทั้งยังไม่รู้จักเส้นทางอีกด้วย  คนอื่นๆก็ขอตามไปด้วยยกเว้นตั้มคนเดียวที่ยังนอนไม่ตื่นและไม่มีใครกล้าปลุกด้วย  เราไปถึงท่าเรือก่อนที่เรือจะมาเทียบท่าเกือบๆครึ่งชั่วโมง   พี่ปิงลงเรือมากับพี่บาส  ตอนหลังถึงได้รู้ว่าพี่ปิงโทรไปชวนพี่บาสให้มาเที่ยวด้วยกัน  เพราะกลัวเหงาตอนเดินทางมาเกาะสมุย 
   เมื่อเรากลับมาถึงที่พักก็ไม่เจอตั้มผมกำลังจะเดินไปตามให้  เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนถ้าผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง  ตั้มคงจะยอมคุยกับผมแล้ว   ผมกำลังจะเดินออกไปแต่พี่บาสบอกว่าจะไปเอง   ผมเลยเดินออกมาที่ระบียงบ้านเห็นตั้มเดินอยู่ที่ชายหาดแล้วพี่บาสก็เข้าไปทักทาย  ผมมองสองคนนั้นยืนคุยกันอย่างสนุกสนานจนไม่ทันรู้ตัวว่าพี่ปิงเข้ามากอดผมทางด้านหลัง

“พี่ปิงอย่า  เดี่ยวใครมาเห็น”  ผมพูดพร้อมกับสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดพี่ปิง
“พี่ผิดอีกแล้วใช่ไหมที่กอดน้องเอก  พี่ผิดที่คิดถึงน้องเอกใช่ไหม  พี่ผิดมากหรือไงที่พี่รักน้องเอก”  พี่ปิงพูดจาตัดพ้อผม
“พี่อย่ามาพูดแบบนี้กับผมนะ  ผมไม่ชอบ”
“พี่ขอโทษ”
“ช่างมันเถอะ  เอกก็ขอโทษพี่ด้วยแล้วกัน  ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้พี่ไม่สบายใจ  เสียใจ น้อยใจ”
“ครับผม”
   พี่ปิงก็ดีนะครับ  ไม่ว่าผมจะทำไม่ดีไปหลายครั้งแต่พี่ปิงก็ไม่เคยที่จะโกรธ เกลียดผมเลย  คนดีๆอย่างพี่ปิงน่าจะเจอคนที่ดีนี้ที่ไม่ใช่ผม  ความพยายามตลอดเดือนกว่าๆที่ผมคบกับพี่ปิงคงใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว  เพราะไม่ว่ายังไงผมก็ไม่อาจเปลี่ยนใจหันมาชอบพี่ปิงได้เลย  แต่ด้วยความดีที่พี่ปิงมีทำให้ผมอยากจะลองอีกสักตั้งเพื่อให้คนๆนี้มีความสุข  ตั้มเดินเข้ามาในบ้านนั่งคุยกับพี่ปิงได้สักพักก็ชวนกันไปเล่นน้ำ 

“น้องเอก  มาเล่นห่วงยางกับพี่ดีกว่า”  พี่ปิงชวนผมให้ขึ้นไปนั่งบนห่วงยาง ผมเลยปีนขึ้นไปนั่งกว่าจะขึ้นไปได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน 
“พี่ปิง  คบกับเอกพี่มีความสุขไหม”  เราสองคนลอยตามน้ำออกมาใกล้จากกลุ่มเพื่อนพอสมควร  ผมเลยกว่าที่จะพูดกับพี่ปิง
“ความสุขของพี่  คือการที่เห็นแฟนของพี่มีความสุข”
“พี่ปิงลองมองหาคนอื่นบ้างก็ได้นะพี่  ผมไม่ว่าอะไรพี่หรอกครับ”
“ทำไมน้องเอกต้องพูดแบบนั้น  พี่ขอแค่น้องเอกคนเดียว  อย่างอื่นพี่ก็ไม่ต้องการแล้ว”
“ขอโทษครับพี่  ต่อไปเอกจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เอกจะทำได้”
“ไชโย !!!”  ผมได้ยินเสียงคนตะโกน  ผมเลยหันไปดูก็เห็นพี่บาสยืนกอดตั้ม  จากนั้นทั้งสองคนก็จูงมือกันไปนั่งใต้ต้นไม้
   
   ผมมองสองคนนั้นและปฏิกิริยาของเพื่อนคนอื่นๆ  ผมก็เข้าใจเรื่องราวแล้วว่ามันหมายความว่ายังไง  แต่ผมไม่เข้าใจทำไมตั้มต้องตอบตกลงคบกับพี่บาสทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย  หรือแค่ตองการทำเพื่อประชดผม  ให้ผมรู้สึกเสียใจถ้าทำแบบนั้นผมอย่างจะบอกว่า  ตั้มทำสำหรับแต่มันยิ่งกว่าเสียใจ  มันเจ็บเจ็บปวดเหลือเกิน  มองดูว่าตัวเองเป็นแผลตรงไหนหรือเปล่าถึงได้เจ็บขนาดนี้  แต่หายังไงก็หาไม่เจอ  ถ้าอย่างนั้นบาดแผลคงเกิดจากข้างในร่างกาย  แล้วอาการเจ็บแบบนี้ต้องรักษายังไง  ต้องทำยังไงถึงจะหาย
   ผมเดินขึ้นมาบนบ้านเพราะผมทนเห็นภาพนั้นไม่ไหว  ภาพที่คนสองคนยืนจูงมือ กอดเอว โอบไหล่ ถ่ายรูป  ทำไมคนที่อยู่ข้างกายถึงไม่เป็นผม  แล้วทำไมผมถึงเป็นคนนั้นไม่ได้ 

“น้องเอกเป็นอะไรหรือเปล่า”  พี่ปิงวิ่งตามผมเข้ามาในบ้าน
“นิดหน่อยครับพี่  อยากนอนมากกว่า”
“ปวดหัวหรือเปล่า  ตัวร้อนไหม”
“ไม่เป็นไรครับ  นอนพักสักหน่อก็คงจะดีขึ้น”
“เอายาไหม  เดี่ยวพี่ไปหามาให้”
“พี่ปิง  ผมบอกว่าไม่เป็นอะไรก็ไม่เป็นอะไรซิ”  ผมเผลอกระแทรกเสียงใส่พี่ปิง  พี่ปิงดูจะอึ้งๆกับการขึ้นเสียงของผม
“เจ็บปวดมากหรือไงน้องเอก  ทนเห็นภาพแบบนั้นไม่ได้หรือไง”  พี่พูดออกมาอย่างเรียบๆ  พริอมกับน้ำตาที่หยดออกมาจากเบ้า
“พี่ปิงเอกขอโทษ”
“น้องเอกเคยคิดไหมว่าพี่จะรู้สึกยังไง  พี่เคยขอแล้วไงว่าต่อหน้าพี่ช่วยโกหก  ช่วยหลอกพี่บ้างก็ได้  แกล้งทำเป็นรักพี่หน่อย พี่ขอแค่นั้นจริงๆ” แล้วพี่ปิงก็เดินออกไป  แต่ผมวิ่งตามไปกอดทางด้านหลัง
“พี่ปิงเอกขอโทษ  พี่ปิงอย่าโกรธเอกนะครับ  เอกขอโทษ”  พี่ปิงหันหน้ามาแล้วดึงผมไปกอด
“น้องเอกรู้สึกยังไงตอนนี้  บอกพี่ออกมาให้หมด  อย่าโกหก อย่าเก็บไว้คนเดียว  พี่ยินดีฟัง”
“เจ็บครับพี่  เจ็บมาก  เจ็บจนทนไม่ไหว  เอกอยากจะลืม  ลืมว่าเคยรักใคร  อยากจะรักคนใหม่ได้สักที  พี่ช่วยเอกได้ไหม  ช่วยทำให้เอกลืมหน่อย”
”ครับ”   
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 22-05-2009 17:35:29
งืมๆๆๆ

พี่เอกนู๋

T^T
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 22-05-2009 17:37:43
โหย ตอนนี้ มีแต่น้ำตา
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 22-05-2009 18:38:41
 :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 22-05-2009 20:27:23
ณ เวลานั้น เอกคงเจ็บมากๆเลย

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 22-05-2009 20:40:42
 :o12:


เศร้า~~
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 22-05-2009 20:51:31
 :กอด1:...คู่นี้นะ กว่าจะยอมรับความเป็นจริง
...ใจก็ช้ำ ไปเยอะแล้วประชดกันไปประชดกันมา
...น้องเอก เมื่อเช้าโดนแกล้งอะไร เอาคืนให้หนักๆๆนะ
...งดการบ้านก่อนกลับ กทม เอาให้เข็ดทีหลังจะได้ไม่กล้าแกล้งอีก
...ผัวบ้าอะไรวะ มีความสุขบนความทุกข์ของเมีย อิอิ :L2:
...ฝากให้ตั้มด้วย  :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 22-05-2009 21:26:30
เฮ้อ  เศร้าอ่ะ 


กอด น้องเอก   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 22-05-2009 21:38:04
 :กอด1:  พี่เอก   มีสามีขี้แกล้ง...

 :beat:   พี่ตั้มมมมมม


โอ๊ย กว่าจะรักกันได้อ่า


 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-05-2009 22:36:37
เจ็บ เจ็บบาดเจ็บเจียนตาย กับภาพที่เห็น

แต่ทำไงได้ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแบบนี้ ก็คงต้องแล้วแต่แล้วละว่า.......

เอาเป็นว่ามารอดูใจน้องเอกดีกว่า ว่าจะตัดสินใจออกมายังไง

+1 ให้น้องเอกคนน่ารัก น่า  :กอด1: ของนายตั้ม ( ไม่อยากพิมพ์อย่างงี้จริง ๆ ) ล้อเล่นนะตั้ม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 23-05-2009 09:28:46
 :m16:  ไหรบอกว่าจะลงพร้อมกันไง

ไอคนไม่รักษาคำพูด  ชิส์


 :oni1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 16.51 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 23-05-2009 10:40:11
“ใครก็ได้ช่วยพี่หน่อย  เบียร์  เบียร์  ช่วยพี่หน่อย”  ผมได้ยินเสียงพี่บาสตะโกนมาจากในห้อง
   ผมกับพี่ปิงวิ่งเข้าไปดูในห้องว่าเกิดอะไรขึ้น  ภาพที่ผมเห็นนั้นคือพี่บาสนั่งกอดตั้มที่ไม่ได้สติ  เลือดนองเต็มพื้น  ผมเห็นภาพนั้นถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้น  พูดกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น  ตั้มเป็นอะไร  ทำไมเลือดถึงออกเยอะขนาดนั้น  พี่ปิงวิ่งออกไปตามเบียร์และเพื่อนๆคนอื่นๆ  จากนั้นเราก็มาโรงพยาบาลกัน  ตลอดทางพี่บาสกับผมต่างก็นั่งร้องไห้กันมาตลอดทาง  ในเวลาแบบนี้ผมยังเป็นคนเห็นแก่ตัว  ผมอยากจะเป็นคนที่ได้กอดตั้ม  อยากจะไปยืนแทนที่พี่บาส  ผมคงเห็นแก่ตัวมากใช่ไหม
   เมื่อมาถึงโรงพยาบาลผมก็โทรบอกพ่อกับแม่ของตั้มว่าเกิดอะไรขึ้น  ท่านมีท่าทางน้ำเสียงที่ตกใจและบอกให้ผมช่วยโทรบอกความคืบหน้าเป็นระยะๆ  ถ้าอาการไม่ดีขึ้นท่านจะเดินทางมาทันทีแต่ตอนนี้ท่านยังติดธุระอยู่
   แต่ตั้มอยู่โรงพยาบาลแค่คืนเดียวก็ออกได้  เพราะว่าสมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือน  ช่วงที่รอให้ตั้มฟื้นพี่บาสก็เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นทุกคนต่างก็หัวเราะ  ตลกในตัวของตั้ม  แต่ผมกลับรู้สึกแย่ความสัมพันธ์ระหว่างพี่บาสกับตั้มทำไมมันถึงก้าวไปไกลแบบนั้น  ผมยิ่งฟังพี่บาสเท่าไหร่ผมยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้นเท่านั้น  ความอิจฉาในตัวผมที่มีต่อพี่บาสมันยิ่งมากขึ้นทุกวินนาที  ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  ผมคิดไม่ดีกับคนที่เข้ามาเกี่ยวพันกับตั้ม  ทั้งๆที่คนเหล่านั้นไม่ได้คิดร้ายกับผมเลยด้วยซ้ำไป
   เมื่อร่างกายตั้มแข็งแรงดีแล้วเราก็เดินทางกลับบ้านกัน  ผมกับตั้มเราก็ยังไม่ได้คุยอะไรเป็นเรื่องเป็นราว  อาจจะเพราะพี่บาสจะคอยอยู่ใกล้ตั้มตลอดเวลาหรือไม่ก็ตั้มคงไม่อยากคุยกับผมมากกว่า  เพราะทุกครั้งที่คุยกัน  มักจะเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายถามตั้มตลอด  และตั้มเองก็มันจะตอบกลับมาสั้นๆ  แต่สำหรับผมแค่นั้นก็มากพอแล้ว   ดีกว่าตั้มไม่คุยกับผมเลย
   สองอาทิตย์ต่อมาหลังจากกลับมาจากเกาะสมุยโรงเรียนผมก็เปิดเรียนตามปกติ  ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นผมไม่ได้ไปหาตั้มที่บ้านเลย  จะใช้โทรศัพท์โทรไปมากกว่าแต่ตั้มก็ไม่เคยรับสายผมเลยสักครั้ง  ครั้นโทรเข้าเบอร์บ้านเมื่อได้ยินเสียงผมก็วางสายไปเลย  โทรไปอีกครั้งก็ติดต่อไม่ได้  คงจะถอดสายโทรศัพท์ทิ้ง  หลังๆมานี้ผมเริ่มจะปลงแล้วละครับ  แต่มันก็ไม่เคยชินสักครั้งเดียว 
   ผมเดินเข้ามาในโรงเรียนมุ่งหน้าตรงไปที่โต๊ะประจำ ก็เห็นเพื่อนๆและพี่ต่างก็มากันเกือบครบทีมแล้ว  เมื่อไปถึงผมก็เดินไปแทรกนั่งกลางม้านั่ง  แต่ผมลืมไปว่าที่นั่งมันเต็มแล้วและการที่ผมไปแทรกก็ส่งผลให้คนที่นั่งริมม้านั่งต้องตกจากม้านั่ง  และคนนั้นก็คือตั้มนั้นเอง  ผมลุกขึ้นจะไปพยุงตั้มแต่ก็โดนปัดมือ  ตั้มเดินหนีออกไปเลยผมเองก็ไม่กล้าตามด้วย  ผมกลัวว่าตั้มจะโกรธและเกลียดผมมากกว่านี้

“เมื่อตะกี้เจ็บมากป่าว  เราขอโทดจริงๆ  ไม่ได้ตั้งใจแค่....” ผมพูดกับตั้มตอนอยู่ในห้องเรียนแล้ว
“แค่ไม่ได้คิดว่าเราจะตก”
“ไม่ใช่นะ  แค่.....”  ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ   มันเป็นอุบัติเหตุ
“แค่อะไร”
“แค่......”  ผมพูดไม่ออก  บอกตามตรงตอนนั้นผมกลัวตั้มมาก  เพราะสีหน้าและท่างทางตั้มน่ากลัวมาก
“แค่อะไรรู้ไหม  แค่มึงอยู่ห่างๆ กูก็พอ  กูไม่รงไม่เรียนมันแล้วโว้ย เบียร์เอาตังค์  ฝากซื้อหนังสือด้วย”  ตั้มตะโกนใส่หน้าผมอย่างดัง  จนคนทั้งห้องหันมามอง 
เมื่อพูดจบตั้มก็เดินออกจากห้องไปทันที  ผมเองก็เดินออกมาด้วยแต่ไม่ได้ตามตั้มหรอกครับ  ผมเดินตรงไปห้องน้ำผมคอยบอกกับตัวเองว่าอย่าร้องไห้ตรงนี้  อย่าร้องให้ใครเห็นไม่มีใครคิดสงสารหรอก  มีแต่คนจะสมเพชมากกว่า  และทันทีที่เข้าไปในห้องน้ำน้ำตาผมก็ไหลออกมาทันที  ผมต้องคอยกัดฝามือตัวเองเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกไปให้ใครได้ยิน   



PS. เอาไปเท่านี้ก่อนนะครับ  แล้ววันนี้จะมาลงเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.40 น.
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 23-05-2009 14:21:35
ขอบคุณที่เอามาลงหั้ยอ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.40 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 23-05-2009 14:45:30
 :m15: อ่านตอนนี้แล้ว
สงสารเอก เจ็บและต้องอดทนมากๆเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.40 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 23-05-2009 22:16:25
ใครไม่สงสารแต่พี่สงสารอ่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.40 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 23-05-2009 22:20:58
 :sad4: เศร้าอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.40 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 23-05-2009 22:23:15
เป็นกำลังใจให้น้องเอกนะครับ  นายตั้ม ขอสักทีเถอะ  :z6:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.40 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 23-05-2009 22:29:24
ดีนะที่วันนี้ Happy แต่ตอนนั้นนะอยาก  :beat: :beat: :beat: :beat: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:K9yh, จังเลย
 o18 o18 o18 o18  ถ้าตอนนี้ทำงั้นอีก น้องเอก  o18 เจือนเลยดีก่า  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.40 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-05-2009 22:47:36
ช่วงนั้น...เอกคงเศร้ามากกกกกก
แล้วก็คงเสียใจไม่ใช่น้อย
 :เฮ้อ: คำเดียว "เศร้า"

 :กอด1:+1 น้องเอก ชอบครับ...ได้รับรู้ความคิด ความรู้สึกของเอก และ ตั้ม ในเหตุการณ์นั้นๆทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.40 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 24-05-2009 02:26:01
พี่ตั้มนี่น่า  :beat: :z6: :beat: :z6: มากมายอ่ะ

 :monkeysad: เป็นกำลังใจให้พี่เอกนะ

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.40 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 24-05-2009 18:52:55
“ว่าไงหนุ่ม”  ผมรับโทรศัพท์เพราะหนุ่มโทรเข้ามาหาผม
“เอกอยู่ไหน” 
“ห้องน้ำตึกวิทย์”
“เดี่ยวเราไปหา”
   เมื่อวางสายไปผมก็เดินออกมาล้างหน้าล้างตาและมายืนรอหนุ่มที่หน้าห้องน้ำ  ตอนนี้ผมได้หยุดร้องไห้แล้วแต่ตามันยังบวมและแดงอยู่  ใครมาเห็นผมในตอนนี้ก็คงรู้ว่าผมร้องไห้มา  ผมกับหนุ่มต่างก็วิ่งเข้าหากันทันทีที่เราพบหน้ากันแล้วน้ำตาผมก็ไหลออกมาอีกครั้ง   หนุ่มคอยปลอบผมพร้อมๆกับมือของเจษที่คอยตบหลังเบาๆ  ทั้งสองคนรอให้ผมร้องไห้จนเสร็จจากนั้นก็พากันขึ้นห้องเรียนกัน
   หลังเลิกเรียนพวกผมก็พากันไปนั่งกินไอศครีมกันข้างโรงเรียน  เป็นร้านประจำกันไปแล้วก็ว่าได้  แล้วแม่ของตั้มก็โทรเข้ามาหาผม  ผมก็รีบสายท่าน
“สวัสดีครับแม่”
“เลิกเรียนหรือยังลูก”
“ครับผม  เลิกเรียนแล้วครับ”
“แล้วอยู่ไหนกัน”
“มาหาไรกินกันที่ข้าง รร. ครับ”
“วันนี้มาค้างที่บ้านนะลูก  แม่คิดถึงไม่เจอกันนานแล้ว”
“เดี่ยวเอกขอโทรหาแม่ก่อนนะครับ”
“ยังไงก็มาให้ได้นะลูก”
“ได้ครับ”
“ยังไงก็บอกตั้มด้วยละกันนะลูก”
“เขาไม่คุยกับเอกครับ”
“ไม่เป็นไรเดี่ยวแม่บอกไอคุณชายเอง  หรือจะให้แม่ไปรับไหมลูก”
“ไม่เป็นไรครับ  ไปเองได้ครับ”
“แล้วจะมาถูกทางได้ยังไง  แม่ไปรับดีกว่า”
“ไม่เป็นไรครับ  เดี่ยวเอกไปเอง”
“ตามใจเอกก็แล้ว  แม่ไม่กวนแล้วนะลูก”
“ครับสวัสดีครับ”
   หลังจากผมวางสายไปโทรศัพท์ตั้มก็มีสายเข้าทันที  คงจะเป็นแม่ที่โทรเข้ามา  เมื่อคุยกันเสร็จตั้มก็หันพูดกับผมทันที
“เดี่ยวกลับพร้อมกู”  ผมกำลังจะบอกตั้มไปว่า  เดี่ยวผมกลับไปเองก็ได้  แต่ยังไม่ทันได้บอก  โทรศัพท์ตั้มก็มีสายเข้ามาก่อน  เป็นพี่บาสโทรเข้ามาครับผมคงนิสัยเสียมากที่แอบฟังคนอื่นคุยโทรศัพท์  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  และไม่นานหลังจากตั้มวางสายไปพี่บาสก็เดินทางมาถึง  ผมยอมรับครับว่าตอนนั้นหน้าผมเริ่มรู้สึกชาขึ้นมาทันทีที่พี่บาสป้อนไอติมให้ตั้ม  แต่แล้วผมก็ต้องมาตกใจกับการกระทำของบุ้ง

“อย่างนี้นี่เอง  ทำไมไม่บอกกันตรงๆละตั้ม” จากนั้นบุ้งก็หยิบแก้วบนโต๊ะขึ้นแล้วปาใส่หน้าตั้ม  แล้วเดินออกไปจากร้านทันที
“โอ๊ย !!!”  ตั้มร้องเสียงหลงพร้อมกับเอามือกุมหน้าผากตัวเอง   ทุกคนร้องเรียกตั้มเสียงดัง  แล้วทุกคนในร้านก็หันมามองกลุ่มพวกผมทั้งร้าน
“กูจะไปตบมัน  มันทำเกินไปแล้ว  ไปพี่บิ๊กไปกับโม”  โมพูดขึ้นมา
“ไม่ต้องโม  แค่นี้เอง  เราทำกับบุ้งมากกว่านี้อีก” ตั้มรีบห้ามโม 
“ตั้ม  พี่ขอดูหน่อย แผลไม่ลึก  แต่เป็นทางยาว  แค่ทายาก็ได้แล้วละ  เดี่ยวต้องไปทำแผลที่ คลินิคอยู่แล้วใช่ไหม  งั้นให้หมอเขาทำแผลตรงนี้ให้เลยนะครับ  พี่ว่ากลับเลยดีกว่า  งั้นน้องๆพี่กลับก่อนนะครับ”
   ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องมาทนเห็นภาพตั้มกับพี่บาสแบบนี้อีกสักกี่ครั้ง  ใจจริงผมอยากจะเป็นคนแรกที่แสดงความห่วงใยให้ตั้ม  อยากเป็นคนแรกที่คอยช่วยเหลือยามเจ็บป่วย  แต่วันนั้นสำหรับผมคงไม่มี
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 24-05-2009 18:56:07
เจ็บอีกแล้ว

รักแทบตายแต่ก็ต้องคอยดูอยู่ห่างๆๆ  แบบนี้

ทรมาน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: —“L•nely_l3”— ที่ 24-05-2009 19:09:58
 :z3:

ปวดใจแทน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 24-05-2009 19:26:34
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
จริง ๆ ดูเหมือนว่าคุณชายจะน่าสงสารนะ
แต่ทำไมอ่านแล้วรู้สึกสงสารน้องเอกล่ะ T_T

เจ็บกันทั้งสองคน + กับอีกสอง = สี่คน

 :เฮ้อ: ทรมานกันจริง เลย  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 24-05-2009 19:50:33
ตามอ่านจนจบ บอกได้คำเดียวเลยว่าสงสารพี่เอกมากกกกกกก :o12:
พี่ตั้มใจร้ายอ่ะ ก็กว่าจะรู้ใจตัวเองพี่เอกเค้าก็รอจนเหงือกแห้งแล้ว
ใจของคนรอพอมีใครที่สักคนที่เข้ามาทำให้รู้ว่ายังมีอีกคนที่รักเรามันก็ต้องหวั่นไหวบ้างละ
แล้วพอทีนี้พี่ตั้มพึ่งจะมารู้ตัวว่ารักพี่เอก ชิชิๆ

สงสัยตอนนั้นพี่เอกต้องกินน้ำใบบัวบอกแทนน้ำเปล่าแน่ๆ
ก็เล่นช้ำในซะขนาดนั้น น่าสงสารๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 24-05-2009 20:14:51
ยิ่งอ่านก็ยิ่งสงสารเอกอ่ะ  :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 24-05-2009 21:52:16
อ่านแฃ้วก็เข้าใจเลยว่าตอนนั้นทั้งคู่คงเจ็บขนาดไหน

ถ้ารู้ใจกันและกันเร็วกว่านี้ก็คงจะดีอ่ะเนอะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 24-05-2009 21:59:46
 :กอด1: กอดเอก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 24-05-2009 22:32:56
รักแล้วประชด...ประชดรัก
ผลลัพธ์เลยหนีไม่พ้น รันทดใจทั้งคู่

เคยเม้นท์ไปแล้วครั้งหนึ่งในกระทู้นู้น ขอพูดซ้ำ้นะคับ
งง...งง...งงกับความคิดของตั้ม ง่ะ
ตั้มไม่กล้าคบกับเอก เพราะเป็นผู้ชายด้วยกัน
แต่กล้าคบกับพี่บาสได้ แล้วมันไม่ใช่ผู้ชายเร๊อะ ไอ่คุงชาย

 :กอด1:น้องเอก อีกไม่นานคงเลิกเศร้าได้แล้วนะคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luv_yj ที่ 24-05-2009 23:58:28
ไม่มีอะไรจะพูดเลยย
นอกจาก
เจ็บปวดจังค่ะ

มันทรมานอ่ะ

ยังไงก้อสู้ต่อไป  :กอด1:เอกแน่นๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 25-05-2009 07:50:24
 :กอด1: กอดน้องเอก   
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 25-05-2009 08:23:10
 :o12: สงสารน้องเอก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 25-05-2009 11:05:55
เศร้าได้อีกกกก แงๆๆๆ  :m15:

คิดถึงมี๊นะคับ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 25-05-2009 19:12:34
 :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mhu_porm ที่ 25-05-2009 19:31:03
เลิกไปเลย ปอมแนะนำ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.52 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 25-05-2009 19:31:43
“เอก ไหนเมื่อตะกี้ตั้มบอกว่ากลับพร้อมกัน  แล้วทำไมเอกไม่กลับไป  ตกลงจะกลับบ้านพร้อมเราหรือเอายังไง”  นุ่นถามผม  เพราะปกติผมกับนุ่นจะกลับพร้อมกันถ้าหากผมไม่ไปนอนบ้านตั้ม
“ตั้มคงลืมนะนุ่น  ไม่เป็นไรเดียวเราไปเองก็ได้”
“ตามใจเอกแล้วกัน  งั้นเราไปก่อนนะ”  
“เดี่ยวเราเดินไปส่งนุ่นก็แล้วกัน”
ผมกับนุ่นเดินมาที่ขึ้นรถที่หน้าโรงเรียน  จากนั้นผมก็เดินกลับไปที่ร้านเพื่อจะเอากระเป๋านักเรียน  เบียร์กับโมกำลังจะกลับบ้านพอดีสองคนนั้นเลยชวนผมกลับด้วย  ผมมาถึงบ้านตั้มก็พบแม่นั่งทำสวนอยู่ข้างบ้านผมเลยเข้าไปทักทายท่าน  ผมคุยกับท่านไปช่วยท่านทำสวนไปด้วย  เมื่อเราเห็นว่าใกล้จะมืดแล้ว  เลยพากันเข้ามารอตั้มในบ้านและไม่นานตั้มก็กลับมาถึง

“เจ้าลูกบ้ามานี้เลย” ผมรู้สึกเหมือนแม่ค่อยข้างจะไม่พอใจตั้ม  และนั้นยิ่งทำให้ผมหวั่นๆว่าต่อไปต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่นอน
“หวัดดีครับแม่  มีอะไรคร๊าบบบ”  ตั้มเดินเข้ามากอดแม่แล้วนอนหนุนตัก
“ไม่ต้องมาอ้อน  รู้ตัวไหมว่าทำไรลงไป”
“แหะๆๆๆ  โทษทีครับ  พอดีตอนนั้นมัน.....”  
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย”  แล้วแม่เริ่มตีและบิดเนื้อตั้ม
“โอ๊ยๆๆๆๆ  แม่ครับ โอ๊ยๆๆ  เจ็บนะแม่”
“เจ็บนะซิดี  ว่าไงมีอะไรจะแก้ตัวไหม  ลูกเอกเล่าให้แม่ฟังหมดแล้วนะ”  ตั้มหันมามองผมตาขวาง  ก่อนจะระเบิดอารมณ์ใส่ผม
“นี้มันเรื่องของเรา  นายเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมายุ่ง  แล้วทีหลังก็เลิกยุ่งเรื่องของเราอีก”
   เมื่อตั้มพูดจบตั้มก็เดินขึ้นห้องไปเลย  แม่เรียกยังไงตั้มก็ไม่ลงมาตั้มคงเกลียดมากๆ  นี้ผมทำผิดอีกแล้วใช่ไหม  ผมทำผิดตรงไหน  ตรงที่ผมพูดเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้  ผิดตรงที่ผมไปยุ่งวุ่นวายกับตั้มมากเกินไป  หรือผิดตรงที่ผมรักตั้ม   ผมอยากจะคุยกับตั้มให้รู้เรื่องผมทนอึดอัดแบบนี้ไม่ไหวแล้ว  จะเอายังไงก็ว่ามา ผมพร้อมแล้วที่จะสูญเสียเพราะทุกวันนี้มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย  ผมเลยตัดสินใจโทรขึ้นไปหาตั้ม  ตั้มไม่รับสายแต่เปิดประตูออกมาจากห้องแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าบันได  พร้อมตะโกนลงมาว่า

  “เลิกยุ่งกับกูซักที  จะไปตายที่ไหนก็ไป”

   ทันทีที่ผมได้ยินประโยคนั้น  น้ำตาผมก็ไหลออกมา  ผมยอมแล้วผมยอมแพ้แล้ว  ตั้มคงเกลียดผมมากจริงๆ  แม้แต่คำว่าเพื่อนตั้มคงจะไม่ต้องการอีกแล้ว  ผมเดินออกมาจากบ้านของตั้มแต่ผมยังไม่รู้เลยว่าผมจะไปที่ไหน  ผมรู้แค่ว่าผมไม่สามารถอยู่ที่นั้นได้อีก  คอยบอกตัวเองว่าอย่ากลับไปนะ  อย่ากลับไปรักเขาอีก  แต่ยิ่งห้ามใจตัวเองยังไง  มันก็เหมือนเป็นการกระตุ้นให้ผมรู้ตัวว่าผมรักเขามากแค่ไหน

“น้องเอกอยู่ไหนครับ”  พี่ปิงโทรเข้ามาหาผม
“...................”  
“น้องเอกได้ยินไหม”
“...................”
“น้องเอกเป็นอะไรหรือเปล่า”
“พี่ปิง ฮึก เอก  เอกอยู่ที่หน้า.....”
“น้องเอกเป็นอะไร  ร้องไห้ทำไม”
“พี่ปิงมาหาเอกหน่อยนะ”
“ครับๆ  พี่เพิ่งเลิกเรียนพอดี  อีก 20 นาทีพี่ไปถึงนะครับ  น้องเอกอยู่รอพี่ตรงนั้นแหละครับ”
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 25-05-2009 19:35:38
 :monkeysad: ทำไมเศร้ายังงี้

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 25-05-2009 19:38:01
เศร้าอ่ะ    :o12:
ตั้มใจร้ายมาก  พูดงี้ได้ไง  

เอก เปลี่ยนใจ ทันมั๊ย  พี่ปิงน่ารักมากๆ  
จะได้ไม่ต้องร้องไห้อีก   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 25-05-2009 19:39:09
 :กอด1: :กอด1:มี๊เอกน่ารัก น่าสงสาร

 :angry2: พี่เอกกะตืบลุงตั้มเลย ไอคุณลุงนิสัยม่ายดี ชิชิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 25-05-2009 19:39:32
เศร้าได้อีก


หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 25-05-2009 19:46:56
 :m14:

แลบลิ้น ปลิ้นตาหลอกทุกคนที่เข้ามาต่อว่าคนน่ารักอย่างเรา

 :เฮ้อ:

ช่วยด้วย  คนหล่อแย่แล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 25-05-2009 19:50:19
หล่อ (หลอ)
 :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 25-05-2009 20:20:52
มาช่วยน้องเอก กับ น้องหมิว  :beat: :z6: :z13: คนหล่อ (ซะไม่มี)  :laugh:

......................................................................................


ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว สงสารทั้งสี่คนเลย  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 25-05-2009 20:30:00
ใจร้ายที่สุดเลยอะ  ไอ้ตั้มเนี่ย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 25-05-2009 20:43:43
 :เฮ้อ: เฮ้อออออ...เวน-กามมม
เอกผิดเองแหละ...ผิดที่ไปรักไอ่คุงชาย
ใจร้าย...ใจดำชิ๊บ
ขอซักทีเหอะ คุงชายตั้ม ทนไม่ไหวแล้ววุ๊ย  :z6:

 :กอด1:น้องเอก
ตอนนั้นเป็นทีของคุงชายมัน ตอนนี้เป็นทีของเรา เอกเอามันคืนให้หนักๆๆๆๆเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luv_yj ที่ 25-05-2009 21:28:21
ทำไมชีวิตเอกถึงได้เศร้าอย่างนี้ล่ะ
ฮึกกกก
..
คุณตั้มก็ใจร้าย เมื่อไหร่จะคุยกันดี ๆ รู้ใจกันซักทีเนี่ย
ฮือออ

 o9
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 25-05-2009 21:36:19
พี่ตั้มบ้า!!!พูดงี้กับพี่เอกได้งัยอ่า :beat:
พี่เอกก็น่าสงสารเกิ้น แต่ที่น่าสงสารกว่าก็คงเป็นพี่ปิง :o12:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 25-05-2009 21:39:53
โดนตะโกนใส่แบบนี้เป็นใครก็เสียความรู้สึกละนะ เฮ้อออออ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 25-05-2009 21:49:14
จะโกรธ ก็ไม่ได้ เพราะขณะนั้นทั้งความรู้สึกและอารมณ์คงทำให้ ตั้ม พูดออกไปอย่างนั้น

แต่ก็นั่นแหละหนา ไอ้ไล่ให้ไปตายนี่มันน่า เพราะรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองก็รักเอกเข้าแล้ว ยังไม่ระวังอารมณ์

และคำพูดอีก  มามะขอสักทีเถอะ นายตั้ม  :13223: แล้วหันไป  :กอด1: น้องเอก

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นั้นแหละ ทำไงได้รักน้องทั้งสองคนแล้ว สู้ ๆ +1 ให้น้องเอกด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 25-05-2009 21:50:26
 :beat: :z6: :beat: :z6: :beat: :z6: >>> ให้พี่ตั้มยกเซต

สงสารพี่เอกอ่า  :monkeysad:



กว่าจะรักกันได้  :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 25-05-2009 23:03:27
โหย ใจร้ายอ่ะ ทำกันได้ลงคอ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 26-05-2009 07:44:46
 :o12:  ทู๊กโคนใจร้ายมากมาย

เออใช่สิ  ไอเรามันมีแฟนน่ารักทุกคนเลยอิจฉาใช่ไหมล่ะ

 :laugh3:

ปล.ไอเราว่าจะใจดีลงเรื่องให้อ่านต่อ  แต่ขอใจร้ายแล้วกัน

 :a14:

ปล.ลดการใช้อีโมรุนแรงกันบ้างก็ดีนะครับ   แล้วเจอกันอีกทีหลังจากไอตั้มพาแฟนไป ลั้ลล้า นะคร๊าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 26-05-2009 17:52:55
^
^
คนหล่อนั้นเหละใจร้ายว่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 26-05-2009 20:57:39
กว่าจะรักกันได้ ในมุมน้องเอกน่าสงสารจังวู้ย~!!  ...  ว่าแต่ คุณแม่น่ารักนะครับ ^__^

ขอบคุณน้องเอกนะครับ  ... เขียนเล่าเรื่องได้ดี น่าอ่านมาก ๆ ครับ ... บวก 1   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 26-05-2009 21:31:59
 :กอด1:..เหอะๆๆ คุณชายมันโดนเล่นงานวุ้ย...
..เม้นไม่ค่อยออกว่ะ ทำไมเขียนได้แบบ...บีบคั้นอารมณ์..เช่นนี้
..คุณชายมีแฟนด้วยเหรอ..อ๋อ..คนที่ตบมัน..วันก่อนนี่เองใช่ปล่าวหว่า..สม :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 27-05-2009 02:21:11
  :z3:   :z3:
เด๋วกับไปอ่านของตั้มอีกทีดีก่า
เริ่มต่อเรื่อมะถูกง่ะ กรู ติส
โง่ งง  :laugh: :laugh:

ปล.น้องเอก สู้ๆๆๆ
ปล.2 น้องเอกเก่งจังเลยรุได้ไงว่าตั้มอยู่ไหน  (จากเรื่องนู้นอ่ะ) เล่นซะเสือหลบเลย :m20:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 27-05-2009 07:19:32
อืมมม อ่านช่วงนี้แล้ว
มันสมกะชื่อเรื่องจริงๆ
ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ  อย่ารักกู...)

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Forever_ever ที่ 27-05-2009 09:16:49
ตามมาจากเรื่องโน้นนนนนนน

อ่านภาคมืดแล้ว
นับถือใจน้องเอกจริงๆ เลยจ้า
 :L2:

รักกันนานๆ นะจ๊ะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 27-05-2009 12:10:11
โหมีเข้ามาเหน็บ...............ร้ายจริงๆคร้าบ

มาช่วยต่อให้ไวเลย

 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: jpkoko ที่ 27-05-2009 13:09:51
 :เฮ้อ:  ทรมานใจสุด ๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 27-05-2009 20:23:36
ไปอ่านเรื่องของตั้มมาแว้วคร้าบ  กะว่าจะทนทนม่ายไหวคร้าบ

ผมอ่านเรื่องของเอก  แล้วตามมาอ่านของตั้มวันเดียวรวดเดียวเลย

มันน่ารัก  มันแปลกที่ความรักมันมีเรื่องราว  ที่มองจากคนสองคน

สองคนมองคนละคนกัน  แต่รู้สึกเหมือนกัน   เฮ้อ.....ตั้ม+เอก

รักกันให้มากๆ  รักกันให้นานๆ  รักกันแบบนี้แหละ  รักกันให้พวกผมอิจฉาไปเลย

จะรักและเป็นกำลังใจให้นะคร้าบ


 :oni2: :oni2: :oni2:




+1 ให้แต่ผมมีแค่หนึ่งอะเอาไปให้หมดเลย  ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคร้าบ


ให้ทั้งตั้ม  และเอกนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 28-05-2009 19:57:30
ตั้ม พูดทำร้ายจิตใจเอกจริงๆเลย

บีบคั้นจิตใจสุดๆ

 :กอด1: ทั้งสองคนเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 30-05-2009 20:34:27
ตามมาจากกระทู้โน้น...

สงสารเอกจัง...

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 19.32 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 31-05-2009 11:14:17
 :เฮ้อ:  กว่าจะหาเรื่องของ จขกท. นี้เจอ

เล่นเอาเหนื่อยเลย   อ่ะๆๆ  ผมนายตั้มเองครับ

มาลงเรื่องให้  จขกท. ทิ้งผมไปแล้ว  และก่อนไปยังมาสั่งให้เราลงเรื่องให้อิก

 :o12:  ทิ้งไปยังไม่พอ  ยังจะมาใช้งานกันอีก  จะใจร้ายไปถึงไหนน๊า


................................................................................................


   ผมนั่งรอได้ไม่นานพี่ปิงก็มาถึงผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ปิงฟัง  ดูท่าทางพี่ปิงค่อข้างจะไม่พอใจแต่ผมก็ไม่กล้าถามหรอกครับว่าโกรธใคร พี่ปิงพาผมมากินข้าวที่บ้านพี่ปิง  และให้ผมนอนค้างที่นี้ซึ่งผมเองก็ไม่มีที่ไปอยู่แล้ว  จะให้กลับบ้านรถก็ไม่มีให้กลับไปแล้วด้วย  หลังจากผมอาบน้ำเสร็จแล้วผมก็ออกมาจากห้องน้ำ

“พี่ปิงเป็นอะไรหรือเปล่า  ไม่พูดไม่จาตั้งนานแล้ว”  ผมถามพี่ปิงที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่
“ไม่มีอะไร”
“ผมมากวนพี่หรือเปล่า  ผมกลับก็ได้นะ”
“พี่บอกว่าไม่มีอะไรไงเล่า”
   เป็นครั้งแรกเลยมั้งครับที่พี่ปิงตวาดใส่เสียงดังใส่ผม  และผมเองก็ค่อนข้างตกใจด้วยผมเลยตัดสินใจกลับไปใส่ชุดเดิมเพื่อจะไปที่อื่น  แต่จังหวะที่ผมกำลังเปลี่ยนชุดอยู่นั้นพี่ปิงก็เข้ามาผลักผมล้มลงไปนอนกับที่นอน  จากนั้นก็เริ่มที่จะลวนลามผมด้วยความตกใจผมก็ผลักพี่ปิงแต่ยิ่งผลักเท่าไหร่พี่ปิงก็ยิ่งจะรัดตัวผมแน่นเท่านั้น  ผมเลยนอนนิ่งๆปล่อยให้พี่ปิงทำจนพอใจและน้ำตาผมก็ค่อยๆไหลออกมา  พี่ปิงคงจะรู้สึกได้จากการสะอื้นของผมพี่ปิงเลยหยุดการกระทำ

“น้องเอกครั้งนี้พี่จะไม่ขอโทษ  พี่แค่อยากใช้สิทธิ์ของความเป็นแฟน”  พี่ปิงลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับผมที่กำลังนอนใส่เสื้อที่ถูกถอดออกไป
“ถึงผมเป็นมากกว่าแฟนพี่ก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับผมแบบนี้”
“แล้วใครละที่มีสิทธิ์  ไอตั้มใช่ไหม  มันคนเดียวใช่ไหมที่มีสิทธิ์”
“พี่ปิงอย่าพูดแบบนี้นะ  ไม่มีใครมีสิทธิ์ทั้งนั้นนี้มันตัวของเอก  เอกเท่านั้นที่มีสิทธิ์”
“ที่ผ่านมาทุกสิ่งที่พี่ทำ  มันไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยใช่ไหม  พี่ก็ยังคงเป็นคนอื่นสำหรับน้องเอก”
“พี่ปิง   เราเลิกกันเถอะนะ  พี่ก็เห็นแล้วว่าที่ผ่านมามันเป็นยังไง  พี่ก็เหนื่อยผมก็เหนื่อย  ฝืนกันไปก็มีแต่จะทำร้ายความรู้สึกกันไปเปล่า”
“ไม่นะน้องเอก  พี่ไม่เลิกนะครับ  พี่ยอมทั้งนั้น  ไม่ว่าต่อไปพี่จะยืนอยู่จุดไหนสำหรับน้องเอก  แต่ขอแค่พี่ได้อยู่ดูแลน้องเอกพี่ก็พอใจแล้ว  นะครับน้องเอก  อย่าบอกว่าจะเลิกกับพี่”   พี่ปิงเดินเข้ามากอดเอวผมเอาหน้าซุกตรงท้องผมแล้วพูดออกมาพร้อมน้ำตา
“ผมตัดสินใจแล้วครับ  พี่ปิงช่วยเคารพการตัดสินใจผมหน่อยนะครับ  ที่ผ่านมาผมรู้สึกประทับใจมากแต่มันก็เท่านั้น  ผมไม่ได้รู้สึกกับพี่เกินคำว่าเพื่อน”

   ผมลุกขึ้นทันทีที่ผมพูดจบและเดินออกมาจากบ้านพี่ปิง  พี่ปิงไม่ได้เดินตามผมมา   ผมรู้สึกสงสารพี่ปิงมากแต่จะทนฝืนคบกันไปผมก็ยิ่งจะทำร้ายพี่ปิงมากขึ้นทุกวัน  สู้ให้มันจบเสียวันนี้ยังจะดีกว่า  การบอกเลิกครั้งนี้ผมได้ใช้ความพยายามมาถึงหลายครั้งแล้วที่จะพูดแต่ก็ยังหาโอกาสไม่ได้สักทีจนมาถึงวันนี้  หลายคนอาจจะต่อว่าผมที่ทำแบนนั้น  แต่จะมีใครกี่คนกันที่เข้าใจความรู้สึกของผม ผมมันก็แค่มนุษย์ทั่วไปไม่ใช่ผู้วิเศษ  ผมเองก็มีความเห็นแก่ตัว  เลือกที่จะรักตัวเองมากกว่าจะทนเจ็บเพื่อถนอมความรู้สึกของผู้อื่น  เลือกที่จะทำตามใจตัวเองมากกว่าจะทำตามความต้องการของผู้อื่น   ถ้าจะบอกว่าสิ่งที่ผมทำนั้นมันผิดผมก็ยอมรับผิด  บอกว่าผมทำบาปที่ทำร้ายความรู้สึกของผู้อื่นผมก็ยอมรับผลกรรมที่จะตามผมพร้อมแล้ว   หลังจากที่ออกจากบ้านพี่ปิงมาแล้วผมก็นั่งรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างเพื่อจะหาห้องเช่าสักคืนแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับบ้าน
   ทุกๆเช้าพี่ปิงจะโทรมาหาผมพร้อมกับส่งข้อความมาให้  แต่นี้ก็หลายวันแล้วที่ผมไม่ได้รับเลยและระหว่างผมกับตั้มเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย  ผมไม่กล้าพอที่จะเข้าไปคุยกับตั้มเพราะคำๆนั้นมันยังคงก้องอยู่ในหูผมและตามหลอกหลอนให้ผมรู้สึกหดหู่ทุกครั้งที่ผมเห็นตั้ม  จนมาถึงวันนึงที่ผมทนแบกรับความรู้สึกต่างๆไว้ไม่ไหวแล้ว  ผมทนไม่ได้กับความเย็นชาของตั้ม  ผมทนเห็นตั้มกับพี่บาสอยู่ด้วยกันไม่ได้  ผมรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกนี้
   ผมโทรหาพี่อะตอมบอกว่าผมอยากไปเที่ยวซึ่งพี่เขาก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร  แต่จริงๆแล้วผมไม่ได้อยากไปเที่ยวหรอก  ผมก็แค่อยากกลับไปหาความทรงจำดีๆถึงแม้ว่ามันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ  แต่มันก็มีค่าสำหรับผม   พี่ตอมมารอรับผมที่ท่าเรือผมกะไว้ว่าจะอยู่ที่นี้สัก 2 วันแล้ววันอาทิตย์ค่อยกลับไปสู่โลกความจริง  แต่ตอนนี้ผมขออยู่ในโลกของความฝันก่อน

“เอกมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าดูหน้าเศร้าๆ”  พี่ตอมพูดกับผม
“นิดหน่อยครับพี่”
“อยากจะเล่าให้พี่ฟังหรือเปล่า”
   ผมก็เลยเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้พี่อะตอมฟัง  ทั้งเรื่องของตั้มรวมไปถึงพี่ปิงด้วย
“เอาน่าไม่ต้องไปคิดมาก  อีกอย่างเราเองก็ยังเด็กอนาคตยังอีกยาว  ยังมีคนดีๆอีกเยอะที่จะเช้ามาในชีวิต”
“ไม่รู้สิครับ  ผมเองยังตอบไม่ได้เลยว่าทำไมผมถึงตัดใจจากตั้มไม่ได้สักครั้งทั้งๆที่พยายามแล้ว  แต่เหมือนยิ่งพยายามเท่าไหรมันกลับยิ่งฝั่งลึกขึ้นทุกวัน”
“สมมตินะ  ถ้าเกิดวันนึงเราสองคนได้เป็นแฟนกัน  แล้วเอกจะทนได้ไหมถ้าเกิดมีคนเข้ามาเกี่ยวพันกับตั้มเยอะ  ตั้มมันไม่ใช่คนหล่ออะไรก็จริง  แต่มันก็เป็นคนที่มีเสน่ห์คนหนึ่ง  พี่เองก็ยอมรับนะว่าพี่แค่เห็นครั้งแรกพี่ก็อยากรู้จักแล้ว  และพี่ก็เชื่อว่ามีอีกหลายคนที่คิดเหมือนพี่”
“ถ้าหากวันนั้นมีจริงผมก็พร้อมที่จะรับครับ  เพราะผมเลือกที่จะให้มันเป็นแบบนั้น”
“แล้วไม่คิดที่จะมองหาคนอื่นบ้างหรือไง”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม  คนอื่นที่เข้ามาจีบก็หน้าตาดีนะครับพี่  แต่มันก็เท่านั้นผมไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย”
“เอาเถอะยังไงก็อยู่ที่ตัวเราเองว่าจะทำอย่างไร  คนอื่นทำได้ก็แค่เพียงคอยปลอบใจและให้กำลังใจเท่านั้น  แต่เอกรู้ไหมชีวิตคู่ระหว่างชายกับชายมันไม่จีรังยังยื่นหรอกนะเพราะเราไม่สามารถมีบ่วงมาคล้องคอได้ไม่เหมือนชายกับหญิง  แล้วก็อย่าลืมว่าเกย์ก็คือผู้ชายคนนึงไอเรื่องออกนอกลู่นอกทางมันก็มีบ้าง  เพราะฉะนั้นเกย์ที่อยู่กันได้นานๆล้วนแล้วแต่ใช้ความเข้าใจกันทั้งนั้น”
“พี่ตอมคงผ่านอะไรมาเยอะนะ”
“ก็นะ  พี่เคยคิดที่จะร่วมหลักปักฐานกับคนๆนึง  เคยคิดว่าเราจะมาสร้างที่นี้ด้วยกัน  แต่ก่อนที่ความฝันเราจะเป็นจริงผู้ชายคนนั้นก็มาทิ้งพี่ไป  เพียงเพราะแค่อยากจะเปลี่ยนรสชาติให้กับชีวิต  แรกๆพี่ก็ทุรนทุรายอยากจะตายให้ได้  แต่มาวันหนึ่งพี่คิดได้ว่าก็แค่ผู้ชายคนเดียวเราจะไปแคร์ทำไม คนอื่นที่ยังต้องการเรามีอีกมากมาย”
“แล้วพี่ลืมคนนั้นได้ยัง”
“เอาความจริงหรือโกหกละ”
“แล้วแต่พี่สิครับ”
“ไม่หรอก  พี่ก็คงเหมือนเอกมั้ง  มั่นคงในรักที่มีถึงใครจะผ่านมาเท่าไหร่  จะดีให้มากยังไง  แต่เรื่องของหัวใจมันก็บังคับไม่ได้”
“พี่ก็คงจะรอต่อไป”
“ตราบใดที่ยังเห็นแสง  ถึงแม้จะน้อยนิด  พี่ก็ยังหวังจะเจอทางออก  เอาละพี่ต้องไปบริการลูกค้าต่อและมีอะไรก็ไปคุยกับพี่ได้นะ  ขาดเหลืออะไรก็มาขอได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณพี่ตอมมากนะครับ”
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 31-05-2009 11:40:39
ใจเด็ดดี...น้องเอก
การบอกเลิก อาจจะทำให้เจ็บ ทั้งคนพูด...คนฟัง

แต่ บอกเลิก...ยังดีกว่า...หลอกว่ารัก

 :กอด1:กอดแน่นๆ แทนความคิดถึง +1 ให้กับการตัดสินใจที่เด็ดขาดของน้องเอก  :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 31-05-2009 12:16:55
มันแซ้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 31-05-2009 14:11:09
เยี่ยมมากค่าพี่เอก o13
ตัดสินใจแบบนี้อ่ะถูกแล้ว ถึงพี่ปิงจะเจ็บตอนนี้แต่มันก็ดีกว่ายื้อกันไว้ให้ทรมาณกันทุกฝ่ายอ่ะ
แต่พี่เอกน่าสงสารอีกแล้ว :o12:

ตราบใดที่ยังเห็นแสง  ถึงแม้จะน้อยนิด  พี่ก็ยังหวังจะเจอทางออก   
ชอบประโยคนี้อ่า...พี่อะตอมให้ข้อคิดที่ดีมากๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 31-05-2009 15:27:43
 :o12:

เอกตัดสินใจแบบนี้ดีแล้ว
ดีกว่าปล่อยไว้ยิ่งจะทำให้ทุกฝ่ายเจ็บมากไปกว่านี้


หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 31-05-2009 20:13:12
ดีแล้วล่ะที่บอกพี่ปิงไปแบบนั้นเพราะคบกันไปก็มีแต่จะแย่

ทำร้ายความรู้สึกกันเปล่าๆ บอกแต่เนินๆจะได้มีเวลาทำใจ

มาส่งกำลังใจสำหรับตอนนี้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 31-05-2009 21:22:26
แข็งแรงไว้นะคร้าบ  เดียวก็เช้าแว้วคร้าบ

 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 31-05-2009 21:29:33
 :o12:  สงสารเอกจัง   

แต่เอกก็เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวดี  ชอบๆ


 :กอด1:กอดน้องเอก 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 31-05-2009 21:39:12
ตัดฉับความสัมพันธุ์กับพี่ปิงได้ แต่ทำไมไม่ตัดกับตั้มมั่งน้า..... 555......

ไม่บอกก็รู้  ว่ารักเข้าแล้ว รักจนหัวปักหัวปรำ เลยไม่ยอมถอนตัว ฮิ.ฮิ.ฮิ.....

มารอดูตอนพระเอกมาง้อนายเอกดีกว่า ว่า.... จะยังไง

+1 ให้น้องเอก แต่ไม่ได้กดบวก ให้ น้องตั้มนะครับ ไว้ลงทู้โน้นก่อนแล้วจะกด + ให้  :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 31-05-2009 23:06:36
^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 01-06-2009 08:13:38
เอกน่ารัก  :-[

รักเดียวใจเดียวด้วย..

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 01-06-2009 10:35:28
รักมี๊คับ กับมาเร็วๆน่ะ มีคนเหงาอยู่แถวนี้
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 31 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.14 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 02-06-2009 20:21:50
นายตั้มมารายงานตัวคร๊าบบบบ   เมื่อวานไม่ได้ลงเรื่องให้

พอเช้าวันนี้ตื่นมาก็โดนสวดยับเลย  ว่าทำไมไม่ลงเรื่องให้

 :serius2:  ทิ้งกูไปยังไม่พอ  ยังจะมาดาว่ากันอีก   :o12:


....................................................................................

        ผมนั่งอยู่ที่ระเบียงนั่งมองไปข้างหน้า  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมมองอะไร  ผมรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวผมเหงา  ผมอยากมีใครสักคนในเวลานี้ผมอยากคุยกับใครสักคนหนึ่งใครก็ได้  และผมก็เลือกที่จะโทรหาตั้ม  แต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับผมเลยตัดใจไม่โทรไปอีก  ท้องฟ้ากับทะเลที่กว้างใหญ่ยังมีดาวและสัตว์น้ำเป็นคู่  แต่ผมเป็นถึงสิ่งมีชีวิตแต่ทำไมผมถึงไม่มีคู่   ผมนั่งคิดนอนคิดอยู่อย่างนั้นจนหลับไป  ตื่นมาอีกทีเพราะเสียงโทรศัพท์  ผมกดรับแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะคนโทรมาคือตั้ม

  “มึงอยู่ไหน”  ตั้มถามผม
“...........”
“กูถามว่ามึงอยู่ไหน” 
“............”
“............”  มาถึงตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีใครพูดออกมา  แต่ก่อนที่น้ำตาผมจะไหลออกมาอีกครั้ง  ผมก็พูดออกไปเพื่อจะบอกให้คนรับสารรู้ว่าผมเหงามากขนาดไหน
“เหงาจังเลย  ว่าไหมครับคุณมือถือ”  แล้วผมก็วางสายไป
   ผมปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาจนผมไม่รู้ว่าน้ำตาผมมันเหือดหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่  ผมนั่งเหมอมองออกไปยังท้องทะเลอยู่อย่างนั้น  พี่ตอมยกข้าวมาให้แต่ผมก็กินไม่ลงจริงๆ  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันไม่หิวทั้งๆที่ผมไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เที่ยงของเมื่อวานนี้  ผมไม่พูดไม่คุยกับใคร  ใครถามอะไรผมก็ไม่ตอบทั้งๆที่ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ตอบ  แต่ผมคุมตัวเองให้หันไปสนใจคนๆนั้นไม่ได้จริงๆ 

“เอก”  นี้ก็เป็นอีกครั้งที่มีคนมาเรียกผม  ซึ่งผมก็หันไปดูทุกครั้งที่มีคนเรียก  แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆเพราะคนที่เรียกผมคือคนที่ผมคิดถึงที่สุด
“มึงมาทำอะไรที่นี้”  ตั้มพูดเสียงดังใส่ผม  แต่ตอนนั้นผมไม่รู้จริงๆว่าตั้มพูดว่าอะไร  เหมือนสมองผมไม่รับรู้อะไรแล้ว  แต่ผมก็เลือกที่จะบอกคนข้างหน้าว่าผมรู้สึกยังไง
“เราเหงาจังเลย  ตอนนี้เราเหงามากเลย  ไหนนายเคยสัญญากับเราว่าจะไม่ปล่อยให้เราเหงาอีกต่อไปไง แต่นายเองเป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกเหงา  นายรู้ไหมนายปล่อยให้เราเหงาอยู่อย่างนี้มานานเท่าไหร่แล้ว นาย.....”
“เปรี๊ย”  ตั้มตบผมเข้าที่หน้า  และการกระทำนี้เองที่ทำให้สติผมกลับคืนมา
“มึงจะเลิกบ้าได้ยัง  มึงรู้ไหมว่ามึงทำแบบนี้แล้วกูเกือบครั่ง  จะบ้าตายอยู่แล้ว  กูคิดว่ามึงจะเป็นอะไรไป  กูกลัวว่ากูจะไม่ได้เห็นหน้ามึงอีกแล้ว  กูขอโทษ  กูขอโทษที่ปล่อยมึงไว้คนเดียว  แต่มึงอย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะ  กูขอร้อง”  ตั้มพูดออกมาทั้งน้ำตาขณะที่ยืนกอดผมอยู่  ผมรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอกข้างซ้าย  ผมทำให้คนที่ผมรักต้องเสียใจ  และนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ผมทำให้ตั้มร้องไห้เพราะผม 
“เราขอโทษที่ทำให้นายเป็นห่วง  เราจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” 
“กลับบ้านกันเถอะนะ”  ผมก็พยักหน้ารับตามคำชวนของตั้ม  ผมพร้อมไปทุกที่  ไม่ว่าจะให้ไปไหนขอแค่มีคนๆนี้อยู่ด้วย  ผมก็พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่ง
   ผม ตั้มและเบียร์เราเดินทางมาถึงที่บ้านเกือบจะค่ำแล้ว  แม่ผมวิ่งเข้ามากอดผมทันทีที่ผมลงจากรถผมคงทำให่ทุกคนคอยเป็นห่วงผม  ผมพร้อมที่จะรับการลงโทษทุกรูปแบบและจะไม่ขัดขืนใดๆทั้งสิ้น

 “ไปไหนทำไม  ไม่รู้จักบอกใคร  รู้ไหมทำให้คนอื่นเค้ายุ่ง  วุ่นวายกันขนาดไหน”  พ่อถามผม  ดูท่าทางแล้วพ่อคนโกรธผมมาก  และคงมากที่สุดที่ผมเคยเห็นมา
“ขอโทษครับ”  ผมยกมือไหว้พ่อและก้มกราบลงที่เท้า  ผมเสียใจที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง  ทำให้คนอื่นๆต้องพลอยเดือดร้อน
“เอกรู้ไหมทำแบบนี้  มันผิด  เอกยอมให้พ่อตีไหม”
“ยอมครับ”
“ลุกขึ้นยืน  กอดอกซะ”
   แม่ของตั้มกับตั้มช่วยกันพูดห้ามพ่อผม  แต่ไม่ว่าพูดยังไงพ่อผมก็ไม่ยอม  และผมเองก็พร้อมที่จะได้รับการลงโทษด้วยเช่นกัน 
 “เพลี๊ยะ”
 “โอ๊ย” 
“เพลี๊ยะ”
  “โอ๊ย” 
   ถ้าถามว่าผมเจ็บไหม  ผมตอบอยากไม่อายเลยว่าเจ็บมาก  แต่เจ็บแค่นี้ผมทนได้   แต่ผมทนไม่ไหวจริงๆถ้าเกิดผมทำให้ใครต้องมาเสียใจเพราะผม  ให้ผมทำยังไงก็ได้ผมพร้อมจะทำเพื่อให้ทุกคนไม่ผิดหวังในตัวผม  แต่แล้วอยู่ดีๆตั้มก็เอาตัวเข้ามาบังผมเลยโดนพ่อผมตีไป 1 ที
 “ตั้ม  ออกมา !!!” 
“พ่อครับ  พอได้แล้ว  เอกมันไม่ไหวแล้ว  ถ้าพ่ออยากตีอีก  พ่อตีตั้มนะครับ  เอกมันไม่ไหวแล้ว”  ตั้มพูดพร้อมกับผมพนมมือไหว้พ่อผม  พ่อผมเลยทิ้งไม้เรียวแล้วเดินขึ้นห้องไปเลย
“ตั้ม  พาเอกมาที่แม่นี้มา”  แม่ของตั้มเรียกให้ผมไปหาท่าน  ตั้มก็พาผมไป
“น้องอร  เดี่ยวพี่พาลูกเอกไปนอนบ้านพี่นะ  แล้วพอพี่เมฆอารมณ์เย็นลงแล้วพี่จะพามาส่ง”   ผมตั้มพูดกับแม่ของผม
“แม่   ตั้มกลับก่อนนะครับ  ไม่ต้องห่วงเอกนะครับ  ตั้มจะดูแลเอกเอง”  ตั้มบอกกับแม่ผมก่อนจะขึ้นรถ
“แม่ขอบใจนะลูก  ที่ช่วยห้าม  ว่าแต่เจ็บไหมลูกเมื่อกี้โดนไปด้วยนิ” 
“ไม่หรอกครับ  ถ้าให้เจ็บแทนเอกได้  ตั้มก็ยอมครับ”  แม่ผมเมื่อได้ยินตั้มพูดแบบนั้นถึงกับร้องไห้ออกมาเลย  และก็ไม่ได้ต่างอะไรกับผม  ผมพูดคุยกับแม่สักพักก็เดินทางมาที่บ้านตั้ม

“เอก  เจ็บไหม  กูขอโทษ  ขอโทษที่ปกป้องมึงไม่ได้  กูขอโทษ”  ตั้มบอกกับผมหลังจากที่พาผมเข้ามาในห้อง
“ไม่เป็นไร  ถ้าเราเจ็บแล้วทำให้นายคุยกับเราได้  เราก็ถือว่าคุ้ม”  ผมไม่รู้ว่าผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า  เพราะตั้มยิ่งร้องไห้หนักว่าเดิมอีก
“กูขอโทษ  กูขอโทษ”  ผมเอามือปิดปากตั้ม  เพราะไม่อยากได้ยินคำขอโทษจากคนๆนี้  เพราะคนที่ควรจะพูดมันน่าจะเป็นผมมากกว่า
“พอแล้ว  เช็ดตัวให้หน่อยดิ  เหนี่ยวตัวจัง” 
   
   ตั้มก็จัดการเช็ดตัวและทายาให้ผม  แล้วแม่ก็เดินเข้ามาถามอาการนิดหน่อยแล้วผมก็หลับไปคงเพราะเหนื่อยและเพลียมาจากการอดนอนหลายวัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: B4U_BoA ที่ 02-06-2009 20:25:29
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 02-06-2009 21:17:56
อ้างถึง
“ไม่หรอกครับ  ถ้าให้เจ็บแทนเอกได้  ตั้มก็ยอมครับ”
ถ้ามีคนพูดประโยคนี้ให้จะรู้สึกดีขนาดไหนนะ
มีคงรู้สึกดีมากมาย ฝังอยู่ในใจแล้วก็ก้องกังวาล
อิจฉา ชิชิ  :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: a_lex ที่ 02-06-2009 21:18:18
ร้องไห้อีกแล้วเรา
วันนี้เป็นอะไรร้องไห้ตลอด
อ่านเรื่องของเอกยิ่งร้องไห้

มีความรู้สึกว่าการที่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก
มันเป็นสูข
เมื่อมีรักอยู่ให้รักษามันไว้ให้ดี

วันนี้เป็นอะไรไปเรา บ้าไปแล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 02-06-2009 21:31:53
 :L2:...ซึ้งจังเลย น้ำตาซึมเลยอ่านตอนนี้
...สองคน รักกันดีเนอะ ช่วยกันเจ็บตัว
...แหม..คุณน้องตั้ม โพสให้..ที่รัก..ทำเป็น..บ่น
...น้องเอก..ขี้เหงา จริงๆๆเนอะ ไปอยู่กทม ไม่คิดถึงใครบางคนแย่เลยเหรอ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 02-06-2009 21:45:12
สงสารเอกอะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 02-06-2009 21:46:27
ต่างคน ต่างแสดงความรู้สึกจากข้างในออกมา

มันคงไม่ต้องพูดหรืออธิบายอะไรอีกแล้ว

+1 และเป็นกำลังใจให้น้องเอกนะครับ

ปล. น่าสงสารคนถูกทิ้ง แต่ก็โส น้า น่า ที่ทำหน้าที่บกพร่อง  :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 02-06-2009 21:51:12
อ่านฝั่งของเอกเนี่ยเศร้ามากมายเลยเนอะ   เฮ้อ......... :sad4: :sad4: :sad4:


อีกนิดนะคร้าบเอก  อีกนิดเดียวนะ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 02-06-2009 22:23:33
ตอนนี้ เศร้าที่สุดเลยอ่ะ    :sad11:




หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luv_yj ที่ 02-06-2009 22:29:31
เศร้าอ่ะ เศร้าได้อีกค่ะน้องเอก
อ่านไปรู้สึกเลยว่าเอกเหงามากๆ

ใกล้แล้วนะคะ คุยกันให้ดีน๊า
ฮื่ออออ
อยากอ่านตอนหวาน ๆ บ้างงง
ตอนนี้น้ำตาท่วมแล้ว  :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 02-06-2009 22:40:24
เศร้าดีจาง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 02-06-2009 22:40:46
 :เฮ้อ: เมื่อไหร่จะถึงตอนฟ้าใสของเอกบ้างน้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 03-06-2009 00:32:22
"เหงาจังเลย..ว่าไหมครับคุณมือถือ"
อยากจะร้องไห้กับประโยคนี้จังค่ะพี่เอก :o12:
ชีวิตพี่เอกทำไมมันรันทดแบบนี้เนี้ย เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ  :monkeysad:

 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 03-06-2009 09:39:58
ซึ้งมากมายเลยน้องเอก  :monkeysad: ประทับใจอ่ะ

กับความรักที่น้องเอกมีให้คุณชาย มันมากมายอ่ะ

คุณชายดูแลน้องเอกให้ดี ๆ นะ แต่คุณชายก็น่าประทับใจนะ

ที่ยอมเจ็บแทนน้องเอก   :กอด1:

+1 ให้ทั้งสองคนเลยนะ คุณชาย  :L1: น้องเอก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 03-06-2009 20:49:57
 :monkeysad: ทั้งเศร้าและซึ้งจังอ่ะ

เอกรักตั้มมากจริงๆเลย

ตอนนี้คุณชายตั้มแมนคอด

 :L2: ให้ทั้งสองคนเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 03-06-2009 21:04:26
 :impress3:

No Comment 

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 03-06-2009 22:14:26
^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 03-06-2009 22:27:40
พี่ตั้มมมมมมมมม
มะไหร่จามาลงเรื่องให้พี่เอกอ่า
อยากอ่านตอนพี่เอกสมหวังใจจะขาดแว้ววววววววว
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 04-06-2009 04:40:31
เศร้าและซึ้ง
ตอนเดียวกัน แต่ต่างมุมมอง แต่ความเศร้าและซึ้งไม่แตกต่างเลย
บวก 1 แต้มจ้า

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 04-06-2009 08:33:45
 :L2:  เป็นกำลังใจให้ครับ   สู้ สู้
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 04-06-2009 13:26:59

 . . ..ใกล้จะตามทันตั้มแล้วใช่ป่ะค่ะ . .. เย้ เย้ .  ..ใช้งานหน่อยมิได้เลยตั้มอ่ะ ทำเป็นบ่น .. .
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 04-06-2009 14:14:24
รอๆๆอ่านนะครับ

มาลงเยอะๆๆจะได้ทันกานสองเรื่อง

แบบว่าเวลาอ่านจะได้ฟิวว่า อีกคนคิดไง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 04-06-2009 23:57:20
คูรพ่อโหดม๊ากค่ะ   แต่เอ้..........แล้วคุณลูกจะโหดแบบคุณพ่อไหมเนี่ย  :laugh: :laugh:
ระวังให้ดีเน้อคุณตั้ม   

ปล. ดีค่ะ ทำผิดแล้วยอมรับผิด ถึงแม้จะโหดไปหน่อยก็เหอะ   o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 2 มิถุนายน 2552 เวลา 20.21 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 05-06-2009 08:18:30
ผมขอโทษด้วยที่ไม่ได้ลงเรื่องต่อ  ทั้งเรื่องนี้และเรื่องโน้น

สาเหตุมาเพราะผมไม่สามรถลงข้อความยาวๆได้  มันขึ้นเออเรอร์ตลอด

แต่ข้อความสั้นๆผมลงได้  เอาเป็นว่าผมจะพยายามลงไปเรื่อยๆจนกว่าจะลงได้นะครับ

รักและคิดถึง  ยอดชายนายตั้ม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 05-06-2009 09:20:51
ก็บอกแล้วว่าลงสั้นๆเท่ากับขนาดของตั้มก็ด้ายคร้าบ   อิอิ....แว๊บบบบบบบบบบบ



 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 05-06-2009 10:28:13
ก็บอกแล้วว่าลงสั้นๆเท่ากับขนาดของตั้มก็ด้ายคร้าบ   อิอิ....แว๊บบบบบบบบบบบ

เห็นด้วยกับรีบนค่ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 05-06-2009 23:14:27
 :z2: :z2:  ต่อเหอะนะ ตั้ม  เด๋วจะสั้นจิงๆๆ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 05-06-2009 23:25:17
ลงไก้สั้นๆๆก็ลงหลายๆๆอานเลยครับ

รออ่าน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 06-06-2009 18:07:12
ก็บอกแล้วว่าลงสั้นๆเท่ากับขนาดของตั้มก็ด้ายคร้าบ   อิอิ....แว๊บบบบบบบบบบบ

เห็นด้วยกับรีบนค่ะ  :z2:

อ้าว..นายตั้มมาแก้ข้อครหาหน่อย....เค้าหาว่านายสั้นอ่ะ.. :m20:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 07-06-2009 00:02:51
มาลงให้แล้วน๊า  จากยอดชายนายตั้ม

 :angry2:  เลือกบ่นกันได้หรือยัง

....................................................................

เรื่องยุ่งๆของผมกับตั้มไม่ได้จบเพียงเท่านี้  แค่เพียงข้ามคืนก็มีเรื่องใหม่มาให้ผมกับตั้มได้ปวดหัวกันอีกรอบในตอนเช้าของวันถัดมา ขณะที่ผมนั่งคุยกับตั้มในห้องนอนของตั้ม

“เป็นงัยบ้าง  ค่อยยังชั่วป่าว”   ตั้มถามผมพร้อมกับเอามือมาลูบที่หน้าผากผม
“อืม”  ผมตอบเพื่อให้ตั้มสบายใจ  ทั้งๆที่ผมรู้สึกเจ็บปวดร้าวไปทั้งตัว
“ขอโทษ......”  แล้วตั้มก็พูดคำนี้ออกมา  ผมรู้ว่าตั้มพูดเพื่ออะไร  และจะสื่ออะไรให้ผมเข้าใจ  แต่ผมไม่อยากได้ยินคำๆนี้จากคนๆนี้อีก  เพราะอย่างที่เคยบอก  ถ้าเรื่องนี้มีคนผิด  คนนั้นก็คือผม  ผมขอเป็นคนผิด  ดีกว่าให้คนที่ผมรักกลายเป็นคนผิด
“ไม่ต้องขอโทษ  แค่ตั้มพูดกับเอก  แค่นี้ก็พอแล้ว  ไม่ได้เป็นแฟนกันก็ไม่เป็นไร  ได้แค่นี้ก็พอแล้ว”  แล้มผมก็ร้องไห้ออกมา  ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ  ผมขอแค่ให้ผมได้อยู่ใกล้เขาทุกวันผมก็พอใจแล้ว  ไม่ต้องเป็นคนรักกันแค่ขอให้เขาอยู่ในสายตาเราก็พอใจแล้ว   
ตั้มดึงผมเข้าไปกอดและก็เป็นจังหวะเดียวกันกับพี่บาสเดินเข้ามาในห้อง  เราสองคนผงะออกจากกัน พี่บาสมองหน้าผมกับตั้มสลับไปมาแต่สีหน้าไม่ได้บอกอาการใดๆทั้งสิ้น  ผมเดาไม่ออกจริงๆว่าพี่บาสกำลังคิดอะไรอยู่

“ตั้ม  ช่วยบอกพี่หน่อย  ว่ามันหมายความว่ายัง”  พี่บาสพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าผมสองคนไม่พูดอะไรออกไป 
“พี่บาส  มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดนะครับ”  ตั้มปฏิเสธพี่บาสออกไป  ผมอยากจะเดินออกไปจากห้องนี้และผมคงจะทำแบบนั้นถ้าเกิดผมสามารถหอบเอาร่างกายตัวเองออกไปได้
“แล้วมันคืออะไร  ตั้มรู้หรอว่าพี่คิดอะไร  ตั้มจะให้พี่เข้าใจว่า  ตั้มกับเอกแค่กอดกันแบบเพื่อนทั่วไป  ตั้มไม่ได้คิดอะไรกับเอก  ตั้มจะให้พี่คิดแบบนั้นใช่ไหม” 
ตอนนี้น้ำตาพี่บาสเริ่มไหลลงมาอาบบนแก้ม  ผมรู้สึกใจหายทันทีที่เห็นพี่บาสร้องไห้  ผมไม่ได้ต้องการให้สองคนนี้เลิกกันและผมคงเกลียดตัวเองมากถ้าหากสาเหตุที่ทำให้สองคนนี้ต้องเลิกกันนั้นมันเป็นเพราะผม  พี่บาสเป็นพี่ชายที่แสนดีที่ผมเคารพรักและนับถือ  ส่วนตั้มก็คือคนที่ผมรักจนหมดใจ  ผมจึงไม่อยากให้คนทั้งคู่ต้องเสียใจด้วยน้ำมือของผมเอง

“ตั้มน่าจะรู้ตัวนะว่าตั้มคิดอะไรกับเอก  ตอนแรกพี่รู้ว่าที่ตั้มคบกับพี่แค่ประชดเอก  แต่พี่ก็เชื่อว่าสักวันพี่คงทำให้น้องตั้มรักพี่ได้   แต่  ณ  วันนี้  พี่ยอมแพ้  พี่ขอยอมแพ้  พี่แพ้แล้ว  พี่สู้ไม่ไหวแล้ว”  พี่บาสพูดพร้อมกลับสะอื้น  แล้วลุกขึ้นจะออกจากห้องไป  ตั้มวิ่งไปกอดพี่บาสจากข้างหลัง
“พี่บาส  อย่าไปไหนนะ  อยู่กับตั้มนะ  อย่าทิ้งตั้มไปไหน”
“เพื่ออะไรครับ  ตั้มจะรั้งพี่ไว้เพื่ออะไร”
“ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่  แต่ผมรู้แค่ว่าผมไม่อยากเสียพี่ไป”  ตั้มพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา
“แล้วเอกละ  เอกเค้าก็รอตั้มอยู่  ตัวตั้มเองก็คิดยังงัยกับเขาก็น่าจะรู้  ทำตามหัวใจเถอะนะครับ”
“แต่ผมไม่อยากเสียพี่ไปจริงๆนะครับ”
“พี่ว่าเก็บเอาไปคิดก่อนนะครับ  ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาของเรา  มันคือความรักหรือความผูกพันธ์  แล้วพี่เองก็จะรอคำตอบนะครับ”  พี่บาสจูบลงตรงหน้าผากและดึงตั้มเข้าไปกอดแล้วเดินจากไปโดยไม่หันมามองตั้มอีกเลย
   ตั้มทรุดนั่งลงกับพื้นปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมา  ผมไม่เคยเห็นตั้มร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดแบบนี้มาก่อน  ผมคิดมาตลอดว่าคนที่ตั้มรักนั้นคือผม  แต่พอมาถึงวันนี้ผมรู้แล้วว่าคนที่ตั้มรักไม่ใช่ผมคนเดียว  ตั้มยังมีอีกคนที่รักและไม่อยากสุญเสียนั้นก็คือพี่บาส  แต่ตั้มจะยอมรับตัวเองได้ไหมว่าได้รักคนๆนั้นเข้าไปแล้ว  ผมรวบรวมความพยายามเพื่อจะเดินไปที่ตั้มแล้วพูดกับตั้มว่า
“ทำใจดีๆ  ไม่ว่านายจะตัดสินใจยังงัย  เราก็จะยืนข้างๆนายเสมอ”
“ทำไมกูไม่กล้ารักมึง  ทั้งที่กูรักมึงมาก  มึงคงอยากถามแบบนี้ใช่ไหม”  ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอยากรู้จริงๆ  แต่มาถึง ณ วันนี้สิ่งนั้นมันไม่ได้จำเป็นสำหรับผมอีกต่อไปแล้ว  ผมจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป
“รู้ไหมเพราะอะไร  เพราะกูไม่อยากให้เราเลิกกัน   การที่เราคบกันเป็นแฟน  แล้ววันนึงเกิดทะเลาะกัน  แล้วเมื่อถึงตอนนั้น  มึงกับกูไม่พูดกัน  ไม่มองหน้ากัน  หรือถึงขั้นเกลียดกันเลย  ถ้าป็นแบบนั้นจริงๆ  กูคงทนไม่ได้  กูเลยเลือกที่จะคบกับมึงแบบนี้  เพื่อน  เราเป็นได้แค่เพื่อนกัน  หวังว่ามึงเข้าใจกูนะ  กูเองจะพยายามคิดกับมึงแค่เพื่อน  และมึงเองก็ต้องพยายามในส่วนของมึงด้วย”
   นั้นเป็นครั้งแรกที่ตั้มยอมเปิดใจกับผมว่าตั้มเองก็รักผม  แต่ผมก็ได้รู้เหตุผลของตั้มว่าทำไมเราถึงเป็นแฟนกันไม่ได้  และถ้าเกิดเราเป็นแฟนกันผมก็ไม่อาจจะแน่ใจได้ว่าวันหนึ่งวันใดเราจะทะเลาะกันถึงขั้นเลิกลากันไปหรือไม่  ผมเองก็คงทนไม่ได้เหมือนกันถ้าเกิดวันหนึ่งเราต้องกลายมาเป้นคนที่เกลียดกัน  ถ้าหากมีวันนั้นจริงโลกของผมก็คงมีแต่ความมืดมน
   หลังจากเหตุการณ์นั้นตั้มกับพี่บาสก็ยังติดต่อกันอยู่  แต่ได้ตกลงกันว่าจะลงความสัมพันธ์ลงมาขั้นหนึ่ง  แต่ลึกๆแล้วสองคนนี้ยังมีความห่วงหาอาทรณ์กันอยู่  ยังคงเป็นคนพิเศษของกันและกัน  ในส่วนของผมนั้นผมก็กลับมาพูดคุยสนิทสนมกับตั้มเหมือนเก่า  เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันถึงแม้ลึกลงไปข้างในเราต่างรู้ว่าเรารู้สึกยังไงกันแต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างรวมกันเราจึงดำเนินความสัมพันธ์ในทิศทางนี้ดีกว่า
   แต่ไม่นานตั้มก็เริ่มคบหาดูใจกับพี่ออมพี่สาวของโอ้เพื่อนต่างห้องที่เล่นดนตรีด้วยกัน  ผมก็ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปตกลงเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่  ผมยอมรับว่าผมรู้สึกอิจฉาทุกครั้งที่เขาอยู่ด้วยกัน  ผมทำได้เพียงเก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ในส่วนลึกของจิตใจเพื่อไม่ให้ตั้มรู้สึกไม่สบายใจ แต่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพี่ออมคบกับตั้มเพื่ออะไร ในเมื่อพี่ออมก็มีแฟนอยู่แล้ว  เพราะผมเคยเห็นพี่ออมกับแฟนเดินด้วยกันหลายครั้ง  ไม่ใช่ว่าผมจะคิดไปเองนะครับ  แต่ท่าทางของสองคนนั้นเวลาอยู่ด้วยกัน  การปฏิบัติต่อกันมันเกินขอบเขตของคำว่าเพื่อน  ผมไม่อยากให้ตั้มโดนหลอกผมจึงตัดสินใจไปคุยกับพี่ออมโดยที่ตั้มไม่ได้รู้เรื่อง  แต่ก็โดนปฏิเสธทุกคำถามที่ผมถามไป  แต่ก่อนที่ผมจะกลับผมได้บอกกับพี่ออมว่า  ผมไม่อยากให้ตั้มเสียใจเพราะโดนหลอก

“เอก  เรามีเรื่องจะคุยด้วย”  เสียงของตั้มที่พูดออกมานั้นแข็งและห้วนมาก
“ก็คุยมาดิ” 
“มากับกูเดี่ยวนี้เลย” 
“ไม่ไป  นายเป็นอะไร  อยู่ดีๆก็มาตะคอกใส่เรา”
“หรือว่ามึงจะให้กูพูดตรงนี้” 
“เห้ยตั้ม  เรื่องอะไร  เอกไปๆ  เดี่ยวเราไปด้วย”  เบียร์เข้ามาห้ามตั้มที่กำลังจะใช้กำลังกับผม  ผมไม่รู้ว่าผมไปทำอะไรให้ตั้มโกรธ  แต่ถ้าจะให้ผมเดาผมก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ผมไปคุยกับพี่ออม
“ลุกขึ้น” ตั้มพูดแล้วดึงชุดกระชากลากถูผมไป   แล้วพี่ออมก็เดินเข้ามา
“ตั้ม  ค่อยๆพูดนะ  พี่ไม่ได้อะไรมากมายหรอก”  พี่ออมพูดกับตั้ม
“ไม่เป็นไรครับ  ผมจัดการเอง”
“แต่.......”
“ผมบอกว่าไม่เป็นไรไงครับ  เรื่องนี้เดี่ยวผมจัดการเอง” ตั้มตะคอกใส่พี่ออมจนพี่ออมอึ้งและเดินออกไป 
   ตั้มพาผมกลับมาที่บ้านซึ่งตอนนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน  เมื่อถึงบ้านตั้มก็พาผมขึ้นมาบนห้องจัดการล็อคห้องแล้วเหวี่ยงตัวผมอัดเข้ากับเตียงนอน
“นายเป็นอะไร”  ผมถามตั้มเพราะผมไม่เคยเห็นตั้มเป็นแบบนี้มาก่อน  ตั้มดูเหมือนคนบ้าที่พร้อมจะฆ่าใครสักคนให้ตายได้ 
“มึงไม่รู้หรอว่ากูเป็นอะไร  มึงไม่รู้ตัวเลยรึไงว่ามึงทำอะไร”  ตั้มตะคอกใส่ผม  จนผมตกใจเขยิบตัวเข้าชิดตัวเตียงเพราะตั้มเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ  ผมยอมรับเลยว่าตอนนั้นผมกลัวตั้มมาก  ตั้มเหมือนคนขาดสติไปแล้วและคงทำอะไรก็ได้โดยขาดการยั้งคิด
“ปึง ปึง ปึง”   เสียงคนเคาะประตู  และตามมาด้วยเสียงของเบียร์   
“เห้ยตั้ม  ใจเย็นๆ  กูเข้าไปด้วย”   ไ
“ไม่ต้อง  มึงสองคนลงไปรอกูข้างล่างเดี่ยวกูตามไป”
“มึงไปพูดแบบนั้นกับพี่ออมได้ยังไง”  ตั้มถามผมพร้อมกับบีบคางผมด้วยมือข้างเดียว  ผมรู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่กล้าขัดขืน
“พูดอะไร  เราไม่เข้าใจ”
“มึงไปพูดกับพี่เค้าว่าอะไรมึงก็น่าจะรู้ดี”
“ก็เราไม่อยากให้นายเสียใจ  เมื่อวันเสาร์เราเห็นพี่เค้าไปดูหนังกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่นาย”   ผมพูดออกไปตามความจริงในสิ่งที่ผมเห็นมา
“มึงตาฝาด !!!  มึงกุเรื่องมาหลอกกูทำไมว่ะ  เมื่อวันเสาร์กูอยู่กับพี่เค้าทั้งวัน  มึงทำแบบนี้เพื่ออะไร  ทำไมต้องไปใส่ร้ายพี่เค้าด้วย”  ตั้มตะคอกใส่ผมอีกครั้งแล้วจับตัวผมเขย่า  ก่อนจะผลักผมจนหัวไปชนกับผนังห้อง
“เราไม่ได้โกหก  เราเห็นจริงๆ  โอ๊ยเจ็บ.....ปล่อยเรา  เราเจ็บ”  ผมพูดดออกมาพร้อมทั้งน้ำตา  เพราะผมทั้งตกใจและเจ็บกับการกระทำของตั้ม
“ถึงมึงไม่ได้โกหก  แต่มึงมีสิทธิ์อะไรไปพูดกับพี่เค้าแบบนั้น  มึงต้องการอะไร” 
“โอ๊ย..ปล่อย  ตั้ม  ขอร้องละนะ  ปล่อยเหอะ  เราเจ็บ  โอ๊ย.....” 
“แค่นี้มึงเจ็บหรอ   กูรู้แล้ว  มึงต้องการแบบนี้ใช่ไหม  ได้เดี่ยวกูจัดให้   หลังจากมึงเลิกกับพี่ปิง  มึงคงยังไม่เคยกับใครใช่ไหม   มึงอยากมีกับกูใช่ไหม”  ผมค่อนข้างตกใจและเสียใจกับคำพูดของตั้ม  ที่ได้พูดจาดูถูกผม  ถึงผมกับพี่ปิงเคยเป็นแฟนกันแต่เราก็ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกัน  แม้แต่จูบกันก็ยังไม่เคยเลยสักครั้งเดียว   ตั้มเริ่มลวนลามผมด้วยการไซ้ตามซอกคอ  แต่ผมเองก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตั้มหยุด  ผมเลยกัดเข้าไปที่หัวไหล่ตั้ม  แต่นั้นก็ทำให้ผมรู้ว่าผมได้ทำผิดแล้วเพราะ  ตั้มได้กัดผมตอบโดยกัดลงมาที่คอ
“โอ๊ย.....  มึงกัดกูใช่ไหม”   
“โอ๊ย..ตั้มเราเจ็บ  โอ๊ย  ไม่เอาแล้วเจ็บ  ฮึกๆ  เจ็บ...  โอ๊ย....”  ผมลองเอามือมาจับดูตรงจุดที่โดนตั้มกัดแล้วผมก็เห็นเลือดติดมือผมมาด้วย 
“เป็นไงละมึง  แค่นี้คงไม่หายอยากละซิ  ”  ตั้มเริ่มถอดเสื้อผมออก  แต่ผมเองก็เลือกที่จะปกป้องตัวเองโดยการปัดป้องแต่แล้วตั้มก็คงโกรธผมเข้าไปอีกเลยจัดการฉีกเสื้อผมออก
“เป็นไงละมึง  ลีลากูกับไอพี่ปิงของมึง  ใครดีกว่ากันว่ะ”  ตั้มเริ่มถอดเสื้อตัวเองจณะที่ยังนั่งค่อมตัวผมอยู่
 “ตั้ม  อย่าทำแบบนี้เลย  ฮึกๆ  ขอร้องนะ  ฮึกๆ  หยุดนะ  โอ๊ยยย   เจ็บบบ  ปล่อยๆๆๆ” ผมร้องออกมาอย่างทนไม่ไหวเพราะตั้มได้กัดตามส่วนต่างๆบนร่างการของผมไม่ว่าจะเป็นจมูก หน้าอก  และปาก  อย่างหลังนี้คงจะหนักสุด  เพราะถ้าตั้มกัดแรงกว่านี้อีกนิดปากผมคงได้ขาดติดปากตั้มไปแล้ว
“มึงนอนลงไปเลยนะ  ถ้ายังไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้”  ตั้มชี้หน้าผมบอกให้ผมนอนลงไป  เพราะผมกำลังจถลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีตั้ม
“ตั้ม  อย่าทำแบบนี้เลยนะ”  ผมยกมือไหว้ขอร้องให้ตั้มปล่อยผมไป  แต่มันก็ไม่เป็นผลตั้มกลับจับขาผมแยกจากกันแล้วถ่มน้ำลายมาที่ก้นผม ก่อนจะทำในสิ่งที่ผมไม่คอดว่าตั้มจะทำแบบนี้กับผมนั้นคือการเข้ามาในตัวผม
“โอ๊ย.....เจ็บ   ตั้มเอาออกเจ็บ....โอ๊ยๆๆๆๆ  เอาออกไปเจ็บ  โอ๊ยยย”
“มึงเจ็บใช่ไหม  ดีกูชอบ  กูอยากให้มึงเจ็บ  ต่อไปถ้ามึงไม่อยากเจ็บอีกมึงก็อย่ามายุ่งกับกู”
“โอ๊ยยยย...ฮึก  ตั้ม  เอานะ   จะ...เจ็บ  ฮือๆๆ  เจ็บ”  ผมร้องลั่นบ้านทันทีที่ตั้มดันมันเข้ามาทีเดียวจนมิด  ผมรู้สึกเจ็บปวดมาก  ปวดเหมือนร่างกายจะขาดเป็นเสี่ยงๆ  ผมไม่มีความรู้สึกดีกับสิ่งนี้
“มึงจำไว้นะ  ต่อไปมึงอย่ามายุ่งกับเรื่องของกูอีก  ไม่อย่างนั้นมึงได้เจ็บตัวอีกแน่”  เมื่อตั้มพูดจบก็เดินไปแต่งตัวแล้วออกจากห้องไปเลย

   ผมเอามือมาจับที่ก้นดูเพราะรู้สึกเจ็บมาก  มากจนผมไม่สามารถเก็บกดความเจ็บนี้ไว้ได้  ผมต้องร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย  แล้วผมก็รู้ว่าที่ก้นผมคงฉีกเพราะมีเลือดติดมือออกมาและก็เปื้อนผ้าปูที่นอนด้วย  ผมเดินเข้าไปอาบน้ำ  ผมแสบไปทั้งตัวขณะที่ชำระล้างร่างกาย  แล้วก็เดินออกมาข้างนอก  ผมเห็นโมนั่งอยู่ในห้องทันทีที่โมเห็นผมโมก็ร้องไห้ออกมาแล้วก็บ่นใส่ตั้มต่างๆนาๆเราสองคนยืนกอดกันอยู่สักพักก่อนโมเอายาแก้ปวดมาให้ผม  จากนั้นผมก็นอนหลับไปเป็นอีกครั้งที่ผมต้องหลับทั้งน้ำตา
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 07-06-2009 00:08:58
ว้ายยยยยยยย เจ้าตั้มซาดิสก์มั่กกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 07-06-2009 10:03:11
มาอ่านฝั่งนี้แล้วเศร้าโคตร  เฮ้อความรัก..........มักมาพร้อมความทุกข์นะคร้าบ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 07-06-2009 10:19:42
พี่ตั้มลืมเปลี่ยนหัวกระทู้ นี้ถ้าไม่กดเข้าดูก็คงไม่รู้ว่าอัพแล้ว :z3:

สงสารพี่เอกกกกกกกกก :dont2:
พี่ตั้มทำงี้ได้งัย ครั้งแรกของพี่เอกเลยนะนั่น
แถมทำเสร็จแล้วยังไม่มีการมาดูดำดูดี ทิ้งไปเฉยๆอีก :beat:

 :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 08.18 น.
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 07-06-2009 11:21:12
อ่านแล้ว ขอ :beat: :beat: :beat:คุณชายซักหน่อยเหอะ ทำงี้ กะ พี่เอกของหนูได้ไง :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 07-06-2009 12:08:28
ตอนนี้เกลียดคุณชายจังเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 07-06-2009 12:11:12
พี่เอก จะบอกว่ามะกี้ไปอ่านของคุณชายมาคร้า แต่หนูไม่ทันเห็นรูปพี่เอกอ่ะ อยากเหง เค้าบอกว่าน่ารักกัน  :z1: :o8: :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 07-06-2009 12:18:25
พี่เอก ถ้าไม่สะดวก ก้อไม่เป็นไรนะคร้า เรื่องรูปอ่ะ เพราะหนูอ่านถึงหน้า 17 แล้วมันเหมือนจะมีปัญหากันอ่ะคร้า

ปล,ถ้าได้ก้อดีอ่ะคร้า  :3123:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 07-06-2009 14:58:24
ก็ว่าไม เมื่อเช้า ไม่อัพเรื่องนี้  ที่แท้ตั้มลืมเปลี่ยนชื่อหัวเรื่องนี่เอง

ตอนนี้  ตั้ม ร้ายเกินไปละ   :beat:  :z6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 07-06-2009 16:08:18
พี่ตั้มใจร้ายอ่า
ทำกะพี่เอกได้ลงคอ  :z6: :beat:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 07-06-2009 16:09:12
อ่านตอนนี้แล้ว   :fire:

ตั้มใจร้ายจริงๆ   :beat:

สงสารน้องเอกมั่กมาก ต้องอยู่กับน้ำตาตลอด  :กอด1:

รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luv_yj ที่ 07-06-2009 22:06:23
ไม่ไหวแล้วอ่ะ
เศร้าได้อีก
ทำไมเรื่องนี้มีแต่น้ำตา
ฮือออออ
...

เอกสู้ ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 07-06-2009 23:28:31
อ่านตอนนี้แล้วตั้มโหดจิงๆ :beat:
ทำกับเอกด้ายยยยยยยยยย :o12:
สงสารเอกจัง ส่วนตั้มต้อง  :z6: ขอหน่อยเหอะ555
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 07-06-2009 23:30:36
:z6:ตั้ม
ทำงี้ได้ไง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 08-06-2009 00:45:41
นึกถึงตอนนั้นแล้วน่า o18 o18 

ถนอมๆๆ หน่อยสิ 
เด๋ยวนี้ต้องยิ่งดูแลให้ดีด้วย
เดี่ยวจะหาว่าสวยไม่เตือน  :laugh:

ปล. ถ้ามาลงบ่อยๆๆ ครายหน้าไหนจะมาบ่นกันละคูณณณณณณ  (ทุกวันยิ่งดี)
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 08-06-2009 11:34:02
 :เฮ้อ:  ไม่มีคำบรรยาย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 08-06-2009 11:52:02
 :L2:...อ่านเวอร์ ของคุณชายตั้ม ตอนนี้ ยังขำ กับคำว่า..ไม่ซอย ของเค้าอยู่เลย
...มาอ่านเวอร์ ของน้องเอก ทำไมดัน สงสารน้องเอกฟะ
...คนมันคนละบุคคลิกเนอะ เรื่องเดียวกัน ต่างคนเขียนเลยได้อารมณ์ต่างกัน
...คุณชายมันทำเพราะ ประชด คงได้ความสะใจ มั้ง น้องเอกคง..เสียใจ เนอะ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 08-06-2009 13:03:34
 :beat:   คุณชาย สงสารน้องเอกจริง ๆ  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 7 มิถุนายน 2552 เวลา 00.02 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 09-06-2009 17:48:17
         ปิดเทอมเมื่อพูดถึงคำนี้ทุกคนคงจะนึกถึงความสนุกสนาน  ได้เที่ยวได้เล่นหาความสุขใส่ตัวเองแต่ก็มีกลุ่มคนอีกกลุ่มคนหนึ่งที่ต้องทำงานเพื่อจะเก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายยามเปิดเทอม  และอีกกลุ่มคนหนึ่งที่เลือกที่จะเรียนติววิชาเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับภาคเรียนต่อไปและผมก็เป็นหนึ่งในนั้น  ผมเคยคิดว่าปิดเทอมนี้ผมกะเที่ยวเล่นและสนุกกับการใช้ชีวิตตามประสาเด็กไปกับตั้ม  แต่กลับเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมาก่อน  ความฝันที่ผมวาดไว้ก็พังทลายลงมา  ผมไม่ได้คิดโกรธตั้มแต่ผมโทษตัวเองมากกว่า  ผมผิดเองที่เข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นทั้งๆที่คนอื่นไม่ได้ขอร้องให้เราช่วย  หลายคนบอกว่าตั้มทำกับผมถึงขนาดนั้นทำไมผมถึงไม่โกรธเลย  ผมก็บอกไม่ได้หรอกว่าทำไมแต่ผมไม่เคยโกรธตั้มจริงๆได้เลยสักครั้ง  ทุกครั้งที่ผ่านมาเหมือนว่าผมเคยโกรธตั้มแต่มันก็ไม่ใช่เลย  มันคือความน้อยใจมากกว่า
   ผมเลือกที่จะมาเรียนพิเศษที่หาดใหญ่ในช่วงปิดเทอมนี้เพื่อที่จะทำให้ตัวเองไม่ว่าง  ไม่ต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องของตั้ม  ผมหันตัวเองเข้ากับหนังสือ ลงเรียนวันละ 3 วิชาประมาณ 6 – 8 ชม.  เช้าไปเรียนเย็นกลับห้องมาอ่านหนังสือต่อและผมทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนผมกลับมาอยู่บ้านเพราะใกล้จะเปิดเทอมแล้ว
   วันเปิดเรียนผมเห็นทุกคนดูมีความสุขกับการได้เจอเพื่อนอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา  หันไปทางไหนก็เจอแต่ผู้คนนั่งคุยนั่งสนทนาแบ่งปันเรื่องเล่ากับการได้ประสบพบเจอในช่วงเวลาที่หายไปให้เพื่อนฟัง    แล้วผมละจะเอาประสบการณ์ประทับใจอะไรไปเล่าให้เพื่อนฟังเพราะผมมีแต่เรื่องที่ผมโดนคนที่ผมรักหมดใจข่มขื่น
   และวันหนึ่งขณะที่ผมกำลังเดินออกจากโรงอาหารซึ่งช่วนนี้ผมแยกที่จะมากินข้าวคนเดียว  ไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะผมไม่อยากทำให้ตั้มไม่สบายใจ  หรือหงุดหงิดลำบากใจเมื่อพบเจอผม   ได้พี่รุ่นพี่เดินเข้ามาประชิดตัวผมก่อนจะหิ้วปีกผมเดินออกไปมุ่งตรงไปยังหลังอาคารสีชมพู

“พี่มีเรื่องอะไรกับผมหรอครับ”  ผมไม่รู้จักรุ่นพี่กลุ่มนี้และผมแปลกใจอีกด้วยว่าผมไปทำอะไรให้พี่เขาไม่พอใจหรือเปล่า  เพราะวันๆผมก็เอาแต่เรียน อ่านหนังสือ ซ้อมบาสแล้วก็กลับบ้าน  ไม่เคยไปรุกรานหรือหาเรื่องชกต่อยกับใคร
“กูไม่ชอบที่เพื่อนมึงเข้ามายุ่งวุ่นวายกับออม”  พี่คนตัวใหญ่เหมือนกับหมีเข้ามากระชากคอเสื้อผม  ซึ่งผมก็ถูกดึงเซไปตามแรงกระชากของพี่คนนั้น
“มึงอย่าไปทำน้องเขาแบบนั้นดิว่ะ  น้องเขาเจ็บพูดดีๆก็ได้”
“พูดแบบมึงแล้วเด็กมันจะกลัวเปล่าว่ะ  มึงไปบอกเพื่อนมึงน่ะ ว่าเลิกยุ่งกับออมไม่งั้นคราวหน้ามึงเจ็บตัวแน่”
“ถ้าผมไม่บอกละครับ  พวกพี่จะทำอะไรผม”  ใจจริงผมก็อยากให้ตั้มเลิกยุ่งกับพี่ออมนะครับ  แต่ถึงยังไงผมก็คงไม่บอกเรื่องนี้กับตั้มหรอกครับ  เพราะผมกลัวตั้มจะเข้าใจผมผิดอีก  แค่วันนั้นผมยังโดนซ่ะขนาดนั้น  แล้วนี้ถ้าไปบอกอีกมีหวังได้เกิดใหม่แน่
“มึงก็จะโดนแบบนี้”  พูดจบพี่คนนั้นก็ฮุคหมัดเข้าลำตัวจนผมจุกลงไปนอนกองอยู่กับพื้น  เอามือกุมท้องตัวเองพูดอะไรไม่ออกเพราะมันคอยจะจุกอยู่ที่ลำคอ 
“มึงทำอะไรเพื่อนกูว่ะ”  ผมหันไปมองต้นเสียง  ก็เห็นว่าตั้มกระโดดลอยเข้าถีบคนที่ชกผมซะหงายหลังลงไปนอนกับพื้น   แล้วผมกับเบียร์ก็พยุงผมให้ลุกขึ้นยืน   แล้วก็เกิดการประทะกันระหว่างตั้มกับเบียร์และรุ่นพี่พวกนั้นซึ่งมีผมคอยช่วยอยู่ห่างๆ  ผมจะเข้าไปช่วยแต่ก็โดนตั้มผลักออกมาแล้วไล่ให้ผมไปตามเพื่อนคนอื่นให้มาช่วย  แต่จังหวะที่ผมกำลังวิ่งไปก็มีคนมากอดผมเอาไว้จากด้านหลัง  แล้วเราทั้งสองคนก็เซล้มลงไปกอง  แต่ก่อนที่จะล้มลงผมว่าผมได้ยินเสียงร้องจากคนที่กอดผมนะครับ  เมื่อผมหันไปดูก็ถึงได้รู้ว่าคนที่เข้ามากอดตั้มนั้นคือตั้ม

“เอก  เป็นอะไรไหม”  ตั้มถามผมขณะที่ผมประคองตั้มให้นอนบนตักผม
“...............”  ผมไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ส่ายหน้าออกไป
“ดีแล้วนะ  ที่ไม่เป็นอะไร” แล้วตั้มก็สลบไป  ผมรู้สึกว่ามีอะไรเหลวๆติดมือผม  ผมเลยเอามาดูก็พบว่ามีเลือดติดอยู่ที่มือผมเต็มไปหมด
“ใครก็ได้ช่วยด้วย  เพื่อนผม  เพื่อนผม.....”  แล้วเสียงผมก็หายไปเพราะผมเริ่มที่จะคุมตัวเองไม่อยู่  น้ำตาไหลพรากออกมาด้วยความตกใจ  ผมไม่สามารถคุมสติตัวเองไม่อยู่  จากนั้นพี่ยามก็วิ่งเข้ามาช่วยและพาตั้มไปห้องพยาบาล   ผมกับเบียร์ช่วยพี่ยามพาตั้มไปห้องพยาบาลและเพื่อนคนอื่นๆก็ตามมา   ผมนั่งอยู่ในห้องพยาบาลพยายามร้องเรียกให้ตั้มตื่นขึ้นมาระหว่างที่รอรถพยาบาลมาถึง

“ตั้มฟื้นดิ  ตื่นขึ้นมาด่า  มาต่อว่าเราดิ  อย่าหลับแบบนี้  เรากลัว”   ผมร้องไปพร้อมกับพยายามเขย่าตัวตั้ม
“เอก   เอก  พอแล้ว  ตั้มมันไม่เป็นอะไรมากหรอก”  หนุ่มเข้ามาห้ามผม
“หนุ่ม  เรากลัว  กลัวจริงๆ” 
“ไม่เป็นไรน๊า  ตั้มไม่เป็นไร  แค่นี้เอง”  หนุ่มพูดขณะกอดปลอบผมอยู่
   จากนั้นรถพยาบาลก็มาถึงตั้มกับเบียร์ถูกพาส่งโรงพยาบาล  ถึงเบียร์จะเจ็บไม่มาก  แต่อาจารย์ให้ไปตรวจเช็คร่างกายเพื่อนความปลอดภัย  ผมขอตามไปด้วยแต่ก็ไม่ได้รับการอนุญาตเพราะยังอยู่ในเวลาเรียน  ผมจึงทำได้เพียงแค่รอจนกว่าเวลาจะเลิกเรียนแล้ว  ระหว่างนั้นอาจารย์ก็เรียกผมไปคุยในห้องปกครองโดยให้ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมด  ซึ่งผมก็เล่าเหตุการณ์และบอกสาเหตุที่ก่อให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา
จากนั้นผมก็กลับเข้ามาให้ห้องเพื่อเรียน  แต่ตลอดเวลาทุกคนในห้องไม่มีใครมีกะจิตกะใจเรียนกันสักคน  สาเหตุคงมาจากการได้รับบาดเจ็บของตั้มและเบียร์  ถึงตั้มจะเป็นคนโมโหร้าย  ชอบเอาแต่ใจ  แต่สำหรับเพื่อนทุกคนแล้วตั้มจะมีน้ำใจ  ช่วยเหลือเพื่อนทุกคนเท่าที่จะทำได้  และนี้คงเป็นเหตุผลที่ทำให้เพื่อนๆทุกคนรักตั้ม  ซึ่งรวมถึงเพื่อนสนิทในกลุ่มเรารู้ดีว่าตั้มเป็นคนดีแค่ไหน  และที่หนีกหน่อยน่าจะเป็นนุ่นกับโม  เพราะสองคนนี้ถึงกับร้องไห้โหออกมาตั้งแต่เห็นตั้มในห้องพยาบาล  จนกระทั่งถึงเวลาเข้าห้องเรียนก็ยังไม่หยุด     เพียงเพราะพวกเรากลัวการสูญเสีย  กลัวว่าคนที่เรารักจะจากเราไป 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 9 มิถุนายน 2552 เวลา 17.48 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 09-06-2009 17:56:38
สบายไปเข้าโรงพยาบาล............โสมน้ามหน้าพระเอกดีนักนะนายตั้ม  อิอิ


อีกนิดนะเอกอีกนิดเดียว   



 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 9 มิถุนายน 2552 เวลา 17.48 น.
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 09-06-2009 18:42:36
ใกล้แล้วใช่ๆๆ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 9 มิถุนายน 2552 เวลา 17.48 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 09-06-2009 18:48:26
ตอนนี้เจ้าตั้มเป็นพระเอกเต็ม ๆ


จริง ๆ ก็เป็นพระเอกอยู่แล้วนะ แต่ชอบทำตัวเหมือนผู้ร้ายอ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 9 มิถุนายน 2552 เวลา 17.48 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 09-06-2009 19:07:24
โห  ตอนก่อน  ยังอยาก  :beat: ตั้ม อยู่เลย

ตอนนี้ ตั้มได้ใจมากมาย   :m1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 9 มิถุนายน 2552 เวลา 17.48 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 09-06-2009 21:08:33
โอ้ แมนจิง ลูกผ้ชายตัวจริงกระทิงเปลี่ยว  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 9 มิถุนายน 2552 เวลา 17.48 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 09-06-2009 22:03:12
ตอนต้นๆเรื่องอ่านแล้วสงสารพี่เอกมากเลยค่ะ
ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว เจ็บอยู่คนเดียว

แต่พอมาถึงตอนกลางเรื่องก็แทบกรี๊ด
พระเอกตัวจริงที่หันไปเป็นตัวร้ายซะหลายตอนกลับมาแล้ว :a1:

รอคอยให้ถึงวันที่พี่เอกจะมีความสุขสักที ><
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 9 มิถุนายน 2552 เวลา 17.48 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 10-06-2009 15:57:02
           หลังจากเลิกเรียนแล้วผมกับเพื่อนๆก็มุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาลที่ตั้มไปรักษาตัว  เบียร์นั่งรอพวกผมอยู่ข้างล่างเพื่อจะได้นำทางไปยังห้องที่ตั้มพักอยู่  เมื่อไปถึงพ่อกับแม่ก็อยู่ในห้องแล้ว  ผมวิ่งเข้าไปกอดแม่ของตั้ม

“ไม่ต้องร้องลูก  ไม่ต้องร้อง  ตั้มไม่เป็นอะไรมาก”  แม่ปลอบผมขณะที่กอดผมอยู่
“เอกกลัวครับแม่  เอกขอโทษที่ทำให้ตั้มเจ็บตัว”
“ไม่ใช่ความผิดใครทั้งนั้นนะลูก  ถ้าตั้มไม่เอาตัวเข้ารับ  ป่านนี้คนที่นอนอยู่ก็ต้องเป็นเอก  ตั้มคงไม่อยากเห็นเอกต้องมานอนเจ็บแบบนี้ย่ะลูก”

   ผมกับแม่นั่งคุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเบียร์ไม่ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้แม่ฟัง  แต่ระหว่างนั้นตั้มก็ตื่นขึ้นมาก่อน  ทุกคนมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อเห็นว่าตั้มไม่ได้เป็นอะไรมาก  แม่ให้ผมพาเพื่อนๆออกมาข้างนอกห้องก่อนเพราะหมอจะตรวจเช็คร่างกายอีกครั้ง   เมื่อหมออกไปผมก็เดินเข้าไปในห้องเพื่อจะคุยกับตั้ม

“เป็นไงบ้าง”  ผมเดินเข้าไปนั่งที่ข้างเตียงแล้วถามตั้ม
“เออ....พวกคุณเป็นใครครับ  แม่คนพวกนี้ใครหรอ”  ผมงงกับคำพูดของตั้ม  ผมหันมองหน้าแม่เพื่อจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“แม่ครับ  หมายความว่าไงครับ” 
“เดี่ยวแม่กะบพ่อต้องไปเอาผลเอ็กซเรย์สมองนะลูก  ฝากตั้มด้วยนะ”  คำพูดของแม่หมายความยังไง  แล้วอยู่ดีๆผมกับเพื่อนๆก็ร้องไห้ออกมาเพราะจากคำพูดของตั้มและของแม่ที่บอกว่าจะไปเอาผลเอ็กซเรย์สมองนั้นก็แปลว่าตั้มความจำเสื่อม  เหลือสูญเสียความทรงจำ
“กูขอโทษ ๆ  กูช่วยมึงไว้ไม่ได้”  เบียร์ทรุดลงไปนั่งกับพื้นแล้วร้องห่มร้องไห้ออกมา   เบียร์คงโทษตัวเองที่ทำให้ตั้มเป็นแบบนั้น
“ตั้ม  นึกดีๆดิ  เราเอก  นี้เบียร์ โม นุ่น  โน้น  ก็เจษ อาร์ม  แล้วก็หนุ่ม  เราเป็นเพื่อนกัน  ทำไมถึงจำไม่ได้  ทำไม ฮือๆๆๆ” ผมชี้ไปที่ทุกคน  ก่อนจะฟุบหน้ากับเตียงคนไข้แล้วเอากำปั้นทุบลงบนที่นอน
“พวกมึงจะร้องไห้ไปทำไม  กูยังไม่ได้ตายซักหน่อย”  ตั้มพูดออกมาทุกคนถึงกับเงียบหยุดการกระทำทุกอย่าง  แล้วหันมามองที่ตั้มเป็นจุดเดียวกัน   
“เห้ย !!! เมื่อกี้มึงว่าไงว่ะ” 
“ไอเชี่ยวอาร์ม  นี้มันโรงบาลนะ  มึงจะดังไปหาพ่อมึงหรอ”  ตั้มหันไปด่าอาร์มที่โวยวายออกมาเสียงดัง จากนั้นเพื่อนๆทุกคนก็ต่อว่าตั้มกับเป็นชุด
“มึงไม่ได้ความจำเสื่อมนิ  เชี่ย  มาหลอกพวกกู”  เริ่มจากเบียร์ที่ต่อว่าออกมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ยังไหลอยู่  แต่ก็ยังมีรอยยิ้มแฝงอยู่ด้วย  ซ฿งก็ไม่ต่างไปจากโม
“แมร่ง  ถ้ามึงไม่ป่วยนะ  กูเอาตายแน่มึง”
“อย่าเล่นแบบนี้อีกนะ  ฮึกๆ”  ผมพูดกับตั้ม  แล้วเอามือทุบที่ตัวตั้ม
“ไม่เอา  อย่าร้องดิ  เดี่ยวไม่หล่อน๊า  แล้วเป็นไงบ้าง  เจ็บตรงไหนไหม”  ตั้มพูดพร้อมกับเอามือลูบๆศรีษะของผม
“................” ผมไม่ตอบอะไรแต่ก็ส่ายหน้าปฏิเสธไปว่าผมไม่เป็นอะไร
“มึงอ่าเป็นไงบ้าง”  ตั้มหันไปถามเบียร์
“นิดหน่อย  แต่ไม่หนักเท่ามึง”
“แล้วตกลง  วันนั้นเรื่องเป็นยังไงบ้างว่ะ”  ผมหันไปถามไอเบียร์
   พวกเรานั่งคุยกันไปเรื่อยๆ  ไม่ว่าจะเรื่องเหตุการณืหลังจากนั้น  และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย  ผมยอมรับว่าตอนนี้ผมมีความสุข  เพราะผมกับตั้มเราคุยกับเหมือนปกติกันแล้ว  ผมค้นพบแล้วว่าแค่ผมได้คุยกับตั้ม  แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว  ต่อไปจะเป็นยังไงผมก็ไม่ต้องการทราบทั้งนั้น  ขอแค่ปัจจุบันเรายังมีเราซึ่งกันและกันแบบนี้ก็ดีถมเถแล้ว  จนเพื่อนๆพากันออกไปหาอะไรกิน  แต่ผมไม่ได้ไปหรอกครับ  เพราะผมไม่อยากปล่อยให้ตั้มอยู่คนเดียว  กลัวตั้มจะเบื่อ
“หายโกรธแล้วหรอ”  ตั้มถามผมเมื่อเราอยู่ในห้องกันสองคน
“ยังโกรธก็ส่วนโกรธ  ไม่เกี่ยวกัน  แต่ก็ขอบคุณนะ”  จริงๆผมไม่ได้โกรธหรอกครับ  แค่พูดไปเพื่อจะแกล้งอำตั้มก็เท่านั้นเอง
“มึงไม่เป็นไรก็ดีแล้ว  แต่ถ้าเกิดมึงเป็นอะไรไป  กูเอามันตายให้เผาไม่ทันแน่  พูดขึ้นมาก็เจ็บใจ”
“พอเลย  พักผ่อนซะ  ยังปวดหัวไหม”
“ไม่แล้ว  เออแล้วไมไม่ไปกินข้าวกับไอพวกนั้นด้วยอ่ะ”

“เดี่ยวค่อยไปกินตอนที่พี่ออมมา  เห็นโทรมาบอกว่าจะเข้ามาบ่ายๆนะ”  จริงๆผมอยากอยู่เฝ้าตั้มตลอดนะครับ  แต่ในเมื่อตัวจริงเขามา  แล้วผมจะทนอยู่ไปเพื่ออะไร  มีแต่จะสร้างความอึดอัดให้เขามากกว่า  เหมือนกับเพลงของดา เอ็นโดรฟิน ที่ว่า  เมื่อเขามา ฉันจะไป  ผมเลือกที่จะอยู่เป็นเครื่องแก้ความเหงาให้ตั้ม  ในเวลาที่คนนั้นไม่อยู่  แต่เมื่อไหร่ที่เขากลับมาทำหน้าที่ดูแลกันแล้ว  ผมก็จะไปทันที

“เอก  อย่าโกรธกันเลยนะ  ถ้ากูบอกให้มึงเลิกรักกู”  ผมเตรียมใจไว้แล้วละครับ  ว่าวันหนึ่งวันใด  ผมต้งได้ยินคำๆนี้จากตั้ม  เพราะตั้มจะบอกกับทุกคนที่เข้ามาชอบตั้มโดยที่ตั้มไม่รู้สึกอะไรด้วย  แต่ผมไม่คิดว่าผมจะได้ยินคำนี้เร็วขนาดนี้  นี้ขนาดเตรียมใจไว้แล้วยังรู้สึกเจ็บขนาดนี้  แล้วถ้าไม่ได้เตรียมใจละผมจะอยู่ได้อย่างไร  แต่ผมก็เลือกที่จะบอกตั้มอีกครั้งว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา  แล้วมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป

“เราเอากลับไปคิดแล้วนะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา  มันไม่ใช่แค่ความผูกพันธ์  แต่เรามั่นใจมาก  ถึงมากที่สุดว่าเรารักนาย” 
“เฮ้อ  เราขอบใจนายนะที่หวังดีกับเรา  แต่เราคิดว่า  เรารักนายเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ  ไม่ได้พิเศษไปกว่าใคร”  ถ้าผมไม่อุปทานไปเอง  ผมคิดว่าตั้มเองก็คงลำบากใจที่จะพูดแบบนี้กับผม  เพราะสายตาตั้มที่มองผมมันช่างเศร้าถึงแม้หน้าตาจะอาบไปด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ยังจะรักคนๆนี้ต่อไป  ถึงแม้จะไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา 
“อือ  เรารู้  แต่เราขอรักนายไปแบบนี้ไม่ได้เลยหรือไง”  แล้วน้ำตาผมก็ร่วงไหลออกมาทีละเล็กทีละน้อย
“เอกมานี้ดิ”  ผมเดินเข้าไปหาตั้มแล้วนั่งลงข้างๆตั้มอีกครั้ง  ฝามือของคนตรงหน้าผมค่อยๆบรรจงเช็ดคราบน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายให้เหือดแห้งหายไป  แล้วก็ตามมาด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่นที่ผมไม่ได้รับจากคนๆนี้มานานแล้ว
“อย่ารักกูเลย.....มึงมันดีเกินไปจริงๆ  มึงมองหาคนอื่นดีกว่า  คนที่ดีพอสำหรับมึง  ไม่ต้องรอนะ  กูจะไม่ขอให้มึงรอกูอีก  เพราะกูแน่ใจแล้วว่ากูไม่ได้รักมึงแบบคนรัก”  ตั้มพูดไปพร้อมกับลูบหลังผมไป  ผมไม่ชอบเลยกับประโยคที่ว่า ดีเกินไป  ทำไมคนเราต้องใช้คำๆนี้ทุกครั้งที่ต้องการผลักใครออกไปจากชีวิต  ผมไม่เคยเชื่อหรอกครับว่าจะมีใครที่ดีเกินไปสำหรับใครสักคน  คนดีมีแต่คนอยากอยู่ใกล้  อยากได้รับความรัก  อยากดูแล  อยากเอาใจใส่  ไม่ใช่ผลักไสให้ไปหาคนอื่น  แต่แล้วประตูห้องก็เปิดขึ้น  พร้อมกับพี่ออมและโอ้เดินเข้ามาในห้อง 
“ไอตั้ม !!!!”  “พี่ออม”  โอ้กับผม  อุทานออกมาพร้อมๆกัน
“พี่ออมกลับ”  โอ้พูดขึ้นแล้วดึงมือพี่ออมกลับออกไป
“เดี่ยวก่อนพี่ออม”  ผมเรียกพี่ออม  แล้วสองคนนั้นก็หยุดเดินแล้วหันมาที่ตั้มอีกครั้ง
“เอกออกไปก่อนได้ไหม”  ตั้มบอกกับผม ผมก็ทำตามที่ตั้มต้องการ  ผมไม่อยากเป็นสาเหตุให้สองคนนี้ต้องเลิกกันเพราะผมเหมือนกับในกรณีของพี่บาส  ถึงแม้ผมจะรู้ว่าพี่ออมไม่ได้มีตั้มคนเดียว  แต่ผมก็ไม่อยากให้ตั้มอัดอัดใจเพราะผมเหมือนกัน
   ผมออกมาจากห้องเดินตรงไปห้องน้ำ  ผมเข้าไปนั่งบนชักโครกห้องน้ำแล้วปล่อยตัวปล่อยใจให้ร้องออกมา  คำถามต่างๆนาๆพรั่งพรูออกมาจากปากผม  ทำไมถึงรักกันไม่ได้  ทำไมถึงต้องห้ามไม่ให้รักและอื่นๆอีกมากมาย  มันทรมานนะและยากด้วยกับการต้องอยู่แบบนั้น  ต้องแกล้งทำเป็นไม่รักทั้งๆที่รักมากมาย  ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรด้วยทั้งๆที่ข้างในอัดอั้นไว้ด้วยความห่วงใย   มองออกไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมนไม่รู้ว่าจะต้องเดินออกไปทางไหน  เพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจอกับอะไร  มันจะเป็นทางออกหรือทางตัน  จะเดินขึ้นไปหรือตกลงไปสู่เลวลึก  จะอยู่ที่เดิมก็กลัวความโดดเดี่ยว  ผมจะทำยังไงกับวันข้างหน้าดีเพราะแค่วันนี้ก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะอยู่ต่อไปแล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 10-06-2009 17:40:48
มันเศร้าได้อีก


 :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: CHOKUN ที่ 10-06-2009 18:58:01
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 10-06-2009 19:11:01
 โอ๋ๆ   เอก  อย่าร้องไห้ นะคับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 10-06-2009 19:39:12
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

การที่จะต้องรักใครซักคนต้องทรมานขนาดนี้เชียวหรือ  :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 10-06-2009 19:57:42
 :L2:....น้องตั้ม อ่านความรู้สึกน้องเอก แล้วคิดอย่างไรบ้าง
....นี่เป็นอีกคน ที่บ้ารักแบบ ยังไงก็จะรัก จะเป็นยังไงก็ช่าง แต่..ฉันขอเพียงได้รัก
....เฮ้อ น้องเอก เป็นคนที่ควรคู่ ที่จะรัก และซื่อสัตย์ อย่างยิ่ง นะคุณชาย ว่าไม๊
....อีกอย่างชอบ คุณแม่ของทั้งสองคนมาก ช่างน่ารัก และเข้าใจลูกอย่างมาก
....ไม่อยากบอกว่า..สงสารน้องเอกนะ..คงอึดอัด เหมือนอกจะแตก เลยณ.ตอนนั้น
....เมื่อ.โดนห้ามให้รัก..แต่มันผ่านมาได้ด้วยดีแล้วเนอะ เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆๆ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 10-06-2009 20:01:28
สงสารเอกจังงงงง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 10-06-2009 20:57:35
อ่านทั้งสองฝ่ายแล้ว............น้องเอกนี่อึดมากเลยนะคร้าบ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 10-06-2009 22:00:06
กว่าจะผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มาได้ คงต้องยกให้น้องเอกเป็นคนอึดแห่งปี

แต่ทำไงได้ ก็รักจนหมดหัวใจแล้วนิ

เป็นกำลังใจให้น้องเอกนะครับ +1 ให้ด้วย ส่วนนายตั้มขยัน ๆ หน่อย

ไม่งั้น .... นะ จะบอกให้  :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 10-06-2009 22:30:29
สงสารพี่เอกอีกแล้ว :o7:
มันเจ็บจริงๆนะค่ะการที่จะต้องทำเป็นไม่รักทั้งที่ยังรัก
แล้วไหนจะต้องมาเจอหน้ากันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอีก
จะทำยังงัยมันก็ลืมไม่ลงหรอก
ความรู้สึกแบบนี้มันเจ็บจริงๆนะเฟ้ยยยยยยยยยย (อันนี้ออกแนวส่วนตัวละ):a6:

แต่ปัจจุบันนี้พี่เอกผ่านจุดนั้นมาได้แล้วนับถือเลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 11-06-2009 00:07:21
เดี่ยวต้องไปอ่านย้อน ของอีกเรื่อง  ป้าแก่ ชักจะลืมเลือน :a5:
มานจำบ่ด้ายยยยยย  :serius2:

ปล. อย่าว่า ป้าเลยนะจ๊ะ ป้ามะหวายแล้ว ป้ามีน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 11-06-2009 08:42:39
สงสารน้องเอกจัง แต่นะ รักแล้วให้ทำไงล่ะ
คุณชายโชคดีนะที่มีคนมารักมากมายขนาดนี้
รักษาความรักให้ดีนะ  :L2:

แต่ตอนนี้เศร้าได้อีก  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 11-06-2009 09:53:04
สู้ต่อไป..คนเราอยู่ด้วยความหวัง   :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 11-06-2009 18:28:45
เศร้าใจจจ :o12:

ลุงตั้มบ้า มี๊เอกน่าสงสาร

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 10 มิถุนายน 2552 เวลา 15.56 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 11-06-2009 18:58:27
           ผมกลับมาเฝ้าตั้มอีกครั้งหลังจากพี่ออมและโอ้ออกไปจากห้องแล้ว  ก่อนหน้านั้นผมนั่งคอยอยู่หน้าห้องเพราะไม่อยากเข้าไปทำลายบรรยากาศที่แสนหวานของตั้มให้พังทลายลงมาด้วยน้ำมือของผม  ผมยอมทำทุกอย่างและทุกวิถีทางเพื่อให้ตั้มมีความสุขแม้ผมจะเจ็บปวดเพียวไรก็ตาม
   แล้วเพื่อนๆคนอื่นๆก็ทยอยตามกันมาเยี่ยมตั้มไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน พี่บาสที่มาพร้อมกับพี่ปิงและเพื่อนพี่ปิงอีกคนชื่อว่าพี่เอฟ  ส่วนพี่เต้แฟนใหม่พี่ปิงวันนี้ไม่ได้มาด้วยเพราะติดธุระ  จากที่ผมดูภายนอกผมว่าพี่เต้เป็นคนดีนะครับ ดูอบอุ่นและคอยเทคแคร์พี่ปิงอย่างดี  ทำหน้าที่แฟนได้อย่างครบถ้วนไม่เหมือนผมที่คอยจะสร้างเรื่องปวดหัวให้พี่ปิงตลอดเวลา  ผมนั่งคุยกับพี่ๆและเพื่อนๆจนตั้มตื่น
   ตั้มก็พูดคุยหยอกล้อตามประสาตั้มนั้นแหละครับ  ชอบพูดจากวนคนโน้นคนนี้ไปทั่ว  แต่ก็นั้นแหละคือข้อดีของตั้มที่คอยสร้างบรรยากาศครื้นเครงให้เพื่อนๆได้หัวเราะ สนุกแม้คนที่กำลังจมทุกข์อย่างผมยังสามารถสนุกไปด้วยได้เลย  ตลอดเวลาผมคอยสังเกตและเห็นว่าพี่เอฟคอยจะถามโน้นถามนี้ตั้มอยู่ตลอดเวลา  ผมเดาเอาว่าพี่เอฟต้องชอบตั้มแน่นอนถ้าผมไม่ได้คิดมากไปน่ะครับ   ตกเย็นแม่ตั้มก็เข้ามาเยี่ยมอีกครั้งทุกคนเลยขอตัวกลับบ้านเพราะเย็นมากแล้วด้วย  ผมลงไปส่งเพื่อนๆที่ลานจอดรถ จากนั้นก็ขึ้นมาอาบน้ำและเตรียมตัวนอน  ก่อนนอนพี่เอฟได้โทรมาหาตั้มซึ่งนั้นเองที่ทำให้ผมแน่ใจว่าพี่คนนี้ต้องชอบตั้มอย่างแน่นอน  แต่ผมจะทำอะไรได้ในเมื่อผมไม่มีสิทธิในตัวตั้มแม้แต่น้อย 
   เช้าวันต่อมาผมตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงตั้มอาเจียนในห้องน้ำ  ผมรีบวิ่งไปลูบหลังให้ตั้มเพื่อจะได้อาเจียนออกมาให้หมด  จากนั้นผมก็พาตั้มมาที่เตียงแล้วเดินกลับไปเอาแปรงสีฟัน ยาสีฟันและน้ำใส่แก้วมาให้ตั้ม  เพราะตั้มอยากแปรงฟันแต่ผมบอกให้บอกให้คอนบนที่นอนนั้นแหละ  หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จพี่บาสก็เข้ามาเยี่ยมตั้ม  ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรใจมันคอยสั่งให้เดินออกไปข้างนอกห้องทุกวินาทีหรืออาจจะเป็นเพราะผมไม่อยากเห็นภาพของสองคนนี้ที่อยู่ด้วยกัน  แล้วยิ่งได้ยินตั้มบอกว่า กำลังเบื่อคนแถวนี้อยู่พอดี  ถึงแม้จะรู้ว่าตั้มจะแกล้งหยอกล้อผมเล่น  แต่ผมก็อดน้อยใจเดินออกมาไม่ได้  ผมนั่งลงที่ม้านั่งหน้าห้องอยู่เกือบๆสิบห้านาที  พี่ปิงกับพี่เต้และพี่เอฟก็เดินเข้ามาทักผม  ผมเลยพาทั้งสามคนเข้าไปในห้อง   แต่ภาพที่ผมเห็นคือตั้มนั่งอยู่บนเตียงและกอดพี่บาสที่กำลีงยืนอยู่ข้างเตียงอยู่ 

“ถ่านไฟเก่าหรือเปล่าครับเนี๊ย”  พี่ปิงพูดขึ้นหลังจากเห็นว่าทุกคนกำลังอึ้งและไม่เดินเข้าไปในห้อง
“ไม่ใช่หรอกพี่” ตั้มตอบกลับมาหลังจากคลายกอดจากพี่บาส  ผมเห็นพี่บาสแอบเช็ดคราบน้ำตาถึงแม้จะหันหลังให้พวกผม  แต่ก็ไม่สามารถเล็ดลอดสายตาไปได้
“แล้วเมื่อกี้ทำไรกันอ่ะ  เออแต่ช่างเหอะ  สงสารมึงจังไอเอฟ  อกหักตั้งแต่ยังไม่ได้จีบ”  พี่ปิงพูดกับพี่เอฟ  พร้อมกับตบบ่าเบาๆ
“หวัดดีครับพี่เอฟ  พี่เออ......”
“พี่ชื่อเต้ครับ”  สงสัยตั้มจะยังไม่เคยเจอพี่เต้  แต่สำหรับผมนั้นเราเจอกันหลายครั้งแล้ว
“อ๋อๆๆๆ  หวัดดีครับพี่เต้   แล้วทานข้าวกันมายัง”

   หลังจากนั้นเราก็พูดคุยกันจนพี่ปิงกับพี่เต้ขอออกไปซื้ออะไรเข้ามากิน  จึงทำให้เหลือผม ตั้มและพี่เอฟ  แต่ตั้มขอกินยาเพราะรู้สึกปวดหัวอีกแล้วและจากนั้นก็หลับไป  พี่เอฟเลยถือโอกาสคุยกับผมและขอให้ผมเป็นพ่อชักพ่อสื่อให้  ซึ่งผมก็รับปากเพราะผมทนลูกตื้อของพี่เอฟไปม่ได้นั้นคงเป็นนิสัยเสียของผม  เพราะผมชอบช่วยเหลือคนโดยไม่ดูตัวเองเลยว่าจะเดือนร้อน  หรือทุกข์ทรมานใจแค่ไหน  และเย็นวันนั้นหลังจากเพื่อนๆกลับไปแล้วผมเลยตัดสินใจบอกให้ตั้มรับรู้  และจะทำเท่าที่ผมจะทำได้นั้นคือแค่บอกความรู้สึกของพี่เอฟให้ตั้มรับรู้  แต่จะไม่ช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น  เพราะทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของตั้ม

“ตั้ม นายยังไม่หลับใช่ไหม”  ผมเรียกตั้มหลังจากที่ผมตั้งสติได้  และเห็นว่าตั้มกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาบนที่นอน
“อือ  มีไร”
“คือว่า.....”  ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆตั้ม และนั่งลงบนเก้าอี้
“มีไรก็ว่ามา”
“พี่เอฟ  ฝากเรามาให้บอกนายว่า  พี่เค้าชอบนาย  อยากได้นายเป็นแฟน” 
“ทำไม !!! มึงอยากให้กูคบกับพี่เค้าใช่ไหม  กูเคยบอกมึงแล้วไงว่าอย่ายุ่งกับเรื่องของกูอีก  อ๋อ...หรือว่าคืนนั้นมึงไม่ถึงของ  เลยไม่พอ  มึงต้องการอีกใช่ไหม”  ผมไม่คิดว่าการกระทำของผมจะทำให้ตั้มโกรธถึงเพียงนี้  แต่กลับมาคิดอีกทีถ้าใครมาทำแบบนี้กับผม  ผมเองก็คงจะไม่พอใจเช่นกัน   ตั้มจับผมนอนลงบนที่นอนแล้วซุกหน้าลงมาที่ซอกคอผมซ้ายทีขวาที  ผมไม่ได้ขัดขืนอะไรทำได้เพียงร้องขอให้ตั้มหยุด
“ตั้มปล่อย !!!  ขอร้องอย่าทำแบบนี้อีก  แค่นี้เราก็เจ็บพอแล้ว”  แล้วน้ำตาผมก็ไหลออกมาอีกแล้ว  ผมเริ่มเบื่อตัวเองขึ้นทุกวัน  ผมไม่อยากเป็นคนเจ้าน้ำตา  ผมไม่อยากเป็นคนอ่อนไหวง่าย  ผมไม่อยากเป็นแบบนี้เลย
   ตั้มหยุดการกระทำลงแล้วเช็ดน้ำตาให้ผม  แต่ตอนนั้นผมรู้สึกโกรธตั้ม  โกรธมากที่ตั้มทำแบบนั้นกลับผม  ผมสะบัดหน้าหนีมือของตั้มแล้วเดินออกมาจากห้อง  ผมกลับไปยังที่เดิมที่ผมเคยใช้บริการมาแล้วเมื่อวานนี้  นั้นก็คือห้องน้ำแต่ต่างกันที่วันนี้ผมไม่มีคำถามใดๆที่ถามกับตัวเอง  มีเพียงคพต่อว่าด่าทอตัวเองที่เข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น  โดนทำแบบนี้แล้วคงจะสาสมกับการที่เข้าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านเขาแล้ว
   หลังจากตั้มออกจากโรงพยาบาลแล้วผมก็กลับไปอยูบ้านได้สองสามวันก็ต้องไปเก็บตัวนักกีฬาเพื่อจะคัดทีมที่เป็นตัวแทนของภาคไปแข่งกีฬาเยาวชนนะครับ  ในทีมบาสที่ผมไปเก็บตัวนี้ส่วนใหญ่แล้วเราก็จะรู้จักกันดีอยู่แล้วเพราะแข่งด้วยกันมาก็หลายครั้งแล้ว  มักจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี  ผมมีเพื่อนที่สนิทอยู่ 2-3 คนและทุกคนก็ล้วนมาจากต่างโรงเรียนกันทั้งนั้น  ส่วนคนที่มาจากโรงเรียนเดียวกันก็จะสนิทและอยู่กันเป็นกลุ่มกันอยู่แล้ว
   เพื่อนที่ผมสนิทนั้นก็จะมี เบิ้ม เนส สองคนนี้มากจากโรงเรียนเดียวกัน  และกายเป็นเด็กจากโรงเรียนประจำจังหวัด  เราสี่คนมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันอาบน้ำ กินข้าว และอื่นๆอีกมากมายพร้อมๆกัน  ในส่วนของกายนั้นผมรู้สึกว่ากายจะเอาอกเอาใจผมมากเป็นพิเศษมากกว่าเพื่อนคนอื่นเหมือนว่ากายจะชอบผมแต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก  เพราะถ้ามเป็นอย่างนั้นจริงสักวันกายก็คงจะเลิกชอบผมไปเองเพราะผมไม่เคยเปิดโอกาสหรือให้ความหวังแก่กายเลยสักครั้ง   
   และทุกวันศุกร์ผมจะขอครูฝึกกับโค้ชกลับบ้านหลังเลิกซ้อมแล้วเพราะผมให้สัญญากับแม่ของตั้มแล้วว่าไม่ว่าจะว่างหรือไม่ว่างยังไงผมจะไปค้างที่บ้านตั้ม  และผมก็ทำแบบนี้มานานแล้วด้วย  อีกอย่างผมก็ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องมาเสียใจกับการผิดคำพูดของผม  เมื่อผมไปถึงแม่ตั้มก็จัดการยกกับข้าวกับปลามาให้  ส่วนผมขอขึ้นไปอาบน้ำจากนั้นก็ลงมาทานข้าว  และสอนการบ้านให้น้องฝ้ายเพื่อฆ่าเวลาในการคอนตั้มกลับบ้าน  แต่คอยจนแล้วจนเล่าตั้มก็ยังไม่กลับมาผมก็เลยขึ้นไปนอนคอยตั้มบนห้องจนผล่อยหลับไป  และมาตื่นเอาตอนที่ตั้มเดินเข้ามาในห้อง

 “ไปไหนมาหรอ”  ผทถามตั้มหลังจากลืมตาดูแล้วว่าเป็นใคร
“ไปกินข้าว  เดินห้างกับพี่เอฟ  แล้วไม่นอนค่ายหรอวันนี้”
“ขอกลับก่อนน่ะ  อยากมาหาแม่ด้วย”
“อืม  เหนื่อยมากหรอ”
“ก็นิดหน่อยนะ”
“แล้วไม่โกรธกูแล้วหรอ”
“ไม่หรอก  ไม่เคยโกรธ เรากลัวว่าเราจะไปทำให้นายโกรธเรามากกว่า ก่อนจะมาที่บ้านก็กลัวเหมือน  แต่ก็อยากมาก็เลยมา”  นั้นคือเหตุผลจริงๆของผมที่ทำไมผมถึงไม่คุยกับตั้มหลาสยวัน  เพราะผมกลัวว่าตั้มยังโกรธผมอยู่ที่ผมเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของตั้ม
“ขอโทษ  กูรู้กูทำไม่ดีกับมึงมาก  แต่มึงก็ยังดีกับกูอีก”  มาถึงตอนนี้ผมตกใจมากเพราะอยู่ดีๆตั้มก็ร้องไห้ออกมา  แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอของตัวเองตั้มดึงผมไปกอดเพื่อจะได้ไม่ให้ผมเห็นน้ำตาของตั้ม
“...............”  และผมเองก็ไม่ได้พูดหรือโต้ตอบอะไรออกไป  เพราะผมเองก็เริ่มบ่อน้ำตาแตกเองเช่นกัน
“กูก็ไม่รู้ว่าทำไมกูถึงไม่กล้ารักมึง  แต่ขอให้มึงรู้ไว้ว่า  ถ้ากูจะรักผู้ชาย  คนแรกที่กูจะรักได้ต้องเป็นมึง” 
“ขอบคุณ”  ผมไม่รู้จะพูดยังไง  เพราะผมยังอยู่ในอาการอึ้งที่ได้ยินคำนี้จากตั้ม  แต่ผมก็ไม่ได้หวังอะไรมากอย่างที่เคยบอกมาแล้ว  แต่ในใจลึกๆแล้วมันก็เรียกร้องให้ถึงวันนั้นเร็วๆ
“ไม่เป็นไรหรอก  นอนนะ  เหนื่อยมากไม่ใช่หรอ  แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่นะ”

   คืนนี้คงเป็นอีกคืนที่ผมจะหลับอย่างมีความสุข  หลังจากที่ต้องนอนหลับทั้งน้ำตามาแสนนาน  ก่อนที่ผมจะหลับไปในห้วงนิทราผมรู้สึกได้ถึงอ้อมกอดของใครสักคนที่ผมโหยหามานาน  และผมเองก็กอดตอบคนๆนั้นกลับไปแล้วก็หลับไปอย่างมีความสุข
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 11-06-2009 19:06:00
 :กอด1: ซึ้งกินใจ คิคิ

รักมี๊มากค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 11-06-2009 19:36:23
ในที่สุด อะไร ๆ ก็ปิดกั้นความรู้สึกที่มีให้กันไม่ได้

นายตั้ม ก็ต้องมาสยบลงบนตักของน้องเอก  :m20:

+1 เป็นกำลังใจให้น้องเอก ขอบใจนะน้องตั้มที่มาลงให้  555......
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 11-06-2009 19:59:01
ใกล้แล้วสินะ  :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 11-06-2009 20:02:29
อดทนอีกนิดนะ น้องเอก   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 11-06-2009 20:09:21
^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: rero ที่ 11-06-2009 20:54:58
ตามอ่านในภาคของตั้มจนจบ
แล้วตามมาอ่านในภาคของเอกจนทัน

อ่านแล้วทำให้ ซาบซึ้งกับความรักของทั้งคู่จัง :กอด1:
อุปสรรคเยอะมาก และเด็กมาก  แต่ก็ผ่านมาได้
ถ้าวันใด วันหนึ่ง ถ้ามีปัญหากัน อยากให้มองกลับมา
ถึงอุปสรรคที่ผ่านมาได้นั้น มันไม่ง่าย ที่จะผ่านมาได้เลย
นับถือความรัก ของทั้งคู่จริง ๆ

คุณโชคดีที่มีครอบครัวดี เพื่อนดี

ถ้ามีใจเป็นร้อยดวง ขอเก็บไว้ดวงเดียว อีก เก้าสิบเก้าดวง
ให้ทั้งคู่หมดเลย เพื่อเป็นกำลังใจให้รักกันไปตลอดลอดฝั่ง

ขอบคุณ ที่เขียนเรื่องดีมากให้อ่าน :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 11-06-2009 21:15:59
ความรัก ก็เพราะว่ารักถึงทนได้
เจ็บปวดจังเลย เพราะรักจึงยอมจริงๆ
กดบวกขอบคุณน้องเอก และน้องตั้มที่มาลงเรื่องให้จ้า

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-06-2009 21:32:39
อย่างว่า...
รักแล้ว...รักเลย
 :L2:

 :pig4:ขอบคุณคับ น้องเอก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 11-06-2009 21:32:56
 :L1:...ทุกข์ ทรมาน เจ็บเจียนตาย เพราะรัก สุดท้ายก็สมหวัง...ก็โชคดีแล้วเนอะน้องเอก:L1:
...เค้าหล่อมากกกกกกกกกก เนอะ แฟนเลยเยอะ
...พักนี้คนหล่อมากกกกกกกก ขยันเนอะโพสบ้อยบ่อย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 11-06-2009 21:43:41
^^

เริ่มดีขึ้นแระ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 11-06-2009 22:28:14
มาให้กำลังใจ

ตอนจบอ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นจิงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 12-06-2009 02:19:52
สงสารน้องเอกจังเยย  :monkeysad:   
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 12-06-2009 08:09:21
รักไปแล้วนะซิ..............แต่มันกลัวอยู่ช่ายม้ายคร้าบตั้ม


เวลานะช่วยทุกๆอย่างให้ดีขึ้นเองนะคร้าบ


อีกนิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 12-06-2009 11:44:01
ซึ้งๆโคตรๆ :monkeysad:
นับถือการมั่นคงในความรักของพี่เอกจริงๆเลยค่ะ
ถ้าเป็นคนอื่นโดนขนาดนี้อาจจะมีถอยไปแล้วอ่ะ
แต่นี้พี่เอกยังคงยืนหยัดอยู่เยี่ยมมากๆค่ะ o13

ตอนต่อไปอะไรๆก็คงดีขึ้นแล้วใช่ไหมน้า อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 13-06-2009 17:58:14
..น้องเอก อยู่ กทม ระวังไข้หวัด 2009 ด้วยนะ
..ที่โรงเรียนของน้องๆๆปิดแล้ว 7 วันเหนื่อยอะ ต้องดูแลพวกเค้า
..แค่บ่น ไม่อยากให้พวกมันอยู่บ้าน มันกิน กับเล่นเนต เบื่อพวกมันจริงๆๆ
..มาดันกระทู้จ้า ไม่มีไร เลยบ่นๆๆๆแก้เซ็ง ซะหน่อนฮ่าๆๆ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 14-06-2009 01:07:46
พี่เอกสู้ๆ อีกนิดเดียวเท่านั้น อิอิ  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 14-06-2009 10:55:28
มา   +1   ให้นะคร้าบ

คิดถึงทั้งคู่นะคร้าบ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: rero ที่ 15-06-2009 19:14:13
เข้ามาบอกว่า  ....ยังรออยู่ :really2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 15-06-2009 20:52:22
เข้ามาเต้นรอเหมือนเดิมค่า :z2:
ลุงตั้มหายไปไหนเนี้ย มะยอมมาโพส
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luv_yj ที่ 17-06-2009 00:56:16
น้องเอกสู้ ๆค่ะ
พี่อ่านแล้วแบบ เศร้าตามได้ทุกตอนเลยอ่ะ
..

เป็นกำลังใจให้เน้อ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 18-06-2009 00:02:00
ต่อ
ต่อ
ต่อ
 :z10:
 :z10:
 :z10:


ปล. น้องเอกระวังหวัด 2009 นะค่ะ เปงห่วงนะนี่ย  o13
 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 18-06-2009 17:26:11
เช้าวันต่อมาผมต้องรีบออกจากบ้านเพราะผมมียังมีซ้อมอีกครึ่งวัน  และผมก็สัญญากับโค้ชไว้แล้วว่าผมจะกลับไปซ้อม  ผมไม่อยากเป็นคนไม่รักษาคำพูดและไม่มีความรับผิดชอบ  ก่อนออกจากบ้านผมได้ทิ้งโน้ตไว้ให้ตั้มไปรับผมตอนเที่ยงหลังจากซ้อมเสร็จแล้ว  เมื่อผมไปถึงที่สนามกีฬาจังหวัด  ผมก็ต้องวิ่งรอบสนามบาสก่อนเพื่อเป็นการวอร์มแต่เพื่อนๆคนอื่นนั้นซ้อมการส่งลูก   การซ้อมของวันนี้มีเพียงครึ่งวันเมื่อเสร็จแล้ว  ผมก็เข้าไปล้างตัวในห้องน้ำและออกมายืนรอตั้มที่หน้าโรงยิม

“เอกเดี่ยวไปไหนต่อ”  กายถามผม
“ไม่รู้เลยกาย  เรารอตั้มมารับน่ะ  คงต้องตามเขาไปนั้นแหละ”
“เอกกับตั้มสนิทกันดีน่ะ”
“อือ  ตั้มเป็นเพื่อนที่เราสนิทที่สุดในห้องเลยก็ว่าได้”
“น่าอิจฉาน่ะ”  ไม่รู้ผมจะอุปทานไปเองหรือเปล่า  ผมเห็นหน้าและปากกายยิ้ม  แต่แววตาไม่ได้ยิ้มไปตามใบหน้ากลับดูเศร้าหมอง
“อิจฉาไร  ไม่เห็นมีอะไรตรงไหนให้อิจฉาเลย  อ่ะมาแล้ว  กายเราไปก่อนน่ะ”
“เดี่ยวดิ  แล้วนายกลับมาค่ายวันไหน”  ผมกำลังจะเดินไปที่รถเพราะไม่อยากให้ตั้มคอยนาน  แต่กายก็พูดขึ้นมาก่อน  ผมเลยต้องหยุดคุยต่อ
“ก็คงวันอาทิตย์เย็นๆโน้น  หรือไม่ก็เช้าจันทร์  มีอะไรเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอก  เราจะได้มาพร้อมกับนาย”
“เอก  ไปยัง”  ตั้มเดินมาที่ผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  และมาหยุดยืนหลังผม
“มาแล้วหรอ”  ผมถามตั้ม
“ถามโง่ๆ  อีกนะมึง  ถ้ากูยังไม่มา  แล้วมึงเห็นกูได้ไง”
“แฮะๆๆๆๆ”
“เอก  ใครหรอ”  กายถามผม  กายกับตั้มยังไม่เคยเจอกกันหรือว่าอาจจะเจอกันแล้วแต่ไม่รู้จักกัน
“เออ  ลืมแนะนำ  นี้ตั้ม  เพื่อนในห้องเรานะ  แล้วนี้เบิ้ม  เนส แล้วก็กาย  เรียนที่ รร......นะ”  ผมแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน  และผมก็กำลังจะกลับแต่ก่อนกลับ คุณชายไม่วายวางกล้ามใหญ่ใส่เพื่อนร่วมทีมของผมจนเกือบจะมีเรื่อง
“เห้ย  มึงนะ  มองหน้ากูมีไรป่าวว่ะ”  ตั้มชีหน้าถามกายเสียงดังจนคนอื่นที่อยู่รอบๆหันมามอง
“ป่าว  ไม่มีไร” แต่กายเองก็แสบไม่แพ้ตั้ม  ตอบกลับไปแบบไม่รู้ไม่ชี้  ไม่สนใจอะไรทำนองนั้น จนผมต้องห้ามทัพเพราะไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต
“ตั้ม  เป็นไร  เพื่อนเราเองไม่มีไรหรอก” 
“เออ  มึงก็บอกเพื่อนมึงด้วยละดัน  ว่าอย่ามามองกูแบบนี้อีก  กูไม่ชอบ  เดี่ยวกูจะไปคอยที่รถ  ยังไม่อยากมีเรื่อง รีบๆตามมานะ”  พูดจบตั้มก็เดินออกไปที่รถทันที
“กาย  เราไปก่อนน่ะ  เออแล้วเราก็ขอโทษแทนตั้มด้วย  ไม่ต้องคิดมากไม่มีอะไรหรอก”
“อือ นายไปเถอะเดี่ยวเพื่อนนายคอยนาน”
   จากนั้นผมก็สะพายกระเป๋าเป้แล้ววิ่งมาที่รถ  ผมยกมือไหว้แม่กับพี่บาสผมไม่คิดว่าทั้งสองคนนี้จะมาด้วย  ไม่อย่างนั้นผมก็คงมานานแล้วเพราะผมไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องคอยนาน  เพราผมคิดเสมอว่าเราเป็นเด็ก  เราต้องเป็นฝ่ายคอยผู้ใหญ่  ไม่ใช่ให้ผู้ใหญ่เป็นฝ่ายมาคอยเรา 
   เราสี่คนเดินทางไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  เดินเลือกซื้อของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า และอื่นๆตามแต่แม่ของตั้มจะพาไป  ผมป็นเพียงแค่คนออกความเห็นว่าจะเลือกอย่างไหนดี  ส่วนตั้มกับพี่บาสจะคอยเดินตามหลังเพื่อจะช่วยถือของซึ่งก็เพิ่มมากทุกครั้งหลังออกจากร้านหนึ่งไปยังอีกร้านหนึ่ง  และระหว่างที่กำลังเลือกเสื้อให้กับคุณชายอยู่นั้น  พี่ปิง พี่เต้และพี่เอฟก็เดินเข้ามาทักทาย  ผมพยายามเลี่ยงที่ตะพูดคุยกับพี่ปิงไม่ใช่ว่าผมโกรธอะไรพี่เขาหรอก  เพียงแต่ผมไม่อยากให้พี่เต้มีความรู้สึกไม่ดีกับตัวผมเพราะผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่ปิง  ส่วนพี่ปิงจะคิดอะไรกับผมหรือไหมนั้นผมขอไม่รับรู้   จากนั้นทั้งห้าคนก็ขอตัวแยกออกไปอาอะไรทานกัน  ส่วนผมกับแม่นั้นไม่ได้ไปเพราะเรายังไม่หิวและของที่จะซื้อก็ยังได้ไม่ครบด้วย
   เมื่อเดินผ่านร้านนาฬิกาผมก็ขอแม่ว่าจะเข้าไปเลือกนาฬิกาสักเรือน  แม่กถามผมว่าซื้อใหม่อีกแล้วหรอ  ผมก็ตอบกลับไปว่าผมไม่ได้ซื้อมช้เองผมจะซื้อเป็นของขวัญปีใหม่ใหม่คุณชาย  แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ยิ้มให้กับผม  ผมเลือกอยู่นานก็เจอเรือนที่ถูกใจทั้งรูปร่างและสี  คุณชายจะชอบใช้ของที่ออกแนวสปอตนิดหน่อย  ดั่งนั้นนาฬิกาส่วนใหญ่ก็จะออกแนวสปอร์ตและสีที่ชอบก็คือสีส้มและสีดำ   ผมเดินออกไปจะจากร้านเพื่อจะกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม  และเมื่อกลับมาที่ร้านก็พบว่าแม่ของตั้มถือถุงใส่กล่องนาฬิกาเรียบร้อยแล้ว  ผมยื่นเงินให้ท่านก็ไม่รับ

“แม่ครับ  เอกตั้งใจซื้อของชิ้นนี้เป็นของขวัญให้กับตั้ม  ถ้ามันไม่ได้มาจากเงินของเอก  มันก็เหมือนกับเอกเอาของคนอื่นไปให้อีกคนหนึ่ง เอกทำแบบนั้นไม่ได้  เพราะถ้าเราจะให้ของใครสักคน  ของสิ่งนั้นมันต้องมาจากของเราเท่านั้น”  ผมบอกเหตุผลที่ผมไม่อยากให้ทานซื้อของชิ้นนี้ให้กับผม
“ก็เราเป็นคนแบบนี้ไง  จะให้แม่ไม่รักและเอ็นดูเราได้ยังไง”
“ขอบคุณครับแม่  ที่เอ็นดูผมและรักเหมือนลูกชายคนหนึ่ง  ผมเองก็รักและเคารพแม่นะครับ”
   เมื่อของทุกอย่างครบแล้วผมและแม่ก็ไปรอคุณชายกับพี่บาสที่รถจากนั้นก็เดินทางกลับบ้าน  ผมช่วยแม่เก็บของและแพ็คของใส่กล่องเพราะแม่กับพ่อจะเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านที่สระบุรีและเพชรบูรณ์   และผมก็ขออาสาที่จะมาอยู่ที่บ้านนี้เพื่อดูแลความเรียบร้อยลูแลคนด้วย  ซึ่งท่านเองก็ยินดีที่จะให้ผมทำแบบนั้นด้วย   
      เช้าวันต่อมาหลังจากผมเดินออกจากห้องน้ำแล้ว  ผมพบว่าคุณชายนั่งรอผมอยู่บนที่นอนทั้งตัวเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวมีผ้าเช็ดตัวปิดกายอยู่ผืนหนึ่งแต่ก็ไม่เอามาปกปิดร่างกายกับพาดไว้กับไหล่ตัวเอง  แต่ผมก็ไม่เคยชินสักครั้งถึงแม้ว่าตั้มจะทำแบบนี้บ่อยๆ 

“เข้าไปทำไรตั้งนานว่ะ  หรือว่า......”  แล้วตั้มก็หัวเราะออกมา  ผมรู้ว่าตั้มกำลังคิดอะไร   
“หรือว่าอะไร  พูดมาดิ” ผมแกล้งทำสีหน้าไม่พอใจใส่ตั้ม  แต่แทนที่ตั้มจะกลัวกลับหัวเราะผมไปกันใหญ่
“555  ไม่มีไร  ไปอาบน้ำดีกว่า  เดี่ยวได้ลงไปกินข้าว”   
   แล้วตั้มก็เดินเข้าห้องน้ำไป  ผมจึงเดินไปหาของจวัญที่ผมซื้อให้ตั้มเมื่อวานนี้  และยื่นให้ตั้มตอนที่ตั้มเดินออกมา
“อ่ะให้” ผมพูดพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญให้กับตั้ม
“อะไร” 
“มันอาจจะไม่แพงเท่าของพี่....  แต่เราก็ให้ด้วยความเต็มใจ”  ผมกำลังจะพูดชื่อพี่เอฟ  แต่เหมือนกับใจมันสั่งการไม่ให้พูดชื่อนี้ออกมา  ผมก็เลยต้องทำตามใจสั่งมา  และเมื่อตั้มเห็นว่าเป็นนาฬิกาและเป็นสีที่ตั้มชอบบวกกับรูปร่างที่แปลกใหม่  ไม่เหมือนกับรูปทรงตามท้องตลาด  ถึงกับยิ้มหน้าบาน  ผมเองเมื่อเห็นว่าตั้มชอบผมก็รู้สึกปลาบปลื้มไปด้วย
“ขอบคุณนะ  อ่ะ  ใส่ให้หน่อย”  ผมก็หยิบนาฬิกาจากตั้มแล้วบรรจงใส่ไปที่ข้อมือซ้าย
“ป่ะ  กินข้าวดีกว่า  หิวแล้ว”
   และเราสองคนก็เดินลงมาทานข้าวกันข้างล่าง  ทานข้าวพร้อมกับพ่อและแม่ก่อนที่ท่านสองคนจะเดินทางไปยังบ้านเกิดของท่านทั้งสองคน   หลังอาหารมื้อนั้นจบลงผมกับตั้มเดินไปส่งท่านที่รถ  แม่สั่งการตั้มต่างๆนาๆก่อนที่จะเดินทาง  จากนั้นตั้มก็แยกตัวออกไปข้างบ้าน  ส่วนผมเดินเข้ามาในครัวเพื่อจะเก็บกวาดทำความสะอาดและชงกาแฟไปเสิร์ฟให้คุณชาย  เพราะเช้านี้ยังไม่ได้ทานกาแฟ
“อ่ะ  กาแฟ  ชงมาให้”  ผมยื่นแก้วกาแฟให้ตั้ม  ตั้มรับไปแล้วก็สูดดมกลิ่มกาแฟก่อนจะจิบและวางลงบนโต๊ะไม้ข้างบ้าน
“ขอบคุณ”
“เราขออะไรสักอย่างได้ไหม”
“ว่ามาดิ  ถ้าให้ได้ก็จะให้”
“เวลาไป รร.  หรือไปไหนกับเราช่วยใส่นาฬิกาเรือนนี้ได้ไหม  พอเราไม่อยู่  หรือนายไปเที่ยวกับพี่ปิง  นายค่อยถอดออกแล้วใส่ของพี่ปิง” ใจจริงผมไม่กล้าขอตั้มแบบนั้นหรอกครับ  กลัวว่าตั้มจะโกรธผมที่เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัว  แต่อีกใจหนึ่งมันก็อยากเห็นตั้มใช้ของที่ผมซื้อให้และผมก็เลือกทำตามอย่างหลังมากกว่าการกลัว
“ไม่ได้ !!! กูบอกแล้วว่าอย่ามายุ่งเรื่องของกู”  ผมสะดุ้งสุดตัวเพราะเสียงของตั้มดังมากเหมือนกับตะคอก  ผมเริ่มรู้วสึกว่ามีน้ำมาคลอที่ตาผมอีกแล้ว  ผมรู้ว่าผมผิดที่เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของตั้ม  ผมไม่มีสิทธิที่จะให้ใครทำตามคำขอของผม  มันคงจะมากไปหากผมจะให้ใครทำตามความต้องการของตัวเอง  ผมเลยพูดขอโทษตั้มออกไป
“เราขอโทษ  เรา.....”
“หยุด !!! ไม่ต้องพูด  กูชอบเรือนนี้  กูจะใส่เรือนนี้ตลอด  ไม่ว่ากูจะไปไหนกับใครกูก็จะใส่เรือนนี้”  ผมงงกับคำพูดตั้มซึ่งตรงกันข้ามกับการกระทำ  ผมจึงทบทวนความหมายของคำพูดอีกครั้ง  และผมก็ได้รู้ว่าตั้มจะใส่นาฬิกาที่ผมซื้อให้ตลอดและไม่เปลี่ยนด้วย  ผมยิ้มออกมาทั้งน้ำตา  ดีใจที่ตั้มชอบของผมและเลือกที่จะใช้ของของผม
“ขอบคุณนะ”
“มึงนะเคยโกรธกูบ้างไหมเนี๊ย  กูทำไมดีกับมึงตั้งหลายครั้ง  แต่มึงก็ยังดีกับกูอยู่เรื่อย  แถมยังรักทั้งที่ไม่รู้ว่าจะได้รักนั้นตอบกลับมาหรือเปล่า”
“อือ  เราจะคอย  ถึงแม้ว่ารอบตัวนายจะมีใครสักกี่คน  ไม่ว่าพี่ออม  พี่บาส  หรือว่าพี่เอฟ  เมื่อไหร่ที่คนเหล่านี้ทำนายเจ็บ  แต่นายจงรู้ไว้ว่านายยังมีเราอยู่  เราไม่รู้ว่าวันนี้นายกับคนเหล่านั้นจะมีความสัมพันธ์แบบไหน  แต่เราก็ขออยู่แบบนี้  อยู่ข้างนายตลอดไป”  นั้นคือคำพูดที่ออกมาจากใจผม  ผมพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อคนนี้  ขอเพียงแค่อย่าห้ามให้ผมรัก  อย่าผลักไสผมให้ไกลออกไป  อย่าทำเหมือนกับผมไม่มีตัวตน  แค่เท่านี้ผมก็พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่งในภายภาคหน้า
“...............”   และอยู่ดีๆความเงียบก็เข้ามาปกคลุม  ตั้มมองผมด้วยสายตาที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  แต่ผมสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น  ความรักที่มันล้นออกมาจากดวงตาเพียงแต่ไม่แสดงออกมาทางการกระทำ  ผมไม่เข้าใจว่าทำไมตั้มถึงรักผมไม่ได้  แต่ผมก็ไม่เรียกร้องสิ่งเหล่านั้นจากตั้ม  แค่เท่านี้ผมก็มีความสุขพอแล้ว  ผมกลัวว่าถ้าเกิดผมเรียกร้องไปมากกว่านี้  ผมอาจจะไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย 
“ร้องเพลงให้ฟังหน่อดิ”  ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆกับบรรยากาศที่มีแต่ความเงียบ  และผมเองก็เริ่มที่จะเขินอายกับสายตาคู่นั้นของตั้ม  ผมเลยต้องหาคำพูดเพื่อจะทำลายบรรยากาศเงียบนั้นไปถึงแม้จะเสียดายก็ตาม
“ไม่เอาอ่ะ   ขี้กลียดร้อง”
“ขอแค่นี้ก็ไม่ได้”
“เป็นไรอีก  ไม่ง้อนะมึง”  ตั้มเอานิ้วมาจิ้มที่แก้มผม  ซึ่งผมได้เป่าปากแล้วแก้มมันก็ป่องขึ้นมา  ผมต้องเบือนหน้าหนีจากการจิ้มของตั้ม
“โหย  งั้นเข้าบ้านนอนดีกว่าป่ะ”
   และวันนั้นทั้งวันผมกับตั้มก็หมกตัวอยู่กับบ้าน  เล่นเกมส์  ดูหนัง  ฟังเพลง  ทำความสะอาดบ้าน  ตกเย็นก็ไปเดินตลาดเพื่อจะซื้อของเอามาทำกับข้าวกินกัน  เป็นอีกวันที่อยู่ในความทรงจำที่ดีสำหรับผม  และผมจะไม่อาจจะลืมไปตราบชั่วลมหายใจ


ปล.  ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ลงให้หลายวันแล้ว  แต่ผมมีเหตุผลสำหรับผม  โปรดอย่าถามว่าไปไหน  ไปทำอะไร  และเพื่ออะไร  เพราะผมอยากจะลืมมันไปเสียให้สิ้น

ผมไม่รู้ว่าผมจะมาลงให้อ่านได้อีกนานเท่าไหร่  และไม่รู้อีกว่าเมื่อไหร่จะมาลง  อาจจะเป็นคืนนี้  พรุ่งนี้ มะรืนนี้  เดือนหน้า ปีหน้า หรือไม่ลงอีกเลย

ผมเหนื่อย ผมท้อ  แต่ไม่ขอถอย  จะพยายามก้าวต่อไปถึงแม้จะไม่มีแรง  จะยืนอยู่ที่เดิมก็ไม่ไหว  เพราะเหนื่อยเหลือเกิน

ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไรในตอนนี้  ผมยังตอบตัวเองไม่ได้  รู้เพียงว่าอยากตาย   แต่ก็ยังตายไม่ได้  ผมต้องห่มผ้าเหลืองเพื่อทดแทนพระคุณแก่ผู้มีพระคุณของผมก่อน

ผมขอแค่เพียงพรุ่งนี้ผมตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบกับความรู้สึกที่เป็นอยู่อย่างตอนนี้  ผมไม่ได้อกหัก  แฟนผมยังเป็นแฟนที่ดีสำหรับผมอยู่  ผมไม่มีปัญหาทางบ้าน

ครอบครัวผมยังรักกันดีอยู่  ปัญหาที่ทำงานผมก็ไม่มี  เพราะผมมีความสุขกับงานและเพื่อนร่วมงาน   ส่วนกิจการส่วนตัวที่ร้านทั้งสองแห่งก็ไปได้ดี 

เพียงแต่ตอนนี้ผมเป็นอะไรไม่รู้  เบื่อโลกใบนี้มากมาย  มันไม่น่าอยู่เหมือนเมื่อก่อน  ผมคงรีบเข้าวัดโดยด่วนเพื่อดับจิตที่ฟุ้งซ่านนี้ให้หายไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 18-06-2009 19:01:33
จิตตก อย่างนี้เค้าเรียกจิตตก เอาเป็นว่าขอให้หายไว ๆ แล้วกันจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 18-06-2009 19:22:23
ลุงเป็นอะไรคั๊ฟ
มาคุยกะน้องสุดสวย ด้วย

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 18-06-2009 20:41:31
มาเป็นกำลังใจให้น้องตั้ม  :กอด1:

อย่าท้อ ทำจิตใจให้สบาย

รู้สึกดีเมื่อไหร่ ค่อยมาลงต่อก็ได้จ้า :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 18-06-2009 21:12:24
ทำใจให้สบาย อย่าคิดอะไรมาก โบราณเขาว่า คนขณะที่จะบวช

จะมีมารมาผจญ ทำให้นึกเบื่อโลก เบื่ออะไรไปหมดแบบน้องตั้มกำลังเป็นอยู่

อย่าสับสน จงทำใจให้สงบตั้งใจสวดขานนาคให้คล่อง เตรียมตัวเข้าสู่เพศบรรพชิต

ศึกษาพระธรรมวินัย และคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ถ่องแท้

ขอร่วมอนุโมทนาบุญในการบวชครั้งนี้ ของน้องตั้มด้วยนะครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 18-06-2009 21:26:25
เป็นกำลังใจให้หายจิตตก   เข้มแข็งไวๆละกันนะคะ  น้องตั้ม     :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 18-06-2009 22:21:16
มาส่งกำลังใจ :กอด1:
มันคงเป็นแค่ช่วงอารมณ์นึงอ่ะแหละ
อย่างคิดมาก หาอะไรทำๆจะได้ไม่คิดมาก
 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 18-06-2009 22:57:54
 o22   เออ.......เข้าวัดแล้วก็ทำจิตใจให้สงบเน้อ.........
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 18-06-2009 23:04:45
+1 นะคร้าบ

แทนกำลังใจนะคร้าบ  ต้องสู้นะคร้าบ  ต้องสู้


แสงสว่าง  ลม  สายน้ำ  อากาศ   ต้นไม้  คน


ทุกอย่างอย๕่เพื่อที่จะผ่านวันนี้  และรอคอยวันพรุ่งนี้   


หายเศร้า  หายเหงา  แล้วรอวันพรุ่งนี้ด้วยกันนะคร้าบ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 18-06-2009 23:57:08
เข้ามากอดลุงพี่ตั้มด้วยค่า :กอด1:
ขอให้ผ่านช่วงเวลาจิตตกนี้ไปได้ด้วยดีค่า
ฟ้าสีครามสว่างสดใสของโลกใบนี้ยังรอเราอยู่เสมอค่ะ :a1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 19-06-2009 00:05:56
^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 19-06-2009 00:51:05
ทุกอย่างรอบตัวไม่มีปัญหาไปได้สวย แต่จิตใจกลับว้าวุ่น จิตตก
ลองสวดมนต์ ไหว้พระ เข้าวัดก่อนบวชก็ได้นะ เผื่อจิตใจจะสงบขึ้น
จะบวชแล้วมีอาการแบบนี้ เค้าเรียกว่ามีมารผจญหรือป่าว
เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะนายตั้ม สู้ๆๆ ฝ่ามันไปให้ได้นะ  :กอด1:
บวก 1 แต้มสำหรับตอนนี้ด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 19-06-2009 12:29:42
 :sad11:  ซึ้งน้ำใจจัง...
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 19-06-2009 14:14:55
สู้ๆนะ
บางทีปัญหาที่เราเผชิญอยู่มันก็ไม่ได้เกิดกับเราแค่คนเดียว
กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ
ทุกๆคนเค้าก็เป็นกำลังใจให้อยู่และแหละ
แต่เราก็ต้องอดทน และก็สู้ด้วย โอเคร๊!!
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 19-06-2009 14:34:00
เป็นอะไรคุณชาย  :กอด1:
สู้ ๆ นะ คุณชาย เหนื่อยก็พัก
หันหน้าเข้าวัดก็ดีนะ
จะรอนะคุณชาย รอคุณชายและน้องเอกนะ
เป็นกำลังใจให้นะ   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 19-06-2009 14:52:28
 :กอด1:...ทุกอย่างมันต้อง.มีเหตุ...ผล..มันถึงตามมา
...นอนหลับซัก 2-3 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาแล้วค่อยๆ
...คิดหาเหตุที่เกิด..แล้วก็แก้ที่..ต้นเหตุ..นั่นแหละ  
...ในเมื่อทุกอย่างดีพร้อม สมบูรณ์แบบ แล้วจะไปนั่ง..ทุกข์
...ทำให้..สุขภาพ..เสื่อมทำไม คิดถึงพ่อแม่ ที่จะเกาะชายผ้าเหลืองในอีกไม่นาน
...คิดถึง..ที่รัก ที่จะเป็นคนแบก ตั้ม พาพ่อแม่เกาะชายผ้าเหลืองและคนรอบข้างที่รักตั้ม
...อย่าคิดมาก ทำทุกวันให้มีความสุข ถึงแม้จะมีทุกข์ก็รีบแก้ไข อีกไม่กีชั่วโมง
...โลกอาจแตก ไข้หวัดอาจจะระบาด จะนั่งอมทุกข์ อยู่ทำไม จริงมะหรือว่า..วัยทองฟะ
...เดี๋ยวน้องเอกน้อยใจ ทำไมไม่เม้นเลยวะ อ่านความในใจแล้ว
...บอกได้คำเดียว ...ผู้ชายคนนี้...น่ารักว่ะ มีใจที่มั่นคง รักเดียวใจเดียว
...ไม่คิดโรเนียว เก็บไว้แจกจ่าย เหมือน..ปู้ชายอีกคน..ใครวะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Gu_Ton_Za ที่ 20-06-2009 22:45:37
 :m15:

สู้ๆ นะ ก้าบ

เป็น กำ ลัง ใจ ให้ อีก หนึ่ง ดวง อ่ะ

ปัญ หา มี ไว้ ให้ แก้ มี ไว้ ให้ เผชิญ กับ มัน อ่ะ

ถ้า รู้ สึก เหนื่อย ก็ พัก บ้าง นะ

ผม เพิ่ง เข้า บอร์ด มา ครั้ง แรก

รู้ สึก ว่า เอก เป็น ที่ สุด ยอด คน หนึง เลย ก้าบ

สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะ ก้าบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 11 มิถุนายน 2552 เวลา 18.58 น.
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 20-06-2009 23:51:23
เปนกำลังใจให้นะคับ น้องตั้ม น้องเอก

อยากบอกว่า คนใต้ก้อต้องรักคนใต้นะ

พี่ก้อคนใต้ เปนคนสงขลาคับ

แล้วจะแวะมาใหม่คับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 18 มิถุนายน 2552 เวลา 17.26 น.
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 21-06-2009 08:55:57
“ตั้ม  ตื่นได้แล้ว”  ผมปลุกตั้มในเช้าวันสุดท้ายของปี  เพราทุกคนได้มานั่งรอที่บ้านกันเกือบครบทุกคนแล้ว  และกำลังจะออกเดินทางเพื่อไปซื้อวัตถุดิบที่จะนำมาทำเป็นอาหาร
“อือ  ขอนอนอีกนี๊ดน๊า  ยังสบายอยู่เลย”
“ตื่นได้แล้ว  เพื่อนมากันเต็มหมดแล้ว” 
“อือ  ให้มันนั่งรอไปก่อน” 
“ไม่ตื่นใช่ไหม”  พูดจบผมก็ดึงขาตั้ม  แล้วลากลงมาจากที่นอน
“อ๊กกกกก  ไอเอกปล่อยกู  โอ๊ยยยย”  และตั้มก็สลบไปหลังจากหัวกระแทรกกับพื้นจนเสียงดังสนั่นห้อง
“เห้ย  ตั้ม  เป็นไร  ตั้มได้ยินไหม  ไม่เล่นนะ”  ผมเข้าไปดูว่าตั้มเป็นอะไรมากไหม  แต่แล้วตั้มก็พลิกตัวแล้วขึ้นค่อมตัวผม
“กูเจ็บนะมึง  จะชดใช้ให้กูยังไง”  ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ส่งยิ้มไปให้  แล้วตั้มก็มองดูท่าทางจะอึ้งๆ จนผมงงว่าเกิดอะไรขึ้น  แล้วตั้มก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเลย  ปล่อยให้ผมบืนงงอยู่อย่างนั้น
“มึงอย่าไปยิ้มแบบนี้ให้ใครเห็นอีกนะ  เดี่ยวได้โดนฉุดหรอก”  ตั้มโผล่หน้ามาจากห้องน้ำ  ตอนที่พูดกับผม
“ไอบ้า” 
   ผมลงมาข้างล่างเพื่อมานั่งคิดเมนูอาหาร  และจดรายการอาหารที่ต้องซื้อ  ซึ่งเมื่อได้รายการที่ต้องการแล้วเราก็จะประเมณราคากันอย่างคร่าวๆ  ก่อนจะลงขันกัน  และไม่นานคุณชายก็เดินลงมาจากบนห้องและตามความคาดหมายของทุกคน  ตั้มเริ่มที่จะพูดจาแขวะใส่ทุกคนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“ขอโทษนะครับ  มาหาใครมิทราบ  วันนี้บ้านผมไม่รับแขกนะครับ  เชิญกลับได้เลย”
“ไงมึง  กว่าจะเสด็จลงมาได้  แมร่งพวกกูรอตั้งนาน”  เบียร์เริ่มที่จะบ่นใส่ตั้มก่อนใครเพื่อน
“มากันนานแล้วหรอ   แล้วมาบ้านกูพวกมึงขออนุญาตใครยัง”  ตั้มเดินเข้าไปในครัวคงจะไปชงกาแฟ  ผมเลยเดินตามเข้าไปแล้วจัดการชงให้ตั้ม  ตั้มก็นั่งรอผมบนซิงค์ข้างๆกับที่ผมยืนชงกาแฟอยู่  แต่ก็ยังตะโกนแหกปากเพื่อสนทนากับทุกคนอยู่
“เชี่ย !!!  งั้นเรากลับ”  โมเดินตามเข้ามาแล้วยืนกอดอกหน้าประตูห้องครัวแล้วพูดกับตั้ม  ผมก็หันไปยิ้มกับโม
“กลับเลยนะ  ใครออกไปวันนี้ขาดกัน” 
“เออ  ทีใครทีมัน”  โมยืนชี้หน้าตั้มพร้อมกับพูดออกมา  ก่อนจะเดินจากไป
“ขอบคุณครับ  น่ารักนะมึงใครได้เป็นแฟนคงน่าอิจฉาใครต  หน้าตาก็น่ารัก  แล้วยังเอาใจเก่ง”  ตั้มพูดกับผมในครัว  ให้ได้ยินกันสองคน
“น่ารัก  แล้วรักได้เปล่าล่ะ”  ผมย้อนถามตั้ม  แต่ตั้มไม่ตอบอะไร   ยักไหล่ให้ผมแล้วก็เดินออกไปคุยกับเพื่อนๆต่อ
“แล้วทำไมมากันแต่เช้าว่ะ  กูจัดงานตอนเย็นนะโว้ย” ตั้มถามทุกคน
“มึงจะจัดงานทั้งที  แต่ไม่ซื้อของมาแดกเลยหรอ” อาร์มเลิกสนใจรายการในโทรทัศน์หันมาพูดกับตั้ม 
“ก็เดี่ยวโทรสั่งก็ได้  หรือไม่ก็ไปซื้อสำเร็จรูปเอา”
“เปลืองตังค์ว่ะมึง  มึงก็เห็นว่าแค่นี้ก็แปดคนแล้ว  แล้วถ้าพวกพี่ๆเค้ามากอีก  มันก็เยอะคนอยู่น๊า  ซื้อมาทำเองดีกว่า  ประหยัดเงินได้เยอะ”
“เอองั้นมาลงขันกันเลยมา  เอามาคนพัน” 
“เห้ยพันหนึงเลยหรอ  มากไปป่าวว่ะ” 
“เออ  เยอะไปป่าวว่ะมึง จะแดกอะไรกันนักกันหนา” เจษหันมาสนับสนุนกับความเห็นของอาร์ม
“เชี่ยดิ  อย่าบ่น  ทีมึงเอาไปเลี้ยงสาวๆมากกว่านี้  มึงไม่เห็นจะเคยบ่น”  ตั้มตรอกกลับใส่ทุกคน  จนไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก  ต่างก็เอาเงินออกจากกระเป๋าสตางค์แล้วว่างไว้บนโต๊ะ  และผมก็กำลังจะเอาออกมาจ่ายเหมือนกัน  แต่โดนตั้มเอามือมาปัด
“อะนี้  ของกูกับไอเอก  กูให้ 3 พันเลย  ในฐานะเป็นเจ้าของสถานที่  หยุดเลยนะมึง  ถ้าขืนพูดมากกูเอาคืนจริงๆ” ตั้มรีบชิงโมพูด  เพราะโมกำลังจะพูดอะไรออกมาแต่โดนตั้มดักทางไว้ก่อน  โมเลยไม่ได้พูดอะไรออกมา
   จากนั้นเราก็พากันไปเดินห้างสรรพสินค้าและตามร้านต่างๆ  รวมไปถึงตลาดสดเพื่อจะเลือกซื้อของ  หลังจากได้ของเสร็จแล้วพวกผมก็กลับมาถึงบ้าน  ก็เจอพี่บิ๊กกับพี่เดียร์มานั่งรออยู่หน้าบ้าน  เราแบ่งหน้าที่กันออกไปตามความถนัดของแต่ละคน  ผมอาสาที่จะเข้าครัว  จะบอกว่าอาสาก็คงไม่ได้เพราะผมโดนบังคับมากกว่า  เพราะองค์ชายบอกว่ายังไม่อยากตายด้วยรสอาหารที่ไม่ได้โมทำ  จากนั้นสองคนนั้นก็เริ่มที่จะลับฝีปากกันอีกรอบ   ส่วนคนที่เหลือก็ไปจัดสถานที่ยกเครื่องเสียงออกมาจากห้องตั้ม  ยกโต๊ะเก้าอี้มาเพิ่ม  ประดับสายรุ้งให้เข้ากับบรรยากาศปีใหม่  ออกมาตกแต่งสร้างบรรยากาศให้เข้ากับงานในสวนข้างบ้าน ตกเย็นพี่ปิง พี่เต้ และพี่เอฟก็ตามมาสมทบกันที่บ้าน  และงานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น
   ตลอดเวลาตั้มจะโดนพี่เอฟตามเอาอกเอาใจตลอด  ผมไม่สามารถแทรกเข้าไปได้  อาจจะเป็นเพราะผมไม่อยากเข้าไปทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงต้องกร่อยลง  เพราะผมไม่สามารถเดาอารมณ์ของตั้มได้ว่า  ถ้าผมเข้าไปทำตัวยุ่มย่ามกับตั้มแล้ว  ตั้มจะชอบใจหรือเปล่า   ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะคอยบริการตั้มหรอกน่ะ  ผมอยากเสนอตัวเลยมากกว่า  แต่ในเมื่อมีคนทำหน้าที่นั้นแล้ว  ผมก็ขอมองดูอยู่ห่างๆก็แล้วกัน  จนมาถึงวินาทีสำคัญของคืนนั้น  โมก็เรียกพวกผมมารวมกัน  แล้วเรื่มนับถอยหลัง
10....9....8......7.......6
5.....
4....
3......
2......
1.....
“สวัสดีปีใหม่”  ผมไม่รู้ว่าใครจะทำแบบที่พวกผมทำกันหรือไหม  แต่พวกผมมักจะทำแบบนี้กันนั้นคือ  เรารุ่นน้องทุกคน  จะยกมือไหว้และรับพรจากรุ่นพี่กัน  แล้วจากนั้นผมก็เดินเลี่ยงออกมาจากกลุ่มคนเพื่อจะโทรหาพ่อกับแม่ของผม   และพ่อกับแม่ของตั้ม  เพื่อจะสวัสดีปีใหม่  และขอพรจากท่านทั้งสี่คน  หลังจากได้พรครบจากทุกคนแล้ว  ผมก็เดินกลับมาก็เจอว่าทุกคนกำลังยืนตะโกนอะไรกันอยู่  ผมก็เลยตามเข้าไปสมทบ  คำที่ทุกคนตะโกนออกมาก็จะแตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็น

“ปีใหม่นี้  ขอให้เบียร์รักโมคนเดียววววว”  อันนี้ของโม
“ขอให้โมรักเบียร์คนเดี่ยวเหมือนกานนนนน”  และเบียร์ก็ตะโกนตามออกไปติดถึง  เหมือนกับเป็นการเอาใจโมไปด้วย  เลยส่งผลให้ผู้ถูกกล่าวถึง  ถึงกับอายหน้าแดงม้วนตัวไปหลายตลบ  ผมเห็นว่าน่าสนุกดีเลยตะโกนตามไป
“ขอให้คนที่ผมรัก  รับรักผมด้วย” เมื่อผมตะโกนจบทุกคนก็พร้อมกันเงียบ  ผมมองหน้าทุกคนก็พบว่าพี่เอฟจ้องมาทางผมอย่างรู้ทันว่าผมหมายถึงใคร  และพี่เอฟเองก็คงไม่อยากแพ้ผม  ถึงไดเตะโกนออกไปว่า
“ขอให้น้องตั้มรักโผ้มมมมม” 
   ทุกคำพูดของแต่ละคนก็ทยอยกันออกมาด้วยการตะโกนจนเหลือตั้มเพียงคนเดียว  และทุกคนก็คะยั้นคะยอให้ตั้มทำตามเพื่อนทุกคน  จนตั้มใจอ่อนและตะโกนออกมา
“ขอให้ปีนี้  เรทติ้งกูไม่ตกกกกก”  ผมถึงกับสำลักน้ำออกมา  หลังจากได้ยินที่ตั้มตะโกน  และทุกคนก็คงเป็นเหมือนผมเพราะดูท่าทาแต่ละคนจะอึ้งๆ  และหน้าเหวอไปตามๆกัน
“พวกมึงจะตกใจไปถึงไหนว่ะ  เอ้า  ชนๆๆๆๆๆ  ไม่หมดไม่เลิก”
“ไม่หมดไม่เลิก  ชนนนนน” 
   งานเลี้ยงฉลองก็ดำเนินไปเรื่อยๆ  บางคนก็มึนเมาจนไม่ไหวพากันขึ้นไปนอน  บางคนก็ฟุบหลับบนโต๊ะเอาดื้อๆ  ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้ดื่มของมึนเมาเพราะผมคิดว่าคืนนี้คุณชายต้องเมาหนักเป็นแน่แท้  ถ้าหากผมเมาไม่ได้สติไปอีกคนก็จะไม่มีใครคอยดูแลตั้ม  เพราะถึงจะเมาแต่ถ้าไม่ได้อาบน้ำหรือเช็ดตัวคุณชายก็จะนอนไม่หลับกะสับกะส่ายทั้งคืนเป็นแน่แท้  แต่ถึงผมจะไม่ดื่มผมก็ยังสามารถนั่งร่วมวงกับทุกคนได้  คอยช่วยหยับโน้นจับนี้ไปตามเรื่องตามราว  ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นพี่เอฟก็ถามคำถามที่ผมเองก็สงสัยอยู่เป็นนัยๆ

“พี่ขอถามตรงๆนะ  น้องตั้มกับออม  ตกลงเป็นอะไรกัน” ตั้มหันไปทางโมและเบียร์และสองคนนั้นก็พร้อมใจกันส่ายหน้า  ผมคิดว่าสามคนนี้ต้องมีอะไรที่กำลังปิดบังทุกคนอยู่  แต่เป็นอะไรนั้นก็ยากเกินกว่าที่จะเดาได้  เอาไว้ค่อยถามวันหลังก็ได้
“ก็แฟนกันไงครับ   ถามทำไมหรอพี่”
“เป็นแฟน  แต่ไม่อยู่ด้วยกันเนี๊ยนะ”
“ก็ตัวไม่ได้ติดกันนี้ครับ  อีกอย่างพี่ออมไปต่างจังหวัดกับ.....” 
“แต่เมื่อตอนเที่ยงพี่เห็นออมไปดูหนังกับไอเกมส์เพื่อนพี่”
“เออ.....”  ตั้มอ้ำอึ้งไม่พูดอะไรออกมา  เบียร์ทนเห็นตั้มจนตรอกไม่ไหวจึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วย
“พี่คงจำผิดคนมั้งครับ  อาจจะไม่ใช่พี่ออมก็ได้ที่ไปกับเพื่อนพี่”  แต่เหมือนพี่เอฟจะดักทางได้  จึงพูดสวนออกไปอีกครั้ง
“แต่พี่ว่าไม่น่าจะผิดนะ  เพราะพี่เดินเข้าไปทักทั้งสองคนด้วย  แล้วอีกอย่าง   พี่ก็เจอออมอยู่กับไอเกมส์หลายครั้งแล้วด้วย”
“เออ  คือ.......”   คราวนี้ไม่มีใครสามารถช่วยพูดแก้ต่างให้กับตั้มได้  ทุกคนหันหน้าไปมา  เพื่อจะให้ช่วยกันพูดแต่ก็ไม่มีใครออกความเห็นคงต้องให้ตั้มไขข้อข้องใจเอาเอง

“ไม่เอาน๊ามึง  เรื่องของน้องเค้า  เราคนนอกจะเข้าไปยุ่งทำไม”  พี่ปิงคงเห็นน้องรักอย่างตั้มกลืนไม่เข้า  คลายไม่ออกเลยยื่นมือเข้ามาช่วย
“เอก  ย่างกุ้งให้หน่อยดิ  อยากกิน  ปลอกมาให้ด้วยนะ”  ตั้มส่งยิ้มมาให้ผมพร้อมกับยื่นจานมาให้  ผมก็ส่งยิ้มกลับไปให้  แต่สายตาผมก็ลอบเห็นว่าพี่เอฟกับพี่ปิงมองมาทางผมด้วย  และยังมีพี่เต้คอยมองผมกับพี่ปิงสลับไปมา  ผมเริ่ทรู้สึกไม่ดีกับบรรยากาศแบบนี้  ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่เตาย่างทันที 

“พี่ช่วยนะครับน้องเอก”  พี่ปิงมายืนข้างๆผม  และพูดกับผม
“ไม่เป็นไรครับ  ผมทำเองได้  พี่ปิงไปนั่งกินต่อดีกว่าทางนี้ผมจัดการเอง”
“แต่พี่อยากช่วย    นะครับให้พี่ช่วยนะ”  พี่ปิงไม่พูดเปล่าแต่ดึงจานกับที่คีบไปจากมือผม แต่ก็โดนผมกระชากกลับมาพร้อมตะคอกเสียงดังใส่พี่ปิงไปจนผมเองอดตกใจกับอากัปกิรินาของตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
“ผมบอกแล้วไง  ผมทำเองได้  เออ.....เอกขอโทษครับ  เอกไม่ได้ตั้งใจ  เพียงแค่ไม่อยากรบกวนพี่ปิง”
“พี่เข้าใจครับน้องเอก  ว่าพี่ไม่ได้สำหลักสำคัญสำหรับน้องเอก  พี่แค่อยากจะพูดคุย  อยากไปไหนมาไหน  ไปเที่ยวด้วยกันกับน้องเอกเหมือนเดิม  แต่พี่คงขอมากไป  พี่เข้าใจครับ”  พี่ปิงพูดด้วยเสียงเศร้าสร้อมและน่าตาพี่ปิงก็แสดงออกมาอย่างที่พูดจริงๆไม่ว่าจะน้ำเสียง หรือแววตา
“พี่ปิงก็มีคนที่เขารักพี่อยู่แล้ว  พี่ก็น่าจะพอใจนี่ครับ  อีกอย่างเอกก็ไม่อยากมีปัญหาผิดใจกับพี่เต้ด้วย  ไม่อยากขึ้นชื่อว่าไปแย่งคนรักคนอื่นมาและทำให้เขาสองคนต้องแตกแยกกัน”
“แต่ถ้าน้องเอกต้องการที่จะกลับมาคบกับพี่  พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ให้ใครมาครหาน้องเอกได้  พี่สัญญา”
“พี่ปิงพูดแบบนี้ได้ยังไง  ถ้าพี่เต้มาได้ยินพี่จะรู้สึกยังไง  พี่ไม่รกเขาหรือไง  เขาเป็นคนดีรักพี่จริง  ทำไมพี่ถึงคิดแบบนี้กับคนที่รักพี่ได้”  ผมรู้สึกโกรธแค้นแทนพี่เต้  ที่พี่ปิงพูดแบบนั้นออกมา  ผมได้ยินเองยังไม่สบายใจ  แล้วถ้าพี่เต้มาได้ยินละจะเสียใจ เจ็บปวดรวดร้าวชนาดไหน
“แล้วคนที่รักน้องเอกล่ะจะรู้สึกยังไง  เมื่อได้ยินน้องเอกพูดตัดสัมพันธ์กัน  น้องเอกเคยคิดถึงจิตใจพี่บ้างหรือเปล่าว่าพี่จะรู้สึกยังไงเมื่อครั้งที่น้องเอกบอกเลิกลากับพี่  พี่ต้องเป็นฝ่ายทนทุกข์ทรมานขนาดไหนน้องเอกเคยสนใจบ้างหรือเปล่า  น้องเอกใจร้ายกับพี่มากเลย  น้องเอกรู้ตัวบ้างไหม”  พี่ปิงต่อว่าต่อขานผมเสียยาวมันทำให้ผมรู้สึกผิดด้วยเช่นกัน  แต่เพื่อให้พี่ปิงตัดผมออกไปจากใจได้  ผมต้องยอมเป็นผู้ร้ายในสายตาพี่ปิง
“เอกเป็นคนแบบนี้  เห็นแก่ความสุขส่วนตัว  เพื่อความสุขของตัวเองเอกพร้อมทำได้ทุกอย่าง  เอกเป็นคนแบบนี้พี่ยังจะรักเอกหรือเปล่า”
“ถ้ามันคือน้องเอก  พี่ก็พร้อมที่จะรับและศึกษาเรียนรู้ไปด้วยกัน  เพียงแค่น้องเอกกลับมาหาพี่นะครับ  พี่ขอร้อง”
“พี่ปิงอย่ามาทำโง่ใส่เอกเลย  นี้ชีวิตจริงไม่ใช่นิยายที่ใครสักคนพร้อมจะรับทุกอย่างที่ดีและไม่ดีของอีกคน  และเผชิญสู่วันข้างหน้าถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันจะไปในทางที่ดีหรือเลวยังไง  เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตคู่กัน  พี่อย่าคิดถึงเอกอีกเลย  พี่ควรเอาเวลาที่พยายามจะคืนดีกับผมไปเอาเอกเอาใจดูแลแฟนพี่ดีกว่า”  ผมพูดอย่างเหลืออด  เพราะไม่ว่าผมจะพูดยังไงพี่ปิงก็ยังไม่ยอมที่จะถอยออกไป
“น้องเอกบอกพี่สักคำซิครับว่าทำไมน้องเอกถึงกลับมาหาพี่ไม่ได้”
“ง่ายๆเลยนะครับพี่ปิง  ผมไม่เคยรักพี่  และไม่เคยคิดที่จะรัก   ที่ผมทนคบกับพี่เพราะผมไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธและทำร้ายความรู้สึกดีๆที่พี่มอบให้  แต่พอมาถึงจุดหนึ่งผมก็รับมันไม่ไหวผมเลยต้องตัดสินใจที่จะเลิกกับพี่  และอีกเหตุผลที่สำคัญนั้นก็คือ  ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว  รักมาตลอดเวลาก่อนที่ผมจะคบกับพี่  ผมคิดจะใช้พี่เป็นเครื่องมือเพื่อจะให้ผมสามารถลืมคนนั้นได้  แต่มันก็เปล่าเลย   มันเหมือนเป็นเครื่องตอกย้ำว่าผมรักคนๆนั้นมากขนาดไหน  เป็นไงครับ  ผมเลวพอที่พี่จะลืมผมได้หรือยัง”
“น้องเอกคิดแบบนี้กับพี่ตลอดเวลาเลยหรือครับ  พี่เสียใจว่ะ  พี่เจ็บพี่ปวด  แต่พี่ทนได้ถ้าบาดแผลนี้มาจากคนที่พี่รัก  พี่ยอมแล้ว  พี่แพ้แล้วครับ  ต่อไปพี่จะเลิกมาตอแยกับน้องเอกเลิกวุ่นวาย  แต่ถ้าน้องเอกมีปัญหาอะไรที่พอจะให้พี่ชายคนนี้ช่วย  พี่ก็พร้อมและเต็มใจที่จะช่วยนะครับ”  ผมรู้สึกว่าพี่ปิงกำลังใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการพูดประโยคนี้กับผม  ผมเกือบจะเห็นใจและสงสารพี่ปิงแล้วยอมกลับไปคบกับพี่ปิง  แต่ผมก็ต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้  ไม่ใช่เพราะตัวผมเองเท่านั้น  เพื่อตัวพี่ปิงเองและคนที่รักพี่ปิงอีกด้วย



กลับมาแล้ว  กลับมาด้วยใจคิดถึง  ที่มาลงตอนนี้ให้  เพราะเป็นอีกตอนที่เอกเขียนแล้วผมรู้สึกชอบครับ  ผมว่าผมเริ่มที่จะเขียนก่อนเอก  แต่ทำไมวิธีการเขียนมันถึงได้แซงหน้าผมไปแล้วอ่า  แต่ถึงยังไงผมก็ชอบนะครับ  อ่านวันละหลายๆรอบด้วย  เพราะคิดถึงคนเขียนมากมาย  แต่ไม่เป็นไร  เด่ววันศุกร์นี้ก็จะเจอกันแล้ว 

ปล.คิดถึงและห่วงใยทุกคนนะครับ  แล้วทุกคนละครับคิดถึงผมบ้างไหม  สำหรับคนที่ไม่คิดถึงผม  จงระลึกไว้ว่าผมคิดถึงคุณตลอด  หึหึ 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 21-06-2009 11:41:17
^
^

จิ้มๆๆๆลุงตั้ม :z13:
คิดถึงลุงตั้มค่า เป็นห่วงมากๆด้วย

ว่าแต่ตอนล่าสุดนี้ยาวดีจัง
พี่เอกใกล้จิสมหวังแล้ว :m18:
แอบสงสารพี่เต้ พี่ปิงบ้าคบกะพี่เต้อยู่ยังมาพูดงี้กะพี่เอกอีก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 21-06-2009 12:01:32
ยิ่งอ่าน ยิ่งรู้สึก สงสาร พี่ปิง  น้องเอก  อ่อ พี่เต้ด้วย
รักสามเศร้ามากๆ   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 21-06-2009 12:53:40
คิดถึง แต่ มี๊เอก คนเดียวววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: rero ที่ 21-06-2009 13:38:33
ยังตามอ่าน
และคิดถึงเช่นกันน๊า :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 21-06-2009 13:43:30
ดูท่าน้องตั้มจะหายจิตตกแล้วสินะ แถมศุกร์นี้ยังจะได้เจอหวานใจแล้วด้วย  :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 21-06-2009 23:23:16
คิดถึงและห่วงใย เช่นกัน
 :กอด1: เอก   :กอด1: ตั้ม
เพราะ...เอก-ตั้ม...นั้นคู่กัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 22-06-2009 03:21:52
ขอบคุณน้องตั้มที่คิดถึงกันและมาลงเรื่องให้นะจ๊ะ
ไม่ว่าตอนนี้เป็นยังไงแต่ขอให้ผ่านทุกช่วงเวลาไปได้ด้วยดีนะ
ขอบคุณน้องเอกด้วยที่เล่าเรื่องไ้ด้อย่างชัดเจน
ถึงแม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน
แต่อ่านคนละมุม ก็ได้อรรถรสคนละแบบจริงๆ
บวก 1 แต้มให้ทั้งน้องเอกและน้องตั้มจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 22-06-2009 20:12:33
อ่านตอนนี้ที่น้องเอกเขียน

รักเดียวใจเดียวมั่นคงจริงๆ

 :กอด1: เอก&ตั้ม รักกันนานๆตลอดไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 22-06-2009 23:13:59
+1   ก่อนนะคร้าบ

อ่านกี่ทีก็ชอบ  ผมรักพวกคุณสองคนจังเลยละคร้าบ

เฮ้อ  ความเข้าใจมันยากจะบอกว่าเราเข้าใจกันได้อย่างไร

แต่เราก้เข้าใจโดยม่ายมีเหตุผลเนอะ


รักกันนานนานๆๆๆๆๆๆๆๆให้พวกผมอิจฉาไปเลยนะคร้าบ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 23-06-2009 09:31:59
เป็นกำลังใจให้ตั้มนะครับ..


ทำใจให้สบาย..แล้วก็มองรอบๆ..

ที่ที่มีความรักให้กับเรา..
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 23-06-2009 20:35:19
 :กอด1:...อารมณ์ดีแล้ว..ที่รักจะมาวันศุกร์..เนอะคนเรา..
...น้องเอก ก็คงคอนเสป...รักเดียวใจเดียว..น่าภูมิใจชะมัดแฟนใครหว่า.. :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 23-06-2009 21:39:22
น้องเอกน่ารักจริงๆๆ
มีมุมความคิดที่แปลกดี
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 24-06-2009 01:48:49
กลับมาแล้ว  กลับมาด้วยใจคิดถึง  ที่มาลงตอนนี้ให้  เพราะเป็นอีกตอนที่เอกเขียนแล้วผมรู้สึกชอบครับ  ผมว่าผมเริ่มที่จะเขียนก่อนเอก  แต่ทำไมวิธีการเขียนมันถึงได้แซงหน้าผมไปแล้วอ่า  แต่ถึงยังไงผมก็ชอบนะครับ  อ่านวันละหลายๆรอบด้วย  เพราะคิดถึงคนเขียนมากมาย  แต่ไม่เป็นไร  เด่ววันศุกร์นี้ก็จะเจอกันแล้ว 
ปล.คิดถึงและห่วงใยทุกคนนะครับ  แล้วทุกคนละครับคิดถึงผมบ้างไหม  สำหรับคนที่ไม่คิดถึงผม  จงระลึกไว้ว่าผมคิดถึงคุณตลอด  หึหึ   

ใครว่าทุกคนไม่คิดถึงตั้มละจ๊ะ คนที่อ่านเรื่องราวของตั้มเกือบทุกคนเค้าก็เป็นกำลังใจให้ตั้มทั้งนั้นแหละ  อ้ายพวกเสียงนกเสียงกาก็ไม่ต้องไปสนจายมัน  อย่าเก็บมาเป็นสาระ  แล้วอีกอย่างเราก็กำลังจะบวชเพื่อทดแทนคุณให้กับผู้มีพระคุณ ตอนนี้ ตั้มก็ต้องตั้งสติให้ดีๆ นะ   ทำใจให้สงบ สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   

ปล. อนุโมทนาสาธุอีกที  :call: :call: :call: :call:   
ปล.2  เออ แล้วจะได้อ่านทั้ง 2 เรื่องต่อเมื่อไหร่เนี่ย บวชกี่วันหว่า  :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Gu_Ton_Za ที่ 24-06-2009 20:57:36
 :กอด1: เอกอ อ่ะ ก้าบ

น่า สง สาร อ่ะ

ต้อง ยอม รับ ว่า เอก เป็น คน ที่ อด ทน มาก เลย อ่ะ

ไป อ่าน มา แล้ว ทั้ง ของ ตั้ม ของ เอก อ่ะ

ตั้ม เนี่ย สุดๆ เลย อ่ะ

แต่ ก็ เข้า ใจ ความ รุ้ สึก ตั้ม นะ

ไง ก็ ขอ ให้ รัก กัน นาน นะ ก้าบ

มี ปัญ หา ไร ก้ ขอ ให้ คิด ถึง ตอน ที่ รัก กัน อ่ะ

กว่า จะ รัก กัน ได้ ต้อง ผ่าน อุป สรรค ไร มา บ้าง อ่ะ

แต่ ชอบ เอก มาก มาย อิ อิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 27-06-2009 09:02:11
 :L2: คิดถึงทั้งสองคนอ่ะ..

วันนี้ก็วันเสาร์ละ

เอกเข้ามาทักทายเพื่อนๆหน่อยจิ

แล้วก็เอาเรื่องมาต่อด้วยนะ  o18
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 29-06-2009 23:34:28
เข้ามารอเอกน่ะครับ
คิดถึงจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 03-07-2009 10:32:42
สงสัยจะงานยุ่ง...

มาส่งข่าวหน่อยเด้อ..

รวมถึงข่าวคราวของเจ้าของอีกเรื่องด้วย...

 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 04-07-2009 19:19:49
มาดันทู้ รอน้องเอก  กะน้องตั้ม 
(อยู่วัดก็นั่งสมาธิสงบจิตสงบใจเน้อ )
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 04-07-2009 19:26:46
รอน้องเอกอยู่นะคะ
หรือว่ากำลังยุ่งงานบวชคุณชาย
มาแจ้งข่าวด้วยนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 05-07-2009 09:33:07
ไม่ได้เข้ามาอ่านซะนานมากมาย
สบายดีใช่มะ พี่ตั้มพี่เอก
บางที เวลาบอกเลิกใครจริงๆ มันก็ต้องใจแข็งแบบนี้แล่ะนะ
อย่าปล่อยให้มันนานวัน มันจะยิ่งเรื้อรังกับอีกฝ่ายที่บอกเลิก
พอถึงเวลาที่มันนานเกิน เพิ่งไปบอกเนี่ย  คนๆ นั้นจะเสียใจมากมาย


คิดถึงพี่ตั้ม กะ พี่เอกก้ะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 06-07-2009 00:56:41
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทั้งสองคนด้วยนะคะ

ทั้งคุณเอกและคุณตั้มเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 19-07-2009 12:14:19
ดันทู้ตกไปหน้า2แย้ว

น้องเอกหายไปไหน

ส่งข่าวด้วย   :3123:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 19-07-2009 15:05:04
 :z2: :z2: :z2: :z2:  มะไหร่จะมาหว่า รออยู่เน้อ  o13 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Gu_Ton_Za ที่ 21-07-2009 18:05:16
มาดันก้าบ

 :call:

 :call:

 :call:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ever-never ที่ 21-07-2009 19:57:49
หายไปนาน แล้วนะ เมื่อไรจะมาซะทีอ่ะ :call:
วันนี้ก็ครบ 1 เดือนแล้วนะคับ  ที่หายไป  หายไปไหน???
ขอชม พี่เอกว่า เขียนได้่ดีกว่า พี่ตั้ม อ่ะ ฮุฮุ

พี่ตั้มเขียนสนุก  แต่พี่เอกเขียน กระชากอารมณ์ได้มากกว่า
แต่ว่า พี่ตั้มก็เขียนผิด  น้อยกว่าพี่เอกนะ  อย่าน้อยใจไป

แล้วภาค2 ของพี่ตั้มล่ะคับ  เมื่อไรจะมาซะที  
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: Markkii~Mewon ที่ 22-07-2009 22:34:40
อ่า เจอ พี่ Gu_Ton_Za  อีกแล้ว น้า


๕๕๕ ว่างๆมาทักกันบ้างนะคะ ซิกเนเหมือนกัน กร๊ากๆ ได้ไง?
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: krataikids ที่ 01-08-2009 23:23:04
 :seng2ped:

มะไหร่จะมาต่อละค่ะเอก

รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ

หรือตั้มไม่ยอมให้มาลงเนี่ยะ   :oo1:

หรือเตรียมงานบวชกันอยู่จ๊ะ

คิดถึงนะ ทั้ง 2 คนเลย (ต้องบอกทั้ง 2 คน เด๋วตั้มจะงอน)

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: kirafd ที่ 04-08-2009 22:01:47
มาช่วยดัน รออีกคนคาบบบบ


หายเงียบกันไปแบบนี้แสดงว่าบวชกานจริงๆ


ยังไงก็อนุโมทนาด้วยนะคราบบน้องเอกน้องตั้ม


 :call:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 09-08-2009 22:59:53
ดัน มั่ง ๆๆๆ
รอ ทั้ง2 คน
 :oo1:
 :oo1:
 :oo1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: pay-it-forward ที่ 12-08-2009 14:16:21
ตามมาอ่านจากเรื่องน้องตั้ม
มาต่อไวๆนะคะน้องเอก
 :กอด1:เอก+ตั้ม
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: chompy_rainbow ที่ 28-08-2009 08:57:13
มารออยู่นะคะ

มาต่อไวๆนะพี่เอก

 :กอด1: พี่เอก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 02-09-2009 00:57:15
เอกกั๊บ มาต่อ เหอะนะๆๆๆๆๆๆ  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-09-2009 21:20:00
เพิ่งเคยมาอ่านเรื่องของทั้งสองคนค่ะ :o12:

งื้อ เศร้าจิงจังมากเลยอ่า แง้ๆๆๆ

เป็นกำลังใจให้นะคะ แล้วจะรอตอนต่อไปค่า

ปอลอปูลู...อยู่ปีสี่ ไมงานมันเยอะเยี่ยงนี้เนี่ยยยย

แต่จะคอยตามข่าวเรื่อยๆเลยน๊า :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: arm32505 ที่ 10-09-2009 02:20:58
ผมเป็นน้องใหม่จอตามอ่านด้วยนะครับ สนุกดี  :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: arm32505 ที่ 10-09-2009 03:30:12
วันนี้ผมอ่านถึงตอนที่ 4 แล้วสนุกมากๆครับพี่เอก ไว้จะไปอ่านของพี่ตั้มนะครับ

ผมก็เคยรู้สึกอย่างที่พี่เอกบอกนะครับ ที่เราอยากรู้จักเค้า อยากรู้ว่าเป็นยังไง ชอบอะไรไม่ชอบอะไรอะไรทำนองนี้อะครับ ที่สำคัญคนๆนั้นของผมก็ชื่อเอกเหมือนกัน ไว้จะมาตามให้ทันนะครับ


 :pig4:  :call: :pig4: :call: :pig4: :call:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: arm32505 ที่ 10-09-2009 11:54:28
ช่วยด้วยค๊าบ จาอ่านของพี่ตั้มแต่หาไม่เจออะ ทามไงดี  :sad4:  :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: ever-never ที่ 16-09-2009 21:45:43
ตั้มกำลังจะกลับมาแล้ว   
แล้วเอกล่ะ  เมื่อไรจะกลับมาซะที   :call:  :call:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 13-10-2009 10:54:28
สวัสดีครับทุกคน   ยังจำกันได้หรือเปล่าครับ   ผมเอกเองครับ  คือก่อนหน้านี้ผมยุ่งๆวุ่นๆอยู่กับการเรียน   แต่ช่วงนี้ก็โอเคแล้วละครับ   ขอโทษด้วยที่หายไปนาน   จริงๆผมเคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาในนี้อีกแล้ว  ก็เลยฝากให้คุณชายช่วยลงเรื่องให้จนจบ  แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลงให้  ผมก็เข้าใจนะครับ  เพราะตั้มเองก็ยุ่งๆกับการเตรียมงาน  พอบวชไปแล้วก็เลยไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับโลกอินเตอร์เน็ตอีกเลย   อาทิตย์หน้า  ผมจะกลับลงไปแล้วละครับ  ตั้มก็คงจะสึกประมาณต้นๆเดือนหน้า และขอสัญญานะครับ  กลับไปถึงเมื่อไหร่จะลงเรื่องให้จบรวดเดียวเลย   ยังไงก็คิดถึงทุกคนนะครับ  กรุงเทพตอนนี้ฝนตกแทบทุกวัน   วันนี้ก็ตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเลย ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: panpan ที่ 13-10-2009 11:00:05
ขอบคุณสำหรับข่าวคราวครับ  ยังคิดถึงน้องสองคนอยุ๋ตลอดนะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 13-10-2009 11:04:29
โอ้ยๆๆ ดีใจมากกกกกกกกกกกก
ขอบคุณพี่เอกที่แวะมาส่งข่าวคราวนะคะ

คิดถึงพี่เอกกะพี่ตั้มมากกกกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 13-10-2009 11:16:00
...รอ ได้เสมอครับ
...เดินทางปลอดภัยครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 13-10-2009 11:34:26
คิดถึงนะคะ  น้องเอก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 13-10-2009 15:56:51
การี๊ดดด น้องเอกจะมาแล้ว
รอได้ค่า
ขอบคุณที่มาส่งข่าว
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-10-2009 16:40:28
เย้ๆๆๆ เอกจะกลับมาแว้ว
พอดีแวบไปอ่านพาร์ทตั้มจนจบแล้วด้วย
คริๆๆ รอจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 13-10-2009 16:53:55
นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้วววว
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 13-10-2009 21:13:55
ขอบคุณที่มาส่งข่าวนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 13-10-2009 21:42:57
รับทราบ

แล้วก็ตั้งตารอ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 13-10-2009 23:09:07
สวัสดีค่ะ น้องเอก

ดีใจจังที่น้องเอกเข้ามาส่งข่าวคราว
ไม่ลืมพี่น้องในเล้านี้ด้วย

รอได้นะคะ เอาให้ว่างๆ ก็แล้วกัน

เดินทางปลอดภัยนะคะ และรักษาสุขภาพด้วยเช่นกันนะคะ

มีความสุขมากๆ ในทุกวันนะคะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 14-10-2009 10:20:43
ขอบคุณที่มาส่งข่าวค่า

จะรอนะ

^_^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 14-10-2009 12:59:01
 :L2:..รับทราบจ้า พระยังไม่สึกเหรอ นึกว่าสึกแล้วเพราะออกพรรษาแล้ว..ยังไงก็รออ่านต่อไปจ้า   :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: a22a ที่ 15-10-2009 01:22:39
จะรออ่านตอนต่อไปคับ กำลังสนุกเลย :man1: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)+++ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 08.55 น.
เริ่มหัวข้อโดย: aotkung ที่ 15-10-2009 01:29:01
สวัสดีครับทุกคน   ยังจำกันได้หรือเปล่าครับ   ผมเอกเองครับ  คือก่อนหน้านี้ผมยุ่งๆวุ่นๆอยู่กับการเรียน   แต่ช่วงนี้ก็โอเคแล้วละครับ   ขอโทษด้วยที่หายไปนาน   จริงๆผมเคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาในนี้อีกแล้ว  ก็เลยฝากให้คุณชายช่วยลงเรื่องให้จนจบ  แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลงให้  ผมก็เข้าใจนะครับ  เพราะตั้มเองก็ยุ่งๆกับการเตรียมงาน  พอบวชไปแล้วก็เลยไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับโลกอินเตอร์เน็ตอีกเลย   อาทิตย์หน้า  ผมจะกลับลงไปแล้วละครับ  ตั้มก็คงจะสึกประมาณต้นๆเดือนหน้า และขอสัญญานะครับ  กลับไปถึงเมื่อไหร่จะลงเรื่องให้จบรวดเดียวเลย   ยังไงก็คิดถึงทุกคนนะครับ  กรุงเทพตอนนี้ฝนตกแทบทุกวัน   วันนี้ก็ตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเลย ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
นึกว่าจะไม่มาส่งข่าวคราวกันแล้ว
ดีใจมากๆเลยครับที่เอกมาส่งข่าวให้กันรู้
ยังไงก็จะรอนะครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 15-10-2009 03:18:57
ยังรออยู่เหมือนกันจ้า
ขอบคุณที่มาส่งข่าวนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 15-10-2009 05:58:33
เย้
พี่ตั้มจะรีเทิร์นแว้ว
แล้วจะรอการกลับมานะคะ  :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 15-10-2009 19:48:01
คิดถึงพี่เอกชะมัดเลย คิคิ




หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hipolymer ที่ 16-10-2009 00:34:33
เย้ๆๆๆ :mc4: พี่เอกมาแล้ว ดีใจจังที่มาส่งข่าว คิดถึงนะครับบบ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 19-10-2009 12:34:29
รอการกลับมาครับ..
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 19-10-2009 12:37:53
มารอน้องเอก กับ พระตั้ม (ใช่ปล่ะ)  :really2:
 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาส่งข่าวล่าสุด 13/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 19-10-2009 19:41:57
ขอบคุณที่มาส่งข่าวให้ทราบกันนะคะ
รอทั้งสองคนเลยค่ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 20-10-2009 08:59:34
   ผมกลับมานั่งที่โต๊ะตามเดิมแต่ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากในบ้าน  ผมกับเพื่อนๆเลยวิ่งไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น  ภาพที่ผมเห็นนั้นพี่ปิงกับตั้มกำลังต่อยกันอยู่  ตั้มนอนอยู่บนพื้นโดยมีพี่เต้นั่งค่อมกระชากคอเสื้อแล้วบรรเลงเพลงหมัดลงไป
“นี้มันเรื่องอะไร”  เบียร์ตะโกนเข้าไปในบ้าน
“มึงก็ถามเพื่อนมึงดู  ว่ามันทำอะไรกับแฟนกู”  พี่ปิงปล่อยตัวตั้มกลับไปกระชากแขนพี่เต้แล้วหันมาพูดกับพวกผม
“ผมว่าพี่กลับไปก่อนดีกว่า  ไปคุยกับแฟนพี่ให้รู้เรื่อง  แล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย”  ผมพูดออกไปบ้าง  ผมกับเพื่อนๆเริ่มงงแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น  ตั้มทำอะไร  พี่ปิงพี่เต้เข้ามาเกี่ยวอะไรด้วยแล้วทำไมต้องชกต่อยกันด้วย
“ปิงพี่ว่าเรากลับก่อนดีกว่า  มีอะไรเดี่ยวไปคุยกันที่บ้าน  น้องตั้มไม่ต้องห่วงนะครับ  เดี่ยวทางนี้พี่จัดการเอง  แล้วพี่ก็ขอโทษด้วยที่ทำให้เดือดร้อน”  พี่เต้ทั้งลากทั้งดึงพี่ปิงเพื่อจะพากลับบ้านแล้วหันไปคุยกับตั้ม
“ไม่เป็นไรพี่  แต่มีอะไรก็คุยกันให้หมด  อย่าให้ค้างคาใจกันอีก  เดี่ยวมันจะเกิดเรื่องแบบนี้อีก”  ตั้มตอบกลับไปแล้วเดินเช็ดเลือดที่ออกตามปากกับจมูกก่อนเดินมาสมทบกับพวกผม
“ตกลงมึงจะบอกกูได้ยังว่าเกิดอะไรขึ้น”   เบียร์ถามขึ้นหลังจากพี่เต้กับพี่ปิงกลับไปแล้ว
“เราขอโทษ  เพราะเราอีกแล้ว  นายถึงต้องเจ็บตัว”  ผมเป็นพวกชอบคิดไปเอง  และถ้าให้ผมเดาจากเหตุการณ์ที่มีพี่ปิง พี่เต้และตั้มเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  เรื่องนั้นก็น่าจะเกิดจากผมและผมก็รู้สึกเสียใจจริงๆที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
“มึงจะร้องไปทำซากอะไรว่ะ  เรื่องแค่นี้เอง”  ตั้มพูดพร้อมกับเอามือมาขยำที่ศีรษะของผม
“ไปๆ  ไปกินกันต่อ” 
     
       หลังจากนั้นเราก็กลับไปหาอะไรทานกันต่อ ผมเดินไปหยิบชุดปฐมพยาบาลมาและทำแผลให้ตั้ม  ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน  คืนนั้นก่อนนอนผมได้รับข้อความจากเพื่อนๆหลายคน  ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้อความสวัสดีปีใหม่  ผมก็ตอบกลับไปทุกคนนั้นแหละครับแต่ก็จะมีพิเศษไม่เหมือนใครก็คือ  ของคนที่ผมเม็มชื่อไว้ว่า  ‘คุณชาย’

ข้อความที่หนึ่ง   -------ปีใหม่นี้กูขอให้มึงอยู่กับกูตลอดไป 
ข้อความที่สอง  ------- ถ้ามึงยังน่ารักแบบนี้  กูว่าพรที่มึงขออาจจะเป็นจริงก็ได้

   เมื่อผมเปิดอ่านข้อความนี้ความรู้สึกแย่ๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็พลันมลายหายไปทันตา  ผมนอนยิ้มให้กับตัวเอง  อ่านข้อความซ้ำไปวนมาอยู่หลายรอบ  ตบหน้าตัวเองก็แล้ว  บิดเนื้อตัวเองก็แล้วเพื่อจะพิสูจน์ดูว่าผมไม่ได้ฝันไปและมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ 
   แต่แล้วสิ่งที่ผมคิดนั้นกลับต่างกันโดยสิ้นเชิงกับความเป็นจริงที่มันเป็นไป  มันเป็นเพราะตัวเราหรือว่าเป็นเพราะตัวนาย  นี้คือคำถามที่ผมมักจะยกขึ้นมาถามตัวเองอยู่เสมอเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น 

“เอก แข่งเสร็จแล้วนายไปไหนต่อหรือเปล่า  เรากะจะชวนนายไปช่วยเลือกของเราหน่อย”  กายเดินเข้ามานั่งข้างผมในห้องพักนักกีฬาก่อนการแข่งขัน
“เอาดิ  เราไม่ได้ไปไหน”  ผมตอบตกลงไปเพราะไม่ได้ติดธุระที่ไหนอยู่แล้ว  และอีกอย่างผมก็ไปช่วยเลือกของกายบ่อยอยู่แล้วด้วย  เพราะกายเป็นคนเลือกซื้อของไม่เป็น
“โอเค  แล้วเราค่อยโทรหาน่ะ”  จากนั้นผมก็วอร์มร่างกายเล็กน้อย  ก่อนจะไปวอร์มอีกครั้งในสนาม 

   การแข่งขันครั้งนี้ผมค่อนข้างจะจริงจังและตั้งใจมากหน่อย  เพราะผมตั้งใจไว้ว่าจะเล่นบาสปีนี้เป็นปีสุดท้าย  เพราะปีหน้าผมต้องการที่จะให้เวลากับการเรียนมากกว่าเดิมเพราะผมต้องการที่จะสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังของจังหวัดให้ได้  ในช่วงพักครึ่งตั้มจะเข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงนักกีฬาให้ผมคอยช่วยเสิร์ฟน้ำ ช่วยนวดคลายกล้ามเนื้อ  ตั้มสามารถเข้าออกภายในทีมของผมได้ตลอดเพราะตั้มมักจะมานั่งคอยผมซ้อมบาสอยู่เสมอจนสนิทกับโค้ช  มีอยู่ครั้งหนึ่งโค้ชเคยชวนตั้มเข้าทีมด้วย  เพราะเคยเห็นตั้มชู๊ตบาสและแม่นด้วย  และแม่นกว่าใครๆในทีมหลายคนรวมทั้งผมด้วย  แต่ตั้มปฏิเสธเพราะตั้มมีจุดอ่อนตรงการเลี้ยงลูก  แต่ผมคิดว่ามันเป็นข้ออ้าง  เพราะจริงๆแล้วตั้มขี้เกียจซ้อมมากกว่า

   หลังจากแข่งเสร็จผมก็กลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านของตั้ม  ไม่อยากจะอาบที่โรงยิมเพราะมันไม่สะดวกเอามากๆ  เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เจอแม่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟารับแขก  ผมเข้าไปทักทายแม่ของตั้มตามปกติแต่ก็จะมีบ้างที่อ้อนแม่จนออกนอกหน้านอกตาไปหน่อย  เพราะอยากจะแกล้งคุณชาย  คุณชายจะหวงแม่ตัวเองมากแม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่   เวลาอยู่นอกบ้านกับในบ้านตั้มจะเป็นคนละคนกันเลย  ไม่ใช่ทำไปเพื่อจะหลอกที่บ้านหือตบตาอะไรเหมือนกับสำนวนไทยที่ว่า  ต่อหน้าพระพลับ ลับหลังตะโก หรอกครับ  แต่ตั้มเป็นคนรักขอบครัวของตัวเองมากกว่าก็เลยปฏิบัติกับคนในบ้านดีกว่าข้างนอก

   ผมชอบเวลาแม่ลูกคู่นี้อยู่กันตามลำพังเพราะจะน่ารักทั้งแม่ทั้งลูกเลย  เพราะเวลาจะคุยกันสองคนนี้จะคุยหยอกล้อกับเหมือนเพื่อนกัน  แต่ก็พอจะรู้ว่าทั้งคู่รักและห่วงซึ่งกันและกัน

“เป็นไงบ้างลูกเหนื่อยมั้ย”  แม่พูดพร้อมกับอ้าแขนเพื่อรับตัวผมเข้าไปกอด  ผมก็เลยตามเข้าไปหาท่านเพื่อจะกอดท่านตอบ  แต่ก็โดนคุณชายตัดหน้าเข้าไปนอนหนุนตักแม่ตัวเอง  ก็เลยทำให้ผมกับแม่อ้าแขนเก้อ
“คร๊าบบ  เหนื่อยจังเลย” 
“อะไรเนี๊ย  ใครถามตัวเองมิทราบ  ขี้ตู่นักนะเดี่ยวนี้  ลูกเอกดูมัน  ดูมันทำ  คงกลัวว่าจะโดนแย่งแม่ละซิถึงมาอ้อนแบบนี้  ว่างัยละเรา  มาอ้อนจะเอาอะไรอีก”  แม่พูดพร้อมกับตีเข้าที่ต้นแขนของตั้ม  ผมก็ได้แต่ยืนยิ้มให้กับภาพที่เห็น
“ทำไมครับ  ลูกอ้อนแม่ตัวเองบ้างไม่ได้หรอ  หรือว่ารังเกียจ  ว่างัย”   ตั้มถามแม่ตัวเองและคำตอบที่ได้นั้นก็ทำให้ผมหัวเราะซะลั่นบ้านเลย
“รังเกียจ” 
“รังเกียจหรอ มีลูกชายน่ารักแบบนี้  ยังรังเกียจอีกมั้ย” ตั้มพูดพร้อมกับหอดแก้มแม่ซ้ายทีขวาที 
“ลูกเอกดูมันทำ  ดูมันทำ”  แม่เบ้ปากไปทางตั้มแล้วพูดกับผม  ผมก็ยิ่งนั่งหัวเราะไปหนักกว่าเดิมอีก
“นายยังอยู่อีกหรอ  ไปอาบน้ำได้แล้วไป  หิวแล้ว  อย่างเร็วเลย  อย่าช้า”  คุณชายคงเห็นว่าผมนั่งหัวเราะมากไปแล้วเลยไล่ให้ผมขึ้นไปอาบน้ำ  ผมก็ทำตามแต่ก็ไม่วายยังหัวเราะอีกจนโดนตั้มเขม็งตาใส่นั้นและผมจึงได้หยุด

   ผมเดินขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวบนห้องของตั้ม  เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็เดินลงมาข้างล่าง  แต่ยังไม่ทันลงมาถึงชั้นล่างดี  ผมก็ได้ยินตั้มพูดกับแม่และเรื่องที่สองคนนั้นพูดกันก็เลยทำให้ผมไม่กล้าออกไปก่อนเพราะกลัวจะไปขัดการสนทนาทั้งสองคน  ผมยอมรับว่าผมนิสัยไม่ดีที่แอบฟังคนอื่นคุยกัน  แต่ด้วยความที่ผมอยากรู้ว่าตั้มกำลังคิดอะไรและแม่จะคิดยังไงกับเรื่องที่ทั้งสองคนคุยกันผมก็เลยหยุดฟังทั้งสองคนอยู่ที่ขั้นบันได

 “ความรักเป็นสิ่งสวยงาม  ทำให้คนบนโลกมีกำลังใจที่จะยืนหยัดไปสู่วันพรุ่งนี้  ไม่ว่าจะชายหญิงทุกคนล้วนแต่อยากมีความรัก  ไม่เกี่ยวกับเพศหรอกลูก”  ผมลงมาก็ได้ยินถึงตอนนี้พอดี  ผมไม่รู้หรอกครับว่าก่อนหน้านี้คุยอะไรกัน (เพิ่งจะมารู้เอาตอนที่ตั้มเขียนถึงตอนนี้เหมือนกัน  เพราะก่อนหน้านี้ตั้มไม่เคยเล่าให้ผมฟังสักครั้งเดียวว่าเคยพูดเรื่องนี้กับแม่  และก็เช่นเดียวกันตั้มก็ไม่เคยรู้เลยเช่นกันว่าวันนั้นผมได้แอบฟังอยู่  แต่ตอนนี้ก็คงรู้อยู่แล้ว) 
“แล้วถ้าเกิดวันหนึง  ลูกของแม่เกิดรักผู้ชายด้วยกันแล้วแม่จะทำไง”  ผมถึงกับอ้าปากค้างเมื่อได้ยินประโยคนี้ออกจากปากตั้ม  ผมไม่คิดว่าตั้มจะกล้าเอาเรื่องนี้มาพูดกับที่บ้าน  แต่จะแปลกอะไรในเมื่อผมยังเคยพูดกับที่บ้านจะไปต่างกันตรงไหนกับการที่ตั้มจะพูดกับที่บ้านบ้าง  แต่ดูท่าทางแม่จะอึ้งๆไปนิดๆ  เพราะท่านเงียบไปอยู่นานเหมือนกัน  ผมไม่รู้เลยว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่  ทำหน้านังไงเพราะผมไม่กล้าที่จะโผล่หน้าออกไปมอง
“ถ้าเกิดวันนั้นมีจริง  แม่ก็เคารพการตัดสินใจของลูก  ถ้าเค้าเป็นคนดีจริงก็ไม่ได้เสียหายอะไรที่จะรักกัน  คิดให้ดีๆ  คิดให้มากๆ  ไม่ต้องรีบร้อนนะลูก  แม่เชื่อว่าลูกแม่มีเหตุผลมากพอ  ที่จะคิดหาคำตอบให้ตัวเอง  ไม่ต้องกลัวว่าใครจะคิดยังงัย  ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นจะว่าเรายังงัย  ขอแค่ลูกเลือกที่จะทำในสิ่งที่ใจลูกต้องการก็พอแล้ว”   ก่อนหน้านี้ผมค่อนข้างจะเป็นกังวลแทนตั้มว่าแม่จะรู้สึกยังไง  แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้ออกจากปากท่านผมก็เลยโล่งใจแทนตั้ม  ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  นั่งหัวเราะตัวเองว่าเป็นไปมากเหมือนกันนะเราเนี๊ย
“ขอบคุณครับแม่”  หังจากตั้มพูดจบผมก็รอจนแน่ใจแล้วว่าสองคนนี้ได้เปลี่ยนเรื่องคุยผมจึงเดินออกไปแต่ก็แหย่คุณชายเล่นนิดหน่อย
“โหย  จะอ้อนไปถึงไหนอ่ะ”   
“เสร็จแล้วหรอ  ไปกันเลยป่ะ  สายแล้ว” 
“แม่ครับ  เอกไปก่อนนะครับ  ตอนเย็นอยากกินผัดขิงจังเลย”  ก่อนออกจากบ้านผมก็มิวายแหย่ตั้มเล่นอีกครั้ง  และก็เหมือนทุกครั้งก็จะโดนคุณชายทำหน้าดุใส่
“ได้จ๊ะ  เดี่ยวแม่ทำให้นะลูก”  แต่ไม่ว่าผมจะพูดยังไง  แม่ก็ยังเออออห่อหมกกับผมด้วยทุกครั้ง  ผมละรักคนครอบครัวนี้จัง  นี้ถ้าบ้านนี้เป็นคนดังซักหน่อย  คงได้รางวัลครอบครัวตัวอย่างไปแล้ว

   ผมกับตั้มเราตามมาที่ร้านอาหารที่เพื่อนๆรออยู่  ตอนนี้ผมลืมไปแล้วว่าผมได้นัดกับกายไว้   กายจึงโทรมาถามว่าผมอยู่ไหน  ผมจึงบอกไปว่าจะตามไปให้กายไปรออยู่ก่อนซึ่งกายก็โอเคที่จะรอ  ผมถามเพื่อนๆว่าใครจะไปเดินเที่ยวบ้างแต่ก็ไม่มีใครตอบตกลงที่จะไปกับผม  มีก็แต่ตั้มคนเดียวเพราะตั้มจะไปดูหนังเรื่องหนึ่งผมก็จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร  แต่เป็นเรื่องที่ตั้มอยากดูมากเช่นกัน  เมื่อเดินทางมาถึงแล้วผมก็กดโทรศัพท์ไปหากายเพื่อจะได้นักที่เจอกันถูก
“ทำไรอ่ะ”  ตั้มถามผมขึ้นหลังจากเอารถไปจอดเสร็จแล้ว
“ก็โทรหากายไง  จะได้ไปหามันถูก” 
“กูให้เลือก  มึงจะดูกับกูหรือมึงจะดูกับมัน”  อยู่ดีๆตั้มก็อารมณ์เสียใส่ผม  ไอผมก็งงว่าผมทำอะไรผิดหรือเปล่า
“แต่เรานัดกับกายไว้แล้วนะ” 
“ได้  งั้นมึงก็ไปดูกับมัน  กูกลับก่อน  เสร็จแล้วก็โทรหาด้วย  จะได้มารับ”   พูดจบตั้มก็เดินกลับไปที่รถ  ผมจะเรียกก็ไม่ทันได้เรียกเพราะกายรับสายแล้ว  ผมจึงต้องคุยกับกาย
“กายอยู่ไหนอ่ะ”  ผมถามทันทีที่กายรับสาย  แต่สายตาผมก็มองหาตั้มอยู่แต่ก็ไม่เจอ
“กำลังอยู่มุมกิ๊ฟช็อป  ตามมาน่ะ”  กายบอกผม
“โอเค  เดี่ยวตามไป”  พูดจบผมก็วางสาย

   ผมเดินกลับไปที่รถเพื่อจะไปตามหาตั้ม  แต่เมื่อไปถึงก็เจอแต่รถ  ส่วนคนไม่รู้หายหัวหายตัวไปไหน   ผมมองหารอบๆก็ไม่เจอ  เดินมองตามร้านค้าต่างๆแม้แต่ร้านเน็ตที่อยู่รอบๆตัวห้างก็ไม่เจอ  จึงตัดใจเดินเข้าไปหากายเพราะผมโทรไปตั้มก็ไม่รับ   หลายๆครั้งตั้มก็ปิดมือถือหนี  ตัวผมก็มีหัวจิตหัวใจโกรธเป็น เสียใจเป็น น้อยใจเป็น  ในเมื่อไม่สนใจกันผมก็จะไม่ง้อ  แต่ลึกๆก็อยากอยู่ด้วยกันอยู่ดี

   ผมเดินไปหากายช่วยเลือกของให้กาย  เพราะกายจะซื้อไปเป็นของขวัญให้กับเพื่อนก็เลือกกันอยู่นานเหมือนกัน  จนท้องเริ่มหิว  จึงได้ตกลงกันหลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วว่าจะไปหาอะไรทานกัน  ซึ่งก็เป็นร้านที่ผมชอบนั่งประจำนั้นก็คือร้านคอนม  แต่เมื่อเข้าไปในร้านผมก็พบว่าตั้มก็นั่งอยู่ในร้านเช่นกัน  แต่นั่งอยู่กับคนที่ผมไม่ค่อยชอบใจ  พี่เอฟคือคนที่นั่งคู่กับตั้ม  ส่วนตัวแล้วพี่เอฟก็นิสัยใจคอดี  มีอัธยาศัย  หน้าตาก็ดี  ฐานะทางบ้านก็ดี  เรียนเก่ง  กีฬาใช่ได้  ถ้าเทียบกันแล้วผมคงไม่ถึงเศษเสี้ยวของพี่เอฟหรอก
   แต่ที่ผมไม่ชอบพี่เค้าเพราะว่าพี่เค้าชอบเข้ามากันท่าผมกับตั้มอยู่เสมอ  มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ตั้มไม่อยู่และพี่เอฟได้พูดออกมากลางวงสนทนาว่า  พี่เอฟจะขอลองจีบตั้มสักตั้ง  ในขณะที่พูดอยู่นั้นพี่เอฟก็จ้องหน้าผมอย่างจริงจัง  เหมือนกับจะประกาศสงครามกับผมยังไงยังงั้น  และก็มีหลายครั้งเหมือนกันที่พี่เอฟชอบพูดหักหน้าผม  แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรแค่เก็บเอาไว้ในใจ  ไม่อยากไปต่อล้อต่เถียงกับเรื่องไร้สาระแบบนั้น

   ผมเดินเข้าไปทักทายทั้งคู่ซึ่งในทีแรกกายก็ดึงแขนผมไว้  และบอกว่าอย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย  กายคงไม่อยากมีเรื่องกับตั้มหรอกครับ  เพราะสองคนนี้พอเจอหน้ากันทีไรก็เป็นต้องลับฝีปากทุกทีและผมเองก็เบื่อที่จะห้าม  เลยทำให้ช่วงหลังๆมานี้ผมจึงไม่ได้นัดไปไหนมาไหนกับสองคนนี้พร้อมๆกันถ้าไม่สุดวิสัยจริงๆ  แต่ครั้งนี้ผมไม่รู้โดนของหรือเปล่าจึงทำให้ผมเข้าไปประจันหน้ากับทั้งคู่

“หวัดดีครับพี่เอฟ  มาเดินเที่ยวหรอ”  ผมเดินไปหยุดที่ด้านหลังของตั้ม  ซึ่งยืนหันหน้าไปทางพี่เอฟพอดี
“หวัดดีครับน้องเอก  มากับใครหรอ”  พี่เอฟทักทายผม  แล้วมองไปทางกายด้วยสายตาเจ้าเล่ห์  และพี่เอฟก็คงคิดว่ากายเป็นแฟนของผมจึงใช้สายตาแบบนั้นมองผมกับกายสลับไปมา
“อ๋อ  กายครับ  เพื่อนร่วมทีมผมเอง  เออกาย  นี้พี่เอฟ”  ผมแนะนำให้พี่เอกกับกายรู้จักกัน
“นั่งด้วยกันดิ” 
“ขอบคุณครับพี่”  ผมพูดพร้อมๆกับลากเก้าอี้มานั่ง  ซึ่งพี่เอฟก็เปลี่ยนที่นั่งไปนั่งข้างตั้ม  ผมก็เลยนั่งด้านตรงข้ามคู่กับกาย
“เอกกินไร  เดี่ยวเราเดินไปสั่งให้”  กายถามผมแต่สายตามองไปทางตั้มแบบเอาเรื่องเหมือนกัน  ไอผมพอเริ่มได้สติก็ตกใจนิดหน่อยที่ผมได้ชักนำโจทย์เก่ามาเจอกัน  แต่ผมก็ต้องเก๊กเก็บอาการไว้
“เอานมเปรี้ยวปั่นแก้วหนึงก็พอ”  กายเดินออกไปสั่งรายการอาหารที่เคาท์เตอร์  ผมจึงได้โอกาสถามตั้ม
“ไหนนายบอกเราว่าจะกลับบ้าน”  ผมถามทั้งๆที่รู่อยู่แล้วล่ะครับว่าตั้มไม่ได้กลับบ้าน  แต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้และไม่สนใจด้วยว่าตั้มจะกลับหรือไม่กลับ
“....................”  แต่หมายเลขที่ผมเรียกไม่สามารถติดต่อได้  เพราะคลื่นสัญญาณไม่ว่างเพราะกำลังมัวเมากับการดูนมอยู่
“นายเป็นอะไร  ไม่พอใจอะไรเราก็พูดมาดิ”  ผมพูดออกไปอย่างเหลืออด  ผมน้อยใจที่ตั้มไม่มากับผมแต่ดันมากับพี่เอฟ  ผมเริ่มเสียใจที่ตั้มทำเหมือนกับผมเป็นแค่อากาศธาตุ 
“พี่เอฟ  เราไปดูรอบหนังกันดีกว่าครับ”  แทนที่ตั้มจะตอบคำถามผมแต่ดันชวนพี่เอฟไปดูหนัง  ผมจะพูดอะไรได้ก็ได้แต่นั่งกำหมัดแน่น  เก็บกดซ้อนอารมณ์โกรธ น้อยใจ  เสียใจ ไว้เพียงคนเดียว
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 20-10-2009 09:12:55
น้องเอกกลับมาแล้ว    คิดถึงนะคับ   :กอด1:


ตั้มนี่เจ้าอารมณ์น่าดูเลยเนอะ  ไรเนี่ย   :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 20-10-2009 09:35:08
สวัสดีค่ะ น้องเอก

น่ารักมากเลย มาตามที่นัดไว้เลยนะเนี่ย

ตั้มรักเอกมากนะ เลยน้อยใจรุนแรงไป
รอฟังเรื่องราวต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 20-10-2009 09:59:05
เอกมาต่อแว้ววววว

ขอบคุณมากครับผม..
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 21-10-2009 10:41:07
ต่างคนต่างก็น้อยใจ ต่างคนก็ต่างความรู้สึก :เฮ้อ:
ขอบคุณน้องเอกที่เข้ามาต่อ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 21-10-2009 18:57:35
น้องเอกมาต่อแล้ว  :man1:
ตอนนี้รู้สึกว่า บรรยากาศจะมาคุ ...
ต่างคนต่างน้อยใจ เคลียร์กันนะคะ
อย่างอนกันมันนานไม่ดี
๐๐๐
คุณแม่ของน้องตั๊มน่ารักจัง 
แล้วเวลาตั๊มอยู่บ้านนี่เป็นอีกแบบเลย น่ารัก ^^

..ให้กำลังใจน้องเอก+รอติดตามตอนต่อไปนะคะ  :L2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 21-10-2009 20:21:07
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
พี่เอกมาแล้วววววววววววววววว

ตอนนี้กะเศร้าได้อีก
ต้นๆเรื่องเหมือนอะไรจะดีขึ้น
แต่พอตอนท้ายพี่เอกก็เจ็บเหมือนเดิม - -"  :เฮ้อ:

รอตอนหน้าค่า
รักพี่เอกน้า จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 21-10-2009 20:32:49
ว้าวน้องเอกมาเล่าต่อแล้ว  :mc4:
ตอนนี้อึมครึมเหมือนระเบิดจะลง
แต่สุดท้ายเอกก็เจ็บอีกแล้ว
+1ให้น้องเอก รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: khun_Kling ที่ 21-10-2009 20:38:26
เย้ คิดถึงพี่เอกจัง

แล้วมาต่อให้อีกนะค่ะ

รอตอนต่อไป คิคิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: Gman ที่ 21-10-2009 20:57:05
อิอิ

น่ารักดี

เพิ่งเคยเม้นนนน.

ต่ออออๆๆๆ  น้าค๊าบบบ บ. :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 22-10-2009 00:34:00
เอ้าไม่เป็นเรื่องก็ทำให้เป็นเรื่องซะงั้นนะคร้าบ

ใจเย็นๆกันนิดนะคร้าบ  น้องๆในเรื่องนี้น่ารักแถมดุจังคร้าบ

 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: Huo_To ที่ 22-10-2009 20:58:29
คิดถึงน้องเอก
พี่ตาไม่ดี มาต่อตั้งสองวันแล้วเพิ่งเห็นอ่ะ กรำ

ตอนนี้เห็นอีกด้านของหลาย ๆคน  ไม่ว่าจะเป็นคุณชายกะคุณแม่ ซึ่งคุณชายมักไม่ค่อยเล่าอะไรแบบนี้อ่ะว่ามั้ย
แล้วอีกคนก็พี่เอฟ  กะตั้มเนี่ยแสนดีมากมาย แต่ไหงหันด้านมืดใส่เอกงี้ล่ะเฮ้อ  คุณชายรู้บ้างปะเนี่ย

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: Gu_Ton_Za ที่ 23-10-2009 15:40:29
เอกกลับมาแล้วก้าบ

รอตั้งนานนะเนี่ย

แต่มาต่อสั้นไปหน่อยนะก้าบเอก

 :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 23-10-2009 22:36:37
รอน้องเอกนะครับ
ดีใจที่ได้อ่านอีก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: Gman ที่ 23-10-2009 23:22:47
น้อยใจเหมือนกัน

รออยู่

หุหุ :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 24-10-2009 04:09:46
อ่านเรื่องตอนนี้ผ่านมุมมองเอก
ก็ต้องบอกว่า เอฟก็คงอยากเอาชนะ
ส่วนตั้มก็หึงว่างั้น แต่ไม่รู้จะแสดงออกยังไงดี
บวก 1 แต้มให้น้องเอกจ้า

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-10-2009 06:26:04
ไปตามอ่านเรื่องนู้นของตั้ม
แล้วก็ประทับใจมากเลย
พอมาอ่านผ่านมุมมองของเอก
ก็ยิ่ง....งื้ออออออ
นี่ถ้าไม่รูว่าตอนนี้ได้รักกันแล้วก็นะ...
เจ็บจี๊ดดดดดดดด
แล้วมาต่ออีกนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) มาตามนัด 20 ตุลาคม 2552
เริ่มหัวข้อโดย: eak_Krub ที่ 25-10-2009 15:53:50
“พี่เอฟ  เราไปดูรอบหนังกันดีกว่าครับ”  แทนที่ตั้มจะตอบคำถามผมแต่ดันชวนพี่เอฟไปดูหนัง  ผมจะพูดอะไรได้ก็ได้แต่นั่งกำหมัดแน่น  เก็บกดซ้อนอารมณ์โกรธ น้อยใจ  เสียใจ ไว้เพียงคนเดียว
“เออ  แต่ว่า....”  พี่เอฟมองหน้าผมกับตั้มสลับกันไปมา  ไม่พูดอะไร  ได้แต่อ้ำอึ้ง
“ตกลงพี่จะดูมั้ย  ถ้าไม่ดูผมจะได้กลับ”  ผมกับพี่เอฟมองหน้ากัน  พี่เอฟคงเหมือนกับผมที่งงว่าตั้มโมโหหรือโกรธอะไร  ผมเลยพยักหน้าให้พี่เอฟไปเชิงบอกกับพี่เขาว่าไปเถอะ
“ก็ได้ครับ  งั้นน้องเอกพี่ไปก่อนนะครับ  แล้วค่อยเจอกัน”
   
   ผมไม่อาจจะรู้ได้ว่าตั้มเป็นอะไร  โมโหโกรธใครอยู่หรือเปล่าถึงได้อารมณ์แบบนั้น  หรือมันอาจจะเป็นเพราะผมที่เป็นต้นหุที่ทำให้ตั้มอารมณ์เสีย  เพราะผมไม่เลือกที่จะดูหนังกับตั้มสองคนแต่ผมก็มีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น  ผมไม่ได้ไม่อยากดูหนังกับตั้มเพราะมันเป็นอะไรที่ผมต้องการมากที่สุด  ผมไม่เคยดูหนังกับตั้มสองต่อสองเลยผมเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน   หรือการเกรี้ยวโกรธของตั้มนั้นเป็นเพราะตั้มหึงผมกับกาย  ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงก็แสดงว่าจริงๆแล้วตั้มก็แคร์ผมอยู่เหมือนกัน  อยากเป็นคนสำคัญสำหรับผม  เป็นคนแรกที่ผมจะคิดถึงหรือเลือกที่จะทำอะไรร่วมกัน   ถ้ามันเป็นอย่างหลังความพยายามของผมก็ใกล้แล้วซินะครับ  ใกล้จะเป็นจริงแล้ว  ผมรอจนถึงวันนั้นไม่ไหวแล้ว

“นายจะกลับบ้านเลยไหม”  ผมกับกายบังเอิญมาเจอกับตั้มและพี่เอฟทางออกของโรงหนังพอดี  ผมเลยถามตั้มไปเพราะว่าจะได้กลับพร้อมกัน
“..............”  ตั้มไม่ตอบอะไร  แต่ผมคิดเอาว่าตั้มคงจะกลับเลยหรือไม่ยังไงผมก็คงจะรอกลับพร้อมตั้ม  เลยหันไปบอกกับกาย
“กายนายกลับไปก่อนก็ได้  เดี่ยวเรากลับพร้อมตั้ม”  ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ตั้มหันไปบอกพี่เอฟ
“พี่เอฟครับ  พี่กลับก่อนได้เลยนะครับ  ผมเอารถมา”  ตั้มเองก็หันไปบอกพี่เอฟ
“โอเคครับ  งั้นไว้เจอกันใหม่นะครับ”  จากนั้นตั้มก็เดินตรงไปยังห้องน้ำ  ส่วนผมไม่ได้ปวดอะไรก็เลยเดินไปรอตั้มที่หน้าลิฟท์

   ผมยืนคอยตั้มอยู่นานมากจึงนึกเอะใจว่าตั้มคงเดินลงไปทางบันไดเลื่อนเพราะตั้มคงยังโกรธผมอยู่  ผมจึงเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อดูให้แน่ใจว่าตั้มยังอยู่หรือหนีกลับไปแล้ว  แต่สุดท้ายผมก็เจอแต่ห้องน้ำที่ว่างเปล่า  แต่ตอนที่เดินออกจากห้องน้ำผมก็ได้ยินเสียงคนคุยกันตามทางเดินหลังโรงภาพยนตร์  และเสียงนั้นก็คุ้นหูผมมาก

“มึงไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับกู  จำใส่กะโหลกหนาๆของมึงด้วย  แล้วต่อไปก็อย่ามายุ่งกับกูอีก  จะหาว่ากูไม่เตือนไม่ได้”  คนพูดประโยคนี้กำลังกระชากคอเสื้อของผู้ร่วมสนทนาพร้อมกับกำลังจะทำร้ายร่างกาย  ผมจึงต้องรีบเข้าไปห้ามเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมากไปกว่านี้
“ตั้ม !!! นายทำอะไรไอกาย” ผมร้องตะโกนออกไป  ตั้มจึงได้หยุดการกระทำทั้งหมดลง
“เรื่องของกู  มึงไม่เกี่ยวอย่ามายุ่ง”  ตั้มพูดออกมาเสียงดังใส่หน้าผม  และจะเริ่มการทำร้ายร่างกายเพื่อนผมอีกครั้ง  แต่ผมก็เดินเข้าไปดึงตัวตั้มเอาไว้ทัน  จากนั้นก็ลากตั้มออกมาจากตรงนั้น
“ฝากไว้ก่อนนะมึง  วันหลังมึงไม่รอดแน่”  ตั้มตะโกนใส่กายซึ่งกำลังหน้าซีด
   ผมลากตั้มลงมาทางบันไดหนีไฟ  เมื่อลงมาได้ 1 ชั้นตั้มก็สะบัดมือผมแลเดินหนีผมออกไปยังลานจอดรถหลังห้าง   ผมก็เดินตามออกไปทันก่อนที่ตั้มจะขึ้นรถ
“นายทำแบบนั้นทำไม”  ผมเดินเข้าไปจับตั้มให้หันมาคุยกัน  
“เรื่องของกู”  แต่ตั้มก็สะบัดตัวและเดินต่อไป   แต่ผมก็ไม่ย่อท้อ  ยังพยายามที่จะคุยกับตั้มให้รู้เรื่อง
“กายมันไปพูดอะไรกับนาย”  
“ปกป้องกันจริงนะ  ทำไม  กลัวกูจะไปต่อยแฟนมึงหรอ”
“เรากับกายไม่ได้เป็นไรกัน”
“นั้นมันก็เรื่องของมึง  กูไม่อยากรู้”  
“นายก็รู้ว่าคนเดียวที่เรารักได้คือใคร  นายยังจะให้เราไปรักใครได้อีก  แค่นายไม่รักเรา  เราก็เจ็บมากพอแล้ว  อย่ายัดเยียดเราให้ใครอีก  เราขอร้อง”  ผมน้อยใจที่ตั้มทำเป็นไม่สนใจผม  ผมเสียใจที่ตั้มผลักดันให้ผมไปเป็นของคนอื่น  และผมก็มิอาจจะทนเก็บเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว  ผมเคยคิดเอาไว้ว่าผมจะเก็บเอาไว้  ไม่พูดออกมาเพื่อจะทำลายความรู้สึกของเราสองคน  
“เอก  กูรักมึงแบบคนรักไม่ได้จริงๆว่ะ”

“ทำไม บอกเรามาดิ ว่าทำไม  แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมามันหมายความว่างัย ทำไมต้องทำดีด้วย ทำไมต้องไม่พอใจเวลาคนเข้ามาจีบ ทำไมต้องคอยดูแลเวลาไม่สบาย ทำไมถึงบอกให้รอ แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น  บอกให้เราฟังหน่อย”  ที่ผ่านมาผมไม่เคยเข้าใจตั้มเลยสักครั้งว่าตั้มคิดอะไร  รู้สึกอะไร  ตั้มไม่เคยทำอะไรให้ชัดเจน  ไม่เคยเผยความรู้สึกของตัวเอง  ไม่เคยแม้แต่จะรับรู้ถึงความรู้สึกของผม  ถึงรู้ตั้มก็มักจะทำเป็นไม่รู้ไม่สนใจ  แต่บางครั้งก็ทำเหมือนกับคนรักเขาทำกัน  จนผมไม่สามารถแยกแยออกมาได้ว่าอย่างไหนคือจริง  อย่างไหนคือหลอก  แบบไหนที่เรียกว่าเพื่อน  แบบไหนถึงเรียกว่าคนพิเศษ

“ตลอดเวลาที่ผ่านมามึงยังไม่รู้ตัวอีกหรอว่า กูไม่เคยรักมึงเลย ไม่คิดจะรักด้วย และกูก็ไม่อยากมีปัญหากับแฟนกูเพราะมึงอีก  ต่อไปมึงอยู่ห่างๆๆกูไว้นะดีแล้ว”  พูดจบตั้มก็เดินไปที่รถแล้วขับออกไปทันที  ไม่แม้แต่จะหันมามองผมที่กำลังร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย  ร้องแบบที่ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องหันมามอง  ผมไม่สามารถที่จะรับรู้ความรู้สึกอย่างอื่นได้อีก  แม้แต่ความรู้สึกอายต่อสายตาของผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา  นอกจากความเจ็บปวดกลางใจที่เกิดจากคนที่ผมรัก.......หรือที่จริงแล้วมันเกิดจากตัวผมเอง   ที่ดันไปรักเขาเอง
   ระหว่างผมกับตั้มคงไม่ทางกลายไปเป็นคนรักกันได้  ทุกอย่างผมคงต้องหยุดเอาไว้ตรงนี้  ความรู้สึกต่างๆผมคงต้องเก็บเอาไว้ในส่วนลึกของใจเก็บไว้ให้ลึกที่สุดและขังมันเอาไว้ตรงนั้น  อย่าให้มันได้ออกมาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเราอีกครั้ง  ต่อไปผมจะยอมเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียว  ดีกว่าที่จะทำให้คนที่ผมรักพลอยเจ็บไปด้วย  
   แม้ต่อไปความสัมพันธ์ของเราสองคนจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไร   ผมก็ต้องน้อมรับเอาไว้  เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเกิดเพราะตัวผมเอง  ผมก็ต้องยอมรับมันให้ได้  ถึงมันจะยากลำบากแค่หน  เจ็บปวดเพียงไร  อ้างว้างขนาดไหน  หรือจะต้องอยู่คนเดียวอย่างคนไร้หัวใจ  ผมก็ต้องรับมันให้ได้
   ผมเดินออกมาจากจุดนั้น  เดินออกมาอย่างคนใจสลาย  ระหว่างที่เดินออกมาผมก็เดินคิดไปเรื่อยเปื่อยว่าต่อไปผมจะทำอย่างไร  เพื่อที่จะให้เรากลับมาพูดคุยกันได้อย่างสนิทใจอีกครั้ง  แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก  เพราสมองผมตอนนี้เหมือนมันจะไม่พร้อมรับอไรอีกต่อปแล้ว

“น้องเอก  น้องเอก”   มีคนเรียกผมอีกฝากฝั่งของถนน  ผมจึงหันไปมองว่าเป็นใครก็เจอเข้ากับพี่ปิงและพี่เต้  ผมจึงเดินไปหาแต่จนแล้วจนรอดด้วยความเงอะๆงะๆของผม  ผมก็ไม่สามารถข้ามถนนไปได้  ขอยอมรับตรงนี้เลยก็แล้วกันว่า  ผมข้ามถนนคนเดียวไม่เป็นใจมันสั่งให้ข้ามไป  แต่ขามันก็ไม่ยอมข้ามเพราะโดนสมองข่มขู่เอาไว้ว่าเดี่ยวโดนรถชน
“ไม่ต้องข้ามมา  เดี่ยวพวกพี่ไปหา”  พี่ปิงตะโกนกลับมา  พี่ปิงคงจจำได้ว่าผมข้ามถนนไม่เป็น  เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งพี่ปิงกับผมเดินข้ามถนนแต่พี่ปิงสามารถเดินข้ามไปได้  ส่วนตัวผมยังอยู่อีกฟากของถนนเพราะไม่กล้าเดินออกมา   พอออกไปได้ครึ่งถนนก็ต้องวิ่งกลับไปเริ่มใหม่เพราะใจไม่กล้าพอ  
“น้องเอกจะไปไหนหรอครับ”  พี่ปิงถามผม  หลังจากไปกลับรถแล้วมาจอดอยู่ข้างผม
“ไปที่บ้านตั้มครับ”
“ไปทางนี้เนี๊ยนะ  อย่าบอกพี่นะว่าเราจำทางไม่ได้”
“ครับ.......”  ผมตอบออกไป  ถ้าเป็นอารมณ์ปกติผมคงอายมาก  แต่นี้ผมกับไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว
“นี้มันจะออกไปทางนอกเมืองแล้วนะครับน้องเอก  มาขึ้นรถเดียวพวกพี่ไปส่ง”
“เอ่อ.....แต่ว่า....”  ผมเกรงใจพี่เต้นะครับ  ผมไม่อยากให้พี่ทั้งสองคนต้องมาทเลาะกันเพราะผมอีกแล้ว
“ขึ้นมาเถอะครับ......นี้ก็ดึกมากแล้ว  ตัวคนเดียวมันอันตราย”  เมื่อพี่เต้ชวนผมก็เลยตกลงขึ้นรถปกับพี่ทั้งสองคน
   แต่ระหว่างทางผมก็ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้กับพี่ทั้งสองคนฟัง  เราจคุยกันเรื่องทั่วๆไป  ซึ่งผมก็ฟังบ้างไม่ได้ฟังบ้าง  จึงตอบกลับไปบ้างไม่ตอบบ้างเพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรกลับไป
“น้องเอกมีอะไรหรือเปล่า  พวกพี่พอจะช่วยได้ไหม”  พี่ปิงถามผม  หลังจากลงมาส่งผมเข้าบ้าน
“ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ปิง  ขอบคุณพี่มากนะครับที่มาส่ง  พี่กลับไปเหอะพี่เต้รอนานแล้ว”  ผมมองเข้าไปในรถก็พบว่าพี่เต้ก็มองมาที่เราสองคนอยู่ก่อนแล้ว
“โอเคครับ  มีอะไรก็โทรหาพี่ได้ตลอดนะครับ  เอาเป็นว่าพี่กลับก่อนแล้วกัน”
   ผมยืนส่งพี่ปิงกับพี่เต้อยู่หน้าบ้านจนรถเคลื่อนออกไปนั้นแหละครับผมจึงได้เข้าบ้าน  ผมกะว่าจะไปทักทายแม่ของตั้มก่อน  แต่ไฟในห้องท่านก็ปิดแล้วผมจึงไม่อยากไปปลุกท่าน  เกรงใจไม่อยากรบกวนตอนที่ท่านกำลังหลับอยู่  ผมจึงเดินเข้าไปในห้องก็เจอแต่ความว่างเปล่า  ตั้มไม่ได้อยู่ในห้องอย่างที่ผมคาดเอาไว้จริงๆด้วย  ผมล้มตัวลงนอนก่อนจะผล่อยหลับไป
   หลังจากหลับไปได้สักพักผมก็ตื่นขึ้นมากะว่าจะไปอาบน้ำแล้วกลับมานอน  แต่ตอนที่ผมลุกขึ้นนั่งนั้นผมเกือบหัวใจวายตายเอาให้ได้  ก็ตั้มมานั่งก้มหน้ากอดเข่าอยู่หน้าประตูห้อง  
   ผมคิดเอาไว้แล้วว่าเมื่อเจอหน้าตั้มผมจะพูดคุยกับตั้มอย่างปกติ   ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อดูเชิงตั้มก่อน   แต่เหตุผลจริงๆก็อย่างที่บอกนั้นแหละครับ  ผมไม่อย่างรื้อฟื้นเรื่องราวต่างๆเพื่อจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเรามากไปกว่านี้  ต่อไปตั้มอยากจะให้ผมอยู่ในส่วนไหนผมก็พร้อมที่จะรับเอาไว้  อย่างน้อยๆ  เราก็ยังมีกันและกันอยู่

“กลับมาแล้วหรอ”  ผมถามตั้ม  แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมา  ผมจึงคิดว่าตั้มคงจะโกรธผมอยู่
“.....................”   ตั้มยังคงก้มหน้าไม่พูดอะไรกับผม
“เห้ยเป็นอะไร  ทำไมไม่พูดกับเรา  ยังโกรธเราหรอ  เราขอโทษ”  ผมเดินตรงไปที่ตั้ม  และนั่งลงตรงหน้า
“หายไปไหนมา  เรามารอตั้งนาน  แล้วกินข้าวมายัง  หิวป่าว  เดี่ยวไปหารัยให้กิน  ป่านนี้กับข้าวคงหมดแล้ว  แต่ไม่เป็นไร  เดี่ยวเราทำให้กิน  นายไปอาบน้ำก่อนนะ  แล้วเดี่ยวค่อยตาม.......”  อยู่ดีๆตั้มก็โผล่เข้ากอดผม  พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  
“กูขอโทษ  ฮึกๆ กู ฮึๆๆ กูขอโทษ”
“นายเป็นอะไร  นายขอโทษเราเรื่องอะไร…แล้วนายร้องทำไม  ใครทำอะไรนาย”  ผมยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ตั้มไม่เคยแสดงความอ่อนแอแบบนี้ออกมาให้ผมเห็นบ่ายนัก  ครั้งล่าสุดที่ผมจำด้ก็คือตอนที่ตั้มกับพี่บาสกลับไปเป็นพี่น้องกัน
“ทำไมมึงถึงยังดีกับกู  ทั้งๆที่กูพูดถึงขนาดนั้น  ทำไม”
“เพราะรักไง  ถึงนายจะด่า  จะว่าเราซักเท่าไหร่  แต่นายรู้ไหมเราไม่เคยโกรธนาย  ทั้งที่อยากจะโกรธ”  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมเองที่เป็นฝ่ายไม่อยากจะพูดหรือเอ่ยอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา  แต่ในเมื่อตั้มเป็นฝ่ายถาม  ผมก็อยากที่จะให้ตั้มรู้ว่าตอนนี้ทั้งหมดในใจของผม   ผมคิดยังไง
“เอก.....” ตั้มเรียกชื่อผม  ก่อนจะประทับจูบมาที่ริมฝีปากของผม  ผมไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับการจูบครั้งนี้   แต่ส่วนลึกของใจนั้นมันบอกว่า  เราไม่ใช่ของเล่นนะ  ถึงอยากจะทำอะไรก็ทำ  อยากจะด่าก็ด่า  อยากจะกอดก็กอด  อยากจะจูบก็จูบ  ผมเป็นคนมีหัวใจเหมือนกัน  ไม่รักกันก็อย่ามาให้ความหวัง
“นายทำแบบนี้ทำไม  ถ้านายไม่รู้สึกอะไรกับเรา  ขอร้องอย่าทำแบบนี้อีก”  ผมพูดออกมาพร้อมกับสายน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากดวงตา
“ทำไมจะไม่รู้สึก”  ตั้มพูดพร้อมกับเช็ดคราบน้ำตาให้ผม   “รู้สึกมากด้วย”
“หมายความว่าไง” ผมว่าถ้าผมฟังไม่ผิด  หรือหูไม่เพี้ยน  ผมคงจะฝันไปกับคำพูดของตั้ม   ผมเข้าใจความหมายของประโยคนั้นดี  แต่ต้องการความแน่ใจ
“ความรู้สึกแบบนี้”  ตั้มพูดแล้วเอามือมาแตะที่หน้าอกผม “มันต้องใช้ส่วนนี้ถึงจะสื่อสารกันรู้เรื่อง”   ระหว่างผมกับตั้มตอนนี้ไม่รู้ว่าใครหน้าแดงกว่ากัน   ผมเองก็เขินที่โดนพูดแบบนี้  ส่วนตั้มเองก็คงไม่ต่างอะไรไปจากผม  เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ผมรู้จักตั้ม   ตั้มไม่เคยพูดอะไรแบบนี้หรือทำแบบนี้กับใคร
 “แปลว่า....”  ผมกำลังจะพูดว่า  แปลว่านายรักเรา  แต่ไม่ทันพูดก็โดนตั้มปิดปากเสียก่อน
“ตอนนี้กูยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่  แต่ก็จะทำให้มันดีที่สุด  เท่าที่กูจะทำได้”  ตั้มดึงผมเข้าไปกอดอีกครั้ง  ผมเองก็กอดตอบตั้มกลับไป  วันนี้เป็นวันที่แสนเศร้าและก็ยังเป็นวันสุดแสนวิเศษของผมเช่นกัน  ผมจะจำวันนี้เอาไว้จนวันตายของผม  20 ม.ค.2545
   ผมขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจผมตลอดมา   ผมขอยุติจบเรื่องพี่เท่านี้นะครับ  เหตุผลจริงๆก็คือผมไม่ค่อยมีเวลาที่จะเขียนเรื่องสักเท่าไหร่   ผมเขียนเรื่องนี้ครั้งแรกในช่วงที่ผมกลับมาอยู่บ้านเป็นเวลาหนึ่งเดือน  ผมจึงตั้งใจเอาไว้ว่าใจเขียนเพียงเท่านี้และตอนนี้ก็บรรลุจุดประสงค์ของผมแล้ว  
   ขอบคุณทุกคำติชม  ทุกความรู้สึกที่มีให้มาตลอดจนผมสามารถเขียนเรื่องจนจบ   ต่อไปทุกคนที่อยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ติดตามทางเรื่องโน้นนะครับ   ส่วนตัวผมเองจะไม่ขอเข้ามาในที่นี้อีกแล้ว(ถ้าไม่จำเป็น)  หลายคนอาจจะทราบว่าทำไม  แต่ก็อีกหลายคนเหมือนกันที่ยังไม่ทราบ   แต่ผมขออนุญาตไม่ขุดคุ้ยดีกว่าครับ  ต้องขอโทษด้วยจริงๆ  
   สุดท้ายนี้ผมจะเอาข่าวพระตั้มมาบอก  พระตั้มจะสึกในวันที่ 2 พศจิกายน  แต่เรื่องทั่วไปไม่มีอะไร  เพราะตั้งแต่ที่ผมกลับมาถึง  ผมก็เข้าไปที่วัดทุกวัน  แต่ถามอะไรหรือพูดอะไร  พระตั้มก็ไม่ยอมพูดกับผมสักคำเดียว  ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  ผมไม่กล้าถาม  ไม่อยากรบกวนท่านนะครับ   แต่ผมเองก็ยังช่วยงานท่านอยู่ทุกวัน  
   
                                                                                                      ผมจะเก็บความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นนี้เอาไว้ในใจเสมอ      
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 25-10-2009 16:11:11
 :L2:  ขอบคุณค่ะ น้องเอก 


พระตั้มสึกวันที่ 2 ตุลาคม   ก็สึกแล้วรึเปล่าคะ 
รึน่าจะเป็นวันที่ 2 พฤศจิกายน


เป็นกำลังใจให้นะคะ   
พอรู้เรื่องบ้าง  แต่ก็ไม่ละเอียดอะไร  เรื่องอะไรที่ไม่ดี  ก็ไม่ต้องไปขุดคุ้ยก็ดีค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Gman ที่ 25-10-2009 16:44:06
ขอให้รักกันตลอดไปค๊าบบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: luvY ที่ 25-10-2009 16:58:12
 :pig4:
+1ให้และขอบคุณน้องเอกนะคะ ทำให้รู้ถึงความรักอีกมุมของน้องเอก
และขอบคุณสำหรับข่าวพระตั้ม จะสึกวันที่ 2 พ.ย.นี้แล้ว

สำหรับเรื่องของทั้งสอง ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องอะไร
และเพื่อความสบายใจ ไม่ต้องขุดคุ้ยอะไรขึ้นมาก็ดีค่ะ

แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับความรักของทั้งสองนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: yayu ที่ 25-10-2009 18:01:34
ขอบคุณน้องเอกที่นำเรื่องราวความรักมาเล่าให้ฟังนะคะ  :L2:
ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เคารพในการตัดสินใจของเอก
แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่เลยค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆนะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 25-10-2009 18:05:19
ขอบคุณน้องเอก ที่มาเล่าเรื่องราวความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน ขอบคุณ :L2:
ยังคงเป็นกำลังใจให้น้องเอก ขอให้ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้นะ  :L2:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: pay-it-forward ที่ 25-10-2009 18:27:14
ขอบคุณน้องเอกสำหรับเรื่องเล่านะคะ
ส่วนตัวไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับน้องเอกและพระตั้มนะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 25-10-2009 18:36:04
...ขอบคุณมากๆๆจ๊ะที่มาเล่าอีกมุมมองนึงของความรักของน้องเอก ที่มีต่อพระตั้ม
...ส่วนเรื่องพระตั้ม ไม่พูดกับน้องเอก เดี๋ยวรอให้ท่านสึกก่อนนะจะไปแซวที่กระทู้โน้น ตอนนี้ไม่กล้า
...ว่างๆๆก็เข้ามาเยี่ยมที่กระทู้โน้น บ้างนะ อย่าหายไปเลยละ คิดถึง  โชคดีนะจ๊ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-10-2009 21:56:06
ขอบคุณเอกที่มาแบ่งปันเรื่องราวนะคร้า
เป็นกำลังใจให้แล้วกันค่ะ
ขอให้ผ่านทุกเรื่องไปได้ด้วยดีนะคร้า :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Huo_To ที่ 25-10-2009 22:22:41
 :L2:  ส่งกำลังใจให้เอกนะ    :n1:   หลังพายุมืดครึ้ม ท้องฟ้ามักสดใสเสมอ พี่เชื่ออย่างนั้นนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 25-10-2009 23:10:07
ในที่สุดก็สมหวังสักทีกับความรักของพี่เอก
ขอให้พี่ทั้งสองคนรักกันไปนานๆนะคะ

แอบรอหลวงพี่ตั้ใสกด้วยคนค่า
จะได้รู้ว่าทำไมถึงไม่ยอมพูดกับพี่เอกอ่า
เป็นกำลังใจให้เสมอฮับ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 26-10-2009 00:14:03
จะสึกแล้วก็อนุโมทนาอีกรอบละกัน  แต่สึกออกมมาแล้วก็คุยกันดีๆๆ
นะจ๊ะ สู้ สู้   o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 26-10-2009 03:09:40
 :pig4:







 :bye2:






 :z2:    :z2:    :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 26-10-2009 07:17:25
 :กอด1: เอก

ตามมาจากเรื่องนุ้น

กว่าจะรักกันได้เนอะ ขอให้มีความสุขมากๆน้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 26-10-2009 11:27:53
ขอบคุณที่น้องเอกลงเรื่องให้จนจบตอนนะคะ
บวก 1 แต้มสำหรับตอนสุดท้ายนี้ค่ะ
ส่วนตัวไม่ทราบอะไร แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้อีกคน  :L2:
ขอให้น้องเอกผ่านพ้นปัญหาหรืออุปสรรคใดๆก็ตามที่มีอยู่ไปได้ด้วยดีค่ะ
และขออนุโมทนาบุญกับพระตั้มที่ท่านกำลังจะสึกด้วยนะคะ
เมื่อพ้นร่มกาสาวพัสตร์มาแล้ว หวังว่าทุกสิ่งอย่างของทั้งคู่จะเป็นไปในทางดีขึ้น เจริญงดงามขึ้นนะคะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: sinelent ที่ 28-10-2009 12:55:44
 o13 +  1  จ้า

ขอบคุณมากๆ  สำหรับเรื่องน่ารักๆ  ของเอกกับตั้ม

ขอให้มีความสุขทั้งสองคนน๊า


จุ๊บุ จุ๊บุ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: hipolymer ที่ 06-11-2009 01:31:16
แอบหลบจากเรื่องโน้นมาหาพี่เอก พี่เอกเป็นไงบ้างครับ  :กอด1: พี่เอกแน่นๆเลย ไม่เป็นไรนะครับ พี่ตั้มกำลังโกรธ ก็เลยทำแบบนั้น ไม่เป็นไรนะครับ ขอให้เข้าใจกันไวๆ ผมเป็นกำลังใจให้พี่เอกนะ พี่เอกอดทนนะครับ สงสารพี่เอกเหมือนกัน มันผิดไปแล้ว เราก็เอามาเป็นบทเรียน  :L2: :กอด1: กอดผมก็ได้นะ ผมจะเป็นกำลังใจให้พี่ ^__^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 06-11-2009 11:57:36
.....ให้กำลังใจค่ะ ....อ่านจากเรื่องที่ทิดตั้มโพสแล้ว เข้าใจแล้วว่าเอกคงเหงาจริงๆ เฮ้อ อ อ อ  ไม่เข้าใจอ่ะ ไม่เคยมีคู่ตุนาหงัน อ่ะ ..... เข้าใจยากอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: begin ที่ 13-11-2009 00:43:47
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ
ที่มาแชร์ให้พวกเราอ่านกันนะคับ
จะเก็บไว้ในความทรงจำเลยคับ
ประทับใจคับ...โชคดีคับ o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: 1582 ที่ 16-11-2009 20:32:34
เพิ่งเจอเรื่องนี้  ขอเวลาไปอ่านก่อนนะคะ 

อ่านตอนแรกมา  ท่าทางจะสนุก  ต้องติดตาม  :really2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 17-11-2009 09:08:00
ทำไมเรื่องนี้มีแต่ขาจรว่ะ   :laugh:   สงสัยจะเป็น.....   :m20:

ไอเราก็นึกว่าจะลงต่อจนให้ทันเรื่องของเรา  ที่ไหนได้ยอมแพ้ซะงั้น

ไม่กล้าเขียนต่อเพราะกลัวสิ่งที่ตัวเองทำไม่ดีเอาไว้ว่างั้น   :เฮ้อ:

จะกลัวอะไร  กล้าทำกล้ารับดิ  ที่เค้ายังไม่กลัวไม่อาย

 o22  หรือเราหน้าด้านว่ะ  :z3:

ก่อนไปขอ   :beat:  และ  :z6:  ทุกคนที่ไม่รักยอดชายนายตั้มคนนี้ 

 :a14:   แอร๊กกกกกกก  คอเกือบหัก 

ไปแล้วน๊าคร๊าบบบบบบบ :m14:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 17-11-2009 17:46:35
อะนะคนเรา

เข้ามาดันและแดกดันกระทู้แฟนตัวเองซะงั้น :เฮ้อ:

เช็กเรตติ้งเหรอจ๊ะสุดหล่อตั้ม o22
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: sexyman ที่ 30-03-2010 20:07:11
:undecided: :undecided:


เงียบ ~~~~~~~

จูมุ จูมุ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Mize ที่ 21-04-2010 08:37:42
หวัดดีพี่เอกกับพี่ตั้ม (อีกรอบ เพราะเมื่อกี้เข้าไปที่เรื่องของพี่ตั้มมา)

แบบว่าเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่เอกก็เขียนเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน      :a5:  :a5:  :a5:

ยังไงก็อยากให้พี่เอกเขียนต่อไปนะคะ

อยากรู้เรื่องราวในอีกมุมมองหนึ่งของพี่เอก สู้ ๆ นะ แล้วจะติดตามไปเรื่อย ๆ นะคะ

ปล. อันที่จริงหนูชื่อมิ้นท์นะ แต่ว่าเรียกว่า มิซ ก็ได้ เพราะเห็นแฟนคลับของพี่ตั้มมีคนชื่อมิ้นท์แล้ว

      ยังรักพี่ตั้มกับพี่เอกเสมอ และตลอดไปคะ  :-[ :o8:


หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ok.betong ที่ 11-06-2010 11:31:06
ขอโทษนะครับ
แบบว่าเพิ่งเข้ามาอ่าน
ผมไม่รู้อะครับ
ว่าเรื่องของตั้มชื่อเรื่องว่าอะไร
ใครรู้ช่วยบอกผมด้วยนะครับ
ขอบคุณมากมายครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: kaehoo ที่ 14-06-2010 17:54:00
ไม่มีคำบรรยาย อีกมุมของความรัก
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...) ตอนสุดท้าย ลาแล้วลาเลย
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 21-06-2010 17:41:22
ได้ข่าวว่าอ่านเรื่องโน้นนานแล้ว แต่ เพิ่งหาเรื่องนี้ เจออ่ะ :sad4: ขอโทษคร่าาา
เอาเป็นว่ายังเป็นกำลังใจ ให้ทั้ง ตั้ม และ เอก ทั้งคู่นะคะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 16-03-2012 13:19:54
 :L1:
 :L2:
 :pig4:
ตั้ม+เอก
หัวข้อ: Re: ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 16-01-2016 03:10:07
สนุก
หัวข้อ: Re: ห้ามยังไง...ก็จะรัก (ด้านมืดของ อย่ารักกู...)
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 25-06-2017 13:38:05
 :mew1: