[เรื่องสั้น] 2nd Confession [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] 2nd Confession [END]  (อ่าน 2761 ครั้ง)

ออฟไลน์ คนดีของสังคม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
[เรื่องสั้น] 2nd Confession [END]
« เมื่อ20-01-2017 01:34:00 »

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิต
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที



2nd Confession
by คนดีของสังคม


   ผม..กำลังยืนตากฝนอยู่ครับ

   เพราะผมกำลังเสียใจจากคนบางคน คนบางคนที่ผมรักเขามาก และ ทุ่มเททั้งหมดไปให้เขาหมดแล้ว ให้เขาไปหมดแล้วจริงๆ แต่..เพราะเรื่องผิดพลาดของผม ทำให้..ทำให้เขาร้องไห้พร้อมกับเก็บของและออกไปจากชีวิตของผม เขาบอกว่าเขาไป แต่ในความรู้สึกของผม เขายังอยู่ในนี้..และจะอยู่ในนี้ตลอดไป

   “ทำไม...” ผมเค้นเสียงเสียงแผ่ว ก่อนที่ปล่อยให้น้ำตาตัวเองไหลไปตามใบหน้า ทำไมผมถึงต้องทำอะไรแบบนั้น ทำไมผมไม่ยอมเขาไปสักครั้ง ทำไมผมต้องโง่แล้วโง่อีกและโง่ซ้ำซากอยู่แบบนี้ ทำไมผมไม่เคยเข้าใจความรู้สึกเขาเลย ทั้งๆที่เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อผม..ผม

   ผมไม่ยอมให้หกปีของเราจบลงแค่นี้แน่นอน!!


   เรารู้เรื่องของกันและกันทุกอย่าง ไม่เคยปิดบังอะไรกัน การจะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่ไม่เหลืออะไรให้เรียนรู้ซึ่งกันและกันแล้ว มันไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหรอกครับ ผมว่า..มันมีอะไรในทางบวกมากกว่านั้นเยอะ เรารู้ทุกอย่างของกันและกัน ถึงจะเป็นเรื่องยากที่จะคืนดีกัน แต่...ให้ตายยังไง ผมก็ไม่มีทางปล่อยเขาออกไปจากชีวิตผมแน่นอน

   เราอยู่ในคอนโดของเราด้วยกันมาห้าปีเต็มหลังจากที่คบกันมาหกปี และแน่นอนว่ารถของผมกับรถของเขาเป็นคันเดียวกัน และการที่เขาจะไปทำงาน..ถ้าไม่มีรถเขาก็จำเป็นต้องนั่งรถไฟฟ้า ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ ที่ผมจะมายืนดักรอเขาที่สถานีรถไฟฟ้าฝั่งธนบุรีที่แทบจะไม่มีคน ไม่ต้องพยายามชะเง้อคอมองตาม

   อยากติดต่อเขาไปครับ..แค่ในครั้งนี้เราทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นที่เขาปาโทรศัพท์มือถือผมทิ้ง เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือของเขาเอง และบล็อกผมทุกช่องทางการติดต่อ สามวันเต็มแล้วครับที่เราไม่ได้คุยกันเลย และสามวันที่ผมเสียเวลาที่มีค่ามากที่สุดในการอยู่กับเขา ปล่อยตัวเองให้ติดงอมอยู่กับแอลกอฮอล์

   วันนี้เป็นวันเสาร์ ทำให้มีเด็กวัยรุ่นเดินกันขวักไขว่ แต่ยังไงก็ตามวันนี้ก็เป็นวันทำงานของพวกเราอยู่ดี ทั้งผมและเขาเป็นครูสอนพิเศษ แต่ทว่าทำงานในคนละรูปแบบเพียงเท่านั้นเอง เขาสอนในคลาส ส่วนผมสอนตัวต่อตัว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเสียเท่าไหร่ที่เราจะนัดเจอกัน

   ผมกำโทรศัพท์มือถือของตัวเองเอาไว้ในมือ พร้อมกับชะเง้อคอมองตามใครบางคนที่เดินผ่านหน้าผมไปเหมือนกับธาตุอากาศ ไม่รับรู้การมีตัวตนของผมแม้แต่เพียงเศษเสี้ยว ผมไม่โกรธเขาเลยที่เขาจะเกลียดผม แต่..ผมแค่อยากให้เขาให้โอกาสผมอีกสักครั้งหนึ่ง..เท่านั้นเอง

   ในตอนนี้ผมอาจจะดูเหมือนคนบ้าที่กำลังอมยิ้มกับตัวเอง บางทีเขาก็น่ารักจนเกินไป แกล้งทำเป็นไม่มองหน้ากันแบบนี้ไม่ต่างจากเด็กๆเลย ทำไมเราอายุขึ้นเลขสามแล้วยังต้องมาทำอะไรเหมือนกับเด็กแบบนี้ล่ะเนี่ย

   “เอ่อ..น้องครับ” ผมเดินตรงไปสะกิดไหล่กลุ่มเด็กวัยรุ่นหญิงอายุราวๆสิบหกสิบเจ็ดสามสี่คน พวกเขาหันหน้ามามองผมแล้วกระพริบตาแทบจะพร้อมกันทันที “พี่ขอให้ช่วย ไปขอเบอร์พี่ผู้ชายเสื้อน้ำเงินคนนั้นให้หน่อยได้ไหมครับ” ผมยื่นโทรศัพท์มือถือของผมให้กับสาวน้อยคนหนึ่งที่มองหน้าผมตาไม่กระพริบ ก่อนที่ทั้งสี่จะยิ้มแป้นพยักหน้ารับด้วยท่าทางอารมณ์ดี สองสาววิ่งตรงไปหาเขาคนนั้นทันที ส่วนอีกสองสาวก็ยืนหัวเราะคิกคักอยู่กับผม

   “ขอบคุณครับ” ไม่มีทางที่เขาจะไม่หันหน้ากลับมามองหน้าผม ผมยกเบอร์โทรศัพท์มือถือในเครื่องที่เพิ่งได้มาให้เขาดู พร้อมกับใบหน้าไม่แยแสผมที่ตอบกลับมา ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่ผมก็เชื่อว่าเขาอาจจะแอบยิ้มอยู่ในใจก็ได้ ไม่มีทางที่เขาจะเลิกรักผมในชั่วข้ามคืนเดียวแน่นอน เพราะขนาดผม..ความรู้สึกผิดยังคงมีอยู่แน่นในใจ แต่..ผมก็ไม่ยอมที่จะเสียเขาไปในเวลานี้แน่นอน

   ผมก้าวเท้าขึ้นบนรถไฟฟ้าในโบกี้เดียวกับเขาแน่นอน พร้อมกับผมที่กดโทรออกเบอร์โทรศัพท์ที่เพิ่งได้มาเมื่อครู่ เขาก้มหน้าลงมองหมายเลขในโทรศัพท์มือถือก่อนที่จะกดปุ่มล็อคหน้าจอเพื่อเป็นการตัดสายผมอย่างไม่มีเยื่อใย แต่ผมก็ยังคงกดติดต่อเขาซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง และแน่นอนว่าเขาก็ทำกลับมาเหมือนเดิม ผมแอบสังเกตเห็นเขาเหลือบตามามองผมด้วย แต่สุดท้ายก็หันหน้ากลับไปทางอื่น

   เขาไม่เกลียดผมหรอก...ก็เพราะว่า กระเป๋าที่สะพายอยู่นั้น ผมก็ซื้อให้เขานี่นา


   เพราะไม่เหลืออะไรให้เรียนรู้กันแล้ว..มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะรู้ใจเขา

   ผมเดินตรงเข้าร้านขายดอกไม้ทันที ดอกไม้ที่เขาชอบคือดอกเดซี่ และมีแค่ดอกเดซี่เท่านั้นที่เขาชอบและจะเก็บมันเอาไว้จนกว่ามันจะเฉา ในตอนแรกผมเคยว่าเขาว่าตุ๊ดด้วยแหละครับที่เขาชอบดอกไม้ เพราะดูแล้วยังไงๆผู้ชายก็ไม่น่าจะชอบดอกไม้ถึงขั้นเก็บเอามามองยิ้มหรืออะไรทำนองนั้น แต่ที่เขาชอบดอกไม้ดอกนี้เพราะว่า ในตอนที่เขาเข้ามาเป็นครูพิเศษครั้งแรก มีนักเรียนเคยเอาดอกไม้มาให้เขาประดับโต๊ะทำงานพร้อมกับพูดชมเขาว่าเขาเป็นครูที่ดี ทำให้ตั้งแต่ตอนนั้นเขารู้สึกรักในดอกเดซี่..จน ผมเองก็เผลอรักดอกไม้ชนิดนี้ไปด้วยอีกคน

   “ขอช่อดอกเดซี่ครับ”

   “จะแซมดอกอื่นด้วยหรือเปล่าคะ” หญิงสาวพนักงานเอียงคอถามผม ผมจึงส่ายหน้าเบาๆตอบเธอกลับไป รอไม่ช้ามือเรียวนั่นก็ส่งช่อดอกไม้ขนาดเล็กๆมาให้ผม ผมยิ้มรับเธอ เปิดกระเป๋าเงินแล้วจ่ายให้เธอไป ผมไม่ได้รีบร้อนอะไรมากมาย ถึงค่อยๆเดินไปยังโรงเรียนสอนพิเศษของเขา เขาทำงานนี้กับเพื่อนอีกสามสี่คน ซึ่งแต่ละคนก็สอนในต่างวิชากันไป เขาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ครับ คล้ายกับผมพอประมาณที่ผมสอนฟิสิกส์ จริงๆเราทั้งคู่ก็สามารถสอนแทนกันและกันได้ แต่..หน้าที่ใครก็หน้าที่มันล่ะนะ

   ผมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาล็อบบี้โรงเรียน เหล่าพนักกงานก็คุ้นเคยหน้าและทราบดีว่าผมเป็นใคร ผมจึงเดินตรงไปคุยเล่นกับพวกเธอฆ่าเวลาไปพลางๆ โดนหยอกล้อแซวเล่นมาบ้างเหมือนกันว่าง้อกันน่ารักจนพวกเธออิจฉาตาร้อนกันไปข้าง แต่ทำยังไงได้ล่ะครับ เขาไม่เคยโกรธผมขนาดนี้นี่นา ปกติแล้วเวลาผมง้อเขาแค่เข้าไปอ้อนๆเล็กๆน้อยๆเขาก็ยอมคืนดีด้วยแล้ว ถึง..ปกติผมจะเป็นฝ่ายโดนเขาง้อก็เถอะ

   นี่เป็นครั้งที่สามครับที่ผมเป็นฝ่ายถูกโกรธ แต่เรื่องที่ผมทำไปมันก้สมควรที่จะถูกโกรธ ผมเข้าใจเขา..เพราะสิ่งนี้เขาก็เคยทำกับผมมาก่อนเหมือนกัน ซึ่งในตอนนั้นผมเจ็บจนชาไปหมด ถึงจะรู้ว่าเขาทำไปเพราะอะไรในตอนนั้น แต่ในตอนนั้นผมก็อดใจที่จะไม่คิดในเรื่องร้ายๆไม่ได้

   เขาก็คงจะเป็นเช่นกัน เพราะเขาถึงขั้นเอ่ยปากบอกเลิกผม

   “มาแล้ววว...” หนึ่งในสาวพนักงานหน้าเคาน์เตอร์หัวเราะคิกคักในตอนที่เขาเดินออกมา ผมหันหน้าไปมองเขาจนลืมไปเลยว่านั่งคุยกับสองสาวนี้อยู่ก่อน แต่ก่อนที่ผมจะคิดขึ้นมาได้เท้าผมก็เดินตรงตามออกจากโรงเรียนตามเขาไปแล้ว มือหนึ่งผมพยายามจะคว้าข้อมือเขา แต่พอเขาเหลือบมาเห็นเขาก็รีบชักมือกลับไปทันที ส่วนผมก็ได้แต่อมยิ้มกับตัวเองในใจก่อนที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เดินตามเขาพร้อมกับแกว่งดอกไม้ในมือเล่นๆ ในตอนนี้ใช่ว่าจะคนน้อยๆด้วยสิ ผมน่ะไม่เคยอายใครอยู่แล้วที่เป็นแฟนกับเขา แต่เขาน่ะสิ..ชอบอายเวลาอยู่กับผม ไม่ชอบแสดงออกด้านนี้ในที่สาธารณะ เพราะเขาชอบมองว่าเราไม่ใช่คู่รักชายหญิงทั่วไป การจะจับมือเดินกันหรือเดินอ้อนกันในที่สาธารณะมันไม่ใช่เรื่องที่น่ามองเท่าไหร่

   เช้อะ...คู่รักชายหญิงบางคู่ก็ใช่ว่าจะน่ามองหรอก

   “งอนนานจัง” ผมพูดลอยๆไป หวังให้เขาได้ยิน เขาทำท่าเหมือนจะเหลือบมามองผม แต่สุดท้ายก็เบือนหน้าไปทางอื่น ผมยิ้มกับตัวเองเบาๆเหมือนกับคนบ้า แต่ที่ยอมบ้าเนี่ยก็เพราะคนๆนี้หรอก ผมไม่ได้บ้าพร่ำเพรื่อเสียหน่อย นอกจากนั้น ก่อนหน้าที่จะคบเขาผมก็ไม่เคยบ้าเลยสักครั้ง มาเริ่มบ้าก็ตอนที่เจอคนๆนี้เนี่ยแหละ

   สถานีต่อไป..อาหารกลางวัน

   ดูจากท่าทางก็ไม่ต้องบอกว่าเขากำลังหิว เพราะสายตาที่มองหาแต่ร้านอาหารเนี่ย ไม่ค่อยบ่งบอกเลยว่าหิว ผมแอบยิ้มกับตัวเองอีกครั้งก่อนที่จะเดินไปให้เสมอกับเขาเพื่อที่จะเห็นสีหน้าของเขาให้ชัดๆ ยิ่งมองยิ่งน่ารัก แก้มแดงๆ ปากบึ้งๆ กับสายตาที่พยามทำเป็นไม่เหลือบมอง

   เขาเดินตรงเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่ง เหมือนกับกำลังใช้ความคิดสิ้นคิด เพราะคิดไม่ออกแล้วว่าจะกินอะไรดี แล้วพอเหลือบมองเจอร้านไหนก็เดินเข้าเลย และเนื่องด้วยว่าร้านอาหารญี่ปุ่นมีเกลื่อนประเทศไทยทำให้มันต้องกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจจะคิด..?

   เขาเดินตรงไปนั่งยังที่นั่งริมกระจกที่เป็นเคาน์เตอร์นั่งคนเดียว ผมเลยแอบเบะปากกับตัวเองเล็กน้อย นี่กะว่าจะแอบมองหน้าจ้องตาให้ใจอ่อนเสียหน่อย ทำไมต้องไปนั่งแบบนั้นด้วยเล่า แล้วแบบนี้จะง้อยังไงไหวล่ะเนี่ย ไอ้บื้อเอ้ย!!

   เขาสั่งอาหารเสร็จสรรพ แต่ไม่ได้สั่งเมนูที่กินเป็นปกติ ผมเลยสั่งเมนูที่เขากินเป็นปกติ ทำให้เขากันมามองหน้าผมเล็กน้อยแล้วหันกลับไปทันทีที่ผมจ้องหน้าเขาไม่ขยับไปไหน ดอกเดซี่ยังคงอยู่ในมือผมเพราะเขาไม่ยอมรับไปเสียที แต่อย่างน้อย..ผมก็สัญญาว่าผมจะดูแลมันดีๆล่ะนะ เพราะของที่ผมจะให้เขาทุกอย่าง ผมพร้อมกับรักษาสภาพมันให้ดีที่สุดจนกว่าจะถึงมือของเขา ต่อให้เขาจะทำอะไรกับมันก็ตาม

   เหมือนกับหัวใจผมดวงนี้..ผมรักษาสภาพมันมาอย่างดี เพื่อเขาคนเดียว..เขาคนเดียวจริงๆ เขาเป็นรักแรกของผมและจะเป็นรักสุดท้ายของผมด้วย แค่คิด..ผมก็ไม่อยากจะมีคนอื่น เพราะสำหรับผม แค่เขามันเกินคำว่าพอไปมากโขแล้วครับ แค่คำว่ารักสำหรับผมมันไม่พอแล้ว

   ในระหว่างที่กำลังรออาหาร เขาก็เปิดโทรศัพท์มือถือมาคุยกับ ‘ใครก็ไม่รู้’ ทำให้ผมพยายามเหลือบมองเขาตลอดเวลา นั่งด้านข้างมันก็ดีตรงจุดนี้เนี่ยแหละวะ ไม่นานเขาก็แค่เปิดเพลงจากมือถือแล้วใส่หูฟังฟังคนเดียว ผมยังคงเท้าคางจ้องเขาต่อไป แต่เขากลับทำเหมือนกับว่าผมเป็นธาตุอากาศเช่นเคย แต่ผมก็ยังไม่หุบยิ้มครับ เพราะนานๆทีผมจะได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเขาบ้าง เพราะปกติจะเจอใบหน้ายิ้มแย้ม หัวเราะคิกคักตลอดเวลา..ถึงความจริงจะชอบหน้าหัวเราะมากกว่าก็เถอะ

   ผมควานสมุดฉีกเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋าสะพายของตัวเองแล้ววาดรูป

   : )

   ใส่ลงไปอย่างเรียกร้องความสนใจ ก่อนที่จะเลื่อนมันไปตรงหน้าเขา เขาเหลือบมองสักครู่แล้วหันหน้าไปอีกทาง ไม่นานก็ปัดมันกลับคืนมาให้ผม โดยที่ไม่ได้เขียนอะไรตอบกลับมา..

   ไอ้หน้า : ) มันมีความหมายยังไงกับเราน่ะเหรอครับ ก็...เพราะวันแรกที่เราเจอกันครับ เป็นวันที่ฝนตกและเราติดอยู่ที่ร้านกาแฟกันทั้งคู่ และในร้านนั้นมีเราอยู่แค่สองคนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านข้างกัน โต๊ะมันใกล้กันจนจะกลายเป็นโต๊ะเดียวกันอยู่แล้ว และเรานั่งอยู่คนละฝั่งกัน เขานั่งร้องไห้อย่างหนักอยู่ที่โต๊ะนั้นพร้อมกับวางมือถือเอาไว้ที่โต๊ะโดยไม่ล็อกหน้าจอมือถือ ส่วนผมก็เอาแต่ช่วยลูกศิษย์ ที่ส่งข้อความมาหาให้ช่วยทำการบ้านหน่อย พอผมทำเสร็จผมก็ส่งให้น้องเขาไป ก่อนที่จะเหลือบเห็นเขาที่นั่งร้องไห้อยู่แบบนั้น เลยเอากระดาษทดเลขของตัวเองขึ้นมาใช้ปากกาสีเขียววาดรูป : ) ใส่ลงไปให้ตัวใหญ่พอประมาณ เขาหันหน้ามามองแล้วหัวเราะออกมาเบาๆในวันนั้น

   และวันนั้นเป็นวันที่เขาเลิกกับแฟนเก่า

   และหลังจากวันนั้นสองวันเป็นวันที่เขาเริ่มคุยกับผม

   นี่อาจจะเป็นการที่เขาจะลืมแฟนเก่าอย่างผมคนก่อน..และมีแฟนใหม่อย่างผมคนใหม่เข้ามาเป็นแฟนคนใหม่ของเขาอีกครั้ง ถึงครั้งนี้เขาจะไม่ได้ร้องไห้แบบที่แฟนคนก่อนของเขาทำกับเขา เขาแค่ทำหน้าบูดหน้าบึ้งกับสิ่งที่ผมทำพลาดไป

   “ปากเลอะ..แต่คงไม่ให้เช็ดสินะ” ผมพูดลอยๆออกไป ความจริงมันก็ไม่ได้เลอะอะไรมากมายหรอกครับ แค่เป็นคราบน้ำซุปของเส้นอุด้งที่เลอะแค่เล็กน้อยที่มุมปากเขา ซึ่งเวลาปกติ ต่อให้มันเลอะมากเลอะน้อยแค่ไหนผมก็ชอบหาเรื่องแต๊ะอั๋งเขาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หรือบางครั้งมันไม่เลอะเลยก็ตาม ผมก็มักจะยื่นมือไปเช็ดให้เขาเสมอ เพราะปฏิกิริยาหลังจากที่ผมทำแบบนั้นกับเขา เขาจะชอบลุกรี้ลุกรนมองไปรอบๆตัวทันที ก่อนที่จะหันมาเบะหน้าใส่ผม..มันน่ารักมากครับ

   มันเป็นเหตุผลให้เขาไม่เคยห่วงว่าปากตัวเองจะเลอะ และชอบเผลอกินอะไรจนเลอะเป็นเรื่องปกติที่เคยชินในชีวิต

   ผมเช็คบิลล์จ่ายเงินให้เขาทำให้เขาหันหน้ามาขมวดคิ้วใส่ผมทันที แต่ก็หันหน้ากลับไปทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนว่าที่หันหน้ามาขมวดคิ้วให้ผมเนี่ยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

   แน่นอนว่าสถานที่ประจำที่เราสองคนจะมาด้วยกันเสมอๆคือ...ร้านหนังสือ

   ผมเหลือบมองเขาอยู่ที่ชั้นหนังสือ แน่นอนว่าเขาก็แอบมองมาทางผมเป็นระยะๆอยู่เหมือนกัน ผมเลยยิ่งแอบยิ้มกับตัวเองเข้าไปอีก คนรอบด้านคงจะมองว่าผมบ้าไปแล้วก็เป็นได้ แต่ยังดีที่ตอนนี้เป็นเวลาที่คนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่ ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยนะ

   “เล่มนี้สนุกนะ” ผมเลื่อนนิ้วไปที่วรรณกรรมอังกฤษเล่มหนึ่ง เขาทำเป็นไม่มองมาทางผม แล้วตั้งท่าจะเดินหนีไปอีกทาง “ลองไปยืมแฟนเก่าคุณดูสิ เขาเพิ่งอ่านจบ” ว่าจบเขาก็หันหลังเดินไปทางอื่นทันที มีเหรอว่าผมจะไม่เดินตามไป

   เขาเลื่อนมือผ่านชั้นหนังสือไปสามสี่เล่มก่อนที่จะหยิบเล่มหนึ่งออกมา แน่นอนว่าที่บ้านเรายังไม่มีเล่มนี้ นี่ผ่านมาแค่สามวันเองนะ...แต่ผมเริ่มคิดถึงบรรยากาศที่เรานอนเอาเท้าก่ายกันนั่งอ่านหนังสืออยู่คนละด้านของโซฟาแล้วสิ

   ผมแกล้งทำเป็นยื่นหน้าไปใกล้ๆเข้าสองสามครั้ง เขาเลยเหยิบตัวออกหนีจากผมแล้วก้มหน้าลงอ่านคำโปรยนิยายไปสักพัก ผมยืนยันว่าผมยังรักเขา ผมรักเขามากๆ ทำไมถึงใจแข็งได้ขนาดนี้นะ นี่คิดว่าที่อยู่กันมาหกปีเราจะเลิกรักกันได้ภายในวันเดียวหรือไงกัน

   จีบกันแบบไม่รู้จักกันน่ะ มันง่ายกว่าจีบกันตอนรู้จักกันอยู่แล้ว!!

   เขายังคงเมินผมไปเรื่อยๆ แต่ถึงท่าทางจะแสดงออกมาว่าเมินกันขนาดไหน แต่ไอ้การที่เขาเดินเข้ามาในสวนสาธารณะที่ผมชอบมาวิ่งออกกำลังกายบางครั้ง แต่ตัวเขากลับเอาแต่บ่นทุกครั้งที่มาเนี่ย...มันไม่ใช่ว่าเขากำลังเริ่มใจอ่อนให้ผมเหรอไงกัน

   เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ในสวนพร้อมกับเปิดหนังสือขึ้นมาอ่าน ผมรู้สึกว่าเวลาของวันนี้เดินไปเร็วอย่างผิดปกติ อาจจะเพราะว่าอยู่ๆผมก็ยกเลิกงานทุกอย่างเพื่อมาวิ่งตามเขาเนี่ย...มันเป็นสิ่งที่นานๆทีผมจะได้ทำล่ะมั้ง

   ชีวิตจริงไม่เหมือนในละคร ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะหยุดทุกๆงานเพื่อมาง้อคนที่รักได้ แต่เพราะว่าเขาสำคัญกับผมมากๆ ไม่สิ...เขาเป็นทุกอย่างของผมในตอนนี้ ผมจะไม่ยอมเสียเขาไปอีกแล้ว แค่ได้ยินคำว่าเลิกกันผมก็โมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วผมก็มานั่งเสียใจทีหลัง ซึ่ง...ผมอยากไถ่โทษในจุดนั้น

   เสียงเพลงชาติดังขึ้นทำเอาผมหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อยในตอนที่ผมกำลังจะเอ่ยปากเรียกเขา เขาเองก็หันหน้าไปอีกทางจนผมเริ่มเดาได้เลยว่าเขาอาจจะแอบหันหน้าไปอีกทางเพื่อที่จะกลั้นหัวเราะ ไม่กี่นาทีผ่านไปเขาก็ทิ้งตัวลงนั่งที่เดิม หน้าเขาไม่บูดเหมือนเมื่อเช้าแล้ว ตอนนี้เหมือนจะอยู่ในสภาพกลั้นยิ้มมากกว่า

   “นี่...” ยังไม่ทันที่ผมจะร้องเรียกเขาได้ เสียงท้องผมก็ร้องดังโครก ปกติผมไม่ใช่คนกินอะไรเร็ว แต่เขาเป็นคนที่กินอะไรๆเร็วมาก ทำให้เมื่อเที่ยงผมต้องรีบทิ้งจานข้าวแล้วเช็คบิลล์ให้เขา แน่นอนว่าตอนนั้นผมยังไม่อิ่ม และเวลานี้ก็เย็นแล้วด้วยไม่แปลกหรอกที่ผมจะหิวน่ะ

   “คิก..” ผมรีบเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายทันที รายนั้นในตอนแรกหัวเราะออกมาแค่เล็กน้อย แต่พอเขาสบตาผมเขาก็หลุดหัวเราะออกมาก๊ากใหญ่ ทำเอาผมยิ้มกว้างออกมาทันที

   ยิ้มนั่นแหละ...แต่...

   “ฮึก..” อยู่ๆผมก็สะอื้นออกมา แน่นอนว่าน้ำตาไหลออกมาไม่ต่างกัน ผมยกแขนขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออกไปแต่เหมือนว่าเปิดก๊อกไปแล้วมันเริ่มยากที่จะปิดแล้ว เขายิ้มกว้างทันทีแล้วเปิดกระเป๋าคว้าเอากระดาษทิชชู่ยื่นมาทางผมทันที ยิ่งเขาสนใจผมมากขึ้นเท่าไหร่ผมก็ยิ่งร้องไห้หนักมาขึ้นเท่านั้น แต่ตอนนี้ผม...ผมโคตรดีใจเลยให้ตายสิวะ

   “ร้องไห้ทำไมกันเนี่ย”

   “ไม่รู้...” เขาไม่มีทางกอดผมในที่สาธารณะหรอก ขนาดจับมือยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ ผมเคารพเหตุผลของเขาเสมอมา ถึงผมจะชอบแอบดึงมือเขามาจับ หรือแอบบีบแก้มในร้านกาแฟเป็นครั้งคราวก็เถอะ แต่ตอนนี้ผมอยากดึงเขาเข้ามาจูบสักครั้งให้ชื่นใจ แต่ก็รู้ว่าคงทำไม่ได้

   “อย่าโกรธได้ไหม สัญญาจะไม่ทำแบบนี้แล้ว ขอร้อง” ผมกำมือแน่น “เราอยู่คนเดียวไม่ได้ ขอร้อง”

   “ร้องไห้เป็นเด็กเลยไอ้บ้า” ไม่พูดเปล่า มือเรียวๆนั่นยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผม ทีนี้บ่อน้ำตาผมแตกหนักเข้าไปอีก เขาเช็ดน้ำตาให้ผมสักพักก่อนที่จะเอามือบีบจมูกผมเบาๆ

   “นี่อยู่ข้างนอก...”

   “อยู่ข้างนอกแล้วเราเช็ดน้ำตาให้ไม่ได้เหรอ” ผมยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด

   “ก็เห็นว่าไม่ชอบ”

   “หิวแล้วใช่มั้ย กลับบ้านไปทำข้าวกินกัน” ผมยิ้มกว้างกว่าเดิมอีกครั้ง แสงอาทิตย์แยงตาผมเล็กน้อยในตอนที่เดินทวนแสงออกจากสวนสาธารณะแบบนี้ ถึงเราจะไม่ได้จับมือกันเดินออกไป แต่อย่างน้อยผมก็ยังรู้ว่าไม่ต้องมีอะไรมาเชื่อมเราสองคนเอาไว้เราก็จะยังอยู่ด้วยกันเสมอ

   “เป็นแฟนกันอีกรอบได้ไหม”

   “นับ anniversary ต่อจากคราวก่อนได้มั้ยอ่ะ ไม่อยากนับใหม่” ผมหัวเราะทันทีที่ได้ยินคำตอบนี้

   แปลกเนอะ ทั้งๆที่เราทำผิดต่อเขามานับครั้งไม่ถ้วนแต่เขาก็ยังคงให้อภัยเราและพร้อมที่จะเริ่มใหม่กับเราไปเรื่อยๆ ถึงแม้ที่ผ่านๆมามันอาจจะไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร แต่ครั้งนี้ที่มันรุนแรงขนาดนี้ทำไมเขาถึงให้อภัยผมกันนะ ทั้งๆที่เขาควรจะเจอคนที่ดีกว่านี้หรือเปล่า

   “แกเคยคิดว่าเราเลวไปสำหรับแกมั้ย” ผมเงยหน้าขึ้นจากโซฟาพร้อมกับอ้าปากถามคนที่กำลังล้างจานอยู่ไม่ไกล

   “เราก็เลวใส่แกตั้งหลายเรื่อง แค่เลวคนละเรื่องกับแกเฉยๆ” มันก็แค่เรื่องหนีไปเที่ยวตอนกลางคืนไม่บอกไม่กล่าว แต่ผมทำผิดกว่าเขาหลายร้อยเท่า...คนเป็นแฟนกันไม่มีใครทำใจได้กับการที่แฟนตัวเองไปนอนกับคนอื่นหรอกนะ “ต่อให้แกไปนอนกับคนอื่นแต่เราก็ยังรักแกอยู่ป่ะวะ”

   “ทำไมต้องดีกับเราแบบนี้ตลอดเลยวะ”

   “ปกติเราไม่ใจอ่อนหรอก แต่เพราะแกร้องไห้เราเลยยอม” ผมฉุดเอวคนที่เดินมาใกล้ผมเข้าหาตัวทันที แน่นอนว่าเขาก็ยอมทิ้งตัวลงมาทับผมเต็มแรง อยู่กับใครผมก็มีความสุขเท่านี้ไม่ได้หรอกจริงๆ ผมมันอาจจะแค่บ้า...แต่ต่อให้ผมเมาเละขนาดนั้นก็ตามผมก็ไม่ควรที่จะไปนอนกับคนอื่น

   “งี้ถ้าเราทำผิดอีกเราก็แค่ร้องไห้ใช่ป่ะ” ผมกดหน้าลงบนแก้มอีกฝ่าย เขาก็ยอมโดยไม่ได้ขัดขืนอะไรผม

   “ต่อให้ไม่ร้องเราก็ยอมแกอยู่แล้วป่ะ”
 
   เพราะรักก็คือรัก ถ้าความผิดที่สุดท้ายเรายอมให้อภัยกันเราเองก็ไม่ต้องเจ็บปวด ถึงแม้มันจะย่ำแย่จนบางครั้งทำใจยอมรับไม่ได้ก็จริง แต่ถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่เราทำผิดซ้ำซาก...ผมก็มองว่าการให้อภัยกันซ้ำๆมันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ต่อให้เขาผิดกับผมมากกว่านี้เป็นร้อยเป็นพันเท่า แต่ถ้าผมยังต้องการให้เขาอยู่ข้างๆผมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมอาจจะยอมทำเป็นไม่รู้ความผิดของเขาเลยก็ได้

   จีบกันใหม่อีกกี่รอบผมก็ยอม
   
ขอโม้ : ตอนแรกตั้งใจแต่งแนวรวมวิธีจีบเชยๆ แต่ไหงวกเข้าดราม่าได้ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันเลยออกมาแนวเบเบนิดนึง แต่ยังไงก็ฝากเรื่องสั้นเรื่องนี้ไว้ในใจแม่เป็ดทั้งหลายนะคะ แค่กดเข้ามาอ่านเค้าก็ดีใจแล้วว > < ขอบคุณนะคะ
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ Starry[Blue]

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: [เรื่องสั้น] 2nd Confession [END]
«ตอบ #1 เมื่อ20-01-2017 01:39:50 »

เข้ามาเพราะชื่อคนเขียนค่ะ ประทับใจเลย 5555

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: [เรื่องสั้น] 2nd Confession [END]
«ตอบ #2 เมื่อ19-09-2018 18:40:02 »

น่ารักเด่าคิดว่าจะดราม่า

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] 2nd Confession [END]
«ตอบ #3 เมื่อ19-09-2018 20:29:36 »

ดีที่เข้าใจกัน  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ชอบอ่าน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] 2nd Confession [END]
«ตอบ #4 เมื่อ02-10-2018 18:59:30 »

รักก็คือรัก น่ารักจังเลย
 เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด