แสงสว่าง และ ความมืด
วันนี้อากาศค่อนข้างดีกว่าทุกๆวัน เพราะมีแดดเล็กน้อย ทำให้บรรยากาศดูสดใสขึ้นมาท่ามกลางอากาศชื้นๆ บนรถแท็กซี่ที่กำลังแล่นไปบนถนนซึ่งข้างทางเป็นตึกสูงใหญ่มากมายรายเรียงกันเต็มไปหมดทั้งสองข้างทาง บ้างเป็นบริษัท ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า หรือแม้กระทั่งบ้านคน มีชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาดี จัดว่าดีมาก น่ามอง ประกอบกับนัยตาสีฟ้าอมเทา ผิวพรรณซึ่งขาวจัด ปากบางสีชมพูระเรื่อรูปทรงสวย ไว้ผมสั้นทรงตามสมัยนิยมสีน้ำตาลอ่อน กำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างใจเย็น ทั้งๆที่ภายนอกรถนั้นการจราจรแสนจะคับคั่ง วุ่นวาย เสียงดังไปหมด
" เอ่อออ คุณครับ คุณจะไปที่ไหนนะครับ " คนขับถามเหมือนต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง
" ห้องสมุดมหาวิทยาลัย...ครับ มีอะไรหรือป่าวครับ " ชายหนุ่มตอบพร้อมถามกลับอย่างสนใจ
" รถติดมากเลยครับ คือ ผมมีนัดลูกค้าอีกครึ่งชั่วโมง นัดล่วงหน้าซะด้วยอ่ะครับ " คนขับตอบระคนเกรงใจ
" อ่อครับ ถ้างั้นคุณช่วยเลี้ยวขวาข้างหน้า แล้วตรงไปตัดที่เส้นเคิร์ท แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปจนไปถึงเฮลวิลล์แล้วปล่อยผมลงที่หัวมุมถนนแล้วกันนะครับ ถ้าไปตามนั้นรถไม่ติดแน่นอนครับ น่าจะใช้เวลาสัก10นาที " ชายหนุ่มบอกไปด้วยน้ำเสียงที่ติดขำเล็กน้อยเพราะรู้ทันคนขับ
" ได้ครับ แฮะๆ " คนขับตอบพร้อมขำแห้งๆ แล้วทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ส่วนชายหนุ่มก็ยังคงอ่านหนังสือของเขาต่อไปจนถึงปลายทาง
……………………………………………………………………………………………………………..
" ขอโทษนะคะ หนังสือที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์พฤติกรรมของจิตใจมนุษย์ต้องหาจากหมวดไหน ช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยคะ " เด็กสาวแว่นหนาตามสไตล์เด็กเนิร์ดขอความช่วยเหลือจากบรรณารักษ์หนุ่ม
" หมวด 109085 เป็นต้นไปครับ ว่าแต่คุณต้องการแบบไหนครับ สนใจหรือหาข้อมูลทำวิจัย? " หนุ่มบรรณารักษ์ตอบและถามกลับ
" อยากอ่านเฉยๆค่ะ พอดีว่าลงเรียนคลาสจิตวิทยาก็เลยอยากลองหาหนังสือที่ไม่ใช่หนังสือเรียนอ่านดูค่ะ มันน่าสนใจดี " เด็กสาวตอบ
" ครับ ถ้าอย่างนั้น ผมแนะนำถัดจากต้นหมวดไป 3 บล็อก เลือกเอาตามที่คุณสนใจได้เลยนะครับ " บรรณารักษ์หนุ่มแนะนำ
" ขอบคุณค่ะ " เด็กสาวบอกแล้วเดินไปยังเป้าหมายของตน
" ทำไมเบลไม่แนะนำหนังสือที่เบลอ่านไปละ ดูเบลชอบอ่านแนวนั้นอยู่แล้วนี่ " เพื่อนร่วมงานสาวร่างกลมถามขึ้น
" ความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน อย่าเอาความชอบของตัวเองไปยัดเยียดใส่คนอื่นสิ " บรรณารักษ์หนุ่มตอบเพื่อนสาว
" เบลอ่านมันก็ต้องดีสิ แนะนำสิ่งดีๆให้ ไม่ดีหรอ " สาวร่างกลมยังไม่ยอม
" ดีของเรากับดีของเขาจะเหมือนกันได้ไงละห้ะ ให้เขาเลือกเองจะดีกว่า เพราะถ้าอยากอ่านแนวนี้ แถวหมวดนั้นที่แนะนำไปมีแต่หนังสือดีๆทั้งนั้นแหละ อ่ะ กินนี่ไป " บรรณารักษ์หนุ่มโต้พร้อมเอาอมยิ้มกลิ่นโคล่าตีไปบนแขนของเพื่อนสาวเบาๆ
" ขอบใจจ้าาา " สาวร่างกลมบอกด้วยน้ำเสียงสดใส
แสงสีส้มสาดส่องกระทบสิ่งต่างๆ เป็นเครื่องบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว หนุ่มบรรณารักษ์เลิกงานของตนแล้ว เดินทอดน่องไปตามถนนของมหาวิทยาลัย จุดหมายคือสวนสาธารณะที่อยู่อีกฝั่งของถนนเส้นนี้ ชายหนุ่มชอบมาที่สวนสาธารณะแห่งนี้มาก เพราะคนไม่เยอะ สวย สะอาด ร่มรื่น ตอนนี้เขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนม้านั่งเหมือนปกติที่เขาชอบทำ แสงนวลๆจากดวงอาทิตย์ เสียงลมพัด กลิ่นต้นไม้ใบหญ้า ทำเขาสงบทุกครั้งที่มาที่นี่
" เอาละครับ วันนี้พอแค่นี้ ขอบคุณครับ " เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มบอกขึ้นแล้วเจ้าตัวก็เอนหลังไปกับเก้าอี้ คนรอบข้างต่างเก็บของออกไปห้องประชุมกันจนหมดแล้ว เขาเหน็ดเหนื่อยและเครียดกับการประชุมวันนี้พอสมควร เขาจึงคิดที่จะไปพักผ่อนในที่ที่หนึ่ง ที่ที่เขาชอบไป มันสงบ ร่มรื่น และเขาก็จะได้มองคนๆหนึ่งด้วย จากแค่เห็น จนเห็นเป็นประจำ จนเป็นความชินตา จนเป็น..ความชอบ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเลย ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์อะไรกันแม้กระทั่งสบตา และคนๆนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรที่เปลี่ยนไปเลย นอกจาก อ่านหนังสือ และ..นอนหลับบนม้านั่ง ดูธรรมดาแต่ช่างน่ามอง " วันนี้จะมามั้ยนะ " ชายหนุ่มร่างสูง กำยำ หน้าตาดี จัดได้ว่าหล่อมาก ราวเทพบรรจงปั้น ผิวขาว นัยตาสีเทาเข้ม ไว้ผมทรงสมัยนิยมสีน้ำตาลไหม้ พูดขึ้นลอยๆ พร้อมเก็บของแล้วตรงไปยังรถยนต์คันสวยที่ราคาก็สวยตาม เป้าหมาย คือ สวนสาธารณะ
ชายหนุ่มร่างสูงขับรถยนต์ของตนมาถึงยังที่หมายแล้วก็เดินไปตามทางเพื่อไปยังม้านั่งตัวประจำของเขาซึ่งอยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับชายหนุ่มร่างบาง มุมตรงนี้ทำให้เขาเห็นอีกฝ่ายได้ชัด ไม่ใกล้หรือไกลเกินไป ทันทีที่ถึงม้านั่งตัวประจำ เขาก็มองไปเห็นเป้าหมายของเขา มันทำให้เขายิ้มออกมาเล็กน้อย " วันนี้อ่านหนังสืออะไรครับ " เขาถาม แต่เหมือนถามไปกับลมซะมากกว่า เขาเป็นคนที่มีคนเขาหามากมาย ในส่วนที่เขาเข้าหาเองก็พอมี และเขาไม่เคยผิดหวังหรือเสียฟอร์มเลย แต่กับคนนี้ เขากลับไม่กล้า กลัวจะผิดหวัง เพราะเขาก็ได้แค่ลอบมอง ไม่สักครั้งที่เขาคนนั้นจะมองกลับมา ไม่มีอะไรบ่งบอกเป็นสัญณาณเลยว่าเขาจะไม่แป้กถ้าเขาจะเข้าไปสานความสัมพันธ์ เพราะเท่าที่สังเกตมา ดูเหมือนว่าเขาชอบความเป็นอิสระ ไม่ปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างเกินความจำเป็น มาทีไรก็มาคนเดียวตลอด แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าเขาคนนั้นยังไม่มีแฟน เพราะไม่มีครั้งไหนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแชทหรือมีคนโทรศัพท์มาหาแล้วคุยยาวๆเลย พอคิดๆดูแล้วเขาก็ตลกตัวเองที่คนช่ำชองอย่างเขามานั่งคิดไม่ตกเป็นเด็กน้อยกับการจีบ เขาเฝ้ามองอีกฝ่ายจนเวลาล่วงเลยไปจนฟ้าเปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีดำกำมะหยี่ อีกฝ่ายเหมือนจะกลับแล้วเพราะปิดหนังสือและคลายอิริยาบถ ส่วนเขาก็จะทำคามแบบที่เคย คือ เดินไปส่งเป็นเพื่อนอยู่ห่างๆจนกว่าอีกฝ่ายจะขึ้นแท็กซี่กลับไป แต่วันนี้เขาเกิดความฮึกเฮิมในใจอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ จู่ๆ ในขณะที่เดินตามอยู่เขาก็เร่งฝีเท้าขึ้นไปทักทายกับอีกฝ่าย เขาใช้คติที่ว่า ถ้าบอก โอกาสก็50:50 ถ้าไม่บอกโอกาสก็จะไม่เคยเกิดขึ้นเลย แล้วเขาก็เป็นคนประเภทที่ชอบให้โอกาสซะด้วยสิ แถมนี่ยังเป็นการให้โอกาสตัวเองด้วยนะ
" หวัดดีครับ " ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยทัก
" หวัดดีครับ มีอะไรให้ช่วยหรือป่าวครับ " ชายหนุ่มร่างโปร่งตอบและถามกลับ
" เยอะเลยละครับ " ชายหนุ่มร่างสูงตอบกลับน้ำเสียงติดขำกับสิ่งที่อยู่ในใจ
" แล้วอะไรละครับ ถ้าช่วยได้ก็บอกมานะครับ " ชายหนุ่มร่างโปร่งถามอย่างยินดีช่วย
" ผมเควิน ฟิชเชอร์ครับ แล้วคุณ? " เควินแนะนำตัวเองและถามกลับ
" โนแลนด์ เบิร์คครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณฟิชเชอร์ " ชายหนุ่มร่างโปร่งแนะนำตัวเองกลับ
" โนแลนด์ครับ เรียกเควินเฉยๆก็ได้ครับ คนรู้จักของผมเขาเรียกกันแบบนั้น " เควินบอก
" ครับเควิน ถ้างั้นคุณก็เรียกผมว่าเบลก็ได้ครับ คนรู้จักของผมเขาก็เรียกผมแบบนั้น " เบลตอบรับและบอกกลับ
" ทำไมถึงเป็นเบลละครับ " เควินถาม
" ชื่อกลางหน่ะครับ " เบลตอบ
" ครับเบล คุณชอบมาที่นี่หรอ เห็นคุณมาเป็นประจำ " เควินถาม
" มาเป็นประจำ? เห็นผมบ่อยหรอครับ " เบลถามกลับ
" ไม่บ่อยครับ แต่เห็นเป็นประจำ " เควินตอบแล้วยิ้ม
" นานแค่ไหนแล้วเนี่ย " เบลถาม
" นานพอที่อยากจะรู้จักให้มากกว่านี้ มีอย่างอื่นที่ชอบทำอีกมั้ย นอกจากอ่านหนังสือ กับ งีบหลับ " เคนวินบอก
" ดันเห็นตอบหลับซะได้ ฮ่าๆ จริงๆ ชีวิตของผมเรียบง่าย ออกจะน่าเบื่อด้วยซ้ำ สำหรับบางคนนะ แต่ผมพอใจที่มันเป็นแบบนี้ " เบลบอกพร้อมเกาศีรษะแก้เก้อ
" ส่วนชีวิตของผมก็วุ่นวายครับ งาน ผู้คน ผมก็เลยชอบมาที่นี่ มานั่งมองคุณ " เควินบอกพร้อมเร่งฝีเท้าให้นำหน้าแล้วหันกลับมาจ้องไปที่ตาของเบล
" หื้ออ จะมานั่งมองทำไม มีอะไรให้มองหรอ " เบลถามแบบขำๆเขินๆ
" มองแล้วจะสบายใจ และที่นี่ก็อากาศดีมาก " เควินตอบ
" ครับ ถ้าวันหลังมาก็เอาหนังสือติดมาด้วย แล้วมานั่งอ่านด้วยกันก็ได้นะครับ " เบลเอ่ยชวนไป
" แน่นอนครับ " เควินตอบรับ
" แต่ว่าตอนนี้ผมต้องขอตัวก่อนแท็กซี่มาแล้ว " เบลบอก
" จะรังเกียจมั้ยถ้าหากผมจะขอเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ติดต่อคุณสักหน่อย " เควินเอ่ยถาม
" ไม่ครับ แต่ว่าผมไม่พกโทรศัพท์ แต่อยากเจอก็ไปที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัย.. ได้ครับ ผมทำงานที่นั่น " เบลบอกเป็นเชิงไม่ตัดรอน จริงๆก็มีโทรศัพท์บ้านนะ แต่ยังก่อน
" โอเคครับ ไว้เจอกัน " เควินบอกแล้วเอ่ยลา
" ไว้เจอกันครับ " เบลตอบกลับแล้วปิดกระจกหน้าต่างรถแท็กซี่
" ไม่แป้กเว้ย เยสสส " เควินตะโกนอย่างดีใจสุดๆแล้วเดินไปยังรถยนต์คันสวยเพื่อขับกลับบ้าน
…………………………………………………………………………………………………………
บนรถแท็กซี่ที่กำลังเคลื่อนตัวไปบนถนน แสงไฟจากสองข้างทางต่างก็สาดสองเข้ามาในรถเป็นระลอกๆ ร่างโปร่งนั่งกอดหนังสือเล่มหนาอยู่ในใจก็คิดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยถูกจีบเลย ออกจะบ่อยด้วยซ้ำ แต่เขาไม่เคยคิดที่จะคุยหรือสานความสัมพันธ์กับใคร ไม่ได้เชิงปิดกั้น แต่แค่ยังไม่เจอใครที่ทำให้ใจเต้นได้ก็แค่นั้น และชีวิตที่เขาเป็นอยู่ เขาก็พอใจกับมัน จึงทำได้แค่ปฏิเสธไป แต่ไม่ใช่กับคนๆนี้ ทำไมถึงไม่อยากปฏิเสธเขาละ ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แค่อยากรู้จัก รู้จักให้มากกว่านี้ ก็แค่นั้นเอง...
เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้อากาศค่อนข้างชื้นนิดหน่อยเพราะมีละอองฝนและไอน้ำฟุ้งลอยอยู่ทั่วในอากาศ และทุกอย่างในการดำเนินชีวิตของเบลก็เป็นไปดังเช่นเคย หนุ่มร่างโปร่งกำลังอยู่บนรถแท็กซี่มุ่งหน้าไปทำงานที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัย... ใครต่อใครก็ถามว่าทำไมเขาถึงอยากทำงานเป็นบรรณารักษ์ เขาก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลยังไงให้พวกเขาเข้าใจ ก็แค่ชอบ รัก การอ่าน ชอบ รัก หนังสือ เวลาอ่านหนังสือเหมือนตัวเองได้อยู่อีกโลกหนึ่ง ไร้ความวุ่นวาย สงบ ได้ปล่อยให้ความคิดมันไหลไป และเป็นการเปิดโลกทัศน์ของตัวเองให้กว้างขึ้นไปเรื่อยๆ เขาชอบอ่านหนังสือไม่ว่าจะเป็นแนวไหนก็ตาม มันเป็นงานที่มีความสุข ก็แค่นั้นเอง ทำไมคนเราต้องสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองเยอะแยะด้วยก็ไม่รู้ ตอนนี้เขากำลังเดินก้าวขึ้นไปบนบันไดหน้าห้องสมุด ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เพื่อนสาวร่างกลมก็พุ่งเข้าชาจเขาทันที
" ไปทำไรมาอ่ะเบล " สาวร่างกลมถามทันที
" ทำอะไรหรอ " เบลถามกลับงงๆ
" ก็เนี่ย " เพื่อนสาวพูดแล้วชี้ไปที่กองหนังสือมากมาย น่าจะสักเกือบ50เล่ม มีหลากหลายแนว และที่สะดุดตามากเลยก็คือ ช่อดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่ ร่างโปร่งจึงเดินเข้าไปหยิบดู ปรากฏว่ามีการ์ดอยู่ แต่เหมือนถูกแกะอ่านไปแล้ว
" แหะๆ ก็อยากรู้นี่ " เพื่อนสาวบอก
" แล้วของใครอ่ะ " เบลวางช่อดอกไม้และการ์ดลง ทั้งที่ยังไม่ได้อ่านว่าเป็นของใคร
" เอ้า ก็ของเบลไง ถึงได้ถามว่าไปทำอะไรมา ทำไมมีคนส่งของมาให้ทั้งหนังสือทั้งดอกไม้ ใครอ่ะ เดี๋ยวเจอกันนะครับ ชื่อผู้ส่ง เควิน " สาวร่างกลมถามใคร่รู้
" เควินหรอ " เบลถามกลับ แล้วหยิบการ์ดเปิดขึ้นอ่าน ในใจสั่นเหมือนกลองรัว คนบ้าเล่นแบบนี้เลยหรอ
" ใช่ เดี๋ยวเจอกันนี่คือไงอ่ะ เดี๋ยวเขามาที่นี่ใช่ปะ แล้วเขาหล่อปะ เป็นคนยังไงอ่ะ " สาวร่างกลมถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
" มั้ง เดี๋ยวก็ได้เห็นหน่า " เบลตอบปัดไปแบบเขินๆ แล้วเริ่มทำงานของตัวเอง
" อะไรกัน อุบอิบหรอ ชิ " เพื่อนสาวแกล้งหยอกแล้วหันไปจัดการกับงานตัวเองต่อเช่นกัน
ขณะที่เบลนั่งก้มหน้าเขียนตัวหนังสือลงไปบนสมุดจดบันทึก ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นบนศีรษะ เสียงนั้นทุ้มต่ำน่าฟังมาก เสียงนั้นพูดว่า
" ชอบเล่มไหนเป็นพิเศษมั้ยครับ "
ร่างโปร่งจึงเงยหน้าขึ้นมอง แล้วจึงเห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนเอามือข้างหนึ่งท้าวคางยิ้มถามอยู่
" ยังไม่ได้ดูเลยครับ เคลียร์งานอยู่ มีเล่มไหนอยากแนะนำเป็นพิเศษมั้ยละครับ " เบลตอบและถามกลับ
" หลายเล่มเลยครับ ส่วนใหญ่ผมอ่านหมดแล้ว แค่อยากให้คุณได้อ่านบ้าง " เควินบอก
" งั้นเลือกมาสัก3เล่มครับ เดี๋ยวจะเอาไปอ่านที่บ้าน " เบลบอก
" สักครู่ครับ " เควินบอกพร้อมส่งยิ้มให้เพื่อนสาวของเบลที่ทำท่าอยากรู้อยากเห็นอยู่ข้างหลังโต๊ะของเบลแล้วเดินไปค้นๆกองหนังสือ
" หู้ยหล่ออ่าาาา " เพื่อนสาวบอกกับเบล
" เป็นสาวเป็นนาง " เบลแซวเพื่อนขำๆ แล้วเขียนต่อ
" นี่ครับ " เควินกลับมาพร้อมกับหนังสือ3เล่ม
" ขอบคุณครับ " เบลบอกแล้วรับหนังสือมาดู
" ชอบมั้ยครับ " เควินถาม
" ต้องลองอ่านก่อน ตัดสินหนังสือจากปกไม่ได้หรอก " เบลบอก
" ครับ แล้วดอกไม้? " เควินถาม
" ชอบครับ สวยมาก ขอบคุณครับ " เบลตอบยิ้มเขินๆ
" แล้วคนให้ละครับ ชอบมั้ย? " เควินตัลอมถามต่อ
" ก็... ชอบอยู่ " เบลเขินหนัก
" ดีใจจัง " เควินบอกเสียงหวาน
" โอ้ยยย " เบลหลบสายตาแล้วส่งเสียงแก้เขิน
" แล้วไม่แนะนำให้ผมบ้างหรอครับ " เควินถาม
" อ้อ ฮานน่า นี่คุณเควินนะ เจ้าของหนังสือที่บริจาคเมื่อเช้า เควิน นี่ ฮานน่า เพื่อนร่วมงานแสนซนของผม " เบลบอกเพื่อนสาวและหันมาบอกเควิน
" ยินดีที่ได้รู้จักครับฮานน่า " เควินบอกพร้อมกับยิ้มหล่อให้ฮานน่า
" เช่นกันค่ะ เควิน คงได้ยินบ่อยแล้วมั้งคะ ถ้าจะบอกว่าคุณหล่อมาก แอร้ยยยย " ฮานน่าหวีดร้องเสียงใส
" คงงั้นครับ " เควินบอกพร้อมยิ้มขำ
" นั่นเป็นส่วนหนึ่งครับ แต่ที่อยากให้แนะนำคือหนังสือที่คุณชอบอ่าน " เควินหันมาคุยกับเบลต่อ ปล่อยให้ฮานน่าทำงานของตน
" หึๆ นี่ครับ เอาไปเล่มเดียวก่อนนะ งานคุณดูจะเยอะกว่างานผมมาก เดี๋ยวจะแยกเวลาไม่ถูกเอา " เบลหัวเราะในลำคอแล้วหันไปหยิบหนังสือของตนให้อีกฝ่ายไป
" เลิกงานกี่โมงครับ " เควินถามพร้อมรับหนังสือมา
" 4โมงครึ่งครับ " เบลตอบขณะเช็คงานหน้าคอมพิวเตอร์
" เดี๋ยวมารับนะครับ ไปเดทกัน " เควินบอกชวน
" โอเคครับ " เบลตอบตกลง
" งั้นผมไปทำงานก่อน แล้วเจอกันครับ " เควินบอกลาไปทำงาน
" แล้วเจอกันครับ " เบลบอกลาด้วย
เลยเวลาเลิกงานของเบลมาแล้วเกือบ10นาที แต่เควินยังไม่มา หลังจากจากแยกย้ายกับเพื่อนสาว เบลก็มานั่งอ่านหนังสือรออยู่ที่ปลายบันไดหน้าห้องสมุด อ่านไปสักพักก็เกิดความเมื่อยขึ้นมาจึงเงยหน้าจากหนังสือเพื่อบิดขี้เกียจ แต่แล้วก็ต้องตกใจ เควินนั่งมองเขาจากบันไดขั้นล่างจากจากตัวเบลไปหนึ่งขั้น
" โจรปล้นคงไม่รู้ตัวแน่นอน " เควินแซว
" คงงั้นแหละครับ มานานยัง " เบลตอบแล้วถามกลับ
" นานพอที่รู้ว่าไม่ได้หลับใน เพราะเห็นว่าสามารถเปลี่ยนหน้าหนังสือไปเรื่อยๆได้ " เควินบอก
" ฮ่าๆ " เบลขำ
" ไปกันครับ " เควินแน่งหนังสือไปถือ แล้วเอาอีกมือจับมือของเบลดึงให้ลุกขึ้น
" ไปไหนครับ " เบลถาม
" ที่ที่หนึ่ง " เควินบอก
หลังจากเดินจับมือกันมาถึงรถคันสวยของเควิน ตอนนี้รถกำลังแล่นไปยังเป้าหมายของเควิน มันเป็นสถานที่เก่าๆ แต่เหมือนถูกดูแลรักษาอย่างดี ภายมีรถเก่าๆอยู่หลายคัน เควินพาเบลขึ้นไปนั่งบนรถเก่าคนงามที่อยู่ตรงกลางห้อง แล้วเปิดลิ้นชักออก นำแก้วไวน์ขึ้นมา2แก้ว ส่งให้เบลแก้วหนึ่ง แล้วเปิดไวน์ขวดสวยสีสด รินใส่แก้วทั้งสอง แล้วใช้กลไกลในโทรศัพท์สั่งปิดไฟ ทั้งหมดมืดลงทันที เบลเผลอตกใจเอามือไปจับต้นแขนแกร่งซะแน่น แต่มืดแค่แป๊ปเดียวเท่านั้น เพราะทันทีที่ไฟดับลง ผ้าใบขนาดใหญ่ก็ถูกเครื่องจักรคลี่ออกเป็นจอหนัง แล้วเครื่องเล่นหนังก็เริ่มทำงาน หนังเป็นหนังแบบโบราณ การฉายเป็นม้วนฟิล์มมีมนต์เสน่ห์มาก ทั้งสองดื่มไวน์ชมหนัง ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา มีแค่เพียงสายตาที่ทำหน้าที่ของมัน จนระยะห่างทั้งสองลดลงไปเรื่อยๆ จนใกล้กัน ได้ยินลมหายใจของกันและกันชัดมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งเสียงหัวใจของทั้งสองดวง
" ผมคงต้องบอกคุณแล้วละ " เควินเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
" บอกว่า? " เบลถาม
" ผมคงขาดคุณไม่ได้แล้วแน่ๆเลย ผมคงตกหลุมรักคุณอย่างหาทางขึ้นไม่เจอแล้ว " เควินเอ่ย
" คุณต้องการความช่วยเหลือมั้ย " เบลถามขำ
เควินส่ายหน้า
" เชือกละ " เบลยังไม่หยุด
เควินส่ายหน้าเริ่มขำตาม
" คุณไม่อยากขึ้นจากหลุมหรอ " เบลถาม
" ไม่ " เควินตอบ
" แล้ว.. " เบลยังพูดไม่จบ
เควินจู่โจมปิดปากของเบลซะก่อน รสจูบนิ่มนวล หวานหอม และค่อยๆดุดันขึ้น ในหัวของเบลว่างเปล่าเหมือนมีแสงมากมายจากหลายทิศพุ่งเข้าใส่ ตัวของเบาเหมือนขนนกที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ จากอยู่ข้างกันก็เริ่มชิดกันเข้าไปอีก เควินกลัวเบลจะเมื่อย จึงช้อนร่างโปร่งขึ้นมาบนตัก เบลตกใจนิดหน่อยแต่ก็ปล่อยไป ตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือนเบลกำลังรุกเควิน มือของเบลประสานอยู่ที่คาง ลำคอ แล้วย้ายไปยังท้ายทอยของเควิน ส่วนเควินก็กอด ลูบไล้แผ่นหลังของเบล มือของเควินไล้ไปทั่วใบหน้าของเบลอย่างทะนุถนอม
ปังงงง !!!
เสียงของแข็งกระทบกับฝากระโปรงรถอย่างแรง สองคนที่กำลังดูดดื่มกับความหวานของกันและกัน สะดุ้งอย่างแรงด้วยความตกใจ และผละออกจากกัน
" ดูดดื่มกันเสียจริงนะ หึ " เสียงชายปริศนาดังขึ้น เขาเป็นผู้ชายร่างสูงโปร่ง ตัวเล็กกว่าเควิน แต่ก็ใหญ่กว่าเบล
" นายทำบ้าอะไรของนายห้ะ วิเลียม " เควินสบถออกไป
" แล้วนายละกำลังทำบ้าอะไรอยู่เควิน " วิเลียมตะคอกกลับ
" นายตาบอดหรอ " เควินยังกวนกลับไป
" ไม่ ชั้นเห็น เห็นทุกอย่าง นายลืมไปแล้วหรอ ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร " วิเลียมเริ่มเหลืออด
" ไม่ได้ลืม แต่ขอเล่นสนุกก่อนได้มั้ยละ นายจะอะไรหนักหนา " เควินเริ่มรำคาญ
" แต่เท่าที่ชั้นเห็น นายไม่ได้กำลังเล่นสนุกนะเควิน " วิเลียมโต้กลับ
" เล่นสนุก? " เบลถามด้วยเสียงเรียบนิ่ง
" ใช่ พวกเราถูกจ้างมาให้ทำให้คนอย่างแกต้องอับอาย เสียใจ และสิ้นหวัง ให้สาสมกับสิ่งที่แกได้ทำเขา และสิ่งเขาอยากได้คือวิดิโอหนังสดที่แกเป็นคนแสดง แต่เหมือนเควินจะเล่นนอกบทไปหน่อย ที่ตกลงไว้ ไม่ใช่ดูดดื่ม แต่เป็นขมขื่นต่างหาก " วิเลี่ยมบอก
" ใคร? " เบลตะคอกถามไป
" แกจำไม่ได้หรอ คนที่แกปฏิเสธไม่ใยดี หยิ่งนักต้องเจอแบบนี้ถึงจะสาสม " วิเลี่ยมบอก แต่เบลก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดี เพราะไม่ใส่ใจอะไรกับคนพวกนั้นเลยจริงๆ
" แล้วผมผิดหรอที่ไม่ได้สนใจเขา ก็คนมันได้สนใจแล้วจะให้ทำยังไง เขาต่างหากมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับผม คุณด้วยเควิน " เบลตะโกนออกไปด้วยเสียงสั่นเครือกลัว โกรธ เสียใจระคนผิดหวัง
" ชั้นไม่สนใจ พวกเราแค่รับงาน แค่นั้น หมดเวลาเล่นแล้วเควิน จบงานสักทีจะได้ไปทำงานอื่นต่อ " วิเลี่ยมบอกกับเบลแล้วหันไปบอกเควิน
" บาย " เควินบอกกับเบล แล้วพุ่งเข้าชาจตัวเบล ล็อคแขนกดลงกับพื้น ส่วนวิเลี่ยมก็ยกกล้องขึ้นถ่ายวิดีโอ
" หยุดเถอะได้โปรด " เบลพร่ำบอกด้วยน้ำตาขณะดิ้นรนอย่าสุดกำลัง เควินกำลังฉีกผ้าเขาออก
" อยู่เฉยๆดิวะ เพี้ย! เพี้ย! " เควินสบถแล้วตบไปที่ใบหน้าขาว
" อึกก! " รสชาติของเลือดเค็มปร่าเต็มปากบาง ร่างโปร่งเกือบเปลือยหมดแรงดิ้น เพราะไปทั้งตัวโดยเฉพาะใบหน้า
" ฮ่าๆ " วิเลี่ยมและเควินหัวเราะออกมาพร้อมกัน
ปังงงง !!! ฉึกกก !!!
เสียงกระสุนปืนดังลั่นออกจากปากกระบอกเจาะผ่านผิวหนัง เลือดมากมายไหลพุ่งออกมา กลิ่นคาวฟุ้งตลบอบอวนไปทั่ว
" เฮือกกก! " เสียงหายใจเขาสองเสียงดังประสานกัน เสียงหนึ่งตกใจ อีกเสียงเจ็บปวด และร่างใหญ่ที่กำลังจะสอดใส่ใส่ร่างโปร่งก็ล้มฟุบลงบนร่างโปร่ง
" อะไรกัน นายยิงเขาทำไม " เบลผลักร่างไร้ลมหายใจของเควินออกจากตัว กลิ่นคาวเลือดทำเบลแทบอาเจียนออกมา
" ชั้นไม่ได้รับงานแค่งานเดียวซะหน่อย ของแกมีคนอยากได้คลิป ส่วนของมัน คือ ตาย " วิเลี่ยมตอบอย่างไม่รู้สึกอะไร
" แกนี่มันชั่วจริงๆ ไอ้สารเลววว " เบลตะโกนด่าไป
" หึ ปากดีไปเถอะ งานของชั้นยังไม่จบ แกยังไม่ได้รับความขมขื่นอย่างที่ควร " วิเชี่ยมฟังจบก็พุ่งเข้าใส่เบลเอาปากกระบอกปืนที่ยังรถจี้กดไปที่คอ ความร้อนทำให้ผิวของเบลไหม้ ส่งกลิ่นคลุ้ง แล้วพูดขู่ พอขู่จบก็เดินไปตั้งกล้องเพื่อจะจบงาน ปล่อยเบลนั่งพิงรถในขณะที่ตกใจขาอ่อน
" ทำไมต้องทำแบบนี้ ฆ่าคนโดยที่ไม่กลัวอะไรเลยหรือไง ความกลัวอะมีบ้างมั้ย " เบลตะโกนใส่อย่างเหลืออด
" ไม่ เพราะว่า ชั้น คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด " วิเลี่ยมตอบในขณะที่กำลังหันหลังตั้งกล้องวีดิโออยู่ แล้วหันมาหาเบลพร้อมกับยิ้มเย็น
ปังงงง !!!
ปึกกก !!!
กระสุนปืนวิ่งแทรกผ่านอากาศเจาะทะลุผ่านผิวหนัง กระดูก และฝังอยู่ในสมองอย่างรวดเร็ว ร่างสูงโปร่ง หงายหลังล่วงลงสู่พื้นที่แข็งและเย็นเฉียบ
" ไม่ แกผิดแล้ว ชั้นต่างหากคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด " เสียงอันเรียบเฉยเย็นชาของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งใบหน้ามีรอยช้ำหลายจุด ลำคอมีรอยแผลไหมจากของร้อน นัยตาสีฟ้าอมเทาแข็งกร้าวแต่ก็ฉายแววเรียบเฉย ในมือถือปืนพกสั้นสีดำเงาสวย เอ่ยขึ้น พร้อมกับโยนปืนพกในมือทิ้งไปบนร่างที่ไร้ลมหายใจ ซึ่งมีรูกระสุนเจาะอยู่บนกลางหน้าผาก ดวงตาเบิกโพลง อย่างไม่แยแส แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าของตนขึ้นมาส่วมใส่อย่างใจเย็น ปิดกล้อง ถอดฟิล์มออก และเดินออกไปจากโกดังแห่งนี้
" คนเราต่างก็มีตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายใน
สิ่งที่จะทำให้ตัวตนของคนเรานั้นปรากฎขึ้นมา
บางคนก็เป็นแสงสว่าง..
แต่กับบางคนกลับเป็นความมืด.. "