ซีรีย์สั้นจบในตอน เรื่อง จิตวิปริต โดย AkumaBK
ตอน หมอจิตเวช
"ผมจะไปแค่ปีเดียวเท่านั้น ช่วยรอผมนะครับ"
"ถ้านายสัญญาว่าจะไม่มีใคร ฉันก็จะรักษาเนื้อรักษาตัวแม้แต่ยุงตัวเดียวก็ไม่ให้เข้ามากัด"
"ผมสัญญา ผมจะมีแค่คุณคนเดียวเท่านั้น รักคุณคนเดียว ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคตข้างหน้า"
"ฉันก็รักนายเหมือนกัน"
แล้วทั้งสองก็โผเข้ากอดกันแนบแน่น ทั้งยังมอบจูบสุดท้ายแสนหวาน อำลากันก่อนที่จะขึ้นเครื่อง
ผมชื่อ พลอย ส่วนคนที่เดินเข้าเล้าจ์ไปเมื่อสักครู่ชื่อ พี เราสองคนเป็นแฟนกันมา3ปีแล้ว หลังจากที่รู้จักกันผ่านเพื่อนของเพื่อน
เรารักกันมาก และอยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา
หลังจากที่พีเรียนจบและเข้าทำงาน เราก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ใช้มันเป็นเรือนหอแห่งรัก สร้างเนื้อสร้างตัว
จนกระทั่งพี ที่ทำงานเป็นลูกน้องของบริษัทเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฮเทคชนิดหนึ่ง ถูกส่งตัวเป็นตัวแทนของบริษัทไปทำงานกับประเทศต้นกำเนิดคือประเทศญี่ปุ่น
ผมก็เลยต้องอยู่คนเดียวในห้องพัก แต่ก็ไม่เหงาหรอก เพราะผมยังเรียนไม่จบเลย มีงานเข้าเยอะแยะเต็มไปหมด
ผมเรียนแพทย์ เอกจิตเวช ที่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงได้เลือกเรียนสาขานี้ ทั้งที่นิสัยของตัวเองเป็นคนที่ชอบเก็บนู้นนี่เล็กๆ มาใส่ใจ มีหวังถ้าได้เข้าทำงานอยู่กับคนจิตประเภทมากๆ ผมอาจจะบ้าตามไปด้วยง่ายๆ เลย
แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเลือกเรียนแล้ว ผมก็ต้องทำให้ได้ ไม่อยากจะหนีเป็นไอ้พวกขี้แพ้อ้างเหตุผลสวยหรูเท่าไหร่หรอก
ระหว่างที่พีไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ผมเองก็ต้องเข้าฝึกงานเป็นแพทย์ฝึกหัดของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัด (ดันจับได้โรงพยาบาลไกลบ้านเลยต้องย้ายตัวเองออกจากห้องของสองเราด้วย)
ผมยังไม่ได้บอกพี ด้วยว่าเขาเพิ่งเดินทางเลยยังไม่อยากรบกวน เอาไว้อีกสัก2-3วันให้เขาโอเคกับที่นั่นแล้วค่อยบอกก็คงไม่สาย
ผมคิดไว้แบบนั้นนะ คิดว่าทางผมจะราบรื่นไม่มีปัญหา มีแต่ทางพีเองที่อาจจะเครียดเพราะพูดกับเขาไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ อยากจะคอยเป็นกำลังใจ อยากจะคอยรับฟังให้พีนั้นสบายใจ จะได้อยู่ที่นั่นได้แบบไม่ท้อถอย
แต่ว่า สุดท้ายแล้ว ดันเป็นทางผมเอง ที่มีปัญหาตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามาฝึกงานที่โรงพยาบาลบ้าแห่งนี้
"เอาล่ะทุกคน คุณหมอขอแทรกเวลาพักของทุกคนนิดเดียวนะคะ หมออยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับว่าที่คุณหมอคนใหม่ ที่จะมาช่วยดูแลพวกเรา"
หมอทิพย์ หมอคนสวยประจำสาขาของที่นี่ เป็นที่รักของเหล่าหมอด้วยกัน พยาบาล และคนป่วย ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรออกมา ทุกๆ คนก็ดูเต็มใจฟัง แถมยังตบมือต้อนรับผมและเพื่อนอีก2คนด้วยท่าทางดีใจอีกต่างหาก
"เชิญแนะนำตัวเลยค่ะ ทุกคนรออยู่"
หมอทิพย์ขยับออกจากด้านหน้า แล้วผายมือเชิญผมและเพื่อนเข้าไปทำความรู้จักและสร้างความไว้ใจแก่คนป่วยจิตไม่ปรกติเหล่านี้
"สวัสดีครับ หมอนัทครับ ฝากตัวด้วยน้า คุณหมอใจดีไม่ต้องกลัวนะครับ"
นัท หนึ่งในเพื่อนที่มาฝึกงานด้วยกัน แนะนำตัวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนที่เขาชอบทำ และโบกมือให้เหล่าคนป่วยที่ยิ้มและโบกมือกลับมาหา เป็นสัญญาณที่ดี
"ดีค่ะ หมอจ๋าเอง คุณหมอก็ใจดีไม่แพ้หมอนัทน้า มีปัญหาอะไรบอกได้ทันทีเลย"
จ๋า ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มแพทย์ฝึกหัด เอ่ยแนะนำตัวแล้วก็พูดเล่นกับคนไข้ ตามประสาคนพูดเก่ง ทำให้คนไข้หัวเราะชอบใจ เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดี
แต่ในขณะเดียวกับที่ผมยืนยิ้มรอเวลาให้ตัวเองได้พูดบ้าง ความรู้สึกขนลุกวาบไปมันก็ฉุดตัวเองให้รับรู้ถึงแรงกดดัน สายตาสอดส่อง มองหาต้นตอของความรู้สึกแย่ๆ ในครั้งนี้
จนกระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นผู้ป่วยรายหนึ่ง ที่ถูกมัดมือมัดเท้าและปิดปากด้วยผ้าสีขาวของทางโรงพยาบาล มัดเอาไว้กับเก้าอี้โดยมีผู้คุมตัวสูงใหญ่2คนยืนขนาบข้างเอาไว้
สายตาของเขาดูดุ ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีกด้วยรอยมีดกรีดทับตาข้างซ้ายที่บอดสนิท จิตสังหารแผ่กระจายออกมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวของเขา รับรู้ได้ถึงความกดดันของเหยื่อที่กำลังถูกเพ่งเล็งจากนักล่าในทันที
ผมไม่รู้หรอกว่าเขาทำคดีร้ายแรงอะไรมา หรือว่าเป็นตัวอันตรายขนาดไหน ถึงได้ถูกจับมัดเอาไว้แน่นหนา ขณะที่ผู้ป่วยรายอื่นกำลังนั่งยิ้มอย่างอิสระ
แต่ผมรับรู้ได้อย่างหนึ่งว่า สายตาของเขา กำลังจ้องมาที่ผมตาเขม็งเลย
"พลอย เป็นอะไรไหม ถึงคิวไปแนะนำตัวแล้ว"
เป็นนัทที่เข้ากระซิบถามผม ผมสะดุ้งละสายตาจากผู้ชายน่ากลัวตรงหน้าแล้วหันมามองทั้งสองคน
"ขอโทษที"
ผมยิ้มน้อยๆ ส่งไปให้พวกเขา แล้วเดินเข้าไปประจำตำแหน่ง
"สวัสดีครับ ผมชื่อพลอยนะ ยินดีที่ได้รู้จัก"
ผมเป็นประเภทพูดไม่ค่อยเก่ง แถมยังยิ้มไม่ค่อยเป็น เล่นมุขก็ไม่ค่อยได้ แต่ผมก็พยายามทำให้เต็มที่ในแบบของผม จากที่เรียนมา ผมไม่เคยคิดหรอกว่าจะต้องมาทำงานแบบนี้ ผมอยากจะเป็นที่ปรึกษารายบุคคลซะมากกว่า เพราะผมรับมือกับแรงกดดันของสายตามากมายขนาดนี้ไม่ได้จริงๆ
"คุณหมอพูดน้อยจังเลย แต่ไม่เป็นไร คุณหมอสวย พวกผมให้อภัย..."
เสียงร้องแซวจากคนไข้รายหนึ่งดังขึ้นมาเมื่อผมกำลังจะหันหลังให้พวกเขา ทำให้ผมหยุดเท้าเอาไว้ หมุนตัวจะกลับไปขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ที่ชอบทำเป็นประจำ
แต่ว่าสายตาก็ดันเหลือบไปสบเข้ากับคนไข้น่ากลัวตรงด้านหลังพอดี ทำให้ร่างกายของผมชะงักไปเองโดยอัตโนมัติ หัวใจเริ่มเต้นเร็ว ลมหายใจหอบถี่ จนแทบจะเป็นลมลงไปให้ได้
"เป็นไรไป จ๋าช่วยยื้อที"
"ได้ๆ "
นัทเข้ามาช่วยประคองผม และให้จ๋าตอบคำของคนไข้ ทำเอาพยาบาลชายที่อยู่ใกล้ๆ ต้องเข้ามาช่วยผยุง เดือดร้อนไปทั่ว
แล้วกิจกรรมเล็กๆ ตรงนั้นก็จบลงที่หมอทิพย์เข้าทำหน้าที่แทนพวกเรา แล้วสั่งให้คนพาผมมาพักที่ห้อง ขณะที่เดินกลับมา สายตาของผมก็มองไปยังผู้ชายคนนั้นอย่างห้ามไม่ได้ และได้รู้ว่าเขาก็มองผมตลอดจนลับตาเหมือนกัน
ในใจของผมมันกำลังร้องบอกอันตรายบางอย่าง แถมร่างกายก็กำลังสั่นกลัว ราวกับว่า ผมอาจจะต้องเผชิญหน้ากับ สิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าซาตานก็เป็นได้
"เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหมแก"
หน้าของจ๋าและนัทโผล่มาให้เห็นทันทีที่ผมลืมตา ทำให้รู้ว่าผมเป็นลมล้มลงไปจริงๆ ไม่ใช่แค่เข่าอ่อนไร้เรี่ยวแรง
"อืม ขอบใจนะ"
ผมตอบพวกเขาและพยายามดันร่างกายตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ได้รับความช่วยเหลือจากนัท ส่วนจ๋าก็กำลังหยิบน้ำมาส่งให้ผมจิบ
"แล้วทำไมถึงเป็นลมล่ะ นอนไม่พอรึเปล่า"
มือของนัทอิงเข้าที่หน้าผาก ผมชะงักไปนิดหน่อย นัทเองก็เหมือนจะรู้ตัวเลยรีบชักมือออกทันที
"ก็ ...ใช่ คงจะตื่นเต้นที่ต้องย้ายมานอนต่างที่น่ะ เมื่อคืนเลยนอนไม่พอ"
ใครจะไปบอกว่ามันไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด ผมนอนหลับสนิทมาตลอดไม่เคยงัวเงียตอนตื่นเลยด้วยซ้ำ แต่ที่มันเกิดขึ้น มันเกิดจากสาเหตุอื่นต่างหาก
"แหน่ะๆ นอนไม่พอหรือทำอะไรกัน พลอยกับพีอยู่ด้วยกันใช่ป่ะล่ะ"
จ๋าพูดหยอกทำท่าล้อเลียนผมกับพี เพราะเธอเองก็รู้ว่าผมเป็นแฟนกัน แต่ที่จ๋าไม่รู้น่ะ ว่าที่พูดออกมามันทำร้ายเพื่อนข้างๆเธอ
เพราะว่านัทเอง เขาก็ชอบผม เขาแอบชอบผมตั้งแต่เข้าเรียน แต่กลัวว่าผมไม่ใช่เกย์เหมือนเขาเลยไม่พูด แต่ว่าเมื่อปีที่แล้ว ที่นัทตัดสินใจมาสารภาพรักกับผม ก็ได้รู้ว่าผมมีแฟนแล้ว เขาบอกว่าจะตัดใจ แต่การที่ได้เจอกันทุกวันแบบนี้ เป็นผมเองก็คิดว่ามันยากพอสมควร
"ไม่หรอก พีไปญี่ปุ่นปีนึง"
"เหวย ระวังมีกิ๊กนะเว้ย ญี่ปุ่นยิ่งขึ้นชื่อเรื่องของสนองตัญหาอยู่ด้วย"
"ไม่หรอก เราสัญญากันไว้แล้ว แถมยังบอกว่าจะรักษาร่างกายตัวเองเพื่อรออีกคนกลับมาด้วย"
"แบบว่า รักษาตัวเอาไว้ แล้วรอกลับมาแต่งงานกันงี้ป่ะ"
"...ก็ คงใช่มั้ง"
"ฉันอยากจะกรี๊ด ดีใจแทนแกด้วยนะเว้ย ชวนฉันไปงานแต่งด้วย ฉันอยากไป"
แล้วผมกับจ๋าก็คุยกันยาวเลย ไม่ใช่ว่าไม่คอยมองหน้านัทที่ไม่กล้าสบตาผมนะ แต่ว่า มาแซวเรื่องจริงกันแบบนี้ ใครๆ มันก็อดเขินไม่ได้ เพราะพีก็บอกผมเอาไว้ ว่าถ้ากลับมา เขาจะขอผมแต่งงาน
เขาเป็นคนโรแมนติกชวนฝันมาก ถึงขนาดที่ตื่นเต้นจนปิดไม่มิด ว่าเขาเตรียมตัวจะเซอไพรส์บางอย่างให้กับผมตอนแต่งด้วย
"เดี๋ยวเราไปบอกหมอทิพย์ก่อนนะ เธอจะได้หมดห่วง"
"เออๆ ฝากด้วย แล้วจะกลับห้องเลยเปล่านัท เอ้า! พูดด้วยก็ไม่พูด เป็นไรของมันวะ"
นัทพูดจบก็เดินคอตอออกไปทั้งอย่างนั้น จ๋าเรียกถามก็ไม่แม้แต่จะหันมามองเลย ผมเองก็รู้สึกผิดในใจนะ แต่ว่าจะให้ผมทำยังไง ในเมื่อผมเลือกนัทไม่ได้ คนที่ผมรัก คือพี
ตกดึก เวลาเกือบเที่ยงคืนกว่า ผมก็นอนไม่หลับ หลังจากวางสายจากพีที่ยอมโทรข้ามประเทศมาหาตอน2ทุ่ม
แต่ว่าแทนที่เรื่องในหัวสมองของผมจะเป็นเรื่องของพีเหมือนทุกวัน หรืออาจะเป็นเรื่องของนัทที่รู้สึกผิด แต่กลับเป็นเรื่องของผู้ชายน่ากลัวคนนั้น
ผมรู้สึกสั่นไปทั้งตัว ในใจหวาดกลัวอย่างห้ามไม่อยู่ รับรู้ถึงสายตาของเขาที่จ้องมองมาที่ผมผ่านความมืดมิดของค่ำคืน
แต่ว่าอีกหนึ่งในความรู้สึกลึกๆ ของผม กับรู้สึกว่าสายตานั้นมีเสน่ห์บางอย่าง มันดึงดูดผม ผมอยากให้ผมเข้าไปค้นหาความจริง มันอยากให้ผมเข้าไปรู้จัก เข้าไปหลงไหลในตัวของมัน
และดูเหมือนว่าผมกำลังจะติดกับ เพราะสมองกำลังสั่งตัวเองว่าพรุ่งนี้...จะต้องไปอ่านประวัติของคนไข้คนนั้นให้ได้
แกร๊ก
อะไรน่ะ
จู่ๆ เสียงกลอนประตูห้องผมก็ถูกปลดล็อค ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากหันไปมองมันด้วยสีหน้างุนงง
"ชู่ว! ..."
อึก! ผมกลืนก้อนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เมื่อรับรู้ถึงความเย็นเยียบของมีดปลายแหลมที่สะท้อนเงาจันทร์นอกหน้าต่างเข้ามาที่ดวงตา
อีกทั้งยังสายตาน่ากลัวของผู้ชายที่ผมเพิ่งสบตาเมื่อตอนเย็น กำลังจ้องมองผมในระยะประชิด
คนไข้โรคจิตหลุดจากที่จับกุมมาได้ยังไง!
ลมหายใจของผมขาดช่วงอัตโนมัติ หัวใจเต้นถี่รัวอย่างห้ามไม่อยู่ ตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่รู้สึก คือหวาดกลัวมากจนร่างกายทำอะไรไม่ถูกนอกจากสั่นกลัวตามสัญชาตญาณ
ผมไม่รู้เลยว่าจะต้องทำยังไงกับเหตุการณ์แบบนี้ เกิดมาก็ยังไม่เคยมีคนบ้าเอามีดมาจ่อคอหอย แถมยังเดาอารมณ์ก็ไม่ได้ เกิดผิดไปเพียงนิดมีดนี่คงจะแทงเข้ามาทันที ซึ่งนั่นมันก็หมายถึงชีวิตของผม ที่ต้องดับสูญในเวลาต่อมา
"สวย..."
เสียงของมันแหบและทุ้มต่ำน่ากลัว กระชากสัญชาติญาณของเหยื่อที่หมดทางสู้ให้กับผมได้เป็นอย่างดี
แถมยังไม่ว่าเปล่า ลิ้นเหม็นๆ ที่มีน้ำลายเปียกชุ่มของมันกำลังเลียที่ใบหน้าของผมไปมา
ผมได้แต่หลับตาปี๋ มือกำเข้าหาตัวเองแน่น หน้าซีดเผือดมีเม็ดเหงื่อผุดพลายเต็มใบหน้า อดทนอดกลั้นต่อความขยะแขยงที่กำลังได้รับ
"ต ต้อง ต้องการ อะไร จากผม"
"หึหึหึ"
มันไม่ตอบคำถาม แต่กับกดมีดเล่มคมเข้าที่คอของผมแรงขึ้น รับรู้ถึงความแสบของเนื้อผิวที่โดนกรีดลงไป กลิ่นคาวของเลือดที่ฟุ้งขึ้นมาในจมูกทำให้สติของผมแทบหมดไป
ก๊อก ก๊อก
"พลอย ตื่นอยู่ป่าว นัทอยากคุยไรด้วยหน่อย"
นัทมาทำอะไรตอนนี้ แต่ก็ดี เขาอาจจะช่วยผมได้ ใช่ไหม...
"ไปเปิดประตูให้มันเข้ามา แต่ห้ามบอกเรื่องของกูเด็ดขาดถ้าไม่อยากตาย!"
มันกระซิบบอกผมข้างหูพร้อมแลบลิ้นสกปรกเลียมาที่ข้างแก้ม แล้วผลักตัวของผมให้เดินไปข้างหน้า
"น นัทมีอะไรมาซะดึก เข้ามาก่อนดิ"
นัทจะสังเกตไหมว่าผมกำลังหน้าซีด จะได้ไม่ต้องเข้ามา จะได้ไปแจ้งคนอื่น จะได้ช่วยผมได้ทันเวลา
"แค่อยากคุยเรื่องเมื่อเย็น"
ไม่ นัทไม่มองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่ากำลังเดือดร้อน ไอ้โง่เอ้ย มันใช่เวลาจะมาปรับทุกข์หรอ มองเหตุการณ์ให้ออกสิเว้ย
"จะพูดอะไรนักหนา"
แล้วไอ้เหี้ยนั่นไปไหน คนที่สติแตกที่สุดตอนนี้คือกูแล้วนะ!
ขณะที่นัทที่กำลังก้มหน้าก้มตาคิดหนักในสิ่งที่ต้องการจะพูด ไอ้หมอนั่นที่ไม่รู้ว่าไปหลบอยู่ในมุมมืดตรงไหนของห้อง ก็เดินถือมีดปลายแหลมแสยะยิ้มออกมา
"นัทรู้ แต่...นัทรักพลอยนะ! นัท ร รัก พ พลอย ย อ่ะ อึก! "
มันใช้มือข้างหนึ่งกระชากหัวของนัทให้หงายหน้าขึ้น อีกข้างก็ใช้มีดเล่มคมนั้นปาดที่คอของนัท โดยที่สายตาโรคจิตของมันมองมาที่ผมอย่างต้องการ
ผมได้แต่ตาเหลือกโต มองร่างของนัทที่กำลังชักกระตุก เห็นคอหอยที่กำลังเต้นตุบๆเมื่อกำลังจะขาดออกจากกัน อีกทั้งเลือดสีแดงข้นที่กำลังสาดกระเซ็นหยดย้อย เปื้อนไปทั่วบริเวณ
"อ้ากกกก!!!! "
ผมกรีดร้องออกมาสุดเสียง ไม่นานเสียงเตือนภัยผู้ป่วยหลบหนีของโรงพยาบาลก็ดังขึ้น ผมได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้คนกำลังวิ่งตรงมาทางนี้
แต่ว่าเสียงผมกับเงียบลงไป เพราะว่ามัน ใช้มีดที่ปาดคอนัท แทงเข้าที่ท้องของผมจนรู้สึกถึงความจุกเสียดและปวดระบม แล้วมันก็จับตัวขอมผมแบกขึ้นบ่ากระโดนออกจากหน้าต่างห้องไป
ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย...
พี...ช่วยพลอยด้วย...
พลอยกลัว....
1 ปีต่อมา
"อ่ะ อื้อ เจ็บ เจ็บ อ่ะ อา เจ็บ"
ผมกลายเป็นที่รองรับอารมณ์หื่นกระหายของคนบ้าที่ลักพาตัวของผมมา
มันขังผมเอาไว้ในห้องใต้ดินของบ้านหลังนี้ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เลยว่าที่นี่คือตำแหน่งไหนในประเทศไทย ได้แต่อยู่มืดๆ ในห้องเหม็นอับและสกปรก รอเวลามันเปิดฝาปิดล็อกด้านบนเพื่อลงมาสมสู่
"อือ...สวย..."
คำพูดไม่กี่คำของมันถูกส่งออกมาจากปากเน่าๆ ทั้งยังใช้ลิ้นเหม็นไล้เลียไปทั่วร่างกายของผมอย่างเมามันส์
ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยขัดขืนหรือต่อสู้ ผมทำมาหมดแล้ว ทำไปแทบทุกอย่าง จนตอนนี้ตัวของผมเองเหลือขาเพียงข้างเดียว ผมพยายามจะหนี มันจับกลับมาได้แล้วโมโห
มันใช้มีดเล่มใหญ่ค่อยๆเฉือนเนื้อที่หัวเขาของผมออกด้วยซ้ำ โคตรทรมานและเจ็บปวดจนอยากจะตาย
จนทำให้ร่างกายของผมได้แต่สั่นกลัว เพราะจดจำสิ่งเลวร้ายที่เกิดจากฝีมือคนตรงหน้าได้ ทำเพียงนอนนิ่งๆ รองรับอารมณ์ของมัน จะพูดก็พูดไม่ได้ ทำเพียงร้องครางฮือ และส่งเสียงคำง่ายๆ
เพราะผมโดน ตัดลิ้นออกไปด้วย...
ในตอนนี้แม้ว่าสายตาจะมองหาทางรอด สอดส่องหาทางสว่างแม้เพียงน้อยนิด ให้ตัวเองออกไปจากที่นี่ได้ แต่ว่าผมเอง ก็ไม่สามารถ
ที่จะแบกหน้าและร่างกายน่าสมเพช ไปเจอพีได้อีกแล้ว
คำว่าคนรักระหว่างผมและพี คงเหลือเพียงแค่ความทรงจำ
...ถึงพี ตอนนี้พลอยอยากจะตายมากๆ เลยล่ะ แต่ว่าพลอยก็ทำมันไม่ได้ ไอ้โรคจิตที่จับพลอยมา มันทำระยำกับพลอยหลายต่อหลายอย่าง มันทำให้พลอยไม่สามารถสู้หน้าพีได้ แต่พลอยรักพีเสมอนะ
ท้ายนี้ พลอยหวังว่าพีจะไม่หมดหวังที่ตามหาพลอย
ด้วยรัก
...พลอย
....
[Talk]
จบกันไปแล้วกับตอนแรก หมอจิตเวช ของซีรีย์สั้นจบในตอน เรื่อง จิตวิปริต
เบาๆ ซอฟๆ ออมแรงกันไว้ก่อน นี่แค่เรียกน้ำจิ้ม ใครไม่ถนัดอย่าตามไปนะ เตือนไว้ก่อน
ในแต่ละตอนไม่ซ้ำแน่นอน และบอกไว้ก่อนว่าอาจจะสลับกันเล่า มุมมองของเหยื่อบ้าง (เช่นตอนนี้) หรือมุมมองของพวกโรคจิตเองบ้าง (ที่พอพูดถึงพวกนี้มันก็จะเลือดสาดนิดๆ หน่อยๆ)
ถ้าสนใจ ตามลิ้งค์ไปนะคะ จะเปิดรวมเล่มเร้วๆนี้ด้วยค่ะ (สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์พ.ศ.2558ฉบับเพิ่มเติมนะคะ)
https://www.readawrite.com/a/1cefa76269b29e9603195c52a814e1eaหรือ
https://fictionlog.co/w/5b3f79a80f985b42c59391ca...
จบแล้วจ้า