ขอบคุณสำหรับทุกเป็ดและคอมเม้นนะคะ เปรมดีใจมาก รู้สึกมีกำลังใจจะแต่งต่อมาก และที่สำคัญขอบคุณนักอ่านทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ :กอด1:
“เออ เดี๋ยวตอนบ่ายกูเข้า แค่นี้นะเว้ย” เฮ้ออออ รอดตัวไป
เมื่อกี้ผมพึ่งวางสายจากเมฆครับ คือมันเลยเวลาเรียนไปเป็นชั่วโมงกว่าๆแล้วไง มันเลยโทรตามผม แต่ผมโกหกไปว่าตื่นสาย เดี๋ยวตอนบ่ายเข้า มันก็วางไป
คือผมไม่อยากบอกเมฆว่าต้องมาคอยดูแลไอ้ตัวปัญหานี่ ไม่อยากให้มันเป็นห่วงน่ะครับ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบเมื่อไหร่ เลยไม่อยากพูดอะไรมาก
ตอนนี้ผมอยู่บนแท็กซี่แล้วครับ แต่กว่าจะได้ขึ้นแท็กซี่ ผมก็เดินจากจุดที่ไอ้เวรนั่นทิ้งผมไว้เกือบๆชั่วโมงกว่าจะถึงถนนใหญ่แล้วโบกแท็กซี่กลับมอ แม่งมันพาผมมาทิ้งไว้ไกลมากแทบจะคนละฟากกับที่อยู่เลยล่ะ ไอ้ทศกัณฐ์มันก็มีความพยายามดีเนอะ ผมหวังว่ามันแกล้งผมแล้วคงจะไปเรียนนะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมอยู่มหาวิทยาลัยแล้วครับ ตอนนี้ใกล้เวลาเที่ยงแล้ว กำลังนั่งรอไอ้เมฆเลิกเรียนที่ม้าหินอ่อนใต้ตึกคณะ
.
.
.
.
.
.
“มึงไม่ต้องกังวลนะเว้ย เดี๋ยวกูให้คนของพ่อกูตามหาอีกแรง” เสียงคนคุยกันดังขึ้นที่โต๊ะข้างๆ สงสัยพึ่งเดินมา เพราะก่อนหน้านี้ที่ผมนั่งไม่มี
“อืม กูไม่อยากคิดอะไรแล้ว” อีกเสียงตอบกลับ เสียงคุ้นๆ แต่ผมไม่ได้สนใจหันไปมอง ตอนนี้กำลังจดจ่ออยู่กับคุ้กกี้รันได้ที่เลย(เขาเลิกเล่นกันนานแล้วนะ)
“อย่าคิดมากๆ กูว่าเราไปฉลองต้อนรับการมาเรียนวันแรกของไอ้ทศกันเหอะว่ะ พูดแล้วก็เซ็งเมื่อเช้าแม่งมาปลุกกูตั้งแต่ยังไม่ทันสิบโมง มีเรียนบ่ายนะไอ้สัด” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น
หืม…ทศงั้นหรอ ทำไมเดี๋ยวนี้กูได้ยินคนพูดชื่อนี้บ่อยจังวะ
แต่ก็ยังก้มเล่นเกมส์ต่อ
“หมามันกวน” มันพูดว่าไงนะ ฟังไม่ชัดว่ะ
“มึงเลี้ยงหมาหรอวะ กูอยากเห็นว่ะ แต่กูว่าก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ได้กินเหล้าพร้อมหน้ากันนานละ มึงว่าไงทศ” เสียงไอ้คนแรกพูด
“หึ…แล้วแต่”
“งั้นวันศุกร์ ที่เดิมนะ” เสียงทุ้มอีกเสียงว่า
“เออ แต่ตอนนี้หาไรแดกกันก่อน ตอนบ่ายจะได้เข้าเรียน” อีกเสียงในแก็งค์นั้นพูดขึ้น
ผมที่เล่นเกมส์ตายพอดีกำลังหันไปมองทางกลุ่มนั้นให้หายสงสัย แต่
ควับ
“ว่าไงน้องรันต์ รอพี่เมฆนานไหมจ๊ะ” เสียงไอ้เมฆดังขึ้นพร้อมกับแรงรัดที่คอจากด้านหลัง ผมตีแขนไอ้เมฆให้ปล่อย มันก็ปล่อยแต่โดยดี
“เล่นเหี้ยไรของมึงเนี่ย” บ่นไอ้เมฆพลางสายตาก็เหลือบไปมองทางกลุ่มนั้น ที่เห็นแค่ข้างหลัง 3-4 คน ไกลอยู่ลิบๆ เดินไวชิบ
“พูดไม่เพราะๆ เดี๋ยวพี่ก็ตบปากด้วยด๊อกเตอร์มาร์ตินพี่ซะเลย” ไอ้เมฆหยอก
“มึงอ่ะดิ จะโดนช้างดาวกู” ผมสวน พลางลุกขึ้น
ไอ้เมฆเดินมากอดคอแล้วพากันเดินไปกินข้าวกลางวันที่โรงอาหารคณะกันสองคน
โดยที่ผมไม่ทันเห็นว่าหนึ่งในนั้นหันมามองทางผมพร้อมรอยยิ้มที่มุมปากอย่างปริศนา
.
.
.
.
.
.
.
“ไปไหนต่อป่ะ” เมฆถามแต่สายตายังมองไปที่อาจารย์กำลังสอนอยู่
“ถามกูหรอ” ผมหันไปถาม
“ไม่ถามมึงจะไปถามหมาที่ไหน” มันหันมาว่า
“เอ้าจะรู้หรอ ไม่ได้ไปไหนหรอก แต่ตอนเย็นๆไม่ว่าง” ผมบ่นให้มันแล้วตอบคำถาม
เมฆหรี่ตามองเล็กน้อย
“ไปไหน เดี๋ยวนี้ธุระเยอะนะมึง” มันถามจี้
“เออน่ะ ธุระป้าพิมพ์เหมือนเดิมแหละ” ผมบอกแล้วหันไปมองสไลค์อาจารย์อย่างแนบเนียน
“อย่าให้กูรู้นะว่ามีไรปิดบังกูอีก” เมฆพูดขึ้น
ผมหันไปฉีกยิ้มให้มัน เราไม่ได้พูดอะไรกันต่อหันไปสนใจเรียนเหมือนเดิม ผมว่ามันต้องสงสัยแหละ เอาไว้กูจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะเมฆกูจะบอกมึง
แต่ผมคงไม่รู้ว่าเรื่องของเขาคงจัดการไม่ได้ง่ายๆอย่างที่คิด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ผมทำแกงเขียวหวาน ผัดวุ้นเส้น กับหุงข้าวสวยไว้แล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกลับเลยนะครับ” ผมบอกปลายสาย
(ครับ) โจเซฟตอบกลับมาสั้นๆแล้ววางสายไป
ตอนนี้เกือบๆหกโมงเย็นแล้วครับ หลังเลิกเรียนและแยกย้ายกันกับไอ้เมฆ(ที่มองอย่างจับผิด) ผมก็ตรงดิ่งมาคอนโดฯไอ้ยักษ์เลวทันที ผมทำอาหารเตรียมไว้ให้มันตามเงื่อนไข ส่วนทำความสะอาดห้องและอื่นๆวันหยุดผมถึงจะทำ เพราะห้องก็สะอาดเรียบร้อยดี ป่านนี้ไอ้ยักษ์นั่นคงกำลังกลับถึงห้องถ้ามันไม่ได้ไปไหน
ใช่ครับ โจเซฟบอกผมว่ามันไปเรียน
แม้จะแปลกใจว่ามันว่าง่ายผิดปกติแฮะ แต่ก็แลกมาด้วยความเหนื่อยยากของกูเหมือนกันนะ
ติ้ด แก็ก
ผมที่กำลังจะเดินไปถึงประตูชะงักไป เมื่อประตูถูกเปิดออกจากด้านนอกซะก่อน
มันมาแล้ว!
“อ้าว กลับมาแล้วหรอครับ” พอมันเปิดประตูเข้ามา ผมก็ยิ้มทักทายทันที
ไอ้ยักษ์เลิกคิ้วข้างหนึ่งมองผมเหมือนแปลกใจ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“อย่ามาทำตัวเหมือนเมียกู ขนลุก” สัส ใครทำตัวเหมือนเมียมึงไม่ทราบ อย่างกับกูอยากจะทำนักนี่ กูฝืนใจล้วนๆเหอะ
“ใครจะไปทำอะไรแบบนั้น ผมทำกับข้าวไว้ให้คุณแล้วนะครับ จะกินไม่กินก็เรื่องของคุณนะ” ผมบอกอย่างไม่ถือสากับคำพูดนั้น แม้ในใจอยากจะถลาไปตบปากมันมากกว่า
มันไม่ตอบแต่ถอดรองเท้าไปเก็บไว้ในตู้ แล้วเดินผ่านผมไป
แต่ขณะที่มันเดินสวนผมนั้น มันก็พูดเบาๆขึ้น
“เป็นไง เดินสนุกไหมวันนี้”
กรอด!ผมกัดฟันแน่น อุตส่าห์พยายามลืมๆมันไปแล้วนะ
“ก็ไม่เท่าไหร่นะครับ รู้เหมือนได้ออกกำลังกายมากกว่า ขอบคุณนะครับผมแข็งแรงขึ้นเยอะก็เพราะคุณเลย” ผมว่า ก่อนจะรีบเดินไปใส่รองเท้าแล้วเดินไปเปิดประตูออกจากห้องโดยไม่หันไปมองเขาแม้แต่น้อย
.
.
.
.
.
.
.
วันศุกร์
ผมทำโจ้กกับไข่ตุ๋นทรงเครื่องไว้ให้ทศกัณฐ์ในตอนเช้า เมื่อคืนผมไม่ได้นอนที่นี่มันไม่ชินน่ะ ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องมัน เตียงว่างเปล่าปและได้ยินเสียงน้ำไหล คงกำลังอาบน้ำอยู่ วันนี้ทศกัณฐ์มีเรียนเช้าส่วนผมมีตอนบ่าย สายๆผมถึงจะออกไป
ผมเดินไปเก็บเตียงให้เขา สักพักเสียงน้ำไหลก็หยุดพร้อมประตูเลื่อนห้องน้ำเปิดออก ร่างสูงเดินออกมามีผ้าเช็ดตัวพันไว้ที่เอวหมิ่นเหม่ ทั้งตัวมีน้ำเกาะประปราย หน้าท้องเป็นลอนมีรอยเย็บแผลด้านซ้ายที่คงแห้งใกล้หายแล้ว
เขาเหลือบตามองผม ผมหันหน้าหนีไปพับผ้าห่มต่อ ทศกัณฐ์เดินไปทางห้องแต่งตัวอย่างไม่พูดอะไร
หลังเก็บที่นอนเรียบร้อย ผมก็ออกมานั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น รอทศกัณฐ์กินอาหารเช้าเสร็จจะได้ล้างจานชามให้เสร็จทีเดียว
ที่น่าแปลกใจคือ ทศกัณฐ์กินอาหารที่ผมทำไว้ให้ทุกครั้ง แม้ครั้งแรกจะโดนบังคับ แต่ครั้งอื่นๆมันก็ยอมกินง่ายๆอย่างไม่ปริปาก ผมนึกว่ามันจะแกล้งทิ้ง หรือด่าสาดเสียเทเสียผมซะอีก
แต่เห็นผมอย่างนี้ ฝีมือการทำอาหารผมก็พอตัวนะครับ เพราะต้องอยู่คนเดียวตั้งแต่อายุ 15 ปี ผมก็ทำทุกอย่างได้เองแทบทั้งหมด
ตอนนี้ผมสบายใจได้หนึ่งอย่างคือมันยอมไปเรียนแล้ว แทบไม่ต้องบังคับอะไรอีก แม้เมื่อวานผมต้องใช้นาฬิกาปลุกถึง3ตัวในการปลุกให้มันตื่นก็ตาม
เห็นมันเดินออกมาจากห้องครัวแล้วครับ สงสัยกินเสร็จแล้ว ผมลุกขึ้นจะเดินไปล้างจานชาม
“เดี๋ยว” ระหว่างที่เดินไปทางครัว ทศกัณฐ์เรียกผมไว้ก่อน
“มีอะไรครับ” ผมหันไปถาม
“กูไปเรียนแล้ว ทำไมมึงยังอยู่” ทศกัณฐ์ถามขึ้น
“อืม…อันนี้ผมก็ไม่รู้สิ คุณต้องถามคุณบราวนนะ แล้วนี่มันพึ่งจะวันที่ 3 มันเร็วไปไหมที่พ่อคุณจะเชื่อ” ผมตอบ
ทศกัณฐ์ทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาเปิดทีวีดูไม่สนใจผมอีก
“อย่าลืมรีบไปนะครับ เดี๋ยวสาย” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าครัวไป
แอบตลกมันอยู่นะ เขาเหมือนเด็กร้ายๆคนหนึ่งที่แค่ต้องการคนใส่ใจเท่านั้นเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“วันนี้กูไปแดกเหล้ากับพวกไอ้อ๋องนะ มึงไปป่ะ” เมฆชวนขณะเดินออกจากตึกคณะ
“ไม่อ่ะไปเหอะ กูจะนอน” ผมบอก จริงๆไอ้เมฆมันก็ชวนพอเป็นพิธี ผมไม่ค่อยถูกกับเหล้าน่ะ ไม่ใช่อะไรนะ คออ่อนเว้ย(รู้ตัว)
ส่วนไอ้เมฆแม่งทุกอาทิตย์อาบได้เป็นอาบไอ้นี่ แต่ช่วงอาทิตย์สอบมันก็งดๆอยู่
“ไปฝึกๆไว้บ้างรันต์ ระวังโดนเขามอมง่ายๆ” เมฆบอก
“ข้ออ้างจะแดกเหล้ามากกว่า ใครจะมามอมกู” ผมบอก ใกล้ถึงรถเมฆละ วันนี้มันจะไปส่งผม แล้วเดี๋ยวผมค่อยต่อรถจากหอไปคอนโดไอ้ยักษ์นั่น
“มันก็ไม่แน่ น้องรันต์ของพี่ยิ่งน่ารักๆอยู่ หึๆๆ” เมฆว่าพร้อมขยี้หัวผม สัสผมยุ่งหมด
“น่ารักเตี่ยมึงอ่ะ” ผมว่าแล้วรีบวิ่งหนีไปที่รถ เดี๋ยวมันเตะ
.
.
.
.
.
.
23.20 p.m.
Rrr Rrr Rrr
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นตอนเคลิ้มๆใกล้จะหลับ
ใครวะ
‘Mr.Brown’
หืม โจเซฟงั้นหรอ โทรมาทำไมป่านนี้วะ หวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรเดือดร้อนกูอีกหรอกนะ
“ครับ” ผมกรอกเสียงลงไปหลังกดรับสาย
(คุณอยู่ไหน) เขาตอบกลับทันที
“หอผมครับ มีอะไรหรอ”
(คุณทศกัณฐ์เธอยังไม่กลับห้อง) น้ำเสียงติดกังวลนิดๆ
“แล้ว?” เกี่ยวอะไรกับกูวะ
(นายท่านมีคำสั่งคุมความประพฤติคุณทศกัณฐ์ เธอต้องกลับห้องไม่เกินตี 1 คืออย่างช้าสุด แล้วคุณก็ต้องไปตามเขากลับ ขอโทษที่ผมลืมบอก) โจเซฟบอก
“ห๊ะ” แม่งนรก ซวยกูอีกแล้วๆๆๆๆ
(ตามนั้นครับ)
“เดี๋ยวๆ แล้วผมจะไปตามเขาที่ไหนวะ…ครับ” เกือบลืมสุภาพ
พูดแล้วผมก็รีบลุกถอดชุดนอนจะเปลี่ยนเสื้อผ้า หูกับไหล่ก็หนีบโทรศัพท์ไว้ แม่งหายง่วงเลยกู
(คลับ C โซนวีไอพี บอกการ์ดว่าเป็นคนของคุณทศกัณฐ์) พูดจบก็วางสายไป
เดือดร้อนกูอีกแล้ว คิดไว้แล้วไม่มีผิดว่าอย่างมันคงจะทำให้กูนอนเฉยๆสบายๆไม่ได้นานหรอก
รีบออกจากหอ เดินไปโบกแท็กซี่ที่หน้าปากซอย(เป็นถนนใหญ่) ทางมืดก็มืด เกิดกูโดนขี้ยาดักรุม ใครจะรับผิดชอบชีวิตกู
.
.
.
.
.
.
คลับ C
ผมมาถึงหน้าคลับแล้ว แค่มองข้างนอกก็หรูหราทำเอาซะการแต่งตัวกูดูขอทานทันที(กางเกงยีนส์ 3 ส่วน เสื้อยืดคอวี รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สเก่าๆ)
ผมสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ทำใจกล้าตรงดิ่งไปประตูทางเข้า แต่
“ขอบัตรแสดงตัวด้วยครับ” การ์หน้าโหดสองคนเข้ามายืนขวางทันที ผมรีบหยิบบัตรประชาชนจากกระเป๋าตังค์ส่งให้ แต่ไม่มีใครรับแถมมองผมเหยียดๆด้วย
“ผมหมายถึงบัตรสมาชิก ถ้าไม่มีมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยไอ้หนู” หนึ่งในนั้นบอกเสียงเข้ม
“เอ่อ คือผมมาหาคุณทศกัณฐ์น่ะครับ” ลองบอกไปเผื่อฟลุ๊คได้เข้า
พวกเขามองหน้ากันเหมือนปรึกษา แต่ผมชิงพูดขึ้น
“ผมไม่โกหกพวกคุณหรอก ผมเป็นคนของเขาจริงๆ ไม่เชื่อคุณก็ลองไปเรียกเขาดูสิ” ตอนนี้เหงื่อแตกพลั่ก แต่เก็บอาการ
“ก็ได้ แต่อย่าให้รู้ว่าโกหกละกัน ไม่งั้นพวกผม…” เขาเว้นคำพูดแล้วใช้นิ้วชี้เชือดคอตัวเองขู่ผม ผมพยักหน้าแล้วยิ้มแหยๆให้ แล้วพวกเขาก็เบี่ยงตัวหลบให้ผมเข้าไป
ภายในคลับคนเยอะมาก เต้นเบียดเสียดกันไปหมด มีสปอร์ตไลท์หลากสีหมุนไปหมุนมา ดีเจก็เปิดเพลงอย่างเมามัน คลับนี้น่าจะมี 3 ชั้น ชั้นแรกสำหรับพวกชอบเต้นเฮฮา เป็นโต๊ะยืนดริ้งค์ ส่วนชั้นสองจะเป็นโต๊ะมีที่นั่งเปิดโล่งมองเห็นชั้นล่าง มีคนยืนเต้นอยู่ประจำโต๊ะประปราย มองเหนือขึ้นไปจากชั้นสองเป็นกระจก แต่มองไม่เห็นด้านใน นั่นน่าจะเป็นโซนวีไอพี
ผมเดินเบียดไปหาบริกรที่ยืนอยู่มุมหนึ่ง
“ขอโทษนะครับ คือผมมาหาเพื่อนที่อยู่โซนวีไอพี” ผมบอกบริกรเสียงดังหน่อย
“ขอบัตรด้วยครับ” เขาพยักหน้าแล้วขอบัตร
“คือผมไม่มี” ผมพูดเสียงอ่อน
“งั้นคงไม่ได้นะครับ นอกจากจะโทรเรียกให้เพื่อนคุณมารับขึ้นไป” เขาบอก เบอร์มันมีที่ไหนล่ะ
“คือผมไม่อยากรบกวนทศกัณฐ์น่ะครับ ผมกะมาเซอร์ไพส์เขา วันนี้วันเกิดเขาน่ะ” ผมเดาว่าคนที่นี่น่าจะคุ้นเคยกับทศกัณฐ์ ผมไม่มีทางเลือกจึงต้องเล่นละครหลอกเขาให้พาผมขึ้นไป
นี่กูกำลังจะกายเป็นผู้ชายสตอร์เบอร์รี่อย่างที่มันว่าจริงๆหรอวะ
“อ้าว เพื่อนของคุณทศกัณฐ์หรอกหรอครับ งั้นเชิญทางนี้เลยครับ” เขาบอกแล้วเดินนำผมไป ผมแสยะยิ้มให้กับความสำเร็จเล็กๆของตัวเอง
เขาพาผมขึ้นบันไดมาเรื่อยๆจนถึงชั้น 3 อย่างที่ผมนึกเดา โซนนี้คนไม่พลุกพล่านเพราะอยู่ในห้องใครห้องมัน มีการ์ยืนคุมอยู่ 3 คนตรงทางเข้าโซน เขาเดินไปกระซิบครู่นึง แล้วพาผมไปหยุดอยู่ห้องนึง
“ห้องนี้แหละครับ” บริกรบอก ก้มหัวแล้วเดินจากไป
ผมสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ในหัวสรรหาคำพูดมากมายที่จะทำให้เขากลับไปด้วยให้ได้
แก็ก แอ๊ดดด
ผมพลักประตูเข้าไป มองไปยังภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า ห้องที่มีแสงไฟสีส้มสลัวๆ ผมกวาดสายตามอง เริ่มจากผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งจูบปากอย่างดูดดื่มกับผู้หญิงที่นั่งอยู่บนตักเขา ถัดไปเป็นผู้ชายสองคนนั่งข้างกัน คนหนึ่งถือบุหรี่สูบ แขนอีกข้างพาดยาวไปที่พนักโซฟาเลยไปถึงผู้ชายอีกคนที่นั่งซบแขนเหมือนคนเมาอยู่ข้างๆ และสุดท้ายเด็ดสุดไอ้หัวน้ำตาลเข้มธรรมชาติที่คุ้นเคยกำลังไซร้คอผู้หญิงอีกคนที่นั่งข้างๆ มือข้างหนึ่งถือแก้วเหล้า ส่วนอีกข้าง…ล้วงนม
ฟัคคคคคคค เปิดห้องดีไหม
คือตอนนี้ไม่มีใครสนใจผมยกเว้นไอ้คนที่ดูดบุหรี่อยู่ เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นมองผมสายตาประมาณว่ามึงเป็นใคร คือมันหน้าหล่อมากครับ คมเข้มแบบไทยแท้เลยล่ะ
“เอ่อ…” ผมยืนเอ๋อ ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่คิดว่าเปิดมามันจะเห็นอะไรแบบนี้
“มีอะไร” ผู้ชายที่ถือบุหรี่ถามขึ้น
“ผมมาตามเขากลับ” บอกผมชี้ไปที่ไอ้ตัวปัญหา ผู้ชายหล่อไทย(ไม่รู้จะเรียกไง) พยักหน้า พร้อมเรียก
“ไอ้ทศ เด็กมึงมาตามกลับ”
“เหี้ยไม่ใช่” ผมรีบปฏิเสธ
“หืม เด็กไอ้ทศงั้นหรอ” ไอ้ผู้ชายที่ดูดปากผู้หญิงผละออกมามองผม มันหน้าออกทางฝรั่ง แต่ก็ไม่มาก ผมสีเข้มจนเกือบดำแต่ตาสีฟ้า น่าจะลูกครึ่งนะ
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงวะ” ผมเถียง หน้าเริ่มบึ้ง คือกูเริ่มง่วงโว้ย
“ฮ่ะฮ่าๆๆ โอเคๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ เฮ้ยไอ้ทศเมียมึงมาตามกลับบ้าน” สัส เมียเลยหรอวะ ประโยคแรกมันพูดกับผมแล้วหันไปตะโกนเรียกไอ้ตัวปัญหา
คราวนี้ไอ้ตัวปัญหาชีวิตผมยอมหยุดเลื่อนมือออกจากเกาะอกผู้หญิง เงยหน้ามองผมแวบเดียวแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ แล้วหันไปบอกเพื่อน
“มันไม่ใช่เมียกู” เอ่ยหน้านิ่งๆ ผมพยักหน้ายืนยัน
“แล้วไมมันมาตามมึงกลับ” ผู้ชายหน้าไทยถาม
เงียบ…
“ผมว่าคุณควรกลับได้แล้วนะครับ” ผมพูดขึ้น
เพื่อนๆมันพากันหรี่ตามองผมกับมัน
“ถ้าอย่างนั้น…” คราวนี้ผมยกโทรศัพท์กดรูปแล้วเอาไปให้เขาดูใกล้ๆ
“สัด!! ไอ้สตอร์เบอร์บอย มึงอยากตายจริงๆใช่ไหม” มันถลาลุกขึ้นมากระชากเสื้อผม แต่ผมก็ยังยิ้มให้
“กลับไหมครับ” ผมถามพร้อมยิ้มเย็น
กรอด!!! มันกัดฟันแน่น สะบัดตัวผมออก เดินไปหยิบกุญแจรถแล้วเดินปึงปังกระแทกไหล่ผมออกจากห้องไป
“เหี้ย…” พวกเพื่อนๆมันมองมาทางผมอย่างอึ้งๆพร้อมหลุดอุทานออกมา
ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มก้มหัวให้เล็กน้อยแล้วเดินจากมา
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมอยู่หน้าห้อง 4001 อีกครั้ง ผมกลับแท็กซี่น่ะครับ ตอนที่เดินออกมาผมเห็นแค่ท้ายรถมันลิบๆ ไม่ได้กะว่าจะกลับกับมันอยู่แล้ว
ผมเดินเข้าห้องไป เก็บรองเท้าแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เห็นทศกัณฐ์นั่งอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี มือกำหมัดแน่น
“มึงจะเล่นแบบนี้ใช่ไหม มึงอยากลองตายดูไหมไอ้รันต์” เขาถามเสียงเย็นเยียบ ผมแอบขนลุก เป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกชื่อผมแล้วทำให้ผมกลัวขนาดนี้
“ผมขอโทษที่ต้องใช้วิธีนี้ แต่ถ้าคุณฟังผมตั้งแต่แรก ผมก็คงไม่ต้องทำแบบนี้” ผมพยายามใจดีสู้เสือ
“มึงเป็นใครรันต์ มึงมีสิทธิ์อะไรเอาเรื่องนี้มาขู่กู พ่อกูไหม ญาติกูก็ไม่ใช่ อ่อ หรือว่า…” มันหยุดพูดไป
“หรือว่าอะไร” ผมเผลอหลุดปากถาม
“หึ หรือว่าอยากจะเป็นเมียกูจนตัวสั่น กูจัดให้ได้นะ แต่ไม่ใช่เมียนะ กูจะให้มึงเป็นแค่ไอ้ตัวคนนึงเลย เห็นตามก้นกูดีนัก กูจะจัดให้หายเสี้ยน” มันว่าพร้อมลุกขึ้นมากระชากแล้วเหวี่ยงแขนผมลงไปที่โซฟา ส่วนตัวมันตามลงมาคร่อมผมไว้
อึ่ก!
“มึงอย่ามาทำอะไรเหี้ยๆนะ ใครอยากเป็นเมียมึง”ผมตะคอก พร้อมยกมือดันหน้าอกมันไว้
มันไม่ได้พูดอะไรอีก จับข้อมือทั้งสองข้างของผมด้วยมือเดียวแล้วรวบไว้เหนือหัว ก้มหน้าลงมาซุกไซร้ซอกคอผม ผมดิ้นหนีแต่มันแรงเยอะมาก ผมทำอะไรไม่ได้เลย ความรู้สึกเจ็บแปลบที่คอเหมือนโดนกัด ทำให้ผมยิ่งรู้สึกกลัวมันมากกว่าเดิม
“ทศกูขอโทษ อย่าทำอะไรกูเลยนะ อ๊ะ…” ผมอ้อนวอน แต่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคดี มันก็ผละออกจากซอกคอผม แล้วประกบริมฝีปากลงมาแทน
ริมฝีปากผมโดนทศกัณฐ์บดขยี้ด้วยปากมันจนรู้สึกเจ็บแสบไปหมด ผมพยายามจะเม้มปากตัวเองไว้แน่น แต่มันก็เลื่อนมืออีกข้างมาบีบกรามผมอย่างแรงจนต้องเปิดปากให้มันสอดลิ้นเข้ามากวาดต้อนเกี่ยวพันกับลิ้นผมอยู่อย่างนั้น
เนิ่นนานที่ทั้งลิ้นทั้งปากผมโดนมันจูบดูดไม่หยุด แรงชนิดที่ว่าปากผมตอนนี้มีที้งกลิ่นแอลกอฮอลล์จากปากมันและรสเลือดจากปากผมผสมปนกันไปหมด
มือที่เคยจับแขนผมไว้เลื่อนลงไปที่กางเกงผม เพราะผมเริ่มหมดแรงที่จะสู้
รู้ตัวอีกทีช่วงล่างผมก็โล่งไปหมด ริมฝีปากมันผละออกจากปากผมไปที่ซอกคอ ขบเม้มไปทั่วไม่หยุด มืออีกข้างก็เลื่อนสอดเข้ามาในเสื้อ บีบเค้นบั้นเอวจนเจ็บไปหมด
น้ำตาผมไหลลงมาช้าๆ นานแล้วที่ผมไม่ได้ร้องไห้
ใครก็ได้ช่วยผมจากมันที….
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แฮ่ มาแล้ว รู้สึกตอนนี้จะใช้เวลานานกว่าปกติ(ทั้งๆที่มันแค่สั้นๆ) ตอนนี้น้องรันต์หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ แล้วไปทำอะไรให้ไอ้พี่ทศมันโกรธหว่า ไอ้พี่ทศมันไม่ได้ใจดีอย่างที่คิดนะเว้ย ตอนหน้าจะเป็นยังไงต่อต้องติดตามเน้อ เจอกันอีกทีวันเสาร์นะคะ :bye2: :pig4:
{โปรดติดตามตอนต่อไป...}