พิมพ์หน้านี้ - <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: GukakST ที่ 17-12-2016 19:17:44

หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 17-12-2016 19:17:44
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดค่ะ กรุณาอ่านทุกข้อนะคะ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ   ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 
 
 1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่ 
 
 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
 หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
 หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
 และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
 ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
 
 เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ 
 3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ 
 4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 
 5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 
 6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 
 7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
       7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
       7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
       7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
             - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 
 8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 
 9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 
 10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวปhttp://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 
 11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
 
 บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
 นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 
 12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 
 13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 
 14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 
 15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
 (1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
 (2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
 - ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
   (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
 - ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
 - ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
 - ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
 - ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail   
 16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข  17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
  เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com.......................................                                                             
 วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย 
 
 
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 17-12-2016 19:23:31
เธอมีชู้

บทนำ

“ชีวิตของนายเป็นไงมั้งละ...” ปภพถามเสียงอ่อนโยนหลังพาลีเล่าเรื่องของตัวเองจบ

“ชีวิตหรอ” ผมนั่งนึก

“ไม่ ถามมันแบบนั้นไม่ถูก ต้องถามว่า...มีคนรักเป็นตัวเป็นตนยัง หรือยังเที่ยวหลีหญิงไปเรื่อยอีก” แต่ซีซั่นก็ขัดเสียก่อน แต่เป็นการที่นำพาผมเข้าประเด็นได้ดี

พอถูกถามถึงเรื่องคนรัก...มันก็ทำให้ผมนึกไปถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของผมได้เปลี่ยนไป เพื่อนๆ มองผมที่อมยิ้มเพราะถูกถามจุดประกาย สายตาล้อเลียน อยากรู้อยากเห็นพุ่งตรงมาที่ผม แหงละ ผมเจ้าชู้สุดในกลุ่ม ทุกคนคงสนใจเป็นธรรมดาว่าอะไรหรือใครทำให้ผมหยุดด้วยได้ เรื่องราวของผมคงไม่ได้ตื่นเต้นเร้าใจเท่ากับพาลี หรือผู้มีชายาว่าผู้ใหญ่ลี ซึ่งได้เล่าถึงชีวิตอันแสนตื่นตาตื่นใจให้เราในโต๊ะได้ฟังกัน แต่เชื่อว่าเรื่องราวของผมคงทำให้เพื่อนๆ ถึงกับคิ้วขมวดได้ไม่น้อยแน่ๆ

จุดเปลี่ยนของผมเริ่มเมื่อสมัยที่ผมเรียนมัธยมปลาย ช่วงที่ขึ้นมอห้า มีชายหนุ่มคนหนึ่งย้ายเข้ามาต้นเทอม เขาคนนั้นมีชื่อว่าแมท ผมจำชื่นจริงไม่ได้ซ้ำยังเรียกด้วยชื่อนี้มาตลอด แมทเป็นผู้ชายที่เรียบร้อย สุขุมดูเป็นผู้ใหญ่ แมทชอบยิ้ม เขายิ้มให้กับทุกคน เสมือนโลกนี้ข่างสดใสเสียนี่กระไร

แรกๆ ผมไม่ค่อยชอบแมทเท่าไหร่ มันหล่อเกินหน้าเกินตา ผมควรเป็นคนเดียวที่หล่อกระชากใจสาวๆ ภายในห้องและควรจะต้องท๊อปของโรงเรียนนี้ ซึ่งมันเป็นแบบนั้นมาตลอดก่อนที่แมทจะเข้ามา ใครๆ ก็ชอบผู้ชายหน้าออกหวานนิดๆ คิ้วสวยได้รูป ตาโตแต่เรียวพ่วงขนตามาอีกเป็นแพ ปากกระจับสีพีช แก้มเอิบอิ่มพร้อมด้วยรูปร่างสมส่วนราวกับนักกีฬา หนำซ้ำยังคารมคมคายอีกต่างหาก ซึ่งคุณสมบัตนี้คือผมนี่ไง ใครไม่รักไม่หลงผมแสดงว่าคนๆ นั้นไม่มีความรู้สึกแน่ๆ แต่เมื่อมีแมทเข้ามา...สาวๆ ของผมก็มีตัวมาหารไปทันที

แมทสูงกว่าผม รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนไม่ผอม คล้ายจะซ่อนรูปด้วยซ้ำ หน้าตาออกคม ผิวสีเข้มกว่าผมแต่ไม่ถึงกับคล้ำอะไร คิ้วเข้ม ตาคม จมูกโด่งปากปากสวย...ดูดีไปหมดเหอะว่างั้นแหละ ผมเองก็บรรยายหน้าตาคนอื่นไม่ถูกหรอก ยิ่งหล่อๆ ผมยิ่งไม่อยากจะบรรยายเท่าไหร่ ความหมั่นไส้นั้นมีอยู่เต็มหัวใจ

แต่ด้วยความอัธยาศัยดีของแมทนี่เอง ทำให้จากความขุ่นเคืองอันไร้เหตุผลของผมมลายหายไป และเราก็เป็นเพื่อนกัน เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นครับ แค่อยู่กลุ่มเดียวกัน ไปกินข้าวด้วยกัน เที่ยวด้วยกันประมาณนั้นแหละ ส่วนมากแมทจะไม่ไปเที่ยวหลังเลิกเรียนเหมือนเด็กดีที่รีบกลับบ้านให้ตรงเวลา เขาจะมาเรียนเช้าๆ ด้วยใบหน้าสดใส แมทมันเหมือนเด็กเนิร์ดมากๆ เพียงแต่มันไม่เนิร์ดเท่านั้นเอง

ทุกอย่างในชีวิตผมยังคงปกติดีครับ ถึงแม้แมทจะแย่งความดีความเด่นทางด้านหน้าตาของผมไปมากพอสมควร แต่ก็ให้อภัยได้เมื่อเราได้เป็นเพื่อนกัน ทว่า...วันหนึ่งมันมำให้ผมช๊อคครับ

วันนั้นผมดอดไปแอบดูดบุหรี่คนเดียว ปกติมากันเป็นกลุ่มๆ แต่วันนี้ผมเอาบุหรี่ยี่ห้อดังมา ขืนมาพวกมาด้วยมันก็แย่งผมสิ ผมเลยแอบมาคนเดียว สถานที่ก็คงหนีไม่พ้นจุดที่ไม่มีคนเผ่นผ่านอย่างห้องน้ำเก่าคร่ำครึที่ไม่มีคนใช้แล้ว เดินมาไม่นานก็ถึง กำลังขะก้าวเข้าไปในห้องน้ำเก่าๆ เพื่อทำการสูบบุหรี่อยู่แล้วเชียว เสียงปริศนามันก็ทำให้ผมชะงักเอาไว้เสียก่อน!

“อ๊ะ พะพี่แมท....” เสียงกระเส่าแบบนี้ไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่าทำอะไรกันอยู่

ผมลืมตัวไปนิด เผลอโพล่หัวเข้าไปดูโดยไม่ได้ระวังตัว สิ่งที่เห็นยังทำให้ผมถึงกับค้างไปเลย ตรงอ่างล้างหน้าเก่าๆ แต่ไม่สกปรกนั้น แมทมันยืนพิงอยู่ กางเกงมันร่นลงเพื่อให้ส่วนสำคัญนั้นออกมา ไม่สิ ไม่ใช่ออกมาหรอก แต่เข้าไปในที่ที่หนึ่งต่างหาก ซึ่งที่นั้นมันอยู่ในตัวของผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง คาดว่าเป็นรุ่นน้องเพราะผมไม่เคยเห็นในรุ่นเดียวกัน ทั้งคู่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน เห็นแล้วผมก็อดซี๊ดไม่ได้ มันเร่าร้อนและอีโรติกโคตรๆ จนวูบหนึ่ง...ผมชักอยากลอง

ผมยืนมองอย่างตกตะลึงอยู่ครู่ แมทก็เงยหน้าจากซอกคอเด็กคนนั้นขึ้นมามองผม มันส่งยิ้มหวานๆ ตามสไตล์ของมันมาให้ ผมที่ทำอะไรไม่ถูกก็ยิ้มตอบแล้วเดินย่องแย่งจากไป คือ...พอมันมองและก็อายมันอะ

ที่ว่าจะมาดูดบุหรี่ก็เป็นอันยกเลิกไป นอกจากห้องน้ำเก่านี่แล้วก็ไม่มีที่แอบดูดแล้วครับ มันเสี่ยงที่อาจารย์จะจับได้ เลยต้องตัดใจกลับเข้าห้องไปเรียนหนังสือ คุยกับเพิ่อนเล่นกับเพื่อนตามปกติ

“มึงเห็นไอ้แมทปะวะ มันหายหัวไปไหน?” จู่ๆ ก็มีคนจุดประเด็น ผมที่พอจะชืมภาพนั้นไปได้บ้างกลับนึกขึ้นมาอีกจนได้

“เออนั่นดิ คาบนี้มันหายไปเลย” มันคงยังไม่เสร็จกิจกับรุ่นน้องมั้งมเรื่องอย่างมชว่าก็ทำกันนานหน่อยสิจริงมั้ย ขนาดผมเองเวลามีไรกับกิ๊กหรือแฟนยังเป็นชั่วโมงเลย

ผมสงบปากสงบคำทั้งที่ไม่ใช่นิสัยของตัวเอง ขืนพูดออกไปมันจะเป็นการจุดประเด็น ทีนี้ยากแน่ถ้าจะให้จบเรื่องที่แมทหายไป ผมก้มหน้าก้มตาเรียนไปทั้งที่ไม่ได้สนใจเรื่องเรียนเท่าไหร่หนัก ในหัวเองก็มีแต่ภาพนั้นลอยวนไปวนมาอยู่ ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้จะจะมาก่อนเลย แค่แว้บๆ ผ่านตาเวลาเข้าเว็บโป๊ทั่วไปเท่านั้นเอง ของจริงแม่งเร่าร้อนไม่ต่างจากชายหญิงเหมือนกันนะ บางทีจะมากกว่าหรือเปล่า...อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ

แมทกลับเข้ามาตอนอาจารย์ออกจากห้องพอดี มันส่งยิ้มละไมให้เพื่อนๆ พลางตอบคำถามอย่างไร้พิรุทว่าเผลอหลับอยู่ที่ห้องสมุด เพื่อนผมเชื่อแม่งหมด เพราะมาดของมันให้ ลองเป็นใครคนอื่นในกลุ่มหรือว่าลองเป็นผมสิ พูดแบบนี้ร้อยครั้งก็ไม่มีใครเชื่อหรอก ต่อให้เป็นความจริงก็ตามที

แมทหันมายักคิ้วให้กับผมคล้ายๆ ว่าเรารู้กันนะ ผมก็แค่ยักคิ้วตอบเป็นอันว่ารู้กัน หลังจากนั้นเราก็ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่สิ มืมันก็ทำแบบนั้นเป็นปกติอยู่แล้วแต่ผมสิ ต้องพยายามมากพอดูที่จะไม่สนใจและลืมเรื่องนี้ไป

ผ่านไปเป็นอาทิตย์ก็เกิดเรื่องขึ้น...

อาจารย์ให้เราแบ่งกลุ่มทำโครงงาน กลุ่มหนึ่งมีห้าคนคละชายหญิง ผู้หญิงในกลุ่มผมก็น่ารักน่าเจียะ ส่วนผู้ชายนี่ก็เป็นแมทครับ มันไม่ได้มีปัญหาอะไรจนกระทั่งใกล้ไฟนอลนั่นแหละครับ ปกติผู้หญิงจะชอบเอางานกลุ่มไปทำเองแต่อาจารย์เขาคิดงานมาดีครับ เลยมีงานใช้แรงที่ผู้ชายอย่างเราต้องลงมือทำเองเช่นกัน คืนก่อนส่งงานผมเลยไปค้างบ้านแมทเพื่อทำงานให้เสร็จ และจะได้ช่วยกันขนไปตอนเช้า

“โอย...โครงงานนี้มันหนักเหมือนกันนะเนี่ย” บ่นพลางมองชิ้นงานกลางห้อง เพิ่งรู้นะ ว่าแมทน่ะอยู่คนเดียวในคอนโดหรู คาดว่าบ้านรวยแหงแซะ

“อืม เราก็ว่างั้น” แมทบิดขี้เกียจก่อนลุกยืน “พักกินไรหน่อยดีกว่า”

“เอาดิ หิวเหมือนกัน” ลุกตามแมทไปที่ห้องครัว

ห้องของแมทสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยจนไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นห้องของผู้ชาย ต่างจากห้องของผมเทียบไม่ติด โทนของห้องก็เป็นสีครีมขาวเทา อึมครึมนิดหน่อยแต่ให้อารมณ์โมเดินสุดๆ อิจฉาคนรวยเหมือนกันนะเนี่ย ผมเองใช่ว่าจน แค่ไม่อู้ฟู่เท่ากับแมท

“บอมอยากกินไร” ผมนึกว่าแมทจะทำให้กินตอนได้คำถาม แต่พอหันไปมองหลังนั่งเก้าอี้แล้วก็พบว่าแมทกำลังเปิดตู้เย็นที่มีอาหารแช่แข็งให้ผมได้ดู

“นึกว่านายจะทำ เอาข้าวผัดกํได้ง่ายๆ” นั่งเท้าคางมอง

“เราทำไม่เป็นหรอก ถึงได้ต้องพึ่งอาหารแช่พวกนี้ไง” แมทยิ้มหวาน มือก็เอาอาหารทั้งสองอย่างใส่เวฟ

แมทหันไปเทน้ำใส่แก้วสองแก้ว เดินเอามาวางไว้บนโต๊ะ กลับไปหาช้อนส้อมพอดีกับเวฟดังเตือนว่าอาหารได้ที่แล้ว แมทจึงวางอุปกรณ์การกินที่โต๊ะก่อนจะไปเอาอาหารมาเสิร์ฟให้ ผมมองแมทตลอด ไม่ได้ช่วยอะไร มองเพลินๆ อย่างเดียว เมื่อทักอย่างพร้อมก็ลงมือกินกันไปเงียบๆ เป็นปกติของแมทที่จะกินแล้วเงียบ ไม่เหมือนผม สังคมก้มหน้า กินไปแชตไป คุยกับสาวนั่นแหละครับ ไม่พ้นเรื่องพวกนี้หรอกผมน่ะ

จบมื้ออาหารเราทั้งคู่รีบกลับไปปั่นงานต่อ เสร็จเอาตอนเกือบตีหนึ่ง ผมแทบนั่งหลับขณะที่แมทตั้งหน้าตั้งตาทำ ความตั้งใจของแมทนี่แหละที่ทำให้ผมยังถ่างตาไหว กลัวหลับไปก่อนจะเสียเชิงชาย ทั้งที่ปมควรนอนได้แล้ว การนอนดึกทำให้ผิวพรรณเสียได้ ผมไม่ชอบเวลาตื่นเช้ามาแล้วใต้ตาคล้ำอะ มันไม่หล่อ

“เสร็จแล้ว~ เราขออาบน้ำหน่อยนะ ไม่ไหวละง่วงมาก!” ผมพูดใส่แมททันที

“เอาสิ ได้เอาเสื้อผ้ามาใช้ไหม” ผมพยักหน้าแล้วลุกไปอาบน้ำทันทีไม่มีรีรอ

ผมรีบอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยในเวลาไม่นาน แมทเดินสวนเข้าห้องน้ำ ผมค้นกระเป๋าตัวเอง งัดเอากระเป๋าใบหนึ่งที่มีพวกครีมต่างๆ ออกมา อย่างแรกที่ต้องทำคือเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ผสมสารบำรุง จากนั้นทาครีมสำหรับกลางคืนบางๆ ค่อยๆ นวดไปตามมัดกล้ามเนื้อบนใบหน้า เรียบร้อยแล้วก็ตามด้วยครีมทาตัว ต้องบำรุงครับ ไม่งั้นผมก็หมดหล่ออะสิ ผมยอมไม่ได้จริงๆ เรื่องนี้น่ะ

“ทำอย่างนี้ทุกวันเลยหรอ” ขณะเก็บของ แมทก็เดินเข้ามาพร้อมคำถาม แล้วนั่งลงบนโซฟา ส่วนปมนั่งพื้นเพราะมันส่องกระจกถนัดกว่า

“ใช่อะสิ ไม่ทำแบบนี้ก็หมดหล่อพอดี”

“ไม่จริงหรอก ต่อให้บอมไม่ทำแบบนี้ก็ยังหล่ออยู่ดีนั่นแหละ” แมทว่าพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ ผมยิ้มตอบ แต่เป็นรอยยิ้มการค้าสุดๆ

“คำพูดเถือกๆ นี้ใช่ไหมที่เอาไว้ตกเด็กมากินอะ หึหึ เราไม่ใช่เด็กนะแมท” ก็รู้แหละว่าแมทมันยิ้มจริงใจ แต่คำพูดมันทำให้เสืออย่างผมแว้บเรื่องนี้ขึ้นมา ปกติเวลาจีบหญิงเราก็หยอดราวๆ นี้ทั้งนั้นแหละครับ สำเร็จซะส่วนใหญ่ด้วยสิ

“แล้วต้องพูดแบบไหนถึงจะได้ลองกับบอมละ” แมทยังคงรอยยิ้มอ่อนโยนขณะพูดประโยคล่อผม

“อะอะ ไม่เอาหน่า...เราชอบหญิง” ถึงในใจจะสนเพราะอยากรู้อยากลอง แต่ก็บายดีกว่า ผมไม่ได้พิสวาทผู้ชายอะ

“ไม่ลองหน่อยหรอ สนุกนะ เหมือนกับหญิงแหละ” สีหน้าของแมทดูซื่อมาก เขาดูไม่มีพิษภัยและเชื้อเชิญผมด้วยวาจาง่ายๆ แต่กระตุ้นได้ดี

“เมื่อก่อนเราก็เป็นแบบบอมแหละ เราชอบหญิงปกติ แต่พอได้ลองกับผู้ชาย...เราว่ามันดีอะ ถึงจะดีคนละแบบก็เถอะ” เหมือนแมทกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ มันเป็นเรื่องปกติมากขนาดนั้นเลยหรอ

“กำลังกล่อมเสืออย่างเราหรอแมท...” ผมหันไปยิ้มหว่านเสน่ห์ มือเอื้อมไปแตะปลายคางได้รูปของอีกฝ่ายคล้ายยั่วเย้า

“บอมคิดว่าไงละ” เขายังคงยิ้มซื่อส่งมา

“คิดว่าถ้าได้เสียบก็คงน่าลองนะ” โถมตัวเข้าหาแมท แว้บหนึ่งผมเห็นแมทกระตุกยิ้มมุมปาก แต่แค่แว้บเดียวจริงๆ

“ก็ลองสิ...”

เฮ้อ~

ผมมารู้ว่าแมทก็เป็นเสือเอาตอนที่เสื้อผ้าเราหมดจากร่างกายไปแล้ว ผมโดนขย้ำจนจมเตียง แต่ไม่อาจต่อว่าอะไรอีกฝ่ายได้เพราะเก่งพอที่จะทำให้ผใสมยอม รอยยิ้มพิมพ์ใจและน้ำเสียงสุภาพของเขามันช่างน่าหมั่นไส้ มันทำให้ผมตกลงไปในหลุมที่อีกฝ่ายขุดเอาไว้ แมทลีลาดี วาจาดีและคารมดีจริงๆ ผมแพ้ราบคาบ ถ้าเทียบ...ผมเป็นเสือทร่ใครเห็นก็รู้ว่าเสือ แต่แมทเป็นเสือที่ทำตัวเป็นแมว สัญชาตญาณเขาจะออกตอนเขาจะกินเหยื่อ

ร้ายกาจที่สุด!

นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของผมกับแมท เพราะหลังจากนั้น ชีวิตของผมก็ผิดเพี้ยนไปจากความตั้งใจอย่างสิ้นเชิง จะโทษแมทก็ไม่ได้ จะมานั่งโทษตัวเองก็ใช่เรื่อง สุดท้ายก็คงโทษได้แค่โชคชะตาที่เล่นตลกกับคนสองคนจนเกินไป

“เสือโดนเสือกิน...ควรเห็นใจหรือสมน้ำหน้าดีน้า” ซีซั่น หัวโจกสมัยเรียนของผมทำเสียงล้อเลียนใส่ ใบหน้าของซีซั่นนั้นออกแนวหล่อคมคาย สีผิวคล้ำตามสไตล์ชายไทยจ๋า ริมฝีปากสวยแต่ดูดบุหรี่บ่อยและไร้การดูแลทำให้คล้ำยกยิ้ม มันดูหล่อแบบโฉดๆ ต่อให้สาวๆ อยากกรี๊ดใส่ก็คงเกรงใจดวงตาดุดันของมัน

“ไม่ซ้ำเติมบอมแบบนั้นสิ” ปภพ เพื่อนในแก๊งสนิทอีกคนยิ้มละไม เอ่ยเตือน ปภพค่อนข้างให้อารมณ์เหมือนแมทเพราะเขาชอบยิ้ม หน้าคมคิ้วเข้มหล่อแบบไทยบาดใจสาวๆ ผิวสองสีเสริมให้ปภพดูดีกว่าจะทำให้ปภพดูด้อย ยิ่งมีลักยิ้มด้วย สาวน้อยสาวใหญ่ศิโรราบกันหมด

“...” แต่เพื่อนซี้อีกคนของผมกลับทำหน้านิ่งๆ ตีมึนเหมือนไม่เข้าใจและไม่ได้สนใจทั้งที่ตั้งใจฟัง พาลีก็แบบนี้ ทั้งที่ผ่านไปเป็นสิบปีก็ยังคงรักษามาดนิ่งเอาไว้ได้อย่างมั่นคง แต่ต้องยอมรับว่าพาลีดูน่ามองมากกว่าเดิม ทั้งที่ไม่แสดงอะไรออกมายังมีเสน่ห์ดึงดูด คงเพราะโตแล้ว...

ใช่...เราทุกคนต่างก็โตแล้ว

“ซ้ำเติมกูอะซ้ำเติมได้นะ แต่อย่าให้ถึงตากู เพราะกูเอาคืนแน่” ผมชี้หน้าซีซั่นเอาเรื่อง มันเค้นยิ้มมุมปาก ผมเองก็ยิ้มหล่อแบบการค้า ส่งสายตาฟาดกันเปรี้ยงๆ ทำให้คนในโต๊ะจับจ้องมาที่เรา

“ไม่ต้องปากเก่ง เล่าต่อมาดิ...จะได้หาเรื่องซ้ำ” ซีซั่นยักคิ้วกวนตีน เห็นแล้วอยากโบกกะโหลกมัน แต่ก็รู้ดีแหละว่า...มันแหย่ผมเล่น

ผมเตรียมจะเล่าเรื่องของผมต่อ แต่พิธีกรก็เอ่ยขัดเราเอาไว้เสียก่อน

*********************************

เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งในนามปากกา GukakST และเป็นเรื่องแรกที่ลงเล้าด้วย :mew3:

ฝากติดตามแล้วก็เม้นต์ติชมกันด้วยนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ+บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 17-12-2016 19:32:48
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

น่าติดตามมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ+บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kenjangclub ที่ 17-12-2016 19:40:08
 :hao6: :hao6:

รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 17-12-2016 19:52:21
เธอมีชู้

บทที่ 1

“เมื่อวานไปไหน ทำไมกลับดึก”

มันเป็นเพียงคำถามง่ายๆ ที่ใครก็ตอบได้ทั้งนั้นถ้าไม่มีสายตากดดันทั้งที่ริมฝีปากสีสวยกำลังฉีกยิ้มอย่างเป็นมิตร คนตรงหน้าผมไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือ ‘แมท’ เพื่อนในสมัยมัธยมปลาย ซึ่งเราทั้งคู่ไม่ใช่แค่เพื่อนกันอีกแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม...ผมถึงยังนั่งยิ้มการค้าโดยไม่ตอบคำถามนั้นของแมทเสียที

จะเอาคำตอบแบบไหนอะ...เรื่องจริงหรือเรื่องเฟค?

แน่นอนว่าถ้าจะตอบคงตอบเรื่องจริงไม่ได้แน่ๆ สิ่งที่ผมไปทำมาเมื่อวานจนเป็นเหตุให้กลับช้านั้น ไม่ใช่เรื่องขาวสะอาดน่ะสิ ง่ายๆ ผมมีแมทเป็นแฟนอยู่แล้ว คนมีแฟนแล้วไม่ควรไปกิ๊กกั๊กกับใคร พอเดาได้ละใช่ไหมว่าทำไมความจริงถึงควรถูกเงียบ ใช่ ผมไปเที่ยวกับกิ๊กมา

“ก็เที่ยวกับเพื่อนน่ะแหละ เพลินไปหน่อยเลยดึก” ตีเนียนบอกไปหลังคิดประมวลผลอยู่หลายวินาที

“หรอ เพื่อนกลุ่มไหนอะ” ถ้าเป็นเวลาปกติไม่ได้ไปทำผิดมา คำถามของแมทมันจะเป็นแค่คำถามที่ไม่ต่างจากถามว่ามื้อเที่ยงกินอะไรนั่นแหละ แต่ตอนนี้คำถามแมทในความรู้สึกผมมันกลายเป็นการจับผิด เสือที่ดี ไม่ควรหลุกหลิกให้จับได้

“พวกเต้ไง จำมันได้มะ ก็มีไอ้เต้และเพื่อนไอ้เต้สองคนอะ จำชื่อไม่ได้” ยังเนียนได้อยู่ แมทพยักหน้ารับรู้ เขายิ้มละไม ดูอ่อนโยนเหมือนแมวตัวน้อยๆ อ้อนขออาหาร

แต่โทษที...แมทไม่ใช่แมว!

หลังจากที่ผมพลาดท่าให้กับแมทในคืนนั้น เราก็คบกัน โดยแมทเป็นคนขอคบ ตอนแรกผมปฏิเสธหัวชนฝาและต่อว่ามันที่มันช่างทำกับผมได้ ทั้งทีลึกๆ ผมไม่เถียงว่าการเป็นฝ่ายรับมันก็รู้สึกดีนะ แมทตามตื้อและง้อเป็นการใหญ่ สุดท้ายผมเลยเออออคบกับมัน

คบกันแล้วใช่ว่าผมจะเลิกหลีสาวเสียเมื่อไหร่ ผมยังคงแซวหญิง จีบหญิงเรื่อยเปื่อยตามประสาผู้ชายลั้นลานั่นแหละ แมทเองก็เหมือนจะเข้าใจ ก็แค่เหมือนนะ...แต่ไม่ได้เข้าใจ มันอารมณ์หญิงกว่าที่คิด น้อยอกน้อยใจ และใส่มาดนางเอก ไม่เป็นไรเรารับได้ ผมก็พลอยสงสาร ลืมไปเลยว่าแมทมันก็เสือ สุดท้ายผมก็พลาดท่ามัน มันแค่ไม่อยากให้ผมไปมีใคร มันไม่ได้อารมณ์หญิงจริงๆ หรอก มารยามากกว่า

ผมอยู่ในลู่ในทางของแมทนานมาก แล้วมาตบะแตกตอนปิดเทอมมอหก โหย ผมรู้สึกขาดแคลนหญิงสาวอะ พอมีสาวๆ เข้ามาก็เลยเผลอไปลั้นบากับเธอบนเตียง จำได้ว่าคนที่ทำให้ผมตบะแตกเป็นรุ่นพี่แถวบ้าน วันนั้นบ้านผมไม่มีใครและเธอก็เข้ามายืมของอะไรเถือกๆ นี้ ยืมอีท่าไหนไม่รู้ลงเตียงกันเฉย ผมเลยบรรลุว่าเออ ผมก็ยังต้องการผู้หญิงนะ แล้วที่ทำก็ไม่ใช่การนอกใจ มันหนุกๆ หาความสุขไม่ต่างจากกินเหล้ากับเพื่อนนั่นแหละ แค่ไม่ควรให้แมทรู้เท่านั้นเอง

“ช่วงนี้มึงเที่ยวบ่อยนะรู้ตัวไหม” แมทมองมาทางผมเรียบๆ

หลังจากคบกันมาระยะหนึ่งทำให้ผมได้รู้ว่า แมทน่ะเป็นคนชอบยิ้มก็จริง แต่พูดน้อยแลดูไร้อารมณ์ออกไปทางเย็นชาเลยละ แถมเป็นคนรักสันโดษมากๆ ชอบทำอะไรคนเดียวเงียบๆ  ซึ่งแมทจะเป็นตัวของตัวเองก็ตอนอยู่กับผมเท่านั้น พออกไปเจอคนอื่นปุ้บ แมทจะดูเฟรนลี่ขึ้นมาทันที ทั้งที่มันโคตรขี้เกียจพูดแท้ๆ

ผมเองเคยเหน็บแนมแมทเรื่องนี้เหมือนกัน แต่เขาตอบกลับผมง่ายๆ สบายๆ ว่า “เฟรนลี่แล้วตกเหยื่อได้ง่ายกว่า” น่ายกย่องไหมละครับ นอกจาหน้าตาดีแล้วยังเฟรนลีอีก ใครๆ ก็อยากครอบครอง จับจองเป็นแฟนเป็นเรื่องธรรมดา แต่แมทก็ไม่ได้ตกเหยื่อมานานละ ตั้งแต่คบกับผม เขายังคงทำตัวเหมือนเดิมยกเว้นการคั่วคนนั้นคนนี้ เพราะถึงก่อนคบกันแมทจะฟันดะ แต่เมื่อมีแฟน เขาจะไม่นอกใจหรือนอกกายแฟนครับ

เล่นเอาผมรู้สึกผิดเลย...

“มึงก็มีรายงานต้องทำเยอะนี่ ไม่ค่อยมีเวลาให้กูเหมือนกันอะ” ผมว่าท่าทางชิวๆ ผมอ้างเรื่องเที่ยวบ่อยมาก เพราะช่วงนี้สาวที่ผมควงน่ารักสุดๆ

“ก็นะ” แมทเอียงคอนิดๆ เป็นอันว่าเข้าใจและทำใจ

เราต่างเป็นผู้ชายจึงเข้าใจกันง่าย ค่อนไปทางรู้ใจกันดีด้วยซ้ำในเรื่องชอบดื่มชอบเที่ยวอะไรประมาณนี้ และเพราะแบบนี้แหละ ผมกับแมทถึงคบกันมาได้นานมากๆ เพราะเมื่อเข้าใจกันก็ไม่ทะเลาะ ไม่ทะเลาะก็ไม่มีเรื่องให้ต้องเลิกกันไงครับ การคบผู้ชายด้วยกันมันดีแบบนี้แหละ เรื่องงี่เง่าอารมณ์หญิงนี่ตัดไปได้เลย อีกทั้งยังสามารถดื่มกิน เที่ยวเล่นเหมือนๆ กันได้อีก ที่สำคัญ เข้ากับเพื่อนเราได้ชัวร์ๆ

ผมกับแมททานมื้อเช้าเรียบร้อยก็ตรงดิ่งไปมหาลัยด้วยรถมอเตอร์ไซค์หกร้อยห้าสิบซีซีของแมท เจ้านี้เขาสายซิ่ง ชอบบิ๊คไบค์หรือความเร็วพอสมควร แต่ผม...ไม่! ผมชอบความเร็วนะ แต่ไม่ชอบมอเตอร์ไซค์ มันทำให้ผมที่เซ็ทมาเป็นอย่างดีเสียทรง ต่อให้ใส่แว๊กยี่ห้อดีมากขนาดไหน เจอหมวกกันน๊อคเข้าไปก็บู้แบนทั้งนั้น แต่ทำไงได้ ถ้าต้องไปเรียนกับแมท ผมต้องปล่อยผมไปตามธรรมชาติ ทำทรงอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ค่อยไปเซ็ทอีกทีนู้นที่มหาลัย

แมทส่งผมที่หน้าคณะก่อนแยกไป เขายิ้มหวานให้กับผมผ่านหมวกกันน๊อคยี่ห้อดัง ผมเองก็ยิ้มตอบ ยืนมองส่งแล้วถึงได้หันหลังเดินจากมา พอไม่มีแมทแล้วผมก็หันไปส่งยิ้มสวยๆ ให้กับสาวสวยที่นั่งทานมื้อเช้ากัน การหว่านเสน่ห์ให้คนสวยมาหลงเป็นงานประจำของคนหล่อๆ อย่างผม ขยิบตาอีกนิดพวกเธอก็ละลายแล้ว...

อะ...ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมีแฟนแล้วยังหว่านเสน่ห์ใส่สาวๆ ได้อีก คนอื่นเขาไม่รู้หรือไง ใช่ครับ ไม่มีใครรู้ว่าผมกับแมทเป็นแฟนกัน เราต่างคนต่างก็ไม่ได้ประกาศอะไร คือมันไม่จำเป็นนี่ครับ คบกันธรรมดา มารับมาส่วแค่นั้น ไม่ได้ประเจิดประเจ้อ แหม่ จะให้มาสวีตกันต่อหน้าคนเยอะๆ ในมหาลัยมันก็ไม่เหมาะปะครับ ผมกับแมทก็เพิ่งปีหนึ่งเอง ทำไรก็ต้องให้เกียรติสถานที่บ้าง

หึหึ...ดูดีสุดๆ

นั่นเป็นเหตุผลจริงๆ ครับ การหว่านเสน่ห์จนได้สาวๆ มาควงเป็นผลพลอยได้ต่างหากครับ ผมเปล่าเจ้าชู้นะ แค่หาความสุขใส่ตัวเองบ้างเป็นครั้งคราว ถามว่ารักแฟนตัวไหมก็รักครับ รักมากๆ คนอื่นเลยเป็นคนคั่นเวลาหนุกๆ ไงครับ หาเศษหาเลยบ้างเป็นกำไรชีวิตไป

“มาแล้ว รอพี่นานไหมคะ” พี่พู่กัน หรือที่ผมเรียกว่าพี่พู่ คือสาวน้อยตัวเล็กหุ่นเอ็กที่ผมกำลังควงอยู่ในช่วงนี้ เธอเป็นรุ่นพี่ต่างคณะ กว่าจะจีบมาได้ เสียเวลาพอสมควร แต่คุ้มครับ...แค่ลีลาเอวเธอก็คุ้มแล้วจริงๆ

“นานแค่ไหนก็รอได้ครับ” ส่งสายตาออดอ้อนไปให้ก่อนจับมือของเธอมากุม พี่พู่กันยิ้มหวาน แก้มระเรื่อนิดๆ น่าหมั่นเขี้ยวเป็นที่สุด

“ปากหวานตลอดเลยนะเด็กคนนี้ ได้ทีเป็นหยอด น่าตีจริงนะเรา” พี่พู่หยิกจมูกผมเบาๆ ก่อนจะออกแรงดึงมือที่กุมของตัวเองไว้เป็นเชิงบอกให้ผมลุกจากที่นั่ง

“อย่าตีบอมเลย บอมกลัวแล้ว” เสียงอ้อนของผมเรียกรอยยิ้มจากพี่พู่ได้อีก

ดูเป็นภาพที่น่ารักมากเลยใช่ไหมครับ คู่รักกำลังหยอกล้อกันเนี่ย ผมเองก็คิดว่ามันน่ารักดีน้า ผมถึงชอบอ้อนชอบแหย่พี่พู่กันไงละครับ ด้วยอายุที่มากกว่าผมทำให้ผมรู้สึกเป็นเด็กกว่าความเป็นจริงมาก ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผมอบอุ่นมากเหมือนกันนะ

อกบึ้มๆ นั่นน่ะ...ที่อันแสนอบอุ่น

ผมกับพี่พู่พากันไปทานอาหารเช้าก่อนจะเข้าเรียน ผมเองกินมาแล้วแหละ แต่ต้องทำเหมือนว่าหิวสุดๆ ดีที่ไม่ได้ยัดอาหารอะไรมาเยอะแยะจนจุก ไม่งั้นละก็แย่แน่นอนครับ ผมคงไม่สามารถตีบทได้เนียนกริบขนาดนี้แน่ๆ

“เลิกเรียนแล้วบอมไปไหนหรือเปล่า” ดวงตาซุกซนของหญิงสาวฝั่งตรงข้ามกำลังบอกความนัยบางอย่าง ผมยิ้มรับและไม่สนทันทีว่าจะมีธุระอะไรรอไหม

“ไม่ครับ บอมว่าง พี่พู่จะชวนบอมไปไหนอ๋อ บอมไปได้หมดเลยน้า โดยเฉพาะ....” ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่อีกฝ่าย พี่พู่ยิ้มแล้วยื่นหน้างงๆ เข้ามาเกือบประชิด

“เฉพาะอะไรอ่อ”

“ห้องของพี่ไงครับ” ว่าจบผมก็ฉกหอมแก้มใสไปที โอ้ย ชื่นใจอย่าบอกใครเลยละครับ

“ไอ้เด็กทะลึ่ง” ถึงจะว่าแบบนั้น แต่ผมก็รู้ดีว่าพี่เขาไม่คิดอะไรหรอก ด่าแก้เขินไปงั้นมากกว่า

เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย เราก็ไม่ลืมที่นัดแนะเวลากันเอาไว้ให้เรียบร้อย แล้วต่างก็ไปยังห้องเรียนของตนเอง เย็นนี้ผมคงต้องหาทางแก้ตัวกับแมท เพราะไปบ้านพี่พู่แบบนี้คงไม่ง่ายที่จะกลับมาหรอก คงกินเวลาไม่น้อยเหมือนกัน ที่สำคัญ ผมเลิกคลาสสุดท้ายค่อนข้างเย็นพอสมควรเลยด้วย

ตายๆ เพิ่งโดนว่ามาเมื่อเช้าแท้ๆ แต่จะให้ปฏิเสธโอกาสทองแบบนี้ทิ้งไปก็ไม่ใช่ผมคนนี้สิ คาดว่ากลับห้องไปแมทก็คงว่าผมอีกจนได้นั่นแหละ ต้องเอาลูกอ้อนเข้าชน บริการแบบที่แมทชอบอีกสักหน่อยก็คลกลบเกลื่อนได้ละ

เห็นแมทแบบนั้นแต่แมทมันก็เซ้นไวเหมือนกันนะครับ บางครั้งผมกลับห้องหลังจากไปเที่ยวกับสาว แมทมันจะได้กลิ่นน้ำหอมแล้วจับผมนั่งซักไซร้ไล่เลียงเป็นการใหญ่ ถึงผมจะเอาตัวรอดมาได้ แต่แววตาที่รู้ทันนั้นก็เป็นการบอกผมนัยๆ ว่าเขาแค่ยอมหรอก เขารู้ แต่เขาให้โอกาส ประมาณนั้น ผมรับโอกาสที่แมทมอบให้นะ และปฏิบัติดีมาตลอดเลยด้วย ไม่เขื่อไปถามเพื่อนๆ ผมได้ ผมไม่เคยนอกใจแมทไปหาชายใดเลยจริงๆ!

“กล้ามึงช่วยกูคิดหน่อยดิ้ ว่าเย็นนี้กูจะบอกแมทว่าอะไรดี” ผมถามเพื่อนออกไปลอยๆ

ขอแนะนำนิสนึง เพื่อนทางด้านขวามือของผมชื่อกล้า เป็นพวกติดเกมขั้นโคม่า ชอบนักละกับการได้เล่นเกมออนไลน์ต่างๆ นาๆ ไม่ว่าเกมนั้นจะโหด จะเถื่อนหรือมุ้งมิ้งน่ารักกิ้บกิ้ว มันก็เล่น ในตอนนี้ที่ผมตั้งคำถามใส่ มันก็ยังนั่งกดมือถือทอยลูกเต๋าอย่างหน้าดำคร่ำเครียด เหมือนกับว่าถ้าแพ้แล้วบ้านจะไฟใชไหม้ ส่วนทางซ้ายเจ้านี่ชื่อเต้ นิยามสั้นๆ สำหรับมันคือ ที่ไหนมีเหล้า ที่นั่นมีเรา ครับ...ไอ้เต้นี่แหละที่ผมใช้แถกับแมทว่าไปเที่ยวกับมัน เพราะมันน่ะชอบเที่ยวและก็ชอบดื่มมาก เต้เป็นประเภทดื่มเที่ยวแต่ใม่ควงหญิงครับ

สำคัญสุด...มันสองตัวนี้รู้ว่าผมกับแมทเป็นแฟนกัน

“ตีดอท” คำตอบกล้าไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย ผมเคยไปตีดอทแล้ว เสร็จแล้วหลังจากบองเล่นผมก็บ่นให้แมทฟังว่ามันไม่สนุก แล้วทีนี้จะให้โกหกว่าไปตีดอทเนี่ยนะ!

“ก่อนจะหาข้ออ้างกับแฟนมึงอะ มึงช่วยบอกพวกกูก่อนว่ามึงจะไปไหน?” เต้ถามพลางหาว

“พี่พู่เขาชวนกูไปบ้านเขาวะ จะไม่ไปก็น่าเกลียดปะวะ ผู้หญิงอุตส่าห์ชวนก่อนเลยนะเว้ย กูนี่ละอยากให้ถึงเย็นนี้ไวๆ อยากจะจัดเธอให้หนำใจซะจริงๆ” ว่าพลางทำหน้าหื่นๆ ใส่เพื่อนทั้งสอง ไอกล้าพลักหน้าผมออก ส่วนเต้เบี่ยงหน้าหนี

“แมทไม่จัดหรอมึง หน้าแม่งหื่นชิบหาย” กล้าทำท่าแขยง

“ไม่เกี่ยวกับแมทดิวะ หญิงกับชายมันคนละอารมณ์กันมึงก็รู้ จะให้มาทดแทนกันได้ไง”

“มึงก็บอกไปกินเหล้ากะกู แล้วถ้าจะค้างก็โทรมาบอกกู เผื่อแมทโทรมาถาม เตี๊ยมๆ กันไว้หน่อยจะได้ไม่ตาย กะล่อนอย่างมึงยิ่งหาเข้ากลุ่มยากอยู่” เต้ว่าปนขำ ส่วนกล้าเบะปากใส่ เห็นละหมั่นไส้มันจริงๆ

ผมกอดคอเต้หลังได้รับทางออกที่แสนจะถูกใจ ถึงเต้จะไม่เจ้าชู้แบบผมแต่มันก็แพรวพราวไม่หยอกหรอกนะ แค่มันไม่คิดจะเอาใครสักคนมากกว่า ผมละเชียร์ให้มันหาสักคน จะได้ไปด้วยกันได้ง่ายกว่านี้ เพราะผมเองก็ไม่ใช่นักดื่มตัวยงอะไร ชอบดื่มสังสรรค์นะแต่ไม่ขนาดดื่มเป็นกิจวัติประจำวันแบบมัน ดูดิ มีอย่างที่ไหน มาเรียนทั้งที่ตาปรือ เมื่อคืนคงหนักตามเคย

“เข้าขากันจริงนะพวกมึงเนี่ย ชั่วช้าสามาน” ไอ้คนที่นั่งกดเกมหยิกๆ เสือกเงยหน้าขึ้นมาด่า ถ้าเป็นคนนอกKะงงหนักมากว่ามันเป็นอะไรของมัน ตอนแรกก็ไม่อะที่งี้ละมาด่าเขา แต่สำหรับเรา เรารู้ทันครับ!

“แพ้เกมแล้วอย่าพาลสิที่รัก” ไอ้เต้มันรีบสวน กล้ามองตาขวางก่อนสะบัดหน้าใส่

“ทำเป็นตุ๊ดเลยไอ้กล้า” ผมว่า แล้วหันไปขำกับเต้ ปล่อยให้กล้าหัวฟัดหัวเหวี่ยงเงียบๆ มันเงียบได้ไม่นานหรอก แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ เดี๋ยวก็บ่นยาวๆ...

ในขณะที่กล้ากำลังบ่นเป็นหมาพ่นไฟ อาจารย์ประจำคลาสก็เข้าห้องสอน มันจำเป็นต้องสงบปากสงบคำแม้ว่าจะโดนเต้ทำหน้าล้อเลียนไอ้กล้าอยู่ ไอกล้ามันเป็นพวกหัวร้อนได้ง่ายตามประสาพวกเกมเมอร์ เต้เลยชอบแหย่ให้มันเดือด ดูเหมือนโรคจิตอะแหละ เพราะพอกล้าเดือด กล้าก็จะทำร้ายร่างกายไอเต้พลางบ่นเป็นหญิงแก่แม่หม้าย ส่วนไอเต้ก็นั่งขำคิกๆ คักๆ อยู่นั่น อะไรจะมีความสุขปานนั้น

ผมนั่งมอมันสองตัวสลับกับอาจารย์ทีกำลังอธิบายกฏอะไรสักอย่างที่ผมเข้าใจเพียงผิวเผิน จำได้แค่มันจะออกข้อสอบ ผมเลยจดไป ขำเพื่อนทั้งสองคนนี้ไปพร้อมๆ กัน ดีนะที่ไม่ได้เสียงดังจนอาจารย์จับสังเกตไม่งั้นโดนเชิญออกนอกห้องอย่างแน่นอน

ครบแรกของผมจบลงตอนใกล้เที่ยง ทุกคนในห้องทะยอยออกมา ต่างก็หิวโซโหยหามื้อเที่ยงกันแล้วทั้งนั้นรวมถึงพวกผมสามหน่อด้วย เต้รีบเดินนำเราทั้งคู่ไปยังโรงอาหารของมหาลัย ขายาวๆ นั่นเล่นเอาซะคนตามเหนื่อย กล้าถึงกับหอบเมื่อเดินมาถึง

“กูไปหาที่นั่ง มึงไปซื้อน้ำ ส่วนมึงไปซื้อข้าว” เต้สั่งกล้าก่อนหันมาสั่งผมอย่างไว ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธคำสั่นนั้นของมัน เวลานี้ทำตามเต้ดีที่สุดแล้วครับ

 ผมรู้สึก...อยากพกข้าวกล่องมากิน

ตอนนี้ทุกร้านในโรงอาหารเต็มไปด้วยผู้คน ยิ่งร้านอร่อยๆ ไม่ต้องไปพูดถึง ต่อแถวรอกันไปไม่รู้จะได้กินหรือเปล่า เผลอๆ ถึงคิวตัวเองปุ๊บของหมดปั๊บก็มีออกบ่อย ส่วนร้านที่พอกินได้คิวก็ยาวอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะยาวได้ และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมเลือกร้านที่คิวน้อยที่สุดแทนที่จะเลือกเพราะอาหาร ผมไม่อยากรอนนานอะครับ หิวไส้จะขาดแล้วด้วย นี่ขนาดคิวน้อยที่สุดแล้ว ยังต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้อาหารของสามที่ ผมรีบดิ่งไปยังโต๊ะที่มีไอเต้นั่งจอง พอวางอาหารได้ กล้าก็เอาน้ำมาเสิร์ฟพร้อมร่างกายอันชุ่มเหงื่อ

“ร้านนี้ไม่หร่อย” มันบ่น

“มึงดูคิวก่อนค่อนบ่น ขืนจะกินร้านอร่อยๆ บ่ายยนี้ไม่ต้องเรียนกันพอดี” ผมว่าแล้วเริ่มตักคำแรก

กล้ายังคงบ่นงุ๊งงิ๊งไปเรื่อย ปากก็ใช่ว่าว่าง เคี้ยวข้าวเต็มปากยังจะพร่ำไปเรื่อยได้อีก ส่วนเต้มันก็กินของมันเงียบๆ ตรงหน้ามีหน้าจอมือถือ เห็นแบตคุยกับเพื่อนอยู่ ผมเองพอเห็นเพื่อนทำเลยทำบ้าง หยิบมือถือขึ้นมาแชตหาพี่พู่ ถามนั่นนี่พลางหยอดคำหวานให้อีกฝ่าย มันต้องเติมความหวานให้แก่ความสำพันของเราบ้างครับ ไม่งั้นอาจจะจืดจางเร็วเกินเวลาอันควร

ผมยังไม่อยากเสียเธอไป ลีลาดีขนาดนี้ ต้องหากันนานเลยนะครับ แถมยังได้มากยากอีกต่างหาก มันต้องใช้ให้คุ้มกับที่ลงทุนไปก่อน แล้วหลังจากนั้นจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที

ดูเหมือนผมไม่กลัวแมทรู้เลยเนาะ...ช่าย ผมไม่กลัว!

ผมว่าผมมีความสามารถมากพอที่จะกลบเกลื่อนสิ่งที่ตัวเองทำไม่ให้แมทรับรู้ ผมทำแบบนี้มาได้สักพักแล้ว และแมทก็ไม่เคยจับได้เลย ถึงเซ้นจะแรงแต่ก็ตามเกมของผมไม่เคยทัน ถึงระแคะระคายเรื่องของผมแค่ไหน เจอผมอ้อนเข้าหน่อยแมทก็ลืมแล้วครับ ก็เรามันเป็นผู้ชาย...ใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้นานที่ไหน ลองเป็นผู้หญิงสิ โดนจับได้ไปนานละมั้งป่านนี้

จบคาบสุดท้ายของวันกล้ามลก็ขอตัวกลับบ้านก่อนอย่างไว วันนี้มันเพื่อนในเกมเอาไว้ บอกจะพากันไปเวล ส่วนเต้มันเดินตาปรือๆ มาพร้อมผม ชวนผมไปดื่มแต่ผมก็บอกมันไปว่าผมนัดกับพี่พู่เอาไว มันทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกได้ แล้วก็จากไป ผมยืนมองส่งพวกมันแล้วแยกไปอีกทางเพื่อไปเจอพี่พู่คนสวยของผม

แต่ก่อนจะไปเจอขอแว้บเติมหล่อกันหน่อยครับ!

อาจแปลกไปบ้างที่ผู้ชายแต่งหน้า แต่ผมว่าแงนิดแต่งหน่อยมันทำให้ดูดีนะครับ ผมเติมแป้งนิด ปากหน่อย เซ็ทผมอีกเล็กน้อยก็พร้อมจะหว่านเสน่ห์ใส่สาวๆ แล้ว ผมออกมาจากห้องน้ำด้วยความมั่นใจ ส่วนมือก็ล้วงเอาบุหรี่มาจุดสูบไประหว่างทาง

“โหย พี่รอนานมากเลยน้า” เป็นคำบ่นน่ารักๆ ที่พี่พู่ใช่ต้อนรับผม ผมเดินเข้าไปสวมกอดเธอแล้วเอาหน้าซุกซอกคอ ไม่สนใจสายตาคนอื่น หรือสถานที่เลยสักนิด

“นี่บอมก็รีบสุดๆ ละน้า อาจารย์เขาปล่อยช้าจริงๆ แถมยังให้งานกลับมาทำอย่างเยอะเลยอะ บอมละขี้เกียจทำชะมัด ฟังจำนวนงานที่ต้องส่งแล้วอยากแห้งตาย” ผมบ่นใส่ซอกคออีกคน พี่พู่ลูบหลังผมเบาๆ

“โอ๋ๆ ไอ้เด็กน้อย งานแค่นี้ทำเป็นบ่น โตขึ้นเจองานเยอะกว่านี้ไม่บ่นมันสามเวลาเช้ากลางวันเย็นเลยหรือไงจ้ะ” พี่พู่ดันผมออกจากคอ จ้องใบหน้าผม ใช้มือเล็กของตัวเองเช็ดคราบเหงื่อของผมให้ด้วย

“ก็คนไม่มันไม่อยากทำนี่นา” ผมยังคงอ้อนต่อไป พี่เขายิ้ม เอมมือมากุมมือผมแล้วออกเลแรงจูง

“งั้นพี่พาบอมไปหาไรทำให้ผ่อนคลายดีไหม จะได้มีแรงในการทำรายงาน” รอยยิ้มสดใสแต่แฝงความเขินอายเอาไว้นิดๆ นั้นทำให้ผมรัว่าที่พี่พู่หมายถึงคืออะไร

“ดีๆ รีบพาบอมไปเลย....” พี่พู่หยิกแขนผมเล็กน้อยข้อหาดี้ด้าเกินหน้าเกินตาจนเป็นเหตุให้เธอนั้นมั่นไส้

พี่พู่กันมีรถเก๋งเป็นของตัวเอง เธอนำผมไปที่รถ ให้ผมนั่งส่วนเธอขับรถไปเรื่อยๆ เรามุ่งหน้าไปบ้านพี่พู่ก็จริง แต่ระหว่างทางเราก็แวะซื้อนั่นซื้อนี่กินกันมาตลอด เจ้าไหนอร่อยมากๆ ก็ซื้อกลับไปกินที่บ้าน เพราะระหว่างช่วงกิจกรรมคลายเครียดเราอาจหิวกันก็ได้

ได้ของเต็มไม้เต็มมือ ชนิดที่เรียกว่าล้นและเราสองคนกินกันไม่หมดแน่ๆ พี่พู่ก็พาดิ่งกลับบ้านทันทีโดยไม่มีอาการโอ้เอ้อีกแต่อย่างใด ผมก็น่ะงคุยกับเธอจนถึงหลคอนโดของเธอนั่นแหละครับ ที่พี่พู่พักนั้นเรียกได้ว่าอยู่ตรงข้ามกับคอนโดของแมทเลยครับ แต่ไม่ได้อยู่ใกล้เห็นกันได้นะ กลับกัน มันไกลกันมาก ถ้าเสร็จกิจแล้วอยากจะกลับ คงถึงห้องดึกแน่นอนไม่ต้องสงสัย

ก็แบบ...นี่ไม่ใช่ครั้งของผมกับพี่พู่ ณ ห้องพี่พู่นี่ครับ

ต่ออีกนี้ดด :katai5:
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 17-12-2016 19:54:45
 :katai5: ต่อตรงนี้เลยจ้า

RrrrRrrrrrr
“ฮัลโหล...”

(“อยู่ไหน”) คำถามของแมททำให้ผมอดหันไปมองร่างของพี่พู่กันบนเตียงนอนไม่ได้ ถึงพี่เขาจะหลับไปแล้ว แต่เพื่อความสบายใจ ขอเดินออกไปคุยข้างนอกละกันนะ

“กูอยู่กับไอ้เต้ มาดื่มกับมันที่ห้องอะ” จะบอกว่าเป็นที่ผับก็ไม่ได้ เพราะที่นี่มันเงียบไป

(“แน่ใจนะ”) เสียงของแมทเย็นชาแปลกๆ

“อืม....” ขักเสียวสันหลังแหะ

(“เมื่อกี้กูเจอไอ้เต้ที่ร้านนั่งชิวหน้ามอ มึงบอกมาดีๆ บอม มึงอยู่ไหน!”)

ชิบหาย...!!!

“คือกู...” นึกสิวะว่าจะแก้ตัวกับไอ้แมทยังไงดี นี่อุตส่าห์เตี๊ยมกันไว้กับไอเต้ เสือกผิดแผนชนิดร้ายแรงซะได้ แล้วแบบนี้ผมจะเอาตัวรอดยังไงดีวะ ต้องเค้นสมองคิดให้ได้ว่ามีอะไรบ้างที่ผมชอบแอบไปทำนอกจากหลีหญิงโดยไม่ให้แมทรู้

“บอม...บอมอยู่ไหนอะ” เวรหนอกรรม!

(“เสียงใคร ไอ้บอม มึงกลับมาเจอกูเดี๋ยวนี้เลยนะ”)

“อืม กะกูกลับแล้ว” ตายแน่ๆ กูตายชัวร์เลยงานนี้ ทำไงดีวะเนี่ย!

กำลังคิดหาทางออกจนหัวเหอยุ่งเหยิงไปหมด พี่พู่กันก็เดินเข้ามาสวมกอดโดยมีแค่ผ้าขนหนูพันกาย ส่วนผมใส่แค่กางเกงเกงลิง ผมหันไปหอมศรีษะพี่เขาเบาๆ แล้วเอ่ยขอตัวกลับก่อนเพราะมีธุระสำคัญ พี่พู่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ส่วนผมรีบแต่งตัวให้ไวให้ว่อง ให้คล่องเหมือนเอวตัวเอง

รู้ละนะว่าไม่ใช่เวลาเล่นมุก แต่ผมพยายามทำให้ตัวเองผ่อนคลายเพื่อหาทางรอดให้กับตัวเอง ปกติผมไม่ค่อยมีอะไรปิดบังแมทไง เลยไม่รู้ว่าจะเอาเรื่องอะไรมาอ้างแล้วนอกจากกินเหล้ากับเพื่อน แต่ประเด็นการกินเหล้ามันก็ต้องตกไปเพราะแผนที่วางไว้ดันแตกโพล้ะไม่เป็นท่า ผมรีบขึ้นแท็คซี่บึ่งกลับห้อง ไม่ควรลีลาท่ามากใส่แมทในตอนที่มันกำลังโมโห หงุดหงิดหงุ่นหว่านแบบนี้

แต่เดี๋ยว...กลิ่นน้ำหอมพี่พู่เต็มตัวกูเลย!

เอาแล้วไง ผมจะทำไงดีวะ รู้นะว่าต้องทำอะไรสักอย่างอะ แต่มันเสือกคิดหาทางไม่ได้เนี่ยสิ ผมมองออกไปด้านนอก...มองตึกรางบ้านช่องและรถคันอื่นๆ เพื่อจะคิดหาวิธีรับมือกับแมท เห็นมอเตอร์ไซค์ขับผ่านหน้าไป บางอย่างก็แว้บเข้ามาในหัว แต่มันไม่ใช่วิธีที่ดีเลยนะ มันอันตรายไปหน่อยหรือเปล่า ขืนแมทมะนจับได้ว่าผมลงทุนให้มอเตอร์ไซค์ชนเพราะกลัวมันจับได้ว่ามีกิ๊กนี่ มีหวังโดนกระทืบซ้ำเป็นของแถม

เออ พูดถึงเรื่องกระทืบ...เห็นกลุ่มวัยรุ่นท่าทางกวนตีนอยู่ตรงข้างโรงเรียนรัฐบาล ถ้าเข้าไปหาเรื่องมัน ผมอาจจะโดนก็ได้นะ ลงทุนหน่อยจะดีไหม เจ็บตัวน่ะผมไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ แต่หน้าเสียโฉมนี่สิ คิดหนักจริงๆ

หรือผมควรอ้างไอกล้า ไม่ดี ถ้าผมจะอ้างกล้าผมควรอ้างไปตั้งแต่ครั้งแรกที่แมทถามแล้ว มาเปลี่ยนที่แบบนี้ส่อแววพิรุทชัดๆ ต่อให้โง่แค่ไหนก็ต้องจับได้ชัวร์ ผมยังไม่อยากโดนจับได้ ยังไม่อยากให้แม่รู้ว่าผมไปมีคนอื่น ส่วนหนึ่งก็กลัวมันเสียใจ อีกส่วน...ผมยังอยากมีอิสระที่จะทำอะไรแบบนี้อยู่ ถ้าแมทจะบได้ แมทมันคงโกรธผมมากจนอาจเลิกกัน หรือมันอาจจะตามติดผมเป็นเงาเพื่อคอยดูว่าผมจะมีใครหรือเปล่า

เมื่อก่อนผมกิ๊กกั๊กกันคนนั้นคนนี้ก็เนียนได้อยู่น้า แล้วทำไมช่วงนี้ถึงไม่ค่อยเนียน หรือว่าผมออกมาเจอสาวถี่ไป แมทเลยจับได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ผมน่ะคอยตรวจดูเรื่องกลิ่นน้ำหอมประจำเลยนะ คอยตรวจสอบร่องรอยไม่ให้แมทจะบได้ว่าผมควงหญิงมา

“กลับมาแล้ว” ผมเอ่ยเสียงหวาดๆ ตลอดทางผมคิดอะไรไม่ออกเลย เอาตัวรอดไม่ได้แน่ๆ ผมคนนี้ฟันธงขาด

“ไปไหนมา แล้วเสียงผู้หญิงเมื่อกี้ใคร” แมทเงยหน้าหน้ามองผม มันนั่งกุมมืออยู่ที่โซฟา ท่าทางเครียดสุดๆ

“กูก็ไปกินเหล้ากับไอ้เต้...”

“กูบอกมึงแล้วว่ากูเจอไอ้เต้ มึงยังจะแถอีกนะบอม” เสียงของแมทเข้มขึ้น มันเริ่มเหมือนจะเอาเรื่องผมมากเข้าทุกที่

“มึงเจอแล้วมึงได้เข้าไปทักมันไหมละ” เอาสีข้างแถ สายตาหลุกหลิกต้องเอนไปโฟกัสที่อื่น ส่วนปากก็โกหกไป

“...” แมทเงียบ ง่ายกว่าที่ริด ถึงว่ามืงจะเข้าไปคุยกับเต้ หึหึ งั้นผมหาทางรอดได้แล้วละ

“”มึงยังไม่ได้เข้าไปคุยกับไอเต้เลย แล้วมึงจะมาตัดสินว่ากูไม่อยู่ไอ้เต้ได้ไง กํไม่รู้หรอกนะว่ามึงผ่านมาตอนไหน กูเองก็ไม่ได้อยู่ที่โต๊ะกับไอเต้ตลอดเวลาซักหน่อย อย่างรับโทรศัพท์ มันก็จำเป็นต้องไปหาที่เงียบๆ คุยถูกป่ะวะ” เอาความแถและเหตุผลสั่วๆ มาปนรวมกัน สีหน้าแมทดูอ่อนลง มันคล้อยตามผมแล้วละ

ผมเดินเข้าไปหามัน ปล่อยร่างกายที่เล็กกว่าไม่มากนี้บนตักแกร่งแข็งแรง สองแขนโอบรอบคอของคะณแฟนขี้หึง แมทมองหน้าผม แววตายังคงแสดงให้ถึงความคลาแคลงใจ มันเขื่อยากไปบ้าง แต่ผมเชื่อสุดหัวใจว่าผมเอาตัวรอดจากสถานะการณ์นี้ไปได้กลด้วยการแถระดับเทพของผม
“คบกันมาตั้งนานละนะ เชื่อหน่อยดิ” จับหน้ามันให้หันมองตรงมาที่ผม การโกหกให้เนียน คือทำในสิ่งที่คนโกหกส่วนใหญ่ไม่กล้าทำ นั่นคือ...การสบตา!

ผมจ้องหน้าแมทนิ่งงัน ส่งสายตาจริงจังไปให้ เขาสบตากับผมนิ่งๆ ค้นหาบางอย่างจากความเงียบงัน แต่ครู่เดียวแม่ก็ถอนหายใจ สองแขนยกขึ้นโอบรัดเอวคอดกิ่วของผมเอาไว้พลางจับท่าทางให้นั่งคร่อมตักเขา...

“มึงอย่ามาแถบอม มึงบอกกืนกับไอเต้ที่ห้อง อย่าคิดว่ากูลืมคำพูดมึง” ไอเวรนี่ทำให้ผมตายใจด้วยท่าทางเหมือนเชื่อ แล้ววกกลับมาเชือดกันนิ่มๆ แบบนี้นี่นะ

“เอ่อ...ก็กำลังจะไปกินกันที่ห้องไอเต้ เลยบอกไปแบบนั้น” แมทหรี่ตาจับผิด

“มึงอย่ามาจับผิดกูสืกูไม่ได้นอกใจมึงนะ” ผมซุกเข้าซอกคอของแมท พยามยามให้เบนความสนใจไปทางอื่น

“แล้วเสียงผู้หญิงนั่นใคร” แม่งจดจำลายละเอียดเยอะไปหน่อยไหมวะเนี่ย

“เพื่อนกันนั่นแหละ รู้ๆ จักกันแต่ไม่สนิท มาเจอกันตอนไปที่ร้านพอดีอะ” พูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด จะได้เนียนๆ

แมทนิ่งประมวนคำพูดของผม แต่ผมไม่ปล่อยให้โอกาสทองแบบนี้หลุดลอยหรอก ผมลูบแผ่นอกของแมท ไล้ฝ่ามือไปมาก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปยังจุดยุทศาสตร์ แมทถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบสนองต่อสัมผัสของผมด้วยการสัมผัสเนื้อตัวของผมบ้าง

“หวงนะรู้ไหม...” เพียงประโยคสั้นๆ ก็ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา

ผมรู้ผมไม่ใช่คนรักที่ดีเท่าไหร่ แต่ผมก็ให้แมทเป็นที่หนึ่งเสมอนะ ไม่เคยให้ใครมาแทนที่มันเลยแม้ว่าคนๆ นั้นจะดีมากหรือถูกใจมากขนาดไหน แค่หาเศษหาเลยเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้จะทิ้งมันไปเสียหน่อย

“รู้สิ รู้ดีเลย” ว่าจบก็จูบปากแมทเบาๆ แล้วค่อยรุนแรงขึ้นตามการชักนำของแมท

เสื้อของผมถูกถลกขึ้นช้าๆ ด้วยฝ่ามืออุ่นร้อนของอีกฝ่าย ผมไม่ได้ใส่ใจเลยเพราะมัวแต่สนุกกับเรียวลิ้นของแมทในปาก ไม่ใช่เพื่อเร้าโลมเพียงอย่างเดียวนะความดุเดือดนี้ แต่มันคือการแย่งชิงชัยชนะเล็กๆ หากทำให้อีกฝ่ายเคลิบเคลิ้มได้มากกว่าก็เหมือนได้แต่มในเกมนั้นไป ผมกับมันเลยมักจะไม่ยอมกันซักที ถึงในวันนี้ผมจะแอบไปทำผิดลับหลังมันจนรู้สึกผิด ก็ใช่ว่าจะต้องยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่ายคลาแคลงใจ

จนแล้วจนรอดผมก็เป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำให้กับความชำนาญและรู้ทันในลีลา ผมหอบหายใจไม่เป็นจังหวะหลังแมทถอนริมฝีปากออก มันจูบที่กกหูของผมเบาๆ ตามด้วยริมฝีปากกดย้ำตามผิวคอ ผมนี่นั่งตัวตรงๆ ไม่ไหวแล้วครับ ต้องซบซอกคอของมัน สองแขนกอดเอวคอดกิ่วเอาไว้

แมทน่ะเป็นคนหุ่นดี ผิวพรรณก็ดีทั้งที่ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองเหมือนกับผม น่าอิจฉานะครับ แต่จะให้ผมปล่อยตัวแบบมันผมก็กลัวหมดเสียก่อน ปล่อยให้จุดนี้เป็นประเด็นให้เราชื่นชมกันและกัน เป็นความต่างที่เข้ากันได้ไป ก็ถ้าเข้ากันไม่ได้จริง ผมกับมันคงไม่อยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้หรอก

“อื้อ...” แทบจิกหัวของอีกฝ่าย ใบหน้ามันอยู่ตรงอกของผม ในขณะที่ลิ้นกำลังฉกชิมยอดอกสีคล้ำ

ร่างของผมแอ่นไปทางด้านหลัง มีแมทประครองไว้เลยไม่หงายหลังตกโซฟา แต่ดูเหมือนจะทำให้แมททำอะไรๆ ไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร มัถึงได้อุ้มผมขึ้น หมุนตัวเราทั้งคู่สลับตำแหน่งกัน กลายเป็นผมนั่งอยู่บนโซฟา มันคุกเข่าอยู่ที่พื้นลำตัวแทรกเข้ามากลางหว่างขา ทีนี้ก็ถนัดเขาเลยละครับ ถึงได้สนุกกับการหยอกร่างกายสมส่วนของผมเล่น เวลาทำแมทมักเงียบ ก็ยิ่งทำให้ดูเหมือนมันกำลังเมาร่างกายผมจนโงหัวไม่ขึ้น

อยู่กับผู้หญิงผมจะภูมิใจที่ทำให้เธอถึงฝั่งฝัน ความเป็นชายจะพลั่งพลูในใจเสมือนเป็นฮีโร่ของเธอก็ไม่ปาน แต่เวลาอยู่กับแมท ผมจะได้รับการปรนเปรอราวกับเป็นคนสำคัญ ได้เห็นอีกคนหลงร่างกายของเราจนคล้ายคนบ้า มันเป็นสุขอย่างหนึ่ง สุขมากจนไม่อยากขาด ผมรู้สึกสำคัญโคตรๆ เมื่ออยู่ในอุ้งมือของแมท ถึงไม่เหมือนฮีโร่ แต่ก็เหมือนเป็นพระราชาที่ทุกคนต่างยอมสยบให้กับความเย้ายวน

นี่แหละมั้ง...ความแตกต่าง ผมว่ามันควรจะเคียงคู่กันไป ไม่ควรขาดสิ่งใดสักสิ่งหนึ่ง ผมชอบทำให้ผู้หญิงมีความสุข ในขณะเดียวกันผมก็มีความสุขที่ถูกปรนเปรอ

“ตัวมึงมีกลิ่นน้ำหอม” เสียงงึมงัมดังออกมาจากปากของแมทที่กำลังซุกซอกขาด้านในของผม จากเคลิ้มๆ เมื่อกี้นี้กลายเป็นเสียววาบแทน แมทเงยหน้ามมามอง ปากคลอเคลียอยู่ตรงส่วนที่ปูดนูนดุนชั้นในสีเข้ม

“ก็กูใส่น้ำหอมไง”

“น้ำหอมมึงไม่ใช่กลิ่นนี้บอม” สายตาแมทคุกรุ่น ความซวยมาเยือนผมแล้วละ

“อ่าว งั้นกูก็ไม่รู้เหมือนกัน” ทำเนียนตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้

“แน่ใจนะบอม ไม่ใช่ไปเอาใครมา...”

“เฮ้ย! พูดจาให้มันดีๆ หน่อยดิวะ เห็นกูเป็นคนยังไง!” ผมรีบแทรกแล้วดันตัวมันออกห่างจากร่างกายผม ส่งสายตาไม่พอใจไปให้ไอ้คนหน้านิ่ง

“ก็กูเป็นแฟนมึง กูก็มีสิทธิ์ระแวงปะวะ” แมทขมวดคิ้ว ตั่งท่าจะเดินเข้ามาแต่ผมขยับหนี

“แฟนกันเขาต้องเชื่อใจกันเว้ย ไม่ใช่ระแวงมันทุกอย่าง กูไปเรียนะมึง ไม่ได้นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้าน การที่น้ำหอมผู้หญิงจะลอยมาติดกูบ้างมันแปลกตรงไหนวะ หรือมึงไม่เคยมีกลิ่นน้ำหอมติดมาจากคนอื่นบ้างเลย มึงก็รู้ ผู้หญิงสมัยนี้ใส่น้ำหอมอย่างกับอาบ กลิ่นแรงจะตายห่า” ผมใส่อารมณ์กับมันเต็มที่ แมทเลยหงอลงไปมาก ถึงไม่แสดงออกมากแต่แววตาที่เห็นก็ชัดเจน

“เรื่องแค่นี้มันนเรื่องปกติธรรมดามากๆ มึงยังระแวงกูได้อีก ถามจริง...เคยไว้ใจคนที่มึงเรียกว่าแฟนมั้งป่ะ” ใส่อารมณ์กับมันจบ ผมก็เดินลิ่วๆ เข้าห้องนอน เสื้อผ้าปล่อยทิ้งไว้งั้นอะ มันถอด มันก็ต้องเก็บ

หึ้ย...นึกแล้วโมโห แม่งจะเยอะไปไหนวะ ความเชื่อใจที่ควรมีให้กันมันไม่มีเลยหรือไง สมองนี่คงคิดแต่เรื่องจับผิดกันไปวันๆ ผมนี่ชักหงุดหงิดละนะ เดี๋ยวก็เลิกแม่งซะหรอก จะได้จบๆ ไม่ต้องมาคอยระแวงกันงั้นงี้ให้ปวดกะบาล ชิ!

***************************

จบบทที่ 1 แล้วจ้าาา
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ+บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen0064 ที่ 17-12-2016 20:04:25
ติดตามค่า :z2:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ+บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 17-12-2016 20:04:49
แหมคุณบอม เล่นชู้แบบนี้ระวังโดนจับได้น้า :hao3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ+บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 17-12-2016 20:30:34
สงสารคนหล่อออ นังบอม นังตัวร้าย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ+บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-12-2016 21:59:12
บอม แถเก่งมาก
แมท ทำตัวเป็นแฟนที่ดี ไม่นอกใจ
บอม ยังไม่ลด ละ เลิก มีปัญหาแน่  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
นอกใจแมท บ่อยขึ้น ก็เข้าใจยังชอบหญิงอยู่
แมทจะแก้ปัญหาอย่างไร
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ+บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 17-12-2016 23:50:49
สนุกคับ สงสารแมทนะเขาไม่นอกใจเลยอะ แต่ก็เข้าใจแบมนะเคยมีเมียฮ่าๆ จะให้ห่างสาวๆเลยแมทก็ต้องทำให้แบมติดใจและรักหลงแมทมากๆ555
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ+บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-12-2016 00:09:48
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทนำ+บทที่1 [16/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 18-12-2016 00:53:05
บอมนิสัยไม่ดีเลย     :m31:
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-12-2016 09:48:48

เธอมีชู้

บทที่ 2

“สีหน้าไม่ดี เมื่อวานงานเข้าสิมึง” ผมมองเต้ตาขวาง

“ก็เออดิ ใครให้มึงไปนั่งแดกเหล้าหน้ามอละวะ ถ้ามึงไม่ไปแดกร้านนั้นงานก็ไม่เข้ากูหรอก สัส นัดแนะกันดิบดีเสือกไปกินตรงที่คนเห็นง่ายๆ” บ่นด้วยความหงุดหงิด ก็ถ้ามันเป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อวานงานก็ไม่เข้าผมปะ ผมกับแมทก็จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน

เมื่อคืนหลังจากผมหนีเข้าห้องไปอาบน้ำนอนด้วยความหงุดหงิด ผมกับแมทก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลย มันน่ะพยายามชวนคุยอยู่ แต่ผมเล่นตัว ทำไงได้คนมันเคืองนี่ มาว่าผมแบบนั้นได้ไง คำพูดคำจาหาเรื่องกันชัดๆ

“กูว่ามึงควรโทษความเลวของตัวเองก่อนค่อยไปโทษไอเต้นะ”

“มึงหุบปากไปเลยกล้า ไม่ช่วยกูก็เงียบไป” กล้ามันยื่อมือมาตบปากผมแรงๆ

“ปากดีสัด” แล้วมันก็ไปนั่งหน้ามุ่ยงอนผม แต่ผมไม่โกรธมันหรอก โดนตบปากบ่อยจนเลิกโกรธ เต้ยีหัวกล้าเป็นการแกล้งก่อนจะหันเอาตาปรือๆ มามองผม

“มองเชี่ยไร เพราะมึงเลยเพราะมึง!” ผมตะคอก ทุกอย่างเป็นเพราะเต้คนเดียว เพราะเต้ไม่ยอมไปกินเหล้าที่ห้อง ผมเลยซวย ซวย และซวยยยย

“กูไปแดกเหล้าหน้ามอก็จริงนะ แต่กูนั่งอยู่ข้างในโซนวีไอพี แมทมันเห็นกูได้ไง...” นึกภาพตาม โซนวีไอพีร้านหน้ามอเราค่อนข้างลึก จริงที่หน้าร้านมองเข้ามาเห็นด้านในได้บ้าง แต่ไม่มีทางเห็นโซนนี้แน่ๆ

“มึงอาจจะเดินไปตรงไหนแล้วแมทมันเห็นก็ได้”

“ไม่ กูไม่ได้ลุกไปไหนเลย”

“แหม่ แมทมันอาจจะแวะเข้าไปกับเพื่อนมันก็ได้ป่ะ เรื่องแค่นี่สงสัยอะไรกันนักหนา ที่ไอ้บอมทำตัวอะน่าสงสัยกว่าเยอะ รอดมาตลอดเลยไม่คิดว่าจะโดนจับได้เลยอะสิ” ไอ้กล้าจากที่เงียบไปนานสวนขึ้น ผมกับเต้มองหน้ามันแต่คงเป็นคนละอารมณ์กัน เต้ไหวไหล่ไม่ใส่ใจ ส่วนผมจากตอนแรกที่สงสัยก็รู้สึกเฉยๆ เพราะมันจริงอย่างที่กล้าว่า แมทจะเข้าร้านเหล้าหน้ามอกับเพื่อนก็ไม่เห็นแปลกอะไร

บทสนทนาของผมกับพวกมันจบลงชั่วคราวเมื่ออาจารย์เข้าสอน ผมจึงต้องสนใจการเรียนชั่วคราว กว่าจะถึงเวลาพักที่รอคอยก็กินเวลาไปนานมาก วันนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงเช้า คิดว่าบ่ายๆ จะนัดพี่พู่ไปช๊อปปิ้งกัน เอาใจเธอหน่อยที่เมื่อวานรีบร้อนออกมาก อีกอย่างผมเองก็อยากได้เสื้อผ้าและก็ครีมบำรุงผิว วันก่อนเห็นรีวิวครีมตัวใหม่ของแบรนด์ๆ หนึ่ง น่าสนใจเลยอยากจะไปซื้อมาลองเทสสักกระปุก

“มึง” จบคลาส เดินออกมากล้าก็สะกิดให้ผมดูอะไรบางอย่าง

“แมท” คนที่ยืนรออยู่ไม่ไกลนั่นคือแมท มันมองมาทางนี้ พอเห็นผมเลยเดินตรงเข้ามา

“ดีกล้า ดีเต้” แมทยิ้มละไมให้กับกล้า ท่าทางอบอุ่นอ่อนโยน กล้ามันหลงลุคนี้ของแมทมากนะส่วนเต้ก็ยิ้มตอบ ตาปรือเหมือนจะหลับไม่หลับแหล่สุดๆ

“พวกกูไปก่อนนะ”เต้กอดคอกล้า ลากกันออกไป ทิ้งผมให้อยู่กับแมท จะให้ผมกับมันทำความเข้าใจกันละสิ เห้อะ ฝันไปเถอะ ผมไม่อยากทำความเข้าใจกับคนที่ไม่เคยไว้ใจกันเลยอย่างมัน

“โกรธเรื่องเมื่อคืนอยู่ใช่ไหม...” มันถามเสียงเรียบ รอยยิ้มของมันดูเศร้าๆ ใจผมพาลอ่อนหมดกันพอดี

“น่าโกรธปะถามจริง” ผมย้อน แมทพยักหน้า

“ขอโทษ ยกโทษให้กูนะ ก็กูหวงมึงอะ...มันก็อดคิดอดระแวงไม่ได้นี่หว่า ยิ่งช่วงนี้กูเองก็ไม่ค่อยว่าง มึงเองก็เที่ยวบ่อยๆ เห็นใจกูหน่อยสิวะ” ท่าทางเศร้าๆ ของแมททำให้ผมใจอ่อนจริงๆ ด้วย ผมถอนหายใจ มองหน้ามันก่อนจะเอื้อมมือไปจูงมันเดินไปด้วยกัน

“กูเข้าใจ แต่ก็อยากให้เชื่อใจกูบ้าง...”

“อืม กูขอโทษ”

“เปลี่ยนจากคำขอโทษเป็นพากูไปช๊อปปิ้งสิ รับรอง หายโกรธเลย” หันไปยักคิ้วให้แมทแบบหล่อๆ มันยิ้มแล้วรีบเดินมาตีคู่กับผม

“ได้สิ แล้วไปกินมื้อเที่ยงด้วยเลย” ผมพยักหน้าเออออไป

ใจจริงก็อยากจะเล่นตัวต่ออีกหน่อย แต่ฟังจากคำพูดและน้ำเสียงของแมทแล้วผมก็ทำตัวใจแข็งอยู่ได้ไม่นานจริงๆ มันเป็นคนค่อนข้างเย็นชา นานๆ ครั้งถึงจะมีมุมนี้ให้ได้เห็น ถ้าเป็นอะไรที่เห็นบ่อยๆ คงไม่หายโกรธง่ายขนาดนี้

ผมตามแมทไปซ้อนมอเตอร์ไซค์ เดินทางไปห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ มอ ใช้เวลาไม่นานครับ มอเตอร์ไซค์มันซ่อกแซ่กได้เลยถึงเร็วมาก ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวสุดๆ จอดรถได้ผมกับมันก็รีบดิ่งเข้าตัวห้างไปตากแอร์ทันที ชื่นใจมากครับ

“กินข้าวก่อนป่ะ...หรือจะไปซื้อของก่อน” แมทจับมือผมเอาไว้ มันถามแล้วมองตรงทางแยก ซ้ายเป็นโซนอาหาร ขวาเป็นโซนเสื้อผ้า

“กินก่อนก็ได้ เดี๋ยวมึงจะหิวซะก่อน ดีไม่ดีตอนนี้หิวแล้วด้วยละสิ”
“รู้ทัน” แมทส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้แล้วเดินจูงมือผมไปทางซ้ายมือ ไม่ต้องเลือกร้านอาหารให้ปวดหัวครับ ผมกับมันมีร้านประจำอยู่แล้ว

เมื่อกลับมาคืนดีกัน เราก็มีเรื่องราวมากมายเล่าสู่กันฟัง อย่างที่แมทพูดนั่นแหละครับ ช่วงนี้แมทงานเยอะเรียนหนัก ทำให้เราไม่ค่อยได้เวลาอยู่ร่วมกันเลย หลายๆ อย่างที่เจอมาจึงสะสมอยู่ในตัวค่อนข้างเยอะ รอเวลาที่จะเล่าให้ใครอีกคนฟัง แต่คนที่เล่าส่วนใหญ่เป็นผมครับ แมทไม่ค่อยพูด แทบไม่พูดเลยนอกจากยิ้มให้ผมตลอดเวลา เขาตั้งใจฟังในสิ่งที่ผมพูด แค่นั้นก็มีความสุขแล้วละครับ

จบมื้อเที่ยงแมทพาผมไปดูหนังอีกเรื่อง เราจับมือกันตลอดครับ แมทไม่อายคนที่มองมาผมก็ไม่อายเช่นกัน อันที่จริงมันเลยจุดนั้นมาแล้ว ช่วงคบกันแรกๆ แมทที่เป็นเกย์อยู่แล้วชอบเดินจับมือกับคนรัก แม่เป็นผู้ชายเจ้าตัวก็ไม่แคร์ ส่วนผมที่คบกับหญิงมาตลอดต้องมาจับมือกับผู้ชายก็รู้สึกแปลกๆ อาจชาวบ้านชาวช่องเขามากครับ แต่แมทก็ยังดื้อดึงที่จะทำจนในที่สุดในก็กลายเป็นความเคยชิน

“บ่ายสามวันนี้กูมีเรียน” แมทพูดขณะยืนดูคิวหนัง เรื่องที่เราสนใจจะดูเข้าบ่ายโมงสี่สิบห้า ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าออกมาจะทันไปเรียนไหม

“งั้นไม่ต้องดู พากูไปช๊อปดีกว่า” ตามจริงต้องพามาช๊อปสิ แต่พอกินเสร็จแมทก็ชวนมาดูหนังต่อปมเลยลืมความตั้งใจแรก

“กูอยากดูหนังกับมึงนี่หว่า คืนนี้กูกลับดึกด้วย”

“แต่ถ้าดูเข้าเรียนไม่ทันแน่ หนังปกติเกือบสองชั่วโมงทั้งนั้น” แมทพยักหน้าเห็นด้วย

“งั้นไปช๊อปก็ได้”

“ดีมาก ป่ะๆ” ผมลากแมทเดินไปยังโซนขายเครื่องสำอาง

แมทยิ้มบางๆ เดินตามผมโดยไม่อิดออดอะไร ก็ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยที่ต้องพาผมมาซื้อเครื่องสำอาง ครีมทาผิวอะไรพวกนี้ นับตั้งคืนนั้นที่มันกดผมในห้องมัน มันก็ได้รู้ว่าภายใต้ควาหล่อใสของผมนั้นต้องแลกมากับเงินจำนวนไม่น้อย ผมไม่ได้ศัลยกรรมแต่ผมหมดกับเครื่องสำอางเยอะ นี่ขนาเป็นผู้ชายนะนี่ แรกๆ แมทมันก็แปลกใจ ผู้ชายทาครีมแต่งหน้า แต่พอเจอผมทำบ่อยๆ ก็ชิน เหมือนที่ต้องทำตัวให้ชินกับมันเวลาอยู่ด้วยกันอ่ะ เพราะเวลาอยู่ด้วยกัน แมทจะไม่ค่อยพูด ไม่เหมือนตอนอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูง

อย่างตอนนี้ก็เหมือนกัน แมทคอยเดินตามและฟังผมพูดเรื่องครีมประทินผิวต่างๆ นาๆ เข้าร้านนี้ออกร้านนู้น ถูกใจอะไรแมทก็ควักจ่ายให้ มีแฟนรวยก็ดีแบบนี้แหละครับ แต่ใช่ว่าผมจะผลาญเงินแมทแบนี้ตลอดนะ นานๆ ครั้งเท่านั้นแหละ

“แมท นาฬิกเรือนนั้นสวยมากเลยวะ” เครื่องสำอางและครีมต่างๆ ได้มาครบละครับ ตอนนี้มาหยุดอยู่หน้าร้านฬิกาสุดหรู

“เอาไหม” แมทถามยิ้ม

“ซื้อใส่ด้วยกันได้ป่ะ ใส่คู่กัน” ผมตาวาวใส่แมท ราคาของเรือนนี้บอกเลยว่า...ผมไม่มีปัญญาซื้อแน่ๆ

“อื้ม” แมทพยักหน้าแล้วพาผมเข้าไปในร้าน คุยกับพนักงานสาวสวยด้วยวาจาสุภาพ เห็นแล้วหมั่นไส้นิดหน่อย แต่เข้าใจว่านี่คือแมท

ผ่านไปร่าวๆ สิบนาทีนาฬิกาสุดหรูเพิ่งออกใหม่หมาดๆ ก็มาอยู่ที่ข้อมือของเราสองคน ผมจับข้อมมือแมทที่มีฬิกาขึ้นมาเคียงคู่กับข้อมือผม จากนั้นแชะภาพแล้วอัพลงอินสตาร์แกรม แมทแค่มองตามการกระทำของผมนิ่งๆ ยืนอยู่ข้างกันไม่ขยับห่างไปไหน

“ดูดีมากๆ เลย มึงชอบเหมือนกูปะ” เห่อของสุดๆ หน้าบานไปหมดละครับตอนนี้

“มึงชอบกูก็ชอบ” แมทว่าเสียงนุ่ม ผมยิ้มหน้าบานให้มันแล้วพากันเดินต่อ

ยังมีของที่อยากได้อีกครับ!

นอกจากครีม เครื่องสำอาง นาฬิกา ผมยังอยากได้รองเท้าผ้าใบคู่ใหม่กับเสื้อผ้าสักสองชุด ก่อนอื่นต้องเดินดูรองเท้าก่อน ปกติมผใส่รองเท้าหนังหัวแหลมสีดำด้านอยู่ ดูเท่ไม่เบาแต่ก็อยากได้คู่ใหม่ รอบนี้อยากได้ผ้าใบที่กำลังฮิต แต่ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

เดินหาอยู่พักใหญ่ๆ ก็เจอร้านขายรองเท้าแบรนด์ที่อยากได้ ผมตรงดิ่งเข้าไปจับ เลือกสีและไซต์ทันที ได้ดั่งใจปุ้บก็ให้แมทจ่ายเงินรับของปั้บกลับออกนอกร้านได้ทันที แมทถือของส่วนใหญ่ให้ผม มีบ้างที่เล็กๆ น้อยๆ ผมถือ

ได้ลองเท้าต่อไปก็เสื้อผ้าร้านประจำผมเลยครับ แค่เสื้อนักศึกษาสีขาวเรียบๆ ร้านนี้ก็ยังรับออกแบบให้ดูดี ดูเท่แม้จะเรียบง่าย แมทเองก็ใช้เสื้อร้านนี้ เราเดินหาร้านไม่นาน เขาช้ามาได้ก็แยกย้ายกันไปดูเสื้อผ้า เพราะร้านนี้แมทเองก็ช๊อปบ่อยๆ หึหึ แมทน่ะแค่บ่อย แต่ผมอะขาประจำเลย

“เยอะไปไหม” สายตาคมคู้นั้นมองมาที่แขนของผม แขนที่มีเสื้อและกางเกงพาดอยู่ราวๆ ห้าชุด พูนบนแขนจนแมทถึงอึ้ง ส่วนผมก็มองที่มือแมท มีแค่เสื้อกับกางเกงสีดำชุดเดียว

“ก็มันเลือกไม่ถูกนี่นา”

“ใส่หมดหรอวะ”

“หมดดิ้ แป๊บเดียวก็ใส่ครบหมดแล้ว” แมทมองแววตาอ้อนๆ ของผมก่อนจะถอนหายใจ

“อืมๆ” แมทไม่ค่อยปฏิเสธเวลาผมซื้อของแบบนี้ไง ผมถึงกล้าหยิบมาซะเยอะ

จริงๆ แฟนกันควรเกรงใจกันครับ แต่ผมไม่ แมททำผมเสียดิสัยไปนานแล้ว มันตามใจผมเอง บางทีผมพยายามหักห้ามใจ มันก็ดันไปเอาของที่ผมตัดใจแล้วมาจ่ายเงินให้ตลอด สุดท้ายผมก็เสียนิสัย มากับแมททีไรอยากได้อะไรก็หยิบมาหมด ไม่สนคนจ่ายตัง เข้าแต่ละร้านก็หรูๆ ทั้งนั้น ไม่ต้องถามเลยว่าแมทจ่ายไปเท่าไหร่เวลาพาผมมาช๊อปปิ้ง
“กูต้องไปละ เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่ห้องก่อนละกันนะ” ผมพยักหน้าเข้าใจ

แมทชับรถมาส่งผมที่ห้องตอนบ่ายสองครึ่ง ถือโอกาสเอาของมาเก็บให้เรียบร้อยแล้วออกไป วันนี้แมทจะกลับดึก รายงานและโครงงานกลุ่มของแมทกระชั้นชิดเข้ามามากแล้ว โอ้เอ้มากกว่านี่รับรองไม่เสร็จ และถ้าไม่เสร็นงานนี้ตกยกกลุ่มแน่ๆ ผมก็เห็นใจแมทนะ อยากช่วย แต่ก็ไม่มีอะที่ผมช่วยได้นอกจากเป็นกำลังใจให้กับเขาเท่านั้นเอง ผมเอาของไปเก็บแล้วเอามือถือมากดเปิดโปรแกรมไลน์ แชตหาพี่พู่เพื่อบอกพี่พู่ว่า...
[BomZa : แล้วเจอกันที่ร้านเดิมนะครับพี่พู่คนสวยยยยยย]

พอพี่พู่กันตอบกลับมา ผมก็วางมือถือแล้วเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กางเกงสามส่วนเข้ารูปสีดำเข้าได้ดีกับเสื้อโปโลสีครีม เซ็ทผมให้ดูเป็นทรงเล็กนอยไม่ต้องมากมันจะดูเวอร์ จากนั้นก็ทาครีมบำรุงสำหรับกลางวันซึ่งเป็นสีเบจทำให้หน้าดูเนียนกระจ่างใส ต้องใช้ยี่ห้อดีๆ หน่อยนะครับ มันจะได้ดูเป็นธรรมชาติ จากนั้นก็ทาลิปมันสีพีช ผมชอบสีนี้ ดูธรรมชาติดีแถมหอกด้วย หาซื้อได้ไม่ยากครับ ใช้ของผู้หญิง

วันนี้ผมหยิบแว่นแฟชั่นกรอบชมพูใส่มาด้วย เสริมให้ผมดูเป็นเด็กน้อยน่าเอ็นดูหนักเข้าไปใหญ่เลยทีนี้ ส่องกระจกสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองจนพอใจก็ออกจากห้องเลย จริงๆ อยากถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้เหมือนกัน แต่มันไม่เป็นผลดีถ้าแมทมาเห็น เขาตั้งข้อสงสัยยาวเหยียด ซึ่งผมขี้เกียจจะตอบเหลือเกิน

ผมเลือกที่จะนั่งรถแท็กซี่มาลงที่ห้างสรรพสิค้า ห้างเดียวกับที่มากับแมทเมื่อประมาณเกือบสองชั่วโมงที่แล้ว ผมรีบตรงดิ่งไปหาพี่พู่ในร้านเบเกอร์รี่เจ้าประจำของเรา ก็เห็นเธอนั่งจิบลาเต้ร้อนพร้อมเค้กชิ้นสวย

“โห บอมว่าบอมมาเร็วแล้วนะเนี่ย” ผมนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับพี่พู่

“แต่พี่เร็วกว่า” เธอส่งยิ้มสวยๆ มาให้

“พูดแบบนี้จะหาเรื่องลงโทษบอมอะสิ ไม่เอาน้า...บอมไม่อยากโดนลงโทษ” ส่งสายตาออดอ้อนไปให้เธอ พี่พู่ยื่นมือมาหยิกจมูกผมเบาๆ ด้วยความหมั่นเคี้ยว

“ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนเลย มุกนี้ใช่กับพี่บ่อยๆ ไม่ได้ผลหรอกนะบอม”

“จริงหรอครับ” ผมทำหน้าเศร้า สงสารตาน่าสงสารไปให้อีก แต่ก็ดูรู้แหละครับว่าแกล้งทำ เธอถึงได้ดีดหน้าผากผมดังแป๊ะ เล่นเอาสะดุ้งโหยงเลยเชียว

“จริงๆ เลยน้า เออใช่ วันนี้มีคนบอกว่าบอมเดินจับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งออกมาจากหน้าห้องเรียนด้วยละ” เกริ่นมาแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ เลย

“แล้วไงอะครับ? บอมไม่เก็ตเท่าไหร่”

“ก็ไม่ไงหรอก พี่แคสงสัยว่าใคร เพื่อนบอมคนไหนพี่เคยเจอไหมก็เท่านั้น ถึงพวกนั้นจะบอกว่าคนนั้นน่าจะเป็นแฟนบอมก็เหอะ พี่ว่ามันก็แค่เรื่องเม้าท์ของพวกสาววายอะ” แอบกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย เรื่องเม้าท์เล่นๆ ของสาววายดันกลายเป็นเรื่องจริงของชีวิตผมซะงั้น

“รูมเมทอะพี่พู่ มันเรียนคนละคณะ วันนี้มันเข้ามาเอาของที่ลืมไว้เฉยๆ” ผมบอกไปด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังอะไร

พี่พู่พยักหน้าเข้าใจแล้วก็เริ่มเล่าถึงสิ่งที่พวกสาวๆ บางกลุ่มเม้าท์กัน บ้างก็ว่าผมอะหน้าตาแบบเคะน้อยๆ เหมาะเจาะกับไอ้เต้ที่ดูเป็นเมะเพลบอย ผมคิ้วขมวดไปพักหนึ่งเพราะไม่เข้าใจศัพท์พวกนั้น ตัวพี่พู่เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก็เลยต้องฟังไปแบบไม่เข้าใจเอาเสียเลย

พอฟังจบ ผมก็ค้นพบว่าพลังจินตนาการของสาววายนั้นลึกล้ำยิ่งนัก เอาผมเสียวสันหลังวูบๆ เพราะกลัวพวกนางเกิดให้ความสนใจและไปขุดคุ้ยผม ขืนเจอว่าผมคบกับแมทจริง ผมมีหวังเสียพี่พู่ไปแน่นอน รวมทั้งผู้หญิงอีกหลายคนที่ผมกำลังคุยๆ กับเธอในฐานะเพื่อนอยู่

“แต่ก็ช่างพวกนั้นเถอะ ยังไงบอมของพี่ก็ไม่ได้เป็นเกย์อยู่แล้วละเนอะ” ยิ้มหวานตาหยีได้น่ารักน่าฟัดมก ผมยิ้มหวานตอบเหมือนเห็นด้วยกับพี่พู่ แต่ในใจกลับแย้งต่อการกระทำ

ผมพาพี่พู่ไปช๊อปปิ้งในโซนของเครื่องสำอาง เธอบอกไว้ก่อนแล้วละว่าอยากได้เครื่องสำอางเพิ่ม การคบกับผู้หญิงสิ่งที่ควรทำใจไว้เป็นอย่างแรกๆ เลยคือเรื่องเครื่องสำอางที่ล้นบ้านของเธอนี่แหละครับ ผมเป็นผู้ชายแต่งหน้าแต่งตัวว่าเยอะแล้ว เจอผู้หญิงเข้าไปผมนี่เทียบไม่ติด ตอนแรกว่าสิ่งที่ผมทำทุกวันมันน่ารำคาญ แต่พอเจอเหล่าผู้หญิง ผมก็คิดว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ดูเล็กจ้อยไปเลย

“บอมซื้อน้ำหอมให้พี่หน่อยสิ...นะคะน้า” ตาปิ๊งๆ กับลูกอ้อนเกาะแขนนี่ใช้ได้ดีจริงๆ

“เอาสิครับพี่พู่” เธอพยักหน้าแล้วตรงดิ่งเข้าไปเลือกน้ำหอมกลิ่นผู้หญิง

ผมเองก็มีความสนใจในน้ำหอมผู้หญิงนะ น่าเอาไปใช้เวลาผมกับแมทจะซัมติงกัน คงให้อารมณ์ที่แปลกและแตกต่างออกไปมาก และแมทน่าจะคลั่งกับร่างกายของผมสุดๆ ไปเลย นึกถึงสีหน้านั้นของมันแล้วก็สยิวแปลกๆ ผมชอบอะ...ชอบดวงตาคมที่จับจ้องมา ริมฝีปากเผยอหอบหายใจโคตรเซ็กซี่ แต่ก็คนละอารมณ์กับพี่พู่อยู่ดี พี่พู่ก็เซ็กซี่นะ เร่าร้อนสุดๆ ไปเลยเหมือนกัน

ระหว่างรอผมเองก็ชักอยากจะลองหาน้ำหอมกลิ่นผู้หญิงดูเผื่อได้ทำตามอย่างที่ใจคิด แต่ส่วนใหญ่น้ำหอมผู้หญิงทำให้ผมนึกถึงบรรดากิ๊กเก่ากิ๊กใหม่ทั้งหลายแหล่เหมือนกันนะเนี่ย พวกเธอชอบใส่น้ำหอมเหมือนอาบมาน่ะ

“อ่าวบอม ดีจ้ะ...มาทำอะไรจ้ะเนี่ย” ผมยิ้มให้กับสาวผู้มาเยือน เธอผมสั้นประบ่า ตัวเล็กน่ารัก ใส่กระโปรงทรงเอสั้นแค่คืบ เสื้อก็ปริเน้นๆ ที่หน้าอกหน้าใจ เธอเป็นเพื่อนที่ผมคุยน่ะครับ

ผมอยากกินเพื่อนจังเลย~

“พาพี่สาวมาซื้อของน่ะ บัวละจ้ะ มาซื้ออะไรเอ่ย”

“บัวก็มาซื้อน้ำหอมจ้ะ แต่ซื้อเสร็จแล้วกำลังจะไปหาอะไรกิน บอมสนใจไปกับเราไหม” ขณะนี้ผมคิดอะไรไม่ทันละครับ สนใจเธอและอยากตามเธอไป

“ไปสิ แต่เดี๋ยวเราบอกพี่เราก่อนนะ รอนี่ละ เดี๋ยวเรามาแป็บเดียว” บัวขานรับอย่างรัก ตัวเล็กแต่น่าเซี้ยะสุดๆ ดูในรูปก็ว่าสุดยอดละนะ เจอตัวจริงนี่ยิ่งเข้าไปใหญ่เลย

ผมเดินกลับมาแถวเดิม หาพี่พู่ที่น่าจะยืนดูน้ำหอมอยู่ร้านเดิม แต่ที่ไหนได้ เธอกลับเดินไปดูร้านอื่นเฉยเลย ผมต้องรีบเข้าไปประกบเธอ กะจะรีบบอกและรีบไป แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นเมื่อเธอเอาแต่ลองน้ำหอม ปากก็คอยพร่ำถามว่าอันนี้หอมไหม อันนี้ละหอมหรือเปล่า

“อะ สรุปพี่เอาอันนี้แหละ นี่บอม...บอมพี่เลือกได้ละนะ” ผมเหม่อมองไปทางที่เดินกลับมา กลัวบัวจะไม่รอเลยกว่าจะได้ยินพี่พู่เรียกก็กินเวลาไปหลายวิ

“พี่ บอมจ่ายให้เสร็จแล้วบอมขอตัวแป็บนะ เพื่อนมันโทรมาบอกว่าเข้าห้องไม่ได้อะ มันจะต้องเอกสารไปส่งอาจารย์ด้วย เดี๋ยวยังไงพี่พู่ดูของไปก่อนก็ได้ บอมจะรีบกลับมา” พูดเสร็จไม่หือไม่อือ ผมรีบเดินจากไปเลยครับ ก็ยืนรอเธอมาตั้นนานแล้วนี่ ป่านนี้บัวคงรอรากงอกแล้ว พี่พู่ไม่เคืองแน่นอน เพราะผมเป็นแบบนี้บางครั้งเวลาแมทโทรตาม

ต่อข้างล่างจ้าา :katai5:
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-12-2016 09:52:22
 :katai5: ต่อ

ต้องขอบคุณข้าวของต่างๆ นาๆ บนเคาน์เตอร์ที่สามารถดึงดูดผู้หญิงให้ยืนมองอยู่นานๆ ได้ บัวกำลังสำรวจเครื่องสำอางแบบเป็นเซ็ท สีเยอะๆ ไม่แน่ใจว่าลิปสติกหรือว่าพวกอายแชร์โดว์

“มาแล้ว ขอโทษที่ให้รอ”

“ไม่เป็นไร บัวก็ดูของเพลินๆ” ผมเอื้อมไปเอาเหล่าถุงของต่างๆ จากมือบัวมาถือเอาไว้เอง

“งั้นเราไปหาอะไรกินกัน บัวมีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษหรือเปล่า” สาวน้อยข้างกายครุ่นคิดอยู่ครูหนึ่ง

“ไม่มีอะ ตอนแรกกะว่าจะเดินดูไปเรื่อยๆ แต่รอบอมนานชักหิว ไม่อยากเดินดูละอะ” เธอส่งสายตาจิกมาหยอกผมนิดๆ

“ขอโทษครับ งั้นไปทานร้านประจำของบอมไหม เดี๋ยวบอมพาไป รับรองอร่อยสุดๆ”

“อื้อ เอาสิ” พอบัวตอบโอเคผมก็จับมือเธอแล้วจูงไปทางหน้าห้าง

ร้านทีผมจะพาบัว สาวน้อยตัวเล็กน่าเจี๊ยะคนนี้ไปกินคือร้านที่อยู่ด้านนอกครับ แมทเคยพาผมมากิน รสชาติร้านนี้ดีสุดๆ บรรยากาศก็โอเค เรียบหรูเหมือนคนพามากินมาก ที่สำคัญที่ผมพาบัวมาที่นี่นั้นไม่ใช่เพราะอยากกินอาหารร้านนี้ในตอนนี้หรอกครับ ส่วนตัวอยากกินราเมนมากกว่า แต่ถ้ากินกันในห้างมันเสี่ยงที่พี่พู่จะเดินมาเห็นอะสิ หัวแตกแน่นอครับ

ใช้เวลาไม่นานก็ถึงร้านอาหารที่ผมหมายตา เวลานี้ลูกค้าค่อนข้างหนาตา แต่พนักงานก็สามารถหาโต๊ะที่สงบและอยู่ด้านในๆ ให้กับผมและบัวได้ เราพากันเลือกอาหารด้วยความมุ้งมิ้ง ผมเองอะนะที่ตัวมุ้งมิ้งใส่เธอ ผู้หญิงมักจะแพ้ของน่ารักๆ และผมนัดเป็นของน่ารักที่พวกเธอต้องแพ้อย่างแน่นอน สั่งอาหารไปพอสมควร รออีกไม่นานทุกอย่างก็มาจัดเรียงอยู่บนโต๊ะเรียบร้อย ทั้งหน้าตาและกลิ่น เรียกน้ำย่อยในกระเพาะผมได้เยอะมาก

“ว่าแต่กินเสร็จบอมจะไปไหนต่ออะ” บัวกำลังแกะตะเกียบออกจากซอกกระดาษถามขึ้น

“กลับไปหาพี่อะ พี่สาวบอมรอกลับด้วย” บัวพยักหน้ารับ เข้าใจอย่างง่ายดาย

“น่าเสียดายจัง”

“ทำไมหรอ” ตีหน้าซื่อ ตามเกมหญิงสาวไม่ทัน รู้ทั้งรู้ว่าเธอกำลังทอดสะพานให้ผมข้ามไป

“ก็ว่าจะชวนบอมไปเที่ยวด้วยกัน บัวอยากไปตรอกข้าวสารอะ แต่ไม่มีเพื่อนคนไหรว่างเลยสักคน เศร้าเนอะ” เธอแสร้งทำหน้าเศร้าตามที่พูด คิ้วขมวดเป็นปมน้อยๆ ผมยิ้มหวานให้กับเธอก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มที่โคตรจะนิ่ม

“เอาหน่า ไว้วันหลังบอมจะพาเที่ยวดีไหม”

“อื้อ เอาสิ พูดแล้วห้ามคืนคำน้า” ผมพยักหน้าย้ำว่าแน่นอน ผมไม่โกหกเธอหรอก แต่ผมจะว่างเมื่อไหร่นั้นมันอีกเรื่อง

นอกจากบัวที่เป็นเพื่อนและควบตำแหน่งตัวเผื่อเลือกของผม ผมก็ยังมีคนอื่นอีกหลายคน ความสำคัญของแต่ละคนนั้นผมก็เรียงตามความสวยความถูกใจกันไป ตอนนี้ผมกิ๊กกับพี่พู่อยู่ คนอื่นเลยยังต้องรอต่อไป

ก็แค่บริหารเวลาระหว่างแมทที่เป็นตัวจริง และพี่พู่ที่เป็นกิ๊ก ยังยากขนาดนี้ ถ้าผมคบซ้อนเยอะเกินไป ผมจะเอาเวลาไหนเอาอกเอาใจพวกเธอละครับ ผมชอบการเข้าถึงทุกคนแบบทั่วถึง ไม่ต้องใช้เวลาร่วมกันมาก พอหอมปาก หอมคอก็พอแล้ว

“เออ แล้วตอนนี้บอมคบใครอยู่หรอ” บัวไม่ได้เงยหน้าสบตาถามผมตรงๆ เธอคงเขินมากกว่าที่ถามตรงซะแบบนั้น

“ไม่ได้คบใครเลย ช่วงนี้บอมเรียนเยอะ เลยไม่มีเวลาไปเที่ยวจีบใครเขามาเป็นแฟนซักที เพื่อนๆ ก็บอกว่าเดี๋ยวก็หาได้เอง เอางานให้รอดก่อนดีกว่า บอมก็เห็นด้วยกับมันอะ แค่งานตอนนี้ก็จะเอาตัวไม่รอดกันแล้ว” ใช้น้ำเสียงสบายๆ บอกเล่าให้กับเธอ จากที่บัวเขินไม่กล้ามองหน้าตอนถาม ตอนนี้ก็มองผมด้วยท่าทางที่มีหวัง

“แล้วมีมองๆ ไว้มั้งไหมละหืม”

“ก็มีนะ แถวๆ นี้แหละ...บอมคุยกับเธอแทบทุกวันเลยช่วงนี้ เธอตัวเล็กน่ารัก ผมสั้นๆ หน้าหมวยๆ” ผมเห็นแก้มเธอแดงขึ้น เธอรีบตักอาหารแล้วเบนสายตาไปทางอื่น

“หรอ” เวลาผู้หญิงเขินมากๆ มักจะพูดน้อย ไม่กล้าสบตา แก้มแดงหน่อยๆ ดูน่ารักดีนะครับเนี่ย อย่างนี้ถ้าผมกับพี่พู่เลิกกัน คงไปต่อได้ไม่ยากกับเธอคนนี้

“ใช่ แต่ไม่กล้าจีบหรอก กลัวเธอมีแฟนแล้ว ผู้หญิงทั้งสวยทั้งน่ารัก คงไม่มีทางโสดหรอกเนอะ”

“ถามเธอไปเลยสิ บางที เธออาจจะรอบอมพูดอยู่ก็ได้นะ” บัวเอาช้นเขี่ยอาหารในจาน แก้มแดงหนักกว่าเดิมอีก อย่างนี้ต้องหยอดลงไปอีก

“จะดีอ่อ....” เธอพยักหน้าเบาๆ
“บัว....” เสียงเรียกเปลี่ยนเป็นโทนนุ่ม เธอช้อนตาขึ้นมองผม เป็นจังหวะดีๆ ที่เหมาะแก่การบอกรักสุดๆ ถึงตอนนี้ผมจะบริหารเวลาให้สามคนไม่ไหว แต่คงไม่ยากเกินไปหรอกมั้ง จังหวะมันได้ละนี่ ไม่อยากให้เสียโอกาสดีๆ นี้ไป

ผมขยับยืดตัวข้ามโต๊ะไปหาบัวอย่างช้าๆ ดีที่มุมนี้ในร้านไม่ค่อยมีคนเห็นหรือให้ความสนใจเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คนที่นั่นแถวนี้เป็นคู่รักกันทั้งนั้น ต่างคนจึงต่างสวีทกันไป ผมจ้องหน้าบัวที่แดงปลั่ง ดวงตาหลุกหลิกลุกลน หัวใจเธอต้องเต้นแรงมากแน่ๆ ผมเคลื่อนใบหน้าเลยหน้าเธอไปเล็กน้อย หยุดตรงใบหู ให้แก้มเราสองเฉียดกันเบาๆ ก่อนกระซิบกระซาบเสียงแผ่ว

“บอมฝากบัวถามเธอหน่อยสิ ว่าเธอโสดไหม ถ้าโสดก็บอกเธอว่า...บอม ชอบ บัว นะครับ” ผมว่าช๊อคนี้ทำเอาเธอหัวใจเต้นระรัวจนเกือบวายตายได้เลยละ และช๊อตดีๆ แบบนี้จะทำให้คะแนนของผมพุ่งกระฉูด คอยดู คำตอบของเธอเป็นอย่างที่ผมต้องการแน่นอน!

ผมกลับมานั่งที่เช่นเดิมแล้วแต่บัวยังทำตัวไม่ถูก ก้มหน้าหลบสายตาของผม ผมว่าท่าทางการแสดงออกของบัวน่ารักนะครับ เธอดูเป็นสาวตัวน้อยที่สนใสร่าเริง มีความเป็นผู้หญิงอ่อนหวานค่อนข้างสูง ซึ่งต่างจากพี่พู่มากโข พี่พู่เป็นสาวมั่น เธอเขิน แต่เธอจะไม่มานั่งทำหลุกหลิกแบบนี้ เธอเก็บความเขินใชไว้ใต้รอยยิ้มที่มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ ทั้งที่พี่พู่กับบัวก็อายุห่างกันไม่เท่าไหร่ แต่พี่พู่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าบัวมาก

“อะอื้อ...เราจะบอกเธอให้นะ” ได้ยินดังนั้นผมก็รู้แล้วว่าสิ่งที่ผมทำนั้นประสบความสำเร็จ

ผมชวนเธอทานต่อให้หมด ทำเป็นลืมเรื่องนั้นไปเพื่อไม่ให้บัวเขินจนทำอะไรไม่ถูกมากไปกว่านี้ และเมื่อเราต่างก็อิ่มนื้อแล้ว ผมเรียกเช็คบิลทันที บังตั้งท่าจะแบร์ค่าอาหารแต่ผมปฏิเสธการแชร์เงินจากเธอ

“บอมส่งบัวขึ้นรถก็พอ ต้องกลับไปรับพี่สาวอีกหนิใช่ไหม” ออกมาจากร้านบัวก็เงยหน้าถาม

“ใช่เลย ต้องรับยัยปีศาจกลับบ้านด้วย” พูดยิ้มๆ บัวก็ยิ้มตาม

“ดูเขาเรียกพี่สาวตัวเองสิ นิสัยไม่ดีเลย...”

“นิดเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก พี่บอมไม่รู้สักหน่อย”
“จ้ะๆ งั้นบัวไปก่อนน้า” แท็คซี่ขับมาพอดี เธอโบกแล้วขึ้นรถไป ผมยิ้มส่งเธอจนรถคันนั้นหายลับสายตาไป

เมื่อไม่มีบัวอยู่ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาไลน์หาพี่พู่ ถามพี่เขาว่าอยู่ไหนและทำอะไรอยู่ ได้ความว่ากำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ร้านประจำ รอผมไปรับกลับบ้าน ผมก็เดินดี้ด้ายิ้มหน้าบานพลางกดตอบแชตของเธอไปด้วย ผมบอกกับพี่พู่ว่าอีกสักพักก็จะถึง เธอก็โอเค เดี๋ยวรอ

ผมไม่ได้รีบร้อนตรงไปหาพพี่พู่ เพราะรู้ว่าผู้หญิงน่ะเลือกของค่อนข้างนาน ถึงผมจะเป็นผู้ชายที่ชอบช๊อป ชอบแต่งตัว แต่ผมก็ยังเบื่อเวลารอผู้หญิงเลือกของนานๆ เหมือนกันนะครับ ผมเลยเดินเล่นอีเหรื่อยเฉื่อยแฉะไปเรื่อย เจอร้านกาแฟก็แวะซื้อ เจอร้านขนมก็แวะกิน หรือเจอร้านเครื่องประดับก็แวะสอดส่อง เผื่อมีราคาที่เราซื้อไหว ไม่ก็อาจเจอเครื่องประดับที่พวกเซเล็ปเขาใส่กัน

“อ้ะ ขอโทษครับ” ขณะยืนมองแหวนอยู่ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเซมาชน ผมมู้ว่าเขาเซมาได้ยังไงหรอก แต่ก็ไม่ซีเรียตอะไรเหมือนกัน

“ไม่เป็นครับ ผมไม่เจ็บ” ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย ผู้ชายตรงหน้าผมใส่กางเกงขาสั้นสีครีม เสื้อสีฟ้า ตัวเล็กเลยหัวไหล่ผมไม่มาก ทรงผมแบบที่กำลังฮิตในหมู่ดาราเกาหลี หน้าใสกิ๊ง ปากสีชมระเรื่อดูเป็นธรรมชาติสุดๆ ผู้ชายสมัยนี้...มันจะสวยไปไหนวะ
“ครับ ขอบคุณครับ” เขายิ้มให้ผม ยิ้มที่ละลายหัวใจคนได้ ผมนี่อึ้งไปเลย ผมชอบผู้หญิง และชอบที่จะเป็นถูกกอดจากผู้ชาย (คิดเอาเองเพราะนอกจากแมทผมไม่เคยนอนกับชายใด) แต่กับผู้ชายคนนี้...แม่งน่าฟัดชิบหาย!

ผมอยากสานสัมพันพ์กับเขาต่อนะ แต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับผมเลยแม้แต่น้อย กลับก้มๆ เงยๆ หน้าตู้แหวนที่ผมยืนดูอยู่เมื่อครู่ แววตาเป็นประกาย ให้เดาคงกำลังมองหาแหวนสักวงให้คนที่ตัวเองรัก และคนที่ผู้ชายคนนั้นรักต้องเป็นผู้ชายแน่นอน หน้าตาแบบนั้น มีแฟนเป็นผู้หญิงไม่ได้หรอก ไปแย่งความสวยผู้หญิงเขาเปล่าๆ

ผมหันหลังเพื่อจะก้าวเดินไปอีกทาง ร้านที่พี่พู่บอกว่าเลือกเสื้อผ้าอยู่ด้านนี้อะครับ แต่ว่าก่อนไป ผมขอถ่ายรูปเด็กผู้ชายคนนี้ไว้ได้ปะวะ จะเอาไปอวดเพื่อนๆ ให้เห็นถึงความน่ารักน่ารีกของชายหนุ่มสมัยนี้ ผมกำลังยืนคิด ช่างใจว่าจะทำดีไหม กลัวจะกลายเป็นระเมิดสิทธิส่วนบุคคลเข้า แต่อีกใจก็แบบ เอาหน่านิดเดียว แต่ความคิดของผมก็หยุดลงเมื่อเสียงของผู้ชายคนนั้นเปล่งประโยคออกมา
“อ้ะพี่แมท ดิวบอกให้พี่แมทรอดิวที่ร้านไม่ใช่หรอ ย่องตามทำไม” แมทหรอวะ...ผมนิ่ง ยืนหันหลังรอฟังเสียงของคนที่ชื่อแมท
“ถ้าพี่ไม่ย่องตามน้องดิวมา พี่จะรู้ไหมละครับว่าน้องดิวแอบมาซื้อแหวนอะ บอกพี่มาเลยนะครับ น้องดิวซื้อแหวนให้ใคร...”

“ดิวไม่บอกพี่แมทหรอก แบร่~”

ชัด...มันชัดมาก!

เสียงนี้ไอ้แมทเลย!

ผมหันไปดูอีกทีเพื่อความชัวร์ แต่สิ่งที่ผมเห็นเป็นแค่แผ่นหลังคุ้นเคยกำลังเดินจากไป พร้อมกับเด็กคนนั้นกับเด็กที่มองสูงไปยังใบหน้าของชายชื่อแมท แววตานั้นเต็มไปด้วยความรัก ขนาดอยู่ห่างยังเห็นได้ชัดเจน  ผู้คนที่มากมายค่อยๆ กลบพวกเขาทั้งสองจนมิด ผมยืนหายใจติดขัดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเดินไปทางพวกนั้น อยากรู้ ผมอยากรู้ว่าคนๆ นั้นใช่แฟนของผมหรือเปล่า เข้งขาของผมสั่น มือผมเองก็สั่นเหมือนคนเป็นโรคร้าย ผมไม่กล้าหยิบมือถือขึ้นมาเลย ผมรู้ดีว่าผมจะไม่มีแรงประครองมันเอาไว้ให้อยู่ในอุ้งมือของได้

ผมไม่เชื่อหรอกว่านั่นเป็นแมท...แมทมะนไปเรียน มันจะกลับดึก มันบอกผมแบบนี้เพราะงั้นต้องไม่มีทางเป็นได้แน่!

สมองมันรันแต่คำว่าไม่เชื่อวนไปวนมา แต่ขาทั้งสองข้างยังคงพาร่างกายที่สั่นไปตามเส้นทางของสองคนนั้น ผมหายใจแรงมาก รู้สึกช๊อคทั้งที่มันจะเป็นความจริงไหมก็ไม่รู้ คนนั้นอาจแค่ดูเหมือนแมท เสียงคล้าย รูปร่างคล้ายและมีชื่อเดียวกันเท่านั้นมากกว่า แมทไม่โกหกผมหรอก...เขาไม่มีทางนอกใจผม เพราะเขารักผม

แต่ไม่ว่าจะเดินตามไปในทางที่คาดว่าเขาจะไป กลับไม่พบแม้เงาของเขาทั้งสองคนเลย เสียงมือถือดังสนั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง ผมหยิบออกมากดรับโดยไม่ได้มอง่าใครโทรมา แต่ก็เดาไม่ยากครับ เสียงหวานๆ ลอดมาตามสาย ถามหาผม ผมอยู่ไหน เธอเสร็จแล้ว เธอจะกลับแล้ว ผมเลยต้องสลัดไอ้ภาพเมื่อกี้แล้วเดินย้อนกลับไปในทางที่เดินมาก่อนหน้านี้

ยังไงซะ คนๆ นั้นไม่มีทางเป็นแมทอย่างแน่นอน แมทน่ะเกลียดเรื่องการคบซ้อนจะตาย และเขาไม่เคยทำตัวแบบนั้นเลยตั้งแต่คบกับผมมาหลายปี แล้วบอกจะมาเป็นเอาตอนนี้ทั้งที่เขายังออกอาการหวงผมสุดๆ เนี่ยนะ ไม่จริงหรอก เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ถ้าแมทมีจริง มันคงแสดงออกว่าเบื่อผมแล้วละเนอะ เพราะแมทไม่เหมือนผม เขาชอบผู้ชายชัดเจน อย่างผมยังกล้าพูดได้ว่าผมแค่เล่นๆ ตัวจริงยังไงก็มีแค่แมทที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวของผม

ผมปล่อยวางเรื่องนั้นลง ยิ้มให้กับตัวเอง หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาแมท ใจจริงอยากโทร แต่คิดได้ว่ามันมีเรียน โทรไปมันก็รับสายไม่ได้ ข้อความนี่แหละ มันแอบอ่านได้แค่แน่นอน
[BomZa : กูคิดถึงมึงนะ รีบกลับมาให้กูกอดไวๆ หน่อย]
[MT : ได้เลย กูจะกอดให้จมเตียง] มันอ่านแล้วตอบอย่างไว ถ้ามันอยู่กับเด็กนั่น มันคงทำแบบนี้ไม่ได้หรอก...แมทน่ะมันไม่นอกใจผมหรอก มันรักผมจะตาย


*******************************

จบไปอีกบท ขอบคุณทักคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-12-2016 10:32:29
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 18-12-2016 10:53:05
พอกันทั้งคู่ แต่เราว่าแมทรู้อยู่แล้วล่ะเรื่องบอมนอกใจอะ
แค่ทำเป็นเชื่อหวังฟันไปอย่างนั้นเอง

สงสัยเรื่องเวลานิดหน่อย ตอนปัจจุบันคือตอนที่บอมเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังใช่มั้ย
ตอนนี้คืออดีตเรื่องบอมกับแมท เข้าใจถูกมั้ย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: autopilot ที่ 18-12-2016 11:07:29
พอกันเรยจ้าาาา
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 18-12-2016 11:52:00
 บอมกับแมทพอๆกันเลย เป็นไงล่ะบอม แมทเขาก็ทำพอเจอกับตัวเองรู้สึกเป็นไง ตอนที่1-2 ตอนนี้บอมเล่าเรื่องในอดีตสมัยเรียนให้ฟังใช่มั้ยคับเพราะปัจจุบันบอมเรียนจบแล้ว ผมเข้าใจถูกใช่มั้ยคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-12-2016 12:10:55
บอมกับแมทพอๆกันเลย เป็นไงล่ะบอม แมทเขาก็ทำพอเจอกับตัวเองรู้สึกเป็นไง ตอนที่1-2 ตอนนี้บอมเล่าเรื่องในอดีตสมัยเรียนให้ฟังใช่มั้ยคับเพราะปัจจุบันบอมเรียนจบแล้ว ผมเข้าใจถูกใช่มั้ยคับ
เข้าใจถูกต้องแล้วครับผม
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-12-2016 12:13:21
พอกันทั้งคู่ แต่เราว่าแมทรู้อยู่แล้วล่ะเรื่องบอมนอกใจอะ
แค่ทำเป็นเชื่อหวังฟันไปอย่างนั้นเอง

สงสัยเรื่องเวลานิดหน่อย ตอนปัจจุบันคือตอนที่บอมเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังใช่มั้ย
ตอนนี้คืออดีตเรื่องบอมกับแมท เข้าใจถูกมั้ย
เข้าใจถูกต้องแล้วครับผม ช่วงเวลานี้คืออดีตที่บอมกำลังเล่าครับ ^^
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: polkadot ที่ 18-12-2016 13:18:43
เหมือนจะจบเศร้านะเรื่องนี้  :ling3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-12-2016 14:12:51
เราว่าบอมเป็นแฟนที่ไม่ดีไม่น่ารักเลย กับแฟนตัวเองถลุงเอา ๆ ทำเป็นบอกว่าอีกฝ่ายทำตัวเองเสียนิสัย ถ้ารู้จักเตือนตัวเองตลอดมันจะเสียได้ยังไงไอ้นิสัยที่ว่าน่ะ บอกว่าตัวเองไม่มีปัญญาซื้อ(ก็ซื้อของให้ตัวเองนั่นล่ะนะ) ทีกับผู้หญิงให้ได้หมด
ส่วนแมท เรายังไม่ขอออกความเห็นเพราะรอดูอยู่ ว่าเลวโดยนิสัย (แต่เอาหนังแกะมาห่ม) หรือได้แฟนเลว ทนไม่ไหว เลยออสโมซิสนิสัยเลว ๆ เหมือนกันมา
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 18-12-2016 16:17:13
แมทคงรู้ว่าบอมมีคนอื่น  แต่บอมคงช็อค  ไม่รู้ว่าแมทก็มีคนอื่นเหมือนกัน สมควรแล้ว  ศีลเสมอกัน  คู่นี้เค้าเรียก  "ผีเน่ากับโลงผุ" 
เฮ้อ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 18-12-2016 16:34:32
รอตอนต่อไป

รีบมาต่อน้า
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: popeyez ที่ 20-12-2016 11:44:15
อ่านตอนแรกๆก็สงสารแมทนะ พอมาอ่านตอนนี้รู้เลยว่านอกใจทั้งคู่

บอมพอแมทนอกใจกลับรับไม่ได้ แต่ไม่ได้คิดถึงใจของแมทเลยว่าเขาจะรู้สึกยังไง
แต่บางทีบอมก็ลืมคิดไปว่าแมทเป็นเสือดีๆนี่เอง...

บอมก็คิดว่าแมทรักบอมจนไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ได้ แล้วดูบอมดิ บอกให้เขาเชื่อใจ แต่การกระทำทุกอย่างเป็นใครก็ไม่เชื่อหรอก
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 20-12-2016 13:59:49
เอาจริงๆพอกันทั้งคู่ โทษใครไม่ได้เลยอะ ได้ประโยชน์ทั้งคู่เลยด้วยซ้ำนะสองคนนี้ แมทได้ฟันบอม บอมได้ของฟรี เออ ไอ้พวกนี้ รักกันจริงไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: oiruop ที่ 20-12-2016 19:08:48
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 2 [18/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-12-2016 20:22:59
อ่านไป ใจเต้นไป ลุ้นตาม สนุกมากกกกก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อ่าา....แมท ทำหึงหวงบอม
ที่แท้ตัวเองก็นอกใจบอม
แล้วเสือแมท ทำมานานยังอะ
หรือตั้งแต่เริ่มคบแมท
บอม ก็นอกใจแมท  :เฮ้อ: :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
แสดงว่าเสือแมท เนียนมาก
เล่นเอาบอม เชื่อสนิทว่าแมท รักบอมคนเดียว
ต่างฝ่ายต่างไปทางที่ชอบของตัวเอง
อยากอ่านตอนต่อไป มากกกกกก  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 21-12-2016 19:42:50
เธอมีชู้

บทที่ 3

เนื่องจากวันนี้แมทคิดว่าผมอยู่ห้อง ผมเลยแค่ไปส่งพี่พู่แล้วเดินทางกลับ ผมเดาไม่ถูกว่าแมทจะกลับกี่โมง ถามมันไป มันก็บอกแต่ค่ำๆ ระบุเวลาแน่นอนตายตัวไม่ได้จริงๆ งานมันเยอะ จะเสร็จเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ดีไม่ดี วันนี้ก็ไม่เสร็จหรอก

ผมกลับเข้ามาที่ห้องหกโมงเย๋นพอดี ภายในมืดตื้บ แสดงว่าแมทยังไม่กลับมาจากมหาลัย ผมจึงปลีกตัวไปอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความว่องไว กลัวแมทมันกลับมาในจังหวะที่ผมเผลอแล้วเห็นเสื้อผ้าชุดนี้ นี่ต้องเอาไปซุกไว้ใต้ๆ ตะกร้าผ้า ให้อยู่บนๆ มันอันตราย พอเสร็จสบายใจแล้วผมก็มานั่งดูทีวีพลางแชตเฟซ แชตไลน์คุยกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว

แกร๊ก!

“อ่าว กลับมาแล้วหรอมึง” เสียงประตูทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมอง แมทยิ้มบางๆ เท้าสาวเข้ามาหาก่อนจะทิ้งตัวนอนหนุนตักผม

“ตัวหอมนะมึง” ใบหน้าหล่อคมคายขยับซุกพุงแบนราบของผม จั๊กจี้หน่อยๆ แหะ

“ก็เพิ่งอาบน้ำ มึงอะตัวเหม็นเหงื่อ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนแล้วค่อยมานอนเล่นพักผ่อนเถอะ” แมทได้ฟังก็ไม่ตอบ แค่พยักหน้าเบาๆ บิดขี้เกียจอีกทีแล้วลุกไป

“มึงกินอะไรมายัง” ผมตะโกนถาม

“ยังเลยวะ”

“งั้นกูผัดข้าวให้นะ” ได้ยินเสียงอื้อลอดออกมาจากห้องนอน ผมะบายยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลุกไปทำข้าวให้แมทกิน

ผ่านมาได้สักระยะแล้วที่ผมไม่ได้ทำอาหารหรือทำข้าวให้แมทกิน ปกติผมจะออกไปดื่มข้างนอก ซึ่งความจริงก็ไปเที่ยวกับพี่พู่นั่นแหละครับ กลับเข้ามาถึงไม่ดึก แต่แมทก็กินไปแล้ว มันเป็นพวกไม่กินมื้อดึก ผมกับมันพักหลังเลยไม่ค่อยกินด้วยกัน

“ข้าวผัดไข่หรอ” ผมหันไปมองคนด้านหลัง หยดน้ำชุ่มช่ำไปทั้งตัว

“ไปเช็ดตัวก่อนดีไหมมึง เปียกห้องหมดแล้ว” แมทใส่แค่บ๊อคเซอร์สีดำ ตัวเปียกๆ ทำให้กางเกงมันพลอยเปียกไปด้วย

“อืม” มันขานรับแล้วเดินไปเช็ดผม ตามด้วยเช็ดตัวแล้วมานั่งรอข้าว

ผมเอาข้าวสองจานไปเสิร์ฟ ถึงผมจะกินมาแล้วแต่ต้องกินอีกเพื่อไม่ให้แมทสงสัย แมทเอาผ้าขนหนูเช็ดหัวพาดบ่า ก้มหน้าตักข้าวกินด้วยท่าทางสบายๆ ไม่รีบร้อน สายตาจ้องมาที่ผม อย่างกับผมเป็นกับข้าวอีกอย่างบนโต๊ะนี้ ถึงคบมานานก็จริง แต่การมองตากันตรงๆ มันทำให้ผมเขินได้

“เออมึง...” ผมกำลังจะลองชวนแมทคุย และเรื่องที่อยากจะเอ่ยเสียเหลือเกินคือผมเจอคนเหมือนแมทมากๆ แต่คิดอีกที ถ้าผมบอก มันก็รู้ดีว่าผมไม่ได้อยู่บ้าน

“อะไร” แมทขาน สายตาสนอกสนใจ

“ลืมไปแล้ววะ” ผมจำใจโกหกออกไป

“แน่ใจ ไม่ใช่ว่าโกหกอะไรกูอยู่นะ” ส่ายหน้าเบาๆ แล้วเอื้อมมือไปตบแก้มเนียนของอีกฝ่าย

“เอะอะก็หาว่ากูโกหก เดี๋ยวกูก็งอนหรอก” คำต่อว่าไม่จริงจังของผมทำให้แมทขำเบาๆ

“โอเค กูไม่ว่าแล้ว” รอยยิ้มอ่อนโยนของแมททำให้ผมยิ้มบางๆ ตอบกลับไป

แมทนั่งกินข้าว ตาจ้องผม ไม่พูดไม่จา ผมเองก็กินข้าวไปแชตไป ปล่อยให้ไอ้ตัวโตจ้องเป็นปลากัดไปนั่นแหละ ไม่รู้จะจ้องอะไรนักหนา จ้องแล้วมีประเด็นก็ว่าไปอย่าง นี่จ้องแล้วก็เงียบ ไม่พูดอะไรเลยสักคำเดียว

ข้าวหมด แมทอาสาเก็บจานไปล้างเอง ผมเดินไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม ดูทีวีและแชตไปด้วย แมทมันกลับเข้ามา มองทีวีนิดหน่อยแล้วล้มตัวนอนหนุนตักผม บิดขี้เกียหจสุดๆ อีกหนึ่งครั้งแล้วเอื้อมไปหยิบหนังสือนิยายบนโต๊ะตัวเล็กหน้าโซฟามานอนอ่าน ชีวิตพวกเรามีแค่นี้แหละครับในวันปกติ ถ้าวันไหนไม่ปกก็ต้องนั่งเคลียกันไป

“เออบอม กูเจอคนคล้ายมึงด้วย คล้ายมากๆ ชุดที่ใส่ก็ชุดเดียวกับที่มึงมีเลยวะ โลกเรานี่แปลกเนอะ” หืม นึกว่าผมว่าผมเจอคนที่เหมือนแมทมากๆ เพียงคนเดียวซะอีก นี่แมทก็มีเจอคนที่เหมือนผมหรอเนี่ย ว้าว...

“เออ โลกเรามันแปลกจริงๆ” หน้าผมตื่นตะลึงกับสิ่งใหม่ที่เพิ่งค้นพบ

“มึงไปเจอเขาที่ไหนอะ” ลองถาม เผื่อไปเดินๆ แล้วเจอคนที่เหมือนตัวเองบ้าง

“ห้างอะ ไปซื้อของเข้ามาทำรายงานเลยเจอ” ห้างหรอ ก็เป็นที่เดียวกับที่ผมเจอคนชื่อแมท....

เดี๋ยวดิ ถ้าเป็นแบบนั้นคนที่ผมเจออาจไม่ใช่แค่เหมือนหรือเปล่า นั่นอาจจะเป็นแมทก็ได้ แต่แมทบอกไปซื้อของทำรายงานไม่ใช่หรอ เด็กคนนั้นเป็นอะไรกับรายงานของแมทกันแน่ ดีไม่ดี ไอ้ที่บอกเจอคนเหมือนผม ก็คงเป็นผมเองนี่แหละ แค่แมทมันไม่รู้ว่าผมไปที่นั่น แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าแมทไปที่นั่นมา

“ไปกับใครอะ” ลองถามดู บางทีอาจไม่ใช่อย่างที่ผมคิด

“กับเพื่อนๆ ที่ทำด้วยกันนี่แหละ” เพื่อนๆ งั้นหรอ...คนนั่นก็อาจเป็นเพื่อนหรอ ไม่ดิ คนนั้นเขาเรียกแมทว่าพี่นี่ งั้นก็รุ่นน้อง

“มีรุ่นน้องด้วยมะ รุ่นน้องสาวๆ ไรงี้อะ” ชะโงกหน้าเข้าไปทำตาวาวใส่แมท ทั้งที่ในหัวผมกำลังขุ่นมัวด้วยความสงสัย เด็กคนนั้นกับแมทพูดกันแบบสนิทสนมมาก ฟังเผินๆ ก็แฟนกันชัดๆ อะ แต่จะให้ผมถามโต้งๆ มันคงไม่ได้ เพราะผมเองก็ไม่อยากให้แมทรู้เรื่องที่แอบออกไป

“ไม่ต้องมาตาวาวเลย ไม่มี มีแต่น้องผู้ชาย”

“น้องเขาชื่ออะไรหรอ แล้วน่ารักป่ะ ผู้ชายน่ารักๆ กูก็สนนะ”

“ชื่อน้องดิว น่ารักมาก แต่มีแฟนแล้ว” คำตอบของแมทแม่งเหมือนมีมนต์คาถา ปัดเป่าความไม่สบายใจของผมไปจนหมดสิ้นในคราวเดียว ผมยิ้มร่าให้กับมัน เลยโดนมันกระชากต้นคอไปรับรสจูบหวานๆ

“วันนี้ไม่ได้แอบออกไปไหนจริงอะ” พอถอนริมฝีปากออก แมทก็รีตาจับผิด ผมแสร้งยิ้มแล้วกัดจมูกมันเบาๆ

“ก็ออกไปซื้อข้าวมากินตอนบ่ายแก่ๆ อะ ทำไม คิดว่าคนที่มึงเจอว่าคล้ายกูมากคือกูงั้นสิ โธ่แมท ดูแค่เสื้อผ้าหน้าผมเดียวนี้มันก็คล้ายๆ กันไปหมดแหนะ ไม่เห็นจะแปลกเลย”จากตอนแรกที่อึ้งว่าโลกเรามันแปลก ที่เราสองคนต่างเจอคนคล้ายกันนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เราอะเจอกันและกันเองมากกว่า แต่แมทมันไม่รู้ และให้มะนไม่รู้ต่อไปน่ะดีแล้ว ผมไม่ได้ไปทำเรื่องที่แลเหมาะแก่การฝอยให้แมทฟังเท่าไหร่

“อืมๆ ไม่ได้ไปก็ไม่ได้ไป กูคงคิดมากไปเอง”

“ช่าย มึงคิดมากไปเอง” แลบลิ้นใส่มัน
“ก็กูหวงมึง” ว่าจบมันก็กระชากผมลงไปรับจูบหนักๆ ของมันอีกครั้ง

พอจูบกันไปสักพักก็รูสึกว่าร่างกายชักจะร้อนๆ  แมทเองก็เหมือนกัน มันลูบไล้ใบหน้าผมใหญ่ทั้งที่มันนอนหนุนตักผมอยู่ ผมเองก็ใช้ฝ่ามือสัมผัสร่างกายที่มีแค่บ๊อคเซอร์ตัวเดียวของแมท ตรงนั้นของมันตุงนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด พาลเอาผมคึกเช้าไปใหญ่
“คร่อมกูที...” เสียงกระเส่าของร่างด้านใต้กระซิบบอก ผมไม่ขัดความต้องการ ย้ายกายไปคร่อมสะโพกสอบของมันเอาไว้

ผมค่อยๆ ถอดเสื้อออกจากตัวเองช้าๆ ปล่อยให้แมทได้ใช้สายตาโลมเลียเรือนร่างของผม มันชอบมองร่างกาย แต่ผมชอบมองหน้ามัน สัมผัสอุ่นๆ นากฝ่ามือกำลังคลืบคลานขึ้นมาจากเอวคอดกิ่ว แมทเลียริมฝีปากตัวเองก่อนระบายยิ้มที่เคยดูอบอุ่น ในตอนนี้ เวลานี้ รอยยิ้มนั้นดูหื่นกระหายเหลือเกิน

แมทดึงต่นแขนของผม ให้ผมโน้มตัวลงไปหา รับเรียวลิ้นที่ร้อนจัดเข้าสู่โพรงปาก แมทรุกผมหนักหน่วงมาก มือของเขาขย้ำก้นของผม ส่วนอีกมือก็เขี่ยยอดอกของผมเล่นเสียสนุกมือ
“อ่าห์แมท...” ริมฝีปากอุ่นๆ นั้นเคลื่นต่ำไปที่ลำคอ มันค่อยๆ งับ ค่อยๆ กัดอย่างทะนุถนอม ความเสียวปราบแล่นริ้วมาจากหลายทิศทาง ผมอยากจะคัล่งซะให้ตาย แฟนใครวะ ข่ำชองเรื่องพวกนี้ซะจริงๆ ถ้ามันมีแฟนเป็นผู้หญิง ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก เพราะแมทเป็นผู้ชายในอุดมคติของพวกเธอเลยทีเดียว อบอุ่น ช่างเอาใจ ใจเย็น สุภาพบุรุษ และที่สำคัญ...เร่าร้อนสุดๆ บนเตียง
RrrrrRrrrrr!
ขณะที่ทุกอย่างกำลังเดือด เสียงเรียกเข้ามือถือของแมทก็ดังขึ้น มันวางอยู่ตรงโต๊ะหน้าโซฟา ชื่อดิวเด่นหราอยู่ตรงนั้น ผมไม่ติดใจอะไรแล้วนะ จนกระทั่ง....

แมทชะงัก มองหน้าจอก่อนจะหยุดทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ มันดันร่างของผมลงจากร่างของมันอย่างช้าๆ ไม่น่าเกลียด แล้วคว้ามือถือเครื่องนั้นเดินหายออกไปทางระเบียงของห้อง

สิ่งที่มันทำ ทำเอาแข็งเป็นหินเลยครับ นอกจากพ่อแม่...แมทไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยหยุดที่จะทำกับผมแล้วไปรับสายใครก็ตามที่ไม่ใช่คนในครอบครัว บางที พ่อแม่เขา เขายังไม่รับเลย แล้วนี่อะไร ไอ้คนชื่อดิวนี่มันพิเศษพิโสมาจากไหน แมทถึงได้ทิ้งผมแล้วไปรับสายมันแบบนี้ แล้วดู คุยกันตรงนี้ก็ว่าน่าหมานไส้แล้ว นี่ยังออกไปคุยข้างนอก ไปคุยตรงระเบียงเพื่อไม่ให้ผมได้ยิน

รุ่นน้องจริงๆ น่ะหรอวะ!

ผมหงุดหงิด โมโหแมทและเคืองมากที่มันให้ค่าความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าผม ผมคว้าเสื้อผ้ามาใส่ให้เรียบร้อย อารมณ์ที่มีนี่ก็มอดดับลง แมทมันยอมให้คนอื่นมาขัดขวางการสานสัมพันพธ์ของเรา ผมไม่ยอม ผมไม่ชอบ ผมไม่พอใจ!

ปัง!

ในมือผมมีกระเป๋าเงินกับมือถทอ เสียงเมื่อครู่เป็นเสียงปิดประตูห้อง ผมออกมาข้างนอก อยากจะไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีไอ้แมท ผมเคยเป็นที่หนึ่งของมันตลอด และผมไม่ยอมให้ตัวเองเป็นที่สองรองจากใคร ไม่ว่าไอ้เด็กเวรนั่นมันจะโทรมาเพราะมีใครตาย ผมก็ไม่พอใจ แมทไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะยุติเรื่องที่เรากำลังทำและไปรับสายมัน ขนาดผมเอง กิ๊กผมโทรมาเวลาผมกับแมทกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ผมยังลังเลและปล่อยมันไปเลย เห็นไหม...ผมให้ความสำคัญกับมันมากขนาดไหน!

“ไอ้เต้ กูอยากแดกเหล้า” ผมกดโทรหาเต้ บอกความต้องการของมันทันทีที่มันรับสาย เสียงรอบด้านของมันดังเหมือนทุกวัน

(“มาร้านKเลยมึง”) เต้ตอบสั้นๆ ผมก็วางสายใส่มันดื้อๆ

ผมเลโบกแท็คซี่เพื่อเดินทางไปร้าน สภาพตัวเองในตอนนี้หาความหล่อไม่เจอเลย กางเกงขาสั้นใส่นอนสีน้ำเงินกับเสื้อยืดคอกลมย้วยๆ สีดำ เป็นชุดที่ผมจะใส่นอนแล้ว ผมน่ะไม่มีทางใส่ชุดแบบนี้ออกมาข้างนอกแน่ เว้นแต่วันนี้ มันเป็นกรณีพิเศษ ไม่ใช่ไร...ผมโมโหจนออกมาเลย หัวฟู หน้าซีด ทาไว้แค่ครีมบำรุงเอง

“เดี๋ยวนี้ชุดเที่ยวคุ้นตาดีเนอะ อย่างกับชุดนอน” เต้เอ่ยทักเมื่อผมนั่งลงข้างๆ มัน ผมไม่สนคำพูดของมัน หันไปแย่งเหล้ามายกดื่มแทน

“โทรตามไอ้กล้าดิ้ บอกให้รีบมา กูมีเรื่อง” ผมบอกเต้ มือก็ผสมเหล้าใหม่ ไม่ได้สังเกตเพื่อรตัวเองเลยว่ามันตาโตขนาดไหนที่เห็นผมยกเหล้าแบบนั้น

“มึงมีเรื่องไรวะบอม ทะเลาะกับแมทหรอ” เต้เอื้อมมือมากอดคอ ดึงให้ผมนั่งชิดตัวติดกับมัน ส่วนอีกมือ ผมเห็นมันพิมพ์ข้อความบอกกล้าอยู่

“ก็แม่ง...กำลังเข้าได้เข้าเข็มแท้ๆ มันเสือกไปรับสายรุ่นน้องเฉย!” คิ้วผมขมวดเป็นปกจากความหงุดหงิด เต้หันไปบอกพนักงานให้เอาเหล้ามาเพิ่มและเอาแก้วมาอีกสองชุด

“อ่อ อารมณ์ค้าง”

ต่อข้างล่างจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 21-12-2016 19:48:00
 :katai5:ต่อเลย


“เออ นั่นส่วนหนึ่ง แต่ประเด็นมันอยู่ที่ไอ้แมทต่างหาก มันไม่เคยรับสายใครเวลาทำกับกูเลยนอกจากพ่อแม่มันอะ แต่นี่รุ่นน้อง..ไอ้สัสแค่รุ่นน้อง!” ผมระบายอารมณ์ ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงของผับ

“รุ่นน้องคนนั้นคงมีธุระสำคัญมากๆ ก็ได้นะเว้ย” เต้พยายามกล่อม แต่ผมกระดกเหล้าเข้าปากเป็นว่าเล่น

“ธุระเหี้ยไร บ้านแม่งบึ้มหรอ ถ้าไม่รับสายก็ไม่มีทางรู้ เวลาแบบนั้นอะ แมทมันเคยสนใจอะไรที่ไหน ใครจะเป็นจะตายมันไม่แคร์หรอก” เต้ถอนหายใจเบาๆ ส่วนผมก็ดื่มต่อไป

มันเป็นคนนอก มันคงเข้าใจผมยากนิดหนึ่งว่าเพราะอะไรเรื่องแค่นี้ผมถึงต้องหงุดหงิดขนาดนี้ ผมยกเหล้าต่อไปเรื่อยๆ รีบกิน รีบเมา ไม่ถึงชั่วโมงดีเสียงมือถือก็ดังพร้อมกับร่างของกล้ากำลังเดินมาที่โต๊ะ ในขณะที่ผมจองมองสายเรียกเข้าชื่อแมท เต้ก็อธิบายเรื่องของผมให้กล้าฟัง

“ไม่รับละมึง” เต้ถาม

“ไม่เว้ย กูไม่รับ กูไม่กลับบ้านด้วย คนอื่นสำคัญนักก็ไปเอากันเลย!” แทบปามือถือลงกับพื้นเพราะยังโมโหไม่หาย แม้เหล้าจะพร่องไปมาก แต่สติผมกลับยังแจ่มชัดอยู่

“แหมๆ เรื่องแค่นี้มึงอย่าเยอะ ตัวมึงใช่จะดีไอ้บอม มึงนอกใจแมทไปหาผู้หญิงตลอด”

“มันคนละประเด็นกันเว้ย!” ผมรีบเถียงกล้าทันที
“มันอาจเป็นประเด็นเดียวกันก็ได้ถ้าเด็กที่แมทให้ความสำคัญนั้นเป็นมากกว่ารุ่นน้อง” สิ่งที่ไอ้กล้าพูดมันเป็นสิ่งที่ผมแอบคิดลึกๆ ผมกลัวที่มันจะเป็นแบบนั้น คำอธิบายของแมททมันสมเหตุสมผล ผมเชื่อมันนะ แต่พอเจอแบบนี้ ความเชื่อที่มีมันก็ไขว่เขว

ผมกำมือถือในมือแน่น นั่งก้มหน้าตัวสั่นเทา น้ำตามันกำลังซึม...หัวใจเต้นแรงจนแทบผิดจังหวะ ผมไม่กล้าคิดมากไปกว่านั้นว่าแมทกับเด็กคนนั้นเป็นมากกว่ารุ่นพี่ รุ่นน้องจริงไหม ผมอยากเชื่อในสิ่งที่มันพูด และเก็บแค่ความรู้สึกแน่วแน่ว่ามันมีแค่ผมคนเดียว มันไม่มีคนอื่นและจะไม่มีวันมี

เด็กคนนั้นมันน่ารัก น่ารักกว่าผมจนผมเทียบไม่ติด ดูแล้วเวลาอ้อน ใจคนถูกอ้อนคงละลายได้ง่าย ผมไม่เหมือนเด็กคนนั้น ผมแตกต่างอย่างมาก มันควไม่ผิดถ้าสมมุติแมทจะเอนเอียงไปทางเด็กคนนั้น

“เฮ้ยกล้า มึงอย่าพูดให้บอมคิดมากสิวะ มันไม่เป็นแบบนั้นหรอก แมทรักมึงคนเดียวมึงก็รู้” เต้ดึงผมากอด ลูบหลังผมเบาๆ
“โทษๆ กูแค่แหย่เล่น...ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะคิดมากเรื่องนี้” เสียงอ่อนลง มันรู้สึกผิดจริงๆ ผมสัมผัสได้ แต่มันไม่มีใครผิดสักหน่อย เรื่องนี้คนที่ผิดมันคือแมทต่างหาก

ผมขยับออกจากอ้อมกอดของเต้ ยกเหล้าดื่มต่อไม่สนใจ น้ำตาที่เคยไหลก็ปาดมันทิ้งซะ...ผมจะคิดไปเองหรือเปล่าแมทคงอธิบายให้ผมฟังได้ แต่ต้องเป็นตอนที่ผมกล้ารับฟังมากกว่านี้ อารมณ์เย็นลงงกว่านี้ ผมกับมันคบกันมาตั้งนานแล้ว ระหว่างเรา...มันคงไม่จบง่ายๆ แค่นี้หรอกใช่ไหม
“มันจะไม่ทิ้งกูใช่ไหม....”
“มันไม่ทิ้งหรอก...มันรักมึงแค่ไหนมึงก็รู้ดี” เต้ตบบ่าผมเบาๆ ผมพยักหน้า พยายามเชื่อคำพูดของมันและพยายามเข้มแข็งไปในเวลาเดียวกัน....

แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเรารัก เราผูกพันกันมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งคิดและเจ็บกับมันมากเท่านั้น ผมสลัดเรื่องแมทออกจากหัวไม่ได้ ถึงเหล้าเข้าปากมากกว่าครึ่งกลมแล้วก็ตาม สติสตางเลือนราง แต่ความรู้สึกกลับแจ่มชัด ผมกลายเป็นคนดราม่าอะไรได้มากขนาดนี้เลยหรอวะ

ผมไม่เคยทำใจเผื่อเอาไว้อะสิ ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งแมทมันอาจจะมีคนอื่น มันอาจจะหมดรักผม หรือเบื่อผม ผมคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นที่รีกของมัน เป็นที่หนึ่งของมันเสมอไม่ว่าเมื่อไหร่ ถึงแมทจะไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนปานนั้น แต่มันพูดเสมอนะว่ามันรักผม มันหวงผม คำพูดพวกนั้นแหละที่ทำให้ผมไม่เคยเผื่อใจเลย

แล้วดูตอนนี้ดิ...ความเสี่ยงที่แมทจะมีคนอื่นเกิดขึ้นแล้ว ผมทำใจให้ยอมรับมันไม่ได้ ผมยอมไม่ได้ที่จะต้องโดนแมทมันทิ้ง เราอยู่กันมาไม่ใช่เดือนสองเดือน แต่เป็นปีๆ ถึงผมจะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่ในชีวิตผมก็มีมันเป็นส่วนหนึ่ง ผมคิดถึงตอนที่ไม่มีมันไม่ออกจริงๆ

“อย่าทำเป็นเศร้าสิวะ มาร้านทั้งทีก็หนุกหนานหน่อย” เต้แซะไหล่ผมเบาๆ

“ก็พยายามหนุกอยู่ แต่ทำไม่ได้นี่หว่า” ว่าแล้วก็ยกเหล้าดื่ม

“แปลกนะ ทีมึงยังไปมีคนอื่นได้เลย ทำไมพอแมทมันจะมีบ้าง มึงถึงต้องเศร้าขนาดนี้ กูว่า มันก็แฟร์ๆ ดีนี่หว่า” กล้าตั้งคำถาม ผมรู้ว่ามันไม่มีเจตนาแซะผมเลยสักนิด แต่มันก็จี้ใจดำผมอยู่ดี

“กูไม่รู้ กูรู้แต่กูไม่ยอม แมทต้องมีกูแค่คนเดียวสิ” ผมหันไปเถียงกล้า

“ก่อนจะให้เขามีแค่มึง มึงก็ช่วยมีแค่เขาได้ไหมวะ”

“ไม่ได้...” ผมว่าเสียงแผ่ว กล้าตบกะบาลตัวเองแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน

คือ...เรื่องบางเรื่องคนเราก็เปลี่ยนกันยากถึงขั้นเปลี่ยนไม่ได้เลยก็มี และไอนิสัยที่ต้องมีผู้หญิงในชีวิตของผมมันก็เปลี่ยนยาก แต่เดิมผมชอบผู้หญิงอยู่แล้วนี่ ตอนนี้รักแมทแต่ก็ขาดผู้หญิงไม่ค่อยได้ นานๆ ได้กับพวกเธอสักที ผมจะรู้สึกชีวิตเติมเต็มมากๆ ครั้นจะให้ผมเลิกกับแมทแล้วไปคบหญิงเลยผมก็ทำไม่ได้ เพราะผมน่ะรักมัน...

มันฟังดูเชื่อยากนะ การกระทำของผมเหมือนไม่รักแมทเลย จะบ้าหรอ ถ้าไม่รักจะพยายามปกปิดเรื่องคนอื่นทำไม เพราะรู้น่ะสิว่าถ้าแมทรู้ แมทจะเสียใจขนาดไหน ผมไม่อยากให้ในเสียใจไง เลยพยายามอย่างสุดความสามารถแบบนี้ เฮ้อ...ผมรักมันขนาดนี้ มันยังทำกับผมได้คอเลยอะ

“เด็กผู้ชายคนนั้นน่ะ...” ผมพูดขึ้นลอยๆ ไอ้คนในโต๊ะสองคนก็กระเด้งตัวนั่งดีๆ เพื่อฟังในสิ่งที่ผมจะพูด

“มันโคตรน่ารักเลยวะพวกมึง” พอได้ฟัง ทั้งสองก็ถอนหายใจยาวๆ เต้ยื่นเหล้าแก้วมันมาให้ผมซัดก่อนจะชงให้ตัวเองใหม่ ส่วนผมยกแก้วตัวเองตามปิดท้ายไป

รู้ตัวนะว่ากินแบบโคตรจะเยอะ ได้ยินไอ้เต้สั่งหล้ากลมที่สามแล้ว คนที่กินหนักๆ ก็มีแค่ผมกับเต้ ซึ่งปกติผมไม่กินหนักขนาดนี้ แต่ไอ้เต้เนี่ยเป็นปกติของมัน กล้าดื่มไม่บ่อย ชงไม่เข้ม คอมมันอ่อนกว่าเราทั้งสองคนมากอยู่ นั่งกินเหล้าเพียวๆ ไปสักพักกล้าก็เริ่มบ่นอยากได้กับแกล้ม เต้จัดให้กล้าตามใจเจ้าตัว นานๆ กล้าจะยอมออกมาดื่มสักที แต่พอไอกล้ามันได้กับแกล้ม เหล้าก็ชักจะพร่องเร็วขึ้น

นี่เราสามคนมาแข่งกันเมาใช่ไหม...

“สมน้ำหน้ามึงบอม มึงมันแรด ผัวมึงเลยไม่รัก” กล้าจัดเป็นพวกปากหมาอยู่แล้ว พอเหล้าเข้าไปมากๆ หมาในปากมันก็เริ่มออกมาเผ่นผ่าน

“อ่าวๆ ไอ้กล้า มึงอย่ามาด่ากูนะ กูแค่ทำสิ่งที่พระเจ้าต้องการ” ผมเถียงคอเป็นเอ็น คือเหล้าเข้ากระเพาะผมไปไม่น้อยเหมือนกันครับ

“อะไรวะสิ่งที่พระเจ้าต้องการ” กล้าชักสีหน้างง เต้ก็เอาเหล้าจ่อปากงงๆ เหมือนกัน

“ก็การสืบพันธุ์ไงวะ เพศผู้ต้องผสมพันธุ์กับเพศเมียเว้ย!”

“งั้นก็เลิกกับแมทแล้วไปทำภารกิจสืบพันธุ์ของมึงสิวะ” ไอ้กล้ายกเหล้าหมดแก้ว กระแทกลงโต๊ะดังตึง ผมก็ไม่ยอมแพ้ ซัดหมดแก้ว กระแทกโต๊ะให้ดังกว่ามัน

“ไม่!!!”

“ไอ้ห่าน!” พอผมปฏิเสธเรื่องเลิกกับแมท ไอ้กล้าก็ด่าสวนทันควัน

ก็ผมบอกแล้วนี่ว่า ผมไม่อยากเลิกกับแมท ผมรักมันนะเว้ย ผมอยากอยู่กับมันไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่คบกันมา ถึงจะมีเรื่องผู้หญิงของผมที่ทำให้เรางอนๆ กันบ้าง นอกนั้นเราทั้งคู่ต่างก็ไปกันได้ดี พวกเรามีอะไรมักจะคุยตรงๆ ซึ่งประเด็นส่วนใหญ่คือการปรับนิสัยของเราให้เข้ากันได้เวลาต้องอยู่บ้านร่วมกันมากกว่า นอกนั้นเราเข้ากันได้ดีไม่มีจุดบกพร่องเลย มันจะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่ทั้งเราและเขาเข้ากันได้ดีราวกับเคมีเราตรงกัน

ผู้ชายอย่างแมทน่ะ...หาแทบไม่ได้แล้วละครับ

รอยยิ้มอ่อนโยนประดับใบหน้าตลอดเวลา อบอุ่น สุภาพและน่ารักในเวลาเดียวกัน จริงที่เวลาแมทอยู่กับผมจะติดเย็นชา พูดน้อย บางทีถึงขั้นไม่พูดเลยก็มี แต่ผมไม่เคยคิดว่าส่วนนี้ของมันจะเสียหายตรงไหน เรียกได้ว่าคือตัวตนที่แท้จริงของมัน และเปิดเผยต่อผมเท่านั้น นั่นคือความรู้สึกที่ว่าเราพิเศษกว่าใครๆ ผมเลยชอบและไม่อยากให้ใครได้รับรู้ถึงมุมเงียบๆ ของมันเลย แค่คิดว่าคนอื่นนอกจากผมจะได้รู้...ก็ปวดใจขึ้นมาแล้ว
“ถึงกูจะเจ้าชู้ แต่กูรักมันคนเดียวนะเว้ย” ผมบอกกับเพื่อนทั้งสองน้ำเสียงเศร้าๆ รู้สึกอยากจะร้องไห้ เป็นไปได้ผมอยากกอดมันแล้วบอกว่ากูไม่ยอมนะ กูไม่ยอมให้มึงมีใคร มึงต้องมีกูคนเดียวเท่านั้น แต่ก็ได้แค่คิด ผมไม่อยากเห็นหน้ามันในตอนนี้ เพราะผมกลัว กลัวว่าน้ำตาจะไหลออกมา...
“อืม กูรู้ๆ กูเข้าใจ” โคตรรักเต้เลยวะ เพื่อนที่เข้าใจ ไอ้กล้าแม่งแดกแต่เหล้า เมาคอพับไปละ ผมเองก็เวียนหัวชนิดไม่ไหวจะเคลีย เอนหลังพิงพนัก ปิดตาตัวเองลงแล้วนึกถึงวันเก่าๆ ของผมกับแมท แต่แล้วภาพของดิวกับแมทกลับลอยเข้ามาในหัว...น้ำเสียงนุ่มไพเราะที่เอ่ยเรียก รอยยิ้มสดใสและท่าทางที่น่ารัก แมทยิ้มตอบ ดึงดิวเข้าสู่อ้อมกอดก่อนจะจูบเบาๆ ที่หน้าผาก
‘พี่แมทรักน้องดิวนะครับ...’

แม่ง...ความฝันบัดซบ!

ผมรู้ว่าผมกำลังฝันอยู่ มันเป็นฝันร้ายที่ผมโคตรเกลียดเลย แต่ผมก็ยืนมองภาพของดิวกับแมทก่อนกัน ลูบไล้ใบหน้าซึ่งกันและกันก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนริมฝีปากเข้าหาฝ่ายตรงข้ามตนอย่างช้าๆ น้ำตาผมไหลพรากๆ หัวใจปวดร้าวราวกับจะระเบิดออก ผมทรมานเหลือเกิน อยากจะเดินหลบไปจากตรงนี้ ไม่มองภาพที่แสนร้าวรานใจแต่ก็ทำไมได้ รู้ทังรู้ว่ามันเป็นเพียงความฝัน ทว่าสมองกลับสั่งการให้เจ็บปวดเหมือนกับมันได้เกิดขึ้นจริงๆ

ผมบอกแล้ว...ผมไม่ยอม

ผมไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาจริงๆ จะรั้งแมทเอาไว้ได้ไหม แต่ถ้าถามตัวเองว่าจะยอมปล่อยแมทไปไหมบอกเลยว่า หัวใจผมมันตะโกนดังๆ ประโยคเดียวว่าไม่ยอมเด็ดขาด แต่ความรู้สึก บางครั้งมันก็เจ็บและปล่อย แบบปล่อยให้เขาได้ไป ได้เจอคนที่ใช่และชอบสำหับเขาเถอะ ผมก็ยังสรุปกับตัวเองไม่ได้ เหตึการณ์จริงเกินขึ้นเราจะเอายังไงหรือมีสติมากพอจะตัดสินใจไหมก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ มนุษย์ทุกคนมีมุมมืดที่อยากจะกักขังที่เรารักเอาไว้กับเราคนเดียวทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครอยากยกแฟนตัวเองให้ใครหรอก

“บอม...มะมึงร้องไห้ทำไม”

“เรื่องของกู!!” ผมยังไม่ตื่น ยัเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้ว่ามีคนมาเรียก มาใช้มือประกบแก้มทั้งสองข้างของผมเอาไว้พลางถามไถ่น้ำเสียงอ่อนโยน

เสียงแบบนี้...ไอแมท

“ก็อย่างที่เล่าให้ฟังแหละ มันคิดมาเรื่องเด็กที่ชื่อดิว กูไม่เคยเห็นมันคิดมากจนเป็นแบบนี้ ดูเสื้อผ้ามันสิ ไม่เครียดจริงไม่มีทางใส่ออกมาหรอก” ไอ้เต้เล่าเรื่องของผมให้แมทฟัง ผมได้ยิน ผมรับรู้มากพอสมควร แต่ผมไม่ยอมปรือตาขึ้น มันสลึมสลือ ไม่รู้ว่าอันไหนฝัน อันไหนจริง มันสัมผัสได้ทั้งสองเลยนี่นา

“บอมกูขอโทษ กูกับน้องเขาก็เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้อง”

“ไม่ต้องมากลโกหกกูเลย กูเห็นนะ...กูเห็นพวกมึงจูบกัน!!!” ตาไม่เปิด แต่คิดว่าขี้หน้าด่าแมทถูกแน่ๆ เสียงมันมาทางนี้นี่ ทางตรงข้ามกับที่ไอ้เต้ในนั่ง

“จูบกันด้วยหรอ?” ผมพยักหน้าให้คำพูดไอ้เต้

“ใช่ กูเห็น!”

“ที่ไหน” เต้มันสวนถาม คราวนี้ผมเริ่มปรือตามองมัน สมองประมวลผลไปด้วย

“ไม่รู้ กูหลับตาแล้วมันเห็น” เห็นตาอีกฝ่ายโตแปลกๆ มึงทำหน้าตะลึงคำตอบกูหรอ ผมโมโหเลยผลักหัวมันแรงๆ ไปหนึ่งที

“บอม กลับกันก่อนเถอะ เดี๋ยวแมทอธิบายให้บอมฟังเองนะเรื่องของแมทกับดิว” ผมหันขวับไปทางเสียงแมท

“ไม่ กูไม่กลับ กูไม่ฟังมึง...มึงมันนอกใจกู!!” ผมเริ่มตื่นเต็มตาเมื่อตะคอกแมทเสียงดัง แต่ไม่ต้องห่วงใครจะมาสนใจเรา เสียงเพลงมันดังกว่าเสียงผมอยู่ดีนั่นแหละครับ

“กูไม่ได้นอกใจมึงเลยนะบอม มึงคิดไปเอง”

“เออใช่ กูคิดไปเอง มึงทิ้งกูแล้วรีบไปรับสายมันทันทีนี่คือกูคิดไปเอง ไหนจะไปคุยกันตรงระเบียงไม่ให้กูได้ยินอีก การกระทำของมึงมันไม่น่าคิดเลยนะแมท” ผมเถียงอย่างไม่ยอม ลุกขึ้นชี้หน้ามันอีกด้วย ถึงภาพที่เห็นจะเบลอๆ แต่ผมด่าถูกคนแน่

“กูถึงบอกว่าจะอธิบายให้ฟังไง” แมทใจเย็น เอาคำพูดสุภาพและท่าทีที่อ่อนกว่ามาตะล่อม แต่ผมไม่โง่หรอก!

“ไม่ กูไม่ฟังคำโกหกของมึง!!” ผมหันหลังเตรียมจะเดินออกไปจากโต๊ะ แมทมันลุกขึ้นมาขวาง ผมผลักมัน แต่กลายเป็นตัวเองที่เซล้ม ก่อนที่ร่างไร้การทรงตัวนี้จะถึง วงแขนแข็งแรงของแมทก็ช้อนเอวประครองผมไว้เสียก่อน

ในระยะประชิด ตาสบตา ผมเห็นแววตาเป็นห่วงและวิตกกังวลของแมทได้ชัดเจน แม่ง ใจพาลอ่อนไปหมด เลยต้องรีบละสายตาไปทางอื่น มองเลยออกไปไม่สนมันตรงหน้า พอยืนดีๆ ได้สำเร็จผมก็ผลักแมทอีกรั้ง มันไม่ดึ้อดึง ปล่อยตัวผมแล้วยืนมองผมที่เอนไปมาทั้งที่พยายามตั้งตัวเองให้ตรง

“กลับบ้านเราเถอะบอม”

“ไม่ กูไม่กลับ!!!” ผมตะคอกมันอีก ผมจะไม่อ่อนข้อให้ สิ่งที่แมททำมันทำร้ายจิตใจผม เพราะงั้นอย่าหวังว่าผมจะยอมง่ายๆ

“มันดื้อมากนักก็ตุ๋ยท้องแม่ง พากลับไปคุยกันบนเตียงด้วยภาษากาย จบเรื่อง ง่ายๆ” เสียงอ้อแอ้อของกล้าดังออกมา มันเมาหลับไปแล้วไม่ใช่หรอ หรือมันเพิ่งตื่นจากเมาเหมือนกับผม

แมทหันไปมองร่างคอพับคอ่อนของกล้าแล้วค่อยหันมามองผม ไม่มองธรรมดา แต่ไล่สายตาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า และจากปลายเท้าขึ้นมาที่หัวอีกรอบหนึ่ง หน้านิ่งๆ ของมันน่าหมั่นไส้ที่สุด ผมหันหน้าไปทางที่จะเดินไป แค่ก้าวเดียว แมทก็ขวางเอาไว้ คราวนี้เขาไม่ล๊อค ไม่จับ แค่ยืนขวาง ผมก็มอง แล้วหันไปทางตรงข้ามเพื่อจะเดินไป แต่ก็อีกแหละ แมทมาขวางอีกอยู่ดี

“หลบไปสิวะ”

“ไม่อ่ะ กูขอโทษนะ...แต่ยังคืนนี้เราต้องเคลียกัน” จบประโยค หมัดลุ่นๆ ของแมทก็พุ่งเข้าลิ้นปี่ผมอย่างจัง!

ท่ามกลางสายตาของเพื่อนที่มองอย่างตกตะลึง กล้าตื่นเต็มตา มองสิ่งที่มันได้แนะนำให้กับแมท ก็รู้หรอกว่าแนะนำไปขำๆ ไม่มีใครคิดว่าแมทจะทำจริง ร่างของผมค่อยๆ ทรุดลง เข่าอ่อน ขาพับขางอไปหมด แมทรีบหิ้วปีกผมไว้ทันที มันมองหน้าทุกคนในโต๊ะ ยิ้มบางๆ กล่าวขอบคุณน้ำเสียงสุภาพแล้วก็จากไป โดยลากผมที่แทบไม่มีแรงเดินออกมาด้วย ที่ที่มันพามาก็คือรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของมันนั่นแหละ จะไปยังไง...ผมถามกับตัวเองก่อนจะดิ้นเพื่อหาทางหนีจากแมท แต่ไม่รอดหรอกครับ ผมเมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมาจุกเพราะโดนต่อยอีก จบกันเลยละชีวิต...

แมทจับผมนั่งหน้าเกยกับตัวถังรถ ส่วนมันนั่งหลังและก้มมาขับ กูยอมรับในความพยายามของมันเลยครับ ครั้นจะดิ้นหนีอีก ตอนรถมันแล่นอย่างนี้มีหวังได้ไปนอนโรงบาลแทนนอนที่ห้องแน่ๆ ผมต้องหมอบลงไปกับตัวรถ สงบเสงี่ยมไม่รั้นใส่ เอาจริงๆ มันเวียนหัวและจุกครับ เลยหมดฤทธิ์ไปเยอะ นั่งไปนั่งมาก็สลึมสลือ ตาจะปิดอีกรอบ สิ่งรอบด้านกลายเป็นภาพเลือนลางสำหรับผมไปซะแล้วละ

มารู้ตัวอีกทีก็ตอนแมทพยายามจะเอาผมลงจากรถของมัน ทุลักทุเลชิบ ตัวผมเล็กกว่ามันก็จริง แต่ไม่มาก ผมลืมตา ผลักมันแล้วเอาร่างตัวเองพิงกับรถไว้ อาการจุกผมหายแล้ว แต่อาการเมา พรุ่งนี้จะหายเปล่ายังไม่รู้เลยครับ

“เดินเข้าบ้านไปดีๆ บอม”

“ทำไมกูต้องทำตามที่มึงสั่งด้วยฮะ! เห็นกูเป็นไร ขี้ข้าอ๋อ สั่งจัง” ผมใส่อารมณ์กับแมทเต็มที่ แมทถอนหายใจ มันดูเหนื่อยกับการรั้นไม่ฟังของผม

“กูขอละบอม เข้าบ้าน” มันย้ำ ซ้ำยังก้าวเข้ามากดดันผมอีก

“ไม่!! กูไม่เข้า!!” แมทส่ายหัว มันไม่ฟังผมแล้วล่ะแบบนี้ สายตาดุๆ จ้องมองผมก่อนที่มันจะเอามือมาอุดปาก จากนั้นต่อยผมอีกรอบให้จุก แล้วอุ้มขึ้นลิฟต์มา ถึงมันจะหนัก แต่มันพยายามแบกร่างของผมมาจนได้

ถึงห้อง แมทเอาผมมาโยนลงบนเตียงแล้วถึงได้เปิดไฟ ผมรีบกระเด้งตัวนั่ง กลัวมันจะเข้ามาทำตามที่กล้ามันพูด “นอนคุย” เอาเข้าจริงๆ มันได้คุยกันที่ไหนละ มีอืออาเต็มห้องไปหมด เข้าใจอะไรกันบ้างถามจริง มันก็แค่ทำให้เรื่องขุ่นเคืองหายไปเพราะโดนเร้าโลมเท่านั้นแหละ ความซาบซ่านปัดเป่าเรื่องร้ายๆ ให้หายไป แต่! ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะใช้วิธีนี้ง้อตลอดอะสิ เรื่องอะไร ผมไม่ยอม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นเรื่องใหญ่ของคนที่รักกันนะเว้ย

“ดิวอะมันเป็นรุ่นน้องกู”

“กูไม่ฟัง!” ผมแรกทันทีที่แมทเริ่มพูด แทรกเสียงดังมากๆ อีกต่างหาก

“แต่มึงต้องฟังบอม”

“ไม่!!!” คราวนี้ตะโกนลั้นห้อง แมทรีบเข้ามาปิดปากผม แต่ไม่สำเร็จ ผมดิ้นและร้องตะโกนให้สุดๆ ถึงนี่จะเป็นคอนโดอย่างหรู ข้างห้องไม่ได้ยินเสียงเราแน่ๆ เพราะงั้นตัดใจเรื่องใครได้ยินแล้วเข้ามาช่วยไปได้เลย เพียงแต่ว่าแมทมันไม่ชอบเสียงดังแบบนี้เท่านั้นเอง ผมอยากให้มันเครียด อยากให้มันประสาทแดกตายๆ ไปเลย ผมเครียดของผมตั้งขนาดนั้น มันควรจะได้รับความเครียดของผมไปบ้างดิ

“ถ้ามึงไม่หยุดฟัง จะหาว่ากูใจร้ายไม่ได้นะบอม” แมทเดินเข้ามาช้าๆ ท่าทางค่อนข้างคุกคาม แต่ผมที่เมาอยู่มีหรือจะกลัว

“กูไม่หยุด! อยากจะทำไรกูก็ทำเลย แล้วอย่าคิดว่าหลังจากนี้เรื่องมันจะจบลงง่ายๆ กูไม่ปล่อยให้มึงกับมันอยู่กันอย่างมีความสุขหรอกมึงคอยดู”

“มึงนี่บ้าไปใหญ่แล้ว” มันยีหัวตัวเอง อารมณ์เสียหนักสิมึง กูก็อารมณ์เสีย ไม่ใช่มึงคนเดียว

มันมองไปรอบห้องสักพัก มองตาผม เห็นชัดเลยว่าผมไม่มีทางยอมมันเด็ดขาด ไม่ว่าตอนนี้ผมจะเมาหรือไม่เมา เรื่องแบบนี้ผมก็ไม่อ่อนข้อให้มันหรอก เรื่องอะไรจะต้องยอมให้มันทำร้ายจิตใจเราด้วยละ มันแอบไปกุ๊กกิ๊กกับคนอื่นเลยนะ มันหักหลังผมเลยนะเว้ย!

หลังจากมองหน้าผมไปพักใหญ่ มันก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วดิ่งมากดร่างผมลงกับเตียง ผมดิ้นรน ผมเอาตัวรอดสุดๆ ทำทุกวิธีทางที่จะหลุดพ้นเงื้อมมือของไอ้แมท แต่มันก็จับมือผมผูกติดกับหัวเตียงได้ ซ้ำยังเอาผ้ามายัดปากผมอีก ถึงจะลำบาลำบน เจ็บตัวกันไปบ้างแต่มันก็ทำสำเร็จ ผมมองมันด้วสายตาแข็งกร้าว แมทนั่งคร่อมช่วงเอวผมไว้ กันไม่ให้โดนเตะหรือถีบ ท่าทางมันดูเหนื่อย แต่ไม่เท่าผมที่หอบหายใจตาพร่าตามัวไปหมด

“ฟังกูนะบอม...กูกับดิวเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกัน แล้วที่กูต้องหยุดเพื่อไปรับสายมันก็มีสาเหตุ น้องมันอยากจะเซอร์ไพรส์แฟนด้วยแหวน ซึ่งแฟนมันอะก็เพื่อนกู น้องมันกังวลมาก มันกลัว มันตื่นเต้นไปหมด กูเลยบอกว่าถ้ามีอะไรก็โทรมาหาพี่ได้เลย กูแค่ให้กำลังใจน้องเขา น้องเขาขี้อายมากไปหน่อยเท่านั้นเอง อันที่จริงอะ...กูควรมีตัวตนอยู่ในงานเซอร์ไพรส์แฟนของดิวด้วยซ้ำ แต่เพราะกูคิดถึงมึง กูเลยรีบกลับมาหามึง” ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนของแมทยามเล่าให้ผมฟัง ใจผมจึงเย็นลง ยิ่งไม่ได้ดื้อ ดิ้นพล่านๆ ด้วย ทำให้ฟังทุกคำพูดนั้นได้ชัดเจน

เอาจริงๆ นะเว้ย...ลึกๆ ผมก็รู้แหละว่าต้องมีสาเหตุ แต่แบบ...มันอดคิดมากไม่ได้ มันไขว่เขว มันกังวลใจไปหมด เพราะแมททำในสิ่งที่มันไม่เคยทำมาก่อน

“กูรู้นะว่าที่ทำให้มึงคิดมากเพราะกูรับสายน้องเขา แถมยังไปคุยกันที่ระเบียงอีก แต่ในความจริงมันไม่มีอะไรเลย กูรับปากน้องเขาไว้เท่านั้น และที่ไปคุยข้างนอกก็เพราะในห้องมันมีเสียงทีวี” แมทโน้มตัวลงมาหา ใช้ริมฝีปากประทับบนหน้าผากและลากมาที่ปลายจมูกอย่างอ่อนโยน

เห้อะ...วิธีนุ่มนวนแบบนี้ได้ผลกับผมทุกทีสิหน่า!!

“มึงก็รู้...ว่ากูรักมึงคนเดียว ตลอดเวลาที่ผ่านมา กูยังแสดงให้มึงเห็นไม่มากพอหรอ” ผมหลบสายตาเศร้าๆ ของแมท เพราะเรื่องนี้มันพูดถูก มันไม่เคยมีใคร ไม่เคยกุ๊กกิ๊กกับใครเลยตั้งแต่คบกับผมมา เรียกได้ว่ารักเดียวใจเดียวตลอด จะเกเรก็มีแต่ผมนี่แหละ

“กูรัก กูหวงมึงอย่างกับอะไรดี มึงรู้ดีอยู่แก่ใจนะบอม” มือนุ่มแต่แข็งแรงดันปลายคางให้กลับมาเผชิญหน้า สบตากับแมทอีกครั้ง

“อย่าโกรธกูเลย กูขอโทษ...กูรักมึงคนเดียว” ปลายนิ้วเรียวนั้นค่อยๆ เกี่ยวเอาผ้าที่ปิดปากผมออก พร้อมๆ กับที่แมทกำลังเคลื่อนริมฝีปากสีสดเข้ามาใกล้

“ให้อภัยกูนะ กูจะไม่ทำให้มึงคิดมากอีกแล้ว...” ความนุ่มละมุนกับกลิ่นลมหายใจหอมๆ กำลังอบอวลอยู่ตรงปากของผม เปลือตาปิดลงและรับรู้ถึงความอ่อนโยนที่แมทได้มอบให้ หัวใจเต้นระรัว คำพูดของมัน การกระทำของมัน ละลายความโกรธของผมจนไม่เหลือซากเลย

“แต่กูดีใจนะ ที่มึงหึงกู...มึงรักกูมากเหมือนกันใช่ไหม” ดวงตาคมจ้องรอคำตอบด้วยความหวัง ผมพยักหน้า เสหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย
“อืม”
“กูดีใจที่สุดเลย” ไอ้สึสแมท มึงแม่งชอบทำตัวเป็นแมทน่ารักๆ ใส่กูเวลากูเคืองกูโกรธมึงทุกที...ทำแบบนี้ ใจกูก็อ่อนหมดสิ ใครมันจะไปใจร้ายใส่มึงได้ลงคอ
เฮ้อ...ไอ้ที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปทั้งหมดเนี่ย เพื่ออะไรวะ?!!


**********************
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-12-2016 20:07:13
โดยส่วนตัวไม่ค่อยถูกชะตากับนายเอกนิสัยแบบนี้เท่าไหร่
ดังนั้นถ้าเรื่องราวคลี่คลายไปในทางที่ดีกว่านี้เมื่อไหร่จะเข้ามาอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 21-12-2016 20:18:16
เจองี้แล้วก็ปรับปรุงตัวซะนะนังบอมมม
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-12-2016 20:23:49
อยากให้บอมเลิกทำแบบนี้  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 21-12-2016 23:01:35
คือ ชอบบอมนะ  :laugh: เป็นไรไม่รู้ แต่สะใจดี ตอนแมทโดนบอมโกรธ :pigha2: :laugh: :laugh: :jul3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: gaslong ที่ 22-12-2016 00:00:22
ดูแววแล้วบอมมีข้ออ้างแก้ต่างให้ตัวเองเยอะ  คงต้องให้แมททิ้งนู้นนางถึงสำนึก รอวันแมททิ้งบอม  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 3 [21/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 22-12-2016 00:05:05
ยังคาใจเรื่องจูบ ที่บอมว่าอะ บอมต้องเห็นจะจะสิ
บรรยายฉากได้ดีมากอะ
  รออ่านตอนต่อไปคับ   
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 23-12-2016 17:39:05
เธอมีชู้

บทที่ 4

คืนดีกับแมทได้ก็สบายใจครับ กลับมาเป็นบอมคนเดิม ดูแลตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ทาครีมกลิ่นหอมฉุยทั้งตัว หน้านี่ใสกิ๊ง แต่คอเนี่ยสิ ต้องเอารองพื้นกลบนิดหน่อย เพราะแมทดันทำรอยทิ้งเอาไว้เมื่อคืน อารมณ์มันพาไปครับผมเข้าใจ แต่ช่วยทำที่ที่มันลับตาคนนิดหนึ่ง แบบนี้ผมต้องระวังไมให้คนอื่นรู้

“ถามจริง มึงทำได้ไงให้หน้าใสขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อคือมึงเมาเป็นหมา” กล้าใช้ดวงตาอิดโรยมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ก็ต้องดูแลตัวเองสิวะ กูบอกแล้วให้มึงตาครีมบ้าง กินวิตามินอีกหน่อย หน้าอย่างมึงทำให้ดูดีได้ไม่ยากหรอกเชื่อกู” ผมนั่งลงกับที่ ยิ้มหวานใส่มันสองตัว

“กูไม่มานะเท่ามึงหรอก ดูแลตัวเองยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนอีก”

“ไม่ได้เว้ย กูต้องใช้หน้าตาในการเข้าหาสาวๆ” เชิดหน้าใส่พร้อมรอยยิ้มการค้า

“กูไม่รู้จะพูดยังไงกับมึงเลยบอม มึงจะเจ้าชู้ไปถึงไหนวะ มึงก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่โดนนอกใจนี่หว่า” หมดอารมณ์เก๊กหล่อเลย

ก็เข้าใจอะแหละ เรื่องเมื่อวานเป็นตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดี ผมทั้งเครียด ทั้งเสียใจขนาดไหนที่แมทดูมีแววจะไปมีคนอื่น มันจะเป็นเหมือนผมหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เวลามันได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวผม หรือว่าดูเหมือนผมจะแอบไปมีคนอื่น ชั่วแว้บหนึ่งผมก็คิดนะว่าแมททนมาได้ยังไง กับความรู้สึกที่ไม่มั่นคงเอาเสียเลย มันต้องคอยระแวงผมตลอดเวลา คอยจับผิดเพราะกลัวผมนอกใจ ผมว่ามันเหนื่อยนะ ถ้าเป็นผม ผมคงเลิกไปแล้ว...

เห่อๆ ขนาดตัวเองยังอยากจะเลิกกับตัวเองเลย

แต่ว่าการนอกกายกับการนอกใจผมว่ามันคนละส่วนนะ ผมแค่หาความตื่นเต้นเท่านั้นเอง ไม่ได้จริงจังอะไร คบแป๊บๆ แล้วก็จาก มันก็แค่นั้นนี่นา ผมเชื่อมั่นในตัวเองว่าจะมีแค่แมทคนเดียวแน่นอน ของเล่นเราไม่นับความสำคัญอยู่แล้ว

“แล้วสรุปแมทมันนอกใจมึงหรือเปล่า” เต้ถามเสียงอ่อนแรง มันดูเมาค้างเหมือนทุกวัน คงสภาพนี้มาได้ยังไงตลอด แทบไม่เห็นมันพักจากการดื่มเลยด้วยซ้ำนะ

“เปล่า รุ่นน้องอะ เห็นว่าที่ต้องรับสายทั้งที่กำลังทำกับกูเพราะว่ารับปากน้องเขาไว้”

“ของแมทมันก็เห็นกันชัดๆ อยู่แล้วว่ามีเหตุผลที่ดี ไม่เหมือนมึงหรอก มองยังไงมึงก็มีชู้ มันยังไม่ทำตัวแบบมึงเลย เฮ้อ...กูสงสารแมทที่มีมึงเป็นแฟน” ผมเอาสมุดตบหัวกล้า

“กูเพื่อนมึงนะ พูดจาเข้าข้างกูบ้าง อย่างกูเขาไม่เรียกมีชู้ แค่กกิ๊กกั้กขำๆ”

“ส่ำส่อน!” มันว่าใส่หน้าผมเสียงหนักแน่น ถ้าเป็นคนอื่นว่าผมคงจะเคือง แต่พอเป็นไอ้กล้าเพื่อนสนิท ผมกลับยิ้มรับหน้าบาน

“กูไม่ได้ส่ำส่อน แค่ทั่วถึง” กล้าเบะปากใส่ ทำหน้าเอือมระอาผมสุดๆ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าผมเป็นไง พูดไปใช่ว่าผมจะยอมเปลี่ยนนิสัยนี้เสียหน่อย

ผมไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ตัวเองเป็นนั้นคือนิสัยเสียที่ต้องแก้ มันเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น ไม่คิดว่ามันเท่หรือไงที่เรามีเสน่ห์มากขนาดที่ว่าทั้งหญิงทั้งชายต่างมาหลงรักน่ะ ไม่ได้เป็นแบบผมกันได้ง่ายๆ นะ แถมเวลาสลับรางได้เนี่ยมันภูมิใจสุดๆ คนพวกนั้นแค่ไม่กล้าที่จะทำแบบผม ไม่ก็ยึดติดจนเกินไป มองความรักไปตามแบบแผนงั้นงี้นี่นั่น น่าเบื่อออก ชีวิตคนเรามีอยู่แค่นี้ รีบใช้ให้มันคุ้มไม่ดีกว่าหรือไง อะไรที่มีความสุข ทำได้ก็ทำไป มันก็แค่นั้นเองนี่นา

อีกอย่าง ก่อนจะมาเป็นของแมทผมก็เป็นของผมแบบนี้ ถ้าจะมาหาว่าผมผิด ช่วยคิดถึงก่อนที่เราจะคบสักนิดว่าผมเป็นแบบไหน ผมไม่ได้มีนโยบายในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครนะ เพราะผมพอใจในความเป็นตัวเอง แค่สิ่งที่ผมทำมันประกาศออกมาโต้งๆ ไม่ได้ เขาและเธอที่ผมคบจะไม่พอใจเอา ทั้งที่ถ้าเปิดใจให้กว้างสักหน่อย มันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิตคนเราเท่านั้นเอง

“เอาเถอะ มึงจะทำตัวยังไงก็เรื่องของมึง พวกกูเป็นแค่เพื่อน ทำได้แค่ตักเตือน เพราะถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ พวกกูคงช่วยไรมึงไม่ได้ แต่กูอยากบอกไว้อย่างนะบอม การนอกใจหรือกายอย่างที่มึงทำอยู่น่ะ มันถือว่าเป็นบาป และบาปกรรมมันจะเข้าตัวคนกระทำเสมอ” ผมและกล้ามองหน้าเต้แบบโคตรอึ้ง ตกตะลึงกับคำเทศนาที่ออกจากปากมันแบบตาดไม่ถึง

“ไม่ต้องอึ้งขนาดนั้น” เต้ว่า สีหน้าแหยๆ

“กูนึกว่าพระมาเอง” ผมแซว

“ไม่เข้ากับขี้เมาอย่างมึงเลยเหอะ” กล้าไม่พูดเปล่า ผลักหัวไอ้เต้ด้วย

“กูแค่ขี้เมา กูชอบดื่ม ผิดตรงไหน รู้ว่าผิดศิล แต่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนปะวะ อีกอย่างก็ไม่อยากพูดหรอก กูแค่อยากเตือนเท่านั้นแหละ ห้าว~” พูดจบก็หาวแล้วฝุบโต๊ะไป ผมกับกล้ามองหน้ากัน แอบขำในความผีเข้าผีออกของเพื่อนสนิทติดเหล้าคนนี้

ผมส่ายหัวเบาๆ ให้กับเพื่อนของตัวเอง มันคงยังไม่สร่างเมาเลยละเมอเพ้อพกไปเรื่อยตามประสาแอลกอฮอล์ริซึ่ม แอบคิดติดตลกในใจเหมือนกันว่าให้มันน่ะเลิกเมาให้ได้ก่อนค่อยมาสอนกูดีกว่า คนที่เหมาะกับคำพูดแนวๆ นี้น่นจะเป็นไอกล้า เพราะมันคนเดียวเท่านั้นที่ใสไร้เดียงสาที่สุด วันๆ เล่นแต่เกม อะไรๆ ก็เกม ดูเป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโต ก็เคยว่ามันนะ แต่มันบอกว่าเกมคือรายได้ของกู ผมก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ ปล่อยมันไปเหอะ คนเล่นเกมอะ มันอ้างได้ทุกอย่างเหมือนคนจะกินเหล้านั่นแหละ

แต่เอ๊ะ...คนอย่างผมก็เหมือนกันนี่หว่า

หาข้ออ้างสารพัดเพื่อจะมีหญิงคนอื่น ทั้งที่ความจริงผมก็อาจจะเป็นแค่คนไม่รู้จักพอในสิ่งที่ตัวเองมีก็ได้ แต่ไม่! ผมจะไมว่าตัวเองแบบนั้น ความเชื่อมั่นทำให้คนเรามั่นคงทางอารณ์ ผมต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ผมไม่ได้หาข้ออ้างเลย มันคือเรื่องจริงในความรู้สึกของผมต่างหาก คนอื่น ก็แค่ไมเข้าใจในสิ่งที่ผมเป็น

นั่งคิดอะไรเพลินๆ ไปพักเดียว อาจารย์ก็เข้าสอน ผมตั้งหน้าตั้งตาเรียนและพิมพ์ข้อความแชตกับพี่พูใต้โต๊ะ ต้องห้ามสมาธิขาด ไม่งั้นจะดูรู้ทันทีว่าผมแอบเล่นมือถือในห้องเรียน ผมไม่อยากโดนด่านา...เพราะงั้นทำเนียนเข้าไว้ ขนาดแมทมันยังเชื่อเลย อาจารย์ที่ไม่ได้ใกล้ชิดผมก็ต้องเชื่อเป็นธรรมดา
“เอาละค่ะ สำหรับวันนี้พอแค่นี้แล้วกันนะคะ แล้วอย่าลืมส่งงานอาจารย์ตามกำหนดด้วย” เหมือนได้ยินเสียงสวรรค์ ผมพิมพ์บอกพี่พู่ว่าต้องไปกินข้าวกับเพื่อน และสลับแชตไปชวนบัวมากินมื้อเที่ยงด้วยกันแทน ยังไงพี่พู่ก็ไม่ค่อยมากินที่โรงอาหารอยู่แล้ว สบายใจได้
ขอโทษนะพี่พู่...วันนี้ของพี่เอาไว้สักวัน~

“แหนะ ชวนกิ๊กไปกินข้าวอีกละ กูละอยากให้แมทจับได้จริงๆ” เสียงกล้าดังมาจากทางด้านข้าง นึกว่ามันลุกไปก่อนแล้วเสียอีก

“ไอ้เพื่อนเวร เพื่อนกันต้องเข้าใจกันสิวะ”

“กูก็อยากเข้าใจคนส่ำส่อนอย่างมึงเหมือนกันอะ แต่ทำไงก็ไม่เข้าใจ” กล้าทำหน้าเครียด

“นั่สิ คิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนี้ ไม่คิดถึงแมทบ้างหรอวะ” เต้เงยหน้าจากโต๊ะถาม มันหาวแบบสุดปากแล้วนั่งหลับตาเหมือนตั้งตัว

“ก็คิดถึง...”

“คิดถึงว่าจะทำยังไงให้แมทไม่รู้ดีน้า” กล้าตอบเสียงลั้นลา ผมยิ้มแป้นแล้วยกนิ้วโป้งให้มัน

“ถูกต้องเพื่อน รู้ใจกูจริงๆ” พอมันเห็นผมยิ้มรับหน้าบานมันก็เมะปากคว่ำ

“หัดสำนึกบ้างว่ากูด่ามึงอยู่” อ่าว...ใครจะไปรู้ นึกว่าเข้าใจผมเสียทีว่าทำไมผมถึงทำแบบนี้

“แต่ก็นะ คนอย่างมึงคงสำนึกอะไรไม่ได้” ไอ้กล้านี่แดกดันผมจริง

“เมื่อไหร่จะเลิกกัดกูสักทีวะ เพื่อนกันปะหนิ” ผมว่าหน้าเครียด เมื่อกี้คิดว่าขำๆ แต่พออะไรมากไป มันก็ชักคิดจริง

“ก็เมื่อไหร่มึงจะเลิกทำตัวแบบนี้ละวะ ถ้ามึงเลิกทำตัวแบบนี้เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้นแหละที่กูจะเลิกกัดมึง แต่กูคิดว่ายากนะ ขนาดแฟนมึงเหมือนจะมีคนอื่นจนึงเครียดแมบตาย มึงยังไม่สำนึกเลยว่าแมทน่ะแค่ แต่มึงอะมีเลย” กล้าเน้นประโยคท้ายใส่หน้าผมเต็มๆ ผมกะจะตบปากมันละ แต่เต้ดึงมันออกไปก่อน

เต้หาวอีกรอบ มันไม่พูดอะไรแค่ใช้สายตาปรือๆ มองเราสองคนที่กัดกันอย่างกับหมา จากนั้นมันก็หยิบกระเป๋ามาสะพายแบ้วเดินนำออกไป ผมกับกล้าจึงต้องรีบเดินตามมัน และทิ้งเรื่องการกัดจิกเมื่อครู่นี้เอาไว้ เต้มันควรำคาญ มันไม่ใช่คนพูดเยอะ ไม่ใช่คนช่างจิกช่างกัดเหมือนกับกล้า แต่ก็ใช่ว่ามันไม่กวนตีนหรอกนะ เต้ก็ผู้บายปากหมาคนหนึ่งเหมือกันแหละครับ เพียงแต่ในแต่ละวันของมันจะมีความง่วง ความแฮ็งค์อยู่ตลอด มันเลยไม่ได้พูดมาก หาแต่เวลางีบเท่านั้นเสียมากกว่า

ระหว่างเดิน กล้าเข้าไปกอดคอเต้ พูดกันสองคน ผมอยากแจมแต่ขอโทรหาบัวก่อน บัวนี่ก็รุ่นเดียวกัน อยู่มอเดียวกัน แต่ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบัวน่ะเรียนคณะอะไร ปกติคนประเภทผมจะจดจำรายละเอียดของบรรดากิ๊กได้แม่นยำ แต่ว่าเรื่องนี้ผมจำได้ไม่จริงๆ หรือไม่ได้ถามก็ไม่รู้นะ

“พวกมึง กูไปหาบัวนะ” ผมรีบเดินไปสะกิดเมื่อนัดกับบัวได้แล้ว

“บัวไหนวะ” เต้หน้างง

“เออนั่นดิ ปกติต้องพี่พู่ไม่ใช่หรอมึง” กล้าถาม

“คนใหม่อ่ะ คุยกันในเฟซมาสักระยะแล้ว รูปในนั้นก็ดูดีอยู่ แต่ตัวจริงแม่งดูดีกว่า เมื่อวานกูบังเอิญเจอ” เล่าให้พวกมันฟังอยากภาคภูมิใจ กล้าเบะปากใส่อีกเช่นเคย ส่วนแต่แค่ทำตาโตแป๊บหนึ่ง

“เออ แค่คนเดียวกูก็สงสารแมทจะแย่ นี่เล่นสอง กูไม่รู้จะสงสารแมทหรือพี่พู่ของมึงดีเลย...” กล้าเอาหน้าผากวางลงบนไหล่ของเต้ด้วยท่าทางเหนื่อยใจ

“ระวังก็แล้วกัน” เต้มันบอกแค่นั้นแล้วก็กอดเอวกล้าเดินจากไป

พวกมึงจะกอดเอวกันทำไม?

กล้ากับเต้ไม่ได้เป็นอะไรนะครับ พวกมันแมนๆ ทั้งคู่ แมนมากขนาดที่ว่าถึงผมจะเป็นเกย์แต่พวกมันก็ยังกล้าคบ ก็คือตอนแรกที่ผมรู้จักพวกมัน พวกมันยังไม่รู้ว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชายครับ ผมควงหญิง จีบหญิง แซวหญิงเป็นปกติเหมือนผู้ชายทั่วไป จนมารู้ทีหลังว่าแท้ที่จริงผมมีแมทเป็นแฟน พวกมันอึ้งเหมือนกัน แต่ไม่ซีเรียต จะเครียดก็แค่ความเจ้าชูประตูดินของผมนี่แหละ ก็นะ...ต้องเข้าใจคนหล่อกันหน่อย หน้าตาดีทั้งทีมันก็ต้องใช้ให้คุ้ม จะอยู่เฉยๆ สงบเสงี่ยมเป็นแฟนที่ดีมันนะไปเร้าใจอะไรละ

ผมนัดบัวเอาไว้ที่หน้าตึกคณะผม ก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดที่ให้ผู้หญิงมาหานะครับ แต่บัวเป็นคนบอกเองว่าจะมาหาปมที่นี่ ไม่ต้องไปรับเธอ อาคารเรียนของเธอค่อนข้างไกลและเธอเองก็ไม่มีเรียนบ่าย ไม่เหมือนผมที่บ่ายนี้ยังต้องเข้าเรียนอีกสองวิชาถึงจะเลิก

ผมเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดี ในมือกดตัวอักษรตอบแชตพี่พู่ที่ทักมาถามว่าพักเที่ยงหรือยัง ไปกินข้าวที่ไหน ผมได้จังหวะเลยบอกว่าคิดถึง อยู่ไหนถ่ายรูปให้ดูหน่อย พี่พู่ก็ทำตามครับ ด้านหลังพี่เขาคือโรงหนัง พี่พู่ไปดูหนังกับเพื่อนๆ เพราะเห็นว่าผมไม่ว่างไปทานข้าวกับเธอ ผมบ่นเสียดายและบอกให้เธออย่านอกใจผมนะ อ้อนน่ารักใส่อีกฝ่ายนิดหน่อย พี่พู่ก็เขินใหญ่ ผมรู้หรอก ต่อให้ไม่เห็นหน้าก็ตาม

พี่พู่อยู่ไกลจากผมแบบนี้...สบายละครับ

ไม่ต้องกังวลดีว่านั่งกินข้าวในโรงอาหารแล้วจะบังเอิญเจอกัน ดูจากรูปนี่ไปกับเพื่อนทั้งก๊วนเลย ไม่มีใครรู้เห็นไปฟ้องแน่ แต่ถ้ายังมีเพื่อนเขาหลงเหลือจนเอาเรื่องนี้ไปบอก ผมก็จะแถเอา คิดไว้คร่าวๆ ว่าจะบอกว่าหน้าเหมือน ไม่ก็คล้ายๆ หรือก็นั่นแหละเพื่อน มันเป็นสาวประเภทสอง พี่พู่เชื่อผมอยู่แล้ว ก็หลักฐานมันไม่มีให้จับได้นี่นา ยังไงๆ ถ้าเกิดเรื่องนี้แดงแล้วทางพี่เขาไม่มีหลักฐานแน่หนาพอ ผมก็จะเถียงสู้ขาดใจเลย ผมว่าผมชนะใจพี่พู่ได้แน่ ยังไงก็เอาตัวรอดได้ชัวร์ๆ ละ

“บอม...” เสียงเรียกหวานๆ ของบัวทำให้ผมกดบอกพี่พู่ไปว่าผมไปก่อนนะ เพื่อนบ่นผมใหญ่ละว่าผมน่ะติดแฟน พี่เขาสติ้กเกอร์หัวเราะมาให้แล้วอวยพรให้มื้อเที่ยงอร่อยๆ

อร่อยแน่นอนครับพี่พู่...
“ดีจ้ะบัว รอบอมนานไหม ขอโทษทีมาบ้านะ อาจารย์สั่งงานเยอะมากๆ เลยละ” ผมยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร พร้อมเหตุผลการมาช้าที่ผมใช้โคตรบ่อย

“ไม่นานหรอก อย่าคิดมาก บัวเพิ่งจะมาถึงได้สักพักนี่เอง” เธอยิ้มโลกละลายให้กับผม แต่ถ้ามองต่ำลงไปอีกหน่อย หัวใจผมจะละลายแทน ผู้หญิงอะไรร่างกายไม่สมดุลเลย ตัวเล็กนิดเดียว แต่หน้าอกหน้าใจ...โคตรใหญ่!

“งั้นไปหาอะไรกินกัน บัวอยากกินอะไรเอ่ย” ยื่นหน้าไปถามใกล้ๆ เธอผงะนิดหน่อย หน้าก็บมพูระเรื่อขึ้น โอ้ย วัยใสไปไหนนะคนนี้

“ฮั่แน่ คิดนานแบบนี้แสดงว่ากินบอมแน่ๆ เลย” ผมรีบพูดต่อ บัวหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม มือน้อยๆ ตีอกผมเบาๆ

“บ้าน่ะบอม พูดอะไรก็ไม่รู้”

“ไม่รู้แล้วหน้าแดงได้ไงอะ ไม่ต้องมาเนียนเลย คิดลึกก็บอกมา” แหน่เข้าให้อีก ดูซิ หน้าจะแดงไปได้ถึงไหนกัน

“บ้า” บัวพูดไม่ออก เธอหันไปทางอื่น หูเริ่มแดง นี่เพราะตัวขาวมากใช่ไหมนะ ถึงเห็นสีชัดขนาดนี้

“โอ๋ๆ บอมไม่แกล้งละจ้ะ ไปหาอะไรกินกัน” ถือวิสสะเข้าไปดึงมือเธอมาจูง มือเธอเย็นมาก คงเขินผมมากแน่ๆ

โอ้ย...ใสๆ แบบนี้ก็ฟินดีเหมือนกันนะครับ

อารมณ์เหมือนป๊อปปี้เลิฟสมัยประถมเลยอ่ะ อะไรๆ ก็เขินกันไปหมด ถึงผมจะไม่เขินเธอแบบที่เธอเขินก็เถอะ แต่แค่ได้เห็นปฏิกิริยาเหล่านั้นแล้วก็กระชุ่มกระบวยหัวใจดีจริงเชียว นี่ผมเผลอคิดไปยันเรื่องใต้สะดือเลยนะ ถ้าทำกันอะ บัวไม่ตัวแตกตายเลยหรอ น่าสนเนอะว่าไหม ที่แน่ๆ อะนะ ผมอะน้ำแตกแน่~

คิดอะไรทะลึ่งเชียวเรา!

ก็ดูหน้าอกหน้าใจนั่นสิ ไม่ให้คิดอะไรคงไม่ได้อะนะ เชื่อว่าผู้ขายมากมายที่มองบัวก็คิดเหมือนผมหมดแหละ อยากฟันเธอจัง อะไรแบบนี้ ก็เล่นหุ่นเอ็กส์ซะขนาดนั้นนี่ครับ ไม่รู้ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะหลอกล่อให้เธอพลีกายให้ผมได้ ดูเหนียมๆ ใสๆ แบบนี้เหมือนจะง่ายแต่ไม่แน่ ผู้หญิงบางคนหวงตัวจะตาย ขณะเดียวกันบางคนก็ง่ายจะตายเข่นกันอะ

ผมและบัวเดินมาถึงโรงอาหารด้วยเวลาไม่มากนัก ผมให้บัวจองโต๊ะ ส่วนตัวเองก็ไปหาซื้อข้าวเที่ยงและน้ำ เนื่องจากเวลาที่ผมมามันเที่ยงกว่าเกือบครึ่งแล้ว คนเลยไม่เยอะเหมือนวันนั้นที่ผมลงมาพร้อมเพื่อนๆ ส่วนร้านน้ำต่อคิวนานเลยละครับ คนยังเยอะอยู่เพราะถยอยมาซื้อกันเรื่อยๆ ระหว่างเดินไปซื้อก็เจอไอ้เต้กับกล้า มันกินกัเสร็จละ นั่งคุยกัน ผมขยิบตาให้พวกมันเล็กน้อยก่อนเดินกลับโต๊ะไม่พูดคุย

“รอนานป่ะ คนเยอะมากเลยอ่ะ” ผมวางชานมกับกาแฟลงบนโต๊ะ บัวยังไม่กินข้าวที่ผมซื้อมาให้ คงรอกินพร้อมกัน

“ไม่นานหรอก บัวเข้าใจ เวลนี้นักศึกษาเยอะ แต่บอมสิ เหงื่อออกเต็มเลย เช็ดหน้าก่อนไหม” บัวยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ ผมยิ้มรับ

“บังเช็ดให้บอมหน่อยสิ” ขยับใบหน้าเข้าไปให้ใกล้มือสวย บัวดูเขินมากแต่ก็เช็ดให้ผมดีๆ

“ขอบคุณครับ” เรียบร้อยผมก็นั่งกินข้าวหน้าบาน

มีความสุขจริงจริ๊งได้นั่งกินข้าวกับสาวสวยแบบนี้ พี่พู่กันก็สวยนะ แต่คนละแบบ คนนั้นสวยแบบผู้ใหญ่ มีความเซ็กส์ซี่ชวนให้คึกคัก แต่บัวเขาน่ารักกระชุ่มกระชวยหัวใจ มองเธอทำอะไรก็ดูเพลินไปหมด ไม่เหมือนพี่พู่ที่เห็นแล้วอยากลงเตียงด้วยกันมากกว่า แต่ถ้าเลื่อนสายตาไปยังหน้าอกหน้าใจของบัว ฉากบนเตียงก็เข้ามาในหัวเหมือนกันนะ

เรานั่งกิน นั่งคุยกันอย่างเพลิดเพลิน ปล่อยมุกแซวเธอไปหลายดอก ได้เห็นใบหน้ายามขวยเขินนั่นแล้วอดใจแทบไม่ไหว นี่อยากจะชวนไปห้องซะจริงๆ ยังไม่ต้องยินยอมก็ได้ เดี๋ยวมอมเหล้าหน่อยก็ย้วยเองละ

ปึ้ง!

ขณะที่เพลิดเพลินกับบรรยากาศฟรุ้งฟริ้วอยู่ แขกไม่ได้รับเชิญก็กระแทกกระเป๋าลงบนโต๊ะของเราสองคน ผมไม่ได้สนใจหรอก เพราะโต๊ะกินข้าวมันยาว คนอื่นจะมามานั่งกินด้วยก็มาแปลก อาหารของผมกับบัวก็หมดแล้ว ดํเหมือนนางเล่นนั่งคุยกันมากกว่า คนมาใหม่คงคิดว่าเดี๋ยวเราก็ไป ซึ่งมันก็จริงแหละครับ แต่เล่นกระแทกของมารุนแรงแบบนี้ก๋ดสียมารยาทไปหน่อย ผมเงยหน้ามองกะจะต่อว่าที่ทำตัวไม่ดีใส่เรา แต่ก็ต้องชะงัก หน้าซีด เหงื่อตก...แม่เจ้า!

“มะ..แมท”

“เออ กูเอง” ตาขวางมากครับ ผมมองแมทสลับกับบัว ซึ่งบัวก็มองแมทสลับกับผม ต่างจากผู้มาเยือน จ้องผมเขม็งเลย

“นั่งก่อนสิมึง” แมทนั่งลงอย่างว่าง่าย

“เอ่อ...ใครหรอบอม” บัวคงเห็นว่าอีกฝ่ายมาอย่างไม่เป็นมิตรเลยถามดู

“นี่แมท รูมเมจบอมเอง ส่วนนี้บัวเพื่อนกู” ผมแนะนำบัวเสียหวาดๆ ไม่กลัวบัวรู้หรอกว่าผมกับแมทเป็นอะไรกัน แต่กลัวแมทสงสัยมากกว่า

“ดี แล้วเต้กับกล้าละ” แมทถามหาซี้ทั้งสองของผม

“ไม่รู้อะ คลาดกับมันตอนออกมาจากคลาส วันนี้ไม่ได้นั่งด้วยกัน” ดูแปลกๆ ไปหน่อย แต่เห็นแมทพยักหน้ารับผมก็เบาใจ

สีหน้าแมทดูดีขึ้น มันดูไม่ติดใจอะไรมาก เช่นเดียวกับบัว ถึงดูว่าแมทอารมณ์ไม่จอย แต่เธอก็ไม่สงสัยอะไร ต่างคนต่างนั่งเล่นคล้ายดูเชิง ผมสิต้องเป็นคนดูเชิงคนทั้งคู่ เกิดพูดอะไรส่อออกมาหน่อยเดียวรับรองไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องสงสัยแน่นอน
“เข้าคลาสกี่โมง” แมทถามผมเสียงเรียบ มันมองบัว สำรวจก่อนจะเริ่มยิ้มตามแบบฉบับของเจ้าตัว ด้วยความที่แมทเป็นคนยิ้มมีเสน่ห์ มันจึงเป็นมิตรทันทีที่คลี่ยิ้มหวานออกมา ถึงผมจะชินกับรอยยิ้มของมัน แต่ต้องบอกว่ามัยิ้มได้ละมุนละไมมากๆ
“บ่ายสองอะมึง” ผมบอก
“งั้นกูไปซื้อข้าวแป๊บ” เข้าใจความหมายได้ในทันที แมทจะให้ผมนั่งเป็นเพื่อนมัน แต่ผมอยากจะไปเดินเล่นต่อกับบัวอะสิ เธอเลิกเรียนแล้ว เสร็จจากมื้อเที่ยงคงกลับบ้าน อดทำแต้มต่อเลย เซ็งเบาๆ


มีต่ออีกนิดจ้า :katai5:
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 23-12-2016 17:43:28
 :katai5:ต่อค่ะ

ผมกับบัวมองแมทเดินจากไป กระเป๋าเรียนมันวางอยู่บนโต๊ะ จะชิ่งก็คงไม่ได้ เออ...เป็นแฟนมันไปชิ่งมัน มีหวังโดนสงสัยกันพอดี ผมแอบถอนหายใจหน่อยๆ เสียดายเวลาที่ได้อยู่กับบัว มันบ่างน้อยนิดจริงๆ เราเพิ่งจะนั่งเล่นด้วยกันแค่ชั่วโมงเดียวเอง กะว่าจะให้เธอไปส่งเข้าคลาสสักหน่อย แบบนี้คงต้องแยกกันเพื่อไม่ให้แมทสงสัย เพราะผมไม่รู้จริงๆ ว่าแมทจะไปตอนไหน อาจรอส่งผมเลยก็ได้

“เพื่อนบอมตอนแรกดูน่ากลัวจัง” ตอนแรกน่ากลัว แสดงว่าตอนนี้มันน่าหม่ำละสิ

ไม่ต้องห่วงผมหึงแมทกับหญิงสาวคนไหน แมทมันเกย์แท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ถึงจะเคยเป็นผู้ชายธรรมดาคบหญิงมาก่อน แต่ช่วงที่มันคบผม มันยอมรับกับผมตรงๆ ว่าตอนนี้มันไม่ชอบผู้หญิงแล้ว ถึงสวยสดแค่ไหน มองไปก็ไม่มีอารมณ์อยู่ดี ไม่เหมือนผู้ชาย เห็นแล้วคึก โดยเฉพาะผู้ชายน่ารัก ตัวเล็ก ก็แปลกดีครับ สเปกมันก็ยังดูเป็นผู้ชายใจหญิง แต่ถ้าออกสาวเมื่อไหร่โดนเขี่ยทิ้งแน่นอน มันไม่ชอบ บอกถ้าจะเอาผู้ชายที่แสดงกิริยาเหมือนผู้หญิง มันเอาผู้หญิงไปเลยง่ายกว่า

รสนิยมของแมทก็ใช่ว่าเป็นรสนิยมตายตัวของเกย์นะครับ บางประเภทเขาก็ไม่แคร์ว่าชายที่คบจะออกสาวไหม ซึ่งบางคู่นี่ออกสาวทั้งคู่ยังมีเลย มันเป็นเรื่องบนเตียงของคนสองค ตกลงกันได้ ยอมรับกันได้มันก็โอเค ยิ่งอย่างเราๆ ยิ่งต้องคุยกัน ไม่เหมือนชายหญิงที่ดูชัดเจนถึงสถานะบนเตียง และถึงผมจะชอบให้แมทกอด และตัวเองชอบกอดผู้หญิงคนอื่นก็ใช่ว่าจะอยากกอดผู้ชายคนอื่นนะครับ ผมเคยคิด แมทก็ท้าให้ลอง แต่มันไม่ไหวจริงๆ กับผู้ชายผมชอบถูกกอดมากกว่า ให้ไปกอดนี่ขอบาย แต่กับผู้หญิง ยังไงๆ ก็ต้องกอดเธออยู่แล้วครับ เร้าใจดีด้วย

อ้อ ผู้ชายที่จะกอดต้องเป็นแมทเท่านั้นนะครับ คนอื่นน่ะผมนึกภาพไม่ออกเลย แถมยังรู้สึกไม่ชอบด้วย เอ...ผมแปลกไปไหม มีใครเป็นอย่างผมหรือเปล่า คือผมก็ยังชอบผู้หญิง แต่ส่วนตัวก็ชอบที่โดนแมทกอดอะ คิดนะ ถ้าเลิกกับแมทผมจะกลับไปคบหญิง มันเป็นอะไรที่ผมชอบมากกว่า

“มันคงอารมณ์ไม่ดีมาจากเรื่องเรียนละมั้ง ปกติมันยิ้มหวานออก”

“อื้อ ยิ้มหวานจริงๆ แหละ...” บัวยิ้มบางๆ ตกหลุมเสน่ห์ของแมทเข้าละสิ

แมทเดินเข้ามา ในมือถือจานข้าวพูนๆ บนใบหน้าประดับรอยยิ้มเป็นกันเอง ดูเป็นมิตรกับทุกๆ คน มันนั่งลงแล้วเริ่มตักอาหารใส่ปากตัวเอง ท่าทีไม่รีบร้อน คงมีเวลามากอยู่กว่าจะเข้าคลาสต่อไป

“บอมกับบัวทานอะไรเป็นมื้อเที่ยงหรอ” แมทชวนคุย

“ของบัวข้าวผัดกุ้งจ้ะ ส่วนบอมเขากินกะเพรา” บัวตอบแทนผม เธอยยิ้มน่ารักให้กับแมท

ถึงผมจะไม่หึงแมทกับบัว แต่กลัวว่าบัวจะปันใจให้แมท ดูๆ แล้วสองคนนี้เหมาะสมกันสุดๆ บัวดูน่ารักเรียบร้อย แมทก็ดูสุภาพบุรุษเท่บาดใจสาว อย่างนี้ผมต้องรีบทำแต้ม ฟันบัวให้เร็วที่สุด ไม่งั้นอาจเสี่ยงที่บัวจะหันเหความสนใจไปหาแมทได้

“น่าอร่อยเนอะ ตอนนี้ร้านอร่อยๆ ขายกันหมดแล้ว ผมละอดกินเลย” แมทยิ้มอ่อน

“เลิกช้าเองนี่นา” ผมบ่นลอยๆ ไม่จริงจัง สายตาจับจ้องไปที่บัว ดูปฏิกิริยาครับ

“ช้าที่ไหน นี่เร็วแล้ว เลิกคลาสบ่ายโมง เดี๋ยวต้องเข้าเรียนตอนบ่ายสองเหมือนบอมอะแหละ” แมทพูดพร้อมยิ้มหวานๆ ตามนิสัย

“เรียนหนักเหมือนกันนะ ของบัวเลิกแล้วละ สบาย” บัวคุยอวดเสียงสดใส

“น่าอิจฉาจังครับ นี่ผมยังต้องไปทำรายงานเย็นนี้อีก คืนนี้อาจดึกตามเคย” หูเริ่มกระดิกเมื่อได้ยินคำว่ากลับดึก

“เรียนหนักๆ อย่างนี้ต้องดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”

“ครับผม” ยิ้มหวานตาหยีเชียว

ผมไม่ได้สนใจเขาคุยกันเท่าไหร่ เพราะคำว่ากลับดึกน่าสนกว่าเยอะ เท่ากับว่าวันนี้ผมเลิกเรียนแล้วมีเวลาปันให้กับพี่พู่กันด้วย โอ้โห มันยอดไปเลยจริงๆ นะ คิดไว้คราวแรกว่าวันนี้คงต้องทิ้งพี่พู่เอาไว้ก่อน เพราะมื้อเที่ยงผมก็ยกให้บัวไปแล้ว ตกเย็นต้องกลับห้องไปหาแมท แต่แผนเปลี่ยนละครับ สบายผมเลยทีนี้

“อมอยิมอะไรคนเดียวอะมึง” แมทถาม ดวงตาใสซื่อของมันสำรวจใบหน้าผม

“เปล่าหนิ กูอมยิ้มหรอ...” แสร้งทำเป็นไม่รู้ ก็จริงๆ ไม่รู้หรอกว่าออกอาการไปมากขนาดคนนอกเห็นเนี่ย

“ใช่อะสิ คิดไรอยู่หรอ”

“ก็เรื่อยเปื่อยอะมึง ไม่มีไรมากหรอก กินข้าวไปเหอะ” แมทเหมือนจะอยากรู้ถึงความคิด อย่าเลย...ถ้ามันรู้ผมตายแน่ๆ เรื่องไรผมจะต้องยอม ผมยังอยากคั่วหญิงอยู่นี่นา

“สายตาเจ้าเล่ห์แบนั้นคิดอะไรอยู่แน่ๆ” บัวหยอก

“บ้า...บอมเปล่า” ผมทำเป็นเขิน แล้วหัวเราะเหมือนเรื่องที่เรากำลังคุยนั้นเป็นเรื่องตลกสิ้นดี

ซึ่งมันก็ได้ผล แมทกับบัวขำตามและเปลี่ยนไปเรื่องอื่นอย่างไว อย่างแมทเรียนอะไรหรอ ทำไมเรียนหนักจังเลย เราเรียนนี่นะ บลาๆ ผมเองก็พูดคุยอย่างร่าเริง ทั้งที่ในมือกำลังพิมพ์แชตหาพี่พู่ บอกกับเธอว่าเย็นนี้ผมไปหาเธอได้ไหม พี่พู่เลิกเรียนก่อนผม ผมเลยจะไปเจอที่บ้านเธอทีเดียว จะได้ไม่ต้องมานั่งรอนานๆ เธอก็ตอบกลับมาด้วยความยินดี

แฟนกัน...ได้อยู่ด้วยกัน สวีตกันก็ต้องแฮปปี้สิครับ ถึงแฟนตัวจริงบองผมจะนั่งหัวเราะต่อกระซิกกับหญิงสาวที่ผมหมายตาอยู่ตรงหน้าก็ตาม แต่ในความรู้สึกของพี่พู่ ผมกับเธอกำลังคบกัน ต่างจากผม ที่ให้เธอเป็นได้แค่กิ๊กเท่านั้น

ทำไงได้...ผมเองก็รักแมทนี่นา

นาฬิกาขยับเลื่อนเวลาเป็นบ่ายโมงสี่สิบห้า เราทั้งสามลุกจากโต๊ะ เดินไปส่งบัวขึ้นรถกลับบ้านก่อนที่ผมจะเดินไปส่งแมทที่ทางไปตึกคณะมัน อยากบอกว่าผมนั้นเนียนขั้นเทพ แมที่ตอนแรกเห็นผมกับบัวนั่งด้วยกันจนเกิดความสงสัย ทว่าในตอนนี้มันหมดความสงสัยแล้ว ทั้งยังมีบอกอีกว่าบัวเป็นเพื่อนที่น่ารักดีนะ พูดจาก็ดี ท่าทางมารยาทดี เรียบร้อย คำชมมันเยอะมาก ผมก็เพิ่มเติมให้ไปว่าใช่ เธอน่ารักสุดๆ แต่แอบเก็บคำว่ายิ่งน่าอกน่าใจนั่นนะ...น่าหม่ำจริงๆ

ก็ลองพูดอย่างใจคิดสิ...ลองดู รับรองเลยว่าจะไม่ได้มาเห็นเดือนเห็นตะวันอีกแน่ๆ ถึงแมทจะไม่เคยโหดร้ายกับผมเลย แต่ผู้ชายอะครับ ไว้ใจไรได้ที่ไหน เกิดอารมณ์ร้ายขึ้นมาไม่ได้ด่าเหมือนผู้หญิง ตบหน้าหนึ่งทีแล้วก็จากไปนะ แต่มันจะรุนแรงกว่านั้น ยิ่งกับแมท เวลาผมเห็นสายตาไม่พอใจของมัน บางครั้งน่ากลัวจริงๆ มันอาจมีมุมมืดที่ผมไม่ควรกล้ำกลายเข้าไปใกล้ก็ได้ จริงอยู่ที่แมทเคยจับเรื่องผมไปฟีตเจอริ่งกับผู้หญิงสมัยมอหก แต่นั่นเป็นความผิดครั้งแรก อะไรทีเป็นครั้งแรกย่อมได้รับการให้อภัยเสมอ แต่นั่นไม่ได้เหมารวมถึงครั้งต่อๆ ไป

ผมเดินลั้นลาไปเติมแป้ง เติมปาก ทาลิปมันให้ปากชุ่มชื่น หน้าใสเนียนจนดูดีขั้นสุด ผ่านไปครึ่งวันหน้าคนเราจะโทรมไปด้วยความมันเยิ้มที่ออกมา ดูไม่ได้เลยละครับ ผมหม่ปลื้มกับตัวเองวลาหน้าตาเป็นอย่างนั้นสักเท่าไหร่ ผมถึงต้องเติมบ้างเพื่อให้ตัวเองดูดีตลอดเวลา หน้าตาเป็นเครื่องทำมาหากินครับ ใครๆ ก็มองหน้าก่อน ถ้าจะสร้างความประทับใจก็ต้องดูดีตลอดเวลา เผื่อไว้ครับ ถ้าเกิดเจอคนถูกใจจะได้ไม่ยากนักในการเข้าหา ดีไม่ดี อีกฝ่ายด้วยซ้ำที่จะเข้าหาเรา...

เอ...ผมไม่ได้ร้ายไปใช่ไหมนะ?

ผมเข้าคลาสก่อนอาจารย์เพียงนาทีเดียว นั่งโต๊ะใกล้กับเพื่อนอีกสองตัว กล้าก้มหน้ากดเกม เต้นอนหนุนแขนตัวเองมองกล้าเล่น ตาปรือๆ นั่นเหมือนกำลังจะหลับไปเสียให้ได้ ผมนั่งลงก่อนจะตบหัวเต้เบาๆ

“อ่าวๆ หาเรื่อง” เต้โวยวายเบาๆ

“อาจารย์เข้าแล้วมึง นั่งดีๆ เดี๋ยวโดนด่าหรอก” ผมว่า กล้าและเต้มองไปที่หน้าห้อง อาจารย์กำลังเดินเข้ามาพอดี กล้าต้องซ่อนมือถือและเต้ก็นั่งตั้งคอตรงๆ แต่หลังมันอะ...งองุ้มอย่างกับจะให้หัวลงไปกองอยู่ที่โต๊ะเลคเชอร์

“เออบอม กูเห็นมึงกับหญิง....” กล้าชะโงกหน้าผ่านตัวเต้ที่นั่งกลางมามองผม

“อ่าหะ”

“แล้วกูก็เห็น....” มึงจะหยุดวรรคทำไม เต้เริ่มมองหน้ากล้า

“....” ผมเงียบรอฟัง

“แมทเดินไปนั่งกับมึงด้วย!” กล้าตาโต ทำเสียงตื่นตะลึง แมทไม่ใช่เอเลี่ยนนะมึง ทำอย่างกับมันเป็นตัวปะหลาด

“มึงจะทำเสียงตื่นเต้นทำไมวะกล้า” เต้ถาม

“นั่นดิ จะตื่นเต้นอะไรนักหนาวะ?”

“เอ้า ก็ต้องตื่นเต้นปะวะ นั่นกิ๊กมึง และนั่นก็แฟนมึง นั่งอยู่ตรงหน้ามึง....” มันชี้ไปทางซ้ายทีเพื่อบอกว่าแมทอยู่ตรงนี้ และขวาทีเพื่อบอกว่าบัวอยู่ตรงนี้ ตบด้วยชี้ผม แอคริ้งเวอร์ไปเพื่อน

“ก็ใช่อะ ทำไม...น่าตื่นเต้นอ๋อวะ” ผมทำหน้ากวนตีน

“ไม่น่าตื่นเต้นมั้ง มึงเอาตัวรอดมาได้ไงวะถามจริง” นี่สินะที่ในสงสัย หนึ่งกิ๊กและหนึ่งแฟน ทำไงไม่ให้พวกเขารู้น่ะหรอ ง่ายๆ

“ก็อย่าบอกเขาสิวะว่าความจริงคืออะไร กูแค่บอกว่าแมทเป็นรูมเมจ และบอกว่าบัวเป็นเพื่อน”

“อย่างนี้ก็ได้หรอ” เต้ถาม

“ได้ดิ กูกับบัวยังไม่ได้แดกกันเลย ถ้าเป็นพี่พู่ว่าไปอย่าง ขืนมองว่าพี่เขาเป็นเพื่อน กูคงโดนซักไซร้หรืออาจตายคาโต๊ะกินข้าวไปแล้ว” กล้ากับเต้พยักหน้าเข้าใจ

“ปลาไหลชุบน้ำมันจริงๆ มึง” น่ะมีหลอกด่ากูอีกนะกล้า

เราทั้งสามจบบทสนทนาบงแค่นั้น อาจารย์เรีมสอนแล้วและเราต้องเลคเชอร์ส่งที่อาจารย์สอนไว้ดีๆ วิชานี้โหด ไม่ค่อยบอกอะไรหลอก อธิบายรัวๆ แล้วสั่งงานงงๆ ถ้าไม่จดไว้จะทำรายงานกันไม่ถูกเลย เพราะข้อมูลหรือวิธีทำอาจารย์แกจะบอกมาเนียนๆ ในคำอธิบายรวบรัดนั้น เหมือนแก้เผ็ดพวกไม่สนใจร่ำเรียน แล้วก็ได้ผลดีมากๆ เกินคาดเลยละครับ

ผ่านไปหลายชั่วโมงก็จบคลาสของวันนี้ พร้อมงานอีกกองพะเนินที่ต้องทำส่งอาจารย์ ผมรู้สึกหมดพลังงานไปกับวิชานี้สุดๆ อยากชไปนอนหนุนอกนุ่มๆ ของพี่พู่เต็มแก่ ในขณะที่เก็บของใส่กระเป๋า กล่าก็บ่นๆ เป็นยายแก่ ก็งานเยอะ เล่นเกมไม่ได้ ส่วนเต้ก็ทำหน้าเซ็ง จะเอาเวลาไหนไปกินเหล้าสินะ ไอ้นี่...ติดเหล้าจรงิๆ

“บอม” เดินออกมาหน้าห้องก็ได้ยินเสียงคนเรียน หันไปตามเสียงก็พบแมท ผมงงนิดหน่อยแต่เดินเข้าไปหาโดยดี

“ว่าไงมึง”
“เดี๋ยวกูไปส่งที่ห้อง”
“เฮ้ยไม่เป็นไร เดี๋ยวกูต้องไปซื้อของกับเพื่อนอะ มึงไปทำรายงานของมึงเถอะ” ผมโกหกอย่างไวและแนบเนียน พวกไอกล้าและเต้ยังยืนอยู่หน้าห้อง แมทมองไปทางพวกนั้นแล้วหันกลับมามองผม
“เอางั้นก็ได้...” มันว่าพร้อมยิ้มบางๆ
“มึงก็สู้ๆ ละ กูเป็นกำลังใจให้” ผมเดินเข้าไปบีบมือมันเบาๆ มันยิ้มและบีบมือตอบ
แมทหันไปยิ้มและผงกหัวให้เต้กับกล้า จากนั้นเดินกลับไปคร่อมมอเตอร์ไซค์คันโปรดแล้วบึ่งออกไป ผมมองส่งก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ให้กับแผ่นหลังของคุณแฟนหนุ่ม โทษทีนะแมท มึงงาน กู...ก็มีงาน เพียงแต่งานของกูมันเป็นงานใช้เอวน่ะนะ


**********************

 :mew1:จบไปอีกตอนแล้วค่าาาาาา

บอกเลยว่าคนเขียนดีใจมาก ประทับใจมากที่ลงเรื่องแรกในเล้าแล้วมีคนอ่านเยอะกว่าที่คาดไว้ :-[

ตอนแรกนึกว่าจะแป้กซะแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ

ขอบคุณมากๆๆๆนะคะที่ติดตามนิยายเรื่องนี้
ฝากเม้นต์เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-12-2016 17:56:07
สงสารแมทอะ บอมเลิกเหอะ  :mew2: :mew2: :mew2:
เครียดเลยถ้าแมทรู้เนี่ย
เอ๊ะ หรือรู้อยู่แล้ว
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 23-12-2016 18:39:08
จะเกลียดบอมละ ถ้ายังไม่เลิกเป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: m.starlight ที่ 23-12-2016 20:58:34
เมื่อไหร่แมทจะรู้ความจริง อยากให้เอาคืนแรงๆ  :m16:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 23-12-2016 21:35:27
บอมเอ้ยยยย .... รักเค้า แต่นอกกายเค้าเรื่อยๆ  ถ้าโดนเอาคืนเมื่อไหร่คงเข็ดจนตาย.   :angry2:  :angry2:  :angry2:  :angry2:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 24-12-2016 15:11:59
 :katai5: :hao7:
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 25-12-2016 12:22:42
เธอมีชู้

บทที่ 5

ผมมุ่งตรงไปยังบ้านพี่พู่กันทันทีหลังแยกจากเพื่อนอีกสองคน ก่อนจากมาโดนกระแซะไปอีกตามเคยเรื่องผู้หญิง ใช่สิ พวกมึงไม่มีอย่างกูนี่นา จะหาอย่างกูก็ไม่ได้ด้วย เพราะไม่มีใครเอา เต้น่ะว่าไปอย่าง มันมีคนมาเกาะแกะเยอะ เพียงมันไม่สนใจใครเขาเลยเท่านั้นเอง มันดูเฉยชากับทุกคนเข้ามา ส่วนกล้า วันๆ เล่นแต่เกม จะมีใครไปเอามันทำแฟน หน้าตาก็จืดๆ แต่งตัวก็งั้นๆ นานทีมันจะพูดเรื่องหญิงที และนานมากๆ กว่าจะมีผู้หญิงสักคนมาชอบมัน แต่คบได้ไม่นาน พวกเธอก็ทิ้งมันไป ด้วยเหตุผลที่ว่า...อะไรๆ ก็เกม เห่อๆ กล้ามันติดเกมนี่หว่า

ถึงห้อง เปิดประตูเบาๆ ก้าวเข้าไป ด้านในมืดตื้บแต่มีร่างหนึ่งเอนนอนอยู่ตรงโซฟายาว ผมเดินเข้าไปหาและพบว่าแมทนอนหลับหมดสภาพ ท่าทางมันดูเหนื่อย งานคงเยอะมากจริงๆ ผมนั่งลงที่พื้นให้ใบหน้าเราอยู่ระดับเดียวกัน จ้องมองใบหน้ายามหลับของมัน...ไม่อยากชมเลยนะ แต่มึงหล่อจริงๆ

เป็นความหล่อโดยธรรมชาติ ไม่ต้องเติมแต่งอะไร หรือบำรุงอะไรให้มากความ แมทใช้แค่โฟมล้างหน้าและครีมบำรุงกระปุกเดียว ทาบ้าง ไม่ทาบ้าง เน้นล้างหน้าบ่อย แมทไม่ชอบเวลาตัวเองหน้ามัน มันรำคาญน่ะ แต่มันก็ไม่ค่อยหน้ามันเท่าไหร่ ผิวกำลังดี ไม่แห้ง ไม่เยิ้ม พระเจ้าสรรค์สร้างมันมาดีเกินไปนะ

ผมลูบไล้โครงหน้าของแมท นึกถึงอดีตเก่าของเราสองคน นึกถึงวันแรกที่มันฟันผม...ไอ้เสือซ่อนเล็บเอ้ย ไม่น่าหลงกลมันเลย ไอ้ความอยากรู้อยากลองก็นะ เหลือเกินจริงๆ แต่ผมไม่เสียใจหรอก แมทเป็นคนรักที่ดี มันปรนเปรอผมทุกอย่าง มอบความสุขให้ตลอด อยู่กับมันเหมือนอยู่กับเพื่อนที่สนิทมากๆ คนหนึ่ง

งั้น...ผมจะมีคนอื่นอีกทำไมละ ถ้าแมทดีขนาดนี้

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ผมรู้สึกแค่มันอยากอะ...บางครั้งผมก็อยากกอดผู้หญิง อยากเอาผู้หญิง ก็แค่นั้นเองอะแหละครับ ไม่มีอะไรมากมายหรือซับซ้อนนัก บางครั้งการมองหน้าแมทโดยที่เราเองไปทำลับหลังแบบนั้นก็รู้สึกผิดอยู่นะ แต่อีกใจมันก็คิดว่าเรื่องที่ผมทำนั้นมันไม่ผิดอะ ใครๆ เขาก็ทำ ไม่ใช่ผมคนเดียวเสียหน่อยนี่

ผมขยับไปจูบริมฝีปากกระจับนั้นเบาๆ ไม่ให้แมทรู้ตัว แล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยที่ไม่ให้แมทมันตื่นขึ้นมา มันเหนื่อยจากงาน อยากให้ได้พักผ่อนไปก่อน จนผมทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มานั่งเล่นรอเวลาเพื่อเอาแผ่นมาร์คหน้าออก เสริมหล่ออีกตามเคยครับ อาทืตย์ละครั้งกับการมาร์คหน้าด้วยแผ่นมาร์คจากเกาหลี นำเข้าเลยนะ แพงหูฉี่เลยละครับ แต่แมทซื้อให้ สบายกระเป๋าผมไป ไม่งั้นละก็ กระเป๋าฉีกแน่ๆ สำหรับแผ่นมาร์คต่อเดือน

ระหว่างรอเวลาก็นั่งแชตกับพี่พู่กันสลับกับบัวไปด้วย บัวชวนผมไปเที่ยวสุดสัปดาห์นี้ พี่พู่เองก็ชวนไปช๊อปปิ้งในวันเสาร์นี้ เท่ากับเสาอาทิตย์นี้ผมมีนัดกับสาวสองคน เดี๋ยวนะ จะไปยังไงไม่ให้แมทรู้ เตี๊ยมกับกล้าและเต้เอาไว้ดีกว่า มีเวลาเตรียมตัวอีกตั้งหลายวัน ส่วนเงิน...เอ่อ กระเป๋าฟีบพอดีเลยแหะ สาวๆ คงไม่ใช่เงินหรอกใช่ไหม ไม่น่าเป็นไปได้ เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีละกัน

มาร์คหน้าเสร็จก็เดินออกมา แมทยังคงหลับในท่าเดิม มันจะเมื่อยบ้างไหมนั่น ไม่ขยับเขยื้อนเลย ผมยิ้มบางๆ ให้กับความน่ารักนั้น มันดูดีตลอดอะ ไม่ว่าจะทำอะไรในสายตาผม

ตรึ๊ง!

หน้าจอสว่างวาบมาจากโต๊ะเล็ดหน้าโซฟา ผมหันไปมองก็พบว่าไลน์ของแมทเด้งขึ้นมา หันไปมองเจ้าของเครื่องอีกที...ตื่นไหมน้า? ปกติผมกับแมทเราไม่ค่อยยุ่งมือถือของกันและกันเท่าไหร่ ผมถือว่าเป็นของส่วนตัว เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ยุ่ง ยิ่งมีคุยกับกิ๊กด้วยนะ อย่าได้จับเขียว ดีที่แมทไม่แตะมืถือผมเลย เขายอมรับในสิ่งที่ผมต้องการ ในขณะเดียวกัน แมทก็ยินดีทีให้ผมตรวจสอบมือถือเขาได้ ก็เป็นการแซะผมกลายๆ ละว่า คนบริสุทธิ์ใจอะ เขาไม่มาห้ามนู้นนี่หรอก ผมไม่อยากมีปีญหาหรอกนะ แต่ผมก็ไม่ให้ยุ่งกับของๆ ผมอยู่ดี และผมแฟร์พอที่นะไม่ยุ่งของมันเหมือนกัน

ดิว...งั้นหรอ

หน้าจอมันขึ้นชื่อไลน์ว่าน้องดิว...จะไม่แฟร์กับมันก็คราวนี้แหละ เด็กคนนี้อีกแล้ว รุ่นน้องที่แมทบอกและเล่าให้ฟัง เป็นฉนวนที่ทำให้เรางอนกันด้วย ผมไม่อยากคิดไรมากหรอกนะ แต่เด็กคนนี้ทำให้ผมสะกิดใจแปลกๆ เหตุการณ์คราวก่อนจะว่าผมคิดมากไปเองก็ได้ แต่มันน่าคิด ถึงเราจะเคลียกันแล้ว และผมเข้าใจดีแล้วก็ตาม

ผมนั่งลงข้างแมท หยิบมือถือของมันขึ้นมากดรหัสที่มันเคยบอกผมเอาไว้ มองหน้ามันอีกเล็กน้อย เห็นว่ามันยังหลับดีอยู่ก็สบายใจหน่อย เคยบอกว่าก็จะไม่ยุ่งอะนะ แต่ตอนนี้หัวใจมันเรียกร้อง แมทเป็นมิตรกับทุกคน เด็กคนนี้ก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้น ผมว่าน้องมันต้องชอบแมทแน่ๆ แต่แมทน่ะสิ จะชอบน้องเขาหรือเปล่า ดิวตรงสเปกแมททุกอย่าง ตัวเล็ก น่ารัก ผิวขาวตาโต แถมไม่ออกสาวด้วย เท่าที่เจอกันวันนั้น ดูท่าทางสุภาพมาก นุ่นนวลเหมาะกับแมทอีกแหละ

แม่ง...กูมีอะไรที่เหมาะสมกับมันบ้างไหมวะ

สะบัดหัวเบาๆ ไล่ความคิดด้านลบที่มีต่อตัวเองสองสามที ผมต้องมั่นใจในตัวเอง ผมมีดีแน่นอนไม่งั้นแมทคงไม่คบกับผมมาได้นานขนาดนี้ คนเข้ามาอ่อยแมทก็เยอะแยะเต็มไปหมด มันยังไม่เอาใครสักคน มั่นคงต่อผมคนเดียว น่าชื่นชมจะตาย

แต่เด็กนี่...สายตาที่มันมองแมทนั้นเต็มไปด้วยความรัก ยังไงเด็กคนนี้ต้องคิดไม่ซื่อกับแมทแน่ๆ ถึงจะบอกว่ามันเป็นแฟนของเพื่อนก็ตาม หรือคิดในแง่ดีอีกอย่าง...ดิวมันชอบแมทแบบพี่ชาย แต่จะจริงหรอ ก็วันนั้นที่ผมเห็น แววตารักใคร่นั้น ไม่มีทางที่จะมีไว้ใช้มองพี่ชายหรอก...

โอ้ย ผมคิดมากไปมากไปหมดแล้วอ่ะ

ขณะกดรหัสมือก็สั่น เด็กคนนี้ทำให้ผมว้าวุ่นจริงๆ คงเพราะผมกลัวว่าแม่กับเด็กคนนี้อาจเป็นกิ๊กกัน รู้แหละว่าในความเป็นจริงมันไม่ใช่ แมทรักผมมาก แต่ความกล้วก็คือความกล้วนั่นแหละครับ ห้ามยังไงก็ไม่ได้ รหัสสี่ตัวที่แมทเคยบอกถูกกรอกจนครบ ผมเปิดเข้าไปอ่านข้อความในไลน์

[น้องดิว : ขอบคุณครับพี่แมท ผมมีความสุขมากๆ รักพี่แมทที่สุดและจะรักพี่แมทคนเดียวตลอดไป] และสติ้กเกอร์ไลน์รูปหัวใจและเขิน
มือผมสั่นจนเกือบทำมือถือร่วง นอกจากข้อความนี้ มันไม่มีอะไรเลย โล่งหมด เป็นไปไม่ได้หรอก แชตของรุ่นน้องจะว่างขนาดนี้ได้ยังไง เหมือนโดนลบทิ้งไปมากกว่า แบบนี้แสดงว่าแมทต้องปิดบังอะไรเอาไว้แน่ๆ และข้อความที่บอกรักกันแบบนี่...รักคนเดียวตลอดไปด้วย

ผมควรคิดว่ายังไง!

น้องรักพี่คนเดียวตลอดไปงั้นหรอ! ไม่มีข้อความก่อนหน้าหรืออะไรให้อ่านประกอบความเข้าใจเลยสักนิด ผมอยากเชื่อใจแมท อยากเชื่อว่ามันจะไม่มีทางหันเหความรักจากผมไปให้คนอื่น แต่ดูไอ้เด็กคนนี้สิ ผมยังเชื่อได้มากแค่ไหน ผมกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น หันไปมองหน้าแมทที่ยังหลับไม่รู้เรื่อง ใจสั่นไปหมด ในอกหวิวไหว ผมอธิบายมันไม่ถูก แต่ผมรู้สึกแย่ชะมัด


ผมชั่งใจว่าจะปลุกแมทดีไหม แต่สุดท้ายก็ยังไม่กล้าพอ ผมลุกเดินตรงไปยังระเบียงบ้านโดยแวะเข้าไปเอามือถือที่ชาจของตัวเองออกมาด้วย กดเบอร์โทรไปหาไอ้เต้ด้วยความไว รออยู่สักพักมันถึงรับสายด้วยน้ำเสียงงัวเงียและรอบข้างดังสนั่น ผมให้รอสายก่อนจะโทรหากล้าอีกคน

“พวกมึงจำเด็กที่ชื่อดิวได้ป่ะ” ผมไม่รอให้พวกมันพูดอะไรก็โพล่งออกไปก่อน

(ดิว ที่ทำให้มึงงอนแมทวันนั้นอะนะ) กล้าพูดเสียงอู้อี้เหมือนเคี้ยวอะไรบางอย่างอยู่

“ใช่”

(มันทำไมอีกละ) เต้ถาม

“มันไลน์มาหาแมท บอกว่าขอบคุณมันมีความสุขมาก มันรักแมท บอกจะรักแมทตลอดไป คือกูก็ไม่อยากคิดเหี้ยไรให้มากมายนักหรอกนะ แต่แม่ง...ยังไงๆ ก็คงไม่ใช่แค่รุ่นน้องแน่ๆ มันต้องเป็นไรที่มากกว่านั้น ถึงแมทไม่คิดไร แต่กูว่าแม่งนั่นแหละที่คิด กูไม่โอเควะ” ผมใส่อารมณ์เต็มที่ เสียงแม่งสั่นด้วย ปนเปไปหมดอะทั้งโกรธเคือง เสียใจ มันหวิวๆ ในอกแบบที่ไม่เคยเป็น เพราะแมทไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ให้ผมเครียดเลยสักครั้ง

(กูว่ามึงได้เรียนรู้แล้วละว่า เวลาแมทมันเจอข้อความที่สาวส่งมาหามึงมันรู้สึกยังไง แล้วถ้าไอ้เด็กดิวที่มึงบอกมันคิดกับแมทแบบนั้นจริงๆ มึงจะรู้รสชาตของการเป็นแมทมากกว่านี้) ไอ้กล้าซ้ำเติมลงมาอีก

แต่ก็ไม่ปฏิเสธมันหรอก ที่กล้ามันพูดน่ะจริงทุกอย่าง ผมคงกำลังได้เรียนรู้ความรู้สึกของแมทยามที่แมทมันต้องเจอเรื่องผมมีกิ๊ก ผมว่ามันระแวงงั้นงี้ สุดท้ายผมก็ไม่ต่างจากมัน อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะนอกจากผมจะรักมันแล้ว ผมเองก็ยังมีคนอื่น ยิ่งมีใครก็ยิ่งระแวงว่าเขาจะเหมือนเรา ทั้งที่ในความจริงแมทมันรักและหวงผมมากกว่าอะไรดี แต่เรื่องนี้ผมไม่โอเคจริงๆ ผมก็อธิบายมันออกมาไม่ถูกหรอกว่าความรู้สึกข้างในเป็นยังไง รู้แต่มันแย่มากๆ เหมือนจะทรุดลงไปเลยด้วยซ้ำเวลาที่คิดว่าไอ้เด็กนั่นกับแมทเป็นอะไรกัน

(กูว่ามึงอย่าเพิ่งคิดมากเลยบอม มึงควรถามแมทว่าทำไมมากกว่า อย่าร้อนตัวเพราะตัวเองก็เลวเลย) คำของเต้ทำผมจุก

“กูเลวหรอวะ” เผลอถามออกไป

(เออ/เออ!) เต้กับกล้าประสานเสียงพร้อมกัน

“นี่กูโทรมาหาเพื่อนปรึกษาและปลอบใจกูนะ ไม่ได้โทรมาให้พวกมึงสั่งสอนและซ้ำเติมกู” ผมโวยใส่

(แล้วไง คือมึงทำได้แต่แมทห้ามทำงั้นหรอ เห็นแก่ตัวไปไหมวะบอม ถ้ามึงไม่ทำตัวแบบนี้กูก็พอจะเห็นใจมึงหรอกนะ แต่มึงทำตัวเองก่อน พอแมททำบ้างก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลย) กล้ายังไม่หยุดซ้ำผม ยอมรับเลยว่ารู้สึกฉุนมาก ทั้งโกรธทั้งเสียใจ

“พวกมึงเพื่อนกูหรือเปล่าวะ” ถามไปอย่างตัดพ้อ

(เพราะมึงเป็นเพื่อนกูไง กูถึงพูด ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนพวกกู พวกกูจะมาพูดอะไรแบบนี้กับคนอย่างมึงทำไมบอม) กล้าพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ

(จริงของกล้า กูเป็นห่วงมึงนะ การที่มึงทำตัวแบบนี้มันไม่ได้ส่งผลดีต่อมึงหรอกบอม) เต้พูดปลอบ แต่ผมหงุดหงิดที่นะฟัง

เคยบอกแล้วไง เรื่องนี้ผมทำได้คนเดียว ผมไม่ยอมให้แมททำ แมทต้องเป็นของผมคนเดียวสิ รักผมคนเดียวห้ามไปมีใครทั้งนั้น จะมีใจหรือแค่คุยก็ไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้ดีพอ และไม่ใช่สเปกของแมท ผมกลัวว่ามันจะทิ้งผมไป ผมรักมันถึงไม่อยากโดนมันทิ้ง ถ้าขาดมันผมคงเหมือนขาดส่วนหนึ่งของชีวิตไป การที่ผมหาเศษหาเลยข้างนอกบ้านก็แค่สนุกสนานไปวันๆ เท่านั้นเอง

“พอเหอะ เลิกซ้ำเติมกูสักที...” ผมว่าอย่างน้อยใจ คนปลายสายทั้งสองคงจะลับกระแสเสียงได้

(อืม...งั้นมึงก็ใจเย็นๆ แล้วถามแมทตรงๆ อย่างที่มึงรู้ แมทมันรักมึงจะตาย ขนาดจับได้ว่ามึงไปเอากับคนอื่นทั้งที่คบกับมันอยู่มันยังไม่ทิ้งมึงไปไหนเลย ไหนจะที่ระแคะระคายเรื่องของมึงตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันก็ยังปล่อยผ่านและเชื่อใจมึงมาตลอด คนที่ทำได้ขนาดนี้เพื่อคนอย่างมึงน่ะ ไม่มีทางไม่รักมึงหรอกบอม) ผมฟังกล้าเงียบๆ

(กูเชื่อนะบอม แมทน่ะไม่โง่หรอก แต่มันรักมึง) คำพูดของเต้ทำให้ผมจุก

ผมเคยแอบด่าแมทในใจเวลาที่ผมหลอกมันสำเร็จว่ามันน่ะโง่ ไม่มีทางตามความคิดของผมทันหรอก ถึงผมจะเคยสัมผัสถึงความเป็นเสือของมัน แต่ผมต่างหากที่เจ๋งกว่า ผมก็ไม่รู้หรอกว่าความคิดนั้นมันผุดขึ้นมาได้ยังไง แต่ความคิดนั้นนั่นแหละที่ทำให้ผมยังทำแบบนี้มาจนทุกวันนี้อย่างสม่ำเสมอและอาจจะมากขึ้นเมื่อแมทเริ่มไม่มีเวลา แต่พอเต้พูดแบบนี้ผมก็ชักคิด บางทีนะ...มันอาจจริงอย่างที่เต้ว่ามาก็ได้

ถ้าเป็นงั้น...แมทมันคงรักผมมากจริงๆ

“มันไม่โง่หรอก แต่มันตามกูไม่ทัน” ผมพูดลอยๆ

(มึงรู้ได้ไง ไม่มีนายพรานคนไหนแสดงตัวให้เหยื่อรู้หรอกนะว่ามันกำลังถูกไล่ต้อน) เต้ทำผมเจ็บอีกแล้ว

“ช่างเหอะ กูไม่อยากฟังละ พวกมึงแม่ง...ไม่ให้กำลังใจกูเลย กูเศร้าอยู่นะ แฟนกูกำลังจะมีชู้! แต่พวกมึงก็ว่ากูเอาว่ากูเอา สัส งอน” ผมเผลอใส่อารมณ์ลงไปในน้ำเสียง

(แฟนมึงแค่กำลังจะมี แต่มึงน่ะ...มีมากี่คนแล้ว งอนก็งอนไปเลยไอ้ห่า กูเข้าใจว่ามึงกำลังใจไม่ดีเรื่องนี้ แต่อย่าเอาแต่โมโหพวกกูสิวะ มึงน่ะควรสำนึกต่างหาก มึงก็ได้ลิ้มรสชาตที่แมทเผชิญแล้วนี่ นี่อาจเป็นการดีที่มึงจะปรับปรุงตัว แล้วถ้ามึงมีแค่มันคนเดียวเมื่อไหร่ แล้วมันยังมีแววนอกใจมึง พวกกูจะช่วยเอง แค่นี้นะ คุยกับมึงละกูปวดกะบาล) กล้าตัดสายทิ้งห้วนๆ ผมก็โมโหที่มันทำแบบนั้นเลยตัดสายทิ้งบ้าง ไม่สนเต้ที่ป่านนี้อาจจะมึนไป

กะจะปรึกษาเพื่อน สุดท้ายต้องมาทะเลาะกัน คอยดูนะ คราวหลังมีเรื่องของไอ้ดิวหรือแมทกูจะไม่ปรึกษาพวกแม่งอีกแล้ว นอกจากไม่ช่วยแล้วยังซ้ำเติม วกเข้าเรื่องด่าผมตลอดตั้งแต่คราวก่อน ก็เข้าใจที่มันพูด แต่พวกมันไม่เข้าใจผมเลย สิ่งที่ผมจะพูด สิ่งที่ผมจะสื่อหรือสิ่งที่ผมต้องการ แม่ง หงุดหงิด!

ผมเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง มองคนที่นอนอยู่ตรงโซฟา ไร้การขยับกายหรือเคลื่อนไหวเปลี่ยนท่า แมทคงเหนื่อยมากถึงได้หลับสนิทขนาดนี้ ผมมองมือถือแมทบนโต๊ะ มันนอนนิ่งอยู่แบบนั้นแหละ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวหรือข้อความอะไรเข้ามาอีก

ภายในห้องมืดครึ้ม อาการเย็นสบาย บางครั้งก็ดูผ่อนคลาย ทว่าในตอนนี้ผมกลับมองว่ามันเหงาอย่างบอกไม่ถูก จิตใจของผมมันเกว่งบอกไม่ถูก ผมควรเรียกแมทมาคุยเรื่องนี้ให้รู้เรื่อง ปล่อยให้ตะขิดตะขวงใจไปก็จะกลายเป็นผมเองที่จะบ้าตาย ผมไม่ชอบความอึดอัดที่เป็นอยู่ ไม่ชอบความคราแครงใจที่สุมอกนี้

“แมท...” ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเดินมานั่งลงข้างโซฟา เรียกมันมันเบาๆ พร้อมสะกิดที่ไหล่

“อื้อ...” แม่ขยับตัวเล็กน้อย ตาปรือขึ้นช้าๆ ท่ามกลางความมืดที่ปกคลุมเราทั้งสอง

“กลับมานานยังมึง” มันเอายปากถามผมที่เอาแต่จ้องโทรศัพท์ ข้างในตอนนี้ร้อนรุ่มมากครับ แต่ผมพยายามใจเย็น เชื่อว่าแมทมีคำตอบที่ดีให้ผมแน่ๆ และเรื่องนี้อาจไม่ได้ใหญ่โตขนาดที่ผมคิด

“นานแล้วล่ะ แต่ไม่อยากปลุกมึงเห็นมึงสบายอยู่” หันไปมองหน้าแมท มันส่งยิ้มมา

“แล้วกินอะไรยัง กูยังไม่ได้กินเลย รอกินข้าวกับมึง” น้ำเสียงอ่อนแรงของแมทชวนให้หัวใจผมสั่นไหว มันเหนื่อยน่าดูเลยกับงานที่มหาลัย

“งั้นก็ลุกขึ้นมาสิ กูก็หิว” ผมพยายามจะยิ้ม แต่มันยิ้มไม่ออก แมทดูเหมือนจะสังเกตเห็นความปกตินั้น

“มึงเป็นไรเปล่า สีหน้าดูไม่โอเคเท่าไหร่เลยนะ” มือเรียวเอื้อมมาลูบหัว ผมจับมันเอาไว้แล้วดึงลงมากุมที่ตัก

“ใช่ กูไม่โอเคเลยแมท กูเครียด...กูหงุดหงิด” สบตากับมัน

“มีอะไรบอกกูสิ” มันยันตัวลุกขึ้นนั่ง ไม่วายดึงผมให้นั่งตักมันทั้งที่ตัวผมไม่ได้เล็กไปกว่ามันมากนัก

“ดิว...สเปกมึงเลยใข่ป่ะ” ผมถามเหมือนเปลี่ยนเรื่อง แต่เปล่าหรอก ผมแค่อยากรู้เท่านั้นเอง

“ก็นะ...มึงรู้ใจกูดีที่สุดนี่” แมทว่าเสียงเรียบ ใบหน้าของมันยังคงมีรอยยิ้มประจำตัวประดับอยู่

“ใช่ เพราะกูรู้ไง กูถึงกลัว ดิวมันส่งข้อความมาหามึงด้วยนะ” คิ้วแมทขมวดก่อนจะเอื้อมไปหยิบมือถือมาเปิดไลน์อ่าน มันนิ่งไปชั่วอึดใจ หันมามองหน้าผมที่เครียดขึง

“มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดนะบอม” มันรีบพูดออกมา

“งั้นมันเป็นยังไง อธิบายให้กูฟังสิ ทำไมเด็กนั่นต้องส่งข้อความแบบนั้นมาให้มึงด้วย ทำไมต้องบอกรักมึงคนเดียวตลอดตลอดไป มันไม่ใช่แค่รุ่นน้องมึงใช่ไหม” ยิ่งพูดผมก็ยิ่งมีอารมณ์ ผมต้องข่มเอาไว้ เก็บความรู้สึกที่อยากระเบิดใส่ทั้งที่ใบหน้ากำลังเศร้าหมอง

“แค่รุ่นน้องจริงๆ กูช่วยมันจนมันได้คบกับคนที่มันแอบชอบ มันเลยรักกู ดิวไม่ได้รักกูแบบอื่นหรอกมึงเชื่อกูนะ”

“จะให้กูเชื่อทั้งที่ข้อความมันหายไปหมดแบบนี้อะนะ มันไม่ตลกเกินไปหน่อยหรอวะ มึงมีความลับกับกูเห็นๆ อะ ปิดบังเรื่องดิวอยู่ใช่ไหม...ถึงมึงกับมันจะยังไม่ได้เป็นอะไรกันแต่ก็คิดใช่ไหมละว่าเด็กมันน่าสานต่ออะ ดิวมันสเปกมึงเลย ไม่แปลกหรอกเว้ยถ้ามึงจะชอบมัน แต่กูพูดเลยนะ...กูไม่ยอมหรอก กูไม่ให้มึงกับ...” คำพูดของผมหายไปกลางคันเพราะริมฝีปากเย็นชืดนั้นเคลื่อนมาแนบชิดอย่างไว

แมทใช้มือหนึ่งล๊อคคอของผมเอาไว้ในขณะที่อีกข้างกอดเอวคอดไม่ให้หนีไปไหนได้ ริมฝีปากกลิ่นมิ้นบดเบียดหนักเข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดเรียวลิ้นแสนคุ้นเคยก็เข้ามาในโพรงปากของผม มันกระหวัดเอาส่วนนุ่มสีชมพูดอ่อนเช่นเดียวกับมันเอาไว้ หยอกเย้าด้วยความช่ำชองในขณะที่มือทั้งสองข้างกำลังลูบไล้เรือนกายของผมด้วยความลุ่มหลง ผมเพลิดเพลินไปกับสัมผัสของแมท มันเป็นสัมผัสของชายที่ผมรักและผมได้รับมันนานมากกว่าหนึ่งปี

“กูดีใจนะที่มึงคิดแบบนี้ มันทำให้กูรู้ว่ามึงรักกูมากเหมือนกัน ข้อความในมือถือที่มึงเห็นมันมีแค่นั้นเพราะกูร้างเครื่องไปเมื่อวันก่อน เหมือนไวรัสมันจะเข้ากูเลยต้องทำ ทำให้ข้อความในไลน์หายหมด แต่ถ้ากูรู้ว่ามันจะทำให้มึงคิดมากและไม่สบายใจขนาดนี้ กูคงไม่ทำหรอก” แมทคลอเคลียริมฝีปากผมด้วยริมฝีปากของมันตลอดการอธิบาย

ยอมจริงๆ ผมแพ้ต่อสัมผัสอันหอมหวานของแมท มันทำลายความคิดและความรู้สึกด้านลบของผมแทบเกลี้ยง นัยน์ตาคมที่ยังคงยิ้มให้กับผมมองสบเข้ามาในส่วนลึก ผมเห็นความดีใจและเป็นห่วงอยู่ในนั้น สุดท้ายเมื่อทนความแรงกล้าของแววตาไม่ไหวผมก็ฝุบหน้าซุกลงกับซอกคอของแมท ก็ยิ่งจ้อง มันก็ยิ่งอาย ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน แต่สายตาคู่นี้ยังแผดเผาผมได้เสมอ

“อย่ามองใครด้วยแววตาแบบนี้นะ” ผมกระซิบบอก

“ทำไมละ”

“มันเป็นของกู กูหวง...” ผมตอบหนักแน่น เงยหน้าจากซอกคอเพื่อตอบให้ฉะฉาน แมทยิ้มหน้าบาน
“ได้สิ กูจะใช้แววตานี้กับมึงคนเดียว เพราะมึงคนที่กูรักที่สุด แม้มึงจะกะล่อนและเจ้าชู้ก็ตาม” แมทแซะผมเบาๆ ผมมองเคือง

“พูดไม่ถูกใจเดี๋ยวกูก็งอนซะหรอก กูแค่หลีหญิงบ้างเท่านั้นเอง ใช่ว่ากูนอกใจมึงเสียเมื่อไหร่แมท หลังจากที่เรามีปีญหาด้วยเรื่องนี้คราวนั้น กูก็เลิกแล้วเหอะ” ก็คราวที่มันจับได้ว่าผมไปนอนกับหญิงคนอื่นตอนปิดเทอม เราทะเลาะกันรุนแรง มันเสียใจ มันร้องไห้ ตอนแรกผมก็นะไปจากมัน...แต่เพราะอะไรบางอย่างยังทำให้ผมอยู่ตรงนี้
“คร้าบ...” แมทยิ้มหวานแล้วจูบปากผมอีกครั้ง

คราวนี้จูบของแมทไม่ได้จบลงตรงที่ทำให้ผมหายใจติดขัดเท่านั้น แต่มันยังค่อยๆ นำพาร่างของผมนอนลงบนโซฟาตัวยาวสีดำสนิท ผมก็ยินยอมโดยง่าย ไม่ได้โดนแมทกอดมานานแล้วเหมือนกัน ดีนะที่ผมอาบน้ำแล้วไม่งั้นอาจจะมีปัญหาตามมาอีกก็ได้ แบบนั้นคงไม่เป็นผลดีต่อเราสองคนแน่ๆ แมทเองตอนนี้เรียกได้ว่ามีตัวสำรองรอยู่ ถึงจะบอกว่ารุ่นน้อง ยังไงผมก็ไม่เชื่อเต็มร้อยอยู่ดี
ก็ขนาดคนที่ผมบอกกับแมทว่าเป็นเพื่อนยังไม่ใช่เพื่อนผมเลยนี่ แต่เป็น...กิ๊กผมแทนไงละ

ต่ออีกนิดจ้า :katai5:
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 4 [23/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 25-12-2016 12:33:21
 :katai5: ต่อจ้า

แมทแทรกตัวเข้ามาตรงกลางหว่างขาของผม ริมฝีปากแมทยังคงป้อนจูบเร่าร้อนให้กับผมไม่ขาดราวกับจะเผาไหม้ผมด้วยเรียวลิ้นช่ำชอง ฝ่ามืออุ่นทั้งสอนขอนไชเข้ามาใต้เสื้อยืดใส่นอนตัวบาง ลูบไล้ไปมาเบาๆ เหมือนเอาขนนกมาเกลี่ยไปตามผิวเรียบเนียน แล้วก็หยุดอยู่ที่สิ่งนูนแข็งบนหน้าอกทั้งสองข้าง นิ้วของแมททำหน้าที่ได้ดีน่าชื่นชม มันสะกิดเขี่ยไปมาด้วยน้ำหนักที่เจ้าตัวรู้ว่าต้องใช้เท่าไหร่ ถึงจะทำให้ผมแอ่นอกเข้าหาได้

“อ่า..แมท” สองขาของผมเกาะเกี่ยวเอวคอดซึ่งเต็มไปด้วยหมัดกล้ามของมันเอาไว้ แล้วขยับสะโพกเบาๆ ให้ส่วนกลางกายได้ถูไถไปสิ่งที่เหมือนกันด้านบน

“มึงน่ะเบาๆ หน่อย เดี๋ยวกูก็ทนไม่ไหวหรอก” แมทกระซิบข้างหูเบาๆ น้ำเสียงแหบพร่าทำให้รู้สึกจั้กกะจี้ปนสยิว ผมเอียงหน้าเข้าหา สบตาคมคู่สวยพลางยิ้มบาง

“แต่กูอะทนไม่ไหวแล้ว มึงไม่ได้กอดกูนานแล้วนะ...” ส่งน้ำเสียงไปออดอ้อน

“กูขอโทษที่ทำให้มึงต้องอดอยากมานาน” แมทว่าเสียงติดตลก แต่ยังไม่หมดความเซ็กซี่ในน้ำเสียง

เสื้อถูกถลกขึ้นช้าๆ แล้วหลุดออกไปทางหัว แมทเคลื่อนใบหน้าเข้าหาร่างกายท่อนบนของผม ส่วนมือก็เลื่อนไปดึงเอาบ๊อคเซอร์และกางเกงในของผมออก พรืดเดียว ทั้งเนื้อทั้งตัวของผมก็ปราศจากเสื้อผ้าที่ใช้ห่อหุ้มร่างกาย ลิ้นชื้นแฉะของเขาเย้ายอดอกของผม ส่วนมือที่ว่างเว้นก็สำรวจสัดส่วนของร่างกายและความเรียบลื่นของผิวที่ถูกดูแลมาอย่างดี

เสียงลมหายใจฟืดฟาดของเราสองคนคลอกัน ร่างกายขยับไหวเสียดสีซึ่งกันและกัน ความเจ็บปล๊าบจากการถูขบกัดส่วนอ่อนไหวบนอกทำให้ผมเปล่งเสียงครางอันน่าอายให้แมทฟัง ผมปรือตามองหัวทุยที่ขยับไปซ้ายทีขวาที แมทกำลังลุ่มหลงร่างกายของผมจนโงหัวไม่ขึ้น เขาไม่สนใจจะมองใบหน้าของผม แต่ผมรู้ดีว่าแมทกำลังรอฟังเสียงครางแห่งความพึงพอใจของผมอยู่ตลอด ผมใบ้มือของตัวเองลูบไล้แผ่นหลังและเส้นผมนุ่มมือของร่างใหญกว่าด้านบน

“ถอดสิ แฮ่ก...มึงถอด” ผมพยายามจะถลกเสื้อยืดของแมท หมายถอดมันออกจากตัวเขาเพื่อจะได้สัมผัสผิวกายของชายที่ผมรัก แมทไม่พูดไม่จา เขายันตัวขึ้นแล้วจับชายเสื้อของตัวเองถลกขึ้น

“ช้า...ถอดช้าๆ” ผมบอก แล้วค่อยเอื้อมมือไปลูบไล้กล้ามเนื้อหน้าท้องที่ขึ้นเป็นรอน

แมทมองต่ำลงมาเพื่อนลใบหน้าของผมที่แสดงออกถึงความต้องการ ผมเองก็มองตอบ สายตาของแมทยั่วยวน เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองที่เปื้อนน้ำลายบนอกผม ใต้แผ่นอกที่สะท้อนขึ้นลงสั่นไหวเพราะภาพตรงหน้า ผมยิ้มให้กับมัน แล้วเป็นฝ่ายออกแรงดันหน้าท้องให้ร่างกายของแมทหงายไปด้านหลัง เขารับรู้สิ่งที่ผมต้องการได้ดีถึงได้ถอดเสื้ออก ปามันทิ้งแล้วเปลี่ยนไปนอน ปล่อยให้ผมค่อยๆ คืบคลานไปบนตัวของเขา

ผมแลบลิ้นออกมาเลียนั้งแต่ใต้สะดือขึ้นไปด้านบนช้าๆ สองมือลูบลำตัวชื้นเหงื่อของแมทนำทางปากตัวเองไปก่อน ฟังเสียงพ่นลมหายใจของแมทเป็นการประกอบสิ่งที่ผมทำอยู่ ผมเลียจนขึ้นมาถึงซอกคอ ขบเม้มมันรุนแรงจนแมทเอื้อมมือมาจิกเส้นผมของผมไว้

“จะทำรอยหรอ....”

“ไม่ได้หรอ...” เงยหน้าสบตาปรือปรอย แมทมองตอบ

“ได้สิ” ผมไม่คิดหนอกว่าแมทจะปฏิเสธผม

ผมโน้มหน้าลงไปสร้างรอยต่อ ตรงนี้ไม่ใช่จุดที่เด่นสะดุดตาอะไร ถึงผมจะต้องการจนแทบประครองสติตัวเองไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากทำให้แฟนตัวเองต้องเป็นจุดสนใจของคนอื่นนัก แค่อยากทำก็เท่านั้น เมื่อผมออกแรงดูดอย่างเมามัน แมทก็กอดผมเอาไว้พลางแอ่นสะโพกตัวเองขึ้นมาบดเบียดกลางผมด้วยแรงอารมณ์ นั่นยิ่งทำให้มัวเมาเข้าไปอีก อดไม่ได้ที่จะเลิกเดแล้วกัดลงไปแทน ฟันคมค่อยๆ ไล่งับเบาๆ ไปทางลำตัว จนรอยแดงของฟันคมๆ ปรากฏขึ้น ผมเลียมันคล้ายกับปลอบประโลมความเจ็บปวดที่ผมสร้างจนกระทั่งมาเจอกับขอบกางเกงยีนส์สีเข้ม

ผมใช้ปากตัวเองควานหาซิปกางเกง มือยังคงลูบไล้หน้าท้องของแมท เมื่อเจอซิปผมก็ใช้ปากรูดมันลงแล้วค่อยๆ พรากท่อนล่างของแมทออกจากเจ้าตัว พอใกล้หลุดออกจากตัว แมทก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว ถีบมันออกแล้วดึงร่างผมให้คร่อมทับส่วนแข็งขืนของมันเอาไว้ ร่างกายร้อนวูบขึ้นมาทันทีเมื่อเผชิญกับความเป็นชาย

แมทเอานิ้วเข้าปากตัวเองให้ชุ่มน้ำลายก่อนจะนำมันมาสอดเข้าร่างกายผม อีกมือที่ยังว่างกอบกุมส่วนสำคัญของผมเอาไว้แล้วค่อยๆ ขยับมันไปพร้อมกัน ผมค่ำตัวแมท เชิ่ดหน้าพ่นลมหายใจ มันอึดอัดแต่ก็รู้สึกดีในเวลาเดียวกัน เพียงครู่เดียวเท่านั้น แมทก็ทำให้ร่างกายของผมพร้อมต่อการรวมเป็นหนึ่ง ผมมองตากับเขา ส่วนสะโพกก็ขยับหาความแข็งขืนก่อนจะกดลงไปช้าๆ กลืนกินตัวตนของแมททีละเล็ก ทีละน้อย

“อ่าห์...” ทั้งหมดเข้ามาอยู่ในร่างของผมแล้ว ภายในช่องท้องเสียวเสียดขึ้นมาทันใด แมทลูบไล้ทั้งส่วนอ่อนไหวและร่างกายของผมอย่างต้องการ

ผมค่อยๆ เคลื่อนสะโพกไปด้านหน้าและขยับมาด้านหลัง ให้สิ่งที่อยู่ด้านในได้สัมผัสความอ่อนนุ่มอย่างแนบชิด แมทพ่นลมหายใจออกมา สองมือหยุดอยู่ที่สะโพกของผม มันบีบเอาไว้เหมือนกำลังอดทนต่อความปรารถนาที่จะขยี้ผม สัมผัสอย่างนี้มันก็รัญจวนใจดีแต่คงยังไม่เพียงพอ ผมค่อยทำมันให้เร็วขึ้นแล้วเปลี่ยนจะเคลื่อนหน้าหลังเป็นขย่มขึ้นลงแทน

“ซี๊ด..บอม” แมทเอ่ยเรียกชื่อของผมด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความพึงพอใจ ผมเลื่อนจับมือของมันทั้งสองข้าง ประสานเรียวนิ้วลงไปจนแนบแน่นแล้วดึงให้มันตั้งฉาก รับน้ำหนักจากการโดนผมนำมาเป็นหลักประครองร่าง

“อ้ะ อ้ะ อ้ะ” เสียงครางของผมดังขึ้นเป็นจังหวะตามการขย่มขึ้นลง มันกำลังเร็วขึ้นเพราะอารมณ์ที่กำลังเอ่อล้น

“อื้ม...” แรงส่งจากคนด้านล่างแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้ผมเกือบหน้าทิ่มลงไปบนอกของเจ้าตัว

“อ๊า อ๊า อ๊าแมท..อื้ออ๊า” ยิ่งมันสวนขึ้นมาแบบนี้ก็ยิ่งเข้ามาได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น ความรู้สึกวาบหวามที่มากเกือบล้นนี้เป็นสาเหตุของอาการหมดเรี่ยวแรง ผมทรุดลงไปกองอยู่บนร่างกายของแมท ทั้งที่มันยังคงกระแทกสวนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

“อึ้ก...ไม่อ้าอ้าไม่วะ...ไหวแล้วแมท” บอกเสียงสั่น มือที่ยังประสานไว้ถูกผมบีบจนแน่น

แทนที่จะผ่อนลง แต่แมทกลับไม่ เขาไม่ยืดเวลาให้ผมได้ดื่มด่ำกับค่ำคืนให้นานกว่านี้ แมทเร่งจังหวะพร้อมกับใช้สองมือกดสะโพกผมให้แนบชิด รับแรงส่งอย่างหนักหน่วง เราทั้งคู่ต่างเกร็งร่างกายจนมันเครียดขึง แต่จุดหมายปลายทางกำลังใกล้เข้ามาทุกที ไม่ใช่แค่ผม แต่แมทเองก็คงจะไปพร้อมๆ กัน ไม่งั้นเขาไม่มีทางเร่งเร่าขนาดนี้

เห็นปลายทางอยู่ตรงหน้า อีกนิดเดียวเท่านั้นผมก็จะถึงจุดหมาย แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อแมทหยุดชะงักทุกอย่างลงอย่างเฉียบพลัน ราวกับไฟโดนน้ำเย็นๆ ราดลงมา ความรู้สึกอันมากมายยังคงทำงานอยู่แต่มันกำลังจะลดลงช้าๆ ผมฟังเสียงใจของแมท เฝ้ารอเขาจะทำต่อแต่ก็ไม่ เขาเอาแต่กอดผมไว้อยู่แบบนั้น

“แมท...” เอ่ยเรียก หวังจะบอกให้เขาทำต่อแต่แมทดันดึงใบหน้าของผมเพื่อไปรับจูบอันเร่าร้อนของเขา ไฟราคะของเราทั้งคู่ยังไม่มอดดับ แต่แมทกลับทำกับผมแบบนี้เพื่อเป็นการกลั่นแกล้งงั้นสินะ

“ใจร้ายไปแล้วนะ” ผมต่อว่าทั้งที่ยังคั่งค้างอยู่ แมทเองก็เหมือนกัน

“กูก็ทรมานหน่า...” มันบอกพร้อมยิ้มบาง

“งั้นก็ต่อสักทีสิ จะรอให้ไอ้เด็กดิวมาตัดริบบิ้นหรือไง” ผมประชดออกไป

“พูดจาไม่น่าฟังเลย ตรงนี้มีแค่มึงกับกูก็พอแล้ว จะเอ่ยชื่อคนอื่นออกมาทำไมกันหืม” คำว่าคนอื่นแมทเน้นเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับเด็กนั่นมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้

แมทจูบผมอย่างดูดดื่มอีกครั้งก่อนจะดันร่างผมให้นั่งหลังตรง รอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าของมันทำให้เกิดอาการเก้อเขินขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่มันก็มลายหายไปเมื่อแมทเดินเครื่องอีกครั้ง และไม่มีการรีรออะไรมากมาย เขาเร่งจังหวะในทันทีเพราะเครื่องของเราทั้งคู่ร้อนฉ่ากันอยู่แล้ว ผมไม่อายที่จะครางดังให้แมทฟัง แม้มันจะกลบเสียงหายใจอันเร่าร้อนของแมทไปบ้างก็ตาม

สายตาคมจับจ้องร่างกายที่ขยับขึ้นลง ผมได้แรงส่งจากเขาและผมเองก็ร่วมมือด้วยการกระแทกตัวเองลงไปหา ถึงจะเสียวจนอ่อนแรง แต่ผมก็อยากไปถึงจุดหมายปลายทางที่ถูกพรากไปเมื่อครู่นี้เต็มที แมทเองก็รู้ดีเพราะเขาเองก็ไม่ต่าวอะไรกับผมเลย

ภาพตรงหน้ากลายเป็นภาพเบลอมากขึ้นเรื่อยๆ เหลือเพียงเสียงหยาบโลนต่างๆ รอบกายบอกเล่าสิ่งที่เรากำลังทำกันอย่างลึกล้ำนี้ รู้สึกว่าตัวเองกำลังครางดังมากขึ้นทุกที ส่วนปลายกายของผมมีบางอย่างกำลังซึมไหลออกมา เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตัวเองนั้นกำลังเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นทุกที

และเพียงครู่เดียว...เราสองคนก็พากันกระตุกอย่างรุนแรง พร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากร่างกาย ผมตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำอนู่พักหนึ่งก่อนจะหมดแรงและล้มตัวลงซบอกแมท มันกอดผมเอาไว้ เราหอบหายใจแข่งกัน น่าจะอีกพักใหญ่ทุกอย่างถึงจะกลับสู่ความสงบอีกครั้ง

“กูรักมึงนะบอม” แมทปลแนบริมฝีปากตนกับหน้าผากผม

“อื้อ กูก็รักมึง” ผมยิ้มให้ ไม่ใช่ยิ้มแบบการค้าที่มักใช้ แต่เป็นรอยยิ้มพิเศษที่มอบให้คนพิเศษเท่านั้น

ผมกับแมทกอดกันอยู่นานกว่าแมทจะขอตัวไปอาบน้ำ โดยไม่วายชวนผมไปอาบด้วยแต่ผมปฏิเสธ ผมไม่อยากโดนซ้ำรอบสอง กลมันก็เร่าร้อนดีหรอกแต่ฝ่ายรับก็มีขีดจำกัดนะครับ เมื่อครู่นี้อมอแรงกันที่ไหน ตอนนี้ปวดระบมพอสมควร ถึงไม่มากไม่มายอะไรแต่ก็ควรพักหน่อย

ระหว่างรอแมทไปอาบน้ำ ผมเฟซหากล้ากับเต้ บอกขอโทษพวกมันสองตัว ตอนนั้นอารมณ์มันพุ่งปรี๊ดไปหน่อย ตอนนี้ดีขึ้นแล้วก็เลยอยากขอโทษ พวกมันเข้าใจดี ไม่ได้ว่าอะไรผม พอผมสบายใจผมก็นอนแผ่หราโดยไม่ลืมใส่เสื้อผ้า กลัวแมทมันออกมาแล้วอารมณ์ขึ้นอีก เห็นสุภาพอ่อนโยนแบบนั้นแต่แมทมันหื่นไม่เบาเลยนะครับ อย่าดูถูกความเป็นเสือของแมทเชียว มันมีวิธีตะล่อมเยื่อให้ยินยอมพร้อมใจเป็นของมัน แน่นอนว่าผมไม่เคยหนีได้เลย สุดท้ายก็ฟินแบบเจ็บตัวนิดๆ กันไป

 “ไปอาบน้ำซะ เดี๋ยวกูอุ่นอาหารให้” แมทตรงเข้ามาดึงผมให้ลุก จูบหน้าผมอีกทีแล้วเดินเข้าครัว

ผมเดินเข้าไปอาบน้ำอีกครั้งด้วรอยยิ้ม มันมีความสุขจริงๆ นะเนี่ย ความเป็นคนดีน่ารักนี้ของแมทเนี่ยเป็นสิ่งหนึ่งที่มัดใจของผมเอาไว้ ในขณะที่เพื่อนผมต่างคิดว่าการที่ผมไปมีคนอื่นนั้นเพราะแมทดีเกินไป บ้าหรือเปล่า คนดีผมต้องรักสิ แค่หนุกๆ กับคนอื่นบ้างไม่ได้นอกใจเขาไปไหนสักหน่อ

อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เสร็จ ออกมาก็ได้กลิ่นหอมคลุ้งห้องไปหมด อาหารของวันนี้น่าจะเป็นอาหารไทย ไม่งั้นกลิ่นไม่โชยขนาดนี้หรอก ผมรีบดิ่งไปที่โต๊ะกินข้าวอย่างไว ท้องไส้ปานป่วนหลังจากออกกำลังชุดกลางกับแมทไป

ชุดกลางยังไงน่ะหรอ...ก็กลางห้องไง อิอิ

“ร้านไหนเนี่ย อร่อยจัง” ได้ชิมคำแรกผมก็ออกปากชมทันที

“อร่อยหรือหิว” แมทว่าขำๆ
“ไม่รู้วะ สงสัยรอบหน้าต้องรองไปกินตอนไม่หิว มึงพากูไปด้วยละ” แมทพยักหน้าแล้วเริ่มกินมื้อค่ำที่เลยเวลาค่ำมามากพอสมควร

แต่พอกินไปสักพักผมก็เพิ่งนึกได้ว่าก่อนไอ้เด็กดิวส่งข้อความมาผมกำลังคิดว่าจะคุยเรื่อวหนึ่งกับแมท จริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ผมนัดสาวๆ ไว้นั่นแหละ เสาร์อาทิตย์นี้ซะด้วย สำคัญกว่าการนัดคือเงิน ผมว่าจะลองขอเงินแมทไปน่ะ ผมมองแมท รอดูว่าควรจะพูดตอนไหน และผมก็ตัดสินใจว่าเรากินกันอิ่มแล้วค่อยคุบกันก็ได้ ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักทุกอย่างบนโต๊ะก็เรียบเป็นหน้ากลอง นี่ผมสองคนเป็นคนหรือปอบ กวาดอาหารเยอะๆ จนเกลี้ยงได้ขนาดนี้
“เออแมท วันเสาร์อาทิตย์นี้มึงว่าป่ะ”
“ไม่อ่ะ มึงก็รู้กูต้องรีบเร่งโปรเจ็กต์ ทำไม อยากไปไหน” แมทเอาจานซ้อนๆ กัน
“อ่อ คือครีมกูหมด เลยว่าจะให้มึงพาไปซื้อ แต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร” ตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องโกหก คือครีมผมยังไม่หมดอะ
“อ่าว เมื่อวันก่อนมึงก็ซื้อครีมมาแล้วนี่” แมทเลิกคิ้ว
“คนละตัวกัน กูไม่ได้ซื้อไนท์ครีมมา กูลืมว่ามันจะหมดแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวเอาบัตรกูไปรูดเอาละกัน” แมทตัดสินใจง่ายๆ ผมลอบยิ้มในใจ ได้บัตรไปรูดเองเลยนะ...สบายเลย บัตรของแมทกดเงินได้ด้วยน่ะสิ มีเงินเลี้ยงพี่พู่กับบัวละ
ผมรีบช่วยแมทเอาถ้วยเอาจานไปล้าง เป็นเด็กดีที่ช่วยงานบ้านซึ่งมันก็แปลกใจ แต่มันคงเข้าใจว่าที่ผมทำน่ะเพราะมันให้เงินไปซื้อครีม ซึ่งก็ถูกแหละเรื่องที่ผมทำเพราะได้เงิน แต่ผมไม่ได้จะซื้อครีมให้ตัวเองเนี่ยสิ ขืนแมทรู้ว่าผมเอาเงินไปปรนเปรอผู้หญิงอื่น...ผมคงหัวกุดแน่ๆ
แต่ไม่ต้องห่วง...ระดับบอม แมทไม่มีทางรู้แน่นอน!


จบบทที่ 5
:katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-12-2016 12:42:05
แมท แก้ตัวน่ะสิ เครื่องมีไวรัส เลยล้างเครื่อง
เสือแมท ชัดๆ แล้วแก้ปัญหาด้วยเซ็กส์ต่อ
แต่มันยังค้างคาในใจอยู่ดี :mew2: :mew2: :mew2:
สงสัยแมท ต้องไปสั่งดิวว่าห้ามส่งข้อความแน่เลย
ตัวเองทำได้ หลีหญิง เจ้าชู้ แต่แมท ห้ามทำ :katai1: :katai1: :katai1:
รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ดีนะเนี่ย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 25-12-2016 13:18:52
ไม่เคยรำคาญนายเอกเรื่องไหนเหมือนบอมมาก่อนเหมือนคนตรรกะป่วยอย่างแรง ใครเตือนก็ไม่ฟังพาลโกรธเค้าไปอีก นอกกายแต่ไม่ได้นี่คิดได้ไง แถมยังทำตัวเหมือนแมงดาเกาะกินยังจะเอาเงินไปซื้อของให้ชู้อีก เราโคตรขยาดอะคนแบบนี้ สมควรแล้วที่แมทจะนอกใจบ้าง แต่เราว่าเรื่องนี้แมทก็ทำไม่ถูก มีคนทำเลวกับเราไม่ใช่เหตุผลในการทำเลวกลับ เราแค่เชียร์ให้เลิกแล้วหาคนใหม่ โอ้ยยยย อินมากค่ะคุณคนเขียน อยากรู้จุดจบของบอมสุดท้ายคงไม่มีใครจริงใจด้วย พ่อคนเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล  :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 25-12-2016 23:27:56
 คู่นี้สมน้ำสมเนื้อจริงๆอะ เป็นมวยถูกคู่ล่ะ รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 26-12-2016 10:32:37
อยากให้บอมเลิกสีหญิงจัง.... หันมาสีผชหล่อๆแทน ก้ากกกก จะไ้ด้สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย  :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 5 [25/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-12-2016 23:20:04
เสือกินเสือ เนื้ออร่อย ต้องค่อยแทะ
แต่ไปแอบ กินแกะ แทะไม่เหลือ
ถ้าจับได้ ไล่ทัน เกลือจิ้มเกลือ
ทั้งสองเสือ ไม่เหลือลาย หายกันไป

เหตุผลของแมทที่ให้กับบอม
ทุกครั้งมันดูง่ายเกินไปซะเหลือเกิน
ทุกอย่างมันบังเอิญลงตัวได้ขนาดนั้น เลยเหรอ
เหมือนเสือซ่อนลาย..แนบเนียนมากกว่า

ส่วนบอมก็พลิกพลิ้วซะจนคิดว่าตัวเองแน่มาก
คิดว่าหลอกแมทให้เชื่อได้สำเร็จ มั่นมาก
ก็เหมือนกับเสือเผยลาย..อยู่ในทุ่งโล่ง

แต่ยังไงทั้งสองคนก็คือเสือ

เสือก็ยังเป็นเสือ
หุหุ
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 27-12-2016 15:30:49
เธอมีชู้

บทที่ 6

[แมท]
ผมสงสัย...เด็กปีหนึ่งอย่างเราๆ กิจกรรมเยอะมาก เรียนก็หนักแถมยังเป็นช่วงปรับตัว แต่ทำไม บอมยังมีเวลาไปเที่ยวได้ ยิ่งผ่านกิจกรรมหนักๆ มา บอมก็จะยิ่งเที่ยวบ่อยขึ้น โดยเฉพาะไปกินเหล้ากับเพื่อนที่ชื่อเต้

ผมไม่ได้รู้จักหรือสนิทกับเพื่อนของบอม เพราะคณะตัวเองก็ยุ่งวุ่นวายจนหายใจหายคอแทบไม่ทัน แต่เคยเจอกล้ากับเต้ตอนไปส่งบอมที่คณะ และบางครั้งมื้อเช้าหรือเที่ยงเราก็จะกินข้าวด้วยกัน ทั้งสองคนนั้นรู้ว่าผมกับบอมเป็นแฟนกัน นอกนั้นน่าจะไม่รู้ เพราะผมและบอมไม่ได้ทำอะไรให้มันประเจิดประเจ้อ

แต่คิดอีกที...ผมน่าจะทำให้คนอื่นๆ ได้รู้นะ บอมน่ะเป็นคนเจ้าชู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว สายตาของเขานั้นซุกซน พราวเสน่ห์ บวกกับรูปหน้าที่หล่อเหลาและผิวพรรณที่ดีมากๆ จากการบำรุง ทำให้ไม่ว่าเขาจะอ่อยใคร คนนั้นเสร็จเขาทุกราย

ครั้งแรกที่ผมเจอกับบอมนั้นเป็นช่วงสมัยมอห้า ย้ายมาจากโรงเรียนอื่นเนื่องจากมีปัญหาเรื่องชู้สาว คือตามจริงผมไม่ได้ไปมีชู้อะไรกับใครเลยครับ แต่พวกผู้หญิงเขามาชอบผมเอง เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนเก่าไม่ได้รุนแรงถึงขั้นอยู่ไม่ได้ ผมน่ะเอาตัวรอดได้ดีในหลายสถานะการณ์ เพียงแต่ผมทนความรำคาญไม่ไหวอีกแล้ว เลยขอแม่ย้ายโรงเรียน อยากจะเข้าชายล้วนแต่กลายเป็นโรงเรียนเอกชนห่างจากบ้านไปได้ แม่คิดว่าผมมีปัญหากับเพื่อนแถวนั้น กลัวผมไม่สบายใจเลยส่งมาอยู่คนเดียวกลางเมืองซะเลย ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ

ผมสบตากับบอมตอนผมแนะนำตัวเองว่าย้ายมาจากที่ไหน สายตาซุกซนของเจ้าตัวทำให้ผมอมยิ้ม มันน่ารักมาก บอมน่ะคงไม่รู้ตัวเองหรอก ถึงบอมจะไม่ใช่สเป็กของผมเลย เพราะเขาไม่ได้ตาโต ตัวเล็ก อ่อนแอ้นเปราะบาง บอมมีความแตกต่างจากชายหนุ่มที่ผมชอบ เขาเป็นนักรักตัวพ่อ เจ้าชู้ประตูดิน ปากนี่มีแต่คำหวานไว้หยอดสาวๆ ยิงมุกเสี่ยวแทบตลอด ผมคอยเฝ้ามองบอมเพราะเขามีเสน่ห์ นี่ละหนา...ที่เขาว่าคนเจ้าชู้มักจะมีเสน่ห์ ตอนแรกดูรู้เลยว่าบอมไม่ชอบขี้หน้าผม แต่เพราะผมตีเนียนไปอยู่กลุ่มเดียวกับบอมจนได้ทำให้เรากลายเป็นเพื่อนกัน

แต่เพื่อนคนนี้อยากกินเพื่อนจัง...

ผมก็ไม่คาดคิดหรอกว่าจะมีโอกาสได้กินบอมจริงๆ ต้องขอบคุณความอยากรู้อยากลองของมนุษย์ที่ทำให้ผมได้ครอบครองบอมในวันนั้น หลังจากได้บอมผมก็ตามจีบบอมให้มาเป็นแฟน ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักบอมก็ยอมเป็นของผม

แต่เรื่องราวมันไม่ได้แฮปปี้ที่ตรงนั้นสิครับ...

บอมเป็นเสือ แถม...เป็นเสือแอ๊บแบ๊ว เขาใช้ความน่ารักน่ากินของตัวเองอ่อยสาวๆ ไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งที่ผมนั่งอยู่ข้างๆ มีผมเป็นแฟนแล้วแท้ๆ ผมเก็บกั้นความไม่พอใจนั้นแล้วทำตัวเหมือนไม่มีอะไร ผมเข้าใจได้  แต่ไม่นาน ผมตัดสินใจพูดเรื่องนี้กับเขาตรงๆ เลี่ยงการพูดจาให้ทะเลาะกัน ผมไม่ชอบความรุนแรงยกเว้นเวลาอยู่บนเตียง ต้องใช้วาจาหวานๆ อ้อนวอนขอร้องให้เขาเข้าใจหัวอกคนเป็นแฟนอย่างผมบ้าง เรื่องราวความเจ้าชู้ในรอบนั้นจบลงด้วยดี บอมเข้าใจผมและเราก็คบอย่างมีความสุข

นิทานมักจบลงเช่นนั้น แต่นั่นไม่ใช่บอม!

ผมก็พูดไม่ได้เต็มปากว่าบอมมีคนอื่น แต่การกระทำและหลายๆ อย่างทำให้ผมคราแครงใจในตัวของบอม บ่อยมากที่บอมกลับมาบ้านพร้อมกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงติดตัว เมื่อก่อนก็นานๆ หน แต่พอกิจกรรมเริ่มซา กลิ่นน้ำหอมพวกนั้นก็เริ่มจะมาบ่อยขึ้น ผมถามตลอดว่าทำไมมีกลิ่นน้ำหอมติดตัว น้ำหอมนี้ไม่ใช่กลิ่นที่มันใช้ บอมจะอารมณ์เสียหน่อยๆ บอกก็น้ำหอมคนอื่นมาติดตัว แรกๆ มันก็คิดว่าใช่...แต่พอเจอบ่อยชนิดแทบวันเว้นวันผมก็ชักไม่มั่นใจในคำตอบ

บ่อยครั้งเราทะเลาะกันเรื่องนี้ พอผมเริ่มซักไซร้ เรื่องก็จะบานปลายในทันที บอมหัวเสียหนัก หาว่าผมไม่มั่นใจในตัวเขา ไม่ไว้ใจเลย ผมผิดหรือไงละที่ผมรักและหวงมันจนคิดมากน่ะ บอมเสน่ห์แรงจะตาย ไหนจะอัธยาศรัยดี มีใครบ้างที่ไม่อยากได้ผู้ชายคนนี้เป็นแฟน ขนาดผมเป็นผู้ชายผมยังหลงเขาหัวปักหัวปำเลย

พอบอมหัวเสียเรื่องเหมือนผมจับผิด ผมก็ต้องง้อเขา ทั้งที่ในความรู้สึกของผม ผมไม่เคยเข้าใจเลยว่าผมนั้นผิดอะไร รักเขา หวงเขา คือสิ่งที่คนเป็นแฟนกันไม่สมควรทำหรอ จริงที่บอมแสดงให้ผมเห็นว่าเขาเชื่อใจผมแค่ไหน ด้วยการไม่ตรวจมือถือ ไม่ซักถามนั่นใครนี่ใคร ไปไหนหรือทำอะไรกับใครในแบบที่ผมทำ แล้วผมต้องทำแบบที่เขาทำด้วยงั้นสินะ ผมก็อยากทำแบบนั้นถ้าบอมไม่ทำตัวให้น่าระแวงขนาดนี้

เรารักใครชอบใคร คบกับใคร ก็อยากให้คนๆ นั้นมีเพียงเราแค่คนเดียวเท่านั้นนี่ครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย

แต่บางครั้งผมก็คิดว่าผมอาจจะคิดมากไปเอง บอมยังอยู่กับผมทุกวัน อ้อนบ้างในบางครั้งและเราก็ยังมีความสุขด้วยกันดี ถ้าบอมมีคนอื่นจริงๆ สิ่งที่มันเป็นอยู่นี้คงต้องสั่นคลอนไปบ้างสิ แต่นี่ไม่เลย สิ่งที่บอมแสดงออกต่อผมยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เพียงแค่ช่วงนี้เราไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน

เฮ้อ...ผมเครียดที่ตัวเองเป็นคนคิดมาเรื่องบอมนะครับ

อย่างวันนี้ วันเสาร์บอมบอกจะไปซื้อครีมสำหรับทาตอนกลางคืน ผมอยากตามไปดูมากเลยว่าบอมไปซื้อครีมจริงไหม รางสังหรณ์ของผมมันเตือนรัวๆ ว่าเขาอาจจะโกหกผมเพื่อไปหาผู้หญิงคนอื่น เพราะถึงผมจะไม่ค่อยรู้เรื่องของบำรุงที่บอมใช้แต่ผมก็รู้ดีว่าบอมไม่มีทางลืมซื้อของแน่ๆ วันนั้นเราเดินซื้อกันตั้งนาน ครีมเดย์กับไนท์บอมใช้ของยี่ห้อเดียวกัน วางอยู่เคาน์เตอร์เดียวกัน เขาจะลืมได้ยังไง ไม่มีทางอะ มันต้องมีอะไรแน่ๆ เลย

แต่ผม...ดันไม่ว่าง

ทั้งที่รู้ดีว่าต้องมีอะไรสักอย่างแท้ๆ ดันไปตามดูไม่ได้อีก อย่างนี้ผมคงต้องระแวงและเครียดไอเรื่องน้ำหอมของบอมไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทางจับได้สักทีว่าที่ผมคิดน่ะมันถูกหรือมันผิด ผมไม่อยากรู้สึกว่าการที่ตัวเองระแวงคนรักตามสัญชาตญาณนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ทุกครั้งที่ทะเลาะผมต้องง้อเขาอะ ผมไม่ได้ผิด ผมจำเป็นต้องทำไหม จริงที่จะไม่ใส่ใจอะไรเล็กๆ อย่างใครผิดต้องง้อก็ได้ แต่บ่อยครั้งเขาคนเราก็รู้สึกแย่ได้นะครับ

“พี่แมทเป็นอะไรไป ทำไมสีหน้าไม่ดีเลยละครับ” ผมหันไปยิ้มให้ดิวที่เดินอยู่ข้างกาย เหมือนว่าตัวผมเองนั้นไม่ได้มีความเครียดอยู่เลย ด้วยนิสัยที่ชอบยิ้มนี้แหละที่ทำให้ไม่มีใครเข้าใจอารมณ์ที่แท้จริงผมนักสักไหร่

ยกเว้นบอม มันรู้ดีที่สุด รอยยิ้มของผมเป็นเพียงสิ่งที่ทำจนเป็นนิสัยเท่านั้น ไม่ได้บ่งบอกอะไร มันไม่ต่างจากคนนิ่งทำหน้าตายเท่าไหร่ แต่แบบนี้มันนำพาเพื่อนฝูงมาได้มากกว่าเท่านั้นเอง
“เปล่าครับน้องดิว พี่แค่คิดเรื่องน้องชายนิดหน่อย”
“อ่อ..น้องชายที่ชื่อบอมนั่นน่ะหรอครับ”

ผมพยักหน้าให้กับดิว เด็กผู้ชายวัยสิบเจ็ด ตัวเล็กหน้าใส ผิวขาว หน้าตาน่ารักแบบที่สามารถแต่งเป็นหญิงได้เหมือนสุดๆ แต่เขาแมนนะครับ ถึงจะเป็นเกย์ก็ไม่มีอาการออกสาว ดิวเป็นรุ่นน้องของเพื่อนผมอีกที เขายังเรียนมัธยมปลายอยู่ และคาดว่าถ้าเขาจบเขาจะมาเข้าที่มหาลัยเดียวกับผมแน่นอน เพราะดิวน่ะ...

รักผม...

ผมเจอดิวตอนที่มำกิจกรรมรับน้องของคณะ เขามาหาเพื่อนผมที่ชื่อพัน และยังเข้ามาช่วยพี่ๆ เขาดูแลเรื่องกิจกรรมของพวกเราอีก ดิวเป็นเด็กน่ารักครับ ใครๆ ก็เอ็นดูเขา ผมเองก็เช่นกัน

ขณะที่ทำกิจกรรมหนึ่งอยู่ผมรู้สึกว่าภาพตรงหน้าเปลี่ยนสีวิบวับก่อนจะร่วงลงกองอยู่กับพื้น ดิวเป็นคนแรกที่วิ่งเข้ามาดูแลผม เพราะเขาอยู่ใกล้ผมที่สุด ร่างเล็กค่อยๆ ประครองให้ผมได้นอนหนุนตักเขาแล้วโบกกระดาษในมือ ลมเย็นๆ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น รุ่นพี่กรูตามมาทีหลังก็วิ่งเข้ามาหามผมไปนอนพักที่ห้องพยายาม สอบถามอาการและปัญหาสุขภาพที่ผมเป็น ผมบอกว่าผมน่ะเป็นโรหิตจาง หน้ามืดเป็นลมได้ง่าย ต้องขอโทษพี่ๆ เขา ดีที่รุ่นพี่เขาใจดี เขาเข้าใจและให้ดิวอยู่ดูแลผม

แต่รู้อะไรไหมครับ...ผมไม่ได้เป็นโรหิตจาง และผมไม่ได้หน้ามืดจริงๆ

อ้าว แล้วที่ล้มไปละ? ง่ายมาก...การแสดงยังไงละครับ

ก็ดิวเขาตรงสเป็กผมทุกอย่าง เขาดูอ้อนแอ้นเปราะบาง ดูออกในทันทีว่ามีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน ที่สำคัญเขาไม่ออกสาวซึ่งผมชอบมาก ดิวมองผมตลอดผมรู้ ผมถึงต้องอ่อยกันหน่อย เปิดโอกาสให้เขาได้เข้ามาใกล้ๆ มาดูแลผมระยะประชิดตัวแทบติดกัน

ดิวเก้อเขินมากกับการต้องอยู่ดูแลผม เขาไปหายา หาน้ำมาให้ก่อนจะนั่งลงข้างเตียงเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ ผมมองหน้าเขา สำรวจและจับจ้องดวงตาที่พยายามหลบหลีกการรุกของผม แต่ไม่ว่าจะดูเมินแค่ไหน ใบหน้าสวยๆ นั่นก็แดงซ่านจนผมเห็นได้ชัดอยู่ดี ผมรู้ทันทีเลยครับว่าดิวหมายตาผมอยู่ และผมเองก็หมายตาดิวด้วย

ผมเอาเวลาช่วงที่เรานั่งจ้องหน้ากันสำรวจทุกอย่างที่เป็นดิว จากนั้นขอเบอร์โทรและไลน์เขาเอาไว้ ดิวยอมให้แต่โดยดี เหมือนเต็มใจมากๆ ด้วยซ้ำ ผมส่งยิ้มอ่อนโยนให้ดิวตลอด พยายามสั่นคลอนหัวใจด้วยน้อยด้วยความเป็นผม สุดท้ายภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงผมก็ได้จูบกับดิว

ผมกับดิวตกลงคบกันในวันนั้น โดยดิวไม่เคยรู้เลยว่าผมน่ะมีแฟนอยู่แล้ว...

ผมบอกกับดิวว่าบอมเป็นน้องชายที่อายุไล่เลี่ยกัน เราอาศัยอยู่ด้วยกันและน้องชายของผมไม่ชอบให้พาคนอื่นเข้าบ้านโดยเฉพาะเกย์ เป็นคำโกหกที่ดูไม่ดีเท่าไหร่แต่มันใช้ได้ผล ยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงดีๆ ให้เขาเห็นใจเรายิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทุกวันนี้ดิวเลยไม่คิดมากเรื่องผมไม่พาเขาไปที่ห้องเลยสักครั้ง แถมยังเข้าอกเข้าใจผมดีเวลาผมต้องรีบไปหาบอม

และธุระของผมวันนี้ก็คือดิวนี่แหละครับ!

อันที่จริงต้องบอกว่าไอ้รายงานทีบอกกับบอมไปนั้นมีความเป็นจริงอยู่แค่นิดเดียว ผมมีรายงานชุดใหญ่ที่ต้องทำแต่มันเสร็จไปแล้วด้วยความช่วยเหลือของดิว ทั้งที่เยอะมาก แต่เด็กคนนี้กลับช่วยผมเคลียได้เสร็จภายในสองวันที่บ้านของเขา ที่เหลือผมก็เป็นเวลาของเราสองคน ซึ่งส่วนใหญ่มักคุยกันบนเตียงด้วยภาษากายมากกว่า

แรกๆ ผมกลัวบอมจะสงสัยเลยแกล้งจับผิดบอม ด้วยการซักนั่นซักนี่ แต่ดันไปโดนจุดเข้าเสียอย่างนั้น กลายเป็นว่าจากแกล้งกลบเกลื่อนตัวเองก็กลายเป็นความระแวงจริงจัง ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ผมปล่อยเด็กดิวตอนนี้ไม่ได้หรอก ผมชอบลีลาเขา ทั้งที่ยังละอ่อน แต่เรียนรู้ไวและเป็นผู้ตามที่ดีจริงๆ ผมเสนออะไร ให้ทำอะไรได้หมด

ดิวกับบอมน่ะ...คนละอารมณ์กันเลย

ไม่ใช่บอมไม่ดีนะ บอมยอดเยี่ยมเลยละครับ เอามัน ถึงพริกถึงขิงจริงๆ ลีลาไม่ต้องพูดถึง เราอยู่ด้วยกันมานาน พัฒนาจากความเงอะหงะมาชำนาญได้ไม่ยากเย็น แต่ที่ว่าคนละอารมณ์เพราะมันคนละคนกันไงครับ ดิวมอบความตื่นเต้นให้ผมได้ ถึงไม่อิ่มเอมเต็มร้อยเท่าทำกับแฟนตัวเองก็ตาม

“กินอะไรกันดีเอ่ย” ผมกระชับมือซ้ายซึ่งควรจะมีแหวนใส่อยู่ที่นิ้วนาง เป็นแหวนของดิว เขาซื้อให้ แต่ผมเลือกที่จะเก็บมันไว้โดยบอกว่าผมไม่ชอบใส่แหวน

ผมไม่ชอบใส่แหวนจริงๆ ครับ ผมกับบอมเราคบกันโดยใส่ต่างหูคู่เดียวกัน ผมสั่งทำมาเป็นพิเศษเพื่อเราสองคน ดังนั้นผมและเขาจึงไม่มีแหวนคู่ และไม่มีใครรู้เรื่องความสัมพันธ์อีกต่างหาก

“อืม...พี่แมทอยากกินอะไรอะครับ ดิวคิดไม่ออกเลย” เขาช้อนตามองพลางครุ่นคิด

“ที่คิดไม่ออกเพราอยากกินหลายอย่างหรือว่าไงน้า” ทำเสียงเย้าคนตัวเล็กข้างกาย

“โถ่พี่แมทก็ รู้ทันดิวอีกแล้ว ทำไงได้ละครับ นั่นก็อยากกิน นี่ก็อยากกิน...” ดิวส่งสายตาเชิญชวนมาในท้ายประโยค เราเข้าใจความหมายกันดีถึงแม้ไม่แสดงท่าทางอะไร

“ไอ้นี่น่ะเดี๋ยวได้กินแน่ครับ” ขยิบตาให้เขาด้วยความรู้กัน ดิวหน้าแดง เอียงคอเสตาไปทางอื่น

“งั้นก่อนได้กินไอนี่ เราไปกินไอนั่นกันดีไหมครับ” เขาชี้มาที่ผมก่อนจะชี้ไปที่ร้านบุฟเฟ่ร้านหนึ่ง

“ได้สิครับ เติมพลังงานให้เยอะๆ เลยนะ เพราะถ้าจะกินไอนี่น่ะต้องใช้พลังเยอะสุดๆ”
“อื้อ รู้ละหน่า” เขาตีผมเบาๆ แล้วจับมือผมเดินนำไปยังร้านที่เขาเลือก เราเข้าไปในร้าน เลือกที่นั่งด้านในๆ คนจะได้ไม่พลุกพล่าน

ผมปล่อยดิวเลือกน้ำซุป ตัวเองกดเข้าโปรแกรมแชตไลน์เพื่อคุยกับบอม พยายามสังเกตไปด้วยเขาตอบช้าเร็วแค่ไหน มีพิรุทไหม และผมให้เขาถ่ายรูปสถานที่ให้ดูด้วย ผมอยากมั่นใจว่าตอนนี้เขาอยู่กับเพื่อนจริงๆ ไม่ได้โกหกผมเพื่อไปเที่ยวกับสาวคนไหน เพราะผมหวงเขามาก ไม่อยากให้เขามีใครนอกจากผม

ทุกวันนี้ผมก็กลัวนะ กลัวว่าวันหนึ่งเขาจะทิ้งผมไป ผมรับไม่ได้แน่ๆ เราอยู่ด้วยกันทุกวันจนกลายเป็นความเคยชิน หากไม่มีเขาผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง อย่างดิวที่ผมแอบคบยังไม่สามารถทำให้ผมเติมเต็มได้เท่ากับบอมเลย เด็กคนนี้ให้ผมได้แค่เซ็ก แต่บอมให้ผมได้มากกว่านั้น เขาให้ความรัก ความอบอุ่น ความสบายใจ อยู่เขาผมไม่ต้องเสแสร้ง แค่มองตากันก็เปรียได้กับการบอกรักกันแล้ว

“พี่แมท...” ดิวเรียก ผมกดล๊อคปน้าจอแล้ววางมือถือลงกับโต๊ะ

“ครับ” ขานรับพร้อมรอยยิ้มที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ

“คือว่า...” เขามีท่าทีคิดหนัก สีหน้าเคร่งเครียดพอสมควร มีอะไรหรือเปล่า เห็นกดมือถืออยู่เมื่อกี้นี้ด้วย

“ว่าอะไรครับ มีอะไรหรือเปล่า บอกพี่ได้เลยไม่ต้องกลัวนะ” เอื้อมมือไปกุมมือเล็กเอาไว้

“พ่อกับแม่ผม...อยู่บ้าน คือท่านไลน์มาบอกว่าท่านกลับเข้าบ้านมาแล้ว วันนี้ที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยเลยหยุดงานกันครึ่งวัน” เข้าใจความหมายในทันที ตามจริงวันนี้ก็นัดไปบ้านดิวนี่แหละครับ ไปทำอะไรก็พอเดาได้อยู่ แต่เมื่อสถานที่ไม่พร้อมอย่างนี้คงต้องยกเลิก ไม่ก็...

“ลองเปลี่ยนบรรยากาศดีไหมครับดิว” ผมยิ้มใส

“ยังไงครับ?”

“ดิวเคยเข้าโรงแรมม่านรูดไหมละครับ” พอถามหน้าเขาก็แดง คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาอายๆ

“ผมจะไปเคยเข้าโรงแรมได้ไงละครับพี่แมท คนที่ผมคบจนมาถึงขั้นนี้ได้ก็มีแค่พี่คนเดียวเท่านั้นเองนะครับ” เรื่องนี้ดิวเคยบอกผมแล้ว ผมเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ร่างกายเขามาครอบครอง แถมระยะเวลายังสั้นมาก คบกันสามวันผมรุกเขาหนักหน่วงที่ห้องนอนเขาทันที

ก็เพรารอยยิ้มใสซื่อนี่ไงละครับ คนที่มาคบหรือกระทั่งคนอื่นๆ ถึงตามเกมไม่เคยทัน เขามักคิดว่าผมไร้พิษสงและคาดว่าน่าจะเป็นคนดีสุภาพบุรุษงั้นงี้ ซึ่งสิ่งที่ผมแสดงออกมันก็เข้าเร้าอยู่หรอก เพียงแต่ด้วยนิสัยของผม มันตรงข้ามกับสิ่งเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง การที่ผมชอบยิ้มใสๆ นั้นไม่ได้หมายความว่านิสัยของผมจะต้องเป็นอย่างที่เห็นภายนอกนี่ครับ คนเราน่ะมันมีตื่นลึกหนาบางทั้งนั้นแหละ

“พี่ก็ไม่เคยเข้าครับ แต่พี่ก็อยากลองเข้าดูสักครั้งเหมือนกันนะครับ เพื่อนพี่เคยเล่าให้ฟังถึงบรรยากาศในนั้น พี่สนใจแต่ไม่มีใครให้พาเข้า” ส่งสายตาเชิญชวนให้อีกฝ่าย ดิวยิ้มเขิน

“ตอนนี้มีแล้วนี่ครับ” เขาตอบเสียงอ้อมแอ้ม ดูน่ารัก น่าชังมาก ไอ้ภาพแบบนี้ผมคงหาดูยากถ้าเป็นบอม

“ใช่ครับ ตอนนี้มีแล้ว งั้นวันนี้...ไปกันนะครับ”

“ครับ แต่พี่แมท...กลางวันแบบนี้เขาเปิดหรอครับ” ผมหัวเราะเบาๆ กับท่าทางไร้เดียงสา

“เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงนั่นแหละครับน้องดิว ไม่ต้องกลัว ได้กินไอนี่แน่ๆ” หน้าดิวแดงลามไปยันหู

“พี่แมทก็...ผมไปตักของกินดีกว่า” ดิวเชือกที่จะแก้เขินด้วยการเดินออกไปจากโต๊ะ ผมนั่งเท้าคางมองเขายิ้มๆ

เป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักจริงน้า...

ดิวตักอาหารมาจำนวนหนึ่ง เอากลับมาวางที่โต๊ะและถามว่าผมต้องการอะไรบ้าง อยากกินอะไรเขาจะไปตักให้ ผมเลือกที่นะให้เขานั่งกินไปก่อน ส่วนผมเลือกจะเดินไปตักอาหารที่อยากกินด้วยตัวเอง ผมเป็นพวกเน้นกินเนื้อกับผักในปริมาณที่เท่ากัน อาหารจุกจิกอย่างอื่นจะไม่ค่อยกินนัก ไม่เหมือนดิวที่กินอาหารหลากหลายกับผม ทำให้บนโต๊ะกินข้าวเต็มไปด้วยอาหารมากมายแทบไม่ซ้ำกันอย่างละนิด อย่างละหน่อย เขาน่ารักตรวที่เขามาเพื่อให้ตัวเองกินหมดเป็นหลัก ถ้าผมจะกินก็ให้ แล้วเขาค่อยไปตักใหม่ เพื่อไม่ให้อาหารมันเหลือเพราะกินไม่หมด

“เออใช่! พี่แมท...ก่อนหน้านี้เห็นพี่แมทบอกคิดเรื่องน้องชาย จะเป็นไรไหมถ้าผมอยากถามว่ามีอะไรหรือเปล่า คือถ้าไม่อยากบอกผมก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมแค่อยากรู้” นั่งกินไปครู่หนึ่งดิวก็เปิดประเด็นถาม

“บอกได้สิครับ น้องดิวเป็นแฟนพี่หนิ อะไรที่เราอยากรู้เกี่ยวกับพี่ พี่บอกเราได้ทั้งนั้นนั่นแหละครับ” หยอดประโยคน่ารักให้พร้อมกับรอยยิ้ม

“พี่แมทน่ารักที่สุดเลยครับ” เขายิ้มตอบตาหยี

“ก็ที่พี่เครียดๆ เรื่องน้องชายก็เพราะช่วงนี้เขาไปเที่ยวบ่อยน่ะ” ผมบอก

“แค่นั้นเองหรอครับ ผมว่าน่าจะปกตินะ กิจกรรมรับน้องก็จบแล้ว เขาน่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆชดเชยช่วงเวลาที่ต้องโหมทำกิจกรรม” ผมเข้าใจข้อนี้ดี ผมเองก็เพิ่งผ่านการรับน้องมาได้อาทิตย์เดียว แถมในช่วงเวลาที่รับน้องอยู่ผมก็ไปบ้านดิวบ่อยๆ เหนื่อยจากกิจกรรมกลางแจ้งไม่พอ ต้องเหนื่อยจากกิจกรรมในร่มด้วยเพื่อสุขภาพที่ดี

“พี่เข้าใจครับ แต่ว่าเพื่อนที่บอมไปเที่ยวด้วยน่ะสิ ทำให้พี่หนักใจ” ผมระบายยิ้มทั้งที่ทำหน้าหนักใจ

“ทำไมหรอครับ เขาเป็นคนไม่ดีหรอ”

“ก็ประมาณนั้นครับ เขาชอบดื่มในผับในบาร์ตลอด บอมก็ไปกับเขาด้วย พี่กังวลว่าเพื่อนคนเนี้ยจะพาบอมเสียคน พักนี้นะ บอมบอบกลับบ้านมาพร้อมกลิ่นบุหรี่ด้วย พี่หนักใจมากๆ พอถามว่าสูบหรอเขาก็ปฏิเสธบอกกลิ่นบุหรี่เพื่อนมาติดที่ตัว แต่พี่เชื่อไม่ลง บอมต้องโกหกแน่ๆ” ดิวเอื่อมมือกุมมือผมที่ตีสีหน้าเครียดขึง

“แค่บุหรี่เองพี่...” เขาพยายามปลอบ
“น้องดิวก็รู้หนิครับว่าพี่น่ะเกลียดบุหรี่ พี่ไม่อยากให้น้องพี่ต้องไปสูบมัน แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง บอมก็หาว่าพี่ชวนทะเลาะทุกที...” ถึงเรื่องที่พูดไปจะไม่ใช่เรื่องจริง แต่ก็เป็นการเปรียบเทียบที่ทำให้ผมเครียดจริง สีหน้าผมเลยดูหม่นหมองและชวนทำให้บรรยากาศมาคุ ดิวเอื้อมมากุมมือผม บีบเบาๆ ให้กำลังใจ ผมเลยจำต้องยิ้มอ่อนให้เขา
“บางทีมันอาจเป็นแค่กลิ่นจากเพื่อนเขามาติดตัวจริงๆ ก็ได้นะพี่แมท พี่น่ะอย่าคิดมากเลย แบบนี้จะทำให้พี่กับน้องพี่มีบรรยากาศที่ไม่ดีต่อกันมากกว่าเก่านะ บางครั้งคนเราก็ต้องผ่อนๆ ความเคร่งครัดนั้นลงบ้าง” ผมพยักหน้าให้ดิว
“ครับ พี่จะพยายามนะ” เห็นรอยยิ้มผมดิวก็ยิ้มตาม ผมเปลี่ยนเรื่องเพื่อจบบทสนทนาแล้วกินข้าวกันต่อ


มีต่อจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 27-12-2016 15:37:48
 :katai5: ต่อตรงนี้เลยจ้า

เรานั่งกินอาหาพร้อมพูดคุยเรืองต่างๆ นาๆ จนเวลาเกือบครบกำหนดถึงได้เช็กบิลแล้วออกไปเดินเล่นกลด้วยกัน ดิวเป้นคนที่ชอบควงแขนเวลาเดินเล่น แต่ผมไม่ค่อยอยากให้ควงเท่าไหร่เพราะถ้าเกิดเจอกับคนรู้จักที่รู้เรื่องของผมกับบอมมันจะเป็นประเด็น แต่ด้วยความทีไม่อยากให้เป็นที่สงสัย ผมจำยอมให้ดิวได้ทำตามใจของตัวเอง ผมเป็นพวกตามใจคนอื่นอยู่แล้วด้วย เพราะมันเข้ากับบุคคลิกของตัวเอง

การเอาอกเอาใจต่างๆ นาๆ นี่แหละที่ทำให้ดิวไม่เคยสวสัยอะไรและเชื่อใจไปเสียหมด รวมถึงคนอื่นๆ ที่ผมคบเพื่อเซ็กส์อีกหลายคน ยิ่งช่วงปิดเทอมมอหก ผมนี่ฟันแหลกหลาญเหมือนกัน ตอนนั้นมันยังง่ายเพราะผมกับบอมนังไม่ได้อยู่ด้วยกัน การแยกกันอยู่ทำให้เราสามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจ ไม่ต้องห่วงหรือกังวลมากนัก แต่ในขณะเดียวกัน อีกฝ่ายก็สามารถทำเช่นนั้นได้ไม่ต่างกัน ผมเองก็ระแวงบอมจะทำแบบที่ผมทำ ผมเลยตัดสินใจอยู่นานว่าจะให้บอมมาอยู่ด้วยกันดีไหมถ้าเข้าเรียนมหาลัยแล้ว ด้วยความหวงในตัวของมัน ผมเลยยอมทิ้งอิสระส่วนนั้นแล้วมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมัน แล้วอาศัยช่วงเวลาที่ว่างเว้นอาเศษหาเลย

“พี่แมทดูนาฬิกาเรือนนั้นสิ สวยจังเลยนะครับ” เราผ่านร้านนาฬิกา ดิวชี้ให้ผมดูนาฬิกาเรือนหนึ่ง สีสันสดสวยตามสไตล์วัยรุ่นทั่วไป

“เข้าไปดูกันไหมครับ” ผมเชิญชวนเพื่อเอาใจ ดิวพยักหน้ารัวๆ

เราจึงหยุดดูนาฬิหาหน้าปัดโต สีสันสดสวย ทั้งที่ดิวเองก็มีใส่อยู่แล้วแต่เขาก็ยังชื่นชอบและอยากจะได้มัน ผมซื้อให้ดิวหนึ่งเรือนเมื่อเลือกได้สักที เขาลังเลใจอยู่นานว่าจะเอาเรือนไหน ผมเลยตัดสินใจแทนทั้งที่ไม่ได้ชอบ แต่เขาก็ดูไม่ออกเพราะผมเป็นคนที่ดูยาก

“พี่แมทซื้อใส่คู่กันสิครับ นะครับน้า...” ดิวหันมาอ้อนขณะที่พนักงานสาวกำลังเอานาฬิกาไปตั้งเวลาและใส่กล่องให้เรา ส่วนผมถือบัตรเครดิตเอาไว้เพื่อรอจ่ายเงินเกือบหมื่นกับนาฬิกาเรือนนี้

“ไม่เอาได้ไหมครับ พี่เพิ่งซื้อเรือนใหม่มาเอง” เจ้าเรือนใหม่ที่ว่าก็คือเรือนที่ซื้อใส่คู่กับบอมนั่นแหละครับ ถามว่าซื้อไว้เผื่อใส่อีกได้ไหมมันก็ได้แหละแต่ผมไม่ชอบสีแสบๆ หรือนาฬิกาสไตล์นี้เท่าไหร่ ขืนซื้อไป ก็มีแต่วางทิ้งไว้เปล่าๆ

“เสียดายจัง ผมอยากใส่คู่กับพี่แมท แหวนที่ผมซื้อให้พี่ก็ไม่ใส่คู่กับผมเลย...” ดิวหน้างอ เขาน้อยใจผมรู้ ผมลูบหัวเขาเพื่อปลอบใจ

“พี่ขอโทษ งั้นคราวหน้าพี่จะใส่แหวนดีไหม” ยิ้มละไมส่งให้

“ไม่เป็นไรครับ ถ้าพี่ไม่ชอบ ผมก็ไม่อยากให้พี่ฝืนใจตัวเอง ผมแค่น้อยใจนิดหน่อย...” ดิวอ่อนลงเมื่อเจอรอยยิ้ม

“ขอบคุณนะครับที่เข้าใจพี่ พี่ต้องขอโทษด้วยจริงๆ” ยิ้มเศร้าๆ ใส่

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมผิดเองที่ซื้อให้โดยไม่ถามพี่แมทก่อนว่าชอบไหม ไว้คราวหน้าผมจะถามพี่ก่อนละกันนะครับนะ” ดิวพูดเอาใจผม พลางเกาะแขนเอาหัวซบอ้อน ผมยิ้มหว้างขึ้น พยักหน้าแล้วก้มลงไปหอมศรีษะเขา

พยักงานหันมายิ้มให้กับภาพสวีทของผมกับดิว ผมยิ้มให้เธอแล้วยื่นบัตรเครดิตส่งให้ รอไม่นานมากนัก ทุกอย่างก็เรียบร้อย ผมพาดิวเดินเล่นเเพื่อหาซื้อของเอาใจเขา แต่ดิวไม่ได้เอาอะไรมากมายนัก มีเสื้อผ้านิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งแต่ละชิ้นราคาค่อนข้างสูงทีเดียว

“อยากได้อะไรอีกไหมครับ” เดินวนจนรอบห้างไปหนึ่งรอบ ผมก็ถามเพราะขี้เกียจจะเดินแล้ว เรามีโปรแกรมว่าจะไปโรงแรม ตอนนี้ผมอยากตัดบทไปที่ตรงนั้นเลย

“อยากได้อยู่หนึ่งอย่างครับ” ดีเลยเหลือแค่อย่างเดียว

“อะไรหรอครับ”

“ก็...อยากได้ไอนี่ไงครับ” เขาจ้องตาผมทั้งที่หน้าแดง ผมจึงเข้าใจความหมายคำพูดนั้นได้เป็นอย่างดี

“งั้นเราไปเอาไอนี่กันครับ” ดิวพยักหน้า ผมดึงแขนออกจากการควงแล้วจับมือจูงเขาไปที่ลานจอดรถ

รถของผมไม่ใช่รถเก๋งหรือรถสป๊อตหรูๆ แต่เป็นรถมอเตอร์ไซค์หกร้อยห้าสิบซีซีของค่ายยักษ์เขียว ผมชอบขับขี่แบบนี้มากกว่า แถมยังเข้ากับเมืองไทยได้ดีเพราะเมืองไทยรถเยอะ ไปที่ไหนๆ ก็มีแต่รถติด นอกจากต่างจังหวัด ชนบทอะไรทำนองนั้น บอมไม่ค่อยชอบมันทำให้ผมเสียทรง แต่ดิว อะไรก็ได้ เขาหลงผมสุดๆ

ผมใส่หมวกกันน๊อคให้ดิว เป็นหมวกที่ผมซื้อให้ใหม่และให้เขาเป็นคนเก็บและพกพาเอง ผมพกไม่ได้เดี๋ยวบอมจะรู้ แต่หมวกบอมผมเป็นคนพก ซึ่งดิวรู้ว่านั่นเป็นของน้องชายผม ผมไม่ให้เขาใช้ร่วมกัน เมื่อเรียบร้อยแล้วก็มุ่งตรงไปที่โรงแรมม่านรูดแถวนี้ ผมเคยพาคนอื่นมาอยู่ครั้งสองครั้ง ตัวห้องค่อนข้างสวยและสะดวกใช้ได้ ราคาไม่สูง ส่วนบริการมันก็เหมือนๆ กับที่อื่นนั่นแหละครับ

แต่ก่อนจะได้เลี้ยวเข้าห้อง มีรถแท็คซี่คันหนึ่งเคลื่อนผ่านไป ตาผมเหลือบไปเห็นบอมกำลังนั่งคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง ในอกข้างซ้ายกระตุกวูบอย่างรุนแรงทันใด ความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมาช้าๆ ร่างกายผมชาไปหมด...

ผมมองรถคันนั้นเลี้ยวช่องหนึ่งไป ผมจำตำแหน่งได้แม่นมากๆ ผมตัดสินใจหักเลี้ยวรถกลับออกไปทางหน้าซอยของโรงแรมแห่งนี้ ดิวคงไม่เข้าใจแต่ผมไม่ได้อธิบายอะไรระหว่างที่ขับ มือมันสั่นมากๆ ปากคอก็พาลเป็นไปด้วย เพราะการเห็นบอมมาที่นี่กับผู้หญิงมันทำให้ข้อสันนิฐานของผมเป็นจริง สิ่งที่ผมกลัว สิ่งที่ผมระแวงมาตลอดมันเป็นเรื่องจริง กลิ่นน้ำหอมพวกนั้นไม่ได้มาจากเพื่อนๆ ของเขาแบบที่ผมคิดเด๊ะ

บอมนอกใจผม!

“ดิวกลับไปก่อนนะ พี่มีเรื่องต้องสะสาง” ผมหันไปบอกหลังจอดรถที่หน้าปากซอย ดิวอึ้ง เขาลงจากรถ ถอดหมวกและทำท่าจะถาม แต่ผมไม่สน โบกแท็คซี่ให้เขาแล้วก็ขับวนกลับเข้าไปในม่านรูด

ผมพุ่งตรงไปที่ช่องนั้น พนักงานตั้งท่าจะเข้ามาขวางแต่ว่าไม่สามารถขวางรถที่ขับมาเร็วได้ ผมละทิ้งรอยยิ้มประจำตัว ถอดหมวกแล้วชี้หน้าพนักงาน  สายตาคมกล้าทำให้อีกฝ่ายเข้าใจสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ผมเชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกพนักงานเหล่านี้ได้พานพบ แต่มันเป็นครั้งแรกของผม ที่ต้องเข้าไปลากตัวแฟนเหี้ยๆ ของตัวเองออกมาจากการเอาผู้หญิงเข้าโรงแรม

“ข้างในม่านรูดมันเป็นอย่างนี้นี่เอง พี่เคยเห็นแต่ในหนัง...” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดออกมา

“หรอครับ แล้วเป็นไงบ้างพอได้เข้าแล้ว” เสียงของบอมกระเส่ามาก ผมกำลูกบิดเอาไว้แน่น มือสั่นจนควบคุมไม่ได้

“ตื่นเต้นดี...” เธอตอบ

“อืม...ตื่นเต้นจริงๆ”

“อื้อ...” เสียงกระเส่าของผู้หญิงดังรอดออกมา ผมไม่อยากจะจินตนาการถึงภาพของทั้งคู่

ผมตัดสินใจถีบประตูให้มันเปิดออก โดยไม่สนใจพนักงานที่ยืนตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก บอมกำลังคร่อมผู้หญิงคนนั้นบนเตียงนอนกว้างสีขาวสะอาด แสงไฟฟ้าอมม่วงทำให้บรรยายมันดูอีโรติก ทั้งสองคนมองมาที่ผมเป็นตาเดียวกัน บอมลุกขึ้นยืนอย่างไว ส่วนเธอคนนั้นรีบดึงเสื้อปกปิดตัวเอง

“นะ...นายเป็นใครเนี่ย! เข้ามาได้ไงห้ะ!!!” ผู้หญิงรีบเข้ามากอดแขนบอมที่ยืนทำอะไรไม่ถูก

ผมจ้องตาบอม สะกดให้มันมองตอบไม่ยอมให้ละสายตา มันคงเข้าใจความหมายดี ผมบอกเลยว่าในตอนนี้มันไม่ต่างอะไรกับการโดนคนที่รักตรงหน้าเอามีดมาแทงที่อกข้างซ้าย แม่งโคตรเจ็บปวด น้ำตารื้นขึ้นมาคลอหน่วงแต่ไม่ยอมให้รินไหลต่อหน้าอีผู้หญิงคนนี้ ผมสาวเท้าเข้าไปหาคนทั้งคู่ เอื้อมมือหมายจะกระชากบอมที่ตัวแข็งทื่อ แต่เธอเข้ามาปัดมือผมออกอย่างแรง

“ออกไปเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า!!!” เสียงหวีดแหลมของเธอเรียกสายตาของผม แต่พอโดนจ้องเธอก็ถอยไปยืนหลังบอม

“ข้างนอกน่ะมีใครอยู่ไหม เข้ามาลากไอ้นี่ออกไปที! บอม...บอมไล่มันออกไป” แรงเขย่าของเธอไม่ได้ทำให้บอมกระดิกตัว ผมยังคงก้าวเข้าไปหา กระชากเสื้อบอมแม้เธอจะยื้อแขนของผมเอาไว้

“ปล่อยบอมเดี๋ยวนี้นะ! บอมนายทำอะไรสักอย่างสิ!!!”

“หุบปากดิ้!!!” ผมตะคอกใส่ผู้หญิงตรงหน้า แล้วออกแรงดึงบอมเข้ามาประชิด

“แมท...”

“ยังจำชื่อผัวได้หรอ! ยังจำกูได้หรอห้ะ!!!” ผมตะคอก

“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย เป็นบ้าไปแล้วหรอหะ!” ผมหันขวับไปทางเธอ

“ออกไป!”

“นายต่างหากต้องไป!” เธอยังขึ้นเสียง

“กูบอกให้ออกไป!!!” ความอดทนของผมเริ่มหดหายลงไปเรื่อยๆ

“ไปคุยกันที่บ้าน...” บอมบอกเสียงอ่อน

“ทำไม กลัวว่ากูคุยตรงนี้แล้วอีนี่มันจะรู้หรอว่ามึงเป็นอะไรกับกู!!! มึงบอกกูว่าอะไร...ให้เชื่อใจ แล้วมึงทำแบบนี้กับกูหรอบอม มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง!!!” น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นอาบแก้ม คนตรงหน้ามองผมด้วยสายตาปวดร้าว มันจะหันหน้าหนีแต่ผมใช้มือบีบสันกรามของมันให้มองตอบผม

ผมไม่สนใจว่าผู้หญิงคนนั้นเงียบไปเพราะอะไร จะพอเข้าใจสถานการณ์ขึ้นบ้างหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เธอไม่กล้าเข้ามาแทรกกลางระหว่างผมกับบอม ราวกับมองภาพตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ ผมไม่แคร์หรอก...ในเวลานี้ผมไม่สนด้วยซ้ำว่าจะถูกมองด้วยสายตาแบบไหน กับการที่ผู้ชายคนหนึ่งต้องหลั่งน้ำตาเพราะผู้ชายอีกคนหนึ่ง มันคงน่าสมเพชมากๆ แต่ลองเป็นผมสิ จะรู้เลยว่าในเวลานี้ไม่มีใครคนไหนในการรับรู้ทั้งนั้นนอกจากคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟน

“มึง...” ปากบอมสั่น และตาก็แดงก่ำจนเหมือนจะร้อง

“มึงหลอกกูมาตลอด มึงมีคนอื่น...กลิ่นน้ำหอมที่ติดตัวมึงก็ของอีนี่ใช่ไหม บัตรเครดิตของกูก็เอาไปรูดของให้อีนี่ใช่หรือเปล่า ตอบกูสิบอม...ตอบกูมาสิ” ตะคอกใส่ทั้งที่เรียวแรงมันเหมือนจะหายไปจากร่างหมดแล้ว

ผมถูกหลอกมาตลอดเลย...

“กูขอโทษ...” มันก้มหน้าลง น้ำเสียงและร่างกายของมันสั่นอย่างหนัก ผมรู้ได้ในทันทีว่าคนตรงหน้านี้กำลังร้องไห้

“ทำกับคนที่รักมึงอย่างนี้ได้ไงบอม...” กระชากเสื้ออย่างแรงให้บอมเงยหน้ามองตาผม

มันเม้มปากสั่นๆ ของตัวเอง มือที่อ่อนแรงยกขึ้นกอดเอวของผมไว้ ท่าทางเหมือนคนกำลังรู้สึกผิด แต่ผมจะเชื่อได้ไหม มันหลอกผมขนาดนี้ ผมจะยังเชื่ออะไรมันได้อีก พอจับได้คาหนังคาเขา ภาพที่มันเคยโกหกผมต่างๆ นาๆ ก็ไหลทะลักเข้ามาไม่ขาดสาย ทุกครั้งมันจะชวนทะเลาะ หาว่าผมไม่เคยไว้ใจมัน...นี่ไง เพราะกว่ามันจะทำแบบนี้กับผมไง แล้วสุดท้ายสิ่งที่ผมกลัวมาตลอดก็เกิดขึ้นจริงๆ

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!” คนที่เงียบไปนานอย่างผู้หญิงคนนี้ก็เอ่ยขึ้น ผมหันไปมองก่อนจะลากบอมออกมา

ผมกระชากมันเหมือนหมูเหมือนหมา รู้ว่ามันจะเจ็บกับการกระทำของผม แต่ที่มันทำก็ไม่ต่างจากการฆ่าผมทั้งเป็นเหมือนกัน ผมคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ หันไปมองมัน บอมก็ขึ้นรถอย่างรู้สิ่งที่ตัวควรทำ พอนั่งได้ที่ผมก็บิดมอเตอร์ไซค์ออกไปจากสถานที่แห่งนี้ทันที

*********จบบทที่ 6************

ดราม่าซะแล้ว :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 27-12-2016 19:53:48
อืม อืมม เรื่องนี้คนศีลเสมอกันมาคบกันสินะ ต่างฝ่ายต่างอยากให้อีกคนซื่อสัตย์ แต่ตัวเองกลับนอกใจอีกฝ่ายซะเอง ผิดทั้งคู่ ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชใครก่อนดี  แต่แมทนี่ถึงขนาดคบอีกฝ่ายเป็นแฟนเลย เฮ้ออออออ -_-a :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 27-12-2016 20:14:06
แมทกับบอมเสียใจเหมือนกัน ที่ไม่เหมือนคือแมทเสียเงินด้วย  :hao6:  แหม่
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 27-12-2016 20:26:43
ผีเน่ากับโลงผุจริงๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-12-2016 20:45:35
บอม นอกใจแมท มาตลอด
แมท จับได้คาหนังคา......
แมท ไม่อยากให้บอมนอกใจตัวเอง
แต่ตัวเองก็นอกใจบอม :katai1: :katai1: :katai1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 28-12-2016 02:19:42
 :ling2: สนุก สนุก มวยถูกคู่จริงๆ แมทก็มีน้องดิวแต่แมทจับผิดบอมได้คาหนังคาเขานี่สิ
  รอ รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 28-12-2016 03:52:47
ยังอยู่ข้างบอมน้าจ๊าาาส คิคิ  :hao7: อิอิ เลือกฝั่งไม่ผิดจริงๆ รู้นะว่าแมทมันร้ายยยยยยย
โอ๋ๆ น้องบอม มาให้เพ่ปลอบใจเร็ววว  :mew2:
แบคอัพให้บอมตลอดจ้าาา รู้สึกถูกชะตากับบอม
ก็ดูเหมือนจะพอๆกัน แต่บอมมีกิ้กเป็นผญอะ ไม่ค่อยสมน้ำสมเนื้อ
คราวหน้า มีเป็นผชเลยนะลูก ขอหล่อกว่าแมทด้วย แมทยังมีน่ารักกว่าบอมได้เบย คิคิอุอิ
อิอิอิ ว่าละแมท ไม่เคยเข้าข้างแมทเบยค่าา ถูกชะตากับบอมพ่อแมวน้อยของพรี่ กี้กี้
เป็นกำลังใจให้คนเขียนน้าค้าา  :hao7: กำลังมันส์เบยยช่วงนี้ กุกิ อย่าขาดช่วงน้าางิงิ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 28-12-2016 06:04:13
แบบนี้ก็ดีนะ ไม่ต้องสงสารใคร คู่เวรคู่กรรมกันดี
เชียร์ให้เอากันให้ตายบนเตียง 555
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 28-12-2016 07:50:12
หึหึ เลวเจอร้าย ร้ายเจอเลว เข้ากันเข้ากั๊น
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 28-12-2016 10:07:23
เผื่อจะลืมอะไร นายไม่มีสิทธิ์นะแมท ดูตัวเองด้วย
ยังไปเอากับน้องดิวต่ออีกเหรอ จิตใจทำด้วยอะไร
ปล.ตอนที่7หายไปหนายยย
ปลล.รักบอม พ่อเสือตะไบเล็บของพี่
ปลลล.รอนะค้า กิ้วๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 28-12-2016 10:59:23
เผื่อจะลืมอะไร นายไม่มีสิทธิ์นะแมท ดูตัวเองด้วย
ยังไปเอากับน้องดิวต่ออีกเหรอ จิตใจทำด้วยอะไร
ปล.ตอนที่7หายไปหนายยย
ปลล.รักบอม พ่อเสือตะไบเล็บของพี่
ปลลล.รอนะค้า กิ้วๆ

ว๊าย อัพข้ามตอน :hao5:
เดี๋ยวคนเขียนลบตอนที่แปดแล้วลงใหม่น้าาา
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 28-12-2016 11:02:34
เธอมีชู้

บทที่ 7

ผมลากบอมตรงไปยังห้องนอนของเรา เหวี่ยงมันลงกับพื้นด้วยความรุนแรง ไม่ว่าเราจะทะเลาะกันขนาดไหน ผมจะโกรธ จะเคืองมันเท่าไหร่ ผมไม่เคยใช้ความรุนแรงกับมันเลยสักครั้ง เพราะผมรักมันไง...มันเป็นคนเดียวที่ขึ้นชื่อว่าแฟนผม ในขณะที่คนอื่นผมให้ได้แค่คำว่าคู่นอน แต่ครั้งนี้มันเกินจะทนไหว ผมห้ามไม่ให้ตัวเองใช้กำลังทำให้มันเจ็บไม่ได้ สายตาของคนบนพื้นปวดร้าวไม่ต่างจากผม น้ำตาของบอมไหลอาบหน้า เวลาอื่นมันคงทำให้ผมใจอ่อนได้เป็นอย่างดี เพราะถึงบอมจะเป็นผู้ชายเจ้าสำอาง แต่มันก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง

“มีอะไรจะแก้ตัวไหม...” ผมถาม ความโกรธยังคงกรุ่นในอารมณ์ แต่ผมพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้

“...กูขอโทษ” นั่นไม่ใช่คำที่ผมอยากได้ยินจากปากของมัน ผมอยากได้ยินมันอธิบาย แก้ตัวอะไรก็ได้ว่าสิ่งที่ผมเห็นมันไม่ใช่ความจริง ไม่ใช่คำขอโทษ...คำที่ไม่ต่างจากการยอมรับในความผิดของตัวเอง

“มึงจะไม่แก้ตัวหน่อยหรอ โกหกกูก็ได้ ว่าสิ่งที่กูเห็นมันไม่ใช่อย่างที่กูคิด...” ความอ่อนล้าทางใจทำให้ร่างเซไปพิงกำแพงห้อง ผมต้องใช้ตัวช่วยในการพยุงตัวเองเอาไว้ เพราะขาทั้งสองมันสั่นไปหมดแล้ว

“...” บอมเงียบ เขาไม่ตอบอะไร ไม่มีคำอธิบาย หรือคำโกหก

“มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไงอะบอม จิตใจของมึงมันทำด้วยอะไร ถึงทำร้ายกูได้ขนาดนี้ ที่กูให้มึง ที่กูรักมึง มันยังไม่พอใช่ไหมวะ” เอ่ยอย่างอ่อนแรง

“ไม่ใช่...” ใบหน้าที่ผมรักเงยขึ้นมามองเพื่ออ้อนวอนขอโทษ ผมต้องหลับตาลงแล้วหันไปทางอื่น ความรักที่มีให้มันจะทำให้ผมใจอ่อน

“แล้วทำไมถึงทำแบบนี้กับกูละ... ทำไมถึงทำร้ายกูได้ขนาดนี้” เสียงสั่นเทาเอ่ยถามอย่างตัดพ้อ

“กูขอโทษ...”

“กูไม่ได้อยากได้คำขอโทษ! กูไม่อยากได้เลย สิ่งที่กูอยากได้คือเหตุผลว่าทำไมมึงถึงได้ทำกับกูแบบนี้ แต่มึงก็ให้กูไม่ได้ มึงจะทำร้ายหัวใจกูไปถึงไหนวะ แต่ก็ดี...กูจะได้รู้ว่าตอนนี้กูอาศัยอยู่กับงูที่แม่งแว้งกัดกูได้ทุกเมื่อ ถ้าอิสระทำให้มึงหันมาฉกกู งั้นก็อย่าหวังว่ากูจะให้อิสระมึงอีก...” สองมือผลักกำแพงด้านหลังเพื่อเป็นแรงส่งให้ผมยืนเต็มเท้า ก่อนจะก้าวเข้าหาบอมช้าๆ หยุดตรงหน้า ย่อตัวลงเพื่อเอามือถือของมัน

บอมมองตามการกระทำของผมด้วยสายตาที่ฉ่ำน้ำ เขาไม่ห้ามเมื่อผมเอาของส่วนตัวที่บอมหวงหนักหวงหนาไป เขาทำแค่นั่งมองเงียบๆ เก็บเสียงสะอื้นและคำโต้แย้งลงคอ ผมตรงไปยังแล็บท๊อป คว้ามันถือคู่กับโทรศัพท์เครื่องหรูแล้วเดินออกจากห้องไป ผมวางของไว้บนโต๊ะ ขวานหากุญแจคล้องลูกบิด ล๊อคมันเอาไว้ คนด้านในมันจะได้ออกมาไม่ได้

การกักขังบอมเอาไว้และตัดการสื่อสารทั้งหมดมันเป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดได้ในตอนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นมันสะเทือนความสัมพันธ์ของเรามากจนไม่ยากเลยที่จะเอ่ยคำว่าเลิกออกไป แต่เพราะผมรักมัน ผมไม่ได้อยากเลิกกับมัน เลยจำเป็นที่ต้องทำแบบนี้ ผมเองก็รู้ดีว่าบอมไม่ได้ต้องการจบเรื่องของเรา สายตาที่เจ็บปวดนั้นบอกกับผมว่ามันสำนึกผิดในสิ่งที่มันทำ มันถึงยินยอมแต่โดยดีไม่ว่าผมจะทำอะไรก็ตาม

ผมเดินออกมานั่งที่โซฟากลางห้อง เอนกายเอามือก่ายหน้าผากเอาไว้ จุกที่หัวใจไปหมด...แค่หลีหญิงไปวันๆ อย่างที่มันเคยทำผมก็เครียดมากพอแล้ว ดันมาจับได้อีกว่ามันนอกใจผมถึงขั้นพาผู้หญิงเข้าโรงแรม ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว กลิ่นน้ำหอมที่ผมเจอจากตัวบอมมันบ่อยมากๆ นั่นหมายความว่ามันนอกใจผมมามากจนยากจะนับครั้ง รวดร้าวไปทั้งใจเลย

อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ ระบายความอัดอั้นและเจ็บปวดภายในใจ  แต่มันน่าอายเกินไปที่จะทำแบบนั้น ถึงไม่มีใครอยู่ผมก็อับอายตัวเอง ผมนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ทบทวนการกระทำของตัวเอง...

จริงที่ผมไม่มีเวลาให้มันมากนักเพราะช่วงปีแรกของมหาลัยมักจะวุ่นวาย แต่เมื่อใดก็ตามที่ว่างผมจะทำทุกอย่างตามใจมัน มันต้องการอะไรผมให้มันได้ตลอด พาไปเที่ยว พาไปกิน ซื้อของนู้นนี่นั่นปรนเปรอให้มัน ถ้าว่ามันไปหาผู้ชายอื่นผมอาจคิดได้ว่าเรื่องบนเตียงผมบกพร่อง แต่นี่ไม่ใช่ บอมยังไม่เลิกความต้องการผู้หญิง เขายังไขว่คว้าหาหญิงสาวไม่ต่างจากสมัยมัธยม

บอมมีแค่ผมมันไม่พอสินะ...

ผมคงให้ทุกอย่างที่มันต้องการไม่ได้จริงๆ มันถึงทำแบบนี้กับผม ถึงมันไม่พูดอะไรแต่การที่มันนอกใจไปหาคนอื่นแบบนี้มันก็มากพอที่จะคาดเดาสิ่งที่มันต้องการ ผมเข้าใจนะ ว่าผู้ชายยังไงก็ยังมีความต้องการผู้หญิงตามสัญชาตญาณที่มีมาแต่กำเนิด แต่ทำไมไม่พูดล่ะ ไม่บอกละ ตอนที่เรามีปัญหากันเรื่องผู้หญิง ถ้ามันเด็ดขาดยืนยันว่ายังไงๆ มันก็ยังอยากมีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่ ผมจะไม่รั้งมันเอาไว้แบบนี้เลย ผมนะปล่อยมันไป ให้มันทำสิ่งที่มันต้องการ ไม่ใช่บอกกับผมว่าจะไม่ทำอีก มันรักผมงั้นงี้

นี่หรอ...สิ่งทีคนรักกันทำให้กันน่ะ!

มันไม่ใช่แล้ว แบบนี้เขาไม่เรียกว่ารักหรอก มันอาจจะรักเงินของผมมากกว่าตัวตนของผมก็ได้ เพราะผมให้มันได้ทุกอย่าง ไม่ว่ามันจะต้องการอะไร อยากมีอยากได้อะไรเหมือนคนอื่นเขา แม่ง...คิดแล้วเจ็บจี๊ดยันขั้วหัวใจเลย

เลิกไปดีกว่าไหม...

ไม่ได้อีก ถึงคิดว่าควรจะเลิกกับมันที่ทำตัวแบบนี้ แต่ผมก็รักมันเข้าแล้ว รักจริงๆ แบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน ผมผิดเองที่เปิดใจให้มันเข้ามามากขนาดนี้ จนในที่สุดก็ถอนตัวถอนใจจากมันไม่ได้ ผมคิดไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีบอมคอยนอนเลอยู่เคียงข้าง มันจะรู้สึกแย่ขนาดไหน ผมจะอยู่ต่อไปยังไง ถ้าขาดมันไป ถึงผมจะมีคนอื่น หาเศษหาเลย แต่สุดท้ายคนที่เป็นที่หนึ่งในใจของผมก็มีแค่มันคนเดียว ไม่มีใครแทนที่บอมได้ทั้งนั้นจริงๆ

ผมมองไปที่ประตูห้อง นึกถึงคนที่อยู่บ้างใน บอมจะรู้สึกยังไงผมเดาไม่ออก มันจะเสียใจมากขนาดไหนที่ทำให้ผมร้องไห้ออกมา มันจะสำนึกมากน้อยแค่ไหนที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราต้องมีรอยร้าว ห้วงความคิดที่บอกว่าบอมรักผมเพราะเงินอาจจะสะเทือนอารมณ์ แต่ลึกๆ ภายในผมยังเชื่อว่ามันรักผมจริงๆ ไม่งั้นมันคงไม่ยอมเงียบขนาดนี้

โอ้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ยิ่งเสียใจก็ยิ่งอยากร้องไห้ ผมไม่ชอบเลยที่ต้องมารู้สึกแบบนี้ ออกแนวเกลียดไปเลยด้วยซ้ำ เพราะอย่างนี้ไงผมถึงไม่จริงจังกับใครสักคน ผมหาแค่วันไนท์สแตนมาตลอด ไม่น่ามาคิดหยุดทุกอย่างและรักคนเจ้าชู้ประตูดินอย่างมันเลย

ผมหยิบมือถือขึ้นมา มองดูมือที่ยังสั่นเทาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมเลื่อนหาเบอร์ใครบางคน ใคร...ที่สามารถช่วยเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำของผมในตอนนี้ได้ ซึ่งคนๆ นั้นคือคนที่ผมสั่งให้กลับบ้านไปก่อน

“ดิว...” ผมกรอกเสียงอ่อนแรงลงไปในสาย

(พี่แมท พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเสียงสั่นแบบนั้นละครับ เกิดอะไรขึ้น...) ดิวถามกลับมาอย่างร้อนรน

“พี่อยากกอดดิว พี่ไปหาดิวได้ไหมครับ” ผมถามไปทั้งที่เหม่อลอย

(ได้สิครับ พ่อกับแม่ดิวออกไปข้างนอกเมื่อครู่ มาหาดิวที่บ้านก็ได้) ระบายยิ้มอย่างยินดี

“ครับ พี่ไปเดี๋ยวนี้” ว่าจบก็กดวางสาย

ผมมองไปที่ประตูห้องนอนอีกครั้ง นึกถึงคนที่อยู่ข้างในนั้นแล้วเดินไปลูบบานประตู บอมอยู่ในนั้น นั่งเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เพียงลำพัง ผมรักเขา...ผมหวังให้เขาก็รักผมแบบที่ผมรัก หวังให้เขาสำนึกผิดจริงๆ และยอมปรับตัวเองเพื่อผม

“บอม...กูรักมึงนะ” ผมบอก หน้าแนบบานประตู เสียงสะอื้นดังรอดออกมาเบาๆ

“กูขอโทษ...กูขอโทษแมท” คำขอโทษกรีดแทงลงมาในใจ ผมเจ็บ ผมเดินจากไป

ถนนเมืองไทยไม่ใช่ถนนที่โล่งอะไรนัก แต่ผมกลับบิดมอเตอร์ไซค์คันเก่งเกือบสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง นับว่าเป็นการเสี่ยงมาก แต่อารมณ์ในตอนนี้มันสุดจะยับยั้งจริงๆ ผมต้องการระบายออก อยากให้ตัวเองสบายใจเพื่อจะได้ทำใจเรื่องบอมได้ ผมคิดว่ายังไงซะผมก็ไม่เลิกกับเขาแน่ๆ แต่ต้องดูกันอีกที ถ้าบอมอยากจะไป ผมก็คงรั้งเอาไว้ไม่ไหว ผมกลัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มันจะเกิดขึ้นอีกในวันข้างหน้า ผมคงทำใจไม่ได้แน่ๆ หากต้องเห็นเหตุการณ์อันเลวร้ายซ้ำแล้วซ่ำเล่า

เพียงเวลายี่สิบนาทีผมก็จอดเจ้าคันโตหน้าบ้านของดิว บีบแตรเรียกคนตัวเล็ก แป็ยเดียวดิวที่ยังอยู่ในชุดเดิมก็เดินออกมาด้วยท่าทางรีบร้อน เขาเปิดประตูให้ผมได้เข้าไปจอดรถข้างใน แล้วเดินนำไปยังห้องนอนของเขาเอง

ผมไม่พูดอะไรมากนัก ปิดประตูได้ก็สวมกอดร่างบอบบางจากข้างหลังในทันที ดิวสะดุ้ง เขาคงตกใจกับการทำอะไรกระทันหันโดยไม่ให้เขาได้ตั้งตัว แต่เขาก็ลูบแขนผมเพื่อปลอบโยน ดิวไม่ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม

“ระบายให้ผมฟังได้นะครับ” ร่างเล็กบอก ผมกระชับกอดแน่น ฝังใบหน้าลงกับลาดไหล่เล็ก

“พี่ทะเลาะกับบอมหนักเลยละครับดิว...” ดิวง้างแขนผมออก แล้วดึงให้เดินไปนั่งด้วยกันบนเตียง เขาจับมือขอบผมไว้ มองจ้องลึกเข้าในดวงตาที่เจ็บช้ำ

“ไม่เป็นไรนะครับ พี่น้องทะเลาะกันมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เดี๋ยวพี่กับบอมก็ค่อยๆ ปรับความเจ้าใจกัน ของอย่างนี้มันต้องใจเย็นๆ นะครับพี่แมท” เขาเอ่ยด้วยสุ่มเสียงนุ่มละมุน ผมไม่มองหน้าดิว แต่ดึงดิวเข้ามากอดแนบชิดจนร่างดิวเกยมาบนตัก

“แต่เรื่องนี้มันหนักหนาสาหัสเกินไป พี่ไม่รู้ว่าบอมจะยังอยากอยู่กับพี่ไหม เขาทำกับพี่ขนาดนั้น...เขาทำมันลงได้ยังไง” ถึงจะพูดออกไป แต่คิดว่าเขาไม่น่าจะเข้าใจความหมาย ดิวกระชับกอดแนบแน่น มือหนึ่งลูบหัวผมเบาๆ

“พี่แมทอย่าเพิ่งคิดมาไปเลยนะ เดี๋ยวอารมณ์เย็นลงแล้วก็คงดีขึ้น ตอนนี้ทั้งพี่และเขาต่างก็ร้อนด้วยกันทั้งคู่...” ผมพยักหน้าเบาๆ

คำพูดของดิวไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น มันก็แค่คำพูดที่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เรื่องของผม คนอื่นจะมาเข้าใจได้ดีไปกว่าผมได้ยังไงละ ต่อให้ระบายให้ดิวฟัง ดิวก็ทำได้แค่รับฟัง เขาช่วยอะไรผมมากกว่านั้นไม่ได้ นอกจากจะทำให้ผมอารมร์ดีขึ้นชั่วคราว พอกลับห้อง กลับไปเผชิญหน้ากับบอม ระหว่างเรามันก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป อะไรที่เกิดขึ้นแล้วมันแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก

ดิวยื้อตัวเองออกจากอ้อมกอด สองมือน้อยๆ ประครองใบหน้าของผมเอาไว้อย่างทะนุถนอมก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากเข้ามาประทับที่ปากของผม แผ่วเบา นุ่มนวล ราวกับปลอบปละโลมผมที่กำลังย่ำแย่ ผมมองตามการกระทำ ยอมเป็นผู้ตามทั้งที่ปกติดิวจะเป็นฝ่ายตามผม เขากดจูบลงมาหนักขึ้น เรียวลิ้นส่งกลิ่นหอมจากลูกอมที่เจ้าตัวชื่นชอบเกลี่ยริมฝีปากบนและล่างก่อนจะสอดแทรกเข้ามา

เรือนกายบอบบางขยับขึ้นคร่อมตักแกร่ง ในขณะที่ริมฝีปากกำลังพัวพัน เขาก็เคลื่อนไหวสะโพกไปมา เสียดสีก้นกลมกับส่วนสำคัญกลางกาย ความยั่วยวนของดิวทำให้ผมสลัดเรื่องบอมทิ้งไว้ แล้วหันมาสนใจเขาแทน ฝ่ามืออุ่นชื้นของผมคว้าหมับเข้าที่ก้อนเนื้อกลมกลึงทั้งสอง ขย้ำมันและเริ่มตอบโต้เรียวลิ้นในโพรงปาก ดิวครางผะแผ่ว เขาตอบสนองผมได้ดี สร้างความพึงพอใจให้กับผม

ใบหน้าของเราเคลื่อนออกจากกันช้าๆ  มองสบตา มือถอดเสื้อของอีกฝ่ายออก เชื่องช้าแต่เร่าร้อนในความรู้สึก ปาเสื้อทิ้งไปที่ใดสักที่ก่อนจะลูบไล้แผ่นอกของกันและกัน ดิวเลื่อนมือไปปลดกางเกงของผม ส่วนผมก็ก้มลงไปฉกชิมหัวนมสีอ่อน ร่างกายเล็กกว่าบนตักผวาเฮือก แต่มือยังไม่หลุดออกไปจากเป้ากางเกง ผมรุกจุกอ่อนไหวตรงอกพร้อมกับปลดเปลื้องชิ้นล่างของเขา เราต่างก็ช่วยกันเปลือยกายเพื่อจะได้เป็นของกันและกัน

ผมและดิวหยุดการเล้าโลมชั่วครู่ ยืนขึ้นและถอดกางเกงทิ้งไป เมื่อไร้อาภรณ์ในกาย ผมก็โผเข้าหาเข้า มอบจูบเร่าร้อนดุเดือดให้กับริมฝีปากเล็ก กลิ่นหอมอ่อนๆ จากลูกอมที่เจ้าตัวชอบทำให้ผมมัวเมา ร่างของดิวถูกยกขึ้นไปวางบนเตียงนอนสีเข้ม ผมทาบทับและรุกช่องทางเล็กกลางหว่างขา ดิวขยับเรียวขาให้กว้างออกเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผม

“อื้อ..พี่แมท บะเบาหน่อยก็ได้ครับ” เขาครางเสียงแตกพร่า

“ดิวเจ็บหรอ...” ผมชะงักนิ้วที่กำลังสอดเข้าไปในตัว
“อืม ดิวเจ็บแล้วก็กลัวด้วย” ผมระบายยิ้มอ่อน

“พี่ขอโทษ...พี่จะเบานะ” ปากพูดแบบนั้น แต่การกระทำยังคงรุกหนักไม่เปลี่ยนแปลง ผมสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางทั้งที่ยังเล้าโลมเจ้าตัวไปเพียงน้อยนิด การกระแทกกายเข้าออกในร่างใครสักคนตอนนี้คงทำให้หัวผมเย็นลงได้ และคนที่จะสนองต่อผมได้ในตอนนี้ก็มีแค่ดิว

จะว่าผมใช้ดิวเป็นเครื่องมือบำบัดอารมณ์คุกรุ่นของตัวเองมันก็ไม่ผิดอะไร ในหัวของมีแต่เรื่องของบอมและเหตุการณ์ในวันนี้ ความโกรธ ความเสียใจอบอวลรอบตัวผมไปหมด ดิวอาจจะจับกระแสอารมณ์ของผมไม่ได้ เพราะในตอนนี้ผมดูเร่าร้อนและรุกเร้าเขาอย่างที่สุด แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงแค่การระบายอารมณ์เท่านั้นเอง เชื่อเถอะว่าเขารู้ เขาคงไม่ยอมให้ผมได้ทำแบบนี้กับเขาแน่นอน

ริมฝีปากเคลื่อนทางแก้มเนียนลงมาที่ซอกคอ ขบเม้มมันด้วยความรุนแรง อยากจะกัดมันเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าความรุนแรงอันเกินเหตุจะทำให้อีกฝ่ายหมดอารมณ์ร่วม ผมในตอนนี้ต้องการเซ็กมาก ผมจึงไม่อยากให้อะไรก็ตามมาขัดขวางการปู้ยี่ปู้ยำร่างกายขาวบางนี้ได้

“พี่...ผมเจ็บครับ” เสียงครางของดิวร้องบอก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมล้มเลิกการขบเม้มผิวเนื้ออ่อนตรงซอกคอไปได้

“พี่แมท...อย่าทำรอยนะครับ พี่ อย่า” เขายังคงโอดครวญให้ผมหยุด

ผมปล่อยอารมณ์คุโชนให้ควบคุมตัวเองอยู่นาน เสียงครางห้ามและการผลักไสเริ่มนะรุนแรงขึ้น ผมถึงได้มีสติ หยุดชะงักทุกอย่าง ลูบหน้าตัวเองแล้วมองอีกฝ่ายด้วยสายตาสำนึกผิด โดยซ่อนความไม่พอใจเอาไว้อย่างแนบเนียน

“พี่ขอโทษ...”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่าพี่กำลังเครียด แต่ว่าช่วยใจเย็นๆ หน่อยนะครับ นะ...” ดิวส่งสายตามาอ้อนวอน

“ครับ” ผมรับคำ แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยความนุ่มนวล

โคตรขัดกับใจของตัวเองเลย แต่ให้ทำไง ในเมื่อหากทำรุนแรงอย่างเมื่อครู่ทุกอย่างตรงนี้อาจจบลงแบบไม่บรรลุเป้าหมาย ผมถอนหายใจเฮ้อกใหญ่ด้วยความแผ่วเบา แล้วโน้มใบหน้าเข้าจูบกลีบปากอิ่มของคนตัวเล็กใต้ร่าง ค่อยเม้มมันเบาๆ พลางสอดลิ้นเข้าควานหาชิ้นเนื้อเล็กภายใน กวัดเกี่ยวมันเอาไว้ขณะที่มือกำลังรุกล้ำช่องทางด้านล่างให้อ่อนนุ่ม

ผมไม่สนใจจะทำตามขั้นตอนอย่างที่ควรจะเป็น เมินการใช้ปากสัมผัสร่างกายบอบบางใต้ร่าง เพียงแค่มอบจูบอันเร่าร้อนให้เท่านั้น เมื่อช่องทางอ่อนนุ่มดีแล้ว ผมก็ยันตัวเองขึ้น จัดท่าจัดทางให้พร้อมก่อนกดท่อนเนื้อลงไปช้าๆ สายตาจับจ้องการเคลื่อนไหวของส่วนที่เชื่อมต่อกัน เพราะมันยั่วยวนกว่าใบหน้าของดิวในยามนี้ ยามที่ผมคิดถึงแต่เรื่องของบอมเต็หัวไปหมด ถึงคิดจะวางเรื่องบอมเอาไว้ก่อน แต่พอเอาเข้าจริง ผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้ ผมสลัดเรื่องของเขาออกไปไม่ได้เลย

“โอ้ย พี่..ผมเจ็บ” เพราะลืมตัว คิดถึงแต่คนที่ทำให้เจ็บจนเผลอสอดใส่เข้าไปอย่างแรง ผมเงยหน้ามองดิว น้ำตาสีใสกำลังเอ่อคลอ ดูน่าสงสาร แต่ไม่ใช่ในความรู้สึกผม

“พี่ขอโทษครับ เผลอไปหน่อย” ยิ้มอ่อนให้กับอีกคน แล้วจูบปากเขาเพื่อให้เขาหลงลืมความเจ็บปวดจากการสอดใส่

ขณะที่เพลินไปกับราจูบอันเร่งเร้า สะโพกสอบก็ค่อยๆ เคลื่อนออกและกดย้ำลงมาใหม่ เป็นช่วงสั้นๆ แต่ลึกล้ำจนอีกฝ่ายครางแผ่วออกมาจากลำคอ ดูเหมือนว่าดิวจะพร้อมแล้ว ผมละริมฝีปากออก ยันตัวขึ้นตั้งตรง สองมือจับข้อเท้าของเขาเอาไว้ กดมันลงไปจนเข่าชิดแผ่นอก ถ้าเปลี่ยนใบหน้าดิวเป็นบอม...มันโคตรเร้าอารมณ์ผมเลยจริงๆ

คิดได้ดังนั้นผมก็เริ่มสาวสะโพกเข้าออก ค่อยๆ ให้มันเร็วรัวขึ้น ดิวจะได้ไม่ตกใจกับการกระทำของผม สีหน้าคนตัวเล็กเหยเกไปเล็กน้อย ด้วยอะไรๆ ยังไม่เข้าที่มากมายนัก แต่เพียงไม่นานเสียงครางแห่งความสุดก็ลอยออกมาจากริมฝีปากช่ำชื้น ในเมื่อดิวได้ที่แล้วผมก็ไม่รีรอที่จะสาดโทสะของตัวเองลงไปในการกระแทกกระทั้น ความหนักหน่วงทำให้อีกฝ่ายจุกพอสมควร แต่ผมไม่หยุด จับเขาพลิกร่างด้วยความรุนแรง คว้าข้อมือเล็กทั้งสองข้างมาดีงยึดไว้คล้ายบังเหียนม้า จากนั้นก็กระแทกร่างกายเข้าใส่อีกฝ่ายแบบไม่ยั้งแรง

ผมไม่เคยทำกับดิวรุนแรงขนาดนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรก และไม่แน่ใจว่าจะมีครั้งต่อไปไหม หัวของผมยังมีแต่ภาพของบอมและเหตุการณ์ในวันนี้วนซ้ำไม่จางหาย และดูเหมือนสิ่งเหล่านั้นจะเป็นตัวทำให้การควบคุสติสัมปชัญญะของผมพัง เพราะผมแทบควบคุมแรงอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เลย เสียงครางร้อขอให้เบาลงดังออกมาจากร่างที่เคลื่อนไหวอีกร่าง แต่เหมือนผมจะได้ยินมันเป็นคำตรงข้าม ถึงได้ยิ่งกระหน่ำน้วงแทงลงไป ไม่สนอีกคนเลยว่าจะรู้สึกเจ็บ หรือจุกขนาดไหน

ดูเหมือนความโกรธจะทำให้การหลั่งล้าช้า ไม่ว่าจะระรัวเอวเท่าไหร่ก็ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทางเสียที แต่มันดีตรงที่ความเหนื่อยอ่อนกำลังบุกเข้ามาตามกล้ามเนื้อ เหงื่อผุดขึ้นจนกลายเป็นหยดน้ำหยดลงบนเลแผ่นหลังขาวเนียน ผมก้มลงไปใช้ปากและฟันขบผิวสวยๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว ปล่อยมือทั้งสองของเขาให้เป็นอิสระ ดิวตั้งท่าจะค้ำที่นอนให้ทรงร่างกายในท่านี้ แต่แขนของเขาก็อ่อนแรงจนทั้งร่างล้มครืนไปบนที่นอน หากสะโพกกลมกลึงยังคงอยู่จุดเดิมให้ผมได้สอดใส่เข้าไป

ผมจับดิวให้นอนตะแคง กอดขาข้างหนึ่งไว้ในขณะที่อีกข้างถูกคร่อมทับ ดิวงอตัวเป็นกุ้ง ครางเหมือนสะอื้น คาดว่ามันควหวิวไปทั่วช่องท้องของเขา ผมเร่มบรรเลงต่อจากท่าเมื่อครู่ทันที คราวนี้ผมเริ่มรับรู้ถึงจุดหมายปลายทางของตัวเองแล้ว

“ฮึก...พี่แมทพี่แมทเบาหน่อยครับ” เสียงนั้นสั่งให้เบา แต่ผมกลับแรงขึ้น

“ผมไม่ไหวแล้วพี่...พี่ครับ” ผมยังคงไม่สนใจเสียงนั้น

ร่างกายของดิวสั่นกระตุกติดต่อกันหลายต่อหลายครั้ง แต่แต่ทำกันมา ร่างเล็กปล่อยความร้องการหลายหน เสียแต่ผมไม่ได้สนใจจะสังเกตหรือจดจำมันเอาไว้เลย ผมโน้มกายลงไป ใช้มือว่างกดริมฝีปากสีอ่อนที่ครางเสียงดัง เขาปลดปล่อยออกมาเลอะเทอะ ปนไปกับของก่อนหน้านี้เต็มไปหมด แต่ในเมื่อผมไม่สน ก็คือผมไม่สนนั่นแหละ ผมต้องการให้เขาเงียบเสียง ดิ้นทุรนทุรายในขณะที่ผมกำลังปลดปล่อยความต้องการของตัวเองเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่ม

“อ่าห์....” เกือบครางเรียกบอมเสียแล้ว ดีที่ยั้งปากตัวเองเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นผมคงมีปัญหากับดิวแย่

“ฮึก พี่แมท..วันนี้มันรุนแรงไปนะครับ” ดิวร้องไห้สะอื้นออกมาเบาๆ ผมถอนกายออก ขยับไปนอนข้างเขาก่อนดึงร่างเล็กๆ เข้ามากอด
“พี่ขอโทษครับ พี่เครียดกับเรื่องวันนี้มากไป” ทำเสียงเศร้า เรียกร้องความเห็นใจจากอีกฝ่าย
“ผมเข้าใจ ผมไม่โกรธพี่หรอกครับ แล้วเป็นยังไงบ้างละครับ พี่แมทดีขึ้นหรือยัง” ดิวช้อนมองผมด้วยความห่วงใย ผมยื่นปากจูบหน้าผากเขาพร้อมยิ้มอ่อนโยน
“พี่ดีขึ้นมากเลยครับ ขอบคุณดิวมากเลยนะ ที่เข้าใจพี่มากขนาดนี้ ถ้าพี่ไม่มีดิว พี่ไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไง” คำพูดแม่งโคตรน้ำเน่า แต่ทำไงได้ มันเป็นประโยคที่เอาไว้มีดใจคู่ควงนี่นา

ผมนอนกอดดิวต่อไปทั้งแบบนั้น ไม่ค่อยได้คุยกันเพราะผมไม่อยากจะคุย อยากอยู่เงียบๆ แต่เพราะเงียบมากไปเราถึงพากันหลับทั้งที่ร่างกายเหนอะหนะไปด้วยน้ำอะไรมากมาย กว่าจะรู้ตัวตื่นขึ้นมาก็ปาไปมืดแล้ว ดีที่พ่อกับแม่ของดิวยังไม่กลับมา ผมเลยอาบน้ำอาบท่าขอตัวกลับบ้านไป โดยอ้างว่าดึก ทั้งที่ความจริงก็แค่...ขี้เกียจอยู่ต่อ


มีต่อจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 28-12-2016 11:06:20
 :katai5: ต่อ

ปึก

เสียงชีทงานกระแทกโต๊ะที่ผมเอาเพิ่งเอาเข้ามาไว้ในห้องเมื่อหลายวันก่อนดังเรียกเจ้าตัวที่นั่งเหม่อ บอมมองผมด้วยดวงตาช้ำๆ แทบเป็นครั้งแรกหลังจากคบกันมาหลายปีที่บอมปล่อยให้ตัวเองโทรมได้ขนาดนี้ เขาไม่ดูแลตัวเอง ไม่ทาครีมที่ซื้อมามากมายบนโต๊ะ เพราะมันไม่จำเป็นอีกแล้ว ผมขังบอมเอาไว้ในห้องมาหกวัน ใกล้ครบอาทิตย์หนึ่ง โดยคุยเรื่องนี้กับเต้แล้ว การขาดเรียนของมหาลัยจัดเป็นเรื่องใหญ่ แต่เต้และกล้าหาทางช่วยให้แล้ว พวกเขาเข้าใจดีว่าเรื่องที่เกิดนั้นร้ายแรงแค่ไหนสำหรับคนรักกัน

ทุกวันนี้เต้จะเอางานมาให้ ถึงบอมขาดเรียนแต่ยังมีงานส่ง อาจารย์ก็จะอนุโลมให้ ด้วยเหตุผลที่ว่าแม่ของบอมป่วยหนัก ตอนนี้บอมต้องดูแลแม่อยู่ที่โรงพยาบาล มันเป็นคำโกหกที่เอาตัวรอดได้ ตอนเย็นของทุกวันผมเลยไปหาเต้ คอยเอางานมาให้บอมทำ ชีทงานที่วางตรงหน้าบอมนั้นก็เป็นงานของวันนี้ทั้งหมด

“มึงจะไม่ยอมคุยกับกูจริงๆ หรอวะแมท” มันถาม ผมมองหน้าแล้วเดินออกมา ไม่ได้ล๊อคห้องเพราะผมยังอยู่

หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ผมไม่คุยกับบอมอีกเลย ไม่พูดด้วยสักคำ ถึงมันจะว่าผมใจร้าย แต่มันสมควรแล้วที่บอมจะต้องเผชิญกับสิ่งนี้ มันเองไม่ใช่หรอที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ร้าวฉาน

“กูยอมทุกอย่างแมท จะทำอะไรกับกูก็ได้ แต่ขอร้อง...ช่วยเลิกเย็นชาใส่กูที” ร่างเพรียวเดินออกมาสวมกอดจากทางด้านหลัง มันซบหน้ากับแผ่นหลังของผมเอาไว้ บางอย่างจากดวงตาทำให้เสื้อของผมเกิดความเปียกชื้น

ผมสงสารมัน...แต่ผมกลัวมันจะทำแบบเดิมอีก หากเกิดเรื่องแบบคราวนี้อีกครั้ง หัวใจของผมคงแหละสลายไม่มีชิ้นดี ถึงตอนนี้บอมจะทำตัวเป็นเด็กดี เขาไม่ขอร้องให้ผมปล่อยเขา ไม่เรียกร้องหาความอิสระ แต่ขอให้ผมเลิกเย็นชาใส่เท่านั้น ผมฟังคำขอร้องของมันทุกวัน ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ถามว่าใจอ่อนไหม...ก็ยอมรับว่าใจอ่อนแหละ แต่ก็ยังเงียบใส่มันอยู่ดี

“กูจะลบเบอร์ของผู้หญิงทุกคนออกให้หมดเลย ลบเฟซด้วย โพสต์เฟซด้วยดีไหมว่าคบกับมึงแล้ว นะแมท...กูสัญญา กูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว กูรักมึงนะ ให้อภัยกูเถอะนะแมท...กูน่ะ ปวดใจจะตายอยู่แล้ว” เสียงสะอื้นรอดออกมาเบาๆ ให้ได้ยิน ตัวบอมสั่นไปหมด ผมอยากกอด อยากปลอบ แต่ก็เลือกจะแกะมือมันออกแล้วเดินเข้าไปในครัว

บอมยืนมองตามแผ่นหลังของผมทั้งน้ำตา ครั้งนี้บอมเสียน้ำตามากกว่าครั้งไหน เหมือนกับที่ผมเจ็บกับมันมากกว่าครั้งไหนเช่นกัน เราต่างก็ทรมานกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่เพราะมันทำตัวเองทั้งนั้น มันเป็นคนทำให้เรื่องราวออกมาในรูปแบบนี้ เพราะงั้นมันนั่นแหละที่ควรจะเจ็บปวดที่สุด ต่อให้ผมรักมันมากแค่ไหน ผมก็ไม่ยอมให้เหตุการณ์ในครั้งนี้จบลงง่ายๆ ด้วยความสุขของเราทั้งคู่หรอก เพราะผมเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึง มันต้องเจ็บปวดไปกับผมด้วยเช่นกัน

ผมเอาอาหารเย็นที่ซื้อมาจากข้างนอกเทใส่จาน ก่อนจะเทข้าวลงจานสองใบคือของผมกับบอม เรียบร้อยจึงยกออกมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว บอมยังยืนอยู่ตำแหน่งเดิม มันพยายามกลั้นสะอื้น ปาดน้ำตาแล้วยิ้มให้กับผมที่หันไปมอง มันไม่ได้ผลหรอกบอม กูไม่เห็นใจเพียงเพราะมึงน่าสงสารหรอก ผมหันหน้าหนี นั่งลงแล้วเริ่มลงมือตักกับข้าวใส่จานตัวเอง

“จะไม่เรียกกูบ้างหรอ” บอมถามเสียงน้อยใจ คงเจ็บมากละสิ...ดี เจ็บมันให้ตายนั่นแหละ

“...” ผมเงียบ ไม่มองหน้า กินแต่ข้าวไม่สนใจใยดีคนอีกฝั่ง

“กูรู้นะว่ากูผิด กูสำนึกแล้วจริงๆ นะแมท” มันก้มหน้าก้มตาพูด น้ำใสๆ หยดลงในจานข้าวที่มันพยายามจะใช้มือสั่นๆ ตักกิน

“...” แต่ผมก็ยังคงเงียบใส่

“ให้โอกาสกูได้แก้ตัวเถอะนะ...ที่ผ่านมากูเหี้ยเอง กูขอโทษ ทั้งที่กูรู้ดีว่ามึงรักกูมากขนาดไหน กูยังไปทำตัวแบบนั้นอีก แต่ที่กูทำ มันไม่ได้หมายความว่ากูไม่รักมึงนะ กูแค่เล่น แค่สนุก...” บอมพยายามอธิบายเหมือนทุกวันที่ผานมา คำพูดของมันก็คล้ายๆ เดิมแบบที่เคยพูดนั่นแหละ ผมขี้เกียจฟัง แต่ผมก็รู้ดีว่ามันพูดเรื่องจริง สิ่งที่บอมกำลังอธิบายคือความจริงขากใจของมันเอง

“...”

“ถึงมันจะแค่สนุก แต่ก็ทำให้มึงเจ็บ...กูรู้ ก็นะ ทั้งๆ ที่รู้แต่กูก็ยังจะทำ กูมัน...”

“พอเหอะ รำคาญ” นี่เป็นประโยคแรกในรอบหกวันที่ผ่านมา ผมมองบอมตาขวาง วางช้อนแล้วลุกเดินออกมา ทั้งที่ยังกินข้าวไปได้แค่ไม่กี่คำ

ไม่ใช่เพราะเกลียดมันหรอกที่ทำแบบนี้ แต่เพราะรักมันมากต่างหาก ถึงเจ็บกับทุกวิ่งทุกอย่างที่มันกำลังอธิบาย ผมเบื่อที่จะฟัง เบื่อที่จะต้องรับรู้ถึงความจริงที่ว่ามันมีชู้ มันมีคนอื่น มันรักผม แต่มันกลับไม่เคยพอเลย

“แมท...” บอมรีบเดินเข้ามาขวาง ดวงตาซุกซนคู่สวยที่ผมเคยหลงรักบวมแดงอย่างน่ากลัว บางที ก็อยากเข้าไปเช็ดน้ำตา ดึงมันมากอด แล้วบอกว่ากูให้อภัย

แต่ความกลัว...มันค้ำคอ

“ ห้โอกาสกูได้แก้ตัวทีเถอะนะ...จะขังกูต่อก็ได้ แต่ช่วยกลับมาเป็นแมทคนเดิมของกูที ถึงกูคนนี้จะมีคนอื่น แต่กูก็ยังรักมึงเหมือนเดิม ยังเป็นบอมคนเดิมของมึงไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักครั้งนะแมท กูรู้ครั้งนี้กูผิดมากๆ กูผิดไปแล้ว...ฮึก..กูขอโทษ กูขอโทษ...” บอมตรงเข้ามากอดผม อ้อมแขนบีบรัดผมเอาไว้อย่างแน่นหนา ราวกับกลัวอย่างสุดหัวใจว่าผมคนนี้จะทิ้งมันไป

“มึงรู้ใช่ไหม...ว่ากูรักมึง” หัวใจที่ยังคงเจ็บปวดโอนอ่อน แต่ไม่หรอก แค่ผมพูดด้วย แค่ผมจะลองให้โอกาส นั่นไม่ได้หมายความว่าผมจะให้อภัยมันง่ายๆ ความผิดครั้งนี้มันจะต้องจำไปจนตาย หรือจำไปตลอดเวลาที่เรายังคบกัน

“กูรู้...มึงรักกูแค่ไหนกูรู้ดี กูถึงไม่เคยคิดจะให้ผู้ชายคนไหนมากอดกูนอกจากมึง แต่เรื่องผู้หญิง กูขอโทษ กูเลวเอง...กูแค่สนุก แค่สนุกไปงั้นจริงๆ” ผมควรจะรู้สึกดีกับคำพูดมันไหม ไม่เคยคิดให้ผู้ชายคนไหนมากอดนอกจากผม แต่แม่งเสือกไปกอดผู้หญิงคนอื่น

“มึงคิดแบบนี้...ถามจริง รักกูบ้างไหม” ผมถามกลับอย่างเจ็บปวด
“รักสิ กูรักมึง...กูรักมึงแมท ฮื่อ...เพราะกูรักไง กูถึงทรมานขนาดนี้ ได้โปรด กูเจ็บแล้ว กูไม่ทำอีกแล้ว....”

สั่มเสียงที่ปวดร้าวของบอมสั่นคลอนหัวใจที่บอบช้ำ ผมหลับตาลง สองมือโอบอ้อมร่างกายของบอมเอาไว้ สมองกำลังบอกให้ตัวเองใจแข็งเข้าไว้ บอกให้อดทน อย่าไปสนน้ำตาและคำอ้อนวอนต่างๆ นาๆ แต่พอนึกถึงใบหน้าที่บวมช้ำ นัยน์ตาแดงก่ำของคนร้องไห้ติดกันมากหลายวัน ความสงสารก็ผุดขึ้นมาอย่างมากมาย บอมทำผมเจ็บ...แต่ผมก็ยังรักมัน

บอมกอดผมแน่นขึ้นเมื่อรับรู้ถึงวงแขนแข็งแรง มันสะอื้นหนักกว่าเก่า ร้องไห้หนักกว่าเดิม ผมไม่ลุบหลังเพื่อปลอบมันหรอก แต่ก็ยืนกอดมันเอาไว้อย่างนั้นไม่ยอมคลายออก นี่ก็นับว่าใจอ่อนลงไปมากแล้ว

“มึงให้อภัยกูแล้วใช่ไหม” มันถามเสียงอู้อี้

“ไม่...” บอมเงยหน้ามองผมในทันที

“จะให้กูตายก่อนไหมถึงให้อภัยกู” นัยน์ตาที่เคยซุกซนเศร้าหมอง

“...” ผมไม่ตอบคำถาม หยาดน้ำจึงรื้นล้นออกมาจากตาของมัน

“แมท อย่าใจร้ายกับกูขนาดนี้เลย กูจะตายอยู่แล้ว...” ผมเช็ดน้ำตาให้กับมันก่อนจะดันหัวมันซบลงที่อก

“กูไม่ให้อภัยมึงง่ายๆ หรอกบอม ถ้าครั้งนี้มันทำเราทั้งคู่เจ็บ...ก็เจ็บจนตายแม่งไปด้วยกันนี่แหละ” บอมปล่อยโฮออกมาหนักกว่าเดิม

ผมปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปโดยไม่ทำอะไรอีก แค่โอบกอดมันที่ร้องไห้หนักเอาไว้ รับรู้ถึงกระแสอารมณ์อันย่ำแย่ เราทั้งคู่ต่างเหนื่อย ต่างเจ็บปวดเหมือนๆ กัน ไม่มีใครเลยที่จะแบกรับความรู้สึกน้อยกว่าใคร สิ่งที่บอมแสดงออกมาให้เห็นนั้นก็ชัดพอแล้ว ผมลูบแผ่นหลังที่บางกว่าตัวเองด้วยความนุ่มนวล ถึงครั้งนี้เราจะทำร้ายกันและกัน แต่เราก็ยังคงรักกันไม่ได้เปลี่ยนไป

ผมไม่รู้ว่าถ้าใจอ่อน อ่อนข้อให้แล้วมันจะยังเป็นแบบนั้นอีกไหม แต่ยอมรับจากใจว่าทรมานมันต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะการเห็นมันร้องไห้ ผมเองก็ทรมาน ทุกคืนเรานอนห้องเดียวกัน บอมต้องนอนข้างล่างเพราะผมไล่มันไป มันแทบไม่หลับ ผมเองก็เหมือนกัน นอนมองมันทั้งคืน กลางวันผมก็ขังมันเอาไว้ มีอาหารให้แต่ไม่ให้มันออกมาจากห้องนอน ไม่ให้ใช้มือถือหรือคอมถ้าไม่จำเป็น บอมยอมผม ยอมเพื่อที่จะให้ผมรับรู้ว่า..มันรักผม

อืม...ผมรู้ว่ามันรักผม ไม่งั้น มันคงจากผมไปแล้ว ไม่อยู่ให้ตัวเองทรมานขนาดนี้หรอก

“มึงรู้นะ ต้องทำไง...” หลังจากบอมสงบสติอารมณ์ได้ ผมก็พามันมานั่งที่โซฟา ยื่นมือถือให้กับมัน บอมรับไว้แล้วยิ้มให้ผม

“ครับ..” มันขานรับ ขยับมานั่งตักให้ผมเห็นหน้าจอได้ง่ายๆ ทันทีที่มันเปิดเครื่องหลังจากผมปิดมันเอาไว้ตลอด ก็มีแจ้งเตือนไม่ได้รับสายร่วมร้อยสายจากพู่กัน และอีกสิบกว่าสายของคนที่ชื่อบัว หึ...มารู้เอาตอนนี้เองละว่าบัวน่ะก็เป็นกิ๊กของไอ้บอม มันเมินแจ้งเตือน จากนั้นก็ลบเบอร์ของผู้หญิงทุกคน ลบแชต บล๊อคเฟซ บล๊อคไลน์หลังบอกเลิกกับสาวๆ พวกนั้น บอมมันร้าย อยากจะโกรธอีกรอบจริงๆ เมื่อเห็นรายชื่อจำนวนมากในเครื่อง ที่ไม่ให้ผมยุ่งกับมือถือก็เพราะแบบนี้สินะ
แต่เอาเถอะ...ครั้งนี้ทรมานมันพอแล้ว แต่ถ้ามีอีกเมื่อไหร่ ผมจะล่ามโซ่มันไว้ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย คอยดู!

“เสร็จแล้วก็ไปล้างหน้า กูหิว” ผมดันหลังบอมออกจากตัว ทั้งที่ความจริงชอบมากที่มันนั่งตักแบบนี้ บอมหน้าสลดลง แล้วลุกไปแต่โดยดี

เรากลับมานั่งกินข้าวกันอีกครั้ง หลังทิ้งให้กับข้าวบนโต๊ะเย็นชืดไปหมด มันไม่อร่อยแล้วละ แต่ด้วยความที่บรรยายกาศระหว่างผมกับบอมดีขึ้น ทำให้อาหารอันจืดชืดมีรสชาติขึ้นมาได้ บอมคอยตักของที่ผมชอบมาใส่จานให้ แล้วยังเปลี่ยนน้ำในแก้วให้เย็นฉ่ำ เอาใจผมอีกน่างหาก ผมลอบยิ้มในตอนที่บอมไม่เห็น มันที่คอยเอาใจ เป็นเด็กดีแบบนี้ผมชอบมาก แต่ผมไม่ยอมให้เจ้าตัวรู้หรอก ไม่งั้นจะยิ่งได้ใจ ให้คิดว่าผมยังโคตรโกรธอยู่น่ะดีที่สุดแล้วระหว่างเราในตอนนี้

ผมน่ะยังต้องคอยจับตาดูพฤติกรรมของบอมอีก ไม่ใช่ใจอ่อน อ่อนข้อให้แล้วจะปล่อยปละละเลยเสียเมื่อไหร่ หวังว่าเหตุการณ์คราวนี้จะทำให้บอมเข็ดไปได้บ้าง ถ้าแค่หลีสาวผมพอให้อภัย แต่ถ้ามีแบบนี้อีกเมื่อไหร่เราคงเห็นดีกัน ผมเชื่อว่าเขาจะไม่กล้า ดูจากที่ผ่านมาแล้ว เขาเองก็ทรมานมากกับสิ่งที่ผมปฏิบัติตัวต่อเขา ผมเองก็ใช่ว่าจะชอบเสียเมื่อไหร่ละ เราอยู่กับแฟน เราก็อยากมีความสุข ไม่ใช่อยู่ด้วยกันแล้วมานั่งทุกข์อย่างที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้จะจบหรอก แต่มันเบาลง ให้ผมได้คลายความอึดอัดใจ และบอมได้ผ่อนคลายจากความทรมานใจ

หลังจากนี้สิ...น่าเครียด
“มึงจะให้กูกลับไปเรียนไหม” บอมถามเสียงกล้าๆ กลัวๆ
“อืม” ผมตอบประหยัดคำ บอมหน้าเจื่อน อย่าคิดว่าอ่อนข้อให้แล้วจะกลับไปเป็นแบบเดิมได้เลยทันทีสิ ดีไม่ดี ถ้าบอ ทำตัวแย่ เรื่องนี้อาจไม่วันจบเลย จนกว่าใครคนใดคนหนึ่งทนไม่ไหวนั่นแหละ
“เดี๋ยวกูเอาตารางเรียนมาให้มึงนะ...” บอมพูดยิ้มๆ ส่วนผมอึ้งไปนิดหน่อย
บอมเนี่ยนะให้ผมยอมดูตารางเรียน!

ดูท่าการดัดนิสัยคราวนี้จะพอได้ผลดีบ้างละนะ ปกติมันหวงจะตาย ไอ้ตารางเรียนกับมือถือเนี่ย ของสำคัญที่จะทำให้มันมีช่องว่างไปไหนมาไหนได้ ผมก็เคยคิดจะขอดูของพวกนี้แต่มันยอมที่ไหน ถ้ามันยอม ผมคงไม่ต้องระแวงมันมากขนาดนี้หรอก เพราะผมจะรู้ได้ทันทีถ้ามันตุกติก ผมแอบลอบยิ้มในใจ รู้สึกดีที่มันทำตัวดีแบบนี้
“อืม” ถึงชอบแต่ก็เก็บอาการเอาไว้ บอมพยายามยิ้ม แม้ตาจะยังคงความเศร้าเอาไว้

มันไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก เงียบ กินข้าวจนเสร็จเรียบร้อย บอมอาสาเก็บจานล้างจานเอง จากนั้นทำความสะอาดโต๊ะ ผมนั่งมองมันจากโซฟา ดูห่างๆ พลางคุยแชตไลน์กับดิวไปด้วย พอบอมทำทุกอย่างเรียบร้อย มันก็เดินเข้าห้องไปเอากองชีทออกมานั่งอ่านนั่งจนตรงหน้าผม
“ขอแล็บท๊อปได้ไหม...” มันหันมาถาม ผมพยักหน้า บอมยิ้มหวานแล้วเอาคอมฯมานั่งทำงาน มันอยู่ในสายตาผมตลอด ให้ผมได้เห็นว่ามันกำลังทำอะไร คงเพื่อสร้างความเชื่อใจให้กลับมาอีกครั้ง แต่ขอโทษ...ความเชื่อใจไม่ใช่สิ่งที่สร้างกันได้ง่ายๆ หลังจากสูญเสียมันไปแล้ว

ผมมองบอมสลับกับกดตอบแบตไลน์ของดิว ต้องคอยจ้องเผื่อว่ามันจะแอบเข้าเฟซไปหาหญิงสาว ทั้งที่ผมเห็นมันบล๊อคพวกเธอไปแล้ว แต่มันระแวง  ทำไงได้ละ บอมทำให้ผมเป็นคนแบบนี้ จะโทษ ก็ต้องโทษตัวเองละนะ..
“คุยกับใครหรอ...” บอมเงยหน้าจากจอมาถาม ผมกดล๊อคจอนิ่งๆ จ้องหน้ามันด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“เพื่อน” บอมพยักหน้า ยิ้มบางแล้วทำงานต่อ โดยหันมามองผมบ้างเป็นพักๆ แต่เมื่อเห็นสายตาของผม มันก็จะหันกลับไปทำงานของตัวเองด้วยสีหน้าที่ซ่อนความหม่นหมองเอาไว้ ผมเข้าใจความรู้สึกของมันดี...แต่นี่เป็นบทลงโทษของมัน เพราะงั้น มันก็ต้องแบกรับความรู้สึกแย่ๆ ต่อไป

************จบบทที่ 7************

 :hao3: :hao3: :hao3: แมทนี่ขี้โกหกจริงๆเลยน้า :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pamaipraewa ที่ 28-12-2016 12:13:19
โอ๊ยยยยย ไม่รู้จะเชียร์ใคร ขอเชียร์ดิวละกัน555 หาคู่ดีๆให้น้องด้วยนะค้า อีแมทมันหลอกน้องงงงง

บอมกับแมทก็...คบกันยืดๆแล้วกันนะ 5555
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-12-2016 13:08:30
แมท ว่าแต่บอม ตัวเองก็ทำเหมือนบอม
เพียงแต่กิ๊กบอม เป็นหญิงหลายคน
แต่กิ๊กแมท เป็นชายคนเดียว
ที่จริงมันก็ตรงกับใจชอบของคนทั้งคู่
บอมยังชอบหญิง แมทชอบแต่ชาย
ตรงสเป็คของทั้งคู่อีก แอร๊ยยยยยยย
ก็เจ็บกันทั้งแมท ทั้งบอม  :z6: :z6: :z6:
ทั้งคู่ต่างนอกกายกัน ไม่นอกใจกัน
คอยดูว่า ใครจะเลิกนอกกายได้จริง  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 28-12-2016 13:13:19
แมทเอาแต่โทษบอม ไม่ยอมรับว่าตัวเองก็ทำเหมือนกัน
ยังคุยแชทกับดิวได้หน้าตาเฉย ไม่ได้มีความสำนึกผิดเลย
ในใจก็เอาแต่โทษบอมบลาๆๆ
เฮ้อ แมทเอ้ย ขอให้บอมรู้บ้างเหอะ เอาคืนแมทหนักๆเลย ให้กระอักเลือดไปข้าง :fire:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-12-2016 13:35:56
แมทแกเลวกว่าอีก  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 28-12-2016 21:22:29
  อ่านตอนนี้สงสารบอมจริงๆ แต่ก็คิดว่าดีแล้วที่แมทกับบอมเป็นคู่กัน เป็นคู่ที่เหมาะสมกันเพราะนิสัยจริงๆ
   สักวันบอมจะจับได้ บอมเอะใจแมทแล้วแต่ชะล่าใจเอง รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 28-12-2016 22:24:40
เรื่องนี้คงจบไม่สวย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 29-12-2016 00:29:29
เสือตัวผู้ ดูกระสัน มั่นใจมาก
เสาะแสวง แฝงรูดาก จากสมัน
เสือตัวเมีย ที่เสียรู้ ยังอยู่กัน
ร้องรำพัน เสือที่รัก หักกลับมา

ดูต่างกัน ตรงที่ว่า หากินเหยื่อ
บอมเป็นเสือ กินไม่เลือก แล้วแต่หา
แต่เสือแมท ปักใจกิน ทุกเวลา
ชี้ชัดว่า ให้ราคา มากกว่ากัน

เรื่องนี้อาจจะอธิบายให้เห็นถึง
นอกกาย กับ นอกใจ
ว่ามันต่างกันแค่..เจตนา

จริงไปไหม
เสือแมท
หุหุ

+1 ให้เรื่องนี้
นานๆทีถึงจะมีนิยายที่อ่านแล้วโดนใจแบบนี้
มาต่อบ่อยๆนะ เพราะตอนนี้ติดงอมแงมไปแล้ว

มารออ่านเธอมีชู้
ทุกคืนเลย
อิอิ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 29-12-2016 08:53:04
เธอมีชู้

บทที่ 8

“อ้ะ...พี่แมท” เสียงครางหวิวดังออกมาเมื่อผิวเนื้ออ่อนส่วนคอโดนกัดเพียงแผ่วเบา

“ครางอีกสิครับดิว” ผมกระซิบบอกใกล้ใบหูขาวที่ตอนนี้อมชมพูเพราะเลือดในกายเล็กกำลังเดือดพล่าน

“อ๊า พี่แมทครับ....พี่......” แรงขย้ำตรงความอ่อนไหวกลางกายทำให้ดิวปล่อยเสียงครางหวานหูออกมา

“อื้ม ดี...พี่ชอบเราครางจังเลยครับ” ผมขบเม้มลำคอขาวคอ ไล่ระดับจากบนลงล่างทีละช้าๆ ค่อยๆ ทำไปไม่รีบร้อน เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีที่สุด

แผ่นอกเล็กกระเพื่อมขึ้นลงเพราะแรงหายใจที่หนักหน่วง ผมมองมันด้วยสายตาวาววามก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นเลียตุ่มไตเด่นหราทั้งสองฝั่งซ้ายขวา ดิวผวาเฮือก สองมือเคลื่อนขย้ำเส้นผมสีดำขลับลื่นมือเอาไว้พลางแอ่นอกเข้าหาความรุ่มร้อนตามสัญชาตญาณ ปฏิกิริยานี้ทำให้ผมเพลิดเพลินกับการละเลงเรียวลิ้นลงไป ยิ่งหยิกล้อ ก็ยิ่งมัวเมา ท่อนขาของดิวเสียดสีสีข้างผมไปมา ความรัญจวนช่วงบนมันเป็นแค่สิ่งที่เห็น แต่ภายใต้กายใหญ่ของผมนั้นมีมือกำลังกำรอบท่อนเนื้อนุ่มอันชูชันเอาไว้ พลางบีบนวด เคล้าคลึงสร้างอารมณ์ให้กับอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ

“พะพี่...ผมเสียว ผมไม่ไหวแล้ว เร่งอึก...เร่งมือให้ผมหน่อย” ในเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากร้องขอ ผมก็ไม่ปฏิเสธคำขอนั้น ขยับข้อมือของตัวเองเร็วขึ้นทีละน้อย

“พี่ทำให้แล้ว ครางให้พี่ฟังดังๆ นะครับน้องดิว” จ้องตากับคนใต้ร่าง บอกเสียงกระเส่าให้เขาทำตาม ดิวพยายามจ้องตอบ แต่ความซาบซ่านนี้ทำให้เขาไม่อาจเปิดเปลือกตาได้นานนัก

“อ้ะ อ้ะพี่แมท...พี่เร็วอีก อื้ออ้ะ อ้ะ อ๊า....” น้ำจากแก่นกายอุ่นรินรดฝ่ามือของผม ไม่ต้องมองก็รู้ว่าสีของมันเป็นสีอะไร และมากมายแค่ไหน

“ได้เวลาทำให้พี่บ้างแล้วนะครับ” จูบไปที่กลีบปากสีสวยก่อนจะขยับพลิกสลับตำแหน่ง

ดิวลงมือปฏิบัติหน้าที่ในทันที เขาโน้มลงมาจูบปากผมด้วยความเร่าร้อนก่อนจะใช้สิ่งเดียวกันนี้พรมไปตามลำคอของผม ดิวรู้ดีว่าห้ามทำรอยเด็ดขาด เขาจึงจูบอย่างนุ่มนวล ฝ่ามือของเขาสำรวจร่างกายของผม ลูบไล้และหยุดลงตรงความแข็งขืนที่ร้อนฉ่า ดิวรวบมันเอาไว้ด้วยสองมือ ค่อยๆ ขยับให้สอดคล้องกับจังหวะของริมฝีปาก แต่ผมอดรนทนไม่ไหว เชยคางเขาขึ้น มองสบตา อ้อนเขาด้วยดวงตาคู่คม

“พี่อยากได้ปากน้องดิว...”

“ขอกันอย่างนี้ ผมก็ปฏิเสธไม่ลงสิครับ” ดิวยิ้มรับอายๆ เขาเคลื่อนใบหน้าลงไปด้านล่างทันที

“สอดนิ้วเข้าไปในตัวเองด้วย พี่อยากดู อื้ม...” ดิวไม่ขัดสิ่งที่ผมต้องการให้เขาทำ เมื่อริมฝีปากครอบลงมันยอดชาย เขาก็ค่อยๆ สอดนิ้วของตัวเองเข้าไปในช่องทางสีคล้ำ ขยับขยายเส้นทางของเขาเอง

ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความคึก ปากกำลังขยับขึ้นลง เห็นลำกายพลุบเข้าพลุบออกแบบนั้นแล้วความเสียวซ่านก็ทวีรุนแรง หากมองเลยไปอีกหน่อยก็จะพบเห็นมือของดิวที่ขยับกระแทกกระทั้นเข้าสู่ช่องทาง มันไม่ได้รุนแรงนัก แต่ก็เร็วพอที่จะทำให้เกิดความวูบวาบในช่องท้องน้อย

“อ่าห์...สุดยอดเลยน้องดิว พี่เสียวมาก” ผมขยับสะโพกดันส่งให้ส่วนสำคัญเข้าไปในโพรงปากอุ่น

“อื้อ อื้อ อื้อ” ดิวครางรับกับจังหวะที่ในเข้าออก รวมทั้งมือของเขาที่เคลื่อนไหวสอดประสาน

“อ้ะ...น้องดิวดูดแรงๆ เลยครับ” ผมกดหัวของดิวให้จมไปกับท่อนเนื้อ กลืนกินมันเข้าไปจนหมดไม่เห็น รู้สึกเลยว่าเข้าไปจนถึงคอ ดิวส่งเสียงอ่อกแอ่กออกมา แต่ก็ยังพยายามดูดแรงๆ ตามที่บอก

“ซี๊ดด...อื้ม!” น้ำคาวพุ่งทะลักเข้าสู่ลำคอเล็ก ดิวรีบดึงหน้าตัวเองออกแล้วไอออกมา

“แค่กๆ”

“เป็นอะไรไหมครับ...” ดิวส่ายหน้า

“ไม่ครับ แค่สำลักนิดหน่อยเท่านั้นเอง” คนตัวเล็กยิ้มให้ ผมจึงระบายยิ้มตอบ ช้อนคอด้านหลังของเขาให้เข้าหาตัวเองก่อนบรรจงจูบให้รู้สึกวาบวาม

“อื้ม” ดิวระบายเสียงครางออกมา ผมจับตัวเขาให้ขึ้นมาคร่อมสะโพก นั่งทับส่วนอ่อนไหวที่ไม่อ่อนแรงลง

เราจูบกันดุเดือดในขณะที่ช่วล่างเหมือนจะตามหากันและกัน ดิวส่ายสะโพกไปมา ผมเองก็จับส่วนนั้นให้จ่อเข้ากับช่องทาง เมื่อเจอกันแล้วก็สอดประสานเป็นคนเดียวกัน ดิวทิ้งน้ำหนักลงมาอย่างช้าๆ เพราะขนาดของผมและนิ้วของเขามันต่างกันเกินไป ขืนทำเร็วอย่างในนึก คงมีเลือดซึมกันได้

เพียงครู่เดียว ดิวก็นั่งลงมาทั้งตัว เขาถอนริมฝีปากออก หอบหายใจหนักหน่วงเพราะต้องกลั้นมันเอาไว้ในตอนที่ค่อยๆ กดลงมา ผมลูบไล้ความเป็นชายด้านหน้าให้เพื่อให้เขาได้รู้สึกสยิวและหลงลืมความปวดหนึบนี้ไป ใบหน้าหวานปานหญิงสาวเงยขึ้นสบตา เขายิ้มอ่อนและผมยิ้มตอบ

“เจ็บมากไหม” ถามอย่างเป็นห่วง

“เจ็บสิครับ ใครเขาพี่ใหญ่ขนาดนี้ละ...” ดิวว่าผมทั้งที่หน้าแดงก่ำ

“แล้วดิวไม่ชอบหรอครับ ของใหญ่ๆ” กระซิบเย้าคนตัวเล็กพลางกระดกเจ้างูหลามในตัวของดิว

“อึ้ก พะพี่...ผมชอบหมดหมดแหละ ถ้าเป็นของพี่แมท จะเล็กหรือใหญ่ ไม่เห็นเกี่ยวเลย”
“ปากหวานจังครับ...” พูดจบผมก็ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของดิวเบาๆ พร้อมกับจับก้นนุ่มนิ่มยกขึ้นเพื่อจะปล่อยลงมาใหม่ให้เกิดความเสียวซ่าน ดิวเกาะไหล่ของผมเอาไว้แน่น เม้มปาก ปรือตามอง เป็นที่โคตรยั่ว และผมมักนแรงยั่วได้ไม่นานนัก

“ฮ่า...อื้อ อื้ออ้ะ อ้ะ อ้ะ สะเสียวครับพี่” เพราะเราต่างก็นั่ง ทำให้แกนกานร้อนเสียดสีหน้าท้องของผม ยิ่งส่วนปลายฉ่ำยลน้ำถูไปกับรอนกล้ามท้อง ช่องทางนถ่มนั้นก็จะยิ่ฝตอดรัดลำกายของผมเอาไว้แนบแน่น

“พี่ก็เสียวมากเลยครับ น้องดิวรัดพี่แน่นมาก อื้ม...แน่นสุดๆ เลยครับ” จังหวะเริ่มเร็วขึ้นแล้ว ดิวต้องกอดคอของผมเอาไว้ ไม่งั้นเขาจะทรงตัวไม่อยู่

เสียงครางของดิวดังก้องลั่นห้องนอนของเขา ดีที่ไม่มีใครอยู่บ้านหลังนี้อีกเช่นเคย เราถึงได้ทำกันโดยไม่สนเสียงจะดังจะเบา ผมสวนสะโพกเข้าหาอีกฝ่าย เสริมแรงจนดิวหัวสั่นหัวคลอนรุนแรง ความเสียวซ่านทำให้ดิวบีบรัดผมแน่น จนผมแทบจะทนความยั่วเย้าของกามารมณ์ไม่ไหว อยากจะพลิกคร่อมแล้วเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่างเอไว้ด้วยตัวเอง แต่ดิวในตอนนี้ยังเร่าร้อนเขิญชวนอยู่ ผมจึงข่มอารมณ์แล้วมองสีหน้าที่สุขสม

“พะพี่แมทครับ...ดิวอยากถึง” เจ้าตัวน้อยร้องบอกเสียงกระเส่า ผมจึงกอบกุมส่วนอ่อนไหวเขาไว้แล้วกำมันเบาๆ ให้การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นตัวทำให้มันขยับไปเอง

ดิวเร่งสะโพกตัวเองอย่างเร็ว เพื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งมันใช้เวลาไม่มาก ครู่เดียวเท่านั้น ร่างกายของผมกับเขาก็เฉอะแฉะไปดัวยน้ำคาวสีขาวขุ่น ดิวซบไหล่หอบตัวโยนด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ผมไม่ให้เขาพัก จับเขานอนลงแล้วเริ่มกระแทกต่อในทันที ข่องทางนุ่มๆ ยังเต้นตุ้นอยู่เลย ช่วงเวลาแบบนี้แหละนี่ผมชอบ บีบรัดผมเอาไว้เยอะๆ ให้เหมือนกับว่าจะทำให้มันขาดไปเสียให้ได้

“อ๊า พี่ครับ...” ร่างเล็กร้องเสียงหลง เขากอดคอของผมเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เหมือนให้เป็นหลักกับร่างที่โดนแรงส่งจนตัวไถลขึ้งลงระรัว

“อ่าห์ดี รัดพี่แน่นๆ นั่นแหละดี” ถึงจะเค้นคำพูดออกมายากเสียหน่อย แต่ก็พูดออกไปเพื่อให้อีกคนรู้สึกดี

เสียงเนื้อกระทบที่เบาลงไปจากการถึงของร่างเล็กเมื่อครู่นี้ดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง จังหวะแบบนี้ผมรุนแรงได้เพราะช่องทางร้อนๆ นี้อ่อนนุ่มมากพอที่จะรองรับความกระสันแบบหนักหนวง ผมจ้วงเข้าสุดออกเกือบสุดเพื่อรีดเสียงครางของเด็กน้อยใต้ร่าง จนเขาร้องเหมือนเสียงสะอื้น หายใจฝืดฝาด แทบจะโกยอากาศเข้าแทบไม่ทัน และเมื่อผมใกล้ถึง ผมก็ยืดตัวเต็ม จับข้อเท้าทั้งสองข้างให้ชู้ขึ้นสูงแล้วกระหน่ำแทงลงไปให้ยับ

“อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า...,” เสียงน้องของเลดิวแทบกลบเสียงเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าด สองมือของเขาจิกผ้าปูที่นอนจนแทบขาดออกจากกัน ร่างกายเล็กบิดเกร็งอย่างรุนแรง และเฮือกต่อมาเขาก็บีบรัดผมอย่างบ้าคลเงพร้อมกับน้ำขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจากส่วนอ่อนไหว

“น้องดิว น้องดิว...” ผมครางชื่ออีกฝ่ายซ้ำๆ แรงรัดหนักแน่นทำให้ผมแตกพล่านออกมา แต่ผมยังไม่ยอมหยุด อยากสุขแบบสุดๆ จนทนแทบไม่ได้ จึงขยับสะโพกระรัวตาอไปจนร่างกายเลมันเกร็งไปหมด

“อื้อ พี่แมท...พี่ครับพี่” ดิวร้องเหมือนจะขาดใจตาย ผมเองก็คล้ายกัน กัดฟันกรอดจนปวดกราม ทนไม่ไหวอีกแล้ว จำต้องชลอทุกอย่างลงอย่างช้าๆ และหยุดไปในที่สุด

“แฮ่กๆ...”

“เสียวจัง...” ผมทิ้งตัวลงไปกอดอีกร่างเอาไว้แนบแน่น เหนื่อยมากๆ ช่างเป็นการออกกำลังกายที่สุขสม

ผมคิดนะ ว่าพระเจ้าช่างดีเหลือเกิน ที่สร้างให้มนุษย์อย่างเรารู่จักมีความสุขโดยไม่ต้องมีอะไรมากมาย เพียงแค่สอดใส่เข้าไปในร่างของอีกคนแรงๆ ก็สร้างความเมามันได้มากมายขนาดนี้ ผมชื่นชอบเซ็กส์จริงๆ จะกับใครก็ตาม ผมว่ามันวิเศษสุดๆ

ลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ เรามองหน้ากัน สบตาซึ่งกันและกันก่อนจะระบายรอยยิ้มแห่งความสุข ผมก้มลงไปจูบกลีบปากของดิว เม้มดึงมันด้วยความใคร่ระคนเอ็นดู วันนี้ดิวทำให้ผมมีความสุขมาก และผมเชื่อว่าดิวเองก็มีความสุขเช่นกัน

“อยากให้พี่แมทค้างกับผมจังเลยครับ” ร่างเล็กส่งเสียงอ้อน มือไม้กอดเกี่ยวไม่ยอมคลาย

“พ่อแม่น้องดิวจะยอมหรอครับ” ปัดปรอยผมให้คนตัวเล็ก ยิ้มอ่อนโยนให้กับเขาอย่างที่ทำเป็นประจำ

“ยอมสิครับ ท่านไม่ดุหรอก บอกเป็นรุ่นพี่ผมแค่นี้ก็ได้แล้ว” เขายิ้มหวานกลับมาให้

“งั้นเอาไว้คราวหน้าดีไหมครับ พี่กับบอมเพิ่งจะคุยกันได้เอง ยังไม่อยากให้มีปัญหาในตอนนี้อีก” ดิวพยักหน้าเข้าใจ

“นั่นสิครับ ผมลืมไปเลย แต่ว่า...แค่ค้างบ้านแฟนแค่นี้ พี่บอมเขาต้องโกรธเลยหรอครับ”

“บอมไม่โกรธพี่หรอกครับ แต่พี่ยังอยากให้เข้าใจในตัวพี่มากกว่านี้ก่อน ตอนนี้ถึงเราจะหันมาคุยกันบ้าง แต่บอมก็ยังโกรธพี่อยู่ พี่เองก็อยากจะให้เขาเข้าใจว่าสิ่งที่พี่ทำลงไปมันเพื่อเขาทั้งนั้น บอมเป็นคนดื้อครับ เขาหัวรั้น ยิ่งพี่ไม่อยู่ เขายิ่งทำตามอำเภอใจ” อธิบายให้เขาฟังด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับลูบหัวดิวไปด้วย

“อ่อ ผมเข้าใจแล้วครับ แต่ถ้าดีกันเมื่อไหร่ มาค้าง...กับผมนะ” ผมรู้ว่าดิวอายที่จะพูด ผมจึงจูบเขาเป็นรางวัล
“ครับ ดีกันเมื่อไหร่ ไม่พลาดที่จะมาฟัดดิวทั้งคืน เอ้ย...นอนกอดดิวทั้งคืนแน่ครับ” ดิวตีผมเบาๆ หนึ่งที ข้อหาทำให้เขิน

คุยกันพักหนึ่ง ผมก็ขอตัวไปอาบน้ำอาบท่า นี่เย็นมากแล้ว ไม่รู้บอมจะกลับมาบ้านหรือยัง ผมปล่อยให้เขาได้ไปเรียนมาสามวันแล้วละ ดูตารางเรียนเขาตลอด เวลานี้บอมก็คงกลับห้องของเรา แต่ผมยังไว่ใจเขาครับ ยังไม่เชื่อว่าบอมจะเป็นเด็กดีได้
“พี่แมท พี่บอมโทรมาครับ” พอออกมาจากห้องน้ำ ดิวก็บอก ยกมือถือให้ดู ดีที่เขาไม่รับสายให้ ไม่งั้นคงแก้ตัวกันอีกยาว
“ขอบคุณครับ ฮัลโหล” ผมขอบคุณดิวก่อนจะรับสาย นั่งลงข้างกับเขาบนเตียง ดิวกอดพร้อมเอาคางเกยไหล่ผม
(กูถึงห้องแล้วนะ มึงอยู่ไหน)
“กูกำลังกลับ” กรอกเสียงราบเรียบลงไป เหมือนจะเห็นดิวมองผมแปลกๆ ไม่เคยได้ยินผมพูดน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้มั้ง
(อื้อ กูกินอะไรก็ได้ ซื้อมาให้กูกินหมดแหละ)
“อืม” คราวรับแล้วเตรียมจะวางสาย
(แมท...) แต่อีกฝ่ายกลับเรียกเอาไว้ก่อน จึงต้องฟัง
(กูรอนะ...) เสียงพูดที่ออดอ้อนน้อยๆ นั้นทำให้ผมรู้สึกใจสั่น ผมวางสาย มองหน้าจอพลางนึกถึงคนอีกฝั่ง อยากรีบกลับไปหามันเลย
ผมไม่รีรอเล่นตัว แกะแขนดิวออก จูบหน้าผากมลนั้นแผ่วเบาแล้วลุกไปแต่งตัว ดิวจะได้ยินเสียงของบอมไหมผมก็ไม่รู้ ผมสนใจแค่การหาของกินและกลับห้องไปเจอไอ้เสือเขี้ยวหัก พอมันเป็นเด็กดีแบบนี้ ผมละอยากรักมันหนักๆ สักที แต่ต้องวางมาดเอาไว้...คิดไว้เสมอว่าผมยังโกรธมัน

บิดมอเตอร์ไซค์จากบ้านดิวมาที่ห้องของผมนั้นใช้เวลาไม่นานนัก ราวครึ่งชั่วโมง แต่รถดันติดมากเลยกินเวลาไปเกือบชั่วโมง ยังไม่รวมตอนแวะซื้อบะหมี่เกี๊ยวเจ้าดังแบบพิเศษอีกสองห่อ นั่นน่ะนานจริงๆ รอจนเมื่อย แต่ในที่สุดผมก็มาถึงห้องของตัวเองเสียที เปิดประตูมาก็ไม่เห็นบอม มือถือวางอยู่ตรงโต๊ะหน้าโซฟา ผมตรงดิ่งเข้าไปหยิบมันขึ้นเพื่อจะดู เป็นจังหวะเดียวกับที่บอมเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูบนหัว  เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ใส่ยังมีน้ำติดประปราย

“กลับมาแล้วหรอ กูอาบน้ำแล้วนา...หอมด้วยละลองดมไหม” ผมมองใบหน้าที่ยิ้มทะเล้น น่ารักน่าฟัด แต่จำน้องเมินเพราะไม่อยากให้มันคิดว่าผมกลับไปเป็นแบบเดิม เดี๋ยวเสียนิสัย

“ไม่ละ” ผมตอบเรียบๆ

“อ่า...จะดูโทรศัพท์กูหรอ รหัสเข้าเป็นตองแปดนะ” บอมบอกอย่างไม่อิดออด ผมเงยหน้าแสยะยิ้มให้มันแล้วกดรหัสเข้าไป

บอมเดินมานั่งข้างผมบนพื้น ในขณะที่ผมนั่งตรงโซฟา เจ้าตัวยิ้มพลางมองว่าผมกดเข้าอะไรบ้าง ดูอะไรบ้าง ไม่มีคำพูดขัดหรือว่าอะไรสักแอะ กลายเป็นเสือเขื้องๆ ที่ยอมทำทุกอย่างให้ผมสบายใจ ผมรู้ดีว่านี่เป็นสิ่งที่มันให้ได้เพื่อยื้อความสัมพันธ์ของเราเอาไว้ และผมชอบมัน เพราะมันทำให้เห็นว่าบอมเองก็รักผมมากแค่ไหน

“ใคร” ผมถามเมื่อเจอผู้หญิงคนหนึ่งสางข้อความเข้ามาพอดี

“ไหน อ่อ...ไม่รู้วะ” มันยิ้มตาหยี

“กูไม่เชื่อ”

“กูไม่รู้จักจริงๆ นะ ไม่เคยคุย ไม่ได้เป็นเพื่อนกู ไม่เชื่อมึงดูรายชื่อเพื่อนสิ” บอมตาโต ท่าทีรนรานเหมือนกลัวผมโกรธ มันรีบจัดแจงจิ้มเข้าดูเพื่อนในเฟซบุ๊คทันที ผมมองตามตลอด ดูว่ามันจะตุกติกแอบลบไหม แต่ก็ไม่

“งั้นกูจะพิมพ์อะไรก็ได้ใช่มะ” ผมกดเอาคีย์บอร์ดขึ้นมา

“ได้ดิ ตามใจมึงเลย” พอได้ฟังผมถึงยิ้มให้ แต่ไม่ใช้รอยยิ้มหวานหรอกนะ แค่มุมปากเหมือนสะใจ

“ขอโทษครับ ผมมีผัวแล้ว” ขณะพิมพ์ก็ออกเสียงไปด้วย กดส่งเสร็จมองหน้าบอมที่ค่อนข้างซีด

“เสร็จแล้วใช่ป่ะ ไปกินข้าวกันนะ กูหิวแล้ว” ผมคิดว่าบอมจะต่อว่ากับข้อความที่ผมส่ง แต่ไม่เลย มันยังยิ้มได้

“เอาดิ” จบคำ เขาก็หยิบเอาถุงบะหมี่เดินเข้าครัวไปใส่จาน

ลับหลังบอมผมสอดส่องทุกอย่าง มันอาจจะมีอะไรซุกซ่อนเอาไว้ก็ได้ จะให้เชื่อใจคนเจ้าชู้ประตูดินแบบมันน่ะมันง่ายเกินไป เพราะถ้าผมไม่บังเอิญพาดิวเข้าโรงแรมนั้นเหมือนมัน ผมคงโง่ไปอีกนานเลย แต่ไม่ว่าจะส่องทุกอย่างยังไงก็ไม่พบสิ่งที่น่าสงสัย ไม่แน่ มันอาจจะเนียนเหมือนผมก็ได้

อย่างผม ผมจะไม่เก็บข้อความของใครเอาไว้เลย คุยเสร็จลบทิ้งทันที ถึงไม่เคยมีข้อความแชตของดิวตอนที่บอมมันเห็นคราวนั้น แหวนที่ดิวซื้อให้ผมก็ไม่ใส่ กลัวจะลืมถอด ไม่โพสต์ข้อความว่าไปไหน ทำอะไร อยู่เงียบๆ เหมือนเรียนกนหัก

ตอนนี้บอมก็ดูเงียบ สงบเสงี่ยมเรียบร้อยจนน่าใจหาย แต่ในมือถือของมันไม่มีอะไรให้ผมตรวยดูได้แล้ว ผมดูยันสายเข้าออก แต่นอกจากเบอร์เต้กับกล้าก็ไม่มีของใคร เบอร์แปลกๆ ไม่ขึ้นชื่อก็ไม่มี ถ้าบอมมันเนียนจริงๆ นี่ก็ขั้นเทพ

“ไม่ใช่ว่ามึงแอบลบหลักฐานทิ้งหรอกนะ” บอมถือถาดที่ใส่เกี๊ยวบะหมี่ชามโตพร้อมน้ำซุปมาวางตรงโต๊ะหน้าโซฟา

“เปล่านะ กูไม่มีใครจริงๆ” มันยืนยัน แววตาไม่สู้ดีนัก กลบเกลื่อนอะไรหรือเปล่าวะ

“กูจะแน่ใจได้ไง มึงเคยหลอกกู” บอมทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น หันหน้ามาทางผม

“กูไม่มีใครแล้วจริงๆ นะ”

“เขื่อได้แค่ไหนวะ” ผมจี้มัน คนเราน่ะถ้าโดนเค้นมากๆ มันคงจะหลุดออกมาเอง ถึงบอมจะเป็นผู้ร้ายที่ปากแข็งขนาดไหน แต่มันคงทนความอึดอัดได้ไม่นานนักหรอก

“ทำไมมึงพูดแบบนี้ละ กูก็ให้มึงเช็คมือถือแล้วไง ตารางเรียนกูมึงก็รู้” ตารางเรียนก็รู้หรอ เหอะ โดดเรียนไปคั่วหญิงก็ได้ไม่ใช่หรือไงละ อย่าคิดว่าแค่นี้จะหยุดความเจ้าชู้ได้

“แล้วไง อีนั่นอาจเรียนคลาสเกียวกับมึงก็ได้” ผมใช้สายตาดุจับจ้องมัน สีหน้ามันแย่ลงไปเรื่อยๆ มีพิรุทแน่ๆ แบบนี้

“โทรไปเช็คกับเต้ไหม” มันเสนอ เป็นทางออกโง่ๆ ผมไม่เชื่อหรอก

“เพื่อนกัน จะเชื่อได้หรอวะ”

“แมท...” เสียงของบอมเริ่มแกว่ง มันขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ ขาผม

“อะไร จะตอแหลไรใส่กูอีก” ผมทิ้งตัวเอนพิงพนัก ไม่มองหน้าของมัน

“...แล้วทำยังไงมึงถึงจะเชื่อกู” คราวนี้เสียงบอมสั่นกว่าเดิม จะเข้าโหมดราม่าเพื่อกลบเกลื่อนละสิ

“ไม่รู้ แล้วไม่ต้องมาบีบน้ำตา...” ผมลุกขึ้น มองหน้าบอมที่ตาแดงก่ำ ผมละสายตาหนี ไม่อยากใจอ่อนให้กับมันหรอก เจอซักไซร้เข้าหน่อยก็มีพิรุทให้เห็น อย่างนี้ไม่เท่ากับว่ามันกำลังโกหกผมอยู่หรือไง ทั้งที่ผมกลับมาเพราะอยากเจอมันมากแท้ๆ อารมณ์เสียจริงๆ!


มีต่อจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 29-12-2016 09:07:23
 :katai5: ต่อจ้่า

ผมเดินหนีเข้าห้อง จัดการกับตัวเอง  อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งเขียนรายงานเล็กๆ น้อยๆ แต่สมองยังคงครุ่นคิดเรื่องของบอมอยู่ตลอดเวลา พยายามหาทางดูว่าตรงไหนที่มันจะปกปิดผมได้ เท่าที่ซักไซร้ไปเมือกี้นี้ก็เห็นแล้วว่ามันมีช่องโหว่อยู่ นึกย้อนมาที่ตัวเอง จะเห็นได้ว่าผมสามารถเอาเวลาไปหาดิวได้ บางครั้งอาจารย์ไม่เข้าสอน บางครั้งโดดวิชาที่ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน ทีนี้ถึงมีตารางสอนโชว์หราอยู่ตรงหน้า ก็สามารถหลบหลีกไปหาบรรดากิ๊กได้สบายมาก แล้วอย่างมือถือ มันลบได้หมดแหละถ้าไม่อยากให้เราเห็นสิ่งที่เจ้าตัวปกปิดน่ะ

คิดแล้วเครียดชิบ!

ผมเอามือถือมากดเข้าโปรแกรมแลตไลน์คุยกับดิวแก้เซ็งต่อ อย่างน้อยดิวก็ทำให้ผมเพลิดเพลินจนลืมเรื่องของบอมไปได้บ้าง ป่านนี้เน้าตัวคงนั่งกินบะหมี่สบายใจเฉิบ ถึงจะเครียดไปบ้างเพราะผมจับไต๋ได้ แต่คงไม่มากเท่าไหร่มั้ง

บอมก็เป็นแบบนี้นั่นแหละ ไม่สำนักผิดในสิ่งที่ตัวเองทำหรอก ไม่งั้นเขาจะทำกับผมแบบนั้นได้ยังไงละจริงไหม คนเราถ้ารักกันจริงก็ต้องซื่อสัตย์ต่อกันสิ นี่มีอย่างทีไหน คิดแต่จะฟันดะผู้หญิงไปทั่ว แล้วไอครีมเคริมพวกนั้นก็คงหนีไปพ้นการทำให้สาวๆ หลงใหลนั่นแหละ ยิ่งดูแลตัวเอง ก็ยิ่งดูดี เพื่อดึงดูดใครต่อให้เข้ามา ไม่ได้ทำเพื่อผมเลยสักนิด คิดแล้วอยากจะเอาครีมบนโต๊ะเครื่องแป้งปาทิ้งแม่งซะให้หมด

นั่งคุยแชตไปสักพักก็ชักอยากเห็นไอกะล่อนขึ้นมา เลยลุกเดินออกจากห้อง ทันทีที่เปิดประตูก็พบบอมกำลังนั่งก้มหน้ากินบะหมี่อยู่คนเดียวเงียบๆ ตรงหน้าเขามีมือถือเปิดจอเอาไว้ ผมมองจากตรงนี้ไม่เห็นหรอกว่าเขาทำอะไร แต่สายตานั้นเลื่อนลอยและหม่นหมอง คราบน้ำตาอาบแก้มขาวเป็นทาง

หัวใจมันกระตุกวูบแรงๆ...ผมทำเกินไปเปล่าวะ

RrrrRrrrr

“โหล” ผมกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปหามัน แต่เสียงมือถือของบอมดังขึ้นซะก่อน ผมเลยหยุดเท้าไว้ ไม่รู้ว่าอยู่ตรงนี้จะได้ยินไหม คิดว่าคงพอได้ยินที่บอมพูด

(มึงโอเคป่ะวะ) เสียงผู้ชายดังแว่วเข้ามาในสาย บอมยังวางมือถือไว้จุดเดิม

“กูไม่โอเควะเต้...กูไม่โอเคเลย” บอมบอก เสียงสั่นๆ ของมันทำให้ผมรู้สึกใจหายเหมือนกัน

(เล่าให้กูฟัง...) บางทีก็น่าคิดนะ ว่าเต้อาจจะคิดกับบอมเกินเพื่อน ผมได้ยินอะไรไม่ชัดนักเลยแอบเดินไปด้านหลังของบอม มันนั่งก้มหน้าจนแทบจมลงไปในชามบะหมี่ ทำให้มาสังเกตเห็นผม ที่ตอนนี้มานั่งอยู่หลังโซฟา

“มันหาว่ากูโกหกมัน มันด่ากูว่ากูตอแหล...” มันกำลังคุยเรื่องผมอยู่สินะ ผมนิ่ง นั่งเหมือนไร้ตัวตน

(แล้วมึงให้มันเข็คเท่าที่มันต้องการหรือยัง มือถือละ ให้มันดูไหม ตารางเรียนด้วย) น้ำเสียงของเต้ห่วงใยบอมมาก นอกจาผู้หญิงคนอื่น ผมอาจต้องระวังเต้ไว้อีกคน

“กูให้มันดูหมดแล้วเต้ ฮึก...แต่มันไม่เชื่อกูเลย” บอมเริ่มสะอื้นเบาๆ

(เฮ้ย มึงร้องไห้หรอ...อย่าร้องดิวะ เดี๋ยวตาช้ำหมดหล่อนะมึง)

“หล่อไปแล้วมีความหมายเหี้ยไรกับกูในตอนนี้ละ”

(ไม่เอาหน่า...คราวนี้มึงผิดจริงๆ แมทมันจะโกรธก็ถูกแล้ว มึงน่ะต้องเข้าใจมันนะ สิ่งที่มึงทำคราวนี้ไม่ใช่แค่คุยกิ๊กกั๊กกับใคร แต่เป็นการพาเขาเข้าโรงแรมเลยนะเว้ย) เต้พูดอย่างอ่อนโยน แม้คำพูดนั้นจะเป็นการย้ำถึงความผิดของบอม

“กูรู้...กูถึงต้องเจ็บอยู่นี่ไงมึง กูง้อมันทุกอย่าง เปิดเผยทุกอย่างให้มันได้รู้ กูพร้อมจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อมัน มันก็น่าจะรับรู้ได้ แต่มันกลับพูดจากับกูได้ร้ายกาจมากๆ มันทำกับกู เหมือนกูไม่มีหัวใจเลย” บอมเริ่มร้องไห้หนักขึ้น

(ใจเย็นๆ อย่าร้องดิ...เสืออย่างบอมไม่ขี้แยสิวะ) เต้พยายามปลอบ

“กูไม่ใช่เสือหรอก กูอะ...เป็นแค่หมาเท่านั้นแหละ” รู้สึกจุกกับคำพูดเหล่านั้น คำพูดที่ถากถางตัวเอง

ก็นะ...รู้ดีไม่ใช่ไม่รู้ว่าบอมกำลังเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่เพราะมันมีประวัติ มันเลยทำให้ผมกลัวว่ามันยังแอบทำเรื่องพรรค์นั้นอยู่ การที่ผมซักไซร้บอมในวันนี้ไม่ใช่ไม่เขื่อใจถึงขนาดนั่นหรอก แต่เพราะผมไม่อยากให้มันสงสัยในสิ่วที่ผมทำ ผมเลยชิงรุกมันก่อนที่มันจะถามอะไรผม สุดท้ายพอมันส่อพิรุท ก็กลายเป็นผมเองที่เครียดโคตรๆ จะว่าผมคนเดียวมันก็ไม่ถูก บอมทำให้ผมไม่ไว้ใจเอง มันหลอกผมมาตลอด ไม่รู้ด้วยว่าตั้งแต่ตอนไหน ยิ่งคิดเองของมัน ผมก็ยิ่งข้ำใจ

(กูน่าจะต่อสายกล้าด้วย) เค้บอก

“ให้มันมาเหยียบกูซ้ำให้ตายใบ่มะ”

(มึงก็พูดไป กล้ามันห่วงมึงนะ ถึงมันจะปากเสีย นี่ถ้าไม่ติดว่ากล้ามันออกไปกินข้าวกับแม่ กูคงต่อสายมันมาตั้งแต่ทีแรก บอม...การที่พวกกูคอยด่าคอยว่ามึงก็เพราะไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับมึงไงวะ แมทรักมึงมากขนาดไหน พวกกูเองก็รู้ดี ยิ่งเรื่องแบบนี้มึงยิ่งต้องอดทน เพราะมึงทำมันเจ็บ)

“แล้วถ้ากูทนไม่ไหวละ...” ผมแอบชะโงกหน้าไปมองบอม เห็นจากด้านหลัง มันกำลังขยี้ตา ไม่สิ น่าจะปาดน้ำตาอยู่

(มึงจะเลิกหรือไง...) คำถามของเต่ทำให้ผมลุ้นกับคำตอบจนตัวโก่ง
“กูเลิกไม่ได้หรอก...กูรักมัน” เหมือนกระแสไฟฟ้าแรงสูงช๊อตเข้าขั้วหัวใจของผมอย่างรุนแรง

พอเดาได้แหละว่าที่มันยอม มันไม่หนีไปเพราะว่ามันรักผม แต่พอได้ฟังจากปากของมันเองแล้ว ผมก็รู้วึกว่าสิ่วทีผมทำข่างเป็นการกระทำที่เบวร้ายซะเหลือเกิน บอมน่ะมันควรได้รับความเจ็บปวดจากการกระทำในครั้งนี้ แต่นี่อาจเกินไปหรือเปล่า...ผมก็ไม่เชรู้เหมือนกัน แค่อยากให้มันจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ให้แม่นๆ มันจะได้ไม่ทำแบบนี้กับผมอีก และทั้งหมด ทั้งหมวลนี้ก็เพราะว่าผมน่ะ...รักมันนั่นแหละ

“ที่กูยอมอยู่ตอนนี้ก็เพราะรักนั่นแหละ...” เสียงเศร้าๆ เอ่ยบอกกับปลายสาย

(ถ้างั้นอดทนหน่อยนะ เข้าใจแมทมันหน่อย...)

“อืม กูจะทน” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องระบายยิ้มบางๆ ออกมาหลังจากได้ฟัง มันอาจเป็นแค่คำโกหกก็ได้ แต่ถึงจะโกหก...ผมก็ยังดีใจ

(แล้วมึงทำอะไรอยู่ กินข้าวยังวะ วันนี้กูไม่เห็นมึงกินอะไรเลย)

“กูกำลังกินบะหมี่เจ้าดัง อร่อยมาก...” ปากบอกอร่อย แต่น้ำตากลับไหลอาบแก้ม

(โบราญเขาห้ามกินข้าวกับน้ำตานะมึง)

“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ก็คนที่กูอยากกินด้วยเขาไม่อยากกินกับกู ก็ต้องกินกับน้ำตาของตัวเองไปน่ะแหละถูกแล้ว”

(สัส ลั้นลาก็ลั้นลาเกินหน้าเกินตา พอดราม่าก็ดราม่าชิบหาย ความพอดีอยู่ไหนวะ ออกมากินเหล้ากับกูไหมเผื่อความเศร้าจะหายไป)

“ไม่ละ มึงก็รู้เพราะอะไร...” เพราะผมไงละ เพราะผม...บอมถึงไม่ไป

ผมเดินออกมาจากหลังโซฟา บอมเห็นผมก็รีบเช็ดน้ำตาเงยหน้ามายิ้มให้ ปวดใจอยู่ลึกๆ ที่เห็นแฟนตัวเองเป็นแบบนี้ อยากจะกลับไปดีกันก็กลัวมันจะไม่จดจำ ทำต่อไปก็เป็นห่วงมันว่ามันจะทรัดเอาสักวัน หากยังเศร้าใจหนักแบบนี้อยู่ ผมนั่งลงตรงข้ามมัน มีชมบะหมี่ของผมวางอยู่ มันเย็นชืดไปหมดแล้วละครับ ไม่เหลือความอุ่นอยู่เลย

“คุยกับใคร” ผมถาม คนในสายเงียบไปแล้ว

“คุยกับเต้อะ มึงจะกินหรอ มันเย็นหมดแล้ว กูอุ่นให้ไหม” บอมพูดพลางกดตัดสายทิ้ง

“แล้วทำไมต้องตัดสายทิ้ง แอบคุยอะไรกันไม่อยากให้กูรู้ละสิ” คำพูดทำให้บอมมีสีหน้าที่ย่ำแย่ลง

“เปล่า มันก็โทรมาถามเป็นไงมั้ง กินข้าวยังแค่นั้นเอง อ่อใข่ มันชวนไปกินเหล้าด้วย” บอมหยิบชามบะหมี่ของผมขณะพูดอธิบาย เจ้าตัวเดินเข้าครัว นำอาหารใส่เวฟเพื่ออุ่น

“ไม่ไปละ สาวๆ เยอะเลย” ผมประชด

“ไม่ละ เดี๋ยวมึงโกรธ”

“กูไม่โกรธหรอก ไปเหอะ”

“อย่าพูดจาเหมือนไล่กูได้ไหมแมท....” จากที่บอมหยุดร้องไปแล้ว ก็เริ่มเสียงสั่นอีกรอบ ผมรู้แหละว่าตอนนี้กำลังทำเกินไป ผมมองมันที่ยืนเข็ดน้ำตาของตัวเอง หยิบชามบะหมี่ออกจากเครื่องไมโครเวฟ ปั้นยิ้มฝืน วางชามแล้วนั่งลง

ผมรู้สึกจุก ผมพูดไม่ออก...เจ็บกับเรื่องของบอมไหมมันก็เจ็บ แต่ตอนนี้บอมมีสภาพที่ย่ำแย่ลง เขาน่าสงสาร  พยายามทำทุกอย่างให้ผมรู้สึกว่าเขาปกติ ทั้งที่ตามันแดงอยู่แทบตลอด สถานการณ์ตอนนี้ของเรามันแย่มั้ง ติดลบสุดโต่งไปเลย แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดดีกับมันยังไงดีเหมือนกัน เห็นผมดูเป็นมิตรกับคนอื่น แต่ลักษณะนิสัยผมจริงๆ มันใช่แบบนั้นที่ไหนกัน บอมก็รู้ดี...ไอ้มุมดีๆ น่ะมันก็แค่การสร้างภาพ แต่กับบอผมไม่ได้สร้างภาพใส่มันมานานแล้ว เป็นตัวของตัวเอง มันเลยยากเหมือนกันที่จะพูดดีกับอีกฝ่าย

“ทำไมกูไล่มึงไม่ได้” จ้องหน้ามัน มองตาแดงๆ ที่บวมเป่ง เป็นเมื่อก่อนไม่มีทางยอมให้ตัวเองเป็นแบบนี้แน่ๆ

“มันเจ็บ...” บอมก้มหน้า ไม่มองตอบ แต่คำพูดสั้นๆ นั้นทำใจผมอ่อนยวบไปเลย

“เจ็บเยอะๆ อะดี จะได้จำ เพราะกูเองก็เจ็บไม่น้อยไปกว่ามึงหรอก” เจ้าตัวพยักหน้า

“กูรู้”

“รู้ก็ดีแล้ว กินข้าวจะได้ไปนอนเล่นกัน...” บอมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองผม นัยน์ตาซุกซนนั้นมีหยาดน้ำคลอๆ แต่มันกำลังระบายยิ้มกว้างๆ ออกมา

ดีใจละสิที่ผมพูดไปแบบนั้น ก็ทุกวันนี้ถึงนอนเตียงเดียวกัน แต่ผมไม่ยอมแตะเนื้อต้องตัวบอมเลย ไม่ถึงขั้นทำกับมันเหมือนไร้ตัวตน แต่ก็ไม่ได้ดีแบบเมื่อก่อน ผมยื่นมือไปขยี้หัวอีกฝ่ายเบาๆ ระบายยิ้มจางบนใบหน้า

“อย่าทำกับกูแบบนี้อีกนะ...”

“อื้อ กูไม่ทำแล้ว ไม่ทำแล้วจริงๆ” เข้าใจอารมณ์คนดีใจก็ร้องไห้ ผมขยับไปหามัน ดึงไอ้กะล่อนตัวพ่อมานั่งตักแล้วกอดมันเอาไว้
“กูรักมึงนะบอม”
“ฮึก...กูก็รักมึงนะ” คงได้เวลาเลิกบีบมันหนักๆ แบบนี้แล้วมั้ง ใจอ่อนจนไม่เหลืออะไรเลยแบบนี้

ผมดึงมันออกจากอ้อมกอด เข็ดน้ำตาให้แล้วจูบปากสีสวยนั้นเบาๆ เจ้าตัวยิ้มทั้งน้ำตา แก้มนี้บานจนน่าหมั่นไส้ แต่ยอมรับจากใจ...เห็นมันที่เป็นแบบนี้แล้วรู้สึกดีกว่าตอนมันเศร้าเป็นไหนๆ ผมอยากโกรธบอมให้นานกว่านี้ ทรมานมันให้นานกว่านี้ หรือให้มันร้องไห้ให้มากกว่านี้ แต่รู้ดีว่านี่น่ะมันก็สุดๆ แล้วสำหรับคนๆ หนึ่ง ผมเองก็เจ็บ บอมเองก็เจ็บ และเป็นผมเสียเองที่ทนต่อความทุกข์นี้ไม่ไหว จนต้องเป็นฝ่ายอ่อนข้อให้ ผิดจากความตั้งใจเดิมไปเยอะเลยเชียว แต่ก็คิดว่านี่น่าจะทำให้มันจำได้ไปจนตายแล้วเหมือนกัน
“ถ้ามีอีก...กูจะล่ามโซ่มึงไว้ จะขังมึงไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย” เอ่ยเสียงเรียบใส่คนในอ้อมแขน
“ไม่ทำแล้ว...ไม่เอาแล้ว”
“กูจะรอดู”

***********จบบทที่ 8*************

 :hao7: :hao7: ตกลงคนที่นิสัยไม่ดีคือแมทหรือบอมกันนะ :z3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pamaipraewa ที่ 29-12-2016 10:00:06
โอ๊ยยยยยยยยยนังแมททททททท หมั่นไส้ น้องดิวของฉัน :z3: เลิกยุ่งไปหาคนอื่นเลยป๊ายยยยยย

สงสารบอมนะ เสียใจก็เสียใจ แถมยังไม่รู้อีกว่านังแมทก็มีชู้ (ที่ดูนิสัยดีกว่าแกสองคน555) ตอนนี้แอบเห็นใจบอมเบาๆ

นังแมท :z10: กร๊าซซซซ เพราะแกเป็นรุกรึเปล่าถึงได้น่าหมั่นไส้ขนาดเน้ เหมือนแกได้ประโยชน์อยู่คนเดียว555
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 29-12-2016 11:17:04
ไม่รู้ว่าคนแต่งตั้งใจหรือเปล่านะครับ แต่พออ่านเรื่องนี้แล้วทำให้เห็นภาพเลยว่าคนเลวๆ ในสังคมที่หลอกลวงคนอื่นได้หน้าตาเฉยในหัวเขาคิดอะไรอยู่ ความรู้สึกของคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่คนพวกนี้จะนึกถึง อะไรที่เป็นความสุขความต้องการของตัวเท่านั้นที่พวกมันจะสนใจโดยไม่คำนึงว่าใครจะเป็นทุกข์เจ็บช้ำแค่ไหน พอเป็นฝ่ายถูกกระทำบ้างก็จะเคียดแค้นจะเป็นจะตาย

สงสารน้องดิวนะครับ ถูกใช้เป็นที่ระบายอารมณ์ด้วยคำหลอกลวง
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 29-12-2016 12:50:59
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 29-12-2016 13:40:05
แมทมันเป็นพระเอกสินะ :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-12-2016 14:48:39
แมท วางตัวเขื่อง ใหญ่โต
เพราะคิดว่าตัวเองรักบอม มาก
จนมีสิทธิ์ทำทุกอย่างประชดให้บอมเจ็บใจ
แล้วทีตัวเองก็มีดิว ไม่คิดบ้าง
จะคอยดูตอนบอมรู้ว่าแมทมีดิว :katai1: :katai1: :katai1:
เสือแมท จะเป็นอย่างไร
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 29-12-2016 16:33:48
ขอให้บอมรู้เร็วๆ ขอให้แมทเจ็บหนักๆ สาปแช่ง
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Banarot ที่ 29-12-2016 17:29:22
รู้ๆกันไปเลย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 29-12-2016 19:27:01
โอ้ยยยย ทำไมเราเพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้!! นี่คือรสชาติที่เราตามหามานาน ศีลเสมอกันแบบนี้แหละ เราว่าละว่าบอมจะต้องโดนเปิดเผยก่อน รอฝ่ายแมท เราแอบมั่นใจว่าเผ็ชกว่าตอนนี่และเจ็บปวดกว่านี้แน่นอน ลุ้นนนน รออออ :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 29-12-2016 20:35:01
 เห็นใจบอมนะแต่ก็ทนเพราะบอมทำตัวเองให้จับได้เอง แมท เขายังเนียนกว่า
สงสารน้องดิวด้วยคนเพราะไม่รู้เลยว่าแมทเป็นผัวบอม    รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 29-12-2016 23:16:44
พายุซัด กระหน่ำซ้ำ จะคว่ำฟ้า
พสุธา ถลาเลื่อน เหมือนเคลื่อนหิน
ท้องทะเล ปั่นป่วน จวนพังภินท์
สาดกระสุน หมดสิ้น แดดิ้นตาย

ปากบอกรัก ชักนำ เชื่อคำพูด
ลิ้นกระดก ฉกรูด กระฉูดหาย
รักคนหนึ่ง เอาคนหนึ่ง ดูกลับกลาย
รักเดี๋ยวร้าย รักเดี๋ยวดี ผียังกลัว

โดนคนกันเองหลอก
มันยิ่งกว่าถูกผีหลอกอีกนะ

แมทน่ากลัวเกื๊นนนนนน
หยะยื๋ยยยยยยยย

ขอให้ลงเรื่องนี้ให้อ่านทุกวันนะ
จะได้นอนหลับทุกคืน
อิอิ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Atroce ที่ 30-12-2016 00:02:33
แมทก็ร้ายบอมก็ร้าย  สงสารไม่ถูกเลย
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 30-12-2016 00:20:52
เธอมีชู้

บทที่ 9
[/b]

หลังจากใจอ่อนยอมบอมไปในคราวนั้น เราก็กลับมารักกันเหมือนก่อนจะมีเรื่องนั้นเกิดขึ้น แต่ที่แตกต่างออกไปคือผมมักจะเช็คมือถือบอมตลอด เขาเองก็ยอมเพื่อความสบายใจของผม โคตรถูกใจผมเลย เมื่อก่อนนี้ยุ่งอะไรยุ่งได้ แต่โทรศัพท์ห้ามยุ่งเด็ดขาด นับเป็นของส่วนตัวที่บุคคลภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้ดู แต่เดี๋ยวนี้มันวางทิ้งไว้ ไม่ใส่รหัวบ๊อคจอแล้ว ผมจะหยิบ จะเปิดดูเมื่อไหร่ก็ได้

ส่วนตารางเรียน มันก็เรียนตามตารางจริงๆ กลับบ้านค่อนข้างตรงเวลา ไม่มีเถลไถล เลิกเรียนแล้วจะโทรบอกผมตลอด ถ้าผมไม่รับสายเพราะริดธุระก็นะไลน์มาบอกว่ากลับบ้านแล้วหรือแวะกินข้าวอยู่กับเพื่อนนะ ซึ่งถ้าแวะกินข้าวจะต้องถ่ายรูปให้ผมดูด้วย เป็นเงื่อนไขที่น่ารำคาญ แต่บอมยอมทำเพื่อให้เรากลับมารักกันดีเหมือนเดิม

“วันนี้พี่แมทก็ไม่ใส่แหวนอีกแล้ว” ร่างบางที่นอนเปลือยอยู่ข้างกายไล้เรียวนิ้วบนนิ้วนางว่างเปล่าของผม ผมพลิกตัวเองกอดเขาเอาไว้

“พี่ลืมน่ะครับน้องดิว ตอนเช้าว่าจะใส่มาแล้วเชียว” เมื่อคราวก่อนนั้นบอกผมไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองใส่แหวนก็ได้ แต่พอเอาเข้าจริง ดิวก็รอดูผมใส่แหวนอยู่ดีสินะ ผมไม่ชอบก็คือไม่ชอบ หาทางเลี่ยงตลอดนั่นแหละครับ

“ดูท่าพี่แมทจะไม่ชอบแหวนจริงๆ ผมควรเสียใจไหม...” เขาเงยหน้าช้อนสายตาน้อยอกน้อยใจขึ้นมามอง

“ไม่ควรเลยครับ เพราะว่าถึงพี่จะไม่ชอบใส่แหวน แต่พี่ก็ชอบคนให้แหวนคนนี้มากๆ เลยนะครับ” ยิ้มละไปให้อีกฝ่าย ดิวหน้าแดง ขยับซบอกผมเพื่อซ่อนความเขินอายนั้น

“ปากหวานแบบนี้ ดิวยอมแพ้เลยครับ” ผมขำเบาๆ กับน้ำเสียงงุ๊งงิ๊งของเขา

ผมดันให้ดิวนอนหงาย เชยคายให้เชิ่ดสูงก่อนจะก้มลงไปมอบจูบอันเร่าร้อนให้กับเขา ร่างบางส่วแขนมาโอบก่ายกอดผมทันที ร่างกายเล็กก็พลอยบดเบียดเข้ามาด้วย แม้เรานะเพิ่งเสร็จเรื่องอย่างว่าไปเมื่อไม่ถึงยี่สินาทีที่ผ่านมา แต่ดูท่าว่าเรี่ยวแรงและพละกำลังกลับมาแล้ว อาจไม่ครบเต็มร้อยแต่เพียงพอต่อการเหย่อกันอย่างแน่นอน

จัดรอบสองเสร็จ อิ่มหนำสำราญแลเวผมก็ขอตัวกลับเช่นเคย โดยบอกว่าวันนี้ผมนัดเพื่อนทำรายงานสองวิชาที่มหาลัย ดิวยิ้มรับและเดินออกมาส่งจนผมขับรถลับสายตาของเขาไป จริงๆ แล้วการโกหกดิวเรื่องตารางเรียนเป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะพันเพื่อนผมเรียนคณะเดียวกัน ดิวจะพอรู้ว่าผมมีเรียนอะไรบ้าง เวลาไหนบ้าง โดยเจ้าพันก็ยินดีบอกข้อมูลนี้ให้ดิวเสียเหลือเกิน อยากจะตบให้กะหลโหลกร้าวแต่ติดที่ว่าบุคคลิกของผมไม่สมควรทำเช่นนั้น ผมจึงต้องโกหกไปเป็นวิชาเลือก วิชาเสริมอะไรก็ว่าไป

แต่ในความจริงแล้วนั้น...ผมมารอรับบอมที่มหาลัยนั่นเอง

“แมท รอกูนานเปล่า” บอมตรงดิ่งเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม เต้และกล้าตามมาด้านหลัง มันสองคนโบกมือให้เป็นการทักทาย

“สวัสดีครับเต้ กล้า” ผมเอ่ยอย่างสุภาพ

“วันนี้ไปกินเหล้ากับเต้กัน มันเลี้ยง” บอมเนียนกุมมือผม เป็นการอ้อนกลายๆ

“เนื่องในโอกาสอะไรหรอ” ผมถาม

“เนื่องในโอกาสไอ้บอมโดนจับได้ ฮ่าๆ!” แต่คนตอบกลับเป็นคนชื่อกล้า เขาหัวเราะลั่นราวกับสะใจที่เพื่อนตัวเองโดนจับได้เรื่องนอกใจ

มันเป็นเรื่องแปลกของกลุ่มนี้เหมือนกัน พวกเขาไม่ช่วยกันปกปิดความผิดของกันและกันเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ถึงกับประกาศปาวๆ ว่าไอ้นั่นทำอย่างงี้ ไอ้นี่ทำอย่างั้น ตอนที่ผมดีกับบอมแล้วลองถามพวกเขาดูว่ารู้มานานแค่ไหนแล้วที่บอมมีคนอื่น พวกเขาบอกว่ารู้มาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันนั่นแหละ รับน้องวันแรกเจ้าบอมมันก็ตกเหยื่อได้ตั้งหลายคน พอมารู้ตอนหลังว่าผมเป็นแฟนบอม พวกเขาก็อึ้ง แต่ก็ทำไรไม่ได้มากนอกจากคอยด่า คอยเตือนบอมให้เลิกทำ ทั้งที่บอกผมก็ได้ แต่เต้ให้เหตุผลว่า ถ้าบอกเรื่องนี้กับผมนั่นก็เท่ากับเขาหักหลังเพื่อนตัวเอง ถึงไม่อยากให้บอมทำตัวแบบนี้ แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์มากมายอะไรนักที่จะไปชี้นิ้วบงการบอมให้ทำงั้นทำงี้ หรือทำให้บอมกับผมร้าวฉานเพื่อเป็นการดัดนิสัยบอม ของอย่างนี้บอมน่ะต้องเจอด้วยตัวเอง ผมนี่ซึ้งเลย เต้เป็นคนดีจริงๆ

ดีจนน่ากลัว... บางครั้งก็น่าสงสัยว่าเต้อาจชอบบอมหรือเปล่า ผมคอยสังเกตดูพวกมันสองคน พยายามหาพิรุทหรือสิ่งผิดปกติ แต่มันก็ไม่มี กลับกัน ดูเต้จะอะไรๆ กับกล้ามากกว่าบอมด้ยซ้ำ

“เป็นโอกาสที่ดีมากๆ เลยครับ” ผมส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับกล้า

“ใช่ม้า...บอกแล้วว่าโอกาสแบบนี้น่ะเหมาะเจาะที่สุด”

“อยากฆ่ามึงจริงๆ เลยไอกล้า พอกูโดนจับได้เข้าก็ร่าเริงอย่างกับมึงเป็นผัวกูเลยนะ” บอมว่าเข้าให้ แต่อีกฝ่ายก็แค่ยิ้มแยกเคี้ยวส่งมา ไม่ได้เดือดร้อนใจอะไรกับท่าทีของบอม

“ก็กูสะใจอะ ทำไมวะ...การได้เห็นปลาไหลชุบน้ำมันอย่างมึงโดนจับขึ้นเขียงนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมาก สมควรเป็นทอร์ดออฟเดอะทาวไปเลย” กล้าเล่นใหญ่มาก ผมขำเล็กๆ กับการทำตัวเหมือนเด็กของกล้า

“แหม่ คำพูดมึงนี่นะ” บอมชี้หน้ากล้าคาดโทษ แต่ผมกับเต่แค่มองยิ้มๆ ก่อนจะขำกับกางทำสงครามของเขาทั้งสองคน

“เอาพอก่อนเถอะ สรุปเอาไง จะไปด้วยกันไหมนาย” เต้ห้ามทั้งสองคนที่จะกัดกัน แล้วหันมาถามผม

“อื้อ เอาสิ” พยักหน้าพร้อมยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร

“แล้วไปกินกันที่ไหนหรอ” ผมถามต่อ

“ร้านแถวคอนโดเราอ่ะ เป็นร้านนั่งชิวริมถนน คนไม่พลุกพล่านดี ใกล้ที่นอนด้วย” เต้ตอบ
“อ่อ โอเค...”

เราทั้งสี่แยกกันเป็นสองกลุ่ม คือผมกับบอมจะไปรอที่ร้านก่อนเพราะมีมอเตอร์ไซค์และบอมก็รู้ทาง ส่วนเต้กับกล้าจะนั่งรถแท็คซี่ไป คงนานกว่าเราหน่อย ช่วงเย็นๆ แบบนี้รถติดจะตาย ดีไม่ดี ผมกับบอมอาจไปนั่งรอจนรากงอกก็เป็นไปได้ แต่ที่ยอมไปดื่มด้วยทั้งที่อยากกลับบ้านก็เพราะว่าบอมไม่เคยขอไปไหนเลยหลังจากเหตุการณ์วันนั้น จนมานี่แหละ ถึงได้ขอไปดื่มกับเพื่อน นานๆ ทีแถมผมก็อยู่ เลยตามใจมันไปสักครั้ง

ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการขับรถซิกแซกฝ่าดงรถติดจนมาถึงร้านอาหารที่ว่า มองจากพายนอก บรรยายกาศดีมาก หน้าร้านอยู่ติดริมถนน แต่ไม่ใช่ถนนใหญ่หรอกครับ ตรงนี้มันเป็นซอยเล็กๆ เข้ามารถราไม่ค่อยมี ผมกับบอมนั่งเล่นรอทั้งสองคนอื่นร่วมชั่วโมง คือนานมากจนบอมหิวไม่ไหวต้องเข้ามาสั่งอาหารกินก่อน ถือเป็นการจองโต๊ะไปในตัวด้วย

“กูรอกันรากวอกอะ” บอมบอกพลางกระดกน้ำอัดลมสีเข้มเข้าปาก เราสั่งมาแค่ขวดเดียวเพราะเดี๋ยวจะดื่มเหล้า

“แหม่ พวกกูแท็คซี่นี่หว่า ไม่ใช่มอไซค์แบบมึงจะได้มาถึงเร็วอย่างกับวาบมา” กล้าสวดบอมยาว

“งั้นคราวหลังก็ออกมอเตอร์ไซค์กันสักคันดิวะ เวลาไปไหนมาไหนจะได้สะดวก” บอมเสนอ ส่วนผมกับเต้ช่วยกันสั่งอาหารและเครื่องดื่ม

“สะดวกเหี้ยไร ไอ้เต้แม่งเมาทุกคืน ขืนให้มันขับมอเตอร์ไซค์ไปกินเหล้า เราคงได้ไปงานศพมันตั้งแต่วันแรกที่ออกรถอะ ส่วนกูนะ กูไปไหนกับเขาที่ไหน รถเมล์ต่อเดียวก็ถึงบ้านกูละ” ก็จริงอย่างที่กล้าเขาว่ามา ผมก็ได้ข่าวมาเหมือนกันว่าเต้น่ะนักดื่มตัวยง เขาดื่มทุกวันจริงๆ ครับ เหมือนคนติดเหล้า แต่ผมยังไม่เคยเจอเต้เมานะ ส่วนกล้านี่เคยแล้ว ตอนไปง้อบอมคราวนู้น

“จริงของมึงวะ มึงก็ติดเกม ไอ้นี่ก็ติดเหล้า กลับรถประจำทางกันต่อไปน่ะดีละ” บอมส่ายหัวเบาๆ

“เออ ไหนๆ ก็ไหนๆ บอกแมทไปด้วยละ” เต้พูดขึ้นหลังจากสั่งอาหารทั้งหดเสร็จเรียบร้อย เขาสั่งค่อนข้างเยอะสำหรับสี่คน

“อะไรหรอ” ผมถามเสียงนุ่ม จ้องหน้าบอมที่ยิ้มแย้มให้

“พวกกูต้องไปเข้าค่ายสามวันที่สัตหีบอะ” ทำไมคำว่าเข้าค่ายทำให้นึกถึงช่องว่างที่มันจะไปเจ๊าะแจ๊ะหญิงวะ ผมจ้องบอมตาดุ ให้เห็นกันแค่สองคนและให้เข้าใจกันแค่สองคนเท่านั้นด้วย

“เข้าค่ายอะไร ไปวันไหน ไปยังไง ใครไปบ้าง” น้ำเสียงอาจไม่คุกคามจนคนอื่นสัมผัสได้ แต่รู้ว่าบอมน่ะเข้าใจดีที่สุด

“อย่าคิดติดลบสิวะ กูไปเข้าค่ายของคณะ เกี่ยวกับการวิจัยโครงงาน ไปกับทางคณะนี่แหละ กล้ากับเต้ก็ไปด้วยนะ”

“บอกไม่หมด...ต้องบอกว่ามีผู้หญิงไปอีกหลายสิบคน!” กล้าเสริม ทำให้ผมจ้องบอมตาแทบถลน

“เอ้าไอ้เวร อย่าชงให้กูทะเลาะกันสิ กูแค่ไปเข้าค่ายเฉยๆ นะมึง ไม่ได้ไปหลีหญิงอะไรเลย อาจารย์เขาบังคับด้วย ไม่ไปไม่ได้...” ถ้าเผ็นที่บ้าน บอมคงเข้ามาออเซาะผมแล้ว แต่นี่ที่สาธารณะ มันเลยทำแค่จับมือผมกุมเอาไว้ใต้โต๊ะ บีบเบาๆ เป็นอ้อนวอน

“ใช่ อาจารย์เสือกบังคับ...เหล้าห้ามแดกอีก” เสียงเต้บ่นออกมาแทรกกลางระหว่างบรรยากาศของผม

“ไอ้นี่อะไรๆ ก็เหล้า เมื่อไหร่จะเลิกวะห้ะ” กล้าแหวใส่เต้ แต่ผมไม่ได้สนใจนัก เพราะผมกับบอมกำลังนั่งจ้องตากันอยู่ สายตาซุกซนตอนนี้กำลังออดอ้อนอย่างเห็นได้ชัด จ้องเข้านานๆ ใจระทวยหมด ทั้งที่บอมไม่ใช่ผู้ชายที่มีมาดน่ารักขนาดดิว แต่ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็มีผลต่อใจไปหมด โดยเฉพาะไอ้โหมดแบ๊วๆ ของมันเนี่ย ยอมเลย

“มีเมียเมื่อไหร่เดี๋ยวเลิก อะชน~” ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ตรงหน้าเรามีแก้วเหล้าวางไว้ให้ แต่เมื่อเต้สั่งชน ผมกับบอมก็ยกแก้วขึ้นชนกับมันทันที กล้าก็ไม่มีพลาด แม้ปากจะบ่นไปเรื่อยเปื่อย

“เมีย...พูดแบบนี่แสดงว่าจะกินเหล้าจนตายอะสิ”

“มึงกำลังจะด่าว่าไอ้เต้ไม่มีปัญญาหาเมียใช่ไหมกล้า” บอมต่อประโยคของกล้าให้สมบูรณ์พลางขำ

ผมมองว่าเต้มีปัญญาหาผู้หญิงสวยมากควงนะ แต่เขาเหมือนไม่สนใจอะไรมากกว่า ในสายตาของเต้ถ้าไม่เลื่อนลอยมองแก้วเหล้าก็มักจะเบนไปทางกล้าบ่อยๆ ผมคิดว่าผมพอเข้าใจเหตุผลของคนโสดคนนี้แล้วละ

“ปากดีนะบอม ตอนโดนแมทโกรธไม่ยักจะปากดีแบบนี้เลย” เต้ยิ้มมุมปาก คำพูดของเขาทำให้ผมขำ บอมนี่หันขวับมามองค้อนอย่างไวเลยเชียว

“พอเลย อย่าวกมาเรื่องกู”

“ทำไมวะ” กล้าสวน

“กูเถียงไม่ได้ไง! ห่าน แดกไป” ด่ากล้าจบก็ยกเหล้าเข้าปาก สีหน้างอนๆ ของบอมในตอนนี้น่ารักดีครับ ผมนั่งมองเพลินไปเลย

เราไม่ได้ออกมานั่งดื่มชิวๆ อะไรอย่างนี้นานมากๆ อยู่บ้านก็ทำรายงาน การบ้าน บลาๆ เสร็จก็นั่งเล่นนอนเล่นแล้วก็นอน เป็นช่วงชีวิตที่ยุ่งๆ แค่ปันเวลาไปให้ดิวได้แทบทุกวันนี้ก็เก่งสุดๆ แล้ว เพราะงั้นเรื่องหาโอกาศมานั่งกินแบบนี้แทบไม่มีเลย

ผมลืมไปแล้วว่าบอมน่ะก็มีมุมเหล่านี้...มุมที่กวนตีนกับเพื่อนๆ เจอเขาทุกวันก็ตอนกลับบ้านหรือไปรับ ไม่ได้คลุกคลีด้วยเท่าไหร่ เห็นรอยยิ้มสดใสกับสายตาดุแบบเล่นๆ ที่มองกล้า ทำเอาผมนึกถึงสมัยเมื่อจีบมันใหม่ๆ ไม่สิ...ต้องย้อนไปถึงสมัยที่ยังแอบเล็งมันอยู่ ผมมักจะคอยเฝ้ามองบอมมาตลอด จากที่ไกลๆ บ้าง หรือระยะใกล้ชิดบ้าง ภาพที่เห็นส่วนใหญ่ก็คือเขาเล่นซนกับเพื่อน เฮ้วๆ กันไปตามประสาเด็กวัยรุ่น บรรยากาศรอบตัวที่เป็นกันเอง สนุกสนานคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของบอมเลย

ผมเอามือโอบเอวที่เบ็กกว่าของตัวเองเอาไว้ บอมหันมามอง ยิ้มกว้างน่ารักส่งมาให้ อยู่กับผมมันก็น่ารัก แต่ก็ไม่เหมือนกับเวลาเขาอยู่กับเพื่อน มันมีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย แล้วยิ่งช่วงนี้เราทะเลาะกัน เรามีปัญหากัน ผมยิ่งแทบไม่เห็นรอยยิ้มซนๆ ของบอมเลย นอกจากจะร้องไห้ ฝืนยิ้ม หรือยิ้มดีใจ ซึ่งมันก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไป

“หลงรักกูอีกรอบเลยอะสิ” บอมกระซิบให้ได้ยินเพียงสองคน
“รู้ใจกูจริงนะมึง” ผมยิ้มให้บอมก่อนจะหอมศรีษะทุยเบาๆ ด้วยความเอ็นดู บอมขำคิกคัก เอนพิงไหล่แป็บหนึ่งแล้วนั่งเล่นนั่งดื่มต่อไป ผมเองก็เฝ้ามองบอมยิ้มๆ พลางคุยกับคนอื่นบ้างหลังจากนั่งฟังเขากัดกันมาพักใหญ่ ไม่ต้องห่วงกลัวผมจะเข้ากับใครไม่ได้ แป็บเดียวเท่านั้น เต้กับกล้าก็เป็นพวกผมแล้ว
นี่เป็นอีกกลยุธ ป้องกันไม่ให้บอมไปคั่วสาวที่ไหนอีก เพราะต่อไปเต้กับกล้าจะบอกผมทันที ก็เราเป็นเพื่อนกันแล้ว...เพื่อนกัน ไม่ปิดบังกันไงครับ

เรากลับมาจากร้านค่อนข้างดึกมาก เกือบทุกคนเมามายแทบไม่ได้สติ ยกเว้นเต้กับผม ผมนั้นไม่ค่อยดื่มเพราะต้องขับรถ แต่เต้เป็นพวกคอแข็ง เขาหอบหิ้วกล้าที่ไม่ได้สติแล้วขึ้นคอนโดของเขาซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านที่เรานั่งดื่มกันเท่าไหร่ ภาพภายนอกเต้กับกล้าดูเป็นคู่กัดที่น่าจะสนิทกันสุดๆ ถึงเต้จะเถียงกล้าไม่ได้เลยก็ตามที แต่ในแววตาคมของคนตัวใหญ่กว่าอย่างเต้นั้นกลับมีประกายบางอย่างยามมองไปที่กล้า  บางทีนะ...คืนนี้อาจเกิดอะไรขึ้นก็ได้

ผมมองส่วคนทั้งคู่ก่อนจะพายอมกลับ ผมต้องขับรถช้าๆ เพราะเจ้าไอกะล่อนของผมมันหลับคอพับคออ่อน เดือดร้อนต้องหิ้วขึ้นคอนโดให้เหนื่อยกายอีก แต่ไม่ว่าอะไรมันหรอก ผมยินดีทำให้อยู่แล้วเพราะผมน่ะรักมันจะตาย

ขึ้นห้องได้ก็จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวของบอมให้สะอาด แล้วค่อยไปอายน้ำอาบท่าบ้าง ทั้งที่อาบมาจากบ้านของดิวแล้ว แต่พอไปนั่งดื่มนั่งเล่นจนดึกมันก็เหนียวตัวขึ้นมาอีกอยู่ดี เปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัว เช็ดผมเผ้าให้แห้งแล้วมายืนชั่งใจว่าผมควรจะทำรายงานสักหน่อยดีไหม นี่ดึกมากแล้วด้วย เจ้าตัวกลมบนเตียงก็นอนอุตุได้เอ็นดูซะเหลือเกิน ดีที่วันนี้ปลดปล่อยไปเลยไม่ทำให้หิวกระหายเท่าไหร่ สภาพมันเมาขนาดนี้ทำอะไรไปก็ไม่ค่อยได้อารมณ์นัก มันต้องแค่กรึ่มๆ เมากำลังดนั่นแหละถึงจะมัน สุดท้ายหลังจากคิดอยู่นานผมก็เลือกจะนอน ไว้เดี๋ยวค่อยทำก็ได้รายงานน่ะ

ชีวิตประจำของผมกับบอมไม่มีอะไรมาก ไม่ได้หวือหวาแต่ก็ไม่ขาดความอบอุ่น ช่วงนี้เขาเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทจนน่าใจหาย บางครั้งผมก็คิดว่าผมกำลังได้แฟนคนใหม่หรือยังไงกันนะ บ่อยครั้งบอมทำให้ผมเผลอยิ้ม อย่างการทำอาหารให้ เตรียมมื้อเย็นไว้รอผมที่กลับบ้านดึก เก็บจัดบ้านทั้งที่ปกติผมจะเป็นคนทำเองทั้งหมด ค่ำๆ ก็กกกอดกัน นัวเนียอย่างเมามันบนเตียงบ้าง โซฟาบ้างแล้วแต่สถานกาณณ์ตอนนั้นจะเป็นใจ ถึงบางครั้งผมจะเหนื่อยเพราะกลับมาจากหาดิวที่บ้านเจ้าตัว แต่พอได้ยินคำเชิญชวนของบอมเข้ามันก็อดไม่ได้อีก แทบโทรมไปเหมือนกัน...

“ลืมอะไรหรือเปล่า” ผมถามขณะมองดูของ วันนี้บอมจะไปเข้าค่ายที่สัตหีบสามวัน ตอนนี้เราเลยช่วยกันเตรียมของสำหรับไปเข้าค่าย ซึ่งบอมมีของกระจุกกระจิกเยอะเลยกลัวจะลืมอะไรไป

“เดี๋ยวนะ มีเดย์ครีม ไนท์ครีม อันนี้ครีมทาตัว โฟมล้างหน้า บีบีครีม โทรเนอร์ อืม...อ่อ” สนใจแต่เครื่องประทินผิวทั้งนั้น เจ้าตัวลุกไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง มองกลุ่มลิปสติก ทำหน้าคิดหนักจนผมอดสงสารไม่ได้

อะไรมันจะขนาดนั้นนะ...

“หาอะไร” เดินเข้าไปใกล้ ยืนช้อนหลังพลางโอบเอวคอด

“ก็กำลังคิดว่ากูจะเอาลิปอันไหนไปดีอ่ะ กลิ่นพีชกูชอบ แต่เชอร์รี่มันก็หอมดีอ่ะ” ผมมองเจ้าสองแท่งที่บอมลังเล แล้วเลือกเอากลิ่นพีชให้มัน

“กูชอบอันนี้ เอาอันนี้ไป”

“เชอร์รี่กูละ” บอมเอี้ยวตัวมามองหน้า ผมเลยหอมแก้มที่กลิ่นหอมฟุ้ง

“ค่อยมาทาที่ห้องให้กูจูบ...” เจ้าตัวยิ้มหน้าบานก่อนจะขยับเข้ามาจูบปากผมเน้นๆ หนึ่งที

“พูดซะกูหวิวเลย” บอมกำแท่งลิป ถอนตัวออกแล้วเอาของใส่กระเป๋าสัมภาระ

“ขาดอะไรอีกไหม”

“อยากเอาแผ่นมาร์คหน้าไปวะ แต่คิดว่าคงไม่สะดวกแน่ๆ” คิ้วเข้มขมวดมุ่น

“งั้นก็ไม่ต้องเอาไป เอาแต่ของสำคัญๆ จำเป็นก็พอแล้ว” ผมไม่อยากว่ามันเรื่องเยอะกับเครื่องสำอางบ้าบอ เพราะมันเป็นของมันแบบนี้มานานแล้ว ผมเองก็ค่อนข้างชินที่บอมเป็นผู้ชายดูแลตัวเองมากจนเกินพอดี เกือบจะเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว ดีที่มันไม่มีอาการตุ้งติ้งออกสาว ไม่งั้นผมคงหนักว่าจะเอายังไงกับมันดี

“งัเนคงต้องเอามึงไปด้วย” บอมมองมาหน้าเครียด

“หืม...”

“ก็มึงสำคัญสำหรับกูไง...” แก้มแทบปริเมื่อเจ้าตัวเฉลยออกมา เล่นมุกเสี่ยวๆ อย่างนี้กับผมก็เป็นหรอ

“เดี๋ยวฟัดซะหรอก” เดินเข้าไปหยิกแก้มนุ่มเบาๆ แล้วกอดมันเอาไว้แนบอก

เรายืนกอดกันสักพักใหญ่ เกือบจะต่อบนเตียงแล้วแต่เต้โทรมาตามให้รีบไปได้แล้ว นี่มันจะสายแล้ว ทางเขาเริ่มนับคนที่จะไปค่ายครั้งนี้ ผมกับบอมเลยต้องตรวจของกันอีกครั้ง ดูของสำคัญจริงๆ ให้เรียบร้อยแล้วบี่งมอเตอร์ไซค์ไปมหาลัยทันที

หน้าคณะบอมวันนี้คนเยอะ เจี๊ยวจ๊าวไปหมด เพราะทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการได้ไปเข้าค่ายนอกสถานที่ ไม่ว่าช่วงอายุเราจะเท่าไหร่ เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเสมอ ผมเดินไปส่งบอมให้กับเพื่อนๆ ของเขา วันนี้เจ้าตัวใส่เสื้อยืดคอกลมสีครีม มีลายหมีเจร๊อคด้านหน้า กางเกงขาเดฟและรองเท้าคอนเวิส บอมดูดีมากครับ โดดเด่นด้วยผิวขาวๆ และใบหน้ายิ้มแย้มน่ารัก ถึงชุดที่ใส่จะดูธรรมดา แต่ตัวบอมนั้นกลับทำให้มันดึงดูดสายตาคนได้

“ไงแมท มาส่งเพื่อความชัวร์หรอ” กล้าแซว

“ใช่ ไม่ได้เลย เดี๋ยวลากสาวเข้าโรงแรมอีก” ว่าพลางเอื้อมไปกอดคอ

“อย่าจี้กูเรื่องนี้ดิ กูรู้สึกแย่” มันรู้สึกแย่เพราะการกระทำของผมนั่นแหละครับ ผมทำร้ายจิตใจมันจนฝังใจ
“อย่ามาสำออย หน้ามึงหนากว่านั้นบอม” กล้าเป็นคนปากร้ายจริงๆ
ก่อนที่เราจะพูดคุยเฮฮามากไปกว่านั้น รุ่นพี่ก็เข้ามาเรียกให้น้องๆ เตรียมตัว เขาจะเช็คชื่อให้ขึ้นรถกันแล้ว ผมกับบอมจับมือกัน บีบเบาๆ ให้กำลังใจมันที่ต้องไปเข้าค่าย บอมยิ้มหวานตาหยี เดินไปทางรุ่นพี่พร้อมโบกมือให้กับผม
“เดี๋ยวดูให้นะ...” เต้เดินไปหลังสุด มันกระซิบกับผม ผมยิ้มตอบแล้วขยับปากบอกขอบคุณ เพราะรู้ดีถึงความหมายของประโยค ก็นะ...มันจะไปพ้นเรื่องบอมนอกใจผมที่ไหนละ มีเรื่องเดียวเท่านั้นแหละที่ต้องคอยให้คนอื่นช่วยดู

ต่อข้างล่างเลยจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 30-12-2016 00:26:00
 :katai5: มาต่อจ้า

รถบัสห้าหกคันค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจารั้วมหาลัยช้าๆ ปล่อยให้คนที่มาส่งยืนมองจนรถพวกนั้นหายลับไปจากสายตา ผมกวาดตามองรอบด้านที่คนเริ่มจะเดินทางกลับกัน ก่อนจะไปนั่งใต้ต้นไม้หน้าคณะ นี่ขนาดไปเข้าค่ายกันเยอะแล้วยังมีผู้คนพลุกพล่านอยู่ที่คณะอยู่เลย มหาลัยนี่จะมีวันที่สงบเงียบบ้างหรือเปล่านะ

“ฮัลโหล...” ผมกรอกเสียงใสลงในสายหลังรออีกฝ่ายรับอยู่ครู่ใหญ่

(พี่แมท ว่าไงครับ) เสียงร่าเริงของดิวตอบกลับมา

“เรื่องที่พี่ชวนเรามาค้างน่ะ...เราตัดสินใจได้หรือยังครับ”

(ได้แล้วครับ ผมเก็บกระเป๋ารอตั้งนานแล้วด้วยละ ฮ่าๆ) ผมยิ้มกว้างเพราะเสียงหัวเราะสดใสของเจ้าตัว

“เดี๋ยวพี่ไปรับนะครับดิว”

(ครับ ผมจะรอนะ)

หลังจากรู้ว่าบอมจะไปเข้าค่าย นอกจากผมจะกังวลใจมากแล้วผมยังชวนดิวมาค้าง บอกกับเขาว่าน้องชายไม่อยู่ ไปเข้าค่ายกับทางมหาลัย สนใจมานอนเล่นที่ห้องของพี่ไหม ดิวเขินๆ เขาขอเวลาคิด แต่ผมรู้ดีอยู่แล้วว่ายังไงซะดิวก็ไม่มีทางปฏิเสธคำชวนของผมแน่นอน ช่วงเวลาหลังจากนี้ ผมจะไม่ให้ดิวออกจากห้องนอนเลยละครับ เปลือยกายอยู่มันแต่ในห้องนั่นแหละ

ผมคิดเอาไว้ว่าจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตุนเอาไว้ที่ห้อง และก็ยาปลุกสำหรับผู้ชาย ถามจากเพื่อนๆ ในคณะเราก็พอจะให้หามาได้อยู่ ผมอยากลองมันแบบสุดเหวี่ยงดูบ้าง เคยริดจะทำแบบนี้กับบอมเหมือนกันนะ แต่ยังไม่มีโอกาส ไว้รอตอนปิดเทอมเอา ส่วนครั้งนี้กับดิวเรียกว่าครั้งทดลอง มอมยากันเองและปล้ำกันเอง แค่คิดก็เร้าใจแล้ว

ผมลองโทรไปหาเพื่อนเพื่อถามหาตัวยาที่เคยบอกให้มันเอามาให้ คำตอบที่ได้รับน่ายินดีมาก แต่ผมต้องไปเอาเองที่ห้องของมัน นั่นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม ผมคร่อมมอเตอร์ไซค์บิดไปแป๊บเดียวก็ถึง เคระประตูรอไม่นานเจ้าเพื่อนตัวดีก็ออกมารับด้วยสภาพที่ดูไม่ค่อยได้ เห็นเตียงนอนแว้บๆ มีหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่บนนั้น  ผมแค่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ส่งเงินและรับยาจากนั้นก็บึ่งกลับห้อง

อยากตรวจดูอีกทีว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม คอนโดผมมีมันห้องนอนสองห้อง แต่อีกห้องทำเป็นห้องสำหรับออกกำลังกายไปแล้ว ผมบอกดิวไปแล้วว่าผมนอนกับบอม เพราะงั้นพวกข้าวของของบอมที่อยู่ในห้องจึงไม่ใช่เรื่องชวนน่าสงสัยอะไร ผมแค่อยากให้มันชัวร์ว่าจะไม่มีคราบน้ำอะไรบนที่นอน เมื่อคืนผมกับบอมก็ฟัดกันหนักหน่วงอยู่ จนเมื่อเช้าตรู่ผมต้องเอาผ้าปูไปซัก แล้วเอาอันใหม่มาเปลี่ยน มองดูความเรียบร้อย ความสะอาดสะอ้านจนมั่นใจว่าจะไม่มีส่วนไหนในห้องนอนชวนน่าสงสัย

เตรียมห้องพร้อมก็ลงมาข้างล่าง สั่งซื้อเบียร์จำนวนหนึ่งลัง อุ้มเอากลับมาแช่ไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพอไหม แต่เอาเท่านี้ไปก่อนนั่นแหละ ผมดื่มน้อยๆ ก็ได้ มอมเด็กอย่างเดียวพอแล้ว เออ แต่คิดไปคิดมาผมก็ยังไม่เคยเห็นดิวเมาเลยสักครั้งนะเนี่ย ไม่เป็นไร ยังไงซะวันนี้ดิวไม่รอดแน่ๆ

“ดิว พี่กำลังเข้าไปนะครับ” เมือทุกอย่างพร้อม ผมก็พร้อมจะรับเด็กมาฟันมรธอนที่ห้องแล้วละครับ

(ครับพี่แมท) เจ้าตัวขานรับเสียงใส ผมเลยบิดมอเตอร์ไซค์ออกไปด้วยความไวว่อง

วันนี้ดิวใส่กางเกงทรงนักเรียนขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน เสื้อยืดสีครีมเหมือนกับบอม และใส่รองเท้าผ้าใบทันสมัยสีขาว เขาดูสะอาดสะอ้านน่ารักสมวัย ข้างหลังมีเป้ใบโต ผมให้เขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์โดยไม่ได้ลงจากรถ เดี๋ยวต้องไปหาอะไรไปกินที่ห้องอีก กะว่าอาหารฟรีตจำนวนมากน่าจะพออยู่สำหรับสามวัน

“โห พี่แมทซื้อเยอะจังเลยครับ” ดิวมองอาหารแข่แข็งในตระกร้า

“ก็พี่กะจะฟัดเราสามวันเต็มเลยน่ะสิครับ” ผมก้มลงไปกระซิบ

“บ้าหรอ พี่แมทไม่มีเรียนหรือไงเล่า...” เออวะ ผมมัวแต่สนเรื่องของดิวจนลืมไปเลยว่าตารางเรียนของตัวเองยังมีอยู่ ช่างเหอะ เรียนบ้างโดดบ้างแค่สามวันคงไม่มีปัญหาอะไร เดี๋ยวกลับไปดูที่ห้องว่ามีวิชาไหนที่สำคัญห้ามโดดบ้าง

“มีสิ แต่พี่ไม่เรียน พี่จะกินดิว กินๆ จนตัวเปื่อยเลยคอยดู” พอโดนเย้าเจ้าตัวก็หน้าแดงซ่าน

“บ้าจริงๆ พี่แมทเนี่ย ดิวเขินเป็นนะเอ้อ” เจ้าตัวเล็กเดินนำแซงหน้าผมขึ้นไปหมาจะหนี แต่ไม่ยอมหรอก รีบตามไปประกบเขาทันที

ดิวพองแก้มใส่ผมที่ปั่นหน้ายิ้มหวาน เขาน่าเอ็นดูจริงๆ ครับ เป็นเด็กน้อยที่น่าเบี้ยงเอาไว้มากๆ เราเดินซื้อของได้ไม่นานนัก ด้วยรถของผมเป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ทำให้ไม่มีส่วนไปนสามารถแขวนถุงของได้เลย ดิวจำเป็นต้องถือทั้งหมดเอง และถ้าซื้อของตามใจตัวมากดิวคงแย่แน่ๆ เพราะมันหนักพอสมควร ผมต้อขับรถข้าๆ ขับเร็วมากของจะปลิว ดิวก็จะปลิว ลำบากทุลักทุเลนิดหน่อย แต่ก็มาถึงห้องโดยสวัสดิภาพ

“ห้องพี่แมทกว้างเหมือนกันนะเนี่ย” ดิวมองรอบห้องของผมด้วยสายตาสนอกสนใจ ผมตรงดิ่งเข้าไปแย่งของไปเก็บใส่ตู้เย็นและครัว

“อยู่สองคนกับบอมนี่ครับ เลยต้องมีพื้นที่ใช้สอยนิดหนึ่ง”
“ทั้งๆ ที่พื้นที่ใช้สอยเยอะ แต่ทำไมห้องนอนมีแค่ห้องเดียวละครับพี่” ผมเดินกลับออกมาพร้อมน้ำผลไม้เย็นๆ ส่งให้ดิว
“จริงๆ ก็มีห้องนอนสองห้องละครับ แต่อีกห้องหนึ่งพี่กับบอมเราเอมาทำเป็นห้องสำหรับออกกำลังกาย เต้าตัวเขารักหุ่นมา ต้องหิต ต้องเฟิร์มตบอดเวลา พี่เองก็พลอยทำตามไอน้องชายไปด้วยนั่นแหละครับ”
“โห งี้นี่เอง” ผมรอดิวดื่มน้ำผลไม้จนเสร็จเรียบร้อยเอาแก้วไปเก็บ กลับมารวมเจ้าตัวเล็กกอดแล้วทุ่มลงบนโซฟาตัวยาว
“รู้ไหม พี่คิดยังไงกับการไปสามวันนี้ของบอม” จ้องลึกไปในดวงตากลมโต
“ยังไงอะครับ” เขาถามซื่อๆ ดูรู้เลยว่าตามเกมไม่ทันเสียแล้ว
“พี่ก็คิดว่าพี่จะไม่ให้เรามีโอกาสได้ใส่เสื้อผ้าเลยน่ะสิ รู้จักคำว่าฟ้าเหลืองไหม” ดิวส่ายหน้า “พี่รู้จักแต่พี่ไม่เคยเห็น คราวนี้พี่จะต้องเห็นได้”
“ผมจะไม่ได้ตายใช่ไหมเนี่ย...” เจ้าตัวเล็กมองด้วสายตาอึ้งนิดๆ
“ไม่ตายหรอกครับ แต่อาจจะเดินไม่ไหว...ว่าแล้วก็ประเดิมยกแรกเลยนะ มามะ ให้พี่กอดนะครับ” ยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ ดิวมองสบตาเชื่อมๆ ของผมได้ไม่นาน เขาเสหน้าหลบแล้วครางอื้อตอบ เป็นการอนุญาตให้ผมชำแหละร่างกายน้อยๆ นี้ได้ด้วยมือของผมเอง และนอกจากมือที่ชำนิชำนาญ ผมยังมีปากและเรียวลิ้นคอยช่วยอีกฝ่ายคล้ายมอฟีนระงับความเจ็บปวด รับรองเลยว่างานนี้ดิวจะกลายเป็นคนไข้ที่มีความสุขที่สุด

ผมประครองร่างของดิวให้นั่งลงตรงโต๊ะไม้สไตล์โมเดิลหน้าโซฟา ค่อยๆ ผลักให้ร่างผอมบางเอนนอนราบไปทั้งที่เท้ายังวางอยู่บนพื้นห้อง ตอนนี้ดิวไม่ต่างจากอาหารมื้อโอชะสำหรับผม ยิ่งมองมือตัวเองที่กำลังเคลื่อนจากหัวเข่าขาวเนียนไปยังชายเสื้อยืดสีอ่อน คลืบคลานพลางเปิดชายเสื้อขึ้นอย่างช้าๆ ให้เห็นผิวกายของดิวทีละนิด เป็นภาพที่ทำให้ผมอดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ หน้าท้องเบนราบกำลังขยับขึ้นลงถี่ๆ ตามการหายใจของเจ้าตัว ดิวกำลังสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น นี่ผมไม่อยากจะคิดเลยนะว่าถ้าใส่ยาลงไปในน้ำผลไม้เมื่อครู่ ดิในตอนนี้จะมีสภาพเป็นยังไง

“ดิวน่ากินมากเลย...” เอ่ยบอกกับอีกฝ่ายเสียงแตกพล่า ผมเลียปากตัวเล็กน้อยก่อนจะโน้มลงไปใช้เรียวลิ้นสัมผัสกับผิวหน้าท้อง
“ฮึก...” มือเล็กๆ กำขอบโต๊ะเอาไว้ ยิ่งผมแหวกขาสองข้างให้ถ่างออกากกันเพื่อแทรกตัวเองเข้าไป ดิวก็ยิ่งเกร็งร่างกายราวกับหวาดกลั
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะค่อยๆ กินเราอย่างทะนุถนอมเอง” ฟันขาวขบลงบนเนื้อสีข้างด้านขวา ทำให้เขากระตุกด้วยความเสียวซ่านในทันที
“อ้ะ!” กัดแล้วก็เลียบาดแผลน้อยๆ ให้ด้วยความนุ่มนวล แต่ไม่ใช่ตะหยุดลิ้นไว้แค่รอยแดงของฟันเท่านั้น แต่กลับลากไล้ขึ้นไปสูงเรื่อยๆ พร้อมกับปลดเสื้อของดิวออกทางหัว ได้ความร่วมมือจากเจ้าตัว จึงไม่ยากที่พรากเอาชิ้นส่วนปกปิดกายน่ากินนี้ออกไป

“ตัวดิวหวานจังเลยครับ” ริมฝีปากเกลี่ยยอดอกเล็กเบาๆ เอ็นดูมันด้วยความใครอยาก
“จริงหรอครับ ถะถ้าหวาน...ถูกปากก็ทานเยอะๆ เลยนะครับพี่แมท” คำพูดคำจาที่น่ารักทำให้ผมฟังใบคมเขี้ยวลงไปที่ตุ่มไตชูชัน ร่างกายด้านใน้กระตุกตอบสนอง รู้สึกดีเป็นบ้าเลยละครับ
“อื้ม อร่อย...อร่อยมากๆ อ่าห์...” ขบเม้มไปก็ครางเสียงพล่าให้อีกคนฟังไปพร้อมๆ กัน
“อื้อ เสียวจังครับ...”
“มากไหมครับ”
“มาก ฮ่า...ฮ่า...มากๆ เลยครับ” เป็นเด็กดีปากหวานแบบนี้ก็ต้องตบรางวัลให้ ผมเลื่อนมือไปยังจุดอ่อนไหวกลางลำตัว กอบกุมมันเบาๆ ก่อนจะค่อยขย้ำ เพิ่มน้ำหนักมือ

แต่ดูเหมือนว่ากางเกงด้านนอกจะน่ารำคาญ แถมยังเกะกะขวางทางความสุข ผมจึงไม่ลังเลที่จะถอดมันออกไปพร้อมกับอันเดอร์แวขาวสะอาด ปามันไปตรงไหนสักที่เดี๋ยวค่อยเก็บ โดยไม่ยอมละทิ้งหน้าที่เอ็นดูยอดอกสีชาให้ว้าเหว่ ส่วนมือก็ลูบไล้โคนขาที่ทั้งเนียนทั้งลื่นมือ ร่างกายเล็กๆ ที่ตรงสเป็กนี้ทำให้เพลิดเพลินไปหมดไม่ว่าจะทำอะไร ลูบไล้ส่วนไหนของเขาอยู่ตาม

ผมเล็มชิมกินร่างกายของดิวจนแทบทุกตารางนิ้ว มอบความซ่านสยิวให้กับเขาจนร่างกายที่บอบบางนั้นทนรับเอาไว้ไหวและปลดปล่อยมาในที่สุด ผมมองเขาตาเขื่อม เลียริมฝีปากเหมือนกับหิวกระหายเขาเหลือเกิน ดิวหน้าแดงก่ำแต่มองตอบไม่ลดละ มีดวงตาที่ต้องการในร่างกายกำยำอย่างผม และผมก็ต้องตอบสนองเขาด้วยการเปลื้องผ้าออกทั้งหมดจนไม่เหลืออะไรไว้ติดกาย ทีนี้กายกับกายจะได้เสียสีกันเสียที

เรียวนิ้วขาวกวาดหยาดน้ำขุ่นตรงหน้าท้องไปทาช่องทางคับแคบ ค่อยๆ แหวกรอยจีบสีเดียวกับยอดอกจนนิ้วผลับหายเข้าไปในนั้น มันเป็นสถานที่มหัศจรรย์ซึ่งรอยมอบความวิเศษสุดทาวอารมรณ์ให้กับยอดชายของผม ผมค่อยๆ ควานนิ้วไปด้านใน ถูกไถผนังร้อนร้องจนดิวเปล่งเสียงครางคล้ายสะอื้นออกมาเบาๆ ดวงตากลบหลับพริ้ม ริมฝีปากเผยออ้าหายใจรุนแรงจนแผ่นอกกระเพื่อมถี่ เห็นแล้วก็อดลูบไล้ฝ่ามือไปมาไม่ได้ ความเนียนนุ่มของดิวนั้นเป็นสิ่งที่น่าหลงใหลไม่ใช่น้อย
“ผมอยากโดนกินแล้วครับ...กินผมสักทีได้ไหมพี่แมท” ดูเหมือนแรงอารมณ์ของคนตัวเบ็กจะดุเดือดกว่าผมที่เป้ฯคนปรนเปรอ เพราะเขาปล่อยไปแล้วหนึ่งรอบน่ะสิ ไฟมันเลยติดแล้วและท่าจะมอดยากมาก เพราะถ้าไม่ยอมหยุด เขาก็จะไม่ได้หนุดเข่นกัน
“ได้เลยครับ พี่จะกินดิว ‘แรงๆ’ เลย” ขยับเข้าประจำที่ จับขาทั้งสองข้างของดิวให้เหยียบขอบโต๊ะเอาไว้อ้าออกกว้างๆ เป็นมุมที่ดีที่จะชมหวิวและกระแทกกระทั้นในเวลาเดียวกัน
“อื้ม...พี่แมท” เพียงส่วนปลายแตะลงไปบนรอยจีบ เจ้าตัวน้อยก็ครางเสียงหวานออกมาอย่างกระเส่า

ผมมุ่งหน้าดันตัวตนของตัวเองเข้าไปเลื่อยๆ ไม่ได้เร่งร้อนเพราะวันนี้ยังอีกยาวไกล ไม่ต้องรีบให้เหนื่อยหนัก ยังไงซะอะไรที่ผมต้องการผมต้องได้อย่างแน่นอน ผมเชิ่ดหน้าขึ้นนิดๆ เมื่อรับรู้ถึงแรงตอดรักลดที่ถาโถมใส่สิ่งแปลกปลอมอย่างผม เดี๋ยวเถอะ...อีกเดี๋ยวมันจะโดนโจมตีด้วยการะแทกหนักๆ รับรองว่าจะตอดลำกายของผมแทบไม่ทัน
“อ่าห์...” ผนังร้อนรัดรึงสิ่งแปลกใหม่อย่างบ้าคลั่ง สร้างความสุขให้กับผมจนต้องพ่นหายใจแสนกระเส่าออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ดิวเองก็ผ่อนลมหายใจ ดวงตากลมคู่โตปรือมองผม มองด้วยความรักความเสน่หา
“เรียกร้อวพี่อีกสิครับ บอกพี่สิ...เราต้องการอะไร” โน้มกายชงไปกระซิบชิดริมฝีปาก เจ้าตัวจูบปากผมเบาๆ ก่อนมองหน้าด้วยสายตาต้องการแต่ก็ขัดเขินในเวลาเดียวกัน
“กระแทกผมสิครับ...”
“แบบนี้...ใช่ไหมครับ” ผมทำเป็นขัยเบาๆ
“อื้อ มะไม่ใช่...ไม่พอ แบบนั้นไม่พอครับ” ดิวประท้วง ดวงตากลมโตมองงอน
“แล้วต้องแบบไหนครับ...” ผมเย้าแหย่อีก
“ก็แบบ...แรงๆ” คำตอบจุดรอยยิ้มกว้างให้กับผม ผมจูบปากดิวอีกครั้งอย่าดูดดื่ม ในขณะท่สะโพกเริ่มเพิ่มความเร็วและแรงในการสอดใส่

ร่างของดิวไถลขึ้นลงบนโต๊ะไม่เนื้อดี เล่นเอาเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดของโต๊ะเสียดสีกับพื้นห้อง ผมไม่สนใจนัก เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ช่องทางที่โอบรัดและเสียงครางกระเส่าของดิวน่าใจกว่าเป็นไหนๆ เขาตรึงสายตาและสะโพกของผมเอาไว้ที่เขาเพียงคนเดียว แล้วไอ้ช่องทางมหัศจรรย์นี่ก็เหบือเกิน ยิ่งเข้าออกหนักหน่วงเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากทำรุนแรงขึ้นจนยากจะห้ามตัวเอง ในเมื่อมันไม่มีทางสิ่นสุดลงในวันนนี้อย่างแน่นอน ผมเลยไม่ชั่งใจจะทำเบาๆ อีกแล้ว แต่เร่งสปีดจนเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องห้องพอๆ กับเสียงครางอันหวานหูของดิว

“อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า” เสียงครางดังรับกับจังหวะของการสอดใส่ ดิวเริ่มจับแก่นกายของตัวเองเอาไว้ มันตั้งชันและแข็งขืน ราวกับสิ่งที่อย๋ในนั้นเตรียมพลั่งพลูออกมาอย่างมากมายมหาศาล ผมได้เห็นแบบนั้นก็ยิ่งคึกคะนอง เร่งสะโพกตัวเองแม้เหงื่อจะหยดบงบนหน้าท้องดิวเสียอทบชุ่มไปหมด
“ซี๊ด..รัดพี่แรงๆ เลยครับดิว อ่า แรงอีก” ใช่เขาคนเดียมี่จะไปถึงที่หายเสียเมื่อไหร่ ผมเองก็ไม่ไหจะทนเหมือนกันนั่นแหละ ถ้าเป็นช่วงปกติผมจะเสียดายที่มาถึงเร็วขนาดนี้ แต่นั่นไม่ใบ่ในตอนนี้ ตอนที่เรามีเวลาอีกมากมายที่นะทำเรื่องอย่างว่ากัน

“อ้ะ พี่แมท...ผม ผมไม่ไหว...พี่ครับ....ผมจะอึ้ก....” ดิวเปร็งร่างอย่างแรงทั้งที่ยังพูดไม่จบประโยค ผิดที่ผมเองที่กระแทกเขาซะเมามันเกินไป ทำเอาเขาถึงจุดหมายปลายทางเสียรุนแรง
“อ่าดิว ดิว ...ซี๊ดดดดดอ่าห์...” และไอ้ความรุนแรงจากการเกร็งร่างกายของเขานั่นแหละ ถึงทำให้ผมปลดปล่อยหยาดน้ำเข้าสู่ช่องทางอันนุ่มนวลนั้น

เรามองหน้ากันก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบอันเร่าร้อน ตามตัวเหนอะหนะสุดๆ เพราะมันมีทั้งเหงื่อทั้งน้ำคาวสีขาว แต่ดูเหมือนเรานะไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่นัก มัวแต่บอบจูบแสนดุดเดือดให้กันและกันอย่างเร่าร้อน

ทว่า...นี่เป็นแค่ยกแรกของเราสองคน หลังจากนี้ไปอีกสามวันที่บอมไม่อยู่ มันจะเมามันขนาดที่เราทั้งคู่จะไม่มีทางลืม และดิวจะไม่มีทางได้สนุกแบบนี้กับชายใดที่ไหน ผมจะสร้างความประทับใจชนิดที่ว่าดิวจะไม่มีทางสลัดมันทิ้งได้อีกเลย

*************จบบทที่ 9***************

 :-[ :-[ :-[ แมทนิสัยไม่ดีต่อกันหลายตอนแล้วน้าาา  :z3: :z13:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-12-2016 05:34:27
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: autopilot ที่ 30-12-2016 06:12:23
กรอกตามองบนใส่แมท
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 30-12-2016 09:21:51
เอาจริงๆ นะ ไม่ได้รอการเอาคืนของบอมเท่าไหร่
ตั้งตารอการเอาคืนของดิวซะมากกว่า หวังว่าคนแต่งจะช่วยจัดให้นะครับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-12-2016 10:03:36
ดิว มาบ้านแมทคราวนี้
ต้องมีหลักฐานตกค้าง
หรือหลักฐานหายไป ให้ดิวรู้ จับได้แน่ๆ
หรือมีเหตุบางอย่างทำให้บอมกลับมาเร็วกว่าปกติ
ก็รอ รอ อยู่ อะไรๆของแมท จะเปิดให้บอมรู้
ก็ความลับแบบนี้ ไม่มีในโลกไง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 30-12-2016 10:25:41
ถึงกับพามาเอาที่ห้องของแกกับบอมเลยเหรอแมท สำนึกบ้างไหมน่อออ
ขอให้บอมกลับมาก่อนเวลาเหอะ เกินไปนะแมท ไม่สำนึก
น้องดิวน่ารักนะคะ แต่พี่รักบอมมากกว่า
ขอให้แมทเจอบอมเอาคืนแบบหนักๆ กระอักเลือดไปเลยยย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 30-12-2016 11:37:29
เกลียดไอ้แมทมาก  ลำใยดิวด้วยยยย

เข้าข้างบอมจ้า มากๆเลยด้วย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 30-12-2016 11:51:56
จะรอดูว่าสุดท้ายแล้วแมทจะเหลือใครไหม :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 30-12-2016 13:25:27
หมดทางเยียวยา  อยากทำอะไรก็ทำ  ทางใครทางมันก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pamaipraewa ที่ 30-12-2016 13:39:29
เห็นด้วยกับความเห็นบน ต้องให้ดิวเอาคืนนังแมทบ้างแล้วว อีเลวววววว หลอกน้องมาไม่พอยังจะวางยาอีก :katai1: ดิวของช้านนนนนน

นังบอมกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ เอาให้ความแตกไปเลยยยยย ฮืออออ กลัวเด็กเรา(ดิว) จะเป็นอะไรจังเลย นังแมทนังชั่ว

รออ่านต่อค่ะ เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอินมาก555
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 30-12-2016 21:21:20
แมทสมล่ะที่เป็นเสือ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Namwhankn ที่ 30-12-2016 22:17:37
เราไม่ได้ติดเรื่องไหนมานานแล้วจนมาเจอเรื่องนี้ เรารู้สึกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้จริงๆ รู้สึกรักแมทจริงๆ เสียใจในสิ่งที่แมททำจริงๆ คนเขียนเก่งมาก เรารักเรื่องนี้จริงๆ เรามาเจอเรื่องนี้ช้าจัง5555
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 30-12-2016 23:37:07
เจ้าเสือผู้ รู้งาน สานเหยื่อต่อ
ออกไปล่อ ลวงเข้าถ้ำ ย้ำสังหาร
เก็บกักตุน หนุนนำเหยื่อ เหลือเฟือทาน
เจ้าเสือเมีย ไปอีกนาน กว่ากลับมา

ค่อยและเล็ม กัดเม้มเหยื่อ ให้หายอยาก
แล้วใช้เขี้ยว ฉีกกระชาก เข้าปากหา
ดูดดื่มเลือด ให้เหือดสิ้น ทุกคราวครา
โอ้วว..เหยื่อจ๋า เนื้อนุ่มลิ้น สิ้นกังวล

แต่ทำไม เหมือนมีเสียง คำรามแจ้ว
เจ้าเสือเมีย กูแน่แล้ว เริ่มสับสน
ทำไงดี จะซ่อนเหยื่อ เหลือทั้งคน
ทั้งอ้ำอึ้ง ทั้งสับสน จนลนลาน

้เมิงตาย..ไม่ดีแน่
ไอ่เสือกระบาก

ขนาดแค่เริ่มสงสัย หึงลมๆแล้งๆ
บอมยังเล่นงานแมทซะเละไม่เป็นท่า

แล้วถ้ามาเจอเอง หลักฐานคาตา
คนที่โดนบอกเลิก น่าจะเป็นแมทนั่นล่ะ
ที่จะโดนบอมบอกเลิกซะเอง

งานนี้มีแต่เลิกว่ะ..แมท
ฮ่าฮ่า

+1 ให้เล้ยยยยยยย
เรื่องนี้ สนุกค่อดๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: leeyaoi ที่ 30-12-2016 23:49:13
คือคู่นี้จำเป็นต้องคบกันด้วยเหรอ คือจริงๆ
 บอมเหมือนเด็กเสี่ยที่กำลังตกกระป๋อง ให้เค้าเปยดูแลจนขาดเค้าไม้ได้
แมทเป็นเสี่ย เบื่อแล้วหาใหม่
อ่านแล้วจะขยะแขยงตัวละคร
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 31-12-2016 02:32:43
อย่างหลายๆ คอมเม้นบอก เราไม่ได้ตั้งตารอการเอาคืนของบอม แต่เรารอบอมเลิกกับแมท ไม่ได้เข้าข้างว่าบอมดีกว่านะ แต่บอมแค่เลวน้อยกว่า การเอาชู้มานอนบนเตียงของเรา เป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงมาก และแมทเองก็เหี้ยที่คบกับเขา บอกเขาว่าเป็นแฟน เห้ออ เราสงสารบอมว่ะ ตอนรู้นี่ขอหนักๆ เลยนะ เอาแบบเศร้าตายคาอกน้องดิวไปเลย

ปล. ถ้าเราไม่รู้จักบอม เราคิดว่าดิวน่าสงสารมาก โดนเขาหลอก แต่พอเราได้อ่าน เรียนรู้ตัวตนของบอม เรากลับไม่ชอบชู้คนนี้เลยสงสัยเรา bias คนที่ไม่งอแงง ไม่งี่เง่ามั้ง
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 31-12-2016 02:41:36
เอาเป็นว่าเค้าว่าคนจะคบกันได้ก็ต้องศีลเสมอกัน
ตอนนี้บอมเริ่มมีคำว่สรู้สึกผิด แต่แมทไม่มีเลย เราเริ่มสงสารบอมแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 31-12-2016 07:48:41
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 31-12-2016 10:55:54
เธอมีชู้

บทที่ 10

[บอม]
“นักศึกษาคะ! มารวมตัวกันด้วยค่ะ พี่ๆ มีอะไรจะแจ้งใหทราบ” เสียงประกาศผ่านทีโข่งของรุ่นพี่ปีสามทำให้ผม กล้า เต้หยุดมือจากการนั่งวาดรูปของกันและกัน

ตามจริงกิจกรรมในวันนี้แทบไม่มีอะไรมาก มันหนักเมื่อสองวันก่อนที่เรามาถึงแล้วต้องเข้าฐานทำกิจจกรรมกับพวกพี่ที่มารอก่อนหน้านี้ เล่นเอาอ่วมไปเลย ร่างกายล้าไปหมด แต่ไม่ว่าจะเหนื่อยหนักแค่ไหนผมก็ไม่ลืมทาคงทาครีม มันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ครับ หากเราบำรุงไม่สม่ำเสมอผิวอาจเสียได้ แล้วยิ่งมาทำกิจกรรมในค่ายทหารแบบนี้ ยิ่งต้องดูแลผิวพรรณมากเป็นพิเศษ ไม่งั้นโทรมกันพอดี ดูอย่างกล้ากับเต้ตอนนี้สิ อย่ากับพวกกรรมกรก่อสร้างไปเรียบร้อย

“มีเรื่องไรอีกปะวะ อย่าใช้งานหนักๆ นักเลย ปวดเหมื่อยไปหมดละเนี่ย” กล้าบ่นด้วยความอ่อนเพลีย

“เออ ผิวกูเสียหมดละ มาแค่สองวันนะเนี่ย ถ้าอยู่ต่อครบสามวัน กูว่ากูโทรมตายแน่ แม่งหมดกับครีมไปเท่าไหร่รู้บ้างไหมเนี่ย” ก็ถ้าต้องกลับไปฟื้นฟูสภาพผิวชุดใหญ่ มันเหนื่อยมากและเสียเงินเยอะด้วย

“อยากกลับ...กูอยากเมา”

“โหยไอ้เต้ คิดเป็นเรื่องเดียวไง๊!” ไอ้กล้าตีอกไอ้เต้ดังปึก ผมนี่จุกแทนเลยละ

“อ่าว ก็นั่นมันเรื่องสำคัญของกูเลยนะ”

“ถามจริง...ทำไมชอบกินนักวะเหล้าอ่ะ ติดอ่อ” ผมถามเต้

“เปล่าหรอก แค่ชอบตอนกรึ่มๆ อะ ชักว่าวมันดี”

“มึงคิดว่าพวกกูเชื่อมะ” เห็นด้วยกับกล้า พวกผมไม่มีทางเชื่อแน่นอน เต้มองหน้ากล้ากวนฟ ยักคิ้วให้หนึ่งทีเป็นการเรียกหาตีน

“ไม่เขื่อก็แล้วแต่” เต้ยักไหวไหล่ไม่สนใจ

“ถ้าเป็นเหตุผลนั้นจริง มึงนี่ก็ว่าวทุกวันเลยดิ ไม่หาคนมาช่วยวะ สงสารน้องอุ้งมือ” ผมตีไหล่เต้เบาๆ หน้าตามันไม่เหี้ยไง เหตุผลกรคิดเหล้าของมันเลยไม่น่าเชื่อถือ การที่เต้จะหาใครสักคนมากอดน่ะไม่ยากเลย แต่มันไม่ทำ

“ไม่อ่ะ กํรักน้องอุ้งมือของกู” ไอ้เต้ตอบหน้าตาย

“เห่อๆ ปัญญาอ่อน” กล้าด่าเบาๆ

บทสนทนาจบลงที่ตรงนั้น อาจารย์และรุ่นพี่ต่างมายืออกันอยู่ด้านหน้า พกวเขาพูดคุยอะไรกันซักอย่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งทีเมื่อเช้าพวกเขายังร่าเริงสดใสกันอยู่เลยแท้ๆ งานนี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ

พวกผมยืนรอกันด้วยความสงบ รอประกาศจากพวกเขา พลางลุ้นไปด้วยว่าจะมีอะไรอีกหรือเปล่า การเข้าค่ายมันก็สนุกแหละนะ กิจกรรมหลายอย่างเฮฮาดีแถมนักศึกษาสาวๆ นุ้งสั้นทั้งหลายก็ชวนให้น้ำลายสอ

หลายครั้งอยากเข้าไปออเซาะขอเบอร์โทร แต่นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วผมก็ทำไม่ลง เหตุการณ์นั้นทำให้ผมรู้สึกผิดมากๆ ยิ่งเจอแมทในโหมดเย็นชาขั้นร้ายกาจผมก็ยิ่งเข็ดขยาดกับเรื่องนี้ ผมรักแมทมันน่ะนะ...ผมเลยไม่อยากให้มันทำแบบนั้นใส่ผม โดยเฉพาะคำพูดของมันแต่ละคำ เหมือนโดนมีดกรีดหน้าชาไปหมด แต่ผมก็เข้าใจว่าตัวเองนั่นแหละที่เลวเอง ไปทำแบบนั้นกับมันก่อน มันคงเจ๋บปวดมากที่มารู้ว่าผมหลอกมันมาตลอด ผมเองเห็นน้ำตาแมทในม่านรูดวันนั้นก็โคตรู้สึกผิด บอกกับตัวเองเลยนะว่าผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว จะไม่ทำให้มันเสียใจ เพราะผมรู้ดีว่าแมทรักผมมากแค่ไหน

“นักศึกษาทุกท่านคะ เนื่องจากมีปัญหาใหญ่มากเกิดขึ้น เราจึงขอยุติกิจกรรมครั้งนี้เอาไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ ขอให้น้องๆ นักศึกษากลับไปที่ห้องพัก เก็บข้างของและมารวมตัวกันที่รถบัสของตัวเองภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงนะคะ เราจะกลับกรุงเทพกันทันที” ผมมองหน้ากับเพื่อนทั้งสองด้วยสายตางงงวย เหตุการณ์บ้าอะไรวะถึงทำให้ต้องรีบเก็บของกลับขนาดนี้

“มึงว่ามีเรื่องอะไร” เต้ถาม

“มีคนถูกฆ่าตายมั้ง กูว่ามันร้ายแรงสุดละอะ” ไอ้กล้าก็ช่างคิดนะ

“อะไรก็ช่างเหอะ ได้กลับก็ดีแล้ว กูอยากไปนอนตากแอร์” พอดีเลย กลับไปเซอร์ไพรส์แมทด้วย มันคงตกใจมากที่ผมกลับมาก่อนกำหนดตั้งหนึ่งวัน ไม่รู้ป่านนี้เหงาแย่ไปแล้วหรือยัง เพราะมือถือผมไม่ได้เล่นเลย ที่เขาห้ามและยึดไปตั้งแต่วันมาถึงแล้ว ให้พกกล้องถ่ายรูปโดยเฉพาะเพียงอย่างเดียว กลัวเราเอาแต่เล่นมือถือไม่สนใจกิจจกรม ขนาดตอนนอนก็ยังห้ามเลย

“เออเนอะ ตะมีไรก็ช่างเหอะ จะได้กล้าบ้านแล้ว! แต่...จริงๆ กูว่าเค่ายครั้งนี้ก็สนุกนะ ไม่น่าให้เรารีบกลับเลยอ่ะ” กล้าน่าจะสับสนกับตัวเอง เดี๋ยวอยากกลับ เดี๋ยวไม่อยากกลับ

“สนุกแค่ไหน ถ้าไม่มีเหล้าก็ก็เซ็งหมดอ่ะ”

“กูว่ามึงติดเหล้าละเต้” มันอยู่นีไม่ดื่มเหล้ามันก็ดูปกตินะ แต่อาการอยากกินตลอดของมันทำให้ผมคิดว่ามันน่าจะติดแหงมๆ เอาแต่บ่นอยากได้เหล้าตลอด ไอ้กล้าแม่งเลยจัด ‘เล่า’ ให้ไปชุดหนึ่ง ไอ้เต้ถึงกับหูชา

ผมกับพวกเดินกลับห้องพัก เก็บข้างบองที่เราเอามาใส่กระเป๋าด้วยความไวว่อง เต้กับกล้าอะไม่เท่าไหร่หรอก พวกมันพกมาแต่เสื้อผ้า ที่ชานมือถือซึ่งไม่ได้ใช้ และก็สบู่ ยาสีฟันแปลงสีฟันแค่นั้น แต่ผมดิ ครีมบานตะไท แต่ไม่ต้องห่วง ผมเป็นระเบียบกับตัวเองมากพอ ไม่ได้เอาของพวกนั้นออกจากกระเป๋าใส่โดยเฉพาะ ทำให้เวลาเก็บกลับไม่ต้องวุ่นวายอะไรมาก หยิบกระเป๋าใส่กระเป๋าอีกทีก็จบ เพียงแค่สิบห้านาทีผมกับเพื่อนอีกสองคนก็เดินออกมาจากห้องพัก เรายังใส่ชุดเดิมที่ใส่เมื่อเช้า ก็มันยังไม่เปื้อนเลยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไรให้วุ่นวายเสียเวลา

ระหว่างรวมตัวกันตรงรถบัส พี่ๆ ก็เอามือถือมาคืนพวกเราทีละคนพร้อมกับเช็คชื่อไปด้วยเพื่อกันคนตกหล่น ถึงจะโตๆ กันแล้วก็เหอะ แต่ก็อาจมีไม่รู้เรื่องรู้ราว หลบไปเล่นทื่นทำให้ไม่รู้ว่าพวกเรากำลังกลับกันแล้ว

ผม เต้ กล้าเรามาเป็นกลุ่มแรกๆ จึงสามารถยึดพื้นที่ด้านหลังที่ใครๆ ต่างก็หมายปองได้ มีเพื่อนในคณะเดียวกันตามมาสมทบด้านหลัง เมื่อผู้คนครบมาพร้อมกันหมดแล้วพี่พนักงานขับรถก็เปิดเพลงแดนซ์มันๆ ให้พวกเราได้เต้นกัน แต่ผมยังไม่สนใจจะดิ้นกับพวกเขา ใจอยู่ที่มือถือ ตอนนี้อยากจะลองไลน์ถามแมทว่ามันอยู่ไหน จะได้เซอร์ไพรซ์มันถูก

[BomZa : อยู่หนาย...คิดเถิง~] ส่งเสร็จก็นั่งรอลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ อยากให้มันตอบไวๆ แต่ก็เงียบ...

ผมนั่งมอหน้าจอรออีกคนตอบกลับ เสียดายไลน์มนไม่ขึ้นให้ดูว่าใครออนไม่ออนเหมือนเฟซ ผมเลยต้องรอให้มันอ่านและตอบอย่าวมีความหวัง ถ้ามันไม่อยู่ห้องผมก็จะเตรียมอาหารไว้รอมันสักหน่อย อาจจะดื่มด้วยกันและก็อะจึ้ยๆ ไรก็ว่าไป หรือถ้ามันอยู่ห้องก็จะโพล่ไปเซอร์ไพรซ์ จะทางไหนก็ได้ ตอนนี้อยากเจอมันแล้วอะ

“นั่งมองจอทำไมวะ?” เต้ถาม

“รอไอ้แมทตอบไลน์ กูอยากรู้ว่าวันนี้มันมีเรียนหรือเปล่า”

“มึงไม่ถามก้อยอ่ะ แฟนมันอยู่คณะเดียวกับแมท น่าจะรู้เรื่องตารางเรียนอยู่” กล้าบอกขณะโยกย้ายส่ายสะโพกด้วยท่าทางกวนตีนสุดๆ

ตรึ๊ง!
[MT : เรียนอยู่เลย ว่างละหรอ?] ก่อนจะตัดสินใจไปถามคนชื่อก้อย เสียงไลน์ของผมก็เข้าซะก่อน

“ไม่ละ มันตอบกูละ” ยิ้มหน้าบานใส่กล้า

“เห็นหน้าลั้นลาของมึงละกูมั่นไส้จริงๆ” เพราะมึงไม่หล่อเท่ากูอะสิกล้า

[BomZa : เปล่า คิดถึงเลยขอมือถือจากอาจารย์มา แต่มึงเรียนอยู่หนิ งั้นเรียนไปเหอะกูไม่กวนละ] แค่รู้ว่ามันอยู่ไหนก็พอแล้วละ

[MT : อื้อ กูก็คิดถึงมึง สู้ๆ นะ] สติ๊กเกอร์หมีสีน้ำตาลตาลุกเป็นไฟตามมาหลังข้อความติดๆ ผมส่งสติ๊กเกอร์ตอบแล้วเก็บมือถือ

ปกติถ้าแมทมีเรียนมักจะเลิกค่ำๆ ผมมีเวลาเตรียมตัวแน่นอน นี่กะว่าจะกลับไปอาบน้ำอาบท่าก่อนแล้วค่อยออกมาหาของกินไปจัดโต๊ะ เหล้าอีกสักกลมสองคนน่าจะกรึ่มกำลังดี บางทีวันนี้เราอาจได้จัดกันบนโต๊ะอาหารก็ได้นะ คิดแล้วก็สยิวพิลึก

ผมออกไปเต้นกับเพื่อนๆ ด้วยอย่างอารมณ์ดี จะได้กลับบ้าน จะได้เซอร์ไพรซ์แฟน คิดถึงหน้าที่ตกตะลึงของมันแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ คอยดู พอมันอึ้งเสร็จมันก็จะยิ้มละลายใจพร้อมกับเยื้องย่างเข้ามาหา มากอด มาหอมแล้วจับทุ่มลงเตียง

เต้นั่งมองผมกับกล้าเต้นกันด้วยความสนุกสนาน มันไม่ยอมลุกขึ้นมาสนุกกับเราเลยเอาแต่นั่งหน้าทื่ออยู่อย่างนั้น มีบ้างที่จะแซวกล้าหรือด่าผม แต่พอถึงจุดพักรถ พวกเราและเพื่อนคนอื่นๆ ก็พากันไปซื้อเบียร์ แอบเอาขึ้นรถมากอนด้วยกัน ทีนี้แหละ ความมันแบบเกินลิมิตก็เกิดขึ้น แอลกอฮอล์เพิ่มความสนุกให้กับเรามากขึ้นเป็นกอง เต้นแหลกแตกหยาดเหงื่อกันเลยทีเดียว

แต่ความสุขสนุกอยู่กับเราได้ไม่นาน เผลอแป็บเดียวรถก็เลี้ยวตัวมหาลัย เราทั้งหมดต้องรีบเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลบซ่อน ยัดใส่กระเป๋ากันเป็นพัลวัน ดีที่ยังเก็บได้แนบเนียนมากๆ ไม่งั้นละโดนแบนการเข้าค่ายแน่นอน เมื่อรถจอดสนิทพี่ๆ ก็ให้เราทยอยบงไปเช็ดชื่อกับรุ่นพี่ที่ยืนรออยู่ด้านล่าง แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านได้เลย ผมเองก็ขอตัวแยกกับเพื่อนๆ ไม่สนจะไปต่อเหมือนคนอื่นๆ เพราะว่ามีเป้าหมายของตัวเองแล้ว

ผมรีบเผ่นออกมาจากมหาลัย กลัวบังเอิญเจอแมทที่กำลังเรียนอยู่ เพราะถึงเจ้าตัวจะเรียนแต่มีบางครั้งบางคราวจะลงมาซื้อน้ำ เครื่องดื่ม หรือเข้าห้องน้ำ อะไรที่เป็นความเสี่ยงผมไม่ขอเฉียดเข้าใกล้ดีกว่า แผนวันนี้ของผมต้องสำเร็จเท่านั้น ผมโบกรถแท็คซี่ที่หน้ามหาลัย บอกเป้าหมายกับเขา ครู่เดียวก็ถึงแล้ว รถไม่ติดนี่ครับ วันธรรมดาแถมเป็นช่วงกลางวันอีกต่างหาก บ่ายแก่ๆ แบบนี้นี่แดดเปรี๊ยงดีจังเลย

ผมตรงดิ่งขึ้นอย่างอารมณ์ดี ฮัมเพลงโปรดพร้อมกับโยกหัวไปตามจังหวะของเสียงดนตรี นี่อารมณ์มันยังค้างจากบนรถบัส ถ้าไม่นิดว่าอยากกลับมาเซอร์ไพรซ์แฟนนะ ผมไปต่อกับพวกมันแล้ว น่าจะที่ห้องใครสักคน เมาเลื้อนกันข้ามวัน ตื่นพรุ่งนี้เช้าแล้วกลับบ้านตามกำหนดอะไรทำนองนั้น ผมเองถ้ามี่เรื่องม่านรูดนั่นเข้ามา ผมก็กะจะทำแบบนั้นเหมือนกัน กลับมาก่อนกำหนด หนีไปนอนกับสาวๆมสักวันสองวันแล้วค่อยกลับห้องตามกำหนดเดิม

ผมเอาคีย์การ์ดรูดให้ช่องกุญแจเปิดก่อนจะไขเข้าไป แมทไม่อยู่เลยไม่ต้องเบามือเท่าไหร่นัก แต่ทันทีที่ประตูอ้าออกเพียงนิด เสียงครวญครางของชายหนุ่มก็ดังรอดออกมา สัญชาตญาณสั่งให้เอียงหูฟังโดยนังไม่เปิดประตูให้กว้างทันที

“พี่แมทแรงๆ อีก...เอาดิวแรงๆ”

ดิว...งั้นหรอ

“อ้า พี่จัดให้ครับน้องดิว!” ตามด้วยเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นห้อง

นั่นแมท...นั่นดิว.....และนั่นคือที่ของผม

แรงไม่มีนักหรอก แต่เปิดประตูอ้าออกไปแล้ว ภาพแผ่นหลังของแมทที่ขุ่มเหงื่อกำลังเคลื่อนไหวระรัวบนตัวของเด็กชายที่ผมเห็นแค่ขาชี้โด่เด่ โซฟาที่ผมกับมักใช้นอนเล่นด้วยกัน นั่งเล่นเกมกัน ดูหนังฟังเพลงและมีสัมพันธ์กันกำลังถูกใช้ทำเรื่องอย่างว่ากับเด็กที่ขื่อดิว

เด็ก...ที่แมทโกหกว่าเป็นรุ่นน้อง!

พวกเขาไม่ได้รับรู้ปรากฏตัวของผมเลยคงเพราะพวกเขากำลังมัวเมาอยู่ในกามจนไมสนใจสิ่งใดนอกจากความสุขสมทางเพศของตนเอง ประตูห้องปิดลงเองอัตโนมัติด้วยความแผ่วเบา ซ้ำยังล๊อคลงกลอนทันที ผมวางของทังหมดลงหน้าประตู สาวเท้าเบาๆ ไปทางที่พวกเขากำลังมีความสุข...

เมื่อภาพและเสียงมันชัดขึ้น ความเสียใจอันมากมายมหาศาลก็กลับกลายเป็นความโกรธถึงขีดสุด ผมพุ่งตัวเข้าไป ผลักแมทที่ตกใจให้หลุดออกจาตัวเด็กเวรนี้ แล้วกระชากหัวของมัน จิดเส้นผมนุ่มสลวยขื้นเหงื่อลากลงจากโซฟาก่อนปล่อยหมัดหนักๆ ใส่ใบหน้าหวานคล้ายผู้หญิงซะเหลือเกินนั่นจหัวของมันหลุดมือผม เส้นผมมากมายเป็นจุกอยู่คามือ

ผมไม่รอให้พวกเขาตั้งตัวได้หรอก ตรงโต๊ะหน้าโซฟมีทั้งแก้วเหล้า ขวดโซดาและกับแกล้มมากมาย ผมคว้าได้ผมก็ปามันใส่ร่างเล็ดที่นอนกุมหน้าตัวเองด้วยความเจ็บปวด เสียงร้องไห้ของเขาบาดแก้วหูผมจนผมแทบทนไม่ได้ ผมต้องเอาแก้วปาใส่มันจนแตกเพื่อให้มันเงียบ ปามันเข้าไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรบนโต๊ะเล็กให้ใช้ปาได้อีก ผมจึงย่ำเท้าเข้าไปหามัน หวังกระทืบร่างกายนี้ให้แหลกเละคาตีนของผมไปข้างหนึ่ง

กล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับแฟนคนอื่น กล้าดียังไงถึงได้ด้านมากขนาดมาเอากับเขาให้ห้องที่เขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ผมเจ้สชู้ ผมหลายใจ แต่อะไรที่เป็นของเรา ผมไม่เคยให้พวกเธอมาแตะต้อง ผมรักของผม ผมหวงของผม แล้วมันมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับสิ่งที่ผมรัก!

“หยุดเดี๋ยวนี้นะบอม!” แมทกระบากเรียวแขนของผมเอาไว้ ดึงให้ออกห่างจากร่างเล็กที่นอนขดบนพื้นห้องอย่างน่าสงสาร

ทันทีที่ผมเห็นใบหน้าแดงก่ำชื้นเหงื่อของมัน น้ำตาผมก็ไหลรินอาบหน้าทันที...นี่ไง คนที่บอกรักผมมาก รักผมนักหนา แล้วสิ่งที่เขาทำอยู่เรียกว่าอะไร ผมจ้องเข้าในดวงตาคู่คม มองความหวาดกลัวในนัยน์ตาของเขา แต่ยิ่งมองมันผมก็ยิ่งเจ็บ...

“ปกป้องมันหรอ” ผมถาม ทั้งโกรธ เกลียด เสียใจ...ทุกอย่างกำลังเกิดขึ้นในคราวเดียวเพราะคนตรงหน้าของผม

“กูถามว่าปกป้องมันหรอ!!!” แต่พอแมทเงียบไม่นอบ มันก็เหมือนเอาน้ำมันก๊าซราดลงในกองไฟ

ผมปล่อยหมัดใส่หน้ามันอย่างแรงแล้วหันไปกระทืบไอ้เด็กเลวที่มาลักกินขโมยกินของ ของคนอื่นเขาอย่างหน้าด้านๆ แต่เตะซ้ำเข้าท่องมันไปทีเดียว แม่ก็ผลักผมอย่างแรงจนร่างล้มไปด้านหลัง กระแทกกับโต๊ะไม่กลางโซฟา ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายทำอะไรผมไม่ได้เลยสักนิด ผมช้อนตาชุ่มมองอีกฝ่าย แมทยืนขวางเจ้าเด็กนั่นเอาไว้ด้วยร่างกายที่ยังเปลือยเปล่า

พอเห็นเขากับมันที่ไม่ใส่เสื้อผ้า หัวใจก็บีบรัดรุนแรงเหลือจะกล่าว ทำไมถึงทำกับผมได้ลงคอละ ทำไมถึงทำร้ายผมได้มากมายขนาดนี้ ผมฝืนลุกขึ้น ตรงเข้าไปหาแมท ต่อยเข้าที่สันกรามของมันอย่างแรงจนมันเซล้มไปอีกทาง

“มึงบ้าไปแล้วหรอวะ!” แมทตะโกนใส่

“เออ กูมันบ้าไปแล้ว กูบ้าไปแล้วได้ยินไหม!!!” คราวนี้ปมไม่สนใจเด็กนั่น กลับมุ่งเข้าหาแมท คร่อมมันเอาไว้แล้วต่อยหน้ามันซ้ำๆ หนักๆ หลายต่อหลายที

แมทไม่ยอมให้ผมเป็นฝ่ายกระทำมันเพียงผู้เดียว ร่างที่ใหญ่กว่าคว้าข้อมือของผมเอาไว้แล้วพลิกร่างขึ้นมาคร่อมผมบ้าง เขาปล่อยหมัดใส่หน้าผมอย่างจังจนเบือดกลบปาก ช่วงที่ใบหน้าสบัดเพราะแรงส่ง ผมรู้เลยว่าหัวใจแตกสลายมันเป็นยังไง

ชั่ววินาทีนี้ทุกอย่างนิ่งสนิท ใบหน้าที่หันข้างเพราะแรงต่อยเต็มไปด้วยน้ำตาและเสียงสะอื้นรอดออกมาจากลำคอ แมทนิ่งงัน เขามองกำปั้นของตัวเองด้วยความตื่นตะลึง ผมค่อยๆ หันไปมองหน้าเขา แต่มันก็ไม่ชัดเพราะน้ำตาทำให้ภาพตรงหน้าพล่าเลือน

แมทไม่เคยทำร้ายผมเลยสักครั้ง...ไม่เคยแม้จะใช้กำลังกับผม ถึงเราจะทะเลาะกันรุนแรงมากแค่ไหน แมทจะโกรธ จะเกลียดในเรื่องที่ผมทำมากเท่าไหร่เขาก็จะสงบเพื่อสยบผมให้ได้ด้วยความนิ่งของเขา แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ เขาต่อยผม เขาทำร้าย...ร่างกายของผมเพราะไอ้เด็กนั่น

ร่างใหญ่กว่าค่อยๆ ลุกออกจากตัวของผมข้าๆ เช้งขาเขาเหมือนคนไม่มีแรง เซไปด้านหลังและสายตาคมกล้าอันเจ็บปวดก็มองมาที่ผม ผมกลั้นเสียงสะอื้น ปาดน้ำตาแล้วยืนขึ้น

“เป็นรุ่นน้องที่ดีนะ...รักรุ่นพี่มากถึงขนาดเอาตัวมาประเคนรุ่นพี่ถึงห้อง” ผมไม่ได้มองไอ้เด็กนั่น มันนั่งร้อง กอดตัวเองอยู่ที่พื้น

“มึงอย่าว่าดิว”

“รักมันมากหรอถึงต้องปกป้องมันอ่ะ” คำพูดแมททำให้ผมปรี๊ดแตก

“...” แมทเงียบไม่ตอบ

“กูถามว่ารักมันมากรึไงถึงไม่ตอบกู!!! ได้...มึงไม่ตอบกูจะถือซะว่ามึงไม่ได้รักมันแล้วกัน” ตรงเข้าไปหาร่างดิวอีกครั้ง จิกหัวมันขึ้นมาเหมือนครั้งแรก ดิวเชิดหน้ามองหน้าผมเพราะแรงดึงรั้งจากศรีษะ

“หน้าด้าน!” ผมพูดแล้วต่อยเข้าที่หน้าของเด็กนี่

“มึงมันหน้าด้าน!!!” แล้วก็ต่อยลงไปอีก

“ฮึก...พี่แมทผมเจ็บ” เสียงครางร้องบอกกับคนที่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก

“บอม...”

“ด้าน มึงมันหน้าด้าน หน้าด้าน!!!” ผมพูดคำเดิมซ้ำๆ แล้วต่อยลงไปที่จุดเดิมซ้ำๆ เข่นกัน ไม่สนน้ำตาของเด็กคนนี้ ไม่สนเสียงห้ามสั่นเครือของเจ้าของห้อง ผมรู้แต่ผมเจ็บเจ็บ มันก็ต้องเจ็บเหมือนกันกับผม

“ฮื่อ...พอแล้วผมเจ็บ” ดิวพยายามปกป้องตัวเอง ใบหน้าบวมช้ำ ใต้ตาแตกเลือกอาบ

“มึงเจ็บคนเดียวหรือไง! มาเล่นชู้กับแฟนคนอื่น มึงคิดว่ากูไม่เจ็บหรอ!!!”
“บอมเองก็เล่นชู้กับคนอื่นเหมือนกันหนิ!!!” คำพูดของแมททำให้ชะงักกำปั้นไว้กลางอากาศ...

มีต่อจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 31-12-2016 11:13:07
อีแมทเลวมากกกกกกก.  :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PaePT ที่ 31-12-2016 11:49:04
รอๆๆๆ

อยากให้แบบสุดท้ายแมทเงิบ บอมรู้มาตลอดว่าแมทชอบพาคนอื่นมาเอาที่ห้อง ตั้งแต่ก่อนจะมาอยู่ด้วยกัน

ที่บอมทำนั้นคือเอาคืนแมท แล้วก็ขอเลิกไปใช้ชีวิตแฮปปี้ ปล่อยแมทตายซากไป .... แล้วนี่ถ้าแมทอ้างว่า

แก้แค้น ก็จะยิ่งเลวมากและหวังว่า บอมที่ชะงักไปคงไม่ใช่เพราะรู้สึกผิดหรอกนะ เพราะก็เห็นข้อความ

และสงสัยเรื่องแมทกับเด็กนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว คงไม่ใช่กลับมาฟูมฟายกอดขาอีแมทขอโทษหรอกนะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 31-12-2016 11:53:11
แรกๆเราเชียร์แมทให้เอาคืนบอมบ้างเหมือนกัน  :hao4: ตอนนี้เลยต้องมานั่งเจ็บปวดอย่างกะเป็นบอมเสียเอง  :mew4: ไม่คิดว่าแมทจะเล่นแรงถึงเพียงนี้ สมน้ำหน้าตัวเอง  :mew2: บอมอย่าไปตีเค้าเลย เลิกๆไปเถอะ เราอยู่ข้างบอมแล้วนะ..
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpanmama ที่ 31-12-2016 12:14:23
ถึงบอมจะมีชู้แต่บอมก็ไม่เคยนอนกับผู้ชายคนอื่นนอกจากแมท
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 31-12-2016 13:00:46
 :katai5: ต่อจ้า

ใช่ ผมไม่เถียงว่าผมก็ทำ ผมเองก็ผิดที่ทำแบบนั้นกับคนที่รักกัน รู้สึกเหมือนแมทเอาหอกปามาใส่อกของผมอย่างรุนแรง ผมปล่อยมือจากเด็กที่น่าสงสารคนนี้ไป หันไปมองแมท มองสายตาที่มีแต่ความเจ็บปวด เพราะผมทำร้ายเด็กของมัน

“กูถึงถามมึงไงว่ามึงรักมันไหม” ผมเมินคำพูดของแมทที่โคตรทำร้ายจิตใจผมแล้วถามหาคำตอบ

“มึงกับมันลอบได้กันตั้งแต่เมื่อไหร่...”

“...” ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่ายที่ทำได้แค่นิ่งงัน แมททำใจเย็น เดินไปหยิบบ๊อคเซอร์มาใส่ แล้วเขาก็เอากางเกงมาให้เจ้าเด็กคนนี้ใส่ด้วยต่อหน้าต่อตาของผม

ผมโมโหมากๆ โมโหจนรู้สึกว่าตัวเองสามารถฆ่าคนได้ จุดที่ผมยืนอยู่มันใกล้ทีวี ผมมองภาพพวกนั้นแล้วคว้าทีวีจอแบนขึ้นมาทุ่มใส่พวกมันทั้งสองคน แต่แมทชากดิวหลบไปได้ทัน ทำให้สิ่วที่ผมปาไปกระแทกโต๊ะไม้เล็กๆ พังยับไม่มีชิ้นดี

“กูต้องการให้มึงตอบกู ไม่ใช่ให้มึงไปดูแลมัน” ดิวกอดแมทร้องไห้ห่มร้องไห้ มันไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลยสักคำเดียว ส่วนแมทก็ทำได้แค่หลบตาผม

“อย่าทำเขาเลยบอม” แมทเอ่ยเสียงเบา

“งั้นก็ตอบกูมาสิ ว่ามึงรักมันใช่ไหม! มึงกับมันเป็นอะไรกัน...” เขายังเงียบ หันไปกอดดิว จับใบหน้าช้ำๆ นั้นให้ซบลงบ่า

“ใช้การกระทำในการบอกแทนงั้นหรอ” ผมไม่คิดจะเข็ดน้ำตาของตัวเอง แม่ภาพตรงหน้าจะบดขยี้หัวใจของผมจนเละเทะซักแค่ไหน

“เปล่า กูแค่ปลอบเขา”

“ในเวลาแบบนี้มึงยังว่าเปล่าอีกงั้นหรอ”

“...” แล้วเจ้าตัวก็เงียบไปอีก

“มึงกำลังทำให้กูโมโหแมท...”

“....” เขาไม่ตอบ ไม่สนใจ

ผมหมดความอดทนแล้วจริงๆ ผมดิ่งเข้าไปหาเขาทั้งคู่ ใบ้แรงเฮือกสุดท้ายของตัวเองกระชากเส้นผมสลวยนั้นออกมาแล้วเอาเท้าเตะเข้าที่หน้ามันจะหงาย แมทตกใจมาก มันกระชากร่างผมให้ออกจากดิวอย่างไว ผมก็ดิ้นรนเท่าที่ทำได้เพื่อจะเข้าไปทำร้ายอีกฝ่ายอีก

“ฮื่อ ผมเจ็บแล้วครับ ผมเจ็บ...” ดิวร้องออกมาอย่างน่าสงสาร

“สมควร คนอย่างมึงน่พสมควรเจ็บแล้วไอ้เลว!!!!” ผมเตะของใกล้ๆ เท่าที่เตะได้ใส่มัน

“ฮื่อๆ พี่แมทดิวเจ็บ ดิวกลัวแล้ว” เขาขดตัว ป้องกันตัวเองอย่างสุดความสามารถที่เขามี

“พอสักทีบอม...น้องเจ็บแล้ว” เสียงท่อนท้ายอ่อนลง

“...” ผมกัดฟันกรอด

“น้องเขาไม่ผิดหรอก กูผิดเอง...”

“คนที่กูควรทำคือมึงใช่ไหม”

“อืม” อ้อมแขนของแมทคลายออกเรื่อยๆ

คำตอบของแมทเหมือนกับการบอกผมว่าน้องเขาน่ะก็แค่ถูกแมทหลอกมาเท่านั้น คนที่คิดนอกใจผมก็คือแมทเอง น้องเขาไม่ได้เป็นคนเข้ามาหาแมทก่อน ใช่สิ...ผมลืมไปได้ยังไงว่าเมื่อก่อนแม่ก็เป็นเสือร้ายที่มักใช้รอยยิ้มของตัวเองหลอกล่อเหยื่อ เพียงแต่การกระทำที่หึง ที่หวงเรามากของเขาทำให้เราเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขารักเรามาก และคงไม่มีใครแน่ๆ ผมคิดผิด แมทก็แค่โกหกหลอกลวงผม

ผมตรงเข้าไปหาแมท ปล่อยหมัดใส่หน้ามันแล้วตบตีมันอย่างรุนแรง เอาให้มากที่ใจของผมกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ แมทนิ่งเฉย เขาปล่อยให้ผมได้ทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ มันควทำใจแล้วล่ะว่างานนี้ต้องมีคนเจ็บ และมันเลือกที่จะเจ็บเองเพื่อไม่ยอมให้ดิวต้องมาเจ็บปวด น่าซสบซึ้งดีไหมกับความรักอันเปี่ยมล้นของพวกมันทั้งสองคน

“มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไงห้ะ มึงทำกับกูได้ยังไง!” ผมฝังเล็กทั้งสิบลงไปที่อกของแมท จิกมันเข้าไปจนเกิดรอยแดงห้อเลือด
“ไหนมึงบอกว่ามึงรักกูไง มึงรักกูคนเดียวไง” รอยเล็บกำลังแดงปื้นเป็นทางเมื่อกดมือลงไปจนถึงหน้าท้องแกร่ง ผมมองหน้ามัน ตบหน้ามัน ตบซ้ำๆ ที่แก้มกร้านอย่างรุนแรง
“มึงโกหกกู มึงโกหกกู!!!” สองมือคว้าจิกที่หัวของเขาแล้วจับเขย่าด้วยแรงอารมณ์ แม่ทรุดลงกับพื้นหมายจะกอดเอวของผมเอาไว้ แต่ผมขยับถอยห่าง ไม่ยอมให้เขาได้โอบกอด ไม่มีทาง ผมจะไม่ให้อภัยในสิ่งที่เขาทำ

ผมร้องไห้ปานใจจะขาด มองแมทคุกเข่ากับพื้น และมองไปที่เด็กนั่นกอดตัวเองร้องไห้ พวกเขาดูทำเพื่อกันและกันดีเหลือเกินนะ แล้วผมละ ผมเป็นอะไรสำหรับพวกเขา เป็นต่ส่วนเกินงั้นหรอ แล้วจะคบผมต่อไปทำไมถ้าผมเป็นแค่ส่วนเกินส่วนหนึ่งในชีวิต ก็เหมือนเนื้องอกที่ไร้ความหมาย ตัดทิ้งไปตั้งนานแล้วก็จบไม่ใช่หรอ ทำไมต้องทำกันแบบนี้ หักหลังกกันแบบนี้เพื่ออะไร

ผมเดินตรงเข้าไปที่แมท จิกหัวของเขาลากไปที่เศษซากของโต๊ะไม้กลางห้อง แมทนิ่ง ทำตามที่ผมต้องการทุกอย่าง ไม่ขัดขืนผมเลยสักนิด ราวกับจะบอกว่าเขายอมทุกอย่างไม่ว่าผมจะทำอะไรกับเขาก็ตาม ผมคิดถึงสิ่งที่เขาทำทั้งน้ำตา ร้องไห้หน้าตาทุเรศมากแต่ผมไม่แคร์ ผมจับหัวแมทง้างแล้วจะมันโขกกับขอบของโต๊ะที่ยังสภาพดีอยู่ แต่ยังไม่ทันถึง ร่างของผมก็โดนผลักกระเด็นด้วยคนที่ผมคิดว่าเขาไม่น่าจะมีแรงอยู่แล้ว
“ฮื่อ...อย่าทำแฟนผมนะ!!!” ทั้งที่ร้องไห้อย่างน่ามเพช แต่ก็เข้ามากอดร่างของแมทเอาไว้ราวกับจะปกป้อง แมทมองดิวด้วยสายตกตะลึง แต่ผมสิ...ร้าวไปทั้งใจ

“แฟนงั้นหรอ...ไม่ใช่แค่คู่นอน แต่เป็นแฟนกันเลย แล้วกูละแมท...กูเป็นอะไร” ผมจ้องหน้าแมท ไม่ได้สนดิวที่ร้องห่มร้องไห้

“คุณเป็นน้องพี่แมทไม่ใช่หรือไง คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะร้ายพี่คุณแบบนี้” ที่ผมตะคอกมันไปก่อนหน้านี้ ทำร้ายมันขนาดนี้ มีนยังเชื่ออีกหรอว่าผมเป็นน้องแมท ผมหัวเราะทั้งน้ำตา

“น้องงั้นหรอ มึงบอกเขาว่ากูเป็นน้อง...ฮ่าๆ แม่ง โคตรตลก กูจะบอกไรให้นะ กูน่ะเป็นแฟนมัน!!!” ผมตะคอกใส่หน้าดิว

“ไม่จริง...”

“พอเหอะบอม!” แมทขึ้นเสียงมากลางปล้อง แววตาของมันที่มองมาที่ผมนั้นสื่อความหมายได้เป็นอย่างดี

มันต้องการปกป้องเด็กคนนี้ ยังอยากให้เด็กคนนี้อยู่กับมันโดยที่มันไม่สนใจเลยว่าผมจะรู้สึกยังไง กลัวว่าเขาจะเสียใจ แต่ไม่กลัวผมจะเสียใจเลยสินะ มันมีค่ามากขนาดที่ความสัมพันธ์หลายปีของเรากลายเป็นไร้ค่า ใช่สิ...เด็กคนนี้ตรงสเป็กมันทุกอย่าง น่ารัก สนใส ตัวเล็กๆ คล้ายผู้เด็กผู้หญิงแต่ก็ยังเป็นผู้ชาย ไม่เหมือนผมเลยสักนิดเดียว

ผมสบตากับแมทเนิ่นนาน จากที่มันนั่งนิ่งๆ ให้ดิวกอดก็เริ่มจะโอบกอดเด็กน้อยที่ตัวสั่นเทาเพราะร้องไห้ไม่ยอมหยุด เท้าของผมค่อยๆ ก้าวกลับไปยังทางที่เดินเข้ามา ตรงนี้ ในห้องนี้เหมือนไม่มีที่ยืนให้ผมอีกแล้ว แมทละสายตาไปจากผม เชยคางของเด็กคนนั้นให้มองไปที่ใบหน้าของเขา เรียวนิ้วที่เคยทะนุถนอมผมกำลังเกลี่ยหยาดน้ำตาให้กับอีกฝ่าย เป็นภาพที่ทำร้ายจิตใจของผมยิ่งกว่าอะไรดี ความห่วงใยที่มีให้กับคนอื่น...มันเหมือนมีดที่เข้ามากรีดหัวใจของผมให้กลายเป็นริ้วราวกับเศษผ้า

ผมปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นอันหนักหน่วงของตัวเองแล้ววิ่งออกไปคว้ากระเป๋าหน้าประตู มุ่งออกจากห้องของแมท ผมทนไม่ไหวแล้ว ทนมองภาพเหล่านั้นต่อไปไม่ไหวจริงๆ มันทำร้ายผมเกินไป ผมรับมันไม่ได้ ผมตรงไปยังบรรไดหนีไฟ วิ่งมันลงไปจากชั้นยี่สิบของคอนโดหรู พร้อมๆ กับหัวใจที่ยับเยินไม่เหลือชิ้นดีอีกเลย

“อี้ก!” ผมไม่รู้ว่าตรงนี้ชั้นที่เท่าไหร่แล้ว แต่ขาของผมมันหมดแรงจะไปต่อ ทำให้มันไม่สามารถรับร่างของผมไหวอีกต่อไป ภาพตรงหน้าวูบลงและร่างกายของผมก็กระแทกบรรไดอย่างรุนแรง

ผมกลิ้นลงมากระแทกกำแพงอย่างแรง แล้วแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นโดยที่ไม่ได้หมดสติไป ความเจ็บร้าวของร่างกายไม่สามารถทำให้ความทรมานในจิตใจหายไปเลยแม้แต่น้อย ผมนอนร้องไห้อยู่ตรงนั้น สะอึกสะอื้นเหมือนจะขาดใจตายให้ได้ แต่ความตายคงไม่มาหาง่ายๆ เพียงเพราะผมร้องไห้หนักแบบนี้หรอก ผมถึงยังทรมานอยู่นี่ไง

ผมรู้นะว่าผมเองก็ผิดที่เคยทำแบบนี้กับแมทมาก่อน แต่ไม่จำเป็นเลยสักนิดที่จะเอาคืนกันด้วยการทำเช่นเดียวกับผม ผมพยายามปรับเปลี่ยนตัวเอง ทนต่อความอึดอัดใจที่มันทำเย็นชากับผมเพียงเพราะคำว่ารัก มันเองก็น่าจะรู่ดีไม่ใช่หรอ แล้วทำไมถึงยังทำกับผมได้ลงคออีกละ ไม่สงสารผมบ้างหรอ ไม่รักผมบ้างเลยหรือยังไง

เห็นแววตาที่มันมองดิว เป็นแววตาที่ห่วงหาอาทร สิ่งนั้นมันเคยเป็นของๆ ผมนะ แล้วทำไมตินนี้ถึงได้กลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว ผมรับไม่ได้จริงๆ อยากให้มันเป็นเพียงฝัน พอตื่นมาก็ยังอยู่ในค่ายของมหาลัย

ผมไม่น่ากลับมาเลย...

ถ้าไม่เห็น ถ้าไม่รู้ มันยังดีเสียกว่าต้องมาเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดรวดร้าวนี้ แมททำกับผมได้ลงคอ ปกป้องมันได้ลงคอ! ทั้งที่ผมเองไม่เคยทำแบบนั้นกับใครเลย ตอนที่มันจับได้เรื่องผู้หญิง ผมก็พร้อมปล่อยมือพวกเธอเพื่อมันเพียงคนนเดียว ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เลิกไปเลยก็ได้แท้ๆ

แต่ก็ดี...ระหว่างเราจะได้จบๆ กันไป

มันแสดงออกมาชัดเจนแล้วว่าไม่ต้องการผม ที่ตรวนั้นไม่ใช่ที่ของผมอีกต่อไป มันเป็นที่ของดิว คนใหม่ที่ดีกว่า น่ารักกว่าและมันชอบมากกว่า บางทีรักของเราอาจจะเก่าเกินไปแล้ว ประคับประครองกันต่อไปก็เท่านั้น ถึงผมไม่เจอเรื่องราวในวันนี้ อนาคต ระหว่างเรามันก็ควต้อจบลงอยู่ดีนั่นแหละ

ผมขยับตัวที่ปวดระบมขึ้นนั่ง มองหากระเป๋าแล้วคลานเข้าไปเอามันมา รื้อหามือถืออยู่นาน กดเบอร์หาเต้ เสียงรอสายทำให้ผมเหมือนใจจะขาด ผมยังคงร้องไห้เหมือนจะตาย ผมหยุดน้ำตาไม่ได้ หยุดความเสียใจที่เกิดขึ้นไม่ได้

(ว่าไงมึง...) เต้กรอกเสียงมาตามสาย รอบด้านเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของผู้คน ทุกคนกำลังเฮฮาปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน แต่ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย

“ฮื่อๆ เต้...เต้กูไม่ไหวแลว ฮื่อๆ กูอยากตาย....กูอยากตาย” ทั้งที่ในใจมีเรื่องมากมายที่อยากจะพูด แต่สิ่งที่พูดออกไปได้มีเพียงแค่นั้น

(เฮ้ย! มึงเป็นอะไรบอม เกิดอะไรขึ้น...) เสียงตื่นตระหนกตกใจดังออกมา

“มารับกูที....ฮึก มารับกูไปจากที่นี่ที”

(ได้ มึงอยู่ไหน บอกกูเดี๋ยวกูไปรับมึงเดี๋ยวนี้)

“กูอยู่ทีคอนโดไอ้แมท ตรงทางหนีไฟชั้นห้า” ต้องกลั้นใจพูดให้จบแล้วร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง

(กล้า! ไปกับกู บอมมึงอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ กูจะไปรับมึงเดี๋ยวนี้ ไม่ๆ...มึงห้ามวางสายด้วย) ผมพยักหน้าทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีทางรู้ เสียงกล้าถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เต้บอกอะไรกล้าไม่ได้ไปกว่าผมกำลังร้องไห้

ผมพาตัวเองกลับไปนั่งพิงกำแพง ฟังเสียงพูดคุยของมันสองคนที่พอจะช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง ก็แค่ได้บ้างเท่านั้นแหละ เพราะภาพและเหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงวนเวียนทำร้ายผมซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเทปที่เล่นแต่ฉากเดิมซ้ำๆ แววตา น้ำเสียงของมันยังคงเป็นมีดกรีดใจของผมต่อไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหายไปไหน

ผมงอเข่าเข้าหาตัวเอง กอดตัวเองเอาไว้แล้วร้องไห้ให้อีกฝั่งได้ฟัง ไม่มีคำพูดอะไรจากปากของผมอีก นอกจากเสียงคอยถามคอยพูดมาจากเต้และกล้า ผมก็แค่ฟัง เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่ได้ใส่ใจอะไรมันเลย บางครั้ง เสียงร่ำไห้ของตัวเองยังดังเสียกว่าคำพูดแสนห่วงใยจากเพื่อนรักทั้งสอง

เนิ่นนานปานจะขาดใจ ร่างของเต้และกล้าก็ปรากฏเข้ามาในสายตาที่พล่ามัวของผม สติของผมเลือนลางลงเต๊มทีเพราะร้องไห้หนักและเพิ่งตกบรรไดมา แต่มันคงไม่สามารถทำให้แมทหันมาสนใจผมได้หรอก เพราะผมไม่ใช่คนรักของเขาอีกต่อไปแล้ว ดูก็รู้...เขารักดิวมากขนาดไหน
ผมไม่คิดเลยนะว่า...เรื่องของเราจะจบลงเร็วขนาดนี้


*************จบบทที่ 10***************

ใครยังเป็นทีมแมทอยู่ไหมคะ :z3: :z3: อีกห้าตอนก็จบแล้วน้าาาา
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 31-12-2016 13:06:57
เปลี่ยนพระเอก!!!!!!!!ด่วน
อีแมทเลวแบบ..ทำใจรับไม่ได้ อีเด็กดิวนี่ก็ใสใสดีนะ
บอมเข้มแข็งไว้ อยู่กับเพื่อนให้ใจดีก่อน
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 31-12-2016 13:13:29
เกลียดแมทอะแม่งงงงงงงง  :katai1: :katai1: :katai1:
ดิวด้วยโคตรเกลียดเลยพวกทำตัวอ่อนแอ แสนดีนักหนาเนี่ย
บอมอย่าไปยอมนะ ฮึ๊ยยยยยยยยย
อินจัด   :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: HunterKill ที่ 31-12-2016 13:15:58
อีกห้าตอนจบ!! เรวจังงงงง
เราว่าท่าจะจบนะ จบไม่สมหวัง ต่างคนต่างอยุ่ไปเลย  ถ้าจะให้มารักกันอีก ต้องอยู่กันอย่างระแวงกันตลอดชีวิตอ่ะ
จบแบบนี้เราก็โอเค  แต่ถ้าจบแบบแฮปปี้ เราว่าไม่เหมาะ
 รออ่านนะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 31-12-2016 13:44:48
ก็แค่เคย เป็นคนรัก ที่มักมาก
ก็แค่เคย เป็นของฝาก จากของขวัญ
ก็แค่เคย เป็นของใช้ ในทุกวัน
ถ้าไม่ดี ก็ทิ้งมัน ฉันไม่แคร์

คุณค่าคน อยู่ที่ใจ ให้คุณค่า
คุณค่าคน อย่าตีตรา ถ้าเป็นแผล
คุณค่าคน จะเปี่ยมล้น คนดูแล
คุณค่าคน ดีแน่แท้ ไม่แพ้ใจ

คิดเสียว่า มันเคยดี คราวนี้หมด
คิดเสียว่า ไม่ใช่อด งดตรงไหน 
คิดเสียว่า ของมันเน่า เราทิ้งไป
เดินไปหา สิ่งใหม่ใหม่ ใจรื่นเริง

ไปตายให้หนอนแดกเลยไป
เมิง จัญไร มาก
ไอ่แมท

ขยะเน่า..ที่เราควรเดินหนี
หุหุ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Banarot ที่ 31-12-2016 14:26:14
อย่าไปสนอีสองตัวนั้นเลย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: TR ที่ 31-12-2016 15:03:09
บอมผิดที่มีชู้ เล่นสนุกมาแต่แรก
แต่แมทก็มีเหมือนกัน ความผิดข้อนี้ก็เจ๊ากันไป

แต่ที่แมทเลวกว่า คือ แมทนอกทั้งกาย นอกทั้งใจ
บอมนอกกาย ใช่ บอมผิด บอมเลว แต่บอมยังไม่นอกใจ บอมยังยืนยันเสมอว่ารักแมทคนเดียว
แต่การกระทำของแมทในตอนนี้ ปกป้องอีกคน ใส่ใจความรู้สึกอีกคนมากกว่า นั่นเหมือนกับว่าแมทแบ่ง 'ความรัก' ส่วนหนึ่งไปให้ดิว
จบค่ะข้อนี้ ข้อนี้ยังไงแมทก็ผิด แล้วเอาข้อที่บอกว่าบอมมีชู้มาลบล้างไม่ได้

อีกอย่าง อย่าลืมนะ บอมมันมีชู้ แต่บอมก็ไม่เคยให้ใครมาทับรอย มาเอากันบนเตียงของทั้งคู่
แต่แมทเอาดิวมาเอากันในห้อง บนเตียงที่เคยนอนกับบอม จิตใจแมททำด้วยอะไร

หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-12-2016 15:51:23
อ่านไป ทั้งลุ้น ทั้งโมโห
แล้วบอกรัก ดิวที่สุด คืออะไร ฮึ นังแมท
กดกันอยู่สามวัน  เปลี่ยนใจได้เลยเนาะ
ปลอบประโลมเข้าไป
แมทคงคิดได้แล้ว
ว่าที่ผ่านมาคิดว่าตัวเองรักบอม
ตอนนี้คงรู้กระจ่างว่า ที่แท้รักดิว
ดิว ตาสว่างได้แล้วนะ
เลิกสนนังแมทไปเลย
ปากว่า ตาขยิบชัดๆ
ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 31-12-2016 17:12:20
   อ่านตอนนี้ โกรธไอ้บอมมากๆที่ไปต่อยตีดิว แทนที่จะไปซ้อมผัวแมทของตัวเองกลับไปทำร้ายดิว จะกล่าวโทษต้องไปโทษคนของตัวเองที่ไม่ซื่อสัตย์กับบอมเองแท้ๆ แล้วไอ้แมทเองก็ไม่เข้าไปห้าม ปล่อยไอ้บอมซ้อมดิวขนาดนั้น จะโกรธเพราะหึงหวงก็ไม่มีใครห้ามแต่ดูคนของตัวเองก่อนเถอะ สมแล้วล่ะที่คู่นี้คบกันได้
  ฮึยย บอมน่าจะวิ่งขึ้นไปชั้นดาดฟ้าแล้วกระโดดตึกตายไปซะ นี่ล่ะหนา ความโกรธคือความโง่ที่ขวางกั้นปัญญา ดูตัวละครบอมในตอนนี้เป็นตัวอย่าง
  ต้องขอโทษผู้แต่งที่อินไปกับนิยายของผู้แต่งจนอินถึงขนาดนี้ด้วยนะคับ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 31-12-2016 18:07:13
ดิวซวยสุดงานนี้......แต่แมทก็แม่งเลวได้โลห์จริงๆ ไม่สำนึกผิดเลย ยอมก็นะแอบโง่หน่อยๆ
ยังไงก็รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 31-12-2016 19:37:42
อ่านแล้วบีบหัวใจ    ตอนแรกยังคิดว่าบอมกลับตัวได้จริงมั้ย   มาอ่านความคิดบอมก็รู้ว่ากลับตัวได้จริง  บอมรักแมทมาก    เจอแบบนี้รักมากเจ็บมาก   เข้มแข็งนะบอม   ปล่อยแมทไปเถอะ   หาใหม่ดีกว่า
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: nongtao ที่ 31-12-2016 19:45:37
ตอนนี้สงสัยเด็กดิวว่าโง่จริงหรือแกล้งโง่ เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีกว่าสองคนนั้นมันผัวเมียกันถึงได้ออกหน้ารับแทนแมท บอมโคตรของโคตรแสดงออกว่ากูหึงกูโกรธกูโมโห พี่น้องแท้ๆกันจะไม่แสดงออกขนาดนี้ ถ้าเด็กดิวมันจะโง่ขนาดนั้นก็เอาเขามาใส่หัวเหอะอย่าอยู่เป็นคนเลย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 10 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: poonparamount ที่ 31-12-2016 19:56:59
 :sad4: :sad4: :sad4:

โอ้ววววววว ตูพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงงงงงงงงง

เพิ่งเข้ามาอ่านค่าาาาาาา มันบีบ มันรัด มันหน่วง มันดราม่าได้ถูกใจเจ้มากจริงๆ ยกนิ้วให้เลยค่ะ

มาต่อเร็วๆนะคะ นี่รออยู่ ค้างจนใจจะขาดแล้ววววววว

ปล.ถึงจะบอกช้าไปแต่เค้าจับไต๋พี่แมทได้ตั้งแต่นางโกหกโกเจ็ดครั้งที่สองเรื่องโทรศัพท์ละนะตัวเองงงงง

น้องชายที่ไหนจะมาบอกรักพี่ที่สุดในโลก นี่อ่านคอมเม้นท์แล้วขำแทนคนแต่งจริงๆค่ะ ยังชอบที่มีคนบอกให้ไปสู้กันจนตายบน

เตียงดีกว่า เค้าก็เลือกช้อยส์นั้นนะตะเอง  :hao7:
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมท ตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 31-12-2016 21:02:35
 :L1: :L1: :L1:

สวัสดีปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันทุกคนนะคะนักอ่านที่รัก

ขอให้ปีใหม่เป็นปีที่สุขสันต์ พบเจอแต่เรื่องดีๆนะคะ

ส่วนตัวนักเขียนถือว่าปีนี่เป็นท้ายปีที่ดีสำหรับนักเขียนเลยค่ะ เพราะตัดสินใจเอานิยายมาลงเล้าเป็ดหลังจากที่กลัวจะเจอคอมเม้นต์แรงๆมานาน ฮาา

นักอ่านหลายๆคนที่ตามอ่านตามเม้นต์ทุกตอน นักเขียนขอบคุณมากนะคะ ได้กำลังใจดีมากๆเลย รวมถึงนักอ่านที่เข้ามาอ่านแต่ไม่ได้เม้นต์กันด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆๆๆฟที่สนใจนิยายเรื่องนี้จากร้อยๆเรื่องในเล้า :mew1:

วันส่งท้ายปีแบบนี้นักอ่านไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน ก็ขอเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีกับนักอ่านแล้วกันนะคะ (แอบขอเม้นต๋นิดนึง)
ก่อน 12.00 ของคืนนี้ ถ้ามีคนมาเม้นต์เคาท์ดาวน์ว่าอยากอ่านแมทบอมเร็วๆ ถึง 20 เม้นต์ นักเขียนจะลงนิยายตอนวันขึ้นปีใหม่พอดีนะคะ  :impress2: แต่ถ้าไม่ถึงก็ลงไม่เกิน 00.30 น. ฮาาา

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆเลยค่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: evanescence_69 ที่ 31-12-2016 21:05:37
ไม่ถึงก็ต้องลงเซ่
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 31-12-2016 21:07:48
ไม่ถึงก็ต้องลงเซ่

ลงไม่เกิน 00.30น. แน่นอนจ้า แต่ตอนนี้คนเขียนตื่นเต้นมาก  :ling1:
ขอให้ถึงๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-12-2016 21:09:09
ไรท์ มาต่อไวๆนะ อยากอ่านแมท บอม อีกอะ
อยากรู้ว่าเกิดไรต่อจากนั้น
นังแมท คิดถึงบอมหรือไม่คิดเลย
มัวแต่ดูแลดิวหรือเปล่า
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Izeduckling ที่ 31-12-2016 21:10:20
รอแมทบอมจ้าาา :katai4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 31-12-2016 21:13:23
 :hao7:จัดมา
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 31-12-2016 21:18:26
บอมเป็นไรไหมเนี้ยยยยย......
อยากรู้ว่าบอมจะทำยังไงต่อ :ling1: :ling1:

ปล.คิดไปคิดมา...บอม>>>>หลังจากมีสติแล้ว  เราว่านายได้กำไรนะ กระทืบที2คนเลยยย :katai2-1: :katai2-1:
เป็นเราก็เล่นแม่งทั้งคู่เเหละ...ไม่สนนาทีนั้น.......ใครหลอกใครโดนหลอก
เชิดใส่สวยๆเลยจ๊ะ.....ช่างมันคนแบบนี้..หาใหม่เลยย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 31-12-2016 21:18:35
รอจ้า  :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 31-12-2016 21:25:00
รอเลยค่าาาาาา   :mew1: :mew1: :mew1:
อยากอ่านใจจิขาดแล้ว
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ouioui ที่ 31-12-2016 21:28:30
แมทกับบอมพอกันทั้งคู่แต่มาจนถึงตอนนี้เกลียดแมท555 ก็อย่างบอมว่าว่ามันไม่มีเยื่อใยกับคนอื่นแต่สิ่งที่แมททำมันทำเหมือนผูกพันธ์มีเยื่อใย

...คาใจอิดิวมุงไสยไสยเกินไปนะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 31-12-2016 21:32:16
จำความเจ็บ เก็บเอาไว้ ให้ยังอยู่
กูอับอาย กูอดสู ทั้งรู้เห็น
ทั้งชาตินี้ และชาติหน้า อย่ามาเป็น
แค่รู้จัก ไม่ต้องเห็น กระเด็นไป

อโหสิ เลิกจองเวร แต่หนหลัง
อโหสิ กรรมกำบัง ฝังแต่ไหน
อโหสิ เดินไปตาม ทางของใคร
อโหสิ พอจะไหว ให้ไหมเธอ

หวนกลับเข้ามาอ่านแบบละเมียด
ใจคนอ่านเลยแตกละเอียด..อีกรอบ

ใครทำเราให้ใจ
เจ็บเกิ๊นนนนนนน
+1 ส่งท้ายปีเก่า

 :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 31-12-2016 21:35:56
ปักธงรอด้วยคน :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Tanyhong ที่ 31-12-2016 21:49:47
อยากอ่านเร็วๆแล้ว อยากรู้จุดจบของแมท  :angry2:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpanmama ที่ 31-12-2016 21:51:07
ก็เข้าใจนะว่าบอมก็ผิด
แต่มาเอากันกับดิวในห้องที่อยู่ด้วยกันกับบอม
มันเกินไปป่าววะ
แมทนายคิดอะไรอยู่
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 31-12-2016 22:02:01
เหอะ อิเมทได้เลือกแล้ว   มันเลือกดิว
ฉะนั้นก็เป็นอิสระแล้วค่ะ บอม
อย่ามาตามนะอิแมท อิเลวเอ๊ย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pamaipraewa ที่ 31-12-2016 22:03:09
ใครจะเกลียดจะหมั่นไส้น้องดิว บอกเลยว่าเราชอบนาง

น่าสงสารนะ โดนหลอกไม่พอโดนทำร้ายร่างกายอีก อ่านจากที่บรรยายแล้วแบบ...บอม คือนายน่าสงสารอ่ะใช่ แต่ควรจะทำผัวตัวเองป่ะ ทำขนาดนี้ถ้าเขาเป็นอะไรไปจะเป็นไง

อีแมท เลวที่สุดของเรื่อง5555จะรักใครก็เอาให้มันแน่สักคน หรือจริงๆแล้วไม่ได้รักใครเลยนอกจากตัวเอง

รออ่านต่อค่ะ ชอบเรื่องนี้มาก แอบตกใจนิดนึงว่าใกล้จบแล้ว แปลว่าอาจจะแบดเอนด์ได้5555 จะแบดยังไงตอนจบหาคู่ดีๆให้น้องดิวหน่อยนะคะ สงสารนาง :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 31-12-2016 22:13:13
^
^
คู่ดีๆ ก็ไอ่แมทยังไง
ผัวทั้งคน

เอาเหอะ..เอาไป
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: kusa ที่ 31-12-2016 22:14:50
ปักป้าย รออออออ  :katai2-1:พร้อม ปีใหม่ :mc4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: enjoy0189 ที่ 31-12-2016 22:29:39
 รอค่าา :mc4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 31-12-2016 22:39:36
 มารออ่านด้วยคนนะคับ อยากอ่านต่อ รอลุ้นมากคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 31-12-2016 22:39:56
ขอให้บอมได้ผัวใหม่ๆดีๆพร้อมปีใหม่ค่ะ :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 31-12-2016 23:00:16
แมทโกรธแทบตายตอนเจอบอมจะเอากับหญิงอื่นลงโทษเค้าสารพัดแต่บอมก็ไม่เคยเอาหญิงมานอนที่ห้อง พอบอมไม่อยู่รีบเอาเด็กมานอนที่ห้องเลย ไม่คิดถึงใจบอมบ้างเลย เฮ้อออ แถมยังแสดงท่าทีปกป้องเด็กตัวเองอีก เป็นใครใครก็คิดว่ารักอีกคนมากกว่า จริงๆไม่ได้จะว่าใครถูกนะแต่แมทก็ทำเกินไปจริงๆ ส่วนดิว จะว่าสงสารก็ใช่ สมเพชก็ไม่เชิง เฮ้ออออ

ปล. รอค่ะะะ มาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 31-12-2016 23:05:10
HNY ค่ะะะ ขอตอนใหม่รับปีใหม่ด้วยคน  :L2:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 31-12-2016 23:10:43
หน่วงไปอีก....
สนับสนุนให้เปลี่ยนพระเอกคะ :katai1:
สงสารบอมมากๆอ่านแล้วน้ำตาไหลเลย :mew4:
เราคิดน่ะว่าดิวไม่ใช่เด็กใสๆแน่ๆ....
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: CIndY59 ที่ 31-12-2016 23:23:58
นี่อยากได้ตอนใหม่ไวๆ อยากจะถีบอิแมทททททททท
คืออะไรไม่ว่า แต่ปกป้องคนอื่นต่อหน้าแฟนตัวเองคือที่สุดแล้วอ่ะ

นอกใจข้างนอกยังพออภัยให้ได้นะ แต่มาอยู่ทับที่ มาใช้ของเรา มาอยู่ในที่ที่เคยเป็นของเรา มันไม่โอเคจริงๆอ่ะ
แล้วไงคือมึงก็ทำ เจอประโยคแบบนี้คือเจ็บอ่ะ เราขอให้เลิกกันเลย

อยากให้บอมเลิกกับอิเเมทเลยยย เพราะเรารู้สึกว่าเพราะรักมากนี่ล่ะถึงอภัยให้กันไม่ได้

ปล.เสียมากที่มาอ่านเรื่องนี้วันปีใหม่ ค้างคาข้ามปีเลยทีเดียว 5555
HNY คะคนเขียน
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 31-12-2016 23:37:18
อยากอ่านมาก   อยากรู้บอมจะเป็นยังไง  ( คิดว่าคงเศร้ามากแต่คงไม่ยกโทษให้แมท   เจ็บแล้วต้องจำ :ling3:

แมทกับดิวจะคบกันต่อรึเปล่า  ( เชื่อเถอะคนอย่างแมท  อีกหน่อยก็ทิ้งดิว )

คนเขียนมาต่อเถอะนะ    รออ่านข้ามปีเลย  ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 31-12-2016 23:40:38
อยากอ่านต่อมาก โอยยยยยยย
ตอนบอมร้องไห้นี่ตะโกนตามบอมเลยนะ "มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง!!!! แมท!!!"
บีบหัวใจมาก
บอมไม่เคยปกป้องคนอื่นเลยนะ ตอนนั้นที่แมทจับได้ บอมก็ยอมแมททุกอย่าง ไม่ปกป้องคนอื่นเลย
แต่แมท -- เฮ้อ รับไม่ได้ว่ะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: pawara123 ที่ 31-12-2016 23:47:16
ฟิน อินมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 01-01-2017 01:18:53
อย่าปล่อยให้ค้างแบบนี้! กลับต่อก่อน!
เอาจริงนะถึงแม้ว่าบอมจะมีชู้ แต่บอมก็ไม่เคยพาชู้เข้าห้องแฟนป่ะ? แต่แมทมันไม่ใช่อะ

หรือแมทจะไม่ใช่พระเอก?
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-01-2017 02:00:16
เลิกเหอะบอมเอ้ย....สิ่งที่แมททำมันเกินอภัย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 01-01-2017 02:20:03
เราดีใจที่อีก 5 ตอนจบ แสดงว่าแมทไม่มีทางคืนดีกับบอมสำเร็จ (รึเปล่าหว่า) เราไม่กล้าอ่านแต่ละวรรค เราขอโทษจริงๆ เรื่องการนอกใจของแมทเราไม่กล้าอ่านจริงๆ อ่ะ 55555 ย้ำสองรอบ ดีใจที่อย่างน้อยๆ บอมก็ตัดสินใจทำร้ายร่างกายของดิวและแมท เพราะทุกอย่างมันเจ็บไปหมด ขอให้บอมดูแลตัวเองนะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: PaePT ที่ 01-01-2017 02:46:55
เราว่าแมทน่ากลัวมากที่สุดในเรื่องนี้

ก่อนอื่นคือไม่แน่ใจว่าผู้เขียนออกแบบตัวละครแมทให้มีนิสัยแบบนี้จริงๆ หรือไม่ได้โฟกัสในจุดนี่ที่เราว่าน่ากลัวคือ
ตอนที่แมทจับบอมได้เรื่องมีอะไรกับคนอื่น แมทไม่ได้มีการหันกลับมามองตัวเองเลยด้วยซ้ำ ว่าเราก็ทำแบบนี้
คือไม่มีการบรรยายความคิดแมทในส่วนนี่ซึ่งตามปกติ มันควรมีการหันมามองตัวเองหรือเปล่าว่าเราก็ทำเหมือนกัน
แล้วจะนอกใจต่อเพื่อนแก้แค้นหรือหยุดอะไรก็ว่า แต่แมทไม่มีการทวบทวนตัวเองในส่วนนี่ จึงไม่แน่ใจว่าผู้เขียนตั้งใจ
หรือไม่ในเรื่องนี้ เพราะถ้าตั้งใจออกแบบให้แมทไม่รู้สึกว่าต้องหันกลับมามองตัวเองว่าตัวเองก็ทำตัวเองก็ผิด
จริงๆ แมทจะเป็นตัวละครที่เลวร้ายมากๆ และน่ากลัวมากๆ เพราะไม่ได้รู้ว่าตัวเองผิด คือโกรธและว่าบอมต่างๆนานๆ
แต่ตัวเองก็ทำ โดยที่ไม่ได้นึกคิดถึงส่วนนี่เลย เราจึงมองว่าการที่แมท ยอมให้ต่อยมีความนิ่งสงบกับบอมยอมให้ทำร้าย
แมทเพียงแค่เสียงใจที่โดนจับได้ และกำลังอึ้งอยู่ทำอะไรไม่ถูก แต่ไม่ได้สำนึกว่าตัวเองนั้นก็ทำผิดแล้วก็ทำให้ชีวิต
ทั้งคู่พัง
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 01-01-2017 04:24:15
ขอจบไม่สมหวังนะคะ ถ้าสมหวังนี้แม่งแฟนตาซีไปละ 55555
เห็นตอนนี้อีเลวมันไม่ได้รักบอมแล้วละ
ถ้าสมหวังแมทบอมนี้ เราว่าเกินไปโครต
ถ้าบอมแม่งโง่กับไปคบก็ควายเต็มทีละ
หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-01-2017 06:18:27
เธอมีชู้

บทที่ 11

ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา น้ำตาก็ไหลรินเป็นสายอาบแก้มที่เริ่มบวมจากกำปั้นของแมท ผมยกแขนขึ้นบดบังดวงตาช้ำๆ ของตนเองเอาไว้ ภาพพวกนั้นยังหลอกหลอนผมอยู่อย่างหนักหน่วง ผมควรทำใจกับเรื่องนี้ยังไงดี ผมไม่ได้อยากให้มันกลายเป็นอย่างนี้เลย แล้วทำไมละ...ทำไมมันถึงกลายเป็นอย่างนี้ได้ เราสองคนรักกันไม่ใช่หรอ แต่ทำไมต้องจบกันแบบนี้ด้วย

“ไอบอม...”

“เต้ กล้า กู...ฮื่อๆ” ผมยันตัวคว้าไอ้กล้าที่ใกล้สุดเข้ามากอด กล้ากอดตอบ เต้ลูบหลังผมเบาๆ เป็นการปลอบแม้จะยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ตาม

“เล่าให้พวกกูฟังไหวไหมวะ” เสียงเต้ถาม

“กูตั้งใจจะกลับไปเซอร์ไพรส์แมท ฮึก...กูคิดว่ามันต้องดีใจมากแน่ๆ ที่กูกลับมาก่อนเวลา ตลอดการเข้าค่ายสองวันมึงก็รู้ว่าไม่ได้ติดต่อกับมันเลย กู...คิดว่ามันต้องติดถึงกูมากๆ เหมือนที่กูรู้สึก แต่ไม่เลยมึง ฮื่อ...ไม่เป็นอย่างนั้นเลย ฮึก มัน...มันพาคนอื่นมานอนที่ห้อง ตะตอนที่ฮึกกูกลับไป กูเจอมันสองคนเอากัน!” ผมเล่าไปร้องไห้ไป ทุกอย่างในวันนี้หนักหน่วงเหลือเกิน

“เอ่อ...” เต้ถึงกับพูดไม่ออก เรื่องของผมเพิ่งผ่านไปเอง

“กูไม่อยากจะเชื่อ...” กล้ากอดผมแน่นขึ้น

“กูก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน...” แล้วผมก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหนักหน่วง

เหมือนใจจะขาดจริงๆ ยิงร้องไห้ก็ยิ่งทรมาน ราวกับน้ำตาร้อนดั่งน้ำเดือดที่รินรดอาบดวงตาและแก้มเนียน ผมสะอึกสะอื้นจนเหมือนจะขาดใจตาย มันเจ็บไปหมดเลย แค่หายวจมันก็ยังเจ๋บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

“ทั้งที่มันดูออกจะรักมึงมากขนาดนี้ แล้วทำไมมันถึงทำแบบนี้ได้วะ” กล้าพูดอย่างหัวเสีย

“เพราะมึงนอกใจมันก่อนเปล่า”

“ถ้ารักไอบอมจริงก็ต้องไม่เอาคืนด้วยวิธีนี้ดิวะ ก่อนหน้านี้ที่จับได้ว่าไอ้บอมนอนกับผู้หญิงคนอื่นมันก็ทำร้ายจิตใจบอมไปเยอะเหมือนกันนะเว้ย แค่นั้นก็น่าจะพอ แบบนี้กูว่าไม่ใช่ละวะ มันน่าจะเป็นสันดานของมันมากกว่า ดีไม่ดีมันอาจคบซ้อนตั้งนานแล้ว แล้วที่มาทำเป็นหวงไอบอมก็เพราะกลบเกลื่อนไม่ให้บอมสงสัยที่มันมีคนอื่น” กล้าร่ายความคิดของตัวเองออกมายาวเหยียด ผมก็เห็นด้วยกับสิ่งที่มันบอก มันต้องมีอะไรมามากกว่านั้นไม่งั้นมันไม่ออกโรงปกป้องดิวขนาดนั้นหรอก

“แล้วมันไม่ง้อมึงเลยหรอวะ” ผมส่ายหัวให้กับถามเต้

“มันปกป้องไอ้เหี้ยนั่น...ทั้งที่กูยืนร้องไห้ใจจะขาดอยู่ตรงหน้ามัน มันยังกอดไอ้เหี้ยนั่นอยู่เลย!” นึกถึงภาพนั้นแล้วเหมือนใจจะขาด ภาพที่พวกเขาสองคนกอดกันด้วยควารัก

กูละ...มึงเอากูไปไว้ที่ไหน ในหัวใจของมึงเคยมีกูอยู่ในนั้นไหมหรือว่าไม่เคยมีกูอยู่มาตั้งแต่แรก คบกูเพราะอะไรกันแน่ ความพยายามที่จะชนะใจกูเมื่อครั้งอดีคิอภาพลวงตาที่มึงสร้างมาให้กูเชื่ออย่างนั้นสินะ มึงก็แค่ต้องการร่างกายกู ไม่ได้รักกูในแบบที่กูเป็นเลยสักนิด

“กูจะไปคุยกับเอง”

“ไม่เต้...ไม่ต้อง ให้มันจบกันไปทั้งแบบนี้แหละ” ผมพยายามปาดน้ำตาออกจากหน้า เสื้อของกล้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำจนแทบชุ่ม

“มึงจะยอมง่ายๆ แค่นี้หรอ มันไม่สมเป็นมึงเลยนะบอม” กล้าบอก

“กูก็เคยคิดว่ากูจะไม่มีทางยอม แต่ถ้ามึงได้เห็นสายตาห่วงใยที่มันมีให้กับเด็กนั่นมึงจะเข้าใจว่ากูรู้สึกยังไง มันไม่ได้รักกูเลย...ไม่มีรักให้กูสักนิดแล้วกูจะกลับเข้าไปยื้อมันเอาไว้ทำไม ฮึก...มันไม่ยอมบอกว่ารักเด็กนั่นไหม แต่ก็ไม่ปฏิเสธอะไรเลย มันเหมือนต้องการเก็บเด็กนั่นไว้ทั้งที่กูคือแฟนมัน กูเจ็บ...กูโคตรเจ็บเลยมึง” น้ำตาพาลไหลออกมาอีกจนได้ ทั้งที่พยายามจะกลั้นเอาไว้ พยายามจะไม่ร้องไห้อีก แต่มันทำไม่ได้เลย

“อืม...” กล้าเข้ามากอดผมเอาไว้อีก เต้ก็ลูบหลัง แค่นี้ที่พวกมันทำให้ผมได้ในตอนนี้

ไม่มีใครสามารถบรรเทาความเจ็บปวดทางใจให้กับผมได้เลย ต่อให้แมทมันจะกลับมาหา กลับมาอธิบายคำโกหกเหี้ยๆ ให้ผมฟัง มันก็ไม่อาจลบเลือนภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้ ผมไม่เคยนึกไม่เคยฝันเลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ เคยได้ยินแต่คนอื่นเขาพูดถึงกัน ผมฟัง ผมอ่านผ่านไม่สนใจ ไม่เคยเข้าหัวจนกระทั่งได้เจอกับตัวเองจริงๆ ผมถึงรู้ว่ามันทรมานแค่ไหน

คนพวกนั้นผ่านมันมาได้ยังไงกันนะ...

ผลการร้องไห้เป็นเวลานานมักส่งผลเสียต่อร่างกาย ผมปวดหัวอย่างรุนแรง แถมยังมองภาพอะไรไม่ชัดอีกเลย หัวมันหมุนติ้วไปหมด คลื่นไส้ อยากจะอ้วก แต่ก็ยังคงร้องไห้ต่อไป ไม่ว่าเต้กับกล้าจะพยายามพูดให้ผมหยุดร้อง แต่ผมก็ทำไมได้นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ผมร้องไห้หนักมากมายขนาดนี้

แมท...มึงจะภูมิใจที่ทำให้กูเป็นได้ขนาดนี้

แมท...มึงจะสะใจหรือเปล่าที่กูเจ็บเจียนตายขนาดนี้เพราะมึง

ไม่สิ...มันคงไม่รู้สึกอะไรเลยมากกว่า ก็มันรักคนนั้น มันจะมาสนใจใยดีผมทำไม ผมจะเป็นจะตายมีค่าอะไรกับมันละจริงไหม คนที่น่าเป็นห่วงคือดิวเท่านั้นแหละสำหรับมัน ดีไม่ดีมันอาจจะโกรธเกลียดผมไปแล้วก็ได้ที่ทำให้คนรักของมันต้องเจ็บช้ำขนาดนั้น

หึ! คิดแล้วก็แค้น ผมน่าจะฆ่ามันให้ตายๆ ไปเลย ในเมื่อทำผมเจ็บผมก็อยากให้มันเจ็บปวดแบบที่ผมได้รับเช่นกัน และถ้ามันไม่กอดดิวเอาไว้ ไม่มอบสายตาห่วงหาอาทรให้กันขนาดนั้นผมก็คงกระทืบดิวจนตายไปจริงๆ อย่างที่ใจต้องการแล้ว แต่การการะทำของแมทมันเหมือนอาวุทที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดที่ทำให้ผมทรุด พ่ายแพ้ย่อยยับจนยากจะกลับมายืนหยัดได้อีก

“เต้...”

“ว่าไงมึง”

“กูอยากกินเหล้า” เต้กับกล้ามองหน้ากัน เป็นกล้าที่พยักหน้าให้ก่อนเต้จะระบายยิ้มให้กับผม

“ได้ดิ แต่มึงต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ ไม่เข้าใจว่าไปทำอะไรมา ทำไมมอมขนาดนี้”

“กูตกบันไดน่ะ” เต้กับกล้าตาโต

“มึงตกบันได! มันผลักมึงหรอ หรือว่าไง!” กล้าขึ้นเสียงซักไซร้

“เปล่า กูวิ่งลงมาแล้วขามันอ่อน...” สีหน้าของเพื่อนทั้งสองอ่อนลง

“เจ็บมากไหมมึง” เต้ถาม

“ไม่เท่ากับใจกูหรอก” พูดจบน้ำตาก็ร่วงหล่นลงมาอีกครั้งทั้งที่มันหยุดไปแล้วเมื่อกี้นี้

“หยุดร้องแล้วไปอาบน้ำซะ จะได้ไปแดกเหล้ากันนะมึง” กล้าเปลี่ยนเรื่อง ผมพยักหน้าให้มันสองคนแล้วลุกไปทางห้องน้ำ

เต้เอาชุดของมันมาให้ใช้ก่อน ซึ่งผมรู้สึกขอบคุณมากจริงๆ ดีที่มีเพื่อนดีๆ แบบนี้ไว้ข้างกาย ไม่งั้นผมคงไม่รู้จริงๆ ว่าจะไปที่ไหน ไปขอความช่วยเหลือจากใครดี นอกจากแมทและเพื่อนทีไม่ค่อยสนิทที่คณะ ผมก็มีแค่พวกผู้หญิงที่คบไม่จริงจัง จะไปขอร้องใครก็คงไม่ดีทั้งนั้น กล้าอยู่ในห้องรอผมอาบน้ำ ส่วนเต้ออกไปซื้อของมาสำหรับกิน นั่นน่าจะมีทั้งเหล้าและกับแกล้ม

RrrrRrrr!

ผมมองกล้าที่ถือโทรศัพท์ของผม มันหันหน้าจอมาให้ดูก็พบรูปของแมทยิ้มหวานน่ารักมาให้ รูปนี้ผมเป็นคนถ่ายเองกับมือ เป็นตอนที่เราเอ็นติดแล้ว มันมาขอให้ผมไปอยู่กับมันที่คอนโดและผมก็ตกลงเพราะอยากอยู่กับมันเหมือนกัน แม้จะขาดอิสระไปบ้างแต่การได้ใช้ชีวิตกับคนที่เรารักนั้นเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการทั้งนั้น แมทยิ้มกว้างและมันบอกว่าดีใจที่สุดเลย ผมเลยถ่ายรูปใบหน้านั้น เก็บไว้เป็นทีระลึกถึงความสุขที่เราสองคนจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

แต่มัน...เป็นอดีตไปแล้วละ

“อย่ารับนะกล้า” น้ำตารื้นขึ้นมาอีก ผมอุตส่าห์รีบอาบน้ำเพราะจะได้ไม่ดราม่าอยู่ในนั้นนาน เห็นกล้ารออยู่ด้วย ผมเองก็ไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองคนของผมต้องเป็นห่วงผมมากนัก ผมเข้าใจดีว่าการที่ที่เรารักนั้นกำลังเศร้าน่ะมันมอบความรู้สึกอย่างไรให้

“ไม่คิดจะคิดจะคุยเลยใช่ไหม” มันถาม

“กูควรคุยอะไร ฟังคำขอโทษจากมันหรอ...ให้มันเอาคำโกหกตอแหลมาใช้กับกูหลังจากที่มันปลอบโยนไอ้เด็กนั่นจนเขื่องไปแล้วใช่ไหม กูไม่เอาหอก กูกลัว...กูไม่อยากเจ็บแบบนี้ซ้ำสองอีกแล้ว แค่ตอนนี้กูยังเอาตัวเองไม่รอดเลย อยากจะตายๆ ไปด้วยซ้ำถ้าหากมันทำกับกูอีก กูคงไม่ลังเลที่จะปาดคอตัวเอง” ผมพยายามยิ้มที่น้ำตาไหลอาบหน้า อยากให้คำพูดฟังดูเหมือนเรื่องตลก ไม่ใช่มอบความเศร้าสร้อยให้กับเพื่อนอย่างนี้

กล้าวางมือถือผมไว้บนเตียงไอเต้แล้วเดินเข้ามารวบผมเข้าไปกอด มืออุ่นๆ ลูบไล้แผ่นหลัง ผมกอดตอบและบอกขอบคุณจากใจ กล้าแค่ยิ้มให้แล้วพาผมออกไปนั่งเที่ห้องนั่งเล่นรอเต้โดยที่ยังถือมือถือผมออกมาด้วย ไม่รู้หรอกว่ามันจะเอามาทำอะไร แต่ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อน จึงปล่อยไปทั้งอย่างนั้น

ผมกับกล้านั่งเวียบรอเต้กลับมา มันหอบของพะรุงพะรังเข้ามาในห้อง กล้ารีบเข้าไปข่วยถือและจัดแจงเตรียมของให้พร้อม ในขณะที่ผมทำได้แค่นั่งเหม่อมองอย่าวไรจุดหมาย สายตาไม่ได้โฟกัสสิ่งใดเลยนอกจากภาพในความทรงจำอันเลวร้าย บอกตัวเองให้เลิกทำแบบนี้แต่สุดท้ายผมก็ยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์นี้อยู่ดี ผมถึงคิดอิจฉาคนที่ผ่านเรื่องนี้ไปได้ พวกเขาทำยังไง แนะนำผมบ้าง...ช่วยผมที

ผมทรมานเหลือเกิน...

“แมทโทรมาหรอวะ” เต้ถาม

“เออ โทรมาตั้งแต่มึงลงไปได้สักพักอะแหละ แต่บอมไม่ให้รับ” กล้าอธิบาย

“แต่กูอยากรับสาย” เต้ยอก ผมเหม่อแต่ผมได้ยิน ผมหันไปมองเต้ช้าๆ ยิ้มให้มันบางๆ

“เต้...”

“ว่า?”

“กูขออยู่กับมึงได้ไหมวะ แค่ขั่วคราว เดี๋ยวกูหาห้องใหม่ได้เมื่อไหร่กูจะย้ายออกทันทีเลย” ผมดึงเต้เปบี่ยนเรื่อง อยากให้มันเมินสายเรียกเข้าที่ทำเอาเครื่องร้อนนั้นซะ

“ได้ดิ จะอยู่กับกูตลอดไปยังได้เลย ยังไงซะมึงก็เพื่อนกู ไม่ต้องเกรงใจหรอก ดีซะอีก กูจะได้มีเพื่อนนอนด้วย” เต้ยิ้มก่อนส่งแก้วเหล้าที่ชงเรียบร้อยมาให้ผม

“ขอบใจมากนะมึง ไม่ได้พวกมึงกูคงแย่”

“คิดมาก ถึงพวกกูจะปากหมาแต่พวกกูไม่ทิ้งเพื่อนหรอก มึงอะต้องสู้นะ ระดับท่านบอมแล้ว เรื่องแค่นี้สะเทือนไม่นานหรอก สาวๆ รอดามใจมึงเพียบ คิดง่ายๆ ก็ได้ว่าจะได้กลับไปทำตามบรรขาพระเจ้าไงมึง หน้าที่สืบพันธุ์ของมึงอะ” คำพูดของกล้าจุดรอยยิ้มให้กับผม สมเป็นมัน กวนตีนจริงๆ
“แหม่ พูดซะกูอยากทำเดี๋ยวนี้เลย” กล้ากับเต้หัวเราะเบาๆ แล้วเราก็ชนแก้วกัน

ผมหัวเราะกับเพื่อนได้ไม่นานเท่าไหร่ รวามเงียบมันโรยตัวลามาจากไหนไม่รู้ ปกคลุมตัวผมเต็มไปหมด ตอนนี้ผมไม่เห็นใครอยู่ในสายตาสักคน นอกจากภาพที่แมทกอดดิวเอาไว้ในอ้อมแขน สายตาห่วงหาอาทร นั้นเป็นเหมือนมีดทิ่มแทงใจ ทั้งที่ผมไม่เหลืออะไรแล้วแต่ก็ยังเจ็บบปวดอยู่ดี

คนเราจะแบกรับความเจ็บปวดได้มากน้อยขนาดไหนกันนะ...

ผมสงสัย ถ้าผมยังสลัดเรื่องของแมทออกไปไม่ได้ ผมจะเป็นยังไงต่อไป ต้องเจ็บอย่างนี้ไปเรื่อยๆมเลยหรือเปล่า แล้วมันจะหายไหม หรือทำยังไงให้มันหายไป หัวใจคนเรามันสามารถยับเยินได้กี่หน หากภาพพวกนั้นนั้นมันทำร้ายซ้ำๆ อยู่แบบนี้ ผมจะทนได้ไหม... เท่าที่รู้อยู่ในตอนนี้คือผมไม่สามารถทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้และรู้สึกเจ็บจนอยากจะตายๆ ไปให้พ้น

ผมดูยึดติดกับความรัก แต่อย่างที่รู้...ผมมีคนอื่นจริงผมไม่ปฏิเสธในความผิดข้อนี้ของตัวเอง แต่คนที่ผมรักมากที่สุดก็คือแมท ผมอาจผิดที่ริดว่ามันจะไม่มีทางทำแบบนี้กับผมได้ลงคอ ยังเชื่อด้วยว่ามันจะเข้าใจเรื่องผู้หญิงของผมดี มันอาจโกรธ แต่คงไม่ถึงขั้นเลิกรา เพราะมั่นใจแบบนั้นไง ผมถึงเป็นแบบนี้เรื่อยมา แล้วไง...สุดท้ายความคิดของผมมันก็เป็นเพียงเรื่องโง่ๆ

RrrrrRrrr!

เมื่อความเงียบเข้าครอบงำพวกเรา เสียงมือถือที่เคยถูกเมินไปก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้นมา ผมไม่สน ไม่หันไปมอง แต่ก็ไม่เห็นว่าเต้ได้หยิบมันขึ้นมามองเสียแล้ว มันทำในสิ่งที่ผมไม่อยากให้ทำ นั่นคือรับสายแมท...

“โหล” ผมเงยหน้าช้าๆ มองเต้ที่ถือมือถือไว้ตรงกลางวง

(เสียงใครวะ บอมอยู่ไหน!) คนในปลายสายตะคอกถาม

“กูเต้” เต้ตอบแค่นั้น

(ไอบอมอยู่กับมึงใช่ไหม ให้มัมารับสายกูที) มันสองคนหันมาจ้องผมเป็นตาเดียวทันที สิ่งที่มันพบก็มีแต่น้ำตาเท่านั้น...ผมอ่อนแอเกินไป ส่ายหน้าสะบัดไม่ยอมจะคุยอะไรกับแมท

“มึงจะคุยอะไรวะ คุยกับกูก็ได้...” เสียงของเต้ราบเรียบ สีหน้าบึ้งตึง กล้ายกแก้วเหล้าตัวเองมานั่งข้างผม กอดไหล่ผมเอาไว้ ผมเลยหันไปซบบ่าบอบบางนั้น

(ไม่ กูจะคุยกับบอม เรียกมันมาคุยกับกู) แมทไม่ยอม มันขึ้นเสียงใส่เต้

“แล้วถ้ากูบอกว่ากูไม่ให้คุยละ ไอ้สัส...ทำมาเป็นขึ้นเสียงใส่กู ทำเหี้ยไรกับเพื่อนกูไว้ก็หัดสำนึกบ้างนะ!!!” พออีกฝ่ายร้อนใส่ เต้ก็ขึ้นทันที ผมหันไปมอง สีหน้าเต้ดูโกรธเกรี้ยว มือกำแก้วจนน่ากลัวว่ามันจะแตกคามือแกร่ง

(ก็กูจะเคลียกัยมันอยู่นี่ไง ให้มันมาเคลียกับกู) แมทไม่ยอม

“ไม่มีเหี้ยไรต้องเคลียทั้งนั้นแหละไอ้สัส”

(มีดิ! ถ้ามันจะเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวตัดสิน กูก็อยากให้มันคิดถึงตอนที่มันทำกับกูบ้าง!) เหี้ย เอาเรื่องนี้มาย้อนกู...

ผมแทบกระอักน้ำตาออกมา ต้องปิดปากเอาไว้กลั้นเสียงสะอื้นที่อาจจะเล็ดลอดออกไปให้อีกคนมันได้ยิน ใช่ผมมันคนมีประวัติ ผมมันทำเลวใส่แมทมาก่อน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแบบนี้กับผมนี่ ผมสำนึกผิดแล้ว มันเองก็ดูให้อภัยผมแล้วไม่ใช่หรอ

“อ่อ เอาเรื่องนี้ขึ้นมาซ้ำเติมมันเชียวหรอ มึงมันหน้าด้านแมท บอมมันเหี้ยกูรู้ แต่มันก็ไม่เคยปกป้องคนอื่น มันรักมึง มันยอมมึง มึงน่าจะรู้ดีที่สุด อย่าให้คนนอกอย่างกูต้องมาสั่งสอนหน่อยเลย” เต้เดือดจนถึงขั้นวางแก้วกระแทกโต๊ะดังสนั่น

(งั้นคนนอกอย่างมึงก็หุบปากไปสัส!) แมทเริ่มหัวเสียหนักพอกัน มันไม่ค่อยพูดจาหยาบคาย แต่ตอนนี้มันคงเดือดไม่น้อย

“ได้...บอมพูดกับมันสิ” เต้ยื่นมือถือมาตรงหน้าผม

แต่...ผมกดตัดสายทิ้งด้วยเรียวนิ้วสั่นๆ ของตัวเอง เพียงแป็บเดียวที่มันตัด แมทก็โทรเข้ามาอีกครั้งด้วยความไว  ผมก็กดตัดสายไปอยู่ดี เต้ดึงมือถือไปปิดเครื่องให้ เอาไปวางที่อื่นปล่อยให้ผมได้ร้องไห้

ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกเลย ทุกอย่างมันเงียบจนได้ยินเสียงน้ำตาตกกระทบพื้น ผมก้มหน้าก้มตาร้องอย่างกับคนบ้า เกิดมาในชีวิตไม่เคยเป็นขนาดนี้เลย นี่ครั้งแรก และผมให้มันเป็นครั้งเดียว

ไม่อยากคิดเรื่องจะมีรอบสองหรอก เพราะครั้งนี้ผมจะผ่านมันไปได้ไหมผมก็ไม่รู้ ยังไม่เห็นหนทางที่จะทำใจจากเรื่องที่เกิดขึ้นได้เลย ทรมานหัวใจจนอยากควักมันออกมาแล้วปาทิ้งใส่ถังขยะ ความเจ็บปวดที่สุมอยู่ในอกนี้จะได้ปลิวหายไปพร้อมกับเศษซากของก้อนเนื้อนั้น ถ้าทำให้ผมความสุข

 “กูผิดอะไร...” คำถามในหัวหลุดออกมาทางปากที่สั่นระริก น่ำตามากมายทะลักเข้ามาให้รับรู้รสชาติแห่งความเจ็บปวด

“กูผิดอะไรวะ...” มันไม่มีทาวได้รับคำตอบ เต้กับกล้าไม่อาจตอบคำถามข้อนี้ของผมได้ เหมือนกับที่ผมเองก็ไม่สามารถตอบคำถามนี้เช่นกัน

ผมเจ้าขู้...ผมยอมรับ แล้วต้องทำขนาดนี้กับผมเชียวหรือ เอามีดมาแทงกันง่ายกว่าไหมถ้าต้องการทำร้ายกันจริงๆ ทำแบบนี้ทำไม ทำกับผมขนาดนี้ได้ยังไง เชมันจะรู้ไหมว่าผมทรมานขนาดไหน ผมร้องไห้จะเป็นจะตายต่อหน้ามันมันยังไม่แคร์ผมเลยสักนิดเดียว แต่กลับไปสนใจไอ้เหี้ยนั่น สนใจแต่มัน ทำกันต่อนห้าต่อตาผมเมหือนต้องการฆ่ากันให้ตายไปเลย ถ้าผมหมดลมหายใจตรงนั้นมันคงจะดีใจมากเลยสินะ

“ฮื่อๆ กูผิดอะไรละ....ฮื่อๆ ทำกับกูฮึ้กแบบนี้ได้ยังไงละแมท” สองมือกุมใบหน้าของตัวเอง แต่ความเสียใจสั่งการให้นิ้วงอเข้าหาผิวหน้าที่อ่อนนุ่ม กดจิกมันเข้าไปราวกับจะทึ้งมันออกมา มันเจ็บนะ...แต่ไม่อะไรเจ็บเท่ากับภาพในหัวผมอีกแล้ว


มีต่อจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-01-2017 06:23:18
 :katai5: ต่อจ้า

“อย่า...” กล้าดึงมือทั้งสองของผมออกเมื่อมันเห็นรอยแดงเป็นปื้น นัยน์ตาเพื่อนสนิทเคลือบไปด้วยหยาดน้ำ

“อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้” มันกอดผมเอาไว้ กอดให้แนบแน่นเพื่อจะให้ความอบอุ่นที่เจ้าตัวมีซึมซาบลงสู่หัวใจที่บอบช้ำ แต่มันไมเป็นผลเลย

สองมือของผมยังคงขยับเข้ามาจิกทึ้งเส้นผมของตัวเอง ได้ยินเสียงคร่ำครวญร้องไห้ออกมาดังขึ้น ดังขึ้น กรีดร้องออกไปอย่างกับคนบ้า หัวเหอยุ่งเยิงไม่เป็นทรง กล้าทำได้แค่กอดผมเอาไว้ พูดอะไรสักอย่างเพื่อควบคุมสติที่มีน้อยเต็มทีของผม แต่มันเอาไม่อยู่ เต้น้องเข้ามาดึงมือของผมไปจับไว้ ผมก็ยังแหกปากร้องอยู่ดี ยังตะโกนไม่เป็นคำเพื่อให้ระบายความเจ็บร้าวในหัวใจ

“พอทีเถอะบอม...พอที” เสียงของกล้าสั่นไหว พร้อมกับร่างกายที่กระเพื่อมรุนแรง

“ฮื่อ...! ฮื่อๆ” แต่ผมไม่สนใจมันเลย ไม่สนว่าคนรอบข้างจะเจ็บปวดกับการกระทำของผมไหม

ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว ผมกำมือเป็นหมัดแนนแม่ว่าเต้จะตรึงมือทั้งสองของผมไว้อยู่ด้านหลังกล้า ฝังคมเล็บลงไปในเนื้อ เพื่อให้ตัวเองเจ๋บปวดซ้ำเข้าไปอีก เต้เห็นก็รีบง้างมือผมออก สีหน้ามันไม่ดีเลย กูขอโทษ...กูทำให้พวกมึงลำบากใจ

ทั้งที่รู้ดี ทั้งที่เข้าใจ แต่ไม่อาจหักห้ามอะไรตัวเองได้ ในเมื่อทำให้ตัวเจ็บไม่ได้ ก็ต้องร้องไห้ต่อไปเหมือนคนบ้า น้ำตาที่รินรดใบหน้าไม่ต่างจากมีน้ำมาสาด เพียงแต่มันทุเรศยิ่งกว่านั้นมาก

เนิ่นนานทีเดียวกว่าผมจะใจเย็นลงได้ พวกมันทั้งสองคนค่อยๆ คลายพันธนาการร่างกายผมให้เป็นอิสระ แต่กล้ายังคงร้องไห้อยู่ มันพยายามปาดน้ำตาตัวเองทิ้ง สบตากับผมที่เหม่อลอยไร้ทิศทาง มันจึงตบหน้าผมเบาๆ ผมยิ้มให้แล้วเอี้ยวตัวไปคว้าขวดเหล้ามาดื่ม เต่แย่งไว้ไม่ทัน ตอนนี้เหล้าจำนวนมากกำลังไหลลงคออีกทั้งยังหกเรอะเปรอะเปื้อนร่างกายผมไปหมด

“บางที...ถ้ากูเมากูอาจจะดีขึ้น” ยิ้มทั้งน้ำตาให้เพื่อนทั้งสอง

“งั้นกินดีๆ เถอะนะ...” กล้าขอร้อวเสียงสั่น ผมสงสารเพื่อน เลยพนักหน้าแล้วปล่อยให้พวกมันชงเหล้าให้

เห็นหน้าเต้และน้ำตาของกล้าแล้ว ผมพยายามนิ่งทีสุด ปล่อยน้ำตาให้ไหลไปเรื่อยๆ โดยไม่ฟูมฟายออกมาอีก เร่งดื่มเพื่อจะเมาและหลับไปทั้งแบบนั้น ไม่นานภาพตรงหน้าของผมก็เริ่มเอียง รางกายไถลไปกับโซฟาตัวยาว ผมยังคงร้องไห้ แต่ผมไม่ไหวแล้วที่ตะทรงตัวอยู่ต่อไป เปลือกตาปิดบงทีละน้อยจนมองไม่เห็นสิ่งใดอีก

“แมท...” เรียกหามันด้วยความเสียใจก่อนที่ทุกอย่างในวันนี้จะจบลง

ภาพที่เขาสองคนกอดกัน ปกป้องซึ่งกันและกันเด่นชัดอยู่ในความฝัน หลอกหลอน ทำร้ายกันแม้จะอยู่ในนิทรา มันเป็นที่เดียวแท้ๆ ที่ผมจะสามารถควานหาความสุขเดิมๆ ของตัวเองได้ แต่ก็ไม่ ทั้งที่หลับแต่กลับร้องไห้สะอึกสะอื้น ผมไม่อาจทนต่อไปได้จึงเปิดเปลือกตา จ้องมองเพดานโดยไม่สนใจอาการต่างๆ ที่กำลังรุมเร้า

ช่างมันสิถ้าตาผมจะแดงก่ำเหมือนเลือดคั่งและบวมช้ำ

ช่างมันสิถ้าแขนขาของผมจะขยับแทบไม่ไหวเพราะพิษไข้รุมเร้า

ช่างมันสิถ้าหน้าอกของตัวเองจะปวดร้าวมากแค่ไหนเวลาต้องหายใจ

ช่างมัน...ช่างมันให้หมดนั่นแหละ

“มึงไปเรียนเถอะกล้า เดี๋ยวกูดูบอมให้เอง” เสียงคนด้านนอกแว่วเข้าหู

“ไม่ไปไม่ได้หรอ กูเป็นห่วงมัน กูสงสารมัน แมทไม่น่าทำร้ายมันขนาดนี้”

“กูรู้...แต่มึงต้องไป จดแลคเชอร์มาฝากกูด้วยนะ ส่วนบอมกูดูแลเอง มึงก็เห็นตอนมันคลั่ง มึงเอามันไม่อยู่หรอก”

“อืม....” บทสนทนาจบลง แต่ความรู้สึกผมไม่จบ

ผมปาดน้ำตาตัวเองออก กลั้นใจไม่ร้องร้องไห้เพราะเห็นใจมันทั้งสองคน เต้กับกล้าคงเครียดเรื่องผมมาก ผมต้องเข้มแข็งสักหน่อยเพื่อพวกมันสบายใจ ทั้งที่ผมเองยังคงอยู่ในนรกที่เรีกว่าความเจ็บปวดอยู่เลย ผมยังออกจากสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้หนักหนาเหลือเกิน แมทได้หยิบยื่นความรู้สึกอันเลวร้ายนี้ให้ด้วยมือที่เคยทะนุถนอมกัน มือ...ที่เคยมอบความรู้ดีๆ มากมาย

แต่ในวันนี้...ไม่มีอีกแล้ว

ไม่มีมือที่เคยจับจูงให้ก้าวเดินไปด้วยกันอย่างช้าๆ ความรักของเราสิ้นสุดลงได้อย่างเลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมจะจิตนาการออกมาได้ ริมฝีปากระบายยิ้มเย้ยให้กับความโง่เขลาของตัวเอง

โง่ที่รักมันมากไป

โง่ที่เชื่อว่าความรักของมันเป็นของจริง

โง่ที่ไม่เคยคิดระแวดระวังเสือซ่อนเล็บอย่างมัน

สุดท้ายคนโง่ก็ต้องตายอย่างทุกข์ทรมานที่สุดเท่าที่จะทรมานได้ เหมือนดวงวิญญาณตายวนวียนซ้ำซากในสถานที่เดิมๆ เวลาเดิมไ เหตุการณ์เดิมๆ ผมอาจต้องแค่สักวัน สักวัน...ที่ผมคนนี้จะชินชากับความเจ็บร้าวลึกในหัวใจของตัวเอง ในเมื่อความตายไม่ได้มาเยือนเราได้ง่ายๆ สิ่งที่ทำได้คงมีแค่อดทนเท่านั้นเอง หายใจเข้าไปแม้มันจะทุรนทุรายเหมือนจะตายแค่ไหน ต้องมีชีวิตอยู่ต่อถึงแบกรับความเจ็บปวดกองโตเอาไว้ แล้วก็ภาวนาว่าขอให้ถึงวันที่จะได้พ้นจากทุกข์ในครั้งนี้ ซึ่งผมไม่รู้เลยว่ากว่าวันนั้นจะมาถึงต้องใช้เวลาเนิ่นเท่าไหร่

“กลับมาแล้วหรอ...” หันไปทางเต้และกล้า

ผมหันไปยิ้มให้เพื่อนทั้งสองคนที่เพิ่งจะกล้าให้ผมอยู่เดียวเป็นวันแรก ตลอดสามวันที่ผ่านมา เต้กับกล้าสลับกันดูแลผมไม่ยอมละสายตาไปไหน รู้สึกเป็นภาระให้เพื่อนมากๆ ผมถึงพยายามดีขึ้นให้พวกมันเห็นและไล่พวกมันไปเรียน ส่วนตัวเอง ถ้าเทอมนี้คะแนนผมแย่ก็คงต้องช่างมัน ดีไม่ดีอาจต้องเรียนใหม่ ถึงเต้จะไปแจ้งอาจารย์ให้แล้วแต่ก็ใช่ว่าผมจะหยุดเรียนได้อย่างสบายใจ

สภาพของผมตอนนี้ขึ้นเยอะ ไม่ร้องไห้แล้วเพราะตามันบวมเกินไป นี่เพิ่งหายเอง ปวดหัวแถมไม่สบายหนักมาก ดีที่ว่าอาการผมไม่น่าเป็นห่วงแล้วในตอนนี้ แต่แค่นี้สภาพผมก็โทรมสุดๆ ยามมองกระจก ภาพที่สะท้อนกลับมานั้นไม่ใช่บอมคนเดิมเลย ผมไม่เคยปล่อยตัวเองจนมีสภาพเป็นอย่างนี้ ข้าวปลาแทบไม่กิน นอนก็ไม่หลับ ถึงไม่ร้องไห้แล้วแต่น้ำตายังคงตกในอยู่ทุกวินาที ผมแค่หลอกลวงคนอื่นว่าดีขึ้นเท่านั้นเอง

“เออ วันนี้เรียนอย่างเหนื่อยเลยแม่ง” เต้ทิ้งตัวลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามผม

“อาจารย์ให้งานอย่างเยอะ แล้วเออ อาจารย์บอกมาด้วยว่าถ้าภายในอาทิตย์นี้มึงไม่ไปเรียนมึงจะได้เอฟไปแดก” นั่นไงละ หยุดเรียนบ่อยจนโดยหมายตา ผมระบายยิ้มทั้งที่แม่งยากมาก

“โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปเรียนก็ได้ แต่ว่า....”

“อะไร” เต้ถามเมื่อผมชะงัก

“ชีทงานกับพวกหนังสือไรพวกนี้อยู่ที่ห้องแมท” พูดชื่อนี้แล้วจุกขึ้นคอ ผมกล้ำกลืนก้อนเหนียวๆ นั้นลงไปแล้วเมินเฉยต่อความรู้สึกตัวเอง

“งั้นใช้ร่วมกันไปก่อน อะไรทำใหม่ได้ถ้าต้องทำก็คือต้องทำ ไว้มึงพร้อมจะกลับไปเอาเมื่อไหร่ก็ค่อยไป” กล้าสรุปให้ทันที เพราะมันรู้ดีว่าผมกลับไปเจอแมทตอนนี้ไม่ได้จริงๆ

ตลอดหลายวันที่ผ่านมาผมไม่เปิดมือถือเลย ไม่ต้องการรับรู้อะไรใดๆ ทั้งสิ้น เช้าวันแรกผมกินเหล้ากับเต้จนเมาหลับ วันที่สองนี่ดีขึ้นมาหน่อย มีกล้าอยู่ชวนเล่นเกม อะไรที่ทำแล้วคลายเครียด ลืมเรื่องนั้นได้ผมทำหมด นั่งทำรายงานที่พวกมันเอามาให้เพื่อไม่ให้ผมตามไม่ทันและไม่มีงานส่งอาจารย์ ก็ข่วยได้ดีในระดับหนึ่ง

“เออ...” เต้ขยับนั่งดีๆ มองหน้าผม

“อะไร จ้องหน้ากูซะขนาดนั้น” ผมถาม กล้านั่งเปิดเกมมือถือ แต่ก็มองมาเหมือนรู้ว่าเต้นะพูดไร

“คิดอยู่ว่าจะพูดดีไหม” มาแบบนี้เรื่องแมทแน่ๆ ถ้าผมไม่รับฟัง แสดงท่าทีอ่อนแอมันคงเป็นห่วงผมมากแน่ๆ ผมเลยจำใจยิ้มแบบการค้า ซึ่งแม่งโคตรหลอกลวง

“เรื่องแมทใช่มะ พูดดิ กูโอเค” แสดงออกให้เพื่อนได้เห็น เต้กับกล้ามองหน้ากันแล้วเต้ก็จ้องผมอีก

“วันนี้แมทมาตามหามึงกับพวกกู” เต้เอ่ยขึ้นเนิบๆ สายตาคมกำลังหยั่งเชิง ยอมรับว่าฟังแล้วกระตุกหัวใจมากแต่ก็ยังยิ้ม

“หรอ แล้วไงต่อ”

“สภาพมันดูอิดโรยมาก...” กล้าเสริม ผมหัวเราะเสียงขึ้นจมูก

“หรอ กูว่ามันตอแหลมากกว่า กูจะบอกให้นะ...ไอ้แมทมันก็สปีย์ขี่เดียวกับกูนี่แหละ ตอแหลเก่งจะตายห่า เชื่อไรได้คนอย่างมัน” พูดไปก็เจ็บ ถึงจะมีความโกรธ ความเกบียดเข้ามาเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ระหว่างผมกับมันมีแต่เรื่องดีๆ มาตลอด ความทรงจำดีๆ มันมีเยอะจนบางครั้งผมก็ยังโหยหามัน

ลึกๆ ผมยังอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม อยากให้มันแสดงออกให้ชัดๆ ว่ามันเลือกผม และรักผมมากแค่ไหน ก็ดูเป็นความคิดโง่ๆ ของคนที่รักมันมากละนะ แต่มันช่วยไม่ได้นี่ ความทรงจำระหว่างเรามันมีเยอะเกินไป ผมรักมันมากเกินไป รักแบบไม่ได้ดผื่อใจเอาไว้ว่าจะมีวันนี้ แต่อีกใจก็กลัวว่ามันจะมาแค่หลอกผมอีก มันคงไม่สละลายของมันง่ายๆ หรอก เสือยังไงก็ไม่มีทางกลายเป็นลูกแมวแน่ๆ

“อืม...นั่นสินะ ผีเห็นผี” เต้เอ่ยพลางทิ้งกายเอนพนักโซฟา

“แต่เพิ่งได้เห็นหน้าตามัน ยับเยินมากเลย ไอ้เด็กนั่นเป็นคนทำหรอวะ แก้มบวมปากแตก หมดความหล่อเลยวะ” กล้าพูดขึ้น

“กูทำเองอะ...” ผมตบตีมันอย่างไม่มียั้งมือ ทำร้ายมันสารพัด

“ตอนแรกจะจับหักมันโขกกับขอบโต๊ะ แต่ได้เด็กเหี้ยนั่นเข้ามาผลักกูแล้วกอดไอ้แมทเอาไว้ ปกป้องกัน...” คำพูดสะดุดลงกลางทางเมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจของผมอย่างที่สุด

“มึงโหดเหมือนกันนะเนี่ย แล้วไงต่อ” แต่ดูท่ากล้าจะไม่ได้สังเกตความผิดปกติของผม

“ช่างมันเหอะกล้า” เต้ตัดบท แต่ผมเอ่ยปากเล่าต่อหลังกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ

“มันปกป้องกันน่าดูเลย ดิวมันตะคอกใส่กูว่าอย่าทำแฟนมัน...ฮ่าๆ เด็กนั่นเป็นแฟน ส่วนกูเป็นน้องมันวะ” เสียงหัวเราะของผมฝืดมาก พลันน้ำตามันก็ซึมขึ้นมา ผมรีบเงยหน้า กระพริบตาไล่หยาดน้ำเหล่านั้น พวกมันเงียบ มองผมด้วยสายตาเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร...กูไม่เป็นไรแล้ว” พูดไปทั้งที่น้ำลายมันเหนียวหนืดคอไปหมด เสียงก็สั่นจนน่าสมเพช

ผมยิ้มให้พวกมันทั้งสองคนแล้วลุกหนีสายตาแห่งความห่วงใย กลัวว่าจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว เดี๋ยวจะปล่อยโฮต่อหน้าพวกมันอีกเปล่าๆ อย่างน้อยก็รักษาความรู้สึกเพื่อนเอาไว้ให้ได้ก็ยังดี อย่าให้พวกมันต้องมาทรมานกับผมมากไปกว่านี้เลย ให้ผมเจ็บปวดไปคนเดียวเนี่ยแหละ คิดซะว่า...ผมมันทำตัวเอง

เพราะผมทำก่อน แมทจึงทำบ้าง แฟร์กันดีอยู่แล้ว...ผมก็แค่ต้องทำใจและรับกับข้อนี้ให้ได้เท่านั้นเอง ดีไม่ดี แมทมันอาจจะดีกว่าผมก็ได้เพรระมันยังทนคบกับผมต่อทั้งที่มันเจอช๊อตนั้นเข้าไป ต่างจากผมที่ไม่อาจทนได้เลย

*************จบบทที่ 11***************

สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะ :L2: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: autopilot ที่ 01-01-2017 07:02:31
พอกันทั้งคู่เลย แต่เราสงสารบอมมากกว่าอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST เคาท์ดาวน์บอมแมทตอนที่ 11 [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-01-2017 08:04:58
เราว่าแมทน่ากลัวมากที่สุดในเรื่องนี้

ก่อนอื่นคือไม่แน่ใจว่าผู้เขียนออกแบบตัวละครแมทให้มีนิสัยแบบนี้จริงๆ หรือไม่ได้โฟกัสในจุดนี่ที่เราว่าน่ากลัวคือ
ตอนที่แมทจับบอมได้เรื่องมีอะไรกับคนอื่น แมทไม่ได้มีการหันกลับมามองตัวเองเลยด้วยซ้ำ ว่าเราก็ทำแบบนี้
คือไม่มีการบรรยายความคิดแมทในส่วนนี่ซึ่งตามปกติ มันควรมีการหันมามองตัวเองหรือเปล่าว่าเราก็ทำเหมือนกัน
แล้วจะนอกใจต่อเพื่อนแก้แค้นหรือหยุดอะไรก็ว่า แต่แมทไม่มีการทวบทวนตัวเองในส่วนนี่ จึงไม่แน่ใจว่าผู้เขียนตั้งใจ
หรือไม่ในเรื่องนี้ เพราะถ้าตั้งใจออกแบบให้แมทไม่รู้สึกว่าต้องหันกลับมามองตัวเองว่าตัวเองก็ทำตัวเองก็ผิด
จริงๆ แมทจะเป็นตัวละครที่เลวร้ายมากๆ และน่ากลัวมากๆ เพราะไม่ได้รู้ว่าตัวเองผิด คือโกรธและว่าบอมต่างๆนานๆ
แต่ตัวเองก็ทำ โดยที่ไม่ได้นึกคิดถึงส่วนนี่เลย เราจึงมองว่าการที่แมท ยอมให้ต่อยมีความนิ่งสงบกับบอมยอมให้ทำร้าย
แมทเพียงแค่เสียงใจที่โดนจับได้ และกำลังอึ้งอยู่ทำอะไรไม่ถูก แต่ไม่ได้สำนึกว่าตัวเองนั้นก็ทำผิดแล้วก็ทำให้ชีวิต
ทั้งคู่พัง
แมทไม่ได้หันกลับมามองตัวเอง เพราะเอาแต่โทษบอมมากกว่า ตัวนักเขียนเอานิสัยนี้มาจากรุ่นพี่ที่ใกล้ชิดกัน เวลาเมาเราชอบหลอกถามเขา ปรากฏว่าเขาไม่มีความสำนึกจริงๆ แต่ถามว่าเขารักแฟนเขาไหม เขาตอบว่าเขารักมาก เป็นแบบฉันทำได้เธอทำไม่ได้ น่าทึ่งกับนิสัยนี้จึงหยิบมาเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-01-2017 08:10:03
บอมอย่าคืนดีกับแมทมันนะ เลวมากอะ จิตใจทำด้วยอะไร ไม่มีสามัญสำนึกเลยอะ   :katai1: :katai1: :katai1:
บอมหาใหม่เอาให้ดีกว่าเดิมไปเลย ไม่ต้องไปสนมัน
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 01-01-2017 08:30:21
ไม่ใช่เพราะบอมทำก่อนแมทเลยทำบ้าง แค่สันดานมันทิ้งกันยากเท่านั้นเอง แมทนี่เข้าขั้นเลวและเห็นแก่ตัวนะ อยากเก็บไว้ทั้งสองคน ทำเป็นโมโหบอมกลบเกลื่อนไม่ให้บอมจับตัวเองได้ บอมมันมีกิ้กมันเลยไม่ได้สนใจมัวแต่จะปกปิดความผิดตัวเอง ทีนี้พอไอแมทมันจับบอมได้ ทำมาเป็นเสียใจ ตัวเองนี่ทำเหี้ยมากกว่าบอมอีก ไม่สนใจความรู้สึกบอมเลย เพราะงั้นเรื่องนี้ขอ bad end เถอะค่ะ แมทกับบอมกับมารักกันยากแล้วล่ะ ความรู้สึกที่ถูกทำลายไปแล้วมันยากที่จะกลับมาดีได้ ถึงกลับมาคบกันก็ต้องอยู่กับความหวาดระแวงอยู่ดี ปล่อยบอมไปเถอะเราสงสารนาง ส่วนแมทกับดิวคนซื่อ(จนโง่ ที่ไม่รู้ว่าเค้าแค่หลอกเอา....) ถ้าเค้าอยากคบกันก็ปล่อยไป แต่บางทีแมทอาจจะไม่เหลืออะไรเลยเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง ถ้าเด็กดิวมันไม่โง่ที่จะเชื่อถ้อยคำตอแหลของไอแมทมันนะ //อินแรงงง
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 01-01-2017 09:18:26
อยากอ่านความคิดของแมทกับดิว.   แมทคงไม่สำนึก.  แต่ดิวจะสำนึกบ้างรึเปล่าว่าควรเลิกกับคนแบบแมท.  มาต่อเร็วๆ. นะ.  อยากอ่านต่อมาก :katai4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 01-01-2017 09:53:04
บอมผิดก้อจริงแต่ไอ้แมทนี่เข้าขั้นเลวร้ายเลยง่ะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 01-01-2017 09:55:46
บอมสู้ๆนะ อดทนไว้ เรื่องผู้ชายเหี้ยๆเดี๋ยวมันก้ผ่านไป  :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 01-01-2017 10:48:52
สงสารบอมจับใจ
แมทแม่งงง....
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-01-2017 12:17:23
สร้างรอยร้าว ยาวสุดทาง อย่างที่เห็น
สร้างแผลเป็น อยู่เด่นชัด ขัดไม่ไหว
สร้างทางแยก ให้แตกแพร่ง แบ่งกันไป
คือทำร้าย ให้หัวใจ สลายลง

ถึงเอากาว ตราช้าง สร้างรอยปิด
หรือทายา ต้านพิษ ทาผิวผง
แม้แต่เชื่อม ทางชิด ให้ปิดลง
ก็ยังคง ไม่เหมือนเก่า รอยร้าวเดิม

เข้าใจตรงกันนะ
เมื่อจิตใจคนถึงที่สุด
มันก็จะหยุดกับเรื่องนั้นเองโดยอัตโนมัติ

อย่ากลับมา..ทำตัวให้เห็นว่าน่าสงสาร
เพราะมันเน่าในความรู้สึกนะแมท

เมื่อคิดจะเป็นเสือ ก็จงเป็นเสือ
ถึงจะหิวโซ..ก็เสาะหาเหยื่อใหม่กินเอง

อย่าหวนกลับมา
ถ้าตัดสินใจทิ้ง "ซาก" นั้นไปแล้ว

จะเสียสถานะเสือกระบาก
อย่างที่เมิงเป็นอยู่ โม๊ดดดดดเลย
กร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 01-01-2017 12:27:52
สู้ๆนะบอม.....หนทางยังอีกไกล :katai2-1: :katai2-1:
ทำเพื่อตัวเองเข้าไว้ :katai4: :katai4:


ปล.ความรู้สึกเรา.....เราว่าดิวมันไม่น่าจะใสซื่อขนาดนั้นนะ  มันต้องแรดเงียบร้ายเงียบอ่ะ :katai1:
     ให้ความรู้สึกว่า เหมือนเสือห่มหนังกระต่าย น่าสงสาร ใสซื่อ บริสุทธิ์ แต่ที่จริงร้ายกว่าที่คิด
     ส่วนแมท>>>> หมดคำพูดเลยจร้าาา....เห็นแก่ตัวที่สุดอ่ะ คิดถึงแต่ตัวเอง :z6:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 01-01-2017 12:38:42
เห็บเน่าบนหลังควายเด็ก
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 01-01-2017 13:03:27
แมทไม่สำนึกหรอก มันควรจะมาหาบอมตั้งแต่วันแรกๆ แล้ว โทรคุยไม่ได้แต่ก็รู้อยู่นิว่าบอมจะไปหาใครได้นอกจากเต้กับกล้า เออเนอะ โง่แล้วยังเหี้ยอีกคนเรา :z6:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pawara123 ที่ 01-01-2017 13:21:05
หูยๆๆๆ รอมาต่อไวๆๆน้า
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 01-01-2017 13:43:50
มันแย่ตอนที่แมทปกป้องดิว แมทน่ากลัวกว่าบอมมาก
ทำเหมือนรักบอมมาก แต่ตอนอยู่กับดิวก็เหมือนมีความรู้สึกให้ บอกไม่ถูกว่าตกลงแมทรู้สึกยังไง ตอนแรกก็คิดว่าแมทเล่นๆกับดิวเหมือนที่บอมเล่นกับผู้หญิงคนอื่นๆ  แต่เจอตอนแมทปกป้องดิวแล้วนี่แบบ -- คือมันมีวิธีอื่นที่ดีกว่าถ้าแมทจะห้ามบอม ไม่ใช่ไปกอดดิว
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-01-2017 13:49:06
 :katai5: :katai5: :katai5:

นักเขียนแอบไปเปิดเรื่องใหม่มาค่า
[urlhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57144.0]SM Company The Series: แด่ความรัก[/url]

 :hao7: เรื่องนี้เอสเอ็ม ไม่รู้นักอ่านจะชอบกันไหมนะคะ
ฝากติดตามด้วยน้าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 01-01-2017 14:35:33
ตามความรู้สึกก็คือแมทไม่ได้ตามมาโดยทันทีน่าจะเป็นเพราะตามเคลียร์เรื่องดิวไหม?
ทำทุกอย่างเพื่อเก็บดิวไว้ไหม?  รักบอมแต่ติดใจดิว
ถ้ากลับไปหากันอีก เราเชื่อว่าแมทไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยหรอก
แล้วก้อยากให้บอมถ้าเจออีกก็ไปเลย  หลอกแมทแล้วก็ไปให้ห่าง
มีความรู้สึกว่าดิวเองก็ติดใจแมทมากๆ  น่าจะถูกแมท corrupt แล้วก็ยอมทุกอย่างเพื่อเก็บแมทไว้
บอมก็ท่าจะโดนหลอกอีกรอบถ้าได้กลับไปนะ
กลัวแต่อิแมทมันจะไม่ปล่อยนี่แหละ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 01-01-2017 14:59:01
แมทไม่สำนึกความผิดตัวเองเลย
บอมนี่ก็ไม่ค่อยฉลาดทางด้านอารมณ์เท่าไร เลยโดนแมทหลอกตลอด
ส่วนดิวนี่รอดูก่อน ถ้ารู้ว่าแมทมีแฟนแล้วยังดื้ออยู่ ก็น่าแตะอีกคนท :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 01-01-2017 16:44:50
  ชอบบรรยายฉากอาการคลุ้มคลั่งของบอมมากๆคับ บรรยายอาการแสดงออกของคนโดนคนรักหักหลัง แบบหืมมม ถึงใจมากๆคับ
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: popeyez ที่ 01-01-2017 17:39:17
ถ้าย้อนไปอ่าน "บทนำ" แล้วจำช่วงพาร์ทแรกได้จะรู้เลยว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันมันเป็นช่วงที่บอมกำลังเล่าเรื่องต่างๆที่เป็นจุดเปลี่ยนของตัวเองให้เพื่อนๆฟังอยู่

เราจะบอกว่าสำหรับเรา เราคิดว่าแมทไม่ใช่พระเอก สำหรับเราคิดว่าบอมเจอเหตุการณ์นี้ก่อน ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตบอม แล้วบอมอาจจะไปเจอคนนึงที่บอมพร้อมจะหยุดที่เขา ฮ่าๆๆๆ

อย่างที่เราบอกนั่นแหละว่าสำหรับ บอมกับแมท ไม่น่าจะจบลงเอยกันได้ ถ้าแมทเป็นพระเอกคนเขียนก็คงใจกล้ามากเกินไป 555555555555555555 

เรื่องราวที่เกิดขึ้นเราไม่โอเคกับแมทมาก รีบปล่อยพระเอกตัวจริงออกมาเถอะค่ะ 555555 ><

สู้ๆนะคะ รออยู่เสมอ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-01-2017 18:44:39
ถ้าย้อนไปอ่าน "บทนำ" แล้วจำช่วงพาร์ทแรกได้จะรู้เลยว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันมันเป็นช่วงที่บอมกำลังเล่าเรื่องต่างๆที่เป็นจุดเปลี่ยนของตัวเองให้เพื่อนๆฟังอยู่

เราจะบอกว่าสำหรับเรา เราคิดว่าแมทไม่ใช่พระเอก สำหรับเราคิดว่าบอมเจอเหตุการณ์นี้ก่อน ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตบอม แล้วบอมอาจจะไปเจอคนนึงที่บอมพร้อมจะหยุดที่เขา ฮ่าๆๆๆ

อย่างที่เราบอกนั่นแหละว่าสำหรับ บอมกับแมท ไม่น่าจะจบลงเอยกันได้ ถ้าแมทเป็นพระเอกคนเขียนก็คงใจกล้ามากเกินไป 555555555555555555 

เรื่องราวที่เกิดขึ้นเราไม่โอเคกับแมทมาก รีบปล่อยพระเอกตัวจริงออกมาเถอะค่ะ 555555 ><

สู้ๆนะคะ รออยู่เสมอ
คิดเหมือน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-01-2017 18:55:22
เธอมีชู้

บทที่ 12

“วันนี้กินไรดีวะ” กล้าถามขณะเราทั้งสามคนเดินเข้ารั้วมหาลัย จริงๆ ก็ยังไม่พร้อมที่จะกลับมาเรียนหรอก หน้ายังโทรมอยู่เลย ผอมลงไปมากด้วย แต่ก็อย่างที่เต้มาบอกอะ มันจำเป็นจริงๆ นี่ก็หารองพื้นมาเสริมให้ตัวเองดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงในสายตาคนอื่นผมจะยังดูเหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกไปนอกจากผอมไปหน่อย แต่สำหรับผมเองผมรู้ตัวเลยว่าหน้าอย่างเห้

“อะไรก็ได้ร้อนๆ”

“เออเห็นด้วยกับเต้” เพราะเราสองคนกำลังแฮงค์ครับ อยู่กับเต้ต้องทำใจเรื่องเหล้า มันกินทุกวัน แม้ผมจะดราม่าหนักขนาดไหนมันก็ยังไม่หยุด แต่ก็จำกัดจำนวนกลมของเหล้าเอาไว้ไม่ให้มากเกินไป ทำให้แค่มึนๆ กรึ่มๆ หลับได้

“ก็เสือกแดกแต่เหล้ากันอะนะทั้งสองตัว จะกินให้ตับแข็งตายไปข้างเลยไง” กล้ากรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง

“คงงั้นอ่ะ...” เต้มองกล้า ในดวงตาคู่นั้นมีอะไรสักอย่างซ่อนอยู่ แต่มันคืออะไรผมก็ไม่แน่ใจ

“มึงคงได้แต่งงานกับเหล้าเข้าสักวันจริงๆ ชีวิตมีแต่มันอย่างเดียว”

“ห่วงกูหรอ” เต้ถามพลางยิ้มบางๆ

“ใครห่วงมึง จะเป็นจะตายก็ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับกูเลย ชีวิตมึงไม่ใช่ของกูสักหน่อย” กล้าตอบชิวๆ

“เออเนาะ” รู้สึกได้ว่าเต้สลดลง ผมแตะบ่าเต้เบาๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม แค่รู้สึกว่าควรทำ

“พูดซะอยากแดกเหบ้าต่อเลย เนาะมึง” เต้หันมาพูดกับผม

“ถอนกะนป่ะ” ผมแสร้งชวน

“พอเลยไอ้ห่าสองตัวนี่ เอะอะจะแดกเหล้าอย่างเดียว หัดเก็บกระเพาะไว้ใส่อย่างอื่นนอกจากแอลกอฮอล์บ้างเหอะ เผื่อชีวิตจะยืนยาวอยู่คู่กับคนที่รัก...” กล้าหยุดคำพูดไว้กลางอากาศ สายตามันมองมาที่ผมซึ่งผมเองก็จุกไปเหมือนกัน

“ปะ แดกเหล้า...” ผมดึงไหล่เต้หันไปอีกทาง แต่กลับต้องชะงักเท้าเอาไว้

“บอม” หน้ามันบวมยังไม่หาย ตาช้ำเหมือนคนรองไห้ แมทไม่ไม่ใช่คนแต่งหน้า อะไรบนหน้ามันจึงเห็นได้ชัด แต่ผมไม่คิดจะสำรวจมันหรอก หันหลังกลับไปยังทิศทางที่หันมา ปล่อยมือมาจากเต้แล้วรีบสาวเท้าหนีไปจากตรงนี้

“เดี๋ยวดิ คุยกับกูก่อน” แมทวิ่งตามมา ผมเลยต้องวิ่งบ้าง เต้กับกล้าก็ไม่รอช้าเข่นกัน

“ฟังกูก่อนได้ไหมบอม..!!” เสียงอันดังของมันแบะการวิ่งเป็นกลุ่มของเราทำให้ทุกคนหันมามองอย่างสนอกสนใจ

น้ำตาของผมมันกำลังไหล ผมรีบปาดมันออก แต่กลายเป็นวิ่งไปปาดไป เพราะมันไม่ยอมหยุดลงง่ายๆ แมทมีผลต่อหัวใจของผมจริงๆ แค่ได้ยินเสียง แค่ได้เห็นหน้า ความรู้สึกอันหลาดหบลายก็ถาโถมผมราวกับโดนคลื่นยักษ์ซัดใส่อย่างรุนแรง ทั้งที่ตัวผมเป็นแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ไม่สามารถต้านแรงปะทะหลอันหนักหน่วงนั้นได้ น่ำตาอีนขมขื่นทำให้ผมสำลัก หายใจไม่ออก ทรมาน...ผมเหมือนกำลังจะจมน้ำตายทั้งที่กำลังวิ่งอยู่บนพื้นดิน

“บอม! กูบอกให้หยุด...ฟังกูก่อน ให้กูได้อธิบายก่อน!”

“ไอ้แมทมึงนั่นแหละที่ต้องหยุด หย่ามายุ่งกับเพื่อนกูนะเว้ย!!!” กล้าตะโกนเสียงดังลั่น

“ไอ้สัสปล่อยกู! กูจะคุยกับบอม...บอมคุยกับกูก่อน ฟังกูก่อนนะ บอม!” เสียงของแมทเบาบางลงเรื่อยๆ ผมค่อยๆ วิ่งห่างจากมันมาแต่อาการเหมือนคนกำลังจะตายยังคงครอบงำผมเอาไว้ ผมจึงยังวิ่ง...วิ่งหนีอะไรก็ไม่รู้ต่อไป

กว่าเท้าทั้งสองข้างยอมหยุดให้ได้กอบโกยอากาศก็เล่นเอาไม่ทางไปต่อแล้ว ตรงหน้าของผมเป็นกำแพงด้านหลังคณะของตัวเอง ผมเท้ามือกับกำแพงสีหม่นหอบหายใจอย่างรุนแรง น้ำตาไหลเข้าปากเจ้าจมูกจนสำลัก เสียงหายใจนั้นฟังแล้วดูทรมานแต่ในใจกลับหนักหนากว่าหลายต่อหลายเท่า

เข้งขาอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ร่างกายจึงทรุดลงไปกองกับพื้นพร้อมเสียงร้องไห้สะอื้นสะอื้นเหมือนจะตายของผม ผมต้องเอาหน้าซุกกระเป๋าใส่ชีทงานตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียงร้องอย่างบ้าคลั่งนี้หลุดรอดออกไปให้ใครได้ยิน เพราะถ้าให้ผมหยุดร้องไห้ตอนนี้ผมทำไม่ได้ ทั้งที่ไม่รู้เหมือนว่าทำไมต้องไปเสียน้ตาใให้มันอีก ผมน่าจะทำใจไปได้บ้าง แต่พอเห็นหน้าแมทแล้วผมรู้เลยว่าไม่ใช่ ผมก็แค่คิดไปเองคนเดียวเท่านั้นเอง

การเห็นหน้าแมทเหมือนได้เห็นฉากนั้นชัดๆ ต่อหน้า ต่อตาอีกครั้ง แม่งเจ็บจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก น้ำตาจึงไหลทะลักออกมาเพื่อบอกความรู้สึกของผมในตอนนี้ ผมปล่อยตัวเองได้ทำในสิ่งที่เก็บกลั้นเอาไว้อย่างเต็มที่ ร้องเข้าไป เสียใจเข้าไป แล้วพอถึงจุดๆ หนึ่งทุกอย่างก็จะซาลงไปเอง ผมรอให้ถึงเวลานั้นซึ่งไม่ใช่ตอนนี้

แต่ไม่มีอะไรเป็นอย่างที่เราคิดหรอก ผมจำใจลุกขึ้น ปาดน้ำตาทิ้ง กลั้นเสียงสะอื้น หยิบกระจกมาส่องตัวเองเพื่อดูว่าทุเรศมากแค่ไหน นี่แหละความเป็นจริงที่ไม่อาจยอมได้ของจริง ผมดูแย่มากตอนนี้ ต้องเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบน้ำตาออกให้หมด เกลี่ยรองพื้นใหม่ กลบทุกร่องรอยบนใบหน้าให้เนียนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมไม่อยากให้มันเห็นว่าพอผมขาดมันแล้วสภาพตัวเองแย่ลงขนาดไหน มันต้องมองเห็นผมดูดีตลอดเวลาและต้องดูดีกว่าตอนที่อยู่กับมันด้วย เอาให้มันสะอึกไปเลยว่าตัวเองไร้ค่าที่จะทำให้ผมเสียอกเสียใจ

นี่แหละ...สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้

จัดการตัวเองจนอยู่ในสภาพที่คิดว่าดูดีแล้วก็เดินกลับเข้าอารเรียน ไม่รู้เหมือนกันว่าเต้กับกล้าอยู่ไหน ผมไม่ได้เปิดมือถือเอาไว้เลย คิดว่าเจอกันที่ห้องน่าจะได้เลยมุ่งไปยังห้องเรียนแทนที่จะตามหามัน ซึ่งนั่นเสี่ยงที่จะเจอแมท ไม่อยากเจอจริงๆ กลัวจะเป็นแบบเมื่อกี้นี้อีก ต่อไปต้องระวังยามเดินไปไหนมาไหน เดี๋ยวเจอแบบบังเอิญเข้าจะแย่เอาได้ อย่างเมื่อกี้เป็นตัวอย่าง


“อ่าว ปากมึงไปโดนไรมาเต้” ผมแทบชะงักเท้าเมื่อเห็นใบหน้าบึ้งตึงของเต้ และรอยแดงบ้ำตรงมุมปาก

“ไอ้แมทในสะบัดตัวแรงไปหน่อย กำปั้นเลยโดนหน้าไอ้เต้เอาอะสิ แม่งอย่างกับช้างตกมัน” กล้าที่นั่งซ้ายมือผมเป็นคนบอก ผมรีบนั่งตรวกลาง จับหน้าเต้มาดู

“เจ็บมากเปล่าวะ” ปากแตกขนาดนี้คงไม่เจ็บมั้งเนี่ย ผมถามอะไรโง่จริง

“กูว่าแม่งจงใจต่อยกู ไม่งั้นควไม่แม่นเข้าปากกูขนาดนี้ มึงดู ข้างในแตกจนแสบไปหมด” ว่าแล้วเต้ก็ดึงปากล่างตัวเองลงพร้อมอ้าปากให้ผมดูเลือดที่กลบอยู่ภายใน

“ไม่หรอกมึง มันไม่ได้ตั้งใจ มึงอะล๊อคตัวมันไม่ดีเอง” ผมหันไปหากล้า
“ถึงกับล๊อคตัวเลยหรอวะ”

“ก็เออสิ มันตั้งท่าจะวิ่งไปหามึงอย่างเดียว พวกกูสองคนเลยพยายามล๊อคตัวมันไว้เพื่อไม่ให้มันตามมึงไปได้ไง แล้วไอ้แมทแม่งยอมที่ไหน มันดิ้นอย่างแรง กูน่ะล้มลงไปเลยนะเว้ย ดีที่เต้มันยังล๊อคได้เพราะขนาดตัวมันพอๆ กัน ขนาดล๊อคไว้แน่นปากยังแตก ส่วนกูก็มือถลอก” กล้าโชว์มือแดงเป็นปื้นให้ผมดู รู้สึกว่าทำให้เพื่อนเดือดร้อนจริงๆ
“ขอโทษนะเว้ยที่ทำให้พวกมึงเจ็บตัว”
“ไม่ต้องมาขอโทษหรอก พวกกูไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องเดือดร้อน แค่ข่วยเพื่อนแค่นี้” กล้าตบบ่าผม

“ใช่ แต่ถ้ามึงเริ่มอยากคุยกับมันเมือไหร่ พวกกูจะถอยให้” เต้บอก ผมพยักหน้ารับ

กล้ายังคงบ่นเพราะเจ็บแผล ผมนั่งดูแผลมันสักพักก็แกล้งมัน พยายามลืมเรื่องราวในเช้านี้ไป ไม่นานอาจารย์ก็เข้าสอน วิชานี้หนักพอตัว เลยไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดอะไรมาก แลคเชอร์อย่างเดียวจนมือแทบหงิก แต่ถ้าไม่เขียน งานผมไม่เดินกันแน่ๆ เพราะอาจารย์คนนี้มีตรวจแลคเชอร์เราด้วย กว่าจะหมดคาบ ตะคริวก็เกือบจะกินมือผมแล้ว เที่ยงนี้ท้องไส้โคตรปั่นป่วนเพราะมื้อเช้าไม่ได้กิน ผม กล้า เต้ จึงเดินกันแบบระโหยโรยแรง เข้งขาอ่อนเปลี้ยกันไปหมด เล่นออกกำลังกายด้วยการวิ่งอย่างหนักหน่วงตอนเช้าซะขนาดนั้น ข้าวปลาไม่กินอีก

แต่ยังไม่ทันจะไปถึงตัวลิฟต์ ผมก็สังเกตเห็นร่างสูงคุ้นตา เท้าทั้งสองข้างหยุดชะงัก พร้อมกับเต้และกล้า มันสองคนหันมามองผมซึ่งผมแค่ยิ้มยาวๆ ให้แล้วขอตัวเดินหลบไปอีกทาง มื้อเที่ยงผมคงกินข้าวคนเดียว ไม่อยากไปเจอแมทที่คอยดักอยู่อย่างนี้

ผมลืมไปได้ยังไง ว่ามันรู้ตารางเรียนของผม

อยากจะหนีกลับห้องเลยเหมือนกันนะเนี่ย เสียแต่ผมยังมีเรียนในคาบบ่ายอีก ตอนนี้ขาดวิชาใดวิชาหนึ่งไปไม่ได้จริงๆ มันมีผลกระทบต่อการเรียนของผมมหาศาล ถึงจะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ผมปล่อยมันกระทบการเรียนต่อไปผมซวยแน่ ผมยังอยากจบนะ ไม่ได้อยากเป็นปู่เฝ้าคณะ

ระหว่างกินข้าวก็นั่งอ่านรายงานวิชาต่อไปด้วย ผมไม่ได้เข้าเรียนมาหลายคลาสตามคนอื่นแทบไม่ทัน นี่ก็ไม่มีรายงานเดิมมาส่ง ไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ล๊อคเกอร์หรือห้องแมท เดี๋ยวผมต้องไปดูที่ล๊อคเกอร์ก่อน ส่วนหนึ่งของหนังสือเรียนจะอยู่นั่นแหละ ยกเว้นต้องเอากลับไปทำรายงานที่บ้านต่อ ซึ่งส่วนใหญ่นักศึกษาแทบทุกคณะทำกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ ไม่มาแบกหนังสือเป็นกิโลๆ เหมือนเด็กประถมหรอก

เสร็จมื้อเที่ยงก็ต้องกะย่องกะแย่งไปเข้าเรียน คอยหลบอย่างกับผู้ร้ายหนีคดี ทั้งที่เป็นแค่นักศึกษาธรรมดาบ้านๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ทำไงได้ เมื่อมันยังไม่พร้อม ยังไม่อยากเจอไม่อยากคุยก็ต้องทำอย่างนี้ เพาะนอกจากเจอหน้าแมทผมจะเจ็บปวดแล้ว ผมยังกลัว...

กลัวใจอ่อนกับมันอีก...

ลูกอ้อนของมัน วาจาหวานๆ และรอยยิ้มอ่อนโยนเป็นสิ่งที่มัดใจผมเอาไว้ ก็ทะเลาะกันทีไรแล้วมันมาง้อ แป็บเดียวเท่านั้นแหละ ผมก็ศิโรราบ ไม่เคยโกรธเคืองมันได้นานๆ สักครั้งเดียว

คิดแล้วก็กลุ้ม...

ฟุ้งซ่านเรื่องแมทไม่ได้นานนัก การร่ำเรียนอันหนนักหน่วงก็รุมเร้า แม้จะเอ่ยคุยกับเพื่อนข้างกายยังดูยุ่งยากในเวลานี้ อาจารย์เข้มงวดเกิน แต่มันเป็นผลดีต่อคนที่อยากหยุดคิดเรื่องของแมทเป็นอย่างดี จากที่ไม่เคยตั้งใจเรียนกลับขมักเขม้นกับการจดแลคเชอร์ ดูสไลด์และจดมาร์คส่วนสำคัญต่างๆ เอาไว้ อย่างกับเด็กเนิร์ดทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่ถ้าสรุปคะแนนวันนี้แล้วผมได้เยอะก็ไม่ต้องแปลกใจกันไปเลย ริมฝีปากระบายยิ้มบางๆ ให้กับความคิดเรื่องคะแนน อาจไม่ตลกอะไรหนักหนาแต่มันไม่มีทางเป็นไปได้สำหรับคนอย่างผมเท่านั้นเอง ต่อให้ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนหังสือแต่คนทีไม่เก่งก็คือคนที่ไม่เก่งอยู่ดีนั่นแหละ

ตอนท้ายคาบอาจารย์เอากระดาษข้อสอบแจก หกสิบข้อแต่เวลามีแค่ครึ่งชั่วโมง โอ้เอ้ไม่ได้เพราะหากทำเช่นนั้นวันนี้อาจไม่ได้ระแนนเอาไว้เก็บสะสมเลย ผมตั้งใจทำสุดๆ เพราะคลาสก่อนๆ ไม่ได้เข้า คะนงคะแนนหายหมดละ ต้องรีบสะสมเอาไว้เพื่อบ่วยชีวิตหลังจากสอบใหญ่มาถึง ผมไม่คาดหวังว่าตัวเองจะทำคะแนได้ดีในสอบสำคัญขนาดนั้น พอถึงเวลาที่กำหนด อาจารย์ก็ให้เราแลกกันตรวจ โดยอาจารย์ตะเป็นคนมาเก็บใบข้อสอบก่อนแจกจ่ายใหม่อีกครั้ง ให้เพื่อนข้างๆ โกงไม่ได้เลย อีกอย่างอาจารย์เขาตรงจซ้ำอยู่ดี ซึ่งพอตรวจแล้วคะแนนผมก็เกินครึ่งได้อย่างใจหาย
ช้ำรักก็มีผลดีเหมือนกันนะเนี่ย...

ผมเต้กบ้าเดินกลับออกไปคนละทางกับทางปกติ เพราะเกรงว่าแมทอาจจะมาดักรออีกก็เป็นไปได้ พวกเราคุยเรื่องการทำข้อสอบในวันนี้ เรื่องมื้อเที่ยงและสารพัดจะเล่าสู่กันฟัง มันเป็นอะไรธรรมดาฟ แต่ก็พูดคุยกันได้ไม่หยุดหย่อน เสียงหัวเราะของตัวเองและเพื่อนๆ ทำให้ผมดีราวกับต้นไม้แห้งเฉาได้รับน้ำเย็นๆ รินรดให้ชื่นฉ่ำ

นี่เป็นแค่วันแรกหลังจากหยุดไปหลายวัน ผมยังต้องหลบหน้า วิ่งหนี และให้เร้กับกล้ากันแมทอกหลายต่อหลายครั้ง เมื่อไหร่ก็ตามที่มันไม่มีเรียนมันจะมาดักผมตามตารางเรียนที่เคยได้ให้มันดู ยอมรับว่าเหนื่อยกับการหนี บางครั้งเห็นหน้ามันก็สงสารอยากจะลองรับฟังมันดู แต่สุดท้ายผมก็หันหลังให้กับมัน เมินคนหักหลังกันอย่างเลือดเย็น ทุกวันนี้ผมยิ้มได้ ผมหัวเราะได้ ใช่ว่าผมทำใจได้ ในความฝันยังคงเจ็บปวดอยู่เสมอ แต่ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรเลยที่ต้องแสดงออก

แม่ไม่เคยละความพยายามแม้ว่ากี่ครั้งที่มันมาหามันจะเข้าไปไม่ถึงตัวผม มันยังมีความมุมานะอย่างมากล้น คาดหวังว่าสักวันผมจะเห็นใจและคุยกับมัน ทำให้เต้กับกล้ายิ่งเหนื่อย ผมเห็นใจเพื่อนแต่ยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไร เลยได้แต่จอโทษพวกมันทั้งสอง ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับคือความรอยยิ้มอันอบอุ่นและกวนตีน เข้าใจว่าพวกมันเต็มใจ ผมเกรงใจมากนะ แต่ในเมื่อยิ้มมาให้กันแบบนี้ก็ควไม่ต้องเกรงใจแล้วละ




วันนี้ผมไม่มีเรียน...สบายใจจริงๆ เลยให้ตายเถอะ หลังจากต้องหลบหน้าแมทมาตลอดอาทิตย์ วันนี้เป็นวันที่ผมสบายใจที่สุดแล้ว เสียอย่างเดียว เต้ต้องไปต่างจังหวัดกับที่บ้านส่วนกล้ามีรายงานต้องปั่น ผมเองก็แหละ ถึงได้ตื่นแต่เช้าเพื่อจะเคลียรายงานของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะนอนเล่นเอกเขนกอยู่ในห้องของเต้ จริงๆ ผมจะขอมันบ้ายไปอยู่ที่อื่นหลังจากตั้งตัวได้ แต่เต้ไม่ค่อยโอเค มันอยากให้อยู่กับมันที่นี่มากกว่า หาว่าดีซะอีกจะได้มีเพื่อนกินเหล้าที่ห้อง ไปกินที่ร้านบ่อยๆ ค่อนข้างเปลืองเงินอยู่ ก็ใครเขาให้มึงกินแต่เหล้าละว้า...

ขณะเดินออกมาจากครัว สะบัดมือเปียกน้ำตากการบ้างจาน สายตาก็เหบือยไปเห็นมือถือของตัวเองที่ถูกปิดเอาไว้ร่วมสองอาทิตย์หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ผมไม่เปิดมันอีกเลย ไม่แคร์ด้วยใครจะโทรมาหรือเปล่า เท่าที่เห็นแมทตามตื่นตลอดทุกวันที่ไปเรียนก็เดาได้ละว่าจะมีใครที่โทรมา คงทั้งไลน์ โทร จ้อความ สารพัดที่มันจะทำได้ บางครั้งก็รู้สึกยอมใจของมันเหมือนกัน อะไรจะพยายามขนาดนั้นเพื่อจะให้ผมยอมไปคุยด้วย แต่น่าเสียใจแทนเพราะผมไม่ยอมคุยกับมันเสียที ไม่ว่ามันจะตามตื้อยังไง สุดท้ายเต้กับกล้าก็จะขวางทางมันและไล่มันให้ออกไปไกลๆ ผม งานนี้คงต้องขอบคุณเต้กับกล้าอย่างหนักแล้วละ ไม่สิ...กับเต้น่ะผมตอบแทนมันด้วยการกินเหล้ากับมันทุกวันแล้ว ยกเว้นกล้า ที่ค่าตอบแทนแม่งคงไม่พ้นเกม ขี้เกีจไปหาให้ด้วยเลยช่างมันไปก่อน ไว้พ่อโอนเงินมาให้เพิ่มแล้วค่อยพามันไปซื้อเกมที่มันอยากได้ในราคาไม่เกินงบเอาก็แล้วกัน

ทุกวันนี้ผใช่วยเต้ออกค่าอาหาร เหล้าเบียร์ซ้ำยังให้ซื้อของกินมายัดใส่ตู้ไว้ด้วย ซึ่งมีแต่อาหารสำเร็จรูปทั้งนั้น ไม่มีของสำหรับเอาไว้มำกินเอง เพราะเต้แม่วไม่มีหม้อข้าว หุงข้าวทำกับข้าวไม่ได้ ต้องทำใจ กินอาหารแช่ฟรีทเอา ง่ายดี สามนาทีก็ตักกินได้ละ ล้างแค่ช้อนด้วย สบายสุดยอด

ก๊อกๆ!

ผมละสายตาจากมือถือเครื่องหรูของตัวเองไปยังประตูหน้าห้อง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยง เต้ไปเมื่อเช้าคงไม่กลับมาตอนนี้แน่ หรือถึงมันมามันก็ไม่มีมารยาทพอจะเคาะประตูห้องตัวเองที่มีผมอยู่หรอก งั้นคงมีแต่กล้า ไหนว่าสันนี้ต่างคนต่างทำรายงานกันไปไง สงสัยจะเหงาละมั้ง ผมตรงดิ่งพลางระบายยิ้มอ่อนเมื่อนึกถึงใบหน้าของกล้าเวลากลายร่างเป็นหมาน้อยมองอ้อนเจ้าของ

ผลัก!

เพียงประตูอ้าออกเล็กน้อย ยังไม่ทันเห็นใบหน้าคนหลังประตูหรือเอ่ยเสียงทัก คนอีกฝากก็ผลักประตูกระแทกผมอย่างแรงจนร่างโปร่งล้มไปทางด้านหลัง ความเจ็บจากการที่ร่างกายกระแทกพื้นแล่นริ้ว ผมซี๊ดปากพลางสบถด่าใครก็ตามที่ทำแบบนี้ จังหวะนั้นเองที่เสียงล๊อคกลอนประตูดังขึ้น ผมเงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนลมหายใจจะสะดุดลงเมื่อโฟกัสใบหน้าของอีกคนได้แล้ว

“แมท...” ในข่องอกบีบรัดอย่างรุนแรงขึ้นมาทันใด ผมรีบยันตัวขึ้น ก้าวเท้าไปด้านหลังขณะจับจ้องอีกคนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน

“มึงทำให้กูหงุดหงิ!” ร่างสูงกล่าวพร้อมสีหน้าที่ยืนยันคำพูดของเจ้าตัวเป็นอย่างดี

แลเวความหงุดหงิดของมันผมจำเผ็นต้องรับรู้ไหม ไม่เลย ผมไม่จำเป็นต้องไปรับรู้ว่ามันรู้สึกยังไง เรื่องระหว่างเรามันจบลงไปแล้ว มันเองนั่นแหละที่มาตามผมเอง ผมก็แสดงออกไปอย่างขัดเจนแบ้วแท้ๆ ว่าไม่ต้องการพบหน้าหรือสนทนา ผมเค้นยิ้มให้กับชายตรงหน้า

“หรอ แล้วไง...กูจำเป็นต้องรับรู้ไหม” น้ำเสียงยียวนทำให้คิ้วคู่งามนั้นขมวดมุ่นผนักเข้าไปอีก

“มึงต้องรู้ไว้เพราะมึงเป็นคนทำไง”

“ฮ่าๆ หรอ...อย่างนั้นเองน่ะรหอ” หัวเราะอย่างเสแสร้งก่อนจะตีหน้าขึง “โอเค กูรับรู้แล้ว ออกไปได้ละ เหม็นขี้หน้าวะ”

“กูไม่ไป ยังไงวันนี้เราร้องคุยหันให้รู้เรื่อง” ผมว่าคนที่ไม่รู้เรื่องน่ะเป็นมันมากกว่า มีอย่างที่ไหน ทำกันขนาดนี้แบ้วยังจะมาขอคุยอีก ตลกเหอะ ละเมอเพ้อพกมากเกินไปแล้วล่ะ

“กูไม่มีอะไรจะคุยกับคนอย่างมึง ออกไปจากห้องเพื่อนกูซะ”

“เพื่อนหรือผัวใหม่” แมทสวนมาย่างเร็ว ทำให้ผมเริ่มหงุดหงิดกับความด้านของมัน

“จะเพื่อนจะผัว หรือควบสองอย่างมันก็สิทธิ์ของกู มึงกับกูไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว จะมาเสือกเรื่ององกูทำไม”

“จะไม่เป็นไรกันได้ไง ในเมื่อมึงเป็นคนรักของกู กูยังมีสิทธิ์ในตัวมึง”

“หน้าด้าน!” ผมด่าอย่างทันที

ข่างกล้าพูดนะว่าระหว่างเรายังเหมือนเดิม ตลกเหอะ ทำกับกูขนาดนั้นแบ้วยังมาพูดแบบนี้เนี่ยนะ สิทธิ์ในตัวกู...โหย ไปทบทวนซะบ้างเหอะว่าสิทธินั้นมันสมควรมีไหมในตอนนี้ ผมมองแมทด้วยเชสายตาแข็งกร้าว เอาความโกรธเกลียดเคียดแค้นขึ้นมาฉาบทาใบหน้า

“คนที่มึงมีสิทธิ์คือดิว ไม่ใช่กู เราหว่างเรามันจบแล้ว หัดจำได้หน่อย”

“จบเหี้ยไร กูพูดตอนไหนว่าจะจบ” คิ้วกระตุกขึ้นมาเลย

“ไม่พูดแต่การกระทำของมึงก็ชัดเจนแล้ว คำพูดคงไม่ต้องหรอก เล่นทำกันขนาดนั้น” ยิ่งพูดปากคอก็ยิ่งสั่น ผมเลยตัดบทด้วยการไล่มันออกไป

“ออกไปจากห้องนี้ซะไป!”
“ไม่ กูไม่ไปจนกว่าเราจะคุยกันให้รู้เรื่อง” สิ้นเสียงแข็งดื้นรั้น ร่างของแมทก็พุ่งมาทางผมหมายจะจับตัว แต่ผมหลบ และขยับหนีไปอีกทาง

แมทไม่ยอมให้ผมหลุดพ้นเงื้อมมือเขา เขารีบคว้าเลข้อมือของผมเอาไว้แล้วกระชากเข้าหาตัว ผมใช่ว่าจะยอม รีบสะบัดมันอย่างรุนแรงแม้จะเจ็บข้อมือที่ถูกกำไว้แน่นขนาดไหน ผมไม่อยากให้มันก้าวล้ำมาเกินกว่านี้ ผมกลัว...กลัวในหลายๆ อย่างที่มันจะตามมา ภาพของดิวกับแมทกอดกันแว้บเข้ามาในหัวอีกครั้ง มันที่ยืนอยู่ตรงนี้ ยื้อกันอยู่ตรงนี้ ไม่ต่างจากการซ้ำเติมผมให้ยิ่งเจ็บช้ำเข้าไปใหญ่ ผมฮึด เอาเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีมาใช้ และหลุดในที่สุด ผมวิ่งสุดกำลังไปยังห้องนอน รีบปิดหมายจะล๊ออค แต่ไม่ทัน แมทมันมาไวมาก รีบดันประตูผมเอาไว้ ผมเองก็ดันตอบไม่ยอมเข่นกัน!

มีต่อจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Pamaipraewa ที่ 01-01-2017 19:01:40
โอ๊ยยยย อยากรู้ตอนจบแล้ว55555 ใครก็ได้เอานังแมทออกไป

รออ่านต่อ อยากรู้ว่าถ้าเจอหน้ากันแล้วจะจบยังไง แต่ใจนี่คิดไว้แล้วว่าแบดเอนด์ชัวร์
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-01-2017 19:02:23
 :katai5: ต่อเลย

“อย่าให้กํต้องใช้กำลังนะบอม!”

“มึงไม่ร้องใช้กำลังก็สามารถทรมานกูได้...อย่างที่มึงทำกับดิวไง” พอพูดเรื่องนี้ ความจุกแน่นก็ตีตื้นขึ้นมา

ช่วงน้ำตากำลังจะรินไหล แมทมันเอาตัวเองโถมใส่ประตูอย่างแรงจนผมล้มลงทั้งน้ำตา ผมไม่ทันปาดมันทิ้ง แมทก็เข้ามากระชากแขนของผม ดึงให้ลุกแต่ผมไม่ลุก มันเลยคร่อมลงมาแทน ร่างกายใหญ่กดทับช่วงหน้าท้องของผมก่อนที่ฝ่ามือหนานั้นจะตึงข้อมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้เหนือหัว แต่ผมตัวไม่เล็กแบบดิว ผมเลยไม่พลาดท่าให้มันง่ายๆ ผมยกเข่ากระแทกไปที่หลังของแมทอย่างแรงจนมันแทบพุ่งไปด้านหน้า อาศัยจังหวะนี้ดิ้นหนีออกจากปราการของแมท

ผมล้มลุกคลุกคลานออกมา ทั้งเหนื่อย ทั้งเสียใจ น้ำตาที่อาบหน้าอยู่ไหลเข้าปากเข้าจมูกจนแทบสำลัก แต่ต้องอดทน ผมต้องฝืนตัวเองหนีให้หลุดจากแมทให้ได้ อีกไม่กี่ก้าวผมก็จะเปิดประตูหนีออกไปได้ แต่โชคไม่เข้าข้างผมเลย ผมโดนแรงจากด้านหลังผลักล้มหน้าทิ่งพื้นอย่างแรง ตัวไถลไปตามแรงส่งจากการวิ่งหนี ผมรีบพลิกตัวอย่างไวตามสัญขาตญาณ สองมือกุมหน้าตัวเองที่ตอนนี้โคตรเจ็บปวด กลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้งโพรงจมูกและปาก

ร่างผมโดนคร่อมอีกครั้ง แมทจับมือของผมออกกดไว้กับพื้นเช่นเดิม ดวงตามันเบิกโพรงเมื่อเห็นใบที่เต็มไปด้วยเลือดและน้ำตา ทุกอย่างเงียบกริบ มีแต่เสียงหอบหายใจของเราสองคน

“พอใจไหม...ทำกูเจ็บขนาดนี้พอใจไหม!!!” ผมตะคอกออกไปทั้งที่ปากมันเจ็ยไปหมด

“กู...บอมกูขอโทษ ก็มึง...”

“ไม่ต้องมาขอโทษ กูไม่ต้องการ!” ผมตัดบท

“ทำไมพอกูจะพูดจะอธิบายอะไรมึงถึงไม่ฟังกูเลย คำพูดของกูมันไร้ค่าขนาดนั้นเบยใช่ไหม!!” เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอม แมทก็แรงใส่ ข้อมือของผมปวดร้าวราวกับจะหักลงเพราะแรงกำของมัน

“ไม่ใช่ คำพูดของมึงไม่ได้ไร้ค่าหรอก แต่เพราะกูเขื่อคำพูดของมึงมาตลอดไงแมท กูถึงต้องเจ็บแบบนี้ กูไม่เคยระแวงเลย กูเขื่อใจมึงมาตลอด เขื่อทุกอย่างในสิ่งที่มึงพูด แล้วเป็นไงละ...บอกกูสิ! คำพูดของมึงมันหลอกลวง มึงมันโกหกตอแหล!!!” เมื่อได้ฟัง มันก็ทำแค่นิ่ง...มองลึกเข้ามาในดวงตาฉ่ำน้ำของผม

ผมเห็นความสำนึกผิดในแววตาของแมท รับรู้มันได้ดีแต่ไม่อยากจะเขื่อมันอีกแล้วเท่านั้น สิ่งที่มันได้มอบให้กับผมคือความเสียใจอย่างที่สุด ผมหลับตาลง กลั้นสะอื้นเพื่อไม่ให้ตัวเองดูน่าสมเพชมากไปกว่านี้

“กลับไปหาคนที่มึงรักเถอะ...”

“กูกลับมาแล้วนี่ไง คนที่กูรัก...คือมึง”

“หึหึ ฮ่าๆ ตลกวะ....ไปเล่นมุกนี้ที่อื่นนะ” ลืมตามองมันด้วยแววเยาะเย้ย

“กูรู้นะว่า...” แค่อ้าปากก็รู้แล้วว่าจะป้อนคำตอแหลให้

“หุบปาก! กูไม่อยากฟัง!!!” ผมสะกัดมันเอาไว้โดยไม่คิดจะรับฟังอะไรทั้งนัน

แต่ดูเหมือนว่าการที่ผมรั้นปฏิเสธคำอธิบายต่างๆ นาๆ ของแมทจะทำให้เจ้าตัวโกรธ แววตาแข็งกร้าวขึ้นมาก่อนที่ใบหน้านั้นจะหายไป ตามมาติดๆ ด้วยสัมผัสเจ็บแปลบตรงคอ คมเขี้ยวนั้นฝังลงมาอย่างหนักก่อนจะมีความนุ่มลากไล้ตามรอย ผมรับรู้เลยว่ามันจะทำอะไรต่อไป ผมไม่ยอมหรอก ผมดิ้นรนอย่างหนักอีกครั้ง แต่ยิ่งดิ้นแมทก็ยิ่งขบผิวอ่อนของผมแรงขึ้น

“ฮึก อย่า...อย่าเอาปากที่จูบกับไอ้เวรนั่นมาสัมผัสกู!!!” น้ำตาของผมไหลพรากด้วยความเสียใจ

ร่างกายที่ไม่เคยเป็นของผมคนเดียวนี้ผมไม่ต้องการ ผมพยายามผลักไสมันเท่าที่เรี่ยวแรงจะมี แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมร่างกายถึงอ่อนเปลี่ยลงเรื่อยๆ พอแมทจูบผิวคอด้วยความอ่อนโยน หัวใจผมก็กระตุกวูบทันที ความคุ้นเคยนี้นี่แหละที่น่ากลัว มันกำลังทะลายกำแพงที่ผมสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเอง ผมยอมไม่ได้ ผมไม่อยากกลับไปเป็นไอ้โง่ที่โดนหลอกลวงอีกแล้ว

“ปากของมึงก็เคยจูบกับคนอื่นลับหลังกู แต่ถึงอย่างนั้น...กูก็ยังอยากจูบปากมึง” แมทกระซิบ มันทำให้ผมจุก ผมถึงกับดิ้นต่อไม่เป็น เพราะสิ่งที่แมทพูดมันเป็นความจริง...ไม่ใช่แค่มันทำ แต่ผมก็ทำเหมือนกับที่มันทำ

“ร่างกายนี้มึงก็เอาไปกอดก่าย สอดใส่คนอื่นมา แต่กู...ก็ยังยากครอบครองมึง” คำพูดและฝ่ามือที่กำลังผ่อนแรงกดลงทำให้น้ำตาผมไหล เลเสียงสะอื้นหลุดรอดออกไป ถึงจะเล็กน้อยแต่ก็แสดงถึงความอ่อนแอ

“ถึงกูจะเห็นมึงกับคนอื่นนัวเนียกัน...กูก็ยังต้องการมึงอยู่ดี” ข้อนี้มันแสดงให้ผมเห็นแล้ว มันโกรธผม แต่มันก็ยังไม่ทิ้งผมไป กลับกักขังผมไว้ราวกับต้องการให้ผมเป็นของมันเพียงคนเดียว

“ไม่ใช่กูไม่เจ็บปวดกับสิ่งมึงทำ และไม่ใช่ว่าที่กูทำในครั้งนี้เป็นเพราะต้องการแก้แค้นมึง ไม่ใช่เลย...ไม่เคยมีใครแทนมึงได้ และต่อให้มึงทำกูเจ็บแค่ไหน คนที่กูรักก็มีแค่มึงอยู่ดี”

“โกหก!” ผมรีบเถียง ในวันนั้นมันแสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้รักผม มันรักไอ้เด็กนั่น มันปกป้องเด็กนั่น!

“กูรักมึงแค่คนเดียวบอม...กูรักมึงแค่คนเดียว” ไม่รู้ว่ากางเกงตัวเองหลุดออกไปตอนไหน ไม่ได้รับรู้ถึงสัมผัสเย็นเฉียบของแอร์ที่ตกกระทบเลยแม้แต่น้อย และคงจะไม่รับรู้อะไรถ้าแมทไม่ได้กำลังใช้ปากพรมจูบต่ำลงไปส่วนกลางกาย

ร่างกายสั่นผวาขึ้นมาอย่างรุนแรงเมื่อเรียวบิ้นร้อนฉานั้นแตะลงที่ส่วนปลาย ความอ่อนโยนค่อยๆ โอบอุ้มส่วนสำคัญเข้าหาความร้อนรุ่มทีละน้อย มันทำให้ผมละลายด้วยความคุ้นขิน จี้คอผมด้วยความต้องการ ผมไร้สิ้นซึ่งกำลังเมื่อทุกอย่างถูกแมทควบคุมเอาไว้ตั้งแต่เบื้องลึกของอารมณ์

“เรื่องนี้เท่านั้นที่กูอยากให้เชื่อกู”

“ไม่....” ผมเค้นเสียงตอบด้วยความลำบาก สองมือปกปิดใบหน้าของตัวเองเอาไว้ ร่างกายนี้กำลังถูกควบคุม

ทำไมผมต้องแพ้มันอย่างนี้ด้วย...

แมทรุกผมหนักหน่วงด้วยริมฝีปากที่มักระบายยิ้มอ่อนให้ตลอดเวลา เขานำพาร่างกายที่เขาเองก็รู้จักดีไต่ระดับไปหาความสุขทีละน้อย พัดพาความขุ่นมัวของผมด้วยวิธีการที่ขี้โกงอย่างที่สุด ผมอยากต่อว่ามัน อยากด่ามัน อยากทำอะไรก็ได้ให้หายแค้น แต่เมื่อเจอแบบนี้ไป...ผมก็ทำไรไม่ถูก

สิ่งที่เข้ามาแทนที่ความคับแค้นในอกคือความอยอุ่นที่คุ้นเคย ระหว่างเราสองคนไม่ใช่ความโรแมนติกเหมือนใครๆ แต่ก็มีกันและกันตลอด ตอนนี้แมทกำลังยัดเหยียดความรู้สึกเหล่านั้นให้กับผมอีกครั้งหลังจากที่เขาได้ทำลายมันไปอย่างย่อยยับคามือ ภาพวันวานที่เรามีความสุขด้วยกันไหลเข้ามาดังน้ำหลาก ยิ่งแมทกระตุ้นผมมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งขัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

“อ้ะ...!” ความรุนแรงเพียงวูบเดียวที่เขาหยอกเย้าทำให้ผมทะลักทลายใส่ปากนุ่มนั้นอย่างไม่อาจห้าม

แมทกลืนมันลงคอไปจนหมด ร่างใหญ่ขยับนั่งดีๆ สองมือของผมโดนดึงออกอย่างนุ่มนวลแผ่วเบา ตามมาติดๆ ด้วยรสจูบที่ตัวเองหลงใหล ความหวานละมุนตามฉบับเจ้าตัวปลุกส่วนดีๆ ของมันให้มากขึ้นในความรู้สึกผม ผมกพลังรู้สึกแพ้อย่างที่ไม่เคยแพ้มาก่อนในขีวิต เหมือนที่ไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาเช่นกัน คนที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในตัวของผมคือมันเพียงคนเดียว

“มึงรู้จักกูดีกว่าใครๆ...” ริมฝีปากกำลังลากขึ้นไปประทับจูบที่หน้าผาก

“กูเอากับใครไปทั่วก่อนมาคบกับมึง...” ข้อนี้ผมรู้ ยิ่งตอนที่เราเป็นเพื่อนกันยิ่งรู้ดีเลย

“กูมองว่าเซ็กกับความรักมันคนละส่วนกัน” ผมก็มองแบบนั้นเหมือนกัน ถึงไปมีคนอื่นไง

“จนกระทั่งมาเจอมึง...กูรู้ตัวในทันทีว่า คนนี้แหละ คนรักของกู” ตอนนี้ปากของแมทเคลื่อนลงมาที่ลำคอ บดจูบแผ่วเบา คล้ายตอกย้ำคำพูดตัวเองด้วยความนุ่มละมุน

“กูเลือกที่จะหยุดอยู่ที่มึง โดยกูหลงลืมไปว่า...กูไม่ควรไปสนุกกับคนอื่นอีก เพราะมันจะทำให้คนรักของกูเสียใจ” สิ่งที่แมทคิด ไม่ต่างจากผมเลยจริงๆ

“กูยังคงสนุกกับเซ็ก...สนุกกับการหลอกล่อคนอื่นมาเป็นของตัวเอง จนถึงวันที่ไม่มีมึง” เรียวขาของผมกำลังถูกจับอ้าออก ความอุ่นร้อนสัมผัสเข้าส่วนลึก มันดุนดันเบาๆ ก่อนที่จะถูกเรียวนิ้วสอดใส่เข้ามาอย่างนุ่มนวล

“กูขาดมึงไม่ได้บอม...กูเลว แต่กูรักมึงแค่คนเดียว” มันเงยมาสบตาผม แววตานั้นอ่อนแรงเหลือเกิน...เหมือนกับผมที่ร้องไห้จนแทบไม่มีแรงเหลือแล้ว

แมทมอบจูบให้ผมอีกครั้ง ความรักที่มันได้มอบให้อบอวลจนผมรับรู้ถึงมันได้ ท่ามกลางน้ำตาแห่งควมเจ็บปวดเสียใจ มันมีความดีใจปะปนอยู่ในนั้น หัวใจของผมกำลังร้องเรียกแมทซ้ำๆ เสียงจากส่วนลึกเอาแต่คร่ำครวญถึงควมเจ็บปวดเพราะแมททำร้าย มันไมใช่ความแค้น แต่มันเป็นความรัก เพราะรักมาก ถึงเสียใจมาก มันพยายามฟ้อง...เรียกร้องความเห็นใจและการปลอบโยน

ตัวตนที่ผมรู้จักดีคลืบคบานเข้ามาในหลืบอ่อนนุ่มบ้าๆ เรียวแขนไร้แรงผวากอดรอบคออีกฝ่ายเอาไว้ เหมือนกับแมทที่กำลังโอบกอดร่างกายสั่นเทานี้ด้วยความอ่อนโยน ร่างกายกำลังหลอมรวมเป็นของกันและกันช้าๆ รับรู้ได้ถึงการทะนุถนอมกันอย่างถึงที่สุด และเมื่อส่วนนั้นเข้ามาจนสุด...หัวใจผมก็กลับไปเป็นของแมทอีกครั้งอย่างง่ายดาย

เกลียดตัวเองที่ไม่เคยเข้มแข็งพอเพื่อต่อกรกับความละมุนที่แมทมอบให้...

“แค่คำว่ารักนี้เท่านั้น ที่อยากให้มึงเชื่อกู...” เสียงของมันสั่น นัยน์ตาคนตรงหน้ากำลังแดงก่ำ

“ถึงแม้ว่ารักอย่างเดียวจะไม่ทำให้มึงให้อภัยในสิ่งที่กูทำ แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ว่า...คำว่ารักของกูทำให้กูพร้อมจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้มึงอยู่กับกูตลอดไป” ไม่ต้องถามเลยว่าจะเขื่อคำพูดนี้ของมันไหม...ไม่ทันแล้วละ

หัวใจของผมกลับไปเป็นของมันแล้ว...

ความอบอุ่นประทับลงที่ริมฝีปากของผมอีกครั้ง ครั้งนี้ผมตอบสนองกลับไปเพื่อต้องการสื่อให้มันรู้ว่าผมยอมเชื่อมันแล้ว ไม่ใช่แค่มันหรอกที่เป็นแบบนี้ ตัวแมทในเวลานี้สะท้อนความเป็นผมออกมาได้ชัดเจน ผมเองก็เหมือนกับมัน มีอะไรกับคนอื่น หลอกลวงคนอื่นเพียงเพื่อเซ็กส์สนุกๆ แต่ก็ไม่เคยรักใครสักคนที่เข้ามา เราแค่นอนด้วยกัน มีความสุขด้วยกันก็เท่านั้น

คนที่ผมรักมีแค่แมท...แค่นี้เท่านั้นเหมือนกันที่ทำให้ผมยอมกลับไป

แมทเริ่มขยับส่วนล่างที่เชื่อมต่อกันเมื่อริมฝีปากที่กำลังโรมรันกันด้วยความรักเร่าร้อนขึ้น ราวกับไฟไหม้ลามป่า มันแผดเผาความนึกคิดในสมองจนกลายเป็นสีขาวโพลน ทว่ากลับมอบความอบอุ่นให้กับหัวใจที่บอบช้ำได้อย่างเหลือเชื่อ เปลวแห่งราคะโหมกระหน่ำจนกลายเป็นความร้อนระอุที่หอมหวาน กายสอดใส่เข้ามาลึกล้ำปานจะฝากฝั่งเอาไว้ไม่คิดจาก น้ำตาที่ไหลพรากของความเศร้าหมองกลับกลายเป็นความยินดี ยิ่งส่วนร้อนฉ่าถูกเสียดสระรัวก็ยิ่งคลายความขุ่นมัวในอารมณ์

ผม...สยบต่อมันอย่างสิ้นเชิง

เมื่อไอร้อนจากราคะนำพาเรามาถึงสูงสุด ทุกอย่างหยุดลงยกเว้นลมหายใจอันหอบถี่ ดวงตาสองคู่สบกันเพื่อบอกควาหมายที่เราก็รู้จักมันดี ก่อนที่จะโผกอดแนบแน่นคล้ายจะเป็นคน คนเดียวกัน ผมรู้ดีว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำร้ายตัวเองอย่างสาหัส ผมบาดเจ็บหนักเพราะการกระทำที่มักง่าย แต่ไม่ใชผมเพียงคนเดียวเลยที่เป็นอย่างนั้น แมทเองก็ต้องเผชิญกับมันมาก่อนเช่นกัน เราต่างทำร้ายซึ่งกันและกัน เพียงเพื่อความสนุกที่ซุกอยู่ในสันดาน แต่หลังจากนี้...ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ผมคาดหวังเอาไว้อย่างนั้น ผมเลือกจะกลับตัวแล้ว แมทเองก็คงเลือกทางเดินเดียวกันกับผม

“กลับบ้านของเรากันนะ...กลับมาอยู่กับกู” ไม่มีคำตอบออกจากริมฝีปากที่เห่อช้ำ แต่ใบหน้าที่พยักให้นั้นก็ชัดเจนพอแล้วว่าผมเลือกอะไร ผมเลือกในทางที่เสี่ยง แต่เส้นทางนี้มีคนที่ผมรักร่วมเดินอยู่ด้วยกัน

************จบบทที่ 12**************

 o22 o22 o22 มีหลายคนเลยบอกว่าอีแมทไม่ใช่พระเอกตัวจริง ฮาาา

แมทคือพระเอกจริงๆจ้า คนเขียนกะไว้ว่าเรื่องนี้จะแต่งสะท้อนสังคม
ว่าชีวิตจริงคนที่นอกกายกันบ่อยๆง่ายๆ แล้วมาคืนดีกันมันมีอยู่ดาษดื่นนะเออ

พอมาคบกันอีกรอบก็ให้เหตุผลแค่นอกกายไม่ใช่นอกใจ หรือไม่ก็แค่เผลอไผล :m16: :m16: :m31:
ส่วนอีกฝ่ายก็อาจจะเห็นแก่เยื่อใยที่เคยมีมาอะไรแบบนี้จ้า

เพราะฉะนั้นไอ้แมทเป็นพระเอกจริงๆนะเออ :a5: (ย้ำอีกรอบ ฮา)
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 01-01-2017 19:19:08
ใจอ่อนง่ายไปไหมบอม......
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 01-01-2017 19:42:31
ก็หวังว่าแมทมันคงจะกลับใจได้อะนะ :hao5: :hao5:
แต่อย่าลืม....เรื่อง ดิว แมทมันยังเคลียร์เลยยย
ติดใจอย่างมากกกก....ดิวไม่น่าจะยอมเลิกลาง่ายๆอ่ะนะ :ling3: :ling3:
อยากรู้เหตุการณ์หลังจากที่บอมวิ่งออกจากแมทไปอ่ะ
ค้างสุดๆๆๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-01-2017 19:44:27
งื้ออออ....คืนดีกันเราเข้าใจ แต่เป็นเราคงทำใจไม่ได้ ห้องนั้นแมทมันเคยพาคนอื่นมาทับรอยอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 01-01-2017 20:23:29
แล้วนังน้องดิวละแมท โถ่บอม ใจไม่แข็งเลยลูก สงสัยเจ็บไม่จำ :hao7:

ปล. เพิ่งสังเกตว่าแมทแก้ปัญหาด้วยการใช้เซ็กส์อีกแล้ว เอวัง ถ้าเป็นพระเอกจริงๆ ก็คงนั่นแหละค่ะ ศีลเสมอกัน ขาดกันไม่ได้ฟังแล้วเอียนจัง 55555555 ทำไมเรารู้สึกว่าแมทพยายามไม่มากพอหว้า มันเหมือนกับคำว่า รักบอม เป็นคำพูดที่ชินปากมากกว่า ช่างเหอะ บอมกลับไปอยู่กับแมทก็ดีละ เต้กับกล้าจะได้สนิทชิดเชื้อมากขึ้น  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 01-01-2017 20:31:09
ใจบอมไม่เท่าไหร่ กลัวใจแมทมากกว่า
บอมจับได้ง่าย คือจับพิรุธง่ายกว่ามาก และคิดว่าเป็นคนที่อ่อนไหวกับเรื่องนี้มากกว่าแมท (anyway ต้องรออ่านจากมุมของแมทแหะ)

กลัวใจแมทมากกว่า แมทซ่อนเขี้ยวเล็บไว้มิดมาก ปกปิดเนียนมาก แสดงออกทุกอย่างน่าเชื่อไปหมด แมทไม่รู้สึกผิดหรือหันกลับมามองตัวเองด้วยซ้ำ จากที่อ่านตอนนี้คือ ยังแอบคิดว่านี่แมทรู้สึกสำนึกหรือยัง หรือแค่ขาดอะไรบางอย่างในชีวิตประจำวันไปไม่ได้

แก้ปัญหาด้วย sex นี่อีก ไม่ใช่อะไรที่ทำให้ความเชื่อใจกลับมาได้เลย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Memory ที่ 01-01-2017 21:32:09
รู้สึกอินค่ะ อินจริงๆ แบบว่าอ่านแล้วอารมณ์เสียทั้งวัน ใจสั่นด้วย :katai1: มันจะมีตะกอนขุ่นๆ อารมณ์มัวๆไปจนกว่าจะมีตอนใหม่มา(ไม่ได้เร่งค่ะ แค่อยากอ่านไวๆ)  :o8:
อยากให้จบแบบแฮปปี้ค่ะไรท์ พอดีไม่ชอบกินมาม่าตอนท้าย :hao4: :serius2:
แต่ก่อนจะดีกันก็อยากจะให้บอมเอาคืนเเมทหนักๆ เอาให้กระอักเลือดไปเลย :katai2-1:
"อย่าลืมเคลียเรื่องดิวนะค่ะแมท ไม่งั้นก็จะยุให้บอมไปหาผัวใหม่ :เฮ้อ: :hao7:
นานๆทีจะเเวะเม้น พอดีเป็นนักอ่านเงาตัวยง :hao6:

ปล.ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านเเละเสพนะค่ะไรท์ ดราม่าเรื่องนี้ถูกใจจนต้องลิสต์ไว้ไปนิยายที่ชอบกันเลยทีเดียว o13 :katai4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 01-01-2017 21:40:36
นอกจากบอมจะไม่ไหวแล้วคนอ่านอย่างเราก็ไม่ไหวตามแหละ
กลัวว่ามันจะกลับไปซ้ำรอยเดิม
แมทเลือกที่จะโอ๋ดิว  มาง้อตอนนี้คือบอมง้อง่ายแล้วก็ยอมแมท
เราว่าแมทก็กลับไปเอากับดิวลับหลังบอมอีก
เผลอๆดิวร่วมมือเพราะทั้งรักแมท ทั้งแค้นบอมที่กระทืบแมทกับตัวเอง
แมทเองมันก็ติดใจดิวยังกับอะไร
ถ้าไม่มีอิมแพ็คอะไรที่ทำให้แมทกลัวว่าจะเสียบอมไปล่ะก็ 
ไ่ม่มีทางที่แมทมันจะเลิกหรอก
การได้ไปหลอกกินคนอื่นนั้นมันชอบจะตาย
อีก 5 ตอนจบนี่แบบ...
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: popeyez ที่ 01-01-2017 21:42:31
เฮ้อออออ ตัวจริงก็ตัวจริงค่ะ เรายอมก็ได้ 555555

คือมันไม่ใช่อ่ะแมท มันไม่ใช่ แมทรักบอมจริงหรอ?

ทุกครั้งที่อ่าน เราตั้งคำถามตลอดว่า "จะรักกันตอนไหน" ซึ่งความจริงแล้วสองคนนี้ก็เป็นคนรักกันอยู่แล้ว แต่เราอ่านแล้วเหมือนว่ามันไม่ใช่เลย ฮือออออ เราจะบ้าแล้วววว

อยากถามจริงๆเลยว่า...รักกันจริงๆหรือเปล่า...

สู้ๆนะคะ เรารออยู่เสมอ >< 
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: nongtao ที่ 01-01-2017 21:50:52
แมทฉลาดมาก ทุกๆคำที่แมทพูดกับบอมคือการตอกย้ำฝังลงไปในหัวบอมว่าบอมก็เป็นฝ่ายผิด ขนาดบอมนอกใจแมทหลายต่อหลายครั้งแมทยังอภัยให้บอมได้ แล้วทำไมบอมไม่ใจกว้างให้อภัยแมทกลับคืนล่ะ พูดเลยเสือซ่อนเล็บอย่างแมทร้ายกาจกว่าเสือบอมหลายสิบเท่า
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 01-01-2017 21:52:36
โอ้ย  :katai1:    กลัวใจแมทจริงๆ   จะกลับตัวได้จริงเหรอ  คนมันเคยๆ  การที่โอ๋ดิวคืออะไร

 เรื่องดิวก็ไม่เคลียร์  ดิวจะยอมเลิกเหรอ   เหมือนดิวจะรักแมทมาก  เห็นบอมอาละวาดยังไปช่วยแมทอีก   

เฮ้อ  สงสารบอม   ไม่อยากให้เจ็บซ้ำๆ  รอนะคะ  อยากรู้จะจบยังไง  :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 01-01-2017 21:53:44
ปลงแล้วจ้าแล้วแต่บอมน้า
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-01-2017 21:58:32
อืมมมม ก็พอจะเข้าใจในเหตุผลที่คืนดีกันนะ
เหมือนกับว่าต่างคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน
คนเราพอจะมีดวงตาเห็นธรรม ก็บรรลุขึ้นมาเองดื้อๆซะงั้น
โอเค..เข้าใจล่ะ

ไม่มีใคร มาแทนที่ สำคัญได้
ไม่มีใคร เคยได้ใจ ไปซักหน
ไม่มีใคร ทำให้รัก ได้ซักคน
มีแแต่เธอ รักเปี่ยมล้น เพียงคนเดียว

ถึงจะหลอก ให้คนอื่น คิดว่ารัก
ก็แค่ชัก ชวนเที่ยว เลี้ยวไปเสียว
ต่อแต่นี้ จะเลิกแล้ว เก็บคมเคียว
ไม่ไปเที่ยว เกี่ยวใคร นอกจากเธอ

แมท+บอม
ถ้าจะรักกันจริงก็ต้องปรับปรุงตัวเองให้ดีให้ได้

หึหึ นิยายเรื่องนี้โลกไม่สวย จริงแหะ
ฮ่าฮ่า
 :z1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 01-01-2017 22:24:49
ปลงกับบอม เอานะ ถ้ายอมแล้วหลังจากนี้จะเกิดไรขึ้นแกโทษใครไม่ได้นะ
แมทฉลาดจริงๆยอมรับ แก้ปัญหาได้เก่งมาก
มีอะไรก็เซ็กส์มาก่อนเลย
เลวได้ฉลาดจริงๆ
ไม่ได้รู้สึกว่าแมทจริงใจเท่าไหร่เลย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 11 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 01-01-2017 22:31:42
พีคมากอยากอ่านต่อแอบร้้องไห้้ไปกะบอมแมทคนเห็็นแก่่ตััว กกดิิวต่่อไปเถอะ :z3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Banarot ที่ 01-01-2017 23:23:43
 :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 02-01-2017 00:12:02
 ว๊ากกก :katai1: :serius2: แมท บอม เข้าใจกันดีแล้ว เห้ออ คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วต้องกลับมารักกัน เพราะความรักจริงๆ
 ดีแล้วเป็นแฟนกันรักกันนานๆดีที่สุด  ถ้าไม่มีเหตุนอกกายกันแบบนี้ก็คงไม่รู้ว่ารักกันขนาดไหนสินะ
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 02-01-2017 00:46:59
เคลียเรื่องดิวยัง  :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 02-01-2017 03:48:28
ทำไมไม่เคลียร์เรื่องดิวล่ะแมท ทำไมไม่มีอธิบายเรื่องดิว
มีแต่พร่ำบอกรักงั้นงี้
นึกถึงภาพตอนมันกอดดิวสิบอม ทำไมให้มันง่ายๆ
ตอนนั้นเราเจ็บเท่าไหร่ ตอนมันป้องดิว กอดดิว ละไม่พูดชัดเจนว่ามันไม่ได้รักดิว
ดูก็รู้ว่ามันอยากเก็บดิวไว้ มาวันนี้ บอกเลย ไม่เคลียร์ ไม่บอกเหตุผลอะไรชัดเจน
มีแต่พูดให้บอมตระหนักถึงตัวเองบ้าง แต่ไม่เคลียร์เรื่องดิวเลย
ปล.ไม่ชอบแมทอยู่ดี
ปล.2 จะไม่ชอบมากถ้ายังไม่เคลียร์เรื่องดิวให้ชัดเจน
ปล.3 แต่ถ้าเคลียร์ชัดเจนแล้วว่าแมทจะเก็บดิวไว้ต่อ ก็ขอด่าดิวว่าโง่ ละเกลียดแมทยิ่งกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 02-01-2017 10:29:15
อื้อหืออ พอๆกันทั้งคู่เลย อย่างนี้ก็เลิกกันเถอะ แต่ก็สงสารบอมเพราะก็ยังรักอยู่ เฮ้ออ แมทถ้ารู้แล้วก็ควรจะคุยตกลงกันก่อน ไม่ใช่ไปมีคนใหม่อีกเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 12 [1/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 02-01-2017 13:12:03
แบบนี้ก็ดีนะ นอกกาย ไม่นอกใจ หลังจากนี้อยากเห็นอีกจังว่าจะนอกกายกันมากแค่ไหน ทั้งสองคนเลย ก่อนที่ไม่ใครก็ใคร สักคน มันจะถึงจุดอิ่มตัวก่อนกัน o18
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ได้ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 02-01-2017 13:14:13
เธอมีชู้

Special's Dew เป็นชู้ไม่ได้ตั้งใจ

[ดิว]
สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เสียงปิดประตูดังสนั่นก้องอยู่ในหูของผมเหมือนกับเสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของผู้ชายคนหนึ่ง ผมกระชับอ้อมแขนของตัวเองกับร่างกายของพี่แมทเอาไว้ กลัวว่าเขาจะไม่ปกป้องผม กลัวว่าจะต้องเจ็บตัวอีก แม้ว่าจะรู้สึกถึงการจากไปของคนที่ทำร้ายร่างกายกัน
 
“ไม่เป็นไรนะดิว บอมไปแล้ว...” เสียงของร่างสูงค่อนข้างสั่น ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะมีน้ำเสียงเหมือนคนร้องไห้ทำไม
 
“ผมกลัว...” ผมเงยหน้ามองเขา มองคนที่ผมรัก ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ยับเยิน เขาเองก็โดนไปไม่น้อยเหมือนกัน
 
“ไม่เป็นไรนะ ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วล่ะ” พี่แมทยิ้มบางให้กับผม พร้อมทั้งโอบกอดปลอบปละโลมผมอยู่นานสองนาน
 
ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ยอมรับว่าการที่พี่บอมเข้ามาแล้วทำร้ายกันขนาดนี้เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสมากสำหรับผม แต่นั่นไม่เท่ากับสิ่งที่เขาตะโกนใส่หน้าผมหรอก คำพูดนั้นยังก้องอยู่ในหู ไม่ได้หายไปไหน ถึงพี่แมทจะปลอบ จะทำแผลและดูแลผมดีแค่ไหน ผมก็เอาแต่เหม่อคิดถึงคำพูดของเขา
 
ตอนที่เข้ามา ผมรู้ได้ทันทีว่านี่คงไม่ใช่การทะเลาะกันของพี่น้อง พี่บอมเองก็ประกาศตัวปาวๆ ว่ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับพี่แมท แต่ผมเองนั่นแหละที่ไม่ยอมรับความเป็นจริง ผมยังอยากจะเชื่อมั่นว่าผมเป็นตัวจริงของพี่แมท ไม่ใช่พี่บอม
 
มันเป็นความรู้สึกที่เห็นแก่ตัว แต่ก็อยากยื้อเอาไว้ให้สุดความสามารถของตัวเอง เพราะผมรักพี่เขาไปแล้ว....รักไปจนหมดหัวใจ
 
“พักอยู่กับพี่ก่อนไหม...” หลังจากใส่เสื้อผ้า ทำแผลเรียบร้อยพี่แมทก็เอ่ยกับผมเสียงนุ่ม
 
“ครับ” และผมก็ยอมตอบกลับไปง่ายๆ ทั้งที่ในหัวยังคงว้าวุ่นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น
 
พี่แมทเก็บอารมณ์เก่ง เขาแค่ยิ้ม ทุกอย่างก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเดินเข้ามาในห้องนอนที่เราได้ใช้เวลาคลุกอยู่ด้วยกันมาร่วมสามวัน ข้างนอกพี่แมทกำลังทำความสะอาดห้องและเก็บกวาดข้าวของ ส่วนผม...แค่เอนกายนอนเท่านั้น
 
กลิ่นตัวจางๆ ของพี่แมทยังอยู่บนที่นอน ผมลูบไล้มันด้วยความรัก..
 
ผมกับพี่เขาเราคบกันง่ายมาก วันแรกที่ตกลงคบกันผมก็ยอมพี่เขาเสียแล้ว มันเหมือนกับว่าพอเราชอบเขาแล้วเราก็ยอมที่จะให้เขาทุกอย่างที่เขาต้องการ ความสัมพันธ์ระหว่างชายกับชายมันไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว ผมจึงไม่คิดเล่นตัว อาจเพราะคำพูดที่แสนจะอ่อนโยนของพี่แมทก็ได้ที่ทำให้ยอมง่ายเสียเหลือเกิน เขาเจ้าเล่ห์...เป็นเสือที่น่าตี
 
หลังจากเก็บห้องนอนเรียบร้อยพี่แมทก็เดินเข้ามา เขาทิ้งกายลงข้างๆ สวมกอดผมเอาไว้แล้วนิ่งงันไป ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากของคนข้างๆ มีแค่เสียงลมหายใจและความอบอุ่นที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเขายังอยู่กับผมเท่านั้น ผมพลิกกายหันไปหาเขา มองใบหน้าที่ต่อให้ช้ำก็ยังคงหล่อและดูดีในสายตาผม เขาหลับตาสนิท อย่างกับคนนอนหลับไป แต่บางอย่างบอกให้ผมรู้ว่าพี่แมทไม่ได้หลับเลย
 
“พี่แมทครับ...” ผมลองเรียกเขาดูเบาๆ
 
“ครับ...”
 
“อธิบายให้ผมฟังได้ไหมครับ...” ความเจ็บแล่นริ้วขึ้นที่ใจเมื่อตั้งคำถามใส่อีกฝ่าย ผมรู้ว่าความจริงมันจะเจ็บ แต่ผมยังอยากได้ยินมัน อยากรู้ว่าพี่แมททำแบบนี้เพราะพี่แมทรักผมจริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่ทำเพราะว่าต้องการเอาชนะอีกคน
 
“พี่ยังไม่พร้อมที่จะพูดดิว พี่ไม่ไหว...เพลีย” พี่แมทตัดบทด้วยการหันหลังให้กับผม เป็นการกระทำที่เจ็บกว่าให้คำตอบ ผมเม้มปากแน่น ตัดสินใจทำในสิ่งที่ค่อนข้างวัดใจพอสมควร
 
“งั้น ถ้าพี่พร้อมจะพูดเมื่อไหร่...ติดต่อมานะครับ” ผมอยากเรียกร้องความสนใจ จึงพูดแบบนั้นแล้วลุกขึ้นจากที่นอน ก้าวไปเก็บข้าวของของตัวเอง
 
พี่แมทแค่ขานตอบอืมแล้วก็นอนต่อไป ไม่มีท่าทีสนใจหรือแคร์อะไรผมแม้แต่น้อย สิ่งที่แมททำตอนที่พี่บอมเข้ามาคืออะไร การที่เขาปกป้องผมไม่ได้แปลว่าเขาเห็นผมดีกว่าหรือรักผมมากกว่างั้นหรอ ทำไมเขายังเมินผมได้แบบนี้
 
เจ็บกายก็ว่าสุดทนแล้ว...
 
แต่เจ็บที่ใจผมจะทนมันได้ยังไงกัน...
 
เมื่อสองวันก่อนผมยังคิดว่ามันเป็นวันที่ดีที่สุดของผม ได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ตัวเองรัก ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็วิเศษมากๆ พี่แมทไม่เคยให้ผมมาห้อง การที่ผมได้มาก็เหมือนการได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของเขามากขึ้นอีกก้าว รู้สึกความรักเรามั่นคงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกต่อใครมากขนาดนี้มาก่อน แต่แล้วผ่านไปสองวัน...มันก็กลายเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดของผมไปเสียได้
 
ทำไมสวรรค์ถึงเล่นตลกกับชีวิตผมได้มากขนาดนี้ พวกท่านเห็นความรู้สึกของมนุษย์เป็นอะไร ของเล่นหรือ เห็นคนเสียใจจะเป็นจะตายมีความสุขมากนักหรือไง ผมไม่ตลก ไม่สนุกด้วยทั้งนั้น ผมเจ็บ เสียใจ
 
ผมนั่งปาดน้ำตามาตลอดทาง มันห้ามไม่ได้เมื่อคิดถึงสิ่งเลวร้ายที่สุดที่แมทได้ทำกับผม นั่งคือเขาอาจจะหลอกผมมาตลอด เขามีตัวจริงอยู่แล้ว อยู่กินกับพี่บอมมานานและผมเป็นชู้รักของเขาเท่านั้นเอง การปกป้อง เป็นเพียงภาพมายา เขาแค่ไม่อยากให้ผมเจ็บ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขารักผม
 
กลับกัน...พี่แมทอาจไม่เคยรักผมก็ได้
 
ทำไมไม่ถึงไม่ใส่แหวนที่ผมซื้อให้ เพราะว่ามันจะทำให้คนที่บ้านรู้น่ะสิว่าตัวเองแอบมีกิ๊ก ทำไมไม่ให้มาที่ห้อง ก็เพราะคนที่ห้องของคือตัวจริงของเขายังไงล่ะ
 
สรุปแล้ว...พระเจ้าหรือพี่แมทกันแน่ที่เล่นกับความรู้สึกของผม
 
“เฮ้ย! ไอ้หมาดิว...นี่ไปฟัดกับหมามาหรอ” เสียงเอ่ยทักจากบ้านฝั่งตรงข้ามไม่ได้เรียกความสนใจของผมเท่าไหร่ ผมมองแค่บ้านตัวเอง คิดถึงสีหน้าของพ่อและแม่ที่เห็นสภาพผม
 
ผมจะบอกพวกท่านอย่างไร...
 
“อ่าว ใบแดกหรอวันนี้ หรือหมามันกัดลิ้นมึงขาด”
 
“หุบปากไปไอต้น! กูไม่เล่น!” ผมปาดน้ำตาแล้วหันไปตวาดไอ้คนปากเสีย
 
แต่เมื่ออีกฝ่ายเห็นสภาพผมจริงๆ มันก็นิ่งค้างอยู่ตรงรั้วบ้านของตัวเอง สายตาที่มองมามีทั้ความสงสัยและสงสาร ผมไม่สนใจ หันกลับมาที่บ้านของตัวเองอีกครั้ง ชั่งใจว่าจะเปิดเข้าไปเผชิญหน้ากับพ่อแม่ดีไหม แต่ไม่ทันได้ตัดสินใจ ไหล่ก็รับรู้ถึงน้ำหนักที่กดทับ ผมหันไปมองคนด้านหลัง ไอบ้าปากหมาที่กัดจิกผมได้ทุกวี่ทุกวันที่บังเอิญเจอกัน
 
ต้นเป็นเพื่อนบ้าน จริงๆ เขาเป็นรุ่นพี่เพราะปัจจุบันมันอยู่ปีสองแล้ว แต่ผมไม่เคยเรียกมันว่าพี่เลยสักครั้ง คงเพราะเราเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก และมันก็ปากหมามาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ผมเกลียดขี้หน้ามัน และตอนนี้ก็โคตรจะเกลียดมากขึ้นไปอีก
 
“จะเอาหน้าแบบนี้ไปพบพ่อแม่ คงไม่ดีมั้งมึง” เสียงของต้นดูอ่อนลง
 
“ไม่ต้องเสือก” ผมว่า สะบัดไหลออกแล้วเปิดประตูบ้าน
 
อะไรจะเกิด...ผมก็คงต้องปล่อยมันไป เหมือนกับเรื่องวันนี้ที่ผมทำอะไรไม่ได้สักอย่างนั่นแหละ
 
เมื่อพ่อกับแม่เห็นใบหน้าที่ยับเยินของลูกชาย ท่านทั้งสองก็ซักไซร้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีสภาพแบบนี้ ผมไม่เคยมีเรื่อง มีปัญหากับใครมาก่อน เรื่องชกต่อยไม่ต้องพูดถึง เด็กเรียนอย่างผมมีแต่เรียนกับเรียนเท่านั้น
 
“ผมโดนลูกหลงน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก...” ผมโกหกออกไปเพื่อปกป้องพี่แมท รู้ดีว่าถ้าบอกความจริง อะไรจะเกิดขึ้น
 
พ่อกับแม่ไม่เชื่อ พยายามซักไซร้ต่อ แต่เมื่อเห็นผมร้องไห้ ท่านก็ทำแค่ปลอบและเลิกถามคำถามที่ทำให้ผมจนปัญญาตอบ ผมขอตัวขึ้นห้อง ขังตัวเองให้จมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ
 
ผมเฝ้ารอเสียงมือถือของตัวเอง หวังให้มันดังขึ้น เป็นสายของพี่แมท แต่ไม่ว่าจะรอเท่าไหร่ มือถือก็ยังคงนอนนิ่งสนิทอยู่อย่างนั้นไม่มีการเคลื่อนไหว ความเงียบและสงบมันทำร้ายจิตใจของผมให้ช้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ
 
พี่แมทไม่คิดแม้แต่จะโทรมาหา ไม่คิดจะถามว่าผมเป็นยังไง แผลที่ร่างกายไม่ดีขึ้นซ้ำร้ายไข้ยังขึ้นอีก จิตใจผมอ่อนแอลงมากกว่าเดิม ผมจมลงไปในวงวนแห่งความเศร้าไม่มีสิ้นสุด อยากได้ยินเสียงคนที่ตัวเองรัก อยากได้ยินคำอธิบาย โกหกก็ได้...ถ้าแค่พี่ยังต้องการผมอยู่ ขอให้บอก ขอให้พูด ผมพร้อมที่จะให้อภัยและเชื่อมันสุดหัวใจ เพื่อที่ผมจะได้ไม่เสียพี่ไป
 
บางครั้ง ผมก็คิดอย่างคนเห็นแก่ตัวว่า...ไหนๆ พี่แมทก็เสียพี่บอมไปแล้ว มาคบจริงจังกับผมได้ไหม คนแบบนั้นน่ะปล่อยเขาไปเถอะ อย่าไปสนใจเลย อย่าใส่ใจเขาเลย ได้โปรดหันมาหาผม ผมที่รักพี่แมทที่สุด
 
แต่ดูเหมือนคำอ้อนวอนของผมจะไม่ประสบผล...
 
(เราเลิกกันเถอะดิว....พี่ขอโทษ แต่พี่ทิ้งบอมไม่ได้จริงๆ)
 
“ครับ...”
 
(แล้วเรื่องที่เกิดขึ้น...พี่ขอ....คือพี่)
 
“ผมไม่บอกพ่อกับแม่หรอกครับ”
 
(ขอบคุณมากนะ ขอให้ดิวเจอคนดีๆ นะครับ)
 
“ครับ”
 
เมื่อเขาโทรมา...เขาได้ทำร้ายหัวใจผมเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความว่าเลิกกัน ผมได้ยิน ผมก็ไปไม่เป็น อยากรั้ง แต่พูดไม่ออก ไม่รู้ควรจะพูดอะไร หน้ามันชาไปหมด หัวใจปวดร้าวอย่างกับจะแตกออกเป็นเสี่ยง ผมต้องเก็บกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นอย่างสุดความสามารถ เพื่อปล่อยเขาไปโดยไม่ให้เขารู้สึกแย่
 
ใช่...พี่แมทไม่รู้สึกแย่ แต่ผมเหมือนจะตาย
 
ผมร้องไห้หนักมาก พ่อกับแม่ไม่อยู่จึงไม่อดกลั้นเมื่อสายนั้นตัดทิ้งไปแล้ว น้ำตาและเสียงคร่ำครวญดังลั่นห้องนอนเล็กๆ ของตัวเอง สถานที่แห่งนี้ก็มีความทรงจำของผมกับพี่แมทมากมาย
 
เขามักมาหาตอนเย็นๆ มานั่งทำรายงานและเราก็กอดกันบนเตียง สัมพันธ์ทางกายเป็นอะไรที่พี่แมทชอบทำ เขาว่ามันเป็นการบอกรักที่ดีที่สุด ผมก็ยินดีที่จะรับคำว่ารักของเขาด้วยวิธีนี้ เรามีความสุขด้วยกัน...ผมรู้สึกเช่นนั้น และผมเองก็มีความสุขกับมันมากเหลือเกิน
 
แต่ตอนนี้...ห้องนี้เหมือนคุกที่ขังผมเอาไว้กับความเจ็บปวด มองไปทางไหนก็มีแต่ความทรงจำมากมาย และทุกความทรงจำมันเป็นความเจ็บปวด เพราะมันสวยงาม มันถึงทำร้ายผมมากขนาดนี้
 
สายตาของผมสะดุดกับบางอย่างบนโต๊ะเครื่องเขียน น้ำตาอันมากมายไม่สามารถบดบังความแวววาวของคัตเตอร์ได้ ผมเดินไปคว้ามันมาก่อนจะทรุดลงที่ข้างเก้าอี้ ในหัวยังมีแต่ภาพของเรา ในขณะที่คมมีดกรีดผ่านผิวให้เลือดได้ไหลออกมา ผมก็ยังคงฟูมฟายร้องไห้ราวกับมันจะสามารถทำให้ความเป็นเรานั้นหวนกลับคืนมา
 
“เฮ้ย!” เสียงทุ้มของบุคคลไม่ได้รับเชิญทำให้ผมชะงัก ผมหันไปมองทางประตู ต้นยืนอยู่ตรงนั้น
 
“มึงทำเหี้ยไรเนี่ยดิว บ้าไปแล้วหรอวะ!!!” ต้นพุ่งเขามากระชากคัตเตอร์ออกไปจากมือผม เขาเก็บมันเข้าด้ามดีแล้วๆ แล้วสอดใส่กระเป๋ากางเกงยีนสีซีด
 
“ไม่ต้องมาเสือกเรื่องของกู ออกไป”
 
“กูไม่ออก...กูไม่ให้มึงทำร้ายตัวเองหรอก แค่อกหัก จำเป็นต้องทำขนาดนี้ไหมวะ!”
 
“เรื่องของกู”
 
“เรื่องของมึงก็เรื่องของกูนั่นแหละ!!!” คำพูดของต้นทำให้ผมฉงน จึงมองหน้ามัน แต่ภาพของต้นก็พล่าเลือนพร้อมกับความอุ่นที่ริมฝีปาก...
 
“อื้อ!!!”

************จบ Special's Dew*************

 :hao7: พี่ชายข้างบ้านนั่นคือใครกันนะ

ถ้าคนเขียนจะแต่งเรื่องน้องดิวแยกจะมีคนอ่านไหมคะ ฮาาา :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 02-01-2017 13:26:54
แมทแย่มากว่า เด็กดิวนี่ก็ทำตัวน่าหมั่นไส้ แทนที่จะโกรธแมท ยังจะไปห่วงอีก ละแบบนี้แมทคงประทับใจมาก เลิกกับบอมเลยก็ดี ขอให้บอมได้เจอคนใหม่ คนที่ดีกว่าแมทในชีวิต แต่บอมก็ต้องไม่กลับไปมีนิสัยแบบเดิมน่นะนะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 02-01-2017 14:12:29
งุ๊ยยยยย.....จักจะว่าไงดี
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 02-01-2017 14:40:30
แมทนี่เหี้ยจริงจัง ส่วนดิวนี่คำว่าของตายเหมาะที่สุด ถึงขนาดยอมเป็นน้อยเลยนะนั่น

อยากอ่านพาร์ทของแมทบ้างอ่ะคับ :hao3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 02-01-2017 14:43:08
อ่านค่ะจริงๆดิวก็น่าสงสารนะดีที่แมทบอกเลิกดิว
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 02-01-2017 14:48:36
อ่านพาร์ทดิวละจี๊ดใจมาก

เราว่าแมทเล่นลงไปถึงความรู้สึกคน ไม่ใช่แค่ร่างกาย ดิวมีความรู้สึกให้แมทชัดมาก และดิวยังบอกชัดเจนว่าตอนนั้นแมทปกป้อง คืออะไรอ่ะแมท? ไม่เข้าใจ มันดูเกินเล่นนอกกายธรรมดาไปมาก

เอาบอมกลับมา อีกไม่นานก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ถ้าความรักกับความเชื่อใจไปคนละทางขนาดนี้ บอมต้องยอมรับนะว่าแมทกลายเป็นคนที่รักได้ แต่เชื่อไม่ได้อีกแล้ว

คิดจะรักแมทต่อไป ถ้าไม่ระแวงจับทุกฝีก้าว ก็ต้องทำใจยอมปิดหูปิดตา รับรู้ว่าเขามีคนอื่นแบบลึกๆ แต่ทั้งหมดนี้ลงท้ายก็คงเลิกกัน หรือใครคนหนึ่งหมดรักกันอยู่ดี ยื้อนานก็จบแบบอื่นไม่ได้ ยกเว้นทั้งคู่จะปรับตัว แก้ไข

แต่คิดว่าไม่รอด ต่อให้ปรับตัวกันไป อะไรที่มันแตกไปแล้ว รอยร้าวเดิมมันก็ยังเห็นอยู่ชัดๆ ไม่รู้นานแค่ไหนจะกลับมาเชื่อใจได้จริงๆ ความกลัวก็คงอยู่ในใจลึกๆนั่นแหละ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 02-01-2017 14:51:18
จะว่าไงดีล่ะ ... พอได้อ่านพาร์ทดิวก็คือ เหมือนเดิม... สะท้อนสังคมได้ดีจริงๆค่ะ คนสมัยนี้ก็แบบนี้ ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวและรักตัวเองกันทั้งนั้น ยอมโง่ ยอมเสียใจ ยอมเจ็บ ยอมทุกข์อยู่แบบนั้น เพื่อที่จะได้รับความสุขที่หลอกลวง โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง เฮ้ออออออ  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 02-01-2017 14:57:30
แมทก็ยังคงทำแบบเดิม....เมินความรู้สึกของคนอื่นๆ
แคร์เเค่ความรู้สึกตนเอง....เฮ้อ..... :z6:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 02-01-2017 16:19:49
คงต้องถามว่าดิวเห็นอะไรในแมท?
แมทเป็นคนที่หล่อ มีเสน่ห์มากๆ
เอาอกเอาใจ พูดเพราะ เปย์สุดๆ เอาเก่ง
พูดง่ายๆก็คือแฟนในอุดมคติเลย
บอมที่กะล่อนสุดๆยังตกหลุมแมท
แล้วประสาอะไรกับดิว?

การที่ดิวรู้สึกและยอมแบบนั้นเป็นเรื่องปกตินะเราว่าไม่มีใครอยากสูญเสีย 
ถ้าหากว่าดิวคบกับแมทไปนานๆจนผูกพันธ์กันแล้วเราว่านั่นแหละที่แมทอาจจะเลือกดิว

เราว่าในห้องนั้นแมทเลือกดิวเพราะความประทับใจที่ดิวปกป้องตัวเองขนาดที่เจ็บสุดๆ
เหมือนเป็นอะไรที่ทำโทษบอมด้วยหรือเปล่าที่อาละวาดขนาดนั้น
แต่ท้ายที่สุดเมื่อสติมา ความเป็นจริงย้อนกลับมาตีแสกหน้า
แมทก็เข้าใจว่าตัวเองเสียบอมไปแน่ๆถ้ายังไม่หยุด
ไม่ก็เจ็บที่เสียบอมไป
กับบอมแมทไม่ต้องเสแสร้งเท่าที่อยู่กับดิวนะเราว่า
ชีวิตจริงถึงมีแฟนที่นอกใจ โดนจับได้ เลือกแฟนใหม่
แล้วก็ย้อนกลับมาหาแฟนเก่าเพราะไปกับคนใหม่ได้ไม่ดีเท่าที่คิดไง
ส่วนต้นก็เพื่อนร่วมคณะแมทที่คอยสอดส่องแมทหรือเปล่า?
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 02-01-2017 16:37:32
มีคนใหม่เสียที
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-01-2017 16:52:35
อ่ะโห...ความรู้สึกที่แมทมีให้บอม
มันดูคุ้มครอง มากมายมหาศาลขนาดนี้เชียวเหรอ
มันใหญ่โตนะ ดูล้ำลึกซะขนาดน้านนนนนนน แมท

..ขอมองต่างมุม..
เพราะแมทรู้ถึงนิสัยของบอมเป็นอย่างดี
เลยรู้ว่าคนอย่างบอมเป็นแบบ เหมือนยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ
มีวิธีการเดียวเท่านั้นที่จัดการให้บอมสงบลงได้คือ ต้องให้บอมรู้สึกสะกดตัวเอง ห้ามตัวเองได้เท่านั้น
เหมือนพายุที่โหมแรง ต่อให้เอาอะไรมาสะกัดกั้นก็เอาไม่อยู่ แต่เมื่ออ่อนแรงลงพายุก็จะสงบไปเอง

แมทมองข้ามช้อต รู้ดีว่าการไปซ้อมลูกคนอื่นเค้า ยังไงซะพ่อแม่ก็ต้องกลับมาเอาเรื่อง
หนทางที่ดีก็คือ ต้องทำให้เจ้าตัว คนที่บาดเจ็บไม่เอาเรื่องแต่กลับลำออกตัวมาปกป้องความเจ็บตัวของตนด้วยตนเอง
การปลอบโยนของแมทให้ดิวรู้สึกดี แม้จะเจ็บกายแต่ก็ไม่เจ็บใจ
จนทำให้ดิวไม่คิดจะเอาคืน ฟ้องร้องจากที่บอมซ้อม ก็เพราะรักแมท เกรงใจคนรัก
เพียงแค่นี้แมทก็สามารถแก้ไขเรื่องร้ายให้กลายเป้นดีได้
บอมทำร้ายร่างกายดิวก็จะจบ เงียบหายราวกับสายลมพัดผ่านเลยไป

ดิวเป็นคนที่สงสารและน่าเห็นใจที่สุด
เป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่มีค่าน้อยมากในกระดาน
เป็นได้ก็แค่หมากเบี้ยตัวหนึ่เท่านั้นเอง จะหยิบเอาออกไปเมื่อไหร่ก็ได้
ไม่ได้มีค่า มีราคาอะไรมากมายนัก บนกระดานหมากเกมนี้

ต่างจากเขาสองคน ดูดีมีราคาบนกระดานหมากเกม
เพราะแมทและบอม ทั้งสองคนนี้เขาคือคู่ขวัญบนกระดาน

ชี้เป็นชี้ตายการพนันขันต่อ
ว่าจะแพ้หรือชนะในเกม

King & Queen
หุหุ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 02-01-2017 18:08:05
ต้น-ดิว เรื่องนี้ต้องขยายนะ แอบรักดิวแน่ๆ ดิวรักคนผิดคิดจนตัวตายเลยนะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 02-01-2017 18:45:37
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 02-01-2017 18:48:05
อ่ะโห...ความรู้สึกที่แมทมีให้บอม
มันดูคุ้มครอง มากมายมหาศาลขนาดนี้เชียวเหรอ
มันใหญ่โตนะ ดูล้ำลึกซะขนาดน้านนนนนนน แมท

..ขอมองต่างมุม..
เพราะแมทรู้ถึงนิสัยของบอมเป็นอย่างดี
เลยรู้ว่าคนอย่างบอมเป็นแบบ เหมือนยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ
มีวิธีการเดียวเท่านั้นที่จัดการให้บอมสงบลงได้คือ ต้องให้บอมรู้สึกสะกดตัวเอง ห้ามตัวเองได้เท่านั้น
เหมือนพายุที่โหมแรง ต่อให้เอาอะไรมาสะกัดกั้นก็เอาไม่อยู่ แต่เมื่ออ่อนแรงลงพายุก็จะสงบไปเอง

แมทมองข้ามช้อต รู้ดีว่าการไปซ้อมลูกคนอื่นเค้า ยังไงซะพ่อแม่ก็ต้องกลับมาเอาเรื่อง
หนทางที่ดีก็คือ ต้องทำให้เจ้าตัว คนที่บาดเจ็บไม่เอาเรื่องแต่กลับลำออกตัวมาปกป้องความเจ็บตัวของตนด้วยตนเอง
การปลอบโยนของแมทให้ดิวรู้สึกดี แม้จะเจ็บกายแต่ก็ไม่เจ็บใจ
จนทำให้ดิวไม่คิดจะเอาคืน ฟ้องร้องจากที่บอมซ้อม ก็เพราะรักแมท เกรงใจคนรัก
เพียงแค่นี้แมทก็สามารถแก้ไขเรื่องร้ายให้กลายเป้นดีได้
บอมทำร้ายร่างกายดิวก็จะจบ เงียบหายราวกับสายลมพัดผ่านเลยไป

ดิวเป็นคนที่สงสารและน่าเห็นใจที่สุด
เป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่มีค่าน้อยมากในกระดาน
เป็นได้ก็แค่หมากเบี้ยตัวหนึ่เท่านั้นเอง จะหยิบเอาออกไปเมื่อไหร่ก็ได้
ไม่ได้มีค่า มีราคาอะไรมากมายนัก บนกระดานหมากเกมนี้

ต่างจากเขาสองคน ดูดีมีราคาบนกระดานหมากเกม
เพราะแมทและบอม ทั้งสองคนนี้เขาคือคู่ขวัญบนกระดาน

ชี้เป็นชี้ตายการพนันขันต่อ
ว่าจะแพ้หรือชนะในเกม

King & Queen
หุหุ
 :katai2-1:
ตามนิสัยอิแมทเลยเนอะ  เห็นชัดสุดก็ตอนที่โทรมาขอเลิกแล้วดิวบอกว่าจะไม่บอกพ่อแม่
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 02-01-2017 19:00:35
สงสารดิวนะ  ตอนแรกคงดีใจที่ได้คบกับคนที่แอบชอบ
แต่สุดท้ายก็น้ำตาเช็ดหัวเข่า

จะรอดูว่าแมทจะได้รับการลงโทษมากกว่านี้ไหม ในการทำร้ายใครหลายๆคน
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-01-2017 19:04:41
เมื่อคิดว่า เป็นนักฆ่า ล่าสังหาร
ตามสันดาน ผลาญทุกสิ่ง ทิ้งสงสัย
ขอให้ได้ เนื้อเป็นเหยื่อ เหลือทิ้งไป
แคร์ทำไม มีเหลือเฟือ เมื่อต้องการ

นี่ล่ะ..ไอ่แมท
 :hao6:

อิอิ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 02-01-2017 19:25:12
ได้อ่านมุมดิวละ

จริงๆอ่านแล้วก็สงสารดิว
ในเรื่องไม่รู้ใครเลวสุดระหว่างแมทกับบอม
แต่บอมก็สำนึกผิดแล้ว
สงสารบอมเหมือนกัน
โดนหลอกทั้งๆที่เชื่อใจ  :hao5: :hao5:

สรุป อีแมท กูเกลียดมึง!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Pamaipraewa ที่ 02-01-2017 21:48:06
ขอให้คนใหม่ของน้องดิวดีจริงๆเถอะ เฮ้อออออ

อีแมท อยากทำไรทำ ไม่คาดหวังอะไรกับแกทั้งสิ้น555 อยู่ที่บอมแล้วด้วย ว่าจะยอมกลับไปแบบนั้นจริงๆเหรอ

ถ้ายอมกลับไป คิดว่ามันจะดีขึ้นมั้ย หรือหาคนใหม่อาจจะดีกว่า

//รออ่าน
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 03-01-2017 06:17:52
ดีใจกับดิวด้วยนะ ขอให้คนนี้ดีจริงๆ...

อ่ะ ป่ะ แป่ะๆๆ แยกย้ายค่ะ เข้าสู่พาร์ทหลัก

แมทแลดูเห็นแก่ตัวจัง ตัวเองมีแต่ได้กับได้ เฮ้อออ
พ่อเจ้าประคุณรุณช่อง
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-01-2017 07:06:02
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: บอมใจอ่อนกับแมทและ
นอกกาย แต่ไม่นอกใจ
ให้โอกาสกันและกัน แต่ต้องเลิกนอกกายกันละนะ
เสือแมท แล้วที่ปกป้องดิว
เพราะสงสารเหยื่อที่ตัวเองหลอกล่อ
ดิวน่าสงสารนะ หลงเสือแมท แถมเจ็บตัวอีก
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 03-01-2017 08:02:46
 :a5: ไม่รู้สึกดีกับแมทขึ้นเลย วันนั้น ถึงแมทจะสงสารดิวแค่ไหน (อาจจะบวกกับรู้สึกผิดที่ไปหลอกเขาด้วย) แต่ในสถานการณ์นั้น แมทควรแคร์บอมที่สุดสิ มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ควรคิดถึงใครหรืออะไรมากเกินกว่าคนที่ตัวเองรักกำลังร้องไห้จะเป็นจะตายเสียใจเพราะแก แล้วที่ไปมัวส่งสายตาสงสารเค้านักหนานั่น จะให้คิดว่าบอมเป็นของตาย ง้อเมื่อไหร่ก็ได้เหมือนที่ผ่านมาสินะ  :katai1: สองคนอาจมีชู้เหมือนกัน แต่ความเลวมันต่างกันมากเหลือเกิน ยังเชียร์ให้เลิกกันอยู่นะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: popeyez ที่ 03-01-2017 08:17:17
จะรอวันที่บอมและแมทเลิกกันจริงๆ เลิกแบบถาวรเลยงี้อ่ะ

สู้ๆนะคะ รออยู่เสมอ...
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-01-2017 11:04:14
เรื่องนี้ตีแผ่มุมมืดของคนมากกกก
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: HunterKill ที่ 03-01-2017 11:12:31
 รับไม่ได้กับไอ้แมทจิงๆ เหี้ยมาก  ส่วนบอมก้นะ ปล่อยตามยถากรรม
ถ้าเกิดในขีวิตจริง ใครมันจะไปรับได้ ไม่มีหรอกโดนทำขนาดนี้แล้วโง่กลับไปคืนดี
ยิ่งอ่านยิ่งเพลียกับไอ้แมท
รอดูบทสรุป ว่าคนแต่งจะให้ออกมาแนวไหน  ยืนยันเหมือนเดิม จากกันด้วยดี ดีสุดละ :katai1:

หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST Special's Dew เป็นชู้ไม่ตั้งใจ [2/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เข็มวินาที ที่ 03-01-2017 12:16:45
รออออ :z3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 03-01-2017 12:49:04
เธอมีชู้

บทที่ 13

ผมยืนอยู่หน้าห้องด้วยความแปลกใจ มันไม่เหบือความคุ้นตาอะไรเลย ใช่ว่าเละเทะจากเหตุการณ์นั้น แต่มันเหมือนถูกเปลี่ยนใหม่หมดยกห้องเลยมากกว่า ไม่มีอะไรที่เป็นของเดิมเลยนอกจากของสำคัญจิกจุก หรือของตกแต่งน่ารักเล็กๆ ซึ่งมีไม่กี่ชิ้น นอกนั้น โซฟา โต๊ะเล็ก ทีวีหรือแม้กระทั่งวอลเปเปอร์ในห้องก็ถูกเปลี่ยนหมด

“กูไม่อยากให้เหลืออะไรที่ทำให้นึกถึงวันนั้น” มันแก้ข้อสงสัยของผมพร้อมรอยยิ้ม

แมทจูงมือผมไปนั่งโซฟาสีน้ำตาลเปลือกไม้ ตำแหน่งถูกเปลี่ยน ไม่ใช่กลางห้องเหมอนเช่นเคย แต่มันก็ลงตัวดี ผมกวาดตามองไปรอบๆ สำรวจห้องที่เหมือนห้องใหม่ของตัวเอง จะว่าไปมันก็ดีเนอะ ไม่ต้องเห็นอะไรที่ทำให้นึกเรื่องวันนั้นแบบชัดเจน

“มึงลืมเปลี่ยนของสำคัญไปอย่าง” ผมเอ่ยลอยๆ

“อะไร”

“มึงไง...มึงนั่นแหละคือสิ่งของที่ทำให้นคกถึงเหตุการณ์นั้นได้ดีที่สุดเลย” จ้องหน้าด้วยสายตาจริงจัง แมทหน้าสลด สองมือเอื้อมมาคว้าตัวช้ำๆ ของผมไปกอด

“เปลี่ยนคนคงไม่ได้ แต่ถ้าเรื่องนิสัยอ่ะ กูเปลี่ยนแล้ว”

“อ่อหรอ” ทำเป็นขานรับแบบไม่เชื่อ

“อื้อ” แล้วมันก็กอดผมแน่น ซุกหน้าลงกับลาดไหล่ที่บางกว่า ทำเป็นอ้อนนะเวลาอย่างนี้น่ะ ถ้าไม่ทำผิดหรืออยากก็ไม่ทำหรอก

ถึงผมจะเลือกกลับมาอยู่กับมัน มันก็ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมไปซะทีเดียวหรอกนะ สิ่งที่เกิดขึ้นมันสร้างรอยแตกร้าวในจิตใจไปแล้ว ถึงจะเอามาประกอบจนเป็นรูปร่างเดิมแต่ไม่ได้ทำให้รอยร้าวนั้นหายไป ก็เหมือนแก้วที่ตกแตกนั่นแหละ ไม่ได้แตกต่างกันเลยสักนิดเดียว

“กูขอไปอาบน้ำหน่อย” ปล่อยให้แมทกอดมาสักพักผมก็บอกมันเสียงเรียบ แมทยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระแต่โดยดี

แววตาที่มองมายังผมนั้นกรุ่นไปด้วยความเศร้าหมอง มันเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้ว เหมือนตอนที่มันทำกับผม เย็นชาใส่ผมแถมยังพูดจาถากถางผสารพัด ผมเจ๋บมากเลยละในตอนนั้นน่ะ แต่คราวนี้เป็นตามัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะรู้สึกแบบผมไหม และจะรู้สึกไปได้นานเท่าไหร่

ผมเดินเข้าห้องนอนเพื่อเอาเสื้อผ้า ในนี้ก็มีสภาพเหมือนห้องนั่งเล่น คือเฟอร์นิเจอถูกเปลี่ยนใหม่ยกชุด ผมยืนมองสำรวจอยู่นิ่งพักหนึ่ง จากนั้นก็ไปเปิดตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ หาชุดของตัวเองที่ใส่สบายๆ มาหนึ่งชุด ปิดประตูแล้วเดินเข้าไปจัดการกับตัวเองในห้องน้ำ

ทันทีที่เปลื้องผ้าออกจากกายผมก็พบตราประทับมากมายตรงลำคอและเนื้อตัว ตอนที่แมทสร้างรอยเอาไว้ผมไม่ทันได้สังเกต อารมณ์ ณ ตอนนั้นทุกอย่างมันขาวโพลนไปหมด นัยน์ตาโฟกัสเพียงใบหน้าฉ่ำอารมณ์ของแมท หูได้ยินเพียงเสียงหายใจของเราสองคนสอดประสาน จวบจนเสรจสิ้นทุกอย่าง และกลับมา สมองผมยังเบลออยู่เลย ผมแทบจำอะไรระหว่างทางไม่ได้สักอย่างเดียว

ก๊อกๆ

“บอม...มึงเป็นอะไรหรือเปล่า” ผมหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง หันไปมองตรงประตูห้องน้ำก่อนจะตอบออกไป

“ไม่ กูไม่เป็นไร”

“อ่อ กูนึกว่ามึงเป็นไรเห็นเข้าไปนานแล้ว กูรออยู่ข้างนอกนนะ”

“อืม” ขานตอบแค่นั้นแบ้วอาบน้ำต่อ

ผมไม่ได้รีบเร่งอะไร ค่อยๆ อาบ ค่อยๆ ถูเนื้อถูตัวไปอย่างเชื่องช้า ไม่ใช่ว่ากลัวผิวจะเสียหากขัดตัวแรง แค่อยากคิดอะไรคนเดียวให้นานกว่านี้สักหน่อย ตอนนี้ผมลังเลในความสัมพันธ์ของเรา มันจะเป็นเหมือนเดิมได้หรอ จะกลับมารักกันสนิทใจได้จริงๆ ไหม ผมไม่ได้ตั้งคำถามพวกนั้นให้ตัวเองหรอกเพราะนัวเองย่อมรู้ดีที่สุด แต่คนที่ผมตั้งคำถามนี้ด้วยคือคนที่บอกจะรออยู่ด้านนอกนั่นแหละ

ความไว้เนื้อเชื่อใจเมื่อสํญเสียมันไปแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะสร้างใหม่ให้กับมาเป็นอย่างเดิม หากต้องอยู่ด้วยกันอย่างหวาดระแวงกันตลอดเวลา เราจะอยู่กันได้ไหม ผมคิดว่าผมคงลำบากใจมากๆ วันๆ หนึ่งต้องคอยห่วงว่าตอนนี้มันจะทำอะไร ที่ไหน จะโกหกผมอีกหรือเปล่า จะแอบไปหากิ๊กของมันไหม ถ้าอาการหนักขึ้นผมอาจจะประสาทเสียได้ ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยมาคิดอะไรอย่างนี้ ทว่าตอนนี้กลับต้องมาคิดหนักเสียด้วย การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ง่ายเลยที่จะทำใจยอมรับมัน

“นานจัง ทำอะไรอยู่” พอออกมาแมทก็ดิ่งเข้ามาหาทันที มันดึงเอาผ้าขนหนูบนบ่าผมไปถือ จูงมือที่วางไว้ข้างตัว ลากไปนั่งบนเตียงนอนสีเข้มก่อนจะเช็ดผมให้กับผม

“คิดอะไรนิดหน่อย” บอกไปตามตรง

“บอกได้ไหมว่าคิดอะไรอยู่” แมทถาม

“คืดเรื่องของเรา” ดูเหมือนว่าเราจะถามตอบกันเพียงสั้นๆ เพราะอารมณ์ในตอนนี้ยังไม่กลับมาเป็นปกติ เหมือนกับสถานะของเรานั่นแหละ

“บอกได้ไหมว่ามึงคิดยังไง”

“กูคิดว่า...เราจะกลับไปเป็นเดิมได้จริงๆ หรอ มึงก็รู้ครั้งนี้กูสูญเสียอะไรไปหลายอย่าง...การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้กูกังวลใจ” เงยหน้าสบตากับคนถาม แมทระบายยิ้มมาบางๆ ร่างใหญ่กว่าตรงหน้าค่อยๆ ย่อนั่งยองเพื่อให้ใบหน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน
“มันคงยากละมั้ง เหมือนครั้งที่กูจับได้ว่ามึงพาหญิงเข้าโรงแรมไง กูก็เครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น หวาดกลัว กังวลว่ามึงจะมีใครอีก ถึงคอยถามตลอดว่าไปไหน ทำอะไร กับใคร เช็คทุกอย่างเท่าที่กูจะเช็คได้ มันเหนื่อยมากเลยมึงรู้ไหมกับการต้องอยระแวงคนที่เรารัก แต่ในเมื่อมันโดนหักหลังมาแล้ว...สูญเสียความเชื่อใจไปแล้ว มันก็ต้องทำ เพราะรักถึงเป็นแบบนั้น ตอนนี้กูเข้าใจมึงดี มึงก็เหมือนกับกูในช่วงเวลานั้น และกูก็เข้าใจมึงดีอีกเช่นกันเมื่อตกต้องอยู่ในสถานะนี้...สถานะที่ไม่ต่างจากนักโทษคดีร้ายแรง” แมทอธิบายยาวเหยียด เป็นคำอธิบายที่เข้าใจได้

“ในเมื่อมันเหนื่อยขนาดนี้ เราจะทนกันทำไมวะ” คำถามจากปากของผมทำให้อีกคนคิ้วขมวด

“คำถมของมึงทำให้กูเจ็บปวดจริงๆ มึงพูดเหมือนมึงไม่อยากทน มึงทนไม่ได้ ถ้าหากทนกันไม่ได้อย่างที่มึงรู้สึก ทางเลือกเดียวที่มีก็คือการเลิกรากันไป มึงต้องการแบบนั้นหรอ กูไม่ต้องการอย่างนั้นเลย...กูทำใจไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่มีมึง มึงรู้ไหม ช่วงเวลาที่มึงหนีกูไป กูพยายามแล้วที่จะตัดใจจากมึง กูคิดว่าก็มีดิวแล้วไงไม่เห็นต้องแคร์มึงก็ได้ แต่กูก็หลอกตัวเองได้แค่ไม่กี่วัน...ข้างกายกูไม่มีมึงไม่ได้จริงๆ” แววตาคมคู่นั้นมองมาเหมือนกำลังขอร้องอย่าให้ผมทิ้งมันไปเลย

ผมเองก็ใอยากการเลิกกันมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกหรอก เพียงแต่ถ้ามันทรมานแล้วเราจะทนกันได้ยังไง อยู่ด้วยกันแล้วระแวงกันตลอด มันเหนื่อยมากๆ จนผมไม่คิดว่าผมคนนี้จะทนได้ แต่ถ้าถามว่าระหว่างจบกันไปหรืออยู่ด้วยกันแบบนี้ผมเลือกอย่างไหน คำตอบนั้นง่ายดาย เบือกที่นะอยู่กัยมันไง แม้ว่าจะต้องทรมานกับความหวาดระแวง แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีมันคอยอยู่ด้วยกัน

“เฮ้อ...” ผมถอนหายใจ หนทางข้างหน้าคาดเดาได้ยากจริงๆ ผมก็ไม่เคยคิดวางแผนหรอกเวลาคบกับมันน่ะ ไม่เคยคิดว่าเราคบกันต้องเป็นอย่างนี้อย่างนั้น เพียงแต่ครั้วนี้มันทำให้อดคิดถึงอนาคตของเราไม่ได้

ช่างแม่งละกัน....

ในเมื่อตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก มองอนาคตไม่เห็น ฝืนต่อไปก็รังแต่จะทำให้ปวดหัวอยู่ดี คงต้องปล่อยมันไปแล้วค่อยดูกันอีกทีเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ผมคิดว่าทางของปัญหามักจะมาเองเมื่อถึงเวลาของมัน สิ่งที่ผมทำได้คือรอและปล่อยวาง ในเมื่อเลือกที่จะกละบมาก็ต้องทำใจกับสิ่งที่จะตามมาด้วย ผมเองห็รู้ดีไม่ใช่ไม่รู้ว่าต้องเจออะไร แต่ก็กลับมาอยู่ในจุดนี้แล้ว มันข่วยไม่ได้จริงๆ

“เล่าเรื่องมึงกับมันให้กูฟังหน่อยสิ” ผมถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าการถามไปแบบนี้จะดีไหม แค่อยากรู้เท่านั้นเอง

“ดิวหรอ...”

“หรือมึงมีหลายคน” พอตอบอึกอักมาแบบนี้ผมเลยถาม มันทำหน้านึกแล้วพยักหน้า

เพี้ย!

ผมฟาดมือใส่หน้าแมทเต็มแรงเมื่อได้ยินคำตอบ ในฐานะผู้ชายก็น่ายกย่องแหละที่กล้ายอมรับความจริง แต่ในฐานะแฟนผมรับไม่ได้เว้ย จะปล่อยผ่าน ยิ้มรับหน้าบานเชี่ยไร ไม่! ถึงตอนนี้มันผ่านจุดนั้นมาแล้วแต่ก็ต้องเอาคืนบ้างอยู่ดี

“เล่าต่อสิ” แมทพยักหน้า มันปล่อยมือจากแก้มผมแล้วนั่นคุกเข่าที่พื้นตรงหน้าผม

“กูเจอดิวตอนต่นเทอม ช่วงรับน้องแรกๆ”

“เลว!” ด่าออกไปเบาๆ เพราะเดาได้เลยว่ามันต้องอ่อยเหยื่อตั้งแต่ตอนนั้น แล้วนั่นมันหลายเดือนมาแล้ว เท่ากับหลอกลวงผมมาโคตรนาน

แต่ผม...ก็ไม่ต่างกันป่ะวะ

เออๆ ข่างแม่ง เอาความผิดของไอ้เวรนี่ก่อน ของผมปล่อยผ่านไปซะเพราะตอนนี้ผมไม่ใช่คนผิด ถึงผมจะมีเรื่องชู้สาวตั้งแต่ช่วงปิดเทอมมอหก แต่ก็ไม่ได้คบใครยาวๆ แบบมัน ฟันแล้วก็ทิ้ง ไม่สานต่อ ไม่สร้างความสัมพันธ์ให้ยืดเยื้อ ขนดชาดพี่พู่ที่ผมปรนเปรอเธอนั่นคบแค่เดือนเดียวเอง ต่างจากแมทเห็นๆ ไอ้นี่เล่นคบยาวนานไม่ต่างจากตัวจริงเลย

“กูถูกใจเด็กคนนี้เพราะตรงสเป็กกูทุกอย่าง กูเลยแกล้งเป็นลมตอนเขาเดินมาที่แถวกู ดิวตรงเข้ามารับร่างกูไว้ก่อนรุ่นพี่ พอเขาพากูไปห้องพยายามดิวก็อยู่เฝ้สดูแบกู กูก็เลยขอคบวันนั้นเลย”

“ส่ำส่อน” แมทเงยหน้ามองอ้อน มันจับมือทั้งสองข้างผม กุมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย สงสัยกลัวโดนตบหน้าอีก นี่ถ้าไม่เห็นแก่มันจะต่อยให้ ถ้าผมเยินไปหมดเพราะล้ม แต่มันยังใสอยู่เลย สมควรยับเยินแบบผมบ้างนะ

“กูมารู้ระหว่างกลับว่าดิวมันเป็นรุ่นของพัน เพื่อนกู ตอนแรกกูกะจะไม่ให้ดิวบอกไอพัน แต่ไม่ทัน พอไอพันมันแซว ดิวก็ยอมรับไปว่าคบกับกูแล้ว”

“เพื่อนมึงรู้ด้วยหรอนี่...แสดงว่ามึงไม่เคยบอกใครเลยสินะว่ามึงกับกูคบกัน” แมทพยักหน้ารับอย่างง่าย

เพี้ยะ!

ผมดึงออกมาอย่างแรงแล้วฟาดใส่หน้ามันเต็มๆ ซ้ำที่เดิม ริมฝีปากได้รูปแตกมุมจนเลือดซึมออกมา ผมยิ้มบางอย่างสะใจ ไม่สนหรอกว่ามันจะเจ็บไหม มันทำตัวเองทั้งนั้น ถ้าเบมากนักก็ต้องโทษตัวเองไป

“กูเจ็บ...” มันส่งเสียงโอดโอย

“แล้วกูไม่เจ็บหรือไง เล่าต่อ” ผมเสียงแข็งใส่ แมทจำต้องยอม

“อืม หลังจากนั้นกูก็คบกับดิว เวลามีคาบว่างช่วงเย็นๆ กูก็จะไปหาดิวตลอด ยิ่งดิวเองมาที่คณะกูบ่อยๆ ก็ยิ่งง่ายที่จะหาเวลาอยู่ด้วยกัน” แมทจับมือผมแน่นมาก ทั้งที่ผม ยากจะต่อยมันสักหมัด แต่ไม่เป็นไร รวบยอดตอนแม่งเล่าจบ

“แล้วไปได้กันตอนไหน” ถามไปเสียงก็สั่นไป โกรธแค่ไหนถามใจดู

“ก็...วันแรกที่คบกันเลย” ได้ยินแค่นั้นแหละ จากที่คิดว่าจะอดทนให้มันเล่าจบทีเดียวก็เป็นอันต้องทิ้งไปทันที ผมสะบัดมืออย่างแรงแล้วปล่อยหมัดใส่ตรงมุมปากที่แตกของแมททันที ร่างใหญ่แทบล้มไปด้านหลังดีที่ยันตัวเองเอาไว้ได้ ผมคิดทันในเสี้ยวนาทีเลยว่าถ้ามันล้มผมจะซ้ำมัน เสียดายจริงๆ!
“เล่าอีกสิ!” ผมนั่งกำหมัด ข่มอารมณ์แล้วสั่งให้แม่เล่าต่อ ทั้งที่สถานะการณ์ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้น

ไม่ได้หรอก จะมาให้มันหยุดเล่าตอนนี้ได้ยังไง เรื่องราวเลวๆ ของมันผมต้องรู้ให้หมดให้ได้ มันปกปิดเรื่องไอ้เด็กเวรนี่มาตลอด ลอบคบกันจิงจังจนน่าฆ่าแม่งให้ตายทั้งคู่ ขนาดผมว่าเจ้าชู้แล้ว มีคนแล้ว เจอมันนี่ผมชิดซ้ายเลยจริงๆ แค่หลอกลวงมันไปวันๆ หาโอกาสไปนอนกับหญิงบ้างยังยาก แต่มันเล่นทำเป็นกิจลักษณะ

“หยุดทำร้ายกูก่อนสิ ให้กูเล่าให้จบก่อนได้ไหม...มึงเองก็มีเรื่องที่ต้องเล่าเหมือนกันนะ” แมทไม่ได้พูดออกด้วยความโกรธ แต่เป็นเพียงคำพูดราบเรียบเหมือนเป็นปกติที่ร้องพูด

“ถึงกูจะเอากับสาว แต่กูก็ไม่เคบใครจนเหมือนแฟนแบบมึงหรอก” ผมสวน อารมณ์ยังคงคุกรุ่น พร้อมเดือดใส่ได้ทุกเมื่อ

“แต่ก็มีใช่ป่ะละ”

“กูไม่เถียง เล่าของมึงมา”

“ก็นั่นแหละ กูคบกับดิวมาเรื่อยๆ เพราะดิวเป็นเด็กง่ายๆ กูพูดไรก็เชื่อ มันเคยอยากมาที่ห้องกูบ้าง แต่กูบอกว่าไม่ได้เพราะน้องชายกูเขาไม่ชอบเกย์” อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงถ้าไม่กลัวว่าทำแบบนั้นจะหมดหล่อ

“ซึ่งน้องมึงคนนั้นก็คือกู ช่างสรรหาคำโกหกนะมึง”

“หลังจากนั้นดิวก็ใม่เร้าหรืออยากมาห้องกูอีก เวลากูจะทำกัน กูก็ไปทำที่บ้านดิว เพราะมันใกล้มหาลัยแล้วพ่อแม่น้องเขาไม่ค่อยอยู่บ้านนัก นอกนั้นก็พาไปเที่ยวบ้างปกติ กูมักจะบอกกับมึงว่ากูไปทำรายงาน กลับดึก” ไม่ต้องสารภาพก็เดาได้ เพราะตั้งแต่เรียนมหาลัยแมทก็ชอบบอกว่าไปทำรายงานบ้านเพื่อนตลอด ผมไม่ใช่คนขี้สงสัยอะไรนัก เลยซักถามเหมือนมันว่าเพื่อนคนไหน กี่คน มีใครบ้างบลาๆ

“แต่ล่าสุดกูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชวนดิวมาที่ห้องตอนมึงไปเข้าค่าย กูก็แค่คึก อยากลองจัดหนักทีเดียวสามวันรวด” อยากจะกระทืบมันให้ตายคาตีนจริงๆ คิดมาได้นะ อยากจัดหนักสามวันรวด

“ในหัวสมองมึงไม่เคยมีกูอยู่เลยสินะ”

“ไม่ใช่ กูแค่สนุก” มันหน้าสลดลงเล็กน้อย คงเข้าใจดีว่าการกระทำของตัวเองนั้นร้ายกาจขนาดไหน

“แล้วกูก็มาเจอแจ็คพ๊อต มึงสองคนเยอกันมันไปเลยนะ แถมยังปกป้องกันออกนอกหน้าอีก...”

“กูจำเป็นต้องทำ!” แมทรีบค้านขึ้นมา

“อะไรคือความจำเป็นของมึง” หัวชักร้อนแล้ว เดี๋ยวได้มีลงไม่ลงมืออีกแน่ๆ

“ก็ดิวมันยังเด็ก เกิดพ่อแม่มันรู้จะทำไง กูซวยกูไม่ซีเรียตหรอก เพราะยังไงดิวต้องปกป้องกูแน่ มันรักกู แต่ถ้ามันซวยมาถึงมึงละ...กูจะทำไง” เหตุผลช่างดูดีเหลือเกินนะ

“จริงๆ คนจะตอแหลอะ...มันก็แถได้หมดละ”

“กูพูดจริง กูต้องอยายอร้องดิวว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ น้องเขาเสียใจมากแต่สัญญาว่าจะไม่บอก เป็นสิ่งสุดท้ายที่มันจะมอบให้กูก่อนเลิกกัน”

“ว่าวเลิกกันแล้ว กูดีใจมาก” ผมประชด

ผมรู้ว่ามันก็คงไม่อยากเลิกกับเด็กคนนี้นักหรอก ไม่งั้นจะเลี้ยงดูปูเสื่อมาขนาดนี้ทำไม แต่เพราะผมอีกนั่นแหละ ถ้าไม่เลิกการให้ผมกลับมาคบกับมีลันอีกคงเป็นไปไม่ได้ ผมไม่ยอมแน่นอน ถึงกลับมาก็ไม่วายตามราวีไอ้เด็กนั่นจนกว่าสักวันหนึ่งผมจะทนไม่ได้และเดินจากพวกมันสองตัวไปเอง

แมทเราจบแล้วก็นั่งเงียบๆ สายตาคมจับจ้องผมที่ยังขบคิดเรื่องดิวอย่างแค้นใจ ถ้าดิวเป็นเพียงเด็กที่มันคบเล่นๆ มาในระยะเวลาสั้นๆ ผมยังไม่โกรธเท่านี้เลย แต่นี่มันกินเวลาหลายเดือนนับตั้งแต่เริ่มอยู่ด้วยกันได้ไม่ถึงสองเดือนดีด้วยซ้ำ ทำกันได้ลงคจริงๆ แค่สนุกงั้นเหรอ...เอากันทุกวัน แทบตลอดตอนผมไปเข้าค่าย แล้วยังเอากันแทบทุกวันมาตั้งนานแล้ว เพราะผมจำได้ดี อะไรแมทก็ต้องไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน

“มึงเล่าบ้างสิบอม” แมทเอ่ยหลังจากเราเงียบกันไปครู่ใหญ่ๆ

“คนที่มึงไปเจอวันนั้นในโรงแรมชื่อพู่กัน เป๋นรุ่นพี่ต่างคณะ บังเอิญเจอในเฟซ กูจีบเขาและเขาก็เล่นกับกูด้วย เราคบกันได้เกือบเดือนแต่ไม่ได้เจอกันบ่อยนัก ถ้ากูว่างจริงๆ จากตารางสอนหรืออาจารย์ยกเลิกคลาสกูก็จะไปเที่ยวกับเธอ กูหาโอกาสฟันอย่างเดียว ล่าสุดกูเจอกับบัวที่มึงเคยเจอนั่นแหละ กูก็กะเลิกกับพี่เขาแล้วไปล่อบัวต่อ ก๊แค่นั้น ก่อนหน้ามีฟันสาวบ้างเล็กๆ น้อยๆ ส่วนใหญ่ก็แค่แซวเล่นไปตามประสากูนั่นแหละ กูไม่เลวอย่างมึงหรอกแมท ที่คบคนเดียวจนแทบเหมือเป็นตัวจริงแล้วเก็บกูไว้เป็นตัวสำรอง” ผมเล่ายาวทีเดียวจบ แต่ไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมดที่ผมทำ

เรื่องไรจะต้องเล่าหมดเปลือกละ...แบบนั้นผมก็เลวเหมือนกันสิ

สีหน้าแมทดูเหมือนยังมีความคราแครงใจ มันก็คงรู้ทันผมอยู่บ้างแหละว่าที่ผมเล่านั้นเป็นการเล่าข้ามๆ ส่วนสำคัญไปมาก ไม่เหมือนที่ค่อนข้างจะละเอียดและตรงจุด แต่มันก็ไม่ได้แย้งอะไร ซึ่งนั่นแหละดีแล้ว ถึงแย้งมาผมก็สวนกลับ ตอนนี้เราต่างก็มีประวัติไม่ต่างกัน

“ทำไมมึงยังต้องการผู้หญิงวะ” มันถาม
“เป็นธรรมดาเปล่าวะที่กูยังคงมีความต้องการกับเพศตรงข้าม”
“ทั้งที่มึงมีกูอยู่แล้ว...”
“ใช่ เหมือนมึงไง ที่มีกูอยู่แล้วแต่ไม่รู้จักพอ การเป็นฝ่ายรับให้มึงมันก็รู้สึกดี กูชอบที่ถูกมึงกอด แต่บางครั้งกูก็ยังต้องการกอดผู้หญิง มึงก็เคยกับผู้หญิงมึงน่าจะเข้าใจว่ามันแตกต่างกัน กูไม่ได้มีชู้เพื่อหาสิ่งที่ดีกว่าแบบมึง...” ความต่างระหว่างการนอกใจของมันกับผมคือตรงนี้ และมันเจ็บปวดมากกว่าก็ตรงนี้อีกเช่นกัน ถ้ามันไปหาผู้หญิง เอาผู้หญิงผมยังคงพอเข้าใจได้

“การทีมึงแอบคบกับดิวมันทำให้กูรู้สึกว่า...กูไม่เคยดีพอสำหรับมึง” ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แมทไม่ได้เงยหน้ามองแต่ก้มต่ำมองพื้นเบื้องหน้า


มีต่อจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 03-01-2017 12:53:11
 :katai5: ต่อจ้า

“มึงตอบสนองความต้องการในตัวผู้หญิงของกูไม่ได้มันเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่การที่กูตอบสนองมึงที่ต้องการผู้ชายไม่ได้กูไม่เข้าใจ...” ผมสาวเท้าออกมาจากห้องนอน เดินตรงไปที่ครัวเพื่อหาอะไรกิน

ภายในใจยังคงปวดแปล๊บกับคำบอกเล่าของแมท ผมยังมีความโกรธความไม่พอใจอยู่มาก สีหน้าเลยบึ้งตึงไม่รับแขกเอามากๆ ตีกาจะขึ้นไหมก็ไม่รู้เบ่นทำหน้าแย่ๆ แบบนี้ แล้วถ้าปล่อยให้ตัวเองเครียดแบบนี้ไปอีกสักพัก หน้าผมจะแก่เร็วและหวก็จะหงอกด้วย เฮ้อ...นี่เราเพิ่มความเครียดให้กับตัวเองนะนี่

ผมนั่งเล่นตรงเคาน์เตอร์ครัว ในมือถือกระป๋องแป็บซี่เย็นเฉียบเอาไว้ สายตาเหม่อลอยไม่ได้จับจ้องอะไรเป็นพิเศษ ตอนนี้กำลังใช้ความคิด กำลังฟุ้งซ่านและก็ไม่ห้ามตัวเองด้วย ปล่อยให้มันคิดในสิ่งที่อยากคิดไปนั่นแหละ ไม่ประสาทแดกก่อนก็คงดีไป

แมทไม่ตามผมเข้ามาในตชครับ ไปรู้ตอนนี้ทำอะไรอยู่เหมือนกัน แต่นี่เป็นเรื่องดี ปล่อยให้ผมได้อยู่คนเดียว คิดคนเดียวบ้างมันก็ไม่แย่นักหรอก ยกน้ำอัดลมกระดกดื่มเพลินๆ เออ...จะว่าไปผมยังไม่ได้บอกเต้กับกล้าเลยว่ากลับมาอยู่กับแมทแล้ว พวกมันจะรู้สึกแย่ไหมเพราะอุตส่าห์ช่วยผมเอาไว้ซะขนาดนั้น เดี๋ยวก็หาว่าผมจะมองมันเป็นหมากันอีกหากกลับมาคืนดีกับแฟนแล้ว

“กินน้ำอัดลมทำไม มันกัดกระเพาะนะ” กำลังคิดอยู่ว่าจะไปเปิดเครื่องแล้วโทรบอกเต้กับกล้าดีไหม แมทก็เข้ามาก่อน สภาพมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จทั่วไป

“ไม่รู้จะกินไร มึงหาไรให้กูกินสิ” ในเมื่อแมทพูดเหมือนเร่องเมื่อครู่ไม่มีอะไรเป็นเรื่องใหญ่ ผมก็ยินทำ ไม่ใช่ไรนะ...ผมเครียดอะถ้าต้องมีปากเสียง ปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยผ่าน อย่ามาจุดประเด็นอีกก็พอละ

“งั้นไปรอก่อน”

“เค กูยืมมือถือด้วยนะ”

“ตามสบายกูไม่ได้ใส่รหัส” ผมชะงักเท้า

“ทำไมไม่ใส่รหัส” ถามด้วยความสงสัย

“ก็เผื่อมึงจะเข็คไง จะได้ทำได้ตลอดเวลา อันที่จริง...กูว่าจะแลกมือถือกับมึงใช้” แลกมือถือก็ดีนะ จะได้รู้ว่าวันๆ หนึ่งมีใครทักมันบ้าง มีใครโทรมาหามันบ้าง

“อืม ก็ดีนะ...” ผมยิ้มให้มันแล้วเดินออกมา โทรศัพท์แมทวางอยู่ตรงโต๊ะกระจกหน้าโซฟา

หยิบขึ้นมาได้ก็ปลดล๊อคหน้าจอ ไม่มีที่ใส่รหัสจริงอย่างที่แมทว่า งั้นก็สบาย ผมตรงดิ่งจิ้มเข้าไลน์แล้วเลือกอ่านของดิวทันที ลืมสนิทเลยว่าจะโทรบอกเต้และกล้าว่ากลับบ้านแล้ว เอาเถอะ เดี๋ยวอ่านพวกนี้ก่อนค่อยว่ากันอีกที

ข้อความไลน์ดิวรอบนี้ไม่มีการลบทิ้ง ทำให้สามารถอ่านได้หมด แต่วันที่สนทนาล่าสุดมันค่อนข้างนานแล้ว ตั้งแต่ผมไปเข้าค่ายได้ละมั้ง นอกนั้นว่างเปล่าไม่มีการพิมพ์อะไรโต้ตอบกันอีกเลย ซึ่งมันแปลกมาก
“มึงบอกเลิกตรงไหนวะ ไม่เห็นมี” ผมตะโกนถามเสียงดัง
“โทรไปอะมึง”
“หรอ แน่ใจ...ตอแหลใส่กูอีกเปล่า”
“ไม่เชื่อโทรไปถามมันได้” เรื่องไรจะโทรไป เกลียดขี้หน้ามันขนาดนั้นยังจะอยากได้ยินเสียงมันเสียที่ไหน ไว้ถ้ามันยังไม่จบกันจริงๆ ผมค่อยเล่นให้ตายไปทั้งคู่เลย

ผมกดปิดแชตดิว ออกมาสังเกตหน้าแชตแบบใส่ใจลายละเอียด พบว่าแชตที่แมทคุยส่วนใหญ่มีแต่เด็กผู้ชาย หน้าหวานบ้าง หน้าคมเข้มบ้างสลับๆ กันไป ผมกดเข้าไปดูแม่งทุกอันแหละ บางอันนี่คุยกันหวานจ๋อย น่ารักกุ๊งกิ๊ง แต่บางอันนัดไปหากันอย่างเดียวก็มี แมทนี่ส่ำส่อนเนาะ เลวจริงๆ

ด่าเขาไม่ดูตัวเอง...

ดีที่ของผมนั้นลบไปแล้วไม่งั้นมีการมานั่งจับผิดกันในไลน์เกิดขึ้น ผมบล๊อคไลน์ของไอ้เด็กเลวพวกนั้นจนหมดเกลี้ยง เหลือแค่ไลน์ผมกับแม่แมทเท่านั้น นอกนั่นน่ะหรอ หึหึ นอกจากบล๊อคผมยังลบแชตทิ้งเกลี้ยงเลยอีกต่างหาก ไม่ยอมให้สานต่อกันหรอก งานนี้ต้องตัดเด็กแมทออกไปให้หมด

ไลน์ตรวจแล้วต่อไปก็เฟซ ผมเข้าไปที่ข้อความก่อน สภาพแม่งไม่ต่างจากไลน์เลย แต่ผมยังไม่ลบแชตนะ ปล่อยไว้งั้นแล้วไปที่หน้าเฟซ ไล่ดูว่ามีใครมาโพสต์อะไรที่เฟซของแมทบ้าง แม่งมีหลายคนอะ ช่างกล้า แต่ไม่เป็นไร...ผมเอารูปที่เราสองคนจูบกันอัพเป็นรูปโปรไฟล์ พร้อมเขียนคำบรรยายไว้ว่าห้ามเปลี่ยนดิส

จะไม่ยอมให้หาใครมากินอีกได้เลยอะคอยดู!

“เสร็จแล้วมึง มากินก่อนมา จิ้มใหญ่เลยนะ” แมทแซวพลางยิ้ม ปรับอารมณ์เพราะอยากให้สถานการณ์มันดีขึ้นอะดิ

“ใช่ ความลับมึงโคตรเยอะ ทำไมตอนนั้นกูเอามือถือมึงมาดูไม่เห็นมีไรเลยวะ” วางมือถือบนโซฟาแล้วนั่งพื้น ตรงหน้าคือจานข้าวผัดไข่ธรรมดา หน้าตาโง่ๆ อยู่หนึ่งจาน ของแมทเองก็เช่นกัน

“ปกติกูคุยแล้วลบทิ้งอะ แต่รอบนี้ไม่มีอารมณ์จะลบ...” งั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ผมหายไป
“อ่อ พวกนี้คือเพิ่งมามีเมื่อตอนกูหายไป สัส กูไม่อยู่ยังนัดกันไปเอาอีกนะ” แมทรีบเอื้อมมาจับมือผมไว้
“ก็แค่นัด เอาเข้าจริงกูไม่ได้ไป ตอนนั้นกูเครียดๆ กูเลยคิดว่าจะไปผ่อนคลายเฉยๆ แต่เอาเข้าจริงกูก็ไม่มีอารมณ์จะไปเอา” มันรีบอธิบายอย่างไว ตัดอารมณ์เดือดดานของผมทิ้งไปได้เยอะเชียว
“อ๋อหรอ ช่างเหอะ...กูลบทิ้งหมดละ บล๊อคเรียบร้อย ถ้ามึงไปอันบล๊อคแล้วกูรู้ละก็ มึงกับกูจบกันแน่” ผมชี้หน้า
“มึงก็ด้วยแหละ อย่าให้กํรู้ว่าไปล่อสาวที่ไหนอีก คุยก็ไม่ได้” อ่าวไอ้เวรนี่ ย้อนกลับมาทางผมหรอ ผมเบะปากใส่แล้วตักข้าวเข้าปากไม่แคร์
“มึงโกรธที่กูมีคนอื่น กูก็โกรธก็เสียใจที่มึงมีคนอื่นเหมือนกันนะ...แฟร์ๆ ไง ไม่คบซ้อน ไม่นอกใจ” แมทเอาเสียงนุ่มละมุนมากล่อม
“กูน่ะได้อยู่แล้ว แต่มึงนั่นแหละ...จะทำได้หรอ” ยักคิ้วท้าทาย
“อย่าดูถูกกู” แววตามั่นใจมาก ผมยิ้มพลางยักไหล่ไม่สนใจ กินข้าวต่อไปด้วยหน้าตาที่โคตรจะกวนตีน

กินข้าวเสร็จแมทก็เอาจานไปล้าง ผมเดินไปหยิบมือถือตัวเองมาเปิดแล้ววางไว้บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา ส่วนตัวเองยังคงเล่นเฟซของแมทต่อไปทั้งที่ปกติไม่ชอบเล่นเฟซ ผมก็แค่กำลังส่องอยู่ ดูว่ามันเป็นเพื่อนกับใครบ้าง หรือคุยกับใครอะไรอย่างนี้ ส่วนรูปโปรที่ผมเปลี่ยนไปมีคนไลค์เยอะมาก ตามมาด้วยข้อความว่าคนนั้นใครอะ เป็นไรกับแมทหรือพี่แมท พี่ตอบผมเดี๋ยวนี้นะ บลาๆ มากมายหลายคน

“แมท มีคนข้อความมาหามึง” บอกพลางยื่นหน้าแชตเฟซให้มันดู มันรับไปกดๆ สองสามทีแล้วส่วกลับมาให้

“รูปดิสสวยวะ รูปนี้กูชอบ” ก็เป็นรูปที่ได้มาเพราะอารมณ์พาไปล้วนๆ เลย

“ตั้งเฟซมึงรูปนี้มั้งดิ” ผมชะงัก หน้าซีดหน่อยๆ ไม่ดีปะวะอายเขานะ เฟซผมมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น

แต่ก็แค่คิดครับเรื่องการโต้แย้ง แมทมันเอามือถือของผมไปแล้วคงเอาไปเปลี่ยนหรือเช็คอะไรดู แต่เท่าที่ชะโงกหน้ามอง แมทกำลังยกเลิกการใส่รหัสผ่านเครื่องอยู่ จะได้เช็คง่ายๆ ว่างั้นเถอะนะ ผมไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้แมททำไปอย่างที่เขาต้องการ เพราะผมเองก็กำลังไล่ตอบแชตของไอแมทอย่างเมามัน

“สีหน้ามึงดูสะใจ”

“ใช่ มึงดูสิ...” ผมเปิหน้าแชตของเด็กคนหนึ่งให้มันดู ข้อความจากทางผมบอกไปว่ามีอะไรครับน้อง พี่แฟนแมทนะ มีไรถามได้ แมทระบายยิ้มบางๆ ปัดมือผมลงแล้วขยับเข้ามาจูบปากเบาๆ แค่แตะกันเท่านั้น

“แบบนี้ก็น่ารักเหมือนกันนะ” เจ้าตัวว่า แต่ผมเบะปากทำเชิ่ดแล้วไล่ตอบแชตต่อไป บางคนไม่ยอม ดื้อดึงเถียง ให้เรียกแมทคุยงั้นงี้ แต่เจอผมกวนตีนกลับ ไม่ใครก็ต้องปวดกะบาลอย่างแน่นอน

คนที่ยังตอบโต้กับผมตอนนี้เริ่มด่าผม เริ่มปรี๊ด ออกอาการหวงมากยิ่งกว่ากูที่เป็นแฟนตัวจริงอีก ดูแล้วก็นั่งขำ แมทหันมาดูกับผมบ้าง มันไม่ได้หยิบมือถือตัวเองไปแต่ใช้นิ้วเลื่อนจอมองสำรวจโดยใบหน้าหล่อเหลานั้นยังคงมีรอยยิ้มประดับ พักเดียวเจ้าตัวใหญ่กว่าก็เอนกายมานอนหนุนตัก ผมไม่ว่าอะไรเพราะกำลังสนุกสนานกับสิ่งที่ได้ทำอยู่ในตอนนี้ แล้วก็ยิ่งยิ้มกว้างเมื่อแมทส่งคำร้องมาจากเฟซของผม

สถานะแต่งงาน...โอ้ว ไม่รับไม่ได้หรอกแบบนี้ ดิสเป็นรูปเดียวกัน พอขึ้นสถานะแต่งงานแล้วอย่างดูดี เอาให้ไอ้พวกนี้กรีดร้องจนคอแตกตายกันไปข้างเลย คิดแล้วสะใจสุดๆ แมทเองก็นั่งเล่นเงียบกริบ คาดว่า มันจะทำเหมือนที่ผมทำกับมือถือมันนั่นแหละ มันคือความแฟร์ๆ เพราะงั้นผมจะไม่ดื้อดึง อยากทำไรก็ทำไปเถอะ เวลามีปัญหาผมจะได้ด่ามันเน็มปากเต็มคำ ไม่ใช่ด่าไปเข้าตัวเองไปแบบหนนี้

RrrrRrrr

เสียงมือถือของผมดังขึ้น แมทชูจอให้ดูพบว่าเป็นเบอร์ของกล้าที่โทรมา
“โหล” ผมว่าจะโทรไปแจ้งพวกมัน จนป่านนี้ก็ยังไม่โทนจนแม่งโทรมาเองเลย

(อธิบายสิมึง) กล้าโทรแต่เต้เป็นคนถาม

“แมทมันไปตามกูกลับมา ไปตามถึงห้องมึงนั่นแหละ” ผมบอก

(แล้วมึงก็ไปง่ายๆ จำไม่ได้เลยหรอว่ามันทำกับมึงยังไง) เต้พูดเสียงขุ่นๆ ดูท่างานนี้ถ้าผมกับแมทดีกันได้จริงๆ แมทคงต้องไปขอโทษเต้ด้วยแล้วละ

(เดี๋ยวเต้ ไอ้บอมมันก็เคยทำกับแมทแบบนี้มาก่อนนะ) กล้าย้อน ทำซะผมจุกขึ้นคอเลย

(เออวะ)

“ก็นะ...อย่างที่กล้าพูดนั่นแหละ กูก็ไม่รู้จะอธิบายให้พวกมึงเข้าใจยังไงดี ไว้พรุ่งนี้เจอกันกูจะเล่าให้พวกมึงฟังให้ละเอียดเลย โอเคมะ” กล้าเป็นคนที่เข้าใจในคำพูดของผม มันเลยตกลงแล้ววางสายไป ในขณะที่เต้ยังไม่เข้าใจอะไรดีนัก

“ครั้งนี้เพื่อนมึงโกรธกูมาก” แมทเอ่ยลอยๆ

“ใช่ เต้อยากจะฆ่ามึงทิ้งอยู่” พูดให้เวอร์เข้าไว้ เพื่อนผมจะได้ดูน่าเกรงขาม

“ก็สมควร กูเป็นคนขอให้มันช่วยรายงานว่ามึงอยู่ไหน...”

“มึงจะได้ไปหาดิวได้สบายๆ ใช่มะ” ผมรีบพูดทันที มิน่า ไอ้เต้ดูจะหัวเสียกับเรื่องนี้มากกว่าที่ควรจะเป็น

“ก็ด้วย ที่สำคัญจริงๆ...กูกลัวมึงมีคนอื่น กูหึงมึงจริงจังมากนะ แค่มันเป็นคนละส่วนกับการที่กูมีคนอื่นอ่ะ” แทบจะปล่อยหมัดใส่จมูกโด่งๆ ของมันให้หัก มันน่านักนะไอ้เวร!

“หึงกูทั้งที่มึงก็มีเนี่ยนะ”
“เพราะกูมีเนี่ยแหละเลยยิ่งหึง กลัวมึงแอบมีบ้าง...”
“งั้นที่คอยซักไซร้กูนี่คือไร...”
“ก็ตอนแรกซักไซร้เพื่อไม่ให้มึงสงสัยเรื่องกลับบ้านช้า กลับบ้านดึกอะแหละ แต่พอไซร้ไปไซร้มาก็เจอพิรุท กูเลยหึงจริงจังมาจนทุกวันนี้อ่ะ” เวร นี่ผมไม่น่าร้อนตัวตอนมันซักไซร้เรื่องผมไปมีคนอื่นเลย ไม่งั้นนะผมอาจจะเห็นความผิดปกติของมันก็ได้

ไม่ได้การ หลังจากนี้คงต้องมีการคุมเข้มความประพฤติและยังต้องคอยดูให้ดีว่ามันแอบไปมีใครอะไรที่ไหน นี่ไงที่ผมไม่อยากให้เกิด ความหึงหวงที่มากเกินจะทำให้เราไม่มีความสุข แบบว่ากังวลมากเกินไป แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ เริ่มจากการแลกมือถือกันใช้เนี่ยแหละ และอย่างอื่นก็ต้องสังเกตกันอีกที แมทแม่งเนียนมากซะด้วยนะ ผมสู้มันได้ที่ไหน งานนี้ผมอาจจะต้องลอบไปที่คณะของมันแล้วไปให้เพื่อนมันสอดส่องให้ เอ...ไม่ต้องไปที่คณะสิ่ เฟซก็มี นี่แหละหูตาของกู
ต่อไปนี้นะ...ถ้ารู้ว่าตุกติกหน่อยเดี๋ยวผมเล่นมันแน่!

***********จบบทที่ 13************

 :katai4: แมทถูกคุมประพฤติแล้วจ้า :z10: :z10:

จะดีได้ถึงเมื่อไหร่กันนะ :m16:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-01-2017 13:48:12
คุมกันไปยาวๆเลย   :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: autopilot ที่ 03-01-2017 14:10:25
พอกันทั้งคู่เรยอ่ะ ศีลเสมอกันมากๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 03-01-2017 14:18:51
จะบอกว่า...ที่อ่านมารู้สึก เต้กับกล้า เนี้ยเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ :katai2-1:
คือ เพื่อนทำผิด ก็ด่าก็เตือน แต่ไม่เข้าไปก้าวก่าย :katai2-1:
คอยดูอยู่ห่างๆ.....บอม นายโชคดีมากนะที่มีเพื่อนเเบบนี้ :mc4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 03-01-2017 14:24:48
บอมนี่พูดตรงใจหลายจุดแหะ

ก็เข้าลูป 'โหมดไม่ไว้วางใจ' ไปยาวๆ ก็รู้กันทั้งคู่นี่ว่าทนกันไปแล้วมันเหนื่อย เลิกกันไม่ได้แปลว่าทนกันไม่ได้ หรือเลิกรัก แต่บางทีขยับออกมามองตัวเองซะบ้าง ก่อนจะทำร้ายกันมากกว่านี้ มันก็อาจจะดีกว่า

แมทตอบแล้วอยากไปช่วยบอมต่อยมาก ฮึ่ยยย
มันมีตั้งหลายวิธีที่จะห้ามบอมไม้ให้ทำร้ายร่างกายดิว อย่างน้อยๆก็ไม่จำเป็นต้องกอดดิวแบบนั้นมะ ถ้าแมทคิดจะลากบอมออกไปเคลียร์ที่อื่น  คนแรงเยอะพอๆกันแบบแมทก็ต้องทำได้อยู่แล้วรึเปล่า หรือยังไง (ขนาดมีแรงทำร้ายบอมเลยนะ)  ฟังไม่ขึ้นค่ะแมท

แมททำแบบที่บอมด่าจริงๆ คือคบซ้อน นี่ตกลงปลงใจพูดจาชัดเจนด้วยซ้ำว่าเป็นแฟนดิว (เพื่อนยังรู้ด้วย แม่งเอ้ย) เหมือนเขี่ยให้บอมเป็นตัวสำรองจริงๆ

จะว่าเข้าข้างบอมก็ได้ แต่คิดว่าการฟันไปเรื่อยของบอมแบบไม่ระบุสถานะชัดเจน มันต่างจากการที่แมทคบซ้อน ถึงทั้งสอบแบบจะเป็นการมีคนอื่นทั้งคู่ก็เถอะ

ยังคงกลัวใจแมทอยู่ กลัวมากกว่าใจบอม
อะไรที่มันเนียนๆ จับพิรุธไม่เห็น มักจะเจ็บมาก เพราะมองไม่เห็น ระวังตัวไม่ทัน

ระแวงไประวังมา สุดท้ายเหนื่อยทั้งกายทั้งใจ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 03-01-2017 14:59:48
คิดจะเล่น กับไฟ ให้มันร้อน
เร่งเอาไม้ สุมขอน ร้อนนักหนา
แล้วใช้ไฟ ตัดไฟ ให้มอดลา
เชื้อไฟน้อย หรือใหญ่มา ไม่ติดไฟ

ฮ่าฮ่า..ให้มันได้ยังงี้ดิ
ไฟก็ต้องเจอไฟ
ถ้าจะเผาไหม้ ก็ให้มันมอดไหม้ไปทั้งคู่

แมท+บอม ถ้าเมิงมีชู้ได้ กรูก็จะมีได้ เหมือนกัน
ถ้าไม่อยากให้มีชู้ เมิงไม่มีดิ กรูก็จะไม่มี เหมือนกัน

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
มั่นใจกันไปเลย

ขอบคุณนะที่แต่งนิยายสุดยอดเรื่องนี้มาให้อ่าน
สนุกมากในช่วงปีใหม่ปีนี้

ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 03-01-2017 15:53:50
ลงเอยอย่างนี้ก้ออยากจะให้แฮปปี้นะ

ไม่อยากกินมาม่าแย้ว
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 03-01-2017 16:23:16
จะไปกันได้ตลอดรอดฝั่งเหรอ.  มีแต่ความระแวง. เอาใจช่วยละกัน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เข็มวินาที ที่ 03-01-2017 19:16:36
ให้มันได้อย่างเน้ รอดูกันต่อไป :katai5: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 03-01-2017 19:30:31
เฮ้อ คนศีลเสมอกันมาคบกันก็แบบนี้ แต่ยังไงแมทก็ชั่วกว่าอยู่ดี บอมมันก็ฟันไปงั้นไม่ได้จริงจัง อารมณ์ชายแท้ปกติน่ะแหละ แต่แมทก็อย่างที่บอมพูด ชอบผู้ชายมีแฟนเป็นผู้ชายและมีชู้เป็นผู้ชายที่เหมือนจะจริงจัง ทำให้มองว่าบอมนี่ดีไม่พอที่จะทำให้แมทพอได้สินะ เหมือนเห็นบอมเป็นแค่ของตายไงงั้น ใช้คำว่ารักรั้งไว้ ทั้งๆที่จริงๆรักแค่ตัวเองเท่านั้นแหละ คนแบบนี้ เฮ้อออออออ  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 03-01-2017 19:39:02
เออดีคู่นี้ เหมาะกันจริงๆอย่าเลิกกันเลยคู่ควรกันมากๆ 555
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: nongtao ที่ 03-01-2017 19:48:26
พิมพ์ผิด พิมพ์ตกหล่น เยอะมาก อ่านไปสะดุดไป ขัดใจนิดๆ ลองตรวจทานอีกครั้งก่อนลงก็ได้ ไม่ต้องรีบ......
......เข้าเรื่อง ไม่ได้จะแก้ตัวให้บอม แต่ถ้าย้อนกลับไปอ่านตอนแรกจะพบว่าบอมไม่ได้เป็นเกย์ บอมชอบผู้หญิงมาตลอดจนมาพลาดท่าให้แมท สุดท้ายตกกะไดพลอยโจรเพราะแมทตามตื้อขอคบเป็นแฟนเลยพอจะเข้าใจอารมณ์ชายแท้อยากฟันหญิง แต่เรื่องความเจ้าชู้ยกให้เป็นสันดานส่วนตัวนะ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 03-01-2017 19:50:05
ถ้ารักกันไม่นานก็รักกันได้ ถ้าหมดรักกันมาอยู่ด้วยกันไม่กี่วัน มันก็รู้ใจตัวเองแล้วล่ะว่าจะคบต่อหรือจะเลิกกัน
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 03-01-2017 19:53:18
บอมพูดตรงใจทุกอย่างเลย เราว่ามันไม่จบแค่นี่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-01-2017 20:05:05
คนไม่รู้จักพอ 2 คนมาเจอกัน แล้วก็ทำให้เพื่อนและคนอื่นเดือดร้อนเป็นห่วงเพราะความหวังดี
หึ้ยยยยยยยยยยยย
อย่างที่เม้นอื่นๆ บอก สองคนนี้ศีลเสมอกัน สงสารดิวที่โดนหลอกไปเต็มๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 03-01-2017 20:16:52
จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกมั้ยล่ะเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-01-2017 21:06:22
โอ้ยยยย...ตายละมันช่างสมน้ำสมเนื้อ เหอะๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 03-01-2017 21:22:19
แมทกับดิวนี่จงใจคบซ้อนจริงๆ  เพื่อนรู้เพื่อนเห็นด้วยนะเพราะปิดว่าบอมเป็นแฟน
ว่ากันตามจริงแล้วแค่แมทรักบอมมากกว่าเท่านั้นเอง
ดิวนี่แมทพอใจมากๆ  เรื่องเซกส์  เรื่องหน้าตานิสัยในคอ
นับตามจริงแล้วก็อาจจะอยู่กับดิวมากกว่าบอมอีก
เพราะไปหากันทุกเย็นเอากันบ่อยจนแมทติดใจคึกอยากจะลอง 3 วันรวด เทคยาเสพของมึนเมาแล้วดิวยอมทุกอย่าง
นิสัยดิวก็น่ารักกว่าบอมด้วย
บอมเข้าวินแค่แมทรักมากกว่าเท่านั้นเอง
เจ็บจนจุกอ่านถึงตอนที่แมทมีคนอื่นหลายคน
ตอนที่บอมไม่อยู่ก็นัดคนอื่นจะไปเยิบ
ถ้าหากว่าห่างกันนานไปมากกว่านี้คงไม่กลับมาหากันแล้วคู่นี้

ที่เราติดใจมากๆคือที่บอมว่าตัวเองไม่สามารถที่จะตอยสนองความต้องการของแมทได้ทั้งๆที่ตัวเองเป็นผู้ชาย
อนาคตนี่มืดมนคาอกเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 03-01-2017 21:25:44
 :m4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 03-01-2017 22:59:00
เฮ้ออ พ่อขนุนหนัง
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 04-01-2017 00:49:47
จริงเนอะสังคมทุกวันนี้ มุมมองนะ สงสารบอม ในความเห็น ของเกย์คนนึง บอมเป็นผู้ชาย ต้องคู่กับผู้หญิง เพราะความรักอ่ะเนอะ. ต้องยอมแมท.ตรงข้ามกับแมท พร้อมจะนอกใจได้ทุกเมื่อ บอมเป็นผู้ชายดีอีกคนนึง รักบอมนะ รักเต้ รักกล้า อยากให้บอมมีครอบครัวแบบพ่อแม่ลูกที่อบอุ่นจัง ส่วนแมทก็เดินตามเส้นทางของแมทไปเรื่อยๆ แล้วกันเนอะ เรื่องนอกใจของแมท ทำไมเย็นวาบ ต่างจากบอมล่ะ เรื่องนอกใจของบอมเฉยๆ. นะ เพราะบอมยอมทิ้งชีวิตผู้ชายเพื่อรักแมท
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 04-01-2017 01:48:08
ดิวน่าสงสารสุด รองลงมาคือบอม เลวสุดคือแมท สรุปแล้วในความคิดของเรา สิ่งที่เป็นอยู่ระหว่างแมทกับดิวคือความเห็นแก่ตัว โชคร้ายของดิวที่มาเจอแมท และเราไม่เชื่อในคำว่ารักของแมทกับบอม แต่ในช่วงที่บอมเริ่มจะปรับตัวแล้วแมทยังพาดิวมาระเริงรักในห้องที่อยู่ด้วยกันนี่เรารับไม่ได้ที่สุดแล้ว เราจึงให้แมทเลวสุด #ขออภัยคือมันอินมาก
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 04-01-2017 09:21:29
บอมเหี้ยมากๆอ่ะ ศีลเสมอกันมากๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 13 [3/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-01-2017 20:19:16
เรื่องนี้ตกมาอยู่หน้า 2 ได้ยังไง


ไม่ได้ๆ ดันขึ้นไปไว้หน้า 1
เอ้า...ฮื้บบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 04-01-2017 22:05:10
เธอมีชู้

บทที่ 14

วี๊ดวิ้ว~!
 
เสียงผิวปากอันไพเราะเพราะพริ้งทำให้สาวเจ้าเนื้อสุดสวยหันมายิ้มให้ ผมขยิบตาให้กับเธอผู้นั้นแล้วทำท่าขอเบอร์โทรเธอโดยที่ไม่ได้เอ่ยปาก เธอทำท่าเขินก่อนจะกวักมือเรียกให้ผมไปขอกับเธอใกล้ๆ แหม่...แบบนี้เข้าทางบอมละครับ เข้าใกล้ได้เมื่อไหร่พ่อจะหยอดให้อายม้วนต้วนจนไม่เป็นอันกินข้าวกินปลาเลยคอยดูสิ
 
“เดี๋ยวศพไม่สวยหรอกบอม” เต้เอ่ยเสียงราบเรียบก่อนจะหาวกว้างๆ ได้อย่างทุเรศ
 
“แมทไม่รู้หรอกมึง ถ้าพวกมึงไม่ปากสว่าง” ยักคิ้วให้เพื่อนทั้งสอง มือคว้าโทรศัพท์ของตัวเองตรงไปที่โต๊ะเธอในทันใด
 
ผมกับแมทดีกันแล้ว ทุกคนน่าจะทราบ และผมก็เริ่มออกลายอีกแล้ว...อันนี้ก็พอจะรู้สินะ ผมถือคติว่าแมทไม่รู้ซะอย่างไม่เป็นไรหรอก ผมแค่หลีหญิงเล่นเท่านั้นเองไม่มีไรน่าเป็นห่วง รับรองด้วยความเป็นลูกผู้ชายที่มีสามีเลยว่าผมจะไม่เอาตัวเองไปขึ้นเตียงกับใครอีกแน่นอน นอกนั้นแค่พูดคุยกันน่ารักๆ พอกระชุ่มกระชวยหัวใจเท่านั้นเอง
 
ส่วนมือถือที่เคยแลกกับแมทใช้นั้น พอสถานการณ์ระหว่างเราเข้าสู่ความปกติก็กลับมาใช้เครื่องใครเครื่องมันครับ บางครั้งก็อาจจะแลกกันบ้างตามแต่อารมณณ์จะพาไป แต่ไม่ต้องห่วง ถึงแลกไปแมทก็จับผมไม่ได้หรอก เพราะผมไม่ได้คบใครหรือซ่อนใครไว้
 
นี่ตอนแรกพอกลับมาเรียน ผมโดนเต้กับกล้าซักไซร้อย่างหนักหน่วง เต้หัวเหวี่ยงพอควรแต่มันก็เข้าใจได้ในที่สุด แมทต้องเลี้ยงเหล้าเต้ชุดใหญ่เพื่อเป็นการขอโทษหลังจากใช้เต้เป็นเครื่องมือหลอกผม ผมรู้สึกดีมากๆ ที่เพื่อนรักผมขนาดนี้ แทบจะกระโดดจูบปากพวกแม่งคนละทีสองที แต่ติดที่มันทั้งสองนั้นไม่ได้ต้องการสิ่งที่ผมอยากจะให้ เลยเก็บปากเอาไว้ให้บดขยี้อย่างเดียวพอ แต่เรื่องราวไม่จบและสิ้นสุดลงแค่นั้น พี่พู่กันมาหาผมที่คณะ ยืนด่าผมแบบหน้าม่านไปเลย ผมก็เงียบอะนะ เถียงไรเธอไม่ได้เพราะเธอเป็นผู้หญิงและผมก็หลอกเธอจริง ส่วนบัว เราเดินผ่านกัน เธอทำเหมือนไม่เห็นผม ซึ่งนั่นก็โอเค ดีกว่าพี่พู่ละกัน ด่าซะคนในคณะมองผมแง่ลบไปเยอะ
 
แต่บอมคนนี้เข็มแข็งพอครับ!
 
ไม่นานสถานการณ์โดยรอบก็เรียบร้อยดี อ่อใช่...ผมแอดเฟซเพื่อนแมททั้งหมดเรียบร้อย ทักแชตหามันทุกคนบอกนี่บอมแฟนแมทนะ ถามไถ่สารพัดก่อนจะแอบไปนัดเจอ เลี้ยงข้าว ตีสนิท จนในที่สุดเพื่อนแมทก็กลายเป็นเพื่อนผม มันจะคอยบอกหากแมทไปทำรุ่มร่ามกับหนุ่มๆ คนอื่นให้ บอกเลยว่าความหล่อและเป็นมิตรของผมนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าความเรียบร้อยสุภาพบุรุษของแมทหรอกนะ ใช้งานได้ดีไม่แตกต่างกัน
 
“เอาเบอร์เค้าไปแล้ว...ต้องโทรมาด้วยนะรู้ไหม” สาวสวยยิ้มหวานส่งมาพร้อมกับมือถือของผมเอง ซึ่งตอนนี้มีเบอร์เธอเรียบร้อย ผมยิ้มกว้างน่ารัก เอ่ยปากเตรียมหยอดคำหวาน
 
ทว่า...
 
หมับ!
 
ไหล่ของผมถูกตะปบลงมาอย่างแรง ผมผวาเฮือก หันไปมองคนที่คว้าไหล่ของผมอย่างรุนแรงเอาไว้ แล้วก็ต้องพบกับรอยยิ้มเย็นยะเยือก คนอื่นน่าจะเห็นแล้วหลงใหลแหละ แต่ว่าผมกลับมองเห็นความน่าสยดสยองในแววตาคมนั้น
 
“ได้ครับ แล้วจะโทรไปนะ” เสียงทุ้มนุ่มละมุนเอ่ยกับเธอ สาวสวยหน้าแดงปลั่งกับความหล่อทะลุปรอท
 
แมทแจกยิ้มให้ทุกคน มันจิกหัวไหล่ผมอย่างแรงก่อนออกแรงลากไปยังโต๊ะของพวกเต้ ซึ่งตอนนี้มีพันกับแก้วเพื่อนแมทนั่งอยู่ด้วย พวกนี้เป็นเพื่อนผมหมด รวมกลุ่มประสานเป็นเนื้อเดียวกันแม้จะคนละคณะกัน พวกมันทั้งสี่มองผมพร้อมยิ้มกว้างอย่างล้อเลียน
 
“กูเตือนมึงแล้ว” เต้กับกล้าพูดพร้อมกัน
 
“กล้าเนอะบอม รู้อยู่ว่าผัวหึง” พันเอ่ยขำขัน
 
“เหมือนไม่เข็ดนะ แมทนายต้องจัดการแล้วละ” สาวหล่ออย่างแก้วยกยิ้มร้ายกาจ ไอ้นี่ เดี๋ยวพ่อจับทำเมียเลยหนิ
 
“กูเรียนเสร็จแล้ว...” แมทเอ่ยนิ่งๆ “กลับกันเถอะ”
 
“ไม่ได้ กูยังไม่เลิก” เหงื่อเย็นๆ ไหลซึมตามไรผม
 
“งั้นกูรอ หน้าห้อง” แมทย้ำหนักคำว่าหน้าห้องมาก ไม่พอ ยื้อเอามือถือที่มีเบอร์สาวไปจากมือผมด้วย
 
แมทเหวี่ยงผมให้นั่งลงแล้วตัวเองก็จัดการเคลียเบอร์คนอื่นออกไปจนเกลี้ยง อย่าเอะไปครับ เถียงไปซวยแน่ ทุกคนมองมาที่ผมราวกับผมเป็นตัวตลก ผมก็ยิ้มแห้งให้กับพวกมัน แล้วกัมหน้านึกถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในเย็นนี้
 
“กล้ามากนะมึง” แมทนั่งลงแล้วเอ่ยกับผมราวกับกระซิบ คนอื่นจึงละสายตาแล้วหันไปสนใจอาหารเที่ยงของตัวเอง ปล่อยให้เราได้เคลียร์กันเอง
 
“แค่แซวเล่นเอง นิดเดียวไม่มีซัมติงแน่นอน”
 
“ถ้ากูทำมึงชอบไหม” ผมส่ายหน้า “เออกูก็ไม่ชอบ”
 
“อ่า....” แดกจุด ผมพยักหน้าก่อนก้มกินขนมนมเนยบนโต๊ะ
 
งานนี้หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วใช่ไหมเรา เฮ้อ...ก็อยากจะแบบ หลีหญิงบ้างอะไรบ้างสนุกสนานเฮฮาร่าเริงไปตามประสาคนหล่ออะ แต่เข้าใจดีที่แมทไม่ชอบ คงไม่ถึงขั้นโกรธหรอก เรื่องคราวก่อนนั้นรุนแรงยิ่งกว่านี้เยอะ อันนี้นี่ขี้ประติ๋วไปเลย เหมือนสมัยที่ผมเพิ่งคบกับแมทใหม่ๆ ผมก็ยังหลีหญิงไปทั่วแบบนี้แหละ ขณะคิดไรเพลินๆ แมทก็เอาช้อนซึ่งเต็มไปด้วยข้าวจ่อปาก ผมเงยหน้ามองงง มันเลิกคิ้วผมเลยอ้าปากรับข้าวคำโต เสียงหวีดร้องโห่แซวดังทันที ผมรีบหันไปกะจะให้พวกมันหุบปาก แต่ก็ต้องนิ่งกริบเมื่อเห็นพี่พู่กับเพื่อนเธอยืนมองมาทางนี้ด้วยสายตาไม่พอใจ
 
อ่า...ไอ้แมทมึงนะมึงงงงงง
 
พอคู่กรณีเดินจากไป แมทก็หันไปคุยเฮโลกับเพื่อนฝูงตามปกติ ปล่อยผมที่อิ่มข้าวแล้วกินขนมไปตามประสา ไม่สนใจสักนิดว่าผมจะคิดยังไงกับสิ่งที่มันทำ เหมือนที่เคยบอกนั่นแหละ...แมทชอบทำตัวเหมือนแมว แต่ไม่ใช่เลย มันคือเสือต่างหาก ร้ายกาจนักนะ รอบก่อนผมโดนด่าโดนเกลียดไปแล้ว คราวนี้ยังมาสร้างความบาดหมางให้อีก มีหวังโดนเขม่นแหงมๆ ไม่ต้องไปคิดสานต่อความสัมพันธ์ให้ยุ่งยาก เพราะงานนี้ระหว่างผมกับพี่พู่ขาดสะบั้นแน่นอน และนี่ยังรวมถึงผู้หญิงในกลุ่มเขาด้วย เสียงซุบซิบนินทาของผู้หญิงน่ะไปไวกว่าไฟลามทุ่งซะอีก
 
จบกัน อนาคตของเพลบอยสุดหล่อคนนี้...
 
เสร็จจากมื้อเที่ยง แมทแยกตัวออกจากเพื่อนกลุ่มมันเดินตามผมกลับเต้และกล้าไปยังห้องเรียน มันกับเพื่อนผมเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขรุ่ย น่ามั่นไส้เป็นบ้าเลยล่ะ ผมเดินอยู่ตรงนี้ด้วยแท้ๆ ยังมาเม้ากันอย่างสนุกปาก ไม่เกรงใจผมบ้างเลย แถมแต่ละเรื่องยังทิ่มแทงผมได้เจ็บแสบ พวกมันลืมไปแล้วสินะว่าแมทเองก็เคยมีประวัติร้ายกาจ
 
เช้อะ ไอ้เพื่อนทรพี!
 
คลาสเรียนนี้ไม่หนักสมอง แถมยังจบเร็ว เพียงสองชั่วโมงอาจารย์ก็ปล่อยกลับพร้อมรายงานเล่มหนาที่ให้เราทำ ผมกับเต้และกล้าแยกย้ายกันตรงนี้ มันสองคนจะไปเที่ยวกันต่อ แต่ผมต้องกลับบ้านกับแมท มันเดินนำไปก่อน ในมือมีหมวกกันน๊อคสองใบ ของผมและมัน เมื่อถึงรถก็พากันแต่งตัวก่อนจะดิ่งกลับห้องในทันที ไม่มีแวะที่ใดทั้งสิ้น การขับรถฉวัดเฉวียนของแมททำให้ผมรับรู้ว่างานนี้กลับไปมีเคลียร์ยาว คาดเดาได้จากสีหน้าไร้รอยยิ้มของมันยามเดินไประหว่างทางขึ้นห้อง
 
“ไปอาบน้ำ” มาถึงปุ้บก็ออกคำสั่งปั้บ
 
“นี่เคืองกูมากเลยอ๋อ” ทำหน้าแบ๊วเข้าสู้ แมทมองหน้าผมนิ่งแล้วชี้ไปทางห้องน้ำ
 
“ไปอาบน้ำ” ชัดเจน ไม่ต้องต่อล้อต่อเถียงหากไม่อยากโดนทำโทษหนัก
 
“คร้าบๆ” ผมรับคำแล้วเดินไปเอาผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้าผาดบ่าเดินเข้าห้องน้ำไป
 
ทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อยก็ออกมา แมทเดินสวนเข้าไปทันทีโดยห้ามให้ผมใส่เสื้อผ้า แล้วผมมีทางเลือกหรือ ก็ต้องทำตามอย่างว่าง่าย กลายร่างจากเสือเป็นหมาน้อยคอยเจ้านายไปในบัดดน นั่งคอยจนคอแห้งผาก แมทก็เดินออกมาเสียที มันใส่ผ้าขนหนูผืนเดียวเช่นกัน ไม่ต่างจากผมเลยสักนิด เจ้าตัวเอาผ้าเช็ดน้ำบนร่างกายและเส้นผมจนแห้งมาด ตรงดิ่งมาทางนี้ก่อนจะออกแรงผลักผมล้มลงบนที่นอนกว้าง ดวงตารีคมดุจ้องมองอย่างเอาเรื่อง
 
แมทเดินไปจากยังกระเป๋าเป้ของตน ควานหาอะไรบางอย่างออกมาแล้วหยิบออกจากกระเป๋า เดินกลับมาทางนี้พร้อมรอยยิ้มพริมใจที่ดูยังไงแม่งก็โคตรเสแสร้ง ผมรู้สึกขนลุกยังไงบอกไม่ถูก และยิ่งหนาวสะท้านเข้าไปใหญ่เมื่ออีกฝ่ายกดๆ บางอย่างแล้วยกขึ้นในตำแหน่งอกของตนเอง
 
“มะมึงจะทำอะไร” คำถามโง่ๆ หลุดออกจากปากผม พร้อมกับร่างที่พยายามจะลุกขึ้นนั่ง แต่ไม่ทัน แมทตรงเข้านั่งคร่อมตรงสะโพกของผมเอาไว้
 
“อัดคลิปไงมึง...” รอยยิ้มที่เคยละมุนละไมกลับเหมือนฆาตกรเข้าไปทุกที
 
“จะอัดทำไมวะ ไม่เอาดิ” ตั้งแต่คบกันมาเราไม่เคยอัดคงอัดคลิปเอาไว้เลยสักครั้ง อย่างมากก็แค่ถ่ายรูปตอนเสร็จกันไปแล้วแบบล่อแหลมแต่ไม่โป๊
 
“มันเป็นบทลงโทษที่มึงต้องรับ” น่านไงละ ซวยไหมละไอ้บอม!
 
“เรามาสนุกกันดีกว่าบอม อย่าดื้ออย่าซน กูสั่งอะไรก็ทำตามนั้น” หน้าผมตอนนี้คงหดเหลือสองนิ้วได้แล้วมั้ง
 
ผมกับแมทตกลงกันเอาไว้แล้วว่าถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิด จะต้องรับบทลงโทษจากอีกคนอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเป็นกรณีที่จับได้คาหนังคาเขาหรือไม่ก็มีหลักฐานชัดเจน เราต่างก็โอเคกับข้อตกลงนี้ นี่ยังไม่รวมพวกตรวจเช็คมือถือ หรือก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวอีกสารพัด หาความเป็นส่วนตัวแทบไม่มีเพราะมันอาจจะมีจุดที่ทำให้อีกฝ่ายหาเศษหาเลยได้ มันดูอึดอัดแต่พักเดียวก็ชินไปเอง
 
ทว่าตอนนี้ผมเริ่มอยากกลับไปแก้กฏพวกนี้แล้วสิ...ทำไมเราต้องเป็นฝ่ายโดนก่อนด้วยนะเนี่ย
 
แมทจับแขนสองข้างของผมวางไว้เหนือหัวผมเอง จากนั้นใช้มือลูบไล้จากแก้มเรื่อยลงมาตรงคอและแผ่นอก โดยมันใช้กล้องถ่ายเอาไว้ตลอด ผมปั่นหน้าไม่ถูก อายก็อาย เขินก็เขิน เนื้อตัวเลยแดงตามการสูบฉีกเลือด แมทยิ้มบาง นัยน์ตายั่วเย้า ถ้าไม่มีมือถืออยู่ตรงหน้า สีหน้าเจ้าตัวตอนนี้ก็โคตรเซ็กซี่เร้าอารมณ์ผมมาก ปกติเวลาเรามีอะไรกันผมก็ชอบสีหน้านี้แหละ...ดูแล้วคึกบอกไม่ถูก
 
“ไม่ยิ้มหน่อยละ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
 
“ใครมันจะยิ้มได้วะ พอเหอะ...อย่าอัดคลิปเลย” ลองขอร้องด้วยความนุ่มนวล แต่อีกฝ่ายก็แค่ยิ้มกว้างขึ้นเท่านั้น
 
แมทยืดตัวยาวไปวางกล้องบนหัวเตียง โดยมีแสตนตั้งมือถือเอาไว้ในตำแหน่งที่ดีและแน่นหนา ไม่มีทางตกหล่นเพราะแรงสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน จากนั้นก็ขยับลงมายกยิ้มกว้างใส่ สนุกมากสินะ สีหน้าแบบนี้ ฝ่ามือร้อนทั้งสองลูบไล้ลำตัวผมจนไปถึงผ้าขนหนูพันเอว แมทคลายปมช้าๆ ค่อยๆ ทำคล้ายกลั่นแกล้งให้อับอาย ผมจะหาอะไรมาปิดหน้าตัวเองตอนนี้เหลือเกิน มีอะไรกับมันมาตั้งกี่ครั้งแทบไม่องไม่อายมันเลยด้วย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เลยสักนิด ให้ตายเถอะ...อยากมุดดินหนีไม่ก็พังมือถือแมททิ้งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
 
“อ้าขาหน่อสิบอม...” ไม่สั่งเปล่า แต่ลุกจากตัวแล้วจับขาผมอ้าออกเสร็จสรรพ
 
“หน้ามึงแดงมากรู้ตัวไหม”
 
“ก็กูอาย...” น้ำเสียงอ้อนๆ แบบนี้น่าจะทำให้แมทใจอ่อนลงบ้าง แต่ไม่เลยครับ มันกลับยิ้มอย่างมีความสุขแทน
 
“ดีใจที่ได้เห็นมึงมียางอาย” ประโยคหลอกด่าชัดๆ อยากจะต่อปากต่อกรด้วยจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าผ้าขนหนูถูกกระชากออกจากตัวไปเสียแล้ว
 
ผมรีบเอามือตะครุบปิดส่วนสำคัญเอาไว้อย่างไว แมททำแค่ยิ้ม แล้วงัดมือออกจากจุกยุธศาสตร์กลางกาย ต่อให้ออกแรงยื้อแค่ไหน เจอสายตาเหี้ยมเกรียมเข้าไปก็ระทวยอยู่ดี นี่มึงจะเอาให้ได้ใช่ไหม
 
แม่ง...ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยกูเนี่ย!
 
นิ้วเรียวจิ้มลงตรงโคนกาย ลากขึ้นมาเป็นเส้นตรงเบาๆ สร้างความหวิวให้ถามโถมเข้ามาอย่างรุนแรง ผมแทบจิกผ้าปูที่นอน ร่างกายสั่นอย่างกับคนเป็นโรคอะไรสักอย่าง ในขณะที่แมทดูมีความสุขเหลือเกินกับการสัมผัสจุดอ่อนไหวในร่างกายที่แล้วที่เล่า
 
ด้วยปลายนิ้วและปลายลิ้น
 
ทั้งที่เขินทั้งที่อายจนแทบบ้า แต่ก็ต้องเปล่งเสียงครางอันสั่นพร่าออกไป แมทรู้จักส่วนไวต่อความรู้สึกผมดี พอๆ กับที่ผมรู้จักร่างกายมัน ดวงตาปรือลงเพราะอับอาย ไม่กล้าสบสายตาเจ้าเล่ห์เพทุบายของแมท มันในเวลานี้ไล่ต้อนผมจนอับจนหนทาง ทำได้แค่ดิ้นเร่าๆ เหมือนหุ่นที่ถูกแมทจับชักใยเชิด
 
“ถ้ากูไม่ให้มึงถึง มึงจะทำยังไง” แมทโน้มมากระซิบเสียงแตกพร่า มันเองก็มีอารมณ์ไม่น้อยไปกว่าผมสินะ
 
“มึงจะใจร้ายกับกูหรอ” จำต้องลืมตามองคนตรงหน้า ทั้งที่มีน้ำสีใสคลอหน่วงเต็มไปหมด แล้วมันก็หยดลงอาบแก้ม แมทใช้ลิ้นเลียหยาดน้ำนั้นก่อนจะสบตากับผม
 
“มึงใจร้ายกับกูก่อนนะ...” ผมผวาสะโพกแทบลอยเมื่อแมทบีบส่วนปลายชุ่มน้ำเอาไว้อย่างแรง ปากเผยออ้าแต่ไร้เสียงครวญครางอย่างที่ควรจะเป็น
 
“นิดเดียวเอง...กูแค่เล่นนิดเดียวเองนะ” บอกพร้อมกับหอบหายใจหนักหน่วง ในกายตอนนี้ปั่นป่วนไปหมดเพราะฝีมือคนตรงหน้านี่แหละ
 
“แค่เล่นกูก็ไม่ชอบนะรู้ไหม”
 
“รู้กูรู้แล้ว...” แมทใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของผมเบาๆ ก่อนจะกัดพร้อมกับปล่อยขีปนาวุททำลายร้างเข้าสู่ร่างกายผม
 
“อ๊า....” ความหวิวจู่โจมผมแบบหนักหน่วงในทันที แม่งหลอกให้นิ่งนอนตายใจแล้วทำกันแบบนี้
 
“อ่า” แมทปล่อยเสียงครางสั้นๆ ใบหน้าเชิดขึ้นหน่อยๆ ด้านบนให้อารมณ์อีโรติกโคตร
 
จะยอมเพราะแม่งยั่วเกินเนี่ยแหละ...
 
ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์เกาหลีก้มลง ดวงตาคมเต็มไปด้วยอารมณ์แผดเผาผมจากระยะห่างก่อนที่ใบหน้านั้นจะพร่าเลือน ไม่สามารถมองเห็นได้เมื่อริมฝีปากของคนสองคนแนบชิดกัน มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่สบกันอยู่ แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มเคลื่อนไหว มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถประสานสายตากับคนด้านบนได้
 
แมทขยับสะโพกถอยออกไปอย่างช้าๆ แต่เสียวจี๊ดจนผมเผลอครางซี๊ดเบาๆ ทั้งที่ปากและลิ้นไม่ได้ว่าง ผู้บังคับบัญชาการด้านบนให้ผมรองรับอารมณ์อันเร่าร้อนของเขาอย่าให้ขาดสาย หากดื้อดึงขึงขังไปอาจเจอขีปนาวุททิ่มแทงอย่างรุนแรงได้ ผมไม่อยากเจ็บตัวเพราะไม่ใช่พวกบ้าซาดิสม์ ผมเลยต้องก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมอันน่าอายของตัวเองไป
 
แมทไหวสะโพกสม่ำเสมออยู่ได้ไม่นาน บทรักอันราบเรียบของผมก็จบลง เมื่อมันจับผมให้คลานเข่า สองมือค้ำหัวเตียงตรงมือถือเครื่องหรู รู้สึกเหงื่อจะแตกพลั่กๆ มุมกล้องเห็นส่วนนั้นชัดแจ่มแจ้งอย่างแน่นอน แมทตามมาคร่อมทับจากด้านหลัง ฝ่ามือร้อนลูบไล้ตามความยาวบอมน้อยแผ่วเบาแล้วกำหมับจนผมสะดุ้งเฮือก เสียงหัวเราะหึหึข้างหูให้อารมณ์เหมือนผู้นำบ้าอำนาจกำลังสั่งประหารประชากรตาดำๆ
 
อาวุทร้ายกายที่ร้อนฉ่าคลืบคลานเข้ามาในร่องหลืบอีกครั้ง ช้าๆ...รับรู้ได้ดีว่าขยับเข้ามาถึงตรงไหนอะไรยังไง นี่ผมใส่ใจกับความรู้สึกด้านล่างมากไปหรือเปล่า หรือพออยู่ต่อหน้ากล้อง ทุกอย่างก็ดูจะน่าอายไปเสียหมด
 
“ครางหวานๆ นะ...เอาให้คนอื่นที่ได้ฟังต้องละลายเลย” ใครจะมาละลายกับเสียงครางของกูละนอกจากมึง
 
ผมไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็กน่ารัก เสียงหวานครางเพราะ เป็นแค่ผู้ชาย...ธรรมดา เสียงทุ้มนุ่มแต่ไม่ห้าวมากนัก เวลาครางผมว่ามันน่าอาย ผมไม่เคยคิดว่าเสียงครางของตัวเองน่าฟังตรงไหน ไม่เหมือนแมท แค่พ่นลมหายใจหรือซี๊ดซ๊าดก็เล่นเอาสั่นไปทั้งร่าง แต่ถึงอย่างนั้น แมทก็ชอบที่จะฟังผมคราง อาจเพราะสำหรับมันก็ได้ เหมือนที่เสียงมันเพราะมากสำหรับผม
 
แต่ในกรณีนี้ งดครางได้มะ...เอาไปให้คนอื่นฟังจริงๆ ผมคงเอาระเบิดน้อยหน่ามากินแล้วบึ้มตัวเองตายไปซะเพราะความอับอายเกินพิกัด
 
“มะไม่เอาดิแมท...ไม่เอาแบบนี้ดิ” พยายามขอร้องผ่านน้ำเสียงแตกพร่า อารมณ์ก็มาเต็ม แต่อายก็อาย โอ้ย...อยากจะบ้า
 
“ไม่ได้...กูสั่งต้องทำ” ฟันคมคนด้านบนงับเข้าที่หัวไหล่ขาวเนียนเบาๆ พร้อมกับขยับขีปนาวุทของตัวเองเข้าออกตื้นๆ แต่ถี่ๆ
 
แมททำให้ความสยิวเล็กๆ น้อยๆ นั้นเพิ่มขึ้นทีละนิด เป็นกลวิธีรีดเร้นเสียงครางของผู้ตกเป็นเบี้ยล่างอย่างผม ซึ่งผมก็ต้องสยบต่อความเหนือกว่านั้นภายในเวลาไม่นานเกินรอ เสียงหัวเราะหึหึ ของแมทลอยเข้ากระทบโสตประสาทเมื่อผมปล่อยเสียงครางไร้ยางอายออกไปด้วยวอลุ่มที่มากขึ้น มือถืออยู่ใกล้แค่นี้ แม่งคงฟังได้ชัดราวกับเสียงนี้เป็นเอชดีไปละ
 
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!” โอ้ยท่านครับ..เบาๆ ทีหายใจไม่ทัน ก็เล่นยิ่งครางยิ่งกระแทกเข้ามา ผมหวิวจนแทบจะประครองร่างตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว
 
แมทดึงสองแขนค้ำเตียงของผมไปด้านหลัง จับข้อมือไว้ประหนึ่งเชือกควบบังเหียนม้า คาดเดาจากความห่างและมุมมอง กล้องเห็นผมและแมทชัดมาก อย่าถามว่าตรงนั้นเห็นไหม มันเห็นลึกไปไหนต่อไหนจนไม่มีไรปกปิดได้ละ ร่างของเราสองรั้งซึ่งกันและกันไว้ แมทเย้อไปด้านหลังส่วนผมโน้มมาด้านหน้า หัวเหอกระเซอะกระเซิงไปหมดเพราะแมทดันเร่งจังหวะซะถี่ยิบ
 
“อ๊ะ อ๊ะ อึ้ก...อ๊า” นั่นแหละ พุ่งโดนกล้องไปเต็มๆ เล่นกันหน้ากล้องดีนัก
 
“เสร็จซะรุนแรงเลยมึง...” แมทบอกกระเส่า มันไม่ลดจังหวะลงจนผมจะขาดใจตาย
 
“อ่าห์...บอม” โชคดีที่มันตามมาได้ไว ไม่งั้นผมตายจริงๆ ความอุ่นร้อนในร่างกายผมไม่ได้ทำให้ผมสนใจเท่าไหร่ ผมยื้อข้อมือออกจากแมทแล้วทิ้งตัวนอนลงไป แต่แทนที่แมทในจะให้ผมนอนดีๆ ให้หายเหนื่อย มันกลับรั้งสะโพกผมเอาไว้ ให้ส่วนที่เชื่อมต่อกันนั้นไม่หลุดออก จากนั้นเอื้อมมือไปหยิบมือถือ แม่งต้องเอามาถ่ายแน่ๆ แถมมีขยับเข้าออกเบาๆ อีกต่างหาก
 
มึงแม่ง...โรคจิตเหมือนกันนะ
 
พอมันพออกพอใจ เจ้าตัวก็ลุกไปอาบน้ำอาบท่าโดยไม่วางมือถือไว้ กลัวผมจะแอบลบชัวร์ๆ ช่างมันเหอะ ขอนอนเอาแรงก่อน แมทก็เหลือเกิน กระหน่ำแทงผมยับคาเตียงขนาดนั้นยังมีแรงลุกเดินผิวปากเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉย หนอย...ไอ้บ้า!
 
ค่อนขอดมันในใจไปก็เท่านั้น นึกไปนึกมาก็นับว่าดีแค่ไหนที่บทลงโทษของผมมันมีแค่นี้ ไม่เจอบทโหดเหมือนเมื่อคราวก่อนนั้นที่มันเล่นเย็นชากับผมจนผมแทบแห้งตาย ไอ้แบบนี้น่ะดีกว่าเยอะ ทรมานกายไม่ทรมานใจ
 
แมทเดินกลับเข้ามาอีกครั้งในสภาพผ้าพันเอวเช่นเคย มันแค่ล้างตัวไม่ได้อาบน้ำสระผมอีกรอบ แต่ผมนั้นยังคงนอนคว่ำหน้าหายใจรวยรินอยู่ โดนท่านผู้บัญชาการใช้ให้ขัดขีปนาวุทหนักไปหน่อย ง่อยแดกกันไปเลยทีเดียวเชียว
 
“หมดแรงแล้วหรอ นี่แค่ยกแรกเองนะ”
 
“ห้ะ!!!” หันขวับไปมองรอยยิ้มหวานซื่อที่โคตรน่าจะเอาบาทาทาบทับ แมทเอื้อมือมาเช็ดคราบน้ำลายและน้ำตาของผมให้ แหม่ ทำเป็นดูแล เดี๋ยวก็ขึ้นมาแทงข้างหลังตูอีก ไอ้เวร
 
“มึงคิดว่าบทลงโทษแค่นี้จะเพียงพอหรอกับความผิดของมึงน่ะ”
 
“กูยังไม่ได้เอากับเธอเลยเหอะ” ปากไวใจเร็ว จนโดนตบปากดังแปะ เสียงเหมือนตบยุงแต่เจ็บอย่างกับตบหน้า
 
“ก็ลองทำดูบอม แล้วมึงจะรู้ว่ากูโหดได้มากขนาดไหน” แหงะ อย่าทำหน้าโหดสิ ผมกระดื้บเข้าหาแมท เอื้อมมือกอดเอวมันเอาไว้แล้วซุกหน้ากับสีข้าง
 
“กูไม่กล้าหรอก พูดไปงั้นแหละ จะลงโทษกูต่อก็ได้ แต่อย่าถ่ายคลิปเลยนะ” ขืนคลิปหลุดละมึงเอ้ย ไม่ต้องไปตามเก็บกวาดหรอก ทำใจยอมรับชะตากรรมไปได้เลยละ
 
“กูจะถ่ายแค่คลิปเดียวเท่านั้นแหละ”
 
“เย้~”
 
“เพราะกูไม่อยากให้คนอื่นเห็นเวลามึงเป็นฝ่ายร่อนเอวใส่กู” เหมือนลำคอจะแห้งผากในทันใด
 
“หมายความว่าไงวะ” หน้าผมชักซีด ถ้าเป็นอย่างที่คิด ผมจะร้องไห้ให้น้ำตาท่วมห้อง
 
“หมายควมว่าคืนนี้ มึงต้องขึ้นให้กูจนกว่ากูจะพอใจไงละ...”
 
คำเดียวสั้นๆ...กูตาย!
 
ผมที่ชันคอคุยถึงกับเอาหัวโหม่งที่นอนทันที การขึ้นควบเองมันก็ดีหรอกนะ แต่นานเข้ามันก็เหนื่อยปะวะ แล้วทั้งคืน! กว่าจะพอใจ! ผมไม่เอวเคล็ดเอวคราดกันไปก่อนหรือไง นี่คนนะเว้ยเฮ้ย ไม่ใช่หุ่นยนต์สนองความใคร่อยาก
 
แมทเอามือมาช้อนคางให้เงยหน้าขึ้น ยิ้มละไมมาให้พร้อมกับโน้มหน้าเขามาจูบปาก แต่ในจังหวะนั้นเองที่โทรศัพท์ในมือแมทมันสว่างวาบขึ้นมาเพราะมีข้อความจากไลน์เข้า ผมรีบผละหน้าออก คว้าหมับกระชากเอาเครื่องมันมาดู ปรากฏว่า...
 
“บอกกูมาซิ...ว่ากูควรทำยังไงกับมึงดี” ยื่นหน้าจอที่โชว์คำว่าคิดถึงจากเด็กผู้ชายหน้าตาดีเด่นหราตรงหน้าแมท มันหน้าซีด มองผมสลับกับจอ
 
“หายกันไงมึง”
 
“ง่ายไปสัส ได้...เดี๋ยวมึงรู้เลย”
 
ผมพลิกกายนอนดีๆ พิมพ์ตอบอีกฝ่ายว่าให้รอผมแป็บหนึ่ง จากนั้นเข้าเครื่องเล่นวิดีโอ เปิดคลิป ความอายหายหมด ตอนนี้เหลือความโกรธคุกรุ่นแทน นั่งเลื่อนหาช๊อตเด็ดๆ แคปจอมาสองสามภาพ เอาตอนที่ยังเห็นผมนอนอยู่ปลายเตียงแล้วแมทคร่อม มาตอนแมทจับให้ผมค้ำหัวเตียงเอาไว้แล้วก็สุดท้าย ตอนแมทดึงแขนผมเย่อเหมือนควบม้า กลับเข้าหน้าแชต กดส่งภาพไปทีละช๊อตอย่างใจเย็น
 
“หึหึ” ฝ่ายนั้นอ่านแล้วถึงกับเงียบไป ผมโยนมือถือส่งกลับไปให้แมท
 
มันรับมือถือไปเปิดอ่านดู สีหน้านิ่งๆ ไม่แสดงอาการอะไรชวนให้หมั่นไส้เป็นบ้า นี่ถ้าผมไม่เกรงใจแมทและตัวเอง ผมจะเอารูปพวกนี้โพสต์ให้เต็มเฟซ พวกจะได้ไม่มาเกาะแกะวุ่นวายน่ารำคาญ คนของเราเองก็น่าตีซะจริงๆ ไม่จริงจังแต่อ่อยเขาไปทั่ว
 
“หายกันละสิ” แมทเงยหน้ามอง รอยยิ้มไม่ทุกข์ร้อนปรากฏขึ้นช้าๆ
 
“หายกันเหี้ยไร กูทำไปแค่นิดเดียว ไม่สาสมเลยเหอะ” ผมเอาผ้าห่มคลุมกายนอนมองแมทตาขวาง ล่อซะปวดก้นไปหมด ยังมามีหน้าบอกหายกัน ตลก ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
 
“งั้นแล้วมึงจะให้กูทำยังไง” แมทคลานขึ้นมาคร่อม น้ำเสียงออดอ้อน ผมมองหน้าแฟนตัวเองตาขวาง ทีงี้ละหาทางเอาอกเอาใจ เดี๋ยวพ่อต่อยคว่ำเลยหนิ
 
“งดเซ็กส์หนึ่งเดือนเต็ม!” ผมหันไปบอก มันเหวอทันที
 
แมทขาดเซ็กส์ได้ที่ไหนละ มันหื่นจะตายเห็นหน้านิ่งๆ เรียบร้อยแบบนี้อ่ะ ไม่งั้นมันจะมีคนอื่นหรอ ผมอยู่กับมัน ถ้าว่างและไม่เหนื่อยเกินไปก็เนื้อแนบเนื้อตลอด แล้วที่ในหาคนอื่นเพิ่มก็เพราะเพิ่มรสชาติเซ็กส์ให้ตัวเองนั่นแหละ เจอคำขาดแบบนี้ไปแมทคอตกเลยละครับ แถมรอบนี้ผมจะแลกมือถือใช้อีก เพื่อกันไม่ให้มันไปร่านหาใครมานอนด้วยในระหว่างที่ผมสั่งงด
 
“เฮ้ย!” แมทนิ่งไปได้ไม่นานก็ขึ้นคร่อมผม ผมตกใจมาก ดิ้นรนเอาตัวรอด
 
“โอเค งดก็งด แต่ตอนนี้มันเป็นบทลงโทษของกู มึงก็ต้องรับมันต่อไปนะ...” เหี้ย~!!! ไม่เอาสิแบบนี้ไม่เอา!

มีต่อจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 04-01-2017 22:07:38
 :katai5: ต่อเลยจ้า

แมทแม่งจัดการปลุกปล้ำผมหนักกว่ารอบแรกอีก เพราะอยากกอบโกยความสุขนี้เอาไว้ชดเชยหนึ่งเดือนที่จะไม่ได้แอ้มผม ผมก็ครางโอดโอยไปสิ โหมกระหน่ำมาขนาดนี้ เอวกูพังใครรับผิดชอบ! แค่ที่เตียงไม่พอ มีไปต่อที่โซฟา ริมระเบียง ห้องครัวและห้องน้ำอีกตามลำดับ เอาทุกที่ เอาตลอด นี่มึงแดกยาอึดเข้าไปรึไง! ผมปลดปล่อยจนปวดลำกายไปหมดแล้ว ตอนนี้จากที่มีความสุขจากเซ็กส์กลายเป็นความทรมานแทน
 
ทุกอย่าดำเนินไปด้วยจังหวะที่รวดเร็วแต่เวลานั้นกลับช้าจนน่าตกใจ ผมเฝ้ามองนาฬิกาว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว ท้องไส้ปั่นป้วน หิวข้าว ปวดตัว ตาลายคล้ายจะเป็นลม แต่แมทไม่ยอมให้ผมพักเลย มันตักตวงทุกอย่างได้คุ้มสุดๆ
 
นู้นแหละ...เช้าของอีกวันที่ผมได้หลับอย่างสนิท
 
เรียกได้ว่าหลับเป็นตาย แมทเองก็เช่นกัน เล่นออกกำลังกายกับผมหนักขนาดนั้น ไม่หลับเหมือนศพก็ไม่รู้จะว่ายังไงละ แต่ตอนสิบโมงเช้าเสียงมือถือของผมก็แผดร้อง ผมจะไม่ตื่นเลยถ้าไม่ปวดฉิ่งฉ่อง
 
“โหล” เสียงแหบมากอยากบอก ครางทั้งคืน คอแทบแตกแล้วเนี่ย
 
(มาเรียนเลยมึง วันนี้มึงขาดไม่ได้ เอฟแดกแน่) กล้ากรอกเสียงลงมาในสาย ผมยังอึน ทำหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะ ก็แหม่ ผมได้หลับไปตอนแปดโมงเอง คิดูเอาเถอะนะ ความคึกความบ้าของสามีผมน่ะ
 
“แต่กู....” กำลังจะพูดว่าไม่ไหว แต่นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวิชาของอาจารย์สมร ผมขาดไปเต็มแล้ว ขาดอีกผมตกแน่!
 
“ชิบละ เดี๋ยวกูไป!” ผมวางสายแล้วรีบพุ่งตัวลงจากเตียง แต่แม่เจ้า...ขาผมไม่มีแรงเลย
 
ตุ้บ!
 
นั่นแหละชะตากรรมของคนโหมทำอย่างว่าจนฟ้าเหลือง ผมขึ้นควบไปอย่างนาน ครึ่งค่อนคืนได้แม้จะบอกว่าไม่ไหวยังไงก็ตาม   แมทไม่ยอมท่าเดียว ผมว่ามันใจร้ายมันก็จะบอกว่าผมใจร้ายกว่า ห้ามมันตั้งหนึ่งเดือน ก็จริงแหละ รู้ๆ อยู่ว่าแมทชอบทำเรื่องนี้ขนาดไหน ก็เพราะชอบไงถึงเอามาใช้ทำโทษมันน่ะ
 
เสียงล้มโครมครามของผมดังจนทำให้แมทผู้ตื่นง่ายลืมตาขึ้น ผมตะเกียกตะกายเอาคางวางบนเตียง สบตาง่วงงุนกับอีกฝ่าย อยากจะร้องไห้...ผมเข้าคลาสสิบโมงครึ่ง อีกครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง
 
“แมท วิชานี้กูขาดไม่ได้” น้ำเสียงโอดครวญที่แหบแห้งคงทำให้แมทเห็นใจขึ้นมาบ้าง มันลุกจาเตียง ตรงมาอุ้มผมขึ้นวางไว้บนเตียงดีๆ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าแมทเองก็ขาสั่น เห่อๆ เป็นไงละ โหมดีนัก
 
“เดี๋ยวเตรียมชุดให้” มันง่วงและเหนื่อยมาก แต่ก็รีบทำให้ผมอย่างว่องไว
 
เหนื่อยแมทอีกเมื่อมันต้องพาผมไปอาบน้ำอาบท่าด้วยความไวแสว เวลาผมเหลือน้อยแล้ว ถึงที่พักจะไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก แต่เวลาเตรียมตัวเนี่ยสิ นานมาก เข้งขาผมอ่อนแรงมาก กว่าจะเดินเองได้ก็ตอนลิฟต์ลงมาชั้นล่างสุดแล้ว  แมทให้ผมรอหน้าคอนโด มันเองไปเอารถ ผมก็นั่งรอไปเพราะขามันคอยแต่จะอ่อนแล้วทรุดทุกที
 
โอ้ย...ทรมานจริงจังมาก
 
ไปถึงคณะเต้กับกล้ารออยู่ ผมเอาหมวกให้แมทที่ตาโหลหนักมากไปแล้ววิ่งเยาะๆ ไปหาเพื่อน เหลือเวลาเพียงน้อยนิดสำหรับเข้าคลาส ไม่มีแรง วิ่งไม่ไหวก็ต้องฝืน กัดฟันทนกับความอ่อนล้าและร่างกายที่อ่อนแรง นั่งโต๊ะเรียนได้ผมนี่หอบแดกอะ
 
“หน้ามึงเหมือนคนไม่ได้นอน” กล้าบอก มันส่ายหน้าให้ผมกับเต้ที่มีสภาพไม่ต่างกันเลย จะต่างกันก็แค่สาเหตุเท่านั้นแหละ
 
“อืมก็ไม่ได้นอน” ผมกับเต้ตอบพร้อมกันอย่างบังเอิญ หันหน้ามองกันแล้วก็หัวเราะ ยกเว้นกล้า มันขำไม่ออก
 
“เมื่อวานพวกมึงทะเลาะกันเปล่า หน้าตามึงโทรมมาก ร้องไห้มาใช่ป่ะ” ก็ร้องแหละ ร้องเพราะเสียวเกินอะ ผมเกาหัวแกรกๆ แล้วส่ายหน้าเบาๆ
 
“ไม่ได้ทะเลาะกันหรอก มีปากเสียงเถียงกันนิดหน่อย แต่เคลียร์ได้แล้วไม่ต้องห่วง”
 
“แต่สภาพมึงน่าห่วงมาก” เต้เสริม เออรู้แหละว่าโทรมสัสอะ ณ ตอนนี้
 
“ไม่มีไรจริงๆ เรียนเหอะ” ผมเลี่ยงที่จะพูดเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเล่าเลยอะสิ มีแต่ความอับอายทั้งนั้นเลย
 
พวกมันสองตัวเงียบไม่ถามต่อ เราหันไปสนใจเรียนแบบง่วงๆ ตาปรือๆ หาววอดๆ แต่ไอ้เต้สิแม่งแน่มาก เล่นหลับสนิทคาบของอาจารย์สมร มันหลับแบบ...นั่งหลับหลังตรงแด่ว นิ่งมาก เห็นแล้วรู้สึกทึ่ง นี่สินะ สกิลของนักดื่มมืออาชีพ หลับเหมือนไม่ได้หลับ
 
กว่าจะจบคาบนู้น ปาไปบ่ายสองกว่าๆ ข้าวยังไม่ได้กินตั้งแต่มื้อเย็นเมื่อวาน ดูดิว่ากี่มื้อแล้วที่ผมขาดอาหารลงกระเพาะ มีแต่ลูกๆ ของแมทที่น่าจะย่อยสลายไปหมดแล้ว ผมเดินโต๋เต๋หมดแรงแล้วหมดแรงอีกออกมาจากห้อง ต้องคล้องคอกล้าเอาไว้เพราะกลัวตัวเองจะลเม แต่อนิจา ลงลิฟต์มาข้างล่างเท่านั้นแหละ ผมนี่หน้ามืดวูบร่วงลงไปกับพื้นทันที ไอ้กล้าก็พยุงไม่ทัน เต้ไม่ต้องพูดถึง มันสลึมสลืออยู่ เพิ่งมาตาโตนี่แหละ
 
ผมรู้ตัวอีกทีก็นั่งอยู่ตรงโต๊ะข้างคณะที่ค่อนข้างเงียบ มีอาหารมากมายวางอยู่ นี่กูเป็นลมวูบไปไม่มีใครคิดพากูส่งโรงบาลเลยสินะ ข้างกายของผมคือแมท มันนั่งพัดให้ผมด้วยกลัวว่าจะร้อน ผมขยับตัวออกมานิดหน่อย มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ผมคิดว่ามันจะกลับบ้านไปนอนต่อแล้วซะอีกนะเนี่ย
 
“มึงยังไม่กลับไปหรอ กูนึกว่ามึงนอนอยู่ห้องไปแล้ว” ผมบอก
 
“ไม่อะ จะรอกินข้าวด้วยกัน มะ...กินข้าวกัน จะได้ดีขึ้น” แมทขยับจานข้าวและของกินมากมายมาตรงหน้าผม ฝั่งตรงข้ามเต้หลับและกล้านั่งกดเกม ชีวิตพวกมันมีแค่นี้จริงๆ
 
“กูขอโทษนะ เพราะกูมึงเลยวูบไป” ผมหันไปยิ้มให้แมท ขยับหอมแก้มมันอีกที
 
“ไม่เป็นไร แค่ดูแลกูด้วยก็พอแล้ว” เรายิ้มให้กันก่อนจะเริ่มทานมื้อบ่ายซึ่งรวบอาหารหลายมื้อมากเอาไว้ ไม่มีอะไรหวือหวาสำหรับเราทั้งคู่ มีแค่การยิ้ม หัวเราะและหยอกล้อกันระหว่างมื้อเท่านั้น
 
**************จบบทที่ 14***************

บอมแมทดีกันจริงๆแล้วสินะ :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-01-2017 22:16:23
เย้ยยยยยย มีคลิปหลุดแน่ๆ ไม่น่าไว้ใจ 55555
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-01-2017 22:25:43
เฮ่อ.....แมท บอม....
ขนมผสมน้ำยาจริงๆ
แล้วภาพที่บอมส่งไป
มันไม่ประจานตัวเองด้วยหรือ  :katai1: :katai1: :katai1:
แมท ไม่อาย ไม่เสียหน้า
แล้วยังลงโทษบอมต่อซะนี่
เอ่อ.......สรุป เสือแมท ได้ประโยชน์เต็มๆ :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: nongtao ที่ 04-01-2017 22:40:47
อ่านแว่บแรกโกรธบอมมาก เสือไม่ทิ้งลายจริงๆ พอเลื่อนมากลางๆ อ้าว! แมทก็ทำเหมือนกันนี่หว่า เหอๆ สมกับเป็นเนื้อคู่กันชะมัด  'คู่กรรมคู่เวร'
.............ว่าแต่บอมไม่อายแล้วเหรอถึงส่งรูปให้เขาไปดูน่ะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 04-01-2017 22:55:18
หวังว่าคลิปจะไม่หลุดน่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 04-01-2017 22:56:46
ฉันเอือมสองผัวเมียคู่นี้ข่ะ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-01-2017 23:03:50
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 04-01-2017 23:31:40
 ลุ้นมากๆ ตอนที่โทรศัพท์แมทมีข้อความเด็กน่ารักๆเข้ามา ลุ้นว่าบอมจะลงโทษแมทด้วยการเสียบแมทแล้วถ่ายคลิปไปด้วย รึป่าว555
 มันจะยุติธรรมกับแมทและบอมดีมาก ฮ่าๆ คราวหน้าบอมเสียบแมทเลยนะ ลงโทษบ้าง
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-01-2017 23:48:58
ได้แต่หวังให้คู่นี้
ดีต่อกันให้ตลอดรอดฝั่ง

ไม่งั้นก็ฝังกันไปเลย

บอมแค่เล่นเป็นหมาหยอกไก่
แต่แมทมันหวังขย้ำเก้ง ถลกหนัง กัดกินแทะทั้งตัว
หุหุ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 05-01-2017 00:45:27
หมาหยอกไก่กับเสือซุ่มแดกค่ะ
เราว่าแมทต้องหาทางกินอีกแน่นอน
มันไม่เคยต้องอดกินเรี่ยรายข้างทางมาก่อน
เผลอๆก็ต่างคนต่างก็ไปหากินเอาข้างนอกแลวก็กลับมาอยู่ด้วยกันเสียกระมัง
ไม่อย่างนั้นบอมกับแมทก็คงฟ้าเหลืองไปด้วยกันตลอด
แมทอยากลองอะไรบอมก็ต้องส่งส่วยไม่ให้ขาด
เสือที่อิ่มเพราะรักกับเซกส์จากคนที่รักก็ไม่เถลไถลนะคะ
ว่าแต่แมทมันจะทำได้หรือเปล่านี่สิ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 05-01-2017 02:35:36
กลัวใจแมท
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 05-01-2017 07:35:23
เห~ บอม แบบนี้จะเข้าทางแมทรึเปล่า
บอมงดเดือนนึง ทีนี้แมทผู้ขาดเซ็กส์ไม่ได้ก็อาจจะจำเป็นต้องออกไปหาจากคนอื่นนา~

แต่ตอนนี้อยากตบบอมซะที แหม่หมาหยอกไก่ ระวังผัวเถอะลูก คนนี้ซ่อนเขี้ยวเล็บ ไม่หยอกเฉยๆเหมือนบอมหรอกนะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 14 [4/1/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-01-2017 19:53:45
หมาหยอกไก่กับเสือซุ่มแดกค่ะ

ฮ่าฮ่า
ชอบประโยค วลีนี้มาก

สะเด็ด..โดนใจสุดสุด

ยังนั่งขำอยู่ ไม่เลิกนะเนี่ยะ
ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 05-01-2017 22:01:42
เธอมีชู้

บทที่ 15

@ปี 2

วันนี้มีเลี้ยงฉลองจบโปรเจ็กของกลุ่มผม ผมจึงนัดพวกไอ้แมทมาดื่มกันที่ร้านมุมตึก ชื่อร้านนะครับไอ้มุมตึกเนี่ย เป็นผับขนาดกลางแต่บรรยากาศดี ชั้นสองเป็นโซนวีไอพีให้นั่งดื่มดูวิวสาวๆ ด้านล่าง เต้นี่เลิกคลาสแม่งก็รีบโล่ไปอาบนำแต่งตัวทันที จะรีบหาพระแสงอะไร ร้านแม่งเปิดสองทุ่ม นี่เพิ่งจะสี่โมงเย็น ผมกับกล้าเลยไปเล่นที่ห้างกันตามประสา

ประสาผมก็มองสาวครับ

ประสากล้าก็เกมครับ

เคมีไม่ได้เข้ากันเลยสักนิดแต่เสือกเดินเล่นกันได้เป็นชั่วโมงๆ ประมาณหกโมงกว่าๆ เราถึงแยกย้ายไปอาบน้ำแต่งตัว เจอกันที่หน้าร้าน เรานัดกันไปเจอที่นั่นเลย ยกเว้นแมทที่จะเลิกคลาสตอนทุ่มกว่า มันกลับเข้าห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปพร้อมกับผม

ผมกลับมาห้องที่ปราศจากเงาอีกคน แมทยังมาไม่ถึง ผมไปอาบน้ำ แต่งหล่อออกมารอ ด้วยความที่ผมเป็นหนุ่มเจ้าสำอางนิดหน่อย ทำให้เสียเวลากับการแต่งตัว แต่งหน้าทำผมบลาๆ นานหน่อย ก็พอดีแมทเปิดประตูเข้ามา ข้าวของทำรายงานมันพะรุงพะรังไปหมด ผมรีบตรงเข้าไปช่วย

“อ่ะๆ...” ช่วยถือของผมแล้วก็ไม่วายแบมือขอของอีกอย่าง

“ของมึงละ” มันถามกลับบ้าง

“บนโต๊ะ ไปหยิบเอาเอง ส่วนของมึงอะเอามา” แมทหยิบสิ่งนั้นมาให้โดยไม่อิดออด เสร็จเจ้าตัวก็เดินไปเอาของผมเดินหายเข้าห้องไป

สิ่งนั้นที่มีการทวงกันนี่คือ...โทรศัพท์มือถือครับ!

มันกลายเป็นกิจวัตประจำวันของเราไปแล้วที่นะเช็คมือถือของอีกฝ่าย และถ้ามีอะไรผิดสังเกตจะสอบถามเพื่อนๆ เอา เพื่อนจะไม่ขายเพื่อน แต่ประเด็นนั้นจะตกไปทันทีเมื่อผมกลายเป็นเพื่อนพวกมันด้วย ซึ่งเวลาเกือบปีหลังจากเหตุการณ์พวกนั้นก็ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้หนักใจนักหรอก มีบ้างประปราย แซว จีบ คุยเล่น แต่ไม่ถึงขั้นไปเอากันแบบเมื่อก่อน เราต่างก็มีบทเรียน ถ้ายังรัก ยังอยากอยู่ด้วยกันก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้

ที่สำคัญ เกือบปีมานี้มีแต่ผมซะส่วนมากด้วยละที่โดนทำโทษ

อยากหัวเราะให้น้ำตาร่วง ผมชอบเผลอไปทำกะล่อนใส่สาวๆ ซึ่งแมทไม่พอใจเลยสักครั้ง แล้วถ้าผมเถียงนะ เจอยันเข้า แทบจะคลานไปสอบเลยครั้งนั้น ผมสยองแต่ผมไม่จำ เผลอตัวเผลอใจทำในทุกครั้งไปที่มีโอกาส ส่วนมากจะเป็นตัวต่อตัว เจอหน้ากันเลยแซวไปตามเรื่องตามราว กล้าแม่งก็ฟ้อง ไม่เต้ก็ฟ้อง โคตรเซ็ง ส่วนแมทมีแต่เพื่อนแซวว่าจะเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทเมียทำไมว้า อะไรทำนองนี้มากกว่า ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วแมทแอบมีแต่พวกมันปกปิดหรือเปล่าเหมือนกัน แต่ดูจากรูปการแล้วแก้วไม่น่าจะมาปกปิดผม แก้วเป็นทอมที่อย่างน้อยก็มีความเป็นผู้หญิงอยู่บ้าง ผู้หญิงมักไม่ชอบคนหลายใจ

เอ...แต่ก็แก้วเองก็ดูกะล่อนใช่ได้เลยนะ

เครียดไปสิกรู~

ขณะย่นคิ้วขมวดเป็นปมแมทก็เดินออกมาอย่างหล่อ เสื้อยืดสีฟ้ากับกางเกงยีนส์สีดำเข้ารูปธรรดาทำให้คนหล่ออยู่แล้วหล่อขึ้นไปอีก ผมเลิกเช็คมือถือมันแล้วเดินไปใส่รองเท้าพร้อมๆ กับมัน มาช้าแต่มันทำอะไรเร็วกว่า ไม่เซ็ทผมไม่ทาครีมไม่รองพื้นบลาๆ เหมือนผม

“นี่มึง...” เอ่ยเรียกคนข้างกายที่กำลังใส่ถุงเท้า ส่วนตัวเองใส่เสร็จตั้งนานแล้ว

“อะไร” แมทหันมามองหน้า ใบหน้าเรียบๆ แต่เหมือนมีรอยยิ้มประดับอยู่

“ไม่ใช่ว่ามึงแอบมีคนอื่นแต่เพื่อนมึงช่วยกันปกปิดนะ” ผมถามสิ่งที่คาใจ

“นี่มึงไม่ไว้ใจเพื่อนกูหรอ เพื่อนกูก็เพื่อนมึงนะ”

“จะไปรู้หรอวะ แก้วเองก็ดูกะล่อนอยู่ มันอาจจะสายพันธุ์เดียวกับมึงเลยช่วยปกปิด ส่วนพันก็เกรงใจมึงไรงี้” หน้าผมชักเครียด ก็คนมันคิดมาก มันระแวงป่ะวะ

“ระแวงขนาดนี้ตามติดชีวิตกูเลยไหม” มันยิ้มให้อย่างน่ารัก

“ก็อยากนะ” แมทเอื้อมมือมาลูบหัวผม

“มาตามสิ...ตามให้ทั้งชีวิตเลยนะ” พูดจบแมทก็ขยับเข้ามาจูบปากผม มันหวานมากเลยละ...แม้จะแค่ไม่กี่วินาทีที่เราสัมผัสกันก็ตาม

“ปากหวาน” ผมยิ้มแก้มปริ แมทยิ้มตอบแล้วพากันใส่รองเท้า

เราเดินจับมือกันไปที่รถบิ๊กไบค์ ใส่หมวกกันน๊อค ถุงมือและเสื้อการ์ด ซึ่งเป็นอุปรกรณ์เซฟตี้สำหรับมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ คาดว่าภายในปีนี้แมทจะออกคันใหม่มาขับ เจ้าคันนี้เป็นขนาดกลาง หกร้อยห้าสิบซีซี มันไม่เพียงพอต่อความต้องการของแมทแล้ว เขาจะออกตัวหนึ่งพันซีซีมาขับ ส่วนคันนี้ก็เอาไว้ให้ผม ถามความต้องการของผมหรือยังเอ่ย...ผมอยากได้รถเก๋งมากกว่า มันไม่ต้องตากแดด ตากลม ผิวพรรณไม่เสีย แต่ก็ปล่อยเขาเถอะ ถึงเวลาผมจะเอาไม่เอาก็เป็นสิทธิ์ของผมนั่นแหละนะ

เรามาถึงร้านตอนสองทุ่มเศษๆ กล้า เต้ พันและแก้วมารอเราอยู่แล้ว พวกมันนั่งคุยกันอยู่ตรงหน้าร้านที่มีม้านั่งยาวเอาไว้รองรับลูกค้า พอแมทจอดรถได้เต้ก็ยืนขึ้น สีหน้ามันแบบ...กูอยากเข้าไปข้างในใจจะขาดแล้ว ผมถอดหมวกส่งให้แมทแล้วดิ่งเข้าไปหาเพื่อนฝูงไม่สนใจสามีเลยสักนิด

“มาช้าวะ” เต้ว่า

“ช้าเชี่ยไร เพิ่งสองทุ่มกว่าเองนะมึง” ว่ามันแล้วก็ขำมันเบาๆ แมทเดินตามมาสมทบอย่างไว มันยิ้มให้กับทุกคน เต้พยักหน้าให้แมทแล้วตรงดิ่งเข้าร้านไปด้วยความไว เหล้าก็ไม่ได้จะหนีมันไปไหนสักหน่อยนะ ไม่เห็นต้องรีบร้อนปานนั้นเลย

ผมมาเข้าใจว่าทำไมเต้รีบก็ตอนที่เรามาถึงโต๊ะ มันรีบขึ้นมาจับจองโต๊ะด้านบนที่วิวดีถูกใจมันมากที่สุดนั่นเอง ถึงว่าละ ร้อนรนจะเป็นจะตาย โต๊ะที่เรานั่งเป็นโต๊ะกลมขนาดกำลังดีติดราวระเบียงที่มองเห็นส่วนล่างได้อย่างชัดเจน เต้นั่งติดราวฝั่งหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นผมนั่ง ข้างผมเป็นแมท ข้างเต้เป็นกล้า ส่วนแก้วกับพันนั่งคู่กันหัวโต๊ะ เต้กับพันเป็นคอเดียวกัน พวกมันสั่งเหล้าและกับแกล้มโดยไม่ถามไถ่ใครต่อใครบนโต๊ะ แถมยังสั่งได้เข้าขากันดีสุดๆ

“พวกมึงมีงานอดิเรกเป็นการเมาใช่ไหม” ผมแซว

“เปล่า...” เต้ตอบโดยไม่มองหน้าผม แต่มองกล้าที่ขอเลือกกับแกล้มบ้าง

“ไม่ใช่งานอดิเรก เป็นงานประจำ” พันว่าพลางยักคิ้วกวนบาทา เต้ยกนิ้วให้พันในทันที

“เป็นงานประจำที่โคตรผลาญตังในกระเป๋าเลย” แก้วนั่งพิงพนักไขว่ห้างเท่ๆ

ผมเห็นนะว่าโต๊ะที่ไม่ห่างจากเรานั้นมีผู้หญิงนั่งดื่มกันอยู่สองสามคน หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มสเป็กไอ้แก้ว มันถึงได้เต๊ะท่า วางมาดได้น่าหมั่นไส้ขนาดนี้ เชื่อเถอะ อีกไม่นานแก้วก็คงจะดิ่งเข้าไปหาพวกเธอ ชวนคุยบลาๆ แล้วก็อาจพากันกลับห้องด้วยในคืนนี้

ผมรู้ดี เพราะผมก็เคยทำ ฮ่าๆ

นั่งรอกันไม่นานนัก อาหารและเหล้าที่สั่งไปก็ทยอยมาเสิร์ฟ เด็กเสิร์ฟเป็นผู้ชายตัวเล็กๆ ค่อนข้างจะน่ารักเข้าตาแมท ผมนั่งอยู่ข้างๆ เห็นชัดเลยว่าเวลาเด็กคนนี้มาเสิร์ฟของแมทจะคอยมองตามตลอด แล้วคิดว่าผมพอใจไหมละ ไม่น่ะสิ! หงุดหงิดอยากเอาเหล้าสาดหน้าเด็กคนนั้นและแมทคนละที แต่มันไม่ดีถ้าจะทำแบบนั้น ผมเลยเงียบ เหม่อมองไปทางอื่นที่มีความน่าสนใจมากกว่า ส่วนเรื่องแมท กลับบ้านไปเคลียร์แน่นอน

สาวๆ ด้านล่างเริ่มหนาตาขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป การแต่งตัววับๆ แวมๆ ทำให้สายหื่นเลือดกำเดาแทบพุ่งออกจากโพรงจมูก เน้นกันซะแบบเนินนมเป็นเนินนม ก้นเป็นก้น เต่งตึงฟิตชุดเปรี๊ยะ ผมละอยากเข้าไปขย้ำซะจริงๆ เห็นแล้วมันหมั่นเขี้ยวเป็นบ้า

นี่ถ้าทุกวันนี้ไม่มีสามีเป็นตัวเป็นตน ผมก็คงร่อนหาสาวควงไปเรื่อย ยิ่งมาเที่ยวสถานที่แบบนี้ยิ่งหาคนควงง่าย วันไนท์สแตนนี่แหละแฮปปี้ที่สุด ต่างฝ่ายต่างได้ ต่างสนุกก่อนแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตใครชีวิตมัน หน้าตาแบบผมเองพวกเธอชอบมากเสียด้วย ได้ซั่มกันละก็พวกเธอคงเอาไปอวดได้เป็นอาทิตย์ๆ ผมเองก็เช่นกัน เสียแต่ตอนนี้ถ้าทำมีหวังตายคาเตียงแน่นอน

เสียดายจริงๆ เกิดมาเป็นผู้ชายแท้ๆ นะเรา ดันต้องอดอยากปากแห้งเรื่องผู้หญิง ทั้งที่พระเจ้าก็ออกจะสรรสร้างใบหน้าและรูปร่างมาให้อย่างดี อาวุทก็ไม่เล็กน้อยหน้าใคร บวกกับลีลาเอวพริ้วไหวระดับเทพเข้าไปอีก มีแต่ใครๆ ติดใจทั้งนั้น

“แมทดูเมียมึงมองผู้หญิงสิ น้ำลายหกหมดละ” แก้วเอ่ยขึ้น ผมหันไปมองเจอมันยักคิ้วใส่อย่างกวนตีน เดี๋ยวพ่อจับทำเมียซะให้เข็ด ปากดีนักนะพ่อสาวหล่อ

“ยังมีน้ำยากับผู้หญิงอยู่อีกหรอวะบอม” แทบเอาน้ำแข็งปาใส่หัวให้กล้าที่กล้ามาสบประมาทผมคนนี้

“อย่าดูถูกกูนะ ระดับอย่างกูแล้วมีน้ำยาแบบอินฟีนิตี้เว้ย” อวดตัวลืมแมทไปเสียสนิท มันหันมองด้วยรอยยิ้มเหี้ยม ขนลุกเกรียวตั้งแต่แผ่นหลังขึ้นหัว

“เอาแล้วๆ งานนี้ผัวเมียตีกันวะ” พันเอ่ยแซวพลางชนแก้วกับเต้หน้าระรื่น

“พวกมึงก็อย่าชงสิ หาเรื่องให้ครอบครัวเขาแตกร้าวอยู่ได้” ผมหันไปว้ากมัน

“มึงก็อย่าร้อนตัวเวลาพวกกูชงสิ ทำไม...ประวัติที่ผ่านมามันค้ำคอหรอ” เต้ที่นั่งดื่มเงียบๆ ตั้งนานว่าขึ้นมาบ้าง

“กูประวัติเสียคนเดียวที่ไหน...” ไอ้คนข้างกายผมเนี่ยก็ใช่ย่อยนะขอบอก

“เออวะ ลืมไปว่าพวกมึงพลัดกันเลว” อื้อหือ คำไอ้กล้านี่ทำผมถึงกับร้องอื้อหือเลยทีเดียว

“เปลี่ยนเรื่องดีกว่าไหม” แมทหันไปพูดบ้างหลังจากจ้องผมอย่างอาฆาตมาพักใหญ่

“เข้าตัวละสิถึงสั่งเงียบ” แก้วยักคิ้วท้าทาย

“อ่านะ” แมทก็เสือกยอมรับหน้าตาย ที่พวกมันแซะผมละไม่เห็นออกโรงปกป้อง พอเข้าตัวเองเท่านั้นแหละรีบให้เปลี่ยนเรื่องในทันใด น่าตบหัวให้ทิ่มโต๊ะจริงๆ แฟนใครวะแม่ง!

“อืมๆ เปลี่ยนก็ได้ พวกมึงมาพนันกับกูดีกว่า...” แก้วบุ้ยใบ้ไปทางโต๊ะสาวๆ ขวามือพวกเรา ที่ทำให้มันนั่งเก๊กอยู่ตั้งนานสองนาน

“มึงเล็งคนไหนละ” ขณะที่ถาม เด็กเสิร์ฟคนเดิมก็เดินเข้ามาวางน้ำแข็ง แต่แมทมันเสือกรับของจากมือเขาแทนที่จะให้เขาวาง ไอ้เด็กนั่นก็ปะไร มีส่งสายตาหวานหยดมาให้อีก

“น้อง คนนี้ผัวพี่” ความหมั่นไส้ที่มีเป็นทุนเดิมทำให้ผมพูดออกไปแบบไม่มียางอาย เด็กนั่นเหวอเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้ต่างกับคนบนโต๊ะเลยสักนิดเดียว

“ครับ” เด็กนั่นรับคำพลางยืนนิ่งๆ ให้ตัวเองดูน่าสงสาร

“มึงอย่าแกล้งน้องเขาสิวะ” พันว่าขำๆ เด็กนั่นเลยระบายยิ้มออกมา แววตาสาดมาทางแมทเต็มเหนี่ยว

“กูไม่ได้แกล้งเว้ย แค่อยากให้น้องเขารู้ว่า...คนที่น้องเขาเล็งน่ะมีเจ้าของแล้ว และหวงมาก ถ้าไม่อยากมีสภาพเหมือนกบโดนรถทับก็ควรจะระเห็ดระเหินไปโต๊ะอื่นซะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ แต่มองเด็กเสิร์ฟด้วยสายตาเอาเรื่อง

“อู้ว...งานนี้มันเอาจริงวะ น้องไปบริการโต๊ะอื่นเถอะครับ เดี๋ยวเพื่อนพี่มันหึงแฟนมากๆ มันจะหน้ามืดตาลายมากัดน้องเข้า” ไอ้กล้าไล่น้องเขาไปอย่างเนียนๆ แต่ไม่วายแขวะผมอีกจนได้

ส่วนคนข้างกายที่เป็นตัวจุดประเด็นก็เสือกนั่งยิ้มหน้าบานราวกับได้รับรางวัลหนุ่มหล่อแห่งปี

เด็กเสิร์ฟผู้น่ารักน่าฟัดเดินจากไป เหล่าผองเพื่อนก็หันมาส่งสายตาล้อเลียนผมทันที ผมเชิ่ดใส่ไม่แคร์ไม่อาย เพราะรู้ดีเลยว่าแมทน่ะเป็นประเภทไหน ถึงมันไม่แสดงอาการอะไรออกมาก็รู้ดีว่างานนี้มันไม่ปฏิสเธน้องเขาแน่ๆ มีอ่อยกันทางสายตาก่อนหน้านี้อีกต่างหาก ผมต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่งั้นจะเกิดกรณีแบบดิวอีก

อย่าคิดว่าผ่านมาปีหนึ่งแล้วผมจะลืมนะ ไม่มีทาง!

“แฟนใครน่ารักที่สุด” แมทหันมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่

“ไม่ต้องมาโชว์หวาน มึงก็อยากจะกินน้องเขาใจจะขาด กูรู้นะ” จี้จุดมันได้แต่แมทไม่หน้าเจื่อนเพราะโดนจับไต๋ได้หรอก มันเก่งพอที่จะเก็บสีหน้าทุกอย่าง

“เหมือนที่มึงก็อยากจะกระโจนใส่สาวๆ ข้างล่างใจจะขาดเหมือกันใช่ไหม” มีวกกลับมาหากูอีกนะ

“แล้วกูทำหรือยัง ก็ยังใช่ป่ะ...ไม่เหมือนมึงหรอก อ่อยกันเห็นๆ” คราวนี้แมทเถียงไม่ได้ มันเลยขยับเข้ามาแล้วกอดเอวผมเอาไว้แทน

“พอๆ หันมาสนใจกูก่อน...ถ้าจะทะเลาะกันไปทะเลาะที่บ้าน เดี๋ยวสาวๆ กูหนีหมด อะพวกมึงว่ามาเลยว่ากูจะจีบติดไหม กูเล็งคนผมทองยาวถึงกลางหลัง หน้าตาแม่งจิ้มลิ้มดีชิบหาย แถมยังมองมาทางกูบ่อยๆ ด้วย” แก้วปิดประเด็นผมเพราะมันถูกลืมไปชั่วขณะหนึ่ง ผมจำใจเมินความผิดครั้งนี้ของแมทแล้วหันไปให้ความสนใจเจ้าแก้วอย่างที่มันต้องการ

“กูว่าไม่ติด” ผมพูดด้วยสีหน้าท้าทายสุดๆ

“ไม่แน่นะ แก้วมันคารมดีออกมึง กูเอาว่าติดร้อยหนึ่งอ่ะ” พันวางเงิน

“กูไม่ติดร้อยหนึ่ง” ผมวางบ้าง สบสายตากับพันพลางยักคิ้วให้

“งั้น...กูว่าติดร้อยหนึ่ง” กล้าเอาด้วย

“กูว่าติด” เต้วางเงินเช่นกัน เหลือไอ้แมทแล้วทีนี้ ทุกคนหันมามองแมทเป็นตาเดียว

“ถ้าทายถูกมึงต้องจ่ายคืนสามเท่านะแก้ว” แมทเอ่ยก่อน ทำให้นึกได้ว่าเราวางเงินแต่ยังไม่รู้เลยว่าจะได้อะไรกลับคืน วางเอามันไปงั้น

“ได้ดิ กูจ่ายคืนคนละสามเท่าเลย” แก้วกำลังคึกคะนองก็ยอมแต่โดยดี

“งั้นกูว่าไม่ติดสามร้อย” โหว งานนี้แมททุ่มทุนจริงๆ

“มึงคอยดู...” แก้วโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ยกเหล้าที่มีก้นแก้วกรอกปากก่อนจะให้เต้ชงใหม่เพื่อเอาไปชนแก้วกับหญิงสาวโต๊ะนั้น

เรามองตามแก้วไปอย่างลุ้นระทึก เคยเห็นมันหยอดสาวบ่อยครั้งก็จริงแต่ส่วนใหญ่ติดไม่ติดนี่มันมีสถิติแทบเท่ากันเลย คือผู้หญิงบางคนเขาก็ต้องการผู้ชายแท้ๆ มากกว่าน่ะ แก้วระบายยิ้มให้กับสาวๆ มันหล่อมากครับ หล่อชนิดที่ผมเป็นผู้ชายยังรู้สึกหมั่นไส้ในความหน้าตาดีนั้น แก้วชวนหญิงสาวที่ตนหมายตาชนแก้ว ซึ่งเธอก็ยอมชน จากนั้นแก้วก็ชวนคุยพลางนั่งลงข้างๆ หญิงสาวเนียนๆ

ทุกอย่างดูราบรื่นจนคนที่ลงว่าจีบไม่ติดชักเริ่มหนาว งานนี้ลุ้นกันแบบชิดติดขอบเวลาที เงินเดิมพันน่ะมันไม่เยอะให้เร้าใจหรอก แต่มันเป็นความรู้สึกสะใจมากกว่าถึงได้ลุ้นกันตัวแทบโก่งแบบนี้ แก้วชวนคุยได้อย่างเนียนขั้นเทพ ยิ้มน่ารัก หว่านล้อมก่อนจะหลอกถามเรื่องแฟน แต่ยังไม่ได้ถามดีมือมันที่พยายามจะจับมือสาวคนนั้นก็ถูกดึงออกด้วยฝีมือผู้หญิงอีกคนข้างๆ เธอ

“เฮ้ย...” เราลุ้นกันอย่างหนักมาก และไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้หญิงผมยาวสีดำข้างๆ ผู้หญิงผมทองต้องปัดมือแก้วทิ้ง

จนกระทั่ง...

“ขอโทษนะคะ เราว่าจีบแฟนเราแค่นี้ก็พอนะ” ผู้หญิงผมดำดูจะทนไม่ได้ถึงได้โพล่งออกมา เสียงหวานใสน่ารักมาก แต่ก็มีความอาฆาตอยู่ในนั้นด้วย เราทั้งโต๊ะถึงกับเหวอรับประทาน ก็เพราะพวกเธอดูเป็นเพื่อนกันมากกว่าแฟนอะ หรือว่าเพราะหญิงกับหญิงวะถึงได้ดูออกยาก

“เหมือนคู่มึงเลย ดูไม่รู้ว่าเป็นผัวเมียกัน” กล้าหันมาบอก เต้กับพันพยักหน้าเห็นด้วย

แก้วเดินคอตกกลับมาที่โต๊ะ ไม่พูดไม่จาจ่ายเงินให้คนที่ทายถูกสามเท่าแล้วนั่งกระดกเหล้านิ่งๆ วางมาดทั้งที่แม่งคงอยากจะบ่นออกมามากกว่า พวกผมก็เป็นเพื่อนที่ดีครับ เห็นเพื่อนเจ็บอย่างนี้มันทนไม่ได้ เลยต้องซ้ำเติมมันลงไปให้กระอักเลือดตายกันไปข้าง แก้วมันทนอยู่นาน จนไม่ไหวมันถึงได้ตบหัวคนที่แซวมันเรียงตัว แน่นอนว่าผมไม่รอดเงื้อมือของปีศาจอย่างยัยแก้วจนได้

เราอยู่ดื่มกันจนกระทั่งแก้วเมาไปคนแรก เล่นซดเป็นน้ำเปล่าเยี่ยงนั้นจะเหลืออะไรละท่าน พันอาสาไปส่งแก้วที่บ้าน ส่วนกล้าเองก็เริ่มจะไม่ไหวจึงขอตัว กลุ่มมันสลายแล้วเลยเลือกจะแยกย้ายกันกลับดีกว่า เต้ไปกับกล้า พันไปกับแก้ว ส่วนผมก็กลับกับแมทเหมือนตอนมานั่นแหละ

แมทไม่เมามันดื่มน้อยมาก แต่ขนาดน้อยแล้วยังคงบิดหูดับตับไหม้ ผมกำลังกรึ่มๆ ถึงกับตาสว่างขึ้นมาเล็กน้อย กลัวตายเหลือเกินอันนี้อยากบอก ถึงอยากให้แมทมีรถเก๋งไง ถ้าไปดื่มกันจะได้เอารถเก๋งกลับ มันสะดวกสะบายกว่า มีการชนกันขึ้นมาก็ปลอดภัยกว่ามอเตอร์ไซค์เห็นๆ

“โอ้ย...ถึงซักที นึกว่าจะตายแล้ว” ผมทิ้งตัวลงนอนโซฟา กอดหมอนอิงแน่น คิดถึงสุดๆ เพราะตลอดทางผมหวาดเสียวเหลือเกิน มั่นใจในตัวแมทนะ แต่ไม่มั่นใจคันอื่นเลย กลัวมากว่าคันอื่นมันจะขับไม่ระวังแล้วชนกับเรา ความเร็วระดับนั้นผมกับแมทได้เฝ้ายมบาลด้วยกันแน่นอน

“มันออก” แมทว่ายิ้มๆ

“ไม่ๆ กูไม่มันกับมึงด้วยหรอก กูบอกแล้วให้ออกเก๋งมาขับ มันปลอดภัยกว่า แบบนี้เกิดคันอื่นมันไม่ระวังจนชนเราขึ้นมาทำไงวะ กูยังไม่อยากตายนะเว้ยแมท” ผมหันไปบ่นมัน แต่เจ้าตัวกลับยิ้มแล้วเดินขึ้นมาคร่อมผมเอาไว้

“เรื่องนั้นเราค่อยคุยกันทีหลังนะ ตอนนี้มาคุยเรื่องของเราก่อนดีกว่า” สายตาคุกคามแบบนี้คราวซวยผมแน่นอน แต่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะเว้ย

“เรื่องอะไรอีกละ...”

“มึงเองก็เล็งผู้หญิงโต๊ะนั้นใช่ไหม คนผมดำข้างคนที่ไอแก้วมันชอบ กูเห็นนะว่ามึงมอง แถมมึงยังมองสาวๆ ด้านล่างตาเป็นมันอีก” เรื่องนี้ยังไม่จบจากที่ร้านสินะ ได้เลยครับแมท

“แล้วมึงละ อ่อยผู้ชายคนอื่นคาตากูเลย กูน่ะก็แค่มองไปงั้น อาหารตา แต่มึงนี่มีหวังซัมติงอะ” ผมโวยคนด้านบน

“มึงรู้ได้ไง กูก็มองไปงั้น” อย่าแถครับแมท ผมส่งสายตาเอือมระอาให้มัน

“มึงคิดว่ากูเป็นใคร จะโกหกกูด้วยมุกแบบนี้อะนะ ไม่เนียนวะ”

“ไม่สนอะ มึงต้องโดนลงโทษ” โว้ะไอ้แมทนี่

มันคว้าของมือทั้งสองของผมกดลงกับโซฟา แต่ผมไม่ยอมง่ายๆ เลยกลายเป็นยื้อกันไปมา ด้วยเรี่ยวแรงที่มีไม่ต่างกันนักทำให้เราทั้งคู่ต่างเหนื่อยหอบ แมทฮึดรวบรวมเอาเรี่ยวแรงสุดท้ายของตัวเองออกมากดผมได้สำเร็จ ผมเองก็นดิ้น เอาขาถีบอากาศเพื่อให้ตัวเองพลิกร่างหนี แต่แม่งเสือกไม่ประสบผลสำเร็จ

“จะลงโทษกูได้ไง กูไม่ผิดนะโว้ย” แมทโน้มเข้ามาซุกไซร้ที่ลำคอ มีกัดกันอีกต่างหาก

“ไม่ มึงน่ะผิดเต็มๆ เลย”

“หน้าด้าน มึงก็ผิด” เรียวขาทั้งสองข้างถูกง้างออกจนกว้าเพื่อให้ร่างที่ใหญ่กว่าไม่มากแทรกตัวเข้ามาตรงกลาง ผมพยายามใช้สะโพกให้เป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์โดยการพลิกไปมา

“หรอ...กูผิดด้วยหรอเนี่ย” ฟันคมๆ ขบลงที่ผิวออกตรงไหปลาร้า แม่งเจ็บจนผมต้องครางออกมาเบาๆ และหยุดดิ้นไปพักหนึ่ง แมทอาศัยช่วงเวลานี้รุกร่างกายผมให้อ่อนระทวยด้วยการพรมจูบไปตามแผงอกและลำตัว

ความหวิวที่จู่โจมเล่นผมหมดแรงต้านทานไปในทันที ไอ้นี่มันเจ้าเล่ห์นักนะ ตัวเองก็ผิดยังมีหน้ามาโบ้ยความผิดให้ผมคนเดียว แบบนี้มันไม่แฟร์เลยนี่หว่า แถมผมเองก็สู้อะไรมันไม่ได้เมื่อมันจับจุดอ่อนทุกอย่างในร่างกายของผมซะอยู่หมัด ผมนอนหอบปนครางเสียงสั่นไปหมด ใครมันจะไปทนอารมณ์ที่กำลังโหมอยู่ในตอนนี้ได้ แมทแม่งเหมือนจุดไฟในกายผมจนลุกพรึ่บพรั่บก่อนจะค่อยๆ ราดน้ำมันลงมาเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้กองไฟกองนี้มอดดับ กลับกัน มันมีแต่จะลุกหือมากขึ้นอีกด้วยซ้ำ

เสื้อผ้าถูกพรากไปจากร่างกายด้วยฝีมือวายร้ายหน้าด้าน มันมองสำรวจเรือนกายที่เห็นจนไม่รู้จะเห็นยังไงของผมด้วยสายตาโรคจิต อยากจะจิกเอาลูกตามันออกมากระทืบทิ้งเสีย แต่นั่นก็เป็นได้แค่ความคิด แมทใช้ฝ่ามือร้อนลูบไล้ตัวผม ลากจากบนลงล่างอย่างอ้อยอิ่ง ผมเองก็ย้วยไปหมด ขัดขืนอะไรมันไม่ไหว แค่ปรือตามองใบหน้ายั่วอารมณ์ของมันนี่ก็เต็มที่แล้ว

มีต่อจ้า :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 05-01-2017 22:03:39
 :katai5: ต่อจ้า

“มึงมันหน้าด้าน” ต่อว่าเสียงกระเส่า น้องบอมถูกกอบกุมด้วยมือของอีกฝ่าย มันกำแล้วขยับข้อมือเบาๆ เล่นเอาเอวผมสั่นพร่าไปหมด

“อย่าว่ากูแบบนี้สิ เพราะกูรักมึงนะ...กูถึงต้องลงโทษมึง เพื่อไม่ให้มึงน่ะนอกใจกูไปหาคนอื่น” แมทกำลังเคลื่อนใบหน้าเข้าจุดศูนย์รวมความรู้สึกของผมช้าๆ ค่อยๆ ทำให้ผมเสียววาบด้วยการใช้ลิ้นแตะลงแผ่วเบา

“อ่า...พูดอย่างกับกูเคยนอกใจมึงคนเดียว” ตัวแม่งเองน่ะแหละที่น่าโดนทำโทษที่สุด ไปมีคนอื่นเขา ทำเราเสียใจ ยังมีหน้ามาว่าเราฝ่ายเดียว

คำว่าบทลงโทษของมันก็แค่คำพูดที่เอาไว้ใช้ยามต้องการร่างกายผมมากกว่าละมั้ง บางทีผมยังไม่ได้จ้องหญิงนานขนาดนั้นมันยังกล่าวหาผมและลงโทษผมจนเอวคราด นึกแล้วก็น่าหมั่นไส้ สั่งลงโทษงดกินตับผมสักสามสี่เดือนเลยเป็นไง

ไม่ดีวะ...

ก็ถ้ามันงด มันก็ต้องอยากมาก แล้วมันก็กินผมไม่ได้ ต้องไปหาคนอื่น ที่นี้มันก็มีเหตุผลที่จะไปล่อคนอื่นได้อย่างตามใจ ผมจับได้ก็หาว่าเป็นความผิดผมที่ไม่ยอมให้มันทำ จนมันเผลอเรอไปเอากับคนอื่น เวร...แบบนั้นน่ะไม่ดีแน่นอน ผมไม่ยอมหรอก แค่มีเรื่องดิวครั้งเดียวก็ทำผมระแวงมาจนทุกวันนี้และ ขืนมีอีกผมคงไม่ได้อยู่เป็นสุขแน่ๆ ต้องตามเฝ้ามันแทบทุกเวลากันเลยมั้ง

“อ๊ะ!” แมทเร่งขยับริมฝีปากที่โอบรัดลำกายของผมให้ถ่กระชั้น เอวผมแทบเด้งตามเป็นจังหวะสอดคล้องกับเรียวลิ้นมัน ช่ำชองเกินไปหัวใจผมจะวายอยู่แล้ว

แมทเห็นว่ารู้สึกมากขึ้นจนแทบทนไม่ไหว มันก็เลยเร่งให้ผมไปถึงปลายทางด้วยความว่องไว ทั้งที่ทุกหยาดหยดผมมอบให้มันในปากไปแล้ว มันก็ยังจะขยับต่อไป เสียวไม่รู้จะเสียวยังไง ดิ้นพล่านๆ ให้มันหยุด ร้องขอก็แล้ว ดิ้นรนหนีก็แล้ว แม่งกะทรมานกันให้ตายชัดๆ

“’มึงกะให้กูเสียวให้ตายจะได้หาคนใหม่ใช่ไหม” ผมต่อว่าทั้งที่ลมหายใจขาดห้วงเป็นระยะ

“จะบ้าหรอวะ คิดได้ไง” ยอมปล่อยผมในที่สุด มันคายน้ำนมข้นออกมาก่อนจะป้ายไปตรงช่องทาง

ตามติดมาด้วยนิ้วอุ่น คลืบคลานเข้ามาช้าๆ แต่ใช้เวลาไม่นานก็สามารถขยับเข้าออกในร่างกายของผมได้อย่างอิสระ แมทขยับขยายเส้นทางคับแน่นให้ผ่อนคลาย หมุนควานให้มันกว้างขึ้นจะได้คุ้นชินเพื่อรอรับสิ่งที่จะเข้ามาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

“กูรักมึงมากนะ” ริมฝีปากได้รูปเอ่ยคำว่ารักก่อนจะประกบลงบนปากอิ่มของผม

ลิปสติกกลิ่นพีชกระจายซ่านในโพรงปาก แมทเหมือนจะชอบ มันตามเลียทุกส่วนที่มีกลิ่นหอมหวนนี้ ซึ่งมันไม่ได้พ้นริมฝีปากเลยสักนิดเดียว ทั้งปากบนปากล่างของผมถูกยอกล้อ ด้วยน้ำมือของวายร้ายผู้กุมความลับของร่างกายผมไว้จนหมดเกลี้ยง

ทั้งที่ก็รู้ดีเหมือนกันว่าแมทน่ะมีจุดอ่อนไหวที่ตรงไหนบ้าง แต่ผมไม่เคยได้เป็นฝ่ายสัมผัสมันจริงๆ จังๆ สักครั้ง มีแต่แมทที่โถมเข้าใส่ผมอยู่ตลอด ทุกครั้งที่เราทำกิจกรรมในร่มด้วยกัน แมทจะชอบเป็นฝ่ายปรนเปรอผม ดีไหมมันก็ดีมากแหละ แต่บางครั้งผมก็คิดว่าอยากจะทำให้มันบ้างนะ ให้มันเสียวสุดๆ เหมือนที่ผมกำลังเสียวอยู่

แต่นั่นคงไม่ใช่เวลานี้ เวลาที่แมทจ่ออาวุทของตัวเองเข้าช่องทางคับแคบ ถึงช่วงเร้าโลมแมทจะรุนแรงไปบ้าง ดุเดือดไปหน่อย แต่ช่วงเวลาที่เราหลอมรวมกัน แมทจะอ่อนโยนจนน่าใจหาย รสจูบที่เคยร้อนเร่าดั่งไฟกลายเป็นความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ยามเช้าสว่างวาบขึ้นมา ผมแหงนหน้าเล็กน้อยเมื่อร่างใหญ่ดันส่วนสำคัญเข้ามาทีละนิด รับรู้ได้แทบทุกมิลเวลามันขยับ เกิดความเสียดเสียวขึ้นมาจุกอก ผมต้องจิกแผ่นหลังกว้างปราศจากเสื้อผ้าเอาไว้เพื่อระบายอารมณ์

“อ่าห์...”

“อื้ม...” สองเสียงผ่อนลมหายใจในจังหวะเดียวกัน แมทเข้ามาในร่างกายผมแล้วและผมก็รู้สึกดีมากๆ เลย

ดวงตาของเราสบกันโดยที่ปากไม่ยอมผละออกห่าง ยังคงเคียงข้างเพื่อสัมผัสกันเบาๆ เหมือนร่างกายที่แนบชิด จนทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ผมตอบรับแมทได้อย่างดิบดีแล้วแมทก็เริ่มเคลื่อนไหวสะโพกของตัวเองเข้าๆ ออกๆ ไม่ได้ระรัวเร็วแต่สร้างความเสียดสยิวได้เต็มที่มาก

“มึงแรงอีก...” ทั้งที่ปกติต้องรออีกสักพักแมทถึงจะเร่างจังหวะ แต่คราวนี้ผมกลับเรียกร้อง

“เอางั้นหรอ ไม่เจ็บหรอมึง” ผมส่ายหน้าสะบัด

“ไม่ ไม่เจ็บเลย...” แต่ถ้าไม่ขยับให้เร็วกว่านี้มึงต้องเจ็บแน่ๆ ผมนึกอย่างขำขันกับตัวเอง

แมททำตามสิ่งที่ผมต้องการ เมื่อผมเรียกร้องความเร็วแมทก็มอบให้ โดยยังคงความนุ่มนวลเอาไว้ไม่ขาดตกบกพร่อง ซ้ำยังคอยปรนเปรอส่วนหน้าที่เดียวดายของผมด้วยความรัก ดวงตาคู่คมกำลังปรือ ริมฝีปากเผยอหายใจ ทุกอย่างที่หลอมรวมเป็นมันนั้นมีเสน่ห์ร้ายกาย ยิ่งมองใบหน้าฉ่ำอารมณ์นั้นแล้ว ผมก็รู้สึกเตลิดเปิดเปิงเข้าไปใหญ่ อาจเพราะเรารักกันด้วยละมั้ง ถึงทำให้ไม่ว่ากี่ครั้งที่ทำกินกรรมนี้ร่วมกัน มันจะมีแต่ความสุขแทบทุกที

ยกเว้นตอนเสร็จแล้วนั่นแหละนะ...

คิดๆ ดู เซ็กส์ก็เหมือนความรักของเรานั่นแหละ จะรวมเป็นคนเดียวกันได้มันก็ต้องประครองกันมาให้ได้ก่อน จากนั้นมันจะมีจุดที่เจ็บ แต่เมื่อก้าวข้ามผ่านมันไปได้แล้ว เราจะพบความสุขที่อยู่ปลายทาง บางครั้งคนเดิมๆ อาจไม่ตื่นเต้นเร้าใจ เราหาคนใหม่แต่ไม่มีใครเลยที่จะอยู่ในใจของเราได้ ไม่ใช่ว่าเราเข้ากันได้ดีในเรื่องบนเตียง แต่เรามีความผูกพันธ์ที่ได้มอบให้กันพร้อมกับความรักในตัวอีกฝ่ายมาตลอดระยะเวลาหลายปี

ผมไม่คาดหวังหรอกนะว่าแมทจะรักผมคนเดียวตลอดไป และจะไม่มีใครเข้ามาอีกในชีวิตมัน ผมน่ะไม่คาดด้วยซ้ำว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปอีกนานเท่าไหร่ ไม่มีใครรู้อนาคตหรอก เรารู้เพียงอดีตที่คอยบอก คอยสอนเราต่างๆ นาๆ โดยเฉพาะอดีตที่ผิดพลาด และปัจจุบันที่เรากำลังรัก กำลังกกกอดกันอยู่ เรามีความสุขแค่ไหน อะไรที่เป็นชนวนแห่งความทุกข์ ตัดได้ก็ตัด ถ้าตัดไม่ได้คงต้องมีเรื่องกันสักที

แมทพาผมไปถึงความสุขสุดยอดอย่างช้าๆ แต่สุขอย่างที่สุด เรากอดกันบนโซฟาที่เลอะเทอะไปด้วยเหงื่อและน้ำน่าอายทั้งหลายแหล่ แอร์เย็นฉ่ำไม่ได้ช่วยให้ความร้อนของเราทั้งคู่เหือดหายไปในทันที แต่มันก็ช่วนระเหยเงื่อกาฬมากมายให้ลดน้อยลงได้

“นี่ลงโทษหรือแค่อยาก” ผมถามเมื่อหายใจเป็นปกติแล้ว

“คิดว่าไง” เจ้าตัวยิ้มหวาน เป็นรอยยิ้มกระชากใจสาว ไม่สิ...กระชากใจหนุ่มต่างหาก

“คิดว่าอยาก...”

“รู้ใจดีจริงๆ อย่างนี้ต้องให้รางวัล” ว่าละก็ซุกไซร้ซอกคนผมจนช้ำไปหมด ผมดันหัวของแมทเพื่อให้มันหยุดทำรุ่มร่ามกับร่ายกายที่ล่อแล่ของผม

“พอเลยมึง เดี๋ยวก็ลงโทษ เดี๋ยวก็รางวัล สองอย่างนี้ได้ต่างอะไรกันเลยนะ มีแต่เสียบกูอย่างเดียว” ผมแย้งเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากเงื้อมือเสือหิว

“อ่าว ก็กูอยากเสียบมึงนี่นา ไม่ให้กูเสียบมึง...แล้วจะให้กูไปเสียบใครละ หรือว่า...”

เพี้ยะ!

ใบหน้าแมทขึ้นสีแดงเรื่อหน่อยๆ เมื่อผมตวัดปลายนิ้วทั้งห้าใส่หน้ามัน ไม่ได้แรงอะไรเพราะไม่ได้กะจะทำร้าย เสียงมันดูเจ็บเท่านั้นแหละ แต่ความจริงมันเบากว่าตอนเราทะเลาะกันเยอะ

“รู้ทั้งรู้ว่ากูหึง ยังจะมาพูดแบบนี้อีก กูเองยังไม่เคยพูดทำนองนี้ใส่มึงเลยนะแมท” ปั้นหน้างอ แสร้งทำงอนทั้งที่ใจจริงก็ไม่ได้งอนไรหรอก

“โอ๋ๆ กูขอโทษ พูดไปงั้นแหละ ไม่ทำหรอก อย่างอนกูนะ เดี๋ยวกูบริการมึงให้อย่างถึงใจเลย” ทั้งที่แกล้งงอนแต่เสือกเข้าทางแมทไปอีกเต็มๆ!

ครับ...สุดท้ายผมก็เอวคราดจริงๆ การเป็นฝ่ายรับมันเหนื่อยนะ เจ็บด้วย แต่แฟนของผมไม่เคยสำนึกในข้อนี้เลยสักครั้ง ผมเองก็ไปด่าว่ามันมากไม่ได้ เพราะบางทีตัวเองนี่แหละที่ร้องบอกให้ในทำแรงๆ ก็แหม่ อารมณ์นั้นมันสะใจดีนี่ครับ อะไรที่ผมร้องขอเองผมก็ไม่มาบ่นทีหลังหรอกว่าเจ็บงั้นงี้ แต่ที่ต้องบ่นเพราะแมทเล่นเอาผมแบบนอนสต๊อป มันสะกดคำว่าหยุดไม่เป็นจริงๆ จนนู้นแหละ เช้าของวันถัดไป เมื่อความง่วงกร้ำกรายจนทนไม่ไหว แมทมันถึงปล่อยให้ผมซึ่งหมดแรงจนไม่รู้จะหมดแรงยังไงให้ได้นอนหลับพักผ่อน

แฟนผมมันหื่นทั้งที่ชอบทำหน้าซื่อตาใส เป็นแมวตัวน้อยน่ารักแต่เล็บนี่คมชนิทแค่ผ่านผิวไปเบาๆ ก็เลือดซิบ ผมต้องตามมันให้ได้ ไล่มันให้ทัน อะไรยอมได้และมัดใจมันผมก็ทำได้หมด ถึงผมจะเจ้าชู้ แต่ผมรักมันครับ...เมื่อเรารักแล้ว เราก็ไม่อยากเสียเขาไปเพื่อไปเริ่มต้นใหม่กับใครคนอื่น จากประสบการณ์ความเจ้าชู้ ถึงผมจะมีคนอื่น เอากับคนอื่นมันหยดแค่ไหน สุดท้ายมันก็แค่จบไปวันๆ ไม่มีใครทำให้ผมสุขใจได้เท่ากับมันอีกแล้ว

หลังจากนี้ต่อให้เราระแวงกันและกันมากแค่ไหน แต่เรายังอยู่ด้วยกันรักกัน ฟัดกันอย่างกับให้ตายไปข้างอยู่แบบนี้ นั่นก็ชัดเจนแล้วว่าความรู้สึกที่เรามีให้กันนั้นไม่ได้จืดจาง ถึงเราจะไม่ได้หวือหวาชอบทำหวานใส่กัน แต่ความผูกพันธ์ที่เรามีต่อกันนั่นแหละที่เป็นสายใยเชื่อมเราเอาไว้อย่างดี

คำว่าความรักมันไม่มีปลายทางหรอกครับ...

ความรักน่ะทอดยาวไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด มันอยู่ที่ว่าคนข้างกายเราในตอนนี้จะเดินเคียงคู่กับเราไปได้นานแค่ไหนก็เท่านั้นเอง...

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: จบ  :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาจนจบนะคะ รวมถึงคนที่ติดตามรายทางด้วยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 05-01-2017 22:21:35
สุดยอด จบได้ดีเชียวแหละ o13
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 05-01-2017 22:25:14
จบแล้วเหรอ เห้อ

 :hao5: :hao5: :hao5:

มาถึงปลายทางไวจัง
แต่ก็สนุกมาก
คาแรคเตอร์พระเอกนายเอกเรื่องนี้มันแบบว่า
ไม่เคยอ่านเจอในเรื่องไหนมาก่อนเลย
อารมณ์ในเรื่องนี้มีครบ ทั้งเอือม(นิสัยของตัวหลัก) ทั้งดราม่า
สุขเศร้าเคล้าน้ำตา
ขอบคุณจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-01-2017 22:35:34
สุดท้าย จบลงด้วยแมท บอม
เดินไปด้วยกัน  :mew1: :mew1: :mew1:
เดินไปข้างๆกัน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
บางทีก็คิดว่า แหม....บอมไม่ลองสลับกันบ้างเหรอ
เคยเสียบหญิง ไม่คิดอยากเสียบแมท บ้างเหรอ
แต่เสือแมท คงยอมหร้อก ฉ่ายม้าย  :m16: :m16: :m16:
ขอบคุณไรท์ ทำให้คนอ่านได้อ่านเรื่องสนุกกกกก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-01-2017 22:52:17
แอบใจหายพอมีคำว่าจบ   :L2: :L2:
ขอบคุณที่แต่งนิยายให้อ่านนะค่ะ
ชอบมากเลย
จำรอคอยเรื่องต่อไปน้าาา   :mew1: :mew1:
 :pig4: :pig4:
 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 05-01-2017 23:06:10
จบแล้วววว....เป็นตอนจบที่ดีนะ
หวังว่าทั้งคู่จะประคองกันไปได้เรื่่อยๆๆ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 05-01-2017 23:16:53
อื้อหือออ กว่าจะจบ คู่นี้ก็ถึกสมบุกสมบันเหมือนกันนะเนี้ย



ของคุณสำหรับนิยายนะคะคนเขียน ^^
สนุกมาก แอบหมั่นไส้นิสัยพ่อพระเอกนิดหน่อย ^_____^
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 05-01-2017 23:29:23
  จบแล้ว ประทับใจอีกเรื่อง ตัวละครก็ทำให้อิน การดำเนินเรื่องก็ดี ประทับใจที่ได้อ่านจนจบ
  ขอบคุณผู้แต่งที่เขียนนิยายดีๆน่าประทับใจเรื่องนี้ อ่านแล้วทำให้หวนคิดอยากจะกลับมาอ่านและอยากให้มีต่อยาวๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-01-2017 23:44:58
 o13
จบเรื่องได้ดี สุดยอด

แอบเสียดายที่จบแล้ว
เพราะอ่านเรื่องนี้จนติด(ใจ)

 :L2:
ขอบคุณคนแต่ง นิยายสนุกๆมาให้อ่านกัน

ถ้ามีเรื่องใหม่ ก็เอาลงที่เล้าเป็ดนี้อีกนะ
ชื่นชอบฝีมือคนแต่งคนนี้ไปแล้ว

 :L1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Minerey ที่ 06-01-2017 01:31:16
อ่านแล้วเหนื่อยแทนทั้งสองคนมากค่ะ55555 แต่สรุกจนต้องอ่านรวดเดียวไม่หลับไม่นอนเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 06-01-2017 03:04:34
รอตอนพิเศษนะคะะะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 06-01-2017 08:05:22
 :katai1: :katai1:


เรื่องนี้บอกเลยว่าอินจัดในหลายๆตอนหลายๆอารมณ์   ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 06-01-2017 10:07:52
จบแล้วหรอเนี่ยย
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านน่ะค่ะ o13
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: เข็มวินาที ที่ 06-01-2017 17:45:26
จบแล้วววว :hao6: ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่า :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 06-01-2017 18:33:28
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 07-01-2017 17:54:54
เหมาะสมกันด้วยประการทั้งปวง  :m4:


แต่ก็นะ ... ความรักชนะทุกสิ่ง เมื่อยังมีความรักอยู่ ก็พร้อมจะให้อภัยในทุกๆสิ่ง


เราเข้าใจ  :m11:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 19-01-2017 20:31:15
 :haun4:   เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจมาก

ศีลเสมอกันจริงๆ สนุก NCสวยมาก คนเขียนมีนิยายเรื่องอื่นอีกมั้ย อยากติดตาม
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 19-01-2017 21:56:33
มีความลำใยน้องดิว แต่มันผ่านปะละแฮปปี้
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-01-2017 12:37:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 20-01-2017 13:46:38
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ขอตอนพิเศษด้วยนะค่ะ สงสัยอยู่ว่า ตอนต้นเรื่องที่บอมเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังนั้น บอมอายุเท่าไหร่แล้วค่ะ แล้วยังอยู่ดเวยกันกับแมทหรือป่าว
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: express_men ที่ 21-01-2017 01:46:22
เอ่อมมม เรื่องใกล้ตัว เผชิญมาแล้ว แต่บอกเลยเวลาที่ผ่านไปต้องมีใครซักคนที่ยอมเปลี่ยนหรือยอมทน ไม่งั้น มันก็สุ่มควันรอไฟโหม
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 21-01-2017 12:16:29
สนุกมากค่ะ แต่คำผิดที่อ่านแล้วนิดๆอยู่

ขอบคุณนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-01-2017 03:52:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: sm37an2j2 ที่ 26-01-2017 00:27:53
ไม่คิดว่าจะอ่านแต่อ่านแล้ว สนุกเกินคาดมากๆๆ เป็นแนวที่ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

กว่าจะหาแนวนี้เจอ โอ้ยเสียดายรู้งี้ อ่านตั้งนานละ ไม่น่ามองข้ามเลยจริงๆๆ

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 29-01-2017 00:25:41
สงสารน้องดิวกับพี่พู่  :m15:  //  จากที่เคยเห็นมา คู่รักแบบนี้มักจะคบกันได้ถึงแค่เรียนจบ พอทำงานแล้วจะไม่มีเวลาตามจิกกันอีก จะไปตีซี้เพื่อนร่วมงานของแฟนทุกคนก็ไม่ได้ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการมีชู้กันอีกรอบ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 26-02-2017 22:02:16
อ่านแล้ว รู้สึกเหมาะสมกันมาก ไม่อยู่ข้างใครทั้งนั้น

 เขาเรียกคนศีลเสมอกัน
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: mucan99 ที่ 01-03-2017 14:21:56
เห้อ ถามว่าเรื่องจริงในสังคมมีไหม มีนะ มันสะท้อนเรื่องจริงในสังคมเลยละ ขอบคุณนิยายดีดี
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 21-03-2017 21:59:29
ขอฝากเรื่องยาวเรื่องใหม่ด้วยน้าาาาา ชื่อเรื่องแปลกๆ แบบว่า...คิดได้เท่านี้ แฮ่ๆ ปล.เรื่องสั้นเราไม่รอด ดับอนาถมากค่ะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58907.msg3601531#msg3601531
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: aisies.J ที่ 08-05-2017 15:40:44
สนุกมากเลยค่ะ แอบเสียดายนิดๆที่ไม่เลิกกัน รู้สึกเอาคืนแมทยังไม่สะใจพอ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 09-05-2017 10:21:30
แบบอยากให้เลิกกันเอาจริงๆ มันไม่สะใจกับความเลวทั้งคู่เลย แต่มั่นไส้แมทมากจริงๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Siran ที่ 09-05-2017 23:59:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 10-05-2017 04:30:11
แบบนี้ก็ได้เหรอ โว๊ะ มันรักกันแบบไหนวะเนี่ย อ่านแล้วจะเป็นบ้าแทน ดูไปดูมาก็เหมาะกันดีนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 10-05-2017 14:10:35
 :ruready
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: PingPong_Hunlay ที่ 10-05-2017 19:06:01
ชอบ :L2:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: lipure ที่ 04-10-2018 01:30:45
แหม เรื่องนี้มันสุดยอดจริงๆเลยน่ะ

ไอตอนที่ทั้งคู่จับได้จังๆ ว่าอีกฝ่ายมีชู้เนี่ย มันเจ็บจริงเลยหล่ะ

ใครไม่เคยเจอคงจินตนาการไม่ออกหรอกว่า ณ ตอนนั้นมันเหมือนหัวใจโดนบดขยี้อ่ะ เห้อ อ่านไปเจ็บไป หน่วงไป กลั้นหายใจไป

ps.ขอบคุณที่แต่งนิยายจิ๊ดๆ มาให้อ่านน่ะคะ เกือบไม่ได้อ่านจนจบแล้ว เพราะมันเจ็บหัวใจแทน อาเมน
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 25-11-2018 06:49:48
ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้มาให้อ่านนะคะ แหวกแนวมาก ชอบมากค่ะ แต่แมทมันเลวมาก อนาคตไม่น่าไว้ใจเลย แมทน่าจะโดนหนักกว่านี้เหมือนยังไม่สำนึกเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 25-11-2018 15:12:31
ศีลเสมอกันคู่นี้ ไม่รู้จะสมน้ำหน้าใครดี แต่ก็กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Maainmint ที่ 10-12-2018 22:25:48
นิยายคุณสุดยอดมากๆ อ่านจบสงสารแค่คนเดียวเลย ตัวเรานี่แหละ55555 ทั้งสั่นทั้งอยากด่าแต่ทำไม่ได้เพราะคนมันศีลเสมอกันเกินไป คาราแรคเตอร์ค่อนข้างสะท้อนความเป็นปัจจุบัน เราต่างมีอิสระและยอมรับกันได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวตามมาด้วยคืออิสระที่เกินปกตินี่ซิ เส้นตัดกับศีลธรรมจริงๆ
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Bya ที่ 17-07-2019 00:31:02
โอ๊ยยยยยยยย อีดอกกกกกกกก !!!

ก่อนอื่น ขอสารภาพเลยว่า ไม่กล้าอ่าน 5555555555555555
อ่านได้แค่ตอนที่ 3 แล้วก็ข้ามมาอ่านตอนนี้เลย ฮ์อออออ ใจสั่นมากกกกก
บีบหัวใจสุดๆ ขอฮาวทู อ่านนิยายยังไงไม่ให้อินเกิน :hao5:
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: Bya ที่ 17-07-2019 01:41:39
-มึงตอบสนองความต้องการในตัวผู้หญิงของกูไม่ได้มันเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่การที่กูตอบสนองมึงที่ต้องการผู้ชายไม่ได้กูไม่เข้าใจ
-การทีมึงแอบคบกับดิวมันทำให้กูรู้สึกว่า...กูไม่เคยดีพอสำหรับมึง

ที่เราอินมากๆ จนรู้สึกเจ็บไปด้วยเพราะเราก็คิดเหมือนบอมนี่แหละ พูดแล้วยังปวดใจ ทำไงดีไม่กล้าอ่านตอนที่ 4-12 ที่ข้ามมา 55555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: FaX ที่ 02-08-2019 18:49:28
ขอบคุณนิยายแบบนี้มากๆเลยค่ะ ได้อัถรสมาก อ่านแล้วอิน เลือกฝั่งไม่ถูกเลยที่เดียว คือเลวทั้งคู่ แต่สุดๆก็คือแมทอะ จริงๆเป็นคนไม่ชอบให้เรื่องจบแบบbad end แต่พออ่านเรื่องนี้คือมันลอยมาอะ แต่พออ่านหลังจากคืนดีกัน มันก็น่ารักดี เรียกได้ว่า สมน้ำสมเนื้อกัน รู้ทันกันดี แต่ถ้าลองคิดถึงในอนาคต แมทกับบอมควรเลิกกัน มันไม่มีความสุขเหมือนก่อนที่ยังไม่คบชุ้อะ อยู่ๆกันไปแล้วก็เป็นเหมือนเดิม แต่ไหนๆ ก็จบแบบhappy ending เราก็โอเค น่ารักกรุบกรับ นิยายเนื่องนี้ สะท้อนมุ่งมองความรักได้ดีมากๆเลยค่ะ อย่างที่บอก อิน จนนั่งด่าตัวละครอะ
#ขอบพระคุณอย่างสู๊งงงง o13
หัวข้อ: Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 02-08-2019 21:48:36
โอ้โหหหห ศีลเสมอกันมากๆสองคนนี้ เลวได้ใจทั้งคู่ จะระแวงกันก็ไม่ผิดเน้อ 55555 เป็นคู่ที่วินๆมีแต่ได้กับได้อ่ะ

แต่ฉากตอนที่ดิวกับแมทโดนซ้อม อ่านแล้วแบบ ทำไมกุอินมากกกก รู้สึกเจ็บเหมือนโดนเอง บอมนี้มือเท้าหนักใช้เล่นนะ 555555 น่าสงสารหนูดิวจิงๆ เป็นชู้ไม่รู้ตัวค่าาาา