พิมพ์หน้านี้ - ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย] ◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: inxsara ที่ 27-01-2017 10:53:35

หัวข้อ: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย] ◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 27-01-2017 10:53:35
https://www.youtube.com/v/rM6qcQeaTc8

(https://s19.postimg.org/fpvvekb2b/tieprofile.jpg)

(https://s19.postimg.org/vmunba3gj/paoprofile.jpg)

(https://s19.postimg.org/ysf91hm2r/chinprofile.jpg)


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เรื่องนี้เป็นจินตนาการของผู้เขียนล้วนๆ ไม่มีเค้าโครงความจริงหรืออ้างอิงความจริงจากหน่วยงานหรือบุคคลใดๆ บุคคลในภาพประกอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับนิยายที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้น




◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯
[ROMANTIC DRAMA]



(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/484320/999408398-member.jpg)


EP01: สัญญา http://bit.ly/2kDqM0x
EP02: สั่นคลอน http://bit.ly/2jtozDb
EP03: ปกป้อง http://bit.ly/2khH1mu
EP04: เผลอจูบ http://bit.ly/2k8u8ZH
EP05: รุ่นพี่ http://bit.ly/2jqK2l0
EP06: หึงพ่อ http://bit.ly/2kV3cvD
EP07: เกลียดแรก http://bit.ly/2jFW5Lx
EP08: ลาวาไข่เค็ม http://bit.ly/2l6klXp
EP09: คนเหี้ยๆ http://bit.ly/2kJC06m
EP10: คืนเสียตัว http://bit.ly/2kpzjUA
EP11: คำขอร้อง http://bit.ly/2kbcZSh
EP12: เหมือนพ่อ http://bit.ly/2kipU4Z
EP13: ทวงถาม http://bit.ly/2lLe2Wn
EP14: หลายใจ http://bit.ly/2liMf1K
EP15: อาฆาต http://bit.ly/2ll8Rzb
EP17: หนักใจ http://bit.ly/2m7iHBl
EP18: บ้านแฟน http://bit.ly/2lyKrly
EP19: หักอก http://bit.ly/2l35IRe
EP20: ใจร้าย http://bit.ly/2lISzQ9
EP21: ระแวง http://bit.ly/2lUMzVg
EP22: ผิดแผน http://bit.ly/2mziSW6
EP23: หันหลัง http://bit.ly/2mBjIC3
EP24: สับสน http://bit.ly/2lY6YGh
EP25: ตัดใจ http://bit.ly/2lNubua
EP26: ลาก่อน http://bit.ly/2mLj74P
EP27: ความจริง http://bit.ly/2mzcMbb
EP28: เดินทาง http://bit.ly/2mYznPL
EP29: เกาหลี http://bit.ly/2mWJ4LV
EP30: รุก > รับ http://bit.ly/2o6GzHg

หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP01 สัญญา ◯ 27.01.2017 ◯
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 27-01-2017 10:57:03
EP 01 | สัญญา

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpgg)

ชั่วขณะนี้ดูเหมือนทั้งโลกไร้ซึ่งสรรพเสียง ทั้งๆ ที่สิ่งต่างๆ รอบตัวยังคงเคลื่อนไหวและผลิตเสียงสารพัดความถี่ตลอดเวลา มีเสียงคนคุยกันอยู่ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เสียงคนเดินไปมาบ้าง เสียงประกาศจากที่ไหนสักแห่งบ้าง เสียงเพลงบ้าง และอีกสารพัดเสียงในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ที่ซึ่งเป็นแหล่งอโคจรของคนเมือง ผู้ต้องการพักผ่อนหย่อนใจในเวลาที่จำกัด

ใช่แล้ว โลกนี้ยังไม่ไร้เสียง เพียงแต่เขาไม่ได้ใส่ใจฟังเสียงใดเลย เพราะในใจเฝ้าคิดวนเวียนถึงเหตุการณ์บางอย่างตลอดเวลา

ทันทีที่หนังเรื่องนั้นจบลง เขาก็เดินดุ่มๆ ออกมาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ ที่จริงเขาไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจใครหรอก แต่ด้วยความที่เป็นคนหน้าดุ ใครๆ ต่างก็นึกว่าเขาโกรธใครมา มีแต่คนที่เดินตามมาด้วยเท่านั้นที่รู้ดีว่าเขาไม่ได้โกรธใคร แต่ใครคนนั้นก็ดูร้อนใจไม่น้อย แทนที่ค่ำคืนนี้จะได้ดูหนังผ่อนคลายอารมณ์หลังทำงานหนักมาหลายวัน เนื้อหาในหนังกลับทำให้บรรกาศกลับตาลปัตร

"เปาจะกลับบ้านเลยก็ได้นะ"

ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้คนที่เดินตามมาพูดอะไรหรือเปล่า แต่เขาเพิ่งได้ยินประโยคนี้เท่านั้น ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าเปาหยุดเดิน สรรพเสียงพลันไหลเข้าสู่กระแสสมองให้เจ้าตัวรับรู้ตามปกติ เขาหันไปมองหน้าคนรัก เมื่อสังเกตดีๆ ก็เห็นความกังวลส่งผ่านมาทางสายตา

"ฟางขอโทษ ถ้าฟางรู้ว่ามันจะมีฉากแบบนี้ ฟางไม่ชวนมาดูหรอก" หญิงสาวบอกเสียงอ่อย สีหน้าบอกว่ารู้สึกผิดมากแค่ไหน

ฉากที่เธอว่านั้น เป็นฉากที่แม่ของพระเอกฆ่าตัวตายจากปัญหาในครอบครัวที่แก้ไม่ตก ปัญหาเริ่มจากพ่อของพระเอกมีเมียน้อย จึงมีปัญหาระหองระแหงกันจนนำไปสู่โศกนาฎกรรมของผู้เป็นแม่ ฟางไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีฉากแบบนี้ นึกว่าเป็นหนังรักโรแมนติกธรรมดา ที่ไหนได้กลับมีฉากดราม่าหนักๆ ปนมาด้วยหลายฉากเกือบทั้งเรื่อง

"ไม่ใช่ความผิดของฟางหรอก" เปาบอก แต่สีหน้ากลับดูขัดแย้ง

"ถ้าเปารู้สึกแย่ก็กลับบ้านก่อนดีกว่า" ฟางบอกด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

เธอคบกับเปามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เป็นแฟนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง จึงรู้จักกันดีทุกแง่ทุกมุม รวมถึงเรื่องปมในใจตอนเด็กของเปาด้วย เปาสะเทือนใจกับเรื่องนี้มาก ถ้ามีอะไรสะกิดปมเข้าหน่อย ผู้ชายอกสามศอกอย่างเปาก็อาจร้องไห้ได้

มีอยู่ครั้งหนึ่งเปาพาเธอมาดูหนังในห้าง ตรงทางเข้าโรงหนังมีโซนสำหรับเด็กอยู่ใกล้ๆ เปาบังเอิญเห็นแม่คนหนึ่งกำลังโอ๋ลูกชายซึ่งกำลังร้องไห้อยู่ เขายืนดูนิ่งแล้วน้ำตาไหล จากนั้นก็ตกอยู่ในอาการซึมเศร้าจนต้องยกเลิกแผนดูหนัง และแยกย้ายกันกลับบ้านในที่สุด เปามักเป็นแบบนี้บ่อยๆ แต่ฟางก็เข้าใจแฟนหนุ่มของเธอ แทบไม่เคยบ่นว่าให้เปาคิดมากเลย กระนั้นก็มีทะเลาะกันบ้างตามประสาหนุ่มสาว

เปาถอนหายใจแรงๆ เขาไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่นัก ปกติก็เป็นคนยิ้มยากอยู่แล้ว เวลาเครียดหรือเศร้าขึ้นมาจึงพลอยทำให้คนใกล้ตัววางตัวลำบากไปด้วย แม้แต่พ่อของเปาเองยังไม่กล้าเข้าใกล้เวลาเปาโมโหเลย มีแต่ฟางเท่านั้นที่พอรับมือหรือรู้วิธีหลบหลีกการปะทะ เมื่อก่อนเธอเคยพยายามปลอบใจแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายก็พบว่าถ้าให้เปาอยู่เงียบๆ คนเดียวก็จะหายเอง ก็เลยใช้วิธีนี้มาตลอด

"เดี๋ยวเปาไปส่งฟางที่บ้านละกัน ฟางจะกินอะไรก่อนไหม" แม้ว่าอารมณ์ไม่ดี แต่ชายหนุ่มก็ยังพอมีแก่ใจห่วงใยคนรัก

"ไม่ดีกว่า เดี๋ยวฟางไปกินที่บ้านก็ได้ ไปเหอะ" ฟางพูดเหมือนสั่ง เธอรู้ดีว่าเปาต้องการอยู่คนเดียวจึงไม่อยากลีลาชักช้า

ต่อไปฟางคงต้องระวังมากขึ้นเวลาชวนเปามาดูหนัง ไม่อย่างนั้นจะพามาสะกิดปมในใจเปล่าๆ ดีที่คราวนี้ไม่ทะเลาะกัน

ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงรถก็แล่นมาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ไฟในบ้านยังคงสว่างอยู่ แสดงว่าคนในครอบครัวยังคงทำกิจกรรมบางอย่าง ส่วนมากก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าดูละครประโลมโลกหลังข่าว นี่คือการหลบหนีจากโลกความจริงที่ดีอย่างหนึ่งของคนซึ่งอาจผิดหวังลึกๆ กับชีวิต

ก่อนแฟนสาวจะเปิดประตูออกไป เปาพลันคว้าข้อมือเธอไว้

"เดี๋ยวก่อนฟาง"

หญิงสาวหยุดชะงัก ส่งคำถามไปทางสายตา แฟนหนุ่มของเธอดูครุ่นคิด ที่จริงก็คิดมาตลอดทางแล้ว เธอแทบไม่ได้คุยกับเขาเลยเพราะอีกฝ่ายเอาแต่เงียบ เธอเองก็ไม่อยากกวนใจเวลาอีกฝ่ายเป็นแบบนี้

"เมื่อไหร่เราจะแต่งงานกันซะทีน่ะฟาง"

ฟางเลิกคิ้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกอย่างแน่นอน เปาเคยถามเธอแบบนี้มาหลายหนแล้ว แต่ทุกครั้งฟางก็บ่ายเบี่ยงและอธิบายอย่างระมัดระวังเสมอ

"เราเพิ่งเรียนจบมาแค่ปีเดียวเองนะเปา ฟางเองก็เพิ่งทำงานได้ไม่กี่เดือน ยังไม่พ้นโปรเลย เปาเองก็เพิ่งจะเปิดร้าน รอให้อะไรๆ มันมั่นคงแล้วก็ลงตัวกว่านี้ก่อนดีไหม"

"แต่เปาอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว เปาอยากมีลูก เปาอยากเป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ไม่ใช่พ่อแบบ..." เปากลืนเสียงลงคอ ถึงแม้ไม่พูดออกมา แต่คนฟังก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

แววตาสงสัยของฟางค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเห็นใจ หรืออาจจะเรียกว่าสงสารก็ได้ แต่เธอก็ไม่อาจทำตามที่อีกฝ่ายขอร้อง ไม่ใช่เพราะไม่รัก แต่เธอรู้สึกว่าการมีครอบครัวตอนนี้ยังเร็วเกินไปต่างหาก

"ฟางรู้ แต่การมีครอบครัวมันต้องวางแผนนะเปา ไม่ใช่นึกอยากจะแต่งงานกันตอนไหนก็ได้ อีกอย่าง พ่อกับแม่คงไม่ยอมให้ฟางแต่งงานตอนนี้หรอก น้องชายของฟางเพิ่งเรียนปีสอง ฟางอยากทำงานหาเงินช่วยส่งน้องเรียน ขอฟางช่วยครอบครัวของฟางก่อนได้ไหม พอหมดภาระตรงนี้แล้ว เราค่อยมาคิดเรื่องแต่งงานกันนะเปา"

เปาไม่มีอะไรจะเถียงเพราะรู้ข้อจำกัดนี้ดี กระนั้นเขาก็เป็นฝ่ายรบเร้าเรื่องนี้มาตลอด ไม่ใช่เพราะรอไม่ได้ แต่เขาอยากหนีจากสภาพชีวิตบางอย่างต่างหาก เขารอโอกาสที่จะโบยบินอย่างอิสระมาหลายปีแล้ว เขาหวังที่จะสร้างชีวิตครอบครัวกับใครสักคน ที่จริงเขาพร้อมจะไปทุกเมื่อ ติดแค่คำสัญญาที่เคยให้ไว้กับคนๆ หนึ่งเท่านั้น

ชายหนุ่มพยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงยอมรับ กระนั้นก็ดูเศร้าไปถนัดใจ

"ฟางขอโทษนะเปา เปาเข้าใจฟางใช่ไหม" หญิงสาวถามย้ำ

เปาพยักหน้าอีกครั้งและยิ้มบางๆ ให้ "อืม งั้นเปากลับก่อนนะ"

ฟางยิ้มด้วยความโล่งใจที่เปาเข้าใจเธอ พอถูกถามบ่อยๆ เธอก็กลัวจะทะเลาะกันที่เธอตามใจเปาไม่ได้

"ขับรถดีๆ นะเปา ถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกด้วยนะ" ฟางบอกพลางเปิดประตูรถออกไป

"อืม นอนหลับฝันดีนะฟาง"

หนุ่มสาวยิ้มให้กันอีกรอบ จากนั้นฟางก็เดินไปไขประตูบ้านและเดินเข้าไป เมื่อแน่ใจว่าแฟนสาวเข้าไปในบ้านปลอดภัยดีแล้ว รถเชฟโรเล็ตสีบร็อนซ์ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป จากช้าเปลี่ยนเป็นเร็วเมื่อมาถึงถนนใหญ่


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

อยู่ๆ เสียงเปียโนก็ดังขึ้นในบ้านกลางดึก แม้จะเป็นเพลงสำหรับมอบให้คนสำคัญที่สุดในชีวิต แต่สำเนียงของมันกลับฟังดูเศร้า เหงาและอ้างว้างอย่างรุนแรง ดูเหมือนคนเล่นตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ตั้งแต่น้ำหนักเสียงของตัวโน๊ต จังหวะที่ช้ากว่าปกติ ความบางของเสียงคอร์ด การทอดเสียงยืดยาวและโหยหวน ไปจนถึงอารมณ์ของคนเล่นซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านเพลงนี้ ฟังดูแล้วก็ชวนให้เศร้าเสียใจมากกว่าจะอิ่มเอมและซาบซึ้ง

แววตาของคนเล่นเหม่อเศร้าและเหงาสุดชีวิต ในขณะที่สองมือบรรเลงเล่น สายตาก็กลับทอดมองไปยังที่ซึ่งไม่อาจรู้ได้ แสงไฟหน้าบ้านลอดผ่านมาพอให้มองเห็นลิ่มคีย์บอร์ดรางๆ บ้าง แต่บางลิ่มก็กลืนหายไปในความมืด กระนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเขาเล่นชำนาญจนแทบหลับตาเล่นได้

มันเป็นเพลงที่ใครๆ ก็รู้จักกันดี อย่างน้อยทุกๆ ปีจะได้ยินเพลงนี้หนึ่งครั้ง ในวันสำคัญวันนั้น ใครๆ ต่างก็อยากมอบเพลงนี้ให้คนสำคัญที่สุดคนหนึ่งในชีวิต เขาก็เคยมอบเพลงนี้ให้ใครคนนั้นเหมือนกันเมื่อตอนหัดเล่นเพลงนี้ใหม่ๆ สิบกว่าปีที่แล้ว แต่ก็เป็นเพียงครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย

"แม่ ไม่เห็นต้องปักเองเลยครับ ในซอยมีร้านรับปักเสื้อตั้งหลายร้าน แม่เอาไปให้เขาปักให้ก็ได้" เด็กชายร้องบอกผู้เป็นแม่ซึ่งกำลังเอาเข็มปักขึ้นลงบนเสื้อที่ขึงกับสะดึงจนตึงอย่างตั้งอกตั้งใจ

ปีนี้เปาอยู่ปอห้าแล้ว อยู่ๆ วันหนึ่งเสื้อที่เคยใส่ได้ตอนอยู่ปอสี่ก็เริ่มคับ หลังจากบ่นๆ มาสักพัก แม่ก็ซื้อเสื้อนักเรียนมาให้ใหม่ยกชุด แล้วก็เอามานั่งปักเองทั้งหมดอย่างที่เห็น

มือของแม่ที่ง่วนอยู่หยุดชะงัก ก่อนจะหันมายิ้มและคุยกับลูกชายคนเดียวของเธอ "แม่อยากทำให้เปาไงลูก เผื่อวันไหนแม่ไม่อยู่ เปาจะได้มีอะไรไว้นึกถึงแม่ไง"

เด็กชายขมวดคิ้วสงสัยเพราะรู้สึกว่าแม่พูดแปลกๆ แต่ด้วยความไม่เดียงสาจึงไม่เก็บมาใส่ใจ

"งั้น...เปาจะเล่นเปียโนให้แม่ฟังไปด้วยนะครับ ครูเพิ่งสอนให้เปาเล่นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เปายังเล่นไม่คล่องหรอก ต้องฝึกอีกสักวันสองวัน เดี๋ยวพอถึงวันแม่ เปาจะเล่นให้แม่ฟังอีก แม่ต้องฟังให้ได้นะครับ เปาจะเล่นให้สุดฝีมือเลย" เด็กชายยิ้มภูมิใจ จากนั้นก็เดินไปนั่งตรงมุมเปียโนในห้องนั่งเล่น

ไม่นานสองมือน้อยๆ ก็พรมลงไปบนลิ่มเปียโนที่พ่อซื้อมาให้เมื่อหลายปีก่อน เสียงเพลงดังขึ้นอยู่พักหนึ่งคนเป็นแม่จึงฟังออกว่าเป็นเพลงอะไร เพลง "อิ่มอุ่น" นั่นเอง เปายังเล่นได้ไม่คล่องอย่างที่บอก เขาดูโน๊ตไปด้วยเล่นไปด้วย สะดุดบ้างเป็นบางจังหวะ แต่เธอก็ประทับใจจนน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว

เปาเล่นจนจบเพลง จากนั้นก็หันมาหาแม่ หวังว่าแม่จะชมเหมือนทุกครั้ง แต่กลับเห็นแม่นั่งร้องไห้ตัวโยน ด้วยความตกใจเปาจึงรีบวิ่งมาหาแม่ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา

"แม่ร้องไห้ทำไมครับ ทะเลาะกับพ่ออีกเหรอ"

เด็กน้อยถามไปตามที่เข้าใจ ถึงจะยังเด็กแต่ก็รู้ว่าพ่อกับแม่มีปัญหากันมาระยะหนึ่งแล้ว วันนี้พ่อยังไม่กลับบ้าน น่าจะทะเลาะกันแล้วออกไปไหนสักแห่ง หลังๆ มานี้เปาจึงอยู่กับแม่เป็นหลักเพราะพ่อไม่ค่อยอยู่บ้านเลย

แม่ของเด็กชายวางเสื้อที่ปักลง จากนั้นก็ดึงลูกชายมากอดไว้ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างอดสูใจ เปาไม่สามารถเข้าใจความเจ็บปวดของแม่ได้ทั้งหมดหรอก เพราะบางอย่างก็ยากเกินที่เด็กสิบเอ็ดขวบจะเข้าใจได้

ไม่นานแม่ก็ละล่ำละลัก "เปา...สัญญากับแม่อย่างหนึ่งนะลูก ถ้าเปาโตขึ้น เปาจะต้องมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เปาจะต้องรักลูก รักเมีย ไม่นอกใจเขา ไม่ทำให้เขาเสียใจ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี เปาสัญญากับแม่ได้ไหมลูก"

"ครับแม่" เด็กชายรับปากทั้งๆ ที่ไม่รู้ความหมายซ่อนเร้น แต่เมื่อแม่ขอเขาก็ไม่อยากขัด

"ดีมากลูก แม่รักเปานะลูก แม่อยากให้เปามีชีวิตครอบครัวที่ดีกว่าแม่ ไม่ต้องเจ็บปวดเหมือนแม่ ถ้าวันไหนแม่ไม่อยู่ เปารู้ไว้นะลูกว่าแม่รักเปา แม่รักเปามากกว่าใครทั้งหมดในโลกนี้ แม่รักเปาคนเดียวนะลูก"

"แม่จะไปไหนเหรอครับ" เด็กชายถามพลางกอดแม่แน่น ช่วงหลังๆ มานี้แม่ร้องไห้บ่อยมากเพราะทะเลาะกับพ่อไม่เว้นแต่ละวัน

"แม่ไม่ไปไหนหรอกลูก ถึงแม่ไป แม่ก็จะคอยดูลูกของแม่ เพราะว่าแม่รักเปา ลูกชายตัวน้อยของแม่"

แม่กอดลูกชายแน่น ก้มลงดมผมเส้นบางๆ ของลูกชายอย่างรักใคร่ ความรู้สึกหลายอย่างปนเปกันไปหมดจนยากอธิบาย

"เปาก็รักแม่ครับ"

นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เปาได้บอกรักแม่ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ ถัดจากนั้นอีกเพียงสองวันเปาก็ไม่มีโอกาสอย่างนี้อีกเลย เขาจำวันนั้นได้ดีเพราะเป็นวันที่สิบสองสิงหา แม่ของเปากินยาฆ่าแมลงและเสียชีวิตตั้งแต่กลางดึกโดยไม่มีใครรู้ เปาเป็นคนแรกที่ลงมาจากห้องนอนตอนเช้าและพบว่าแม่นอนเสียชีวิตตรงกลางบ้าน ภาพนั้นยังติดตาเปามาจนถึงวันนี้ แม่เบิกตาโพลงและตัวแข็งเกร็ง แม้ตัดสินใจลาโลกไปแล้วก็ไม่อาจหมดห่วงในลูกน้อย ในมือกำจดหมายฉบับหนึ่งไว้แน่น เปายังเก็บจดหมายฉบับนั้นไว้ แม่เขียนไว้ว่า

"แม่รักเปานะลูก แม่ขอโทษที่แม่อยู่กับเปาไม่ได้ ยกโทษให้แม่คนนี้ด้วย ถึงแม่จะไม่อยู่ แต่แม่ก็จะคอยดูเปาอยู่บนสวรรค์ ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก เป็นเด็กดีนะครับลูกรักของแม่ แม่ฝากดูแลพ่อด้วยนะลูก เปาอย่าทิ้งพ่อนะ เปาต้องอยู่กับพ่อ ที่สำคัญ เปาอย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับแม่นะลูก แม่อยากเห็นเปามีครอบครัวที่สมบูรณ์ เหมือนที่เราคุยกันวันนั้น แม่จะได้หมดห่วง เสียดายที่แม่คงไม่ได้อยู่เห็นครอบครัวของเปา แต่แม่มั่นใจว่าครอบครัวของเปาต้องดีกว่าแม่ ลาก่อนนะลูกรักของแม่ บุญรักษานะลูก แม่ขอให้ลูกของแม่เจอแต่สิ่งดีๆ มีคนรัก มีคนเมตตา มีชีวิตที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต แม่บุญน้อยจึงไม่ได้อยู่ปกป้องลูก ยกโทษให้แม่ด้วย เปารู้ไว้นะลูกว่าแม่รักลูกมากที่สุดในชีวิตของแม่ แม่ขอลาไปก่อนนะเปาลูกรัก"

วันนั้นเปาตั้งใจว่าจะเล่นเพลงอิ่มอุ่นที่อุตส่าห์ฝึกมาอย่างดีให้แม่ฟังในวันแม่ แต่วันนั้นกลับมีแต่เสียงเพลงธรณีกันแสงดังไปทั่ววัด ไม่มีเพลงอิ่มอุ่นอีกแล้ว ตั้งแต่นั้นเปาก็ไม่เคยเล่นเพลงนี้อีกเลย

วันแม่วันนั้นเป็นวันแห่งฝันร้ายที่สุดในชีวิต ยิ่งได้รู้ว่าสาเหตุที่แม่ต้องฆ่าตัวตายแล้ว เปาก็ยิ่งจำฝังใจ จนถึงวันนี้ เปาก็ไม่เคยให้อภัยคนๆ นั้นได้เลย

เสียงเปียโนเพลงอิ่มอุ่นซึ่งฟังเศร้าพลันเปลี่ยนเป็นเสียงแปร่งและแปลกไป คล้ายๆ กับมีหลายๆ ลิ่มถูกกดพร้อมกันโดยไม่ตั้งใจให้เป็นเพลง คนเล่นฟุบหน้าลงไปบนแผงลิ่มคีย์บอร์ดแล้ว จากนั้นเจ้าตัวก็รำพึงรำพันเบาๆ กับตัวเองอย่างอดสูใจ

"แม่...เปาเล่นเพลงนี้ให้แม่ฟังแล้วนะครับ แม่ชอบที่เปาเล่นหรือเปล่า เปาคิดถึงแม่นะครับ ตั้งแต่แม่ไม่อยู่ ไม่มีใครรักเปาเท่าแม่อีกเลย"

คนพูดคงไม่รู้สึกว่าตัวเองพูดเกินจริง เพราะตั้งแต่แม่จากไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาก็ไม่เคยได้รับอ้อมกอดและการดูแลที่แสนอบอุ่นเหมือนที่เคยได้จากแม่ โดยเฉพาะกับพ่อ เปาไม่กอดพ่อ พูดคุยเท่าที่จำเป็น วางระยะห่าง บางครั้งก็ออกจะขยะแขยงด้วยซ้ำ

การมีแฟนจึงเป็นทางออกอย่างหนึ่งที่ช่วยชดเชยสิ่งที่ขาดหาย แต่กระนั้น แม้ว่าโชคดีที่ได้แฟนที่รักและเข้าใจกัน แต่ลึกๆ เปาก็ยังคงโหยหาและคิดถึงความรักของแม่เสมอ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น แม่ก็คงไม่ด่วนจากเปาไปเร็วแบบนี้

"พี่เปาหรือเปล่าครับ"

เสียงของใครคนหนึ่งร้องถามมาจากข้างหลัง ไฟในห้องนั่งเล่นพลันสว่างขึ้น เปาสะดุ้งลุกขึ้นนั่งตัวตรง รีบเอามือป้ายน้ำตาลวกๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นและหันไปมองเจ้าของเสียงด้วยความตกใจ

หนุ่มวัยรุ่นผิวขาวใส่กางเกงขาสั้นสีเทาๆ และเสื้อยืดสีขาวๆ ส่งยิ้มมาให้ อายุน่าจะประมาณยี่สิบหรือน้อยกว่านั้น ตัวค่อนข้างสูง สูงกว่าเปาด้วยซ้ำ ทว่าดูผอมไปนิดเหมือนคนขาดสารอาหาร ซ้ำแขนขายังเก้งก้าง เขาไม่เคยเห็นคนๆ นี้มาก่อนเลย ไม่ใช่แขกของพ่อ ไม่ใช่ญาติที่เคยรู้จัก ไม่มีเค้าเหมือนใครสักคนที่เคยพบเจอหรือผ่านตาแม้แต่น้อย

"มึงเป็นใคร เข้ามาอยู่ในบ้านกูได้ยังไง" เปาถามเสียงเข้ม ขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปื้น

"พี่เปากินอะไรมาหรือยังครับ ถ้ายัง...เดี๋ยวผมจะเตรียมให้" คนถูกถามไม่ตอบตามที่ถาม เพราะหวังว่าไมตรีจิตที่ยื่นให้จะช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกดีกับตน แต่ทุกอย่างกลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม

"กูถามว่ามึงเป็นใคร! มึงเข้ามาอยู่ในบ้านกูได้ยังไง!" เปาย่างสามขุมมาหา มองหน้าอีกฝ่ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

หนุ่มวัยรุ่นหน้าเสีย คงไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายแสดงท่าทางไม่เป็นมิตรด้วยทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ไมตรีจิตเมื่อกี้ไม่มีความหมายแม้แต่น้อย

"ผมชื่อไท้ครับ โค้ชเด้งให้ผมมาอยู่ที่นี่" ชายหนุ่มรุ่นน้องผู้เรียกตัวเองว่า "ไท้" บอกเสียงอ่อย ท่าทางดูเจียมเนื้อเจียมตัว ยิ่งเห็นสีหน้าดุๆ ของอีกฝ่ายก็ยิ่งรู้สึกกลัวจนต้องก้มหน้า ไม่กล้าสบตาตรงๆ

"อะไรนะ! อยู่ที่นี่! มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ!" เปาตวาดเสียงดังอย่างโกรธจัด ก่อนย่างเท้าเดินเข้ามาหาใกล้ๆ และจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง

ไท้หน้าซีดเผือด ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดอีกฝ่ายถึงทำเหมือนกันโกรธกันมาสักสิบชาติ ตั้งแต่ย้ายเข้ามาเมื่อช่วงสายๆ ไท้ก็ช่วยปัดกวาดเช็ดถู ดูแลหมา ดูแลบ้านและจัดการเรื่องอาหารการกินให้เจ้าของบ้านอย่างดี เขาตั้งใจไว้แล้วว่ายินดีจะช่วยทำทุกอย่าง หนักแค่ไหนก็จะไม่บ่น แต่ลูกชายเจ้าของบ้านซึ่งเพิ่งกลับมาถึงเมื่อเกือบค่อนคืนกลับไม่พอใจ ทั้งๆ ที่ไท้ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลย

"ออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้! นี่บ้านแม่กูนะเว้ย! จะทำอะไรก็หัดเกรงใจกันบ้าง!" เปาตวาดอีก ชี้ทางออกจากบ้านให้อีกฝ่ายไปด้วย

"เอ่อ..." ไท้อึกอัก ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอธิบายตรงไหน ในขณะเดียวกันก็กลัวจนตัวสั่น สายตาของเปาดูดุจนกลัวว่าจะฆ่าใครสักคนให้ตายได้ในตอนนี้

"กูบอกให้มึงออกไปไง! หรือมึงอยากเจ็บตัว!"

เปาตรงปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อ จากนั้นก็ผลักอีกฝ่ายลงไปนั่งก้นจำเบ้ากับพื้น ไท้กระเถิบตัวถอยกรูดเพราะอีกฝ่ายเงื้อหมัดและทำท่าจะตามมาทำร้ายซ้ำ

"หยุดนะเปา! นั่นลูกจะทำอะไรน่ะ!"

เสียงใครคนหนึ่งร้องห้ามไว้ได้ทันเวลาพอดี เปาหยุดชะงัก จากนั้นก็หันไปมองคนที่เดินแกมวิ่งหน้าตาตื่นลงบันไดมา

"ไหนว่าพ่อสัญญากับผมไงครับว่าจะไม่เอา...ไอ้คนพวกนี้เข้ามาในบ้าน พ่อผิดสัญญากับผมทำไม!" เปาหันไปเล่นงานพ่อแทน สีหน้าไม่มีความกลัวผู้บังเกิดเกล้าแม้แต่น้อย

"เปาเข้าใจผิดแล้วนะลูก" โค้ชเด้งพยายามจะอธิบาย แต่เปาก็รีบสวนทันควัน

"เข้าใจผิดเหรอ ที่ผ่านมาพ่อก็ชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ" เปาเถียงเสียงแข็ง จากนั้นก็หันไปทางคนที่กำลังลุกขึ้นยืน ก่อนชี้หน้าอย่างอาฆาต "มึงอยากได้เงินมากนักเหรอถึงต้องมาขายตัวถึงนี่ หน้าตาก็ดี แต่แม่งไม่รู้จักอาย มึงมีศักดิ์ศรีหรือเปล่าวะไอ้ตุ๊ด!"

"เปา!" โค้ชเด้งตวาดลูกชายเสียงดังพร้อมกับฟาดมือลงไปที่ใบหน้าอย่างลืมตัว

เพี๊ยะ!

พลันสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนเป็นตกใจ พ่อตกใจที่เผลอตบหน้าลูกชายด้วยความโมโห ลูกชายตกใจเพราะไม่คิดว่าพ่อจะทำกับตัวเองขนาดนี้ ส่วนผู้มาอาศัยตกใจเพราะคิดว่าตัวเองทำให้ครอบครัวคนอื่นมีปัญหา

เปาขบกรามและกำหมัดแน่น จ้องหน้าพ่อแล้วเปลี่ยนไปจ้องหน้าไท้ด้วยสีหน้าโกรธจัด ไม่นานก็เดินออกไปจากบ้านโดยไม่พูดสักคำ ชนไหล่ของไท้เข้าให้ด้วย

"เปา! แกจะไปไหน!" โค้ชเด้งตะโกนถาม แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากลูกชายแม้แต่คำเดียว

ไม่นานก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถ ก่อนเสียงเครื่องยนต์จะค่อยๆ เงียบหายไปไกลในความมืด คนเป็นพ่อได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความหนักใจ

"โค้ชครับ ผม...ทำอะไรผิดหรือเปล่าครับ" ไท้ถามอย่างไม่เข้าใจ สีหน้าดูกังวล ตัวยังสั่นๆ เพราะตกใจกลัวอารมณ์รุนแรงของเปาเมื่อกี้

คนถูกถามหน้าเครียด แต่จะให้อธิบายเงื่อนงำซับซ้อนให้ผู้เพิ่งมาอาศัยฟังก็กระไรอยู่ "ไท้ปิดประตูบ้านแล้วขึ้นไปนอนเถอะ เอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลัง ไม่ต้องคิดมาก เขาเป็นแบบนี้แหละ เดี๋ยวก็หาย"

"ครับโค้ช" ไท้รับคำอย่างว่าง่าย แต่สีหน้าก็ยังคงดูไม่สบายใจ

ดูเหมือนการมาอยู่ที่นี่จะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว ไม่รู้ว่าลูกชายเจ้าของบ้านเข้าใจผิดเรื่องอะไร อยู่ๆ ก็หาว่าไท้มาขายตัว ตั้งแต่เกิดมาไท้ยังไม่เคยคิดด้วยซ้ำ

น่าหนักใจเหลือเกิน แค่มาอาศัยบ้านเขาอยู่ก็เกรงใจมากแล้ว ถ้ามาทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกไปด้วย ไท้อาจจะทนไม่ไหวจนต้องกลับบ้านไปก่อนที่จะได้เดินตามความฝันเป็นแน่

หรือว่าความฝันจะต้องแลกมาด้วยปัญหาแบบนี้!?


TBC

หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP02 สั่นคลอน ◯ 27.01.2017 ◯
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 27-01-2017 14:33:08
 :pig4:
เพิ่งเห็นว่ามีงานเขียนใหม่ ดีใจ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP02 สั่นคลอน ◯ 27.01.2017 ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 27-01-2017 22:06:13
EP 02 | สั่นคลอน

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)

เสียงเหมือนใครเอะอะโวยวายดังขึ้นที่หน้าบ้าน ปลุกคนซึ่งนอนหลับใหลให้ตื่นขึ้นกลางดึก แรกๆ เขาก็ฟังไม่ถนัดว่าเป็นเสียงอะไร แต่ฟังไปฟังมาจึงคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นเสียงหมาและเสียงคน คล้ายกับกำลังหยอกเล่นกันอยู่ เมื่อวานเขาก็ได้ยินเสียงแบบนี้จึงลงไปดู จึงได้เห็นลูกชายเจ้าของบ้านเล่นเปียโนทั้งที่ปิดไฟ ก่อนจะมีปัญหากันและฝ่ายนั้นก็หนีหายไปทั้งวันทั้งคืน

ไท้จึงลุกขึ้นไปเปิดไฟในห้อง แสงจ้าสว่างวาบจนต้องหยีตา พอปรับสายตาได้เขาก็รีบรุดลงไปข้างล่าง

เมื่อลงมาถึงหน้าบ้านจึงเห็นเปาถูกรุมล้อมด้วยเจ้า "เมสซี่" และ "เนยมาร์" ซึ่งเป็นหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ทั้งคู่ ตัวหนึ่งสีโทนดำ อีกตัวสีโทนน้ำตาล เพศผู้ทั้งคู่และเป็นพี่น้องแม่เดียวกัน ทั้งสองตัวกำลังพากันเลียแข้งเลียขาเจ้านายที่เพิ่งกลับมาถึงไม่นานด้วยความดีอกดีใจ

ไท้ได้ยินเปาคุยกับหมาแต่ฟังไม่ได้ศัพท์ เพราะน้ำเสียงฟังดูอ้อแอ้คล้ายคนเมา น่าแปลกที่คราวนี้เปาไม่ขับรถมาด้วย น่าจะนั่งแท็กซี่กลับมาหรือไม่ก็มีใครมาส่ง เมื่อไท้เปิดประตูออกไปดู ทั้งคนทั้งหมาก็หันมามองเป็นตาเดียวกัน

เมสซี่และเนยมาร์เห็นไท้ก็ผละจากเปาทันที ทั้งสองตัวกระดิกหางและวิ่งมาคลอเคลียไท้บ้าง เขาเล่นกับพวกมันมาสองวันแล้วจึงสนิทกันเป็นอย่างดี ไท้ยิ้มและย่อตัวลงลูบหัวลูบหางหมาทั้งสองตัวที่วิ่งมาหาด้วยความเอ็นดู พวกมันครางหงิงๆ และเบียดแย่งกันเข้าหาไท้

"เฮ้ย เมสซี่ เนยมาร์ ปายเล่นกับไอ้ตุ๊ดทำมายวะ อย่าปายเล่นกับมาน" เปาเอะอะโวยวาย จากนั้นก็เดินโซซัดโซเซปรี่เข้ามาหาไท้ พลันก็ล้มคมำตรงทางเดินเพราะเขาเมามากจนทรงตัวไม่อยู่

ตุ้บ!

ไท้ผละจากหมาแล้วลุกขึ้นวิ่งไปดูด้วยความตกใจ พอจะเข้าไปช่วยพยุงเปาให้ลุกขึ้น ฝ่ายนั้นก็ผลักเขากระเด็นก้นจ้ำเบ้าเหมือนเมื่อวาน

"ม่ายต้องมายุ่งกับกูเลยไอ้ตุ๊ด กูโคตรเกลียดคนอย่างพวกมึงเลย มึงรู้ตัวเปล่า" เปาว่าพลางชี้หน้า จากนั้นก็พยายามจะลุกขึ้นเอง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังลุกไม่ขึ้น

ไท้ลุกขึ้นยืน ปัดก้นและแข้งขา ก่อนหันไปสั่งหมาสองตัวและชี้ไปที่หลังบ้าน "เมสซี่ เนยมาร์ ไปนอนก่อน"

สัตว์หน้าขนสองตัวมองอย่างสงสัย พวกมันเห่าโฮ่งหนึ่งครั้งแล้วก็ค่อยๆ เดินหนีกลับไปนอนราวกับรู้ความ

ตอนแรกไท้ว่าจะเข้าไปช่วยพยุงเปาอีกครั้ง แต่กลัวว่าจะโดนผลักออกมาอีกจึงยืนดูก่อน ฝ่ายเปาเองก็พยายามลุกแต่ก็ลุกไม่ไหว ดูท่าทางเขาหงุดหงิดตัวเองมากทีเดียวเพราะลุกไม่ได้เสียที

"ยืนดูทำห่าอาลาย! ม่ายคิดจะช่วยหรืองายวะ พวกตุ๊ดนี่แม่งแล้งน้ำใจ" เปาต่อว่ากึ่งบ่น

คราวนี้ไท้จึงกล้าเข้าไปช่วย เขาย่อตัวลงและจับมือซ้ายของเปามาคล้องคอตัวเองไว้ กลิ่นเหล้าหึ่งจนไท้ถึงกับผงะและย่นจมูก แต่ก็กลั้นใจพยุงคนเมาหนักลุกขึ้นยืน ไท้ต้องพยุงกึ่งลากพาเปาเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนออกแรงเพิ่มอีกหน่อยพาเดินขึ้นมาบนห้องนอนชั้นสอง

ไท้ช่วยทำความสะอาดทุกห้องในบ้านวันนี้และเมื่อวานนี้ เขาจึงรู้ว่าห้องของเปาอยู่ตรงไหนได้ไม่ยาก ไม่นานก็พาร่างที่เมาหนักและพูดอ้อแอ้ไม่รู้เรื่องมาถึงเตียงนอน

"เดี๋ยวผมลงไปปิดประตูหน้าบ้านก่อนนะครับพี่เปา" ไท้บอกเมื่อปล่อยตัวอีกฝ่ายนั่งลงบนเตียงได้แล้ว

"จะปายไหนก็ปายเลย" เปาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดสภาพ ห้อยปลายเท้าไว้เพราะยกขึ้นเองไม่ไหว

อยู่ๆ ไท้ก็นึกขำอีกฝ่ายจนต้องแอบยิ้ม เขาปล่อยคนเมาไว้แล้วเดินไปเปิดไฟในห้อง ก่อนลงไปก็หันมาดูอีกรอบ เมื่อจัดการปิดประตูหน้าบ้านและดูความเรียบร้อยแล้วจึงกลับขึ้นมาที่ห้องของเปาอีกครั้ง

วันนี้ไท้อยู่บ้านคนเดียวทั้งวัน โค้ชเด้งไปประชุมที่สมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยตั้งแต่ตอนสายๆ ดูท่าจะมีเรื่องถกหลายเรื่องเพราะกลับมาถึงบ้านเกือบๆ สามทุ่ม ได้คุยกันอยู่พักหนึ่งโค้ชเด้งก็ขอตัวไปอาบน้ำและพักผ่อน ท่าทางคงเพลียมากเพราะขนาดลูกชายโวยวายเสียงดังยังไม่ตื่นขึ้นมาดูเลย

"โธ่เว้ย ทามมายมันถอดยากอย่างนี้วะ"

พอเข้ามาในห้องไท้ก็เห็นเปาเอะอะโวยวาย พยายามจะถอดกระดุมข้อมือเสื้อเชิ๊ตแขนยาวของตัวเองออก ส่วนกระดุมตรงหน้าอกถอดออกหมดแล้ว

"ช่วยหน่อยสิวะ ยืนเซ่ออยู่ได้" เปาหันมาว่าคนที่เพิ่งกลับเข้ามาอีกครั้ง ดูเหมือนอีกฝ่ายทำอะไรก็ไม่ถูกใจไปเสียหมด

ไท้รีบเดินเข้าไปหา ก่อนนั่งลงบนเตียงและช่วยปลดกระดุมแขนเสื้อให้อย่างใจเย็น เปาเมาจนคอพับคออ่อน ไท้จึงต้องช่วยถอดเสื้อเชิ๊ตแขนยาวออกให้เพราะดูท่าอีกฝ่ายจะทำเองไม่ไหว

"เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้นะครับ จะได้นอนสบายๆ" ไท้บอกพลางทำท่าจะลุกขึ้น แต่เปาก็โวยวายอีก

"ถอดกางเกงให้กูด้วย มึงจะให้กูนอนทั้งชุดนี้เหรอวะไอ้ตุ๊ด"

ไท้หน้าเหวอเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงรู้สึกประหม่าที่ต้องถอดกางเกงให้อีกฝ่าย แต่ก็รู้ว่าคงเลี่ยงไม่พ้นแน่นอน

"ครับพี่"

ไท้ช่วยถอดรองเท้าและถุงเท้าออกให้ก่อน เรียบร้อยแล้วก็ยกสองขาขึ้นไปวางบนเตียง จัดท่านอนให้อีกฝ่ายนอนสบายๆ จากนั้นจึงมาถึงปฏิบัติการสำคัญ ไท้เอื้อมมือไปปลดเข็มขัดกางเกงสแล็คสีดำให้เปา ตอนนั้นก็ว่ามือสั่นแล้ว แต่พอจะรูดซิปให้กลับสั่นยิ่งกว่า

"เร็วๆ สิวะ กูจะนอนแล้ว" เปาเร่งเร้า

ไท้สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนกลั้นใจรูดซิปให้อีกฝ่ายโดยพยายามไม่มองดูตรงนั้น กระนั้นก็เผลอมองบ้าง ไท้จึงได้เห็นว่าเปาเป็นคนหุ่นดีมาก เพราะเขาเป็นเทรนเนอร์ด้านการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ จึงดูแลตัวเองค่อนข้างดี หน้าท้องแบนราบไม่มีพุง รูปร่างสมส่วนและแข็งแกร่งอย่างชายหนุ่มวัยเจริญพันธุ์เต็มที่

เนื้อผ้าสีขาวและส่วนที่ตุงเผยตัวผ่านรอยแยกซิปกางเกงออกมาให้เห็นวับๆ แวมๆ อยู่ๆ ไท้ก็รู้สึกว่าตัวเองใจเต้นและประหม่า เขามองดูตรงนั้นด้วยความรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก มันกระตุ้นการตอบสนองบางอย่างในร่างกายที่ไท้เองก็ไม่เข้าใจตัวเองนัก

สองมือของไท้จับขอบกางเกงแล้วรีบถอดออก มันถอดยากในตอนแรก แต่พอหลุดช่วงก้นมาได้ก็ค่อยถอดง่ายขึ้น สายตาของไท้พลันมาหยุดที่เป้าของเปาอีกแล้ว เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงสนใจและอยากมองตรงนั้นเป็นพิเศษนักหนา ซ้ำหัวใจยังเต้นโครมครามจนแทบจะทะลุออกมาอีก

เพื่อนคู่ใจของเปานอนสงบนิ่งอยู่ในกางเกงในสีขาวแบบทรังค์ ขนาดของมันคงเอาเรื่องจึงนูนเด่นท้าทายสายตาคนมอง ไท้สะดุดตาที่ความเท่ของกางเกงในที่เปาใส่อยู่ หนุ่มเมืองหลวงและพอมีเงินมักซื้อของดีๆ แบบนี้มาใช้ ไท้เคยอยากซื้อกางเกงในแบบนี้มาใส่บ้างเพราะเห็นว่าเท่ดี แต่ก็ไม่กล้าซื้อเพราะราคาแพง เขาจึงใส่แบบธรรมดาสามตัวร้อยมาตั้งแต่เด็กๆ

ไท้หยิบเสื้อและกางเกงของเปาไปใส่ไว้ในตะกร้าผ้า ในนั้นไม่มีเสื้อผ้าอยู่เลยเพราะไท้ช่วยซักรีดเสื้อผ้าให้จนหมดเมื่อตอนกลางวัน เสร็จแล้วไท้ก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำตรงอ่างล้างหน้าใส่ผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กจนเปียกชุ่ม ก่อนบิดหมาดๆ แล้วเดินกลับมาที่เตียงนอนของเปา

หนุ่มร่างกำยำนอนหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน ดูไปแล้วไม่น่าเมาเพราะไปสังสรรค์กับเพื่อนมา เพราะสีหน้าและแววตาฉายแววเหนื่อยและเศร้า ถ้าให้เดาคงน่าจะเมาเพราะอยากหลบหนีจากความเครียดมากกว่า

ไท้นั่งลงบนเตียงและเริ่มเช็ดตัวให้คนเมาอย่างเบามือ เริ่มจากใบหน้าเกลี้ยงเกลากระจ่างใส ขณะเช็ดไท้ก็พิศดูไปด้วย ชายหนุ่มผู้นี้ผิวพรรณดีและเรียบเนียนจนแทบไร้ที่ติ น่าจะดูแลตัวเองดีมากทีเดียว ไท้ทราบจากโค้ชเด้งว่าเปาเรียนจบวิทยาศาสตร์การกีฬามา ตอนนี้หุ้นกับเพื่อนเปิดร้านฟิตเนสในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในกรุงเทพ คงเป็นเพราะทำอาชีพนี้จึงต้องดูแลตัวเองดีเป็นพิเศษ แต่คืนนี้กลับเมาเสียได้

ใบหน้าหล่อใสของเปาช่างน่าสะดุดตาจนไท้เผลอมองนิ่ง ตั้งแต่เกิดมาไท้ไม่เคยสนใจมองผู้ชายแบบนี้เลย เปาเป็นคนแรกที่ไท้สนใจมองล่วงล้ำด้วยความรู้สึกแปลกๆ กระนั้นก็พยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองว่าเป็นเพราะไท้ผอม ที่เผลอมองเพราะอยากมีหุ่นและกล้ามแบบนี้บ้างเท่านั้น หาใช่เพราะรู้สึกหวั่นไหวในทางนั้นไม่

พักหนึ่งไท้ก็รู้สึกตัว เขาหยุดคิดฟุ้งซ่านแล้วเช็ดตัวให้เปาต่อ มารู้สึกแปลกๆ อีกทีก็ตอนเช็ดมาถึงช่วงขา ไท้รู้สึกสับสนตัวเองเหลือเกินที่เผลอมองตรงนั้นของเปาบ่อยๆ ไม่รู้ว่าชอบใจหรืออยากรู้อยากเห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ในนั้นกันแน่ เมื่อหาคำตอบไม่ได้จึงรีบๆ เช็ดช่วงนั้นให้เสร็จไวๆ จะได้หยุดความคิดประหลาดๆ เสียที

พอเสร็จแล้วไท้ก็ทำท่าจะลุกขึ้น แต่ก็หยุดชะงักเมื่อคนนอนอยู่ลืมตาขึ้นและเรียกไว้

"เดี๋ยวก่อน"

ไท้หันไปมอง เปาดูเหมือนสร่างเมาขึ้นมาบ้าง น่าจะเป็นเพราะเพิ่งเช็ดตัวไปเมื่อกี้

"มึงเป็นแฟนพ่อกูเหรอ" เปาถาม

ไท้หน้าเหวอเพราะตกใจที่อีกฝ่ายเข้าใจอย่างนั้น เขาจึงรีบชี้แจง "เปล่าครับพี่ ผมเป็นนักพีฬาวอลเลย์บอล พอดีผมผ่านการคัดเลือกเข้าโครงการเตรียมทีมชาติ โค้ชเด้งก็เลยให้มาพักด้วย ผมมาจากต่างจังหวัดครับ"

"แล้วทำไมมึงมาอยู่นี่ ทำไมไม่พักในแคมป์วะ"

"ไม่รู้เหมือนกันครับ โค้ชเด้งให้ผมมาอยู่นี่ก่อน อีกสองอาทิตย์ถึงจะให้ไปเข้าแคมป์ครับ" ไท้ตอบตามประสาซื่อ

เปาแค่นหัวเราะ ไม่รู้ว่าตลกเรื่องอะไรหรือกำลังสงสัยอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่พูดต่อและเปลี่ยนไปเรื่องอื่น "เปิดแอร์ให้กูด้วยสิวะ ร้อนจะตายอยู่แล้ว"

"เปิดยังไงครับ ที่บ้านผมมีแต่พัดลม ไม่เคยเปิดแอร์นอนเลย" ไท้ยิ้มอายๆ เมื่อวานเขาไม่ได้เปิดแอร์นอนเลย ดีทีว่าอากาศไม่ร้อนเท่าไหร่เพราะช่วงนี้เป็นหน้าฝน

"ไปเอารีโมทมา เดี๋ยวกูเปิดเอง" เปาบอกอย่างรำคาญ ชี้ให้อีกฝ่ายดูด้วยว่ารีโมทอยู่ตรงไหน

ไท้ลุกเดินไปหยิบรีโมทสีขาวๆ ซึ่งสอดไว้ตรงช่องใส่ใกล้ๆ ประตู ก่อนเอามายื่นให้คนที่นอนอยู่ เปารับรีโมทมาแล้วก็เปิดแอร์ในห้อง

"เอาไปเก็บให้ด้วย" เปาบอกพลางส่งให้ ระหว่างที่ไท้เดินไปเปาก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่ม

ไท้เก็บรีโมทเสร็จแล้วก็เดินกลับมาถาม "พี่เปาจะให้ผมช่วยอะไรอีกไหมครับ หรือว่าจะกินข้าวต้มไหมครับ ผมจะได้ทำให้"

"ไม่ต้อง กูไม่หิว" เปาบอกเสียงห้วน สีหน้ามึนตึงเหมือนไม่แยแส แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่ถือสา

"ถ้างั้น...ผมกลับห้องนะครับ"

"เดี๋ยว มึงพักห้องใคร"

ไท้หยุดชะงัก เขาทำท่านึกแล้วก็ตอบไป "ห้องที่เอาไว้รับแขกน่ะครับ"

เปาพยักหน้ารับรู้ "ไปได้แล้ว กูจะนอน"

"ครับ" ไท้บอก แต่เดินไปได้สองสามก้าวก็ต้องหยุดชะงักเพราะเปาเรียกอีก

"เดี๋ยวก่อน"

"ครับ" ไท้หันไปมองอย่างสงสัย

"มานี่ซิ" เปาพูดเหมือนออกคำสั่ง

ไท้ย่างเท้าเดินเข้าไปหา แววตาเต็มไปด้วยความสงสัยและหวาดระแวงเพราะเห็นเปามองแปลกๆ พอมาหยุดข้างเตียงเปาก็ถามออกมาตรงๆ

"มึงเป็นเกย์เหรอ"

คนถูกถามถึงกับหน้าซีด ท่าทางดูตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าเปาจะถามคำถามประหลาดๆ แบบนี้เข้าให้ "เปล่าครับ"

"กูไม่เชื่อ" เปาแค่นหัวเราะ "ผู้ชายที่ไหนวะมันจะเล่นวอลเลย์ ที่กูเห็นมาน่ะ เกย์เกือบทั้งทีม" เปาว่า จากนั้นก็ยกยิ้มมุมปาก "แล้วเมื่อกี้มึงมองอะไร กูเห็นนะเว้ย"

"อ๋อ...ปละปละเปล่านะครับ" ไท้บอกปัดเป็นพัลวัน กระนั้นก็อดสงสัยตัวเองไม่ได้ว่าทำอย่างนั้นให้เปาเห็นหรือเปล่า

"ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย กูรู้จักคนพวกนี้ดี มึงอย่าคิดว่ากูดูไม่ออกนะเว้ย" เปาเถียง ท่าทางเหมือนหายเมาไปแล้ว

"ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริงๆ นะครับพี่เปา" ไท้แย้ง แต่ก็หน้าเสียไปพอสมควร

"มึงจะพิสูจน์ไหม" เปาท้า ก่อนเลื่อนตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงและออกคำสั่ง "มานั่งตรงนี้"

ไท้มองไปยังจุดที่เปาตบลงไปบนเตียงสองสามที กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ซ้ำใจยังเต้นไม่ส่ำยิ่งกว่าตอนเช็ดตัวให้เปาเสียอีก

"ถ้ามึงจะพิสูจน์มึงก็นั่งลง" เปาย้ำกึ่งเร่งเร้า

ไท้จึงจำใจต้องนั่งลงไปบนเตียงใกล้ๆ กับเปา สีหน้าดูกังวลไม่น้อยเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะพิสูจน์ด้วยวิธีไหน เกิดพิสูจน์แล้วเปาคิดว่าไท้เป็นเกย์ขึ้นมาคงแย่ ท่าทางเปาไม่ชอบเกย์เอามากๆ เสียด้วย

"หันหน้าไปทางโน้น" เปาสั่งให้ไท้หันหน้าไปอีกทางและหันหลังให้

ไท้ทำตามที่บอกแต่โดยดี พลันก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อเปารวบตัวของไท้เข้าไปกอดไว้จากทางด้านหลัง เมื่อร่างของเขาตกอยู่ในวงแขนและอกแกร่งเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย เขาก็รู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตไปทั้งตัว ตัวแข็งทื่อ ใจเต้นโครมครามจนแทบจะหยุดหายใจ กลิ่นหนุ่มวัยเจริญพันธุ์ผสมกลิ่นเหล้าของอีกฝ่ายปะทะจมูก ไท้บอกตัวเองไม่ถูกเลยว่ารู้สึกอย่างไรกับกลิ่นนั้น

ด้วยความตกใจไท้จึงหันไปมองด้านหลัง เปาไม่ทันรู้ว่าอีกฝ่ายจะหันมา จมูกของเขาจึงชนกับแก้มของไท้ซึ่งกำลังหันมาหาพอดี พลันต่างคนต่างก็เบิกตาโตด้วยความตกตะลึงและตกใจ

ที่จริงเปาต้องการพิสูจน์ว่าไท้จะสะดุ้งตกใจและอุทานเหมือนผู้หญิงหรือเปล่า เขาเคยทำอย่างนี้กับเพื่อนมหาลัยคนหนึ่งเพราะสงสัยว่าเพื่อนเป็นเกย์ พอเพื่อนคนนั้นถูกกอดก็สะดุ้งและเผลอร้อง "อุ๊ย" เหมือนผู้หญิง เพียงแค่นี้เปาก็ได้คำตอบที่ต้องการ นับตั้งแต่นั้นเขาก็วางระยะห่างและไม่สุงสิงกับเพื่อนคนนั้นอีกเลย

คราวนี้ไท้สะดุ้งก็จริงแต่ไม่ร้องอุทานแบบนั้น แต่ก็ยังไม่น่าแปลกใจเท่ากับว่าเปาเป็นฝ่ายสะดุ้งตกใจไปด้วย เพียงเพราะจมูกของเขาไปโดนแก้มของอีกฝ่ายโดยบังเอิญเท่านั้น

เมื่อได้สติกลับมา เปาก็ใช้สองมือผลักหลังของไท้จนกระเด็นลงไปกองบนพื้นห้อง

"มึงไปไกลๆ ตีนกูเลยไป!" เปาว่าอย่างฉุนเฉียว ไม่รู้ว่าโมโหเรื่องอะไรกันแน่

ไท้พลิกตัวขึ้นมานั่ง ดีที่ไม่ถึงกับเจ็บมาก แต่เจ้าตัวก็สงสัยไม่น้อยว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆ ก็โดนผลักออกมาทั้งๆ ที่เปาเป็นฝ่ายกอดไท้เอง

"มองทำห่าอะไรวะ! ออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้เลย!" เปาชี้หน้าและตวาดไล่

ไท้จึงได้สติ เขารีบยืนขึ้นและสาวเท้าเดินออกไปจากห้องของเปาโดยเร็ว ในแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ สับสนทั้งในความรู้สึกของตัวเอง และสับสนในท่าทางแปลกๆ ของอีกฝ่าย

แต่คืนนี้คงจะผ่านไปแบบนี้ ไท้คงต้องหลับตานอนไปกับความมึนงงสงสัย ไม่เคยมีใครทำให้ไท้ตั้งคำถามอย่างนี้กับตัวเองเลย เขาเข้าใจมาตลอดว่าเขาชอบผู้หญิง เพราะเขาเคยจีบผู้หญิง เคยมีแฟนเป็นผู้หญิง แม้ไม่จริงจังแต่ก็ทำให้ไท้เข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนหนึ่งมาตลอด เขายังคิดจะพิสูจน์ให้ใครๆ เห็นเลยว่าผู้ชายที่รักการเล่นวอลเลย์บอลไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์เสมอไป

แต่เปากลับสั่นคลอนความเชื่อนั้นของไท้ไปแล้ว!


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

แม้ว่าจะเมาและนอนดึก แต่เช้านี้เปากลับตื่นไม่สายมากเท่าไหร่ คงเป็นเพราะตื่นราวๆ แปดโมงเช้าเป็นประจำ นาฬิการ่างกายจึงสั่งให้ตื่นขึ้นมาเองเมื่อถึงเวลาที่เคยตื่น

เปาอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวก่อนเป็นอันดับแรก พอเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้าก็แปลกใจที่เห็นเสื้อผ้าผ่านการรีดและแขวนไว้ให้อย่างดี ชุดที่เขาจำได้ว่ายังไม่ได้ซักก็มีคนซักและรีดให้เรียบร้อย ชายหนุ่มจึงได้แต่ขมวดคิ้วสงสัย แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าใครทำให้ ปกติเปาจะซักรีดเองเพราะทำมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว

เปาไม่ได้สนใจมากนัก อีกอย่างท้องก็เริ่มหิวแล้ว เมื่อคืนเปาไม่ได้กินข้าวแม้แต่คำเดียว มีแต่เหล้าเท่านั้นที่ถูกเติมเข้าไปจนล้นกระเพาะ พอแต่งตัวเสร็จแล้วเขาจึงลงมาข้างล่าง ว่าจะไปหาอะไรกินในครัวเสียหน่อย แต่ก็ชะงักอยู่กลางบันไดครู่หนึ่งเมื่อเห็นพ่อนั่งจิบกาแฟและดูรายการทีวีอยู่ แต่เปาก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจและเดินหลบไปหลังบ้าน

"เปา พ่อขอคุยด้วยหน่อย มีเวลาสักห้านาทีไหม" โค้ชเด้งถามโดยไม่หันไปมอง แต่ก็รู้ว่าคนที่เดินลงมาคือลูกชายอย่างแน่นอน

เปาหยุดยืนครุ่นคิด สักพักก็เดินลงไปนั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามกับพ่อ สีหน้าดูเฉยชาและไร้ความรู้สึกเหมือนเช่นเคย

เมื่อลูกชายนั่งลง โค้ชเด้งก็ถาม "วันนี้ไม่ได้ไปร้านใช่ไหม"

เปาเลิกคิ้วสงสัย พลันก็นึกได้ว่าวันนี้เป็นวันอังคารซึ่งเป็นวันที่ร้านปิด ตอนแรกว่าจะปิดทุกวันจันทร์ แต่เพื่อนไปดูหมอดูมา หมอดูแนะนำให้ปิดร้านวันอังคารแทนถึงจะรุ่ง เพื่อนๆ ก็เลยตกลงตามนั้น

"วันนี้พ่อมีประชุมที่สมาคมทั้งวัน คงกลับดึกๆ พ่ออยากให้เปาช่วยพ่อสองเรื่อง" โค้ชเด้งเว้นจังหวะ จากนั้นก็พูดสืบไป "วันนี้ที่รามเขาเปิดรับสมัครนักศึกษาเป็นวันสุดท้าย เปาช่วยพาไท้ไปสมัครเรียนหน่อย เขาไม่เคยมากรุงเทพ คงไปเองไม่ถูก"

เปายังคงเงียบและรับฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหมือนไม่ยินดียินร้ายอะไรนัก โค้ชเด้งถอนหายใจเบาๆ อย่างหนักใจ ใครกันที่บอกว่าวันเวลาจะทำให้ชาชินและอยู่กับความเป็นจริงได้ เพราะคนเป็นพ่อยังคงปวดใจทุกครั้งที่เห็นลูกชายมึนตึงใส่แบบนี้มากว่าสิบปี

"อ้อ ที่ไท้มาอยู่กับเราน่ะ เพราะว่าทางสมาคมอยากจะปั้นให้เขามาติดทีมชาติ พ่อจะให้ไท้อยู่กับเราสักสองอาทิตย์ พอไปเข้าแคมป์แล้วเขาก็คงไม่ได้อยู่ที่นี่" โค้ชเด้งถือโอกาสอธิบาย เพราะรู้ว่าลูกชายเข้าใจผิดเรื่องนี้อยู่

แววตาของเปาฉายแววสนใจเป็นเวลาสั้นๆ จากนั้นก็ทำเฉยเมยเหมือนเดิม คนเป็นพ่อจึงพูดเรื่องถัดไป เพราะถ้าขืนชักช้า เปาอาจจะไม่อดทนฟังและพร้อมเดินหนีไปทุกเมื่อ

"เปาช่วยเรื่องเวทเทรนนิ่งให้ไท้หน่อยนะลูก น้องเขาจน แต่ก็ตั้งใจมาก ถ้าไม่มีคนช่วย เขาก็คงไม่มีโอกาส ถือว่าช่วยคนนะเปา ถ้าวันหนึ่งเขาประสบความสำเร็จขึ้นมา เปาก็จะได้ภูมิใจไงลูกว่าเปามีส่วนช่วยเขา"

ไม่รู้ว่าเป็นคำขอร้อง คำสั่งหรืออะไรกันแน่ แต่ดูเหมือนคนเป็นลูกจะเข้าใจว่าเป็นคำสั่งมากกว่า เพราะปกติไม่สื่อสารกันมากนัก คุยกันทีไรจึงมักเป็นเรื่องจำเป็นหรือเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่เคยพูดคุยประสาพ่อลูกเลย

"แล้วเขาไปไหนล่ะครับ" เปาถามสั้นๆ โดยไม่มองหน้าพ่อ

"เอาอาหารไปให้เมสซี่กับเนยมาร์อยู่" โค้ชเด้งบอก จากนั้นก็ถามย้ำ "เปาพอช่วยได้ไหม"

เปาสบตาพ่อแวบหนึ่ง ก่อนหันมองออกไปข้างนอก เห็นไท้กำลังนั่งดูหมาสองตัวกินอาหารเม็ดอยู่พอดี เขามองภาพนั้นด้วยความสนใจ เปาเป็นคนชอบหมามาก แม่ของเปาก็ชอบหมา เขาจึงเลี้ยงหมามาตลอดตั้งแต่เด็กๆ พอเห็นไท้ชอบหมาเหมือนกันจึงสะดุดใจ น่าเสียดายที่ฟางไม่ชอบหมาเหมือนคนบ้านนี้เลย

"ครับ" เปารับคำด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตายังคงมองไปที่ไท้อยู่ พลันก็จำเหตุการณ์เมื่อคืนได้รางๆ ว่าเขาทำอะไรกับไท้บ้าง โดยเฉพาะก่อนที่ไท้จะถูกไล่ออกไปจากห้อง

"ขอบใจมากลูก" โค้ชเด้งยิ้มให้ แม้ว่าคนนั่งตรงข้ามไม่สนใจเลยก็ตาม "เดี๋ยวพ่อจะออกไปแล้ว เปาจะไปหาอะไรกินในครัวใช่ไหม ไท้เขาทำไว้ให้แล้ว เด็กคนนี้เขาเป็นคนน่ารักนะ ขยัน ตั้งใจ ความอดทนสูง พ่อเชื่อว่า...เขาจะไม่ทำให้เปาผิดหวัง สองสัปดาห์ที่ไท้อยู่ที่นี่ พ่อฝากน้องเขาด้วยละกันนะลูก"

เปาหันมามองพ่อ แววตาไม่บ่งบอกว่ามีความรู้สึกใดๆ กระนั้นคนเป็นพ่อก็ยังเห็นอะไรบางอย่าง

โค้ชเด้งถอนหายใจยาว จากนั้นก็บอกลูกชาย "เปิดใจตัวเองบ้างนะเปา ปิดใจตัวเองน่ะมันไม่มีความสุขหรอก พ่ออยากให้เปาเจอความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่ความสุขเพราะหลอกตัวเอง"

พ่อพูดจบก็ลุกขึ้น หยิบแก้วกาแฟขึ้นมาถือไว้และเดินหายเข้าไปในครัว ปล่อยให้ลูกชายนั่งครุ่นคิดกับสิ่งที่พ่อบอกเมื่อครู่นี้คนเดียว

ไม่รู้ว่าเปาเข้าใจสิ่งที่พ่อบอกหรือเปล่า เขาดูเหมือนคิดอะไรบางอย่าง แต่ก็ยากที่จะเดาจากสีหน้านั้นได้ว่าเขาคิดอะไร

TBC
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP02 สั่นคลอน ◯ 27.01.2017 ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 27-01-2017 22:18:32
อ่านสองตอนก็เริ่มสนุกแล้ว

แนวนี้..ชอบ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP03 ปกป้อง ◯ 29.01.2017 ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 29-01-2017 21:59:18
EP 03 | ปกป้อง

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


เปาจัดการอาหารเช้าของตัวเองเรียบร้อยก็ออกมาดูหน้าบ้าน เขาเห็นไท้ใส่กางเกงขาสั้นวิ่งเล่นกับเมสซี่และเนยมาร์อยู่พอดี ทั้งคนทั้งหมาสนุกจนไม่มีใครหันมาสังเกตว่ามีคนยืนดูอยู่ เด็กหนุ่มร่างสูงโย่งยิ้มร่าและหัวเราะ เขาเกลือกกลิ้งและกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับหมาสองตัวซึ่งอยู่ในช่วงวัยซนอย่างไม่รู้จักเหนื่อย เมสซี่กับเนยมาร์ดูจะชอบมากทีเดียว นานๆ ทีพวกมันจะได้เล่นซนกับคนแบบนี้ ปกติเปาจะเล่นกับพวกมันแบบนี้อยู่แล้ว แต่ช่วงหลังๆ พอเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อนก็ไม่ค่อยมีเวลาเล่นด้วยมากเหมือนเมื่อก่อน

ชายหนุ่มเจ้าของบ้านยืนนิ่งมองเพลิน โดยเฉพาะเวลาที่ไท้ยิ้มและหัวเราะ เขาก็เผลอยิ้มตามไปโดยไม่รู้ตัว เปาเป็นคนช่างสังเกต เขาจึงคอยสังเกตดูลักษณะท่าทางและการแสดงออกของอีกฝ่ายแทบทุกอิริยาบถ แต่จะเอาข้อมูลไปใช้อย่างไรก็สุดจะคาดเดา

"จะไปหรือยัง" เปาร้องถามเมื่อเห็นว่าทั้งคนทั้งหมายังไม่หันมาสนใจ

ไท้หยุดวิ่ง เมสซี่กับเนยมาร์ได้ยินเสียงเจ้านายก็หยุดด้วยเช่นเดียวกัน พลันก็วิ่งมาคลอเคลียเปาอย่างดีใจ เปาย่อตัวลงแล้วลูบหัวลูบหางสัตว์หน้าขน แววตาแข็งๆ เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันทีที่ได้เจอความขี้อ้อนของพวกมัน

"ว่าไงเมสซี่ เนยมาร์ เหนื่อยไหม วิ่งสนุกใหญ่เลยนะ"

"โว้วๆๆๆ โว้วๆๆๆ" เมสซี่กับเนยมาร์ส่งเสียงอย่างตื่นเต้นเหมือนคุยกับเจ้านาย หมาพันธุ์นี้ชอบสื่อสารด้วยเสียง ฟังเผินๆ จะนึกว่ามันกำลังพูดกับเราอยู่

ไท้เดินเข้ามาหาแล้วก็นั่งขัดตะหมาดลงกับพื้นหญ้าตรงหน้าเปา ก่อนเล่าให้ลูกชายเจ้าของบ้านฟังอย่างอารมณ์ดี "มันแรงเยอะมากเลยครับ เมื่อกี้ผมแทบเอาไม่อยู่"

เปาชะงักและเงยหน้ามองอีกฝ่าย หน้าที่ยิ้มอยู่เปลี่ยนเป็นยิ้มยากทันที จากนั้นก็ถามเสียงดุ "จะไปชุดนี้เหรอ"

ไท้ก้มมองดูเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ จากนั้นก็ส่ายหน้า "งั้นผมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับพี่ ไม่นานครับ ผมอาบแป๊บเดียว"

"เร็วๆ ละกัน จะได้รีบไปรีบกลับ" เปากำชับ

"ครับพี่ ห้านาทีนะครับ เดี๋ยวผมลงมา" ไท้บอกแล้วก็วิ่งผลุนเข้าไปในบ้าน เปามองตามไปสักพัก จากนั้นก็หันกลับมาเล่นกับหมาตามเดิม

ช่วงนี้เปาไม่ให้เจ้าสองตัวเล่นในบ้าน เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเมสซี่กับเนยมาร์ทำข้าวของกระจุยกระจายตอนที่ไม่มีคนอยู่ คราวนี้จึงต้องลงโทษด้วยการให้นอนข้างนอก ปกติสองตัวนี้นอนในบ้านมาตลอด ซ้ำยังชอบเข้าไปนอนกับเปาบ่อยๆ ถ้าวันไหนฟางมาที่บ้าน เปาจะให้สองตัวนี้อยู่ข้างนอกแทนเพราะฟางไม่ชอบหมา เธอเคยโดนหมาพันธุ์ร็อตไวเลอร์ไล่กวดในซอยตอนเด็กๆ ดีที่เจ้าของมาช่วยไว้ทัน ไม่งั้นมันคงขย้ำเธอตายแน่ ตั้งแต่นั้นฟางจึงกลัวหมาและไม่ให้มาเข้าใกล้เธออีกเลย แม้เปาจะเคยบอกว่าหมาที่เปาเลี้ยงไม่ดุ แต่เธอก็ยังหวาดระแวงอยู่ดี เปามีนิสัยไม่ชอบก้าวก่ายหรือรุกรานความเป็นตัวตนของใคร เขาจึงไม่พยายามหาทางให้ฟางเลิกกลัว เมื่อเธอไม่ชอบ เขาก็แค่พามันไปอยู่ห่างๆ

เปาพาเมสซี่กับเนยมาร์ไปอยู่หลังบ้าน เขาลงทุนซื้อบ้านหมาอย่างดีมาสองหลังให้พวกมันอยู่ ราคาแพงพอๆ กับห้องน้ำหนึ่งห้องเลยก็ว่าได้ เขาติดพัดลมและแอร์ให้ด้วยเพราะหมาพันธุ์นี้ชอบอากาศเย็น แรกๆ พวกมันไม่ยอมอยู่ เปาจึงใช้วิธีเอาของที่มันเคยใช้และเอาอาหารมาให้มันกินในนี้ ไม่กี่วันพวกมันก็ชินและสามารถนอนในบ้านหมาได้ แต่เปาจะไม่ขังอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้หมาไม่มีความสุขและต่อต้าน เขาจึงเลือกบ้านหมาซึ่งใช้ประตูบานสวิงเพื่อให้พวกมันเข้าออกเองได้ทุกเวลา

เสร็จธุระกับหมา เปาก็เดินกลับเข้ามาในบ้านและนั่งรอไท้ที่โซฟารับแขก เขาเปิดแอพเรียกแท็กซี่ในโทรศัพท์มือถือให้มารับที่บ้านไปด้วย ระหว่างนั้นไท้ก็เดินลงมาพอดี เจ้าตัวใส่กางเกงสแลคสีดำ เสื้อเชิ๊ตสีขาวตัวโคร่งๆ ดูเชยๆ มากกว่าจะดูดี มีกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลๆ มาด้วยใบหนึ่ง เมื่อมองรวมๆ แล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าตัวน่าจะเพิ่งเข้ากรุงเป็นครั้งแรก

"พร้อมแล้วครับพี่" ไท้บอกลูกชายเจ้าของบ้านขณะเดินมานั่งลงบนโซฟา

"อืม รอแป๊บนึง แท็กซี่กำลังมา" เปาบอกเสียงเรียบ สีหน้ายังคงดูเรียบเฉย

ไท้เดินมาตรงที่เปานั่งอยู่ หันรีหันขวางไม่รู้ว่าจะนั่งตรงไหน จะนั่งโซฟาก็กลัวเปาจะว่าเอา

"ก็นั่งไปสิ" เปาบอกอย่างรู้ทัน

ไท้มองอย่างเกรงๆ สักพักก็นั่งลงไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เปาก้มดูมือถือของตัวเอง ในนั้นแจ้งว่าอีกแปดนาทีแท็กซี่ที่เรียกไว้น่าจะมาถึง เขาจึงตัดสินใจบางอย่าง

"รออยู่นี่ เดี๋ยวลงมา"

เปาบอกแล้วก็เดินขึ้นไปข้างบน ไม่ถึงสองนาทีก็เดินลงมาพร้อมกับชุดนักศึกษาของตัวเองซึ่งไม่ได้ใส่แล้ว พอมาถึงก็ยื่นให้ไท้

"เอาไปใส่ละกัน"

ไท้รับมาอย่างงงๆ ยังไม่ได้ทันได้ทำอะไร เปาก็เตือนด้วยเสียงดุ "รีบไปเปลี่ยนเร็ว เดี๋ยวแท็กซี่มา"

"ครับพี่" ไท้รับคำโดยเร็ว

หนุ่มน้อยผิวขาวอย่างคนจีนวิ่งจี๋ขึ้นบันไดไป ไม่ถึงสามนาทีก็วิ่งกลับลงมาด้วยชุดใหม่ เจ้าตัวพอใจมากทีเดียวกับชุดที่เพิ่งเปลี่ยน ดูแตกต่างราวกับเป็นคนละคนและหล่อใสสมวัย ด้วยความที่ตัวสูง ปลายขากางเกงจึงเลยข้อเท้าขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังดูไม่น่าเกลียด

"เท่มากเลยครับพี่เปา ผมอยากใส่ชุดนักศึกษาแบบนี้มานานแล้ว" ไท้บอกพลางยิ้ม

"อืม ก็เอาไปใส่เลยละกัน"

"พี่ให้ผมเหรอ" ไท้เลิกคิ้ว

"อืม" เปารับคำสั้นๆ และพยายามไม่ยิ้มตามอีกฝ่าย

"ขอบคุณครับพี่เปา" ไท้ยกมือไหว้ขอบคุณและยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

เปารับไหว้แทบไม่ทัน ออกจะงงๆ ด้วยซ้ำ เมื่อทำหน้าไม่ถูกก็เลยตัดบท "ไปเหอะ รถมาแล้ว"

"ครับพี่" ไท้รับคำ เขายังคงยิ้มสดใสให้อีกฝ่าย แม้ว่าเปาทำเหมือนไม่อยากเสวนาด้วยก็ตาม

ขณะนั่งรถออกไปด้วยกัน ไท้ก็ชวนคุย

"แล้วรถพี่เปาไปไหนล่ะครับ"

"จอดไว้ที่ร้าน" เปาตอบเสียงห้วน คงตั้งใจให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่ควรถามเรื่องนี้ต่อว่าทำไมถึงจอดไว้ที่นั่น

"อ้อ ครับ" ไท้ยิ้มแหยๆ จะชวนคุยต่อก็ไม่กล้า

เปาสัมผัสความรู้สึกอึดอัดได้ไม่ยาก ครั้นจะนั่งกันไปเงียบๆ อย่างนี้จนถึงมหาลัยคงอึดอัดตาย พักหนึ่งเขาจึงเป็นฝ่ายชวนคุยเสียเอง

"เพิ่งเข้ากรุงเทพเหรอ"

"ครับ พอดีผมเพิ่งผ่านการคัดเลือกโครงการปั้นเด็กยักษ์ระดับภูมิภาคมา ก็เลยได้มาเข้าร่วมโครงการพัฒนาเยาวชนสู่ทีมชาติที่กรุงเทพ"

"แล้วเล่นตำแหน่งอะไร"

"หัวเสาครับ"

เปาพยักหน้ารับรู้ "สูงเท่าไหร่"

"ร้อยเก้าสิบสองครับ เขารับเฉพาะคนที่สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบแปดขึ้นไป"

เมื่อเปาคำนวณดูแล้ว ไท้สูงกว่าเขาถึงเจ็ดเซ็นติเมตร ที่จริงเปาก็เป็นคนตัวสูงเพราะได้พันธุ์พ่อซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติมา แต่ไท้ก็สูงกว่าพอสมควร

"มาจากจังหวัดไหน" เปาถาม

"พิษณุโลกครับ"

"เพิ่งจบมอหกเหรอ"

"ก็จบมาสักพักแล้วครับ แต่ผมไม่ได้เรียนต่อ แม่ไม่มีเงินส่งเรียน ผมก็เลยไปช่วยแม่ทำงานในไร่อ้อย แต่ถ้ามีงานแข่งวอลเลย์บอลของจังหวัด โรงเรียนเขาก็จะส่งผมไปเล่น ผมชอบเล่นวอลเลย์บอลมาก เล่นมาตั้งแต่ตอนเรียนประถมเลย ไปแข่งมาหลายที่ ระดับอำเภอก็ไป จังหวัดก็ไป ภูมิภาคก็ไป ได้รางวัลมาเยอะเลยครับ ผมอยากติดทีมชาติ อยากเก่งเหมือนพี่ๆ เขา อยากไปเล่นลีคต่างประเทศด้วยครับ คงจะได้เงินเยอะเลย ผมอยากมีเงิน แม่จะได้สบาย"

น้ำเสียงของไท้ฟังดูเศร้าในช่วงท้าย ส่วนคนฟังก็เศร้าไม่แพ้กัน สำหรับเปาแลัว หัวข้อการสนทนาที่แสลงใจที่สุดก็คือเรื่องแม่ ถ้าไม่จำเป็นเขาจะไม่สนทนากับใครเรื่องนี้เลย มีเพียงฟางคนเดียวเท่านั้นที่เปาเคยเปิดปากเล่าเรื่องแม่ให้ฟัง

พอพูดถึงแม่ ไท้ก็นึกขึ้นมาได้ว่าตั้งใจจะโทรหาแม่วันนี้ เขาจึงควานหาโทรศัพท์ แต่กลับไม่พบ แม้พลิกดูทุกซอกทุกมุมในกระเป๋าก็ไม่ปรากฎว่ามี

"ผมลืมโทรศัพท์เอาไว้ที่บ้านน่ะครับพี่เปา"

"จะโทรหาใคร เอาอันนี้ไปโทรก็ได้" เปาบอกพลางยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้

"อ๋อ ไม่เป็นไรครับพี่ พอดีผมว่าจะโทรไปคุยเล่นกับแม่หน่อย กลับมาค่อยโทรก็ได้ครับ"

เปาพยักหน้ารับรู้ช้าๆ ก่อนหดมือกลับมาตามเดิมและเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงไว้ ไท้เห็นท่าทางเศร้าๆ ของเปาก็พลันนึกได้ โค้ชเด้งเพิ่งเล่าให้ฟังว่าเปาเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าคุยเรื่องแม่กับเปาเพราะเดี๋ยวกระเทือนใจ

"ขอโทษครับพี่เปา" ไท้ยิ้มเจื่อนด้วยความรู้สึกผิด

เปาแวบหันมามองด้วยสีหน้ายากจะเดาว่ารู้สึกอย่างไร สักพักก็หันกลับไปตามเดิม บรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เปาเงียบไปเลย ไท้เองก็ไม่กล้าชวนคุยต่อ ต่างคนจึงต่างนั่งเงียบจนถึงมหาวิทยาลัย

ไม่นานก็มาจอดหน้าอาคารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่เปิดรับสมัครนักศึกษา มีนักศึกษาใหม่มาสมัครค่อนข้างบางตา คงเป็นเพราะเดี๋ยวนี้สมัครทางอินเตอร์เน็ตได้ แต่บางส่วนก็เลือกที่จะมาสมัครด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็ได้มาดูสถานที่ไปด้วย

เปาพาไท้เดินเข้าไปในอาคารหลังลงจากรถ เมื่อหาที่นั่งได้แล้วก็ช่วยกดบัตรคิวและเอามายื่นให้ "สมัครเองได้ใช่ไหม"

ไท้ทำหน้าไม่แน่ใจ รับบัตรคิวมาแล้วจึงแบ่งรับแบ่งสู้ "ก็…น่าจะได้ครับ"

"งั้นก็ดี" เปายืนหันรีหันขวาง ทำท่าเหมือนกับอยากจะไปไหน

"พี่เปาจะไปไหนเหรอครับ" ไท้ถามตามที่สงสัย

"จะไปเอารถ" เปาบอก "ทำเองได้ใช่ไหม"

"ครับ…ได้ครับ" ไท้รับรองแม้ยังไม่มั่นใจมากนักก็ตาม อดหวั่นใจกับท่าทางแปลกๆ ของเปาไม่ได้

"ถ้าไม่รู้ก็ถามอาจารย์ รออยู่นี่ละกัน เดี๋ยวมา"

เปาบอกแล้วก็เดินออกมาทันที ไม่สนใจว่าอีกคนหน้าเสียขนาดไหน เขาแอบยิ้มมุมปากเหมือนกับมีแผนบางอย่าง คนซึ่งนั่งมองตามอยู่ข้างในคงไม่มีทางรู้ชะตากรรมของตัวเองต่อจากนี้!


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

เปาแวะไปเอารถของตัวเองที่ร้านซึ่งจอดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน จากนั้นจึงบึ่งไปหาฟาง เขานัดเธอมากินข้าวกลางวันด้วยกันใกล้ๆ ที่ทำงานของเธอแถวๆ สนามศุภชลาศัย ฟางเพิ่งสอบบรรจุเป็นพนักงานราชการได้ในหน่วยงานหนึ่งของกรมพลศึกษา เธอทำในส่วนของการกำหนดมาตรฐานการฝึกอบรม หลักสูตร และสมรรถนะของบุคลากรด้านการพลศึกษา รวมไปถึงเรื่องสุขภาพ การกีฬา นันทนาการ และวิทยาศาสตร์การกีฬาด้วย

สองหนุ่มสาวนัดมาเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในห้างมาบุญครอง ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของฟางมากนัก เธอจึงนั่งมอเตอร์ไซค์มาที่มาบุญครองเองโดยไม่ต้องให้เปาไปรับ ไม่อย่างนั้นต้องไปกลับรถไกลและไม่สะดวก เสียเวลาเปล่าๆ

พอนั่งลงได้เปาก็เริ่มบ่น "เบื่อพ่อจริงๆ เลย พาคนมาบ้านอีกแล้ว"

ฟางหยุดเปิดเมนูอาหาร มองแฟนหนุ่มด้วยแววตาสงสัย "เปาหมายถึง...แฟนเหรอ"

เปายักไหล่ "ไม่รู้ เขาไม่ยอมรับ แต่ฟางลองคิดดูก็แล้วกัน เด็กต่างจังหวัด ขาดทุนการศึกษา อยู่ดีๆ ก็มีผู้ใหญ่รับมาอุปการะ พามาอยู่ด้วยถึงบ้าน จะให้คิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไง"

ฟางมองแฟนหนุ่มอย่างระอาใจ ตั้งแต่รู้จักกันมา เปาไม่เคยพูดถึงพ่อตัวเองในแง่ดีเลย ขนาดวันพ่อเปายังไม่สนใจด้วยซ้ำ วันพ่อทีไรมักหาเรื่องไปเที่ยวต่างจังหวัดตลอด แต่เธอก็ไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับเปามาก นานๆ จะเตือนที แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น

"เด็กน่ะ...มันไม่รู้เรื่องหรอก ดูมันซื่อๆ นะ แต่ผู้ใหญ่น่ะสิ" เปาแค่นหัวเราะ ส่ายหน้าไปมา ก่อนก้มหน้าก้มตาเลือกเมนูที่ต้องการ

"แล้วร้านเป็นไงบ้าง" ฟางเปลี่ยนเรื่อง ขืนคุยเรื่องพ่อกับเปาต่ออาจมีดราม่าอีกจนได้

เปาทำท่าครุ่นคิด แววตาฉายความกังวลเล็กน้อย "ก็พอได้อยู่ แต่สมาชิกยังน้อย เนี่ย...เปาว่ากินข้าวเสร็จก็จะแวะไปคุยกับไอ้มอสกะไอ้พาวมันหน่อย สงสัยต้องหาโปรโมชั่นมาช่วยดึงลูกค้าบ้างแล้ว ในหมู่บ้านนั้นก็มีคนเยอะนะ แต่มันก็มีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆ ด้วย คนก็เลยยังมาสมัครสมาชิกน้อยอยู่ ส่วนมากเขาก็ไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนกัน"

"แล้วสองคนนั้นมันว่าไง" ฟางใช้สรรพนาม "มัน" เพราะมอสกับพาวเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเธอด้วย ทั้งหมดเรียนคณะเดียวกัน

"เปาว่ามันดูใจเย็นไปว่ะ มันบอกแต่ว่ารอดูก่อนๆ แต่เปาไม่อยากรอแล้ว ขืนรอต่อไปอีกหน่อยก็เจ๊งกันพอดี" เปาบ่นงึมงำ ท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

ฟางดูหนักใจไปด้วย เธอเคยเตือนเปาแล้วเรื่องเพื่อนสองคนนี้ว่าเป็นคนหยิบหย่ง อาศัยว่าพ่อแม่มีเงินก็เลยเอาเงินมาทำธุรกิจทั้งๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ แทนที่จะศึกษาตลาดและหาทำเลให้ดีก่อน กลับมีแต่คนใจร้อนอยากทำไวๆ เธอจึงไม่ยอมลงหุ้นด้วยแต่แรก แต่เลือกทำงานราชการเพราะหวังความมั่นคงในอนาคต ดีกว่าเอาเงินมาเสี่ยงลงทุนแบบนี้เป็นไหนๆ

"เดือนนี้ก็ไม่รู้จะได้รายได้ตามเป้าหรือเปล่านะ เดือนที่แล้วเกินมาหน่อยเดียวเอง แถมเดือนนี้ลูกค้ายังหายไปหลายคน คนมาสมัครใหม่ก็น้อยลง" เปาบ่นด้วยสีหน้ากังวล

สองหนุ่มสาวหยุดคุยกันครู่หนึ่งเมื่อพนักงานเดินมาถาม ทั้งสองสั่งอาหารตามที่เลือก พักหนึ่งก็กลับมาคุยกันต่อ

"เปามองหาอะไรอย่างอื่นเผื่อไว้บ้างก็ดีนะ" ฟางเปรยเสียงเรียบ

เปาเลิกคิ้วสงสัย "ให้มาทำงานราชการแบบฟางน่ะเหรอ ไม่เอาหรอก เปาไม่ชอบ เปาชอบอิสระมากกว่า"

"เปล่า ฟางไม่ได้จะให้เปามาทำราชการซะหน่อย" ฟางขำเบาๆ

"อ้าว แล้วฟางจะให้เปาทำอะไรล่ะ"

"ก็อย่างเช่น...เป็นนักกายภาพบำบัด หรือไม่ก็เป็นเทรนเนอร์ให้นักกีฬาไง"

พอแฟนสาวพูดมาอย่างนั้น เปาก็รู้ทันทีว่าเธอได้แนวคิดพวกนี้มาจากไหน เขาจึงรีบปฏิเสธทันที "เปาไม่อยากทำงานกับพ่อ"

"แต่เปาก็ทำกับกีฬาอย่างอื่นได้นะ ฟุตบอลก็ได้ ฟุตซอลก็ได้ หรือกีฬาอื่นๆ ก็มีตั้งเยอะแยะ" ฟางแย้ง

"ก็ต้องใช้เส้นของพ่ออยู่ดี ไม่มีทางหรอก" เปาหน้าเครียด เขาไม่มีทางขอร้องให้พ่อช่วยแน่ๆ แม้แต่เงินที่เปาเอามาลงทุนเปิดร้านกับเพื่อนก็เป็นเงินที่แม่ทิ้งไว้ให้ ไม่ขอพ่อแม้แต่บาทเดียว

ฟางคงรู้ตัวว่าบรรยากาศชักตึงเครียด เธอจึงเป็นฝ่ายยอมอ่อนลงก่อน ที่ผ่านมาเธอก็ยอมให้ก่อนเสมอ เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนเอ่ยคำขอโทษเหมือนเช่นเคย

"ฟางขอโทษละกัน ฟางก็แค่เป็นห่วงอนาคตของเปาเท่านั้นแหละ"

สีหน้าขึ้งเครียดของเปาอ่อนลง ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาเปาจะทำให้ฟางเป็นห่วงหลายเรื่อง แม้ว่ารูสึกดีที่มีคนเป็นห่วง แต่ลึกๆ เปากลับรู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นผู้นำน้อยกว่า อาจเป็นเพราะเปากับฟางอายุเท่ากัน ซ้ำเปายังมีเรื่องให้ฟางต้องคอยเป็นห่วงมากกว่าที่เปาต้องห่วงฟางอีก เปาจึงรู้สึกว่าแสดงความเป็นผู้นำตามประสาผู้ชายไม่เต็มที่

เปาเอื้อมมือไปจับมือฟางไว้แล้วบีบเบาๆ ยิ้มบางๆ ให้เธอด้วย "ขอบคุณฟางมากนะที่คอยเป็นห่วงเปา เอาเป็นว่า...เปาจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดละกัน เปาลงเงินไปแล้ว ยังไงก็ปล่อยให้เจ๊งไม่ได้หรอก แต่มันก็ต้องใช้เวลาสักพักนั่นแหละ พอมีคนรู้จักเยอะขึ้น เปาว่ามันก็จะดีขึ้นเอง ถ้ามีโปรโมชั่นดีๆ หน่อย เดี๋ยวก็มีลูกค้าเพิ่ม ฟางไม่ต้องห่วงหรอก"

เปาพูดไปทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำ พอทำงานกับเพื่อนสองคนไปสักพัก เขาก็ยอมรับว่ามีหลายเรื่องน่ากังวลไม่น้อย

ฟางได้แต่ยิ้มๆ ให้กับแฟนหนุ่ม แต่ใช่ว่าเธอจะวางใจได้ เธอไม่เชื่อเพื่อนสองคนนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เมื่อเตือนไม่ฟัง ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าปล่อยให้เปาได้รับบทเรียนด้วยตัวเอง กระนั้นเธอก็รู้ว่าที่จริงเปาไม่ใช่คนดื้อ ทุกอย่างล้วนมีสาเหตุมาจากพ่อที่เป็น "เกย์" ของเปาเท่านั้น

หลังอาหารกลางวัน เปาแวะไปส่งฟางที่สำนักงานของเธอ จากนั้นจึงบึ่งรถไปหาเพื่อนเพื่อปรึกษากันเรื่องโปรโมชั่น พอได้เรื่องได้ราวมาบ้าง แต่ดูเหมือนว่ายังไม่ทำให้เปาเบาใจขึ้นสักเท่าไหร่ กระนั้นก็นับว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง วันนี้ยังไม่ได้แนวคิดว่าจะจัดโปรโมชั่นแบบไหน เพื่อนสองคนเสนอว่าจะหาเพื่อนที่ทำการตลาดมาช่วยคิด น่าจะดีกว่าคิดกันเอง เปาก็เห็นด้วย เพราะในทีมไม่มีใครมีความรู้เรื่องการตลาดเลย จ่ายเงินเพิ่มอีกหน่อย หามืออาชีพมาทำน่าจะดีกว่า

เปากลับมาถึงบ้านราวๆ หกโมงครึ่ง เมสซี่กับเนยมาร์ได้ยินเสียงรถก็วิ่งออกมาต้อนรับเลียแข้งเลียขา กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจราวกับว่าไม่ได้เจอกันมาแรมเดือน นี่แหละคือความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพวกมัน เจ้าสองตัวนี้ไม่เคยเบื่อหน่ายแม้แต่วันเดียวที่จะวิ่งมาต้อนรับด้วยอาการแบบนี้เลย

เล่นกับหมาสักพักเปาก็เข้าไปในบ้าน ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว เขาขมวดคิ้วสงสัยเพราะนึกว่าไท้น่าจะกลับมาบ้านแล้ว แต่ก็ไม่มีแม้เงา

"ฉิบหายละ!"

เปาอุทานเมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขารีบปิดบ้านแล้ววิ่งออกไปที่รถ ก่อนขับรถออกไปนอกประตู เลื่อนประตูปิดเรียบร้อยก็รีบขับออกไปอย่างรีบร้อน

ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

กว่าเจ็ดชั่วโมงแล้วที่เปายังไม่กลับมารับ ไท้นั่งชันเข่าหนาวสั่นอยู่ใต้อาคารซึ่งตอนนี้ไม่มีคนแล้ว กลับบ้านไปตั้งแต่หัวค่ำก่อนฝนตกห่าใหญ่ อาคารหลังนี้มีส่วนยื่นออกมาคลุมแดดฝนเพียงเล็กน้อย ไท้จึงโดนฝนสาดจนเปียกมะล่อกมะแล่ก

หนุ่มน้อยผู้น่าสงสารไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เที่ยง ด้วยความกังวลว่าเปาจะกลับมาหาไม่เจอจึงไม่กล้าไปไหน ครั้นจะกลับบ้านเองก็กลับไม่ถูก ไท้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบ้านของเปาอยู่ตรงไหน รู้จักแต่ชื่อหมู่บ้าน แต่พอไท้ลองถามแท็กซี่ที่บังเอิญวิ่งผ่านมาก็ไม่มีใครกล้าไปส่ง เพราะหมู่บ้านชื่อเดียวกันนี้มีอยู่หลายจุดทั่วกรุงเทพ เขาจำไม่ได้ว่าหมู่บ้านนั้นอยู่เขตหรือถนนอะไร โทรศัพท์ก็ลืมเอาไว้ที่บ้านหลังนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากนั่งรอให้เปากลับมารับเพียงอย่างเดียว

มี รปภ. อาจารย์และนักศึกษาเดินมาถามไท้บ้าง ไท้ก็ตอบเพียงว่ารอคนมารับ จนกระทั่งไม่มีใครเหลืออยู่ที่นี่เลย เขาไม่รู้เลยว่าเปาจะมารับหรือเปล่า ถ้าคืนนี้ไม่มีใครมาหา ไท้คงจะนั่งแท็กซี่ไปหมอชิตแล้วซื้อตั๋วรถกลับบ้าน แท็กซี่น่าจะพาไปหมอชิตถูกเพราะใครๆ ก็น่าจะรู้จัก พอกันทีสำหรับเมืองหลวงซึ่งมีแต่คนใจร้าย

ยิ่งมืด ยิ่งหนาว ยิ่งหิว ไท้ก็ยิ่งรู้สึกกลัว เขาคิดถึงแต่แม่ ถ้าแม่รู้ว่าไท้ถูกทิ้งให้หลงทางแบบนี้คงไม่ยอมให้มากรุงเทพแน่ โค้ชเด้งรับปากกับแม่ของไท้เป็นอย่างดีว่าจะช่วยดูแลทุกอย่าง ด้วยความเชื่อใจและอยากเห็นลูกมีอนาคต แม่จึงยอมให้ไท้มาอยู่กับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันเลย สุดท้ายก็ถูกทิ้งไว้แบบนี้

ไท้ลุกขึ้นยืนเมื่อไม่เห็นวี่แววว่าจะมีคนมารับ เขาตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้าน แต่พอก้าวขาเดินออกไป แสงไฟของรถคันหนึ่งก็วูบวาบขึ้น ไม่นานก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าตึกและจอดสนิท ไฟหน้ารถดับลง ไม่นานเจ้าของรถก็เปิดประตูออกมา เมื่อเห็นคนที่เขาตามหาแล้ว เจ้าของรถก็รีบเดินแกมวิ่งขึ้นไปหาด้วยแววตาเป็นห่วง

"พี่เปา" สิ้นคำ ร่างหนาวสั่นก็โผเข้ากอดเปาไว้ เสียงสั่นๆ บอกมาอย่างดีใจ "ผมนึกว่าพี่จะไม่มารับผมแล้ว"

เปาอดรู้สึกผิดไม่ได้ที่แกล้งทิ้งให้อีกฝ่ายรอ ทั้งที่รู้ว่าไท้เป็นเด็กบ้านนอก ไม่รู้ทิศทางในกรุงเทพ เจ้าตัวคงกลัวไม่น้อยที่ถูกทิ้งให้เคว้งและหลงทาง จึงได้แต่นั่งเปียกฝนทนรออยู่ตรงนี้กว่าเจ็ดชั่วโมง แม้จะมีเงินก็ไม่มีปัญญาไปไหนเพราะไม่รู้อะไรเลย

"พี่ขอโทษนะไท้"

สรรพนามเรียกแทนตัวของเปาเปลี่ยนไป จากที่เคยเรียกตัวเองว่า "กู" ก็เปลี่ยนเป็น "พี่" เขากอดร่างหนาวสั่นและเปียกชื้นไว้ด้วยความสงสาร ความรู้สึกหนึ่งพลันบังเกิดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย นี่คือครั้งแรกที่เปารู้สึกว่ามีใครสักคนต้องการที่พึ่งพิงและการปกป้องจากเขา สัญชาตญาณของผู้ชายต้องการปกป้อง ไม่ใช่ถูกปกป้อง แม้ร่างที่กอดไว้จะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่เปาก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายมีบางอย่างที่ขาดหายและต้องการชดเชยจากเขา ความรู้สึกนี้ช่างเต็มตื้นหัวใจดีเหลือเกิน เปาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย

เปากอดร่างที่หนาวสั่นไว้แน่นและเนิ่นนาน ราวกับจะดูดซึมซับความรู้สึกแปลกใหม่นี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้จากคนในอ้อมแขน

TBC
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP03 ปกป้อง ◯ 29.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-01-2017 22:09:03
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP03 ปกป้อง ◯ 29.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 29-01-2017 22:48:42
ใกล้กันเข้าไปอีกระยะหนึ่ง
อีกหน่อยก็คงแนบชิด

จะใจแข็งได้นาน
หรือใจอ่อนเร็วแค่ไหน
จะติดตามนะ เปา
หุหุ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP03 ปกป้อง ◯ 29.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 29-01-2017 23:35:20
อ่านทีเดียว 3ตอนเลย สนุกมากๆคับ  ตอนที่เปาเจอไท้ตอนแรก อ่านไปไม่ชอบเปาเอามากๆ อยากให้รักไท้เร็วๆ ฮ่าๆ
   เรื่องนี้3p มั้ยอะคับ รอลุ้น
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP03 ปกป้อง ◯ 29.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 30-01-2017 08:42:31
:L2: :pig4:

ขอบคุณที่มาติดตามครับ ชอบไม่ชอบยังไง ถ้าสะดวกก็บอกเล่ากันบ้างนะครับ :)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP03 ปกป้อง ◯ 29.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 30-01-2017 08:43:22
ใกล้กันเข้าไปอีกระยะหนึ่ง
อีกหน่อยก็คงแนบชิด

จะใจแข็งได้นาน
หรือใจอ่อนเร็วแค่ไหน
จะติดตามนะ เปา
หุหุ

ขอบคุณที่มาติดตามครับ รับรองว่าเรื่องนี้ดราม่าอย่างที่ชอบแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP03 ปกป้อง ◯ 29.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 30-01-2017 20:26:45
อ่านทีเดียว 3ตอนเลย สนุกมากๆคับ  ตอนที่เปาเจอไท้ตอนแรก อ่านไปไม่ชอบเปาเอามากๆ อยากให้รักไท้เร็วๆ ฮ่าๆ
   เรื่องนี้3p มั้ยอะคับ รอลุ้น

ขอบคุณที่มาติดตามอ่านครับ ส่วนจะมีสามพีไหม ไม่แน่ใจครับ แต่หลายเส้ามากๆ 555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP04 เผลอจูบ ◯ 30.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 30-01-2017 20:35:25
EP 04 | เผลอจูบ

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


ฟ้ายังคงมืดครึ้มและอากาศเย็น อีกไม่นานฝนห่าใหญ่น่าจะตกลงมาอีก เปารีบพาไท้มาขึ้นรถ เขาช่วยเปิดประตูให้ไท้นั่งหน้า จากนั้นก็เดินไปเปิดหลังรถและมองหากระเป๋ากีฬาใบใหญ่ เปามักใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์สำหรับเล่นฟิตเนสเตรียมไว้เสมอ มีเสื้อกีฬากับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินของอดิดาสปักโลโก้เชลซีตัวโปรดของเขาอยู่ในนั้นด้วย เปาหยิบมาแล้วก็เดินมาที่ประตูรถฝั่งที่ไท้นั่งอยู่ ก่อนเปิดประตูรถออกและส่งให้คนที่นั่งกอดอกหนาวสั่น

"เปลี่ยนซะ เดี๋ยวหนาวตายซะก่อน"

"เปลี่ยนที่ไหนครับ" ไท้ถามงงๆ ขณะรับมา

"ในรถนี้แหละ เปลี่ยนเสร็จแล้วบอกด้วยละกัน"

เปาปิดประตูรถให้ ปล่อยให้ไท้เปลี่ยนเสื้อผ้าในรถตามลำพัง ไม่กี่นาทีถัดมาไท้ก็เปิดประตูมาบอก

"เสร็จแล้วครับพี่ พี่เปามีแต่เสื้อผ้าสวยๆ ทั้งนั้นเลย ถ้าผมมีเงินเยอะๆ ผมจะซื้อมาใส่บ้าง"

ไท้พูดไปตามประสาซื่อ แต่คนฟังกลับรู้สึกสงสารไม่น้อย แม้ครอบครัวของเปาไม่รวยล้นฟ้า แต่ก็ไม่ยากจนข้นแค้น เปาเองก็ไม่เคยมีเพื่อนที่จนขนาดนี้มาก่อน แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตของคนจนเป็นอย่างไร เพิ่งได้เรียนรู้ก็วันนี้

"อยากได้เหรอ" เปาเอียงคอ "งั้นพี่ให้ละกัน"

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมมีเงินเดือนเมื่อไหร่ ผมจะซื้อใส่เอง" ไท้บอกอย่างเกรงใจ เพราะเมื่อเช้าเปาก็เพิ่งให้ชุดนักศึกษามาชุดหนึ่ง

"เอาไปเหอะน่า"

เปาตัดบทด้วยการปิดประตูรถ จากนั้นก็เดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับ พอนั่งลงและเตรียมจะขับออกไป เขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้

"กินอะไรหรือยัง"

ไท้ยิ้มเจื่อนๆ ก่อนส่ายหน้าไปมาช้าๆ

"ตั้งแต่เที่ยงเลยเหรอ" เปาขมวดคิ้ว

ไท้พยักหน้ารับ เปาทำท่าจะเอื้อมมือไปหา ไม่แน่ใจว่าจะจับไหล่ ลูบผมหรือจับมือกันแน่ แต่เขาก็ดึงมือกลับมาตามเดิม ไม่มีคำขอโทษใดๆ จากเปา ยกเว้นสีหน้าท่าทางที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวรู้สึกผิด

"งั้นไปกินข้าวก่อนละกัน แล้วค่อยกลับ" เปาบอกหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง

"ครับ" ไท้รับคำ จากนั้นก็นั่งเงียบๆ ไปตลอดทาง

เนื่องจากฝนเพิ่งตกอย่างหนัก และทำท่าว่าจะตกมาอีกรอบ ร้านค้าริมถนนหลายร้านจึงปิดไป บางจุดก็ไม่มีที่ให้จอดรถ สุดท้ายเปาจึงพาไท้มากินอาหารในห้างแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ เวลาตอนนี้เพิ่งสองทุ่ม ห้างยังคงเปิดอยู่และยังพอมีเวลากินโดยไม่ต้องรีบมาก

หลังเดินเลือกร้านอยู่สักพัก สองหนุ่มก็มาลงเอยที่ร้านเอ็มเคสุกี้ ไท้ดูตื่นเต้นมาทีเดียวเพราะไม่เคยกินมาก่อน แต่พอได้เมนูมาแล้วก็สั่งไม่เป็น จึงบอกอย่างอายๆ

"ผมไม่เคยกินน่ะพี่ พี่สั่งให้ผมดีกว่า ผมกินอะไรก็ได้"

เปาพยักหน้า ก่อนหันไปสั่งอาหารกับพนักงานในร้าน เขาสั่งทั้งเนื้อสัตว์และผักผสมกัน เน้นโปรตีนเพราะเปาคิดว่าไท้ต้องเพิ่มกล้ามเนื้อ

"เมื่อกี้นะ ถ้าพี่ไม่มารับผม ผมว่าจะนั่งแท็กซี่ไปหมอชิต แล้วก็นั่งรถโดยสารกลับบ้าน" ไท้เอ่ยหลังเปาสั่งอาหารเสร็จแล้ว

แม้คนพูดไม่ตั้งใจให้รู้สึกผิด แต่เปาก็หน้าเจื่อน จึงทำเป็นหันไปมองรอบๆ เพราะวางหน้าไม่ถูก

"เสื้อกับกางเกงตัวนี้เนื้อผ้าดีมากเลย ต้องแพงแน่ๆ" ไท้บอกพลางก้มดู เอามือลูบๆ ตามเนื้อผ้าไปด้วย พักหนึ่งก็เงยหน้ามาถามต่อ "พี่ให้ผมแล้วพี่มีใส่เหรอครับ"

เปาพยักหน้า

"พี่มีหลายตัวเหรอ" ไท้ถามต่อ

เปาพยักหน้าอีกและไม่พูดอย่างเดิม คนชวนคุยจึงมองอย่างเกรงๆ และเงียบไป ดีทีว่าพนักงานเอาหม้อใส่น้ำซุปมาตั้งให้ ทั้งสองคนจึงเปลี่ยนจุดสนใจไปตรงนั้น

ไม่นานชุดผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ ก็ถูกนำมาวางไว้เป็นตั้ง เปาบอกวิธีเร่งความร้อนและทำให้ดูไปด้วย พอน้ำเดือดก็เอาเนื้อสัตว์ลงไปก่อน ปิดฝาหม้อและปล่อยให้เดือดสักพัก ระหว่างรอก็สอนไท้ปรุงน้ำจิ้มสุกี้ไปด้วย รอยยิ้มพลันค่อยๆ ปรากฎบนใบหน้าของเปา แม้เจ้าตัวพยายามเก็บท่าทีมากเพียงใดก็ตาม

พอเนื้อสุก เปาก็เอาผักลงไปใส่ เขาบอกให้ไท้ตอกไข่ใส่ชามและคนให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็ให้เทลงไปในหม้อ ไม่นานทุกอย่างก็สุกพร้อมกิน ไท้ยังดูเงอะๆ งะๆ เพราะใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ค่อยเป็น เปาจึงสอนไปกินไป ท่าทางเขาดูผ่อนคลายและหัวเราะได้มากขึ้น บรรยากาศจึงดูเป็นกันเอง

เปาเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ตั้งแต่แม่รู้ว่าพ่อเป็นเกย์ก็ไม่ยอมมีน้องอีกเลย เปาจึงโตมาอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีพี่น้องไว้คอยเล่นและพูดคุยด้วยเหมือนครอบครัวอื่น เขาจึงเหงาและชอบอยู่กับตัวเอง แต่ตอนนี้เปากลับรู้สึกเหมือนมีน้องชายหรือใครสักคนที่เปาอยากดูแลมาอยู่ใกล้ๆ

"พรุ่งนี้ตื่นสักเจ็ดโมงเช้านะ เดี๋ยวพี่จะสอนเวทเทรนนิ่งให้" เปาบอกระหว่างที่กำลังตักอาหารในหม้อใส่ชามให้ไท้ ปากก็บอกไปด้วย "กินเนื้อสัตว์เยอะๆ จะได้เอาไปสร้างกล้ามเนื้อ"

"พี่เปาจะช่วยสอนผมจริงๆ เหรอครับ" ไท้ถามอย่างดีใจ ก่อนเอ่ยขอบคุณเบาๆ เมื่อเปาหยุดตัก

"อืม ก็เราน่ะผอมจะตาย แทบไม่มีกล้ามเนื้อเลย ดีนะนี่ยังอุตส่าห์ผ่านการคัดเลือกมาได้ น่าจะได้เพราะตัวสูง ไม่งั้นก็คงฝีมือดีพอตัว" เปาสัพยอกอย่างเป็นกันเอง

"ที่บ้านผมจนน่ะครับ ไม่ค่อยมีอะไรดีๆ กินกับเขาหรอก" ไท้บอกเสียงเศร้า แต่ก็พยายามยิ้มให้อีกฝ่าย

เปานิ่งเหมือนสะอึก ส่วนไท้ก็นั่งเงียบเหมือนคิดอะไรบางอย่าง เขาเขี่ยอาหารในถ้วยไปมาโดยไม่ตักมากิน ด้วยความสงสัยเปาจึงถาม

"อิ่มแล้วเหรอ"

ไท้ส่ายหน้า สักพัก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

"แล้วทำไมไม่กินล่ะ"

"ผมคิดถึงแม่กับน้องสาวน่ะครับ เขาไม่เคยกินอะไรดีๆ แบบนี้เลย"

คำตอบของไท้ทำเอาเปาอึ้งไปอีกรอบ ดูท่าทางไท้คงรักครอบครัวมาก คอยพูดถึงและนึกถึงตลอด อนาคตและความฝันของไท้คงมีความหมายกับครอบครัวอย่างยิ่ง เขาจึงต้องยอมจากพ่อแม่มาตามฝันของตัวเอง เพื่อที่วันหนึ่งจะได้ส่งเงินกลับไปจุนเจือครอบครัว พลันเปาก็นึกถึงคำขอร้องของพ่อ คนจนที่ตั้งใจอย่างไท้ ถ้าไม่มีใครช่วยเขาก็จะไม่มีโอกาส

"ไท้ดูรักแม่นะ" เปาพูดพลางเริ่มเขี่ยอาหารไปมาบ้าง

"ก็ผมมีแม่คนเดียว จำความได้ก็เห็นแต่แม่" ไท้พูดเหมือนรำพัน

เปาทำท่าอยากถามถึงพ่อ แต่ก็ยั้งปากไว้ก่อน กระนั้นอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะเข้าใจว่าเขาอยากถามอะไร เจ้าตัวจึงเล่าให้ฟังสั้นๆ

"พ่อทิ้งพวกเราไปตั้งแต่น้องสาวผมเพิ่งเกิดได้ไม่ถึงปี เขาเคยรักแม่ผมมากนะครับ แต่ก็โดนครอบครัวบีบบังคับให้เลิกกับแม่ผม แล้วก็ไม่เคยมาดูดำดูดีอีกเลย"

เปาฟังแล้วก็สะท้อนใจ ตัวเขาเองก็ขาดแม่ ส่วนอีกคนก็ขาดพ่อ เปาเข้าใจสภาพครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์เป็นอย่างดี เด็กที่โตมาในครอบครัวแบบนี้ต้องการความรักจากพ่อหรือแม่เพิ่มเป็นสองเท่า ไท้น่าจะโชคดีกว่าที่แม่ให้ความรักกับไท้อย่างเต็มที่ แม้ขาดอีกคนไปก็ยังพอมีความสุขตามอัตภาพ แต่เปากับพ่อไม่เป็นแบบนั้น เมื่อแม่จากไปแล้ว พ่อกับเปาก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้ากัน

"รีบๆ กินเหอะ เดี๋ยวห้างจะปิดแล้ว จะได้กลับบ้าน" เปาตัดบทหลังเงียบไปพักใหญ่

สองหนุ่มจึงหันมาสนใจอาหารของตัวเองและนั่งกินไปเงียบๆ พักหนึ่งเปาก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาดู ฟางไลน์มาคุยด้วย เธอบอกว่าวันนี้คงกลับบ้านดึกเพราะยังเตรียมงานไม่เสร็จ พรุ่งนี้มีอบรมสัมมนาใหญ่ของหน่วยงาน คงไม่ค่อยได้เจอกันช่วงนี้จนกว่างานจะเรียบร้อย เปาส่งข้อความให้กำลังใจแฟนสาว คุยกันพักหนึ่งจึงกลับมาจัดการอาหารต่อจนหมด

กินเสร็จเปาก็พาไท้เดินไปยังที่จอดรถ ระหว่างทางเปาก็บอก "พ่อไลน์มาบอกว่าจะกลับดึก ยังประชุมไม่เสร็จ"

ไท้พยักหน้ารับรู้ "ช่วงนี้โค้ชเครียดมาก นักกีฬาในทีมมีปัญหากัน เรื่องร้ายแรงด้วย แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เห็นโค้ชบอกว่าจะพยายามเคลียร์ให้จบภายในวันนี้ เพราะเดือนหน้ามีแข่งชิงแชมป์เอเชีย"

เปารู้สึกสะดุดใจไม่น้อย เขาอยู่กับพ่อเกือบทุกวันแท้ๆ แต่กลับไม่เคยรู้เลยว่าในแต่ละวันพ่อไปทำอะไรหรือมีปัญหาอะไร รู้แค่ว่าไปทำงานเท่านั้น และเปาไม่ต้องการรู้มากกว่านี้

"พี่เปาเล่นเปียโนนานหรือยังครับ" ไท้ถามเปลี่ยนเรื่อง

"ตั้งแต่ปอหนึ่ง" เปาตอบสั้นๆ และสาวเท้าเดินไปอย่างสบายๆ

"คืนนี้พี่เปาเล่นให้ผมฟังได้ไหมครับ วันนั้นพี่เล่นเพราะมากเลย ผมยืนฟังตั้งนาน"

เปาหันมาพยักหน้าตกลงโดยไม่คิดให้เสียเวลา เขาชอบเล่นเปียโนและมักจะหาโอกาสเล่นให้คนอื่นๆ ฟังเสมอ พอไท้ขอจึงไม่ขัด

"พี่เปาเป็นคนใจดีมากเลยนะครับ" ไท้ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ "พาผมไปสมัครเรียน ให้เสื้อผ้าดีๆ ผมมาสองชุด พามากินสุกี้อร่อยๆ คืนนี้ก็จะเล่นเปียโนให้ฟัง พรุ่งนี้ก็จะสอนเวทเทรนนิ่งให้ด้วย"

เปาหยุดเดินเพราะสะดุดคิด ที่จริงไท้ก็เพิ่งโดนแกล้งไปหยกๆ แต่อีกฝ่ายกลับไม่เคยพูดถึงเลย ราวกับจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองเพิ่งถูกทิ้งให้รอตั้งเจ็ดชั่วโมง

"พี่ไม่ใช่คนดีขนาดนั้นหรอก อย่ามาคาดหวังอะไรจากพี่เลย" เปาบอกเสียงห้วน สีหน้าชักตึงๆ จากนั้นก็จ้ำอ้าวเดินหนีไปคล้ายกับอารมณ์ไม่ดี เขามักมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้เสมอ

ไท้รีบสาวเท้าตามไปโดยเร็ว เปาไปถึงรถก่อน เขาเข้าไปนั่งข้างในทันที ไท้เปิดประตูเข้าไปนั่งตามแทบไม่ทัน ขณะที่เปากำลังสตาร์ทรถไท้ก็พูดย้ำ

"ผมพูดจริงๆ นะครับพี่ ผมรู้สึกว่าพี่เปาเป็นคนจิตใจดีคนหนึ่งที่ผมเคยเจอมาเลย ถ้าพี่เปาไม่รังเกียจคนจนๆ อย่างผม ผมขอเป็น…น้องชายของพี่ได้หรือเปล่าครับ"

รถสตาร์ทติดแล้ว แต่เปายังไม่ขับออกไปเพราะหันมามองไท้นิ่ง แม้อีกฝ่ายยิ้มให้แต่เปาก็ไม่ยิ้มด้วย ไปๆ มาๆ ก็เป็นฝ่ายทำหน้าไม่ถูกเสียเอง ซ้ำอีกฝ่ายยังไม่ยอมเลิกยิ้มง่ายๆ ท้ายที่สุดเปาก็หันหน้ากลับมาตามเดิม สองมือจับพวงมาลัยไว้ ก่อนขับรถออกไปเขาก็บอก

"ตามใจละกัน" เปาบอกแล้วก็ขับรถออกไป เมื่ออีกคนกล้าขอ เขาก็กล้าให้

ไท้ยิ้มกว้าง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาดีใจมากแค่ไหน แม้กระทั่งคนที่พยายามเก็บสีหน้ายังอดยิ้มไปด้วยไม่ได้

"ขอบคุณครับพี่เปา"


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

เมื่อมาถึงบ้าน เปากับไท้ก็ช่วยกันให้อาหารหมาก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ปล่อยให้พวกมันเข้ามาเล่นในบ้านชั่วคราว พวกมันสนุกกันมากที่ได้เข้ามาเล่นในที่ที่คุ้นเคย แต่เล่นได้ไม่นานเท่าไหร่เปาก็พากลับไปหลังบ้านตามเดิม ไท้เห็นพวกมันทำตาละห้อยก็ขำใหญ่ เขาเดินตามไปดูด้วย ท่าทางพวกมันคงอยากอยู่ในบ้านเพราะหมาพันธุ์นี้ชอบอยู่กับคน

ขากลับเข้ามา ไท้ก็เอ่ยถาม "ทำไมพี่ไม่ให้มันนอนในบ้านล่ะครับ"

"เมื่อก่อนก็ให้นอนนั่นแหละ” เปาหัวเราะ ดูเหมือนอารมณ์ดีขึ้นเมื่อได้เล่นกับหมา “ก่อนไท้มา มันพากันแทะโต๊ะ เก้าอี้ แล้วก็ทำข้าวของกระจุยกระจายเสียหายหมด พี่ก็เลยไปซื้อบ้านหมามาให้อยู่แทน ก็ดีเหมือนกัน เวลาแฟนพี่มาจะได้ไม่มีปัญหา แฟนพี่เขากลัวหมาน่ะ"

เพียงรับรู้ว่าอีกฝ่ายมีเจ้าของ ไท้ก็เสียวแปลบนิดๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก "พี่เปามีแฟนแล้วเหรอครับ"

เปาหยุดเดินและหันมาพยักหน้า "อืม" เขาตอบสั้นๆ แล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน

ไม่นานสองหนุ่มก็มาหยุดที่มุมเปียโนซึ่งเป็นมุมโปรดของเปา ไท้ขอลองเล่นก่อนเพราะเขาไม่เคยสัมผัสเปียโนของจริงเลย

"เคยเล่นเหรอ" เปาถามขณะที่อีกฝ่ายนั่งลงบนเก้าอี้เตี้ยๆ ไร้พนัก เอาไว้สำหรับนั่งเล่นเปียโน ตัวมันยาวๆ พอนั่งได้สองคน

ไท้หันมาส่ายหน้าเร็วๆ "ไม่เคยครับ อยากลองจับดูเฉยๆ"

ว่าแล้วไท้ก็ลองกดเล่น แต่ฟังไม่เป็นเพลง เปาจึงหัวเราะด้วยความเอ็นดู จากนั้นเขาก็นั่งเบียดลงข้างๆ ไท้ทำท่าจะลุกออกไปแต่เปาก็ร้องห้ามไว้

"จะไปไหน เดี๋ยวพี่จะเล่นให้ฟัง"

ไท้นั่งลงตามเดิม เมื่อร่างกายเบียดแนบชิดกับอีกฝ่ายก็รู้สึกประหม่า ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้ไท้รู้สึกแปลกๆ อย่างนี้ได้เลย

"เดี๋ยวพี่เล่นเพลงหนึ่งให้ฟัง มันเป็นเพลงสากลเพลงแรกที่พี่หัดเล่น ชื่อเพลง ฟอร์ เดอะ เฟิร์สท์ ไทม์ ของเคนนี่ ล็อกกิ้นส์ ไท้เคยฟังไหม" เปาหันไปถามก่อนจะลงมือเล่น

"ไม่เคยครับ" ไท้ดูตกใจเล็กน้อยเพราะรู้สึกว่าใบหน้าของเปาอยู่ใกล้มากไปหน่อย

เปาจ้องมองแววตาวิบไหวคู่นั้นสักพักก็หันกลับมาตามเดิม อึดใจเดียวเขาก็พรมนิ้วมือลงไปบนลิ่มเปียโน เพลงฟอร์ เดอะ เฟิร์สท์ ไทม์จึงเริ่มบรรเลงขึ้น เพียงแค่อินโทรก็ทำเอาคนนั่งฟังถึงกับขนลุก เปาเล่นได้เพราะและมีเสน่ห์น่าฟังทีเดียว แค่ฟังจากทำนองก็พอเดาได้ว่าเป็นเพลงรักโรแมนติก น่าแปลกที่เปาเลือกเล่นเพลงนี้ให้ไท้ฟัง ไม่รู้ว่ามีความหลังกับเพลงนี้หรือเปล่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาถาม ไท้จึงนั่งฟังอย่างตั้งใจ

เปาก่อนคอร์ดส่งค้างไว้ จากนั้นก็ร้องขึ้นมาสดๆ เสียงของเขาฟังเพราะและมีพลังจนไท้รู้สึกทึ่ง แม้ฟังไม่ค่อยออกแต่ก็อินไปกับอารมณ์ของคนร้องได้

"Are those your eyes. Is that your smile. I've been looking at you forever. But I never saw you before. Are these your hands holdin' mine. Now I wonder how I could have been so blind." (สายตาเธอใช่ไหม รอยยิ้มเธอใช่ไหม ฉันเห็นมาตลอด แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนไม่เคยเห็นเลย มือเธอใช่ไหมที่จับมือฉันไว้ ทำไมฉันไม่เคยรับรู้เลย)

พอดถึงท่อนฮุก เปาก็เพิ่มอารมณ์อีกเล็กน้อย

"For the first time I am looking in your eyes. For the first time I'm seein' who you are. I can't believe how much I see when you're looking back at me. Now I understand what love is...love is... for the first time." (ครั้งแรกที่ฉันมองตาของเธอ ครั้งแรกที่ฉันเห็นว่าเธอคือใคร ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันรับรู้ได้มากแค่ไหนเมื่อเธอมองกลับมา ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่ารักคืออะไร…เป็นครั้งแรก)

พอท่อนฮุกจบลง เปาก็เล่นท่อนดนตรีสั้นๆ ก่อนนำไปสู่ท่อนร้องถัดไป

"Can this be real. Can this be true. Am I the person I was this morning. And are you the same you. It's all so strange. How can it be. All along this love was right in front of me." (จริงใช่ไหม ฉันคือคนเดิมกับเมื่อเช้านี้หรือเปล่า เธอล่ะคือคนเดิมไหม มันแปลกดีที่อยู่ดีๆ รักก็ปรากฎตรงหน้า)

ท่อนฮุกมาถึงอีกครั้ง คราวนี้เปาหันหน้ามาสบตาคนข้างๆ ไปด้วยขณะที่สองมือยังคงเล่น

"For the first time I am looking in your eyes. For the first time I'm seein' who you are. I can't believe how much I see when you're looking back at me. Now I understand what love is...love is... for the first time."

สายตาของเปาที่มองมาเล่นเอาไท้รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แก้มของไท้แดงจนร้อนผ่าวเมื่อเปาเขยิบใบหน้าเข้ามาใกล้ บางครั้งก็ถอยกลับไป คล้ายกับหยอกเล่น เขาดูอินกับเพลงนี้มาก เวลาเปาเล่นดนตรีและร้องเพลงแล้ว เขาจะเป็นคนละคนไปเลย

เปาหันกลับไปตามเดิม ก่อนร้องท่อนแยกซึ่งมีเนื้อหาสะท้อนความรู้สึกของเปาในตอนนี้อย่างลึกซึ้ง เขาจึงใส่อารมณ์เต็มที่

"Such a long time ago. I had given up on findin' this emotion...ever again. But you live with me now. Yes I've found you some how. And I've never been so sure." (นานเท่าไหร่แล้ว ฉันเคยล้มเลิกตามหาความรู้สึกนี้ แต่ตอนนี้เธออยู่กับฉัน อยู่ดีๆ ฉันก็เจอเธอ ไม่เคยแน่ใจขนาดนี้มาก่อนเลย)

กลับมาสู่ท่อนดนตรีอีกครั้ง เปาเล่นให้เบาและบางลง ก่อนค่อยเพิ่มความหนาและน้ำหนักเมื่อจะร้องท่อนฮุกสุดท้าย เปาหันมาสบตาไท้อีกครั้ง ใช้สายตาสะกดอีกฝ่ายให้หยุดมองนิ่งด้วยความหวั่นไหว

"For the first time I am looking in your eyes. For the first time I'm seein' who you are. I can't believe how much I see when you're looking back at me. Now I understand what love is...love is... for the first time."

หัวใจของไท้เต้นไม่รัว เลือดในกายสูบฉีดแล่นพล่านจนผิวขาวแดงปลั่ง เปาเขยิบใบหน้าเข้ามาใกล้ ไม่มีทีท่าว่าจะถอยห่างออกไปแม้แต่น้อย พอไท้เขยิบหนีเขาก็เขยิบตาม เบียดกายแนบชิดและส่งไออุ่นมาให้ ไม่รู้ว่าเปาอินกับเพลงหรืออะไรกันแน่ รู้แต่ว่าเขามองหน้าและสบตาไท้นิ่ง

เก้าอี้ตัวเล็กไม่มีที่ให้เขยิบหนีแล้ว ไท้จึงนั่งนิ่งและสบตาท้าทายกับอีกฝ่าย ริมฝีปากของเปาเขยิบเข้ามาใกล้จนเหลือเพียงลมหายใจกั้น แววตาคู่นั้นฉายแววบางอย่างที่ไท้ยังไม่เข้าใจ ทว่าก็ทรงพลังมากพอที่จะสะกดไท้ให้หยุดนิ่ง รอรับสัมผัสพิเศษที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

เปาร้องซ้ำท่อนสุดท้ายอีกรอบด้วยจังหวะช้าลงและน้ำเสียงที่ลากยาวขึ้น

"Now I understand what love is...love is... for the first time." (ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ารักคืออะไร…เป็นครั้งแรก)

สิ้นประโยคนั้น ริมฝีปากของเปาก็ประกบแนบสนิทกับริมฝีปากของไท้พอดี สองมือของเปายังคงบรรเลงเปียโนท่อนจบ เขาบดบี้และไล้เลียเล่นกับริมฝีปากของไท้เบาๆ ดูดดึงและชอนไชลิ้นเข้าหาเป็นบางจังหวะ ช่างเป็นจูบที่แสนโรแมนติกเหลือเกิน คนโดนจูบถึงกับตัวสั่นสะท้าน ทว่าก็ตื่นกลัวและประหม่าจนตัวแข็งทื่อ

เปากดคอร์ดจบเพลงค้างไว้จนเสียงจางหายสนิท พลันก็รีบปล่อยมือจากเปียโนและเปลี่ยนมาเป็นโอบกอดอีกฝ่ายไว้ เมื่อรับรู้ได้ว่าไท้ประหม่า เขาก็ถอนปากออกและบอกเบาๆ

"ทำตัวสบายๆ นะไท้"

ไท้ยังไม่ทันได้ตอบ เปาพลันประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง สองมือของเปาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของคนตัวขาว เสื้อกีฬาเนื้อผ้าเนียนลื่นมอบสัมผัสเสียวซ่านรัญจวนใจไม่น้อย ร่างที่เคยแข็งทื่อของไท้พลันค่อยๆ อ่อนระทวย มือที่ตกข้างตัวของไท้โอบกอดอีกฝ่าย เมื่อผ่อนคลายมากขึ้นเขาก็ลูบไล้ไปมาตามแผ่นหลัง

ไม่มีใครสนใจเปียโนอีกแล้ว เพลงรักเมื่อกี้เพิ่งจบลงไปอย่างซาบซึ้งสวยงาม แต่เพลงจูบของจริงยังคงบรรเลงต่อไป แม้ไม่ใช่จูบแรกของเปา แต่ก็เป็นจูบแรกที่เปารู้สึกอินมากที่สุด ร่างซึ่งสั่นสะท้านไหวเหมือนสาวน้อยโดนจูบครั้งแรกปลุกพลังความเป็นชายของเปาให้ตื่นขึ้น เวลาอยู่กับไท้แล้วเปารู้สึกเหมือนตัวเองคือฝ่ายปกป้อง ไม่รู้สึกถึงอำนาจเหนือหรือสิ่งคุกคามความมั่นคงในใจ เขาคงเก็บกดความรู้สึกแบบนี้ไว้มานานแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสปลดปล่อยมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์ก็วันนี้

แต่ช่างน่าเสียดาย จู่ๆ สายตาของเปาก็พลันเหลือบไปเห็นรูปของแม่ซึ่งตั้งไว้อยู่บนเปียโนโดยบังเอิญ สติที่หลุดลอยไปอย่างคนอารมณ์ศิลปินพลันกลับคืนสู่ภาวะปกติ ร่างหนุ่มน้อยผิวขาวที่ถูกกอดไว้ในอ้อมแขนพลันโดนผลักลงไปกองอยู่กับพื้น เจ้าตัวดูตกใจมากที่ถูกผลักออกโดยไม่ทันตั้งตัว เปาลุกขึ้นและวิ่งหนีขึ้นไปข้างบนราวกับกลัวอะไรบางอย่าง ปากก็พร่ำขอโทษผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

"แม่ครับ เปาขอโทษ เปาขอโทษครับแม่"

ไท้มองตามคนที่วิ่งหนีไปด้วยความรู้สึกสับสน นอกจากไม่เข้าใจเปาแล้ว เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วย ไท้โดนผู้ชายจูบไปแล้ว เป็นจูบแรกของไท้เสียด้วย ช่างน่าแปลกที่ไท้ไม่หนีหรือขัดขืน ไม่รู้สึกรังเกียจหรือต่อต้าน ปล่อยให้เปาจูบตามอำเภอใจราวกับสมยอม

รสจูบเมื่อกี้ช่างน่าหลงใหลและตราตรึงใจเหลือเกิน คิดแล้วไท้ก็เผลอเอามือลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ มันยังห้อแดงอยู่เล็กน้อย แม้คนจูบวิ่งหนีไปแล้ว แต่ไท้กลับรู้สึกว่ารสสัมผัสนั้นยังติดที่ริมฝีปาก ความรู้สึกบีบหน่วงและซ่านเสียวยังติดค้างในความรู้สึกไม่หาย เพียงจูบแรกก็ยังน่าประทับใจถึงเพียงนี้ เสียอย่างเดียว เจ้าของจูบดันหลบลี้หนีหน้า ไม่ยอมมาไขความจริงให้กระจ่างว่าจูบนี้มาจากความพลั้งเผลอ หรือเป็นเพราะเหตุผลใดกันแน่

ใครกันจะให้คำตอบกับไท้ได้ ตอนนี้ไท้มีเพียงคำตอบเดียวในใจเท่านั้น ไม่ใช่คำตอบของเปา แต่เป็นคำตอบของไท้เอง!


https://www.youtube.com/v/v_I-z_AJ_4Q


TBC
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP04 เผลอจูบ ◯ 30.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-01-2017 21:27:48
 :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP04 เผลอจูบ ◯ 30.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 30-01-2017 22:24:37
เพราะหัวใจมันร่ำร้อง
จะเรียกหาแต่เธอ

อีกหน่อยก็คงจะรักกัน

เชียร์เปา+ไท้
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP04 เผลอจูบ ◯ 30.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 30-01-2017 23:16:09
  เอาล่ะสิ เขาจูบกันแล้ว เปาจะทำไงต่อ
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP05 รุ่นพี่ ◯ 31.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 31-01-2017 20:53:42
EP 05 | รุ่นพี่

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


เช้าวันต่อมา ไท้ตื่นและลงมารอเปาตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงเช้า เขาตื่นเต้นมากที่จะได้เรียนเรื่องเวทเทรนนิ่งอย่างถูกวิธี ไม่นานเปาก็ลงมา เขาใส่แค่กางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ไม่ใส่เสื้อ อวดกล้ามเนื้อและซิคแพ็คสวยจนน่าอิจฉา ส่วนไท้ยังใส่ชุดกีฬาที่เปาให้มาเมื่อวาน

สีหน้าของเปาดูเรียบเฉย ไม่ยิ้ม ไม่บึ้งตึง แต่สีหน้าแบบนี้เดาอารมณ์ยาก ลงมาถึงเปาก็พาไท้เดินไปอีกห้อง ที่บ้านของเปามีเครื่องออกกำลังกายจำพวกลู่วิ่งไฟฟ้า ดัมเบล บาร์เบล และม้านอนยกน้ำหนักอยู่แล้ว จึงไม่ต้องออกไปข้างนอก

ก่อนเริ่มเล่น เปาก็แนะนำอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ ให้ไท้รู้จักและประโยชน์ของมัน รวมทั้งสามข้อสำคัญที่คนอยากสร้างกล้ามเนื้อต้องปฏิบัติให้ได้

"ถ้าอยากสร้างกล้ามเนื้อให้ขึ้นไวนะ ข้อแรก ต้องยกน้ำหนักเป็นประจำ เริ่มจากที่เรายกไหวก่อน ยังไม่ต้องหนักมาก เซ็ตหนึ่งประมาณแปดถึงสิบสองครั้ง ครั้งสุดท้ายที่จะยก จะต้องรู้สึกว่าถ้ายกอีกครั้ง...ไม่ไหวแน่ๆ ข้อสอง ต้องกินเยอะๆ โดยเฉพาะโปรตีน แต่ต้องเลี่ยงพวกเนื้อติดมัน เพราะว่าเราจะเอาแต่โปรตีนมาช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ส่วนข้อสุดท้าย ต้องนอนให้พอ ถ้าเป็นไปได้ก็ให้นอนสักแปดชั่วโมงต่อวัน หรืออย่างไม่ได้ก็สักหกชั่วโมง"

ไท้เผลอมองปากของเปาไปด้วยขณะที่เจ้าตัวพูด อดคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอีกไม่ได้ แต่ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากพูดถึง ไม่รู้ว่าอีกคนรู้สึกผิดหรือเปล่าที่เผลอทำอย่างนั้น

"การออกกำลังกายมันจะมีสองแบบ" เปายังคงอธิบายต่อ แม้รู้สึกว่าไท้คอยจ้องมองนิ่ง "แบบแรกเรียกว่าคอมพาวด์มูฟเมนท์ การออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อหลายๆ ส่วนพร้อมกัน อย่างเช่น ยกน้ำหนักและย่อตัวลง มันก็จะได้กล้ามเนื้อไหล่ แขน หน้าท้อง อก แล้วก็ขาไปพร้อมๆ กัน ส่วนอีกแบบเขาเรียกไอโซเลชั่นมูฟเมนท์ ก็คือกระตุ้นกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน เช่น ยกดัมเบลล์ขึ้นลงด้วยแขนข้างเดียว ก็จะได้แค่กล้ามเนื้อแขนข้างนั้น"

ไท้พยักหน้ารับรู้ จากนั้นเปาก็อธิบายต่อ

"ถ้าอยากสร้างกล้ามเนื้อไวๆ เราต้องออกกำลังกายแบบคอมพาวด์มูฟเมนท์ เพราะว่ามันจะโดนกล้ามเนื้อหลายๆ ส่วนพร้อมกัน ใช้เวลาน้อย สี่สิบนาทีต่อวันก็ได้ ใช้วันออกกำลังกายไม่เยอะ อาทิตย์ละสามสี่วันก็โอเค จะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น เอาล่ะ ช่วงเริ่มต้น พี่มีสามท่าให้ไท้เอามาฝึกก่อน มีท่าสควอท เดดลิฟท์แล้วก็เบนช์เพรส"

เปาอธิบายแล้วก็เดินไปหยิบบาร์เบลซึ่งเป็นแท่งเหล็กยาวๆ มา

"โอเค มาดูท่าสควอทก่อนเลย ปกติพี่จะให้ใช้บาร์เบลยกน้ำหนัก แต่ถ้าไม่มีไม่มีก็ใช้ดัมเบลแทนได้ ทำแบบนี้นะ ยกบาร์เบลมาวางตามแนวไหล่ด้านหลัง เหมือนเรากำลังแบกของไว้ข้างหลัง ยืนตัวตรง มองตรง หลังตรง เวลาย่อตัวลง หลังก็ต้องตรงตลอดเวลา เดี๋ยวพี่ทำให้ดูก่อนนะ"

เปาสาธิตตามที่อธิบายเมื่อกี้ ขณะย่อตัวขึ้นลงก็บรรยายไปด้วย "ไท้สังเกตดีๆ นะว่าหลังพี่จะตรง มองตรง ไม่โน้มตัวไปข้างหน้า เวลาย่อตัวลงหายใจเข้า ยืนขึ้นหายใจออก คนที่ยังไม่เคยทำมาก่อน ทำสักสี่ถึงหกรอบก่อนก็ได้ แต่ถ้าไหวก็แปดถึงสิบสอง เท่าที่ดูพี่ว่าไท้น่าจะทำสักแปดรอบได้นะ พอครบหนึ่งเซ็ตแล้ว ก็พักหนึ่งนาทีครึ่งถึงสามนาที แล้วก็ทำเซ็ตต่อไป ประมาณสิบถึงสิบห้านาทีก็พอ"

สาธิตเสร็จเปาก็ให้ไท้ทำบ้าง เขาคอยยืนประกบข้างหลัง ก่อนเริ่มก็สอนให้ไท้จับบาร์เบลให้ถูกวิธีเสียก่อน เมื่อพร้อมแล้วเปาก็กดไหล่ของไท้เบาๆ เป็นเชิงบอกให้ย่อตัวลง เตือนให้หายใจเข้า พอยืนขึ้นก็ให้หายใจออก เปาย่อตัวขึ้นลงเพื่อให้จังหวะไท้ไปด้วย เมื่อไท้ทำเป็นก็สอนท่าถัดไปพร้อมกับสาธิตให้ดูเช่นเคย

"ต่อไปท่าเดดลิฟท์ กางขาให้กว้างเท่าหัวไหล่ แบะขาออกหน่อย จับบาร์เบลสองมือแล้วหย่อนลงจนสุดแขน จากนั้นก็ย่อตัวลง อย่างอแขนนะ ย่อตัวลงตรงๆ แอ่นก้นไปข้างหลัง ให้น้ำหนักลงที่ก้น ตอนยืนให้มองไปข้างหน้าตรงๆ ตอนย่อตัวให้มองพื้นข้างหน้าได้"

สอนเสร็จเปาก็ให้ไท้ลองทำ ส่วนตัวเองก็คอยยืนประกบ เมื่อไท้ทำได้แล้วเขาก็สอนท่าสุดท้าย

"ท่าที่สาม เบนช์เพรส นั่งลงบนม้านอนยกน้ำหนักแล้วก็นอนลงไป ฝ่าเท้าแนบสนิทกับพื้นแบบนี้ อย่ายกหรือเขย่งนะ กางขาออก พยายามให้แผ่นหลังกับก้นแนบกับพื้นกระดาน ลูกตาต้องอยู่ใต้บาร์พอดี เวลาจะจับบาร์ให้กางแขนเหมือนเราจะวิดพื้น แล้วก็จับบาร์ยกขึ้นให้สุดแขน จากนั้นก็ยกลง ให้ข้อศอกทำมุมสี่สิบห้าถึงห้าสิบองศา แล้วก็ยกขึ้น การหายใจก็เหมือนเดิม ยกลงหายใจเข้า ยกขึ้นหายใจออก"

"ครับ" ไท้รับคำ

เปาลุกขึ้นจากม้านอนยกน้ำหนัก ไท้จึงลงไปนั่งและนอนลงไปตามที่เปาสอนเมื่อกี้ เปาช่วยดูว่าฝ่าเท้าของไท้แนบสนิทกับพื้นดีหรือเปล่า ช่วยจัดขาให้แบะออก จากนั้นก็สอดฝ่ามือเข้าใต้บริเวณเหนือก้นกบของไท้เล็กน้อย เมื่อสัมผัสกัน สองหนุ่มก็เผลอสบตากันชั่วครู่ พักหนึ่งเปาก็ยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่าง

"อย่าให้ตรงนี้มีช่องว่างนะ ไท้ต้องนอนแนบกับพื้นไปเลย" เปาเตือน ก่อนช่วยกดหน้าท้อง จัดท่าให้ไท้นอนใหม่จนหลังแนบชิดกับพื้นกระดานม้านอน

เมื่อไท้ทำเป็นแล้ว เปาก็ให้ไท้ทำสามท่าใหม่หมด ทำทีละท่า ท่าละหลายๆ เซ็ต จนครบสิบนาทีก็เปลี่ยนท่า ระหว่างนั้นเมสซี่กับเนยมาร์แอบวิ่งเข้ามาในห้องออกกำลังกายด้วย พวกมันส่งเสียงและพยายามจะเข้ามาคลอเคลีย แต่คงรู้ว่าเจ้านายไม่ว่างเล่นด้วย พวกมันจึงเดินวนเวียนไปมาคล้ายกับคอยให้กำลังใจ เรียกรอยยิ้มจากเปาและไท้ได้เป็นอย่างดี

บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายและเป็นกันเองมากขึ้น เสียงหัวเราะและพูดคุยดังเป็นระยะๆ มีใครบางคนมาแอบยืนสังเกต รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฎบนใบหน้า สักพักก็เดินกลับมานั่งจิบกาแฟยามเช้า อ่านข่าวจากไอแพดไปด้วย

ครบสี่สิบนาทีเปาก็ให้ไท้หยุด ต่างคนต่างเหงื่อออกจนเปียกโชก จึงหยุดพักดื่มน้ำ เปาแนะนำว่าให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง ถ้าเป็นไปได้ให้เลี่ยงน้ำเย็นๆ เพราะอุณหภูมิของร่างกายควรลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ ระหว่างนั่งพักก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย เล่นกับหมาไปด้วย

หายเหนื่อยเปาก็พาไท้เข้าครัว วันนี้เขาจะสอนทำอาหารคลีนซึ่งได้โปรตีนสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ

"อาหารเช้าวันนี้นะ จะเป็นอาหารคลีน อาหารคลีนก็คืออาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการหรือผ่านน้อยที่สุด โดยเฉพาะความร้อน เน้นกินสดๆ เป็นหลัก" เปาอธิบายพลางยกเครื่องปรุงและของที่จะใช้ออกมาจากตู้เย็นไปด้วย

"ไท้ปิ้งขนมปังโฮลเกรนให้พี่สักสี่แผ่นนะ เดี๋ยวพี่จะต้มไข่แบบออนเซนสองฟอง"

"ทำเผื่อโค้ชด้วยดีไหมครับ" ไท้ถาม แม้ไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองควรเสนอย่างนั้นหรือเปล่า

เปาชะงักไปเล็กน้อย แต่พักหนึ่งก็พยักหน้าตกลง เขาสอนไท้ปิ้งขนมปัง ระหว่างนั้นก็ตั้งหม้อน้ำร้อนให้เดือดและยกลง ใส่แป้งมันลงไปเพื่อลดความร้อน ก่อนนำไข่ไก่สามฟองลงไปแช่ในน้ำร้อนและทิ้งไว้

"ไท้หั่นเนื้อปลาแซลมอนสดเป็นชิ้นเท่าลูกเต๋านะ เดี๋ยวพี่จะผัดมะเขือเทศด้วยน้ำมันมะกอก ใส่พริกไทยดำหน่อย มันจะเผ็ดนิดๆ อร่อยดี"

เปาบอกเสร็จแล้วก็แยกหน้าที่กันทำ ระหว่างนั้นเมสซี่กับเนยมาร์ก็วิ่งเข้าวิ่งออกห้องครัว ดูเหมือนพวกมันอยากกินด้วย

"ต่อไปก็ปอกอะโวคาโด ผ่ากลางวนรอบแบบนี้ ข้างในมันมีเม็ดขนาดใหญ่อยู่ ผ่าออกเลยไม่ได้ เสร็จแล้วก็บิออก จับตรงมุมเปลือกของมัน แล้วก็ลอกเปลือกออกได้เลย แบบนี้ แล้วก็เอามาหั่นบางๆ" เปาบอกและสาธิตให้ดูหนึ่งครั้ง จากนั้นก็ปล่อยให้ไท้ทำเอง

"ต่อไปเราก็เอาแซลมอนคลุกวาซาบิ ใส่โชยุหน่อย อันนี้เรียกว่าโชยุนะ มันเป็นซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น แล้วก็เอามาวางบนขนมปังปิ้ง เอาอะโวคาโดมาวาง ใส่เกลือ พริกไทย บีบเลม่อนใส่ด้วย โรยไข่แซลมอน เอาไข่ออนเซ็นมาวาง โรยผักชีลาว เอาผัดมะเขือเทศเมื่อกี้มาโรย แล้วก็ผักสลัด พี่ชอบใบผักโขมอ่อนกับไบร็อคเก็ตป่า มันเข้ากันดีมากๆ แค่นี้ก็เสร็จแล้ว"

เปาจัดของตัวเองให้ดูเป็นตัวอย่าง จากนั้นก็ให้ไท้ทำของตัวเองและเผื่อโค้ชเด้ง ไม่กี่นาทีก็ได้อาหารคลีนซึ่งให้โปรตีนและไขมันโอเมก้าสามจากปลาแซลม่อน

ไท้ยกหนึ่งจานไปให้โค้ชเด้ง เขามีท่าทางแปลกใจมากทีเดียว เพราะที่ผ่านมาเปาไม่เคยสนใจเลยว่าพ่อจะกินอยู่อย่างไร ต่างคนต่างกิน ต่างคนต่างไปทำงาน ต่างคนต่างนอน

"ขอบใจมากไท้ น่ากินมากเลย" โค้ชเด้งบอกเมื่อไท้วางจานอาหารลงให้บนโต๊ะ เมื่อนึกได้ก็เอ่ยชวน "อีกหนึ่งชั่วโมงโค้ชจะออกแล้วนะ วันนี้โค้ชจะพาไท้ไปดูพี่ๆ ทีมชาติซ้อมที่ กกท. อยากไปไหม ไท้จะได้ไม่เบื่อไง"

"ครับโค้ช ผมอยากเจอพี่ๆ ทีมชาติมากเลยครับ" ไท้หันมาบอกอย่างตื่นเต้น ก่อนเดินกลับเข้าไปในครัวและนั่งกินอาหารที่ช่วยกันทำกับเปา

พอตักเข้าปาก ไท้ก็ออกปากชมและดูตื่นเต้น "โห...อร่อยมากเลยครับพี่เปา"

"ไม่ใช่แค่อร่อยนะ มีประโยชน์ด้วย ต่อไปถ้ามีตังค์ก็ค่อยทำกินเอง ตอนนี้ก็กินกับพี่ไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะสอนอาหารคลีนทำจากอกไก่นุ่มให้" เปายิ้มเอ็นดู เวลาผ่อนคลายแล้วเขาเป็นคนมีเสน่ห์ ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้และอยากคุยด้วย

"ขอบคุณมากครับพี่ พี่เปาใจดีจังเลย" หนุ่มหน้าขาวใสยิ้มตาหยีให้อีกฝ่าย ส่วนเปาพอถูกชมก็ทำหน้าไม่ถูก ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าดูเขินเล็กน้อย สักพักเขาก็ก้มหน้าและตักอาหารในจานกิน

"พี่กินแบบนี้ทุกวันเลยเหรอครับ" ไท้สงสัย

"ก็เกือบทุกวันน่ะ ยกเว้นเมื่อวาน พี่เห็นไท้ผัดผักกับเจียวไข่ไว้ ก็เลยกินอันนั้นแทน"

"อ๋อ" ไท้ขำตัวเองเบาๆ "ก็ผมทำอาหารแบบนี้ไม่เป็น ทำเป็นแต่อาหารบ้านๆ"

"แต่รสชาติก็โอเคนะ" เปายิ้มเม้มปาก "แล้ววันนี้จะไปไหน ไปร้านกับพี่ไหม ไท้จะได้ไปดูด้วยไงว่าพี่สอนลูกค้าดูแลสุขภาพยังไง จะได้เอามาใช้ไง ไม่ต้องเสียเงินด้วย เรียนฟรีเลย"

"วันนี้ไท้ว่าจะไปกับโค้ชครับ โค้ชจะพาไปดูพี่ๆ ทีมชาติซ้อมที่ กกท." ไท้ทำหน้าเกรงใจ

"อ๋อ" เปาพูดสั้นๆ ก่อนก้มหน้าก้มตากินข้าวเช้า สีหน้าจากยิ้มเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย ช่างดูเป็นคนเข้าใจยากดีแท้

กินข้าวเช้าเสร็จ ไท้ช่วยให้อาหารหมา จากนั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ไม่นานก็ออกไปกับโค้ชเด้ง ระหว่างที่สองคนเดินไปขึ้นรถ เปามาแอบยืนดูตรงประตูหน้าบ้าน โค้ชเด้งยิ้มกว้างให้ไท้ เปิดประตูให้หนุ่มรุ่นลูกเข้าไปนั่งเบาะหน้า ดูสนิทสนมกันดีจนเปารู้สึกไม่สบายใจ พ่อของเปายังดูหนุ่มและหล่อเพราะดูแลตัวเองดี ที่ผ่านมาก็เคยมีเด็กหนุ่มๆ ที่อยากมีรายได้พิเศษมาชอบบ่อยๆ ไม่รู้ว่าไท้จะกลายเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่า แต่ถ้าจะเป็น เปาจะทำอะไรได้

คนพวกนี้ชอบทำตัวแบบนี้กันทั้งนั้น!


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

เมื่อรถแล่นเข้ามาในพื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทยหรือ กกท. ไท้ก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เขาคอยถามโค้ชเด้งว่าอาคารแต่ละอาคารที่เห็นมีไว้ทำอะไรบ้าง อีกไม่กี่วันไท้ก็จะมาเก็บตัวซ้อมที่นี่ โครงการเตรียมช้างเผือกสู่ทีมชาติเพิ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก เนื่องมาจากว่ากระแสความนิยมกีฬาวอลเลย์บอลดีขึ้นมาก ส่วนหนึ่งก็ได้อานิสงฆ์จากพี่ๆ ทีมวอลเลย์บอลหญิงที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ทางฝั่งวอลเลย์บอลชายจึงต้องขยับตัวและสร้างผลงานในระดับโลกให้ดีขึ้น การเตรียมคนรุ่นใหม่เพื่อก้าวเข้าสู่ทีมชาติจึงเกิดขึ้นด้วยเหตุผลนี้

วันนี้เป็นวันแรกที่นักกีฬาทีมชาติมารายงานตัว หลังจากนั้นก็จะเก็บตัวเกือบหนึ่งเดือน เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในรายการชิงแชมป์เอเชีย ครั้งนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ มีประเทศเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมดแปดประเทศ

เมื่อมาถึงโค้ชเด้งก็เข้าไปพูดคุยกับทีมงานของสมาคม ทั้งสองคนมาถึงสนามซ้อมก่อนแล้ว พร้อมกันนั้นก็แนะนำไท้ให้รู้จักด้วย

ไม่นานนักกีฬาก็ทยอยเดินทางมาถึง ทุกคนอยู่ในชุดกีฬาทีมชาติสีน้ำเงินแขนกุด กางเกงกีฬาสีดำ พร้อมสำหรับลงซ้อมทันที แต่เนื่องจากมากันยังไม่ครบ นักกีฬาจึงยืนคุยบ้าง นั่งคุยกันบ้าง บางคนก็มาคุยกับโค้ช

เมื่อนักกีฬามาถึง โค้ชก็ให้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกันก่อน มีนักข่าวสายกีฬาจากหลายๆ สถานีมาทำข่าวด้วย นักกีฬาแถวหลังยืน แถวหน้านั่งยอง ทีมสตาฟโค้ชยืนตรงกลางแถวหลัง นักกีฬาแต่ละคนตัวสูงๆ กันทั้งนั้น โค้ชที่ว่าสูงยังดูเตี้ยไปถนัดใจ

ก่อนเริ่มแข่ง โค้ชเด้งคุยกับนักกีฬาเล็กน้อย "งานนี้ ผมอยากให้เราทุกคนตั้งเป้าหมายให้ดีกว่าคราวที่แล้ว อย่างน้อยๆ ให้ได้สักที่สาม โค้ชก็รู้ว่างานหนักเอาเรื่อง แต่ผมก็เชื่อว่าทุกคนทำได้ ตอนนี้...ต้องยอมรับตรงๆ ว่าวอลเลย์บอลหญิงเขาไปไกลแล้ว อาจจะโชคดีตรงที่เขามีคู่แข่งในเอเชียน้อยกว่า แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าเขาวางแผนการพัฒนาทีมอย่างเป็นระบบ เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากก้าวข้ามให้พ้นระดับอาเซียน เราก็ต้องวางแผนระยะยาว คิดว่าทุกคนคงจะรู้มาบ้างแล้วว่าทางสมาคมมีโครงการปั้นเด็กใหม่ป้อนทีมชาติในอนาคต วันนี้โค้ชพาน้องใหม่มาให้รู้จักด้วย อยู่ในโครงการนี้เหมือนกัน ไท้มาแนะนำตัวกับพี่ๆ เร็ว"

โค้ชเด้งกวักมือเรียกไท้ซึ่งยืนสงบเสงี่ยมไม่ไกลออกไป เจ้าตัวรีบวิ่งมารายงานตัวอย่างว่องไว มาถึงก็ยกมือไหว้พี่ๆ ซึ่งยืนเรียงหน้ากระดานกัน

"สวัสดีครับ ชื่อเทิดไท้ สินภูษา มาจากจังหวัดพิษณุโลก ผมเล่นตำแหน่งหัวเสา เอ่อ...ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ"

บรรดาพี่ๆ ต่างรับไหว้และมองไท้อย่างเอ็นดู มีหลายคนที่ไท้จำได้เพราะเคยเห็นในทีวีบ่อยๆ แต่อยู่ดีๆ ไท้ก็มาสะดุดตาผู้ชายคนหนึ่ง ตัวไม่สูงมาก รูปหน้าแหลมคม ตาใสเป็นประกาย ดูเป็นคนขี้เล่นและอารมณ์ดี แถมยังมีผิวพรรณดีผิดจากคนอื่นๆ น่าแปลกที่ไท้ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าเป็นตัวสำรองที่ไม่ค่อยได้ลงหรือว่าเพิ่งมาใหม่กันแน่ ชายหนุ่มผู้นั้นยักคิ้วหลิ่วตาให้ไท้ด้วย

เมื่อสมควรแก่เวลาแล้ว โค้ชเด้งจึงบอก "อีกสองอาทิตย์น้องๆ ก็จะมาเก็บตัวที่นี่เหมือนกัน คงจะได้ซ้อมด้วยกันบ้าง ยังไงโค้ชก็ฝากน้องๆ ด้วยละกัน โอเค ซ้อมกันเลยดีกว่า วันนี้จะให้ไท้ช่วยโยนลูกบอลให้"

พี่ๆ นักกีฬาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี คาดว่าเรื่องบาดหมางในทีมน่าจะสะสางเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จากนั้นก็ลงสนามวอร์มร่างกาย แต่ละคนนั่งลงบนพื้นสนามและเหยียดแขนขาในท่าต่างๆ มีเสียงคุยกันบ้าง จากนั้นก็โยนลูกบอลและฝึกตบ บางคนก็โยนให้เพื่อนตบ บางคนก็โยนแล้วตบเอง

ต่อมา โค้ชเด้งให้ไท้มายืนประจำตรงตะกร้าลูกวอลเลย์บอล บอกให้ไท้โยนบอลเข้าไปในสนามให้ตัวเซ็ตซึ่งยืนประจำที่อยู่ ตัวเซ็ตจะเซ็ตลูกวอลเลย์บอลขึ้นให้เพื่อนในทีมฝึกตบ ผู้เล่นตำแหน่งหัวเสาจะผลัดกันขึ้นตบ ไท้โยนลูกบอลเข้าไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องสนใจตำแหน่ง ตัวเซ็ตมีหน้าที่วิ่งไปเซ็ตให้เข้าจุดตบตรงหัวเสาเท่านั้น

เมื่อซ้อมจนพอใจ โค้ชก็แบ่งนักกีฬาออกเป็นสองทีม ทั้งสองทีมนี้จะแข่งกันเอง ฝึกเล่นเสมือนจริง แต่ไม่มีการนับคะแนนหรือตัดสินฟาล์ว ถึงช่วงนี้ไท้ก็นั่งดูข้างๆ สนาม ไม่ต้องโยนลูกบอลเข้าไป โค้ชเด้งมานั่งข้างๆ และคอยอธิบายไปด้วย ไท้เองก็คอยถามเป็นระยะๆ

"ผมไม่คุ้นพี่ที่เป็นเซ็ตเตอร์เลยครับโค้ช พี่เขาเพิ่งมาใหม่เหรอครับ"

"จีนน่ะเหรอ" โค้ชเด้งหรี่ตามองไปยังคนที่ไท้พูดถึง "ก็ไม่ใหม่ในวงการหรอก เป็นตัวเซ็ตระดับสโมสรน่ะ ฝีมือดี โค้ชก็เลยชวนมาเล่นทีมชาติ พอดีว่าตัวเซ็ตสองคน...เบสกับตินบาดเจ็บทั้งสองคนเลย ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเล่นทีมชาติอีกหรือเปล่าเพราะว่าเจ็บเรื้อรัง น่าจะต้องพักยาวอย่างน้อยครึ่งปีเลย นี่โค้ชยังต้องหามือเซ็ตใหม่อีกคนมาสำรองไว้ด้วย แต่น่าจะได้จากสโมสรชลบุรีเร็วๆ นี้ ทางสมาคมโอเคแล้ว"

ไท้พยักหน้ารับรู้ จากนั้นก็เสริม "ผมว่าพี่เขาเซ็ตดีนะครับ บอลเร็วก็เซ็ตได้ดี บอลหัวเสาก็โอเค"

"ใช้ได้เลย เบสเนี่ยเขาเซ็ตบอลหัวเสาได้ดี แต่บอลเร็วไม่ค่อยเท่าไหร่ ส่วนตินก็ตรงข้าม บอลเร็วดี แต่บอลหัวเสายังขาดๆ เกินๆ อยู่ เวลาแข่งจริงก็เลยไม่ค่อยมีใครได้ยืนพื้นนานๆ ต้องสลับกันบ่อยๆ ไปๆ มาๆ ก็เลยเจ็บทั้งสองคนเลย" โค้ชเด้งบอก

จังหวะนั้น จีนหันหน้ามาทางไท้พอดี เขายิ้มให้ด้วย ไท้จึงยิ้มตอบ

จบการซ้อม โค้ชก็ให้นักกีฬาพักกินข้าวกลางวันที่โรงอาหาร ช่วงกลางวันที่นี่จะมีโรงอาหารให้กินข้าว แต่พอตกเย็น นักกีฬาส่วนมากจะออกไปเดินตลาดนัด กกท. เปิดให้คนเช่าพื้นที่ด้านหน้าขายของและอาหาร ในด้านหนึ่งก็ดูครึกครื้น แต่อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงดังรบกวนนักกีฬาและทำให้พื้นที่สกปรก นักกีฬาบ่นกันแทบทุกคน เพราะร้านค้าและคนที่มาเต้นแอโรบิคเปิดเพลงเสียงดัง

ไท้ยังไม่สนิทกับพี่ๆ จึงว่าจะมานั่งกินข้าวกับทีมสตาฟโค้ช ระหว่างที่เดินไปซื้ออาหาร ไท้ก็เจอกับรุ่นพี่ตัวเซ็ตคนนั้น เขากำลังซื้ออาหารกับเพื่อนๆ ในทีมอีกสองคนพอดี

"ว่าไงไท้ มาที่นี่วันแรกเหรอ" จีนร้องทักและยิ้มให้ เขาต้องเงยหน้าเล็กน้อยเพราะไท้สูงกว่า

"ครับพี่ พี่จีนเซ็ตเก่งมากๆ เลย" ไท้ชม

จีนหัวเราะร่วน ท่าทางดูเฉยๆ กับคำชม "ขอบคุณครับ ปากหวานนะเนี่ย อยากมาเล่นกับพี่ไหมล่ะ"

"อยากครับพี่ เดี๋ยวผมจะฝึกซ้อมให้เก่งๆ จะได้ไปเล่นกับพวกพี่ๆ"

"ได้อยู่แล้ว เชื่อมือโค้ชเด้งได้เลย แล้วนี่นั่งไหน นั่งกับโค้ชเหรอ มานั่งกับพวกพี่ๆ ไหม" จีนชวน สีหน้าดูยิ้มสนุกตลอดเวลา

"นั่นแน่ มึงจะทำอะไรวะไอ้จีน กูรู้นะเว้ย" มาวินซึ่งยืนฟังอยู่สักพักแซวและหัวเราะ เขาเป็นหัวเสาตัวฉกาจอีกคนที่มีผลงานโดดเด่นและรับใช้ทีมชาติมาหลายปี

"ไอ้นี่มึง เดี๋ยวน้องเขาก็เข้าใจกูผิดหมดหรอก" จีนหันไปว่าเพื่อนไม่จริงจังนัก

"อ๋อเหรอ" มาวินทำหน้าทะเล้นใส่

"เข้าใจถูกล่ะสิไม่ว่า" พอลแซวบ้าง เขาเล่นตำแหน่งบอลเร็วและไหลหลัง สูงถึงสองร้อยเซ็นติเมตร ชื่อพอลมาจากชื่อจริงว่าเจษฎาพร แต่เรียกไปเรียกมา เพื่อนๆ ในทีมก็เปลี่ยนมาเรียก "ไอ้หนังพอร์น" หรือไอ้หนังโป๊ เพราะเขามีหนังเด็ดๆ มาแจกเพื่อนร่วมทีมดูยามว่างเสมอ

"ไท้อย่าไปฟังพวกมัน ว่าไง ไปนั่งกับพวกพี่ไหม เดี๋ยวจะเล่าเรื่องในวงการให้ฟัง อยากรู้อะไรถามพวกพี่ได้เลย" จีนพูด

"ได้ครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน แต่ผมไปบอกโค้ชก่อนนะครับ" ไท้บอกอย่างตื่นเต้น

"ไท้คิดดีแล้วเหรอมานั่งกับไอ้จีน" พอลยิ้มแปลกๆ เหมือนมีเลศนัย

"ไอ้หนังพอร์น เดี๋ยวแฟนมึงมากูจะแฉมั่ง" จีนหันไปขู่เพื่อน

พอลรีบยกมือห้าม "เฮ้ยอย่าๆ เออๆ กูไม่แซวมึงแล้ว"

ไท้ขำพี่ๆ แม้ว่าจะไม่เข้าใจนัก แต่อยู่ไปสักพักก็คงจะรู้ใส้รู้พุงกัน

เมื่อได้อาหารแล้ว ไท้ก็มานั่งกับจีน พอลและมาวิน สามหนุ่มสามมุมนี้สนิทกันมากกว่าใครในทีม แต่ที่จริงก็สนิทกันหมดทุกคน

"ไท้มีเชื้อจีนเปล่า ทำไมขาวจัง" จีนถามขณะกินข้าว

"ครับ พ่อผมมีเชื้อจีน ส่วนแม่ผมก็เป็นคนเหนือ ย้ายจากลำพูนมาอยู่พิษณุโลก" ไท้บอก

"มิน่าล่ะถึงขาว ขาวจั๊วะ น่าเจี๊ยะ" มาวินแซว หันไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่จีนด้วย

"ไท้เรียนด้วยไหม" พอลถามยิ้มๆ

ไท้พยักหน้า "ครับ เพิ่งไปสมัคเรียนรามมาครับ"

"ถ้าขาดทุนการศึกษา ก็บอกพี่จีนเขาได้นะ เขาชอบอุปการะน้องๆ ผู้ยากไร้" พอลหัวเราะร่า

ไท้ทำหน้าฉงน แต่สักพักก็ยิ้มและตอบไปตามประสาซื่อ "ไม่เป็นไรครับ ผมมีคนอุปการะแล้วครับ"

สามหนุ่มที่นั่งอยู่ตาค้างทันที คงไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดหรือถูก จากนั้นก็ถามพร้อมกันทั้งสามคนด้วยสีหน้าทึ่ง "มีแล้วเหรอ!?"

ไท้พยักหน้ารับงงๆ "ครับ โค้ชเด้งไงครับ"

"โค้ชเหรอ" สามหนุ่มถามพร้อมกันอีก จากนั้นก็มองหน้ากันไปมา ยิ้มแปลกๆ ให้กันด้วย

"สงสัยมึงแห้วแล้วว่ะไอ้จีน" มาวินตบไหล่เพื่อนร่วมทีมเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ ทุกคนในทีมรู้กันดีว่าโค้ชเด้งมีรสนิยมแบบไหน ที่จริงในทีมวอลเลย์บอลชายก็มีคนรสนิยมคล้ายๆ กันหลายคน รวมทั้งสามคนที่นั่งตรงนี้ด้วย

"แห้วไรวะ มีสต็อคเยอะเว้ย อยากได้เมื่อไหร่ เรียกมาได้ตลอดเวลา" จีนโวและยิ้มกริ่ม

"เออ ไอ้เสี่ยจีน หมั่นไส้จริงเว้ย หล่อรวยเลือกได้ หัวกระไดไม่เคยแห้ง" พอลว่าไม่จริงจัง

"พอได้แล้วพวกมึง ดูดิ ไท้งงหมดแล้ว น้องเขาอยากรู้เรื่องวงใน แต่พวกมึงไม่รู้คุยอะไรกัน" จีนแสร้งตำหนิ ก่อนหันมายิ้มให้ไท้ "เอางี้ เรื่องวงในเรื่องแรกที่พี่จะบอกไท้ก็คือ..."

จีนหยุดเว้นจังหวะ ชวนให้ตื่นเต้นไม่น้อย พอลกับมาวินสะกิดจีนพร้อมกัน มาวินเป็นฝ่ายถามย้ำ "มึงจะบอกน้องเขาจริงๆ เหรอวะไอ้จีน"

"ทำไมวะ เขารู้กันทั้งทีมแล้ว เดี๋ยวน้องๆ มาซ้อมด้วยบ่อยๆ ก็รู้อยู่ดี กลัวอะไรวะ" จีนว่า ก่อนหันมาหายิ้มให้ไท้

"เรื่องอะไรเหรอครับ" ไท้ถาม สีหน้าอยากรู้เต็มแก่

"ไม่ใช่เรื่องกลัวปลาทู กลัวถั่วฝักยาว หรือกลัวไม้ขีดไฟเหมือนดาราละกัน" มาวินยักคิ้วยิ้มๆ คำพูดของเขาเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ได้

จีนโน้มตัวเข้ามาใกล้ ยิ้มกริ่มและแววตาเป็นประกาย "พี่สามคน..." เขาทอดจังหวะ ยิ้มยียวนและจ้องตาไท้

"อะไรครับ น่ากลัวจัง" ไท้หัวเราะที่จีนทำหน้าตลกๆ แต่พอจีนเฉลย เขาก็ถึงกับเสียววาบ นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้สามคนนี้สนิทกันมากกว่าคนอื่นๆ ในทีม

"พี่สามคน...ชอบผู้ชาย!!!"


TBC


มีข่าวมาบอก ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปช่วยเขาทำเพลงประกอบซีรี่ส์เรื่อง Soulmates the Series ด้วยครับ
ช่วยแต่งเนื้อร้อง คอรัส บันทึกเสียงและมิกซ์ เร็วๆ นี้จะได้ฟังและดูซีรี่ส์เรื่องนี้นะครับ


https://www.youtube.com/v/vmClmECYQeI
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP05 รุ่นพี่ ◯ 31.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 31-01-2017 21:36:44
 :L2: :pig4:

"มีข่าวมาบอก ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปช่วยเขาทำเพลงประกอบซีรี่ส์เรื่อง Soulmates the Series ด้วยครับ
ช่วยแต่งเนื้อร้อง คอรัส บันทึกเสียงและมิกซ์ เร็วๆ นี้จะได้ฟังและดูซีรี่ส์เรื่องนี้นะครับ"

ออกเมื่อไร อย่าลืมบอกในนี้ด้วยนะ ^^
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP05 รุ่นพี่ ◯ 31.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-01-2017 21:53:20
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP05 รุ่นพี่ ◯ 31.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 31-01-2017 23:48:42
รออ่านตอนต่อไปและรอดูซีรีย์นะคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP05 รุ่นพี่ ◯ 31.01.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-02-2017 00:00:25
 :o8:
พี่สามคนชอบผู้ชาย


หุหุ
จริงเหยอออออออออ


ไอ่พี่จีน..น่ากลัวเกินไป
 :hao6:
อิอิ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP06 หึงพ่อ ◯ 01.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 01-02-2017 20:17:18
EP 06 | หึงพ่อ

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


"กูว่าเราต้องคุยกับไอ้พาวตรงๆ แล้วนะเว้ยเปา แม่งไม่ค่อยเข้ามาช่วยงานในร้านเลย มันจะลงแต่เงินอย่างเดียวไม่ได้นะเว้ย ร่วมหัวจมท้ายกันแล้ว มันต้องช่วยกันหน่อยสิวะ ช่วงนี้ร้านก็มีปัญหาอยู่ ลูกค้าก็น้อยลง แม่งยังทำเหมือนไม่สนใจอีก เห็นไหมวันนี้มันก็ไม่มา"

ฟังเพื่อนบ่นทางโทรศัพท์ไป เปาก็ชักใจเสีย เขาพยายามไม่มองในแง่นี้ แต่เพื่อนอีกคนที่บอสพูดถึงก็ทำตัวอย่างที่ว่า ปล่อยให้เขากับบอสดูแลลูกค้ากันสองคนบ่อยๆ ในช่วงหลัง

"เงินก็ลงเท่ากัน รายได้ก็แบ่งเท่ากัน แต่มันแม่งทำตัวเหมือนเป็นเจ้านายพวกเราเลย กูชักจะทนไม่ไหวแล้วนะเว้ยไอ้เปา" บอสบ่นอีก เขาพ่นลมหายใจกระแทกลำโพง ระบายอารมณ์ที่ขุ่นมัวมาทั้งวัน ที่จริงก่อนแยกกันกลับบ้านก็คุยกับเปาไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ดูเหมือนเจ้าตัวยังอารมณ์ค้าง จริงโทรมาบ่นอีกรอบ

แม้ว่าเปาจะเห็นด้วย แต่คำว่าเพื่อนก็ค้ำคออยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหว ถ้าไม่ระวังก็อาจแตกหักกันได้ แถมร้านที่ลงทุนด้วยกันก็จะพลอยเจ๊งตามไปด้วย

"แล้วมึงจะให้กูทำไงวะไอ้บอส ขืนพูดกับมันเรื่องนี้ แตกหักกันเลยนะเว้ย ร้านก็จะเจ๊งอีก" เปาบอกไปอย่างหนักใจ

"แต่จะไม่พูดอะไรก็ไม่ได้นะเว้ย ช่วงนี้ร้านมันมีปัญหาอยู่ มันต้องช่วยกัน แล้วที่มันรับปากว่าจะหาเพื่อนมาช่วยการตลาด ก็ยังไม่เห็นมันทำอะไรเลย โทรไปก็ไม่อยากจะรับสาย กูกับมึงต้องมาแก้ปัญหากันสองคน อย่างนี้มันเอาเปรียบกันเกินไปหรือเปล่า" บอสบ่นอุบ

วันนี้เปาต้องกลับดึกๆ ดื่นๆ เพราะอยู่คุยกับบอสเรื่องปัญหาของร้าน ในขณะที่เพื่อนอีกคนกลับไม่สนใจแม้แต่จะโทรมาถาม เมื่อเป็นแบบนี้ เปาก็เริ่มเข้าใจสิ่งที่ฟางพยายามเตือนมาตลอด ที่ผ่านมาเขาดื้อรั้นและไม่เคยเชื่อฟังเธอเลย เพิ่งจะเริ่มเห็นเค้ารางก็วันนี้ แต่เขาก็ยังไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้แฟนสาวฟังหรอก

"กูหายสงสัยแล้วว่าทำไมฟางถึงไม่อยากให้มาลงทุนกับมัน มึงกับกูไม่เคยเชื่อฟางเลยนะไอ้เปา ไปหลงคารมไอ้พาว เห็นมันมีเงินเยอะ สงสัยมันคิดว่ามันมีเงินเยอะมั้ง ก็เลยมาทำตัวเป็นเจ้านาย แย่ว่ะ กูก็ไม่อยากเสียเพื่อนนะเว้ย แต่จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป กูยอมไม่ได้ว่ะ ถ้ามึงไม่พูดเดี๋ยวกูจะพูดเอง" บอสชักเหลืออด เขามักใจร้อนแบบนี้เสมอ

"มึงจะไปพูดกับมันเรื่องนี้เหรอไอ้บอส" เปาถามด้วยสีหน้ากังวล

"เออสิวะ"

"เดี๋ยวก่อนเว้ย มึงรอก่อนได้ไหมวะ" เปารีบห้าม "พรุ่งนี้ไอ้พาวมันบอกว่ามันจะเข้ามาทำงาน ลองดูท่าทีมันก่อน ถ้าไม่ดีขึ้น ค่อยมาคุยกันอีกที ถ้าจะคุยน่ะ มันต้องคุยกันสามคนเว้ย จะได้คุยทีเดียวให้จบ"

บอสเงียบไปสักพัก ส่งสัญญาณว่าน่าจะเห็นด้วยกับเหตุผลของเปา ไม่นานก็ถอนหายใจและยอมรับตามที่เปาเสนอ

"เออ เอาอย่างงั้นก็ได้ แต่อย่าให้ช้านะเว้ย"

"เออๆ” เปายืนยัน “กูถึงบ้านละ เดี๋ยวค่อยคุยกันพรุ่งนี้ละกันนะบอส เครียดมาทั้งวันแล้ว หยุดคุยเรื่องเครียดๆ เหอะว่ะ มึงก็อาบน้ำนอนพักผ่อนให้สบายๆ เหอะ ไม่ต้องคิดเรื่องนี้แล้ว คุยกับแฟนมึงก็ได้" เปาบอกด้วยความเป็นห่วง

"เออ เดี๋ยวกูจะโทรหาแฟนกูแล้ว มึงก็อย่าลืมโทรหาฟางละกัน เห็นช่วงนี้ทำงานหนักดึกๆ ดื่นๆ ทุกวันเลย ให้กำลังใจเขาหน่อย"

"เออๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะเว้ย"

เปาร่ำลาเพื่อน ก่อนลงมาเปิดประตูหน้าบ้านเอง ที่บ้านน่าจะมีคนอยู่เพราะไฟเปิดสว่าง แต่กลับไม่มีใครลงมาเปิดประตูให้ เปาเอารถเข้าไปจอดในโรงรถ ก่อนเดินมาปิดประตูหน้าบ้าน เมสซี่กับเนยมาร์วิ่งมาคลอเคลียด้วยความดีอกดีใจอย่างเคย พวกมันแย่งกันกระโดดเลียหน้าเลียตาและส่งเสียงดังตื่นเต้น แค่นี้ก็ช่วยให้อารมณ์ของเปาแจ่มใสขึ้นมาได้บ้าง

พอเปาเดินเข้ามาในบ้าน เจ้าสองตัวก็ทำท่าจะเข้ามาด้วย เขารีบจุ๊ปากและบอกพวกมันด้วยเสียงดุเล็กน้อย "ดึกแล้ว วันนี้ไม่ให้เข้า ไปนอนเลย"

สองพี่น้องหน้าขนคงฟังรู้เรื่อง จึงพากันเดินไปหลังบ้านตาละห้อย พวกมันหันมามองและกระดิกหางไห้เปาเป็นระยะๆ เปายิ้มและขำด้วยความเอ็นดู ก่อนปิดบ้านและเดินขึ้นไปบนห้องของตัวเอง

ขณะมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย เปาก็เห็นพ่อของตัวเองเดินออกมาจากห้องของไท้ด้วยชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อยืด พ่อมักใส่ชุดแบบนี้นอนเสมอ เขาขมวดคิ้วสงสัยเพราะไม่รู้ว่าพ่อเข้าไปทำอะไรในห้องของไท้กันแน่

โค้ชเด้งหันมามองลูกชาย ยิ้มแปลกๆ พักหนึ่งก็เดินเข้าห้องของตัวเองไป เปาครุ่นคิดและสงสัยอย่างหนัก ก่อนเดินไปที่ห้องของตัวเองซึ่งเป็นห้องแรกถัดจากบันได มือที่กำลังเอื้อมไปจับลูกบิดประตูพลันชะงัก เขาเปลี่ยนใจและเดินตรงไปยังห้องของพ่อแทน

เปาเคาะประตูห้องพ่อ ไม่นานพ่อก็มาเปิด โค้ชเด้งดูแปลกใจมากทีเดียว เพราะเปาแทบไม่เคยมาห้องของพ่อเลย

"มีอะไรหรือเปล่าเปา"

เปายังไม่ตอบทันที เขาเดินเข้าไปในห้องของพ่อและปิดประตู ก่อนเดินไปยืนกลางห้องและหันขวับมาถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ

"ตกลงพ่อกับไท้เป็นอะไรกันเหรอครับ"

โค้ชเด้งขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่สีหน้ายังดูอารมณ์ดี "แล้วเปาคิดว่าไงล่ะ"

"เขายังเด็กอยู่นะครับพ่อ" เปาต่อว่าพ่อเสียงเข้ม

"สิบเก้านี่ก็ไม่เด็กแล้วนะเปา บรรลุนิติภาวะแล้ว" โค้ชเด้งเถียง "พ่ออยู่คนเดียวเหงาๆ มานานแล้วนะเปา เปาจะไม่ให้พ่อมีความสุขบ้างเลยเหรอ"

"มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นหรือเปล่าครับ" เปาแค่นเสียง แม้ไม่อยากขุดคุ้ยเรื่องเก่า แต่คราวนี้ก็อดไม่ได้ "ก็รู้ไม่ใช่เหรอครับว่าผมเจ็บปวดกับเรื่องนี้แค่ไหน ยังจะทำให้ผมเห็นอีกเหรอ ถ้าอยากทำ…ทำไมไม่ไปทำข้างนอก บ้านหลังนี้…ก็เงินแม่ผมส่วนหนึ่ง ทำแม่ผมตายยังไม่พอใจอีกเหรอ! หรือจะให้ผมตายด้วยอีกคนถึงจะพอใจ!" อารมณ์ของเปาเริ่มพลุ่งพล่าน เขาพูดเสียงดังใส่หน้าพ่ออย่างไม่เกรงใจ

"เปา!" โค้ชเด้งเรียกลูกชายเสียงดัง แต่สักพักเขาก็ปรับสีหน้าและท่าทางให้อ่อนลง ลูกชายพูดเรื่องภรรยาที่เสียชีวิตไปทีไร โค้ชเด้งก็มักลำบากใจที่จะเถียงเสมอ

"เปาไม่รู้อะไรเหมือนที่พ่อรู้หรอก" โค้ชเด้งเว้นจังหวะ แต่พออ้าปากจะพูดต่อลูกชายก็เถียง

"ผมเนี่ยเหรอไม่รู้อะไร ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพ่อตัวเองเป็นอะไร!" เปาจ้องหน้าพ่อตาแข็ง แต่กระนั้นก็มีแววตาขื่นขมแฝงอยู่ในนั้น "รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้ก็ยังจะมาแต่งงานบังหน้า เอาแม่ผมมาเป็นเครื่องมือหลอกคนอื่น แล้วก็ทำให้แม่ผมตาย!"

คำกล่าวหานี้อีกแล้ว มันคงจะเป็นตราบาปติดใจเขาไปตลอดชีวิต โค้งเด้งกลืนน้ำลายลงคอและหันหน้าหนี คงทนเห็นสายตาเกลียดชังของลูกชายตัวเองไม่ได้ ไม่มีพ่อคนไหนทนได้อยู่แล้ว

"ผมไม่อยากขุดคุ้ยเรื่องเก่าหรอกนะครับ แต่พ่อก็ต้องเข้าใจผมด้วยว่าผมเจ็บปวดแค่ไหนกับเรื่องนี้ อย่ามาสะกิดแผลใจผมอีก ขอร้องนะครับ…อย่ามาทำแบบนี้ให้ผมเห็นในบ้าน ไม่อย่างนั้น…อย่าหาว่าผมใจร้ายละกัน!" เปาคาดโทษเสียงดังจนเหมือนตะโกนใส่หน้าพ่อ ก่อนจะออกไปจากห้อง เปาก็ไม่ลืมกำชับ "ผมขออีกเรื่องละกัน อย่าทำอะไรไท้ เลี้ยงต้อยเด็กในสังกัดตัวเอง ถ้าวันหนึ่งคนเขารู้เข้า จะไม่มีที่ให้ยืนนะครับ แทนที่จะได้ช่วยเด็ก จะกลายเป็นทำลายอนาคตเด็กแทน!"

พูดจบเปาก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้องพ่อ ปิดประตูดังปังจนคนในห้องสะดุ้งตกใจ เขาสาวเท้าไวๆ ลงมาข้างล่าง ระหว่างนั้นก็ยกโทรศัพท์มาโทรหาฟางด้วย เมื่อฟางรับสายเขาก็กรอกเสียงลงไป

"ฟาง ฟางอยู่ที่โรงแรมหรือเปล่า"

"ใช่ มีอะไรเหรอ หรือว่าเปาจะมา" น้ำเสียงของฟางฟังดูสดใสอย่างเคย ช่วงนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรมที่หน่วยงาน หน่วยงานของเธอจัดงานประชุมใหญ่ที่นั่น เธอต้องอยู่โยงคอยดูแลแขกที่พักอยู่ที่นี่และเตรียมการหลายอย่าง

"เปาไปหาได้หรือเปล่า ว่าจะขอนอนด้วยสักคืน ถ้าให้เปาอยู่บ้านคืนนี้ เปาต้องเสียสติแน่ๆ เลย" เปาบ่นอย่างหงุดหงิด

"ทะเลาะกับพ่ออีกเหรอ"

"ก็ทำนองนั้น เขาทำทุเรศมากเลยนะฟาง เปาชักจะทนไม่ไหวแล้ว"

"เรื่องไท้เหรอ" ฟางสงสัย เปาเพิ่งเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังไม่นาน ก็เลยเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้

เปามาหยุดยืนอยู่กลางบ้าน พักหนึ่งเขาก็ตอบกลับไป "ใช่ เมื่อกี้…พ่อเขาเดินออกมาจากห้องไท้ ฟางดูเขาทำสิ เขาไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของเปาเลย ถ้ายังทำแบบนี้อยู่ เปาก็ไม่อยากทำตามที่แม่ขอแล้ว เปาจะไปอยู่ที่อื่น"

"แล้วเปาจะไปอยู่ไหนล่ะ" ฟางย้อนถาม

"อยู่คอนโดหรืออะไรก็ได้"

"แล้วไม่ห่วงหมาสองตัวนั่นเหรอ เปาจะทิ้งพวกมันไปได้เหรอ" แม้ไม่ชอบหมา แต่ฟางก็ยังมีแก่ใจนึกถึงพวกมัน

อารมณ์พลุ่งพล่านของเปาพลันลดลงเมื่อนึกถึงหมาสองตัวของตัวเอง เขาคงไม่มีทางทิ้งพวกมันไปได้แน่นอน

"ใจเย็นๆ ก่อนได้ไหมเปา พ่อของเปาน่ะ…เขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ฟางอยากให้เปายอมรับเขาอย่างที่เขาเป็น แล้วก็ให้อภัยเขา" ฟางพูดให้แง่คิด แต่เธอคงลืมไปว่าไม่ใช่เวลานี้

"ไม่มีทาง ฟางอย่าพูดเรื่องนี้กับเปาอีกได้ไหม ถือว่าเปาขอละกัน" เปาตำหนิเสียงดุ

พลันทุกอย่างก็เงียบและนิ่งสนิทไปพักใหญ่ ปกติเปาแทบไม่เคยดุใส่ฟางเลย เคยทำครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว เพราะฟางพูดคล้ายๆ แบบนี้ เปานึกว่าฟางจะลืมไปแล้ว แต่เธอกลับยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่อีก

"ฟางขอโทษละกันที่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของเปา"

น้ำเสียงของฟางแฝงความน้อยใจ เปาจึงได้สติและรีบแก้ตัว "ฟาง…ฟางก็รู้ว่าเปาเจออะไรมา เปาเคยบอกฟางแล้วว่าไม่ให้พูดเรื่องนี้ เพราะยังไงเปาก็ให้อภัยเขาไม่ได้ ถึงเขาจะเป็นพ่อเปาก็เหอะ"

ฟางถอนหายใจสั้นๆ คงเหนื่อยใจกับเปาเรื่องนี้ไม่น้อย "ได้ ต่อไปฟางจะไม่พูด แต่ที่ฟางพูด ฟางก็แค่อยากให้เปาปล่อยวางและมีความสุข ถ้าเปาคิดกับพ่อแบบนี้ เปาจะมีชีวิตที่มีความสุขได้ยังไง"

ที่ฟางพูดมาก็ถูกของเธอ เปาไม่เคยมีความสุขกับชีวิตอย่างแท้จริงเลยตั้งแต่แม่ตายไป ทุกวันที่กลับมาบ้านและเห็นหน้าพ่อ เขามักจะนึกถึงแต่ความเจ็บปวดในอดีตเสมอ ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีรอยยิ้มให้กัน เหมือนต่างคนต่างอยู่คนละโลกที่ไม่มีวันมาบรรจบกัน

"ตอนนี้ฟางยังเคลียร์งานไม่เสร็จ อีกอย่าง…ฟางพักกับเพื่อนที่ทำงานด้วย คงไม่สะดวกให้เปามาหา แค่นี้ก่อนละกันนะเปา เดี๋ยวฟางจะทำงานต่อ" ฟางบอกและวางสายไปทันที

เปาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้ากับปัญหาต่างๆ เขาหวนคิดถึงแม่อีกแล้ว ตรงที่เปายืนอยู่ตอนนี้ แม่ของเขาเคยนอนเสียชีวิตอย่างน่าเวทนา แม่ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารเหลือเกิน เธอต้องแต่งงานกับคนที่ไม่เคยรักเธอ แถมยังต้องเจ็บปวดเมื่อรู้ความจริงทีหลังว่าสามีตัวเองเป็นเกย์ มีชีวิตครอบครัวที่ขมขื่น สุดท้ายเธอก็ทนเจ็บปวดไม่ไหวจนต้องลาจากโลกนี้ไป ทิ้งลูกชายที่เธอรักสุดชีวิตให้ขาดแม่ ตั้งแต่นั้น เปาไม่เคยได้รับความรักใดๆ เทียบเท่ากับความรักของแม่อีกเลย

เปาหันไปมองรูปแม่ไกลออกไปตรงมุมเปียโน พักหนึ่งก็หลับตานิ่ง ปล่อยให้น้ำตารินไหลลงมา จากหยดที่หนึ่งก็ตามด้วยหยดที่สอง หยดที่สองตามด้วยหยดที่สาม แต่พอจะถึงหยดที่สี่เขาก็ลืมตาขึ้น สลัดหัวไปมาช้าๆ พ่นลมหายใจยาว ก่อนหันหลังกลับและเดินขึ้นไปบนห้อง ไม่ใช่ของตัวเอง แต่เป็นห้องของไท้ต่างหาก

เปาเคาะประตูเรียกไม่นานไท้ก็มาเปิดให้ หนุ่มน้อยผิวขาวอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดเก่าๆ สีมอๆ มีรอยขาดๆ และหลุดรุ่ยเล็กน้อย พอเห็นว่าใครมาหา ไท้ก็ส่งยิ้มดีใจให้

"ทำไมกลับดึกจังครับพี่เปา"

เปาปิดประตูห้อง แทนที่จะตอบรับไมตรีอีกฝ่ายกลับถามเสียงดุ "ทำไมมึงไม่ลงไปเปิดประตูหน้าบ้านให้กู ทำอะไรอยู่"

"ไม่มีอะไรนี่ครับ พอดีโค้ชมาหา" ไท้หน้าเสีย อยู่ดีๆ เปาก็ดุใส่และพูดมึงกูด้วยอีกแล้ว

"คงจะสนุกกันมากล่ะสิท่า ถึงไม่ยอมลงไปเปิดประตูให้" เปามองตาขวาง ท่าทางพร้อมจะหาเรื่องทุกเมื่อ

"ครับ" ไท้รับคำประสาซื่อ

"นี่มึงกับพ่อกู…" เปาตวาดและชี้หน้า อารมณ์ที่เย็นลงเมื่อครู่นี้พลันกลับมาคุกรุ่นอีกครั้ง

ไท้รู้สึกกลัวท่าทางดุของเปา เขาจึงค่อยๆ เดินถอยหนีอย่างช้าๆ แต่เปาก็เดินตามมาและรักษาระยะห่างไว้เท่าเดิม

"มึงสิ้นคิดขนาดนี้เหรอถึงต้องทำแบบนี้" เปาต่อว่าอีก

"ทำอะไรเหรอครับ" ไท้ถามงงๆ

"มึงไม่ต้องมาทำซื่อบื้อ อย่านึกว่ากูรู้ไม่ทันนะเว้ย" เปาชี้หน้าอีก "ถึงมึงจะมาจากบ้านนอก กูก็รู้ว่ามึงไม่ได้ซื่อขนาดนั้นหรอก ถ้าซื่อจริง จะหาทางลัดแบบนี้เหรอวะ"

"พี่เปาพูดเรื่องอะไรครับ ผมไม่เห็นเข้าใจเลย"

"ไม่เข้าใจเหรอ ได้ เดี๋ยวกูจะทำให้มึงเข้าใจเองว่ากูพูดเรื่องอะไร"

เปาปรี่เข้ามาจับไหล่สองข้างของไท้ไว้ จากนั้นก็ดันให้ไท้เดินถอยหลังมาที่เตียง ถึงขอบเตียงก็ผลักร่างสูงลงไปนอน เจ้าของร่างขาวกระเด้งขึ้นเล็กน้อยจากแรงกระแทก เปาถือโอกาสโถมตัวลงไปทาบทับทันที ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหลบหนีไปได้

ซอกคอขาวของไท้พลันถูกสูดดมและซุกไซร้ เปาขึงมือสองข้างของไท้ออกและกดแน่น เขามีแรงมากกว่าอีกฝ่ายจึงดิ้นไม่หลุด ที่จริงไท้น่าจะมีแรงมากกว่านี้ แต่เขากลับออกแรงขัดขืนไม่มากเท่าที่ควร

พักหนึ่งเปาก็หยุดรุกราน จ้องหน้าไท้ซึ่งดูตื่นๆ ระคนหวาดกลัว

"พี่เปาจะทำอะไรผมครับ" ไท้ถามเสียงสั่น

"ก็จะทำเหมือนที่พ่อกูทำกับมึงไง มึงก็ชอบไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องมาทำใสซื่อหรอก" เปาพูดกึ่งตะคอก

"ผมกับโค้ชไม่ได้ทำอะไรกันนะครับ" ไท้ชี้แจง

เปาชะงัก แต่สักพักก็ใส่อารมณ์เหมือนเดิม "มึงนี่มันไว้ใจไม่ได้เลยนะไอ้ไท้ พวกตุ๊ดนี่มันเป็นอย่างนี้ทุกคนเหรอวะ ตอแหลจริงๆ เมื่อกี้มึงก็บอกกูเองไม่ใช่เหรอว่ามึงกับพ่อกูทำอะไรกัน สนุกจนไม่สนใจใครเลย ขนาดกูมามึงยังไม่ลงไปเปิดประตูให้กู แล้วทีนี้เสือกมาบอกว่าไมได้ทำอะไรกัน คงจะโกหกบ่อยใช่ไหมถึงจำไม่ได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ ความจำสั้นจริงนะมึง ดี! ความจำสั้นๆ อย่างนี้ก็ดี ถ้าเมื่อกี้มึงจำไม่ได้ว่ามึงทำอะไรไป กูจะช่วยทบทวนให้"

ว่าแล้วเปาก็ซุกไซร้ซอกคอของไท้อีกครั้ง ไท้ออกแรงดิ้นหนีเพิ่ม แต่เปาก็ออกแรงกดไว้มากขึ้นเป็นเงาตามตัว

"พี่เปา พี่เข้าใจผมผิดนะครับ เมื่อกี้โค้ชให้ผมดูคลิปวอลเลย์บอล แล้วเขาก็สอนผมไปด้วย"

สิ้นเสียงอธิบายติดๆ ขัดๆ ของไท้ เปาก็หยุดทุกอย่างทันที ท่าทางโกรธเกรี้ยวพลันค่อยๆ หายไป ดูเหมือนจะเสียหน้าด้วยเมื่อรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง เขาปล่อยไท้แล้วก็ลุกขึ้นนั่งบนขอบเตียงอย่างหงุดหงิด หอบหายใจเล็กน้อย

ไท้ค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ แอบลอบสังเกตท่าทีของเปาอย่างหวั่นๆ ไปด้วย แต่เปาก็ไม่ยอมหันมามองหน้า ต่างคนจึงต่างเงียบไปชั่วครู่ จนกระทั่งไท้เป็นคนทำลายความเงียบเสียเอง

"พี่เปาคิดว่า…คนจนๆ อย่างผม ต้องหาทางลัดแบบนี้เหรอครับ"

เปากลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ สีหน้าของเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรู้สึกผิด

"ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าพี่เปากับโค้ชมีปัญหาอะไรกัน แล้วผมก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมพี่เปาถึงคิดว่าผมกับโค้ชจะทำอะไรกันแบบนั้น แต่ผมอยากให้พี่เปารู้ไว้ ถึงผมจะจน ผมก็มีศักดิ์ศรี!"

เปาหันมามองไท้ แววตาจริงจังของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เปารู้สึกผิดมากขึ้น คงอายด้วยที่ผลีผลามทำไปทั้งที่ยังไม่รู้ความจริง ดีที่ไม่เตลิดไปมากกว่านี้

"ถ้าผมอยู่ที่นี่แล้วพี่ไม่สบายใจ ผมไปอยู่ที่อื่นก็ได้นะครับ" ไท้บอกเสียงหนักแน่น

สีหน้าของเปาเปลี่ยนเป็นตกใจ แต่เขาก็ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกจากปาก แม้แต่คำขอโทษสักคำก็ไม่มี นั่งนิ่งเฉยเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร

เมื่อเปาไม่ห้ามไว้ ไท้จึงลุกขึ้น เดินไปหยิบโทรศัพท์ตรงหัวเตียงมา พลันก็กดโทรหาใครคนหนึ่ง สัญญาณดังเพียงสองครั้งทางนั้นก็รับสายทันที เขาทักด้วยเสียงโทนใส

“ว่าไงไท้ โทรมาหาพี่ซะดึกเลย”

“พี่จีน…ยังไม่นอนอีกเหรอครับ” ไท้ถามอย่างเกรงใจ

“พี่ละเมออยู่” จีนพูดหยอกแล้วหัวเราะ “ยังไม่นอนหรอก เมื่อกี้ไอ้หนังพอร์นกับมาวินมาเล่นที่ห้อง เพิ่งกลับไป”

"ครับ เอ่อ…พี่จีนครับ”

“มีไรเหรอ ว่ามาเลย”

“ถ้าผมจะไปพักกับพี่คืนนี้ ผมจะไปได้ไหมครับ" ไท้บอกไปตามตรงแม้จะเกรงใจ

"ที่ตึกสองร้อยเตียงเหรอ” จีนถามย้ำ “ได้สิ แล้วทำไมไท้จะรีบมาล่ะ ยังไม่ถึงเวลาเก็บตัวไม่ใช่เหรอ"

"ผมจำเป็นต้องไปน่ะครับพี่จีน ผมไปได้หรือเปล่าครับ" ไท้ขอร้อง ในเวลานี้ จีนเป็นเพียงคนแปลกหน้าในกรุงเทพคนเดียวเท่านั้นที่ไท้มีเบอร์อยู่ ก่อนกลับบ้านวันนี้ จีนเป็นคนเดินมาขอเบอร์ไท้และแลกเบอร์กันไว้

"ได้ๆๆ แล้วจะมาถูกหรือเปล่าเนี่ย ให้พี่ไปรับไหม"

ไท้มีสีหน้ากังวล เพราะเขาไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายมากไป แต่จะไปหาเองก็กลัวจะหลงทาง

"เดี๋ยวพี่ไปรับละกัน" จีนบอกเมื่อเห็นไท้อึกอัก "อยู่ที่บ้านโค้ชเด้งใช่ไหม เดี๋ยวพี่ไปรับ รอแป๊บนึงนะ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหรอก"

"ครับพี่ ขอบคุณมากครับพี่จีน" ไท้ยิ้มดีใจ

เมื่อวางสายแล้วไท้ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เก็บเสื้อผ้าที่มีอยู่ไม่มากนักใส่กระเป๋าเดินทางใบยาวแบบถือ สีมันซีดและเก่าพอสมควร เอาเสื้อผ้าใส่หมดแล้ว ไท้ก็เข้าไปเอาของใช้ส่วนตัวในห้องน้ำมาใส่กระเป๋าด้วย ไม่นานทุกอย่างก็พร้อม

สี่ทุ่มกว่าแล้ว สมควรจะเป็นเวลานอน แต่ตอนนี้ไท้กลับต้องออกเดินทางและจากไปอย่างไม่คาดฝัน แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านของไท้ เขาแค่มาอาศัยอยู่เท่านั้น เมื่อเจ้าของบ้านไม่ต้อนรับ ไท้ก็คงไม่สามารถหน้าด้านอยู่ต่อไปได้

ไท้เดินช้าๆ มาหยุดตรงหน้าเปาพร้อมกระเป๋าใบนั้น เปาเงยหน้ามามองด้วยแววตาเศร้าๆ ไม่มีร่องรอยความโกรธเกลียดให้เห็นอีกแล้ว

"ผมไปแล้วนะครับพี่เปา ขอบคุณมากนะครับที่พี่เคยดีกับผม แล้วก็สอนอะไรดีๆ ให้ผมหลายอย่าง"

เปาไม่ตอบอีกตามเคย เขาได้แต่มองด้วยสายตารู้สึกผิด ไท้จึงบ่ายหน้าหนีไปทางประตู สูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด ไม่นานก็เดินออกไปอย่างช้าๆ แม้จะอยู่ที่นี่ไม่กี่วันแต่ก็รู้สึกใจหาย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผูกพันกับบางอย่างหรือเปล่า อาจจะเป็นหมาสองตัวนั้นก็ได้ เพราะไท้ดูแลและหาข้าวหาน้ำให้มันกินทุกมื้อ แถมพวกมันก็ชอบไท้และชอบวิ่งเล่นด้วยกัน หวังว่าจะมีเพียงแค่หมาเท่านั้น ไม่ใช่คนที่นั่งเงียบๆ อยู่ข้างหลัง

เมื่อมาถึงประตู ไท้ก็จับลูกบิดเตรียมเปิดออก แต่ยังไม่ทันเปิดออกไป ใครบางคนก็จับข้อมือของไท้ไว้ ตามด้วยเสียงพูดประโยคสั้นๆ ทว่ามีความหมาย

"อย่าไปเลยนะไท้ พี่ขอโทษ"

เมื่อไท้หันไปมอง ร่างของเขาก็ถูกรวบกอดไว้ กระเป๋าเดินทางที่ถือไว้ค่อยๆ หลุดมือลงไปกองกับพื้น มือของไท้จึงว่างและสามารถกอดตอบได้

ไท้พลันรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงเข้าไปอยู่ในโลกใบหนึ่ง โลกซึ่งมีกลิ่นหอมอุ่นๆ และไออุ่นอวลตระหลบทุกที่ ช่างน่าแปลกที่หัวใจซึ่งเคยโหยหาบางอย่างกลับรู้สึกอิ่มเต็ม ไออุ่นที่ไท้เคยอยากได้จากผู้ชายคนหนึ่งมาตลอดชีวิต บัดนี้ไท้ก็ได้สัมผัสมันแล้ว

"พรุ่งนี้...เจ็ดโมงเช้าเหมือนเดิมนะไท้" เปาบอกพลางกระชับอ้อมแขนเพิ่มขึ้น เขาไม่เคยรู้สึกอยากงอนง้อหรืออ้อนวอนใครแบบนี้มาก่อนเลย ทั้งที่เขาก็ยังไม่ผูกพันกับไท้มาก รู้จักกันก็ไม่กี่วัน ซ้ำยังเป็นผู้ชายเหมือนกันอีก เปารู้แค่เพียงว่าเขาต้องการให้คนๆ นี้อยู่ที่นี่ต่อไปเท่านั้น บ้านหลังนี้เงียบเหงามานานแล้ว แม้จะมีใครแวะมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆ แต่มีเพียงคนนี้เท่านั้นที่ทำให้บ้านหลังนี้มีบรรยากาศต่างไป ถ้าคนๆ นี้ไม่อยู่ บ้านก็คงเงียบเหงา เจ้าสองตัวที่หลังบ้านก็คงขาดเพื่อนเล่นที่รู้ใจ

"ครับ" ไท้รับคำสั้นๆ ราวกับลืมไปแล้วว่านัดใครอีกคนไว้


TBC
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP06 หึงพ่อ ◯ 01.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 02-02-2017 00:28:17
  เกือบไปแล้วไท้เอ้ย จะโดนปล้ำเพราะความเข้าใจผิดของเปา ไท้ก็เด็ดเดี่ยวดีชอบๆ ไม่อยากให้อยู่ก็ไม่อยู่
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP06 หึงพ่อ ◯ 01.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-02-2017 22:59:37
จะหนีเสือไปปะไอ่เข้อ่ะดิ

จีนมันร้ายยยยยยยยยยยย
เสือผู้ชาย..ไม่ใช่เหรอ

น่ากลัวอ่ะ
อิอิ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP07 เกลียดแรก ◯ 03.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 03-02-2017 22:23:34
EP 07 | เกลียดแรก

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


ในที่สุด วันรายงานตัวนักกีฬาเตรียมทีมชาติจากโครงการเฟ้นหาเด็กยักษ์ก็มาถึงเสียที วันรายงานตัว มีนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกระดับภูมิภาค คัดมาภาคละสองไม่น้อยกว่าสองคน แล้วแต่ความเหมาะสม จนได้ตำแหน่งต่างๆ ที่ต้องการครบสิบสองคน เท่ากับหนึ่งทีมพอดี

ช่วงแรก โค้ชกิตติซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนประจำทีมเป็นคนกล่าวต้อนรับ

"ก็สวัสดีทุกคนนะครับ เป็นไง ตื่นเต้นไหมครับวันนี้" มีเสียงตอบกลับมาว่าตื่นเต้นจากนักกีฬา "โค้ชก็ตื่นเต้น ทุกคนในทีมก็ตื่นเต้นเหมือนกันเลย เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราจะเตรียมทีมชาติเพื่ออนาคตกันอย่างจริงๆ จังๆ ที่ผ่านมาเราก็เคยทำมาบ้าง แต่ยังไม่เป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่ โชคดีตอนนี้กีฬาวอลเลย์บอลได้รับความนิยมมาก อย่างทีมหญิงก็ติดอันดับต้นๆ ของโลกไปแล้ว กระแสก็เลยดี ที่ผ่านมา วอลเลย์บอลชายเรามีคู่แข่งค่อนข้างเยอะในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นอิหร่าน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินเดีย ออสเตรเลีย ในขณะที่ทีมหญิงมีแค่จีน เกาหลี แล้วก็ญี่ปุ่นที่เป็นคู่แข่งหลัก เราก็เลยยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่อันนั้นก็เป็นอดีต โค้ชเชื่อว่าเรายังมีหวัง ตอนนี้ทางสมาคมก็มีแผนว่าอยากให้วอลเลย์บอลชายไทยขึ้นมาติดหนึ่งในสี่ทีมชั้นนำของเอเชียภายในห้าปี เพราะตอนนี้เราอยู่ที่แปด ซึ่งก็จะเป็นระดับเดียวกับทีมหญิง โครงการนี้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้น พวกเราแล้วก็เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศคงฝากความหวังไว้ที่พวกเรา ทางสมาคมก็ยินดีช่วยสนับสนุนเต็มที่ ก็อยากให้ทุกคนตั้งใจ สามเดือนที่เราจะอยู่ที่นี่ ขอให้ทุกคนฝึกซ้อมตามตารางอย่างเต็มที่ และถ้าอยากเก่งมากขึ้นก็ต้องหาเวลาซ้อมส่วนตัวด้วย"

จากนั้นโค้ชจึงแนะนำทีมงานสต๊าฟโค้ช วันนี้มีทีมกายภาพบำบัด ทีมนวด เทรนเนอร์และผู้ช่วยโค้ชมาร่วมรายงานตัวด้วย เรียกว่ามากันทั้งทีมเลยทีเดียว ต่อจากนั้นโค้ชก็ให้นักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกออกมาแนะนำตัวสั้นๆ บอกชื่อเล่น ตำแหน่ง ความสูง จังหวัดและความชอบหนึ่งอย่างของตัวเอง เริ่มจากไท้เป็นคนแรก

"ผมชื่อไท้ครับ ตำแหน่งบอลหัวเสา สูง 192 มาจากพิษณุโลก ผมชอบเล่นกับหมาครับ"

"ผมชื่อเหินฟ้าครับ บอลหัวเสา สูง 198 มาจากกาฬสินธุ์ ชอบ...เอ่อ...ชอบกินส้มตำครับ"

"ฟีนิกซ์ครับ เป็นตัวเซ็ต สูง 189 มาจากเชียงใหม่ ชอบ...กินใส้อั่วครับ"

"ผมชื่อโจครับ บอลหัวเสา สูง 196 มาจากสงขลา ชอบภูเขาครับ"

"ผมชื่อรักครับ เป็นลิเบอโร่ สูง 188 มาจากภูเก็ต ชอบ...สาวญี่ปุ่นครับ"

"ตาต้าครับ เล่นบอลบีหลัง สูง 190 มาจากกาญจนบุรี ชอบเที่ยวกับธรรมชาติครับ"

"ผมชื่อป้อมครับ ตำแหน่งรับอิสระ สูง 188 มาจากระยอง ชอบทะเลครับ"

"ชื่อเวิร์มนะครับ เล่นบอลหัวเสา สูง 199 มาจากศีรษะเกษ ชอบ...เอ่อ...ชอบทุเรียนครับ"

"ชื่ออั้มครับ เล่นบอลเร็ว สูง 202 เซนติเมตร มาจากกรุงเทพ ชอบ...ชอบกินเคเอฟซีครับ"

"ผมชื่อเกิ้นครับ เป็นตัวเซ็ต สูง 190 มาจากโคราช ชอบเที่ยวต่างประเทศครับ"

"ชื่อถาครับ สูง 188.5 มาจากชลบุรี ว่างๆ จะชอบไปแข่งรถครับ"

"ชื่ออ้ายครับ ตำแหน่งบอลเร็ว สูง 197 มาจากปทุม ชอบไปตกปลาครับ"

บางคนก็แนะนำตัวเรียบๆ บางคนก็ตลกๆ บางคนก็ขรึมๆ บางคนก็อายๆ บางคนก็โผงผาง คนเป็นโค้ชต้องมีจิตวิทยาที่ดีพอสมควรถึงจะเอาเด็กๆ กลุ่มนี้อยู่หมัด แต่คนเป็นโค้ชก็สอนมาหลายคนแล้ว ย่อมมีประสบการณ์และรู้วิธีจับปูใส่กระด้งเป็นอย่างดี

เกือบทั้งหมดอายุสิบเก้า มีก้าน เวิร์มและอ้ายอายุสิบแปด ส่วนเหินฟ้าเป็นเพียงคนเดียวที่อายุยี่สิบ เด็กช่วงวัยกำลังโตและแข็งแรง ถ้าได้รับการพัฒนาและขัดเกลาที่ดีก็จะเก่งและมีความสามารถ ประสบความสำเร็จในอาชีพที่เลือกได้ ทุกคนมีอายุการเล่นกีฬาอย่างน้อยๆ สิบห้าปีนับจากนี้ ส่วนใครจะไปถึงฝั่งฝันได้ไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของแต่ละคนด้วย

โค้ชกิตติให้นักกีฬาวอร์มร่างกายซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่ต้องทำเป็นประจำก่อนซ้อม คราวนี้สมาคมยอมลงทุนมากกว่าครั้งไหน จะมีการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย มีนักโภชนาการมาดูแลเรื่องอาหารการกิน นักกีฬาทุกคนจะได้รับวิตามินเสริมและโปรตีนสำหรับชงดื่ม มีเทรนเนอร์เข้ามาช่วยเรื่องการพัฒนากล้ามเนื้อ สรีระและความแข็งแรง มีทีมกายภาพที่จะคอยดูแลรักษาและให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง รวมทั้งมีทีมงานเข้ามาเก็บข้อมูลพัฒนาการของนักกีฬาแต่ละคน เพื่อนำมาวิเคราะห์และหาแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมเป็นรายๆ ไป แม้กระทั่งการศึกษา ใครที่ต้องการทุนการศึกษาก็สามารถขอจากสมาคมได้ด้วย

จากนั้นโค้ชก็แนะนำกฎ กติกาการเล่นวอลเลย์บอลระดับสากล แม้ว่าส่วนใหญ่จะรู้มาบ้างแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องสอนอีกครั้ง ตามด้วยการฝึกเทคนิคต่างๆ ตั้งแต่เสิร์ฟ รับบอล เซ็ต ตบหัวเสา ตบจากเส้นสามเมตร บอลเร็วและลูกสูตรต่างๆ ยังไม่เน้นลงลึก แต่ให้รู้พื้นฐานและข้อควรระวัง ส่วนมากนักกีฬาจะมีปัญหาเรื่องการเซ็ต ส่วนมากคนที่ไม่ใช่มือเซ็ตมักพาบอลหรือใช้สองมือเซ็ตลูกไม่พร้อมกัน แต่กระนั้นทุกคนก็ต้องเซ็ตให้เป็น เพราะเวลาเล่นจริง บางจังหวะคนเซ็ตอาจโดนจี้ให้รับบอลแรก หรือมีเหตุให้วิ่งมาเซ็ตไม่ได้ คนอื่นๆ จึงต้องช่วยเซ็ตแทน

มีพี่ๆ ทีมชาติและโค้ชเด้งแวะเข้ามาดูเป็นเวลาสั้นๆ ด้วย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่คนเล่นบอลหัวเสาฝึกกระโดดตบพอดี โค้ชให้ฟีนิกซ์เป็นคนเซ็ต แต่บอลต่ำไปหน่อยก็เลยตบไม่เต็มมือ โค้ชจึงให้ฟีนิกซ์เซ็ตใหม่ ช่วงแรกๆ มักมีปัญหาเล่นไม่เข้าขากัน เพราะคนเซ็ตยังไม่รู้จุดตบของแต่ละคน แต่พอฟีนิกซ์เซ็ตใหม่อีกครั้ง ไท้ก็ตบได้หนักสะใจจนพื้นแทบทรุด เรียกเสียงฮือฮาจากเพื่อนๆ ร่วมทีมได้เป็นอย่างดี จีนกับเพื่อนๆ ทีมชาติถึงกับยกนิ้วให้

พี่ๆ ยืนดูสักพักก็ไปซ้อมของตัวเองบ้าง ส่วนรุ่นน้องก็ยังซ้อมต่อไป พักกินข้าวกลางวันแล้วก็ยังต้องซ้อมต่ออีก แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงเก็บตัว นักกีฬาจะซ้อมเฉพาะตอนเช้ามืดและตอนเย็น ส่วนช่วงกลางวันจะปล่อยให้นักกีฬาไปเรียนหนังสือ ทำงาน หรือแล้วแต่ใครจะทำอะไร

ช่วงกลางวัน โค้ชทำเซอร์ไพรส์ไท้ด้วยการซื้อเค้กวันเกิดมาให้ วันนี้เป็นวันเกิดของเขาพอดี เพื่อนๆ ในทีมจึงมีลาภปาก ได้กินเค้กอร่อยๆ หลังอาหารกลางวัน อิ่มแล้วโค้ชก็ให้พักผ่อนตามอัธยาศัยหนึ่งชั่วโมง ส่วนมากนักกีฬาก็เข้ามานั่งเล่นในโรงยิม ช่วงที่ยังไม่คุ้นเคยกันดีจึงนั่งพูดคุยทำความรู้จักกันไป พอมองไปรอบๆ ก็จะเห็นว่าโค้ชและทีมงานก็อยู่ครบ จับกลุ่มคุยกันตามจุดต่างๆ บรรยากาศดูผ่อนคลายและเป็นกันเองดี

ไท้นั่งเหยียดขาคุยกับฟีนิกซ์ โจ รักและเหินฟ้า คนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็คือเหินฟ้า เพราะว่าชื่อแปลกกว่าคนอื่นๆ เหินฟ้าหัวเสาจึงบอกเพื่อนๆ ว่า

"แม่กูน่ะดิ ชอบดูเรื่องผยองที่ศรรามกับกบ สุวนันท์เล่น พวกมึงเคยดูไหม พระเอกชื่อเหินฟ้าไง แม่กูชอบมาก เขาบอกว่าถ้ามีลูกชายจะตั้งชื่อว่าเหินฟ้า"

"กูยังไม่เกิดเลย จะไปเคยดูได้ไงวะ" ฟีนิกซ์ตัวเซ็ตว่าพลางหัวเราะไปกับเพื่อนๆ

"แล้วน้องมึงชื่อสวยด้วยเปล่าวะ" โจหัวเสาถามหยอก

"น้องกูเป็นผู้ชายเว้ย ชื่อสวยก็แปลกแล้ว" ฟีนิกซ์ตัวเซ็ตพูด "อ้าว อย่างนี้ก็แสดงว่ามึงเคยดูสิ"

"เคยดูในยูทูปเว้ย" โจหัวเสาชี้แจง

"แล้วมึงเคยไปตะโกนที่หน้าผาเปล่า" รักลิบหนึ่งถาม "กูเคยดูคลิปเว้ย พระเอกกับนางเอกเขาชอบไปเที่ยวตรงหน้าผา พระเอกตะโกนว่าเหินฟ้า นางเอกตะโกนว่าสวย แล้วก็มีเสียงก้องๆ กลับมา ฉากในตำนานเลยนะมึง"

พอรักพูดจบ เพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ก็เอามือป้องปากและตะโกนชื่อเหินฟ้ากับสวยกันสนุก โค้ชและเพื่อนๆ หันมามองและหัวเราะกันใหญ่ จังหวะนั้น จีน พอลและมาวินเดินข้ามาพอดี พอเห็นไท้ก็ตรงเข้ามาหา

"พี่จีน พี่พอล พี่มาวิน" ไท้เรียกรุ่นอย่างดีใจ

จีนกับเพื่อนๆ มาถึงก็นั่งลง จีนเลือกนั่งใกล้ไท้ ก่อนเริ่มคุยกับน้องๆ "ชื่อไรกันบ้างเนี่ย พี่ชื่อจีนนะ เป็นตัวเซ็ต คนนี้พอล...เล่นบอลเร็ว คนสูงๆ นี้...มาวิน หัวเสา"

น้องๆ ที่นั่งอยู่พากันยกมือไหว้พี่ๆ และแนะนำตัวเอง ยกเว้นไท้เพราะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เจอกันแทบทุกวันช่วงที่ไท้ตามโค้ชเด้งมาดูพี่ๆ ซ้อมทีม

"เมื่อกี้พวกพี่แอบดูแล้ว โห...แต่ละคนเก่งๆ ทั้งนั้นเลย สงสัยพวกพี่จะตกงานเร็วๆ นี้แหละ" พอลแซว สายตาเขาจับจ้องที่ฟีนิกซ์เป็นพิเศษ บางอย่างบอกเขาว่าคนนี้น่าจะใช่พวกเดียวกัน

"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ" ฟีนิกซ์บอกพลางยิ้มให้คนที่จ้องมองแปลกๆ

"วันนี้วันเกิดไท้เหรอ ทำไมไม่เห็นบอกกันเลย พี่จะได้ซื้อของขวัญวันเกิดมาให้" จีนหันไปถามไท้

"ครับพี่ ไม่ต้องซื้อหรอกครับ รบกวนพี่เปล่าๆ" ไท้ทำท่าเกรงใจ พลางเลื่อนขาขึ้นมานั่งในท่าชันเข่า กางเกงขาสั้นที่ใส่อวดขาขาวจนบางคนใจหวิวๆ

"ได้ไง" จีนว่า ก่อนถามเชิญชวน "เย็นนี้ไท้ว่างเปล่า เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงวันเกิด ไปกันหมดนี่ก็ได้ แต่ไม่ต้องกลัว ไม่พาไปกินเหล้าหรอก อ้อ เดี๋ยวพี่จะซื้อของขวัญวันเกิดให้ไท้ด้วย"

"จะดีเหรอครับพี่จีน ไม่เป็นไรหรอกครับ เมื่อกลางวันโค้ชก็ซื้อเค้กมาให้แล้ว"

"ไม่ต้องเกรงใจมันหรอกไท้ ไอ้นี่มันรวยจะตาย" มาวินขัดขึ้น

"กลัวโค้ชว่าเหรอ เขาไม่ว่าหรอก แต่อย่าไปกินเหล้าช่วงนี้ก็พอ ไปได้ ช่วงเย็นๆ เป็นเวลาของเรา หรือว่ามีซ้อม" จีนสงสัย

"ไม่มีหรอกครับพี่ สี่โมงเย็นก็เลิกแล้วครับวันนี้" รักลิบหนึ่งบอก ท่าทางอยากจะไปเที่ยวกับพี่ๆ น่าดู

"โอเค งั้นสักห้าโมงเย็นเรามาเจอกันตรงลานหน้าอินดอร์นะ เดี๋ยวพี่จะเอารถมารับ" จีนถือโอกาสรวบรัดตัดความ

"จะไปกันหมดเหรอครับ" โจสงสัย

"หมดสิ มีรถสองคัน มีแปดคนใช่ไหม ก็คันละสี่ หน้าสอง หลังสาม เบียดๆ กันหน่อย สองคันก็ได้แปดคนพอดี" พอลคำนวณให้เสร็จสรรพ จากนั้นก็หันไปยิ้มกับคนที่เขาสนใจเป็นพิเศษ "ใช่ไหมฟีนิกซ์"

"ครับ" ฟีนิกซ์รับคำเขินๆ ยิ่งทำให้อีกฝ่ายจ้องมอง

"น้อยๆ หน่อยนะมึงไอ้หนังพอร์น" จีนหมั่นใส้จึงผลักไหล่เพื่อนจนเซ

พอลหัวเราะเขินๆ แม้ไม่มีใครพูดอะไร แต่โตๆ กันขนาดนี้คงเดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น

"แล้วมึงล่ะ" พอลย้อนคนแซวเข้าให้

ต่างคนต่างก็รู้ๆ กันอยู่ เวลามีเด็กใหม่เข้ามาทีไร พี่ๆ มักกระชุ่มกระชวยเสมอ ในวงการกีฬาชนิดนี้ คนแบบที่ต้องการหาได้ง่ายเสียด้วย ไม่ต้องออกไปขวนขวายหาข้างนอกให้เหนื่อย


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

สามทุ่มกว่าแล้ว ไฟในสนามกีฬาปิดไปบางส่วน แต่ด้านนอกยังคงมีตลาดนัดขายทั้งเสื้อผ้าและอาหารอยู่ เสียงเพลงที่เคยเปิดดังก็เงียบไปบ้าง คนเริ่มบางตาไปพอสมควรเพราะใกล้เวลาปิดสนามกีฬา ในขณะที่คนที่มาวิ่งออกกำลังกายซึ่งมีสารพัดวัยต่างก็ทยอยกันกลับบ้าน ความเงียบจึงค่อยๆ เพิ่มความหนาแน่นและคืบคลานแผ่คลุมได้บ้าง

หลังกลับจากพาไท้และเพื่อนๆ ไปกินอาหารเย็นด้วยกันในห้าง หลายคนก็แยกย้ายกันไปนอนที่ตึกสองร้อยเตียงซึ่งเป็นอาคารที่พักนักกีฬา ตอนแรกจีนก็ว่าจะอาบน้ำนอนเลยเหมือนกัน แต่ไปๆ มาๆ ก็โทรไปหาไท้และชวนออกมาเดินเล่นที่สนามกีฬารับลมเย็นๆ ด้วยกัน ไท้ก็ไม่ขัดข้องเสียด้วย

เมื่อหาที่นั่งแถวๆ หน้าอินดอร์สเตเดี้ยมได้แล้ว สองหนุ่มก็เริ่มคุยกันด้วยท่าทางสบายๆ

"ตกลงวันนั้นมีอะไรหรือเปล่า"

"วันไหนเหรอครับ" ไท้ขมวดคิ้ว

"ก็วันนั้นไงที่ไท้โทรมาหาพี่ บอกว่าจะมาค้างด้วย จะให้พี่ไปรับ แล้วก็โทรมาบอกใหม่ว่าไม่ต้องไปไง"

"อ๋อ..." ไท้ยิ้มๆ แต่ไม่กล้าพูดอะไร

"ถ้าบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พี่ก็ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้นหรอก" จีนบอก "เออ...ว่าแต่...ทำไมไท้ถึงได้มาอยู่บ้านโค้ชเด้งล่ะ"

"ผมเจอโค้ชเด้งตอนไปแข่งคัดตัวโครงการเฟ้นหาเด็กยักษ์ที่พิษณุโลกน่ะครับ พอโค้ชรู้ว่าผมเรียนจบมอหกแล้วแต่ยังไม่ได้เรียนต่อ ก็เลยอยากช่วย โค้ชไปคุยกับแม่ผมถึงบ้าน แม่ก็เลยให้ผมมาอยู่กับโค้ชที่กรุงเทพ ตอนนั้นผมลำบากมาก บ้านผมจนน่ะครับ ผมต้องไปช่วยแม่ตัดอ้อยหาเงิน ช่วงไหนมีแข่งกีฬา ที่จังหวัดเขาก็จะโทรมาชวนผมไปเล่น ได้เงินรางวัลมาบ้างนิดๆ หน่อยๆ ผมชอบเล่นวอลเลย์ เล่นมาตั้งแต่ประถมเลย ตอนเรียนมัธยมก็ได้ไปแข่งระดับจังหวัดบ่อยๆ ช่วงมอปลายก็เลยได้เข้าไปอยู่ในทีมจังหวัด ไปแข่งระดับเขตมาด้วย"

จีนมองอย่างทึ่ง เพราะเขาไม่คิดว่าไท้จะมีชีวิตที่น่าสงสารขนาดนี้

"แล้วพี่จีนล่ะครับ มาเล่นวอลเลย์บอลได้ยังไง" ไท้ถามกลับ

"พี่เหรอ" จีนทำท่านึก "พี่ก็เล่นมาตั้งแต่มัธยมนะ ก็เริ่มจากกีฬาสีนั่นแหละ ตอนนั้นก็แค่เล่นสนุกๆ แต่พอลองเล่นแล้วก็ชอบ พี่ก็เพิ่งรู้นะว่าตีลูกวอลเลย์แล้วมันเจ็บมือแค่ไหน ถ้าจับไม่ถูก ลูกมาโดนมือก็มือแตก แรกๆ พี่ก็อยากกลับบ้านไปดูทีวีหรือไปเที่ยว แต่เล่นไปเล่นมาก็เริ่มสนุก โค้ชที่โรงเรียนเขาสอนให้พี่อันเดอร์ให้ได้มากที่สุด ตอนแรกพี่ก็อันเดอร์ได้แค่สองสามลูก สักพักก็ทำได้เยอะขึ้น ก็สนุกขึ้น แล้วก็มีเพื่อนเยอะด้วย" จีนพูดพลางทำท่านึกถึงช่วงเวลานั้นไปด้วย

"พี่ซ้อมเยอะนะ หลังเลิกเรียนก็ซ้อม เสาร์-อาทิตย์ก็ซ้อม ที่บ้านก็สนับสนุน เพราะว่าดีกว่าให้กลับบ้านมาเล่นเกมส์ แต่พี่น้องพี่ไม่มีใครเล่นกีฬาเลย มีพี่คนเดียว ตอนแรกก็แข่งกับโรงเรียนต่างอำเภอ เล่นไปเล่นมาก็ได้ไปเล่นระดับจังหวัด แล้วก็มาเป็นระดับเขตตอนมอปลาย เข้ามหาลัยก็ได้เล่นระดับประเทศ เคยได้แชมป์แล้วก็ได้สิทธิ์ไปแข่งต่างประเทศด้วย ครั้งแรกเลยไปใต้หวัน พี่มีรูปให้ดู" จีนหยิบโทรศัพท์มาจากกระเป๋ากางเกง เปิดหาภาพที่เพิ่งเอ่ยถึง พอเจอแล้วก็ส่งให้ไท้ดู มีตั้งแต่ภาพตอนเดินทาง ขึ้นเครื่องบิน ภาพซ้อม ภาพไปเที่ยว ภาพแข่งและภาพรับเหรียญรางวัล

"ได้ที่สามด้วย ดีใจมากเลยตอนนั้น" จีนยิ้มมีความสุข

"แล้วทำไมพี่จีนถึงมาเล่นตำแหน่งเซ็ตล่ะครับ" ไท้สงสัย

"ตอนนั้นพี่อันเดอร์ได้เยอะสุดไง โค้ชก็เลยจับมาเล่นเป็นตัวเซต ใครๆ ก็รู้ว่าเซ็ตบอลโคตรยากเลย มีแต่คนอยากตบเพราะว่ามันง่าย แต่ถ้าเซ็ตไม่เป็นก็จะฟาล์ว บางทีบอลหล่นใส่หน้า เซ็ตเบี้ยว ไม่เข้าจุด ก็เลยไม่ค่อยมีคนอยากเป็นตัวเซ็ต ตอนนั้นนะ ถ้าพี่รู้ว่าอันเดอร์ได้เยอะแล้วต้องเป็นตัวเซ็ต พี่คงไม่ฝึกอันเดอร์หรอก พี่อยากตบหัวเสามากกว่า" จีนขำตัวเองเบาๆ ไท้พลอยขำไปด้วย

"ก็จริงนะครับ ผมว่าเซ็ตบอลนี่โคตรยากเลย พี่เก่งนะครับพี่เซ็ตบอลจนมาเล่นทีมชาติได้" ไท้ชม

"ไท้ก็เก่งนะ แล้วก็โชคดีด้วยที่ได้โค้ชเด้งอุปการะ รู้ไหมว่าโค้ชเด้งน่ะเขาเป็นนักวอลเลย์บอลทีมชาติตั้งแต่สมัยซีเกมส์ปีสามแปดที่เชียงใหม่ แฟนเขาก็เป็นนักวอลเลย์บอลเหมือนกัน ตอนนั้นดังมาก เป็นยุคที่วอลเลย์บอลหญิงกำลังเฟื่องฟูเลย"

"พี่จีนรู้จักโค้ชเด้งมานานแล้วเหรอครับ"

"ไม่นานหรอก ก็เพิ่งรู้จักนี่แหละ ทีมสต๊าฟโค้ชเล่าให้ฟังไง พี่ก็เกิดไม่ทันเหมือนกัน" จีนหัวเราะ "เห็นเขาบอกว่าโค้ชมีลูกชายคนหนึ่ง แต่ไม่เคยมีใครเห็นหน้าเลย ไท้อยู่บ้านโค้ชคงจะเคยเห็น"

"ครับ" ไท้พยักหน้า จากนั้นก็ฟังจีนพูดต่อ

"เห็นเขาบอกว่าเมียโค้ชตายไปหลายปีแล้ว พี่ไม่รู้ว่าไท้รู้อะไรหรือเปล่านะ เห็นเขาว่าโค้ชเด้งน่ะ...เป็นเกย์ เมียแกก็เลยตรอมใจตาย กินยาฆ่าตัวตายหรือไงนี่แหละ"

ไท้เสียวสันหลังวาบ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุนี้หรือเปล่าเปาถึงได้มีปัญหากับพ่อ คงจะมีส่วนไม่มากก็น้อย "จริงเหรอครับ"

"พี่ก็ไม่รู้ ก็เห็นเขาพูดกันแบบนี้ แต่อย่าไปพูดกับโค้ชเรื่องนี้ล่ะ เพราะพี่ก็ไม่รู้ว่าจริงแค่ไหน"

"อ๋อ ผมคงไม่กล้าพูดหรอกครับ"

"เออ...แล้วลูกชายโค้ชเด้งเป็นไง หล่อไหม" จีนถามทีเล่นทีจริง

"ก็หล่ออยู่นะครับ เขาเป็นเทรนเนอร์ มีร้านฟิตเนส ทำกับเพื่อนน่ะครับ เนี่ยพี่จีนเห็นไหม ตอนนี้ผมเริ่มมีกล้ามเยอะขึ้นแล้ว ก็ได้พี่เปานี่แหละที่ช่วย"

"เขาชื่ออะไรนะ" จีนขมวดคิ้วสงสัย

"ชื่อเปาครับ" ไท้ตอบ

"เปาเหรอ" จีนทวนชื่อเบาๆ กับตัวเอง ท่าทางคล้ายกับมีอะไรบางอย่างกับคนชื่อนี้

"พี่จีนรู้จักเหรอครับ" ไท้เอียงคอ

"เปล่าหรอก" จีนบอกปัดยิ้มๆ "อ้อ แล้วไท้...มีแฟนหรือยัง"

ไท้ส่ายหน้าไปมา "ตอนนี้ยังไม่มีครับ แต่เคยมีตอนเรียนมอห้า เป็นครั้งแรกครั้งเดียวที่จีบผู้หญิง แต่คบกันไม่กี่เดือนก็เลิก เพราะว่าผมสนใจแต่กีฬาเหมือนพี่นั่นแหละ เลิกเรียนก็ซ้อม เสาร์-อาทิตย์ก็ซ้อม ผมอยากเก่ง อยากติดทีมชาติ ก็เลยให้เวลากับกีฬาอย่างเดียว แล้วพี่จีนล่ะครับ"

จีนส่ายหน้าเช่นกัน "ไม่มีหรอก แล้วก็ไม่คิดที่จะมีด้วย อืม...พี่ก็มีคนที่พี่คบนะ แต่ไม่ใช่แฟน ก็แค่...สนุกกันเฉยๆ พี่ว่าไท้น่าจะเข้าใจนะ ยุคนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว"

ไท้พยักหน้าเข้าใจ เรื่องนั้นคงไม่น่าสงสัยเท่าไหร่ เขาสงสัยอีกเรื่องมากกว่า "แล้วทำไมพี่จีนถึงไม่คิดจะมีแฟนล่ะครับ"

"พี่เคยมี หลายปีมาแล้ว" พอพูดเรื่องนี้ จีนก็เริ่มหน้าเศร้า พักหนึ่งก็ถอนหายใจ "ปกติพี่ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนะ แต่พี่จะเล่าให้ไท้ฟังละกัน"

ไท้มองอย่างสงสัย ครู่หนึ่งจีนก็เริ่มเรื่อง

"พี่เคยชอบผู้ชายคนหนึ่ง ชอบมาตั้งแต่มอสี่ เราเรียนชั้นเดียวกัน แต่คนละห้อง พี่แอบมองเขาทุกวัน แต่ก็ไม่กล้าบอกหรอกว่าคิดอะไรกับเขา เขาเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แต่เขาก็หน้าตาดีนะ มีผู้หญิงมาชอบเยอะ แต่ก็ไม่เคยเห็นชอบใคร พี่เคยชวนเขาไปดูหนัง เขาก็ไม่ไปหรอก อยู่ๆ วันหนึ่ง ตอนนั้นพี่อยู่มอห้าเทอมปลาย อยู่ดีๆ เขาก็มาชวนพี่ไปดูหนังซะเอง พี่ก็งงๆ แต่ก็ไปกับเขา หลังจากนั้น เขาก็ทำเหมือนชอบพี่ ไปไหนมาไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ คุยกันแทบทุกวัน ตอนอยู่มอหก พี่ยอมรับว่าพี่รักเขามาก แต่ก็ยังไม่กล้าบอก จนกระทั่งวันสุดท้ายที่โรงเรียน มันเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่พี่จะได้บอกความในใจ พี่ก็เลยตัดสินใจบอกรักเขาไป แต่ไท้รู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น..."

จีนหน้าเศร้าไปถนัดใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น "ขนาดผ่านมาหลายปี นึกถึงทีไรพี่ก็ยังเจ็บอยู่เลย" จีนเว้นจังหวะ สูดหายใจลึกๆ เพราะกลัวตัวเองจะร้องไห้เสียก่อน จนกระทั่งความรู้สึกอยากร้องไห้หายไปจึงพูดต่อ

"เขาบอกพี่ว่า...เขาเกลียดผู้ชายทุกคนที่เล่นวอลเลย์บอล เขาไม่เคยรักพี่ เขาไม่เคยชอบพี่ แต่ตรงกันข้าม เขาเกลียดพี่มาก ถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากอยู่ร่วมโลกด้วย เขาหัวเราะเยาะใส่หน้าพี่ สมน้ำหน้าพี่ ด่าพี่ว่าโง่เองที่มาชอบเขา เขาขยะแขยงพี่มาก ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขาอยากจะอ๊วกใส่ ไม่เผลอถีบให้ก็บุญแล้ว ที่ยอมคบด้วย เพราะเขารอวันนี้ วันที่เขาจะได้สมน้ำหน้าพี่ วันที่เขาจะได้บอกว่าเขาเกลียดพี่มากแค่ไหน พี่โคตรเจ็บเลยว่ะไท้ เจ็บสุดๆ เลย แทนที่จะเป็นรักแรก ก็เป็นเกลียดแรกซะงั้น"

จีนร้องไห้จนได้ ไม่นานก็สะอื้นฮักๆ ไท้จึงเอื้อมมือไปแตะไหล่เบาๆ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะปลอบใจอย่างไรดี ได้แต่มองด้วยแววตาเห็นใจ

"ทำไมเขาพูดแบบนั้นล่ะครับพี่จีน"

"พี่ก็ไม่รู้ ตอนที่พี่รู้จักกับเขา…เขาไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง โดยเฉพาะเรื่องที่บ้าน พี่ไม่เคยเห็นหน้าพ่อหน้าแม่เขาเลย ไม่เคยเห็นพ่อแม่มาส่ง ไม่เคยไปบ้านเขา บางทีเขาก็เหงาๆ เศร้าๆ เหมือนคนมีปัญหาอะไรบางอย่าง แต่ตอนนั้นพี่รักเขามาก ก็เลยไม่คิดจะถาม แต่สุดท้ายเขาก็หลอกให้พี่ชอบเขา วันที่เราเจอกันวันสุดท้าย เขาด่าพี่อย่างกับหมูกับหมา ไม่รู้ว่าพี่ทำอะไรผิด ไม่รู้ว่าไปเกลียดพี่ขนาดนี้มาจากไหน เขาด่าพี่ต่อหน้าคนอื่นด้วย ได้ยินกันทั้งโรงเรียน พี่อายแทบแทรกแผ่นดินหนีเลย ไท้ลองคิดดูละกันว่ามันจะเจ็บขนาดไหน"

จีนเอามือป้ายน้ำตาให้พอแห้ง เขาหายใจลึกๆ และพยายามกลั้นก้อนสะอื้น จนกระทั่งเริ่มสงบลง

"ตั้งแต่นั้น พี่ก็เลยไม่รักใคร พี่มีเงินนะ ที่บ้านพี่ทำธุรกิจส่งออก มันก็เลยมีคนเข้ามาหาพี่เพราะเงิน แต่บางคนก็แค่อยากสนุก” จีนยิ้มมุมปาก แววตาเหี้ยมขึ้น “แต่ถ้าใครมันเผลอชอบพี่ มันก็จะเจ็บ...เหมือนที่พี่เคยเจ็บไง"

ไท้ถึงกับอึ้ง กระนั้นก็เข้าใจที่อีกฝ่ายกลายเป็นคนแบบนั้น แต่เขาก็นึกสงสัย จีนจะทนไร้หัวใจอย่างนี้ต่อไปได้อีกนานแค่ไหนกัน?

TBC


หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP07 เกลียดแรก ◯ 03.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 03-02-2017 22:58:47
   เข้าใจจีนนนะอาการแบบจีน คงจะฝังใจมากๆแต่ก็ไม่ควรทำกับผู้อื่นต่อ
   ไท้ระวังตัวนะฮ่าๆ รออ่านต่อคับ
   
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP07 เกลียดแรก ◯ 03.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 03-02-2017 23:01:09
เฮ้อออออ..โดนเกลียดทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย
ก็แค่โชคร้ายที่ไปชอบคนอคติ
ซวยสุดๆเลย เนอะจีน

แต่เอ๊ะ..อย่าบอกนะว่าคือเปา
เพราะรายนั้นนะเกลียดเกย์สุดๆ ไม่ไใช่เหรอ

ทฤษฎีโลกกลม มาอีกแล้ว

ไท้จะโดนเหมือนกับจีนโดนเกลียดด้วยหรือเปล่า
อันนี้ก็ไม่แน่ใจ

 :katai1:
ถามเปาๆ
หุหุ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP07 เกลียดแรก ◯ 03.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-02-2017 23:30:18
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP07 เกลียดแรก ◯ 03.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-02-2017 13:32:50
   เข้าใจจีนนนะอาการแบบจีน คงจะฝังใจมากๆแต่ก็ไม่ควรทำกับผู้อื่นต่อ
   ไท้ระวังตัวนะฮ่าๆ รออ่านต่อคับ
 

สงสัยไท้จะระวังตัวไม่ทันแล้วนะครับ อิๆ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP07 เกลียดแรก ◯ 03.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-02-2017 13:33:27
เฮ้อออออ..โดนเกลียดทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย
ก็แค่โชคร้ายที่ไปชอบคนอคติ
ซวยสุดๆเลย เนอะจีน

แต่เอ๊ะ..อย่าบอกนะว่าคือเปา
เพราะรายนั้นนะเกลียดเกย์สุดๆ ไม่ไใช่เหรอ

ทฤษฎีโลกกลม มาอีกแล้ว

ไท้จะโดนเหมือนกับจีนโดนเกลียดด้วยหรือเปล่า
อันนี้ก็ไม่แน่ใจ

 :katai1:
ถามเปาๆ
หุหุ

ต้องติดตามครับว่าโลกจะกลมหรือจะแบน หุๆ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-02-2017 13:38:23
ลาวาไข่เค็ม

เห็นชื่อตอนแล้ว
ทำให้เดาไปถึงไหนแล้ว


ไข่ขาวหรือไข่แดงอ่ะ
อิอิ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-02-2017 13:40:56
EP 08 | ลาวาไข่เค็ม

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


สิ่งแรกที่เปาทำหลังกลับถึงบ้านตอนทุ่มเศษก็คือเอาข้าวให้หมาสองตัวกิน ตั้งแต่ไท้ไปเข้าแคมป์ เปาก็ต้องทำหน้าที่นี้เองตลอด ชีวิตช่วงนี้ดูเหมือนเหงาๆ ไปบ้าง พอไท้ไม่อยู่แล้ว บ้านหลังนี้ก็เหมือนกับขาดอะไรไป คงเป็นเพราะเมื่อก่อนเปาอยู่กับพ่อสองคนจึงเงียบเหงาเกินไป พอมีคนมาอยู่ด้วยจึงทำให้บ้านมีสีสันขึ้นมาบ้าง

หลังเมสซี่กับเนยมาร์กินข้าวเสร็จ เปาก็พามันไปหลังบ้านเพราะวันนี้ฟางมาอยู่เป็นเพื่อน จะให้พวกมันมาเดินเพ่นพ่านไม่ได้ ช่วงนี้พ่อของเปาไม่อยู่บ้าน เพราะมีแข่งกีฬาวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชียที่นครปฐม จึงพักที่โรงแรมกับนักกีฬา ไม่ได้กลับมาบ้านหลายวันแล้ว

ฟางเล่นเปียโนรออยู่ในบ้าน เพลงที่เธอเล่นคือเพลงฟอร์เดอะเฟิร์สไทม์ เพราะเธอเห็นหนังสือโน๊ตเพลงซึ่งเปิดกางเพลงนี้ไว้ ก็เลยลองเล่นดู ใช้เสียงเมโลดี้จากเปียโน ไม่ได้ร้องด้วยตัวเอง

เปายืนนิ่งมองแฟนสาวเล่นเปียโนโดยไม่เข้าไปรบกวน ที่จริงเขาไม่ได้สนใจเธอด้วยซ้ำเพราะในหัวของเปากำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง เมื่อหลายวันที่แล้วเปาเห็นไท้ถ่ายรูปกับจีนขึ้นเฟสบุ๊ค เขายอมรับว่าเขาตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้ แม้ว่าเวลาจะผ่านมาเกือบห้าปีแล้ว เปาก็ไม่เคยลืมใครคนนั้นได้เลย

เพลงนี้ที่ฟางกำลังเล่น เป็นเพลงที่เปาเคยเล่นให้ใครคนนั้นฟังที่โรงเรียนตอนเรียนมัธยมปลายด้วยกัน แต่ก่อนจะมาถึงตรงนั้น มีเหตุการณ์ที่สำคัญบางอย่างเกิดขึ้น เขาจึงได้มาเจอกับผู้ชายที่เขาเคยทำร้ายอย่างเลือดเย็น

... ... ...

เรื่องมันเริ่มมาจากเพื่อนบ้านของเปาลือกันว่าพ่อพาผู้ชายมานอนที่บ้าน จากนั้นเด็กๆ ก็เอาไปพูดที่โรงเรียน ในละแวกนี้มีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเปาเรียนที่โรงเรียนเดียวกันด้วย เพื่อนๆ เริ่มล้อเปาว่ามีพ่อเป็นตุ๊ด เขาเคยโกรธและต่อยตีกับพวกที่ชอบล้อบ่อยครั้ง มีเรื่องบ่อยจนเป็นที่เอือมระอาของครูที่โรงเรียน จนกระทั่งจบมอสาม เปาจึงขอพ่อย้ายไปเรียนที่อื่น นั่นคือหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เปาขอความช่วยเหลือจากพ่อ

พอขึ้นมอสี่ที่โรงเรียนใหม่ เปาก็ขอพ่อว่าห้ามไปรับไปส่งอย่างเด็ดขาด ที่จริงเปาก็ไปโรงเรียนด้วยตัวเองตั้งแต่ประถมปลายๆ แล้ว แต่บางครั้งพ่อก็ไปรับไปส่งบ้าง แต่คราวนี้เปาไม่ต้องการให้พ่อปรากฎกายที่โรงเรียนใหม่อย่างเด็ดขาด รวมทั้งขอด้วยว่าไม่ให้พาผู้ชายมานอนบ้าน พ่อก็รับปาก เขาจึงได้เรียนอย่างสงบสุข แม้ว่าจะไม่มีเพื่อนสนิทเลยก็ตาม

วันหนึ่งเปาก็สังเกตเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งคอยแอบมองเขาบ่อยๆ บางทีก็ทำเป็นมาชวนคุยด้วย ท่าทางเหมือนอยากเป็นเพื่อน แต่บางอย่างก็บอกเปาว่าน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น จนกระทั่งเปามั่นใจว่าเพื่อนคนนี้เป็นเกย์และน่าจะชอบเขา เขาจึงเป็นฝ่ายชวนเพื่อนต่างห้องคนนั้นไปดูหนังด้วยกัน เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้แค้นให้แม่ที่เปาคิดเอาเองในตอนนั้น

ไม่นานจีนกับเปาก็สนิทกัน เปามักเล่นเหมือนหมาหยอกไก่กับจีนบ่อยๆ ซ้ำยังชอบพูดหรือทำให้เข้าใจไขว้เขวว่ามีใจให้ ยิ่งทำให้จีนรู้สึกลึกซึ้งกับเปามากขึ้น เปาขอให้ช่วยทำอะไร จีนจะทำให้อย่างเต็มใจเสมอ วันไหนขี้เกียจทำรายงานเอง เปาก็ขอให้จีนช่วย เห็นนาฬิกาแพงๆ ก็หลอกให้จีนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด เวลาไปเที่ยวด้วยกัน เปาก็จะให้จีนออกเงินฝ่ายเดียว แต่จีนก็ไม่เคยปริปากบ่น

เปาเคยเรียกว่ามันคือการแก้แค้น แต่ที่จริงน่าจะเป็นการระบายออกจากจิตใต้สำนึกมากกว่า เพราะคนที่เขาเกลียดคือพ่อ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ จนกระทั่งจีนหลงเข้ามาเป็นเหยื่ออารมณ์ของเขา

ช่วงเวลานั้น จะว่าไปจีนก็เป็นเพียงคนเดียวที่เปาสนิทด้วยมากที่สุด แม้ว่าต้องการแก้แค้น แต่เปากลับต้องต่อสู้กับความรู้สึกภายในใจอย่างมาก คนขาดความอบอุ่นมักวิ่งวนไขว่คว้าหารัก เมื่อจีนนำสิ่งนั้นมาให้ เปาจึงเป็นฝ่ายทรมานเสียเอง ทั้งรักทั้งเกลียดในเวลาเดียวกัน

ก่อนจบมอหกหนึ่งวัน เปาเล่นเพลงฟอร์เดอะเฟิร์สไทม์ให้จีนฟังที่โรงเรียน จีนดีใจมากเพราะคิดไปว่าเปากำลังบอกความในใจ ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของเขากับจีนคลุมเครือ เขาเองก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้จีนพูดความรู้สึกด้วยซ้ำ เขายังจำรอยยิ้มดีใจของจีนได้เสมอ ที่จริงจีนอาจจะเข้าใจถูกแล้ว แต่วันถัดมาที่จีนมาบอกรัก เปาก็ทำให้ทุกอย่างพังลง

ตอนนั้นเพื่อนๆ กำลังเขียนเฟรนด์ชิพให้กัน จีนเดินเข้ามาเขียนเฟรนด์ชิปให้เปาตรงอกเสื้อ เขียนไปมือสั่นไป หน้าก็ซีดๆ ปากก็สั่นๆ แต่สุดท้ายจีนก็กล้าเปิดปากบอกความใน

"จีนรักเปานะ รักมาตั้งนานแล้ว เปาเป็นรักแรกของจีน และจีนก็คิดว่า…เปาก็น่าจะรู้สึกไม่ต่างกัน…ใช่ไหม" จีนยิ้ม แต่ก็ยังไม่กล้ายิ้มมาก การบอกรักครั้งแรกน่าตื่นเต้นแค่ไหนทุกคนก็คงรู้ กระนั้นจีนก็มั่นใจว่าที่ผ่านมาเขาไม่ได้คิดไปเองแน่นอน

วินาทีนั้น ฝ่ายดำกับฝ่ายขาวสู้รบกันในใจของเปาอย่างหนัก สุดท้ายฝ่ายขาวก็เพลี่ยงพล้ำ เปาจึงผลักจีนล้มลงก้นจ้ำเบ้า ชี้หน้าด่าอย่างกับโกรธเกลียดกันมาสิบชาติ

"กูไม่เคยรักมึงเลยไอ้ตุ๊ด! มึงรู้ไหมว่ากูเกลียดมึงมากแค่ไหน รู้ไว้นะเว้ย กูเกลียดไอ้พวกผู้ชายทุกคนที่มันเล่นวอลเลย์บอล กูโคตรขยะแขยงเลย ไม่อยากจะอยู่ร่วมโลกกับพวกมึงด้วยซ้ำ!"

จีนช็อคสุดขีด เขาหน้าเหวอและอ้าปากค้าง แทบไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินเลย ซ้ำยังต้องอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเพราะเพื่อนๆ วิ่งเข้ามามุงดูกันเต็ม

"เฮ้ยไอ้เปา มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันก็ได้ วันนี้วันสุดท้ายแล้วนะเว้ย จะมาทะเลาะกันทำไมวะ" เพื่อนๆ พยายามเตือนสติ แต่เปาก็หันไปตวาดไล่เพื่อนๆ ออกไป

"พวกมึงไม่ต้องมายุ่งเลย" เพื่อนที่จะเข้ามาห้ามพลันชะงัก เปาจึงหันมาชี้หน้าด่าจีนต่อ "ตุ๊ดอย่างมึง ผู้ชายที่ไหนเขาจะเอาวะ สำเหนียกตัวเองซะบ้างนะเว้ย เป็นยังไงล่ะ สมน้ำหน้า คิดเหรอว่ากูจะชอบมึง มึงคิดของมึงไปเอง เสือกโง่เองก็ช่วยไม่ได้ มึงรู้ไหมว่าเวลามึงอยู่ใกล้ๆ กู กูอยากจะอ๊วก ไม่เผลอถีบกระเด็นก็บุญเท่าไหร่แล้ว"

เปาหัวเราะเยาะด้วยความสะใจ ในที่สุดเขาก็แก้แค้นให้แม่ได้สำเร็จ เขาอยากให้คนพวกนี้เจ็บปวดเหมือนที่แม่เคยเจ็บปวด เสียดายที่เขายังทำแบบนี้กับพ่อไม่ได้ จึงเอามาลงที่คนอื่นไปพลางๆ ก่อน

"เปา ทำไมเปาพูดแบบนี้ จีนทำอะไรผิดเหรอ ทำไมเปาต้องด่าจีนขนาดนี้ด้วย จีนไปทำอะไรให้" จีนร้องไห้สะอึกสะอื้น ไม่คิดว่าจะมีครั้งไหนในชีวิตที่เจ็บหนักและอับอายเท่านี้

"ก็กูเกลียดมึงไง มึงได้ยินไหม!" เปาตะคอกเสียงดัง ริมฝีปากสั่นระริก "คนเหี้ยๆ อย่างพวกมึงน่ะ อยู่ไปก็รกโลก มึงไม่ต้องมาร้องไห้ให้กูเห็น ไปไกลๆ ตีนกูเลยนะมึง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มึงอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก ไอ้ตุ๊ด ไอ้วิปริตผิดเพศ กูเกลียดมึง ไปตายซะไป!"

เปาใช้เท้าถีบลงไปที่แข้งของจีนแรงๆ หนึ่งครั้งแล้วก็เดินหนี ปล่อยให้จีนร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้นอย่างน่าเวทนา เปาไม่แม้แต่จะชายตามอง นับตั้งแต่วันนั้น เขาก็ไม่เคยเจอจีนอีกเลย

น้ำตาของเปาค่อยๆ ไหลลงมาอย่างช้าๆ เสียงเพลงนั้นพาเปาหวนรำลึกถึงอดีตที่เคยสวยงามเมื่อครั้งนั้น เขาไม่เคยอยากคิดถึงมันอีกเลย พยายามจะลืมให้ได้ แต่ไม่มีใครสามารถลบลืมอดีตสำคัญๆ ของตัวเองได้หรอก โดยเฉพาะความรู้สึกของเปาที่มีต่อผู้ชายคนนั้น

เปาอาจจะชนะที่แก้แค้นให้แม่ได้ แต่เขาก็แพ้ให้กับความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้น

"เปาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม"

เสียงของฟางดังขึ้นใกล้ๆ ไม่รู้ว่าเธอหยุดเล่นเปียโนและเดินมาหาเปาตั้งแต่ตอนไหน เปาตื่นจากภวังค์ทันที จะเช็ดน้ำตาก็ไม่กล้าทำต่อหน้าแฟน เขาก็เลยใช้วิธีกอดฟางไว้และปลดปล่อยความอัดอั้น

"เปาคิดถึงแม่น่ะฟาง"

เปาเป็นแบบนี้อีกแล้ว เขามักมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จนบางทีคนใกล้ตัวก็ปรับตามไม่ทัน ฟางกอดตอบแฟนหนุ่มเบาๆ และลูบหลังเขาไปด้วย ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เปาคิดถึงแม่ แต่เธอก็อดสงสารไม่ได้ ถ้าเธอเป็นเปาและเห็นแม่ตายอย่างน่าเวทนา เธอก็คงสะเทือนใจไม่น้อย ภาพนั้นคงติดตาไปตลอดชีวิต

"แม่ของเปาคงดีใจนะที่รู้ว่าเปายังคิดถึงเขาอยู่ ถึงแม่จะไม่อยู่กับเปา แต่แม่เปาก็เฝ้าดูอยู่บนสวรรค์ตลอดเวลานะ"

แม้จะฟังดูเหมือนปลอบเด็ก แต่คนฟังก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม

"ทำไมชีวิตเปามันบัดซบอย่างนี้ล่ะฟาง โคตรบัดซบเลย"

ฟางขมวดคิ้วแน่น บ่งบอกว่าไม่เข้าใจสิ่งที่เปาพูดอย่างที่สุด "ทำไมเปาพูดอย่างนั้น ชีวิตของเปาก็โอเคดีนะ ไม่ได้แย่ขนาดนั้นซะหน่อย"

"ทำไมจะไม่แย่ ฟางไม่รู้หรอก...เปาไม่ใช่คนดีอย่างที่ฟางเห็น ชีวิตของเปามันบัดซบมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย" เปาเถียง ใส่อารมณ์ในน้ำเสียงพอสมควร

ฟางผละออก แววตาของเธอยังฉายแววฉงน เธอจ้องหน้าเปานิ่งเหมือนกับพยายามค้นหาอะไรบางอย่าง "เปาพูดเรื่องอะไรน่ะ ฟางไม่เคยเห็นเปาเป็นคนไม่ดีเลยนะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เปาบอกฟางได้หรือเปล่า"

เปากลืนน้ำลายอึกใหญ่ พยายามสงบสติอารมณ์ให้เป็นปกติมากที่สุด เขานิ่งคิดอยู่พักใหญ่ ดูเหมือนจะคิดหนักเสียด้วย แต่ฟางก็อดทนรออย่างใจเย็น รอจนกระทั่งเปาเอ่ยปากพูด

"ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งฟางรู้ว่าเปาเคยทำอะไรไม่ดี...ไม่ดีเอามากๆ ฟางจะให้อภัยเปาไหม"

ฟางพยักหน้า ยิ้มน้อยๆ "ทำไมจะไม่ได้ล่ะ มันผ่านมาแล้วนี่ ฟางก็ไม่รู้หรอกนะว่าเปาเคยทำอะไรผิด หรือเคยทำอะไรไม่ดีมาก่อน แต่ถ้ามันผ่านมาแล้ว กลับไปแก้ไขไม่ได้ ฟางว่า...เปาก็ควรจะปล่อยให้มันผ่านไป เดินไปข้างหน้าดีกว่านะเปา เชื่อฟางสิ"

เปาพยายามคิดตาม แต่คำพูดเพียงอย่างเดียวคงช่วยไม่ได้ เขาต้องการทางออกที่มากกว่าคำพูด แต่กระนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าทางออกนั้นคืออะไร

"ช่างมันเถอะ" เปาถอนหายใจ "พรุ่งนี้...ฟางไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนเปาก็ได้นะ"

"แล้วเปาอยู่คนเดียวได้เหรอ"

"เปาก็อยู่ของเปาแบบนี้มาตั้งนานแล้ว"

"ฟางก็แค่เป็นห่วงเท่านั้นแหละ ก็เลยอยากถามให้สบายใจ แต่ว่า...ที่จริงฟางก็ไม่ได้ไปไหนนะ ถ้าเปาอยากให้มาอยู่เป็นเพื่อน ฟางก็มาได้ จะเกรงใจทำไม เราเป็นแฟนกันแล้วนี่"

จะว่าอย่างนั้นก็ใช่ แต่เปารู้สึกว่าช่วงนี้เขาไม่อยากเจอแฟนบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อนเลย แม้กระทั่งจะมีอะไรกันก็ยังบ่ายเบี่ยงบ่อยๆ น่าจะเป็นเพราะมีภาพของใครคนหนึ่งตามติดเขาไปทุกที่ ที่สำคัญ ความคิดถึงคนในภาพนั้นก็เริ่มรุนแรงมากขึ้นและมากขึ้น ตอนแรกว่าจะไปหา แต่เปาก็กลัวเจอคนที่เขาไม่อยากเจอ ก็เลยได้แต่คิดถึงอยู่แบบนี้

"ถึงจะเป็นแฟนกัน แต่รบกวนกันบ่อยๆ ก็ไม่ดีหรอกฟาง พรุ่งนี้ฟางยังไม่ต้องมาก็ได้ เปาอยากอยู่คนเดียวสักพัก ฟางก็รู้ไม่ใช่เหรอ เวลาเปามีปัญหา ถ้าเปาได้อยู่คนเดียวสักพักเปาก็จะหายเอง"

ฟางพยักหน้าเข้าใจ เพราะที่ผ่านมาเปาก็เป็นแบบนั้น "ก็ได้ แล้วคืนนี้ล่ะ จะให้ฟางอยู่หรือจะให้ฟางกลับบ้าน"

"ก็ฟางมาแล้วนี่ คืนนี้ก็อยู่นี่แหละ" เปาบอก

แม้มองหน้าแฟนแต่ใจก็ไพล่คิดถึงอีกคน เปานึกอยากให้ถึงพรุ่งนี้ไวๆ เพราะไท้ไลน์มาบอกว่าพรุ่งนี้ไม่มีซ้อม กอรปกับรุ่นพี่ทีมชาติก็ไม่อยู่ที่ กกท. แล้ว เปาจึงไม่ต้องกลัวว่าจะเผชิญหน้ากับใครคนนั้น เขาก็เลยว่าจะชวนไท้มาบ้านสักวัน

นี่แหละคนที่เปาอยากดูแล คนที่จะทำให้บ้านนี้ไม่เงียบเหงาเหมือนที่ผ่านมา


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

"ผมว่าผมจะลองเปลี่ยนมากระโดดเสิร์ฟมั่งอะพี่ ปกติเวลาผมเสิร์ฟผมจะเสิร์ฟแบบท็อปสปิน แต่บางทีมันก็ไม่ค่อยย้อยลงหน้าเน็ตเท่าไหร่ ถ้าเปลี่ยนมาจัมพ์เสิร์ฟ ผมว่ามันน่าจะรับยากกว่า พี่ว่าไหม บ้านเราไม่ค่อยมีคนจัมพ์เสิร์ฟด้วย"

"พี่ก็ว่าน่าจะดีนะ ในทีมมีใครเสิร์ฟแบบนี้ไหมล่ะ"

"ไม่มีเลยครับ ตอนนี้ทุกคนยืนเสิร์ฟ โฟลตติ้งเสิร์ฟก็มีอยู่สามสี่คน ส่วนท็อปสปินก็มีเยอะหน่อย หลายคนเลย ผมด้วย ถ้าผมเปลี่ยนมากระโดดเสิร์ฟ ทีมก็จะได้มีรูปแบบการเสิร์ฟที่หลากหลายไงครับ"

"แล้วโค้ชสอนเรื่องการกระโดดหรือยัง" เปาถาม ไท้ส่ายหน้าไปมา เปาจึงพูดต่อ "เพราะถ้าจะเสิร์ฟแบบนี้ พี่ว่ามันต้องฝึกเรื่องการกระโดดด้วย ต้องกระโดดให้สูงขึ้น แต่ไม่ควรใช้แรงเยอะเกินไป เดี๋ยวยืนไม่ได้นาน แล้วก็ต้องระวังเรื่องบาดเจ็บด้วย กระโดดแบบนี้ร่างกายจะพังไวด้วย"

"ก็จริงแหละพี่ ผมกลัวเรื่องนี้แหละ" ไท้ยิ้ม

ที่จริงรอยยิ้มนั้นก็ดูธรรมดา แววตาคู่นั้นก็แค่มีประกายใสซื่อ ส่วนลักยิ้มที่โผล่มายามยิ้มก็ไม่น่ามีส่วนอะไรมาก แต่ทำไมทุกอย่างจึงดูมีเสน่ห์ไปหมด แม้กระทั่งเวลาพูด ริมฝีปากที่ขยับขึ้นลงก็น่ามอง เสียงพูดนั้นเล่าก็ช่างน่าฟัง เปาคงจะบ้าไปแล้วที่รู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนนี้

"แต่ไม่ต้องห่วงหรอก นี่ดูนี่" เปาบอกพลางเปิดไอแพ็ดให้ดูคลิปที่เขาหาไว้ให้แล้ว เขากดเล่นและส่งให้ไท้ดู

"ภาษาอังกฤษเหรอ ผมฟังไม่ออกน่ะ" ไท้ว่าพลางขำตัวเองเบาๆ

"พี่ศึกษามาแล้ว เดี๋ยวพี่จะบอกเอง คลิปนี้เขาสอนเรื่องการฝึกกระโดดให้สูง เขาจะมีเชือกที่มันยืดได้พันไว้ตรงเหนือเข่า สอดเข้าไปในขา แล้วก็พันเป็นเลขแปด ท่าแรก เดินแล้วยกเข่าขึ้นสูงๆ มันจะช่วยเพิ่มกำลังขา ท่าต่อไปก็กระโดดพร้อมกันสองขาไปข้างหน้าแล้วย่อตัวลง มันจะช่วยเพิ่มความสูงในการกระโดด ท่าต่อไปก็กระโดดขาเดียวไปข้างหน้า แล้วก็สลับขา ซิกแซ็กไปมา อันนี้ช่วยฝึกเรื่องการทรงตัวเวลากระโดด พอทำครบแล้วก็ค่อยมาฝึกกระโดดตบ ไม่ยากหรอก" เปาหันไปยิ้ม

"พี่เปาเก่งจังเลย ขนาดไม่เคยเล่นนะเนี่ยยังรู้เลยว่าจะฝึกยังไง" ไท้ชม

"ที่จริงความรู้พวกนี้มันมีในอินเตอร์เน็ตเยอะเลยนะ แต่ว่ามันเป็นภาษาอังกฤษ ไท้ต้องฝึกภาษาอังกฤษเยอะๆ นะ จะได้หาความรู้ได้ง่าย แล้วถ้าเกิดต่อไปได้ไปเล่นสโมสรต่างประเทศ จะได้คุยกับเขารู้เรื่องไง"

"จริงด้วย" ไท้พยักหน้าตามช้าๆ "แต่ภาษาอังกฤษผมไม่ค่อยได้เรื่องเลย ทำไงดีล่ะครับ"

"ต่อไปถ้าไท้มีเงิน ก็ลองไปลงเรียนภาษาอังกฤษดู อย่างวอลสตรีท บริทิชเคาน์ซิลหรือเอยูเอก็ได้ แต่ต้องแบ่งเวลาดีๆ หน่อย จะได้ไม่เสียทั้งการเรียนและกีฬา ไท้เก่งอยู่แล้ว ทำได้ เชื่อพี่สิ" เปาตบลงไปบนไหล่อีกฝ่ายเบาๆ ยิ้มบางๆ

เปารู้สึกดีเสมอเวลาอยู่กับไท้ โดยนิสัยแล้วเขาเป็นคนชอบดูแลผู้อื่น ลูกค้าที่มาที่ร้านมักชอบมาคุยกับเปาและให้เปาสอนมากกว่าคนอื่นๆ เพราะเขาสอนอย่างใส่ใจ แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อยๆ แต่การดูแลลูกค้ากับดูแลใครสักคนที่รู้สึกดีด้วยย่อมต่างกัน

"พี่เปา! ดูไอ้สองตัวนั่น!" ไท้ชี้ไปที่จุดเกิดเหตุด้วยท่าทางตื่นระคนขำ

"เฮ้ย!" เปาหันไปดูและอุทานเมื่อเห็นเจ้าหมาสองตัวแย่งกัดกระดาษทิชชู่กัน

เปากับไท้ลุกจากเก้าอี้นั่งเล่นในบ้านแล้ววิ่งไปหาเมสซี่กับเนยมาร์ พวกมันหยุดทันที แถมยังทำหน้าเหมือนกับรู้ตัวว่าทำผิด

"ใครทำ บอกมานะใครทำ เมสซี่เริ่มก่อนใช่ไหม" เปาแกล้งทำเสียงดุใส่ และชี้ไปทางเมสซี่

"โว้วๆๆๆๆ" เมสซี่เถียงและยื่นปากไปทางเนยมาร์ คล้ายกับจะโทษว่าอีกฝ่ายเป็นคนเริ่ม

"เนยมาร์เริ่มก่อนเหรอ" เปาชี้ไปทางเนยมาร์บ้าง มันก็เถียงเหมือนเมสซี่

"โว้วๆๆๆๆๆ"

ไท้เห็นพวกมันเกี่ยงและเถียงกันก็ขำใหญ่ ไม่ว่าเปาจะชี้ไปที่ตัวไหน พวกมันต่างก็ไม่ยอมรับและเถียงกันไปมา ไท้เห็นอย่างนั้นก็วิ่งกลับมาหยิบโทรศัพท์ แล้วก็วิ่งมาถ่ายคลิปคนกับหมาเถียงกัน เถียงกันอยู่พักหนึ่ง เปาจึงเลิกเถียงด้วย

"ไม่มีใครยอมรับใช่ไหม งั้นไปเล่นข้างนอกเลย ซนแบบนี้จะไม่ให้เข้าบ้านแล้ว เดี๋ยวจะจับอาบน้ำด้วย ไม่ได้อาบน้ำหลายวันแล้วใช่ไหม"

แค่ได้ยินคำว่าอาบน้ำ เจ้าสองตัวนั้นก็พากันวิ่งหนีลนลาน เปาแกล้งวิ่งไล่ตามไป พวกมันคงกลัวถูกจับอาบน้ำมากจึงพากันวิ่งออกไปหน้าบ้านตรงสนามหญ้า เปาหยุดวิ่งตาม เขายืนหัวเราะและส่ายหน้าไปมาด้วยความเอ็นดู

"ไปไท้ ไปซ้อมกัน" เปาหันมาบอก

ไท้หยุดถ่ายคลิป ทำหน้าสงสัย "ซ้อมอะไรเหรอครับ"

"ก็ที่ดูเมื่อกี้ไง" เปาบอก จากนั้นก็เดินไปหยิบลูกวอลเลย์บอลและเชือกแบบยืดได้ซึ่งวางไว้บนโซฟาติดมือมาด้วย

เมื่อไท้ออกมาตรงสนามหญ้า จึงเห็นว่าเปาเอาแผ่นรองแก้วสีส้มๆ ทำด้วยยางมาวางซิกแซ็กให้ประมาณเจ็ดแปดชิ้น เหมือนที่ไท้เพิ่งดูในคลิปเมื่อกี้เลย เขารู้สึกทึ่งระคนตื้นตันใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ขนาดนี้

เปาให้ไท้สวมเชือกยืดได้เข้ากับขา เขาช่วยเขยิบตำแหน่งให้มาอยู่เหนือหัวเข่าเล็กน้อย จากนั้นก็ให้ไท้ฝึกตามคลิปเมื่อสักครู่นี้ เริ่มจากฝึกยกขาให้สูง ฝึกกระโดดสองขา ฝึกกระโดดขาเดียวสลับข้างกันในทิศทางซิกแซ็ก จากนั้นก็ให้ฝึกกระโดดตบ เปาเป็นคนโยนลูกให้วิ่งมากระโดดตบ พอลูกบอลหล่นพื้น เมสซี่กับเนยมาร์ก็วิ่งไปหาลูกบอล พวกมันตั้งใจว่าจะคาบมาให้ แต่ลูกใหญ่เกินไป เมื่อคาบไม่ได้ก็ได้แต่เห่า ไท้กับเปาหัวเราะชอบใจกันใหญ่

เปาวิ่งไปหยิบลูกบอลมาเอง จากนั้นก็โยนให้ไท้ตบ เจ้าหมาสองตัวคอยวิ่งตามลูกบอล แม้จะคาบมาไม่ได้แต่พวกมันก็สนุกมาก เมื่อซ้อมจนพอใจแล้ว เปาก็ขอความช่วยเหลือบางอย่าง

"ไท้ ช่วยอะไรพี่หน่อยดิ"

"อะไรเหรอครับ" ไท้ทำหน้าสงสัย ตามเนื้อตัวมีเม็ดเหงื่อผุด เขาร้อนจนต้องถอดเสื้อออก

"จับพวกมันอาบน้ำ" เปาบอกเบาๆ เพราะกลัวเจ้าสองตัวนั้นได้ยิน

แต่พวกมันก็ได้ยินเสียแล้วเพราะหูไว ก็เลยพากันวิ่งหนี เปากับไท้ต้องวิ่งไล่จับ ทั้งขู่ ทั้งปลอบ แต่พวกมันก็เห่าใส่ และทำท่าจะไม่ยอมให้จับตัวพวกมันง่ายๆ เนยมาร์ออกอาการกลัวมากกว่าใคร มันร้องเจ็บปวดอย่างกับจะถูกฆ่า กระนั้นพวกมันก็โดนจับอาบน้ำจนได้

เปากับไท้พาพวกมันไปอาบน้ำในห้องน้ำ ทั้งคู่ถอดเสื้อเหลือแต่กางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงินมีโลโก้เชลส์ซีเหมือนกัน เปาอาบให้เมสซี่ ไท้อาบให้เนยมาร์ อาบไปพวกมันก็ร้องไป คงจะบ่นและแอบด่าพวกมนุษย์ที่ทรมานพวกมันด้วยการจับอาบน้ำ

เสร็จแล้วสองหนุ่มก็ช่วยเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดขนพวกมันให้แห้งหมาดๆ ก่อนพาพวกมันออกมาจากห้องน้ำและเป่าขนให้แห้งที่หลังบ้าน เปาซื้อไดร์เป่าผมมาใช้กับหมาโดยเฉพาะ เมื่อแห้งดีแล้วก็ปล่อยพวกมันให้เข้าไปนอนในบ้านหมา เมื่อโดนจับอาบน้ำแล้วพวกมันก็ไม่กล้าเข้ามาเฉียดกรายเปากับไท้เลย คงจะกลัวโดนจับอาบน้ำอีก

"พรุ่งนี้เช้า เราทำคลีนฟูดกินกันดีไหมครับพี่เปา ตอนผมเข้าแคมป์นะ คิดถึงอาหารคลีนฟูดของพี่เปามาก ผมว่ามันดีนะ กินง่าย ทำง่าย อร่อยด้วย" ไท้หันมาชวนขณะเดินเข้ามาในบ้าน

"เอาสิ แต่ตอนนี้...มากินขนมกันไหม พี่ซื้อซาลาเปาลาวามา เคยกินไหม"

ไท้ส่ายหน้า "ไม่เคยครับ เคยกินแต่ซาลาเปาธรรมดา มันเป็นยังไงเหรอครับ"

"งั้นไปนั่งรอก่อน เดี๋ยวพี่เอาไปให้ ต้องเวฟหน่อยเพราะว่ามันเย็นแล้ว" เปาบอก เขาแยกไปเข้าครัว ส่วนไท้ก็เดินมานั่งเล่นตรงโซฟา

ไม่ถึงห้านาที เปาก็ยกจากใส่ซาลาเปาลาวาไข่เค็มออกมา เขาชอบกินมาก มีร้านประจำในห้างแห่งหนึ่งและมักจะซื้อมากินบ่อยๆ

"มาแล้ว ซาลาเปาลาวาไข่เค็มร้อนๆ"

เปาบอกขณะวางจานลงบนโต๊ะเตี้ยๆ วันนี้เขาลงทุนขอเพื่อนกลับก่อนตอนบ่ายสอง แวะไปซื้อซาลาเปาลาวาที่ห้าง จากนั้นก็ไปรับไท้มาที่บ้าน มาถึงที่นี่ประมาณบ่ายสามเศษๆ เพราะรถยังไม่ติดมาก

"โห แค่เห็นก็น่ากินแล้วครับ" ไท้บอกอย่างตื่นเต้น

ด้วยความอยากกิน ไท้จึงหยิบขึ้นมาหนึ่งลูก เปาว่าจะร้องห้ามแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อไท้บิมันออก ลาวาไข่สีส้มเหลืองก็พุ่งออกมาเลอะมือ แถมบางส่วนยังกระเด็นไปเปรอะบนหน้าอกไท้ด้วย ดีที่เขายังไม่ได้ใส่เสื้อ ไม่อย่างนั้นเสื้อคงเลอะลาวาไข่เค็มด้วยแน่

เปาหัวเราะขบขันและส่ายหน้าไปมา "พี่กำลังจะบอกว่าอย่าบิมัน เลอะเลย"

ไท้หัวเราะแหะๆ

"วางลงก่อน เดี๋ยวพี่เอาทิชชู่มาให้เช็ด" เปาบอก ไท้วางซาลาเปาลูกนั้นลงไปอย่างว่าง่าย

เปาทำท่าจะเดินไปเอากระดาษทิชชู่มาให้ จู่ๆ เขาก็หยุดกึกหลังเดินไปสองสามก้าว พักหนึ่งก็หันกลับไปมองมือและอกของไท้ที่เปรอะอยู่ เปากลืนน้ำลายลงคอ คล้ายกับกำลังจะตัดสินใจทำบางอย่าง เขาเดินมาหาไท้ที่โซฟา นั่งลงข้างๆ ไท้ ส่วนไท้คอยมองด้วยสีหน้าสงสัย เพราะไม่รู้ว่าเปาจะทำอะไร

เปาจับมือขวาของไท้ซึ่งเปรอะลาวาไข่ขึ้นมา มือเขาสั่นจนรู้สึกได้ หัวใจของเขาเต้นรัวจนคุมจังหวะไม่อยู่ สีหน้าบ่งบอกความประหม่าเต็มที่ แต่เขาไม่แสดงอาการว่าจะถอยหนี ซ้ำยังจะเดินหน้าต่อ

ไท้ถึงกับเบิกตาโตด้วยความตกใจเมื่อเปาทำสิ่งที่เขาไม่คาดคิด เปาดึงมือเขาขึ้นมาดูดเลียตามนิ้วมือซึ่งเปรอะด้วยลาวาไข่ พร้อมกับสบตาไท้นิ่งจนแทบไม่กะพริบ สัมผัสหยุ่นเย็นตามนิ้วมือปลุกอารมณ์วาบหวามรัญจวนใจให้เตลิด เลือดในการสูบฉีดแล่นพล่านจนผิวหน้าและผิวกายร้อนผ่าว

เมื่อสะอาดดีแล้วเปาก็ปล่อยมือไท้ลง เขาเขยิบเข้ามาใกล้ไท้อีก คราวนี้สีหน้าดูประหม่ายิ่งกว่าเดิม ไท้เองก็ประหม่าและใจเต้นรัวไม่แพ้กัน แต่เขาก็ยังอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

เปาก้มหน้าลงไปตรงช่วงหน้าอกของไท้ เขาลังเลเล็กน้อย สักพักก็ลงลิ้นเลียคราบลาวาไข่เค็มที่เปรอะตรงหน้าอกของไท้ เล่นเอาอีกฝ่ายตกใจจนสะดุ้งและเสียววาบไปถึงท้องน้อย

"พี่เปาอย่าครับ!" ไท้ร้องห้าม แต่เขากลับไม่ผลักใสใดๆ มีเพียงลมปากที่บอกออกไปเท่านั้น

เปาชะงักและเงยหน้ามามอง ความหวั่นไหวปรากฎในแววตาของทั้งคู่ มันไหวระริกจนเต้นเร่าในแววตา รู้สึกได้อย่างแรงกล้า คงเป็นสายตาแห่งความปรารถนาคู่นั้นเองที่ทำให้ไท้ไม่ต่อต้านใดๆ เลย

เปาเลื่อนสายตาลงต่ำมายังจุดเดิม เขาจ้องนิ่งดูเม็ดทับทิมซึ่งยังมีคราบลาวาไข่เค็มติดอยู่ พลันก็ลงลิ้นโลมเลียไปบนเนินเนื้อขาวจัดและเม็ดตุ่มนั้นอีกครั้ง ไท้ครางเบาๆ ด้วยความเสียวซ่าน บิดตัวไปมาและสูดปากเล็กน้อย เปาเลียวนไปมาสักพักก็หยุด ไม่มีคราบใดๆ อีกแล้วนอกจากน้ำลายที่เปียกชื้น แต่ไม่นานก็แห้งเหือดไป

"ไท้รู้ไหม...พี่ไม่เคยรู้สึกมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย" เปาบอกเสียงสั่น ฟังดูก็รู้ว่าพยายามควบคุมเสียงอย่างเต็มที่ "ตั้งแต่ไท้มาอยู่ด้วย พี่มีความสุขมาก...ที่ได้ดูแลไท้ ตอนที่ไท้ไม่อยู่ พี่...คิดถึงไท้ทุกวันเลย พี่อยากให้ไท้มาอยู่ใกล้ๆ พูดคุยกับพี่ ถามพี่ เล่นกับพี่ แล้วก็เล่นกับไอ้สองตัวนั้นด้วยกัน ไท้รู้ไหม...ไม่เคยมีใครช่วยพี่อาบน้ำพวกมันเลย ไท้เป็นคนแรกเลยนะ" เปาเว้นจังหวะก่อนจะถาม "ไท้อยากมาอยู่กับพี่หรือเปล่า"

"พี่เปา..." ไท้พูดได้เท่านี้ คงตกใจจนนึกอะไรไม่ออก อาการของเปาตอนนี้เหมือนคนมีความรัก แต่ทำไมเปาถึงแสดงความรู้สึกนี้กับไท้ล่ะ หรือว่าเปาแค่สับสนเท่านั้น

เปาเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ สายตาเขาจับจ้องที่ริมฝีปากอิ่มและสายตาหวั่นไหวสลับกัน แต่ก่อนจะรุกล้ำไปมากกว่านั้น เปาก็พูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ไท้ก็ได้ยินชัดเจน

"พี่ต้องการไท้"

TBC



ต้น-สน ตอนพิเศษ 6: จากเพื่อนสู่รัก (ความอบอุ่นในหัวใจครั้งสุดท้าย) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46898.msg3571877#msg3571877)

(https://s19.postimg.org/6j23axedf/tonson_sp05p3.jpg)


หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-02-2017 13:58:42
เอิ่มมมม..ยากจะคาดเดา
ว่าจริงๆแล้วคืออะไรกันแน่

หวั่นไหวจริงหรือแสร้งทำ
มันจะซ้ำรอยเหมือนกับที่จีนเคยโดนมา
ใช่หรือเปล่า

คาดเดากับเปาไม่ออกเลย

แต่อ่านตอนนี้แล้วสองคนนี้เค้ากระหนุงกระหนิง
จุ๊งจิ๊งกระดิ่งหมา ม่อกกกกกก

+1 ให้ทั้งเปาและไท้
จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-02-2017 15:04:15
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-02-2017 16:34:05
:L2: :pig4:

ดีใจที่มาอ่านต่อนะครับ เรื่องนี้จะดราม่านิดนึง แต่รับรองว่าสนุกครับ :)
ไม่แน่ใจว่าอ่าน "ต้น-สน" ด้วยไหม จำได้ว่าเคยอ่านนะครับ
ตอนนี้มีตอนพิเศษมาให้อ่านแล้ว แวะไปดูที่ห้อง "นิยายที่โพสต์จนจบแล้ว" ได้เลยครับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-02-2017 19:01:30
ูู^^ London Eye นะ เราเล็งไว้แล้ว
กะว่าจะเริ่มอ่านใหม่อีกรอบ สับสนว่าอ่านเวอร์ชั่นไหนไปแล้วบ้าง

ดีใจมากๆที่กลับมาเขียนอีก
เรื่องใหม่จี๊ดจ๊าดมาก 55
อ่านสองเรื่อง ต้องเคลียร์ pinkish nipples ออกจากหัวก่อน เดี๋ยวอ่านไม่รู้เรื่อง :o8:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [วอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 05-02-2017 21:46:18
เราว่าเปาชอบน้องจริงๆ นั่นแหละ แต่ปัญหามันจะอยู่ความคิด ทัศนคติของเปาอ่ะ นางยังรับไม่ได้แน่ๆ กับความรู้สึกว่าตัวเองจะเบี่ยงเบน และนางก็ดูควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อันนี้น่ากลัวนะ
น่าสงสารทั้งคู่เลยไท้ที่ไม่รู้เรื่อง กับเปาที่ฝังใจกับแม่
แถมจีนด้วยอีกคน ไม่แน่นะจีนอ่ะ อาจจะยังชอบเปาอยู่แล้วมารู้ว่าเปาชอบไท้ อาจจะเผลออิจฉาไท้ด้วยซ้ำ

อู่ย ดราม่าแน่ๆ //อีนี่คิดเป็นตุเป็นตะเลย
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอลชาย]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-02-2017 23:05:07
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-02-2017 07:04:38
เราว่าเปาชอบน้องจริงๆ นั่นแหละ แต่ปัญหามันจะอยู่ความคิด ทัศนคติของเปาอ่ะ นางยังรับไม่ได้แน่ๆ กับความรู้สึกว่าตัวเองจะเบี่ยงเบน และนางก็ดูควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อันนี้น่ากลัวนะ
น่าสงสารทั้งคู่เลยไท้ที่ไม่รู้เรื่อง กับเปาที่ฝังใจกับแม่
แถมจีนด้วยอีกคน ไม่แน่นะจีนอ่ะ อาจจะยังชอบเปาอยู่แล้วมารู้ว่าเปาชอบไท้ อาจจะเผลออิจฉาไท้ด้วยซ้ำ

อู่ย ดราม่าแน่ๆ //อีนี่คิดเป็นตุเป็นตะเลย

555 งานมโนต้องมา
ขอบคุณที่มาติดตามอีกหนึ่งคนครับ
เพิ่งสังเกตว่าโพสต์ครั้งแรก เจิมให้เรื่องนี้ก่อนเลย
เรื่องนี้ดราม่าสมใจแน่สำหรับคนที่ชอบดราม่า :)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP08 ลาวาไข่เค็ม ◯ 05.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 06-02-2017 13:08:22
เปากับจีนมีอดีตร่วมกันนี่เอง แล้วไท้ล่ะจะทำไง
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP09 เผชิญหน้า ◯ 06.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-02-2017 18:26:03
EP 09 | คนเหี้ยๆ

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


แท็กซี่แล่นมาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่งก็จอดสนิท หญิงสาวซึ่งนั่งโดยสารมาหยิบเงินจากกระเป๋ามาจ่าย

"ไม่ต้องทอนนะคะ" เธอบอกคนขับเมื่อเขาทำท่าจะทอนเงินให้ ปกติเธอมักให้ทิปบ่อยๆ ยี่สิบบ้าง สามสิบบ้าง

ขาเรียวสวยก้าวลงจากรถแล้วเดินมาที่ประตูหน้าบ้าน ตอนแรกเธอว่าจะกดกริ่งเรียก แต่สายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นประตูช่องเล็กแง้มๆ ไว้ เมื่อลองผลักออกก็เปิดได้ แสดงว่าเจ้าของบ้านลืมปิด ฟางก้าวเข้าไปในบ้านแล้วเหลียวซ้ายแลขวา เธอกลัวหมาสองตัวจะอยู่ตรงไหนสักแห่ง ถ้าพวกมันวิ่งมาหาเธอ ไม่ว่าจะมาดีหรือร้าย เธอคงสติแตกเป็นแน่เพราะกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ไฟในบ้านยังคงเปิดอยู่ แสดงว่าเปาไม่ได้ไปไหน ไม่รู้ว่าป่านนี้หายเครียดแล้วหรือยัง ที่จริงฟางไม่ได้ตั้งใจมาหาเปาวันนี้หรอก แต่เมื่อวานเธอลืมโทนเนอร์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ไว้ในห้องของเปา เธอจึงต้องมาเอาเอง เพราะไม่อย่างนั้นคืนนี้จะไม่มีใช้ จึงต้องถ่อสังขารมาที่นี่ ซ้ำยังไม่ได้เอารถมาเองเพราะน้องชายเธอขอเอาไว้ใช้พายายไปโรงพยาบาลวันนี้ เธอจึงต้องนั่งแท็กซี่มา นอกจากนี้ก็ไม่โทรบอกเปาด้วย เพราะกะว่าจะให้เปาแปลกใจเล่น

โชคดีที่เมสซี่กับเนยมาร์อยู่หลังบ้าน ฟางจึงรอดตัวจากการถูกสัตว์หน้าขนจู่โจมไปได้ เธอมาหยุดยืนที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนใช้มือเลื่อนเปิดประตูออก

เมื่อเธอก้าวขาเข้าไปและสอดส่ายสายตาหาเจ้าของบ้าน เธอก็ต้องตกใจจนแทบช็อคเมื่อเห็นกิจกรรมบางอย่างตรงมุมโซฟา แฟนหนุ่มของเธอกำลังกอดจูบกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่อย่างถึงพริกถึงขิง เธอตกใจจนแทบช็อค ดีที่ไม่หวีดร้องออกมาสุดเสียง

"เปา! นี่มันอะไรกันน่ะ!" ฟางร้องถามเสียงสั่น

เปาสะดุ้งตกใจและหยุดรุกล้ำหนุ่มรุ่นน้องทันที เมื่อเห็นว่าใครมา ทั้งคู่ก็ตกใจจนแทบสิ้นสติ

"ฟาง" เปาอุทาน เขาตกใจจนทำตัวแทบไม่ถูก

"ทำไมเปาทำกับฟางแบบนี้ เลวมาก!"

ฟางตะโกนลั่น ก่อนหันกลับแล้ววิ่งผลุนออกไปทันที ลืมความกลัวหมาไปเลย เปารีบผละจากไท้แล้ววิ่งตามแฟนสาวหน้าตาตื่นออกไป

"ฟาง เดี๋ยวก่อนฟาง เปาอธิบายได้นะฟาง ฟังเปาก่อน"

ดูเหมือนคำขอร้องของเปาจะไม่ได้ผล เพราะฟางไม่ยอมหันหลังกลับ แต่กระนั้นเธอก็หนีได้ไม่เร็วอย่างที่ใจคิดเพราะใส่รองเท้าส้นสูง ก่อนจะถึงประตูหน้าบ้าน เปาก็ตามมาทันและกอดเธอไว้แน่นจากข้างหลัง

"ฟาง ฟังเปาก่อน"

"ไม่ฟัง ฟางไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เปาหลอกฟาง หลอกมาฟางมาตลอดเลย ทำไมทำกับฟางแบบนี้ ทรยศฟางทำไม" ฟางร้องไห้คร่ำครวญและพยายามดิ้นหนี แต่ผู้หญิงอย่างเธอก็สู้แรงชายไม่ได้ ไม่นานเธอจึงหยุดดิ้นรน

"มันไม่ใช่อย่างที่ฟางเข้าใจนะฟาง เปาอธิบายได้"

"อธิบายอะไรเหรอ ถ้าวันนี้ฟางไม่มา เปาไม่ทำไปถึงไหนต่อไหนแล้วเหรอ หรือว่าทำไปแล้ว ทำไมเปาทำแบบนี้ ไหนบอกฟางว่าเกลียดเกย์นักหนา แล้วนี่อะไร ถ้าฟางไม่มาเห็นกับตา ฟางก็คงโง่ให้เปาหลอกใช่ไหม" ฟางระเบิดอารมณ์ใส่อย่างสุดกลั้นและทำท่าจะดิ้นหนีอีก แต่เปาก็กอดเธอไว้แน่น

"ฟาง ฟังเปาดีๆ นะ เปาไม่ได้ชอบมันหรอก เปากำลังจะแก้แค้นให้แม่ต่างหาก" เปาลดความดังของเสียงลง เพราะเขาไม่อยากให้อีกคนซึ่งอยู่ในบ้านได้ยิน

ฟางหยุดดิ้นและขมวดคิ้วแน่น เธอคงสงสัยว่าที่เปาพูดมาจริงหรือเปล่า แต่มันก็ดูไม่น่าเชื่อเลยสำหรับเธอ

"เปาคิดว่าฟางเป็นเด็กเหรอ ฟางเห็นกับตาว่าเปาจูบกับเขา แล้วจะมาบอกว่าแก้แค้นให้แม่เหรอ แก้แค้นบ้าบออะไรของเปาน่ะ" ฟางกัดฟันแน่น เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเปาจะหาเหตุผลแบบนี้มาหลอกเธอ

"ฟาง เปาพูดจริงๆ นะ ไอ้เด็กนั่นน่ะ...มันจะจับพ่อเปา เปาก็แค่แกล้งทำเป็นชอบมัน พอมันตายใจ เปาก็จะหักอกมัน เปาอยากให้มันเจ็บปวด เหมือนที่แม่เปาเคยเจ็บปวดเพราะพ่อไง"

ฟางไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือเปล่า ถ้าเปาทำอย่างนั้นจริงก็นับว่าบ้าไม่น้อย เธอจึงหันขวับไปถามทั้งที่น้ำตานองหน้า "นี่เปาพูดจริงเหรอ"

"จริงสิฟาง เปาจะโกหกฟางทำไม" เปายืนยันหนักแน่น "เปาเกลียดพวกมันมากแค่ไหนฟางก็รู้ รู้ไหมว่าเปาน่ะ หาทางแก้แค้นพวกมันตลอดเวลา เปาอยากเห็นพวกมันเจ็บ ที่สำคัญ...เปาอยากเห็นพ่อเจ็บเหมือนที่แม่เปาเคยเจ็บด้วย เปาอยากเห็นพวกมันเจ็บมากกว่าแม่เปาด้วยซ้ำ"

เมื่อได้ฟังคำตอบ ฟางก็ยิ่งรู้สึกผิดหวังมากกว่าเดิม "เปาจะบ้าเหรอ! จะทำให้มันได้อะไรขึ้นมา"

"ฟางไม่รู้เหรอว่าเปาเจ็บแค่ไหน แม่เปาตายอย่างน่าสงสาร มันยังติดตาเปาอยู่ทุกวัน ก็เพราะพวกมันนี่แหละ พวกมันทำให้ชีวิตเปาเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้น เปาจะทำยังไงก็ได้ ถึงจะเปลืองตัวเปาก็ยอม ขอแค่ให้เปาได้ทำพวกมันเจ็บ เปาทำได้ทุกอย่างแหละ"

น้ำเสียงและสีหน้าของเปาดูเหี้ยมจนฟางแทบไม่อยากเชื่อ เธอไม่เคยเห็นเปาทำท่าทางแบบนี้มาก่อนเลยตั้งแต่คบกันมา

"เปาจะทำไปทำไม หยุดซะทีเถอะ ทำแบบนี้มันจะมีความสุขเหรอ เปากำลังเล่นกับไฟนะ แล้วถ้าเกิดเปารักเขาขึ้นมาล่ะ"

"ไม่มีทาง!" เปาขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น "เปาไม่มีทางชอบพวกมันอย่างเด็ดขาด ไม่งั้นเปาก็ชอบไปนานแล้ว"

"อะไรนะ!" ฟางเบิกตาโตและอ้าปากค้าง "เปาหมายความว่าไง เปาเคยทำแบบนี้มาก่อนเหรอ" ฟางจับไหล่ของเปาไว้ จ้องดูสายตามีพิรุธไม่ให้หลุดรอดการจับสังเกตของเธอได้

นับว่าเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของเปาที่เผลอพูดออกไป แววตาของเขาส่อพิรุธจนยากเกินที่จะซ่อนไว้ มีทางเดียวเท่านั้นคือต้องตอบคำถามฟางว่าใช่หรือไม่ใช่

"ว่าไงล่ะเปา เปาเคยทำแบบนี้มาก่อนเหรอ" ฟางคาดคั้น

เปาเบือนหน้าหนี สีหน้าดูยุ่งยากใจอย่างเห็นได้ชัด เขาครุ่นคิดอย่างหนักเพราะรู้ว่าต้องให้คำตอบกับฟางในอีกไม่กี่นาทีนี้

"เปล่า" เปาบอกปัด แต่ท่าทางของเขาเหมือนกับไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอยู่

ฟางไม่ถึงกับเชื่อ เพราะท่าทางของเปาดูน่าสงสัยไม่น้อย แม้จะคบกันมาห้าปีแล้ว แต่วันนี้ฟางกลับพบว่าเปาแทบไม่ต่างจากคนแปลกหน้าที่เธอแทบไม่รู้จักเลย

เงียบไปสักพัก สีหน้าเปาก็เข้มขึ้น "ฟางสบายใจได้ เปาไม่รักมันหรอก แต่เปา...จะทำให้มันเจ็บ เมื่อก่อนเปาปล่อยให้พวกมันเข้ามาทำลายชีวิตครอบครัวของเปา ต่อไปนี้...เปาจะเอาคืนบ้าง!"

"นี่เปาบ้าไปแล้วเหรอ เปากำลังทำบาปอยู่รู้ไหม"

"เปาไม่สน มันอยากร่านมาหาเปาเองทำไม อยากเจ็บตัวเอง เปาก็จะทำให้มันเจ็บอย่างที่มันต้องการ!"

เพี๊ยะ!

เสียงฝ่ามือเรียวๆ ฟาดลงไปบนใบหน้าขาวทว่าคมเข้ม คนลงมือรู้สึกโมโหจนมือไม้สั่น

"หยุดทำแบบนี้ได้แล้ว! ไม่งั้นชาตินี้เปาก็จะไม่มีวันมีความสุข" ฟางว่าเสียงสั่น

เปาเอามือลูบแก้มตรงที่โดนตบ พักหนึ่งก็หันมาตัดพ้อ "ฟาง ทำไมฟางไม่เข้าใจเปาเลย"

"แล้วถ้าฟางทำแบบนี้บ้างล่ะ เปาจะรับได้ไหม" ฟางย้อนถาม

คราวนี้เปาถึงกับพูดไม่ออก แววตาแข็งกร้าวของเขาอ่อนวูบลง ครู่หนึ่งก็หลบตาด้วยการเสมองไปทางอื่น เขาเหม่อเหมือนคิดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อหันกลับมาพูด เขากลับไม่ได้ตอบคำถามของแฟนสาวเลยแม้แต่น้อย

"ก็แล้วแต่ฟางละกัน ต่อให้ฟางรับไม่ได้ เปาก็จะทำ เปาจะทำให้มันเจ็บ เจ็บให้มันตายไปเลย!"

ยิ่งเห็นฟางก็ยิ่งไม่อยากเชื่อ แม้จะเข้าใจ แต่มันก็น่าตกใจไม่น้อยที่เปาเก็บซ่อนความเคียดแค้นไว้มากถึงขนาดนี้

"ทำไมไม่ฟังกันบ้างล่ะเปา" ฟางตัดพ้อบ้าง

"ฟางไม่ใช่เปา ฟางไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าเปาเจ็บปวดแค่ไหน ไม่รู้ล่ะ ยังไงเปาก็จะทำ"

ฟางหันหน้าหนี เมื่อคิดคำนวณแล้วเธอก็เห็นว่าไม่มีประโยชน์จะพูดคุยกันตอนนี้ มีแต่จะโกรธกันมากขึ้นเปล่าๆ "ฟางว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว ฟางจะกลับบ้าน"

สีหน้าของเปาดูอ่อนลงเล็กน้อย แม้มีความไม่พอใจซ่อนอยู่ แต่เขาก็ยังต้องทำหน้าที่สุภาพบุรุษ "เดี๋ยวเปาไปส่ง"

"ไม่ต้อง! ฟางโตแล้ว กลับเองได้" ฟางเสียงแหว เธอรู้ดีว่าคงไม่สามารถทนนั่งในรถไปกับเปาในอารมณ์แบบนี้ได้แน่นอน

"แล้วฟางจะกลับยังไง"

"แท็กซี่" ฟางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดแอ็พเรียกแท็กซี่ จากนั้นก็ออกไปยืนรอหน้าบ้าน

เปาไม่ได้ตามเธอไป แต่เขาก็ไม่ไปไหน ยืนรออยู่เป็นเพื่อนจนกระทั่งฟางได้รถและวิ่งหายไปในความมืด เปาหันหลังและเดินกลับเข้ามาในบ้าน ไท้ยืนรออยู่ตรงประตูพอดี สีหน้าไม่ค่อยดีนัก เมื่อเปาเปิดประตูบ้านเข้ามา ไท้ก็รีบบอก

"พี่เปา ผมขอโทษครับ"

เปามองหน้าไท้นิ่ง ก่อนถอนหายใจเบาๆ แต่ยังไม่พูดอะไร

"ต่อไป...ผมจะไม่มาที่นี่แล้ว ผมไม่อยากทำผิดแบบนี้อีก" ไท้พูดต่อ

เปาขมวดคิ้ว พักหนึ่งก็ถามออกไป "ทำไม แล้วความรู้สึกของเราที่เกิดขึ้นล่ะ"

"แต่พี่เปามีแฟนแล้ว มันไม่ดีนะครับพี่เปา"

"ใช่...มันไม่ดีหรอก แต่พี่ชอบไท้ไปแล้ว จะให้พี่ทำยังไง" เปาเสียงดังขึ้นเล็กน้อย

ไท้หน้าเหวอ คงตกใจที่ได้รู้ความในใจของอีกฝ่าย เขาเองก็อาจจะรู้สึกไม่ต่างกัน แต่จะให้สานต่อก็รู้สึกละอายใจ ไท้รู้ดีว่ามาทีหลัง ทำให้คู่รักเขาแตกแยกคงไม่ใช่เรื่องดี

"แต่มันเป็นไปไม่ได้นะครับพี่เปา" ไท้แย้ง

ความเงียบแล่นเข้าครอบคลุม สองหนุ่มได้แต่มองหน้ากันและใช้ความคิดของตัวเอง ไม่รู้ว่าคิดอะไรกันบ้าง แต่เมื่อไม่มีใครถามกัน ก็น่าจะแปลว่ายังไม่มีใครอยากรู้ บรรยากาศชักเริ่มอึดอัดมากขึ้นทุกที ในที่สุดไท้ก็ไม่สามารถทนอยู่ต่อไปได้

"ผมจะกลับหอนะครับ พรุ่งนี้ผมมีซ้อมแต่เช้า"

"เดี๋ยวพี่ไปส่ง" เปาบอกโดยไม่หันไปมองหน้า


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

ทันทีที่สี่ล้อเคลื่อนเข้ามาในพื้นที่ กกท. โทรศัพท์ของไท้ก็ดังขึ้น พอเห็นว่าใครโทรมาหาไท้ก็รีบรับ ถือโอกาสผ่อนบรรยากาศอึมครึมในรถไปในตัวด้วย

"ไท้อยู่ไหน พี่นึกว่าอยู่ที่ห้อง" คนโทรมาหาถามทันทีที่ไท้รับสาย

"กลับมาแล้วเหรอครับพี่ พอดีไท้ไปบ้านโค้ชน่ะครับ ตอนนี้กำลังกลับ เข้ามาใน กกท. แล้ว อีกสองนาทีก็ถึง"

"เดี๋ยวพี่ลงไปหา แล้วใครมาส่งล่ะ ลูกชายโค้ชเด้งหรือเปล่า" จีนถามเสียงตื่นเต้น

"ครับ" ไท้รับคำเสียงเบา "พี่มาถึงตั้งแต่กี่โมงครับเนี่ย"

"เสร็จตั้งแต่บ่ายแล้ว แต่กว่าจะมาถึงนี่ก็หกโมงกว่า รถติดมากเลย" จีนบอก

"แล้วชนะเกาหลีไหมครับ ผมออกมาข้างนอก เลยไม่ได้ดูเลย"

"ชนะสิ ได้ที่สามตามเป้าเลย พรุ่งนี้โค้ชจะพาไปเลี้ยง ตอนแรกว่าจะไปวันนี้แหละ แต่หลายคนเหนื่อยก็เลยขอกลับมาพักก่อน พรุ่งนี้ค่อยไป ไท้ไปด้วยกันได้นะ"

"ครับ อ้อ...จะถึงแล้ว แค่นี้ก่อนนะครับพี่" ไท้ตัดบท

"โอเคๆ เดี๋ยวพี่ลงไปหาข้างล่าง"

ไท้เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เพียงอึดใจเดียวรถก็แล่นมาจอดที่หน้าตึกซึ่งเป็นอาคารที่พักนักกีฬาพอดี เมื่อรถจอดสนิท ไท้ก็หันไปขอบคุณคนขับซึ่งนั่งเงียบมาตลอดทาง

"ขอบคุณนะครับพี่เปา ขับรถกลับดีๆ นะครับ"

ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ไท้จึงถือว่าอีกฝ่ายรับรู้แล้ว เขาเปิดประตูรถออกไป เปามองตามร่างสูงซึ่งกำลังเดินขึ้นบันไดตึกไปอย่างช้าๆ ไม่นานเขาก็ตัดสินใจเปิดประตูรถและเดินตามไป

"ไท้ เดี๋ยวก่อน"

ไท้หยุดกึกระหว่างครึ่งทางของช่วงบันได เมื่อเขาหันกลับมามองก็เห็นว่าเปาเดินมาใกล้ถึงแล้ว ต่างคนต่างมองกันอย่างไม่สนิทใจนัก เปาเดินมาหยุดตรงทางขึ้น สีหน้าดูอาลัยอาวรณ์อยู่ในที

"วันไหนว่างๆ พี่จะมาหาไท้นะ"

ไท้ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับคำพูดนั้น ไม่ดีใจ ไม่ตื่นเต้น แต่ก็ไม่ถึงกับเย็นชา

"ครับ" ไท้รับคำ พลันก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อมาแต่ไกล

"ไท้"

จีนออกมาจากอาคารพอดี เขายิ้มดีใจเมื่อเห็นรุ่นน้องที่เพิ่งสนิทด้วย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคิดถึงหรืออะไรกันแน่ หลายวันที่ไม่เจอกัน ไท้คือคนแรกที่จีนอยากเจอมากที่สุด

ไท้หันไปยิ้มให้กับคนที่เดินแกมวิ่งมาหา พอใกล้จะถึงจีนพลันหยุดกึกอยู่กับที่ ตาของเขาเบิกกว้างเหมือนกับเจอบางอย่างไม่คาดฝัน สายตาของจีนไม่ได้มองไท้ แต่น่าจะเป็นใครอีกคนที่อยู่ถัดไป จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเปา เมื่อไท้หันมามมองเปาบ้าง เขาก็พบว่าอีกคนตกอยู่ในอาการคล้ายกับจีน

"จีน!" เปาร้องอุทานเป็นคนแรก

"ไอ้เปา! มึง!"

จีนชี้หน้า จากนั้นก็ปรี่ลงมาหา เขาไม่พูดพล่ามทำเพลงใดๆ ทั้งสิ้น มาถึงก็ซัดหมัดหนักๆ เข้าใส่ใบหน้าอีกฝ่ายเต็มแรง เปารีบถอยหลบทันที แต่ก็ยังไม่วายโดยปลายหมัดเข้าจนได้ จีนปรี่เข้าหาหมายจะทำร้ายซ้ำ แต่เปารีบจับหมัดนั้นไว้ก่อน จากนั้นก็ผลักจีนอย่างแรงจนกระเด็นไปข้างหลังและล้มลง

"ไอ้เหี้ย! กูจะฆ่ามึง!" จีนตวาดลั่นอย่างโกรธจัด เขาลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปหาเปาใหม่ แต่ไท้ก็มาดึงตัวเขาไว้เสียก่อน

"ปล่อยพี่นะไท้ พี่จะฆ่ามัน คนเหี้ยๆ อย่างมันไม่ควรมีชีวิตอยู่บนโลกนี้!"

"ใจเย็นๆ ครับพี่จีน นี่มันอะไรกันครับ" ไท้ถามอย่างงงๆ ในขณะที่พยายามล็อคตัวจีนไว้ไม่ให้วิ่งเข้าไปหาเปา

จีนหยุดดิ้นเมื่อเห็นว่าไม่มีประโยชน์ สายตาเขายังคงมองเปาอย่างอาฆาตแค้นและเกลียดชัง "ไอ้คนนี้แหละที่พี่เคยเล่าให้ไท้ฟัง มันหลอกพี่ มันทำร้ายพี่" จีนพูดดังลั่น สายตายังจับจ้องอยู่ที่เปา แม้จะผ่านไปหลายปีแล้วแต่จีนก็ไม่เคยลืมหน้า

ไท้เบิกตากว้าง ทั้งตกใจและช็อคไปพร้อมๆ กัน แม้ว่าจะดูบังเอิญจนเหลือเชื่อ แต่มันก็มีเค้าความจริงไม่น้อย ส่วนเปาก็หน้าเสีย เขาไม่กล้าสบตาไท้หรือจีนตรงๆ เลย ในแววตาของเขามีแต่ความรู้สึกผิดอยู่ในนั้น แม้เห็นไกลๆ แต่ก็ยังรู้สึกได้

คนเดินผ่านไปผ่านมาเริ่มหยุดดูด้วยความสนใจและสงสัย ก่อนคนจะมุงดูมากกว่านี้ เปาก็วิ่งกลับมาขึ้นรถซึ่งยังไม่ดับเครื่อง จีนปรี่เข้าไปหาอีกครั้งแต่ก็ไม่ทัน เปาขับรถออกหนีไปก่อนอย่างเฉียดฉิว จีนจึงสบถอย่างหัวเสียและทำท่าเตะอากาศไล่

"ไอ้เหี้ย! มึงอย่าให้กูเจอมึงอีกนะมึง กูเอามึงตายแน่!"

จีนมองตามรถคันนั้นจนมันหายลับตาไป สีหน้าเคียดแค้นของเขาพลันค่อยเปลี่ยนเป็นหม่นเศร้า เขาเคยรักเปามาก แต่เปาก็ทำเขาเจ็บมากเหลือเกิน เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าถ้าเจอเปาอีกครั้งจะทำอย่างไร เพราะจีนไม่ต้องการเจออีกแล้ว แค่นั้นก็เจ็บมากพอ ชาตินี้ขอไม่เจอกันอีกดีกว่า

จีนหันหลังกลับ จากนั้นก็พาไท้ขึ้นมาบนห้องพัก ปล่อยให้คนที่สงสัยมองอย่างสงสัยต่อไป แต่สักพักทุกคนก็สลายตัวกันไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเมื่อสักครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อมาถึงห้องไท้ จีนก็นั่งลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน เมื่อกี้เขาโกรธมาก แต่พอเปาไปแล้วเขากลับรู้เศร้ามากอย่างบอกไม่ถูก ภาพความหลังและความรู้สึกเก่าๆ ผุดขึ้นในหัวเป็นช่วงๆ เปาคือฝันร้ายของชีวิต ถ้าขอได้ เปาเป็นคนเดียวในโลกที่จีนไม่ต้องการเห็นหน้าอีก อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าโลกควรจะเป็นทรงแบบไหนถึงจะไม่บังเอิญเจอกัน เพราะรักครั้งนั้น จีนจึงมีชีวิตไร้หัวใจอย่างทุกวันนี้

ไท้เดินลงมานั่งข้างๆ ไม่ถึงกับชิดกันแต่ก็ไม่ห่างจนเกินไป "ไม่น่าเชื่อนะพี่ว่าโลกมันจะกลมแบบนี้"

"เขาเป็นลูกชายโค้ชเด้งเหรอ" จีนถามโดยไม่หันไปมองหน้า

"ครับ" ไท้รับคำเบาๆ

จีนพยายามนึกว่าเขาเคยเจอโค้ชเด้งตอนที่ยังเรียนมัธยมปลายอยู่หรือเปล่า แต่เขาก็นึกไม่ออก เพราะเปาไม่เคยให้คนที่บ้านมารับส่งที่โรงเรียน ไม่เคยพูดถึงพ่อแม่ของตัวเอง และไม่เคยพาจีนไปบ้านเขาเลย

"พี่ไม่เคยอยากเจอเขาอีกเลยนะไท้" จีนหันไปบอกหลังเงียบไปสักพัก

"ผมเข้าใจครับพี่" ไท้พยายามแสดงความเห็นใจ ในขณะเดียวกันก็เริ่มสงสัยชะตากรรมของตัวเองไปด้วย มันน่าสงสัยไม่น้อยว่าเปากำลังทำกับไท้แบบเดียวกับที่เคยทำกับจีนหรือเปล่า

"พี่จะทำยังไงดีวะไท้ โค้ชเด้งเขาเป็นคนดี แต่แม่ง...พี่โคตรเกลียดลูกชายเขาเลยว่ะ ถ้าพี่รู้มาก่อน...พี่ไม่ยอมมาติดทีมชาติแน่ๆ" จีนระบายด้วยสีหน้ากังวล

"พี่เปาเขาอาจจะมีเหตุผลบางอย่างก็ได้นะครับ ผมว่า...ผมพอรู้ว่าทำไมพี่เปาเขาถึงทำอย่างนั้นกับพี่"

จีนย่นคิ้วเข้าหากัน เขาไม่ถาม แต่รอให้ไท้พูดสิ่งที่ค้างไว้ต่อ

"พี่เปาเขารักแม่มาก แต่แม่เขาตาย...ก็น่าจะเป็นเพราะเรื่องที่พี่เคยเล่าให้ผมฟังนั่นแหละ ตอนที่ผมอยู่บ้านโค้ช พี่เปากับโค้ชแทบไม่คุยกันเลย เหมือนเขามีปัญหากัน แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามีปัญหาอะไร"

เท่านี้จีนก็พอจะเดาออก เขาไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเปาถึงเกลียดผู้ชายทุกคนที่เล่นวอลเลย์บอลหรือเกลียดเกย์ เปาคงจะเกลียดพ่อที่ทำให้แม่ตรอมใจตายอย่างที่เขาลือ ก็เลยเอาความเกลียดนั้นมาลงที่คนอื่น โชคไม่ดีนักที่จีนดันพลัดหลงเข้าไปในเกมส์แก้แค้นของเปาโดยไม่รู้ตัว เขาจึงตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของเปาอย่างน่าเวทนา

"พี่เข้าใจแล้ว" จีนบอก "แต่เขาก็ไม่ควรมาทำร้ายคนอื่นแบบนี้ พี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยซะหน่อย ไท้เองก็ต้องระวังตัวดีๆ นะ เปาเขามาเกาะแกะอะไรกับไท้หรือเปล่า อย่าไปหลงเชื่อมันล่ะ ไม่งั้น...ไท้ก็จะเจ็บเหมือนพี่"

ไท้ยิ้มเจื่อนๆ คำเตือนนั้นดูเหมือนจะสายไปแล้ว เพราะไท้ยอมรับว่ามีความรู้สึกดีๆ ให้เปาไม่น้อย คงเป็นเพราะเปาคอยดูแลไท้เป็นอย่างดีตอนที่ไท้เข้ามากรุงเทพใหม่ๆ เปาคอยช่วยเหลือหลายอย่าง จนกระทั่งความรู้สึกบางอย่างค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจอย่างเงียบๆ อย่างเมื่อช่วงหัวค่ำนั้น ถ้าฟางไม่มาเจอเสียก่อน ไท้กับเปาก็อาจจะเตลิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ได้ เพราะไท้ไม่ขัดขืนเลยแม้แต่นิดเดียว

เมื่อรู้ความจริงแล้ว ไท้ก็ไม่รู้ว่าควรจะเชื่อความรู้สึกของตัวเอง หรือควรจะหวาดระแวงกันแน่ บางทีไท้ก็รู้สึกว่าเปามีความรู้สึกพิเศษให้ แต่บางคราวเปาก็ทำเป็นเกลียดกลัวและอาฆาตเกย์ทุกคนบนโลกนี้ หรือต่อให้เปารู้สึกพิเศษกับไท้ขึ้นมาจริงๆ แต่เปาก็มีแฟนแล้ว ไท้ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับเปาอีก แค่เห็นเปากับฟางทะเลาะกันเมื่อกี้ไท้ก็รู้สึกผิดและละอายใจมาก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะสู้หน้าฟางได้อย่างไร

เมื่อคิดได้อย่างนั้น ไท้จึงหันไปตอบ "ไม่หรอกครับพี่ ผมกับพี่เปาไม่มีอะไรพิเศษหรอกครับ"

จีนแสดงอาการโล่งใจ แต่ก็ยังไม่วายอาฆาตคนที่เพิ่งขับรถหนีไปจนได้

"ก็ดีแล้ว คนเหี้ยๆ อย่างมันน่ะ...สักวันมันจะเจ็บเหมือนที่พี่เคยเจ็บ กรรมจะตามสนองมัน ไม่เชื่อไท้ก็คอยดูละกัน!"

TBC



หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP09 คนเหี้ยๆ ◯ 06.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 06-02-2017 19:05:25
   จีนแน่มาก รักมากก็เกลียดมากจริงๆ ใครเจอแบบจีนก็คงจะเจ็บฝังใจล่ะ  เปาทำไปไม่กลัวกรรมเลยเนาะ รู้ว่ารักแม่และโกรธพ่อ
  โอ้ยย น่ากลัวจริงๆ เอาไปทำกับคนอื่นแบบนี้
   รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP09 คนเหี้ยๆ ◯ 06.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-02-2017 21:59:27
   จีนแน่มาก รักมากก็เกลียดมากจริงๆ ใครเจอแบบจีนก็คงจะเจ็บฝังใจล่ะ  เปาทำไปไม่กลัวกรรมเลยเนาะ รู้ว่ารักแม่และโกรธพ่อ
  โอ้ยย น่ากลัวจริงๆ เอาไปทำกับคนอื่นแบบนี้
   รออ่านตอนต่อไปคับ

น่ากลัวจริงๆ ครับ 555
ลืมบอกไปว่า ผมเอา "รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต" มาปรับใหม่อีกรอบ
เปลี่ยนตอนจบด้วยครับ ผมชอบมาก ได้อย่างใจแล้ว
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP09 คนเหี้ยๆ ◯ 06.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 06-02-2017 22:14:38
อย่างแรกเลยนะ เปาควรไปพบจิตแพทย์ อันนี้จริงจังเลย
แกโตมาจนปูนนี้แล้วอ่ะ วัยที่จะเป็นพ่อคนได้แล้วอ่ะ
จะฝังใจแค่ไหน โตมานี่ไม่ได้รับการเยียวยาเลยหรอ
ฟางทนไปได้ไงเนี่ย จะไม่พูดถึงกรณีว่ามันชอบไท้ หรือแค่หลอกไท้นะ แต่ตอนที่พูดกับอ่ะ โอโห้ เป็นเรา เราไม่ทน
เราเข้าใจ แต่รับไม่ได้อ่ะ โกรธพ่อก็เคลียร์กับพ่อ ไม่ใช่ลงกับคนอื่น
ไอตอนกับจีนยังพอเข้าใจ เออ ว่ามันยังเด็ก แต่นี่ก็นะ... อืม

ก่อนจะเจอความสุขก็ต้องเจอบทเรียนก่อนอ่ะ สำหรับเปาอะนะ เวรกรรมอาจมาในรูปแบบของไท้ไรงี้5555
รอตอนต่อไปค่า ว่าแต่มีเพจ มีทวิตเตอร์ไหม เราจะได้ติดตามจะได้ไม่ต้องเข้ามาเช็คบ่อยๆ. อิอิ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP09 คนเหี้ยๆ ◯ 06.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 07-02-2017 00:13:59
จะเป็นยังไงต่อนะ. น่าติดตามมากครับ,,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP09 คนเหี้ยๆ ◯ 06.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 07-02-2017 11:50:55
จะเป็นยังไงต่อนะ. น่าติดตามมากครับ,,,,

ดีใจที่มาติดตามเรื่องนี้อีกคนนะครับ ผมเขียนนิยายดราม่า หาคนอ่านยาก แต่อย่างน้อยก็ยังพอมีบ้าง :)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP10 คืนเสียตัว ◯ 08.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 09-02-2017 16:45:12
EP 10 | คืนเสียตัว

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


หลังแข่งขันกีฬาชิงแชมป์เอเชียจบแล้ว โค้ชกิตติกับโค้ชเด้งก็ให้รุ่นพี่มาซ้อมแข่งกับรุ่นน้อง เพื่อเตรียมความพร้อมทีมเยาวชนสำหรับแข่งรายการเยาวชนชิงแชมป์เอเชียในเดือนหน้า ไทยยังคงเป็นเจ้าภาพจัดรายการแข่งขันนี้อีกเช่นเคย เพราะเป็นหนึ่งในประเทศที่ต่างชาติชื่นชมว่าจัดกีฬานานาชาติได้ดี หลังการซ้อมวันนี้แล้ว รุ่นพี่ทีมชาติก็จะกลับบ้านไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่ส่วนมากก็เว้นไปเพียงเดือนสองเดือน จากนั้นก็จะกลับมารวมทีมซ้อมเพื่อเตรียมแข่งขันรายการต่อไป ชีวิตของนักกีฬาจึงมักเข้าๆ ออกๆ ที่นี่จนกว่าวันหนึ่งจะเลิกเล่นไปในที่สุด

ผลการแข่งขันปรากฎว่ารุ่นพี่สามารถเอาชนะรุ่นน้องไปได้สามต่อหนึ่งเซ็ต โค้ชกิตติกับโค้ชเด้งพอใจมากทีเดียว เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีรุ่นน้องทีมไหนได้เซ็ตจากพี่ๆ เลย ความหวังว่าทีมรุ่นนี้จะขึ้นมาสานต่อจึงสดใสมากกว่าครั้งไหนๆ

"เอาล่ะทุกคน วันนี้ซ้อมแค่นี้ก่อน แต่ถ้าใครอยากซ้อมต่อก็ยังซ้อมได้จนถึงห้าโมงเย็นนะครับ ทีมเยาวชน เราจะยังอยู่ที่นี่กันอีกหลายเดือน ส่วนทีมรุ่นพี่จะกลับมาอีกทีก็เดือนหน้า โค้ชก็หวังว่าเร็วๆ นี้เราจะได้เห็นรุ่นน้องสักคนสองคนขึ้นไปเล่นทีมชาติกับรุ่นพี่ในแมตช์ต่อไป เท่าที่ดูวันนี้ก็เห็นแววหลายคนเลย เพราะฉะนั้น ขอให้ทุกคนตั้งใจกับโอกาสนี้ให้มากๆ อนาคตทีมชาติอยู่ใกล้แค่เอื้อม อย่าปล่อยให้หลุดมือนะครับ ได้โอกาสแล้วก็ขอให้ทุกคนเต็มที่กับมัน โอเค แยกย้ายกันได้ครับ"

สิ้นคำโค้ชกิตติ นักกีฬารุ่นพี่และรุ่นน้องซี่งยืนคละกันก็ทำความเคารพโค้ช ก่อนทยอยกันเก็บข้าวของและแยกย้ายกันไป เหลือเพียงไท้ เหินฟ้าและฟีนิกซ์ที่ว่าจะอยู่ซ้อมต่อ เป็นที่น่าสังเกตว่าสามคนนี้มักซ้อมหนักกว่าเพื่อนๆ เสมอ จึงมีพัฒนาการในการเล่นค่อนข้างดีกว่าคนอื่นๆ ในขณะที่คนอื่นๆ ซ้อมตามตารางเวลาที่กำหนด พอหมดเวลาซ้อมก็มักหยุดพักผ่อนหรือไปเที่ยวข้างนอก

"ยังไม่กลับเหรอไท้" จีนเดินเข้ามาถามขณะที่ไท้กับเพื่อนอีกสองคนเดินกลับเข้ามาในสนามอีกครั้ง

"ยังครับพี่ ว่าจะซ้อมต่ออีกหน่อยครับ ยังไม่เหนื่อยเลย" ไท้หันไปบอกพลางยิ้ม

"ขยันจังเลย อย่าหักโหมนะ เดี๋ยวร่างกายจะพังเอา"

"ครับพี่ ยังไหวอยู่ครับ" ไท้หัวเราะแหะๆ

"อ้าวฟีนิกซ์ ไอ้หนังพอร์นล่ะ" จีนหันไปแซวน้องอีกคนซึ่งเป็นมือเซ็ตเหมือนกัน สีหน้ายิ้มๆ เพราะรู้ว่าสองคนนี้มีอะไรแปลกๆ ในช่วงหลังๆ

"อ๋อ...พี่เขามีนัดกับที่บ้านครับ ก็เลยรีบกลับ" ฟีนิกซ์ตอบเขินๆ

"เหรอ แล้วไปถึงไหนแล้วล่ะ"

"ยังไม่ถึงไหนหรอกครับ คุยเล่นสนุกๆ ไปงั้นแหละ" ฟีนิกซ์ตอบ พลันก็แก้เขินด้วยการหยิบลูกวอลเลย์บอลขึ้นมา ทำท่าคล้ายกับจะลงซ้อม

"พี่จีนจะกลับแล้วเหรอ" เหินฟ้าถาม เบนความสนใจมาจากเพื่อนอีกคน

"ตอนแรกก็ว่าจะกลับแหละ แต่เห็นน้องๆ ขยัน พี่ก็เลยว่าจะอยู่ต่ออีกสักหน่อย" จีนหันไปตอบ

"มาซ้อมกับพวกเราไหมครับ" เหินฟ้าชวน

"ได้เลย"

จีนวางกระเป๋าเป้สะพายลงข้างสนาม ก่อนเดินลงไปซ้อมร่วมกับน้องๆ อีกสามคน เขาช่วยสอนฟีนิกซ์เรื่องการเซ็ตเพราะเป็นเรื่องที่เขาถนัดที่สุด จีนส่งบอลให้ฟีนิกซ์เซ็ต ไท้กับเหินฟ้าสลับกันตบบอล ไท้ตบบอลหัวเสา เหินฟ้าตบบอลเร็ว ฟีนิกซ์จึงต้องเซ็ตสองแบบสลับกันไปมา เขามีปัญหากับการเซ็ตบอลเร็วพอสมควร เซ็ตขาดบ้าง เซ็ตเกินบ้าง จีนจึงช่วยให้คำแนะนำ จนกระทั่งฟีนิกซ์เริ่มทำได้ดีขึ้น

"พักก่อนดีกว่า" จีนบอกน้องๆ เมื่อซ้อมมาได้เกือบครึ่งชั่วโมง สี่หนุ่มจึงหยุดและเดินมานั่งตรงขอบสนาม

"มีใครเอาน้ำอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมไปซื้อให้" เหินฟ้าขันอาสา เมื่อทุกคนสั่งจนครบ เหินฟ้ากับฟีนิกซ์ก็ออกไปด้วยกัน ปล่อยให้ไท้กับจีนนั่งคุยกันลำพังสองคน

พอสองคนนั้นไปแล้ว จีนก็เริ่มชวนคุยเรื่องที่อยากรู้ทันที "ไท้ได้คุยกับเปาไหมช่วงนี้"

ไท้ส่ายหน้าไปมา เขาเลิกชายเสื้อขึ้นและสะบัดไปมาเพื่อคลายร้อน "ยังไม่ได้คุยเลยครับ ตอนนี้ผมทั้งซ้อมทั้งเรียน แทบไม่มีเวลาเลย"

"ก็ดีแล้ว" จีนยิ้มแปลกๆ สักพักก็ทำท่าครุ่นคิด "พี่ไม่รู้นะว่าไท้เป็นเกย์เหมือนพี่หรือเปล่า แต่ถึงไม่ได้เป็น ไท้ก็ต้องระวังไอ้เปามันเอาไว้ด้วย ไม่งั้นจะเจ็บเหมือนพี่"

ไท้เผยยิ้มน้อยๆ คล้ายกับจะขอบคุณที่อีกฝ่ายอุตส่าห์เตือน แต่กระนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับคำเตือนและความหวังดีของรุ่นพี่ ถึงรู้ว่าเปาเคยทำสิ่งเลวร้ายกับจีนมาก่อน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะกลัวเหมือนจีนหรือเปล่า เขาเข้าใจดีที่จีนเกลียดชังเปา รู้สึกเห็นใจที่จีนโดนทำร้าย แต่จะให้ไท้เกลียดเปาไปด้วยก็คงไม่ใช่ แต่ถึงกระนั้น ไท้ก็ยอมรับว่ามีความระแวง

จีนคงรู้ว่าไท้กำลังสับสน เขาจึงเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากกดดันอีกฝ่าย "ไท้เคยมีแฟนมาก่อนไหม"

ไท้พยักหน้า "ครับ แต่ก็ไม่จริงจังหรอก เหมือนเป็นเพื่อนคุยกันสนุกๆ มากกว่า"

"ผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ"

"ผู้หญิงครับ"

จีนพยักหน้ารับรู้ แต่สีหน้าดูยิ้มๆ เล่นเอาไท้เสียความมั่นใจเหมือนกัน

"แล้วไม่สนใจผู้ชายมั่งเหรอ" จีนถามทีเล่นทีจริง

ไท้แสร้งทำเป็นครุ่นคิด แต่ที่จริงเขามีคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว "อืม...ผมว่าความรักไม่มีเพศหรอก คนเราถ้าเกิดมาคู่กัน เพศไหนก็รักกันได้ครับ"

"อ๋อ" จีนลากเสียงยาว "แล้วอย่างพี่...ไท้คิดว่าไง"

ไท้ชะงัก นึกไม่ถึงว่าจะโดนจีนถามแบบนี้ ที่จริงเขาก็สงสัยจีนมาสักพัก หลังๆ มานี้ชอบมาตีสนิทด้วย คุยกันก็บ่อยกว่าคนอื่นๆ แต่กิตติศัพท์ด้านเสือผู้ชายของจีนก็ทำให้ไท้ระวังตัวบ้าง แม้ว่าใจจะเอนเอียงไปหาอีกคนหนึ่ง แต่เขาก็กลัวว่าความใกล้ชิดจะทำให้ไขว้เขวได้

ยังไม่ทันที่ไท้จะตอบคำถาม บังเอิญเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากประตูทางเข้า

"พี่จีน!"

จีนกับไท้หันขวับไปมองพร้อมกัน ชายหนุ่มร่างค่อนข้างบางปรากฎขึ้น สีหน้าดูเหมือนไม่พอใจบางอย่าง พลันเขาก็เดินเข้ามาหา จีนกับไท้ลุกขึ้นยืนพร้อมกันและมองคนที่เดินเข้ามาด้วยความสงสัย

"แฟนใหม่พี่เหรอครับ" ชายหนุ่มผู้มาถึงถามเสียงดุ ท่าทางเขาดูจีบปากจีบคอและมีจริตจะก้านจนพอดูออกว่าเป็นแบบไหน

"เปล่า" จีนตอบหน้าตาเฉย ดูเหมือนไม่ยี่หระด้วยซ้ำ "เพลโตมีอะไรเปล่า"

"ทำไมพี่ไม่รับโทรศัพท์ผม" หนุ่มผู้มีนามว่าเพลโตถามเสียงแข็งและห้วน

จีนขมวดคิ้ว ชักสีหน้าเล็กน้อย "ก็พี่ซ้อมวอลเลย์อยู่ พี่ไม่ได้ว่างนะครับ"

"ไม่ว่างทุกวันเลยเหรอ เช้าก็ไม่ว่าง เที่ยงก็ไม่ว่าง เย็นก็ไม่ว่าง ก่อนนอนก็ไม่ว่าง ซ้อมทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอครับ" เพลโตย้อน

"มันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่หรือเปล่า" จีนเท้าสะเอว ท่าทางพร้อมจะเอาเรื่องตลอดเวลา

"อ้าว พูดงี้ได้ไง! ผมเป็นแฟนพี่หรือเปล่าล่ะ"

"พี่ไม่เคยเรียกใครว่าแฟน เราตกลงกันแล้วนะว่าจะไม่ผูกพันกัน จำไม่ได้เหรอ"

เพลโตชะงัก เขาย่อมจำได้แน่นอนเพราะจีนย้ำบ่อยๆ แต่บางคนพอคบไปสักพักก็อยากเป็นมากกว่านั้น โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าจีนมีเงินบำรุงบำเรอให้

"แต่..."

"ไม่มีแต่" จีนขัดขึ้นทันที "พูดไม่รู้เรื่องเหรอ ไม่ใช่เด็กอนุบาลนะเว้ย"

"เป็นเพราะมันเหรอ" เพลโต้ชี้ไปที่ไท้ซึ่งยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ใกล้ๆ ไท้ได้แต่ยืนงงและหน้าเสีย

"ไม่เกี่ยว เพลโตอย่ามาพาลนะ กลับไปเลย มีอะไรไว้ค่อยคุยกันวันหลัง" จีนชี้มือไล่

"ไม่กลับ" เพลโตส่งสายตาท้าทาย

จีนถลันเข้าหาแล้วจับข้อมือเพลโตลากออกไปนอกสนาม

"เบาๆ เจ็บนะเว้ย" เพลโตพยายามขืน แต่เขาตัวเล็กกว่าจึงไม่สามารถสู้แรงได้ จึงถูกจีนลากออกมาประตูด้านหน้า ก่อนจะพาหลบมุมไปทางด้านหนึ่งของประตูเพื่อหลบสายตาไท้

"กูบอกว่าให้มึงกลับ มึงฟังไม่รู้เรื่องเหรอ มึงไม่มีสิทธิ์หึงกูนะเว้ย" จีนชี้หน้า

"ทำไมผมจะหึงไม่ได้ ก็ผมกับพี่เป็นแฟนกันแล้ว เราคบกันแล้วไม่ใช่เหรอ เราไปไหนมาไหนด้วยกัน นอนด้วยกัน ทำอะไรตั้งหลายอย่างด้วยกัน แต่อยู่ดีๆ พี่จีนก็เปลี่ยนไปแบบนี้ ทำไมเหรอครับ"

"กูเบื่อมึงไง! มึงทำตัวเรื่องมากวุ่นวายแบบนี้ มึงคิดว่ากูไม่เบื่อเหรอ ทนคบได้สองอาทิตย์นี่ก็นานแล้วนะเว้ย"

"พี่จีนทำอย่างนี้ไม่ได้นะครับ มาหลอกผมให้รักแล้วก็ถีบหัวส่งแบบนี้เหรอ!" เพลโตเถียงหลังจากตั้งสติได้

"ใครหลอกมึง!" จีนตวาด "กูบอกมึงตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ กูไม่ต้องการแฟน ไม่ต้องการความรัก ไม่ต้องการผูกมัดอะไรทั้งนั้น นอกจากเซ็กซ์! แล้วกูก็ไม่ได้เอาฟรีซะหน่อย มึงได้ไปเท่าไหร่แล้วไอ้เพลโต ชื่อเหมือนนักปราชญ์แต่แม่งโง่ฉิบหาย หรือว่าไม่พอ ไม่พอก็บอกกันตรงๆ ก็ได้ วันไหนกูเงี่ยนกูจะได้โทรเรียกมาใช้บริการ ไม่ต้องมาโวยวายใส่กูแบบนี้ กูไม่ชอบนะเว้ย!" จีนตอกอีกฝ่ายหน้าหงาย

เพลโตอึ้งจนไม่รู้ว่าจะเถียงอย่างไร จึงได้แต่ยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

"อ้อ แล้วมึงไม่ต้องเสือกมายุ่งกับน้องคนนั้นนะเว้ย เพราะต่อให้กูคบกับใครหรือเอากับใคร ก็ไม่มีอะไรผูกมัดกัน ที่สำคัญ...กูไม่ต้องการให้ใครมาหึง คอนเซ็ปต์ของกูมึงก็รู้ดีนี่ น้ำแตก...แล้วแยกทาง ชัดไหม! ไสหัวไปไกลๆ เลยนะมึง ไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้าอีก กูจะบอกให้มึงรู้นะว่ามึงน่ะมันโคตรน่าเบื่อเลย ต่อให้กูเงี่ยนหน้ามืดขนาดไหน กูยอมใช้หมอนข้างดีกว่าไปเอากับมึงอีก!" จีนว่าใส่อย่างไม่ลดละ จนในที่สุดเพลโตก็ชักทนไม่ไหว

"ไอ้เหี้ย! ทำไมมึงเลวอย่างนี้วะ!" เพลโตปรี่เข้าหาหมายจะสั่งสอนสักหมัดสองหมัด แต่จีนก็จับมือสองข้างนั้นไว้แน่น ข้อมือของเพลโตค่อนข้างเล็กจึงถูกกำรอบ

"มึงว่าใครเลวไอ้เพลโต มึงว่ากูเลว แล้วไอ้คนที่มันขายตูดให้ชาวบ้านเพราะอยากได้เงินน่ะ มันไม่เลวเหรอวะ!"

เพลโตสะอึก ตอนแรกเขาก็ต้องการแค่นั้น แต่พอถึงเวลาหนึ่งเขาก็อยากเขยิบความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าจีนยิ่งตีตัวออกห่างเพราะไม่ต้องการผูกมัดตัวเองกับใร

"ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัว มึงรีบไปไกลๆ กูเดี๋ยวนี้เลย ก่อนที่กูจะของขึ้น อย่าหาว่ากูไม่เตือนนะเว้ย" จีนว่าใส่หน้า ก่อนปล่อยมือเพลโตเป็นอิสระและผลักออก แม้ไม่ถึงกับแรงมากแต่อีกฝ่ายก็เซไปเล็กน้อย

จีนเดินหนีกลับเข้ามาข้างในโรงยิมเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนเพลโตก็ไม่ตามเข้ามาอีก ความสัมพันธ์คงจบลงแต่เพียงเท่านี้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับหลายๆ คน

จีนทำหน้าไม่ถูกนักเมื่อเห็นไท้มองมาด้วยสายตามีคำถาม เมื่อมาหยุดยืนใกล้ๆ เขาก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนระบายความรู้สึกสั้นๆ

"ตั้งแต่โดนไอ้เปามันหลอก ชีวิตพี่ก็เป็นแบบนี้แหละ"


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

ห้าทุ่มแล้ว บริเวณด้านหน้าสนามกีฬาเหลือเพียงแสงไฟส่องสว่างข้างทาง เปิดไว้เป็นจุดห่างๆ กัน พอช่วยให้มองเห็นทางและลดอันตรายจากการดักจี้ปล้น กระนั้น ที่นี่ก็มักมีข่าวข้าวของของนักกีฬาหรือคนที่มาเล่นกีฬาหายเป็นประจำ

ในขณะที่สองเท้าก้าวไปไวๆ สองตาก็คอยกวาดมองหาใครบางคนไปด้วย จนกระทั่งมาถึงบริเวณด้านหน้าแถวๆ สระน้ำ เขาก็เห็นคนนั้นยืนรออยู่ จึงส่งเสียงร้องทัก

"พี่เปา"

เจ้าของร่างค่อยๆ หันมามองตามเสียงเรียก เขาไม่แสดงทีท่าว่าดีใจ แต่ก็ไม่ถึงกับเฉยชา ซ้ำยังมีแววตาเศร้าๆ ซึ่งยากจะตีความส่งมาด้วย

"มาหาผมซะดึกเลย มีอะไรเหรอครับ" ไท้พูดพลางเดินเข้าไปหา พอถึงตัวก็ย่นจมูกและทำเสียงฟุดฟิด "พี่กินเหล้ามาเหรอ"

เปาไม่ตอบ เขายืนนิ่ง เมื่อสังเกตดูใกล้ๆ ก็เห็นแววตาคู่นั้นทวีความเศร้ามากขึ้น พลันเจ้าของร่างซึ่งส่งกลิ่นเหล้าโชยหึ่งก็เดินเข้ามากอดไท้ไว้ คนถูกกอดได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อและตกใจ

"พี่ไม่เหลืออะไรแล้วไท้ ไม่เหลืออะไรสักอย่างเลย" เปาพูดเหมือนคนร้องไห้ น่าแปลกที่เสียงไม่อ้อแอ้เหมือนวันนั้น คงเป็นเพราะยังเมาไม่ได้ที่

ไท้ค่อยๆ เลื่อนมือขึ้นมาโอบหลังเปาไว้เบาๆ เขายอมรับว่ากังวลไม่น้อยหากจะแสดงความรู้สึกต่ออีกฝ่าย แต่จะไม่แสดงความเป็นห่วงเลยก็กระไรอยู่

"มีอะไรเหรอครับพี่"

ไม่มีเสียงตอบจากเปา พักหนึ่งร่างเขาก็สั่นสะท้านเหมือนกำลังร้องไห้ แต่พยายามกลั้นเอาไว้ ไท้เห็นอย่างนั้นจึงไม่อยากเซ้าซี้ น้ำตาของเปาไหลซึมลงบนหัวไหล่ของไท้จนเปียกชื้น ไม่รู้ว่าเจ้าตัวมีความทุกข์มากขนาดนี้มาจากไหน ช่วงที่ไม่ได้เจอกันคงมีบางอย่างเกิดขึ้น

พักหนึ่งร่างของเปาก็หยุดสั่น แสดงว่าเจ้าตัวคงควบคุมอารมณ์ให้สงบลงได้แล้ว ไท้จึงถือโอกาสถามเรื่องที่ค้างไว้

"มีอะไรหรือเปล่าครับพี่เปา"

เปาค่อยๆ ผละออก ยืนเงียบอยู่สักพักจึงเอ่ย "พี่ไปที่ห้องไท้ได้ไหม"

ถ้าเป็นวันอื่นไท้อาจปฏิเสธ เพราะไท้ไม่ได้พักคนเดียว แต่มีเกิ้นเป็นเพื่อนร่วมห้องอีกคน ดีที่ว่าญาติมารับเกิ้นไปพักที่บ้านเมื่อตอนเย็น คืนนี้ไท้จึงต้องนอนคนเดียว ถ้าเปาจะขึ้นไปคุยด้วยก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

ไท้ไม่ตอบแต่เดินนำใครอีกคนกลับมาที่หอพัก ไม่มีคนเดินเข้าออกเพราะว่าดึกแล้ว ไท้จึงไม่จำเป็นต้องตอบคำถามใครๆ ว่าพาใครมาด้วย แม้ที่นี่มีกฎระเบียบบางอย่าง แต่ก็มักมีคนที่ไม่ใช่นักกีฬาเข้านอกออกในพร้อมกับนักกีฬาบ่อยๆ เลินเล่อกันถึงขนาดที่ว่าปล่อยให้คนขึ้นไปขโมยของนักกีฬาถึงในหอพักก็มีมาแล้ว

เมื่อมาถึงห้อง เปาก็ถือวิสาสะเดินไปนั่งบนเตียงของไท้ เขาเอามือปิดหน้าและก้มหน้า ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ ก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆ เลื่อนมือตัวเองออก จับประสานกันไว้ วางคางลงไปบนที่รองรับตรงรอยเชื่อมต่อของนิ้วมือ สีหน้าอมทุกข์จนคนอยู่ใกล้พลอยรู้สึกไปด้วย

"ร้านพี่เจ๊งแล้ว" เปาโพล่งออกมาในที่สุด

"จริงเหรอครับพี่" ไท้ดูตกใจระคนเห็นใจ เขารู้ว่าเปาหวังไว้กับธุรกิจนี้มาก แม้ว่ามันจะลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอดก็ตาม

"ใช่ หลายเดือนที่ผ่านมา รายได้มันตกมาก ทำยังไงมันก็ไม่ดีขึ้น ทำเลมันไม่ดีเลย ถ้าไม่หยุดก็จะเป็นหนี้ก้อนโต ที่จริงพี่ก็อยากสู้ต่ออีกสักหน่อยนะ แต่ไอ้สองคนนั้นมันไม่สู้แล้ว"

"แล้วร้านล่ะครับ" ไท้สงสัย เขานั่งลงข้างๆ เปาและคอยมองอย่างเห็นใจ

"ก็คืนให้เจ้าของเขาไป เพราะว่าเราเช่าเขาอยู่ ส่วนอุปกรณ์ออกกำลังกาย บางส่วนคงต้องประกาศขายถูกๆ อันไหนที่ขายไม่ได้ พี่ว่าจะเอาไปบริจาคโรงเรียนที่ขาดแคลน"

"แล้วต่อไป...พี่เปาจะทำอะไรล่ะครับ"

"ไม่รู้ ก็คงจะหางานทำ"

ที่จริงไท้มีเรื่องอยากถามต่อหลายอย่าง แต่อยู่ดีๆ ก็เกิดกลัวที่จะถามขึ้นมา เขาจึงนั่งนิ่งๆ โดยไม่พูดอะไร

"กลัวพี่เหรอ" เปาหันมาถาม สองมือที่ประสานกันอยู่วางลงข้างตัว สายตาฉายวาบความเจ็บปวดเมื่อเห็นอาการลังเลของไท้ ความไว้เนื้อเชื่อใจที่เคยมีให้คงหายไปพอสมควรแล้ว แต่คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไท้จะเป็นแบบนั้น

"ถ้ากลัวก็บอกมาตรงๆ ก็ได้" เปาแค่นเสียง "จีนเขาคงเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะสิว่าพี่เป็นคนยังไง คงเลวมากใช่ไหมที่พี่ทำกับเขาแบบนั้น ใครๆ ก็คงคิดแบบนั้นแหละ ใช่...พี่ก็ยอมรับว่าพี่เลว"

น้ำเสียงที่พูดเหมือนน้อยใจอยู่ในที บรรยากาศที่อึดอัดอยู่แล้วจึงอึดอัดมากขึ้นไปอีก

"พี่รู้ว่าไท้กลัว" เปาหัวเราะในลำคอ พักหนึ่งก็ถอนหายใจยาว "ไท้รู้ไหมว่าพี่ทำไมพี่ถึงมาหาไท้ ทั้งๆ ที่พี่ก็มีแฟนอยู่แล้ว เวลาเกิดปัญหาแบบนี้ ใครๆ เขาก็คงจะไปหาแฟนตัวเอง แต่พี่มาหาไท้ ทั้งๆ ที่ไท้เป็นใครก็ไม่รู้ รู้จักกันก็ไม่นาน แต่ทุกอย่างก็มีเหตุผลของมัน ไท้อยากรู้ไหม...ว่าทำไม"

สีหน้าของไท้บ่งบอกว่าอึดอัด ยิ่งเปาคอยจ้องมองตาเขาก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้น

"ไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไร" เปาแค่นเสียง สักพักเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนทำท่าเหมือนค้นหาอะไรบางอย่าง เมื่อเจอแล้วเขาก็ส่งให้ไท้ดู เป็นข้อความสนทนาไลน์ของเปากับโค้ชเด้ง ที่จริงไม่น่าเรียกว่าการสนทนาเพราะเปาไม่ตอบอะไรเลย มีแต่ข้อความของโค้ชเด้งที่ส่งข้อความมาบอก ส่วนมากแค่แจ้งให้รู้ว่าจะกลับหรือไม่กลับ แต่ข้อความที่น่าสะดุดใจที่สุดคือข้อความสุดท้ายซึ่งส่งมาเมื่อวานตอนเย็นๆ

"พ่อจะพาไท้ไปซื้อเสื้อผ้า จะพาเขาไปกินข้าวข้างนอกด้วย คืนนี้คงไม่ได้กลับบ้าน"

ไท้ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมโค้ชเด้งถึงส่งข้อความมาบอกเปาแบบนั้น ทั้งที่จริงวันนั้นไท้ไม่ได้ไปไหนกับโค้ชเด้งเลย วันนี้ก็เช่นกัน ซ้อมเสร็จก็ออกไปหาอะไรกินแถวๆ ตลาดนัด ก่อนขึ้นมาอาบน้ำและไปจับกลุ่มคุยเล่นที่ห้องฟีนิกซ์ จนกระทั่งได้รับข้อความจากเปาว่าให้ลงไปหา

"ตกลง...ไท้กับพ่อพี่...คบกันใช่ไหม" เปาถามตรงๆ เสียงเขาไม่ดุหรือแข็งกระด้าง แต่ก็มีความจริงจัง

"เปล่านะครับ ผมกับโค้ช..."

"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว!" เปาขัดขึ้นก่อนที่ไท้จะแก้ตัวจบ เขาดึงโทรศัพท์จากมือของไท้มาแล้วก็เก็บใส่กระเป๋ากางเกง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและพูดโดยไม่หันมามอง

"เพื่อนก็ทรยศ พ่อก็ทรยศ แฟนก็ไม่สนใจ ธุรกิจก็เจ๊ง แถมยังเสือกชอบอะไรบ้าๆ อีก ชีวิตกูแม่ง...ไม่เคยมีอะไรดีเลย!"

อารมณ์ของเปาพลุ่งพล่านอีกแล้ว ถึงไท้จะรู้ว่าเปาเป็นคนอารมณ์แปรปรวนบ่อยๆ แต่พอต้องรับมืออารมณ์แบบนี้ก็หนักใจ

เปาหันขวับกลับมา เมื่อเผชิญหน้ากัน เขาก็เอามือชี้ที่หัวใจตัวเองสองสามครั้ง ก่อนถามด้วยท่าทีคาดคั้นและใส่อารมณ์

"มึงเห็นไหมว่ากูมาหามึง มึงรู้ไหมว่ากูมาหามึงทำไม! กูโคตรทรมานเลยเวลาที่กูไม่เจอมึง กูไม่อยากรู้สึกแบบนี้หรอก แต่แม่ง! กูรู้สึกไปแล้ว วันนี้กูทนไม่ไหว กูถึงได้มาหามึงนี่ไง มึงไม่รู้อะไรเลยเหรอ หา! ไอ้ไท้ มึงไม่รู้อะไรเลยเหรอวะ!"

ไท้ลุกขึ้นยืน สีหน้าดูงุนงงไปหมด "พี่เปาหมายถึงอะไรเหรอครับ"

"มึงยังจะถามกูอีกเหรอ!"

พูดจบเปาก็ตรงเข้ามาผลักไท้จนล้มลงนอนบนเตียง ก่อนที่ร่างของเขาจะขึ้นมาทาบทับไว้ทันที เมื่อเห็นท่าทีประหม่าและหวั่นกลัวของไท้ เปาก็มีท่าทีลังเล

"ไท้อย่ากลัวพี่ได้ไหม" เปาเว้าวอน สีหน้าแข็งกร้าวเมื่อกี้อ่อนลงไปมาก เขาจ้องลึกลงไปในดวงตาที่หวั่นไหวซึ่งอยู่ใกล้เพียงแค่คืบ "ถ้าไท้กลัวพี่อีกคน พี่ก็ไม่มีใครแล้ว"

"แต่ผมไม่อยากเป็นเหยื่อของพี่!" ไท้พูดสวนออกไป

ร่างที่ทาบทับชะงักไปทันที เขาสับสนกับความรู้สึกของตัวเองเหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันได้อย่างไร

"ไท้กลัวพี่เหรอ" เปาถามเสียงเบาเหมือนพูดกับตัวเอง แววตาของเขาดูเจ็บปวดไม่น้อย สักพักน้ำตาเขาก็ไหลลงมาช้าๆ ค่อยๆ ไหลซึมจนขอบตาร้อนผ่าว

"พี่ไม่เหลือใครแล้วใช่ไหม" เปาถามเสียงเศร้า น้ำตาของเขาหยดลงไปที่แก้มของไท้ "เพราะพี่เป็นคนเลวใช่ไหม ถึงไม่มีใครเชื่อใจพี่"

"พี่เปากำลังจะทำอะไรกันแน่" ไท้ย้อนถาม "ใช่...ผมยอมรับว่าผมกลัว อีกอย่าง...ผมรู้สึกอย่างนั้นกับพี่ไม่ได้หรอก พี่เปามีแฟนแล้ว ที่สำคัญ...อดีตของพี่...มันจะทำลายความรักของพี่ ทำลายคนที่พี่รัก...และรักพี่"

"แล้วจะให้พี่ทำไง ก็ชีวิตพี่มันเป็นแบบนี้" เปาเถียง

"กลับไปหาแฟนพี่เถอะครับ พี่ควรจะกลับไปหาแฟนพี่ตอนนี้ เขารู้จักพี่มานานกว่าผม เขาน่าจะช่วยพี่ได้มากกว่า"

"ก็ตอนนี้พี่ไม่ได้รักเขาแล้ว!" เปาหลุดปากออกมา คนฟังถึงกับช็อค

"แต่พี่กับเขาก็ยังไม่เลิกกันนะครับ" ไท้แย้ง

เปานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ คล้ายกับกำลังตัดสินใจบางอย่างที่สำคัญ "ใช่...แต่...ขอให้พี่มีความสุขกับหัวใจตัวเองบ้างได้ไหม พี่ขอร้อง"

ไท้ไม่ทันได้ตอบ ริมฝีปากของเปาก็ประกบลงมาทันที สัมผัสนั้นช่างคุ้นเคยเพราะไม่ใช่ครั้งแรก กระนั้นไท้ก็พยายามดิ้นรนขัดขืน ทว่ายิ่งดิ้นกลับยิ่งอ่อนแรงลงไปทุกที รสจูบของเปาหนักหน่วงขึ้น สองมือที่ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของไท้ค่อยๆ ปลุกอารมณ์ด้านมืดให้ตื่น เขาคงจะแพ้ความต้องการธรรมชาติที่กำลังทวีขึ้นแน่ เพราะร่างกายของไท้ไม่ต่อต้านอีกแล้ว

เปาเลิกชายเสื้อยืดของไท้ขึ้นสูงจนเลยช่วงอก ก่อนละเลงลิ้นลงไปตรงยอดเม็ดทับทิมและเนินขาวเนียนยั่วยวนใจ ไท้เสียวจนเผลอครางและผวากอด เขาเพิ่งอายุสิบเก้าเท่านั้น ฮอร์โมนเพศกำลังพลุ่นพล่าน แถมยังอยากรู้อยากลองตามประสา คืนนี้คงไม่พ้นเตลิดไปไกล

ไม่รู้ว่าไท้เต็มใจหรือแค่อยาก แต่เขาก็กำลังเล่นกับไฟอยู่ แถมไฟกองนี้ยังแปรปรวน พร้อมจะลุกลามแผดเผาทำลายคนที่หลงเข้ามาใกล้ได้ทุกเมื่อ!!!

TBC



ป.ล. พอกลับมาเขียนที่นี่ ก็เจอความท้าทายแบบเดิมๆ ทุกครั้งเลยเนอะ


(https://s19.postimg.org/dt3qnq9s3/tonson_201702_SP06.jpg) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46898.msg3571877#msg3571877)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP10 คืนเสียตัว ◯ 09.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-02-2017 18:28:46
เฮ้อออออ.    ไท้เสร็จอีเปาซะละ :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP10 คืนเสียตัว ◯ 09.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 09-02-2017 21:16:24
ประโยคนี้ของจีน "ตัิงแต่โดนไอ้เปามันหลอก ชีวิตพี่ก็เป็นแบบนี้แหละ" เราว่ามันไม่ใช่อ่ะจีนน อย่าเอาอดีตมาเป็นข้ออ้างเลยเถอะ อย่าโทษคนอื่นดิ -3-

ส่วนเปา เห้ออออ นายมันมีเรื่องให้ด่าทุกตอนจริงๆ อ่ะว้อย555555 เหนื่อยที่จะคิดคำด่าเนี่ย เอาเถอะ รีบๆ หาทางจัดการปัญหาหัวใจ ปัญหาทางจิตของตัวเองล่ะ เอาใจช่วย เหอๆ

ส่วนน้องเปาของพี่ หักห้ามใจไม่ได้ หนูก็ต้องดูแลตัวเองนะ เราจะต้องสตรองเมื่ออยู่ท่ามกลางเหี้ยหลายตัว พี่จะภาวนาให้โชคดี555555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP10 คืนเสียตัว ◯ 09.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 09-02-2017 22:15:37
ไท้อย่าเผลอใจไปกับเปานะ เปามันหลอก  แต่คงไม่ทันล่ะ 555
   รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP10 คืนเสียตัว ◯ 09.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 09-02-2017 22:54:54
ไม่มีอะไรในชีวิตที่ทำไปแล้วไม่มีความเสี่ยง
เพียงแต่ครั้งนี้..ไท้เสี่ยงที่จะรักเปา..เปาเสี่ยงที่จะยอมรับตัวตนของตัวเอง

ขอให้โชคดีกับการลองเสี่ยงกับความรักในครั้งนี้
อวยพรให้ทั้งเปาและไท้ สุขที่จะได้รักนะ

ส่วนจีน หึหึ ไม่ไหวอ่ะ
ตรรกะป่วยมาก
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP10 คืนเสียตัว ◯ 09.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 10-02-2017 00:23:00
เปาเป็นไบโพล่าร์. อารมณ์ขึ้นๆลงๆ

น่ากลัว. 5555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP10 คืนเสียตัว ◯ 09.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 10-02-2017 21:49:32
EP 11 | คำขอร้อง

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


นานเท่าไหร่แล้วที่เปาไม่เคยรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกของการตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคนที่รู้สึกดีด้วยนอนอยู่ข้างๆ และเขาก็เฝ้ามองคนซึ่งนอนหลับใหลอย่างมีความสุข โดยไม่คิดแม้แต่จะกวนใจ

ในด้านหนึ่งเขาดูเหมือนคนมีปัญหาและแข็งกระด้าง แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็มีความรักและความอ่อนโยนโดยนิสัยเนื้อแท้ เพียงแต่แทบไม่เคยได้แสดงความรู้สึกแบบนี้เลย จนกระทั่งวันนี้...และตอนนี้

ร่างซึ่งเปลือยเปล่าเริ่มขยับตัว คงเป็นเพราะถึงเวลาตื่นตามปกติ หรือไม่ก็คงรู้สึกว่ามีคนคอยจ้องมอง ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้น ความงัวเงียของเขาก็แทบหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อเห็นรอยยิ้มของใครคนหนึ่งอยู่ไม่ไกล

นี่คือรอยยิ้มที่ดีที่สุดรอยยิ้มหนึ่งที่ไท้เคยเห็น ไม่ใช่แค่ริมฝีปากที่เหยียดกว้างจนเผยให้เห็นไรฟันเท่านั้น แต่ในรอยยิ้มนั้นมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ไท้รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ จนต้องเอียงหน้าหลบเล็กน้อย

"ตื่นแล้วเหรอ" เปาถามเบาๆ

"ครับพี่"

"หลับสบายไหม"

"ครับ" ไท้พยักหน้ารับ เมื่อนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ เขาก็อดเขินหน่อยๆ ไม่ได้ ใบหน้าขาวใสอย่างคนเหนือเอียงหลบสายตา ดูน่ารักน่าเอ็นดูแก่อีกฝ่ายไม่น้อย

"แล้ววันนี้มีซ้อมตอนเช้าหรือเปล่า"

"ไม่มีครับ วันนี้โค้ชมีประชุมที่สมาคมทั้งวัน"

เปาพยักหน้ารับรู้ ถ้าอย่างนั้นพ่อของเขาก็น่าจะไปประชุมด้วย "งั้น...ไปบ้านพี่ไหม ไปเล่นกับเมสซี่กับเนยมาร์ไง ไท้ไม่คิดถึงพวกมันเหรอ ไม่ค่อยมีคนเล่นกับพวกมันเลย อ้อ...เดี๋ยวพี่จะทำอาหารเช้าให้กิน เล่นเปียโนให้ฟังด้วย ดีไหม ส่วนตอนเย็นๆ ก็ไปลอยกระทงกัน"

ที่จริงก็ฟังดูน่าสนใจ แต่จะให้ไท้ตกลงทันทีก็จะดูชวนง่ายไปหน่อย เขาจึงทำท่าคิด แต่ไม่นานก็พยักหน้าตกลง คนชวนจึงยิ้มแป้นด้วยความดีใจ

"โอเค ไปอาบน้ำเร็ว"

"ครับพี่" ไท้รับคำอย่างว่าง่าย แต่ก่อนจะลุกไปก็ไม่ลืมถาม "พี่เปาอาบแล้วเหรอ"

"อาบแล้ว" เปาตอบพลางเอื้อมมือไปยีผมคนที่นอนอยู่อย่างเอ็นดู

...

เมื่อไท้อาบน้ำเสร็จ เปาก็พาออกไปข้างนอก ระหว่างที่ออกมาจากห้องและเดินไปตามโถงทางเดิน ไท้กับเปาก็เจอสายตาสองคู่มองมาเป็นตาเดียวกัน คนที่รู้สึกประหม่ากว่าใครก็เห็นจะเป็นไท้ เขาทำหน้าไม่ถูกกับสายตาล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวเลย

"ใครวะไท้" ฟีนิกซ์ถามด้วยสายตาอยากรู้ ก่อนที่เขากับเพื่อนอีกคนจะสาวเท้าเข้ามาใกล้ เช้านี้เขากับเหินฟ้าว่าจะไปวิ่งรอบสนามตอนเช้า พอออกมาจากห้องก็เจอไท้กับคนแปลกหน้าพอดี

"เอ่อ..." ไท้อึกๆ อักๆ ด้วยไม่รู้ว่าจะตอบเพื่อนร่วมทีมอย่างไร ยิ่งเห็นสายตาและยิ้มแปลกๆ ของเพื่อนก็ยิ่งประหม่า

"ไปเหอะไท้" เปาจับตรงต้นแขนแล้วดึงกึ่งลากไท้ออกไป เขาไม่อยากให้ไท้เสียเวลาคิดหาคำตอบ เพราะไม่ว่าจะตอบอย่างไรคนฟังก็จะไม่หายสงสัยอยู่ดี

"อ้าว มึงจะไปไหนแต่เช้าวะไอ้ไท้ ไปวิ่งกับพวกกูไหม กำลังหาพวกอยู่" ฟีนิกซ์ตะโกนถามตามหลัง

"กูมีธุระเว้ย เดี๋ยวเย็นๆ กลับมา" ไท้หันไปตะโกนตอบ ก่อนเดินหนีไปกับเปาอย่างรวดเร็ว

ฟีนิกซ์ย่นคิ้วเข้าหากัน สายตาของเขาดูงงๆ และสงสัย "มึงว่ามันพาใครมานอนด้วยวะเหินฟ้า"

หนุ่มตำแหน่งหัวเสาคนหนึ่งของทีมขมวดคิ้วเช่นกัน "กูไม่รู้ว่ะ แต่เดานะเว้ย กูว่าต้องเป็นแฟนมันแน่ๆ พามานอนด้วยกันถึงนี่เลยเว้ย เห็นเงียบๆ แบบนี้ ไม่ใช่เล่นนี่หว่า"

"ใช่เหรอวะ" ฟีนิกซ์ทำหน้าไม่เชื่อ "ไอ้ไท้มันดูไม่เหมือนเกย์เลยนะเว้ย มึงว่ามันเป็นเกย์เหรอวะ"

"มึงจะเอาแน่เอานอนอะไรกับผู้ชายที่เล่นวอลเลย์วะ ก็รู้อยู่" เหินฟ้าว่า

"เออ...ก็จริงของมึง ในทีมเรา กูว่าคงจะเหลือไอ้มึงคนเดียวล่ะมั้งที่ไม่เป็น คนอื่นๆ แม่งค่อยๆ แกรนด์โอเพนนิ่งกันทีละคนสองคน เมื่อสองสามวันนี่ก็ไอ้เวิร์ม คราวนี้ก็จะเป็นไอ้ไท้ จะเหลือใครให้กูบ้างวะเนี่ย"

"แล้วพี่พอลมึงล่ะ เอาไปไว้ไหน เดี๋ยวกูจะฟ้องพี่เขา" เหินฟ้าแกล้งแหย่ ก่อนหัวเราะขบขันกันทั้งสองคน

"แค่คุยสนุกๆ เฉยๆ เว้ย" ฟีนิกซ์แก้ตัวเขินๆ

... ... ...

เปาพาไท้นั่งแท็กซี่กลับมาที่บ้าน เมื่อวานเขาเมาจึงไม่ได้เอารถไปด้วย สิ่งแรกที่ทำเมื่อมาถึงบ้านคือทำอาหารเช้าแบบคลีนที่เปาชอบ เขาปล่อยเจ้าเมสซี่และเนยมาร์เข้ามาเดินเล่นในบ้านด้วย พวกมันดีใจมากที่ได้เจอไท้ ตามมาป้วนเปี้ยนไม่ยอมห่าง

เปาบอกไท้ว่าเพิ่งฝึกให้พวกมันรู้จักรอ เขาจึงบอกให้ไท้ลองเอาอาหารหมาแบบแท่งไปวางไว้บนจมูกพวกมัน จากนั้นก็สั่งให้รอ พวกมันก็นั่งนิ่ง แม้อยากกินแต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง เนยมาร์อยากกินจนน้ำลายหยด พอบอกว่ากินได้เท่านั้น พวกมันก็ก้มหน้าลงให้อาหารแท่งตกและงับกินทันที ไท้สนุกมากทีเดียว เขาเล่นกับพวกมันแบบนี้หลายรอบ

หลังกินข้าวเช้า เปาชวนไท้มาเล่นเปียโน เขาเล่นเพลงเพราะๆ ให้ไท้ฟังหลายเพลง สอนไท้เล่นเพลงง่ายๆ ไปด้วย แถมเจ้าหมาสองยังร้องตามด้วยการทำเสียงหอน ไท้หัวเราะชอบใจใหญ่ ถึงกับเอามือถือมาถ่ายคลิปไว้ ว่าจะเอาไปอวดเพื่อนในทีมเสียหน่อย

ไท้เล่นพอสนุกก็ปล่อยให้เปาเล่นต่อ เขานั่งพิงหลังเปาบนโต๊ะนั่งเล่นเปียโนตัวเล็กซึ่งมีพื้นที่จำกัด แต่สัมผัสเบียดเสียดกลับไม่ทำให้รู้สึกรำคาญแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ทั้งสองคนดูมีความสุข ไม่มีใครเอ่ยหรือพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเลย แต่ก็สัมผัสความรู้สึกที่ต่อเนื่องของคืนนั้นได้

คิดไปแล้วก็ช่างน่าแปลก ผู้ชายซึ่งรักหมาและชอบดนตรีอย่างเปาควรจะอ่อนโยนไม่ใช่หรือ เมื่อเห็นท่าทางและอารมณ์ยามที่เขาเล่นดนตรี เมื่อเห็นเขาเล่นกับหมาด้วยความรักและเอ็นดูพวกมัน คงไม่มีใครนึกออกว่าผู้ชายคนนี้เคยทำร้ายคนอย่างเลือดเย็นมาแล้ว แถมยังทำตัวเย็นชากับพ่อมาเป็นสิบๆ ปี

เปาเปลี่ยนมาเล่นเพลง Kissing You ของ Keith Washington ทันที่เขาบรรเลง ภาพจูบที่เร่าร้อนและแสนหวานเมื่อคืนก็ปรากฎชัดในความคิด เมื่อเขาได้โอบกอดไท้ไว้ในอ้อมแขน แรงต้านทานที่สะสมมาแต่อดีตกลับหายสิ้น ผู้ชายคนนี้มีบางอย่างที่ทลายกำแพงในใจของเขาได้

เขาจึงจูบไท้อย่างดูดดื่ม ปล่อยให้ตัวเองทำตามเสียงหัวใจที่เรียกร้องโหยหาสิ่งนี้ เขาดูดชิมลิ้มรสหวานในโพรงปากและสัมผัสอ่อนนุ่มอย่างไม่รู้เบื่อ สองมือของไท้โอบกอดเขาไว้แน่น ร่างขาวสั่นสะท้านด้วยอำนาจความต้องการ การตอบสนองเช่นนั้นทำให้เปายิ่งเตลิด กว่าพายุเสน่หาจะสงบลงก็ผ่านไปนับชั่วโมง ต่างคนต่างสุขสมกับสิ่งที่ป้อนให้แก่กันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ก่อนจะหลับใหลและผ่านราตรีนั้นไปอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ในหัวใจกลับสุขล้น

...

ทั้งสองหนุ่มใช้เวลาอยู่ที่บ้านด้วยกันทั้งวัน บ่ายๆ ก็ช่วยกันอาบน้ำหมา และยังต้องวิ่งไล่กวดพวกมันจนเหนื่อยเหมือนเดิม จากนั้นก็ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน จัดกระถางต้นไม้หน้าบ้าน ช่วงเย็นๆ ก็ออกกำลังกายด้วยกัน

เมื่อพ่อไม่อยู่บ้าน เปาจึงไม่จำเป็นต้องระวังตัวและระวังสายตาของใคร เขาดูเป็นธรรมชาติกับไท้มาก ยิ้มแย้มแจ่มใสและมีความสุข ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านความทุกข์เรื่องร้านที่เพิ่งเจ๊งไป รวมทั้งแฟนสาวซึ่งไม่ยอมพูดคุยด้วยมาหลายวันแล้ว

ตกเย็น เปาพาไท้ออกไปลอยกระทงด้วยกันข้างนอกตามที่คุยกันไว้ ก่อนออกไปก็ไม่ลืมให้อาหารเจ้าหมาสองตัว และพาพวกมันกลับเข้าไปนอนหลังบ้านด้วย พวกมันทำตาละห้อยและเห่าประท้วงเล็กน้อย เปาต้องปลอบพวกมันว่าจะพาไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันวันหลัง พวกมันจึงสงบลง

ปกติเปาจะไปลอยกระทงกับฟางทุกปี แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น ฟางก็เงียบหายไป ส่วนเปาก็ไม่คิดจะโทรตามหรือไปงอนง้อที่บ้านเหมือนอย่างเคย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้เขาเบื่อหน่ายความรักของเขากับฟางไปได้ ที่จริงก็ไม่ควรปล่อยให้บาดหมางใจกันนานขนาดนี้ด้วยซ้ำ เพราะเมื่อมีครั้งที่หนึ่งแล้ว ครั้งที่สอง สาม สี่และครั้งอื่นๆ ก็จะตามมา

สองหนุ่มแวะไปหาของกินแถวๆ เยาวราช เปาชอบสรรหาร้านอร่อยๆ มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เขาจึงรู้จักร้านแนะนำหลายร้าน วันนี้ไท้จึงได้กินของอร่อยหลายอย่าง ก่อนจะมาลอยกระทงด้วยกันที่สวนสันติชัยปราการซึ่งเป็นสวนสาธารณะติดแม่น้ำเจ้าพระยา

บรรยากาศดูไม่คึกคักมากนัก คงเป็นเพราะช่วงนี้มีงานพระบรมศพ จึงมีแต่คนใส่ชุดสีดำๆ เต็มงาน รวมทั้งเปาและไท้ด้วย งานลอยกระทงคืนนี้จึงแปลกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

ดวงจันทร์ขนาดใหญ่ลอยเด่นบนท้องฟ้าซึ่งไร้เมฆบัง วันนี้เป็นวันที่ดวงจันทร์เข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบหกสิบแปดปี มันจึงถูกเรียกว่าซุปเปอร์มูน คนที่มาลอยกระทงจึงให้ความสนใจกับดวงจันทร์มากกว่าการลอยกระทง ตรงลานริมน้ำจึงเห็นคนยกโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปดวงจันทร์เป็นส่วนใหญ่ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ทยอยกันกลับเพราะไม่มีงานรื่นเริงเหมือนปีก่อนๆ

เปากับไท้ยังคงอยู่ต่อ สองหนุ่มเดินทอดน่องสบายๆ ไปตามทางเดินเลียบริมแม่น้ำ สักพักก็เดินกลับมาที่สวน ก่อนหาที่นั่งคุยกันริมน้ำ แรกๆ ก็คุยเรื่องไม่มีสาระเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งสบจังหวะ ไท้ก็เรื่องที่อยากอยากรู้ ถึงแม้ไม่ค่อยแน่ใจว่าควรถามหรือเปล่าก็ตาม

"พี่เปากับพี่จีน...รู้จักกันนานไหมครับ"

รอยยิ้มและสีหน้าของเปาก็จืดเจื่อน ดูจากสีหน้าท่าทางแล้วคงไม่อยากตอบ อดีตครั้งนั้นเหมือนเป็นอีกหนึ่งรอยด่างในชีวิต เปาไม่อยากแม้แต่จะนึกถึงด้วยซ้ำ ไม่นึกเลยว่ามันจะหวนกลับมาอีกครั้งจนได้

"สามปี" เปาตอบสั้นๆ นิ่งไปสักพักก็ถามกลับ "จีนคงเล่าเรื่องของพี่กับเขาให้ไท้ฟังแล้วใช่ไหม"

"ครับ"

"พี่ไม่รู้ว่าเขาเล่าอะไรนะ แต่ดูจากอาการของเขาวันนั้นแล้วก็คงไม่ใช่เรื่องดี แต่...เขาก็พูดไม่ผิดหรอก" เปาแค่นเสียง "พี่ก็เป็นอย่างที่เขาว่านั่นแหละ พี่ไม่ใช่คนดีหรอก"

น้ำเสียงที่พูดฟังคล้ายประชด ไท้พอสัมผัสความรู้สึกนั้นได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร มีทั้งเห็นใจ แต่บางอย่างก็ไม่เห็นด้วย การกระทำของเปาตอนนั้นนับว่าเลือดเย็นมาก ไท้นึกไม่ออกเลยว่าผู้ชายที่ดูอ่อนโยนและมีอารมณ์ศิลปินอย่างเปาทำอย่างนั้นได้อย่างไร

"อยากรู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงทำแบบนั้น" เปาหันมาถาม

ไท้ส่ายหน้าทันที "ไม่ครับ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ ไม่จำเป็นต้องบอกผมก็ได้"

เปาทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่อีกฝ่ายไม่อยากรู้ กระนั้นก็ช่วยให้เขาสบายใจมากขึ้น "มันไม่ใช่เหตุผลที่ดีหรอก แต่พี่ก็เลือกที่จะทำ" เปาแค่นเสียง ก่อนถามทีเล่นทีจริงด้วยคำถามเดียวกับเมื่อวาน "กลัวพี่อยู่ใช่ไหม"

ไท้เงียบไปชั่วครู่ เขาเพิ่งรู้จักเปาได้ไม่นาน จึงไม่แน่ใจว่าควรจะไว้ใจอีกฝ่ายได้มากแค่ไหน

"ถึงพี่จะเคยทำเลวแค่ไหน แต่พี่...ก็ไม่ทำอย่างนั้นทุกคนหรอก ทุกอย่างบนโลกนี้มันมีข้อยกเว้น พี่ไม่ขอให้ใครเชื่อใจพี่นะ เพราะตัวพี่เอง...ยังเชื่อใจตัวเองไม่ได้เลย" เปาหัวเราะในลำคอ ไม่ใช่เสียงหัวเราะตลกหรือทำนองนั้น แต่ออกแนวประชดตัวเองเสียมากกว่า

ไท้มองอย่างทึ่ง ดูเหมือนว่าเปาจะมีปัญหากับความรู้สึกภายในของตัวเองไม่น้อย แม้เด็กสิบเก้าอย่างเขายังไม่รู้อะไรมาก แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าเปาสับสนจนไม่รู้ว่าจะตัดสินใจเลือกได้หรือเปล่า เราอาจดำดิ่งค้นหาวัตถุบางอย่างในทะเลได้ แต่คำตอบบางอย่างซึ่งอยู่ในใจของเราเองแท้ๆ กลับยากที่จะหาพบเสียยิ่งกว่าหาวัตถุในทะเลเสียอีก

ความสงสัยของไท้คงมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ตั้งแต่รู้จักกับเปามา แม้จะไม่นานมาก แต่เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา หนทางหนึ่งที่จะทำให้รู้ได้ก็คือการถาม แม้ไม่มั่นใจว่าจะได้คำตอบแต่ไท้ก็อยากลองถามดู

"พี่เปา...คิดยังไงกับผมเหรอครับ"

ความเงียบแล่นเข้ามาปกคลุมทันทีเมื่อคำถามของไท้สิ้นสุดลง แววกระตุกในดวงตาของเปาบ่งบอกความรู้สึกบางอย่างของเจ้าตัวที่ยากจะคาดเดา บวกกับท่านิ่งคิดก็ยิ่งทำให้คนถามรู้สึกหวั่นใจว่าคงไม่ใช่คำถามที่ตอบง่ายๆ เสียแล้ว

เปาแหงนหน้ามองท้องฟ้า ดวงจันทร์เด่นโตส่องแสงกระจ่างกลาง แต่ดูเหมือนความใสกระจ่างของดวงจันทร์จะไม่สามารถส่องทะลุเข้ามาในใจของเปาได้เลย มันจึงยังมืดดำ คลุมเครือ แม้กระทั่งจะค้นหาความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองก็ยังทำได้ยาก ที่จริงไม่มีแสงใดๆ ส่องเข้าไปในหัวใจได้ มีเพียงความรักเท่านั้นที่จะนำพาแสงสว่างมาสู่ใจที่มืดดำ

"ไท้จำวันที่ไท้ไปสมัครเรียนที่รามได้ไหม ที่พี่...ทิ้งไท้ไว้คนเดียวไง" นานทีเดียวกว่าเปาจะยอมเปิดปากพูด แต่ก็ไม่ใช่การตอบคำถาม ดูเหมือนจะเป็นการเกริ่นเพื่อนำไปสู่คำตอบทีหลังมากกว่า

ไท้พยักหน้า "ครับ จำได้ครับ"

เปายิ้มละไมอย่างพอใจ แสงจันทร์สะท้อนวิบไหวอยู่ในดวงตาของเขา แสงที่สว่างเกินกว่าปกติทำให้พอเห็นความรู้สึกในดวงตาได้ แต่ที่จริงดวงตาของคนก็มีความพิเศษ บางครั้งความมืดก็ไม่อาจซ่อนแววตาซึ่งบ่งบอกความรู้สึก

"ไท้รู้ไหม ตอนที่พี่กลับไปรับไท้ พี่เห็นไท้นั่งรอ หนาวสั่น แล้วก็กลัว ความรู้สึกของพี่ตอนนั้น พี่ไม่รู้จะบอกได้ยังไง พี่ทั้งสงสาร รู้สึกผิด พอไท้วิ่งเข้ามากอดพี่ พี่ก็ได้คำตอบบางอย่างที่พี่ตามหามานาน มันเป็นครั้งแรกที่พี่ปลอบใครสักคนแบบนี้ พี่ไม่เคยปลอบใครแบบนี้เลย ไม่เคยมีใครวิ่งเข้ามากอดพี่ด้วยความรู้สึกแบบนี้ พี่รู้สึกดีมาก แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าพี่รู้สึกอะไร พี่รู้แต่ว่ามันฝังใจ ประทับใจ เมื่อคืนวานก็เหมือนกัน ความรู้สึกมันแตกต่างมาก และพี่...ก็รู้สึกดีมาก"

เปาหยุดเว้นจังหวะ ปล่อยให้ลมเย็นๆ พัดปลิวและทำเสียงวือๆ ในหู เขาหยุดคิด ทบทวนสิ่งที่ตัวเองอยากพูดและสื่อสารออกไป บางอย่างมันอยู่ที่ริมฝีปาก แต่ก็นึกเป็นคำพูดไม่ได้ หรือไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าพูดมันออกไป

"พี่เพิ่งรู้ว่าพี่มีความสุขมากแค่ไหนก็เมื่อคืนที่ผ่านมา พี่ไม่เคยมีความสุขแบบนี้เลยนะไท้ ชีวิตของพี่...มีแต่ความเหงา พี่มีพ่อ มีเพื่อน มีแฟน แต่กลับรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้ แต่พอไท้เข้ามาในชีวิตพี่ พี่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแตกต่างไป แต่พี่ก็ไม่รู้ว่า...ความรู้สึกของพี่คืออะไร พี่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนให้ไท้ พี่บอกได้แค่ว่า..."

เสียงของเปาเงียบหาย ก่อนสองสายตาจะเอียงมาประสานกันสนิท ฝ่ายหนึ่งรอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็ยังคงวนเวียนค้นหาบางอย่างในใจตัวเอง เผลอๆ อาจหลงทางในเขาวงกตในหัวใจตัวเองไปแล้วก็ได้ แต่กระนั้น เขาก็ยังมีบางอย่างที่อยากพูด

"พี่รู้สึกดีกับไท้นะ มันไม่เหมือนที่พี่รู้สึกกับ...เอ่อ...กับจีน หรือแม้กระทั่ง...กับฟาง" เปาพูดอย่างตะกุกตะกัก "พี่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย มันแปลกมาก แปลกจนพี่ไม่รู้จักมัน ไม่รู้จักตัวเอง พี่เป็นคนมีปัญหาในใจเยอะนะไท้ บางที...พี่ก็ไม่เข้าใจตัวเองง่ายๆ หรอก ไท้รู้จักพี่มาพักหนึ่งแล้ว พี่เชื่อว่าไท้คงพอรู้อะไรบ้าง ใช่ไหม"

ไท้ยิ้มบางๆ ขณะที่สองคู่ดวงตายังคงสื่อสารกันเงียบๆ แม้สิ่งที่สื่อออกมาไม่ใช่เสียงพูดที่ฟังเข้าใจความหมาย แต่เสียงใจที่ออกจากแววตาก็สื่อชัดเจน จิตใต้สำนึกคงได้คำตอบนั้นไปแล้ว แต่จิตธรรมดายังคงหลงทางและวิ่งตามไม่ทัน

"พี่เปาไม่รู้ หรือเป็นเพราะว่า...พี่เปาไม่กล้าพูดกันแน่ครับ" ไท้ถามไปตามตรง

แววตาของเปากระตุกอีกครั้ง แม้จะเป็นคำถามง่ายๆ ซื่อๆ ตามประสา แต่ก็จี้ใจดำคนอายุมากกว่าได้ดีทีเดียว เขาจึงยิ่งสับสนมากขึ้น ใคร่ครวญครุ่นคิด แต่กลับไม่มีคำตอบใดที่น่าพอใจ จนกระทั่งอีกคนต้องเป็นฝ่ายพูดทำลายความเงียบ

"ผมรู้สึกดีกับพี่นะครับ ตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอพี่แล้ว ที่จริง...พี่ก็ดูน่ากลัวเหมือนกันนะครับ" ไท้หัวเราะเบาๆ "แต่...ผมก็รู้สึกดี ผมไม่เคยชอบผู้ชายหรอก แต่พี่เปา...ทำให้ผมคิดว่า...ผมน่าจะรักผู้ชายได้"

ไท้หัวเราะอีกครั้ง แต่แววตาของเปาบ่งบอกว่าเขาตกใจ ความรักนั่นเองคือสิ่งที่เปากลัว แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะความรักเป็นสิ่งน่ากลัวโดยธรรมชาติ แต่เขากลัวใจตัวเองจะเผลอรักสิ่งที่เคยเกลียดต่างหาก กระนั้นก็น่าขำสิ้นดีที่เขาปล่อยให้ตัวเองหลงเดินเข้ามาในดินแดนนี้ ที่ซึ่งเขาไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาเหยียบด้วยซ้ำ

"แต่ว่า..." ไท้หรุบตาลงต่ำเล็กน้อย เขารู้ดีว่าความรักครั้งนี้ไม่ถูกต้อง นั่นคือสิ่งที่ไท้ต้องบอกไปเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม "พี่เปามีแฟนแล้ว ผมว่ามันไม่ดีหรอก ผมว่า..."

ใบหน้าของเปาพลันซีดเจื่อน ความรู้สึกละอายใจค่อยๆ พาเขาละสายตาและเปลี่ยนจุดสนใจไปยังแม่น้ำ แสงจันทร์สะท้อนบนผืนเป็นรูปทรงของดวงจันทร์ที่บิดเบี้ยวไปมา แต่ประกายระยิบระยับของมันก็งดงามไม่น้อย

"ผมว่าผมหยุดแค่นี้ดีกว่า" ไท้ตัดสินใจบอกไป ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเห็นด้วยหรือไม่ การตัดสินใจอย่างนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

เปาถอนหายใจยาว เขาแหงนหน้าขึ้นมองบนฟ้าอีกครั้ง สีหน้าบ่งบอกว่าหนักใจ ในขณะเดียวกันก็ดูเศร้า แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมายิ่งทำให้เห็นความเศร้าชัดเจนมากขึ้น

"ไท้รู้ไหม เรื่องบางเรื่อง...ก็หาคำตอบไม่ได้ง่ายๆ หรอก" เปาหยุดคิด สักพักก็พูดต่อ "ไม่ว่าพี่จะทำอะไร พี่ก็คงจะเป็นคนเลวเหมือนเดิม ถ้าไท้ไม่ไว้ใจพี่ หรือไม่อยากข้องเกี่ยวกับพี่อีก พี่ก็ไม่ว่าอะไรนะ" เปาแค่นเสียงเหมือนน้อยใจ

"แต่พี่แค่อยากให้ไท้รู้ความจริงบางอย่างไว้ ไท้เป็นคนเดียวที่ทำให้พี่รู้สึกแตกต่าง ไม่ว่าความรู้สึกนั้นจะเรียกว่าอะไร หรือพี่จะยอมรับมันได้ไหม แต่สิ่งที่พี่ยอมรับได้ก็คือ...พี่รู้สึกดีกับไท้ ไท้รู้ไหม...พี่อยากมีใครสักคนที่ทำให้พี่รู้สึกแบบนี้ พี่ตามหาคนๆ นี้มานานแล้วนะ"

เปาหยุดเว้นจังหวะ เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของไท้ คล้ายกับอยากให้อีกฝ่ายเห็นความรู้สึกของเขาได้ชัดเจนที่สุด เพราะคำพูดอาจโกหกได้ แต่แววตาโกหกไม่ได้

"ไท้อย่าปล่อยมือพี่ได้ไหม"

TBC

หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP11 คำขอร้อง ◯ 10.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 10-02-2017 23:06:50
  เปาจริงจังหรือว่าจะทำประวัติศาตร์ซ้ำรอยเดิมอีก
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP11 คำขอร้อง ◯ 10.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 10-02-2017 23:26:50
เราว่าสำหรับเปามันยากนะ ที่จะยอมรับตัวเองว่าชอบผู้ชายอ่ะ5555 แบบ ออกตัวแรง ประกาศให้โลกรู้ว่าเกลียดเกย์มากแค่ไหน จะทนสายตาคนอื่นมองได้หรือเปล่า
แล้วเมื่อไหร่จะไปเคลียร์กับแฟนยะ รออะไร รอให้เรื่องมันยิ่งยุ่งยากหรือไง บู้ว -3-

รอตอนต่อไปค่า ไท้อย่าไปยอมมันมาก เดี๋ยวได้ใจ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP11 คำขอร้อง ◯ 10.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-02-2017 23:29:05
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP11 คำขอร้อง ◯ 10.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-02-2017 09:11:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP11 คำขอร้อง ◯ 10.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-02-2017 13:18:32
ถึงปากจะบอกว่าไท้ทำให้เปารู้สึกดี
แต่ขณะที่ยังมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่
ยังงี้ก็ไม่ไหวนะ..จะให้อยู่ในสถานะอะไร ยังไม่รู้เลย

ไม่มีใครจะเต็มใจยืนอยู่บนตอไม้ที่ผุกร่อนหรอก
เพราะไม่รู้ว่ามันจะหักทำให้ตกลงไปให้เจ็บเมื่อไหร่

ไม่เคลียร์นะเปา
จะหยุดหรือเดินหน้าต่อ
ให้ความมั่นใจกันหน่อย..ได้ไหม
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP11 คำขอร้อง ◯ 10.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 12-02-2017 01:42:39
แล้วจะเป็นยังไงต่อไป,,,

ไท้จะโดนเหมือนจีนรึป่าว
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP12 เหมือนพ่อ ◯ 13.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 13-02-2017 13:35:35
EP 12 | เหมือนพ่อ

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)


"เธอๆ ดูนั่นสิ พี่จีนของเรากับเด็กใหม่ ดูแปลกนะ เธอว่าไหม"

"คนไหน" ถามพลางสอดส่ายสาตามอง

"นั่นไง ที่เป็นตัวตบที่เพิ่งลงมาไง ที่ตัวสูงๆ หน้าตี๋ๆ ตัวขาวๆ" ว่าพลางชี้ให้ดูไปด้วย

"อ๋อ คนนั้น่ะเหรอ เมื่อกี้ตอนพักเบรก ฉันเห็นเขาป้อนน้ำกันด้วย" ทำเสียงสูงและหัวเราะร่วน ที่จริงคงไม่ถึงกับป้อนน้ำป้อนท่า เพียงแต่หยอกกันเล่นสนุกๆ เท่านั้น

"ว้าย จริงเหรอ ป้อนน้ำกันด้วยเหรอ ใครป้อนใครอ้ะ" เจ้าตัวถามอย่างตื่นเต้นและอยากรู้

"พี่จีนของเราไง" บอกด้วยสายตาเป็นประกาย

"จริงเหรอ" ทำตาโตเท่าไข่ห่านไปด้วย ก่อนถามอย่างอยากรู้ "เธอถ่ายรูปไว้หรือเปล่า"

"ถ่ายไม่ทันน่ะ" ทำหน้าเสียดาย

"ว้า" ทำหน้าเสียดายเช่นเดียวกัน "ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกเราคอยจับตาดูพี่จีนน้องตี๋ให้ดีละกัน น่าจะมีช็อตเด็ดๆ อีก"

"เขาชื่อไท้ ไม่ใช่ตี๋" อีกคนรีบแก้ชื่อแทน

"ก็เขาหน้าตี๋น่ะ เรียกตี๋ล่ะกัน น่ารักดีด้วย" บอกพลางยิ้ม ในขณะที่สายตาคอยดูการแข่งขันวอลเลย์บอลเพื่อคัดเลือกประเทศที่ชนะไปแข่งขันวอลเลย์บอลชายโลก ขณะนี้ทีมไทยกำลังแข่งกับญี่ปุ่น ได้เซ็ตจากไทยไปสองเซ็ตติดต่อกันแล้ว คะแนนค่อนห่างกันพอสมควร

เซ็ตแรกญี่ปุ่นชนะไป 25-18 เซ็ตที่สองชนะไป 25-16 ขณะนี้อยู่ในช่วงหลังเวลานอกทางเทคนิคครั้งที่หนึ่ง ไทยนำญี่ปุ่นอยู่ 10 ต่อ 8 ไท้ลงมาแทนรุ่นพี่ซึ่งถูกเปลี่ยนออกในเซ็ตที่สาม ดูเหมือนว่าเขาจะสร้างความแตกต่างได้ดีทีเดียว เพราะทำให้ไทยมีคะแนนนำญี่ปุ่นได้เป็นครั้งแรก

"น้องตี๋นี่เล่นดีนะ เขาตบฉลาดมาก กระโดดก็สูง ตบหนักด้วย โอเคเลย พอลงมาแล้วทำคะแนนได้เยอะเลย" แฟนคลับของจีนคนหนึ่งชวนคุยต่อ

"จริงด้วย เราว่าพี่เป้เริ่มไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่าเจ็บหรือเปล่า แต่เปลี่ยนออกก็ดี ไม่งั้นแพ้แน่" คนพูดหมายถึงนักวอลเลย์บอลชายตำแหน่งหัวเสาคนหนึ่ง ในสองเซ็ตที่ผ่านมาเจ้าตัวทำผลงานได้ไม่ดีนัก โค้ชเด้งจึงตัดสินใจให้ไท้ลงมาเล่นแทน การแข่งขันครั้งนี้มีไท้ เหินฟ้า ฟีนิกซ์ เวิร์มและเกิ้นมาเป็นตัวสำรองด้วย แต่เพิ่งมีไท้เท่านั้นที่ได้ลงเพราะมีความสามารถโดดเด่นเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันทั้งหมด อีกอย่างผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆ ยังฟอร์มดีอยู่ มีเพียงเป้เท่านั้นที่เล่นไม่ได้มาตรฐานเดิมของตัวเอง น่าจะเกิดจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ผ่านมา

"กรี๊ดดดด ไทยนำเทคนิคัลไทม์เอาท์อีกแล้วเธอ โห...สุดยอด" แฟนคลับคนหนึ่งร้องดีใจ เสียงกรี๊ดในสนามดังใหญ่เมื่อไท้ตบลูกที่จีนเซ็ตมาให้อย่างสวยฝังลงไปในแดนญี่ปุ่น ช่วยให้ไทยนำ 16 ต่อ 12 ก่อนออกมาพักช่วงเวลานอกทางเทคนิคครั้งที่สอง

"ถ่ายรูปเลยๆ"

กลุ่มแฟนคลับของจีนซึ่งนั่งอยู่ใกล้ม้านั่งของทีมไทยต่างพากันยกมือถือมาเตรียมไว้ พอเห็นจีนกับไท้หยอกกันระหว่างช่วงพักก็ระดมเก็บภาพ สีหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันทุกคน คาดว่าหลังการแข่งขันคงได้ภาพเด็ดๆ ไปลงในหน้าแฟนเพจและกลุ่มแฟนคลับในเฟสบุ๊คเป็นแน่

ระหว่างที่ดื่มน้ำและฟังโค้ชเด้งแก้เกมการเล่น จีนเดินมาช่วยบีบไหล่ไท้เบาๆ ในขณะที่ไท้ฟังโค้ชอย่างตั้งใจและดื่มน้ำไปด้วย กระนั้นเจ้าตัวก็ไม่ลืมหันมายิ้มให้รุ่นพี่

"สุดยอดเลยไท้ พี่ว่าเราเก็บเซ็ตนี้ได้แน่" จีนยิ้มและชมออกมาจากสายตา ดูออกนอกหน้าจนใครๆ ก็สังเกตเห็นได้ว่าเจ้าตัวเชียร์ไท้มากเป็นพิเศษ

มาวินกับพอลล์คอยจับตามองดูอยู่ แอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วย ช่วงนี้จีนดูห่างๆ จากผู้ชายหลายๆ คนที่คบเล่นสนุกไปพอสมควร ช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนเจ้าตัวจะสนิทกับไท้มากเป็นพิเศษ ยิ่งได้มาซ้อมเตรียมทีมด้วยกันก็ยิ่งมีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้น จนเป็นที่สังเกตของเพื่อนๆ ทีมชาติด้วยกัน

ระหว่างที่นักกีฬาเดินลงสนาม พอลล์ก็แอบวิ่งมากระซิบกับจีนเบาๆ "มึงจีบไท้เหรอวะไอ้จีน"

"จีบเจิบอะไรของมึงวะ" จีนทำท่าจุ๊ปาก

"เฮ้ย กูว่ามึงหาคนจริงจังได้แล้ว ไท้นี่แหละ กูว่าน้องเขาเหมาะกับมึงนะเว้ย" พอลล์ไม่วายยุต่อ แต่จีนก็ส่ายหน้าและทำเสียงรำคาญใส่

"ไม่เอาเว้ย"

พอลล์จึงหยุดรบเร้า เขาต้องเป็นฝ่ายเสิร์ฟต่อพอดีจึงเดินย้อนหลังไปยังจุดเสิร์ฟ จากนั้นการแข่งขันในช่วงปลายเซ็ตที่สามก็เริ่มขึ้น ในช่วงปลายเซ็ตนี้ โค้ชเด้งเน้นให้จีนเซ็ตบอลเร็วให้พอลล์และบอลหัวเสาให้ไท้ สลับกันตามที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ญี่ปุ่นจับทางไท้ได้ เพราะหลังจากที่เจ้าตัวทำคะแนนอย่างต่อเนื่องจนแซงญี่ปุ่นได้ ทางญี่ปุ่นก็คอยจับตาและตามบล็อกตลอด

ในเกือบชั่วโมงถัดมา การแข่งขันก็จบลงด้วยชัยชนะของทีมไทยซึ่งเอาชนะญี่ปุ่นไปได้ 3 ต่อ 2 เซ็ต นับเป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่ไทยสามารถเอาชนะญี่ปุ่นได้ นักกีฬาดีใจกันมาก เสียงเชียร์ของผู้ชมรอบสนามดังกระหึ่ม ขนาดการแข่งขันจบแล้วก็ยังส่งเสียงเชียร์นักกีฬาไม่เลิก บรรดานักกีฬาจึงเดินยกมือไหว้ขอบคุณรอบสนาม แต่สักพักก็ต้องออกจากสนามเพราะทีมต่อไปจะลงแข่งต่อ

ระหว่างอยู่ในห้องพักนักกีฬา โค้ชเด้งก็เรียกไท้มาคุยเป็นการส่วนตัว ที่จริงคงไม่ถึงกับเป็นส่วนตัวมาก เพราะในห้องมีคนอยู่เต็ม แต่ก็ไม่มีใครมายุ่งกับการสนทนาของสองคน ส่วนมากก็ไปอาบน้ำ เก็บของเตรียมตัวกลับโรงแรมที่พักที่นครปฐม

"ไท้พอจะรู้ไหมว่า...เปาเขาเป็นอะไร โค้ชไม่เห็นเขาไปทำงาน เย็นๆ ก็ออกไปเที่ยว ดึกๆ ก็เมากลับมา เป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว ฟางก็ไม่มาที่บ้านโค้ชเลย ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ไท้พอจะรู้ไหม"

ท่าทางโค้ชเด้งดูหนักใจไม่น้อย ช่างน่าเห็นใจที่เขาไม่สามารถพูดคุยกับลูกชายด้วยตัวเองได้ เพราะถ้าเปาไม่คิดจะเปิดปากพูดแล้ว ถามไปก็เท่านั้น ยังไงก็ไม่มีทางได้คำตอบอย่างแน่นอน

สีหน้าของไท้เครียดขึ้นเล็กน้อย แต่ก็พอสังเกตเห็นได้ ท่าทางคนตอบก็ดูหนักใจไม่แพ้กัน ลองโค้ชถามมาแบบนี้ แปลว่าเปาคงไม่ยอมบอกอะไรอย่างแน่นอน

"ธุรกิจของพี่เปา...เจ๊งไปแล้วครับ" ไท้ตัดสินใจบอกไปตามตรง แม้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองควรเข้าไปยุ่ง แต่ไท้ก็ไม่อยากให้เปาเป็นแบบนี้

"อะไรนะ" โค้ชเด้งขมวดคิ้วเข้าหากัน สีหน้าดูตกใจไม่น้อย จากนั้นก็บ่นงึมงำอย่างหัวเสีย "ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ถึงไม่บอกพ่อนะเปา มิน่าล่ะ"

โค้ชเด้งส่ายหัวไปมา พอรู้อย่างนี้แล้วก็นึกสงสารลูกชาย เปาคงไม่มีอะไรทำ ซ้ำยังอาจจะมีปัญหากับแฟนอีก ปกติก็มักคิดว่าตัวเองไม่เหลือใครอยู่แล้ว พอแฟนไม่มาหาก็ยิ่งคิดมากไปใหญ่ จึงทำตัวเหลวไหลอย่างที่เห็น

"เดี๋ยวเย็นนี้โค้ชจะกลับบ้านไปดูลูกชายหน่อย สงสัยคงเมาหัวราน้ำกลับมาอีก เขาชอบออกไปตอนเย็นๆ เอาข้าวให้หมาแล้วก็ออกไป กลับมาทีก็ดึกดื่น" โค้ชเด้งถอนหายใจสั้นๆ อย่างหนักใจ

"ครับ" ไท้ทำท่าเหมือนอยากพูดต่อ แต่ก็ยั้งไว้

หลายวันมานี้ไท้พยายามติดต่อหาเปา แต่รายนั้นไม่ยอมรับสาย บางครั้งก็โทรไม่ติดไปเลย ครั้นจะไปหา ช่วงนี้ไท้ก็ซ้อมหนักเพราะเพิ่งได้รับโอกาสให้เข้ามาสำรองในทีมชาติ จึงจำเป็นต้องฝึกซ้อมหนักขึ้นเพื่อแสดงฝีมือให้เต็มที่

"งั้นโค้ชไปก่อนนะ เอาไว้เสร็จงานโค้ชจะพาไปเลี้ยงข้าว วันนี้ไท้ทำได้ดีมาก ช่วยทีมได้เยอะเลย"

โค้ชเด้งตบไหล่ไท้เบาๆ จากนั้นก็รีบลุกออกไปอย่างเร่งรีบ วันนี้ทีมสต๊าฟโค้ชว่าจะพาไปเลี้ยงอาหารเย็นแถวๆ นี้ ถึงโค้ชเด้งไม่ไปด้วยแต่คนที่เหลือก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะไม่ใช่งานเลี้ยงฉลอง แค่อยากพามากินข้าวข้างนอกด้วยกันเท่านั้น

ไท้ถอนหายใจสั้นๆ แล้วก็ลุกขึ้น ก่อนจัดการเก็บของใส่กระเป๋าและไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนคนอื่นๆ

ระหว่างที่นั่งรถตู้ไปยังร้านอาหารซึ่งไม่ไกลจากโรงแรมที่พัก พอลล์ก็เอะอะด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นมาจากเบาะนั่งทางด้านหลัง

"เฮ้ยไอ้จีน มึงดูนี่ดิ แฟนคลับมึงมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ มึงเข้าไปดูแฟนเพจมึงยัง"

"อะไรวะ" จีนหันไปถาม เขานั่งอยู่เบาะที่นั่งแถวหน้าของรถตู้ข้างๆ กับไท้และมาวิน

"เข้าไปดูสิ มึงเซอร์ไพรส์แน่" พอลล์ยักคิ้วหลิ่วตา ดูมีลับลมคมในจนน่าสงสัย

จีนหันกลับมาตามเดิม ก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมาจากประเป๋ากางเกง เปิดแอปเฟสบุ๊คและเข้าไปดูหน้าแฟนเพจของตัวเอง พอเห็น "เซอร์ไพรส์" ตามที่เพื่อนบอก จีนก็หน้าร้อนผ่าวๆ

มีคนอัปโหลดภาพในหลายๆ อิริยาบถของจีนกับไท้หลายภาพ ส่วนมากเป็นภาพที่อยู่ใกล้ชิดกัน มีภาพตอนที่จีนแกล้งเอาน้ำป้อนไท้ ภาพกอดคอกัน ภาพนวดคลายกล้ามเนื้อ ภาพหันมายิ้มสบตากันในสนาม และอีกหลายๆ ภาพที่สามารถเอาไปสร้างเรื่องว่าจีนกับไท้เป็นแฟนกันได้เลย

จีนบอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับภาพนั้น แต่มันก็อดทำให้จีนนึกถึงช่วงเวลาที่เขากับเปาเคยมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันไม่ได้ ไม่เคยมีใครทำให้จีนมีความสุขเหมือนกับเปาได้เลย จนกระทั่ง...

จีนก้มมองดูภาพในมือถือ เลื่อนดูภาพไป แอบชำเลืองมองคนข้างๆ ไปด้วย ไท้คงสงสัยท่าทางแปลกๆ นั้นอยู่บ้าง แต่ด้วยมาวินชวนคุย จึงยังไม่ถามหรือสนใจอย่างจริงจัง

ภาพที่เห็นนั้นดูเหมือนคนสองคนมีความสุข คนถ่ายก็ช่างเลือกภาพและมุมที่สื่อสารอารมณ์อ่อนหวานได้ดีเหลือเกิน ความรู้สึกอย่างนี้หายไปนานแล้ว จีนไม่รู้เหมือนกันว่าทนอยู่อย่างไร้รักมาตั้งหลายปีได้อย่างไร ดูเหมือนนานจนชินชา แต่ลึกๆ แล้วเขาก็โหยหา เพียงแต่ความโหยหาไม่เคยเอาชนะความกลัวเจ็บครั้งนั้นได้เลย

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว รู้แต่ว่ารถตู้มาจอดที่หน้าร้านอาหาร เพื่อนๆ นักกีฬาและสต๊าฟโค้ชต่างทยอยลงจากรถตู้สองคันของสมาคม ก่อนทยอยเดินเข้าไปหาที่นั่งในร้านอาหารพร้อมกับเสียงคุยกันสนุกสนาน

จีนเดินลงมาจากรถเป็นคนสุดท้าย ถ้าไม่ใช่เพราะไท้สะกิดให้ลงมาก็อาจจะเผลอนั่งอยู่อย่างนั้นต่อไป เขาเดินตามไท้เข้าไปในร้านอาหาร ในขณะที่ใครต่อใครต่างก็ตื่นเต้นกับการสั่งอาหารเมนูแปลกๆ มากิน ไท้กับจีนกลับดูเฉยชา แต่เพื่อนๆ ก็ยังไม่ทันสังเกตดูอย่างจริงจัง

เมื่อรุ่นพี่นั่งลงไปบนเก้าอี้ ไท้กลับยืนคิดอะไรบางอย่าง ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ คนที่ไท้ควรจะบอกก่อนใครก็คือจีนเพราะนอนพักห้องเดียวกัน

"พี่จีนครับ เดี๋ยวผมกลับมานะครับ"

อาการเซึ่องซึมของจีนหายไปเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วสงสัย "อ้าว แล้วไท้จะไปไหน"

ไท้กระชับกระเป๋าเป้เตรียมไว้ ดูเหมือนคนพร้อมจะเดินทางมากกว่าอยากจะนั่งกินข้าว "ผมมีธุระส่วนตัวนิดหน่อยครับ"

ไท้บอกแล้วก็ลุกเดินออกไป  พอเพื่อนๆ ถามเขาก็บอกเพียงว่ามีธุระด่วน แม้เพื่อนๆ ยังไม่หายสงสัย เขาก็เดินออกมาจากร้าน ไม่นานก็ออกมายืนข้างถนนใหญ่ ที่นี่อยู่ห่างจากเขตกรุงเทพเพียงไม่กี่กิโลเมตรจึงพอมีแท็กซี่อยู่บ้าง ไท้รีบกวักมือเรียกหยอยๆ เขาไม่รู้หรอกว่าเขาจะไปที่บ้านหลังนั้นถูกหรือเปล่า แต่ไท้ก็จะไป เพราะหัวใจของไท้ร่ำร้องอยากเจอใครคนนั้น

คิดถึงและเป็นห่วงมาหลายวันแล้ว เขาไม่สามารถทานทนได้อีกต่อไป


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

"เกิดเรื่องแบบนี้ ทำไมเปาไม่บอกพ่อ"

ยังนับว่าโชคดีที่โค้ชเด้งกลับมาถึงบ้านก่อนที่เปาจะออกไปพอดี เจ้าตัวมีกระเป๋ากีฬาใบโตถือในมือด้วย ถ้าไม่ใช่ไปทำงานก็อาจจะไปอยู่ที่ไหนสักพัก เปาหยุดชะงักอยู่กลางโถงทางเดิน ก่อนวางกระเป๋าลงบนพื้น สายตาที่มองพ่อทั้งสงสัยและหวาดระแวงในขณะเดียวกัน เปาไม่เคยไว้ใจพ่อ ไม่เคยคิดว่าพ่อคือที่พึ่งที่เขาจะไว้ใจได้ ไม่ว่าพ่อจะพูดหรือทำอะไร เปาไม่เคยเชื่อเลยสักครั้ง แม้จะเจ็บปวดสำหรับคนเป็นพ่อ แต่มันก็คือความจริงที่จำต้องกลืนฝืนกิน

"อะไรเหรอครับ" น้ำเสียงของเปาเย็นชา กระนั้นก็ยังเห็นแววตาหม่นเศร้าที่เจ้าตัวไม่อาจเก็บซ่อนได้

โค้ชเด้งเดินเข้ามาใกล้ เปาทำท่าจะเขยิบหนี แต่สุดท้ายก็ยืนอยู่ที่เดิม "ก็ร้านฟิตเนสของเปาไง ทำไมไม่ปรึกษาพ่อก่อน มีปัญหาแบบนี้ เปาจะเก็บไว้คนเดียวทำไม"

"เรื่องของผม!" เปากระแทกเสียง แววตาเปลี่ยนเป็นดุดัน แต่ประโยคต่อมากลับลดความขึงขังลง "ปัญหาของผม ผมแก้เองได้"

เปาไม่สบตาพ่อ แต่โค้ชเด้งคอยจับตาและเฝ้าสังเกตดูท่าทีของลูกชายไม่วางตา ก่อนถามออกไปตรงๆ "แล้วแก้ได้หรือยัง"

เปาเงียบ ไม่มีคำตอบนอกจากแววตาและท่าทีซึ่งแสดงออกถึงความไม่มั่นคงในใจ คนที่ผ่านโลกมาก่อนย่อมดูออกได้ไม่ยาก

"แล้วนี่จะออกไปไหน" โค้ชเด้งถามต่อ

"จะไปบ้านยาย"

คิ้วสองข้างของโค้ชเด้งมุ่นเข้าหากันเล็กน้อย "วันนี้เปาอย่างเพิ่งไปละกัน อยู่คุยกับพ่อก่อน"

"ไม่จำเป็นครับ" เปาสวนเสียงห้วนทันควัน

"เปา!" โค้ชเด้งเสียงดังขึ้น "พ่อเป็นห่วงเปานะลูก"

จากที่ไม่สบตา เมื่อได้ยินคำว่า "เป็นห่วง" และ "ลูก" เปาพลันหันขวับมาสบตากับพ่อทันที

"ห่วงเหรอ ที่ผ่านมา พ่อเคยเป็นห่วงผมด้วยเหรอ แล้วทำไมผมไม่เคยรับรู้ความห่วงใยของพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว เวลาผมมีปัญหา ผมไม่เคยเห็นพ่อสนใจผมเลย ผมไม่เชื่อหรอก!" เปาเถียงกลับไปด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน

แววตาของโค้ชเด้งไหวระริก รู้สึกเจ็บและสะท้อนใจไม่น้อยที่ลูกพูดกับพ่อแบบนี้ ความบาดหมางของเขากับลูกชายสะสมมายาวนานเกินไปเสียแล้ว ยากเกินที่จะประสานได้ แต่เรื่องบางเรื่องก็ยากเกินที่อธิบายได้ บางอย่างอาจต้องเป็นความลับไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ด้วยซ้ำ

"อย่าคิดว่าผ่านมาเป็นสิบๆ ปีแล้วผมจะลืมนะครับ ผมไม่มีวันลืมคนที่ฆ่าแม่ผมหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแม่ขอไว้ อย่าคิดว่าผมจะอยู่ที่นี่ ผมเกลียดพ่อ! ได้ยินไหมครับ! ผมจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ต้องมายุ่งกับผม!" เปาตวาดใส่พ่อเสียงดัง ริมฝีปากสั่นระริก

โค้ชเด้งยืนตะลึง สีหน้าบ่งบอกว่าช็อกสุดขีด พลันน้ำตาก็ไหลตก คงไม่มีความเจ็บปวดใดโนโลกนี้จะมากไปกว่านี้อีกแล้ว ที่ผ่านมาไม่ว่าจะทะเลาะกันมากแค่ไหน เปาไม่เคยพูดกับพ่อหนักถึงขนาดนี้เลย

ความเงียบแล่นเข้าครอบคลุมอีกครั้ง เงียบจนกระทั่งได้ยินเสียงความวุ่นวายจากถนนซึ่งอยู่ไกลลอดเข้ามา สองพ่อลูกยืนมองหน้ากันนิ่ง ต่างคนต่างรู้สึกไม่มั่นคง สีหน้าของเปาดูอ่อนลงไปมากเมื่อเห็นน้ำตาของพ่อ เจ้าตัวคงเริ่มตระหนักแล้วว่าที่พูดไปเมื่อกี้รุนแรงแค่ไหน

โค้ชเด้งกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขาต้องใช้เวลาทำใจอีกพักใหญ่ถึงจะพูดออกมาอย่างขื่นขมได้

"ตั้งแต่วันแรกที่พ่อกับแม่รู้ว่าเปามาเกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่ เปารู้ไหมลูก ไม่มีวันไหน...ที่พ่อกับแม่ไม่รักเปา รักตั้งแต่ยังไม่เคยเห็นหน้า รักตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชายด้วยซ้ำ พอรู้ว่าเปาเป็นผู้ชาย พ่อก็เตรียมชื่อไว้ให้ พ่อตั้งชื่อเปาว่าธฤต หมายถึงความมั่นคง ตั้งมั่น เพราะเปา...เป็นตัวแทนความรักที่มั่นคงของพ่อกับแม่ วันแรกที่เปาลืมตาขึ้นมาดูโลก เปารู้ไหมว่าพ่อกับแม่มีความสุขมากแค่ไหน เปาเป็นลูกชายคนแรก พ่อกับแม่รักหมดหัวจิตหัวใจ ปู่ย่าตายายญาติพี่น้อง ทุกคนดีใจทั้งนั้นที่มีเปาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว"

โค้ชเด้งเว้นจังหวะเพราะก้อนสะอื้นเริ่มรบกวน จนกระทั่งมันเริ่มลดอาการลงเขาจึงพูดต่อ

"ตอนเด็กๆ เปาไม่เคยห่างพ่อ เราไปไหนด้วยกัน ไปทำงานพ่อก็พาไปด้วย เปาเคยกอดพ่อ อ้อนพ่อ เรียกหาพ่อ ทุกครั้งที่พ่อได้ยินเสียงลูก พ่อมีความสุขมากแค่ไหน เปาจำได้ไหมลูก เปาจำได้หรือเปล่าพ่อไม่รู้ แต่พ่อไม่เคยลืม เพราะว่าเปาเป็นลูกของพ่อ ถึงแม้ว่า...สิบกว่าปีที่ผ่านมา เปาไม่เคยเรียกหาพ่อ ไม่เคยอ้อนพ่อ ไม่เคยกอดพ่ออีกเลย แต่ความรักที่พ่อมีให้เปา ไม่เคยน้อยลงเลยนะลูก พ่ออยากกอดเปา พ่ออยากได้ยินเสียงเปาเรียกหาพ่อเหมือนเมื่อก่อน แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย พ่อเข้าใจ พ่อรู้ว่าพ่อผิด พ่อรู้ว่าเปาให้อภัยพ่อไม่ได้ แต่พ่อขออย่างเดียวนะเปา เปาจะเกลียดพ่อก็ได้ แต่อย่าคิดว่าพ่อไม่รักเปาเป็นอันขาด พ่อจะไม่รักลูกของตัวเองได้ยังไง พ่อรักเปานะลูก และพ่อก็หวังมาตลอดว่า...พ่อจะได้กอดเปาอีกสักครั้ง...ก่อนที่พ่อจะตาย"

"พอได้แล้ว!" เปาตวาดลั่น ก่อนทรุดลงกับพื้นและร้องไห้หนัก "ผมไม่เชื่อ ถ้าพ่อรักผม พ่อทำอย่างนี้กับพวกเราทำไม! รู้ไหมว่าแม่เขาทรมานแค่ไหนก่อนที่เขาจะตาย ถ้าพ่อไม่เป็นแบบนี้ ครอบครัวของเรามันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก พ่อรักผู้ชายคนอื่น พ่อทำให้แต่ตรอมใจตาย ทุกอย่างมันเป็นเพราะพ่อทั้งนั้น!"

ยิ่งพูดอารมณ์ของเปายิ่งพลุ่งพล่าน หัวใจของพ่อจะขาดรอนๆ ตามไปด้วย โค้ชเด้งย่อตัวลงนั่งตรงหน้าลูกชายที่ร้องไห้จนตัวโยน แม้อยากจะกอดปลอบมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อมมือไป

"พ่อขอโทษนะเปา ไม่รู้ว่าเปาจะให้อภัยพ่อได้เมื่อไหร่ แต่พ่อจะรอนะลูก ก่อนพ่อตาย...พ่ออยากกอดเปาสักครั้ง พ่อรักเปานะลูก เปาเป็นลูกของพ่อ เป็นตัวแทนความรักของพ่อกับแม่ ถึงมันจะไม่เหมือนเดิมในตอนหลังๆ แต่พ่อก็ยังรักแม่ ถึงพ่อจะเป็นแบบนี้ พ่อก็รักแม่ของเปานะลูก แล้วพ่อก็รักเปาด้วย" โค้ชเด้งละล่ำละลัก

ทั้งพ่อทั้งลูกต่างร้องไห้ ดูไปแล้วก็น่าเวทนายิ่งนัก ความรักและสายใยครอบครัวเป็นเรื่องเข้าใจยากเหลือเกิน แม้จะมีอยู่ในใจ แต่ก็ใช่ว่าจะแสดงออกได้อย่างที่ใจคิด เห็นกันอยู่ตรงหน้า ก็เหมือนมีกระจกใสบางๆ กันอยู่ แต่ถึงจะบางแต่มันกลับแข็งแกร่งดั่งเพชร ยากที่จะทลายลงได้

เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น สายตาของสองพ่อลูกที่จ้องมองกันเบนความสนใจไปที่หน้าบ้าน โค้ชเด้งค่อยๆ ลุกขึ้น ใช้มือซับน้ำตาและพยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ กระนั้นก็เห็นตาแดงๆ และร่องรอยของการร้องไห้

เขาเปิดประตูและเดินออกไปหน้าบ้าน พยายามสอดส่ายสายตาดูว่าใครมาหา เมื่อมาถึงประตูจึงเห็นว่าไท้กำลังยืนรออยู่ โค้ชเด้งรู้สึกแปลกใจไม่น้อย กระนั้นก็รีบเปิดประตูเล็กให้ไท้เข้ามา

"มาหาเปาเหรอ" โค้ชเด้งถาม พยายามควบคุมเสียงให้ฟังเป็นปกติมากที่สุด

"ครับโค้ช" ไท้รับคำเบาๆ ก่อนถามไป "พี่เปาอยู่ไหมครับ"

โค้ชเด้งมุ่นคิ้วสงสัย จะว่าสงสัยก็ไม่เชิงนัก ที่จริงเขาพอรู้ความสัมพันธ์ของเด็กสองคนนี้ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าถลำลึกไปถึงไหน

"อยู่ข้างใน"

ไท้สาวเท้าเข้ามาข้างใน ก่อนปิดประตูและเดินตามโค้ชเด้งเข้าไปในบ้าน เมื่อมาถึงเปาก็ไม่อยู่เสียแล้ว

"สงสัยจะอยู่ข้างบน ไท้ขึ้นไปหาพี่เขาข้างบนก็ได้" โค้ชเด้งบอก

"ครับโค้ช" ไท้พยักหน้า ก่อนจะปลีกตัวเดินขึ้นบันไดไป

โค้ชเด้งอดสงสัยไม่ได้ ไท้มาอยู่กรุงเทพได้เดือนเศษๆ เริ่มรู้จักทิศทางมากขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะใจกล้าถึงขนาดนั่นแท็กซี่จากนครปฐมมาหาเปาถึงนี่ แสดงว่าความรู้สึกของไท้ที่มีต่อเปาคงไม่ธรรมดาแน่

ด้วยความอยากรู้ โค้ชเด้งจึงเดินขึ้นบันไดตามไปอย่างช้าๆ ในใจชักกังวลและสับสน เขาไม่รู้ว่าทำถูกหรือเปล่าที่กระตุ้นให้เปาเดินมาทางนี้ เขารู้ความจริงเรื่องลูกชายเป็นเหมือนเขามาตั้งแต่เปาอยู่มอปลายแล้ว แต่พอเปามีแฟนเป็นผู้หญิงตอนเข้ามหาลัย เขาก็เลยปล่อยเลยตามเลย

จนกระทั่งไท้มาอยู่ด้วย ในเวลาเพียงไม่นาน เขาก็ดูออกว่าลูกชายของตัวเองมีความรู้สึกพิเศษให้หนุ่มน้อยคนนี้ แต่เพื่อให้แน่ใจยิ่งขึ้น เขาจึงทำทีเป็นสนใจในตัวไท้ไปด้วย เปาก็เลยยิ่งออกอาการ เขาจึงค่อนข้างแน่ใจว่าลูกชายคงเป็นเหมือนพ่อ แต่พอทำไปแล้วก็ไม่รู้ว่าควรหรือเปล่า เปาเกลียดพ่อที่เป็นเกย์ แล้วถ้าเป็นเหมือนพ่ออีก เปาก็อาจจะเกลียดตัวเองไปด้วย นั่นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

ประตูห้องเปายังเปิดค้างไว้ เมื่อคนเป็นพ่อสาวเท้ามาถึงหน้าประตูและยืนดู จึงได้เห็นลูกชายกับลูกศิษย์ยืนกอดกันแน่น ไท้หันหลังให้จึงไม่รู้ว่าโค้ชมองดูอยู่ ส่วนเปา เมื่อรู้ว่าใครมายืนอยู่หน้าห้องก็รีบผละออกทันที ก่อนที่ทั้งเปาและไท้จะหันมามองผู้มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญด้วยท่าทางตกใจ

TBC


หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP12 เหมือนพ่อ ◯ 13.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 13-02-2017 16:34:12
  ค้างคับค้าง อยากอ่านต่อ 
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP12 เหมือนพ่อ ◯ 13.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-02-2017 16:43:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP12 เหมือนพ่อ ◯ 13.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 13-02-2017 17:23:07
เปาปฏิเสธตัวเองตลอด

แบบนี้จะทีความสุขหรอครับ,,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP12 เหมือนพ่อ ◯ 13.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 13-02-2017 19:23:18
ได้แต่เป็นกำลังใจให้ไท้ช่วยเติมเต็มเปาอ่ะ
ไม่รู้ว่าการที่โค้ชรู้ว่าลูกเป็นเกย์ แล้วมาเสนอหน้าทำให้เปารู้ว่าเออ พ่อรู้พ่อเห็นตอนนี้จะดีหรือเปล่า มันจะกดดันเปาไหม กดดันแน่ล่ะ เปาไม่ชอบเกย์แต่จะต้องยอมรับตัวเองอ่ะ สงสาร อย่างที่โค้ชบอกนั่นแหละ กลัวเปาจะเกลียดตัวเองแล้วคิดโง่ๆ ปกติก็ดูเป็นคนโง่อยู่ละ5555

รอตอนต่อไปค่า~ สนุกทุกตอนเลย
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP12 เหมือนพ่อ ◯ 13.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 13-02-2017 22:04:54
ทำไมครับ
ลูกเป็นเกย์มันผิดตรงไหนครับ

ถ้าผิด..ผิดมากไหม
ผมอยากรู้ จริงๆ นะ

หึหึ อย่าตีค่าราคาคน
สรุปกันแบบนี้เลย

คนเหมือนกันนะครับ
อ้อ..ที่สำคัญเป็นคนดี ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน

เข้าใจใหม่ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP13 ทวงถาม ◯ 14.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 14-02-2017 17:44:28
EP 13 | ทวงถาม

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpgg)

เปาวางกระเป๋าลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า พลันก็หย่อนก้นลงนั่งไปด้วย คำพูดของพ่อยังคงก้องอยู่ในหัว โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "ก่อนพ่อตาย...พ่อคงจะได้กอดเปาสักครั้ง พ่อรักเปานะลูก เปาเป็นลูกของพ่อ เป็นตัวแทนความรักของพ่อกับแม่..."

จะว่าไปมันก็ช่างสะท้อนใจเหลือเกิน เปาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าวันหนึ่งจะได้ยินพ่อพูดแบบนี้ มีหรือที่เปาจะไม่โหยหาอ้อมกอดที่อบอุ่นจากพ่อ ตั้งแต่แม่ตายไป เขาไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่อีกเลย แน่นอนว่าเปาไม่เคยลืมว่าพ่อรักเขามากแค่ไหนเมื่อตอนเป็นเด็ก แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรกันแน่ ความรักถึงได้กลับกลายมาเป็นความเกลียดชังในวันนี้

ก่อนแม่ตาย เปารู้ระแคะระคายมาบ้างว่าพ่อกับแม่มีปัญหากันมาระยะหนึ่งแล้ว ที่จริงอาจจะนานกว่านั้น แต่เปายังไม่รับรู้เพราะยังเด็กเกินไป แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากที่แม่มีเปา พ่อกับแม่ก็ไม่มีลูกอีกเลย นับว่าแปลกมากทีเดียว เพราะฐานะของพ่อกับแม่พอเลี้ยงดูลูกเพิ่มอีกสองสามคนได้สบายๆ โดยไม่ลำบาก

ช่วงนั้นพ่อไม่กลับบ้าน ปล่อยให้แม่อยู่บ้านและร้องไห้ วันไหนกลับมาก็ทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน แม้ว่าพยายามไม่ทะเลาะกันให้เปาเห็น แต่เขาก็รับรู้ โดยเฉพาะความเจ็บปวดของแม่ ตอนนั้นเปารู้แล้วว่าพ่อเป็นเกย์ เพราะคนแถวนี้ลือกันไปทั่ว เวลาเปาออกไปเล่นกับเพื่อนๆ แถวนี้ เปามักถูกล้อว่าพ่อเป็นเกย์ บางคนก็กล่าวหาว่าที่พ่อเปาหายไปบ่อยๆ เพราะไปหาชู้ผู้ชาย

ความรักในตัวพ่อจึงเริ่มลดลงตั้งแต่วันนั้น วันที่แม่ตาย เปาไม่พูดกับพ่อนานหลายเดือน แต่หลังจากที่กลับมาคุยกันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิม สองพ่อลูกกลายเป็นคนแปลกหน้ากัน พูดกันคำสองคำ แม้ว่าตายาย ปู่ย่าและญาติๆ ทั้งสองฝ่ายจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร เปาก็ไม่ให้อภัยพ่อ กระนั้นเปาก็รู้สึกว่าแปลก แทนที่ญาติฝ่ายแม่จะโกรธเกลียดพ่อของเปาไปด้วย แต่ทุกคนกลับแสดงท่าทีตรงกันข้าม ซ้ำยังอยากให้เปายกโทษให้พ่ออีกต่างหาก

ก่อนเปาจะล้มตัวลงนอน เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ตอนแรกเขาทำท่าไม่สนใจเพราะคิดว่าเป็นพ่อ แต่พอนึกได้ว่ามีคนมากดกริ่งเรียก เขาก็พลันสงสัยว่าฟางอาจมาหา เธอเงียบหายไปหลายอาทิตย์แล้ว ไม่มาพบหน้า ไม่ติดต่อพูดคุย ไม่มีข่าวคราวใดๆ แม้จะรู้ว่าเปามีปัญหาเรื่องร้าน ฟางก็ยังทำเฉย เธอคงเบื่อเพราะเตือนเปาหลายครั้งแต่เขาไม่ฟังเอง

ด้วยความดีใจเพราะคิดว่าแฟนมาหา เปาจึงผุดลุกขึ้นยืน ก่อนรีบเดินไปเปิดประตู แต่คนที่มาหากลับไม่ใช่ฟางเสียอย่างนั้น คนที่ปรากฎตรงหน้าคือหนุ่มน้อยร่างสูง ผิวขาว หน้าตี๋และยิ้มซื่อๆ ต่างหาก

"พี่เปา" ทันทีที่เห็นหน้า ผู้มาเยือนก็เอ่ยเรียก ท่าทีดูเหมือนเกรงใจ กระนั้นก็ดีใจไม่น้อยที่ได้มาเห็นหน้ากันจนได้ หลังจากที่ติดต่อกันไม่ได้มาหลายวัน

"ไท้" เปาหลุดคำเรียกออกไปเช่นกัน ความรู้สึกบางอย่างในใจพลันทวีขึ้น ถ้าหากคนที่มาหาเป็นฟาง เปาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะมีความรู้สึกแบบนี้ให้ฟางหรือเปล่า แต่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นกับคนที่อยู่ตรงหน้าเปา

"ไท้...เป็นห่วงพี่ ก็เลยแวะมาหา" หนุ่มน้อยพูดอย่างระมัดระวัง ก่อนค่อยๆ เผยรอยยิ้ม แม้เป็นยิ้มซื่อๆ และบริสุทธิ์ แต่มันก็เป็นรอยยิ้มที่มีค่าและความหมาย

เปาพลันรวบร่างสูงเข้ามากอดไว้แน่น ไม่รู้ว่าเพราะคิดถึงหรืออะไรกันแน่ ไท้ก็กอดเขาแน่นเช่นเดียวกัน เขารู้ว่าช่วงนี้ไท้ไปแข่งวอลเลย์บอลที่นครปฐม อยู่ไกลจากที่นี่ไม่น้อย แต่ไท้ก็ยังอุตส่าห์มาหาถึงนี่ทั้งที่ไม่ค่อยชำนาญทาง ในขณะที่แฟนสาวของเปาเอง แม้ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก แต่กลับไม่คิดจะมาหากันเลย ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเปากำลังต้องการใครสักคนมากแค่ไหน

ยังไม่ทันที่เปาจะเอื้อนเอ่ยคำพูดต่อไป ร่างของพ่อก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าประตู ห่างออกไปไม่ไกลนัก สีหน้าของพ่อดูตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองกำลังกอดกับผู้ชายอีกคนอยู่ เปาจึงรีบผละออก ไท้คงสงสัยจึงหันไปมองตาม ก่อนจะทำหน้าตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

"โค้ช!/พ่อ!"

ทั้งเปาและไท้ต่างอุทานเบาๆ พร้อมกัน ก่อนปล่อยให้ความเงียบเข้ามาแทรกพักหนึ่ง โค้ชเด้งค่อยๆ คลายสีหน้าตกใจลง ไม่นานก็พูดกึ่งสั่ง

"ทั้งสองคน ลงไปคุยกับพ่อข้างล่าง"

โค้ชเด้งเดินลงไปข้างล่างตามเดิม ส่วนเปากับไท้ยืนมองหน้ากัน ท่าทางดูหวั่นใจพอสมควร ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยคำใดอีก เปาเป็นคนเดินนำไปก่อน ไท้รีบเดินตามลงไปสมทบทีหลัง เมื่อเห็นโค้ชเด้งนั่งรออยู่ข้างล่างก็ยิ่งเกิดความไม่มั่นใจ

เปากับไท้นั่งลง สบตากับโค้ชเด้งแวบเดียวก่อนก้มลงมองพื้นโต๊ะ แต่คำถามของโค้ชเด้งก็ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาใหม่

"เปาชอบไท้เหรอลูก"

เปากับไท้มองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ก็ยังไม่มีใครพูดอะไร ไม่ว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธ โค้ชเด้งจึงต้องพูดต่อ

"ที่จริง...พ่อรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่เปา...อยู่มอปลายแล้ว"

สีหน้าตกใจฉายวาบขึ้นบนใบหน้าของเปา แต่เขาก็ได้แต่เงียบเพราะคิดว่าพ่อคงอยากพูดอะไรต่อ

"พ่อเคยสงสัยว่าเปาหายไปไหนบ่อยๆ ช่วงวันหยุด พ่อก็เลยแอบขับรถตามไปดู แล้วพ่อก็เห็น..."

แม้โค้ชเด้งไม่พูดต่อ เปาก็รู้ว่าพ่อเห็นอะไร ช่วงนั้นเขาชวนจีนไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ บ่อยจนกระทั่งความสัมพันธ์ทางกายเลยเถิด จีนจึงทั้งรักทั้งหลงเปา ในขณะที่เปากลับไม่เคยแสดงท่าทีชัดเจนเลย แต่การอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมย่อมทำให้อีกฝ่ายคิดเตลิดไปไกลเป็นธรรมดา แม้ว่าตอนอยู่โรงเรียนจะพยายามทำตัวเหมือนเพื่อนกัน แต่พอห่างตาเพื่อนๆ ก็เป็นอีกอย่าง

"ฟางรู้เรื่องนี้หรือยัง ที่ฟางหายหน้าไป เพราะเรื่องนี้หรือเปล่า" โค้ชเด้งถามต่อ แม้ไม่รู้ว่าจะได้คำตอบหรือไม่เขาก็ต้องถาม

"ครับ" เปารับคำสั้นๆ

สีหน้าตกใจของโค้ชเด้งแวบขึ้นให้เห็น จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ "แล้วเปาจะเอายังไง"

เปาไม่ตอบ เป็นไปได้ว่าคำถามคงยากเกินไป ในขณะที่ไท้ชักเริ่มรู้สึกหวั่นใจ เขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจนักที่เป็นต้นเหตุให้เปากับแฟนต้องทะเลาะกัน ที่สำคัญ ไท้ถือว่าเป็นมือที่สามด้วยซ้ำ ปฏิเสธความผิดไม่ได้เลย

"คบกันมานานแค่ไหนแล้ว" โค้ชเด้งถาม ก่อนจะปรับคำถามใหม่ให้ตรงกับเรื่องที่สงสัยมากขึ้น "พ่อหมายถึง...เปากับไท้...ยังไม่เลยเถิดไปไกลใช่ไหม"

สีหน้ายุ่งยากใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเปา เท่านี้โค้ชเด้งก็พอจะเดาได้ว่าสองคนนี้น่าจะเลยเถิดไปแล้ว

"โค้ชครับ" ไท้พูดขึ้นมาบ้าง พลันเขาก็กลายเป็นจุดสนใจของสองพ่อลูกขึ้นมาทันที "ผมผิดเองครับ ต่อไป...ผมจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ผมจะหยุดทุกอย่างเองครับ"

"ไท้" เปาทำหน้าตกใจ เขารีบเอื้อมมือไปจับมือของไท้ไว้ ดีที่โต๊ะบังไว้พ่อจึงไม่เห็น

ไท้ก้มมองมือนั้น ก่อนจะค่อยๆ ดึงออก "ผมไม่อยากให้พี่เปา พี่ฟางแล้วก็โค้ช...มีปัญหากัน ผมว่าผมหยุดดีกว่า"

"แล้วไท้คิดยังไงกับเปา" โค้ชเด้งถามสวน "ไท้รักพี่เขาหรือเปล่า"

ไท้ทำหน้ายุ่งยากใจ แม้ว่าจะเร็วเกินไปที่จะบอกว่ารัก แต่ความรู้สึกของไท้ก็ถลำไปมากแล้ว จะเรียกว่าเริ่มรู้สึกรักก็คงไม่ผิดจากความจริง

"ครับ" ไท้ยอมรับ

สองพ่อลูกทำหน้าตกใจพร้อมๆ กัน ไท้ขาดพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ ลึกๆ เขาจึงโหยหาความอบอุ่นจากผู้ชาย ช่วงเวลาสั้นๆ ที่อยู่กับเปา มีเปาคอยดูแลเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้ จนกระทั่งความสัมพันธ์เลยเถิด ความรู้สึกของไท้จึงล้ำเส้นเข้ามาในแดนต้องห้าม

"แต่มันก็ผิด ผมไม่ควรทำแบบนี้ ผมจะหยุดทุกอย่างเองครับ" ไท้ย้ำประเด็นเดิมอีกครั้ง

โค้ชเด้งถอนหายใจ ยิ่งลูกชายไม่แสดงท่าทีใดๆ เขาก็ยิ่งหนักใจ "พ่อไม่รู้ว่าเราสองคนจะตัดสินใจยังไงนะ แต่พ่อจะบอกเปาว่า...เปาต้องฟังเสียงหัวใจตัวเอง แล้วก็ทำให้มันถูกต้อง ถ้ารักไท้...ก็ควรจะบอกฟางตรงๆ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรผูกมัดกัน เปายังมีสิทธิ์เลือก แต่ถ้าเปายังรักฟางอยู่ พ่อก็ขอให้เปาหยุดแค่นี้ อย่าให้ความหวังกับไท้อีก"

โค้ชเด้งหยุดเว้นจังหวะ เพราะเขาต้องการให้เปาสนใจสิ่งที่เขาจะพูดต่อไปนี้ "เปายังมีเวลาเลือก พ่ออยากให้เปาคิดให้ดีๆ เพราะพ่อ...ไม่อยากให้เปามีชีวิตเหมือนพ่อ คนที่ไม่เลือกสิ่งที่ตัวเองเป็น มันไม่มีความสุขหรอก"

เปานิ่งอึ้ง สีหน้าดูยุ่งยากใจเล็กน้อย ที่จริงอาจจะหนักใจมากกว่านั้น แต่เขามักระวังความรู้สึกบางอย่างเมื่ออยู่กับพ่อเสมอ

โค้ชเด้งถอนหายใจอีกครั้ง เขารู้ว่าเปายังไม่ติดสินใจ หรืออาจจะมีคำตอบในใจแล้วแต่ไม่ยอมบอก ก็คงต้องปล่อยไปก่อน ไม่มีประโยชน์ที่จะคาดคั้นเอาให้ได้ตอนนี้ เพราะเปาไม่มีทางเปิดปากพูดแน่ๆ

"อีกเรื่องหนึ่งที่พ่ออยากจะบอกเปา ตอนนี้...สมาคมวอลเลย์บอลต้องการพัฒนาเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาให้นักกีฬา เรากำลังหาคนอยู่ เราอยากได้คนมาช่วยดูเรื่องโภชนาการ เรื่องการพัฒนาสมรรถภาพของร่ายกาย พ่อคิดว่าเปาทำได้ ถ้าตอนนี้เปายังไม่รู้ว่าจะทำอะไร พ่อก็อยากให้เปามาช่วยเรา ตอนนี้...ไท้เขาโดดเด่นมาก ช่วยทีมได้เยอะเลย ไท้เขาบอกว่า...เปาช่วยเทรนเพิ่มเติมให้เขา ถ้าเปาช่วยไท้ได้ พ่อก็คิดว่าเปาช่วยคนอื่นๆ ได้เหมือนกัน ลองคิดดูละกัน ถ้าได้คำตอบแล้วมาบอกพ่อ พ่อจะขึ้นไปนอนแล้ว ไท้ก็อย่านอนดึกละกัน พรุ่งนี้มีซ้อม คืนนี้พักที่นี่ก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปกับโค้ช" โค้ชเด้งหันไปกำชับไท้ตอนท้าย

"ครับโค้ช" ไท้พยักหน้ารับ

โค้ชเด้งกวาดตามองดูลูกชายและไท้ สักพักก็ลุกขึ้น ก่อนเดินขึ้นบันไดไป ปล่อยให้เปากับไท้นั่งอยู่ด้วยกันลำพังสองคน เมื่อพ่อลับตาไปแล้ว เปาก็หันมาชวน

"ไปดูเมสซี่กับเนยมาร์หน่อยไหม"

ไท้ไม่ใช้เวลาคิดนานนักก็พยักหน้าตกลง หนุ่มน้อยลุกขึ้นจากเก้าอี้ ทำท่าจะเดินไปหลังบ้าน พลันก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเปาคว้าข้อมือเขาไว้

"คืนนี้...ไท้นอนห้องพี่นะ"

สายตาคู่นั้นช่างเว้าวอนเหลือเกิน แม้ใจอยากจะปฏิเสธแต่ก็เหมือนน้ำท่วมปาก เพราะที่ไท้ถ่อสังขารมาจนถึงนี่ ก็เพราะต้องการสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ?


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

ถึงเวลาซ้อมแล้ว โค้ชเด้งยังมาไม่ถึง แต่เห็นโทรมาแจ้งทีมสตาฟโค้ชว่าอยู่ไม่ไกลแล้ว นักกีฬาจึงลงไปวอร์มร่างกาย เนื่องจากใช้สนามวอลเลย์บอลของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเป็นที่ซ้อม จึงมีเด็กนักเรียนมามุงดูกันโดยรอบ ครูอาจารย์ก็พลอยมามุงดูด้วย บ้างก็หยิบกล้องมาถ่ายรูป ดูตื่นเต้นและคึกคักดีไม่น้อย แต่กลับไม่เสียงดังมากเพราะเดี๋ยวจะรบกวนสมาธินักกีฬา

ไม่นานโค้ชเด้งก็มาถึง ไท้ก็มาพร้อมด้วย เขาอยู่ในชุดกีฬาพร้อมเล่นอยู่แล้วจึงรีบลงมาวอร์มร่างกายกับพี่ๆ และเพื่อนๆ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจมากที่สุดคือมีผู้ชายคนหนึ่งติดตามมาด้วย ไม่มีใครรู้จักเขา นอกจากคนสองสามคนที่นี่

นักกีฬาที่กำลังวอร์มร่างกายอยู่หยุดเล่นชั่วคราว ไม่นานโค้ชเด้งก็แนะนำคนที่มาใหม่ให้นักกีฬาและทีมสตาฟโค้ชรู้จัก

"ทุกคนครับ นี่ลูกชายโค้ช ชื่อเปา โค้ชจะให้เปามาช่วยเป็นเทรนเนอร์ให้ทีมของเรา ก็เลยพามารู้จักทุกคนก่อน หลังจบช่วงนี้ โค้ชจะให้เปามาช่วยทำแผนพัฒนาสมรรถภาพของนักกีฬาแต่ละคนด้วย"

เสียงฮือฮาของนักกีฬาดังขึ้น ทุกคนต่างก็ตื่นเต้น ฟีนิกซ์ เวิร์มและเกิ้นเข้ามากระซิบกระซาบถามไท้กันใหญ่ ในขณะที่สายตาจับจ้องมองเปาเป็นประกาย

"เฮ้ยไอ้ไท้ มึงรู้จักลูกชายโค้ชใช่ไหม หล่อว่ะ มีแฟนยังวะเนี่ย" เกิ้นถามอย่างตื่นเต้น

"ต่อไปกูจะขยันซ้อม กูจะมาซ้อมทุกวันเลย กูจะไม่บ่นอีกแล้ว" เวิร์มว่า

"หล่อโคตรเลย เหมือนดาราเกาหลี ทำไมโค้ชถึงเพิ่งพามาเปิดตัวตอนนี้วะ" ฟีนิกซ์ตาหวานเชื่อม

"กูจองก่อนนะเว้ย ไอ้ฟีนิกซ์ มึงมีพี่พอลล์แล้ว ไอ้เวิร์ม มึงเหล่พี่เป้อยู่ไม่ใช่เหรอ ถ้างั้นคนนี้กูขอ" เกิ้นรีบพูดดัก เพื่อนๆ พากันหัวเราะชอบใจ

ในขณะที่ใครต่อใครต่างตื่นเต้น แต่จีนกลับเป็นคนเดียวที่รู้สึกตรงข้ามกับคนอื่นๆ เขาได้แต่ยืนนิ่ง จ้องหน้าเปา ท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จีนเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเปาเป็นลูกชายของโค้ชเด้ง โลกช่างกลมดีแท้

ไม่รู้ว่าคนข้างบนจะเล่นตลกอะไรกับจีนอีก ถึงได้พาผู้ชายคนนี้กลับมาเจอเขาอีกครั้ง แผลเป็นในใจที่เคยปิดสนิทไปแล้วคล้ายถูกกรีดอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจะต้องเจ็บอีกสักแค่ไหน เพราะคราวนี้ไม่ใช่เจอกันธรรมดา แต่มันคือการทำงานร่วมกัน จีนไม่รู้ว่าจะทนทำงานและเห็นหน้าคนที่เคยทำให้เจ็บขนาดนี้ได้หรือเปล่า ถ้าไม่ไหวจริงๆ เขาคงต้องขอฃาออกจากทีมชาติ หรือไม่ก็เลิกเล่นไปเลย

เสียงเรียกของเพื่อนๆ ช่วยปลุกจีนตื่นจากภวังค์ความคิด เมื่อได้สติแล้วจีนจึงพบว่าตัวเองกำมือแน่น เขาจึงค่อยๆ คลายออกและหันกลับไปมองหาคนที่เรียก

"เป็นไรวะไอ้จีน ยืนเหม่ออยู่ได้ รีบมาซ้อมเร็ว" มาวินร้องบอกพลางกวักมือเรียก

จีนหันกลับไปมองเปาอีกครั้ง สบตากันครู่หนึ่ง ก่อนจีนจะกลับลงสนามไปกับเพื่อน การฝึกซ้อมและออกกำลังทำให้เขาลดความฟุ้งซ่านลงไปได้มาก ในที่สุดก็ซ้อมได้อย่างเป็นปกติ แต่กระนั้นก็คอยแวบมองดูเปาเป็นระยะๆ

ทางสมาคมรู้เรื่องที่เปาช่วยเทรนให้ไท้ไปบ้างแล้ว จึงได้เจรจาให้โค้งเด้งช่วยทาบทามเปามาช่วยสมาคมทำงาน แต่ที่ผ่านมาโค้ชเด้งบ่ายเบี่ยงมาตลอด เพราะคิดว่าลูกชายคงไม่อยากเข้ามาข้องแวะกับกีฬาชนิดนี้ แต่เมื่อรู้ว่าเปากับเพื่อนปิดร้านไปแล้วจึงลองชวนดู ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเปาจะสนใจ แต่เมื่อเช้าเปากลับขอมาด้วย โค้ชเด้งจึงยิ้มออก อย่างน้อยลูกชายหัวดื้อก็เริ่มฟังพ่อบ้างแล้ว

เปายืนดูข้างๆ สนาม ช่วงนี้เขาจะเก็บข้อมูลของนักกีฬาแต่ละคนไว้ก่อน เพื่อจะได้ดูว่าจะช่วยพัฒนาสมรรถภาพที่เหมาะสมกับแต่ละคนได้อย่างไร เพราะในทีมมีหลากหลายตำแหน่ง สรีระและพละกำลังที่จะต้องใช้ก็ต่างกัน การพัฒนาให้เฉพาะบุคคลจึงเป็นเรื่องจำเป็น

หลังจากซ้อม นักกีฬาก็เดินทางไปยังสนามกีฬาของจังหวัดเพื่อชมการแข่งขันคู่ระหว่างเกาหลีกับจีน วันนี้ทีมไทยไม่มีแข่ง แต่ก็จำเป็นต้องมาดูฟอร์มของทีมคู่แข่งด้วย จะได้เตรียมแผนการเล่นล่วงหน้าให้เหมาะสม

ใครสนิทกับใครก็นั่งเป็นกลุ่มๆ กับคนนั้น เปาสนิทกับไท้เพียงคนเดียวจึงเลือกนั่งอยู่กลุ่มไท้กับเพื่อนๆ อีกสามคน พร้อมกับมีสายตาของใครบางคนคอยจ้องมองดูด้วยความสงสัยอยู่ตลอด จนกระทั่งเปาขอตัวและลุกเดินออกไปข้างนอก คาดว่าน่าจะไปห้องน้ำ คนที่จ้องมองดูอยู่จึงขอตัวเพื่อนๆ และรีบเดินตามออกไป

เปาไปห้องน้ำอย่างที่จีนเดาไว้ เขาจึงยืนรออยู่จนกระทั่งเปาทำธุระเสร็จและเดินออกมาจากห้องน้ำ จังหวะนั้นเขาจึงแสดงตัวให้เปาเห็น เปาดูตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนกระอักกระอ่วนใจที่ต้องเจอกันโดยบังเอิญอย่างนี้

"กูขอคุยกับมึงหน่อย" จีนทำลายความเงียบด้วยเสียงขรึม

เปาทำท่าครุ่นคิด ไม่นานก็พยักหน้าตกลง ก่อนเดินตามจีนออกไปข้างนอกสนาม จนกระทั่งเจอที่ลับตาคนและเหมาะจะคุยเรื่องสำคัญ จีนจึงหันหน้ากลับมาเผชิญกับเปา

นี่ไม่ใช่บรรยากาศและความรู้สึกที่ดีนัก แต่จีนก็หวังว่าการคุยกันครั้งนี้จะช่วยแก้ปัญหาคาใจได้บ้าง เพราะถ้าแก้ไม่ได้เลย จีนก็คงต้องออกจากทีมชาติไปอย่างไม่ต้องสงสัย

"มึงชอบไท้เหรอ" จีนยิงคำถามแรกออกไป ที่ผ่านมาเขาไม่เคยพูดกูมึงกับเปา แต่ความแค้นทำให้จีนเปลี่ยนสรรพนามให้ใหม่

"อืม" เปารับคำสั้นๆ เลี่ยงสบตากับจีนตรงๆ

"มึงคิดจะทำอะไร มึงจะทำกับไท้เหมือนที่มึงทำกับกูเหรอ" จีนถามเสียงแข็งและหน้าดุ แม้เปาหลบตา แต่จีนก็จ้องมองคนตรงหน้าแทบตาไม่กะพริบ

ไม่มีคำตอบจากเปา แถมเจ้าตัวยังมองเมินไปทางอื่น จีนจึงอดใจไม่ไหว เขาตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของเปาและเงื้อหมัดเตรียมไว้

"มึงอย่าเอาความแค้นส่วนตัวของมึงมาลงที่คนอื่นแบบนี้นะเว้ยไอ้เปา กูไม่ยอมให้ไท้โดนมึงหลอกเหมือนกูแน่"

ในแววตาของเปาไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาดูนิ่งเฉย ไม่สะทกสะท้าน แม้ว่าเขาจะถูกต่อยเลือดกบปากเมื่อไหร่ก็ได้

"ตอบกูมาสิ!" จีนคาดคั้นเสียงดังพร้อมกับกระชับคอเสื้อเปายกสูงขึ้น

"เรื่องของกู" เปาส่งสายตาท้าทาย

"มึงนี่มันเหี้ยจริงๆ! มึงคิดว่าความรักเป็นเรื่องเล่นๆ หรือไงวะ!" จีนตะคอก เขาโมโหจนแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่ไหว

ดูเหมือนคำถามนี้จะได้ผล สีหน้าของเปาดูสลดลง กระนั้นเขาก็ไม่พูดอะไร

เมื่อเปาไม่พูด จีนจึงเป็นฝ่ายพูดเอง "มึงอย่าคิดว่ามึงจะทำแบบนี้กับไท้ได้ กูจะไม่ยอมให้ไท้เจ็บเหมือนกูแน่ มึงนั่นแหละต้องเป็นคนเจ็บ กูจะบอกมึงเอาไว้เลย มึงกลับมาก็ดีแล้ว ที่มึงเคยทำกับกูเอาไว้ กูจะเอาคืนให้สาสม"

แม้จะโดนตะคอกใส่ แต่เปาก็หาได้กลัวไม่ ซ้ำยังหาโอกาสตัดบทดื้อๆ "มึงจะคุยกับกูแค่นี้ใช่ไหม ถ้าไม่มีอะไรอีก กูจะเข้าไปหาไท้"

"เดี๋ยว!" จีนตะคอกอย่างโกรธจัด

คราวนี้เปาหันมาสบตาด้วย เขาไม่หลบตาจีนอีกแล้ว เมื่อมองหน้าเปาชัดๆ จีนก็อดหวนคิดถึงวันเก่าๆ ไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ เขาเคยรักมากเหลือเกิน ยอมยกให้ทั้งกายและใจ ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่งความรักจะกลายมาเป็นความเจ็บปวดและเกลียดชังไปได้

ความทรงจำในวันนั้นงดงามเหลือเกิน ความรักในวัยมัธยมช่างสดใส ด้วยความเยาว์วัย ทุกอย่างจึงมีแต่ความสวยงาม บรรยากาศชีวิตอบอวลไปด้วยความรักและความหวัง จีนมีความสุขมากเพราะไม่คิดว่าคนที่เขาแอบชอบจะมีใจให้ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงของเขา บางครั้งก็ไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นจริงและมีอยู่จริง

พลันก้อนสะอื้นก็แล่นเข้ามาจุกที่คอหอย แววตาดุดันของจีนค่อยๆ อ่อนลง น้ำตาของเขาค่อยๆ ไหลลงมาอย่างช้าๆ มือที่กำคอเสื้อของเปาแน่นก็ผ่อนลง หมัดที่เงื้อไว้ก็ค่อยๆ ลดต่ำลงจนตกอยู่ข้างตัว

จีนปล่อยมือออกจากคอเสื้อของเปา เขาร้องไห้อย่างสุดกลั้น ไม่รู้ว่าเสียใจเรื่องอะไรกันแน่

"ไอ้เปา มึงรู้ไหมว่าตอนนั้นกูรักมึงมากแค่ไหน รักมึงมากขนาดที่ว่า...ถ้ามีใครเอาปืนมายิงมึง กูก็จะยอมเอาตัวไปขวาง มึงเคยรู้ไหมว่ากูรักมึงมากขนาดนั้น หรือว่ามึงไม่รู้อะไรเลย! แล้วทุกวันนี้...ที่กูรักใครไม่ได้ ก็เป็นเพราะมึง! มึงรู้ไหมว่ากูโคตรทรมาน เพราะไอ้ความเจ็บปวดที่มึงทิ้งไว้ให้กูไง มึงจำได้ไหม! กูถามมึงคำเดียวนะไอ้เปา มึงเคยรักกูบ้างหรือเปล่า! หา! เคยรักกูบ้างไหม กูอยากรู้แค่นี้แหละ!"

เมื่อมองดูดีๆ อีกครั้ง ผู้ชายตรงหน้าก็มีน้ำตาเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเปาจึงร้องไห้ ไม่มีใครเดาอารมณ์และความรู้สึกของเขาได้ง่ายๆ แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้จักตัวเองดีพอด้วยซ้ำ

"มึงเป็นรักแรกของกู แล้วถ้าไม่นับวันนั้น มึงก็เป็นความทรงจำที่สวยงามของกู กูไม่เคยรักใครแบบนี้เลย แล้วมึงล่ะไอ้เปา ที่มึงมาคบกับกู ไปไหนมาไหนกับกู แม้กระทั่ง...นอนกับกู มึงเคยรักกูหรือเปล่า กูอยากรู้แค่นี้แหละ มึงตอบกูได้ไหมไอ้เปา" จีนรำพึงรำพันพร้อมกับสะอื้น

เปากลืนน้ำลายลงคอ พอเห็นจีนร้องไห้เขาก็นึกสงสาร เมื่อย้อนกลับไปดูสิ่งที่เคยทำกับจีนวันนั้น เขาก็ยอมรับว่ามันโหดร้าย เปานึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่าเขาจะเลือดเย็นขนาดนั้น แต่ก็ทำไปแล้ว กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้

แล้วตอนนี้ล่ะ? เปาอยากจะแก้ไขหรือชดใช้ให้จีนบ้างหรือเปล่า?

ต่างคนต่างมองหน้ากัน จีนรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนเปาก็ครุ่นคิดว่าเขาควรจะตอบคำถามนั้นอย่างไร จนกระทั่งผ่านไปนานพอสมควร เปาจึงหันหน้าไปทางอื่น ก่อนเอ่ยคำพูดที่จีนไม่คิดว่าจะได้ยินในชาตินี้อีกแล้ว

"รักสิ ทำไมจะไม่รักล่ะ"

จีนอ้าปากค้าง อาการสะอื้นแทบจะหยุดไปในบัดดล

"เปา..."

สิ้นคำเรียก จีนก็โผเข้ากอดเปาแน่น ก่อนร้องไห้อีกครั้ง "แล้วเปาทำอย่างนั้นทำไม รักแล้วทำอย่างนั้นทำไม"

"เปาขอโทษนะจีน" เปาบอกเพียงสั้นๆ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก เพราะปกติเปาก็ไม่ค่อยพูดความรู้สึกของตัวเองให้ใครฟังอยู่แล้ว

แค่นี้ก็มีความหมายมากสำหรับจีนแล้ว เพราะเรื่องนี้ค้างคาในใจมานานกว่าห้าปี เขารู้สึกเหมือนภูเขาที่ทับแน่นหนักอยู่บนอกถูกยกออกไป ความเจ็บปวดในวันนั้นก็พลอยลดหายไปด้วย แต่พลันก็มีคำถามน่าหนักใจผุดขึ้นมาให้คิด

หลังจากนี้แล้ว ความสัมพันธ์ของจีนกับเปาควรจะเป็นแบบไหน อดีตที่จบไปแล้วก็ควรจบไป ป่วยการจะรื้อฟื้นขึ้นมาอีก เพราะมีแต่จะสร้างปัญหาให้กับปัจจุบัน

แต่จีนก็อดสงสัยตัวเองไม่ได้ อ้อมกอดที่อยู่กับจีนตอนนี้ช่างอบอุ่นเหลือเกิน นี่ไม่ใช่หรือคือสิ่งที่จีนรอคอยมาตลอดห้าปี มันกลับมาแล้ว จีนควรจะทำอย่างไรกับมันดี!?


TBC



ว่าจะเขียน "ต้น-สน" ตอนพิเศษที่น่ารักมากๆ ตอนหนึ่งให้เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์กับคนอ่าน แต่งานรัดตัว ไม่สามารถจริงๆ ครับ ขอมอบ "กุหลาบช่อแรกและคู่จิ้นวันวาเลนไทน์" ให้แทนละกันครับ

(https://s19.postimg.org/63i4xc743/tonson_ch03.jpg) (http://w.tt/2lLkVH3)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP13 ทวงถาม ◯ 14.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-02-2017 18:54:26
เฮ้ออออ.  ยังไงละเนี่ยะ. เปาจะเอาไงต่อไป  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP13 ทวงถาม ◯ 14.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 14-02-2017 21:54:47
เนี่ย เราว่าแล้วจีนยังไงก็ค้องยอมลงให้เปาอ่ะ รักขนาดนั้น
และเราว่าตอนนั้นเปาก็รักจีนจริงๆ แหละ แต่อีโก้มันแรงไง
ถ้าพ่อรู้มันเสียเซลฟ์แน่ ไม่ยอมหักหน้าตัวเองหรอก
ถ้าถามว่าผิดไหม เปาโคตรผิด แต่ก็ยังเด็กอ่ะ ต้องพลาดกันบ้าง ตอนนี้ก็เชียร์ให้รีบเคลียร์เรื่องแฟนแล้วหันมาจริงจังกับไท้ได้แล้ว

กลัวความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไท้เสียจัง แต่เรื่องแฟนเนี่ย เห็นเสียเพื่อนมาเยอะละ ว๊าย ตื่นเต้นจังเลยค่ะ ลุ้น5555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP13 ทวงถาม ◯ 14.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 14-02-2017 22:42:12
    เห้อออ จะเป็นรักสามเส้ามั้ยอะ ก็ดีนะเปา เมียสองเลย 555
   รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP13 ทวงถาม ◯ 14.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 15-02-2017 10:24:04
เนี่ย เราว่าแล้วจีนยังไงก็ค้องยอมลงให้เปาอ่ะ รักขนาดนั้น
และเราว่าตอนนั้นเปาก็รักจีนจริงๆ แหละ แต่อีโก้มันแรงไง
ถ้าพ่อรู้มันเสียเซลฟ์แน่ ไม่ยอมหักหน้าตัวเองหรอก
ถ้าถามว่าผิดไหม เปาโคตรผิด แต่ก็ยังเด็กอ่ะ ต้องพลาดกันบ้าง ตอนนี้ก็เชียร์ให้รีบเคลียร์เรื่องแฟนแล้วหันมาจริงจังกับไท้ได้แล้ว

กลัวความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไท้เสียจัง แต่เรื่องแฟนเนี่ย เห็นเสียเพื่อนมาเยอะละ ว๊าย ตื่นเต้นจังเลยค่ะ ลุ้น5555

555 ชักซับซ้อนขึ้นทุกทีๆ เป็นผม ผมก็แก้ยากเหมือนกันนะ อิๆ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP13 ทวงถาม ◯ 14.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 15-02-2017 15:48:56
ยังไงดีล่ะทีนี้,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP14 หลายใจ ◯ 15.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 15-02-2017 17:08:40
EP 14 | หลายใจ

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)

เมสซี่กับเนยมาร์ดูสนุกและตื่นเต้นมากตั้งแต่มาถึง คนบ้านนี้ชอบหมากันทั้งบ้าน จึงเลี้ยงเอาไว้หลายตัว เมื่อเจอกันแล้วก็เลยมาทำความรู้จักกลิ่นกัน และเล่นตามประสาหมา

เปาได้นิสัยชอบหมามาจากญาติฝ่ายแม่ โดยเฉพาะยาย น้าสาวและแม่ของเปา เขาจึงเติบโตมากับสัตว์สี่ขาหน้าขนตลอด ไม่เคยว่างเว้น ถ้าหากมีธุระต้องไปไหน ไม่รู้จะเอามาไปฝากไว้ที่ไหน เปาก็จะเอามาฝากไว้ที่บ้านยายเป็นประจำ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อวานเปาจึงไม่พักที่โรงแรมและกลับมาที่บ้านเพราะห่วงหมา ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะพาเจ้าสองตัวมาฝากไว้ที่นี่

ที่บ้านของยายมีน้าสาวกับยายอยู่กันสองคน มีลูกจ้างชาวลาวสองคนมาอยู่ช่วยดูแลงานบ้านงานเรือนด้วย ตาของเปาเสียชีวิตไปก่อนแม่ของเปาเสียหลายปีด้วยโรคชรา ท่านแก่กว่ายายถึงสิบสามปี ส่วนลูกๆ คนอื่นๆ ของยายก็เป็นฝั่งเป็นฝากันไปหมดแล้ว เหลือแต่น้าสาวที่ยังครองตัวเป็นโสด อาชีพหลักของเธอคือเก็บค่าเช่าหอพักที่ตาของเปาลงทุนสร้างไว้ เปาเองก็ได้รายได้จากเงินส่วนนี้แทนแม่ด้วย น้าสาวได้มากหน่อยเพราะเป็นคนดูแล ที่เหลือเปาแบ่งกับญาติๆ ตกเดือนหนึ่งก็ได้คนละหลายหมื่น

ก่อนเปาจะลาจากไป เขาใช้เวลาเล็กน้อยนั่งพูดคุยกับยายและน้าสาว ที่จริงเปาก็มาที่นี่บ่อยๆ จึงพอรู้ความเคลื่อนไหวของกันและกันดี

"ร้านเป็นไงมั่งล่ะลูก"

ทุกครั้งที่มาที่นี่ คำถามที่ยายมักถามบ่อยๆ ก็คือเรื่องร้าน เงินที่เปานำไปลงทุนก็คือเงินเก็บในส่วนของแม่ ยายกับน้าจึงอยากรู้ว่าหลานทำธุรกิจไปได้ดีหรือเปล่า ที่จริงก็คอยถามอยู่เรื่อยๆ แต่พักหลังๆ เปาห่างๆ ไปบ้าง เพราะเจ้าตัวมีปัญหาหลายอย่าง

"ปิดไปแล้วครับ" เปาบอกสีหน้าเรียบๆ

"อ้าว ตายจริง! ทำไมล่ะเปา" น้าสาวถามด้วยท่าทางตกใจ

"ทำเลมันไม่ค่อยดีน่ะครับ แถวนั้นมันมีสวนสาธารณะ สำนักงานเขตเขาก็เลยจัดเป็นที่ออกกำลังกายของชุมชน มีอุปกรณ์ให้พร้อม ก็ไม่ดีเท่ากับผมหรอก แต่มันฟรี คนก็เลยไปทางนั้นมากกว่า ก็เลยขาดทุนน่ะครับ จริงๆ ก็...ขาดทุนตั้งแต่เปิดเลย" เปาหน้าแหย เพราะเขาไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ยายกับน้าสาวฟังมากนัก ไม่ถึงกับโกหกว่าไม่มีปัญหา แต่เปาสื่อสารให้ฟังดูเหมือนว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ยาก เขากับเพื่อนๆ ช่วยกันอย่างขันแข็ง จึงไม่น่าเป็นห่วง

ยายกับน้าสาวมองหน้ากันเหมือนคิดอะไรบางอย่าง แววตากังวลฉายออกมาจากดวงตาของทั้งคู่อย่างเห็นได้ชัด

"แล้วเปาจะทำไงล่ะลูก" ยายหันมาถามด้วยความเป็นห่วง

เปาทำท่าอึกอัก แต่ไม่นานก็ยอมบอกความจริง "ตอนนี้...พ่อชวนผมมาช่วยทำทีมวอลเลย์บอลครับ"

ยายกับน้าสาวขมวดคิ้วจนเป็นปื้น สีหน้าดูแปลกใจไม่น้อย คงสงสัยตัวเองว่าฟังผิดไปหรือเปล่า เพราะทั้งสองคนรู้ดีว่าเปาไม่ชอบพ่อเอามากๆ แม้จะเคยเกลี้ยกล่อมให้ยกโทษให้พ่อ แต่หลานก็ไม่เคยเชื่อฟังเลย

"ช่วยทำอะไรล่ะลูก" ยายสงสัย

"ก็...ดูเรื่องความแข็งแรงแล้วก็สมรรถภาพน่ะครับ พอดีคนที่เขาเคยทำอยู่เขาออกไปได้หลายเดือนแล้ว ทางสมาคมเขายังหาคนมาทำแทนไม่ได้ พ่อก็เลยอยากให้ผมไปช่วย"

"แล้วเปาตกลงเหรอ" ยายถามอีก

เปาพยักหน้าเป็นเชิงยอมรับ ยิ่งทำให้ยายกับน้าสาวแปลกใจมากขึ้นไปอีก

"เปา...หายโกรธพ่อแล้วเหรอ" น้าสาวหยั่งท่าที

เปาถอนหายใจ สีหน้าดูเครียดไปเลยทันที "ยังหรอกครับ"

"อ้าว!" ยายกับน้าสาวอุทานพร้อมกัน จากนั้นยายก็ซักต่อ "แล้วจะทำงานด้วยกันได้เหรอลูก"

คำถามนั้นทำให้เปาต้องคิดทบทวนตามไปด้วย เมื่อวานนั้น บรรยากาศระหว่างเปากับพ่อก็เหมือนคนทำงานมากกว่าพ่อกับลูก ไม่มีเรื่องส่วนตัว จึงไม่ทำให้กระอักกระอ่วนใจ พอทำงานด้วยกันได้ พอเสร็จงานแล้วก็ไม่คุยกันเหมือนเดิม กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

"ผมก็แค่ทำตามหน้าที่น่ะครับ" เปาตอบสั้นๆ แสดงอาการไม่อยากพูดเรื่องพ่อเหมือนอย่างเคย

ยายกับน้าสาวดูผิดหวังไม่น้อย นึกว่าที่เปายอมมาทำงานกับพ่อเพราะยกโทษให้พ่อแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังใจแข็งเหมือนเดิม นิสัยหัวรั้นแบบนี้ดูจะขัดกับความรักดนตรีและหมาจนน่าแปลก เปาจึงดูเหมือนคนสองบุคลิก

"เปา...เมื่อไหร่เปาจะยกโทษให้พ่อเขาซะทีล่ะลูก เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว" ยายพูดเหมือนรำพึงกับตัวเอง

คราวนี้เปาเงียบ ถือว่าปกติ เพราะเปามักจะเป็นแบบนี้เสมอเวลายายพูดเรื่องพ่อ สักพักยายก็ถอนหายใจ ทั้งยายและน้าสาวทำหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง คล้ายกับว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดี

"ยายก็ไม่รู้จะบอกเปายังไงนะ เรื่องบางเรื่อง...เฮ้อ...อย่าไปพูดถึงมันเลยดีกว่า" ยายทำท่าจะพูด สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ เปาไม่ควรจะรู้เรื่องนี้ และอาจจะไม่มีวันได้รู้เลยด้วยซ้ำ เพราะไม่มีใครกล้าเดาว่าถ้าเปารู้แล้วผลจะเป็นอย่างไร ชีวิตทั้งชีวิตอาจพังครืนเลยก็ได้

ในแววตาของเปามีความสงสัยปรากฎขึ้น เขาเห็นอาการแปลกๆ ของยายและน้าสาวเมื่อพูดถึงเรื่องแม่มานานแล้ว ดูเหมือนผู้ใหญ่ทั้งสองคนมีลับลมคมใน แต่ก็ไม่เคยบอกเปาตรงๆ เลย

"เอาเป็นว่า...เปาทำงานกับพ่อก็ดีแล้วลูก เปาก็จะได้ทำตามความฝันของแม่ด้วย" ยายพูด

ตอนที่เปาอายุสิบขวบ ตอนนั้นแม่ของเปายังทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงอยู่ ถ้าไม่เสียชีวิตไปก่อน ป่านนี้ก็คงเป็นโค้ชทีมชาติชุดหญิงไปแล้ว แม่มักบอกเปาบ่อยๆ ว่าอยากให้เปาเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬา จะได้มาช่วยพ่อกับแม่ทำงาน แม่บอกเปาว่าวิทยาศาสตร์การกีฬาสำคัญมาก แต่บ้านเรายังนำมาใช้ไม่มาก ถ้าเปาเชี่ยวชาญด้านนี้ก็มีโอกาสเติบโต

นั่นคือสาเหตุที่เปาเลือกเรียนคณะนี้ แต่พอจบมา เปาเลือกที่จะไม่ทำตามที่แม่บอก เพราะเขาอยากอยู่ห่างๆ พ่อ ยิ่งโตเปาก็ยิ่งห่าง ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยนั้นถือเป็นช่วงที่เปากับพ่อห่างเหินกันมากที่สุด ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน อีกอย่างเปาก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แทบทุกด้านแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยพ่อ แม้กระทั่งเรื่องเงิน

"ครับ" เปารับคำสั้นๆ

ไม่มีใครรู้หรอกว่าทำไมเปาถึงยอมรับที่จะทำงานกับพ่อ เขาอยากทำตามความฝันของแม่ อยากให้โอกาสตัวเองกับพ่อ หรือมีเจตนาอื่นแอบแฝงกันแน่

เปาอยู่คุยกับยายและน้าสาวไม่นานก็ขอตัวไปต่อ บ่ายนี้เปาจะเข้าไปเก็บข้อมูลนักกีฬาเพิ่ม มีนักกีฬาบางคนบาดเจ็บ เขาจะต้องช่วยดูว่าจะใช้วิธีแบบไหนมาช่วยรักษาให้หายเร็วที่สุด

ระหว่างทาง เสียงโทรศัพท์ของเปาก็ดังขึ้น เมื่อเห็นเบอร์คนโทรมาแล้วเปาก็แปลกใจ กระนั้นก็รู้สึกดีใจลึกๆ ที่เห็นแฟนสาวโทรมาหา แม้ว่าเสียงที่ใช้สนทนาด้วยจะดูเย็นชาก็ตาม

"ฟางมีอะไรหรือเปล่า"

"เปาอยู่ไหน"

"กำลังจะไปทำงาน"

"งานที่ร้านน่ะเหรอ ก็ไหนว่า..." ฟางละไว้ในฐานที่เข้าใจ

"ไม่ใช่หรอก งานอื่นน่ะ แล้ว...ฟางนึกยังไงถึงโทรหาเปาล่ะ" เปาแค่นหัวเราะเบาๆ ฟางหายไปเกือบเดือน ไม่ติดต่อเขามาเลย อยู่ดีๆ วันนี้ก็โทรหา

"เย็นนี้...เปาว่างหรือเปล่า" ฟางถาม

เปาทำท่าคิด ก่อนตอบไปด้วยเสียงเรียบ "เย็นนี้เปาไม่สะดวก ทั้งอาทิตย์เลย พอดีมีงานต่างจังหวัดน่ะฟาง ฟางมีอะไรหรือเปล่า"

"อ้อ เปามีงานต่างจังหวัดเหรอ ไปไกลไหม"

น้ำเสียงของฟางฟังดูประหม่า ดูกล้าๆ กลัวๆ จะพูดจะถามอะไรก็ต้องคิดไปหมด

"นครปฐม" เปาบอกสั้นๆ ก่อนถามไปตามตรง "จะคุยกับเปาเหรอ"

"ใช่" ฟางยอมรับตามตรง

"คุยเรื่องอะไร เรื่องวันนั้นเหรอ"

ฟางเงียบไปสักพัก คล้ายกับชั่งใจว่าจะพูดดีหรือไม่ ไม่นานเธอก็ตัดสินใจบอกมา "ฟาง...คิดถึงเปาน่ะ"

เธอพูดแค่นั้น แค่คำว่าคิดถึงก็มีพลังมากพอแล้ว แม้ว่าจะโกรธและน้อยใจฟางแค่ไหน แต่พอได้ยินคำพูดนี้ เปาก็รู้สึกดีขึ้นมาก เขาคิดว่าฟางคงไม่ให้อภัยและไม่คิดจะกลับมาหาเปาอีกแล้ว เพราะฟางไม่เคยขาดการติดต่อไปนานขนาดนี้เลย

"ฟาง...เป็นห่วงเปานะ" ฟางย้ำหลังเงียบไปสักพัก

เปาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไร เขาจึงได้แต่เงียบ ในช่วงที่ผ่านมาเขาน้อยใจ เสียใจ บางวันก็คิดถึง อยากไปหา อยากเห็นหน้า อยากขอคืนดีและกลับมาเป็นเหมือนเดิม เอาเข้าจริง เปากลับเลือกที่จะไม่ทำสิ่งเหล่านั้น ฟางเงียบ ไม่ติดต่อมา เขาก็เงียบ ไม่ติดต่อไป

ตรงกันข้าม เปากลับรู้สึกว่าคนที่เขาอยากเจอ อยากไปหา อยากอยู่ใกล้ ไม่ใช่ฟางเสียแล้ว เขารู้สึกกับคนๆ นั้นมากจนเผลอไผลไปกับอารมณ์ที่แล่นพล่าน มันช่างแปลกใหม่และน่าค้นหา คล้ายกับว่าที่จริงแล้วนี่คือสิ่งที่เขาต้องการ แต่มันจะเป็นความรักเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับจีนหรือเปล่า ก็ยากที่จะบอกได้

ใบหน้าใส แววตาซื่อและรอยยิ้มสะอาดของใครคนนั้นปรากฎขึ้นในความคิด นี่หรือเปล่าคือแรงจูงใจที่ทำให้เปาตัดสินใจมาทำงานกับพ่อ แม้ว่าไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์ใจเลยก็ตาม

"ฟางไม่กลัวเหรอ" เปาถามหลังจากเงียบไปนาน

"กลัวอะไรเหรอ" ฟางถามอย่างพาซื่อ

"ฟางยังรู้สึกเหมือนเดิมกับเปาหรือเปล่า"

คำถามของเปาทำให้ฟางเงียบ คล้ายกับสะอึกไป พักใหญ่จึงตอบมา "แล้ว...ถ้าฟางตอบว่าใช่ล่ะ"

เปาไม่ตอบคำถาม ปล่อยให้บรรยากาศเงียบไป ฟางจึงถามกลับ "แล้วเปาล่ะ"

"ฟางไม่โกรธเปาเรื่องวันนั้นแล้วเหรอ" เปาหาทางประวิงเวลาที่จะไม่ตอบคำถามนั้นของฟาง

ฟางถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเธอหนักใจหรือเปล่า แต่คงไม่ใช่สัญญาณแห่งความสบายใจแน่ "เปา...ถ้าเรารักกัน ทุกอย่างมันเริ่มต้นใหม่ได้นะ ช่วงที่ฟางไม่ได้ติดต่อเปา ฟางถามตัวเองทุกวันว่า...ฟางยังรักเปาอยู่หรือเปล่า ถ้ายังรักอยู่ ฟางก็ต้องให้อภัยได้ เริ่มต้นใหม่ได้"

"แล้วคำตอบของฟางคืออะไร" เปาถามสวนไปทันที

ฟางเสียจังหวะไปเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็พูด "การที่ฟางโทรมาหาเปา มันก็คงจะพอบอกอะไรได้อยู่แล้ว ว่าแต่เปาเถอะ เปาอยากเริ่มต้นใหม่กับฟางหรือเปล่า ฟางไม่รู้ว่าเปายุ่งแค่ไหนนะช่วงนี้ แต่นครปฐมก็คงไม่ไกลมาก เอาเป็นว่า...เย็นนี้ฟางจะรอเปาละกัน ดึกแค่ไหน...ฟางก็รอได้"

เปากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ฟางต้องการให้เปาตัดสินใจจึงเลือกกดดันด้วยวิธีนี้ ที่จริงก็ไม่ควรเป็นเรื่องยาก เมื่อก่อนเปาคงตัดสินใจได้เลย แต่ในใจของเปาตอนนี้มีหลายทางเลือกเสียแล้ว หรือจะเรียกว่า "หลายใจ" ก็คงไม่ผิดนัก


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

"ยังเจ็บขาอยู่ไหม" เสียงอุ่นๆ นุ่มๆ ถาม

"ก็...เจ็บนิดหน่อย" ตอบเสียงเรียบ แต่ถ้าสังเกตท่าทางดีๆ จะเห็นความประหม่าซ่อนอยู่ในแววตา ท่าทางก็ดูเกร็งๆ ด้วย "ลงผิดจังหวะตอนเซ็ตไง ก็เลยเหยียบขาตัวเอง"

เปาพยักหน้ารับรู้ ยิ้มจางๆ ให้อีกฝ่าย เมื่อไม่ได้เจอกันหลายปี ซ้ำยังบาดหมางใจกันอย่างรุนแรงมาก่อน การพูดคุยและท่าทางจึงยังดูไม่สนิทใจ

"งั้น...เดี๋ยวเราจะนวดคลายกล้ามเนื้อให้ ปวดตรงข้อเท้าใช่ไหม"

จีนพยักหน้ารับ เปาจึงให้จีนนั่งเหยียดขาบนเก้าอี้ต่อกันสามตัว หากทำงานจริงคงใช้แบบนี้ไม่ได้ ต้องมีที่นั่งเฉพาะหรือเตียงให้นั่งหรือนอน แต่เนื่องจากสถานที่ซ้อมเป็นโรงเรียนมัธยมในจังหวัดนครปฐม ก็เลยต้องทำแบบนี้ไปก่อน

ในขณะที่เปากำลังนวดบริเวณน่องลงไปยังข้อเท้า จีนคอยแอบลอบมองเปาอย่างเงียบๆ เปาโตขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เขาเป็นคนหน้าคมและตาคม แม้จะผิวขาวแต่ก็ไม่ดูจืด แถมยังดูคมกว่าเดิมด้วยซ้ำ

หลังจากที่ได้รู้ความจริงจากเปาเมื่อวานนี้ จีนก็เหมือนได้ปลดล็อคตัวเองไปแล้ว ความเจ็บปวดในใจหายไปจนเกือบสนิท แต่กระนั้นก็ยังคงมีคำถามอีกมากมายในใจที่จีนอยากถามเปาและตัวเอง

ในขณะที่จีนกำลังเผลอมองและคิดเพลินๆ เสียงใครบางคนก็ดังขัดจังหวะขึ้น

"แหมๆๆ เคลิ้มเชียวนะมึงไอ้จีน"

มาวินกับพอลล์นั่นเอง สองคนนั้นเดินมาดูและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จีนรู้ดีว่าเพื่อนสองคนหมายถึงอะไรจึงรีบว่าไป

"เคลิ้มห่าอะไรของมึงวะ แล้วนี่พวกมึงไปไหนมา"

มาวินกับพอลล์หัวเราะ แทนที่พอลล์จะตอบกลับหันไปทางเปาที่ยังนวดขาอยู่เงียบๆ "วันนี้จีนจะลงได้ไหมครับคุณเปา"

พอลล์เรียกเปาว่าคุณเปา คงเห็นว่าเป็นลูกชายโค้ชจึงไม่กล้าเรียกชื่อเฉยๆ แม้ว่าจะอายุเท่ากัน

"ปกติถ้าเหยียบขาตัวเองต้องพักอย่างน้อยสักสองสามวันครับ เย็นนี้ไม่น่าจะลงได้ เดี๋ยวเจ็บมากกว่าเดิม" เปาหันมายิ้มด้วยสั้นๆ ก่อนหันกลับไปนวดต่อ เขาพอนวดเป็นบ้าง เพราะเคยไปสอบนวดนักกีฬาและได้ใบประกาศนียบัตรมาแล้ว แต่ถึงอย่างไร สมาคมควรจ้างคนมาช่วยนวดให้เป็นระบบ เปาทำให้ได้เป็นครั้งคราวเท่านั้น

"มึงไม่รู้ไงว่าโค้ชให้ฟีนิกซ์ลงแทนแล้ว" มาวินพูด เขาทำท่าสงสัยว่าทำไมพอลล์ถึงถามเหมือนไม่รู้เรื่องนี้

"เออ กูลืมว่ะ" พอลล์หัวเราะแหะๆ จากนั้นก็ชวนเปาคุยไปเรื่อยเปื่อย

ตั้งแต่เปาเข้ามาช่วยทีม บรรยากาศก็ดูคึกคักมากขึ้นไม่น้อย ด้วยความหล่อเหลา จึงเป็นที่ถูกใจของผู้เล่นหลายคนที่ชอบหนุ่มๆ พากันแวะเวียนมาคุยด้วยไม่ขาดปาก รวมถึงพอลล์ด้วย แต่ก็ออกแนวหยอกเล่นพอสนุก ให้หัวใจกระชุ่มกระชวยเมื่อได้คุยเล่นกับหนุ่มๆ

หลังคิวจีนแล้ว ก็มีนักกีฬาอีกสองสามคนมาให้เปาช่วยดูอาการบาดเจ็บให้ เบื้องต้นเปาใช้วิธีนวดคลายกล้ามเนื้อให้ก่อน จากนั้นค่อยให้คำแนะนำการดูแลตัวเองที่บ้าน

วันนี้ ทีมวอลเลย์บอลชายไทยจะแข่งกับทีมชาติอิหร่านตอนหกโมงเย็น ทั้งโค้ชและผู้เล่นเกร็งกันมาก นี่คือทีมหินสุดของงานนี้เพราะเป็นทีมอันดับหนึ่งของเอเชีย โค้ชและสตาฟโค้ชจึงต้องวางแผนการเล่นอย่างรัดกุม พร้อมกับกระตุ้นให้รู้สึกฮึกเหิมไปด้วย ส่วนเปาก็คอยดูแลคนที่บาดเจ็บ ดีว่าแทบไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บมาก ยกเว้นจีนคนเดียวที่เผลอเหยียบเท้าตัวเองตอนซ้อมเมื่อช่วงบ่าย

"เหนื่อยไหมครับพี่เปา น้ำครับ"

เสียงคุ้นเคยถามมาจากที่ไหนสักแห่งไม่ไกล เปานวดให้นักกีฬาคนสุดท้ายเสร็จพอดี เขาหันไปมองเจ้าของเสียง ไท้นั่นเอง มากับฟีนิกซ์และเวิร์ม หนุ่มน้อยยิ้มตาหยี มือข้างหนึ่งยื่นขวดน้ำเย็นๆ มาให้ ที่นี่ไม่มีแอร์ อากาศจึงค่อนข้างร้อนและทำให้เหนียวเหนอะหนะ

"ไม่เหนื่อยหรอก" เปายิ้มตอบ พลางยื่นมือไปรับขวดน้ำเปล่ามาเปิดดื่ม

"เดี๋ยวผมเอาไปทิ้งให้" ไท้บอกเมื่อเห็นเปามองหาที่จะทิ้งเศษพลาสติกหุ้มฝา

เปาส่งใส่มือให้ไท้ ก่อนยกขวดกระดกดื่มน้ำไปสองสามอึก ท่าทางคงจะกระหายพอสมควร

"จะให้พี่ช่วยนวดคลายกล้ามเนื้อหรือเปล่า" เปาถามขณะวางขวดน้ำลงข้างๆ ตัว

"ครับพี่"

มีเสียงตอบมาทันที แต่คนที่ตอบไม่ใช่ไท้ เป็นฟีนิกซ์ต่างหาก

"ให้กูนวดก่อน มึงค่อยนวดทีหลังก็ได้" ฟีนิกซ์บอก ดูบังคับกลายๆ

"เออๆ" ไท้ส่ายหัวไปมา

ฟีนิกซ์รีบขึ้นไปนั่งเหยียดขาบนเก้าอี้ ขณะที่เปานวดให้ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คอยชวนคุยและถามนั่นถามนี่ตลอด คนที่รู้ประสาคงเดาออกว่าฟีนิกซ์แสดงความสนใจ ส่วนไท้กับเวิร์มนั่งยองๆ ดูอยู่ใกล้ๆ ฟังเปาอธิบายไปด้วยว่านวดตรงไหนช่วยอะไร

อีกครึ่งชั่วโมงถัดมา สต๊าฟโค้ชจึงเดินมาบอกให้ทุกคนไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังสนามแข่งขัน นักกีฬาจึงพากันเก็บข้าวของของตัวเองและทยอยพากันไปขึ้นรถ ไม่นานสนามซ้อมก็ว่างเปล่า รอเจ้าหน้าที่โรงเรียนมาดูแลความเรียบร้อย

เย็นนี้ ไท้กับฟีนิกซ์ได้ลงเป็นตัวจริงตั้งแต่เซ็ตแรก เพราะรุ่นพี่ในตำแหน่งเดียวกันเจ็บทั้งคู่ ส่วนเหินฟ้า เวิร์มและเกิ้นจะถูกเปลี่ยนลงสนามเป็นบางช่วงเพื่อให้คู่ต่อสู้จับทางไม่ได้ แต่งานนี้ก็ไม่ง่ายเพราะอิหร่านแข็งแกร่งมาก ไทยจึงพ่ายไปสามต่อหนึ่งเซ็ต กระนั้นนักกีฬาและโค้ชก็พอใจมาก เพราะไทยไม่เคยได้เซ็ตจากอิหร่านเลยที่ผ่านมา เยาวชนชุดนี้จึงดูมีอนาคต แฟนกีฬาเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น ในกระทู้ห้องกีฬาวอลเลย์บอลในพันทิพย์เริ่มพูดถึงผู้เล่นใหม่ๆ ที่เข้ามาเสริมทีมบ้างแล้ว โดยเฉพาะไท้ มีคนพูดถึงมากเป็นพิเศษ

จบการแข่งขัน โค้ชก็พานักกีฬาไปทานอาหารเย็น แม้จะเพิ่งแพ้มา แต่บรรยากาศกลับดูสดใส เสียงหัวเราะและพูดคุยดังไปทั้งโต๊ะ เมื่อหมดหน้าที่แล้วก็ถึงเวลาเล่นและผ่อนคลาย ต่างแซวกันไปแซวกันมาตามประสาวัยคึกคะนอง

หัวข้อสนทนาช่วงหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟน ถามกันไป เล่ากันมา มาถึงช่วงหนึ่งมาวินก็โพล่งถาม

"น้องๆ อยากรู้ไหมว่าใครเปลี่ยนแฟนบ่อยที่สุด"

คำถามนี้เรียกเสียงฮือฮาได้มากทีเดียว นักกีฬารุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาร่วมทีมชาติถามกันใหญ่ว่าใคร มาวินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แม้ว่าจะเจอสายตาอาฆาตจากเพื่อนที่กำลังร้อนตัว

มาวินทิ้งเวลาให้รุ่นน้องสงสัยสักพัก เมื่อพอใจแล้วเขาจึงบอกใบ้ "ก็...ไอ้คนที่มันเล่นตำแหน่งที่ไม่ต้องตบบอลไง"

"พี่จีนน่ะเหรอ" เกิ้นโพล่งออกมา เขามองไปที่จีน ทำสีหน้าเหมือนกับไม่เชื่อ

"ใช่" จีนรีบตอบเสียเอง ก่อนแค่นหัวเราะและพูดต่อ "พี่มันเป็นพวกนักสำรวจ ชอบลองของแปลกใหม่"

"สำรวจถ้ำเหรอวะ" พอลล์แซว คนอื่นๆ พากันหัวเราะใหญ่

"เออ หรือมึงไม่ชอบสำรวจถ้ำวะ" จีนย้อนเพื่อน

"แล้วพี่จีนเปลี่ยนแฟนบ่อยแค่ไหนเหรอครับ" เกิ้นถามต่อ

"นานสุดเนี่ย อยู่ได้สามเดือน สั้นสุดก็วันเดียว แต่โดยเฉลี่ยก็...เดือนหนึ่งได้มั้ง เปลี่ยนจนพี่จำไม่ได้แล้วว่าแฟนมันเป็นใครมั่ง" มาวินชิงตอบคำถามแทนพลางหัวเราะ เขาอยู่กับกลุ่มผู้ชายที่ชอบผู้ชายมานาน จึงไม่รู้สึกเคอะเขินมาก แต่ตอนเข้ามาใหม่ๆ ก็รู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง พออยู่ไปอยู่มาก็เริ่มชิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเปลี่ยนรสนิยมหรอก แม้ว่าจะมีผู้ชายมาจีบเรื่อยๆ ก็ตาม

"โห แล้วพี่จีนไปหามาจากไหนเหรอครับ สอนผมมั่งดิ เผื่อจะสอยมาสักคนสองคนมั่ง" เวิร์มถามอย่างนึกสนุก

"ในอินเตอร์เน็ตเยอะแยะไป ในเฟสมั่ง ในทวิตเตอร์มั่ง ไม่รู้จริงๆ เหรอ เดี๋ยวพี่สอนให้เอาไหม แต่ต้องระวังหน่อยนะ บางคนมันเป็นเด็กขาย เดี๋ยวจะโดนมันหลอกเอาเงิน" จีนพูด

"อ้าว แล้วพี่ไม่กลัวโดนหลอกเหรอ" เวิร์มสงสัย

จีนหัวเราะร่วน ปรายหางตาไปมองเปาแวบหนึ่ง ดูท่าทางเปาจะสนใจไม่น้อยเพราะคอยหันมามองจีนบ่อยๆ ไท้นั่งติดกับเปา ท่าทางก็ดูสนใจการสนทนาระหว่างจีนกับเพื่อนของตัวเองเหมือนกัน

"เห๊อะ พี่ไม่กลัวหรอก ไม่มีใครหลอกพี่ได้ มีแต่พวกมันนั่นแหละโดนพี่หลอก" จีนหัวเราะหึๆ คล้ายสะใจ

"ไอ้นี่มันชอบหลอกฟันเด็ก ระวังตัวกันให้ดีล่ะ อย่าหาว่าพี่ไม่เตือน" พอลล์บอกพลางขำ แม้จะพูดสนุกแต่ก็มีเค้าความจริงไม่น้อย

"แสดงว่าพี่ทิ้งเขาก่อนเหรอ" เกิ้นถาม

จีนพยักหน้า

"โห แล้วพี่ไม่สงสารเขาเหรอ" เกิ้นทำหน้าเศร้าเล็กน้อย

"ก็สงสารนะ" จีนแค่นหัวเราะ เมื่อหันไปมองเปาอีกครั้งก็เห็นว่ารายนั้นมองมาอย่างสนใจ ไม่รู้ว่าเปาคิดอะไรอยู่ แต่เรื่องที่จีนพูดคงทำให้สะดุดใจไม่มากก็น้อย พอสบตากับจีนสักพักเปาก็หันไปคุยกับไท้ต่อ

"แล้วพี่ทิ้งเขาทำไมล่ะครับ" เกิ้นยังไม่วายสงสัย

จีนทำท่านึก สักพักก็ตอบ "ก็มีหลายเหตุผลนะ แต่บ่อยสุดนี่น่าจะเป็นเพราะพี่เบื่อ บางคนมันก็งี่เง่า บางคนมันก็แค่มาสนุกๆ บางคนแค่อยากได้เงิน บางคนก็นิสัยไม่ดี คบไปวันสองวันก็รำคาญแล้ว บางคนก็แสบ แอบขโมยเงินพี่ก็มี บางคนก็ดีนะ แต่พี่เบื่อเอง"

คนที่ได้ฟังพากันหัวเราะ แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆ แต่เห็นจีนเล่าสนุกๆ จึงไม่คิดจริงจังอะไรมาก

"แล้วพี่ไม่อยากมีแฟนจริงๆ จังๆ มั่งเหรอ" เกิ้นถามอีกครั้ง

จีนชะงักไปเล็กน้อย สักพักก็ส่ายหัวไปมาและหัวเราะหึๆ แต่หากสังเกตดีๆ จะเห็นความขมขื่นซ่อนอยู่ในแววตา "จริงจังไปทำไม เพราะบางที...การที่เราจริงจังกับความรัก ผลที่ได้...มันก็ไม่ใช่ความรักเสมอไปหรอก"

"หูย คมว่ะเพื่อน ไปเอามาจากไหนวะเนี่ย" พอลล์กับมาวินพากันแซว

แม้ดูเผินๆ เหมือนคุยเรื่องสนุกตามประสาเพื่อน แต่คนที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็สัมผัสได้ว่าจีนกำลังสื่อสารบางอย่าง นั่นคือเรื่องที่เปาไม่เคยรู้ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าจีนเสียใจ แต่เปาตัดขาดราวกับตายจากกันไปเลยต่างหาก ช่วงนั้นเปาเองก็เสียใจไม่น้อย แม้จะไม่ร้องไห้ ไม่มีน้ำตาสักหยด แต่การสูญเสียนั้นก็แสนทรมาน เพราะตอนนั้นเปาเผลอรักจีนไปแล้ว การทำร้ายคนที่ตัวเองรักอย่างนั้นจึงเจ็บปวดไม่น้อย

"พอกินปลาแล้วไท้ก็นึกถึงอาหารคลีนเลย"

เสียงของไท้ทำให้เปาพลันตื่นจากภวังค์ความคิด แต่เพราะเมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจฟังจึงไม่รู้ว่าไท้พูดอะไร "ไท้ว่าอะไรนะ"

"อ๋อ ผมบอกว่ากินปลาแล้วก็อยากกินอาหารคลีน ที่พี่เปาทำให้ผมกินบ่อยๆ ตอนผมอยู่บ้านโค้ชไง มันมีอยู่อย่างหนึ่ง เอ...เรียกว่าอะไรนะ" ไท้ทำท่านึก "อ้อ แซลมอนซัลซ่า ผมชอบมากเลย อร่อยดี"

"อ๋อ อยากกินอีกไหมล่ะ เสร็จงานนี้ ไปพักบ้านพี่สิ เดี๋ยวพี่ทำให้กิน" เปาบอก

"อืม...แต่เสร็จงานแล้วผมว่าจะกลับบ้านไปหาแม่ซะหน่อยน่ะครับ คิดถึงแม่" ไท้พูดเสียงเศร้าเล็กน้อย

คำพูดนั้นพลอยทำให้เปาเศร้าและสะดุดใจไปด้วย อยู่ดีๆ คำพูดของแม่ที่พูดกับเปาไว้ก่อนตายก็ดังขึ้นในหัว

"เปา...สัญญากับแม่อย่างหนึ่งนะลูก ถ้าเปาโตขึ้น เปาจะต้องมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เปาจะต้องรักลูก รักเมีย ไม่นอกใจเขา ไม่ทำให้เขาเสียใจ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี เปาสัญญากับแม่ได้ไหมลูก"

เปาหันไปมองพ่อซึ่งนั่งอยู่กับกลุ่มสต๊าฟโค้ชห่างไปพอสมควร ดูเหมือนกินไปคุยเรื่องงานกันไปมากกว่าจะคุยเล่นเฉยๆ บางครั้งก็หันมาฟังหรือคุยกับลูกทีมบ้าง จากนั้นเปาก็เลื่อนสายตาไปหาจีนซึ่งกำลังคุยกับเพื่อนอย่างสนุก ก่อนจะมาหยุดสายตาที่ไท้เป็นคนสุดท้าย

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เปาอยากทำตามคำสัญญาของแม่ แต่โชคชะตากลับพาเปามาเจอความรักที่เขาไม่ต้องการ จนกระทั่งต้องหาทางโยนทิ้งมันไป เพราะเปาไม่อยากผิดคำสัญญา แต่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอความรักแบบนี้อีกครั้ง ยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ

แต่ใช่หรือ!? เปาไม่ต้องการความรักแบบนี้จริงๆ หรือ!?

เสียงดังวืดๆ ดังขึ้น โทรศัพท์ของเปานั่นเอง เขาเปิดเป็นระบบสั่นตอนทำงานไว้และลืมเปลี่ยนกลับมาเป็นระบบเสียง เมื่อหยิบมาดูจึงเห็นว่าฟางโทรมาหา เปามองอย่างชั่งใจ ไม่นานก็เก็บใส่กระเป๋าและปล่อยให้มันสงบไปเอง

ฟางยังคงโทรมาอีกสองสามครั้ง แต่เปาก็ไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เขาคงจะได้คำตอบรางๆ แล้วว่าเขาต้องการอะไร

"แล้วไท้จะไปยังไง" เปาถามต่อ

"ว่าจะลองกลับรถไฟดู" ไท้ตอบ

"ไปวันไหน เสร็จงานก็ไปเลยหรือเปล่า"

"ก็น่าจะอย่างงั้นครับ"

"พี่ไปส่งให้เอาไหม" เปาอาสา

ไท้หยุดชะงัก สักพักก็ทำท่าขำๆ "อย่าเลย บ้านผมจน ไม่มีที่ให้พี่นอนพักหรอก แคบจะตาย"

"ก็พักห้องเดียวกับไท้ไง ไม่ได้เหรอ"

"ก็พอได้ แต่...มันแคบนะพี่ ผมกลัวพี่จะอยู่ไม่ได้"

"เรื่องแค่นี้เอง มีที่ให้ซุกหัวนอนก็พอแล้ว ถึงไม่มี นอนในรถก็ได้" เปาหัวเราะ ก่อนย้ำอีกรอบ "ให้พี่ไปส่งนะ จะได้ไปเที่ยวด้วยไง พิษณุโลกมีที่เที่ยวตั้งเยอะ"

ไท้คิดสักพักก็พยักหน้าตกลง เปายิ้มพอใจ ทั้งสองคนคุยกันเหมือนทั้งโลกมีกันแค่สองคน ลืมสังเกตว่ากำลังเป็นเป้าสายตาและความสงสัยของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะจีน

"ก่อนไป ไท้อยากไปหาเมสซี่กับเนยมาร์หน่อยไหม พี่เอาไปฝากไว้ที่บ้านยายแล้วตอนนี้ ถ้าไปพิษณุโลกต่ออีก พวกมันต้องงอนพี่แน่ๆ เลย ก่อนไปต้องไปเจอซะหน่อย"

"ดีเลยครับ ผมก็คิดถึงเมสซี่กับเนยมาร์ทุกวันเลย ไม่ได้เล่นด้วยหลายวันแล้ว"

ไท้พูดแล้วก็ยิ้ม เปาสะดุดใจและหลงใหลรอยยิ้มใสซื่อนี้เหลือเกิน เขาจึงเผลอเอามือไปลูบผมไท้เบาๆ โดยไม่รู้ตัว ท่ามกลางสายตาสงสัยของใครหลายคน อยู่ใกล้ไท้ทีไร เปามักจะอดใจไม่ไหวจนเลยเถิดทุกที

"พี่เอากีตาร์มาด้วยนะ ถ้าอยากฟังเพลงก็ไปห้องพี่ก็ได้ พี่พักคนเดียว อ้อ พาเพื่อนๆ ไปด้วยก็ได้ มาช่วยกันร้องเพลงหลายๆ คนจะได้สนุก ไม่ดึกหรอก" เปาบอก

ไท้พยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะหันไปสนทนากับคนอื่นๆ บ้าง

หลังอาหารเย็น นักกีฬาก็กลับโรงแรม ไท้พาเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันมาที่ห้องของเปาตามที่เจ้าตัวบอก เปาเป็นคนเล่นกีตาร์และร้องเพลง สลับกับเหินฟ้าซึ่งก็ชอบเล่นดนตรีเหมือนกัน พอได้ใช้เวลาทำกิจกรรมผ่อนคลายด้วยกัน เปาจึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของน้องๆ กลุ่มนี้ได้ไม่ยาก

สามทุ่มเศษๆ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน โค้ชกำชับหนักแน่นว่าช่วงแข่งกีฬาห้ามนอนดึกอย่างเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนกฎนี้เกินสามครั้งจะถูกสมาคมเรียกคุย จึงไม่มีใครกล้าลองดีเพราะกลัวหลุดจากทีมชาติ

ก่อนจะนอน เปาหยิบโทรศัพท์มือถือมาตั้งนาฬิกาปลุก ไม่ใช่หกโมงเช้าหรือเจ็ดโมงอย่างที่เคย แต่เป็นเวลาตีสามต่างหาก เปาว่าจะกลับไปที่บ้าน ทำแซลมอนซัลซ่าเอามาฝากไท้ตอนเช้า

ไม่รู้ว่าทำไมเปาถึงยอมทำขนาดนี้ รู้แต่ว่ามีความสุขที่ได้ดูแลไท้ เขาไม่เคยลืมช่วงเวลาที่ไท้มาอยู่กรุงเทพใหม่ๆ และอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มีความหมาย ผู้ชายตัวสูง ผิวขาวและหน้าตี๋คนนี้มีอิทธิพลกับชีวิตของเปาอย่างไม่ธรรมดาเลย


TBC

หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP14 หลายใจ ◯ 15.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 15-02-2017 18:54:04
อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป,,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP14 หลายใจ ◯ 15.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 15-02-2017 21:41:57
เปาทำแบบนี้ จะเรียกว่าเป็นคนหลายใจไม่ได้หรอก
เพราะไม่ใช่ว่าคนนั้นก็เอา คนนี้ก็จะเอา เอาหมดไม่เลือกใคร
แต่ที่เปาทำขนาดนี้ก็เหมือนกับการที่เปาปฏิเสธฟางไปแล้วนั่นเอง
เปาคิดว่าตัวเองเลือกแล้ว..และเลือกไท้

ส่วนจีน..การกระทำ แสดงออก ดูแล้วชักจะหวั่นๆใจไงไม่รู้
ไอ่ที่บอกว่าจะเป็นคนปกป้องไท้อ่ะ กลัวว่าหลังๆ เกิดหึงหวงเปาขึ้นมา
จีนเองน่ะแหละจะเป็นคนคิดร้ายกับไท้ซะเอง

ร้ายเพราะรัก ผิดเพราะหึง
ใครๆก็เป็นได้ทั้งนั้นเมื่อกิเลสเข้าครอบงำ

ได้อ่านสองตอนเลย
สนุกมาก หลงรักพระเอกกับนายเอกไปแล้ว

จุ๊บๆๆๆๆๆ เปา+ไท้

+1 ฮับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP14 หลายใจ ◯ 15.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 15-02-2017 21:53:14
   อ่านถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกสงสารเปาจริงๆ แต่เปาก็ทำตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง สะเทือนใจเพราะเป็นเรื่องพ่อกับลูกนี่ล่ะ
 ถ้าเปาคิดว่าเป็นเรื่องของพ่อ ไม่เอามาใส่ใจ เปาก็คงจะมีความสุขมากกว่านี้
  เอาล่ะสิเปา หลงไท้หนักๆนะ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP14 หลายใจ ◯ 15.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 15-02-2017 23:40:30
โอ้ย ตรงฉากไท้พูดถึงเรื่องแม่ แล้วเปานึกถึงคำพูดของแม่ รีแอคชั่นเราตอนนั้นคือตบหน้าผากเลยอ่ะ ในเรื่องนี้ไม่กลัวอะไรไปมากกว่าใจเปาอีกแล้วอ่ะ กลัวเป็นเหมือนจีนอีก
แต่เออดีที่โตแล้ว พัฒนาการด้านความคิดไม่ได้ย่ำอยู่ที่เดิม แต่ก็อยากให้เคลียร์เรื่องฟ่าง(หรือฟาง...)นะ อยากให้ภาพลักษณ์เปาดูดีขึ้นหน่อย
เราว่าเดี๋ยวจีนต้องทำอะไรซักอย่างแน่ๆ เปากับไท้ก็พยายามผ่านไปด้วยกันนะ

ปล. เราชอบมากที่คนแต่งมาต่อเรื่องไว ไม่ทำให้เรารอเก้อเท่าไหร่ อย่าหายนะคะ น้อยมากนะที่เราจะอ่านนิยายดราม่าน่ะ ช่วยมาเรื่อยๆ จนจบที  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP14 หลายใจ ◯ 15.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-02-2017 00:47:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP15 อาฆาต ◯ 16.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 16-02-2017 17:38:39
EP 15 | อาฆาต

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)

บรรยากาศในห้องอาหารโรงแรมยามเช้ามักวุ่นวายเสมอ ทว่าช่วยให้รู้สึกคึกคัก การตื่นมาเจอผู้คนและความเคลื่อนไหว ช่วยให้รู้สึกะปรี้กะเปร่าตามไปด้วย เป็นเหตุผลที่ว่าบรรดาหนังสือเคล็ดลับประสบความสำเร็จทั้งหลาย ต่างก็แนะนำให้เราอยู่ใกล้กับคนกระฉับกระเฉง เพื่อรับพลังแบบเดียวกัน

นักกีฬาจำนวนหนึ่งนั่งจับกลุ่มกันตามโต๊ะอาหาร ใครชอบใครหรืออยากคุยกับใครก็นั่งตามนั้น เช้านี้ไท้นั่งอยู่กับจีนและพอล ปกติจะมีมาวินหรือเพื่อนของไท้อีกคนมานั่งด้วย แต่วันนี้หลายคนอยากตื่นสายเพราะไม่มีแข่ง บางคนว่าจะตื่นเที่ยงด้วยซ้ำเพราะโค้ชนัดซ้อมตอนบ่าย นักกีฬาจึงบางตาในช่วงเช้า ที่ดูคึกคักเพราะมีหน่วยงานมาจัดประชุมที่นี่มากกว่า

ไท้เพิ่งกินข้าวไปได้สามสี่คำ ร่างสูงโปร่งคุ้นตาก็ปรากฎขึ้นตรงทางเข้าห้องอาหาร เขาสอดส่ายสายตามองหาไท้ เมื่อเจอกันก็ยิ้มให้ด้วยความดีใจ ก่อนรีบเดินมาหา แต่ไม่นานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนอยู่ด้วย

ด้วยความไม่ประสีประสา พอลจึงกวักมือพร้อมส่งเสียงเรียก "คุณเปามานั่งด้วยกันสิครับ"

เมื่อได้ยินชื่อ อีกคนที่นั่งอยู่ก็หันไปมอง เมื่อสายตาบรรจบกันก็พบกับความประหม่า แม้ว่าจะพูดคุยจนเข้าใจกันระดับหนึ่งไปแล้ว แต่ก็ยังกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งที่เจอกันอยู่ดี กระนั้นคงไม่เหมาะที่จะลุกหนีไปที่อื่น เพราะคนอื่นจะสงสัยเอาได้

ฝีเท้าที่หยุดนิ่งค่อยๆ เดินมาที่โต๊ะอาหารตามคำเชื้อเชิญอย่างช้าๆ สีหน้าจากยิ้มดีใจค่อยหุบลง พอมาถึงโต๊ะเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ซ้ายเป็นพอล ขวาเป็นไท้ ส่วนคนตรงหน้าเป็นจีน

"อะไรเหรอคุณเปา" พอลอยากรู้ พลางยื่นหน้ามาดู

"แซลมอนซัลซา" เปาตอบขณะวางถุงพลาสติกใสลงบนโต๊ะอาหาร ในนั้นมีกล่องพลาสติกสองกล่อง บรรจุอาหารดูน่ากินตั้งแต่แรกเห็น

"อ้อ มีด้วยเหรอ เมื่อกี้ผมไปดูไม่เห็นมีเลย โห...น่ากิน" พอลมองกล่องใหญ่ที่มีปลาแซลมอน ก่อนย้ายสายตามาที่กล่องเล็กซึ่งเป็นซัลซ่าสารพัดสี หลักๆ เป็นมะเขือเทศสับเป็นลูกเต๋าเล็กๆ คลุกรวมกับหอมใหญ่สับและสีเขียวของกุยช่ายฝรั่ง ผักชี พริกหยวก ผสมกับน้ำซอสใส รสออกเปรี้ยวนำและหวานเล็กน้อย ดูน่ากินอย่างที่พอลว่า

"เมื่อคืนพี่เปากลับบ้านเหรอครับ" ไท้ถาม เมื่อวานเขาเพิ่งพูดว่าอยากกิน ไม่คิดว่าเปาจะลงทุนขับรถกลับบ้านไปทำมาให้กินด้วยซ้ำ

"อ๋อ...พอดีพี่ลืมของไว้ที่บ้านน่ะ ก็เลยแวะไปเอาตอนเช้ามืด ไหนๆ ก็ไปแล้ว ก็เลยทำแซลมอนซัลซามาให้กินด้วย" เปาบอก

"ทำมาให้ไท้เหรอ" จีนถามเสียงเรียบ สีหน้าก็ดูเรียบ แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ายังกลบความประหม่าไม่สนิท คนอย่างจีนมีหรือจะไม่รู้ว่าเปาตั้งใจทำมาให้ไท้โดยเฉพาะ ช่างน่าขำ ตอนที่เปาคบกันจีนตอนนั้น จีนไม่เคยเห็นเปายอมทุ่มเททำขนาดนี้เลย แถมยังหลอกใช้จีนอีกต่างหาก

เปาชะงัก ก่อนหัวเราะกลบเกลื่อนเบาๆ "เปล่า ก็เอามาให้ลองกินด้วยกันนี่แหละ พอดีมีเวลานิดหน่อยก็เลยทำ ทำไม่ยากหรอก แป๊บเดียวเอง ลองกินกันดูไหม" เปากวาดสายตามองทุกคนและส่งยิ้มเชื้อเชิญ

"งั้น...ผมขอลองได้ไหม" พอลพูดอย่างตื่นเต้น

เปากุลีกุจอเอากล่องออกจากถุง เปิดฝาออก ก่อนลุกเดินออกไปหยิบจานเล็กๆ ช้อนและส้อมซึ่งวางเตรียมไว้สำหรับแขกมาด้วย มาถึงก็ลงมือตักแบ่งใส่จานให้แต่ละคน มีส่วนของตัวเองเพียงเล็กน้อย

พอลกินไปก็ชมไป ที่จริงรสชาติก็ไม่มีอะไรมาก อาศัยว่าได้ความสดใหม่ของผักนานาชนิด บวกกับรสเปรี้ยวๆ หวานๆ เมื่อกินกับปลาแซลมอนนึ่งรสมันเลี่ยนจึงเข้ากันดี

คนทำยิ้มพอใจ สักพักก็ขอตัวไปตักอาหารซึ่งจัดไว้แบบบุฟเฟต์มากินบ้าง พอลจึงอาศัยจังหวะนี้กระซิบกระซาบถามเรื่องที่อยากรู้

"ไท้เคยอยู่บ้านโค้ชเด้งมาก่อน แสดงว่าต้องรู้สิว่าคุณเปาเขามีแฟนหรือเปล่า"

แม้จะเป็นคำถามง่ายๆ แต่แววตาคนถูกถามกลับดูมีพิรุธ เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตหรือสะดุดใจ

"น่าจะมีแล้วมั้งครับ" ไท้แบ่งรับแบ่งสู้

"ผู้หญิงหรือผู้ชาย" พอลรุก

"อ๋อ...ผู้หญิง" ไท้หัวเราะเบาๆ ออกทางจมูก หน้ายิ้มทว่ากระอักกระอ่วนอยู่ข้างใน

"โห...เสียดายโคตร" พอลถอนหายใจเบาๆ พลันแววตาก็เป็นประกายอีกรอบ "แล้วเขายังคบกันอยู่เปล่า"

"ก็น่าจะ" ไท้บอก ก่อนถามติดตลก "พี่พอลจะจีบพี่เปาเหรอ แล้วเกิ้นล่ะ"

"เฮ้ย...แค่คุยกันสนุกๆ เฉยๆ" พอลหัวเราะเขินๆ "รู้ไหมว่าพี่น่ะชอบซีวอนมากกกก" พอลลากเสียงจนดูออกสาว "เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าลูกชายโค้ชเด้งหล่อขนาดนี้ หน้าเหมือนซีวอนเลย เสียดายมีแฟนแล้ว แต่ของแบบนี้มันก็ไม่แน่หรอก ถ้ายังไม่ได้แต่งงาน ก็แปลว่า...ยังมีโอกาส"

พอลยิ้มเล็กยิ้มน้อยก่อนหัวเราะร่วน ไม่นานก็ต้องหยุดเพราะเปากลับมานั่งโต๊ะพอดี ในจานมีอาหารไม่กี่อย่างที่เลือกมากิน ที่จริงก็มีให้เลือกไม่มากนักเพราะเป็นโรงแรมไม่ใหญ่มาก

"ชอบหรือเปล่าไท้" เปาหันมาถาม ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นสายตามีความหมายพิเศษ

"อร่อยดีครับพี่" ไท้พยักหน้าและยิ้มให้

"ไท้เขาชอบกิน ตอนเขาพักอยู่ที่บ้าน ผมทำให้เขากินบ่อยๆ" เปาหันไปบอกอีกสองคนที่นั่งอยู่

เท่านี้ก็เพียงพอสร้างความสงสัยได้แล้ว จีนอาจไม่แปลกใจมาก แต่พอลน่าจะสงสัยมากกว่า กระนั้น หลังคุยกันไปสักพักใหญ่ๆ ความสงสัยก็เลือนหายไปจากความจำ

"เดี๋ยวผมขอตัวขึ้นไปบนห้องก่อนนะครับคุณเปา ง่วงมาก เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย ยังไม่ได้อาบน้ำด้วย" พอลบอกพลางทำท่าจะลุกขึ้น

"อ๋อครับ" เปายิ้ม "ทีหลังไม่ต้องเรียกคุณเปาก็ได้ เรียกเปาเฉยๆ ดีกว่า จะได้เป็นกันเอง อายุเท่ากันไม่ใช่เหรอ"

"เอ่อ...ไม่ดีหรอกครับ งั้นต่อไป...เรียกว่าโค้ชเปาดีกว่า" พอลแย้ง คงเห็นว่าเป็นลูกชายของโค้ชจึงไม่กล้าตีสนิทขนาดนั้น

"ตามใจ" เปาหัวเราะ ก่อนมองตามร่างสูงๆ เดินลิ่วออกไป

ครู่เดียวบรรยากาศก็เปลี่ยน เพราะที่นั่งอยู่สามคนตอนนี้ล้วนแต่มีความสัมพันธ์ระหว่างกันที่อธิบายยาก เสียงสนทนาพลันหยุดลง ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตากินอาหารของตนเองเงียบๆ

ไม่นานจีนก็หยุดกินและลุกขึ้น "ไท้ เดี๋ยวพี่ขึ้นห้องก่อนนะ"

"อิ่มแล้วเหรอครับ พี่จีนยังกินไม่หมดเลย" ไท้มองอย่างสงสัย

"อิ่มแล้ว พี่ตักมาเยอะไปหน่อย" จีนบอก ท่าทางดูไม่สนใจอีกคนเท่าไหร่ พลันก็ทำท่าจะเดินออกไป ถ้าอีกคนไม่เรียกไว้เสียก่อน

"ไปพายเรือเล่นกันไหม"

จีนหยุดชะงัก ก่อนหันไปมองคนชวนด้วยสายตามีคำถาม แต่ก็ไม่คิดจะถาม

"เมื่อวานเราเดินไปดูที่แม่น้ำมา เขามีเรือให้พายด้วย ไปไหม ไปตอนเช้าๆ นี่แหละ ยังไม่ร้อนมาก" เปายิ้มเชื้อเชิญ

"แล้วทำไมไม่ไปกันสองคนล่ะ" จีนพูดคล้ายประชด

"ไปหลายๆ คนก็ได้ ไม่อยากคุยกับเราเหรอ"

"จะให้คุยอะไร" จีนพูดสวน เพราะถึงอยากคุย เขาก็คงไม่อยากให้มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย

"เอ่อ ถ้าพี่สองคนมีอะไรจะคุยกัน ก็ไปกันสองคนได้นะครับ" ไท้บอกอย่างเกรงใจ สลับมองหน้าสองคนไปมา

"พี่ไม่มีอะไรจะคุยหรอกไท้ พี่ไปละ"

สิ้นคำจีนก็เดินฉับๆ ออกไป สีหน้าดูเหมือนไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ไท้ได้แต่ทำหน้ายุ่งยากใจ เพราะตอนนี้เขาพาตัวเองเข้ามาอยู่ในสถานการณ์ความรักที่ไม่มีทางออก เพราะเปาเองก็มีฟางอยู่ ซ้ำยังดูเหมือนว่าความสัมพันธ์กับจีนในอดีตอาจปะทุขึ้นมาด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง รักสี่เส้าครั้งนี้คงยุ่งยากไม่น้อย

นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับว่าไท้พาตัวเองเข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์นี้ได้อย่างไร รักเปาอย่างนั้นหรือ? แล้วเปาล่ะรักไท้บ้างหรือเปล่า แล้วรักมากแค่ไหน จะว่าไป สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ถูกต้องด้วยซ้ำ ถ้าไท้คิดเป็นและรู้จักละอายใจ เขาคงรู้ว่าไม่ควรสานต่อความสัมพันธ์แบบนี้

สายตาของเปาบ่งบอกว่าเจ้าตัวก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่ต่างกัน นั่นแปลว่าการตัดสินใจครั้งสำคัญคงจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เพียงแต่ไม่รู้ว่าเหรียญที่หมุนติ้วตอนนี้จะออกด้านไหน แต่สุดท้ายก็ต้องมีทางออกสักทาง เพราะไม่มีสิ่งใดในจักรวาลนี้คงอยู่ในสภาวะไม่เสถียรได้


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

แม่น้ำท่าจีนไหลเอื่อยอ้อยอิ่งสงบเย็น คลื่นลมพัดเบาสบายโชยมาตลอดเวลา ท้องฟ้ายามเช้าดูแจ่มใส มีเมฆขาวๆ บ้าง แต่ก็กระจายตัวห่างๆ ฟ้าจึงเปิดโล่งให้ดวงอาทิตย์แผดแสงได้เต็มที่ แต่กลับไม่ร้อนมากอย่างที่คิด คงเป็นเพราะยังเช้าอยู่ แถมยังได้ไอเย็นๆ จากน้ำและลมโชยช่วยให้ไม่ร้อนจนเกินไป

เสียงคนคุยกันเอะอะดังไปทั่วคุ้งน้ำ แต่ก็ฟังไม่ได้ศัพท์ว่าคุยอะไรกันแน่ กระนั้นก็รู้ว่าเป็นเสียงหัวเราะเล่นสนุก เมื่อมองไกลๆ จะเห็นผู้ชายสองคนพายเรือแข่งกัน ทิ้งระยะไม่ห่างกันมากนัก ทั้งสองคนสวมเสื้อชูชีพสีเหลืองๆ สองมือพายคัดซ้ายบ้างขวาบ้าง พาเรือคายัคล่องไปตามกระแสน้ำ พร้อมกับคอยหลบหลีกเกาะผักตบชวาเป็นระยะๆ

พอแข่งกันเหนื่อยจึงเปลี่ยนเป็นพายธรรมดา คุยกันไปเรื่อยเปื่อยและดูผ่อนคลาย

"พี่ว่าเราพายไปเรื่อยๆ ดีไหม มันน่าจะมีร้านอาหารอยู่ริมน้ำ ถ้าหิวก็แวะกินได้ ปลาแม่น้ำที่นี่อร่อยมาก สดด้วย"

"พี่เปาเคยมาเที่ยวที่นี่เหรอ"

"เคย แต่นานแล้ว ตอนนั้น...แม่พามาเที่ยวบ้านเพื่อนแม่ แต่พี่ก็จำไม่ได้หรอกว่าอยู่ตรงไหน"

ท่าทางตอนพูดถึงแม่ดูเรียบเฉยจนน่าสงสัย เพราะปกติเปามักเลี่ยงพูดถึง ถ้าจำเป็นต้องพูดถึงก็มักดูเศร้าๆ หรือเครียด แต่คราวนี้กลับดูเฉยๆเหมือนกับทำใจได้แล้ว

"ไท้มาอยู่กรุงเทพหลายเดือนแล้ว ได้ไปเที่ยวไหนมั่งไหม" เปาเปลี่ยนเรื่องถาม

"ไม่ได้ไปครับ ส่วนมากก็ไปกับพี่เปานั่นแหละ ไท้อยากเก็บเงินส่งให้แม่มากกว่า"

"ไท้คงจะรักแม่มากนะ" เปาถามพร้อมรอยยิ้มบางๆ เจือเศร้า ถึงอย่างไร ปมในใจนี้ก็ยังไม่เคยหายไปจากชีวิต เขายังคงคิดถึงแม่เสมอ

"ครับ แม่ไท้ลำบาก ทำงานหนัก น้องก็ต้องเรียนหนังสือด้วย"

"แล้วเงินที่เขาให้พอใช้หรือเปล่า" เปาถาม เขาหมายถึงเงินเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา จะเรียกว่าเป็นเงินเดือนก็ได้ เพราะว่าได้รับเป็นรายเดือน

"ก็ต้องประหยัดเอา ผมกินง่ายอยู่ง่าย ใช้ประหยัดๆ ก็พออยู่ครับ เหลือส่งให้แม่ด้วย"

เปาพยักหน้ารับรู้ ก่อนถามสืบไป "แล้วแม่ไท้ทำอะไรล่ะ"

"รับจ้างครับ ส่วนมากก็ทำงานในไร่อ้อย เมื่อก่อนผมก็ไปช่วยแม่บ่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้แม่ไปคนเดียว"

"อ้าว แล้วน้องสาวล่ะ ไม่ได้ไปช่วยแม่เหรอ"

"ไม่ได้ไปครับ แม่ไม่อยากให้เขาไปด้วย มันลำบาก ก็เลยให้เขาอยู่บ้าน ทำงานบ้านแทนแม่"

"อ๋อ..." เปาพยักหน้ารับรู้

"ผมอยากเล่นให้สโมสรน่ะครับพี่เปา จะได้มีเงินเดือนประจำมากกว่านี้" ไท้บอก

"เดี๋ยวก็ได้เล่นแล้ว ตอนนี้ในโซเชียลกำลังพูดถึงไท้กันเยอะเลย ต่อไปพี่ว่าไท้ทำแฟนเพจกับอินสตาแกรมด้วยก็ดีนะ ถ้าแฟนเพจเยอะ จะมีรายได้เพิ่มอีกด้วยนะ"

"จริงเหรอครับ แล้วมันทำไงล่ะครับ" ไท้ตาโต

"พี่ก็ไม่รู้ว่าทำไงนะ แต่พี่เคยได้ยิน เดี๋ยวพี่หาข้อมูลให้ ตอนนี้...ไท้ทำแฟนเพจก่อนดีกว่า"

"ผมทำไม่เป็นน่ะครับ" ไท้ยิ้มอายๆ

"ไม่ยากหรอก เดี๋ยวพี่ช่วยทำให้ก็ได้ เอางี้...เย็นนี้พี่ว่าง เย็นๆ ไปห้องพี่นะ เดี๋ยวพี่จะทำให้"

พอถูกชวนไปห้อง ไท้ก็ทำหน้าไม่ถูก เพราะเข้าไปทีไรไม่พ้นลงเอยด้วยเรื่องนั้นทุกที "อ๋อ...ได้ครับ"

"งั้นพี่ว่า...ไท้เตรียมรูปเท่ๆ กับวิดีโอสั้นๆ ไว้หน่อยดีไหม จะได้เอาไว้อัปขึ้นเพจให้คนมากดไลค์ไง" แววตาของเปาเป็นประกาย

"แล้วจะไปถ่ายที่ไหนล่ะครับ" ไท้ถามพลางมองไปรอบๆ

"ที่นี่แหละ เดี๋ยวพี่ถ่ายให้" เปาบอก

จากนั้นเปาก็ช่วยกำกับ จัดท่าและหามุมให้ไท้ถ่ายรูปกลางแม่น้ำ เขาใช้โทรศัพท์ไอโฟนที่ติดมาด้วยถ่ายให้ เปาเรียนเรื่องการถ่ายภาพมาบ้าง เพราะต้องเอามาใช้ทำแฟนเพจของร้าน ก็เลยพอทำเป็น รู้ว่าภาพแบบไหนใช้ได้ แบบไหนใช้ไม่ได้

"ยิ้มหน่อยสิ แบบนั้นแหละ แต่ไม่ต้องเยอะ ใช่ๆ แบบนั้นแหละ กำลังดีเลย โห...รูปนี้หล่อสุดๆ ไปเลย ถ้าเอาลง สาวๆ ต้องกรี๊ดสนั่น ยอดไลค์เป็นหมื่นแน่ๆ" เปาหัวเราะสนุก ท่าทางดูผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นคนละคนเวลาอยู่ที่บ้านกับพ่อ

"ผมขอดูหน่อยดิ" ไท้บอกพลางพายเรือเข้ามาหา สีหน้าตื่นเต้น

เมื่อไท้มาถึง เปาก็ดึงเรือของไท้เข้ามาชิดกัน ก่อนเลื่อนรูปในมือถือให้ไท้ดู

"เป็นไง ชอบไหม" เปาถามขณะชี้ชวนดูรูปที่ถ่ายไว้สิบกว่ารูป

"โห พี่ถ่ายรูปสวยมากเลย พี่เปาเก่งนะครับเนี่ย ทำได้ตั้งหลายอย่าง" ไท้ยิ้มพอใจ สายตาบ่งบอกว่าชื่นชมอย่างที่พูด

"ก็หัดๆ เอา ของพวกนี้ไม่ยากหรอก ไท้ก็ทำได้ ถ้าอยากทำเป็น พี่สอนได้นะ" เปาหันไปยิ้ม

แก้มใสนั้นอยู่ใกล้จนอดเผลอมองไม่ได้ ริมฝีปากนั้นก็ห่างไปไม่กี่คืบ หลายวันมานี้ เปาแทบไม่มีโอกาสอยู่กับไท้ลำพังเลย เขาจึงคิดถึงสัมผัสพิเศษนั้นไม่น้อย

"พี่ว่าพี่ไม่อยากให้ไท้เอาลงแล้วล่ะ" เปาพูดทีเล่นทีจริง

"อ้าว ทำไมล่ะครับ" ไท้ย่นคิ้วฉงน

"อ้าว เดี๋ยวสาวๆ มาชอบไท้เยอะไง พี่ก็ตกกระป๋องดิ" เปาแกล้งนิ่วหน้า

"อ๋อ...ไม่หรอก ใครจะชอบเด็กบ้านนอกอย่างผม" ไท้หัวเราะเขินๆ รู้สึกร้อนวูบๆ วาบๆ ตามตัวและใบหน้าเมื่อเห็นแววตาที่เปามองมา

"เดี๋ยวนี้ก็ไม่ดูบ้านนอกแล้วนะ" เปาพูด ก่อนเปลี่ยนเรื่อง "ถ่ายเซลฟี่กับพี่หน่อยดิ"

ไท้พยักหน้าตกลง เปาเอามือโอบไหล่ของไท้ไว้ ส่วนอีกข้างจับมือถือยื่นออกไปจนสุดแขน เขาเอียงหัวเข้าใกล้ สายตาทั้งคู่จ้องมองภาพในจอมือถือ ตัวเลขนับถอยหลังถ่ายอัตโนมัติเริ่มวิ่ง สองหนุ่มรีบจัดท่าและองค์ประกอบภาพ ไม่กี่อึดใจภาพนั้นก็ถูกบันทึกลงไปในเมมโมรี่การ์ด

เปาวางมือที่จับมือถือลง แต่แทนที่มืออีกข้างจะปล่อยกลับยังโอบไหล่ไท้ค้างไว้ ก่อนยื่นหน้าเข้าใกล้แก้มใส จนกระทั่งจมูกและริมฝีปากประทับลงไปบนแก้มที่เผลอเอียงมาให้อย่างรวดเร็ว

ไท้หันมามองอย่างตกใจ แต่กลับต้องประหม่าและใจเต้นซ้ำเมื่อเจอสายตาคมจ้องสะกด เขาทำตัวไม่ถูกไปเลย จึงได้แต่นั่งนิ่งและสบตากัน

พักหนึ่งเปาก็ปล่อยมือออก คงเป็นเพราะเห็นเรือหางยาวของชาวบ้านแล่นผ่านมา มันแผดเสียงดังแสบแก้วหูจนดูขัดกับวิถีชีวิตเรียบสงบที่นี่ กระทั่งเรือแล่นผ่านไปไกลและเบาเสียงลง เปาจึงพูด

"พี่ไม่รู้จะบอกความรู้สึกของพี่กับไท้ยังไงดีนะ แต่ไท้รู้ใช่ไหมว่าพี่...รู้สึกดีกับไท้ รู้สึกดีมากๆ ด้วย"

โดนขโมยหอมแก้มก็ว่าน่าตกใจแล้ว ประโยคนี้ของเปากลับน่าตกใจยิ่งกว่า

"ไท้ก็รู้สึกดีกับพี่ใช่ไหม" เปาถามดักก่อนที่อีกฝ่ายจะพูด

ไท้ดูอึ้ง เขากลืนน้ำลายเหนียวๆ รู้สึกเหมือนลำคอแห้งผากทั้งๆ ที่เพิ่งดื่มน้ำไปหลายแก้วตอนกินอาหารเช้า สักพักก็ตอบกลับไปอย่างอึกๆ อักๆ

"แต่...พี่เปามีแฟนอยู่แล้ว ผม..."

"ไม่ต้องห่วงคนอื่นหรอกไท้" เปาแย้ง สีหน้าดูจริงจัง เขาถอนหายใจยาว "ไท้รู้เรื่องพี่กับจีนแล้วใช่ไหม"

"ครับ"

"พี่เคยรักเขามาก่อน แต่พี่...ก็ทำให้เขาเจ็บ เจ็บมากด้วย พี่รู้ตัวว่าพี่ทำไม่ดีกับเขานะ แต่...ไท้ก็พอจะเดาได้ใช่ไหมว่าทำไมพี่ถึงทำแบบนั้นกับเขา"

ไท้พยักหน้า ท่าทางดูไม่สบายใจนักเมื่อพูดคุยเรื่องนี้

"แต่มันจบไปแล้ว ไท้ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก ที่พี่บอกไท้เรื่องนี้ เพราะพี่อยากให้ไท้รู้ว่า...พี่ก็ตามหาตัวตนของพี่...แล้วก็หัวใจของพี่เหมือนกัน ตลอดเวลาที่พี่คบกับฟาง ลึกๆ พี่ก็รู้ว่ามันไม่เหมือนกับที่พี่เคยคบกับจีนหรอก พี่ยังนึกถึงจีนเสมอนะ เพราะเขา...เป็นรักแรกของพี่ แต่พี่ก็ยอมรับไม่ได้ ไท้รู้ไหม ตอนเรียนมหาลัย พี่เคยแอบจีบผู้ชายคนหนึ่งเล่นๆ ด้วย เพราะพี่คิดถึงความรู้สึกแบบนี้ แต่ไม่มีใครรู้หรอก แต่พอเจอฟางพี่ก็หยุด"

เปาหยุดเว้นจังหวะ ลอบสังเกตดูท่าทางของไท้ ในแววตาคู่นั้นมีความกลัวปรากฎอย่างที่เขาคาดไว้ "ไท้กลัวใช่ไหม กลัวว่าพี่จะทำกับไท้...เหมือนที่พี่เคยทำกับจีนใช่ไหม"

ไท้ยังไม่ตอบ ได้แต่มองหน้า เปาจึงพูดสืบไป

"ไท้จะกลัวก็ได้ พี่ไม่ว่าหรอก" เปาถอนหายใจสั้นๆ ก่อนพูดต่อ "สงสัยใช่ไหมว่าทำไมพี่ถึงกล้าพูดเรื่องนี้กับไท้ พี่ว่าไท้ก็คงเห็นว่าพี่...เกลียดคนพวกนี้มาตลอด แม้กระทั่งพ่อของพี่เอง...พี่ก็ยังไม่ยอมรับเลย มันเป็นเรื่องยากสำหรับพี่นะไท้ที่จะยอมรับเรื่องนี้ แต่คนที่พี่จะบอกเรื่องนี้ด้วย...มีแค่สองคนเท่านั้น...ที่พิเศษมากๆ สำหรับพี่"

เปาหยุดเว้นจังหวะอีกครั้ง รอจังหวะไม่นานก็พูดต่อ "คนแรกก็คือจีน ที่พี่บอกเขา เพราะพี่อยากไถ่โทษเรื่องที่พี่ทำกับเขาไว้เมื่อหลายปีก่อน พี่รู้ว่าจีนเขาทรมานนะ ชีวิตเขาถึงเป็นแบบนี้ไง เขาคงเจ็บมากที่พี่ทำกับเขาแบบนั้น อ้อ...พี่คุยกับเขาแล้วนะ พี่บอกเขาแล้วว่า...ทั้งหมดที่พี่ทำไป มันเป็นความรัก พี่เคยรักเขามากนะไท้ และพี่ก็อยากให้จีนรู้ เผื่อว่า...จะช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้น"

ไม่รู้ว่าไท้ตกใจหรือเปล่าเพราะอ้าปากค้างเล็กน้อย สำหรับเปามันอาจจะจบ แต่จีนล่ะ ไท้ดูไม่ออกเลยว่าจีนรู้สึกอย่างไรหรือคิดอะไรอยู่ เขาดูเป็นคนเปิดเผยและร่าเริงก็จริง แต่ก็มีบางอย่างขัดแย้งซ่อนลึกอยู่ในบุคลิกนั้น

"ส่วนคนที่สองที่พี่บอกก็คือไท้" เปาอธิบายต่อ "จีนเขาเป็นอดีตของพี่ แต่ไท้...จะเป็นปัจจุบัน...แล้วก็อนาคตต"

ไท้เบิกตาโต คาดว่าคงอึ้งไม่น้อย

"ไท้รู้ไหม ทุกครั้งเวลาที่พี่อยู่กับไท้ พี่มีความสุข เราชอบอะไรหลายอย่างเหมือนกัน ชอบหมา ชอบดนตรี ชอบกีฬา แล้วก็ชอบกินอะไรเหมือนๆ กัน พี่รู้สึกว่าพี่เป็นตัวของตัวเอง ผ่อนคลาย สงบ ไม่ต้องวิ่งหนีอะไรเหมือนที่ผ่านมาอีก ไท้รู้ไหม ตั้งแต่พี่รู้จักไท้ พี่ถามตัวเองบ่อยๆ ว่าพี่โอเคกับความรู้สึกแล้วก็บรรยากาศแบบนี้ระหว่างพี่กับไท้หรือเปล่า แรกๆ พี่ก็ไม่กล้ายอมรับหรอก แต่สุดท้าย...พี่ก็ปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ไหวว่าพี่...รู้สึกดีกับไท้มากแค่ไหน"

เปายิ้ม คราวนี้ดูเป็นรอยยิ้มแห่งความสุขเสียที แต่พลันก็หุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อไท้ถาม

"แล้วพี่เปา...จะไม่รู้สึกผิดกับตัวเองเหรอครับ"

คนถูกถามหน้าเจื่อน ไม่รู้ว่าทำไมไท้จึงถามแบบนั้น แต่ก็ดีแล้วที่ถาม เพราะมันคือสิ่งที่เปากังวลใจลึกๆ เพราะเขากำลังจะผิดสัญญากับแม่ ที่จริงก็เคยผิดไปแล้วด้วยซ้ำ จึงเป็นสาเหตุให้เขารู้สึกผิดอยู่ลึกๆ

ในตัวของเปาเหมือนมีสัตว์สองตัวที่มักโต้เถียงกันอยู่เสมอ ทั้งสองตัวมีพลังพอๆ กัน แม้ว่าอีกตัวจะเพลี่ยงพล้ำ แต่ไม่นานก็จะกลับมาสู้ได้และทำให้อีกฝ่ายเพี่ยงพล้ำบ้าง ไม่มีฝ่ายไหนชนะอย่างถาวรและเด็ดขาด คราวนี้...ก็อาจจะไม่ต่างกัน

เปาพยักหน้ายอมรับตามตรง เขาหยิบมือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็เปิดและเลื่อนหาภาพถ่ายจดหมายของแม่ เปาถ่ายเก็บไว้ในมือถือตลอด และมักเปิดอ่านบ่อยๆ เพื่อเตือนใจตัวเอง เมื่อเจอแล้ว เปาก็ส่งจดหมายนั้นให้ไท้อ่าน

ไท้ลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็รับมาอ่านจนจบในเวลาไม่นานเพราะเป็นจดหมายสั้นๆ กระนั้นก็รู้สึกกินใจกับความรักของแม่ที่ถ่ายทอดลงไปในนั้น อย่างนี้นี่เองเปาถึงรู้สึกผิดกับตัวเองและเกลียดพ่อ ขัดแย้งกับตัวเองมาตลอดหลายปี คำขอของแม่กลายเป็นหนามทิ่มแทงใจให้คนข้างหลัง ถ้าแม่ของเปารู้ว่าเปาเป็นแบบนี้ เธอจะเขียนจดหมายลาตายแบบนี้กับลูกชายหรือเปล่า

ไท้ส่งโทรศัพท์คืน การที่เปายอมเปิดเผยตัวตนกับไท้มากขนาดนี้ แสดงว่าต้องไว้ใจมากทีเดียว ฉะนั้น คงถึงคราวที่ไท้ควรต้องพูดบ้าง

"ผมยอมรับว่า...ผมก็กลัวนะครับ แต่ผมก็รู้สึกดีกับพี่ ตอนเด็กๆ ผมขาดพ่อ เวลาที่พี่เปาดูแลผม สอนผม ผมรู้สึกอบอุ่นใจ ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าพี่มีแฟนอยู่แล้ว แต่ผมก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้...ผมรักพี่เปาไปแล้ว ถ้าผมจะเจ็บเพราะพี่...ผมก็ยอมครับ"

เปาเป็นฝ่ายเบิกตาโตบ้าง เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กอายุเพียงสิบเก้าจะกล้าพูดขนาดนี้ ความเจ็บปวดในความรักไม่ใช่เรื่องเล่น บางครั้งก็อาจหมายถึงชีวิต แต่ไท้กลับไม่กลัวที่จะลงมาเล่นด้วย เพราะความรักที่เขามีต่อคนๆ หนึ่งหรือเปล่าที่ทำให้กล้าขนาดนี้

เป็นเรื่องยากที่เปาจะห้ามใจได้ เขารีบสวมกอดไท้ไว้เท่าที่สภาพตอนนี้จะเอื้ออำนวย "พี่จะพยายามนะไท้ สักวันหนึ่ง...พี่จะเอาชนะความรู้สึกผิดทั้งหมดให้ได้ ส่วนเรื่องฟาง...ไท้ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ไม่เจอเขามาจะเป็นเดือนแล้ว จบงานนี้...พี่จะขอเลิกกับเขาเอง"

แม้ไม่รู้ว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่คำสัญญานั้นก็ไล่ความกังวลออกห่างไปได้บ้าง

"มีแฟนอยู่แล้ว ยังจะทำแบบนี้อีกเหรอ!"

อยู่ๆ ก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้น เปากับไท้รีบผละออกจากกันแทบไม่ทัน เมื่อหันไปดูก็เห็นจีนอยู่บนเรือคายัคลำหนึ่ง ไม่รู้ว่าพายตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เปากับไท้ตกใจจนหน้าซีดและดูเลิ่กลั่ก

จีนพายเรือเข้ามาใกล้ จากนั้นก็หยุดและหยิบมือถือออกมา เขาเปิดหน้าโพรไฟล์ของเปาเตรียมไว้อยู่แล้ว พลันก็ยื่นให้สองคนดู ในหน้าจอนั้นมีภาพของเปากับฟางถ่ายเซลฟี่ด้วยกันใกล้ชิด ใครเข้ามาดูเฟสบุ๊คของเปาก็จะเห็นภาพแบบนี้เต็มไปหมด ถ้าไม่เสียสติก็จะรู้ได้ไม่ยากว่าเปากับผู้หญิงที่ถ่ายรูปขึ้นเฟสบุ๊คด้วยกันบ่อยๆ มีความสัมพันธ์กันแบบไหน

"ทำกับเราคนเดียวยังไม่พออีกเหรอ เปาจะทำแบบนี้กับไท้อีกคนใช่ไหม!" จีนถามเสียงดัง มือไม้และริมฝีปากสั่นด้วยความโกรธ

"มันไม่ใช่อย่างงั้นนะจีน" เปารีบบอก

"แล้วมันยังไง!" จีนย้อนถาม "มีแฟนหราแบบนี้ แล้วยังมาหลอกเด็กมันอีก จะให้คนอื่นเขาเข้าใจว่ายังไง!"

เปากับไท้แวบมองหน้ากัน ต่างคนต่างมีสีหน้ายุ่งยากใจ

"ถ้างั้นเปาก็คอยดู คราวที่แล้ว...เปาทำสำเร็จ แต่คราวนี้...คนที่เจ็บจะต้องเป็นเปา! ไม่ใช่ไท้ แล้วอย่าหาว่าเราใจร้ายก็แล้วกัน!"

จีนส่งสายตาอาฆาตจนดูน่ากลัว ไม่มีใครรู้หรอกว่าจีนจะทำอะไร แต่สายตาเจ็บปวดที่มองมาพอจะบอกได้ว่าเขาไม่ยอมง่ายๆ สิ่งที่เขาพูดไว้จะต้องเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง และมันต้องเกิดขึ้นอย่างที่เขาพูดเท่านั้น ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้!


TBC

หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP15 อาฆาต ◯ 16.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-02-2017 18:36:33
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP15 อาฆาต ◯ 16.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 16-02-2017 20:19:27
:katai1: :katai1:

ดราม่าจนต้องขูดหน้ากันเลยทีเดียว 555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP15 อาฆาต ◯ 16.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 16-02-2017 21:33:39
เห้อออ เปา ถึงเวลาของจีนแล้ว เปารอรับมือเลย
  รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP15 อาฆาต ◯ 16.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 16-02-2017 22:39:12
อาจจะเป็นคนนี้
ที่ใจจะไม่โหดร้ายเกินไป


หวัง....ว่าใจ...เค้าคงดี


เสี่ยงกันไป
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP15 อาฆาต ◯ 16.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 16-02-2017 23:25:37
จะเกิดอะไรขึ้น???

น่าติดตามนะครับ,,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP15 อาฆาต ◯ 16.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 16-02-2017 23:49:44
ต้องตั้งรับแล้วเปาาาา ไอที่บอกจะเลิกกับฟางขนาดเราอ่านมา เรายังไม่มั่นใจเลยว่าจะเลิกจริงๆ 5555555
ให้กำลังใจเปานะ ส่วนจีนก็... แกต้องอย่าลืมว่าแกก็ทำกับคนอื่นเหมือนกันอ่ะ อาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็ไม่ต่างซักเท่าไหร่ปะ แต่เอาเหอะ ให้เปาโดนมั่งก็คงเป็นบทเรียนที่ดีมั้ง55
ส่วนไท้ลูก5555555 หนูเหมือนเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อีเหน่ ยืดท่ามกลางคนตีกันอ่ะ สงสารจังเลย น่าเอ็นดูจริงๆ นะเด็กคนนี้ :ruready
รอวันพน.สินะ รอตอนต่อไปแล้ว อยากอ่านนนนน

หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP15 อาฆาต ◯ 16.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-02-2017 23:55:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP16 ขอคืน ◯ 17.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 17-02-2017 19:20:11
EP 16 | ขอคืน

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)

"พี่อยากได้แฟนเก่าของพี่คืนมาเหรอ"

เสียงดังฟังไม่ได้ศัพท์ดูเหมือนเบาลงไป เพราะประสาทสัมผัสและความคิดเปลี่ยนมาจดจ่อที่คำถามนี้เท่านั้น ที่จริงเขาคิดเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองว่าคิดแบบนั้นหรือเปล่า ตอนแรกยอมรับว่าเกลียดกลัวและเข็ดหลาบ แต่พอได้รู้ความจริงจากปาก ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปเพราะคำว่า "เคยรัก" พลันความเจ็บปวดเสียใจที่เคยมีก็หายไปราวกับปลิดทิ้ง

คำว่า "เคยรัก" หรือเปล่าที่พาความรู้สึกเก่าๆ ย้อนคืนกลับมา ถ้าใช่...ก็นับว่าน่าเศร้า เพระคนที่เคยรักไม่เหมือนเดิมแล้ว ในขณะที่ตัวเขาเองกลับไม่ยอมเปิดใจให้ใคร แม้ไม่ตั้งใจเก็บใจไว้รอรักเก่า แต่ก็เหมือนเป็นอย่างนั้นไปแล้ว

แก้วน้ำสีอำพันถูกยกขึ้นจ่อริมฝีปาก คราวนี้เขากระดกรวดเดียวหมดแก้ว เมื่อวางแก้วลงเขาจึงพูด "พี่ไม่รู้เหมือนกัน" เขาแค่นหัวเราะก่อนพูดสืบไป "มันควรจะจบไปตั้งนานแล้ว ไม่รู้จะกลับมาเจอกันอีกทำไม แม่งโคตรตลกเลยชีวิตพี่"

เขาถอนหายใจยาว ภาพในอดีตเก่าๆ วนฉายในความคิด เขานึกถึงบรรยากาศที่อบอุ่น ความวาบหวามใจยามอยู่ใกล้และสบตากัน กลิ่นกายพิเศษเฉพาะตัวและลมหายใจอุ่นๆ ยามกอดกระหวัดแนบชิด แม้เสียงพูดธรรมดาก็ยังฟังเพราะราวกับเสียงจากสวรรค์ รักแรกที่งดงามผูกพันแน่นเหนียวในใจเหลือเกิน

"เกมคิดว่าไง" อยู่ๆ เขาก็หันกลับไปถามบ้าง คงเป็นเพราะเขาคิดไม่ออก หรือไม่ก็ไม่กล้าคิด จึงต้องการตัวช่วยสะท้อน

หนุ่มน้อยนามว่าเกมครุ่นคิด ไม่นานก็บอกไป "ห้าปีผ่านมาแล้ว พี่ยังไม่ลืมเขาเลย ถ้าให้ผมเดานะ ผมว่าพี่ยังรักเขานั่นแหละ ไม่งั้นพี่จะคร่ำครวญถึงขนาดนี้เหรอ"

ฟังดูมีเหตุผลไม่น้อย เพราะที่จริงแล้วจีนเคยรักเปามาก ความรักที่สวยงามครั้งนั้นยังคงฝังใจ จนนำมาสู่การประชดชีวิตในหลายปีที่ผ่านมา ใครว่าอดีตลืมง่าย เราลืมได้เฉพาะเรื่องที่ไม่สำคัญต่างหาก ส่วนเหตุการณ์สำคัญในชีวิตไม่มีทางลบเลือน เว้นแต่สมองส่วนนั้นจะถูกทำลาย

"บางทีพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาแค่พูดให้พี่สบายใจแค่นั้นหรือเปล่า เขาอาจจะหลอกพี่อีกก็ได้ พี่กลัวพี่จะโดนหลอกซ้ำรอยอีกน่ะเกม หรือเกมคิดว่าไง เขาบอกพี่อย่างนั้นก็ดีแล้วใช่ไหม ไม่ต้องสนใจหรอกว่าเขาโกหกหรือพูดจริง" จีนรำพึง เขาไม่เคยแสดงอาการอย่างนี้ให้ใครเห็นเลย น่าแปลกที่เพลย์บอยหนุ่มอย่างเขากลายเป็นอย่างนี้ไปได้

"ดูท่าทางพี่จีนจะรักเขามากนะครับ ผมไม่เคยเห็นพี่เป็นแบบนี้เลย" เกมพูด สายตาฉายความเห็นใจอย่างเต็มที่

จีนหยิบแก้วบรรจุน้ำสีอำพันใหม่ขึ้นกระดก เขาดื่มไปหลายแก้วจนคนที่มาด้วยชักเป็นห่วงว่าจะเมา ที่จริงก็น่าจะเมาบ้างแล้ว

"ก็อย่างที่พี่บอกนั่นแหละ เขาเป็นรักแรกของพี่" จีนพูด เขาวางแก้วที่ยังไม่หมดลง สายตาเหม่อลอยไปที่ไหนสักแห่ง

"ที่พี่เป็นแบบนี้มาหลายปี เพราะคนนี้หรือเปล่าครับ" เกมถามสวนไป

จีนชะงักเล็กน้อย เสียงดนตรีและเสียงคนพูดคุยกันดังแค่ไหนก็พร่าเลือนอยู่เบื้องหลัง อารมณ์ของเขากับบรรยากาศในบาร์เหล้าสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เขาไม่เคยมาในที่อโคจรแบบนี้ด้วยอารมณ์นี้ เขาดูเข้มแข็งและเป็นผู้ชนะเสมอ เพราะเขาเป็นผู้เลือก ไม่ใช่ผู้ถูกเลือก แต่การปรากฎตัวของเปาทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตร

"เกมคิดว่าไงล่ะ" จีนย้อนถามอีกครั้ง น่าแปลกที่คนมีความมั่นใจสูงอย่างเขาต้องอาศัยความคิดเห็นของคนอื่นช่วยสะท้อน แสดงว่าสภาพจิตใจของเขาคงเปราะบางไม่น้อย

"ผมว่าแล้ว ผมก็สงสัยอยู่ แต่ไม่กล้าถาม" เกมหัวเราะในลำคอ เขาไม่แปลกใจแล้วที่จีนไม่ลงเอยกับใครสักคน คบแล้วก็เลิกหมด มีเพียงเกมคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงสถานะ "พี่น้อง" เอาไว้ได้ ในขณะที่คนอื่นๆ เลิกแล้วเลิกเลย คงเป็นเพราะเกมไม่ได้เข้าหาจีนเพราะเงิน เขารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่าค้นหา ในท่าทีที่ดูมั่นใจและมีอำนาจ เขากลับเห็นความเปราะบางซ่อนอยู่รางๆ

แต่ก็น่าเสียดาย เกมไม่เคยเข้าใกล้จีนได้มากว่าความสัมพันธ์ทางกายเลย จีนดูเหมือนรู้สึกไม่มั่นคง เขาไม่ชอบคบใครลึกซึ้ง พอจะรู้สึกจักกันมากขึ้นก็มีอันต้องเป็นไปก่อนเสมอ ยิ่งเกมอยากรู้จักมากขึ้น จีนก็ถอยหนีมากขึ้น จนกระทั่งความสัมพันธ์แบบ "แฟน" จบลงด้วยชะตากรรมเดียวเหมือนกับหลายๆ คน กระนั้น เกมก็ยังไม่หมดความหวังเสียทีเดียว เพราะเขาสามารถต่อรองลดความสัมพันธ์เหลือแบบพี่น้องได้

จีนทำท่าจะยกแก้วกระดกอีก เกมรีบเอามือแตะห้ามไว้ "พอเหอะพี่จีน พรุ่งนี้พี่มีแข่งไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวโค้ชว่าเอานะครับ"

จีนชะงัก แต่พอเกมปล่อยมือ เขาก็ยกกระดกซดรวดเดียว เกมจึงได้แต่ส่ายหัวไปมา ส่วนเขาก็ดื่มบ้าง แต่ไม่มากนักเพราะพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า

ไม่นานเสียงแก้ววางตกกระทบพื้นเคาน์เตอร์ก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงพ่นลมหายใจยาวอีกรอบ จีนทำท่าครุ่นคิด คงไม่แน่ใจว่าจะดื่มต่อหรือจะกลับไปนอน เพราะพรุ่งนี้มีแข่งนัดสำคัญกับทีมชาติจีน จำเป็นต้องเก็บพลังไว้เพื่อชาติ ตอนนี้ทีมกำลังมีความหวังมาก ต้องการความเป็นมืออาชีพและความทุ่มเทของทุกคน แต่สุดท้ายเขาก็หันไปสั่งเหล้ามาเพิ่ม กะว่าจะดื่มอีกสักพักแล้วก็จะกลับ

ที่จริงจีนก็ไม่คิดจะออกมาดื่มหรอก บังเอิญว่าเกมโทรหา ปกติเกมก็มักโทรมาถามไถ่ข่าวคราวและทุกข์สุขตามประสารู้จักกันบ่อยๆ มีนัดเจอกันบ้าง ครั้งนี้จีนออกปากว่าอยากคุยด้วย จึงนัดมาเจอกันที่นี่ แรกๆ ก็แค่ดื่มไปคุยไป พอเหล้าเข้าปากจีนก็เริ่มคายความรู้สึกออกมา ไปๆ มาๆ ก็เล่าเรื่องอดีตรักที่ไม่เคยลืมให้ฟัง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมาหรือไว้ใจกันแน่

"ยังไงไม่รู้ พี่ไม่ไว้ใจเขาเลย เกมรู้ไหม เขามีแฟนเป็นผู้หญิง ยังคบกันอยู่ พี่เข้าไปดูในเฟสบุ๊คเขา ก็ยังเห็นถ่ายรูปด้วยกันหวานแหววอยู่เลย แต่เขากลับมาให้ความหวังกับน้องผู้ชายในทีมคนหนึ่ง พี่กลัวว่าน้องคนนั้นจะเป็นเหมือนพี่ พี่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเขาทำแบบนั้นอีก เขาก็เลวมาก"

จีนวกกลับมาพูดเรื่องเปาอีกจนได้ ดูเหมือนยิ่งพูด เขาก็ยิ่งไม่มีความลับอีกต่อไป

"พี่รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องของพี่นะ แต่พี่ยอมไม่ได้หรอก พี่จะไม่ยอมให้เขาทำร้ายน้องคนนั้นเด็ดขาด ถ้าพี่จะขอให้เกมช่วยพี่ทำอะไรสักอย่าง เกมจะพอช่วยพี่ได้ไหม"

ในที่สุดจีนก็หาทางเข้าเรื่องที่เขาต้องการจนได้ เกมถึงกับชะงักเมื่อรู้สิ่งที่จีนต้องการ

"พี่จะทำอะไรเหรอครับ จะแย่งแฟนเก่าพี่คืนมางั้นเหรอ ผมว่ามันไม่ดีหรอก มันจบไปแล้วนะพี่ พี่จะรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกทำไม พี่จีนลองถามตัวเองดีๆ สิครับว่าตกลงพี่ต้องการอะไรกันแน่ ต้องการแฟนเก่า หรือว่าต้องการแก้แค้น หรือต้องการอย่างอื่น" เกมย้อนถาม

คิ้วสองข้างย่นเข้าหากัน ใบหน้าส่งภาษาสัญญาณว่ากำลังคิดหนัก พอต้องถามตัวเองจริงๆ จีนกลับนึกไม่ออกว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ ตอนแรกก็คิดว่าให้อภัยได้แล้ว แต่พอเห็นเปาแสดงความสนใจไท้ขึ้นมา แถมเปาเองก็ยังมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่ ความคิดว่าจะให้อภัยก็พลันหายไป

"พี่ไม่รู้ว่าพี่ต้องการอะไร พี่อาจจะต้องการทั้งหมดที่เกมว่ามาก็ได้ แล้วถ้ามันเป็นอย่างงั้น เกมจะช่วยพี่หรือเปล่า" จีนพูดพร้อมกับสบตาฝ่ายตรงข้าม แววตาคู่นั้นคล้ายจะขอความเห็นใจนิดๆ

ความเงียบท่ามกลางเสียงเพลงดังกระหึ่มบังเกิดขึ้นอีกครั้ง สีหน้าของเกมดูคล้ายลำบากใจ แต่เขากลับใช้เวลาครุ่นคิดไม่นานที่จะตอบคำถามนี้

"ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าผมจะช่วยพี่ได้ยังไง หรือพี่จะให้ผมทำอะไร แต่ผมก็ไม่มีปัญหาที่จะช่วย สำหรับพี่จีนแล้ว...ผมเต็มที่อยู่แล้ว จะให้ผมช่วยยังไงก็บอกผมละกันครับ"

เกมส่งยิ้มให้หนุ่มรุ่นพี่ ต่างคนต่างยิ้มพอใจให้กัน แต่เรื่องที่พอใจอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้

"ขอบใจมากนะเกม" สีหน้าของจีนเปลี่ยนเป็นซาบซึ้ง ครู่เดียวก็แข็งกร้าวขึ้น เขาจะไม่มีวันแพ้อีกแล้ว ห้าปีที่ผ่านมา จีนพยายามถีบตัวเองขึ้นมาเป็นผู้ชนะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะทำได้ ดังนั้น เขาจะไม่กลับไปแพ้อีกแน่นอน

"งั้นพี่จะกลับละ ขอบใจเกมมากนะที่ออกมาเป็นเพื่อนพี่ พี่รู้สึกดีมากๆ เลย พี่ว่าพี่คิดไม่ผิดเลยที่รักษาความสัมพันธ์ของเราไว้"

เกมหัวเราะเบาๆ ก่อนเปรย "ก็น่าจะเป็นโชคดีของผมนะครับ หวังว่า...ต่อไปผมจะโชคดีมากกว่านี้ อย่าลืมนะครับพี่...ผมรอได้"

จีนหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย แต่สักพักก็ยิ้มกลบเกลื่อน เขารู้ว่าเกมหมายถึงอะไร จึงเลือกที่จะไม่แสดงความคิดเห็นหรือสาวความต่อ สำหรับจีนแล้ว จนถึงตอนนี้เขาก็ยังกลัวที่จะมีความรัก ลึกๆ ในใจยังคงหวาดหวั่นว่าจะซ้ำรอย กระนั้น เขาก็ยังอยากขอความรักในวานคืนกลับมา

สองหนุ่มสองวัยแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง บาร์ที่จีนมานั้นอยู่ฝั่งธนบุรี เขาไม่เคยมาที่นี่หรอก เกมเป็นคนแนะนำเพราะเห็นว่าอยู่ใกล้ จีนจะได้ไม่ต้องขับรถมาไกลและไม่กลับดึกจนเกินไป กระนั้น จีนก็มาถึงโรงแรมที่พักในเวลาเลยเที่ยงคืนไปแล้ว

ในขณะที่กำลังจะเข้าห้องตัวเอง จีนก็พลันหยุดชะงัก เขามองเลยไปยังห้องหนึ่งซึ่งอยู่ถัดไปอีกหลายห้อง ท่าทางครุ่นคิดสื่อว่ากำลังตัดสินใจบางอย่าง สักพักเขาก็เปลี่ยนใจไม่เข้าห้อง เก็บคีย์การ์ดใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนเดินดุ่มๆ ตรงไปยังห้องที่หมายตาไว้ จีนจำได้ว่าเปาอยู่ห้องนี้ ถึงจะเมาๆ บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับขาดสติจนลืมว่าใครอยู่ห้องไหน

อึดใจเดียวเขาก็มาหยุดอยู่หน้าห้องของเปา มือของเขายื่นไปหาปุ่มกดกริ่งเรียกหน้าห้อง ไม่ทันไรก็หดกลับ ครุ่นคิดสักพักก็ยื่นออกไปใหม่ ในหัวของจีนมีเรื่องตีกันสับสนวุ่นวาย เขาต้องนึกให้ได้ก่อนว่าการมารบกวนกลางดึกครั้งนี้จะคุยเรื่องอะไร เมื่อคิดได้แล้ว จีนจึงตัดสินใจกดกริ่งลงไปจริง


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)


หลังกดกริ่ง จีนยืนรออยู่นานเป็นนาทีกว่าจะมีคนมาเปิดห้อง แน่นอนว่าต้องเป็นเปา เขาอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดแขนสั้นสีอ่อน ท่าทางดูง่วงๆ แต่ก็ไม่ถึงกับสลึมสลือมาก เพราะเพิ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง เขาเพิ่งช่วยไท้ทำแฟนเพจและอินสตาแกรมเสร็จ พอเพื่อนๆ ของไท้รู้เข้าก็มาขอให้ช่วยสอนด้วย ห้องนอนของเปาจึงกลายเป็นห้องอบรมย่อยๆ สอนไปคุยกันไปก็เลยดึกพอสมควร

พอเห็นว่าใครมาหา เปาก็ขมวดคิ้วสงสัย สายตาดูระแวดระวัง ท่าทีอย่างนี้ก่อให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจกันทั้งสองฝ่าย

"อ้าวจีน มาซะดึกเลย มีอะไรเหรอ" เปาถาม เขาได้กลิ่นเหล้าจึงทำจมูกฟุดฟิด พักเดียวเขาก็แน่ใจว่าอีกฝ่ายคงออกไปดื่มข้างนอกมา "เข้ามาก่อนสิ"

จีนก้าวเท้าเข้าไปในห้องตามคำเชื้อเชิญ พอปิดประตู เขาก็มองไปที่เตียงนอนอันดับแรก ไม่มีใครนอนอยู่ด้วย จึงพอโล่งใจไปได้บ้าง พลันเขาก็หันมาถามเจ้าของห้อง "ถามจริง มึงไม่ได้รักกูใช่ไหม ที่มึงบอกว่ามึงเคยรักกู มึงแค่หลอกให้กูสบายใจใช่ไหมไอ้เปา"

เปาขมวดคิ้วเป็นปื้น ดูท่าทางจีนคงจะเมาแน่ ถึงพูดเหมือนคนไม่มีสติแบบนี้ "เมาหรือเปล่าเนี่ย"

"มึงไม่ต้องสนใจหรอกว่ากูเมาหรือไม่เมา มึงตอบกูมาก่อน" จีนยืนยันเสียงกร้าว

"แล้วเราจะทำอย่างงั้นไปทำไม" เปาย้อนถาม สีหน้าเริ่มไม่พอใจ

"ก็มึงหลอกกูมาตลอดไม่ใช่เหรอ!" จีนเสียงดัง

"เฮ้ยจีน เราว่าเราพูดกันเข้าใจแล้วไม่ใช่เหรอ"

"ใช่ กูเคยคิดว่าจะให้อภัยมึงอยู่แล้ว แต่คิดไปคิดมา กูก็ไม่ควรจะเชื่อมึงง่ายขนาดนั้น!" จีนเว้นจังหวะ พร้อมยกมือขึ้นชี้หน้า สายตาดุดันถมึงทึง "เพราะมึง...ใจคอโหดร้าย มึงรู้ไหมว่ากูเจ็บแค่ไหน ห้าปีที่ผ่านมา ชีวิตกูเป็นแบบนี้ก็เพราะมึง กูไม่กล้ารักใคร กูกลัวถูกทำร้ายเหมือนที่มึงทำกับกู มึงจำได้ไหม มึงบอกว่ามึงเกลียดคนแบบกู มึงขยะแขยง มึงอยากจะอ้วกทุกครั้งที่อยู่กับกู มึงผลักกูล้ม แล้วมึงก็เตะกูเหมือนหมูเหมือนหมา ด่ากูเหมือนกับกูไม่ใช่คน มันฝังอยู่ในใจกูจนถึงทุกวันนี้ มึงรู้ไหมว่ามันโคตรเจ็บ ทำไมมึงใจร้ายกับกูขนาดนี้วะไอ้เปา กูทำอะไรให้มึง กูรักมึงขนาดไหนมึงรู้ไหม หา! ไอ้เปา"

จีนร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาไหลอาบแก้มและตัวโยน ตั้งแต่วันนั้นที่โดนเปาด่าทอและขับไสไล่ส่งอย่างกับหมูกับหมา จีนก็ไม่เคยร้องไห้แบบนี้อีกเลย

อย่าว่าแต่จีนเลยที่เจ็บ เปาเองก็เจ็บไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อได้มาเห็นความเจ็บปวดของจีนกับตาตัวเอง เพราะวันนั้น เปาจัดการเสร็จก็เดินจากไป ไม่หันกลับไปดูด้วยซ้ำว่าจีนเจ็บแค่ไหน เขาเดินหนีไปจากเสียงร้องไห้คร่ำครวญอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ตั้งแต่นั้นก็ตัดขาดกันไปเลย

"เราขอโทษจีน" เปาพูดเสียงเครือ ไม่นานน้ำตาก็ไหลลงมา เขายอมรับว่าที่ทำไปนั้นโหดร้ายมาก แต่ก็ทำไปแล้ว ถ้าหากตอนนี้ย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ เปาก็พร้อมจะทำให้ทันที

จีนโผเข้ากอดเปาแน่น แม้เปาในวันนี้จะเป็นหนุ่มและโตกว่าตอนนั้นมาก แต่สัมผัสและกลิ่นกายนี้ก็ยังคุ้นมือและประสาทสัมผัสต่างๆ เปาไม่ต่อต้านหรือถอยหนี กระนั้นก็ลังเลว่าควรจะกอดตอบดีหรือเปล่า

"มึงกลับมารักกูเหมือนเดิมได้ไหมไอ้เปา กูรักมึงคนเดียว จนถึงวันนี้กูก็ยังรักมึง ถึงมึงจะทำกูเจ็บแค่ไหนกูก็รักมึง ห้าปีที่ผ่านมากูไม่มีใครเลย มีแต่มึงคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยกูได้ กูไม่อยากมีชีวิตแบบนี้อีกแล้ว มึงช่วยกูได้หรือเปล่าไอ้เปา มึงช่วยกูได้หรือเปล่า"

จีนคร่ำครวญหนักขึ้น ดูน่าเวทนาไม่น้อย ถ้าไม่ใช่เปาแล้ว จีนคงไม่กล้าลงทุนอ้อนวอนขนาดนี้

มือของเปาที่กำลังจะกอดตอบพลันตกลงข้างตัว แม้ว่าจะเคยรักคนๆ นี้ แต่วันนี้หัวใจของเปาก็ไม่เหมือนเดิม "มันจบไปแล้วนะจีน หัวใจของเรา...ไม่เหมือนเดิมแล้ว เรารักจีนแบบนั้นไม่ได้"

"แล้วมึงจะปล่อยให้กูเป็นแบบนี้เหรอ มึงรู้ไหมว่ากูก็อยากมีความรัก เหมือนที่กูเคยรักมึง แต่กูทำไม่ได้ กูกลัวคนพวกนั้นมันจะทำร้ายกูเหมือนมึง"

สภาพจิตใจของจีนอ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่กลับมาเจอกับเปาอีกครั้ง ความมั่นคงภายใจก็สั่นคลอน คล้ายกับตึกที่สร้างผิดหลักวิศวกรรม พอเจอแผ่นดินไหวเข้าหน่อยก็พร้อมจะพังครืนได้ทุกเมื่อ

ยิ่งได้ฟังเปาก็ยิ่งเสียใจ บาดแผลในใจของจีนคงบาดลึกจนยากจะรักษา ขนาดผ่านมาห้าปีแล้วยังไม่หาย และดูท่าว่าจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานหลายปี

"ถ้าไม่ใช่มึง มึงคิดว่าใครจะช่วยกูได้ ไอ้เปา...มึงช่วยกูได้ไหม ก็ไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้ว กูทรมาน"

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จีนมาถึงจุดที่พร้อมจะปล่อยให้ตัวอ่อนแอถึงที่สุด เขาจึงปล่อยอารมณ์อย่างเต็มที่ ไม่ปิดบังความรู้สึกใดๆ อีกต่อไป เพราะจะว่าไป เขาเก็บกดมานานเกินไปแล้ว

"ให้เราช่วยอย่างอื่นได้ไหมจีน เพราะยังไง...เราก็รักจีนแบบนั้นไม่ได้ เรารักไท้ไปแล้ว...จีนก็รู้" เปากัดฟันบอกปัด แม้ไม่อยากใจร้ายอีกครั้งแต่ก็ต้องทำ เพราะถ้ายอมทำตามที่จีนขอร้อง ก็เท่ากับหลอกให้จีนเจ็บซ้ำสอง

"ใช่ กูรู้ แต่กูขอร้องมึง มึงช่วยกูไม่ได้เหรอ มึงช่วยทำให้กูหายเจ็บได้ไหม ทำให้กูหายกลัวได้ไหม หลังจากนั้น มึงจะไปจากกู กูก็ไม่ว่า แต่ตอนนี้...มึงช่วยกูได้หรือเปล่าไอ้เปา" จีนขอร้องราวกับจะขาดใจ ประหนึ่งว่าชีวิตนี้ไม่เหลือที่พึ่งอีกแล้ว

มันก็น่าหนักใจไม่น้อย เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เปามีส่วนเป็นอย่างมาก จะปฏิเสธความรับผิดชอบก็คงไม่ได้ จะไม่ช่วยเลยก็คงใจร้ายเกินไป แทบจะไม่มีช่องใดๆ ให้ปฏิเสธอีกแล้ว ที่จริงย่อมปฏิเสธได้ นั่นคือสิ่งที่เปาควรทำมากที่สุด แต่บางครั้งคนเราก็ไม่สามารถทำได้ทุกอย่างอย่างที่ใจคิด

"แล้วจีน...ต้องการเวลานานแค่ไหน" เปากลั้นใจถามไป แม้รู้ว่าไม่ดีแน่ เพราะไม่ใช่แต่ไท้เท่านั้น แต่ยังมีฟางอีกคนที่เขายังไม่ได้ไปเคลียร์ ถ้าเพิ่มจีนเข้ามาอีกคนก็มีแต่จะเพิ่มความยุ่งยาก สุดท้ายก็จะกลายเป็นลิงพันแห หาทางออกไม่ได้

"สามเดือนก็ได้" จีนตอบ

"แล้วจีนจะให้เราทำอะไร"

"ก็ทำเหมือนที่เปาเคยทำไง ตอนเรียนมัธยม เปาเคยทำยังไง เปาก็ทำแบบนั้น"

สีหน้าของเปาดูหนักใจอย่างยิ่ง ในเมื่อไม่ได้รักจีนแบบนั้นแล้ว เขาก็นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างนั้นกับจีนได้อย่างไร ถึงทำได้ก็ต้องฝืนใจทำ ไม่ได้มาจากความรักจริงๆ

"จีนแน่ใจเหรอ เราไม่ได้รู้สึกกับจีนเหมือนตอนนั้นแล้ว มันไม่จริงใจนะจีน จีนรับได้เหรอ"

"รับได้สิ ตอนนี้...เรารับได้ทั้งนั้น ขอแค่ให้เราได้รักษาหัวใจของเราบ้าง สามเดือนมันไม่นานขนาดนั้น แค่นี้...เปาช่วยจีนไม่ได้เหรอ อยากให้จีนเป็นแบบนี้ไปจนตายเลยเหรอ"

จีนไม่ยอมวางมือง่ายๆ เหมือนกับคว้าขอนไม้ใหญ่กลางทะเลเวิ้งว้างได้แล้ว เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็จะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด

"ช่วยจีนได้ไหมเปา มีแค่เปาคนเดียวที่จะช่วยจีนได้ จีนขอร้อง"

เสียงสะอื้นดังขึ้นมาอีกคำรบ ถึงตอนนี้เปาก็แทบไม่เหลือหนทางแล้วเพราะถูกบีบไปทุกทาง สิ่งที่จะตอบก็คงไม่พ้นไปจากนี้ อยู่ที่ว่าจะหลุดปากออกไปตอนไหนเท่านั้น

"นะเปา ไม่ต้องรักจีนก็ได้ แค่ทำเหมือนรักกัน ดูแลให้จีนหายเจ็บไปบ้าง จีนขอแค่นี้เอง เพราะจีนไม่มีปัญญาแล้ว ถ้าเปาไม่ช่วย จีนก็คงต้องเป็นอย่างนี้ไปจนตาย เปาช่วยจีนหน่อยนะเปา"

นี่มันข้อเสนออะไรกันหนอ ตั้งแต่เกิดมาเปาก็ไม่เคยพบเห็น จีนต้องการอะไรกันแน่ เมื่อกลางวันยังทำท่าอาฆาตกันอยู่เลย ตกกลางคืนกลับมาขอร้องอ้อนวอนให้ช่วยอย่างน่าเวทนา เปาจะใจแข็งไปได้อย่างไร เพราะเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ความรู้สึกผิดกำลังเล่นงานเปาอีกแล้ว อีกไม่ช้าเขาก็จะยอมแพ้

"แค่สามเดือนจริงๆ นะจีน" เปาถามเพื่อขอความมั่นใจ

"ใช่ แค่สามเดือนเท่านั้น จีนสัญญาว่าจะปล่อยเปาไป จีนไม่รั้งเปาไว้หรอก" จีนตอบ

กระนั้นเปาก็ยังไม่สามารถคลายกังวลไปได้ เขานึกไม่ออกเลยว่าสามเดือนกับรักหลอกๆ จะช่วยจีนได้อย่างไร เพราะต่างคนต่างก็รู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่ความจริง

เอาเถอะ มันอาจจะช่วยจีนได้ก็ได้ เปาเองก็จะได้ไม่รู้สึกผิดมากไปกว่านี้ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ชดใช้ให้กับความผิดมหันต์ในครั้งนั้น แค่สามเดือนมันก็ไม่นานอย่างที่จีนว่า กลั้นใจไม่นานมันก็จะผ่านไป ถ้างั้น...เปาก็น่าจะตัดสินใจได้แล้ว

เปาดันไหล่จีนออก น้ำตายังอาบเต็มสองแก้มของคนตรงหน้า เปาเห็นแล้วก็อดสะท้อนใจไม่ได้ ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำไปจะทำร้ายคนๆ หนึ่งได้มากถึงขนาดนี้ ถ้างั้นเปาก็ควรรับผิดชอบ และต่อไปจะมีมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

สองมืองยังคงจับไหล่อีกคนไว้ สีหน้าหนักใจค่อยเปลี่ยนเป็นยิ้มบางๆ กระนั้นก็ไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความสุขอย่างแน่นอน

"ได้ เราจะช่วยจีน"

รอยยิ้มทั้งน้ำตาค่อยๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของจีน พลอยทำให้อีกคนอดยิ้มไปด้วยไม่ได้ จะว่าไป เปาก็คิดถึงรอยยิ้มนี้ของจีนไม่น้อย เพราะถึงยังไง จีนก็เป็นรักแรก จูบแรกและเซ็กซ์ครั้งแรก ยากที่เขาจะลืมเลือนไปได้

จีนไม่หยุดเพียงแค่รอยยิ้มเท่านั้น เมื่อเปาเผลอ เขาก็โน้มใบหน้านั้นเข้าหา ก่อนประทับจูบลงไปและกอดอีกฝ่ายแน่น เปาตกใจมาก เขารีบดันตัวจีนออกทันที เมื่อหยุดการจู่โจมนั้นได้เขาก็เสียงดัง

"มันต้องขนาดนี้เลยเหรอจีน"

"ทำไมล่ะเปา ก็ไหนว่าเปาจะช่วยจีนไง" จีนส่งสายตาขอความเห็นใจ

"แต่...เราไม่ต้องทำขนาดนี้ได้ไหม" เปาต่อรองด้วยสีหน้าหนักใจ

"ถ้ามันช่วยจีนได้ เปาจะไม่ช่วยเหรอ" จีนต่อรอง

เปาถึงกับอึ้ง แต่แทนที่จีนจะหยุดเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางแบบนั้น เขากลับเลื่อนใบหน้าเข้าหา ก่อนประทับจูบลงไปอีกครั้ง เปายืนตัวแข็งทื่อ คราวนี้เขาไม่ผลักใสอีกฝ่าย แต่จะยอมทำด้วยความรู้สึกอย่างไรก็ยากจะบอกได้ บางอย่างบอกเขาว่าจีนจะไม่หยุดแค่จูบคืนนี้แน่

และเปา...ก็คงต้องไปตามน้ำ


TBC



(https://s19.postimg.org/mqx55nnk3/chin.jpg)


ถ้าชอบนิยาย อย่าลืมบวกเป็ดและคอมเมนต์ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ :)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP16 ขอคืน ◯ 17.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 17-02-2017 19:44:50
 จีนน่าสงสารอะ  หวังว่าจีนคงไม่ร้ายเอาคืนนะ
  รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP16 ขอคืน ◯ 17.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-02-2017 19:48:10
ง่าาาาา.    อีรุงตุงนังจริงๆ เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP16 ขอคืน ◯ 17.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 17-02-2017 20:16:44
ไฟล้างไฟ ย่อมมอดไหม้ เป็นฝุ่นผง
แค้นล้างแค้น แน่นจำนง ปลงไม่ไหว
คิดบัญชี ที่ทำไว้ ใจล้างใจ
จุดสุดท้าย ย่อมบรรลัย ไปทุกคน

งานนี้ถ้าล้างแค้นกันเสร็จ
จะเห็นมีแต่คนเจ็บ..เจ็บ..และเจ็บ
ถ้วนทั่วทุกตัวคน

เฮ้ออออออออ..ยุ่งวุ่นวายกันไม่จบสิ้น
คำนี้คำเดียว "ความรัก"
หุหุ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP16 ขอคืน ◯ 17.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 17-02-2017 21:37:24
โคตรยุ่งเลยตอนนี้5555555555 ปัญหาหัวใจพันแข้งพันขาไปหมดแล้วเปาเอ้ย
แล้วไท้จะรู้สึกยังไง แล้วไท้จะเข้าใจเรื่องนี้ไหม แล้วไท้จะต้องทนกับความสัมพันธ์แบบนี้หรอ เอางี้จริงดิเปา
อย่างน้อยๆ ก็บอกน้องเขาหน่อยเถอะ บอกมันทุกอย่างนั่นแหละ5555 โอ้ย สงสารไท้จริงว้อย นี่จะอยู่ทีมไท้ เราตัดสินใจแล้ว ทำไท้เสียใจเมื่อไหร่เราด่าแกแน่ ทั้งจีนทั้งเปาเลย
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP16 ขอคืน ◯ 17.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-02-2017 23:32:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP17 หนักใจ ◯ 18.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 18-02-2017 16:04:13
EP 17 | หนักใจ

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpgg)

แม้จะรู้ว่าดึกไปหน่อยที่จะมาหาตอนนี้ แต่หนุ่มน้อยก็ตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่ไหว เขานอนไม่หลับเมื่อเห็นจำนวนแฟนคลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากหลักสิบกลายเป็นหลักพันในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แถมยังสาวๆ หนุ่มๆ แฟนคลับก็เข้ามาคอมเมนต์รูปและคลิปวิดีโอที่เพิ่งเอาลงอย่างไม่ขาดสาย เขาจึงอ่านเพลินจนเลยเวลาที่ควรจะนอน

เมื่อประตูห้องเปิดออก เขาก็รีบเข้าไปในห้อง ส่งมือถือให้คนที่มาเปิดประตูให้ ก่อนอวดอย่างตื่นเต้น

"พี่เปาดูดิครับ ผมมีแฟนคลับในอินสตาแกรมพันกว่าคนแล้ว แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง มีคนมาคอมเมนต์เยอะเลย"

คนบอกตื่นเต้น แต่คนฟังกลับมีท่าทางแปลกๆ ดูตื่นๆ ชอบกล แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะปรับอารมณ์ให้เข้ากับสถานการณ์ได้ไม่ยาก

"อ้อ จริงเหรอ นี่ขนาดไม่กี่ชั่วโมงนะเนี่ย ได้พันกว่าคนเลยเหรอ"

"ครับพี่ พี่ดูดิ" ไท้คะยั้นคะยอ

เปารับมือถือราคาไม่กี่พันบาทมาจากไท้ หน้าจอแสดงภาพไท้กำลังพายเรือในแม่น้ำท่าจีน มีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ไท้วันนี้ต่างจากวันแรกที่มากรุงเทพใหม่ๆ พอสมควร เขาดูสดใส มีน้ำมีนวล มีมัดกล้ามเนื้อและดูแข็งแรงอย่างนักกีฬา ที่สำคัญ ผิวขาวๆ หน้าตี๋ๆ ทำให้เขาดูน่ารักน่าเอ็นดู

เปาไล่ดูจำนวนคนเข้ามาติดตาม กดไลค์และคอมเมนต์ เมื่อเห็นว่าเป็นอย่างที่ไท้บอก เขาก็อดตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้

"พี่ว่าพรุ่งนี้ไท้น่าจะมีแฟนคลับหลายพันแน่ๆ เลย เผลอๆ จะเป็นหมื่นด้วย" เปาบอก ก่อนหันกลับมาอ่านคอมเมนต์ ส่วนมากเป็นบรรดาสาวๆ และเหล่าเก้งกวาง บ้างก็ชื่นชมความสามารถ บ้างก็ชื่นชมหน้าตา บ้างก็ให้กำลังใจ บ้างก็แทะโลม โดยเฉพาะอย่างหลังนั้นดูจะมากกว่าอย่างอื่น

"พี่ไท้หล่อจัง มีแฟนยังคะ ถ้ายัง ขอใบสมัครด้วย อิๆ"

"ขนาดยังไม่ถอดเสื้อ หุ่นยังดูฟิตแอนด์เฟิร์ม ยิ้มที ใจละลาย ดูยังไงก็ไม่เบื่อ"

"พายเรือเก่ง อยากไปพายด้วยจัง"

"อยากดูหุ่น ครั้งหน้าโชว์ซิกซ์แพ็คหน่อยนะครัช"

"พ่อของลูกในอนาคต"

"ท่าจะแซ่บ น้ำลายไหล"

"เห็นแล้วหิวนม"

"อยากพรากผู้เยาว์ขึ้นมาทันที 555"

"มีความอยากกิน แผลบๆ"

"หน้าตี๋ดีจัง พี่ชอบบบบบบ จะตี๋...ด้วยมั้ยน้า อุ๊ย พูดอะไรออกไป 555"


แต่ละคอมเมนต์ เล่นเอาเปาเหงื่อตก อ่านไปได้ไม่กี่คอมเมนต์ก็ต้องเลิกอ่าน เขาเงยหน้าขึ้นมองไท้ เจ้าตัวยิ้มแหยๆ และหัวเราะแหะๆ

"จะรอดไหมเนี่ย" เปาพูดหยอก

"โธ่พี่ เขาก็แซวเล่นไปงั้นแหละ" ไท้พูด ที่เขาไม่ยอมหลับยอมนอนเพราะมัวแต่อ่านคอมเมนต์พวกนี้ อ่านไปเขินไป บางข้อความก็ตลก แต่จะหัวเราะดังมากก็ไม่ได้เพราะเกิ้นหลับอยู่

"พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร มีคนชอบก็ดีแล้ว" เปายิ้ม ส่งโทรศัพท์คืนให้ไท้ ก่อนเอื้อมมือไปลูบผมคนตัวสูงกว่าอย่างเอ็นดู กระนั้นรอยยิ้มก็ดูกรุ้มกริ่ม "คนอื่นน่ะเขาได้แค่แซว แต่คนแถวนี้...ยิ่งกว่าแซวแล้ว"

ไท้ยิ้มเขินเล็กน้อย ดูน่ารักจนอีกฝ่ายนึกอยากจูบเข้าให้ แต่บางอย่างก็ทำให้เขาไม่กล้าทำอย่างนั้น

"ขอบคุณพี่เปานะครับที่สอนผม" ไท้เปลี่ยนเรื่อง กระนั้นใบหน้าก็ยังดูยิ้มๆ

"ท่าจะเป็นเอามากนะเนี่ย จะตีหนึ่งแล้วยังไม่นอนอีก โค้ชรู้จะโดนว่ารู้เปล่า" เปากระเซ้าต่อ

ไท้หัวเราะแหะๆ อีก พลันก็ทำท่าเหมือนสงสัย "พี่เปาก็ยังไม่นอนเหรอครับ หรือว่ามีงาน อ้อ ไม่ต้องแอบไปทำแซลมอนซัลซาที่บ้านมาให้ผมกินแล้วนะ รบกวนเปล่าๆ ไกลก็ไกล"

"ถ้าไท้อยากกินพี่ก็ไปได้ อยากกินอีกหรือเปล่าล่ะ"

"เอาไว้เสร็จงานก่อนดีกว่า" ไท้พูด จากนั้นก็เดินไปนั่งบนเตียงของเปา มองไปรอบๆ ห้อง สีหน้าท่าทางดูแปลกๆ

เปาเดินตามมายืนข้างๆ สักพักก็นั่งตามลงไปด้วย "มีไรเปล่าไท้"

ไท้หันมามอง ยิ้มน้อยๆ แต่ไม่ตอบคำถาม ออกไปทางครุ่นคิดเสียมากกว่า

"มองพี่แปลกๆ มีไรเปล่า" เปาถามย้ำ

พูดยังไม่ทันขาดคำด้วยซ้ำ ไท้ก็ดึงคนข้างๆ มากอดและบดขยี้จูบลงไปอย่างหนักหน่วง เขาไม่ได้ทำอย่างนี้กับเปามาหลายวันแล้ว ยิ่งอยู่ใกล้เขาก็ยิ่งโหยหาสัมผัสรักที่แสนพิเศษนั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะมีบางอย่าง เปาคงจะร่วมไม้ร่วมมือเป็นอย่างดีไปแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับต้องหาทางหยุดไท้ให้เร็วที่สุด เพราะถึงอย่างไร คืนนี้คงเตลิดไปไกลกว่านี้ไม่ได้ เปาจึงออกแรงดันไท้ออกจากการรุกราน

"ไท้หยุดก่อน" เปาบอกเสียงติดหอบเล็กน้อย บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องการ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงหยุดกะทันหันอย่างนี้

"ทำไมล่ะครับพี่เปา" ไท้ขมวดคิ้ว รู้สึกเสียดายและแปลกใจ

"มันดึกแล้ว พรุ่งนี้ไท้มีแข่งนะ เดี๋ยวจะไม่ไหว พี่ว่า...เรานอนก่อนดีกว่า" เปาแก้ตัว สีหน้ารู้สึกผิดจนซ่อนไม่มิด

"ทำแป๊บเดียวก็ได้ จะได้นอนสบายๆ ไงครับ" ไท้ต่อรอง

"อย่าเลย เอาไว้วันหลังดีกว่า" เปายืนกราน

ไท้หน้าม่อย กระนั้นก็ยังไม่ถึงกับหมดหวัง "งั้น...คืนนี้ไท้ขอนอนห้องพี่เปาได้ไหมครับ นอนกอดเฉยๆ ก็ได้ ไท้ไม่ทำอะไรพี่เปาหรอก"

สีหน้าของเปายังคงดูกระอักกระอ่วนใจ ใช่ว่าเขาจะไม่อยากทำอย่างนั้น แต่ในห้องนี้ไม่ได้มีแค่เขากับไท้สองคน แถมเปายังเพิ่งสัญญากับจีนไปหยกๆ เกือบเผลอมีอะไรกับจีนไปแล้วด้วยซ้ำ ดีที่ว่าไท้มาเคาะประตูห้องเสียก่อน เปาจึงรอดพ้นจากการรุกรานที่ไม่ต้องการอย่างหวุดหวิด

"ไท้...ไท้ฟังพี่นะ" เปาเกริ่น ท่าทางเหมือนมีเรื่องสำคัญอยากบอก เมื่อเห็นไท้รอฟัง เขาจึงพูดสืบไป "ขอเวลาพี่อีกสามเดือนได้ไหม ไท้ก็รู้ว่าพี่ยังมีฟางอยู่ ที่จริงพี่ก็ทำไม่ถูกหรอกที่มีความสัมพันธ์กับไท้ ทั้งๆ ที่พี่ยังไม่เลิกกับแฟนพี่เลย"

ที่จริงไท้ก็รู้สึกผิดพอกัน เขาเองก็ไม่ควรปล่อยให้ความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้น ที่ผ่านมาไท้ก็คิดหนักเรื่องนี้ เคยนึกอยากตัดใจหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ

"พี่เปายังรักพี่ฟางอยู่หรือเปล่าครับ" ไท้กลั้นใจถามสิ่งที่อยากรู้ เผื่อมันจะช่วยให้ไท้ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวได้ โดยเฉพาะถ้าเปายังรักฟางอยู่

เปาไม่ตอบทันที เขานิ่งไปสักครู่จึงตอบ "ที่พี่ขอเวลาไท้สามเดือนก็เพราะเรื่องนี้แหละ พี่กับฟางเป็นแฟนกันมาสี่ปีแล้ว พี่ก็ยอมรับว่าพี่ผูกพันกับเขานะ ตั้งแต่เรียนจบ พี่เคยเร่งเร้าจะแต่งงานกับเขาด้วยซ้ำ แต่เขาก็ปฏิเสธเพราะว่าเขายังมีภาระกับครอบครัวอยู่ พี่เคยคิดว่าพี่จะหยุดชีวิตของพี่ไว้ที่ผู้หญิงคนนี้ แต่พอพี่เจอไท้...ความคิดของพี่ก็เปลี่ยนไป"

"พี่เปากำลังสับสนหรือเปล่าครับ" ไท้ถามด้วยสีหน้ากังวล

เปาส่ายหน้าไปมาช้าๆ "พี่ไม่สับสนหรอก ไท้ก็รู้ว่าพี่เกลียด...คนพวกนั้นมากแค่ไหน พี่ไม่อยากอยู่ใกล้ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ที่พี่ห้ามใจกับไท้ไม่ได้ มันเป็นเพราะว่า...แรงดึงดูดระหว่างพี่กับไท้มันมากกว่าความเกลียดในใจของพี่ไง พี่อยากเกลียดไท้เหมือนที่พี่เกลียดคนพวกนั้นนะ แต่พี่ก็เกลียดไม่ได้"

การพูดโดยมีบุคคลที่สามอยู่ในห้องด้วยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เปาจะปล่อยผ่านและตัดบทดื้อๆ ก็คงไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะเขาก็ไม่อยากให้ไท้ค้างคาใจมากเกินไป ที่จริงก็ปล่อยค้างอย่างนี้มานานเกินไปด้วยซ้ำ

"สามเดือนนี้ พี่จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะพี่อยากให้แน่ใจว่าพี่ตัดความสัมพันธ์กับฟางได้จริงๆ ไท้ก็รู้ ถึงพี่จะไม่ใช่คนถูกทิ้ง แต่ทิ้งคนอื่นมันก็เจ็บเหมือนกัน อีกอย่าง พี่ก็อยากโฟกัสเรื่องงานให้มากขึ้นด้วย เพราะพี่เพิ่งเข้ามา ต้องพิสูจน์ตัวเองเยอะ รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนนะ เก็บใจไว้ให้พี่ ตอนนี้...เป็นพี่น้องกันไปก่อน"

เหตุผลอาจจะฟังดูแปลกไปบ้าง แต่ไท้ก็ไม่อยากคิดมาก ถึงยังไงไท้ก็มาทีหลัง ก็คงไม่มีอะไรดีกว่ารอให้เปาเคลียร์ปัญหาตัวเองให้เรียบร้อย จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย

"เอาอย่างงั้นก็ได้ครับ ก็ดีเหมือนกัน สามเดือนไม่นานหรอก" ไท้พูดพลางยิ้ม แต่ก็ยิ้มไม่สนิทใจ เขาหันรีหันขวาง แล้วก็ลุกขึ้น

"ไท้จะไปแล้วเหรอ" เปาถาม

"ครับพี่ ดึกแล้ว ผมไปนอนก่อนดีกว่า"

บทจะไปก็ไปดื้อๆ สิ้นคำไท้ก็เดินดุ่มๆ ตรงไปที่ประตู พลันใครบางคนก็เข้ามากอดจากทางด้านหลัง ไท้หยุดชะงัก ปล่อยให้ความอบอุ่นจากอ้อมแขนอีกฝ่ายแผ่ซ่านโอบล้อมโดยไม่ขัดขืน

"พี่รักไท้นะ ไท้อย่าโกรธพี่นะที่พี่ต้องทำแบบนี้"

เสียงเปาเบาบางเหมือนกระซิบอยู่ข้างหู แต่คำว่ารักนั้น ไม่ว่าจะพูดด้วยเสียงที่เบาหรือดังขนาดไหน มันก็สะกดใจคนได้ ไท้จึงยืนนิ่งไปหลายวินาที ทั้งอึ้งและดีใจระคนกัน คำว่ารักของเปาสะท้อนก้องในหัวจนแทบไม่ได้ยินเสียงอื่นเลย

เมื่อได้สติ ไท้ก็ค่อยๆ หมุนตัวกลับมามองหน้าคนที่กอดตนเองไว้ เปาปล่อยมือหลวมๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ เมื่อสายตาประสานกันในระยะใกล้ชิด แรงดึงดูดจากสัมผัสก็แทบจะพาใจเตลิดและหักห้ามใจไม่ได้ แต่เปาก็หักห้ามใจสุดชีวิต

ไท้คลี่ยิ้มบางๆ ก่อนเอื้อนเอ่ย "ผมจะรอพี่เปานะครับ สามเดือนนี้...ผมจะเก็บตัวแล้วก็หัวใจไว้ให้ อย่าลืมกลับมาเอานะครับ"

เปายิ้มอย่างโล่งใจ อดเอามือลูบผมไท้อย่างเอ็นดูไม่ได้ สามเดือนนั้นไม่ใช่สำหรับฟางหรอก เพราะเขาจัดการปัญหากับฟางได้เร็วกว่านั้น แต่เป็นเพราะอีกคนต่างหาก

"รอพี่นะ" เปาขอคำยืนยัน

ไท้พยักหน้าและยิ้มตอบ พักหนึ่งเปาก็ปล่อยมือที่โอบช่วงเอวออก ส่งสัญญาณว่าควรแยกย้ายกันได้แล้ว

"ไปนอนเหอะ อย่ามัวแต่อ่านคอมเมนต์ล่ะ พรุ่งนี้แม็ตช์สำคัญ" เปาเตือนก่อนจะปล่อยอีกฝ่ายไป

ไท้พยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นก็เปิดประตูออกไป

เปายืนมองจนอีกฝ่ายไปถึงประตูห้อง ก่อนไท้เข้าห้องก็ไม่ลืมหันมายิ้มให้อีกรอบ เห็นแต่ฟันขาวๆ อยู่ไกลๆ เมื่อไท้หายเข้าห้องไปแล้ว เปาจึงปิดประตูห้องและหันหลังกลับ จีนออกมาจากห้องน้ำพอดี ไม่รู้ว่าได้ยินอะไรบ้าง แต่สีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีนัก

"เราทำให้จีนขนาดนี้แล้ว พอใจหรือยัง" เปาถามเสียงเกือบห้วน

สีหน้าบึ้งตึงนิ่งเงียบ พลันจีนก็เดินเบี่ยงตัวหลบและเปิดประตูออกไปจากห้องของเปาโดยไม่พูดไม่จา ซ้ำยังทิ้งเสียงประตูดังปังไว้เป็นที่ระลึก เปาพ่นลมหายใจยาวอย่างหนักใจ ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่สัญญากับจีนอย่างนั้น

แต่ก็สัญญาไปแล้ว


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาชแห่งชาติช่วงเย็นวุ่นวายแค่ไหนนั้นใครก็รู้ ถ้าไม่จำเป็นแล้วก็ไม่อยากมาที่นี่ในช่วงเวลานี้เท่าไหร่ แต่ไม่ว่าจะวุ่นวายขนาดไหนเขาก็ต้องมา เพราะเรื่องบางเรื่องไม่สามารถรอได้

เมื่อลงมาถึงพื้นถนน เขาก็มุ่งตรงไปทางสนามกีฬา ก่อนเดินเข้าไปข้างใน ที่นี่มีทั้งสนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกายและสำนักงานราชการอยู่ ถ้าไม่สังเกตดีๆ อาจไม่รู้ แต่อาศัยว่าใช้ปากถาม ไม่นานเขาก็หาหน่วยงานที่ต้องการพบ แต่แทนที่จะเข้าไปในนั้น เขากลับยืนรอและสอดส่ายสาตาอยู่ข้างนอก สลับกับดูรูปในมือถือไปด้วย จะได้เปรียบเทียบได้และจำไม่ผิด

รอไม่นานนัก หญิงสาวที่เขาหมายตาไว้ก็เดินออกมาพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน ที่จริงเขาไม่รู้จักเธอหรอก อาศัยว่าไปส่องในเฟส เห็นข้อมูลที่ทำงานที่เธอใส่ไว้ เขาก็เลยตามมาดู ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาแล้วจะได้เจอหรือเปล่า แต่เขาก็ต้องมา

เขาเดินดุ่มๆ เข้าไปหาสามสาวที่เดินบันไดลงมา ได้จังหวะเหมาะก็แสดงตัวและร้องทัก "ฟางหรือเปล่าครับ"

ฟางหยุดการสนทนากับเพื่อนสองคนที่เดินออกมาด้วยกัน ก่อนมองชายหนุ่มที่มาดักรออย่างสงสัย เขาแต่งตัวทันสมัย เสื้อผ้าแบรนด์เนมชั้นนำบ่งบอกฐานะที่ต่างจากเธอไม่น้อย ที่จริงเธอก็มีเพื่อนหลายระดับ แต่กลับไม่เคยเห็นคนนี้เลย

"ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ"

"ผมเป็นเพื่อนของเปาครับ" ชายหนุ่มบอก

ฟางขมวดคิ้ว ก่อนพิศดูผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง ปกติเพื่อนของเปากับเพื่อนของเธอก็กลุ่มเดียวกัน แม้จะรู้จักคนอื่นๆ เพิ่มเติมบ้าง แต่เธอก็เคยเห็นและรู้จักเพื่อนของเปาเกือบทั้งนั้น หรือว่าผู้ชายคนนี้อาจจะหลงตาไปบ้าง

"ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย เกี่ยวกับเปาครับ" เขาเฉลย แต่นั่นก็ยิ่งทำให้สงสัยมากขึ้น ท่าทางของฟางจึงยังดูไม่ไว้ใจ

"เอ่อ ผมขอเวลาคุยกับฟางแป๊บนึงได้ไหมครับ" ชายหนุ่มต่อรอง

ฟางหันไปมองเพื่อนสองคน สีหน้าครุ่นคิดคล้ายกับกำลังชั่งใจ เธอติดต่อเปาไม่ได้เลยช่วงนี้ วันนั้นเปาก็ไม่ยอมมาหาเธอ ฟางจึงกังวัลใจไม่น้อย

"นานหรือเปล่า" ฟางหันมาถาม

"ไม่นานหรอกครับ แค่ห้านาทีก็น่าจะพอ คุยแถวๆ นี้ก็ได้"

ฟางหันกลับไปหาเพื่อนร่วมงาน สักพักเธอก็ตัดสินใจ "เดี๋ยวมานะ"

"อือๆ เดี๋ยวรอแถวๆ นี้แหละ" หนึ่งในเพื่อนร่วมงานบอก

ถ้าไม่ใช่เพราะอยากรู้เรื่องแฟนหนุ่ม ฟางก็คงไม่ตามชายแปลกหน้าไป เขาไม่ได้พาไปไหนไกล ใกล้ๆ แถวนี้มีสวนสำหรับออกกำลังกายเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ มีคนมาออกกำลังกายสองสามคนอยู่พอดี แต่อีกสักพักก็น่าจะหนาตามากกว่านี้

เมื่อหาที่ห่างจากการรับรู้ของคนอื่นได้ ชายหนุ่มก็เริ่มเรื่องด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปเล็กน้อย "เธอเป็นแฟนของเปาใช่ไหม"

ฟางพยักหน้า ท่าทางของเธอยังคงไม่หายสงสัย "ใช่ มีอะไรหรือเปล่าคะ"

"แล้วเป็นแฟนกันมานานหรือยัง" เขาถามต่อ

ฟางเอียงคอ เธอไม่ตอบแต่กลับย้อนถาม "อ้าว ไหนว่าเป็นเพื่อนกับเปา ถ้าเป็นเพื่อนกัน ก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ"

เขายักไหล่ ทำท่าไม่แยแส "ไม่บอกก็ไม่เป็นไร แต่เอาเป็นว่า...ถ้าเธอเป็นแฟนกับเขาไม่นาน แล้วยังไม่รู้เรื่องนี้ ก็น่าจะยังไม่ถือว่าโง่ แต่ถ้าเป็นแฟนกันมานานแล้วไม่รู้อะไรเลย เธอก็น่าจะโง่มาก"

"นี่คุณ คุณเป็นใคร ตกลงคุณต้องการอะไรกันแน่" ฟางชักสีหน้าและขึ้นเสียงเล็กน้อย

"ผมเหรอ" เขาแค่นหัวเราะ ไม่รู้ว่ามีอะไรตลก "แฟนเก่าของแฟนเธอไง"

ฟางถึงกับสะดุ้งตกใจ เธอคิดว่าเธอคงฟังผิด หรือไม่เขาก็คงพูดอะไรผิด แต่ชายหนุ่มผู้นั้นก็ย้ำชัดๆ อีกครั้ง

"เธอฟังไม่ผิดหรอก" เขาแค่นหัวเราะอีกแล้ว สีหน้าท่าทางดูเหมือนสะใจมาก "ผมเป็นแฟนกับเปาสมัยเรียนมัธยมปลาย เราเคยรักกันมาก แต่น่าเสียดาย...เขากลับหนีตัวเอง หันมาคบผู้หญิง แต่สุดท้าย...ก็หนีตัวเองไม่พ้น"

"นี่คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ ถ้าพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ ฉันจะไม่คุยด้วยแล้ว" ฟางบอกเสียงสั่น ทำท่าเหมือนจะเดินหนี

เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าแสดงความกลัวและไม่มั่นคง จีนจึงถือโอกาสเปิดเผยเรื่องที่เขามาหาเธอในวันนี้

"เธอไม่รู้เหรอว่าเปาเขาเป็นเกย์ และเขาก็ทรยศเธอ เธอยังจะกลับไปหาคนแบบนี้อีกเหรอ! ดูนี่สิ!"

จีนพูดเหมือนตะคอกใส่ฟาง พร้อมกับส่งมือถือให้ดูด้วย ฟางเห็นภาพนั้นแล้วก็อ้าปากค้าง ในภาพนั้น เปากอดกับผู้ชายคนหนึ่ง ฟางจำได้ว่าเป็นไท้ แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นอย่างนี้ แต่เธอก็ยังตกใจอยู่ดี เพราะเท่ากับตอกย้ำว่าเปาเป็นอย่างที่จีนว่าจริงๆ อย่างนี้นี่เอง เปาถึงไม่ยอมมาหาเธอเลย

"แล้วยังไง" ฟางพูดหลังรวบรวมสติได้บ้างแล้ว

"แล้วยังไง" จีนทวนคำพลางขมวดคิ้วสงสัย "งั้นฟังดีๆ"

จีนเปิดเสียงที่เขาบันทึกไว้ให้ฟางฟังด้วย เขาเลื่อนหาช่วงสำคัญแล้วก็ยื่นให้ เป็นช่วงที่เปากำลังพูดเรื่องขอเวลาสามเดือนเพื่อยุติความสัมพันธ์กับฟางพอดี เมื่อได้ยินแฟนหนุ่มพูดเรื่องนี้เต็มสองหู เธอก็ถึงกับออกอาการ

"ไม่จริง!" ฟางเสียงสั่น น้ำตาทำท่าจะไหลแหล่มิไหลแหล่

"อ้าว ไม่จริงได้ยังไง นี่มันเสียงเปาไม่ใช่เหรอ ฟังดีๆ สิ" จีนแสร้งยื่นมือถือเข้าไปใกล้

วันที่ไท้มาหาเปากลางดึกคืนนั้น จีนเข้าไปหลบในห้องน้ำ เขาแง้มประตูไว้ แม้จะมองไม่เห็นโดยตรง แต่อาศัยว่าได้ภาพสะท้อนจากกระจกบานใหญ่ข้างตู้เสื้อผ้าช่วย เขาจึงเห็นเหตุการณ์บนเตียงนอนและใช้มือถือถ่ายรูปเก็บไว้ แถมยังบันทึกเสียงสนทนาช่วงสำคัญไว้อีกต่างหาก

"ผู้ชายแบบนี้ เธอยังรักเขาได้อีกเหรอ เขากับน้องผู้ชายในรูปเนี่ย ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ที่ผ่านมา...เขาไม่ได้รักเธอเลย เขาเป็นเกย์ เป็นมาตั้งนานแล้วด้วย ที่สำคัญ...เขามีอะไรกับผู้ชาย ลีลาไม่ใช่ย่อยเลย"

ฟางทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจึงต้องเดินแกมวิ่งหนีไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพราก ถึงตอนนี้เธอคงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าเปาเป็นเกย์ เพราะเธอเองเห็นเปาจูบกับไท้เต็มตามาแล้ว กระนั้นก็พยายามคิดในแง่ดีว่าเปาอาจจะสับสน คราวนี้ฟางคงจะหลอกตัวเองไม่ได้ต่อไปแล้ว

จีนยกยิ้มมุมปาก แม้รู้ว่าเปาตั้งใจจะคุยกับฟางเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เขาก็อยากมาจุดชนวนก่อน เพราะผลลัพธ์จะต่างจากการที่เปาบอกด้วยตัวเองแน่นอน ตั้งแต่นี้ไป จีนจะทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่า ต่อไปเปาจะไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่ว่าฟาง ไท้ หรือจีน! เขาไม่อยากใจร้ายขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่อยากเป็นผู้แพ้อีกแล้ว

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ จีนก็เดินทางกลับคอนโดด้วยรถไฟฟ้า วันนี้เขาถึงกับหนีจากงานเลี้ยงฉลองทีม อาจจะเป็นมารยาทที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ เพราะคราวนี้ทีมชาติไทยทำได้ถึงที่ห้า เป็นรองจากอิหร่าน จีน เกาหลีและญี่ปุ่น นับว่าสูงสุดในประวัติศาสตร์แล้ว เพราะที่ผ่านมามักไม่ต่ำกว่าแปดเสมอ เขาจึงควรมีส่วนร่วมการเฉลิมฉลองที่สำคัญนี้

มาถึงคอนโดได้ไม่เท่าไหร่ โทรศัพท์ของจีนก็ดังขึ้น เปาโทรมานั่นเอง จีนจึงรีบกดรับ

"ว่าไงเปา"

"อยู่ไหน" ฝ่ายนั้นถามมา มีเสียงดนตรีและเสียงพูดคุยดังเป็นฉากหลัง คล้ายกับอยู่ในร้านอาหารหรือสถานที่ทำนองนั้น

"กลับบ้านแล้ว พอดี...รู้สึกไม่ค่อยสบาย ก็เลยกลับก่อน เปามีอะไรหรือเปล่า"

เสียงของเปาเงียบไปสักพัก คงกำลังครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนจะพูดตอบกลับมา ก็มีเสียงถอนหายใจนำขึ้นมาก่อน

"เราจะพาไท้กลับบ้านก่อนได้ไหม แล้วค่อย..."

"ก็ได้ ไม่มีปัญหา แต่กลับมาแล้ว เปาต้องทำตามที่สัญญาละกัน" จีนย้ำหนักแน่น

เปาเงียบอีกครั้ง ก่อนมีเสียงถอนหายใจดังขึ้นอีก "จีน จีนคิดว่าทำแบบนี้มันจะช่วยอะไรได้เหรอ"

"อ้าว ก็เปาสัญญาแล้วไม่ใช่เหรอ อย่าทำแบบนี้นะเปา ห้าปีที่จีนทรมาน...กับแค่สามเดือน มันเทียบกันไม่ได้เลยนะ" จีนตอกย้ำ

เสียงพ่นลมหายใจสั้นๆ ดังมาอีก ดูท่าทางจะหนักใจมาก "เราขออย่างงี้ก็แล้วกัน จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าทำให้ไท้เห็นได้ไหม"

"ทำไม"

"เราขอร้องนะจีน" เปารีบสวน "เรารักไท้นะจีน เราไม่อยากทำให้เขาเจ็บ เรายอมทำให้ขนาดนี้ จีนยังไม่พอใจอีกเหรอ"

คราวนี้จีนเป็นฝ่ายเงียบ อย่างน้อยคำถามนั้นก็คงทำให้ฉุกคิด แต่เมื่อถือไพ่เหนือกว่า เขาก็น่าจะต่อรองบางอย่างได้

"ก็ได้ แต่เราไม่รับรองนะว่าไท้จะไม่เห็นเลย"

"จีน เราซีเรียสกับเรื่องนี้นะจีน จีนต้องรับปากเราก่อนว่าจะไม่ให้ไท้เห็น ห้ามทำให้ไท้สงสัยอย่างเด็ดขาด" เปาบอกเสียงเข้ม

"รักไท้มากเลยเหรอ" จีนย้อน

"ใช่"

"แล้วแฟนของเปาล่ะ"

เสียงเปาเงียบไปทันที อาการแบบนี้ จีนรู้ได้ไม่ยากนักว่าเปาลังเล ก็อย่างที่เปาบอก ผูกพันกันมาตั้งสี่ปี คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเลิกกัน แต่ถึงไม่อยากเลิก ก็คงจะยากเสียแล้ว

"กลับจากพิษณุโลก เราจะคุยกับแฟนเราเอง แต่เรื่องไท้ จีนต้องรับปากเราก่อน" เปาวกกลับมาเรื่องเดิม

จีนยกยิ้ม เขาก็ไม่อยากให้ไท้รู้เรื่องข้อตกลงนี้นักหรอก เพราะเขาก็ไม่อยากให้ไท้เจ็บ เพราะคนเดียวที่จะเจ็บที่สุดคือเปาต่างหาก ดังนั้น จีนจึงรับปากได้ไม่ยากนัก

"ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เปาสบายใจได้ ไท้จะไม่รู้เรื่องของเรา"

แค่นี้เปาก็พอโล่งใจขึ้นมาได้บ้าง เขาพอกลั้นใจและฝืนใจทำตามที่ตกลงกับจีนได้ แค่สามเดือนคงไม่นานเท่าไหร่ ขออย่างเดียว อย่าให้ไท้รู้เรื่องบ้าๆ นี้ก็พอ

"งั้นก็แค่นี้" เปาพูดสั้นๆ จากนั้นก็วางสายไป

จีนเผลอยิ้มเลือดเย็น อย่างน้อยเขาก็เอาชนะเปาคืนได้บ้างแล้ว ต่อไปคงจะสนุกกว่านี้

เขาเดินมานั่งบนโซฟา เปิดแอพเฟสบุ๊คและส่งข้อความหาเด็กขายที่นัดไว้ หลังจากเครียดและเหนื่อยมาหลายวัน วันนี้เขาจะขอผ่อนคลายบ้าง โชคดีที่ที่บ้านจีนพอมีเงิน เขาจึงพอรอดผ่านห้าปีมาได้ด้วยการหาซื้อความสุข

และเสพติดการเป็นผู้ชนะปลอมๆ ด้วยอำนาจเงินที่เขามี!


TBC


หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP17 หนักใจ ◯ 18.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-02-2017 17:38:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP17 หนักใจ ◯ 18.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 18-02-2017 18:38:10
โอ้ยยยยยย..อะไรมันจะหน่วงได้เบอร์นี้


เห็นใจฟางอยู่เหมือนกันนะ
แฟนจะบอกเลิกแบบหน้าตาเฉย

มาม่าน้ำข้นมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP17 หนักใจ ◯ 18.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 18-02-2017 19:44:32
ได้เวลากำจัดจุดอ่อน เปาจะรับมือยังไง จะแสดงอาการแบบไหนนี่คือสิ่งรออ่านอยู่คับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP17 หนักใจ ◯ 18.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-02-2017 00:41:43
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP17 หนักใจ ◯ 18.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 19-02-2017 01:52:02
ขณะอ่านก็มีอาการอยากทึ้งหัวตัวเอง5555 อยากระบายจริงๆ
เรื่องนี่กลายเป็นว่าจีนไม่ได้ทำให้เปาเจ็บคนเดียวนะ ฟางเองก็เจ็บเหมือนกัน มันมีวิธีบอกที่ซอฟท์กว่านี้อ่ะ คือการให้เปามาสารภาพ ไม่ใช่จีนไปพูดจาแย่ๆ ใส่ปะ

ยังยืนยันคำเดิมนะว่าจีนสันดานไม่ดี เอาคำว่าโดนกระทำมาก่อนมาเป็นข้ออ้างการทำตัวทุเรศๆ ของตัวเอง และก็แก้แค้นโดยไม่สนใจใครอ่ะ เอาจริงๆ ฟางนับว่าเป็นเพื่อนที่ดี แฟนที่ดี คนที่ดีคนนึงเลยนะ ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้อ่ะ
ส่วนเปา.... พูดความจริงไม่ดีกว่าหรอ คิดว่าการที่ต้องไปเทคแคร์จีน ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้ไท้ ไท้จะไม่รับรู้เลยหรอ? ไท้อาจจะซื่อแต่ก็ไม่ได้โง่นะ
อยากเอาหัวกระแทกกำแพงหลายๆ ทีตอนอ่าน เห้อ

ปล. อ่านเรื่องนี้แล้วเม้นยาวตลอด อยากระบายความรู้สึกหลังการอ่าน5555555555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP18 บ้านแฟน ◯ 19.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 19-02-2017 20:46:06
EP 18 | บ้านแฟน

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpgg)

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเมืองสองแคว เป็นอีกชื่อหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก แต่เด็กสมัยนี้ไม่รู้ว่าแควคืออะไร เมื่อได้มาเห็นด้วยตาตัวเองจึงเพิ่งรู้ว่าแควคือแม่น้ำ ที่เรียกว่าเมืองสองแควเพราะมีแม่น้ำสองสายไหลผ่านตัวเมือง เขาไม่เคยมาเที่ยวจังหวัดนี้เลย ที่จริงเขาก็ไม่ค่อยไปเที่ยวหรอก ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่กรุงเทพ สมัยเรียนก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนปีละครั้งสองครั้งเท่านั้น

ถนนเลียบไปตามสายน้ำน่านดูเงียบสงบ มีคนและรถผ่านไปมาบ้าง ถ้าเทียบกับกรุงเทพก็คนละเรื่อง จักรยานสองคันแล่นสบายๆ เคียงคู่กันไป มีเสียงคุยกันมาตลอดทาง แม้ฟังเผินๆ ก็รู้ว่าเป็นการสนทนาอย่างเป็นกันเองและผ่อนคลาย

"เมื่อก่อนไท้ขี่จักรยานมาซื้อกับข้าวที่ตลาดให้แม่แบบนี้แหละ มาซื้อเกือบทุกวันเลย" หนุ่มตี๋ผิวขาวพูด ใครเห็นหน้าตาผิวพรรณก็อาจจะนึกว่าเป็นลูกคนมีฐานะ ที่จริงก็เป็นอย่างนั้น เพราะเขามีฐานะยากจน ที่ขาวก็เพราะบังเอิญได้เชื้อจีนมาจากพ่อ แถมแม่ยังเป็นคนเหนือ เขาจึงมีผิวขาวละเอียดและตาตี่ ถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสองชาติพันธุ์

"อ้าว แล้วตอนนี้ใครมาซื้อให้แม่ล่ะ" อีกคนหันไปถาม

"ส่วนมากแม่ก็จะมาซื้อเอง ไม่ค่อยให้ไอซ์มาหรอก"

"ทำไม"

"แม่เขาหวงลูกสาวไง" เขาบอกพลางหัวเราะ ส่วนอีกคนพยักหน้าเข้าใจ

ที่จริงก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน สองแม่ลูกเป็นผู้หญิงทั้งคู่ อยู่ด้วยกันที่บ้านเพียงสองคน เมื่อก่อนมีลูกชายอยู่ด้วยก็พออุ่นใจได้บ้าง แต่ตอนนี้ลูกชายก็เริ่มมีเส้นทางชีวิตเป็นของตัวเองแล้ว อาศัยว่าความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านดี ก็เลยมีคนเมตตาและดูแลกันตามประสาชาวบ้าน

"แล้วแม่ไม่หวงลูกชายบ้างเหรอ" อีกคนถามหยอก

คนถูกถามไม่ตอบ ได้แต่ทำหน้ายิ้มๆ พลันก็แกล้งปั่นจักรยานเร็วขึ้นจนแซงหน้าไป

"แค่นี้ก็เขินเหรอ" เขารีบปั่นจักรยานตาม จากนั้นก็พูดหยอกต่อ "ถึงแม่จะหวง แต่พี่ก็พร้อมพิสูจน์ใจแม่ไท้นะ เดี๋ยวจะทำให้ดูตั้งแต่วันนี้เลยเอาไหม แม่ไท้ต้องชอบพี่แน่ๆ พนันกันไหมล่ะ"

"ไม่เอาหรอก" ไท้บอกปัดแต่หน้ายิ้ม

"ทำไม ไม่อยากเป็นแฟนกับพี่เหรอ" เปาร้องถามตามหลัง จากนั้นก็เร่งความเร็วจนแซงหน้า ปั่นแข่งกันไม่นานก็เหนื่อยทั้งคู่

เมื่อมาถึงบริเวณท่าน้ำตำบลท่าทอง สองหนุ่มก็จอดจักรยานไว้ข้างทาง จากนั้นก็เดินมานั่งตรงขั้นบันไดริมแม่น้ำ อบต. ทำไว้ให้ประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจยามเย็น เวลามีแข่งเรือก็ใช้เป็นอัฒจันทร์ได้ด้วย ไท้มาดูเป็นประจำทุกปี

เปาเขยิบไปนั่งใกล้จนชิด คอยจ้องหน้าอีกคนที่หลบตา เขายอมรับว่าหลงเด็กหนุ่มคนนี้เข้าให้แล้ว คืนก่อนเดินทาง เขาเฝ้าปรนเปรอและป้อนบทรักเร่าร้อนให้อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย กอดรัดดอมดมกลิ่นกายพิเศษจากผิวพรรณขาวผุดผ่องด้วยความกระสันซ่าน ปากแดงเรื่อนั้นเล่าก็ชวนให้จูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาหลงใหลไปทั้งตัว สุขจนแทบสำลัก ไม่น่าเชื่อเลย แม้จะเกลียดแสนเกลียด แต่เกลียดอะไรก็มักได้อย่างนั้นตามโบราณว่าไว้

"ว่าไง ไม่อยากเป็นแฟนกับพี่เหรอ" เปากระเซ้าเรื่องเดิม แต่จนแล้วจนรอดไท้ก็ไม่ยอมตอบ "เป็นไรเนี่ย ถามไม่ตอบ เขินเหรอ หรือว่ากลัวแม่ว่า ถามจริง…แม่รู้เรื่องเปล่า"

ไท้รีบหันมาส่ายหน้า สงสัยหน้าจะดูตลก อีกคนจึงขำ

"แล้วไท้คิดว่าเขาสงสัยหรือเปล่า"

ไท้ทำท่านึก "ไม่น่า"

"แล้วอยากให้เขารู้หรือเปล่าล่ะ"

คิ้วบนหน้าตี๋ๆ มุ่นเข้าหากัน บ่งบอกความลังเลใจ คนอายุมากกว่าจึงต้องหาทางลง

"งั้นก็อย่าเพิ่งบอกเขาเลย ค่อยๆ ทำให้เขาสงสัยก็ได้" เปายิ้มอารมณ์ดี ก่อนทอดสายตาไปยังสายน้ำที่ไหลเอื่อย คล้ายกับวิถีชีวิตของคนที่นี่ แต่เปาก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เพราะคุ้นเคยแต่กับวิถีชีวิตที่เร่งรีบในเมืองมากกว่า

"อากาศดีนะ นานๆ จะได้มาสูดอากาศแบบนี้ซะที" เปาทำท่าสูดอากาศและหลับตาพริ้มไปด้วย แต่พออีกคนยังเงียบ เขาจึงหันไปมองอย่างสงสัย

"เป็นไรหรือเปล่าไท้" เปาเอียงหน้ามอง พลางเอื้อมมือไปโอบไหล่อีกฝ่าย

ไท้ยังคงนิ่งเงียบสักพัก แต่ด้วยเกรงอีกฝ่ายจะไม่สบายใจ เขาจึงหันมาคุยด้วย "คิดอะไรนิดหน่อยครับ"

"บอกพี่ได้เปล่า"

สีหน้าลังเลฉายชัดขึ้น แต่ไม่นานไท้ก็ยอมเปิดปาก "ตอนนี้…ไท้ยังจนอยู่ ผมกับพี่ก็ฐานะต่างกันมาก แต่ถ้าผมประสบความสำเร็จในอาชีพ แล้วก็มีรายได้มากกว่านี้เมื่อไหร่ ผมจะดูแลพี่เปาให้ดีกว่าตอนนี้นะครับ"

"ไท้หมายถึงอะไร" เปาทำหน้าฉงน

"ไม่มีอะไรหรอกครับ ตอนนี้พี่เปาดูแลผมเยอะ ผมแทบจะไม่ได้ออกเงินช่วยพี่เลย ก็เลย…รู้สึกไม่ค่อยสบายใจน่ะครับ"

"โธ่ พี่ก็นึกว่าเรื่องอะไร" เปาหัวเราะเบาๆ พร้อมกับตบไหล่คนอายุน้อยกว่าอย่างเอ็นดูด้วย ก่อนหรี่ตาและครุ่นคิด

ตอนที่เปาคบกับจีน ดูเหมือนไม่มีปัญหาเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะจีนก็มาจากครอบครัวร่ำรวย แม้ว่าจีนจะถูกหลอกให้ออกเงิน แต่ก็ไม่มีปัญหา พอเป็นแฟนกับฟาง เปาต้องเป็นฝ่ายดูแลเทคแคร์เป็นส่วนใหญ่ เพราะนี่คือบทบาทที่สังคมคาดหวังจากผู้ชาย ฟางเองก็ไม่เคยยกประเด็นนี้มาเป็นปัญหา เปาก็เลยลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป

"งั้นพี่จะเอาคืนให้เยอะๆ เลยนะ" เปาพูดหยอก ก่อนเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง "ไท้ไม่ต้องห่วงหรอก พี่จะช่วยไท้เอง ไท้เป็นคนตั้งใจ ขยัน อดทน อีกไม่นานไท้ก็จะประสบความสำเร็จ โอกาสดีๆ รอไท้อยู่อีกเยอะ เมื่อวานก่อน พ่อบอกพี่ว่ามีสโมสรติดต่อมาที่สมาคมแล้ว เขาอยากได้ไท้ไปเล่นให้"

"จริงเหรอครับ" ไท้ตาโต

เปาพยักหน้า "จริงสิ รอไท้หมดสัญญากับสมาคมก่อนละกัน ไปอยู่กับสโมสรแล้ว ไท้จะมีรายได้ดีกว่านี้หลายเท่าเลย"

ไท้ทำหน้าชวนฝัน พอครบหนึ่งปี เขาก็จะหมดสัญญากับสมาคมแล้ว ถึงตอนนั้นก็จะเป็นอิสระ ถ้าฝีมือโดดเด่นมากพอ เขาก็จะไปต่อได้ไม่ยาก โอกาสประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้อยู่ไม่ไกลเกินฝัน

จังหวะนั้น เสียงรถขายไอศครีมแว่วเข้ามาในโสตประสาท แค่ได้ยินเสียงไท้ก็จำได้ เจ้านี้เป็นเจ้าประจำที่ไท้มักซื้อกินบ่อยๆ เขาดีดตัวลุกขึ้นและหันไปชวนอีกฝ่าย

"ไปกินไอติมกันครับพี่เปา"

เปาพยักหน้าตกลง ก่อนลุกขึ้นและเดินแกมวิ่งตามไท้ไปยังรถเข็นขายของ พอไปถึง ลุงคนขายก็ยิ้มให้และทักทาย

"อ้าวไท้ หายไปไหนมา พักนี้ลุงไม่เห็นเลย"

"ไปอยู่กรุงเทพมาครับลุง ตอนนี้ผมติดทีมชาติแล้ว ลุงได้ดูที่ผมแข่งในทีวีหรือเปล่า" ไท้พูดคุยด้วยอย่างเป็นกันเอง

ลุงคนขายส่ายหน้าไปมา "ลุงไม่ค่อยมีเวลาดูหรอก เอ…แล้วนี่ใครล่ะ"

พอถูกถามเรื่องนี้ทีไร ไท้ก็มักทำหน้าไม่ถูก ตั้งแต่มาถึงเมื่อตอนบ่ายแก่ๆ เขาโดนคนแถวบ้านถามหลายคนแล้ว "อ๋อ…โค้ชผมครับ เขาไม่เคยมาเที่ยวพิโลก ผมก็เลยชวนมา"

"อ้อ เป็นไงครับคุณ ชอบที่นี่ไหมครับ" ลุงคนขายหันไปคุยกับเปา

"ชอบครับลุง สงบดีครับ อากาศก็ดี แล้วนี่ลุงขายไอติมอะไรบ้างครับ" เปากวาดตามองอุปกรณ์และสิ่งของบนรถเข็นด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น

"เดี๋ยวผมแนะนำให้" ไท้อาสา จากนั้นก็สาธยาย "อันนี้เขาเรียกว่าไอติมมะพร้าวครับพี่ มีรสเดียว แต่ว่ากินได้หลายแบบ จะใส่ถ้วยพลาสติกก็ได้ ใส่โคนก็ได้ หรือจะใส่บนขนมปังก็ได้ แล้วก็ราดนม ส่วนพวกนี้ก็เอาไว้โรย มีถั่วลิสง ถั่วเหลืองๆ ไม่รู้เรียกว่าถั่วอะไร แต่อร่อยดี มันๆ เค็มๆ แล้วก็มีลูกชิด มะพร้าว มันเชื่อม ขนุน ข้าวโพด แล้วแต่ชอบเลย พี่เปาอยากลองแบบไหนครับ"

"ใส่ถ้วยละกัน" เปาบอก

ไท้จึงหันไปจัดการสั่งให้ ไม่นานทั้งสองคนก็ได้ไอศครีมคนละถ้วยมาถือในมือ

"ผมเลี้ยงนะพี่" ไท้บอก พลางส่งถ้วยไอศครีมให้เปาช่วยถือไว้ ก่อนควักกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง จ่ายเงินค่าไอศครีมไปเพียงยี่สิบบาทเท่านั้น

เมื่อจ่ายเงินแล้ว สองหนุ่มก็เดินกลับมานั่งที่เดิม กินไอศครีมไป คุยกันไป ทอดสายตาดูแม่น้ำไปด้วย

"อร่อยไหมพี่ ไอติมบ้านๆ" ไท้ถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ

"ก็พอได้อยู่" เปาบอก พลางก็ตักชิมไปเรื่อยๆ รสชาติหวานๆ มันๆ ถ้าเทียบกับยี่ห้อที่เปาชอบกินก็คงห่างไกลกันมาก กระนั้นก็ยังพอกินได้

"ตอนนี้ ผมคงเลี้ยงพี่ได้แค่นี้ แต่ว่า…มันก็มาจากใจผมนะพี่"

ประโยคนี้ทำให้เปาถึงกับชะงัก มือที่กำลังจะส่งช้อนเข้าปากพลันหยุดนิ่ง เขาวางช้อนลงในถ้วย ก่อนเอื้อมมือไปลูบผมไท้เบาๆ และยิ้มอย่างเอ็นดู

"อย่าคิดมาก ที่จริงไท้ก็ช่วยพี่หลายอย่างนะ ตอนอยู่บ้านก็ช่วยดูแลเมสซี่กับเนยมาร์ให้พี่ กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ทำอาหารให้กินด้วย แค่นี้พี่ก็รู้แล้วว่าไท้น่ะ…ไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น พี่น่ะ…ไม่เคยคบใครที่ฐานะหรอก พี่คบที่ใจต่างหาก" เปายิ้มละไม ยิ่งได้รู้จักนิสัยใจคอมากขึ้น เขาก็ยิ่งหลงรักผู้ชายคนนี้

"ซึ้งจัง" ไท้หัวเราะระคนเขิน คงเป็นเพราะถูกอีกฝ่ายจ้องตา นี่เองที่เขาเรียกว่ารักกันปานจะกลืนกิน

"เดี๋ยวพี่จะทำให้ซึ้งกว่านี้อีก พี่น่ะ…รักใครรักจริงนะ แต่ถ้าเกลียด…ก็เกลียดจริงเหมือนกัน"

"ถ้าเกิดวันหนึ่งไท้ทำอะไรไม่ดีขึ้นมา พี่เปาจะเกลียดผมหรือเปล่าครับ"

เปาเอียงคอ คิ้วย่นเข้าหากัน "พี่ยังนึกไม่ออกเลยนะว่าไท้จะทำอะไรไม่ดี"

"เผื่อมีไงครับ" ไท้หัวเราะ

"ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่ก็มีนิสัยไม่ดีตั้งหลายอย่าง คนเราไม่สมบูรณ์แบบทุกคนหรอก ก็ดีบ้างแย่บ้างทุกคนแหละ จำเอาไว้นะ ถ้าไท้ไม่หักหลังพี่ พี่ก็ไม่เกลียดไท้"

"ไท้ไม่กล้าหักหลังพี่เปาหรอก ตัวใหญ่แบบนี้ ใครจะหักไหว" ไท้พูดติดตลก ก่อนทั้งคู่จะหัวเราะ

"กลับกันหรือยัง เดี๋ยวแม่รอนาน" เปาถาม ที่จริงตอนออกมาซื้อกับข้าว ไท้บอกแม่ไปแล้วว่าอาจจะนานหน่อย เพราะจะถือโอกาสพาเปาออกมาดูบรรยากาศและวิถีชีวิตของคนที่นี่ด้วย

"อ้อ เกือบลืมไปเลย" ไท้ขำตัวเอง

"เราจะอยู่ที่นี่แค่สามวันสองคืนใช่ไหม" ก่อนจะลุกขึ้น เปาก็ถามด้วยสีหน้าท่าทางแปลกๆ

"ครับ" ไท้ตอบงงๆ

"ไม่เพิ่มวันใช่ไหม"

ไท้ส่ายหน้า "ไม่เพิ่มครับ ผมต้องกลับไปซ้อมต่อ มีอะไรหรือเปล่าครับ" ไท้ชักสงสัย

เปายิ้มกรุ้มกริ่ม ตาหวานเยิ้ม แถมแววตายังเป็นประกายวิบวับ "ก็…กลับไป พี่ว่าจะขอต่ออีกหน่อย ยังไม่จุใจเลย"

"หื่นนะเนี่ย" ไท้แกล้งว่า แต่สีหน้ายิ้ม

"พี่รู้ว่าไท้ชอบ" เปาหัวเราะชอบใจ "แต่อยู่นี่ พี่ไม่กล้า เดี๋ยวว่าที่แม่ยายจะว่าเอา"

ไท้ทำหน้าเหลอ ก่อนส่ายหน้าไปมา "พี่เปาขี้ตู่เหมือนกันนะเนี่ย ใครบอกว่าผมจะยอม"

"อ้าว งั้นพี่ก็แย่สิ ให้ไปทั้งตัวทั้งใจแล้ว" เปาแกล้งร้องไห้กระซิกๆ ไท้จึงขำใหญ่

"พี่เปานี่ก็ตลกเป็นเหมือนกันนะเนี่ย"

"พี่ตลกเฉพาะกับคนที่พี่รักเท่านั้นนะ" เปาไม่วายหยอดคำหวาน

"พอแล้ว กลับบ้านดีกว่า น้ำตาลหก เดี๋ยวมดจะกัดเอา" ไท้บอกพลางลุกขึ้น ก่อนวิ่งขึ้นไปตรงที่จอดจักรยานไว้พร้อมกับเสียงหัวเราะร่า

เปารีบวิ่งตามขึ้นไปทันที สีหน้าของเขาบ่งบอกว่ามีความสุขจนล้น เขาไม่เคยหัวเราะและหยอกเล่นกับคนรักอย่างนี้มานานแล้ว กับฟางก็ไม่ใช่แบบนี้

แม้กระทั่งจีนก็ไม่ใช่แบบนี้เหมือนกัน

... ... ...

ตอนแรกไท้ก็นึกว่าเปาแค่พูดเล่น ที่ไหนได้ พอมาถึงบ้าน เปาก็เข้าครัวช่วยแม่ทำอาหารเย็น ถึงแม่บอกไม่ให้ช่วยเพราะเห็นว่าเป็นแขก แต่เปาก็ดื้อช่วยจนได้ เขาคอยเป็นลูกมือ ช่วยตำน้ำพริก หั่นผัก หั่นเนื้อสัตว์ ตามแต่แม่ของไท้จะให้ช่วยทำอะไร แรกๆ ก็เก้ๆ กังๆ เพราะเปาไม่เคยทำอาหารบนพื้น แต่พอปรับตัวได้ก็เริ่มสนุก

ไม่นานอาหารเย็นก็เสร็จเรียบร้อย มีคนมานั่งล้อมวงกินอาหารเย็นกันหลายคน ลุงกับป้าข้างบ้านพาลูกชายกับลูกสาวมากินข้าวด้วย ทั้งสองบ้านสนิทสนมกันมาหลายปีแล้ว ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด แม้ไม่ใช่ญาติ แต่ลุงกับป้าข้างบ้านก็เอ็นดูแม่ของไท้ เพราะทั้งคู่เวทนาที่เธอโดนสามีทิ้ง แถมยังต้องปากกัดตีนถีบเลี้ยงลูกสองคนเพียงลำพัง เธอจึงเลี้ยงลูกรอดมาจนถึงทุกวันนี้

"ตอนที่พ่อผมมาที่นี่ น้าไม่กลัวพ่อผมหลอกเหรอครับ" ระหว่างนั่งขัดตะหมาดกินข้าว เปาก็ชวนคุย เขากินอย่างเอร็ดอร่อย แต่มันก็เผ็ดเอาเรื่อง จึงกินไปสูดปากไป ไอซ์ต้องคอยรินน้ำใส่แก้วให้เรื่อยๆ

"ตอนแรกก็กลัวอยู่ แต่คิดไปคิดมา น้าก็สงสารไท้มัน มันอยากเอาดีทางด้านนี้ ถ้าน้าไม่ให้ไป มันก็จะเสียโอกาสเปล่าๆ ตอนนั้นโค้ชเขาก็มาหาที่บ้านทุกวัน แข่งเสร็จเขาก็พาไท้กลับมา บางวันก็มากินข้าวที่นี่ด้วย" แม่ของไท้เล่า

"เขามาปรึกษาลุงกับป้าทุกวันเลย ทิพย์เขาก็ห่วงลูก เรื่องกลัวถูกหลอกน่ะไม่เท่าไหร่หรอก เขากลัวไท้อยู่กรุงเทพไม่ได้ กลัวไม่มีคนดูแล อีกอย่าง กรุงเทพมันก็แสงสีเยอะ เขากลัวลูกชายจะหลงแสงสี กลัวไปสารพัดอย่างตามประสาแม่นั่นแหละ" ป้าน้อยเสริม

"ก่อนโค้ชจะกลับ ลุงก็เลยพาหมอดูมาดูดวงให้ไท้มัน หมอดูเขาบอกว่าไท้มันจะโชคดี มีผู้ใหญ่สนับสนุน อีกไม่กี่ปีมันก็จะประสบความสำเร็จ ได้ไปอยู่ต่างประเทศ มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นั่นแหละ…เขาถึงยอมให้ลูกไปกับโค้ช" ลุงเลื่อนเล่าบ้าง แอบขำเบาๆ ตอนท้ายด้วย จะว่าไปก็น่าแปลก คนเราพอตัดสินใจเองไม่ได้ หมอดูมักจะเป็นตัวช่วยที่ดีเสมอ

"โห…ขนาดนั้นเลยเหรอครับ" เปาทำตาโต "แต่ก็น่าจะจริง ไท้ขยันซ้อมมาก ซ้อมหนักกว่าทุกคนเลย บางทีเพื่อนเลิกซ้อมหมดแล้ว เขาก็ยังซ้อมต่อ" เปาพูดจบก็ยกแก้วน้ำมาจิบแก้เผ็ด

"พี่เปาเอาข้าวอีกไหมคะ" ไอซ์ถาม พลางยื่นมือไปรอรับจานข้าว เปายื่นไปให้พร้อมกับยิ้มเป็นเชิงขอบคุณ จานนี้เป็นจานที่สามแล้ว

"พี่เปาสู้ๆ" ไท้พูดหยอก นึกขำที่เปายอมทนกินเผ็ดจนหน้าแดงไปถึงหู

"อร่อยมากเลยครับ ผมไม่เคยกินข้าวอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย" เปาชมพลางหันไปรอบๆ ก่อนหยุดสายตาที่ไท้

"ตอนพี่ไท้อยู่นี่ หนูก็เห็นเขาซ้อมทุกวัน เลิกเรียนปุ๊บก็ซ้อมปั๊บ หนูก็เล่นวอลเลย์เหมือนกันนะ แต่ไม่ขยันซ้อมเท่าพี่เขาหรอก ก็เลยเล่นไม่เก่ง" จิ๋วเล่าพลางขำ เธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องของป้าน้อยและลุงเลื่อน เรียนอยู่มอห้า อายุน้อยกว่าไอซ์หนึ่งปี ส่วนแจ้งเป็นพี่ชายของเธอ ห่างกันสามปี เป็นคนไม่ค่อยพูด เขาคบหาดูใจกับไอซ์มาได้หลายเดือนแล้ว

คำบอกเล่าของใครๆ ต่างก็เป็นไปในทางชื่นชม คนถูกชมจึงยิ้มไม่หุบ

"คนขยันเขาถึงได้โอกาสดีๆ ไงลูก ดูไท้เป็นตัวอย่างเอาไว้ เห็นไหม ฟ้ามีตา อีกหน่อยพี่เขาก็จะไปไกลกว่านี้" ป้าน้อยหันไปบอกลูกสาว

"งั้นจิ๋วขอลายเซ็นพี่ไท้ไว้ก่อนดีกว่า กลัวพี่ไท้ดังแล้วหยิ่ง" จิ๋วสัพยอก

"ไม่ขนาดนั้นหรอก" ไท้หัวเราะ

"คุณน้าเก่งนะครับ เลี้ยงลูกสองคนจนโตด้วยตัวเอง สอนลูกก็เก่งอีกต่างหาก ปกติพ่อผมไม่เคยรับอุปการะใครเลยนะครับ เพิ่งรับไท้มาเป็นคนแรก เขาชื่นชมไท้มาก" เปาชมลูกชายต่อหน้าว่าที่แม่ยายซึ่งหน้า คนเป็นแม่ดูปลื้มไม่น้อย

"แม่ผมเก่งอยู่แล้ว" ไท้รับลูก พลางเอียงคอไปซบไหล่แม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ

"พ่อแม่เขาขยันทั้งคู่ ลูกก็เลยขยันตาม" ป้าน้อยบอกด้วยสีหน้าชื่นชม

เมื่อได้ยินคำว่าพ่อ เปาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพ่อของไท้หายไปไหน เขารู้แค่ว่าพ่อของไท้เลิกกับแม่ตั้งแต่ไท้กับไอซ์ยังเด็กๆ แต่ก็ไม่รู้รายละเอียดมากว่าเลิกกันเพราะอะไร

สีหน้าของทุกคนยังดูธรรมดา ไม่มีใครสะดุดใจกับคำว่า "พ่อ" เลยสักคน การสนทนาก็ยังคงดำเนินต่อไป ก่อนจะเลิกวงอาหารเย็น ไอซ์ก็ไม่ลืมเตือนพี่ชาย

"พี่ไท้ พรุ่งนี้อย่าลืมตื่นแต่เช้านะ จะได้ใส่บาตรด้วยกัน ไม่ได้ใส่บาตรด้วยกันนานแล้ว พี่เปาตื่นไหวไหมคะ จะได้มาใส่บาตรด้วยกัน" ไอซ์หันไปถามเพื่อนพี่ชายตอนท้าย

"กี่โมง"

"ตีห้าครึ่งค่ะ" ไอซ์บอก

"ที่นี่ใส่บาตรกันเป็นประจำเลยเหรอ"

"ค่ะ บ้านเราชอบทำบุญ ว่างๆ ก็จะไปทำบุญที่วัดกัน"

"ได้ๆ" เปาตอบรับ ก่อนทำท่าครุ่นคิด ไม่นานเขาก็พูดออกมา "วัดพระพุทธชินราชอยู่ไกลจากนี่ไหมครับ"

"ไม่ไกลหรอกจ้ะ คุณเปาอยากไปไหว้พระเหรอ" น้าทิพย์ถาม

"ครับ เห็นเขาว่าพระที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก ผมอยากไปไหว้พระขอพรสักหน่อยครับ"

น้าทิพย์ยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วย "ก็ดีเหมือนกัน ถ้าคุณเปาไป น้าว่าจะขอติดรถไปด้วยสักหน่อย ไม่ได้ไปไหว้พระที่นั่นมาหลายปีแล้ว พอจะได้หรือเปล่า"

"ได้เลยครับ ไปด้วยกันหมดนี่เลยก็ได้ครับ เบียดๆ กันหน่อย คุณลุงคุณป้าไปด้วยกันไหมครับ" เปาหันไปถามอีกครอบครัว

"อ๋อ ป้ากับลุงมีธุระพรุ่งนี้ทั้งวันเลย คุณเปาพาทิพย์กับไท้ไปเถอะค่ะ ไอซ์มีเรียนหรือเปล่า ไปกับพี่เขาสิ"

"พรุ่งนี้วันเสาร์จ้ะป้า" ไอซ์ตอบผู้สูงวัย

"เออๆ ป้าก็ลืมวันลืมคืน ไม่ได้ไปโรงเรียนกับเขามาสี่สิบกว่าปี ก็เลยจำวันไม่ค่อยได้" ป้าน้อยพูดติดตลกเรียกเสียงหัวเราะ

ไอซ์กับจิ๋วช่วยกันเก็บจานชามไปล้างหลังบ้าน ผู้ใหญ่สามคนไปนั่งคุยกันหน้าบ้าน แจ้งขอตัวกลับก่อน ส่วนไท้พาเปาเข้าไปในห้อง เตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าไปอาบน้ำ

เมื่อมาถึงในห้อง ไท้ก็ยื่นผ้าขาวม้าของเขาให้

"อะไรเหรอ"

"ผ้าขาวม้า เอาไว้ใส่อาบน้ำไงครับ"

"อ้อ แล้ว…มันใช้ยังไงล่ะ" เปาทำหน้างงขณะรับมาถือไว้

"เดี๋ยวผมสอน"

ไท้แย่งผ้าขาวม้ามาจากมือเปา คลี่ออกเป็นผืน จากนั้นก็เอามาพันเอวตัวเองพร้อมกับผูกปมให้ดูเป็นตัวอย่าง

"แบบนี้ครับ ไม่ยากหรอก"

"ไท้ผูกให้พี่ดีกว่า พี่ทำไม่เป็นหรอก" พูดจบเปาก็ถอดเสื้อกับกางเกงออก เหลือแต่ชุดชั้นในสีเทา

ไท้รีบเอาผ้าขาวม้าพันเอวให้เปาทันที เขาไม่ได้ล็อคห้องจึงกลัวคนมาเห็น ขณะก้มๆ เงยๆ ผูกปมให้ หนุ่มผู้พี่ก็ขโมยหอมแก้มเบาๆ และกระซิบกระซาบข้างหู

"พี่จะขาดใจแล้วนะไท้ ถ้าพี่อดใจไม่ไหวจะทำไงดี"

ไท้ยกมือจุ๊ปากพร้อมกับส่ายหน้าไปมา "ไม่ได้"

แม้จะทำเสียงดุ แต่ทั้งสองคนก็ขำ จากนั้นไท้ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง ที่จริงเขามีผ้าขาวม้าแค่ผืนเดียว แจ้งเพิ่งให้มาเพิ่มอีกหนึ่งผืนเมื่อตอนเย็นๆ ก็เลยเอาผืนนั้นให้เปาใช้

เมื่อเรียบร้อย ไท้ก็พาเปาไปอาบน้ำที่โอ่งหลังบ้าน ทั้งคู่เตรียมของใช้ส่วนตัวจากกรุงเทพมาด้วย เปาดูตื่นเต้นและเก้ๆ กังๆ ไม่น้อย ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่ห่างจากกรุงเทพแค่ไม่กี่ร้อยกิโลเมตร แต่วัฒนธรรมการอาบน้ำกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว กระนั้น เปาก็สนุกกับการใช้ขันตักน้ำอาบ

อาบไปอาบมาก็แกล้งกันตามประสาผู้ชาย เปาเริ่มก่อนด้วยการดึงผ้าขาวม้าเปียกๆ ของไท้ ไท้ก็เลยแกล้งคืนบ้าง ผ้าขาวม้าของเปาหลุด พอจะเอามาพันตัวใหม่ก็ทำไม่เป็น เขาจึงขอให้ไท้ช่วย แต่ไท้กลับหัวเราะชอบใจ เปาจึงอาศัยทีเผลอดึงของไท้จนหลุดบ้าง พอไท้จะแย่งคืนเขาก็ไม่ให้ เสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังไปจนถึงหน้าบ้าน ชวนให้ผู้ใหญ่สงสัยในความสนิทสนม

สองหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำนานพอสมควร เพราะเปาไม่คุ้นเคย แต่ครั้งแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดี อาบเสร็จก็ออกมานั่งคุยกันหน้าบ้าน มีแคร่เล็กๆ ให้นั่ง มีเปลยาวผูกกับเสาไว้ข้างๆ ด้วยหนึ่งตัว เปาเลือกนอนในเปลตัวนั้น

ป้าน้อยกับลุงเลื่อนกลับไปแล้ว เหลือแต่น้าทิพย์ ไท้เล่าชีวิตในกรุงเทพให้แม่กับน้องสาวฟังเป็นส่วนใหญ่ พักหนึ่งไอซ์ก็ขอตัวไปอาบน้ำ เสร็จแล้วเธอก็กลับมาคุยต่อ แม่จึงขอตัวไปอาบน้ำเป็นคนสุดท้าย

เมื่อเหลือกันอยู่สามคน ไอซ์ก็ยิ้มมีเลศนัย ดูแปลกจนพี่ชายกับเพื่อนพี่ชายชักระแวง

"พี่สองคน…เป็นแฟนกันเหรอ"

ไท้ถึงกับสะดุ้ง ส่วนเปาดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเปลทันที หน้าตาเลิ่กลั่กด้วยกันทั้งคู่

"อย่ามาฟอร์ม ไอซ์สังเกตดูตั้งนานแล้ว" ไอซ์พูดเมื่อเห็นทั้งสองคนยังเงียบและมองหน้ากันไปมา

"อย่าเพิ่งบอกแม่นะไอซ์" ไท้รีบปรามน้องสาวเมื่อได้สติ

"ไม่บอกหรอก ไอซ์แค่อยากรู้เฉยๆ" ไอซ์พูด จากนั้นก็ยิ้มแฉ่ง "แต่ไอซ์ว่าก็ดีนะ พี่สองคน เคมีเข้ากั๊นเข้ากัน"

เมื่อเห็นสองคนยังเงียบ ไอซ์จึงเอะใจ "กลัวเหรอ พี่เปาไม่ต้องกลัวหรอก แม่ไอซ์น่ะใจดีจะตาย ถึงเขารู้เขาก็ไม่ว่าหรอก ใช่ไหมพี่ไท้" ไอซ์หันมาถามพี่ชายตอนท้าย

"อือ แต่ยังไง ไอซ์ก็อย่าเพิ่งไปบอกแม่ละกัน เอางี้…เดี๋ยวพี่ให้ตังค์ไปซื้อเสื้อหนึ่งตัว" ไท้ติดสินบนเสียเลย มีของแลกเปลี่ยนจะได้อุ่นใจมากขึ้น

"งั้นพี่ให้อีกหนึ่งตัว" เปาเสริม

"จะดีเหรอ" ไอซ์ทำหน้าเกรงใจ แต่ก็ยิ้มกริ่ม

"ดีสิ" ไท้ย้ำ

"ไหว้พระเสร็จแล้ว พี่จะพาไปซื้อที่เซ็นทรัลเลย ดีไหม" เปารับลูก ต่างคนต่างช่วยกันทำมาหากิน

คราวนี้ไอซ์ตาโต ปกติเธอไม่ค่อยไปที่ห้างนั้นในตัวเมืองเท่าไหร่ เพราะเสื้อผ้าที่นั่นราคาแพง เธอจึงซื้อที่ตลาดนัดแถวบ้านเป็นหลัก

"ก็ได้" สาวน้อยยิ้มดีใจ "แต่ถึงไม่พาไป ไอซ์ก็ไม่บอกหรอก ยกเว้นว่าแม่จะสงสัยเอง"

ประโยคหลังทำให้ไท้ถึงกับเสียวสันหลังวาบ แต่พอจะถามอะไรต่อ ไอซ์ก็วิ่งเข้าห้องตัวเองไปเสียก่อน

"ไปนอนแล้ว เจอกันพรุ่งนี้"

ไท้กับเปามองหน้ากันแล้วก็ขำ ถึงรู้ว่าแม่ใจดี แต่ไท้ก็ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาเป็นลูกชายคนเดียว ไม่รู้ว่าแม่จะรับได้หรือเปล่า

เมื่อไม่มีใครอยู่ สองหนุ่มจึงเข้านอนบ้าง ที่บ้านนี้มีชั้นเดียว สร้างด้วยปูนสลับไม้ ดูค่อนข้างเก่าและโทรม มีสองห้องเอาไว้ซุกหัวนอน ไอซ์นอนกับแม่ ส่วนไท้นอนคนเดียวอีกห้อง

แม่เตรียมที่นอนหมอนมุ้งไว้ให้เรียบร้อย มีมุ้งกางให้ ฟูกนอน หมอนและผ้าห่มสำหรับสองคน เปารู้สึกว่าหมอนแข็งไปหน่อย แต่ก็พอนอนได้ เมื่อหัวถึงหมอน เขาก็ซุกตัวเข้ากอดไท้โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว

"พี่ไม่ทำอะไรหรอก แค่นอนกอดเฉยๆ" เปารีบบอกก่อนอีกคนจะพยายามดิ้นหนี

"จริงนะ" ไท้ถามย้ำ

"จริงสิ พี่ทั้งรักทั้งหลงไท้ขนาดนี้ ไท้ว่าไงพี่ก็ว่าตามนั้น" เปาบอก พลันก็ซุกหน้าเข้าสูดดมตรงซอกคอไท้เบาๆ "พี่ไม่เคยมีความสุขแบบนี้เลยนะไท้ พี่รักไท้นะ ไท้รักพี่หรือเปล่า ไม่เห็นบอกรักพี่เลย"

"รักสิครับ ถ้าไม่รักก็ไม่ยอมหรอก" ไท้ตอบเขินๆ

"ชื่นใจจัง" เปากอดกระชับอีกฝ่ายแน่น ยิ้มสุขไปทั้งใบหน้า


TBC



หลังตอนนี้ จะลดความถี่ในการอัปเดตลงไปสักพักนะครับ งานเริ่มเยอะ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP18 บ้านแฟน ◯ 19.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 19-02-2017 21:02:04
อ่านพวกเขางุ้งงิ้งกันแล้วปลื้มปิติมาก ไม่อยากให้กลับกรุงเทพฯ เลยค่ะ555555555555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP18 บ้านแฟน ◯ 19.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 19-02-2017 23:07:07
   ชอบมุ้งมิ้งๆกันดีอะ มีความสุขกันสองคนที่ไหนล่ะ คนอ่านก็ยิ้มไปด้วย
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP18 บ้านแฟน ◯ 19.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-02-2017 23:09:48
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP18 บ้านแฟน ◯ 19.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-02-2017 19:57:23
หวานกันเข้าไป
มันเหมือนความฝัน

ช่างไม่รู้อะไรเลยว่า
มีสิ่งหนึ่งกำลังรออยู่
ข้างหน้านั่นน่ะ
มันดูมืดมิดและทะมึน
อย่างใจจดใจจ่อ

หุหุ หวังว่าจะรับมือกับมันได้
เพราะนั่นน่ะมันคือ..ของจริง

บวกเป็ดฮับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP18 บ้านแฟน ◯ 19.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 20-02-2017 21:42:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP19 บ้านแฟน ◯ 21.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 21-02-2017 19:45:41
EP 19 | หักอก

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpgg)

"เลว!"

สิ้นคำพูดนั้น ฝ่ามือและนิ้วเรียวก็ฟาดลงบนใบหน้าของเขา แม้ครั้งหนึ่งจะเคยพูดว่าเธอสามารถให้อภัยได้ถ้ารู้ว่าเขาทำไม่ดี แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่พูดแล้ว

เพี๊ยะ!

เจ้าของฝ่ามือยืนสั่น ริมฝีปากสั่นระริก แม้พยายามสะกดกลั้นน้ำตาไว้แค่ไหน เธอก็ไม่อาจห้ามมันได้

"เอาอีกสิฟาง"

คนโดนตบท้าทาย ไม่ใช่เพราะสนุก แต่ในเวลานี้ เขายอมให้คนตรงหน้าทำอะไรกับเขาก็ได้ ขอเพียงแค่ชดใช้ให้เธอบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี

"เปาทำแบบนี้กับฟางได้ยังไง ทำได้ยังไง!" เสียงแหลมตวาดลั่น ความเจ็บปวดรวดร้าวในดวงตาคู่นั้นช่างทารุณ แม้กระทั่งคนที่เห็นก็พลอยเจ็บปวดไปด้วย

"เปาขอโทษ" นั่นคือคำพูดเดียวที่ดีที่สุดในเวลานี้ แต่เขากลับคิดว่าไม่พูดเสียดีกว่า เพราะมันฟังดูชุ่ยและไร้ความรับผิดชอบมากกว่าจะดูดี

"ขอโทษเหรอ!" หญิงสาวใช้มือผลักอกชายหนุ่มตรงหน้า "แล้วทำไมเพิ่งมาขอโทษ ห้าปี...มันสายไปไหมที่จะมาขอโทษ!"

"เปา..." เสียงของเขากลืนหายไป รู้ดีว่าไม่มีคำแก้ตัวไหนจะช่วยให้คนตรงหน้ารู้สึกดีขึ้นได้

"ไหนเคยบอกว่าเกลียดไง สุดท้าย...เปาเคยว่าพ่อยังไง เปาก็เป็นอย่างนั้นซะเอง!" เธอระเบิดอารมณ์ใส่ แม้รู้ดีว่าการพูดเรื่องในครอบครัวของเปามีความเสี่ยง เพราะเปาอาจจะไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คราวนี้เปากลับไม่โต้ตอบ

เปาก้มหน้า น้ำตาลูกผู้ชายรินไหล ใครว่าการบอกเลิกเป็นเรื่องง่าย บางครั้งเปากลับคิดว่าเขายอมเป็นฝ่ายถูกบอกเลิกเสียยังดีกว่า แต่ที่จริงเขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ พอมาถึงฟางก็ตบหน้าเขาทันที นอกจากเหตุการณ์วันนั้นแล้ว เปาก็ไม่แน่ใจว่าเธอรู้อะไรเพิ่มอีกบ้าง เพราะไม่ได้ติดต่อกันเป็นเดือนๆ

"ฟางยังอยู่ทั้งคน ยังเป็นแฟนเปาอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมทำแบบนี้ ไม่เห็นหัวฟางเลยหรือไง!" ฟางร่ำไห้ นึกอยากจะทำร้ายคนตรงหน้าให้เจ็บกว่านี้ แต่ก็ยั้งมือไว้

เปายืนนิ่ง ก้มหน้ายอมรับชะตากรรม ไม่คิดจะตอบโต้ใดๆ แม้ฟางจะเอาปืนจ่อยิงเขาก็จะไม่ขัดขืน

"เงียบทำไม พูดอะไรบ้างสิ!" ฟางตรงเข้าผลักอกเขาอีก เปาเซไปข้างหลังเล็กน้อย เมื่อยังไม่หนำใจ ฟางก็ฟาดเรียวฝ่ามือลงที่ใบหน้านั้นอีกครั้ง

เพี๊ยะ!

เปาเอามือลูบแก้ม เขาเจ็บจนชา หรือที่จริงมันเลยจุดเจ็บไปแล้ว

"เปารักเขาไปแล้วน่ะฟาง"

เมื่อเธออยากให้พูด เปาก็เลยพูด แต่ก็เท่ากับหวดกระหน่ำความเจ็บปวดให้เธออีกระลอก หัวใจที่เจ็บอยู่แล้วก็แทบกระอักเลือด

"แล้วเปาไม่รักฟางเหรอ" ฟางตัดพ้อ "ไหนเปาเคยบอกว่ารักฟางมากไง แล้วที่เปามาเร่งให้เราแต่งงานกัน มันหมายความว่าไง แค่สองเดือน ทำไมมันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เปาลืมแล้วเหรอว่าเคยสัญญาอะไรกับฟางไว้"

เมื่อครู่เขาทำเธอเจ็บ คราวนี้เธอก็ทำให้เขาเจ็บด้วยคำพูดของเธอบ้าง

"รักสิฟาง ทำไมเปาจะไม่รักฟางล่ะ แต่ตอนนี้...เปาเพิ่งค้นพบว่าเปา..."

"หยุดโกหกฟางได้แล้ว!" ฟางเถียงแทรก สีหน้าจากเศร้าเปลี่ยนเป็นโกรธจัด "เปารู้ตัวเองมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอว่าตัวเองเป็นแบบไหน ตอนเรียนมัธยม เปาก็มีแฟนเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ!"

เปาหน้าซีด สีหน้าบ่งบอกว่าตกใจอย่างมาก เขามั่นใจว่าฟางไม่น่าจะรู้เรื่องนี้ เขาเองก็ไม่เคยบอก ที่ผ่านมาฟางก็ไม่เคยสงสัย แต่จู่ๆ ทำไมฟางถึงรู้เรื่องนี้ขึ้นมาได้

"ตกใจล่ะสิที่ฟางรู้ ตัวเองก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว รู้ทั้งรู้ แล้วทำไมมาหลอกฟาง มาหลอกฟางทำไม!"

"ฟาง มันไม่ใช่อย่างนั้นนะฟาง เปาไม่เคยหลอกฟางเลยนะ ที่เปามาคบกับฟาง ก็เพราะว่าเปารักฟาง ไม่เกี่ยวกับอดีตของเปาเลย" เปาพยายามอธิบาย แต่ก็ไม่เป็นผลดีอย่างที่คิด

"อ๋อเหรอ รักเหรอ คนรักกันเขาหักหลังกันแบบนี้เหรอ!" ฟางตะโกนใส่หน้า เสียงของเธอเริ่มแหบแห้ง

"ถ้าเปาไม่รักฟาง เปาจะอยู่กับฟางมาห้าปีได้ยังไง"

"เพราะเปาหลอกตัวเองไง เอาผู้หญิงมาบังหน้า จำไม่ได้เหรอว่าเคยว่าพ่อของตัวเองยังไง สุดท้าย...เปาก็ทำซะเอง ฟางไม่นึกเลยว่าเปาจะเป็นคนแบบนี้"

"ไม่ใช่อย่างงั้นนะฟาง ฟังเปาบ้างสิ"

"ฟางไม่ฟัง คนเห็นแก่ตัว ที่หายๆ ไป อย่าคิดว่าฟางไม่รู้นะว่าเปาไปทำอะไรกับเขา รักเขามากใช่ไหม รักมากก็ไปเลย ไม่ต้องมาให้ฟางเห็นหน้าอีก จบกันแค่นี้แหละ!"

"ฟาง! เดี๋ยวก่อนสิ!"

เปาเรียกตามหลัง แต่ฟางก็ไม่หันกลับมา เธอเดินฉับๆ ไปขึ้นรถ เปาไม่ได้ตามเธอไปแม้แต่น้อย ได้แต่ถอนหายใจและก้มหน้า ความรู้สึกผิดเกาะกุมเต็มพื้นที่ความคิด ไม่อยากเชื่อว่าความรักมันจบไปแล้ว เขาทำลายห้าปีและหัวใจของผู้หญิงคนหนึ่งง่ายดายเพียงนี้ เขาถึงว่ากันว่า...

ตอนสร้างต้องใช้เวลาและหัวใจนานนับปี แต่ตอนทำลาย...แค่เสี้ยววินาทีก็ไม่เหลือซาก

เปาเงยหน้าขึ้น รถของฟางแล่นออกไปจาก กกท. แล้ว เธออุตส่าห์ลงทุนมาหาเขาถึงที่นี่ เพราะอดทนรอพบกันมาหลายวัน ไม่แปลกหรอกที่เธอต้องการความกระจ่างชัด เพราะหลังจากเกิดเรื่องวันนั้น ต่างคนก็ต่างหนีหน้า ปล่อยให้เกิดคำถามและความสงสัยว่ายังรักกันอยู่หรือเปล่า ตอนนี้คำตอบก็น่าจะชัดเจนแล้ว

"ลาก่อนนะฟาง ขอโทษที่มันเป็นแบบนี้" เปารำพึงกับตัวเองเบาๆ

สองเท้าค่อยๆ ก้าวเดินออกไป เขาไม่รู้ว่าเขากำลังเดินไปไหน รู้สึกมึนงงจนหลงทิศทางไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะมีอีกคนมายืนขวางหน้าไว้ เขาก็คงไม่รู้ตัว

"จีน!" เปาอุทานเบาๆ เมื่อเห็นว่าเป็นใคร

"เปาโอเคหรือเปล่า" จีนถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

เปาไม่ตอบ ที่จริงเห็นสีหน้าก็น่าจะรู้แล้ว ครู่เดียวจีนก็เดินเข้ามากอดเปาไว้ ทว่ากลับไม่ช่วยให้เปารู้สึกดีขึ้น ตรงข้ามเขารู้สึกแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ

"ไปหาอะไรดื่มกันไหม" จีนชวน

เปายังคงไม่ตอบ จีนคงรู้สึกกระอักกระอ่วน ไม่นานก็ยอมปล่อยมือออกเอง

"ช่วงเวลาแบบนี้ อยู่คนเดียวไม่ดีหรอก จีนเป็นห่วงเปานะ ถ้าจีนช่วยได้...จีนก็อยากช่วย"

"ขออยู่คนเดียวได้ไหม" เปาบอกด้วยเสียงทุ้มต่ำ

"ไปอยู่คอนโดกับจีนก็ได้ จีนไม่กวนหรอก" จีนต่อรอง

ตั้งแต่เปากลับมาจากบ้านไท้ จีนก็ชวนให้ไปพักที่คอนโดด้วย เปาจำต้องฝืนใจไปตามที่สัญญา ฝึกซ้อมเสร็จ เขากับจีนก็แอบหายไปด้วยกันบ่อยๆ ถึงแม้ไม่มีใครสงสัย แต่ก็ใช่ว่าเปาจะมีความสุข

"เราขออยู่คนเดียวละกัน" เปาบอกเสียงเข้ม ก่อนเดินจำอ้าวหนีไป

ไม่นานสองเท้าก็มาหยุดยืนที่หน้าห้องของใครคนหนึ่ง เกือบสี่ทุ่มแล้ว แต่คนที่อยู่ในห้องน่าจะยังไม่นอน เขาจึงเคาะประตูเรียก ไม่นานเจ้าของห้องก็มาเปิด ประตูแง้มออกพอให้มองเห็นหน้ากัน

"อ้าวเกิ้น ไท้ล่ะ" เขาถามพลางเมียงมองหา

"อ๋อ...อยู่ครับ" เกิ้นบอก ก่อนหันไปเรียกเพื่อนที่กำลังนอนดูทีวีอยู่ "ไท้ โค้ชเปามาหา"

แค่ได้ยินชื่อ ไท้ก็ดีดตัวลุกขึ้นและวิ่งมาหาทันที ส่วนเกิ้นสลับไปนั่งดูทีวีเหมือนเดิม

"พี่เปา" ไท้เรียกเสียงเบา ดีใจจนออกนอกหน้า

"พี่จะกลับบ้าน ไท้ไปกับพี่ไหม" เปาพูดเหมือนกระซิบ เพราะเขาไม่ต้องการให้เพื่อนของไท้รับรู้

"ครับพี่" ไท้ตอบตกลง

ตั้งแต่กลับมาจากพิษณุโลกเมื่อสามสี่วันก่อน ไท้ก็แทบไม่ได้อยู่กับเปาตามที่ตกลงกันไว้เลย ตกเย็นเปาก็หายไป ติดต่อไม่ได้ เจอกันเฉพาะเวลาทำงานเท่านั้น

"ไม่ต้องเอาอะไรไปหรอก พรุ่งนี้ก็มาอีก" เปาบอก

ไท้พยักหน้าตกลง จากนั้นก็หันไปบอกเพื่อน "เฮ้ยเกิ้น คืนนี้กูจะไปบ้านโค้ชนะเว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้กูมา"

"อ้าว ไปทำไม" เกิ้นสงสัย

"พอดีหมาที่บ้านโค้ชไม่ค่อยสบาย จะให้ไท้ไปช่วยดูแลหน่อย มันติดไท้มาก" เปาชิงตอบคำถามแทน

"อ๋อ...ครับ" เกิ้นรับคำ แต่สีหน้าก็ยังดูสงสัยอยู่

"ไป" เปาหันมาชวน ไท้ร่ำลาเพื่อนอีกรอบ ก่อนเดินแกมวิ่งตามเปาไป ดูท่าทางเปาคงมีเรื่องไม่สบายใจแน่ เพราะสีหน้าดูไม่ดีเลย

เมื่อมาหยุดยืนหน้าลิฟต์ เปาก็กดปุ่มเรียก รอไม่นานลิฟต์ก็เปิดออก พร้อมกับผู้โดยสารหนึ่งคนที่อยู่ในนั้น จีนนั่นเอง เมื่อกี้ตอนเปาเดินออกมา จีนก็ตามมาด้วย

"อ้าวไท้ จะไปไหนกันเหรอ" จีนถามเสียงเรียบขณะเดินออกมาจากลิฟต์

เปาคว้าข้อมือไท้ไว้ จากนั้นก็ฉุดเข้าไปในลิฟต์ด้วยกัน กดปิดประตูอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้ไท้ตอบคำถามรุ่นพี่แม้แต่น้อย สร้างความขุ่นเคืองใจให้จีนมากทีเดียว แต่เขาก็ทำอะไรโผงผางมากไม่ได้ เพราะตกลงกับเปาไว้แล้วว่าจะไม่ให้ไท้รู้เรื่องนี้

เมื่อคนที่รอคอยเข้ามาอยู่ในรถด้วยกัน เปาก็ดึงคนที่เขารักมากอดไว้ อารมณ์ที่อัดอั้นไว้เมื่อครู่พังทลาย

"พี่เลิกกับฟางแล้วนะไท้ มันจบไปแล้ว" เปากอดไท้แน่น อดไม่ได้ที่จะร้องไห้อีกครั้ง

ไท้ไม่รู้สึกแปลกใจที่เปาเสียใจ เปากับฟางผูกพันกันมาก คบกันมาหลายปี พอเลิกกันก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดา จะว่าไป ไท้ก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกัน เพราะที่เปาเลิกกับฟาง ก็เป็นเพราะไท้นั่นเอง

"ไท้ไม่ต้องคิดมากนะ พี่เป็นคนเลือกเอง เรื่องทั้งหมด...พี่ขอรับผิดคนเดียว" เปาบอกราวกับรู้ทันความคิดอีกฝ่าย

หนุ่มน้อยนิ่งคิด ที่เปาพูดก็ถูกครึ่งหนึ่ง แต่ปรบมือข้างเดียวคงไม่ดัง เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรไท้จึงได้แต่กอดเปาไว้ จนกระทั่งเปาค่อยๆ สงบลงไปเอง เขาปล่อยไท้ออกจากอ้อมแขน จังหวะนั้นไท้จึงถาม

"แล้วพี่เปาจะทำยังไงต่อไปครับ"

เปาเลิกคิ้ว คงสงสัยว่าไท้หมายถึงอะไร หนุ่มน้อยจึงขยายความ

"ก็...พี่เปาเคยบอกไท้ว่าจะขอเวลาสามเดือน"

"อ้อ" เปาทำท่านึกขึ้นมาได้ เขาเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ที่จริงมันเป็นข้อตกลงที่เขาไม่อยากนึกถึงเลย

"ใช่ แต่ว่า...คืนนี้ไท้อยู่เป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ หลังจากนั้น...ค่อยว่ากัน"

"ผมไม่เข้าใจครับพี่เปา" ไท้บอกไปตามตรง

อย่าว่าแต่ไท้เลย เปาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ที่จริงเขาไม่ควรพาตัวเองมาติดอยู่ในเงื่อนไขนี้ด้วยซ้ำ

"บางอย่าง...ไท้ไม่ต้องเข้าใจมันก็ได้ เอาเป็นว่า...พี่ขอคืนนี้คืนเดียว พรุ่งนี้...ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เราตกลงกันไว้"

... ... ...

หลังเก็บข้อมูลสมรรถภาพรุ่นพี่ไปแล้ว โค้ชก็อนุญาตให้รุ่นพี่กลับบ้านได้ ที่แคมป์จึงเหลือแต่รุ่นน้องที่จะต้องเก็บข้อมูลสมรรถภาพของแต่ละคนบ้าง ช่วงสัปดาห์นี้ เปาต้องเก็บข้อมูลแต่ละคนโดยละเอียด เช่น พละกำลัง ความเร็ว ความอดทนในการยืนระยะ จุดตบ ความสูงของการกระโดดและอีกหลายๆ อย่าง รวมถึงอาการบาดเจ็บด้วย แต่ส่วนมากยังไม่มีอะไรมากเพราะเป็นเด็กใหม่

นอกจากจะมีนักกีฬาแล้ว วันนี้มีนักข่าวมาทำข่าวด้วย หลังการแข่งขันผ่านพ้นไป นักวอลเลย์บอลรุ่นใหม่บางคนเริ่มเป็นที่จับตามอง จึงเป็นที่สนใจของนักข่าวสายกีฬา ทางสมาคมจึงถือโอกาสนี้ให้นักข่าวมาเก็บภาพและสัมภาษณ์ ถือเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการปั้นเด็กยักษ์ไปด้วย

เปาเริ่มต้นด้วยการให้นักกีฬาวิ่งหลบสิ่งกีดขวาง แล้วบันทึกความเร็วของแต่ละคน จากนั้นก็ทดสอบฟุตเวิร์กหรือความเร็วในการเคลื่อนไหวเท้าออกไปในทิศทางต่างๆ

ก่อนพักเบรกให้สัมภาษณ์ เปาให้นักกีฬาตำแหน่งหัวเสาทดสอบจุดตบ ในยิมซ้อมมีเสาโลหะตั้งอยู่ ตรงส่วนปลายมีแผงแท่งพลาสติกสวมเรียงกันบนแท่งเหล็ก แต่ละแท่งหนาหนึ่งเซ็นติเมตร นักกีฬาจะกระโดดตบแผงแท่งพลาสติก แท่งที่ถูกตบถึงจะแยกออกมา แท่งที่ตบไม่ถึงจะอยู่ที่เดิม เท่านี้เปาก็จะวัดความสูงของจุดตบได้ แต่ละคนจะทดลองกระโดดตบสามครั้ง เอาครั้งที่ดีที่สุดเป็นเกณฑ์

ผลปรากฎว่าไท้กระโดดตบได้สูงที่สุด เพราะเขาฝึกด้วยเทคนิคที่เปาสอนให้เป็นประจำ เรียกเสียงฮือฮาจากนักข่าวได้เป็นอย่างมาก นักข่าวหลายคนมาที่นี่เพราะต้องการสัมภาษณ์ไท้เป็นพิเศษด้วย ด้วยเหตุนี้ พอถึงช่วงพัก นักข่าวก็กรูมาสัมภาษณ์ไท้กันใหญ่ จากนั้นจึงค่อยไปสัมภาษณ์โค้ชกิตติ เปาและนักกีฬาคนอื่นๆ

จนกระทั่งพักเที่ยง นักกีฬาต่างแยกย้ายกันไปกินข้าวที่โรงอาหาร ส่วนสต๊าฟโค้ชก็แยกกันไปอีกกลุ่ม ช่วงนี้เปากับไท้แทบไม่ได้คุยกันส่วนตัวเลย พูดคุยแค่เวลาทำงานเท่านั้น แต่ก็ต้องรักษาระยะห่างไม่ให้ดูสนิทสนมเกินไป ไท้จึงรู้สึกอึดอัดและข้องใจพอสมควร

"น้องไท้ครับ"

เสียงใครคนหนึ่งเรียกขณะที่ไท้กำลังเดินออกจากโรงยิมไปกับเพื่อนๆ ทั้งกลุ่มหยุดเดินและหันไปมองเป็นตาเดียวกัน เจ้าของเสียงรีบเดินแกมวิ่งมาหา

"พี่มาจากสำนักข่าวไทยสปอร์ตครับ พอดีเพิ่งมาถึง รถมีปัญหาน่ะครับ ถ้าจะขอสัมภาษณ์น้องไท้สักห้าถึงสิบนาทีสะดวกไหมครับ" ชายหนุ่มบอกเหตุผล

"อ๋อ ได้ครับ" ไท้ตอบรับ ก่อนหันไปบอกเพื่อนๆ "เฮ้ย พวกมึงไปกินก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป"

พอเพื่อนๆ ไปแล้ว นักข่าวที่เพิ่งมาถึงก็จัดแจงหามุมเหมาะๆ ให้ไท้สัมภาษณ์ ง่ายสุดก็คือในโรงยิมนั่นเอง น่าแปลกที่เขามาคนเดียว แถมยังใช้กล้องมือถือถ่ายแทนกล้องสำหรับมืออาชีพ ยังดีที่มีขาตั้งมือถือมาด้วย พอจัดมุมเรียบร้อยเขาก็กดถ่ายและเดินมาสัมภาษณ์

"แนะนำตัวด้วยครับว่ามาจากไหน อายุเท่าไหร่ เล่นตำแหน่งอะไร"

"ผมชื่อไท้ครับ ชื่อจริงก็เทิดไท้ สินภูษา มาจากพิษณุโลก ตอนนี้ก็อายุสิบเก้าแล้วครับ เล่นตำแหน่งหัวเสาครับ"

"ทราบไหมครับว่าตอนนี้น้องไท้ดังมาก มีคนกดไลค์แฟนเพจเป็นหมื่น ยอดฟอลโล่วในอินสตาแกรมก็จะแตะหลักหมื่นแล้ว"

"อ๋อ...ก็ทราบอยู่ครับ ผมก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะมีคนติดตามเยอะขนาดนี้ ยังไงไท้ก็ขอบคุณทุกคนที่มาติดตามด้วยครับ"

"เล่นวอลเลย์บอลมากี่ปีแล้วครับ แล้วทำไมถึงได้มาเข้าร่วมโครงการปั้นเด็กยักษ์"

"เล่นมาตั้งแต่ประถมแล้วครับ จากนั้นก็ไต่ระดับมาเรื่อยๆ จนมอปลายผมก็ได้เล่นระดับภาค เป็นตัวแทนจังหวัด พอมีโครงการนี้ ทางจังหวัดก็ส่งผมเข้าประกวด ผมลงของภาคเหนือ แล้วก็ผ่านการคัดเลือกมาเข้าแคมป์ที่กรุงเทพครับ"

"ทราบมาว่าตบหนักมาก ฝึกยังไงครับ"

"หลักๆ ก็ฝึกทั่วๆ ไป แต่ว่าก็อาศัยเรื่องเวทเทรนนิ่งเข้ามาช่วยด้วย ที่สำคัญก็ต้องซ้อมบ่อยๆ อย่าขาดซ้อม ผมไม่เคยขาดซ้อมเลยครับ"

"เห็นว่าทีมจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อิหร่านต้องคอยตามบล็อคตลอดเลย"

"ครับ" ไท้หัวเราะ "แต่ตัวเซ็ตของเรา พี่จีน ปารณ ก็เก่งมากนะครับ ช่วยหลอกได้เยอะเลย เขาก็เลยจับทางเรายากขึ้น"

"พอใจกับผลงานตัวเองกับทีมชาติครั้งแรกแค่ไหนครับ"

"ก็พอใจนะครับ ผมว่ามันเป็นโอกาสดีมากๆ สำหรับผม เป็นครั้งแรกด้วยครับ แต่ว่าก็ยังมีหลายจุดที่ต้องปรับปรุง ต่อไปก็จะพยายามทำให้ดีขึ้นครับ"

"ความฝันสูงสุดของน้องไท้คืออะไรครับ"

"อย่างแรก ผมอยากเป็นตัวจริงในทีมชาติชุดใหญ่ครับ ส่วนในอนาคต ถ้ามีโอกาส ผมอยากไปเล่นให้กับลีคในยุโรป"

"เก่งแบบนี้ มีคนรู้ใจหรือยังครับ"

"อ๋อ...ยังไม่มีครับ" ไท้หัวเราะ รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย

"แต่ก็มีสาวๆ เป็นแฟนคลับเยอะนะครับ" คนสัมภาษณ์หัวเราะ

"ครับ" ไท้รับคำสั้นๆ

"อ้อ รู้สึกว่าเก้งกวางก็เยอะด้วย"

"ครับ" คราวนี้ไท้หัวเราะ

"จะฝากอะไรถึงคนที่กำลังชมข่าวอยู่ตอนนี้ไหมครับ"

"ก่อนอื่นผมก็ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจแล้วก็การติดตามครับ หวังว่าทุกคนก็จะเชียร์กันต่อไป ยังไงๆ ก็ฝากทีมพวกเราด้วยนะครับ พวกเราทั้งสิบสองคนตั้งใจมาก ในอนาคตเราก็อยากจะพาทีมชาติไทยไปเป็นทีมอันต้นๆ ของเอเชียให้ได้ครับ ขอบคุณครับ"

พอสัมภาษณ์เสร็จ หนุ่มนักข่าวก็เก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินมาเพื่อขอบคุณและร่ำลา

"พี่ชื่อเกมนะครับ เป็นแฟนคลับของน้องไท้ด้วย ตามแฟนเพจแล้วก็ไอจีตลอด โห...พี่ดีใจมากเลยที่ได้มาสัมภาษณ์ ขอบคุณมากๆ เลยครับ อ้อ...ผมขอแลกไลน์ได้ไหมครับ จะได้เอาไว้ติดต่อกัน ถ้าข่าวลงแล้ว เดี๋ยวพี่จะส่งลิงค์มาให้"

"อ๋อ ได้ครับ" ไท้ยิ้ม พลางก็หยิบโทรศัพท์ออกมาให้อีกฝ่ายแลกไลน์กัน ที่จริงก็รู้สึกแปลกๆ นิดหน่อยเพราะนักข่าวคนอื่นๆ ไม่ขอข้อมูลส่วนตัวมากขนาดนี้

"พี่รู้จักกับผู้ใหญ่ของสโมสรบางกอกแก๊ส ทางนั้นเขาสนใจไท้มากเลย ถ้าสนใจอยากไปคุยกับผู้ใหญ่ก็บอกพี่ได้นะครับ"

แค่ได้ยินชื่อสโมสร ไท้ก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะบางกอกแก๊สเป็นสโมสรวอลเลย์บอลอันดับหนึ่งในประเทศไทย จีนก็อยู่ที่สมาคมนี้ ถ้าเขาได้ไปเล่นให้กับที่นั่นคงจะดีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้ยังติดสัญญากับสมาคมอยู่ ทุกคนที่มาเข้าแคมป์ต้องเซ็นสัญญากับสมาคมหนึ่งปี สมาคมจะเป็นคนลงทุนปั้นด้วยตัวเอง เพราะถ้าปล่อยให้ไปอยู่กับสโมสรเร็วเกินไป ระบบการสอนที่แตกต่างกันอาจส่งผลกระทบต่อฝีมือการเล่นได้

"สนใจไหมครับ" เกมถามอีกครั้ง

"สนใจครับพี่" ไท้ตอบ สีหน้ายังดูครุ่นคิด

"งั้นเดี๋ยวพี่จะลองคุยกับผู้ใหญ่ให้นะครับ รบกวนเวลาเยอะแล้ว งั้น...พี่ขอตัวก่อนดีกว่า"

"ครับพี่ ขอบคุณมานะครับ" ไท้บอกพลางยกมือไหว้

เกมรับไหว้ จากนั้นก็เอื้อมมือมาแตะไหล่ไท้เบาๆ ก่อนส่งรอยยิ้มแปลกๆ ให้ ปกติผู้ชายด้วยกันไม่น่ายิ้มแบบนี้

"พี่ไปก่อนนะครับ ไว้เจอกันคราวหลัง"

ไท้กับเกมเดินออกมาจากโรงยิมด้วยกัน จากนั้นก็แยกย้ายไปคนละทาง ไท้รีบวิ่งไปยังโรงอาหาร พอมาถึงไท้ก็รีบไปสั่งอาหารและมานั่งกินกับเพื่อนๆ กลุ่มที่สนิทด้วย ตั้งแต่กลับมาจากแข่งขัน ไท้ก็สนิทกับเหินฟ้า ฟีนิกซ์ เวิร์มและเกิ้นเป็นพิเศษ เพราะตอนแข่งไปเป็นตัวสำรองเหมือนกัน หลังๆ จึงมักจับกลุ่มอยู่ด้วยกัน

พอนั่งลงเท่านั้น เหินฟ้าก็ส่งโทรศัพท์มือถือของเขาให้ไท้

"มึงดูนี่สิไท้"

ไท้รีบรับมาดูด้วยความอยากรู้ ในหน้าจอมีแอปเฟสบุ๊คเปิดค้างไว้ มีข้อความจากสเตตัสของเพื่อนในทีมคนหนึ่งปรากฎอยู่

"ถึงผมจะไม่ดัง แต่ผมก็ภูมิใจ เพราะยังไงผมก็ไม่ได้ใช้เส้นเหมือนคนบางคนในทีม"

ข้อความนี้เป็นของตาต้า เขาเล่นบอลบีหลัง ตอนโค้ชเด้งเลือกทีมเยาวชนไปเป็นตัวสำรอง เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะติดหนึ่งในห้า แต่สุดท้ายก็พลาด หลายคนที่ไม่ได้ไปต่างก็เพ่งเล็งไท้ เพราะเขาเป็นนักกีฬาคนเดียวที่โค้ชเด้งรับอุปการะ จึงโดนข้อหาลูกรักอย่างไม่ต้องสงสัย

"มึงว่ามันว่าใครวะ" เหินฟ้าถาม

"มันก็ว่าพวกเรานั่นแหละ สงสัยมันจะเคืองมั้ง วันนี้ไม่มีนักข่าวไปสัมภาษณ์มันเลย" ฟีนิกซ์ว่า

"กูว่ากลุ่มพวกมันเขม่นไอ้ไท้มากกว่าว่ะ มึงไม่สังเกตเหรอ เดี๋ยวนี้พวกมันไม่คุยกับไอ้ไท้เลยนะเว้ย" เวิร์มเสริม กลุ่มพวกมันก็ได้แก่ตาต้า รัก โจและอั้ม แถมยังพยายามหาคนไปเป็นพวกเพิ่มด้วย

"มึงก็ดูพวกมันดิ แม่งมาสายตลอดเลย มาซ้อมก็ซ้อมไปงั้นๆ แถมยังหนีไปกินเหล้าอีก แล้วมันจะติดได้ไงวะ แต่ไอ้ไท้มันซ้อมหนักนะเว้ย ไม่เคยขาดซ้อมเลย ฝีมือมันก็ดี มันติดตัวสำรองทีมชาติก็ถูกแล้ว จะอิจฉาทำไมวะ" เกิ้นพูดกึ่งบ่น

"เฮ้ย ไม่ต้องไปสนใจหรอกไท้ มึงเชื่อกู ใครจะอิจฉาก็อิจฉาไป ยังไงๆ โค้ชก็เลือกคนที่ฝีมืออยู่แล้ว ถ้าพวกมันอยากติด ก็ทำตัวเองให้เก่งสิวะ" ฟีนิกซ์ว่าพลางตบไหล่ไท้เบาๆ ทำให้ไท้พอยิ้มออกบ้าง

"แต่ยังไงๆ มึงก็ต้องระวังหน่อยนะเว้ย พวกกูน่ะไม่คิดอะไรหรอก แต่พวกนั้นน่ะมันหาว่ามึงเป็นลูกรักโค้ชเด้ง แล้วโค้ชเปาก็สนิทกับมึงมากกว่าคนอื่นๆ ด้วย" เกิ้นพูด

"อ้อ กูถามมึงจริงนะไอ้ไท้ มึงกับโค้ชเปานี่...มีอะไรยังไงหรือเปล่าวะ" เวิร์มโพล่งถาม เล่นเอาคนถูกถามแอบสะดุ้ง

"ก็ไม่มีอะไรนี่" ไท้บอกปัดด้วยสีหน้าเรียบๆ

"แต่โค้ชเปาก็แปลกๆ นะ กูเห็นเขาออกไปไหนไม่รู้กับพี่จีนสองสามครั้งแล้ว แล้วพี่จีนเนี่ย...เสือผู้ชายเลยนะเว้ย เปย์ไม่อั้น เอ...แต่บ้านโค้ชเปาก็รวยอยู่แล้ว คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง" เวิร์มพูดเองเออเอง

เพียงเท่านี้ก็ทำให้ไท้หูผึ่ง เขาสงสัยมาสักพักแล้วว่าทำไมตอนเย็นๆ ถึงติดต่อเปาไม่ได้ พอเสร็จงานก็มักจะหายไปเลย ไม่รู้ว่าเวิร์มตาฝาดหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่าเห็นผิดพลาดถึงสองสามครั้ง ชักจะไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว เพราะไท้เป็นคนเดียวที่รู้ความหลังของทั้งสองคน กระนั้น ไท้ก็ไม่รู้ว่า...

เปากับจีนไปไหน และไปทำอะไร!?


TBC



ถ้าชอบเรื่องนี้ อ่านจบอย่าลืมบวกเป็ดให้ด้วยนะครับ :)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP19 หักอก ◯ 21.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 21-02-2017 22:27:02
  เปาเอาละสิ ไท้สงสัยอีกแล้วนะ  บรรยากาศเริ่มหม่นๆแล้วสิ
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP19 หักอก ◯ 21.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 21-02-2017 23:04:35
เอาล่ะสิ

ไท้เริ่มสงสัยล่ะ,,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP19 หักอก ◯ 21.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 22-02-2017 22:22:36
เข้าใจผิด คิดไปเอง เกรงอีกฝ่าย
ดีหรือร้าย ตายหรือเป็น เห็นสงสัย
จะได้รู้ ใครจะอยู่ หรือจะไป
หยุดหัวใจ หยุดทำร้าย ตายทั้งเป็น

แต่ละคน อือหือ มีเหตุผลกันทั้งนั้น
เหตุผลใครก็เหตุผลมัน ทำร้ายกันเข้าไป
หุหุ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP20 ใจร้าย ◯ 23.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 23-02-2017 18:17:25
EP 20 | ใจร้าย

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpgg)

"เปาจำได้ไหม ตอนที่เราไปดูหนังด้วยกันครั้งแรก จีนตื่นเต้นมาก แล้วก็ซื้อตั๋วผิด ที่นั่งห่างกันไปตั้งหลายแถว จีนก็เลยต้องไปขอแลกที่กับพี่ผู้ชายคนหนึ่ง ดีนะเขามาคนเดียว ไม่งั้นเดตแรกของเราคงกร่อยน่าดู" จีนเล่าไปก็ขำไป ไม่คิดจะสังเกตดูด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายสนุกด้วยหรือเปล่า

อดีตเก่าๆ จะมีความหมายอะไรเล่า บางอย่างก็เป็นแค่ขยะในใจ ควรจะทิ้งไปมากกว่าเก็บไว้ด้วยซ้ำ คิดแล้วเขาก็ลุกขึ้น ก่อนก้มหยิบกางเกงในที่หล่นบนพื้นมาใส่

"เปาจะกลับแล้วเหรอ" จีนร้องถามพลางลุกขึ้นนั่ง ดูตกใจระคนเสียดาย

"พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า" เปาตอบสั้นๆ สีหน้าไม่มีร่องรอยของความสุขเลย แม้เพิ่งผ่านกิจกรรมพิเศษไปเมื่อครู่นี้

"แล้วพรุ่งนี้จะมาอีกหรือเปล่า"

"ต้องมาทุกวันด้วยเหรอ" เปาหันไปถาม น้ำเสียงฟังดูไม่พอใจเท่าไหร่

"เปาตกลงกับจีนแล้วนะ" จีนทำเสียงอ้อน

เปาพ่นลมหายใจแรงๆ หน้าอมทุกข์อมโศกเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้น เขาหันหน้าหนีแล้วก็พูด "มันไม่ช่วยอะไรหรอกนะจีน อะไรที่มันจบไปแล้วก็ให้มันจบไปดีกว่าไหม เพราะยังไง…เราก็รักไท้ ไม่ได้รักจีนอีกแล้ว อีกอย่าง…เราก็เพิ่งเลิกกับแฟน เราไม่มีกะจิตกะใจมาทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้หรอก"

น้ำเสียงใส่อารมณ์ฟังดูจริงจัง ผ้าห่มผืนหนาถูกสลัดทิ้ง ร่างเปลือยเปล่าของจีนถลาลงจากเตียง ก่อนจะกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลังไว้

"ไหนว่าเปาจะไม่พูดแบบนี้ไง แค่สามเดือนเองนะเปา ช่วยจีนไม่ได้เหรอ ตอนนี้จีนก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว"

เปาถอนหายใจอีก เขาอึดอัดกับสภาพชีวิตแบบนี้เหลือเกิน "แล้วไม่เห็นใจเราบ้างเหรอ รู้ไหมว่าเราทรมานแค่ไหน ไท้ก็เริ่มสงสัยแล้ว ถึงเขาจะไม่พูด แต่เราก็รู้ว่าเขาสงสัย อีกไม่นานเขาก็จะรู้เข้าจนได้ เราไม่อยากให้ไท้เสียใจนะจีน"

"ก็เราสัญญาแล้วไงว่าจะไม่บอกไท้" จีนเถียง

"ถึงไม่บอก จีนคิดว่าไท้จะไม่สงสัยหรือไง" เปาชักเสียงดัง

ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เพราะจีนไม่มีคำตอบให้ ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเขาคิดจะทำอะไรบ้าง ก่อนหน้านี้ จีนสนิทกับไท้มาก บางคนถึงขั้นลือกันไปว่าเขาจ้องจะงาบรุ่นน้องคนนี้ แต่จีนก็ไม่แสดงท่าทีชัดเจน เขาจึงดูเหมือนเป็นพี่ชายที่คอยดูแลมากกว่า พอเปากลับเข้ามาในวงจรชีวิต ความสนใจในรุ่นน้องคนนั้นก็เบนกลับมาหาคนรักเก่า หลังๆ มานี้เขาก็ดูห่างเหินกับไท้พอสมควร

"เราจะกลับแล้ว" เปาพูดเสียเองเมื่อเห็นว่าจีนเงียบไปนาน

น่าแปลกที่คราวนี้จีนไม่ขัดขืน เขายอมปล่อยมือออกแต่โดยดี เปาจึงหยิบเสื้อผ้าที่เหลือมาใส่

"รักไท้มากเลยเหรอ" อยู่ๆ จีนก็ถามคำถามนี้

เปาหยุดชะงัก มือที่กำลังติดกระดุมแขนเสื้อตกลงข้างตัว "ใช่"

พลันจีนก็แค่นหัวเราะ "แน่ใจเหรอ"

"ทำไม" เปาขมวดคิ้ว

"เปล่า จีนก็แค่นึกถึง…" เสียงจีนกลืนหาย แต่เปาก็น่าจะรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร

"ตอนนั้นกับตอนนี้มันไม่เหมือนกันนะจีน ถ้าเราไม่รักไท้จริง คิดเหรอว่าเราจะยอมเลิกกับแฟนตัวเอง"

"ก็จริงสินะ" จีนแค่นหัวเราะอีก ท่าทางดูแปลกๆ จนเปาชักอึดอัด

"ไม่มีอะไรอีกแล้วใช่ไหม เราจะได้กลับ"

น้ำเสียงห่างเหินนั้นช่างฟังดูน่าเจ็บปวดไม่น้อย เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว จีนก็คงไม่มีทางเลือก นอกจากเดินหน้าสิ่งที่วางแผนไว้ต่อไป

"ไม่มีหรอก อยากกลับก็กลับ" น้ำเสียงของจีนเย็นชาพอกัน

เปาถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนติดกระดุมแขนเสื้อจนเรียบร้อย เดินไปหยิบรองเท้ามาใส่ ก่อนคว้าสัมภาระจำนวนหนึ่งติดมือไปด้วย ไม่นานก็ได้ยินเสียงปิดประตู ในห้องนี้จึงเหลือแต่ความเงียบงันอีกครั้ง

จีนกลับขึ้นไปนอนบนเตียง เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา จากนั้นก็โทรหาผู้สมรู้ร่วมคิด เมื่ออีกฝ่ายรับสาย เขาก็ถามโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง

"ไปถึงไหนแล้ว"

"ไปเจอมาแล้วพี่ ได้ไลน์มาด้วย"

"ก็ดี แล้วนัดเจอกันหรือยัง"

"ยังพี่ ตอนนี้แค่คุยไลน์กันเล่นๆ อยู่ อย่าใจร้อนสิครับ ของแบบนี้…ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง"

"แล้วเขาเป็นยังไง สงสัยอะไรไหม"

"ผมว่าไม่นะ เขาดูซื่อๆ อย่างว่าแหละ เด็กบ้านนอก เขาไม่ทันพวกเราหรอก" ฝ่ายนั้นหัวเราะ

จีนรู้สึกสะดุดใจเล็กน้อย กระนั้นก็รีบสลัดทิ้งไปโดยเร็ว "ก็ดีแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะนัดล่ะ"

"อาทิตย์หน้าก็น่าจะได้มั้งครับ ตอนนี้…น้องเขาก็คุยกับผมดี คุยสนุกด้วย"

"เกมชอบเขาเหรอ" จีนมุ่นคิ้ว

"เปล่าหรอกพี่ น้องเขาแค่คุยสนุกเฉยๆ ยังไงๆ ผมก็ไม่เปลี่ยนใจจากพี่จีนอยู่แล้ว ไม่งั้น…ผมไม่มาช่วยแบบนี้หรอก" เขาถือโอกาสทวง

"อย่ามาทำปากหวาน ทำให้สำเร็จก่อนแล้วค่อยมาพูด" จีนทำเสียงดุ เกมหัวเราะแหะๆ

"เชื่อมือผมได้เลย ผมไม่ทำให้พี่ผิดหวังหรอกน่า เพื่อพี่จีน…ผมทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว"

"เออ ก็ดี งั้นแค่นี้ก่อนนะ"

จีนตัดบทอย่างห้วนๆ จากนั้นก็วางสายไป เขานั่งครุ่นคิด จะว่าไปเขาก็ลังเลและสับสน ใจหนึ่งก็อยากแก้แค้น ใจหนึ่งก็อยากให้มันจบ แต่เมื่อนึกถึงความเจ็บในวันนั้น จนกระทั่งชีวิตของเขาต้องกลายเป็นแบบนี้ เขาก็ปล่อยวางไม่ลง

พักหนึ่งเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง ชั่งใจสักพักก็กดโทรหาใครคนหนึ่ง เมื่อฝ่ายนั้นรับสาย รอยยิ้มก็ปรากฎบนใบหน้าของจีน

"ยังไม่นอนอีกเหรอ"

"ยังเลยครับพี่ เมื่อกี้ไปคุยที่ห้องไอ้ฟีนิกซ์มา"

"อ๋อ แล้ววันนี้เป็นไง ซ้อมหนักไหม"

"ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ ที่จริงก็ไม่ได้ซ้อมหรอก พี่เปามาเก็บข้อมูล ตอนนี้เก็บเสร็จหมดแล้ว"

น้ำเสียงที่พูดถึงอีกคนฟังดูสนิทสนม แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

"แล้วกลับบ้านมาเป็นไงมั่ง ช่วงนี้…พี่ไม่ค่อยได้คุยกับไท้เลย" จีนเปลี่ยนเรื่อง

"ก็ดีครับ ไท้คิดถึงแม่ เสียดาย…เวลาน้อยไปหน่อย"

"คราวหลังพี่ไปด้วยสิ"

"ถ้าไม่รังเกียจคนจนๆ อย่างผม ก็ไปได้ครับ แต่กลัวพี่จีนไม่ชอบ บ้านผมเก่าแล้วก็เล็กมาก กลัวพี่จีนจะอยู่ไม่ได้"

"ไม่เห็นเป็นไรเลย ตอนเรียนมหาลัย พี่ไปแคมปิ้งต่างจังหวัดบ่อยๆ พี่ไม่เรื่องมากขนาดนั้น อยู่ง่ายกินง่ายจะตาย"

"อ๋อ ถ้างั้นก็ยินดีเลยครับ แม่ผมก็อยากเจอพี่นะ ผมเคยเล่าให้เขาฟังว่าอยู่นี่มีพี่จีนคอยสอน ถ้าไม่ได้พี่จีนช่วยก็แย่เหมือนกัน"

คำพูดซื่อๆ สะดุดใจของจีนไม่น้อย เขารู้ว่าไท้เป็นเด็กดี รู้บุญคุณคน แถมยังอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ เก่งขนาดไหนก็ไม่ยกตนข่มคนอื่น ที่สำคัญ ไท้รักและเคารพจีนเหมือนพี่ ทำตัวเป็นน้องที่น่ารัก เพราะเขาคิดเสมอว่าจีนมีบุญคุณด้วย

แต่ถ้าไท้รู้เรื่องระหว่างจีนกับเปาเข้า เขาก็นึกไม่ออกเลยว่าจะมองหน้าไท้อย่างไร กระนั้น เขาก็พาตัวเองมาติดร่างแหนี้แล้ว ที่จริงมันก็แก้ได้ไม่ยาก เพียงแต่เขาเลือกจะทำให้มันไม่ง่ายเท่านั้น

"อืม…ผมถามอะไรพี่จีนหน่อยได้ไหมครับ" น้ำเสียงลังเลพูดขึ้น สติของจีนจึงกลับมาอยู่กับตัว

"ได้สิ ถามมาเลย"

"พี่จีนกับพี่เปา…คุยกันเข้าใจแล้วเหรอครับ"

จีนสะดุ้งเฮือก ถ้าไท้มาเห็นสีหน้าของเขาตอนนี้คงสงสัยไม่น้อย มือเขาเย็นขึ้นมาทันที "ไท้หมายความว่าไง"

"ก็…" ไท้เงียบเหมือนครุ่นคิด สักพักก็ตัดสินใจพูด "ก็เรื่องในอดีตไงครับ"

"อ๋อ…" จีนเลิ่กลั่ก "อืม คุยกันแล้ว เข้าใจกันแล้วล่ะ"

ไท้เงียบไปอีกแล้ว อาจจะแปลกใจก็ได้ เพราะที่ผ่านมาจีนทำท่าเหมือนเกลียดกลัวเปา ราวกับจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้

"อ้อ แต่ก็ดีนะครับ เข้าใจกันแล้วก็ดี" ไท้พูด

ความเงียบเข้ามาครอบคลุมอีกแล้ว บรรยากาศตอนนี้ช่างน่าอึดอัดเสียจริง ไม่รู้ว่าจีนคิดถูกหรือคิดที่โทรหาไท้ แต่น่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า

"ไท้…สงสัยอะไรหรือเปล่า" จีนตัดสินใจถามไป

"อ๋อ…เปล่าครับ"

จีนถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเครียดเรื่องอะไรกันแน่ "ไท้ พี่จะบอกไท้อย่างหนึ่งนะ"

"ครับ"

"รักใครก็รักได้ แต่ไท้ก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วย พี่ไม่อยากให้ไท้เป็นเหมือนพี่ เปาน่ะ…เขามีปัญหาในใจเยอะ พี่ก็ไม่รู้ว่าเขารักไท้ หรือว่าคิดจะจริงจังแค่ไหน เขาอาจจะจริงจังก็ได้ แต่อดีตในครอบครัวของเขา…ทำให้เขาเป็นแบบนี้ ถึงพี่จะให้อภัยเขาได้ แต่…พี่ก็ไม่อยากให้ใครมาเป็นเหมือนพี่อีก"

"ครับ" ไท้รับคำสั้นๆ คงเป็นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่า

"อย่าไว้ใจคนมากนะไท้ คนสมัยนี้…ไว้ใจใครไม่ค่อยได้หรอก บางที…คนที่ไท้เห็นว่าดี ก็อาจจะไม่ดีจริงเสมอไป"

ไม่รู้ว่าจีนเตือนให้ไท้ระวังใครกันแน่ เพราะบางที คนที่ไท้จะต้องระวังอาจจะเป็นจีนก็ได้ ไม่ใช่แค่เปาเท่านั้น

"ครับพี่"

"แย่จัง พี่ก็ทำให้ไท้เครียดก่อนนอนเลย" จีนแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน "พี่ก็เตือนเฉยๆ นะ แต่ไท้ไม่ต้องคิดมากหรอก มันอาจจะไม่มีอะไรอย่างที่พี่พูดก็ได้"

"ครับพี่"

"ดึกแล้ว พี่ไม่กวนไท้ดีกว่า พรุ่งนี้มีซ้อมอีกไม่ใช่เหรอ"

"ครับ พอดีทางสมาคมจะหาทีมเยาวชนต่างประเทศมาให้อุ่นเครื่องสักสองสามทีม ช่วงนี้ก็เลยต้องซ้อมหนักอีก" ไท้บอก

"สู้ๆ นะครับ คนเก่งๆ อย่างไท้ ความฝันไม่ไกลเกินเอื้อมหรอก ถ้าวันหนึ่งความรักมันยาก ไท้ก็ยังมีความฝันให้เลือกนะ พี่ว่า…ความฝันมันดีกว่าความรักด้วยซ้ำ ความรักน่ะ…พอได้มา มันก็อาจจะทรยศเราก็ได้ แต่ความฝัน…ได้มาแล้ว มันก็อยู่กับเรา ไม่ทรยศเรา"

"ครับพี่" ไท้รับคำ ที่จริงก็คงจะงงไม่น้อยว่ารุ่นพี่พยายามสื่อสารอะไร

"พอดีกว่า พี่เพ้อเจอใหญ่แล้ว ไปนอนดีกว่านะ กู๊ดไนท์ครับ"

"กู๊ดไนท์ครับพี่"

ทันทีที่วางสายจีนก็ถอนหายใจยาว จากนั้นก็กวาดสายตามองดูเสื้อผ้าของตัวเองที่หล่นกระจายบนพื้นห้อง ความคิดในหัวสมองตีกันวุ่นไปหมด ไม่รู้ว่าเขาใจร้ายมากไปหรือเปล่าที่ทำกับน้องรักถึงขนาดนี้

"พี่ขอโทษนะไท้ แต่คนอย่างเปาต้องได้รับบทเรียนบ้าง ไม่อย่างนั้น…เขาก็จะไม่จำ"


TBC



ถ้าชอบเรื่องนี้ อ่านจบอย่าลืมบวกเป็ดให้ด้วยนะครับ :)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP20 ใจร้าย ◯ 23.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-02-2017 18:44:11
จีนจะทำไรหว่าาาาาา.  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP20 ใจร้าย ◯ 23.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-02-2017 18:57:55
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP20 ใจร้าย ◯ 23.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 23-02-2017 19:00:33
  แค่จะสั่งสอนเปาแต่คนอื่นก็โดนกระทบไปด้วย แล้วจีนจะเอาไง
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP20 ใจร้าย ◯ 23.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 23-02-2017 21:15:26
  แค่จะสั่งสอนเปาแต่คนอื่นก็โดนกระทบไปด้วย แล้วจีนจะเอาไง
  รออ่านตอนต่อไปคับ

ตอนนี้สั้นหน่อยนะครับ คนเขียนงานยุ่งมากๆ ช่วงนี้
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP20 ใจร้าย ◯ 23.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 23-02-2017 23:37:21
สงสารไท้

ทำกันได้เนาะ คนอุตส่าห์ไว้ใจ,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP20 ใจร้าย ◯ 23.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-02-2017 23:43:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP20 ใจร้าย ◯ 23.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 25-02-2017 08:11:57
ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่ชอบจีนอ่ะ เรื่องของแกกับเปา มันเป็นเรื่องของคนสองคนปะ อย่างที่บอก เข้าใจง่าเจ็บ เข้าใจว่าเสียใจ แต่โตแล้วปะ ปล่อยวางบ้างก็ได้ ในอดีตไม่ใช่ว่าเปาไม่เจ็บ มันก็เสียใจเหมือนกันอ่ะ
เปาไปสารภาพกับไท้เลยไป พูดกันตรงๆ ไม่ต้องซ่อน ทุกอย่างจะได้เคลียร์
ที่จริงไอสามเดือนนี่ ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบเลยจริงๆ ให้ตายสิ โกรธแทนไท้แล้วเนี่ย  :z3:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP20 ใจร้าย ◯ 23.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 25-02-2017 19:31:30
อ้าวววววววว..ที่เปายอมทำตามคำขอ แค่คบกันแบบปลอมๆ ไม่ใช่หรือ
ตกลงกันในระยะสามเดือน ก็เพื่อแก้ไขความรู้สึกของจีนให้มันดีขึ้น
แล้วทำไม?????? ต้องมีการเอากันจริงๆ ให้เกิดขึ้นด้วย มันมากเกินไปไหม

สองคนทำกันขนาดนี้ อย่ามาพูดแก้ตัวหรือใช้เหตุผลร้อยแปด
อธิบายเพื่อให้เข้าใจในภายหลัง เมื่อความลับแตก ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว
เพื่อ?????? จะให้เข้าใจอะไร ความจำเป็นที่ต้องแอบไปเอากันน่ะ...เหรอออออ
ดูแล้วมันไม่เมคเซ้นท์(ห่า)อะไรเลย จริงๆ

เขื่อเค้าเลยสองคน
ไม่ได้รักแล้วแต่ยังสามารถ(เด้า)กันได้ หุหุ

มันรับไม่ได้ เกินไปจริงๆ

+1 ให้สำหรับตอนนี้
อ่านแล้วกระแทกใจป่นปี้
 :monkeysad: กาซิก
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP21 ระแวง ◯ 25.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 25-02-2017 21:34:55
EP 21 | ระแวง

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpgg)

"ปกติว่างวันไหน"

"เสาร์อาทิตย์บ่ายครับ"

"แล้วชอบทำอะไรตอนว่างๆ"

"คุยกับแม่ อ่านหนังสือเรียน"

"ขยันจัง เป็นเด็กดีนะเนี่ย"

"555"

"ชอบไปเที่ยวไหม อย่างเช่น ซื้อของ กินข้าว ดูหนัง"

"ไม่ค่อยครับ ต้องประหยัดเงิน"

"แล้วปกติชอบดูหนังไหม"

"ไม่ค่อยดูครับ ยกเว้นได้ตั๋วฟรี 555"

"ที่ถามไม่ใช่อะไร พี่ได้ตั๋วหนังฟรีมาสองใบ วันเสาร์บ่ายสาม ไท้ว่างนี่ พี่กำลังหาเพื่อนไป สนใจไหม เรื่องนี้สนุกนะ"

"เรื่องอะไรครับ"

"มอนสเตอร์ทรัค หนังแอ๊คชั่นผจญภัย"

"ครับ"

"เล่นกีฬาเหนื่อยแล้ว พักผ่อนบ้างก็ดีนะ จะได้สดชื่น"

"จริงครับ"

"งั้นไปดูด้วยกันนะ"

"ก็ได้ครับ"

"เดี๋ยวพี่เอารถไปรับเที่ยงครึ่ง ไปกินข้าวกันก่อน พี่เลี้ยงเอง"

"ไม่เป็นไรครับพี่ เกรงใจ"

"ไม่ต้องเกรงใจ วันไหนน้องไท้ดังก็เลี้ยงพี่คืนสิ"

"ครับ 555"

"แล้วเจอกันครับ"

"ครับพี่"

ระหว่างนั่งรถแท็กซี่มา เวลาเกือบทั้งหมดก็หมดไปกับการคุยกับชายแปลกหน้าคนนี้ ที่จริงก็ไม่น่าจะแปลกหน้าแล้ว เพราะตั้งแต่มาสัมภาษณ์คราวนั้น ชายหนุ่มที่ชื่อเกมก็คุยไลน์กับไท้แทบทุกวัน คุยไปคุยมาก็เริ่มสนิท จนกระทั่งไท้ยอมรับนัดไปดูหนังด้วยกัน

สี่ทุ่มกว่าแล้วไท้จึงมาถึงที่หมาย พอจ่ายเงินและลงจากรถ เขาก็เดินไปกดกริ่งเรียกตรงประตูรั้วหน้าบ้าน ไฟในบ้านยังเปิดสว่างอยู่ แสดงว่าเจ้าของบ้านน่าจะยังไม่นอน ระหว่างรอไท้ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าใครจะมาเปิดให้ แถมยังไม่แน่ใจด้วยว่าคนที่มาเปิดจะรู้สึกอย่างไรที่เห็นไท้มาหาในยามวิกาลอย่างนี้

ไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินออกมาเปิดประตูให้ พอเห็นว่าใครมาหาก็แปลกใจ

"อ้าวไท้ มาซะดึกเลย เข้ามาก่อน" โค้ชเด้งเปิดประตูรั้วเล็กให้

ไท้ยกมือไหว้ โค้ชเด้งรับไหว้แล้วก็พาไท้เดินเข้ามาในบ้าน ระหว่างทางก็ถาม

"มาหาเปาเหรอ"

"ครับโค้ช" ไท้ยอมรับตามตรง แต่ก็ไม่กล้าบอกทำไมถึงมาหา กระนั้น การที่ไท้ปรากฎตัวที่นี่ในเวลานี้ก็น่าสงสัยมากเพียงพอแล้ว

"เปาเขายังไม่กลับเลย ไม่รู้ไปไหน เดี๋ยวนี้กลับบ้านดึกๆ บ่อยๆ บางวันก็ไม่กลับ ไม่รู้ว่าไปกับฟางหรือเปล่า" คนเป็นพ่อพูดเหมือนบ่น ไท้ได้แต่ฟังและเดินตามเข้าไปในบ้าน พอนั่งลงที่โซฟารับแขก โค้ชเด้งก็ชวนคุย

"กินอะไรมาหรือยัง"

"กินแล้วครับโค้ช แล้วโค้ชจะนอนแล้วเหรอครับ"

"ยังหรอก รอเปาอยู่ ว่าจะคุยกับเขาเรื่องแผนพัฒนานักกีฬารายบุคคลซะหน่อย เห็นว่าเก็บข้อมูลเสร็จหมดแล้ว"

"ครับ เพิ่งเสร็จวันนี้เองครับ" ไท้ก้มหน้าเล็กน้อย อาการไม่สู้หน้าจึงชวนให้อีกฝ่ายสงสัย

"ไท้…มาหาเปา มีธุระอะไรไหม" ในที่สุดโค้ชเด้งก็ถาม เขารู้ว่าไท้เป็นคนประหยัดเงิน แถมยังไม่ค่อยชินเส้นทางในกรุงเทพ ถ้าถึงกับยอมเสียเงินค่าแท็กซี่มาที่นี่ คงต้องมีอะไรสักอย่างแน่

"อ๋อ…ผม…ผมว่าจะมา…เอ่อ…" สุดท้ายไท้ก็นึกไม่ออก เขาไม่ได้เตรียมคำตอบนี้ไว้เลย ที่เขาอุตส่าห์ถ่อสังขารมาถึงนี่ก็เพราะความคิดถึง อยากคุยกับเปาตามลำพังสองคน แต่จะบอกตรงๆ อย่างนั้นก็กระไรอยู่

"คิดถึงพี่เขาเหรอ" ถึงไท้ไม่ตอบ โค้ชเด้งก็เดาได้ไม่ยาก เพราะที่ผ่านมาก็สังเกตและรับรู้ความเคลื่อนไหวมาตลอด

ไท้ดูตกใจเล็กน้อย แถมยังดูอึกๆ อักๆ จนในที่สุดโค้ชเด้งต้องถามเอง

"เปาเขาชอบไท้ใช่ไหม"

เมื่อคำถามลงท้ายด้วยคำว่า "ใช่ไหม" ย่อมแปลว่าคนถามรู้มาบ้างแล้วแต่ไม่แน่ใจ คนตอบก็คงตอบได้เพียงสองอย่างคือใช่กับไม่ใช่ ยกเว้นคนเจนโลกซึ่งอาจพูดให้เป็นอย่างอื่นได้ แต่โดยลักษณะนิสัยแล้ว ไท้คงไม่พูดแบบนั้น เขาจึงรับคำ แม้จะดูไม่มั่นใจก็ตามที

"ครับ"

โค้ชเด้งไม่ตกใจมากนัก กระนั้นสีหน้าก็ดูครุ่นคิด คำตอบของไท้ทำให้เขานึกถึงแฟนของลูกชาย ที่จริงก็เอะใจมาระยะหนึ่งแล้วที่ไม่เห็นฟางมาที่นี่ แต่ด้วยความยุ่งๆ จึงลืมถาม หรือแม้ว่าจะถามก็คงยากที่จะได้คำตอบ เพราะเปามักสงวนคำพูดและความคิดเห็นเมื่อคุยกับพ่อ แม้ว่าตอนหลังๆ จะคุยกันมากขึ้น แต่คนเป็นพ่อก็ยังสัมผัสความห่างเหินได้

"ฟางเขารู้เรื่องนี้หรือเปล่า" โค้ชเด้งสงสัย

ไท้นั่งนิ่ง จะตอบตามตรงก็ไม่กล้าตอบ แต่ผู้ใหญ่ย่อมตีความหมายอาการอย่างนี้ได้ไม่ยาก คำถามต่อมาจึงตามมาทันที

"เปากับฟาง…เลิกกันแล้วใช่ไหมไท้"

ไท้ไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ในฐานะที่จะตอบคำถามนี้หรือเปล่า คนที่จะตอบได้ดีที่สุดก็คือเปา แต่จนป่านนี้เจ้าตัวก็ยังไม่กลับบ้าน ไม่รู้ว่าไปไหน ไปหาใคร แถมยังปิดโทรศัพท์ จนกระทั่งไท้ร้อนใจและทนไม่ไหว เขาจึงต้องตามมาหาถึงที่บ้าน

ก่อนไท้จะอ้าปากพูด ไฟหน้าบ้านก็สว่างวูบวาบขึ้น รถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอด ไม่นานก็ได้ยินเสียงหมาสองตัวส่งเสียงจากหลังบ้าน ก่อนย้ายแหล่งกำเนิดเสียงไปที่หน้าบ้าน พวกมันจำเสียงรถของเจ้านายได้ และมักจะออกมาต้อนรับทุกครั้งไม่เคยขาด

"เปามาแล้ว" โค้ชเด้งบอก จากนั้นก็พาไท้เดินออกมาดู

เปาเอารถเข้าไปจอดที่โรงรถ จากนั้นเขาก็กดรีโมทปิดรั้วบ้าน ก่อนหยอกเล่นกับหมาสองตัวที่วิ่งมาหา ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยหรือกลับดึกแค่ไหน เขาก็จะทำอย่างนี้เสมอ โค้ชเด้งกับไท้จึงไม่เข้าไปรบกวน รอจนกระทั่งเปาหันมาเห็นเอง

"ไท้!" เปาดูตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าใครมาหา ไท้คงไม่ได้มาหาโค้ชเด้งแน่ๆ

เจ้าหมาสองตัวหันมามองตามเจ้านาย พอเห็นไท้พวกมันก็วิ่งเข้ามาเล่นด้วย ไท้คิดถึงพวกมันอยู่แล้ว เขาจึงย่อตัวลงเล่นด้วย ทั้งสองตัวดีใจใหญ่ ต่างก็ส่งเสียงทักทายและเลียหน้าเลียตา

"พ่อเอาอาหารเม็ดให้กินแล้วล่ะ" โค้ชเด้งบอก แม้เขาไม่ใช่คนรักหมาแต่ก็ไม่เกลียด จึงไม่มีปัญหาที่ภรรยาและลูกชายเอาหมามาเลี้ยง บางครั้งเขาก็ช่วยดูแลให้ แต่ก็ไม่เล่นกับพวกมันเหมือนเปาหรือไท้ อย่างมากก็ลูบหัวลูบหาง

เปาเพียงแต่มองหน้าพ่อเพื่อแสดงอาการรับรู้ ถ้าสังเกตจะเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนด้วย เพราะเปาค่อนข้างมั่นใจว่าพ่อคงสงสัยเรื่องระหว่างเขากับไท้

ไท้อาสาพาเจ้าสองตัวไปนอนที่หลังบ้าน พวกมันตามไท้ไปอย่างว่าง่าย ส่วนเปากับพ่อเข้าไปในบ้าน ต่างคนต่างทำท่าทางเหมือนไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกันอย่างไร กระนั้น คนเป็นพ่อก็ตระหนักว่าเขาควรเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน

"ไปไหนมาน่ะเปา พ่อเห็นหายไปแทบทุกคืนเลย"

"ไปบ้านเพื่อนครับ" เปาตอบสั้นๆ ง่ายๆ

โค้ชเด้งขมวดคิ้ว กระนั้นก็ไม่อยากถามให้มากความ ตอบอย่างไรก็ควรจะเข้าใจตามนั้น

"พ่อไม่เห็นฟางมาบ้านเลย มีอะไรหรือเปล่าลูก"

เปาหน้าเครียด ท่าทางเริ่มมีพิรุธ ที่จริงเขาเคยบอกพ่อไปแล้ว แต่ก็นั่นแหละ เปากับฟางคบกันมาห้าปี บางทีพ่ออาจจะคิดว่าเคลียร์กันได้แล้ว ปกติเวลามีอะไรเปาจะไม่ค่อยบอกพ่อ พ่อจึงไม่ค่อยรับรู้ความเป็นไปของลูกชาย แม้กระทั่งถามก็ยังไม่อยากตอบ อย่างเช่นคราวนี้ เมื่อเปายืนเฉย คนเป็นพ่อจึงต้องถามต่อ คงจะมีสักคำถามที่เปาอยากตอบบ้าง

"เลิกกันเหรอ"

แววตาของเปากระตุก เป็นสัญญาณทางร่างกายเพียงอย่างเดียวให้คนเป็นพ่อสังเกต เขาไม่ตอบคำถาม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอบไม่ได้ ไม่อยากตอบหรืออะไรกันแน่

โค้ชเด้งถอนหายใจ จะว่าไปเขาก็หนักใจไม่น้อยที่เปายังคงเฉยชาแบบนี้ ถ้าเป็นเรื่องงานเปาอาจจะคุยด้วย แต่พอเป็นเรื่องส่วนตัว เปาก็ยังเป็นเหมือนเดิม

"ถ้าไม่อยากคุยเรื่องนี้กับพ่อก็ไม่เป็นไร พ่อก็แค่เป็นห่วง เดี๋ยวพ่อจะขึ้นข้างบนแล้ว เปาคุยกับไท้ก็แล้วกัน น้องเขาคิดถึงเปา…ก็เลยมาหา"

พูดจบคนเป็นพ่อก็เดินไปขึ้นบันได ทิ้งคำพูดปริศนาไว้ให้เปางงเล่น แต่เขาก็ไม่มีเวลาคิดมากนักเพราะไท้เข้ามาในบ้านแล้ว พร้อมกับส่งยิ้มกล้าๆ กลัวๆ มาให้ด้วย

เมื่อไท้เดินเข้ามาใกล้ เขาก็ถาม "ไท้มายังไง มาถึงเมื่อไหร่"

"มาแท็กซี่ครับ เพิ่งมาถึงไม่นาน คุยกับโค้ชนิดหน่อย พี่เปาก็มาพอดี"

เปาพยักหน้ารับรู้ น่าแปลกที่เขากลับทำตัวไม่ถูก ทั้งๆ ที่ไท้ก็ไม่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า แถมยังมีความสัมพันธ์ไปไกลถึงไหนต่อไหน

"ผม…คิดถึงพี่เปาน่ะครับ ก็เลยมาหา" ไท้พูดอย่างที่โค้ชเด้งเพิ่งบอกเปาไปเมื่อกี้ เพราะฉะนั้น เปาจึงเดาได้ว่าพ่อน่าจะคุยกับไท้ไประดับหนึ่งแล้ว

"อ้อ" เปาจะพูดต่อแต่ก็พลันนึกไม่ออก

"พี่เปาไปบ้านเพื่อนมาเหรอครับ" ไท้สงสัย กระนั้นน้ำเสียงก็ไม่สื่อว่าจะจับผิด

"อืม"

"ไท้คุยกับพี่จีนแล้ว พี่จีนบอกว่า…พี่เปากับพี่จีนคุยกันเข้าใจแล้ว จริงหรือเปล่าครับ"

"อ๋อ…ใช่" เปาแบ่งรับแบ่งสู้

"ก็ดีแล้วล่ะครับ โกรธกันไปก็ไม่ดีหรอก ไหนๆ ก็ต้องทำงานด้วยกัน" ไท้ยิ้มบางๆ

"อืม" เปาพยักหน้าเห็นด้วย

คราวนี้ต่างคนต่างยืนนิ่ง เหมือนกับไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรมาคุยกันต่อ หรือไม่ก็คงไม่กล้าพูดอย่างที่อยากพูด จนกระทั่งไท้ถามขึ้นมาด้วยท่าทางไม่มั่นใจ

"ผมไม่รู้ว่า…ผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราสองคนต้องห่างเหินกัน ถ้าผมทำอะไรผิด พี่เปาก็บอกผมได้นะครับ ผมไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้เลย"

เปากลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เห็นท่าทางของไท้แล้วเขาก็รู้สึกเจ็บปวด ที่จริงมันก็ไม่ยุติธรรมกับไท้เลยด้วยซ้ำที่เปาทำอย่างนี้

"เปล่าหรอก ไท้ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก" นี่คือสิ่งที่เปาพอจะบอกได้

"แล้วทำไม…เราสองคน…ไม่เป็นเหมือนเดิมล่ะครับ หรือว่า…พี่เปายังทำใจเรื่องพี่ฟางไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมเข้าใจ พี่เปาจะขอเวลาทำใจ ผมก็ไม่มีปัญหา แต่…เราไม่จำเป็นต้องห่างเหินกันได้หรือเปล่าครับ"

"ไท้" เปาครางเบาๆ รู้สึกสงสารคนตรงหน้าจับจิตจับใจ แต่เขาเองก็จนปัญญาที่จะอธิบาย

"หรือว่า…พี่เปาอายหรือเปล่าครับที่จะคบกับผม ถ้ายังไม่พร้อมจะบอกใคร ผมก็ไม่มีปัญหาหรอก พร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกก็ได้ แต่เวลาส่วนตัวของเรา เราเป็นเหมือนเดิมได้หรือเปล่าครับ ตอนนี้…ผมงงไปหมดแล้ว ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงน่ะครับพี่เปา" ไท้ระบายความอัดอั้นตันใจอีกระลอก

ในที่สุดเปาก็ทนเห็นสายตาเจ็บปวดของไท้ไม่ไหว เขาจึงดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดปลอบใจ "พี่ขอโทษนะไท้ พี่ไม่รู้จะบอกไท้ยังไง ถ้าพี่จะขอร้องไท้สักอย่าง ไท้จะทำให้พี่ได้ไหม"

"ครับพี่ ผมรักพี่ไปแล้ว ให้ทำอะไรผมก็ทำ"

คำพูดตามประสาซื่อกลับคมเหมือนมีดกรีดใจ เปารู้สึกสะท้อนใจจนต้องกอดไท้แน่นขึ้น ต่างฝ่ายต่างน้ำตาซึมด้วยกันทั้งคู่

"พี่อยากขอให้ไท้อดทนอีกหน่อย อดทนให้มันเป็นแบบนี้อีกหน่อยได้ไหมไท้ แล้วพี่…จะบอกไท้ทุกอย่างที่ไท้อยากรู้"

"ครับ ผมจะอดทน แต่ผมก็อยากรู้ พี่เปา…ยังรักผมอยู่หรือเปล่า"

"รักสิ พี่รักไท้นะ"

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ความร้อนรุ่มในใจของไท้ก็พลันลดลง แม้ไม่ถึงกับกระจ่างชัด แต่คำว่ารักก็ชัดเจนในตัวของมัน กระนั้น ก็ยังเหลืออีกหนึ่งคำถามสำคัญ ถ้าไท้รู้คำตอบนี้แล้ว เขาก็ยินดีจะอดทนรอตามที่เปาร้องขอ

"แล้วพี่จีนล่ะครับ ตอนนี้…พี่เปารู้สึกยังไงกับพี่จีนเหรอครับ"

หัวใจของเปากระตุกวาบ เขาไม่รู้ว่าไท้สงสัยอะไรบ้าง แต่คำถามนี้ก็บ่งบอกว่าเจ้าตัวคงสงสัยบางอย่างเข้าให้แล้ว ถ้าคำตอบของเปาไม่ชัดเจนมากพอ คำถามนี้คงไม่หายไปง่ายๆ แน่ เขาจึงไม่ควรปล่อยให้ไท้หวาดระแวงอย่างนี้ เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือการปล่อยให้คนๆ หนึ่งหวาดระแวงสงสัย

"พี่เปา…ไม่คิดจะกลับไปรักพี่จีนอีกใช่ไหมครับ" ไท้ถามซ้ำ


TBC



(https://s19.postimg.org/tdg6bdq83/teaser201702.jpg)


ถ้าชอบเรื่องนี้ อ่านจบอย่าลืมบวกเป็ดให้ด้วยนะครับ :)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP21 ระแวง ◯ 25.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 25-02-2017 23:49:39
#ตอบไท้แทนเปา

พี่ไม่ได้คิดจะกลับไปรักจีน

พี่แค่แอบไท้
กลับบ้านไปพร้อมกับจีน
ถึงห้องก็ถอดเสื้อผ้าและนอนกอดกัน
แล้วก็เอากันสักยกสองยก
เหนื่อยมากก็ค้างหรือไม่ก็กลับบ้าน

ขนาดคิดตอบแทน ยังอายปากตัวเองชิ๊บ
หุหุ

เหตุผลก็นะ ไม่อายผู้คนกันเลย
คิดจะชดเชยให้คนหนึ่งแต่ก็ไปทำร้ายอีกคนหนึ่ง

เฮ้อออออ ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไรกัน
เปากับจีนถึงใจร้าย ใจดำได้ขนาดนี้

#กลับบ้านเราเหอะไท้
กอดดดดด

บวกหนึ่งเป็ดฮับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP21 ระแวง ◯ 25.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 26-02-2017 00:14:27
   ไท้คิดว่าห่างเหินกันเพราะซ้อมเสร็จเปาไปกับจีน ไม่ได้สวีทกันเหมือนเดิมสิ 
  รออ่านตอนต่อไป อยากให้พ่อเด้งกับเปาคืนดีรักกัน 555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP21 ระแวง ◯ 25.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 26-02-2017 09:33:25
#ตอบไท้แทนเปา

พี่ไม่ได้คิดจะกลับไปรักจีน

พี่แค่แอบไท้
กลับบ้านไปพร้อมกับจีน
ถึงห้องก็ถอดเสื้อผ้าและนอนกอดกัน
แล้วก็เอากันสักยกสองยก
เหนื่อยมากก็ค้างหรือไม่ก็กลับบ้าน

ขนาดคิดตอบแทน ยังอายปากตัวเองชิ๊บ
หุหุ

เหตุผลก็นะ ไม่อายผู้คนกันเลย
คิดจะชดเชยให้คนหนึ่งแต่ก็ไปทำร้ายอีกคนหนึ่ง

เฮ้อออออ ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไรกัน
เปากับจีนถึงใจร้าย ใจดำได้ขนาดนี้

#กลับบ้านเราเหอะไท้
กอดดดดด

บวกหนึ่งเป็ดฮับ

ขอบคุณครับ จะบอกว่าคนเขียนก็แอบเจ็บ ยิ่งตอนต่อไปยิ่งเจ็บ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP21 ระแวง ◯ 25.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 26-02-2017 09:45:25
การทำอย่างนึงลับหลังอีกคน คนโดนมันเจ็บนะครับ ถึงแม้จะไปบอกตรงๆแต่สัณชาตญาณก็บอกอยู่แล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆ,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP21 ระแวง ◯ 25.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 26-02-2017 10:48:03
ไท้ยังเจ็บได้กว่านี้อีกหรอ แค่นี้ก็สงสารน้องจะแย่
  :z3: :z3: :z3: :z3:
ไม่อยากให้น้องระแวงก็เลิกๆ ไอสัญญาบ้าๆ นั่นไปสิ บอกน้องไปสิ กับอีแค่สัญญาเห็นแก่ตัวแบบนั้น อาจจะดูไม่ดีที่ผิดสัญญา แต่ก็เลือกเอาละกันระหว่างเสียไท้กับเสียจีน(ที่นิสัยไม่ดี) ทีกับฟางยังหักหลังได้ ทำไมกับจีนทำไม่ได้ล่ะเปา

โกรธเปาว้อยยยยยยยย
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP21 ระแวง ◯ 25.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 26-02-2017 16:34:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP22 ผิดแผน ◯ 26.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 26-02-2017 21:52:01
EP 22 | ผิดแผน

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)

ช่วงพักซ้อม นักกีฬาแยกย้ายกันไปนั่งตามจุดต่างๆ บางส่วนก็ขอตัวไปห้องน้ำ หนึ่งในนั้นก็คือตาต้า หลังจากโค้ชกิตติสั่งหยุดพัก เขาก็รีบเดินมาหยิบโทรศัพท์มือถือ ก่อนแจ้นไปเข้าห้องน้ำนอกห้องซ้อม เขามักอาศัยช่วงเวลาสั้นๆ นี้เช็คข่าวในเฟสบุ๊คหรือไม่ก็ทวิตเตอร์

ระหว่างนั่งทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ตาต้าก็เลื่อนดูข่าวไปเรื่อยๆ พลันก็มาสะดุดกับโพสต์คลิปเด็ดจากกลุ่มลับเกย์ที่เขาเป็นสมาชิกอยู่ ปกติกลุ่มนี้มักจะหาคลิปอย่างว่ามาโพสต์อยู่เรื่อยๆ เขาไม่ค่อยเข้าดูช่วงกลางวันเท่าไหร่เพราะไม่สะดวก แต่พาดหัวของโพสต์ทำให้เขาอยากรู้ไม่น้อย

"หลุด! หนุ่มวอลเลย์บอลหน้าตี๋กับหนุ่ม ม. ดัง"

แค่เห็นหัวข้อตาต้าก็รีบกดเข้าไปดูทันที คลิปนั้นแชร์มาจากทวิตเตอร์ มีความยาวประมาณครึ่งนาที เมื่อกดเล่นคลิป เขาก็เห็นชายหนุ่มผิวขาวนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง มีชายหนุ่มอีกคนก้มๆ เงยๆ อยู่ตรงหว่างขา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขากำลังทำรักด้วยปากให้อีกฝ่าย เมื่อเห็นหน้าหนุ่มตี๋ชัดๆ ตาต้าก็พบว่าหนุ่มที่นอนหน้าเหยเกคนนั้นก็คือ...

ไท้!

ตาต้าเบิกตาโตด้วยความตกใจ หรือว่าเขาจะตาฝาดไปกันแน่ เขาจึงกดเล่นซ้ำอีกหลายรอบ จนแน่ใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาดอย่างแน่นอน ตาต้าจึงแชร์ลิงค์นั้นส่งให้ถา รัก อ้าย ป้อมและโจ ทั้งหมดนี้อยู่ในก๊วนเดียวกัน ไม่ค่อยชอบไท้กันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

"พวกมึงดูนี่ กูได้ของเด็ดแล้วเว้ย"

ตาต้าพิมพ์ข้อความลงไปในไลน์กลุ่มนั้น เอาลิงค์ของคลิปมาแปะต่อท้ายด้วย ก่อนจะกดส่งด้วยอาการมือไม้สั่น พอส่งแล้วเขาก็รีบจัดการธุระส่วนตัวและออกมาจากห้องน้ำโดยเร็ว

เพื่อนอีกห้าคนเห็นตาต้าก็รีบวิ่งมาหา พอได้เห็นคลิปแล้วทุกคนก็ตกใจไม่น้อย แต่ลึกๆ ก็แอบดีใจ เพราะเหตุการณ์นี้น่าจะทำให้สภาพลูกรักสั่นคลอนไปบ้าง ทั้งหกคนจับกลุ่มซุบซิบคุยกันอย่างเมามัน ก่อนตกลงกันว่าจะให้ตาต้าเอาคลิปนี้ไปให้เปากับโค้ชกิตติดู

ก่อนโค้ชจะเรียกกลับเข้ามาซ้อมใหม่ ตาต้าก็อาสาเป็นตัวแทนของเพื่อนๆ เอาคลิปไปให้เปากับโค้ชดู ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือก็แอบส่งคลิปต่อให้เพื่อนๆ ในทีม รวมทั้งรุ่นพี่บางคนที่รู้จักด้วย ยกเว้นไท้คนเดียวเท่านั้น

"โค้ชครับ" ตาต้าส่งเสียงเรียกเมื่อมาถึง สีหน้าท่าทางของเขาดูกล้าๆ กลัวๆ และมีพิรุธ

"อ้าว ตาต้า ว่าไง" โค้ชกิตติหยุดพูดคุยกับเปาแล้วหันไปมอง แววตาแสดงความสงสัยทั้งสองคน

"ผมมีอะไรมาให้โค้ชสองคนดูครับ" ตาต้าบอก แววตาดูเป็นกังวล

"อะไร" เปาถามด้วยความอยากรู้

ตาต้ายื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้โค้ชกิตติ เขาเปิดหน้าทวิตเตอร์นั้นไว้แล้ว "ผมว่าตอนนี้ คลิปมันคงกระจายไปทั่วแล้วครับ"

ทั้งเปาและโค้ชกิตติต่างทำหน้าสงสัย โค้ชกิตติรับมือถือจากลูกศิษย์มาดู เขาอ่านข้อความที่ปรากฎในหน้านั้นพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น

"หลุด! หนุ่มวอลเลย์บอลหน้าตี๋กับหนุ่ม ม. ดัง ใครเหรอตาต้า"

"โค้ชลองเปิดคลิปดูสิครับ"

โค้ชกิตติจึงกดปุ่มเล่น เปาเข้ามายืนดูด้วย พอเห็นเหตุการณ์ในคลิปแล้ว ต่างคนต่างก็เบิกตากว้าง โดยเฉพาะเปา เขาแทบไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็นเลย

"มีใครรู้เรื่องนี้หรือยัง" โค้ชกิตติถามเสียงสั่น สีหน้ากังวลอย่างมาก

"ก็...น่าจะรู้กันเกือบหมดแล้วมั้งครับ" ตาต้าตอบเสียงอ่อยๆ

"ฉิบหายละ" โค้ชกิตติสบถ

ส่วนเปา ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไร หลังจากตกใจแล้วเขาก็เงียบ สายตาคอยจ้องมองไปยังไท้ซึ่งกำลังคุยเล่นกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว แววตาผิดหวังของเปาฉายชัดขึ้น แต่คงไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกผิดหวังถึงขนาดนั้น ไม่นานเขาก็เดินดุ่มๆ ออกไปจากห้องซ้อมโดยไม่พูดไม่จาใดๆ โค้ชกิตติเรียกไว้ก็ไม่ทัน

"ส่งลิงค์มาให้โค้ช แล้วก็เรียกทุกคนมารวมตัวกัน" โค้ชกิตติบอกตาต้า ก่อนที่เขาจะเดินมายืนข้างสนามและตะโกนบอกทุกคนให้มาหา ส่วนตาต้าก็วิ่งไปตามเพื่อนๆ ของตัวเองมารวมตัวด้วย

นักกีฬาบางส่วนเห็นคลิปแล้ว แต่บางส่วนก็ยังไม่เห็น กระนั้นทุกคนก็สงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติจากสีหน้าท่าทางของโค้ช ต่างคนจึงต่างหันไปซุบซิบถามกันเอง คนที่รู้แล้วยังไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลในระหว่างนี้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าหลายคนคอยมองไปที่ไท้บ่อยๆ

เมื่อนักกีฬาทั้งหมดมาพร้อม โค้ชกิตติจึงเกริ่นเสียงเข้ม "ตอนนี้ มีเรื่องไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นในวงการวอลเลย์บอลชายของเรา ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะถ้าสมาคมรู้เรื่องนี้เข้า โดยเฉพาะ...คนที่ทำ" โค้ชกิตติเว้นจังหวะ สายตาเขามาหยุดอยู่ที่ไท้ คนถูกมองจึงรู้สึกแปลกๆ

"ยังไงๆ ผมก็ขอความร่วมมือจากทุกคนด้วยว่าอย่าเผยแพร่ต่อ ถึงมันจะหยุดไม่ได้ก็ตาม เรื่องนี้...ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก เพราะสร้างความเสื่อมเสียให้กับสมาคมแล้วก็ทีมของพวกเรา เอาเป็นว่า...วันนี้ โค้ชขอพักการซ้อมเอาไว้ก่อนไว้แค่นี้ก่อนละกัน พรุ่งนี้เรามาเจอกันอีกที" โค้ชกิตติกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนมาหยุดที่ไท้อีกครั้ง "ส่วนไท้ โค้ชขอคุยด้วยหน่อย"

แม้ยังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร ไท้ก็เสียวสันหลังวาบ ท่าทางของโค้ชกิตติบ่งบอกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่

"ครับโค้ช" ไท้รับคำ

"ดีมาก เอาล่ะ ขอให้ทุกคนรีบเก็บของแล้วออกไปจากห้องนี้เร็วที่สุด"

นักกีฬาทุกคนขานรับ ก่อนรีบเดินไปเก็บข้าวของของตนเองออกไปจากห้องซ้อมโดยเร็วตามที่โค้ชบอก แม้จะรีบแค่ไหนแต่ก็ได้ยินเสียงซุบซิบเซ็งแซ่ บางคนก็เห็นใจ บางคนก็บอกไม่ถูกว่าเห็นใจหรือเปล่า

ไท้เดินตามโค้ชกิตติและทีมสต๊าฟโค้ชออกไปอย่างงงๆ ในขณะเดียวกันก็ชักรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลมากขึ้นทุกทีๆ จนกระทั่งมาถึงห้องประชุมเล็ก โค้ชกิตติก็เชื้อเชิญให้เขานั่งลง

"นั่งสิไท้"

"ครับ" ไท้เลื่อนเก้าอี้และนั่งลงไป เห็นท่าทางของโค้ชและสต๊าฟโค้ชอีกสองคนแล้วก็ยิ่งใจคอไม่ดี

"มีอะไรหรือเปล่าครับโค้ช" ไท้ถามอย่างหวั่นใจ

"ดูเอาเองก่อนละกัน แล้วช่วยอธิบายโค้ชด้วยว่ามันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง" โค้ชกิตติบอกพลางส่งมือถือของตนเองให้ไท้

ไท้รับมือถือมาจากโค้ช แค่เห็นข้อความเขาก็แทบทรุดลงกับพื้น น้ำลายเหนียวจนแทบกลืนไม่ลง มือเท้าเย็นขึ้นมาทันที

"เปิดดูสิ" โค้ชกิตติสั่ง

ไท้หันไปมองทุกคนด้วยสีหน้าหวาดวั่น ก่อนจะตัดสินใจกดปุ่มเล่น ดูไปได้ไม่ถึงสามวินาทีเขาก็รีบกดหยุด แม้ไม่ต้องดูจนจบเขาก็รู้ว่ามันคืออะไร

"เรื่องส่วนตัวของนักกีฬา โค้ชก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ แต่จะทำอะไรก็ควรจะคิดให้ดีๆ ก่อน" โค้ชกิตติต่อว่าเสียงเข้ม

ไท้หน้าซีด มือไม้และปากสั่น สีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ เมื่อกี้เปาเดินหนีออกไปจากห้องซ้อมโดยไม่พูดไม่จา แสดงว่าเปาน่าจะเห็นคลิปนี้แล้วแน่ๆ

"เอ้า เมื่อไหร่จะอธิบาย ถ้ามีอะไรพอช่วยได้โค้ชก็จะช่วย ก่อนที่เรื่องมันจะถึงสมาคม" โค้ชกิตติเร่ง

"ผมไม่ได้ปล่อยคลิปนี้ครับโค้ช" ไท้พูดอย่างยากเย็น

"งั้นก็แสดงว่ายอมรับว่าไท้คือคนในคลิปนี้"

"ครับ" ไท้พยักหน้า

"แล้วใครปล่อย"

"ผมไม่รู้ครับโค้ช"

"แฟนไท้เป็นคนปล่อยหรือเปล่า"

"เขาไม่ใช่แฟนผมครับ"

"อ้าว แล้วเขาเป็นใคร" โค้ชกิตติทำหน้าฉงน

"เป็นคนรู้จักกันครับ เขาเป็นนักข่าว เคยมาสัมภาษณ์ผม หลังจากนั้น...เขาก็ชวนผมคุยทางไลน์ ก็เลยเริ่มสนิทกัน เมื่อวานก่อน เขานัดผมไปดูหนัง เขาบอกว่ามีตั๋วฟรี ผมก็เลยไปด้วย ดูหนังเสร็จ เขาก็ชวนผมไปที่คอนโด แล้ว..." ไท้ไม่เล่าต่อ เพราะคิดว่าทุกคนน่าจะเดาเหตุการณ์ที่เหลือได้

โค้ชกิตติถอนหายใจอย่างหนักใจ "ทำไมถึงได้ไว้ใจคนง่ายอย่างนี้ล่ะไท้ คนสมัยนี้...มันไว้ใจกันได้ที่ไหน เรื่องนี้ร้ายแรงมากนะ โค้ชว่าไท้ต้องทำใจแล้วล่ะ เพราะสมาคม...ลงโทษหนักแน่ อาจจะถึงขั้น..." โค้ชกิตติละไว้ในฐานที่เข้าใจ

"ขนาดนั้นเลยเหรอครับโค้ช" ไท้หน้าเสีย ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวกำลังจะดับอนาคตและความฝันของเขาไปเสียแล้ว

"โค้ชก็หวังว่ามันจะไม่ถึงขนาดนั้น โค้ชบอกตรงๆ นะ โค้ชคงจะเสียดายมากๆ ถ้าสมาคมไล่ไท้ออกจากทีม เพระว่าไท้เป็นคนตั้งใจ มีความสามารถ ฝีมือดี ยังไปได้อีกไกล โค้ชไม่อยากให้จบอนาคตแค่ตรงนี้" สีหน้าของโค้ชกิตติแสดงความเห็นใจ

"ไท้เต็มใจ หรือว่า...ถูกบังคับ" ผู้ช่วยโค้ชธีรเทพเอ่ยถามบ้าง

"ผม..." ไท้ลังเล

"เต็มใจเหรอ แล้วรู้ไหมว่าเขาแอบถ่ายคลิป"

"ผมไม่รู้ครับ"

"เขาให้ไท้ดื่มอะไรไหม"

"ก็แค่ดื่มน้ำผลไม้ครับ"

"ดื่มแล้ว...ก็มีอะไรกันเลยเหรอ"

ไท้อึกอัก แต่ไม่นานก็พยักหน้ายอมรับ "ครับ"

"โค้ชว่าไท้ต้องโดนวางยาแน่ๆ ถึงไท้จะยังเด็ก อยากรู้อยากลอง แต่โค้ชไม่เชื่อว่าไท้จะเหลวใหลถึงขนาดนั้นหรอก"

คำพูดของผู้ช่วยโค้ชธีรเทพฟังดูมีน้ำหนักไม่น้อย ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริง สมาคมก็อาจไม่ลงโทษไท้หนักถึงขั้นให้ออกจากทีม

"เอาอย่างนี้ละกัน พวกคุณพาไท้ไปตรวจหาสารตกค้างที่โรงพยาบาล เดี๋ยวบ่ายนี้ผมจะเข้าสมาคมไปคุยเรื่องนี้เอง" โค้ชกิตติสั่ง

"แต่มันผ่านมาหลายวันแล้ว ผมไม่แน่ใจใจว่าสารพวกนั้นมันจะเหลืออยู่หรือเปล่า" โค้ชผู้ช่วยธีรเทพแย้ง

"ไปตรวจก่อน" โค้ชกิตติยืนยันเสียงเข้ม


(https://s19.postimg.org/pokev0ayr/set_love_new21.jpg)

อากาศยามบ่ายร้อนเปรี้ยง เมื่อมองไปข้างหน้าก็เห็นแต่เปลวแดด แค่เห็นก็นึกกลัวในความร้อนระอุของมันแล้ว ใครๆ จึงไม่อยากออกมาสัมผัสความร้อนของดวงอาทิตย์ในช่วงเวลานี้ แต่ไม่ใช่สำหรับเขา เพราะสิ่งที่อยู่ในใจของเขาร้อนเสียยิ่งกว่าเปลวแดดหลายร้อยเท่า เมื่อลงจากรถได้แล้วเขาก็เดินดุ่มๆ เข้าไปยังบริเวณคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง คนที่เขาต้องการเจอคือน้องนักศึกษาปีสี่ และเขาจะไม่ยอมเจอวันอื่น เวลาอื่น เขาต้องเจอวันนี้และตอนนี้เท่านั้น

หลังจากสอบถามนักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมา เขาก็ได้ความว่าคนที่ต้องการเจออยู่ที่ไหน เมื่อตามไปจนเจอเจ้าตัวกำลังเดินไปที่ไหนสักแห่งกับเพื่อนๆ เขาก็ตรงปรี่เข้าไปหา

ผัวะ!

เขากระชากคอเสื้อและต่อยผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้นโดยไม่รีรอ จากนั้นก็ซ้ำด้วยการถีบจนร่างเขาร่วงไปกองก้นจำเบ้ากับพื้น

"ไอ้เหี้ยเกม มึงทำอย่างงี้ทำไม! หา!" เขาชี้หน้าคนที่กำลังเอามือลูบๆ ที่ปาก ก่อนจะหันไปตวาดเพื่อนๆ ของเกมและคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ "พวกมึงไม่ต้องมายุ่ง!"

"อะไรครับพี่จีน พี่จีนมาต่อยผมทำไม" เกมตื่นตระหนก เขาพยายามจะยันกายลุกขึ้น

จีนถลาลงไปหาและกระชากคอเสื้ออีกครั้ง เงื้อหมัดหมายจะซัดให้อีกสักเปรี้ยง เขาตะคอกใส่อย่างโกรธจัด "มึงไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่อง ไอ้สัตว์เอ้ย กูอยากจะฆ่ามึงจริงๆ!"

เกมทั้งงงและตกใจไปพร้อมๆ กัน เขาพยายามนึกว่าตัวเองไปทำอะไรให้จีนไม่พอใจหรือเปล่า แต่ก็นึกไม่ออก เมื่ออีกฝ่ายงงขนาดนั้น จีนก็ไม่รีรอที่จะบอกเหตุผล

"ก็เรื่องไท้ไง มึงทำอะไรกับไท้! มึงอย่าบอกนะว่ามึงไม่รู้" จีนกระชากคอเสื้อแน่นขึ้น เขากัดฟันจนกรามปูดโปน

คราวนี้เกมหน้าสลด เพราะจะอ้างว่าไม่รู้เรื่องจีนคงไม่เชื่อแน่ แต่พอเขาอ้าปากจะพูดจีนก็ตะคอกใส่อีก

"ทำไมมึงต้องทำขนาดนี้! มึงจะให้น้องเขาเสียอนาคตเลยหรือไง!"

"ผมไม่ได้ตั้งใจน่ะพี่ ผม..."

"มึงไม่ต้องมาพูด ไอ้สัตว์! แล้วมึงเสือกปล่อยคลิปออกมาทำห่าอะไรของมึง! มึงปล่อยออกมาทำไม! หา!"

"ผมไม่ได้ปล่อย เพื่อนผมมันปล่อย" เกมสารภาพ

"แล้วเพื่อนมึงมีคลิปได้ยังไง!"

"ผมก็แค่ส่งให้มันดูเล่นๆ ไม่คิดว่ามันจะ..."

"ไอ้เหี้ย!"

สิ้นคำ จีนก็ซัดหมัดลงไปอีกรอบ เพื่อนๆ ของเกมที่ยืนดูอยู่คงได้สติ จึงพากันเข้ามาห้ามและจับสองคนแยกกัน จีนพยายามจะกระโจนเข้าไปทำร้ายอีกฝ่าย แต่เพื่อนๆ ของเกมก็จับล็อคตัวไว้แน่น

"มึงไปไกลๆ ตีนกูเลยนะมึง แล้วไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้าอีก ไอ้สัตว์!"

"เออ! มึงคิดว่ากูอยากเห็นหน้ามึงมากหรือไง ไอ้เหี้ย! คนเขาอุตส่าห์ช่วย แม่งเสือกไม่เห็นคุณค่า ถ้าไม่ใช่กู มึงคิดว่าใครเขาจะช่วยมึง ไอ้คนสำส่อนอย่างมึงน่ะ เขาเอือมกันหมดแล้ว มึงว่ากูเหี้ย แล้วมึงไม่เหี้ยกว่าเหรอ เพราะมึงเป็นคนวางแผนไม่ใช่เหรอ ไอ้ควาย!" เกมตะโกนด่าบ้าง เขาไม่เคยพูดจารุนแรงกับจีนมาก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก

จีนถึงกับสะอึก ที่จริงเขาจะโทษเกมคนเดียวก็คงไม่ได้ เพราะคนต้นคิดแผนนี้ทั้งหมดคือจีน ทุกอย่างเริ่มมาจากความแค้นส่วนตัวของเขา กระนั้นเขาก็ยังทำท่าทางฮึดฮัดและจะกระโจนเข้าใส่ จนกระทั่งเพื่อนๆ ลากเกมออกไปจากบริเวณนี้

จีนสะบัดตัวเองออกจากการเกาะกุม จากนั้นก็เดินดุ่มๆ ออกไป มีกระป๋องเครื่องดื่มชนิดหนึ่งหล่นอยู่ข้างทางเดิน เขาเตะมันกระเด็นออกไปเสียงดังจนคนหันมามอง แต่เขาก็หาได้สนใจไม่

เมื่อเข้ามาอยู่ในรถแล้ว จีนก็ฟุบหน้าลงกับพวงมาลัย เขาร้องไห้อย่างหนักและคร่ำครวญขอโทษคนที่ไม่รู้เรื่อง

"ไท้ พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ฮือ..."

จีนร้องไห้สะอึกสะอื้น นึกไม่ถึงว่าสิ่งที่ทำจะบานปลายไปถึงขนาดนี้ เขาแค่ต้องการให้เกมวางยาไท้ พอไท้นอนหลับก็จับถอดเสื้อผ้าและนอนถ่ายรูปคู่กันกับเกม เมื่อได้รูปมาแล้วเขาก็จะส่งให้เปาดู เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เปาเจ็บปวดได้แล้ว เขาแค่อยากเห็นเปาเจ็บปวดเท่านั้น แม้จะเทียบไม่ได้กับที่เขาเคยเจ็บปวดมาก่อนก็ตาม

แต่ไปๆ มาๆ เกมก็คิดไม่ซื่อ ถึงขนาดเอายาปลุกเซ็กซ์ให้ไท้กิน ซ้ำยังไม่รู้ว่าทำอะไรกันไปถึงไหน แผนที่วางไว้ก็เลยบานปลายจนควบคุมไม่ได้

วันนี้ พี่ชายที่เคยแสนดีก็กลับกลายเป็นผู้ร้ายไปเสียแล้ว ถ้าเกิดไท้หมดอนาคต ถูกสมาคมไล่ออกจากทีม ความฝันของเด็กหนุ่มที่ตั้งใจกับชีวิตคงพังทลาย จีนคงจะไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้อีกเลยในชาตินี้


TBC



(https://s19.postimg.org/52knggjr7/moutainlove02.jpg)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP22 ผิดแผน ◯ 26.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 26-02-2017 22:01:53
..... พูดอะไรไม่ออกเลยค่ะตอนนี้
เปาไปคุยกับน้องก๊อนนนนนนนนนนน อย่าเพิ่งโกรธจนหน้ามืดตามัว ไปถามน้องก๊อนนนนนนนนน กลับม๊าาาาาาา
จีนแม่งงงงง บ้าเอ้ย แกทำร้ายไท้มากเกินไปแล้ว เราไม่ยอมจริงๆ ด้วย

ช่วงนี้มาสั้นมากเลยค่า แต่มาเร็วเราให้อภัย อิอิ
รอตอนต่อไปค่ะ ลุ้นมากๆ
เปาอย่าโกรธไท้เลยนะ เปาเป็น1 ในคนที่รู้จักไท้ที่สุดแล้วนะ ต้องรู้สิว่าน้องเป็นคนยังไง ฮือออ ไท้ของพี่ สู้ๆ นะหนู
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP22 ผิดแผน ◯ 26.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 26-02-2017 22:08:39
    จีนทำให้บานปลายแล้ว งานเข้าไท้จนได้ เห้อออ เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP22 ผิดแผน ◯ 26.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-02-2017 22:12:29
ไหงเรื่องของเปากับจีน
แต่กลับไปตกหนักอยู่ที่ไท้คนเดียว

ไท้ไม่ได้ผิดอะไรเลย
แต่ถ้าจะผิด..ก็คงผิดที่ไปรู้จักกับสองคนนี้

ถ้าสามารถรู้เหตุการณ์ข้างหน้า
ไท้ไม่น่าจะไปรู้จักกับคนอย่างนี้เลย

เลวแมร่งงงทั้งสองคนนั่นล่ะ
ไอ่ผัวชื่อเปา ส่วนไอ่เมียชื่อจีน


ไม่น่าเลยไท้
ไม่น่าจะไปรู้จักมันเลยจริงๆ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP22 ผิดแผน ◯ 26.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 26-02-2017 23:12:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP22 ผิดแผน ◯ 26.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 27-02-2017 08:06:30
น่าสงสารไท้ เจอคนแบบนี้

จะแก้แค้นอะไรใคร ทำไมต้องใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP23 หันหลัง ◯ 27.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 27-02-2017 12:33:18
EP 23 | หันหลัง

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)

ไม่รู้ว่าคิดดีหรือเปล่า แต่หัวใจและสองเท้าก็พามาหยุดยืนตรงนี้จนได้ แม้ท้องจะหิวเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย ทว่าไม่สลักสำคัญเท่ากับความรู้สึกอยากพบใครสักคน

หลังจากไปคุยกับผู้ใหญ่ที่สมาคมมาแล้ว เขาก็เฝ้าโทรหาแต่คนๆ นี้ ขนาดว่ากลับไปที่หอพักนักกีฬา มีเพื่อนๆ หลายคนมาให้กำลังใจ แต่แทนที่เขาจะห่วงและสงสารตัวเอง ในใจกลับว้าวุ่นเฝ้าคิดถึงแต่ความรู้สึกของอีกคน

ความผิดพลาดครั้งนี้ คงจะทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจกันไปมากพอสมควร ที่จริงมันไม่ควรเกิดขึ้นเลย แต่เขาก็เสียรู้คนจนผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย เสียชื่อเสียงจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แถมยังโดนสมาคมลงโทษด้วยการตัดเงินเบี้ยเลี้ยงสองเดือน ห้ามให้สัมภาษณ์หรือออกสื่ออีกสองเดือน แถมยังให้งดแข่งขันในรายการต่างๆ อีกหนึ่งเดือน

ยืนรอไม่นาน โค้ชเด้งก็ออกมาเปิดประตูให้ สีหน้าดูเคร่งเครียดไม่น้อยทีเดียว

"เปาเขายังไม่กลับเลยไท้ โค้ชติดต่อไม่ได้เลย ไม่รู้ไปกินเหล้าอีกหรือเปล่า"

นั่นคือสิ่งแรกที่โค้ชเด้งบอกผู้มาเยือน ยิ่งทำให้ไท้รู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้น

"กินอะไรมาหรือยัง" โค้ชเด้งถามขณะพาไท้เดินเข้ามาในบ้าน วันนี้แปลกตรงที่ไม่มีเจ้าสองตัววิ่งมาส่งเสียงและคลอเคลียเหมือนเช่นเคย คงเป็นเพราะเจ้านายไม่อยู่นั่นเอง

"ยังครับ" ไท้ตอบเบาๆ น้ำเสียงฟังดูเศร้า ก่อนจะถึงประตู เขาก็ถาม "โค้ชครับ พี่เปาเขาจะเกลียดผมหรือเปล่า"

โค้ชเด้งหยุดชะงัก เมื่อเห็นแววตาเศร้าของเด็กหนุ่มรุ่นลูกก็นึกสงสาร เรื่องที่ถามนั้นคงเดาคำตอบได้ไม่ยาก ไท้อาจเป็นเพียงคนเดียวที่ช่วยเปิดใจเปาได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็อาจจะปิดใจเปาไปตลอด

"อย่าเพิ่งกังวลเลยไท้ เข้าบ้านก่อน"

"ครับ" ไท้รับคำ ก่อนเดินตามโค้ชเด้งเข้าไปในตัวบ้าน

บ้างหลังนี้หลังไม่เล็กไม่ใหญ่ มันดูเงียบเหงาไปบ้างเพราะมีคนอยู่กันแค่สองคน ยิ่งอีกคนหายไปก็ยิ่งดูเหงามากขึ้น เปียโนตัวนั้นก็เงียบเสียงสนิท บ้านนี้ทั้งบ้านแทบจะไร้อารมณ์และความเคลื่อนไหว

"ไท้กินข้าวก่อนละกัน เปาคงกลับดึกน่ะ เผลอๆ อาจจะไม่กลับด้วย อาจจะต้องให้เวลาเขาหน่อย รู้จักกับเขามาพักหนึ่งแล้ว ไท้คงรู้นะว่าโค้ชหมายถึงอะไร"

"ครับ" ไท้รับคำ ที่เขาเครียดก็เป็นเพราะรู้ว่าเปาเป็นคนแบบไหนนี่แหละ

"ส่วนเรื่องคลิป โค้ชว่าไท้ก็อยู่เงียบๆ อย่างที่สมาคมเขาแนะนำดีแล้ว เดี๋ยวมันก็เงียบไปเอง ต่อไปต้องระวังตัวให้มากกว่านี้ ถ้าไม่แน่ใจอะไรก็ปรึกษาโค้ช ถือซะว่า...โค้ชเป็นญาติผู้ใหญ่ของไท้คนหนึ่งละกัน มีอะไรก็ปรึกษาได้ ไม่ต้องเกรงใจ โค้ชพาเรามาแล้ว ยังไงก็จะพาไปให้ถึงที่สุด อย่าให้ความผิดพลาดแค่นี้มาหยุดความฝันของเรานะไท้ แม้กระทั่งความรัก ก็อย่าให้มาหยุดความฝันของไท้ ทำตัวของเราให้มีคุณค่า แล้ววันหนึ่ง...คนดีๆ เขาก็จะมารักเราเอง"

คำพูดนั้นฟังดูหนักแน่น แถมสายตายังส่งพลังบวกมาให้จนรู้สึกได้ ที่จริงไท้เองก็เจ็บปวดกับเรื่องนี้มาก ต้องการกำลังใจจากคนที่รัก แต่เขาก็ยอมวางความเจ็บปวดของตัวเองเอาไว้ เพราะในหัวใจตอนนี้ ไท้เป็นห่วงอีกคนมากกว่า

"ครับโค้ช" ไท้รับคำสั้นๆ อีกครั้ง

... ... ...

เสียงเหมือนคนเล่นดนตรีดังแว่วมาจากที่ไหนสักแห่ง แรกๆ ฟังเหมือนอยู่ไกลมาก หรือไม่ก็อาจจะได้ยินจากความฝัน แต่เมื่อประสาทสัมผัสรับรู้ตื่นขึ้น เสียงนั้นก็ฟังดูเหมือนอยู่ไม่ไกลมาก เมื่อเงี่ยหูฟังดีๆ จึงรู้ว่าเป็นเสียงคนเล่นเปียโน เพียงเท่านั้นเขาก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่ง

"พี่เปา!"

ไท้รีบลุกจากเตียง เขาเพิ่งหลับไปได้ไม่นานเพราะมัวแต่คอยเปากลับมา พอทนง่วงไม่ไหวก็เลยขึ้นมานอนก่อน แต่ก็หลับไม่สนิทนักเพราะจิตใจว้าวุ่นและฟุ้งซ่าน

เมื่อไท้ลงมาข้างล่าง ก็เห็นเพียงแสงไฟรางๆ จากภายนอกลอดเข้ามา เสียงคนเล่นเปียโนเพลงอิ่มอุ่นดังก้อง สำเนียงฟังเศร้าและจังหวะก็ช้าเนิบ บรรยากาศช่างเหมือนวันนั้นที่ไท้เจอเปาเป็นครั้งแรก เพราะเสียงเปียโนเศร้าสร้อยโหยหวนที่เองที่ทำให้ไท้ได้เจอกับชายผู้นี้

"พี่เปา" ไท้เรียกฝ่าความมืดสลัว

เสียงเปียโนพลันหยุด ทิ้งเสียงก้องค้างให้ค่อยๆ จางหายไป ไม่นานทุกอย่างก็เงียบสนิท ไท้พลันรีบสาวเท้าเข้าไปหาคนที่เขาอยากเจอมากที่สุดในเวลานี้ น่าแปลกที่เปายังคงนั่งหันหลังให้ แม้จะรู้ว่าใครมาหาเขาก็ไม่หันมามอง

"ไท้ขอโทษครับพี่เปา" เมื่อมาหยุดยืนด้านหลัง ไท้ก็พูดประโยคนี้ น้ำเสียงคล้ายคนกำลังจะร้องไห้ เขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ แต่รู้ว่าอีกไม่นานคงจะกลั้นไว้ไม่ไหว

ไม่มีเสียงตอบใดๆ เปายังคงนั่งนิ่ง ราวกับโสตประสาทไม่รับรู้สรรพเสียง

"ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้น่ะครับพี่เปา" ไท้อธิบายต่อ

คราวนี้เปาลุกขึ้นยืน ไม่นานก็หันหน้ามา แม้จะเห็นเพียงสลัวๆ ใบหน้านั้นก็ยังถมึงทึง ถ้าสังเกตให้ดีกว่านั้น อาจจะเห็นด้วยว่าอีกฝ่ายน่าจะเพิ่งผ่านการร้องไห้มา แถมยังมีกลิ่นเหล้าโชยหึ่ง คงจะดื่มหนักไม่น้อย

"กูนึกแล้ว สุดท้าย...เกย์มันก็เป็นแบบนี้ กูไม่น่าหลงเชื่อมึงเลย หน้าซื่อ แต่สันดานแม่งเหมือนกันทุกตัว!" เปาไม่ตวาด แต่น้ำเสียงก็ดุและประชดประชัน

แม้เดาไว้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ แต่เมื่อเจอของจริง มันกลับน่ากลัวกว่าที่ไท้คิดไว้

"มึงรู้ไหม กูโคตรจะรักมึง กูยอมเลิกกับแฟนของกู...ก็เพราะกูรักมึง กูเคยสัญญากับแม่ไว้ แต่กูก็ยอมผิดสัญญา กูเคยเกลียดคนพวกนี้มากแค่ไหน แต่สุดท้าย...กูก็เปลี่ยนตัวเองได้ เพราะกูรักมึง แต่แม่ง..." เสียงของเปากลืนหาย ทุกคำพูดของเขาช่างเต็มไปด้วยความขมขื่นใจ

"พี่เปา ไท้ขอโทษ ไท้..."

"มึงไม่ต้องมาอธิบายอะไรแล้ว!" เปาตะคอกสวนกลับไป "ใช่...มึงเปิดใจกูได้ มึงพิเศษกว่าใครๆ แต่มึงก็ปิดใจกูไปแล้วเหมือนกัน! กูไม่อยากฟังเหตุผลห่าเหวอะไรทั้งนั้น! เพราะยังไงๆ กูก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกมึงอีกแล้ว พอกันที!" เปาตะคอกใส่ ก่อนเสียงสะอื้นไห้จะตามมา

"พี่เปา พี่ไม่รักผมแล้วเหรอ" ไท้ตัดพ้อพร้อมกับสะอื้นไห้ไปด้วย

สายตาเจ็บปวดของเปากระตุก เขาเดินโซเซมาหา ก่อนจับไหล่ทั้งสองข้างของไท้ไว้ บีบแน่นและเขย่า "มึงทำกูเจ็บขนาดนี้ มึงยังจะถามอีกเหรอ มึงรู้ไหมว่ากูเจ็บแค่ไหน! มึงรู้ไหมว่ากูเจ็บกับคนอย่างพวกมึงมาเท่าไหร่แล้ว กูนึกว่ามึงจะเป็นคนเดียวที่ไม่ทำกับกูแบบนี้ กูไว้ใจมึง กูโคตรจะรักมึง แล้วมึงทำอย่างนี้ทำไมวะไอ้ไท้ มึงทำอย่างนี้ทำไม!"

แววตาผิดหวังของเปาช่างน่าใจหาย ไท้คงต้องทำอะไรสักอย่าง เขาไม่อยากเห็นแววตาอย่างนี้ของเปาเลย ว่าแล้วเขาจึงออกแรงดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดไว้ ก่อนจะขอร้องอ้อนวอนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

"พี่เปา ผมรักพี่เปา พี่เปายกโทษให้ผมได้ไหมครับ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ต่อไป...ผมจะไม่ทำอย่างนี้อีก ยกโทษให้ผมนะครับพี่เปา"

เปายกมือขึ้นเหมือนจะกอดตอบ แต่ไปๆ มาๆ แทนที่จะกอดเขากลับผลักอีกคนออกจากตัว ร่างของไท้กระเด็นหวือลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้นห้อง จากนั้นเขาก็ชี้หน้า

"มึงไม่ต้องมาขอร้องอ้อนวอนอะไรกูทั้งนั้น! มึงคิดเหรอว่ากูไม่อยากยกโทษให้มึง แต่กูโคตรขยะแขยง ขยะแขยงตัวเองด้วย มึงไม่รู้หรอกว่ามันเกิดเรื่องเหี้ยๆ อะไรขึ้นมาบ้าง แม่งเอ้ย! กูไม่น่าหลงกลพวกมึงเลย ทั้งมึง...แล้วก็ไอ้จีน แม่งมีแต่เรื่องเหี้ยๆ กูก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะเว้ย เพราะกูมันก็เหี้ยด้วย! แม่งเหี้ยกันหมดเลย!"

ไท้แทบไม่เข้าใจเลยว่าเปาพูดเรื่องอะไรกันแน่ เขาได้แต่มองด้วยท่าทางอึ้งๆ จนกระทั่งหลุดคำถามออกไป "พี่เปาหมายความว่าไงครับ"

"ไม่ต้องมาถาม มึงออกไปจากบ้านกู ออกไปจากชีวิตกูเลย เรื่องเหี้ยๆ มันจะได้จบๆ กูทนไม่ไหวแล้ว!" เปาตะโกนลั่น ริมฝีปากและมือไม้สั่นระริก

ไท้อ้าปากค้างและเบิกตาโต เขาพูดไม่ออก แม้กระทั่งน้ำตาที่ไหลพรากก็พลันหยุด เขาสะอึก จุก เจ็บและหน้าชา เจ็บปวดและผิดหวังเกินบรรยาย นึกไม่ถึงว่าคนรักกันจะขับไสไล่ส่งอย่างนี้

"ได้" ไท้พูดสั้นๆ สีหน้าและแววตาดูเจ็บปวดไม่น้อย

พลันไท้ก็ลุกขึ้น ดูเหมือนสีหน้าของเปาจะอ่อนลงและดูตกใจ กระนั้น เขาก็ไม่คิดจะทำอะไรมากกว่าจ้องมองตา

"ลาก่อนนะครับ"

ไท้หันหลังให้ สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะเดินมุ่งไปยังประตูบ้าน เขาเปิดมันออกและรีบก้าวออกไป พ้นจากตัวบ้านก็เดินกึ่งวิ่งไปเปิดประตูเล็กหน้าบ้านอีกที ไม่นานก็พาตัวเองพ้นออกมาจากบ้านหลังนั้น เดินไปได้อีกหน่อยเขาก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ร้องไห้อย่างอดสูใจ

คราวนี้ความรู้สึกที่มีทั้งหมดถูกปล่อยออกมาไม่เหลือ ไม่ว่าจะเรื่องคลิปที่น่าอับอาย หรือเรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อสักครู่นี้ นี่อาจจะเป็นเวรกรรมที่ไท้ทำกับผู้หญิงคนหนึ่ง แย่งของเขามาแล้ว สุดท้ายกรรมก็ตามสนอง เจ็บคราวนี้แสนสาหัส แต่ก็นับว่าสาสม

ไท้หันกลับไปมองบ้านหลังนั้น ไม่มีใครตามเขาออกมา คงแปลว่ามันจบสิ้นแล้ว เปาคงไม่อยากข้องเกี่ยวกับ "คนแบบนี้" อีกแล้ว แม้จะเข้าใจเหตุผล แต่ไท้ก็ไม่อาจห้ามรู้สึกเจ็บปวดได้ บททดสอบความเข้มแข็งของชีวิตครั้งนี้ดูจะเกินความสามารถของเด็กอายุสิบเก้า แต่เขาก็บอกกับตัวเองว่าต้องผ่านไปให้ได้ เพราะอนาคตของไท้ไม่ใช่มีแค่ตัวเองคนเดียว

เขาอดนึกถึงภาพเก่าๆ ไม่ได้ โดยเฉพาะวันที่ถูกเปาแกล้งปล่อยทิ้งให้รอที่มหาวิทยาลัย เมื่อเปากลับมาตามหา ไท้ก็โผเข้ากอด นั่นคือครั้งแรกที่ความรู้สึกพิเศษแอบก่อตัวขึ้น อ้อมกอดนั้นช่างอบอุ่น ไท้ต้องการความอบอุ่นอย่างนี้มาตลอดชีวิต เปาคือผู้ชายคนแรกที่ให้ความรู้สึกอย่างนี้มา เขาจึงฝังใจจำ

หลังจากนั้นเปาก็ทำตัวเหมือนพี่ชายใจดีที่คอยสอนและดูแลน้อง แม้ว่าตอนแรกจะโดนพ่อบังคับให้ช่วย แต่หลังๆ เขาก็เต็มใจ ทำเกินกว่าสิ่งที่พ่อขอด้วยซ้ำ ความใกล้ชิดนำมาสู่ความรู้สึกดีๆ ก่อนจะพัฒนามาเป็นความรักในที่สุด

... ... ...

เปากำลังจะเดินขึ้นไปบนบ้าน ไฟในบ้านก็เปิดสว่างขึ้น ไม่นานก็เห็นพ่อยืนอยู่ตรงบันไดชั้นบน เขาหยุดชะงัก ในขณะที่โค้ชเด้งสาวเท้าลงมาจากบันไดอย่างเร่งรีบ

"ไท้ล่ะเปา" พ่อถามลูกชายด้วยท่าทางร้อนรน

แน่นอน เปาไม่ตอบเช่นเคย คราวนี้คนเป็นพ่อก็ทนไม่ไหว "ไม่สงสารน้องมันบ้างเหรอ เรื่องที่เขาเจอมันก็หนักหนาแล้ว รู้ไหมว่าไท้โดนทำโทษอะไรบ้าง แล้วที่เขามาหาเปา เพราะเขาเป็นห่วงเปา ไท้เขาเป็นห่วงเปามากกว่าเป็นห่วงเรื่องของตัวเองซะอีก"

แววตารู้สึกฉายวาบขึ้น แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น "แล้วผมล่ะ พ่อไม่คิดถึงความรู้สึกของผมบ้างเลยเหรอ"

"แกโตแล้วนะเปา ควรจะเข้มแข็งได้แล้ว เลิกคิดถึงเรื่องความเจ็บปวดในอดีตซะทีเถอะ" โค้ชเด้งสวนกลับไป

"พ่อไม่ใช่ผม พ่อก็พูดได้นี่ครับ"

"ใช่ พ่อไม่ใช่เปา พ่อรู้ว่าพ่อผิด แต่เห็นไหมว่าพ่อก็พยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก เปาไม่อยากให้พ่อพาผู้ชายเข้าบ้าน พ่อก็ไม่พามา ทุกคนมันผิดพลาดกันได้ ให้อภัยกันบ้าง ไท้เองเขาก็ไม่ได้ตั้งใจ รู้ไหมว่าเขาโดนหลอก เขามานี่เพราะเขาอยากอธิบายให้เปาฟัง เขาอยากมาขอโทษ ถ้าเขาไม่รักเปา ไม่แคร์เปา เขาจะมาหาเปาถึงนี่ไหม ทำไมไม่ฟังเขาอธิบายบ้าง"

เจอคำพูดนี้เข้าไปเปาก็ยืนตะลึง เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าไท้โดนหลอก จะว่าไป เขาก็เป็นคนหนึ่งด้วยซ้ำที่หลอกลวงไท้ เขายอมมีความสัมพันธ์กับจีนโดยที่ไท้ไม่รู้ แต่กระนั้น...

"ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมไม่เชื่อใครอีกแล้ว พอกันทีกับคนพวกนี้!"

เปาเบี่ยงตัวแล้วก็เดินขึ้นบันไดไป โค้ชเด้งได้แต่มองตามด้วยสายตาไม่เข้าใจ กระนั้นเขาก็ไม่มีเวลาคิดมากนัก เรื่องลูกชายเอาไว้ก่อนแล้วกัน ว่าแล้วเขาจึงเดินแกมวิ่งออกไปข้างนอกบ้านเพื่อตามหาไท้

เมื่อออกมานอกบ้าน โค้ชเด้งก็มองหาพร้อมตะโกนเรียก "ไท้"

แต่พอได้ยินเสียงคนร้องไห้ โค้ชเด้งก็หยุดชะงัก ก่อนค่อยๆ มองไปยังแหล่งกำเนิดเสียง ไม่ไกลออกไป เขาเห็นไท้กำลังนั่งร้องไห้อยู่

"ไท้"

โค้ชเด้งรีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง เมื่อถึงตัวเขาก็ย่อตัวลงนั่งข้างๆ เมื่อเห็นว่าใครมาหา ไท้ก็โผเข้ากอด เพราะเขาต้องการที่พึ่ง ที่นี่ไม่มีแม่ ไม่มีน้องสาว ก็มีแต่บ้านหลังนี้ที่มีคนรักและคนที่ไท้เคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง

"ไม่เป็นไรนะไท้ อย่าเพิ่งไปฟังเปาตอนนี้เลย เขากำลังเสียใจ รอให้เขาใจเย็นๆ ก่อนละกัน" นั่นคือสิ่งที่โค้ชเด้งพอจะปลอบใจได้

"ครับโค้ช" ไท้รับคำพลางสะอึกสะอื้น

"เข้าใจเปาเขาหน่อยนะไท้ เปาเขาเจ็บปวดมาเยอะ เพราะเขาคิดว่าโค้ชทำให้แม่เขาตาย เขาก็เลยฝังใจ แต่โดยนิสัยแล้ว เปาเขาเป็นคนขี้สงสาร แข็งนอกแต่อ่อนใน เมื่อกี้โค้ชอธิบายให้เขาฟังแล้ว เขารู้แล้วล่ะว่าอะไรเป็นอะไร"

ไท้พยักหน้ารับรู้ เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง หวังว่าอีกไม่นานเปาจะเข้าใจและหายโกรธ

"เดี๋ยวโค้ชไปส่งที่หอพักละกัน"

"ครับโค้ช"

... ... ...

เปาเดินโซซัดโซเซเข้ามาจนถึงห้องของตัวเอง เขานั่งลงบนเตียงนอน ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอย่างอ่อนล้า ให้ขาห้อยอยู่ปลายเตียง เรื่องที่พ่อบอกเมื่อสักครู่ทำให้เขาคิดหนักไม่น้อย

ต่อให้เป็นความจริง ณ นาทีนี้ก็ยากสำหรับเปา เพราะเขาปิดประตูใจไปเรียบร้อยแล้ว ความรักของเกย์เชื่อใจไม่ได้เลย แม้กระทั่งเขาเองก็ไว้ใจไม่ได้

จีนเอาความน่าสงสารมาหลอกล่อให้เขาติดกับ จนกระทั่งเลยเถิดไปอย่างไม่น่าเชื่อ ที่จริงเขาก็รู้สึกได้ว่าจีนมีวาระซ่อนเร้นบางอย่าง แต่เมื่อตกกระไดพลอยโจน บวกกับความรู้สึกที่เคยทำไม่ดีกับจีนไว้ เขาก็เผลอปล่อยให้มันเลยตามเลย จนเกิดความสัมพันธ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยิ่งมาเจอเรื่องคลิปของไท้ ความศรัทธาในความรักของ "คนพวกนี้" ก็ยิ่งติดลบ

สรุปว่าไม่มีใครดีเลยสักคน นี่หรือเปล่าที่สังคมบางส่วนยังไม่ยอมรับความรักแบบนี้ เพราะมันมีแต่ความสำส่อน หลอกลวงและไม่จริงใจ อย่ากระนั้นเลย หยุดมันไว้แค่นี้ดีกว่า เขาควรจะทำตามที่แม่ขอไว้ ไม่ควรจะเสียเวลากับความรักแบบนี้อีกแล้ว

เปาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เมื่อปลดล็อคแล้วก็ค้นหาชื่อของใครคนหนึ่งในรายชื่อติดต่อ ชื่อของฟางปรากฎขึ้นบนหน้าจอ แต่เขาก็ลังเลที่จะกดโทรไปหา

ไม่นานเปาก็วางโทรศัพท์ลงบนเตียง แต่สีหน้ายังครุ่นคิด สักพักก็หยิบขึ้นมาใหม่ ก่อนตัดสินใจกดโทรออกไป ครั้งแรกไม่มีคนรับสาย อาจเป็นไปได้ว่าฟางนอนแล้ว เขาจึงกดโทรอีกรอบ รออยู่เกือบนาที คราวนี้มีคนกดรับ

"ฮัลโหล จากไหนคะ"

น้ำเสียงที่ถามมาฟังดูง่วงและอู้อี้ ฟางอาจจะตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์ ด้วยความตกใจจึงกดรับและไม่ได้ดูว่าใครโทรมาหา

"ฮัลโหล จากไหนคะ" ฟางถามย้ำด้วยประโยคเดิม

"ฟางใช่ไหม" เปาตัดสินใจพูดออกไป เพราะกลัวฟางจะวางสายไปเสียก่อน

แม้น้ำเสียงจะฟังดูเมาๆ แต่ฟางคงไม่มีวันลืมเสียงของคนที่เธอคบหามาด้วยถึงห้าปีอย่างแน่นอน เธอคงตกใจและแปลกใจที่เปาโทรมาก็เลยเงียบ นั่นคือสัญญาณที่บอกให้เปารู้ว่าเธอกำลังรอฟังอยู่

"ฟางยกโทษให้เปาได้ไหม เรากลับมาคืนดีกันได้ไหมฟาง"

ทันทีที่เปาพูดจบ เสียงโดนตัดสายก็ดังขึ้น เมื่อเขาโทรไปอีกรอบ โทรศัพ์เครื่องนั้นก็ปิดไปแล้ว เขาจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะโทรหา ก็ไม่แปลกที่ฟางจะทำอย่างนั้น แต่ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เปาจะไปหาฟางที่บ้าน เขาจะขอโทษเธอ ขอกลับไปเป็นเหมือนเดิม จากนั้น เขาก็จะหันหลังให้กับ "คนพวกนั้น" ตลอดชีวิต

ทำไมต้องเป็นฟางน่ะหรือ เพราะฟางเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เปาสามารถรักได้ ถ้าหากฟางไม่ให้อภัยแล้ว เปาก็นึกไม่ออกว่าจะทำใจรักผู้หญิงคนอื่นได้หรือเปล่า แต่ถ้ามันจำเป็น...ก็คงต้องทำ

เพราะชาตินี้...เขาจะขอหันหลังให้กับ "คนพวกนี้"!


TBC

หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP23 หันหลัง ◯ 27.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 27-02-2017 13:40:36
 สงสารเปาแต่ก็เห็นใจไท้ โดนคนหลอก เปาจะง้อฟางได้มั้ย ขอให้ฟางใจอ่อนเถอะ
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP23 หันหลัง ◯ 27.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2017 14:05:03
เฮ้ออออ อุรุงตุงนังจัง จะจบแบบไหนอะ ไม่อยากจะคิดเลย ปวดหัว :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP23 หันหลัง ◯ 27.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 27-02-2017 15:06:20
1 คงสมใจจีนแล้วที่ทำลายเปาได้
2 ถ้าเปาจะปิดใจ ก็ขอเลยอย่ากลับมาให้ความหวังไท้อีก
3 ส่วนไท้ ก็ขอให้อดทนแล้วผ่านเรื่องนี้ให้ได้ แล้วเรียนรู้โลกซะว่า อย่าโลกสวย ไว้ใจคนง่ายๆ
4 ถ้าเราเป็นฟาง เราคงไม่กลับมาคบกับเปาแล้วอ่ะ โลเลขนาดนั้น ไปไม่รอดก็ซมซานกลับมา คือ เปาไม่ได้รักฟางแล้วไง ถึงได้ไปชอบไท้จริงไหมล่ะ แล้วพอไม่เป็นดั่งหวัง ผิดหวังจากไท้จะกลับไปหาฟาง เราว่าอันนี้แย่อ่ัะ ฟางของตายหรอ? ฟางเลือกทางอื่นเหอะ
สุดท้าย เปาก็นะ เหมือนมันฝังใจอยู่แล้ว ยิ่งพอเจอเรื่องแย่ๆ + ตัวเองแย่ด้วย ก็คงผิดหวังมากๆๆๆ เป็นธรรมดา พอจะเข้าใจแหละ นางก็เข้าใจนะว่าตัวเองก็เหี้ยด้วย5555 เลยพาลมองไปว่าความสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันมันไม่ดี แต่ทำไมคิดไม่ได้ว่าถ้าตัวมันทำดี ความรักของมันกับไท้จะพังหรอ ประเด็นไท้มันก็รู้แล้วอ่ะว่าไท้มันซื่อ โดนหลอก รีบปิดใจเกิ้นนน ใจเย๊นนนนนนน โตจนป่านนี้ยังไม่เลิกนิสัยด่วนตัดสินใจอีก เห้อ ปวดกบาลแทน
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP23 หันหลัง ◯ 27.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 27-02-2017 19:07:25
เฮ้ออออ อุรุงตุงนังจัง จะจบแบบไหนอะ ไม่อยากจะคิดเลย ปวดหัว :katai1: :katai1: :katai1:

อ่านนิยายผมต้องทำใจนิดนึงนะครับ โดยเฉพาะนิยายดราม่า 555
อดทนอีกนิดเดียว อีกไม่นานก็จะจบแล้วครับ :)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP23 หันหลัง ◯ 27.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-02-2017 19:16:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP23 หันหลัง ◯ 27.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 27-02-2017 20:15:16
ได้แต่โทษ โกรธคนอื่น ยื่นความผิด
มองตัวเอง ซักกะนิด ผิดตรงไหน
ถ้าตัวเอง ทำไปได้ ไม่เป็นไร
แต่ถ้าใคร ทำไปบ้าง อ้างว่าเลว

เปาทำตัวแบบนี้..ชาติหน้าก็ไม่มีวันได้เจอกับรักแท้หรอก
ถึงแม้เค้าคนนั้นจะเป็นหญิงหรือเป็นชาย ไม่เห็นจะเกี่ยวกันที่ตรงไหน
มันขึ้นอยู่กับว่า คุณ..คิดจะรักใครด้วยใจ จริงใจกับความรักหรือเปล่า
แค่นี้ที่อยากให้เปาทำความเข้าใจให้ดี

ไม่อย่างนั้น..ก็ไปเข้าฝูงกับวัวควายยยยยยย เหอะ
เปามีนิสัยแบบนี้..คิดว่าจะเหลือใครบ้างให้เข้าใจ

บวกเป็ด คร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP23 หันหลัง ◯ 27.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 27-02-2017 23:01:45
ไท้คือคนที่น่าสงสารที่สุด

 โดนคนหลอกตลอด
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP24 สับสน ◯ 28.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 28-02-2017 06:45:06
EP 24 | สับสน

(https://s19.postimg.org/qbb5cts03/set_love_new.jpg)

ดูเหมือนเรื่องร้ายๆ ของไท้ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ วันต่อมา นายกสมาคมวอลเลย์บอลก็เรียกให้เขาเข้าไปพบตอนบ่าย ปกติท่านจะไม่ลงมาแก้ปัญหาลึกถึงขนาดนี้ แต่เรื่องที่เกิดกับไท้เป็นเรื่องร้ายแรง จึงต้องลงมาจัดการด้วยตัวเอง

เมื่อมาถึง ไท้ก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่นั่งรออยู่หลายคน น่าจะมีการประชุมมาก่อนแล้ว เพราะเมื่อไท้นั่งลง นายกสมาคมก็สั่ง

"ผมคงต้องขอให้ไท้หยุดพักการซ้อมหนึ่งเดือนแล้วล่ะ ตอนนี้นักข่าวโทรมาที่สมาคมแทบจะทุกชั่วโมง ช่วงนี้ ไท้อาจจะต้องออกไปอยู่ข้างนอกก่อน เพราะไม่งั้นนักข่าวก็จะตามไปวุ่นวายที่สนามซ้อม อย่างวันนี้ โค้ชกิตติบอกว่าแทบจะไม่เป็นอันซ้อมกันเลย เพราะมัวแต่ให้ไท้หลบนักข่าว อ้อ ไท้ต้องปิดอินสตาแกรมกับเฟสบุ๊คด้วย ลองเข้าไปดูเองละกัน ตอนนี้แฟนคลับทั้งด่าไท้ ทั้งทะเลาะกันเอง วุ่นวายกันไปหมด ทีหลัง...จะมีแบบนี้อีกไม่ได้แล้วนะ เพราะถ้ามันวุ่นวายมากๆ ถึงจะเสียดายแค่ไหน แต่เราคงต้องขอให้ไท้ออก ส่วนเรื่องที่จะไปแจ้งตำรวจ ผมว่าอย่าทำเลย ปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปเองดีกว่า ไม่งั้น...เราก็จะยิ่งเสียชื่อมากขึ้น มันมีแต่เสียกับเสีย ถ้าไม่ใช่เพราะไท้ทำผลงานไว้ดี ไท้คงได้กลับบ้านแน่ๆ หวังว่าจะเข้าใจสมาคมนะ"

"ครับ" ไท้ได้แต่รับคำ เพราะเขาไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไรได้เลย

ตอนเย็นไท้จึงกลับมาที่หอพักนักกีฬาเพื่อจะขนของออก เขาโทรไปปรึกษาโค้ชเด้งแล้ว ตกลงว่าโค้ชเด้งจะมารับไท้ไปพักด้วยที่บ้าน ตอนแรกไท้ไม่ตกลงเพราะกลัวเปาจะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น จะออกไปเช่าหออยู่ข้างนอกตอนนี้ เขาก็ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่ามัดจำหลายๆ เดือน เงินเบี้ยเลี้ยงที่ได้มาก็ส่งให้แม่ใช้เกือบครึ่ง แบ่งเก็บส่วนหนึ่ง เหลือไว้ใช้เพียงเล็กน้อย ซ้ำยังจะโดนตัดเบี้ยเลี้ยงอีกสองเดือน คงไม่มีเงินจ่ายค่าหอพักแน่ เผลอๆ เงินกินข้าวก็อาจจะไม่มีด้วย เขาจึงต้องไปขออาศัยโค้ชเด้งอยู่

เมื่อมาถึงตึกสองร้อยเตียง ไท้ก็พบจีนมายืนรออยู่ด้านหน้าก่อนแล้ว สีหน้าของจีนดูเศร้า น่าจะเป็นเพราะสงสาร ก็คงไม่แปลก เพราะชีวิตของไท้ช่วงนี้น่าสงสารเหลือเกิน ปัญหารุมเร้ามากมายจนเขาแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

"เป็นไงมั่งไท้" จีนถามเสียงสั่นๆ หน้าเศร้าจนเกือบดูเหมือนร้องไห้

"มีเรื่องเยอะเลยครับ" ไท้พยายามหัวเราะให้ดูตลก แต่ก็ฟังดูเศร้าเต็มที

"ไปสมาคมมาเหรอ เขาว่าไงบ้าง" จีนเดินเข้ามาใกล้ นึกอยากจะกอดอีกคนปลอบใจ แต่เขากลับไม่กล้า

ไท้ถอนหายใจ ยิ้มเศร้าๆ "เขาให้ผมหยุดซ้อมหนึ่งเดือนครับ แล้วก็ให้ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกก่อน ไม่งั้นนักข่าวจะตามมารังควาน"

จีนทำท่าตกใจ ยิ่งรับรู้ผลกระทบที่เกิดขึ้น เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดและสงสารคนตรงหน้า "ขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วไท้จะไปพักที่ไหนล่ะ ไปพักคอนโดพี่ไหม"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ รบกวนพี่จีนเปล่าๆ ผมจะไปพักบ้านโค้ชเด้งครับ"

"แล้วเปา..." จีนไม่กล้าถามออกมาตรงๆ แต่ไท้น่าจะเดาได้ว่าเขาอยากถามอะไร

"พี่เปาเขาโกรธผมมาก เขาคงจะไม่ให้อภัยผมแล้ว"

"แล้วไท้จะไปอยู่บ้านเดียวกับเปาได้ยังไง"

"ก็ผมไม่มีทางเลือกนี่ครับ ผมมีเงินอยู่นิดเดียว ไม่พอไปเช่าหออยู่ แล้วผมก็ไม่มีญาติในกรุงเทพด้วย ไม่รู้จะไปอยู่กับใคร ก็เหลือแต่โค้ชเด้งคนเดียว ผมโดนตัดเบี้ยเลี้ยงด้วยสองเดือน เดือนหน้าผมยังไม่รู้เลยว่าจะเอาเงินที่ไหนใช้"

"จริงเหรอไท้" จีนถามอย่างสะท้อนใจ น้ำตาของเขาไหลลงมาอย่างช้าๆ ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เขาทำจะส่งผลร้ายต่อชีวิตของคนที่ไม่รู้เรื่องด้วยมากขนาดนี้ "ไท้เอาเงินพี่ไปใช้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวพี่ให้"

"ไม่ต้องหรอกครับพี่จีน" ไท้รีบห้ามเมื่อเห็นจีนทำท่าจะควักเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์

"เอาไปเหอะน่า" จีนบอก เขาเปิดกระเป๋าสตางค์และควักแบงค์พันหลายใบส่งให้โดยไม่เสียเวลานับ

"มันเยอะไปน่ะพี่ ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ ถึงผมจะจน...แต่ผมก็ไม่อยากเป็นหนี้ มีเท่าไหร่...ผมก็จะใช้เท่านั้น ถ้าไม่มีจริงๆ ผมจะบอกให้แม่ส่งมาให้ พี่จีนไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมพอเอาตัวรอดได้อยู่" ไท้แย้ง

น้ำตาของจีนไหลพรากลงมาอย่างไม่อาจห้ามได้ เมื่อไท้ยืนยันเช่นนั้น เขาก็ไม่กล้าจะหยิบยื่นเงินให้ จึงเก็บคืนใส่กระเป๋า

"ถ้าไม่มี ไท้บอกพี่นะ ไท้จะเอาเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจเลย"

"ครับ" ไท้รับคำ เห็นจีนร้องไห้เสียใจขนาดนั้นก็อดสงสัยไม่ได้

"แล้วนี่ไท้จะไปไหน" จีนถาม

"เดี๋ยวผมต้องไปเก็บของน่ะครับ อีกสองชั่วโมงโค้ชเด้งจะมารับ"

"โธ่ไท้" จีนสะท้อนใจ แต่เขาก็ขี้ขลาดเกินไปที่จะสารภาพความผิด "ไท้อยู่ได้แน่นะ"

"ครับ"

"ถ้าไม่ไหวก็บอกพี่ ถ้าเปาเขามีปัญหา ไม่อยากให้ไท้อยู่ด้วย หรือถ้าเขาพูดไม่ดีกับไท้ ไท้บอกพี่เลยนะ พี่จะให้ไท้มาอยู่ที่คอนโดของพี่ จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ พี่ไม่ว่าหรอก"

"ครับพี่" ไท้ยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ อย่างน้อยก็ยังรู้สึกดีขึ้นมาบ้างที่มีคนเป็นห่วงถึงขนาดนี้ เขาไม่กล้าให้ที่บ้านรู้เรื่องนี้เลย เพราะแม่กับไอซ์คงเสียใจมาก

"เจ็บมากหรือเปล่า" น้ำเสียงของจีนแสดงความเป็นห่วง เขายื่นมือออกไปและจับมือไท้ไว้

ไท้ก้มมองมือที่ถูกจับไว้ บอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่ แม้รู้ว่าจีนอยากปลอบใจ แต่ก็ยังช่วยไม่ได้มากเท่าที่ไท้ต้องการ ถ้าเปลี่ยนเป็นใครอีกคนได้คงจะดีไม่น้อย

"เข้มแข็งนะไท้ เดี๋ยวไท้ก็จะผ่านมันไปได้ พี่ก็เคยเจ็บแบบนี้มาก่อน พี่ยังผ่านมันมาได้เลย ไท้เป็นคนเก่ง เป็นคนเข้มแข็ง พี่เชื่อว่าไท้ผ่านมันได้แน่นอน จำที่พี่เคยบอกไท้ได้ไหม ถ้าความรักมันยาก ไท้ก็วางมันไว้ สนใจความฝันของตัวเองดีกว่า เพราะความฝันมันไม่ทำร้ายเรา ความฝันของไท้...มันยิ่งใหญ่มากนะ อย่าให้อะไรมาหยุดมัน"

ไท้พยักหน้ารับรู้ พยายามยิ้มให้มากที่สุดเท่าที่จะพอยิ้มได้ "ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับพี่จีน ถ้าพี่เปา...เข้าใจผมเหมือนพี่จีน...ก็น่าจะดี"

เมื่อได้ยินไท้ตัดพ้อ จีนก็ถึงคราวทนไม่ไหว เขาดึงไท้เข้ามากอดไว้แน่น อยากจะพูดคำว่าขอโทษก็ได้แต่กล้ำกลืนมันลงไปในอก ถ้าไท้รู้ความจริงคงรับไม่ได้แน่ เขาจึงทำได้เพียงแค่หยิบยื่นกำลังใจและความช่วยเหลือเท่าที่จะให้ได้

ช่างน่าละอายใจเหลือเกิน อยากแก้แค้นอีกคน แต่กลับดึงอีกคนที่ไม่รู้เรื่องเข้ามาเกี่ยวข้อง นี่คือบทเรียนความผิดพลาดยิ่งใหญ่ที่เขาต้องจำจนตาย

อยู่ๆ จีนก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรง เหมือนกับตอนนั้นที่เขาเจอเปาที่โรงเรียนครั้งแรก ยามใบหน้าคมคายมองมา หัวใจของเขามักจะเต้นรัวอย่างนี้ ทำไมมันช่างคล้ายกันเหลือเกิน หรือว่า...

จีนรีบผละออก เขาวางหน้าไม่ถูก แม้แต่ไท้เองก็คงรู้สึกได้ว่าแปลก

"เดี๋ยวพี่ไปช่วยเก็บของ ให้พี่ช่วยนะ" จีนเสนอ เขาไม่กล้ามองหน้าไท้ตรงๆ

ไท้ทำท่าครุ่นคิดและลังเล แต่ไม่นานก็พยักหน้าตกลง

... ... ...

ราวๆ สองทุ่ม รถเก๋งคุ้นตาก็แล่นเข้ามาหยุดหน้าบ้านกลางเก่ากลางใหม่หลังหนึ่ง สักพักผู้ชายคนหนึ่งก็เป็นคนลงมาเปิดประตูบ้าน คนขับซึ่งเป็นผู้หญิงก็ขับรถเข้าไปจอด มันมีพื้นที่พอจอดรถได้เพียงคันเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดมีเพื่อนหรือญาติมาหาก็ต้องจอดไว้ข้างนอก

เมื่อหญิงสาวลงจากรถ เธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นใครคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้านของเธอพร้อมกับแม่

"เปา"

"ฟาง"

ทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน คนหนึ่งพยายามยิ้มให้ แต่อีกคนกลับเครียด

"ฟิว พี่ฝากเอาของไปเก็บใส่ตู้เย็นด้วยนะ" ฟางหันไปบอกน้องชายซึ่งกลับบ้านมาด้วยกัน

"ครับพี่ฟาง" ฟิวบอกพลางเดินไปเปิดกระโปรงรถ ก่อนหยิบข้าวของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้าไปเก็บในบ้าน

แม่ของฟางเองก็ขอตัวกลับเข้าบ้าน คงรู้ว่าหนุ่มสาวสองคนต้องคุยกันลำพัง เธอรู้เรื่องที่ฟางกับเปาเลิกกันแล้ว เพราะวันที่เลิกกับเปา ฟางกลับบ้านมาร้องไห้กับแม่

ที่หน้าบ้านมีโต๊ะชุดเล็กๆ พอนั่งคุยกันสองสามคนได้ ฟางเดินไปนั่งรอตรงนั้นโดยไม่หันมามองเปา ส่วนเปาดูกล้าๆ กลัวๆ กระนั้นก็ทำใจดีสู้เสือ ก่อนเดินมานั่งลงตรงหน้าคนที่เพิ่งกลายเป็นอดีตแฟน

"มีอะไร" ฟางถามเสียงห้วนเหมือนไม่เต็มใจพูด แววตาของเธอยังดูเจ็บปวด จะว่าไปเธอก็เพิ่งเลิกร้องไห้ไปไม่กี่วันนี่เอง

เปาพยายามยิ้มให้ แต่หน้าดุๆ ของฟางก็ทำให้เขายิ้มไม่ออก "ฟาง...สบายดีไหม"

ฟางหันขวับมาทันที ท่าทางดูไม่สบอารมณ์ "แล้วจะให้ตอบว่าไงล่ะ"

เปาสะดุ้ง บทผู้หญิงจะดุขึ้นมาก็น่ากลัวไม่น้อย

"มีอะไรก็ว่ามา ฟางเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว จะได้กินข้าวอาบน้ำนอน พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า" ฟางกระแทกเสียง

ก็ไม่แปลกที่ฟางจะทำท่าทางอย่างนั้นใส่ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ยุติธรรมสำหรับเธอเลย เปาเองก็ผิดมากที่หักหลังเธอ การจะขอคืนดีจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

"ฟาง...เปา..."

"จะขอคืนดีเหรอ" ฟางพูดแทรกเมื่อเห็นเปาอ้ำอึ้ง

"ใช่" เปายอมรับตามตรง "เปาขอโทษ"

"ขอโทษเรื่องอะไร" ฟางพูดสวนทั้งที่เปายังพูดไม่จบ

"ก็...ที่เปา..."

"คิดว่าเล่นขายของอยู่เหรอไง!" ฟางพูดเสียงเข้ม อารมณ์ที่พลุ่งพล่านจะพาเธอร้องไห้อีกแล้ว

เปานั่งเงียบ สีหน้ารู้สึกผิด ครั้งนี้เขาจะยอมให้ฟางด่าทอ ต่อว่าหรือทำอะไรก็ได้ ทนเจ็บ ทนอายเอาหน่อย ไม่นานฟางก็จะใจอ่อน เพราะเธอไม่ใช่คนใจร้ายโดยนิสัยอยู่แล้ว

"รักเขาไม่ใช่เหรอ เป็นแบบนี้ไปแล้ว ยังคิดว่าจะรักผู้หญิงได้อีกเหรอ" ฟางตัดพ้อพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย

"แต่เปาก็รักฟางไปแล้วนะ ฟางเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เปารักได้ ห้าปีที่ผ่านมา...เปารักฟางมาก ฟางจำไม่ได้เหรอ"

"ใครกันแน่ที่จำไม่ได้ รักมาก...แล้วทำไมทำแบบนี้" ฟางเถียง

"เปา...เปาหลงผิดน่ะฟาง"

"หลงผิดเหรอ" ฟางทวนคำพูด "พอเหอะ ไม่ต้องมาอธิบายอะไรแล้ว เปากลับไปดีกว่า แค่นี้ฟางก็เจ็บมากพอแล้ว อย่าทำให้ฟางเจ็บกว่านี้อีกเลย เปาจะยังรักฟางแค่ไหนฟางไม่รู้ แต่ความไว้ใจน่ะ...หมดแล้วก็หมดเลย เปาทำลายมันไปหมดแล้ว ทำตกดินไปแล้ว ไม่ต้องเอามาคืนหรอก"

พูดจบฟางก็ลุกขึ้น ก่อนเดินแกมวิ่งเข้าไปในบ้าน เปาได้แต่ร้องเรียกตาม แต่ก็ไม่ได้เดินตามไป เห็นความเจ็บปวดของฟางแล้ว เขาก็พูดไม่ออก นี่คือสิ่งที่เขาตอบแทนให้กับความรักของเธอตลอดห้าปีที่ผ่านมา ช่างน่าละอายเหลือเกิน เขาจะเรียกตัวเองว่าอะไรได้ นอกจาก...

ผู้ชายเลวๆ คนหนึ่ง!

เมื่อเหตุการณ์กลายเป็นแบบนี้ เปาก็ไม่รู้จะไปทางไหน จะเดินหน้าขอคืนดีกับฟางก็ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไป จะกลับไปหาไท้เขาก็กลัว ส่วนจีนคงไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่เกิดเรื่อง เปาก็ไม่ติดต่อกับผู้ชายคนนั้นอีกเลย หรือว่า...เปาควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงสักคน

เปาลุกขึ้น เขาเดินคอตกออกไปจากบ้านของฟาง น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงมาอีกแล้ว ช่วงนี้เขาร้องไห้บ่อยๆ อยู่คนเดียวเมื่อไหร่เขาก็จะร้องไห้ แต่ตอนนี้...เขาก็ไม่เหลือใครเลย ก็คงมีแค่เจ้าสองตัวที่รอเปาอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าเขาจะสุขหรือเศร้า พวกมันก็จะอยู่เป็นเพื่อน ไม่ว่าเขาจะทำผิดหรือถูก พวกมันก็ไม่เคยต่อว่า ไม่เคยกล่าวโทษ ไม่เคยตัดสิน เพราะฉะนั้น คืนนี้เปาจะไม่ไปกินเหล้าอีกแล้ว เพราะยิ่งกินก็ยิ่งเหงา กลับไปอยู่กับหมาดีกว่า

... ... ...

เมื่อมาถึงบ้าน เมสซี่กับเนยมาร์ก็วิ่งออกมาต้อนรับเจ้านายเหมือนเช่นเคย พวกมันดีใจราวกับไม่ได้เจอกันมาสักสิบปีเสมอเวลาเปากลับมา เปาย่อตัวลงกับพื้นหญ้า ปล่อยให้พวกมันคลอเคลียและเลียไปทั่ว จิตใจที่ขุ่นมัวมาทั้งวันก็พลันดีขึ้น การเล่นกับหมาถือเป็นการบำบัดจิตใจที่ดีไม่น้อย

ไม่นานเปาก็รู้สึกได้ว่ามีคนยืนมองดูอยู่ เขาจึงหยุดเล่นกับหมาและเงยหน้าขึ้นมอง พลันก็ตกใจระคนแปลกใจเมื่อเห็นไท้กับพ่อยืนมองอยู่ ไท้อยู่ในชุดกีฬากางเกงขาสั้น ส่วนพ่อใส่ชุดวอร์ม ไม่รู้ว่าเพิ่งออกกำลังกายหรือฝึกซ้อมอะไรกันแน่

"ผมเอาข้าวให้มันกินแล้วนะครับพี่เปา วันนี้...ให้มันกินบาร์บ" ไท้บอก บาร์บที่เขาพูดถึงคือข้าวคลุกกับเนื้อสัตว์ดิบ เปาจะให้พวกมันกินแบบนี้สัปดาห์ละครั้งสองครั้ง

เปาค่อยๆ ลุกขึ้นยืน อาการที่แสดงออกบ่งบอกว่าเจ้าตัวทำตัวไม่ถูก ที่สำคัญคงจะสงสัยด้วยว่าทำไมไท้ถึงกลับมาที่นี่อีก

"พ่อจะให้ไท้อยู่กับเราสักหนึ่งเดือนนะเปา" โค้ชเด้งบอกลูกชาย สีหน้าไม่ยิ้ม ออกจะดูขรึมๆ มากกว่า

เปาคงสงสัย แต่เขาก็ไม่ถาม เป็นเรื่องปกติระหว่างเขากับพ่ออยู่แล้ว

"ตอนนี้...นักข่าวตามตัวไท้กันใหญ่ ทางสมาคมเขาก็เลยให้ไท้หยุดซ้อมหนึ่งเดือน แล้วก็ให้ย้ายออกมาอยู่ข้างนอกชั่วคราว ตอนแรก...ไท้ว่าจะไปหาอพาร์ทเมนท์พักข้างนอก แต่เขามีเงินไม่พอ เพราะสมาคมก็ตัดเงินเบี้ยเลี้ยงเขาด้วย ในฐานะที่พ่อพาไท้มา พ่อก็ต้องรับผิดชอบ พ่อไม่รู้ว่าเปามีปัญหาหรือเปล่า แต่พ่อก็อยากให้เปาเข้าใจ"

สีหน้าของเปาดูอ่อนลง ถ้าใครสามารถอ่านใจเขาได้ตอนนี้ คงจะรู้ว่าเขาก็สงสารไท้

"ครับ" เปารับคำสั้นๆ

"ช่วงนี้ ไท้จะไม่ได้เข้าไปซ้อมที่ กกท. แต่ไม่ต้องห่วงหรอก พ่อจะให้เขาซ้อมที่บ้าน เพราะอีกสองเดือนต้องไปแข่งกระชับมิตรที่เกาหลี ถ้าหยุดซ้อมไปเลยร่างกายจะถดถอย จะเล่นกับทีมไม่ได้ ไท้เขาฝีมือดี พ่อไม่อยากให้เขาพลาดโอกาสสำคัญ ถ้าเปาจะกรุณา จะช่วยน้องบ้างพ่อก็ไม่ห้าม แต่ถึงเปาไม่ช่วย พ่อก็จะช่วยเอง"

ไม่รู้ว่าเปารู้สึกอย่างไรบ้างกับคำพูดของพ่อ บางจังหวะเขาก็เผลอมองหน้าไท้ ทำท่าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง

โค้ชเด้งหันไปมองคนที่ยืนข้างๆ ก่อนตบไหล่เบาๆ ให้กำลังใจ "อีกไม่นานมันก็จะผ่านไปนะไท้ ไท้เป็นเด็กดี เป็นคนเข้มแข็ง สักวันไท้จะประสบความสำเร็จ โค้ชเชื่อมั่นในตัวไท้มาก ไม่งั้นโค้ชไม่เลือกมากับมือหรอก บททดสอบชีวิตช่วงนี้มันก็อาจจะหนักไปหน่อย อาจจะดูเหมือนโชคร้าย แต่โค้ชเชื่อนะว่ามันจะทำให้ไท้เข้มแข็ง มีแต่คนเข้มแข็งเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ โค้ชชื่นชมไท้นะที่ไท้ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเอง ซื่อสัตย์กับความฝันของตัวเอง ส่วนคนที่เอาแต่หนีหัวใจตัวเอง เขาก็จะไม่มีความสุขหรอก แต่อีกไม่นาน...ไท้จะมีความสุข โค้ชเจอคนมาเยอะแล้ว คนแบบไท้นี่แหละที่จะประสบความสำเร็จ อดทนอีกหน่อยนะไท้"

"ครับโค้ช" ไท้รับคำ แต่สายตายังมองไปที่เปาอยู่

เปาคงรู้ว่าพ่อตั้งใจพูดกระทบ แต่เขาก็พูดหรือเถียงไม่ออก

"คนสมัยนี้มันใจดำกันเยอะ แต่ไท้ไม่ต้องกลัวหรอก ถึงอยู่นี่ไท้จะไม่มีแม่กับน้อง ยามลำบากก็ไม่รู้จะไปหาใคร โค้ชจะช่วยไท้เอง มีอะไรก็บอกโค้ช ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนก็มาอยู่ที่นี่ ถ้าไท้ไม่รังเกียจคนแบบโค้ช ก็ถือซะว่า...โค้ชเป็นพ่อคนหนึ่งของไท้ละกัน"

"ขอบคุณครับโค้ช ผมจะไม่ลืมบุญคุณของโค้ชเลยครับ" ไท้ยกมือไหว้ผู้สูงวัยกว่า ด้วยความซาบซึ้งใจ เขาจึงอดน้ำตาไหลไม่ได้

เปามองดูภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ยากจะบอก ที่จริงเขาควรจะเป็นคนแรกที่หยิบความช่วยเหลือและกำลังใจให้ไท้ แต่มาวันนี้ เขากลับปล่อยให้คนที่เขารักเผชิญปัญหาเพียงลำพัง จนกระทั่งพ่อต้องเป็นคนหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ หรือว่าเขาจะใจดำอย่างที่พ่อพูดกระทบ

"ไม่ต้องคิดมากหรอกไท้ คนเก่ง คนดี เราต้องช่วยกันสนับสนุน เพราะคนแบบนี้จะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้อีกเยอะ วันหนึ่งไท้เก่งแล้ว ประสบความสำเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาขอบคุณหรือตอบแทนโค้ชหรอก ไปช่วยคนอื่นๆ ต่อ โค้ชจะดีใจมากถ้าไท้สำเร็จแล้วนึกถึงคนอื่น เพราะโค้ชเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่เขาต้องการโอกาสเหมือนไท้ แต่ไม่มีคนสนับสนุน"

"ครับโค้ช" ไท้บอก

เมื่อได้ฟังพ่อสอนไท้ต่อหน้า เปาก็พบว่าที่จริงแล้วพ่อของตัวเองก็มีความคิดดีๆ หลายอย่าง แต่ที่ผ่านมา เปาไม่เคยให้โอกาสพ่อได้สอนแบบนี้เลย แค่พ่ออ้าปากพูดเขาก็เถียงแล้ว

"เข้าไปในบ้านเถอะ ยุงมาแล้ว" โค้ชเด้งบอก ไม่แน่ใจว่าบอกเปาด้วยหรือเปล่า

"เดี๋ยวผมพาเมสซี่กับเนยมาร์ไปนอนหลังบ้านให้นะครับ" ไท้บอกคนตรงหน้า

เปาพยักหน้าเบาๆ พยายามไม่แสดงความรู้สึกใดๆ บนใบหน้า เมื่อเขาอนุญาต ไท้ก็เรียกหมาสองตัวให้เดินตามไปหลังบ้าน ส่วนพ่อเดินเข้าไปในบ้าน เหลือเพียงเปาคนเดียวที่ยืนครุ่นคิดเงียบๆ

ในความคิดนั้นมีแต่ความสับสน วุ่นวาย ยุ่งเหยิง เขานึกอยากตะโกนให้ก้องฟ้า เพราะรู้สึกอัดอั้นตันใจกับการปิดขังตัวเองด้วยความคิด


TBC


ป.ล. ไม่มีใครอ่านเจ้าชายชาร์มินแล้วเหรอ? :(
ช่วงนี้ผมจะอัปเดตช้าลงอีกแล้วนะครับ น่าจะ 3-4 วันจะมาหนึ่งตอน มีรายงานต้องทำยาวมาก
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP24 สับสน ◯ 28.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 28-02-2017 08:06:51
ไปค่ะ จับเปาใส่ในห้องนั่งคิดทบทวนทุกสิ่งอย่างดีๆ แล้วตัดสินใจมาเลย ใกล้จบแล้วใช่ไหมคะ งั้นยิ่งต้องรีบคิดเลยค่ะ นี่อยากเห็นไท้มีความสุขแล้ว ให้โอกาสเด็กมันหน่อยไหมล่ะแหม่ ทีแกยังผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก น้องเขาพลาดครั้งเดียว ไม่ได้ตั้งใจด้วย โกรธเขาจะเป็นจะตาย  อยากจับเปามานั่งอบรมจริงๆ
ส่วนจีน... แกกลับไปนั่งเงียบๆ เลยไป ทำน้องขนาดนี้แล้วอย่ามาทำใจเต้นแรงกับน้องนะเว้ย ที่แกทำไม่มากเกอนกว่าจะมาขอความรักจากไท้ละ ไปค่ะ ไปไกลๆ
ปล. มาอัพแต่เช้าเลยนะคะ แต่เราก็ตื่นมาอ่าน555555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP24 สับสน ◯ 28.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 28-02-2017 17:06:01
อยากอ่านต่ออะ ค้างที่เปาจะทำไงต่อ มาต่อเร็วๆนะคับ
  ** โปรโมทเรื่องใหม่ด้วย น่าสนใจคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP24 สับสน ◯ 28.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-02-2017 19:25:52
เฮ้อออออ.    สงสารไท้อะ.
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP24 สับสน ◯ 28.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 28-02-2017 20:05:17
สาปแช่งเปา..ไม่ให้หลงเหลือใครอีกเลยในชีวิต
ในเมื่อคิดว่าตัวเองดีอยู่คนเดียว คนอื่นเลวหมด

ก็อยู่คนเดียวไปนะ
จะได้ไม่มี(คนเลว)คนไหนมาทำร้ายได้อีก

อยู่แบบคนดีดีไปก็แล้วกัน
ดี๊ยยยยดียยยย..เปา

บวกเป็ด บวกหนึ่งฮับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP24 สับสน ◯ 28.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 01-03-2017 23:14:19
ชีวิตไท้น่าสงสารมากขึ้น

ล้อเล่นกับชีวิตคนอื่นมากไปรึป่าว ทั้งเปา ทั้งจีน,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP24 สับสน ◯ 28.02.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 03-03-2017 00:35:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP25 ตัดใจ ◯ 5.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-03-2017 18:00:01
EP 25 | ตัดใจ

(https://s19.postimg.org/5h5a7q7b7/Jojaesung.jpg)

"Hi. How are you today?"

หลังโทรศัพท์คุยกับแม่จบไปไม่ทันไร ข้อความจากเฟสบุ๊คเมสเซนเจอร์ก็เด้งขึ้นมา ชวนคุยเป็นภาษาอังกฤษเสียด้วย ไท้พอตอบโต้อย่างง่ายๆ ได้บ้าง ที่ผ่านมาก็มีคนต่างชาติเข้ามาคุยด้วยในแอพนี้บ่อยๆ อันไหนไม่เข้าใจ ไท้ก็จะใช้กูเกิ้ลช่วยแปลให้

"I'm fine. Who are you?" ไท้พิมพ์ตอบว่าสบายดี ก่อนถามต่อว่าเขาเป็นใคร

"I'm Jae Sung from Korea." (ผมชื่อแจซัง จากเกาหลี)

"Nice to meet you." (ยินดีที่ได้รู้จัก)

"Nice to meet you, too." (ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน)

"I've been following you on your facebook for some time." (ผมติดตามคุณในเฟสบุ๊กมาระยะหนึ่งแล้ว)

ไท้แปลข้อความนี้ไม่ออก เขาจึงก๊อปปี้ข้อความไปให้กูเกิ้ลช่วยแปล เมื่อเข้าใจจึงตอบกลับไป

"Thank you. My English not good." (ขอบคุณ ภาษาอังกฤษผมไม่ดี)

"It's ok. I'm also a volleyball player. I've heard that your team is coming to Seoul next month for the friendly matches. Are you coming?" (ไม่เป็นไร ผมเป็นนักวอลเลย์บอลเหมือนกัน ได้ยินว่าทีมของคุณจะมาแข่งกระชับมิตรที่โซลเดือนหน้า คุณมาด้วยไหม)

"Not sure." ไท้ตอบว่าไม่แน่ใจหลังรอกูเกิ้ลแปลให้สักพัก

"Because of the scandal?" (เพราะเรื่องอื้อฉาวนั่นเหรอ)

เมื่อรู้ความหมาย ไท้ก็ชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่ามันจะฉาวโฉ่ไปไกลถึงต่างประเทศ

"Yes." ไท้ยอมรับไปตามตรง

"I know you must be very disappointed. Anyway, don't give up and don't give in to those kinds of thoughts. I've got your back. Keep going." (มันคงน่าผิดหวังมาก แต่ยังไงๆ ก็อย่ายอมแพ้ อย่าฟังความคิดพวกนั้น ผมสนับสนุนคุณ เดินต่อไปนะ)

แม้ว่ากูเกิ้ลจะแปลงงๆ ไปหน่อย แต่ไท้ก็พอเดาได้ว่าแจซังกำลังให้กำลังใจ เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อย

"Thank you." (ขอบคุณครับ)

"I hope you can come. If you can, I will take you around Seoul. Have you ever tried Korean food? I know many good restaurants. I'll treat you to dinner." (หวังว่าคุณจะมาได้ ถ้ามาได้ ผมจะพาคุณไปเที่ยวทั่วโซล คุณเคยกินอาหารเกาหลีไหม ผมรู้จักร้านดีๆ หลายร้าน เดี๋ยวจะเลี้ยงอาหารเย็น)

ได้รับน้ำจิตน้ำใจอย่างนี้ในช่วงเวลานี้ ไท้ก็รู้สึกดีไม่น้อย เหลือแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น...

"Thank you. I will try." (ขอบคุณครับ ผมจะพยายาม)

"It's all good." (ไม่เป็นไรครับ)

"English you good. English me bad." (คุณพูดภาษาอังกฤษเก่ง ผมพูดไม่เก่ง)

"I learn English everyday because I want to play the volleyball in Europe. It's my dream. I've watched you in several matches. You have very good skills in volleyball. I'm sure you can play in some European leagues. So don't forget to learn English. When the opportunity comes, you'll be ready to take it." (ผมเรียนภาษาอังกฤษทุกวันเพราะผมอยากไปเล่นวอลเลย์บอลที่ยุโรป เป็นความฝันของผม ผมดูคุณแข่งหลายครั้งแล้ว คุณมีทักษะในการเล่นวอลเลย์บอลดีมากนะ ผมมั่นใจว่าคุณสามารถเล่นในลีคยุโรปได้ อย่าลืมเรียนภาษาอังกฤษล่ะ เมื่อโอกาสมาถึง คุณจะคว้าไว้ได้เลย)

คำพูดที่เปี่ยมด้วยพลังจุดประกายฝันเจิดจ้า ก็จริงอย่างที่แจซังว่า ถ้าไท้อยากไปเล่นที่ยุโรป เขาก็ต้องฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เก่งๆ เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว เขาก็จะคว้าไว้ได้เลย เพราะนั่นก็เป็นความฝันของไท้เหมือนกัน

"Thank you Jaesung. It is my dream play in Europe too. Good advice." (ขอบคุณครับแจซัง ผมฝันอยากไปเล่นที่ยุโรปเหมือนกัน คำแนะนำดีมาก)

"My pleasure. BTW, you're very handsome. I really like you." (ยินดีครับ อ้อ คุณหล่อมากนะ ผมชอบคุณจริงๆ)

ข้อความนี้เล่นเอาคนอ่านตกใจ แม้ว่าจะมีคนส่งข้อความมาจีบบ่อยๆ แต่ส่วนมากเป็นผู้หญิง ไม่ค่อยมีผู้ชาย

"Thank you." ไท้ขอบคุณไปสั้นๆ

"I'm looking forward to meeting you in person. I really want to see you. Hope you can make it. I'm sure you will. Your team can't survive without you." (หวังว่าจะได้พบคุณเป็นการส่วนตัว ผมอยากพบคุณจริงๆ หวังว่าคุณจะมาได้ ฉันมั่นใจว่าได้ ทีมของคุณขาดคุณไม่ได้หรอก)

"OK. I will try. I will practice speak English too." (โอเค ผมจะพยายาม ผมจะฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วย)

"Good. Ok. I'm going to bed now. Talk to you later. Nice talking to you. Good night." (ดีครับ โอเค ผมจะไปนอนแล้ว ไว้คุยกันวันหลังนะครับ ดีใจที่ได้คุยกับคุณ ราตรีสวัสดิ์ครับ)

"Good night." (ราตรีสวัสดิ์ครับ)

เมื่อการสนทนาด้วยข้อความจบลง ไท้ก็หันหลัง กำลังจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน เขาก็หยุดชะงักเมื่อเห็นเปายืนกอดอกมองอยู่ ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่งั้นไท้ก็คงมัวแต่สนใจสนทนากับหนุ่มต่างชาติจนลืมอย่างอื่น สีหน้ายิ้มของไท้ค่อยๆ หุบลง ดูเหมือนเปาคงจะแปลกใจที่เห็นไท้แอบอมยิ้ม เพราะขมวดคิ้วมองอย่างสงสัย

"พี่เปายังไม่นอนเหรอครับ" ไท้ถามอย่างหวั่นๆ เพราะเดาอารมณ์ของคนตรงหน้าไม่ออก

"ยัง" เปาตอบสั้นๆ "แล้วมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ"

"โทรหาแม่ครับ แม่...ถามถึงพี่เปาด้วย แม่อยากให้พี่เปาไปเที่ยวบ้านอีก"

เปาเอามือที่กอดอกลง สีหน้าก็อ่อนลงด้วยเมื่อได้ยินไท้พูดถึงแม่ กระนั้นเขาก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร จะปฏิเสธเลยก็ดูน่าเกลียด จึงทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน

"ผมขอโทษที่มารบกวนนะครับ ถ้าพี่เปาไม่สบายใจ เดี๋ยวผมจะบอกโค้ชว่าผมจะไปอยู่ข้างนอกก็ได้" ไท้บอกอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว

"แล้วจะไปอยู่ไหน" น้ำเสียงที่ถามยังฟังดูแข็งๆ

"ก็...อาจจะเป็นพี่จีน พี่จีนเขามีคอนโด เขาบอกว่าถ้าผมอยากไปพักก็ไปได้"

"ไม่ต้องไป!" เปาเสียงดุ

ไท้ทำหน้างง คงไม่เข้าใจว่าทำไมเปาถึงอารมณ์เสียขนาดนั้น

"อยู่นี่แหละ" เปาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

"ครับ" ไท้รับคำ เห็นอารมณ์แปรปรวนของเปาแล้วเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัย อดสงสัยไม่ได้ว่าคนตรงหน้าใช่คนที่เคยรักกันและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดหรือเปล่า เปาดูเย็นชาจนน่าใจหาย และยิ่งน่าใจหายมากขึ้นเมื่อเปาพูดขึ้นมา

"จะรักใครก็รักไปนะ ยกเว้นไอ้จีนคนเดียว อย่าไปสุงสิงกับมัน ส่วนกู...กูไม่ใช่คนดีหรอก กูไม่เหมาะกับมึง กูก็เป็นของกูแบบนี้ แก้ไม่ได้หรอก ไม่ต้องมาเสียเวลารอ"

แววตาที่พูดนั้นดูเจ็บปวด สันกรามนูนเด่น บ่งบอกว่าเจ้าตัวคงต้องสะกดใจตัวเองอย่างมาก ส่วนคนฟังก็ตกตะลึงและเจ็บปวดไม่แพ้กัน แต่ไม่ทันจะอ้าปากพูดอะไร เปาก็หันหลังกลับและก้าวฉับๆ เข้าไปในบ้าน ก่อนขึ้นบันไดหายลับตาไป

นี่เปากำลังบอกว่าไท้ดีเกินไปหรือเปล่า?

ไท้นึกว่าเมื่อเปารู้ความจริงก็น่าจะใจอ่อนในไม่ช้า ที่ไหนได้ ปัญหาใหม่กลับผุดขึ้นมาอีก หวังว่าคำพูดประชดประชันเมื่อกี้ จะเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ใช่สิ่งที่เปาคิดจะทำจริงๆ

เอาเถอะ ในเมื่อไท้เคยบอกเปาเองว่าเขาพร้อมที่จะเจ็บ เพราะไท้ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าความรักของเขากับเปามีความเสี่ยงอะไรบ้าง ถ้าอย่างนั้นไท้ก็จะอดทนต่อไป เขายึดมั่นในความฝัน เขาเชื่อมั่นในความรัก จะไม่ยอมปล่อยมือจากสองสิ่งนี้ง่ายๆ ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็จะต้องพยายามสุดความสามารถ

'ผมจะอดทน...เพื่อความรักของเรานะครับพี่เปา'


(https://s19.postimg.org/ou2x639fn/set_love_new_sep.jpg)

เมื่อไท้ปรึกษาโค้ชเด้งเรื่องเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม โค้ชเด้งก็ให้ไท้ไปสมัครเรียนที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษแห่งหนึ่ง โค้ชเด้งช่วยออกเงินให้ก่อน เพราะค่าเรียนแพงเอาเรื่อง แต่โค้ชเด้งคิดเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว รอเพียงแต่ว่าเมื่อไหร่ไท้จะมาบอก

สถาบันสอนภาษาอังกฤษนี้มีระบบออนไลน์ให้สามารถเรียนที่บ้านได้ หรือที่ไหนก็ได้ที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ต จึงนับว่าสะดวกสำหรับไท้พอสมควร เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางไปเรียนที่สถาบัน ซึ่งค่อนข้างอยู่ไกลจากบ้านเปา แต่ถ้าว่างก็สามารถเลือกไปเรียนเสริมและทำกิจกรรมกลุ่มกับคนที่มาเรียนด้วยกันได้ โค้ชเด้งหาโน๊ตบุ๊คมาให้ใช้หนึ่งตัวด้วย มันมีไมค์ในตัวจึงทำให้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับคอมพิวเตอร์ได้

ช่วงกลางวัน ถ้ามีเรียนไท้ก็จะไปเรียนหนังสือที่รามคำแหง แต่ถ้าวันไหนไม่มีเรียนก็จะอยู่บ้าน ดูแลบ้านช่องให้เรียบร้อย เมื่อวานเปาสั่งงานบ้านไว้ให้ทำหลายอย่าง ตั้งแต่เอาเสื้อผ้าไปซัก กวาดบ้าน ถูบ้าน เก็บอึหมา ตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ ปกติบ้านนี้จะใช้บริการบริษัทรับจ้างทำความสะอาดบ้านแบบรายเดือน แต่อยู่ๆ เปาก็ขอยกเลิกทางนั้น เข้าใจว่าคงอยากยกเลิกมานานแล้ว เพราะเปาบ่นว่าทำความสะอาดได้ไม่ค่อยดี กำลังหาทางเปลี่ยนเจ้าใหม่พอดี จนกระทั่งสบจังหวะไท้มาอยู่ด้วย

วันนี้ทั้งวันไท้จึงทำงานบ้านตั้งแต่เช้าจนเย็น เหนื่อยพอสมควร แต่ก็ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ แม้อยู่คนเดียวก็ไม่เหงาเพราะมีเจ้าหมาสองตัวเป็นเพื่อน

ทำงานบ้านเสร็จไท้ก็นั่งเรียนภาษาอังกฤษกับคอมพิวเตอร์ ช่วงฝึกออกเสียง ไท้ต้องพูดใส่ไมค์แล้วเทียบเสียงจนกว่าจะออกสำเนียงได้ใกล้เคียง แต่เขาก็ติดสำเนียงไทย จึงใช้เวลากับมันพอสมควร จากนั้นก็ฝึกพูดและสนทนาโต้ตอบ เจ้าหมาสองตัวเดินป้วนเปี้ยนและคอยมองอย่างสนใจ

สักพักเมสซี่กับเนยมาร์ก็หูผึ่ง ก่อนร้องดีใจและวิ่งออกไปนอกบ้าน เปาคงจะกลับมาแล้วนั่นเอง เมื่อไท้ออกไปดูก็เห็นว่าเปากับโค้ชเด้งกลับมาแล้ว รวมทั้งมีเหินฟ้า ฟีนิกซ์ เวิร์ม เกิ้นและโจติดของโค้ชและเปามาด้วย แต่ละคนที่มาหอบถุงคนละใบสองใบลงมาด้วย เข้าใจว่าน่าจะเป็นของกิน

"ไท้ เป็นไงมั่งวะ เหงาเปล่า" เหินฟ้าร้องทักเป็นคนแรกพร้อมกับรอยยิ้มดีใจ

"เฮ้ย พวกมึงมาทำอะไรวะ" ไท้ไม่ตอบแต่ถามกลับ

"แวะมาหามึงไง กลัวมึงเหงา" เวิร์มบอก

แค่นี้ไท้ก็รู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาซึม เพื่อนกลุ่มนี้รักและสนิทกันมาก เพราะกินนอนและซ้อมด้วยกันมาหลายเดือน

"นี่…มาทำบาร์บีคิวกินกัน" เกิ้นยกของที่ซื้อมาอวดให้ดู

ไท้ยิ้มแป้น จากนั้นจึงพาเพื่อนๆ ช่วยกันยกโต๊ะ เก้าอี้และเตาปิ้งออกมาตรงสนามหน้าบ้าน บ้านที่เคยเงียบเหงาคราวนี้กลับครึกครื้น เมสซี่กับเนยมาร์ยิ่งสนุกใหญ่ เพื่อนๆ ของไท้ต่างก็พากันหยอกเล่นด้วย ส่วนเปาปลีกตัวขึ้นไปบนห้อง ไม่ลงมาสุงสิงกับใคร

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยปาร์ตี้เล็กๆ ก็เริ่มขึ้น เสียงพูดคุยหัวเราะดังไปทั่วบริเวณบ้าน ทุกคนดูสนุกและมีความสุขแม้ว่าไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลเลย วันนี้ไท้คงต้องงดซ้อมกับโค้ชเด้งหนึ่งวันไปโดยปริยาย

ระหว่างนั้นเปาก็ลงมาจากบ้าน แต่เขาไม่ได้เข้ามาร่วมปาร์ตี้ด้วย แค่โบกไม้โบกมือแล้วก็ขับรถออกไป มีสายตาโค้ชเด้งและไท้ที่คอยมองอย่างเป็นห่วงและสงสัย

ปาร์ตี้ของไท้กับเพื่อนๆ เลิกตอนสามทุ่มกว่า หลังช่วยกันเก็บข้าวของแล้วเพื่อนๆ ก็ขอตัวกลับ ทุกคนตกลงกันว่าจะผลัดกันมาช่วยซ้อมกับไท้ที่บ้านโค้ชเด้งตอนเย็นๆ เพราะไม่อยากให้ไท้รู้สึกโดดเดี่ยวเกินไป ใครๆ ต่างก็ห่วงใยไท้กันทั้งนั้น ยกเว้น…

… … …

แม้เพื่อนๆ กลับไปแล้วก็ใช่ว่าไท้จะได้นอนหลับพักผ่อน เที่ยงคืนเศษๆ เขาก็ออกมานั่งรอเปาข้างล่างตรงโซฟา เปิดทีวีดูรายการไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งได้ยินเสียงเจ้าสองตัวร้องดีใจ ไท้ก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกไปดู

เปากลับมาแล้ว แต่คราวนี้ไม่ได้มาคนเดียว มีผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย ส่งเสียงคุยกันอ้อแอ้ คาดว่าน่าจะเมากันมาทั้งคู่ เปาไม่เล่นกับหมาสองตัวเหมือนอย่างเคย เขาพาผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาในบ้าน เป็นผู้หญิงที่ไท้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แต่งตัวโป๊จนแทบจะเก็บอะไรไม่มิด น่าจะเจอกันที่ผับแล้วหิ้วมาแน่ แต่ทำไมถึงไม่พากันไปโรงแรมหรือม่านรูด

"ยืนมองห่าอะไรวะ พาหมาไปหลังบ้านสิโว้ย" เปาโวยวายเมื่อเห็นไท้ยืนมอง ก่อนหันไปพูดอี๋อ๋อกับสาววัยแรกรุ่นที่พามาด้วย

ไท้ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่กับภาพที่เห็น เพราะเขาคิดว่าเปาไม่ได้ทำเพราะอยากทำ แต่น่าจะทำประชดชีวิตมากกว่า ไท้จึงบอกตัวเองว่าอย่าเชื่อสิ่งที่เห็น ไม่ว่าเปาจะทำอะไรก็ให้อดทนเข้าไว้

เปาพาสาวแปลกหน้าเข้าไปในบ้านและขึ้นไปบนห้อง แม้จะบอกตัวเองว่าอย่าคิดมาก แต่น้ำตาของไท้ก็ร่วงลงมาอย่างช่วยไม่ได้ เขารีบพาหมาไปนอนหลังบ้าน ก่อนจะกลับมาจัดการปิดบ้านและปิดไฟให้เรียบร้อย

เมื่อขึ้นบันไดมาไท้ก็ตกใจจนสันหลังชาวาบ เปากับน้องผู้หญิงคนนั้นยืนกอดจูบนัวเนียกันอยู่หน้าประตูห้อง พร้อมกับส่งเสียงครางและเสียงหอบหายใจตามแรงปรารถนา หัวใจของไท้แทบจะหยุดเต้นเมื่อเห็นภาพนั้น แต่เขาก็ข่มใจ สูดหายใจลึกๆ ก่อนจะเดินหลบฉากเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง

ไท้ทิ้งตัวลงนอนและกอดหมอนร้องไห้ ภาพบาดตาบาดใจเมื่อครู่ยังตามมาหลอกหลอน อดคิดไม่ได้ว่าตอนนี้เปากับน้องคนนั้นคงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว มันเจ็บเสียจนเขาต้องเอาหมอนอุดปาก ไม่ให้เสียงร้องไห้เล็ดรอดออกมา จนกระทั่งเหนื่อยอ่อนและหลับใหลไปโดยไม่รู้ตัว

… … …

ไม่นานเช้าวันใหม่ที่สดใสก็มาเยือน เพียงแต่จิตใจของคนที่ตื่นอาจไม่เป็นเหมือนแสงแดดและท้องฟ้าข้างนอก วันนี้ไท้มีเรียนตอนเช้า เขาจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย เพื่อจะขอติดรถโค้ชเด้งไปลงที่มหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ใกล้กับ กกท.

ขณะที่กำลังใส่กางเกงอยู่นั้นก็มีเสียงคนมาเคาะประตูห้อง ไท้จึงเร่งมือและใส่ลวกๆ ไปก่อน จากนั้นจึงรีบเดินมาเปิดประตู เขาคิดว่าโค้ชเด้งคงมาตาม แต่ที่จริงยังไม่ถึงเวลาด้วยซ้ำ ไม่งั้นก็อาจจะตามลงไปกินอาหารเช้าง่ายๆ

แต่เมื่อเปิดประตูก็พบว่าคนที่มาหาไม่ใช่โค้ชเด้ง แต่เป็นลูกชายคนเดียวของโค้ชต่างหาก สีหน้าของเปาดูค่อนข้างซีดเซียวและอิดโรย แววตาดูเศร้าหมองและไม่มีความสุข ทั้งที่เพิ่งผ่านกิจกรรมพิเศษสุดหฤหรรษ์ไปเมื่อคืนนี้

"พี่เปา มีอะไรเหรอครับ" ไท้ถามอย่างหวั่นๆ

เปาไม่ตอบ แต่เขาพิศดูใบหน้าของคนตรงหน้า ท่าทางเหมือนคนกำลังใช้ความคิด ไม่รู้ว่าคิดอะไรบ้างเพราะแววตาสื่อเพียงความสับสน ครู่เดียวเขาก็กอดไท้ไว้ กอดแน่นทีเดียว แต่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ

เมื่ออ้อมกอดที่คุ้นเคยกลับมาหา ไท้ก็สนองตอบเป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีความอบอุ่นแผ่รัศมีซ่านซึมมาให้ แต่อ้อมกอดนี้ก็เต็มไปด้วยคำถามและความสงสัย มือหนึ่งของเปาลูบหลัง อีกมือลูบตรงท้ายทอยของไท้

"ผมรักพี่เปานะครับ รักพี่เปาคนเดียว" ไท้พูดเบาๆ และหลับตา มีน้ำตาเอ่อซึมขอบตาเล็กน้อย

ไม่มีคำพูดใดๆ จากเปาเหมือนเช่นเคย เขาได้แต่กอดไท้ไว้ สัมผัสลูบไล้นั้นเหมือนอยากจะปลอบใจอีกคนให้หายเจ็บ ไท้รับรู้และสัมผัสความห่วงใยที่มาจากเปาได้ แม้เจ้าตัวไม่พูดออกมาตรงๆ ก็ตาม ความรู้สึกในใจตอนนี้คงแรงกล้า เจ้าตัวจึงทนไม่ไหวจนต้องมาหา

"ขอบคุณที่พี่เป็นห่วงผมนะครับ ผมรู้ว่าพี่เปาเป็นห่วงผม" ไท้บอกพลางยิ้มบางๆ แม้เปาจะไม่เห็นแต่ก็คงรู้สึกได้จากน้ำเสียงของไท้

ผ่านไปพักใหญ่เปาก็ผละตัวออก ถ้าดูไม่ผิด เขาน่าจะร้องไห้ด้วย แต่เปาก็ไม่อยู่ให้อีกฝ่ายสังเกตนานนัก เขารีบหันหลังกลับแล้วเดินฉับๆ กลับไปที่ห้องของตัวเอง ไท้ไม่เดินตามไปด้วย เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ที่ห้องเปาหรือเปล่า ถือเสียว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเปาละกัน

อย่างน้อย…เปาก็ให้คำตอบกับไท้แล้ว เปาคงรู้ดีว่ากำลังใจจากพี่เปามีค่ากับน้องคนนี้มากแค่ไหน จึงได้มาหาและเอามาส่งให้


TBC



-------------------------------------------------------


เข็น❤ขึ้นภูเขา

(https://s19.postimg.org/gzqzeuzr7/mt_love02.jpg)

อะตอม: มึงนี่หน้าโคตรหวานเลยนะเว้ย ปากก็แดง ผิวก็ขาวจั๊วะอีก ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วมาอยู่กับกูแบบนี้นะ กูจะไม่ให้มึงออกจากห้องไปเห็นเดือนเห็นตะวันเลย

กัปตัน: กูว่ากูโคตรโชคดีเลยว่ะที่กูเกิดเป็นผู้ชาย

อะตอม: ทำไม มึงกลัวไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเหรอ

กัปตัน: เปล่า กูกลัวทำมึงตายเพราะเสียน้ำจนหมดตัวไง เดี๋ยวกูติดคุก ฮ่าๆๆ

อะตอม: เชี่ย น้ำกูเยอะเว้ย ไม่หมดง่ายๆ หรอก
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP25 ตัดใจ ◯ 5.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 05-03-2017 18:24:29
   ไท้ตัดใจดีกว่า ปล่อยให้เปาเขาไปตามทางเถอะ อนาคตเปาอาจจะมาหาไท้ก็ได้นะ
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP25 ตัดใจ ◯ 5.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-03-2017 21:01:49
   ไท้ตัดใจดีกว่า ปล่อยให้เปาเขาไปตามทางเถอะ อนาคตเปาอาจจะมาหาไท้ก็ได้นะ
  รออ่านตอนต่อไปคับ

อย่าลืมมาอ่านต่อให้ครบ 100% นะครับ ผมอัปเดตเต็มตอนแล้ว
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP25 ตัดใจ (100%) ◯ 5.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 05-03-2017 21:35:31
ทำไมลำไยเปาจัง โตพอสมควรแล้ว แต่คิดไรง่อยมาก น่ารำคาญ เลิกๆๆๆ กินกิมจิดีกว่านะไท้ ท่าจะแซ่บๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP25 ตัดใจ (100%) ◯ 5.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 05-03-2017 22:13:05
เรื่องมันจะง่ายขึ้นเยอะ ถ้าเปาเลิกอคติ ผ่านเรื่องราวต่างๆ มาก็มากแล้วแท้ๆ ทำไมไม่ตาสว่างซักทีอ่ะว่าที่ทำอยู่มันทำให้ทุกอย่างพัง พัง พั๊งงงงงง
ไท้นี่โคตรแสนดี แสนเข้าใจ แสนซื่อ ส่วนเปาก็แสนโง่
อยากให้พวกเขาสองคนเข้าใจกันก่อนไปเกาหลีอ่ะค่ะ สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจเลยค่ะ555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP25 ตัดใจ (100%) ◯ 5.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-03-2017 23:01:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP25 ตัดใจ (100%) ◯ 5.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-03-2017 23:28:25
ความรักมักเป็นอย่างนี้ มีทุกข์ มีสมใจ ตัวฉันไม่เคยเข้าใจ ในรัก รักของเธอ #สองคนในร่างเดียว
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP26 ลาก่อน (50%) ◯ 6.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-03-2017 16:59:03
EP 26 | ลาก่อน (100%)

(https://s19.postimg.org/dhpv4xjsz/set_love_new.jpg)

ที่นัดหมายครั้งนี้ดูจะห่างไกลสายตาผู้คนมากทีเดียว ท่าทางคงเป็นเรื่องสำคัญมาก จีนถึงนัดให้เปามาหาในที่ลับตาคนแบบนี้ ตอนแรกเปาว่าจะไม่มา แต่จีนย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เปาควรต้องรู้เรื่องนี้ เขาก็เลยตัดสินใจมาพบ แม้ว่าไม่อยากเจอหน้ากันอีกเลย

บริเวณด้านหลังสนามกีฬา ใครคนหนึ่งยืนรออยู่มุมอับๆ เขาอยู่ในชุดลำลองทันสมัย กำลังยืนหันหลังและมองไปอีกด้าน เมื่อได้ยินเสียงคนเดินมา เขาก็รีบหันมามอง พยายามส่งยิ้มบางๆ ให้ แต่ก็ยากเต็มทีเพราะต้องคอยซ่อนสายตารู้สึกผิดเอาไว้ด้วย

"สบายดีนะ ไม่ได้เจอกันหลายวันเลย" นั่นคือคำทักทายแรก

"อืม มีอะไรก็ว่ามา" เปาไม่สนใจตอบคำถาม เพราะเขาอยากคุยให้จบเร็วที่สุด เขาจึงไม่อยากเยิ่นเย้อให้เสียเวลา

จีนหน้าเสียเล็กน้อย กระนั้นก็ยังพยายามยิ้ม แต่ก็ดูเศร้าเต็มที เขาถอนหายใจ ก่อนเม้มริมฝีปากและหันหน้าหนีไปทางอื่น ท่าทางอย่างนี้คงมีเรื่องหนักใจมาก

"จีน...จะลาออกจากทีมชาติแล้วนะ"

ถ้าจะพูดเพื่อเรียกความสนใจก็นับว่าได้ผล เปาดูตกใจแม้ว่าจะพยายามไม่แสดงสีหน้า ที่จริงจีนเล่นวอลเลย์บอลในตำแหน่งตัวเซ็ตได้ดีมาก ไม่คิดว่าจะเลิกเล่นเร็วขนาดนี้

"ที่จริง...ที่บ้านก็ไม่อยากให้เล่นเป็นอาชีพหรอก เขาอยากให้ไปช่วยทำธุรกิจครอบครัวมากกว่า จีนคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้วล่ะ" จีนพูด ก่อนอธิบายสืบไปและเดินเข้ามาใกล้เปา

"ก็เสียดายนะ แต่คิดว่า...ยิ่งอยู่ต่อไป ก็ยิ่งไม่มีความสุข ความจริง...เราไม่ควรกลับมาเจอกันเลยนะ มันไม่ควรจะมีครั้งที่สองเลย หรือจะว่าไป...เราสองคนก็ไม่ควรจะเจอกันด้วยซ้ำ เพราะการเจอกันของเรา ไม่ว่าจะครั้งนี้...หรือครั้งที่ผ่านมา ไม่เห็นมีอะไรน่าจดจำเลย"

"แล้วจะไปเมื่อไหร่" เปาถามแทรก

จีนทำท่าคิด ไม่นานก็ตอบ "ก็ยื่นใบลาออกไปที่สมาคมแล้วก็สโมสรแล้วล่ะ อีกหนึ่งเดือน...เราก็จะไปแล้ว"

เปาไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกใจหายหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เพราะใจหาย ก็คงเป็นความรู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเสียดาย เสียใจ หรืออะไรทำนองนั้น คอแข็งๆ ของเขาดูอ่อนลง แววตาที่สื่อความเป็นมนุษย์เริ่มกลับมาอีกครั้ง

"แต่ก่อนจะไป จีน...มีความลับจะบอก" จีนเกริ่น เมื่อเห็นเปาทำท่าสนใจ เขาก็เล่าต่อ

"ตั้งแต่รักเปาครั้งแรกเมื่อห้าหกปีก่อน เปารู้ไหม จีนไม่เคยรักใครอีกเลย ถึงแม้ว่าจะมีคนเข้ามามากมาย แต่ลึกๆ จีนก็เหงา เหงามากๆ ทุกครั้งที่คิดจะรักใคร...จีนก็กลัวว่ามันจะเป็นเหมือนเดิม แต่ช่างมันเถอะ มันผ่านไปแล้ว ถือซะว่า...มันเป็นเวรกรรมของจีนเองละกัน เพราะจีนก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมันแล้ว"

จีนหยุดเว้นจังหวะ ทำท่าให้ดูเหมือนว่าสิ่งที่กำลังจะเล่าสำคัญมาก "แต่...เมื่อไม่นานนี้ จีนก็รู้สึกชอบคนๆ หนึ่ง ไม่ใช่เปาหรอก"

ถ้าไม่ใช่เพราะประโยคท้าย เปาก็คงไม่คิดจะสงสัย พลันเขาก็นึกสงสัย จีนชอบใครกันแน่...ถ้าไม่ใช่เปา

"จีนชอบไท้" จีนสารภาพด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

เปาเบิกตากว้าง สิ่งที่จีนพูดช่างดูเหลือเชื่อ แม้ว่าเปาจะเคยได้ยินเพื่อนจีนแซวเรื่องนี้มาก่อน แต่เขาก็ไม่เคยเก็บมาสนใจ อีกอย่าง ถ้าจีนชอบไท้จริง ก็ไม่ควรบีบบังคับเปาให้รับผิดชอบเรื่องในอดีต จนกระทั่งเลยเถิดเป็นความสัมพันธ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

"นี่มึงพูดเรื่องอะไรของมึง" เปาถามเสียงทุ้มต่ำ คิ้วขมวดเข้ม ท่าทางพร้อมจะเอาเรื่องคนตรงหน้าได้ทุกเมื่อ

"จีนชอบไท้จริงๆ ชอบตั้งแต่แรกที่เห็นเขาเลย แต่...จีนก็ไม่กล้าบอกเขา อีกอย่าง...จีนกลัวเจ็บเหมือนที่ผ่านมา ก็ยิ่งไม่กล้าคิดไปใหญ่ แต่ว่า...จีนก็รู้นะว่าไท้เขาไม่ได้ชอบจีนหรอก เขาคิดกับจีนแค่พี่ เขาไม่เคยคิดกับจีนมากกว่านั้น"

จีนหยุดเว้นจังหวะ ใจคอเขาไม่ค่อยดีนักเมื่อเห็นสีหน้าถมึงทึงของเปา กระนั้นก็ยังต้องข่มใจพูดต่อไป

"พอเรารู้ว่าเปาชอบไท้ เราก็เลย...อยากเอาชนะ อยากแก้แค้นด้วย"

"มึงพูดมาให้หมดเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้จีน ตกลงมึงทำอะไรกับกูกันแน่!" เปาคาดคั้นเสียงเข้ม นิ้วชี้ยกขึ้นชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง

จีนตัวสั่น แค่จะสารภาพก็ยังต้องใช้ความกล้าหาญมากโข พอเจอท่าทางโกรธเกรี้ยวของเปา ความกล้าหาญที่เตรียมมาก็แทบจะหายหมดสิ้น

"จีนขอโทษ" เสียงจีนสั่น ท่าทางเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ "เรื่องคลิปของไท้ มันเป็นแผนของจีนเอง"

"อะไรนะ!" เปาตวาดลั่น มือไม้สั่นอย่างคนโกรธจัด

"ฟังจีนอธิบายก่อนได้ไหม" จีนขึ้นเสียงบ้าง "ฟังให้จบ แล้วเปาอยากจะทำอะไรกับจีนก็ได้ จะเตะ จะต่อย หรือจะฆ่าให้ตาย จีนก็ยอมทุกอย่าง เปาฟังก่อนได้ไหม"

อาการโกรธเกรี้ยวของเปาลดลง แต่เสียงหายใจแรงบ่งบอกว่าเขาพยายามควบคุมอารมณ์เต็มที่

"ที่จริง จีนว่าจะลองจีบไท้ดู แต่บังเอิญ...เปาเข้ามาซะก่อน จีนก็เลยไม่กล้าจีบ เพราะว่า...จีนคงต้องผิดหวังแน่ๆ จีนไม่ชอบผิดหวัง ตั้งแต่เลิกกับเปาตอนนั้น จีนบอกกับตัวเองว่าจีนจะต้องไม่ผิดหวังแบบนั้นอีก จีนต้องชนะเท่านั้น จีนก็เลย...วางแผนว่าจะให้เปากลับมารับผิดชอบ แล้วก็ให้น้องที่รู้จักกันมาตีสนิทกับไท้ คลิปที่ทุกคนเห็น น้องคนนั้นมันเป็นคนทำ แต่จีนเช็คกับมันแล้ว มันไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น"

"ไอ้เหี้ย!"

ผลั่วะ!

เปาซัดหมัดเปรี้ยงอย่างหนัก จีนถอยหลบแต่ก็โดยปลายหมัดกระแทกปากจนเลือดซิบ เขาล้มก้นจำเบ้า เปาถลาลงมาหาและกระชากคอเสื้อจีนแน่น พอจะซัดอีกเปรี้ยงจีนก็รีบบอก

"ฟังให้จบก่อนได้ไหมเปา จีนบอกแล้วว่าจีนจะไม่หนี"

เปาชะงักมือค้างไว้ ทุกส่วนในร่างกายของเขาตึงเครียด สั่นเทิ้ม "เล่ามาให้หมด เดี๋ยวกูจะจัดการมึงทีเดียว"

จีนสบตาโกรธเกรี้ยวคู่นั้นอย่างสงบ ตอนนี้น่าจะมาถึงจุดที่เลยความกลัวไปแล้ว ถ้าเปาจะฆ่าเขาให้ตาย เขาก็จะยอม ขอแค่ให้เขาได้สารภาพกับใครสักคน ไม่อย่างนั้นเขาคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

"จีนยอมรับว่าจีนแค้นเปามาก จีนอยากเห็นเปาเจ็บปวด...เหมือนที่เปาเคยทำกับจีนไว้ จริงๆ น่ะ...จีนแค่ต้องการให้น้องคนนั้นถ่ายรูปคู่กันบนเตียงกับไท้ แล้วเอามาให้เปาดู ไม่คิดว่ามันจะเผลอทำไปถึงขนาดนั้น"

"มึงทำอย่างงั้นทำไม! ไอ้ชั่ว! มึงรู้ไหมว่ามึงกำลังทำลายอนาคตของไท้!" เปาตะคอกใส่ พยายามสะกดกลั้นอารมณ์อย่างเต็มที่

"ก็เพราะกูอยากให้มึงเจ็บเหมือนกูไง เป็นไงล่ะ เจอแบบนี้เข้าไปบ้าง แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ มันยังไม่ได้ครึ่งความเจ็บที่กูเคยได้รับจากมึงเลย มึงว่ากูชั่ว แล้วมึงไม่ชั่วเหรอ มึงเอาความแค้นในครอบครัวของมึงมาลงที่กู กูไม่รู้เรื่องอะไรกับมึงซะหน่อย มึงหลอกให้กูรักมึง หลงมึง ยอมมึงทุกอย่าง กูรักมึงจนโงหัวไม่ขึ้น แล้วมึงก็ทำร้ายกู มึงเห็นฝีมือของมึงหรือเปล่า มึงเห็นไหมว่าชีวิตกูเป็นยังไง ขนาดกูเจอคนที่กูชอบ กูยังไม่กล้าเปิดใจให้เขาเลย แทนที่กูจะได้รักใครอย่างมีความสุข กูเสือกมีชีวิตเสเพล หาความสุขจากเซ็กซ์ แต่มันทดแทนความรักไม่ได้ มึงรู้ไหมว่ามันทดแทนไม่ได้!"

จีนระเบิดอารมณ์ใส่บ้าง เปาถึงกับหน้าชา เมื่อฟังจีนพูดแล้วเขาก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ ไม่ว่าจะนึกถึงหรือได้ยินสักกี่ครั้งก็ตาม

"กูต้องการความรัก มึงได้ยินไหมไอ้เปา กูอยากจะรักใครสักคน แต่กูก็รักไม่ได้ มึงน่ะยังโชคดีมากกว่ากูด้วยซ้ำ มึงเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง แล้วมึงก็มีความรักกับไท้ แต่กู...แม่งไม่เคยมีความรักเลย" จีนตะโกนลั่นและร้องไห้หนัก

เรี่ยวแรงของเปาแทบจะหายไปจนหมด มือที่ดึงคอเสื้อค่อยๆ คลายจนหลุด ส่วนหมัดที่เงื้อไว้ก็ตกลงข้างตัว

"มึงโกรธกูใช่ไหม เกลียดกูใช่ไหม จะทำกับกูเหมือนที่มึงเคยทำก็เชิญเลย จะฆ่ากูให้ตายเลยก็ได้ กูก็ไม่อยากอยู่กับชีวิตเหี้ยๆ แบบนี้หรอก ฆ่ากูสิ มึงฆ่ากูเลยสิ ไอ้เปา ฮือ...."

จีนโผเข้ากอดเปาแน่น ส่วนเปาไม่ขัดขืนใดๆ นี่คงจะเป็นผลกรรมที่เขาเคยทำกับจีนไว้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่ทำจะหนักหนาถึงเพียงนี้ เมื่อเห็นชีวิตที่ไร้รักของจีนแล้ว เขาก็ได้แต่รู้สึกผิด จะว่าไป...เรื่องที่เขาเจอมันก็เจ็บน้อยกว่าจีนด้วยซ้ำ อย่างน้อย...เปาก็ยังรักใครสักคนได้ ในขณะที่จีน...เจ็บปวดอยู่กับอดีตมาจนถึงทุกวันนี้

ที่จริงก็ไม่เห็นมีอะไรยาก เปาก็แค่กลับไปหาไท้ พูดคุยกันให้เข้าใจ ไท้เองก็รักเขามาก พร้อมจะให้อภัยทุกอย่าง ขอเพียงแค่เปาเลิกมีอคติ ทุกอย่างก็พร้อมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

จีนร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดของเปาที่กอดไว้หลวมๆ แต่กอดนี้ไม่ใช่การปลอบใจ เขากับจีนควรจะหมดความสัมพันธ์กันตั้งแต่วันนี้ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นอดีตที่เจ็บปวดอีกครั้ง อย่างที่จีนพูดไว้ ไม่ว่าจะกลับมาพบกันสักกี่ครั้ง ก็ไม่มีอะไรดีๆ ให้น่าจดจำ เหมือนคนที่ฟ้าไม่ได้ตั้งใจให้มาเจอกัน กระนั้นก็ยังต้องเจอกันถึงสองครั้ง ต่อไปคงไม่มีครั้งที่สามอีกแล้ว

"มึงกับกู ให้มันจบกันแค่นี้แหละ เรื่องที่ผ่านมา กูขอโทษ จากนี้ไป กูกับมึงไม่ควรเจอกันอีกแล้ว กูหวังว่า...มึงจะได้เจอรักแท้จากใครสักคน กูขออวยพรให้มึงเจอคนๆ นั้น กูอยากให้มึงมีความรัก อยากให้มึงลืมอดีตที่เจ็บปวดที่กูเคยทำกับมึงไว้ กูเคยบอกมึงแล้วไง...ว่ากูรักมึง ถึงกูจะเอาปัญหาในครอบครัวมาลงกับมึง แต่ตอนนั้นกูก็รักมึงไปแล้ว มึงก็ลองนึกย้อนดูละกัน ตอนที่มึงกับกูคบกัน มึงทำยังไงล่ะกูถึงได้รักมึง มึงก็แค่ทำอย่างนั้นกับคนที่มึงอยากรัก ปลดปล่อยหัวใจของมึงบ้าง ไม่ต้องกลัวเจ็บหรอก มึงไม่เคยได้ยินเหรอ อกหักดีกว่ารักไม่เป็น มึงต้องกล้าที่จะอกหัก ถ้ามึงกล้าที่จะเจ็บอีกครั้ง หรือมากกว่าหนึ่งครั้ง มึงก็จะมีความรักได้แล้ว อกหักมันก็เจ็บเป็นธรรมดา แต่ชีวิตที่ไม่กล้ารักใคร...มันเจ็บมากกว่า มึงเลือกเอาเองละกัน กูบอกมึงได้แค่นี้ ลาก่อนนะจีน"

เปาพูดจบก็ลุกขึ้น ก่อนหันหลังกลับและเดินจากไป ไม่หันกลับไปมองจีนอีก เหตุการณ์ช่างเหมือนกับวันนั้น วันที่จีนไม่เคยได้เจอเปาอีกเลยหลายปี แต่คราวนี้คงจะต้องจากกันเหมือนตายจากกันไป ไม่อย่างนั้นก็คงจะมีชีวิตใหม่อีกไม่ได้ ต่างคนต่างก็ได้ชดใช้ให้กันแล้ว ก็ขอให้หมดเวรหมดกรรมแต่เพียงเท่านี้ เปาจะขอกลับไปหาความรักของเปาบ้าง ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่เขารักอย่างจริงจังเสียที

ลาก่อนนะจีน...


(https://s19.postimg.org/ou2x639fn/set_love_new_sep.jpg)

“Say again. I don’t understand.” (พูดอีกที ผมไม่เข้าใจครับ)

“I said you’re so cute and handsome. The more I see you, the more I like you.” (ผมบอกว่าคุณน่ารักและหล่อมาก ยิ่งเห็นก็ยิ่งชอบ)

ไท้ส่ายหัวไปมา แจซังถึงกับขำ เขาพยายามพูดสองสามรอบแล้วแต่ไท้ก็ยังฟังไม่เข้าใจ น่าจะเป็นเพราะสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ค่อยดี ทำให้สัญญานเสียงไม่ชัด แถมไท้ก็ยังไม่คุ้นสำเนียงคนเกาหลีพูดภาษาอังกฤษอีก ก็เลยไปกันใหญ่

“Sorry, I don’t understand.” (ขอโทษครับ ผมไม่เข้าใจ)

“Never mind.” (ช่างมันเถอะ)

แจซังบอกพลางขำ คงจะเหนื่อยใจเต็มที อุตส่าห์ว่าจะทำให้อีกฝ่ายเขินเสียหน่อย แต่ดันมีอุปสรรคด้านสำเนียงและเทคโนโลยีเสียอย่างนั้น

“Thank you for help me teach English. You very good. I will speak English good in future sure.” (ขอบคุณที่สอนภาษาอังกฤษผม คุณใจดีมาก ผมจะพูดภาษาอังกฤษได้ในอนาคตแน่นอน)

ไท้ถือโอกาสขอบคุณอีกฝ่าย เมื่อวานเขาแวะไปเข้าคลาสที่สถาบันสอนภาษามา ได้เรียนในคลาสกับคนอื่นๆ อีกเกือบๆ สิบคนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ไท้ก็เลยมีไอเดียว่าถ้าได้พูดบ่อยๆ อีกก็น่าจะดี จะทำให้มั่นใจมากขึ้น พอแจซังส่งข้อความมาหา ไท้ก็เลยขอวิดีโอคอลแทน จึงได้คุยภาษาอังกฤษสำเนียงไทยกับเกาหลีกันเป็นชั่วโมงๆ รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็สนุกดีไม่น้อย

“I can’t wait to see you, Tie. If you have time after we finish all the matches, I’d like to take you to my condo. It’s in Incheon. I’ll take you around Incheon, too. Okay?” (ผมแทบรอเจอไท้ไม่ไหว ถ้าคุณมีเวลาหลังแข่งเสร็จหมดแล้ว ผมอยากชวนคุณไปเที่ยวคอนโดผมที่อินชอน ผมจะพาคุณเที่ยวอินชอนด้วย โอเคไหม)

แจซังพูดยาวอีกแล้ว แต่เขาก็พยายามพูดช้าๆ ชัดๆ กระนั้นไท้ก็ฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้าง แม้ว่าจะสนทนาแบบนี้มาเป็นชั่วโมง แต่แจซังก็ไม่มีท่าทีเบื่อหน่าย ดูเหมือนเขาสนุกด้วยซ้ำ

“Ok.’ (ตกลง)

ไท้ตอบตกลงอย่างงงๆ แต่ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

“ตอบตกลงเขาไปได้ยังไง!”

อยู่ๆ เสียงใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น น้ำเสียงนั้นฟังดูเหมือนไม่พอใจบางอย่าง ไท้รีบถอดหูฟังออกแล้วหันไปมองข้างหลัง เปานั่นเอง ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าหมาสองตัวที่นอนอยู่หลังบ้านก็ไม่ส่งเสียงดีใจ สงสัยเปาไม่ได้ขับรถมา เพราะเห็นบอกว่าจะเอาไปซ่อมทำไมล์เมื่อวันสองวันก่อน

“พี่เปา” ไท้เรียก สีหน้าเขาดูหวั่นๆ เพราะเปาทำหน้าดุอีกแล้ว

“โดนหลอกไปครั้งหนึ่งแล้ว ยังไม่เข็ดอีกเหรอ หรือว่าชอบ” เปาใส่อารมณ์อย่างไม่พอใจ

“เปล่านะครับพี่เปา”

“จะมาเปล่าได้ยังไง เมื่อกี้ก็เห็นอยู่ว่าไอ้หมอนั่นมันจีบ ไหนว่าเรียนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษประสาอะไรมานั่งจีบกับผู้ชาย”

“ไม่ใช่อย่างงั้นครับพี่ ผมแค่อยากหาคนพูดภาษาอังกฤษด้วย แจซังเขาว่างพอดี ผมก็เลย…”

“พอๆๆ เมื่อกี้พี่ได้ยินหมดแล้ว เดี๋ยวชมหล่อ เดี๋ยวชมน่ารัก เขาชวนไปเที่ยวคอนโดก็ยังจะไปกับเขาอีก ไม่รู้เหรอว่าเขาชวนไปทำอะไร จะซื่ออะไรขนาดนั้น”

ไท้หน้าเสีย เมื่อกี้เขาฟังไม่ค่อยออกเพราะไม่คุ้นสำเนียง เขาไม่รู้เลยว่าแจซังพูดอย่างนั้น ถ้ารู้ก็คงไม่ตอบไปอย่างนั้นแน่ กระนั้น ต่อให้ไท้ฟังออก เปาก็น่าจะรู้ว่าเป็นเพียงการตอบตามมารยาทเท่านั้น แต่ไม่ทันอ้าปากพูด เปาก็สวนมาอีก

“ทำแบบนี้เขาเรียกว่าอ่อยรู้ไหม หรือว่าตั้งใจจะอ่อยเขา”

“เปล่านะครับพี่เปา ผมไม่ได้อ่อย” ไท้หน้าเจื่อน รู้สึกยุ่งยากใจที่เปาไม่เลิกซักไซ้และต่อว่าเรื่องนี้เสียที

“คนพวกนี้มันเป็นอย่างนี้กันหมดทุกคนเลยเหรอ” เปาแค่นหัวเราะ ก่อนเหลือบดูหน้าจอวิดีโอคอลในหน้าจอคอมพิวเตอร์ เจ้าหนุ่มนั่นหายไปจากหน้าจอแล้ว คงเป็นเพราะได้ยินเสียงเปา ถึงจะฟังไม่ออก แต่ฟังจากน้ำเสียงก็น่าจะรู้ว่าไม่พอใจ

“ทำไมชีวิตนี้กูต้องเจอแต่เกย์ที่ทำตัวแย่ๆ แบบนี้วะ ขนาดพ่อกูเอง…ยังทำเมียตัวเองตาย”

“พี่เปาพูดเรื่องอะไรครับ” ไท้ขัดขึ้น เปาชะงักไปเล็กน้อย

“ทำไมวะ เป็นเกย์แล้วต้องสำส่อนด้วยเหรอ ต้องหลอกลวงคนอื่นด้วยเหรอ ไท้ก็เหมือนกัน…พี่เคยคิดว่าไท้จะไม่เป็นเหมือนคนพวกนั้นที่พี่เคยเจอมา แต่สุดท้าย…”

เปาแสดงสีหน้าผิดหวัง ท่าทางแบบนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่การหึงหวงกันธรรมดาเสียแล้ว เมื่อเปาไม่ยอมหยุด ไท้จึงต้องแสดงอาการไม่ยอมบ้าง เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง

“พี่เปารังเกียจอะไรผมนักหนาเหรอครับ เพราะผมจน เพราะผมมาอาศัยพี่อยู่ หรือเพราะคิดว่าผม…จะเป็นเหมือนพ่อพี่”

พอไท้ทำท่าขึงขัง เปาก็ชะงัก แต่เขาคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่นอน

“อยากรู้เหรอ ไท้ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าพี่รู้สึกยังไง เคยมีพ่อเป็นเกย์ไหม เคยโดนล้อว่าพ่อเป็นเกย์ไหม เคยมีแม่ตรอมใจตายไหม คนพวกนี้…แค่รังเกียจยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

ประโยคสุดท้ายเล่นเอาคนฟังหน้าชา ต่อให้เป็นคนรักกัน พูดแบบนี้ก็ถือว่าไม่ให้เกียรติกันเลย

“รังเกียจผมมากใช่ไหมครับ” ไท้ถามเสียงเข้ม

เปายืนนิ่ง จะตอบก็ไม่กล้าตอบ เมื่อเจอคำถามนี้ก็ดูเหมือนว่าสติจะกลับมาแล้ว

“ได้ งั้นผมก็จะไม่อยู่ให้พี่รังเกียจ”

ไท้พูดจบก็เดินหนีขึ้นห้อง ส่วนเปาได้แต่ยืนอึ้งและหน้าเสีย กระนั้นเขาก็ไม่ตามขึ้นมาด้วย ไม่นานเขาก็เห็นไท้เดินลงมาจากบ้านพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าเก่าๆ ใบนั้น

“จะไปไหน” เปาร้องถาม

ไท้หยุดหันมามอง “ไปไหนก็ได้ครับ ที่ไม่มีคนที่เขารังเกียจผม”

พูดจบไท้ก็เดินออกไปจากบ้าน เปาจะร้องห้ามอีกก็ปากหนักไปแล้ว ปากกับใจทำงานไม่สอดประสานกันเลย ไม่รู้ว่าเป็นอวัยวะที่ประกอบอยู่บนร่างกายเดียวกันหรือเปล่า จึงได้แต่ยืนหงุดหงิด นึกอยากจะเตะอะไรสักอย่างให้กระเด็นแต่ก็ไม่รู้จะเตะอะไร

… … …

ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิด แต่เมื่อไม่รู้จะพึ่งใคร ไท้ก็เลือกที่จะมาหาจีน เพราะเป็นคนเดียวที่เคยเสนอความช่วยเหลือให้ แต่พอมาถึงคอนโดของรุ่นพี่ ไท้ก็รู้สึกว่าสีหน้าท่าทางของจีนดูแปลกๆ ยากที่จะเดาได้ว่าเจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ไหน

“ไท้มาอยู่ไม่นานหรอกนะครับพี่จีน แค่สองสัปดาห์ พี่จีนจะคิดค่าเช่าผมก็ได้นะครับ แต่ว่าผมคงไม่มีให้ตอนนี้” ไท้บอกอย่างเกรงใจ

“ไม่ต้องหรอกไท้ อยู่นานแค่ไหนก็ได้ พี่ไม่ว่าหรอก” จีนแย้ง ถ้าใครถามว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง เขาเองก็ตอบตัวเองไม่ได้

“ขอบคุณครับพี่” ไท้ยิ้มเศร้า รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยยามเดือดร้อนลำบากก็ยังพอมีคนให้พึ่งพาอาศัยได้

พลันรอยยิ้มของไท้ก็หุบเข้าแทบไม่ทัน เมื่ออยู่ดีๆ จีนก็พูดประโยคนี้

“ไท้มาอยู่กับพี่ พี่ไม่ให้ไท้ลำบากหรอก แต่…รู้ใช่ไหมว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน พี่ไม่ต้องการความรัก ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น พี่ต้องการแค่…”

จีนลากเสียงจนเสียงค่อยๆ หายไป สีหน้าท่าทางดูไม่ใช่จีนที่ไท้เคยรู้จัก ทั้งดูเหี้ยม เจ้าเล่ห์ ทว่ามิอาจซ่อนแววตาเจ็บปวดเอาไว้ได้

“แลกเปลี่ยนอะไรเหรอครับพี่ ถ้าให้ได้ผมก็จะให้ครับ” ไท้ถามด้วยความอยากรู้

จีนยิ้มมุมปาก แค่นหัวเราะ แต่อยู่ๆ น้ำตาก็ไหล อารมณ์ประหลาดและแปรปรวจจนไท้ชักหวาดระแวง

“เซ็กซ์!”

นั่นคือคำตอบจากจีนที่เขายอมพูดออกมาในที่สุด แต่ใครเลยจะรู้ว่าทำไมเขาถึงพูดอย่างนั้น คนฟังจึงตกใจไม่น้อย จนไม่แน่ใจว่าตัวเองมาหาผิดคนหรือเปล่า

"แต่ไท้ไม่ต้องห่วงนะ พี่ไม่เคยขอใครฟรีๆ หรอก ยิ่งบริการดี พี่ก็ยิ่ง...เปย์ไม่อั้น"

ไท้ผงะและเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้จีนเป็นแบบนี้ไปได้ ที่ผ่านมาจีนทำอย่างนี้กับคนอื่นๆ แต่ไม่เคยคุกคามไท้ในลักษณะนี้เลย

นี่ไม่น่าใช่จีนที่ไท้เคยรู้จักเสียแล้ว


TBC



ป.ล. อัปเดตเจ้าชายชาร์มินแล้วนะครับ ใครที่ติดตามอย่าลืมไปอ่าน
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP26 ลาก่อน (50%) ◯ 6.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 06-03-2017 18:37:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP26 ลาก่อน (50%) ◯ 6.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 06-03-2017 19:24:18
เนี่ย ดูจีนดิ... โดนที่ระเบิดโวยวายเปาก็พูดแต่ว่าแก้แค้นปะ แล้วเรื่องทำลายอนาคตน้องมันเกี่ยวกับเปายังไงอ่ะ อย่ามาทำเป็นโทษนั่นโทษนี่ไปหน่อยเลย เหอะ จบๆ กันไปก็ดี นิสัยไม่ดีเลย

อีกครึ่งรอคนสองคนเขาปรับเข้าใจกันค่ะ คุยกันดีๆ อย่างปรองดองนะคะ55555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP26 ลาก่อน (100%) ◯ 6.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 07-03-2017 00:01:45
สรุปไม่ว่าไปหาใคร ไท้ก็เจ็บ

พอๆๆๆๆ กลับบ้านเหอะไท้,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP26 ลาก่อน (100%) ◯ 6.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 07-03-2017 10:05:59
   เปาปากหนัก ไท้ออกบ้านไปแล้ว พ่อกลับมาเปาได้คุยกับพ่อแน่ๆ
 แล้วจีนที่พูดมานั้นคือไม่จริงใช่มั้ย แค่พูดเล่นๆใช่มั้ย
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP26 ลาก่อน (100%) ◯ 6.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-03-2017 10:36:31
จีนที่พูดแบบนี้ตั้งใจไล่ไท้กลับใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP26 ลาก่อน ◯ 6.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 12-03-2017 15:24:19
อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจในความรักของเปา
ถ้ารักแล้วต้องบาดเจ็บกันระเนระนาด ก็ไม่รู้ว่าจะรักกันไปทำไม? เพื่ออะไร?

หรือว่ารักตัวเองแทนที่จะรักคนอื่น
งั้นก็อยู่ตัวคนเดียวไป เลิกคร่ำครวญซะที
เบื่อว่ะ คนพรรค์นี้#อิเปา

บวกเป็ด บวกหนึ่งฮับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP27 ความจริง ◯ 12.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 12-03-2017 15:40:30
EP 27 | ความจริง

(https://s19.postimg.org/dhpv4xjsz/set_love_new.jpg)

“พี่ล้อเล่น”

อยู่ๆ จีนก็เกิดเปลี่ยนท่าทีกะทันหัน สีหน้าท่าทางที่ดูไม่น่าไว้วางใจค่อยๆ หายไป เขายิ้มและหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นไท้ยังคงมองอย่างหวาดระแวง

“กลัวเหรอ” จีนถาม

“ครับ” ไท้ยอมรับตามตรง พยายามยิ้ม แต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่ดี

“พี่ขอโทษนะที่ทำให้กลัว” จีนพูดแล้วก็เดินเข้ามาใกล้ ก่อนเอามือแตะไหล่ไท้ข้างหนึ่ง “พักอยู่นี่แหละ อยู่นานแค่ไหนก็ได้ ไม่ต้องกลัวพี่ทำอะไรไท้หรอก พี่รู้ว่าไท้มีเจ้าของแล้ว”

จีนนิ่งคิด เสมองไปทางอื่น “เปาน่ะ...เขารักไท้มากนะ ไท้รู้ใช่ไหม”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ” ไท้ตอบเสียงอ่อย เมื่อพูดถึงเปาแล้วเขาก็หนักใจ

“มา เดี๋ยวพี่เอากระเป๋าไปเก็บให้” จีนตัดบท ก่อนยื่นมือไปรับเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาจากไท้ หันมองซ้ายขวาแล้วก็เอาไปวางไว้บนโต๊ะเตี้ยๆ สำหรับวางกระเป๋าเดินทาง

“จะให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม หรือว่า…อยู่คนเดียวได้” จีนหันไปถามเมื่อวางกระเป๋าเรียบร้อย

“แล้วพี่จีนจะไปอยู่ไหนเหรอครับ”

“พี่ว่าจะกลับบ้าน ไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว ป๊ากับม๊าอยากให้กลับไปอยู่บ้านบ้าง ถ้าไท้อยู่คนเดียวได้ พี่ก็จะกลับ แต่ว่าคืนนี้พี่อยู่เป็นเพื่อนได้”

"อ๋อ...ได้ครับ"

ไท้เดินไปที่โซฟา ก่อนถือวิสาสะนั่งลงไป สีหน้าเขาดูดีขึ้น น่าจะหายหวาดระแวงเจ้าของห้องแล้ว ไม่นานจีนก็เดินตามมานั่งด้วย

“มีเงินติดตัวมาพอหรือเปล่า อาหารแถวนี้แพงหน่อยนะ ถ้าจะกินแบบธรรมดาก็ต้องเดินออกไปอีกหน่อย มีร้านอาหารตามสั่งอยู่หลายร้าน”

ไท้ยิ้มแหยๆ เขาเหลือเงินในกระเป๋าไม่ถึงพันบาทเท่านั้น จีนเห็นท่าทางอย่างนั้นก็พอเดาออก เขาจึงหยิบเงินจากกระเป๋าสามพันแล้วส่งให้ไท้

“คราวที่แล้วไท้ไม่รับ แต่คราวนี้พี่ขอนะ ไท้รับไว้ก่อน มีแล้วค่อยเอามาคืนพี่ก็ได้ แต่ไม่ต้องรีบนะ พี่อยากเป็นกำลังให้ไท้สู้ต่อไป สู้เพื่อความฝัน สู้เพื่อครอบครัวของไท้”

แม้จะเกรงใจอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดถึงความอยู่รอดแล้ว ไท้ก็ต้องรับไว้อย่างเกรงใจ

"อย่าท้อนะ พี่รู้ว่าตอนนี้ไท้เจอปัญหาเยอะ แต่ความฝันของไท้สำคัญกว่าทุกอย่าง แมทต์ที่เกาหลี ไท้ต้องไปให้ได้ เพราะสโมสรในยุโรปจะส่งคนมาดู ถ้าเขาสนใจใครเขาก็จะจองตัวเลย ถ้าฝีมือดี โอกาสไปเล่นที่ยุโรปสูงมาก พี่ไม่อยากให้ไท้พลาดโอกาสนี้"

การที่จีนจะพูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายทั้งหมดมาจากเขา แต่ครั้นจะสารภาพความผิดก็คงไม่มีประโยชน์ ทางที่ดีเขาควรจะช่วยให้ไท้ผ่านพ้นปัญหาต่างๆ นี้ไปให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยว่ากัน

“พี่เข้าไปคุยกับนายสมาคมเมื่อวานก่อน พี่ขอให้ท่านนายกช่วยพิจารณาให้ไท้กลับไปซ้อมกับเพื่อนๆ เพราะทีมเรา…ขาดไท้ไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีไท้ ก็สู้เกาหลียาก เด็กๆ ชุดใหม่ของเกาหลีโดดเด่นหลายคนเลย ระบบเขาดีกว่าเรา ปั้นคนใหม่ๆ ได้ดีกว่า พี่ว่า...ท่านนายกสมาคมน่าจะเห็นด้วย"

"จริงเหรอครับพี่" ไท้ยิ้มดีใจ เขารู้มาว่าจีนค่อนข้างมีเส้นสายดีกับคนในสมาคม เข้าถึงผู้หลักผู้ใหญ่บางคนได้ เพราะครอบครัวของจีนบริจาคเงินให้สมาคมเป็นประจำทุกปี

"ไท้รอฟังข่าวดีก็แล้วกัน เหลืออีกสองสัปดาห์ ยังพอมีเวลาซ้อมกับเพื่อนๆ จะได้เล่นเข้าขากัน"

"ขอบคุณครับพี่จีน" ไท้ยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ

จีนเสมองไปทางอื่น บางทีเขาก็รู้สึกละอายใจเหลือเกิน เกือบทำไท้เสียอนาคตไปแล้ว ดีที่เป็นความผิดครั้งแรก สมาคมจึงยังให้โอกาส

"ไม่เป็นไร ก่อนพี่ไป...พี่จะช่วยไท้อย่างสุดความสามารถ พี่ไม่ยอมให้ไท้พลาดโอกาสดีๆ หรอก" จีนหันมายิ้ม

"พี่จีนจะไปไหนเหรอครับ" ไท้ทำหน้าฉงน

"อ๋อ...พี่จะเลิกเล่นวอลเลย์บอลแล้ว" จีนแค่นหัวเราะ

"ทำไมล่ะครับพี่ ฝีมือพี่ก็ดี อายุก็ยังน้อย เล่นได้อีกหลายปีเลย ทำไมถึงจะเลิกเล่นล่ะครับ"

"พี่จะไปช่วยธุรกิจที่บ้านน่ะ พี่ว่ามันก็ถึงเวลาแล้ว ไท้ก็รู้ อาชีพนักวอลเลย์บอลไม่มั่นคงหรอก ไม่นานก็จะมีคนใหม่มาแทน อายุมากขึ้น ฝีมือก็จะตกลง ไหนจะเสี่ยงบาดเจ็บอีก พี่ว่า...พี่ไปทำธุรกิจกับที่บ้านดีกว่า ยังไงก็ต้องกลับไปทำอยู่แล้ว ไม่ทำวันนี้ วันหน้าก็ต้องทำ พี่ก็เลยตัดสินใจลาออก ยื่นใบลาออกไปแล้วล่ะ ทั้งกับสมาคมแล้วก็สโมสร"

ไท้ทำท่าเสียดาย แต่เมื่อฟังเหตุผลของจีนแล้ว เขาก็ไม่รู้จะขัดอย่างไร วันหนึ่งไท้ก็อาจจะต้องตัดสินใจอย่างนั้นบ้างก็ได้ ยกเว้นว่าจะมีเส้นทางให้ไปต่อ ที่จริงไท้ก็อาจจะเป็นโค้ชได้เมื่ออายุมากขึ้น

"เสียดายจัง" ไท้พูด

"พี่ก็เสียดาย" จีนยิ้มเศร้า ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง "กินข้าวมาหรือยัง"

"ยังเลยครับ" ไท้พูดพร้อมส่ายหน้า

"เดี๋ยวพี่พาไปกินข้างล่างละกัน มีร้านอาหารอยู่ พี่ก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน อ้อ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเองนะ" จีนบอกพลางขำ เขารู้ว่าไท้เป็นคนประหยัด จะซื้ออะไรแพงๆ กินก็คิดแล้วคิดอีก

ไท้ได้แต่ยิ้มๆ แม้จะรู้สึกเศร้ากับปัญหาหลายอย่างในช่วงนี้ แต่ยังดีที่มีคนเมตตาช่วยเหลือ

"อย่าเศร้านะไท้ เรื่องเปาน่ะ ไม่นานเขาก็จะคิดได้เอง เขาชอบวู่วามแบบนี้แหละ แต่พี่มั่นใจว่าเขาเลือกไท้"

จีนบอกพลางเอามือโอบไหล่อีกฝ่าย ตบเบาๆ สองสามครั้งเพื่อให้กำลังใจ ที่ผ่านมาเขาไม่กล้าพาใจถลำลึกไปกับผู้ชายคนนี้ เพราะเขากลัวตัวเองถูกปฏิเสธ กลัวตัวเองเจ็บจากความรัก แต่วันนี้...เขาจะลองปล่อยหัวใจของตัวเองให้เป็นอิสระ ทำตามเสียงหัวใจของตัวเอง แม้ว่าจะไม่ได้ความรักตอบก็ไม่เป็นไร เขาจะยอมเจ็บและเสียน้ำตาให้กับความรักอีกครั้ง เพราะเขาอยากสัมผัสความรักด้วยหัวใจ แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่สัปดาห์ก็ตาม

ขอโอกาสให้พี่ชายเลวๆ คนนี้ได้รักไท้บ้างนะ...


(https://s19.postimg.org/ou2x639fn/set_love_new_sep.jpg)

“แม่นั่งก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปหาน้ำหาท่ามาให้”

โค้ชเด้งเชื้อเชิญผู้สูงอายุนั่งลงที่โซฟา สีหน้าบ่งบอกความเกรงใจ เขาเพิ่งมาถึงบ้านไม่ถึงนาที อดีตแม่ยายกับน้องเมียก็มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน คงจะคิดถึงหลานชายจึงแวะมาหา ช่วงนี้เปาไม่ค่อยไปหายายเลย

“ไม่เป็นไรค่ะพี่เด้ง เดี๋ยวมนจัดการเอง พี่เด้งเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ” น้าสาวของเปาร้องบอก เธอมาที่นี่บ่อยๆ รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน จึงไม่จำเป็นต้องให้เจ้าของบ้านดูแล

โค้ชเด้งพยักหน้า ก่อนหันไปบอกผู้สูงอายุ “เดี๋ยวผมไปตามเปาให้นะครับแม่”

ยายของเปาพยักหน้าพลางยิ้ม โค้ชเด้งจึงขอตัว อันดับแรกเขาเดินขึ้นไปบนห้อง เมื่อเคาะประตูเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ พอเปิดห้องเข้าไปดูก็ไม่มีใครอยู่ เขาจึงเดินไปดูที่ห้องของไท้ ไม่มีใครอยู่อีกเช่นกัน น่าแปลกที่ไท้ก็หายไปด้วย

โค้ชเด้งจึงลงมาข้างล่างและเดินไปหลังบ้าน เขาจึงเห็นเปากำลังนั่งเล่นกับหมาสองตัวในบ้านของพวกมัน แต่แทนที่จะมีความสุข สีหน้ากลับดูเหมือนแบกโลกไว้ทั้งโลก ในขณะที่หมาสองตัวนั้นก็เพียงแต่นอนให้เจ้านายลูบขนเล่น ไม่ได้หยอกเล่นกันเหมือนปกติ

“เปา ยายกับน้ามนมาหาน่ะลูก” โค้งเด้งบอกลูกชาย รู้สึกแปลกใจที่เปาไม่อินังขังขอบใดๆ เพราะเจ้าตัวน่าจะได้ยินเสียงรถบ้าง

เปาเงยหน้า เจ้าหมาสองตัวนั้นหันมามองตามเสียงด้วย พวกมันเพียงแต่กระดิกหางให้พ่อของเจ้านายและยิ้มดีใจพอเป็นพิธี

“อ้อ เปาเห็นไท้ไหม ไท้ไปไหนหรือเปล่า พ่อไม่เห็นเลย” โค้ชเด้งถามเมื่อนึกได้

“ออกไปแล้วครับ” เปาตอบ ออกอาการไม่กล้าสู้หน้าตรงๆ

โค้ชเด้งขมวดคิ้ว “ออกไปเหรอ ไปไหน เขาไม่เห็นบอกพ่อนี่ว่าเขาจะออกไปข้างนอก”

เปาลูบหัวหมาสองตัวเบาๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ลุกมาจากบ้านของพวกมัน “ไม่รู้ครับ เขาไม่ได้บอก”

“ทะเลาะกับไท้หรือเปล่า” โค้ชเด้งถามดัก

เปาหยุดชะงัก สีหน้ามีพิรุธและแววตารู้สึกผิดนั้นตอบคำถามได้ดีกว่าคำพูด เท่านี้คนเป็นพ่อก็พอเดาได้ว่าน่าจะทะเลาะกันจริงๆ และน่าจะทะเลาะกันหนักจนอีกฝ่ายต้องหนีไป

“ทำไมทำแบบนี้ล่ะเปา น้องโดนลงโทษ ได้ซ้อมน้อยกว่าคนอื่น แค่นี้ก็แย่อยู่แล้ว อีกสองอาทิตย์ก็จะไปแข่งที่เกาหลี ถ้าไม่ได้ซ้อม น้องเขาอาจจะไม่ได้ลง เสียโอกาสแสดงฝีมือให้คนต่างชาติเห็น ไท้เขาควรจะได้ลงนะเปา โอกาสดีๆ รอเขาอยู่” โค้ชเด้งตำหนิลูกชาย

“ก็ทำตัวแบบนี้” เปาพูดมุบมิบ

“ทำตัวยังไง”

“ก็เหมือนที่พ่อเคยทำนั่นแหละครับ” เปากระแทกเสียง จากนั้นก็เดินเข้าไปในบ้าน

ยายกับน้าสาวเห็นหลานเดินเข้ามาในบ้านก็ยิ้มดีใจ เปายกมือไหว้ทั้งสองคนและพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยายรับไหว้แล้วก็ถาม

“ไม่ได้ไปหายายนานเลย ไม่ว่างเหรอลูก”

“ครับยาย จริงๆ ยายไม่ได้ต้องมาก็ได้ เดี๋ยวผมไปหาที่บ้าน ผมว่าอีกวันสองวันก็จะไปหาพอดี”

“ไม่เป็นไรหรอกลูก ถือโอกาสมาเยี่ยมพ่อของเราด้วย” ยายพูด

จังหวะนั้นโค้ชเด้งเข้ามาในบ้านพอดี สีหน้าดูเครียดๆ จนแขกผู้มาเยือนรู้สึกได้

“พ่อเด้ง เดี๋ยวกินข้าวเย็นด้วยกัน แม่ให้มนเตรียมมาหมดแล้ว กำลังให้เด็กจัดใส่จานให้อยู่” อดีตแม่ยายบอกอดีตลูกเขย

“ครับแม่” โค้ชเด้งรับคำ เขาพยายามยิ้มแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่นัก เพราะนึกเป็นห่วงไท้ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะไปอยู่ที่ไหน

… … …

อาหารเย็นวันนี้ดูจะพร้อมหน้าพร้อมตามากกว่าทุกครั้ง ปกติอยู่กันสองพ่อลูกก็กินใครกินมัน ไม่ค่อยได้นั่งกินข้าวด้วยกันอย่างนี้เท่าไหร่ กระนั้น เปากับพ่อก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ถ้าไม่ติดว่ายายมาหาคงทะเลาะกันไปแล้ว

หลังอาหารเย็น โค้ชเด้งก็ขอตัวออกไปข้างนอก ยายกับน้าสาวของเปาคงไม่รู้ว่าไปไหน แต่โค้ชเด้งเดินมากระซิบบอกลูกชายว่าจะออกไปตามหาไท้

พอพ่อออกไปแล้ว เปาก็นั่งคุยกับยายและน้าสาวไปเรื่อยๆ เกือบๆ สี่ทุ่มจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน คืนนี้ยายกับน้าจะนอนที่นี่ พรุ่งนี้สายๆ ก็จะกลับ

เปาเข้ามานั่งรอพ่ออยู่ในห้องของตัวเอง ถึงตอนนี้เขาก็รู้สึกเป็นห่วงไท้มากเหมือนกัน นึกโมโหตัวเองที่วู่วามมากไปหน่อย ด้วยความเป็นห่วงจึงลองโทรหา แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ ครั้นจะออกไปตามหาก็ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน

ระหว่างที่นั่งรอ สักพักใหญ่ๆ เขาก็ได้รับข้อความเอสเอ็มเอสจากใครคนหนึ่ง ข้อความนั้นเขียนว่า

"ไม่ต้องห่วงไท้นะ เขาอยู่ที่นี่แล้ว จีนจะดูแลไท้เอง แต่ไม่ทำอะไรเขาหรอก ขอให้จีนได้ใช้หัวใจรักใครสักคนบ้าง ถึงไท้จะไม่รักตอบ จีนก็ยินดีจะเจ็บอีกครั้ง มันเป็นโอกาสสุดท้ายของจีนแล้ว จีนรู้ว่าเปารักไท้มาก เพราะฉะนั้น เชื่อใจไท้นะ น้องเขาเป็นเด็กดี ที่สำคัญ เขารักเปามาก เปาต้องเชื่อใจคนที่เปารักนะ"

เป็นเรื่องยากทีเดียวที่เปาจะรู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับข้อความที่เพิ่งได้รับ กระนั้นก็น่าแปลกที่ความกังลและกระวนกระวายของเขาลดลง

เอาเป็นว่าเปาจะไม่ไปตามหา ครั้งนี้เปาจะลองเชื่อใจคนรักดูบ้าง เพราะที่ผ่านมา ความไม่เชื่อใจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง แม้กระทั่งกับพ่อเปาก็ไม่เคยเชื่อใจเลย คนเราถ้ารักกันจริงก็ต้องเชื่อใจกัน ไม่อย่างนั้น…ก็อย่ารักกันเลยดีกว่า

อย่างน้อยได้รู้ว่าไท้มีที่อยู่อาศัย มีคนดูแล ไม่ต้องตกระกำลำบาก เปาก็พอสบายใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว รอเวลาอีกเพียงไม่นาน ทุกอย่างก็จะกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติ

เสียงรถของพ่อกลับมาพอดี เปาจึงออกมาจากห้องและลงมาข้างล่าง พอพ่อเห็นลูกชายเดินมาหา ด้วยความหงุดหงิดเขาจึงอดต่อว่าไม่ได้

"ที่หอพักก็ไม่มี เพื่อนๆ ของไท้ก็ไม่มีสักคนรู้ว่าไท้ไปไหน เปา...พ่อว่าเปาทำกับน้องเกินไปแล้วนะ อนาคตของเด็กที่มีความฝัน มีความตั้งใจ จะพังก็เพราะเปานี่แหละ"

เปาพลันหยุดชะงัก สีหน้าเปลี่ยนเป็นอึ้งและตกใจ

"ทำไมพ่อพูดแบบนี้ล่ะครับ"

"แล้วจะให้พ่อพูดยังไงล่ะเปา เปาไม่เคยเชื่อใจใครเลย เอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ จะทำอะไรก็ใช้แต่อารมณ์"

"แล้วมันเป็นความผิดของผมคนเดียวเหรอครับ" เปาเถียงเสียงดัง คนเป็นพ่อถึงกับชะงัก เปาจึงถือโอกาสต่อว่าบ้าง "ที่ผมไม่ไว้ใจใครทุกวันเนี้ย ไม่ใช่เพราะพ่อเหรอครับ แม่...เขารักพ่อมากขนาดไหน เขายังไว้ใจพ่อไม่ได้เลย พ่อยังหักหลังเขาเลย ที่แม่ตายก็เพราะพ่อ ที่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะพ่อ!"

สายตาเจ็บปวดฉายขึ้นในดวงตาของคนเป็นพ่อ ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ต้องเจ็บปวดอย่างนี้

"ถ้าเปาไม่รู้อะไร เปาก็อย่าพูดดีกว่า" โค้ชเด้งกัดฟันบอกลูกชาย

"ทำไมผมจะไม่รู้ ถึงตอนนั้นผมจะยังเด็ก แต่ผมก็รู้ว่าพ่อนอกใจแม่ พ่อมีผู้ชายคนอื่น แม่เขาทนไม่ไหวถึงได้ฆ่าตัวตายไง!"

"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะเปา" โค้ชเด้งเถียง ริมฝีปากสั่นระริก

"ไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่ใช่แล้วแม่จะฆ่าตัวตายทำไม!" เปาตะโกนใส่ รู้สึกผิดหวังในตัวพ่อจนแทบจะทนไม่ได้ ช่วงที่ผ่านมา เขายอมรับว่ารู้สึกดีกับพ่อขึ้นมาก แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว และคงยากที่จะมีความรู้สึกดีๆ ให้ต่อจากนี้

"เพราะพ่อมีชู้ แม่เขาถึงได้ฆ่าตัวตาย จำไม่ได้เหรอครับ" เปาว่าซ้ำ แต่พลันก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงคนพูดแทรก

"พอได้แล้ว ทั้งพ่อทั้งลูกนั่นแหละ"

ยายของเปานั่นเอง กำลังเดินลงบันไดมากับน้าสาวพอดี คงจะได้ยินเสียงเปากับพ่อทะเลาะกันมาพักหนึ่งแล้ว ทั้งสองคนจึงลงมาดู

เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง ยายก็เดินมาต่อว่าหลานชายทันที "หยุดว่าพ่อได้แล้วนะเปา มันบาปรู้ไหมลูก"

สีหน้าของเปาอ่อนลง กระนั้นเขาก็ไม่อยากทำตามที่ยายบอกเท่าไหร่นัก

ยายของเปาหันไปทางคนเป็นพ่อแล้วก็พูด "เด้ง...แม่จะทนไม่ไหวแล้วนะ ถ้าเรามัวแต่ปิดบังเปา แล้วมันทำให้เด้งกับเปาทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้น แม่ว่า...เราต้องบอกความจริงกับเปาได้แล้ว แม่ไม่อยากเห็นเปากับเด้งทะเลาะกันอีกแล้ว มันหลายปีแล้วนะลูก มินท์เขาคงไม่มีความสุขหรอกที่พ่อกับลูกเป็นแบบนี้"

"แต่..." โค้ชเด้งลังเล

"ไม่ต้องแต่แล้ว ถ้าเด้งไม่บอก แม่ก็จะบอกเอง" ยายของเปาพูดเสียงเฉียบขาด

เปาขมวดคิ้วแน่น เขามองยายกับพ่อด้วยสายตาไม่เข้าใจ ดูเหมือนว่ามีความลับบางอย่างเกี่ยวกับแม่ แต่ยาย น้าสาวและพ่อไม่ยอมพูด

"อย่าเลยครับแม่ มินท์เขาไปสบายแล้ว ผมไม่อยาก..."

"มันคือความจริงนะเด้ง แม่ไม่อยากให้เปาเขาว่าพ่อของตัวเองแบบนี้อีกแล้ว เขาเข้าใจพ่อตัวเองผิดมาตลอด เด้งเองก็ได้แต่หน้าชื่นอกตรม ให้ลูกมันว่า ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเด้งเลย" ยายเถียง

เข้าใจผิดอย่างนั้นหรือ? เปาเข้าใจอะไรพ่อผิด? ตกลงการตายของแม่มันเป็นอย่างไรกันแน่? คนที่จะตอบเปาได้ดีที่สุดก็คงเป็นหนึ่งในสามคนนี้ แต่คนแรกที่น่าจะบอกเปาได้ก็คือยาย ว่าแล้วเปาจึงหันไปถาม

"ยาย…ยายบอกผมได้ไหมครับว่าแม่ผมฆ่าตัวตายทำไม!"

โค้ชเด้งและน้าสาวของเปาต่างก็ทำหน้าตกใจ แต่มาถึงตอนนี้ก็รู้ว่าคงห้ามได้ยาก นอกจากจะเอามืออุดปากผู้สูงอายุไว้เท่านั้น

"นะครับยาย ยายบอกผมหน่อย ตกลงแม่ผมฆ่าตัวตายเพราะอะไรกันแน่ เพราะว่าพ่อผมมีชู้หรือเปล่า หรือว่าเป็นเพราะอย่างอื่น" เปาเร่งเร้าด้วยท่าทางอยากรู้สุดขีด เขารู้สึกได้ว่าต้องมีบางอย่างไม่ธรรมดาแน่ ไม่อย่างนั้นยายคงไม่พูดแบบนี้

"แม่อย่าบอกนะครับ ผมขอร้อง" โค้ชเด้งอ้อนวอน แต่สีหน้าก็เริ่มหวาดหวั่นมากขึ้นทุกที

ยายของเปาถอนหายใจ เธอเองก็หนักใจไม่น้อยกับเรื่องนี้ เพราะถ้าเปารู้ความจริง ความรู้สึกดีๆ ที่เขาเคยมีต่อแม่อาจจะพังพินาศไปเลยก็ได้ แต่พอไม่บอกความจริง เปาก็เอาแต่ว่าพ่อ มีปัญหากันไม่หยุดไม่หย่อน ไม่เคยมีความสุขในครอบครัวเลย เธอคงจะทนดูต่อไปอีกไม่ได้

"เปาฟังดีๆ นะลูก" คนเป็นยายเกริ่น โค้ชเด้งกับน้าสาวของเปาถึงกับหน้าซีด

"แม่จะบอกจริงๆ เหรอ" ลูกสาวสะกิดแม่เบาๆ

"ใช่ ฉันจะบอก เพราะฉันทนไม่ไหวแล้ว มาบ้านนี้ทีไร ฉันไม่เคยเห็นสองพ่อลูกคุยกันดีๆ เลย เปาก็เอาแต่ด่าพ่อ ฉันไม่อยากให้หลานของฉันมันทำบาปไปมากกว่านี้แล้ว" ยายของเปายืนยันหนักแน่น

โค้ชเด้งหลับตาและหันหน้าหนี เขาเห็นรูปอดีตภรรยาอยู่บนเปียโนของเปาพอดี เมื่อไม่รู้จะห้ามอย่างไรจึงได้แต่นึกขอโทษในใจ

เมื่อเห็นว่าทุกคนเตรียมใจกันดีแล้ว ยายของเปาจึงตัดสินใจพูดความจริงที่ถูกปิดไว้มาสิบกว่าปีให้หลานชายฟัง

"คนที่มีชู้น่ะ ไม่ใช่พ่อของเปาหรอกลูก แต่เป็นแม่ของเปาเองต่างหาก!"


TBC



ป.ล. รู้สึกว่าจะโดนเทอีกแล้ว ผมยอมแพ้ที่นี่จริงๆ เลย 555


(https://s19.postimg.org/b2gzccgcj/loveless_heart_poster.jpg) (https://fictionlog.co/b/58c3f2e889af6129c5bf6fad)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP27 ความจริง ◯ 12.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 12-03-2017 16:42:31
อ้าวววว ยังงี้ก็คดีพลิกซินะ

เปาเข้าใจผิด
พ่อไม่ได้ทำอะไรผิด

นี่ล่ะนะคนเป็นพ่อ
โค้ชเด้งแมนจริงๆ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP27 ความจริง ◯ 12.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 12-03-2017 18:35:58
ไม่เข้าใจค่ะ การที่พ่อไม่ผิด ทำไมพ่อต้องยอมรับผิดอ่ะ
แล้วทุกคนคิดอะไรอยู่ทำไมไม่บอกความจริงตั้งแต่ตอนที่เปาเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ทำไมไม่มีใครอธิบายอ่ะ ปล่อยให้ความเกลียดชังมันกัดกินลูกหลานตัวเอง เรางงกับครอบครัวนี้จริงๆ นะ เปาอาจจะไม่เชื่อถ้าโค้ชเป็นคนเล่า  แต่ยายกับน้ามล ถ้าเป็นคนพูดเราคิดว่สเปารับฟังนะ
สงสารไท้ชะมัด ที่ต้องมาชอบคนในครอบครัวแบบนี้ ดูจัดการชีวิตกันไม่ได้เลย
ปล. เหมือนเราอินเกินไปเลย555555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP27 ความจริง ◯ 12.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 12-03-2017 21:40:53
ไม่เข้าใจค่ะ การที่พ่อไม่ผิด ทำไมพ่อต้องยอมรับผิดอ่ะ
แล้วทุกคนคิดอะไรอยู่ทำไมไม่บอกความจริงตั้งแต่ตอนที่เปาเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ทำไมไม่มีใครอธิบายอ่ะ ปล่อยให้ความเกลียดชังมันกัดกินลูกหลานตัวเอง เรางงกับครอบครัวนี้จริงๆ นะ เปาอาจจะไม่เชื่อถ้าโค้ชเป็นคนเล่า  แต่ยายกับน้ามล ถ้าเป็นคนพูดเราคิดว่สเปารับฟังนะ
สงสารไท้ชะมัด ที่ต้องมาชอบคนในครอบครัวแบบนี้ ดูจัดการชีวิตกันไม่ได้เลย
ปล. เหมือนเราอินเกินไปเลย555555

อ่านตอนหน้าแล้วจะกระจ่างครับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP27 ความจริง ◯ 12.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 12-03-2017 23:54:48
นั่นไง!!

พลิกล๊อคจริงๆ

สงสารไท้จังครับ,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP27 ความจริง ◯ 12.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-03-2017 00:39:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP27 ความจริง ◯ 12.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 13-03-2017 01:56:20
  หือออ ค้างอะ 555 อยากอ่านต่อ
  **เห็นทิว-บูม ข้างล่าง คิดถึงมากกก ชอบเรื่องนี้อะ ** 
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP28 เดินทาง ◯ 13.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 13-03-2017 09:46:57
EP 28 | เดินทาง

(https://s19.postimg.org/dhpv4xjsz/set_love_new.jpg)

"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ มันจะเป็นไปได้ยังไง" เปาเถียง แต่กระนั้นภายในใจก็สั่นคลอนไปแล้ว น้ำเสียงและท่าทางของเขาจึงไม่ไปในทิศทางเดียวกับเรื่องที่พูด

ก่อนที่เปาจะสติหลุดไปมากกว่านี้ ยายของเปาก็รีบอธิบายต่อ "เปา แม่ของเปาเป็นลูกสาวของยายนะลูก ไม่มีเหตุผลอะไรที่ยายจะใส่ร้ายลูกสาวของตัวเอง แต่มันเป็นความจริง มินท์มาสารภาพกับยายเอง...ว่าเขา...มีชู้" ยายพูดอย่างขมขื่น แม้จะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยลืมวันที่ลูกสาวมาสารภาพเรื่องนี้และร้องไห้ปานจะขาดใจ

"แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะผมนะครับ" โค้ชเด้งขัดขึ้น

"เด้งไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ขอแม่พูดกับหลานเอง" ยายหันไปปรามฝ่ายพ่อ เมื่อก่อนเธอก็เคยโกรธลูกเขยที่มาหลอกลูกสาวของเธอ แต่หลังจากลูกสาวเสียไปเธอจึงทำใจได้และยอมให้อภัย เพราะถึงอย่างไรเปาก็เกิดขึ้นมาแล้ว ชีวิตที่เหลือของเปากับพ่อไม่ควรเป็นแบบนี้

ยายหันมาทางหลาน จากนั้นจึงเริ่มต้นเล่าเรื่องราวอดีตรักของพ่อกับแม่ให้เปาฟัง นี่คือข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่เปาแทบไม่เคยรู้มาก่อนเลย

เมื่อตอนเปาอายุราวสองขวบ แม่ของเปาบังเอิญรู้จากเพื่อนในวงการวอลเลย์บอลว่าโค้ชเด้งเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน แต่เนื่องจากโค้ชเด้งต้องระวังไม่ให้ทางบ้านรู้ จึงมาจีบแม่ของเปาเพื่อให้ที่บ้านสบายใจ แต่จะว่าไม่รักกันเลยก็ไม่ใช่ ทั้งคู่ก็ดูเหมือนรักกันดีเหมือนหนุ่มสาวทั่วไป จนกระทั่งนำมาสู่การแต่งงาน

หลังจากนั้นแม่ของเปาจึงตามสืบข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น ไปๆ มาๆ ก็ได้ความว่าสามีของเธอมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนจริง รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยแล้ว หลังคบกันไปสักพัก ผู้ชายคนนั้นก็ถูกครอบครัวบังคับแต่งงาน ความสัมพันธ์ของโค้ชเด้งกับผู้ชายคนนั้นจึงกลายเป็นอดีตไป

แต่ความลับนั้นก็จุดชนวนให้เกิดปัญหาในครอบครัวขึ้น แม่ของเปาอยู่กับสามีอย่างหวาดระแวงมาตลอด เวลาสามีไม่อยู่ กลับบ้านค่ำ หรือบางวันไม่กลับ เธอมักกระวนกระวายใจว่าสามีจะไปหาผู้ชายอื่น จนในที่สุดก็เริ่มมีปากเสียงกัน

วันหนึ่งแม่ของเปาก็หลุดปากบอกสามีไปว่าเธอรู้เรื่องอดีตที่ผ่านมาทั้งหมดแล้ว นั่นยิ่งทำให้ชีวิตครอบครัวดิ่งเหว เพราะความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาถึงคราสะดุด จนถึงขนาดแยกห้องกันนอน ที่เคยวางแผนว่าจะมีลูกอีกสองสามคนก็ล้มเลิกไป ทั้งคู่ใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายปี ต่างคนต่างก็อดทนเพื่อลูก

ในที่สุด ความเหงาก็กลายเป็นตัวการที่นำพาปัญหาใหญ่เข้ามาในชีวิต แม่ของเปาบังเอิญเจอเพื่อนสนิทชายคนหนึ่งที่เคยเรียนมหาลัยด้วยกัน ตอนนั้นเปาอยู่ปอสามปอสี่ พอคุยกันบ่อยเธอก็เริ่มเล่าชีวิตที่ขมขื่นให้เพื่อนฟัง เพื่อนจึงกลายเป็นที่ปรับทุกข์ จนกระทั่งเลยเถิดไปเป็นความสัมพันธ์ทางกาย ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ ฝ่ายชายมีลูกมีเมียอยู่แล้ว ทั้งคู่จึงต้องแอบคบกันอย่างลับๆ กระนั้น เปาเองก็เคยเห็นเพื่อนผู้ชายคนนี้มาส่งแม่ที่บ้านบ่อยๆ แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก เขาจึงไม่คิดอะไร

เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน เปามักจะเห็นพ่อเป็นฝ่ายออกไปจากบ้านบ่อยๆ ส่วนแม่ก็เอาแต่ร้องไห้ เปาจึงอยู่กับแม่มากกว่าพ่อ ถ้าจะว่าไป เขาก็เริ่มรักแม่มากกว่าพ่อด้วยซ้ำในตอนนั้น เพราะเขาเห็นแม่เป็นฝ่ายเจ็บปวดมากกว่า

จนกระทั่งวันหนึ่งโค้ชเด้งก็เจรจาขอหย่า แต่พอเรื่องรู้ไปถึงหูของปู่กับย่าของเปา ทั้งคู่ก็ถึงกับเต้นผาง รีบเข้ามาห้ามทัพแทบไม่ทัน แต่โค้ชเด้งก็ยืนยันว่าจะหย่าให้ได้ ซ้ำยังตัดสินใจเปิดเผยกับครอบครัวว่าเขาเป็นเกย์ด้วย ไม่สามารถอยู่กินกับผู้หญิงได้อีก แม่ของเปาเองก็รู้เรื่องแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะทนฝืนกันต่อไป ปู่กับย่าของเปารับไม่ได้เมื่อรู้ความจริง จึงยื่นคำขาดว่าถ้าลูกชายเลิกกับเมีย จะขอตัดขาดพ่อแม่ลูก จึงทำให้มหากาพย์ปัญหาชีวิตครอบครัวยืดเยื้อต่อไป

เมื่อโค้ชเด้งบอกพ่อแม่ไปแบบนั้น ใครต่อใครจึงคิดว่าเขาต้องการหย่ากับภรรยาเพื่อไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่ บางคนลือไปถึงขั้นที่ว่าโค้ชเด้งแอบซ่อนผู้ชายเอาไว้ แม้แต่เปาเองก็ยังเข้าใจอย่างนั้น เขาจึงห่างเหินกับพ่อมากขึ้นและมากขึ้น

ก่อนแม่ของเปาจะตัดสินใจลาโลก ช่วงนั้นครอบครัวของเพื่อนเธอเริ่มระแคะระคายแล้วว่าทั้งคู่เป็นชู้กัน นับว่ายังดีที่ทางนั้นไม่ออกมาแฉเสียก่อน แต่ก็ยื่นคำขาดให้เลิกติดต่อกันอย่างเด็ดขาด ช่วงนั้นแม่ของเปาเครียดมาก ก่อนวันฆ่าตัวตาย เธอตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แม่ของเธอฟัง เมื่อวันแม่มาถึง เธอก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหาที่แก้ไม่ตก ปู่กับย่าโกรธพ่อของเปามากเมื่อลูกสะใภ้เสียชีวิต เพราะคิดว่าลูกชายของตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้เมียตาย โกรธถึงขนาดไม่พูดคุยกันเป็นปีๆ แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังทำตัวห่างเหินจนเหมือนไม่ใช่สายเลือด

หลังจากแม่ของเปาเสียไป เปาก็ไม่คุยกับพ่ออีกคน ยายของเปาจึงตัดสินใจบอกความจริงกับโค้ชเด้งเรื่องที่ลูกสาวของเธอมีชู้ เพราะยายไม่อยากให้พ่อกับลูกเกลียดชังกัน แต่โค้ชเด้งก็ไม่กล้าเอาเรื่องนี้มาบอกลูกชาย เขารู้ว่าเปารักแม่มาก ช่วงหลังๆ เปาอยู่กับแม่และสนิทกับแม่มากกว่าพ่อ เขาจึงไม่อยากให้ลูกชายมีความทรงจำไม่ดีกับแม่ของตัวเอง เพราะไหนๆ คนตายก็ตายไปแล้ว นอกจากนี้เขายังขอร้องไม่ให้ยายของเปาเล่าเรื่องนี้ให้หลานฟังอีกด้วย

แม้กระทั่งตอนหลังปู่ของเปารู้เรื่องนี้เข้า ก็ยังไม่วายโทษว่าเป็นความผิดของลูกชายอยู่ดี "การเป็นเกย์" คือมูลเหตุของความอัปยศอดสูและปัญหาทั้งหมด ซ้ำปู่ยังขออีกว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกหลาน ปู่ยอมให้หลานรู้สึกแย่กับพ่อที่เป็นเกย์ ดีกว่าให้หลานรู้สึกแย่กับแม่ที่มีชู้ สำหรับปู่แล้ว การมีลูกเป็นเกย์คือสิ่งชั่วร้ายที่สุด ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพ่อของเปาคนเดียวเท่านั้น เขาจึงกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของลูกชาย พ่อและแม่มาตลอด

ช่วงนั้นโค้ชเด้งเสียศูนย์ไปเลย เขาสติหลุด เที่ยวเตร่ บางครั้งก็พาผู้ชายมาที่บ้าน จนเปาทนไม่ไหวต้องออกปากเตือนพ่อว่าอย่าพามาอีก ในขณะที่ชาวบ้านก็เอาไปซุบซิบนินทา ทำให้เปาพลอยมีปัญหาไปด้วยเพราะถูกเพื่อนล้อ ยิ่งทำให้เกลียดพ่อมากขึ้น

แต่ไม่นานโค้ชเด้งก็ได้สติและหยุดทุกอย่างไว้ แต่ก็ยังคบหากับผู้ชายคนหนึ่งเงียบๆ ถ้าไม่นับผู้ชายคนนั้นแล้ว ชีวิตของโค้ชเด้งก็เหมือนไม่เหลือใครเลย พ่อแม่ญาติพี่น้องก็แทบจะตัดขาดกันไป แต่ยังดีที่ยกเว้นหลานไว้ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พ่อของเปาต้องกล้ำกลืนฝืนกินตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งเปาเองก็ยังรู้สึกว่าปู่กับย่าใจร้ายกับพ่อมาก ถ้าปู่กับย่าไม่ใจแคบ พ่อ แม่และเปาคงไม่เจอสภาพชีวิตแบบนี้

เมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว เปาก็อ้าปากค้าง เขามองหน้ายาย แล้วก็หันไปมองหน้าพ่อและน้าสาว เรื่องที่ยายเล่ามาทั้งหมดนั้น เปายอมรับว่ามีเค้าความจริงไม่น้อย ช่วงก่อนที่แม่จะตาย เปาก็เคยเห็นผู้ชายคนหนึ่งมาส่งแม่ที่บ้านบ่อยๆ แม่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน เปาก็เลยไม่เอะใจ อีกอย่างตอนนั้นพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันบ่อยๆ การที่มีคนอื่นมาส่งแม่แทนพ่อจึงพอเข้าใจได้

เปาหันไปมองพ่ออีกครั้ง เขาร้องไห้และทรุดลงนั่งกับพื้นตรงหน้าพ่อ ก่อนก้มกราบลงแทบเท้าของผู้ให้กำเนิดด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

"พ่อครับ เปาขอโทษ เปาขอโทษครับพ่อ"

โค้ชเด้งรีบย่อตัวลงมาหาลูกชาย เปาโผเข้ากอดพ่อ ทั้งพ่อทั้งลูกต่างร้องไห้และกอดกันแน่น ทั้งสองคนแทบไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวกันมาสิบกว่าปีแล้ว นี่คืออ้อมกอดที่ต่างคนต่างก็เรียกร้องโหยหามานานแสนนาน ในที่สุดพ่อก็ได้กอดลูกชายเหมือนที่เคยทำตอนเด็กๆ และในที่สุด เปาก็ได้กอดพ่อด้วยความรู้สึกว่าพ่อคือผู้ชายที่อบอุ่นที่สุดในโลก

"พ่อ...เปาขอโทษ ทำไมพ่อไม่บอกผม พ่อทำอย่างนี้ทำไม" เปาร้องไห้คร่ำครวญ เมื่อนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่เขาเคยทำกับพ่อ เขาก็ยิ่งสะท้อนใจและเสียใจ เขาทำบาปกับพ่อมากเหลือเกิน

ทั้งยายและน้าสาวต่างมองดูพ่อกับลูกกอดกันทั้งน้ำตา หวังว่าต่อจากนี้ไปเปากับพ่อจะกลับมาเป็นพ่อลูกที่รักกันเหมือนเดิมอีกครั้ง นี่คือสิ่งที่ยายกับน้าสาวต้องการมากที่สุด จึงไม่อยากให้คนที่ตายไปแล้วทำให้คนที่เหลืออยู่ต้องมีชีวิตอย่างทรมาน

"เปาอย่าโกรธแม่นะลูก แม่เขาไม่ผิดหรอก พ่อผิดเองที่พ่อเป็นแบบนี้ แม่เขาก็เลย..." เสียงของโค้ชเด้งกลืนหายไป เมื่อนึกถึงตอนนั้น เขาก็รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย

"ครับพ่อ พ่ออย่าโทษตัวเองอีกเลยนะครับ ผมขอโทษ ผมไม่รู้ ฮือๆ"

"ไม่เป็นไรลูก มันผ่านไปแล้ว พ่อรักเปานะลูก"

"เปาก็รักพ่อครับ พ่อยกโทษให้เปาด้วย"

โค้ชเด้งยกมือป้ายน้ำตา แม้จะร้องไห้แต่เขาก็ดีใจที่สุดแล้ว "พ่อไม่โกรธเปาหรอกลูก เปาก็ยกโทษให้พ่อด้วยนะลูก ที่ผ่านมาพ่อก็ทำไม่ดีกับเปาหลายอย่าง"

"ครับพ่อ เปาไม่โกรธพ่อแล้ว ต่อไป...เปาจะดูแลพ่อ เปาจะไม่ทำให้พ่อเสียใจอีกแล้ว"

"เปาลูกพ่อ ขอบใจมากลูก"

ทั้งสองพ่อลูกยังคงกอดกันแน่น ปากก็พร่ำขอโทษซึ่งกันและกัน น้ำหูน้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย แต่ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว นับจากนี้ไป สองพ่อลูกจะให้อภัยกัน เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ชีวิตที่เหลือจากนี้จะมีแต่ความทรงจำที่ดี ก่อนที่ละสังขารลาจากโลกนี้ไป

นับว่าฟ้าดินยังเมตตาอยู่บ้างที่ทำให้เปาได้รู้ความจริงในวันนี้ อย่างน้อยเปาก็ยังมีพ่ออยู่ให้ขอโทษ เขาไม่อยากคิดเลยว่าถ้ายายไม่มาที่บ้านวันนี้ เปากับพ่ออาจจะตายจากกันไปโดยที่เปาไม่เคยรู้ความจริงเลยก็ได้

ยิ่งคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาเปาก็ยิ่งสะท้อนใจ พ่อยอมเจ็บ ยอมเป็นคนผิด ยอมถูกครอบครัวตัดขาด เพียงเพราะไม่อยากให้เปารู้สึกไม่ดีกับแม่ แต่เปากลับไม่เคยรู้อะไรเลย แถมยังทำหลายอย่างให้พ่อเจ็บไม่เว้นแต่ละวัน หวังว่าคำขอบคุณจากลูกชายคนนี้คงจะทำให้พ่อหายเจ็บได้บ้าง

"ขอบคุณนะครับพ่อ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อทำให้ผม เปารักพ่อนะครับ"


(https://s19.postimg.org/ou2x639fn/set_love_new_sep.jpg)

บรรยากาศที่สนามบินวันนี้คึกคักไม่น้อย ทั้งนักข่าวและบรรดาแฟนคลับของนักกีฬาต่างก็มารอส่งนักกีฬาคนโปรดของตนเองอย่างเนืองแน่น ตั้งแต่เริ่มมีชุดเยาวชนยูสิบเก้าขึ้นมา ในโลกออนไลน์และโซเชียลต่างก็พูดถึงอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง นักกีฬาหลายๆ คนเริ่มมีแฟนเพจและแฟนคลับของตัวเอง มีแม้กระทั่งเพจคู่จิ้นนักกีฬาด้วย

เมื่อใกล้เวลาเดินทาง ทีมสต๊าฟโค้ชก็เดินมาเตือนนักกีฬาให้รีบทำภารกิจให้เสร็จสิ้น เพราะหลายคนไม่เคยเดินทางต่างประเทศ ชักช้าอาจจะตกเครื่องได้

ไท้ยังคงถูกสั่งห้ามไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าว จนกว่าจะกลับมาจากการแข่งขันที่เกาหลี กระนั้นก็ไม่ถึงกับต้องคอยหลบ เพราะโค้ชกิตติจัดการบอกนักข่าวไปแล้วว่าห้ามสัมภาษณ์ เขาจึงใช้โอกาสดีนี้ร่ำลารุ่นพี่ที่อุตส่าห์มาส่ง

"ขอบคุณพี่จีนมากนะครับที่ดูแลผมเป็นอย่างดีเลย ถ้าไม่ได้พี่ช่วย ผมคงแย่แน่ๆ" ไท้ยิ้มด้วยสีหน้าและแววตาที่บ่งบอกความรู้สึกขอบคุณ

"ไม่เป็นไร พี่ยินดี" จีนยิ้ม แต่ก็ดูค่อนข้างเศร้า

ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาแทบจะไม่ได้กลับไปอยู่ที่บ้านเลย เมื่อไท้มาอยู่ด้วย เขาก็ต้องคอยดูแล วันไหนว่างก็จะพาไปกินข้าว ไปดูหนัง หรือพาไปเที่ยวที่นั่นที่นี่บ้าง แต่ก็ไม่ให้กระทบการซ้อม

"กลับมาผมจะได้เจอพี่ไหมเนี่ย" ไท้ทำหน้าเศร้าบ้าง

"อยากเจอก็มาหาได้ รู้จักแล้วนี่" จีนขำเบาๆ

"จริงด้วย พี่จีนอย่าเพิ่งไปไหนนะ วันไหนที่ผมประสบความสำเร็จ ผมจะมาตอบแทนพี่" ไท้บอกด้วยท่าทีขึงขัง

จีนหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ที่เขาทำไปทั้งหมดตอนนี้นั้น เป็นเพราะเขาต้องการไถ่โทษความผิดของตัวเอง ไม่ใช่เพราะต้องการให้ไท้มาถือเป็นบุญคุณ จะว่าไป การไถ่โทษเพียงสองสัปดาห์ถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับความผิดที่เขาเพิ่งทำไป

"ยังไม่ต้องคิดเรื่องนั้นหรอก ทำให้เต็มที่ ทำให้มันเป็นจริงก่อน จากนั้น...ไท้ก็จะทำอะไรได้อีกเยอะเลย"

"ครับพี่" ไท้ยิ้ม ช่วงนี้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาก จิตใจแจ่มใสมากขึ้น คิดฟุ้งซ่านน้อยลง

"อย่าลืมคุยกับเปานะ เห็นไหม...เขาคอยมองไท้อยู่" จีนพูดพลางขำ แอบชำเลืองมองอีกคนที่คอยมองอยู่ไกลๆ ไปด้วย

"ครับพี่" ไท้รับคำอย่างว่าง่าย เขาหันไปมองตามด้วย เมื่อเปาเห็นไท้หันมามอง เจ้าตัวก็แสร้งทำเป็นหันไปทางอื่น

ไท้ไม่ได้พบหรือคุยกับเปาสองสัปดาห์แล้ว ช่วงที่ผ่านมา เปาถูกสมาคมขอให้ไปช่วยดูแลเรื่องสมรรถนะให้ทีมยูยี่สิบเอ็ด เพราะมีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรัง แถมหลายคนก็ยังดูแลตัวเองไม่ถูกวิธี ไท้จึงไม่ได้เจอเปาเวลาไปซ้อมกับทีมเลย เพิ่งจะได้มาเห็นหน้าค่าตากันก็วันนี้ แต่ก็ยังไม่มีจังหวะคุยกันเลย

"ไท้รีบไปเหอะ เดี๋ยวจะไม่ทัน" จีนเตือนเมื่อเห็นเพื่อนๆ ของไท้เริ่มทยอยไปรวมตัวกันแล้ว

"ครับพี่ เดี๋ยวผมจะซื้อของมาฝากนะครับ มีตังค์แล้ว สมาคมให้พ็อกเก็ตมันนี่มาด้วย" ไท้พูดอย่างอารมณ์ดี

จีนพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะวางมือสองข้างลงไปตบไหล่ของไท้เบาๆ สองสามครั้ง "เดินทางปลอดภัยนะ พี่ขอให้ไท้ทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จ พี่เชื่อว่าไท้ทำได้ ไท้เก่งอยู่แล้ว"

ไท้พยักหน้า ถ้าหากจะต้องเลือกระหว่างความรักกับความฝันแล้ว ตอนนี้เขาตอบตัวเองได้แล้วว่าเขาควรจะเลือกอะไร

จีนปล่อยมือลง เขารู้สึกใจหายเหลือเกิน เพราะจากนี้ไป เขาจะไม่กลับมาเจอไท้อีกแล้ว สองสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาปล่อยหัวใจของตัวเองให้รู้สึกอย่างที่อยากรู้สึก เขาได้คำตอบชัดเจนแล้วว่าหัวใจของเขายังทำงานดีอยู่ แต่อาจจะผิดจังหวะเวลาไปหน่อย ทางที่ดีเขาจึงควรรีบตัดใจ ทำตามที่เปาบอกเขาวันนั้น ยอมเจ็บสักครั้งเพื่อให้หัวใจได้มีความรัก เพราะอกหัก...ดีกว่ารักไม่เป็น

"พี่มีอะไรจะบอกไท้น่ะ" จีนพูดแล้วก็ถอนหายใจ ท่าทางดูประหม่าชอบกล

"อะไรเหรอครับ" ไท้เอียงคอสงสัย

จีนทำท่าครุ่นคิด แต่เขาก็ใช้เวลาไม่นานเลยที่จะตัดสินใจพูด เพราะที่จริงเขาคิดมาหลายวันแล้ว

"พี่ชอบไท้นะ ชอบตั้งแต่เจอครั้งแรกแล้วล่ะ พี่ไม่เคยชอบใครแบบนี้มาหลายปีแล้ว ไท้เป็นคนแรก พี่ดีใจนะที่คนที่พี่รู้สึกแบบนี้ด้วย...เป็นไท้"

ไท้ดูตกใจไปเล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ที่จริงไท้ก็พอสัมผัสได้ว่าจีนมีความรู้สึกบางอย่างให้ แต่เพราะไม่แน่ใจจึงไม่กล้าถาม จนกระทั่งจีนเป็นฝ่ายบอกด้วยตัวเอง

"ขอบคุณที่พี่รู้สึกดีกับผมนะครับ" ไท้บอกพลางยิ้ม

จีนรีบพูดดักทันที "แต่ไท้ไม่ต้องห่วงหรอก พี่รู้ว่าไท้รักใคร พี่แค่อยากบอกไท้เฉยๆ เท่านั้นแหละ ไม่ต้องห่วงพี่นะ ไม่ต้องพูดเอาใจพี่เพราะกลัวว่าพี่จะเสียใจ พี่ไม่เป็นไรเลย เห็นไหม"

รอยยิ้มแจ่มใสของจีนดูจะยืนยันสิ่งที่เจ้าตัวพูดได้เป็นอย่างดี ไท้จึงขำเบาๆ ตามไปด้วย แม้ว่าจะเห็นใจอีกฝ่ายก็ตาม

"แย่จัง พี่ก็ชวนคุยอยู่ได้ ไท้รีบไปเลย เดี๋ยวจะตกเครื่อง" จีนเตือนอีกครั้ง ถือโอกาสตัดบทไปด้วย

"ครับพี่ ผมไปก่อนนะครับ ไว้เจอกันตอนผมกลับมา พี่อย่าเพิ่งไปไหนนะ" ไท้ย้ำ

จีนพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนโบกมือลาเมื่ออีกฝ่ายก้าวเดินออกไป ไท้เดินไปได้หน่อยก็หยุดหันมามอง โบกมือและยิ้มให้ด้วย เขาไม่รู้เลยว่านี่คือรอยยิ้มสุดท้ายจากพี่ชายคนนี้

เมื่อไท้หันหลังเดินจากไป น้ำตาของจีนก็อดที่จะรินไหลลงมาไม่ได้ เขารีบเอามือเช็ด ก่อนจะเดินจากไปเช่นเดียวกัน

'ลาก่อนนะไท้ ขอให้น้องของพี่สมหวังทั้งความฝันและความรัก ขอบคุณที่เราได้เจอกัน ขอบคุณที่ทำให้หัวใจของพี่ชายคนนี้ฟื้นคืนกลับมาทำหน้าที่ของมันของอีกครั้ง พี่จะไม่ลืมไท้เลยจนชั่วชีวิต'

นั่นคือเสียงพูดในใจครั้งสุดท้ายที่ไม่มีใครได้ยิน มันหายไปพร้อมๆ กับร่างของเขาที่หลบฉากไปจากสายตาของคนเหล่านั้นแล้ว นักกีฬาต่างทยอยเดินตามโค้ชและทีมงานเข้าไปในด่านตรวจผู้โดยสารขาออก ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกับการแข่งขันต่างประเทศครั้งแรก จึงไม่มีใครสนใจรุ่นพี่คนนี้ที่ตามมาส่ง เพราะทุกคนต่างก็มีทางชีวิตของตัวเอง จีนเลือกที่จะเดินแยกออกจากเส้นทางนี้ ในขณะที่คนที่เหลือยังต้องการเดินทางต่อไป

"พี่นั่งด้วยได้ไหม"

ขณะที่ไท้กำลังง่วนกับการรัดเข็มขัดที่นั่ง เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นใกล้ๆ เมื่อเงยหน้ามองดูก็เห็นว่าเป็นเปา ค่าที่ไม่คิดว่าจะเจอกันตอนนี้ เขาก็เลยทำหน้าไม่ถูก กระนั้นก็พยักหน้าตกลงไปก่อน

เปายิ้มแล้วก็นั่งลง ก่อนจะถือวิสาสะช่วยสอนคนเงอะๆ งะๆ ให้รู้จักวิธีรัดเข็มขัดที่นั่ง

"เอาอันนี้สอดเข้าไปตรงนี้ แล้วค่อยดึงสายรัดให้พอดีตัว"

คนสอนถือโอกาสแย่งมาทำให้เสียเลย ไท้ยิ้มแปลกๆ แล้วก็ขอบคุณเบาๆ อดนึกแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเปาถึงมานั่งตรงนี้ เพราะตอนก่อนขึ้นเครื่อง คนที่ได้เบอร์ที่นั่งใกล้กันเป็นเกิ้น แต่อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นเปา สงสัยคงไปขอแลกที่นั่งกับเกิ้นมาแน่

เปาสอนเสร็จก็จัดการรัดเข็มขัดที่นั่งของตัวเองบ้าง เสร็จแล้วก็หันไปยิ้มกับคนนั่งข้างๆ

"จะให้พี่ช่วยอะไรก็บอกนะ"

"ครับ" ไท้รับคำสั้นๆ ก่อนจะหันไปสนใจกับวิวนอกหน้าต่างเครื่องบิน ค่าที่เพิ่งนั่งเครื่องบินครั้งแรก อะไรๆ จึงน่าตื่นตาตื่นใจไปหมด ถ้าไม่ใช่เพราะอาชีพวอลเลย์บอล เขาก็นึกไม่ออกเลยว่าชาตินี้จะได้นั่งเครื่องบินกับเขาหรือเปล่า

"พี่คิดถึงไท้นะ"

เสียงนุ่มทุ้มพูดต่อ คราวนี้ไท้จะทำเป็นไม่สนใจคงไม่ได้แล้ว เขาสะดุ้งและรีบหันกลับมามองคนนั่งข้างๆ เมื่อเจอรอยยิ้มหวานรออยู่ก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก จะยิ้มตอบก็ยังไม่รู้สึกสนิทใจขนาดนั้น แต่เปายังไม่หยุดแค่นี้ เมื่อได้รับความสนใจเขาก็รุกต่อทันที

"ไท้คิดถึงพี่ไหม"


TBC




(https://s19.postimg.org/ys5odw35v/mt_love03.jpg)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP28 เดินทาง ◯ 13.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-03-2017 14:25:16
ตามอารมณ์เปาไม่ทันจริงๆ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวก็ขอเลิก เดี๋ยวก็ไล่ ตอนนี้ก็จะมาง้อคืนดีอีก
ถามจริง เดี๋ยวไม่ใช่ทะเลาะกันอีกก็ไล่อีกนะ และไม่ใช่เดี๋ยวก็กลับไปง้อหาฟางอีกล่ะ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP28 เดินทาง ◯ 13.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-03-2017 15:54:32
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP28 เดินทาง ◯ 13.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 13-03-2017 18:09:07
 ชอบตอนนี้อะ อ่านแล้วชอบจริงๆ แต่ไม่ชอบตอนที่ปู่ของเปาไม่ชอบโค้ชเด้งนี่ล่ะ แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกันจริงๆ แต่ก็ซึ้งใจล่ะที่พ่อลูกเข้าใจกันสักที
 รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP28 เดินทาง ◯ 13.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 13-03-2017 20:12:06
ถือว่าเคลียร์ปมเรื่องครอบครัวไปแล้วนะ สรุปก็ผิดมันทุกคนนั่นแหละ55555555 ตอนหน้าก็ทำตัวดีๆ กับน้องหน่อยล่ะ อย่าให้เสือสิงห์มายุ่งกับไท้เชียว ดูท่าจะเป็นที่หมายปองของหนุ่งกรุงโซล แต่เอาจริงๆ แทบไม่ต้องกังวลเลยอ่ะ ไท้ไม่หวั่นไหวอยู่แล้ว มีแต่อีคนพี่นี่แหละ ทำร้ายจิตใจน้องจังเลย ไปเกาหลีก็สวีทกันบ้างเถอะ คนอ่านจะเฉาตายแล้วค่ะ55555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP28 เดินทาง ◯ 13.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 13-03-2017 22:58:47
ไปเกาหลีจะเป็นอย่างไรบ้างนะ???

อยากรู้,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP28 เดินทาง ◯ 13.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-03-2017 23:06:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP28 เดินทาง ◯ 13.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 16-03-2017 20:57:53
รออีกแป๊บนึงนะครับ ตอนนี้กำลังเคลียร์งาน เพิ่งเขียนตอนใหม่ไปได้นิดเดียวเอง

(https://scontent.fbkk5-8.fna.fbcdn.net/v/t31.0-8/17349803_987309454733164_5278614596959469710_o.png?oh=434b6f1e9faaf7ad070fa1d965d75f34&oe=595B0847)

ว่าแต่ว่า ตอนที่ผ่านมา ไม่มีใครบวกเป็ดให้เลยเหรอ?
ตั้งแต่เขียนนิยายมา เพิ่งมีครั้งแรกที่ได้เป็ด 0 ตัว
555 หรือจะดี ถือเป็นประวัติศาสตร์
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP29 เกาหลี [50%] ◯ 17.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: tongzaa ที่ 18-03-2017 18:32:15
 :hao5: ตั้งตารอ.......... :katai5:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP29 เกาหลี ◯ 18.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 18-03-2017 21:42:32
EP 29 | เกาหลี

(https://s19.postimg.org/dhpv4xjsz/set_love_new.jpg)

เมื่อถูกถามว่าคิดถึงพี่หรือเปล่า ไท้ก็นิ่งไปประมาณห้าวินาที ก่อนเจ้าตัวจะทำหน้าเป็นไม่รู้ไม่ชี้และตอบกึ่งกวน

“ไม่คิดถึงครับ”

“อ้าว” เปาหน้าจ๋อย แต่เมื่อเป็นฝ่ายผิดจะโอดครวญคงไม่ได้ ก็คงต้องยอมไปก่อน “สักนิดหนึ่งก็ไม่คิดถึงเลยเหรอ”

ไท้ส่ายหน้า “ใครเขาจะคิดถึงคนใจร้ายล่ะครับ”

พูดจบไท้ก็หันกลับไปสนใจวิวนอกตัวเครื่องต่อ ขนาดเครื่องยังไม่ขึ้นยังน่าตื่นเต้นขนาดนี้ ถ้าเครื่องเทคออฟแล้วคงตื่นเต้นน่าดู วันหนึ่งไท้จะพาแม่กับไอซ์นั่งเครื่องบินไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้บ้าง ทั้งสองคนคงตื่นเต้นและมีความสุขมาก

เปาหน้าจ๋อยสนิท เขาพยายามคิดหาทางพูดให้อีกฝ่ายหายงอน แต่ดูท่าทางจะไม่ง่ายเสียแล้ว

“ตื่นเต้นเหรอ”

“อืม เด็กบ้านนอกก็งี้แหละครับ” ไท้ตอบห้วนสั้นโดยไม่หันมามอง

เปายื่นหน้าไปดูวิวข้างนอกด้วย เมื่อเคลื่อนเข้าสู่ระยะประชิด อีกฝ่ายก็มีท่าทีระแวดระวังมากขึ้น “เวลาที่เครื่องบินมันเทคออฟนะ เราจะปวดหูนิดหน่อย เพราะว่าความดันอากาศมันเปลี่ยน ถ้าไท้ปวดหู ไม่ต้องตกใจนะ”

“รู้แล้ว”

“อ้อ” เปาหัวเราะแหะๆ ท่าทางเก้อๆ เขินๆ เมื่อมองไปรอบๆ ก็เห็นสายตาของลูกศิษย์ในทีมหลายคนมองมาที่เขา ส่งสัญญาณคล้ายกับกำลังเอาใจช่วย ดูท่าพวกนี้จะรู้กันหมดแล้วว่าไท้กับโค้ชเปามีความสัมพันธ์แบบไหน

มีคนคอยเอาใจช่วยแบบนี้ เปาก็ค่อยมีกำลังใจขึ้นอีกโข ไท้เลิกสนใจวิวข้างนอกพอดี เปาจึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋า ช่วงนี้เครื่องยังไม่ออก ผู้โดยสารยังคงทยอยเดินขึ้นมาบนเครื่อง เขาจึงพอใช้อินเตอร์เน็ตได้

“พี่ชอบคู่รักคู่นี้มากเลย คุณพอร์ชกับคุณอาร์ม ไท้เคยดูไหม พี่ตามดูในเฟสบ่อยๆ เขาสองคนน่ารักดีนะ เหมาะสมกันมาก วางตัวก็ดี แถมยังรักกันสม่ำเสมอ พี่อยากมีความรักที่อบอุ่นแบบนี้บ้างจัง” เปาบอกพลางยื่นมือถือให้ไท้ดูหน้าแฟนเพจของคู่รักชายชายชื่อดังคู่หนึ่ง เขาแอบติดตามสองคนนี้เงียบๆ มาสองสามปีแล้ว

ไท้ยื่นหน้ามาดู จากนั้นก็ทำเป็นยิ้มๆ “ก็ดีนะครับ”

“ดีใช่ไหม” เปายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนถามทีเล่นทีจริง “แล้วไท้อยากมีแบบนี้ไหม”

“ครับ” ไท้พยักหน้าเร็วๆ ก่อนยิ้มยียวน “แต่…ไม่ใช่กับคนแถวนี้”

“อ้าว โธ่” เปาหน้าม่อยจนดูน่าสงสาร “มีเข็มกับด้ายไหม”

“ไม่มี” ไท้ส่ายหน้า สีหน้าดูงงๆ จนอีกคนต้องกลั้นหัวเราะ “จะเอามาทำไมครับ”

“จะเย็บหน้า หน้าแตกเลย”

เมื่อถึงบางอ้อ ไท้ก็อดขำเบาๆ ไม่ได้ แต่เขาก็ต้องพยายามทำเป็นขรึม เพราะจีนบอกเขาไว้ว่าต้องเล่นตัวหน่อย อย่าปล่อยให้เปาง้อได้ง่ายๆ ไม่งั้นเปาจะเคยตัว ต้องเอาให้หนักๆ เปาจะได้เข็ด

เปาเก็บโทรศัพท์และนั่งหน้าจ๋อยอย่างเงียบๆ กระนั้นก็อดลอบมองอีกฝ่ายไม่ได้ ผิวพรรณและหน้าตาของไท้ดูสดใสขึ้นมาก ร่องรอยความเศร้าไม่มีแล้ว แสดงว่าจีนคงช่วยดูแลเป็นอย่างดี เปาพลาดโอกาสดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ช่วงเวลาที่ไท้ต้องการใครสักคน เขาควรจะเป็นคนแรกด้วยซ้ำที่ยื่นมือมา แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น

เมื่อไม่รู้จะทำอะไร ต่างคนก็ต่างเงียบ บางช่วงก็หันไปคุยกับคนอื่นๆ บ้าง เสียงดังนิดหน่อยเนื่องจากหลายคนยังคึกคะนองตามวัย แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้วุ่นวายหรือน่ารำคาญ อีกอย่างที่นั่งโซนนี้ก็เป็นของนักกีฬาและสต๊าฟโค้ชทั้งหมด

เมื่อทุกอย่างพร้อม เครื่องบินก็เคลื่อนตัวออกจากลานจอดไปยังรันเวย์ ไม่นานก็เร่งความเร็วขึ้นจนกระทั่งเทคออฟ เมื่อเครื่องทะยานขึ้นสู่ฟ้า ไท้ก็มองออกไปข้างนอกด้วยความสนใจและอยากรู้อยากเห็น คนนั่งข้างๆ แอบยิ้มด้วยความเอ็นดูอย่างเงียบๆ

พอเห็นไท้เริ่มเอามือกดๆ ที่หู เปาก็รีบส่งลูกอมซูกัสที่เตรียมมาไปให้

"อมแล้วก็เคี้ยว มันจะช่วยลดอาการปวดหูได้" เขาบอก

ไท้รับไปแกะอมอย่างว่าง่าย คงเป็นเพราะว่าปวดหูนั่นเอง ไม่ใช่แค่ไท้เท่านั้น เปายังส่งลูกอมให้ลูกศิษย์คนอื่นๆ ด้วย เพราะต่างก็หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยอาการปวดหูเหมือนกัน จนกระทั่งเครื่องบินอยู่ในระดับความสูงคงที่ อาการปวดหูจึงค่อยทุเลาลงจนหายเป็นปกติ

บรรดาสาวๆ แอร์โฮสเตสเริ่มออกมาทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารให้ผู้โดยสาร ไท้กับเพื่อนๆ ดูจะตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะนี่คือการกินอาหารบนเครื่องครั้งแรก เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันพอสมควร

เปาเห็นไท้เงอะๆ งะๆ กับการหยิบจับอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่จำกัด เขาก็ช่วยสอนให้ ดูเหมือนไท้จะงงๆ กับขนมปังกลมๆ ในถุงพลาสติกใส เปาจึงหยิบมาช่วยแกะ บิและทาเนยให้ พอไท้หยิบเข้าปากก็ทำหน้าเหยเก เพราะมันจืดชืดและรสชาติชวนสะอิดสะเอียน เปาเห็นท่าไม่ดีก็รีบจุ๊ปาก เพราะกลัวอีกฝ่ายจะคายออกหรือเผลออาเจียนเสียก่อน

"ไม่อร่อยเหรอ" เปาถาม

ไท้ส่ายหน้า

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่กินเอง”

ไท้พยักหน้า พลางก็พยามเคี้ยวและกลืนก้อนขนมปังนั้นลงไปอย่างพะอืดพะอม เปาเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้

"อย่างนี้จะไปอยู่ต่างประเทศได้ไง รู้ไหมว่าถ้าไปอยู่ยุโรป ต้องกินแบบนี้ทุกวัน ต้องฝึกนะ เมื่อก่อนพี่ก็ไม่ค่อยชอบหรอก ตอนเด็กๆ แม่สอนให้กินอาหารฝรั่งบ้าง ก็เลยพอกินได้ แต่ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวกลับจากเกาหลี พี่จะทำให้กินบ่อยๆ เดี๋ยวไท้ก็ชิน"

"ใครเขาจะกิน" ไท้ทำปากขมุบขมิบ

"อะไรนะ" เปาถามเพราะได้ยินไม่ถนัด แต่ไท้ก็ไม่ยอมตอบ เขาจึงหันมาสนใจอาหารต่อ

"ตอนพี่เรียนมหาลัย พี่เคยมาเที่ยวเกาหลีสองครั้งแล้ว มากับเพื่อน คนอื่นๆ เขาไม่ชอบกิมจิกัน แต่พี่ชอบมาก ที่ชอบที่สุดก็คือข้าวคลุก เขาเรียกบิบิมบับ เดี๋ยวเย็นนี้ไปถึง พี่จะพาไปกิน สนใจไหม" เปาหันไปชวนคุย

ไท้หันมามองแวบหนึ่งแต่ไม่ตอบ ก่อนหันไปสนใจอาหารของตัวเองต่อ ส่วนเปาก็เล่าเรื่องที่เขามาเที่ยวเกาหลีให้ไท้ฟังไปเรื่อยๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำท่าเหมือนไม่ได้ยิน แต่เปาก็รู้ว่าไท้สนใจฟัง ไม่มีใครไม่สนใจฟังข้อมูลประเทศที่ตัวเองกำลังจะเดินทางไปถึงเป็นครั้งแรกหรอก แค่ฟังจากที่เปาเล่า ไท้ก็ได้ความรู้ไปเยอะแล้ว คงพอช่วยลดความประหม่าเวลาไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองได้บ้าง

จบจากอาหารหนัก ก็มีชาและกาแฟมาเสิร์ฟ ทั้งเปาและไท้เลือกชาด้วยกันทั้งคู่ มีมะนาวฝานบางๆ กลัดด้วยไม้จิ้มฟันให้มาด้วย เปาต้องสอนอีกตามเคยว่าให้หย่อนมะนาวลงไปในแก้วทั้งอย่างนั้น ดูแปลกๆ สำหรับไท้อยู่บ้าง

"อิจฉาคนบางคนเนอะ มีคนดูแลอย่างดีมาตลอดทางเลย" เสียงเกิ้นแว่วมาจากที่นั่งข้างหลัง ตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนๆ

สองหนุ่มคงเขินบ้างไม่มากก็น้อย แต่ก็ทำเป็นเฉยๆ เหมือนไม่ได้ยิน

"เป็นไงรสชาติ" เปาหันไปถาม ก่อนเป่าแก้วชาของตัวเองและยกขึ้นจิบ

"ก็ดีครับ" คนตอบประหยัดถ้อยคำตามเดิม

"ชาแบบนี้ เกรดมันไม่ดีเท่าไหร่ เอาไว้ว่างๆ พี่จะพาไปร้านชาอู่หลงขึ้นชื่อที่โซล" เปาพูด ไท้เพียงแต่ทำท่าว่ารับรู้

ทั้งคู่จิบชาจนหมดในเวลาไม่นาน จากนั้นเปาก็หยิบไอแพ็ดของตัวเองออกมาจากกระเป๋า เขาเปิดแล้วก็ชวนไท้ดูรูปที่เขามาเที่ยวเกาหลีกับเพื่อนๆ เมื่อสองสามปีที่แล้ว

"ตอนนั้นที่พี่มาก็ช่วงเดือนเมษาเหมือนกัน เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของที่นี่ มีดอกไม้สวยๆ บานเต็มเมืองเลย เขามีดอกไม้คล้ายๆ ซากุระด้วยนะ แต่ว่ามันก็จะมีบางที่ที่สวยเป็นพิเศษ อันนี้ที่พี่ไป มันชื่อถนนยออิโด มีต้นซากุระเกาหลีหนึ่งพันสี่ร้อยต้น เป็นอุโมงค์ดอกไม้ให้เราเดินชมเลย สวยมากๆ เนี่ยดูสิ ดอกซากุระที่นี่มันจะขาวๆ ไม่สีชมพูดจัดเหมือนของญี่ปุ่น ไปไหม เดี๋ยวพี่พาไปดูพรุ่งนี้ ช่วงนี้มันออกดอกแล้วล่ะ"

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวให้แจซังพาไปก็ได้" ไท้เผลอหลุดปากพูด ที่จริงเขาเพียงแต่อยากแกล้งเท่านั้น ไม่มีเจตนาอย่างอื่น

เปาถึงกับชะงัก สีหน้าจืดเจื่อน ทั้งผิดหวังและน้อยใจระคนกัน ไม่รู้ว่าสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ไท้คุยกับหนุ่มเกาหลีคนนั้นไปถึงไหนแล้ว เขากลัวเหลือเกินว่าไท้จะเผลอมีใจให้หนุ่มต่างชาติคนนั้นไปแล้ว เพราะคนเรามักจะเห็นใจกันก็ตอนลำบาก เพียงแต่เปาไม่ใช่คนที่อยู่กับไท้ช่วงที่ผ่านมาเท่านั้นเอง

"ก็แล้วแต่" เปายิ้มเศร้า ก่อนปิดไอแพ็ดและเก็บใส่กระเป๋าไว้ตามเดิม

จากนั้นต่างคนต่างก็นั่งเงียบ เงียบจนไท้เองก็รู้สึกอึดอัด เขาต้องคอยชำเลืองมองเปาบ่อยๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังคงไม่พูดไม่จา แถมยังไม่หันมามองอีกด้วย

อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะถึงเกาหลีแล้ว คาดว่าจะถึงที่นั่นราวๆ ห้าโมงเย็น เมื่อถึงอิ๋นชอนก็จะนั่งรถมินิบัสที่เจ้าภาพเตรียมไว้ให้เข้าไปที่โซล น่าจะใช้เวลาอย่างน้อยอีกสองชั่วโมงไปถึงโรงแรมที่พัก

ไท้อยากดูหนังตรงที่นั่งแต่ก็ทำไม่เป็น ในขณะที่คนนั่งข้างๆ ก็งอนไปแล้ว เปานั่งดูหนัง ใส่หูฟัง แถมยังไม่หันมาสนใจไท้เลย พอนั่งเฉยๆ ไปสักพักไท้ก็ง่วงและสัปหงก คนนั่งข้างๆ เห็นแล้วคงทนไม่ไหว จึงแอบเอามือดึงหัวอีกฝ่ายให้มาซบตรงไหล่ คราวนี้เจ้าตัวคงจะหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง แต่กลับไม่ยอมเอาหัวออก แถมยังแกล้งทำเป็นหลับตาและซบลงไปอย่างสบาย คนถูกซบจึงมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฎขึ้นที่ใบหน้า

ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่เมื่อกี้ปากไม่ดีละกัน!


(https://s19.postimg.org/ou2x639fn/set_love_new_sep.jpg)

โซลถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองหลวงของโลกที่มีความเจริญไม่น้อย มองไปทางไหนก็มีตึกรามบ้านช่องสูงๆ คน รถ ถนนและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ดูไปดูมาก็วุ่นวายดีเหมือนกัน แม้จะดูคล้ายๆ กับกรุงเทพในแง่ความเจริญของวัตถุ แต่ก็มีหลายอย่างแปลกตา คนที่ยังไม่เคยมาต่างก็ตื่นเต้น ชี้ชวนกันดูนั่นนี่สารพัด ไม่ลืมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

อากาศที่นี่หนาวพอสมควรในช่วงฤดูใบไม้ผลิ บางพื้นที่ของเกาหลีอาจมีอุณภูมิต่ำสุดถึงศูนย์องศา แต่โดยเฉลี่ยก็อยู่ในช่วงสิบกว่าๆ แค่นี้ก็ถือว่าหนาวมากสำหรับคนไทยแล้ว ยิ่งในช่วงค่ำๆ แบบนี้ยิ่งหนาวขึ้นอีก ตอนดึกๆ อุณหภูมิอาจลดจนเหลือแค่เลขตัวเดียว

ดูเหมือนคนขับรถจะพะวงกับการดูจีพีเอสนำทางพอสมควร คนบนรถจึงเดาว่าเขาคงไม่ชินพื้นที่ จึงขับไปและมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ในที่สุดก็เกิดความผิดพลาดจนได้ จู่ๆ เขาก็หักเลี้ยวซ้ายข้ามสองเลนเพื่อตัดเข้าถนนที่จะพาไปสู่โรงแรมที่พักกะทันหัน รถเมล์คันหนึ่งซึ่งวิ่งอยู่เลนซ้ายสุดพุ่งตรงเข้ามาหา ทางนั้นเบรกไม่ทันจึงชนเข้าให้ตรงกลางลำตัวรถ ดีทีว่ารถเพิ่งวิ่งออกจากป้าย ความเร็วจึงไม่มาก แรงกระแทกจึงไม่รุนแรง กระนั้น กระจกฝั่งที่โดนชนก็แตกละเอียดเป็นเม็ดๆ ทุกคนที่อยู่บนรถต่างก็ร้องตกใจและหวาดกลัวไปตามๆ กัน

คนขับรถเมล์วัยกลางคนหน้าเสีย เจ้าตัวหันมาขอโทษขอโพยนักกีฬากันใหญ่ จองฮุนรีบบอกให้นักกีฬาและสต๊าฟโค้ชลงจากรถ เขาเป็นผู้ประสานงานซึ่งทางเจ้าภาพขอให้มาช่วยดูแลกลุ่มนี้ตลอดทั้งทริป

หลังจากนั้นตำรวจก็เข้ามาดูเหตุการณ์และสอบสวนคนขับทั้งสองฝ่าย ผู้โดยสารบนรถเมล์คันนั้นทยอยลงจากรถ บ้างก็เรียกแท็กซี่กลับ บ้างก็โทรให้คนเอารถมารับ บ้างก็กลับไปรอรถเมล์คันอื่น ส่วนนักกีฬาพากันลงมาจับกลุ่มคุยกันอยู่ริมฟุตบาท บ้างก็ยืน บ้างก็นั่ง ขณะที่จองฮุนโทรศัพท์และเดินวนไปวนมา

จองฮุนเดินมาบอกว่าจะมีรถพยาบาลมารับ แม้ไม่มีใครเป็นอะไรแต่ก็อยากให้ไปตรวจร่างกายก่อน แต่กว่ารถจะมาถึงก็นานพอสมควร

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล จองฮุนกับเปาก็ช่วยเป็นธุระจัดการให้ ไม่นานแขกต่างเมืองก็ทยอยเข้าไปตรวจร่างกาย ระหว่างนั้นมีชายหนุ่มวัยรุ่นปลายๆ สามคนเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วย สต๊าฟโค้ชและนักกีฬาซึ่งนั่งรอเพื่อนๆ อยู่ต่างก็หันไปมองอย่างสงสัย ไม่มีใครรู้จักทั้งสามคนนี้ ยกเว้นไท้เท่านั้นที่จำหน้าหนึ่งคนในนั้นได้

"แจซัง" เขาร้องเรียกอย่างดีใจ

"Tie" แจซังเรียกชื่อแล้วก็เดินมาหาด้วยรอยยิ้มดีใจ เขากับเพื่อนๆ มีถุงใส่ของบางอย่างติดไม้ติดมือมาด้วย หลังทราบข่าวจากโค้ช เขาก็รีบรุดมาดู ไม่ลืมซื้อน้ำและอาหารง่ายๆ มาฝากทุกคนด้วย เพราะคิดว่าหลายคนคงหิวและยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ออกมาจากสนามบิน

"Is everything alright? Just grab something to eat." (ไม่เป็นอะไรใช่ไหม หยิบอะไรไปกินก่อนนะ) แจซังบอก

เมื่อไท้หยิบน้ำและขนมไปแล้ว แจซังและเพื่อนๆ ก็เดินเอาไปแจกทุกคนที่นั่งอยู่ ไท้อาสาช่วยรับถุงไปแจกด้วย ไม่นานทุกคนก็ได้อาหารและน้ำประทังชีวิตคนละอย่างสองอย่าง แถมยังมีเหลืออีกหน่อยเผื่อใครไม่อิ่ม

เปาเดินออกมาจากห้องตรวจร่างกายกับจองฮุนพอดี แจซังเห็นก็เดินเข้าไปหาและยื่นถุงที่มีน้ำกับอาหารให้

"Please grab something to eat." แจซังบอกให้สองคนหยิบน้ำและขนมไปกิน

เปามองอย่างสงสัย ไม่นานเขาก็พอนึกออกว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร เขายืนดูไท้คุยกับแจซังทางวิดีโอคอลสักพักใหญ่ จึงพอจำเค้าหน้าได้ ส่วนแจซังไม่แสดงอาการว่ารู้สึกคุ้นหน้าเปาเลย

"I'm Jaesung. I'm a U-20 volleyball player. Our camp is just near here. Are you one of the Thai U-20 players, too?" (ผมเป็นนักวอลเลย์บอลยูยี่สิบครับ แคมป์ของเราอยู่ใกล้ๆ นี่เอง คุณเป็นนักกีฬายูยี่สิบของทีมไทยด้วยหรือเปล่า)

เปาส่ายหน้า "No, I'm a team's trainer." (ไม่ครับ ผมเป็นเทรนเนอร์ของทีม) เปาตอบสั้นๆ ตอนแรกเขาว่าจะไม่หยิบอะไรมากินแล้ว แต่ก็เกรงว่าจะเสียมารยาทมากไปหน่อย อีกอย่าง แจซังก็ยังไม่รู้จักเขาด้วย เขาจึงเพียงแต่หยิบเครื่องดื่มรสผลไม้ยี่ห้อหนึ่งมาถือไว้และกล่าวขอบคุณ "Thank you."

พลันเปาก็ขอตัวไปพานักกีฬาคนต่อไปเข้าไปตรวจร่างกาย เปาต้องเข้าไปในห้องตรวจด้วยเพื่อช่วยสื่อสารภาษาอังกฤษ จองฮุนจะช่วยแปลภาษาอังกฤษเป็นเกาหลีอีกทอด เท่าที่ตรวจมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครช้ำในหรือได้รับบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว ก็ถือว่าโชคดีไป กระนั้นก็โชคร้ายที่มาถึงเกาหลีวันแรกก็โดนต้อนรับด้วยอุบัติเหตุ

ระหว่างที่เปากับจองฮุนช่วยกันพาคนเข้าออกจากห้องตรวจ เขาก็สังเกตเห็นแจซังกับเพื่อนอีกสองคนได้รับความสนใจนักกีฬาคนไทยไม่น้อย ต่างก็ไปมะรุมมะตุ้มพูดคุยกันอย่างสนุก แม้บางคนรู้ภาษาอังกฤษจำกัดก็ยังอยากคุยด้วย ส่วนทีมสต๊าฟโค้ชจับกลุ่มคุยกันอีกกลุ่ม

"Are you cold?" (คุณหนาวเหรอ) แจซังถามเมื่อสังเกตเห็นไท้นั่งกอดอก เสื้อกันหนาวที่เขาใส่มานั้นค่อนข้างบางไปหน่อย ครั้นจะซื้อที่แพงและดีกว่านี้ก็มีเงินไม่พอ

ไท้พยักหน้ายอมรับเพราะหนาวจริงๆ ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยเจออากาศหนาวขนาดนี้มาก่อนเลย

"I'll get you another jacket. Wait a second. It's in my car." (เดี๋ยวผมไปเอาเสื้อแจ็คเก็ตมาให้ รอแป๊บหนึ่ง มันอยู่ในรถผม) แจซังบอกแล้วก็วิ่งออกไปข้างนอก คนที่เหลือจึงนั่งคุยกันต่อ

ไม่นานแจซังก็กลับมาพร้อมแจ็คเก็ตสีดำๆ ตัวหนึ่ง เขานั่งลงข้างๆ ไท้ ก่อนบริการใส่เสื้อให้โดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องร้องขอ ดูเป็นสุภาพบุรุษจนเพื่อนๆ ฮือฮา

"เห็นเงียบๆ ร้ายไม่ใช่เล่นนะมึงไอ้ไท้" เหินฟ้าแซว

"เสร็จงานนี้ สงสัยจะมีแฟนเป็นหนุ่มเกาหลีแน่ๆ" เวิร์มเสริม

"Hey, what are you guys talking about?" (เฮ้ย พวกคุณคุยอะไรกันเหรอ) แจซังหันไปถามคนอื่นๆ ด้วยความอยากรู้

"Nothing." (เปล่า) เวิร์มบอก จากนั้นก็พากันหัวเราะคิกคัก

เปาเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่ไปแล้ว ตั้งแต่ตอนที่แจซังเอาเสื้อแจ็กเก็ตมาสวมให้ จนถึงตอนที่เพื่อนๆ ของไท้แซวเล่น ไม่รู้ว่าจะแซวเล่นหรือแซวจริงกันแน่ แต่ภาพที่เห็นก็บาดตาบาดใจเปาเหลือเกิน

"ถึงตาถาแล้วครับ ส่วนคนที่เหลือ เดี๋ยวเตรียมตัวกลับโรงแรม เขาจะเอารถคันใหม่มารับ อีกยี่สิบนาทีจะมาถึง" เปาเดินเข้ามาบอกนักกีฬาที่จับกลุ่มคุยกันอยู่

ถาลุกขึ้นแล้วแยกตัวออกมาจากลุ่ม ก่อนเดินตามเปาและจองฮุนไป พอจะหายเข้าไปในห้องตรวจ เปาก็หยุดและหันมามองไท้กับแจซัง ไท้ทำหน้ายิ้มยาก คงเป็นเพราะทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกมองด้วยสายตาแบบนั้น

เปาหันหลังกลับแล้วเดินตามเข้าไปในห้อง คิดแล้วก็อดโมโหตัวเองไม่ได้ แม้กระทั่งเวลาที่ไท้หนาว เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ดูแลเลย สุดท้ายก็มีคนอื่นมาดูแลแทนอีกแล้ว ช่างน่าละอายใจสิ้นดี

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย นักกีฬาและสต๊าฟโค้ชก็เดินทางกลับโรงแรมที่พัก ท่าทางดูอิดโรยและอ่อนเพลียกันพอสมควร เพราะออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าตรู่ จนดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วก็ยังไม่ได้พักเลย

แจซังกับเพื่อนมายืนส่งทุกคนขึ้นรถ ดูเหมือนเพื่อนๆ ของไท้ชอบสามคนนี้มากทีเดียว ต่างก็โบกไม้โบกมือให้แจซังกับเพื่อนกันใหญ่ คงเป็นเพราะเขาอัธยาศัยดีและมีน้ำใจ

กว่าจะถึงโรงแรมก็ตีหนึ่งกว่าไปแล้ว ใช้เวลาตรงเช็คอินกันอีกหน่อย สุดท้ายทุกคนก็ได้ขึ้นไปพักผ่อนในห้องของตัวเอง สิ้นสุดวันที่แสนยาวนานไปเสียที

ไท้ได้นอนห้องเดียวกับเกิ้น ดูเหมือนจะเป็นคู่บัดดี้ของไท้ในทริปนี้ไปแล้ว ก่อนจะนอนหลับพักผ่อนในคืนนี้ ไท้ก็เห็นข้อความจากไลน์ที่เปาส่งมาให้ เมื่อเปิดอ่านแล้วก็ชักใจเสีย

"พี่ขอโทษนะ ไม่มีโอกาสดูแลไท้อีกแล้ว พี่นี่แย่จัง"

เปาส่งสติ๊กเกอร์รูปคนผิดหวังมาด้วย แม้จะดูตลกๆ แต่ไท้กลับไม่รู้สึกตลกเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้จะทนแกล้งเปาอย่างนี้ได้สักกี่วัน กลัวจะอดสงสารไม่ได้และยอมใจอ่อนในที่สุด


TBC


หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP29 เกาหลี [50%] ◯ 18.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: tongzaa ที่ 18-03-2017 22:04:43
รีบๆมาต่อนะครับ..รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :ruready
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP29 เกาหลี [50%] ◯ 18.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-03-2017 22:54:33
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP29 เกาหลี [100%] ◯ 19.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 19-03-2017 15:18:48
  เดี๋ยวไท้ก็ใจอ่อน 555 แค่เปาส่งข้อความมาบอกไท้ก็ใจเสียล่ะ ถ้าเปาไม่สนใจไท้นะ ไท้จะคิดถึงเองล่ะ ถึงเวลาต้องง้อกันแล้ว
  รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP29 เกาหลี [100%] ◯ 19.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 19-03-2017 17:00:48
ทีใครทีมันอ่ะ55555 แต่ไท้ก็ทนได้ไม่นานหรอก ยังดีที่มีแจซังเป็นตัวกระตุ้นเปา ฮี่ฮี่
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP29 เกาหลี [100%] ◯ 19.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 20-03-2017 23:07:14
สมควรโดนแล้วหล่ะ. ไท้อย่ายอมง่ายๆนะครับ,,,,
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP29 เกาหลี [100%] ◯ 19.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-03-2017 01:28:29
ก็อยากให้เปาง้อนานๆ นะ แต่ก็กลัวจะน้อยใจจนท้อไปก่อนจริงๆ ยิ่งไม่ค่อยมีความอดทนอยู่ เปานะเหมือนคนประเภทที่ไม่ค่อยมีความอดทนซะด้วยไม่ใช่ไม่สู้แล้วยอมแพ้ง่ายๆ หรอกนะ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP29 เกาหลี [100%] ◯ 19.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: tongzaa ที่ 25-03-2017 13:26:47
มาต่อเร็วๆสิครับ..รออออออออออออออออออออออออออออออออ :ruready
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 ตอนจบ [SOON] ◯ 25.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 25-03-2017 22:31:01
ยังเขียนตอนใหม่ไม่เสร็จครับ พอดีมันเป็นตอนจบ ก็เลยอยากใช้เวลาหน่อย
อีกอย่าง งานค่อนข้างรัดตัวครับช่วงนี้

(https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/v/t31.0-8/17492858_993269300803846_650526735458954421_o.jpg?oh=d4f89a38e6a8add493e57ab93274886b&oe=59533ED9)

หลังจบเรื่องนี้แล้ว ไม่รู้ว่าจะเอานิยายลงที่นี่อีกหรือเปล่านะครับ

หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 ตอนจบ [SOON] ◯ 25.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-03-2017 02:03:41
รอๆๆๆๆๆๆๆๆ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 ตอนจบ [SOON] ◯ 25.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 26-03-2017 08:43:01
 รอ รอ รอคับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 รุก-รับ ◯ 26.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 26-03-2017 23:36:33
EP 30 | รุก > รับ (จบ) - Part I

(https://s19.postimg.org/dhpv4xjsz/set_love_new.jpg)

หลังจากวันแรกที่มาถึง นักกีฬาก็มีเพียงวันเดียวเท่านั้นที่ได้ไปเที่ยวชมเมือง เจ้าภาพพาไปชมแดจึงกึมธีมพาร์คที่เมืองจางยู ก่อนจะพากลับเข้าโซลและปล่อยลงแหล่งช็อปปิ้งที่ตลาดนัมแดมุน ถึงไม่มีเวลาเที่ยวมาก อย่างน้อยก็ยังมีของติดไม้ติดมือไปฝากคนรักใคร่สนิทสนมที่เมืองไทย

หลังจากนั้นโค้ชก็ให้ซ้อมหนัก เพราะคู่แข่งอีกสามประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี จีนและญี่ปุ่น ล้วนแล้วแต่มีระบบพัฒนาทีมเยาวชนที่ดีกว่าไทยทั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นเพียงแมทช์กระชับมิตร แต่ก็มีแมวมองจากสโมสรดังๆ ในยุโรปส่งคนมาดูด้วย เพราะฉะนั้น เวทีนี้อาจเป็นที่แจ้งเกิดของนักกีฬาหลายคนที่ตั้งใจและทำผลงานได้ดี ทั้งสี่ประเทศที่จะแข่งขันกันจะปล่อยของกันอย่างเต็มที่

ช่วงนี้เปาห่างเหินกับไท้พอสมควร คุยกันเฉพาะในเวลางานเท่านั้น ไท้เองก็ไม่รู้ว่าทำไมเปาถึงห่างเหินไป แถมยังปล่อยให้แจซังทำคะแนนถี่ๆ ตกเย็นแจซังกับเพื่อนพาไท้กับเพื่อนๆ ไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันทุกวัน กลายเป็นไกด์จำเป็นประจำกลุ่มประเทศไทยไปแล้ว ส่วนเปาก็ไปกับทีมสต๊าฟโค้ชซึ่งมีแต่ผู้ใหญ่

หลังจบการแข่งขัน ปรากฎว่าทีมไทยขึ้นมาอยู่อันดับสาม รองจากญี่ปุ่นและจีน ส่วนเกาหลีตกไปอยู่อันดับสี่ มีแมวมองจากสโมสรตุรกี อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์เข้ามาแสดงความสนใจผู้เล่นไทยสองสามคน แต่โค้ชยังไม่เปิดเผย เพราะเคยมีกรณีนักกีฬาอิจฉากัน บางคนพอรู้ว่าไม่ได้ก็ขาดแรงจูงใจ ไม่ตั้งใจซ้อมไปเลยก็มี ทางที่ดี รอให้ทางสโมสรที่สนใจติดต่อมาอย่างเป็นทางการดีกว่า

ก่อนเดินทางกลับ เจ้าภาพพาทั้งสามประเทศไปเที่ยวงานชมเทศกาลชมดอกซากุระขาวที่ถนนยออีโด แจซังกับเพื่อนๆ ตามมาเที่ยวด้วย ทำหน้าที่เป็นไกด์จำเป็นให้ไท้และเพื่อนๆ ที่ขาดไม่ได้ก็คือจองฮุน เพราะเขาต้องอยู่ดูแลทีมนี้จนกระทั่งส่งขึ้นเครื่องกลับบ้านอย่างปลอดภัย

“เฮ้ยไท้ มึงไม่สงสารโค้ชเปาเหรอวะ มองมึงตาละห้อยมาหลายวันแล้วนะเว้ย” เกิ้นเดินมากระซิบ สายตาคอยชำเลืองมองเปาซึ่งเดินอยู่กับกลุ่มโค้ชห่างออกไป เปาดูหงอยๆ มาหลายวันแล้ว หลังซ้อมหรือแข่งก็ไม่ค่อยพูดค่อยจากับใคร

“เอาไงดีวะ” ไท้หันไปถามเพื่อน สีหน้าดูกังวล

“กูจะไปรู้กับมึงเหรอ มึงทะเลาะอะไรกับโค้ชเปาวะ ทำไมไม่รีบเคลียร์กันล่ะ" เกิ้นว่า ที่จริงตอนแรกๆ เพื่อนๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าไท้กับโค้ชเปามีความสัมพันธ์กัน แต่พฤติกรรมสองคนนี้ก็น่าสงสัย เพราะชอบคุยกันและส่งสายตาแปลกๆ ให้กัน สุดท้ายเพื่อนๆ ก็คาดคั้นจนไท้ยอมรับความจริง

ไท้หน้าแหย ไม่รู้จะอธิบายเพื่อนว่าอย่างไร ที่จริงต้นคิดแผนนี้มาจากจีน ก่อนมา จีนกำชับไท้เรื่องนี้ด้วยน้ำเสียงและท่าทางจริงจัง

“อย่ายอมเปาง่ายๆ นะไท้ ให้เขาเข้ามาคุยกับไท้เอง เชื่อพี่…ถ้าเขาทนไม่ไหว เขาจะทำอะไรสักอย่าง ให้เขาทำลายกำแพงในใจของตัวเองให้ได้ก่อน ไม่งั้นนะ…เปาเขาก็จะมีปัญหาเหมือนที่ผ่านมาอีก เพราะปัญหาของเขา…มันฝังลึกอยู่ในใจ ถ้าครั้งนี้เขาเอาชนะมันไม่ได้ เขาก็จะรักใครไม่ได้เลย สงสารแค่ไหนก็อย่าใจอ่อน เอาให้คุกเข่าอ้อนวอนเลย”

เพราะคำเตือนนี้ ไท้จึงต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่ใจอ่อนง่ายๆ แม้จะสงสารมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องถึงขั้นให้เปาคุกเข่าอ้อนวอนหรือเปล่า เพราะไท้ไม่อยากให้เปาทำถึงขนาดนั้นหรอก แต่จีนก็ย้ำหนักแน่นเหลือเกินว่าต้องถึงขนาดนี้ เปาถึงจะทลายกำแพงความคิดในใจจนหมด

ไท้กับเกิ้นหยุดคุยกันเมื่อแจซัง เวิร์มและเหินฟ้าเดินกลับมา ในมือทั้งสามคนถือถุงของกินมาด้วย คงแวะซื้อระหว่างทางกลับจากห้องน้ำ

“These are our favourite Korean fast food: grilled sweet potatoes, banana milk and DeliManjoo.” (อาหารฟาสต์ฟู๊ดแบบเกาหลีที่นิยมครับ มีมันเผา นมกล้วยแล้วก็ขนมข้าวโพด) แจซังยื่นให้พร้อมกับสาธยายไปด้วยว่ามีอะไรบ้าง

แจซังกับเพื่อนๆ แยกเป็นหลายทีม เพราะต้องคอยดูแลหลายประเทศ แถมแต่ละประเทศยังแบ่งเป็นหลายกลุ่มด้วย จะได้เดินเที่ยวสะดวกมากกว่าไปกลุ่มใหญ่ๆ หลายคน แจซังเลือกมากับไท้ เกิ้น เวิร์มและเหินฟ้า

“Try some.” (ลองกินสิ) แซซังบอกอีกครั้ง

ห้าหนุ่มยืนพิงราวเหล็กกั้นถนนและแบ่งของกินที่ซื้อมาอย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะมันเผาร้อนๆ ช่างเหมาะกับอากาศหนาวๆ ดีแท้ นอกจากมันเผาแล้ว ขนมข้าวโพดและนมกล้วยก็อร่อยไม่แพ้กัน ไท้กับเพื่อนๆ ถูกใจกันใหญ่ กินไป ชมไป คุยกันไป

“Where’s your boyfriend?” (แฟนคุณไปไหนล่ะ) แจซังถาม ที่ถามอย่างนี้เพราะเขารู้แล้วว่าไท้กับเปาคบกันอยู่ ไท้เป็นคนเล่าให้ฟังเอง

ไท้หันไปมองหา แต่ก็ไม่เห็นเปาแล้ว คงจะเดินไปไหนสักแห่งกับทีมสต๊าฟโค้ชและจองฮุน “I don’t know.” (ผมไม่รู้ครับ)

“Looks like you really love him.” (คุณดูรักเขามากเลยนะ)

ไท้เพียงแต่ยิ้มๆ และไม่พูดอะไร

“And what about him? Does he love you so much, too?” (แล้วเขาล่ะ เขารักคุณมากไหม)

ที่จริงก็อธิบายยาก กระนั้นไท้ก็พยักหน้าไปก่อน การสื่อสารภาษาอังกฤษเขายังจำกัด จนปัญญาจะอธิบายความซับซ้อนของเรื่องนี้ให้แจซังฟังเข้าใจได้

พลันแจซังก็ทำหน้าเศร้า “It’s a shame that I met you when it’s too late.  Is it really too late? I don’t know.  From the very first moment that I saw you, I have felt so strong that you’re so special to me. It’s hard to believe.  It may be a love at first sight. But it’s just not possible now.  Unless you…” (น่าเสียดายที่ผมเจอคุณช้าไป มันสายไปจริงๆ ใช่ไหม ไม่รู้สิ ตั้งแต่เจอคุณครั้งแรก ผมรู้สึกอย่างรุนแรงว่าคุณพิเศษกับผมมาก ไม่น่าเชื่อ มันอาจจะเป็นรักแรกพบก็ได้ แต่ตอนนี้มันก็แค่เป็นไปไม่ได้ ยกเว้นว่าคุณจะ…)

ไท้ไม่เข้าใจทั้งหมดหรอก นี่คืออีกหนึ่งอุปสรรคที่เขากับแจซังกำลังเผชิญอยู่ ถ้าเป็นแฟนกันคงมีปัญหาเรื่องการสื่อสารพอดู เมื่อสื่อสารกันได้น้อย ก็จะส่งผลให้เข้าใจกันได้น้อยตามไปด้วย ถ้าก้าวข้ามไม่ได้ ความรักก็จะเดินไปสู่จุดอันตราย

ไท้ยังไม่ตอบ แจซังพูดต่อ “In this festival, lovers hold hands each other and appreciate the blossom flower together. It’s such a romantic moment.  You know what? We believe that if you’re not sure you can really love someone, you can try holding their hand here.  If you still feel good and nothing interrupts until you reach the end of the road, it means you can love that person.” (ในเทศกาลนี้ คู่รักเดินจูงมือกันและชมดอกซากุระด้วยกัน โรแมนติกดีนะ คุณรู้ไหม เราเชื่อว่าถ้าคุณไม่แน่ใจว่าสามารถรักใครคนหนึ่งได้หรือเปล่า คุณสามารถลองจับมือกันที่นี่ได้ ถ้ายังรู้สึกดีและไม่มีอะไรมาขัดจังหวะจนเดินไปสุดถนน ก็หมายความว่าคุณรักคนๆ นั้นได้)

แจซังยิ้มแปลกๆ ตอนที่พูดก็ทำท่าทางอธิบายเพิ่มเติมไปด้วย เพราะกลัวไท้ไม่เข้าใจทั้งหมด

“What do you mean?” (คุณหมายความว่าไง?) ไท้เลิกคิ้ว

“I wanna try it with you.  If you don’t mind, give me a chance to prove it. If we both feel good after that, I will continue to win your heart.  If not, we can just be friends. Is it ok?” (ผมอยากลองกับคุณ ถ้าไม่รังเกียจ ให้โอกาสผมพิสูจน์สักครั้งนะ ถ้าเราสองคนรู้สึกดีหลังจากนั้น ผมจะสานต่อเพื่อชนะหัวใจคุณ แต่ถ้าไม่ เราก็เป็นแค่เพื่อนกัน ตกลงไหม?)

ไท้ยังไม่ตอบตกลงในทันที แต่เมื่อเขากับเพื่อนๆ เดินชมดอกซากุระต่อไป แจซังก็ค่อยๆ เดินช้าลงและฉุดมือไท้ไว้ จนในที่สุดก็คลาดสายตาจากคนอื่นๆ แจซังบีบมือไท้เบาๆ ให้รู้สึกถึงการสัมผัส จากนั้นเขาก็พาไท้เดินไปอย่างช้าๆ

เมื่อมือสัมผัสกันแนบแน่น ทั้งคู่ต่างก็ตื่นเต้น รู้สึกได้จากหัวใจที่เต้นถี่ขึ้นและแรงขึ้น เพียงแต่ว่าเรื่องที่ตื่นเต้นอาจไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แจซังหันมายิ้มบางๆ ให้ไท้ ดูเหมือนเขาจะเขินเล็กน้อย สีหน้าบ่งบอกว่ารู้สึกดีมากแค่ไหนที่ได้จับมือกัน

ไท้ยิ้มตอบจางๆ เช่นกัน เขาพยายามถามตัวเองว่ารู้สึกดีบ้างหรือเปล่า แต่คำตอบในใจก็ไม่ชัด ที่จริงแจซังก็เป็นหนุ่มหล่อและหน้าตาดี นิสัยก็ดีด้วย แต่ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเหล่านี้เลย ไม่มีใครล่วงรู้ความลับว่าธรรมชาติสร้างความรักมาได้อย่างไร รู้แค่ว่ารักก็คือรักเท่านั้น

ห้านาทีผ่านไปแล้ว ไท้เริ่มชะเง้อและเมียงมองหาใครสักคนให้มาช่วยขัดจังหวะ แต่ไม่มีวี่แววว่าจะเห็นใครคนนั้นเลย ในขณะที่เวลาก็ผ่านเลยไปเรื่อยๆ เข้านาทีที่หก เจ็ดและแปด ไท้ไม่ต้องการเดินไปจนสุดถนนและตอบคำถามว่ารู้สึกดีหรือเปล่า แต่ถ้ามีใครมาขัดจังหวะ คำตอบสำหรับแจซังก็จะชัดเจน ไม่ต้องเสียเวลาถาม

เมื่อไม่เห็นวี่แววของเปา ไท้ก็ส่งเสียงเรียกร้องหาในใจ หวังว่าพลังแห่งความคิดจะสื่อถึงใครคนนั้นให้รับรู้

‘พี่เปาอยู่ไหนครับ มาหาไท้หน่อย ไท้ต้องการพี่ พี่เปามาเดี๋ยวนี้เลยได้ไหมครับ ตอนนั้นที่ไท้เปียกฝนรอพี่ ไท้หนาว กลัว แล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน แต่พี่เปาก็มาหาไท้ ไท้ได้กอดพี่คลายความหนาว หัวใจและร่างกายของไท้อบอุ่นเมื่อมีพี่เปาอยู่ใกล้ๆ พี่เปารู้ไหม นั่นคือวันแรกที่ผมรู้สึกดีกับพี่ แล้ววันนี้…ผมก็อยากรู้สึกแบบนั้นกับพี่อีกสักครั้ง พี่เปามาหาผมหน่อยนะครับ’

หมับ!

มืออีกข้างหนึ่งของไท้ถูกใครบางคนฉุดเอาไว้ ขาสองข้างที่ก้าวไปอย่างช้าๆ หยุดกึกทันที แจซังจึงต้องหยุดตาม เมื่อไท้หันไปมองข้างหลัง เขาก็ยิ้มดีใจสุดขีด

“พี่เปา”

เมื่อแจซังหันไปเห็นว่าใครมาขัดจังหวะ เขาก็รีบปล่อยมือจากไท้แทบไม่ทัน สีหน้าดูตกใจและผิดหวังไม่น้อย คราวนี้เขาคงได้คำตอบชัดเจนดีแล้ว

“ไปกับพี่เดี๋ยวนี้” เปาพูดเหมือนออกคำสั่ง ก่อนจูงมือกึ่งลากไท้เดินออกไป เร็วจนเกือบจะเป็นวิ่ง

เมื่อห่างจากคนที่เปาไม่ต้องการเห็นหน้า เขาก็หยุดและหันมาเผชิญหน้ากัน สีหน้าของเปาดูไม่ดีนัก เขายอมรับว่าโกรธและหึงมาก เพราะไม่คิดว่าไท้จะกล้าเดินจับมือกับแจซังชมดอกซากุระด้วยกันแบบนั้น

“พอได้หรือยัง หรือว่าจะทิ้งพี่แล้ว” เปาถามเสียงสั่น

ไท้ส่ายหน้า “ไท้จะทิ้งพี่ได้ยังไง พี่เปาก็รู้…”

“แล้วไปเดินจับมือกับเขาทำไม” เปาสวน

ถ้าจะให้อธิบายก็คงยาก ยิ่งเปากำลังโกรธ เขาคงไม่ฟังหรือฟังไม่เข้าใจแน่ ไท้ก็เลยไม่รู้จะตอบอย่างไร

“หยุดทำร้ายหัวใจพี่ซะทีได้ไหม พี่ขอร้องนะไท้ เพราะถ้าพี่เห็นอีกแค่ครั้งเดียว…” เปาละประโยคสุดท้ายเอาไว้ แต่ถ้าให้เดาก็ไม่ยาก

ไท้กำลังจะอ้าปากพูด พลันเปาก็ทำสิ่งที่คาดไม่ถึง จู่ๆ เขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าและจับมือของไท้ไว้

“พี่รักไท้ พี่คิดถึงไท้ แล้วก็หึงมากด้วย ที่ผ่านมาพี่ขอโทษ พี่ผิดไปแล้ว ไท้ยกโทษให้พี่นะ สงสารพี่เถอะ สงสารหัวใจของไท้ด้วย พี่รู้ว่าไท้ก็อยากกลับมาหาอ้อมกอดของพี่ พี่สัญญา…พี่จะไม่ทำให้ไท้เจ็บแบบนี้อีกแล้ว พี่อยากมีความรักที่อบอุ่น อยากมีใครสักคนดูแลกัน เพราะพี่ไม่อยากมีชีวิตเหมือนที่ผ่านมา อย่าเดินหนีพี่อีกเลยนะไท้ แค่ก้าวเดียวที่ไท้เดินหนีพี่ไป หัวใจของเราสองคนก็เจ็บขึ้นอีกหนึ่งเท่า ถ้าเราเดินหนีจากกันร้อยก้าว ก็เจ็บร้อยเท่า เดี๋ยวจะขาดใจตายซะก่อน พี่ยังไม่อยากตายก่อนที่พี่จะได้มอบความรักที่ดีที่สุดของพี่ให้ไท้ไป คนดีของพี่ ไท้เป็นคนเดียวนะที่พี่รู้สึกด้วยมากขนาดนี้ กลับมารักกันเหมือนเดิมนะไท้ ไม่ใช่สิ ไม่เหมือนเดิมหรอก เพราะพี่จะทำให้ดีกว่าเดิม นะครับ ไม่งั้น…พี่ก็จะคุกเข่าอยู่ตรงนี้แหละ จนกว่า…ไท้จะกลับมาฉุดมือพี่ไปด้วย”

ไท้หน้าเหลอหลาระคนอาย เขาหันไปมองรอบๆ คนที่เดินผ่านไปมาหยุดมองด้วยความสนใจ แม้จะพูดต่างภาษากัน แต่ภาษากายของเปาก็ชัดเจนเหลือเกิน ใครเห็นก็คงรู้ ผู้ชายคนนี้ถ้าไม่ง้อแฟนก็ต้องคุกเข่าสารภาพรักแน่ๆ

ถนนยออีโดตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ แต่โดยรวมๆ แล้วคนเกาหลีก็ยังมากกว่า หันไปทางไหนก็เห็นคู่รักสารพัดวัยเดินจับมือชวนชี้ชมดอกไม้ ที่นี่มีต้นซากุระกว่าหนึ่งพันสี่ร้อยต้นยาวไปตามแนวถนนสองข้างทาง ว่ากันว่าเทศกาลนี้เป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีคู่รักมากที่สุดก็ว่าได้

ไท้หันกลับมามองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเปาจะกล้าคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนอย่างนี้ เพราะเปาเป็นพี่ เป็นโค้ช แถมยังมีชีวิตที่ดีกว่าไท้จนเทียบกันไม่ได้ เปาไม่ควรมาคุกเข่าขอร้องเด็กกะโปโลอย่างไท้ด้วยซ้ำ แต่เปาก็ยอมทำ คงมีเพียงความหมายเดียวเท่านั้นที่ไท้พอจะนึกออกได้

หนุ่มน้อยผู้เป็นน้องรีบย่อตัวลงนั่งชันเข่าด้วย ก่อนยิ้มดีใจทั้งน้ำตา เขาไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ได้อย่างไร มันเต็มตื้น เอ่อล้นและอวลอุ่นด้วยความซาบซึ้ง คนตรงหน้าไท้ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ในที่สุดเปาก็กลับมาหาไท้เหมือนที่เขาเคยเปียกฝนรอวันนั้น ความรู้สึกในตอนนี้ช่างเหมือนกันเหลือเกิน

“ผมรักพี่เปาครับ ไม่ว่าพี่เปาจะเป็นคนแบบไหน เคยมีชีวิตแบบไหน หรือเคยรักใครมาก่อน ผมก็รักพี่ตั้งแต่วันแรกที่พี่กอดผม วันนี้…ผมก็รอให้พี่มาหาและกอดผมเหมือนเหมือนเดิม”

“ไท้” เปายิ้มทั้งน้ำตาที่เอ่อซึมขอบตา เขาจำวันที่ไท้หนาวสั่นและโผเข้ากอดเขาได้ไม่เคยลืม นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หัวใจของพี่ชายคนนี้สั่นไหว

สองหนุ่มโผเข้ากอดกันแน่น ท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมด้วยคู่รักนับพัน เมื่อเงยหน้าขึ้นสูงก็จะเห็นดอกซากุระสีขาวนับล้าน ดูโรแมนติกเสียจนเปาไม่อยากเสียเวลาเศร้า เวลาที่เหลือต่อจากนี้ เขากับไท้ควรจะตักความสุขจากบรรยากาศดีๆ แบบนี้ให้มากที่สุด

เมื่อคิดได้แล้วเปาก็ประคองไท้ลุกขึ้น แววตาซื่อใสนั้นช่างน่ารัก เขาหลงรักถึงขั้นหักห้ามใจไม่ได้มาแล้ว พานให้นึกถึงวันที่ไท้ทำลาวาไข่เค็มหกใส่ตัวเอง เขาอดใจไม่ไหวถึงขั้นลงลิ้นลิ้มเลียคราบที่เปรอะเปื้อนตามหน้าอก เพราะแรงดึงดูดของผู้ชายคนนี้รุนแรงจนเปาห้ามใจไม่ไหว หลังจากนั้นก็ไม่เคยต้านทานแรงดึงดูดนี้ได้อีกเลย

เปายื่นมือออกไป ไม่นานไท้ก็ยื่นมือมาให้เขาจับ ทั้งคู่ยิ้มกว้างด้วยความสุข ก่อนจะสาวเท้าและก้าวเดินไปด้วยกันอย่างสบายๆ แม้ใครต่อใครจะมองและอาจดูแปลกสำหรับสังคมเกาหลี แต่ความรักก็มอบความกล้าหาญมาให้จนไม่ต้องกลัวสิ่งใด

"เซลฟี่กันหน่อยไหม” เปาชวนพลางใช้มือที่ว่างหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง

“ถ้ามาเกาหลี เราต้องทำท่าซารางเฮโยนะครับพี่เปา” ไท้หันไปบอกอย่างตื่นเต้น

“รู้จักด้วยเหรอ”

“แหมพี่ ซีรี่ส์เกาหลีฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ผมก็เคยดู” ไท้ท้วงระคนขำ

เปาเอียงหัวเข้าหาไท้ ไท้ทำตามบ้างและยกมือขึ้นมาทำท่าซารางเฮโยกับเปา แต่ยื่นมือไปจนสุดแขนแล้วภาพก็ไม่สวยเท่าที่ควร ทางที่ดีน่าจะมีคนมาช่วยถ่ายให้

“โค้ชครับ มาๆๆ เดี๋ยวผมถ่ายให้ครับ”

เสียงคนพูดภาษาไทยดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง เมื่อเปากับไท้หันไปมองก็เห็นเหินฟ้า เวิร์มและเกิ้นวิ่งมาหา เหินฟ้าเป็นคนอาสาช่วยถ่ายรูปให้ เปารีบส่งมือถือให้แต่โดยดี

เปากับไท้จึงได้รูปซารางเฮโวสวยๆ ท่ามกลางดอกซากุระนับล้าน เห็นเป็แนวทอดตัวยาวไปสุดลูกหูลูกตา

“ดีกันแล้วเหรอครับ” เหินฟ้าถ่ายให้เสร็จก็ถาม เปาพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนรับโทรศัพท์คืนมาจากเหินฟ้า

“ตั้งแต่ตอนไหนครับโค้ช เมื่อกี้ผมยังเห็นไท้ไปกับแจซังอยู่เลย” เกิ้นถาม

“ก็ไม่มีอะไร โค้ชก็แค่ตามไปแย่งมา” เปาบอกอย่างภูมิใจ

“จริงเหรอโค้ช” เหินฟ้า เกิ้นและเวิร์มถามเกือบพร้อมกัน เปากับไท้หัวเราะ

“อิจฉาไอ้ไท้ว่ะ ได้เป็นแฟนโค้ชเปาด้วย มีคนจ้องจีบโค้ชตั้งหลายคน” เวิร์มพูด

“มึงด้วยใช่ไหม” เหินฟ้าหันมาย้อนถาม เวิร์มได้แต่หัวเราะเก้อๆ ในทีมนี้มีชายแท้ที่ชอบผู้หญิงอย่างเดียวราวๆ ครึ่งทีม เหินฟ้าก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่เขาก็ยอมรับความแตกต่างในรสนิยมทางเพศได้อย่างไม่มีปัญหา

“งั้นพวกผมไม่กวนดีกว่า โค้ชกับไท้จะได้สวีทกัน” เหินฟ้าบอก จากนั้นก็พากันเดินจากไป ดูเหมือนว่าตอนนี้กลุ่มที่เดินด้วยกันเริ่มเล็กลงทุกที นักกีฬาเริ่มกระจัดกระจายจนรวมกลุ่มเดิมไม่ได้ แต่ก็ไม่น่าเป็นปัญหาเพราะนัดเวลาและสถานที่เจอกันไว้แล้ว

“ไท้อยากกินอะไรไหม” เปาหันมาถาม ก่อนยื่นมือไปจับมือของไท้และพาเดินไปข้างหน้าต่อ

“อยากกินพี่เปา” ไท้ทำเสียงงุบงิบ

“อะไรนะ” เปาถามเหมือนไม่ได้ยิน แล้วก็หัวเราะ “เดี๋ยวตอนเย็นก็ได้กิน กินทั้งตัวเลยนะ แล้วพี่…ก็จะกินไท้ทั้งตัวด้วย”

“เป็นอนาคอนด้าเหรอ”

“ไม่ได้เป็นอนาคอนด้าหรอก แต่มีอนาคอนด้าประจำตัว”

“พี่เปามีคนเดียวซะที่ไหน ผมก็มีเหมือนกัน”

เปายื่นมือไปขยี้หัวไท้เบาๆ “ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ เดี๋ยวคืนนี้จะโดนจัดหนัก”

ไท้ยักคิ้วใส่ ก่อนหัวเราะด้วยกันทั้งคู่

“พี่กับพ่อ…ดีกันแล้วนะ” เปาบอกเมื่อเดินไปได้สักพัก เมื่อเห็นไท้ทำหน้างง เขาก็เล่าเรื่องที่เขาเคยเข้าใจพ่อกับแม่ผิดให้ไท้ฟัง เมื่อไท้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้ว เปาก็อยากเล่าเรื่องทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้รับรู้ร่วมกัน

“พี่ก็เสียใจนะที่พี่ทำไม่ดีกับพ่อเยอะเลย ทั้งๆ ที่จริงแล้ว…พ่อเขาก็รักแม่ รักพี่ เขาไม่อยากให้พี่รู้สึกไม่ดีกับแม่ ก็เลยไม่ยอมบอกความจริง” สีหน้าของเปาดูเศร้าไปถนัดใจ

“พี่เปาอย่าโกรธแม่พี่นะ คนเราน่ะ…ทำผิดพลาดกันได้ ยังไงๆ แม่เขาก็รักพี่เปา” ไท้เตือนสติ

“ไม่โกรธหรอก พี่ไม่อยากโกรธใครแล้ว ชีวิตที่ผ่านมา พี่อยู่กับความโกรธความเกลียด ไม่เห็นมีความสุขเลย พี่ไม่อยากเป็นแบบนั้นอีก พี่จะดูแลพ่อให้เขามีความสุข ไม่รู้ว่าจะชดเชยให้เขาได้มากแค่ไหนนะ แต่พี่ก็จะพยายาม ตอนนี้พี่ว่า…หัวใจพี่เปิดหมดแล้วนะ พี่ยอมรับพ่อได้ ยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็นได้ ไม่คิดจะวิ่งหนีอะไรอีก โดยเฉพาะ…หัวใจของพี่” เปาหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มให้คนข้างๆ

“แล้วไท้ล่ะ หายโกรธพี่แล้วใช่ไหม” เปาถาม

“หายโกรธตั้งนานแล้ว” ไท้ตอบยิ้มๆ

“อ้าว แล้วทำไมเฉยชากับพี่ล่ะ พี่ง้อก็ไม่หาย จนพี่ว่าจะเลิกง้อแล้ว” เปาแสร้งทำหน้ามุ่ย

“ก็…”

“อ๋อ…อยากเอาคืนใช่ไหม แกล้งพี่ใหญ่เลยนะ ไปกับแจซังทุกเย็นเลย พี่จะกระอักเลือดตายอยู่แล้ว”

“ก็สงสารอยู่” ไท้ทำหน้าเห็นใจ

“สงสารแล้วทำไมไม่มาปลอบใจพี่ล่ะ รู้ไหมว่าพี่รอ พี่อยู่ห้องคนเดียว รอไท้มาปลอบใจพี่ทุกคืนเลย”

“ก็ผมไม่รู้ นึกว่านอนไปแล้ว” ไท้แก้ตัว

“เออๆ ไม่เป็นไรหรอก จะเอาคืนพี่ก็ไม่ว่าอะไร พี่ทำไม่ดีกับไท้ขนาดนี้ เป็นใครก็คงโกรธแหละ ก็ดีเหมือนกัน ที่ไท้ทำแบบนี้ มันก็สอนพี่ด้วย มันทำให้พี่รู้จักเอาชนะใจตัวเอง ไม่ง่ายนะที่พี่จะคุกเข่าขอร้องใคร พี่ไม่เคยทำเลย แต่พอมาคิดดู ถ้าพี่ไม่ทำ พี่อาจจะเสียไท้ไปก็ได้ ก็แค่คุกเข่าขอร้องคนที่เรารัก…และเขาก็รักเรา ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ให้ทำอีกก็ได้นะ”

เปาไม่พูดเปล่า เขาหยุดเดินแล้วก็คุกเข่าลงตรงหน้าไท้ เล่นเอาอีกคนหน้าตาตื่นพอสมควร

“พี่เปาคุกเข่าทำไม”

“ว่าจะขอแต่งงาน แต่ไม่รู้จะเร็วไปไหม ไท้เพิ่งอายุสิบเก้าเอง พี่ก็เพิ่งจะย่างเข้ายี่สิบสี่ แหวนก็ยังไม่ได้ซื้อเลย ไม่มีอะไรพร้อมสักอย่าง หัวใจพร้อมอย่างเดียว เอาหัวใจหมั้นไว้ก่อนได้ไหม อ้อ…มีดอกซากุระด้วยอีกหนึ่งล้านดอก พอเปล่า”

บทเปาจะน่ารัก ผู้ชายคนนี้ก็น่ารักเหลือเกิน ต่างจากตอนโกรธราวฟ้ากับเหว ไท้คงจะหลงรักจนหมดทั้งหัวใจก็คราวนี้

“พอ” ไท้ขำเบาๆ ไปกับความน่ารักของคนที่คุกเข่าตรงหน้า “ผมก็ใช่จะมีอะไรเยอะที่ไหน จนก็จน แถมพี่กับโค้ชก็ยังมีบุญคุณกับผมมาก ผมไม่กล้าเรียกร้องเอาอะไรจากพี่หรอก นอกจากความรัก ขอแค่พี่เปารักลูกกำพร้าพ่ออย่างผม ไม่ทิ้งผม แค่นี้…ผมก็ดีใจแล้ว”

“งั้นพี่ขอหมั้นด้วยหัวใจแล้วก็ดอกซากุระสีขาวหนึ่งล้านดอกนะ ถ้าไท้ไม่ตกลง พี่ก็จะคุกเข่าอยู่ตรงนี้” เปาเว้าวอน

“เล่นมุกเดิมอีกแล้ว” ไท้หัวเราะ

“แล้วตกลงหรือเปล่าล่ะ” เปาถามย้ำ

“ถ้าไม่ตกลงก็วิ่งหนีไปแล้ว”

“เอาจริงๆ ดิ” เปาท้วง

“ครับผม ตกลงผมรับหมั้นกับพี่เปาครับ” ไท้ยิ้มเขินๆ ไหนจะเขินเปา และไหนจะเขินสายตาคนทั่วไปที่มองมาอีก

เปายิ้มร่า ก่อนลุกขึ้นกอดไท้อย่างดีใจ “เย้ ไท้รับหมั้นพี่แล้ว”

“นับดอกซากุระมาให้ไท้ครบล้านดอกด้วยนะ นี่ร่วงไปเยอะแล้ว ไม่รู้จะพอหรือเปล่า”

“ซากุระไม่พอก็ช่างมันเหอะ เพราะว่าหัวใจของพี่…รักไท้มากกว่าดอกซากุระทั้งเกาหลีรวมกันซะอีก”

“โห…ทำไมพี่เปาปากหวานอย่างนี้ล่ะครับ”

เปาผละออก ก่อนจะหัวเราะเขินๆ “ไม่รู้ว่ะ พี่ไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรก แต่พี่ก็เป็นอย่างนี้แหละ ตอนโกรธก็เหมือนเสือ แต่ตอนรัก…เหมือนแมวเหมียวน่ารักๆ เมี้ยวๆ” เปาทำเสียงเล็กเสียงน้อยไปด้วย ไท้หัวเราะและส่ายหน้าไปมาอย่างเอ็นดู

เมื่อเดินต่อไปอีกหน่อย ก็มาสุดถนนยออีโดพอดี เปาจึงหยุดเดินและหันมาชวน

“ไปหาอะไรอร่อยๆ กินฉลองวันหมั้นของเราดีไหม พี่เห็นไท้ออกไปตอนเย็นบ่อยๆ มีเงินกินข้าวกับเขาไหมเนี่ย”

“ก็มีนิดหน่อย แต่ก็กินอะไรได้ไม่เยอะหรอก”

“งั้นวันนี้พี่เลี้ยงไท้เอง”

“จะไปกันสองคนเหรอครับ เขาจะไม่ตามหากันเหรอ” ไท้ทำหน้ากังวล

“เดี๋ยวพี่ส่งไลน์บอกสต๊าฟโค้ชเอง คนอื่นเขาไม่ได้หมั้นกับเราซะหน่อย จะไปกับเราทำไม” เปาพูดติดตลก ไท้ก็พลอยขำไปด้วย


(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/484320/391017496-member.jpg)
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 รุก-รับ ◯ 26.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 27-03-2017 00:10:38
EP 30 | รุก > รับ (จบ) - Part II

(https://s19.postimg.org/dhpv4xjsz/set_love_new.jpg)

เปากับไท้กลับมาถึงโรงแรมตอนเกือบหกทุ่ม เปาพาไท้ไปกินข้าวที่ตึกหกสิบสามในร้านอาหารอย่างหรู ที่จริงก็ไม่ถึงกับหรูมาก แต่แค่นั้นก็หรูสำหรับไท้แล้ว จากนั้นก็พากันเดินเที่ยวชมเมืองตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เดินเพลินจนลืมวันลืมคืนกันเลยทีเดียว

“อาบน้ำด้วยกันไหม” พอมาถึงห้อง เปาก็ชวน

ไท้มองไปรอบๆ และทำหน้าไม่แน่ใจ เปาจึงรีบอธิบาย

“พี่พักคนเดียว”

“อาบน้ำอย่างเดียวนะ” ไท้แสร้งขู่อย่างรู้ทัน

“แหม…” เปาหัวเราะ ก่อนทำตากรุ้มกริ่มใส่ “ก็ได้ ในห้องน้ำน่ะ…อาบอย่างเดียวก็ได้ แต่ออกมาแล้ว…พี่ไม่สัญญานะ”

ไท้ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เปาจึงคว้าคอแล้วพาเดินเข้าน้ำด้วยกันเสียเลย

ไม่นานไท้ก็มาอยู่ในอ่างอาบน้ำ ส่วนเปานั่งบนขอบอ่าง เขาสระผมให้ไท้อย่างสบายอารมณ์ ชวนคุยนั่นคุยนี่ไปเรื่อย

“พี่มีข่าวดีจะบอก”

“อะไรครับ” ไท้หันมามองตาแป๋วด้วยความอยากรู้

“ล้างผมก่อน”

เปาหยิบฝักบัวมาราดน้ำล้างแชมพูออก เมื่อสะอาดดีแล้วเขาก็ลงครีมนวดผม ก่อนจะเล่าเรื่องที่พูดค้างไว้ต่อ

“หมดสัญญากับสมาคม ไท้อาจจะได้ไปเล่นในลีคยุโรปนะ” เปาพูดพลางนวดเส้นผมและหนังศีรษะให้ไท้เบาๆ ไปด้วย

“จริงเหรอครับพี่เปา” ไท้หันมามองตาโต

“ทางสมาคมเขายังไม่อยากให้บอกหรอก ไท้ต้องเหยียบไว้นะ อย่าให้ใครรู้ เดี๋ยวเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ไปจะเสียกำลังใจ” เปาเตือน

“ครับ ผมจะไม่บอกใคร” ไท้ยิ้มมีความหวัง ถ้าเป็นอย่างที่เปาบอก อีกไม่นานความฝันของไท้ก็จะเป็นจริงแล้ว

“เสียดายนะ พี่ไม่ได้เล่นวอลเลย์บอลตั้งแต่เด็กๆ ไม่งั้นนะ จะได้เล่นให้เก่งๆ แล้วก็ตามไท้ไปด้วย” เปาพูด

“ถ้าได้เล่น พี่เปาจะเล่นตำแหน่งอะไรครับ”

“อืม…ถ้าไท้เป็นหัวเสา พี่ก็ควรจะเล่นตำแหน่งเซ็ตใช่ไหม เพราะพี่จะได้เซ็ตให้ไท้ตบไง ดีไหม” เปาทำท่าชวนฝันไปด้วย

“ก็น่าจะดี” ไท้หัวเราะ

“หัวเราะแบบนี้ ไม่เชื่อล่ะสิว่าพี่จะเซ็ตได้ เซ็ตบอลน่ะพี่เซ็ตไม่เป็นหรอก เซ็ตเป็นแต่ความรัก เดี๋ยวจะเซ็ตส่งให้เข้าจุดทุกวันๆ เลย ดีไหมๆ” เปาสัพยอก

“มือผมหนักนะ เดี๋ยวผมตบพังจะว่าไง” ไท้ขู่

“ก็พี่รักไท้ ตบหนักแค่ไหนพี่ก็ยอม”

“ปากหวานอีกแล้ว เขาว่าคนปากหวานเจ้าชู้”

“เจ้าชู้ที่ไหน พี่จีบไม่กี่คนเอง แฟนก็มีไม่กี่คน แล้วตอนนี้ไท้ก็เป็นแต้มสุดท้าย ไม่เก็บเพิ่มแล้ว” เปาหัวเราะ ก่อนเปลี่ยนน้ำเสียงให้ฟังดูจริงจัง “เวลาที่เหลือ พี่จะช่วยพาไท้ไปให้ถึงฝันให้ได้ แล้วพี่ก็มั่นใจว่าไท้ทำได้แน่นอน คนเก่งของพี่ทำได้อยู่แล้ว นี่เห็นไหม…เซ็ตทั้งรัก ส่งทั้งฝัน มีแฟนอย่างพี่เปาดีจะตาย”

ไท้รีบหันไปหัวเราะด้วย ก่อนยิ้มและมองหน้าเปาค้างไว้ “รักพี่เปาจังเลย”

รอยยิ้มน่ารักสะกดอีกคนให้มองค้าง หน้าตี๋ๆ ตาตี่ๆ ดูมีเสน่ห์อย่างประหลาด เปาจ้องมองและยิ้มไปทั้งใบหน้า “พี่ก็รักไท้”

“แล้วถ้าผมไปอยู่เมืองนอก พี่เปาจะทำไง”

คำถามของไท้ชวนให้คิด แต่คำตอบที่เป็นไปได้คงมีอยู่ไม่กี่อย่าง “พี่ไปส่งได้ ไปอยู่ด้วยสั้นๆ ได้ แต่คงอยู่นานไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรหรอก พี่เชื่อใจไท้ ยังไงๆ ไท้ก็จะกลับมาหาพี่ พี่หมั้นไท้ไว้แล้วนี่”

“จริงด้วย” ไท้หัวเราะชอบใจ ก่อนเปลี่ยนเรื่อง “ล้างผมดีกว่า เดี๋ยวไท้จะสระผมให้พี่เปาบ้าง”

เปาพยักหน้าตกลง ก่อนจะล้างครีมนวดออกจากผมไท้จนสะอาดดี จากนั้นเปาก็ลงไปนั่งในอ่างบ้าง ส่วนไท้ขึ้นมานั่งขอบอ่างและเป็นฝ่ายสระผมให้เปา

“พี่จีนเขาส่งไลน์มาแสดงความยินดีกับผมด้วย แต่แปลกนะ พอผมจะตอบกลับ ก็ตอบไม่ได้ เหมือนโดนบล็อกยังไงไม่รู้  หรือว่าเขาไม่อยากเจอผมแล้ว ผมว่าจะขอบคุณพี่เขาซะหน่อย เพราะถ้าไม่ได้พี่จีนช่วยก็แย่เลย” ไท้ปรารภขณะใช้มือนวดเคล้นเส้นผมของเปา ฟองฟูละเอียดสีขาวและกลิ่นหอมๆ พารื่นรมย์ใจไม่น้อย

เมื่อได้ยินชื่อจีน เปาก็ชะงักและมีสีหน้าเครียดจนพอสังเกตได้ แต่ก็จางหายไปในเวลาไม่นาน เขารู้ว่าจีนไม่ต้องการติดต่อไท้กับเขาอีกแล้ว เพราะต่างคนต่างก็รู้ว่าไม่ควรกลับมาเจอกันอีก สู้ทิ้งเรื่องทั้งหมดให้เป็นเพียงความหลังไปดีกว่า บางอย่างก็แทบไม่อยากจดจำด้วยซ้ำ

“ไม่มีอะไรหรอก ถ้าอยากจะไปขอบคุณเขาจริงๆ ถามพอลล์ก็ได้ เขารู้จักบ้านจีนอยู่”

“จริงด้วย เดี๋ยวกลับไป ผมว่าผมจะไปขอบคุณพี่เขาอีกสักครั้ง”

เปาหันมายิ้มให้ ก่อนจะแกล้งเอนไปข้างหลังเล็กน้อย แผ่นหลังของเขาจึงสัมผัสเสียดสีกับอนาคอนด้าของไท้เข้าให้ เสียดสีไปมามันก็เลยตื่น ไท้จึงท้วง

“พี่เปาอยู่เฉยๆ ดิ จะเอนมาทำไม”

“เพลินดีเวลามีอะไรทิ่มหลัง” เปาแกล้งซี๊ดปาก

“ทิ่มแค่ตรงนี้…จะไปเสียวอะไร” ไท้แกล้งทำเสียงสูง

เปารีบหันขวับไปหาและหรี่ตามอง “อยากลองเหรอ”

“ได้หรือเปล่าล่ะ” ไท้ถามเขินๆ

เปาก้มลงมองอนาคอนด้าตัวเขื่องของไท้ที่ผงาดเต็มที่ ขนาดมันก็ไม่ใช่เล่น ถ้าเกิดเปารับเข้าไปคงจุกเหมือนกัน แต่มันก็น่าลองไม่น้อย

“แล้วไท้คิดว่าพี่จะยอมไหมล่ะ” เปาย้อนถาม

ไท้หัวเราะแหะๆ “ไม่รู้ แต่ก็อยากให้ยอม นะครับพี่เปา ผลัดกันก็ดีนะ เขาบอกว่าคนเป็นแฟนกันต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ถ้าอีกคนรุก อีกคนก็ต้องรับ พออีกคนรับ อีกคนก็ต้องรุก โบราณเขาว่าต้องรู้จักผลัดกันรุก ผลัดกันรับ”

“เดี๋ยวๆๆ อันแรกๆ โอเคนะ แต่อันหลังนี่พี่ไม่เคยได้ยิน มีด้วยเหรอสุภาษิตผลัดกันรุกผลัดกันรับ” เปาสัพยอก ก่อนยิ้มมีเลศนัย

“มันมีแต่…พี่เปารุกไท้ ไท้ก็เลยรุกพี่เปาต่างหาก”

สองหนุ่มหัวเราะและยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ความรักที่อบอุ่นของทั้งสองคนเกิดขึ้นแล้ว นับจากนี้ไป ชีวิตที่เหลือจะมีความหมายมากกว่าที่ผ่านมา

ชีวิตของเปาเปลี่ยนไปแล้วเพราะความรัก ความรักทำให้เขายอมรับและเอาชนะหัวใจตัวเองได้ นำมาสู่ชีวิตใหม่ในมุมมองเชิงบวกและสดใส

ส่วนชีวิตของไท้ก็เปลี่ยนไปเพราะความรักเช่นเดียวกัน ความรักทำให้เขายอมรับคนๆ หนึ่งได้ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเคยผ่านชีวิตมาแบบไหนก็ตาม ที่สำคัญ น้องไท้คนนี้จะมีพี่เปาคอยเซ็ตรักและส่งฝันอยู่เคียงข้าง จนกว่าจะถึงเป้าหมายชีวิตที่ต้องการ




จบบริบูรณ์


ขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้จนจบนะครับ โดยเฉพาะคนที่คอมเมนต์ให้ตลอดไม่เคยขาด
แอบสงสัยนิดๆ ว่าบางคนติดตามจนจะจบเรื่องอยู่แล้ว ทำไมไม่ติดตามต่อ งงๆ เหมือนกัน :(
ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ฝากบวกเป็ดและคอมเมนต์ตอนจบด้วยนะครับ :)


(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/484320/1866979486-member.jpg)

กัปตัน: ถ้ามึงจะมาเป็นรูมเมทกู มึงต้องตกลงและยอมรับเงื่อนไขกับกูสามข้อก่อน
อะตอม: สบาย ว่ามาเลย
กัปตัน: ข้อแรก ห้ามซกมก ห้ามทำห้องรก กูไม่ชอบคนซกมกอย่างรุนแรง
อะตอม: อุ้ย เอางั้นเลยเหรอ!
กัปตัน: เออ ข้อที่สอง ห้ามพาผู้หญิงมานอนในห้องทุกกรณี
อะตอม: หา! แล้วมึงจะให้กูไปไหนวะ บอกไว้ก่อน กูงกนะเว้ย พวกม่านรูดไม่เคยได้เงินจากกระเป๋ากูหรอก
กัปตัน: เรื่องของมึง ให้คู่ขามึงจ่ายดิ ไม่งั้นก็ไปทำในสวน ใต้ต้นไม้ ในห้องน้ำ มีที่เยอะแยะ แต่ห้ามใช้ห้องนี้เว้ย
อะตอม: แม่งโหดว่ะ
กัปตัน: ข้อที่สาม โหดกว่านี้อีก
อะตอม: โหดกว่านี้อีกเหรอ! อะไรวะ
กัปตัน: ห้ามหลงรักกู!
อะตอม: เชี่ย!!! กูเนี่ยนะจะหลงรักมึง ผู้ชายนะเว้ย
กัปตัน: ไม่รู้เว้ย ก็กูเคยเจอนี่หว่า ว่าแต่มึงจะตกลงทั้งสามข้อหรือเปล่า
อะตอม: เออ ก็ได้วะ


หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 รุก-รับ ◯ 26.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 27-03-2017 00:14:31
สนุกค่ะ ชอบเปา :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 รุก > รับ (จบ) ◯ 26.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 27-03-2017 22:20:14
อร๊ายยย เราเพิ่งว่างมาอ่าน ฮิฮิ
บทเปาเป็นลูกแมวไม่ชินเลยจริงๆ ค่ะ555 เขาเหมาะกับบทเสือบ้ามากกว่าจริงๆ แต่สงสารไท้ ให้เปลี่ยนแหละดีละ

ตามจบไปอีกหนึ่งเรื่อง ขอบคุณสำหรับผลงานที่มาอย่างสม่ำเสมอนะคะ555
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 รุก > รับ (จบ) ◯ 26.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-03-2017 22:41:09
ขอบคุณคนแต่งนะครับ.  :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 รุก > รับ (จบ) ◯ 26.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-03-2017 22:45:01
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 รุก > รับ (จบ) ◯ 26.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 27-03-2017 23:40:16
  โอ้ยยย จบแล้วอะ กำลังฟินจริงๆ ประทับใจตอนจบมากๆ บรรยากาศของเปากับไท้ มันชวนให้ยิ้มดีจริงๆ นี่ล่ะความรักเมื่อมีแล้ว
 ตัวเราเลือกได้ว่าจะสร้างบรรยากาศแบบไหน แบบดราม่ากลางๆเรื่องหรือจะแบบ happy ending เราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้
  ประทับใจจริง
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 รุก > รับ (จบ) ◯ 26.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-03-2017 12:06:15
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ EP30 รุก > รับ (จบ) ◯ 26.3.2017 ◯ [ดราม่าวอลเลย์บอล]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 28-03-2017 14:33:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย] ◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 30-03-2017 17:43:15
จบอย่าง happy Ending

สนุกครับผม

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย] ◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 31-03-2017 02:16:37
ขอบคุณค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย] ◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯
เริ่มหัวข้อโดย: cookie8009 ที่ 27-02-2018 11:16:01
ชอบครับ

อยากรู้ว่า เปาโดนรุก แล้วจะเป็นไง 555