]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1711894 ครั้ง)

O_o

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
^


จิ้มพี่ต้น

ว่าแต่ไปเกี่ยวอารายก่าศาลาแดง สีลมอ่าพี่ มานน่ากลัวเกินไป

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 92


โจเล่าว่า เมื่อราวๆสัปดาห์ก่อน เขาเดินไปที่ยิมในตอนกลางวัน แล้วบังเอิญได้ยินป๊อปกับเต้กำลังคุยเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อ แอร์ คนนี้กันอยู่ ในตอนแรกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเท่าไหร่นัก จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อน ตอนที่เขากับเต้กำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้อง เขาก็สบโอกาสที่จะลองถามเรื่องของป๊อปดู และเพื่อนของเขาก็เล่าให้เขาฟังจนหมด ทำให้เขารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนของแฟนของเต้ที่แอบปลื้มป๊อปมาตั้งนานแล้ว เพราะเธอคนนั้นเคยเจอป๊อปที่ชมรมหรือในงานกีฬามาตั้งแต่พวกเขายังอยู่มอสองนั่นล่ะ แต่ว่าป๊อปไม่เคยสนใจเธอเลย จนกระทั่งเมื่อหลังจากที่เขามีเรื่องกับตี๋เล็กนั่นแหละ เขาถึงได้ลองกลับไปคุยกับเด็กผู้หญิงคนนั้นดู

“แล้วทำไมมึงไม่บอกพวกกูตั้งแต่ตอนที่มึงรู้วะ” ผมถามเขาหลังจากที่เขาเล่าให้ผมฟังจบ

เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “ก็แล้วทำไมกูต้องบอกวะ มันไม่ใช่เรื่องของกูสักหน่อย แล้วก็ไม่ใช่เรื่องของพวกมึงด้วยนี่หว่า ถ้าหากว่ามันเกิดอยากจะไปคบกับใครขึ้นมาสักคนน่ะ”

“มันจะไม่เกี่ยวได้ไงวะ ก็มันเป็นเพื่อนพวกกูนะเว้ย แล้วนี่มัน.......”

“มันทำไม” เขาสวนกลับ “แค่มันจะไปคุยกะใครหรือจะทำอะไรนี่มันก็ต้องบอกพวกมึงทุกคนทันทีเลยรึไงวะ มันมีหน้าที่ต้องรายงานหรือขออนุญาตพวกมึงก่อนจะทำอะไรด้วยรึไง”

ผมสะอึกไปทันที “มัน....... มันก็คงไม่ใช่แบบนั้นหรอก คือกูเองก็ไม่ได้รู้จักไอ้ป๊อปหรือพวกนัทมานานเหมือนคนอื่นๆนี่หว่า แต่ว่า......”

“แต่ว่าทำไมอีกวะ นี่มึงจะใส่ใจเรื่องของคนอื่นมากไปรึเปล่า ไอ้นนท์” เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน “ถามจริงๆว่าแบบนี้มันไม่ดีตรงไหนวะ หรือมึงจะบอกกูว่ามึงอยากให้เพื่อนมึงกลายเป็นเกย์ไปอีกคนน่ะ” เมื่อพูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องครัวไป ทิ้งให้ผมนั่งคิดอะไรต่ออยู่อีกครู่หนึ่งคนเดียว

ผมนั่งอยู่แบบนั้นอีกราวๆห้านาทีก็ตัดสินใจเดินกลับขึ้นไปบนห้อง นัทเองก็ยังคงกำลังนั่งคุยอยู่กับวายุอยู่เลย

“เฮ้ยย เปล่าๆ กูไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจอะไรมัน” นัทพูดใส่โทรศัพท์ “แต่กูแค่งงเฉยๆว่าทำไมมันถึงจะไม่อยากบอกพวกเราด้วย ก็ในเมื่อปกติมันเป็นคนที่ถ้ามีอะไรหรือทำอะไร มันก็จะบอกพวกเราตลอดอยู่แล้วอะ”

“นัทเปิดสปี๊คเกอร์หน่อยสิ”

เขาหันมาพยักหน้าให้กับผมเบาๆ “เฮ้ย ไอ้ยุ แป๊บนะ กูเปิดลำโพงก่อน นนท์จะได้คุยด้วยได้”

ผมรีบเดินไปนั่งลงบนเตียงข้างๆนัททันที “นี่ ไอ้ยุ ปกติแล้วไอ้ป๊อปมันมีอะไรมันก็จะบอกพวกมึงตลอดเลยเหรอวะ”

“เท่าที่กูจำได้กูก็รู้เรื่องของมันมาตลอดอะนะเว้ย” เสียงของวายุดังออกมาจากโทรศัพท์

“บางทีมันอาจจะไม่ได้บอกพวกมึง แต่บอกไอ้ตี๋ก่อนเป็นคนแรก แล้วมึงค่อยรู้เรื่องทีหลังรึเปล่า....... หรือไม่งั้นก็มึงอาจจะไม่ได้รู้ทุกอย่าง แต่เป็นไอ้ตี๋ต่างหากที่รู้อะ”

“เอออ ก็คงจะจริงอะ ว่าแต่มึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมวะ ไอ้นนท์”

“คือ......” ผมมองหน้านัทด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเตียงอีกครั้ง “กูว่ามันจำเป็นเหรอวะ ที่ถ้าเกิดไอ้ป๊อปมันจะทำอะไร แล้วมันจะต้องบอกพวกมึงไปซะทุกครั้งน่ะ บางทีมันอาจจะอยากคิดอะไรทำอะไรด้วยตัวคนเดียวเองมั่งก็ได้นะเว้ย หรืออีกอย่าง ถ้าปกติ มันอาจจะอยากบอกเรื่องนี้กับไอ้ตี๋ แต่ว่าตอนนี้มันไม่ได้คุยกัน มันก็เลยไม่ได้บอกใครเลยน่ะ”

ทั้งนัทและวายุต่างก็เงียบกันลงไปครู่หนึ่ง ก่อนที่นัทจะพูดขึ้น “ต่อให้ตัดเรื่องนั้นไป แต่เราก็ยังไม่รู้อยู่ดีนะเว้ยว่าตกลงผู้หญิงคนนั้นคือใคร มันไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ และมันเป็นแฟนกันรึยังอะ ใช่มั๊ย ไอ้ยุ เพราะกูคิดว่านะ กูไม่อยากให้ไอ้ป๊อปมันทำแบบนี้เลยว่ะ มันเหมือนจะประชดไอ้ตี๋ยังไงไม่รู้ เพราะถ้าเกิดไอ้ตี๋แม่งรู้เรื่องนี้เข้านะ แม่งก็ต้องเฮิร์ตอีกแน่ๆอะ จริงมั๊ยล่ะ”

“คิดว่าเป็นไปได้มั๊ยที่ไอ้ป๊อปมันทำแบบนี้ก็เพียงเพราะเพื่อที่จะทำให้ไอ้ตี๋เฮิร์ตจริงๆน่ะ” ผมถาม

“ก็ไม่แน่หรอกว่ะ แต่กูว่าไม่น่าใช่นะ” เสียงของคริสดังขึ้น

“อ้าว ไอ้คริส มึงก็อยู่ด้วยเหรอวะ”

“ก็เออดิ มึงลืมไปแล้วเหรอวะว่ามันก็อยู่กะกูเหมือนกันน่ะ” วายุตอบแทน

“ไม่ไง คือกูก็นึกว่าไอ้คริสอยู่กะอาไคล์แล้วมึงอยู่บ้านน่ะ”

“ตอนนี้ไอ้ยุมันมานั่งเล่นที่คอนโดอาไคล์น่ะ นนท์” นัทหันมาพูดกับผม “แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ว่าแต่เมื่อกี๊มึงจะพูดอะไรนะ ไอ้คริส”

“กูจะบอกว่า กูคิดว่ามันคงไม่ได้จะทำเพื่อให้ไอ้ตี๋รู้แล้วต้องเสียใจหรอก มันอาจจะแค่อยากพิสูจน์ตัวเองว่ามันไม่ได้ชอบผู้ชาย มันอาจจะคบกับผู้หญิงเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคิดเรื่องไอ้ตี๋ แต่คงไม่ใช่เพราะจงใจจะทำร้ายไอ้ตี๋หรอก เพราะไม่งั้นมันก็คงแสดงออกให้พวกเราหรือโดยเฉพาะไอ้ตี๋รู้ตั้งนานแล้วอะ จริงมั๊ยวะ”

“เอออ ก็จริงของมึงเว้ย” วายุพูดขึ้นเบาๆ

“เออ จริงด้วย ไอ้คริส นัท วายุ” ผมนึกบางอย่างขึ้นมาได้ “พวกมึงมีใครพอรู้หรือจำได้มั๊ยวะว่า ไอ้ป๊อปมันเคยคุยกับผู้หญิงที่ไหน หรือเคยมีใครมาชอบมัน จีบมัน อะไรแบบนี้บ้างมั๊ยน่ะ”

“เออๆๆ กูคุ้นๆว่ะ เหมือนเราจะเคยแซวๆยุๆมันเมื่อก่อนนี้มาทีนึง ใช่มั๊ยวะ ไอ้นัท” วายุพูด

“จริงๆก็มีมาเรื่อยๆนะ สักสามสี่ครั้งได้มั๊ง แต่ส่วนมากก็แค่แซวๆขำๆอะ ที่มีคนมาชอบมันจริงๆจังๆก็สักเมื่อปีที่แล้วล่ะมั๊ง จำได้ว่าเป็นคนแรกเลยอะ ที่อยากจะจีบมัน แล้วพวกเราเลยเฮกันใหญ่ รู้สึกว่าจะเป็นเพื่อนของไอ้เต้อีกทีมั๊ง ชื่อ........” นัททำท่านึก

“แอร์” คริสพูดขึ้น “กูจำได้ว่าชื่อแอร์ เรียนเซนต์มาเรีย เพื่อนแถวบ้านไอ้เต้มัน เค้ากรี๊ดๆไอ้ป๊อปอยู่ได้ราวๆเทอมนึงก็ค่อยๆหายไปเพราะไอ้ป๊อปไม่เล่นด้วยเลย แต่ท่าทางเค้าก็ยังปลื้มๆไอ้ป๊อปมาตลอดน่ะนะ กูได้ยินมาแบบนั้นอะ”

“มึงได้ยินจากไหนวะ ไอ้คริส” วายุถาม

“เพื่อนคนอื่นๆนั่นแหละ และไอ้ตี๋เองมันก็เคยพูดให้กูฟังอยู่เหมือนกัน พวกมึงเองก็น่าจะจำได้นะ ไอ้ยุ ไอ้นัท เมื่อก่อนนี้ ก่อนที่ไอ้นนท์จะย้ายมาอะ เราไปเซนต์มาเรียด้วยกันเพราะไอ้เคนไปรับปูจากงานโรงเรียน เราก็ยังเจอเค้าอยู่เลย”

“กู...... จำไม่ได้ว่ะ” นัทหัวเราะแหะๆ “ตอนนั้นแม่งคนเยอะมากอะ และกูก็จำหน้าเค้าไม่ได้แล้วด้วยซ้ำไป”

“กูก็เหมือนกัน ห่าแม่งงง ไอ้คริส ใครจะไปความจำดีเท่ามึงวะเนี่ยย”

“เออ ช่างเถอะ ว่าแต่มึงถามทำไมวะ ไอ้นนท์”

“อ๋อออ คือออ...... กูเผอิญรู้เรื่องๆนึงมาอะว่ะ” ผมเห็นนัทมองผมด้วยแววตาเป็นคำถาม ผมจึงเริ่มเล่าเรื่องที่ผมได้ยินมาจากโจให้ทุกคนฟังจนหมด

“มิน่า ช่วงหลังๆนี้หลังกินข้าวเสร็จแม่งไปที่ยิมแทบทุกวันเลย ตอนแรกกูก็แค่คิดว่ามันจะหนีหน้าไอ้ตี๋เฉยๆซะอีก” นัทพูดขึ้นหลังจากที่ผมเล่าจบ

“เอ้า คราวนี้แล้วยังไงต่อดีวะ”

“กูก็ไม่รู้อะ ไอ้ยุ นี่กูโทรหามึงตั้งแต่แรกก็เพราะกูอยากได้ความคิดมึงนะเว้ย” นัทตอบ และในระหว่างนั้นผมก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของคริสดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่งของสายด้วย “ใครโทรหาไอ้คริสเหรอวะ อย่าบอกนะว่าเป็นไอ้เคนน่ะ”

“ใครวะ คริส” วายุถาม

“ฮัลโหล........” คริสรับสาย ผมได้ยินเขาพูดบางอย่างตอบอีกฝ่ายออกไปเป็นภาษาอังกฤษ แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกกังวลขึ้นแทบจะในทันทีก็คือผมรู้สึกถึงความผิดปกติที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของเขาได้ด้วยเช่นกัน
 
“เฮ้ย ใครโทรหามันวะ ไอ้ยุ พ่อมันเหรอ” นัทถามด้วยความกังวล ดูท่าทางว่าเขาก็คงจะกำลังคิดแบบเดียวกันกับผมนั่นเอง

“แป๊บนะ ไอ้นัท......” วายุตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด พร้อมๆกับที่เสียงของคริสค่อยๆจางหายไปราวกับเขากำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ “เฮ้ย พวกมึง แค่นี้ก่อนแล้วกันว่ะ แล้วเดี๋ยวกูโทรกลับอีกทีนะเว้ย”

สิ่งต่อมาที่ผมได้ยินก็คือเสียงสัญญาณโทรศัพท์ที่ถูดตัดไป นัทหยิบมือถือขึ้นมากดปุ่มวางสายแล้วโยนมันกลับลงไปบนเตียงอีกครั้ง

“นัทว่าต้องเป็นพ่อมันแน่ๆเลยว่ะ” เขาพูดพร้อมคิ้วทั้งสองข้างที่ขมวดเข้าหากัน

“คงไม่มีอะไรมั๊ง ยังไงก็รอไอ้ยุมันโทรหลับมาหาเราก่อนเถอะ บางทีอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้น่า”

“นัทรู้ แต่นัทก็แค่ไม่อยากให้ไอ้คริสมันถูกกดดันอะไรไปมากกว่านี้แล้วน่ะสิ”

“นนท์ก็เหมือนกัน นนท์ว่ามันน่าสงสารมากๆเลยนะเว้ย แต่ว่าบางทีถ้าพ่อของมันตัดสินใจโทรมาคุยกับมันจริงๆอะ นั่นอาจจะถือเป็นการเริ่มต้นอะไรบางอย่างก็ได้นี่ จริงปะล่ะ ดีกว่าเค้าอยู่เฉยๆไม่สนใจอะไรลูกเค้าเลยอะ”

“ถ้าคิดแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน.......” นัทตอบพลางถอนหายใจเบาๆ

เมื่อเวลาผ่านไปราวๆสิบนาที วายุก็โทรกลับมาหานัทอีกครั้ง นัทพูดว่านัทจะกดสปี๊คเกอร์ให้ผมได้คุยด้วย แต่ดูเหมือนว่าวายุจะห้ามเขาเอาไว้ หลังจากนั่งฟังวายุพูดอยู่ครู่หนึ่ง นัทก็อุทานแสดงความประหลาดใจออกมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกังวลมากเท่าในตอนแรก  ที่จริง ผมว่าผมรู้สึกกังวลน้อยลงนิดหน่อยด้วยซ้ำ เพราะว่าผมไม่เห็นความไม่สบายใจฉายอยู่ในแววตาของเขาเหมือนเมื่อสิบนาทีที่แล้วเลยแม้แต่นิดเดียว จากนั้นอีกราวๆห้านาทีถัดมาวายุก็เป็นฝ่ายพูดคนเดียวซะส่วนใหญ่ ส่วนนัทก็ได้แต่พยักหน้าและทำเสียงอือในลำคอตอบกลับไปอีกสามสี่ครั้งเท่านั้น

“ว่าไง สรุปว่าเมื่อกี๊พ่อไอ้คริสมันว่ายังไงบ้าง” ผมถามทันทีที่นัทวางสายลง

“ไม่ใช่พ่อมันหรอก” เขายิ้มตอบกลับมาน้อยๆ “ดูเหมือนว่าคราวนี้เราจะได้แนวร่วมแล้วว่ะ นนท์”

“เหอออ แนวร่วมอะไรวะ” ผมสงสัย

“เอาน่าาา รออีกแป๊บ เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกมันก็เล่าให้เราทุกคนฟังที่โรงเรียนแล้ว รอหน่อยเหอะน่ะ” เขาแหย่ผม

“เฮ้ยยยย ไม่เอาดิ อย่าอย่างงี้ดิวะะะ คนมันอยากรู้นะเว้ยยยยย” ผมเริ่มโวย

“เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าไอ้คริสมันจะเล่าให้เราฟังทีเดียวน่า ทนหน่อยเด่ะ เรื่องไอ้คริสน่ะ ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอกน่า จริงๆ” เขายืนยัน “แต่ตอนนี้เรามาคิดกันก่อนดีมั๊ยว่าจะเอายังไงกับเรื่องของไอ้ป๊อปดี”

ผมตัดสินใจยอมปล่อยเรื่องของคริสไว้ก่อน “เอาไงอะไรอะ เราก็ทำได้แค่ไม่ให้ไอ้ตี๋มันรู้เรื่องนี้เท่านั้นเองไม่ใช่รึไง”

“มันก็ใช่ แต่นั่นมันเท่ากับ ‘ไม่ทำอะไรเลย’ มากกว่าพยายามแก้ปัญหานะ นัทว่า และที่สำคัญ นนท์คิดว่าเราจะเก็บเรื่องนี้จากไอ้ตี๋มันได้นานขนาดไหน....... ไม่สิ พูดให้ถูกคือ นนท์คิดว่าอีกนานแค่ไหนกว่าไอ้ตี๋มันจะไม่รู้เรื่องน่ะ”

ผมนิ่วหน้าเครียด “งั้นจะเอาไง ไปคุยกับไอ้ป๊อปเลยดีมั๊ยล่ะ จริงๆนนท์ก็อยากทำแบบนั้นอยู่หรอก คือ แบบ หมายถึงว่าถ้ามันจะยอมพูดอะไรกับนนท์น่ะนะ”

“นัทว่าคุยกับมันก็ดีเหมือนกัน แต่คงต้องหาวิธีเริ่มดีๆอะ คนอย่างไอ้ป๊อปแม่งยิ่งเดาใจยากอยู่ด้วยดิ แถมยิ่งเป็นช่วงนี้เรื่องนี้ด้วยแล้ว”

“เอาไว้นนท์จะหาวิธีลองคุยกับมันดูแล้วกัน”

“งั้นนัทขอโทรกลับไปหาไอ้เคนก่อนแล้วกันนะ ป่านนี้มันรอโทรศัพท์เราแห้งตายไปแล้วมั๊ง แล้วก็........ นัทคิดว่าอาจจะลองไปคุยกับไอ้เต้ด้วยดูเหมือนกันอะ”

“แบบนั้นก็ดี ลองดูก็ไม่เสียหายนี่นะ ว่าแต่...... คือ นนท์อะ อยากคุยกับไอ้ป๊อปนะเว้ย แต่ไม่รู้มันจะอยากคุยกับนนท์รึเปล่าเนี่ยสิ นนท์เองก็ไม่ได้รู้จักมันมานานเท่าพวกนัทด้วยอะ”

“เรื่องนั้นอะ ไม่ต้องกังวลหรอก นัทคิดว่ายิ่งนนท์ไม่รู้จักมันดีเท่าพวกเรานะ อาจจะยิ่งทำให้มันอยากคุยด้วยมากกว่าด้วยซ้ำ และที่สำคัญ........” เขามองหน้าผมแล้วยิ้มๆ “นัทคิดว่านนท์น่ะ เหมาะกับการทำแบบนี้ที่สุดแล้วว่ะ”

“ยังไงวะ นัท นนท์งงว่ะ” ผมสงสัย

“เอาน่า ยังไงก็ลองไปคุยกับไอ้ป๊อปดูก่อนเถอะ นัทรู้ว่านนท์เป็นห่วงมันจริงๆ แค่ไปคุยแบบที่นนท์คุยกับมันปกตินั่นแหละ แล้วเดี๋ยวคืนนี้ นัทจะเล่าเรื่องไอ้คริสให้นนท์ฟัง”

“เรื่องโทรศัพท์เมื่อกี๊ของไอ้คริสน่ะเหรอ”

“เปล่า เรื่องพี่ชายมันอะ”

“ห๊าาา!! ไอ้คริสมีพี่ชายด้วยเรอะ!!” ผมอุทานออกมาเสียงดังจนแทบจะกลายเป็นการตะโกน

“ชู่วววว! เบาๆดิ เดี๋ยวแม่ก็ว่าเอาหรอก” นัทจุ๊ปาก “นนท์ยังไม่รู้เรื่องนี้จริงๆด้วยสินะ”

“ก็ไม่เห็นมีใครเคยบอกนนท์เลยนี่!”

“ก็นะ ปกติเราก็ไม่เคยคุยเรื่องบ้านไอ้คริสกันเท่าไหร่อยู่แล้วด้วยอะ แถมพี่มันก็ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับมันด้วย แต่จะว่าไป นนท์นั่งอยู่ข้างๆมันนี่นนท์ไม่เคยถามมันเลยเหรอ”

“จะบ้าเหรอวะ นัท จู่ๆจะให้นนท์ไปถามมันว่าไงอะ ‘เฮ้ย คริส มึงมีพี่ที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันด้วยรึเปล่า’ แบบนั้นน่ะเหรอ”

นัทหัวเราะ “เออ ก็จริงว่ะ”

“แล้วเรื่องของพี่มันนี่ยังไง มันเกี่ยวกับโทรศัพท์เมื่อกี๊นี้ของไอ้คริสด้วยเหรอ”

“เรื่องนั้นอะ รอให้ไอ้คริสมันเล่าเองพรุ่งนี้เช้า นัทบอกไปแล้วนี่ คืนนี้นัทจะเล่าแค่เรื่องของพี่ชายมันที่นนท์ไม่เคยรู้มาก่อนให้ฟังเท่านั้นพอ” เขายิ้มยิงเขี้ยวสีหน้ามีความสุขที่ได้แกล้งผม ผมชักรู้สึกหมั่นไส้จนอยากจะยกเท้าขึ้นมาลูบหน้าเขาจริงๆซะแล้วสิ


O_o

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^

จิ้ม ๆๆๆๆ
ได้อ่านแย้ววว

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ด มากรี๊ดต้อนรับพี่ชายน้องคริส  :m3:
มีหนุ่มๆเพิ่มมาอีกคนแล้ว หุๆ

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
นัทกับนนท์เนี่ย หยอกกันน่ารักจังเลยนะค่ะ :-[

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :-[
น้องนัทน้องนนท์
น่ารักที่สุด

morrian

  • บุคคลทั่วไป
ชวนติดตาม และตามติดจริงๆเลยค้าบบ  :z2:

โจ เท่านั้น !!

ออฟไลน์ peppier

  • ขาดคนรักนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีแค่ใจที่รักตัวเองก็พอ.. ~ ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
พี่ชายคริสคือใครกันหว่า ?'
แล้วจะเกี่ยวกับพวกนนท์ยังไงเนี่ย .   แว๊กก อยากรู้ ๆ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page


ใครยังไม่มีมั่งครับ?? ใครไม่มีถือว่า "เชย" และ "ไม่รักกันจริง" นะ บอกไว้ก่อน!!!

55555+


mantdash

  • บุคคลทั่วไป
มีแล้วฮะ :impress2:
/ยกมือ โบกไปมา

ตัวละครลับโผล่ออกมาแล้วอะ
เริ่มเห็นแนวทางของปัญหาทั้งสองละ
แต่เดี๋ยวตอนหน้าพี่ต้นก็หาเรื่องดราม่ามาใหม่เองแหละ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Fill

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมเด็กในฮาเร็มของไรเตอร์ถึงเยอะแยะมากมายหลายหัวขนาดนี้
สงสัยเก็บกดจากชีวิตจริงเลยเอามาสร้างเป็นนิยาย
อืมม ท่าจะจริง
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
โอเคอ่ะ
คนเยอะมาก
แต่ก้อยังจำได้นะค้าบบบบบบ พี่ต้น

ผมว่าโจดูโตเกินวัยอ่ะ
เด็กมอสามดูน่าจะห่วงเรื่องเพื่อนแทบจะเป็นอันดับแรกสุดในชีวิตเลยนะ
งานการก็ไม่ต้องทำ เรียนก้อชิวๆ ที่บ้านก็ไม่ได้อะไรมาก
ยิ่งเด็กผู้ชายที่สนิทๆ กัน
ละก้ออยู่โรงเรียนประจำอีก
เรื่องคิดแล้วก็แก้ปัญหากับเพื่อนไปพร้อมๆ กันมันดูเป็น "Normal Development" อ่ะคับ
โจอ่ะดิแปลก ที่นนท์กับเพื่อนทำกันอยู่ ก็ปกติดีออก
แต่ถ้ามาดูในแง่เด็กมหาลัยหรือว่าคนทำงาน มันอาจจะดูว่า
เพื่อนมันก้ออยากทำอะไรเองบ้าง เมิงจะเสือกอะไรนักหนา
แต่ว่าเด็กมอสามมันไม่ใช่หรอกคับ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
^
^

ตรงประเด็นครับ ชอบใจ กด "ถูกใจ" ตรงไหนเนี่ย 5555

ที่จริงในฐานะคนเขียนก็ไม่อยากจะออกมาบอกเลย แต่ก็นะ ขอสักนิด ให้หายข้องใจว่า ในมุมมองของโจ มันไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นหรอกครับ มันก็แค่ "ไม่สนิทกับพวกนี้" มากพอจนต้องบอกเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องของมันที่ต้องบอกสักหน่อย อะไรแบบนี้น่ะ คงงอนๆนนท์ที่อยู่กับนัทมั๊ง เลยเกิดอารมณ์ว่า "บอกทำไม เดี๋ยวแม่งก็รู้เองอยู่ดี รักกันดีนักนี่ หาทางออกกันเองแล้วกัน" ไรงี้แหละ (มั๊ง) ครับ 5555


อย่างที่บอกแต่แรกล่ะครับว่า ประเด็นเลยเนี่ย ตอนคิดจะเขียนเรื่องนี้ก็คิดนานน๊านนานว่าเอาวัยไหนดี ทำไมต้องมอสาม ทำไมไม่มอปลายให้รู้แล้วรู้รอด กูจะเดาอารมณ์เด็กมอสามถูกเหรอวะเนี่ย อะไรแบบนี้ คิดเยอะมากครับ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเอาตามนี้แหละ ตัวละครเยอะ แต่ละคนก็มีอารมณ์ นิสัย ความคิด พื้นหลังต่างๆกันไป โจเองก็เป็นคนนึงที่โตมาแบบ มีอะไรให้คิดเยอะกว่าคนอื่น มีบุคลิกที่ต่างออกไปและเด่นชัด แต่ด้วยความที่เป็นนิยาย มันก็เลยต้องเน้นให้เด่นมากขึ้น เพราะมันไม่ใช่คนจริงๆที่เราสัมผัสได้น่่ะครับ (สังเกตพวกละครซิทคอม มันก็จะออกแนว 'เยอะ' เกินไปนิดทั้งนั้น) แต่ที่แน่นอนว่า เด็กๆทุกคนในเรื่อง รวมทั้งโจ ต่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลง และจะมีการเปลี่ยนแปลงบุคลิก ความคิด อะไรหลายๆอย่างไปทีละน้อยๆแน่นอนครับ

และสุดท้าย ขอบอกอีกครั้งจริงๆๆตรงๆๆเลยว่า "ใครไม่เจอกับตัว ไม่รู้" นี่แม่งโคตรเรื่องจริงเลย ผมอยู่กับเด็กตลอด คำพูดเชยๆที่บอกว่า "เด็กสมัยนี้โตเร็ว" แม่งงงงงงงงง!! โคตรของโคตรของโคตรจะจริงเลยนะครับ ขอบอก!!

ทั้งร่างกายความคิด เด็กมอสองมอสามเดี๋ยวนี้โตไวมาก!! เด็กมอหนึ่งบางคนหน้า + หุ่นแม่งมอปลายไปแล้วยังมีเลย (อันนี้พี่ป๋อมแป๋มคอนเฟิร์มได้) ผมคงพูดไม่ได้ว่าเจอเด็กมาหมดทุกประเภทแล้ว แต่ด้วยความที่อยู่กับพวกนี้มาทุกระดับชั้น ตั้งแต่ปอสี่ปอห้ายันมอหก ผมบอกได้เลยครับ หลายๆคาแร็กเตอร์และความคิดของตัวละครผมนั้น ผมเอามาจากคนจริงๆเยอะมากครับ

^____^"

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
มีแล้วครับคุณต้น

 :เฮ้อ:ทั้งเรื่องคริสเรื่องตี๋เล็ก

ไม่รู้จะทำไงดี แต่ยังไงก็จะเชียร์นัทสุดใจขาดดิ้น

Fill

  • บุคคลทั่วไป
โอเคอ่ะ
คนเยอะมาก
แต่ก้อยังจำได้นะค้าบบบบบบ พี่ต้น

ผมว่าโจดูโตเกินวัยอ่ะ
เด็กมอสามดูน่าจะห่วงเรื่องเพื่อนแทบจะเป็นอันดับแรกสุดในชีวิตเลยนะ
งานการก็ไม่ต้องทำ เรียนก้อชิวๆ ที่บ้านก็ไม่ได้อะไรมาก
ยิ่งเด็กผู้ชายที่สนิทๆ กัน
ละก้ออยู่โรงเรียนประจำอีก
เรื่องคิดแล้วก็แก้ปัญหากับเพื่อนไปพร้อมๆ กันมันดูเป็น "Normal Development" อ่ะคับ
โจอ่ะดิแปลก ที่นนท์กับเพื่อนทำกันอยู่ ก็ปกติดีออก
แต่ถ้ามาดูในแง่เด็กมหาลัยหรือว่าคนทำงาน มันอาจจะดูว่า
เพื่อนมันก้ออยากทำอะไรเองบ้าง เมิงจะเสือกอะไรนักหนา
แต่ว่าเด็กมอสามมันไม่ใช่หรอกคับ

^
^
^
^
^
ที่โจไม่เหมือนใครก็เพราะว่าโจเป็นพระเอกไงครับ อิอิ
โจต้องมีความเป็นผู้ใหญ่ เพื่อจะได้คอยดูแลปกป้องน้องนนท์ไง
 :o8: :o8: :o8:

mole eye man

  • บุคคลทั่วไป
คอนเฟิร์มเรื่องโตวัย  แต่สำหรับผม  ถ้าจะพูดให้ถูก  ต้องพูดว่าช่วงวัยรุ่น  คนแต่ละคนจะมีช่วงภาวะความคิดและการกระทำที่ "แกว่ง" มากจริง ๆ ฮะ  ^^"

คือแบบ  ไอ้ที่เด็กจริง ๆ ก็มี  แบบที่โตจริง ๆ ก็เยอะ  หรือแบบปกติธรรมดา (ถ้ามองแต่ภายนอก....)  ก็มีเหมือนกัน  เลยเป็นวัยที่ผมเรียกได้เลยว่า แกว่งที่สุดจริง ๆ   =  ="

เป็นกำลังใจให้คนเขียนฮะ - -/

knightto

  • บุคคลทั่วไป
ใช่ๆๆ. . . .
เด็กสมัยนี้โตโคดๆๆๆๆเร็วอ่ะ

อย่างเด็ก ป.6 ตัวเท่าพอๆกับ เด็ก ม.6  . . ..   =_=  อันนี้เรื่องจริงอย่างสุดๆ
เจอมากับตัว     o22

แต่ก็อย่างว่า ..  .  ม.3  คือวัยกำลังเติบโต  กำลังคิดกำลังอ่าน มีโลกใหม่ๆกำลังเกิดขึ้น

มีมุมมองที่ไกลกว่าเดิม คิดได้มากกว่าเดิม .. . .แต่ยังอาจจะไม่โตจนเกินไป
แต่ถ้า. . ... คนที่โตมาโดยไม่ครบ(หมายถึง ครอบครัว .. . .) อาจจะมีความคิดที่โตกว่าเด็กทั่วไปก็เป็นไปได้
เพราะ มันถึง การเจออะไร ที่เด็กไม่ควรจะเจอ . ..เจออะไรที่ วัย ยังไม่ต้องการ เช่น  การเลิกลา ของพ่อแม่

แล้วจะเกิดคำถาม . . .  ทำไมถึงเลิก . . .. ทำไมถึงทะเลาะ .  ...
ฮร่าๆๆ . ...  . เริ่มงงๆ

แต่โจ ก็คงคล้ายๆนัท .. ..แต่สื่อกันออกมาคนละรูปแบบ  เพราะยังไง คนเราก็ต่างคน ต่างนิสัย
และก็ ต่างสิ่งแวดล้อม  .  .. .


แต่ก็ไม่ว่ายังไง . . .ก็ยังเชียร์นัทต่อไป  .  .. .

นัท & นนท์

N U T
O
N


 :110011: :z7:

ปล. สงสารตี๋เล็กอ่ะ . . . . หาคนมาดามใจสักคนสิลูกเอ๊ย  . ... .   555 5 5+     :m26:

ออฟไลน์ iiดาวพระสุขლii

  • คิดการใหญ่ ใจต้องเหี้ย(ม),,
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +746/-3


ใครยังไม่มีมั่งครับ?? ใครไม่มีถือว่า "เชย" และ "ไม่รักกันจริง" นะ บอกไว้ก่อน!!!

55555+



ไม่มีอะค่ะ  อยากมีต้องทำยังไงคะ....


ขอสูดหายใจลึกๆ ก่อน comment เพราะเพิ่งจะอ่านทัน....

ไม่ผิดหวังจริงๆที่เริ่มต้นอ่านเรื่องนี้....
คิดนานเหมือนกัน เพราะว่ามันปาไป ร้อยกว่าหน้าแนะ
แต่พออ่านเรื่องของเมฆ และ ซัน เสร็จจึงค้นพบว่า
เรื่องนี้คงไม่อ่านไม่ได้แล้วแหละ...

สำนวนการเขียนยังคงคล้ายๆกับเรื่องราวของเมฆและซัน...
ยังคงสัมผัสได้ถึง คำว่ามิตรภาพที่ร้อยเรียงผ่านตัวหนังสือ ได้อย่างเต็มเปี่ยมเหมือนเคย...


ตัวละครที่ประทับใจ เห็นจะเป็นโจ
ตอนแรกที่อ่าน เราว่านิสัยบางอย่างของโจ คล้ายๆ กับซัน แต่ว่าจะดูเก็บกด และ กวนตีนกว่า (รึเปล่า)
ในเรื่องของความรัก ระหว่างโจกับนนท์ และ นนท์กับนัท

เราค่อนข้างที่จะประทับใจในตัวโจ ถึงความชัดเจนในความรู้สึก  การแสดงออกอย่างตรงๆ แบบลูกผู้ชาย และที่ชอบที่สุดคือความพยายามของโจ....
เรารู้สึกว่าโจใช้ความพยายาม ในเรื่องของนนท์มาก....
พยายามที่จะปกป้อง พยายามที่จะสื่อความรู้สึก พยายามที่จะปกป้อง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เมื่อได้มาพบกับนนท์
แต่เสียอย่างเดียวคือ  ชอบเก็บทุกอย่างไว้กับตัว (เหมือนซันนะ ตรงนี้เราว่า)  

แต่ความรักระหว่าง นนท์ กับ นัท...
เราว่านัทแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ ในการรักนนท์ เพราะทุกอย่างมันเป็นไปตาม ความประทับใจเริ่มแรก และความใกล้ชิด...
ที่แปรเปลี่ยนมาเป็นความรัก.....    ในที่สุด....

ลึกๆแล้วเรายังคิดว่าถ้าวันนั้น  นนท์ไม่ได้คุยกับพลอย แล้วคิดว่าโจหลอกลวง...
นนท์ยังคงไม่โทรไปาหนัท เพื่อคุยเรื่องเป็นแฟนกันแน่นอน...

แต่น่าแปลก เพราะปรกติ เราจะไม่ชอบ ตัวละครที่มีความอ่อนไหว อ่อนโยน โดยที่อยู่กึ่งกลางระหว่าีงคนที่มารักสองคนแบบนี้เท่าไหร่...
เพราะเราชอบอะไรที่มันเด็ดขาด....
แต่กับ นนท์เราแทบไม่มีอคติ หรือ ความไม่ชอบเลยซักนิด...
นับถือพี่ต้นมากที่ถ่ายทอดนนท์ออกมาได้ดีมากๆ

สำหรับวายุ.....
เราว่าวายุเหมือนเป็นศูนย์กลางของทุกคนจริงๆ
ศิราณีมากๆ 555   แต่ก็ไม่น่าแปลกที่เป็นอย่างนั้น เพราะวายุ เติบโตมาด้วยความรัก ความอบอบุ่น จนมันล้นออกมาจากใจของเค้า
และทุกคนก็สัมผัสถึงความอบอุ่นนั้นได้  เราว่ามันไปแปลกเลยที่วายุจะได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนทุกคน ก่อนคนอื่น ^^

ตี๋และ๊ป๊อบ....
เป็นความผู้กพันที่มัน เนิ่นนาน...แต่มันก็ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่...
จากความผูกพัน กลายมาเป็นความรักเเบบเพื่อน   จากเพื่อนรัก กลายมาเป็นความรักแบบ ชู้สาว มันไม่แปลกหรอก...
แต่ยุที่ให้ คำแนะนำตี๋คงลืมไปว่า...
ใช่ว่าทุกคู่ จะสมหวัง เหมือนอย่างซันกับเมฆ เสมอไป

เรื่องราวของ ป๊อบและตี๋ดูจะรุนแรง.....แต่เราว่ามันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ...
ความสัมพันธ์แบบนี้มันแปลกอย่างนึงนะเราว่า...
ถ้าเมื่อไหร่ที่เราก้าวข้ามคำว่า"เพื่อนรัก"  ไปเป็น "คนรัก" เมื่อไหร่...
ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ รักข้างเดียว หรือ สมหวัง  ก็ตามแต่....
มันจะไม่สามารถ กลับมาเป็น "เพื่อนรัก"  อย่างเดิมได้อีก...

เราว่าทั้งสองคน คงเสียใจมาก.....  แม้ว่าจะเสียใจกันคนละอย่างก็ตาม...
แต่ก็นะ  เราเชื่อว่าคำว่าเพื่อน และ ระยะห่าง  จะทำให้ทุกอย่างกลับมาดีอีกครั้ง....

ทุกคนในเรื่องดูเหมือนจะมีปม เป็นของตัวเอง และปมเหล่านี้ก็ผลักดันให้
การแสดงออก และความคิด ของแต่ละคนต่างกัน
(แต่ทำไม ปมมันถึงน่าหดหู่ เยี่ยงนั้นคะ พี่ต้น...)
มันเลยทำให้เรื่องราวของพี่ต้น สนุก สนานและ น่าติดตามเสมอ....


เรื่องราวของเด็ก ม ต้น สมัยนี้มันเข้มข้นจริงๆ   มันโตไวจริงๆ แหละเราว่า
สมัยเรายังไม่อะไรขนาดนี้เลย  เห็นเพื่อนมัน ต่อยตี  กันไปวันๆ 555

รออ่านเรื่องราวของเด็กน้อยต่อค่ะ...   :L2:


ปอลิง.  พี่ต้นมักจะเขียนเรื่องราวที่เป็นปมปริศนา ของเรื่องราว ให้ค้างคา....  และทำให้คนอ่านอยากรู้  
แต่บางทีมันก็ทำให้หนู งงๆ ก๊งๆ  กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เหมือนกันนะคะเนี่ย...
เช่นตอนที่ โจวางแผนช่วย เรื่องน้องที่โดนถ่ายคลิป (จำชื่อน้องไม่ได้)  ดาวว่า มันตัดไปมา และ ดูลึกลับ ปกปิด มากไปหน่อย...จนบางทีก็ดูว่ามัน ปิดมากเกินไป  ยิ่งพอเล่าผ่านตัวเอกอย่างนนท์ แทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย... ทำให้เวลาอ่านผ่านมุมมองของคนอื่นสลับกับ นนท์แล้วเนี่ย เกิดการเรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ถูก เบลอๆ ขาดๆ อยู่บ้าง จนต้องอ่านอีกรอบ เพื่อความเข้าใจ..

แต่นี่เป็นเพียงความเห็นของดาวคนเดียวนะพี่....  ดาวอาจจะงง อยู่คนเดียวก็ได้   แหะๆ  :o8:



สุดท้าย   ขอบคุณ พี่ต้นสำหรับเรื่องราวดีดี ค่ะ  อย่าลืมรักษาสุขภาพนะพี่...เห็นเหมือนจะไม่สบายบ่อย...   :L2:
  



tantalize

  • บุคคลทั่วไป
พวกเคะ นะเค้าชอบผู้ชายที่เป็นผู้หญ่ายยยยยย

เพราะฉะนั้น เสร็จโจเเน่ๆ  :oo1:


โจ FCCCCCccc   :mc4:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ผมขอแชร์อะไรนิดนึง มันเป็นอะไรที่โดนใจผมมากๆ เจอมากับตัว


คิดว่าตอนนี้หลายคนคงรู้แล้วว่าผมสอนหนังสือด้วย ซึ่งเป็นที่สอนพิเศษของบ้านผมเอง แต่อยู่ ตจว
ประเด็นมันเกิดขึ้นเมื่อเทอมที่แล้ว ตั้งแต่ต้นๆเทอม ก็จะมีเด็กมาสมัครเรียนกันหลายคน ส่วนมากก็จะมากับผู้ปกครองกัน ยกเว้นเด็กมอปลายก็อาจจะขี่รถมากับเพื่อนๆหรือมาคนเดียว

ตอนนั้นมีเด็กคนนึง อยู่มอหนึ่ง เป็นเด็กผู้หญิง ตัวเล็กกว่าเค้าเพื่อน ซึ่งค่อนข้างน่าแปลก เพราะช่วงวัยนี้ส่วนมากเด็กผู้หญิงจะโตเด็กกว่าผู้ชาย และเชื่อผมเถอะว่าเด็กที่นั่น (หรือแม้แต่ที่ กทม) เด็กปอห้าปอหกมีนมมีเอวเป็นสาวแล้วหลายคนเลยล่ะ

น้องคนนั้นบ้านจนมากๆๆครับ แต่ยายของเค้าก็อยากให้เรียน มีอยู่กันแค่สองคนยายหลาน เด็กเองก็อยากเรียน หัวดีด้วย แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเรียนพิเศษ ผมกับแม่ก็เลยยินดีให้ผ่อนจ่ายได้เรื่อยๆ ซึ่งสิ่งที่น่าตกใจคือ เด็กคนนี้จำเป็นต้องหาเงินมาจ่ายค่าเรียนเอง โดยการเก็บเห็ดไปขายที่ตลาด (ทำมาตั้งแต่ประถมต้นๆๆ) เก็บผักเก็บหญ้าไปขาย แล้วก็ทำงานที่ตลาดไปจิปาถะ รวบรวมเงิน เก็บเงินด้วยตัวเอง เพราะยายจ่ายให้ได้แค่ค่าเทอมที่โรงเรียน ค่าใช้จ่ายในบ้านเท่านั้น อะไรนอกเหนือจากนั้น เด็กคนนี้ต้องจ่ายเองเกือบหมดทุกอย่าง

คราวนี้มีอยู่วันนึง เด็กคนอื่นๆก็นั่งดูทีวีดูเอ็มวีเกาหลีกันอยู่ แต่น้องคนนี้ไม่รู้จัก และไม่สนใจด้วย เพื่อนๆก็แซว และมีคนนึงแซวแรงมาก ประมาณว่า "บ้านไม่มีอินเตอร์เน็ตรึไง ถึงไม่รู้จักคนนั้นคนนี้" (ตอนนั้นผมอยากจะเถียงกลับว่ากูมีทุกอย่างกูยังไม่รู้จักเลย สาดดดด)

น้องคนนี้เค้าก็ตอบว่า "เราไม่มี"

เพื่อนบางคนก็ตกใจ บางคนก็โห่ ก็แซว และมีคนนึงพูดว่า "ทำไมไม่ไปเล่นที่ร้าน"

น้องเค้าตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะแหะๆตามประสาเด็กซื่อๆว่า "เราไม่มีเงินไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอก เราต้องช่วยยายทำงาน เราสงสารยาย ทีวีเรายังไม่ค่อยได้ดูเลย"

เท่านั้นล่ะครับ ผมลุกขึ้นยืนแล้วพูดประโยคที่คิดไว้ในใจทันที "เออนี่พวกมึง ขนาดกูมีทุกอย่างครบทั้งเน็ตทั้งทีวี กูยังไม่รู้จักเลย มีปัญหาอะไรกะกูมั๊ย" (ขออภัย เวลาสอนเด็กคุยกะเด็ก 50% ใช้ มึงกู ครับ 55555 เถื่อนได้ใจ)

แล้วหลังจากนั้น ผมก็ได้คุยกับน้องเค้าหลายๆอย่าง ทำให้เห็นและรู้เลยครับว่า เด็กคนนี้โตไวกว่าคนอื่นจริงๆ ถึงร่างกายอาจจะไม่ใช่ แต่ความคิดนั้นเป็นเลิศ เค้าเคยบอกผมด้วยว่า เค้าอยากจะเรียนดีๆ จบไวๆ อยากเรียนต่อมหาลัยในกรุงเทพ แล้วจะพายายไปอยู่ด้วย ทั้งๆที่เด็กมอปลาย "ทุกคน" ที่ผมสอนมา ยังไม่มีความคิดที่จะไปสอบและเรียนต่อใช้ชีวิตในกรุงเทพเลยครับ จริงๆๆนะ แต่นี่เด็กมอหนึ่งกลับคิดถึงขนาดนี้แล้ว และมีเหตุผลรองรับเยอะมากๆด้วยเหมือนกัน ซ้ำยังเป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่เหตุผลวาดวิมานบนอากาศแบบเด็กๆอีกด้วย

น่าเสียดายที่น้องเค้าเรียนกับผมได้แค่ประมาณครึ่งเทอมเท่านั้นเอง เพราะว่าเค้าไม่สามารถหาเงินมาเรียนต่อได้จริงๆ ซึ่งผมก็บอกแม่แล้วว่าให้บอกเค้าให้เรียนไปเถอะ วิชาผมอย่างเดียวก็ได้ ผมอยากสอน แต่น้องเค้าต้องเอาเวลาไปทำงานเก็บเงินด้วยน่ะครับ เลยต้องหยุดไป น่าเสียดายและน่าสงสารมากๆๆ

ผมเจอเคสอะไรประมาณนี้เยอะมากครับ รวมทั้งพวกลูกๆที่พ่อแม่มีทุกอย่าง แต่กลับทำตัวเหลวไหล ขี้เกียจ เอาแต่ใจ แบบนี้ก็มีไม่น้อย ทั้งๆที่จังหวัดที่ผมสอนไม่ใช่ "บ้านนอก" นอกเมือง แต่อยู่ในตัวเมืองเลยนะครับ ยังมีความแตกต่างมากถึงขนาดนี้

นี่คือหนึ่งที่มาที่ผมอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวนิยายเรื่องนี้ครับ ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่า ทุกคนใน รร นี้มาจากพื้นฐานครอบครัวที่ดีมีเงินทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีความสุข และไม่ใช่ทุกคนที่เป็นคนดี เงินทอง ไม่ใช่ตัวสร้างความสุขเสมอไป พื้นฐานของตัวละครทุกคนของผมจึงแตกต่างหลากหลายไป ทั้งคนที่ดูเว่อร์ราวกับละครหน่อย หรือคนที่ดูปกติทั่วๆไป แต่จากประสบการณ์จริงของผมด้วยส่วนหนึ่ง ผมเชื่อว่า ชีวิตคนเรา บางทีมันก็ไม่ได้ต่างจากนิยายหรือละครนักหรอกครับ จริงมั๊ย?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ขอตอบคุณ iiดาวพระศุกร์ii หน่อย

อันดับแรกเลยก็ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริงๆ โดยเฉพาะกับความพยายาม เกือบ 200 หน้าแล้ว 5555

เรื่องโจกับซัน ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นครับ แต่ถ้าดูดีๆ จะเห็นเลยว่าไม่ใช่ ผมกลับไปอ่านเรื่องเมฆกับซันอีกรอบ ผมกลับยิ่งรู้สึกเลยว่า ไม่ใช่จริงๆๆ สองคนนี้ โดยเฉพาะที่โจแม่งโคตรขี้งอนเลยด้วย 5555

ส่วนเรื่องความซับซ้อน ยอมรับครับว่าเป็นแบบนั้นจริง บางคนอาจจะมีงนิดหน่อย แต่นั่นแหละคือความแตกต่างที่ผมพยายามครับ ผมไม่ได้สลับมุมมอง A กับ b แบบทันทีตอนต่อตอน แต่จะเล่า A ให้ ยาวเกินไปหน่อย แล้วค่อยเล่า b ย้อนกลับมาในอดีตเล็กน้อย ในมุมมองของคนอื่น ดังนั้นบางทีอ่าน A แล้วอาจจะงงๆว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่อีกแป๊บบบเดียว ก็จะเจอ b ที่ย้อนกลับไปเล่าถึง A ในตอนนั้น จากนั้นก็กลับมาอ่าน A ตอนต่อไปต่อ เข้าใจครับว่าน่างงจริงๆ แต่ผมก็อยากจะลองอะไรใหม่ๆน่ะครับ แหะๆ

ไม่อย่างนั้น ตอนต่อไป ผมคงเล่า b ของคริสที่เป็นตอนต่อจากการที่พี่ของเค้าจะมาแล้ว ... แต่ยังครับ ยังไม่ถึงเวลา 5555 รออ่านเอไปอีกสักพักก่อนนะ

 :z1:


สำหรับเรื่องหนังสือ คนที่สนใจ ติดต่อหลังไมค์พี่ krappom เลยนะครับ (โบ้ยเลย 5555 ช่วยกันทำมาหากินนะเจ๊)  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2010 23:58:55 โดย ExecutioneR »

O_o

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่มีอ่าพี่ต้น จาไปมาบุญครองแล้วไม่ได้ไปซะที จะไปช่วงนี้ก็นะ...

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

สำหรับเรื่องหนังสือ คนที่สนใจ ติดต่อหลังไมค์พี่ krappom เลยนะครับ (โบ้ยเลย 5555 ช่วยกันทำมาหากินนะเจ๊)  :laugh:

:z6:

ลป.เรื่องน้องคนนั้นน่าเห็นใจเนอะ แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะตัวเองยังจะเอาไม่รอด  :z3:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
จริงๆมีอีกหลายเคสเลย เจ๊ ก่อนนี้แถวบ้านมีก่อสร้าง ป้าคนงานเค้าก็เดินมาถามเรื่องค่าสอน เค้าอยากให้ลูกเค้าเรียน มอปลายแล้ว เด็กเรียนดีด้วย แต่ไม่มีตังค์ น่าสงสารมากกก ทั้งๆที่วิชาละพันต่อเทอมนี่ถูกมากๆๆแล้วนะ

อีกอันนึงก็ น้องสองคน พี่น้องกัน หน้าตาดีเลยล่ะ แต่พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุตายทั้งคู่ เลยต้องไปอาศัยอยู่กับลุงหรือป้าไรงี้แหละ ซึ่งเค้าก็มีลูกสามคนแล้ว เลยเป็นเหมือนส่วนเกินครอบครัวเค้าอะ (อันนี้ยายเค้ามาเล่าแล้วมาฝากไว้ให้ช่วยดูแล) น่าสงสารอีกกก

เฮ้อออ ชีวิตคนเรา  :o12:





ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ยังไม่มีอ่าพี่ต้น จาไปมาบุญครองแล้วไม่ได้ไปซะที จะไปช่วงนี้ก็นะ...


มีส่งถึงบ้านครับ และเห็นว่ามีที่เดอะมองามด้วยป่ะเจ๊ รึไง ไม่รู้เรื่องเลย 5555

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
น่าสงสารเด็กที่คุณต้นเล่าให้ฟังจัง :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
น่าสงสารเด็กที่คุณต้นเล่าให้ฟังจัง :เฮ้อ:

น่าเอาไปแต่งนิยายมั๊ยครับพี่ แบบว่า ความรักของเด็กผู้ชายจนๆแต่เรียนดี กับครูสอนพิเศษจนๆแต่หน้าตาดี ไรงี้ เอิ๊กๆ

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
น่าสงสารเด็กที่คุณต้นเล่าให้ฟังจัง :เฮ้อ:

น่าเอาไปแต่งนิยายมั๊ยครับพี่ แบบว่า ความรักของเด็กผู้ชายจนๆแต่เรียนดี กับครูสอนพิเศษจนๆแต่หน้าตาดี ไรงี้ เอิ๊กๆ

อ้วกค่ะ


ยังไม่มีอ่าพี่ต้น จาไปมาบุญครองแล้วไม่ได้ไปซะที จะไปช่วงนี้ก็นะ...


มีส่งถึงบ้านครับ และเห็นว่ามีที่เดอะมองามด้วยป่ะเจ๊ รึไง ไม่รู้เรื่องเลย 5555

มีส่งถึงบ้าน (ถ้าไปเอาหนังสือที่ร้านได้นะ เพราะหนังสืออยู่ที่ร้าน 555)
ส่วนที่เดอะมอลงามฯ ยังไม่ได้เอาไปลงนะ


anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่มีเหมือนกัน แต่ส่งPMไปแล้วเมื่อกี้นี้


ส่วนเรื่องของเด็กน้อย......เรายังคงเชื่อในพลังของความคิดและการกระทำค่ะ
เด็กเขาคิดได้ขนาดนี้ทำได้ขนาดนี้ ทั้งที่อายุยังน้อย เด็กคนนี้แข็งแกร่งค่ะ ^^

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
เขียนเยอะจะโดนด่ามั้ยเนี่ยว่าทำไมไม่ไปคุยห้องพูดคุย
แต่ก้อนะ...

ที่เขียนเรื่องโจและนิสัยเด็กมอสาม
จริงๆ ละเว้นไว้กรณีนึงก้อคือแบบที่พี่ต้นเล่าหน่ะแหละ
เพราะว่าประสบการณ์มันก็สอนคนให้ต่างกัน
เชื่อว่าเด๋วเล่าไปเรื่อยๆ โจต้องมีอะไรแน่ๆ
คือชีวิตโจดูเหมือนว่าจะต้องผ่านอะไรมาไม่น้อย
อย่างน้อยก็มรสุมทางบ้านหล่ะ อย่างที่รู้ๆ กัน
ดังนั้นก็ไม่แปลกที่โจจะดูคิดแบบเด็กโตกว่า

ส่วนเด็กคนอื่นๆ ก็ถ่ายทอกความเป็น "เด็กมอสาม" ออกมาได้อย่างดีครับ
เหมือนจะเคยเม้นท์ไปแล้วว่าเรื่องนี้การกระทำของแต่ละคนดู "เด็ก"
แต่ก็นะ ก็มันมอสาม มันคงไม่ได้คิดแบบเด็กมหาลัย 5555

ปอลอ ยังคิดเหมือนพี่ดาวเรื่องนึงคือ...
มีปมเยอะมากกกกกกกกกกกกกก
ถ้าไม่ความจำดี หรือว่ารักกันจริง
คงอ่านแล้วงงแน่ๆ ว่าเรื่องมันไปถึงไหนแล้ว
หรือว่าอ่านแล้วจะพบว่า "เออหว่ะ คนแต่งยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กูเลยนี่หว่า"
อะไรแบบนี้
แต่ผมรักกันจริงนะ 5555 จำได้คับ

อีกเรื่อง
นั่นมันหนังสือพี่ต้นนี่หว่าาาาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2010 00:12:06 โดย F[i]sH[O] »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด