อ่านรวดเดียว ต้องขอบคุณพี่เอด้วยนะครับที่ถ่ายทอดประสบการณ์ของพี่ออกมา
อ่านแล้วมันจุกอกเลย คือ เข้าใจเลยว่าความรู้สึกของพี่เป็นยังไง เพราะของผมเองก็จะคล้าย ๆ กับของพี่
แอบชอบคน ๆ หนึ่งที่เรียนในห้องเดียวกันตั้งแต่ ม.ต้น เขาเองก็(น่าจะ)รู้ว่าผมเองคิดยังไงกับเขา
แต่ผมดันเป็นโรคขี้อายกับขี้เกรงใจ ไม่อยากจะเข้าไปคุยกับเขามากเท่าไหร่ เน้นให้ของ กับส่งข้อความหวาน ๆ ไปหาเขาอยู่ทุกคืนในช่วงหนึ่ง แต่ก็จะเป็นโรคคิดไปเองอีกว่า ทำไมเขาถึงไม่อยากจะคุยกับเราบ้างเลยหรือไง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่คิดว่าแค่อยู่ใกล้แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้คุยหรือสนิทอะไรก็ตาม
พอ ม.ปลาย ก็มีสอบเข้าห้อง ๆ หนึ่ง ปรากฎว่าทั้งผมและเขาก็มีรายชื่ออยู่ห้องเดียวกัน ในใจก็ไม่อยากอยู่เท่าไหร่ เพราะเพื่อนไม่ได้ติดห้องนี้ด้วย แต่ก็เดินไปถามเขาคนนี้ว่าจะอยู่ห้องนี้ไหม ในใจคิดว่าถ้าเขาอยู่ผมก็จะอยู่ เมื่อเขาตอบว่าอยู่ ก็ไม่ลังเลเลยว่าจะอยู่ด้วย แต่พอได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ก็เป็นโรคเดิมคือ ขี้อาย ขี้เกรงใจ และขี้คิดไปเอง ยิ่งทำให้คุยกันน้อยมาก แต่ความรู้สึกในใจอ่ะมันไม่เคยลดลงเลย อยากถามอยากชวนคุยอยากอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา พอเขามีแฟน ก็เริ่มถึงเวลาที่จะตัดใจได้และ แต่ก็ทำไม่ได้
ช่วงใกล้จบ มีอยู่ครั้งหนึ่งกำลังนอยด์แล้วคิดไปเองในเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ พอเขาเข้ามาเหยียบหูฟัง ก็ดันนอยด์ใส่เขาเลย ไม่อยากคุยกับเขา เขียนคำพูดลงในกระดาษแล้วส่งไป และก็บอกไปว่าจะไม่พูดกับเขาไปอีก (คิดไปเองได้ไงก็ไม่รู้ มาถึงตอนนี้ก็ยังเสียใจกับการกระทำแบบนั้นอยู่) และช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่ได้พูดเลย มีถ่ายรูปรวมในห้อง ก็อาสาเป็นตากล้องให้ ในเฟรมเขาก็กระดุกกระดิกไปมา ก็เหวี่ยงใส่ไปอีกว่า จะถ่ายรูปไหม เขาก็ถ่ายในที่สุด นั่นก็เป็นอีกครั้งที่ปากเสียมาก ดันมามีทิฐิอะไรก็ไม่รู้บ้าบออีก ไม่น่าพูดแบบนั้นไปเลย จนสุดท้ายวันที่จบมีรับใบจบเหมือนของมหาวิทยาลัย นั่งติดกันเลย แต่ไม่ได้หันไปพูดหรืออะไรเลย มันจุกอกมาก อยากจะขอโทษก็ไม่ได้ขอโทษ
พอจบมาได้ซักสองปี ก็ไปกินหมูกระทะกับเพื่อนเก่าในห้อง ก็เจอเขาแต่ก็ดันเลือกที่จะทำเมินใส่เขา ไม่อยากคุยกับเขา อยากตบหน้าตัวเองมากที่ไม่เคยมีความกล้าที่จะเข้าไปคุยหรือไปขอโทษเขาเลย สุดท้ายคิดไปเองอีกว่า เขาคงไม่อยากจะเป็นเพื่อนแล้วมั้ง (บ้าไปแล้ว
) เพราะเรามีเฟซบุ๊กห้องกัน มีเพื่อนในห้องหมดทุกคน แต่ผมเองไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขา ผมเองก็เฮฮากลบเกลื่อนแต่ในใจก็คิดมันจบแล้ว จบแบบตัวเองทำตัวเอง ถ้าอยากหยุดเวลาได้ คงอยากหยุดเวลาไว้แค่ ม.ต้น ม.ปลายไม่น่าจะเลือกเข้ามาเรียนห้องเดียวกับเขาเลย มันเฟลสุด ๆ
เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฝันถึงใครคนหนึ่งในช่วงเรียน ม.ต้น เป็นฝันที่จำหน้าใครไม่ได้เลย แต่เรารู้สึกดีมาก ดีสุด ๆ กับคนคนหนึ่ง ไม่อยากจะจากไปไหน อยากจะคุย อยากจะอยู่ใกล้ ๆ ไปอย่างนี้ตลอด ถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนรัก เพราะเขาเองก็ชอบผู้หญิง แต่ก็อยากเป็นเพื่อนแบบนี้ไปตลอด มันเป็นภาพมาฉายซ้ำ ไม่รู้ว่าอินจากการในอ่านเล้าเป็ดหรือเปล่า แต่มันก็ทำให้ย้อนได้ว่า เคยมีความรู้สึกที่แบบนั้นจริง แต่ก็มาเสียใจกับการกระทำของตัวเองที่มันคงเป็นแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว ทุกวันนี้ก็ไม่กล้าที่จะแอดเป็นเพื่อนเขาในเฟซบุ๊ก ได้แต่ส่องไปเรื่อย ๆ เมื่อปลายเดือนที่แล้ววันเกิดเขา เพิ่งจะเริ่มกล้าไปอวยพรวันเกิดเขาในทวิตเตอร์ซึ่งเขาไม่ได้เล่นแล้ แต่ก็อยากบอก ไม่กล้าบอกในเฟซบุ๊กซึ่งเป็นที่ที่เขาเล่นบ่อยซะอีก เฮ้ออออออออออ ไม่น่ามีทิฐิเลย
ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่เอจะเป็นอย่างไรบ้าง แอบจิ้นคู่พี่กับพี่พัดตลอดเลยนะครับที่ได้อ่านเรื่่องนี้ 55555
ปล. ตอนหลังจากที่มาต่อตอนพิเศษ พี่เอบอกเองว่าพี่เอได้มาอยู่กับพี่พัดอีกครั้งในฐานะรูมเมทอีกรอบ (
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=827.msg78834#msg78834)
แต่พอสิ้นปีนั้น พี่เอกลับงงว่ารู้ได้ไงว่าอยู่ด้วยกัน อันนี้ฮาเลย ไม่รู้ว่าพี่เอจะยังเล่นมุกอยู่หรือเปล่า 5555
(
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=827.msg124619#msg124619)