+++ สะดุดรัก ไอ้คิ้วเข้ม +++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: +++ สะดุดรัก ไอ้คิ้วเข้ม +++  (อ่าน 518680 ครั้ง)

ออฟไลน์ watermoonj

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-1
น้องนะห์หายไปไหนน๊อ ยังรออ่านอยู่นะจ๊ะ 

คิดถึง 

HadsaNah

  • บุคคลทั่วไป
กราบขอโทษทุกยูสเซอร์เลยนะคับ ที่ติดตามอ่าน

กว่าจะได้เข้าบอต ก็ปาไป หลายเดือน

เรื่องราว ผ่านไปเยอะมากๆ

ที่ยังเขียนต่อไม่ได้

เพราะเหตุผลบางประการ

เอาเป็นว่า ดีขึ้น แล้วจะ ต่อ นะครับ

มิส ๆ ทุกคนเวยนะคับ

ออฟไลน์ iGiG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ดีใจที่มาบอกข่าวคราว นานแค่ไหนก็จะรอค่า ^^

สู้ๆนะคะกับทุกเรื่อง เรื่องดีๆรอเราอยู่ข้างหน้าเสมอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะห์นะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2009 05:45:53 โดย iGiG »

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
Re:
«ตอบ #2073 เมื่อ19-05-2009 05:49:31 »

เกิดอะไรขึ้นกับน้องนะห์ครับ
สู้ๆนะครับ 
คิดถึงและเป็นห่วงเสมอ
เหนื่อยก็พัก
หายเหนื่อยก็สู้ต่อครับ
ชีวิตไม่สิ้นหวังครับ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
พร้อมเมื่อไหร่ กลับมาลุยต่อนะครับ

เป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ  :กอด1:

pay-it-forward

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เป็นไรจ้า
ดีขึ้นเมื่อไรค่อยมาต่อแล้วกัน
หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีนะ

เป็นกำลังใจให้นะจ้ะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
สบายใจเมื่อไหร่ค่อยมาต่อก็ได้ค่ะ ยังไงก็ยังรออยู่ค่ะ :L1:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
เอาเป้นว่า มิส เช่นกัน หายไวๆนะ  :L1:

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
พักผ่อนให้สบายกายและใจ พร้อมแล้วค่อยกลับมาต่อ
เป็นห่วงนะคนดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






CrazyBoY

  • บุคคลทั่วไป
หนุกๆ หุหุ ^ ^
อ่านไปร้องให้นิดหน่อย
แต่เรื่องแบบนี้ บอกตามตรง ได้ใจมากกกกกกก
อิอิ^ ^
ขอติดตามด้วยคนนึงนะคร๊าบบบบบบบบ


N

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
จ้า

กำลังใจดี เมื่อไหร่

ก็อกลับมานะ

พวกพี่ๆ น้องๆทุกคนยังรออยู่

และเป็นกำลังใจให้ด้วย

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

 . . .เฮ้ อ  ออ  ให้กำลังใจ คุณนะห์นะคะ  .. . กลับมาก็ยินดีต้อนรับ(แหม กล้านะ ไม่ได้เข้ามาเท่าๆ กะจขกท.เลย)

. . . :กอด1:... .

HadsaNah

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 58 ปฐมบทของจุดจบ
สายลมอุ่นๆ ของยามเย็น พัดกระทบที่ใบหน้าผม ซึ่งตอนนี้กำลังมองใครบางคนซ้อมบาสอยู่ในสนาม

กี่ครั้งกันแล้วนะที่เรานั่งอยู่ตรงนี้ และมองออกไปยังสนามบาส ที่ตอนนี้มีกลุ่มคนกำลังซ้อมเพื่อรับมือการแข่งขันคัดตัวนักกีฬามหาลัย

"ทำไมถึงมองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อนะ คิ้วคู่นี้" ผมรำพึงรำพันกับตัวเอง

หลังจากที่ผมพูดยังไม่ทันจบประโยคดี เจ้าของคิ้วคู่ที่ผมมอง วิ่งตรงเข้ามาหาผม พร้อมกับอาการที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของในตัวของผม

"ลูกลิง เค้าหิวน้ำ" คำพูดของเวย์บ่งบอกถึงการเป็นมากกว่าเพื่อนตอนนี้เริ่มแสดงออกมามากขึ้นๆ แล้ว

หลังจากจบเสียงทุ้มต่ำของแฟนผม ก็มีเสียงโห่ ร้อง แซว กันเป็นการใหญ่ ด้วยกองคราวานเพื่อนๆ ที่ซ้อมด้วยกัน

ผมยื่นขวดน้ำดื่มที่ตั้งอยู่ด้านข้างตัวผมให้กับเวย์ เวย์รับน้ำดื่มโดยการจับมือผมไปด้วย พร้อมทั้งยิ้มเล็กๆ น่ารักๆ กวนๆ ในแบบฉบับที่เป็นตัวมัน ก่อนที่จะเดินออกไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ของมัน แต่ก็ยังมีเสียงแซวมาเป็นระยะๆ

นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมอาจจะเขินไปแล้วหละ แต่ตอนนี้ผมคงไม่แล้ว จะว่าก็ว่าไป ตอนนี้ก็ผ่านมาได้เกือบเดือนแล้วซินะ นับตั้งแต่เหตุการณ์คราวนั้น

วันที่พี่ซีจับตัวผมไปแล้วเอาไปขังในบ้าน ซึ่งประจวบเหมาะกับเวย์ไปบอกเลิกกับบี ซึ่งเป็นน้องของพี่ซี ผมยังแอบอดขำไม่ได้กับทฤษฏีโลกกลมอันนี้ ถ้ามันไม่เกิดขึ้นกับผม ผมคงไม่มีวันเชื่อมันเป็นแน่ อะไรจะบังเอินขนาดนั้นกันเนอะ

แต่ก็แปลกในหลายๆ เรื่อง ที่ทำไมพวกพี่ๆ เขาถึงเลิกตาม และหยุดไปเลยแบบนี้ ไหนจะบีอีกเห็นเวย์เล่าว่าตัวบีเองก็เหมือนจะไม่ยอมนี่นา แต่แล้วทำไมอะไร ๆ มันถึงได้ง่ายขนาดนี้ หลังจากวันนั้น พวกพี่ๆ ก็เหมือนๆ จะหายไป ตัวผมเองไม่ทราบถึงสาเหตุนี้หรอก เอาเป็นว่ามันเป็นผลดีกับตัวผมเองก็แล้วกัน ดีสำหรับผมและเวย์ เพราะมันทำให้เราสองคนได้ไกล้ชิดกันมากขึ้น ผูกพันกันมากขึ้น และแสดงฐานะกันได้มากขึ้น จนกระทั่งตอนนี้ถึงแม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่รู้ แต่แค่นี้มันก็เพิ่มพูนความสุขทางใจผมได้มากมายแล้วหละ

ผมรักเวย์ แล้วก็รักมันมากๆ ถึงแม้จะเป็นเวลาแค่ไม่นานที่ผมกับมันได้คบกัน เราสองคนผ่านอะไรหลายๆ อย่างมามากมาย เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น ผมต้องขอบคุณเวย์ ที่เข้ามาในชีวิตของผม มันทำให้ผมได้เรียนรู้ถึงความรัก ว่ามันคืออะไร แค่ช่วงเวลาสั้นๆ แค่นี้มันก็ทำให้ผมรักมันได้มากมาย มากซะจนคนๆ นึงจะรักใครได้  ตัวผมยังคงคิดย้อนกลับไปกลับมา ขณะเดียวกันที่ตอนนี้สนามบาสก็เริ่มเอะอะขึ้นอีกครั้ง เพราะว่าการซ้อมได้ดำเนินต่อแล้ว

อาทิตย์นึงแล้วซิที่ผมมารอเวย์ซ้อมบาส แล้วกลับบ้านพร้อมกัน ผมเริ่มเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเวย์มากขึ้นเรื่อยๆ เรานอนด้วยกันทุกวัน จนแทบจะไม่มีเวลาไหนเลยที่เราจะแยกกัน ความผูกพันก่อตัวขึ้นจากเวลาอันสั้นๆ เหล่านี้ พร้อมกับความรักที่เพิ่มพูนทวีตามขึ้นเป็นเงาตามตัว

แต่สิ่งที่ผมยังแปลกใจแบบไม่เคยหาข้อสงสัยได้เลยสักครั้งที่คิดถึง คือเรื่องของพวกพี่ๆ ทั้งหลายที่มันกลับเงียบหายไปเลย เหมือนมันไม่เคยมีมาเลยด้วยซ้ำ พวกเขาแทบจะหายเข้ากลีบเมฆไปเลย นับตั้งแต่วันนั้นผมก็ยังไม่ได้คุยกับพี่ใหญ่เลย จริงๆ ลึกๆ แล้วเป็นห่วง อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างตั้งแต่ตอนนั้น ผมลองมาคิดย้อนๆ กลับไป พี่ใหญ่รักผมมากเหลือเกิน แค่ตอนที่เขาไปช่วยผมที่บ้านพี่ซี แค่นี้ผมก็อภัยให้เขาในทุกๆ อย่างที่เขาเคยกระทำกับผมเลยทีเดียว แล้วไหนจะพี่คนอื่นๆ อีกหล่ะ ก็หายกันไปหมด บางทีผมยังแอบกลัวๆ เลยว่าที่หายๆ กันไปเนื่ย พี่ซีแอบมีแผนการอะไรอีกหรือเปล่า ช่วงอาทิตย์แรก ผมเกือบๆ จะกลายเป็นคนจิตตกเลยด้วยซ้ำ กลัวไปทุกขณะ กลับไปทุกที่ทุกเวลา แต่ก็ได้เวย์คอยปลอบและดูแลอยู่ตลอด ผมถึงได้แข็งแรงขึ้นตอนนี้ แล้วครั้งนี้ก็จะเหมือนๆ กับทุกครั้ง ผมก็ยังคงหาคำตอบของการหายไปของพวกพี่ๆ ไม่ได้อยู่ดี แต่ช่างเหอะ พวกเขาก็โตๆ กันแล้ว คงไม่เป็นอะไรหรอก

ตอนนี้ผมอาจจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไปและ ผมคิดแต่ความสุขของผม หรือว่าช่วงนี้เป็นช่วงตักตวงสำหรับผมก็ไม่รู้ ผมหวงแหนช่วงเวลาในตอนนี้มากๆ เพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ผมไม่เคยได้พบเจอหรือสัมผัสมันได้เลย ผมเลยไม่อยากคิดถึงใคร เอาแค่ตัวผมมีความสุข และไม่มีใครเดือดร้อนจากการกระทำของผมก็พอแล้ว

ผมรู้สึกเมื่อยหลังจัง สงสัยจะนั่งนานเกินไปหน่อย ก็บนสแตนด์ที่ผมนั่ง มันเป็นแค่แผ่นไม้ที่ไม่มีความนิ่มเอาซะเลย ผมเลยรู้สึกปวดๆ หลังนิดหน่อยมั้ง ผมเอียงตัวตามแนวความยาวของแสตนด์พร้อมกับค่อยๆ ปล่อยตัวเอนกายนอนลงไป

ท้องฟ้ายามเย็นในตอนนี้ มันเป็นสีส้ม ก้อนเมฆที่ลอยประปรายยิ่งทำให้ท้องฟ้าในตอนนี้ดูสวยขึ้นมาก แต่แสงสีส้มที่เราเห็นว่าสวยงาม มันแฝงไปด้วยความอบอุ่น เย็นสบาย แต่หากมองในอารมณ์ที่ต่างกัน แสงสีส้มที่สวยงามนี้จะเป็นแสงที่ทำให้เราเปล่าเปลี่ยว หดหู่ และเหงาอย่างมากมายในเวลาเดียวกัน

ผมเอื้อมมือซ้ายไปสุดแขนเผื่อว่าผมจะจับก้อนเมฆได้สักก้อน

"เหอะๆ" ผมหัวเราะกับตัวเองเบาๆ ที่ทำแบบเมื่อกี้ลงไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมจ้องไปที่มือซ้ายของผมก่อนที่จะยิ้มและรู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าแดง ผมเขินก็เพราะว่ามือซ้ายของผมตอนนี้มันแสดงให้ผมรู้ว่าผมถูกตีตราจองไปซะแล้ว ด้วยแหวนสแตนเลสวงหนึ่งที่นิ้วนาวข้างซ้าย

หลังจากวันที่ผมไปนอนบ้านเวย์ เวย์ก็เริ่มแสดงฐานะและจุดยืนของผมให้เพื่อนๆ ในกลุ่มเล็กๆ ของมันรับรู้ และเริ่มแสดงความรักและท่าทีมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่ใช่ในฐานะแฟนในทุกๆ ที่ แต่เพียงแค่นี้ผมก็มีความสุขมากแล้ว

วันนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันที่เวย์จะซ้อมหนักมากๆ เพราะว่าจะมีแข่งคัดตัวในวันพุธ ซึ่งวันเสาร์จะเป็นวันที่ซ้อมหนักที่สุด และอีกสามวันที่เหลือจะเป็นเพียงแค่ซ้อมเพื่อให้อยู่ตัวเท่านั้น เพื่อเลี่ยงการบาดเจ็บ

แสงยามเย็นเริ่มหมดไป พร้อมกับแสงสว่างจากแสงไฟสปอต์ไลท์ในสนามที่แทรกเข้ามาแทนที่ วันนี้เวย์บอกว่าจะซ้อมยันห้าทุ่ม ผมคงต้องรอถึงตอนนั้นเลยหรอ? ผมยกนาฬิกาที่แขนขวาขึ้นมาดู ใกล้จะทุ่มและ ผมคง ต้องรอไปอีกเกือบสี่ชั่วโมง ผมค่อยๆ หลับตาลงพักสายตาซะหน่อยดีกว่า รู้สึกสบายจัง

ผมหลับตาได้ไม่ถึงนาที ก็ต้องตื่นขึ้นมา เพราะมีคนโทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของผม ผมหยิบออกจากกระเป๋าข้างกางเกงยีนส์เพื่อดูเบอร์

-- พี่ชาย  --

ผมกดรับทันที

"น้องอยู่ไหน" ปลายสายยิงคำถามเป็นคำแรกที่พูดคุยกันเลย

"อยู่หนามบาส มารอเวย์ซ้อมบาสจ้า" ผมตอบด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทนิดๆ

"แถวไหน เดี๋ยวพี่ไปรับ ลืมแล้วหรอวันนี้วันอะไร" พี่ชายผมพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจเล็กๆ

ซวยแล้วไงหล่ะ วันนี้วันเกิดพี่ชายผมนี่หว่า ลืมได้ยังไงเนี่ย มัวแต่คิดนั่นคิดนี่จนลืมไปเลย เรานี่มันเป็นน้องที่ใช้ไม่ได้จริงๆ เลย แย่มากๆ

แต่ถ้า... เราบอกไปว่าเราจำได้ แล้วไหนหล่ะของหวัญ ถ้าจำได้ก็ต้องมีของขวัญ
แต่ถ้า... เราบอกไปว่าเราจำไม่ได้ ก็น้อยใจอีก โอย..... เอาไง ดีๆ...

"วันอะไรอะจำไม่ได้.." ผมเลือกที่จะตอบแบบนี้ออกไป  เพราะผมคิดอะไรบางอย่างได้แล้วหน่ะสิ

ผมจะเซอไพรซ์ โดยบอกว่าจำไม่ได้ พี่ชายผมก็จะคิดว่าไม่มีของขวัญ แต่ผมจะเอาของขวัญไปให้      แฮะๆ... แผนการณ์ร้ายกาจถูกคิดขึ้นมาในสมองไม่ถึงสองวินาที

"ไม่เป็นไรจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร บอกมาว่าตรงไหน เดี๋ยวจะไปรับ ตอนนี้พี่อยู่รังสิต" พี่ชายผมทำเสียงน้อยใจก็เป็นด้วยวุ้ย น่ารักดีแฮะ

"มารับที่มอล์ปิแล้วกัน เดี๋ยวน้องออกไปรอที่นั่น มันใกล้ๆ กัน พี่จะได้ไม่งง เคป่ะ" ผมเสนอทางเลือกให้ เพราะผมจะไปซื้อของขวัญด้วยหนะสิ

"เคๆ เดี๋ยวพี่ถึงแล้วโทรหานะ" พี่ชายกรอกเสียงกลับมา

"จ๊ะ" ผมรับคำ พร้อมกับกดวางสาย และตะโกนเรียกเวย์

ผมบอกเวย์ถึงเรื่องเมื่อครู่ เวย์ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็ออกไปส่งไม่ได้ ผมเข้าใจว่าวันนี้เป็นวันสำคัญ เวย์ขาดไม่ได้ ซึ่งตอนนี้เราสองคนใช้เหตุผลที่จะคุยกันมากกว่า ความระแวง ความไม่ไว้ใจแทบจะไม่มีระหว่างเราสองคน ผมจึงนั่งแท๊กซี่ออกมา โดยที่ตกลงกับเวย์ให้เวย์กลับไปนอนบ้านวันนี้ และเวย์เลิกซ้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยโทรคุยกันอีกที

แท๊กซี่ทะยายมาด้วยความไว ผมคิดว่ายังไงซะพี่ชายผมกว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ก็เกือบๆ ชั่วโมงนั่นหล่ะ เพราะว่าจากรังสิต มาตรงนี้รถติดมากๆ ผมคงมีเวลาเหลือเฟือในการดูของขวัญที่คิดว่าพี่ชายผมน่าจะชอบมัน

ผมค่อยๆ เดินอย่างไม่รีบร้อน กวาดสายตาไปยังสินค้าที่ขายอยู่ที่จุดที่เดินผ่านไป ในหัวคิดแต่ว่าสมควรจะซื้ออะไร จนสุดท้ายผมมาหยุดตรงร้านขายเครืองประดับ

ผมได้เลทเงินสวยๆ หนึ่งเส้นไว้ใส่ให้พี่ชายผมแต่ก่อนที่ผมจะเดินออกมาจากร้าน ผมเหลือบไปเห็นจี้สแตนสเลสแบบเรียบๆ อันนึง ที่ดีไซด์เก๋มาก ผมรู้สึกชอบทันที่ที่เห็น ผมแทบไม่ต้องนึกทันทีว่าจะซื้อให้ใคร เพราะอันนี้ไง... คือสิ่งที่จะตรีตราจองเวย์ว่าเป็นของเฟย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2009 14:51:25 โดย HadsaNah »

HadsaNah

  • บุคคลทั่วไป
ผมสั่งให้เขาสลักอักษรลงไปสองตัวที่จี้อันนั้น   

-- FW --

นั่งรออยู่สิบนาที ผมก็ได้จี้ที่สลักที่ผมต้องการใส่มาในถุงซิลแบบถุงยา

F มาจากเฟย   W มาจากเวย์ แค่มองจี้ในถุงเล็กๆ นั่นผมก็ยิ้มแก้มแทบปริแล้ว เพราะไม่รู้ว่าถ้าให้เวย์ไปแล้ว เวย์จะทำหน้ายังไง แค่คิดก็มีความสุข

ผมเดินออกมาเพื่อที่จะไปรอพี่ชายที่ฝั่งตรงข้ามเดอะมอล์ เพราะจะได้ไม่ต้องกลับรถ ผมเดินเข้าไปในน้อมจิต เพื่อจะได้ลงมารอด้านล่าง ผมเดินผ่านร้านขายเกี่ยวกับหนังสือ และสมุดต่าง ๆ เครื่องเขียน

"ปุ๊ก" เสียงสมุดเล่มหนึ่งตกลงด้านหน้าผม ผมก้มลงไปมอง มันเป็นหนังสือสีแดงสด กำหมะหยี่ ปกแข็ง เป็นหนังสือโน๊ตเล็กๆ ขนาดเท่ากับอัลบั้มรูป ไม่มีอักษรอะไรเขียนไว้ทั้งนั้น มันดูเรียบง่ายมากๆ ผมหยิบขึ้นมาป้ายราคาถูกแปะไว้ว่า  -- SELL 35 -- ส่วนตัวผมรู้สึกว่าจริงๆ แล้วสมุดเล่มนี้ต้องราคาสูงกว่านี้ เพราะโดยรูปลักษณ์แล้วสมุดพวกนี้จะราคาค่อนข้างสูง และนี่สภาพก็ยังดีอยู่ แถมยังสวยอีกต่างหาก ผมยืนถือสมุดโน๊ตเล่มนี้ พิจารณาอยู่สักพัก สุดท้ายผมก็ซื้อมันมา ด้วยสาเหตุที่จริงๆ แล้วไม่รู้ว่าผมกลัวเสียดายหรือว่ามีเวลาคิดน้อยไปกันแน่ เพราะว่าตอนที่ผมกำลังคิดว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อนั้น พี่ชายก็บอกว่าถึงแล้ว ผมจึงตัดสินใจซื้อมาก่อน เพราะกลัวว่าหากไม่ซื้อแล้วจะเสียใจที่วันนั้นไม่ได้ซื้อมา ผมนี่คิดเยอะเกินไปหรือเปล่าเนอะ

ตลอดทางผมยังคงคิดทบทวนว่าผมซื้อสมุดโน๊ตเล่มนี้มาทำไม แล้วผมจะเอาไปทำอะไร ผมนั่งคิดไปคิดมาจนกระทั่งถึงบ้าน

ที่บ้านผมเลี้ยงฉลองกันเล็กๆ มีพี่สาวผม พี่ชายผม หม่าม้า และตัวผม เพียงแค่นี้ บ้านผมก็ดูอบอุ่นเหนือที่ไหนแล้วหละ หม่าม้าอบเค้กแบบที่แม่ถนัด พี่สาวให้ของขวัญพี่ชาย เป็นน้ำหอมกลิ่นที่พี่ชายผมชอบใช้ ผมก็เป็นคนใส่ของขวัญที่ผมให้พี่ชายผมด้วยมือผมเองเลย ส่วนแม่ก็ให้ของขวัญเหมือนกัน แต่แม่ให้ของขวัญที่แสนวิเศษกับพี่ชายผม และพวกผมด้วย คือแม่ดึงพวกเราเข้าไปกอด และบอกว่า หม่าม้าโชคดีจริงๆ ที่มีลูกแบบพวกหนู แต่ส่วนป่าป้าผม เขาไม่ค่อยได้สนใจกับงานพวกนี้เท่าไหร่ เขาหาว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุด้วยซ้ำ ผมรู้จริงๆ แล้วป่าป้าก็เป็นพวกฟอร์มจัดซะมากกว่า อายที่ต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้ ก็เลยเลี่ยงๆ ไปซะดีกว่า

เสร็จงานเลี้ยงปามาณ 4 ทุ่ม ผมหนีขึ้นห้องก่อน โดยปล่อยให้พี่สาวผมเป็นคนเก็บ โดนแอบบ่นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ถือสา

ผมเดินขึ้นมาถึงห้องวางสมุดโน๊ตสีแดงสดไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนที่จะหยิบจี้แสตนเลสออกมายืนมองพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข ผมยืนมองของสิ่งนี้นานเท่าไหร่ไม่ทราบ รู้แต่ว่าผมรู้สึกปวดกรามซะแล้ว ผมคงยิ้มมากเกินไปหน่อยแน่ๆ ผมนั่งลงตรงเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนที่จะเริ่มหยิบปากาสีมาเริ่มวาดลวดลายในสมุดโน๊ตสีแดงสดนี้ ผมข้ามหน้าปกไป เพราะไม่อยากให้มันดูเปื้อน และอยากให้มันคงสีที่สดแบบนี้ ผมเริ่มที่หน้าที่สอง ปากกาสีหลายสี ถูกแต่งแต้มลงไปอย่างต่อเนื่อง

                                                                                           
       -----------------------------------------                                           
      l                                                 l
      l    ทฤษฎีความรัก   by เฟย                      l
      l                                                 l                                                     
      l  ความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้    l
      l                                                 l                                                       
      l  แต่ถึงกระนั้น เราก็รู้ว่ามันมีอยู่จริง               l
      l                                                 l
      l  ใช้พลังชีวิตในการขับเคลื่อนตลอดเวลา      l     
      l                                                 l                                                 
      l  เป็นสิ่งที่มีพลังงานในตัวของมันเอง           l     
      l                                                 l
      l  เข้าใจยาก และมีพลังทำลายล้างสูง           l
      l                                                 l                                                       
      l  ไร้ทางแก้ไข และไร้ทางป้องกัน                 l
      l                                                 l
      l                                                l                                                           
      l-----------------------------------------l                                                                                       
ผมนั่งเขียนไปเรื่อยๆ จนเวย์โทรมา ผมเขียน ไปได้เกือบ ๆ ยี่สิบหน้าแล้วหละ ผมยังแปลกใจกับตัวเองที่เขียนออกมาได้อย่างไร มันก็รู้สึกแปลกๆ ดี เพียงแค่คิดถึงมันเพียงแค่นั้น มือก็ไปเอง โดยแทบจะไม่ต้องคิดอะไรเลย เวย์บอกว่าเลิกซ้อมบาสแล้ว  และให้ผมรอก่อน เดี๋ยวไปหาอะไรกินกับเพื่อนๆ แล้วเดี๋ยวกลับบ้านไปอาบน้ำ ก่อนนอนให้คุยกันอีกที

ในช่วงที่รอเวย์ถึงบ้าน ผมก็ไล่ๆ เขียนต่อไปเรื่อยๆ สรุปว่าก่อนเวย์โทรมาอีกครั้ง ผมเขียนหมดเล่มไปซะและ ผมเอาจี้ที่จะให้เวย์ใส่ไว้ในหน้าสุดท้ายก่อนที่จะปิดสมุดโน๊ตและวางไว้บนหัวเตียง ในคืนนี้ถ้าหากไม่มีสมุดโน๊ตนี่ กับจี้ ผมจะรู้สึกเหงาสักแค่ไหนกันนะ เพราะที่ผ่านมาผมมีมันอยู่ข้างกายตลอด แต่คืนนี้ผมหลับอย่างสบายๆ เพราะผมรู้สึกถึงความรู้สึกต่างๆ ที่ไหลท่วมท้นตอนที่ผมเขียนในสมุดโน๊ต

"ผมได้เจอแล้ว ความรัก" นี่คือคำสุดท้ายที่ผมคิดได้ก่อนที่จะหลับไป

HadsaNah

  • บุคคลทั่วไป
คลอดซะทีตอนใหม่

ติ ชม กัน ได้ น่ะ

รู้ สึก ว่า จะ เขียน แปลก ๆ ขึ้น อีก และ

ไม่ได้ เขียน นาน วิธี เขียน สง สัย อ่อนลง

มิส ๆ ทุก คน เสมอ คับ

ใกล้ จบ และ

จะ พยายาม มา โพส บ่อย ๆ

รอ ดู รี พาย ก่อน ว่า ขึ้น มั่ง ป่าว

หรือ คน ติด ตาม หาย หมด แว้ว

เศร้าจาย

Magnolia

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: น้องณะห์ ...........

ดีใจ นะจ๊ะที่เห็นมาต่อแล้ว

คิดถึงๆ ...

สงสัยว่าตัวเองฝีมือตกเหรอจ๊ะ  ...ม่ายนี่นา

แต่อาจมีอาการปากกาฝืด 555

เป็นกำลังใจ แล้วก็จะรออ่านนะจ๊ะ

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ดีใจจริง ๆ ที่ได้อ่านต่อ  :z2:

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
เราเคยอ่านจากที่ไหนซักที่ก้อไม่รู้บอกว่า รักแท้เหมือนกับผี ที่เราทุกคนรู้ว่ามีแต่ไม่เคยเห็น

ยินดีกับเฟยด้วยนะคะที่เป็นชนกลุ่มน้อยที่เคยเห็นผี เราขอให้เวย์กับเฟยใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขนะคะ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
อ่านตอนนี้ เหมือนเฟย์ ค้นพบกับสิ่งที่ตัวเองกำลังหา

มารอตอนต่อไปดีกว่า  รอนะครับ นะห์

ถึงหายไปนาน แต่ลีลา และสำนวนยังคมนะจะบอกให้ เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






jokirito

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:  ขอให้เฟยได้พบกับความสุขที่แท้จริงซะทีนะครับ

ละขอให้ความสุขนั้นอยู่กับเฟยไปนานๆ นานแสนนาน

อย่าให้เกิดอะไรขึ้นอีกเลย  เจ้าประคู้ณณณณณณณ :call:

แค่น้องนะห์กลับมาต่อพี่ก้ดีใจสุดๆๆๆๆๆๆๆๆแล้วครับ

+1 ดอก เป็นกำลังใจครับ

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
อ่ะนะ




ทฤษฎี  ความรักกกกกกกก



kaewpoo

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อแล้ว
^
^
^
คงเจอแล้วสินะความรักที่หาอยู่  :กอด1:

ออฟไลน์ watermoonj

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-1
ยินดีต้อนรับการกลับมา  :L2:
ชื่อตอนน่าใจหายมาก แต่ค่อยยังชั่วที่เนื้อเรื่องเป็นแนวค้นพบตัวเองมากกว่า

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
เฟยพบสิ่งที่ตามหาแล้ว
ตอนนี้สั้นไปนิดนะ แต่อ่านแล้วสบายใจจัง อิอิ

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
 :กอด1:..อ่านตอนนี้จบ ดูเหมือนว่ามันจะจบแบบ..มีความสุข..
..ยกเว้น...ชื่อตอน อย่างที่รู้รู้กันเนอะ..น้องนะห์..เป็นโสด
..คงจบไม่สวยเพราะพวกพี่ๆๆ ที่หายไปหรือเปล่าคงมี..เงื่อนงำ..อะไร
..คนอ่านไม่ได้หายไปไหนหลอก..คนเขียนต่างหากที่หาย
..เป็นอย่างไรบ้างสบายใจขี้นบ้างหรือยัง ยังไงน้องนะห์ก็สู้ๆๆนะ
..ถึงไม่สมหวังในความรัก แต่เราก็ต้องมีอนาคตที่ดีต่อไป
:กอด1:

HadsaNah

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 59 รัก...

ผมนั่งมองผู้ชาย ตัวโตที่ตอนนี้สภาพเกือบจะดูไม่ได้ ขอบตาคล้ำเพราะการอดนอน ผิวที่คล้ำหมองเพราะอาการจากการขาดน้ำ เพราะผ่านการเสพยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งร้องไห้อยู่ตรงด้านหน้าผม มันเป็นเอามากเลยเนี่ย มันเป็นได้ขนาดนี้เลยหรอ กับแค่ผู้ชายคนเดียวที่ตอนนี้คงไม่ได้รักมันแล้ว คงมองเห้นแค่ว่ามันเป็นพี่ชายเท่านั้น แต่ถ้าลองมาคิดๆ ดูแล้ว ตัวผมเองก็เกือบๆ จะต้องกลายเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ถ้าหากผมไม่คิดในทางอื่นไปซะก่อน

ผมเคยลองถามใจดูหลายครั้ง ว่าผมรักมันบ้างไหม ทุกคำตอบทุกเหตุผลมันบ่งบอกว่าผมรักมันแน่นอน แต่ผมเองต่างหากที่ผิด ความคิดของผมต่างหาก ความเห็นแก่ตัวและนิสัยส่วนตัวของผมเนี่ยหล่ะทำให้ต้องกลายเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้กลัวการรักใครหรอกนะ แต่สำหรับเฟย ผมรักมันจริงๆ แต่ผมก็พ่วงด้วยนิสัยและสันดานแย่ๆ ของผมเข้าไปด้วย ผมเริ่มจะรับไม่ได้ที่เฟยต้องเป็นของคนอื่นๆ ด้วย ผมอยากมีมันไว้ครอบครองเพียงคนเดียว ผมอยากได้มันแค่คนเดียว เพราะผมถูกเลี้ยงมาในแบบนี้นิ พ่อผมเป็นคนมีชื่อเสียงนิดหน่อย อยู่ในแวดวงไฮโซ ถูกตามใจมาแต่ไหนแต่ไร สิ่งที่ผมอยากได้ผมต้องได้ สิ่งที่ผมต้องการไม่ว่าสิ่งใดผมก็ต้องได้มันมาครอบครอง ต่อให้วิธีที่จะได้มันมาครอบครองนั้นจะอยู่ในกรอบหรือไม่ก็ตาม ผมสามารถทำได้อยู่แล้ว

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ผมเริ่มเปลี่ยนจากความรักกลายมาเป็นความต้องการในตัวของมันแทน ผมต้องย้ำกับตัวเองเสมอว่าผมไม่ได้รักมันแล้ว เพราะถ้าผมไม่ทำแบบนี้ผมก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรเลวๆ กับมันได้

ผมจึงเริ่มวางแผนบางอย่างขึ้นมา ผมสมควรจะทำยังไงเพื่อให้ได้มันมา แล้วสิ่งที่ผมคิดได้ก็คือ ผมจะทำให้มันกลายเป็นคนที่ไม่มีค่า เพราะถ้ากลายเป็นคนที่ไม่มีค่าแล้ว มันก็จะไม่ต้องการใคร  ผมจะทำให้มันเจ็บ เจ็บซะจนไม่กล้าที่จะไว้ใจใคร ผมจะทำให้ความรู้สึกต่างๆ จางหายไปจากตัวมัน เพื่อที่มันจะได้ไม่ต้องมีความรู้สึกสึกซึ้งอ่ะไรกับใคร ผมจะทำให้มันชินชาในทุกๆ เรื่อง  แล้วเมื่อถึงเวลานั้น ผมก็จะได้ครอบครองมันไว้เพียงคนเดียว แต่แล้วผมจะทำยังไงดีหล่ะ ที่จะทำให้เป็นแบบนั้นได้ ผมต้องยืมมือคนอื่นเข้ามาช่วยทำลายมัน

ตอนนี้ที่บ้านผมกำลังเจอปัญหาอย่างหนัก พ่อผมกลายเป็นไฮโซที่มีแต่ชื่อ มีแต่ภายนอกที่ดูดี แต่ข้างในกลวง หนี้สินมากมายที่พ่อทำไว้ตอนนี้กำลังเล่นงานทางบ้านเราอย่างมากมาย ส่วนตัวผมมีเงินเก็บอยู่พอประมาณ

หากผมจะหนีไปในตอนที่ผมทำลายมันเรียบร้อยแล้ว ผมคงอยู่กับมันไปได้ตลอด ส่วนแม่ผมซึ่งคิดว่าจะหาเงินแบบทางลัด ก็ข้ามไปชายแดนบ่อยมาก ซึ่งหารู้ไม่ว่าสิ่งที่แม่ทำนั้นยิ่งทำให้มันแย่ลง และเลวร้ายขึ้นไปอีก

แม่ผมเที่ยวไปขอยืมเงินจากคนอื่นๆ เพราะในตอนนี้บ้านผมเองก็ยังถูกจำนองไปแล้ว และคงจะใกล้ ๆ ยึดเร็วๆ นี้ พ่อหายไปเกือบจะครบปีและตอนนี้ มีแต่แม่ที่พยายามหาเงินในทางลัด จนตอนนี้แม่หมดตัว หมดทุกอย่าง เครื่องเพรช และสร้อยทองถูกขายจนหมด เพราะความคิดง่ายๆ ของแม่ที่คิดว่าจะหาเงินมาได้ง่ายๆ แต่ผมคงไม่กล้าด่าท่านหรอก เพราะลองมามองย้อนดูแล้ว ตัวผมเองก็คงไม่ต่างจากท่านนัก นิสัยเหมือนๆ กันหมด คิดอะไรง่ายๆ เกินไป คิดว่าทุกสิ่งที่อย่างจะได้มาง่ายๆ แต่น้องสาวผมกลับไม่รู้เรื่องพวกนี้ แม่กับผมคิดว่าจะปิดบีไม่ให้รู้ เพราะบีมีนิสัยที่เหมือนผมกับแม่นั่นหล่ะ แต่อาจจะรุณแรงกว่า ผมให้เหตุผลที่ไม่บอกให้น้องรู้เพราะว่า ผมกลัวว่าน้องสาวผมจะรับไม่ได้

และตอนนี้ผมก็สามารถเริ่มแผนการของผมได้ เพราะเพื่อนของผมเนี่ยหล่ะ ชิน กับ วุฒิ สองคนนี้ผมพึ่งรู้จักตอนเรียนมหาลัย แต่แม่ของผมกับแม่ของพวกเขาสองคนรู้จักกันดี ในฐานะภรรยาในวงการไฮโซที่แม่ผมปลาบปลึ้มนัก แม่ผมเคยยืมเงินจากแม่ของสองคนนี้มา และจนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ใช้คืน ชิน กับ วุฒิ ถูกใช้เป็นคนที่ติดตามทวงหนี้ โดยทวงมาผ่านทางผม ด้วยความที่สนิดกันนิดหน่อย ผมมองเห็นนิสัยลับๆ ที่อยู่ข้างในของสองคนนี้

ผมจึงจับเรื่องสองเรื่องมารวมกัน ผมยื่นข้อเสนอให้กับชินและวุฒิบางอย่าง เพื่อแลกกับการชะลอการคืนหนี้ของแม่ผมไปสักพัก ผมหาของบางอย่างมาล่อ และของสิ่งนั้นก็คือเฟย

ชินกับวุฒิ เป็นเสือไบ ผมรู้มาจากเด็กของผมคนหนึ่ง ซึ่งทำงานอยู่ที่บาร์โฮสเกย์ลับๆ แห่งหนึ่ง มันทุ่มเงินกับเด็กของผมคนนี้มาก ก็แหง๋หล่ะ เด็กของผมคนนี้คล้าย เฟยอย่างกับอะไรดี ผิวขาวเหลือง จัดฟัน ตัวเล็ก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความชำนาญเรื่องบนเตียง สองคนมันชอบที่จะเปลี่ยนความเร้าใจบนเตียงไปเรื่อยๆ มันไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ และไม่ชอบอารมณ์ที่จืดชืด ผมเอาเฟยเข้ามาล่ออย่างง่ายดาย เพียงแค่รูปเฟยในมือถือผม ไม่กี่สิบรูป กับประโยคบอกเล่า ที่แสดงถึงฝีมือที่ถูกฝึกปรือมาอย่างดี บวกกับความแข็งแรงที่สามารถรับได้ 6 คนในเวลาเดียวกัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทั้งสองคนหลุดเข้ามาเป็นเครื่องผมมือผมในทันที

ผมเริ่มแผนการณ์อย่างไม่รอช้า พาวุฒิและชินไปเจอกับเฟย หาโอกาสที่ให้พวกมันได้ทำเรื่องที่ผมคิดว่าพวกมันต้องทำแน่ๆ แต่แผนผมกลับพลาดไป จริงๆ แล้วเฟยต้องน่าจะไม่กล้าที่จะไว้ใจใครอีกเลยด้วยซ้ำ แล้วต้องเริ่มคิดมาก ต่อจากนั้นผมก็จะเริ่มสร้างความกดดันให้มากยิ่งขึ้น แต่มันกลับตาลปัดกันไปหมด เพราะไอ้นักบาสนั่นคนเดียว

แต่เฟยกลับไปหลงรักไอ้นักบาสนั่นหัวปักหัวปำ โดยต่อให้ผมพยายามสักเท่าไหร่ก็ ทำลายความรู้สึกของเฟยไม่ได้ แต่กลายเป็นว่า ตอนนี้ผมกลับกำลังเหยียบย่ำไม่ใช่แค่ความรู้สึกของผมเอง แต่เป็นคนที่อยู่รอบๆ ตัวผมด้วย

ถามว่าผมรักเพื่อนผมไหม? ผมรักพวกมัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมให้พวกมันมีเฟยได้นิ ผมต้องการครอบครองเพียงคนเดียว แต่ด้วยเพราะผมที่เป็นต้นเหตุ ทำให้เรื่องหลายๆ อย่ามันบานปลายมากขึ้น

เฟยทิ้งพวกผม เหมือนไม่แยแส สนใจใยดีด้วยซ้ำ แต่ละคนตอนนี้ก็โดนทิ้งกันทั้งนั้น ตัวผมเองก็คงไม่มีทางได้เฟยมาครอบครองแล้ว สภาพเพื่อนผมที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยด้วยซ้ำ มันดูอ่อนแอลงไปทันตา มันแทบจะไม่เหลือความแข็งแกร่งเลยด้วยซ้ำ เป็นเพราะผมเนี่ยหล่ะ ผมเป็นคนทำให้ต้องเป็นแบบนี้ แล้วคนอื่นๆ หล่ะตอนนี้จะเป็นยังไงกันบ้าง ผมไม่รู้ว่าเพื่อนผมอีกสี่คนจะรักเฟยขนาดไหน แต่ผมว่าก็คงเป็นบ้างหล่ะ แต่อาจจะไม่เท่ากับไอ้ใหญ่ ที่ตอนนี้นั่งร้องไห้อยู่ข้างหน้าผมเนี่ย

แล้วจากนี้ผมสมควรจะทำอย่างไรต่อ

ผมพยายามจะคิดหาทางออกต่อจากตรงนี้ แต่ก็ต้องหยุดคิด เพราะผมได้ยินเสียงทีวีจากชั้นล่าง ผมคิดว่าแม่ผมคงกลับมาแล้ว แต่ทำไมผมถึงไม่ด้ยินเสียงรถของน้องสาวผมที่แม่ยืมไปเลยนะ ผมลงไปดูท่านหน่อยดีกว่า

สภาพของแม่ผมตอนนี้กลายเป็นผู้ใหญ่กลางคน ธรรมดาๆ คนหนึ่ง เสื้อผ้าเรียบๆ ที่ไม่ได้เนี๊ยบตลอดเวลา ทรงผมที่ไม่ได้ทำเนื่องจากไม่ได้เข้าร้านมาหลายวัน ไม่มีเครื่องประดับที่ดูโอ่อ่าแสดงถึงฐานะ ท่าทางดูอึดโรยและเหนื่อยๆ กับดวงตาที่เศร้าและเป็นทุกข์ มันยิ่งทำให้ผมเจ็บในใจมากกว่าเดิม

"กลับมาตอนไหนครับแม่ ทำไมซีไม่ได้ยินเสียงรถเลย" ผมถามแม่ขณะที่ยังลงบรรไดอยู่

"ขายไปแล้ว" แม่ตอบผมทั้งๆ ที่ยังไม่ได้หันกลับมามอง

ผมรู้สึกตัวร้อนวูบ เพราะว่ารถที่แม่เอาไปขายนั้นมันเป็นของบี เพียงแต่มันเป็นชื่อของแม่ แม่ซื้อให้บีในวันเกิดเมื่อสองปีที่แล้ว เป็นรถเล็กตระกูลหรู ผมไม่กล้าจะคิดถ้าหากบีรู้จะเป็นยังไง แต่ผมคิดว่าแม่คงไม่มีทางเลือกจริงๆ จึงต้องทำแบบนี้ ใจจริงผมก็อยากจะเอาเงินเก็บของผมออกมาช่วยเหลือท่านนะ แต่มันเป็นเงินก้อนเดียวที่ยังเหลืออยู่ในบ้าน ยังไงซะ ปัญหาตรงนี้มันแก้ไม่ได้แล้ว ผมจะเก็บเงินก้อนนี้ไว้ เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายๆ จริงๆ กว่านี้

ไม่มีบทสนาระหว่าผมกับแม่อีก ผมเดินขึ้นห้องมาดูบีในห้องนอน บีร้องไห้อยู่บนที่นอน ผมไม่มีคำพูดที่จะไปปลอบ เพราะตัวผมเองก็ยังคิดอะไรไมได้เลย ได้แต่เดินเข้าไปจับมือไว้สักพัก ก่อนที่จะกลับไปที่ห้องผม ไอ้ใหญ่ ตอนนี้ก็หลับแล้วพร้อมกับน้ำตา เฮ้อ...ทำไมรอบๆ ตัวผมมีแต่คนน่าสงสารทั้งนั้นเลยนะ

"กรี้ด............................." เสียงกรี้ดดังยาว สั่นบ้าน เป็นเสียงของน้องสาวผมเอง เสียงนี้ดังมาจากชั้นล่าง

ผมรีบวิ่งออกไปดู มองจากระเบียงบ้านชั้นสองลงไป เห็นบีลงไปนั่งบนพื้นหินอ่อนกลางบ้าง เอามือสองมือปิดหู พร้อมกับส่ายหัวไปมา

"ไม่จริง ๆ ไม่ต้องไม่จริง แน่ๆ แม่โกหก แม่เอารถบีคืนมา" บียังคงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ และแฝงด้วยอารมณ์รับไม่ได้กับสิ่งที่ได้ฟังไปเมื่อครู่

ผมรู้ได้ทันทีว่า แม่คงบอกบีสำหรับเรื่องทั้งหมดแล้วแน่ๆ ผมหันไปด้านหลัง ไอ้ใหญ่ เดินเข้ามาตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนที่จะพยักหน้าให้ผมอีกครั้ง เพื่อรู้กันว่าเอาใจช่วย ใหญ่มันคงรู้ตัวหล่ะครับว่าเวลานี้ไม่สมควรอยู่ที่นี่ ตอนนี้คงจะเป็นปัญหาของครอบครัว มันควรจะกลับดีกว่าผมเดินลงไปพร้อมใหญ่ ใหญ่สวัสดีแม่ผมก่อนที่จะเดินออกประตูบ้านไป ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆ น้องสาวผม

"อย่าคิดมากเลย ของนอกกาย เดี๋ยวหาเอาใหม่นะหมวย" ผมพยายามปลอบน้องสาวผม พร้อมกับลูบหัวไปด้วย

แม่ผมเดินขึ้นห้องไปแล้ว โดยที่ไม่ได้พูดอะไร ผมยังคงนั่งอยู่กับน้องสาวตรงกลางบ้าน ไม่นาน น้องสาวผมก็ลุกขึ้นแล้วขึ้นห้องไป โดยไม่มีบทสนทนาใดๆ ระหว่างพวกเราสามคนเลย บ้านหลังใหญ่ตอนนี้มันช่างอ้างว้าง เหลือเกิน

วันต่อมาแม่ผมหายไปพร้อมกับเขียนจดหมายบอกผมว่า "ดูแลน้องสาวให้ดีๆ ผมเป็นพี่ต้องรักน้องสาวให้มากๆ แม่เสียใจที่เป็นแบบนี้ "

ผมคิดว่าแม่คงหนีไปอยู่กับพ่อมั้ง เอาเถอะเงินเก็บของผมที่เหลืออยู่ ก็พอที่จะทำให้ผมกับน้องสาวอยู่ได้หล่ะคับ อาจจะไม่สบายเหมือนทุกวันนี้ ไม่มีเหมือนทุกวันนี้ แต่ก็คงจะมีความสุขได้หละ หากน้องสาวผมปรับตัวได้

แสงแดดอันร้อนระอุจนทำให้ไอความร้อนที่กระทบลงบนพื้นสนามหญ้าหน้าบ้านสะท้อนเข้ามา ณ ที่ที่ผมนั่งอยู่ ผมนั่งอยู่หน้าประตูบ้าน สายลมที่พัดผ่านเข้าตัวบ้านไม่ได้มีความเย็นเลยซักนิด มีแต่ไอร้อนจากแดด ผมมองนาฬิกาข้อมือ ใกล้เที่ยงแล้วซินะ ตอนนี้ก็เกือบๆ เดือนแล้ว ที่ผมกับน้องสาวยังอยู่ที่นี่ แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น น้องสาวผมเอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง ออกมาแค่มากินข้าวกับผมแค่นั้น ผมเป็นคนที่ทำทุกอย่างในบ้าน ออกไปซื้อข้าวมารอน้องสาวผม จัดเก็บนั่นนี่นิดหน่อย สนามหญ้าหน้าบ้าน ก็เริ่มยาวแล้วผมยังคงปล่อยให้มันรกอยู่แบบนั้น ไม่ได้จ้างคนมาตัด ผมเริ่มปล่อยวางกับชีวิตสุขสบายใด้มากขึ้น ผมหาซื้อกับข้าวข้างทาง เข้ามินิมารต์เล็กๆ ซื้อของใช้ รถของผมก็ยังคงจอดสนิท ครั้งสุดท้ายที่มันเคลื่อนที่ผมก็แทบจะจำไมได้แล้ว ผมเริ่มมีความสุขกับการไม่ต้องชิงดีชิงเด่นกับใคร ไม่ต้องการอะไร อย่างน้อยตอนนี้ผมก็แค่อยากพักซักหน่อย ผม

คิดว่าถ้าผมได้พัก ผมคงได้คิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง และผมคงจะเริ่มชีวิตในแบบใหม่ๆ ซักที เพื่อนๆ ที่รักของผมยังคงแวะเวียนกันมาหาพร้อมกับของติดไม้ติดมือบ้างนิดหน่อย ผมว่าไอ้ใหญ่คงไปบอกพวกนั้นหล่ะมั้งว่าที่บ้านผมเป็นยังไง พวกมันไม่ได้โกรษผมแล้วกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะว่า พวกเรามันคนหัวอกเดียวกันหละมั้ง โดนเฟยทิ้งทั้งหมด อันนี้ผมคิดเข้าข้างผมไปเอง จริงๆ เฟยไม่ได้ทิ้งผมหรอก ผมเป็นคนทำให้เฟยเดินออกไปเองต่างหาก พวกมันมาหาผมก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องของเฟย และผมก็ไม่เคยถามด้วย ผมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ผมคงไม่มีสิทธิที่จะถามถึงแล้วหล่ะ

ผมจัดแจงนำอาหารที่ซื้อใส่จานแล้วขึ้นไปเรียกน้องสาวลงมาทานด้วยกันเหมือนทุกวัน น้องสาวผมดีขึ้น แต่ก็ยังพูดน้อย ความร่าเริงสดใสหายไปหมด น้องสาวผมไม่ได้ไปเรียน ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ผมว่าน้องสาวผมคงอายที่ไม่มีรถขับไป หรืออะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป แต่ผมคิดว่าสักพักก็คงจะดีกว่านี้ ผมรอให้น้องผมดีกว่านี้ขึ้นก่อน แล้วค่อยตัดสินใจเรื่องอื่นต่อไป

"กรี๊ง.................." เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น  โดยปกติหากเป็นพวกเพื่อนๆ ผมมันจะบีบแตรแทน แต่นี่ทำไมมากดออดหว่า ผมเดินออกไปดู

เป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคาร... นำหมายศาลมายึดทรัพย์ที่นี่ เขาแจ้งกับผมว่าตอนนี้หมายศาลได้อนุมัติยึดแล้ว ให้เวลาอีกภายในเดือนนึงให้ทำการย้ายออก เพราะว่าตอนนี้ที่นี่เป็นทรัพย์สินของธนาคารไปแล้ว และแล้ววันที่ผมรอก็มาถึงซักที ผมคงต้องออกไปหาที่อยู่ใหม่ ผมเดินเข้ามาบอกน้องสาวผม น้องสาวผมยังคงสีหน้านิ่งเฉย ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องไป ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อจากนี้ดี บ้านของผมที่อยู่มานานตอนนี้ผมคงต้อง

จากมันไปซะแล้ว ความทรงจำหลายๆ อย่างกำลังจะลบเลือนไปจากบ้านหลังนี้ แต่ทำยังไงได้ ผมต้องอยู่ต่อไปผมมีน้องสาวที่ต้องดูแลนี่นา ชีวิตในวันนี้ผมยังคงดำเนินไปเหมือนๆ เก่า ผมเข้านอนไวมากขึ้น แต่ถึงผมจะเข้านอนไวแค่ไหน กว่าผมจะหลับก็ เกือบๆ ตีสองอยู่ดี ผมนอนไม่หลับ หรือเป็นเพราะว่าผมคิดอะไรอยู่ในหัวมากเกินไปก็ได้

ผมตื่นมาอีกในอีกวันนึง วันนี้ท้องฟ้ามึดครึ้ม เหมือนฝนจะตก แต่ผมก็ยังดำเนินชีวิตเช่นเคย ผ่านไปเหมือนเคย ไปซื้อกับข้าวตอนเที่ยงเพื่อมากินกับน้องสาวเหมือนปกติ ผมเดินขึ้นไปเรียกน้องสาวเหมือนเช่นเคย ผมเคาะห้องแต่ไม่มีเสียงตอบ หรือน้องสาวผมยังไม่ตื่น ผมเปิดประตูเข้าไปเพื่อจะเข้าไปปลุก ภาพที่ผมเห็นคือ น้องสาวผมนอนอยู่กับพื้น คราบน้ำลายฟูมปากที่แห้งไปแล้ว ผมทรุดลงตรงพื้นที่ยืน ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ครอบครัวคนสุดท้ายของผม คนที่ผมจะต้องดูแล กลับจากผมไปซะแล้ว ผมรู้ว่าผมคงทำอะไรตอนนี้ไม่ได้ สภาพของน้องผมคือตายมาหลายชั่วโมงแล้ว น้องสาวผมไม่หายใจแล้ว นอนนิ่ง ดวงตาเบิกโพง มือกุมท้อง ผมมองภาพข้างหน้านี้อยู่เกือบๆ ชั่วโมง ก่อนที่จะตั้งสติได้ ผมแจ้งตำรวจ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง รถตำรวจก็มาที่หน้าบ้านผม ผมให้การตามความเป็นจริงเกี่ยวกับตัวน้องสาวผมและที่บ้านผม ตำรวจวางประเด็นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ก่อนที่จะนำศพไปชันสูตร เสร็จเรื่องก็หัวค่ำซะแล้ว ผมเดินเข้ามาในห้องของน้องสาวผม ผมเปิดคอมพิวเตอร์ของน้องสาวผม รูปหน้าจอเดสท๊อปที่เป็นรูปน้องสาวผมทำให้ผมยิ่งคิดถึงมากขึ้น ผมเปิดอัลบั้มภาพที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ผมไม่เหลือใครแล้วในตอนนี้ ผมคิดว่าน้องสาวผมคงรับสภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้แน่ๆ

"ทำไมต้องทำอะไรโง่ๆ แบบนี้ด้วยหมวย หมวยทำแบบนี้แล้วเฮียจะอยู่กับใคร" ผมลูบหน้าจอคอมเบาๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมา

ผมนั่งอยู่หน้าคอมของน้องสาวผมนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้ท้องฟ้ามันมึดไปหมดแล้ว มึดเหมือนกับตัวผมที่คิดอะไรไม่ออกในเวลานี้

โทรศัทพ์ผมดัง ผมค่อยๆ หยิบออกมาดู -- ไอ้ใหญ่ --

"เออ ว่าไง" ผมกดรับอย่างช้าๆ ก่อนที่จะพูดแบบคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

ใหญ่มันพึ่งรู้ข่าว มันก็โทรมาถามและกำลังจะมาหาผม ผมบอกมันว่าไม่ต้องมา ผมขออยู่คนเดียว มันก็ยังจะคะยั้นคะยอจะมาให้ได้ ผมบอกมันว่าให้บอกคนอื่นๆ ด้วยว่าผมต้องการอยู่คนเดียวไม่ต้องให้ใครมาทั้งนั้น ก่อนที่จะวาง

"ไอ้ซี มึงอย่าลืมนะเว้ย ว่าเมิงยังมีเพื่อนๆ มึงอยู่ มึงต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ คิดนะเว้ย เพื่อนๆ ทุกคนรักมึงนะเว้ย" คำสุดท้ายก่อนที่มันจะวางไป

ผมรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยกับคำว่า ยังมีพวกมันอยู่ ถึงแม้ผมจะเคยทำอะไรเลวๆ ไว้กับพวกมันพวกมันก็ให้อภัยผมได้ โดยเฉพาะไอ้ใหญ่ มันเหมือนเดิมกับผมทุกอย่าง ยิ่งคิดผมก็ยิ่งแย่ รู้สึกแย่ที่เคยทำเลวๆ กับมันไว้ ผมนั่งคิดไปเรื่อยๆ ผมเริ่มคิดไรบางอย่างออกแล้ว ผมจะทำอะไรเพื่อเพื่อนผมคนนี้เป็นการขอบคุณได้บ้าง

-- มึงต้องรักมันในส่วนของกูแทนด้วยนะ ไอ้ใหญ่ กูจะสร้างโอกาสให้มึง ไอ้เพื่อนรัก -- ผมกดเมสเสจนี้ไปให้เพื่อนที่ผมรัก ก่อนที่จะไปหยิบโทรศัทพ์ของน้องสาวผม และเดินไปหยิบกุญแจรถที่ไม่เคยใช้มานานแล้ว และวันนี้มันจะได้ใช้มันเป็นครั้งสุดท้าย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2009 18:25:19 โดย HadsaNah »

HadsaNah

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ก็สำบายดี และ อะไร หลายๆ  อย่าง เริ่มลงตัวมากขึ้น
เดี๋ยวจะต่อให้จบเลยเน้อ ไงก็ติดตามอ่านด้วยนะ ไม่แน่อาจจะมี เรื่องใหม่ตามหลังจากเรื่องนี้จบ
แต่ ทำไม รีพายน้อยจางเลย แอบเสียใจเล็กๆ นะเนี่ย แต่ก็เอาเหอะ ผิดที่ตัวเราเองหายไปนาน แฮะๆ

ออฟไลน์ watermoonj

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-1
เฮ่อ สงสารพี่ใหญ่ สงสารซีนิดหน่อย แต่คงเป็นเวรกรรมตามทัน
ถ้าเรื่องนี้จบ พี่ก็จะไปตามอ่านเรื่องใหม่แน่นอน

ปล...อย่าใจน้อยไปดิน้องนะห์ เดี๋ยวแฟนๆ ก็กลับมาทักทายกันเอง เขาอาจจะติดธุระกันอยู่   :man1:

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
Re:
«ตอบ #2099 เมื่อ30-05-2009 20:35:11 »

นายโฉดซีจะทำอะไรอีก
จะทำอะไรก็หัดมีสติบ้างนะนาย
ปล่อยวางแล้วไปบวชซะ
ในชีวิตคิดจะทำอะไรดีๆเป็นบ้างมั้ย
กลัวใจพ่อเจ้าประคุณจริงจริ๊งง
ปล ช่วงนี้กำลังเปิดเทอมคนอ่านเลยไม่ว่างมั้งครับ น้องนะห์อย่าน้อยใจไปเลยครับนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด