Love, In Every Lifetime : Teaser ตอนที่ 3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love, In Every Lifetime : Teaser ตอนที่ 3  (อ่าน 2181 ครั้ง)

ออฟไลน์ Milky_Milky_Way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Love, In Every Lifetime : Teaser ตอนที่ 3
« เมื่อ18-04-2025 10:37:04 »

***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


แนะนำนิยาย

เขาเคยเป็นเพื่อนสนิทในวัยเด็ก
เคยเป็นความรักในวัยเรียน
และสุดท้าย... กลายเป็นคนแปลกหน้า
กลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีใครกล้าเปิดดู

แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
ชื่อของเขาก็ยังซ้อนอยู่ในหัวใจของผมเสมอ

นี่ไม่ใช่แค่นิยาย
แต่มันคือบันทึกของความรัก
ที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงในทุกช่วงของชีวิต

จากเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ ในวันนั้น
งอกงาม... เติบโต
และกลายเป็นต้นไม้ใหญ่
แข็งแรงพอจะต้านลมพายุ

เพราะบางครั้ง
เราอาจต้องใช้ทั้งชีวิต
เพื่อเฝ้ารอใครสักคน
...คนที่เป็น ‘รักเดียว’
ในหัวใจเสมอมา

Love, In Every Lifetime
นิยายที่จะพาคุณย้อนกลับไป
พบ "รักเดียว" ของคุณเอง
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2025 20:53:06 โดย Milky_Milky_Way »

ออฟไลน์ Milky_Milky_Way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Love, In Every Lifetime : แนะนำตัวละคร
«ตอบ #1 เมื่อ18-04-2025 10:59:31 »

แนะนำตัวละคร

ออฟไลน์ Milky_Milky_Way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนที่ 1 : วันเปิดเทอม


ผมพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง นับแกะหมดไปเป็นฝูงจนเข็มสั่นของนาฬิกาเลยเลข 2 ไปแล้วเกือบครึ่ง ก็ยังไม่สามารถข่มตาหลับได้ ... นาฬิกายังเดินไปเรื่อย ๆ ทุกเสียงติ๊กต๊อกยังดังก้องอยู่ในหัว เวลามีเรื่องอะไรให้ต้องกังวลผมมักจะนอนไม่หลับเสมอ ... ผม มิลค์ ติณสิงห์ สิงหนาฏ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 ป้ายแดงที่ตอนนี้กำลังนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยถึงวันเปิดเทอมวันแรกที่ใกล้จะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมง ห้องเรียนใหม่ บรรยากาศใหม่ อาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ และที่สำคัญคือเพื่อนใหม่ แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปีแต่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เล่านี้กลับทำให้ผมไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ มีเพียงที่นึกถึงแล้วพอจะช่วยคลายความกังวลได้นั้นคือเพื่อนสนิทที่ปีนี้เราก็ยังโชคดีได้อยู่ห้องเดียวกันอีกครั้ง

ความคิดของผมถูกตรึงไว้กับความทรงจำเกี่ยวกับเพื่อนสนิท ยิ่งนึกถึงความรู้สึกก็ยิ่งผ่อนคลาย ชีวิตของผมดำเนินไปอย่างเรียบๆ ไม่มีอะไรหวือหวาในขณะที่อีกคนโลดโผนเกินวัย แม้จะแตกต่างแต่เราก็เป็นเพื่อนกันมาถึงทุกวันนี้ ... เปลือกตาค่อยๆ ปิดลง สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนหาย ผมเข้าสู่ห่วงนิทรา โดยไม่รู้เลยซักนิดว่าหลังจากวันนี้ชีวิตของผมจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ก้าวขาเข้ามาในห้อง สิ่งแรกที่เจอคือจรวดพับกระดาษลอยมาจนเกือบจะทิ่มหน้า ยังดีที่หลบทัน ไม่มีใครสนใจการมาถึงของผม เสียงพูดคุยในห้องยังดังระงม เปิดเทอมวันแรกก็แบบนี้มีเรื่องให้ update ชีวิตกันมากมาย ผมมองซ้ายมองขวาเห็นเพื่อนสนิทยกมือเรียกสุดแขน มันเลือกที่นั่งแถวกลางริมขวา เพราะมันบอกว่าไปศึกษามาแล้วตำแหน่งนี้เป็นต่ำแหน่งที่ครูให้ความสนใจน้อยที่สุด

“กูนั่งไหน” ผมถามเมื่อหยุดยืนอยู่ตรงหน้ามัน

“ข้างกูซิวะ กูจองที่ไว้ให้” มันพูดพลางเอื้อมมือมายกกระเป๋าเป้ของตัวเองออกจากโต๊ะข้าง ๆ

“มึงแดกข้าวยัง” ผมถามเมื่อวางกระเป๋านักเรียนลงเก้าอี้ ถือเป็นการเสร็จสิ้นการสร้าง land mark

“ยัง รอมึงเนี่ย กลัวไม่เฝ้าไว้แล้วโดนแย่งที่”

“เออๆ ขอบใจ งั้นไปโรงอาหารกัน”

“รีบเลย กูโคตรหิว” มันลุกขึ้นพร้อมกับกอดคอผมออกจากห้อง

ผมนั่งอยู่กลางโรงอาหาร สลับหน้าที่ในการจองโต๊ะกับเพื่อนสนิท เพราะบ้านผมอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเลยมีเวลาให้กินข้าวเช้าก่อนออกจากบ้าน ส่วนมันที่บ้านอยู่ไกล ทำให้ต้องตื่นเช้าและมาหาข้าวเช้ากินที่โรงเรียนเป็นประจำ ผมมองบรรยากาศโดยรอบ เด็กนักเรียนชายนับร้อยเดินกันให้ควักไขว่ บางโต๊ะก็มีพ่อแม่มานั่งให้กำลังใจเด็กตัวน้อย ไม่นานมันก็เดินกลับมา มือหนึ่งถือจานข้าว อีกมือถือแก้วน้ำมา 2 ใบ

“ของมึง” แก้วน้ำอัดลมสีดำถูกเลื่อนมาวางไว้ตรงหน้า

“ขอบใจ” มันไหวไหล่แบบไม่ใช้เรื่องใหญ่อะไร จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินข้าว

ไอ้นี้ชื่อ “บอน” เพื่อนสนิทที่สุดของผม รู้จักกันมาตั้งแต่ ป.5 อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาหรือเวรกรรมที่ทำร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน ทำผมกับมันได้อยู่ห้องเดียวกันมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

“มึงสูงขึ้น?” ผมถามในขณะที่เรา 2 คนเดินกลับมาจากโรงอาหาร

“มึงเตี้ยลง?”

“กวนตีน” มันสูงขึ้นจริงๆ ก่อนปิดเทอมเรายังตัวใกล้กัน แต่ตอนนี้มันสูงเกินผมไปแล้ว

“มึง ... ใครวะ” เรา 2 คนหยุดอยู่หน้าประตู เพื่อนสนิทกระทุ้งศอกเข้าที่สีข้างของผม คิ้วหนาของมันขมวดเป็นปม เพราะที่นั่งด้านหลังของผมถูกจับจองโดยใครซักคนที่เราไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้า

“ขึ้นมาพร้อมกัน มึงไม่รู้ แล้วกูจะรู้ไหม”

“เอ้า!!! ถามดีๆ กวนตีนกูอีก” มือใหญ่ๆ ผลักหัวผมเป็นเชิงหยอกล้อ

“กูกวนตรงไหน อยากรู้ก็ถามซิวะ ...”

“... หวัดดี นายชื่ออะไร เราชื่อมิลค์ นี่บอน” ผมหันหลังกลับไปถามทันทีที่หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ เห็นจากหางตาว่าไอ้บอนเดิมมาหยุดอยู่ข้างๆ

“เราจี ... พูดกูมึงได้นะ พูดสุภาพแล้วกูไม่ค่อยชิน 555”

“กูก็ไม่ชิน...” ผมตอบรับพร้อมกับเปิดบทสนทนา

“... มึงมาจากห้องไหนอะ”

“ห้อง 15”

“มาคนเดียวเลยเหรอ”

“เปล่าๆ มาหลายคนแต่ไม่ค่อยสนิท ...” จีตอบพลางมองซ้ายขวา

“... ไอ้นั้นก็มาจากห้อง 15 ชื่อแอมป์” ผมมองตามที่ปลายนิ้วชี้ของจี แอมป์มองกลับมาที่พวกผม คิ้วหนายกสูง ทำหน้าไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ ก็ตกเป็นเป้าสายตาของพวกเราทั้ง 3 คน



...



เปิดเทอมได้ไม่นานก็เริ่มมีงานกลุ่ม วิชาไหนจับกลุ่ม 2 คน ผมก็จะคู่กับบอน แต่ถ้ากลุ่ม 3 คนก็จะเป็นผม บอน และจี ชีวิต ม.2 ไม่มีอะไรแตกต่างจากปีที่แล้ว เรียน เล่น ทำการบ้านวนเวียนไปเป็นวัฏจักร

“ไอ้บอน มึงจะหนีไปไหน” มันชะงักเท้าทันทีที่ผมตะโกนถาม ร่างสูงค่อยๆ หันมาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างราวกับเด็กน้อยที่โดนจับได้ว่าแอบไปทำอะไรผิดมา

“เอออออออออออ กู ... คือออออออออออ กู” มันอ่ำๆ อึ้งๆ เหมือนจะพูดอะไรแล้วก็กลืนกลับลงคอไป

“มึงจะโดดไปหาสาวใช่ไหม” ผมหรี่ตามองอย่างรู้ทัน

“เอ่อน่า กูนัดจุ๊กจิ๊กไว้”

“แต่บ่ายนี้เรานัดกันทำงานกลุ่มนะเว้ย” ผมแย้ง วันนี้วันเสาร์พวกเรามีเรียนพิเศษเสริมกันที่โรงเรียนแค่ครึ่งวันเช้า บ่ายไหนว่างก็ไปเที่ยว กินข้าว ดูหนัง แต่ถ้าต้องทำการบ้านบ่ายวันเสาร์ก็เป็นเวลาที่ดีเพราะสามารถทำได้ไปถึงช่วงเย็น และถ้าไม่เสร็จก็นัดกันวันอาทิตย์ต่อได้

“ก็ ... กูไปก่อนนะ” พูดจบมันก็วิ่งออกจากห้อง

“ไอ้เหี้ย!!! #$*#@><*&&$###@!!!” ผมสาดคำผรุดสวาทตามหลังเพื่อนสนิท แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้อยู่ฟังก็ตาม

“ฮ่าๆๆ”

“ขำไรวะ” ผมถามจีที่ขำไปพลางเก็บของเข้าเป้ไป

“กูเห็นมันลุกลี้ลุกลนตั้งแต่ก่อนหมดคาบ นึกอยู่แล้วว่ามันต้องชิ่ง ... ปะ ไปกินข้าวกัน”

“เออ แม่ง กินแรงชิบหาย ครั้งก่อนโน้นก็หนี” ผมพูดพรางคว้ากระเป๋าตามจีไปโรงอาหาร

โรงอาหารหลังเลิกเรียนวันเสาร์ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ แต่ร้านค้าก็เปิดขายไม่ถึงครึ่ง โรงเรียนผมมีนักเรียนตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6 รวมๆ กันก็น่าจะหลายพันคน เรียนพิเศษวันเสาร์จะมีเฉพาะ ป.1-ม.3 แล้วก็ไม่ได้บังคับเรียน คนเลยหายไปเกินครึ่ง

“มึงกินเหมือนเดิมปะ” จีถาม

“เหมือนเดิม”

“งั้นกูไปซื้อข้าว เดียวมึงไปซื้อน้ำ”

“เอางั้น?”

“เออ จะได้ไม่เสียเวลา”



“กินน้ำเปล่า ไม่เบื่อเหรอวะ” ผมถามจีพลางตักข้าวเข้าปาก

“ไม่นะ ก็ปกตินิ แล้วมึงกินแต่น้ำอัดลมไม่เบื่อเหรอวะ”

“ก็ไม่ มันหวานๆ ซ่าๆ ... ทำไมมึงกินแต่น้ำเปล่า กูไม่เคยเห็นมึงกินน้ำอัดลม น้ำหวานมึงก็ไม่กิน”

“ไม่รู้วะ น่าจะติดมาจากที่บ้านมั้ง ที่บ้านกูไม่มีใครกินน้ำหวานหรือน้ำอัดเลย กินแต่น้ำเปล่า ...” เชี่ย!!! Healthy ไปไหนวะ

“ไข่ดาวไม่สุกนี้ก็ติดมาจากที่บ้านด้วยเปล่า” ผมเหลือบตามองไข่แดงสีส้มเยิ้มๆ บนจานข้าวของจี นอกจากกินแต่น้ำเปล่านี้แล้ว สิ่งหนึ่งที่จีชอบกินมากคือไข่ดาว กินทุกมื้อ อย่างน้อยก็มื้อกลางวัน และจะต้องเป็นไข่ดาวที่ไข่แดงไม่สุกเท่านั้น ถ้าสุกมันไม่กิน ต่างจากกับผมที่กินได้หมดทั้งสุกและไม่สุก

“อืม ... มึงก็น่าจะลองดูบ้าง”

“เออๆ ไว้จะลอง”

“ไอ้เหี้ยบอนนี้ก็เจ้าชู้เหมือนกันนะ ครั้งก่อนกูจำได้ว่าไม่ได้ชื่อจุ๊กจิ๊ก รวมถึงเมื่อครั้งก่อนหน้านี้ด้วย”

“เออ มันแรดไง สงสัยจะเป็นเอดส์ตายเข้าซักวัน ป้องกันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“มึงพูดจริงดิ ... ไหนๆ เล่าให้กูฟังดิ” คนตรงหน้าทำตาโตเท่าไข่ห่าน จานข้าวที่กินใกล้จะหมดถูกเลื่อนไปวางไว้ด้านข้าง ในขณะที่ผมที่กินได้ไม่ถึงครึ่งเลยตัดสินใจกินไปพูดไป

“กูจะไปรู้รายละเอียดได้ยังไง ไม่ได้แอบอยู่ใต้เตียงมันซักหน่อย”

“มันไม่เคยเล่าให้มึงฟังเหรอ”

“ก็เล่าบ้าง แต่ไม่ได้ละเอียด ส่วนมากก็บอกแค่ว่าได้กันแล้ว”

“พอได้แล้วมันก็เลิกแบบนั้นปะ”

“ก็ไม่ถึงขนาดฟันแล้วทิ้งหรือ one night stand หรอก … มันเป็นคนขี้เบื่อมากกว่า มันเคยเล่าให้ฟังว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่รู้สึกใจเต้นเวลาอยู่กับเขาแล้วมันก็เลิก”

“เชี่ยยยยยยย ... idol สาสสสสสสสส”

“...” ผมขมวดคิ้ว แม้เราจะอยู่กลุ่มเดียวกันแต่ผมกับจียังไม่ได้สนิทกันถึงขนาดพูดเรื่องใต้ร่มผ้ากัน เหมือนผมกับบอน

“เปล่าๆ อย่าเข้าใจกูผิด กูไม่ใช่คนแบบนั้น ...”

“... ไม่ใช้จริงๆ แฟนกูยังไม่เคยมีเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” มันรีบอธิบายเมื่อถูกผมหรี่ตามอง

“เออ กูก็ไม่ได้ว่าอะไร แกล้งมึงไปงั้น” ผมละความสนใจจากจีแล้วกลับมากินข้าวต่อ

“แล้วมึงละ มีแฟนยัง”

“ฮึ ยังอะ ยังไม่เคยมีแฟนเลย” ผมพูดพลางส่ายหัว

“เดียวเจอคนที่ใช่เมื่อไหร่ ก็มีเองแหละเนอะ” พูดกัน 2 คนก็เออออกันเอง 2 คน


“มึง ตรงนี้เอาไวดีวะ” ผมใช้ข้อศอกสะกิดจีที่นั่งอยู่ข้างๆ พวกเราย้ายมาทำงานที่ห้องสมุดเนื่องจากเป็นสถานที่เดียวในโรงเรียนที่มีคอมให้ใช้ทำงานได้

“ไหนวะ ...” จียื่นหน้าเข้ามา

“... กูว่ามันเอาเนื้อหาตรงนี้มาต่อได้นะ ...” มันพูดพลางหันไปลื้อกองหนังสือที่วางอยู่ข้างๆ

“... อะ อันนี้ แล้วก็ต่อด้วยเล่มนี้ เล่มนี้ และเล่มนี้ กูคั่นหน้าไว้ให้หมดแล้ว” ผมรับหนังสือที่จีส่งมาให้รัวๆ ยอมรับตามตรงว่าชีวิตผมดีขึ้นมากเมื่อมีจีมาเป็นสมาชิกในกลุ่ม หลังจากรู้จักกันได้ไม่นานผมก็รับรู้ได้ว่ามันเป็นคนฉลาดแล้วก็ตั้งใจเรียนมาก สอบ midterm ที่ผ่านมาจีได้คะแนนอันดับ 2 รองจากแอมป์ ตอนนี้งานกลุ่มเดินหน้าเร็วมาก ถ้าเป็นสมัยที่ผมกับไอ้บอนทำกัน 2 คน ไม่ต่างอะไรกับเรือวนอยู่ในอ่าง หรือบางครั้งอาจจะเหลือมผมอยู่คนเดียวที่วนอยู่ในอ่าง แต่ตอนนี้บอกเลยว่าไม่ได้สัมผัสเหตุการณ์แบบนั้นมานานมาก พูดได้เต็มปากเลยว่าจีคือ “เดอะแบก” ของกลุ่มที่แท้จริง

ปลายนิ้วของผมเคาะลงบนแป้น keyboard ตามประโยคที่จีบอกทุกกระเบียนนิ้ว เราทำงาน หยุดพัก แล้วก็กลับมาทำงาน รู้ตัวอีกทีบรรณารักษ์ก็เดินมาบอกว่าห้องสมุดจะปิดในอีก 15 นาที

“แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วมั้ง ... เก็บไว้ให้ไอ้บอนมันทำบ้าง”

“พวกมึงงงงงง” โคตรเฮี้ยน พูดถึงมันก็โผล่หัวมา

“ไอ้เหี้ย มาได้เวลาพอดีเลิกเลยนะ ... เป็นไง สบายกายสบายใจเลยซิ ... อิ่มเลยไหมมึง ...”

“... กินแรงพวกกูมาตั้งแต่กลางวันเนี่ย” ยิ่งเห็นหน้ามันแล้วก็ยิ่งหมั่นใส้ มีความสุขมาซิมึง

“โห้ยยยยย มิลค์ ...” โหยหวนอย่างกับผีเปรตขอส่วนบุญ ไม่ได้เข้ากับรูปร่างสูงใหญ่ของมันเลยแม้แต่น้อย

“... อย่าพูดแบบนั้น กูก็รู้สึกผิดถึงได้ซื้อขนมมาฝากพวงมึงไง” มันยื่นถึงขนมมาให้ผมกับจีคนละถุง

“ขอบใจมึง” จีสะดุ้งทันทีที่พูดประโยคนี้จบเพราะถูกผมตวัดสายตามองแรง ไอ้นี้ก็คนดีเกิน โดนกินแรงกี่ครั้งกี่ครั้งก็ไม่เคยบ่น

“มึงคิดว่ากูซื้อได้ด้วยขนมเหรอ ... ไอ้บอน กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่ากูไม่แดกรสสตอเบอร์รี่ มึงเห็นกูเป็นน้องจุ๊กจิ๊กของมึงหรือไง”

“สตอร์เบอร์รี่ก็เข้ากับหน้าแบ๊วๆ ของมึงอยู่นะ ... หรือไม่ก็เข้ากับนิสัยสตอเบอร์รี่ของมึง” มันต่อล้อต่อเถียงด้วยสีหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างขั้นสุด

“ไอ้เหี้ยบอน ... นอกจากนิสัยเหี้ย กินแรงคนอื่น แล้วยังปากหมาอีก ... กูขอให้มึงได้กับผู้ชาย เออใช่กูขอให้มึงได้กับอีชาช่า”

"ชาช่าห้อง 26 ชอบบอนเหรอ” จะบอกว่านอกการเรียนเก่งแล้ว จียังเม้าท์เก่งอีกต่างหาก พอได้ยินประโยคเมื่อครู่คนข้างตัวถึงกับหูตั้งเลยทีเดียว

“ใช่ ชอบมากกกกก มันมาติดสินบนกู อืมมมมม #$$$$######%&” พูดไม่ทันจบประโยค มือหนาของไอ้บอนก็เอื่อมมาอุดปากผมไว้ อย่าให้เรา 2 คนได้เผ่ากันเลย รับรองว่าศพไม่สวยทั้งคู่

“แล้วนี้พวกมึงจะกลับเลยหรือเปล่า” มันถามหลังจากที่แกล้งผมจนพอใจ

“กลับเลย ... อันนี้ของมึง แก้คำผิด จัดรู้หน้า ทำปก แล้วก็ print … งานถนัดมึงไม่ใช้เหรอทำหน้าปก” ผมยื่นแผ่น floppy disc สีดำให้มัน

“บ่นจังวะ เป็นเมียกูหรือไง” มันทำหน้ามุ้ยแล้วก็ดึง floppy disc ออกจากมือผม

“ใครจะเอามึงลง ... แล้วมึงกลับไง” แค่คิดก็สยองจนต้องเก็บไปฝันร้ายแล้ว

“เดียวรอรถที่บ้าน ... แล้วพวกมึงกลับด้วยกันเหมือนเดิมปะ”

“เออ เดียวกลับ taxi” ไอ้บอนมีคนขับรถคอยรับคอยส่ง จริงๆ แล้วเหตผลที่มันกลับมาโรงเรียนไม่ใช้เพราะเป็นคนดีเอาขนมมาให้พวกผมหรอกแต่มันกลับมารอคนขับรถเพราะถ้าไปรับมันที่อื่น ป๊าม้าจะรู้ทันทีว่าลูกชายตัวแสบหนีเที่ยว

หลังจากแยกย้าย ผมกับจีเดินออกไปเรียก taxi หน้าโรงเรียน ถ้าวันไหนกลับพร้อมกันเรากลับ taxi คันเดียวกันเพราะบ้านเรา 2 คนอยู่ใกล้กัน ขากลับก็ขอให้พี่ taxi ส่งจีลงก่อนแล้วก็ขับเลยมาส่งผม



.. 'G'

“ว่าไงมึง” ผมรับสายเพื่อนที่เพิ่งแยกจากกันเมื่อ 20 นาทีก่อน

“ถึงบ้านยัง”

“ถึงแล้วมีไรเปล่า”

“เปล่า แค่โทรถามว่าถึงยัง”

“เออมึง ติวหนังสือให้กูหน่อยดิ กูอยากเก่งเหมือนมึงบ้าง” ว่าจะถามตั้งแต่บ่ายแล้วแต่ก็ลืม

“ได้นะ แต่กูก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น”

“ไม่เป็นไร ขอแค่ให้กูเก่งกว่านี้กูก็โอเคแล้ว ติวทุกวันเสาร์หลังเลิกเรียนพิเศษได้ปะ”

“เอาดี นี่มึงชวนไอ้บอนยัง”

“ยังๆ นี่กูคุยอยู่กับมันอีกสาย เดียวเชื่อมสายแป๊บ...”

“...บอน กูขอให้จีติวหนังสือให้ บ่ายวันเสาร์ มึงมาติวด้วยกันนะ”

“เออได้ ตามนั้น เริ่มเมื่อไหร่”

“เสาร์หน้าก็ได้” จีตอบ

“ตามนั้น แยกย้ายนะมึง เหนื่อยแหละ” ผมตัดบทเพราะว่าเหนื่อยมาก อยากอาบน้ำ กินข้าว เล่นเกม แล้วก็นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2025 15:15:23 โดย Milky_Milky_Way »

ออฟไลน์ Milky_Milky_Way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สวัสดีครับผู้อ่านทุกคน
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของผม ตั้งใจจะให้เป็นแนว Coming of age ที่มีครบทุกความรู้สึกทั้งยิ้ม หัวเราะ และร้องไห้ มีดราม่าบ้างพอให้มีรสชาด และมี NC นิดหน่อยให้พอหวือหวา

อยากจะชวนคนอ่านเข้ามาพูดคุยและเป็นกำลังใจให้นักเขียน แล้วมาลุ้นไปด้วยกันครับว่าเราจะพามิลค์เดินไปได้ไกลแค่ไหน
หวังว่าทุกคนจะชอบนิยายเรื่องนี้ ถ้ามีอะไรจุดไหนที่อยากให้แก้ไขปรับปรุง บอกได้เลยนะครับ

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เจอกันอีกทีวันอาทิตย์นะครับ

เอารูปเพื่อนสนิท มิลค์และบอน มาฝากทุกคนครับ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Milky_Milky_Way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Love, In Every Lifetime : ตอนที่ 2
«ตอบ #4 เมื่อ20-04-2025 10:01:21 »

ตอนที่ 2 : จังหวะต้องห้าม


“... แล้วพอย้ายข้างสมการ ก็จะได้คำตอบ” พูดจบจีก็ทำเครื่องหมาย '#' กำกับหลังตัวเลขที่เป็นคำตอบ ... โคตรเทพ คนอะไรแก้โจทย์เลขยากๆได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วย ไม่นับรวมว่าสามารถอธิบายให้คนโง่เลขอย่างผมเข้าใจได้ ต้องขอบคุณจีที่ทำให้การสอบเก็บคะแนนครั้งสุดท้ายก่อนสอบ final ของผมได้คะแนนดีกว่าที่คาด นับเป็นครั้งแรกของมนุษย์ต่ำกว่า mean แบบผม

“พวกมึงงงงง กูมาแล้ว” ไอ้บอนยิ้มหน้าระรื่นมาแต่ไกล ผมเหลือบมองเข็มบนนาฬิกาข้อมือ ... มาทำไมตอนนี้วะ อีกชั่วโมงนึงก็จะเลิกแล้ว

“มึงยังยิ้มหน้าระรื่นอีก ในห้องก็ไม่เรียน ไอ้จีมาติวให้มึงก็โดดไปแรด” ผมเปิดฉากด่าทันทีที่มันหย่อนตัวลงที่นั่งข้างๆ

“มึงนี่ขี้บ่นจังวะ กูซื้อขนมมาฝาก” มุกเดิม ไม่เพิ่มเติมอะไรซักนิด 

“โอ้ยยยยยยยยยย!!! กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าไม่แดกรสสตอเบอร์รี่ ถ้ามึงจะซื้อมาไถ่โทษก็ช่วยซื้ออะไรที่กูแดกได้หน่อย” บ่นแต่ก็ฝืนหยิบขนมในถุงเข้าปาก

“ก็แดกได้นิ บ่นไรนักหนาวะ” มันไหวไหล่เหมือนไม่แคร์อะไรทั้งนั้น

“มาแล้วก็ตั้งใจเรียน อยากน้อยจะได้มีอะไรติดสมองกลับไปบ้าง”

 :z6: ป๊าบ!!!!!!!!!   

“เหี้ยมิลค์ กูเจ็บไหมมึง ฟาดมาได้” ขอเอาสมุดฟาดหัวมันซักที หมันไส้กับสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวของมัน

“นอกจากขี้เลื่อยแล้ว ก็เอาตัวขี้เกียจออกไปด้วย” ผมกับบอนยังต่อล้อต่อเถียงกันอีกหลายประโยคจนกระทั่งจีเอ่ยปากบอกว่าจะเริ่มติวต่อแล้ว

... เริ่มได้ไม่ถึง 10 นาที โทรศัพท์มือถือของไอ้บอนก็ดังขึ้น

“ฮาโหล มินต์เหรอ คุยได้ ... กับมินต์ เราคุยได้อยู่แล้ว” ไอ้บอนกรอกคำหวานผ่านโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะ รองจากแมลงสาบแล้วก็เสียงเวลาคุยกับสาวๆของมันนี่แหละที่ผมเกียจเข้าไส้

“มึงทำหน้าตลก” จีแซว เพราะอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากมองบนให้กับเสียง 3 ของไอ้บอน คนอะไร เปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนถุงเท้า

“เหม็นความรักวะ!!!” 

“Final ไอ้บอนมันจะรอดไหมเนี่ย” คิ้วของผมขมวดกันเป็นปมเมื่อได้ยินประโยคคำถามของจี

“ไม่รู้จะทำยังไงกับมันแล้ว พูดก็โกรธ” ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เป็นห่วงมันแหละ ในขณะที่สอบครั้งล่าสุดผมทำคะแนนได้ค่อนข้างดี แต่บอนกลับแย่ลงไปกว่าเดิม ความตั้งใจในการเรียนของมันลดลงกว่าเดิมมาก วันๆไม่ทำอะไรนอกจากเล่น แอบหลับในห้องเรียน แล้วก็โดดเรียนไปหาสาวๆ ... เมื่อก่อนมันไม่ใช้คนแบบนี้ แม้จะเรียนไม่เก่ง แต่ยังใส่ใจมากกว่านี้ ผมว่าเป็นเพราะมันสนใจแต่เรื่องจีบหญิง ปฏิเสธไม่ได้ตั้งแต่มันขึ้น ม.2 รูปลักษณ์ภายนอกของมันก็เปลี่ยนไป ตัวสูงขึ้น กล้ามเนื้อเยอะขึ้น ใบหน้าคมขึ้น พูดง่ายๆคือหล่อขึ้น บวกกับความอัธยาศัยดีของมัน บ่อยครั้งผมก็เริ่มแยกไม่ออกแล้วว่ามันแค่เป็นคนเข้าถึงได้ง่าย หรือว่าเจ้าชู้กันแน่ ... เคยเตือนหลายครั้ง มันก็ทำตลกแดกเฉไฉไปเรื่อย พอต้อนจนมุมก็อารมณ์เสียกลบเกลื่อน

“งั้นเรากลับมาติวต่อเนอะ”

ติวจบแล้วก็ไม่มีวี่แววของไอ้บอน มันหายไปเลยตั้งแต่รับสาย เหนื่อยใจกับมัน แม้ผมกับจีสลับกันโทรหาแต่มันไม่รับ

“เอาไงกับกระเป๋ามันดี” จีถาม เพราะเรานั่งรอมันมาครึ่งชั่วโมงแล้ว

“เดียวกูเอากลับเอง ... ไปเถอะ มันอาจจะกลับไปแล้ว นึกได้เดียวก็โทรมา”



"ไอ้บอน อะ!!! ของมึง” ผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะของมัน ดูสีหน้าก็รู้ว่ามันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าลืมกระเป๋า

“เออ ขอบใจวะมึง ... กูลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าลืมกระเป๋าไว้ที่โรงเรียน” คำตอบของมันทำให้ผมอยากจะฟาดกระเป๋าใส่หน้า

“วันนั้นมึงไปไหนมาวะ” ผมถามพร้อมกับหย่อนตัวลงนั่ง จีมาถึงก่อนผม มันกำลังหันไปคุยอะไรซักอย่างกับแอมป์

“ไปหามิ้นต์มาแป๊บนึง กลับมาโรงเรียนอีกทีคิดว่าพวกมึงน่าจะกลับกันแล้วเลยไม่ได้โทรหา ... อะ อันนี้รายงานวิชาสังคม กูเช็คคำผิด จัดหน้า พิมพ์หน้าปกให้เรียบร้อย”

“เออ โอเค” ผมรบมาแล้วเปิดดูความเรียบร้อย หน้าแรกๆทุกอย่างปกติดี แต่พอเข้ากลางเล่มถึงได้เห็นความ ‘ฉห’ อยู่รำไร

“ไอ้บอน!!!”

“อะไร / ไรวะ” ทั้งมันกับจีประสาทเสียขึ้นพร้อมกัน สีหน้าแตกตื่น

“มึงไม่ได้ดูก่อนเย็บเล่มมาเหรอวะ ข้างในมันตัวอักษรอะไรของมึงเนี่ย” ผมแหกรายงานให้มันดูชัดๆ เจ้าตัวหน้าเสียไปทันทีที่เห็น

“กูว่ากูเช็คแล้วนะ เอาไงดีวะ” แล้วรอยยิ้มเจือนๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าเพื่อนสนิท

“ไอ้เหี้ย อีก 10 นาทีจะเข้าแถวแล้วด้วยจะทำอะไรก็ต้องรีบทำแล้วมึง”

“กูคิดออกแล้ว ...” คำพูดของจีเหมือนประตูสวรรค์ของพวกเรา

“... มึงเอา floppy disc ที่ save งานมาปะ”

“เอามาดิ” มันล้วง floppy disc ออกมาจากกระเป๋า

“โดดออกไป print ที่ร้านเจ้ซอยข้างโรงเรียน”

“ไอ้บอนมึงรีบไปเลย” ผมหันไปบอกมัน

“ไม่ได้ๆ เมื่อเช้ากูเจอจารย์นกแล้วถ้ากูหายไปเขาก็รู้ว่ากูโดดซิวะ ... ไอ้จีมึงรู้นิว่ามันอยู่ไหน มึงไปดิ”

“กูก็เจอแล้วเหมือนกัน” แล้วสายตาของทั้ง 2 คนก็จ้องมาที่ผม เพราะวันนี้มาสายกว่าปกติ เลยยังไม่เจอครูประจำชั้น

“กูไม่รู้จักร้าน” คำตอบของผมทำให้ความหวังของทั้งกลุ่มพังทลาย

“กูรู้แล้ว ... แอมป์ วันนี้มึงเจอจารย์นกยัง” จีหันไปหาเพื่อนร่วมห้องเมื่อปีก่อน

“ยังวะ”

“มึงรู้จักร้านเจ้ที่อยู่ถัดไป 2 ซอยปะ ปีก่อนที่โดดไป print งานกันนะ”

“รู้ ทำไมวะ”

“มึงพาไอ้มิลค์ไปหน่อย ...”

“... พวกกูเลี้ยงข้างกลางวันมึงทั้งอาทิตย์เลย” พอเห็นแอมป์ขมวดคิ้ว จีก็รีบยื่นสินบนให้ทันที

“ไอ้มิลค์จะไหวเหรอ มันเรียบร้อยซะขนาดนี้” บอนกระซิบถามจี แต่ผมบังเอิญได้ยิน

“มันไม่มีทางเลือกวะ กูกับมึงเกมแล้วเหลือแต่มัน” จีตอบ สายตาทั้ง 2 คนมองผมด้วยความหวัง

“ก็ได้ ไปดิ ... มึงเคยโดดเรียนไหม ...” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบ แอมป์ก็ตอบรับข้อเสนอ ประโยคแรกมันพูดกับจี ประโยคถัดมาพูดกับผม พอผมส่ายหัว แอปม์ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“...เอากระเป๋าเรียนไปด้วย ...” ผมขมวดคิ้ว จะเอาไปทำไมวะ

“...ขากลับเข้าประตูหน้า จะได้อ้างได้ว่ามาสาย...”  ที่พูดมาก็มีเหตุผล สงสัยมันจะโดดเรียนบ่อยเลยรู้ technique

“...ทำตามที่กูบอก แต่ถ้าถูกจับได้ก็ตัวใครตัวมันนะ” ผมไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้า แล้วเดินตามแอมป์ออกจากห้อง... คนเหี้ยอะไร ดุฉิบหาย

หลังจากออกมาได้ไม่เท่าไหร่ เพลงประจำโรงเรียนก็ดังขึ้นเป็นสัญญานให้นักเรียนออกมาตั้งแถวหน้าห้อง รอบๆเลยวุ่นวายเล็กน้อยเพราะทุกคนทยอยออกมาจากห้องเรียน ผมรีบก้าวเท้าตามแอมป์ที่อาศัยจังหวะชุลมุนหลบไปหลังโรงเรียนได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าเพลงจบเมื่อไหร่พวกเราจะเป็นจุดสนใจของครูและพี่ยามทันที ... พวกเราเลี้ยวมาหลบหลักตึกได้ทันก่อนเพลงจะจบพอดี

“โอ้ย... โทษๆ” เพราะมัวแต่ระแวงหันมองซ้ายทีขวาทีเลยชนเข้ากับแอมป์ที่หยุดเดินกะทันหันจนเจ้าตัวเดินเซไปข้างหน้าหลายก้าว

“ระวังซิวะ...” มันหันกลับมามองผมตาเขียว ผมเลยได้แต่ผงกหัวเป็นเชิงขอโทษ เราไม่สนิทกันเท่าไหร่ ตั้งแต่เปิดเทอมน่าจะเคยคุยกันไม่กี่ประโยค

“...มึงเห็นตรงนั้นไหม” ผมไล่สายตาตามนิ้วมือของแอปม์ ผ่านลานจอดรถหลังโรงเรียน มุมกำแพงสุดริมรั้วมีถังขยะใบใหญ่ตั้งอยู่

“เห็น”

“เดียวกูไปดูต้นทางให้ก่อน มึงตามหลังกูมา ก้มหัวไว้อย่าให้ยามที่เดินตรวจจับได้ พอถึงตรงนั้นปีนถังขยะข้ามกำแพงไปฝั่งโน้น ...”

“... อย่าให้โดนจับได้ แล้วที่สำคัญอย่าเสือกโง่ตกลงไปในถังขยะ” สายตามันโคตรจะดูถูกผม ผมไม่เคยโดดเรียน แม้จะไม่ใช้เด็กเนิร์ดแต่ผมก็ไม่เคยทำผิดระเบียบของโรงเรียนแม้แต่น้อย

“เออ!!!” ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็อดไม่ได้เลยกระแทกเสียงใส่มะนไปที

แอมป์ยื่นหน้าออกจากมุมตึก ผมเห็นพี่ยามเดินอยู่ฝั่งตรงข้ามของลานจอดรถ คำนวณจากระยะห่างแล้ว เราน่าจะแอบออกไปได้ไม่ยากอย่างที่คิด

“ไป!!!” พูดจบมันก็ย่อตัวแล้วเดินเลียบกับตัวรถไปเรื่อย ทิ้งระยะห่างครู่หนึ่งผมถึงเดินตามออกมา หัวใจผมเต้นแรง เหงื่อออกเต็มมือ ไม่คิดว่าจะตื่นเต้นขนาดนี้กับการแหกกฎโรงเรียนครั้งแรก

มาได้ครึ่งทาง ผมก้มตัวต่ำ เดินๆหยุดๆตามจังหวะของคนข้างหน้า ทุกอย่างดูง่ายกว่าที่คิดเพราะพี่ยามอยู่ไกลเลยไม่มีอะไรน่ากังวล หรือจริงๆแล้วผมก็มีพรสวรรค์กับการแหกกฎโรงเรียนอยู่บ้าง

   ... 'Bon'

อวยตัวเองได้ไม่ถึงนาที แล้วความ ‘ฉห’ ก็มาเยื่อน ไอ้เหี้ยบอนจะโทรมาทำไมตอนนี้วะ เสียง ringtone ดังลั่นลานจอดรถ ผมรีบล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเปากางเกง แต่ด้วยความตกใจกว่าจะตั้งสติแล้วกดปิดเสียงได้ก็ใช้เวลาไปพอสมควร 

“เฮ้ย!!! ไปดูซิว่ามีนักเรียนแบบอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า” เสียงยามตะโกนคุยกันข้ามลาน ผมรีบก้มตัวลงมองผ่านใต้ท้องรถ เห็นฝีเท้าพี่ยามกำลังเดินใกล้เข้ามา หัวใจเต้นแรงจนสั่น หันซ้ายขวาไม่เห็นแม้แต่เงาของแอมป์ มันชิ่งผมไปแล้ว ... กลัวจนขาก้าวไม่ออก ตายแน่ไอ้มิลค์ ถ้าโดนจับได้ต้องเข้าห้องปกครอง โดนตัดคะแนน ตายๆๆๆๆๆๆๆ

“มานี่”

“แอมป์”

“หุบปากแล้วตามกูมาเงียบๆ” มันกดเสียงต่ำ ก้มมองผ่านใต้ล้อรถเหมือนที่ผมทำ พอมันขยับ มือของผมก็คว้าต้นแขนมันไว้แน่น แอมป์หันกลับมา คิ้วหนายกสูงเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

“กูก้าวขาไม่ออก” ผมสารภาพแบบไร้ซึ่งความอาย

“ภาระสัส ๆ” น้ำเสียงของมันไม่สบอารมณ์อย่างมาก ก่อนที่มือหนาจะคว้าเข้าที่ข้อมือของผม ผมก้าวขาตามคนข้างหน้าราวกับคนไร้สติ มันเดินแล้วหยุดก้มตัวมองผ่านใต้ท้องรถเป็นระยะๆ เราเดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาจนผมหลงทิศ ก่อนจะหยุดอยู่หลังรถตู้คันใหญ่ มือหนายังกำรอบข้อมือของผมไว้ ผมหายใจหอบ ขาสั่นจนต้องทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เชี่ยแม่ง ไม่ไหวจริงๆ เรี่ยวแรงหายไปไหนหมดวะ

“แดกซะ” บางอย่างถูกยื่นมาตรงหน้า ยังไม่ทันได้ตอบสิ่งนั้นก็ถูกยัดเข้ามาในปาก

ลูกอมค่อยละลายในปาก ทันทีที่รับรสได้ว่ามันคือลูกอมรสสตอร์เบอร์รี่ ความคิดแรกคือคายทิ้ง แต่ถ้าผมคายออกมามีหวังโดนแอปม์บีบคอตายอยู่หลังโรงเรียน เลยได้แต่ฝืนอมไว้ ... น่าแปลกใจที่ความหวานและกลิ่นหอมของสตอเบอร์รี่ช่วยเรียกสติของผมให้กลับคืนมา

“ไปได้แล้ว...” แรงกระตุกที่ข้อมือทำให้ผมค่อยๆยันตัวขึ้นจากพื้น แล้วก้าวขาตามแอมป์ทุกฝีก้าว 

“...ตอนจะข้ามกำแพงต้องรีบหน่อย เดียวยามเห็น กูไปก่อนจะได้ดูต้นทางฝั่งโน้นให้ ...”

“...กูนับ 1 2 3 แล้วตามกูมา...” ผมพยักหน้า

“1 ... 2 ... 3 ... ไป!!!” มือหนากึ่งดึงกึ่งลากให้ผมเดินตาม ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ขาของผมก้าวเหยียบลงบนถังขยะตามคนตรงหน้า รู้ตัวอีกทีผมก็โดดลงมาจากกำแพงเรียบร้อย

“เหี้ย!!!” จังหวะที่ลงพื้น ผมเบรกตัวเองไม่ได้เลยไถลไปอีกหลายก้าว ถ้าไม่ได้แอมป์คว้าเอวไว้รับลองว่าได้จับกบอยู่หลังโรงเรียน

“มึงนี่ทำเหี้ยอะไรเป็นบ้างวะ ...” ผมหันกลับไปมองคนที่ประกบซ้อนอยู่ข้างหลัง ยังไม่ทันได้เถียง แอมป์ก็พูดเสียงแข็งใส่

“... เขยิบไป ...เหยียบตีนกู” อิเหี้ย!!! ดุอย่างกับหมา

“ขอโทษ” ผมพูดในจังหวะที่ต้องก้มตัวเอามือยังหัวเข่าเอาไว้ เหนื่อยราวกับหมาหอบแดด

“มึงไหวไหม” น้ำเสียงที่ลดโทนเข้มๆลงดังขึ้นจากด้านหลัง

“ไหว แต่ขอพัก ... แป็นนึง ... ขอบใจ ... ไม่ได้มึง กู ... แย่แน่เลย” ประโยคที่พูดออกมาขาดๆหายๆ ทำให้ตอกย้ำว่าที่ผ่านมาตัวเองออกกำลังกายน้อยไป ใช้แรงแค่นี้ถึงกับเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน

“เหนื่อยก็เก็บแรงไว้หายใจ พูดมากจนเป็นลมไป ลำบากกูต้องหิ้วมึงไปส่งห้องพยาบาลอีก” ความรู้สึกดีประมาณสิบแต่ความรู้สึกเกียจเกินล้าน คนอะไรมนุษยสัมพันธ์ติดลบ



“ไอ้มิลค์ กูคิดว่ามึงจะไม่รอดซะแล้ว” ไอ้บอนหันมากระซิบทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามานั่ง ผมกลับเข้ามากลางคาบที่ 2

“จะไม่รอดก็เพราะมึงเนี่ยแหละ โทรมาทำเหี้ยอะไรกูเกือบถูกจับได้” ผมพูดออกมาตามไรฟัน มองหน้ามันตาเขียวปัด มันยิ้มแห้ง แต่มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าไม่ความสลดอยู่ในนั้นเลย

“ไอ้แอมป์ละ” จีกระซิบถามมาจากด้านหลัง ยังไม่ทันได้หันไปตอบแอมป์ก็เดินเข้ามาในห้อง

ร้านเจ้ไม่ได้อยู่ห่างจากโรงเรียนเท่าไหร่ เดินไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง ขากลับ เพื่อความแนบเนียน แอมป์ให้ผมเดินเข้าโรงเรียนมาก่อน มันบอกจะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก่อนแล้วค่อยเข้าโรงเรียน

“เป็นไงบ้างวะ โดดเรียนครั้งแรก” จีถามทันทีที่หมดคาบเรียน ผมเลยหันหลังกลับไปคุย

“ตื่นเต้นโคตร เกือบไม่รอด ...”

“...ถ้าไม่ได้แอมป์ช่วยกูโดดจับได้ชัวร์” ภาพจำย้อนกลับไปยังเหตการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ในจังหวะที่เขาถามผมว่าไหวไหม ทำให้ผมรู้ว่าภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนแข็งกระด้างลึกๆแล้วกลับมีความอ่อนโยนซ่อนอยู่

 สายตามองข้ามไหล่ของจีไปยังคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของห้อง ในจังหวะเดียวกันนั้นแอมป์หันมาสบสายตาของผมพอดี ผมส่งยิ้มให้ แต่เจ้าตัวกลับทำหน้าตึงใส่แล้วก็หันกลับไป

ชั่ววินาทีที่สบตาผมรู้สึกเหมือนมือของแอมป์ยังคงกำรอบข้อมือของผม สัมผัสเพียงชั่วครู่แต่กลับฝังรากลึกลงในจิตใต้สำนึก ไอร้อนจากฝ่ามือหนา แรงบีบไม่ได้มากจนผมรู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่ได้เบาจนรู้สึกสบายตัว น้ำเสียงที่ออกคำสั่งแกมกึ่งบังคับ  ทันใดนั้นจังหวะการหายใจก็เหมือนจะขาดหายไปดื้อๆ หัวใจกระตุกเหมือนถูกไฟช๊อต เลือดลมสูบฉีด เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนแต่ที่แน่ๆมันใช้ความกลัว ... แต่เป็นอะไรบางอย่างที่ผมไม่กล้ายอมรับออกมา


ออฟไลน์ Milky_Milky_Way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สวัสดีครับทุกคน ตอนที่ 2 แล้วนะครับ  :mc4:

กลิ่นอายของตอนนี้ชัดเจนว่าอยู่ในช่วงยุค 2G ... พวกเราเลยได้เห็น item ในตำนานอย่าง floppy disk ที่ตอนนี้น่าจะสูญสลายไปจากโลกใบนี้แล้ว


อยากจะชวนคนอ่านเข้ามาร่วมพูดคุยกัน
หวังว่าทุกคนจะชอบครับ  :bye2:

เอารูปมิลค์-แอมป์ทำภารกิจเสี่ยงตายมาฝากครับ

ออฟไลน์ Milky_Milky_Way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai4: :katai5:

ออฟไลน์ Milky_Milky_Way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สวัสดีครับ ผู้อ่านทุกท่าน
อย่างแรกเลยคือขอบคุณทุกคนครับที่เข้ามาอ่าน
รู้สึกตกใจมากที่เปิดมาอีกทีและเห็นว่ายอดอ่านเพิ่มมาจากหลักร้อยเป็นพันกว่า

ความตั้งใจแรกคืออยากแต่งนิยาย Coming of age จริงๆ ที่เราจะได้เห็นตัวละครเติบโตทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ความรูู้สึกนึกคิด และมุมมอง-ทัศนคติ ... time line ของนิยายจะยาวพอให้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปด้วยกัน

เพื่ออรรถรสในการอ่านเลยขอกระซิบว่าในนิยาย ผมวางเศษขนมปังเอาไว้หลายจุด
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในตอนนี้ อาจจะมาโผล่อีกทีในตอนถัดๆไป
ถ้าใครหาได้ว่าเศษขนมปังมีอะไร มาคุยกันได้นะครับ ผมอยากรู้ว่า... “มีใครมองออกบ้างไหม”

หวังว่าทุกคนจะสนุกกับนิยายเรื่องนี้
และอีกครั้ง ... "ขอบคุณครับ สำหรับพันวิวแรกของชีวิต"


พาน้องมาทักทายทุกคนครับ

มิลค์ : "แวะมายิ้มหวาน ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะครับ ... จากน้องมิลค์คนเดิม เพิ่มเติมคือโดดเรียนเป็นแล้ว"
#รักนะ #ขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้ด้วยกัน

ออฟไลน์ Milky_Milky_Way

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Teaser ตอนที่ 3 : รักแรก



บางความรู้สึก... เริ่มต้นจากลูกอมรสหวาน

ผมก้มๆเงยๆอยู่หน้าตู้โชว์ขนม เดินวนไปวนมาอยู่หลายรอบจนสุดท้ายก็ตัดสินใจลองดูซักครั้ง ... พรุ่งนี้วัน Valentine’s ถ้าไม่ใช้พรุ่งนี้ ผมก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว ... เอาวะ เป็นไงเป็นกัน

“เอาอันนี้ครับ...” ผมชี้นิ้วผ่านกระจกบานใส่ไปยังถาดใส่ลูกอมสีชมพูสดใส

“...ผูกโบว์ให้ผมด้วยนะครับ”

ผมมองดูขวดแก้วที่บรรจุลูกกวาดสีสันสดใสในมือ ความหวังทั้งหมดฝากไว้กับของขวัญชิ้นนี้ ... ผมไม่ได้หวังอะไรตอบแทนแต่อย่างน้อยขอให้ได้บอกความในใจ

----------

มิลค์ : "เจอกันวันอาทิตย์ครับ ... จากน้องมิลค์คนเดิม เพิ่มเติมคือมีความรัก"

#LoveInEveryLifetime #รักนะ #ขอบคุณที่อยู่ตรงนี้ด้วยกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2025 23:29:48 โดย Milky_Milky_Way »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด