เยือนแมนแดนสรวง (จบแล้วครับ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เยือนแมนแดนสรวง (จบแล้วครับ)  (อ่าน 1745 ครั้ง)

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #30 เมื่อ03-04-2025 17:55:13 »

ตอนที่ 24: วินาทีลังเลที่สนามบิน – เมื่อใจอยากขอไลน์ แต่มือยังไม่กล้าพอ

Day 14 – 08:00 AM
สนามบิน Budapest
แสงแดดอ่อนพาดผ่านกระจกสูงตลอดแนว
ผู้คนทยอยลากกระเป๋า
เสียงล้อกระทบพื้นดังเป็นจังหวะ
กลิ่นกาแฟลอยมาเป็นระยะ
เป็นเช้าที่วุ่นวาย…แต่หัวใจของเอกกลับ “เงียบผิดปกติ”



คณะทัวร์รวมตัวใกล้ Gate
เสียงหัวเราะ เสียงลากกระเป๋า
บางคนพูดถึงที่บ้าน บางคนบ่นคิดถึงหมา
เอกยืนมองนาฬิกาข้อมือ…วนไปวนมา
ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา boarding

เป๋ายืนอยู่ห่างออกไปนิด
กำลังช่วยผู้หญิงวัยกลางคนพับเสื้อโค้ท
ใบหน้ามีรอยยิ้มแบบเดิม
รอยยิ้มที่เอกเห็นมาตลอด 14 วัน

และเป็นรอยยิ้ม…ที่เขากำลัง “กลัวจะไม่ได้เห็นอีก”



ในกระเป๋าเสื้อโค้ทของเอก
มี “สมุดจดเล่มเล็ก” ที่เป๋าให้ไว้
ในนั้น เขียนคำหนึ่งไว้เมื่อคืน

“ขอบคุณที่ทำให้ทุกวันในทริปนี้…ไม่ใช่แค่สถานที่”

เขาอ่านซ้ำ
แล้วกำสมุดไว้แน่น
ก่อนจะพูดกับตัวเองในใจ

“ขอไลน์เขาเถอะ ขอเขาไว้เถอะเอก…”
“หรืออะไรก็ได้…ที่จะทำให้เขายังอยู่ในชีวิตเรา”



เอกเงยหน้าขึ้น
เป๋าหันมาพอดี
สบตากันครู่หนึ่ง
ก่อนที่เป๋าจะเดินเข้ามาใกล้
ส่ง boarding pass ให้

“เรานั่งติดกันอีกแล้วนะพี่”

เอกยิ้ม
แต่หัวใจกลับยิ่งเต้นแรง
มือหนึ่งกำสมุด
อีกมือหนึ่งเกร็ง
เขากำลังจะพูด

ปากขยับแล้วว่า…

“เป๋า…”

เป๋าหันมา
ตาเป็นประกาย
แต่ก่อนที่คำว่า “ขอไลน์” จะหลุดออกมา
เสียงเรียกขึ้นเครื่องก็ดังขึ้นตัดจังหวะพอดี

“All passengers on Flight QR… please proceed to Gate B23.”



เอกยิ้มแห้ง ๆ
กลืนคำพูดกลับลงไป
ก่อนจะลุกตามกลุ่ม
เดินเข้าเกตช้า ๆ
หัวใจตกค้างไว้ตรงที่นั่ง
กับคำพูดที่ไม่ได้พูด

“ขอไลน์ได้ไหม”



บนเครื่อง
ระหว่างนั่งรอเครื่อง taxi ออกจากเกต
เป๋าหันมาถามเบา ๆ

“พี่…โอเคไหมครับ?”

เอกพยักหน้า
แล้วตอบกลับเบา ๆ
เสียงเกือบสั่น

“พี่แค่ไม่อยากให้ทริปนี้จบเร็วขนาดนี้…”



เป๋าไม่พูดอะไรอีก
แต่หยิบหูฟังมาแบ่ง
ใส่ข้างหนึ่งให้เอก
แล้วกดเล่นเพลง
ทำนองบรรเลงเบา ๆ
ไม่มีคำร้อง
แต่ลึก…ลึกพอให้รู้ว่า
“แม้ไม่มีคำใด เราก็ยังอยู่ข้างกัน”



ไฟลต์นี้
ยาว 10 ชั่วโมง
เอกหลับไปในที่สุด
หัวเอียงซบไหล่เป๋าโดยไม่รู้ตัว
มือข้างหนึ่งวางแนบต้นขาเป๋า
นิ้วแตะเบา ๆ
ใจไม่รู้
แต่ “กาย” รู้แล้ว…ว่าอยากอยู่ใกล้คนคนนี้อีกนาน

เป๋ามองเอกหลับ
แล้วเอียงหน้าแนบหัวเอกเบา ๆ
ก่อนจะพูดในใจ

“ถ้าพี่ไม่กล้าขอ…งั้นผมจะตามหาพี่เองก็แล้วกัน”

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #31 เมื่อ03-04-2025 17:56:12 »

อยากให้มันหวานอย่างนี้ตลอด

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #32 เมื่อ03-04-2025 18:00:11 »

ตอนที่ 25: กลับถึงไทย – ไม่มีการติดต่อ…แต่มีบางอย่างที่ไม่หายไป

11:00 น. – สนามบินสุวรรณภูมิ

เสียงกัปตันประกาศว่า “เครื่องแตะพื้นเรียบร้อยแล้ว”
เสียงปรบมือเบา ๆ ดังในห้องโดยสาร
ไฟเปิด
แสงแดดเมืองไทยส่องเข้ามาเต็มบานกระจก
คนค่อย ๆ ลุก
หยิบของ
สะพายกระเป๋า
เหมือนเป็นทริปธรรมดาอีกทริปหนึ่ง

แต่ไม่ใช่…สำหรับเอก



เอกยังไม่พูด
ยังไม่ลุก
ยังคงนั่งพิงไหล่เป๋าเงียบ ๆ
เหมือนใจยังไม่พร้อมจะ “ถึงบ้าน”
เพราะบ้านจริง ๆ…อาจจะอยู่ข้าง ๆ ตัวเขานี่แหละ



เป๋าหันมาหา
มองหน้า
ก่อนพูดเบา ๆ

“กลับไทยแล้วนะครับ”
“ขอบคุณที่ให้ผมอยู่ข้าง ๆ พี่ตลอดทริป”

เอกเงยหน้าขึ้น
ยิ้ม
แต่ไม่พูด
แค่สบตาแน่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
เหมือนจะ “จำ” ทุกแววตาไว้ให้ได้มากที่สุด
เพราะเขารู้…ไม่มีช่องทางติดต่อ
ไม่มีไลน์ ไม่มี IG ไม่มีเบอร์
ไม่มีอะไรเลย



ตอนผ่านตม.
แถวของเอกกับเป๋าแยกกัน
เป๋ามองข้ามหัวคนมา
ยิ้มให้
เอกยิ้มตอบ
ยกมือโบกเบา ๆ

เป็นภาพสุดท้ายที่ทั้งคู่เห็นกัน…ในฐานะคนแปลกหน้า
แต่ใจ—ไม่แปลกหน้ากันอีกต่อไป



เที่ยงวันนั้น

เอกนั่งอยู่เบาะหลังรถที่บ้านส่งมารับ
แสงแดดร้อนจัด
แต่เขาไม่ได้สนใจวิวข้างทาง
ในมือ มี “สมุดโน้ตที่เป๋าให้”
ในนั้น มีข้อความของเอกที่เขาเขียนเมื่อคืนก่อนบินกลับ

“ถ้าวันหนึ่ง นายหายไปจากชีวิตพี่ พี่จะยังจำว่า…“บ้านหลังหนึ่งเคยเกิดขึ้นในยุโรปตะวันออก”
“และบ้านนั้น…ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นคน”



วันนั้น
เอกกลับถึงบ้าน
แม่ พ่อ พี่สาว โอบกอดเขาแน่น
คนทำงานบ้านยิ้มรับ ยกกระเป๋าให้
กลิ่นบ้านที่คุ้นเคย
เสียงห้องนั่งเล่น
น้ำเสียงแม่ที่ยังอบอุ่นเหมือนเดิม

แต่ในใจเอก…กลับเหมือนยัง “หลงทางอยู่ในเมืองที่เขายังไม่อยากกลับ”



คืนนั้น
เขาเปิดมือถือ
เลื่อนดูรูป
ไม่มีรูปคู่
นอกจากภาพที่เป๋าส่งมา—ชื่อไฟล์ว่า “First Us”

เขากดดู
แล้วน้ำตาก็ซึมออกมาเงียบ ๆ
ก่อนจะเขียนบรรทัดสุดท้ายในสมุด

“บางคนเข้ามาในชีวิตเพื่อเปลี่ยนหัวใจเรา…แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยตลอดไป”



แต่เอกไม่รู้เลยว่า…
“บางคน” นั้น
กำลังพยายามตามหาพี่อยู่เหมือนกัน
ผ่านคนในคณะทัวร์
ผ่านแฮชแท็ก
ผ่านรูป
ผ่านทุกช่องทางที่พอจะสืบได้

เพราะเป๋า…
ไม่เคยคิดจะปล่อยให้พี่หายไปจากชีวิตเขา



จบ Part I: 14 Days in Eastern Europe

พร้อมก้าวเข้าสู่ Part II: กลับไทย – บางสิ่งกำลังเริ่มต้นอีกครั้ง

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #33 เมื่อ03-04-2025 18:16:46 »

ตอนที่ 26: กลับมาไทย – กับอีเมลฉบับหนึ่งที่มาช้า แต่มาก่อนหัวใจจะยอมลืม

สองสัปดาห์ผ่านไป
เอกกลับมาใช้ชีวิตปกติที่โรงงาน
แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว เครื่องจักร กลิ่นคลังสินค้า
กลับมาพร้อมหน้าครอบครัว
แม่ พ่อ พี่สาว พี่ที่ทำงาน เพื่อน
ทุกอย่าง “ดูปกติ”
แต่หัวใจของเอก…ไม่เคยกลับมาจริง ๆ



มีหลายคืนที่เขาเปิดมือถือ
ไถดูรูป
เจอภาพวิว
เจอข้อความในสมุด
แต่…ไม่มีอะไรใหม่

ไม่มีไลน์
ไม่มีข้อความ
ไม่มีแม้แต่ “เงา” ของเป๋า

เอกคิดว่า
“คงจบแค่ทริปนั่นจริง ๆ…”

จนกระทั่ง
เย็นวันศุกร์หนึ่ง
ตอนเลิกงาน
เขาเช็กอีเมลตามนิสัย
เลื่อนผ่านโฆษณา ใบสั่งของ ใบส่งสินค้า
แล้วก็หยุดนิ้วที่หัวข้อหนึ่ง

Subject: “ถึงพี่…จากคนที่ยังไม่ลืมวิวบูดาเปสต์”
From: “paophilosophyอย่าแสดงเมลบนบอร์ด”

หัวใจเอกเต้นแรง
มือเย็นเฉียบ
เหมือนกลับไปยืนอยู่บน Citadella Hill อีกครั้ง
แค่คนละมุมโลก



เขาค่อย ๆ เปิดอีเมล
ข้อความมีแค่ไม่กี่ย่อหน้า
แต่สะเทือนทุกอณูความรู้สึก



“พี่เอก”

ผมไม่รู้ว่าพี่จะอ่านอีเมลนี้เมื่อไหร่ หรือจะอ่านไหม

แต่ผมแค่อยากบอกว่า ผมจำทุกอย่างในทริปนั้นได้ชัด…โดยเฉพาะพี่

ผมไม่ได้กล้าขอไลน์พี่ เพราะกลัวพี่จะอึดอัด

แต่หลังจากวันนั้น ผมกลับมานั่งคิดว่า…แค่เราหายจากกันไปเฉย ๆ มันไม่ยุติธรรมกับหัวใจเลย

ผมพยายามถามจากคนในทัวร์ แต่ไม่มีใครมีเบอร์พี่

ผมเลยลองส่งอีเมลนี้มา หวังว่ามันจะถึง

“ผมยังอยากเจอพี่อีกนะครับ”

ถ้าพี่เอกยังจำผมได้…ตอบกลับก็พอ

– เป๋า



เอกนิ่งอยู่นานมาก
หัวใจทั้งพองและเจ็บ
เหมือนความทรงจำที่เกือบถูกฝัง…กลับฟื้นขึ้นมาทั้งก้อน

เขาเลื่อนขึ้น–เลื่อนลง
อ่านซ้ำ
น้ำตาคลอ…แต่ไม่ได้ร้อง

เอกวางมือถือ
หลับตา
และในที่สุด
ก็พูดออกมาคนเดียวในห้องพักพนักงาน

“เป๋า…นายตามมาจริง ๆ ใช่ไหม”



คืนนั้น
เอกไม่ตอบอีเมลทันที
เขาเปิดสมุดจด
เขียนเพียงบรรทัดเดียวลงไป

“บางคนจากไปเงียบ ๆ…แต่เสียงหัวใจเขาดังอยู่ข้างในเสมอ”

แล้วเขาเปิดอีเมลขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
นิ้วจ่อที่ปุ่ม “Reply”
และแม้ยังไม่พิมพ์อะไร
แต่ใจของเอก…เริ่มเปิดอีกครั้ง

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #34 เมื่อ03-04-2025 18:51:47 »

ตอนที่ 27: คำตอบแรก – เมื่ออีเมลตอบกลับ เปลี่ยนอนาคตของทั้งคู่

คืนวันศุกร์นั้น
เอกนั่งอยู่คนเดียวในห้องนอน
เปิดแสงไฟหัวเตียงเบา ๆ
มือถือวางนิ่งบนตัก
หน้าจอเปิดค้างที่อีเมลจากเป๋า

ข้อความสั้น ๆ แต่ชัดเจน
ไม่เร่ง
ไม่คร่ำครวญ
ไม่รั้งไว้ด้วยความเศร้า
แต่ “ขอให้รู้ว่าเขายังอยู่ตรงนี้”
พร้อมเดินเข้ามาอีกครั้ง…ถ้าพี่อนุญาต



เอกพิมพ์คำตอบช้า ๆ
แก้ไปหลายรอบ
ลบ แล้วพิมพ์ใหม่
จนสุดท้าย…พิมพ์เพียงไม่กี่บรรทัด



Subject: “ถึงคนที่อยากเจอพี่อีก”

“ขอโทษที่ตอบช้า พี่แค่…ไม่แน่ใจว่าหัวใจตัวเองควรทำยังไง”

แต่ตอนอ่านเมลของนาย…พี่ไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี

ขอบคุณที่พยายามตามหา

“ใช่ครับ พี่ยังจำทุกอย่างได้”

แล้วตอนนี้ พี่อยากรู้เหมือนกันว่า…เราจะได้เจอกันอีกไหม

– เอก



หลังส่งไป
เอกนั่งเงียบอีกครู่
มือวางบนอก
สัมผัสจังหวะการเต้นหัวใจตัวเอง
รู้สึกได้ว่า…มันเต้นแรงแบบ “เบาใจ” เป็นครั้งแรก



วันรุ่งขึ้น – เช้าวันเสาร์

เป๋าตื่นเช้ากว่าปกติ
เช็กเมลตามนิสัย
แล้วก็เจอ…

Reply จาก “เอกสิทธิ์”
ชื่อที่เขารู้ว่า “หมายถึงสิทธิ์พิเศษ”
และเขาเคยตั้งใจว่า
จะดูแลชื่อนี้ให้เป็นพิเศษที่สุดเท่าที่เคยดูแลใคร



เขากดเปิด
อ่านข้อความทุกคำ
ทุกประโยค
มือสั่นนิด ๆ
หัวใจสั่นมากกว่า

เป๋าไม่พูดอะไร
แค่ยิ้ม
แล้วหยิบสมุดที่เอกเคยให้ขึ้นมา
เขียนลงในหน้าว่างหน้าแรกทันที

“พี่ตอบกลับแล้ว”
“ทุกอย่างยังไม่สาย”
“ผมจะไม่ปล่อยให้พี่หายไปอีก”



กลางวันวันนั้น

เป๋าส่งอีเมลกลับไปอีกฉบับ
คราวนี้สั้นกว่าครั้งแรก
แต่มีพลังมากกว่าร้อยคำ



Subject: “ขอเจอพี่อีกครั้ง”

ผมไม่รู้ว่าเราจะเริ่มตรงไหน

แต่ถ้าพี่ยังเดินอยู่ ผมอยากเดินข้าง ๆ

ไม่ใช่แค่ในทริป

แต่ในชีวิตจริงด้วยครับ

ให้ผมเริ่มต้นใหม่…ในโลกที่ไม่มีไกด์ แต่มีหัวใจแค่สองคนได้ไหมครับ



เอกอ่านข้อความจบ
แล้วยิ้มเงียบ ๆ
ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับทันที

“เริ่มตรงไหนก็ได้…ถ้ามีเราอยู่ด้วยกัน”

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #35 เมื่อ03-04-2025 18:54:15 »

ตอนที่ 28: โลกจริงวันแรก – คาเฟ่ที่ไม่มีใครจองไว้ แต่หัวใจจองกันไว้แล้ว

บ่ายวันเสาร์
แสงแดดบาง ๆ ทอดผ่านกระจกหน้าคาเฟ่
ร้านเล็ก ๆ ย่านอารีย์
ไม่ดัง ไม่หรู ไม่คิวแน่น
แต่มีโต๊ะมุมหน้าต่างที่เป๋า “โทรมาจองล่วงหน้า 3 วัน”



เอกมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย
เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงผ้าสีครีม
นั่งเรียบ ๆ บนเก้าอี้ไม้
มือจับแก้วชาเย็นไว้แน่น
แต่ตากลับมองออกไปนอกร้าน
เหมือนกำลังนับจำนวนรถผ่านหน้าร้านแทนความกลัวในใจ



10 นาทีต่อมา
เป๋าเปิดประตูเข้ามา
สวมเสื้อยืดเรียบ ๆ กับกางเกงยีนส์
ดูธรรมดา
แต่แค่ยิ้มแรกที่เดินตรงเข้ามา
หัวใจของเอกก็ “ไม่เหลืออะไรธรรมดาอีกเลย”



เป๋านั่งลง
สบตา
แล้วพูดเบา ๆ

“ดีใจที่พี่มา”

เอกยิ้มบาง ๆ
ก่อนตอบกลับเสียงเบาเหมือนกัน

“ดีใจที่นายยังจำกาแฟไม่ใส่น้ำตาลของพี่ได้”



ทั้งคู่หัวเราะเบา ๆ
เหมือนความเงียบในช่วงห่างกันถูกละลายด้วยเสียงชาเขียวเย็นและกลิ่นกาแฟร้อน
แล้วบทสนทนาก็เริ่มไหลเบา ๆ

เป๋าเล่าว่าเขากลับมาที่ไทย
เรียนต่อและทำพาร์ตไทม์
ยังเขียนบทความปรัชญา
และ…ยังคิดถึงพี่ในทุกวันที่เปิดสมุดเล่มนั้น

เอกเงียบ
ฟัง
ยิ้มบ้าง
ถามกลับบ้าง
แต่มือใต้โต๊ะยังจิกเบา ๆ กับกางเกง
เพราะกลัวคำถามที่ตัวเองคิดมาตลอดจะหลุดออกมา



ในที่สุด
เอกก็พูดขึ้น

“เราจะเจอกันอีกครั้งหลังทริป…แล้วจะยังเหมือนเดิมได้จริงเหรอ?”

เป๋านิ่ง
ไม่ตอบทันที
แต่มองตาแน่นิ่ง
แล้วพูดเบา ๆ แบบที่มั่นคงกว่าครั้งไหน

“ผมไม่ได้อยากเหมือนเดิม”
“ผมอยากให้ดีกว่าเดิม”



ความเงียบปกคลุมระหว่างพวกเขาสักครู่
แต่ครั้งนี้…มันไม่อึดอัด
มันเหมือนรอฟังเสียงหัวใจที่กำลังตอบ

เอกก้มมองแก้วชาในมือ
ก่อนจะพูดเบา ๆ

“พี่ไม่ใช่คนเก่งเรื่องรัก…”
“แต่พี่คิดถึงนาย…ในทุกเช้าและทุกมื้อเย็น ตั้งแต่กลับมา”



เป๋ายิ้ม
วางมือบนโต๊ะ
แต่ไม่แตะมือเอก
แค่ถามเบา ๆ

“ขอผมลองเริ่มใหม่กับพี่…โดยไม่ต้องรีบได้ไหมครับ”
“แค่ไปคาเฟ่ด้วยกัน เดินข้างกัน ฟังพี่เล่าเรื่องที่ทำงาน…”

เอกพยักหน้า
หัวใจยังเต้นแรง
แต่ไม่ปฏิเสธ

“ถ้ามีชาเย็นด้วย…พี่โอเค”



ก่อนกลับ
เป๋ายืนรอเอกที่หน้าร้าน
เอกเดินตามออกมาช้า ๆ
ลมเย็นยามบ่ายปัดเส้นผมข้างแก้มเบา ๆ
เป๋าหันมาถาม
เสียงเบาแบบที่คุ้นเคย

“พี่ครับ…เรียกชื่อผมอีกทีได้ไหม”

เอกหลุดขำ
แล้วยิ้ม
มองตาเป๋า
ก่อนพูดคำเดียวที่เหมือนอ้อมกอดเงียบ ๆ

“เป๋า”



นับจากวันนี้
โลกของพวกเขา…อาจไม่ได้มีวิวเท่าปราก
ไม่ได้มีแม่น้ำสายโรแมนติก
แต่มีคำทักทายยามเช้า
มีคำถามว่า “กินข้าวหรือยัง”
และมีโต๊ะตัวเล็กในคาเฟ่
ที่ไม่มีใครจองไว้…
แต่หัวใจสองดวง
จองไว้ให้กันตั้งแต่วันนั้นแล้ว

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #36 เมื่อ03-04-2025 18:56:42 »

ตอนที่ 29: วันธรรมดา ๆ กับคนที่ไม่ธรรมดา – วันที่เป๋าแอบไปส่งเอกที่ทำงาน โดยไม่ให้รู้ตัว

06:40 น.
เอกเดินออกจากบ้าน
เสื้อเชิ้ตสีอ่อนแขนยาว กางเกงผ้าสีกากี กระเป๋าสะพายข้างธรรมดา
แต่ใจไม่ค่อยธรรมดา
ตั้งแต่คืนก่อน…ที่ตอบอีเมลเป๋าไป
แล้วได้เจอกัน
แล้วได้ยินเสียงจริง ๆ
ได้เห็นแววตาจริง ๆ

เอกไม่ได้คิดว่าชีวิตจะเปลี่ยน
แต่…แค่การตื่นมาแล้วมีใคร “ในใจ” อีกครั้ง
มันก็ทำให้ถนนข้างหน้า…ไม่เงียบเท่าเดิม



เขาเดินไปขึ้นรถพนักงานที่รับส่งคนในโรงงาน
นั่งเบาะเดิม
ตรงริมหน้าต่าง
เปิดมือถือ
มีข้อความหนึ่งเด้งขึ้นมาใน LINE ใหม่ (ที่เพิ่งแลกกันเมื่อวาน)

เป๋า: “พี่ตื่นยังครับ :)

เอก: “กำลังถึงโรงงาน”

เป๋า: “โชคดีวันนี้ครับ คนที่นั่งริมหน้าต่างขวาเสื้อสีเทาดูดีมากเลย”

เอก: “…อะไรของนาย”

เอกเลิกคิ้ว
กวาดสายตาออกไปนอกรถ
เห็นคนนั่งมอเตอร์ไซค์อยู่ฝั่งตรงข้าม
หมวกกันน็อกสีดำ เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์
ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า
เขากำลัง “ยกกล้องขึ้นมาเล็งมาทางรถ”

เป๋า



เอกพิมพ์ตอบทันที

เอก: “นี่นายแอบตามพี่เหรอ”

เป๋า: “ไม่เรียกตามครับ เรียกว่ามาส่ง :)

เอก: “แล้วจะไปเรียนทันไหม?”

เป๋า: “ทันครับ ผมเผื่อเวลามาส่งพี่ไว้แล้ว”

เอกถอนหายใจ
แต่ยิ้มไม่หยุด
ไม่ใช่เพราะโรแมนติก
แต่เพราะ…ไม่เคยมีใครคิดจะ “มาส่ง” เขาเงียบ ๆ แบบไม่ต้องโชว์
ไม่ต้องพูด
ไม่ต้องขออนุญาต

แค่ “มาเงียบ ๆ”
เพราะอยากให้รู้ว่า…ยังอยู่ข้างกัน



เป๋าถ่ายรูปเสี้ยวหน้าของเอกในรถ
ไม่ชัด
แต่แสงยามเช้าทำให้ดูอบอุ่น
เขาส่งมาในแชท
พร้อมข้อความว่า

“ผมชอบเวลาพี่มองออกไปข้างนอก มันเหมือนพี่กำลังมองหาอะไรดี ๆ ในโลกนี้อยู่ตลอด”

เอกอ่านข้อความ
แล้วไม่ตอบ
แต่พิมพ์คำสั้น ๆ กลับไป

“ขอบคุณนะเป๋า”



เช้าวันนั้น
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษ
แต่ในหัวใจของเอก
เหมือนมีใครคนหนึ่งแอบยื่นมือมากุมเบา ๆ
ให้รู้ว่า
“แม้จะเป็นแค่วันธรรมดา…ก็ไม่เหงาอีกต่อไปแล้ว”

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #37 เมื่อ03-04-2025 18:59:38 »

ตอนที่ 30: คำขอเล็ก ๆ จากเอก – แต่คำตอบกลับกลายเป็นของใครอีกคน

“ถ้าพี่ไม่ไหว…ขอแค่อย่าหายไปเงียบ ๆ ได้ไหม”

คืนนั้น
เอกส่งข้อความนั้นหาเป๋า
หลังจากที่เป๋าแอบไปส่งเขาที่โรงงานโดยไม่ให้รู้ตัว
ข้อความสั้น ๆ
แต่เป็นครั้งแรก…ที่เอกกล้าพูดถึง “ความกลัวของตัวเอง” ตรง ๆ

เป๋าตอบกลับทันที

“ผมไม่เคยคิดจะหายไปครับ”
“ต่อให้พี่ผลักผมออก…ผมก็จะยังยืนอยู่ใกล้ ๆ อยู่ดี”

เอกอ่านแล้วน้ำตาซึม
แต่ก่อนจะพิมพ์อะไรกลับ
เสียงเรียกเข้าจากเบอร์หนึ่งก็ดังขึ้น

เบอร์ที่เขา “ไม่ได้รับ” มาหนึ่งเดือนเต็ม
พี่แบงค์



เอกมองหน้าจออยู่นาน
ก่อนจะกดรับ
ไม่มีคำว่า “ฮัลโหล”
มีแต่เสียงทุ้มนิ่ง…ที่ดังขึ้นทันที

“เอก…อยู่ไหน”



บรรยากาศเปลี่ยน
ใจเอกเต้นแรง…แต่ไม่เหมือนกับตอนอยู่กับเป๋า
มันคือแรงแบบ “ไม่แน่ใจว่าควรอยู่หรือต้องหนีอีกครั้ง”

“พี่คิดถึงเอก”
“แค่คิดว่าเอกอยู่กับใครตอนนี้…พี่ก็หายใจไม่ออกแล้ว”

เอกนิ่ง
พยายามเรียบเสียง

“พี่แบงค์…เราไม่ได้ติดต่อกันมาเดือนนึง…”

“เพราะเอกหนีพี่ไปทั้งที่ไม่บอกอะไรเลย”
“ถ้าเอกอยากหนี พี่ก็ไม่ห้าม แต่ถ้าเอกยัง…ยังรักพี่อยู่บ้าง ขอแค่เอกกลับมา”

คำว่า “กลับมา”
มันไม่ใช่ประโยคธรรมดา
มันโยนทุกอย่างกลับมาที่ใจเอกทันที
ทั้ง 8 ปี
ทั้งอดีต
ทั้งภาพในมหาวิทยาลัย
เสียงหัวเราะ
ความผูกพัน
มือที่เคยจับ
อกที่เคยแนบ

และ…

“Empathy”



เอกเงียบไปครู่หนึ่ง
ภาพของเป๋าผุดขึ้นมาในหัว
ภาพใน Golden Lane
เสียงหัวเราะในบูดาเปสต์
สมุดโน้ต
ชาเย็น
โต๊ะคาเฟ่

แต่มันยัง “สู้ภาพที่อยู่มา 8 ปีไม่ได้”



คืนนั้น
เอกตอบพี่แบงค์สั้น ๆ

“เอกกลับไปคุยกับพี่ก็ได้”

ไม่ใช่คำว่า “กลับไปคบ”
แต่เป็น “การเปิดช่อง”
ซึ่งมากพอแล้ว…สำหรับพี่แบงค์



เป๋าส่งข้อความมาอีกทีตอนดึก

“ผมคิดถึงพี่นะ”

เอกเห็นข้อความนั้น
แต่ไม่ได้ตอบ

เขารู้…เป๋าอาจเริ่มรู้สึก
ว่าอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป



ในใจเอก
เขาไม่ได้ลืมเป๋า
ไม่ได้เลิกหวั่นไหว
แต่เขา “ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่า 14 วันมันเทียบ 8 ปีไม่ไหว”

เขารู้ว่าเป๋าดี
เขารู้ว่าเป๋าใส่ใจ
แต่เขายังไม่กล้า “หักกับอดีต”
โดยเฉพาะกับคนที่…
เคยเป็นรักเดียว รักแรก และรักที่เขาเคยคิดว่าจะเป็นคนสุดท้าย

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #38 เมื่อ03-04-2025 19:02:55 »

ตอนที่ 31: กลับไปคุยกับพี่แบงค์ – แต่รอยเดิมมันยังอยู่ และเป๋าก็ยังไม่ยอมถอย

เอกนั่งอยู่ในร้านกาแฟร้านเดิมที่เคยนั่งกับแบงค์
โต๊ะมุมติดกระจก
เคยเป็นโต๊ะประจำ…เมื่อนานมาแล้ว

พี่แบงค์มาถึงก่อน
ยิ้มให้
สูงโดดเด่นเหมือนเดิม
หุ่นนักวิ่งที่ใคร ๆ ก็เหลียว
ใคร ๆ ก็ชอบ
และเอก—ก็เคย “ภูมิใจ” ที่เป็นคนที่ได้นั่งฝั่งตรงข้ามคนนี้



“เอกผอมลงนะ”

เสียงพี่แบงค์พูดขึ้น
ในจังหวะที่เอกยังจัดเสื้ออยู่
คำชมแบบธรรมดา
แต่ในน้ำเสียง…มี “ความเคยชิน” ที่กลับมาทาบหัวใจเอกอีกครั้ง



พวกเขาคุยกันเรื่อย ๆ
เรื่องงาน เรื่องชีวิต
จนแบงค์ถามขึ้น

“ตอนที่เอกไปยุโรป…มีใครหรือเปล่า”

เอกชะงัก
เงียบ
ก่อนจะตอบช้า ๆ

“…มีคนดี ๆ อยู่คนนึง”



แบงค์หัวเราะเบา ๆ
แต่น้ำเสียงไม่เบาเลย

“เด็กกว่าหลายปีใช่ไหม”
“พี่เดาไม่ผิดหรอก เอกชอบคนอบอุ่น”

“แต่เอก…ยังไม่เคยอยู่กับใครได้นานนอกจากพี่เลยนะ”



เอกใจสั่น
รู้ตัวว่ากำลังโดนอะไรบางอย่างดูดเข้าไปอีกครั้ง
Empathy ของเขากำลัง “ซึมซับ” คำพูดนั้น
มากเกินไป
เหมือนที่เคย

แบงค์ไม่พูดตรง
แต่โยนให้เอกคิดเอง
ว่า “ถ้าจะเริ่มใหม่…มันต้องใช้เวลาอีกกี่ปี”
ในขณะที่
8 ปีที่ผ่านมา…มันคือหลักฐานของอะไรบางอย่างอยู่แล้ว



คืนนั้น
เอกกลับมานั่งอ่านข้อความเก่า ๆ ใน LINE
เจอรูปคู่ที่ลบไปแล้วแต่แบงค์เคยแคปไว้ส่งให้
เจอคำว่า “คิดถึง” ที่พิมพ์มาหลังหายไปสามวัน
และเจอข้อความที่ไม่ควรลืม…

“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ…มันแค่สนุกไปกับบรรยากาศ”

ข้อความจากวันที่เอกจับได้ว่าแบงค์ คุยกับคนอื่นซ้อน



เป๋าทักมา

“วันนี้พี่โอเคไหมครับ”

เอกอ่านข้อความนั้น
นิ่งอยู่นาน
แล้วพิมพ์ตอบกลับไปว่า

“วันนี้พี่เจอพี่แบงค์”



เป๋าอ่านข้อความนั้น
แล้วไม่ถามอะไร
แต่ส่งมาเพียง

“ถ้าพี่เหนื่อย…ผมยังอยู่ที่เดิมนะครับ”
“แค่ไม่อยากให้พี่เจ็บแบบเดิมอีก”



เอกวางมือถือ
น้ำตาไหลเงียบ ๆ
รู้ว่าใจตัวเองกำลังอยู่ระหว่าง “อดีตที่ยึดไว้” กับ “ปัจจุบันที่อุ่นกว่า”

แต่เขายังกลัวจะพูด
เพราะยังหาคำอธิบายไม่ได้ว่า…

“จะทิ้งคนที่อยู่ด้วยกันมา 8 ปี…เพื่อใครที่เพิ่งรู้จักแค่ 14 วัน ได้ยังไง”

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #39 เมื่อ03-04-2025 19:05:16 »

ตอนที่ 32: ที่เดิม – ของใครกันแน่

เส้นเรื่องที่ 1 – วันนี้

19:50 น.
หน้าจอมือถือยังเปิดอยู่
เอกอ่านข้อความของเป๋า
สองประโยคสั้น ๆ ที่นิ่ง และจริงใจเกินกว่าจะหาทางหนี

“ถ้าพี่เหนื่อย…ผมยังอยู่ที่เดิมนะครับ”
“แค่ไม่อยากให้พี่เจ็บแบบเดิมอีก”

ไม่มีสติ๊กเกอร์
ไม่มีอิโมจิ
มีแค่คำที่ดูเรียบ
แต่ทำให้ใจของเอก…เหมือนโดนส่องด้วยไฟอุ่น ๆ ในคืนที่ไม่แน่ใจว่าควรกลับบ้านหรือเดินต่อ

เอกพิมพ์ตอบว่า

“ขอบคุณนะเป๋า”

แล้วก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว
เขาไม่ได้ร้องไห้
ไม่ได้หัวเราะ
แต่หัวใจรู้ว่า
เขากำลังกลัวจะเสียใครบางคนที่ไม่เคยร้องขออะไรเลย…นอกจากจะได้อยู่ข้าง ๆ



เส้นเรื่องที่ 2 – วันนั้น

ย้อนกลับไป 7 ปีก่อน – มหาวิทยาลัย

เอกตอนนั้นอายุ 18
นิสิตวิศวะปี 1
หิ้วกระเป๋าเข้าลิฟต์ตึกบัญชีด้วยความเกร็ง
เพราะเพื่อนบอกว่า “พี่แบงค์” ที่มาสอนติวเลขคือคนดังของคณะ

ลิฟต์เปิด
แล้วเอกก็เห็นคนที่ “ดูเป็นตัวเอกของโลกทั้งใบ” เดินเข้ามา
พี่แบงค์—ปี 3 บัญชี
สูงมาก กล้ามแน่นแต่หุ่นลีน
ผิวคล้ำแดดจากการวิ่ง
ใส่แค่เสื้อยืดธรรมดาก็เหมือนหลุดมาจากโฆษณา



พี่แบงค์เห็นเอกถือชีทเกือบหล่น
เลยช่วยรับไว้
หัวเราะ แล้วพูดว่า

“จะหล่นตั้งแต่ก่อนเริ่มสอบเลยเหรอครับน้อง”



นั่นคือประโยคแรก
และจากวันนั้น…
แบงค์เริ่มเจอเอกบ่อยขึ้น
คุยกันมากขึ้น
และในวันที่เอกสอบผ่านวิชาที่คิดว่าจะไม่รอด
แบงค์พาไปเลี้ยงข้าว
พร้อมพูดเบา ๆ

“ถ้าไม่มีพี่ เอกจะผ่านได้เหรอ”

ประโยคที่ฟังเหมือนเล่น
แต่เอกกลับรู้สึก…ว่า
หัวใจเขา “ผ่าน” แค่ตอนมีแบงค์อยู่ด้วยจริง ๆ



กลับมาที่วันนี้

เอกเดินไปนั่งที่โซฟา
โทรทัศน์เปิดแต่ไม่ได้มอง
ใจเขากลับลอยไปที่ข้อความของเป๋าอีกครั้ง
แล้วคำว่า “ที่เดิม” ก็สะกิดใจเขา

เพราะที่เดิมของเอก…เคยเป็นที่ของแบงค์
เคยเป็นม้านั่งหน้าตึกวิศวะที่มีเงาคนสองคนซ้อนกัน
แต่ตอนนี้…มันไม่มีแล้ว

และเป๋า
กำลังนั่งอยู่ตรง “ที่เดิม”
แต่ไม่ได้รอให้ใครกลับมา
เขานั่งอยู่ตรงนั้น…เพื่อไม่ให้เอกต้องเดินคนเดียว



เอกยกโทรศัพท์ขึ้นอีกครั้ง
นิ้วเลื่อนไปที่แชทของแบงค์
เปิดดูประโยคหนึ่งที่แบงค์เคยส่งมา

“ไม่มีใครเข้าใจเอกเท่าพี่หรอก เชื่อพี่สิ”

เอกอ่าน
แล้วหลับตา
ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนไปที่แชทของเป๋า

อ่านข้อความเดิม…

“แค่ไม่อยากให้พี่เจ็บแบบเดิมอีก”



คืนนี้
เอกยังไม่ตอบใคร
แต่ในใจเขาเริ่มรู้ว่า
“คนที่เข้าใจ” กับ “คนที่ห่วง” มันไม่ใช่เรื่องเดียวกันเสมอไป

และบางที…
“ที่เดิม” อาจไม่ต้องเป็นที่เดิมจริง ๆ
แค่…ยังมีใครคนหนึ่งนั่งอยู่
ไม่ใช่เพื่อรอให้เอกรัก
แต่เพื่อไม่ให้เอกต้องล้มคนเดียวอีกแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เยือนแมนแดนสรวง
« ตอบ #39 เมื่อ: 03-04-2025 19:05:16 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #40 เมื่อ03-04-2025 19:07:46 »

ตอนที่ 33: ความเงียบที่เปลี่ยนไป – และอดีตที่ค่อย ๆ เปิดแผล

เส้นเรื่องที่ 1 – ปัจจุบัน

วันจันทร์
เอกตื่นสายกว่าปกติ
อากาศครึ้ม
และใจเอก…ก็ไม่สดใสเหมือนเมื่อวาน

เป๋าไม่ได้ทักมา
ไม่มีข้อความ
ไม่มีอิโมจิรูปช้างเดินเล่น
ไม่มีคำว่า “ทานข้าวยังครับพี่”



เอกพยายามไม่สนใจ
บอกตัวเองว่า
“บางที…เป๋าอาจแค่ไม่อยากก้าวล้ำ”

แต่ตอนเดินออกจากบ้าน
ระหว่างอยู่บนรถ
ตอนเปิดกล่องข้าวเที่ยง
เงียบแบบนั้น…มันกลับดังอยู่ในหัว

และเอกก็เพิ่งรู้ว่า
ความเงียบ…มันไม่เคยน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน



เส้นเรื่องที่ 2 – อดีต: มหาวิทยาลัย ปี 3

ปีนั้น
เอกขึ้นปีสาม
เรียนหนัก
ฝึกงาน
และเริ่มใช้ชีวิตเหมือนผู้ใหญ่เต็มตัว

พี่แบงค์ทำงานพาร์ตไทม์บัญชีที่บริษัทดัง
ใส่เสื้อเชิ้ตพอดีตัว
หล่อในแบบที่เอกเองก็ยังรู้สึกว่า “โชคดีที่ได้อยู่ข้างเขา”

แต่ในขณะที่เอกเหนื่อย พยายาม และพับชีวิตให้เล็กลงเพื่อเรียนและฝึก
แบงค์เริ่ม “ยุ่ง”
เริ่มตอบช้าลง
เริ่มมีชื่อใหม่ ๆ ปรากฏในวงสนทนา
และเอกก็รู้สึก…แต่ไม่กล้าถาม

เพราะในใจ เอกคิดว่า
“พี่แบงค์มีสิทธิ์เหนื่อยมากกว่า เพราะเขาโต”
“พี่แบงค์มีโลกของเขา”
และสุดท้าย
“พี่แบงค์รักเราอยู่แล้ว”



จนคืนหนึ่ง
เอกเห็นแชทในมือถือแบงค์
ที่แบงค์เผลอลืมล็อกไว้
ข้อความจากชื่อผู้หญิงคนหนึ่ง
จบด้วยประโยคว่า

“ถ้ามีใครรู้ว่าเรานอนด้วยกันเมื่อคืน จะเป็นยังไงน้า”



เอกถือเครื่องแน่น
น้ำตารื้น
แต่พอแบงค์เดินกลับมาจากห้องน้ำ
สิ่งเดียวที่เอกทำได้ คือถามว่า

“พี่คุยกับเขาเหรอ…”

แบงค์มอง
นิ่ง
ก่อนจะหัวเราะ แล้วพูดว่า

“บ้าหรอ เขาแค่เพื่อนพี่”
“ส่งอะไรมาเล่น ๆ ขำ ๆ”
“เอกคิดมากอีกแล้ว”



เอกยิ้มฝืน
พยักหน้า
แล้วพูดแผ่ว ๆ

“อืม…เอกขอโทษนะ”

คำขอโทษจากคนที่ “เห็น”
แต่เลือกจะเชื่อ
เพราะรักมากเกินกว่าจะยอมให้มันจบ



เส้นเรื่องที่ 3 – ปัจจุบัน (ต่อ)

กลางคืน
เป๋ายังไม่ทัก
จนเอกเผลอพิมพ์ไปว่า

“วันนี้หายไปนะ”

ผ่านไป 1 นาที
เป๋าตอบกลับ

“ผมอยากให้พี่ได้เงียบกับตัวเองบ้างครับ”
“ไม่ใช่เพราะผมหายไป”
“แต่เพราะผมยังอยู่ที่เดิม – แม้พี่จะหันไปมองที่อื่นก็ตาม”

เอกวางมือถือ
นั่งนิ่ง
แล้วค่อย ๆ กอดเข่าตัวเองบนเตียง

ครั้งแรก…ที่เขารู้ว่า
ความเงียบของเป๋า
ไม่ใช่เพราะถอย
แต่เพราะ “รักจนไม่อยากเป็นภาระในช่วงที่พี่ยังไม่แน่ใจ”



เอกมองไลน์ของเป๋า
แล้วพิมพ์ไปว่า

“ขอบคุณนะ…ที่ยังอยู่”

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #41 เมื่อ03-04-2025 19:11:58 »

ตอนที่ 34: บ้านของเอก – เสียงเงียบที่คนในบ้านเริ่มรู้สึก

เอกกลับถึงบ้านตอนทุ่มครึ่ง
เสียงเปิดประตูเบา ๆ
กลิ่นอาหารเย็นยังลอยอยู่ในอากาศ
แต่โต๊ะกินข้าวว่างแล้ว เหลือแค่จานกับฝาชีที่คลุมไว้

แม่เดินออกมาจากครัว
พอเห็นเอกก็พูดแค่คำเดียว

“กลับมาแล้วเหรอ เอก”



เอกพยักหน้า
ถอดรองเท้า
ก่อนจะเดินไปหยิบจานข้าวแล้วนั่งคนเดียวที่โต๊ะ

แม่นั่งฝั่งตรงข้าม
ไม่พูด
แค่มอง
และยิ้มบาง ๆ

เอกตักข้าวเข้าปาก
กินช้า
เงียบ
ไม่มีบทสนทนาเหมือนเคย
ไม่มีมุก
ไม่มีการเล่าเรื่องงาน
แม้แต่ชื่อของคนที่เคยพูดถึงบ่อย ๆ ก็ไม่เอ่ย



“ทำไมช่วงนี้เงียบจัง เอก”

เสียงแม่พูดขึ้น
เบา
แต่นิ่ง

เอกชะงัก
วางช้อน
ยิ้มฝืน แล้วพูดว่า

“ไม่มีอะไรครับ แค่เหนื่อยงานนิดหน่อย”



แม่ไม่ได้ซักต่อ
แต่สายตายังไม่ละไป

“เหนื่อยงาน หรือเหนื่อยใจลูก”



เอกไม่ตอบ
หลบตา
แค่ยิ้ม แล้วตักข้าวเข้าปากต่อ
แม่ไม่ถามอีก
แค่พูดว่า

“กินเยอะ ๆ นะ เอก”
“แม่อยู่ตรงนี้เหมือนเดิม”



คืนนั้น
พี่สาวของเอกเดินเข้ามานั่งข้างเตียง
ถือแก้วนมอุ่นมาให้
แล้วถามเสียงเรียบ

“คนที่ไปยุโรปด้วย…ยังทักมามั้ย?”

เอกตกใจ
แต่พี่สาวยิ้ม แล้วพูดก่อน

“ไม่ต้องตอบก็ได้ เอกไม่เคยพูดถึงชื่อเขาเลย แต่ตอนกลับมา หน้าน้องมีคำว่า ‘คิดถึง’ ชัดกว่าทุกครั้งที่เคยเห็น”

เอกนิ่ง
น้ำตาคลอ
พี่สาวไม่ได้ซัก
แค่วางแก้วนมไว้ แล้วเดินออกจากห้อง
ก่อนพูดทิ้งท้าย

“ถ้าเขาคือคนที่ทำให้น้องเราดูมีแสงขนาดนั้น…พี่ไม่แคร์หรอกว่าเขาจะอายุน้อยกว่า หรือใครจะพูดยังไง”



กลางดึกคืนนั้น
เอกนั่งกอดเข่าบนเตียง
มองแสงไฟหัวเตียงสีส้มอ่อน
หยิบมือถือขึ้นมา

แชทของแบงค์ยังค้างอยู่
แต่แชทของเป๋า…คืออันที่อยู่บนสุด
แม้จะไม่มีข้อความใหม่เข้ามา

เอกพิมพ์ไปว่า

“พี่ไม่รู้ว่าอะไรคือคำตอบที่ถูก”
“แต่พี่รู้ว่า…มีคนที่อยู่เงียบ ๆ โดยไม่ถามอะไรเลย”

ส่งไป
แล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างหมอน
ก่อนจะหลับไป
ด้วยความรู้สึกที่ไม่แน่ใจว่า…หัวใจของตัวเองกำลังอยู่ข้างใคร

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #42 เมื่อ03-04-2025 19:16:39 »

ฉากปัจจุบัน: กลับมาเจอกันอีกครั้ง – แต่รอยยิ้มมันไม่เหมือนเดิมแล้ว

ร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ย่านทองหล่อ
บรรยากาศเงียบ เสียงเพลงแจ๊สเบา ๆ เคล้าไปกับกลิ่นปลาย่างหอม ๆ

เอกนั่งฝั่งตรงข้ามพี่แบงค์
มือยังจับแก้วน้ำเย็นไว้แน่น
แต่ในแววตา มันคือ ความคุ้นเคยที่ปนความห่างบางอย่าง
เหมือนสองคนที่รู้จักกันดี
แต่ไม่รู้ว่าจะกลับไป “ใกล้” ได้ยังไง

พี่แบงค์วางตะเกียบ
ยิ้ม
แล้วพูดขึ้นเบา ๆ

“เอกยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ”

เอกหลบตา
แต่ยิ้มบาง ๆ
ตอบกลับแผ่ว ๆ ว่า

“แต่พี่แบงค์ดูโตขึ้นเยอะเลย…”



ระหว่างมื้อ
แบงค์ตักปลาย่างใส่จานเอก
ยังจำได้ว่าเอกไม่กินวาซาบิ
ยังจำได้ว่าเอกชอบชาเขียวเย็นไม่หวาน
และยังมองเอกเหมือนเมื่อก่อน

หลังมื้ออาหาร
แบงค์ถามว่าอยากเดินเล่นไหม
เอกพยักหน้า
แล้วทั้งสองเดินไปด้วยกันใต้แสงไฟริมถนน
ไม่มีใครพูดอะไรมาก
แต่พี่แบงค์เอื้อมมือมา
จับมือน้องไว้



“เอก…พี่ไม่อยากเสียเราอีก”

เอกเงียบ
มือยังไม่ชักกลับ
แต่ใจ…กลับไม่ได้เต้นแรงเหมือนวันแรกที่โดนจับมือ
มันเต้นเบา ๆ
แต่แผ่วจนเอกเองก็ยังไม่แน่ใจ



ฉากอดีต: มหาวิทยาลัยปี 2 – วันที่ฝนตก และร่มสีเดียวกันเปลี่ยนโลก

บ่ายวันศุกร์ ฝนตกหนัก
เอกเพิ่งเลิกคลาสวิชาคำนวณ
ยืนหลบฝนที่ป้ายรถเมล์หน้า fac
คนเยอะ
แต่มีร่มแค่คนละคัน

แล้วร่มคันใหญ่ก็ค่อย ๆ เข้ามาใกล้
พี่แบงค์เดินมายื่นร่มให้
ไม่พูด
แค่ยิ้ม แล้วเอ่ยเบา ๆ

“กลับด้วยกันไหม เอก”



ระหว่างทาง
ฝนกระทบผ้าใบเบา ๆ
เอกเดินชิดฝั่งขวา
กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากแบงค์ ทำให้ใจสั่น

ตอนถึงหอพัก
เอกจะเดินแยก
แต่พี่แบงค์ดึงแขนไว้เบา ๆ

แล้วพูดแค่คำเดียว

“พี่ชอบเอก”

เงียบ
ฝนยังตก
เอกไม่ตอบ
แค่ยิ้มแล้วหลบตา



พี่แบงค์ยื่นมือมาแตะแก้ม
นิ้วหัวแม่มือเช็ดละอองฝนที่เกาะข้างแก้ม

“ถ้าเอกไม่ว่าอะไร…พี่ขอดูแลนะ”



และนั่นคือจุดเริ่มของความรัก 8 ปี
ที่อบอุ่น
ยาวนาน
แต่ในความยาวนั้น
แผลบางอย่าง…ก็เริ่มสะสม

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #43 เมื่อ03-04-2025 19:19:01 »

ตอนพิเศษ

ฉากพิเศษ: ความผูกพันลึก ๆ ที่ทำให้เอกยอมให้อภัยพี่แบงค์

คืนวันอาทิตย์
ห้องเงียบ
ไฟหัวเตียงเปิดไว้สลัว ๆ
เอกกำลังเช็ดผมหลังอาบน้ำ
ในมือถือ…มีสายไม่ได้รับจากพี่แบงค์
3 สาย

เสียงข้อความดังขึ้นพอดี

พี่แบงค์:
“พี่อยู่ข้างล่างบ้านเอก…ไม่รู้ว่าได้ไหม”
“แต่พี่แค่อยากยืนใกล้ ๆ เอกอีกสักคืน”

เอกลังเล
แต่ก็ลุก
เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดธรรมดา
เดินลงไปเปิดประตู

พี่แบงค์ยืนอยู่หน้าประตู
ถือข้าวกล่อง
น้ำเต้าหู้
ของที่เอกชอบสมัยเรียน

“เห็นว่าเอกไม่ค่อยกินข้าวเย็น…”
“พี่เลยซื้อมาเผื่อ”



เอกไม่ได้พูด
แค่พยักหน้า
แล้วเปิดประตูให้

นั่งกินด้วยกันบนโต๊ะเล็กในห้องนั่งเล่น
เงียบ
แต่ไม่อึดอัด

จนแบงค์พูดขึ้นเบา ๆ

“เอกจำตอนที่เราติดฝนด้วยกันบนดาดฟ้าได้ไหม”
“พี่ไม่ได้กลัวฟ้าร้อง แต่พี่โกหกเพราะอยากกอดเอก…”

เอกนิ่ง
ยิ้ม
แต่อยู่ดี ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาเงียบ ๆ

แบงค์เอื้อมมือไปจับ
บีบมือเอกแน่น

“พี่รู้ว่าพี่เคยพังมัน…”
“แต่พี่ไม่เคยหยุดรักเอกเลยนะ”



เอกสั่น
ไม่ตอบ
แต่ปล่อยให้น้ำตาไหล

พี่แบงค์โน้มตัวมา
กอดเอกแน่น
ไม่เร่ง
ไม่เร้า
แต่…มั่นคงในแบบที่เอก “เคยชิน” มาตลอดหลายปี

เอกไม่ตอบ
แค่ซุกหน้าลงกับบ่าของคนที่เคยเป็นบ้าน

และนั่นคือคืนที่
เอกยอมให้อภัยอีกครั้ง
ไม่ใช่เพราะเชื่อว่า “เขาจะไม่ทำผิดอีก”
แต่เพราะ…
ยังไม่กล้าตัดขาดจากสิ่งที่เคยเป็นทุกอย่างในชีวิต

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #44 เมื่อ03-04-2025 20:01:04 »

ตอนพิเศษอีกแล้ว หรือจะเรียกว่าตอนที่ 34.1 ไม่แน่ใจ

ฉากพิเศษ: คำขอโทษที่รอมาแปดปี – และการร้องไห้ที่ปลดทุกความอัดอั้น

ห้องนั่งเล่นเงียบสนิท
มีเพียงเสียงแอร์
กับเสียงกล่องน้ำเต้าหู้วางเบา ๆ บนโต๊ะ

เอกนั่งขัดสมาธิบนโซฟา
หลังงุ้มเล็กน้อย
เหมือนคนที่กำลังพยายาม “เก็บ” น้ำตาไม่ให้ไหล

พี่แบงค์นั่งตรงข้าม
สองมือประสานกันแน่น
สายตาไม่ได้หลบ
แต่ไม่ได้กล้าสบตาเอกเต็ม ๆ



เงียบไปหลายนาที
แล้วเสียงทุ้มต่ำก็พูดออกมา

“เอก…”
“…พี่ขอโทษนะ”

เสียงมันเบา
เบาจนเกือบกลืนกับเสียงแอร์
แต่เอกได้ยิน
ชัดทุกพยางค์
ทุกตัวอักษร
ทุกอารมณ์



เขาเงยหน้าขึ้น
สบตาแบงค์
ก่อนที่น้ำตาจะไหลทันที
ไม่มีเสียง
ไม่มีคำพูด
แค่ไหล…



แล้วเสียงสะอื้นก็ตามมา
แรง
หนัก
ลึก
เหมือนทุกอย่างที่เคยกลั้นไว้มาหลายปี
มันปล่อยออกมาทีเดียว

เอกก้มหน้า
สองมือปิดปาก
ตัวสั่น
เหมือนเด็กที่โดนขังไว้ในความเงียบมาตลอดชีวิต
แล้ววันนี้…มีคนเปิดประตูให้

“ฮึก…ทำไม…เพิ่งพูด…”
“เอก…ไม่เคยได้ยินเลย…”
“ทุกครั้ง…เอกต้องเป็นคนขอโทษตลอด…”



แบงค์รีบลุกมากอด
กอดเอกแน่น
แน่นที่สุด
ไม่พูดอะไรอีก
แค่ให้เอกปล่อยออกมาจนหมด

เอกกอดตอบ
กอดแน่น
เหมือนจะจมอยู่ตรงนั้น
ร้องไห้จนหายใจติดขัด
หน้าอกกระเพื่อมแรง
เสียงขาดเป็นช่วง ๆ
แต่มือยังไม่ปล่อยจากแผ่นหลังของแบงค์



คืนนั้น
ไม่มีใครพูดอีก
ไม่มีบทสนทนา
ไม่มีคำว่า “กลับมาคบกันเถอะ”
หรือ “เราจะเริ่มใหม่”

มีแค่การขอโทษ
และการร้องไห้
ที่มากพอจะทำให้หัวใจ…หายใจได้อีกครั้ง

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #45 เมื่อ03-04-2025 20:02:50 »

ตอนที่ 35: เมื่อเอกเลือกแล้ว – และเป๋าเลือกจะไม่รั้ง

เช้าอาทิตย์
แสงแดดลอดผ่านม่านสีครีม
เอกตื่นขึ้นช้า ๆ
มึนหัวนิดหน่อย
ตาบวมจากการร้องไห้ทั้งคืน
ข้าง ๆ ตัว…ไม่มีใคร
แต่กลิ่นแชมพูของพี่แบงค์ยังอยู่ที่หมอนอีกใบ



“พี่ออกไปวิ่ง เดี๋ยวซื้ออาหารเช้ามานะ”
กระดาษโน้ตเขียนด้วยลายมือคุ้นเคย
วางไว้บนโต๊ะเล็กข้างเตียง

เอกยิ้มบาง ๆ
มุมปากยกขึ้นอย่างอ่อนล้า
แต่มีความอบอุ่นปะปนอยู่ในใจ

เขารู้ดี
ว่าการให้อภัยเมื่อคืน…ไม่ใช่เรื่องเล็ก
แต่ในวินาทีนั้น
หัวใจกำลังต้องการใครสักคนที่ “เคยเป็นบ้าน”



มือถือสั่นเบา ๆ
LINE แจ้งเตือนจากกลุ่มคณะทัวร์
ทุกคนพูดถึงภาพที่มีคนแอบแคปไว้ตอนอยู่บูดาเปสต์
ภาพหนึ่ง…
คือภาพที่เป๋ากำลังยื่นผ้าพันคอให้เอก
ระหว่างเดินริมแม่น้ำดานูบ

ใต้ภาพนั้น มีคอมเมนต์ว่า
“คู่นี้แอบน่ารักอะ”

เอกชะงัก
เลื่อนขึ้นไปดู
แต่แชทของเป๋า…เงียบ
ไม่มีข้อความ
ไม่มีการอ่าน
ไม่มีสติ๊กเกอร์
ไม่มีแม้แต่จุดเขียวแสดงสถานะออนไลน์



เอกเปิดแชทส่วนตัว
ไถย้อนขึ้นไปดูข้อความล่าสุด
สองประโยคนั้นยังอยู่

“ถ้าพี่เหนื่อย…ผมยังอยู่ที่เดิมนะครับ”
“แค่ไม่อยากให้พี่เจ็บแบบเดิมอีก”

ไม่มีคำว่า “ลาก่อน”
ไม่มีคำว่า “ไม่เป็นไร”
ไม่มีการอธิบายอะไรเลย

แต่เอกกลับรู้สึก…
ว่าเป๋ากำลังเดินถอยออกไป
แบบเงียบที่สุด
อ่อนโยนที่สุด
และ ไม่สร้างภาระให้อีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว



บ่ายวันเดียวกัน
เป๋าเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นภาพธรรมดา
ลบชื่อเล่นออก
เหลือแค่คำว่า “P.”
ไม่ใช่ Pao เหมือนเดิม



เอกไม่ได้ทัก
ไม่ได้พูด
ไม่ได้ส่งข้อความ
แต่รู้สึกถึง “ความว่าง” ในหัวใจ
แม้จะมีใครอีกคนกลับมาอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ตาม



คืนวันเดียวกัน
พี่แบงค์ยื่นนาฬิกาเรือนเดิมที่เคยให้เอกเมื่อปี 4
“อยากให้กลับมาใส่…เหมือนตอนที่เรายังอยู่ด้วยกันทุกวัน”

เอกยิ้ม
พยักหน้า
ใส่นาฬิกาเรือนนั้นไว้
แต่หัวใจกลับไม่ได้เต้นแรงเหมือนตอนเป๋ายื่นชาเย็นแก้วหนึ่งให้เขาที่สนามบินปราก



และในเงียบของคืน
เอกนอนหันหน้าเข้ากำแพง
มือถือวางข้างหมอน
ใจยังสงบ
แต่มีบางอย่างขยับเบา ๆ
เหมือนจุดเล็ก ๆ ที่กำลังจะ “หายไปตลอดกาล”
โดยที่เขาไม่รู้ว่า…
จะยังมีโอกาสได้หันกลับไปเจอหรือเปล่า

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #46 เมื่อ03-04-2025 20:04:41 »

ตอนที่ 36: เดินต่อ – แต่ใจยังหันกลับไปมอง

1. เป๋าหายไปจากชีวิตเอกอย่างชัดเจน

LINE กลุ่มทัวร์เริ่มเงียบ
ทุกคนกลับมาทำงาน
ชีวิตหมุนเข้าสู่จังหวะปกติ
แต่มีเพียงชื่อเดียว…ที่หายไป

Pao ไม่ตอบไลน์อีกเลย
ไม่คอมเมนต์
ไม่อยู่ในคลับของเพื่อนร่วมทริป
ไม่กดหัวใจโพสต์ของเอก
ไม่มีแม้แต่เงา

วันหนึ่ง
เอกลองเข้าไปดูโปรไฟล์ของเป๋า
พบว่าเปิดไพรเวท
เห็นแค่ภาพโปรไฟล์เล็ก ๆ ที่เปลี่ยนเป็นท้องฟ้าสีเทา
และสถานะที่หายไปแล้ว



เป๋าไม่ได้บล็อก
ไม่ได้หายแบบโกรธ
แต่เลือกจะ “ถอย” แบบเบา ๆ
เพื่อไม่ให้ความเงียบกลายเป็นความเจ็บ

และเอก…ก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น
โดยไม่รู้ว่าหัวใจตัวเอง “ยังเฝ้ามองเงานั้นอยู่ตลอด”



2. เอกเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกับพี่แบงค์ในแบบคู่รักอีกครั้ง

พี่แบงค์เริ่มแวะมารับหลังเลิกงาน
บางวันซื้อของที่เอกชอบ
บางวันทำกับข้าว
และบางคืน…เอกยอมให้แบงค์ค้าง

ทุกอย่างดูเหมือนจะกลับมา
เหมือนเมื่อก่อน
แม้รอยต่อจะยังไม่เรียบ
แต่ก็อบอุ่นในแบบที่ “เอกคุ้น”

แม่เห็นแบงค์อีกครั้ง
ยังไม่พูดอะไรมาก
แค่เรียกชื่อ

“แบงค์”

และถามเบา ๆ

“จะดูแลเอกได้ไหม คราวนี้…”

แบงค์พยักหน้า
จับมือเอกไว้
และเอกก็ยิ้ม

เหมือนจะมั่นใจ…ว่าเลือกถูกแล้ว



แต่ในบางคืน
เมื่อแบงค์หลับ
เอกยังคงนอนลืมตา
มองเพดาน
รู้สึกอุ่น
แต่…ไม่ได้รู้สึกว่า “ใจตัวเองเต็ม” เหมือนครั้งก่อน



3. ความรู้สึกบางอย่างเริ่มค้างคาในใจเอก

เอกนั่งอยู่ที่มุมประจำในคาเฟ่
จิบกาแฟเย็น
เปิดคอมทำงาน
และหูแว่วได้ยินเสียงเพลงฝรั่งเศสเบา ๆ ที่เป๋าเคยเปิดในรถระหว่างทัวร์

หัวใจสะดุด
ภาพริมแม่น้ำ
ภาพเรือลำเล็กที่เป๋าหยิบกล้องฟิล์มขึ้นมาถ่ายเขา
ภาพมือที่ยื่นชานมให้เขา
และสายตา…ที่ไม่เคยขออะไรจากเขาเลย



“เขาไม่เคยบอกว่ารัก”
เอกคิด
แต่ก็ไม่เคยลืมสายตาคู่นั้น



คืนนั้น
เอกฝันว่าเดินหลงในเมืองเก่า
คนเยอะ
เสียงวุ่นวาย
และท่ามกลางฝูงชน
มีคนคนหนึ่งยื่นมือมาจับมือเขาไว้แน่น

แต่พอหันไปมอง…
กลับไม่มีหน้า
ไม่มีชื่อ
ไม่มีเสียง

เอกสะดุ้งตื่น
หัวใจเต้นแรง
และคำถามเดียวที่วนอยู่ในหัวคือ…

“ถ้าเป๋าไม่ถอย…วันนี้เราจะกล้าก้าวเข้าหาเขาไหม”

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #47 เมื่อ03-04-2025 20:25:26 »

ตอนที่ 37: ดอกไม้ในแจกัน – และเงาที่ไม่มีเสียง

เย็นวันศุกร์
กลิ่นอาหารในครัวลอยมาแตะจมูก
พี่แบงค์กำลังใส่ผ้ากันเปื้อน
ยืนหั่นผักอย่างตั้งใจ
ขณะเอกนั่งพิงประตูห้องครัว
ยิ้มมองคนตรงหน้า

“พี่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำอาหารอร่อยได้ขนาดนี้เลยนะ”
แบงค์พูด
เสียงหัวเราะเบา ๆ ตามมา

เอกหัวเราะ
ยกกล้องมือถือขึ้นมาถ่าย
ถ่ายเงาไฟที่สะท้อนแก้มแบงค์ขณะเขาใส่พริกลงกระทะ
ถ่ายโดยที่ไม่ได้คิดจะแชร์
แค่เก็บไว้ในเครื่อง…ในโฟลเดอร์ “Only Us”



ค่ำคืนนั้น
พวกเขานั่งกินด้วยกัน
ฟังเพลงแจ๊สเบา ๆ
เอกวางคางไว้บนแขนพี่แบงค์ตอนดูซีรีส์
พี่แบงค์หอมหน้าผากเขาเบา ๆ
ก่อนจะกระซิบว่า

“พี่จะไม่พลาดอีกแล้ว เอก”

เอกไม่ได้ตอบ
แต่ยิ้ม
ยิ้มในแบบที่เคยยิ้มตอนปีหนึ่ง
ที่หัวใจเชื่อว่า…การกลับมา แปลว่าเขาเลือกเราอีกครั้ง



กลางดึก
พี่แบงค์หลับไปแล้ว
เอกลุกขึ้นมาเปิดผ้าม่าน
มองออกไปนอกหน้าต่าง
เมืองยังคงมีแสงไฟ
รถยังเคลื่อนผ่าน
แต่ใจกลับเงียบแปลก ๆ



อยู่ดี ๆ เอกก็รู้สึกเหมือน
มีใครกำลังมอง
ไม่ใช่มองด้วยความเกลียด
แต่เป็นสายตาอุ่น ๆ
เศร้า ๆ
เหมือน “ใครบางคน”
ที่เคยยืนอยู่ข้างหลังเขาในทริป
ที่เคยเดินข้าง ๆ แต่ไม่พูดอะไร



เอกหลับตา
พยายามปัดความรู้สึกทิ้ง
แต่ในหัว…กลับลอยภาพริมแม่น้ำดานูบ
ที่มีมืออุ่น ๆ จับไว้โดยไม่ต้องขออนุญาต



ไม่มีใครพูดชื่อ
ไม่มีเสียงแจ้งเตือน
แต่ในหัวใจของเอก
กลับได้ยินประโยคหนึ่งดังขึ้นเองในความเงียบ…

“ถ้าพี่เหนื่อย…ผมยังอยู่ที่เดิมนะครับ”

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #48 เมื่อ03-04-2025 21:58:52 »

ตอนที่ 38: หวานในความเงียบ – และเงาในทุกจังหวะชีวิต

วันธรรมดา
เอกนั่งทำงานที่โรงงาน
แก้แบบวิศวกรรมบนคอม
เสียงเครื่องปริ้นต์ทำงานในห้องข้าง ๆ
กาแฟร้อนวางอยู่ริมโต๊ะ
กลิ่นเหมือนเช้านี้
เหมือนเมื่อวาน
เหมือนทุกวัน

พี่แบงค์ส่งข้าวกล่องมาให้
มีโพสต์อิทแปะว่า
“อย่าลืมพักนะ คนเก่ง”
พร้อมลายมือที่ยังคุ้นดี
ยังทำให้เอกยิ้มได้เหมือนเดิม



ตอนเย็น
พี่แบงค์ชวนดูหนัง
ห้องเงียบ
มือกุมกันไว้
มีเสียงหัวเราะบ้าง
เอกพิงไหล่แบงค์ตอนหนังจบ
บอกตัวเองว่า
แบบนี้ก็ดีแล้ว…ใช่ไหม

แต่ในบางวินาที
ตอนเดินเข้าห้องน้ำ
ตอนรอไฟลิฟต์
ตอนมองออกไปจากหน้าต่างห้องนอน

เอกกลับรู้สึกเหมือนมีสายตาบางอย่าง “มองอยู่”
ไม่ใช่สายตาอันตราย
แต่เหมือนสายตาที่คุ้น
อ่อนโยน
แต่ปวดใจ



บางคืน
เอกฝัน
ว่าเดินในเมืองบูดาเปสต์คนเดียว
ฝนตก
แล้วมีใครบางคนถือร่มให้จากด้านหลัง
เอกหันไป
แต่ไม่เห็นหน้า
มีเพียงเงา…
ที่ยื่นผ้าขนหนูให้ พร้อมเสียงกระซิบ

“เดี๋ยวพี่ไม่สบาย”



เอกสะดุ้งตื่น
เหงื่อชื้น
มองไปรอบห้อง
ไม่มีอะไร
แต่ข้างประตู…มีดอกลิลลี่ขาวปักไว้ในแก้วน้ำ
เอกจำได้ทันที
ดอกไม้เดียวกับที่เป๋าเคยยื่นให้เขาวันแรกในปราก



เอกหันไปถามพี่แบงค์ตอนเช้า

“เมื่อคืนพี่เอาดอกไม้วางไว้ให้เอกเหรอ?”

แบงค์มอง
ขมวดคิ้ว

“ดอกอะไร? พี่ไม่ได้ซื้อดอกไม้นานแล้วนะ”



เอกเงียบ
ไม่ได้พูดอะไรอีก
แต่ในใจ…เหมือนเงาหนึ่งกลับมา
เงาที่เขาคิดว่า
ได้ถอยออกไปจากชีวิตแล้วอย่างเงียบที่สุด

แต่วันนี้
เอกเริ่มไม่แน่ใจว่า
เงานั้น…หายไปจริงไหม

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #49 เมื่อ03-04-2025 22:01:44 »

ตอนที่ 39: ความเงียบที่เริ่มมีเสียง

เอกตื่นเช้าตามปกติ
กินข้าวกับครอบครัว
แม่ยังคีบน้ำพริกให้
พ่ออ่านข่าวเสียงดัง
พี่สาวแซวเบา ๆ ว่า
“ดูสิ หน้าน้องเรามีคนรักแล้วจริง ๆ”

เอกยิ้ม
ไม่ได้ปฏิเสธ
ไม่กล้าพูดว่าใช่
แต่ก็ไม่อยากพูดว่าไม่



สายวันนั้น
พี่แบงค์มารับ
พาไปเดินเล่นห้าง
มีจับมือบ้าง
มีแอบหอมแก้มตอนเลือกขนม
มีหยิบขวดชาให้ตอนเอกง่วง
อบอุ่น
จริงใจ
และ…เป็นไปได้



บ่ายสามโมง
เอกขอตัวแยกไปเดินคนเดียว
บอกว่าอยากแวะร้านหนังสือ
แบงค์ยิ้ม แล้วบอกว่า
“โอเค เดี๋ยวพี่ไปรอที่คาเฟ่”

เอกเดินเข้าร้านหนังสือเงียบ ๆ
เหมือนเคยทำทุกเสาร์
เดินเลี้ยวเข้าหมวดปรัชญาโดยไม่รู้ตัว

มือไล้ปลายสันหนังสือ
เล่มที่สะดุดตาคือ…

“Man’s Search for Meaning” – Viktor E. Frankl

เล่มปกสีขาวเรียบ
คำว่า meaning ทำให้เอกนิ่งไปครู่หนึ่ง
มือเปิดอ่านหน้าคำนำ
ตาเริ่มจับข้อความสั้น ๆ…

“When we are no longer able to change a situation, we are challenged to change ourselves.”

และในจังหวะที่หัวใจสะดุดกับคำนั้น
เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
ชัดเจน
อ่อนโยน
แต่มั่นคงมากกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยิน

“เอกครับ…”

เสียงนั้นไม่มีคำว่า พี่
ไม่มีการเว้นจังหวะที่เคยเกรงใจ
ไม่มีความกลัวว่าใครจะไม่รับรู้
มีแค่ชื่อ…
ชื่อเดียว
ที่ออกมาจากปากคนคนเดิม
แต่เป็นคนละคนจากเมื่อก่อน

เอกหันไปช้า ๆ
เห็นเป๋ายืนอยู่
ไม่ใช่เด็กหนุ่มในเสื้อฮู้ดที่ตามคณะทัวร์
แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
ใส่เชิ้ตแขนยาวเรียบ
ยืนตรง
ไหล่กว้างขึ้น
สีหน้ามั่นใจ
แต่แววตา…ยังเป็นคนนั้นอยู่



เป๋ายิ้ม
แล้วพูดเบา ๆ

“ขอทักได้ไหมครับ”

เอกนิ่ง
ปิดหนังสือช้า ๆ
เสียงหัวใจเต้นดังพอ ๆ กับเสียงแอร์ในร้าน

แล้วตอบกลับเสียงเบา

“…ได้สิ”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เยือนแมนแดนสรวง
« ตอบ #49 เมื่อ: 03-04-2025 22:01:44 »





ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #50 เมื่อ03-04-2025 22:03:58 »

ตอนที่ 40: ได้โปรด…อย่าหันหน้าหนี

บ่ายนั้น
ร้านหนังสือยังเงียบ
คนเดินผ่านไปมา
แต่ทุกอย่างรอบตัวเอกกลับกลายเป็น “เบลอ”
นอกจากคนตรงหน้า

เป๋ายืนอยู่
ไม่ใกล้ ไม่ไกล
เหมือนเคย
แต่ครั้งนี้
เขาดูมั่นคงกว่าเดิมมาก



“สบายดีไหม…”
เป๋าเอ่ยก่อน
น้ำเสียงไม่สั่น
ไม่มีแววอ้อน
ไม่มีความลังเลแบบที่เอกเคยรู้จัก

เอกพยักหน้า
ตอบเบา ๆ
“ก็…เรื่อย ๆ น่ะ”



เงียบอีกนิด
ก่อนที่เป๋าจะยิ้ม
แล้วยื่นชาขวดหนึ่งออกมา
ชาขาวเย็น ไม่หวาน – แบบที่เอกชอบ

“จำได้ว่าชอบอันนี้…”

เอกชะงัก
ยิ้มจาง ๆ
“ยังจำได้อีกเหรอ…”

“ทุกวันมันยังอยู่ในหัวผมน่ะ”
เป๋าตอบตรง
แววตายังเหมือนเดิม
แต่ไม่มีความเด็กอีกแล้ว



เอกไม่พูด
แค่รับขวดชา
แล้วเดินไปนั่งที่มุมอ่านหนังสือ
เป๋าเดินตาม
แต่ไม่ชิด
เหมือนยังให้พื้นที่เสมอ
แม้ในใจจะเต็มไปด้วยคำถาม

“ตอนนั้น…ทำไมเงียบไป”
เอกถาม
เสียงเบามาก
เหมือนกลัวได้ยินคำตอบ

เป๋าเงียบไปชั่วครู่
แล้วตอบ

“เพราะผมรู้ว่าพี่…”
เขาหยุด
กลืนน้ำลาย
แก้ใหม่

“…เพราะผมรู้ว่า ตัวเล็ก ยังรักเขาอยู่”

เอกเงยหน้าขึ้น
สบตา
หัวใจเต้นแรงกว่าเดิม
ไม่ใช่เพราะคำเรียก
แต่เพราะน้ำเสียงนั้น
มันไม่ได้ แข่งขัน
มันไม่ เรียกร้อง
แต่มัน เข้าใจ



“ผมไม่อยากเป็นคนที่ไปขวางอะไรเลย
ผมเลยถอย…
แต่ผมไม่ได้เดินไปไหนไกลนะ
ผมแค่…หายใจเงียบ ๆ อยู่ข้างหลัง”
เป๋าวางมือลงบนโต๊ะ
นิ้วแตะเบา ๆ บนปกหนังสือ

“แค่ไม่อยากให้ตัวเล็กต้องหันกลับมาเห็นผมในวันที่ใจยังไม่พร้อมมองใคร”



เอกไม่รู้จะพูดอะไร
น้ำตาคลอ
แต่ไม่ไหล
ใจเหมือนมีอะไรเต้นอยู่กลางหน้าอก
บางอย่างที่ เคยเต้น มาก่อน
และไม่เคยเงียบจริง ๆ



“แล้วตอนนี้ล่ะ…”
เอกถามเบา ๆ
“…จะกลับมาเหรอ”

เป๋าสบตา
จริงจัง
มั่นคง
แต่แววตายังนุ่มนวลเหมือนเดิม

“เปล่า…”
“ผมไม่ได้จะกลับมา”
“เพราะผมไม่เคยไปไหนเลยต่างหาก”



เงียบอีกครั้ง
แล้วเป๋ายิ้ม
ยื่นมือข้ามโต๊ะ
ไม่แตะ
แค่ค้างไว้
และพูดเบา ๆ ว่า

“ครั้งนี้…ขอแค่อย่าหันหน้าหนีผมก็พอ ตัวเล็ก”

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #51 เมื่อ03-04-2025 22:05:32 »

ตอนที่ 41: เสียงโทรศัพท์…กับเก้าอี้ที่ว่างลง

เอกนิ่งไปหลังคำว่า “ตัวเล็ก”
ในน้ำเสียงที่ไม่ได้อ้อน
แต่ “มั่นใจ” กว่าทุกครั้ง

เป๋าไม่ได้กดดัน
ไม่ได้เร่ง
แค่ยื่นมือค้างไว้
เหมือนบอกว่า

“ถ้าจะจับ…ก็ขอให้เป็นเพราะใจ อยากจับจริง ๆ”



เอกมองมือนั้น
มือนิ้วยาว ๆ ที่เคยถือกล้อง
เคยยื่นผ้าพันคอ
เคยไม่เคยล้ำเส้น
แม้จะนั่งใกล้กันแค่คืบเดียว

หัวใจเอกเต้นดัง
แต่ยังไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา



Tr—rriiinnng…
เสียงโทรศัพท์ดัง
เบอร์ที่โชว์บนหน้าจอคือ
“พี่แบงค์”

เอกลังเล
แต่กดรับ
เสียงของแบงค์มาเร็วและสดใส

“อยู่ร้านหนังสือใช่ไหม เอก พี่เดินไปหาได้ไหม”

เอกหันไปมองหน้าเป๋า
เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่เป๋าแค่ยิ้ม
ยิ้มบางมาก
จนแทบอ่านไม่ออกว่าเศร้าหรือเข้าใจ



เอกตอบแบงค์เบา ๆ
“อื้อ อยู่ตรงมุมปรัชญา…”

พูดยังไม่ทันจบประโยค
เสียงสายถูกตัด
เอกเงยหน้าขึ้น
จะหันกลับไปหาเป๋าอีกครั้ง



แต่…เก้าอี้ว่างลงแล้ว

ไม่มีชาเย็น
ไม่มีมือ
ไม่มีรอยยิ้ม
ไม่มีแม้แต่เสียงฝีเท้าเดินจากไป



เหมือนเขาแค่เป็นลมเบา ๆ
ที่พัดผ่าน
แล้วเงียบหาย
กลับไปในความว่าง
อย่างที่เคยทำเสมอ



เอกนั่งนิ่ง
มือยังกำโทรศัพท์
แต่สายตา…มองไปยังเก้าอี้ตรงข้าม
ที่กลายเป็นเพียง “ความว่างเปล่า”
ที่ทิ้งร่องรอยไว้ในใจ



“เป๋า…”

ชื่อที่ไม่ได้พูดออกเสียง
แต่สะท้อนในหัวใจชัดเจนกว่าครั้งไหน

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #52 เมื่อ03-04-2025 22:07:19 »

ตอนที่ 42: รอยยิ้ม…กับสิ่งที่เป๋าทิ้งไว้

เอกยังนั่งมองเก้าอี้ว่าง
ขวดชาที่เป๋ายื่นให้ยังอยู่ในมือ
แต่เจ้าของมัน…หายไป
เหมือนฝุ่นบางเบาที่หลุดออกจากนิ้วมือ



“เอก!”
เสียงแบงค์ดังขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
เขาเดินเข้ามานั่งข้าง
ไม่ได้สังเกตอะไรผิดปกติ

“ดูอะไรอยู่เหรอ”

เอกส่ายหน้าเบา ๆ
ซ่อนขวดชาไว้ในกระเป๋าเป้

แบงค์หัวเราะ
“พี่กำลังจะไปกินข้าวต่อ ร้านโปรดเอกนั่นแหละ ไปไหม?”

เอกฝืนยิ้ม
พยักหน้า
แม้ในใจจะยังไม่กลับมาอยู่ตรงนี้ทั้งหมด



มื้อเย็นอบอุ่น
แบงค์เล่าเรื่องงาน
แซวเอกตอนนอนกรน
เอกหัวเราะบ้าง
พูดตอบบ้าง
แต่รู้ดีว่า “ใจตัวเอง”
ไม่ได้อยู่ตรงนี้ครบ



ค่ำวันนั้น
เอกกลับถึงบ้าน
แม่เดินมาทัก
พ่อแซวว่า “ไปกับแบงค์อีกแล้วสิ”

เอกยิ้ม
พูดแค่ “ครับ”
แล้วขึ้นห้อง



เปิดกระเป๋า
จะหยิบคอมออก
แต่เจอบางอย่างตกอยู่ใต้ขวดชา

มันคือ…

โปสการ์ดเล็ก ๆ
หลังขาวสะอาด
แต่ด้านหน้าคือรูปภาพ “สะพานชาร์ลส์”
ที่มีเงาของสองคนยืนข้างกัน
หนึ่งในนั้นมีหมวกไหมพรมสีกรม
แบบเดียวกับที่เป๋าเคยใส่วันแรกของทริป



ไม่มีข้อความ
ไม่มีลายเซ็น
ไม่มีคำบอกลา

แต่ข้างหลังโปสการ์ด
มีลายมือเล็ก ๆ เขียนไว้เพียงหนึ่งบรรทัด

“ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ว่ารัก คือการอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รบกวน”

เอกนิ่ง
มือค้าง
ใจเต้น
ไม่ดัง
แต่แน่น…เหมือนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหล



เขาวางโปสการ์ดไว้ข้างหัวเตียง
นั่งมองมันนานนับชั่วโมง
ไม่หยิบโทรศัพท์
ไม่เช็กแชท
ไม่ตอบไลน์แบงค์ที่ส่งมาว่า
“ถึงบ้านหรือยังครับ”



เอกแค่จ้อง
ข้อความหนึ่งประโยค
ในกระดาษใบเล็ก ๆ
ที่บางยิ่งกว่าอ้อมแขน
แต่หนัก…จนทำให้หัวใจเขาเอียง

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #53 เมื่อ03-04-2025 22:09:30 »

ตอนที่ 43: เงาที่ไม่เคยหายไป – และเสียงที่ขอให้ตามมาเงียบ ๆ

วันธรรมดา
เอกยังใช้ชีวิตตามเดิม
ทำงานที่โรงงาน
เจอแบงค์ช่วงเย็น
นอนด้วยกันบางคืน
ตื่นเช้าพร้อมรอยยิ้ม

ทุกอย่างดู “ปกติ”
แต่ใจเอกเริ่มสังเกตบางอย่าง



แก้วน้ำในห้องเอกถูกเปลี่ยนใหม่
หนังสือที่เคยอยากได้อยู่ดี ๆ ก็วางไว้บนโต๊ะ
มีคนแปะโพสต์อิทไว้ในกล่องข้าวว่า
“ไม่ใส่ถั่วลันเตา เพราะรู้ว่าไม่ชอบ”

เอกถามแม่
แม่ไม่รู้
ถามพ่อ พี่สาว ไม่มีใครรู้
แบงค์ก็ไม่รู้…



แต่เอก “รู้”
ว่ามันคือฝีมือของใคร
แม้จะไม่มีชื่อ
ไม่มีเสียง
ไม่มีคำอธิบาย

และทุกวันแบบนี้…แบงค์เริ่มยุ่งขึ้นจริง ๆ
ประชุมบ่อย
โทรศัพท์ถี่
เหนื่อยเกินจะมานั่งกินข้าวพร้อมกัน
เอกพยายามเข้าใจ
ด้วย empathy ที่คุ้นเคย
แต่…บางคืนก็ยังอดไม่ได้ที่จะเหงา



ค่ำวันหนึ่ง
มือถือเอกมีข้อความเด้งขึ้น

“เอกครับ…พอมีเวลาให้ผมสักบ่ายไหมครับ”

ชื่อผู้ส่งไม่ใช่แบงค์
แต่เป็น “P.” ที่เอกยังไม่ได้ลบออกจากรายชื่อ

เอกนิ่ง
ใจเต้น
ก่อนพิมพ์กลับสั้น ๆ

“ได้ครับ”



บ่ายวันนั้น
เป๋ามารับ
ยังใส่เสื้อเชิ้ตเรียบ
ใบหน้าไม่ตื่นเต้น
แต่แววตา…อ่อนโยนเสมอ

“ผมอยากให้เอกช่วยผมเรื่องหนึ่ง”
เขาพูดเบา ๆ ขณะขับรถ

เอกพยักหน้า
“เรื่องอะไรเหรอ”

“ผมอยากให้เอกเจออาจารย์ของผม”
เป๋ายิ้มนิด ๆ
“เขาช่วยผมหลายอย่างในชีวิต และผมอยากให้เขารู้จักคนที่ช่วยผมเหมือนกัน”



เอกนิ่ง
หัวใจสะดุด
ไม่ได้ตอบอะไร
แต่รู้ว่า…
เป๋าไม่ได้พูดเล่น
ไม่ได้พาไปเพราะว่าง
ไม่ได้ทำเพราะขอไปที

เขา “เลือก” ที่จะพาเอกไป
ในพื้นที่ที่สำคัญกับเขาจริง ๆ



รถจอดหน้ามหาวิทยาลัย
ตึกปรัชญาสงบ
ต้นไม้ปลิวตามลม
บ่ายนั้น แดดอ่อนมาก

เป๋าพาเอกเดินผ่านห้องเรียน
ผ่านโปสเตอร์นิทรรศการ
จนถึงห้องพักอาจารย์

ก่อนจะเคาะเบา ๆ แล้วพูดว่า

“อาจารย์ครับ…วันนี้ผมพา ‘เอก’ มาด้วยครับ”

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #54 เมื่อ03-04-2025 22:16:33 »

ตอนที่ 44: “เอกคือคำตอบ”



ฉากที่ 1: ห้องอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

ห้องทำงานของอาจารย์เงียบสงบ มีแสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านผ้าม่าน เป๋ากดออดเบา ๆ แล้วเปิดประตูเข้าไป พร้อมกับเอกที่ยืนอยู่ข้างหลัง

เป๋า (เสียงเรียบ มั่นใจ):
“อาจารย์ครับ… ผมมาส่งการบ้าน”

อาจารย์เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร ยิ้มเล็กน้อย

อาจารย์:
“อืม ว่ามา เป๋า… สรุปแล้ว สำหรับเธอ วิชาปรัชญาคืออะไร”

เป๋าหันไปมองเอกครู่หนึ่ง
มือซ้ายเขาแอบจับข้อมือเอกไว้ใต้โต๊ะโดยที่อาจารย์ไม่เห็น
น้ำเสียงยังเรียบแต่หนักแน่นกว่าเดิม

เป๋า:
“สำหรับผม… วิชาปรัชญาคือความรักและปัญญา”
(เว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนพูดต่อ)
“แล้วเอก… ก็คือทั้งสองอย่างนั้นสำหรับผม”

เอกหันขวับไปมองเป๋า ตาโตนิด ๆ
หน้าแดงซ่านแต่ยังพยายามเก็บอาการ
มือขวาของเขาแอบหยิกแขนเป๋าเบา ๆ ใต้โต๊ะ

เอก:
(กระซิบเบา ๆ) “พูดอะไรเนี่ย…”

อาจารย์ขมวดคิ้ว แต่แอบยิ้มนิด ๆ

อาจารย์:
“ถ้าเธอกล้าตอบแบบนี้… ฉันก็ไม่มีอะไรจะถามอีก”

เป๋าก้มศีรษะเบา ๆ แล้วลุกขึ้นพร้อมเอก
ประตูปิดลงเบื้องหลัง ขณะที่มือของเป๋ายังไม่ปล่อยจากข้อมือเอก



ฉากที่ 2: หน้าบ้านของเอก – กลางคืน

เสียงข่วนเบา ๆ ดังมาจากรั้วบ้าน
เอกเดินออกจากห้องนอนชั้นบน เหลือบเห็นเงาบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ข้างกำแพง

เอก:
(พึมพำกับตัวเอง) “อย่าบอกนะว่า…”

เขารีบลงไปเปิดประตูหลังบ้าน
เป๋ากำลังปีนขึ้นกำแพง มือหนึ่งถือกล่องเล็ก ๆ อีกมือเกาะขอบรั้ว

เอก:
“เป๋า! อย่าปีน จะตก!”

เป๋า:
(ยิ้มนิด ๆ) “ก็เห็นไฟในห้องยังปิด… เลยคิดว่าเอกหลับแล้ว”

เอกรีบเข้าไปคว้าแขนเป๋า

เอก:
“จะเข้าก็เข้าดี ๆ ดิ ปีนบ้านคนอื่นมันอันตรายนะ!”

เป๋า:
“ก็อยากให้แบบเซอร์ไพรส์…”

เอก:
(ถอนหายใจ แต่เสียงอ่อนลง) “เซอร์ไพรส์มาก ตกมาหัวแตกจะไม่ขำเลยนะ”

ทั้งคู่เดินเข้ามาทางหลังบ้านพร้อมกล่องของขวัญเล็ก ๆ ในมือเป๋า
เมื่อเลี้ยวผ่านทางเดินเข้าบ้าน พ่อ แม่ และพี่สาวสองคนของเอกยืนอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

แม่ของเอก:
(ขมวดคิ้ว) “คนนี้…”

พี่สาวคนโต:
(เสียงเรียบ) “เราเคยเจอเขา… ที่ยุโรปใช่ไหม?”

พี่สาวคนเล็ก:
“เด็กคนนั้นที่เดินตามเอกทุกวัน…”

บรรยากาศเงียบลงทันที
เอกยืนเกร็ง เป๋ายืนตรงไม่หลบตาใคร

เป๋า:
(นิ่ง) “ครับ ผมชื่อเป๋า”

แม่ของเอก:
“เด็กกว่าตั้งเท่าไหร่…”

เป๋า:
(ยังไม่หันไปมองเอก แต่พูดช้า ๆ)
“ผมรู้แค่ว่าเอกไม่ใช่พี่ของผม และผมก็ไม่เคยเรียกเขาแบบนั้น”

เอกสะดุ้งนิดหน่อย หันไปมองหน้าเป๋า

เป๋าไม่หันมามองเอกเลย
แต่ยื่นกล่องในมือให้แม่ของเอกแทน

เป๋า:
“ฝากให้เอกก็ได้ครับ ผมไปก่อนนะครับ”

เขาหันหลังกลับออกไปเงียบ ๆ
เสียงรองเท้ากระทบพื้นทางเดินหน้าบ้านค่อย ๆ หายไปในความเงียบ

เอกยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
กล่องของขวัญเล็ก ๆ วางอยู่ในมือแม่ของเขา

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #55 เมื่อ03-04-2025 22:19:00 »

ตอนที่ 45: “เหตุผลที่เอกพยายามเข้าใจ”



ฉากที่ 1: งานเลี้ยงบริษัทในเครือ – โรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ

ลานหน้าห้องจัดเลี้ยงแต่งด้วยไฟหรูหราสีทองอ่อน เอกเดินตามพี่แบงค์เข้ามาในงาน มือยังจับขอบสูทตัวเองเล็กน้อยอย่างประหม่า

เอก:
“คนเยอะจัง… เอกไม่รู้จักใครเลย”

แบงค์:
(ยิ้มบาง) “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่พาไปนั่งโต๊ะพี่เอง”

เอกพยักหน้าช้า ๆ แต่พอเดินถึงโต๊ะ พี่แบงค์กลับเอ่ยขึ้น

แบงค์:
“เอก นั่งโต๊ะนี้ก่อนนะ พี่ขอไปหาเพื่อนแป๊บ”

ไม่ทันให้เอกตอบ พี่แบงค์ก็เดินเร็ว ๆ ไปอีกฝั่งของห้อง
เสียงหัวเราะ เฮฮา และเสียงชนแก้วดังขึ้นจากโต๊ะที่แบงค์ไปนั่ง
เอกยืนนิ่งอยู่ตรงเก้าอี้ ตัดสินใจนั่งลงคนเดียวเงียบ ๆ

จากที่ไกล ๆ เอกเห็นพี่แบงค์กอดคอเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง
แล้วหัวเราะให้กับผู้หญิงในชุดเดรสรัดรูปสีน้ำตาล
มือแบงค์วางเบา ๆ บนหลังผู้หญิงคนนั้นก่อนจะหันกลับไปพูดกับโต๊ะ

เอกหันหน้าหนี หยิบแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นจิบ
พยายามบอกตัวเองว่า
“เขาคงแค่สนิทกัน… แค่เพื่อน…”

งานจบลงแบบที่ต่างคนต่างกลับ
ไม่มีใครถาม ไม่มีใครพูดถึงกัน
เอกยืนรอรถที่ลานจอดคนเดียว ใต้แสงไฟโรงแรมที่สว่างเกินไปสำหรับใจที่เริ่มหม่น



ฉากที่ 2: หน้าร้านอาหาร – เย็นวันถัดมา

เอกมาถึงร้านก่อนเวลา เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีอ่อน กางเกงขายาว เรียบง่ายแต่ดูดี
ระหว่างรอ พนักงานร้านเชิญเข้าไปนั่งด้านใน
แต่ในจังหวะเดียวกัน แม่ของเอกโทรมา

แม่ของเอก (เสียงโทรศัพท์):
“เอก แวะเอาชุดจากร้านซักรีดให้แม่หน่อยนะลูก อยู่แถว ๆ นั้นเลย”

เอก:
“ได้ครับ แม่ เดี๋ยวเอกแวบไปแป๊บเดียว”

เอกขับรถออกไปร้านซักรีด แต่การจราจรไม่เป็นใจ
รถติดหนึบกลางสี่แยก
เอกหยิบมือถือขึ้นมา โทรหาพี่แบงค์

เอก (เสียงร้อนรน):
“พี่ เอกไปรับชุดให้แม่ก่อน รถติดนิดนึง เดี๋ยวถึงร้านช้า แต่อยู่แถวนี้แล้วนะ”

เสียงพี่แบงค์จากปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับมา

แบงค์ (นิ่ง):
“พี่ไม่ว่างแล้ว เอก พี่ต้องรีบกลับไปปิดงานบัญชีด่วน เดี๋ยวไว้วันหลังนะ”

เอกขมวดคิ้ว

เอก:
“แต่… พี่นัดเอกแล้วนะ”

แบงค์:
“พี่ก็ไม่คิดว่างานจะเร่งขนาดนี้ เอกเข้าใจพี่นะ”

เอก (เสียงเบา):
“…เข้าใจครับ”

ในขณะที่ยังถือสายอยู่ เอกเหลือบมองไปที่ทางเท้า
ไม่ไกลจากร้านอาหาร มีร้านกาแฟหรูอยู่หน้าห้าง
และตรงหน้าร้านนั้นเอง…

พี่แบงค์ยืนอยู่
มือหนึ่งโอบเอวผู้หญิงในชุดเรียบหรู
อีกมือถือโทรศัพท์แนบหู – คุยกับเขาอยู่ในตอนนี้

เอกตาเบิกกว้าง
ขาแทบก้าวไม่ออก เสียงในสายยังพูดต่อ แต่เขาไม่ได้ยินอะไรแล้ว
ภาพนั้นฝังอยู่ในหัว – แบงค์ที่เขาเรียกว่า “พี่” โอบคนอื่น
ขณะที่เขารออยู่… เพราะเชื่อใจ



ฉากที่ 3: ในรถของเอก – ค่ำคืนที่เงียบเกินไป

เอกนั่งนิ่ง ไม่ขับรถต่อ
โทรศัพท์วางอยู่บนเบาะข้าง

เอก (พึมพำกับตัวเอง):
“อาจจะ… เป็นแค่ลูกค้า… หรือพาร์ตเนอร์งานก็ได้…”
“…พี่แบงค์คงไม่อยากให้เอกคิดมากเลยไม่พูดอะไร”
“…เขาคงกลัวเอกไม่สบายใจ…”

ประโยคเหล่านั้นพูดกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา
เหมือนเป็นเครื่องกลป้องกันใจ
เพราะถ้าหยุดพูด… ใจจะเริ่มแตก



เอก ยังเรียกพี่แบงค์ว่า “พี่”
แบงค์ ยังเรียกเอกว่า “เอก”
แต่ระยะห่างที่แท้จริง… มันกว้างขึ้นในใจของเอกแล้ว

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #56 เมื่อ03-04-2025 22:20:55 »

ตอนที่ 46: “สิ่งเล็ก ๆ ที่เป๋าทำ และสิ่งใหญ่ที่เอกต้องกลั้น”



ฉากแรก: ช่วงวันธรรมดา – ในวันที่ไม่มีใครเห็น

เอกเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในแต่ละวัน
บางอย่าง…ที่ไม่เคยมีใครพูดถึง

– ตอนสาย ๆ กาแฟดำเย็นวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเอก ไม่มีชื่อร้าน ไม่มีชื่อคนส่ง
– ตอนบ่าย กล่องขนมปังเนยสดที่เอกเคยพูดว่าชอบในวันหนึ่ง… โผล่มาในลิ้นชักข้างโต๊ะ
– วันฝนตก ร่มสีกรมท่าถูกวางไว้หน้าประตูทางออก พร้อมโน้ตแผ่นเล็กเขียนแค่
“อย่าลืมพกร่มนะ”
– และทุกเช้า… วินมอเตอร์ไซค์หน้าหมู่บ้านยิ้มส่งดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ให้
“น้องเป๋าฝากให้ครับ บอกไม่ต้องตอบอะไร”

เป๋าไม่เคยโทรหา ไม่เคยทักแชท ไม่เคยถามว่าได้รับไหม
เขาแค่… ส่งไปเรื่อย ๆ

เอกไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี
เขาแค่เก็บไว้
ทุกกล่อง ทุกดอกไม้ ทุกโน้ต… อยู่ในลิ้นชักใต้เตียง



ฉากที่สอง: งานเลี้ยงประจำปีของบริษัท

เอกแต่งตัวดี นั่งในรถคันเดิมกับพี่แบงค์
ระหว่างทาง พี่แบงค์หันมายิ้มให้บ้าง
แต่บทสนทนาน้อยลงกว่าครั้งก่อน

ในงาน เอกนั่งข้างพี่แบงค์จริง
แต่ความรู้สึกเหมือนนั่งไกลกันคนละโลก

เสียงหัวเราะของโต๊ะ พี่แบงค์สนิทกับเพื่อนร่วมงาน
จับมือ ทักทาย กอดเบา ๆ กับเพื่อนผู้หญิงบางคน
เอกนั่งนิ่ง ยิ้มบาง พยายามไม่เป็นภาระ
พยายามเป็น “ผู้ใหญ่” ที่ไม่คิดมาก

ระหว่างแยกเข้าห้องน้ำ เอกเดินผ่านกลุ่มผู้ชายสองสามคนที่กำลังคุยกันอยู่หน้ากระจก
เสียงพี่แบงค์ดังขึ้นในบทสนทนา

เพื่อนแบงค์ (เสียงหัวเราะ):
“เด็กพี่แบงค์เหรอ น่ารักดีว่ะ หรือว่าแฟน?”

แบงค์ (หัวเราะ):
“ป่าวหรอก เด็กที่ทำงานน่ะ”
“…อยากมางานใหญ่ ๆ น่ะ ก็แค่เด็กแถวบ้าน”

เอกยืนนิ่งอยู่หลังประตูห้องน้ำ
มือกำมือถือแน่น
ลมหายใจหายไปครู่หนึ่ง

เขาก้าวออกมาเหมือนไม่ได้ยิน
เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ…ยิ้มบาง ๆ แบบเดิม



ฉากสุดท้าย: ทางกลับบ้าน

ในรถคันเงียบ เอกไม่ได้พูดอะไร
พี่แบงค์ก็ไม่ได้ถามอะไร
เสียงเพลงเบา ๆ กลบทุกความรู้สึกที่ควรพูด

เอก (พึมพำในใจ):
“เขาคงไม่อยากให้เอกลำบากใจ…”
“เขาอาจแค่ไม่อยากให้ใครมองไม่ดี…เพราะเอกเด็กกว่ามาก”
“เขาคงแค่…ปกป้องเอกในแบบของเขา”

เอกหลับตาลง…
ทั้งที่มันเจ็บ
แต่เขาก็ยังพยายามทำความเข้าใจ

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #57 เมื่อ03-04-2025 22:35:54 »

ตอนที่ 47: “ท้องรถของอาเจ็ก”



ฉาก: หลังเลิกงาน – หน้าบริษัท

ฟ้ายามเย็นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม
เอกยืนอยู่หน้าตึก รอเรียกแท็กซี่
เพราะวันนี้ไม่ได้เอารถมา

เสียงแตรเบา ๆ ดังขึ้นจากรถเก๋งสีขาวสะอาด
รถที่เอกจำได้ดีว่าเป็นของ “อาเจ็ก” – หลงจู๊เก่าแก่ของโรงงาน
ชายวัยเกษียณที่ยังมาทำงานทุกวัน และไม่มีใครกล้าขัดคำพูดเขา

อาเจ็ก (ลดกระจกลง):
“ขึ้นมาสิ เดี๋ยวอาเจ็กไปทางนั้นพอดี”

เอกรีบเดินไปเปิดประตู

เอก:
“ขอบคุณครับอาเจ็ก… เหมือนเดิมเลย รถสะอาดตลอด”

อาเจ็ก (ยิ้มบาง ๆ ขณะขับออกจากลาน):
“สะอาดแต่ก็เก่าแล้วนะ ดูดีแค่ข้างนอกเอง”

รถเคลื่อนตัวออกจากโรงงาน
บนถนนสายที่คุ้นเคย เอกมองออกไปนอกหน้าต่าง
มือประสานบนตักแบบเรียบร้อยในแบบที่อาเจ็กมักชอบ

อาเจ็ก (พูดช้า ๆ ขณะมองถนน):
“รู้มั้ย รถคันนี้เนี่ย ข้างนอกดูแข็งแรง สวย ใช่มั้ย”
(เงียบเล็กน้อย)
“แต่ใต้ท้องรถน่ะ… ทำจากอลูมิเนียมนะ ท้องอ่อนมาก ต้องขับระวัง”

เอกหันไปมองอาเจ็ก
ใจสั่นเล็ก ๆ อย่างบอกไม่ถูก
เหมือนอาเจ็กไม่ได้พูดเรื่องรถจริง ๆ

เอก:
“…อาเจ็กหมายถึงอะไรครับ”

อาเจ็ก (ยังไม่หันมามอง เรียบ ๆ):
“ไม่ได้หมายถึงอะไรหรอก แค่พูดเฉย ๆ”
“…ของบางอย่าง ดูดีแค่เปลือก แต่ข้างในบางมาก
ถ้าขับไม่ระวัง มันก็จะพัง… แล้วซ่อมไม่ได้เหมือนเดิม”

เอกเงียบ
ใจเหมือนมีบางอย่างถูกสะกิดขึ้นมา
ภาพเหตุการณ์หลายวันก่อน – ในห้องน้ำคืนนั้น
เสียงพี่แบงค์
คำว่า “เด็กแถวบ้าน”
ทุกอย่างไหลย้อนเข้ามาในหัว

อาเจ็ก (หลังเงียบไปนาน):
“อาเจ็กเห็นเอกตั้งแต่วันแรกที่เข้าบริษัท
ตอนนั้นใคร ๆ ก็ยังไม่แน่ใจว่าเอกไหวไหม
แต่เอกก็ไหว… แค่บางช่วง ท้องมันอ่อนเกินไป”

เอกเงียบ
เสียงรถดังกลบความคิด
มือของเขากำแน่นกับกระเป๋าสะพายข้าง

เอก (เบา ๆ):
“…เอกจะระวังครับ”

อาเจ็ก (ยิ้มบาง ๆ):
“ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวพังหมดทั้งคัน ไม่ใช่แค่ใต้ท้องหรอกนะ”



รถเลี้ยวเข้าซอยบ้านเอก
เอกยกมือไหว้อาเจ็กก่อนลงจากรถ

อาเจ็กมองตามจนเอกเดินเข้าประตู
แล้วค่อย ๆ ขับรถออกไปอย่างเงียบ ๆ

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #58 เมื่อ03-04-2025 22:47:14 »

ตอนที่ 48: “ลายเซ็นสุดท้าย”



ฉากต้นเรื่อง: บ่ายวันหนึ่งในห้องทำงานที่แสงแดดอ่อนมากเกินไป

เสียงเคาะประตูดังเบา ๆ
ก่อนที่พี่แบงค์จะโผล่หน้าเข้ามาพร้อมแฟ้มสีกรมในมือ

แบงค์ (ยิ้มบางเหมือนทุกครั้ง):
“เอก ว่างมั้ย พี่มีเรื่องจะขอ”

เอกละสายตาจากหน้าจอ หันไปมองด้วยความคุ้นเคย
เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ที่พี่แบงค์เข้ามาหาในช่วงบ่ายแบบนี้

เอก:
“อะไรรึเปล่าครับพี่?”

แบงค์ (ยื่นแฟ้มมา วางไว้บนโต๊ะ):
“แค่เอกเซ็นตรวจสอบฝั่งวิศวะให้หน่อยนะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พี่จัดการไว้หมดแล้ว แค่ต้องการชื่อเอกในฐานะคนรับของฝั่งเราเฉย ๆ”

เอกนิ่งไป
เปิดแฟ้มขึ้นดูบางส่วน
แม้ไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็เห็นว่าเอกสารถูกจัดมาเรียบร้อยแล้ว

เอก:
“…เอกไม่ใช่คนรับของนี่ครับ”

แบงค์:
“รู้ พี่รู้”
(เว้นจังหวะ)
“แต่ช่วงนี้พี่เครียดเรื่องตรวจสอบมาก แค่เอกเซ็นให้ พี่จะได้ปิดรอบนี้ไปก่อน เอกช่วยพี่นะ…”

น้ำเสียงอ่อนโยน
เหมือนทุกครั้งที่เขาขออะไร
เหมือนทุกครั้งในความสัมพันธ์ 8 ปีที่ผ่านมา
เอกเคยเชื่อ… และยังคงเชื่อ

มือของเอกค่อย ๆ เซ็นชื่อลงไปในช่องผู้ตรวจสอบ
เป็นลายเซ็นเดียวกันกับที่เคยเซ็นขออนุมัติวันลา ขอเวร ขอค่าอาหาร
แต่ครั้งนี้… มันจะเปลี่ยนชีวิตเขา



ฉากกลางเรื่อง: สองสัปดาห์ต่อมา – ห้องประชุมของผู้บริหาร

เอกถูกเรียกเข้าห้องประชุมที่เขาไม่เคยเข้า
บรรยากาศไม่เหมือนทุกครั้ง
ไม่มีเพื่อนร่วมทีม ไม่มีหัวหน้าแผนก
มีเพียงชาย–หญิงชุดสูทเข้ม
และแฟ้มหนา ๆ วางอยู่กลางโต๊ะ

เจ้าหน้าที่สอบสวนภายใน:
“คุณเอกสิทธิ์ใช่ไหมครับ นี่คือเอกสารที่คุณเซ็นรับไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน”

แฟ้มเปิดออก
หน้าแรก – ลายเซ็นของเขาชัดเจน
ตรงช่อง “ผู้ตรวจสอบ”

เอกมองมันเหมือนมันไม่ใช่ของตัวเอง
เหมือนเขาเป็นคนอื่นที่แอบเข้ามาเซ็นแทนเขา

เอก (เสียงแผ่ว):
“มัน… มันคือเอกสารชุดเดียวกับที่พี่แบงค์…”

เจ้าหน้าที่ไม่พูดอะไร
เพียงแค่เลื่อนแฟ้มอีกเล่มมาให้ดู
รายการบัญชีตัวเลขที่ไม่ตรง
ลายเซ็นที่โยงถึงความผิด
และ “ชื่อของเอก” ในฐานะ “ผู้ตรวจสอบร่วม”

เจ้าหน้าที่:
“เราจะสอบวินัย และพักงานคุณระหว่างสอบสวนเบื้องต้น”



ฉากไคลแมกซ์: ลานจอดรถ – ใต้แดดที่ร้อนกว่าทุกวัน

เอกโทรหาพี่แบงค์
นิ้วกดเบอร์ที่คุ้นเคยซ้ำ ๆ
เสียงสัญญาณว่างยาว เหมือนไม่มีใครอยู่ปลายสาย

จนกระทั่ง…
ข้อความเดียวเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ

“ขอโทษนะเอก พี่ต้องปกป้องตัวเองก่อน”

โลกของเอกหยุดหมุน
ไม่ใช่แค่เจ็บ
แต่มันเหมือนโดนกระชากหัวใจออกไปทั้งดวง แล้วเหยียบย่ำซ้ำลงมาไม่ให้เหลือ

เอกนั่งอยู่ในรถที่ไม่ใช่ของตัวเอง
ไม่มีเสื้อบริษัท ไม่มีหน้าที่
ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีคำขอโทษ
มีเพียงลมหายใจสั่น ๆ และหัวใจที่ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเล็ก ๆ ให้กู้กลับ



คำบรรยายปิดตอน:
มันไม่ใช่แค่ความเสียใจ
แต่มันคือการทรยศ…จากคนที่เขารักที่สุดในชีวิต

ลายเซ็นนั้นไม่ใช่แค่ชื่อของเอก
แต่มันคือ “ชีวิตของเอก” ที่พังลงไปพร้อมกับความไว้ใจ

ออฟไลน์ Shibaguy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เยือนแมนแดนสรวง
«ตอบ #59 เมื่อ03-04-2025 23:10:08 »

ตอนที่ 49: “เมื่อความเงียบกลายเป็นเป้าหมาย”

“นี่คือสิ่งที่อาเจ็กเตือน“



ฉากที่ 1: ห้องประชุมพิเศษ – บริษัทใหญ่ในวันที่ลมหายใจหนักผิดปกติ

โต๊ะประชุมวงกลมขนาดใหญ่เต็มไปด้วยคนในชุดสูท
ผู้บริหารจากสำนักงานใหญ่ โรงงาน และฝ่ายกฎหมายภายในนั่งเรียงรอบโต๊ะ
เอกนั่งอยู่ฝั่งหนึ่ง เสื้อเชิ้ตเรียบ สีซีดไปถนัดตา
อีกฝั่งคือพี่แบงค์ – ในสูทเข้ารูป มั่นใจ และไม่หวั่นแม้แต่น้อย

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนวางเครื่องบันทึกลงตรงกลาง
เปิดเสียงที่ถูกบันทึกไว้

“แต่ช่วงนี้พี่เครียดเรื่องตรวจสอบมาก
แค่เอกเซ็นให้ พี่จะได้ปิดรอบนี้ไปก่อน
เอกช่วยพี่นะ…”

น้ำเสียงอบอุ่น
น้ำเสียงที่เอกเคยรัก…
แต่ตอนนี้กลายเป็นมีดทิ่มกลับมาหาเขาเอง

แบงค์ (ยิ้ม มองรอบห้อง):
“ใครจะไปรู้ล่ะครับว่าเด็กมันจะแอบอัดเสียง แล้วมาตัดต่อโยนความผิดให้พี่แบบนี้”
(หันไปทางเอก)
“เด็กสมัยนี้…ฉลาดนะครับ ร้ายเงียบ”

ห้องประชุมเงียบ
แต่สายตาหลายคู่เริ่มลังเล

หัวหน้าฝ่ายผลิต (กระซิบเบา ๆ):
“ผมว่าไม่น่าใช่ เอกเป็นคนเงียบ สุภาพ ขยันมาตลอด”

ผู้จัดการโรงงาน:
“ไม่เคยมีประวัติเสียสักครั้ง อยู่ดึกกว่าคนอื่นทุกวัน”

หลายเสียงดังขึ้นเป็นคลื่นบาง ๆ
แต่ไม่มีใคร “กล้า” พูดเสียงดังใส่แบงค์
เพราะเขามีตำแหน่งใหญ่
และเอก…ไม่มีอะไรนอกจากความเงียบ

เจ้าหน้าที่สอบสวน:
“ฝ่ายบัญชีส่งแชทมาให้แล้วครับ เป็นภาพหน้าจอที่แสดงว่าเอกเสนอข้อมูลเอง”
(วางหลักฐานลง)
“พร้อมสำเนาไฟล์บัญชีที่มีลายเซ็นยืนยันซ้ำในระบบอีเมล”

ทุกอย่างแนบเนียน
เหมือนมีใครเตรียมไว้… ล่วงหน้า

เอกไม่ได้พูด
เขาแค่…นั่ง
นั่งเงียบ
ฟังเสียงของความรักที่เขาเคยเชื่อ
กลายเป็นเสียงที่เหยียบหัวใจเขาอยู่ตรงหน้าโต๊ะประชุม



ฉากที่ 2: ลานจอดรถ – หลังประชุม

เอกเดินออกมาคนสุดท้าย
แดดบ่ายแรงจ้าเกินกว่าที่หัวใจเขาจะรับไหว
ขาเริ่มอ่อน
แต่เขายังยืนอยู่

เพราะไม่มีที่ให้ล้ม

แต่แล้ว…
เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเบา ๆ จากเงาใต้ต้นไม้ข้างลาน

เป๋า (น้ำเสียงนิ่งแต่ลึก):
“พี่…”

เอกเงยหน้าขึ้น
เห็นร่างคุ้นเคยในชุดนักศึกษา
ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่…ก็ไม่รู้

เป๋า:
“ผมมีเสียงต้นฉบับครับพี่”
(ยื่นโทรศัพท์ออกมา มือสั่นนิด ๆ แต่มั่นคง)
“ผมแอบอัดไว้ตั้งแต่ตอนพี่โทรมาถามผมเรื่องลังเลจะเซ็นให้แบงค์”
“…วันนั้นผมรู้สึกแปลก ๆ เลยกดบันทึกไว้ทั้งหมด”

เอกเบิกตากว้าง น้ำตาเอ่อแต่ไม่ยอมไหล
ขยับปากจะพูด…แต่เป๋าพูดต่อก่อน

เป๋า (สายตานิ่ง เรียบ):
“คราวนี้…ผมจะไม่ปล่อยให้ใครใช้พี่อีกแล้ว”
“…ไม่ว่าจะในฐานะอะไร ผมก็จะอยู่ข้างพี่”



คำบรรยายปิดตอน:

เอกเคยเชื่อว่า “ความเงียบคือพื้นที่ปลอดภัย”
แต่วันนี้ เขารู้แล้วว่า…
ความเงียบของเขา อาจกลายเป็นเป้าหมายของคนที่คิดร้าย

และเป๋า—คือเสียงแรก ที่กล้าพังความเงียบนั้น
เพื่อปกป้องหัวใจที่กำลังพังของเอก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด