Lover Fire : 2 – ตะลุย(ป่า)รักข้างทาง!
อยากสับต้นคอด้วยสันมือสักทีแต่ปล่อยไว้แบบนี้ณานเพื่อนรักก็ดูน่ารักดีเลยให้โวยวายต่อไป เปิดเพลงฟังแล้วมันไม่สบายใจฟังเสียงแหบแห้งร้องโวยวายดันทำให้จิตใจสงบได้ซะงั้น!...ถ้า
แว้ปหนึ่งดันนึกถึงน้ำเสียงแปลกๆ ของณานในความฝัน เสียงลมหายใจหนักๆ เสียงอึกอักในลำคอ หัวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน เรียวปากขบกันแน่นจนเรียวกรามนูนชัด ให้ตายเถอะ! เพราะไอ้ฝันประหลาดนี่แท้ๆ ทำให้มองหน้าเพื่อนณานได้ไม่เต็มตาเสียที ไม่เพียงแต่คิดลามก เท้าน้อยๆ ขนาดเบอร์เก้าของนายตำรวจร่างเล็กกดคันเร่งรีบลบภาพจำไม่ดีออกจากความคิดโดยเร็ว ทำเอาคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถึงกับอ้าปากร้องทักแทบไม่เป็นภาษาคนสักเชื้อชาติหนึ่ง
“ที่ร้าก! เสียว!จน
(ตัว) แข็งแล้วจ้า พอก่อนเดี๋ยว
(ฉี่) แตกน้า!” คำพูดสองแง่สองง่ามไม่ทำให้นักสืบหน้าหล่อละอายปากที่จะพูดหยอกเล่นกับเพื่อนรัก
"กลั้นไว้อยาก
(ฉี่) แตกใน
(รถ) ไม่อยากล้าง" ไคจินไม่สนใจประโยคชวนจั๊กจี้ใต้สะเอว ยิ่งเหยียบคันเร่งเฆี่ยนรถเหมือนขี่ม้าเลี้ยวเข้าป่ารกร้างข้างทางสู่ถนนเส้นวิบาก
"ที่รักผมชอบ...เสี่ยว...นะแต่ๆ...ขอเปิดงานบนเตียง...ก่อน โอ้ว!" เสียงตะกุกตะกักของณานแม้แต่ระบบขับเคลี่ยนที่ดีก็ไม่สามารถช่วยได้เพราะถนนที่กำลังวิ่งคือดินและก้อนหินเกลื่อนกลาดต่างขนาดกันเหมือนวิ่งบนธานน้ำที่เหือดแห้งมีแต่กองหิน
"ชู่ว์!..." เสียงกระซิบสั่งให้เบาและปิดปากให้สนิท แต่คนสั่งไม่ได้ตระหนกตื่นกลัวแต่อย่างไรกับกระหายความตื่นเต้นเหมือนหนีตายจากผู้ล่าแต่หน้าตายิ้มกริ่มเหมือนได้เล่นสนุก
"มายก็อด!" ฌานเห็นหน้าตาท่าทางสนุกสนานกับการขับรถกลางป่ายามค่ำคืนของไคจินได้แต่อ่อนใจ
นักสืบตาไวมองเห็นดวงไฟแล่นตามผ่านกระจกข้างจึงรู้ว่าถูกติดตาม เขาจนปัญญาที่ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่ตามรังควานอยู่ตอนนี้เพราะช่วงนี้ต่อดีลไว้หลายฝ่ายเหลือเกิน ก็ไม่แต่ทำตามใจปราถนาของที่รักไปจะพาไปลงหลุมรักที่ไหนก็ยอมทั้งนั้น...
พระเจ้า พระพุทธ พระอัลเลาะห์ พระโพธิสัตว์ โปรดเมตตามนุษย์ชายหน้าตาคมเข้ม สมาร์ทฮาร์ต ร่ำรวยอารมณ์ขัน สเน่ห์ชายชาตรีนั้นก็แพรวพราวคนนี้ด้วยเถิดเทอญ มนุษย์หนุ่มยังไม่ได้ดำเนินรอยตามอารยชนแพร่กระจายเมล็ดพันธุ์แห่งมนุษยชาติแม้แต่เมล็ดเดียว!... ใครจะไปคิดว่านั่งรถหรูหรายี่ห้อดังแต่สมบุกสมบันลุยป่าฝ่าดงตอนดึกมึดตื๋อแบบนี้ ความรู้สึกตื่นเต้นเกิดเถิดไปจนเริ่มตื่นตระหนกส่วนตัวเป็นคนรักสงบชอบอยู่กับเย้าเฝ้ากับเรือนผิดกับเพื่อนไคจินรายนั้นชอบความโลดโผนโจนทะยานรักการผจญภัย “โอ้ย!เอ่อ...ที่ระ”/ “เงียบก่อน!”
ณานอ้าปากค้างหุบคำว่ารักไม่ได้เพราะได้ยินคำขาดว่าให้งับริมฝีปากกักเสียงอย่าให้หลุดรอดออกมาได้
ไคจินถอยรถเข้าป่าเข้าพงแม้มองไม่เห็นทางแต่ทำอย่างชำนิชำนานเหมือนทำมาจนชิน พื้นที่ป่าและพื้นที่รกร้างบริเวณนี้เหมือนกับลานหน้าบ้านที่ไคจินวิ่งเล่นตั้งแต่เด็ก เขามีหลุมหลบภัยที่พลางสายตาคนต่างพื้นที่ได้ดี
ที่แห่งนี้เป็นที่เล่นเกมส์ล่าทรชนคนเล่นจริงกับเพื่อนพ้องอันธพาลเมื่อเป็นวัยรุ่นพลังพุ่งพร่านชอบสิ่งเร้าอารมณ์กระตุ้นอะดรีนาลีน เพื่อนพวกนั้นเล่นจริงเจ็บจริงเสียด้วยสิถ้าไม่เอาตัวรอดก็ต้องนอนระบมนอนซมรอหยอดน้ำข้าว
สองคนออกจากรถอย่างเงียบเชียบนำโดยนายตำรวจหน้าตี๋เป็นผู้คุมสถาณการณ์ คอยดึงณานให้เดินหลบซ่อนตัวใต้เงาร่มไม้ ช่างเป็นสถานการณ์กระตุ้มต่อมโรแมนติกในคืนอันมืดมิดท่ามกลางแสงจันทร์ จนมาเจอบ้านทิ้งร้างหลังหนึ่ง
เหมือนฉากละครสักเรื่องล่ะนะแค่ฝนไม่ได้ตกพร่ำๆ โอ้ละหนอ! ชีวิตคือละคร พระนาง ตัวร้าย นางรองก็หนีไม่พ้นคุณๆเราๆ นี่แหล่ะท่าน
ด้านในเชลเตอร์ทำให้แปลกใจทำลายภาพลักษณ์ของบ้านร้างที่เคยจำฝังใจจนหมดสิ้น เหมือนบ้านที่จงใจทำให้ด้านนอกดูโทรมซอมซ่อแต่โครงบ้านเองกำลังโดนต้นไม้และพืชพันธุ์ธรรมชาติเข้ากลืนกิน
มีเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับนอนพักค้างแรมชั่วคราว การใช้ชีวิตในนี้ดูไม่ลำบากนักถ้าเตรียมตัวเตรียมสัมภาระที่จำเป็นต้องใช้มาให้พร้อม
“แฟนตาซีสุดขั้วเลยที่รัก บ้านคนแคระทั้งเจ็ดหรือ? ไหนสโนว์ไวท์ล่ะ” นักสืบหนุ่มเพ็งสายตาขยายม่านตาให้สุดขอบรับแสงจันทร์ที่ส่องมายังห้องหลบภัยขนาดเล็กนี่ หากแปลงร่างเป็นนกฮูกได้ตอนนี้คงจะใช้ชีวิตในค่ำคืนที่นี่ได้ง่ายกว่าร่างคน
“ไม่ต้องตื่นเต้นไปน่า โชคดีพอมีแบตเตอรี่ให้ใช้ได้” ไคจินเคลื่อนไหวในความมืดอย่างคล่องแคล่ว ถอนหายใจยังไม่ทันสุด หลอดไฟดวงน้อยได้ส่องสว่างพอให้เห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวให้ชัดขึ้น
ถึงจะอยู่ไม่สุขสบายเหมือนบ้านตัวเองแต่ไม่ได้อยู่อย่างลำบากเหมือนเข้าแคมป์ลุยป่าอยู่เต้นท์ ร่างเล็กๆของเพื่อนหนุ่มหน้าตี๋จัดนั่นทำนี่อีหลุกขลุกขลัก ทำให้คนอยากจะช่วยได้แต่ส่งกำลังใจให้แทนและหันไปสำรวจบ้านน้อยกลางสวนป่า
“เราพักที่นี่คืนนี้ก่อน เช้ามืดค่อยกลับไปคลับ” นายตำรวจจัดที่นอนสำหรับคืนนี้อย่างลวกๆ แต่พอจะนอนหลับลงได้ ถึงจะไม่สบายเหมือนนอนเตียงแต่ก็ดีกว่านอนบนพื้นดินหรือพงหญ้า
“หลับไม่ลงหรอกที่รัก” คนติดบ้านติดความสบายแต่สไตล์โฮมมี่แบบมีรากไม้ต้นไม้เป็นฝาบ้านเป็นหลังคาทำเขาตื่นเต้นจนหลับไม่ลง
“แล้วแต่นายล่ะกัน” ไคจินคว้าโทรศัพท์มือถือออกมาหวังจะโทรหามาเซอร์แพทริคแต่สัญญาณการสื่อสานไม่อำนวยนัก เขาทิ้งตัวนั่งพิงผนังต้นไม้แกว่งมือถือไร้ประโยชน์ไปมาฆ่าเวลา
ณานเลิกคิ้วถามเพื่อนรักว่าทั้งหมดที่ถ่อสังหารเหมือนหนีการไล่ล่ามาที่นี่มีเพียงแค่นี้เท่านั้นหรือ เขานึกว่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นกระตุ้นการทำงานของหัวใจมากกว่านี้เสียอีก
“จะรีบร้อนไปสู้ ยังไม่รู้เลยว่าศัตรูคือใคร” ไคจินเตือนสติเพื่อนชายให้ดำเนินชีวิตนักสู้ด้วยความระมัดระวังจะต่อยเตะต้องไม่ประมาท ให้ฝ่ายตรงข้ามสวนกลับเหมือนตัวเองเป็นกระสอบทราย
“มีเพื่อนร่วมรัก เอ้ย! มีเพื่อนรักอยู่ด้วยเรื่องพละกำลังหายห่วง” นักสืบตีฝีปากใส่ไคจิน ส่งลูกล่อลูกชงจีบเพื่อนไม่หยุดหย่อน
“นายไม่อยากพักบ้างหรือไง” พักทั้งหาเรื่องใส่ตัวและหยุดหยอดมุกจีบเขาเป็นแฟนเสียทีเถอะ อย่างน้อยๆ ก็ให้รู้เวล่ำเวลาเสียบ้างบางครั้งคำพูดเลี่ยนๆ หื่นเหียนเหล่านั้นไม่ได้เสริมสร้างโหมดหลงรักแก่เขาเลย
จะให้หลงรักก็คงไม่ได้แล้ว ความรู้สึกมันเกินหลงจนรักนานแล้วแต่...ใจของไคจินยังติดคำว่า แต่ แม้จะยอมรับใจตัวเองส่วนร่างกายยังไม่พร้อมจะยอมรับณานเข้ามาเสียที เหมือนคนอยากมีแต่สามีไม่ยอมเสียตัว!
หลายเหตุการณ์รุมเร้าความรู้สึกนึกคิดของไคจินมากไปในตอนนี้ ให้เวลาช่วยแก้ไปที่ละเปาะปัญหาแล้วกัน ไว้เขาสามารถแก้ปมได้ด้วยตัวเองเมื่อไหร่...เมื่อนั้น ก็เมื่อนั้นแหล่ะ คิดไปวางแผนไปก็แก้ปัญหาทางความคิดและจิตใจไม่ได้อยู่ดี
“ชีวิตไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่เพื่อนรักคิดเสียหน่อย” แค่ต้องวางแผนนิดหน่อยหากจะเดินสายเป็นนักชักใยตัวยง หากเป็นคนธรรมดาชีวิตมันช่างแสนง่าย
“ถ้านายไม่นอนก็หุบปากเจื้อยแจ้วย้อยๆ ของนายเสียทีเถอะ” มือเรียวตบแปะๆ ข้างตัวให้ณานมานั่งพักซึ่งเจ้าตัวเองเมื่อถูกเรียกก็ยอมมานั่งด้วยแต่โดยดี
ร่างสูงหยุดปากพูดมากของตัวเองแต่โดยดีเหมือนสามีโดนภารยาออกคำสั่ง ใจจริงไม่อยากยั่วอารมณ์ให้คนน่ารักต้องโมโหโทโส แต่มันหยุดแหย่ไม่ได้ ใช่ว่าพึ่งทำเสียเมื่อไหร่ตัวตนของเขาก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด
ไคจิเองก็ทำเป็นรำคาญที่จะฟังเขาพร่ำรำพันไปอย่างนั้นไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง เคยได้ยินพวกผู้ชายพูดกันไหมล่ะ ยิ่งรักมากก็ยิ่งแกล้งเยอะ แบบว่าเรียกร้องความสนใจล่ะน้า
นายตำรวจร่างเล็กหลับตาพักความวุ่นวาย สมองฟุ้งซ่านคิดมากบานปลายผูกเรื่องราวมากมายผสมปนเปมั่วไปหมด แขนยาวๆ ของคนข้างๆ ก็อ้อมหลังมาดึงร่างเล็กของเพื่อนให้ซบตรงอกพอดี
“นายเนี่ยนะจะให้ฉันพักบ้างไม่ได้หรือไง” ปากเล็กๆ บ่นแต่ไม่ได้คิดอะไรด้วยนิสัยส่วนตัวต้องโวยวายนิดหน่อยหรือเว่อร์วังขึ้นอยู่กับสถานการณ์
เสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอที่อยู่เลยหัวทุยเล็กๆ นั้นดูจะพอใจกับคำบ่นกระปอดกระแปด บ่นด่ามากๆ แสดงว่าคนๆนั้นรักเขามากจนต้องระบายออกมาเป็นคำด่า! ทัศนะคติคิดบวกแต่บางคนเขาด่าเพราะเขาเกลียดจริงก็มี ไม่เช่นนั้นบนโลกบนนี้คงไม่มีใครฆ่ากันหรอก แค่มองหน้ายังต่อยตีกันได้เลย
“หึ! นายมันบ้าขนานแท้เลยสินะ” ไคจินไม่รู้ว่าณานคิดอะไรอยู่ตอนนั้น แค่อยากบ่นระบายความเงียบในห้องซ่อนตัวแห่งนี้
ณานไม่พูดต่อความยาวสาวความยืดเยื้อ แค่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น สองแขนยาวนั้นโอบคนตัวเล็กให้แนบลำตัวหวังช่วยคลายความหนาวเย็น
เขาเคยเรียนในวัยเด็กว่าช่วงกลางคืนต้นไม้คายความเย็นและทำให้เกิดลม ถึงในบ้านนี้ไม่มีลมแต่ล้อมรอบด้วยต้นไม้จนเขารู้สึกเย็น เสียดายที่ถอดสูทชั้นนอกไว้บนรถไม่อย่างนั้นคงใช้คลุมทำให้อุ่นได้บ้าง
เพื่อนรักสองคนนั่งเคียงกันมองดวงจันทร์ผ่านหลังคาที่แตกหักของบ้านหลบภัยกลางป่า ไคจินอยากหลับแต่หลับไม่ลง ผิดกับอีกคนที่ยอมนั่งถ่างตาไม่อยากหลับเพราะนานที่เพื่อนรักสุดดื้อดึงจะยอมเป็นเด็กน้อยว่านอนสอนง่าย
“เลิกลูบฉันเถอะน่า มันจั๊กจี้ยังกับโดนหมาเลีย” นิ้วเล็กบิดไม่ยั้งแรงบนหลังมือที่เกาะกุมลูบคลำจนเริ่มรู้สึกวูบวาบแปลกประหลาด
“ถ้าอย่างนั้น...คงไม่กลัวโดนหมากัดสินะ” เรียวปากไวงับหมับขบเม้นที่ใบหูของไคจิน ทำเอาคนในอ้อมอกถึงกับสะดุ้งโหยงความรู้สึกโยนขบกัดทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่ร่างบางอาจจะชื่นชอบเมื่อถูกกระตุ้น
“ให้ตายเถอะ!...นายจะเร่งเร้าทำไมหนักหนา” ไคจินอยากจะยอมโอนอ่อนให้เพื่อนบ้างแต่ด้วยนิสัยชอบเอาชนะมักจะขัดความตั้งใจจริงอยู่เรื่อย
”ดูนายออกจะชอบให้มีสิ่งเร้า” ณานรุกหนักครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้ไคจินหาทางรอด มุดหนีจากความรู้สึกรักของเขาออกไปอีกแม้จะออกห่างแค่เซนติเมตรเดียว เขาก็จะกระชากกลับให้ตัวติดกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ
“นายนี่มัน โอ้ย!” ยังไม่ทันได้บ่นคำด่า เขี้ยวทื่อๆ ขบเข้าให้บนต้นคอ ถึงจะงับหยอกเย้าแต่ทิ้งรอยฟันไว้บนผิวขาวๆ ของไคจิน
คนโดนกัดเจ็บจี๊ดๆ แสบๆ คันๆ เสียหัวเราะขอบใจของณานยิ่งทำให้ไคจินหมั่นหน้าหมั่นไส้ ปากน้อยๆ ยื่นไปงับคางบุ๋มเข้าให้ คมฟันหน้ากดกัดเมื่อสัมผัสกับผิวเนื้อปลายคาง
“พระเจ้า! ผมหล่อจนที่รักอยากกินเข้าไปเลยเหรอ” ณานคนชอบแหย่เย้าจนเจอตัวจนเจ็บตัว ถึงไม่เลือดตกยางออกแต่ความเล่นใหญ่แสดงโตรอไคจินตกลงมา
เรียวฟันแข็งเปลี่ยนเป็นรอยจูบนุ่มนวลของตำรวจหน้าตี๋ทำให้ณานด้นบทสดต่อไปไม่ออก บทจะดุก็ร้ายบทจะอ่อยก็ทำใจสั่น คราวนี้เขาเองคงต้องกลับไปรักษาโรคใจแกว่งแทนโรครักเสียแล้ว
“นายก็ยั่วแหย่ฉันตลอดก็นึกว่าอยากให้ก...!” จะจบด้วยคำว่ากินก็ยังทำไม่ได้เพราะปากเจ้ากรรมโดนเรียวปากซุกซนของณานฉกชิงไปครอบครองประคองป้อนด้วยจูบแสนรักไปเสียแล้ว
ตาเรียวเล็กหรี่ปิดลงเปิดใจสัมผัสรสรักผ่านจูบที่ทำให้หัวใจแข็งกระด้างอ่อนยวบยาบ ห้วงเวลาแห่งความเคลิบเคลิ้มหลงใหลกินเวลาไปเรื่อยจนกว่าทั้งสองคนจะถอนถอยริมฝีปากออกจากกัน
นักสืบหนุ่มไม่รอให้เวลานั้นมาถึงเร็วนัก เขากวาดปากส่งทักษะสู่ปลายลิ้น หนุ่มเพื่อนรักชะงักเล็กน้อยด้วยไม่คาดว่าเพื่อนจะกล้าส่งลิ้นละเลงเล่น
หนุ่มหน้าตี๋พยายามดึงหน้าออกจากคนหน้าหล่อล่อลวงจูบแต่ไม่สำเร็จ พอดันตัวออกห่างก็โดนโอบรัดให้แนบอกอุ่นจนผิวเริ่มระอุร้อน นักสืบใช้กลยุทธหลอกให้ผ่อนคลายแล้วโต้กลับจู่โจมไม่ยอมหยุดไม่มีหย่อน
สุดแรงที่จะต้านและแข็งขึนไคจินได้แต่ปล่อยเลยตามเลย อยากจะลากอารมณ์ไปสุดทางที่ตรงไหนให้ณานนำไป เมื่อคนจู่โจมรับรู้ว่าคนที่เขารุกไล่ส่งลูกล่อลูกชนเริ่มจนทางหนีและยอมจำนนต่อเขาแล้ว มีหรือจะยอมหยุดอยู่แค่จูบ ถึงจะจูบเร้าอารมณ์แค่ไหนวันต่อไปไคจินก็ทำตัวเอ้อระเหยลอยชายกับความรักที่เขามีให้อีกเหมือนเดิม
ในเมื่อโอกาสมีวันนี้เขาจะไม่ละทิ้ง ถึงจะแอบทำไม่ดีเอาไว้บ้าง แต่จะให้ทิ้งเวลาตอนนี้เพื่อรอวันต่อไป ไม่มีทางเสียหรอกที่จะพลาด ต้องรีบฉวยโอกาสนี้ไว้
ณานทำอะไรไม่สะดวกนักเพราะชุดพอดีตัวที่สวมอยู่วันนี้ เขาปลอดกระดุมคลายทรงเสื้อให้พอหลวมจากนั้นจึงเริ่มวุ่นวายกับเสื้อผ้าบนร่างกายคนตัวเล็กที่นอนพิงซุกตัวระหว่างขาของเขา
“ที่นี่ตอนนี้ที่รักไม่ติดนะครับ” เสียงแหบกระซิบกระซาบข้างหูแดงแจ๊ดของไคจิน ณานจะรุกให้สุดและหยุดที่...นี่เลยหรือ
ไคจินเบี่ยงหน้าหนีแม้แสงสว่างจะมีไม่มากแต่ความร้อนผ่าบนใบหน้าและไอระอุร้อนใต้เสื้อผ้าหนาๆ ที่สวมอยู่นี้ อีกทั้งยังมือเรียวยาวที่เกาะกุมอยู่บริเวณท้องน้อยยิ่งเร่งปฏิกิริยาทางร่างกายได้ดีนัก
“ติดไม่ติดฉันคิดเองได้! ไม่ต้องให้นายมาถามเหรอ” สุภาพบุรุษจอมปลอมล่ะไม่ว่าไคจินค้านในใจ เพื่อนณานดื้อดึงดันทุรังเร่งรัดอารมณ์เขามาถึงขนาดนี้แล้วยังกล้าขอ
ร่างสูงไม่รอช้าให้ไคจินรวมพละกำลังขึ้นมาใหม่เพื่อต่อต้านการกระทำของเขา ถึงเพื่อนรักจะชอบคำตัวเก่งกร่างตะบี้ตะบันปลุกปั้นพละกำลัง มีความชอบที่เขาไม่สามารถเข้าถึงและไม่สามารถใช้ความคิดตัวเองวิจารณ์ความชอบและการกระทำนั้นได้ แต่เขามั่นใจอย่างหนึ่งว่าไคจินมีใจให้เขาแน่นอน
คนเจ้าเล่ห์จัดท่าทางให้เพื่อนรักเปลี่ยนเป็นนั่งคล่อมบนหน้าตัก ก้มหน้าเข้าใส่คนหน้าใสให้หน้าผากดันใบหน้านายตำรวจหนุ่มให้เงยขึ้นแล้วจุมพิตเรียวปากบวมตุ่ยน่ารักนั้น
เสียงอือออให้ลำคอขาวไม่ได้พึงพอใจแต่อยากจะก่นด่าใส่ณามมากกว่าเพราะแนวคิ้วขมวดมัดกันเป็นโบว์บนหน้าผาก หากชอบใจคงไม่นิ่วหน้านิ่งคิ้วชนกันแบบนี้ ณานจะทำร้ายเรียวปากจิ้มลิ้มน่ารักของเขามากไปจนเขาเริ่มหมดความรู้สึกเมื่อเรียวปากสัมผัสกันแล้ว
“ขอโทษ ตื่นเต้นไปหน่อย” คนเผลอตัวเอ่ยขอโทษขอโพยเหตุที่คุมความต้องการของตัวเองไว้ไม่อยู่
“คนนะไม่ใช่ตุ๊กตายาง นายนี่มัน!” สีหน้าไคจินไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมามากนัก น้ำเสียงประชดประชันไม่ได้โกรธเกี้ยวเหมือนยามที่คุยกันตามปกติ
ความใจกล้าหน้าทนของพ่อนักสืบถึงคราวต้องนิ่งคิดแล้วว่าจะหยุดอยู่ตรงนี้หรือลุยต่อไปให้สุดทาง เขาแนบร่างเพื่อนรักไว้กลางอกหนุนปลายคางบุ๋มไว้บนศรีษะทุยเล็กนั้น
เวลามาถึงแล้วแต่จังหวะยังไม่ดีพอ น่าเสียดายจริงๆ ชายร่างเล็กซุกหน้าลงกลางอกอุ่นรู้สึกจั๊กกะจี้เล็กน้อยเมื่อแก้มยุ้ยของตัวเองสัมผัสไรขนบนอกชวนเซ็กซี่นั่น ใจลึกๆ อยากจะต่อโชว์ให้จบแต่ความรู้สึกอยากยับยั้งความหวิวไหวครั้งนี้ไปเสียก่อน ตัวเขาเองอ่อนใจกับความคิดตัวเองในบางครั้งบางคราวเหมือนกัน
ความเหนื่อยหน่ายน่าหนักใจกว่านั้น คือมันทำให้เขาเป็นคนยักเย้ยักยัน ความสุขมากองอยู่ตรงหน้าแต่กลับไม่มีความกล้าก๋ากั่นที่จะกระโจนลงแรงแลกตัวกับความรัก
“นาย...” ไคจินอยากถามณานว่าเบื่อคนยึกๆยักๆ เล่นตัวกับความรักอย่างเขาหรือยัง
“ผมรอได้ แต่อย่าให้รอจนหิวตายนะที่รัก” จูบนุ่มนวลที่แก้มยุ้ยน่ารักด้วยความรักใคร่และเอ็นดู ไคจินเหมือนเด็กน้อยน่ารักในอ้อมกอดพ่อยอดชายจอมเจ้าชู้มากเลห์ในทันที เขารู้แก่ใจว่าได้ตะกละตะกลามกวาดกินออเดริฟมามากพอสมควร รอกินจานหลักสุดอร่อยล้ำอีกซักหน่อยไม่ได้ทำให้เขากระหายหิวแต่อย่างใด
“ฉันจะชดเชยให้ นายไม่ขาดทุนแน่นอน” เสียงแหบแนบคำให้สัญญาว่าฝ่ายที่รอจะไม่เสียประโยชน์ เขาจะตั้งใจจ่ายค่ารอให้คุ้มค่าเกินทุนที่อดทนรอ
นักสืบหนุ่มเอ็นดูความใจกว้างเกินจำเป็นของตำรวจหนุ่ม อดที่จะใช้มือทั้งสองข้างบีบเค้นแก้มก้นงามงอนที่นั่งซ้อนบนตักไม่ได้ คำพูดคำจาอ่อยอ้อยั่วเยไม่รู้ไปเรียนมาจากใครฟังแล้วทั้งหมั่นไส้ทั้งใจเสีย ถ้าเจ้าเพื่อนตัวดีไปเสนอตัวแบบนี้ให้ชายอื่นตัวเขาเองต้องได้อกแตกตายแน่
“ผมจะทบต้นทบดอกจนจ่ายไม่ไหวเลยคอยดู” สองมือที่วนเวียนหยิกเขยำก้มไล่ลามมาจ้ำจี้รอบเอวของคนบนตัก คนร่างเล็กดิ้นกระตุ๊กกระดิ๊กขลุกขลักบนหน้าตักของณานเพราะจั๊กจี๊
เวลาความร่มรมณ์ผ่านไปไม่นานนัก เพื่อนร่างเล็กได้ฟุบหลับแนบอกนักสืบหนุ่มไปแล้ว ดวงตาคมโตเหม่อมองยังแสงจันทร์ผ่านหลังคาแตกหักในบ้านทิ้งร้างแห่งนี้
ณานหรี่ตาลงและข่มให้หลับแต่ทำไม่ได้ง่ายเหมือนนอนทิ้งตัวบนที่นอนเพราะให้อ้อมกอดของเขาตอนนี้มีร่างเนื้อทับอกเขาไว้อยู่ คืนนี้เขานั่งถอนหายใจไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่เพื่อนรักกลับหลับคาอกเขาได้หน้าตาเฉยและดูจะนอนสบายหลับสนิทผิดกับตัวเขาที่กระวนกระวายทั้งกายและใจ
หนทางเก็บต้นทบดอกของณานยังจะอีกยาวไกล เขาควรจะต้องเพิ่มพลังเก็บแรงไว้เมื่อถึงเวลาละเลงต้นทะลายดอกเมื่อไหร่ ไคจินจะพูดจาก๋ากั่นเชื้อชักยั่วเพศอีกไม่ได้ นอกจากนอนรับรักที่ถาโถมเข้าใส่เพียงอย่างเดียว คิดได้เช่นนี้คนหน้าเข้มเหยียดยิ้มหลับตาพริ้มอยู่ในภวังค์ทั้งที่ไม่ฝัน เพราะหลับไม่ลง!
อีกนิดเดียว อีกนิ๊ดเดี๊ยวค่า....เจอกันตอนต่อไปนะทุกคน