My Demon เพราะรักของผมถูกละเลงด้วย...เลือด | นิยาย by อ้ายเก้ง - บทที่ 2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Demon เพราะรักของผมถูกละเลงด้วย...เลือด | นิยาย by อ้ายเก้ง - บทที่ 2  (อ่าน 118 ครั้ง)

ออฟไลน์ Popspugnik000

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-10
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

.

.

.

.

ร่างของหมาตัวหนึ่งที่ลอยมาอยู่ตรงกลางถนน พร้อมกับร่างของตัวอะไรบางอย่างที่พุ่งตามมา เจ้าหมาจรจัดตัวนั้นกำลังร้องลั่นและดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวด เพราะคอของมันได้ถูกกัดด้วยร่างของสิ่งมีชีวิตอีกชนิด สิ่งมีชีวิตตัวขาวซีดที่ผิวกายอาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาน

...สิ่งมีชีวิตที่รูปร่างเหมือนกับคน

ผมจอดจักรยานยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นมันคืออะไรกันแน่ อะไรที่กำลังขย้ำกัดทึ้งคอเจ้าหมาจรจัดตัวนั้นอย่างหิวกระหาย อะไรที่มันน่าสยดสยองพองขนได้ขนาดนี้

คนอย่างนั้นหรือ? หรือสิ่งที่คนเฒ่าคนแก่จะเรียกว่าปอบ หรือสิ่งที่เรามักจะเห็นในหนังวิทยาศาสตร์อยู่เป็นประจำ มนุษย์ทดลอง? เอเลี่ยน? หรือสัตว์กลายพันธุ์? แต่ไม่ว่าผมจะพยายามค้นหาคำอธิบายอย่างไร การค้นหาคำตอบนั้นมันก็ต้องหยุดลงเมื่อไอ้ประหลาดตัวนั้นมันหันมามองที่ผมแล้ว

.

.

.

***เรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในนิยายเรื่องนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล กลุ่มคน ศาสนา และชื่อสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้น อาจมีความรุนแรง การข่มขืน (Rape) การฆาตกรรม การบริโภคเนื้อมนุษย์ (Cannibalism) และเนื้อหาอื่นๆ ที่ไม่เหมาะสม เหมาะสำหรับนักอ่านผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น***

ศัพท์ที่ใช้ในเรื่อง

Rape - การข่มขืน

Non-penetrative sex - เซ็กซ์แบบไม่มีการสอดใส่ (การใช้ปาก มือ หรือหลั่งภายนอก)

Cannibalism - การบริโภคเนื้อมนุษย์



***นิยายเรื่องนี้จะทำการอัพเดตตอนอัตโนมัติในเวลา 16.30 น.ทุก 2-3 วันนะครับ***



----------------------------------

สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน ต้องขอโทษที่เอานิยายเรื่องนี้มารีซ้ำๆ ย้ำๆ แต่เนื่องด้วยปัญหาสุขภาพจิตและปัญหาชีวิตอะไรต่างๆ ของการผู้ใหญ่วัย 30 ไรต์จึงตัดสินใจแล้วว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นนิยายเรื่องสุดท้ายที่ไรต์เขียน ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังในหลายๆ เรื่องนะครับ และขอให้สนุกกับนิยายเรื่องสุดท้ายของไรท์เตอร์โนเนมคนนี้นะครับ

ด้วยรักและคำขอบคุณสุดหัวใจ

อ้ายเก็ง

.

.

.

นักเขียนนิยายเรื่องนี้เป็นภาวะบกพร่องทางการสื่อสาร หากมีคำพูดหรือประโยคใดในเนื้อเรื่องที่ทำให้นักอ่านงง ต้องขออภัยล่วงหน้านะครับ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2024 16:43:32 โดย Popspugnik000 »

ออฟไลน์ A Dark knight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Popspugnik000

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-10
ท้องฟ้าอันมืดมิด ไร้ซึ่งแสงสว่างใดทั้งดวงจันทราและมวลดาราที่เคยพรั่งพราว แม้แต่มวลเมฆสีทึมเทาก็ไม่มีให้เห็น

ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดเคยโบยบินอยู่ฟากฟ้า ไร้ซึ่งสรรพเสียงใดก็ตามที่เคยดังอยู่รอบข้าง ไม่มีใคร...ไม่มีอะไรให้ไถ่ถาม สองตาก็เหม่อมองไปไกลเพื่อควานหาอะไรก็ตามที่ให้คำตอบได้ สองหูสดับฟังอะไรก็ตามที่พอจะเอ่ยถามถึงคำตอบที่ตามหา ทว่าแม้จะพยายามมองค้นหาและเงี่ยหูฟังสักเพียงใด ผมก็ไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้เลยว่า...

...ผมคือใคร?


Prologue


ผมคือใคร?

คำถามที่ลอยวนอยู่ในสมองอันด้านชาจนไม่สามารถหาคำตอบได้ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน และกำลังจะไปที่ใดอยู่ บรรยากาศรอบข้างรายล้อมไปด้วยความมืดมิด ผมมองไม่เห็นอะไรเลยแม้กระทั่งฝ่ามือตน แต่ถึงจะไม่รู้จุดหมาย ผมก็ยังคงวิ่งต่อไปอยู่อย่างนั้น แม้จะล้มลุกคลุกคลานสักกี่ครั้ง แต่สองเท้าก็ยังคงวิ่งต่อไปเท่าที่เรี่ยวแรงจะนำพาไปได้ กระทั่งความหิวกระหายก็ได้คืบคลานเข้ามา

หิว ช่างหิวเหลือเกิน หิวจนรู้สึกแสบท้องไปหมด อาหาร...อาหารอยู่ที่ไหน?

แกรก...แกรก!

แต่แล้วเสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิด ผมจึงหันไปตามที่มาของเสียงนั้นก็พบกับอะไรบางอย่างที่มาพร้อมกับมัน

...แสงสว่าง

แสงสว่างจ้าสีขาวนวลได้เรียกความสนใจให้เดินเข้าหา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรแต่สัญชาตญาณก็นำพาให้ผมเดินไปหามันแล้ว จนในที่สุดผมก็ได้ออกมาพบกับแสงสว่างสีขาวดวงนั้น

"...แสง" ผมพูดอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าแสงสว่างดวงนั้นอย่างเชื่องช้า ทว่า...

ปัง...ปัง!

ทันใดนั้น! เสียงปืนก็ดังขึ้นติดต่อกันถึงสองนัด พร้อมกับร่างของผมที่ร่วงลงกับพื้นอย่างเชื่องช้า ไร้ซึ่งความเจ็บปวด ไร้ซึ่งความรู้สึกใด แต่เลือดในร่างกายก็ได้ทะลักทลายไหลอาบไปทั่ว

ผมมองเจ้าแสงสว่างดวงนั้นด้วยความไม่เข้าใจ เพราะอะไรมันจึงทำร้ายผม แต่ในความสงสัยมันก็ได้เลือนหายไป กลายเป็นความว่างเปล่าเข้ามาในสมองแทน นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่? แล้วไอ้เจ้าแสงสว่างสีขาวนวลนี้คืออะไร แล้วผมเป็นใครกำลังทำอะไรอยู่ที่นี่ แต่ทว่าใครบางคนก็ได้โผล่เข้ามาพร้อมกับแสงสว่างดวงนั้นแล้ว

...ชายในชุดกาวน์สีขาว

"หึ! ในที่สุดก็หยุดได้ซะทีนะ" โสตประสาทแสนเลือนรางของผมได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นพูด แม้ผมจะพยายามแหงนหน้าขึ้นไปมอง แต่ด้วยแสงสว่างจ้าที่ส่องแยงตา ก็ทำให้ผมไม่สามารถเห็นใบหน้าของเขาได้เลย

"ดร.เพชรนรินทร์เป็นคนฉลาดนะ แต่ก็ไม่ฉลาดพอจะคว้าโอกาสดีๆ เอาไว้ในมือ หึๆ โง่แบบนั้นก็สมควรตายแล้วล่ะ" ชายคนนั้นพูดพร้อมกับเดินเข้ามาแล้วย่อตัวลงพร้อมกับสายตาที่เบิกโพลงขึ้นเล็กน้อย

"หืม...ตัวมึงซีดลงผิดปกตินะ แถมผิวหนังของมึงก็บางลงจนเห็นเส้นเลือดด้วย นี่อย่าบอกนะว่าดร.เพชรนรินทร์ฉีดยาตัวนั้นให้มึงแล้วน่ะ?" แม้สองหูจะได้ยินในสิ่งที่เขาพูดชัดเจน แต่ผมก็ไม่ได้เข้าใจในคำพูดเหล่านั้นเลย เขา...กำลังพูดถึงเรื่องอะไร มันช่างเต็มไปด้วยคำถามจนยากที่สมองของผมจะหาคำตอบได้

"ฉลาดใช่เล่นที่เอายาทั้งหมดฉีดใส่ตัวแล้วให้มึงหนีไปน่ะ แต่สุดท้ายมึงก็โดนกูจับได้อยู่ดี" พลันผมก็สัมผัสได้ว่าชายคนนั้นเอามือมาจับที่แก้มของผม

"ไม่ต้องห่วง นับจากนี้ไปกูจะเป็นคนดูแลมึงเอง หึๆ ได้หนูทดลองตัวเก่งแบบนี้ รับรองว่าต่อจากนี้มึงจะทำกำไรมหาศาลให้กูแน่"

ปัง! ปัง!

พูดจบเขาก็ลุกขึ้นพร้อมกับยิงผมซ้ำอีกสองนัด ตอนนี้สติของผมกำลังจะเลือนรางลงเต็มทีแล้ว แต่อะไรบางอย่างมันก็ได้โผล่เข้ามาในสมองแทน

หิว! ช่างหิวเหลือเกิน หิวจนร่างกายมันร้อนรุ่ม อาหาร...ผมต้องการอาหาร อาหารอยู่ไหน?

"!?" แต่แล้วดวงตาของผมก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนนั้นเข้า ชายในชุดกาวน์สีขาวผู้ที่ยิงผม

...อาหาร

พลันด้วยความหิวกระหายใคร่อยาก บวกด้วยสัญชาตญาณอะไรบางอย่างที่ตื่นขึ้นมา มันทำให้ผมลุกขึ้นมาจากกองเลือดของตนอย่างเชื่องช้า จากนั้นผมก็ได้พุ่งเข้าไปหาชายคนนั้นอย่างไวพร้อมกับฝังคมเขี้ยวลงบนแขนของเขา

"ดร.วิญญูถึงศูนย์ใหญ่ ตอนนี้ผม...อ๊าก!" แม้เขาจะร้องลั่นและพยายามสะบัดผมออก แต่ด้วยหยดเลือดที่ไหลเข้าปาก ก็ทำให้ความอยากอาหารมันไหลทะลักทะลายออกมายิ่งกว่าเดิม

"อ๊าก! ปล่อยกู ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ"

ปัง ปัง ปัง!

ผมยังคงกัดแขนของผู้ชายคนนั้น ฉีกเอาเนื้อหนังมังสาของเขาออกมา ทั้งขบเคี้ยวและกลืนกิน ถึงผู้ชายคนนั้นจะทุบตีและใช้ปืนยิงผมอีกหลายต่อหลายนัด แต่ความเจ็บปวดก็ไม่อาจทำให้ความกระหายลดลงไปเลยแม้แต่น้อย

...ยิ่งเจ็บปวดยิ่งกัดกิน ยิ่งถูกยิงผมยิ่งอยากกินเขามากกว่านี้ ผมจึงกระชากแขนของเขาออกมาจนขาดวิ่นก่อนกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย เนื้อหนังของมนุษย์นี่ช่างหวานหอมจนอดใจไม่อยู่แล้ว

"อ๊าก! แขนกู...แขนกู!"

"อือ..."

แม้ชายคนนั้นจะพยายามกระเสือกกระสนวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่ผมก็ไม่ปล่อยให้เหยื่ออันโอชะของผมหลุดรอดไปได้ ผมวิ่งไล่ตามชายคนนั้นไปอย่างไว ก่อนจะกระโดดกัดคอของเขาจนล้มลง

ผมไม่ปล่อยให้เขาทรมานก่อนตาย ผมกัดกระชากเอาลูกกระเดือกเขาออกมาแล้วกลืนลงท้องด้วยความหิวกระหายเป็นที่สุด สองมือก็ควักลูกตาออกมาเคี้ยวเล่น พลางตะกรุยท้องจนอวัยวะภายในกระจายไปทั่ว แม้จะตกใจที่ตนเป็นแบบนั้น แต่ผมเองก็หยุดความกระหายนี้ไม่ได้แล้ว ทุกอย่างมันช่างน่ากินไปหมด น่ากิน...น่ากินจนหยุดไม่อยู่แล้ว

...อา! อร่อย...อร่อยจังเลย



กร้วมๆ!

เสียงเคี้ยวเนื้อหนังยังดังอยู่เป็นระยะ บ่งบอกได้ว่าเจ้าของเสียงเคี้ยวเนื้อนั้นกำลังมีความสุขกับการกินมากเพียงใด ทุกสัดส่วนในร่างกายของชายร่างท้วมในวัยกลางคน แม้มันจะเหนียวไปบ้าง แต่คมเขี้ยวของเด็กหนุ่มก็บดขยี้จนมันแหลกละเอียดแล้วกลืนลงท้องไปอย่างง่ายดาย

"อึก! อ...อา!"

แต่ทันใดนั้นเอง! ร่างที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารแสนโอชะก็หยุดชะงัก เด็กหนุ่มได้แต่ล้มตัวลงพลางกุมท้องนอนตัวงอกับพื้นดินด้วยความเจ็บปวด ผิวหนังสีขาวซีดของเขาได้เปล่งแสงออกมาเป็นลวดลายไปตามเส้นเลือดภายใต้ชั้นผิวหนัง ไอร้อนเริ่มเดือดพล่านจนบังเกิดควันพวยพุ่งจากทุกอณูรูขุมขน กระทั่งในที่สุดไฟสีน้ำเงินก็ลุกพรึ่บ! ขึ้นมา

"อั้ก! อา...อา อ...อา!"

เจ้าของร่างบิดกายไปมาด้วยความทุกข์ทม มันช่างร้อนรุ่มและเจ็บปวด คล้ายว่าร่างกายของเขากำลังจะหลอมเหลวด้วยไฟบรรลัยกัลป์ กระทั่งเปลวเพลิงที่ลุกท่วมร่างก็ได้หายไป กลายเป็นของเหลวแสนเหนอะหนะได้ไหลทะลักออกมาห่อหุ้มร่างเอาไว้แทน

ของเหลวสีขุ่นได้ห่อหุ้มร่างเอาไว้คล้ายกับรังไหมที่ห่อหุ้มกายของตัวหนอน เสียงแห่งความทรมานได้หายไปพร้อมกับรอบกายที่กลับมาเงียบสงัดดังเดิม เงียบงันและแผ่วเบา ทุกอย่างช่างว่างเปล่าและวังเวงอยู่นานจนกระทั่งในที่สุด...

เปรียะ! แกรก...แกรก!

พลันรังไหมที่แข็งกระด้างก็ได้ปริแตกพร้อมกับมือสีขาวซีดได้โผล่พ้นออกมา เล็บสีดำยาวเกือบหนึ่งนิ้ว ได้ตะกรุยเอาเปลือกหนาๆ ที่ห่อหุ้มตัวออก เผยให้เห็นร่างของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งทึ่ดิ้นอยู่ในนั้น

ร่างนั้นได้โผล่จากรังไหมพร้อมกับคราบเมือกอันเจิ่งนองไปทั่ว มันพยายามจะยันกายของตนให้ลุกขึ้น จากร่างกายที่เคยบอบบางของเด็กน้อย บัดนี้ก็ได้กลายเป็นร่างของอะไรบางอย่างที่คล้ายกับมนุษย์

ถึงกระนั้น...แม้จะมีหูตาจมูกปากและสัดส่วนอื่นๆ ไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ธรรมดา แต่เจ้าตัวประหลาดกลับมีสีผิวขาวซีดเหมือนเถ้าถ่าน เนื้อหนังบอบบางกลับหยาบกระด้างและเป็นมันเลื่อม อีกทั้งดวงตาของมนุษย์ซึ่งตอนนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนไป กลายเป็นดวงตาสีดำสนิทเต็มดวง ดูแล้วช่างไม่ต่างอะไรกับดวงตาของฉลามนักล่าเลยสักนิด

“อือ...”

เจ้าตัวประหลาดได้ครวญครางออกมาเล็กน้อย มือไม้และแขนขาในตอนนี้มันช่างอ่อนเปลี้ยเสียจนแม้แต่การยันกายของตนให้ลุกขึ้นยังยากลำบาก ถึงแม้จะมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และรับรู้ได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นกับตน แต่ความหิวกระหายที่เคยมีมาก็ไม่ได้ลดลงไปแม้แต่น้อย

เจ้าตัวประหลาดจึงได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดของตนยันกายให้ลุกขึ้นอีกครั้ง มันโผเข้าจัดการชิ้นส่วนที่เหลือของชายร่างท้วมนั้นต่อ อวัยวะทุกส่วนในร่างกายได้ถูกขบเคี้ยวลงคอไป จนตอนนี้ไม่เหลืออะไรนอกจากกองกระดูกอาบเลือดเพียงไม่กี่ชิ้น

ถึงกระนั้น...แม้จะสวาปามเนื้อหนังมังสาของชายคนนั้นไปแล้ว แต่มันก็ไม่ทำให้เจ้าตัวประหลาดรู้สึกอิ่มท้องเลยแม้แต่น้อย สองตาสีดำสนิทยังคงกวาดหาอะไรก็ตามที่พอกินได้ สองหูก็สดับรับฟังอะไรก็ตามที่จะกลายเป็นเหยื่อของมัน กระทั่งประสาทการดมกลิ่นของมันก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่ลอยตามลม กลิ่นของสิ่งมีชีวิตที่มันปรารถนา กลิ่นของเหยื่ออันโอชะอันเป็นอาหารจานถัดไป

...กลิ่นของมนุษย์

"อยู่ตรงนั้น!"

ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างจ้าหลายดวงพร้อมกับเสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากเดินเข้ามา กลุ่มคนในชุดสีดำอันเต็มไปด้วยอาวุธปืนครบมือ และด้วยแสงสว่างจ้านั้นเองก็ทำให้เจ้าตัวประหลาดป้องตาของตนเอาไว้ เนื่องด้วยสายตาของมันยังไม่ชินต่อแสงสว่างสาดส่องเข้ามามากนัก

"นั่นมันตัวอะไรวะ" แม้จะตกใจต่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า แต่หนึ่งในนั้นกลับตัดสินใจยิงปืนเข้าใส่ และนั่นเองก็ทำให้คนที่เหลือสาดกระสุนปืนใส่มัน

ปัง! ปัง! ปัง!

แม้กระสุนปืนจะเจาะเข้าผิวหนัง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวประหลาดรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด ตรงกันข้ามมันกลับทำให้เจ้าของร่างรู้สึกรำคาญขึ้นมาแทน

ด้วยความหิวกระหายที่ไม่อาจถูกเติมเต็ม ในเมื่อมีบุฟเฟต์เนื้อมนุษย์ให้มันเลือกกินอยู่ตรงหน้านี้ล่ะก็ เจ้าตัวประหลาดจึงได้แยกเขี้ยวยิงฟันออก พร้อมกับกรงเล็บสีดำยาวที่ถูกกางออกมาอย่างเต็มที่ บ่งบอกได้ว่าการสังหารหมู่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

“อา...หาร...”

"อ๊ากกกกก!"



#อ้ายเก้ง present...



“My demonตัวประหลาด”

(นิยายวายเลือดสาด 18+)



.

.

.



"ไอ้หยก! มึงอย่าลืมทำรายงานที่อาจารย์สั่งด้วยนะ ถ้าอีกสามวันมึงทำไม่เสร็จล่ะก็มึงโดนพวกกูแน่"

"อ...อืม! ด...ได้สิ เดี๋ยว...เดี๋ยวเราทำให้นะ"

เพียะ!

"โอ๊ย!"

เสียงตบหน้าดังฉาดใหญ่พร้อมกับร่างกายที่ถูกผลักจนล้มตึงไปกับพื้น เหมือนทุกครั้งที่คนอ่อนแออย่างผมมักจะทำได้คือการนั่งอยู่นิ่งๆ ห้ามเผยอหน้าขึ้นมา เพราะถ้าหากแสดงท่าทีหรือกิริยาใดที่ขัดหูขัดตาพวกมัน สิ่งที่ตามมาอาจจะร้ายแรงกว่าการถูกตบหน้าทุกครั้งเป็นแน่

"ไปเถอะพวกเรา ปล่อยให้ไอ้กะหร่องนี่นอนอยู่ตรงนั้นแหละ"

จนท้ายที่สุดไอ้พวกนักเลงขาสั้นก็เดินจากไป ผมจึงพยุงกายที่ไม่ได้แข็งแรงอะไรให้ลุกขึ้นอีกครั้ง ถึงตอนนี้ในห้องจะมีเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นมากมาย แต่ก็ไม่มีใครสนใจจะช่วยผม เพราะมันไม่ใช่เรื่องตัวเอง เพราะผมไม่ใช่คนที่สำคัญอะไร ผมจึงได้แต่นึกเจ็บใจที่ตอบโต้อะไรไม่ได้นอกจากจะจำยอมอยู่แบบนั้น เพราะคนอ่อนแอก็คือคนอ่อนแออยู่วันยันค่ำ ถึงอยากจะโต้พวกมันกลับสักเพียงใดแต่สุดท้ายผมก็ไม่มีวันชนะพวกมันอยู่ดี

ผมมีชื่อว่า หยก ผมเป็นแค่นักเรียนมัธยมหกธรรมดาที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของคนที่แกร่งกว่า โดยเฉพาะกับ ไอ้มังกร ไอ้หัวโจกพวกเด็กอันธพาลในโรงเรียนที่ก่อเรื่องมาแล้วมากมาย โดยที่อาจารย์น้อยใหญ่เองก็ทำอะไรมันไม่ได้ อาจเป็นเพราะบารมีพ่อของมันเป็นถึงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และคำว่า ผู้เยาว์ เองที่กฏหมายเองก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้มากนัก

แต่เรื่องทั้งหมดของพวกมันก็คงไม่เลวร้ายที่สุดเท่ากับไอ้มังกรเพียงคนเดียว เรื่องเดียวที่มันบังคับให้ผมทำ เรื่องเดียวที่ผมไม่สามารถบอกใครได้ เรื่องเดียวที่ผมต้องจำยอมแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม

...เรื่องเดียวที่ผมไม่มีวันลืม



เวลาผ่านไป...

ในช่วงเวลาเลิกเรียนเหมือนทุกวัน นักเรียนทุกระดับชั้นต่างก็พากันกรูกลับบ้านราวกับมดรังแตก แต่ก็คงจะเหลือผมและนักเรียนบางคนที่ไม่ได้รีบกลับนัก ตอนนี้ผมยังคงนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะไม้หินอ่อนตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่ประจำของผม แต่ถึงจะนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้น สองตาและหัวใจของผมกลับเฝ้ารอใครคนหนึ่งที่พิเศษสุดสำหรับตัวเองแทน

"ทำอะไรอยู่เหรอหยก?" กระทั่งเสียงของใครคนนั้นก็ดังขึ้น แม้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ได้ในทันทีว่าเจ้าของเสียงนี้คือใคร

"ครูนพ"

ครูนพ เป็นครูฝึกสอนที่เพิ่งเข้ามาฝึกสอนในปีนี้ อาจเป็นเพราะผมไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก และไม่มีใครกล้าเป็นเพื่อนกับลิ่วล้อไอ้มังกรอย่างผมด้วย ก็นะ...ใครจะกล้ามาเป็นเพื่อนกับผมกันล่ะ แค่มีคนมาสนิทกับผมเกินไป คนๆ นั้นก็มักจะโดนพวกไอ้มังกรกลั่นแกล้งไปพร้อมกับผมด้วยทุกที ครูนพจึงเป็นคนเดียวในโรงเรียนที่ผมพอจะไว้ใจ และเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมอุ่นใจทุกครั้งที่ได้เจอ

"เลิกเรียนแล้วยังไม่กลับอีกเหรอหยก?"

"ยังครับ ผมยังไม่รีบน่ะ"

"เหรอ ไม่ใช่ว่าแอบมารอใครอยู่เปล่า? ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"

"คือ...” พลันผมก็ต้องรู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อครูนพพูดแบบนั้น ผมรู้ว่าครูนพแค่พูดหยอก แต่การหยอกครั้งนี้มันกลับทำให้ผมรู้สึกเขินซะแล้วสิ

ก็นะ...การที่ผมมานั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนี้ทุกวัน ก็เพราะผมมาแอบรอใครคนหนึ่งตามที่ครูนพพูดนั่นแหละ ซึ่งคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นครูฝึกสอนที่เพิ่งเข้ามาฝึกสอนในปีนี้นั่นเอง

“ก็...มาแอบรออยู่แหละครับ แต่ว่าเขากลับไปก่อนแล้วน่ะ”

“เหรอ...ฮะ ฮะ ฮะ! อยากรู้จังเลยว่าหยกมาแอบรอใคร คนๆ นั้นคงโชคดีไม่น้อยเลยนะ”

จะเป็นอะไรมั้ยถ้าผมอยากจะบอกครูว่าคนที่ผมมาแอบรอทุกวันก็คือครูนพ ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงได้รู้สึกหวั่นไหวกับผู้ชายด้วยกัน แต่พออยู่ใกล้ชิดกับครูนพทีไร หัวใจของผมก็เต้นไม่เป็นจังหวะทุกที

ใจเต้นแรงให้กับความอบอุ่นและอ่อนโยนของครูนพ ผมรู้ว่าการที่นักเรียนอย่างผมแอบหลงรักคุณครูมันคงเป็นเรื่องผิด แต่ถ้าในเมื่อหัวใจมันได้ชอบไปแล้ว...ครั้นจะไปห้ามมันผมเองก็ทำไม่ได้เหมือนกัน

“แล้วครูนพยังไม่รีบกลับเหรอครับ?”

"ครูยังไม่รีบกลับหรอก ครูยังมีเอกสารที่ต้องจัดการให้เสร็จก่อนน่ะ"

"เหรอครับ"

"เออนี่! หยกรีบกลับหรือเปล่า? ถ้ายังไม่รีบกลับ หยกพอจะช่วยครูทำเอกสารนิดหน่อยได้มั้ย?"

"เอ่อ..."

แต่อยู่ๆ ครูนพก็เอ่ยปากขอให้ผมอยู่ช่วยงานเสียอย่างนั้น ถึงผมจะอยากอยู่กับครูนพอีกสักพักก็ตาม แต่ว่านาฬิกาข้อมือที่ตอนนี้บอกเวลาว่าเป็น 4 โมงกว่าๆ แล้วก็ทำให้ผมรู้สึกลังเลมากเลย นั่นก็เพราะบ้านของผมค่อนข้างอยู่ไกล ถึงจะไม่ได้ไกลมากแค่ 2-3 กิโลเมตรก็ตาม แต่ด้วยความที่ปั่นจักรยานมากอปรกับทางเข้าบ้านก็ค่อนข้างเปลี่ยวจึงทำให้ผมคิดหนักจริงๆ

"หยกว่างหรือเปล่า? ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ"

"ว่างครับครู ผมว่างครับ" สุดท้ายเมื่อเห็นใบหน้าผิดหวังนิดๆ ของครูนพก็ทำให้ผมรีบตอบตกลง ถึงจะกลับช้าแต่การได้อยู่กับครูนพอีกหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง





To be continued

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••



นิยายเรื่องนี้ไม่มีการเม้น "ต่อ" นะครับ

ออฟไลน์ Popspugnik000

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-10
1
(เนื้อหาในบทนี้มีความรุนแรง/Non-Penetrative Sex/Cannibalism)


แอ้ด...แอ้ด!

เสียงจักรยานคันเก่าได้ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่ออกแรงปั่น มันก็ทำให้รู้สึกว่าระยะทางที่ขี่กลับบ้านตัวเองช่างดูห่างไกลขึ้นกว่าเดิม กว่าผมจะช่วยงานครูนพเสร็จก็ห้าโมงกว่าแล้ว แถมยังต้องมาปั่นจักรยานในถนนเปลี่ยวร้างที่รอบข้าทางมีแต่ป่ามีแต่หญ้าอีก แถมบรรยากาศรอบข้างในตอนนี้ช่างเหมือนกับตัวเองอยู่ในหนังสยองขวัญก็ไม่ปาน

...นึกโกรธบรรพบุรุษมากเลยที่มาสร้างบ้านอยู่ในที่เปลี่ยวแบบนี้น่ะ

ฟุบ!

แต่ฉับพลันทันใดนั้น สองหูของผมก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นจากฝั่งขวามือ แต่ผมเองก็ไม่คิดอะไรมากเพราะแถวนี้มักจะมีหมาจรจัดมาอาศัยอยู่เป็นสิบๆ ตัว แถมบางครั้งพวกมันก็มักจะมาเห่าไล่ผมด้วยสิ จนกระทั่ง...

ฟุบ!

“เอ๋ง...เอ๋ง!”

ร่างของหมาตัวหนึ่งได้ลอยละลิ่วมาตกกลางถนน แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผมชะงักงันและตกใจได้เท่ากับตัวอะไรบางอย่างที่พุ่งตามมา เจ้าหมาจรจัดตัวนั้นดิ้นทุรนทุรายร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด คงเพราะคอของมันได้ถูกกัดขย้ำด้วยสิ่งมีชีวิตอีกชนิด สิ่งมีชีวิตตัวขาวซีดที่ผิวกายอาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาน

...สิ่งมีชีวิตที่รูปร่างเหมือนกับคน

ผมจอดจักรยานยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไรกันแน่ อะไรที่กำลังขย้ำกัดทึ้งคอเจ้าหมาจรจัดตัวนั้นอย่างหิวกระหาย อะไรที่มันน่าสยดสยองพองขนได้ขนาดนี้

คนอย่างนั้นหรือ? หรือสิ่งที่คนเฒ่าคนแก่จะเรียกว่าปอบ หรือสิ่งที่เรามักจะเห็นในหนังวิทยาศาสตร์อยู่เป็นประจำ มนุษย์ทดลอง? เอเลี่ยน? หรือสัตว์กลายพันธุ์? แต่ไม่ว่าผมจะพยายามค้นหาคำอธิบายอย่างไร การค้นหาคำตอบนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อไอ้ประหลาดตัวนั้นได้หันมามองผมแล้ว

"...อือ!"

เสียงครางต่ำๆ กับดวงตาสีดำสนิทเต็มดวงได้จ้องประสานกับดวงตาของผม มันเย็นเยือกจนขนทุกเส้นบนกายของผมต้องลุกซู่! ขาแข็งจนก้าวไม่ออก หัวใจก็เต้นระทึกราวกับจะระเบิดออกมาจากอกเสียให้ได้ พอรู้ตัวอีกที เสียงครางต่ำๆ และร่างของมันก็ได้ก้าวเท้าเข้ามาแล้ว

ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!

เมื่อสติได้คืนกลับ ผมจึงสับขาวิ่งเข้าไปในป่าหญ้าข้างทางนั้นอย่างไว วิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต วิ่งหนีเท่าที่สองขาและพละกำลังของตนจะนำพาร่างไปได้ ผมไม่รู้หรอกว่ามันคือตัวอะไร แต่การที่มันกำลังเดินดุ่มๆ เข้ามาก็ทำให้ผมรู้แล้วว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นมื้อเย็นของมันแน่

"โอ๊ย!"

แต่ความโชคร้ายก็เป็นของคู่กันกับผม ไอ้ตัวประหลาดบ้านั่นมันจับกระเป๋านักเรียนของผมไว้ได้จนทำให้ผมสะดุดล้มลงกับพื้น ทั้งฉีกทึ้งและตะกรุยจนกระเป๋าและสมุดหนังสือฉีกขาดกระจัดกระจายไม่มีชิ้นดี ผมจึงตัดสินใจสละกระเป๋าใบนั้นทิ้งไปแล้วพลิกตัวมาถีบมันเพื่อเอาตัวรอดแทน

พลั่ก!

แต่ในขณะที่ผมกำลังอาศัยจังหวะเพื่อหนีนั้น ดูเหมือนความซวยก็ไม่ได้ปล่อยผมไปไหน เพราะทันทีที่ผมออกตัววิ่ง ไอ้เท้าเจ้ากรรมก็ดันไปสะดุดเข้ากับรากไม้จนทำให้ผมล้มลงไปอีก และแน่นอนว่าเมื่อผมไม่สามารถหนีมันไปได้ทัน ไอ้ตัวประหลาดตัวนั้นก็ได้ตะครุบร่างของผมไว้ได้ ก่อนที่มันจะฝังกรงเล็บลงบนบ่าทั้งสองข้างของผมแล้ว

"อ๊าก!"

ผมกรีดร้องออกมาสุดเสียงเนื่องจากความเจ็บปวดที่ถูกเล็บของมันทิ่มทะลุเข้าสู่ผิวหนัง แม้ผมจะพยายามกะเสือกกะสนเพื่อเอาชีวิตรอดสักเพียงใด แต่ความกลัวตายและความเจ็บปวดที่เผชิญมาก็ทำให้เรี่ยวแรงมันลดน้อยถอยลงไปทุกที

"...อือ!"

ตอนนี้ไอ้ตัวประหลาดก็ได้แต่นั่งคร่อมพร้อมดอมดมไปทั่วตัวของผม ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรแต่ใบหน้าของมันก็มาหยุดตรงหน้าของผมแล้ว ห่างกันไม่ถึงคืบจนทำให้ผมเห็นรายละเอียดความสยดสยองบนใบหน้าของมัอย่างชัดเจน ดวงตาสีดำสนิทเต็มดวงนั่นแทบจะทำให้ผมหมดสติไปแล้วทุกที ทว่าแม้เสียงครางของมันจะทำให้ให้ผมรู้สึกหวาดกลัว แต่ผมก็รู้สึกแปลกใจที่มันไม่ลงมือจัดการผมสักทีล่ะ

"อ...อา!"

แต่แล้วไอ้ตัวประหลาดนั่นก็ก้มลงมาดอมดมบนซอกคอของผม ทั้งสูดดมทั้งโลมเลียราวกับว่ามันกำลังเห็นผมเป็นลูกอมเลยล่ะ แต่ดูเหมือนว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกอปรกับหยดเลือดที่รินไหลออกมาก็เริ่มทำให้ผมก็ใกล้จะสลบลงไปแล้วทุกที นี่ผมกำลังจะถูกกินแล้วใช่ไหม ผมกำลังจะถูกฉีกทึ้งเหมือนเจ้าหมาจรจัดตัวนั้นแล้วใช่ไหม? ไม่...ไม่นะ

"ไม่...นะ!"

ฟุบ!


ทันทีที่หยกสลบลงไปเจ้าตัวประหลาดตัวนั้นก็ผละจากร่างบอบบางอย่างเชื่องช้า ทำไมเจ้าเหยื่อตัวนี้ถึงได้มีกลิ่นหอมนัก หอมหวานน่าลิ้มลอง หอมหวานจนเกินห้ามใจ หอมหวานจนมิอาจจะกัดกินลงท้องไป อยากฉกชิม อยากจะกลืนกินไปทั่วทั้งตัว หากแต่ว่ามันจะกินอย่างไรโดยที่เหยื่อตัวนี้ยังมีลมหายใจ มีชีวิตเพื่อให้เจ้าตัวประหลาดได้กลืนกินความหวานนี้ได้นานที่สุด

"อร่อย...อร่อยจัง" จนเมื่อไม่รู้ว่าจะจัดการเหยื่อตัวนี้ได้อย่างไร เจ้าตัวประหลาดก็ได้ตัดสินใจอุ้มร่างของอีกฝ่ายขึ้นมาแล้วพาออกไปจากบริเวณนั้นทันที

"อยากกิน---นานๆ"


ความกระหาย...คือสัญชาตญาณอันเป็นแรงผลักดันเดียวให้เจ้าตัวประหลาดออกเดินทาง ดั่งนักล่าที่แหล่งอาหารหดหายทำให้เกิดการอพยพเพื่อล่าเหยื่อ แม้จะสวาปามเอาเนื้อหนังของกลุ่มมนุษย์วัยฉกรรจ์นับ 10 แต่ด้วยร่างกายอันผิดธรรมชาติที่เผาผลาญพลังงานอย่างรวดเร็วก็ทำให้มันรู้สึกหิวอีกครั้ง หิวกระหายหลังจากอิ่มท้องได้เพียง 3 ชั่วโมง

การอพยพแรกได้นำพาตัวประหลาดมาถึงแหล่งอาหารใหม่ ในพื้นที่รกร้างอันเติมไปด้วยฝูงหมาจรจัด แม้จะได้พลังงานจากเนื้อหนังของพวกมัน แต่หมาจรพวกนี้กลับทำให้เจ้าประหลาดไม่รู้สึกถึงความอร่อยเท่าเนื้อมนุษย์ที่มันเคยลิ้มลองเลย

แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายครั้งที่เจ้าตัวประหลาดสงสัยในที่มาที่ไปของตน ทำไมต้องไล่ล่าสังหารสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นด้วยนะ ทำไมถึงได้หิวกระหายในรสเลือดและเนื้ออย่างไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่มันคิด ทุกครั้งที่ค้นหาคำตอบ ความกระหายใคร่อยากก็บดบังความนึกคิดของมันไป เหลือทิ้งไว้แต่สัญชาตญาณนักล่าที่พร้อมจะฉุดคร่าทุกชีวิตที่พบเจอ

กระทั่งนักล่าก็ค้นพบเหยื่ออันโอชะยิ่งกว่าฝูงหมาจรจัด เหยื่อแสนหวานจนไม่อาจสังหารและกลืนกินได้ลงเป็นครั้งแรก

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าตัวประหลาดถึงได้ถูกใจเจ้าเหยื่อตัวนี้นัก เป็นเพราะกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนเหยื่อตัวใดนี่หรือเปล่านะ กลิ่นหอมที่แม้จะดูเป็นเอกลักษณ์แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นนี้เหลือเกิน แต่ด้วยรสชาติบนผิวกายอันแสนหวานซึ่งไม่ว่าจะโลมเลียสักกี่ครั้ง ความหวานนั้นก็ติดลิ้นจนยากจะลืมได้ลง

...ของหวานแสนอร่อย

นั่นเองจึงเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวประหลาดได้เก็บเหยื่อมาที่รังของตน โอบอุ้มอย่างเบามือ บรรจงอุ้มร่างนั้นด้วยแรงอันบางเบาคล้ายกับทะนุถนอมเพราะกลัวเหยื่อของตนจะเป็นรอย กระทั่งมันก็ได้อุ้มเจ้าเหยื่อตัวนั้นมาถึงหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่งเข้า ที่นี่ปลอดภัยและเงียบสงบพอที่มันจะเอาเจ้าเหยื่อตัวนี้มาซ่อนไว้ ก่อนจะวางเอาร่างอันสลบไสลนั้นลงกับพื้นอย่างเบามือ

“...”

เจ้าตัวประหลาดได้แต่นั่งคุกเข่ามองเหยื่ออันโอชะของตนอย่างพินิจพิเคราะห์ ร่างอันสลบไสลก็ได้ทำให้มันคิดหนักว่าจะฉกชิมและกลืนกินเจ้าเหยื่อตัวนี้อย่างไรดี มันไม่เหมือนกับหมาจรจัดหรือมนุษย์ที่เจ้าตัวประหลาดเคยสวาปามมาก่อน กลิ่นของมันช่างหอมหวานและเย้ายวนเสียจนอยากเก็บเอาไว้กินนานๆ

กินนานๆ โดยที่มันยังมีลมหายใจ

แต่กลิ่นคาวเลือดของเหยื่อตัวนี้ก็ทำให้เจ้าตัวประหลาดเริ่มต้นเลียกินเป็นอันดับแรก หยาดเลือดเหนียวเหนอะหนะช่างหวานหอมจนอยากกัดกินสักคำหนึ่ง เย้ายวนจนแทบจะห้ามใจไว้ไม่อยู่ แต่ถ้าตัดใจกินทั้งหมดลงท้องไปก็ไม่แน่ใจว่าในชีวิตนี้จะได้เจอเหยื่อแบบนี้อีกหรือเปล่านะ

เจ้าตัวประหลาดจึงทำได้แค่เลียหยดเลือดที่ไหลซึมจากแผลของเหยื่อตัวนี้เท่านั้น โลมเลียอยู่นานจนกลิ่นหอมอันแปลกประหลาดที่ลอยฟุ้งเตะจมูก ก็ทำให้เจ้าตัวประหลาดเกิดความรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้ว

...ความต้องการในการสืบพันธุ์

อวัยวะส่วนล่างเริ่มแข็งขืน ลมหายใจอุ่นร้อนได้ถูกพ่นออกมาจนดังฟืดฟาด เลือดในกายก็เริ่มเดือดพล่านจนร้อนรนและกระสับกระส่ายคล้ายกับคุมตัวเองไม่อยู่ แถมเจ้าอวัยวะเจ้ากรรมที่กำลังแข็งขืนก็เกิดอาการแปลกๆ ทั้งแสบทั้งคันจนอยากหาที่ระบาย นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตัวประหลาดนะ ทำไมมันถึงได้รู้สึกกระวนกระวายจนร้อนรุ่มแบบนี้

กระทั่งสายตามันก็ได้เหลือบไปเห็นร่างของเจ้าเหยื่อตัวนี้ ร่างของหยกที่นอนแน่นิ่งแต่กลับดึงดูดให้มันสนใจ เจ้าตัวประหลาดจึงได้นอนล้มทับลงบนร่างที่บอบบางนั้น พร้อมกับใช้อวัยวะส่วนล่างถูไถไปมาบนเรือนร่างของเหยื่อตัวนี้

“อา...อา!”

อวัยวะส่วนล่างที่กำลังถูไถไปบนร่างของเหยื่อนั้น ก็ช่างทำให้เจ้าตัวประหลาดรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าร่างของตนกำลังลอยล่อง ราวกับว่ามันกำลังมีความสุขที่ได้ใช้อวัยวะของมันถูไถไปบนตัวของมนุษย์คนนี้ ใช่...ตอนนี้มันรู้แล้วว่าจะกินเหยื่อตัวนี้อย่างไร รู้แล้วว่าควรให้เหยื่อตัวนี้อยู่ในสถานะใดของมัน

“อา! อา...อา!”

จนความต้องการที่อัดอั้นเอาไว้นานก็ได้ทะลักทะลายหลามไหลออกมา ร่างของเจ้าตัวประหลาดกระตุกเป็นระยะ พร้อมกับของเหลวสีขาวขุ่นได้พุ่งรดจนเลอะเปรอะเปื้อนไปทั่วร่างกายของหยก นี่ช่างเป็นความรู้สึกอันแปลกประหลาด เป็นความรู้สึกที่มันไม่เคยพบมาก่อนเลยในชีวิตของมันเลย

เจ้าตัวประหลาดจึงได้อุ้มร่างของเหยื่อขึ้นมาแล้วบรรจงวางคนที่กำลังหลับลงบนตักของมันช้าๆ มันเริ่มด้วยการโลมเลียและฉกชิมทุกความหวานที่อาบอยู่บนผิวกายนี้อีกครั้ง ไม่ว่าจะลิ้มลองอย่างไรก็ช่างหวานละมุนลิ้นเสียจริง

"อึก! อือ...อือ อ๊ะ! เฮ้ย!"

แต่ดูเหมือนเหยื่อในอ้อมแขนของเจ้าตัวประหลาดจะเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว มันทั้งตบตีและดิ้นพล่านเป็นการใหญ่ แต่เจ้านักล่าผู้หิวกระหายก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนอกจากจะจ้องมองเหยื่อของมันด้วยความชอบพอ

ช่างน่าขำเสียจริง เจ้าเหยื่อตัวนี้อาจหาญถึงขนาดกล้าขัดขืนมันเสียได้ นี่ถ้าเป็นเหยื่อตัวอื่นนะ เจ้าตัวประหลาดคงได้กระชากเอาหลอดลมมาขบเคี้ยวไปนานแล้ว แต่ที่มันไม่ทำอะไรรุนแรงก็คงเพราะเจ้ามนุษย์ตัวจ้อยนี้คงจะเป็นเหยื่อที่พิเศษสุดของมันนั่นเอง

"ปล่อย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ โอ๊ย!" จนเมื่อเกิดความหมั่นเขี้ยวขึ้นมา เจ้าตัวประหลาดก็ได้จับเอาร่างบางกดลงกับพื้นทันที

ดวงตาชุ่มน้ำได้แต่มองเจ้าตัวประหลาดอย่างหวาดหวั่น ทั้งเสียงลมหายใจเข้าออกอันติดขัดก็ทำให้เจ้าตัวประหลาดอยากจะชิมเนื้อของเหยื่อพิเศษตัวนี้สักคำ มันชอบที่เหยื่อแสดงความหวาดกลัวออกมา ยิ่งเหยื่อกลัวเลือดของพวกมันก็ยิ่งจะสูบฉีดจนทำให้เนื้อของพวกมันหวานยิ่งขึ้นไปอีก

แต่กิริยาอาการของเหยื่อตัวนี้กลับทำให้เจ้าตัวประหลาดไม่ชอบใจเอาเสียเลย มันไม่อยากให้หนุ่มน้อยมองมันด้วยสายตาแบบนี้ สายตาที่กำลังหวาดกลัว สายตาที่แสดงความรังเกียจ มันไม่ชอบเลย ไม่ชอบใจเอาเสียเลย

"ฮื่อ!"

เจ้าตัวประหลาดจึงได้แต่แยกเขี้ยวยิงฟันออกมา มันจึงผละออกจากร่างของหนุ่มน้อยแล้วถอยกรูออกมาให้ห่างมากที่สุด อย่างน้อยก็เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจว่ามันจะไม่ทำร้ายอะไรแน่นอน

"ฮึก...อา!"

และเมื่อเจ้าตัวประหลาดได้ปล่อยให้ตนเป็นอิสระ หยกก็ได้แต่ลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งพร้อมกับสายตาที่ยังคงมองเจ้าตัวประหลาดตัวนั้น ความกลัวตายยังเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ในใจของหยก หนุ่มน้อยไม่กล้าแม้แต่จะละสายตา ไม่กล้าแม้กระทั่งจะหายใจเลยด้วยซ้ำ

แต่สำหรับเจ้าตัวประหลาดนั้นมันอยากทำให้หยกรู้สึกสบายใจที่สุด อยากให้ยกเลิกมองมันด้วยสายตาอันหวาดกลัวและแสดงความรังเกียจออกมาแบบนั้น แต่มันเองก็ไม่รู้เลยว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดี แถมในตอนนี้ความหิวกระหายของมันก็เริ่มกลับเข้ามาอีกครั้งแล้ว นั่นจึงทำให้เจ้าตัวประหลาดจำต้องตัดใจแล้ววิ่งหนีไปอีกทางแทน ปล่อยให้เหยื่อของมัน...ไม่สิ! ปล่อยให้ คู่ของมัน นั่งอยู่ภายในบ้านร้างเพียงลำพัง โดยที่มันก็ไม่หันกลับมามองหยกอีกเลย


To be continue

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••


นิยายเรื่องนี้ไม่มีการเม้น “ต่อ” นะครับ

ออฟไลน์ Popspugnik000

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-10
2
(Non-Penetrative Sex)


ถึงไอ้ตัวบ้านั่นจะไปจากผมจนลับสายตาแล้ว แต่หัวใจของผมในตอนนี้ยังเต้นระทึกไม่เป็นจังหวะ นี่ผม...ผมรอดแล้วใช่มั้ย? ผมไม่ถูกมันฆ่าและจับกินแล้วใช่มั้ย? ถ้าใช่...ทำไมตอนนี้ผมถึงได้หวาดระแวงและยังไม่รู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยแล้วล่ะ แต่ยังดีที่ถึงแม้จะกลัวแต่ก็ยังกลับมามีสติได้ ผมจึงได้แต่ลอบถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงไปอีกครา

"อา..."

ไม่มีแรงเลย ไม่มีแรงที่จะลุกไปไหนเลย มือไม้ยังสั่นระริก สองขาก็ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะนำพาร่างให้ลุกขึ้นยืนได้ ความรู้สึกเฉียดตายมันเป็นแบบนี้เองหรือ? แต่ช่างเถอะ! ตอนนี้ผมต้องมีสติแล้วรีบหนีไปจากที่นี่ให้ได้ ถึงจะไม่รู้ว่าไอ้ตัวประหลาดบ้านั่นเป็นตัวอะไร แต่ถ้าในเมื่อผมมีโอกาสก็คงต้องรีบหนีมันเสียหน่อยแล้ว ผมจึงตัดสินใจรวบรวมแรงที่เหลือให้ลุกขึ้น ก่อนจะกระเสือกกระสนวิ่งออกมานอกบ้านร้างหลังเพื่อหาทางหนีที่ไล่ในทันที

"แฮก...แฮก!"

ไม่รู้ว่าตัวเองถูกพามาที่ไหน รู้แค่ว่าที่นี่มันถูกรายล้อมไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่พอดูคร่าวๆ น่าจะเป็นบ้าน...บ้านร้างแน่นอน นี่ผมพยายามจะมีสติมากที่สุดแล้วนะ แต่ด้วยความมืด ความกลัว ความกังวล ทุกสิ่งทุกอย่างมันตีวนวุ่นวายจนผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว แต่เอาเถอะ เป็นไงเป็นกัน ผมจึงใช้สัญชาตญาณที่มีคลำหาทางหนีให้ตัวเอง โชคยังดีที่พอเห็นแสงไฟลิบๆ อยู่จึงพอใช้มันเป็นเป้าหมายให้ตัวเองได้ และในท้ายที่สุดผมก็วิ่งมาถึงจุดหมาย เป็นไฟทางข้างถนนเส้นที่ผมคุ้นเคยนั่นเอง

กระทั่งในที่สุดผมก็พาตัวเองมาถึงบ้าน กว่าจะวิ่งมาถึงที่นี่ได้ก็เหนื่อยจนแทบใจขาด พอเข้ามาในห้องตัวเองได้ผมก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนของตัวเองไป แต่ทว่าความกลัวก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลยสักนิด ถึงจะเหนื่อยแต่ความวิตกจริตก็รีบทำให้ผมปิดหน้าต่าง และลงกลอนประตูทุกบานเพื่อป้องกันไม่ให้ไอ้ตัวบ้านั่นหรืออะไรก็ตาม สามารถเข้ามาในบ้านของผมได้

ไอ้ตัวบ้านั่นมันคือตัวอะไรกันแน่ ทำไมมันถึงได้น่ากลัวขนาดนั้น แต่ทว่าในอีกใจหนึ่งของผมก็รู้สึกแปลกใจที่ยังคงมีชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ ทำไมมันถึงไม่ฆ่าผม ทำไมมันถึงได้ยอมปล่อยผมไปง่ายๆ ทั้งที่มันก็จะฆ่าผมก็ได้ถ้ามันต้องการ แต่ไม่ว่าผมจะพยายามคิดหาคำตอบเพียงใดผมก็คิดอะไรไม่ออกเลย แค่รอดตายมาได้มันก็คงจะเป็นเรื่องโชคดีที่สุดสำหรับผมแล้ว

“อ๊ะ!”

แต่แล้วความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบนบ่าทั้งสองข้างก็ทำให้ผมต้องรีบหาอะไรมาล้างแผล นี่ผมทั้งเหนื่อยทั้งกลัวจนเกือบลืมไปเลยว่าตัวเองมีแผลฉรรจ์อยู่น่ะ เจ็บจริงๆ เลยนะ แถมยังรู้สึกปวดระบมไปทั่วทั้งตัวด้วย ผมจึงก้มลงสำรวจร่างกายของตนเพื่อหาว่าตนเองนั้นมีบาดแผลที่ใดอีกหรือเปล่า แต่สายตากลับเหลือบไปเจอคราบอะไรบางเปรอะเปื้อนบนท้องของผมแทน

ไอ้คราบของเหลวสีขาวขุ่นนี่คืออะไร? พอลองเอานิ้วแตะๆ มันก็ดูเหนียวข้นแปลกๆ สัมผัสที่รับรู้ได้บนปลายนิ้วเมื่อแตะมันนี่ช่างดูน่าขยะแขยงเหลือเกิน แถมกลิ่นของมันก็ช่างคาวและเหม็นอับอีกต่างหาก

น้ำมูกเหรอ? ไม่สิ ผมเองก็ไม่ได้เป็นหวัดนี่นา หรือว่านี่จะเป็นน้ำมูกของเจ้าตัวประหลาดตัวนั้น? แย่ล่ะสิ ผมต้องรีบอาบน้ำและทำความสะอาดตัวเองโดยด่วนเลย ไม่รู้ว่าผมจะติดเชื้อจนกลายร่างเป็นแบบมันหรือเปล่า แต่ชีวิตที่เพิ่งผ่านความตายมาเมื่อครู่นี้ก็ทำให้ผมกลัวจนไม่กล้าลงไปอาบน้ำเลย

แต่ถ้าให้นอนทั้งที่ตนเองยังมีกลิ่นเหงื่อและกลิ่นคาวจากไอ้ของเหลวแปลกๆ นี่เห็นทีว่าผมก็คงจะทำไม่ได้เหมือนกัน สุดท้ายผมก็ต้องรวบรวมความกล้าลงไปอาบน้ำอย่างไวและรีบกลับเข้ามานอนในห้องของตนทันที


2 วันผ่านไป...

แน่นอนว่าเพราะโดนทำร้ายจนเป็นแผลใหญ่บนบ่าทั้งสองข้าง กอปรกับที่ตัวเองต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเพื่อหนีเอาตัวรอด นั่นจึงทำให้ผมเป็นไข้หนักจนลุกไม่ไหว สุดท้ายก็จะฟื้นตัวมาเรียนได้ก็เป็นอีกวันไปแล้ว

แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกลังเลนิดหน่อยว่าจะไปโรงเรียนดีไหม ด้วยระยะทางจากบ้านถึงโรงเรียนก็ค่อนข้างไกลพอสมควร อีกทั้งทางรอบข้างก็เต็มไปด้วยป่าละเมาะที่แม้จะเป็นเวลากลางวันแต่ก็เปลี่ยวเสียจนน่ากลัว แถมจักรยานอันเป็นพาหนะเพียงหนึ่งเดียวก็ดันถูกผมทิ้งไว้ระหว่างทางมานี่อีก นี่ผมควรจะทำยังไงดีนะ?

"ขอบคุณครับป้า"

"อืมๆ ทีหลังจะไปไหนกับเพื่อนก็อย่าลืมจักรยานไว้ที่โรงเรียนอีกล่ะ"

"ครับ"

ผมยกมือไหว้พลางยิ้มรับด้วยสีหน้าที่ดูเจื่อนไม่น้อย ก็รู้อยู่หรอกว่าการโกหกว่าไปเที่ยวกับเพื่อนจนลืมจักรยานไว้ที่โรงเรียนมันฟังไม่ขึ้นน่ะ แต่ถ้าจะบอกว่าผมเจอตัวประหลาดระหว่างทางจนต้องทิ้งจักรยานหนีไปป้าก็คงไม่เชื่อแน่นอน หลังจากนั้นผมก็โดนป่าบ่นอีกนิดหน่อยก่อนที่ป้าจะขับรถออกไป ปล่อยให้ผมได้แต่นึกคิดว่าจะเอายังไงต่อ

"เฮ้อ!"

เสียงถอนหายใจคือสิ่งที่บอกถึงความอับจนปัญญาในตอนนี้ ทว่าสุดท้ายสิ่งที่เด็กอย่างผมจะทำได้คือละทิ้งความคิดพวกนั้นไป แล้วเดินเข้ามาในโรงอาหารเพื่อหาอะไรใส่ท้องแทน ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยน่ะ แถมตอนนี้เองผมก็รู้สึกปวดแผลที่โดนไอ้ตัวประหลาดน้นเอาเล็บจิกด้วย นี่ผมคงจะไม่กลายร่างเป็นเหมือนมันหรอกนะ

แต่เรื่องนั้นก็ได้ถูกดึงความสนใจไปเพราะตอนนี้อยู่ๆ ก็มีเรื่องใหม่เข้ามากระตุกต่อมเสือกของผมเข้าให้แล้ว

"หา! ว่าไงนะ เมื่อเช้าภารโรงถูกฆ่างั้นเหรอ?"

เสียงสนทนาในวงนักเรียนที่อยู่ในโรงอาหารได้ทำให้ผมอยากรู้ขึ้นมาแล้วสิ ภารโรงของโรงเรียนถูกฆ่า เท่าที่แอบฟังรายละเอียดมาก็ดูเหมือนว่าสภาพศพของภารโรงค่อนข้างสยดสยองทีเดียว

...กล่องเสียงและหลอดลมหายไป ดวงตาข้างหนึ่งถูกควักออกจนหลุดออกจากเบ้า ดวงตาอีกข้างโบ๋ลึก แขนข้างไหนไม่รู้ขาดเหมือนถูกกระชากออกไป อวัยวะภายในหายเกลี้ยง สภาพศพนอนจมกองเลือดและเศษเนื้อกระจัดกระจาย แถมตอนนี้ตำรวจก็กั้นบ้านพักภารโรงอันเป็นสถานที่เกิดเหตุเอาไว้แล้ว

เท่าที่หูของผมได้ยินมาดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้ว่าอะไรกันแน่ที่ฆ่าภารโรง คนหรือ? ก็ไม่แน่เพราะภารโรงคนนี้ค่อนข้างขี้เมา พอเหล้าเข้าปากทีไรก็ชอบเอะอะโวยวายเสียงดังทุกที แต่ถ้าเป็นคนจริงๆ ไอ้คนลงมือก็ต้องโกรธแค้นพอตัวถึงได้ลงมือโหเหี้ยมแบบนี้ได้ ซึ่งเท่าที่เงี่ยหูฟังรายละเอียดมาก็ดูเหมือนว่าพวกนักเรียนเอง จะตั้งทฤษฎีถึงปูมเหตุต่างๆ นานาที่เป็นแรงจูงใจให้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ด้วยสิ แต่ว่านะ คนที่ไหนจะทำให้สภาพศพภารโรงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ และถ้าไม่ใช่คนที่ลงมือ จะเป็นอะไรได้อีกที่สามารถทำให้ศพมีสภาพแบบนี้ได้

ฝูงหมาจรจัดอย่างนั้นหรือ? หรือว่าจะเป็นเสือล่ะเพราะที่นี่เองก็ใกล้กับป่าด้วยสิ แต่ก็ไม่มีใครเคยพบเสือหรือสัตว์ป่าตัวอื่นมาเพ่นพ่านในเขตที่อยู่อาศัยมาก่อน แล้วอะไรกันที่ฆ่าภารโรงได้อย่างสยดสยองถึงเพียงนี้?

"ไง...ไอ้หยก!" ทว่าเสียงของคนที่ผมไม่ต้องการจะได้ยินที่สุดก็ดังขึ้น และเพียงมือข้างหนึ่งที่ตบลงบ่าของผมอย่างแรง แม้ไม่ต้องบอกผมก็รู้ได้ทันทีว่าใครกันที่ทักทายผมแบบนี้

"มังกร..." ผมได้แต่ชำเลืองมองหน้าไอ้มังกรเล็กน้อยแล้วก้มหน้าหลบสายตาของมันต่อ ถ้าขืนมองหน้าของมันนานๆ กว่านี้มีหวังผมคงได้โดนไอ้มังกรตบหน้าแน่เลย

"มาแต่เช้าเลยนะมึง" มันพูดก่อนจะอ้อมมานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับผม

"อ...อืม เราก็มาโรงเรียนแต่เช้าอยู่แล้ว" ผมตอบกลับโดยที่นัยน์ตาก็ยังคงก้มมองจานข้าวตัวเองอยู่

"อืม" แต่แล้วอยู่ๆ ไอ้มังกรก็ลุกพรวดพราดก่อนจะกระชากให้ผมลุกขึ้นตาม

"น...นายจะทำอะไร?" ผมถาม แต่ไอ้มังกรมันกลับจ้องหน้าผมเขม็งแล้วพูดว่า...

"หุบปากแล้วตามกูมา" ว่าแล้วมันลากผมให้เดินตามไปโดยที่ตัวเองก็ขัดขืนอะไรไม่ได้


ไอ้มังกรมันได้ลากผมมายังบ้านร้างหลังหนึ่งซึ่งอยู่ทางด้านหลังของโรงเรียน แถวนี้ค่อนข้างเปลี่ยวเพราะอยู่ใกล้กับสวนป่า แถมยังมีคนลือกันต่างๆ นานาว่าที่นี่มีผีดุอีกต่างหาก แต่ว่านะ เมื่อก่อนบ้านร้างหลังนี้เคยเป็นบ้านพักครูอาจารย์และบุคลากรต่างๆ ในโรงเรียนนั่นแหละ แต่ตอนนี้มันทั้งเก่าและทรุดโทรมมากจนไม่มีใครกล้าอาศัยอยู่นานแล้ว และนั่นจึงไม่แปลกอะไรที่ไอ้มังกรกับพรรคพวกเด็กเกเรจะเอาที่นี่มาเป็นแหล่งมั่วสุมของพวกมัน

"ม...มังกร เอ่อ...นายพาเรามาที่นี่ทำไม?"

"มึงอย่าถามในสิ่งที่มึงก็รู้ดีอยู่แล้วสิ" คำพูดที่ถูกเอ่ยพร้อมรอยยิ้มน่ารังเกียจก็ทำให้ผมรู้ทันทีว่าไอ้มังกรต้องการอะไร ผมจึงผงะด้วยความรู้สึกพะอืดพะอมคล้ายกับกำลังจะอ้วกขึ้นมากะทันหัน

“อุ้บ!” ทว่าไอ้มังกรกลับคว้ามือของผมเอาไว้แน่นแล้วจับเอาไปสัมผัสเป้าของมันแทน

"เร็ว! อย่าลีลาให้มาก ตอนนี้กูกำลังแข็งมึงรีบทำให้กูเดี๋ยวนี้เลย"

มันสั่งพร้อมกับจับมือของผมลูบไล้เป้าของมันไปมา ผมเองจึงได้แต่ยอมจำใจคุกเข่ากับพื้นช้าๆ จนตอนนี้หน้าของผมก็อยู่ในระนาบเดียวกันกับเป้ากางเกงไอ้มังกรแล้ว

"หึๆ ว่านอนสอนง่ายดีนี่" ไอ้มังกรแสยะยิ้มพลางรูดซิปกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินของมันลง จากนั้นมันก็ล้วงเอาแก่นกายขนาดใหญ่ซึ่งตอนนี้กำลังตื่นตัวได้ที่ "เอาเลยสิ"

ไอ้มังกรออกคำสั่งอีกครั้งพลางกดหน้าของผมเข้าไปแนบชิดกับแก่นกายของมัน ความอุ่นร้อนที่ผิวแก้มสัมผัสได้กับขนาดน้องชายที่ใหญ่พอๆ กับแขนของผม ทั้งกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของอวัยวะส่วนนั้นและกลิ่นอับต่างๆ ก็ทำให้ผมรู้สึกพะอืดพะอมจนรู้สึกรังเกียจมากเลย

“เร็ว อย่าให้กูต้องพูดซ้ำ” คำสั่งที่ถูกย้ำอีกครั้งก็ทำให้ผมจำใจยอมอ้าปากช้าๆ แน่นอนว่ากลิ่นของมันทำให้ผมอยากอ้วกมาเลย ทว่าท่าทีเงอะงะล่าช้าของผมกลับทำให้ไอ้มังกรไม่พอใจขึ้นมา มันกระทุ้งแก่นกายเข้าปากผมพรวดเดียวจนทำให้ผมแทบจะสำลัก

"อ้อกๆ" ผมทั้งสำลักทั้งพยายามดันเอวของมันออก ทว่าไอ้คนเลวทรามกลับกดหัวของผมไว้แน่น ปากก็ส่งเสียงซี้ดซ้าดมีความสุขบนความทุกข์ทรมานของผม จนเมื่อมันกระทำจนพอใจไอ้มังกรก็ชักแก่นกายออกไป

"แค่กๆ" ด้วยขนาดใหญ่คับปากจนแทบทำผมหายใจไม่ออก พอมันปล่อยผมได้ผมก็ทั้งไอทั้งสำลักพลางโกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด น้ำมูกน้ำตาไหลเป็นทาง แถมรสชาติที่ได้จากแก่นกายของมันก็ทำให้ผมพะอืดพะอม จนขยะแขยงแม้กระทั่งจะกลืนน้ำลายตัวเอง

"แค่นี้ทำเป็นร้องห่มร้องไห้ไปได้ มึงน่าจะดีใจนะที่ได้อมของใหญ่ๆ ของกูน่ะ"

...ถ้าให้เลือกได้กูยอมอมของคนอื่นมากกว่าของๆ มึง

"เร็ว! ทำต่อสิ อย่ามาสำออยให้มันมาก" ว่าแล้วไอ้แก่นกายน่ารังเกียจนั่นก็พุ่งเข้ามากระทุ้งแก้มของผม ถึงจะเจ็บใจ แต่สุดท้ายผมก็ยอมอ้าปากออกก่อนจะค่อยๆ ครอบปากลงบนแก่นกายของมันอีกครั้ง

“อึก...อือ!” ผมขยับปากเข้าออกอย่างไม่เต็มใจนัก ด้วยขนาดใหญ่โตจนเต็มปากเต็มคำก็ทำให้ผมแทบจะสำลักทุกครั้งที่อมให้มันเลย

"ซี๊ด...อา!"

เสียงครางอันแสนสุขสมบนความทุกข์ทมของผมยังดังอยู่เป็นระยะ ดูเหมือนไอ้มังกรมันจะชอบใจมากที่สามารถใช้ปากของผมเป็นที่รองรับอารมณ์ของมันได้น่ะ

"อา...ปากมึงนี่โคตรเสียวเลยว่ะไอ้หยก หึๆ" แต่แล้วไอ้มังกรก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ซึ่งพอผมเห็นดังนั้นผมก็รีบคายของๆ มันออกพร้อมกับร้องห้ามทันที

"อย่า! อย่าถ่าย...อย่าถ่ายเรานะ"

เพียะ!

"โอ๊ย!" ผมร้องห้ามแต่ทว่าไอ้มังกรมันกลับตบหน้าของผมอย่างแรง

"ทำๆ ไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว"

มันพูดก่อนจะจิกหัวผมขึ้นมาแล้วกระทุ้งท่อนเนื้อของมันเข้าปากผมอีกครั้ง มือหนึ่งจิกหัวให้ผมแหงนหน้าขึ้นโดยที่แก่นกายยังคงเข้าออกอยู่อย่างนั้น ส่วนอีกมือก็ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกทุกการกระทำอันน่าอับอาย โดยที่ผมไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่จะขัดขืนหรือเบี่ยงหน้าหลบเลย

"โอย~แม่งโคตรเสียวเลยว่ะ!"

"อ้อกๆ อือ!"

"อา! กูจะเสร็จแล้วๆ" และทันใดนั้นเองไอ้มังกรมันก็เร่งจังหวะกระทุ้งเข้ามาเร็วขึ้น จนแทบจะทำให้ผมอาเจียนออกมาให้ได้เลย

“อ้า! อา...” กระทั่งความทรมานก็สิ้นสุดลงเมื่อในที่สุดไอ้มังกรมันก็ปลดปล่อยออกมา "ซี๊ด...อา! อา"

ถ้าเป็นเหมือนทุกครั้งไอ้มังกรจะกดหัวผมเอาไว้แล้วบังคับให้ผมกลืนน้ำกามของมัน แต่คราวนี้กลับต่างออกไปตรงที่มันกลับผลักผมออกแล้วพ่นน้ำรักใส่หน้าผมแทน

"อา! โคตรเสียวเลยว่ะ" มังกรพูดพร้อมกับรีดเร้นเอาน้ำคาวทุกหยดของมันออก แต่นั่นก็ยังไม่สาแก่ใจมัน เพราะไอ้คนชาติชั่วได้ใช้มือทาน้ำกามของมันจนทั่วใบหน้าของผม

"...ฮึก!"

"เฮ้ย! กูขอโทษนะ วันนี้กูอยากลองแตกใส่หน้าเลยไม่ได้บอกมึงน่ะ" ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สีหน้าของมันกลับดูจะชอบมากเลย

“...”

“จะว่าไปสภาพมึงตอนมีน้ำกูเต็มหน้านี่ก็น่า...ดูดีเหมือนกันนะ” มันพูดพลางจับหน้าของผมพลิกไปมาอย่างสบายอารมณ์โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด ส่วนผมก็ได้แต่นั่งคุกเข่าก้มหน้าอยู่อย่างนั้น เพราะอย่างที่บอกไปว่าผมไม่สามารถทำอะไรมันได้อยู่แล้ว "อะ! กูเสียสละถุงเท้าให้ข้างหนึ่ง มึงเอาไปเช็ดหน้ามึงสิ ถ้าต้องออกไปล้างที่ห้องน้ำโรงเรียนในสภาพนี้มึงคงอายแย่”

ว่าแล้วไอ้มังกรก็ถอดถุงเท้าข้างหนึ่งของมันออกก่อนจะยื่นให้ผม ซึ่งผมก็ได้แต่จำใจรับถุงเท้าของมันไว้ด้วยความรู้สึกอันแสนหดหู่ที่สุดในชีวิต

จริงอย่างที่ไอ้มังกรพูด ถ้าผมออกไปทั้งที่ใบหน้าของผมเปรอะไปด้วยน้ำคาวแบบนี้ ทุกสายตาในโรงเรียนก็คงจะจับจ้องมาที่ผมเป็นจุดเดียวแน่ แต่ถ้ายอมเอาถุงเท้าของมันมาเช็ดหน้าล่ะก็ ศักดิ์ศรีและความเป็นคนของผมก็คงจะหมดลงไปในทันที

"มึงจะเช็ดเองหรือจะให้กูเช็ดให้ทั้งน้ำตา?" ไอ้มังกรมันเอ่ยถามก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบถุงเท้าในมือผม แต่ผมกลับปัดมือของมันออกแล้วใช้ถุงเท้าข้างนั้นเช็ดหน้าของตนแทน ซึ่งนั่นก็คงทำให้ไอ้มังกรมันสะใจไม่น้อยเลยล่ะ "หึๆ เอาล่ะกูขอตัวก่อนนะ แล้วก็อย่าลืมล่ะว่าถ้ามึงคิดจะเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร หรือถ้ามึงคิดจะหนีกูไปเมื่อไหร่ล่ะก็...คนทั้งโรงเรียนได้เห็นคลิปทุกคลิปของมึงแน่"

ว่าแล้วไอ้มังกรก็เดินจากไปเหลือทิ้งไว้แต่ผมที่นั่งเจ็บใจอยู่ตรงนั้น เจ็บกาย...ไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจตอนนี้มันเกินคำว่าเจ็บไปแล้ว พัง แตก แหลกสลาย คงเป็นคำที่นิยามความรู้สึกของผมในตอนนี้ได้ดีที่สุด นึกเจ็บใจตัวเองจริงๆ เจ็บใจที่ตัวเองทำอะไรมันไม่ได้ เจ็บใจที่จะต้องตกเป็นเบี้ยล่างของมัน เจ็บใจที่ยอมโดนมันข่มเหงทั้งร่างกายและจิตใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมต้องทำอะไรอุบาทว์ๆ แบบนี้ให้มัน หลายครั้งที่ต้องทำหน้าที่ระบายความเงี่ยน! ของมันโดยที่ผมเองไม่เต็มใจเลยแม้แต่น้อย

...ไอ้มังกรมันเป็นเกย์!

ไม่มีใครรู้เรื่องนี้แม้แต่เพื่อนในแก๊งของมัน มีแค่ผมที่รู้เรื่องนี้และเป็นเพียงคนเดียวที่ต้องทำเรื่องน่ารังเกียจนี้ให้ วันนี้มันทำให้ผมเจ็บใจกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทำไมมันถึงได้ทำให้ผมเป็นแค่สัตว์ชั้นต่ำแบบนี้ด้วย ทำไม...ทำไมกัน!

"ฮึก!" พลันน้ำตาแห่งความคับแค้นใจก็ได้ทะลักทลายหลั่งไหลออกมา ผมจะไม่มีวันลืมวันนี้ ผมจะไม่มีวันลืมว่าไอ้มังกรมันทำอะไรกับผม และผมจะไม่มีทางให้อภัยมัน ไม่มีทางที่จะยกโทษให้กับไอ้คนชาติชั่วอย่างมันแน่นอน

...ไอ้มังกร กูเกลียดมึง!


To be continue

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

นิยายเรื่องนี้ไม่มีการเมนต์ “ต่อ” นะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด