❤︎❦❤︎ ช่วยใจดีกับผมหน่อยเถอะครับ ❤︎❦❤︎ Ch.10 (15/07/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤︎❦❤︎ ช่วยใจดีกับผมหน่อยเถอะครับ ❤︎❦❤︎ Ch.10 (15/07/63)  (อ่าน 2906 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧❧



ดอกคาโมมายล์ = การก้าวข้ามช่วงเวลาอันเลวร้าย




ใต้ฝัน ใต้ฝน ใต้ฝุ่น


สามพี่น้องต้องทำดิ้นรนใช้ชีวิตอยู่บนโลกบูดๆ เบี้ยวๆ ใบนี้





เหนื่อยบ้าง เจ็บบ้าง ล้มบ้าง





ทรมานเจียนตายบ้าง





ก็ถือเสียว่าคือประสบการณ์ชีวิตสักเล่ม





---





ใต้ฝัน





"คุณจะยิงผมก็ได้ แต่ขอร้องปล่อยน้องผมไปเถอะ เขาไม่เกี่ยว"





----





ใต้ฝน





"ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ทำ! ทำไมคุณพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้วะ! "





---





ใต้ฝุ่น





"ฝุ่นเจ็บครับ...ฮึก...ปล่อยฝุ่นไปได้มั้ยครับ ฮึก...ฝุ่นอยากกลับไปหาพี่..."









...
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2020 18:48:08 โดย Chemin »

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
00

-ใต้ฝัน-

เรามีกันอยู่สามคนพี่น้อง

ผมพี่คนโต

ไอ้ฝน ฝาแฝดที่เกิดห่างจากผมสามนาที

ไอ้ฝุ่น น้องชายคนเล็ก

พวกเราเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ตายจากไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

ไม่มีมรดกตกทอด มีแต่หนีสินกองท่วมหัว

แม้แต่บ้านที่จะซุกหัวนอนก็ไม่มีเพราะถูกเจ้าหนี้ยึดไป

ญาติพี่น้องหรอ ไม่มีหรอก แต่จะว่างั้นก็ไม่เชิงหรอ ความจริงก็พอมีญาติที่รู้จักอยู่แหละแต่พอเขาได้เงินค่าซองงานศพพ่อแม่พวกผมไป เขาก็ถีบหัวเราสามคนพี่น้องส่งทันที ไม่มาสนใจใยดีอะไรกันอีก

ผมกับไอ้ฝนเราตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้วออกมาทำงานเพราะเรื่องค่าใช้จ่าย

เราทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อร้านเดียวกัน เราอยู่คนละผลัด

ไอ้ฝนอยู่ผลัดเช้า เข้างานหกโมงเลิกบ่ายสาม หลังเลิกงานมันไปเป็นเด็กเสริฟ์อยู่ร้านอาหารต่อจนถึงสี่ทุ่ม และปิดวันด้วยการไปเป็นเด็กล้างจานที่ผับต่อจนถึงตีสองตีสาม

ส่วนผมอยู่ผลัดดึก เข้างานสี่ทุ่มเลิกเจ็ดโมง พอเลิกงานผมก็ไปทำงานต่อที่ร้านกาแฟจนถึงหกโมงเย็น

ส่วนไอ้ฝุ่น น้องชายวัยสิบห้า ในวันจันทร์ถึงเสาร์หน้าที่ของมันมีแค่เรียนหนังสือ ส่วนเสาร์อาทิตย์มันไปรับทำพาร์ทไทม์ที่คาร์แคร์ตรงปั้มใกล้ๆ ได้เงินวันละสองร้อยกว่าบาทซึ่งผมก็ให้น้องมันเก็บไว้ใช้

ต่อเดือนผมกับไอ้ฝนทำงานได้เงินเยอะมากครับ

ค่าจ้างร้านสะดวกซื้อก็ได้รวมกันแล้วสองหมื่นกว่าบวกค่ากะแล้ว

ร้านอาหารที่ไอ้ฝนไปทำได้ก็เดือนละเก้าพันสามไม่รวมทิป

ล้างจานที่ผับได้เดือนละเจ็ดพันห้า

ร้านกาแฟที่ผมทำก็ตกเดือนละหมื่นสองไม่รวมทิป

อืม

เดือนๆ หนึ่งรายได้พวกผมก็ประมาณสี่หมื่นปลายๆ เกือบเกือบห้าหมื่น

แต่รายจ่ายพวกผมน่ะ

ใช้หนี้เดือนละสองแสนไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวนะครับ

ฮ่าๆๆๆ

"พวกเอ็งจ่ายมาแค่เดือนละสี่หมื่นห้า ชาติไหนหนี้มันจะหมด!"

"เอ็งคิดว่าเอ็งติดหนี้นายข้าอยู่เท่า สี่สิบล้านนะเว้ยไม่ใช้สามแสน!!"

"ก็พวกเรามีปัญญาหามาได้เท่านี้แหละพี่"

"เราได้มาเท่าไหร่ก็ให้พี่หมดเลยนะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าห้องพวกเรายังไม่มีเลย"

"นั้นมันก็เรื่องของพวกเอ็ง"ผู้ชายตัวใหญ่กำยำหน้าตาเหมือนผู้ร้ายในละครเคาะปึกเงินลงในฝ่ามือ ใบหน้าโหดเหี้ยมดูหัวเสียไม่น้อยกับจำนวนเงินที่พวกผมนำมาให้

"นายกุดหัวกูแน่"

"..."

"พวกเอ็งจะไปไหนก็ไป แล้วเดือนหน้าเอามาจ่ายให้ตรงเวลาด้วย"

"ครับๆๆ งั้นพวกผมขอตัวก่อน"ผมกับไอ้ฝนรีบลุก รีบเดินออกจากตรงนั้นทันทีกลัวพี่ท่านแกเปลี่ยนใจเรียกร้องเงินเพิ่ม แต่ไม่หรอกครับ ถึงพี่แกจะหน้าโหด หน้าเหี้ยมแต่ไม่เคยบังคับขู่เข็นให้ผมเอาเงินมาจ่ายให้ครบสองแสนเลยสักเดือน พี่แกก็แค่บ่น บ่นเสร็จก็ไล่พวกผมออกมา

ผมกับแฝดแวะมาเดินตลาดซื้อข้างพวกอาหารสด อาหารแห้งไปติดห้อง รวมถึงของใช้นิดๆ หน่อยๆ ด้วยเงินที่แอบหักมาก่อนเอาไปจ่ายหนี้ มันเหลือไม่ถึงห้าพันด้วยซ้ำ แถมยังต้องเอาไปจ่ายค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟอีก ไหนจะต้องเก็บไว้ให้น้องเอาไปใช้ที่โรงเรียนอีก

"ขาดอีกสามร้อย"

"ขอติดไว้ก่อนนะเจ๊ พวกผมหมดตัวแล้วจริงๆ"

"เออๆ เดี๋ยวข้าเอาไปบวกกับเดือนหน้าแล้วกัน"พวกผมยิ้มหวานขอบคุณเจ๊นกก่อนจะพากันขึ้นห้อง

"เฮ้อออ"ไอ้ฝนถอนหายใจ ทิ้งตัวนอนนอนฟูกแข็งๆ บนพื้น ผมก็เดินเอาของสดไปใช้ตู้เย็น แล้วเก็บพวกบะหมี่กึ่ง ปลากระป๋อง ข้าวสารใส่ตู้ข้างตู้เย็น

"ชาติไหนเราจะใช้หนี้สี่สิบล้านหมดวะ"

"ชาติไหนก็ชาตินั้นแหละ"ผมตอบ ก่อนจะเก็บเอาถุงพลาสติก ยัดไปรวมกันเอาไว้เพื่อรอเอามาใช้ซ้ำ

"แล้วเงินค่าเทอมไอ้ฝุ่นอ่ะ"

"..."

"หรือเราต้องหางานทำเพิ่มวะ"

"..."

"..."

"ฝน มึงเหนื่อยมั้ย"

"เหนื่อยดิ"ผมมองหน้ามันก่อนจะลุกเดินไปนั่งข้างๆ แฝดบนฟูกแข็งๆ ที่เรานอนเบียดกันสามคนทุกคืน

"มึงไม่ต้องทำงานเพิ่มหรอกฝน มึงทำสามงานแล้ว ทำมากว่านี้มึงจะเอาเวลาไหนนอน"

"แต่..."

"เดี๋ยวกูทำเพิ่มเอง"

"มึงจะทำอะไร เวลานอนก็แทบไม่มีเหมือนกูไม่ใช่หรือไง"

"เออน่า"


.


"เอ้า"ผมรับซองพลาสติกในมือมาก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า

"มึงจำสถานที่ได้ใช่มั้ย"

"อือ"

"ไปให้ตรงเวลา แล้วรอมันทักมึงก่อนอย่าได้สะเออะไปทักใครมั่วซั่ว"

"เออน่า มึงย้ำสามรอบแล้ว"

"แล้วระวังตัวด้วย เจอใครน่าสงสัยท่าทางเหมือนตำรวจก็รีบซิ่งนะไอ้สัส"

"ครับๆๆ กูไปได้ยัง เดี๋ยวไม่ทันเวลา กูต้องกลับมาเข้างานอีก"

"เออๆๆ "ไอ้โก้มันโบกมือไล่ ส่วนผมก็หยิบเอาหมวกขึ้นมาสวมหัวทเอาแมสขึ้นมาปิดหน้า


สามทุ่มกว่าแล้วใกล้ถึงเวลานัดแล้ว

ผมเดินวนไปวนมาอยู่บนสะพานลอยที่เป็นสถานที่นัดรับของ หัวใจผมเต้นตึกตักๆ ไม่หยุดด้วยความกังวล ตื่นเต้นทั้งกลัวปะปนกันไปหมด  มือชื้นเหงื่อก็กำกระเป๋าที่สะพายเอาไว้แน่น

"มึง"เสียงทักดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งก่อนจะหันไปมอง เด็กวัยรุ่นท่าทางบ่งบอกยี่ห้อทำให้ผมต้องส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้แม้มันจะไม่เห็นก็เถอะเพราะมีแมสปิดปากผมอยู่

"สามพัน"ผมว่า มันล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบยืนพันแบงศ์พันยับๆ มาให้ผมด้วยมือสั่นเทา ผมรับเงินมาในจังหวะที่มีกลุ่มคนทยอยเดินขึ้นมา ผมเลยแสร้งทำเป็นหันหน้าหนีท้าวแขนลงราวสะพาน มันอีกคนก็เดินไปทำแบบเดียวกันแต่เป็นราวอีกฝั่ง

รอจนคนกลุ่มนั้นเดินห่างออกไปผมก็รีบล้วงของออกมาเอาไปยื่นให้มัน การแลกเปลี่ยนของจบลงพร้อมกับผมที่วิ่งหอบแฮ่กๆ กลับมาหาไอ้โก้ที่ยืนสูบหรี่สบายใจอยู่หน้าป้ายรถเมล์

ผมยื่นแบงศ์พันยับๆ ให้ไอ้โก้ มันเอาไปนับๆ อยู่สองสามรอบทั้งที่เงินมันก็มีอยู่แค่นั้นก่อนจะล้วงหยิบเอาแบงศ์ร้อยออกมาจากกระเป๋าเสื้อยื่นให้ผมมาสองใบ

"พรุ่งนี้เจอกันที่เดิม"มันว่าก่อนจะเดินไป ส่วนผมก็เก็บเงินค่าจ้างที่เพิ่งได้มาเข้ากระเป๋าแล้วรีบวิ่งเพื่อไปให้ทันเข้างานก่อนสี่ทุ่มตรง


.


"พี่ฝัน"

"ว่าไง"

"คือที่โรงเรียนท้วงค่าเทอมแล้วอ่ะ"ไอ้ใต้ฝุ่นมันว่าเสียงแผ่ว หน้าตามันดูไม่สู้ดีเท่าไหร่

"เอาไปสิ"ผมว่าแล้วยื่นเงินค่าเทอมที่เก็บไว้ให้น้อง ไอ้ฝุ่นมองหน้าผมก่อนจะรับไปแล้วนับทวนอีกรอบ

"พี่...พี่ไปเอาเงินมาจากไหน ไหนพี่ฝนบอกว่า..."

"พี่ทำงานพิเศษเพิ่มน่ะ"

"ขอบคุณครับ แล้วพี่จะออกไปแล้วหรอ ยังไม่ถึงเวลาเข้างานเลย"

"พี่ต้องไปทำธุระหน่อยน่ะ ฝุ่นก็นอนเถอะ"

"อื้อ"ผมนั่งรออีกสักพักจนน้องหลับสนิทก็ออกมาจากห้อง


"มาเร็วดี วันนี้ล็อตใหญ่หน่อยนะ"มันว่าพลางส่งกระเป๋าเป้สีดำมาให้ผม ผมรับมาก่อนจะเปิดเช็คของในนั้น

"อ่ะนี่สถานที่"กระดาษยับๆ ถูกส่งมา ผมรับมาเปิดอ่านก่อนจะยัดมันลงกระเป๋าเสื้อ

"กูรออยู่หน้าร้านมึงนะ"คงเพราะมันเริ่มไว้ใจผมแล้วเลยไม่จำเป็นต้องตามดู ตามเฝ้าเหมือนอย่างเคย

"เออ ไปล่ะ"ผมว่าพลางก้มดูนาฬิกา มันไม่ได้มีเวลาให้ผมโอ้เอ้มาก ผมรีบวิ่งขึ้นรถเมล์สายที่มันผ่านยังสถานที่ส่งของ

พอจุดถึงหมายผมก็เดินมาทิ้งตัวนั่งตรงป้ายรถเมล์ กอดกระเป๋าที่ไอ้โก้ให้มาแน่นเพราะกลัวมีคนกระชากไป รถลาก็ยังคงมีขับผ่านอย่างต่อเนื่อง ผมมองคนมากมายที่ผ่านไปคันแล้วคันเล่าก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นตำรวจสายตรวจขับมอเตอร์ไซต์มาจอดตรงหน้า ผมเม้มปาก มือกำกระเป๋าแน่น

ตำรวจคุณอะไรสักอย่างกับวิทยุสื่อสาร เหงือผมผุดซึมตามกรอบหน้า ชั่วแว่บหนึ่งผมรู้สึกว่าเขามองผม

ฉิบหาย

ผมมือสั่นล้วงหยิบโทรศัพท์กดโทรหาไอ้โก้ทันที

(เสร็จแล้วหรอวะ)

"มึง...ตำรวจ..."

(ใจเย็น มันอยู่ใกล้มึงมั้ย)

"อือ..."

(ค่อยๆ ลุกอย่าทำตัวมีพิรุธ)ผมค่อยๆ ขยับลุกขึ้นพลางเอาสายสะพายข้างหนึ่งขึ้นสะพายบนไหล่

(อย่าไปมองมัน ทำตัวปกติแล้วทำเป็นเดินออกมา)

"อืม"

"น้อง เดี๋ยว..."

!!

"เอ็งนั่นแหละไอ้น้อง"

"ครับ"

"เอ็งทำกระดาษตกหรือเปล่า"คุณตำรวจว่าพลางเดินไปหยิบกระดาษแผ่นที่ว่า ผมขมวดคิ้วก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกง มันคงล่วงไปตอนผมหยิบโทรศัพท์

"อ่า ครับ"เขาเดินเข้ามาพลางยื่นกระดาษแผ่นนั้นคืน ผมก็ยื่นมือไปรับโดยพยายามควบคุมไม่ให้ตัวเองแสดงพิรุธออกมา

"แล้วนี่เอ็งมานั่งทำอะไรคนเดียว"

"คือ...ผมมารอเพื่อนน่ะครับ แต่ว่าตอนนี้หิวน้ำเลยจะเดินไปซื้อน้ำ..."

"แล้วทำไมต้องปิดหน้าปิดตาขนาดนั้น"คุณตำรวจถามจี้ ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ในหัวคิดหาข้อแก้ตัว มือก็กำโทรศัพท์แน่น

"อ่า...ผม...ไม่สบายน่ะครับ แค่กๆๆ"มุกคลาสสิคถูกหยิบยกเอามาใช้พร้อมการแสร้งค่อกแค่กไอเพื่อให้สมจริง 

"ส่วนหมวก...พอดีไม่ได้สระผมน่ะครับ"

"เออๆ งั้นเอ็งไปเถอะ"เขาว่าหลังจากก้มดูนาฬิกา ผมก็รีบหันหลังเตรียมวิ่งหนีทันที

"เดี๋ยว"

"ครับ"ผมเบรกตัวเองแทบไม่ทัน หันไปมองตำรวจด้านหลังพร้อมเหงื่อที่แตกพลั่ก หัวใจเต้นโครมคราม

"กระเป๋า..."

!

"ซิบมันเปิดน่ะ เดี๋ยวของเอ็งจะตกเอา"

"อ่า...ขอบคุณครับ"ผมว่าก่อนจะจับกระเป๋ามารูดซิบปิดให้สนิทก่อนจะขอตัวออกมา พอเดินออกมาไม่กี่ก้าวก็ข้ามถนนไปอีกฝั่งแล้วรีบวิ่งเข้าร้านสะดวกซื้อทันที

"ไอ้เหี้ย"

(สัส นึกว่าจะฉิบหายแล้ว)ไอ้โก้มันว่า ส่วนผมก็เดินไปตรงตู้เย็น หาน้ำเย็นๆ ดื่มดับกระหายแก้อาการหวาดกลัวซะหน่อย

"วันนี้ยกเลิกได้ป่ะวะ"

(ยกเลิกได้ไงล่ะ นัดเขาไว้แล้ว)

"เออๆ แต่ขอเปลี่ยนที่หน่อยเถอะ"

(เอางั้นก็ได้ มึงจะรอตรงไหน)

"หน้าเซเวนที่ห่างออกมาจากป้ายรถเมล์หน่อยนึงอ่ะ กูนั่งรออยู่หน้าร้านแล้วกัน"

(เออๆ เดี๋ยวส่งข้อความไปบอกเขาก่อน)

"อือ"สายตัดไป ผมก็เอาของไปจ่ายเงินก่อนจะเดินออกมาทรุดตัวนั่งที่ขั้นบันไดหน้าร้าน ผมถอดหมวกออกพร้อมกับดึงแมสลงแล้วกระดกน้ำขึ้นดื่มจนมันพร่องไปเกือบครึ่งขวดเพราะความกระหาย



ตุบ

นั่งอยู่สักพักก็มีคนบางคนมาทิ้งตัวนั่งข้างๆ คนๆ นั้นไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ว่างกระเป๋าสีดำไว้ข้างๆ แล้วทำเป็นก้มลงไปผูกเชือกรองเท้า

"ส่งของใช่มั้ย"พอผมจะดึงสายตากลับมาเสียงของเขาดังขึ้นเรียกเอาไว้ 

"อือ"

"เงินอยู่ในกระเป๋า ของอยู่ในนั้นใช่มั้ย"

"อือ"ผมตอบรับก่อนจะวางกระเป๋าสีดำที่เหมือนกับของเขาลงข้างตัว พอเขาผูกเชือกรองเท้าเสร็จก็หยิบกระเป๋าใบของผมไปเปิดเช็คดู ผมยืนขึ้นก้มไปหยิบกระเป๋าอีกใบขึ้นมา

หมับ

"เดี๋ยว"ผมสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ เขาก็จับเขาที่ข้อมือ ผมเลิกคิ้วมองเขาก่อนจะเห็นรอยยิ้มแปลกๆ

ผมว่าผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยนะ

"นายถูกจับแล้ว"ผมเบิกตากว้างเมื่อเขาพูดจบ ก่อนเขาจะล้วงหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง

กุญแจมือ

ผมโดนล่อซื้อ!

ไว้กว่าสมอง ผมก็รีบสะบัดมือออกราวกับเขามือเป็นของร้อน จับกระเป๋าฟาดใส่หน้าเขาไปเต็มแรง ก่อนยกขาถีบเข้าที่ท้องจนเขาเสียหลักล้มไป ผมเอื้อมไปคว้ากระเป๋าใบของผมมาก่อนจะออกตัววิ่งทันที ระหว่างนั้นหางตาก็เหลือบไปเห็นคนสองสามคนที่วิ่งมาทางนี้

"คิดว่าจะหนีพ้นหรือไง!"ผมสับตีนแตกวิ่งเลี้ยวเข้าซอยข้างๆ หันไปมองข้างหลังก็เห็นตำรวจสองสามคนวิ่งตามไล่กรวดมาติดๆ

ทำไงดี

ทำไงดี

ปึก

โครมม

"เฮ้ย! อะไรวะ!"ร่างผมถลาล้มเมื่อวิ่งออกมาจากซอยได้ไม่เท่าไหร่ผมก็ชนเข้ากับคนกลุ่มหนึ่ง เสียงตวาดคุ้นหูทำให้ผมเหมือนเห็นแสงสว่าง

"พี่"

"เอ้า เอ็ง..."

"พี่ พี่ช่วยผมด้วย นะพี่"ผมลุกขึ้นเกาะแขนพี่หน้าโหดทันที พลางเอ่ยขอความช่วยเหลือเสียงสั่นกระท่อนกระแท่นเพราะเหนื่อยหอบ แต่พี่แกยังไม่ทันจะได้ตอบตกลงอะไรก็เห็นไอ้พวกตำรวจมันวิ่งใกล้เข้ามา

"เฮ้ย..."ผมมุดตัวเข้าไปในรถตู้คันใหญ่ที่จอดอยู่ข้างๆ ที่มันเปิดประตูเอาไว้เหมือนกำลังต้อนรับผมก่อนจะแทรกตัวเข้าไปนั่งแอบอยู่ที่เบาะหลังสุด

"ลงมานะเว้ย นี่รถนายข้า"พี่หน้าโหดตามผมขึ้นมาพลางแขนผมจะให้หลุดออกไป

"ขอล่ะพี่ ช่วยผมหน่อย"

"จะช่วยอะไร ลงมา..."

"ขอโทษนะครับ พวกคุณเห็นคนวิ่งหนีมาทางนี้หรือเปล่า"ผมแทบหยุดหายใจ มองหน้าพี่หน้าโหดพร้อมกับน้ำตาที่มันไหลลงมาเพราะความกลัว

"พี่ ช่วยผมนะ"ผมยกมือไหว้พี่แก พี่หน้าโหดแกถอนหายใจก่อนจะยอมปล่อยแขนผมแล้วลงจากรถไป

ครืนนนน ปึก

ประตูรถถูกเลื่อนปิดเพราะเสียงพูดคุยที่หายไป ผมถอนหายใจก่อนจะล้วงหยิบเอาโทรศัพท์มาส่งข้อความหาไอ้โก้

Fun : โดนล่อซื้อ

ผมพิมพ์ไปสั้นๆ ก่อนจะล็อคโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นหมายจะแอบส่องไปด้านนอกแต่ปรากฏว่าดันมีม่านปิดกระจกเอาไว้ทุกบาน

ครืนนนนน

"ลงมาได้แล้ว"ไม่นานประตูก็เปิดออกมาอีกรอบพร้อมเสียงพี่หน้าโหดดังขึ้น ผมค่อยๆ แทรกตัวออกมาเบาะหน้าแล้วชะโงกหัวออกมาพอไม่เห็นพวกตำรวจผมก็กระโดดลงจากรถทันที

"พวกมันไปทางโน้นแล้ว"

"ขอบคุณนะพี่"

"เอ็งส่งยาเรอะ"

"ก็...ครับ"ผมกำสายกระเป๋าที่สะพานเอาไว้แน่น ตอนนั้นผมเพิ่งรู้ว่านอกจากพี่หน้าโหดแล้วยังมีชายฉกรรช์ตัวสูงใหญ่ ใส่ชุดสูทอีกหลายคนที่ยืนอยู่

"เอ่อ ผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วก็ขอบคุณอีกครั้งนะพี่"ผมยกมือไหว้ก่อนจะรีบวิ่งออกมาอีกทางกับที่พวกตำรวจมันไป


.


"กูไม่ทำแล้วโก้ กูไม่เอาแล้ว"

"ไม่ได้"

"ทำไมไม่ได้ ไม่เอา กูจะเลิกส่งยาให้มึงแล้ว"ไอ้โก้มันมองหน้าผมนิ่งก่อนจะเดินเข้ามาด้วยท่าทางคุกคาม จนผมต้องถอยหลังหนีมัน

"มึงเลิกไม่ได้ฝัน มึงเหยียบเข้ามาวงการนี้แล้วมึงออกไม่ได้"

"ถ้ามึงจะออกมีทางเดียวคือมึงต้องตาย"

"เหี้ยอะไรของมึง"

"มึงเอาสีดำเทราดใส่ตัวเองแล้วคิดว่ามันจะล้างออกหรอ"

"ถ้ามึงไม่ทำต่อ นายกูไม่ปล่อยมึงไปแน่"

"แล้วไม่ใช่แค่มึง ไอ้ฝน ไอ้ฝุ่นก็จะซวยไปด้วย"

"..."

"มึงเข้าใจที่กูพูดมั้ย"

"..."ผมเม้มปากแน่น มองหน้าไอ้โก้ด้วยสายตาไม่ชอบใจ แต่ก็ยอมพยักหน้าลงแทนการตอบคำถาม ผมกับไอ้โก้เราคุยกันจบแค่นั้นผมก็รีบมาเข้างานที่ร้านสะดวกซื้อต่อ

ตลอดคืนผมแทบไม่มีสมาธิทำงาน คิดเงิน ทอนเงินผิดๆ ถูกๆ จนโดนไล่ให้เปลี่ยนหน้าที่กับพนักงานอีกคน ผมเข้ามาหลังร้านก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงผมโขกศีรษะกับผนังแรงๆ สองสามที

แม่งเอ้ย


.


---

ฝากเอ็นดูน้องๆ ทั้ง 3 คนด้วยนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2020 16:12:49 โดย Chemin »

ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ติดตามจ้า เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า :katai2-1:

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
01

-ใต้ฝน-

"ฝน งานเสร็จยัง"

"เสร็จแล้วครับ"

"งั้นก็กลับได้แล้ว"

"ครับ"ผมรับคำของพี่อร ผู้ช่วยในกะผมก่อนจะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าพร้อมเสื้อคลุมแล้วเดินออกมาให้พี่เขาช่วยลงเงินและเคาะเวลาออกให้ผม

วันนี้ผมไม่ต้องรีบไปทำงานที่ร้านอาหารเพราะร้านหยุดสองวันเนื่องจากเจ้าของร้านไปงานแต่งของญาติที่ต่างจังหวัด ผมเลยกะจะไปรอรับไอ้ฝุ่นที่โรงเรียนซะหน่อย ไม่ได้ไปรับน้องนานแล้ว

ผมมาถึงโรงเรียนใต้ฝุ่นตอนช่วงเลิกเรียนพอดี พวกเด็กนักเรียนต่างกรูกันออกมาราวกับผึ้งแต่รัง ผมส่งข้อความไปบอกไอ้ฝุ่นเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้ผมจะมารับ

"พี่ฝน!"เสียงคุ้นหูดังขึ้นก่อนไอ้น้องชายตัวแมบจะวิ่งเข้ามาพร้อมโถมตัวกอดผมเอาไว้

"หิวมั้ย"

"อื้อ ฝุ่นหิวมาก"

"อยากกินอะไร"

"อยากกินข้าวหมูแดง ร้านตรงโน้นเพื่อนบอกว่าอร่อย ฝุ่นอยากไปกิน"น้องผมมันว่าทำหน้าตาคาดหวัง แล้วพอผมตอบตกลงมันก็ยิ้มดีใจกอดแขนผมไม่ปล่อย ไอ้ฝุ่นลากผมไปยังร้านที่ว่า

"เอาข้าวหมูแดงสองจาน แล้วก็กลับบ้านหนึ่งกล่องครับ"ผมเอ่ยสั่ง ไม่ลืมที่จะสั่งไปเผื่อไอ้ฝันมันด้วย เราสองพี่น้องเดินเข้าไปนั่งข้างในไม่นานข้าวหมูแดงน่ากินก็ถูกยกมาเสริฟ์ ไอ้ฝุ่นที่เห็นแบบนั้นก็ตาโตก่อนจะลงมือกินทันที

"อือ อร่อยมากเลย"มันว่าหลังจากกินเข้าคำแรกพร้อมทำตาโต

"อร่อยก็กินเยอะๆ"

"ครับ"


"อิ่มมั้ย เอาของพี่ไปกินอีกสิ"ผมถามเมื่อไอ้ฝุ่นมันกินข้าวหมดจานอย่างรวดเร็วพลางเลื่อนจานข้าวที่ผมยะงไม่ได้กินมันแม้แต่คำเดียวไปให้น้อง

"แล้วพี่ไม่กินหรอ"

"พี่กินข้าวมาจากร้านแล้ว ฝุ่นกินเถอะจานนี้พี่สั่งมาให้ฝุ่น"

"กินให้อิ่มเลยนะ"

"ขอบคุณครับ"ผมมองหน้าน้อง ยิ้มบางๆ พลันน้ำตามันก็พลานจะไหล นึกถึงตอนที่พ่อแม่ยังอยู่ นึกตอนที่เรานั่งกินข้าวด้วยกัน

แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันหายไปหมดแล้ว

โลกของพวกผมถล่มครั้งแรกตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลที่โทรมาแจ้งข่าวการเสียชีวิตของพ่อกับแม่ที่ขับรถเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทางในกลางดึกคืนหนึ่ง กว่าจะมีคนไปพบก็สายไปแล้วพ่อกับแม่ผมสิ้นใจสินใจอยู่ในคันนั้น

ตอนนั้นเราสามคนเคว้งคว้างทำอะไรไม่ถูก ก็ได้น้าพิมพ์ญาติคนเดียวที่ผมรู้จักเข้ามายื่นมือช่วยจัดการในเรื่องต่างๆ

และน้าพิมพ์ก็ทำให้โลกของพวกผมถล่มลงครั้งที่สอง เพราะความไว้ใจ เชื่อใจทำให้พวกผมเลยยกสิทธิ์ในการจัดการเงินค่าซองงานศพ เงินค่าประกันชีวิตของพ่อกับแม่ในน้าจัดการ แต่สุดท้ายน้าพิมพ์ก็เอาเงินพวกนั้นไปจดหมดและหนีไปอยู่กับสามีที่ต่างประเทศ ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

พวกผมใช้ชีวิตกันเองสามพี่น้องด้วยเงินในบัญชีของพ่อกับแม่ที่เหลือไว้

แต่หลังจากนั้นสองเดือนโลกของพวกผมก็ถล่มเป็นครั้งที่สาม เมื่อจู่ๆ ก็มีผู้ชายท่าทางน่ากลัวมาที่บ้านกลุ่มใหญ่ พร้อมเอกสารสัญญากู้ยืมที่พ่อกับแม่ของผมได้ไปทำเรื่องกู้เอาไว้กับเจ้านายของพวกเขาเพื่อเอามาหมุนในบริษัทที่มันกำลังจะล้ม

เจ็ดสิบล้านคือจำนวนหนี้ทั้งหมด

ไอ้ฝันแทบเป็นลมเมื่อได้ยิน ส่วนผมน่ะช็อคค้างไปหลายนาทีกว่าจะสติกลับมา

เขาเรียกร้องให้เราจ่ายหนี้ครึ่งหนึ่งก่อนในทันที แต่แน่นอนว่าพวกผมไม่มีหรอก เงินเยอะขนาดนั้นน่ะ จนสุดท้ายทางฝั่งเจ้าหนี้ก็เอาทนายเข้ามาจัดการ

บริษัทที่จวนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ของพ่อถูกเขาเทคโอเวอร์ไป หุ้นของพ่อกับแม่ในบริษัททั้งหมดถูกโอนให้เป็นของเจ้าหนี้ กรรมการผู้บริหารและพนักงานระดับสูงถูกไล่ออกยกแผง

และยังไม่พอ บ้านที่ผมอยู่มาตั้งแต่เกิดก็ถูกยึด ทรัพยสินทุกอย่างที่เป็นชื่อของพ่อกับแม่ เขาก็ยึดไปจนหมดแม้กระทั่งเงินในบัญชี เงินก้อนสุดท้ายของพวกผม

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เสียไปมันลดนี้ได้เพียงแค่สามสิบล้านเท่านั้น เหลืออีกสี่สิบล้านที่พวกผมต้องหามาจ่าย

อย่าถามเลยว่าทำไมผมต้องยอมขนาดนี้ ถ้าเป็นพวกคุณจะทำยังไงเมื่อเขาเอาเอกสารมาให้เซ็นต์โดยมีปืนจ่อหัวอยู่

ชีวิตพวกผมพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า จากที่เคยอยู่อย่างสุขสบาย มีเงินใช้เท่าไหร่ก็ได้ อยากได้อะไรก็ได้ อยากกินอะไรก็มีคนหามาเสริฟ์ให้ ได้เรียนมหาลัยเอกชนอย่างดี ไอ้เนมก็เรียนนานาชาติ ไม่เคยลำบากหรือทำอะไรเองเพราะมีคนทำให้ตลอด แต่ตอนนี้น่ะหรอ

ผมกับไอ้ฝันต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยมาทำงานเหนื่อยกันสายตัวแทบขาด ได้นอนต่อวันแค่ไม่กี่ชั่วโมง ไอ้ฝุ่นก็ต้องออกมาจากโรงเรียนนานาชาติ มาเข้าเรียนที่โรงเรียนเอกชนธรรมดาค่าเทอมหมื่นต้นๆ แทน บ้านหลังใหญ่ที่เคยอยู่ก็เปลี่ยนมาเป็นห้องเช่าเก่าๆ โทรมๆ ที่อยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ 

พวกผมเคยร้องไห้กันจนหลับไปทั้งน้ำตา ร้องกันจนตาบวม ได้แต่ถามคำถามเดิมซ้ำๆ ว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่พาผมพวกไปด้วย ทำไมถึงทิ้งพวกผมไว้แบบนี้ แต่ไม่มีใครตอบคำถามพวกผมได้เลย


"ฝน"

"ครับ"

"ช่วงนี้ฝันมันเป็นอะไรหรือเปล่า"

"ทำไมหรอครับ"ผมถามกลับ พี่อั้มผู้ช่วยผลัดดึกทำสีหน้าลำบากใจก่อนจะลากผมเข้าไปหลังร้าน

"ช่วงนี้ฝันมาทำงานสายมาเลยนะ เข้างานเกือบห้าทุ่ม แถมเวลางานมันก็ชอบเดินออกไปคุยกับใครข้างนอกก็ไม่รู้"

"พี่ว่าฝันมันดูแปลกๆ"

"เอ่อ ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่เดี๋ยวยังไงผมจะลองถามมันก่อนนะครับ"

"พี่ฝากด้วยนะ ยังไม่อยากให้เรื่องถึงพี่เปิ้ล"

"ครับ"ผมเดินออกมาจากหลังร้านพลางหันไปมองไอ้ฝันที่กำลังถูพื้น ปกติพวกเราก็แทบไม่ได้คุยกันอยู่แล้วครับเพราะเวลาเราไม่ตรงกัน ถึงเราจะมาเจอกันช่วงเปลี่ยนผลัดแต่ใช่ว่าจะได้คุยอะไรกันมากมายเพราะทั้งผมและมันต่างก็มีงานต้องทำ

"ฝัน"

"ห๊ะ"มันเงยหน้าขึ้นมามอง หยุดมือที่กำลังงาน ผมขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกมันดูแปลกไปจริงๆ ผมก็ไม่ได้ทันสังเกตุมันก่อนหน้านี้ด้วย

"เป็นอะไร"

"หมายถึงอะไร"มันถามกลับทำหน้างงๆ

"ช่างเถอะ รีบทำแล้วรีบกลับไปได้แล้ว เจ็ดโมงกว่าแล้ว"

"เออๆ"มันรับคำก่อนจะกลับไปถูพื้นต่อ ส่วนผมก็เดินมาเข้าเครื่องคิดเงิน ไม่นานไอ้ฝันก็เดินออกมาเคาะเวลาออกพร้อมลงเงินออกก่อนรีบวิ่งออกไป ผมมองตามก็เห็นมันซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ใครบางคนไป

ไอ้โก้

ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่



"ฝน ล้างจานเสร็จแล้วเอาขยะไปทิ้งด้วยนะ พี่เอาใส่รถเข็นให้แล้ว"พี่ยักษ์พ่อครัวของผับที่ผมทำงานอยู่พูดขึ้น ผมก็ตอบรับก่อนจะจานล้างใบสุดท้ายเสร็จแล้วยกเอาตะกร้าใส่จานขึ้นมาวางบนลังน้ำแข็งพร้อมเอาผ้ามาคลุมเอาไว้

พอจัดการล้างพวกแก้ว จาน ชามจนหมดผมก็ถอดถุงมือยางออกแล้วเดินไปที่รถเข็นที่มีถุงขยะวางกองเอาไว้ ผมเข็นรถออกมายังประตูหลังเพื่อเอาขยะไปทิ้งที่ที่ทิ้งขยะที่อยู่ห่างจากร้านไปประมาณสองสามร้อยเมตร ระหว่างทางก็กวาดตามองสำรวจตอนนี้โดยรอบมันเริ่มมืด ร้านเหล้า ผับบาร์ต่างๆ เริ่มปิดไฟแล้ว ร้านผมเองด้านหน้าก็ปิดไฟไปแล้ว พนักงานก็กลับไปหมดแล้วยังเหลือแต่ตรงส่วนครัวที่ต้องทำความสะอาด รถราที่มันเคยจอดกันเต็มสองฝั่งก็หายไปจนหมดเหลือประปรายแค่ไม่ถึงสิบคัน

"ฮึบ"ผมยกถุงขยะใบใหญ่ก่อนจะโยนเหวี่ยงมันไปกองกับขยะกองใหญ่เพื่อรอรถขยะมาเก็บมันในวันพรุ่งนี้

"เฮ้อ ได้กลับไปนอนซะที"ว่าพลางยกมือขึ้นเช็คเหงื่อ ทำงานเนี่ยมันเหนื่อยนะครับ แค่งานเดียวก็ยังเหนื่อยฉิบหายเลย แต่ผมนี้แม่งล่อทำสามงาน เหนื่อยจนอยากจะนอนหลับยาวๆ แล้วตื่นมาพบว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ฝัน

แต่มันคงไม่เกิดขึ้นหรอกครับ ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย

"เรียบร้อยแล้วพี่"ผมเข็นรถกลับมาเก็บเข้าที่ก่อนจะเดินไปล้างมือ ล้างหน้า หยิบกระเป๋าพร้อมเสื้อคลุมเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน

"อ่ะ นี่ เอากลับไปกิน"พี่ยักษ์ว่าพลางยื่นถุงที่มีกล่องโฟมบรรจุอยู่ ผมรับมาก่อนจะเปิดฝากล่องแง้มๆ ดู ก็เห็นมีหมูทอดถูกใส่จนแน่นแทบจะล้นออกมานอกกล่อง

"ขอบคุณครับ"

"ป่ะ กลับกัน"

"ครับ"ผมเดินออกมารอพี่ยักษ์ตรงประตูหลัง รอพี่แกเช็คโน้น เช็คนี้เสร็จก็ปิดไฟแล้วเดินออกมาก่อนจะใช้แม่กุญแจล็อคเอาไว้ ปกติผมกับพี่ยักษ์เรามักจะกลับเป็นคนสุดท้ายเสมอเพราะต้องทำความสะอาดในครัว ตอนมาทำงานแรกๆ ผมก็สงสัยว่าทำไมพ่อครัวใหญ่ของร้านถึงต้องคอยเก็บล้างครัวเองอยู่ทุกวัน ทั้งๆ ที่จะให้คนอื่นทำก็ได้ แต่พออยู่นานไปถึงได้รู้ว่าพี่แกเป็นคนค่อนข้างเนี๊ยบ พวกผู้ช่วยพ่อครัว แม่ครัวนั้นทำไม่ถูกใจแก แกเลยให้แค่ทำในส่วนของตัวเองไป แล้วแกจะจัดการที่เหลือทั้งหมดเอง

ส่วนผมมันก็แค่เด็กล้างจานครับ ทำหน้าที่ตัวเองเงียบๆ แล้วค่อยช่วยเอาขยะไปทิ้งแต่ละวันเท่านั้นแหละครับ แต่ถึงแบบนั้นพี่ยักษ์ก็ใจดีไปส่งผมที่หน้าปากกาซอยหอทุกวันเพราะเป็นทางผ่าน

"ขอบคุณครับพี่"

"เออ เดินกลับดีๆ ละ"

"ครับ"ผมยิ้มหวานแล้วยกมือไหว้พี่ยักษ์อีกรอบแกก็เคลื่อนรถออกไป

ปริ้นนนน

เอี๊ยดดดด

โครมมมม

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะขยับไปไหน รถสีดำก็พุ่งมาอย่างรวดเร็ดแล้วมันจะไม่อะไรเลยถ้ารถคันนั้นไม่พุ่งเข้าไปชนรถมอเตอร์ไซค์ของพี่ยักษ์เต็มแรงจนทั้งคนและรถกระเด็นไปคนละทาง

"พี่ยักษ์!"ผมตะโกนเรียกพี่เขาสุดเสียง ทิ้งข้าวของในมือก่อนจะรีบวิ่งไปหาคนที่นอนนิ่งอยู่กลางถนน

"พี่ยักษ์! พี่ยักษ์ พี่! ฟื้นสิ"ผมเรียกพลางค่อยๆ ถอยหมวดกันน็อคออกแล้วตบแก้มสากๆ เรียกสติ

"พี่ยักษ์ พี่ยักษ์!"

"เออ"

"พี่ พี่เจ็บตรงไหนมั้ย"

"กูเจ็บขา"พอได้ยินคำตอบผมก็ขยับตัวเลื่อนไปสำรวจอาการบาดเจ็บที่ขา มันเป็นแผลแหวะ กางเกงยีนส์ขาดหวิ่นแถมเลือดสีเข้มก็ไหลซึมออกมาจากบาดแผลไม่หยุด

"พี่อย่าเพิ่งขยับนะ พี่หายใจออกมั้ย เจ็บหน้าอกมั้ย เจ็บหัวหรือเปล่า"

"ไม่"

"เดี๋ยวผมเรียกกู้ภัยแปบนะพี่ พี่อย่าหลับนะ"

"เออ"พี่เขาตอบเสียงเบาๆ ส่วนผมก็รีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าที่ล่วงอยู่ตรงฟุตบาธขึ้นมาก่อนจะโทรหาเบอร์ฉุกเฉินทันที พอโทรแจ้งเหตุเสร็จผมก็วิ่งกลับมาหาพี่ยักษ์ที่ตอนนี้สลบไปแล้ว พยามเรียกเท่าไหร่พี่แกก็ไม่ตื่น แถมตอนนี้เริ่มมีคนเข้ามามุงดู บางคนก็ช่วยเคลียร์ถนน โบกรถคันอื่นให้เพราะไม่มีใครกล้าเคลื่อนย้ายคนเจ็บที่นอนแน่นิ่งไป ผมหันมองรอบๆ ก็เห็นไอ้รถที่มันขับมาชนพี่ยักษ์จอดอยู่ข้างฟุตบาธโดยที่คนขับไม่แม้แต่จะลงมาดูคนเจ็บ

ใจดำฉิบหาย


ก๊อกๆๆ

"คุณ"

ก๊อกๆๆ

"คุณ ลงมาเดี๋ยวนี้นะ"

"คุณ! ลงมา"

ผมพยายามเคาะกระจกรถแล้วเปิดประตูแต่คนในรถแม่งก็ยังคงนิ่ง

"ไอ้เหี้ย ขับรถเหี้ยแล้วยังใจมึงยังเหี้ยอีก!"ผมตะโกนด่าพลางทุบกระจกรถเต็มแรง พอดีกลับที่รถกู้ภัยมาผมเลยเลิกสนใจมัน

พี่ยักษ์ถูกพาไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ส่วนผมที่ตามมาก็ได้แต่โทรหาคุณพี เจ้าของร้านเพื่อแจ้งข่าวแล้วให้คุณพีติดต่อหาภรรยาของพี่ยักษ์ให้อีกที

"ฝน!"ไม่นานคุณพี่ก็เดินมาพร้อมกับคุณนลินภรรยาของตัวเอง

"สวัสดีครับคุณพี สวัสดีครับคุณลิน"

"พี่ยักษ์เป็นไงบ้าง"

"หมอยังไม่ออกมาเลยครับ" 

"แล้วเราล่ะ เจ็บตรงไหนมั้ย"

"ไม่ครับ พี่ยักษ์ถูกชนตอนมาส่งผมเสร็จแล้ว"

"ดีแล้วที่เราไม่ได้เป็นอะไร พี่โทรบอกพี่กี้แล้ว เดี๋ยวอีกสักพักคงมา"

"ครับ"

"ลิน ผมฝากคุณไปส่งฝนหน่อยได้มั้ยครับนี่มันจะเช้าแล้วน้องจะได้กลับไปพักผ่อนก่อน เดี๋ยวผมจะอยู่รอครอบครัวพี่ยักษ์เอง"

"ได้ค่ะ มาฝน เดี๋ยวพี่ไปส่ง"

"ไม่ ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้"

"กลับจะเองยังไง ไม่ต้องมาดื้อเลย ให้ลินไปส่งนั่นแหละ"

"ก็ได้ครับ"ผมตอบรับเสียงอ่อยๆ ก่อนจะเดินตามคุณลินออกมา

กว่าจะกลับถึงห้องก็เกือบตีสี่ ผมเดินลงเท้าแผ่วเบาเข้าห้องเพราะกลัวทำให้น้องตื่น อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เดินมาทิ้งตัวนอนบนฟูก ไอ้ฝุ่นที่รับรู้ว่าผมมาก็ขยับตัวเข้ามากอกเอาไว้

"อย่าเป็นอะไรมากเลยนะพี่"ผมพึมพำออกมาเบาๆ แล้วปิดเปลือกตาลงเพราะฝืนความง่วงเอาไว้ไม่ไหว


ผมหลับไปได้ชั่วโมงกว่าก็ต้องตื่นเพราะนาฬิกาปลุก ผมลุกขึ้นนั่งก่อนจะกดปิดเสียงน่ารำคาญแล้วลุกไปหน้าล้าง แปรงฟันเปลี่ยนชุดทำงาน พอออกมาก็เดินไปปลุกไอ้ฝุ่น มันงัวเงียขึ้นมาแต่ก็ยอมลุกเดินเข้าไปอาบน้ำโดยที่ไม่ต้องพูดซ้ำ ผมหุงข้าวพร้อมกับทอดไข่ดาวและอุ่นหมูทอดที่พี่ยักษ์ให้มาไว้เป็นอาหารเช้าให้น้อง ส่วนตัวผมกินแค่ขนมปังสองแผ่นกับนมหนึ่งกล่อง

"พี่ไปทำงานแล้วนะ"

"ครับ"

"ตั้งใจเรียนนะ"

"อื้อ ฝุ่นตั้งใจเรียนทุกวันเลย"

ร้านสะดวกซื้อที่ผมทำงานอยู่มันอยู่ห่างไปประมาณสองป้าบรถเมล์ครับ มันอยู่ตรงตลาดพอดีและเป็นร้านค่อนข้างใหญ่ ผมมักชอบนั่งรถเมลฟรี แต่ถ้าวันไหนอากาศไม่ร้อนก็จะเดินเพราะจะได้ประหยัดตัง

พอมาถึงร้านผมก็เห็นไอ้ฝันมันยืนคิดเงินอยู่ ผมเดินมาทักทายพี่อั้มก่อนจะให้พี่เขาลงเงินเข้าให้เหมือนทุกวัน แล้วพอเห็นหน้าพี่อั้มก็นึกได้ว่ายังไม่ได้คุยกับไอ้ฝันเลย แต่เพราะเวลาเราว่างไม่ตรงกันนั้นแหละเลยไม่ได้คุยสักที

แอ๊ด

ระหว่างที่ผมกำลังเก็บกระเป๋าไอ้ฝันก็เปิดประตูเข้ามา หน้าตามันดูเครียดๆ

"เป็นไร"

"เปล่า"มันตอบพลางนั่งลงแล้วฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะสเตนเลส

"..."

"ฝัน"

"หือ"

"มึงโอเคมั้ย"

"มึงมีอะไรก็บอกกูได้นะ"

"..."

"กูแค่เหนื่อยๆ น่ะ ไม่มีอะไรหรอก"ผมเดินมาหยุดหลังมันแล้วยกมือขึ้นลูบผมมันเบาๆ

ไอ้ฝันกลับไปแล้วโดยมีไอ้โก้มารับ มันเป็นแบบนี้มาอาทิตย์กว่าแล้ว ผมไม่รู้ว่าพวกมันไปสนิทกันตอนไหน

"น้อง มาร์โบโน่โกลด์ แข็งซองนึง"

"ครับ"ผมขานรับทั้งที่กำลังก้มนับถุงเหรียญในกล่องใต้เค้าน์เตอร์ ผมวางถุงเหรียญในมือลงก่อนจะยันกายขึ้นแล้วหันไปเปิดแผงด้านหลังหยิบเอาของที่ลูกค้าสั่งออกมา

ติ๊ด!

"เก้าสิบแปดบาทครับ"

"อ้าว เอ็ง..."

"อ้าว พี่...พี่โชค สวัสดีครับพี่"ผมเอ่ยทักผู้ชายตัวสูงใหญ่ หน้าตาโหดๆ ที่คุ้นหน้ากันดีเพราะต้องเอาเงินไปให้เขาทุกเดือนๆ แต่ก็ต้องนึกชื่อพี่เขานิดหน่อยเพราะปกติพวกผมเรียกพี่เขาว่าพี่หน้าโหด

"คนพี่ คนน้องวะเนี่ย"

"ผมฝนครับ"พี่แกพยักหน้าไม่ได้พูดอะไรต่อ แบงศ์พันถูกวางลงบนเคาน์เตอร์พร้อมกับพี่แกเอื้อมมือมาดึงบุหรี่ไปจากมึงผม

"รับมาหนึ่งพันบาทนะครับ"ผมขานทวนพลางกดคีย์รับเงินลงในเครื่องเก็บเงิน

"อ้าว นายครับ จะรับอะไรเพิ่มทำไมไม่บอกให้ไอ้หินมันลงมาซื้อให้ล่ะครับ"

"ฉันจะเดินมาดูของบ้างไม่ได้หรือไง"

"..."

"เงินทอนเก้าร้อยสองบาทครับ"พอนับเงินทอนครบผมก็ยื่นให้พี่หน้าโหด พี่แกที่หันไปยืนสงบเสงี่ยมให้ใครอีกคนก็หันมารอรับเงินไปจากผมแล้วหันกลับไปยืนก้มหน้าเหมือนเดิม

ผมเงยหน้ามองผู้ชายคนนั้นที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้านายของพี่โชค ตัวเขาสูงใหญ่อย่างกับพวกไททันในการ์ตูนไม่มีผิด หน้าตาออกไปทางพวกตะวันออกหน่อยๆ ผมสีน้ำตาลอ่อน ตาคมๆ ดุๆ สีชา จมูกโด่งยิ่งกว่าสันเขื่อน สันกรามชัด ผิวเขาขาวตัดกับเสื้อผ้าสีดำที่เขาสวมอยู่

!

ผมสะดุ้งเมื่อเขาหันมาระหว่างที่ผมกำลังมองสำรวจเขา ตาคมมองผมเหมือนจะตำหนิอะไรสักอย่างจนผมต้องก้มหน้าลง สักพักเขาก็เดินไปดูของทางอื่นพร้อมกับพี่โชคที่เดินตามหลังผู้เป็นนายไม่ห่าง

"น้องคะ ฟุตลองชีสชิ้นหนึ่งค่ะ หันครึ่งนะคะ"

"ครับ"


กึก

ตะกร้าสีส้มถูกว่างลงบนเค้าน์เตอร์ ผมมองของที่อยู่ในตะกร้าก่อนจะเหลือบมองเวลาบนจอ พอเห็นว่าตอนนี้มันบ่ายกว่าๆ ผมก็เลยหยิบเอากระป๋องเบียร์ที่อัดแน่นอยู่เต็มตะกร้ามาใส่ถุง

"นายครับ นายไปรอที่รถเลยก็ได้ครับ เดี๋ยวตรงนี้ผมจัดการให้เองครับ"

ติ๊ด!

"..."ไม่มีเสียงตอบรับนอกจากเขาที่เดินออกไป พอลับหลังเจ้านายพี่หน้าโหดแกก็ถอนหายใจออกมา

"นั่นเจ้านายพี่หรอ"

"ก็เออน่ะสิ"

"งั้นก็เป็นเจ้าหนี้สี่สิบล้านของผมด้วยสินะ"

"เออ"

อ่า

คนนี้นี่เองสินะ

ผมจะจำหน้าเขาเอาไว้


-----

เปิดตัวพระเอกคนแรกค่าาา แต่จะคู่กับน้องคนไหนยังไม่บอกหรอก อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2020 15:45:49 โดย Chemin »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คนที่ฝันเจอน่าจะพี่โชคสินะงืมม(เดา) น่าติดตามมากเลยค่ะ   :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2020 15:07:35 โดย MayuYume »

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
02

-ใต้ฝุ่น-

"ฝุ่น เอาการบ้านภาษาอังกฤษมาดูหน่อยดิ"ผมล้วงหยิบสมุดการบ้านส่งให้ 'มิว' เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนกวาดตามองรอบห้องเรียน ที่มีทั้งเสียงดังโหวกเหวก เสียงพูดเจื้อยแจ้ว เสียงตะโกนด่าข้ามกันไปมาดังไปทั่วห้องมันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด 

ตั้งแต่เด็ก ผมเรียนที่โรงเรียนนานาชาติในโรงเรียนที่ดีระดับประเทศค่าเทอมเป็นแสนๆ ที่พ่อแม่สามารถจ่ายได้อย่างสบายๆ แต่ตอนนี้กับต้องมานั่งเรียนในโรงเรียนเอกชนระดับล่างที่ไม่มีอะไรเทียบโรงเรียนเก่าได้เลย แต่กลับต้องแลกกับการทำงานจนแทบไม่ได้ไม่พักของพี่ชายทั้งสองคน

จากที่เคยได้เงินใช้เดือนละหลายหมื่น ตอนนี้กับเหลือแค่เศษเงินไม่กี่บาทแต่ดันเป็นเงินทั้งหมดที่พวกผมมี

อยากจะร้องไห้ให้สาสมกับชีวิตของตัวเอง แต่ร้องไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ยิ่งร้องไห้ก็ยิ่งทำให้พี่ฝันกับพี่ฝนเป็นห่วง

ทางเดียวคือต้องเข้มแข็งและตั้งใจเรียนให้มากๆ ให้คุ้มกับที่พวกพี่ๆ ยอมเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดส่งปมเรียน

"เฮ้ย ไอ้ตุ๊ด"ผมถอนหายใจกับเสียงเรียกที่มาพร้อมกับแรงผลักที่ไหล่จนตัวโยก รำคาญแสนรำคาญกับไอ้นิกเพื่อนร่วมห้องที่ทำตัวเป็นอันพาลเพราะถือว่าพ่อมันเป็นตำรวจใหญ่

"อะไร"

"ทำการบ้านให้กูหน่อยดิ"มันว่าพลางโยนสมุดการบ้านลงบนโต๊ะพร้อมตัวสูงๆ ของมันที่ค้ำหัวผมอยู่

"อืม รอแปบแล้วกัน"ครับ ผมรำคาญ แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ไอ้นิกมันเป็นคนตัวใหญ่ ทั้งยังเป็นนักมวยเพื่อนกลุ่มมันก็มีเป็นสิบคน จะผมเอาอะไรไปสู้กับมัน

ผมนั่งทำการบ้านให้ไอ้นิกไปเงียบๆ เพราะมันเป็นการบ้านวิชาภาษาอังกฤษที่ผมถนัดที่สุดผมเลยทำเสร็จภายในไม่กี่นาที เพื่อนในห้องไม่มีใครรู้หรอกครับว่าผมย้ายมาจากโรงเรียนไหน ตอนนี้พวกเขาก็แค่รู้ว่าผมเป็นเด็กกำพร้าจนๆ ค่อนไปทางไม่มีจะกิน พ่อแม่ตายเพราะอุบัติเหตุ มีพี่ชายฝาแฝดที่ทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อตรงตลาด

แต่แค่นี้ผมก็เป็นเป้าให้แกล้งพออยู่แล้ว ถ้ามีคนรู้อดีตของผม ผมไม่อยากจะคิดว่าจะโดนแกล้ง โดนล้ออะไรอีก

"เสร็จแล้ว"ผมเกินเอาสมุดการบ้านไปคืนเจ้าของ ไอ้นิกรับสนุดไปเปิดทำราวกับจะเช็คความถูกต้อง แต่อย่าหาว่าผมดูถูกเลยครับแต่มันไม่รู้หรอกว่าที่คำตอบที่ผมเขียนลงไปผิดหรือถูก

"เอาไปดิ"

เคร้งง

มันโยนเหรียญสิบลงพื้น ส่วนผมก็รีบก้มลงไปเก็บเพราะกลัวมันจะกลิ้งไปไกลท่าทางของผมทำให้ไอ้นิกพร้อมเพื่อนหัวเราะออกมา

พวกมันคงสมเพชผมน่าดู

ก็ถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่เศษเหรียญพวกนี้ผมไม่คิดจะสนใจหรอกครับ เจอมันตกก็ไม่เคยคิดจะเก็บเพราะมันดูไร้ค่า ตอนนี้น่ะหรอ

"เอามาอีกสิบบาท ค่าเขียนด้วย"ผมแบมือท้วงเงินจากไอ้นิก มันสถบด่าหยาบคายออกมาก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วเอาเหรียญมาวางกระแทกบนโต๊ะ ผมก็รีบเก็บเพราะกลัวมันจะแกล้งอะไรอีก

พอหมดธุระกับไอ้นิกก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ พอดีกับที่มิวมันลอกงานเสร็จ แล้วคืนสมุดมาพร้อมกับเหรียญห้าสองเหรียญที่ว่างอยู่ด้านบน

ผมเก็บเงินที่ได้จากงานพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ลงกระเป๋านักเรียน เดี๋ยวตอนเย็นจะได้เอาไปหยอกกระปุกหมูที่พี่ฝันซื้อให้ แล้วพอมันได้เยอะๆ ผมจะเอาไปให้พี่เอาไปใช้หนี้สี่สิบล้าน

ผมอยากช่วย

นิดๆ หน่อยๆ ผมก็อยากจะช่วย


พอเลิกเรียนผมก็กลับพร้อมมิว บ้านมิวเปิดร้านขายของชำอยู่ในซอยเดียวกับหอพักของผม ที่บ้านมิวก็ใจดีชอบเอาของมาแบ่งให้ผมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นนมแพ็ค ขนมปัง ข้าวสารหรือขนมต่างๆ

"เดี๋ยวแวะไปบ้านเราก่อนนะ แม่ให้เข้าไปเอาของ"

"อื้อ"ผมเดินตามเพื่อนไป มิวตัวเล็กกว่าผม ใส่แว่นหนาๆ ท่าทางไม่สู้คน ก่อนผมจะย้ายเข้าโรงเรียนนี้มิวเคยเป็นเป้าหมายในการแกล้งของคนอื่นๆ แต่พอผมย้ายมาพวกมันก็เปลี่ยนเป้ามาที่ผมแทน

แม่มิวให้นมมาสองแพ็คกับแกงเขียวหวานมาหนึ่งถุง พอมาถึงห้องผมก็เอานมไปแช่เย็นแล้วเก็บกับข้าวเอาไว้หลังตู้เย็น ที่ห้องไม่มีใครอยู่เพราะทั้งพี่ฝันกับพี่ฝนต่างก็ออกไปทำงานกัน พี่ฝันจะกลับมาช่วงหกโมงกว่ามานอนได้ตื่นหนึ่งก็จะออกไปทำงานต่อตอนสามทุ่มครึ่ง แต่เดี๋ยวนี้พี่ฝันเหมือนจะออกจากห้องเร็วกว่าปกติ

ส่วนพี่ฝนจะกลับมาช่วงตีสองตีสามแล้วแต่วัน แล้วจะตื่นอีกทีตอนหกโมง พี่ฝนจะหุงข้าว ทำกับข้าวง่ายๆ ไว้ให้ผมในทุกเช้า นั่งรอจนผมอาบแต่งตัวเสร็จถึงจะออกไปทำงาน

ผมมองพี่ชายสองคนที่วิ่งวุ่นทำงานจนร่างกายซูบผอม รอยยิ้มที่เคยสดใสของพี่ๆ กลับจางหายไปเหลือแต่ความอ่อนเผลีย เหนื่อยล้าที่แม้จะพยายามปกปิดแต่ผมก็สัมผัสมันได้

ผมสงสารพี่ ผมอยากให้พี่ผมได้กลับไปเรียนเหมือนเดิม ผมไม่อยากให้พี่ต้องมาเหนื่อยทำงานใช้หนี้ที่ชาตินี้ไม่รู้จะหมดหรือเปล่า

ผมขอพรทุกวัน ขอให้ใครก็ได้บนโลกใบนี้ช่วยใจดีกับพวกผมหน่อย

ช่วยดึงพวกผมออกไปจากจุดนี้ที


แก๊ก

ผมสะดุ้งรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าพลางทำตัวร่าเริ่งเมื่อพี่ฝันเดินเข้ามาให้ห้อง กายผอมๆ เดินไร้เรี่ยวแรงมาทิ้งตัวนอนบนฟูก

ผมมองพี่ที่นอนนิ่งก่อนจะลุกขึ้นไปหาน้ำเย็นๆ มาให้พี่ดื่มจะได้ชื่นใจ

"ดื่มน้ำเย็นๆ หน่อยนะพี่ฝัน"

"อื้อ"พี่ฝันรับคำก่อนจะยันตัวลุกขึ้นมารับแก้วน้ำไปแล้วกระดกรวดเดียวจนหมด

"พี่ฝันหิวมั้ย วันนี้คุณแม่ของมิวให้แกงเขียวหวานมานะ"

"พี่ยังไม่หิว ฝุ่นหิวก็กินไปก่อนเลยนะ พี่ขอนอนก่อน พี่ง่วงมาเลย"พี่ผมว่าแล้วทิ้งตัวลงนอนอีกรอบ ท่าทางเหนื่อยจัดทำให้ผมไม่กล้ารบกวน ผมลุกเดินเอาแก้วน้ำไปเก็บเข้าที่ก่อนจะมานั่งทำการบ้านต่อเงียบๆ

ห้องที่พวกผมอยู่ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลมเพดานเก่าๆ ที่เวลาเปิดแล้วผมมักจะชอบจินตนาการว่ามันจะล่วงมาตัดคอผมเมื่อไหร่ กับพัดลมตั้งโต๊ะอีกตัวที่พี่ฝันซื้อต่อมาจากพี่ที่ทำงานด้วยกัน

ครืนนนนน ครืนนนนน

เกือบๆ สามทุ่มโทรศัพท์พี่ฝันก็สั่นสะท้านครืดคราดผมคลานไปดูชื่อคนโทรมาก่อนจะถือวิสาสะรับให้

"พี่ฝันหลับอยู่ครับ"

(ปลุกมันให้หน่อย กูมีเรื่องจะคุยกับมัน)

"แต่..."

(กูบอกให้มึงปลุกมันไง!)ปลายสายตวาดจนผมสะดุ้ง ผมเบ้ปากก่อนจะปลุกพี่ฝัน พอพี่ตื่นผมก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้

"อะไรของมึงอีก...วันนี้กูไม่ทำได้มั้ย กูง่วง กูเหนื่อย...กูขอพักสักวันเถอะ...งั้นก็แล้วแต่มึงเถอะ"พี่ฝันตัดสายแล้วปิดโทรศัพท์ ก่อนจะวางมันทิ้งลงข้างตัวอย่างไม่สนใจแล้วพลิกตัวหนีไปอีกฝั่ง

ปังๆๆๆ

ปังๆๆ

"เปิด!...ไอ้ฝัน เปิด!!"เสียงทุบประตูที่ดังขึ้นราวกับจะพังมันทำให้ผมที่กำลังอ่านหนังสือเพลินๆ สะดุ้ง ผมรีบวางหนังสือในมือลงแล้วลุกไปเปิดประตู

แก๊ก

"โอ๊ย!"ทันทีที่ผมปลดกลอนประตู คนด้านนอกก็กระชากมันอย่างแรงจนร่างผมถลาตามแรงแล้วล้มเข่ากระแทกพื้น ผู้ชายตัวสูงท่าทางนักเลงมองผมก่อนจะเดินผ่านผมเข้าไปในห้อง

"ไอ้ฝัน ลุก! กูบอกให้ลุกไง!"

"โอ๊ย! อะไรของมึงวะโก้! กูบอกแล้วไงว่าวันนี้กูไม่ไป!"

"มึงต้องไป ลุก!"คนนั้นกระชากพี่ผมอย่างแรงจนพี่ต้องลุกมาตามแรงกระชาก ผมยันตัวลุกขึ้นแล้วรีบเดินไปหาพี่ตัวเองทันที

"ปล่อยพี่ฝันนะ...โอ๊ย"ผมดึงมือเขาหวังจะให้ปล่อยพี่ฝัน แต่กับกลายเป็นว่าผมถูกผลักจนล้มไปอีกรอบ พี่ฝันดูตกใจไม่น้อย สบัดแขนให้หลุดการจากจับกุมแล้วรีบพุ่งตัวมาดูผม

"เป็นอะไรมั้ยฝุ่น"

"ไม่ครับ"

"มึงผลักน้องกูทำเหี้ยอะไร!"พี่ฝันหันตวาดใส่อีกคน คนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทางกลัวเกรง แค่มองนิ่งๆ แล้วนั่งลงบนฟูกเหมือนไม่สนใจอะไร

"ถ้ามึงยังลีลา กูรับรองน้องมึงเจ็บกว่านี้แน่"

"หน้าเหี้ย กับเด็กมึงก็ทำได้ลง"

"กูทำได้มากกว่าที่มึงคิด"พวกเขามองหน้ากันก่อนที่พี่ฝันจะยอมแพ้ พี่ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินปึงปังเข้าห้องน้ำไป ผมมองตามหลังพี่ชายก่อนจะหันมามองคนที่นั่งอยู่ฟูกที่กำลังหยิบบุหรี่ออกมา

"อย่าสูบบุหรี่ในห้องนะ"

"กูจะสูบ มึงจะทำไมกู"

"ไม่ให้สูบ จะสูบก็ออกไปข้างนอกเลย"

"พูดมากว่ะไอ้เด็กนี่ เดี๋ยวกูก็ตบคว่ำเลยนิ"เขาว่าพลางง้างมือขึ้นสูง ส่วนผมก็สะดุ้งหลับตาปี๋ หดคอหนีทันที แต่ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บแบบที่ควรพอลืมตามาก็เห็นว่าเขาจุดบุหรี่สูบไปเรียบร้อยแล้ว

"แค่กๆๆ"

"..."

"แค่กๆๆ"ผมไอโขลก ปิดจมูกก่อนจะรีบลุกเดินหนีไปที่ระเบียงแล้วก่อนทรุดตัวนั่งหอบหายใจเพราะรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก

ผมเป็นโรคหอบและไม่ถูกโรคกับควันบุหรี่

"แค่กๆๆ...แฮ่ก แฮ่ก พี่ฝัน...พี่...แค่กๆๆ"

"เฮ้ย เป็นอะไรวะ..."

"ฝุ่น! ฝุ่น! ไอ้เหี้ยโก้! ออกไปสูบข้างนอก น้องกูแพ้!"พี่ฝันตะโกนลั่น จนอีกคนต้องรีบเดินหนีออกไปจากห้อง พี่ฝันวิ่งไปหยิบยาพ่นมาก่อนจะพุ่งเข้ามาหาผมแล้วจัดการพ่นยาเขาปากผมสองสามที

ผมหายใจเข้าปอดลึกๆ พลางทิ้งตัวพิงอกพี่ชายเอาไว้ มือก็กำมือพี่ฝันแน่นๆ

"ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร"

พอผมเริ่มกลับมาหายใจปกติพี่ฝันก็เดินกลับเข้าไปในห้องแล้วไปเอาสเปรย์ปรับอากาศออกมาฉีดเพื่อดับกลิ่นบุหรี่ บานประตูก็ถูกเปิดเอาไว้ก็มีคนที่ชื่อโก้ยืนกอดอกพิงกรอบประตูมอง

"สำออยสัส"

"เงียบปากไปไอ้ห่า"

ฟู่

"เฮ้ยย ไอ้เหี้ยฝัน ทำเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย"เพื่อนพี่ฝันโวยวายเมื่อโดนพี่ฝันเอาสเปรย์ไปฉีดอัดหน้าจนต้องขยับถอยห่างออกไป 

พี่ฝันรอให้อาการผมกลับมาเป็นปกติก็รีบออกไปกับเพื่อนของเขาที่เร่งไม่หยุด พออยู่คนเดียวผมก็กลับมาทำการบ้านต่อกว่าจะเสร็จจะเกือบสี่ทุ่ม แล้วมานั่งเปิดคลิปวีดีโอเรียนภาษาไทยต่อ เพราะผมเรียนนานาชาติมาตั้งแต่เด็กทำให้ผมอ่านเขียนภาษาไทยไม่คล่อง มันเลยทำให้ผมลำบากให้การเรียนเพราะที่โรงเรียนสอนและออกข้อสอบก็เป็นภาษาไทย
เวลาโดนเรียกให้อ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนผมมักถูกเพื่อนร่วมห้องหัวเยาะเสมอเพราะอ่านแทบไม่ได้ ผมอายมากแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง

แย่ชะมัด


.


"พี่โต้ง สวัสดีครับ"

"เออๆ มาพอดี ไป โน้นเลย มีลูกค้ามารอแล้ว"พี่โต้งเจ้าของคาร์แคร์ที่ผมมาทำงานพูดพลางชี้ไปยังชีวิคสีขาวสีจอดรออยู่ เห็นแบบนั้นผมก็รีบเอากระเป๋าไปยัดใส่ตู้แล้ววิ่งไปหาลูกค้าของผมทันที

ผมจัดการล้างเจ้ารถสีขาวอยู่เกือบยี่สิบนาที ขัดทุกซอกทุกมุม ก่อนพี่เอ็มจะมาลงแว๊กซ์ต่อ พอเสร็จจากคันแรก ก็มีคันที่สอง คันที่สามตามมา

ช่วงเช้าผมล้างรถไปประมาณสิบกว่าคัน ก่อนจะโดนไล่ให้เข้ามาพักกินข้าว ผมหยิบกล่องข้าวที่พี่ฝนทำเตรียมไว้ให้ออกมา

"ไข่ดาวอีก หน้าจะเป็นไข่แล้วมึง"พี่โต้งที่เดินตามมาพูดขึ้นเมื่อเห็นข้าวในกล่อง ผมยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไรแล้วลุกเดินไปหยิบขวดซอสมา

"เอ้า เอาแกงกูไป แดกแต่ไข่ กูเบื่อแทน"พี่เขาว่าแล้วยื่นถ้วยแกงมาให้ ผมก็ยกมือไหว้ก่อนจะรับมาแล้วลงมือกินข้าว ไม่ได้รีบเร่งอะไรเพราะตอนนี้ไม่มีลูกค้า

พอกินเสร็จผมก็มานั่งตากแอร์ที่ห้องรับรอง พี่ก็มีพี่เอ็มกับพี่อิฐนั่งเล่นโดมิโน่กันอยู่ ส่วนพี่โต้งก็เดินไปดูร้านคอมข้างๆ ที่พี่แกก็เป็นเจ้าของเหมือนกัน


"ไอ้เด็กเผือก ลูกค้ามาแล้ว"

"..."

"จูออนเว้ย ลุก!!"

ป๊อก!

"งื้อออ"

"ลุกเว้ย ไป ลูกค้ามาสามคันเลยมึง"ผมลุกขึ้นพลางลูบหน้าผากตัวเองเมื่อถูกพี่เอ็มดีดเข้ามาเต็มแรง แค่เผลอหลับแปบเดียวเองทำไมต้องทำร้ายกันด้วย

ปึก!

"ข..ขอโทษครับ"เพราะมั่วแต่ค้อนให้พี่เอ็มเลยไม่ทันเห็นลูกค้าที่เดินเข้ามาในห้องรองทำให้ผมชนเขาเต็มแรง ผมรีบหันมันยกมือไหวขอโทษก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นทันที

"เดี๋ยวมึงไปดูดฝุ่นไล่จากคันโน้นมาก่อนเลย"พี่เอ็มว่าพลางชี้ไปที่บีเอ็มคันที่จอดริมสุด ผมก็เดินไปหยิบอุปกรณ์มาแล้วตรงดิ่งไปยังรถคันนั้นทันที่

ผมเปิดเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กแล้วจัดการดูดมันทุกซอก ทุกมุม ซอกเล็ก ซอกหลีบแค่ไหนที่ไม่ปล่อยให้รอดจากสายตา พวกขยะชิ้นเล็กอย่างเปลือกลูกอมผมก็เก็บทิ้งขยะ ส่วนพวกใบเสร็จหรือกระดาษต่างๆ ที่ตกอยู่ในรถผมก็เอาตะกร้ามาใส่เพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการหรือไม่ เผื่อผมทิ้งไปแล้วเขาต้องการขึ้นมานี่งานเข้าแน่นอน

พอเสร็จคันแรกผมก็มาทำคันที่สอง ระหว่างนั้นพวกพี่เอ็มกับพี่อิฐก็ไปล้างรถคันที่ผมเพิ่งดูฝุ่นไป คันที่สองค่อนข้างสะอาด ไม่ค่อยมีขยะอะไรมากยกเว้นพวกใบเสร็จที่ยัดไว้ตรงประตู ผมเลยต้องไปเอาตะกร้ามาใส่ของพวกนั้นไว้

เสร็จคันที่สองผมก็มาต่อคันที่สามทันทีเพราะเดี๋ยวต้องรีบไปช่วยเขาล้างรถต่อ เมื่อกี้เห็นว่ามีลูกค้าเข้ามาอีกคัน โอ้เอ้ไม่ได้ครับเพราะเดี๋ยวโดนพี่อิฐด่า

!

ผมชะงักเมื่อเปิดประตูรถคันที่สาม กลิ่นบุหรี่ฉุนกึกทำให้ผมต้องเบ้หน้าหนี ไม่กล้าเข้าไปนั่งด้านใน

"เอ้า! ยืนนิ่งหาพ่อมึงพ่อหรอจูออน รีบทำรีบมาช่วยกันเว้ย ลูกค้าเข้ามาอีกแล้วนั้น"พี่อิฐตะโกนบอก ผมเลยส่งยิ้มแห้งๆ ให้แล้วยกคอเสื้อขึ้นมาปิดจมูก

กึก

"เชี่ย"ผมสถบเมื่อดึงช่องเล็กตรงคอนโซลหน้ารถออกมาอย่างแรงเพราะทีแรกมันติด ดึงไม่ออกผมเลยกระชากจนเศษก้นบุหรี่และขี้บุหรีหล่นกระจายเต็มเบาะ

"แค่กๆๆ..."ผมไอทันทีเพราะละลองขี้เถ้า แต่คงไม่เป็นอะไรมั้งเพราะไม่มีควัน ผมเลยรีบเอาเครื่องดูดฝั่นมาดูดแล้วเก็บซากบุหรี่ออกไปทิ้ง

"แค่กๆๆ...แค่กๆๆ..."ผมขมวดคิ้วเมื่อตัวเองไอไม่หยุด หันมองรอบๆ ก็เห็นลูกค้าคนหนึ่งกำลังสูบหรี่พลางคุยโทรศัพท์ไปด้วย ผมเบิกตากว้างเมื่อเขาพ่นควันออกมาและมันเป็นจังหวะเดียวกับที่ลมมันเปลี่ยนทิศพัดมาทางผม

..แค่กๆๆ แค่กๆๆ"

โครม

ผมทิ้งของในมือทั้งหมดก่อนวิ่งเข้าห้องรับรอง ผมเก็บกระเป๋าไว้ใต้เค้าน์เตอร์ ยาผมอยู่ในนั้น

"แค่กๆๆ...แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก...แค่ก แค่กๆๆๆ"

"เฮ้ย เป็นอะไร"พี่โต้งที่นั่งคุยกับลูกค้าอยู่เอ่ยถาม แต่ผมไม่มีเวลาตอบ ผมรู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก มือสั่น สายตาพร่าเบลอ

โครมม

"ไอ้ฝุ่น!"เครื่องคิดเงินล่วงกระแทกพื้นส่งเสียงดังลั่นไปทั่ว ก่อนผมจะล้มผมก็ถูกใครสักคนประคองตัวเอาไว้

"มึงเป็นอะไรไอ้ฝุ่น"

"แค่กๆๆ ยา...เอา...ยา...แฮ่กๆๆ แค่กๆๆ"

"น่าจะเป็นหอบ กระเป๋าเขาอยู่ไหน ยาเขาน่าจะอยู่ในนั้น"เสียงใครสักคนดังขึ้นก่อนผมจะรู้สึกว่าตัวผมลอยขึ้นจากพื้น ไม่นานหลังก็สัมผัสกับอะไรนิ่มๆ ตาผมพร่าเบลอไม่โฟกัส ภาพคนสองสามคนที่รุมล้อมผมอยู่ก็มัวจนไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ระหว่างนั้นผมก็ทั้งหอบทั้งไอจนรู้สึกทรมานไปหมด

"อันนี้ใช่มั้ย"

"ครับ ขอหน่อยครับ เดี๋ยวผมจัดการให้"เสียงเดิมพูดขึ้นก่อนผมจะถูกประคองให้ลุกขึ้นนั่ง โดยมีเขานั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง

"อ้าปากหน่อยครับ"ผมอ้าปากก่อนยาจะถูกพ่นเข้ามา พอได้ยาผมก็หลับตาพลางทิ้งตัวพิงเขาเอาไว้

"ค่อยๆ หายใจนะครับ"ผมพยายามควบคุมลมหายใจ พลางจับมือใครสักคนเอาไว้แน่น

"หายใจเข้าลึกๆ ครับ แบบนั้นแหละ"เสียงนุ่นๆ ของเขาดังพร้อมสัมผัสเบาๆ ที่ลูบไปมาบนหัว

"เก่งมากครับ"

'เก่งมาครับลูกพ่อ เห็นมั้ยไม่มีอะไรน่ากลัวเลย'

อ่า

ผมคิดถึงพ่อจัง


พออาการผมสงบลงผมก็ถูกจับให้นอนลงอีกครั้ง ผมนอนหลับตานิ่งๆ อยู่สักพักก่อนจะลืมตาขึ้นมาก็เห็นพี่โต้งยืนอยู่ข้างๆ ใกล้ๆ มีลูกค้ากลุ่มหนึ่งนั่งอยู่

"ดีขึ้นมั้ยมึง"

"ครับ"

"แล้วมึงเป็นหอบทำไมไม่เคยบอกกู"

"ผม...ไม่ได้เป็นตลอดนี่ครับ"

"จะเป็นตลอดไม่เป็นตลอดมึงก็ต้องบอก!"พี่โต้งว่าเสียงดังจนผมสะดุ้ง

"ขอโทษครับ"

"แล้วทำไมอยู่ๆ อาการมึงกำเริบ"

"บุหรี่ครับ เมื่อกี้มีคนสูบบุหรี่อยู่ข้างนอก"

"ผมไม่ค่อยถูกกับมัน..."ผมว่าเสียงแผ่วเมื่อคนที่สูบบุหรี่เมื่อกี้เดินเข้ามา พอผมเงียบไปก็เกิดเดตแอร์ผมเลยขยับตัวลุกขึ้นเพราะต้องไปทำงานต่อ พี่เอ็มกับพี่อิฐน่าจะบ่นผมแล้ว

"แล้วนี่มึงจะลุกไปไหน"

"ไปทำงานต่อครับ"

"พอ พอ วันนี้มึงกลับไปพักเถอะ"

"ผมทำไหวนะครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้ว"

"แต่กูไม่ให้ทำ"

"แต่..."

"ใต้ฝุ่น มึงอย่าดื้อกับกู ไม่งั้นกูหักเงินนะ"ผมหุบปากทันที

"วันนี้มึงกลับไปพักก่อนไปเดี๋ยวกูโทรเรียกไอ้บีมมาทำแทนมึงเอง"

"เอาแบบนั้นก็ได้ครับ"ผมตอบรับอย่างว่าง่ายเพราะกลัวโดนหักเงิน อีกอย่างมีคนอื่นนั่งอยู่ด้วยผมก็รู้สึกเกร็งๆ ไม่กล้าเถียงกับพี่โต้งมาก

ผมลุกไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะพร้อมยาพ่นที่วางไว้ด้านบนเป้ผมอีกที ผมเดินไปหยิบยามาพ่นซ้ำอีกครั้งก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า กำลังจะเดินออกจากห้องรับรองพี่โต้งก็เปิดประตูเข้ามาพอดี

"เอ้านี่ ค่าจ้างมึง"

"แต่ผม"

"เอาๆ ไปเถอะ แล้วนี่กับข้าว เมียกูทำมาให้แต่กูยังไม่หิวมึงเอาไปกินเถอะ"

"ขอบคุณครับ"ผมยกมือไหว้พี่โต้งก่อนจะรับเอาเงินกับถุงกับข้าวมา

พอเลิกงานเร็วไม่มีอะไรทำผมเลยแวะไปเดินเล่นในห้างที่เมื่อก่อนมาเดินบ่อยมากแต่เดี๋ยวนี้น่ะไม่ค่อยได้มาแล้ว ผมตรงไปที่ร้านหนังสือหาพวกหนังสือนิยาย วรรณกรรมไทยมาอ่านก่อนจะขมวดคิ้วเพราะรู้สึกว่ามันยากเหลือเกิน แค่ชื่อเรื่องก็เอาผมต้องสะกดอยู่หลายที สุดท้ายผมเลยเดินไปโซนหนังสือเด็ก

"เฮ้อ"ผมถอนหายใจเมื่อพลิกดูราคาหนังสือนิทานเล่มหนึ่ง เล่มบางๆ แต่ราคาเอาเรื่อง หาอ่านในเน็ตเอาก็ได้ มีเหมือนกันนั้นแหละ

ผมเดินเล่นดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย ก่อนจะเจอกับพี่ฝันที่เดินขึ้นบันไดเลื่อนไป ผมขมวดคิ้วพลางหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา นี่มันเพิ่งจะบ่ายสองกว่าเองนะ ทำไมพี่ฝันมาอยู่ที่นี่ล่ะ ไม่ได้ทำงานอยู่ร้านกาแฟหรอ

ผมเดินตามพี่ฝันขึ้นไปมาจนถึงชั้นบนสุดที่เป็นชั้นโรงหนัง ก็เห็นว่าพี่ฝันเดินเข้าไปคุยกับใครบางคนที่ท่าทางดูไม่น่าใช่เพื่อนหรือคนรู้จักเพราะอีกฝ่ายดูโต กว่ามาก


แชะ

ผมกดถ่ายรูปพี่ฝันเอาไว้กะเอาไปถามพี่ฝนทีหลัง พี่ฝันคุยกับอีกฝ่ายสักพักก่อนจะยื่นกระเป๋าแลกเปลี่ยนกันแล้วเดินแยกไปคนละทาง

"พี่ฝัน"ผมตะโกนเรียกเมื่อเห็นว่าพี่ฝันกำลังเดินไปอีกทาง พอจะวิ่งตามก็มีเด็กวิ่งตัดหน้าจนเกือบจะชนกัน
 
"พี่ฝัน"

ปึกกก

"โอ๊ยยย"ผมล้มก้นกระแทกพื้นเพราะชนเข้ากับใครบางคนเต็มแรงจนผมเสียหลักล้ม แรงกระแทกทำเอาผมนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ

"เจ็บอ่ะ"ผมเบ้ปาก เงยหน้ามองคู่กรณีเตรียมจะโวยวาย แต่ก็ต้องกลืนคำพวกนั้นลงคอเมื่อเห็นคนตรงหน้า พอกำลังจะยันตัวลุกขึ้นก็ต้องสะดุ้งเมื่อเขายื่นมือใหญ่ๆ มาจับที่ต้นแขนแล้วดึงตัวผมให้ลุกขึ้นยืน

"เป็นอะไรมั้ย"

"ไม่...ไม่ครับ...ไม่..."ผมตอบพลางพยายามหลบสายตาเขาแล้วถอยหลังหนีเพราะรู้สึกกลัวคนตรงหน้า เขาดูน่ากลัว ตัวโตเหมือนยักษ์ ผิวแทนหน้าดุแถมไม่ยิ้ม ดูไม่หน้าคบเลยสักนิด ฝด้านหลังก็ยังมีผู้ชายตัวยักษ์พอๆ กันยืนอยู่ใกล้ๆ

บรื้ออ

เจ้าพ่อมาเฟียที่ไหนเนี่ย

พอเขาไม่พูดอะไรผมก็เลยก้มหัวให้เขาก่อนจะรีบถอยหลังแล้ววิ่งหนีออกมาทันที ลงมาได้สองชั้นก็เพิ่งถึงจะนึกถึงพี่ฝัน เลยจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากะว่าจะโทรหาแต่ปรากฏว่ามันไม่อยู่แล้ว

ผมหน้าเสียทันทีแล้ววิ่งกลับไปขึ้นไปดูแถวๆ ที่ถูกชนจนกระเด็น ลองถามแม่บ้าน ป้าเขาก็หยิบเอาโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่สภาพหน้าจอแตกละเอียดมาให้ผม

"ใช่ของหนูหรือเปล่าจ๊ะ"

"อ่า ครับ น่าจะใช่"

"ป้าเจอมันถูกทิ้งอยู่ในถังขยะน่ะ แต่มันเป็นถังขยะสำหรับของรีไซเคิลป้าเลยเก็บแยกมันออกมาก่อน ไม่คิดว่าจะมีคนตามหาเพราะมันดูไม่น่าใช้งานได้แล้ว"ผมยิ้มแหยๆ แล้วรับโทรศัพท์มา พลิกหน้าพลิกหลังดูก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า

พี่ฝันกับพี่ฝนต้องว่าแน่ๆ เลยอ่ะ

ฮืออออ

----

ตอนนี้พระเอกอีก2 คนออกครบแล้วนะคะ จะเป็นใครนั้น ไม่บอกกก  ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2020 14:42:23 โดย Chemin »

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พระเอกค่าตัวแพงกันจังค่ะออกมาแพลมๆ--
คนที่ช่วยน้องฝุ่นอาจจะเป็นหมอก็ได้มานิดหน่อยแต่นุ่มฟู

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
03

"นายครับ ลูกค้าที่เพิ่งรับของไปแจ้งมาว่าได้ของไม่ครบครับ"

"นี่มันหลายรอบแล้วนะครับนาย"

"..."

"จับตาดูพวกมันสองคนเอาไว้"เสียงเข้ม ทุ้มต่ำเอ่ยออกมา ใบหน้าคมเข้มราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ แต่วาวตาสีนิลกับฉายแวววาวโรจน์อย่างชัดเจน

"ครับนาย"ลูกน้อยคนสนิทรับคำก่อนจะก้มหัวให้อย่างน้อมนอบแล้วเดินออกจากห้อง ตาคมเลื่อนมองกองภาพถ่ายบนโต๊ะก่อนจะหยิบรูปภาพใบหนึ่งขึ้นมา

'เด็กคนนั้นชื่อใต้ฝันครับนาย เป็นเพื่อนกับไอ้โก้คนของเรา'

'ช่วงหลังๆ ไอ้โก้จะให้เด็กคนนี้ไปส่งของแทน'

'และของก็เริ่มหายครับ'

หึ

มือใหญ่โยนภาพถ่ายไปกองรวมกันก่อนมวลนิโคตินในมือจะถูกโยนทิ้งลงบนภาพถ่ายเหล่านั้น กายสูงใหญ่กำยำก็เดินออกไปจากโดยไม่สนใจอะไร

คล้อยหลังร่างสูงรูปภาพบนโต๊ะก็ค่อยๆ เว้าแหว่งเพราะความร้อนก่อนกองไฟขนาดย่อมจะลุกโชนแล้วแผดเผาภาพเหล่านั้นไปจนหมด


ตุบ

"โอ๊ยย"

"ตื่นนนน"

"ฝุ่น พี่เจ็บนะ กระโดดทับลงมาได้"ใต้ฝันว่าเสียงงัวเงียพลางดันเจ้าใต้ฝุ่นที่กระโดดทิ้งตัวนอนทับให้ออกห่าง ใบหน้าหวานเหยเกเพราะข้อศอกของน้องกระแทกเข้าเต็มลิ้นปี่

"พี่ฝันไม่ตื่นอ่ะ"เจ้าเด็กน้อยว่าแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง คนพี่ถอนหายใจก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหาน้ำเย็นดื่มแก้กระหาย

"วันนี้ร้านกาแฟพี่ฝันปิดใช่มั้ย"เมื่อคืนก็ไม่ต้องทำงานที่ร้านสะดวกเพราะเป็นวันหยุด แถมร้านกาแฟที่ทำอยู่ก็ดันปิดอีกเพราะพี่เจ้าของไปทำธุระ เขาเลยได้นอนเต็มอิ่ม หยุดพักยาวๆ แบบที่นานๆ จะได้สัมผัสสักที

"อื้อ"

หมับ

"ไปเที่ยวกันนะ นานๆ พี่ฝันจะว่าง เนี่ย เดี๋ยวฝุ่นโทรไปลางานกับพี่โต้งเลย"เจ้าน้องเล็กพุ่งตัวเข้ามากอดพลางช้อนตามองพี่ชายอย่างออดอ้อน ใต้ฝันพยักหน้าตกลงอีกมือก็ยกขึ้นลูบหัวน้องชายเบาๆ

"เย่ ไปเที่ยว ไปเที่ยว ไปเที่ยว"เจ้าฝุ่นดูจะร่าเริงเป็นพิเศษวิ่งไปหยิบโทรศัพท์แล้วโทรหาเจ้าของคาร์แคร์ที่ตัวเองทำงานอยู่ พออีกฝ่ายรับสายเจ้าเด็กน้อยก็ส่งเสียงออดอ้อนไม่นานอีกฝ่ายก็ยอมตกลง ไม่รู้เพราะรำคาญหรือยังไงแน่

"พี่ฝันไปอาบน้ำเลย เร็วๆ"

"มันจะอะไรขนาดนั้น"

"แฮ่"คนน้องไม่ตอบน้องจากส่งยิ้มหวานจนแก้มนุ่มนิ่มเป็นก้อนขึ้นไปปิดตา

ใต้ฝันใช้เวลาพักใหญ่กับการอาบน้ำแต่งตัว เช็คสภาพตัวเองในกระจกเสร็จก็เดินมานั่งที่โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่มีข้าวไข่ดาวเตรียมไว้ให้

"แล้วบอกฝนยัง"

"บอกแล้ว พี่ฝนบอกว่าให้พี่ฝันดูแลฝุ่นดีๆ"

"อื้อ"ใต้ฝันตอบรับพลางหยิบเอาซอสฟาเขียวมาเหยาะเพิ่มรสชาติ ข้าวเช้าฝีมือใต้ฝน หนึ่งเดียวในสามพี่น้องที่ทอดไข่รอด และเป็นเมนูเดียวที่ทำเป็น เคยลองทำไข่เจียวแล้ว แต่สามพี่น้องก็สรุปว่าแค่ไข่ดาวก็อร่อยแล้ว


ใต้ฝันพาน้องมาที่สวนสนุกเพราะดูมาจากในเน็ตว่าเอาฝาน้ำอัดลมหกฝาแลกส่วนลดห้าเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นสองพี่น้องเลยไปขอฝาที่ว่านั้นมาจากร้านขายของชำของมิว

"พี่ฝนน่าจะได้มาด้วยเนอะ"ใต้ฝุ่นว่าพลางนึกถึงพี่คนรองที่ตอนนี้กำลังยืนขาแข็งทำงานอยู่

"ไว้ว่างตรงกันค่อยมาก็ได้"

"วันเกิดฝุ่นไง เดือนหน้านี่แล้ว เดี๋ยวพวกพี่ลางานแล้วจะมาอยู่กับฝุ่นทั้งวันเลย ดีมั้ย"

"ดีๆ สัญญานะ"

"สัญญา"สองพี่น้องเกี่ยวก้อยสัญญากัน

"ป่ะ งั้นเราเข้าไปกันเถอะ ฝุ่นอยากเล่นอะไรพาพี่ไปเลย"



"นายเรียกผมมามีอะไรหรอครับ" 'ไอ้โก้' เด็กหนุ่มตัวสูง ท่าทางนักเลงเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพนอบน้อม มันแทบจะคลานเข่าตอนผู้เป็นนายใหญ่หันมามองหน้ามัน

ตุบ!

กระเป๋าสีดำใบใหญ่ถูกโยนมาตรงหน้า ไอ้โก้มองของที่กองแหมะอยู่ตรงปลายเท้าแล้วเงยหน้าสบตากับนัยน์ตาสีนิลของอีกคน

"เอาไปส่ง"

"นี่ค่าจ้าง"

ตุบ

เงินปึกใหญ่ถูกโยนลงมา ไอ้โก้ตาโตมองปึกเงินก่อนจะรีบก้มหยิบเงินพร้อมกับกระเป๋าขึ้นมา

"ได้ครับนาย ได้ครับ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเลยครับ ไว้ใจผมได้เลยครับนาย"

"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"มันว่าก่อนจะเดินยิ้มกว้างออกมาจากห้องพร้อมก้มลงหอมปึกเงินฟอดใหญ่




"ไหวมั้ยฝุ่น"ใต้ฝันถามน้องชายที่เดินโซเซออกมาจากเครื่องเล่น ใบหน้าน่ารักอ่อนเยาว์ซีดเชียว

"ฮืออ ฝุ่นจะอ้วก"

"ฮ่าๆๆ"แทนที่จะเข้าไปช่วย คนพี่กับยืนขำจนโดนน้องชายค้อนใส่วงโต

"เล่นอะไรกันต่อดี"

"ไม่รู้ ขอฝุ่นพักก่อน"เจ้าฝุ่นว่าแล้วเดินไปนั่งม้านั่งที่อยู่ใกล้ๆ ใต้ฝันเห็นแบบนั้นก็เดินไปซื้อน้ำมาให้น้อง 

ครืดดดดดด  ครืดดดดดด

ใต้ฝุ่นหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นชื่อคนโทรมา

"อะไร"

(เสียงแข็งจังวะ)

"มึงมีอะไร"

(มึงอยู่ไหน)

"ไม่เสือกดิ"

(สัส อย่ามาลีลาเร็วๆ)ใต้ฝันถอนหายใจ

"ดรีมเวิร์ด กูพาน้องมาเที่ยว"

(เอ้า พอดีเลย เออๆ เดี๋ยวกูไปหา)

"เดี๋ยว..."ยังไม่ทันจะได้ตอบกลับ สายก็ถูกตัดไปเสียก่อน

แม่ง


"พี่ฝัน เขามาทำไมอ่ะ"ใต้ฝุ่นถามเมื่อเห็นโก้เดินเข้ามาใกล้ เพื่อนพี่ชายท่าทางนักเลงที่เจอกี่ทีก็รู้สึกไม่ชอบ

"ไม่มีอะไรหรอก ฝุ่นจะเข้าไปเล่นบ้านหิมะใช่มั้ย เข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวพี่ตามไป"

"แต่..."

"ไม่ดื้อนะ พี่ขอไปคุยธุระกับมันแปบนึง"

"ก็ได้ครับ"เด็กน้อยตอบก่อนจะเดินเข้าไปยังบ้านหิมะตรงหน้า ส่วนใต้ฝันก็เดินมาหาไอ้โก้ด้วยท่าทางหงุดหงุด

"มึงจะมาทำไมวะไอ้เหี้ย"

"ก็กูจะมาหาเพื่อนรักบ้างไม่ได้ไง"โก้ว่าพลางพาดแขนโอบไหล่ของใต้ฝัน แต่ก็โดนเพื่อนรักปัดแขนทิ้งราวกับเป็นของร้อน

"เอ้านี้"

"อะไร"

"เอาไปส่ง"

"ไม่..."

"อย่าลีลาไอ้สัส เอาไป แล้วนี้ เงิน"โก้ว่าพลางยัดทั้งกระเป๋าทั้งเงินใส่มือขาวๆ ใต้ฝันรับมาอย่างไม่เต็มใจ แบงศ์พันสามใบถูกพับลงกระเป๋าลวกๆ

"แค่นี้ใช่มั้ย"ใต้ฝันว่าก่อนจะเดินหน้ายุ่งเข้าไปยังบ้านหิมะ โดยไม่ได้หันมาสังเกตุว่ามีอีกคนเดินตามเข้ามา


"ฝุ่นรอพี่ตรงนี้แปบนึงนะ"

"พี่ฝันจะไปไหนอ่ะ"

"พี่ว่าจะไปซื้อน้ำน่ะ แปบเดี๋ยว"

"ครับ"พอน้องชายรับคำ ใต้ฝันก็วิ่งออกมาตรงไปยังสถานที่นัดรับสินค้า ที่ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออย่างไรถึงได้นัดรับกันที่นี่พอดี ในวันเสาร์ที่มีคนมาเที่ยวกันจนหนาตาทำให้ใต้ฝันถึงกับขมวดคิ้ว ตากลมๆ กวาดมองรอบๆ หาคนที่น่าจะเป็นลูกค้าแต่ก็เจอแต่กลุ่มครอบครัว ไม่ก็กลุ่มเด็กวัยรุ่น

หมับ

กายบางสะดุ้งเมื่อมีสัมผัสหนักๆ กดลงที่ไหล่ ดวงหน้าน่ารักหันไปมองก็เห็นเด็กวัยรุ่นยืนยิ้มแฉ่งให้เขาอยู่

"มารับของครับ"ใต้ฝันมองสำรวจคนตรงหน้าก่อนจะยื่นกระเป๋าให้ ส่วนอีกฝ่ายก็ยื่นกระเป๋าแบบเดียวกันคืนมา คนน่ารักเปิดกระเป๋าดูก็เห็นเงินเป็นปึกๆ ที่ถูกอัดแน่นอยู่ข้างใน

พอเช็คของในกระเป๋าเสร็จใต้ฝันก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันทีโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับอีกคนเลยสักคำ เขากลับมาหาน้องชายที่นั่งรออยู่ที่ม้านั่ง 

"อยากเล่นอะไรอีกมั้ย"

"ฝุ่นเหนื่อยแล้วอ่ะ ไม่อยากเล่นอะไรแล้ว พี่ฝันละ"

"ไม่อ่ะ งั้นกลับมั้ย"

"กลับก็ได้"พอน้องตกลงใต้ฝันก็รีบพาน้องชายออกมาทันที เพราะรู้สึกไม่อยากอยู่นานไปกว่านี้ ทั้งหวาดกลัวและระแวงไปหมด


พอกลับมาถึงห้องเจ้าใต้ฝุ่นก็เดินไปนอนแผ่บนฟูกอย่างหมดแรง จากการเล่นเครื่องเล่นต่างๆ มากมาย พี่ชายที่เห็นสภาพน้องก็ส่ายหน้าออกมาก่อนจะเดินไปนอนเบียด

"พี่นอนด้วย เขยิบหน่อย"

"งื้อออ"กายเล็กขยับพลิกตัวเข้าผนัง ใต้ฝันเองก็ขยับตามแล้วนอนกอดเอวน้องเอาไว้ก่อนสองพี่นอนจะพากันเคลิ้มหลับไปเพราะความเพลีย


ก๊อกๆๆ

ก๊อกๆๆ

ใต้ฝันถูกปลุกจากความฝันก่อนจะคว้าหยิบโทรศัพท์มาเพื่อดูเวลา แล้วยันกายลุกขึ้นอย่างัวเงีย

"เอ้า"กระเป๋าสีดำถูกส่งให้กับไอ้โก้ที่มันมาเอาเงินตามเวลาที่นัดกันเอาไว้ ไอ้โก้เปิดกระเป๋าเช็คว่าใช่สิ่งที่มันต้องการมั้ย พอใช่มันก็ทำท่าทางอารมณ์ดีเดินออกไป ใต้ฝันปิดประตูไล่หลังมันก่อนจะเดินมาทิ้งตัวนอนเหมือนเดิมเพราะความง่วง แถมนี่มันก็เพิ่งจะหกโมงเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะได้เวลาเริ่มงาน


ปังๆๆ

ปังๆๆ

!!

เสียงทุบประตูที่ดังขึ้นปลุกสองพี่สองให้ตื่นขึ้น ใต้ฝันหัวเสียก่อนจะลุกเดินไปเปิดประตู

"อะไรของมึงวะไอ้เหี้ย..."

กึก

คำด่าถูกกลืนลงคอเมื่อกระบอกปืนสีดำมันวาบถูกจ่ออยู่ตรงหน้า ใต้ฝันชะงัก มองชายฉกรรจ์ตรงหน้าก่อนจะถูกผลักเข้าให้เดินถอยหลัง โดยมีคนแปลกหน้านับสิบที่เดินตามเข้ามา


"พี่ฝัน..."ใต้ฝุ่นเรียกชื่อพี่ชายเสียงแผ่วเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเต็มตา เด็กน้อยหน้าซีด นั่งตัวแข็งทื่อเมื่อถูกชายแปลกหน้าหันกระบอกปืนจ่อมาทางตัวเอง

ผลัก

กายบางถูกผลักให้ล้มลงบนฟูก ใต้ฝันก็รีบขยับเข้าไปบังตัวน้องชายเอาไว้

"พวกคุณเป็นใคร"

"พวกกูเป็นคนของนายสิงห์"

"นายสิงห์..."

"ค้นให้ทั่ว"

"เดี๋ยว..."พอจะเอ่ยปากห้ามปืนกระบอกก็ขยับเข้ามาใกล้ ใต้ฝันเลยต้องนั่งนิ่งมองชายฉกรรจ์นับสิบที่รื้อค้นห้องตัวเองจนเละแทะไปหมดทั้งๆ ห้องนี่มันก็ไม่ได้มีอะไรให้รื้อมากมายนัก

หมับ

"ของฝุ่นนะ!"กระเป๋าเป้สีน้ำเงินที่วางอยู่ข้างๆ ฟูกถูกมือใหญ่ของบางคนคว้าหยิบไปแต่ใต้ฝุ่นก็เอื้อมมือไปยื้อแย่งเอาไว้ทันที

"ปล่อยนะ อันนี้พี่ฝันซื้อให้..."

ผัวะ!

"โอ๊ยย..."

"ฝุ่น!"ใต้ฝันรีบเข้าประคองหน้าที่ถูกด้ามปืนฟาดเข้าที่หน้าเต็มแรง ร่างเล็กถึงกลับเซล้มไป

"ฝุ่น ฝุ่นเจ็บมั้ย"

"ฮึก...ฮือ.."มือเล็กยกขึ้นกุมซีกแก้มที่ถูกฟาด กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งในปาก น้ำใสไหลอาบแก้มเนียนเพราะความเจ็บปนหวาดกลัว

"พูดกันดีๆ ก็ได้ทำไมต้องใช้กำลัง เขายังเด็กอยู่นะ"

"หุบปาก ก่อนกูจะรำคาญมึงอีกคน"ใต้ฝันเม้มปากแน่น มองหน้าคนพูดด้วยความไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากกอดปลอบน้องชายเอาไว้

กระเป๋าของใต้ฝุ่นถูกเปิดออกก่อนข้างของที่ใส่อยู่ข้างในจะถูกเทออกมาจนมันหล่นกระจัดกระจาย

ตุบ

ซองพลาสติกที่บรรจุผงขาวคล้ายแป้งล่วงตุบลงมา ใต้ฝันตาโตเมื่อเห็นของสิ่งนั้น

"หึ มึงเป็นคนเอาไปจริงๆ ด้วยสินะ"ชายคนนั้นว่าเสียงเหี้ยมพลางหยิบถุงพลาสติกซองนั้นขึ้นมาแล้วจ้องหน้าใต้ฝันนิ่งๆ

"เดี๋ยวสิ นี่มันเรื่องอะไร..."

"เอาตัวพวกมันไป"



"ฝน ไปรับลูกค้าหน่อย"

"ครับ"ใต้ฝนขานรับพลางหยิบเล่นเมนูขึ้นมาแล้วเดินไปหาลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในร้าน

"สวัสดีครับ ได้จองไว้ก่อนมั้ยครับ"

"ไม่ครับ"

"ห้าท่านนะครับ เชิญทางนี้เลยครับ"คนน่ารักเดินนำลูกค้ามายังโต๊ะริมกระจกที่ยังว่างอยู่ รอจนพวกลูกค้านั่งลงครบก็ว่างเล่มเมนูลงบนโต๊ะ แล้วหยิบเอาสมุดเล่มเล็กพร้อมปากกาออกมาเตรียมรอรับออเดอร์อาหาร

หลังจากรับออเดอร์เสร็จใต้ฝันก็ฉีกเอากระดาษจดไปยืนให้ในครัว ใบก็อปปี้ก็เอาไปยื่นให้เจ้าของร้านที่นั่งอยู่ตรงเครื่องคิดเงิน แล้วเดินไปเอาน้ำแข็งกับแก้วน้ำที่มีคนเตรียมไว้ให้ยกไปเสริฟ์ลูกค้า

"เออน้อง เดี๋ยวขอจานเพิ่มอีกชุดนะ จะมีคนมาเพิ่ม"

"ครับ"คนน่ารักรับคำก่อนจะเดินไปหยิบเอาจาน ช้อนซ้อมและแก้วน้ำมาใส่ถาด

"หล่อเนอะ"

"ใครหรอ"

"น้องหมายถึงลูกค้ากลุ่มนั้นอ่ะ หล๊อหล่อ น้องชอบ"

"น้องขอยกของไปนะ"

"เอาสิ"ใต้ฝนไม่ได้ขัดข้องยื่นถาดให้นุชพนักงานในร้านที่อ่อนกว่าเขาประมาณสองปี เจ้าหล่อนปัดผมสองสามทีก่อนจะรับถาดแล้วเดินไปยังลูกค้ากลุ่มนั้น

"นังนุชนี่มันเห็นผู้ชายหล่อไม่ได้จริงๆ"พี่หนิงพนักงานอีกคนที่เดินผ่านมาพอดีพูดขึ้น ส่วนใต้ฝนเองก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาลูกค้าอีกโต๊ะที่กำลังยกมือเรียกพนักงานอยู่

วันนี้ลูกค้าเข้าร้านเยอะเป็นพิเศษจนใต้ฝนรวมถึงพนักงานคนอื่นๆ ก็เดินเสริฟ์กันจนหัวหมุนไปหมด หลายครั้งที่ออเดอร์ล่าช้าจนโดนลูกค้าทักทวง ใต้ฝนก็ต้องรีบวิ่งไปเร่งพ่อครัว

"ลุงจ็อบ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงโต๊ะเจ็ดได้ยังครับ"

"แปบนึงเว้ย"

"ลุง โป๊ะแตกโต๊ะสิบห้าเสร็จยัง"

"ยัง!"

"ลุงจ็อบคะ ข้าวผัดปูโต๊ะ..."

"พวกมึงเลิกเร่งกูที เห็นมั้ยว่ากูก็เร่งอยู่ เอ้า! ไอ้ชุบรีบๆ หน่อยสิเว้ย ลูกค้าแดกวันนี้"

"จ้าลุง แปบนึง"

"อีน้อย เม็ดมะม่วงกูอยู่ไหน"

"อยู่นี้จ้าา"

ใต้ฝนมองภาพความวุ่นวายในครัวก่อนจะเฟ่ดตัวเองออกมาเพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยนช์

กรุ้ง กริ้ง ๆ

กระดิ่งลมดังขึ้นเมื่อมีลูกค้าคนใหม่เข้ามา ใต้ฝันที่ยืนอยู่ใกล้ประตูก็รีบเข้าไปต้อนรับพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ทันที

"สวัสดีครับ ได้จองไว้หรือเปล่าครับ"

"มีเพื่อนมาแล้วครับ"พอได้รับคำตอบจากลูกค้า ใต้ฝนก็เบี่ยงตัวหลบ ก่อนร่างสูงๆ ของอีกคนจะเดินผ่านหน้าไปพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ลอยมาปะทะ

"เฮ้ย! ไอ้หมอ ทางนี้!"



ผลัก!

"โอ๊ยย"สองร่างถูกผลักจนล้มไปกองพื้นอย่างแรงจนล้มคะม่ำ ใต้ฝันสะกดความเจ็บแล้วขยับเข้าไปหาน้องชาย

"พี่ฝัน..."

"ไม่ต้องกลัวนะ"เขาปลอบน้องเสียงแผ่วพลางกวาดตามองรอบๆ พบว่ามันเป็นโกดังเก็บของเก่าๆ ที่ดูเหมือนไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว อยากจะมองหาทางหนที่ไล่แต่ก็ดูจะไร้หนทางเพราะรอบๆ นี้มีผู้ชายท่าทางน่ากลัวยืนกระจายนับสิบคน

"ลูกพี่ นายมาแล้ว"เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนจะมีร่างของใครอีกคนเดินเข้ามา ใต้ฝันลอบมองคนที่ดูเหมือนจะเป็นนายใหญ่ของคนทั้งหมด

!

เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อคนนั้นตวัดสายตาสีนิลมองมา ใบหน้าเรียบนิ่งนั้นดูน่ากลัวจนใต้ฝันกระชับกอดเด็กน้อยในอ้อมแขน นายใหญ่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กทั้งสอง ก่อนร่างสูงกำยำจะทรุดตัวนั่งลงจนสายตาอยู่ในระดับเดียวกัน ตาสีนิลจับจ้องดวงหน้าของคนที่กล้าคิดมาลองดีกับเขานิ่งๆ

"อธิบายมา"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น มันเต็มไปด้วยอำนาจฟังดูน่าเกรงขาม ใต้ฝันเงยหน้ามองเจ้าของเสียงอย่างไม่เข้าใจ

"..."

"ฉันบอกให้อธิบาย"

กึก

"อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทน"ปืนกระบอกดำถูกยกขึ้นมาจ่อที่ศีรษะพร้อมสายตากดดัน

"ผมไม่รู้"เขาไม่รู้จริงๆ ว่ายาถุงนั้นมันมาอยู่ในกระเป๋าของน้องชายเขาได้ยังไง แต่คำตอบของใต้ฝันดูจะทำให้นายใหญ่ไม่พอใจเท่าที่ควร

ผัวะ!

ดวงหน้าหวานหันไปตามแรงฟาด ซีกแก้มชาดิกไปข้างหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปในปาก เลือดสีเข้มซึมออกมาจากแผลปริแตกที่มุมปากหลังโดนกระบอกปืนฟาดใส่เต็มแรง

"ฮื่ออ"ใต้ฝุ่นส่งเสียงร้องกายเล็กสั่นเทากระชับกอดพี่ชายแน่น ท่าทางแบบนั้นมันทำให้ชายหนุ่มรำคาญใจ

"เอาตัวมันออกไป"

"ครับนาย"ลูกน้องเอ่ยรับคำก่อนจะเข้ามาดึงตัวใต้ฝุ่นออกมา เด็กน้อยดิ้นพล่านกอดพี่ตัวเองแน่น ใต้ฝันเองก็กอดน้องตัวเองแน่นไม่ยอมปล่อย

"โถ่เว้ย มานี่!"

"ไม่เอา พี่ฝัน..."แต่แรงเด็กน้อยก็คงไม่สู้แรงผู้ชายตัวใหญ่ ร่างใต้ฝุ่นถูกกระชากจนปลิวไปตามแรง แขนเล็กถูกจับแน่น

"ปล่อยนะ พี่ฝัน ปล่อย..."

"เงียบ!"

"ฮึก..."เด็กน้อยกัดปากแน่นเมื่อถูกตวาด ดวงหน้าอ่อนเยาว์เปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตา ตากลมสั่นระริกจับจ้องพี่ชายที่เผชิญหน้ากับผู้ชายน่ากลัวคนนั้น เด็กน้อยไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น

"กล้าบอกว่าไม่รู้งั้นหรอ"

"ผมไม่รู้...ผมแค่ส่งของตามที่ไอ้โก้มันบอก ผมไม่เคยยุ่งกับของของคุณ"

"งั้นหรอ"

"แล้วเธอจะอธิบายของที่มันอยู่ในกระเป๋าน้องเธอว่ายังไง"

"..."เด็กหนุ่มส่ายหน้าเพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกมา เขากลัวคนตรงหน้า กลัวปืนที่มันจ่อหัวเขาอยู่ เขาไม่ได้ทำ แต่อีกคนคงไม่คิดจะฟังคำปฏิเสธของเขา

"หรือน้องเธอจะเป็นคนทำ"

"ไม่ใช่! น้องผมไม่รู้เรื่อง เขาไม่เกี่ยว"

"..."

"เธอรู้มั้ยฉันจัดการกับคนที่มันกล้ามาลองดีกับฉันยังไง"

"..."

"ไปเอาตัวมันมา"กายสูงขยับลุกขึ้นพลางหันมาสั่งลูกน้องที่ก็รับคำวั่งแล้วเดินหายไป ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมร่างคุ้นตาที่โชกไปด้วยเลือด

ตุบ

"ไอ้โก้..."

"นาย...นาย...อึ่ก...ผมสาบาน...ผมไม่รู้เรื่อง...ไอ้ฝัน ไอ้ฝันมันเป็นคนเอาของไป..."

"พูดเหี้ยอะไรของมึง!"ใต้ฝันตกใจกับประโยคที่ไอ้โก้มันพูด

"ก็..อึ่ก...มึง มึงบอกว่ากูว่า...จะเอาของไปขาย...อึ่ก...เอง..."

"ไอ้โก้!"เด็กหนุ่มตวาดลุกขึ้นหมายจะเข้าไปกระชากร่างที่นอนหมดสภาพโชกเลือดขึ้นมาซัดสักที

ปัง!

!

เสียงลั่นไกดึงขึ้นบาดแก้วหู กลิ่นกินปืนคลุ้งไปทั่วบริเวณหยุดการกระทำของใต้ฝันได้ชะงัก

"อย่ามาตีกันเอง"คอเสื้อคนเจ็บถูกปล่อย เด็กหนุ่มเดินถอยหลังออกมาพลางมองไอ้โก้ด้วยสายตาเคียดแค้น สองมือขาวๆ กำแน่นจนเล็บจิกเข้าผิวเนื้อ

"กูจะเชื่อคำพูดมึงได้แค่ไหนไอ้โก้"

"ผม..สาบาน...อึก...ผมจงรักภักดี...กับนาย...มากี่ปี...ผมไม่เคย...อึก...คิดทรยศ...นาย..."สภาพคนปางตายคลานไปนอนหมอบอยู่ที่ปลายเท้าของคนเป็นนาย มันเลื่อนมือจับข้อเท้าของนายเอาไว้อย่างร้องขอชีวิต

"..."ใต้ฝันมองภาพตรงหน้าก่อนจะหันไปมองหน้าน้องชายที่ยืนอยู่ไม่ไกล สองพี่น้องสบตากันก่อนที่ใต้ฝันจะยิ้มออกมา

เขาคงไม่รอด

เขาคงต้องตายเพราะความผิดที่เข้าไม่ได้ทำ

แต่ถึงแบบนั้นน้องชายเขาต้องได้ออกไปจากที่นี่

"ถ้าคุณคิดว่าผมทำ ผมก็ยินดีที่จะยอมรับความผิดนั้น"

"..."

"คุณจะยิงผมก็ได้..."

"..."

"แต่ขอร้อง คุณช่วยปล่อยน้องชายผมไป"

"..."

"เขาไม่เกี่ยว"

"พี่ฝัน ไม่เอานะ...อย่าทำพี่ฝัน..."ใต้ฝุ่นร้องไห้สะอื้นเมื่อได้ยินคำพูดของพี่

"งั้นก็ยอมรับแล้วสินะว่าเธอเป็นคนทำ"

"ครับ ผมเป็นคนทำเอง"ก็ในเมื่อปฏิเสธไปก็เชื่อ ก็ยอมรับทันไปซะ อย่างน้อยก็เพื่อใต้ฝุ่น

"ก็ได้ ฉันจะปล่อยน้องเธอไป ส่วนเธอ..."เสียงเข้มดังขึ้นพร้อมปลายกระบอกปืนที่ยกขึ้นจ่อมาทางเขา ตาคู่สวยปิดลงพร้อมหยาดน้ำตาที่มันไหลออกมา

ฝน ขอโทษนะที่ต้องทิ้งไปอีกคน กูรักมึงนะ

ฝุ่น ขอโทษที่พี่ผิดสัญญา ไม่โกรธพี่นะ

พ่อครับ แม่ครับ ผมกำลังจะไปหาแล้ว มารับผมด้วยนะครับ

"อย่านะ!..."

หมับ

ปัง!

!!

แรงโอบกอดทำให้ตาคู่สวยลืมขึ้น ใต้ฝันเบิกตากว้าง หัวใจเต้นรัวบีบรัดจนเจ็บไปทั้งอกเมื่อเห็นใบหน้าของน้องชายที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา มือขาวจับประคองกอดร่างเล็กที่ค่อยๆ ทรุดลงไปช้าๆ

"ฝุ่น!! ใต้ฝุ่น!...ไม่...ไม่..ฝุ่น..."

"พี่...พี่ฝัน...อึก...ฝุ่น..."

"ทำแบบนี้ทำไม...ทำแบบนี้ทำไม!...ไม่...ไม่เอา..."ใต้ฝันครำครวญราวกับคนเสียสติ มือขาวสั่นเทากดบาดแผลของน้อง หยาดเลือดสีเข้มมากมายไหลทะลักออกมาจากบาดแผล

"พี่จะพาไปโรงพยาบาลนะ...ไม่เป็นอะไรนะ...ไม่เป็นไรคนเก่ง..."

"ฝุ่น...เจ็บ..."

"ครับ เดี๋ยวไปหาหมอกันนะ...เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้ว...อดทนนะคนเก่งของพี่...อดทนนะ..."ใต้ฝันพยายามประคองร่างของน้องให้ลุกขึ้น แต่เขาก็อ่อนแรงสุดท้ายก็ล้มพับมาเหมือนเดิม

ภาพของเด็กทั้งสองอยู่ในสายตาของชายฉกรรจ์นับสิบรวมถึงร่างสูงที่เป็นคนลั่นไก ไม่มีใครคิดว่าเด็กน้อยจะวิ่งเข้ามารับกระสุนแทน 

"..อึก...พี่...ฝัน...ฝุ่น....ฮึก...รัก...รักพี่...ฝัน...รัก...ฮึก...พี่ฝน..."

"พี่ก็รักฝุ่น...ฝนก็ฝุ่น...เพราะฉะนั้นอดทนนะ เดี๋ยวพี่พาไปโรงพยาบาลนะ ไปหาคนคุณหมอไง..."

"..."ใต้ฝุ่นนอนนิ่ง มองพี่ชายที่พร่ำพูดเสียงกระท่อนกระแท่นไม่หยุด มือขาวก็ยกขึ้นลูบใบหน้าของน้องชายอย่างแผ่วเบา

"เดือนหน้าก็วันเกิดฝุ่นแล้ว พี่กับฝนก็จะอยู่ฉลองวันเกิดกับฝุ่น เราเกี่ยวกันสัญญากันแล้วไง..."

"ฝุ่นอยากกินเค้กใช้มั้ย พี่จะซื้อให้นะ ในก็จะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ด้วยนะ เอารุ่นที่ฝุ่นอยากได้เลย"

"ดีจัง...อึก...ฝุ่นจะได้...โทรศัพท์...อึก..เครื่องใหม่ด้วย..."เด็กน้อยยิ้ม แต่ก็ช่างเป็นรอยยิ้มที่บางเบาเหลือเกิน

"ฝุ่นต้องอดทนนะ..."

"..."

"เรามาเกี่ยวก้อยกันมั้ย..."

"ฝุ่นต้องสัญญากับพี่นะ...สัญญาว่าฝุ่นจะไม่ทิ้งพวกพี่ไปไหน...สัญญากับพี่เร็ว..."ใต้ฝุ่นยิ้มบางๆ ใบหน้าอ่อนเยาว์ซีดเผือก ตากลมสั่นระริกใกล้ปิดลงเต็มที ก่อนมือเล็กๆ ชูจะนิ้วก้อยออกมาแล้วค่อยๆ เคลื่อนไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของพี่ชาย

"อื้อ..."

ตุบ

มือเล็กล่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงพร้อมเปลือกตาที่ปิดสนิท ใต้ฝันมองน้องชายที่แน่นิ่งไปด้วยหัวใจที่เจ็บปวด

"ฝุ่น! ฝุ่น! ฝุ่น!"

"..."

"ไม่! ฝุ่น! ฝุ่น! ไม่เอาแบบนี้! ฝุ่น!...ใต้ฝุ่น..."กายบางกอดรัดร่างเล็กของน้องชายเอาไว้แน่น ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาไม่หยุด เสียงร้องไห้สะอื้นราวกับจะขาดใจดังกลบไปทั่วบริเวณทำเอาชายฉกรรจ์ที่เห็นภาพคนตายมานับสิบ นับร้อยถึงกับต้องเบือนหน้าหนี

ไม่มีครั้งไหนที่พวกเขาสะเทือนใจได้เท่านี้

"นายครับ..."


เพล้ง!

!

"ฝน..."

"ขอโทษครับ"ใต้ฝนเอ่ยขอโทษออกมาก่อนจะก้มลงเก็บเศษแก้วที่เขาเผลอทำมันตกระหว่างกำลังเก็บโต๊ะของลูกค้าเพิ่งจะลุกออกไป

"เป็นอะไร เหม่อเชียว"

"เปล่าครับ"

"ระวังหน่อย เดี๋ยวก็โดนหักเงินหรอก"

"ครับ"ใต้ฝนรับคำก่อนจะเก็บเศษแก้วใส่ถาดแยกเอาไว้ แล้วหันมาช่วยเพื่อนร่วมงานเก็บโต๊ะต่อ

ครืนน!

"อ้าว มึงจะไปไหนวะหมอ"

"โทษทีวะ กูต้องกลับก่อน"

"เฮ้ย ได้ไงวะ มึงเพิ่งมาเอง"

"พี่กูโทรตาม ไปก่อนนะ"ใต้ฝันลอบมองลูกค้าโต๊ะข้างๆ ก่อนลูกค้าคนหนึ่งที่ใต้ฝนจำได้ว่าเขาเพิ่งจะมาลุกแล้วรีบเร่งเดินออกไปพร้อมกับใบหน้าเคร่งเครียด

"เฮียสิงห์อีกแล้วหรอวะ"

"ก็จะมีใครล่ะ พี่มันก็มีอยู่คนเดียว"

"ฝน อย่าลืมเอาไม้กวาดมากวาดพื้นด้วยนะ"

"ครับพี่"ใต้ฝนเลิกสนใจลูกค้าโต๊ะข้างๆ ก่อนจะหันมาสนใจงานของตัวเองต่อ

---

น้องฝุ่นของพี่ TT
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2020 14:14:07 โดย Chemin »

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พระเอกก็สามพี่น้องเหมือนกันหรือว่ามีแค่สองคนที่เป็นพี่น้อง ไม่รู้ไม่รู้ไม่รู้  :ling1:
น้องใต้ฝุ่นอย่าเป็นอะไรมากเลยนะ  :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
04

ใต้ฝุ่นถูกพาตัวออกไปแล้ว แต่พาไปไหนใต้ฝันรู้ไม่หรอก เพราะตอนนี้เด็กหนุ่มกำลังช็อค นั่งนิ่งไม่ไหวติงปล่อยน้ำตาออกมาไม่หยุด เนื้อตัว เสื้อผ้ามอมแมมเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด

"นาย...นาย...ผมขอ...กลับเลยได้...อึก...มั้ยครับ"ไอ้โก้มันพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบพลางยันตัวลุกขึ้น ใต้ฝันหันมองตามเสียงก่อนจะเหยียดยิ้มออกมา

หมับ

ยังไม่ทันที่คนเป็นนายจะเอ่ยปากอนุญาต ปืนในมือใหญ่ก็ถูกแย่งไปโดยที่เขาไม่ได้ตั้งตัว นัยน์ตาสีนิลหันมองคนที่ยืนถือปืนมือสั่นเทา ใบหน้าซีดเซียว แววตาสั่นระริกสะท้อนแววเจ็บปวด พวกลูกน้องของนายใหญ่ก็มือไวล้วงหยิบปืนจ่อเข้าที่เด็กตัวบาง ไอ้โก้ก็หน้าซีดพลางคลานไปหลบหลังนายใหญ่

ใต้ฝันยืนถือปืนนิ่ง ตากลมมองเหม่อมือตัวเองที่เปรอะเลือดของน้องชาย ความอุ่นยังคงเจือจางอยู่ปลายนิ้วจนกระทั่งน้องแน่นิ่งไป

"ใต้ฝุ่น..."

เพราะเขา

เพราะเขาน้องถึงถูกยิง

ทั้งทีสัญญาแล้วว่าจะดูแลน้องให้ดี

แต่เพราะเขาใต้ฝุ่นถึงต้องเจ็บตัว

เขาเป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่อง

เด็กหนุ่มที่ยังคงสติแตก ยกปืนขึ้นจ่อเข้าขมับ ก้านนิ้วสวยสอดเข้าตรงไกก่อนออกแรงเหนี่ยวพร้อมนัยน์ตาที่ปิดลง 

พี่ขอโทษ 

ปัง!

!

กระสุนพุ่งฝั่งลงบนคานไม้ นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบที่ข้อมือ

ผัวะ!

หลังมือสีแทนฟาดปะทะลงบนซีกแก้มอย่างไม่ปราณีจนกายบางของเด็กหนุ่มล้มไปกับพื้น ปืนในมือถูกแย่งไปก่อนปลายกระบอกปืนจะจรดแนบที่หน้าผากมน

"ถ้าอยากตาย ฉันจะสงเคราะห์ให้"ใต้ฝันเงยหน้าสบเขากับนัยน์ตาสีนิล นัยน์ตาคู่สวยของเด็กหนุ่มไม่มีแววอ้อนวอนขอชีวิต มีเพียงแต่สะท้อนสั่นไหวราวกับโลกทั้งใบถล่มพังทลายไปต่อหน้า

คิดเสียแต่ว่าจะตายตามน้องไป

ให้มีชีวิตอยู่ก็ไม่รู้จะกลับไปสู้หน้าใต้ฝนยังไง

"นายครับ ไอ้กล้าโทรมาแจ้งว่าเด็กคนนั้นถึงมือคุณไทเกอร์แล้วครับ"ลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้นหลังจากได้รับสายจากเพื่อนร่วมงาน

"อืม มึงไปเตรียมรถให้กู"คนเป็นนายใหญ่สั่งพลางลดปืนในมือลง

"ครับนาย"

"ลุก"มือใหญ่คว้าเข้าที่ต้นแขนเล็กพลางกระชากให้จนเด็กหนุ่มต้องลุกขึ้นตามแรง ก่อนจะถูกลากให้เดินออกมาด้านนอก พอดีกับที่รถคันใหญ่เคลื่อนมาจอดอยู่ตรงหน้า

นายใหญ่เปิดประตูก่อนจะผลักเด็กหนุ่มที่ดูจะเหม่อลอยให้เข้าไปด้านในแล้วกายกำยำก็เดินตามขึ้นไป คนขับรถที่รู้หน้าที่ก็เลื่อนรถออกทันทีโดยไม่ต้องให้ผู้เป็นนายออกคำสั่ง



"พี่ฝนจะไปทำงานต่อป่ะเนี่ย"

"ไปดิ"

"มาๆ เดี๋ยวน้องไปส่ง"เด็กสาววางพลางเอี้ยวตัวตบมอเตอร์ไซค์ด้านหลังเชิญชวนรุ่นพี่ตัวบางให้ขึ้นมาซ้อนท้าย ซึ่งใต้ฝนก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเจ้าหล่อนก็มักอาสาไปส่งอยู่แทบทุกวัน

"ขอบคุณนะนุช"

"แค่นี้เอง ไปแล้วนะคะ พรุ่งนี้เจอกัน"นุชว่าก่อนจะบิดมอเตอร์ไซค์ออกห่างไป ใต้ฝนก้มมองเวลาก่อนจะรีบวิ่งเข้าในร้าน วันนี้เขามาสายนิดหน่อยเพราะกว่าจะเคลียร์งานที่ร้านเสร็จก็กินเวลาไปมากโข

พอเข้ามาถึงในครัว เด็กหนุ่มก็รีบเอากระเป๋าไปเก็บแล้วไปประจำตำแหน่งที่มีจาน มีแก้ววางกองพะเนินรอให้ล้างอยู่ 

"เออ ฝน"

"ครับ"

"พี่ยักย์อาการดีขึ้นแล้วนะ อีกวันสองวันก็คงออกจากโรงพยาบาลได้ แต่คงต้องหยุดยาวไปก่อนเพราะขาหัก"

"ครับ"นึกถึงพ่อครัวใหญ่ของร้านที่ถูกรถชนเข้าโรงพยาบาลไปวันก่อนก็อดใจหวิวๆ ไม่ได้ ภาพที่ร่างล่วงกระแทกหน้ารถยังคงติดตาอยู่ แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรถึงชีวิตแต่มันก็แลกกับขาที่หักจนต้องใส่เฝือกและพักงานจนกว่าจะกลับมาเดินได้ปกติ 

ใต้ฝนไม่ได้มีเวลาไปเยี่ยมพ่อครัวใหญ่ของร้านเพราะต้องทำงาน ได้แต่คอยถามอาการจากคนอื่นๆ ที่ไปเยี่ยม

"ว่าแต่แย่เนอะ รถคันที่มาชนน่ะ คนขับแม่งไม่คิดจะโผล่หัวมาเลย ให้แต่ลูกน้องมันเอาเงินมาให้สามแสนแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ"

"พวกคนรวยก็งี้ ขับรถเหี้ยๆ แล้วเอาเงินฟาดหัว"

"ตำรวจแม่งก็ไม่ทำอะไรเลย สงสัยเส้นใหญ่น่าดู"มือก็ล้างจาน หูก็ฟังเสียงของพ่อครัวคนอื่นไปพลาง

ห้าชั่วโมงกับการตั้งหน้าตั้งตาล้างแก้ว ล้านจานใบแล้วใบเล่า จนไฟในร้านปิดลง ใต้ฝนกับพ่อครัวอีกสองคนช่วยกันทำความสะอาดครัวด้วยความรีบเร่ง

"เดี๋ยวฝนเอาขยะไปทิ้งให้นะครับ"

"เออ รีบไปรีบมา"

"ครับๆ"รถเข็นคันเดิมถูกเข็นออกมาจากหลังจากไปตามทางที่คุ้นชิน ผ่านร้านเหล้าข้างๆ ที่เปิดไฟสว่างพร้อมมีเสียงเพลงดังออกมา ที่จอดรถของร้านก็ยังมีรถจอดอยู่อีกหลายคัน

"เฮ้ย เอ็ง..."เสียงเรียกทำให้เด็กหนุ่มชะงัก หันไปตามเสียงก็เห็นพี่หน้าโหดนามว่าโชคกำลังเดินเข้ามาใกล้ เด็กหนุ่มเลิกคิ้วมองนึกถึงความบังเอิญที่ทำให้เจออีกฝ่ายบ่อยเกินไป

"สวัสดีครับพี่"

"เออ แล้วนี่เองทำงานอยู่แถวนี้หรือไง"

"ผมทำงานอยู่ร้านข้างๆ น่ะครับ"เด็กหนุ่มว่าพลางชี้ไปร้านของตัวเองที่อยู่ข้างหน้า พี่โชคแกก็พยักหน้ารับพลางยกบุหรี่ขึ้นสูบ
 
"นี่เอ็งทำงานวันละกี่งานว่ะ "

"สามครับ"ตอบไปยิ้มไปจนคนฟังขมวดคิ้ว

"ทำอะไรเยอะแยะ"

"ไม่ทำแล้วจะเอาเงินไหนใช้หนี้เจ้านายพี่ล่ะ"

"เออว่ะ"ชายหนุ่มพยักหน้าพลางตอบกลับเหมือนเพิ่งนึกได้

"แล้วนี่พี่มาเที่ยวหรอ"

"เปล่า กูมารอรับนาย นายข้าเขามาวันเกิดเพื่อน"

"อ่อ..."เด็กหนุ่มพยักหน้ารับพลางชะเง้อมองเข้าไปในร้านที่ยังคงดูคึกคัก เปิดเพลงดังลั่นมาถึงข้างนอก

"ไอ้โชค นายออกมาแล้วเว้ย"

"เออๆ ข้าไปล่ะ"

"ครับ"ใต้ฝนรับคำก่อนจะยกมือไหว้ อีกคนก็พยักหน้ารับพลางเดินไปหาเจ้านายของตัวเองที่กำลังเดินออกมาโดยมีหญิงสาวเดินกอดแขนอยู่เคียงข้าง


ใต้ฝนกลับถึงหอพักประมาณตีสามกว่าๆ โดยที่พ่อครัวคนหนึ่งอาสาขับรถมาส่ง เด็กหนุ่มเดินไปหาวไปอีกมือก็ล้วงหยิบกุญแจไป แต่พอเดินขึ้นบันไดมาถึงชั้นของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าประตูห้องของเขาเปิดค้างอยู่

ใต้ฝนรีบวิ่งไปดู ห้องสีเหลี่ยมขนาดไม่กี่ตารางเมตรเปิดไฟสว่างจ้า ข้าวของกระจัดกระจายเละเทะ แถมน้องชายที่ควรจะอยู่กลับหายตัวไป เด็กหนุ่มกระวนกระวายรีบหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นมิสคอลจากร้านสะดวกซื้อที่เขาทำงานโทรเข้ามาหลายสิบสายเลยจำต้องโทรกลับไปก่อนเพื่อมีธุระด่วน


"พี่อั้มครับ ฝนเอง"

(ฝนหรอ เออ ทำไมเพิ่งโทรมา พี่โทรไปหาตั้งนานแล้ว)

"ขอโทษครับ พอดีฝนไม่ได้จับโทรศัพท์เลย ว่าแต่มีอะไรหรอครับ"

(พี่จะโทรมาถามว่าฝันมันเป็นอะไร ทำไมมันไม่มาทำงาน พี่โทรหามันก็ไม่รับ)

"ฝันไม่ได้ไปทำงานหรอครับ"

(ก็ใช่น่ะสิ เนี่ย พี่อยู่กับก้องแค่สองคนเอง)

"อ่า ฝนก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แค่นี้ก่อนนะพี่อั้ม"ใต้ฝนรีบตัดสาย ความร้อนรนเข้าจู่โจมเมื่อทั้งแฝดและน้องชายหายตัวไป ไหนจะสภาพห้องที่เละราวกับพายุลง มือขาวรีบกดโทรหาเบอร์ของแฝดตัวเองทันที

ครืนนนน ครืนนนน

แต่พอกดโทรออกโทรศัพท์ของใต้ฝันก็ที่วางอยู่บนเตียงก็สั่นครืนขึ้นมา ใต้ฝนเดินไปหยิบโทรศัพท์ของแฝดผู้พี่ก่อนจะก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงอย่างหมดแรง

"หายไปไหนกัน..."





"ถึงแล้วครับนาย"ประตูถูกเปิดออกก่อนชายร่างสูงจะก้าวลงจากรถ เขาหันมองเด็กหนุ่มที่เอาแต่นั่งเหม่อก่อนจะดึงตัวให้ลงมาจากรถแล้วออกแรงกระชากให้เด็กหนุ่มเดินตามโดยไม่พูดอะไร

ห้องแถวสามชั้นธรรมดาเปิดไฟสว่างจ้าต้อนรับแขกที่มาใหม่ โดยมีผู้ชายคนหนึ่งยืนรออยู่ด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม

"กำลังผ่าเอากระสุนออกครับ"คนเป็นนายไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเดินผ่านไปยังลิฟต์ที่อยู่ด้านในไม่ลืมที่จะออกแรงดึงเด็กตัวบางให้เดินตามมาด้วย


ติ๊ง!

พอประตูลิฟต์เปิดออกร่างสูงกำยำก็ก้าวเดินออกไป ยกเว้นแต่เด็กหนุ่มที่ยืนนิ่งมองภาพตรงหน้าด้วยความงงงวยหลังได้สติ ภาพตรงหน้าที่ดูคล้ายส่วนหนึ่งในโรงพยาบาล พื้นหินอ่อนสีขาว ผนังสีขาว มีห้องหนึ่งห้องโดยด้านบนกรอบประตูนั้นมีป้ายไฟที่เปิดไฟสีแดงเอาไว้

"...."

"ที่นี่มันที่ไหน"

"..."ไม่มีคำตอบจากคนถูกถาม กายสูงเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ประตู ไม่พูดไม่จานอกจากนั่งกอดอกนิ่งๆ ไม่ได้สนใจเด็กหนุ่มที่กำลังงงอยู่

ผัวะ

บานประตูกระจนขุ่นถูกเปิดออกอย่างแรง ก่อนจะมีหญิงสาวในสุดคลุมสีเขียวเปื้อนออกมาท่าทางรีบเร่ง เธอวิ่งผ่านเด็กหนุ่มไปที่ลิฟต์ก่อนจะรีบเดินเข้าไปเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกกว้าง และไม่นานหลังจากนั้นประตูลิฟต์ก็ถูกเปิดอีกครั้งก่อนที่หญิงสาวคนเดิมจะเดินออกมาพร้อมถือถุงใสๆ ที่บรรจุน้ำสีแดงเข้มคล้ายเลือดเอาไว้ เด็กหนุ่มมองตามก่อนตาคู่สวยจะเบิกกว้างเมื่อความคิดหนึ่งมันแว่บขึ้นมา

"ฝุ่น...ฝุ่นอยู่ในนั้นหรอ"พอคิดได้แบบนั้นก็สาวเท้าเดินตามหญิงสาวไป จังหวะที่เธอเปิดประตูนัยน์ตาคู่สวยก็มองเข้าไปข้างใน

"ฝุ่น...ฝุ่น..."ร่างเด็กน้อยที่นอนไร้สติอยู่บนเตียงผ่าตัด มีสายระโยงระยาง มีท่อช่วยหายใจสอดค้างอยู่ในปากและคนเกือบสิบคนที่ยืนล้อมเตียง

"เข้าไม่ได้นะคะ ตอนนี้คุณหมอกำลังผ่าตัดอยู่"หญิงสาวคนนั้นว่าก่อนจะดันประตูปิดพร้อมลงกลอนเมื่อใต้ฝันทำท่าจะเปิดเข้าไป น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วไหลทะลักออกมาอีกรอบ ใจหัวที่มันร้าวรานกับเต้นรัวขึ้นอย่างมีความหวัง

ใต้ฝันไม่รู้เลยว่าตอนนี้มันผ่านมากี่ชั่วโมงแล้ว เด็กหนุ่มไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้พระอาทิตย์มันขึ้นตั้งฉากกับพื้นโลกไปแล้ว เพราะเขาเอาแต่ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าบานประตู ได้แต่หวังให้มันเปิดออกเร็วๆ

กริ๊ก

เสียงปลดล็อคดังขึ้นก่อนบานประตูจะถูกเปิดออกพร้อมผู้ชายตัวสูงในชุดคลุมสีเขียวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดเดินออกมา มือใหญ่ดึงแมสที่สวมอยู่ออกก่อนจะหันมาสบตากับใต้ฝัน

"เป็นพี่ชายสินะ"ใต้ฝันพยักหน้ารัวๆ ก่อนรอยยิ้มบางๆ จะปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ดูใจดีของผู้ชายตรงหน้า

"หมอผ่าเอากระสุนออกให้แล้ว โชคดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญแต่น้องเธอก็เสียเลือดไปไม่น้อย..."

"แต่ตอนนี้ก็พ้นขีดอันตรายแล้ว"

"จ..จริงหรอครับ"

"จริงสิ หมอจะโกหกคุณทำไม"

"ผม...ผมขอเข้าไปหาน้องได้มั้ย"

"อย่าเพิ่งเลย วันนี้น้องเธอเหนื่อยมากแล้ว ให้เขาได้พักสักหน่อยแล้วกัน"

"อ่า หรอครับ..."

"ดีแล้วครับ...ดีแล้ว..."กาบบางโซเซถอยหลังไปจนชนขกับกายสีแทนที่เดินเข้ามาก่อนสติทั้งหมดจะดับวูบไปเสียดื้อๆ

หมับ!

คนด้านหลังคว้าเข้าที่แขนเล็ก อีกมือก็โอบประคองเอวบางเอาไว้เมื่อเด็กหนุ่มหมดสติไปกลางอากาศ เพราะมองอยู่ก่อนแล้วถึงได้เห็นว่าร่างบางๆ นั้นโงนเงนมากแค่ไหนแต่ก็ยังฝืนตัวเองเอาไว้

"หวังว่าพี่จะมีคำอธิบายเรื่องนี้นะครับ"



ครืนนนน ครืนนนน

!

"ฝัน..มึงอยู่ไหน..."

(ฝันอะไรกัน นี่พี่อรเอง)พอได้ยินเสียงปลายสายที่ตอบกับมารอยยิ้มบนดวงหน้าก็หายไปทันที

"พี่อรหรอครับ"

(ก็ใช่น่ะสิ แล้วนี่เป็นอะไรทำไมไม่มาทำงาน)

(เมื่อคืนฝันมันก็หยุด เช้านี่เราก็จะหยุดด้วยหรอ มีอะไรหรือเปล่า)

"พอดีมีเรื่องนิดหน่อยครับ"

(เฮ้อ เออๆ ที่หลังจะหยุดก็โทรบอกกันบ้าง ไม่ใช่หายกันไปแบบนี้ เข้าใจมั้ย)

"ครับ ขอโทษครับ"

หลังจากวางสาย ใต้ฝนก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนจะมาเก็บห้องให้กลับไปสภาพเดิม กว่าจะเสร็จก็ล่อไปเกือบสิบโมง

"มิว"

"สวัสดีครับ"

"ได้ติดต่อฝุ่นบ้างมั้ย"

"ฝุ่นหรอครับ ไม่นะครับเจอกันแค่เมื่อวานตอนฝุ่นกับพี่ฝันมาขอฝาขวดจะเอาไปเป็นส่วนลดที่สวนสนุกน่ะครับ"

"อ่า งั้นหรอ"

"มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"นิดหน่อยน่ะ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ"ใต้ฝนว่าก่อนจะเดินออกมา วันนี้เขากะจะลองเดินหาตามโรงพักหรือโรงพยาบาลใกล้ๆ ดูก่อน ซึ่งก่อนออกมาก็ลองไปถามเจ้าของหอพักแล้วแต่เจ๊แกบอกไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย แถมพอจะขอดูกล้องวงจรปิดมันก็ดันมาเสียยกแผง ถามคนข้างห้องก็ไม่มีใครรู้เรื่อง

ทั้งๆ ที่ห้องเละขนาดนั้นจะไม่มีใครรู้ ใครเห็นอะไรเลยหรือไง

ทุกคนเหมือนจงใจกันปิดหูปิดตาเสียอย่างงั้น



ปัง!

เสียงลั่นไกดังลั่นอยู่ในห้วงภวังค์ปลุกให้ใต้ฝันสะดุ้งตื่นในช่วงสายของเข้าวันถัดมา กายบางรีบลุกพรวดก่อนจะหน้ามืดจนต้องล้มตัวนอนไปอีกรอบ

เด็กหนุ่มนอนนิ่งหลับตาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่อีกรอบ ตากลมกวาดมองรอบตัวช้าๆ พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ห้องที่คล้ายห้องพักในโรงพยาบาล เหลือบมองที่แขนก็เห็นว่ามีเข็มเจาะปิดเทปแปะเอาไว้อยู่มองไล่สายใสๆ ก็พบว่าเป็นขวดน้ำเกลือที่พร่องลงเกือบครึ่ง

กายบางค่อยๆ ขยับลุกขึ้นนั่งช้าๆ แล้วก้มมองตัวเองที่อยู่ชุดคนไข้สีฟ้าอ่อน เด็กหนุ่มขยับลงจากเตียงก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อฝ่าเท้าสัมผัสความเย็นกับพื้นหินอ่อน ตากลมกวาดสายตามองหา รองเท้าแต่ไม่เห็นเลยขยับเดินลากเสาน้ำเกลือมันทั้งที่เท้าเปลือยเปล่า

แก๊ก

ประตูห้องเปิดออก แต่ไม่ทันจะได้เดินออกไปผู้ชายตัวใหญ่ ท่าทางน่ากลัวสองคนก็เดินเข้ามาขวาง

"จะไปไหน"

"นายสั่งไม่ให้มึงออกจากห้อง กลับเข้าไปซะ"

"แล้วน้องผมล่ะ"

"หมอยังไม่ให้เยี่ยม กลับเข้าไปซะ"ไม่ว่าเปล่าชายตรงหน้าก็ใช้มือผลักเด็กหนุ่มให้กลับเข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตูลงทันที ใต้ฝันมองด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนจะยอมเดินกลับไปที่เตียงอย่างช่วยไม่ได้

เด็กหนุ่มนั่งๆ นอนๆ สักพักก็มีพยาบาลเข้ามาเข้าเช็คอาการรวมถึงนำอาหารมาให้ เลยถือโอกาสสอบถามข้อมูลคร่าวๆ ได้ความว่าที่นี่เป็นคลินิคของคุณหมอไทเกอร์ ชั้นหนึ่งจะเปิดตรวจคนไข้ปกติ แต่ชั้นสอง ชั้นสามจะรับเฉพาะแค่คนไข้วีไอพีเท่านั้น แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามว่าคนไข้วีไอพีนั้นคืออะไร พยาบาลสาวก็ออกไปเสียก่อน

เด็กหนุ่มนอนมองท้องฟ้าที่อึมครึมไม่สดใส ไม่นานสายฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา ใต้ฝันเบิกตากว้างเมื่อนึกถึงใต้ฝนแฝดผู้น้องของตัวเองที่ปานนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง เขาขาดการติดต่อกับใต้ฝนไปวันกว่าแล้ว

แก๊ก

เหมือนภาพเล่นซ้ำเมื่อประตูถูกเปิดออก ชายสองคนก็ขยับมาขวางเอาไว้แทบจะทันที เด็กหนุ่มเงยหน้ามองยักษ์เฝ้าประตูก่อนถอนหายใจออกมา

"ผมขอยื่มโทรศัพท์หน่อยได้มั้ย"

"ไม่ได้ กลับเข้าไปซะ"

"ผมขอยืมแปบเดียวเองนะครับ ขอโทรบอกน้องผมหน่อย ปานนี้เขาคงเป็นห่วงแย่แล้ว"สองคนนั้นมองหน้ากันก่อนที่อีกคนจะหยิบโทรศัพท์ยื่นมาให้

"ถ้าคิดจะตุติอะไรกูตบคว่ำแน่"ไม่วายขู่เสียงต่ำ แต่ใต้ฝันไม่ได้สนใจ เขารีบกดหาเบอร์ฝาแฝดของตัวเองทันที

(สวัสดีครับ)ปลายสายรับสายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ ฟังดูเหมือนคนอ่อนแรง

"ฝน ฝน กูเองนะ"

(ฝัน! ฝัน...มึงอยู่ไหน แล้วฝุ่นล่ะ ฝุ่นอยู่ไหน พวกมึงอยู่ไหน...ฮึก ไอ้เหี้ย ทำไมอยู่ๆ ก็หายไป...)

"กูขอโทษนะ แต่มันมีเรื่องนิดหน่อย ฝุ่นก็อยู่กับกูนี่แหละ น้อง...น้องไม่สบายน่ะ..."

(ฝุ่นเป็นอะไร แล้วพวกมึงอยู่ไหน รีบบอกมาเลยนะ กูจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้เลย)

"กูอยู่คลินิค..."

พึบ

"พอแล้ว"โทรศัพท์ในมือถูกแย่งไป ใต้ฝันทำท่าจะแย่งโทนคืนมาก็ถูกยักษ์เฝ้าประตูผลักให้พ้นกรอบประตูก่อนปิดประตูใส่หน้าอีกครั้ง ใต้ฝันถอนหายใจพลางใช้มือที่ไปตีบานประตูระบายความหงุดหงิดก่อนจะเดินไปนั่งบนเตียง

ก๊อกๆๆ

"หมอขอเข้าไปหน่อยนะครับ"เสียงนุ่มๆ ดังขึ้นก่อนคุณหมอท่าทางใจดีจะเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าหล่อๆ

"เป็นยังไงบ้างครับ"

"ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้เข้าไปหาน้องหรอครับคุณหมอ"

"เดี๋ยวหมอขอเข้าไปดูอาการเขาก่อนนะ ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหมอจะให้เธอเข้าไปหาน้อง"

"ตอนนี้ไม่ได้หรอครับ ผมอยากเจอน้องแล้ว"คุณหมอยิ้ม จับจ้องมองเด็กหนุ่มบนเตียงด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนมือใหญ่ยกขึ้นวางบนกลุ่มผมนุ่มๆ ของคนเด็กกว่าเอาไว้

"รอหน่อยนะครับ"

"เอาแบบนั้นก็ได้ครับ"เป็นอีกครั้งที่ใต้ฝันไม่กล้าขัดคนตรงหน้าคงเพราะความใจดี ความอ่อนโยนและความน่าเชื่อถือของคนเป็นหมอทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเกรงใจที่จะดื้อรั้น

ก๊อกๆๆ

"คุณหมอคะ ยาค่ะ"พยาบาลสาวเดินเข้ามาพร้อมถือถุงยาใสๆ ขนาดเล็กกว่าถุงน้ำเกลือประมาณสามส่วนสี่ ใต้ฝันมองตามเมื่อคุณพยาบาลเอาถุงยานั้นไปห้อยไว้ที่เสาน้ำเกลือก่อนจะทำการต่อท่อใส่ๆ ให้ยามันไหลรวมมากับน้ำเกลือไหลเข้ามาในตัวเขา

"ยาบำรุงน่ะครับ ร่างกายเธออ่อนเพลียมาก หมอเลยให้วิตามินน่ะ บำรุงร่างกาย"

"อ่า..."

"..."

"ขอบคุณนะครับ"

"แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยน้องของผมเอาไว้"

"เธอคงต้องขอบคุณพี่ชายฉัน"

"..."

"เขาเป็นคนตามให้ฉันมา"

"พี่ชายคุณ...?"คุณหมอระบายยิ้มสีหน้าใจดีมีแววลำบากใจที่จะพูด

"ก็คนที่ยิงน้องเธอนั้นแหละ"

"..."

"ฉันขอโทษแทนเขาด้วยนะ"

"ผม...อ่า ครับ"เด็กหนุ่มดูสับสนจนคนโตกว่าสัมผัสได้

"หมอขอตัวก่อนนะครับ ส่วนเธอก็นอนพักผ่อนไปก่อน ถ้าหมอตรวจน้องเธอแล้วยังไงจะให้พยาบาลเข้ามาแจ้ง"

"ครับ"คุณหมอยิ้มรับก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยมีสายตาของเด็กหนุ่มมองตามจนบานประตูปิดลง ใต้ฝันถอนหายใจก่อนจะทิ้งตัวลงนอน เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณหมอใจดีจะเป็นน้องชายของคนๆ นั้น คนที่ดูน่ากลัว เจ้าของแววตาสีนิลทรงอำนาจดุดัน คนที่เอาปืนจ่อหัวเขาด้วยสีหน้านิ่งเรียบ



ผัวะ! ผัวะ ตุบ ผัวะ

"นาย...อึก...ผม...ขอโทษ...แค่กๆๆ...อึก"ร่างเด็กหนุ่มสะบัดสะบอมเลือดอาบชโลม ตะเกียตะกายเข้ามาจับเท้าคนเป็นนายใหญ่ที่ยืนมองมันด้วยสายตานิ่งๆ

"ผม...ผม...อึก...ผม..ไม่ได้ตั้งใจ..."

"หึ มึงคิดว่ากูเชื่อคำพูดของมึงตั้งแต่แรกหรือไง"เสียงเข้มดังขึ้น พร้อมใช้เท้าเตะร่างของคนที่มันคิดทรยศเขาจนมันนอนหงายกระอักเลือด

"นาย..."

"ถ้ากูเชื่อคำพูดไอ้ขี้ยาแบบมึงกูไม่อยู่มาได้ขนาดนี้หรอก"กายสูงว่าพลางยกเท้าขึ้นเหยียบบนอกของไอ้โก้

"อึก..ผม.."

"แต่มึงก็ทำให้กูได้เห็นว่ามึงมันก็แค่ไอ้สวะขี้ยาคนหนึ่งเท่านั้น..."

"มึงก็หักหลังกู..."

"มึงหักหลังเพื่อนของมึง...โยนความผิดให้มัน..."

"..."

"กูให้โอกาสมึงสารภาพ แต่มึงก็โยนมันทิ้ง"

"...ผม...ผมขอโทษ..."

"มึงทำให้กูเห็นว่าเด็กอายุสิบห้ามันยังใจกล้ามากกว่าเศษสวะแบบมึงมากแค่ไหน"

"กูจะบอกอะไรมึงให้นะไอ้โก้ กูไม่เคยเล็งปืนต่ำกว่าหัวสำหรับคนที่คิดทรยศกู..."

"นาย..."

ปัง!

เสียงไกปืนดังลั่นก่อนกระสุนปืนจะพุ่งเจาะเข้าที่หน้าผากของคนทรยศ ชายหนุ่มร่างสูงกำยำมองร่างไร้วิญญาณใต้ฝ่าด้วยสายตาและใบหน้าที่เรียบสนิทไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

"จัดการศพมันซะ"

"ครับนาย"ลูกน้องข้างตัวรับคำพลางก้มหน้าต่ำเมื่อผู้เป็นนายเดินออกไป ประตูรถสีดำถูกเปิดออกกว้างเมื่อกายสูงเดินเข้าไปใกล้

"ไปคลินิคไอ้เกอร์"

"ครับ"



"ปล่อย..."

"อย่าดิ้นนะคะ เดี๋ยวแผลจะฉีก..."

"ใครก็ได้ไปตามหมอมาที!"

เสียงดังโวยวายปลุกใต้ฝันให้ลืมตาตื่นขึ้น เด็กหนุ่มนอนตั้งสติฟังเสียงนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงของน้องชายดังขึ้นมา

"ปล่อย...พี่ฝัน..จะไปหาพี่..."กายบางผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมกระชากสายน้ำเกลือออกทันที ใต้ฝันกระชากบานประตูออก ตอนนี้ไม่มียักษ์เฝ้าหน้าประตูแล้ว แต่ห้องข้างๆ ที่เปิดประตูเอาไว้พร้อมเสียงโวยวายทำให้พาฝันต้องรับเดินเข้าไป

"มาช่วยจับหน่อย แผลคนไข้ฉีกแล้ว..."ชายฉกรรจ์สองคนรีบวิ่งเข้าไปจับกายเล็กบนเตียง นั้นยิ่งทำให้เด็กน้อยหวาดกลัว อาการดิ้นรนขัดขืนแปลงเปลี่ยนเป็นหอบหายใจถี่รัว

"ฝุ่น! ถอยออกไปให้หมด!"ใต้ฝันตะโกนลั่นวิ่งเข้าไปผลักชายตัวใหญ่ที่จับตรึงกายของน้องชายเอาไว้ พอคนพวกนั้นถอยห่างออกไป คนพี่ก็รีบรวบร่างของน้องที่หอบหายใจถี่รัวเข้ามาก่อนเข้ามากอด

"พี่...พี่ฝัน.."

"ครับ พี่เอง พี่ฝันเองครับ"

"พี่อยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะคนเก่ง"เด็กน้องพยักหน้าพลางจับแขนพี่ชายเอาไว้แน่น ใบหน้าอ่อนวัยเปรอะเปื้อนน้ำตาที่ทะลักไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย

"ไม่ต้องกลัวนะ ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่จะไม่ให้ใครมาทำอะไรฝุ่นแล้ว..."มือบางลูบกลุ่มผมของน้องชายพร้อมกับพยาบาลที่กดปุ่มฉุกเฉินขอยาพ่นระงับอาการหอบ ไม่นานทั้งคุณหมอและพยาบาลก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา

"ยาค่ะ"เธอยื่นหลอดยาพ่นให้ใต้ฝัน เด็กหนุ่มรับมาก่อนจะพยุงตัวน้องชายขึ้นแล้วไปนั่งซ้อนหลังให้น้องพิงอกตัวเองไว้แล้วจัดการพ่นยาให้น้องด้วยความชำนาญ ระหว่างรอน้องอาการสงบลงก็พูดปลอบเสียงแผ่วอย่างอ่อนโยนแม้แขนขาวๆ จะถูกเล็บของน้องจิกแน่นจนเลือดซิบ

"หลบหมอหน่อยนะครับ เดี๋ยวหมอขอดูแผลหน่อย"เมื่ออาการหอบสงบลงคุณหมอก็เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเลือดที่ซึมเสื้อคนไข้ออกมาเป็นวงกว้าง เด็กน้อยที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้ารัวจิกแขนพี่ชายแน่นจนใต้ฝันต้องกอดน้องเอาไว้

"ถ้าผมกอดไว้แบบนี้ คุณหมอจะยังพอดูแผลให้น้องผมได้มั้ยครับ"

"ครับ"คุณหมอตอบ ไม่บังคับให้คนพี่ปล่อยเพราะดูแล้วเจ้าตัวเล็กคงไม่ยอม คุณหมอไล่ให้เหล่าชายฉกรรจ์ออกไปที่ดูเหมือนคนเหล่านั้นจะทำให้เด็กน้อยกลัว คุณหมอตรวจแผลอยู่สักพักก็เปลี่ยนมือกับพยาบาลให้มาทำการล้างแผลให้ จนเสร็จก็มีพยาบาลยกอาหาร ยกยาขึ้นมาให้ ใต้ฝันก็ดูแลป้อนข้าวน้องไม่ห่าง

"เจ็บมั้ย"ใต้ฝันถามน้องชายท่นอนนิ่งๆ ไม่กล้าขยับตัวอยู่บนเตียง หลังถูกขู่ว่าถ้าขยับตัวมากๆ อาจจะต้องเย็บแผลใหม่

"เจ็บ"

"พี่ขอโทษนะ เพราะพี่ ฝุ่นถึงต้องมาเจ็บตัวแบบนี้"

"คนนั้น เขาเป็นใครหรอ ทำไมเขาน่ากลัว..."เด็กน้อยถามพลางนึกถึงใครอีกคนที่ภาพยังคงฝั่งแน่นชัดเจนอยู่ในหัวเขา ตัวสูงใหญ่ ผิวแทน หน้าดุ ตาดุไม่น่าคบเลยสักนิด 

"เขาคงเป็นเจ้านายของไอ้โก้"

"เจ้านาย?"เด็กน้องถามพลางทำหน้างง ใต้ฝันคลียิ้มบางๆ ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้น้องฟัง ใต้ฝุ่นมีสีหน้าไม่สู้ดี เมื่อรู้สาเหตุที่ทำให้พี่ชายต้องเลือกทำงานอันตรายแบบนี้ 

"ฝุ่นขอโทษ ถ้าฝุ่นไม่ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมพี่ฝันก็คงไม่ต้องทำงานน่ากลัวแบบนี้"

"ไม่หรอก ไม่ใช่ความผิดฝุ่นเลย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะพี่เองที่เห็นว่ามันได้เงินง่ายๆ ก็ยอมไปทำตามคำชักชวนของไอ้โก้ แต่พี่ไม่คิดเลยว่ามันจะทำกับพี่แบบนี้"

"แล้วพี่ฝนล่ะครับ ฝุ่นอยากัจอพี่ฝน"

"พี่ก็อยากเจอฝน แต่คนพวกนั้นไม่ยอมให้พี่บอกฝนว่าเราอยู่ไหน"

"ทำไมล่ะครับ"

"พี่ก็ไม่รู้"บา


แก๊ก

บานประตูห้องพักคนไข้ถูกเปิดออกเมื่อเข็มนาฬิกาเดินเจ้าสู้วันใหม่ กายสีแทน สูงใหญ่กำยำเดินเข้ามาพร้อมลูกน้องคนสนิท นัยน์ตาสีนิลจับจ้องมองร่างของเด็กน้อยคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียง ส่วนอีกคนก็นั่งฟุบหลับอยู่ข้างเตียง สองมือขาวๆ จับกันไว้แน่นแม้ยามหลับไกล แสงจันทร์สาดส่องกระทบเสี้ยวหน้าอ่อนเยาว์ของใต้ฝุ่นที่ดูคล้ายจะไม่ค่อยสบายตัวเพราะคิ้วสวยนั่นขมวดมุ่นเล็กน้อย

ฟุบ

"หายไวๆ"มือใหญ่วางลงบนกลุ่มผมของใต้ฝุ่นก่อนจะลูบศีรษะเล็กเบาๆ ตาคมที่เคยดุดันทรงอำนาจสะท้อนแววเอ็นดู เขายังจำความรู้สึกตอนที่เจ้าเด็กน้อยวิ่งมารับกระสุนแทนพี่ชายได้ดี ไหนจะเสียงร้องไห้ราวกับจะขาดใจของคนพี่ก็ยังฝั่งแน่นอยู่ในโสตประสาทของเขา มันน่าสะเทือนใจจนมือที่ลั่นไกฆ่าคนมานับไม่ถ้วนถึงกับสั่นไหว

"อื้อ..."เด็กน้องส่งเสียงครางอื้ออึ้งในลำคอ ก่อนนัยน์ตากลมโตจะลืมขึ้น ลูกแก้วใสสบประสานกับนัยน์ตาดุๆ ของอีกคนท่ามกลางความมืด

"คุณ...คน..คนน่ากลัว..."เสียงแหบๆ ดังขึ้นเรียกรอยยิ้มบางๆ จากเจ้าของฉายา

"นอนต่อเถอะ ฉันไม่รบกวนแล้ว"ชายหนุ่มว่าแล้วขยับเดินออกมาแต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกมือเล็กๆ คว้าชายเสื้อเขาเอาไว้ 

"ไม่ให้ทำพี่ฝันนะ พี่ฝันไม่ผิด พี่ฝันไม่ได้ทำ..."

"อืม"

"สัญญาก่อน ห้ามทำร้ายพี่ฝันนะ"เจ้าเด็กน้อยว่าพลางชูนิ้วก้อยขึ้นมา ชายหนุ่มมองการกระทำของร่างบนเตียงนิ่งๆ พอเขาไม่ยอมยกไปเกี่ยวก้อยทำสัญญา มือขายก็กระตุกชายเสื้อเขาไม่หยุด

"สัญญามานะ"

"เฮ้อ ก็ได้  ฉันสัญญา"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นก่อนจะชูนิ้วก้อยออกมาแล้วเอื้อมไปทำสัญญากับเด็กน้อย สองนิ้วต่างสี ต่างไซส์เกี่ยวกันแน่นจนกายสูงได้ยินเสียงหลุดขำจากลูกน้องคนสนิท ตาคมตวัดไปมองจนอีกฝ่ายชะงักไป

"ขอโทษครับนาย"

"สัญญาแล้ว ห้ามทำ..."

"รู้แล้ว นอนซะ"

"อื้อ"นิ้วเล็กถอนออกไปก่อนดวงตาคู่สวยจะปิดลง ลมหายใจเข้าออกเสมอทำให้กายสูงต้องถอนหายใจออกมาก่อนจะเดืนออกจากห้องไปเหลือเพียงน้องพี่น้องที่หลับไหลอยู่ในห้วงของความฝัน



----

ชอบไม่ชอบคอมเม้นบอกกันได้นะคะ

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณสิงห์โหดมาก แต่ก็นะโก้หักหลังเองอ่ะแต่ก่อนหน้ามีเรื่องอะไรหรือเปล่านางถึงทำแบบนี้  :katai1:
อวยไม่ถูกว่าใครจะคู่กับใคร  :hao7:

ออฟไลน์ KhunYingJung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชอบๆๆๆ จะตามอ่านนะ แต่ไม่รู้ว่ากดเป็ด+1 ตรงไหน มือใหม่ก็แบบนี้

ออฟไลน์ piakunaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
สิงห์​ -​ ฝุ่น​ หรือ​ สิงห์​ -​ ฝัน​
เกอร์​- ฝุ่น​ รือ  เกอร์​ -​ ฝัน
มองไม่ออกจริงๆค่ะ​ 555
แต่ของคู่ฝนนี้นน่าจะลงตัวแล้วใช่มั้ย​ นัยน์ตา​สีชา​ -​ ฝัน
เป็น​กำลัง​ใจ​ให้​นักเขียน​นะคะ​ ​สู้​ๆ​นะคะ​นักเขียน​

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1



สองอาทิตย์ต่อมา

"ติดต่อไอ้ฝันมันไม่ได้เลยหรอ"

"ไม่อ่ะ"

"แล้วมึงไปตามหาที่ไหนบ้างแล้ว"

"กูไปมาหมดทุกทีแล้วเพียว โรงพยาบาล โรงพัก ตามมูลนิธิ...ศพไร้ญาติ แต่ไม่เจอเลย"

"..."

"กูไม่อยากอยู่คนเดียวแบบนี้..."เสียงเครือสะอื้นดังขึ้นพร้อมใบหน้าน่ารักที่ซบลงกับเข่า โดยมีเพื่อนสนิมสมัยเรียนมัธยมนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง 'เพียว' หันมองเพื่อนก่อนจะวาดแขนโอบไหล่เล็กๆ ที่สั่นเทาพลางลูบเบาๆ อย่างปลอบประโลม

"กูกลัว...กูกลัวว่ากูจะไม่ได้เจอพวกมันอีก"

"ฝันกับฝุ่นเป็นครอบครัวที่กูเหลืออยู่ ถ้ากูต้องเสียพวกมัน...กูก็ไม่เหลือใครแล้ว..."

"..."

"มึงอย่าคิดอะไรแบบนั้นดิ ไอ้ฝันกับน้องต้องไม่เป็นอะไร มึงเชื่อกูสิ"

"มึงไม่ต้องคิดอะไรมาก มึงทำงานของมึงไปส่วนไอ้ฝันกับฝุ่นกูจะลองช่วยหาอีกแรงแล้วกัน"

"ขอบคุณนะมึง"

"ด้วยความยินดีครับเพื่อน ป่ะ ลุก ไหนมึงบอกมีนัดตอนทุ่มนึงไม่ใบ่หรือไง นี่มันใกล้ถึงเวลาแล้ว"ใต้ฝนเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะลุกขึ้นตามแรงดึงของเพื่อนสนิท

"เดี๋ยวให้พี่ทีไปส่ง"กายบางเดินตามแรงฉุดดึงของเพื่อนไปที่รถซีดานที่จอดอยู่ไม่ไกล ใกล้ๆ มีผู้ชายหน้าตาคุ้นเคยอย่าพี่ทีที่เป็นทั้งรุ่นพี่ของใต้ฝนและแฟนของเพื่อนสนิทยืนสูบบุหรี่อยู่

"ไปส่งฝนมันหน่อยสิ"

"ได้สิ ฝน...ไม่ต้องห่วงนะ พี่กับเพียวจะช่วยตามหาฝันกับน้องฝุ่นเอง"

"ขอบคุณนะพี่ที"

"ไม่ต้องคิดมากรู้มั้ย"

"ครับ ฝนจะพยายาม"

"ดีแล้ว แล้วจะให้พี่ไปส่งที่ไหน"

"โรงแรมอัยราครับ"หลังจากรู้จุดหมายที่จะไปทีก็จะขึ้นไปประจำที่คนขับตามด้วยเพียวที่แทรกตัวมานั่งเบาะหลังพร้อมดึงเพื่อนมานั่งข้างๆ

ใช้เวลาไม่นานกล้าก็พาใต้ฝนมาถึงจุดหมายก่อนเวลานัดไม่กี่นาที เด็กหนุ่มเอ่ยลาเพื่อนสนิทกับรุ่นพี่และยืนรอส่งจนรถคันสวยจะพุ่งทยานหายไปจากสายตา

"เฮ้อ"ใต้ฝนถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปในโรงแรมหรูระดับห้าดาว พลางกระชับเป้บนไหล่ ในหัวก็คิดหาข้อแก้ตัวกับพี่หน้าโหดเพราะเงินที่เอามาจ่ายของเดือนนี้มันไม่ครบสี่หมื่น เนื่องจากใต้ฝันหายตัวไปรวมสองอาทิตย์นั้นถูกไล่ออกจากงานทั้งสองที่ เงินเดือนที่เคยได้เต็มๆ ก็เหลือแค่ครึ่งเดียว ใต้ฝนเอาเงินของตัวเองกับแฝดรวมกันก็ยังไม่พอจนต้องไปทุบกระปุกออมสินของน้องคนเล็กมาซึ่งมันก็ยังไม่ครบสี่หมื่นอยู่ดี

 "พี่ ผมมาถึงแล้ว"

(เออๆ ข้ากำลังรีบกลับ เอ็งรอข้าแปบนึง)

"ครับ"หลังจากวางสายพี่หน้าโหดผมก็เดินไปนั่งที่ล็อบบี้พร้อมกวาดสายตามองสำรวจไปรอบๆ พลางกอดกระเป๋าแน่นด้วยความหวงแหนเงินก้อนสุดท้าย

สิบนาทีต่อมาคนที่นัดไว้โทรมาบอกว่าจะมาช้าหน่อยเพราะต้องวนรถกลับเนื่องจากงานมีปัญหา แต่อีกสักพักก็โทรมาขอยกเลิกพร้อมกับบอกว่าไม่น่ากลับทันเลยจะขอนัดวันอื่นแทน ใต้ฝนถอนหายใจเซ็งๆ ที่เสียเวลาทำงานมาฟรีๆ ก่อนจะรีบตัดสินใจลุกเดินออกมา ระหว่างทางเด็กหนุ่มก็ล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเช็คข้อความที่ถูกส่งมาจากน้องนุชเพื่อนร่วมงานที่ร้านอาหารที่ส่งข้อความมาบ่นเรื่องลูกค้าเยอะแล้วเร่งให้เขารีบไปทำงาน

น้องนุช : ลูกค้าเยอะมากกก พี่ฝนรีบมาเร็วๆ

T.Fon : ครับๆ กำลังกลับครับ

ปึก

จังหวะจะเก็บโทรศัพท์ใต้ฝนก็ดันเดินชนเข้ากับคนบ้างคนพอดีเพราะไม่ทันได้มองทาง

"ขอโทษครับ..."

หมับ

"เฮ้ย...!"กระเป๋าเป้ที่สะพายไว้บนไหล่ขวาถูกกระชากออกไปโดยที่ใต้ฝนไม่ทันตั้งตัว จากชายตัวใหญ่ที่เด็กหนุ่มเดินชน

"เอากระเป๋าผมคืนมานะ"กำลังจะเข้าไปยื้อแย่งกระเป๋าแต่ก็มีชายตัวใหญ่อีกคนพุ่งเข้ามาล็อคตัวเอาไว้ ใต้ฝนมึนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าเพราะไม่รู้ว่าคนพวกนี้ต้องการอะไร

"หึ นี่แกเข้ามาส่งของในโรงแรมนี้อีกแล้วหรอ"

"ส่งของอะไรของคุณ..."

"อย่ามาไขสือ นี่ไงหลักฐาน"คนตรงหน้าว่าพลางเปิดกระเป๋าแล้วล้วงหยิบเอาปึกเงินจำนวนหนึ่งขึ้นมา

"เอาตัวมันไปให้นาย"

"เดี๋ยวสิ เดี๋ยว...อะไรของพวกคุณ ปล่อยนะ...ปล่อย...!"

อะไรวะ


ผลัก !

"นายครับ ได้ตัวมันมาแล้วครับ"กายบางถูกผลักอย่างแรงจนเสียหลักล้มไปกับพื้น พอกำลังจะลุกขึ้นยืนชายตัวใหญ่หลายคนก็ล้วงหยิบเอากระปอกปืนขึ้นมาจ่อไว้จนใต้ฝนไม่กล้าขยับตัวไปไหน ถึงเขาใจจะกล้าแต่กับกระบอกปืนก็สู้ไม่ไหวหรอก ตากลมกวาดมองรอบห้องก่อนจะไปหยุดสายตาอยู่ที่กายสูงของคนที่นั่งไขว้ห้างอ่านอะไรบ้างอย่างอยู่ที่โซฟาใหญ่กลางห้อง

เด็กหนุ่มองคนตรงหน้านิ่งๆ จนอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตากลมโตสบเข้ากับนัยน์ตาสีชาไม่แสดงอารมณ์ ความรู้สึกคุ้นเคยทำให้ใต้ฝนอดขมวดคิ้วไม่ได้

"เธอเองสินะที่เข้ามาส่งยาในโรงแรมของฉัน"

"ห๊ะ..."เด็กหนุ่มหน้าเหวอเมื่อได้ยินประโยคที่อีกฝ่ายพูด นึกประมวลผลแต่เหมือนสมองจะรวนไปชั่วคราว

"กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เธอเข้ามาลักลอบส่งยาในที่ของฉัน เธอคิดว่าจะรอดพ้นสายตาของลูกน้องฉันไปได้หรอ"

"คุณพูดเรื่องอะไร ผมไม่รู้เรื่อง"

"..."เขายกยิ้มมองหน้าอีกฝ่ายคล้ายรู้อยู่แล้วว่าเด็กหนุ่มต้องปฏิเสธแบบนี้

"เธอจะปฏิเสธอย่างงั้นหรือ"

"ก็ใช่นะสิ ผมไม่ได้ทำ ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับไอ้ยานรกนั้น"

"อย่างงั้นหรอ"เขาตอบรับสั้นๆ ก่อนจะเอื้อมหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้วโยนมันลงมาที่พื้นตรงหน้าเด็กหนุ่ม ใต้ฝนก้มมองเห็นว่าเป็นรูปถ่ายหลายใบเลยลองหยิบมันขึ้นมาดู ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพอมองดีๆ แล้วคนในรูปนั้นคือใต้ฝันฝาแฝดของผมเอง

มือขาวหยิบรูปถ่ายใบที่เหลือขึ้นมาดู พบว่าใต้ฝันคือบุคคลในภาพจริงๆ  รูปหลายใบที่ถูกถ่ายมาในจังหวะที่แฝดผู้พี่กำลังยื่นของบางอย่างให้ใครบางคน

ฝัน...

ลักลอบส่งยา...งั้นหรอ

'ฝัน มึงเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเทอมให้ฝุ่น'

'ก็ไปรับทำงานพิเศษมา เงินมันดีน่ะ'

'งานอะไร'

'เออน่า ไม่ใช่งานผิดกฏหมายอะไรหรอก มึงไม่ต้องห่วงนะ'

มึงไม่คิดจะบอกกูสักคำเลยงั้นหรอ

"ยังจะกล้าปฏิเสธอีกมั้ย"

"..."

"เอาล่ะ ฉันจะไม่ทำอะไรเธอและจะปล่อยเธอไปถ้าเธอยอมปากว่าเจ้านายของเธอคือใคร"

"ถึงได้กล้าให้เธอมาส่งยาในที่ของฉัน"

"..."ใต้ฝนนั่งนิ่งประโยคคำถามของอีกคนลอยผ่านหู เพราะมั่วแต่นั่งจับจ้องใบหน้าของแฝดผู้พี่ผ่านรูปภาพ

รู้สึกโกรธที่อีกคนเอาตัวเข้ามายุ่งกับยานรกแถมยังไม่คิดจะบอกกัน

แต่อีกเสี้ยวของใจก็คิดถึง...

ก้านนิ้วสวนลูบไล้ภาพถ่ายเบาๆ พร้อมน้ำตาที่มันเอ่อคลอขึ้นมา

มึงอยู่ไหนนะฝัน 

กลับมาให้กูด่ามึงเดี๋ยวนี้เลยนะ ทำไมมึงถึงกล้าทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนี้ ทำไมไม่ปรึกษากันบ้าง ถ้ามึงกลับมากูจะหยิกมึงให้เนื้อเขียวเลย

"ฉันถามเธอไม่ได้ยินหรือไง"

"ผม...ไม่ได้ทำ..."

"ยังจะกล้าปฏิเสธต่ออีกหรอ"นัยน์ตาสีชาวาวโรจน์คล้ายไม่พอใจที่ได้ยินคำปฏิเสธ กายสูงยันตัวลุกขึ้นพลางก้าวเดินเชื่องช้ามาเข้ามาหาก่อนจะทรุดกายจนใบหน้าดูดีนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน

"เธอเห็นรูปใบนี้มั้ย"คนตรงหน้าถามพลางหยิบภาพถ่ายขึ้นมาหนึ่งใบ 

"ก็แล้วยังไง มันก็แค่รูปถ่าย คุณจะตัดต่อยังไงก็ได้"เด็กหนุ่มเถียงทั้งที่รู้ความจริงอยู่แก่ใจ

"ตัดต่อ...ฮ่าๆๆๆ เธอนี่นะ..."เขาว่าพลางหัวเราะขบขันพลางจับจ้องร่างของเด็กหนุ่มไม่ว่างตา

ผัวะ!

ด้ามปืนในมือลูกน้องที่อยู่ใกล้ๆ ถูกคว้าเอามาก่อนมือใหญ่จะฝาดมันลงซีกแก้มขาวๆ ใต้ฝนหน้าหันไปตามแรงกระแทก แก้มชาดิก สมองมึนงงไปชั่วขณะ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วโพรงปาก

ถุ้ย

"กล้าดีนี่"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นคล้ายกำลังข่มอารมณ์ มือใหญ่ยกขึ้นเช็ดน้ำลายปนเลือดที่เปื้อนอยู่ตรงแก้ม ตาสีชาแวววับไปด้วยโทสะก่อนกายสูงจะลุกขึ้น

"ฉันว่าจะพูดกับเธอดีๆ แล้วหลังจากที่เธอบอกฉันว่าเจ้านายของเธอคือใครฉันก็กะจะตอบแทนด้วยการลดหนี้ที่ครอบครัวเธอติดฉันอยู่"

"..."

"แต่เธอดันทำให้ฉันโกรธซะแล้ว"

"ฉันจะไม่เอาเรื่องที่เธอเข้ามาส่งยาในโรงแรมของฉันก็ได้ ส่วนเรื่องเจ้านายของเธอฉันหาคำตอบเองก็ได้ แต่..."

"หนี้ที่เธอติดฉัน ฉันต้องการมันทั้งหมดในคืนนี้"

!

ใต้ฝนเบิกตากว้างกับประโยคที่ได้ยิน คิดออกทันทีว่าคนตรงหน้าคือใครก็ถ้าไม่ใช่เจ้าหนี้สี่สิบล้านจะเป็นใครได้ล่ะ

"จะบ้าหรือไง...!"

"ว่าไงดีละ เธอจะเอาปัญญาที่ไหนหาเงินสี่สิบล้านมาให้ฉัน"

"คุณจะมาพูดเองเออเองแบบนี้ไม่ได้ ผมทำสัญญาการชดใช้หนี้กับทนายของคุณอย่างถูกต้องทุกอย่าง"

"อยู่ๆ คุณจะมาเปลี่ยนเองแบบนี้ไม่ได้"

"ทำไมฉันจะเปลี่ยนตามใจฉันไม่ได้ ก็ในเมื่อฉันเป็นเจ้าหนี้ของเธอ ฉันมีสิทธิทำทุกอย่างได้ตามใจ แล้วอีกอย่างเธอเคยจ่ายหนี้ครบตามที่เซนไว้หรือเปล่าล่ะ"

"..."

"ก็ไม่ เพราะฉะนั้น ฉันจะถือว่าสัญญานั้นเป็นโมฆะ และฉันต้องการเงินของฉันทั้งหมดคืนภายในคืนนี้"

"..."

"เธอมีเวลาสี่ชั่วโมงกับการหาเงินสี่สิบล้านมาให้ฉัน แต่เพราะฉันใจดี ใจเลยจะให้ทางเลือกกับเธอสองทาง"

"ทางแรกแค่บอกฉันมาว่าเจ้านายของเธอคือใครแล้วฉันจะปล่อยเธอไป เรื่องหนี้ฉันจะลดให้เธอครึ่งหนึ่ง"

"..."

"แต่ในทางกลับกันถ้าเธอไม่ยอมบอกฉัน เอาแต่ปิดปากเงียบ..."

"เธอจะกลายเป็นสินค้าเกรดเอในงานประมูลที่ฉันจัดขึ้นที่ชั้นใต้ดินของโรงแรมนี้ นั้นเป็นทางเลือกที่สองของเธอเพราะยังไงเธอเองก็คงไม่มีปัญญาหาเงินมาคืนฉันได้อยู่แล้ว"

"..."

"หน้าตา ผิวพรรณ ชาติกำเนิดลูกผู้ดีเก่าอย่างเธอคงทำราคาได้สูงใช่เล่น ดีไม่ดีอาจจะได้เกินสี่สิบล้านด้วยซ้ำ ปลดหนี้แถมมีเงินไปใช้สบายๆ มีคนเลี้ยงดูไม่ต้องลำบากทำงานไม่ดีหรอ"

"คุณ...!"ใต้ฝนกำมือแน่นจนขึ้นข้อขาว ตาคู่สวยจับจ้องคนตรงหน้าด้วยความวาวโรจน์

"เลือกมาเร็ว ฉันไม่มีเวลาว่างกับเธอทั้งคืนหรอกนะ ฉันต้องลงไปดูงานข้างล่างต่อ"

"..."ความเงียบโรยปกคลุมไปทั่วห้อง ทั้งสองคนมองสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ใต้ฝนแม้กำลังเสียเปรียบแต่ก็ประสานสายตาสู้นัยน์ตาสีชาอย่างไม่ยอมแพ้

"ฉันจะให้เวลาเธอตัดสินใจอีกห้านาที"

"..."

"..."

"หมดเวลา"

"ฉันถือว่าเธอเลือกทางทีสอง"

"..."

"พาตัวไปที่ห้องประมูลที่ชั้นใต้ดิน"

"ครับนาย"ชายตัวใหญ่รับคำก่อนจะเดินเข้ามาคว้าร่างของเด็กหนุ่มให้ลุกขึ้นแล้วกระชากให้เดินตาม

ฝัน...กูจะทำยังไงดี



ตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว หลายคนก็หลับไหลไปกับห้วงนิทราแสนหวานถูกขับกล่อมด้วยเสียงฝนที่เทกระหน่ำไม่ขาดสายมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ เว้นเสียแต่ใต้ฝันที่นั่งเหม่อมองสายฝนห่าใหญ่พร้อมใจที่วูบโหวงไม่เป็นสุข นึกเป็นห่วงแฝดผู้น้องที่เขาขาดการติดต่อกับอีกฝ่ายมาสองอาทิตย์แล้ว

สองอาทิตย์กับการใช้ชีวิตคล้ายนักโทษ ถูกสั่งให้อยู่แต่ในห้อง ห้ามออกไปไหน ห้ามติดต่อใคร มันเป็นแบบหลังจากอาการของใต้ฝุ่นดีขึ้น ทั้งสองคนก็ถูกพาตัวออกมาจากคลินิคนั่นมาอยู่ที่คอนโดของผู้ชายน่ากลัวที่ใต้ฝันมารู้ชื่อที่หลัง

'สิงห์' คนน่ากลัวคนนั้นชื่อสิงห์ นักธุรกิจชื่อดังเจ้าของโรงแรม กิจการแพปลาและฟาร์มหอยมุกส่งทางภาคใต้แต่เบื้องหลังกับดำมืดด้วยธุรกิจสีดำ ค้ายา ค้าอาวุธส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านร่วมถึงกลุ่มนายทุนในประเทศรายใหญ่

เปร้ยงง!

ครืนนน!

สายฟ้าฟาดกับฟ้าคำรามเสียงลั่นจนใต้ฝุ่นที่นอนหลับสนิทสะดุ้งตื่น เด็กน้อยผวาเข้ากอดพี่ชายเพราะความกลัว

"พี่ฝัน..."

"โอ๋ ไม่เป็นไรนะ แค่ฟ้าร้องเอง"

"ฟ้าร้องน่ากลัวจัง ฮืออ พี่ฝนกำลังเศร้าอยู่หรือเปล่านะ"

"เกี่ยวอะไรกับฝน"

"ก็พี่ฝนบอกว่าพี่ฝนเชื่อมความรู้สึกกับสภาพอากาศ ถ้าพี่ฝนมีความสุขท้องฟ้าจะสดใส แต่ถ้าพี่ฝนเสียใจฝนก็จะตก"

"ไร้สาระน่า พี่ว่าฝนมันคงดูซีรีย์มากไป"ใต้ฝุ่นยู่ปาก ขยับลุกขึ้นนั่งนิ่งๆ ตากลมสวยมองเหม่อสายฝนเบื้องหน้า

"คิดถึงพี่ฝนจัง"

"..."

"พี่ฝันว่าตอนนี้พี่ฝนกำลังรู้สึกอะไรอยู่หรอ พี่ฝนจะเสียใจมั้ยที่เราไม่กลับไปหา พี่ฝนจะเหงามั้ยที่ต้องอยู่คนเดียว..."

"ไอ้ฝนมันเข้มแข็งจะตาย ป่านนี้มันคงนั่งด่าพี่อยู่มั้ง ไม่ยอมพาฝุ่นกลับไปหามันสักที"

"สงสัยถ้าได้กลับไปเราโดนฝนมันบ่นหูชาแน่ๆ"

"เนอะ พี่ฝนขี้บ่น"ใต้ฝันยิ้ม พลางลูบหัวน้องเบาๆ ท่ามกลางความมืดใต้ฝุ่นคงไม่ทันเห็นสีหน้าของพี่ชายตัวเองที่สีซีดเผือก คิ้วสวยขมวดมุ่นคล้ายกังวลอะไรสักอย่าง มือขาวยกขึ้นทุบหัวใจที่มันปวดหนึบไม่หาย

ฝน...มึงสบายดีใช่มั้ย



ในชั้นใต้ดินของโรงแรมหรู ห้องโถงกว้างถูกจัดตกแต่งอย่างหรูหราเพื่อต้อนรับแขกกิติมศักดิ์ที่ถูกเชิญให้มางานประมูลที่ถูกจัดขึ้นโดยเจ้าของโรงแรม งานถูกจัดขึ้นอย่างเป็นความลับเพราะของที่นำมาประมูลส่วนนั้นล้วนเป็นของผิดกฏหมายทั้งสิ้น

ป๊อก ป๊อก ป๊อก

"ปิดประมูลสินค้าชิ้นที่สิบห้าในราคาแปดสิบสามล้านค่ะ ยังไงดิฉันเรียนเชิญผู้ประมูลหมายเลขเก้ามารับสินค้าได้เลยนะคะ"หญิงสาวรูปร่างท้วมลุกขึ้นเดินอย่างสง่าไปยังด้านหน้าหลังประมูลเครื่องเพชรน้ำงามมาได้ ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีม่วงวาดยิ้มชอบใจ แต่ไม่อาจมีใครรู้ได้ว่าเธอคือใครเพราะใบหน้าครึ่งบนถูกหน้ากากประดับขนนกปกปิดเอาไว้

"ลำดับต่อไปทางเราจะขอขั้นด้วยสิ้นค้าเกรดพรีเมียม ที่เพิ่งได้มาค่ะ"สิ้นเสียงพิธีกรสาว ร่างผอมของเด็กหนุ่มก็ถูกลากออกมาจากหลังเวทีเรียกเสียงฮือฮาของผู้เข้าร่วมประมูล ใต้ฝนพยายามหันหน้าหนีกล้องที่จับมาที่ใบหน้าของตัวเองโดยไม่ได้สนใจพิธีกรสาวที่กำลังบรรยาคุณสมบัติของเขา เด็กหนุ่มกวาดตามองไปด้านล่างของเวทีก็เห็นผู้คนแต่งตัวดูดีนับร้อย สวมหน้ากากปกปิดใบหน้านั่งเรียงรายกันอยู่ แต่หน้ากากพวกนั่นไม่สามารถปิดบังสายตาโลมเลียของคนพวกนั้นที่มีต่อเด็กหนุ่มได้เลย

"ขอเปิดประมูลสินค้าชิ้นนี้ที่ห้าล้านบาท บิทครั้งต่อไปเริ่มต้นที่หนึ่งล้านค่ะ"

"เจ็ดล้าน"

"แปดล้าน"

"สิบล้าน"

เสียงทุ้มต่ำ แหบแห้งของบรรดาแขกผู้ชายดังขึ้นไม่หยุด ตากลมเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ร่างสูงโดดเด่นที่ยืนอขู่หลังสุดของห้องจัดงาน ใบหน้าหล่อเหลาดุดีของคนๆ นั้นยกยิ้มชอบใจที่สินค้าของเขาเป็นที่ต้องการขนาดที่ราคาประมูลถูกปั่นขึ้นสูงเรื่อยๆ จังหวะที่นัยน์ตาสองคู่ประสานกันใต้ฝนก็เป็นฝ่ายหันหน้าหนีก่อนจะปิดเปลือกตาลง มือขาวกำแน่นเพราะไม่อยากรับรู้อะไรอีก

"ยี่สิบล้าน"หนึ่งหยดน้ำตารินไหลอาบแก้ม นึกสมเพชในโชคชะตา เกิดมาบนกองเงินกองทอง ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแต่ทุกสิ่งกับพลิกพลันหลังพ่อแม่ตายจากทิ้งไว้เพียงหนี้สิ้นกองโต ลำบากตรากตรำทำงานทั้งที่ชีวิตนี้ไม่เคยต้องทำอะไรเอง ดิ้นรนเอาตัวรอดประคับประคองกันมาสามคนพีน้อง แต่อยู่ๆ พี่น้องก็หนีหายเหลือทิ้งไว้แค่เขาตัวคนเดียวสุดท้ายก็ถูกเขาลากมาเป็นสินค้าขายประมูลหมดสิ้นซึ่งเกียรติ ศักดิ์ศรีและความเป็นคน

"สามสิบล้าน"บรรดาแขกผู้ชายที่ถูกใจในตัวของใต้ฝนต่างก็พยายามแย่งกันเสนอราคาไม่หยุดหย่อน ใต้ฝนนึกรังเกียจคนพวกนี้บางคนฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าแก่คราวปู่แต่ดันไม่ลดละกิเลส เสนอเงินหลักสิบล้านเพื่อแลกกับร่างกายของเด็กคราวหลาน ทุเรศสิ้นดี


 
"เข้าไป"เป็นอีกครั้งที่ร่างกายถูกผลักไส ห้องพักรับรองที่สถานที่ที่ใต้ฝนถูกพาตัวมาเพื่อ 'บริการ' คนที่ยอมจ่ายเงินห้าสิบล้านเพื่อแลกกับตัวของเขา ความจริงชายคนนี้จะพาสินค้าของตัวเองกลับไปที่บ้านเลยก็ได้แต่เพราะอดใจไม่ไหวอยากสัมผัสกายขาวเร็วๆ เลยเลือกที่จะเปิดห้องที่โรงแรมก่อน

"สวัสดีครับคุณวินัย นี่เป็นสินค้าที่คุณประมูลได้ครับ ขอให้มีความสุขกับสินค้าของเรานะครับ"

คนที่พามาออกไปแล้วเหลือเพียงเด็กหนุ่มกับชายวัยกลางคนที่นั่งยิ้มพลางใช้สายตาจับจ้องโลมเลียอีกฝ่าย ใต้ฝนวาดยิ้มบางๆ อย่างยอมรับในโชคชะตาของตัวเอง น้ำตาที่เคยรินไหลเหือดแห้งไปนานแล้ว ร้องไปก็ไร้ประโยชน์ ไม่มีใครคิดจะมาเห็นใจหรอก ร้องไห้ไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา

"มานั่งนี่สิ"กายบางขยับเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา มือหยาบกร้านของชายวันกลางวางแนบลงบนต้นขา ใต้ฝนสะดุ้งพลางเม้มปากแน่น

"เธอกลัวหรือ"

"ครับ ผมไม่เคย"

"ฉันเข้าใจ ขยับมานี่สิ ฉันจะฉีดยาให้ มันจะทำให้เธอลืมความกลัวและจะมีความสุขไปกับฉัน"คุณวินัยหรือเจ้าของเงินห้าสิบห้าล้านที่จ่ายเพื่อซื้อตัวใต้ฝนมาพูดขึ้นพลางหยิบเข็มฉีดยาขนาดเรียวยาวออกมา ใต้ฝนมองตามนึกใจหวิวกับน้ำบางอย่างที่บรรจุอยู่ด้านใน

แต่ช่างเถอะ

ถ้ามันช่วยทำให้เขาหลงลืมตัวตนในตอนนี้ไปได้ก็ยินดี

จึก

มือกร้านของชายวันกลางคนค่อยๆ แทงปลายเข็มแทงผ่านผิวขาวพร้อมกับดันน้ำใสเข้าไปในกายของอีกคน ใต้ฝนเม้มปากเพราะรู้สึกเจ็บแต่ไม่ได้ดิ้นรนคิดหนีแต่อย่างใด

"เธอเนี่ยหน้าตา ผิวพรรณดีช่างคุ้มค่ากับเงินที่ฉันยอมเสียไปจริงๆ"เขาว่าพลางลูบหน้าเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาแวววับจับจ้องอีกฝ่ายด้วยความปราถนารถในอารมณ์ใคร่อย่างปิดไม่มิด

"..."

"เธอชื่ออะไร"

"ใต้ฝนครับ"

"ต่อไปนี่ฉันจะเลี้ยงดูเธออย่างดี เธอจะกลายเป็นของของฉันใต้ฝน..."

"เธอต้องการอะไร อยากได้อะไรฉันก็จะให้เธอทุกอย่าง แต่เธอต้องเป็นเด็กดีของฉันเข้าใจมั้ย"ลมหายใจร้อนเป่ารดผิวคอเรียกขนอ่อนลุกชันอย่างรังเกียจ ใบหน้าแก่ตามวัยฝั่งลงลำคอขาวพลางซุกไซ้ดอมดมความหอมของเด็กหนุ่ม ใต้ฝนเม้มริมฝีปากแน่น มือขาวกำกางเกงตัวเองจนผ้าเนื้อดียับยู่ยี่...

ไม่เป็นไรฝน ไม่เป็นไร

ถือเสียว่าตอบแทนที่เขาช่วยปลดหนี้ให้มึง

ไม่เป็นไรนะ


เสื้อผ้าบนกายบางถูกถอดออกพร้อมร่างท้วมของชายวัยกลางคนที่ตามคล่อมทาบทับ ริมฝีปากพรมจูบฝากสัมผัสน่ารังเกียจร้อนแผดเผาไปตามผิวนวล

"อื้อ..."

"ทำไมเธอถึงได้หอมขนาดนี้..."เด็กหนุ่มนอนนิ่งดวงตาเหม่อลอยไร้แววแต่ริมฝีปากบางขยับยิ้มราวกับชอบใจ ยากล่อมประสาทกลืนกินจิตใจไปจนสิ้นเหลือเพียงตัวตนใหม่ที่สร้างขึ้นมา

"จะฉันทนุถนอมเธอ...ใต้ฝน ที่รักของฉัน..."เสียงแหบพร่าฟังดูหื่นกระหายดังขึ้นข้างใบหูพลางซุกไซ้ใบหน้าสูบดมกลิ่นหอมจากเด็กใต้ร่าง พลางใช้มือหยาบกร้านบีบเค้นผิวกายขาวอย่างเพลินมือ

'ฝน ฝันรักฝนนะ'

อือ

ฝนก็รักฝันนะ

'พี่ฝน ฝุ่นรักพี่ฝนที่สุดเลย'

ใต้ฝุ่น พี่ก็รักใต้ฝุ่นนะ

น้ำใสไหลรินเมื่อเสียงของใต้ฝัน ใต้ฝุ่นดังก้องในหัวซ้ำไปซ้ำมาราวกับเทปเสีย สติที่ล่องลอยถูกดึงกลับเข้าร่างดั่งเดิม

"ปล่อย...อื้อ...อย่า...ไม่เอา..."

"เด็กดี ไม่ต้องกลัว..."ดวงหน้าน่ารักส่ายไปมาจนเส้นปลิวพริ้วกระจายไปตามแรง สองมือสั่นเท่ายกขึ้นผลักดันร่างท้วมที่คล่อมทาบทับตัวเอง ความหวาดกลัวที่หายไปพุ่งเข้าจู่โจมจนเด็กหนุ่มเริ่มดิ้นพล่านไปมาไม่หยุด

"อึก...ฮื่ออ..."กายบางเกร็งขืน มือเท้าจิกเกร็ง นัยน์ตาเหลือกลอยลมหายใจขาดห้วง น้ำลายฟูฟ่องไหลทะลักออกมาจากปากพร้อมกับร่างกายที่แข็งเกร็งชักกระตุกไม่หยุดทำให้อีกคนที่กำลังละเอียดดอมดมกายขาวถึงกับหยุดชะงัก

"เฮ้ย..."ชายวัยกลางคนหลุดเสียงร้องตกใจเมื่อเห็นอาการของคนใต้ร่าง เขารนรานรีบร้อนขยับลงจากเตียงคว้าหยิบเสื้อคลุมมาสวมปิดการแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรให้ใครบางคนทันที


"นายครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ"

"มีอะไร"

"เด็กนั่นชักครับ"

"เด็กนั่น ใคร?"

"ก็เด็กคนที่คุณวินัยประมูลไปได้น่ะครับ ชักน้ำลายฟูมปากอยู่ที่ห้องข้างบนครับ"กายสูงขยับลุกขึ้นพรวดพราดพลางวิ่งออกจากห้องทันทีหลังจากฟังรายงานของลูกน้องจบ

ผัวะ!

"นี่มันเรื่องบ้าอะไร เด็กนี่ใช้งานไม่ได้คุณเอามาแหกตาทุกคนหรอคุณภาส"ชายวัยกลางคนตวาดเมื่อเจ้าของโรงแรมเปิดประตูเข้ามา 'ภาสภากร' ไม่ได้สนใจเสียงโวยวายนั้น นัยน์ตาสีชาจับจ้องร่างบนเตียงที่ชักเกร็งตาเหลือตาค้างอยู่กลางเตียง

"ไปเอารถออกเดี๋ยวนี้!"เสียงเข้มตวาดก่อนคว้าผ้าขึ้นมาห่มปิดกายขาวแล้วรวบช้อนร่างนั้นขึ้นมาในอ้อมแขน


เปร้ยงงง ครืนนนน

เฮือก!

ใต้ฝันสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังเสียงฟ้าฟาดดังกึกก้องสนั่นไปทั่ว กายบางขยับลุกขึ้นอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวจะทำให้น้องชายตื่น ฝ่าเท้าเปลือยเปล่าขยับเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ ตากลมเหม่อมองจับจ้องสายฝนห่าใหญ่ที่ซัดกระหน่ำตกมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ

อึก

คิ้วสวยขมวดพลางยกมือขึ้นขย้ำเสื้อช่วงอกเมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ที่หัวใจขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุก่อนมือขาวจะทุบอกตัวเองเบาๆ

ฝน...


ครืนนนนน ครืนนนน

"อะไร"

(ไอ้เหี้ยโชค เกิดเรื่องใหญ่แล้ว)

"อะไรของมึง"

(ไอ้ห่าสันต์แม่งแอบไปรายงานเรื่องเด็กแฝดที่เข้ามาส่งยาในโรงแรม)

(แล้ววันนี้เด็กนั่นมาที่โรงแรมเพราะนัดกับมึงน่ะ ก็ถูกไอ้สันต์จับตัวส่งนายไปแล้ว...)

"ว่าไงนะ กูสั่งมันแล้วไม่ใช่หรอว่าไม่ให้ยุ่งกับเรื่องนี้"

(มันกะจะเอาหน้ากับนายไง หวังจะมาแทนที่มึงกับกู ใส่ไฟกูกับมึงชิบหายว่าจงใจปกปิดเรื่องนี้ แล้วนี่พวกที่อยู่โรงแรมมันบอกว่านายจับเด็กนั่นลงประมูล...)

(ตอนนี้ช็อคถูกห่ามส่งโรงพยาบาลไปแล้ว)

"ไอ้เหี้ยเอ้ย เวลากูกับมึงไม่อยู่เกิดเรื่องทุกทีสิแม่ง"



ผัวะ!

"มึงจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นยังไงไอ้สันต์"

"ผม..ผมขอโทษครับนาย..."

"ขอโทษทั้งที่มึงบอกกูว่ามึงเช็คข้อมูลมาดีแล้วอย่างงั้นหรอ"

"มึงจับคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดมาส่งกู"

"..."

"เด็กคนนั้นเกือบตายเพราะกู..."

"กูจะทำยังไงกับมึงดี"

"..."คนทำผิดก้มหน้านิ่ง สองมือกุมกันแน่นยามถูกคนเป็นเจ้านายใช้สายตาสีชาจับจ้องด้วยความวาวโรจน์

"ผมขอโทษครับนายผมคิดว่าเด็กที่เคยมาส่งยากับเด็กที่มาวันนี้คือคนเดียวกัน..."

"..."

"นายครับ หมอภัทรต้องการพบครับ"เจ้าของกายสูงละความสนใจจากลูกน้องตรงหน้าแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องพักคนไข้เมื่อลูกน้องอีกคนเดินออกมาแจ้งข่าว

"เป็นไงบ้างหมอ"

"ไม่เป็นไรแล้ว อาจจะมีมึนยาอยู่บ้างวันสองวันแต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว"

"แน่ใจนะ ชักตาเหลือกน้ำลายฟูมปากขนาดนั้น..."

"เออ ไม่เป็นไรหรอกแค่อาการชักจากความตึงเครียดบวกกับได้รับยากล่อมประสาทไปร่างกายเลยรับไม่ไหว..."

"..."

"แล้วนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น..."

"ไม่ยุ่งดิ เป็นหมอก็มีหน้าที่แค่รักษาคนไข้ก็พอมั้ง"หมอหนุ่มขมวดคิ้วพลางหลุดสถบด่าเพื่อนตัวเองอย่างอดไม่ได้

"เออๆ งั้นกูไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวจะมีเคสผ่าตัด"

"เออๆ จะไปไหนก็ไปหมดหน้าที่มึงแล้ว..."

"ครับๆ"หมอเจ้าของไข้รับคำก่อนจะเดินออกไป  ทิ้งกายสูงยืนนิ่งพลางใช้สายตาจับจ้องร่างที่นอนสลบหน้าตาซีดเผือกเสียยิ่งกว่ากระดาษ

"...ฝัน...อยู่ไหน...คิดถึง..."

น้ำเสียงแผ่วเบาดังจนแทบจับใจความไม่ได้ เจ้าของกายสูงขมวดคิ้วก่อนจะโน้มตัวลงต่ำเพื่อจับใจความ

"หนี้...ฝนใช้หมดแล้วนะ...กลับมา...พาฝุ่นกลับมา..."

"ฮึก...ฝนไม่อยากอยู่คนเดียว..อีกแล้ว..."

"..."

"ถ้าฉันขอโทษเธอจะยกโทษให้ฉันมั้ย"เขาเอ่ยออกมาดัวยความรู้สึกผิด ยอมรับว่าตอนลูกน้องมารายงานเรื่องที่มีคนมาส่งยาในโรงแรมของเขามันทำโกรธมากรู้สึกเหมือนถูกหยามซึ่งหน้าจนทำอะไรไม่ทันคิดหรือตรวจสอบให้ดีเสียก่อน

"รีบฟื้นมารับคำขอโทษจากฉันล่ะ"

________

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากรีบเข้าไปอุ้มน้องส่งโรง'บาลแล้วตบคุณตาสีชาจัง
น้ำท่วมปากบอกก็ไม่ได้เดี๋ยวฝันอันตรายอีก กอดๆทั้งฝันทั้งฝนทั้งฝุ่น เมื่อไหร่เขาจะกลับมาเจอกันนะ  :hao5:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ยกโทษให้แต่ไม่หายโกรธหรอกนะ แล้วก็อย่าลืมยกหนี้ให้ด้วยละ ต่อไปนี้ชีวิต3พี่น้องจะได้พอลืมตาอ้าปากได้บ้างไม่ต้องหาเงินใช้หนี้งกๆ โว้ยยยสนุกกกกกกมากก สายดราม่าหน่วงพอดีแบบนี้ชอบเลย ร้องไห้เลยอ่ะตอนฝุ่นโดนยิง ฝันจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง ดีที่ช่วยทัน 3คนนี้สู้ชีวิตจริง ถือว่าพยายามดีที่สุดแล้วที่จะมีชีวิตต่อด้วยลำแข้งตัวเอง แม้หลงทางไปบ้างแต่ก็ยังกลับตัวทัน รักกันดีพี่น้อง แต่อย่างที่บอกช่วยใจดีกับพวกเขาหน่อยเถอะ อยากอ่านต่อแล้ววว แต่ละคู่จะเป็นยังไงนะ  สิงห์ฝัน ภาสฝน ฝุ่นหมอไทเกอร์ไหม อย่ายอมง่ายๆนะกับพวกมาเฟียพวกนี้หนิ ใจร้ายยยย แต่งเก่งๆแต่คำผิดก็..ประปรายระดับนึงเลยนะ 555 ขอบคุณนะคะที่แต่งมาอัพในนี้ให้ได้อ่านกัน รอตอนหน้าเลยจ้า  :pig4: :pig4: :pig4:

เม้นนี้ 1พันพอดี กด+1 ให้จ้า 55

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1

06

'ฝัน เราอยู่ด้วยกันตลอดไปได้มั้ย'

'ได้สิ ฝันจะอยู่กับฝนตลอดไปเลย'

'จริงนะ'

'อื้อ ถ้าฝนไม่เชื่อเรามาเกี่ยวก้อยสัญญกันมั้ย'

'อื้อ"

'เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ฝันจะอยู่กับฝน จะไม่มีทางทิ้งให้ฝนต้องอยู่คนเดียวเด็ดขาดเลย'

มึงผิดสัญญาแล้วล่ะฝัน...

"คนไข้ว่าอะไรนะคะ"

"..."ใต้ฝนสะดุ้งก่อนจะลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือหญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดสีขาวสะอาดยืนส่งยิ้มหวานให้

"..."คนที่เพิ่งได้สติกระพริบตาเชื่องช้าเหม่อมองหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะกวาดสายตาสำรวจไปรอบข้าง คิ้วสวยขมวดมุ่นยกมือข้างที่หนึ่งขึ้นดูก็เห็นสายน้ำเกลือระโยงระยาง

"ผม...มาที่นี่ได้ยังไงหรอครับ"เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ความทรงจำล่าสุดที่เด็กหนุ่มจำได้คือเขากำลังอยู่บนเตียงกับใครสักคน...

อึก

ดวงหน้าน่ารักเหยเกรู้สึกพะอือพะอมเมื่อนึกถึงสัมผัสที่น่ารังเกียจที่มันฉาบร้อนอยู่บนผิวกาย ใต้ฝนรีบลุกขึ้นเมื่อรู้สึกอยากอาเจียนออกมา ทางด้านคุณพยาบาลที่เห็นท่าทางแบบนั้นของคนไข้ก็ช่วยพยุงตัวแล้วประคองพาเดินไปยังห้องน้ำ

อึก อ่อก อ้วกกก

ร่างกายเกร็งขืน ลมหายใจขาดห้วงไปชั่วขณะสองมือค้ำขอบชักโครกเอาไว้เพื่อพยุงตัว ด้านหลังก็มีคุณพยาบาลสาวที่คอยลูบหลังให้ไม่หยุด

"รู้สึกดีขึ้นมั้ยคะ"

"ครับ..."

หลังจากอาเจียนออกมาจนหมด ใต้ฝนก็ถูกพากลับมานอนไร้เรียวแรงอยู่บนเตียง เขานอนมึนหัวได้พักนึงก็หลับไปอีกรอบ โดยมีคุณพยาบาลสาวที่ถูกจ้างมาดูแลเป็นพิเศษนั่งเฝ้าไม่ห่าง



"ผมไม่เซ็นต์"

"ถ้าไม่เซ็นต์ก็ไม่ต้องออกไปจากที่นี่"ใต้ฝันกำหมัดแน่น มองหน้าชายผิวแทนท่าทางน่ากลัวทรงอำนาจด้วยความคับแค้นใจ

เขากำลังถูกบังคับให้เซ็นต์สัญญาบ้าๆ เพื่อแลกกับการปล่อยตัว


"ยังไงผมก็ไม่เซ็นต์"

"มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ปฏิเสธข้อเสนอของฉัน"

"ผมโง่ก็ยังดีกว่าต้องให้น้องของผมไปยุ่งเกี่ยวกับคนแบบคุณ"เด็กหนุ่มตอบกลับเสียงแข็ง ความกลัวที่มีต่อชายตรงหน้าหายไปจนหมดสิ้นเหลือแต่ความไม่พอใจ

"คนแบบฉันมันทำไม"

"..."ใต้ฝันจ้องนัยน์ตาสีนิลนิ่งๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีเพราะแรงกดดันของอีกฝ่าย ฝ่ายร่างสูงที่เห็นเด็กหนุ่มเงียบไปเขาก็นั่งกอดอกพิงตัวพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ อย่างคนถือไพ่เหนือกว่า

"คิดให้ดีใต้ฝัน สิ่งที่ฉันเสนอให้มันก็เป็นผลดีต่อพวกเธอทั้งนั้น พวกเธอมีแต่ได้กับได้ยังคิดจะปฏิเสธฉันอีกหรือ"

"ผลไม่สนข้อเสนอพวกนั้นหรอกและต่อให้คุณจะเอาปืนมาจ่อหัวผม ผมก็ไม่เซ็นต์..."

"น้องของผม ผมดูแลเองได้ไม่จำเป็นต้องให้คุณมายุ่งวุ่นวาย"

"..."

"..."

"อวดเก่ง"

"ผมไม่ได้อวดเก่ง"

"ถ้าเป็นคนอื่นเธอจะไม่มีสิทธิมานั่งเถียงฉันแบบนี้ใต้ฝัน"

"..."

"ฉันจะให้เวลาเธอสามวันและถ้าเธอยังไม่ยอมเซ็นต์เอกสารทั้งหมด ฉันจะทำให้เธอได้รู้ว่าฉันน่ากลัวได้มากกว่าที่เธอคิด"

"คุณอย่ามาขู่ผมนะ"

"ฉันไม่ได้ขู่"

"คนอย่างฉันไม่เคยขู่ใคร จำเอาไว้ให้ดี"พูดจบร่าสูงกำยำก็ลุกเดินออกไปจากห้องพร้อมลูกน้องคนสนิทสองคนที่เดินตามไม่ห่าง

บ้าเอ้ย

โครม!

เด็กหนุ่มสถบพลางยกเท้าขึ้นถีบโต๊ะกระจกตัวเล็กเบื้องหน้าจนเอกสารกระจัดกระจายบางส่วนก็ล่วงหล่นลงพื้น

"มึงไม่ควรเอาอารมณ์มาลงกับสิ่งของ"ชายในชุดสูทหนึ่งสองคนที่ได้รับมอบหมายให้มาเฝ้าดูสองพี่น้องพูดขึ้นพลางเดินเข้ามาเก็บเอกสาร

"เจ้านายพี่มันบ้าอำนาจ จะมาบังคับเอาอะไรกับผมหนักหนา ประสาท"

"กูรับรองถ้านายกูได้ยิน มึงจะไม่มีสิทธิได้พูดอีกตลอดชีวิต"

"เหอะ"

"ขู่กันเก่งจริงๆ ทั้งเจ้านาย ทั้งลูกน้อง"เด็กหนุ่มเอ่ยประชดด้วยความรู้สึกอึดอัดจนแทบระเบิด ตากลมมองหน้าคนที่มีหน้าที่ดั่งพัสดีก่อนจะลุกขึ้นเดินปึงปังกลับขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นสอง ที่มีพัสดีอีกคนยืนอยู่หน้าประตูเฝ้าใต้ฝุ่นเอาไว้

"พี่ฝัน เขาว่าอะไรบ้าง เขาจะให้เราออกไปจากที่นี่แล้วใช่มั้ย"

"ก็...ไม่เชิงหรอก"

"ทำไมล่ะ ฝุ่นอยากออกไปจากที่นี่แล้ว ฝุ่นอยากกลับไปเรียน ฝุ่นอยากกลับไปหาพี่ฝนจะแย่อยู่แล้ว"

"ทำไมเขาไม่ปล่อยเราไปสักที"

อดทนอีกนิดนะฝุ่น เดี๋ยวพี่จะพาฝุ่นออกไปจากที่นี่เอง

 


"เป็นไงบ้างเอ็ง"

"ก็ดีขึ้นครับ"เด็กหนุ่มตอบตามความจริง วันนี้อาการเขาดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก ไม่มีอาการคลื่นไส้อยากอาเจียนแล้ว อาการมึนหัว ใจสั่นหวิวๆ ก็ไม่มีแล้วเช่นกัน

"ก็ดีแล้ว"แม้จะตอบกลับไปนิ่งๆ แต่บนใบหน้าคร้ามเข้มก็ประดับด้วยรอยยิ้ม รู้สึกโล่งใจที่ไอ้เด็กแฝดนี่มันไม่ได้เป็นอะไรมาก โชคณวัฒน์อยู่คุยกับคนป่วยพักสักก่อนจะขอตัวกลับไปทำงานต่อ โดยบอกว่าเดี๋ยวจะเข้ามาอีกทีช่วงเย็นๆ

พออยู่คนเดียวก็เกิดอาการเบื่อ เด็กหนุ่มเลยเดินออกจากห้องพักมายังโซนพักผ่อนของโรงพยาบาลมันเป็นโซนพักผ่อนที่ถูกตกแต่งคล้ายๆ คาเฟ่ขนาดย่อมๆ เพราะมีโซนนั่งเล่น มีโซฟา มีกาแฟสดพร้อมเบเกอรี่ขาย เด็กหนุ่มเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่งริมกระจกบานใหญ่ก่อนจะหันมองออกไปด้านนอกที่เป็นสวนเขียวขจีดูสดชื่นที่มีคนป่วยพร้อมญาติพากันออกไปเดินเล่นพักผ่อนอยู่

ใต้ฝนนั่งเล่นอยู่สักพักก็เห็นชายในสุดสูทสีดำวิ่งพรวดพราดเข้ามาสองสามคนจนทั้งคนไข้ ทั้งญาติคนไข้แตกตื่น ซึ่งพอชายกลุ่มนั้นหันมาเห็นใต้ฝนที่นั่งอยู่ริมกระจกก็หยุดวิ่งชะงักแล้วพากันเดินไปยืนสำรวมอยู่มุมหนึ่ง

เด็กหนุ่มละความสนใจจากคนพวกนั้นแล้วหันกลับไปมองท้องฟ้าด้านนอก ปล่อยความคิดให้ลอยละล่องไม่สนความจอแจวุ่นวายรอบตัว

คิดถึงใต้ฝัน ใต้ฝุ่น

คิดถึงพ่อกับแม่


"นี่เอ็ง ตื่น มานั่งหลับอะไรตรงนี้"กายบางสะดุ้งตื่นเมื่อได้รับแรงเขย่าที่หัวไหล่ ตากลมปรือขึ้นมองก็เห็นพี่หน้าโหดยืนค้ำหัวอยู่

"กลับห้อง นายข้ารออยู่"

แก๊ก

พอเปิดประตูเข้ามาใต้ฝนก็เห็นคนที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุดนั่งไขว้ห้างกอดอกอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางสบายใจ

"ป่วยแล้วทำไมไม่อยู่ในห้อง"ตากลมหันสบประสานกับนัยน์ตาสีชาของอีกฝ่าย ใต้ฝนไม่อยากจะยอมรับหรอกนะแต่นัยน์ตาสีอ่อนของอีกฝ่ายนั้นช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน เด็กหนุ่มยังคิดเล่นๆ ว่าถ้าเขาเป็นผู้หญิงก็อาจจะเผลอไผลกับไปนัยน์ตาคู่นั้น แต่เพราะใต้ฝนไม่ใช่ผู้หญิงแถมผู้ชายคนนั้นยังทำใต้ฝนไว้อย่างเจ็บแสบ

 เขายังจำแววตาที่มองเขาด้วยความสมเพชเหยียดหยามนั้นได้ดี แทนที่จะหลงเสน่ห์กลับกลายเป็นว่าใต้ฝนรู้สึกอยากจะควักลูกตาคู่นั้นออกมาขย้ำให้มันแหลกคามือ

"..."ใต้ฝนไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่าย เขาเดินกลับขึ้นไปนั่งบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแล้วจัดการดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง มือขาวกำผ้าห่มแน่นพลางพยายามควบคุมอารมณ์โกรธที่ยิ่งนึกถึงสิ่งที่อีกฝ่ายทำเอาไว้กับตนเอง อารมณ์คุกรุ่นมันก็ปะทุเดือดพล่านอยู่ในอก

"ผู้ใหญ่คุยด้วยเธอก็ควรลุกขึ้นมาคุยดีๆ"

"..."

"อย่าทำตัวเหมือนไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน"

"..."

"หรือคุณธารินทร์มัวทำแต่งานจนไม่มีเวลาอบรมมารยาทให้ลูกชาย..."

พรึบ

"เฮ้ยย..."

เพล้ง!

"คุณอย่ามาลามปามถึงพ่อผม!"ใต้ฝนตวาดเสียงดังหลังจากคว้าแก้วเควี้ยงใส่ชายคนนั้นจนมันลอยไปปะทะกำแพงห่างอีกคนไม่มากนัก ตาคู่สวยวาวโรจน์มองอีกฝ่ายด้วยท่าทางเอาเรื่อง  ส่วนคนที่เพิ่งโดนลอบทำร้ายก็ยันกายลุกขึ้นพลางสาวเท้าเข้ามาประชิดเตียงคนไข้

"นี่เธอกล้าขว้างแก้วใส่ฉันเลยหรือไง"เสียงทุ้มต่ำติดจะหงุดหงิดดังขึ้น มือใหญ่คว้าเข้าที่ต้นแขนผอมๆ

"ทำไมผมจะไม่กล้า ยิ่งกับคนแบบคุณ..."

"คนแบบฉันมันทำไม"

"เลว"

"นี่...!"

แก๊ก

"นายครับ เกิดอะไรขึ้นครับ"โชคณวัฒน์เปิดประตูเข้ามาหลังได้ยินเสียงตวาดของสองคนในห้อง

"นี่น่ะหรอเด็กดีของแกไอ้โชค เถียงฉัน ด่าฉันฉอดๆ ไม่รู้จักเด็ก ไม่รู้จักผู้ใหญ่"มือหนาที่ง้างขึ้นสูงหมายจะฟาดลงบนแก้มขาวลดลงพลางเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด โชคณวัตน์มองคนเป็นนายก่อนหันมองไอ้เด็กแฝดตัวขาวที่นั่งจ้องหน้านายของเขาตาเขียวปั๊ดราวกับพร้อมจะมีเรื่องไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว

"ผู้ใหญ่เลวๆ บางคนก็ไม่สมควรได้รับการนับถือจากเด็กหรอก โอ๊ย! ปล่อย!"

"ด่าฉันเลวอีกครั้งสิ"

"เลว ไอ้เลว...อื้อ...!"ริมฝีปากหยักเข้าจู่โจมทาบทับอวัยวะเดียวกันจนใต้ฝนตาค้าง ภาสภากรถือวิสาสะที่เด็กหนุ่มไม่ได้ตั้งตัวแทรกลิ้นเข้าโพร่งปากเล็กๆ แล้วลากลิ้นกวาดชิมความหวานของเด็กหนุ่มอย่างเผลอไผลโดยไม่สนใจสายตาของลูกน้องอย่างโชคณวัฒน์ที่ยืนช็อคค้างกับภาพตรงหน้า

"อื้อ!"

ผลัก!

ผัวะ!

หมอนใบใหญ่ถูกเด็กหนุ่มคว้าเอามาฟาดใส่คนตรงหน้าเต็มแรงจนใบหน้าหล่อๆ หันไปตามแรงกระทำ ชายหนุ่มตวัดสายตามามองร่างบนเตียงก่อนจะแย่งหมอนใบนั้ยมาแล้วโยนมันทิ้งลงพื้น

"ไอ้...อื้อ...!"ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำด่า ริมฝีปากของอีกฝ่ายก็ทาบทับลงมาอีกรอบพร้อมกับสองแขนที่ถูกตรึงไม่ให้ขยับตัวดิ้นหนี ลิ้นร้อนเข้าแทรกชกชิงความหวานอย่างจาบจ้วง ไล้ต้อนเรียวลิ้นเล็กที่ดิ้นรนหนีอย่างนึกสนุก

"อื้อ..."

กึก

!

ชายหนุ่มสะดุ้งถอนจูบออกมาอย่างรวดเร็วเมื่อถูกฟันซี่สวยกัดเข้าที่ลิ้นจนเขารับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งอยู่ในปาก ใต้ฝันที่พอเป็นอิสระก็รีบขยับลงจากเตียง ร่างกายหอบโยนจากการถูกแย่งอากาศหายใจ

"ไอ้เหี้ย..."ผรุสวาทไปพร้อมๆ กับใช้หลังมือถูไถเช็ดริมฝีปากด้วยท่าทางรังเกียจ ภาสภากรมองหน้าเด็กหนุ่มพลางเดินเข้าไปประชิดตัวจนใต้ฝนต้องถอยหนี

"จะถอยไปไหนล่ะ ด่าฉันอีกสิ"

"..."

"เอ้า ด่าเร็วเงียบทำไม ฉันรอฟังอยู่"

"ออกไป"เด็กหนุ่มเอ่ยไล่พลางมองคนตรงหน้าด้วยท่าทางตื่นตระหนก ต่างจากอีกคนที่ย่างเท้าเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางคุกคามทั้งใบหน้าหล่อเหลานั้นก็เปื้อนยิ้มดูสนุกสนาน

"นั่นแกจะทำอะไรคนไข้กูวะไอ้ภาส"เสียงที่ดังขึ้นพร้อมร่างคุณหมอที่เดินเข้ามาเหมือนระฆังช่วยชีวิต ภาสภากรมองหน้าเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กก่อนจะไหวไหล่ไม่สนใจแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา หมอพีมองตามเพื่อนพลางถอนหายใจออกมาแล้วหันไปมองเด็กหนุ่มพลางส่งยิ้มให้

"หมอขอตรวจดูอาการหน่อยนะครับ ถ้าไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วงเดี๋ยวหมอจะให้กลับบ้านนะครับ"

"ครับ"ใต้ฝนรับคำพลางเดินกลับไปทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ห้องทั้งห้องเงียบกริบเมื่อไม่มีใครพูดอะไรนอกจากเสียงปากกาขีดเขียนลงบนแฟ้มคนไข้ พอตรวจร่างกายเสร็จหมอพีก็อนุญาตให้เด็กหนุ่มกลับบ้านได้

"แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายล่ะครับ"ใต้ฝนเอ่ยถามโชคณวัฒน์ที่ยืนอยู่ข้างๆ

"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง นายข้าจัดการให้หมดแล้ว"สิ้นคำตอบเด็กหนุ่มก็หันไปมองชายร่างสูงที่นั่งเงียบมาสักพักแล้ว ทั้งคู่มองสบตากันก่อนชายหนุ่มจะเค่นยิ้มออกมา

"ไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาซาบซึ้งขนาดนั้นก็ได้"

"พี่โชคครับ ยังไงรบกวนพาเจ้านายของพี่ไปตรวจสายตาหน่อยนะครับ แก่แล้วสายตาคงฝ้าฟางมองผิดเป็นถูก"ลูกน้องมือขวากระตุกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินประโยคแสนจิกกัดจากปากของเด็กหนุ่ม ทำงานกับนายมาเกือบสิบปีเพิ่งจะเคยได้ยินคนพูดว่านายของเขาแก่ นับถือใจไอ้เด็กนี่จริงๆ

"ปากแบบเธอนี่มัน..."

"ทำไมครับ จะตบปากผมหรอ"เด็กหนุ่มถามพลางเชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทาย

"ก็เข้าท่าดีนะ"

"อยากลองโดนตบปากด้วยปากของฉันอีกสักทีมั้ยละ"

"หรือบางทีฉันอาจจะใช้อย่างอื่น... ที่มันแข็งๆ แล้วก็ฟาดปากเธอเจ็บได้เหมือนกัน..."เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ตาสีชาแพรวพราวระยับสื่อความหมายซึ่งใต้ฝนก็ดันเข้าใจได้ดี

"คุณ...ไอ้โรคจิต! จะไปตายที่ไหนก็ไป!"

"ฮ่าๆๆ เด็กหนอเด็ก"ภาสภากรหัวเราะชอบใจกับใบหน้าแดงเถือกของใต้ฝน ก่อนจะลุกขึ้นเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งเด็กหนุ่มยืนเค่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่

แม่งเอ้ย ทีใครทีมันแล้วกันไอ้บ้า! 



 "ฝุ่น ฝุ่น...ใต้ฝุ่น ตื่น"

"อื้อ พี่ฝัน ฝุ่นจะนอน"

"ลุกเร็ว เราต้องรีบไป"

"ไปไหน"

"ออกไปจากที่นี่ ตอนนี้สองคนนั้นไม่อยู่ เร็ว..."ใต้ฝันว่าพลางดึงตัวน้องให้ลุกขึ้น ใต้ฝุ่นที่จะยังงัวเงียตื่นไม่เต็มตาแต่ก็ยอมเดินตามแรงดึงของพี่ชาย

"เราจะหนีหรอพี่ฝัน"

"อือ"ใต้ฝันตอบออกไปพลางเอื้อมมือไปกดรหัสที่ปลดล็อคประตู ใต้ฝันจำมันได้ขึ้นใจเพราะคอยแอบมองอยู่ตลอด

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

กริ๊ก

เสียงปลดล็อคทำให้สองพี่น้องต้องหันมองหน้ากัน ใต้ฝันค่อยๆ เปิดประตูแง้มออกไปมองซ้ายขวาเมื่อเห็นว่าปลอดคนก็รีบจูงน้องชายเดินออกมาจากห้องทันที ทางหนีไฟคือทางที่ใต้ฝันเลือกแทนที่จะใช้ลิฟต์

"พี่ฝัน พักแปบนึงได้มั้ย ฝุ่น...เจ็บ..."เด็กน้อยหน้าตาเหยเกมือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมตำแหน่งที่เคยถูกยิง ใต้ฝันที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดวิ่งทันที

"ไหวมั้ย"

"ฝุ่นไหว แต่พักแปบนึงนะ"

"อือ ได้สิ คงไม่มีใครใช้บันไดหนีไฟนี่หรอก"คนพี่ว่าพลางทิ้งตัวนั่งตรงขั้นบันไดแล้งดึงน้องให้นั่งลงข้างๆ ทั้งคู่นั่งพักอยู่เกือบสิบนาทีก่อนจะพากันวิ่งลงบันไดกันอีกรอบ กว่าจะมาถึงชั้นล่างสุดก็เล่นเอาสองพี่น้องเหนื่อยหอบ

ใต้ฝันดันประตูบานใหญ่ออกไปแล้วดึงน้องให้เดินตามออกมา ตากลมหันมองประตูทางออกเบื้องก่อนจะหลุดยิ้มหวาน

"ไปกันเถอะ กลับไปหาฝนกัน"

"อื้อ..."

ติ๊ง

"เฮ้ย! นั้นพวกมึงจะไปไหน!"

!!

เด็กทั้งสองหันไปมองต้นเสียงก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายฉกรรจ์สองสามคนพุ่งตัวออกมาจากลิฟต์ 

"พี่ฝัน..."

"ฝุ่น วิ่ง เร็ว!..."ใต้ฝันก็กระชากมือน้องให้ออกวิ่งทันที หัวใจที่มันเคยเก่งกล้าดันแกว่งไหวเมื่อนึกถึงสายตาทรงอำนาจที่เผลอประสานตาไปเมื่อครู่

ผู้ชายคนนั้นกำลังโกรธ

"พี่...ฝัน...ฝุ่น...เหนื่อย..."เด็กน้อยเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่นด้วยอาการเหนื่อยหอบ ดวงหน้าน่ารักซีดเผือกเหงื่อออกซึมตามกรอบหน้า

"อดทนนะฝุ่น"ใต้ฝันตอบกลับพลางกระชับมือน้องไว้แน่นแล้วเร่งฝีเท้า เด็กหนุ่มหันไปมองด้านหลังก็เห็นว่าถูกวิ่งไล่มาติดๆ หันมามองเบื้องหน้าก็เห็นแท๊กซี่จอดอยู่ไม่ไกล

"มึงหยุดนะเว้ย!"

หยุดให้โง่หรือไง

แกร็ก

"ไปxxx ครับ"ใต้ฝันเอ่ยบอกคนขับแท๊กซี่ที่สะดุ้งหลังประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับถูกกระชากเปิดออกอย่างแรง

"นี่ค่ารถ เหยียบให้เร็วที่สุดเลยนะครับ ห้ามจอดรถเด็ดขาด"เด็กหนุ่มย้ำอีกรอบก่อนจะปิดประตูด้านหน้าแล้วรีบขยับไปเปิดประตูด้านหลังพลางดันหลังใต้ฝุ่นที่กำลังยืนหอบหายใจให้เข้าไปด้านใน

"พ่นยาด้วยนะฝุ่น..."หลอดยาพ่นระงับอาการหอบถูกหยิบยื่นมาให้

"ออกรถเลยครับ"

"พี่ฝัน...!"ตากลมเบิกกว้างเมื่อพี่ชายที่คิดว่าจะตามเข้ามาในรถดันขยับตัวห่างไปพร้อมปิดประตูใส่หน้าใต้ฝุ่นก่อนรถจะเคลื่อนตัวออกไปทั้งๆ ที่ใต้ฝันยังยืนอยู่ตรงนั้น

"พี่ฝัน จอดรถนะ...จอด! ...พี่ฝัน! จอดนะ..."คนขับไม่ได้ทำตามที่เด็กน้อยตะโกนบอก เขาเหยียบคันเร่งเพื่อออกจากจุดนั้นให้เร็วที่สุด

"พี่ฝัน... ฮึก...พี่ฝัน จอดรถนะ ฮึก..ฮืออ..."ใต้ฝุ่นหันมองด้านหลังเขาเห็นพี่ชายกำลังยืนยิ้มให้จนกระทั่งถูกชายตัวใหญ่กระชากตัวไป



ผัวะ!

ฝ่ามือของคนที่เต็มไปด้วยโทสะฟาดเข้าที่แก้มขาวอย่างจนใต้ฝันเซล้มไปตามแรง นัยน์ตาสีนิลทรงอำนาจจับจ้องมองเด็กหนุ่มอย่างน่ากลัว

"เธอนี่มันหาเรื่องจริงๆ เลยนะ ให้อยู่แบบสบายๆ ไม่ชอบใช่มั้ย"

"..."

"ฉันคิดว่าฉันคงใจดีกับเธอมากเกินไป เธอถึงได้กล้าทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้"

"..."

"จัดการมันซะ อย่าให้มันลุกขึ้นมาลองดีกับกูได้อีก"

"ครับนาย"

ผัวะ!

"อั๊ก...! อึ่ก..."

ร่างกายร้าวระบม ความเจ็บแล่นไปทั่วร่างเมื่อรองเท้าเบอร์ใหญ่หลายคู่เตะอัดเข้ามาที่ช่องท้อง แผ่นหลังและช่วงขาหลายต่อหลายครั้งอย่างไร้ความปราณี ใต้ฝันนอนแน่นิ่งจำนนต่อสภาพพลางปิดเปลือกตาลง

ตั้งแต่แรกแล้ว

ความผิดของใต้ฝันมันอยู่ตรงไหนกันนะ

หรือมันผิด ตั้งแต่ที่เขาเอาตัวเข้ามาผัวพันกับยานรกนั่น




ซ่าาา

"ฝนตกจนได้สิน่า ไอ้หนูเอ็งจะหลับก่อนก็ได้ เดี๋ยวถึงแล้วลุงเรียก อีกไกลเลย"

"ฮึก..ไม่เป็นไรครับ..."ใต้ฝุ่นตอบกลับลุงคนขับรถแท๊กซี่พลางสะอื้นเบาๆ ด้านลุงเองที่เห็นเด็กมันร้องไห้ไม่หยุดก็ไม่รู้จะปลอบยังไงเลยเปิดแผ่นกันแดดด้านบนกะจะหาแผ่นซีดีเพลงสตริงฮิตๆ ที่ลุงคนขับคิดว่าใต้ฝุ่นอาจจะชอบมาเปิดให้ฟังหวังจะปลอบให้เด็กหนุ่มอารมณ์ดีขึ้น

"เดี๋ยวลุงเปิดเพลงให้ฟังนะ..."

ปริ้นนนน!!

"เฮ้ยย...!"

เอี๊ยดดด

โครมมม!

ซ่าาาาา

ครืด ครืด ครืด ครืด ครืด

เสียงฝนห่าใหญ่ดังประสานไปกับที่ปัดน้ำฝนที่ขยับซ้ายทีขวาที ใต้ฝนหอบหายใจหนักๆ พลางค่อยๆ เอื้อมมือคว้านหาหลอดยาพ่นที่มันล่วงหล่นจากมือไปตอนที่รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้โครมใหญ่

"อึ่ก...ไอ้หนู...ไอ้หนู..."ลุงคนขับที่เพิ่งตั้งสติได้ใบหน้าอาบเลือดหันมามองเด็กน้อยที่นอนหอบหายใจท่าทางทรมานอยู่เบาะหลัง

"ฮือ...แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก..."

"ไอ้หนู...อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ เดี๋ยวลุงโทรเรียกรถพยาบาลก่อน..."ใต้ฝุ่นไม่ได้รับรู้ประโยคนั้นเพราะตอนนี้หูมันอืออึ้งไปหมด ตาก็พร่ามัวเห็นเพียงหลอดยาพ่นลางๆ ที่พยายามเอื้อมมือเท่าไหร่ก็เอื้อมไม่ถึงเสียที

พี่ฝน พี่ฝัน

อยู่ไหน มาหาฝุ่นหน่อย

เปรี้ยง!

แสงจากวาบพร้อมเสียงฟ้าร้องกึกก้องดังไปทั่วบริเวณนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ใต้ฝุ่นรับรู้


ซ่าาาา

เปรี้ยงงง

"ไม่หลับไม่นอนวะเอ็ง"

"ใครจะหลับลงล่ะ เพื่อนพี่กรนดังขนาดนี้ กรนดังกว่าเสียงฟ้าร้องอีก"ใต้ฝนตอบกลับโชคณวัฒ พลางเหลือบสายตาไปมองร่างของอีกคนที่นอนอยู่เตียงท่าทางหลับสบายพร้อมส่งเสียงกรนนั้นทำให้เด็กหนุ่มเบ้ปาก

"ทำไมเจ้านายของพี่ต้องให้ผมต้องมาอยู่นี่อยู่ด้วยก็ไม่รู้"

"ผมจะกลับบ้านก็ไม่ยอมให้กลับ บ้าบอฉิบหาย ผมไม่ใช่ลูกน้องเขานะ เป็นแค่ลูกหนี้ จะมาบังคับกันแบบนี้ไม่ได้ป่ะ"

"บ่นไปนายข้าก็ไม่ยอมให้เอ็งกลับหรอก"

"..."

"ไปๆ ไปนอน เดี๋ยวพรุ่งนี้นายคงเรียกเอ็งไปคุยเองนั่นแหละ"

"อ่อ แล้วขอเลยนะ อย่ากวนตีนนายข้าอีก เดี๋ยวก็โดนนายข้าจับจูบปิดปากอีก"

"พี่..! จะพูดถึงทำไมอีก คนอุส่าห์ลืมๆ ไปแล้ว"

"ฮ่าๆๆ ข้าจะรู้หรอก เห็นเอ็งนั่งจับปากตลอด ก็นึกว่านึกถึงจูบของนายข้าอยู่น่ะสิ"

"ผมจับปากเพราะปากผมแตกเถอะ ใครจะไปคิดถึงจูบเซงเคร็งนั่น"

"เอ็งนี่มันปากดีจริงๆ เว้ย ข้านอนล่ะ พรุ่งนี่มีงานแต่เช้า เอ็งก็รีบๆ นอน"พูดจบโชคณวัฒน์ก็เดินเอาขนหนูผืนเล็กไปแขวนไว้ที่ราวก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงสามฟุตที่มันดูเล็กไปถนัดตาเมื่อเทียบกับร่างใหญ่ๆ นั้น ใต้ฝนถอนหายใจก่อนจะทิ้งตัวนอนราบบนฟูกที่เจ้าของห้องทั้งสองคนใจดีหาเอามาปูไว้ให้

"ปิดไฟด้วยสิว่ะ"ใต้ฝนถอนหายใจก่อนจะยอมลุกเดินไปปิดไฟแล้วมาทิ้งตัวนอนที่เดิม ตากลมลืมโพ่งให้ความมืด หูก็ฟังเสียงกรนคอลประสานไปกับเสียงฝนตกด้านนอก

มึงกับน้องกำลังทำอะไรกันอยู่นะ

กูคิดถึงมึงกับฝุ่นจะแย่แล้ว



ก๊อกๆๆ

"นายครับ ขออนุญาตครับ"

"ไอ้เบสที่ตามแท็กซี่ไปโทรมารายงานว่ารถคันนั้นประสบอุบัติเหตุครับ"

"ว่าไงนะ! แล้วเด็กคนนั้นปลอดภัยดีใช่มั้ย..."

"ใต้ฝุ่นปลอดภัยดีครับ ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ นอกจากอาการหอบกำเริบครับ"

"อืม ให้ไอ้เบสจัดการหาห้องพักที่ดีที่สุดของโรงพยาบาล ส่วนมึงก็ไปเตรียมรถให้กู"

"ครับนาย เอ่อ... แล้วใต้ฝันละครับ..."

"..."

"ให้พาไปโรงพยาบาลด้วยมั้ยครับ เด็กนั่นถูกซ้อมจนสภาพดูไม่จืดเลยครับ..."

"ปล่อยมันไว้แบบนั้นแหละ กูล่ะเกลียดนักพวกเด็กอวดเก่ง ทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้"

"ครับ..."

____________



กว่าจะมีความสุขกันได้น้องๆ คงซ้ำกันตาย เห้อๆๆๆ รักน้อง เอ็นดูน้อง คอมเม้นกันได้นะคะ 




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หึยยยยย แต่ละคนน่ากำหมัดเหลือเกิน
ตอนหน้าคุณหมอไทเกอร์มีบทกับเขามั่งแล้วสินะ :hao5:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
สิ้นคิดเหี้ยไร!! ใครอยากจะไปยอมจำนนกับคนที่ปลักปลำความผิดให้วะ ใครจะไว้ใจฝากชีวิตไว้กับคนที่จะยิงเรา  :z6: ชอบใต้ฝันอะ ไม่ยอมจำนนง่ายๆใจเด็ดดีมาก ยังไงก็ไม่คิดว่าจะมีชีวิตต่อได้ถ้าหนีไม่รอด เพราะงั้นยอมตายต่อหน้าเขาเลย โดนซ้อมกี่วันก็บ่ยั่น กล้าให้เขาตายไหมละ หึหึ! //อะไร๊ฝนเสียจูบให้เขาแล้ว อึ้ยยย  :serius2: ถ้าเขาคุกคามอีก แกล้งช็อคตาค้างหายใจไม่ออกเลย เพราะเราก็เคยเป็นแล้ว เนียนมาทำเพื่อหนีจากการคุกคาม ให้รู้ว่าถ้าขืนใจจะช็อคแบบนี้ เอาสิ  :angry2: อย่ายอมง่ายๆ //โอ๊ยยใจหายใจคว่ำไปกับฝุ่น ดีนะที่รอดปลอดภัย แม้จะช่วยฝุ่น ก็ไม่หายโกรธหรอกนะคุณสิงห์ สั่งลูกน้องอัดใต้ฝันขนาดนั้น โกรธมากว้อยยยย  :z6: :z6: //สนุกกก อ่านละอินชิบ 5555 ติดเลยตอนนี้ รอตอนหน้าจะไม่ไหวแล้ว ชอบบบ 555 จะเป็นยังไงกันต่อ ขอบคุณนะคะที่มาต่อให้อ่าน เป็นกำลังใจให้ค่ะ มันส์มาก  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
07

อือ..."เสียงเล็กครางอืออึ้งดังขึ้นเมื่อเด็กน้อยได้สติขึ้นมา เปลือกตาบางค่อยๆ เปิดออกเชื่องช้า

"ฟื้นแล้วหรอ เป็นยังไงบ้าง"ลูกแก้วใสเหลือบมองเจ้าของเสียง ก็เห็นกายสูงกำยำนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียง

"คุณสิงห์..."ใจดวงน้อยกระตุก เมื่อสบประสานกับนัยน์ตาดุๆ ก่อนจะเบื้อนสายตาหนีมองไปทางอื่นด้วยความรู้สึกกลัว

คิดไว้อยู่แล้วว่ายังไงก็หนีไม่พ้นหรอก

"เจ็บตรงไหนมั้ย"

"ไม่ครับ"

"ไม่เจ็บตรงไหนก็ดีแล้ว ฉันเป็นห่วงเธอมากนะ รู้มั้ย"เจ้าของกายผิวแทนพูดขึ้นพลางเอื้อมมือมาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มของใต้ฝุ่น ซึ่งเด็กน้อยก็อดไม่ได้ที่จะเกร็งตัวขึ้นมา

"..."

"ดูทำท่าเข้า กลัวฉันหรือไง"

"เปล่าครับ"ตอบทั้งที่หลบสายตา มือเล็กขย้ำผ้าห่มไปมาซึ่งท่าทางแบบนั้นมันก็เรียกให้คนมองเอ็นดูได้ไม่น้อย

"เอาเถอะ ฉันไม่รบกวนแล้ว เธอพักผ่อนเถอะ" 

"แล้ว...พี่ฝันละครับ พี่อยู่กับคุณหรือเปล่า"

"อืม พี่เธอเขาอยู่กับฉัน"

"คุณไม่ได้ทำอะไรพี่ฝันใช่มั้ยครับ คุณเคยสัญญากับฝุ่นแล้วว่าจะไม่ทำร้ายพี่ฝัน"เด็กน้อยเอ่ยถามเมื่อกายสูงขยับลุกขึ้นยืน ส่วนคนถูกถามก็ชะงักไปก่อนจะวาดยิ้มบางๆ ส่งให้

"แน่นอน ฉันไม่ผิดสัญญาหรอก เธอนอนเถอะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาหาแต่เช้า"

"ให้พี่ฝันมาด้วยนะครับ"

"ได้ เดี๋ยวฉันจะพาเขามาด้วย"ใต้ฝุ่นยิ้มกว้างรับคำตอบ ชายหนุ่มมองท่าทางดีใจของเด็กน้อยบนเตียงส่งท้ายก่อนจะเดินออกมา

"จะกลับบ้านเลยมั้ยครับนาย"

"ยัง ไอ้กล้ามึงอยู่ดูแลใต้ฝุ่นที่นี่ ถ้ามีอะไรฉุกเฉินให้โทรหากูทันที"

"ครับนาย"

"ส่วนไอ้ชัชมึงกลับไปที่คอนโดกับกู"

"ครับนาย เดี๋ยวผมไปเตรียมรถให้ครับ"



แกร็ก

 กึก กึก กึก

เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นหนักๆ ปลุกสติของใต้ฝันให้ตื่นขึ้น พยายามขยับตัวแต่ก็ต้องส่งเสียงร้องโอดครวญออกมาพร้อมกับใบหน้ามอมแมมบิดเบี้ยวเหยเกเมื่อรู้สึกเจ็บร้าวระบมซอกซ้ำไปทั้งร่าง ขยับแค่เพียงปลายนิ้วความเจ็บแปล๊บก็แล่นไปถึงขั้วสมอง

"อึก...แค่กๆๆ..."เสียงไอโขลกยิ่งทำให้กายบางทรมานไหนจะเลือดสีเข้มที่ทะลักออกมาจากปากมันคาวคละคลุ้งชวนคลื่นไส้ ใต้ฝันพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นมองแต่ภาพเบื้องหน้าก็พร่ามัวเมื่อสายตายอมไม่โฟกัสสิ่งใด

น้ำใสเอ่อคลอที่หน่วยตาเมื่อรู้สึกทรมานจนแทบไม่อยากจะหายใจเพราะเจ็บร้าวซี่โครงทุกครั้งที่เอาอากาศเข้าปอด ตากลมเหม่อมองภาพเลื่อนลางของคนสองคนที่เดินเข้ามาก่อนที่ใครคนหนึ่งจะเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ แล้วทรุดตัวนั่งลง

ฟุบ

สัมผัสแผ่วเบาถูกวางลงบนกลุ่มผม มือนั้นลูบผมนุ่มเบาๆ ก่อนก้านนิ้วสีแทนจะเลื่อนมาเกลี่ยเส้นผมที่ละอยู่ตามกรอบหน้ามอมแมม

"...ใคร..."

"..."คนตรงหน้าไม่ตอบนอกจากความรู้สึกที่ว่าร่างทั้งร่างลอยขึ้นจากขึ้นพื้น จากแสงมืดสลัวกลายเป็นสว่างจ้า จังหวะการเดินมั่นคง อ้อมแขนแข็งแรงที่พอใจจะให้เด็กหนุ่มไม่กลัวที่จะตกลงไป

ติ๊ง

ประตูลิฟต์เปิดออกรับผู้โดยสารทั้งสาม ภายในกล่องสี่เหลี่ยมเงียบสนิทไม่มีใครคิดจะเอื้อนเอ่ยคำใดออกมา 'ชัชวาล' ตำแหน่งมือซ้ายของนายสิงห์ยืนสงบเสงี่ยมอยู่หน้าแผงควบคุมพลางเหลือบสายตามองเงาสะท้อนในประตูลิฟต์มองร่างสูงกำยำของผู้เป็นนายที่ยืนอุ้มร่างไร้สติไว้ในออมแขน

เขาไม่เข้าใจนายของเขา

สั่งลูกน้องให้ซ้อมเด็กหนุ่มจนสภาพเรียกได้ว่าปางตาย ไอ้เขาก็คิดว่าไอ้เด็กนี่จะไม่รอดเสียแล้ว ก็เล่นพา'คนสำคัญ'ของนายหนีออกมาแบบนั้น คงไม่แคล้วถูกสั่งฆ่าแน่ๆ เพราะนายของเขาไม่เคยปราณี อ่อนข้อให้ใคร

แต่ก็ผิดคาด

"ติดต่อไอ้เกอร์หรือยัง"

"เรียบร้อยแล้วครับนาย คุณไทเกอร์แจ้งว่าจะมาถึงอีกครึ่งชั่วโมงครับ"

"อืม"

ตำแหน่งมือซ้ายของนายใหญ่ก้มหน้าลงพลางขบคิดในหัว เขาไม่แน่ใจว่านายใหญ่ของตนเองอะไรคิดอยู่ และกับเด็กตัวขาวนั่นไม่รู้จะเรียกว่ามีบุญหรือมีกรรมที่เจ้านายของเขายังคงไว้ชีวิต

แต่ที่ชัชวาลรู้แน่ๆ คือตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปสถานะของสองพี่น้องจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

คนหนึ่งจะพากับไปเป็นหงส์สูงศักดิ์ดังดิม

ส่วนอีกคน

คงต้องแล้วแต่เวรแล้วแต่กรรม



"พี่มันบ้า"

"กูเรียกให้มึงมาดูเด็กนั่น ไม่ใช่ให้มาด่ากู"สิงหาตอบกลับด้วยกระแสเสียงเรียบสงบไม่ได้แสดงความไม่พอใจอะไรที่ถูกน้องชายด่า ทั้งยังดูผ่อนคลายต่างจากน้องชายที่ดูโกรธจัดถ้าเป็นในการ์ตูนคงมีไฟลุกเป็นแบล็กกาวน์

"ไอ้ดูน่ะ ผมดูแน่แต่ขอหน่อยเถอะ"

"ใจพี่มันมืดมันบอดไปหมดแล้วหรือไงถึงได้สั่งให้คนของพี่ซ้อมเด็กคนนี้น่ะ"

"..."

"พี่ไม่เห็นหรือว่าเด็กมันก็ตัวแค่นั้น ถูกต่อยถูกเตะแค่ทีสองทีก็แย่แล้ว แล้วนี่อะไร"

"..."

"เด็กมันทำอะไรผิดหนักหนา..."

"ถ้ามึงยังพูดอีกประโยคเดียวกูจะให้พวกมันเอาตัวเด็กนั่นกลับไปห้องเก็บของ ให้มันนอนรอความตายอยู่ในนั้นแหละ"

"..."คุณหมอเงียบ ตัวเขาไม่เคยคิดกลัวคำขู่ของผู้เป็นพี่ แต่ครั้งนี้จำใจต้องยอมเพราะคนที่จะเดือดร้อนถ้าเขายังระเบิดอารมณ์อยู่แบบนี้ก็คือเด็กอีกคน

ไทเกอร์ถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ก่อนจะยอมล่าถอยเดินกลับเข้าไปในห้องที่มีร่างของเด็กหนุ่มนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ ตาคมอ่อนแสงกวาดตาสำรวจบาดแผลบนกาย นึกสงสารจับใจยามเห็นรอยซ้ำประดับตามผิวกายขาวๆ

คงเจ็บน่าดู

"เวรกรรมอะไรของเธอกันนะ ถึงต้องเข้ามาพัวพันกับพี่ชายฉัน"

คุณหมอส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะเริ่มทำการรักษาคนป่วย แต่ในสถานที่ที่อุปกรณ์ไม่พร้อมเขาก็ทำได้แค่ตรวจและรักษาบาดแผลภายนอกเท่านั้น 

"เรียบร้อยแล้วครับ แผลภายนอกมีแต่รอยฟกซ้ำ แต่ภายในจะเอาให้ชัวร์คงต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกที ส่วนนี่ยาทาแผล พวกรอยซ้ำและก็ยากินแก้ปวด แก้ช้ำใน"คุณหมอว่าพลางยืนถุงยาให้กับผู้เป็นพี่

"อืม แค่นี้ใช่มั้ย"

"ครับ ผมไปก่อนนะ นี่ทิ้งหมอแก้วไว้คนเดียว ออกเวรแล้วจะแวะเข้ามาดูให้อีกที"

"แล้วผมขอสั่งเลยนะว่าพี่ห้ามทำอะไรใต้ฝันอีกเด็ดขาด..."

"..."

"แล้วถ้ากูเผลอพลั้งมือฆ่ามันละ"

"พี่ก็ต้องทำให้เขาฟื้นขึ้นมา"

"..."




"พี่ฝันจะมาตอนไหนหรอครับ"เด็กน้อยเอ่ยถามต้นกล้าเป็นรอบที่ห้าของเช้าวันนี้ พอลืมตาได้ใต้ฝุ่นก็รีบถามหาพี่ชายทันที ไอ้เขาเองก็น้ำท่วมปากจะให้บอกได้อย่างไรว่าพี่ฝันของเอ็งคงไม่มาหรอก สภาพยับเยินแบบนั้น

"ไม่รู้"ใต้ฝุ่นยู่ปากเมื่อได้รับคำตอบแบบเดิม ตากลมหันมองนาฬิกาแขวนผนังที่ตอนนี้มันจวนจะแปดโมงแล้ว

"แต่คุณสิงห์บอกว่าจะพาพี่ฝันมา..."

แกร็ก

ใต้ฝุ่นรีบขยับตัวลุกขึ้นเมื่อบานประตูค่อยๆ เปิดออก เด็กน้อยวาดยิ้มสดใสต้อนรับพี่ชายเพราะไม่อยากให้คนพี่รู้สึกเป็นห่วง

"ทำไมตื่นเช้าจัง"แต่คนที่เปิดเข้ามาดันไม่ใช่พี่ชายนั้นทำให้รอยยิ้มจืดจางไป

"คุณพยาบาลเข้ามาวัดไข้น่ะครับฝุ่นก็เลยตื่น..."

"แล้วพี่ฝันละครับ"พอตอบคำถามเสร็จก็เอ่ยถามถึงพี่ชายทันทีเล่นเอาชายหนุ่มชะงักไป สิงหาหันมองไปลูกน้องทั้งสองคนด้านหลังเชิงไล่ให้ทั้งคู่ออกไปจากห้อง

"ใต้ฝันเขาไม่ได้มา"

"ทำไมละครับ"

"ใต้ฝุ่น ฉันมีเรื่องสำคัญจะต้องบอกเธอ"สิงหาเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม ท่าทางจริงจังทำเอาใต้ฝุ่นต้องนิ่งไป

"คุณสิงห์มีอะไรจะบอกฝุ่นหรอครับ"

"ตั้งแต่วันนี้เธอคงจะไม่ได้เจอกับพี่เธออีกแล้ว"

"..."

"พี่เธอ ขายเธอให้กับฉันแล้ว"ตากลมกระพริบเชื่องช้าสมองประมวลผลประโยคเมื่อครู่

"คุณ...คุณสิงห์พูดอะไร ฝุ่นไม่เห็นเข้าใจเลย"

"ฉันก็ลำบากใจที่จะพูด ยังไงเธอก็ลองอ่านเอกสารนี้ดูก่อนแล้วกัน"ชายหนุ่มยื่นเอกสารให้เด็กน้อยบนเตียง ใต้ฝุ่นเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะรับซองสีน้ำตาลมาแล้วล้วงหยิบกระดาษด้านในออกมา

ตากลมไล่อ่านตัวหนังสือมากมายบนแผ่นกระดาษช้าๆ เนื่องด้วยเพราะอ่านภาษาไทยไม่คล่องแต่ก็พอจะจับใจความได้ไปพร้อมๆ กับหัวใจดวงน้อยที่ปวดหนึบ มือเล็กสั่นเทา หยาดใสเอ่อขึ้นคลอหน่วยตา

"ไม่...ไม่จริง...เป็นไปไม่ได้..."

"..."

"ฉันเคยยื่นข้อเสนอให้พี่เธอมาอยู่กับฉันแล้ว แต่เขาก็ปฏิเสธ..."

"แต่เมื่อคืน...เขามาบอกว่าต้องการเงินก้อนหนึ่งเพื่อเอาไปใช้หนี้อะไรสักอย่าง"

"โดยแลกเงินก้อนนั้นกับตัวเธอ..."

"ฉันได้ยินเขาพูดว่าจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับแฝดของเขาและเขายังบอกกับฉันด้วยว่าเขาเบื่อจะดูแลเธอแล้ว..."

"ไม่จริง! คุณโกหก! พี่ฝัน...พี่ฝัน...พี่ฝันไม่มีทางทิ้งฝุ่น..."

"..."

"พี่ฝันไม่มีทางทำแบบนั้น..."

"เด็กน้อย ฉันจะมาโกหกเธอทำไม ถ้าเธอคิดว่าฉันโกหก งั้นเธอก็ดูตรงนี้สิ"

"ลายเซ็นต์ของพี่เธอ"ตากลมจ้องมองตัวอักษรลายมือบรรจงคุ้นตา

"ไม่...ฝุ่นไม่เชื่อ! คุณโกหก!"เด็กน้อยตะโกนเสียงดังก่อนจะดึงสายน้ำเกลือออกจากแขน กายเล็กขยับลงจากเตียงและทันมีที่ฝ่าเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสกับพื้นใต้ฝุ่นก็ทรุดฮวบลงไปเพราะไร้แรงจะทรงตัว

"ไม่จริง พี่ฝันรักฝุ่น พี่ฝันจะไม่ทิ้งฝุ่น...ฮึก...พี่ฝันกับพี่ฝนรักฝุ่น..."

"เดี๋ยวพี่ก็จะมาหาฝุ่น พี่จะไม่ทิ้งฝุ่น...พี่ฝันบอกว่าเราจะกลับไปหาพี่ฝนด้วยกัน..."น้ำใสไหลรินอาบแก้มขาว ริมฝีปากสั่นเทาพึมพำประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา กายสูงทรุดตัวนั่งลงพลางรวบร่างเล็กที่สั่นเทาสะอื้นอย่างน่าสงสารเข้ามากอด

เด็กน้อยร้องไห้โฮไม่ฟังเสียงปลอบ ลมหายใจที่มันเคยเข้าออกสม่ำเสมอกลับกลายเป็นหายใจถี่รัวจนตัวโยนเมื่อเด็กน้อยเข้าสู่สภาวะเครียด ช็อคกับเรื่องที่รับรู้โดยไม่ทันตั้งตัว

"ใต้ฝุ่น..."สิงหาที่เห็นท่าทางไม่ดีของคนในอ้อมก็รีบช้อนตัวเด็กน้อยขึ้นมาวางบนเตียงก่อนจะหยิบหลอดยาพ่นระงับอาการหอบขึ้นมาแล้วจัดการพ่นมันเข้าปากของเด็กน้อยทันที

ใช้เวลาพักใหญ่อาการหอบก็สงบลงแต่น้ำใสยังคงไม่ยอมหยุดไหลออกมาจากตาคู่สวย ใต้ฝุ่นยังคงเอาแต่นอนร้องไห้อยู่แบบนั้นด้วยความเสียใจและเจ็บปวด

สิงหาเลื่อนเก้าอี้มาข้างเตียงแล้วทิ้งกายนั่งลงก่อนจะเอื้อมมือหนาไปวางบนกลุ่มผมนุ่มมือ

"ใต้ฝุ่นอย่าร้อง เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ หลังจากนี้ฉันจะดูแลเธอเอง"

"..."

"ฉันจะดูแลเธออย่างดีให้ยิ่งกว่าพี่ของเธอ"


ถ้าใต้ฝุ่นมีสติสักนิดคงจะพอสักเกตุเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่ลูบหัวตัวเองไม่หยุด



"เอ้า เดินเร็วๆ หน่อยสิว่ะ เดินช้าเป็นเต่าเลยเว้ย"

"พี่เดินเร็วเองต่างหาก"โชคณวัฒน์เลิกต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่ายแล้วเดินลิ่วๆ ไปยังห้องที่อยู่สุดทางเดิน ส่วนใต้ฝนที่เดินตามต้อยๆ ก็คอยกวาดสายตาสำรวจ

ก๊อกๆๆ

"ผมพาตัวใต้ฝนมาแล้วครับ"

"..."ไม่มีเสียงตอบรับดังออกมา จนลูกน้องถึงกับขมวดคิ้ว ก้มมองนาฬิกาก็พบว่าตัวเองมาถึงตรงเวลาพอดิบพอดี

"ขออนุญาตครับนาย"

แกร็ก

"เฮ้ย...!"ใต้ฝนเบิกค้างกับภาพของผู้ชายตาสีชาที่กำลังกระแทกกระทั้นตัวโถมใส่ชายอีกคนที่นอนทิ้งกายบนโต๊ะทำงานอย่างลืมตาย เสียงคราง เสียงเนื้อกระทบกันดังจนไม่น่าแปลกใจที่จะไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู ใต้ฝนไม่เห็นว่าชายอีกคนเป็นใครนอกเสียจากเรียวขาสวยที่ยกขึ้นพาดบนบ่าแกร่งของอีกคน

"ไอ้โชค!"

"ขอโทษครับนาย"โชคณวัตน์ที่ถูกตวาดจนต้องรีบปิดประตูลงทันที ใบหน้าคร้ามเข้มนั้นดูไม่แปลกใจกับภาพที่เพิ่งเห็นไปเมื่อสักครู่

"เรารอก่อนแล้วกัน"ใต้ฝนอ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ตัดสินใจไม่พูดมันออกมา พอพวกเขาเงียบไม่ได้พูดอะไรถึงได้ยินเสียงควรญครางสุขสมเบาๆ ดังทะลุมาจากในห้อง

ใต้ฝนรู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ ทั้งใจก็เต้นตึกตัก ภาพผู้ชายสองคนที่กำลังบรรเลงบทรักกันอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ยังคงติดตาสลัดไม่ออก

แกร็ก

สักพักใหญ่ๆ ประตูไม้เนื้อดีก็ถูกเปิดออกก่อนชายหน้าตาหล่อท่าทางเหย่อหยิ่ง ตัวผอมเพียว สูงโปร่งจะเดินออกมา

"สวัสดีครับคุณโชค"

"สวัสดีครับคุณกานต์"โชคณวัฒน์ตอบกลับด้วยท่าทางสุภาพนอบน้อมต่างจากที่ทำกับใต้ฝน เด็กหนุ่มลอบมองชายตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วเพราะรู้สึกคุ้นหน้าอีกฝ่ายเสียเหลือเกิน ซึ่งอีกฝ่ายก็หันมาจับจ้องเด็กหนุ่มพลางไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยท่าทางเสียมารยาทจนใต้ฝนนึกไม่ชอบใจ

"นี่ใคร"

"ลูกหนี้คุณภาสครับ"

"..."

"ลูกหนี้? แน่ใจนะว่าแค่นั้น"

"ครับ"

!

ก้านนิ้วสวยเอื้อมขึ้นมาจับที่ปลายคางพลางจับดวงหน้าใต้ฝนพลิกไปพลิกมาก่อนใต้ฝนจะปัดมือบางออกอย่างไม่ชอบใจ 

"ก็ขอให้เป็นแค่ลูกหนี้แล้วกัน"คนแปลกหน้าพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไป ใต้ฝนขมวดคิ้วมองตามก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อคิดออกแล้วว่าอีกคนคือใคร

"พี่โชค นั่นนายแบบที่ชื่อกานต์ไม่ใช่หรอ"

"เออ"

"แล้ว..."

"ไม่ใช่เรื่องของเอ็งน่า เข้าไปได้แล้ว"ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไร โชคณวัฒน์ก็เปิดประตูแล้วผลักเด็กหนุ่มให้เข้าไปในห้อง

"มานั่งสิ จะยืนบื้อทำไม"เด็กหนุ่มสะดุ้งก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวใหญ่อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก พลางแอบมองสำรวจโต๊ะไม้เบื้องหน้าที่มันเคยเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนคู่หนึ่งมาก่อน

"ไม่ต้องห่วง ฉันเช็ดจนสะอาดแล้ว"ใต้ฝนถลึงตาใส่ ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อเมื่อไม่สามารถลบหนังสดฉากเมื่อครู่ออกไปได้จริงๆ แถมเด็กหนุ่มยังรู้สึกว่ากลิ่นของกามอารมณ์ของคนสองคนเมื่อครู่นั่นยังคงลอยตลบไปทั่วห้อง

"เอ่อ...พี่โชคบอกว่าคุณมีเรื่องจะคุยกับผม"แต่ก่อนจะสติสตังจะแตกกระเจิงไปมากกว่านี้เด็กหนุ่มก็เอ่ยถามออกมาคล้ายต้องการหักเหความสนใจของตัวอง

"ฉันอยากจะขอโทษเรื่องคืนก่อน..."ใต้ฝนกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

"ขอโทษ? ผมไม่คิดว่าจะได้ยินมันจากปากของคุณ"ภาสภากรนิ่ง รู้สึกขุ่นใจเมือเห็นรอยยิ้มขบขันของเด็กหนุ่ม ความรู้สึกผิดต่อคนตรงหน้าค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ

"ฉันเป็นผู้ใหญว่าที่กล้าจะยอมรับความผิดตัวเอง"

"งั้นหรอครับ แต่ผมไม่ต้องการคำขอโทษของคุณ"

และภาสภากรก็ตัดสินใจโยนความรู้สึกผิดต่อเด็กตรงหน้าทิ้งไป

ท่าทางอวดดีแบบนี้เขาล่ะชอบนัก

"..."

"แค่นี้ใช่มั้ยครับ งั้นผมขอตัวก่อน"

"เดี๋ยว ฉันยังคุยธุระกับเธอไม่จบ จะรีบไปไหนล่ะ"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มขยับกายลุกขึ้น ใต้ฝนจับจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงตามเดิม เรียวขาสวยยกขึ้นไขว้กันไว้ แขนผอมๆ ก็ยกขึ้นกอดอกนั่งพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางที่ทำให้คนมองรู้สึกหมั่นไส้

"งั้นมีอะไรก็รีบๆ พูดมาสิครับ ผมรีบนะครับ...ต้องไปทำงานหาเงินใช้หนี้คุณอีก"

"ก็จะเรื่องอะไรได้ล่ะถ้าไม่ใช่เรื่องของคนที่เข้ามาส่งยาในโรงแรมของฉัน"

"..."

"แล้ว...มันยังไงล่ะ"ภาสภากรกระตุกทิ้งเอนตัวพิงพนักเก้าแล้วกอดอกมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างเป็นต่อ ท่าทางผ่อนคลายแต่กลับกดดันจนใต้ฝนรู้สึกได้

"นั้นสิ...แล้วยังไงดีนะ"

"..."

"ฉันต้องการตัวแฝดของเธอ"

"มันหายตัวไปเกือบสามอาทิตย์แล้ว ถ้าคุณมีปัญญาก็ตามหามันเอาเองแล้วกัน"

"ไม่ต้องห่วง ฉันตามหาเขาแน่แต่จนกว่าฉันจะหาเขาเจอเธอจะต้องอยู่กับฉัน"

"ในฐานะตัวประกัน"

"จะบ้าหรือไง! ผมไม่ว่างขนาดนั้นหรอกนะ ผมต้องทำงานนะครับ ลืมหรอว่าผมต้องใช้หนี้คุณน่ะ"

"ก็ใครว่าจะให้เธออยู่เฉยๆ ล่ะ"

"ฉันจะให้เธอทำงานกับฉันโดยฉันจะหักหนี้จากเงินเดือนของเธอ"

"ผมไม่..."

"นี่ไม่ใช่ทางเลือก"นัยน์ตาสีชาที่เคยแพรวพราวหยอกล้อแปรเปลี่ยนจริงจังขึ้นมาเพียงชั่วพริบตา ใต้ฝนสบสายตาประสานกับนัยน์ตาสีอ่อนของอีกฝ่ายนิ่งๆ

"เธอจะเป็นอิสระก็ต่อเมื่อฉันได้ตัวแฝดของเธอ"

"..."

"ฉันรู้ว่าเธอไม่เต็มใจ แต่ฉันก็ใจดีกับเธอได้เท่านี้"

"..."


"นั่นเอ็งจะเก็บของอีกนานมั้ย นี่ข้ารอมาจะครึ่งชั่วโมงแล้ว"โชคณวัฒน์เอ่ยขึ้นเสียงติดรำคาญ ตาคมจ้องมองเด็กหนุ่มที่อ้อยอิ่งพับเสื้ออยู่นานสองนาน

"..."แต่ใต้ฝนไม่ได้ตอบอะไรก็ยังคงขยับเชื่องช้าจนคนมองคิ้วกระตุก โชคณวัฒน์ที่หมดความอดทนเลยเดินเข้ามาคว้ากระเป๋าเป้แล้วจับเสื้อผ้าที่กองอยู่บนฟูกยัดใส่กระเป๋ารวดเดียวจนหมด

"ไปกันได้แล้ว ข้ามีงานต้องทำ"ใต้ฝนลุกขึ้น กระดาษใบเล็กที่มีข้อความที่ถูกเขียนขึ้นอย่างบรรจงถูกพับอย่างเรียบร้อยแล้วนำไปติดไว้ที่ตู้เย็น ใต้ฝนกวาดตามองรอบห้องเช่าโทรมๆ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมรูปถ่ายของเขากับฝาแฝดและน้องชายที่หยิบเอาติดมือมา

 มันเป็นของมีค่าชิ้นเดียวที่ใต้ฝนมี

"เดี๋ยวๆ นี่จะไปไหนน่ะ"หยิงสาวรูปร่างท่วมเดินมาดักหน้าใต้ฝนเอาไว้ ทำให้โชคณวัฒน์กับชายอีกคนที่เดินนำอยู่ด้านหน้าถึงกับต้องหันมามอง

"ค่าเช่าห้องเดินนี้เธอยังไม่จ่ายเลย ค่าน้ำค่าไฟอีก ขอเดือนที่แล้วด้วยที่ค้างไว้สามร้อย จ่ายมา"

"ผม...คือผมยังไม่มีเลยครับเจ๊ ผมขอเลื่อนไปจ่ายเดือนหน้าได้มั้ยครับ"

"มีอะไร"โชคณวัฒน์เดินกลับมาถาม เจ๊เจ้าของห้องพักหันมองก่อนจะผงะถอยหนีเมื่อเห็นใบหน้าโหดๆ ราวกับตัวร้ายในละครหลังข่าวที่เจ๊ชอบดู

"คือ...เจ้านี่มันยังไม่จ่ายค่าเช่าห้องน่ะสิ"โชคณวัฒน์ถอนหายใจก่อนจะจัดการจ่ายค่าเช่าห้องของใต้ให้แถมยังจ่ายล่วงหน้าให้อีกหนึ่งปีเต็มเพราะใต้ฝนยังไม่ได้ย้ายออกแบ้วในห้องนั้นก็ยังทีข้าวของของสามพี่น้องอยู่

"พี่จ่ายไปแบบนั้นผมจะเอาเงินที่ไหนมาคืน ผมไม่มีเงินให้หรอกนะ"

"นี่เงินของมึง"

"ห๊ะ"

"นายให้กูมาไว้ เผื่อมึงจำเป็นต้องใช้จ่ายอะไร"

"..."ใต้ฝนไม่ได้โต้ตอบอะไร นอกจากเดินตามอีกคนไปที่รถเงียบๆ ก่อนรถคันหรูจะทะยานเคลื่อนตัวออกสู่ท้องถนน จุดหมายปลายทางต่อมาคือห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง

"เอ้า เดินนำสิ"ใต้ฝนหันไปทำหน้างงใส่

"อยากได้อะไรก็นำไปสิ"

"ผมมีไม่เงินซื้อนะพี่ ของห้างนี้แพงจะตาย"ใต้ฝนว่าเพราะห้างหรูแห่งนี้มีแต่ร้านแบรนด์เนมชั้นนำ ถ้าเป็นเมื่อก่อนน่ะใต้ฝนมาช็อปปิ้งเสีบแทบทุกวัน แต่ตอนนี้เขาไม่มีเงินหรอก

"เฮ้อ ข้าก็บอกไปแล้วว่านายให้เงินมา นี่เอ็งไม่เข้าใจตรงไหนวะ"พอโดนขมวดคิ้วใส่ ใต้ฝนก็ขมวดคิ้วกลับ ความไม่เข้าใจถาโถมเขาใส่

เพื่อ ?

แค่นี้หนี้มันยังท่วมหัวไม่พอหรือไง

หรือเป็นสวัสดิการของตัวประกัน


ในบ่ายวันเดียวกันใต้ฝุ่นก็ถูกพาตัวออกจากโรงพยาบาล แม้อาการบาดเจ็บภายนอกจากอุบัติเหตุนั้นจะไม่มากมายแต่บาดแผลในใจของเด็กน้อยนั้นท่วมท้นเสียจนหมอไหนก็ยากจะรักษา

"คุณสิงห์จะพาผมไปไหนหรอครับ"ใต้ฝุ่นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเมื่อเส้นทางที่กำลังไปนั้นดูไม่คุ้นตา ดวงหน้าอ่อนเยาว์ที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยของความเสียใจไว้นั้นฉายแววสงสัยจนปิดไม่มิด

"ไปบ้านของฉัน"

"บ้านของคุณ..."

"ใช่ ฉันจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านของฉันในฐานะ 'นายน้อยคนใหม่' ของศักดิภัค"

"เธอจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมใต้ฝุ่น ฉันสัญญา"

"..."

"และฉันจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอเหมือนที่พี่เธอทำ"

"..."น้ำตาที่เหือดแห้งไหลทะลักลงอาบแก้มอีกคร่า กายเล็กถูกดึงเข้าไปกอดโอบอ้อมแข็งแกร่งของสิงหา ใต้ฝุ่นร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของชายที่เป็นดั่งที่พึ่งสุดท้าย แต่หารู้ไม่ว่าชายคนนี้ก็คือคนเดียวกับที่สร้างเรื่องนี้ขึ้นมา

ไม่นานรถคันใหญ่ก็เคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังที่ใหญ่โตราวกับราชวัง สิงหาพาเด็กน้อยที่ดูเชื่องซึมเข้ามาในบ้านก่อนจะพาขึ้นไปยังห้องนอนที่เขาได้จัดเตรียมเอาไว้ให้

"นี่คือห้องของเธอ เสื้อผ้าฉันได้ให้คนเตรียมไว้ในตู้ให้แล้วรวมถึงข้าวของจำเป็นต่างๆ ถ้าขาดเหลือหรือเธออยากได้อะไรให้บอกคนของฉัน แล้วพวกเขาจะรีบจัดการให้ทันที"ตากลมโตบอบช้ำกวาดมองห้องนอนขนาดใหญ่เฟอร์นิเจอร์ครบคันทั้งยังสะอาดเรียบร้อย

"..."

"เลิกทำหน้าเศร้าได้แล้วนะ"มือใหญ่ว่าลงบนกลุ่มผมนิ่มแล้วลูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน

"เดี๋ยวฉันจะให้เธอพักผ่อนก่อนแล้วกัน ฉันว่าเธอคงรู้สึกเหนื่อย"

"..."

สิงหาวาดยิ้มส่งให้เด็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ซึ่งพออยู่คนเดียวใต้ฝุ่นก็เดินไปทิ้งตัวนั่งบนเตียงหลังใหญ่พลางชันเข่าขึ้นมาแล้วใช้มือโอบกอดตัวเองเอาไว้พลันหยาดน้ำใสมันกลั้นตัวหล่นผ่านผิวแก้มใส

ใต้ฝุ่นร้องไห้อย่างหนัก กายเล็กสั่นเทาอย่างน่าสงสาร ในยามปกติคงมีพี่ชายสักคนคอยกอด คอยปลอบอยู่ไม่ห่างกาย แต่ในตอนนี้เด็กน้อยที่คิดว่าตัวเองไม่เหลือใครแล้วนั้นเรียกได้ว่ายิ่งกว่าคำว่าใจสลาย

"ทำไมต้องทิ้งฝุ่นไปด้วย..."


-3วันต่อมา-

ก๊อกๆๆ

"ขอหมอเข้าไปหน่อยนะครับ"ไม่ต้องรอให้ได้รับอนุญาตคุณหมอหนุ่มก็เปิดประตูเข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มนั้นวาดยิ้มอ่อนโยนทักทายเด็กหนุ่มตัวขาวที่นั่งอยู่บนเตียง

"สวัสดีครับคุณหมอ"

"สวัสดีครับ วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ"กระแสเสียงทุ้มนุ่นน่าฟังดังขึ้นพร้อมกับกายสูงทิ้งตัวนั่งบนฟูกนุ่ม

"ก็ยังเจ็บอยู่ครับ แต่ไม่มากเท่าไหร่แล้วครับ"

"ขอหมอดูพวกรอยซ้ำหน่อยนะ"

"ครับ"เสื้อตัวโคร่งถูกถกขึ้น รอยซ้ำจากการถูกซ้อมเมื่อสามวันก่อนยังคงประดับอยู่บนบิวกายแถมยังเปลี่ยนเป็นสีคล้ำดูน่ากลัว

"!"เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อคุณหมอแตะนิ้วลงบนรอยสีคล้ำ จนคุณหมอถึงกับต้องชักมือกลับ

"เจ็บหรือ"

"ครับ"

"อดทนหน่อยนะ อีกสองสามวันก็หายแล้ว"

"ครับ"หลังจากตรวจร่างกายเสร็จคุณหมอก็อาสาทายาให้ ที่แรกใต้ฝันก็ปฏิเสธเพราะรู้เกรงใจ แต่ทางด้านคุณหมอก็ดื้อดึงจนใต้ฝันต้องจำยอม

"คุณหมอครับ แล้วฝุ่นเป็นยังไงบ้าง น้องสบายดีมั้ยครับ"

"ใต้ฝุ่นสบายดีครับ"

"..."

"น้องไม่ได้งอแงอะไรใช่มั้ยครับ"

"ไม่เลย น้องเธอเขาเป็นเด็กดีมากนะ"คุณหมอตอบพร้อมโกหกคำโต นึกถึงเด็กน้อยอีกคนที่ถูกจับแยกไปอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ด้วยคำหลอกลวงจากสิงหา เด็กน้อยนั้นใจสลายไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอนเอาแต่ร้องไห้ สองสามวันที่ผ่านมาก็ต้องคอยบังคับให้กินข้าวกินปลา ให้ยาคลายเครียดในปริมาณน้อยแต่ก็เพียงพอที่สามารถกล่อมให้เด็กน้อยได้หลับไหลเพื่อที่ร่างกายจะได้พักผ่อนเสียบ้าง

คุณหมอไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่พี่ชายทำ

แต่ใครเล่าจะขัดสิงหา ศักดิภัคได้

"ผมคิดถึงน้องครับ"

"ตอนนี้ผมก็ดีขึ้นแล้ว ให้น้องมาหาผมบ้างไม่ได้หรอครับ"

"คำสั่งพี่สิงห์น่ะ จนกว่าเธอจะหายดีห้ามเจอกับใต้ฝุ่น"

"..."

"หมอก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้หรอกนะ แต่การขัดคำสั่งพี่สิงห์มันไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ"

"..."

"ครับ ไม่เป็นครับแค่ได้ยินว่าน้องสบายดีผมก็ดีใจแล้วครับ"

"..."

"ถ้าผมหายดีแล้วรบกวนคุณหมอเอาตัวเจ้าแสบมาคืนผมด้วยนะครับ"

"ได้สิ"

หมอขอโทษนะครับใต้ฝัน

แต่เธอคงไม่สามารถเจอกับน้องชายได้อีกแล้วล่ะ

ตอนนี้น้องเธอกลายเป็นคนของศักดิภัคไปเรียบร้อยแล้ว

เป็นหงส์ที่คืนสู่รังโดยอยู่ใต้การปกครองของราชสีห์

หมอก็ไม่แน่ใจว่าลูกกวางอย่างเธอจะแย่งชิงตัวหงส์จากเจ้าป่ามาได้อย่างไรโดยไม่ถูกขย้ำจนสิ้นใจเสียก่อน

------

แยกกันเติบโตนะคะเด็กๆ


ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหมือนโดนปีศาจ(สิงห์)ล่อลวงแล้วลักพาตัวไปอยู่ด้วย
เศร้าหนักกว่าเดิมอีกพอบอกว่าจะไม่เจอกันแล้ว
ฝันต้องเอาตัวน้องฝุ่นกลับมาให้ได้นะ  :mew2:

ออฟไลน์ piakunaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
มาต่อเร็วๆน้า

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เอ่ออออ อืมมม อ่าาาาา งืมมม "...." ทายคู่ผิด 5555 ใครจะไปไหนกับใครก็ไปนะ จะตามดูแค่ใต้ฝัน จะไปทางไหนยังไงจะได้คู่กับใคร หวังแต่ให้เจอกับสิ่งดีๆแล้วกัน ใต้ฝนมาทำงานกับเขาแบบนี้ไม่น่ารอด อีกหน่อยก็คงหวั่นไหวไปกับเขาเห๊อะๆ ใต้ฝุ่นจะไปเป็นหงส์ก็ไปง่ายดี เข้าใจผิดพี่ไปอีก คิดว่าเขาจะขายให้คนอื่นง่ายขนาดนั้นไง คนที่พูดเนี้ยไม่หวังดีแล้ว แต่ก็เอาเถอะ ไปอยู่กับเขาจะได้สบายๆ ดีแล้วที่ใต้ฝันลูกรักเราไม่ได้คู่กับสิงห์ แม่ง โมโห 5555 สนุกมาก รออ่านตอนต่อไปเลยค่ะ รอลุ้นรอตาม3พี่น้อง  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เกือบอาทิตย์แล้วที่ใต้ฝันต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องสูทสุดหรูสองชั้นห้องเดิม แต่เด็กหนุ่มก็เอาแต่ฝั่งร่างอยู่แต่ภายในห้องสี่เหลี่ยมเพราะร่างกายที่ร้าวระบม ในทุกวันจะมีพัสดีคอยนำอาหารมาให้ถึงห้องนอนครบสามมื้อ และในช่วงเย็นหรือดึกๆ หน่อยคุณหมอท่าทางใจดีก็จะแวะเข้ามาดูอาการพร้อมมีขนมนมเนยติดมือมาฝากทุกครั้ง

เด็กหนุ่มขยับกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงและเพราะยังเจ็บแถวๆ ซี่โครงอยู่เลยไม่อยากขยับตัวมาก นัยน์ตากลมโตหันมองวิวนอกหน้าต่าง ก่อนจะถอนหายใจเมื่อท้องฟ้ามันอึมครึมไม่สดใสและอีกไม่นานฝนก็คงจะตกลงมาห่าใหญ่อีกเช่นเคย

เมื่อไหร่จะผ่านหน้าฝนนี่ไปเสียทีนะ

ก๊อกๆๆ

แกร็ก

บานประตูเปิดออกพร้อมคุณหมอเดินยิ้มเข้ามา ใต้ฝนยกมือไหว้คนแก่กว่าซึ่งเขาก็รับไหว้อย่างเอ็นดู

"วันนี้เป็นยังไงบ้าง"คำถามเดิมๆ ที่ได้ยินติดต่อกันมาห้าวัน

"ก็ไม่ค่อยเจ็บแล้วครับ"นี่ก็ตอบคำถามเดิมๆ ซึ่งคุณหมอก็ยิ้มรับคำตอบนั้นพลางเดินเข้ามานั่งลงข้างกายของเด็กหนุ่ม

"วันนี้คุณหมอซื้อน้ำใบบัวบกมาฝาก"ใต้ฝันแอบเบ้เมื่อนึกถึงรสชาติประหลักประเหลือกหวานประแล่ม แต่ขมติดปลายลิ้นของน้ำสมุนไพรที่เขาถูกคุณหมอบังคับในกิน

"ฝุ่นละครับ"เด็กหนุ่มเอ่ยถามถึงน้องชายที่ไม่ได้เจอหน้าอีกเลยตั้งแต่วันนั้น พอได้ยินคำถามคุณหมอหนุ่มก็ชะงักรอยยิ้มไป

"..."

"น้องชายผมอยู่ไหนครับ"

"..."

"หมอครับ"

"..."

"ตอนนี้ใต้ฝุ่นถูกพาตัวไปอยู่ที่บ้านของพี่สิงห์..."

"..."

"พี่สิงห์ได้จัดการทำเรื่องรับใต้ฝุ่นเป็นลูกบุญธรรมพร้อมทั้งเปลี่ยนนามสกุลของใต้ฝุ่นจากเดชาโชติวัฒเป็นศักดิภัคเรียบร้อยแล้ว"

"เป็นไปไม่ได้! เขาไม่มีสิทธิ์ทำอะไรแบบนั้น ผมเป็นผู้ปกครองของฝุ่นและผมไม่เคยยินยอมยกน้องให้เขา"

"หมอทราบครับ"

"แต่คนอย่างพี่สิงห์เขาสามารถทำทุกอย่างได้เมื่อเขาต้องการครับ"

"และเธอ...ถูกสั่งห้ามไม่ให้เจอกับน้องชายอีก..."

"คุณหมอทราบเรื่องมาตั้งแต่ต้นเลยใช่มั้ยครับ"

"ครับ หมอเซ็นต์เป็นพยานในเอกสารรับรองบุตรบุญธรรม.."ใต้ฝันระบายยิ้มทั้งที่น้ำตามันเอ่อคลอใกล้พังทลายลงมาทุกที

"พวกคุณมันก็สันดานเดียวกันหมด"

"..."

"เลว..."คุณหมอยิ้มรับถ้อยคำนั้น ไม่ได้นึกโกรธที่โดนคนที่เด็กกว่าเป็นสิบปีด่าตอกหน้า ใต้ฝันมองหน้าของคุณที่เคยนึกชื่นชมก่อนจะค่อยๆ ขยับกายลงจากเตียง แม้จะลำบากเพราะอาการเจ็บเสียดแถวซี่โครงแต่เด็กหนุ่มก็ปฏิเสธรับน้ำใจของอีกคนที่ยื่นมือมา

"เธอจะไปไหน"

"ผมจะไปคุยกับผู้ชายคนนั้นให้รู้เรื่อง"

"คุยไปก็ไม่มีประโยนช์หรอก"

"..." 

"พี่สิงห์ไม่มีทางคืนใต้ฝุ่นให้เธอ"

"ฝืนจะไปคุยกับพี่สิงห์ มีแต่เธอเองที่จะเจ็บตัวกลับมา"

"เธอก็รู้ว่าพี่ของหมอเป็นคนยังไง"

"ผมไม่รู้หรอกครับ กับผู้ชายคนนั้นผมไม่ได้รู้จักอะไรเขาด้วยซ้ำ"

"ผมรู้แค่ว่าผมจะไม่ยอมให้เขาพรากน้องจากไปผม..."

"ฝุ่นเป็นน้องของผมนะครับ น้องเป็นครอบครัวของผมนะครับคุณหมอ ยังไงผมก็ยังไม่ยอมให้เขาเอาน้องของผมไป"

"เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรแบบนั้น"

"..."พอเห็นว่าคุณหมอเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไร ใต้ฝันก็เดินไปเปิดประตู แต่ยังไม่ทันที่มือจะได้จับลูกบิดบานประตูก็ถูกเปิดออกเสียก่อน

"..."เกิดเดตแอร์ขึ้นชั่วขณะเมื่อเด็กหนุ่มสบกับนัยน์ตาสีนิลดุดันของผู้มาใหม่ แว่บแรกใต้ฝันนึกอยากซัดหมัดใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายให้มันสาสมกับที่อีกฝ่ายทำกับเขา แต่ใต้ฝันรู้ดีเขาสู้อีกคนไม่ได้หรอกเลยได้แต่ยืนกำหมัดแน่น

"ใต้ฝุ่นอยู่ไหน"เด็กหนุ่มเอ่ยถามทันทีโดยไม่คิดจะทักทายใดๆ

"น้องของผมอยู่ไหน"

"ฉันไม่ได้มาเพื่อตอบคำถามเธอ"

"คุณ...!"เด็กหนุ่มเดือดดาลกับท่าทางไม่ทุกข์ร้อนขยับกายจะพุ่งเข้าไปหาแต่ก็ถูกคุณหมอดึงตัวเอาไว้เสียก่อน สิงหากระตุกยิ้มเขาขยับตัวพิงกรอบประตูพลางกอดอกมองเด็กหนุ่ม

"ไอ้กล้า"

"ครับนาย"ลูกน้องมือขวารับคำก่อนจะเดินแทรกตัวเข้ามาในห้อง แล้วยื่นซองกระดาษทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าไปให้เด็กหนุ่ม

"รับไปสิ"ใต้ฝันกระชากซองกระดาษก่อนจะล้วงหยิบเอากระดาษด้านในออกมา คิ้วสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามันเป็นเช็คที่ระบุบชื่อของใต้ฝันเอาไว้กับจำนวนเงินสี่สิบสิบล้านบาท

"ตามที่ตกลงกันเอาไว้"

"ตกลงบ้าอะไร! ผมไม่เคยไปตกลงอะไรกับคุณทั้งนั้น!"

"ผมไม่ได้ต้องการเงิน ผมต้องการตัวน้องผมคืน"

"เห็นทีว่าฉันคงจะคืนใต้ฝุ่นให้เธอไม่ได้"

"เพราะตอนนี้ใต้ฝุ่นเป็นลูกชายของฉันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว"

"และในฐานะผู้ปกครองฉันไม่อนุญาตให้ใต้ฝุ่นเจอกับเธออีก"

"แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันจะดูแลลูกชายของฉันให้ดีที่สุด"

"ดีจนถึงขนาดที่ว่าเธอไม่ปัญญาจะดูแลเขาได้"

"..."มือขาวกำแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ตากลมประสานสายตามองนัยน์ตาสีนิลอย่างแข็งกร้าว

"ผมจะเอาตัวน้องผมคืน ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนผมก็จะเอาตัวใต้ฝุ่นคืนมาให้ได้"

"ถ้ามีปัญญาก็ลองดูแล้วกัน"เสียงทุ้มตอบกลับก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิท ใต้ฝันมองตามแผ่นหลังกว้างก่อนจะขย้ำเช็คในมือแล้วปาไล่หลังด้วยความโมโห

"อึก...!"เด็กหนุ่มนิ่วหน้าเพราะเจ็บแถวๆ ซี่โครงหลังออกแรงไปเมื่อครู่ คุณหมอที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็เข้ามาช่วยประคองแต่ใต้ฝุ่นก็เบี่ยงตัวหลบ หมอหนุ่มที่เห็นที่เห็นทางแบบนั้นก็ถอยห่ตัวางออกมา

"งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ"

"..."คุณหมอวาดประดับรอยยิ้มบางๆ ส่งให้เด็กหนุ่มที่ไม่แม้แต่จะหันมามองก่อนจะออกจากห้องไปเงียบๆ ใต้ฝันที่พออยู่คนเดียวก็ปล่อนน้ำใสที่มันกลั้นออกมาจากความโกรธ โมโห อึดอัดใจ เสียใจให้ไหลอาบแก้มเงียบๆ ไร้เสียงสะอื้น และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ใต้ฝันหลับไปพร้อมกับน้ำตา

เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นมาในช่วงรุ่งสาง กายบางขยับตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูแผ่วเบาเขาหิวน้ำและในห้องก็ดันไม่เหลือน้ำสักหยด เรียวขาเล็กก้าวเดินลงบันไดก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นกายสูงใหญ่ของใครบางคนนอนพาดอยู่ที่โซฟา

ใต้ฝันยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ๆ ทั้งเกิดคำถามขึ้นในหัวว่ามานอนที่นี่ทำไม

"..."

"..."

เด็กหนุ่มยืนมองอีกคนนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่งกวาดสายจับจ้องร่างกำยำสมชาตรีของอีกคน  มองอยู่นานก่อนจะขยับตัวหมายจะเดินไปที่ห้องครัวแต่ดันชนเข้ากับโต๊ะกระจกตัวเล็กเสียก่อน

ปึก

พรึบ!

กึก!

"!"ใต้ฝันเบิกตาโพล่งเมื่อโลหะเย็นๆ จรดแนบอยู่ที่หน้าผากพร้อมกายหนักที่ทาบทับลงมาจนเด็กหนุ่มขยับตัวไม่ได้ ใบหน้าใกล้กันจนรับรู้ถึงลมหายใจร้อนๆ ของอีกฝ่าย นัยน์ตาสองคู่ประสานมองกันเนินนานอยู่ภายใต้แสงสว่างเลือนลาง

"จะทำอะไร"

"เปล่า"เด็กหนุ่มตอบเสียงเรียบ หัวใจดวงน้อยที่เต้นรัวค่อยๆ สงบเมื่อมือหนาลดปืนในมือลงก่อนจะขยับกายลุกออกไป พอเป็นอิสระใต้ฝันก็รีบลุกพรวดแล้วขยับถอยห่างออกอีกฝ่ายทันที

สิงหาไม่ได้มองเด็กหนุ่มเขาเพียงแค่เก็บปืนลงใต้หมอนแล้วเอื้อมหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาแล้วจุดสูบเงียบๆ ใต้ฝันมองท่าทางของอีกคนก่อนจะเดินเลี่ยงไปยังครัว มือบางเปิดตู้เย็นเทน้ำในเหยือกใส่แก้วแล้วเดินเอื่อยเฉื่อยออกไปที่ระเบียง

กายบางขยับปืนขึ้นนั่งห้อยขาที่ระเบียงไม่ได้กลัวเลยกับความสูงเกินสามสิบชั้นของตึกสูง สายลมเย็นๆ ในช่วงก่อนพระอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้าเต็มดวงทำให้เด็กหนุ่มหลับตาลง แม้บรรยากาศในเมืองหลวงจะเต็มไปด้วยมลพิษและวิวที่มีแต่ตึกสูง แต่ในช่วงเวลานี้มันกลับสงบ

ในหัวคิดเรื่องต่างๆ มากมาย ตากลมเหม่อมองไปไกลแสนไกลไม่โฟกัสจุดใดจุดหนึ่ง 

"..."กลิ่นบุหรี่พร้อมควันสีเทาลอยฟุ้งอยู่รอบตัวทำให้ใต้ฝันหมดอารมณ์กับการเสพบรรยายกาศ เด็กหนุ่มหันมองด้านหลังก่อนจะขยับกายหมุนตัวกลับเข้าระเบียงแล้วลงมายืนที่พื้นดีๆ

"นึกว่าอยากจะกระโดนลงไป"

"ผมไม่สิ้นคิดขนาดนั้นหรอก"

"แต่ก็เคยหนิ"

"..."เด็กหนุ่มถอนหายใจพลางทิ้งสะโพกพิงราวระเบียงเอาไว้

"ทำไมคุณต้องทำแบบนั้น"

"ฉันทำอะไร"

"เรื่องน้องของผม"

"..."คนตรงหน้าไม่ได้ตอบในทันทีเขายกมวลนิโคตินขึ้นมาสูบก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพ่นควันออกมา

"ไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ฉันต้องมาอธิบายให้เธอฟัง"

"คุณมันบ้า"

"ไม่เคยมีใครกล้าว่าฉันนอกจากเธอ"

"แถมยังทั้งเหี้ย ทั้งเลว..."

"นักธุรกิจหรอ เจ้าของแพปลา เจ้าของฟาร์มหอยมุกหรอ เหอะ เนื้อแท้ก็แค่พ่อค้ายา ค้าอาวุธแถมน้องชายยังเปิดคลินิคเถื่อนไว้รักษาพวกอาชกร"

"คนอย่างพวกคุณอย่างมันบ่อนทำร้ายชาติชัดๆ"

"แล้วแบบนี้ยังกล้ามาบอกว่าจะดูแลใต้ฝุ่นให้ดียิ่งกว่าที่ผมดูแลน้องมาทั้งชีวิต"

"ด่าฉันจบหรือยังไง"

"ทำไมครับ โกรธหรอ ไม่พอใจหรอครับจะให้ลูกน้องมาซ้อมผมอีกมั้ยละ"

"หึ"สิงหากระตุกยิ้มพลางขยับเดินเข้าไปใกล้แล้วเท้ามือลงกับราวระเบียงกักเด็กหนุ่มไว้ในคอกมนุษย์ที่แสนแข็งแกร่ง ใต้ฝันขยับหน้าถอยแทบไม่ทันเมื่ออีกฝ่ายก้มหน้าลงมาใกล้

"ฉันว่าเธอชักจะรู้เรื่องของฉันเยอะเกินไปแล้ว"

"แล้วทำไมครับ จะฆ่าปิดปากผมหรอครับ"

"ก็ไม่แน่"

"..."

"ส่วนเรื่องใต้ฝุ่น...แน่นอนว่าฉันดูแลเขาได้ดีกว่าระเบิดเวลาแบบเธอ"

"คนที่ทำอะไรสิ้นคิดแบบเธอน่ะ ดูแลใครไม่ได้หรอกดีแต่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน"

"..."

"เถียงสิว่าไม่จริง"

"..."

"ผมอยากได้น้องผมคืน"

"ฉันว่าเราคุยเรื่องนี้ฉันจบแล้ว"

"ผมไม่เคยคุยอะไรกับคุณทั้งนั้น"สิงหาจ้องมองใบหน้าของเด็กในอ้อมแขนก่อนจะถอยห่างออกมาพร้อมกับอัดสารมะเร็งเข้าปอดอีกครา

เขาพ่นควันบุหรี่อัดใส่หน้าเด็กหนุ่มจนเจ้าเด็กตัวขาวสำลักควันไอคอกแค่กจนหน้าแดง ตาคมมองภาพตรงหน้าก่อนจะทิ้งมวลบุหรี่และใส่ปลายสลิปเปอร์บี้มันบี้แบน

"อยู่ที่นี่ ถ้าทำตัวดีเธอจะไม่เจ็บตัว"

"แต่ถ้าทำอะไรสิ้นคิดอย่างที่ผ่านมา...ฉันสัญญาว่าจะไม่ไว้ชีวิตให้เธอมายืนด่าฉันได้อีก"

"ฉันใจดีกับเธอมามากพอแล้ว และมันจะไม่มีอีก จำเอาไว้"
 


ตกบ่ายชายในชุดสูทสีดำก็ยกถาดอาหารมาให้ถึงห้อนนอนตามเคยพน้อมกับจัดยาที่เขาต้องกินไว้ตามหน้าที่ พวกเขาไม่ได้คุยอะไรกันเช่นเคยแต่พอพัสดีจำเป็นกำลังจะออกไปก็ถูกเด็กหนุ่มรั้งเอาไว้เสียก่อน

"มีอะไร"

"ผมอยากคุยกับคุณหมอ"

"เดี๋ยวหมอก็เข้ามา มึงก็รอคุยตอนนั้นเอา"

"...คือ ผมเจ็บหน้าอก เจ็บมาก อ่า...ผมรู้สึกหายใจไม่ออก"เจ้าเด็กผิวขาวเอ่ยเสียงแผ่วมือนึงยกขึ้นจับช่วงอกพร้อมทำหน้าทรมาน

"เออๆ เดี๋ยวกูโทรบอกให้"

"ขอบคุณครับ"

ไม่นานหลังจากนั้นคุณหมอหนุ่มก็เปิดประตูพรวดพลาดเข้ามาด้วยสีหน้าท่าทางเป็นกังวล

"เจ็บหน้าอกหรอครับ"

"เปล่าครับ ที่ผมอยากเจอหมอผมมีเรื่องอยากขอร้อง"

ยังไงก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ

"..."



"ที่นี่หรอครับ"

"ใช่ครับ พี่สิงห์ให้ใต้ฝุ่นย้ายมาเรียนที่นี่"เด็กหนุ่มพยักรับพลางกวาดตาสำรวจมองโรงเรียนนานาชาติขนาดใหญ่ตรงหน้า

"จะกลับเลยมั้ยครับ"

"ผม...ขอให้ผมได้เห็นหน้าก่อนสักนิดได้มั้ยครับ"

"..."

"อย่างน้อยก็ให้ผมเห็นว่าน้องสบายดี"

"ก็ได้ครับ"รถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่หน้าประตูโรงเรียนปะปนกับรถของผู้ปกครองในช่วงเวลาใกล้เลิกเรียน ใต้ฝันจดจ่อกับเวลาเป็นพิเศษเขาอยากเจอน้องเขาเร็วๆ

และเขาจะเดิมพันมันครั้งสุดท้าย

รออยู่นานเด็กนักเรียนทั้งไทยและต่างชาติก็ทยอยเดินออกมาขึ้นรถของผู้ปกครองตัวที่มาจอดรอรับ ใต้ฝันกวาดตามองหาน้องชายถามกลางกลุ่มเด็กนักเรียนก่อนจะเจอกับร่างของน้องชายที่กำลังเดินออกมา

"ฝุ่น..."

แกร็ก

"ใต้ฝัน!"ไทเกอร์ตะโกนเรียกชื่อของเด็กหนุ่มที่เปิดประตูพรวดพลาดออกไป

"หาเรื่องอีกจนได้"เขาสถบเสียวดังแล้วรีบเปิดประตูแล้ววิ่งตามเด็กหนุ่มไปทันที พลันก็คุณหมอก็เหลืบไปเห็นร่างคุ้นตาของพี่ชายลงมาจากรถ

"ฝุ่น...ฝุ่น..."ใต้ฝันตะโกนเรียกพลางวิ่งหลบเหล่านักเรียนเพื่อไปให้ถึงตัวน้องชาย

"ใต้ฝุ่น!..."

หมับ!

"ฝุ่น...อื้อ!"มือหนาคว้าจับแขนเล็กก่อนจะใข้อีกมือปิดปากเพื่อปิดกลั้นเสียง สิงหาใช้แรงกระชากเด็กตัวขาวให้มาที่รถก่อนจะผลักให้เข้าไปด้านในทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วโดยที่ใต้ฝุ่นไม่ทันได้สังเกตุเห็น

"โอ๊ย ทำบ้าอะไร!..."

"พี่ คือ..."

"มึงพาใต้ฝุ่นกลับบ้านไป ส่วนเด็กนี่เดี๋ยวกูจัดการเอง ไปไอ้กล้า"

"ครับนาย"ประตูรถถูกเลื่อนเสียงดังตามแรงอารมณ์ของสิงหาก่อนรถจะทะยานรถยนต์คันหรูออกสู่ท้องถนน

"ฝุ่น!...ฝุ่น!..."กายบางผุดลุกขึ้นหมายจะเอื้อมไปเปิดประตูแต่ก็ถูกผลักจนล้มกระแทกลงไปกับตัวรถดั่งเดิม

"ฉันพูดยังไม่ถึงวัน"

"อยู่เฉยๆ มันยากนักใช่มั้ย!"

"เออ! ใครจะอยากอยู่ใต้คำสั่งอย่างคนแบบมึงวะ!!"

ผัวะ!

ชีกแก้มชาดิก สมองมึนงง กลิ่นเลือดคละคลุ้งในปากหลังถูกอีกคนคว้าหยิบปืนฟาดเข้าหน้าอย่างแรง

"กล้ามากนะที่มาขึ้นกูมึงกับฉัน"

"เอาสิ ตอนนี้กูทำอะไรไม่ได้แล้วนี่ แค่น้องคนเดียวกูยังปกป้องเขาจากคนอย่างมึงไม่ได้เลย เอาเลย จะฆ่ากูใช่มั้ย ยิงสิ ยิง!"เสียงตวาดลั่นอย่างคนสติแตกพร้อมจับเอาปืนมากดเข้าที่หน้าผากของตัวเอง

มันจบแล้ว

ทั้งที่คิดแล้วว่าถ้าเข้าถึงตัวน้องได้ เขาจะพาน้องไปให้ไกลจากที่นี่ ทั้งๆ ที่ระหว่างรอเขาเห็นรถคันนี้แล้ว แต่เขาก็ยังยอมทำอะไรโง่ๆ 

เขาแค่อยากได้น้องชายของเขาคืน 

ชีวิตของเขามีเหลือน้องชายแค่สองคน

ถ้าไม่มีใต้ฝุ่นเขาก็ไม่มีหน้ากลับไปเจอใต้ฝนหรอก

"ฉันถึงได้บอกไงว่าเธอมันเหมือนระเบิดเวลา"

ผัวะ

"!"ใต้ฝันสติดับวูบหลังถูกด้ามปืนฟาดเข้าตรงท้ายทอย สิงหาประคองร่างไร้สติขึ้นมานั่งดีๆ บนเบาะกำมะหยี่โดยมีสายตาของลูกน้องทั้งสองที่ลอบมองอยู่

"โทรสั่งคนให้เตรียมตัวให้พร้อม กูจะกลับสิงห์ทะเลวันนี้"

"นายจะพาเด็กนั่นไปด้วยหรอครับ"

"เออ ให้อยู่นี่ก็ดีแต่สร้างเรื่อง พูดอะไรก็ไม่คิดจะฟัง เอาไปอยู่โน้นนั่นแหละ อยู่ใกล้ธรรมชาติเผื่อจะได้มีสติขึ้นมาบ้าง"



"อื้อ...เจ็บ.."เด็กหนุ่มพึมพำหลังได้สติ ความเจ็บจากชีกแก้มและท้ายทอยทำให้เด็กหนุ่มต้องเบ้หน้าออกมา ไหนจะสัมผัสแข็งๆ พร้อมแรงสะเทือนเป็นจังหวะจนตัวโยนทำให้เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่ง

ซ่าา

ซ่าา

ซ่าา

ละอองน้ำเล็กซัดสาดเข้าใบหน้า เสียงเครื่องยนต์ทำงานดังประสานไปกับเสียงระรอกคลื่น

เรือ

ทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา

!

ตากลกเบิกกว้างเข้าผุดลุกขึ้นยืนก่อนจัะเสียงหลักล้มลงอีกรอบเมื่อเรือสปีดโบ๊ทที่เขาโดยสารอยู่กระแทกเข้าคลื่นระรอกใหญ่จะเรือโคลง

เดี๋ยวสิ นี่มันเรื่องบ้าอะไร เขาถูกพาตัวมาที่ไหนอีกวะเนี่ย

"ฟื้นแล้วหรอมึง"

"..."

"กูแนะนำให้มึงนั่งเฉยๆ จะดีกว่า คลื่นแรงๆ แบบนี้ล้มไปหัวฟาดตายห่า"

"..."

"นี่จะพาผมไปไหน"

"สิงห์ทะเล"

"สิงห์...สิงห์ทะเล"

"..."เด็กหนุ่มขมวดคิ้วพลางหันไปมองรอบๆ ก่อนจะสะดุดกับร่างกำยำที่นั่งสงบนิ่งอยู่หัวเรือ ซึ่งอีกคนก็ปรายตามองเขา ตาสีนิลที่มันดุดันกว่าทุกครั้งจ้องเขานิ่งๆ มันเหมือนโซ่ตรวนที่ตรึงให้เขาไม่กล้าขยับ

บ้าเอ้ย

จะกลัวอะไรวะฝัน ก็แค่พ่อค้ายาบ้าอำนาจ


ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเรือจะมาจอดเทียบท่าที่เกาะแห่งหนึ่งในตอนที่พระอาทิตย์ลาลับไปแล้ว

"เอ้า เร็ว รีบขึ้นไป"กายบางถูกผลักจนเซถลาแทบล้ม เด็กหนุ่มตวัดสายตามองคนด้านหลังก่อนจะก้าวขึ้นไปยืนบนโป๊ะไม้ มันโคลงเคลงเล็กน้อยแต่ใต้ฝันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะล้มเลยต้องคว้าใครสักคนเอาไว้เพื่อเป็นหลัก

"เดินตามมา"ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกกระชากลากถูให้เดินไปตามทาง ใต้ฝันกัดฟันแน่น เหงื่อซึมทั่วกาย ดวงหน้าซีดเผือดไร้สี ร่างกายโงนเงนพร้อมความรู้สึกที่มันแน่นจุกขึ้นมาที่คอ

อึก

อ่อกก อ้วกกก

ใต้ฝันพุ่งไปจับราวเหล็กทางเดินก่อนจะอาเจียนเอาของเก่าออกมา ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองด้วยความสงสารปนเวทนา

"เมาเรือหรือไง"ใต้ฝันพยักหน้าก่อนจะอาเจียนออห
กมาอีกระรอก

ตุบ

พออาเจียนออกมาจนหมดเด็กหนุ่มก็ทิ้งกายนั่งมันบนพื้นปูนอย่างหมดแรง ตากลมปรือปรอยพลางทิ้งหัวพิงราวเหล็กเอาไว้ 

"ลุก"แขนผอมถูกดึงพร้อมกับแรงกระชาก แต่ใต้ฝันก็อ่อนแรงเกินกว่าจะยันตัวลุกขึ้นยืนได้

"ฉันบอกให้ลุก"

"พวกคุณ...ไปก่อนก็ได้ แล้วค่อยออกมารับ...ผมไม่ไหว ขอพักก่อน"เจ้าเด็กตัวขาวพูดขึ้นมาอย่างอ่อนแรง รอบนี้ยอมแพ้จริงๆ กับอาการเมาเรือเพราะขนาดนั่งหลับตานิ่งๆ ยังรู้สึกว่าร่างกายมันโคลงไปเคลงมาไม่หยุด

รู้สึกอยากอ้วกอีกแล้ว

พรึบ!

"อืออ"

"อยู่เฉยๆ ไม่งั้นฉันโยนเธอลงทะเลแน่"

"..."

ทำไมชอบขู่นักนะ


ตุบ

"โอ๊ยย คุณ..."

ไอ้บ้าเอ้ย โยนลงมาได้

ใต้ฝันโวยวายในใจเมื่อถูกโยนลงบนเตียงกว้าง แต่ถึงฟูกจะนุ่มแต่ถูกโยนลงแรงๆ ก็เล่นเอาจุกไม่น้อย ยิ่งเมาเรืออยู่เดียวก็อ้วกใส่เตียงซะหรอก

"นายไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมดูแลมันเอง"

"..."

"เออ แล้วอย่าให้ออกไปก่อเรื่องที่ไหนอีก"

สภาพแบบนี้คงออกไปก่อเรื่องไหวอยู่หรอก

"ครับนาย"ผู้เป็นนายเดินออกไป ทิ้งลูกน้อยตัวใหญ่ยืนมองไอ้เด็กตัวขาวที่นอนไร้เรี่ยวแรงหน้าซีดเซียว

"เดี๋ยวกูไปเอายามาให้"

"อือ"ใต้ฝันครางรับในลำคอก่อนจะปิดสติลงอีกครั้ง

มีอะไรค่อยว่ากันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน

 --------

หวังว่าจะถูกใจแม่ยกคู่นี้นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-06-2020 19:30:26 โดย Chemin »

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เอ้าเดี๋ยว!!!เอ๊ะ! รึว่าจะทายคู่ถูก สิงห์ฝัน ภาสฝน 55555 ได้ไงว่ะ จู่ๆก็ไปเอาน้องเขามาเป็นลูกบุญธรรมตัวเอง แล้วจับตัวเขามาอีก คือทำไมต้องเข้าไปยุ่งกับชีวิตเขาขนาดนั้นอะ เป็นไรกันก็ไม่ใช่ ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ปล่อยเขาไปเซ่ โห้ยยยยย ยังโกรธไม่หาย ไม่อยากให้ฝันคุยกับเขาเลยอะ ถ้าว่าจะมาอยู่แบบนี้ไม่มีทางเบือกแล้วก็อยากให้ฝันเมินนนนเฉย เย็นชา ใจแข็งกัดฟันทนใส่แม่ง อย่าไปคุยกับเขาลูก 55 สนุกกก ชอบเลย ขอบคุณนะคะที่มาต่อ ตอนหน้าจะเป็นยังไง  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
09

วันที่ 24 มิถุนา

เวลา 23.55 นาที

ใต้ฝนเหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลที่ติดอยู่บนผนัง ก่อนจะเปิดฝากล่องเค้กที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อออกพลางหยิบเอาเทียนแท่งเล็กมาปักลงไป

23.58 นาที

ตากลมจับต้องตัวเลขวินาทีที่กำลังนับเวลาของมันเลยไปเรื่อยๆ

23.59 นาที

แชะ แชะ

เทียนแท่งเล็กถูกจุดไฟขึ้น มันส่องแสงสว่างเรืองรองไหววูบไปมา

ตึ้งงง

วันที่ 25 มิถุนา

เวลา 00.00 นาที

เปลือกตาบางปิดลงสองมือยกขึ้นประสานอยู่กลางอก

ฟู่

แสงเทียนไหววูบก่อนจะดับลงพร้อมกับตากลมที่ค่อยๆ ลืมขึ้น ความมืดมิดหลายล้อมอยู่รอบตัวทำให้เด็กหนุ่มระบายยิ้มออกมา น้ำฃฃตาเม็ดโตกลิ้งหล่นจากนัยน์ตาคู่สวย

"สุขสันต์วันเกิดนะฝุ่น"

"พี่ไม่รู้ว่าฝุ่นอยู่ที่ไหน แต่มีความสุขมากๆ นะน้องรักของพี่"

"..."

"พี่เชื่อว่าสักวันเราจะได้เจอกันอีก"

"..."

"พี่รักฝุ่นนะ"

'พ่อครับ! แม่ครับ! พี่แกล้งฝุ่น...อื้อ!!'

'ฝุ่นอย่าโวยวายดิ'ใต้ฝนใช้มือข้างหนึ่งปิดปากน้องชายตัวเองแน่นจนใต้ฝุ่นได้ส่งเสียงอื้ออึงไม่เป็นภาษา

'ฝัน จัดการเลย'

'อื้อออๆๆๆ'

'ฮ่าๆๆๆ เสร็จแน่'ใต้ฝันว่าพลางเดินเข้ามาใกล้พร้อมถือเค้กเข้ามาด้วยท่าทางสนุก ใต้ฝุ่นพยามดีดดิ้นให้หลุดพ้นจากการจับกุมของพี่ชาย แต่เพราะเขาตัวเล็กจนไม่สามารถสู้แรงได้สุดท้ายก็เลย

แปะ

'ฮ่าๆๆๆ'เจ้าสองแฝดหัวเราะชอบใจกับใบหน้าของน้องชายเต็มไปด้วยครีมเค้กสีสวย ใต้ฝุ่นค่อยๆ ปาดครีมเนื้อนุ่มออกช้า

'พี่ฝัน พี่ฝน ฮึ่ย!...'

'เฮ้ยๆ อย่า เสื้อพี่เปื้อนหมด ฝุ่น...ปล่อยพี่'

'นี่แหนะๆ'เจ้าเด็กน้อยโถมตัวกอดใต้ฝนเอาไว้พลางถูไถใบหน้าเข้ากับเสื้อแบรนด์หรูราคาหลักหมื่นตัวใหม่ของพี่ชาย โดยมีใต้ฝันยืนขำอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่นานพี่ชายคนโตก็ถูกน้องชายทั้งสองรุมละเลงครีมนุ่มลงบนตัวคืนบ้าง

'เฮ้ย อย่ารุม ฝนปล่อยนะเว้ย! ฝุ่น ปล่อยพี่...'ใต้ฝันโวยวายเมื่อถูกรุมกอดจนแทบขยับตัวหนีไม่ได้ การกระทำของสามพี่น้องอยู่ในสายตาของสองสามีภรรยาร่วมถึงสาวใช้ที่ยืนมองด้วยความเอ็นดู

ภาพความทรงจำเมื่อวันเกิดของใต้ฝุ่นฉายย้อนขึ้นมา

วันนี้ของปีที่แล้ว

เรายังอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา

ยังคงมีพ่อ มีแม่ มีพี่ มีน้อง

แต่วันนี้กลับเหลือเพียงเขา

คิดถึงเหลือเกิน

ทั้งพ่อแม่ที่จากไป

ทั้งแฝดพี่และน้องชายที่ก็ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง

ใต้ฝนตักเค้กกินเงียบๆ ไปพร้อมกับหยาดน้ำใสที่ไปอาบแก้ม


"เรื่องเด็กแฝดนั่นว่าไง ไม่มีอะไรคีบหน้าเลยหรือ"ภาสภากรเอ่ยถามลูกน้องด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง แม้ในใจกำลังจะรู้สึกหงุดหงิดกับความไม่ได้เรื่องของลูกน้องตัวเอง

"ถ้าเรื่องของเด็กแฝดเรายังไม่ได้อะไรเลยครับ แต่ได้เรื่องของเด็กส่งยาที่ชื่อว่าโก้"

"มันเป็นใคร"

"ฝนบอกว่าเป็นคนที่แฝดมันสนิทด้วยช่วงหลังๆ ก่อนหายตัวไป ไอ้ขี้ยานี่ประวัติเสียยาวเป็นห่างว่าว รับเดินยาให้เอเยนต์หลายรายเลยครับ"

"แล้วยังไง"

"มันตายแล้วครับ ถูกยิงเข้าที่หัว ศพมันถูกเอาไปทิ้งที่กองทิ้งขยะแถวแพรกษาครับ เด็กเก็บขยะเป็นคนเจอศพมันเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน"

"..."

"แล้วก็อีกเรื่องครับนาย น้องชายคนเล็กของไอ้ฝน..."

"ผมลองให้คนไปสืบมาแล้วพบว่าเด็กคนนั้นเพิ่งถูกคนๆ หนึ่งรับเป็นลูกบุญธรรมครับ"โชคณวัตน์ว่าพลางวางเอกสารที่เพิ่งได้รับมาส่งให้ผู้เป็นนาย

"ใคร"

"สิงหา ศักดิภัค"

"..."ผู้เป็นนายนิ่งงันไปชั่วขณะก่อนหยิบเอกสารแผ่นนั้นขึ้นมาหวาดสายตาอ่านแล้วเลื่อนมาหยุดที่รูปถ่ายของเด็กคนหนึ่ง

"ใต้ฝนรู้เรื่องหรือยัง"

"ยังครับ"

"ดี อย่าเพิ่งให้รู้"

"ครับนาย"

"ให้คนไปหารายชื่อเอเยนต์ที่ไอ้ขี้ยาโก้มันเคยทำงานให้มาทั้งหมด ฉันต้องการมันเร็วที่สุด"

"ได้ครับ ผมจะรีบจัดการให้ครับนาย"โชคณวัตน์รับคำก่อนจะเดินออกไปประสานงานตามคำสั่งของเจ้านายทันที

"แล้วนี่เด็กนั่นทำงานเป็นไงบ้าง"ตาสีชาเลื่อนมองลูกน้องคนสนิทอีกคนที่ยังคงยืนรอรับคำสั่งจากเขาอยู่

"เรียบร้อยดีครับ"

"อืม ส่งคนเฝ้าไว้อย่าให้ตาดสายตาเด็ดขาด"

"ครับนาย

 


"ฝน เอานี้ไปเสริฟ์ตกเอสามที"

"ได้ครับ"เด็กหนุ่มรับถาดที่มีอาหารจานหรูที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามมาถือไว้ก่อนจะเดินเอาไปเสิร์ฟให้ลูกค้าตามออเดอร์

"อนุญาตเสิร์ฟอาหารครับ"ใต้ฝนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะยกจานใบใหญ่มาแล้ววางมันลงตรงหน้าของลูกค้าด้วยความระมัดระวัง พอเสร็จจากโต๊ะนี้ก็เดินไปเอาออเดอร์ต่อไปเสิร์ฟลูกค้าอีกโต๊ะอย่างขยันขันแข็ง

"ฝน เดี๋ยวอันนี้ให้ส้มเอาไปเสิร์ฟ เราไปรับออเดอร์ที่โต๊ะท่านประธาน"

"ครับ...ผมหรอ"

"ใช่ เร็วสิ"

"อ่า ครับ"เด็กหนุ่มวางถาดในมือก่อนจะเดินไปยังโต๊ะโซนวีไอพีที่อยู่เป็นส่วนตัวในโซนด้านใน พอเดินมาถึงก็เห็นบรรดาลูกน้องชุดดำยืนกระจายตัวกันอยู่เต็มบริเวณ ก็ท่านประธานของโรงแรมเล่นปิดโซนกันเลยทีเดียว

ตากลมจับจ้องมองลูกค้าสุดแสนจะวีไอพีที่กำลังนั่งอยู่กับชายหนุ่มอีกคนที่ ที่พอเดินเข้ามาใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นคนเดียวกับนักแสดงหนังสดในวันก่อน

กานต์ รพี นายแบบดังคนนั้น

"สวัสดีครับ ผมมารับออเดอร์ครับ"แม้จะรู้สึกไม่ชอบอีกคนมากแค่ไหน แต่ในตอนนี้ใต้ฝนเป็นแค่พนักงานธรรมดา ถ้าขืนเขาไม่ทำตัวสุภาพกับเจ้าของโรงแรมเกรงว่าหนี้สินที่มีอยู่ท่วมหัวจะถูกเร่งรัดให้จ่ายเอาเร็ววัน

"กานต์ อยากทานอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะครับ"น้ำเสียง รอยยิ้ม แววตาของคนตรงหน้าทำให้ใต้ฝนนึกหมั้นใงส้แอบเบ้ปากเบาๆ

แขกวีไอพีทั้งคู่ตกลงเรื่องอาหารกันอยู่สักพักก่อนภาสภากรจะเป็นคนเงยหน้าขึ้นมาสั่งออเดอร์กับเขา โดยมีสายตาของนายแบบดังมองไม่ละสายตา

"นี่มันคนที่เป็นลูกหนี้คุณไม่ใช้หรอครับ แล้วทำไมถึงมาทำงานที่นี่ได้ล่ะครับ"คุณนายแบบเอ่ยถามระหว่างที่ใต้ฝนกำลังเอ่ยทวนเมนู เด็กหนุ่มถึงกับชะงักไปทันที ภาสภากรเหลือบสายตามามองเขาก่อนจะหันไปสนใจคนตรงหน้า 

"ผมให้เขามาทำงานใช้หนี้น่ะ"

"กานต์ไม่ยักรู้ว่าคุณใจดีถึงขนาดให้ลูกหนี้มาทำงานในห้องอาหารที่โรงแรมของคุณ"

"ปกติพวกลูกหนี้ที่ไม่มีเงินจ่ายคุณก็เอาไปประมูลไม่ใช่หรือครับ"คุณกานต์ว่าเสียงเรียบ ท่าทางไม่พอใจชัดเจน ซึ่งใต้ฝนก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจอะไร

"หรือจะเป็นลูกหนี้คนพิเศษของคุณ"

"โธ่ ใช่ที่ไหนละครับ คนพิเศษของผมน่ะมีแค่คุณคนเดียวนะกานต์"

"อย่างงั้นหรอครับ"นายแบบหนุ่มว่าพลางเอื้อมหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบช้าๆ ก่อนจะว่างมันลงที่เดิม

เพล้ง

ซะที่ไหน

"โอ๊ะ โทษทีนะ มือมันลืนน่ะ"แต่ที่เขาเห็นนั่นไม่ใช่ว่าจงใจปล่อยแก้วน้ำลงพื้นเองหรอ

"..."ใต้ฝนเงียบเขามองคนตรงหน้างงๆ รอบตัวก็พานจะเงียบไปด้วย

"รองเท้าฉันเปียกหมดเลย ช่วยเช็ดให้หน่อยสิ"

ห๊ะ

"เร็วสิ"เปลือกตาบางกระพริบเชื่องช้าคล้ายประมวลผลไม่ทัน

"นี่ เร็วๆ สิ"คุณนายแบบเอ่ยเร่งเสียงดังขึ้น ใต้ฝนเม้มปากแน่นเขาลอบมองใบหน้าดูดีของนายแบบหนุ่มที่จ้องมองเขาอย่างดูแคลนเหยียดหยาม พอหันไปมองเจ้าของนัยน์ตาสีชาก็พบว่าผู้ชายคนนั้นก็แค่นั่งมองเหตุการณ์เงียบๆ

"ครับ"สุดท้ายใต้ฝนก็ตอบรับออกไปอย่าเสียไม่ได้ เด็กหนุ่มเดินไปหยิบผ้าผืนหนึ่งมา พอเดินกลับมาถึงโต๊ะไอพีวีร่างบางก็ทรุดลงกับพื้นเอื้อมมือเอาผ้าสะอาดไปเช็ดรองเท้าราคาคู่เป็นแสนเงียบๆ ตามที่อีกฝ่ายต้องการ

ถึงไม่อยากจะทำแต่ปฏิเสธได้หรือ

ซ่าาา

!

ตากลมเบิกว้าง มือที่เช็ดรองเท้าให้อีกคนชะงักเมื่อสัมผัสได้ถึงสายน้ำเย็นเหยียบที่เทราดลงบนศีรษะของตัวเอง สายน้ำเย็นๆ ไหลลงอาบใบหน้า ลำคอลามไปถึงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกชื้นกระจายเป็นวงกว้าง

ใต้ฝันโยนผ้าในมือทิ้งลงพื้นทันที กายบางลุกขึ้นเต็มความสูงจับจ้องคุณนายแบบคนดังด้วยสายตาไม่พอใจ

"มองฉันด้วยสายตาแบบนั้ยหมายความว่ายังไง"

"..."ใต้ฝนไม่ตอบ แต่ในจังหวะนั้นมีพนักงานอีกคนเดินถือถาดที่มีแก้วน้ำบรรจุอยู่มาพอดี ริมฝีปากสีสดก็เหยียดยิ้มออกมา

ซ่าาาา

เสียงเพลงคลาสสิคช่างเป็นใจที่จะหยุดลงในจังหวะนั้น เล่นเอาบรรยากาศในโซนวีไอพีถึงกับเงียบกริบ พนักงานและลูกน้องของภาสภากรถึงกับนิ่งไปกับการกระทำที่ไม่คาดฝัน แม้แต่ตัวของภาสภากรกับคนที่โดนน้ำสาดหน้าก็ยังตกใจจนสติหายไปชั่วขณะ

"นี่..แก!"พอหาเสียงตัวเองเจอก็ลุกขึ้นโวยวายพลางชี้หน้าใต้ฝน ซึ่งอีกเด็กหนุ่มก็ไม่ได้กิ่งเกรงนอกจากมองพ่อคนดังด้วยท่าทางเย้ยหยันท้าทาย

เพี๊ยะ!

เสียงฝ่ามือฟาดลงบนแก้มดังลั่นไปทั่วโซน แต่ใต้ฝนไม่เจ็บเลยเพราะคนที่โดนฝ่ามือของนายแบบคนดังฟาดเข้าเต็มแก้มก็คือโชคณวัตน์ที่พุ่งตัวมาขวางทางมือเอาไว้

"คุณโชค หลบไป"

"กานต์ พอเถอะครับ"ภาสภากรเอ่ยพลางเดินมาหยุดหน้าอีกคนที่กำลังเดือดดาล

"แต่มันเอาน้ำสาดใส่กานต์นะภาส"

มึงทำกูก่อนมั้ยละ

ใต้ฝนเถียงลั่นในใจ

"เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะสั่งสอนเขาเอง"

"มันจะต้องมากราบขอโทษกานต์"

"ได้ครับ"ใต้ฝนตวัดสายตามองคนพูดทันที

"งั้นกานต์พอก็ได้ แต่วันนี้กานต์หมดอารมณ์จะกินอะไรแล้ว ภาสพากานต์ไปชอปปิ้งนะครับ"

"ได้สิครับ"

"โชค เคลียร์ที่นี่ให้เรียบร้อย"

"ครับนาย"

"ส่วนเธอ ไว้ฉันจะกลับมาคิดบัญชีทีหลัง"ภาสภากรหันมามองคาดโทษเด็กหนุ่มก่อนจะเดินควงแขนออกไปกับคุณนายแบบคนดังโดยคุณกานต์ก็ไม่วายหันมามองน้องเขาอย่างเยาะเย้ย

"เอ็งไปเปลี่ยนชุดก่อนไป"

"ครับ"

พอเปลี่ยนชุดเสร็จใต้ฝนก็ถูกผู้จัดการห้องอาการเรียกไปต่อว่ายกใหญ่ ทั้งค่อนแคะเรื่องที่เป็นเด็กเส้นอยู่นานสองนานจนใต้ฝนชักรำคาญ โชคดีที่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่าลูกค้าเยอะ ให้ออกไปช่วยหน่อย ผู้จัดการเลยยอมปล่อยตัวเขาออกมา

"เสร็จหรือยัง"

ใต้ฝนหันไปหันไปตามเสียงก็เจอกับมิ่งขวัญชายที่ถูกส่งมาตามเฝ้าใต้ฝนแม้ในเวลางาน พี่แกเป็นผู้ชายที่ไม่ได้หุ่นใหญ่โต กำยำอะไร สูงก็จริงแต่ก็ผอมซะเหลือเกิน ถ้าให้เทียบกับพี่หน้าโหดก็เรียกได้ว่ากระดูกคนละเบอร์

"ครับ"ใต้ฝนที่เสร็จงานในส่วนของตัวเองแล้วก็เดินไปลาผู้จัดการแล้วเดินตามมิ่งขวัญออกมาจนถึงลานจอดรถ

ระหว่างทางกลับบ้านบรรยากาศในรถนั้นเงียบสนิทไร้บทสนทนา ใต้ฝนนั่งเอาหัวพิงกระจกพลางมองวิวนอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ จนรถมาจอดติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยกแห่งหนึ่ง วิวข้างทางก็แปรเปลี่ยนเป็นหรูคันหรูสีขาวที่มาจอดเทียบอยู่ข้างๆ

ใต้ฝนเลื่อนสายตาไปจับจ้องมาตัวเลขกว่าร้อยวินาทีที่กำลังนับถอยหลังเรื่อยๆ บนเสาสัญญาณไฟ

เปาะ แปะ เปาะ แปะ

หยดน้ำที่หยดแหมะกับกระจกเรียกให้คิ้วสวยขมวดก่อนเจ้าตัวจะเปิดกระจกแล้วยื่นมือออกไปนอกตัวรถ

ฝนตกอีกแล้ว

"ปิดกระจกเถอะ เดี๋ยวจะเปียกเอา"

"..."ใต้ฝนไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่กดเลื่อนปิดกระจกขึ้นมาตามเดิมในจังหวะเดี๋ยวกับที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว



เปาะ แปะ เปาะ แปะ

"เอ้า ฝนตกอีกแล้ว"คุณหมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางเคาะพวงมาลัยเป็นจังหวะประกอบไปกับเสียงเพลงที่เปิดเอาไว้ ตาคมละสายตาจากตัวเลขดิจิตอลที่กำลังนับถอยหลังลงเรื่อยๆ ไปมองรถยุโรปข้างๆ ก่อนจะละสายตาไปสะดุดกับใบหน้าที่เขาคุ้นเคยของใครบ้างคน

ใต้ฝัน ไม่สิ เก็กคนนั้นคือใต้ฝนไม่ใช่หรือ

แต่เพียงชั่ววินาที กระจกหน้าต่างของรถคันข้างๆ ก็เลื่อนปิดพร้อมกับรถคันสีดำที่เคลื่อนตัวเลี้ยวไปอีกทาง

ปริ้นน!

ไทเกอร์มองตามหลังรถคันนั้นพลางจดจำป้ายทะเบียนเอาไว้ก่อนจะเคลื่อนรถของตัวบ้างเมื่อถูกรถคันข้างหลังบีบแตรไล่ รถสีขาวทะยานไปบนถนนเชื่องช้าเพราะการจราจรที่ติดขัดในช่วงเย็น

ติ๊ด

(ครับ คุณไทเกอร์)

"ตรวจสอบให้ทีว่ารถทะเบียน พบ xxx เป็นของใคร"

(ได้ครับ)

"แล้วอย่าบอกพี่สิงห์ล่ะ"

(ครับ)

คุณหมอหนุ่มตัดสายก่อนจะหักเลี้ยวจอดเข้าริมฟุตบาธเมื่อมาถึงจุดหมาย

"ผมมาเอาเค้กวันเกิดที่สั่งไว้ครับ"

"ค่ะ"เจ้าของร้านตอบรับก่อนจะเดินเข้าไปหลังร้านแล้วไม่นานก็ออกมาพร้อมกับเค้กปอนด์ใหญ่

"ตรวจดูความถูกต้องก่อนนะคะ"เธอว่าพลางวางเค้กลงบนถาดหนุม ไทเกอร์ก็เดินเข้าไปดูตาคมกวาดมองสำรวจตัวอักษรที่ถูกบรรจงเขียนด้วยครีมสีสวย

'Happybrith Day'

คุณหมอหนุ่มไม่รู้ว่าเด็กน้อยจะดีใจกับเค้กก้อนนี้หรือมีความสุขในวันเกิดปีนี้ของตัวเองหรือเปล่า เพราะหลายวันที่ผ่านมาใต้ฝุ่นซึมและเงียบลงไปมากจากความเข้าใจผิดๆ ที่ถูกป้อนว่าตัวเองถูกพี่ชายขายให้คนอื่น

ไทเกอร์มาถึงบ้านหลังใหญ่ของพี่ชายก็ในตอนที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้วเพราะการจราจรที่แน่นขนัดกว่าทุกวันเพราะสายฝนเทกระหน่ำไม่ขาดสาย

"ใต้ฝุ่นล่ะ"

"นายน้อยอยู่บนห้องค่ะ"ไทเกอร์พยักหน้ารับก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนของเด็กน้อย เข้าเคาะประตูเรียกสองสามทีไม่นานเจ้าของห้องก็เปิดประตูแง้มออกมา

"ไง"

"สวัสดีครับ"

"ขอเข้าไปหน่อยนะ"เด็กน้อยพยักหน้ารับแล้วเปิดประตูกว้างเพื่อให้อีกคนเข้ามา ใต้ฝุ่นเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเตียงพลางดึงเอาหมอนใบใหญ่มากอดเอาไว้ ส่วนไทเกอร์ก็เดินไปลากเก้าอี้มาก่อนจะนั่งลงแล้วมองอีกฝ่ายเงียบๆ

"กินอะไรหรือยัง"

"ยังครับ"

"แล้วเธอไม่หิวหรือ"เด็กน้อยส่ายหน้าพลางฝืนยิ้มส่งมาให้ พอเห็นแบบนั้นชายหนุ่มก็ขยับตัวลุกแล้วเดินไปคว้าแขนเล็กเอาไว้

"ลงไปกินข้าวกัน"

"ฝุ่นไม่หิว"

"ไม่หิวก็ต้องกิน"

"แต่..."

"ไม่ดื้อนะครับ"

"..."เด็กน้อยไม่ตอบเพียงแค่ขยับลงจากเตียงแล้วเดินตามแรงดึงของคุณหมอ เมื่อลงมาถึงห้องอาหารใต้ฝุ่นก็ชะงักไปเมื่อเห็นว่าห้องอาหารนั้นถูกตกแต่งด้วยดอกไม้และลูกโป่งอย่างสวยงาม ทั้งยังมีอาหารหน้าตาน่ากินตั้งเรียงรายจนเต็มโต

"เรามาดินเนอร์กันเถอะ"น้องชายเจ้าของบ้านว่าพลางจูงมือใต้ฝุ่นไปที่เก้าอี้ก่อนเขาจะเลื่อนเก้าอี้ออกมาให้ เด็กน้อยเอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลง พอบริการเด็กน้อยเสร็จคุณหมอก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

ไทเกอร์ยิ้มบางๆ พลางส่งสัญญาณให้สาวใช้มาตักข้าว อีกคนก็เดินไปเปิดเพลงคลาสสิคเบาๆ เพื่อสร้างบรรยากาศ

"กินสิ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะ"

"ครับ"ใต้ฝุ่นตอบรับสั้นๆ ก่อนจะเริ่มลงมือทานมือเย็นของตัวเองเงียบๆ แม้ในหลายครั้งไทเกอร์จะพยายามชวนคุยแต่ใต้ฝุ่นก็ตอบแบบประหยัดคำพูดเสียจนไทเกอร์ต่อบทสนทนาไม่ถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

"อิ่มแล้วหรอ"

"ครับ"เด็กน้อยตอบพลางรวบช้อนวางกลางจานแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ไทเกอร์ที่เห็นแบบนั้นก็รวบช้อนลงบ้าง

"ถ้าคุณหมอยังไม่อิ่มทานต่อก็ได้นะครับ"

"ไม่หรอก หมออิ่มแล้ว"

"งั้น...ฝุ่นของตัวก่อนนะครับ"

"เดี๋ยวสิ"มือหนาเอื้อมไปรั้งข้อมือเล็กเอาไว้เมื่อเด็กน้อยตั้งท่าจะลุกขึ้น ใต้ฝุ่นหันมองคนตรงหน้าพลางทำหน้าสงสัย ส่วนคุณหมอก็ได้ยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นดีดนิ้วส่งเสียงดังป๊อกก่อนไฟในห้องจะดังลง

พรึบ



"..."มืดได้เพียงชั่ววินาทีแสงสว่างเรืองรองของแสงเทียนก็ปรากฏขึ้น เค้กก้อนใหญ่ถูกเปลี่ยนมือมาให้ไทเกอร์ถือ ชายหนุ่มเดินอ้อมไปหยุดยืนตรงหน้าใต้ฝุ่น

"..."ตากลมวาววับสะท้อนแสงเทียน ยิ่งน้ำใสในหน่วยตาเอ่อคลอล้อกับแสงเรืองรองนั้นดูสวยงามราวกับอัญมณีล้ำค้า

"สุขสันต์วันเกินนะใต้ฝุ่น หมอขอให้เธอมีความสุขมากๆ นะ"

"..."

"อธิฐานแล้วเป่าเทียนสิ"เด็กน้อยพยักหน้าก่อนจะยกมือขึ้นประสานที่กลางอกแล้วปิดเปลือกตาลงนั้นเลยทำให้น้ำใสกลิ้งไหลผ่านแก้มเนียน

ฟู่

แสงเทียนดับลงและถูกแทนที่ด้วยแสงนีออนที่สว่างจ้าขึ้นมา ไทเกอร์มองเด็กหนุ่มที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆก่อนนัยน์ตาของพวกเขาจะประสานกัน

"เราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เรียกร้องให้คนที่ไปจากเรากลับมาไม่ได้"

"แต่เธอสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้และมีความสุขได้นะฝุ่น"

"..."

"ทั้งหมอ ทั้งพี่สิงห์อาจจะทดแทนครอบครัวของเธอไม่ได้ แต่เราสองคนรักเธอและมองเธอเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่ง"คุณหมอว่าพลางวางเค้กก้อนใหญ่ลงบนโต๊ะแล้วดึงตัวเด็กน้อยเข้ามากอด

"อย่าร้องไห้ อย่าเศร้าอีกเลยนะ น้ำตาไม่เหมาะก้บเด็กแบบเธอสักนิดเดียว"

"ฮึก...ฮือออ ฝุ่น...ฝุ่นคิดถึงพี่...ฮึก...พี่..สัญญาว่าจะอยู่ด้วยกัน...ในวันเกิดฝุ่น...ฮือออออ"เด็กน้องร่ำไห้เสียงเครือมือเล็กกำเสื้อคุณหมอจนยับยู่ยี่ไปหมด

"ฮึก...แต่พี่ทิ้งฝุ่นไปแล้ว...ฮึก...ทิ้งฝุ่น...ฮึก...ไปหมดเลย..."เปลือกตาสีเข้มปิดลง คุณหมอหนุ่มยกมือขึ้นลูบกลุ่มเส้นผมนุ่มมืออย่างปลอบประโลม

ขอโทษนะใต้ฝุ่นที่ต้องปล่อยให้เธออยู่กับความเข้าใจผิดแบบนี้

"ไม่เป็นไร พี่เขาไม่อยู่กับฝุ่นก็ไม่เป็นไรนะ ต่อไปนี้หมอจะอยู่กับฝุ่นเอง"

"..."

"หมอสัญญาว่าจะอยู่กับฝุ่น จะไม่ทิ้งฝุ่นไปไหน"

"..."ไทเกอร์อาจไม่รู้ คำสัญญาที่พูดมันออกมาให้กับเด็กที่จิตใจอ้างว้างมันก็เหมือนเชือกป่านที่รอยปมรั้งใจดวงน้อยเอาไว้แน่น



"ไอ้ฝน นายเรียก"ใต้ฝนที่นอนกลิ้งอยู่บนฟูกของตัวเองถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง  มองโชคณวัตน์กับฉัตรชัยที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง

"นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะพี่"

"ก็นายข้าเพิ่งกลับ เอ็งอย่ามัวแต่พูดมาก รีบไปอย่าให้นายรอ"

"ครับๆ"

"แล้วอย่ากวนตีนนายล่ะ วันนี้เอ็งผิดนะ"ใต้ฝนชะงักเท้าที่กำลังใส่รองเท้า เขาเงยหน้ามองโชคณวัตน์แล้วอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา

ทุกคนแม่งเห็นแต่ความผิดของเขาหรอวะ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายจงใจแกล้งเขาก่อนชัดๆ

ก๊อกๆๆ

"เชิญ"ประตูไม้เนื้อดีถูกเปิดออกก่อนเด็กหนุ่มจะแทรกกายเข้าไปในห้องทำงานที่เคยมาเจอหนังสดเข้าไปเมื่อครั้งก่อน

"นั่งสิ"

"..."

เด็กหนุ่มทิ้งกายนั่งที่เก้าอี้ตัวใหญ่ตัวเดิม จับจ้องมองเจ้าของนัยน์ตาสีอ่อนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับแมคบุ๊คไม่ละสายตา ใต้ฝนนั่งนิ่งๆ กวาดตามองโน้น มองนี้ไปมา

ความเงียบโรยตัวเข้าปกคลุมเมื่อไร้เสียงสนทนา ภายในห้องมีเพียงแค่เสียงเครื่องปรับอากาศดังประปนไปกับเสียงกดแป้นแมคบุ๊คก๊อกแก๊ก
 
ปึก!

ภาสภากรสนใจกับงานของตัวเองพักใหญ่ก่อนจะพับฝาแมคบุ๊คลง ใต้ฝนเลยดึงสายตาที่กำลังพินิจภาพวาดสาวงามคนหนึ่งกลับมามองเจ้าของห้อง

"เอาล่ะ เธอรู้ใช้มั้ยว่าฉันเรียกเธอมาทำไม"

"ผมไม่ผิด เขาจงใจแกล้งผมก่อน"

"แต่เธอไม่มีสิทธิ์เอาน้ำไปสาดใสคนของฉัน"

"กานต์เขาเป็นใคร แล้วเธอเป็นใคร ลืมฐานะตัวเองหรอ"

"และเธอจะต้องไปขอโทษกานต์เขา"

"ผมไม่ลืมหรอกว่าผมเป็นลูกหนี้ของคุณ เป็นตัวประกันที่คุณเก็บไว้จนกว่าจะหาตัวไอ้ฝันเจอ"

"แต่ผมไม่ใช่ทาสของคุณนะครับ ที่จะยอมให้ใครต่อใครมาทำผมฝ่ายเดียว"

"..."

"ผมก็คนเหมือนพวกคุณ"

"แฟนของคุณโยนก้อนหินใส่ผมก่อน แล้วคุณคิดจะให้ผมโยนดอกไม้กลับคืนหรอครับ"

"ฝันเถอะครับ แค่ผมยอมคุณคนเดียวก็มากเกินพอแล้ว"ภาสภากรมองเด็กหนุ่มที่ใส่เขายับราวกับคิดเตรียมคำพูดมาแล้วอย่างดีจนเขาพูดไม่ทัน

"และผมจะไม่ขอโทษในสิ่งที่ผมไม่ผิด"

"..."

"ผมขอตัวครับ"พูดจบเด็กหนุ่มก็เดินลิ่วๆ ออกจากห้องไป ภาสภากรมองตาอีกฝ่ายก่อนจะถอนหายใจแล้วทิ้งกายพิงเก้าอี้ เขายกมือขึ้นนวดขมับที่มันเต้นตุบๆ ราวกับไมเกรนจะขึ้น

แต่ริมฝีปากหยักกับกระตุกยิ้มชอบใจ

เด็กนั่น...น่าสนใจมาก

ภาสภากรยอมรับตรงๆ เลยว่าเขาถูกใจใต้ฝนไม่น้อย

ชอบมากจริงๆ กับท่าทางพยศถือดีแบบนั้น ท่าทางไม่ยอมคน ไม่เกรงกลัวเขาอย่างคนอื่นๆ มันทำอยากกำราบให้กลายเป็นแมวเชื่องๆ นอนครวญครางอยู่ใต้ร่างเขาเสียจริง

ชิท

แค่จินตนาการว่าเด็กนั่นมานอนเปลือย ส่งเสียงครางหวานๆ เรียกชื่อเขาลูกชายที่มันนอนสงบก็ตื่นขึ้นมาซะงั้น เขาเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ไล่หาชื่อใครสักคนสักคนที่จะช่วยเขาปลดปล่อยในคืนนี้




"พี่..."ใต้ฝนเอ่ยเรียกพลางสะกิดไหล่ของต้นกล้าที่กำลังตั้งวงสังสรรค์กับคนอื่นๆ จนทั้งคนที่ถูกเรียกกับคนอื่นๆ หันมามอง

"อะไร แล้วนี่มึงเดินออกมาทำไม"

"ผมอยากคุยกับเจ้านายของพี่"

"เรื่องอะไร"

"..."

"ผม...อยากคุยเรื่องน้องชายของผม"

"นายกูเขาไม่คุยกับมึงหรอก ไป ไป กลับเข้าบ้านไปอย่าออกมาเถลไถล"ต้นกล้าเอ่ยไล่ก่อนจะหันไปสนใจน้ำเมาในแก้วของตัวเองต่อ ใต้ฝันเม้มปากแน่นก่อนจะยอมเดินออกมาเมื่อไม่มีใครคิดจะสนใจเขาอีก แต่เขาไม่ได้กลับเข้าไปในบ้านตามที่อีกคนสั่ง

เด็กหนุ่มเดินแทรกกายไปตามแสงสลัว ลัดเลาะจนมาถึงหาดทรายขาวละเอียด ใต้ฝันถอดรองเท้าออกก่อนจะย้ำเดินลงบนทรายละเอียดเชื่องช้า กายบางเดินลงไปจนฝ่าเท้าสัมผัสฟองคลื่นซัดสาดขึ้นมาบนหาด

ตากลมจับจ้องไปยังทะเลมืดมิดตรงหน้า ไม่มีแสงสว่างใดนอกจากแสงพระจันทร์นวลอ่อน สายลมเย็นพัดวูบไหวจนกายหนาวสะท้ายอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้

ใต้ฝนยืนยิ่งอยู่นานก่อนจะตัดสินใจนั่งบนทรายละเอียดพร้อมกับชันเข่าขึ้นมากอดแล้วเหม่อมองออกไปที่ไกลแสนไกล

กลิ่นทะเล เสียงลม เสียงคลื่นดึงเด็กหนุ่มให้จมอยู่กับตัวเอง ใต้ฝันซบใบหน้าลงกับเข่าพร้อมกับความรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัวและจิตใจ

เขาผิดสัญญาอีกแล้ว

สัญญาที่จะอยู่กับน้องในวันเกิด

สัญญาที่ว่าเราจะอยู่ด้วยกันในวันเกิดของใต้ฝุ่น

แต่เขาก็ทำไม่ได้

เขาไม่สามารถทำอะไรอย่างที่พูดได้สักอย่าง

พ่อกับแม่คงกำลังผิดหวังในตัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ใต้ฝนกับใต้ฝุ่นก็คงไม่ต่างกัน

ขอโทษนะ

แล้วก็...สุนสันต์วันเกิดนะฝุ่น

พี่ขอให้น้องชายของพี่มีความสุขมากๆ ไปอยู่ที่ไหนก็ขอให้มีแต่คนรัก คนเอ็นดูนะ

พี่รักฝุ่นมากนะ

ท่ามกลางเสียงคลื่น เสียงสายลมพัดวูบไหวไปมา ใต้ฝันที่จมอยู่กับตัวเองไม่ได้สังเกตุเลยว่ามีใครอีกคนกำลังยืนมองตัวเองอยู่

กายสูงใหญ่กำยำยืนพิงต้นไม้ มวลบุหรี่ในมือหมดความน่าสนใจไปนานแล้ว เมื่อเขาได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของอีกคนดังลอยละล่องมาตามสายลม

---------






ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
งื้ออสงสารใต้ฝัน ลูกกก T_T เข้มแข็งไว้นะ ร้องซะให้พอแล้วทำใจซะ คิดว่าวันนึงเราต้องได้เจอกันน้องแน่นอน แล้วสู้อยู่ต่อเพื่อน้อง ทำงานเก็บเงินไว้ใช้ตัวเองเยอะๆนะอย่าได้พึ่งพิงใครโดยเฉพาะนายสิงห์ หึ่ยยยย  :m16: อะไรอ่ะนายภาส อยากได้เขามาร้องครวญครางใต้ร่าง เห๊อะ!! ฝันไปเถอะ ถ้าไม่ข่มขืนเอาแล้วอย่าหวังจะได้ยินเสียงคราง  :fire: รู้สึกว่าอยากให้ใต้ฝนพยศในแบบทำตามคำสั่งทุกอย่างอ่ะ คือยอมทำ จะให้เห่าก็จะเห่าให้ฟังประมาณนี้ ทำตามสั่งทุกอย่าง มีแต่ความว่างเปล่าให้ เนี้ยเราว่าพยศในรูปแบบนี้ ตัวเองจะไม่ได้โดนว่ามากคนอื่นด้วย อารมณ์แบบเรายอมไม่ใช่เราแพ้อะฝน นึกออกม่ะ 55555 ยิ่งพยศแบบนั้นเขายิ่งชอบ โน่ๆ  :serius2: สนุกกมากเลย รอออทุกวัน ดีใจที่มาอัพต่อค่า รอตอนต่อไปเลยจะเกิดไรขึ้นบ้าง ใต้ฝุ่นกับหมอจริงๆสินะ 5555  :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด