(เรื่องสั้น) สวัสดีความรัก... (ตอนเดียวจบ) 16/02/2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) สวัสดีความรัก... (ตอนเดียวจบ) 16/02/2020  (อ่าน 2487 ครั้ง)

ออฟไลน์ YiiM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
*****************************************************************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ YiiM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0


เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นตามจินตนาการ อาจมีบางเหตุการณ์ที่ไม่สมจริงบ้าง โปรดละไว้ในความเข้าใจ เนื้อเรื่องไม่มีการอ้างอิงจากใคร เป็นเพียงสิ่งที่อยากจะเขียนขึ้นเท่านั้นค่ะ



สวัสดีความรัก

โอฬาร x วาเลนไทน์



ผมตื่นมาในเช้าวันหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนวันเดิมๆ ผมทำทุกอย่างเหมือนเดิมในเวลาเดิมๆ ลืมตามาสิ่งแรกที่ทำคือดื่มน้ำ มองไปยังที่นอนที่มีร่างของใครอีกคนหลับอยู่ ผมไม่เคยปลุกเขาและไม่คิดจะทำเหมือนกับทุกๆ วัน

ผมยังคงทำอะไรไปเรื่อยๆ แม้แต่อาหารเช้าง่ายๆ ผมก็ทำเอง และทำทิ้งไว้ให้อีกคนด้วย

ผมเดินออกจากบ้านเพื่อจะไปทำงาน ใครจะไปคิดว่าเด็กที่เคยเกเรไม่เอาไหนอย่างผม โตมาจะได้เป็นหมอ ถึงจะเป็นจิตแพทย์ก็เถอะ แต่ผมก็รักงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้

ผมเป็นคนง่ายๆ ทุกอย่างเรียบง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ในทุกๆ วันผมจะเดินไปทำงาน ถึงแม้ระยะทางจากที่ทำงานจะไกลจากบ้านพอสมควร เคยคิดว่าจะปั่นจักรยานไปเหมือนกันนะ แต่พอได้ลอง ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าลองเลย

ระหว่างทาง ผมก็ทักทายทุกคนในหมูบ้าน เพราะทุกๆ หลัง มักจะทำอะไรเหมือนๆ เดิม เริ่มจาก

คุณลุงหน้าหมู่บ้านที่ยืนรดน้ำต้นไม้ในแปลงผักของเขา

“สวัสดีครับลุง วันนี้ตื่นเช้ากว่าทุกวันเลยนะครับ”

“ก็ความเคยชินนั่นแหละครับ ดูเหมือนวันนี้คุณหมอจะออกเช้ากว่าเดิมนิดหน่อยนะครับ”

“ก็วันนี้วันจันทร์นี่ครับถ้าออกช้ากว่านี้ เดี๋ยวจะสายครับ ว่าแต่...ดูเหมือนผักจะเยอะขึ้นนะครับ”

“ใช่ครับคุณหมอ พอดีลุงเพิ่งปลูกเพิ่ม ไว้โตกำลังกินจะเอาไปฝากนะครับ”

“ขอบคุณมากครับ” ผมกล่าวขอบคุณคุณลุงก่อนจะเดินจากมา ท่านชอบเอาผักที่ตัวเองปลูกมาให้ผมบ่อยๆ ทำให้ผมแทบจะไม่ต้องซื้อผักอะไรเพิ่มเลย เพราะที่ท่านให้มา มันก็เยอะและหลากหลายชนิดอยู่

ผมเดินออกมาถึงยังหน้าหมู่บ้าน ที่ตรงนี้จะมีร้านขายกับข้าวตั้งอยู่หลายเจ้า ตัวผมเองก็มักจะซื้อน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ไปด้วย เพราะช่วงสายๆ มักจะหิว ที่สำคัญ อีกคนชอบมันมากด้วย

“วันนี้เอาอะไรดีคะคุณหมอ”

“เหมือนเดิมเลยครับป้า”

“ทานทุกวันไม่เบื่อเหรอคะ”

“ปาท่องโก๋ของป้าอร่อย ถ้าอยากให้เบื่อก็ทำให้ไม่อร่อยสิครับ”

“ฮ่าๆๆ คุณหมอนี่ปากหวานนะคะ นี่ค่ะ ป้าแถมให้”

“ขอบคุณมากครับ” ผมบอกแล้วจ่ายเงินให้ รับถุงน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋มาไว้ในมือ หากไม่ติดว่ากินปาท่องโก๋เยอะไปมันจะไม่ดี ผมคงสั่งเพิ่มอีกแน่

เดินเยื้องมาหน่อยระหว่างรอข้ามถนนไปอีกฝั่ง ผมก็เจอกับคุณน้าแสนสวยที่มายืนรอส่งลูกสาววัย 8 ขวบขึ้นรถโรงเรียน

“สวัสดีค่ะคุณหมอ”

“สวัสดีครับคุณน้า”

“สวัสดีค่ะ น้าหมอ” หลังจากผมทักทายคุณน้าเสร็จ เด็กน้อยผมเปียรูปร่างอวบ ผิวขาวหน้าตาน่ารักก็ทักผมขึ้น

“สวัสดีครับ น้องมาย” ผมเอ่ยทักกลับ เธอยิ้มเขินๆ แล้วยื่นลูกอมสีแดงให้

“ให้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ ทานมากไม่ดีนะ”

“ค่ะ คุณแม่ให้ทานอาทิตย์ละครั้ง”

“แล้วน้องมายเอาให้น้าเหรอคะ”

“ค่ะ มายให้”

“ขอบคุณมากนะคะ” ผมบอกแล้วลูบศีรษะเด็กน้อยสองสามที ก่อนที่รถโรงเรียนจะมา ผมสามารถมองเห็นเธอได้จากที่นั่งประจำของเธอที่นั่งติดหน้าต่างริมซ้าย ผมโบกมือให้เธอด้วยหลังจากที่เธอนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว

“ผมไปทำงานก่อนนะครับ” ผมกล่าวลาคุณน้า

ผมเดินตรงมาอีก 10 กว่านาทีก็เจอถนนใหญ่ ที่ทำงานของผมต้องข้ามไปยังอีกฝั่งแล้วเลี้ยวซ้ายถึงจะถึง ผมมองดูนาฬิกาบ่งบอกเวลาว่าตอนนี้ 7 โมงครึ่งแล้ว

ผมเดินข้ามไปยังอีกฝั่งแล้วยืนเฉยๆ มองดูผู้คนเดินผ่านตัวผมไปคนแล้วคนเล่าโดยที่ไม่ยอมเดินต่อ ผมหันหลังกลับไปยังอีกฝั่งที่เพิ่งเดินจากมา สัญญาณไฟสำหรับข้ามทางม้าลายที่เป็นสีเขียวเมื่อกี้กลับกลายเป็นสีแดงแล้ว ผู้คนยืนรอในแต่ละฝั่งเพื่อให้รถต่างๆ ขับผ่านไปก่อน ผมชอบที่นี่เพราะการเดินทางที่สะดวก แถมยังมีไฟจราจรติดเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย

ผมมองดูเวลาอีกครั้ง นี่ก็เกือบๆ 8 โมงแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีวี่แววของอีกคนเลย คนที่ทำให้ผมต้องยืนรอ คนที่ผมอยากทำความรู้จักในทุกๆ เช้า คนที่มีรอยยิ้มสดใส ใบหน้าหล่อเหลา ผิวขาวซีดและตัวสูงผอม คนที่มักจะแต่งตัวเท่ๆ แต่กลับซุ่มซ่ามจนน่าแปลกใจ

ผมยังคงมองหาแม้จะกังวลใจมากก็ตาม ไฟสำหรับข้ามถนนที่เป็นสีแดงกำลังกะพริบเพื่อบ่งบอกว่ากำลังจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว น่าแปลกใจยิ่งนัก เพราะเขาไม่เคยสาย หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่านะ

หลังจากที่แสงไฟกลายเป็นสีเขียว ผมรีบออกเดินไปยังอีกฝั่ง แต่ก็ต้องชะงักซะก่อน เพราะคนที่ผมรออยู่กำลังวิ่งหน้าตั้งมาเลย

“นายมาสาย” ผมเอ่ยทัก แต่อีกคนเดินผ่านผมไปเหมือนกับไม่เห็นผม ทำให้ผมต้องรีบคว้ามือไปจับแขนของเขาเอาไว้

“ครับ?”

“นายมาสาย”

“คุณคุยกับผมเหรอ”

“ใช่ เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าครับ ผมตื่นสาย” คำตอบของอีกคนทำให้ผมชะงักไปเลย ก่อนจะปล่อยมือที่จับเขาเอาไว้ออก ผมควรดุเด็กคนนี้ดีไหม ในเมื่อเขาไม่รู้จักผมด้วยซ้ำ

“มานี่” ผมบอกเขา มองไปยังสัญญาณไฟที่กะพริบเตือน ทำให้ต้องจับมือคนที่ยืนงงเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่งที่ผมเพิ่งเดินมา ผมตั้งสติใหม่ ก่อนที่จะเริ่มพูดเพื่อเริ่มต้นอีกครั้ง เพราะดูเหมือนว่าวันนี้จะไปได้ไม่สวยอย่างที่คิดไว้

“วาเลนไทน์” หลังจากพาข้ามถนนมา เราทั้งคู่ก็เอาแต่เงียบใส่กัน ผมจึงเรียกชื่ออีกคนเพื่อเริ่มต้นบทสนทนาของวัน

“คุณรู้จักผมเหรอ”

“ก็ไม่เชิงหรอก”

“แล้ว...”

“ฉันอยากทำความรู้จักกับนาย”

“ทำความรู้จักกับผม?” เขาพูดแล้วชี้ไปยังตัวเอง ผมก็พยักหน้าก่อนที่จะเดินนำไป

“ตกลงคุณรู้จักผมไหม”

“ก็รู้เรื่องของนายในหลายๆ เรื่องนะ เรียกว่ารู้จักได้ไหม”

“คงได้มั้ง” วาเลนไทน์ตอบกลับมา เขานิ่งเงียบเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ซึ่งผมไม่รู้เลย ก็ได้แค่หวังว่าเขาจะโอเค

“ไปด้วยกันไหม” ผมเอ่ยชวนเขา

“ไปไหน”

“ก็เดินไปเรื่อยๆ นั่นแหละ” ผมบอก อีกคนก็พยักหน้ารับ ทำให้ผมยิ้มได้ขึ้นมาเลย

ผมพาเขามาที่สวนสาธารณะที่อยู่ด้านหลังคลินิกของผม ที่นี่เป็นสวนขนาดเล็ก เอาไว้มาวิ่งออกกำลังกายหรือนั่งปิกนิกกับครอบครัว ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงเช้าของวันและโชคดีที่เป็นวันที่ไม่มีแดดมากนัก

ผมเลือกพาเขามานั่งที่ม้านั่งลายการ์ตูนน่ารักๆ หากเป็นตอนเย็นๆ จะมีผู้ปกครองพาเด็กๆ มาวิ่งเล่น ออกกำลังกายแถวนี้ด้วย

“ทำไมถึงเอาแต่เงียบล่ะ”

“ผมรู้สึกว่าผมรู้จักคุณ”

“เหรอ” ผมถาม วาเลนไทน์จับมือของผมไปทาบที่หน้าอกของเขา หากเอาหูไปทาบ คงได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเร็วและรัว เพราะเพียงแค่ใช้มือ ผมก็รู้สึกถึงจังหวะของหัวใจที่เต้นเร็วผิดจังหวะไปจากเดิม

“คุณชื่ออะไร”

“โอ...โอฬาร” ผมบอกออกไป

“รู้สึกไหม” เขาถามผม เพราะหัวใจของอีกคนเต้นเร็วขึ้น

“อืม แล้วจำได้ไหม”

“ไม่ ผมแค่รู้สึกว่า...” เขาเหมือนจะพูด แต่ก็หยุดไปจนผมต้องถามต่อ

“ว่า”

“คุณสำคัญ” เขาช่างใจก่อนจะพูดออกมา

“ดีใจนะเนี่ย”

“ตกลงคุณเป็นใคร”

“อยากลองเดาดูไหม”

“คุณเป็นหมอเหรอ”

“จำได้แล้ว?” ผมขมวดคิ้วถาม แต่อีกคนส่ายหน้าแล้วตอบกลับมายิ้มๆ

“แค่คิดว่าน่าจะใช่น่ะครับ” เขาพูดแล้วหยิบปากกาไฟฉายจากกระเป๋าเสื้อของผมไปถือไว้

“มันไม่ใช่ของเล่นนะ!”

“ขอโทษครับ” วาเลนไทน์กล่าวขอโทษ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มขี้เล่นเมื่อกี้หายวับไปเลยเมื่อผมดุเขา

“ใช่ ฉันเป็นหมอ” ผมพูดออกมาหลังจากที่เรานั่งเงียบ เขาคงทำตัวไม่ถูก

“หรือว่าคุณเป็นหมอที่ดูแลผม”

“ไม่ใช่ ฉันเป็นหมอก็จริง แต่ฉันไม่ใช่หมอที่ดูแลนายหรอกนะ”

“อ้าวเหรอ”

“ว่าแต่ว่า นายจะไปไหน”

“ผมเหรอ จะไปหาอะไรกินครับ”

“ไม่ได้กินอะไรมาจากบ้านหรือไง”

“เมื่อเช้านี้กินครับ แต่ก็ยังหิวอยู่ดี”

“งั้นเอานี่ไป”

“ไม่เป็นไรเลยคุณ เดี๋ยวผมไปหาซื้อเองได้ครับ”

“รับไปเถอะ เจ้าอร่อยเลยนะ”

“แต่ว่า...”

“ถ้ามันไม่ร้อนแล้ว เดี๋ยวก็ไม่อร่อย ฉันก็ทิ้งอยู่ดี” ผมบอกแล้วส่งน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ไปให้เขา ถึงเขาจะปฏิเสธแค่ไหน แต่ผมก็ยังยัดเยียดให้เขาอยู่ดีจนอีกคนรับไป

“กินสิ” ผมบอกจนวาเลนไทน์กัดไปที่ก้นถุงของน้ำเต้าหู้แล้วยกดื่ม

ทั้งๆ ที่ท่าดื่มก็เหมือนเดิมแท้ๆ นี่สินะนิสัยที่ติดตัวคนเรามาตั้งแต่เกิด ไม่ว่ายังไงก็คงไม่เปลี่ยน

“คุณยิ้มอะไร”

“นายไง”

“ทำไม”

“ก็เห็นอยู่ว่ามีหลอด แทนที่จะเจาะกินดีๆ”

“ผมชอบแบบนี้”

“ฉันรู้ :) ” ผมตอบกลับไป รู้สึกว่าตัวเองยิ้มกว้างกว่าเมื่อกี้ซะอีก

ทุกอย่างเหมือนเดิม ทั้งชีวิตประจำวัน ทั้งของที่ชอบ ไหนจะสิ่งที่ชอบทำเป็นประจำ วาเลนไทน์เป็นพวกชอบอะไรเดิมๆ และไม่ชอบที่จะเปลี่ยนหรือรับสิ่งใหม่ๆ แม้แต่รสชาติของอาหารที่กินก็ด้วย

“คุณเหมือนกับรู้จักผมดี”

“ฉันชอบที่จะทำความรู้จักกับนาย” ผมบอกกับอีกคน ตัวเขาก็จ้องหน้าผมกลับแต่ไม่พูดเจื้อยแจ้วเหมือนก่อนหน้า แววตามีแต่ความสงสัยแต่ก็ไม่ยอมถาม จนในที่สุดเขาก็เลิกมองผมแล้วนั่งกินปาท่องโก๋ในถุงจนหมด

“อร่อยใช่ไหม”

“ครับ ถูกปากมาก” ก็ต้องถูกปากล่ะนะ เพราะเป็นรสชาติที่คุ้นเคยนิ

“อยากกินอีกไหม”

“ไม่แล้วครับ ขอบคุณ ว่าแต่คุณไม่ไปทำงานเหรอ”

“วันนี้มีนัดกับคนไข้อีกทีคือตอนบ่าย”

“เหรอ คุณเป็นหมออะไร”

“จิตแพทย์”

“คุณเรียนเก่งเหรอ”

“ไม่หรอก พยายามแทบตายเลยล่ะกว่าจะจบน่ะ การมีเพื่อนดีก็ช่วยได้เยอะ”

“คุณไม่น่าจะรู้จักผมได้”

“มันคงเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ฉันว่าเพราะเป็นพรหมลิขิตมากกว่า”

“...”

“ยิ้มเหรอ”

“เปล่าสักหน่อย คุณเป็นคนยังไงกันแน่” ถึงจะปฏิเสธ แต่เขาก็ยิ้มอยู่จริงๆ นะ

“เป็นปกติ แต่นายชอบว่าฉันบ้า”

“...” วาเลนไทน์ไม่ตอบ แต่เขาเอามือกุมศีรษะตัวเอง

“ปวดหัวเหรอ”

“ไม่ครับ” เขาตอบกลับมา แต่สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก

“เป็นอะไร”

“เหมือนมีภาพคุณในหัว”

“พักไหม ไม่ต้องคิดอะไรมาก ฉันว่าเราไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ” ผมบอกแล้วชี้ไปยังศาลาริมน้ำ ที่นั่นร่มรื่นกว่าตรงนี้ มีที่บังแดดด้วย แถมผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน วาเลนไทน์ดูเหนื่อยๆ เขาเงียบไปเลยเหมือนกับคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งอีกคนพูดออกมา

“คุณเหนื่อยกับผมไหม” อยู่ๆ เขาก็ถาม

"ทำไมถึงถามแบบนี้"

"ตอบคำถามผมสิ"

“ไม่เลย”

“ไม่จริง”

“เอ้า ทำไมล่ะ”

“คุณเคยทิ้งผม”

“ทีนี้ทำไมจำได้” ผมถามเพราะมันเป็นเรื่องที่ผ่านมานานมากแล้ว แต่อีกคนเริ่มหน้าเสียลงเรื่อยๆ

“ผมขอโทษ”

“นายไม่ได้ทำอะไรผิด” ผมบอกแล้วขยับไปใกล้กว่าเดิม

“ฮื่อออออ”

“ร้องไห้ทำไม” ผมถามแล้วกอดปลอบ

“คุณจะทิ้งผมไปอีกไหม”

“ไม่ ไม่ทิ้งหรอก อย่าร้องไห้สิ”

“ผมขอโทษ ผมมันน่ารำคาญ”

“ไม่จริงสักหน่อย”

“ชะ...ใช่ คุณเคยพูด ฮึก ผะ...ผมจำได้ ฮื่ออออ” วาเลนไทน์ร้องไห้หนักขึ้น เขาตาแดงและมองผมด้วยแววตาอ้อนวอน เหมือนกับกลัวว่าผมจะทิ้งเขาไปจริงๆ

“มันผ่านมาแล้ว และฉันจะไม่ทิ้งนายอีก”

“ผะ...ฮึก...ผมกลัว”

“ฉันรู้” ผมบอกแล้วลูบหลังอีกคนเพื่อปลอบ นี่เป็นครั้งแรกที่วาเลนไทน์ร้องไห้ออกมาหนักขนาดนี้หลังจากที่เหมือนจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง

“ผมรักคุณนะ”

“นายจำอะไรได้”

“ความทรงจำบางช่วง ผมไม่รู้ มันสับสนและฉายวนอยู่ในหัว”

“ใจเย็นๆ”

“คุณเป็นคนรักของผมใช่ไหม”

“อืม”

“ทำไมคุณไม่บอก”

“เพราะถ้าบอกไป นายก็ไม่เชื่ออยู่ดี”

“คุณเคยลองแล้วเหรอ”

“นับครั้งไม่ถ้วน”

“นี่เลยเป็นเหตุผลที่คุณเคยทิ้งผมเหรอ”

“ไม่ใช่ นั่นมันก่อนที่นายจะเริ่มมีอาการ”

“ผมเป็นอะไร”

“ความทรงจำขาดหาย”

“...” วาเลนไทน์มองผมด้วยแววตาสั่นๆ หลังจากที่ผมบอกไป เป็นครั้งแรกเลยที่เขาแสดงอาการแบบนี้ เขาจำเหตุการณ์ในอดีตได้ ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ในหัวของเขาหยุดอยู่ที่ตอนไหน แต่ถ้าเขาจำมันได้มากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เขาจะรู้ได้ทันทีเลยว่าผมรักเขาแค่ไหน

“ฉันไม่ทิ้งนายแน่นอน ไม่เคยคิดที่จะทิ้งเลย”

“แล้วทำไม...”

“ก็แค่ความทรงจำของนายยังกลับมาไม่ครบ”

“ผมเป็นแบบนี้บ่อยไหม”

“ทุกวัน ทุกครั้งที่นายตื่น นายจะจำอะไรไม่ได้เลย หรืออาจจะจำได้ แต่ก็ยังไม่เคยได้ถึงตอนปัจจุบัน”

“ผมจำตัวเองในวัยเด็กได้”

“ใช่ นายจำได้ บางครั้งก็ถึงตอนประถม บางครั้งก็ช่วงมหาลัย มีหลายครั้งก็เป็นช่วงที่ฉันกำลังจีบนาย”

“คุณจีบผม?”

“ใช่”

“คุณไม่ชอบผู้หญิงเหรอ”

“ก็ชอบ แต่ชอบนายมากกว่า” ผมบอกออกไป วาเลนไทน์ไม่ได้พูดอะไรอีก เขานั่งเงียบเหมือนกับพยายามคิดให้ออก

“เป็นอะไร” ผมถาม เพราะอีกคนขมวดคิ้ว ผมชอบให้เขาถามผมมากกว่าคิดเอาเอง

“ผมเคยถามไหมว่าทำไม”

“ทำไมอะไร”

“ทำไมเราถึงคบกันได้”

“อยากฟังเหรอ”

“ก็อยาก แต่คิดว่าคุณต้องเล่าให้ผมฟังบ่อยแล้วแน่ๆ”

“ไม่เคยเลยต่างหาก”

“จริงเหรอ ทำไมล่ะ”

“เพราะนายไม่เคยถาม”

“ถ้าอย่างนั้น ครั้งนี้เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ”

“ได้สิ ก็นายอยากฟังนิ” ผมยิ้มให้กับเขาแล้วนึกย้อนกลับไปช่วงเวลาที่เราพบกันครั้งแรก มันเป็นเหมือนกับพรหมลิขิตที่ทำให้เราเจอกัน แต่หลังจากนั้น ผมลิขิตเองล้วนๆ

เรารู้จักกันมานานแล้ว และเป็นผมเองที่เริ่มจีบเขาก่อน เขาไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็กน่ารัก เขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่มีผิวขาวซีด ไม่ได้มีหุ่นผอมบางแต่ก็ไม่ได้หนาอะไร เขาเป็นคนมีเสน่ห์ และผมตกหลุมรักรอยยิ้มของเขาตั้งแต่แรกเห็น สิ่งที่ยากที่สุดคือการตามจีบเขา เนื่องจากตัวผมเองที่ไม่ใช่สเปกเขาเลย เขาค่อนข้างจะไม่ชอบขี้หน้าผมตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ

ที่เขาว่ากันว่า ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก มันใช้ได้ผลสำหรับผม ถึงจะใช้เวลากว่าหลายปีกว่าจะจีบเขาติดก็เถอะ

ตัวผมเองก็เป็นผู้ชายธรรมดา แต่ผมแค่พร้อมที่จะทำให้ทุกๆ วันของอีกคนเป็นวันพิเศษ ผมซื่อตรงกับความรู้สึก เพราะการที่ผมบอกรักเขา มันแปลว่าผมรักเขาจริงๆ

‘สวัสดี’

‘คุณอีกแล้ว’

‘ใช่ ฉันเอง’

‘กินขนมปังทุกวัน ไม่เบื่อหรือไงคุณ’

‘ก็เบื่อ...ขนมปังน่ะนะ แต่ฉันไม่เคยเบื่อนายเลย’

‘อย่ามาเล่นมุกเสี่ยวนะ’

‘พูดจริงหาว่าเล่นมุก’

‘พอเถอะ ผมขอ’

‘หยอดทุกวันไม่ใจอ่อนบ้างเหรอ’

‘ใครจะใจอ่อนให้หมอโรคจิตอย่างคุณกันเล่า’

‘เศร้านะเนี่ย’

‘จะไปไหนก็ไปเลย’

‘จะให้ไปไหนในเมื่อใจอยู่ตรงนี้’ ผมบอกกับเขาแล้วนั่งลงที่โต๊ะว่าง ที่นี่เป็นร้านเบเกอรี่ซึ่งมีขนมปังและคุกกี้มากมาย เป็นร้านที่มีกลิ่นหอมจนคุณต้องชอบและอร่อยจนต้องติดใจแน่ๆ ถ้าได้มาลอง

‘ผมคิดค่านั่งนะ’

‘บวกไปกับค่าขนมปังเลยตามสบาย’ ผมบอกกับเขา ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกทีแต่ก็ไม่เคยจะเก็บเงินผมจริงจังหรอก

‘คุณไม่ทำการทำงานหรือไง หรือการเป็นหมอมันว่างมาก’

‘ก็ไม่ว่าง แต่ถ้าว่างก็อยากเจอ’

‘ผมไม่หลงคารมหรอกนะ’

‘ไม่ได้อยากให้หลงคารม แค่หลงผมก็พอ’

‘ไม่แน่ๆ อ่ะ’ อีกคนบอกแล้วมองค้อนใส่ ถึงจะทำหน้าดุ แต่ก็ดูน่ารัก คงมีแต่ผมนี่แหละที่หลงอีกคนจนโงหัวไม่ขึ้น

‘เมื่อไหร่จะบอกชื่อกันล่ะ’

‘ผมไม่อยากรู้จักคุณสักหน่อย’

‘ชัดเจน งั้นไม่เซ้าซี้แล้วกัน’ ผมบอกก่อนที่จะดูเวลาเพราะมีนัดกับคนไข้ อยากรู้จัก อยากสนิท ทั้งๆ ที่ก็พยายามจีบ แต่ทำไมถึงไม่ติดกันนะ ผมว่าผมก็หล่อพอตัวอยู่นะ

+++

“เงียบทำไม แล้วที่คุณว่าจะไม่เซ้าซี้ คือไม่เซ้าซี้จริงๆ เหรอ” วาเลนไทน์ถามขึ้น

“ฉันหมายถึงไม่เซ้าซี้เรื่องการถามชื่อ ที่เงียบเพราะหลังจากนั้นเป็นนายเองต่างหากที่เข้ามาคุยกับฉันก่อน”

“ทำไม”

“ไม่รู้สิ ฉันจีบนายติดล่ะมั้ง”

“ง่ายอย่างงั้นเลยเหรอ”

“ใครว่าง่าย 2 ปีเชียวนะกับการไปหานายที่ร้านเบเกอรี่นั่นทุกวัน"

“แล้วทำไมผมถึงเข้าไปคุยกับคุณก่อนล่ะ”

“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วทำไม แต่คงเพราะฉันหายไปล่ะมั้ง”

“อ่า ใช้วิธีมาเจอทุกวันแล้วก็หายไปงี้เหรอ”

“ก็ไม่เชิง เพราะฉันไม่ได้ตั้งใจหายไปจากนาย”

“แล้วคุณหายไปไหน”

“แม่เสียน่ะ”

“เหรอ ผมขอโทษนะ ไม่น่าให้เล่าเลย”

“ไม่เป็นไร มันก็นานมากแล้วด้วย”

“ผมถามได้ไหมว่าแล้วไงต่อ” อีกคนพูดอย่างอยากรู้ ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังทำหน้าเศร้าอยู่เลย

“หลังจากที่ฉันหายไปธุระเรื่องแม่ หลังจากกลับมานายก็งอนฉันน่าดูเลย”

“งอนเหรอ ไหนบอกว่าผมเข้าไปคุยกับคุณก่อน”

“ก็ถ้าฉันไม่ไปหานาย จะมีเหรอที่นายจะเข้ามาคุยก่อน คุยก่อนไม่ได้หมายถึงทักทายก่อนนะ แต่เป็นครั้งแรกเลยที่นายเป็นคนชวนฉันคุยโดยที่ไม่ใช่ฉันเข้าไปกวน”

+++++

‘ไม่เจอตั้งหลายวัน คิดถึงกันบ้างไหม’ หลังจากเสร็จธุระเรื่องแม่ ผมก็กลับมาทำงานปกติ และก็กลับมาหาเขา เขาที่ผมรู้สึกชอบมากเป็นพิเศษตั้งแต่แรกเห็น

‘ทำไมต้องคิดถึง คุณหายไปมันก็ดีอยู่แล้ว’

‘อย่างงั้นเหรอ’ ได้ฟังอีกคนพูดแล้วก็เศร้า ไม่เคยจะให้ความหวัง แต่ตัวผมก็ไม่คิดจะตัดใจ

‘ทำไมทำหน้าเศร้าแบบนั้น’ เขาถาม เป็นคำถามที่เหมือนกับชวนคุยไหมนะ เพราะผมนั่งเงียบอยู่นานเลยหลังจากที่คิดว่าอีกคนไม่คิดถึง

‘ไม่มีอะไร’

‘แล้วหายไปไหนมาล่ะ’ ถามอีกแล้ว ผมดีใจได้ไหม ถึงจะมองไปทางอื่นแต่ในร้านก็มีแค่ผมกับเขา คงจะไม่ได้คุยกับแม่ซื้อที่ไหนหรอกมั้ง แต่ถ้าผมตอบไปแล้วเขาบอกว่าคุยกับโต๊ะกับเก้าอี้ ผมคงต้องพิจารณาตัวเองหน่อยแล้ว เพราะความสำคัญของผมคงไม่มีอยู่จริง

‘แม่ผมเสียน่ะ’

‘ทำไมไม่บอก!’ เสียงดุจากอีกคนพูดขึ้น เพิ่งเคยเห็นเขาทำหน้าแบบนี้ครั้งแรกเลยนะ นอกจากยิ้มให้ลูกค้าคนอื่นแล้ว ก็มองผมแบบหน้าเหม็นเบื่อนี่แหละที่ทำประจำ

‘ก็...ต้องบอกด้วยเหรอ’ ผมถามกลับทำเอาอีกคนเหลือกตาใส่ จากที่กำลังแพ็กขนมปังอยู่ อยู่ๆ เขาก็หยุดแล้วเดินมานั่งตรงข้ามกับผม

‘คุณโอเคไหม’ เขาถาม

‘เรื่อง...’

‘จะเรื่องอะไรล่ะ ที่แม่คุณเสียไปน่ะผมเสียใจด้วยนะ’

‘อืม ไม่เป็นไร ผมโอเค’

‘โอเคแต่ก็เสียใจใช่ไหมล่ะ’ เขาถาม ถ้าให้พูดตามจริง ลึกๆ แล้วผมก็เสียใจนั่นแหละ แต่ผมก็คิดว่าท่านคงไปสบายแล้ว

‘จะปลอบเหรอ’ ผมถามเขา

‘อืม’ อีกคนตอบรับแล้วจับมือของผมไปกุมเอาไว้ เขาลูบที่มือผมเบาๆ ถึงจะไม่มีคำพูดอะไร แต่ผมก็ซึ้งใจเขามาก ทั้งๆ ที่ไม่คิดว่าจะร้องไห้ แต่บางที่การได้ร้องออกมามันก็เป็นเรื่องที่ดี ผมก้มหน้าลงกับโต๊ะแล้วร้องออกมาเงียบๆ อีกคนเพียงแค่นั่งกุมมือของผมโดยที่ไม่พูดอะไร

++++++

“ผมทำแค่นั้นจริงๆ เหรอ”

“อืม แค่จับมือนั่นแหละ แต่แค่นั้นก็ดีมากแล้วนะ”

“ดูคุณเหมือนจะประทับใจนะ”

“ใช่ เพราะตอนนั้นฉันไม่ได้ต้องการคำพูดปลอบใจอะไร”

“คุณมาหาแล้วก็จีบผมทุกวันเลยเหรอ”

“ไม่เคยหายไปเลยสักวัน นอกจากครั้งนั้นแหละ”

“คุณมันน่าเหลือเชื่อ ใจคุณมันได้”

“แน่นอน แล้วก็ได้ใจนายไปเต็มๆ เลยล่ะ นอกจากหยอดแล้ว ฉันก็ช่วยอย่างอื่นนายด้วยนะ”

“ยังไง”

++++

‘สวัสดี วันนี้เปิดประตูมาก็เจอความรักเลย ต้องเป็นวันดีแน่ๆ’

‘ดีสำหรับผมน่ะสิ’

‘นั่นแน่ มีใจแล้วใช่ไหม’

‘วันนี้ผมขายขนมปังหมดแล้ว เพราะฉะนั้นร้านปิด เชิญกลับได้เลยครับ’

‘พูดจริงดิ’

‘กับการขายของผมไม่โกหกหรอกนะ พอดีมีคนมาเหมา’

‘งั้นขอนั่งมองหน้าหล่อๆ ของนายอีกสักพักได้ไหม’

‘ไม่ได้ครับ’

‘เสียใจนะเนี่ย’

‘ผมต้องไปส่งของแล้ว’

‘ถ้าอย่างนั้นฉันไปด้วย’

‘คุณจะไปทำไม’

‘ก็ไปช่วยถือไง’ ผมบอกแล้วยกลังขนมปังขึ้น อีกคนคงเอือมระอาจนไม่ห้าม เขาเอาแต่ส่ายหน้าแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไร แต่ผมเห็นนะ เขาแอบอมยิ้มแหละ

+++

“พวกเราเป็นแบบนี้กันนานไหมครับ”

“ที่ฉันตามจีบนายน่ะเหรอ”

“ที่ผมเล่นตัวดีกว่า”

“ฮ่าๆๆๆ กว่านายจะตกลงคบกับฉันเราก็รู้จักกันกว่า 4 ปีได้”

“โหคุณ ปักใจอะไรกับผมขนาดนั้น”

“นั่นสิ คงเพราะว่ารักไปแล้วล่ะมั้ง”

“ตอนนั้นคุณรักผมมากเลยเหรอ”

“ใช่สิ ตอนนี้ก็รัก ไม่มีวันไหนที่ไม่รักเลย” ผมบอก พออีกคนเงียบไม่โต้ตอบเลยหันไปมองหน้า วาเลนไทน์กำลังเขินอยู่ เขาหน้าแดงและอมยิ้มเล็กๆ

“คุณนี่ปากหวานตลอดเลย”

“นายก็น่ารักตลอดเลย”

“บ้า” วาเลนไทน์บอก เขาเขินแหละผมดูออก

“ถ้ารู้ว่าเล่าให้ฟังแล้วจะทำหน้าแบบนี้ เล่าให้ฟังทุกวันเลยดีไหม”

“แบบนั้นคุณจะรำคาญเอาน่ะสิ”

“ไม่เลย ฉันดีใจที่นายยิ้มมากกว่า”

“ทุกๆ วันที่ผมตื่นมาเจอคุณ มันต่างกันมากไหม”

“ก็มากอยู่”

“แล้วผมร้ายกับคุณบ้างไหม”

“นายไม่ใช่คนแบบนั้น”

“คุณเป็นคนดีนะ”

“นายถึงได้ยอมรับรักฉันไง”

“ไม่แปลกใจเลย” วาเลนไทน์บอก เขาพยักหน้าคิดตาม

“แต่นายก็เล่นตัวนานอยู่”

“นั่นสิ แล้วคุณทำได้ใช่ไหม ผมหมายถึงว่า คุณทำให้ผมจำคุณได้ในทุกๆ วันเลยหรือเปล่า”

“ไม่ น้อยครั้งที่นายจะจำไม่ได้”

“แล้วคุณทำยังไง”

“ก็ให้อ่านไดอารี่ที่ตัวนายเขียน”

“ผมเขียนไดอารี่ด้วยเหรอ”

“ก็เขียนทุกวัน ก่อนจะนอนน่ะ” วาเลนไทน์มีสีหน้าแปลกใจ เพราะมันไม่ใช่นิสัยของเขา เพียงเพราะเขาเริ่มทำมาได้ไม่นาน จะไม่คุ้นชินก็ไม่แปลก

“เราคบกันหลังจากตอนที่คุณเล่านานไหม”

“ไม่นาน เพราะนายเริ่มเปิดใจให้ฉันนานแล้ว”

“แค่เล่นตัวสินะ”

“อืม รู้ไหม คืนแรกของเราน่ะ...” ผมพูดแล้วก็เงียบไป ทำให้อีกคนมองผมตาแป๋ว เขาเอียงคอเข้าหาผมเหมือนกับแมวน้อยเลย

“อะ...อะไรละครับ”

“นายเริ่มก่อนด้วยนะ” ทันทีที่พูดจบ อีกคนหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด เขามองผมแล้วกะพริบตาถี่ๆ ยิ่งมองยิ่งดูน่ารัก

“ผมใจเต้นแรงเลยคุณ” วาเลนไทน์พูดออกมา ตอนนี้เขาหลบตาไม่กล้าจ้องหน้าผมแล้ว

“ฉันก็ไม่ต่าง”

“ผมถามอะไรหน่อยสิ”

“หืม”

“เคยถอดใจจากผมบ้างไหม”

“พูดตามตรงนะ แรกๆ ก็เหนื่อยเหมือนกัน มันมีทั้งวันที่ดีและวันที่ไม่ดี แต่ทุกครั้งที่นายจำฉันได้ นายร้องไห้เหมือนจะตายเลยล่ะ”

“ผมรู้สึกผิดสินะ”

“ใช่ ยิ่งฉะเพราะวันที่นายดื้อกับฉันมากๆ น่ะนะ”

“แล้วไม่ทิ้งไปล่ะ”

“ทิ้งได้ไง รักมากขนาดนี้” ผมบอกออกไป วาเลนไทน์ได้แต่เม้นปากเข้าหากัน ผมรู้ว่าเขาชอบแหละที่ได้แบบนั้น แต่ผมไม่ได้พูดเพื่อเอาใจเขานะ ผมพูดออกมาจากใจของผมจริงๆ

“จะเที่ยงแล้ว ไปหาอะไรกินกันไหม”

“ได้ครับ” วาเลนไทน์ตอบรับ ผมเลยพาเขาไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าคลินิกของผม เพราะหลังจากกินเสร็จ ผมก็ต้องเตรียมตัวเนื่องจากใกล้เวลานัดกับคนไข้


มีต่อนะคะ

ออฟไลน์ YiiM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ต่อค่ะ



“กินเสร็จนายอยากไปไหนไหม”

“ทำไม”

“ฉันมีนัดกับคนไข้ คงเสร็จช้า”

“ผมรอได้”

“ถ้าเบื่อก็ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะก็ได้ ปกตินายก็ไปรอฉันที่นั่น”

“ครับ คุณไม่ต้องห่วง”

“แต่ต้องกลับมาก่อน 6 โมงนะ”

“ครับ”

“ห้ามเดินตามคนแปลกหน้า”

“ครับ”

“อย่ารับขนมจากใครล่ะ”

“ผมแค่ความจำขาดหาย แต่ไม่ได้กลายเป็นเด็กนะครับ เรื่องแบบนี้ก็ต้องรู้อยู่แล้วไหม”

“แค่จะสื่อว่าฉันเป็นห่วง”

“รับทราบครับ” วาเลนไทน์ตอบรับกลับมา หลังจากกินเสร็จผมเลยแยกตัวไปเปิดคลินิกของตัวเอง โดยปกติแล้ว ผมไม่ได้มีนัดกับคนไข้ทุกวัน เพราะจำกัดจำนวนที่ตัวเองจะรับไหวและต้องรันเวลาเองด้วย

+++++

“คุณคุยกับคนไข้ทีละนานๆ ตลอดเลยเหรอ” วาเลนไทน์ถาม พอผมออกมาจากห้องที่ใช้คุยกับคนไข้ ก็เห็นอีกคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ปกติถ้าวันว่างๆ ของผม บางครั้งผมก็พาเขาไปเดินห้าง ดูหนัง ทำอะไรแบบที่คู่รักเขาทำกันบ้าง แต่หากว่าผมติดงาน ผมก็จะให้เขาไปใช้เวลาของตัวเอง แต่ต้องกลับมาหาผมก่อนเวลาที่เรานัดกัน และเขาก็ตรงเวลาเสมอ ผมไม่เคยถามว่าเขาหายไปไหน หรือบางที่อาจจะนั่งอยู่ตรงนี้ตลอด

“บางครั้ง ฉันต้องฟังคนไข้เพื่อวิเคราะห์อาการและคนไข้ก็ต้องฟังฉัน ทำไม เบื่อเหรอ”

“เปล่า แค่สงสัยครับ”

“หิวหรือเปล่า”

“หิวครับ ว่าแต่เสร็จแล้วเหรอครับ”

“ใช่ วันนี้ไม่มีคนไข้แล้วล่ะ”

“งั้นไปหาอะไรกินได้แล้วใช่ไหมครับ”

“อืม อยากกินอะไร”

“ไม่รู้สิ คุณเลือกเลย” วาเลนไทน์บอก ผมเลยพาเขาไปยังร้านประจำ เป็นร้านอาหารตามสั่งธรรมดา แต่รสชาติถูกปากเขาเอามากๆ

“เรามากันบ่อยไหม”

“บ่อย”

“คุณรู้ไหมผมชอบกินอะไร”

“ก็...สุกี้ไม่ใส่ผัก ข้าวผัดกุ้ง ข้าวคลุกกะปิ ความจริงนายไม่เลือกมากในการกินนะ บางครั้งก็สั่งข้าวไข่ดาวหรือไม่ก็ข้าวไข่เจียว”

“รู้จริงด้วย”

“แน่สิ มันก็หลายปีแล้วนะ” ผมบอก แล้วเราก็สั่งอาหารมาคนละจาน วาเลนไทน์สั่งข้าวผัดกุ้ง ผมเลยเอาแบบเขาด้วย เรานั่งกินกันไม่นานก็พากันกลับบ้าน

“บ้านที่อยู่ตอนนี้เป็นบ้านผมเหรอ”

“ใช่ ฉันย้ายมาอยู่กับนาย” ผมบอกเมื่อเราเดินกันมาถึงบ้านหลังเล็กที่อยู่ในซอย ความจริงแล้วเมื่อก่อนวาเลนไทน์เช่าที่นี่อยู่ แต่พอเขาเริ่มมีอาการแบบนี้ผมเลยตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ เพราะมันง่ายและสะดวกต่อการใช้ชีวิตของอีกคน คุณหมอที่ดูอาการของวาเลนไทน์ก็เคยบอกไว้ การที่ความจำของวาเลนไทน์ขาดหายไปไม่ใช่เรื่องอันตราย เขาไม่ได้จะเป็นไปตลอดชีวิต เพียงแต่เรากำหนดไม่ได้ว่าเขาจะหายเมื่อไหร่ สมองของเขาตอนไปตรวจก็ปกติดีด้วย ไม่มีอะไรที่ผิดปกติเลยแม้แต่น้อย ผมก็เลยได้แต่หวัง ว่าสักวันหนึ่งเขาจะดีขึ้น

จุ๊บ

หลังจากเข้ามาในตัวบ้าน วาเลนไทน์ก็หอมแก้มของผม ก็ไม่ได้แปลกใจเหมือนตอนแรกๆ ที่เขากล้าทำ เพียงแค่ยังไม่ทันตั้งตัวเลยได้แต่จับแก้มของตัวเองค้างนิ่ง บางทีเขาก็มักจะทำอะไรที่ผมคาดไม่ถึงเหมือนกัน

“มันเป็นเรื่องปกติใช่ไหม ที่คนเป็นแฟนกันเขาทำกันน่ะ”

“ก็ใช่ :) ” ผมบอกแล้วยิ้มให้อีกคนที่กำลังเขิน

“ผมแค่อยากขอบคุณที่คุณไม่ทิ้งกัน ถึงแม้ว่าผมจะจำคุณไม่ได้”

“อืม ฉันเข้าใจ” ผมบอกแล้วใช้มือโยกศีรษะของอีกคน

“เอ่อ...ปกติแล้ว ผมให้คุณทำไหม”

“ทำ?”

“อย่างว่าน่ะ” พูดแล้วก็หลบตาด้วยความเขิน

“ฮ่าๆๆ ทำสิ ไม่ทุกวันหรอก แต่นายทำให้อย่างเร่าร้อนเลยล่ะ”

“คุณบ้า ผมไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”

“ใช่สิ นายน่ะใช่ ทำไมถึงพูดถึงล่ะ อยากเหรอ”

“เปล่า ก็แค่คิดว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของคนรักกัน ผมกลัวว่าจะทำหน้าที่นั้นได้ไม่ดี”

“ไม่ต้องกังวล นายทำได้ดีทุกครั้งเลยล่ะ” ผมบอกแล้วลูบศีรษะของเขาอย่างเอ็นดูก่อนจะถามต่อ

“แล้วอยากให้ทำไหมล่ะ”

“ผมไม่ได้อยาก เพียงแค่สงสัย”

“ฉันรู้ เพราะถ้านายอยาก นายเริ่มแล้ว”

“คุณบ้าจริงๆ ด้วย” เขาบอกแล้วหนีไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ เขาเป็นเหมือนกับแมวเชื่องๆ เมื่อกลับมาถึงบ้าน อาจเพราะมีแต่ความรู้สึกคุ้นชินและรู้สึกปลอดภัยเวลาที่อยู่ที่นี่ด้วยล่ะมั้ง เขาดูผ่อนคลายและสบายใจมากกว่าอยู่ข้างนอกอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากที่อีกคนอาบน้ำเสร็จ ผมก็บอกให้เขาไปนั่งเขียนไดอารี่อย่างเคย และตัวผมก็เข้าไปอาบน้ำบ้าง

“เป็นอะไร” ผมถามอีกคนหลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำ

“ผมรักคุณมากนะ ถึงความรู้สึกของผมวันนี้จะไม่ได้รู้สึกว่ารักคุณมากเท่าที่ผมพูดออกไป แต่ในใจลึกๆ ของผม ผมรู้ว่าจริงๆ แล้วผมรักคุณมาก” อยู่ๆ อีกคนก็พูดขึ้น

“ต้องเป็นอะไรแน่ๆ เลยใช่ไหม”

“เปล่า แค่ได้นั่งอ่านไดอารี่ของตัวเอง แล้วรู้สึกว่าคุณเองก็รักผมมาก ผมเลยอยากบอกคุณให้รู้ไว้” วาเลนไทน์บอก วันนี้เขาดูขี้อ้อนเป็นพิเศษ ผมทำเพียงพยักหน้าแล้วยิ้มให้เขา

++++++

“ผมเคยไม่หลับไหม” ท่ามกลางความมืดในห้องนอนของเรา อยู่ๆ วาเลนไทน์ก็ถามขึ้น เวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดึกมาก ก็น่าจะสามหรือสี่ทุ่มเท่านั้น แต่ก็เป็นเวลานอนของเราทั้งสองคน

“เดี๋ยวนายก็หลับ” ผมบอกพร้อมทั้งนอนตะแคงมองอีกคน

“อยากลองทนดู” วาเลนไทน์พูดขึ้น เขาเองก็นอนตะแคงหันมาทางผมเช่นกัน

“นายเป็นเด็กอนามัยนะ ง่วงก็นอนเถอะ ไม่ต้องฝืน”

“ไม่อยากนอนเลย”

“หลับไปเถอะ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น”

“พรุ่งนี้เช้าผมจะลืมคุณนะ”

“แล้วฉันก็จะทำให้นายจำได้”

“แล้วถ้าไม่ล่ะ”

“ก็จะเป็นอย่างวันนี้ไง...ฉันไม่ได้เก่งพอที่จะทำให้นายจำได้ แต่ฉันเก่งพอที่จะทำให้นายตกหลุมรักฉันได้นะ”

“พูดดีจริงๆ เลยนะ สักวันคุณต้องเหนื่อยกับผมแน่ๆ”

“อย่าพูดแบบนั้น”

“ก็มันจริง คุณจะทนไปได้ถึงแค่ไหน”

“ที่ฉันทำ ฉันไม่ได้ทน ฉันทำเพราะฉันอยากทำ”

“เหมือนคุณจะบอกว่ามันสนุกเลย”

“ไม่หรอก มันไม่สนุกเลย อย่าทำเหมือนจะร้องไห้สิ ฉันแค่จะบอกว่า มันก็ไม่ได้แย่นะ”

“อย่ายอมแพ้นะ ถึงผมจะจำคุณไม่ได้ คุณก็อย่ายอมแพ้ที่จะทำความรู้จักกับผม”

“แน่นอน”

“มั่นใจในตัวเองเข้าไว้นะครับ”

“อย่ากังวล เพราะฉันรักนาย และรู้ว่านายก็รักฉัน เห็นไหม....หัวใจของนายไม่เคยปฏิเสธฉันได้”

“ครับ ขอบคุณที่เข้ามาทักผมก่อน ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันไปนะครับ”

“ไม่ทิ้งแน่นอน” ผมพูดเสียงเบาและกอดอีกคนเอาไว้ ถึงจะตื่นมาแล้วลืมกัน แต่เราก็มักจะนอนกอดกันหลับไปในทุกคืน ผมไม่รู้ว่าเกี่ยวไหม อาจเพราะผมเรียนมาด้วย เลยพยายามมองในมุมมองของเขา ไม่ใช่ว่าแค่ผมที่เหนื่อย แต่ผมคิดว่าวาเลนไทน์เองก็คงกลัว ยิ่งวันที่เขาจำได้ เขาก็ไม่เคยคิดที่จะอยากหลับเลย แต่เราฝืนธรรมชาติไม่ได้หรอก

“หลับแล้วสินะ” ผมบอกแล้วหอมหัววาเลนไทน์ ชายที่เป็นรักแรกพบ



การจีบเขาไม่ง่ายเลย ถ้าจะให้ตัดใจเพราะแค่เขาเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่ยอมหรอก สิ่งที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เราเพียงแค่ต้องยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับมันให้ได้ มันอาจจะเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว และผมสัญญากับตัวเองตั้งแต่วันนั้น ว่าจะทำทุกวันให้ดีที่สุด

+++++

ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดมา วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมทำทุกอย่างเหมือนเดิมในเวลาเดิมๆ นั่นก็คือดื่มน้ำและมองไปยังที่นอนที่มีร่างของเขาที่หลับสนิทอยู่ เพราะความขี้เซาทำให้อีกคนไม่เคยตื่นก่อนผมเลย

ผมเดินมายังห้องครัวและเริ่มทำอาหารเช้าง่ายๆ กินเอง และไม่ลืมที่จะทำทิ้งไว้ให้อีกคน

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็เดินออกจากบ้านเพื่อจะไปทำงานเหมือนกับทุกวัน

วันนี้คุณลุงหน้าหมู่บ้านก็ยืนรดน้ำต้นไม้ในแปลงผักของเขาอีกเช่นเคย

“สวัสดีครับลุง”

“สวัสดีครับคุณหมอ เอากับข้าวนี่ไปด้วยสิครับ”

“อะไรครับเนี่ย” ผมถามแล้วยื่นมือไปรับกับข้าวที่คุณลุงส่งมาให้

“ต้มจืดตำลึงน่ะครับ ป้าแกทำเอาไว้แล้วบอกให้เอาให้คุณหมอด้วย”

“โอ้โห ขอบคุณมากเลยนะครับ ได้ทานอาหารฝีมือคุณป้าอีกแล้ว” ผมบอกแล้วยกมือขอบคุณ เพราะบางวันผมก็ได้กับข้าวจากป้าช่วงเอาไว้จากการไม่ต้องออกไปหาอะไรกินข้างนอกให้เสียเวลา

“ไม่เป็นไรครับคุณหมอ ทานให้อร่อยนะครับ”

“แน่นอนครับ” ผมบอกแล้วเดินมายังหน้าหมู่บ้านเพื่อซื้อน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋

“เหมือนเดิมเนอะคุณหมอ”

“ครับป้า”

“วันนี้มีขนมปังสังขยา ป้าแถมให้นะคะ เอาไปลองชิม”

“ขอบคุณมากครับ ผมต้องติดใจแน่ๆ เลย” ผมบอกแล้วจ่ายเงิน พร้อมกับรับของมาไว้ในมือ ก่อนจะเดินเยื้องมารอข้ามถนนไปอีกฝั่ง

“สวัสดีครับคุณน้า”

“สวัสดีค่ะ” คุณน้าตอบกลับ

“สวัสดีค่ะน้าหมอ” เสียงเล็กๆ ของน้องมายพูดขึ้น

“สวัสดีครับน้องมาย วันนี้ก็น่ารักเหมือนเดิมเลยนะครับ” ผมบอกแล้วลูบศีรษะของเด็กน้อยอย่างเอ็นดู ผมรอส่งน้องมายขึ้นรถนั่งเรียนก่อนแล้วถึงเดินจากมา

ใช้เวลา 10 กว่านาทีเท่าเดิมก็เดินเจอถนนใหญ่ และเวลานี้ก็ 7 โมงครึ่งแล้ว ถึงจะออกมาเร็วหรือช้ากว่าเดิมนิดหน่อย แต่ผมก็มักจากมาถึงที่ตรงนี้ไม่เกิน 7 โมงครึ่ง

ผมเดินข้ามถนนไปยังอีกฝั่งแล้วยืนเฉยๆ ยังคงมองดูผู้คนเดินผ่านตัวผมไปเฉกเช่นทุกครั้ง ก่อนที่ผมหันหลังกลับไปยังอีกฝั่งที่เพิ่งเดินจากมา เพื่อตั้งหลักรอทักทายใครอีกคนที่จะเดินมา

สาดส่องสายตามองไปยังอีกฝั่งพร้อมกับมองดูนาฬิกา ถึงเขาจะจำอะไรไม่ได้ แต่นิสัยที่เป็นคนตรงต่อเวลาไม่เคยเปลี่ยนเลย พอเข็มยาวชี้ไปที่เลข 9 เขาก็ปรากฏตัวเข้ามาอยู่ในสายตาของผมทันที ทุกอย่างเหมือนเดิม ชีวิตของผมอาจจะเรียกได้ว่าวนลูป เพียงแต่ละลูปของแต่ละวัน มันก็ต่างกันออกไป

เราต่างก็ยืนรอคนละฝั่งเพื่อรอสัญญาณไฟสีแดงให้เปลี่ยนเป็นสีเขียว รถยังคงแล่นผ่านไปคันแล้วคันเล่า วันนี้เขาก็ยังคงแต่งตัวเท่เหมือนเดิม ใบหน้าหล่อใสก็ยังคงน่ามองไม่ต่างไปจากวันอื่นๆ

เมื่อผู้คงเริ่มกาวไปข้างหน้าเพราะสัญญาณไฟได้เปลี่ยนสีแล้ว ตัวผมเองก็เริ่มออกเดินเช่นกัน ก่อนที่จะหยุดอยู่กลางถนนโดยมีอีกคนอยู่ตรงหน้า

“สวัสดี วาเลนไทน์” ผมทักทายเหมือนปกติอย่างเช่นทุกครั้ง นอกจากเมื่อวานอะนะ เพราะวันนี้เขาไม่ได้มาสาย อีกคนยืนค้างนิ่งก่อนที่จะฉีกยิ้มออกมา ไม่ใช่ว่าเขาจำผมได้ แต่มันคงเป็นความดีใจเล็กๆ ที่ตื่นขึ้นมาแล้วเจอคนที่รู้จักตัวเขา ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองกลับจำอะไรไม่ได้เลย

การที่อีกคนเป็นแบบนี้ ผมยอมรับว่าเคยรู้สึกเหนื่อยและรู้สึกท้อ แต่ผมไม่เคยถอยเลย การที่เขาเป็นแบบนี้มันไม่ใช่อุปสรรค ผมพร้อมที่จะเข้าใจ มันไม่ง่ายที่จะทำให้ทุกวันเป็นวันเริ่มต้นใหม่ของเรา แต่เพราะว่าผมรักเขา ผมจึงพร้อมที่จะทำมัน พร้อมที่จะทำความรู้จักกับอีกคน ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ขอเพียงเรายังคงใจตรงกัน ผมก็พอใจมากแล้ว



จบค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ซึ้งเลย ก็นะบางทีเริ่มใหม่ก็อาจจะดีกว่าความทรงจำที่หายไป  :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โทนเรื่องออกจะสีเทาๆ อึมครึม ตอนอ่านแรกๆก็งงๆ แต่พอเดาทางได้ทีละนิด มีความอบอุ่นที่อีกคนพร้อมจะเริ่มต้นมหม่ไปด้วนกันในทุกวัน แต่ก้สงสารทั้งคุ่ที่ตะต้องมาเส้าตอรก่อนนอนทุกคืน แง โดยรวมก้ชอบโทนเริ่องอยุ่ดี ขอบคุณนะคะ :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด