Universe 21st : อีกครั้ง
ผมเดินตัวสั่นมาที่ห้องพี่ภู ทั้งประหม่าทั้งทำตัวไม่ถูก ตอนแรกผมพยายามจะไม่ทำตามที่พี่ภูสั่งแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมหนำซ้ำยังขู่ผมอีกว่า
‘ถ้านายไม่ขึ้นมา ฉันจะลงไปนอนห้องนาย ได้ข่าวว่ากำแพงมันไม่เก็บเสียงด้วย แบบนี้ก็คง…’ ‘ก็ได้ครับ ก็ได้ เดี๋ยวไนล์อาบน้ำเสร็จแล้วจะขึ้นไป’ ผมรู้ว่าพี่ภูไม่ได้ขู่ และเขาจะทำแบบที่พูดจริงๆ ซึ่งไม่ใช่ว่าผมจะไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในห้องนอนของพี่ภู แต่ผมก็ยังเดินเข้าไป ... เดินเข้าไปเพราะปฎิเสธไม่ได้ทั้งพี่ภู และปฏิเสธไม่ได้ทั้งหัวใจตัวเอง
ผมรักเขามากและเสียเขาไปไม่ได้ แม้จะเป็นการทำร้ายตัวเอง แต่ผมก็ยังดื้อดึงเหมือนคนโง่ที่ไม่ยอมรับความจริง
ตอนนี้ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ภูรู้สึกยังไงกับผม เขาอาจจะแค่รู้สึกสนุก รู้สึกแปลกใหม่ มากหน่อยเขาก็อาจจะหลงผม ผมที่เป็นของใหม่ ผมที่เขารู้สึกว่าท้าทาย และผมที่เป็นแค่ของง่ายๆ ที่เขาได้มา และอาจจะไม่เห็นค่า ไม่ได้รัก ไม่ได้อะไร
ในขณะที่ผมกลับตรงกันข้ามกับเขาทุกอย่าง
เพราะสำหรับผม ทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างเรามันคือความรัก และผมก็รู้สึกดีที่ได้มีช่วงเวลาแบบนี้กับพี่ภูเกินกว่าจะปฏิเสธความเป็นจริงในข้อนี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ผมยกมึอที่สั่นเทาขึ้นเคาะประตูห้องพี่ภูอย่างกล้าๆ กลัวๆ และประตูก็ถูกเปิดผลั๊วะทันทีเหมือนกับว่าเขากำลังรอคอยการมาของผมอยู่ พี่ภูยิ้มกว้างตอนเห็นผมยืนอยู่ตรงหน้าให้ผมต้องยิ้มตอบ เขาคว้าตัวผมเข้าไปในห้องพร้อมกับกอดเอาไว้หลังจากปิดประตูล็อคห้องเรียบร้อยแล้ว
หลังจากพี่ภูกอดผมไว้ เขาก็ก้มลงมาหอมแก้มและจับผมฟัดไม่หยุดจนกระทั่งเราสองคนมาจบลงบนเตียงนอน
“หอม.. หอมไปหมด” พี่ภูพึมพำ ทั้งที่ลากจมูกไปทั่วหน้าผม แม้แต่ซอกคอก็ไม่เว้น “ทำไมนาน นายปล่อยให้ฉันรอ”
เขาจ้องหน้าผมพร้อมกับถาม “คือไนล์..”
“นี่ฉันกะว่าถ้าอีกสิบนาทียังไม่มา ฉันตามลงไปฟัดนายถึงในห้องนายแน่” พี่ภูว่า พลางฉกริมฝีปากลงมาจูบปากผมแรงๆ “อย่าได้คิดว่าฉันไม่กล้าเชียว”
ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะพี่ภูเอาแต่จูบย้ำๆ ลงบนริมฝีปากผม จนพี่ภูผละออก ผมเลยตัดสินใจเอ่ยขอ เพราะอย่างน้อยผมก็ควรรักตัวเองบ้าง แม้จะรักพี่ภูแค่ไหนก็ตาม
“พี่ภูครับ… เอ่อ คือไนล์ขออะไรได้ไหมครับ”
“หื้ม? เอาอะไร ว่ามาสิ” เขาถามทั้งที่กำลังง่วนอยู่กับการแกะกระดุมเสื้อนอนผม
“พี่ภู.. คือพี่ภูมีถุงยางไหมครับ ไนล์อยากขอให้พี่ภูใส่ถุงยาง”
พี่ภูชะงักมือที่กำลังแกะกระดุมเสื้อผมทันที คิ้วเข้มขมวดมุ่น ใบหน้าหล่อเหลาแสดงถึงความไม่พอใจเล็กน้อย และผมก็รู้ดีว่าพี่ภูกำลังไม่ชอบใจกับคำขอของผม เพาะมันเหมือนกับว่าผมกำลังไม่ไว้ใจเขา
“ถุงยางน่ะมี!” พี่ภูกระชากเสียงตอบ “แต่ถ้านายไม่อยากมีอะไรกับฉันเพราะไม่ไว้ใจ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางหรอก บอกฉันตรงๆ ได้ ฉันจะไม่ฝืนใจทำอะไรนายทั้งนั้น”
พี่ภูทำท่าจะผละออก ทำเอาผมที่ตอนนี้เสื้อนอนหลุดลุ่ยเพราะกระดุมถูกแกะออกไปหลายเม็ดแล้วถึงกับผวาลุกขึ้นนั่ง แล้วยึดข้อมือใหญ่ของพี่ภูไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้างของตัวเอง
“ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ!” ผมละล่ำละลักตอบ “ไม่ใช่ไนล์ไม่ไว้ใจพี่ภู แต่ไนล์.. ไนล์…”
สมองผมประมวลหาคำตอบเร็วจี๋ ผมจะพูดได้ยังไงว่ากลัวตัวเองจะท้อง ความลับนี้ต่อให้ตายผมก็จะไม่บอกพี่ภูเด็ดขาด ผมไม่อยากให้เขารังเกียจหรือมองผมเป็นตัวประหลาด แต่ถ้าจะให้เลยตามเลยไม่ใส่ถุงยาง ผมก็ต้องกินยาที่อาหมอให้มาอีก ซึ่งอาหมอก็ย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ให้กินบ่อยหรือกินติดๆ กัน เพราะอาจจะมีอาการข้างเคียงอะไรที่คาดเดาไม่ได้
และในขณะที่หาทางออกอย่างหนัก ผมก็คิดออก แม้คำตอบมันจะน่าอายไปสักนิด แต่มันก็น่าจะพอฟังขึ้นและมันก็เป็นข้อเท็จจริงที่ผมเคยประสบมาแล้วด้วย
“ช่างเถอะ ไม่ตัองฝืนใจหรอก ใส่เสื้อผ้าดีๆ แล้วลงไปนอน…”
“คือ.. ไนล์ทำความสะอาดไม่ถนัดครับ คราวที่แล้วก็ต้องทำตั้งหลายครั้งกว่าจะเอาออกมาหมด!” ผมหลับหูหลับตาตอบเร็วจี๋ และความเงีบบที่ได้รับก็ทำให้ต้องค่อยๆ เงยหน้ามองพี่ภูช้าๆ และก็ต้องเห็นว่าเขากำลังกลั้นยิ้มอยู่
“โถ่เอ๊ย เด็กน้อย” พี่ภูก้มลงมากัดปลายจมูกผมเบาๆ ทำเอาผมต้องยู่หน้าใส่เพราะตั้งตัวไม่ทัน
“ไนล์พูดจริงๆ นะครับ ก็.. ก็ ไนล์ไม่เคยทำ ไนล์ไม่ถนัด” ผมพูดแก้ตัวเสียงเบา อายก็อายที่ต้องมาพูดแบบนี้
“ถึงได้บอกไง ว่านายน่ะมันเด็กน้อย”
พี่ภูว่าเคล้าเสียงหัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือไปที่ลิ้นชักหัวเตียง แล้วหยิบซองเล็กๆ สี่เหลี่ยมออกมาพร้อมขวดเจล จากนั้นเขาก็เอาซองสี่เหลี่ยมที่ว่ามาวางบนมือของผม
“เอ๊ะ…” ผมทำท่าสงสัยพร้อมกับแก้มที่แดงก่ำ เพราะรู้ว่าซองที่ว่าคือซองอะไร
“ฉันใส่ก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า… นายต้องใส่ให้ฉัน ตกลงไหม?”
พี่ภูพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ ในขณะที่ผมแทบจะร้องไห้ เพราะรู้สึกว่าข้อแม้ของพี่ภูช่างยากเหลือเกิน และเหมือนพี่ภูจะรู้ว่าผมจะพูดอะไร เขาเลยพูดแทรกขึ้นมาก่อนตอนผมกำลังจะอ้าปาก
“ไม่ยากหรอกเดี๋ยวฉันสอน เพราะคืนนี้นายไม่น่าจะได้ใส่ให้ฉันรอบเดียวแน่ๆ”
ผมหน้าแดงก่ำเม้มปากแน่นตอนได้ยินอีกฝ่ายบอกแบบนั้น
… โอ๊ยยยย พี่ภู นี่มันอะไรกันเนี่ย
.
.
.
ผมนอนระทวยอยู่ใต้ร่างของพี่ภูเพราะถูกปลุกเร้า คนตัวโตกว่ายังคงป้อนจูบผมไม่หยุด เขาขบเม้ม ดูดดึงริมฝีปากผมซ้ำๆ จากที่แค่จูบอย่างอ่อนโยนค่อยเป็นค่อยไปก็ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
พี่ภูใช้ฟันขบเบาๆ ที่ริมฝีปากล่างของผม ให้ผมต้องเผยอปากออก ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายแทรกเข้ามากวาดต้อนหยอกล้อไปทั่ว ในขณะที่ผมเองยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะส่งลิ้นของตัวเองเข้าไปเกี่ยวกระหวัด และพี่ภูก็เหมือนรู้ เขาเลยเป็นคนส่งลิ้นเข้ามาหยอกย้อและรัดรึงลิ้นของผมเอง ให้ผมได้แต่ครางฮือในลำคอด้วยความพอใจ
พี่ภูหลอกล่อผมด้วยจูบ และมันก็ได้ผลเสมอ…
ผมชอบจูบของเขา ชอบเวลาเราจูบกัน โดยเฉพาะจูบที่อ่อนโยน จูบที่เขาและผมอยากให้มันเกิดขึ้น
ผมยกแขนขึ้นคล้องคอพี่ภูที่ตอนนี้ผละริมฝีปากออกจากปากของผมแล้ว แต่กำลังง่วงอยู่กับซอกคอและลาดไหล่ของผมแทน เขาลากริมฝีปากแตะจูบช้าๆ ไปแทบจะทุกตารางนิ้ว จนผมรู้สึกมวนในช่องท้องไปหมด ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่ที่แน่ๆ คือมันไม่ได้รู้สึกแย่ ในทางตรงกันข้ามผมกลับแหงนเงยลำคอ เพื่อให้พี่ภูสัมผัสได้ถนัดมากขึ้น
พี่ภูลากริมฝีปากลงมาเรื่อยจนถึงกระดูกไหปลาร้า ในขณะที่มือใหญ่ก็ปลดกระดุมเสื้อเม็ดที่เหลือของผมจนหมด เขาผละออกตอนที่พยายามจะถอดเสื้อของผม ผมเลยต้องให้ความร่วมมือด้วยการแอ่นอกขึ้น แค่เท่านั้นพี่ภูก็ดึงเสื้อนอนออกจากตัวผมแล้วเหวี่ยงลงข้างเตียงอย่างไม่ไยดี ก่อนที่คนตัวโตกว่าจะทำให้ผมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจและไม่ทันตั้งตัวเมื่อเขาก้มลงครอบริมฝีปากลงบนยอดอกของผม พลางไล้เลียราวกับเป็นของหวาน ให้ผมหลุดเสียงครางประหลาดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“อ๊ะ.. อื้อ”
คนเจ้าเล่ห์เหลือบตาขึ้นมามองหน้าผมที่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังแสดงสีหน้าแบบไหนอยู่ รู้แต่ว่ามันร้อนไปหมด มันเสียวปลาบเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งวนไปทั่วไปร่าง เป็นความอึดอัดทรมานบนความรู้สึกดี
และดูเหมือนพี่ภูจะรู้เขาถึงรังแกผมซ้ำๆ ด้วยการใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดอกอีกข้างที่ตอนนี้มันแข็งตึงและชูชันให้ผมต้องหลุดเสียงน่าอายซ้ำๆ ราวกับไม่ใช่เสียงของตัวเอง
“อ๊ะ.. พี่ พี่ภู”
พี่ภูยอมละริมฝีปากออก แต่ก็ใช่ว่าเขาจะยอมหยุด เพราะเขาสลับมาดูดเลียยอดอกอีกข้างราวกับกลัวว่ามันจะน้อยหน้า เขาทำแบบนั้นอยู่จนพอใจ ก่อนจะจับผมนอนราบทั้งที่หายใจหอบ ร่างทั้งร่างแดงก่ำ และไร้เรี่ยวแรง โดยมีพี่ภูที่กำลังถอดเสื้อของตัวเองออกมองอย่างพอใจ และผมก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อพี่ภูลดใบหน้าลงไปจูบแถวๆ ท้องน้อย ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ผมเผลอรูดกางเกงผมออกจากเอวตลอดจนมันหลุดจากข้อเท้า แล้วเขาก็เหวี่ยงมันลงไปข้างเตียงตามเสื้อไปติดๆ
และผมก็เหลือแค่กางเกงชั้นในติดร่างเพียงตัวเดียว
“เด็กดี.. นายเป็นเด็กดีรึป่าว หื้ม?”
พี่ภูกลับมาคร่อมร่างผมอีกครั้ง เขาจูบลงบนแก้มผมแรงๆ ก่อนจะยกแขนทั้งสองข้างของผมคล้องคอตัวเอง และพอผมมองสบตาเขา พี่ภูก็ก้มลงจูบปลายจมูกผมเบาๆ ตอนนี้ผมแทบไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหน รู้แค่ว่ามันร้อนไปหมด และผมก็ไม่อยากให้พี่ภูหยุดแค่นี้
“นะ ไนล์…ไนล์เป็นเด็กดีครับ”
“เด็กดีต้องได้รางวัลถูกไหม”
ผมสบตาอีกฝ่ายนิ่ง ความต้องการมันตีรวนไปหมด พี่ภูเองก็มองหน้าผมไม่ละสายตา เขาสบถอะไรอยู่สองสามคำ ก่อนที่จะก้มลงมาจูบผมอย่างร้อนแรง ทำเอาผมแทบหายใจหายคอไม่ทัน พี่ภูกวาดต้อนช่วงชิงเอาความหอมหวานและลมหายใจผมไปจนหมดสิ้น ก่อนที่จะยอมละฝีปากออก พลางลากริมฝีปากไปทั่วแก้ม แล้วไปจบที่การขบเบาๆ ลงบนติ่งหูของผม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พี่ภูล้วงมือเข้าไปใต้ชั้นใน แล้วจับแก่นกายที่ตอนนี้เริ่มขยายและปวดหนึบเพราะแรงอารมณ์ของผม เขาสาวรั้งไม่กี่ทีมันก็ตั้งชันตอบรับ เหมือนกับทุกความรู้สึกแล่นไปรวมอยู่ที่กึ่งกลางร่างกายผมทั้งหมด มันเสียวสะท้านจนเผลอหลุดเสียงประหลาดออกมาอีกครั้ง
“อะ.. อ๊า”
มันรู้สึกมากเกินไป จนตัวผมสั่นไปหมด ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ไม่เคยถูกปลุกเร้าหรือถูกเล้าโลม ไม่เคยแม้แต่จะให้ใครมาจับ และถึงแม้นี่จะเป็นครั้งที่สองระหว่างผมกับพี่ภู มันก็เป็นครั้งที่สองที่แตกต่างจากครั้งแรกมาก เพราะครั้งนี้ผมมีสติครบถ้วนดี ดังนั้นเมื่อพี่ภูค่อยๆ สาวรั้งแก่นกายให้ผม ด้วยความเขินอายผมเลยเผลอยื่นมือไปรั้งข้อมือของพี่ภูไว้ พลางมองเจ้าของมืออย่างร้องขอ แต่เขาก็ไม่คิดจะให้ความเห็นใจผมสักนิด หนำซ้ำยังส่งเสียงปรามดุผมอีกต่างหาก
“ชู่ววว ไหนว่าเป็นเด็กดีไง”
ผมปล่อยมือจากข้อมือพี่ภูอย่างกล้าๆ กลัวๆ และทันทีที่มือเขาเป็นอิสระ พี่ภูก็ขยับสาวรั้งแก่นกายผมช้าๆ สลับเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ผมนอนตัวบิดเร้า หายใจหอบเร็วตามจังหวะการชักนำของพี่ภู และเขาก็ยิ่งทำให้ผมคลั่งอีกเมื่อเขาใช้นิ้วโป้งขยี้ส่วนหัวซ้ำๆ จนสะโพกผมลอยคว้างไม่ติดที่นอน เสียงครางน่าอายไม่ได้ศัพท์ดังไปทั่วห้อง ผมแทบจะไม่กล้าคิดเลยว่าเสียงครางพวกนั้นเป็นเสียงของตัวเอง
“อ๊ะ .. อ๊า”
พี่ภูขยับข้อมือเร็วขึ้น เป็นจังหวะมากขึ้นเมื่อเขาเริ่มจับทางได้ว่าแบบไหนที่ทำแล้วผมรู้สึกดี ผมมวนในช่องท้องไปหมด เหมือนมีกระแสไฟแปลบปลาบวิ่งไปทั่วร่าง แล้วพอถึงจุดหนึ่งหน้าท้องของผมก็เริ่มหดเกร็ง ปลายเท้าจิกแน่น ลมหายใจถี่กระชั้น และพี่ภูก็คงสังเกตเห็น เขาเลยเร่งจังหวะข้อมือเร็วขึ้นเรื่อยๆ สลับกับใช้นิ้วโป้งขยี้ส่วนปลายที่ปริ่มน้ำใสซ้ำๆ จนกระทั่งภาพในหัวสมองของผมขาวโพลน ร่างทั้งร่างเหมือนลอยขึ้นไปในอากาศ ความสุขสมแล่นพล่านไปทั่วทั้งอก และเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมตัวกระตุกปลดปล่อยตัวตนออกมาจนเลอะมือพี่ภูและเปียกชื้นที่ชั้นในเป็นวงกว้าง
“อาาาาาห์”
ผมหอบหายใจแรงเนื้อตัวแดงก่ำ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับว่าผมรู้สึกดีมากๆ ในขณะที่พี่ภูเอาแต่จ้องมองผมอย่างเอ็นดู เขาก้มลงมาจูบที่ขมับชื้นเหงื่อของผมเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนให้ผมนึกอายเกินกว่าจะตอบตรงๆ ได้
“นายชอบไหม หื้ม? มีความสุขรึป่าว?”
เขาถามก่อนจะก้มลงจูบไหปลาร้า ไล่เรื่อยมาจนถึงไหล่ ผมทั้งเก้อเขินทั้งอ่อนแรงเลยตัดสินใจพยักหน้าตอบอายๆ ตอนที่พี่ภูเงยหน้าจากไหล่ผมขึ้นมาสบตา เขายิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาเป็นประกายวาววับ ก่อนที่จะจับมือเล็กของผมไปวางตรงกลางร่างกายของตัวเองที่มีกางเกงนอนขายาวขวางกั้นอยู่
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของมันอยู่ดี
“พะ..พี่ภู”
“เด็กดี..มันต้องการนาย” เขากระซิบบอกผมที่ข้างหู ผมร้อนไปทั้งหน้าเพราะความอาย
แต่ถึงจะอายผมก็อยากจะลอง ผมอยากทำให้พี่ภูมีความสุขเหมือนกับที่เขาทำให้ผมมีความสุข
“ไนล์ไม่เคย .. ตะ แต่ไนล์อยากลองทำ อยากลองทำให้พี่ภู”
และเท่านั้นเหมือนความอดทนของคนตรงหน้าผมจะหมดลง เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะรูดกางเกงนอนและกางเกงชั้นในออกจากตัว จากนั้นเขาก็กระโจนขึ้นมาบนเตียงอีกครั้ง พี่ภูนั่งยืดขาอ้ากว้างก่อนที่เขาจะจับผมลุกขึ้นนั่งหันหน้าเข้าหาและให้ผมนั่งทับลงไปบนหน้าขาของตัวเอง เขาจับขาของผมเกี่ยวเอวเขาไว้ ซึ่งการนั่งแบบนี้มันล่อแหลมมาก แก่นกายของเราแทบจะแนบชิด ติดที่ว่าผมยังไม่ได้ถอดชั้นในของตัวเองออก และพอผมก้มลงไปมองที่กึ่งกลางร่างกายของอีกฝ่ายผมก็ต้องตาเหลือกโต กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ท่อนเนื้อของพี่ภูใหญ่มาก ใหญ่ทั้งๆ ที่มันยังไม่ถูกปลุกเร้าเต็มที่ แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน แต่มันเป็นครั้งแรกที่ผมจะได้สัมผัสมันอย่างใกล้ชิด
ผมค่อยๆ ยื่นมือไปแตะมันอย่างไม่มั่นใจ แต่แล้วพี่ภูก็ยื่นมือมาประคองมือผมไว้แล้วเอามือผมไปวางบนแก่นกายตัวเอง จากนั้นเขาก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมลำพัง
“ขยับสิไนล์ ช้าๆ .. นั่นแหละ แบบนั้น..”
ผมค่อยๆ ขยับข้อมือสาวรั้งตามที่พี่ภูบอกเป็นจังหวะเนิบนาบในคราวแรก แต่พอได้ยินเสียงครางสลับสูดปากของอีกฝ่ายก็เหมือนสัญชาตญาณลึกๆ ในตัวผมก็บอกว่าผมต้องทำอะไรต่อ ผมเริ่มขยับข้อมือเร็วขึ้นแต่ก็ไม่ได้ถึงกับเร่งจังหวะ และก็พยายามเลียนแบบในสิ่งที่พี่ภูทำด้วยการใช้นิ้วโป้งขยี้ส่วนหัวซ้ำ จนเหมือนผมได้ยินเสียงขบฟันกรอดจากพี่ภู
และกว่าจะรู้ตัวอีกทีพี่ภูก็ก้มลงไปงับยอดอกสีอ่อนของผมแล้ว เขาดูดดันมันจนผมเจ็บตึงและเริ่มมีอารมณ์ร่วม ผมเลยเผลอจยับข้อมือเร็วขึ้น จนแก่นกายของพี่ภูตั้งชัน แต่ดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองเสร็จเพราะมือของผม
พี่ภูจับผมนอนราบลงบนเตียงอีกครั้ง เขายกสะโพกผมขึ้นแล้วรูดกางเกงชั้นในผมออก แก่นกายของผมเริ่มขยายและปวดหนึบเพราะมีอารมณ์ตอนถูกพี่ภูดูดยอดอก เขามองแก่นกายของผมตาวาว ทำอาผมที่ถูกจ้องถึงกับหน้าร้อน และพยายามหนีบขาเข้าหากันเพราะความอาย
“พี่ภู ไม่เอาครับ.. อย่ามอง”
เขายิ้ม ก่อนจะยื่นหน้ามาจูบปากผมเบาๆ ในขณะที่มือก็รั้งแก่นกายผมไปด้วย “น่ารักออก”
พี่ภูผละออกหลังจากพูดจบก่อนจะอ้าขาผมออกกว้าง เขาหยิบหมอนมารองใต้สะโพกผมไว้ และแทรกตัวเข้ามานั่งตรงกลางระหว่างขาผม พร้อมกับฉวยเจลที่วางอยู่ไม่ไกลมาไว้ในมือ เขาจับขาทั้งสองข้างของผมตั้งฉากกับเตียงนอนก่อนที่สัมผัสเย็นๆ จะถูกชะโลมทั่วช่องทางด้านหลังของผมที่ลอยเด่นเห็นได้ชัดจากมุมของพี่ภู ผมจะหนีบขาเข้ามาก็ไม่ได้เพราะตัวพี่ภูขวางอยู่และเขาก็ไม่ยอมให้ผมทำแบบนั้น
ผมสะดุ้งในคราวแรกเมื่อเนื้อเจลเย็นๆ สัมผัสเข้ากับช่องทางด้านหลัง และก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อนิ้วแกร่งของพี่ภูที่ชะโลมเจลจนทั่วแล้วกำลังแทรกเข้ามาช้าๆ ผมถดตัวหนีทันทีโดยอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมกำลังจะเข้ามาในร่างกาย แต่พี่ภูก็ใช้มืออีกข้างที่ว่างจับสะโพกผมไว้แน่นไม่ยอมให้หนี เขาก้มลงมาจูบผมสลับกับดูดยอดอกเพื่อเบนความสนใจ
“อย่าเกร็งเด็กดี.. อย่าเกร็ง ถ้าเกร็งมันจะทำให้นายเจ็บนะ”
พี่ภูเอ่ยปลอบ ซึ่งมันก็ได้ผลพอสมควร เพราะพอผมถูกทั้งพี่ภูจูบ พี่ภูปลอบ ผมก็ดิ้นรนน้อยลง นั่นทำให้พี่ภูค่อยๆ แทรกนิ้วแรกของตัวเองเข้ามาในตัวผมได้สำเร็จ ผมสะดุ้งเฮือกมันอาจจะไม่ได้เจ็บแต่มีจุกๆ แน่นๆ อยู่บ้าง และพี่ภูก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่าเขาแทรกนิ้วที่สองกับที่สามที่เปียกชุ่มเจลเข้ามาตามลำดับ จนนิ้วทั้งสามของพี่ภูเข้าไปอยู่ในตัวผมเรียบร้อย เล่นเอาผมขยับตัวไม่ได้อยู่พักหนึ่งกว่าจะปรับตัวได้ โดยมีพี่ภูคอยจูบปากสลับดูดยอดอกให้อย่างเอาใจ และอยากให้ผมผ่อนคลาย ได้มากขึ้น
และพอผมเริ่มอยู่ตัว พี่ภูก็ค่อยๆ ขยับนิ้วเข้าออกช้าๆ ก่อนจะหมุนวนหาอะไรบางอย่าง ทำเอาผมครางเสียงหลง และก็ต้องตัวกระตุกเมื่อนิ้วของพี่ภูสัมผัสเข้ากับจุดๆ หนึ่ง และเหมือนเขาเองก็จะรู้เลยงอนิ้ว แล้วครูดเข้ากับผนัง หมุนวนกระแทกนิ้วซ้ำๆ เข้ากับจุดที่ว่า ทำเอาสะโพกผมลอยคว้างเพราะความเสียวซ่าน เสียงร้องครางหลุดออกมาจากลำคอแทบไม่เป็นภาษา ความรู้สึกที่ผมไม่เคยพบล้นปรี่ขึ้นมาเต็มอก ในขณะที่พี่ภูก็ยังคงหมุนวนนิ้วซ้ำๆ ราวกับจะเอาใจ
“อื้อ .. พี่ภู อ๊ะ..”
“ตรงนี้ใช่ไหม หื้ม? ตรงนี้ใช่รึป่าวไนล์?”
ผมไม่ได้ตอบเอาแต่ครางไม่ได้ศัพท์แถมยังแอ่นสะโพกรับจังหวะที่พี่ภูกระทั้นนิ้วเข้ามา จากความจุกแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านที่ผมไม่เคยได้รับ พี่ภูก้มลงมาจูบผมอย่างเร่าร้อนและรุนแรง บ่งบอกอารมณ์ภายในของเขาได้ดีว่าเป็นอย่างไร
และในขณะที่ผมกำลังเคลิ้มกับรสสัมผัสที่พี่ภูมอบให้จู่ๆ เขาก็ถอนนิ้วออก ผมรู้สึกเหมือนถูกฉุดล่วงให้ตกลงมาจากท้องฟ้า อารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านเหมือนถูกขัดจังหวะ ทำให้ผมเผลอตวัดตามองเขาด้วยความไม่พอใจ และยิ่งปฏิกริยาที่ผมได้รับจากพี่ภูยิ่งทำให้ผมงอแงใส่เขาไม่รู้ตัว
“หึ! ไหนว่าเป็นเด็กดีไง” เขาก้มลงมางับริมฝีปากผมเบาๆ ก่อนจะจับแก่นกายร้อนๆ ของตัวเองมาถูไถตรงช่องทางด้านหลังของผม “หน้าที่ของเด็กดีต้องทำอะไรนะ?”
พอจบคำของพี่ภูซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ก็ถูกวางลงบนมือผม เขาจับผมลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะยืนเข่าตรงหน้าผม ให้ผมต้องก้มหน้าเขินเพราะแก่นกายที่ตั้งชันของเขาอยู่ที่ระดับสายตาของผมพอดี
ผมฉีกซองด้วยมือสั่นเทา และหยิบถุงยางออกมาด้วยท่าทีงกเงิ่น พี่ภูเลยต้องช่วยจับมือผมครอบถุงยางลงบนแก่นกายของตัวเองที่ตั้งชันจากปลายจนสุดโคน ก่อนที่พี่ภูจะก้มลงมาจูบขมับผมเบาๆ ราวกับจะให้คำชม
และพี่ภูก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาจับผมนอนราบอีกครั้งพร้อมกับข้าอ้าผมออกว้างแล้วแทรกตัวเขาเข้ามาตรงกลางระหว่างขาผม และผมก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อท่อนเนื้อร้อนๆ ที่ตอนนี้ทั้งขยายใหญ่และตั้งชันเพราะแรงอารมณ์ค่อยๆ ถูกกดเข้ามาในช่องทางช้าๆ แต่เพราะขนาดมันใหญ่กว่าช่องทางที่พี่ภูเบิกทางไว้ ทำให้ผมเจ็บร้าวทันทีแม้จะเข้ามาแค่ส่วนปลาย จนผมต้องพยายามถดสะโพกหนี แต่พี่ภูก็ใช้มือข้างที่ว่างรั้งไว้แน่น
“ไนล์.. เจ็บ”
“ทนหน่อยไนล์ ทนเพื่อฉันหน่อยนะ...”
ผมกัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บพอได้ยินพี่ภูบอกนั้น และค่อยๆ กดท่อนเนื้อเข้ามาในช่องทางแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเจ็บบรรเทาลงเลย มันรู้สึกเหมือนส่วนล่างของผมแทบจะฉีกออกเป็นชิ้นๆ ผมน้ำตาไหลทันทีที่ส่วนหัวเข้ามาได้ ซึ่งพี่ภูก็คงสังเกตเห็น เขาเลยก้มลงมาจูบผมอย่างเอาใจ สลับกับก้มลงดูดดุนยอกอกของผมเพื่อเบนความสนใจ ซึ่งมันก็ได้ผลพอสมควร เพราะตอนนี้แก่นกายของพี่ภูถูกดันเข้ามาในตัวผมจนสุดลำ พร้อมๆ กับเสียงครางต่ำของพี่ภูที่ดังอยู่ข้างหูผม
ผมเจ็บจนจุก น้ำตาไหลพรากแต่ไม่กล้าส่งเสียงร้องสักแอะ ผมนึกขอบคุณที่ภูแช่ตัวอยู่แบบนั้นไม่ยอมขยับ เขาพยายามจูบซับน้ำตาผมที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย ในขณะที่ตัวเขาเองก็ขบกรามแน่นเพราะกำลังอดทน เนื่องจากรู้ว่าผมยังปรับตัวไม่ได้ ซึ่งอย่าว่าแต่ปรับตัวไม่ได้เลย ตอนนี้ผมเจ็บจนแทบจะไม่สามารถมีอารมณ์ร่วมกับพี่ภูแล้วด้วยซ้ำ
แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีผมก็ได้รู้ว่าตัวเองคิดผิด
“ไนล์” พี่ภูก้มลงมากระซิบชิดริมฝีปากผม พร้อมกับจูบเบาๆ เมื่อเวลาผ่านไปพักหนึ่ง “ฉันต้องขยับแล้ว เพราะนายรัดฉันแน่นมาก อึก!.. ไม่งั้นฉันต้องเสร็จตอนนี้แน่ๆ”
เขาจูบผมแรงๆ ก่อนจะผละออก เราสบตากันนิ่งและผมก็รู้ว่าเขาไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด ตอนนี้พี่ภูเหงื่อแตกพลั่ก ใบหน้าดูอดกลั้นแถมสันกรามยังถูกขบจนนูน ผมนึกเห็นใจที่เขาอดทนรอเพราะกลัวว่าผมจะเจ็บและยังปรับตัวไม่ได้เลยตัดสินใจว่าจะลองให้พี่ภูขยับ เพราะรู้สึกว่าช่วงล่างมันไม่ตึงเท่าตอนแรกแล้ว
ผมยึดแขนที่ภูที่เขาเท้าอยู่ข้างตัวผมเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้แน่น และทันทีที่ผมพยักหน้าก็ดูเหมือนว่าความอดทนของพี่ภูจะขาดสะบั้นลงทันที
เขากระแทกแก่นกายเข้ามาในตัวผมอย่างเนิบนาบในตอนแรกเพราะคงอยากให้ผมคุ้นชิน ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเมื่อความเจ็บแล่นพล่านขึ้นมาอีกครั้ง พี่ภูคงเห็นเลยก้มลงมาจูบผมอย่างร้อนแรง ในขณะที่มือของผมจิกลงบนแขนของพี่ภูจนจมเล็บ และเขาก็ยังคงกระแทกกายเข้าหาผมอย่างต่อเนื่อง แล้วตอนไหนไม่รู้ที่ความเจ็บแปรเปลี่ยนไป เมื่อท่อนเนื้อของพี่ภูกระแทกเข้าตรงจุดๆ นึงในผนังอ่อนนุ่มที่โอบรัด และนั่นก็ทำให้ผมหลุดเสียงครางและขมิบตอดแก่นกายของพี่ภูทันที
เขายิ้มในหน้าเมื่อรู้ว่าตรงไหนที่จะทำให้ผมมีความสุข เขากระแทกกายย้ำๆ จากที่เนิบนาบในคราวแรกก็เป็นจังหวะมากขึ้นและแรงขึ้น พี่ภูละริมฝีปากออกจากปากผม แล้วก้มลงกัดยอดอกของผมที่ตอนนี้แดงก่ำและแข็งตึง เขากระซิบบอกถ้อยคำลามก แต่กลับกระตุ้นอารมณ์ผมได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ
“อ๊า.. อ๊ะ อ๊ะ”
“ครางอีกไนล์ ร้องอีก... อึก! บอกให้ฉันซิ.. ว่าใคร อะ.. ใครกำลังอยู่ในตัวนาย” เขากระแทกใส่ผมแรงๆ จนตัวผมสั่นคลอน แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกดีมากกว่าที่ผมคิด
“อื้อ.. พี่ภู พี่ภูของไนล์”
พี่ภูสบถคำหยาบคายทันที่ที่ผมพูดจบ เขาโถมกระทั้นตัวใส่ผมเร็วขึ้นและแรงขึ้น ตอนนี้แก่นกายของผมตั้งชันและปวดหนึบโดยที่ไม่ได้ถูกเล้าโลมเลยสักนิด ผมกำลังมีอารมณ์ร่วมเพียงเพราะถูกพี่ภูสอดใส่โดยที่ไม่ได้แตะต้องท่อนเนื้อของผมเลยด้วยซ้ำ ผมพยายามจะเอื้อมมือไปสาวรั้งแก่นกายของตัวเองเพราะมันอึดอัดจนแทบทนไม่ไหว แต่พี่ภูกลับไม่ยอมให้ผมทำแบบนั้น
เขายึดมือทั้งสองข้าของผมไว้เหนือหัวด้วยมือของเขาข้างเดียว ในขณะที่อีกมือก็จับขาผมอ้ากว้างมากขึ้น เขากระแทกเข้ามาอย่างรุนแรงจนตัวผมสั่นคลอนไปหมด ผมเสียวสะท้านเหมือนมีกระแสไฟแล่นพล่านอยู่ในร่าง มันร้อนไปหมดจนแม้แต่ความเย็นของเครื่องปรับอากาศในห้องก็เอาไม่อยู่
เสียงร้องครางของผมดังผสมไปกับเสียงหยาบโลนของผิวเนื้อที่กระทบกัน พี่ภูยังคงกระแทกเข้ามาอย่างแรงและเร็ว สลับกับก้มลงดูดยอดอกที่แข็งตึงของผม จนส่วนปลายของแก่นกายของผมปริ่มน้ำใส หน้าท้องผมกระตุกเกร็ง ปลายเท้าจิกแน่น หัวสมองขาวโพลน เสียงหวีดสุดท้ายที่หลุดออกจากลำคอของผมถูกปล่อยออกมาพร้อมกับน้ำขุ่นขาวที่ทะลายทะลักจนเลอะหน้าท้องของพี่ภูเต็มไปหมด
“อาาาาาาห์”
ผมนอนหอบหมดแรงแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับพี่ภู เขาจับขาผมอ้าออกอีกครั้งพร้อมกับกระแทกเข้ามาอย่างหนักหน่วงและเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น เสียงครางต่ำๆ ของคนเหนือร่างทำให้ผมต้องเหลือบตาแอบมองอย่างอดไม่ได้ พี่ภูในเวลานี้ดูเซ็กซี่มาก ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยอารมณ์ เขาดูมีความสุขที่ได้อยู่ในตัวผมจนผมนึกเขิน
และในจังหวะสุดท้ายพี่ภูที่เร่งความเร็วมากขึ้นก็ถอนแก่นกายออกจนเกือบสุดก่อนจะกระแทกกลับเข้ามาใหม่แรงๆ จนอารมณ์ที่ดับมอดไปแล้วของผมเหมือนถูกกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง เขาทำแบบนี้อยู่สองสามครั้งจนครั้งสุดท้ายที่เขากระแทกกลับเข้ามาตัวเขาเกร็ง ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยว สันกรามถูกขบแน่นจนนูน พี่ภูคำรามต่ำ ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงความอุ่นร้อนในตัวแม้จะมีถุงยางกั้นอยู่ก็ตาม
“อาาาาาห์”
พี่ภูซบลงมาบนอกผมหลังจากปลดปล่อย เขาจูบเบาๆ ไปทั่วราวกับจะขอบคุณ ผมนึกเขินและอยากจะบอกให้พี่ภูถอนตัวออกก่อน แต่สัญชาตญาณบางอย่างกำลังบอกผมว่าทุกอย่างในคืนนี้มันน่าจะแค่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
และเมื่อพี่ภูดึงแก่นกายของเขาออกมาจากช่องทางเพื่อรูดถุงยางที่ใช้แล้วออก และผมก็ได้รู้ว่าตัวเองคิดไม่ผิด เพราะเจ้าท่อนเนื้อของพี่ภูดูไม่ได้จะสงบลงสักนิด มันยังคงตั้งชันและผงาดอยู่อย่างนั้นราวกับเมื่อกี้ไม่ได้ปลดปล่อย
“ไนล์.. มาฝึกใส่ถุงยางให้คล่องมา”
ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อเห็นสายตาและได้ยินน้ำเสียงของพี่ภู … คืนนี้จะจบลงตรงไหนผมไม่รู้เลย
.
.
.
(อ่านต่อด้านล่าง)