ผมกับไอ้เอมที่เดินออกมาจากในห้องหลังจากที่เหมือนว่าจะเข้าไปอยู่ในห้องนานพอสมควรจนต้องให้พายเข้ามาตาม และพายก็ดันเห็นฉากสำคัญเข้าให้ ... ก็ไม่ได้คิดว่าไอ้เด็กดื้อข้างตัวมันจะกล้าทำอะไรแบบนั้น พึ่งรู้เหมือนกันว่ามันเป็นเด็กขี้หวง หันไปมองหน้าคนข้างตัวที่เดินผิวปากหวือเข้าไปในห้องครัว มันที่เดินผ่านพายไปพร้อมรอยยิ้มร่าเริง ... น่าหมั่นไส้ครับ แต่ผมเข้าใจ
“พาย ขอโทษทีนะที่ให้รอ” ผมเดินตรงเข้าไปหาพายที่นั่งอยู่ที่โซฟาตรงห้องรับแขก พายที่เงยหน้าขึ้นมามองผม และในตอนนั้นสายตากลมที่ผมคุ้นเคยดีก็ทำเอาผมชะงักไป
“พาย” ดวงตากลมโตที่ตอนนี้ดูเป็นประกายวาบวับ แต่นั่นไม่ได้เกินมาจากความดีใจ แต่เป็นประกายที่เกิดมาจากประกายน้ำตา พระพายที่กำลังกลั้นน้ำตาเอาไว้ช้อนตามองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มบางๆ
“ไม่เป็นไร เรารอได้” พายที่ว่าออกมาแบบนั้น ก่อนจะหันหน้าหนี มองจากตรงนี้ก็เห็นว่าเจ้าตัวยกมืออีกข้างขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองในตอนนี้ ... หัวใจของผมถูกบีบในตอนที่เห็นท่าทางแบบนั้น
“พาย...”
“ไปกินข้าวกันเถอะ น้องเอมน่าจะเริ่มหิวแล้ว” พายบอกแบบนั้นแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้มฝืนๆ เป็นผมที่ต้องเอื้อมมือไปคว้าข้อมือบางนั่นเอาไว้ซะก่อน
“พระพาย”
“พายไม่เป็นไรนะดานี่ เชื่อกันซี่ แค่ฝุ่นน่ะ ช่วงนี้PM2.5มันแรงนะ” บอกแบบนั้นแบบติดตลกแต่ผมกลับไม่ขำ จ้องหน้านิ่งๆ ในตอนนั้น ... นานมากแล้วที่เห็นพายร้องไห้ ครั้งสุดท้ายอาจเป็นตอนที่ผมไปช่วยพายจากไอ้รุ่นพี่ปี3ที่กำลังจะทำมิดีมิร้ายพายล่ะมั้ง และตั้งแต่ตอนนั้น ผมเองก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำให้ดวงตาคู่นี้ต้องมีน้ำตาอีก ...
พายในสายตาของผมเป็นเด็กผู้ชายรูปร่างผอมที่หน้าตาน่ารักแต่กลับพบเจอแต่เรื่องราวร้ายๆ และเพราะแบบนั้น มันก็เลยยิ่งทำให้ผมอยากปกป้อง ... ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะตัดใจจากพาย แต่ความเป็นเพื่อนของเรา ผมก็ยังมีให้อยู่ ... และพายที่ต้องร้องไห้ น้ำตาที่เกิดขึ้นเพราะผม ก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะให้เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ของเรา
“ทำไรกันอยู่” เสียงที่ดังมาจากโต๊ะกินข้าวเป็นเสียงของไอ้เอม มันที่ยืนถือโถข้าวอยู่ตรงนั้นแล้วมองจ้องมาเขม็ง มันที่กำลังจ้องผม ผมที่กำลังคว้ามือของพายมาจับไว้แบบไม่ปล่อยในตอนนี้
“อ่า ไปกันเถอะดานี่” พายที่บอกแบบนั้นแล้วพยายามดึงมือออกจากมือผม และสุดท้ายก็ทำสำเร็จ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้าไปหาเอมที่โต๊ะกินข้าว ผมที่ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ในตอนนี้ก่อนจะเดินตามไป
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของเราสามคนเป็นอะไรที่ค่อนข้างหน้าอึดอัดแบบบอกไม่ถูก จริงๆ ก่อนหน้านี้เอมมันเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรในตอนนี้มันถึงเงียบเสียงลง
“มาๆ กินๆ ค่ะทุกคน ฝีมือดานี่อร่อยมากนะคะรู้ยัง” และเป็นผมที่ต้องเป็นฝ่ายพูดออกมาอย่างร่าเริงเพื่อกระตุ้นบรรยากาศ อย่างน้อยก็ควรมีอากาศให้ได้หายใจหายคอบ้าง ผมที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ ไอ้เอมนั่งอยู่ฝั่งซ้ายหันหลังให้ห้องครัว และพายนั่งอยู่ฝั่งขวา ทั้งคู่ที่เอาแต่นั่งจ้องตากันอยู่แบบนั้น ก่อนจะเป็นพายที่เสสายตาเศร้าๆ หลบ ก่อนจะยิ้มบางๆ ออกมาแล้วพูดตอบ
“อร่อยซี่ อาหารดานี่ไม่เคยไม่อร่อยนี่นา”
“ใช่ค่ะ เพราะคนทำสวยมากไงคะ”
“เจ๊ กูบอกแล้วว่ามึงไม่สวยไง”
“เอ๊ะหนู จะเอาใช่ไหมคะ”
“ก็เหมือนว่าเจ๊เคยได้ไปแล้วนะ” ไอ้เอมที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยักไหล่ด้วยท่าทางที่ไม่สนใจอะไร ผมที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มในตอนที่มันพูด กูถึงกับสำลัก
“แค่กๆๆ”
“อ๊ะ ดานี่ นี่ทิชชูนะ” พายที่ดูจะตกใจมากกว่าไอ้เอมรีบคว้าทิชชูมาให้ผมแล้วยื่นมาเช็ดปากให้กัน เป็นความเคยชินที่ก็เคยทำแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
“ขอบคุณค่ะ” ผมที่หันไปมองเห็นไอ้เอมมองมาแบบไม่ละสายตาแบบนั้น เลยรีบดึงทิชชูมาเช็ดเองแล้วขอบคุณพายออกไป พายที่มองตามสายตาของผมไปที่เอมก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ แล้วรีบดึงข้อมือตัวเองกลับไปไม่ต่างกัน หันกลับไปมองไอ้เอมอีกครั้ง มันที่ก็ทำหน้ายิ้มร่าส่งกลับมาให้แล้วในตอนนี้ ... ไอ้เด็กขี้หวงเอ้ย
‘ครืดๆ’
เสียงโทรศัพท์ที่สั่นขึ้นมาในตอนนี้ หน้าจอที่แสดงชื่อคนมาว่าเป็น ‘น้องอิฐสุดที่รักของเจ๊ดานี่’ ปรากฏขึ้นมาอยู่ในสายตา ... ชื่อที่แม่งเอามือถือของกูไปเมมแบบหน้าด้าน เคยลบออกแล้วเมมใหม่ว่าไอ้สัดอิฐแล้ว แต่สุดท้ายมันก็แอบมาขโมยไปแล้วเปลี่ยนกลับไปเป็นชื่อนี้เหมือนเดิม สุดท้ายเลยปล่อยเลยตามเลย ... จริงๆ ค่อนข้างท้อกับลูกน้องในร้านอยู่พอตัว
“ไอ้อิฐน่ะค่ะ เดี๋ยวสวยขอไปรับโทรศัพท์แป๊บนะคะ”
“เคๆ ไปเถ๊อะเจ๊ จะกินให้เรียบก่อนเจ๊กลับมานะ” ไอ้เอมที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นโบกไล่กัน
“เหลือขาหมูไว้ให้กูด้วยค่ะ ถ้าหมดนะกูจะกลับมาแดกมึง”
“กลัวๆๆๆ” กลัวไม่จริงไอ้สัด แต่ถึงแบบนั้นผมก็เผลอยิ้มออกมากับท่าทางกวนๆ ของมัน หันไปหาพายที่ก็ยิ้มน้อยๆ พยักหน้ามาให้แบบเข้าใจ ผมเลยเดินหนีเข้าห้องนอนมาคุยโทรศัพท์แทน
((โหลๆๆๆ หนึ่งสองสามเทส ใครรับสายแล้วใครโทรไปนะ) )
แค่กดรับสาย เสียงปัญญาอ่อนก็ลอยมาเข้าหู เหนื่อยใจจนกูต้องเผลอถอนหายใจให้กับความประสาทแดกของไอ้อิฐ รู้จักมันมาหลายปี สมองมันยังเท่าเดิม คือระดับของเด็กสามขวบค่อนไปทางปัญญาอ่อน
“เพ้อเจ้อเหี้ยไรของมึงคะ ถ้าไร้สาระกูวาง”
((เดี๋ยวๆๆๆ เจ๊คนสวยของอิฐ ถ้าเธอยอมใจเย็นเย็นและฟังฉันสักหน่อย~~) ) ไม่พูดเปล่าเสือกร้องมาเป็นเพลงให้กูฟังอีก ท่อนเดียวแท้ๆ ก็ยังเสือกร้องเพี้ยน
“มึงมีอะไร ถ้าไม่มีแค่นี้นะ กูเริ่มรำคาญละสัด”
((หูย เปลี่ยนเป็นเสียงเข้มเลยว่ะ ล้อเล่นนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้เลย คืองี้นะเจ๊ วันนี้จะมีเซลล์ที่ขายเหล้าของแบรนด์ใหม่จะเข้ามาเสนอเหล้าตัวใหม่กับทางร้านอ่ะ ผมเลยอยากรู้ว่าวันนี้เจ๊จะเข้าร้านหรือเปล่า) )
“เข้า เดี๋ยวกูเข้าไปชิมเองค่ะ”
((โอเค ก็ถ้าเจ๊ไม่มา ผมจะได้ไปเทสเอง และเผื่อผมต้องไปจะได้ผลัดคนมาอยู่ตรงบาร์แทนผมไรงี้) )
“ไม่เป็นไร วันนี้กูจะเข้าร้านอยู่แล้ว เค้าบอกจะเข้าไปกี่โมงคะ”
((เห็นว่าสักสามทุ่มนะเจ๊) )
“รีบจังวะ เป็นเซลล์ขายเหล้าหรือขายจีวรอ่ะคะ รีบเหมือนอยากกลับไปจำวัดอ่ะ”
((กูไม่หาร ทางไปนรกกูจะไม่หารกับมึงเจ๊) )
“ทำปากดีค่ะ จากปากทางไปนรกแค่กูก้าวขาเข้าไปก้าวแรกก็เจอมึงแล้วค่ะอิคนบาป”
((หูย อย่าเอาความจริงมาล้อเล่นได้ป่ะพี่ดาบ) )
“กรี๊ดดดดด ดานี่ค่ะอิดอก เดี๋ยวกูจะหักเงินเดือนมึง”
((หักเก่ง กับพี่เอมไม่เห็นจะหักแบบนี้บ้างเลยวะ กับไอ้อิฐนี่ขู่เอาๆ) )
“ทานโทษนะคะ”
((ว่าไงครับ) )
“มึงชื่อเอมหรอ ถามแค่นี้”
((หูยยยย กูก็ชงให้ตบซะหน้าชา) )
‘เพล้ง!’
“โอ้ย!!”
เสียงเหมือนจานแตกที่ดังมาพร้อมเสียงร้องจากด้านนอกห้องทำให้ผมสะดุ้งหันไปมอง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโวยวายที่ดังจับใจความไม่ได้ แต่ผมแน่ใจว่าเป็นเสียงไอ้เอม
((โหลๆ เจ๊พี่มึง ได้ยินเสียงน้องอิฐไหม คือยังไง หรือก็เครื่องมันแฮงค์ไม่อย่างนั้นก็เน็ตกาก เฟซมันล่มก็ไลน์ด้วยอย่าคิดมาก) )
“ไอ้อิฐ แค่นี้ก่อนนะมึง”
((เอ้าๆ เป็นไรวะเจ๊พี่มึง กูยังร้องไม่จบเลยนะ ...) )
ตู๊ดดดดดๆๆ
และเป็นผมเองที่กดตัดสายโทรศัพท์ไป ไม่ฟังแล้วว่าไอ้อิฐมันจะพูดอะไรต่อ ทำแค่รีบก้าวยาวๆ เดินออกจากห้องมา และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็คือภาพของถ้วยแก้วที่แตกกระจายอยู่บนพื้น พร้อมๆ กับกลิ่นของน้ำขาหมูที่ลอยหึ่งเต็มห้องไปหมด พระพายที่ยืนร้องไห้อยู่และที่ขาก็เลือดออกเหมือนจะเผลอเหยียบเศษแก้วพวกนั้นเข้า ตามเนื้อตัวเสื้อผ้าของพายที่ยังมีใบคะน้าติดอยู่ที่เสื้อ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ”
ผมที่เดินเข้าไปหาอย่างร้อนใจและคว้าแขนของเอมไว้ สภาพมันไม่ได้ต่างไปจากตอนที่ผมลุกไปคุยโทรศัพท์เท่าไหร่ แต่หน้าตาของมันที่ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความโกรธ มันเองที่ยืนกำมือแน่นอยู่ตรงนี้
“เอม...พาย นี่มันเกิดไรขึ้น ตอบกู”
“ถามมันเองสิ เพื่อนมึงอ่ะเจ๊” มันที่หันมามองหน้าผมด้วยหน้าตาฉุนเฉียว ผมรู้ว่าเอมมันเป็นคนที่เก็บอารมณ์ได้ดี แต่ตอนนี้เหมือนจะคงบคุมตัวเองไม่ได้ มันที่มองหน้าผมอย่างหัวเสีย
“ดานี่ พายเจ็บ” พายที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสภาพไม่สู้ดี พูดตรงๆ คือสกปรกมากๆ ผมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องนอนแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมตัวให้พายไว้ พายที่ยืนร้องไห้และตัวสั่นอยู่ข้างๆ ผม
“ทำไมเป็นแบบนี้ มันเกิดอะไรกันขึ้นกันแน่วะ”
“ฮึก ... พายอยากกลับบ้านแล้ว ดานี่พาพายกลับบ้านนะ”
พายไม่ตอบผม พายที่ทำแค่ส่ายหน้าไปมาและเอื้อมมือมาเกาะต้นแขนของผมเอาไว้แน่นๆ แล้วร้องไห้อยู่แบบนั้น ผมที่มองไปที่เอม สีหน้าของมันที่มีแต่ความโกรธแต่ก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาเลย ผมมั่นใจว่ามันจะยังไม่ยอมพูดในตอนนี้ ละสายตาไปมองที่ฝ่าเท้าของพายที่เลือดเริ่มจะไหลออกมามากขึ้น คิดว่าแผลคงลึก และแบบนี้ก็ควรไปหาหมอให้ทำแผล ไม่แน่ใจว่าต้องเย็บไหมด้วย
“ดานี่ พายเจ็บ...พาพายกลับบ้านนะ”
“อืมๆ เดี๋ยวดานี่พาไปค่ะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วถอนหายใจหนักๆ นี่แม่งเรื่องเหี้ยอะไรกันวะ
“เดี๋ยวก่อน! นี่เจ๊พี่มึงจะไปส่งหรอวะ ... ตอนมามายังไงไม่ทราบ ทำไมกลับเองไม่ได้วะ” ไอ้เอมพูดออกมาแบบนั้น สายตาของมันที่มองมาแบบไม่พอใจ
“พายมาเอง” ผมเลือกที่จะตอบออกไปอย่างใจเย็น
“แล้วตอนนี้ทำไมมึงต้องไปส่งมันด้วยวะเจ๊”
“เอม มึงพูดจาดีๆ หน่อย” ผมเลือกที่จะใจเย็นแล้วเตือนเอมแบบนั้น จริงๆ มันเป็นเด็กน่ารัก ถึงจะไม่พอใจแค่ไหนแต่มันไม่เคยไม่มีมารยาท แต่ตอนนี้ดูเหมือนความโกรธจะทำให้เอมมันไม่สนใจอะไรสักอย่าง และผมก็ไม่อยากจะให้มันเป็นแบบนั้น
“เหอะ คือแตะไม่ได้ แล้วคือมึงจะไปส่งเค้า?”
“มันไม่ใช่แบบนั้น แต่พายเจ็บเท้า มึงก็เห็น แล้วมึงก็น่าจะรู้ดีว่ามันเกิดจากอะไร แต่กูไม่รู้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่กูต้องทำคือพาพายไปหาหมอและพากลับบ้าน” ผมบอกออกไปแบบนั้น แต่เอมเหมือนจะไม่เข้าใจ มันที่มองมาที่หน้าผมแบบผิดหวังมากที่สุด สายตาใสๆ ของมันที่มักจะกลายเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเสมอเวลาที่มันยิ้มส่งมาให้ ตอนนี้มันวูบไหว มองหน้าผมแบบคนที่กำลังผิดหวัง ขอบตาของมันที่มีน้ำรื้นขึ้นมาในตอนนี้ ภาพตรงหน้านี้ที่ทำให้ผมรู้สึกเสียใจมากกว่าตอนเห็นพายร้องไห้ซะอีก ...
“คือมึงเลือกเค้า ... โอเค งั้นมึงก็ไป”
“เอม” ผมที่พูดออกมาแบบนั้น ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ ผมที่กำลังก้าวเข้าไปหามัน แต่เจ้าตัวกลับถอยหลังหนี
‘พรึบ’
“โอ้ย”
“เห้ยพาย”
ผมที่ต้องชะงักขาตัวเองในตอนที่กำลังจะก้าวเข้าไปหาเอม ในตอนนี้ที่พายก็ล้มลงไปนั่งกองกับพื้น มองเห็นปากแผลที่เหวอะหว่ะจนหน้าตกใจได้ฝ่าเท้าของพาย เหมือนว่าจะเจ็บจนยืนไม่ไหว เพราะแบบนั้นเลยต้องก้มลงไปประคองเพราะพายเกือบเซไปทับแก้วที่แตกอีกที่แล้ว ถ้าแบบนั้นแม่งจะวุ่นวายมากกว่านี้ไปอีก
“เหอะ เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ตอแหลเก่งดี” เป็นไอ้เอมที่ว่าออกมาแบบนั้น ผมเงยหน้าไปมองมันแบบไม่คิดว่าจะได้ยิน เสียงเหยียดๆ ของมันที่มองมาที่พาย สายตาที่กำลังบอกว่ามันเกลียด และสลับมามองผม สายตาที่มันบอกว่าผิดหวังนั่นสาดใส่ใจของผม ก่อนที่มันจะหันหลังเดินเข้าห้องนอนไป และตามด้วยเสียง ‘ปัง’ ของประตูห้องที่ถูกปิดลงอย่างแรง
...
“ฮึก ฮื่อๆ ฮึก...”
“ไอ้เอมคะ พอแล้วค่ะมึง เลิกร้องก่อน ตามึงบวมไปหมดแล้วนะคะ”
“ก็ดู ฮึก ดูพี่รหัสมึงทำกับกูดิป้า ฮึก โคตรเหี้ย เหี้ยฉิบหายเลยไอ้สัด”
ผมที่ร้องออกมาอีกรอบพร้อมเอื้อมมือไปคว้าทิชชูจากไอ้หยีเอามาสั่งน้ำมูกอีกรอบ มองเห็นไอ้หยีที่ทำหน้าเบ้ตอนที่ผมสั่งน้ำมูกด้วยนิดหน่อย เอื้อมมือไปคว้าทิชชูมาอีกแผ่นเพื่อเช็ดน้ำตา รู้สึกเจ็บตาขึ้นมาแล้วในตอนนี้ เลื่อนสายตาไปมองเวลาตอนนี้บอกเวลาสี่ทุ่ม เหมือนว่าผมก็ร้องไห้มาประมาณสามสี่ชั่วโมงแล้ว และตอนนี้ก็กำลังนั่งอยู่ในห้องไอ้หยีที่บ้านของมัน ผมออกจากห้องของอิเจ๊มาตั้งแต่ในตอนที่มันออกไปส่งไอ้พาพวยนั่น
“เอม ... จริงๆ มึงก็ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธพี่เค้านะเว้ย เค้าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่รู้เรื่องที่มึงทะเลาะกับอิพี่พาพวยนั่น และอีกอย่างก่อนหน้านี้เค้าก็เป็นกันมาแบบนี้ สนิทกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร มึงที่พึ่งเข้าไปอยู่ในชีวิตเค้า มีสิทธิ์อะไรไปเปลี่ยนชีวิตเค้าวะ”
“มันจีบกูไหมวะป้า ไม่มีสิทธิ์ก็เหี้ย!” ผมที่หันไปมองหน้าไอ้หยีแบบโกรธๆ แค่คิดก็โกรธมาถึงตอนนี้
“คิดงี้ก็เหี้ยดิอิเอม” ไอ้หยีที่จ้องตอบกลับแล้วว่าออกมาแบบนั้น
“แล้วยังไงวะ กูไม่มีสิทธิ์เหี้ยอะไรเลยหรอวะ ไม่มีสิทธิ์รู้สึกหรอ คนที่บอกจะจีบกูแต่ให้ความสำคัญกับคนอื่น ออกไปกับคนที่มันเคยชอบอ่ะ คนที่มาก่อนกู คนที่มันรู้สึกดีๆ มาก่อนกูอ่ะ”
“กูเข้าใจมึงนะเอม มึงเป็นเพื่อนกู มากกว่านั้นกูก็เห็นมึงเป็นเหมือนน้องกูด้วย แต่ถ้าถามว่าตอนนี้มึงกับเจ๊พี่ดาบเป็นอะไรกัน มึงมีสถานะอะไรกันล่ะวะ?”
“คนที่เคยได้กัน” ตอบออกไปแบบนั้นก็ถูกไอ้หยีถลึงตาใส่
“สัดค่ะ! ถึงจะเคยได้กันแล้วมันพิเศษตรงไหนวะ คนเคยได้กับพี่มันเยอะแยะค่ะ มึงต้องยอมรับว่ามึงไม่ได้เป็นอะไรกับเค้ามากไปกว่าเจ้านายกับลูกน้อง”
“แม่ง! กูเกลียด ทำไมทำเหี้ยอะไรไม่ได้เลยวะ!” กระแทกตัวลงกับเบาะโซฟาแบบหงุดหงิด เป็นความรู้สึกที่ทั้งเสียใจ แต่ความเป็นจริงก็กระแทกเข้าหน้าแบบที่ไอ้หยีมันบอกจนทำอะไรไม่ได้
“แล้วมึงจะเล่นตัวทำเหี้ยอะไรล่ะคะ ตอนเค้าขอคบมึงก็ลีลา แล้วตอนนี้ยังไง มีหมามาคาบกระดูกไปแล้ว”
“ฝันเถอะแม่ง! ถ้ากูไม่ยอมคาย ก็อย่าหวังว่าใครจะได้แทะต่อ”
“สัด! ลูกน้องเอมก็กลายเป็นหมาไปแล้ว”
“แต่หยี...” ผมที่เรียกชื่อมันออกไปแบบเบาๆ ก่อนจะช้อนตามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน
“กรี๊ดดด มึงเรียกชื่อกู ดูท่าทางจะซีเรียสสินะ ยังไง ว่าไงคะมึง”
“กูไม่อยากให้พี่มันไปจากกู กูชอบความรู้สึกตอนอยู่ด้วยกัน ตอนจับมือกัน ตอนที่มันลูบหัว ตอนจูบกัน กูทนไม่ได้ว่ะที่ต้องเห็นมันทำแบบนั้นกับคนอื่น กูไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย ความรู้สึกที่ว่า ทุกๆ วันมีใครรอเรากลับบ้านแล้วพูดกับกูว่า ‘กลับมาแล้วหรอ’ ... ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนเลยที่กูรู้สึกว่ากูต้องพึ่งพาใครมากขนาดนี้ กูที่อยู่คนเดียวได้น่ะ ตอนนี้กลับรู้สึกว่ากูกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วว่ะ” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วมองเหม่อออกไปเรื่อยๆ ที่นอกหน้าต่างมืดๆ ของบ้านมัน เป็นความรู้สึกลึกๆ ที่ผมไม่อยากยอมรับเลยจริงๆ
“มึงรักเค้าแล้วล่ะ...คำตอบง่ายๆ ก็แค่มึงรักเค้า”
“แต่กูไม่ได้ชอบตุ๊ดไงป้า กูอยากได้ผู้ชายเท่ๆ สักคนที่จะปกป้องดูแลกูได้ให้ดีกว่าตอนกูดูแลตัวเอง”
“แล้วเจ๊ดานี่ดูแลมึงไม่ดีตรงไหนวะ?” ไอ้หยีที่ถามออกมาแบบนั้น มันที่มองหน้าผมนิ่งๆ ในตอนที่ถาม พอถามออกมาแบบนั้นผมเองก็ตั้งท่าจะตอบออกไปเหมือนกัน แต่พอแค่จะอ้าปาก กลับไม่รู้จะพูดคำไหนออกมา
“คิดดูดีๆ เอมว่าเจ๊พี่มันไม่ดี หรือมึงติดที่ภาพลักษณ์ของเค้า ... คู่ชีวิตจริงๆ ของเรามันไม่เหมือนกับหนังสือนิยายที่มึงอ่านหรอกนะเอม”
--------------To be continued--------------
บางทีถ้าเธอยอมใจเย็นเย็นและฟังฉันสักหน่อย
อย่าพึ่งด่าพี่ดาบ อย่าพึ่งด่าน้องเอมกันเยอะ
แคทอยากให้มองในมุมทุกๆ คน แคทพยายามจะเขียนให้เข้าใจในทุกๆ คนมากๆ แต่ไม่รู้ว่าคนอ่านจะเข้าใจไหม
แต่เหนือสิ่งอื่นใด แคทหวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ จุ๊บๆ
ปล. ใครรอเก้อเสือ เดี๋ยวตอนหน้าพามาน้าาา
ฝากแฮชแทค #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ
ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดเช่นเดิมนะคะ
อิเจ๊ต้องโดนแบบนี้
55555 ทีมแม่น้องเอมแน่ๆดูออก
อ้าวๆๆๆ เจ้ดานี่ไหงพาพาพวยมาทำกับข้าวที่บ้านกันสองคนอีกอ่ะ ก็รู้อยู่ว่าน้องเอมไม่ชอบ
น้องเอมอย่าแพ้นะลูก ลุยเลย ป้าเอาใจช่วย.
พาพวยมาเองจริงๆนะคะ พี่ไม่ได้อยากให้พาพวยมา ส่วนตอนนี้น้านนนน ยังไงดีน้าา
อิเจ้...พานังพาพวย มาทำห่าไร
มาทำไมน้านนนนน มาสร้างเรื่องแน่ๆค่ะ ดูออก
พายไม่ได้ใสๆไร้สมองอย่างที่คิด!
มันร้ายนะคะหัวหน้า!
ขอบคุณมากๆนะคะที่ยังอยู่ด้วยกัน น่ารักกก
อิ๊เจ๊โว๊ยยยยยยยย
ถ้าทำตัวไม่ชัดเจนแบบนี้อยู่อีก จะพาน้องเอมหนีไปแล้วนะ !!!!!
ทีมแม่น้องเอมจะไม่ทนใช่ไหมคะ มาา จัดไปปป
ยัยเจ๊ดานี่เดี๋ยวจะโดนด้วย น้องฟาดเลยลูกกก
ทีมแม่น้องเอมได้รุมประชาทัณฑ์อิพี่แล้ว ในตอนนี้ ...ไม่น่ารอด 5555
ไม่นะเจ๊ เราเหนื่อยจะบ่นเจ๊แล้วแหละ อยากทำร้ายจิตใจน้องแค่ไหนก็เชิญเลย
ถึงสุดท้ายน้องจะเข้าใจแต่ก็ไม่ควรจะทำให้เสียใจก่อนนะ
ขอให้น้องเอมลดขั้นสถานะ เอาให้ทาปากแดงไม่เป็นรูปกระจับสวยๆไปเลย
ขาหมงขาหมูก็ไม่ต้องแล้ว เอาหน้าแข้งน้องเอมไปกินแทนดีกว่า
แล้วเราขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า ‘พาพวยยังตามติด’
ฮ่วยยยยยย
จะตามเขาไปถึงไหนนะคนเรา
5555555555 อ่านคอมเม้นท์แล้วยังทำให้ยิ้มได้เหมือนเดิมเลยค่ะ น่ารักกก
ชอบความตั้งชื่อตอนให้กัน งั้นตอนนี้ที่แคทลงจะตั้งชื่อตอนว่าอะไรดีเนี่ย
ส่วนขาหมูน้านนน คุณคนอ่านทำนายถูกค่ะ ไม่ได้กงไม่ได้กิน สาดแม่มมม
ไม่น่าเลย น้องเอมไม่น่าซื้อขาหมูมา ถ้าน้องซื้อส้มตำจะแซ่บกว่านี้แน่ๆ อิอิ