(เรื่องสั้น) คุณผู้ทำให้หัวใจ สั่ น ไ ห ว .
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) คุณผู้ทำให้หัวใจ สั่ น ไ ห ว .  (อ่าน 5882 ครั้ง)

ออฟไลน์ Cloverberry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่


1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




***********************************************************************


Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ Cloverberry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-3
     "ยินดีต้อนรับครับ"

     เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยเมื่อกระดิ่งหน้าประตูร้านดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าใหม่เข้ามา กลุ่มหญิงสาวในชุดนักศึกษาต่างเข้ามาจับจองที่นั่งในร้านตามความเคยชิน หนึ่งในคนจำนวนนั้นเดินมาหน้าเคาน์เตอร์เพื่อจะสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองและเพื่อน ด้วยความที่ลูกน้องต่างก็กำลังยุ่งอยู่กับลูกค้าคนอื่น หน้าที่รับออเดอร์ในคราวนี้จึงตกเป็นของรวินทร์ที่เป็นเจ้าของร้านแทน

     ชายหนุ่มที่มีลักยิ้มบนแก้มเป็นเอกลักษณ์โปรยยิ้มให้ลูกค้าตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสุภาพถึงเมนูที่อีกฝ่ายต้องการ ระหว่างนั้นก็มีลูกค้าใหม่เดินมาสั่งเมนูอีก กว่าจะจดเมนูครบถ้วนแล้วส่งต่อให้ลูกน้องก็เล่นเอาเจ้าของร้านเหนื่อยไม่ใช่เล่น

     สาเหตุที่ร้านกาแฟแห่งนี้มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนไม่หยุดหย่อนคงเป็นเพราะอยู่ใกล้บริษัทกับมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นนักศึกษากับพนักงานออฟฟิศที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานแล้วอยากลงมาพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ ถึงแม้ร้านของรวินทร์จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองแต่ก็มีการนำต้นไม้มาประดับตามมุมต่างๆ ของร้านทำให้ได้บรรยากาศแปลกใหม่ไปอีกแบบ บวกกับที่นั่งในร้านมีเยอะแถมยังแยกเป็นชั้นบนกับชั้นล่างเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า จึงไม่แปลกถ้ามองมากี่ครั้งก็จะเห็นลูกค้าเต็มร้านไปเสียทุกครั้ง

     พอเห็นว่าลูกค้าหน้าเคาน์เตอร์บางตาลงแล้วรวินทร์ก็ส่งไม้ต่อให้ลูกน้องก่อนจะพาตัวเองมาจัดตู้หนังสือชั้นบนหลังจากทิ้งมันมาสักพัก ชั้นล่างของตัวร้านส่วนใหญ่จะมีต้นไม้ประดับไว้เพื่อความร่มรื่นและสบายตา ส่วนชั้นบนจะเปรียบเสมือนห้องหนังสือที่มีชั้นหนังสือแยกเป็นหมวดต่างๆ กับโซฟาไว้ให้ลูกค้านั่งอ่านหนังสือ ในช่วงที่มหาวิทยาลัยมีการสอบรวินทร์จะเปิดร้านยี่สิบสี่ชั่วโมง ในช่วงนั้นพื้นที่ชั้นบนก็มักจะเนืองแน่นไปด้วยเหล่านักศึกษาที่แปลงร่างเป็นซอมบี้ชั่วคราว

     "พี่วินคะ มีลูกค้าเรียกค่ะ"

     ชายหนุ่มที่กำลังตรวจสอบรายชื่อคนยืมหนังสือหันไปมองคนพูดพลางเลิกคิ้ว หนึ่งในลูกน้องที่ชื่อว่าส้มเช้งยิ้มกว้างก่อนจะพูดต่อ

     "พี่วินนี่ฮอตจริงๆ เลยนะคะ วันนึงโดนเรียกไม่เคยต่ำกว่าหกรอบ"

     "เกินไปส้มเช้ง แล้วนี่ลูกค้าสั่งอะไรมา"

     "เขาบอกว่าจะสั่งกับพี่ค่ะ"

     "โอเคๆ ขอบใจมากที่มาบอก"

     ชายหนุ่มยิ้มให้ลูกน้องก่อนจะเก็บหนังสือให้เข้าที่แล้วเดินลงมาชั้นล่าง ร้านกาแฟแห่งนี้มีกฎพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือลูกค้าสามารถระบุบาริสต้าที่ตัวเองต้องการได้ คนที่ตั้งกฎนี้ขึ้นมาก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นรวินทร์ เนื่องด้วยเขาเห็นว่าลูกน้องหลายๆ คนทั้งชายและหญิงต่างก็หน้าตาดีพอที่จะดึงดูดลูกค้า กฎนี้จึงถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับทางร้าน แต่พอถึงเวลาจริงคนที่ถูกลูกค้าเรียกบ่อยที่สุดก็ไม่ใช่ใครอื่น...แต่เป็นคนตั้งกฎอย่างรวินทร์อีกเช่นเดียวกัน

     ตอนแรกชายหนุ่มเดาในใจเล่นๆ ว่าลูกค้าที่เรียกเขาต้องเป็นผู้หญิงแน่ และเมื่อเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์รวินทร์ก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นว่าลูกค้าของเขาคือผู้หญิงจริงๆ แถมยังสวยมากอีกด้วย ประเมินจากสายตาแล้วอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเขา

     "รับอะไรดีครับ" เจ้าของร้านเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มที่เขามักจะใช้กับลูกค้าเสมอ ทางฝั่งลูกค้าก็ยิ้มตอบกลับมาในขณะที่ด้านหลังมีลูกค้าคนใหม่เปิดประตูเข้ามา

     "ร้านนี้มีเมนูอะไรขึ้นชื่อบ้างคะ"

     ถามแบบนี้แสดงว่าเป็นลูกค้าหน้าใหม่แต่รู้จักเขาผ่านคนอื่น หรือไม่ก็เคยมาร้านแล้วแต่แค่อยากถามลองเชิง...รวินทร์คิดในใจ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยเสียงนุ่มทุ้มเหมือนไม่ได้คิดอะไร

     "ถ้าเมนูที่ขึ้นชื่อจริงๆ คงเป็นชากุหลาบน้ำผึ้ง แต่ถ้าถามความเห็นของผม เมนูร้านนี้อร่อยทุกอย่างครับ"

     "คุณวินชอบกินชากุหลาบเหรอคะ"

     เป็นงั้นไป เขาไม่ได้บอกซะหน่อยว่าชอบกิน...

     แต่สิ่งที่รวินทร์ทำได้ในตอนนี้มีแต่พยักหน้ากับส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเท่านั้น "ครับ ผมชอบกินชากุหลาบ"

     "เหรอคะ บังเอิญจัง เอิร์นก็ชอบกินชากุหลาบ"

     "อ่า...ครับ" แล้วมันใช่เรื่องไหมที่จะต้องมาบอกเขาว่าชอบกินอะไร ลำพังชวนคุยเฉยๆ น่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ดูจากสายตาที่มองมาแล้วทำไมรวินทร์จะไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคิดอะไรอยู่ ลูกค้าประเภทนี้...ไม่ใช่คนแรกที่รวินทร์เคยเจอ

     "อุ๊ย ดูเหมือนว่าเอิร์นจะเผลอหลุดชื่อตัวเองไปแล้ว งั้นถือซะว่าเป็นการแนะนำตัวไปเลยแล้วกันนะคะ"

     "ครับ ว่าแต่คุณเอิร์นต้องการจะสั่งอะไรครับ" เห็นสีหน้าลูกค้าที่ยืนต่อแถวแล้วรวินทร์ก็ได้แต่ขอโทษรัวๆ ในใจ จริงๆ ก็อยากลัดคิวให้ลูกค้าคนอื่นเลยแต่แบบนั้นคงทำไม่ได้ แถมลูกน้องก็ไม่มีใครว่างมาช่วยเลยสักคน จากที่ตอนแรกคิดว่าจะชินกับลูกค้าประเภทนี้แล้วสงสัยรวินทร์คงต้องคิดใหม่

     "อืม...ขอคิดแป๊บนึงนะคะ"

     "เร็วๆ หน่อยก็ดีครับ ลูกค้าคนอื่นรออยู่"

     "คะ?"

     "ข้างหลังคุณเอิร์นมีลูกค้าต่อแถวรอคิวอยู่ครับ" คำพูดของรวินทร์นั้นแสนจะธรรมดา แต่ถ้าหากอีกฝ่ายคิดทบทวนดีๆ จะรู้ว่ากำลังโดน 'เร่ง' อยู่ และดูเหมือนผู้หญิงตรงหน้าจะรู้ได้ในทันที เพราะพอโดนเขาพูดแบบนั้นใส่เธอก็กุลีกุจอเขียนเมนูลงบนโพสต์อิทก่อนจะหลบทางให้ลูกค้าคนอื่นโดยไม่พูดอะไรกับเขาอีก รวินทร์ถอนหายใจก่อนจะลงมือทำเครื่องดื่ม เมื่อได้ชากุหลาบน้ำผึ้งแล้วหญิงสาวก็ยื่นทั้งเงินสดและโพสต์อิทมาให้ รวินทร์รับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่เมื่อลับสายตาลูกค้าแล้วเขาก็หยิบโพสต์อิทขึ้นมาดูด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ก่อนจะโยนมันลงไปในแก้วที่มีโพสต์อิทแผ่นอื่นอยู่ก่อนแล้วโดยไม่ให้ความสนใจเลยแม้แต่น้อย

     แทบจะทุกครั้งที่มีคนเรียกรวินทร์ให้มาเป็นบาริสต้าจะต้องมีการแนบชื่อหรือเบอร์โทรศัพท์มากับโพสต์อิท และไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่รวินทร์จะติดต่อกลับไปตามคอนแท็กที่ลูกค้าให้ไว้ รวินทร์ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เพราะเป็นพวกตายด้านหรือปิดกั้นตัวเอง แต่สำหรับรวินทร์เขาไม่เคยมองคนที่หน้าตา และที่สำคัญกว่านั้น...

     "ส้มบอกแล้วว่าพี่วินฮอต" ส้มเช้งที่กำลังถูหลังเคาน์เตอร์อยู่เงยหน้ามาชวนเจ้าของร้านคุย คนฮอตประจำร้านหันไปถลึงตาใส่ก่อนจะตอบกลับไปเสียงเบา

     "รู้ว่าพี่ตกที่นั่งลำบากแล้วทำไมไม่มาช่วย"

     "ก็ส้มอยากรู้ว่าพี่จะเล่นกับเขาด้วยเปล่า ถ้าเล่นด้วยส้มจะได้เอาไปฟ้อง 'คนๆ นั้น' ไง"

     "เดี๋ยวนี้ริอาจเป็นสายลับเหรอเรา เดี๋ยวก็โดนหักเงินเดือนซะหรอก" รวินทร์ยีหัวลูกน้องที่เขานับเสมือนน้องสาวอย่างเอ็นดูปนหมั่นไส้ ก่อนจะขอตัวขึ้นไปจัดหนังสือชั้นบน แต่ขายังไม่ทันได้ก้าวขึ้นบันได...

     "คาปูชิโน่ปั่นกับมอคค่าอย่างละแก้วครับ"

     เสียงทุ้มอันคุ้นหูทำให้รวินทร์ที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนต้องหันกลับมามอง หน้าเคาน์เตอร์มีผู้ชายสองคนแต่งกายด้วยชุดภูมิฐานกับลูกน้องของเขาที่กำลังรับออเดอร์อยู่ หนึ่งในสองคนนั้นทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนใจจากที่กำลังจะไปจัดชั้นหนังสือเป็นเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์แทน รวินทร์บอกให้ลูกน้องขึ้นไปจัดตู้หนังสือแทนตัวเอง ส่วนเขานั้นจะเป็นคนรับออเดอร์ให้เอง

     เจ้าของร้านโปรยยิ้มให้ลูกค้าตามความเคยชิน แต่รอบนี้กลับมีแค่ลูกค้าคนเดียวที่ยิ้มตอบ ส่วนอีกคนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆ

     "รับอะไรดีครับ"

     "ขอโทษนะครับ ผมไม่ชอบสั่งซ้ำ เมื่อครู่ผมก็สั่งไปแล้วแต่คุณดันมาไม่ทันได้ยินเอง"

     ไม่ต้องถามก็รู้ว่าระหว่างคนที่ยิ้มกับคนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ ใครคือเจ้าของประโยคข้างต้น...

     "คาปูชิโน่ปั่นกับมอคค่าอย่างละแก้วครับ" คนที่ไม่ได้ตอบครั้งแรกทวนออเดอร์ให้ ก่อนจะหันไปบ่นเพื่อนสนิทตัวเอง "มึงก็ให้มันน้อยๆ หน่อย นี่มันเวลางานนะเว้ย ดูสถานที่ด้วย"

     "แล้วไง?"

     "อ้าวไอ้เวรนี่..."

     "คาปูชิโน่ปั่นกับมอคค่านะครับ รบกวนคุณลูกค้ารอทางด้านขวามือนะครับ" รวินทร์ทวนออเดอร์อีกรอบเพื่อยุติสงครามขนาดย่อม ลูกน้องสองคนที่กำลังชงเครื่องดื่มอยู่ด้านหลังหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่วายเจ้าของร้านต้องหันไปถลึงตาใส่ถึงจะหยุดหัวเราะกัน

     เห็นคนหึงแล้วพาลมันน่าหัวเราะตรงไหน...นี่คือสิ่งที่รวินทร์อยากถามลูกน้องตัวเอง

     คนที่ทวนออเดอร์เดินไปรอทางขวามือตามที่เขาบอก แต่อีกคนยังยืนอยู่ที่เดิม กำลังเขียนอะไรบางอย่างลงบนโพสต์อิทอยู่ ถ้าคนอื่นมองมาอาจจะคิดว่ากำลังเขียนออเดอร์ แต่ลางสังหรณ์ของรวินทร์บอกว่าไม่น่าจะใช่แบบนั้น จนกระทั่งเขียนเสร็จแล้วและเดินดุ่มๆ ไปหาเพื่อน รวินทร์จึงหยิบมาอ่านและรู้ในทันทีว่าลางสังหรณ์ของตัวเองช่างแม่นเสียเหลือเกิน

     'หึง...เข้าใจป่ะ'

     ประโยคสั้นนิดเดียวแต่ทำเอาเจ้าของร้านยิ้มไม่หุบ ยิ้มจนลืมกลัวว่าคนอื่นจะมองว่าเป็นบ้า

     โตจนป่านนี้แล้วยังหึงเป็นเด็กๆ อยู่ได้...รวินทร์คิดในใจ

     ในร้านของรวินทร์จะมีที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์เหมือนร้านกาแฟทั่วไป ปกติคนนั่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง แต่ยกเว้นวันนี้ที่มีผู้ชายร่างสูงใหญ่กำลังนั่งมองเจ้าของร้านด้านหลังเคาน์เตอร์ มองชนิดที่ว่าไม่ว่ารวินทร์จะทำอะไรก็ไม่เคยคลาดสายตาเลยสักนิด

     ตามจริงแล้วรวินทร์เองก็อยากเข้ามาพูดคุยด้วยเหมือนทุกที แต่ด้วยความที่มีลูกค้าเข้าร้านไม่หยุดทำให้เขาต้องคอยรับออเดอร์แทนลูกน้องที่ต้องไปทำงานส่วนอื่นโดยมีสายตาคู่หนึ่งมองตามตลอด จนกระทั่งบ่ายสามโมงซึ่งเป็นเวลาที่ลูกค้าในร้านเริ่มน้อยลง รวินทร์ถึงได้มีเวลาว่างปลีกตัวมาหา 'ลูกค้าประจำ' หน้าเคาน์เตอร์

     "ไม่นึกว่า CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่จะมีเวลาว่างมานั่งชิลในร้านกาแฟทั้งวันนะครับเนี่ย" ชายหนุ่มเอ่ยล้อคนตรงหน้าอย่างต้องการให้ผ่อนคลายความเครียด ทว่านอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังทำให้คนฟังขมวดคิ้วเข้าหากันมากกว่าเดิมอีก

     "ตอนแรกก็ไม่คิดจะอยู่นาน แต่พอเห็นคนบางคนเอาแต่โปรยเสน่ห์ใส่ลูกค้าเลยไม่มีกะจิตกะใจจะกลับไปทำงานต่อ"

     รวินทร์รู้...รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงใคร และเพราะว่ารู้เขาถึงได้ยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

     "การยิ้มให้ลูกค้าไม่เรียกว่าโปรยเสน่ห์นะครับ ถ้าจะหาข้ออ้างในการอู้งานคราวหลังก็ให้มันเนียนกว่านี้หน่อยสิครับ"

     "ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลย คุณก็รู้ว่าผมต้องการจะสื่ออะไร"

     รวินทร์หัวเราะเบาๆ กับความขี้หึงของคู่สนทนา ก่อนจะเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นเพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะ "เพื่อนไปไหนแล้วล่ะครับ"

     "ผมฝากมันกลับไปเคลียร์งานแทนแล้ว"

     "ส่วนตัวเองก็มานั่งกินแรงเพื่อนอยู่ในร้านกาแฟ?"

     "ไม่ได้นั่งกินแรง แต่มานั่งเฝ้าแฟนต่างหาก"

     ไม่รู้ว่าประโยคหน้ามีใครได้ยินไหม แต่ประโยคหลังรวินทร์มั่นใจว่าลูกน้องข้างหลังต้องได้ยินแน่นอน ก็อีกฝ่ายเล่นพูดเสียงดังเหมือนจงใจแกล้งเขาซะขนาดนั้น แถมพอพูดจบเสียงโห่แซวก็ดังตามมาอีก ทำเอาเจ้าของร้านอย่างรวินทร์หุบยิ้มแทบไม่ทัน

     ดีนะที่ในร้านตอนนี้มีลูกค้าไม่กี่คน แถมส่วนใหญ่ยังอยู่ชั้นบนกัน ไม่อย่างนั้นวันนี้คงได้เห็นคนโดนตีจนแขนลายแน่

     "คุณธันวา นี่มันในร้านนะครับ..."

     "คุณก็รู้ว่าสำหรับผม สถานที่ไม่มีผลต่อการแสดงความเป็นเจ้าของ"

     รวินทร์รู้ดีว่าคนตรงหน้าไม่เคยแคร์อะไร แต่อย่างน้อยก็ควรจะถามก่อนสิว่าเขายินดีให้ 'แสดงความเป็นเจ้าของ' หรือเปล่า เล่นพูดตรงๆ แบบนี้เขาก็ทำตัวไม่ถูกสิ จะหนีกลับบ้านก็ไม่ได้เพราะยังไม่ได้เคลียร์บัญชีรายรับรายจ่าย

     เมื่อเห็นเจ้าของร้านทำหน้าเหลอหลาอย่างคนหลุดมาด ธันวาก็เผยยิ้มมุมปากออกมานิดๆ จริงๆ เขาไม่ได้หึงหวงอะไรขนาดนั้น แต่ก็มีขัดใจบ้างตอนอีกฝ่ายโปรยยิ้มให้ลูกค้าเกินเหตุ ยิ่งรู้ว่าลูกค้าคิดเกินเลยกับบาริสต้า...เขายิ่งขัดใจเป็นสองเท่า

     "กลับไปทำงานได้แล้วครับ อู้งานบ่อยๆ เดี๋ยวบริษัทก็ล้มละลายกันพอดี" เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรรวินทร์ก็ได้แต่ขับไสไล่ส่งอีกฝ่าย ทว่านอกจากจะไม่สนใจคำแช่งกลายๆ แล้วคนตรงหน้ายังมีการชวนคุยเรื่องอื่นอีก

     "วันนี้ไปค้างคอนโดฯ ผมนะ"

     "หือ? อารมณ์ไหนครับเนี่ย"

     "อารมณ์อยากนอนกับแฟน"

     "เอาดีๆ สิครับ"

     "ทำไม อยากนอนกับแฟนตัวเองแล้วมันผิดหรือไง"

     ถ้าธันวาพูดเสียงดังกว่านี้อีกสักนิด รับรองว่าเขาได้ถูกไล่ออกจากร้านเป็นแน่...

     "ผมก็แค่ถามเฉยๆ อย่าเกรี้ยวกราดสิครับคุณ CEO"

     "นี่คุณแกล้งถามหรือถามเพราะไม่รู้จริงๆ"

     "ผมจะแกล้งถามไปทำไมล่ะครับ"

     ธันวาได้แต่ถอนหายใจ เขาว่าเขาบอกอีกฝ่ายไปแล้วนะ "มะรืนนี้ผมต้องบินไปคุยงานต่างประเทศ เลยมาหาคุณวันนี้ก่อนไง"

     จริงด้วย!

     รวินทร์อุทานในใจ จริงๆ ธันวาบอกเขานานแล้วเพียงแต่เขาเป็นพวกขี้ลืม ธันวาเคยบอกเขาว่าบริษัทต่างประเทศกำลังสนใจสินค้าตัวใหม่ของบริษัทเขาอยู่ ถ้าการเจรจาครั้งนี้สำเร็จบริษัทของธันวาจะมีโอกาสขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำต้นๆ ของโลก เนื่องด้วยคู่เจรจาเป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงไม่น้อยในวงการ และด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ธันวาจึงต้องบินไปคุยงานด้วยตัวเองเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด

     "ทำหน้าแบบนั้นแสดงว่าลืมอีกแล้วสินะ" ชายหนุ่มเดาเอาไว้อยู่แล้วว่าแฟนของเขาต้องลืมเรื่องนี้ ยิ่งเห็นสีหน้าตกใจตอนโดนถามของอีกฝ่ายยิ่งมั่นใจว่าลืมร้อยเปอร์เซ็นต์

     "อ่า...ขอโทษครับ"

     "ไม่ต้องขอโทษ แค่ตอบตกลงมาก็พอ"

     "ให้เวลาผมคิดหน่อยสิครับ"

     "ผมไม่ได้ 'ถาม' ว่าคุณจะตกลงหรือไม่ตกลง ผมแค่มา 'บอก' ว่าคืนนี้คุณต้องมานอนห้องผม และคุณต้องตอบตกลงผม"

     เอาแต่ใจอย่างกับเด็กไม่มีผิด...สาบานได้ว่าถ้ารวินทร์พูดแบบนี้ออกไปจริงๆ คืนนี้เขาไม่ได้นอนแน่นอน

     รวินทร์หันไปมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้บ่ายสามโมงครึ่ง ใช้เวลาเคลียร์บัญชีน่าจะไม่นาน...

     หลังจากนิ่งคิดอยู่สักพักรวินทร์ก็ยิ้มออกมา เป็นยิ้มที่คนชวนเห็นแล้วรู้คำตอบได้ในทันที

     "ไว้มารับตอนหกโมงเย็นนะครับ ขอผมเคลียร์งานก่อนแป๊บนึง"


.


.


.


.


.


     ตอนแรกรวินทร์คิดว่าตัวเองจะเคลียร์งานเสร็จภายในหกโมงเย็นอย่างที่บอกธันวาไว้ แต่พอได้อยู่ในห้องทำงานคนเดียวมันก็เกิดอาการติดลม รู้ตัวอีกทีก็หกโมงครึ่งซะแล้ว ในขณะที่กำลังกุลีกุจอเก็บของอยู่นั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เจ้าของห้องเอ่ยปากอนุญาตทั้งที่ไม่ได้หันไปมองเลยสักนิด

     "เข้ามาได้เลยประตูไม่ได้ล็อก"

     ตอนแรกรวินทร์คิดว่าเป็นลูกน้องมาเคาะประตูจึงไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งถูกสวมกอดจากด้านหลังเขาจึงรู้ในทันทีว่าคนที่เคาะประตูไม่น่าจะใช่ลูกน้องแล้ว...

     "ทำไมช้า"

     "ทำงานเพลินไปหน่อยครับ แล้วนี่ขึ้นมาได้ยังไง"

     "เจอดินข้างล่าง เขาบอกให้ผมขึ้นมาหาคุณเลย"

     ดินคือหนึ่งในลูกน้องของเขาอีกคน ซึ่งในอนาคตอาจจะไม่ใช่ลูกน้องแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ...

     เพราะจะถูกเขาไล่ออกโทษฐานที่ปล่อยธันวาขึ้นมาหาเขาสองต่อสองแบบนี้ไง!

     "ปล่อยก่อนครับ ผมเก็บของอยู่"

     "ก็เก็บไปสิ"

     รวินทร์ได้แต่ทำหน้าเนือยๆ อยู่คนเดียว โดนกอดอยู่แบบนี้คงจะเก็บของได้หรอกนะ

     "คุณธันวา..."

     "อยากกอดไว้นานๆ"

     "..."

     "ไม่อยากเลิกกอดเลย"

     "..."

     "มะรืนนี้ก็ต้องจากกันแล้ว...จะไม่ได้เห็นหน้าคุณเกือบสองสัปดาห์เชียวนะ"

     ถึงแม้รวินทร์จะยืนนิ่งให้ธันวากอด แต่ในใจของเขานั้นกำลังสั่นไหวกับคำพูดของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง เจ้าของห้องวางหนังสือในมือลงบนโต๊ะ ล้มเลิกความคิดที่จะค้านอีกฝ่าย ยกมือมาบีบมือคนข้างหลังเบาๆ...มือที่สากนิดๆ แต่รวินทร์กลับชอบจับไม่รู้เบื่อ

     สองสัปดาห์...หลายคนอาจจะมองว่ามันเร็วมาก แต่สำหรับเขาที่เป็นคนรักธันวา ย่อมรู้ดีว่าสองสัปดาห์สำหรับธันวามันเชื่องช้ามากแค่ไหน

     ไม่ใช่ว่าอยู่สองต่อสองกับธันวาแล้วจะไม่ดี แต่เมื่อไหร่ที่อยู่ด้วยกันสองคน...ธันวามักจะทำให้หัวใจเขาทำงานหนักอยู่เสมอ

     ต่อให้ไม่แสดงออกยังไง แต่ความจริงอย่างหนึ่งที่รวินทร์ต้องยอมรับก็คือ...ทุกคำพูดของธันวาสามารถทำให้หัวใจเขาเต้นแรงได้อย่างน่าประหลาด

     "ไว้กลับถึงห้องแล้วค่อยคุยกันเถอะครับ ตอนนี้ขอผมเก็บของก่อน"

     "เก็บของไปด้วยให้ผมกอดไปด้วยได้ไหม"

     รวินทร์หัวเราะ รู้สึกว่ามาด CEO บริษัทชื่อดังของเมืองไทยจะหายไปในพริบตาเมื่ออยู่กับเขา "ไว้กลับไปแล้วผมจะให้กอด ตอนนี้ปล่อยก่อนเถอะครับ"

     "สัญญานะ ผมกอดแล้วไม่ปล่อยง่ายๆ นะ"

     คราวนี้รวินทร์หันมามองหน้าคนพูด ยิ้มให้เหมือนจะเป็นการท้าทายอยู่ในที "จะให้กอดจนกว่าจะพอใจเลยครับ"


.


.


.


.


.


    - มีต่อ -


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2020 11:59:11 โดย Cloverberry »

ออฟไลน์ Cloverberry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-3
     คอนโดฯ ของธันวาอยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก อันที่จริงเขาไม่ได้อยู่คอนโดฯ นี้ตั้งแต่แรก แต่ที่เก่ามันอยู่ไกลเกินไปเขาเลยย้ายมาอยู่ระแวกนี้ สารภาพจากใจจริงว่าเขาอยากให้รวินทร์ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ทั้งชวนก็แล้ว หว่านล้อมก็แล้ว บังคับก็แล้ว แต่รวินทร์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมสักที เจ้าตัวให้เหตุผลว่าถ้าอยากคบกันยืนยาวก็ต้องมีระยะห่างต่อกันบ้าง ยกเว้นว่าเขาจะพาพ่อแม่มาขอแต่งงานเท่านั้นแหละจึงจะยอมย้ายมาอยู่ด้วย ซึ่งพอธันวาได้ยินแบบนั้นแล้ว...

     รอให้พ่อแม่เขากลับมาจากต่างประเทศก่อนเถอะ จะรีบดำเนินการให้ไวที่สุดชนิดที่รวินทร์เก็บข้าวของย้ายมาอยู่กับเขาไม่ทันเลยทีเดียว

     "คุณอาบน้ำก่อนเลยนะครับ ผมว่าจะไปยืนตากลมที่ระเบียงสักหน่อย" รวินทร์ว่าพลางเดินไปเลื่อนบานประตูออก เขาชอบวิวกรุงเทพฯ ตอนกลางคืน ภาพแสงสีที่ตัดกับความมืดของท้องฟ้ายามกลางคืนสำหรับเขามันดูสวยงามมาก มองแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปอีกแบบ

     "จะอาบด้วยกันก็ได้นะ ผมกำลังหาคนถูหลังอยู่พอดี"

     ...จะมีก็แต่คนบางคนแถวนี้ที่ทำลายอารมณ์สุนทรีย์ยามค่ำคืนของเขาเท่านั้นแหละ

     "อาบไปเลยครับ อาบนานๆ เลย"

     อีกฝ่ายเพียงแค่หัวเราะเบาๆ หลังจากนั้นไม่นานเสียงน้ำจากฝักบัวก็ดังขึ้น รวินทร์หันมาสนใจวิวตรงหน้าต่อ แต่ชื่นชมทัศนียภาพได้ไม่เท่าไหร่โทรศัพท์ข้างตัวก็สั่น ส้มเช้งโทรมาลางานพรุ่งนี้เพราะเมื่อตอนเย็นตากฝนกลับบ้านไข้เลยขึ้น หลังจากกำชับให้ลูกน้องดูแลตัวเองอยู่สักพักรวินทร์ก็วางสาย พอดีกับที่ใครอีกคนอาบน้ำเสร็จ

     "คุยกับใครอยู่"

     รวินทร์หันไปมองตามเสียงเรียก ก่อนจะรีบหันหน้าหนีแทบไม่ทัน ถึงแม้จะคบกันมาสามปีกว่าแถมยังเคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาด้วยกันไม่รู้กี่ครั้ง แต่การที่อีกฝ่ายนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแบบหมิ่นเหม่แล้วมายืนตรงหน้าก็ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงได้ไม่น้อย

     พูดให้ถูกคือทุกอย่างที่เป็นธันวาทำให้หัวใจเขาเต้นแรงได้หมดแม้ว่าอายุจะไม่ใช่น้อยๆ แล้วก็ตาม

     "ส้มเช้งครับ"

     "เรื่องงานเหรอ"

     "ครับ"

     อีกฝ่ายไม่ตอบอะไร เดินกลับเข้าห้องไปเปิดตู้เย็นแล้วกลับมาพร้อมไวน์สองกระป๋องในมือ รวินทร์รับมาหนึ่งกระป๋อง มองตามธันวาที่เดินมาพิงราวระเบียงข้างๆ ตัวเองก่อนจะเอ่ยอย่างเสียไม่ได้

     "ไปใส่เสื้อผ้าก่อนสิครับ"

     "ที่พูดนี่คือกลัวผมเป็นหวัด กลัวคนอื่นเห็นผม หรือกลัวตัวเองจะเลือดกำเดาไหล"

     "กลัวเป็นหวัดอย่างเดียวครับ สองข้อหลังนั่นคุณมโนไปเอง"

     "เพิ่งรู้ว่าแฟนผมปากแข็งก็วันนี้แหละ"

     ชายหนุ่มแสร้งถอนหายใจกับคำพูดที่แสนจะหลงตัวเองนั่น เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นธันวาจะดูเป็นผู้ใหญ่ มีมาดนิ่งๆ เคร่งขรึมตามสไตล์นักธุรกิจ แต่พออยู่กับเขาสองต่อสองอีกฝ่ายจะกลายร่างเป็นเด็กหนุ่มที่ชอบเอาแต่ใจ แถมยังชอบพูดจาแทะโลมเหมือนวัยรุ่นหัดรักทั้งที่อายุก็ใกล้จะเลขสามแล้ว

     "เอาเป็นว่าผมจะคิดซะว่าคุณหวงร่างกายผมก็แล้วกัน"

     "เหมือนที่คุณหึงหวงผมในร้านน่ะเหรอครับ"

     คราวนี้ธันวาหุบยิ้มฉับเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในร้านกาแฟเมื่อตอนกลางวัน "ก็ผมไม่ชอบเวลาคุณโดนลูกค้าหว่านเสน่ห์ใส่"

     "คิดซะว่ามันเป็นงานสิครับ"

     "ไม่รู้ล่ะ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ"

     เห็นไหม...รวินทร์บอกแล้วว่าเวลาอยู่กับเขาธันวาไม่ต่างจากเด็กหนุ่มคนนึงเลย

     "แต่ดูเหมือนวันนี้จะไม่ชอบมากกว่าทุกวันเลยนะครับ อาการออกชัดซะขนาดนั้น"

     "โกรธ?"

     "เปล่าครับ แค่แปลกใจมากกว่าที่คนอย่างคุณหลุดมาดถึงขนาดนั้น"

     "มีไม่กี่คนหรอกนะที่ทำให้ผมหลุดมาดได้"

     "..."

     "ถ้าไม่หวงจริงผมคงไม่เป็นขนาดนี้หรอก"

     รวินทร์ไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อเจอเข้ากับคำพูดที่แสนจะเถรตรงของอีกฝ่าย ได้แต่ทำทีเป็นยกกระป๋องไวน์ขึ้นดื่มแล้วไล่ให้ไปใส่เสื้อผ้าเพื่อกลบเกลื่อนอาการเห่อร้อนบนใบหน้า หลังจากโดนไล่ให้ไปใส่เสื้อผ้าธันวาก็กลับมาในชุดลำลองธรรมดา แต่คราวนี้ไม่ได้มายืนข้างๆ แต่สวมกอดรวินทร์จากด้านหลังเหมือนที่ทำในห้องทำงานของรวินทร์ไม่มีผิด

     "คุณสัญญากับผมไว้นะ" ชายหนุ่มรีบพูดดักไว้เมื่อเห็นว่าแฟนของเขาอ้าปากกำลังจะค้าน รวินทร์ที่เถียงไม่ออกจึงปล่อยเลยตามเลยให้อีกฝ่ายกอดให้สาแก่ใจ

     เขาสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน ทำเพียงแค่ยืนกอดกันมองดูทัศนียภาพตรงหน้าปล่อยให้เวลาเดินหน้าไปเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อย เพราะสำหรับธันวาและรวินทร์...แค่ได้อยู่ด้วยกัน นั่นก็คือความสบายใจแล้ว

     ถึงจะไม่แสดงออกแค่ไหน แต่ลึกๆ ในใจรวินทร์ก็ไม่อยากอยู่ห่างจากธันวาอยู่ดี จริงอยู่ที่เหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง และทุกครั้งธันวาก็พิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่าระยะห่างที่มากขึ้นไม่ได้ทำให้ความไว้ใจที่มีให้กันลดน้อยลงเลย แต่ถึงอย่างนั้นรวินทร์ก็ยังมีมุมเด็กๆ ที่อยากจะอยู่ใกล้คนรักตลอดเวลา เพียงแต่ด้วยอายุและหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายทำให้เขาไม่สามารถแสดงออกตามที่ใจต้องการได้

     เขาไม่เหมือนธันวาตรงที่เขาเลือกจะเก็บความรู้สึกไว้ข้างใน ในขณะที่ธันวาเลือกที่จะแสดงมันออกมาอย่างตรงไปตรงมา

     ก็น่าแปลกเหมือนกันที่คนสองคนมีนิสัยต่างกันแต่กลับคบกันยืนยาวมาได้ถึงตอนนี้ เกือบสามปีแล้วสินะ...ที่ธันวาขอเขาเป็นแฟน

     จู่ๆ รวินทร์ก็นึกถึงเรื่องบางเรื่องขึ้นมาได้ และคิดว่าตอนนี้น่าจะเป็นโอกาสเหมาะที่จะพูดมันออกมา ชายหนุ่มฝืนตัวออกจากอ้อมกอด ผละมายืนพิงราวระเบียงอยู่ข้างๆ เป็นเหตุทำให้ธันวามองตามด้วยความงุนงง

     "เดี๋ยวคุยกับคุณไม่สะดวก" รวินทร์ให้เหตุผลพร้อมกับยิ้มจนลักยิ้มโผล่ขึ้นมาทั้งสองข้าง "คุณธันวาครับ"

     "ว่าไง"

     "นั่งนับดาวกันไหม ครบท้องฟ้าเมื่อไหร่ค่อยเลิกกัน"

     "..."

     "อ่า...ไม่เวิร์กสินะครับ ผมว่าแล้วว่าต้องไม่เวิร์ก" รวินทร์ยกมือเกาแก้มแก้เขินเมื่อเห็นคนฟังเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ วันก่อนเขาเผลอไปได้ยินลูกน้องพูดประโยคนี้กับแฟนทางโทรศัพท์ เลยคิดว่าถ้าเอามาพูดกับธันวาบ้างก็น่าจะโรแมนติกไม่ใช่น้อย แต่รวินทร์ลืมไปว่าเขาไม่ใช่คนโรแมนติก การจะเล่นมุกเสี่ยวๆ แล้วทำให้อีกฝ่ายคล้อยตาม...ไม่ใช่งานถนัดสำหรับเขาเลยสักนิด

     ธันวามองคนรักอย่างกำลังอึ้งปนแปลกใจ เขาแค่คาดไม่ถึงว่ารวินทร์จะพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วย "คิดไงถึงเล่นมุกนับดาวตอนนี้"

     "ก็...เล่นไม่ได้เหรอครับ"

     "เปล่า แค่แปลกใจนิดหน่อย" เขาว่าพลางยิ้มมุมปาก "ไหนลองเล่นใหม่ซิ"

     "ไม่เอาครับ"

     "เร็วเข้า เมื่อกี้ผมมัวแต่อึ้งเลยไม่ทันรับมุก"

     รวินทร์ถอนหายใจแผ่วเบา แค่เล่นรอบเดียวก็อายแทบแย่แล้วนี่ยังต้องเล่นรอบสองอีก เขาไม่น่าเริ่มเลยจริงๆ

     "เอ่อ...มานั่งนับดาวกันไหมครับ ครบท้องฟ้าเมื่อไหร่ค่อยเลิกกัน"

     "ถ้างั้นก็ไม่ต้องนับดาวหรอก เปลี่ยนเป็นนับเม็ดทรายบนพื้นโลกดีกว่า"

     มันก็เป็นแค่มุกเสี่ยวๆ ที่วัยรุ่นเอาไว้ใช้จีบกัน มันก็แค่คำพูดหวานแหววที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ทั้งที่รวินทร์พยายามเตือนตัวเองแบบนั้น แต่หัวใจกลับเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก

     "คุณรวินทร์...หน้าแดงอยู่นะครับรู้ตัวไหม"

     ถ้าธันวาเอื้อมมือมาแตะอกเขาตอนนี้...ธันวาต้องรู้แน่ว่าหัวใจเขากำลังเต้นแรง

     รวินทร์ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ธันวาหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปเกลี่ยผมหน้าม้าของคนตรงหน้าเล่น ก่อนจะลามมายังจมูกโด่ง แก้มเนียนใส แล้วหยุดที่ลักยิ้มบนมุมปากทั้งสองข้าง...ลักยิ้มที่เขาเคยชิมความหวานมาแล้วไม่รู้กี่ร้อยครั้ง

     ความรู้สึกของเขาตอนนี้มีทั้งขบขัน เอ็นดู และหลงรัก...อย่างสุดท้ายนี่เขาฟันธงว่ารุนแรงกว่าทุกความรู้สึกแน่นอน

     "คุณเริ่มก่อนนะ ห้ามโทษผมด้วยล่ะ"

     รวินทร์ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำหน้าอย่างไร รู้แค่ว่าใบหน้าของเขานั้นร้อนมากทั้งที่ยืนตากลมอยู่ จู่ๆ ก็รู้สึกโกรธลูกน้องคนนั้นที่มาเล่นมุกบ้าๆ ให้เขาได้ยิน ทั้งที่ความจริงแล้วคนที่สมควรโดนโกรธที่สุดก็คือตัวเขาเองนี่แหละ

     เป็นเพราะมัวแต่คิดไปเรื่อยเปื่อยจึงไม่ทันรู้ตัวว่าใบหน้าของคนรักเลื่อนเข้ามาใกล้ พอรู้ตัวอีกทีก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายแล้ว รวินทร์เผลอสบตากับธันวา ในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นรวินทร์มองเห็นตัวเอง...และในมุมมองของธันวาตอนนี้ก็คงกำลังเห็นตัวเองในดวงตาของเขาเช่นกัน

     "ขอจูบได้ไหม คุณในวันนี้โคตรจะน่ารักเลย"

     รวินทร์ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นประโยคคำถาม ขอร้อง บอกเล่า หรือคำสั่ง เพราะพอธันวาพูดจบเรียวปากของเขาก็แตะลงมาบนริมฝีปากของรวินทร์ และเริ่มซุกไซร้เข้ามาในโพรงปากกระพือความร้อนในตัวของเขาให้ลุกไหม้ขึ้นไปอีก นี่ไม่ใช่จูบแรกของพวกเขา ทั้งธันวาและรวินทร์ต่างเคยจูบกันมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ครั้งความรู้สึกตอนที่ปากแตะปากก็แทบไม่ต่างจากครั้งแรกที่เคยจูบกันเลย มันทั้งตื่นเต้น ทั้งเสียวซ่าน ทั้งหัวใจเต้นแรง รวมถึงรู้สึกดี...จนไม่อยากจะหยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว

     แม้ว่าจะคบกันมานานแล้ว แต่ธันวาก็ทำให้รวินทร์ใจเต้นแรงได้เสมอ นี่คือความน่าประหลาดใจสำหรับรวินทร์

     หัวใจของรวินทร์กำลังสั่นไหว และหัวใจของธันวาเองก็เช่นกัน

     หัวใจของพวกเขากำลังสั่นไหว...ไม่ต่างจากวันแรกที่รู้จักกัน













     **********************************************


     อาจจะสั้นไปนิด แต่ก็หวังว่าจะทำให้คนอ่านยิ้มได้นะครับ จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากเราที่เหนื่อยจากอะไรหลายๆอย่างในชีวิต แล้วอยากแต่งเรื่องสั้นสักเรื่องที่ช่วยฮีลความรู้สึกได้ ดังนั้นหวังว่าทุกคนจะชอบคุณธันวากับคุณรวินทร์เหมือนที่เราชอบนะคับบ  :กอด1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2020 12:00:06 โดย Cloverberry »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักมาก คนอ่านรู้สึกดี คุณนักเขียนก้อขอให้รู้สึกดีด้วยเช่นกันน๊า :L2:

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักดีค่ะ เป็นความรักที่มีความเป็นผู้ใหญ่และอบอุ่นดีค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :man1: น่ารักดีค่าาา ความสัมพันธ์แบบนี้ยั่งยืนอน่นอน แม้จะไม่หวือหวา แต่ก้ไม่จืดชืด อยากอ่านต่อนะคะ :katai2-1:

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
น่ารักมากเลยค่ะ เป็นเรื่องราวละมุนๆที่ฮีลเราในช่วงสอบได้มากเลย
ขอบคุณนะคะ
 :L2:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อบอุ่นมากอยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ

ออฟไลน์ คุณบี๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ละมุนละไมมากค่ะ  :-[  :3123: :pig4:

ออฟไลน์ mhaparn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักและอบอุ่น ชอบความรักแบบนี้ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ารักดีค่ะ แต่สั้นไป อยากรู้ว่ารักกันได้ยังไง

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :กอด1: น่ารักมากกกก ๆ อ่านแล้วอารมณ์ดี. อยากให้มีตอนพิเศษเพิ่มนะคะ

ออฟไลน์ oohsg94

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักมากๆ

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด