ตอนที่ 5
“บอสครับ นี่ข้อมูลที่บอสอยากได้” ชินกรวางเอกสารที่เจ้านายต้องเซ็นต์บนโต๊ะก่อนยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลไปให้
พสุธาหยิบเอกสารขึ้นมาดูก่อนอ่านข้อมูลที่ได้รับมาสิบกว่าแผ่นคร่าวๆ
“ส่งดอกไม้ไปให้โรส รสิกา”
“ครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” ชินกรเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ
“ว่ามา”
“บอสสนใจคุณโรสเหรอครับ”
“ก็สวยน่ารักดี”
“ครับงั้นผมจะสั่งเป็นดอกกุหลาบแดง” ชินกรตัดสินใจเมื่อได้ยินคำพูดของเจ้านาย
“ไม่เอาสีแดง” พสุธารีบปฏิเสธออกมาเมื่อได้ยินก่อนที่จะนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “เอาดอกไม้อย่างอื่นที่ไม่ใช่กุหลาบดีกว่า”
“อ้าว แล้วบอสจะเอาดอกอะไร คุณโรสชื่อบ่งบอกแปลว่าดอกกุหลาบ” ชินกรเอ่ยออกมา เขาทำงานกับพสุธามานานจึงสามารถท้วงติงได้
“ก็เพราะชื่อแปลว่าดอกกุหลาบเขาก็คงได้ดอกกุหลาบเยอะแล้ว นายจะเลือกดอกอะไรก็ได้ที่บอกว่าฉันสนใจเขา แต่ไม่ได้จีบแบบโต้งๆเข้าใจไหม”
“เอ่อ เข้าใจครับแต่มันคือดอกอะไร”
“จะไปรู้เหรอ เป็นหน้าที่นายต้องไปหามา” พสุธาตะเพิดเลขาคนสนิทพร้อมโบกมือให้ออกไปจากห้อง
“ครับๆ” ชินกรก้มหัวลงก่อนเดินออกจากห้องไป
--- Designer’s Love ---
“ภัทรมาได้ไง สวัสดีค่าสาวน้อย” รสิกาเดินเข้ามาทักทายเพื่อนหลังจากที่ทำงานเสร็จด้านข้างเวที
“พาน้องฟ้ามาหาอะไรกิน” วรภัทรตอบเพื่อน ชายหนุ่มแวะพาหลานสาวมาเที่ยวห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพอสมควร บังเอิญมาเจอรสิกาที่มาทำงานในห้างนี้ด้วย วรภัทรจึงเข้ามาทักทายผู้จัดการของหญิงสาวก่อนรอพบเธอข้างเวทีหลังจากที่รสิกาทำงานเสร็จแล้ว
“สวัสดีค่ะน้าโรส น้าโรสสวยจัง” เด็กหญิงอิงฟ้ายกมือไหว้หญิงสาวพร้อมมองอย่างชื่นชม
“ขอบคุณค่ะ สาวน้อยของน้าโรสก็สวยค่ะ” รสิกายิ้มให้หลานสาวเพื่อนสนิท ที่เธอคุ้นเคยกับเด็กน้อยพอสมควรเพราะช่วงใกล้เรียนจบเธอต้องไปทำงานที่บ้านวรภัทรทำให้เจอเด็กหญิงบ่อยๆ
“แล้วนี่มีงานต่อไหม” วรภัทรเอ่ยถาม
“ไม่มีแล้ว” รสิกาส่ายหัว งานเดินแบบเปิดตัวคอลเลคชั่นชุดกีฬาเป็นงานสุดท้ายในวันนี้จะมีอีกทีพรุ่งนี้บ่ายๆ
“สนใจไปกินไอศกรีมกับเราไหม” ชายหนุ่มชวนเพื่อนสนิท โดยมีเด็กหญิงลุ้นคำตอบของหญิงสาวอยู่ข้างๆ
“ได้ๆ แต่ขอไปเก็บของก่อนนะ” รสิกาตอบรับคำชวนก่อนบอกเพื่อน เพราะพี่ฝ้ายมาบอกว่าเจอวรภัทรเธอจึงมาทักทายชายหนุ่ม
“อืมไปเถอะบอกพี่ฝ้ายด้วยนะว่าเดี๋ยวเราไปส่งโรสเอง” วรภัทรบอกชายหนุ่มรู้ว่าทางโมเดลลิ่งให้ผู้จัดการส่วนตัวคอยรับส่งหญิงสาวเวลาที่ทำงานอยู่แล้ว
“วันนี้เรากลับบ้านนะไม่ได้นอนที่คอนโด” รสิกาท้วงเพื่อนเพราะไม่อยากให้วรภัทรไปส่งเธอในย่านรถติด
“ก็ดีซิเราอยากกินขาหมูของแม่โรสอยู่พอดี”
“นี่มันบ่ายแล้วนะ แม่เราคงขายหมดแล้วล่ะ เอาไว้วันจันทร์แล้วกันเดี๋ยวให้คนไปส่งที่บ้าน” บ้านของรสิกาเปิดร้านขายข้าวขาหมูซึ่งขายดีมาก วันธรรมดาไม่เกินบ่ายสองก็หมดแล้ว เพราะพนักงานออฟฟิตแถวนั้นชอบมาทานกัน
“ว้าแย่จัง ว่าจะไปหลายหนแล้วแต่ไม่ผ่านไปแถวนั้นเลย” วรภัทรรู้สึกเศร้าที่อดกินขาหมูแสนอร่อยฝีมือแม่ของรสิกา
“เอาน่ารอหน่อย วันจันทร์สัญญาว่าจะส่งไปให้กินแน่ๆ” รสิกาปลอบใจเพื่อนกันขอแยกตัวออกไปเก็บของ
รสิกาหายไปไม่ถึงสิบห้านาทีก็กลับมาในชุดใหม่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ร้องเท้าผ้าใบยี่ห้อดังสะพายกระเป๋าหอบดอกไม้ช่อโตเดินมาหาเพื่อนที่ยืนรออยู่กับหลานสาว
“น้าโรสดอกไม้สวยจัง” เด็กหญิงอิงฟ้ามองช่อดอกไม้ตาลุกวาว
“ชอบเหรอคะ งั้นน้าโรสให้ค่ะ” รสิกายื่นช่อดอกลิลลี่ขาวช่อใหญ่ให้เด็กหญิง
“เฮ้ยจะดีเหรอ คนให้มาจะเสียใจนะ” วรภัทรรีบจับมือเพื่อนไว้ก่อนที่จะถึงมือหลานสาว
“ไม่เป็นไร น้องฟ้าชอบเดี๋ยวน้าโรสให้ค่ะ แต่ขอน้าโรสเอาเกสรออกก่อนนะคะ” รสิกาบอกเพื่อนก่อนหันมาพูดกับเด็กหญิง
“เอาออกทำไมคะ” เด็กหญิงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“เกสรดอกลิลลี่เป็นพิษค่ะ เดี๋ยวน้องฟ้าจะแพ้ไม่สบายเอาได้” หญิงสาวพูดพลางหยิบกระดาษทิชชู่เปียกมาเช็ดเกสรออกมา โดยมีวรภัทรคอยช่วยด้วย
“ตกลงว่าใครให้มาลูกค้าเหรอ” วรภัทรซักต่อ รสิกาไม่ตอบแต่ยื่นนามบัตรที่แนบกับดอกไม้ให้ชายหนุ่มดู
“พสุธา แสงศศินา ชื่อคุ้นๆใครอ่ะ” วรภัทรพยายามนึกว่าเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหน
“หลานเจ้าสัวพิพัฒน์” รสิกาบอกเมื่อเห็นเพื่อนยังนิ่วหน้าคิ้วขมวด เธอก็พูดต่อว่า “ก็กิ๊กยัยลูกพีชไง”
“อ๋อ นึกว่าใคร ว่าไงนะ” วรภัทรอุทานเสียงดังเมื่อรู้ว่าเจ้าของดอกไม้เป็นใคร
“...” รสิกามองหน้าเพื่อนอย่างงงๆ เพราะจู่ๆแววตาของเพื่อนก็แข็งกร้าวขึ้นมา
“นายนี่คิดจะจีบโรสเหรอ โอ๊ยเอาไปทิ้งเลย ทีหลังอย่าไปรับของๆมันมานะ ตานี่ประสงค์ร้ายกับโรสอยู่หรือเปล่า ถ้ายัยพีชเน่านั่นรู้ไม่มาดักตบโรสเหรอ” วรภัทรพูดด้วยอารมณ์คุกรุ่น ความจริงเขาไม่กลัวว่านิชาดาจะมาเล่นงานหญิงสาว เขาเชื่อว่าเพื่อนเอาตัวรอดได้ แต่ที่ชายหนุ่มกลัว กลัวว่ารสิกาจะสนใจหมอนั่นมากกว่า
“ใจเย็นๆ ทำไมต้องเกรี้ยวกราดด้วย ดูซิน้องฟ้ากลัวหมดแล้ว” รสิการีบเบรคเพื่อนเมื่อเห็นวรภัทรอารมณ์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“น้าภัทรขอโทษนะครับน้องฟ้า ดอกไม้นี่เอาทิ้งไปดีกว่านะ เดี๋ยวน้าภัทรซื้อให้ใหม่”
“ทำไมล่ะคะ อันนี้ก็ได้ อาปาบอกว่าให้ใช้ของที่มี ต้องช่วยกันประหยัดค่ะ” เด็กหญิงอิงฟ้านึกถึงคำสองของปาลิดาผู้เป็นอา ให้รู้จักประหยัดรู้จักออมเงินไม่งั้นโตขึ้นไปจะไม่มีเงินใช้จ่าย ซื้อของที่อยากได้
“หึหึ” รสิกาอมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าของวรภัทร ก่อนจะยื่นดอกไม้ไปให้เด็กหญิง “นี่ค่ะเช็ดหมดแล้ว น้าโรสให้น้องฟ้าค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” เด็กหญิงยิ้มกว้างยกมือไหว้ก่อนเอื้อมไปรับช่อดอกไม้
“น้าแค่กลัวพิษของเกสรจะไปโดนน้องเหนือมากกว่า น้องยังเล็กเดี๋ยวจะไม่สบายได้ค่ะ” วรภัทรอธิบายให้หลานสาวฟัง
“แถจนสีข้างถลอกหมดแล้ว” รสิกาเอ่ยแซวทำเอาวรภัทรหันมาค้อนควักให้ทันที
“ไม่มีอะไรแล้ว ไปทานไอศกรีมกันดีกว่า” ชายหนุ่มได้แต่จูงมือหลานสาวไปร้านไอศกรีมชื่อดังแทนที่จะยืนเถียงกับเพื่อนให้เสียหน้าอีก ‘น้องฟ้านะน้องฟ้าไม่ช่วยน้าเลย’
“เขาส่งดอกไม้มาให้ คนรับก็พี่ฝ้ายนั่นแหละไม่ใช่เรา ภัทรก็รู้เราระวังตัวเรื่องพวกนี้แค่ไหน ถ้าไม่ใช่จากพวกแฟนคลับเราก็ไม่อยากรับ” จู่ๆรสิกาก็พูดขึ้นมาระหว่างที่รอไอศกรีมมาเสิร์ฟ
“อืม เราเข้าใจ แต่มันอดโมโหไม่ได้ โรสก็รู้ว่าเรามีเรื่องกับไอ้โรคจิตนั่น” วรภัทรพยายามพูดอย่างใจเย็น เขารู้ดีว่าเพื่อนเป็นอย่างไร แถมเขาก็เล่าที่มีเรื่องกับพสุธาให้เพื่อนฟังแล้วด้วย
“ต้องดูต่อไปว่าจะมาแบบไหน ถ้าเป็นแฟนคลับชื่นชมก็พอไหว แต่ถ้ามากกว่านั้นคงไม่เอา เราไม่อยากมีเรื่องกับยัยลูกพีช ตอนนี้นางกำลังขึ้นละครกำลังโปรโมทใหญ่เชียว” รสิกาไม่อยากมีเรื่องมีราวกับใครโดยเฉพาะผู้ร่วมอาชีพ หญิงสาวไม่อยากเป็นข่าวให้คนใส่สีตีไข่พูดกันสนุกปากโดยไม่คิดจะถามความจริงกันสักคำ
“อ้าว ไหนบอกว่ามีแต่คนเอือมไงล่ะ” วรภัทรสงสัยเพราะวันนั่นเขาก็ได้ยินคนนินทานิชาดากันอย่างสนุกปาก
“พอดีละครใหม่กำลังออนแอร์ ทางช่องกลัวเรตติ้งจะทิ้งดิ่งน่ะ เลยต้องสร้างกระแสโปรโมท ไม่งั้นไม่มีคนดู”
“งั้นเหรอ เฮ้อวงการมายานี่ก็มายาจริงๆ วันนี้ทะเลาะกันแทบตายประเภทไม่เผาผีกันแล้ว วันรุ่งขึ้นจูบปากกันเสียอย่างงั้น” วรภัทรเบ้หน้าส่ายหัวไปมา นึกชมเพื่อนอยู่ในใจที่เอาตัวรอดมาได้จนถึงวันนี้โดยไม่มีข่าวเสียๆหายๆอะไร
--- Designer’s Love ---
อาคารพาณิชย์หลายคูหาย่านปิ่นเกล้าเริ่มทยอยปิดร้านกันหมดแล้ว เหลือแต่ร้านมินิทมาร์ทที่เปิดยี่สิบสี่โมงยังเปิดอยู่ วรภัทรขับรถมาจอดในซอยข้างอาคารที่อยู่ริมสุด รสิกาก้าวลงจากรถก่อนล้วงกุญแจไขประตูด้านข้างที่อยู่ด้านหลังของอาคารพาณิชย์แห่งนี้ พอประตูเปิดหญิงวัยกลางคนสองคนก็เดินออกมา
“สวัสดีครับแม่ สวัสดีครับน้าพรรณ” วรภัทรยกมือไหว้อรณีกับอรพรรณ แม่และน้าของรสิกา โดยมีหลานสาวยกมือไหว้ตาม
“สวัสดีจ้าภัทร สบายดีนะลูก เอ๊ะนั่นใครกัน” อรณีทักทายเพื่อนสนิทลูกสาวอย่างคุ้นเคยก่อนจะก้มมองเด็กหญิงพร้อมเอ่ยถาม
“น้องฟ้าหลานสาวภัทรเองครับ” ชายหนุ่มแนะนำเด็กหญิงให้ทุกคนรู้จัก
“น่ารักจัง จะแวะเข้าบ้านก่อนไหม” อรณีชมเด็กหญิงก่อนถามชายหนุ่มว่าจะเข้ามาในบ้านหรือเปล่า
“ไม่ดีกว่า เอาไว้คราวหน้าดีกว่า เห็นโรสบอกว่าวันนี้แม่เพิ่งเก็บร้านเสร็จ พักผ่อนเถอะครับภัทรไม่อยากกวน อีกอย่างต้องรีบพาน้องฟ้าไปคืนพ่อแม่เขาป่านนี้ชะเง้อหาแล้ว” วรภัทรอธิบายพร้อมกับอ้างถึงพี่สาวและพี่เขยของเขา
“ไม่เข้าก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอานี่ไปทานกันนะ เห็นโรสบอกว่าภัทรอยากทาน” อรณีรับถุงขาหมูถุงใหญ่จากน้องสาวส่งให้ชายหนุ่ม
“ขอบคุณมากครับ” วรภัทรรับถุงของฝากด้วยความยินดี
“นี่พอโรสโทรมาถามว่าของเหลือไหมภัทรอยากกิน ขนาดของขายหมดแล้วนะพี่นียังทำให้ใหม่เลย มีทั้งขาหมู คากิ แถมไข่กับไส้อีกตังหาก” อรพรรณรีบนินทาพี่สาวเมื่อมีโอกาส
“โหแม่เยอะขนาดนี้คิดเงินเถอะครับ ของซื้อของขาย” วรภัทรเริ่มรู้สึกเกรงใจเพราะเขาอยากกินมากจนเพื่อนต้องโทรมาหามารดาเพื่อทำให้เขา ทั้งๆที่ควรจะได้พักหลังจากขายของเสร็จแล้วแท้ๆ
“เอาน่านานๆที ถือว่าแลกกับน้ำหอมของฝากมากมายที่เราฝากโรสมาให้ตอนที่กลับมา” อรณีบอกปัดเพื่อนสนิทลูกสาว ถ้าจะให้คิดเงินกันจริงๆของฝากที่วรภัทรฝากมาให้บ้านเธอนั้นมีราคาค่างวดมากกว่าขาหมูหลายสิบถุงเสียอีก กะแค่ขาหมูถุงเดี๋ยวถือว่าเล็กน้อยมาก
“ขอบคุณมากครับแม่ น้องฟ้าขอบคุณคุณยายเร็ว เย็นนี้เรามีของอร่อยไปกินกับแม่แล้ว” วรภัทรสะกิดหลานสาว
“ขอบคุณค่ะคุณยาย อาภัทรบอกคุณยายทำขาหมูอร่อยมาก”
“แหม ปากหวานจังเลยมาให้ยายกอดที” อรณีอดไม่ได้ที่จะคว้าเด็กหญิงเข้าไปกอด
“งั้นผมกลับก่อนนะครับสวัสดีครับแม่ สวัสดีครับน้าพรรณ ไปแล้วนะโรส” วรภัทรถือโอกาสลาคนทั้งคู่
“สวัสดีค่ะคุณยาย สวัสดีค่ะน้าโรส” เด็กหญิงอิงฟ้ายกมือไหว้ลาคุณยายทั้งสองและน้าโรสคนสวย
“ขับรถดีๆนะภัทร ถึงแล้วไลน์บอกด้วย บ๊ายๆจ้าสาวน้อยของน้า” รสิกาโบกมือให้เด็กหญิงอิงฟ้า
“ว่างๆก็มาหายายใหม่นะคะ” อรณีโบกมือลาเด็กหญิงตัวน้อยกับเพื่อนลูกสาวก่อนตะโกนบอกเมื่อเห็นเด็กหญิงโบกมือลาเธอเช่นกัน
พอกลับมาถึงบ้านวรภัทรก็พบว่าพงศกรนั่งอยู่ที่บ้านคนเดียว บิดามารดาของเขามีงานเลี้ยงสังสรรค์ออกไปด้วยกันตั้งแต่เย็น
“เอาไงดี งั้นเรากลับบ้านโน้นกันดีกว่านะน้องฟ้า” วรภัทรหันมาถามหลานสาวที่กำลังเอาดอกไม้ไปอวดพี่ชายเขาอยู่หันมารับคำพยักหน้าหงึกหงัก
“จะเอาไปให้ใครคะน้องฟ้า” พงศกรเอ่ยถามหลานสาวถึงดอกไม้สุดหวงในมือของเธอ
“น้าโรสให้น้องฟ้ามาค่ะ สวยไหมน้าพงศ์”
“สวยค่ะ แล้วทำไมน้าโรสถึงให้น้องฟ้ามาคะ ภัทรไปเจอโรสมาเหรอ” พงศกรตอบหลานสาวก่อนหันไปถามน้องชายเขารู้ว่าวรภัทรพาหลานไปเที่ยวห้าง แต่ไม่คิดว่าจะนัดกับเพื่อนด้วย
“พี่พงศ์ไปบ้านโน้นด้วยกันไหม แม่โรสให้ขาหมูมาตั้งเยอะไปทานด้วยกันที่โน่นเหอะ” วรภัทรไม่ตอบเรื่องเพื่อนหรือดอกไม้แต่เอ่ยชวนพี่ชายให้ไปบ้านพี่สาวพี่เขยแทน
“เอาซิ พี่ไม่อยากทานข้าวคนเดียวเหมือนกัน” ความจริงเขานัดกับเพื่อนๆไว้ช่วงค่ำๆเพื่อสังสรรค์ตามปกติของหนุ่มโสด แต่เย็นนี้แวะทานอาหารกับพี่น้องก่อนก็ได้ยังพอมีเวลา
****************
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
อยากจะขอคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจกันหน่อยค่ะ
สามารถพูดคุย ทักทาย แนะนำ ติชม หรือ ทวงนิยาย กันได้ที่
Facebook : Sira_nann / ศิราศุภรัตน์
Twitter : @Sira_nann (#ดีไซน์เนอร์ที่รัก)