Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 31 การออกเดตกับโจ ตอนต้น
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 31 การออกเดตกับโจ ตอนต้น  (อ่าน 15288 ครั้ง)

ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 18 เกม 7 วัน อันตราย (4)

ภายในถุงนั้น มี กางเกงยีน กางเกงในลูกไม้ และเสื้อเอวลอยแขนยาวสีส้มอ่อนๆ สนคิดในใจว่า มันก็ไม่ได้เท่าไหร่สำหรับวันนี้ เขาจึงหยิบมันมาใส่ แต่แล้วเขาก็รู้แล้วว่า สิ่งที่เขาคิดนั้นมันผิดไปไกล

ด้านบนไม่มีปัญหา เพราะสนสามารถใส่ได้พอดีตัว ด้านบนเป็นเสื้อแขนยาว เปิดช่วงท้องเนียนขาว และสะดือที่บุ๋มเป็นรูปทรงสวยงาม แต่ด้านล่างนั้นเกิดปัญหาขึ้นเสียแล้ว เพราะกางเกงในลูกไม้นั้นเป็นแบบเต็มตัวและเอวสูงขึ้นมาจนถึงใต้สะดือ แต่กางเกงยีนรัดรูปที่เขาให้มานั้นเป็นแบบเอวต่ำมาก ซึ่งพอใส่ออกมาแล้วสนอายจนต้องเอามือปิดหน้า เพราะกลายเป็นว่าแม้ข้างบนสุดและล่างสุดจะปิดมิดชิดดี แต่ตรงกลางลำตัวกลับเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปิด และโชว์ให้คนทุกเห็นชัดเจนเลยว่า เขาใส่กางเกงในผู้หญิง

เขานั่งอยู่ในห้องเพราะไม่กล้าออกไปให้ใครเห็นในสภาพนี้ จนกระทั่งรถคันเดิมกับเมื่อวาน เข้ามาจอดนิ่งหน้าห้องพัก เขาจึงลุกขึ้นจากเตียง

“เหมาะกว่าที่คิดนะเนี่ย” คนที่มารับพูดเมื่อเห็นสภาพของเขา

“ไหนหมุนตัวหน่อย”

สนหมุนไปพร้อมกับความอายที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น

“ขึ้นรถได้หรือยัง” เขาถามด้วยใบหน้าที่เริ่มมีเลือดฝาดเล็กน้อย

“อายเหรอ”

“ใช่” สนตอบด้วยความเขินอาย

อีกฝ่ายยืนนิ่งไม่ไหวติง และถามกลับมาแบบเดิม

“อายเหรอ? ” เขาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“อะ..อายค่ะ” สนรู้ด้วยทีท่าว่าเขาต้องการคำตอบแบบไหน แต่สำหรับเขามันทำได้ยาก เขาจึงตอบออกมาอย่างฝืนตัวเอง

“ดีมาก ขึ้นรถได้ครับ” เขาแสดงความพอใจจากสีหน้าอย่างชัดเจน

ในรถมีน้ำฝนนั่งรออยู่ในรถภายใต้ชุดออกกำลังกาย สนขึ้นไปนั่งข้างๆ น้ำฝน

“สวัสดีจ้ะ โอลีฟจัง” เธอทักอย่างสดใส แต่สนไม่เล่นด้วย เขาไม่ได้ทักทายเธอกลับพร้อมแสดงสีหน้าเรียบเฉยกลับไป ทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนไปทำหน้าจ๋อย

“ให้เวลาเขาหน่อยสิ” มิสเตอร์เคเปิดขึ้นมานั่งที่คนขับและสตาร์ทรถ



รถออกพ้นบริเวณโรงเรียน มิสเตอร์เคถามน้ำฝน

“น้องเป็นยังไงมั่งล่ะ”

“เหมือนว่าไม่ได้มีแต่เราคนเดียวนะคะครู เมื่อวานเหมือนมีคนเข้าไปยุ่งกับน้องแล้ว และเหมือนกับว่าตัวน้องเองมีเอฟซีเกิดขึ้นอย่างลับๆ แต่ว่าเมื่อเช้าหนูลองไปส่องดูเขายอมใส่ชุดที่ครูจัดให้จริงๆ ด้วยค่ะ แถมยังใส่กางเกงในของผู้หญิงอีกด้วย”

“อืมม” เขาส่งเสียงด้วยความพึงพอใจ

“เอาจริงๆ นะ หนูว่าน้องชอบน่ะแหละ แต่ชีแกล้งแบบขัดขืนเล็กๆ น้อยๆ” น้ำฝนพูดพร้อมหัวเราะ

มิสเตอร์เค ถามคำถามต่อด้วยเสียงจริงจัง

“แล้วเด็กนั่นล่ะเป็นยังไง”

“คนนั้นเหรอ หน้าตาดีค่ะ”

“ไอ้ฝนน” คนขับรถใช้เสียงเข้ม ทำให้คนที่โดนดุถึงกับหัวเราะออกมา

“หยอกค่ะ เหมือนเขาจะเริ่มสนิทสนมกันแล้วค่ะ แต่อีตาผู้ชายนี่มีท่าทีแปลกๆ หนูว่าเขาเกลียดกะเทย ขนาดสวยอย่างหนูเข้าไปตีสนิท เขายังแสดงท่าทีอย่างชัดเจนเลยว่าไม่ชอบหนู”

“เข้าใจล่ะ”



“ว่าแต่คุณล่ะ เมื่อวานแอบทำร้ายตัวเองหรือเปล่า”

เมื่อถูกถามสนเกิดความรู้สึกเขินอายขึ้นทันที เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเอามาถามกันเป็นเรื่องปกติ

“บ้าเหรอคุณ ใครเขาถามกัน”

“อื้ม ไม่บอกก็ไม่บอก แต่ผมว่าคุณจะต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผมแน่นอน” เขาพูดด้วยเสียงหนักแน่น ส่งความรู้สึกอุ่นวาบให้เกิดขึ้นในใจของสนอย่างทันที ความรู้สึกแปลกๆ ทำให้ใจของเขาเต้นรัวขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ

“อื้อ” เขาส่งเสียงผ่านลำคอเพื่อขจัดความรู้สึกไม่ชอบมาพากลนั้นทิ้งไป

“แล้วนี่เรากำลังจะไปที่ไหน”

“เป็นคำถามที่ดี ผมจะพาไปซื้อกางเกงในสองที่ ที่แรกคือตลาดนัด ที่ที่สองคือร้านในห้าง”

“ห๊า ตลาดนัด ไม่เอานะ” เขาร้องขึ้นอย่างตกใจ

“ผมขอร้องเถอะครับ ผมไม่ไหว ให้คนอื่นเห็นผมในสภาพนี้ไม่ได้แน่”

น้ำฝนเหมือนรู้คิวงานของตนเอง เธอพุ่งเข้ารวบตัวคนที่กำลังแตกตื่นอยู่ทันที เธอสอดมือเข้าไปกระตุ้นบริเวณหน้าอกของเขาอย่างชำนาญ ส่วนด้านล่างก็ปลดกระดุมกางเกงยีนอย่างรวดเร็วพอๆ กัน

“เธอ..ไม่นะ อย่า ไม่เล่น ไม่เอา” สนขัดขืนและดันตัวน้ำฝนออก

แต่น้ำฝนนั้นชำนาญและรู้จุดอ่อนของร่างกายของสนเป็นอย่างดีแล้ว เธอดึงกางเกงลงและจัดการจุดอ่อนด้วยปากทันที

“ไม่ๆ ๆ ๆ อย่าน้า โอวววว อืมมมมมมมม” เสียงร้องห้ามเปลี่ยนกลายเป็นอีกเสียงหนึ่ง ที่เหมือนยเจ็บปวดและมีความสุขพร้อมๆ กันผ่านลำคอออกมา ท่าทีที่แข็งขืนกลายเป็นสิ้นเรี่ยวแรง

“นิ่งฉะนิด” น้ำฝนพูดขึ้นขณะกินไอติมอยู่เต็มปาก

“ยิ่งคุณกลั้นความรู้สึกไว้มากเท่าไหร่ มันจะยิ่งปลุกง่ายขึ้นเท่านั้น แต่พูดไปตอนนี้ก็คงฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี อยู่กับน้ำฝนไปก่อนแล้วกันนะ”

“ไม่เอา ไม่ไปตลาดนัด นะ อืมมม”

สนนอนครางอย่างสิ้นเรี่ยวแรง แม้ว่าในใจของเขาจะรู้สึกอยากจะหนีไปจากตอนนี้เสียเดี๋ยวนี้ แต่ข้างล่างกลับโหยหาความรู้สึกที่มันเกิดขึ้น อยากให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่แม้แต่จะอยากบอกให้คนที่กำลงัทำอยู่หยุดลง ท่าทีที่ขัดขืนเปลี่ยนเป็นสยบยอม

ฝ่ายน้ำฝนไม่ได้ใช้ท่าทีที่เร่งเร้าแบบเมื่อวาน แต่เปลี่ยนไปใช้เป็นจังหวะเนิบนาบ เพราะเธอมีจุดประสงค์เพื่อทำให้คนที่โดนตกอยู่ในภวังค์แห่งความสุขสม ส่งความเสียวซ่านเป็นระยะให้คนโดนคลั่งตายด้วยความสุข และเสียวซ่านจนแทบขาดใจ มากกว่าจะตั้งใจเร่งเร้าให้บรรลุความสุขสม

เธอเร่งจังหวะเป็นบางครั้งเมื่อสนมีทีท่าว่าจะตั้งตัวและเกร็งจนสามารถต้านทานความเสียวได้ เพื่อที่จะทำลายการขัดขืนเหล่านั้นไปให้สิ้น ซึ่งมันก็ได้ผลดี เพราะหลังจากที่เธอทำแบบนี้ไปราวๆ สี่ถึงห้าครั้ง เขาก็รู้ตัวและยอมศิโรราบ ให้เธอควบคุมและบงการความเสียวซ่านให้เป็นไปตามใจของเธอ น้ำฝนได้ที ก็เร่งแกล้งบ้างช้าบ้างเพื่อที่จะบ่งบอกถึงชัยชนะที่เธอมีต่อเขา



รถจอดเข้าช่องจอดรถ เขาดึงเบรกมือและหันไปบอกคนด้านหลังที่นอนหลับตาพริ้มครางออกมาอย่างเสียวซ่านถึงขีดสุด

“พอได้แล้วมาถึงแล้ว”

เขารอจนทั้งสองจัดการเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และสติของสนก็เริ่มกลับมาเมื่อเขามองเห็นสภาพรอบๆ ความกลัว ความอาย และความตื่นเต้นก็กลับมาหาสนอีกครั้ง

“มะ ไม่เอาอ่ะ ไม่ลงไปได้ไหม” เขาเริ่มร้องขอ

“ถ้าไม่ซื้อกางเกงในคุณก็ไม่มีใส่ แล้วคิดดูว่าถ้าวันที่เหลืออยู่คุณไม่ได้ใส่กางเกงในแล้วอยู่ในชุดแบบอื่น ไอ้หนูที่ตั้งโด่มันก็จะอยู่อย่างอิสระ แบบนั้นเอาไหม”

สนนิ่งไปสักพัก และสูดหายใจเข้าไปลึกๆ

เมื่อเห็นอีกฝ่ายพร้อมแล้วเขาจึงออกคำสั่ง

“วันนี้คุณต้องเป็นกะเทยหัวโปก”

“อะไรนะ! ”

“ก็เล่นแบบที่เล่นให้เพื่อนคุณดูวันนั้นไง ก็จะไปซื้อกางเกงในผู้หญิงก็เล่นให้เนียน”

เขาพูดต่อ

“สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ไปที่หน้าแผงขายกางเกงใน เลือกกางเกงใน เลือกมาสักสิบตัวที่คิดว่าใส่ได้ หรือจะถามจากคนขายก็ได้ โดยผมจะให้น้ำฝนไปเป็นเพื่อน”

“คำสั่งที่หนึ่ง คือ ในสิบตัวนั้น ให้เลือกมาสามตัว เอามาทาบบริเวณเป้าของคุณเอง แล้วถามน้ำฝนว่า ตัวนี้สวยไหมคะ ตัวนี้เหมาะกับเราไหม”

“มะ ไม่ไหว ผมทำไม่ได้”

“คำสั่งที่สอง ตัวที่เหลือ ให้เอามาทาบที่ตัวเอง แล้วถามคนขายว่าสวยไหมคะ”

“ไม่เอา”

“สามให้ทาบที่ตัวเอง แล้วถามลูกค้าคนข้างๆ ถ้าเขาไม่ตอบ ให้ถามคนใหม่ที่เข้ามา เมื่อทำภารกิจครบหมดแล้วถึงจะจ่ายเงินแล้วซื้อกลับมาที่รถได้ ส่วนยกทรงผมจะให้น้ำฝนเลือกให้ อย่าลืม ซื้อกางเกงแอโรบิคลายการ์ตูนของเด็กมาด้วยนะ จะได้ใส่ออกกำลังกาย” เขาไม่ได้สนใจคำทัดทานของสนแม้แต่น้อย

“เอาล่ะ ไปได้แล้ว” เขาหันมาสั่งอย่างเฉียบขาด”

น้ำฝนที่สวมชุดลำลองไว้ด้านนอก เปิดประตูออกไป

“มาได้แล้วค่ะ”



สนลงรถมาด้วยความไม่มั่นใจคูณสิบ เพราะคนที่เดินผ่านไปผ่านมาสังเกตเห็นแน่นอนว่าเขาใส่กางเกงในคุณป้าที่เนื้อหาและมีขอบลูกไม้ บรรยากาศตลาดสดร้อนอบอ้าว มีแผงของสดอยู่เรียงราย ซึ่งทุกคนก็จับจ่ายใช้สอยตามปกติ มีบ้างที่หันมองมาทางน้ำฝนและเขา แต่ด้วยความอายและไม่มั่นใจทำให้สนรู้สึกว่ามีคนหลายคนที่มองมาทางเขา ความร้อนผ่านบนใบหน้ากลับมาอีกครั้ง พร้อมๆ กับด้านล่างที่ตื่นขึ้น

เขากักเก็บความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้และออกเดิน น้ำฝนเดินเข้ามาจับมือเขาซึ่งนั่นยิ่งทำให้กลายเป็นจุดเด่นมากกว่าเดิม

ทั้งสองเดินหาแผงกางเกงในอยู่พักใหญ่ๆ มีหลายคนมองมาทางสน และเหมือนกับบางคนก็มีการซุบซิบให้เห็นด้วย ทั้งสองเจอสามถึงสี่แผน และน้ำฝนก็พาสนไปที่แผงที่ใหญ่ที่สุดในตลาดซึ่งคนขายเป็นผู้หญิงสองคน

แวบแรกทั้งคู่จ้องมาที่สน แต่ก็แค่แวบเดียว

สนสวมใจกล้า เข้าไปยังบริเวณกางเกงในที่วางเรียงรายเอาไว้มีทั้งของผู้ชายและของผู้หญิง เขามองไปที่กางเกงในของผู้หญิงไซซ์เอ็ม เพราะน่าจะใส่ได้พอดี มีทั้งแบบบิกินี่ แบบครึ่งก้น และแบบเต็มก้น สัมผัสที่อ่อนนุ่ม และสีสันสบายตาของกางเกงในเรียงรายเป็นทิวแถว

เขาเลือกกางเกงในแบบต่างได้จนครบสิบตัว เนื่อจากรู้ว่าหลังจากนี้เขาจะต้องโดนบังคับให้ใส่แน่ๆ เขาจึงเลือกตัวที่น่าจะใส่สบายที่สุด ซึ่งเมื่อถึงถึงว่าจะได้ใส่ขึ้นมา ข้างล่างก็แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง

และก็มาถึงส่วนที่ยากที่สุด สนเรื่มมือสั่นจนคุมตัวเองแทบไม่อยู่ ความตื่นเต้นที่มีเป็นทุนเดิมเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง ใจเต้นแรงจนเขาเองได้ยินเสียงของหัวใจเต้น เขาหันซ้ายหันขวาจนคนขายทั้งสอง สังเกตเห็น

“ถามได้ค่า” หนึ่งในสองคนถามสน

สนมือสั่นเทาเขากลั่นใจหยิบกางเกงในหนึ่งในนับเข้ามาทาบกับตัวเองเอง

“สะ..สวยไหมคะ เหมาะกับเราหรือเปล่า” นอกจากน้ำเสียงที่สั่นเทาแล้ว เขาก็มีท่ทีที่แสดงความเขินออกมาอย่างที่สุด สนอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี

“น่ารักดีค่ะ” คนขายตอบกลับมาตามปกติ

“แต่ถ้าเราแนะนำนะ อย่างตัวต้องใส่ประมาณนี้” คนขายเดินออกมานอกแผงแล้วหยิบกางในอีกแบบหนึ่งที่เป็นผ้าเนื้อหนากว่าออกมาจากแถว

คนขายเอามาทางกับตัวสนเอง

“นี่ๆ เหมาะกว่าอีกน่ารักใส่สบายกว่าด้วยนะ”

“คะ..ค่ะ” สนตอบรับด้วยความเขินที่ยังคงมีอยู่ ด้านล่างของเขาแข็งตัวอย่างที่สุดด้วยความตื่นเต้น น้ำเหนียวๆ ค่อยๆ ไหลออกมาจนเขารู้สึก

“เอาไหมค่ะ” คนขายยังคงทาบอยู่ที่ตัว

“เอาค่ะ”

หลังจากผ่านความอายระลอกแรกไป สนก็เริ่มปรับตัวได้มากขึ้น แม้ว่าจะข้ามคำสั่งแรกไป แต่เขาก็กลับย้อนไปทำคำสั่งที่หนึ่งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แม้ว่าจะตื่นเต้นและตื่นตัวอยู่บ้างแต่เขาก็ทำได้อย่างไม่ลำบากเท่าใดนัก

และเหมือนกับความรู้สึกที่มันจะเริ่มชาชิน กลับกระเตื้องขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อต้องทำตามคำสั่งที่สาม

สนต้องทำเป็นเลือกกางเกงในอีกพักใหญ่ ความขวยเขิน และความอายก็เพิ่มมากขึ้น เมื่อมีลูกค้าคนอื่นเข้ามาเลือกซื้อของ  เขาทำใจอยู่พักใหญ่ เพราะเขาทำแบบนี้มาหลายครั้งจนคนเริ่มจับสังเกตได้

“สวยไหมคะ” เขาหันไปถามลูกค้าคนข้างๆ และเป็นไปตามคาด สีหน้าของลูกค้าคนนี้มีความตกใจ และความรู้สึกเหมือนถูกคุกคาม เธอวางกางเกงในลงและหันหลังเดินออกจากร้านไป

“โรคจิต” สนเหมือนจะได้ยินเธอพึมพำก่อนออกจากร้าน

เขาหน้าชาและร้อนผ่าว รีบวางกางเกงในทั้งหมดให้คนขาย พร้อมกับจ่ายเงิน และเดินออกมาจากตลาดโดยไม่หันกลับไปมองใครอีก

ต่อไปคงมาที่ตลาดนี้ไม่ได้แล้ว เขาคิดในใจขณะที่เดินพ้นออกมาข้างนอก และเปิดประตูขึ้นรถ

“เป็นไงสนุกไหม” คนขับรถถามเมื่อสนขึ้นมานั่งหายใจบนรถ

“สนุกมากค่ะ แรดกว่าที่คิดนะเนี่ย” น้ำฝนรายงาน

“เอาล่ะได้เวลาไปที่ต่อไป” เขาสตาร์ทรถยนต์ และขับออกจากตลาดสด

“ผมอยากเห็นว่าเวลาคุณใส่กางเกงในแล้วไปยังไง เดี๋ยวไปลองใส่ให้ผมดูหน่อยนะ! ขอหาร้านที่มีห้องลองเสื้อผ้าหน่อย”

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 19 โดนแป้งอีกครั้ง

วันนี้จะเป็นวันแรกที่จะเริ่มเรียนปรับพื้นฐาน แต่ตอนเช้านั้น ก่อนที่จะไปเรียน เหล่าเด็กใหม่ก็จำเป็นที่จะออกกำลังกายในตอนเช้าอยู่ดี ต่อและกริชออกไปก่อนแล้ว เหลือแต่ต้นที่ยังชั่งใจว่าตัวเองจะเอายังไงดี

ชุดทั้งหมดที่มีเขาตัดสินเอาเอาไปส่งร้านซักรีดทั้งหมดเมื่อวาน นั่นหมายความว่าชุดที่เขามีทั้งหมดในตอนนี้คือชุดนอน และชุดออกกำลังกายสุดหวานแหวว เขาจึงต้องชั่งใจว่าจะใส่ชุดนอนหรือชุดของผู้หญิง เขาดมชุดนอนดู

“อี๋ เหม็น”

เขาจึงถอดชุดออกและเปลี่ยนเสื้อออกเป็นเสื้อรัดรูปเอวสูง หลังจากนั้นก็มาถึงการตัดสินใจครั้งใหญ่ เพราะด้านล่างมีทั้งกางเกงออกกำลังกาย และกางเกงใน เขาต้องรีบตัดสินใจแล้ว เพราะข้างล่างเป่านกหวีดเรียกเป็นครั้งสุดท้าย

ต้นเดินออกจากห้องมาด้วยความไม่มั่นใจสุดขีด เขาเลือกใส่กางเกงในผู้หญิงจนได้ แต่ด้วยเหตุผลอะไรเขาก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะมันสบาย มันนิ่มกว่า หรือแท้จริงแล้วต้นอาจอยากได้ความตื่นเต้น เขาก็ไม่เข้าใจตัวเอง แต่ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ทำให้เป้าของเขาตุงออกมาจนเห็นได้ชัด

กิจกรรมยังคงดำเนินไปเช่นเดียวกับทุกวัน เพียงแต่ที่แปลกไปเล็กน้อยคงจะเป็นชุดของต้น เขาสัมผัสได้ว่ามีคนไม่น้อยที่มองมาทางเขา แต่ก็แค่ช่วงแรกเท่านั้น เพราะเมื่อเข้ากิจกรรมจริงๆ ก็ไม่ได้มีใครสนใจเขาอีก จนถึงเวลาที่จะต้องออกไปนำออกกำลังกาย

“วันนี้นำพร้อมกันทั้งห้าคนเลยแล้วกันเนาะ” เพื่อนหนึ่งในอาสาสมัครเสนอขึ้น

วิวเปลี่ยนไปจากเดิม ต้นเขินจนหน้าแดงเพราะต้องเปลี่ยนมายืนเผชิญหน้ากับฝูงชนแทน แต่เขาก็สวมความกล้านำออกกำลังกายพร้อมเพื่อน จนสำเร็จลุล่วงไปได้ แม้จะอายและข้างล่างนั้นก็แข็งขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

การแต่งแบบนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทีเดียว แถมยังกระชับและสบายด้วย คามคิดนี้แวบเข้ามาในหัวต้นจนเขาตกใจในตัวเอง

ต้นมองเห็น พี่คนเมื่อวานยืนดูอยู่ห่างๆ เขาเหมือนทำสัญลักษณ์มือบางอย่างมาให้ต้น แต่เขาไม่เข้าใจ

เมื่อจบการออกกำลังกายในช่วงเช้า เขาจึงแยกตัวออกมาแล้วไปหาพี่โจที่ยืนรออยู่ด้วยความสงสัย

ความรู้สึกแย่เมื่อวางยังคงหลงเหลือในใจต้นแม้ว่าจะเหลือน้องลงแล้ว แต่เขาก็ยังเกรงๆ คนที่กำลังพูดด้วยไม่น้อย

“พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“พี่คิดถึงน้องต้นน่ะเลยมาหา” เขาพูดออกมาทำต้นรู้สึกแปลกๆ

“ขอบคุณครับพี่ งั้นผมไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ”

“ไม่กินข้าวเช้าเหรอ” เขารั้งตัวต้นไว้

“กินครับแต่ผมอยากไปอาบน้ำก่อน” ต้นตอบปฏิเสธเตรียมชิ่งหนี

“ว้า เสียดายจังเลย พี่อยากจะชวนน้องต้นไปกินข้าวกับพี่หน่อย ไปกินข้าวเช้ากับพี่ก่อนได้ไหมล่ะครับ” เขาเบียดเข้าประชิดตัว พร้อมทำจมูกฟุดฟิดใกล้ๆ หน้าต้น

“เอ่อ...”

“ก็ได้ครับ”

ชายตัวสูงเปิดบางอย่างในโทรศัพท์ให้ต้นดู ซึ่งทำให้เขาหน้าแดงขึ้นมาด้วยความอาย เพราะเป็นวิดีโอของต้นที่หน้าขาวโพลน และกำลังเต้นเพลงไก่ย่างอยู่นั่นเอง

“พี่ไปได้มาจากไหนเนี่ย” ต้นทั้งอายและหวั่นใจขึ้นพร้อมๆ กัน

“พี่ก็ยืนถ่ายตรงนั้นไง มีคนถ่ายหลายคนเลย”

“โอ้ย อายจังพี่ลบได้ไหมครับ”

“ถ้าน้องต้นต้องการแบบนั้นพี่ก็จะลบออกนะครับ น้องต้นจะได้สบายใจโอเคไหม” เขากดลบให้ต้นเห็น แต่ก่อนที่จะลบมันออกไปจากเครื่อง เขาก็เสนอเงื่อนไขที่ยากลำบากให้กับต้น

“พี่จะบอกให้เพื่อนพี่ทุกคนลบออกให้ด้วย แต่พี่ขอน้องต้นอย่างหนึ่งได้ไหม”

“ขออะไรครับ”

“ในเมื่อพี่ลบคลิปเดิมไปแล้ว พี่ก็อยากจะได้คลิปใหม่ตอบแทน น้องต้นจะให้พี่ถ่ายคลิปพี่แกล้งน้องต้นใหม่ได้ไหม” เขาพูดพร้อมยิ้มและเดินเข้ามาใกล้

“มะ..ไม่ดีมั้งครับพี่โจ ผมไม่ค่อยโอเค” ตันตัดสินใจไม่ต่อรองต่อ เพราะคิดว่าของมันเกิดไปแล้วคงไม่เป็นไรแต่ว่าช้าเกินไป

“แต่ว่าช้าไปหน่อยนะ พี่ลบไปแล้ว” เขาโชว์โทรศัพท์ที่ลบคลิปไปแล้วให้ต้นดู

“มะไม่เอานะครับ ไม่เอานะพี่”

อีกฝ่ายเอื้อมมาดึงแขนต้นและออกแรงให้ดึงตาม

“มาๆ เพื่อนพี่รออยู่”

ต้นถูกลากมายังข้างๆ โรงยิม ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงอาหารเท่าใดนัก ยามเช้าตอนโรงเรียนยังไม่เปิดเรียนมีผู้คนค่อนข้างบางตา ที่บริเวณนั้นต้นเห็นคนกลุ่มเดิม แต่เพิ่มจำนวนมาอีกหนึ่งคน ซึ่งคนนี้ตัวใหญ่ๆ พอๆ กับคนชื่อโจ แต่กล้ามใหญ่และหน้าตาดูดุร้ายกว่ามาก

“สวัสดีครับน้องต้น นึกว่าจะไม่ยอมมาเสียแล้ว”

“น้องเขาตกลงให้พวกเราถ่ายใหม่แล้วว่ะ” โจพูดในสิ่งซึ่งทำให้ต้นตกใจไม่ได้

“ผมยังไม่ได้ตกลงนะครับพี่ โอ๊ย” ต้นพูดไม่จบประโยคเพราะโดนมือที่บีบแขนออกแรงบีบแรงขึ้นจนปวดหนึบ

“เราตกลงกันแล้วนี่ ใช่ไหมน้องต้น” เขาพูดพร้อมส่งแรงบีบแขนเพิ่มทีละน้อยเพื่อบีบให้ต้นไม่มีทางเลือก

“คะ..ครับพี่” ต้นตอบอย่างไม่มีทางเลือก



ทั้งห้าคนเคลียร์พื้นที่รอบๆ และมีหนึ่งคนที่ยืนถ่านคลิปต้น

“ต้องบอกน้องต้นก่อนว่า พี่วินเพิ่งเห็นคลิปของน้องต้นเมื่อวาน เขาแทบคลั่งที่ไม่ได้มาเห็นด้วยตาของตัวเอง เห็นอีกทีน้องต้นก็โดนไปแป้งไปแล้ว เขาอยากเห็นตอนนั้นน่ะ น้องต้นช่วยพี่เขาหน่อยนะ”

คนกล้ามโตที่ชื่อวิน ยืนรอฟังคำตอบจากต้น แต่ด้วยท่าทีที่ไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก

“ได้ครับ” ต้นตอบอย่างมีทางเลือก และเหมือนมันจะสร้างความพอใจให้คนชื่อวินเล็กน้อย



ต้นไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่ คนเหล่านี้ตื่นมารอเขาตอนเช้าเพื่อที่จะดูเขาเลอะเทอะไปด้วยแป้ง แบบนั้นเหรอ แต่การทำตามสิ่งที่คนเหล่านี้ต้องการอาจดีกว่าการโดนทำร้ายร่างกายก็เป็นได้ เพราะเขาคงสู้แรงใครไม่ได้

ต้นมองเห็นแป้งที่ยังไม่ได้แกะออกมาจากแพ็คซึ่งเหมือนกับที่ต้นโดนในวันแรก การได้มาของแป้งแพ็คนี้ ต้นยังสงสัยว่าเขาได้มาจากการซื้อมาเอง หรือแอบเอาของโรงเรียนมาใช้ แต่นั่นก็ไม่สำคัญ เพราะพี่ๆ เหล่านั้น แกะแป้งออกมาแล้ว

“เอ้าให้น้องทาแป้งตัวเองก่อนนะ แล้วเดี๋ยวพวกเราค่อยทาให้ วินจะเอาด้วยป่ะ” โจถามเพื่อนของเขาซึ่งเพื่อนของเขาก็พยักหน้ารับ

“กล้องพร้อมนะ” โจหันไปถามเพื่อนคนที่ถือกล้องถ่าย

“พร้อมแล้ว”

“น้องต้นพร้อมหรือยัง”

ต้นที่อยู่ในสภาพใส่ชุดออกกำลังกายของผู้หญิง และมือสองข้างรองแป้งขึ้นมาจนพูนมือตื่นเต้นและกดดันจนมือสองข้างสั่นเทา รวมไปถึงปากก็สั่นจนควบคุมคำพูดแทบไม่ได้

“พะ พะ พร้อมแล้วครับ”

“เอ้า แนะนำตัวกับกล้องด้วย ตามที่คุยกันไว้เมื่อกี้”

ต้นหันไปมองกล้องแล้วฝืนยิ้ม

“ผะ..ผมชื่อติณวัฒน์ครับ วันนี้ผมจะมาโชว์การบึ้มแป้ง”

“สาม สอง..” ต้นสูดหายใจเข้าลึกและหลับตา “หนึ่ง”

ต้นดันแป้งที่ฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง เสียงดังฟึ่ม แป้งร่วงกราวลงมาตามตัวของต้น จนขาวโพลนไปทั้งหน้าและชุดด้านหน้า สร้างความสะใจและขบขันให้กับเหล่ารุ่นพี่

“เอ้า ไปทาแป้งให้น้องกัน”

มือนับสิบข้าง บางมือมีแป้งบ้างไม่มีแป้งบ้าง พุ่งเข้าลูบปะ ตบเข้าตามจุดต่างๆ บนตัวของต้น ฝุ่นแป้งฟุ้งหอมไปทั่วบริเวณ ส่วนต้อนแทบจะสำลักตายเพราะแป้งที่ฟุ้งขึ้นมา

ต้นรู้สึกตัวหนักอึ้งเมื่อการลูบไล้ร่างกายหยุดลง เขามองเห็นตัวเองขาวไปทุกสัดส่วน

“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” ต้นหันไปพูดและยิ้มกับพี่ เขาต้องรีบชิ่งไปอาบน้ำก่อนแล้ว

ต้นเตรียมจะหมุนตัวเดินออกมา แต่มีมือหนึ่งรั้งตัวเขาเอาไว้

“เดี๋ยวก่อนน้อง ยังทาไม่ทั่วเลย”

ต้นหันไปยิ้มให้พี่พลางคิดในใจว่าซวยแล้ว ขอให้เป็นอย่างที่คิดเลย



“ใส่กางเกงในผู้หญิงอีกแล้ววันนี้” โจพูดขณะที่เพื่อจับต้นยืนและขึงเอาไว้ทั้งแขนและขา ต้นที่โดนถลกกางเกงออกมา โชว์ก้อนเนื้อที่เริ่มตื่นตัวขึ้นมาบ้างแล้วเด่นหรา กับทุกคน เขาหลับตาด้วยความอับอายที่สุดในชีวิต เพราะไม่มีใครเคยเห็นมันมาก่อน

โจเอานิ้วมาจิ้มๆ และเขี่ยวนบริเวณหัว ซึ่งทำให้ต้นรู้สึกตรงนั้นไม่น้อย นิ้วที่ขยับรัวๆ ส่งผลให้ต้นร้องซี้ดออกมา

คนที่ชื่อวินคว้าไปที่บริเวณด้านหลังบริเวณที่เป็นถุงเนื้อและลองบีบดู

“โอ้ววว อูววว” ความจุกเกิดขึ้นจนต้องร้องออกมา

ทั้งคู่ผลัดกันจับ เขี่ย และขยับเล่น และสิ่งที่ทำให้ต้นรู้สึกแปลกๆ ก็เกิดขึ้น โจเปิดบริเวณที่มีการห่อหุ้มออก เปิดเผยเนื้อสีชมพูเรียบสวยออกมาโชว์หราต่อหน้าทุกคน ต้นอายจนอยากจะเบือกหน้าที่ และพฤติกรรมสุดแปลกประหลาดก็ตามมา โจบีบแป้งใส่มือขวาจนเต็มมือ ต้นรู้ชะตากรรมในทันที

“อย่านะพี่ โอ้วววว โหวววว อืมมมมมมม” มือที่แป้งพูนโปะลงไปบนเนื้ออ่อนนุ่มและขยำคลึงลงไปสร้างความแห้งเหือดให้เกิดกับเนื้อบริเวณตรงนั้น ความกระดากแห้ง เสียดเสียวและยากจะบรรยายเกิดขึ้นกัยต้นทันที จนถึงกับร้องไม่เป็นภาษา

“ไม่นะพี่ ไม่เอาแล้ว อ้า อึ๊ยยยยยยยย” โจทำแบบนั้นอีกรอบจนแท่งเนื้อขาวโพลนจนมองแทบไม่เห็น

“อ๊างง อืมมมม “ต้นร้องเพราะความเสียวจี๊ดที่มาเป็นระยะ

โจม้วนติ่งเนื้อกลับเข้าไปกางเกงในโดยไม่เก็บให้เรียบร้อยเหมือนเดิม แล้วเขาก็เอาแป้งในกระป๋องเทเข้าไปในกางเกงใน

ต้นไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนในตอนนั้น แม้ว่าเขามาได้เห็นในภายหลังว่ารูปที่ถูกถ่ายในตอนนี้ เขายังยิ้ม ทำปากเหยเก และทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน

แป้ง ทั้งหมดถูกบรรจุเข้าไปในกางเกงของต้นจนหมด บริเวณกางเกงตรงกลางระหว่างขานูนขึ้นเป็นก้อนจากแป้งปริมาณมหาศาลที่อัดลงไปตรงนั้น

ต้นยืนอย่างยากลำบาก เพราะทุกครั้งที่เขาเกร็งตัวจากความเสียวที่เกิดขึ้นก็จะทำให้แท่งเนื้อกระตุก และเนื้ออ่อนที่โดนเปิดออกมาก็จะเสียดสีและแหวกว่ายไปในทะเลแป้งในกางเกงยิ่งจะทำให้ความรู้สึกมันมากขึ้นจนเกิดกว่าจะบรรยาย เดินได้สองก้าวต้นก็ขาสั่นจนแทบจะล้มพับลงไป

“ฮ้า อืออ” ต้นยังพูดออกมาไม่ได้ ทั้งหมดมองดูต้นที่พยายามจะเดิน ด้วยความสุขสมและสาแก่ใจ

คนชื่อวินเดินเข้ามาจับมือต้นแล้วเตรียมตัวจะออกแรงลาก

คนชื่อโจออกเดินนำ

“ป่ะ ไปกินข้าวกัน น้องต้นจะเลี้ยงข้าวพวกพี่ใช่ไหมครับ”

ต้นจะตอบปฏิเสธเพราะเงินเขามีจำกัด แล้วรุ่นพี่พวกนี้กำลังจะรีดไถเขาชัด

“มะ...ไม่เอานะ...โอ้วววว....ยอมแล้ว ผมยอมแล้วววววโห้วววววววว” ต้องร้องออกมาอีกครั้งเพราะคนชื่อวินเปลี่ยนจากจับมือมาเป็นจับเอวต้นร่อนแทน ทั้งร่อนซ้ายร่อนขวา หรือจับโยกเป็นท่ากระเด้าลม

“พอเถอะครับ พอก่อนนน อ๊ากกก”

ก้นต้องต้นยังถูกจับส่ายไปพักใหญ่เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าห้ามดื้อ

ต้นหอบหายใจเมื่อทุกอย่างหยุดลง

“ก่อนจะไปกินข้าว เต้นไก่แบบเมื่อวานให้พี่ดูหน่อยสิน้องต้น”

“ดะได้ครับพี่ ได้ครับ” ต้นรีบตอบเพราะมือที่จับเอวเตรียมจะขยับอีกครั้ง

ต้นเริ่มตั้งท่าจะเต้นด้วยความยากลำบาก เพราะเมื่อครู่ต้นก็รู้สึกหน่วงๆ และปวดฉี่ขึ้นมาตุ๊บๆ

เขาถูกสั่งให้ร้องเพลงเองด้วย

เขาร้องเพลงไก่ย่างและเต้นไปตามสเตปเป็นภาพที่น่าอาย และต้นก็อายจนหายใจแรง พร้อมๆ กับความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นด้านล่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง

“เสียบตูด ขวา อ๊าววว” ต้นร้องอ๊าวเพราะรู้สึกเสียวจิ๊ดขึ้นมา

“ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ ร้อนจริง จริ๊งงงง ฮั๊ก” ต้นตัวกระตุกและทรุดลงกับพื้น เพราะอยู่ดีๆ ความทะลักทลายก็เกิดขึ้น ขาทั้งสองของต้นเกร็ง ตัวเขากระตุกเกร็งไปพร้อมๆ กัน ภายในหัวของต้นขาวโพลนไปหมด

“แค่ให้เต้น ถึงขนาดเสร็จเลยเหรอน้องต้น น้องนี่ลามกจริงๆ”

โจเข้ามาประคองต้น เพื่อที่จะพาไปโรงอาหาร โดยมุดประสงค์คือพาต้นไปโชว์ตัวมากกว่าที่จะพาไปกินข้าว ร่างที่กระตุกถูกพาเดินไปอย่างว่าง่าย และความเสียวด้านล่างก็ทำให้ต้นน้อยตื่นขึ้นอีกครั้ง ต้อนร้องซี้ดซ๊าด ไปตลอดทาง

ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 20 องครักษ์ของต้น

“อือ อง๊างง อืมมม” ต้นร้องไม่เป็นภาษาระหว่างถูกฉุดกระชากไปโรงอาหาร เขาเดินหนีบขาแน่น แต่นั่นไม่ช่วยอะไรเพราะแทนที่มันจะดีขึ้นมันกลับเสียวมากขึ้นเพราะเหมือนกับเอาขาไปเบียดให้มันเสียดสีกัน

“ไม่เอา ไม่ไป ฮือออ” ต้นพยายามจะดึงมือกลับและฝืนตัวเอาไว้ เขาจะไม่ยอมไปกินข้าวทั้งสภาพนี้แน่

คนชื่อวินสอดมือผ่านระหว่างขาจากด้านหลัง และคว้าเข้าไปตรงเป้ากางเกง ต้นสะดุ้งเฮือก ตัวลอยทันที

“ไม่นะ”

“อ๊ากกกก ซี้ดดด” มือนั้นออกแรงทั้งบีบ และบดคลึง ส่งผลให้สิ่งที่อยู่ด้านในถูกบดเบียดเสียดสี

ต้นเสียวจนต้องเอามือทั้งสองข้างกุมหัว เขาครางจนน้ำลายไหลออกจากปาก ร้องอย่างไม่เป็นภาษา

“ไม่เอา อย่านะครับ”

“ไม่เอา โอ้ยยย จะเสร็จแล้ว จะเสร็จแล้วววววว”

“อย่า อ่ะ อา ฮีกกก” ต้นตัวกระตุกอีกครั้ง และถูกจูงมือไปโรงอาหารอย่างง่ายดาย

ทั้งห้าเดินมาจนถึงโรงอาหาร ต้นถูกจูงแขนมาอย่างว่าง่าย เพราะทั้งเหนื่อยและอ่อนเพลียจากการเสียน้ำสองรอบ เขาเห็นหลายๆ คนที่โรงอาหารมองมาทางเขา ต้นทั้งเสียวและอับอายเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ปล่อยให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นกับเขา เพราะไร้แรงที่จะต้านทาน ยิ่งเสียวมากเท่าไหร่ ยิ่งอายมากเท่าไหร่ เหมือนกับความสุขและสาแก่ใจมันก็เกิดขึ้นมากเช่นเดียวกัน

ทั้งหมดมานั่งอยู่ตรงกลางโรงอาหาร โดยที่ต้นโดนนั่งขนาบข้างโดย วินและโจ

“ไปๆ ซื้อข้าวมา ไหนน้องต้นเอากระเป๋าเงินออกมาหน่อยสิ”

“โอ้ววว ดะ ได้ครับ”

มือของวินเข้ามาขยำขยี้ตรงเป้ากางเกงอีกครั้ง เป็นการบีบบังคับไปในตัว เขาต้องรีบเอากระเป๋าขึ้นมาส่งให้ด้วยมือที่สั่นเทา

“โอโห มีอยู่สามร้อย น่าจะได้คนละสองอย่างพอดี”

“ขอบคุณน้องต้องมากนะครับ”

ต้นจะร้องห้ามเพราะเงินนั้น เขายังต้องใช้ไปอีกสามวัน แต่มือด้านล่างก็ขยับขึ้นมาอีกครั้ง

“มะไม่เป็นไรครับ ซี้ดดด” ต้นหน้าเหยเก เพราะมือด้านล่างมันกลับไม่หยุดเคล้นคลึง ส่งความรู้สึกให้ต้นอย่างต่อเนื่อง

“พะ พอ ก่อนได้ไหมพี่ ผมจะ อึ๊ยยยย”

มือเร่งและแรงขึ้น

“พี่จะทำอะไรมันก็เรื่องของพี่ ต้นห้ามพูด” คนชื่อวินกระซิบพร้อมทำต่อโดยไม่สนว่าต้นจะทำหน้าแบบไหน

“เอาไปซื้อข้าวมาได้แล้ว”

“แต่ว่าพี่ ผมจะไม่มีเงินใช้แล้วนะ อึ้ยยยย”

“ผมจะไม่มีเงิน อึ๊กกก”

ต้นพูดได้ไม่จบประโยค มือที่ขยำขยี้อย่างมันมือ กลับมีมือมาเพิ่มอีกหนึ่งมือ เขาพยายามที่จะส่งเสียงให้เบามากที่สุด เพราะมีหลายคนที่เริ่มจะสังเกตความผิดปกติของต้นได้บ้าง ทั้งชุดผู้หญิง แป้งเต็มทั้งตัว เสียงแปลกๆ และการบิดไปบิดมาของต้น

“ก็น้องต้นให้พี่แล้วนี่ใช่ไหม เงินของน้องต้นก็เหมือนเงินของพี่”

“ตรงนี้ของน้องต้น ก็เป็นของพี่”

ทั้งสองบรรเลงการขยับมือทั้งสองกับไส้กรอกชุบแป้งทอดของต้นอย่างไม่ยั้ง ต้นเอามือสองข้างขึ้นมาปิดปาก เพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงออกมา และมองคนที่เหลือเอาเงินของเขาไปซื้อข้าว เขาอยากจะร้องห้ามใจแทบขาด แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะข้างล่างความเสียวซ่านก็แทบจะทำให้สติของเขาขาดผึ่ง

“ไม่ๆ ไม่นะ” อาการเสียดเกร็งมาถึงต้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่สามแล้ว ต้นกำลังจะเสร็จต่อหน้าคนหลายๆ คนในโรงอาหารตอนเช้า

ทั้งสองคนไม่ปราณีปราศรัยอีกต่อไป เร่งมือจนตัวต้นสั่นไหวไปตามการขยับของมือ

“ไม่นะพี่อย่านะครับ ผมไม่ไหวแล้ว อึ๊กกกกกก”

ต้นตัวกระตุกไม่หยุดอย่างรุนแรง ความอับอายและความเสียวมาจนถึงขีดสุด มันถูกส่งผ่านออกไปจากด้านล่าง หัวเขาขาวโพลน และพับลงไปกับโจที่นั่งอยู่ด้านข้าง และน้ำตาต้นเริ่มไหลออกมา

เสียงสะอื้นดังขึ้นเบาๆ จากการโดนกดดันและอับอายจนถึงขีดสุดที่จะรับไหว

“ฮึก ฮือ” น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างของต้น

ทั้งสองปล่อยให้ต้นร้องไห้ออกมาเบา โดยที่มือก็ยังไม่หยุดให้ความเสียวแก่ด้านล่างของต้นไปด้วยเรื่อยๆ ราวกับว่าต้องการจะฝังความรู้สึกแบบนี้ให้กับต้นไปจนกว่าเขาจะชาชินไปกับมัน และโหยหามันอีกในอนาคต



มีนักเรียนสองคนเดินมานั่งตรงข้ามกับคนทั้งสาม ต้นที่ตาพร่ามัวจากน้ำตา มองไม่ชัดว่าเป็นใคร แวบแรกเขาคิดว่าเป็นคนที่แยกย้ายไปซื้อข้าว แต่แล้วเขาก็พบว่าไม่ใช่

“เหมือนเพื่อนของผมจะไม่ค่อยสบายนะครับพี่” เสียงนุ่มและทุ้มต่ำ เสียงของเก่งนั่นเอง

“ใช่ครับรุ่นพี่ แม้ว่าพี่ต้นจะน่ารักตอนโดนทาแป้ง แต่การทาแป้งเยอะขนาดนี้ ผมว่าพี่ต้นคงไม่ทำเองแน่ๆ” เสียงของเอกก็มาเช่นกัน

“ยังไงเดี๋ยวผมจะพาเพื่อนผมไปห้องพยาบาลเองนะครับ”

ทั้งคู่ลุกขึ้นมา และพยายามจะเข้ามาแกะตัวต้นออก

“เฮ้ยเดี๋ยวน้องต้นพี่ดูแลได้ ให้น้องได้กินข้าวก่อน เดี๋ยวพี่จัดการเองพวกแกไม่ต้องยุ่ง”

มือด้านล่างพยายามจะบีบบังคับต้นอีกครั้ง

“ใช่ไหมน้องต้น” เขาขยับมือเร็วขึ้น

แต่ไม่ไวเท่าเก่ง เขาดึงแขนทั้งสองคนออกจากตัวต้น สอดแขนทั้งสองข้างโอบรอบตัวของต้น และดึงรวบออกมาจากเก้าอี้โรงอาหาร แต่ต้นอ่อนแรงจนยืนแทบไม่อยู่ เก่งจึงเข้ามาโอบเอวประคองเอาไว้

“เดี๋ยวพากลับห้องนะต้น”

“อืม” ต้นพูดอย่างอ่อนแรง แต่ไม่เท่านั้น ตอนนี้เขาขยับตัวลำบาก เพราะแป้งที่อัดอยู่ช่วงล่างทำให่เขารู้สึกเสียวแปร๊บขึ้นมา

“แต่กระเป๋าตังเราอยู่ที่พี่” ต้นกัดฟันข่มความรู้สึก พูดออกมา

เอก หันไปประจันหน้ากับคนทั้งสอง ความเร่าร้อนของวัยหนุ่มทะลักออกมาจากตัวของเอก

“ทำแบบนี้ไม่ดีมั้งพี่ รีดไถเงินน้องเหรอ เรื่องนี้ครูต้องรู้แล้วล่ะ”

“ไอ้สองคนนี้ขี้เสือกจัง เราไปคุยกันที่อื่น ตามมานี่” ทั้งคู่ลุกขึ้น และเอกก็เดินตามสองคนนั้นไป

“ต้นรอเราตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวไอ้เอกจะตายเอา” เก่งให้ต้นนั่งรอบนเก้าอี้ แต่ตอนที่นั่งนั้น ความรู้สึกของสิ่งที่ถูกกดทับมันดันสวนขึ้นไปโดนส่วนที่อ่อนนุ่มทำให้ต้นสะดุ้งเฮือกขึ้นมา

“อ๊ะ”

“เป็นอะไรต้น” เก่งถาม

“มะ มะ ไม่มีอะไรเก่งรีบไปเถอะ” ต้นรีบแก้ตัวเพราะบอกไม่ได้





เก่งเดินตามมาที่ด้านหลังห้องน้ำ บริเวณนี้ไม่มีคน เขาเห็นน้องเอกกำลังเผชิญหน้ากับสองคนนั้นอยู่ ทั้งสามกำลังจดๆ จ้อง พร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่กันทุกเมื่อ

เก่งแทรกตัวเข้าไป ร่างสูงและหนาพอประมาณ เขามาปรากฏตัวโดยที่สามคนนั้นไม่รู้สึกตัว เอกถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นรุ่นพี่โผล่เข้ามา

“ผมเห็นทุกอย่างว่ารุ่นพี่ทำอะไรบ้าง ผมไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ และผมจะไม่ฟ้องครูด้วย” เก่งพูด

เก่งย่อตัวโดยที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว กำปั้นที่ถูกดึงขึ้นมาจากด้านล่างเต็มกำลังแขน ถูกส่งตรงเข้ายังปลายคางของคนที่ตัวหนากว่าทันที คนกล้ามโตล้มทั้งยืน

ผ๊วะ!

ตึง!!

คนร่างใหญ่ร่วงลงเข่ากระแทกพื้น และหมดสติไปในทันที

“ดะเดี๋ยวน้อง เราคุยกันได้” เมื่อเห็นว่าน้องเป็นมวย โจ จึงเปลี่ยนท่าที เพราะคนที่ตัวโตกว่าอย่างเพื่อเขายังกินแค่หมัดเดียวนอน

เก่งลดการตั้งแขนลงทันที

“เชรดด โหดสาดเลยพี่เก่ง เก่งสมชื่อจริงๆ” เอกตบมือแปะๆ

“เลิกยุ่งกับเพื่อนผม และวคืนเงินเพื่อนผมซะ” เก่งพูด และหันหลังเดินออกมา โดยมีเอกเดินตามมาด้วย



“เจ็บมือชะมัด” เก่งเดินลูบกำปั้นไปด้วย

“โอโห เป็นนักมวยด้วยเหรอพี่ โหดเกิ๊น”

“นิดหน่อยน่ะ รีบไปหาต้นก่อนละกัน”



ต้นยังนั่งอยู่ที่เดิม เขาเริ่มอายอีกครั้ง เพราะคนที่มากินข้าวเริ่มหนาตามากขึ้น หลายๆ คนมองมาทางเขาเหมือนเป็นตัวประหลาด ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่มาก เพราะมันทำให้ต้นแข็งขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“เป็นยังไงบ้างต้น” เก่งถามขึ้น เมื่อเดินมาถึง

“ไม่เป็นอะไรแล้วเก่ง เอก ขอบคุณนะ”

“นี่ๆ เงินพี่ต้น รุ่นพี่พวกนั้นคืนมาหมดแล้ว ครบทุกบาท” เอกส่งกระเป๋าให้ต้น

เมื่อเห็นกระเป๋ากับเงินของตัวเองกลับมาต้นมีน้ำตารื้นเล็กน้อย

“ขอบคุณทั้งสองคนมากนะ” ต้นพูดไปพร้อมๆ กับเสียงที่เหมือนกับตัวเองจะร้องไห้

“ไม่เป็นไรหรอกต้น เพื่อนกัน”

เอกเข้ามานั่งข้างต้น

“เราไม่ชอบให้ใครมารังแกใคร เพราะงั้นเรื่องแบบนี้เลยยอมไม่ค่อยได้น่ะ ยิ่งเห็นมีคนมาแกล้งต้นยิ่งทนไม่ได้”

ต้นหันไปมองเก่งที่ทำแววตาและหน้าจริงจัง

“ต่อไปเราจะปกป้องต้นเอง ไม่ให้ใครมารังแกต้น”

“หา” ต้นร้องออกมาอย่างแปลกใจ

“หา” อีกเสียงออกจากปากเอก

“เราจะปกป้องต้นเอง” เขาจับมือต้นไว้หนึ่งข้าง

“ขะ ขอบคุณนะเก่ง” ต้นหันไปขอบคุณแต่ภายในใจนั้นยุ่งเหยิงเสียเหลือเกิน ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2019 23:42:57 โดย ebonyz »

ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 21 ความรู้สึกที่ยากจะปฏิเสธ

สนกำลังนั่งดูวิดีโอการเปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพของน้ำฝน ซึ่งตอนนี้ดำเนินมาได้เกือบครึ่งทาง โดยมีน้ำฝนที่อยู่ในชุดกระต่ายคอยบรรยายเพิ่มเติม ซึ่งดูเธอจะอับอายไม่น้อยที่ต้องมาบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองไปพร้อมๆ กับวิดีโอสุดน่าอับอายแบบนี้

“วันนี้เป็นวันแรกที่หนูยอมรับที่จะกลายมาเป็นของเล่นส่วนตัวของครูเคค่ะ เลยโดนพาไปฉีดฮอร์โมนเพศหญิง” เธอพูดด้วยหน้าแดงระเรื่อ

“ซี้ดด” สนร้องออกมาเพราะมือด้านล่างเข้ามาเล่นตรงจุดที่อ่อนไหวด้วยความแรงที่พอเหมาะ

“ถ้าคุณแพ้ผมคุณก็ต้องโดนแบบนั้นเหมือนกันนั่นแหละ”

สนที่อยู่ภายใต้ชุดนอนไม่ได้นอนสุดเซกซี่ กำลังนั่งกางขาโดยมีมิสเตอร์เคนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง และเล่นอวัยวะกลางขาของเขาไปด้วย

“ผะ...ผม ไม่แพ้หรอก เหลืออีกสี่วัน” เขาพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว

“เอ เธอยอมแพ้วันไหนนะน้ำฝน”

“วันสุดท้ายเลยค่ะ โดนไปหลายอย่างแต่สุดท้ายโดนครูจัดการด้วยน้องเคน้อย สามสี่นาทีก็ยอมแพ้แล้ว”

“ครูสนก็ต้องระวังไว้ดีๆ นะคะ ถ้ามันเข้าไปอยู่ในตัวเมื่อไหร่ครูทนไม่ไหวแน่ๆ”

สนยังเป่าลมออกจากปาก เพราะต้องระงับความรู้สึกจากการโดนเล่น

“ตอนนี้แตะติดแตะหน่อยก็ตื่นแล้วนี่”

จากการโดนนัดมาเล่นด้านล่างทั้งเช้า กลางวัน และเย็น เข้าสู่วันที่สามทำให้สนกลายเป็นคนที่ไวต่อสัมผัสขึ้นมากจนตัวเองแปลกใจ

“ดูต่อนะคะ หลังจากนั้นหนูก็เริ่มแต่งหญิงมาโรงเรียนทุกวัน อีกเกือบเดือนกว่าจะเริ่มมีหน้าอกค่ะ ถึงเปลี่ยนมาใส่บราแบบผู้ใหญ่ได้”

“อืมมม โอ้วว”

“ลืมตาดูสิคะ หลับตาแบบนั้นจะเห็นอะไรล่ะครู” น้ำฝนเรียกสติของคนดูเพราะตอนนี้หลับตาเคลิ้มไปไกล

“ครูเคคะ จริงๆ หนูว่าจัดการวันนี้ไปเลยก็ได้ค่ะ สภาพไม่ไหวแล้วเนี่ย”

มิสเตอร์เคยังคงสนุกอยู่กับการเล่น

“ยังหรอก ยังไม่ถึงขีดสุดเดี๋ยวจะมาใจแตกทีหลังเอา”

“น้องต้นเป็นไงมั่งล่ะน้ำฝน”

เขาถามไปพร้อมๆ กับเร่งเร้าคนที่อยู่ระหว่างขาของตนเองไปด้วย เมื่อเขาเริ่มส่งเสียงร้องบอกไม่ไหวมิสเตอร์เคก็หยุดมือ และเริ่มเล่นใหม่

“จากที่ไปสืบๆ ดูกลุ่มไอ้โจที่มากวนๆ น้องอยู่ดีๆ ก็หยุดตามค่ะไม่รู้ว่าทำไม ส่วนน้องต้นก็เหมือนจะได้เพื่อนใหม่ที่ชื่อว่าเก่ง”

“อืมม ดีๆ ระหว่างที่ครูยุ่งอยู่ก็ไม่อยากให้ใครมากวนหรอก”

“หลังจากที่จัดการกับเด็กดื้อแล้ว เราจะจัดการน้องต้นอย่างเด็ดขาดเสียที” เขาพูดพร้อมขยี้ตรงหัว ทำให้คนที่โดนขยี้ต้องร้องระบายอารมณ์ออกมา



น้ำฝนเลื่อนสไลด์ ต่อไปและบรรยายต่อโดยที่สนฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะมิสเตอร์เคเร่งมือขึ้นเรื่อยๆ

“พอก่อนได้ไหมครับ ปวดท้องไปหมดแล้ว” สนพูดออกมาในขณะที่เกร็งตัวตอนโดนเล่น เขาดูท่าทางไม่ไหวแล้วจริงๆ จากการโดนเล่นตรงนั้นมตลอดวัน ปลายอวัยวะกลายเป็นสีแดงช้ำ

มิสเตอร์ เคหยุดเล่น และปล่อยมือออกจากด้านล่าง

สนหายใจอย่างโล่งสบาย เพราะการเกร็งมาตลอดทำเอาเขาเกือบแย่

แต่มิสเตอร์เคกลับไม่ได้ปล่อยอย่างเดียว เขาสอดมือทั้งสองข้างอ้อมผ่านหน้าหน้าของสน และสวมกอดสนเอาไว้ในอ้อมแขน

“นี่ๆ ได้ยินเสียงหัวใจไหม” อยู่ดีๆ เขาก็ถามในสิ่งที่ไม่น่าเชื่ออกมา

“ดะ..ได้ยินสิ” สนพูดพร้อมจะขยับตัวออกห่างแต่กลายเป็นว่าเขายิ่งแนบชิดเข้ามามากกว่าเดิม และเขาสัมผัสได้ถึงการเต้นของหัวใจของอีกฝ่าย มันเหมือนเต้นแรงและเร็วกว่าปกติ

“อะ...อาห์”

“ไม่นะ”

มือที่กอดหนึ่งข้างเลื้อยลงไปด้านล่าง ทางด้านประตูหลังและส่งแรงนวดคลึงเบาๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้สนเกิดความแตกตื่นขึ้นมา และพยายามจะขืนตัวออก

“ชู่วววว” เขากระซิบเสียงบอกให้เงียบที่ข้างหูเบาๆ ของสน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้สนขนลุกขึ้นมา ไม่ได้เป็นความรู้สึกที่น่าขยะแขยง แต่มันแปลกอย่างบอกไม่ถูก

“อืมม โอะ อืมมม”

สนรู้สึกแปลกเล็กน้อยเมื่อถูกรุกล้ำเข้าพื้นที่สำคัญ ความรู้สึกมันคล้ายกับการขับถ่ายหนัก แต่ครั้งนี้มันไม่ได้มีอะไรออกไป แต่มันมีอย่างอื่นเข้ามาแทน

“อย่าเกร็ง สิ”

“มะ..ไม่เอาแล้ว ไม่ไหว มันสกปรก”

“อย่าดื้อสิคนดี” เขาขยับอย่างแผ่ววเบาและสนก็สงบลงอีกครั้งปล่อยให้อีกฝ่ายสำรวจแต่โดยดี โดยที่ความรู้สึกแปลกๆ ยังยังคงอยู่ในช่องทางทางด้านหลัง

“อึ๊กกกก โอวววววว”

สนเชิดหน้าขึ้นเมื่อความรู้สึกที่อึดอัดเปลี่ยนเป็นอีกความรู้สึกอย่างรวดเร็ว ความเสียวที่จี๊ดกว่าการเล่นด้านหน้าถาโถมขึ้นมาจากช่องทางด้านหลัง

สนคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไปเขาตาเหลือกค้างขึ้นไปด้านบน ครางอย่างไม่เป็นภาษา

“คุณ อืมม ทำ อา ไร กับ ฮืมมมมมมม”

สนเหมือนถูกควบคุมโดยสมบูรณ์จากนิ้วที่คืบคลานทางด้านหลัง เขาไร้แรงต้านทางได้แต่ยอมให้เขาเล่นจนพอใจ น้ำใสๆ ไหลออกมาจากด้านหน้าเป็นคราบเหนียวติดโซฟา สนนอนนิ่งไร้แรงต้านทานใดๆ ได้แต่ส่งเสียงร้องอย่างทรมานปนกับมีความสุขอย่างเป็นจังหวะออกมาเท่านั้น

เขาเล่นจนหนำใจ และค่อยๆ ถอนนิ้วออกมาจากช่องทาง นิ้วของเขายังสะอาดอยู่ เพราะคำนวณเวลาการกินอาหารเอาไว้เป็นอย่างดี

สนนอนหอบหายใจ

“เป็นยังไงบ้าง” เขาถามโดยมีรอยยิ้มเปื้อนอยู่บนใบหน้า เป็นรอยยิ้มของผู้ชนะ

“เมื่อกี้คุณทำอะไรกับผม” สนฮึดสู้ถามทั้งๆ ที่ยังไม่มีแรงยันตัวขึ้นมา

“ผมก็แค่เปิดโลกใหม่ของคุณขึ้นมาก็แค่นั้นเอง”

“เป็นยังไงบ้างล่ะ”

สนไม่ได้ตอบแต่กัดฟันแน่น ความรู้สึกที่ยากจะต้านทานเมื่อครู่ แค่นึกถึงเขาก็กลัวจนตัวสั่น เพราะถ้ามันมาอีกครั้งโดยที่คนทำไม่ปรานีอีกต่อไป สนคงต้องคลั่งตายด้วยอารมณ์ที่ปะทุออกมาอย่างแน่นอน

เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันความคิด

“ถ้ายอมแพ้ แล้วกลายเป็นของผม ผมยินดีจะมอบความรู้สึกแบบเมื่อกี้ให้คุณทุกเวลาที่คุณต้องการเลยล่ะ “

“ไม่มีทางหรอก” สนกัดฟันลุกขึ้นมาทั้งๆ ที่แขนและขาไม่มีแรง

“ผมจะไม่ยอมแพ้”

“แบบนี้สิมันถึงจะสนุก” อีกฝ่ายยิ่งยิ้มอย่างมีความสุขมากกว่าเดิม

__________________________________



การเรียนปรับพื้นฐานในวันแรกผ่านไปได้ด้วยดี แม้ว่าต้นจะไม่เข้าใจในบางวิชา โดยเฉพาะเคมีครูเค ที่ดูยากเหลือเกิน และยังมีเงื่อนไขแปลกๆ อย่างให้แบ่งกลุ่มช่วยกันเรียน และเมื่อเรียนจบ กลุ่มที่แพ้ คนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดจะโดนลงโทษนั่นอีก ที่เขากังวลน่าจะเป็นเพราะทุกคนดูเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ

หนุ่มกล้ามอย่างเก่ง เก่งฟิสิกส์มาก ส่วนกริช ก็ดูจะเรียนเข้าใจในทุกวิชา และไม่ต้องพูดถึงรูมเมทอย่างต่อ ผู้เป็นพหูสูต เก่งไปเสียทุกวิชา แม้แต่วิชาเคมีที่ครูผู้สอนดูจะไม่ค่อยถูกใจ แต่กระนั้นต่อยังตอบคำถามจนเป็นที่ยอมรับ ต้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ตั้งใจเรียนอย่างเขา ถึงไม่เข้าใจเลยสักวิชา

“เป็นอะไรต้น หลังจากเรียนเสร็จแล้วดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย” กริชถามขณะที่ทั้งสามคนเดินไปกินข้าวด้วยกัน ความสัมพันธ์ของต้นกับกริชดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เรียกว่าแทบจะเป็นเพื่อสนิทกัน ซึ่งแตกต่างกับต่อมาก เพราะนับวันกริชกับต่อก็เหมือนจะสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่กับต้น

“อืม ไม่รู้อ่ะกริช เราเรียนไม่ค่อยเข้าใจเลย”

“วิชาไหนล่ะตัน”

“ทุกวิชาเลย”

“บ้าน่า” กริชพูดออกมาอย่างตกตะลึง

“จริงๆ” ต้นพูดด้วยหน้าจ๋อยๆ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาใหม่ ถ้าไม่เข้าใจเดี๋ยวเราช่วย” กริชอาสา

“ขอบคุณนะกริช”

ต่อเดินตามทั้งสองคนมาห่างๆ ตั้งแต่ช่วงเย็นต่อยังไม่พูดอะไรกับทั้งสองคน เขายังง่วนอยู่กับโทรศัพท์ที่หน้าจอแตกของเขา ซึ่งอารมณ์ต่อที่ดูดีๆ มาตลอดทั้งวัน เหมือนจะคุกรุ่นขึ้นจากการดูโทรศัพท์ของเขา



“ต่อ! ”

“ต่อ! ”

“ห๊ะ อะไร” ต่อหลุดจากภวังค์เมื่อเพื่อนทั้งสองเรียก

“แกจะกินอะไร” กริชถามเพราะเดินมาถึงโรงอาหารแล้ว

“ไม่อ่ะ ไม่อยากกินแล้ว เดี๋ยวกลับห้องก่อนนะ”

“ห๊ะ อะไรของแกวะ” กริชหันไปถามเพราะเพื่อนแสดงอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ และตอนนี้ก็ทำตัวแปลกๆ เดินมาจนถึงโรงอาหารและก็บอกไม่หิว

“เอ่อ พวกแกกินกันไปเลย กลับก่อนนะ” และต่อก็หันหลังเดินกลับไป

“เอ่อ แปลกคนดีวุ้ย”

“เดี๋ยวมานะกริช” เหมือนต้นเห็นอะไรบางอย่างและเดินแยกตัวออกไป



ต้นมองเห็นโจแว๊บๆ เขาจึงแยกตัวออกมาจากกริช เพื่อที่จะไปถามในสิ่งที่สำคัญสำหรับเขา

“พี่โจ” เขาเรียกคนตัวสูง

“ว่า” คนตัวสูงค่อยๆ หันมาช้าๆ แววตาของพี่คนนี้ยังดูเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม

“น้องต้นมีอะไรครับ” เขาพูดจาสุภาพนุ่มนิ่มขัดกับรูปลักษณ์

“เอ่ออ... ผมจะขอให้พี่โจ ลบคลิปของผมได้ไหมครับ”

“คลิปไหน”

“คลิปเมื่อวันก่อนน่ะครับ ที่ผม...”

“ที่น้องอะไรครับ น้องต้องพูดให้ชัด พี่จำไม่ได้” แน่นอนว่าโจรู้ว่าต้นต้องการอะไร แต่เขาแกล้งไม่รู้เพื่อให้ต้นต้องพูดเรื่องที่น่าอายเกี่ยวกับตัวเองออกมา

“ที่พี่ให้ผมทาแป้งตัวเองน่ะครับ ผมไม่สบายใจเท่าไหร่ พี่ลบได้ไหมครับ”

“เอ ไม่แน่ใจนะ อันนี้ไหม”

เขาหันหน้าจอโทรศัพท์ที่คลิปกำลังเล่นให้ต้นดู ทำให้ต้นเห็นสภาพตัวเองที่สุดแสนจะน่าอับอายเกินที่เขาจะรับไหว ในโทรศัพท์ ร่างที่ขาวโพลนเต็มไปด้วยแป้งทั้งตัวกำลังเต้นท่าที่น่าอายและกำลังจะตัวกระตุกเป็นจังหวะ เมื่อตัวเองน้ำทะลักออกมา

“อันนี้หรือเปล่าครับ” โจยิ้มอย่างพึงพอใจ เพราะคนที่เห็นตัวเองกำลังทำท่าน่าอาย เขินจนหน้าแดงไปหมด

“อันนี้แหละครับพี่ ได้โปรดลบให้ผมด้วยนะครับ” ต้นอายจนหน้าแดง แต่เขาต้องขอให้รุ่นพี่คนนี้ลบออกไปให้ได้ เพราะมันทำให้เขาไม่สบายใจเอามากๆ

ภาพเด็กหนุ่มที่กำลังเขินอายดูน่ารักจนโจแทบทนไม่ไหว เขาต้องการที่จะครอบครองรุ่นน้องคนนี้เหลือเกิน ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม

“ก็ได้นะ”

“จริงเหรอครับพี่ ขอบคุณมากเลยครับ” ต้นพูดอย่างดีใจผสมความโล่งอก

“จริงสิ แต่ก็นะ คลิปนี้พี่ชอบมันมาก จนไม่อยากลบมันออกจากโทรศัพท์เลย เพราะงั้นพี่จะลบมันให้น้องเพราะว่าน้องต้องการ แต่น้องต้องทำอะไรให้พี่สักอย่างหนึ่งก่อน” เขายื่นเงื่อนไขอีกครั้ง

“ได้ครับ ผมจะทำให้พี่ แต่ครั้งนี้จะไม่มีการถ่ายคลิปนะครับ”

“ไม่มีแน่นอนพี่รับรอง”

“โอเคครับ”

โจยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ


ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 22 เกม 7 วัน อันตราย (จบ)

สนนอนไม่ค่อยหลับ ด้วยความรู้สึกที่ยังค้างคาอยู่ภายใน วันนี้วันที่ 6 แล้วตามที่สัญญากับมิสเตอร์เคเอาไว้ ผ่านวันพรุ่งนี้ไปได้เขาก็จะเป็นอิสระจากเรื่องบ้าบอเหล่านี้

แต่ถึงงอย่างนั้นความรู้สึกที่ไม่ปกติก็ก่อกวนภายในจิตใจเขาเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อช่วงค่ำ ก่อนที่มิสเตอร์เคจะปล่อยให้เขากลับที่พัก

“พรุ่งนี้ก็วันสุดท้ายแล้วรู้สึกยังไงบ้างล่ะ”

สนไม่ได้ตอบอะไรออกไป

“คุณกำลังคิดว่าคุณจะชนะ ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะคุณเก่งมากที่อดทนมาได้จนถึงทุกวันนี้ เอางี้ เพื่อเป็นการให้รางวัล ผมอนุญาตให้คุณช่วยตัวเองจนเสร็จได้ เป็นไงดีใจไหม”

เขายังคงไม่ตอบโต้อะไรออกไปเช่นเดิม

“โอะโอ ใจแข็งน่าดู เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรามาเจอกันพรุ่งนี้ครับ เรามาดูกันว่าเราจะได้เจอกันแบบนี้เป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า”

สนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เขาโดนแกล้งมาตลอด 6 วันเพื่อให้ความรู้สึกสะสมมาจนถึงขีดสุด อยู่ดีๆ เขาคนนั้นกลับยอมให้สนจัดการตัวเองได้ง่ายๆ มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย



สนตั้งหน้าตั้งตาจัดการตัวเองมาพักใหญ่ๆ ในห้องน้ำ ไม่ว่าจะใช้คลิปช่วยก่อนหน้านี้ หรือแม้แต่เรื่องที่ชอบที่ทำให้เขาเสร็จเร็วที่สุดก็ไม่อาจที่จะทำให้เขาจัดการตนเองจนเสร็จได้เลย

สนไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้การคุยกันแบบมึนตึงกับโอลีฟก็มีส่วนที่ทำให้อารมณ์หดหายเช่นเดียวกัน เพราะเขากับโอลีฟ ดูจะมีระยะห่างที่เพิ่มมากขึ้น เพราะอารมณ์ที่แปรปรวนง่ายของสนในช่วงเวลานี้ทำให้มีปากเสียงกันแทบทุกครั้งที่โอลีฟโทรมาหา

แต่นั่นอาจไม่ใช่สาเหตุหลัก เพราะเจ้าหนูสนน้อยมันกลับไม่ให้ความร่วมมือเลยในวันนี้ ได้แต่ทำคอตกอยู่อย่างนั้นไม่ว่าเขาจะปลุกเท่าไหร่มันก็ไม่ตอบสนอง

ชายหนุ่มตัดสินใจยุติภารกิจการช่วยเหลือตัวเองไว้เท่านั้น และอาบน้ำต่อจนเสร็จเรียบร้อย

เขาเปิดตู้ที่ใส่ชุดชั้นในของตัวเองและพบกับกางเกงในสีหวานแหววเรียงรายอยู่ด้านใน และหยิบตัวสีชมพูขึ้นมา วันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะต้องใส่มันแล้ว

เขาหยิบกางเกงในหยิบชุดนอน และเดินมาที่โต๊ะเครื่องแป้ง ทุกๆ ครั้งที่อาบน้ำเสร็จเขาจะต้องทาแป้งที่หน้ากระจกทุกครั้ง เพื่อลดความอับชื้น

สนหยิบแป้งขึ้นมาบีบใส่มือ พลันนึกไปถึงวิดีโอที่ได้ดูเมื่อช่วงเย็น น้ำฝนในสภาพขาวโพลนยืนช่วยตัวเองที่น้ำพุ สนตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด และเมื่อรู้สึกตัวเขาก็พบว่าตัวเองบีบแป้งใส่มือจนพูนมือเกินความต้องการไปแล้ว

เขายกแป้งขึ้นมาดูและเกิดความคิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นในหัว ภาพของน้ำฝนยังติดในความคิด หากเขาชโลมทั้งหมดในมือลงบนตัวเขาจะคล้ายน้ำฝนหรือเปล่านะ

สนดึงสติตัวเองก่อนจะทำอะไรไปมากกว่านั้นเขาเทแป้งทั้งหมดในมือลงขยะ และตัดสินใจว่าจะไม่ทาแป้ง และเมื่อเขาจะหยิบกางเกงในขึ้นมาใส่เขาก็พบว่า สนน้อยลุกขึ้นมาตั้งท่าอย่างแข็งขันเสียอย่างนั้น

ชายหนุ่มนอนหลับไปอย่างค้างคาในความรู้สึก และแม้แต่ในฝัน เขาก็ยังคงถูกแกล้งอยู่เช่นเดิม



_____________________________________________

“ทำไมมันยากแบบนี้ล่ะเนี่ย” ต้นถามกริช ขณะที่ทั้งสองนั่งติววิชาเคมีด้วยกัน

“ไม่เข้าใจเลยง่า”

“เราว่าต้นดูไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่เลย”

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“มะ..ไม่นี่” ต้นหน้าเจื่อนๆ เพราะเป็นความจริงที่เขาไม่ได้มีสมาธิเท่าไหร่

“มาๆ ขออีกรอบ”

 สนตั้งใจมองหนังสือพลางนึกไปถึงบทสนทนาระหว่างเขากับโจ เมื่อสองวันก่อน

“พี่จะลบคลิปนี้ออกให้น้องต้น ถ้าน้องต้นยอมไปเที่ยวกับพี่ ขอแค่วันเดียวเท่านั้นแหละ” ข้อเสนอถูกยื่นออกมาด้วยใบหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์ของโจ

ต้นทำหน้าอึกอัก เพราะรู้ว่าจะตอบยังไง

“ไม่มีปัญหาหรอก ไปแค่ช่วงกลางวัน เอาวันเสาร์หรืออาทิตย์ก็ได้”

ไม่ใช่เพียงแต่ว่าต้นไม่เชื่อถือพฤติกรรมของโจเท่านั้น แต่กำลังทรัพย์ของเขาก็คงมีไม่พอที่จะไปเที่ยวอีกด้วย เพราะต้นรุ้สึกเกรงใจที่จะต้องขอเงินพ่อแม่ที่กำลังทำงานหนักอยู่ต่างแดน

“ผม ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ครับ”

“เป็นอย่างอื่นได้ไหมพี่”

“อย่าไปคิดมากน่าน้อง เอางี้ เดี๋ยวพี่เลี้ยงน้องเองทั้งหมดเลย น้องจะได้ไม่ลำบากใจ”

“จริงเหรอครับ” ต้นรู้สึกสนใจมากขึ้น

“ใช่ แต่ว่ามีข้อแม้นะ”

ต้นเงียบรอฟังข้อแม้ที่ดูไม่น่าไว้วางใจ

“ข้อแม้คือ พี่ซื้ออะไรให้น้องต้น น้องต้นก็ต้องใช้ไม่งั้นพี่เสียใจแย่”

“ตกลงครับ” ต้นรับปาก ซึ่งนั่นก็สร้างความพึงพอใจให้โจเป็นอย่างมาก ซึ่งรอยยิ้มที่น่าสงสัยของโจ ก็ทำให้ต้นรู้สึกติดค้างในใจ รวมไปถึงคลิปที่อยู่ในโทรศัพท์นั้นด้วย เลยทำให้ต้นไม่มีสมาธิเลยในสองสามวันมานี้ ซึ่งส่งผลให้เขาเรียนไม่เข้าใจในหลายๆวิชาด้วย



“ต้น! ”

“ต้น! ”

“หะ หา เอ้า เก่ง”

เสียงของเพื่อนที่ปลุกต้นออกจากภวังค์ คือเก่งที่เดินมาพร้อมกับน้ำในมือสองแก้ว

“อ่ะนี่ เราให้” เก่งยื่นน้ำให้ต้น ต้นก็รับมาดื่มอย่างชื่นใจ

“โกโก้ร้านนี้อร่อยดีแฮะ เข้มข้นได้ใจ”

“อื้ม แต่มันแพงใช้ได้เลยนะ”

“นี่ๆ เข้ามากวนไม่ได้ดูเวลาเลยนะ ต้นไม่สนใจหนังสือแล้วเนี่ย” กริชที่นั่งดูทั้งสองคนคุยกันเข้ามาแทรก

“แล้วทำไมซื้อให้ต้นคนเดียวล่ะเก่ง”

“อ่อ ซอรี่พอดีถือได้สองแก้วน่ะ ฮ่ะฮ่ะ”

“ว่าแต่ถึงไหนแล้ว”

กริชเบ้ปากยกมือขึ้นทั้งสองข้างแสดงถึงความหมายที่ว่าไม่ได้อะไรเลย

“เอ มันก็ไม่น่ายากเท่าไหร่นะ ไหนลองดูใหม่อีกที”

ที่ต้นต้องมานั่งติววิชานี้ เพราะมิสเตอร์เคเฉลยบทลงโทษออกมาแล้วว่า คนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดของทีมที่แพ้จะต้องไปทำความสะอาดสระว่ายน้ำเพียงคนเดียวเท่านั้น สร้างความสยองขวัญให้กับเหล่านักเรียนปรับพื้นฐานเป็นอย่างยิ่ง เพราะวันหยุดแทบจะหายไปทั้งวัน

__________________________

“เป็นยังไงบ้างวันนี้รู้สึกสบายขึ้นไหมที่ไม่โดนแกล้งมาตลอดทั้งวัน”

สนยังคงไม่ตอบอะไร เพราะเขาเองก็ตอบไม่ได้เช่นเดียวกันว่ารู้สึกดีที่ไม่โดนแกล้งเหมือนทุกวัน หรือความรู้สึกมันแย่เพราะอยากโดนแกล้งตามความเคยชินมากกว่า

“ตอนนี้เวลาสองทุ่ม ผ่านเที่ยงคืนนี้ไป ถ้าคุณยังไม่พูดว่ายอมแพ้ คุณก็ชนะ”

สนกัดริมฝีปาก

“ถ้าผมยอมแพ้ ผมจะเป็นยังไงบ้าง”

คำถามของเขาเรียกรอยยิ้มของคนที่ถูกถามออกมาเล็กน้อย

“ก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิมหรอก ก็เป็นของเล่นของผมเหมือนกับน้ำฝน เมื่อคุณยินยอมพร้อมใจ ผมก็จะยัดเยียดความอับอาย ความทรมานและความสุขสมอย่างที่ส่วนลึกในใจคุณต้องการให้คุณซ้ำแล้วซ้ำอีกจนคุณสาแก่ใจ”

“ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น” เขาแสดงแววตาแข็งกร้าว

“ผมพร้อมแล้วมาเลย”

น้ำฝนที่รออยู่ข้างๆ ก็รุกเข้าหาคนทันทีตามคำสั่งของมิสเตอร์เค เริ่มจากกอดเข้าด้านหน้าตรงๆ ใบหน้าสวยของน้ำฝนเข้าประจันหน้ากับสน และเริ่มละเลงลิ้นลงบนริมฝีปาก สนขยับหน้าหนี แต่น้ำฝนก็รุกต่อโดยในระหว่างที่ปากโจมตีอยู่นั้น ด้านล่างเธอก็ปลดกางเกงด้านนอกออกไปด้วย กางเกงขายาวหลุดไปกองกับพื้น เปิดเผยให้เห็นกางเกงในเนื้อนิ่มสีชมพู สิ่งที่อยู่ด้านในเริ่มแขงขึ้นมาบ้างพอให้เห็นเป็นลำ

ลิ้นของน้ำฝนบุกทะลวงเข้าไปเล่นในปากได้สำเร็จเธอชอนไชลิ้นแลกเปลี่ยนของเหลวอย่างหิวกระหาย และปลดเปลื้องเสื้อของสนออกอย่างรวดเร็ว

เมื่อสนเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว น้ำฝนก็เลื้อยลงมาด้านล่าง ดึงกางเกงในลง และสูดดมบริเวณก้อนเนื้อด้านล่าง

“เอ๊ะ วันนี้ไม่ได้กลิ่นแป้งเหมือนเดิมนะคะ”

สนไม่ตอบอะไร

“เอ ชักแปลกๆ”

น้ำฝนใช้ลิ้นตวัดงวงน้อยของสนเข้าไปในปาก ใช้ลิ้นดุนด้านล่างและใช้ช่องปากดูดแท่งเนื้อเข้าออกตามความยาวของแท่ง

“อืมมมมม” สนหลับตาพริ้ม ตลอดเจ็ดวันมานี้ปากของน้ำฝนเป็นสิ่งที่เขาได้รับมาตลอดเจ็ดวัน น้ำฝนรู้ดีว่าตรงไหนคือส่วนที่อ่อนไหวที่สุดในร่างกายเขา ทุกครั้งที่เธอเอาเข้าปาก สนก็สูญเสียการควบคุมตัวเองให้กับน้ำฝนไปอย่างสมบูรณ์ เขากลายเป็นของเล่นของเธอไปในทันที เมื่อไหร่ที่เธออยากทำให้เขากรีดร้องเธอก็จะเร่งจังหวะด้วยเทคนิคที่แพรวพราว หรือในบางครั้งเธอแค่อยากแกล้งให้เขาอึดอัดเธอก็จะใช้จังหวะเนิบนาบเพื่อส่งความรู้สึกอยากเสร็จให้เขาจนแทบคลั่ง

“อ๊า อูววว” น้ำฝนเร่งจังหวะจนสนตัวแอ่น

และน้ำฝนก็หยุดและถอนปากออกไปเสียดื้อๆ ทิ้งให้สนยืนหอบหายใจอยู่อย่างนั้น โดยที่สนยังไม่รู้ตัวว่าร่างของมิสเตอร์ที่ถอดเสื้อฝ้าออกจนหมดแล้ว มายืนรออยู่ทางด้านหลัง และเข้ารวบตัวของสนไว้ในอ้อมแขน เขาพลิกตัวสนราวกับจับตัวเด็กยก และขาทั้งสองข้างสนลอยขึ้นจากพื้น

สนโดนยกตัวพลิก และหลังจากนั้นมิสเตอร์เคจึงส่งมือไปยังปากทางเข้าทางด้านหลังและนวดบริเวณปากทางเข้าด้านหลังส่งผลให้คนโดนนวดถึงกับสั่นสะท้าน สนต้องกัดฟันเพื่อไม่ให้เสียงของตัวเองเล็ดรอดออกมา เขาตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

น้ำฝนได้โอกาสสอดตัวเข้ามาจากด้านล่างและเข้ามางับด้านหน้าอย่างคุ้นเคย เธออมแล้วรูดจนสุดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสน

“อา อืมมมมม” สนส่งเสียงออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

“โอวว อย่านะครับ”

นิ้วถูกส่งทะลวงประตูด้านหลังเข้าไป และหมุนควงส่งความรู้สึกให้กับเจ้าของที่โดนปากสร้างความเพลิดเพลินอยู่อย่างต่อเนื่อง

สนเคลิ้มจนลืมตาแทบไม่ขึ้น การใช้ปากและลิ้นของน้ำฝนจู่โจมจนสนไม่สามารถต้านทานได้ เหมือนว่าทุกครั้งเธอแค่เล่นกับเขา แต่วันนี้น้ำฝนจัดเต็ม ขาของสนสั่นจนยืนไม่ไหว

มิสเตอร์เคอาศัยช่วงที่สนเคลิ้มๆ เพิ่มนิ้วเป็นสองนิ้ว ร่างของสนสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ทันนิ้วที่สองของมิสเตอร์เคที่ทะลวงเข้าไป

“เอ ทำไมวันนี้หายากนะ” มิสเตอร์เคพูดขณะที่ควาญหาบางอย่างโดยนิ้วทั้งสอง

“สองนิ้วมันเจ็บนะ โอวววววววว อึก” สนหายใจขาดห้วงทันทีเมื่อความรู้สึกที่ยากจะต้านทานกลับมาอีกครั้ง

“เอ้า เจอแล้วนี่นา”

มิสเตอร์เรขยับจี้จุดอ่อนของสนซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยที่สนได้แต่ส่งเสียงร้องออกมาตามจังหวะนิ้วของเขา มิสเตอร์เคมีความสุขจากการที่ได้กล่นแกล้งให้สนแทบจะลำลักความสุขเสียวตาย

เขาดึงนิ้วออกเมื่อเล่นอย่างพอใจ สนมีแอ่นก้นตามเล็กน้อยจากความเสียดายในความรุ้สึกนั้น

มิสเตอน์เคจ่ออาวุธคู่กายเข้าไปยังปากทางเข้าทางด้านหลัง

“เฮ้ย คุณ ไม่เอา อย่านะ”

“ไม่ อย่า โอ๊ยยย”

อาวุธของมิสเตอร์เคค่อยๆ จมหายเข้าไปในช่องทางด้านหลัง แม้ว่าจะมีการหล่อลื่นมาก่อนหน้านี้พอสมควรแต่ช่องทางที่คับแคบก็ทำให้มันเข้าไปด้วยความยากลำบาก

“น้ำฝนหยุดก่อน”

น้ำฝนหยุดตามคำสั่ง มิสเตอร์เคแนบตัวเข้ามายืนประกบด้านหลังของสนเอี้ยวและเอาหน้ามาทาบด้านข้างๆ หน้าเขา

“รู้สึกยังไงบ้าง”

“ไม่ เอามันออกไปเดี๋ยว..อึก..อ๊า อย่า” สนพูดไม่จบประโยคคนที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มขยับเอวเข้าออกเป็นจังหวะ

“เสียงแบบนี้แสดงว่าก็ไม่ได้ขัดขืนเท่าไหร่ ถือว่าผมไม่ได้ข่มขืนคุณแล้วนะ”

“มะ ไม่ เอา ไม่ อ๊า”

มิสเตอร์เคเร่งจังหวะขึ้นเล็กน้อยร่างของคนที่รับแรงกระแทก เกร็งเป็นจังหวะสอดรับกับเอวของเขา

“เหลืออีกสิบห้านาที คุณจะชนะแล้วดีใจไหม”

มิสเตอร์เคไม่รอคำตอบ เขาเล็งอาวุธไปบริเวณจุดที่สร้างความเสียวอย่างรุนแรงของสนทันที แล้วทำการจู่โจมอย่างไม่ปรานี

สนคุมสติไม่อยู่อีกต่อไป เสียงจากการระบายความรู้สึกดังออกจากปากเขาดังขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่เอ่อล้นจากด้านหลังส่งผลมายังด้านหน้าด้วยเช่นกัน เหมือนว่ายิ่งมีแรงกระแทกมาจากด้านหลังมากเท่าไหร่ สนก็ยิ่งใกล้ถึงจุดหมายมากขึ้นเท่านั้น

เสียงเนิ้อกระแทกอย่างเป็นจังหวะ ดังอย่างเป็นเอกลักษณ์ สนเข้าใกล้การถึงจุดสุดยอดไปทีละเล็กทะน้อย จนในที่สุดความรู้สึกปริ่มเปี่ยมก็มาถึง สนรู้สึกราวกับใจจะขาดเมื่อความรู้สึกนั้นพวยพุ่งออกมา

“อ๊า จะถึงแล้ววว จะถึงง”

มิสเตอร์เคหยุดเอวทันที ความรู้สึกปริ่มสุขเมื่อสักครู่สะดุดกึก

เขารอจนสนเย็นลงเล็กน้อย และเริ่มขยับเอวใหม่ ความเสียวซ่านเกิดขึ้นอีกครั้งและสนเหมือนถูกบังคับให้ต้องเริ่มเล่นเกมเดิมใหม่อีกครั้ง น้ำใสๆ ไหลออกจากทางด้านหน้าอย่างควบคุมไม่อยู่ เขาได้แต่เกร็งรอรับแรงกระแทก และรับความรู้สึกที่ได้จากการมอบให้ช้าๆ อย่างต้านทานไม่ได้

“อีกสิบนาที”

มิสเตอร์เคบอกเวลาพร้อมๆ กับเร่งเครื่องอีกครั้ง ร่างกายที่ออกกำลังกายเป็นประจำส่งแรงกระแทกอย่างไม่มีตก จนคนที่รับแรงกระแทกอยู่ทนไม่ไหวอีกครั้ง

“จะ จะ ถึง แล้วววววววว อึ๊ก”

รอบที่สองแล้วที่สนเหมือนร่วงลงจากสวรรค์ เขาพยายามจะขยับเอวของตัวเองออกและเข้าเมื่ออีกฝ่ายหยุดเพื่อที่จะได้ส่งตัวเองข้ามเส้นนี้ไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกฝ่ายรู้ทันและจับเอวเขาไว้แน่น

“อย่าโกงสิคุณ สามนาทีต่อหนึ่งรอบ มาดูว่าจะทนไหวไหม” เขาเริ่มซอยก้นเข้าและออกอีกครั้ง

“ไม่นะ โอวว”

เอวคนด้านหลังขยับอีกครั้ง ความรู้สึกแบบเดิมเกิดขึ้นอีกรอบ แต่รอบนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะแค่ไม่กี่ครั้งเขาก็แทบจะถึงจุดหมายแล้ว รอบนี้สนกัดฟันไม่ส่งเสียง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องถูกแกล้งอีก แต่คนด้านหลังกลับรู้ทัน เพราะเมื่อร่างกายของเขากระตุกเกร็งก่อนที่จะถึงจุดสุดยอด มิสเตอร์เคก็หยุดเอวลงเช่นเดิม

เสียงโอดครวญดังออกมาเบาๆ จากคนด้านหน้า เหมือนว่าความอยากของเขามาถึงขีดสุดแล้ว

มิสเตอร์เคเริ่มขยับเอวอีกครั้ง

“อีกห้านาที”

มิสเตอร์เคกระหน่ำขยับเอวทั้งเร็วและแรง ร่างที่อยู่ด้านหน้าร้องดังจนคอเหมือนจะแตก สั่นไหวด้วยแรงกระแทก

“จะ จะ สะ สะ สะ เสร็จ อีก แล้วว ฮึ๊ยยยย”

เอวหยุดลงก่อนที่สนจะถึงอีกครั้ง ร่างของสนยังคงไม่หยุดสั่นสะท้านจากการรับแรงกระแทกและพิษจากความรู้สึกที่ถาโถม

“อีกสามนาที”

เสียงปั๊บๆ ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อคนด้านหลังส่งแรงกระแทกไปให้ยังคนด้านหน้า เขากระแทกถี่ขึ้นกว่าครั้งก่อน อาการเหนื่อยและเสียงหอบแสดงให้เห็นเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อความถี่ในการกระแทก ร่างของสนกระตุกอีกครั้ง

“ฮือออ จะเสร็จแล้ว โอ้ววว”

“ยอมแล้ว ยอมแล้วครับ ยอมแล้วให้ผมเสร็จเถอะ” สนพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจต้านทานไหวอีกแล้ว เขาต้องการเพียงสิ่งเดียวที่เขาไม่ได้รับมาลอดเจ็ดวัน

“ไม่ใช่แบบนี้” มิสเตอร์เคเปลี่ยนมาเป็นจังหวะเนิบๆ แต่ก็ยังส่งความรู้สึกเสียดเสียวให้เกิดอย่างต่อเนื่อง

“พูดใหม่”

“โอลีฟยะ ยอมแล้วค่ะ ขะ ขะ ขอ ให้หนูเสร็จนะคะ โอ้ววววว” เขาพูดยังไม่ทันจบประโยค คนที่อยู่ด้านหลังก็เร่งเครื่องขึ้นมาทันที

“จะเสร็จแล้ว จะ จะ เสร็จแล้วววว”

ร่างของสนกระตุกชักเป็นจังหวะ แต่มิสเตอร์เคก็ยังคงไม่หยุดขยับเอวราวกับจะขยี้ความรู้สึกของสนให้สุด น้ำขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจากอาวุธของสนอย่างทะลักทะลายเป็นสาย มันมีปริมาณมากพอดู สนยังไม่หยุดเกร็งตัวส่งน้ำออกมาอย่างมากมายเป็นการระเบิดความอยากที่สะสมมาตลอดหลายวัน และยังตัวกระตุกอีกเป็นนาที

“เอ้าเสร็จแล้ว ต้องพูดว่ายังไง” มิสเตอร์เคยังไม่หยุดซอย ส่งแรงกระแทกให้คนข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

“ขะ..ขอบคุณค่ะ” สนทั้งอ่อนล้าสิ้นเรี่ยวแรงจากการสำเร็จความใคร่อย่างล้นทะลัก ไม่มีแม้แต่แรงประคองตัว

มิสเตอร์เคค่อยๆ หยุดเอวของตัวเองลง และถอนอาวุธของตนเองออกมาอย่างช้าๆ เขาโอบร่างของสนอุ้มขึ้น และนำไปวางที่เตียงอย่างแผ่วเบา

สนพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ เขาปล่อยตัวลงบนเตียงไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว

“เป็นยังไงบ้างความรู้สึกนี้” เขายิ้มราวกับผู้ชนะซึ่งนั่นก็เพราะว่าเขาเป็นผู้ชนะจริงๆ

“คุณชนะแล้วจะทำอะไรกับผมก็เชิญ” สนหันหน้าออกไปอีกทางไม่อยากจะมองหน้าของคนที่ทำลายให้เขาแพ้อย่างราบคาบ ทั้งกายและใจ

“แน่นอน”

มิสเตอร์เคช้อนหัวของสนขึ้นจับหน้าของเขาหันมาเผชิญหน้า และประกอบปากเข้ากับปากของสน สนเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึงก่อนที่จะโดนลิ้นอุ่นๆ บุกทะลวงเข้าไปในปาก แต่ครั้งนี้สนไม่ขัดขืน ยอมให้ลิ้นของเขารุกเข้ามาอย่างง่ายดายและกลืนกินทุกหยาดหยดที่เขาคนนั้นมอบให้

“อื้ม เป็นเด็กดีก็ได้นี่”

“มาต่อยกที่สองกัน”

คืนนั้นสนต้องเล่นเกมกบมิสเตอร์เคอีกครั้ง และเสียงครวญครางของสนก็ดังระงมไปทั้งคืนและเงียบหายไปในช่วงรุ่งสาง

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 23 สน กับ ต้น และ ชุดว่ายน้ำเจ้าปัญหา

เมื่อถึงรอบที่สี่ สนก็ต้องขอร้องให้คนที่ดูเหมือนพลังงานไม่มีวันหมดหยุดกิจกรรมไปก่อน น้ำฝนกลับไปแล้วตอนที่จบรอบที่สองเพราะพรุ่งนี้เธอยังมีเรื่องที่ต้องไปทำ ตอนนี้จึงเหลือแค่เขากับมิสเตอร์เคยนอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียง ในห้องของมิสเตอร์เค แค่เพียงสองคนเท่านั้น

“พอก่อนได้ไหมครับ เหมือนจะรับไม่ไหวแล้ว”

“เอ้ย ต้องบอกว่า พอก่อนได้ไหมคะ หนูไม่ไหวแล้วค่ะสินะครับ”สนแก้ไขคำพูดเพื่อทำให้เขาพอใจ

อีกฝ่ายยิ้มและหยุดทำกิจกรรมทันที

“อื้ม เรียนรู้ไวดีนี่”

เขาถอนอาวุธออกจากตัวของสนเพียงเท่านั้น แต่ก็ยังคงกอดสนแน่นเหมือนเดิม

และสิ่งที่เขาทำหลังจากนั้นก็ทำให้สนอุ่นวาบเข้าไปถึงหัวใจ เขาเอื้อมมือข้างที่ไม่ได้กอดขึ้นมาลูบหัวของสนอย่างเบามือและอ่อนละมุน

“นี่คุณ...”

แม้ว่าจะทำท่าเหมือนไม่ยอมแต่สนก็ไม่ได้ขัดขืนหรือฝืนตัวออก เขานอนร่างกายเปลือยเปล่าโดยมีไออุ่นจากคนที่อยู่ด้านหลังคอยส่งมาให้ลดทอนความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศ

อีกฝ่ายยังไม่หยุดแค่นั้นเขาขยับตัวเข้ามาแนบชิดมากกว่าเดินและเอาคางเกยหัวไว้จากด้านหลัง

น้ำตาค่อยๆ ไหลรินออกจากดวงตาคู่สวยของสนอย่างช้าๆ น้ำอุ่นๆ ไหลรดลงแขนที่เขาหนุนอยู่

เหมือนอีกฝ่ายรู้แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาได้แต่ลูบหัวอย่างเบามืออยู่อย่างนั้น

“ใจร้ายที่สุด”

“ทำไมคุณถึงทำกับผมแบบนี้ คุณทำลายชีวิตของผม คุณทำให้ผมต้อง...”

ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไร

“ผมสับสนเหลือเกิน”

“ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นปกติมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่ทำไมมันถึงทำให้ผมรู้สึกดี ทั้งๆ ที่ผมควรรู้สึกแย่ รู้สึกรังเกียจมัน ทำไมกัน” เสียงสะอื้นดังขึ้นมากกว่าเดิมพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมามากกว่าเดิม

วันพรุ่งนี้ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

“ผมเป็นของคุณแล้ว”

“จริงๆ เหรอ” เขาถามย้ำเหมือนไม่แน่ใจ

“ใช่” เสียงจากคนที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้น

“และคุณก็จะเป็นของผมทั้งตัวและหัวใจ”

สนนอนร้องไห้ต่อเงียบและผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

เขาตื่นขึ้นอีกครั้งตอนรุ่งสางภายใต้อ้อมแขนของคนที่จะเป็นเจ้าของเขา ตลอดไป



“อรุณสวัสดิ์” เจ้าของอ้อมแขนพูดขึ้น

“วันนี้ผมมีเรื่องให้คุณทำด้วยที่รัก ใส่ชุดที่ผมเตรียมให้ และเดี๋ยวหลังจากสอนเสร็จให้ไปเจอกันที่สระน้ำนะ” เขาพูดพร้อมเอามือหมุนวนไปที่ช่องท้องของสนเบาๆ

“โอเคครับ” สนตอบพร้อมค่อยๆ ลุกขึ้น แต่ก่อนที่จะลุกขึ้นไปเขาโน้มตัวลง และจูบไปที่ปากของมิสเตอร์เคเบาๆ

“ไปอาบน้ำก่อนนะครับ” และสนก็เดินออกไป





_______________________

การสอบดูจะเป็นงานที่หนักสำหรับต้น เพราะมาถึงตอนนี้เขายังจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

“อย่าเครียดไปต้น ก็แค่สอบท้ายบทเรียนเฉยๆ ไม่ได้คอขาดบาดตายขนาดนั้น” เก่งเดินเข้ามาตบไหล่ต้นเบาๆ เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขานั้นทำหน้าเครียดตอนทบทวนก่อนจะเข้าห้องสอบ

“ต้นทำได้อยู่แล้วน่า เราอ่านกันมาตั้งเยอะ” กริชหันมาให้กำลังใจ เพราะต้นจำได้เยอะมากแล้วจริงๆ

“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นน่ะ” ต้นยิ้มแหยๆ เพราะเขาจำไม่ได้จริงๆ

“ว่าแต่ต่อไม่อ่านหนังสือเหรอ” ต้นถามไปที่รูมเมทที่นั่งฮัมเพลงเบาๆ ระหว่างรอมิสเตอร์เคมาถึง

“ไม่จำเป็นเท่าไหร่หรอก ก็เขาไม่ได้สอนยากเท่าไหร่ จำได้ตั้งแต่ที่สอนเลยมั้ง ก็เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องอ่านน่ะ”

“จ๊ะ พ่อคนเก่ง” ทั้งสามประสานเสียงกันด้วยความหมั่นไส้

 _________________________________________________

และก็เป็นไปตามคาด ตอนบ่ายโมงตรง ต้นมายืนอยู่บริเวณหน้าทางเข้าสระว่ายน้ำของโรงเรียน เขาเดินเข้าไปด้วยความเซ็งสุดขีด เพราะเขาคืนคนที่ได้คะแนนน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้างที่ไม่ต้องไปล้างวันหยุดทั้งวัน ทำแค่ช่วงบ่ายสำหรับวันนี้ที่เลิกเร็วเท่านั้น

ต้นเดินเข้าไปด้านใน สระใหญ่ถูกสูบน้ำออกจนหมดในช่วงเช้า มองลงไปเห็นกระเบื้องสีฟ้า ในสระที่ทอดยาวนั้นเป็นเนินที่เอาไว้กำหนดความลึกในแต่ละช่วง ซึ่งส่วนปลายสุดของสระ มีความสูงแทบจะเป็นสองเท่าของต้น

“สวัสดีครับ มาทำความสะอาดสระหรือเปล่าเอ่ย”

“ชะ ใช่ครับ เอ้า ครูจิรายุ” ต้นเห็นครูหนุ่มหน้าตาดียืนรอทักทายเขาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

“พอดีเลยวันนี้ครูเป็นเวรดูแลสระน้ำพอดี จะได้มีคนช่วย”

“คะ..ครับ” ต้นรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะได้ทำความสะอาดคนเดียว

“มีอุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ด้านในนะ เธอไปหยิบออกมาหน่อยสิ เดี๋ยวครูจะไปเอาชุดสำหรับทำความสะอาดกับน้ำยาทำความสะอาดมาให้”

“โอเคครับ”

“ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะ” ครับหนุ่มถามพร้อมรอยยิ้ม ที่ดูอบอุ่นอาจเพราะหน้าตาที่น่ารักช่วยส่งเสริม

“ผม ติณวัฒน์ครับ หรือครูเรียกผมว่าต้นก็ได้”

ต้นเดินเข้าไปด้านในห้องเก็บของตามที่ครูบอกและพบกับถังทำความสะอาด เขาหิ้วออกมาสองถัง และพบว่าครูที่เดินมาจากอีกฝั่งถือชุดมาสองชุด



“เอ่อ ครูครับนี่มันชุดอะไรน่ะครับ” ต้นถามขึ้นเมื่อรับชุดมาพลิกดูแล้ว

“เอ้าก็ชุดสำหรับใส่ทำความสะอาดไง ครูไปขอมาจากคนดูแลสระเลยนะ”

“ผมว่ามันแปลกๆ นะครับ” ต้นคลี่ชุดออกให้ครูสนดู และพบว่ามันเป็นชุดว่ายน้ำแบบวันพีชของผู้หญิง โดยชุดของต้นเป็นชุดว่ายน้ำนักเรียนหญิงเนื้อหนาสีกรมท่า

“อืม จริงเหรอ” สนก็กางชุดของตัวเองดูเช่นกัน ของสนเป็นชุดว่ายน้ำวันพีชสีดำ แต่แตกต่างตรงของเขามีกระโปรงสั้นๆ ติดมาด้วยพร้อมแถบสีชมพูบนชุดเล็กน้อย

“หรือว่าเป็นยูนิฟอร์มของเขานะ แต่ช่างมันเถอะ รีบทำรีบกลับ” สนพูดพร้อมเดินเข้าไปยังห้องน้ำ

“อ่า. ครูครับ” ต้นจะเรียกแต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อครูเดินหายไปในห้องน้ำเสียก่อน

ต้นจำใจต้องเข้ามาเปลี่ยนชุดในห้องน้ำเช่นเดียวกัน เพราะในเมื่อครูใส่ชุดไปแล้ว ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ถ้าเขาจะใส่บ้าง เพราะคงจะดีกว่าถ้าชุดที่เขาใส่มาจะไม่เปียกน้ำ

กลิ่นของผ้ายืดที่เป็นเอกลักษณ์เตะจมูกของต้นขณะที่เขาสวมชุดลงบนตัว ชุดว่ายน้ำแนบกระชับตัวของต้นพอดี และเปิดเผยรูปร่างที่เป็นชายรวมไปถึงส่วนที่นูนทางด้านล่างด้วย

ต้นรู้สึกอายเมื่อมองตัวเองในกระจก ชุดว่ายน้ำที่รัดไปทุกสัดส่วนแนบชิดกับตัวพอดี แม้จะขัดๆ แต่ก็ยังพอดูได้ เขาเปิดประตูห้องน้ำออกมาพบกับครูสนกำลังจัดชุดตัวเองหน้ากระจกใหญ่

“เอ้าเสร็จแล้วเหรอ” ร่างสูงของชายหนุ่มที่บัดนี้ถูกปคลุมด้วยชุดว่ายน้ำติดกระโปรงแต่ด้วยใบหน้าที่ดูน่ารักก็ทำให้ดูกลมกลืนไปกับชุด ราวกับว่าเป็นการแต่งตัวรูปแบบหนึ่งของแฟชั่น เลยทีเดียว

“เสร็จแล้วครับ” ต้นตอบอย่างประหม่า รู้สึกเขินอายเมื่อมีคนอื่นเห็นเขาในสภาพนี้

หน้าของสนก็แดงระเรื่อไม่แพ้กัน เพราะเมื่อฟังคำสั่งจากมิสเตอร์เคแล้ว เขาก็ทำใจที่เตรียมจะเจอกับความอายในระดับหนึ่ง แต่เทียบไม่ได้เลยกับการที่ต้องได้มาแต่งชุดว่ายน้ำหญิงต่อหน้านักเรียนจริงๆ แม้ว่านักเรียนจะยอมใส่ชุดว่ายน้ำหญิงเหมือนกันก็ตาม

“ปะ รีบไปทำใหเสร็จกัน” สนรีบตัดบทก่อนที่เขาจะรู้สึกเขินอายจากการจ้องของต้นไปมากกว่านี้ เขาเดินนำออกมา โชคดีที่ของเขามีกระโปรง ไม่อย่างนั้นต้นจะต้องเห็นแน่นอนว่าแท่งเนื้อของเขามันนูนเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน



“ครูว่าเราราดน้ำยากันตรงที่ด้านบน แล้วปล่อยให้มันไหลงไปตามทางลาดดีไหม “

“ได้ครับ” ต้นเปิดปากขวดน้ำยาขัดพื้น ซึ่งเขาไม่เคยใช้มาก่อน

“เป็นน้ำยาพิเศษน่ะ ไม่ต้องแปลกใจหรอก เพราะถ้าใช้น้ำยาทั่วไปมันก็จะกัดเป็นอันตรายต่อผิวเราอีก” สนชี้แจงเพราะเห็นนักเรียนดูแปลกใจกับความเหนียวข้อของน้ำยาทำความสะอาด

น้ำยาถูกเทออกมาจนหมดทั้งสี่ขวด เมื่อเห็นว่ามันค่อยๆ ไหลไปจนทั่วบริเวณแล้ว ทั้งสองจึงเริ่มเอาแปรงออกมาขัด

เมื่อใส่ชุดไปได้สักพักความเขินอายที่มีต่อกันก็หมดลงไป ทั้งคู่ช่วยกันขัด จนได้ถึงครึ่งสระ

“โอ้ย ปวดหลังจัง” สนพูดขึ้นและลุกขึ้นบิดเอวเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่ามีอาการปวดจริงๆ

“ครูพักก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมขัดต่อเอง” นักเรียนในชุดว่ายน้ำสีกรมท่าพูดขณะนั่งยองๆ ขัดขอบข้างๆ เมื่ออยู่ในชุดว่ายน้ำ สนก็มองว่าบั้นท้ายของต้นที่นั่งยองๆ อ้าขาก็ดูดีไม่น้อย

“อืม จะว่าอะไรไหมถ้าครูขอแรงต้นหน่อยน่ะ ปวดแบบไม่ไหวจริงๆ”

“ได้ครับครู ให้ผมช่วยอะไรครับ”

สนนอนราบคว่ำหน้าลงกับพื้น

“ช่วยเอาเท้าเหยียบหลังให้ครูหน่อย เหยียบเบาๆ ระวังลื่นนะ”

“อะ โอเคครับครู”

ต้นเอามือพิงขอบสระ แล้วขึ้นเหยียบลงไปบนช่วงเอวและหลังตามคำขอของสนส่งผลให้เขาครางออกมาอย่างสุขสมในการแก้ความเมื่อยขบของเขา

“อืออ อืมมม ดีๆ” สนนอนหลับตาบนพื้น ชุดว่ายน้ำเปียกจากน้ำที่เหลือมาจนถึงครึ่งตัวของชุดว่ายน้ำ

“เหวอ”

“โอ้ยย”

ต้นเสียการทรงตัวล้มลงบนพื้น อย่างจัง

“ไหลๆ ครูพื้นมันลื่นนน” ต้นล้มและไหลไปตามความลาดชันของสระ และไปหยุดอยู่ที่ท้ายสระ

“อูยยยย”

“เป็นอะไรมากไหมต้น” สนลุกขึ้นและถามด้วยเสียงที่ดังเพราะความเป็นห่วง

“ไม่ค่อยเยอะครับ เจ็บที่ล้มนิดหน่อย แต่ครูระวังนะครับพื้นลื่นมากเลย”

สนค่อยๆ เดินไปจนถึงบริเวณที่ต้นอยู่

“ขอโทษทีนะ ก็ว่าระวังดีแล้ว มาๆ” สนยื่นมือให้ต้น ขณะที่สนกำลังออกแรงดึงต้นให้ลุกขึ้นนั่นเอง

“เฮ้ย ลื่นๆ”

“โอ้ยย” ทั้งสองล้มลงทับกันโดยมีสนอยู่ด้านบนตัวของต้น

“อูยยยย”

“ขอโทษนะต้น เดี๋ยวครูลุกก่อน เอ๊ะ อะไรมันเกี่ยวกันล่ะเนี่ย” สนขยับไปขยับมาบนตัวของต้น

“เหมือนชุดมันเกี่ยวกันเลย”

“คะ ครับครู อูยยย” เสียงของต้นแปลกไป เพราะตอนนี้ทั้งสองคนนอนประกอบกันอยู่ ท่ามกลางความลื่นและฟองจากน้ำยา ซึ่งนั่นยังไม่เท่าด้านล่าง ที่แท่งเนื้อของเขากำลังโดนบดเบียดจากครูที่ทับอยู่

“อ๊างง อ๊า คะ ครู ครับ ครูอย่าขยับเยอะ” ต้นร้องบอกสนเมื่อสนพยายามขยับตัวอยู่บนด้านบนตัวของเขา

“เธอเจ็บเหรอต้น ครูขอโทษนะ”

“มะ ไม่ได้เจ็บเท่าไหร่ครับ อือ อึ๊อ” สนขยับตัวอีกแล้ว

“ขอโทษนะต้น ครูไม่น่าเลยทำเธอเจ็บอีกแล้ว”

“ผมไม่ได้เจ็บครับครู เอางี้ครูพยายามแกะออกได้เลยครับ ไม่ต้องสนใจผม ผมไม่เป็นอะไร”

“แน่ใจนะต้น ครูกลัวเธอเจ็บจังเลย”

“เอาเลยครับครู” ต้นรู้สึกได้ถึงด้านล่างของเขากับครูสนที่ชนกันอยู่ แม้จะอยู่ภายใต้ชุดว่ายน้ำทั้งคู่ แต่ด้วยความรัดรูป มันก็ทำให้เหมือนกับว่า อวัยวะของทั้งคู่สัมผัสกันโดยตรง

“อ๊า อืออออออออ คะ ครู ครับ ใกล้จะออกหรือยัง” ต้นถามขณะที่สนยังคงขยับอยู่บนตัวเขา และทุกๆ การขยับเขยื้อน มันจะส่งความรู้สึกเสียวสะท้านให้เกิดขึ้นกับต้นเสมอ

“ใกล้แล้วๆ” เขาพูดพร้อมขยับตัวเร็วขึ้น

“อาห์ อูวววว อืมมมมมมม”

“ออกแล้วต้น”

สนสไลด์ตัวออกจากตัวของต้นได้สำเร็จ โดยที่ต้นยังคงนอนอยู่ที่เดิมด้วยการหอบหายใจที่รุนแรง

“ว่าแต่ไหลไปไหลมาบนพื้นที่มีฟองแบบนี้ก็สนุกดีเนอะ คิดถึงตอนเด็กๆ ขึ้นมาเลย”

“ฮ่ะๆ ๆ ผมไม่เคยเล่นหรอกครับครู แต่จะว่าไปก็น่าสนุกดี”

“ฮะ เฮ้ย ครู จะทำอะไรครับ” สนลุกขึ้นมายืนคร่อมร่างของต้น

“เอ้า ก็จะให้ลองดูว่าเล่นแบบนี้มันสุกยังไงไงล่ะ”

สนที่ตัวเต็มไปด้วยฟองก็นอนทาบลงไปบนตัวของต้น และเริ่มสไลด์ตัวขึ้นไปด้านบน จนเป้าของเขาแทบจะชนหน้าของต้น

“อุ้ยโทษทีลื่นไปหน่อย”

หลังจากนั้นเขาก็ไถลตัวกลับที่ที่เดิม เมื่อก้อนเนื้อทั้งสองไหลมาเสียดสีกันก็สร้างความรู้สึกให้เกิดขึ้นกับคนทั้งสอง

“ฮ๊ะ ฮู้ววว” ต้นพ่นลมหายใจออกมา

“เป็นไง ดีไหม”

“ดะ ดี ครัย ฮ๊า อูวว โอววว”

สนขยับก้นไถลขึ้นลง โดยจะเน้นขยี้เป็นพิเศษ เมื่อบริเวณความนูนของทั้งสองสัมผัสกัน และค่อยๆ เปลี่ยนจากการไถลขึ้นลงเป็นการบดคลึงโดยที่ต้นไม่รู้ตัว และสนทำมันเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“โอวว คะ ครู ครับ พะ พอ ก่อน”

“คะ ครู อึ๊กกก” ต้นตัวกระตุก โดยที่สนยังคงร่อนเอวอยู่ด้านบน เขาขยี้ตามอีกสามสี่ครั้ง จนตัวของต้นหายกระตุก

“เป็นอะไรหรือเปล่าต้น” สนแกล้งถามเมื่อเห็นต้นหยุดกระตุก

“เปล่า ครับครู มะ เมื่อกี้ผมเจ็บนิดหน่อย” ต้นแกล้งตบเป็นอย่างอื่น

“อืม เดี๋ยวจะเจ็บตัวกันเปล่าๆ เอาเป็นว่าเราพอแค่นี้ก่อนก็ได้ ก็ขัดกันไปเยอะแล้วล่ะเนาะ”

“แบบนั้นก็ได้ครับ”

ทั้งสองช่วยกันพยุงตัวลุกขึ้น โดยที่ต้นมีท่าทางอิดโรยเล็กน้อย ขาอ่อนแรงอันเกิดมาจากการเสร็จสมอย่างไม่ตั้งใจเมื่อครู่

“ไหวไหมต้น”

“ได้อยู่ครับครู”

ต้นเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ โดยที่สนยังไม่ได้ตามเข้าไป เพราะบอกว่าจะเก็บอุปกรณ์ให้

“ทำงานได้ดีนี่นา” คนที่เดินเข้ามาพูดชมเชยจนสนหน้าแดงเรื่อด้วยความอาย

“รู้ไหมว่าเรื่องนี้ถ้าคนอื่นรู้ นี่เรื่องใหญ่แน่ๆ”

“ใช่ แต่ไม่มีใครรู้หรอก” มิสเตอร์เคเดินเข้ามาประชิด

“ว่าแต่เสร็จไหม”

“เสร็จสิเสร็จแรงด้วยนะ หน้าเขาตอนเสร็จก็น่ารักอย่างที่คุณว่าจริงๆ” สนตอบโดยที่ไม่ได้หันไปมองด้านหลัง

“ไม่ใช่ ผมถามว่าคุณน่ะเสร็จหรือเปล่า”

“ไม่นะ ก็เกือบๆ” มือของมิสเตอร์เคลูบไปที่ใต้กระโปรงของชุดว่ายน้ำของสน

“อยากเสร็จในชุดว่ายน้ำหญิงไหม” มิสเตอร์เคถามพร้อมรอยยิ้ม

สนกัดริมฝีปาก และเดินนำเข้าไปในห้องน้ำ



ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 24 การแสดงละครของเด็กใหม่

“อืมม วันนี้ทำไมดูร้อนแรงผิดปกติ” มิสเตอร์เคถามคนที่อยู่ด้านหน้า

ร่างบางสูงที่อยู่ภายใต้ชุดว่ายน้ำผู้หญิง กำลังขยับเอวเข้าและออกด้วยตัวเองเพื่อสนองความรู้สึกส่วนลึกภายใน

“อา อืมม กะ ก็ เด็กคนนั้นเสร็จแต่หนูยังไม่เสร็จนี่ อะ อ๊าวว” แรงกระแทกมากขึ้นเหมือนต้องการจะแกล้งเขา

“เดี๋ยวนี้พูดได้คล่องปากแล้วนี่” ร่างด้านหลังที่โน้มตัวลงมาแนบชิดให้อีกฝ่ายและเอาแขนสองข้างโอบให้แนบกระชิดมากขึ้นกว่าเดิม เขาลูบไล้ผ่านสัมผัสของชุดว่ายน้ำ ส่งกระแสความรู้สึกให้แก่คนด้านหน้า เพราะรู้อยู่แล้วว่าสน

“อึ๋ยยย อี้อออ” คนด้านหน้าร่างอ่อนระทวยทรงตัวแทบไม่อยู่ คนด้านหลังได้จังหวะจึงเร่งกระแทกด้วยความเร็วและแรง โดยหวังให้คนด้านหน้าได้เสร็จสมตามอารมณ์

“โอววว อะ โอววว ปะ แปบนึง เดี๋ยวก่อน อ๊า อ๊า อ๊า” ร่างบางพยายามจะร้องห้าม แต่ต้านทานแรงที่ส่งมาไม่ไหวอีกต่อไป อาการเกร็งมาถึงขีดสุด ร่างบางกระตุก กึก กึก แท่งเนื้อเกร็งพร้อมพ่นน้ำออกมาอย่างมหาศาล

มิสเตอร์เครอให้สนหยุดเกร็งและสงบลง ร่างบางหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน

“นี่คุณยังไม่พอใช่ไหม”

“ก็ยังไม่เสร็จนี่”

“พอก่อนไหมเดี๋ยวต้นได้ยิน”

“เมื่อกี้ผมเห็นเขาเดินกลับออกไปแล้ว แต่ก็นั่นแหละ เห็นแล้วจะทำไมเหรอ” เขากระเซ้าด้วยการขยับก้นส่งแรงกระแทกไปสามสี่ครั้ง

“อึ๋ยยยย อย่าลึก จุกก” เสียงขอร้องของสนทำให้มิสเตอร์เคหัวเราะออกมาเบาๆ

มิสเตอร์เคกอดร่างของสนเอาไว้ และอุ้มตัวลอยออกมาโดยที่อวัยวะยังไม่หลุดออกจากตัวสน

“เดี๋ยวๆ นี่จะ ทำอะไร อย่านะ อย่า”

“เมื่อเช้าอารมณ์ค้างไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวจะพาออกไปเล่นน้ำข้างนอกไง” เขาพาสนออกมาจนถึงบริเวณสระ แม้ว่าอีกฝ่ายจะดูเหมือนขัดขืนแต่ก็ไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเพราะจุก หรือเพราะชอบโชว์กันแน่

“ไม่เอา อายเค้า อย่าน้า ไม่อาว โอววว โอย จุก” ไม่แค่อุ้มออกมาอย่างเดียว คนที่แข็งแรงกว่าก็ขยับเอวเป็นจังหวะส่งอวัยวะที่มีความยาวพอประมาณ เข้าไปจนลึกสุดความยาว

“ฮ๊า ไม่นะ อย่าทำแบบนี้ อายไม่ไหวแล้ววว” สนถูกอ้มมาจนถึงกลางสระที่แห้งขอด ขาสองข้างถูกจับแยกออกจากกัน โดยมีมิสเตอร์เคนอนรองอยู่ด้านล่าง ชุดว่ายน้ำที่แหวกออกเปิดเผยให้เห็นสนน้อยที่ผงาดชูชันแม้ว่าจะผ่านการเสร็จอย่างหนักหน่วงมาก่อนหน้านี้แล้ว น้ำจากการเสร็จสม เคลือบอวัยวะจนเห็นมันเป็นเงางาม ส่วนด้านล่างเป็นช่องทางที่ตอนนี้ขยายและมีแท่งเนื้ออีกแท่งอัดเข้าไปอยู่เต็มช่องทางนั้น

สนถูกจับอ้าขา และสองมือที่ว่างอยู่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปปิดตรงส่วนไหน ระหว่างหน้ากับด้านล่าง เขาอายมากกว่าครั้งไหนๆ เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาอยู่ในสภาพที่ใส่ชุดว่ายน้ำหญิง และโชว์ของลับไปพร้อมๆ กับการถูกทะลวงด้านหลังเช่นนี้

“ไม่ชอบเหรอแบบนี้” เขาพูดโดยเริ่มขยับก้นขึ้นลงอีกครั้งโดยที่สนที่ถูกจับให้อยู่ในสภาพนี้ไม่สามารถขัดขืนได้

สนไม่ได้ตอบอะไรนอกจากการระบายความอึดอัดและความเสียวซ่านโดยการครางออกมา หงิงๆ เพราะแม้จะอับอาย แต่เขาก็รู้สึกสุขสมและสะใจไปพร้อมๆ กันที่โดนทำแบบนี้กลางแจ้ง

“ไม่น่าจะใช่ เพราะแข็งขนาดนี้แสดงว่าก็ชอบไม่น้อยเหมือนกันนั่นแหละ” เขาหอบออกมาเล็กน้อย เพราะต้องเร่งจังหวะไปด้วย

“โอววว อูยยย จะถึงอีกแล้ว ฮ๊า จะถึง จะถึง อึ๊กกกกก” สนตัวกระตุกอีกครั้งในสภาพขากางน้ำจากตรงนั้นพุ่งสูงออกมาเป็นสาย บางส่วนเคลือบลงมาอาบลำเจิ่งนองลงไปด้านล่าง

ฝ่ายมิสเตอร์เคเร่งแรงอีกสี่ห้าครั้งก็คำรามออกมาเบาๆ เสร็จสมตามไปในเวลาไม่นาน ปลดปล่อยของเหลวอุ่นๆ เข้าไปในตัวของสน

ทั้งสองนอนหอบหายใจอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีแรงที่จะลุกขึ้น

“รู้สึกดีหรือเปล่า”

“คนบ้า อายจะตายอยู่แล้ว”

ภาพทั้งหมดถูกเห็นโดยต้นที่ยังไม่ได้ไปไหนไกลจากบริเวณนั้น หลังจากที่เขาไปเปลี่ยนชุดและซักชุดว่ายน้ำเพื่อคืนสระว่ายน้ำแล้ว เขาได้ยินเสียงแปลกๆ จากในห้องน้ำ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาทำตัวไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาทำอะไรกันในบริเวณโรงเรียนอย่างนี้ ราวกับละครรักวัยรุ่นหลายๆ เรื่อง

การแอบดูภาพที่เกิดขึ้นสดๆ ด้วยความระทึกใจทำให้ต้นถึงกับใจสั่น หน้าแดง และตื่นเต้นจนขนลุก เขาไม่คิดว่าครูทั้งสองจะแอบมาทำอะไรกันในที่อย่างนี้ เขาหอบหายใจจากความตื่นเต้น และด้านล่างของเขามันแข็งตัวจนแทบจะยืนตัวตรงไม่ได้ เขาแอบดูจนคนทั้งสองนั้น ช่วยกันประคองกันลุกขึ้น ครูสนเขย่งตัวขึ้นไปจูบคนตัวสูง และทั้งสองก็เดินเข้าไปในอาคาร ต้นเดินกลับหอด้วยความรู้สึกหลายอย่างภายในจิตใจ



______________________________________

การเปิดเทอมอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นแล้ว

ผ่านจากการกล่าวต้อนรับจาก ผอ. ในช่วงเช้าแล้ว วันนี้จะว่าไปก็แทบจะไม่มีเรียนเลยในแต่ละวิชา เพราะยังต้องเป็นการแนะนำกระบวนวิชาต่างๆ เสียก่อน คนที่คุ้นเคยจากการเรียนปรับพื้นฐานก็ทยอยเข้ามาตามตารางของตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าที่ต้นรู้จักเป็นอย่างดีที่สุด น่าจะเป็น ครูเคที่สอนเคมี และครูสนสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งวันนี้ต้นรู้สึกได้ว่าครูสนมีอาการแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เพราะในบางครั้งครูก็เกิดอาการชะงักและพูดติดๆ ขัดราวกับประหม่านักเรียน

เนื่องจากต้องจัดห้องตามสายการเรียน เพราะฉะนั้น กลุ่มที่ค่อนข้างสนิทกันอยู่แล้วจากการเรียนปรับพื้นฐาน จึงได้อยู่ในห้องเดียวกันทั้งหมด ทั้ง ต้น ต่อ กริช เก่ง รวมไปถึงเพื่อนๆ อีกสามสี่คนที่ต้นยังไม่ได้ไปทำความรู้จัก ซึ่งทั้งหมดได้เข้ามาอยู่ด้วยกันที่ห้อง 5/4

ตลอดครึ่งเช้า ก็เป็นการทักทายกันตามประสาเพื่อนใหม่ ต้นพบว่าในห้องค่อนข้างอยู่กันเป็นกลุ่มก้อนพอสมควร มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยุ่อย่างอิสระ ไม่ได้ไปไหนมาไหนกับกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเขาได้มาจากโอ้ หนุ่มแว่นตี้ผู้พูดเป็นต่อยหอยไม่หยุดตั้งแต่เจอกัน และพยายามจะเข้ามาตีสนิทกับต้น

“พวกนายเพิ่งเข้ามาใหม่คงไม่รู้เรื่องนี้สินะ”

“เรื่องอะไรเหรอ” ต้นถามตาโตด้วยความสนใจ

“มันน่ากลัวนะ จะเล่าดีไหม” โอ้ทำท่ายียวน

“ไม่เล่าแล้วจะพูดหาหอกอะไรเล่า” กริชแทรกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ทั้งเขา ต้น เก่ง เริ่มทำความรู้จักกับคนทั้งห้องได้ประมาณหนึ่งแล้ว เว้นไว้แต่ต่อที่ไม่ค่อยจะสุงสิงกับใครเท่าไหร่ ได้แต่นั่งหน้าบูดมาทั้งเช้า

“เล่าก็เล่า ทุกๆ เทอม เราจะสามารถย้ายหอนอนได้ ซึ่งมีหอหนึ่งที่ค่อนข้างน่ากลัว และไม่ควรที่จะย้ายเข้าไปอย่างเด็ดขาด ไม่สิ แค่เดินผ่านยังยากเลย”

“เว่อร์ไปมั้ง” เก่งพูดขึ้นอย่างไม่เชื่อ

“นั่นไง ทุกคนเขาก็พูดแบบนี้”

“แล้วมันมีอะไรเหรอ” ต้นยังคงถามต่อเป็นเจ้าหนูจำไม

“ที่นั่นน่ะเป็นศูนย์รวมของเหล่าพี่สาวทั้งหลายในโรงเรียนยังไงล่ะ”

“พี่สาวเหรอ”

“เอ่อสิ คนที่ใส่ชุดนักเรียนหญิงทั้งหลายนั่นแหละ เห็นว่าเพื่อไม่ให้อยู่ปนกันตัดปัญหาการใช้ชีวิตลำบาก กับการแอบไปมีอะไรกันในห้อง”

“แล้วมันน่ากลัวยังไง” เก่งถามขึ้น

“ความน่ากลัวของมันคือ มันจะมีกลุ่มเพื่อนรักนักขุดทองแอบซุ่มอยู่แถวนั้น ใครเดินไปเดี่ยวๆ คนเดียวถูกลากขึ้นห้องไประเบิดถ้ำทองนะเว้ย”

“น่ากลัวไหมล่า” คนเล่าทำเสียงเยือกเย็น

“โวะ ไร้สาระ” กริชทำหน้าเอือมระอา

“มันผิดกฎหมายนะนั่น ไม่โดนไล่ออกกันเหรอ” เก่งถามด้วยสีหน้าที่ไม่เชื่อ

“เรื่องเล่าตลกดีเนอะ” ต้นหัวเราะออกมาเบาๆ

“เอ่อๆ ไม่เชื่อก็แล้วไป ขอให้เจอกับตัวเถอะ”

วงสนทนายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งม.6 ในชุดนักเรียนหญิงและชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง เสียงสนทนาในห้องหยุดชะงักลงในทันที

“สวัสดีน้องๆ นะคะ พี่มาจากสภานักเรียน จะมาแจ้งเรื่อง ละครน้องใหม่ เป็นธรรมเนียมของทุกปีที่นักเรียนเข้าใหม่โดยเฉพาะม.ปลาย จะต้องแสดงละครเพื่อแสดงถึงความสามัคคีกันในหมู่คณะ” รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น

“หือ ละครอะไรเหรอพี่” กริชที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ถามขึ้น

“จะหัวข้ออะไรก็ได้ ซึ่งจะต้องเป็นเด็กใหม่ทั้งหมด จริงๆ แล้วเป็นของ ม.4 แต่ม.5 ที่เข้ามาใหม่ก็ต้องแสดงด้วยค่ะ”

“เนื่องจากน้องๆ ม.5 ปีนี้เข้ามาเยอะ ละครจึงแบ่งเป็น 11 เรื่อง โดยเป็น ม.4 10 ห้อง และม.5 รวมกันเป็น 1 เรื่องนะคะ”

“ค่ำคืนแห่งการแสดงจะเริ่มในอีก 3 สัปดาห์ต่อจากนี้ขอให้น้องๆ เตรียมตัวกันให้พร้อม” รุ่นพี่ผู้ชายอีกคนพูดเสริม คนนี้ทั้งขาวสูงและดูบุคลิกภาพดีมาก

“อีกอย่างขอให้ร่างบทละครให้เสร็จกันในอาทิตย์แรกและนำไปส่งที่สภานะคะ เพื่อที่ทางสภาจะได้หาชุดที่ใช้ในการแสดง และอุปกรณ์ประกอบฉากให้ได้ทัน”

“หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อได้ที่ห้องสภาค่ะ”

และรุ่นพี่ทั้งหมดก็ทยอยเดินออกไป



เสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นในห้องอีกครั้ง

“อยู่ดีๆ ก็มีเรื่องลำบากแล้วไงล่ะ” กริชเปิดประเด็น

“ปีที่แล้วเป็นไงมั่งล่ะแก” เก่งถามโจ้ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

“เหอๆ เละเป็นโจ๊ก หัวหน้าห้องแกจะทำสโนว์ไวท์ แล้วแกเล่นเองด้วยนะ โคตรดูไม่จืด แต่ก็ดีที่ตลก”

“ใครว่าตลก! ” คิงหัวหน้าห้องที่เป็นสาวประเภทสองร่างถึกบึกบึนร้องขัดขึ้นมา

“อึ๋ย ไม่ได้ว่าอะไรเจ๊แหม่มเลยคร้าบบบ แอ๊ก ค่อกก” คิงหรือที่เพื่อนๆ เรียกว่าเจ๊แหม่มเดินเข้ามารัดคอเพื่อนด้วยกำลังมหาศาล

“ไม่มีอะไรหรอกพวกเธอ ทำกันขำๆ ว่าแต่สนใจไหมล่ะชุดยังมีอยู่ กริชหรือต้น แต่งเป็นสโนว์ไวท์ ก็น่าจะเหมาะอยู่นะ เดี๋ยวเจ๊ช่วย”

ทั้งสองรีบส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธเป็นพลันวัน และพากันชี้ไปที่โอ้ที่กำหน้าหน้าเขียวจากการโดนรัดคอ



กลุ่มของม.5 เฉพาะน้องใหม่ มารวมตัวกันใต้ตึก เพื่อที่จะหารือกันในเรื่องการแสดงละคร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด เพราะ ทั้ง 17 คนต่างมีแนวคิดที่แตกต่างกัน เหล่าชายหนุ่มที่เข้ามาทั้งหมดไม่มีใครที่เป็นเพศทางเลือกเลยแม้แต่คนเดียว การเลือกเรื่องละครที่มีตัวเอกหญิง จึงไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้โดยง่าย แต่ก็มีคนหัวใส คิดแนวเรื่องที่ใช้ผู้ชายหมดขึ้นมาได้

“เฮ้ย พาวเวอร์เรนเจอร์ไปสิพวกเรา ขบวนการห้าสีน่ะ แล้วก็ทำฉากแอ๊กชั่นมันส์ๆ ไปเลย”

“เอาเรื่องง่ายๆ อย่างสโนว์ไวท์ก็ได้นะ คนแคระเจ็ดคนด้วย แต่งหญิงแค่สองคนเองคือ นางเอกกับแม่มด” กริชพูดขึ้นเพราะได้ไอเดียจากหัวหน้าห้องมา

“งั้นแกกับเพื่อนแต่งหญิงนะเว้ย ความคิดแก” เด็กจากห้องจีนคนหนึ่งพูดแย้ง

“จับสลากเอาสิ ไม่งั้นก็ไม่แฟร์” เก่งเข้ามาแทรกเพราะบรรยากาศเริ่มดุเดือด

“อย่าเถียงกันเลยนะกริช เก่ง เดี๋ยวเราเป็นก็ได้ จะได้จบ” ต้นสายสันติเข้ามาห้าม

“ไม่เอาเหอะ แบบนี้ไม่แฟร์”

“งั้นโหวตกันเลย อันไหนชนะก็ค่อยว่ากัน” เพื่อยุติความบาดหมางการใช้เสียงส่วนมากจึงเข้ามาแก้ปัญหา แต่มีร่างหนึ่งลุกขึ้นยืนกลางวงสนทนา และตั้งท่าจะเดินออกจากกลุ่มไป

“นั่นแกจะไปไหน”

“ไปไหนก็ได้ไหมล่ะ ขี้เกียจฟังเรื่องไร้สาระ” คนที่โดนถามหันมาตอบอย่างเอาเรื่อง ส่งผลให้คนทั้งวงสะดุ้งโหยง

“จะไปก็ได้ แต่แกได้บทไหนก็ต้องเล่นนะเว้ย”

“เอ่อ ถ้าแกกล้าก็จัดมา” คำพูดที่เต็มไปด้วยรังสีอำมหิตอย่างรุนแรงถูกทิ้งไว้กลางวง และร่างสูงก็เดินหันหลังออกไป การแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งสร้างความตกตะลึงให้กับรูมเมททั้งสองเช่นกัน ต้นกับกริชหันมามองหน้ากัน

การลงคะแนนเสียงเริ่มขึ้น โดยมีหัวข้อคือ เรื่อง พาวเวอร์เรนเจอร์ กับ สโนวไวท์ เรื่องไหนกันแน่ที่จะได้ใช้ในการแสดง ทุกคนหลับตาโดย มีหนึ่งคนเป็นคนยืนจดคะแนนเพราะเมื่อต่อออกไปคนกลายเป็นจำนวนคู่ เพื่อไม่ให้มีการเสมอจึงให้หนึ่งคนกลายเป็นคนจดคะแนน

“ใครโหวตสโนว์ไวท์ “

“ใครโหวตพาวเวอร์เรนเจอร์ยกมือขึ้น”

“ทุกคนลืมตา”

“เรื่องที่ชนะ คือ..........”





ปล.1 เอ๊ะ! อยากให้เรื่องไหนชนะกันนะ

ปล.2 ใกล้จะจบบทที่ 1 แล้วนะครับ อีกไม่เกิน 8 ตอน ซึ่งผมเองอาจต้องไปทำวิทยานิพนธ์ ป.โทให้จบก่อน ถึงจะได้กลับมาต่ออีกที เพราะงั้นเลยจะรีบจบบทที่ 1 ก่อน จะได้ไม่ค้างคากันครับ เข้ามาพูดคุยได้นะครับ ทุกรีวิว ทุกกำลังใจเป็นแรงผลักดันให้แต่งต่อได้เร็วมากๆ เลย

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามให้กำลังใจกันครับ เข้ามาพูดคุยกันบ่อยๆนะ กิกิ







CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 25 การแบ่งบทการแสดง

“เรื่องที่ชนะ คือ..........”

“พาวเวอร์เรนเจอร์ หรือขบวนการ 5 สี ด้วยคะแนน 12 ต่อ 3 จ้า”

สิ้นเสียงประกาศทุกคนก็คุยกันเสียงเซ็งแซ่ กริชหันหน้ามาถามพรรคพวก

“พวกนายเลือกอะไรกันเนี่ย”

“เราก็เลือกสโนวไวท์ไง” เก่งตอบเสียงเรียบๆ

“แต่เราเลือก 5 สี ไปน่ะแฮ่ๆ” ต้นยิ้มเจื่อนๆ

“เอ๊า ทำไมไม่ช่วยกันโหวตเลยเล่า”

“ก็ไม่อยากแต่งหญิงง่ะ มันน่าอาย” กริชไม่ได้ว่าอะไรเพราะเมื่อเห็นหน้าต้นแล้วก็โกรธไม่ลง

คนที่เป็นคนนับคะแนนพูดขึ้นอีกครั้ง

“เอ้า เรามาแบ่งงานกันดีกว่า เริ่มจากใครจะเป็นคนเขียนบท”

มีหนึ่งคนในนั้นยกมือขึ้นอาสา

“ดีมาก ต่อไปก็คือรอบทเสร็จในวันพรุ่งนี้เราจึงจะมาแบ่งหน้าที่กัน แต่ว่าบทหลักๆ เราก็ยังสามารถแบ่งกันได้ นั่นคือ ตัวเอก ห้าตัวคือ สีแดง ฟ้า ดำ เหลือง ชมพู ซึ่งบทเหลืองกับชมพูเป็นผู้หญิง”

“แล้วทำไมไม่เป็นผู้ชายห้าไปเลยล่ะ”

“ไม่งั้นมันดูไม่สนุกไง มันต้องมีสีหวานๆ บ้าง” คนที่เขียนบทแย้งขึ้น

“โอเค มีใครจะอาสาเล่นบทไหนบ้าง”

มีคนยกมือขึ้นห้า คน

“ฉันเอาสีแดง”

“เราสีแดง”

“เราฟ้า”

“เราสีดำ”

เสียงอาสาดังขึ้นอื้ออึง เมื่อการตกลงสิ้นสุดก็ได้บทครบทั้งสามสี คือ แดง ดำ ฟ้า และคนที่เล่นเป็นตัวร้ายเหลืออยู่สองบทที่ไม่มีใครอาสา

“เหลืออยู่สองบทแล้ว มีใครจะอาสาไหม จะได้แยกย้ายกัน”

ทุกคนที่คุยกันอยู่เงียบลงทันที ได้แต่ส่งสายตาไปมาหากัน ความอึดอัดเริ่มเข้ามาเยือนเหล่าชายหนุ่มทั้งหลาย จนต้องมีผู้ที่ขึ้นมาทำลายความเงียบ

“เหลือ ห้องวิทย์คณิตยังไม่มีใครได้แสดงเลยนะ”

“คนนี้ไหมล่ะ เมื่อกี้เขายังอาสาแต่งเป็นสโนไวท์ได้เลย” มีหนึ่งคนชี้มาทางต้น

“มะ..ไม่เอาหรอก เมื่อกี้มันในเงื่อนไขที่ว่าเป็นเรื่องสโนว์ไวท์นี่ อันนี้ไม่เกี่ยว” ต้นปฏิเสธพัลวัน

“แล้วยังไงต่อทีนี้”

“ก็เหลือแต่ห้องวิทย์นี่แหละ ที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ คนก็เยอะกว่าด้วย”

ทันใดนั้นร่างสูงร่างหนึ่งก็ยืนขึ้น ต่อนั่นเอง เขาทำหน้าไม่สบอารมณ์มาได้พักใหญ่ๆแล้ว และเขาก็หันหลังและเดินออกไป

“เฮ้ยนาย จะไปไหนล่ะ ประชุมยังไม่เสร็จเลย”

“แล้วยังไงต่อ พวกแกก็ประชุมกันต่อไปสิ ขี้เกียจจะฟัง เรื่องไร้สาระนี่เต็มแก่แล้ว”

“ถ้าออกไปก่อนเราเอาบทอะไรให้นายก็ต้องเอานะเว้ย”

“ก็เอามาดิ” ต่อพูดอย่างเอาเรื่องและหันหลังออกไปอย่างไม่สนใจไยดี

วงสนทนาหยุดลงชั่วครู่ แต่ยังไม่มีใครอาสาตัวเช่นเดิม

“ไม่รู้ล่ะ ยังไงห้องวิทย์ก็ต้องรับไป เสียสละหน่อย! ”

“เฮ้ยมันไม่แฟร์นะ พวกนายเลือกกันก่อนหมดแล้ว แล้วจะมาบอกให้ฝั่งนี้รับผิดชอบเนี่ยนะ” กริชเริ่มมีอารมณ์

“เอ้า ก็แล้วพวกนายทำไมไม่รีบยกมือก่อนล่ะ จริงๆ ก็กะว่าจะปล่อยให้คนอื่นเลือกไปให้หมดใช่ไหมล่ะ พวกห้องวิทย์ก็งี้แหละ มีแต่สมองแต่ไม่มีความเสียสละ”

“ว่างี้ก็ไม่ถูกนะ” เพื่อนในห้องวิทย์อีกคนเข้ามาเสริม

“งั้นก็รับไปนั่นแหละ”

“ให้คนที่เดินออกไปนั่นบทหนึ่ง เพราะเขาก็บอกเองว่า เอาไปได้เลย” เสียงคนที่เหลือก็สนับสนุนแนวคิดนี้เซ็งแซ่ อาจเป้นเพราะตัวเองไม่อยากเป็นหรือว่าต้องการกลับห้องเร็วๆ ก็เป็นได้

“เอ่อดี งั้นตามนั้นแหละหาอีกคนก็พอ” เด็กที่อยู่ฝั่งห้องศิลป์เข้ามาเสริมอย่างเร็ว

“เอ่อ ทุกคนเดี๋ยวเรารับเองก็ได้” ต้นทะลุกลางปล้อง ทำให้ทุกคนที่กำลังเถียงอยู่เงียบลง

ต้นพูดต่อ

“สำหรับต่อ เดี๋ยวเรารับผิดชอบให้ก็แล้วกันนะ”

“อื้อ ก็ตามนั้น พวกนายก็หาอีกคนมาก็แล้วกัน”

“เดี๋ยวฉันเอง” กริชอาสาขึ้นมาเป็นเพื่อนต้น

“แค่นี้ก็จบ”

วงสนทนายุติลงและทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พัก เพื่อที่จะได้พักผ่อนกันก่อนที่จะไปเรียนต่อในวันพรุ่งนี้



“โอ้ย หงุดหงิดจริงๆ” กริชระบาบอารมณ์ตอนที่เขากินข้าวอยู่กับเพื่อน

“น่าๆ ไม่เป็นไรหรอกกริช แค่นี้เอง” ต้นพยายามจะช่วยให้เพื่อนหายจากอาการหัวร้อน

“เห้อ ไอ้ต่อแม่งไม่น่าเลย”

“อื้อ ช่างเขาเถอะ”

“จริง ต้นก็ไม่น่าไปรับให้ต่อเลยนะ เขาควรจะรู้การอยู่ในสังคมบ้าง” เก่งพูดเสริมเพราะไม่เห้นด้วยในพฤติกรรมของต่อเช่นเดียวกัน

“ไม่รู้สิ เห็นช่วงนี้เขาเครียดๆ น่ะ เลยคิดว่าน่าจะมีเรื่องไม่สบายใจ”

“อะไรช่วยได้ก็ช่วยกันเนาะ เพื่อนกันนี่”

“จ้าๆ พ่อคนดี พ่อพ่อพระ” กริชและเก่งพูดพร้อมกันอย่างเอือมระอาในความละเลงลาเวนเดอร์ของต้น

_________________

“นี่มันชุดอะไรเนี่ย” สนถามเมื่ออีกฝ่ายยื่นชุดมาให้ มันเป็นกางเกงสีกรมท่าตัวเล็กๆ และชุดว่ายน้ำสีเดียวกัน

“แล้วน้ำฝนเธอใส่ชุดอะไรเนี่ย” สนหันไปถามน้ำฝนที่ตอนนี้ใส่ชุดผ้ายืดสีฟ้าที่ปกคลุมไปทั้งตัวยกเว้นส่วนหัว เมื่อสังเกตดีๆ จะเห็นว่าทั้งชุดเป็นผ้ายืดชนิดเดียวกัน ต่อกันเป็นชิ้นเดียว ผ้ายืดนั้นรัดรึงไปทั่วร่างกายของน้ำฝนจนดูคล้ายกับร่างที่เปลือยเปล่า เพียงแต่ว่าผิวนั้นเป็นผ้าเท่านั้น ชุดนั้นโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งของน้ำฝนได้เป็นอย่างดี สามารถมองเห็นหัวของหน้าอกคัพบีได้อย่างชัดเจน

“อันนี้เรียกว่าผ้ายืดสแปนเดก คล้ายๆ ชุดว่ายน้ำที่คุณใส่เมื่อวานนั่นแหละ” มิสเตอร์เคที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พูดกับสน

“ลองใส่ดูสิ”

สนถอดชุดทำงานออก เปิดเผยด้านล่างที่เป็นกางเกงในผู้หญิงกับถุงน่องเอาที่ใส่เอาไว้ตั้งแต่ตอนเช้า หากมองดีๆ จะเห็นเส้นเอ็นเล็กๆ ลอดออกมาจากขอบกางเกงในเป็นสายที่เอาไว้ดึงไข่สั่นไร้สายออกตาช่องทางด้านหลังนั่นเอง โดยมิสเตอร์เคนั้นให้เหตุผลว่าควรใส่ถุงน่องเพื่อความเรียบร้อย ซึ่งเขาก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เขาถอดถุงน่องและใส่กางเกงผ้ายืดขายาวเข้าไปก่อน

กางเกงมันยืดรักขาของสนพอดิบพอดี ความยืดและแรงรัดพอดีทำให้สนรู้สึกแปลกๆ เขาขยับขาเหวี่ยงไปมาและจบด้วยการยืนขาชิด เมื่อเนื้อผ้าเสียดสีกันมันทำให้เขารู้สึกแปลกๆ แต่ก็รู้สึกดีอย่างประหลาด

“เป็นไงบ้าง”

“มัน แปลกๆ” สนพูดพร้อมทำขาดุ๊กดิ๊กๆ

“ฮ่าๆ ๆ ๆ”

สนใส่ชุดว่ายน้ำต่อ เขาเริ่มชินกับการใส่แบบนี้แล้ว ชุดว่ายน้ำแนบกระชับไปกับเรือนร่าง ดูเหมาะสมไม่น้อยเพียงแต่สนไม่มีส่วนที่เป็นหน้าอก กับด้านล่างที่นูนออกมาจากเครื่องเพศชาย

“ต่อไป จะต้องใส่กางเกงแบบนี้ทุกวันนะให้ใส่แทนกางเกงปกติไปเลย”

“ไม่ค่อยสบายเลยอ่ะไม่เอาได้หรือเปล่า”

อีกฝ่ายเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉยทันที

“กะ..ก็ได้” หลังจากที่กางเกงในทั้งหมดถูกเปลี่ยนไปแล้ว ต่อไปกางเกงทั้งหมดในตู้ที่เอาไว้ใส่ไปทำกิจกรรมต่างๆ ก็คงจะถูกเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งสนได้แต่คิดในใจว่า ก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่จะเหลือชุดดีๆ ใส่ต่อหน้าคนอื่นหรือเปล่านี่สิ

“กำลังคิดว่าจะเหลือชุดปกติใส่อยู่ไหมล่ะสิ” เขาพูดราวกับรู้ความในใจ

“ไม่ต้องแปลกใจหรอก เพราะจะอยากหรือไม่อยากคุณก็ไม่ใช่ผู้เลือกอยู่แล้ว” เขาพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ อย่างพึงพอใจ

“ใช่สิ และยิ่งฝืนใจมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งชอบใช่ไหมล่ะ”

“โอ้ เก่งมาก เรียนรู้ได้ไว” น้ำฝนที่ยืนอยู่ข้างๆ ปรบมือแปะๆ

“แล้ววันนี้จะให้ผมทำอะไรล่ะ” สนเตรียมพร้อมเข้ารับการถูกกลั่นแกล้งแล้ว เขาเริ่มชินชากับมัน แม้ไม่ได้ชอบ แต่ก็รู้สึกเหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว

“อึ๊อ อ๊า อืมมมมม”

“แล้วไม่อยากให้ผมถอดที่อยู่ด้านหลังออกก่อนเหรอ” แรงสั่นสะเทือนทางด้านหลังสร้างความสั่นสะท้าน และเสียวเสียดแทงไปจนถึงแท่งเนื้อทางด้านหน้าจนสนแทบยืนไม่อยู่จนต้องระบายความอัดอั้นออกมาทางเสียงคราง

“แค่นี้ สบายยย โอววววว อูววววว” สนตั้งใจจะทำหน้าท้าทายแต่กลับกลายเป็นหน้าที่บิดเบี้ยวจากการเร่งความแรงจนสุดของไข่สั่นไร้สายที่อยู่ด้านในช่องทางด้านหลัง

มิสเตอร์เคยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ และบอกให้น้ำฝนเข้าไปช่วยเหลือครูที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้น

“สัมผัสตอนใส่ว่าดีแล้วนะคะ เดี๋ยวพอโดนสัมผัสจากตัวหนูเข้าไปด้วยครูจะไม่อยากถอดชุดนี้เลยล่ะ”

น้ำฝนเตรียมเลื้อยลงไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงแล้ว

“ก็มาสิ” สนที่พลิกตัวขึ้นมาได้ส่ายก้นเป็นการท้าทาย

“ฮ่าๆ ๆ ๆ” มิสเตอร์เคหัวเราะชอบใจ ก่อนที่น้ำฝนจะเข้ามานัวเนียกับสน ฝ่ายชายหนุ่มหลับตาพริ้มเพื่อรอรับการปลุกอารมณ์จากน้ำฝนอย่างเต็มที่ ความรัดและแนบเนื้อของชุดที่ใส่ มันรู้สึกแปลกในครั้งแรกเท่านั้นเมื่อชินกับมันแล้ว แค่สัมผัสแรกจากน้ำฝนก็สร้างสัมผัสที่ดีให้กับสนเสียแล้ว อารมณ์ของเขาตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว

“รู้สึกดีแล้วใช่ไหมล่ะคะ”

สนกัดริมฝีปากเล็กน้อย ความรู้สึกของเขาตื่นขึ้นอย่างเต็มที่





ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 26 ใส่ชุดเซนไทครั้งแรก

มาวันนี้ต่อดูอารมณ์ดีกว่าเมื่อวานมาก แต่เขาก็ยังไม่สุงสิงกับใครเช่นเดิม แทบจะเป็นบุคลิกของเขาไปแล้ว

“ไปกินข้าวกันต่อ” ต้นชวนเพื่อนเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง

“ไปเลย ไม่หิว” แม้จะดูอารมณ์ดีขึ้นแต่คำตอบที่เขาให้ก็ดูสั้นห้วนและดูรุนแรงเช่นเดิม

“ทำไมแกชอบพูดรุนแรงกับต้นจังวะต่อ” กริชที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามขึ้น

“เปล่านี่” เขาพูดพร้อมหันออกไปนอกหน้าต่าง

“อืม งั้นเราก็ไปกินกันก่อนเถอะ ป่ะ โอ้ ปะต้น”



“เอ่อแล้วเมื่อวานเป็นยังไงมั่ง หมายถึงว่ามันให้บทเราป่ะ” ต่อหันมาถาม ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินออกไปจากห้อง

“เอ่อ ว่าจะบอกอยู่ว่าต้นรับบท...”

“เรารับบทที่เหลือเองแหละ อยากแสดงน่ะ” ต้นชิงพูดขึ้นก่อนที่กริชจะพูดจบประโยค

“อื้ม ก็นายชอบแต่งเป็นผู้หญิงอยู่แล้วนี่” ต่อพูดประโยคที่ไม่น่าฟังออกมาซึ่งทำให้ทั้งกริช และเก่งที่รู้เหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับของขึ้น

“เฮ้ยไอ้ต่อ ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดเหอะ” เก่งหันกลับมาด้วยอารมณ์

“หยุดนะเก่ง” ต้นหันไปบอกเพื่อนด้วยเสียงที่ดังขึ้น

“ใช่ เรารับบทนั้นก็เพราะเราชอบแต่งเป็นผู้หญิงนั่นแหละ พอใจแล้วใช่ไหม” ต้นพูดด้วยเสียงดังโดยน้ำเสียงเจือไปด้วยความสั่นเครือจนสังเกตได้

ต้นหันหลังเดินออกไปโดยไม่รอเพื่อน เพราะไม่อยากให้ใครเห็นหน้า ต้นรู้ว่าตอนนี้ขอบตาของเขาทั้งสองข้างบวมแดงขึ้นมา น้ำตารื้นจนแทบจะกลายเป็นหยดไหลลงมา

ทั้งหมดที่เหลือไม่มีใครพูดอะไรกันอีกต่อไป ต่อหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างเช่นเดิม ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินตามต้นที่เดินออกไปอย่างเร็วเมื่อครู่



“อย่าไปคิดมากเลยนะต้น” กริชพูดปลอบเพื่อนขณะนั่งกินอาหารด้วยกัน

“ไม่เอาอย่าปลอบ”

“ใช่ ไอ้ต่อมันก็เป็นแบบนั้นแต่แรก ถือว่าทำเพื่อห้องไปก็แล้วกันเนาะ” เก่งเอื้อมมือมาตบไหล่ต้นเบาๆ

“ไม่เอาจะร้องอย่าปลอบ”

“ฮืออ” และต้นก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ น้ำตาไหลพรั่งพรูออกจากตาทั้งสองข้าง เป็นภาพที่ทั้งน่ารักและน่าสงสารไปพร้อมกัน

“เอ้า รับผิดชอบกันเลยพวกแก” โอ้ที่นั่งซดก๋วยเตี๋ยวอยู่พูดแหย่ขึ้นมา

“ฮือ ถ้าปลอบแล้วมันจะกลั้นไว้ไม่อยู่ง่า” ยิ่งพูดน้ำตาของต้นก็ยิ่งไหลออกมา

ทั้งสามจึงไม่พูดอะไรต่อ เพื่อที่ต้นจะได้หยุดร้องไห้

“เอ่อว่าแต่พวกนายเห็นบทที่ห้องสิบเขียนหรือยัง” เก่งถามขึ้นมา

“ยังเลย”

“เราก็ยัง” เสียงตอบยังสั่นเครือเนื่องจากเจ้าของยังร้องไห้ไม่หยุด

“บทโคตรประหลาด พวกมันบอกว่าแอคชั่นมันส์ๆ แต่บทพูดคือเยอะมาก แล้วคนที่เล่นเป็น 5 สี คือต้องเล่นบทแอคชั่นด้วย คิดว่าน่าจะเละเทะน่าดู”

“แล้วเก่งไปได้มาจากไหน” กริชถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัยคิ้วเริ่มผูกเป็นปม

“ไปแอบดูมาจากเพื่อนที่รู้จักน่ะ แต่ก็ไม่ได้อ่านทั้งหมดหรอกรูแต่ว่าเยอะไม่เข้าใจว่าพวกมันจะกั๊กเอาไว้ทำไม ไม่ยอมแจกบทเสียที”

“เป็นแบบนี้แหละ พวกนั้นคงอิจฉาล่ะสิ เรียนไม่เก่งก็แบบนี้แหละ”

“อย่าไปว่าเขาแบบนั้นสิกริช คนเรามันเก่งคนละแบบกัน เรียนวิทย์ก็โง่ได้แบบเรานี่ไง” ต้นที่น้ำตาหยุดไหลแล้วพูดแทรกขึ้นมา”

“ขะ..ขอโทษ”

“ฮ่าๆ ไอ้กริชเจอเทศน์อีกแล้ว”

“พวกนายไม่กินข้าวกันเรอะ จะอยู่กันให้หมดพักเที่ยงเลยหรือไง” โอ้ที่กินก๋วยเตี๋ยวซดน้ำถึงหยดสุดท้าย

“ไอ้ก๋วยเตี๋ยวที่นี่เขาลือว่าใส่กัญชา น่าจะจริงแล้วว่ะ” โอ้พูดเมื่อซดน้ำจนหมด ส่งผลให้เพื่อนที่อยู่รอบๆ อดขำขึ้นมาไม่ได้



 __________________________________________________________

ชุดจากสภานักเรียนอยู่ในกล่องเรียงตั้งเอาไว้ ซึ่งกลุ่มห้องอื่นๆ ได้มารอกันอยู่แล้วก่อนที่กลุ่มของต้นจะมาถึง

“กรรมการนักเรียนทำงานไวมาก พอเราส่งบทไปปุ๊บเขาก็รีบจัดหาชุดมาให้พร้อมเลย”

“เขาบอกว่าบทอันนี้ปีก่อนๆ ก็เคยมีแสดง เขาเลยมีชุดเก็บไว้ แต่ไม่รู้ว่าจะพอดีไหมพวกนายไปลองใส่ชุดมาก่อนก็ได้นะ”

คนที่รับบทสำคัญก็เดินออกไปเอากล่องที่เขียนบทกำกับเอาไว้ จนเหลือแค่กล่องที่เป็นชุดรวมกับกล่องที่เป็นชุดของเรนเจอร์พิงค์ กับ เรนเจอร์เยลโล่ ที่เหลืออยู่

“เอ้า พวกนายรีบๆ ไปลองชุดสิ จะได้ไปปรับแก้ถ้าใส่ไม่ได้”

กริชและต้น จำใจต้องไปรับชุดมาลอง ทั้งสองถือกล่องไปที่ห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด

ภายในกล่องบรรจุชุดไว้หลายแบบทั้งอุปกรณ์เสริมเยอะแยะ ต้นไม่รู้ว่าจะเลือกใส่อะไรก่อนจึงเรียกกริชที่เปลี่ยนชุดอยู่ห้องข้างๆ

“กริช มันคืออะไรบ้างอ่ะ งงไปหมดเลย”

“มันเยอะไปหน่อยแต่พอเข้าใจได้นะเคยดูอยู่ ต้นไม่เคยดูเหรอ”

“เห็นผ่านๆ ตาบ้างแต่ไม่ได้ดูจริงจังหรอก เคยดูแต่โดเรม่อน”

“เอางี้ ใส่ชุดชั้นในก่อนแล้วเดี๋ยวออกไปใส่ด้านนอกด้วยกัน”

“โอเค”

ในนั้นมียกทรง เสื้อซับ กางเกงในและกางเกงซับยางยืดสีขาวอยู่ ต้นถอดชุดออกทั้งหมดและสวมกางgกงในผ้าฝ้ายสีขาวบริสุทธิ์แทนความรู้สึกและสัมผัสนุ่มละมุนที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง เขาสวมยกทรงแบบสวมทางด้านหัว และสวมเสื้อซับกับกางเกงซับอย่างรวดเร็ว กางเกงซับรัดรูปแนบกระชับไปตามต้นขาและมองเห็นเนื้อที่นูนออกมาตามธรรมชาติ

เขาเปิดประตูห้องน้ำออกมาและพบกริชยืนรออยู่แล้ว กริชใส่เสื้อซับและกางเกงซับสีดำยืนรออยู่ เขาดูท่าทางประหม่าและดูเขินอายไม่น้อย ต้นก็อายเช่นเดียวกัน ทั้งสองยิ้มให้กันแบบเขินๆ

“กริชใส่ยกทรงออกมาป่ะ”

“อะ...อืม ก็เขาให้มาน่ะ”

ทั้งสองมองหน้ากันแบบอายๆ

“มันต้องใส่อะไรก่อนล่ะ” ต้นถามเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

“น่าจะชุดนี้ก่อนล่ะมั้ง ดูเป็นพื้นฐานที่สุด” กริชชี้ไปที่ชุดยาวๆ ที่เป็นชิ้นเดียวใส่ทั้งตัว ตรงถุงมือแยกเป็นนิ้ว ของกริชเป็นสีดำแต่ของต้นเป็นสีขาวทั้งตัว

ทั้งคู่จัดแจงใส่ชุดแนบเนื้อนั้นด้วยความยางลำบาก เพราะต่างคนต่างไม่รู้วิธีใส่ ซึ่งแม้จะผ่านไปด้วยความทุลักทุเล แต่ทั้งสองก็เอาตัวเข้าไปอยู่ในชุดเซนไทได้สำเร็จ

“เดี๋ยวจะรูดซิปให้นะ” กริชรูดซิปด้านหลังของชุดต้น เมื่อรูดซิปจนสุดชุดที่แนบเนื้ออยู่แล้วก็กลายเป็นรัดแนบมากกว่าเดิม ชุดแนบเนื้อจนเห็นเป็นรูปร่างของต้นที่ไม่ได้อ้วน แต่ก็ไม่ได้ผอมจนเหลือแต่เนื้อติดกระดูก ประหนึ่งตัวเปล่าแล้วมีผิวหนังชั้นที่สองเป็นสีขาว ซึ่งบริเวณหน้าอกมีความนูนเล็กน้อยจากบราที่ใส่ และด้านล่างเห็นความนูนไม่มากเนื่องจากมีกางเกงในและกางเกงซับช่วยอำพรางไว้อยู่

“ต่อไปก็น่าจะเป็นตัวที่เหมือนชุดบัลเลต์อันนั้น” กริชชี้ไปที่ชุดที่ดูเหมือนชุดว่ายน้ำที่มีแขนยาวสีชมพูของต้น มันมีเนื้อหนา และมีส่วนที่เป็นพลาสติก เพื่อทำให้ดูเหมือนเกราะ

ต้นรับมาสวมโดยการสอดขาลงช่องด้านล่าง และกริชรูดซิปให้จากด้านหลังเช่นเคย ความรูสึกรัดแน่นยิ่งมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้เหมือนต้นใส่ชั้นที่สามเข้าไปแล้ว

ต้นลองขยับนิ้วและตัวดู มันให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาด เหมือนมีอะไรมาห่อหุ้มตัวอย่าตลอดเวลา เขาขยับแขนขาทำให้เนื้อเกิดการเสียดสีกับผ้าเป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่น่าอภิรมย์ไม่น้อยเช่นเดียวกัน

“ทีนี้ก็เหลือกระโปรงและรองเท้า เอ๊ะ ทำไมกระโปรงมันสั้นจังเลย” กริชหยิบกระโปรงสีชมพูสั้นเต่อขึ้นมาดู มั้นสั้นมากจนแทบจะปิดช่วงล่างไม่มิด

“ไม่เป็นไรมั้งกริช นี่ก็ใส่หลายชั้นแล้ว”

“ว่าแต่อันนี้เอาไว้ทำอะไรเหรอ” ต้นหยิบสิ่งที่ดูเหมือนหมวกไหมพรมที่มีรูขนาดใหญ่ขึ้นมา

“เห็นว่าอันนี้เอาไว้สวมหัวนะ มันเอาไว้ใส่ก่อนใส่หมวกที่เป็นเกราะหัวน่ะ”

“อ่อ โอเค เดี๋ยวเราช่วยกริชใส่ก่อนแล้วกันนะ” ว่าแล้วต้นก็จัดแจง เดินอ้อมไปด้านหลังของกริชเพื่อจะรูดซิปชุดเซนไทสีดำ

“เอะ ทำไมกางเกงของกริชไหลลงมา เดี๋ยวเราดึงขึ้นให้นะ”

“เดี๋วต้นอย่างเพิ่งดึงขึ้นน อุ้วว” กางเกงที่ต้นดึงมันรั้งก้อนเนื้อของกริชเข้าอย่างจัง

“ขอโทษนะกริชเป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าๆ ทำต่อเลย”

ต้นรูดซิปด้านหลังและหยิบชุดว่ายน้ำสีเหลืองสดขึ้นมาเตรียมให้กริชใส่ กริชขยับอย่างเก้ๆ กังๆ เพราะส่วนที่ตื่นขึ้นเมื่อครู่ทำให้เขาขยับลำบากขึ้นไม่น้อย ต้นดึงรั้งชุดนั้นขึ้นมาจนมันแนบไปกับตัว และรูดซิปด้านหลังอย่างชำนาญ ชุดแนบกระชับกับลำตัวของกริชพอดี

ต้นหยิบกระโปรงขึ้นมาสวมให้กริช และชุดที่ใส่ก็เสร็จสมบูรณ์ กริชอยู่ภายใต้ชุดแนบเนื้อสีดำทั้งตัวด้านบนเป็นชุดว่ายน้ำสีเหลืองซึ่งมีส่วนประกอบที่ทำให้ดูเหมือนมีเกราะหน้าอก และเกราะแขน ส่วนด้านล่างเป้นกระโปรงสีเหลืองสั้นที่แค่เดินก็จะมองเห็นส่วนด้านล่างชองชุดว่ายน้ำคล้ายกางเกงในสีเหลืองขาดแต่รองเท้าด้านล่าง

กริชเริ่มหน้าแดงด้วยความอาย ถึงจะรู้ว่าเป็นการทำให้ห้อง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใส่ชุดอะไรแปลกๆ แบบนี้ซ้ำยังเป็นชุดของผู้หญิงอีกด้วย

“รู้สึกแปลกๆ เนาะ”

“อืม ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันน่ะแหละ แต่พอชินแล้วมันก็ไม่เท่าไหร่นะ”

“แล้วเราต้องใส่ชุดพวกนี้ออกไปให้พวกนั้นดูไหม” กริชถามด้วยหน้าที่แดง เพราะนึกสภาพการแต่งชุดแบบนี้ออกไปให้เพื่อนเห็นมันคงน่าอายกว่านี้มากมาย

“คงไม่หรอก เขาให้ลองว่าพอดีไหมเฉยๆ น่ะ แต่ลองแล้วพอดีเลย จะได้ไม่ต้องแก้อีก”

ต้นทำท่าว่าเหมือนจะแกะชุดออก แต่โทรศัพท์ของเขาก็มีสายเข้าเสียก่อน เก่งนั่นเองที่โทรมา

“ว่า”

“ต้น อยู่กับกริชไหม รีบมาเลยนะ พวกห้องสิบมันโวยวายแล้วว่าทำไมช้าจังมันจะเริ่มประชุมกับแจกบทแล้ว”

“อะ..โอเคแต่ขอเวลาเปลี่ยนชุดแป๊บนึงได้ไหม”

“มันจะไม่ทันน่ะสิ แต่ไอ้คนที่เหลือมันก็ใส่ชุดของมันมาประชุมด้วยนะไม่เห็นจะเปลี่ยนกลับ”

“อ่า งั้นก็ตามนั้น” เก่งวางสายไป

ต้นหันมาหากริช

“อย่าบอกนะว่า”

“อื้อ เราว่าคงเปลี่ยนชุดกลับไม่ทันน่ะ พวกนั้นเริ่มโวยวายแล้ว”

“ตะ..แต่จะแต่งชุดนี้ออกไปมันก็นะ” กริชหน้าแดงใจเต้นแรงหายใจไม่ทั่วท้อง

ต้นที่หน้าเริ่มแดงไม่แพ้กัน เพราะเขาต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ให้ตัวเองแสดงความเขินอายต่อหน้าเพื่อน เพราะตอนนี้ใจของต้นก็เต้นแรงและเร็วมากเช่นเดียวกัน เมื่อคิดถึงความอายเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเพื่อนในสภาพแบบนี้

“แต่ว่าเก่งก็บอกว่าคนที่แสดงมันก็ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดกลับนะ คงไม่ได้มีแต่เราหรอก” ต้นยิ้มแบบเขินๆ

“อื้องั้นก็ไปกัน”

ต้นสวมกระโปรงและรองเท้าเพื่อเตรียมพร้อม ความหน่วงในช่องท้องและอาการปวดฉี่เล็กๆ แบบหน่วงๆ กลับมาเยือนอีกครั้ง ด้านล่างของต้นพองจนแทบระเบิด กับหัวใจที่เต้นแรงและเลือดที่สูบฉีดไปทั่วใบหน้า ต้นส่งมือให้กริช และกริชก็รับเอาไว้ เมื่อมือทั้งสองประสานกันก็เกิดเป็นความรู้สึกจั๊กจี้เสียวูบในใจอย่างน่าประหลาด

ทั้งสองสูดหายใจและเดินออกไปนอกห้องน้ำด้วยการแปลงร่างแบบเต็มยศ




ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 27 ชุดที่ใส่แล้วถอดยาก

สองเรนเจอร์ทั้งชมพูและเหลือง เดินออกห้องน้ำไปด้วยความเร่งรีบ เขาทั้งคู่ไม่ได้ถือถุงที่ใส่ชุดของตัวเองออกไปด้วย ระหว่างเดินกระโปรงพลิ้วไปยังที่ประชุมไม่วายที่กริชจะหันมาคุยกับต้น

“ชุดมันรัดมากเลยนะเนี่ย”

“ของเราไม่ค่อยเท่าไหร่นะ แต่ก็เพิ่งเคยใส่นี่แหละ”

“รีบไปกันเถอะ”

ทั้งคู่เข้าไปยังใต้ถุนอาคารที่เพื่อนๆ กำลังประชุมกันอยู่ การมาของคนที่ใส่ชุดแปลกตาทำให้กลุ่มที่คุยกันอยู่เงียบลงทันที

ทั้งสองเริ่มรู้สึกเขินอายเมื่อเพื่อนๆ มองมาที่เขาทั้งสองเป็นตาเดียว

แต่ที่ทั้งสองดูตกใจมากกว่าคือทั้งหมดในกลุ่มไม่มีใครใส่ชุดแบบทั้งคู่เลยแม้แต่คนเดียว แต่มีคนใส่ชุดสำหรับที่จะไปแสดงมาประชุมเช่นเดียวกัน แต่เป็นชุดเข้าแกปกติไม่ใช่ฉากแปลงร่าง นั่นหมายความว่ามีแต่สองคนนี้เท่านั้นที่ใส่ชุดเซนไท

“เอ้า สาวๆ มานั่งทางนี้สิจ๊ะ”

“กวนตีนไอ้บ้า” กริชเขินแต่ก็ยังสามารถทำใจแข็งพูดสวนกลับไป

ทั้งคู่เข้าไปนั่งโต๊ะเดียวกับเก่งที่จองที่ไว้ให้ และการประชุมก็ดำเนินต่อ

“ไม่คิดว่าชุดมันจะจัดเต็มขนาดนี้” เก่งกระซิบกับเพื่อนทั้งสอง

“อื้อ อายมากเลยว่ะเก่ง ไหนนายบอกว่ามีคนใส่ชุดแสดงมาไง” กริชหันไปกระซิบกระซาบ

“ก็สองคนนั้นไง ชุดนั่นน่ะใส่เข้าแสดงเลยนะน่ะ แต่มันไม่ใช่ชุดแปลงร่างแบบพวกนายไง”

ผู้ที่เขียนบทออกมาชี้แจงลำดับงานกับนัดทำงานในวันต่อไป

“หลังจากนี้ จะต้องแบ่งหน้าที่กันไป ทำฉาก ทำอุปกรณ์ และซ้อมการแสดงนะ เดี๋ยวเราจะแจกบทให้ ให้คนที่จะแสดงอ่านเฉพาะบทของตัวเองก็พอ เพราะมันมีบทของทุกคนอยู่ในเล่ม” คนที่พูดยกปึกกระดาษขึ้นมามันมีอยู่หลายชุดด้วยกัน

“เดี๋ยววันนี้จะลองให้จัดกลุ่มดูกันก่อนคร่าวๆ ลองดูว่าใครทำอะไรอย่างไร แล้วค่อยแยกย้าย”

ต้นกับกริชหันมามองหน้ากัน เพราะรู้แล้วว่าน่าจะยาว

“เราปลีกตัวไปเปลี่ยนชุดกันก่อนไหม”

“ดีเหมือนกัน”

“เอ้าคนแสดงแยกออกไปเลย เดี๋ยวจะหาตัวประกอบกับคนทำงานอื่น”

“นักแสดงมาทางนี้” คนที่เหมือนเป็นผู้รับผิดชอบฝ่ายการแสดงกวักมือเรียกทุกคนไปรวมกัน

กริชที่มองหน้าต้นอยู่ พยักหน้าให้คนเรียก

“น่าจะไม่ทันแล้วต้น รอเสร็จก่อนก็แล้วกันเนาะ”

“อะ..โอเค”

สายตาหลายคู่ยังคงมองไปที่ต้นกับกริช กริชมองเห็นได้ชัดว่าพยายามเก็บซ่อนความอายไว้ภายใน เขาทำหน้าเหมือนไม่สะทกสะท้านอะไร แต่ต้นมองเห็นว่าหน้าของกริชเริ่มแดงระเรื่อมาได้สักพักแล้ว ส่วนต้นนั้นทั้งอึดอัด ทั้งรู้สึกดีไปพร้อมๆ กัน เพราะชุดที่เหมือนจะรัดอึดอัดแนบเนื้อในตอนนี้มันกลายเป็นความรู้สึกชินไปเสียแล้ว แต่ความเขินอายนั้นยังมีอยู่ไม่น้อย ต้นรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา

นักแสดงทั้งหมดมารวมตัวกัน ผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมจึงชี้แจงงาน

“พวกเราคือนักแสดงหลัก รับบทไปก่อนนะทุกคน”

“เราชื่อเติ้ลนะ จะรับหน้าที่เป็นผู้กำกับเรื่องนี้ ยังไงก็ทำให้เต็มที่นะทุกคนจะได้ไม่อายน้อง”

“เดี๋ยวเราจะบอกเนื้อเรื่องคร่าวๆ ให้ฟังก่อน เราจะเป็นฉากสั้นๆ ในตอนที่กองทัพวายร้ายบุกโลก เหล่าพาวเวอร์เรนเจอร์เลยต้องออกมาปราบเหล่าร้าย ซึ่งตัวร้ายก็จะมีนายพล กับสมุนอีก 8 คนรวมเป็น 9 ในช่วงแรกก็จะเป็นการโชว์แอคชั่น ซึ่งสีชมพูกับสีเหลืองไม่ต้องออกท่าเยอะก็ได้เพราะดูชุดแล้วไม่ถนัด”

“ดะ..ดะ..ได้” กริชตอบอย่างเขินอายเพราะตอนนี้นักแสดงทั้งหมดพากันมองมาที่เขากับต้นแล้ว กริชรู้สึกหน่วงๆ มาได้สักพัก ยิ่งอายมันยิ่งหน่วง และความรู้สึกแปลกๆ ของไอ้ชุดที่ใส่อยู่ทำเอากริชรู้สึกแปลกมาก

“ทีนี้ครึ่งหลังมันก็จะมีดราม่านิดหน่อย เพราะเหล่า 5 สีก้จะสู้แพ้และสีชมพูโดนจับตัวไป เหล่าฮีโร่จึงต้องรวมพลังกันและใช้แรงใจและความรักเพื่อนพ้องต่อสู้จนชนะในที่สุด”

“เรื่องก็จะมีตามนี้”

“เดี๋ยวเราจะลองซ้อมคร่าวๆ ดูก่อนนะ”

“ถามได้ไหม” กริชที่อ่านบทไปบางส่วนถามขึ้น

“เราสองคนนี่ต้องพูดคะ ค่ะ ตามบทไหม ตัดออกได้หรือเปล่า เป็นพูดธรรมดาไม่ต้องลงท้ายด้วยคะ”

“แต่บทมันเป็นผู้หญิงไงใส่ชุดเป็นผู้หญิงมันก็ต้องพูดไปตามสคริปต์นั่นแหละ อย่าไปคิดมากคิดว่าเป็นการแสดงก็พอ”

กริชถึงกับเอามือกุมขมับ เพราะรู้สึกทำตัวไม่ถูกที่จะต้องพูดคะ ขา ที่เขาไม่เคยพูดมาก่อน ส่วนต้องหน้าแดงร้อนผ่าว อายจนทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว

กริชกลั้นใจขอผู้กำกับ

“เราขอแยกไปซ้อมกันเองก่อนได้ไหม คือตอนนี้มันยังเขินอยู่น่ะ”

“อ๋อ ได้สิ”

“ปะต้นไปกัน” กริชคว้าแขนของต้นและพาเดินออกไปจากบริเวณนั้น ฟ้ายามเย็นค่อยๆ มืดลงทีละน้อยซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งสองที่ต้องการหลบเลี่ยงสายตาคนอื่น



ต้นกับกริชเลือกมายืนที่บริเวณไกลออกไปจากที่ผู้คนพลุกพล่านเล็กน้อย เนื่องจากพื้นที่ของโรงเรียนกว้าง จึงมีหลายพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนเดินเท่าไหร่นัก และยิ่งเป็นช่วงเย็นที่อิสระเช่นนี้ หลายๆ คนจึงอยู่ที่โรงอาหาร กับสนามกีฬามากกว่า

“โอยตายๆ อายจริง” กริชพูดกับต้นเมื่อหาที่นั่งได้แล้ว”

“เราแอบไปเปลี่ยนกันก่อนไหม” ต้นเสนอ

“อยากไปอยู่ แต่มันต้องเดินย้อนกลับทางเก่า เดี๋ยวพวกนั้นก็คิดว่าเราซ้อมกันเสร็จแล้วซะนี่”

“อ่า งั้นดูบทคร่าวๆ ก่อนนะว่ามันทำอะไรบ้าง”

ต้นอ่านบทในมือตัวเอง สักครู่หน้าของต้นก็ค่อยๆ แดงขึ้น

“บทเป็นยังไงบ้างต้น ไหนดูบ้าง” เมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ตอบกริชก็อ่านบทของในมือตัวเองดู และผลลัพธ์ของการอ่านบทก็เกิดขึ้นคล้ายๆ กับต้น กริชก็หน้าแดงด้วยความเขินอายเช่นเดียวกัน

“มันจำเป็นต้องมีบทแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย”

“อื้อ ไม่ไหวแน่ๆ ให้ปีศาจปล้ำด้วย ก่อนที่สีแดงจะเข้ามาช่วย และตอนสุดท้ายมีจูบกันอีก โอ้ยนี่มันขบวนการ 5 สีแบบไหนกันแน่เนี่ย” กริชโวยวาย

“ดีที่ของเรามีไม่มาก แต่ต้นจะเล่นไหวเหรอ ไปขอพวกมันแก้บทกันดีไหม”

ต้นส่ายหน้าเป็นเชิญปราม

“ไม่เป็นไรหรอก ไหวอยู่น่า คิดว่ามันเป็นการแสดงก็จบ” แม้ปากจะพูดว่าไม่เป็นไรแต่ใจของต้นเต้นแรงมาก เพราะบทที่ได้มันดูน่าอายเกินกว่าที่เขาจะเล่น นี่ยังไม่รวมถึงชุดบ้าบอที่เขากำลังใส่อยู่ตอนนี้ แต่ถึงกระนั้น ต้นน้อยก็ยังกลับเริงร่าตื่นเต้นมากกว่าทุกวัน จนต้องขอบคุณกระโปรงที่ช่วยปิดบังความนูนด้านล่าง

“แต่บทพูดของเราไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นะ สบายไป” ต้นพูดเมื่อดูบทของตัวเองเสร็จแล้ว

“อื้อ ไม่เยอะเท่าไหร่จริงๆ ด้วย แต่ติดตรงนี้นิดนึง มันจะมีอยู่ฉากหนึ่งที่เราต้องรวมพลังกันสู้เหล่าร้ายสองคน ก่อนที่จะแพ้ และต้นโดนจับไป เขาวงเล็บไว้ว่าให้ออกแบบท่าเอง โดยให้เอาสองมือประกบกัน และตั้งชื่อท่า ........บีม”

“โอโห”

“เอาไงดีล่ะทีนี้”

“มา ลองทำกันดูเลย” ต้นเสนอ

ทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน ต้นเดินเข้าชิดกับกริช แต่ด้วยความประหม่าทำให้หน้าอกที่นูนขึ้นนมาเล็กน้อยชนกัน

“อุ้ย ขอโทษ”

“ไม่เป็นไรต้น”

ยิ่งมองใกล้ๆ ก็ยิ่งเห็นว่าใบหน้าที่ขาวผ่องของต้นแทบไม่มีริ้วรอยเลย เรียบเนียนไปทุกส่วน และยังแก้มที่อมชมพูเล็กๆ แบบคนมีสุขภาพดีนั่นอีก ตรงข้ามกับประโยคที่ต้นเคยบอกเล่าให้เขาฟังว่าทำงานหนักตั้งแต่เล็ก แม้ว่าจะมีผมที่สั้น แต่ด้วยรูปร่างที่ผอมบางภายใต้ชุดแบบนี้ ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่ามันดูเข้ากับต้นเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นก็ทำให้กริชรู้สึกประหม่าขึ้นมาจนพูดแทบไม่ถูก

หนุ่มหน้าหวานทั้งสองต่างประหม่าซึ่งกันและกันเพราะยืนอยู่ใกล้กันเกินไป แต่ก็ยังไม่ได้มีใครขยับออกจากกัน

“ขยับยังไงดีล่ะนี่”

ต้นขยับอย่างเก้ๆ กัง กระโปรงที่แม้ว่ามันจะสั้น แต่ด้วยความคับของตัวมันเองก็ทำให้คนที่ไม่เคยใส่มาก่อนขยับได้ลำบากพอสมควร ซึ่งมันก็ยังเสียงสีบริเวณด้านล่าง ซึ่งทำให้ทั้งคู่แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจแต่น้องน้อยทั้งสองก็พยายามที่จะผงาดขึ้นมาอยู่ดี แต่เพราะว่ามันถูกกดไว้ด้วยกางเกงซับและชุดรัดรูปกับชุดว่ายน้ำอีกที มันจึงทำได้แค่ขยายขนาดขึ้นมา ภายใต้ร่มผ้าเท่านั้น

“ลองท่านี้ดูนะ”

ต้นขยับตัวเข้ามาชิดกว่าเดิม และดันมือข้างขวาออกไปข้างตัวพร้อมกับขยับมืออีกข้างมาเป็นโอบเอวแทน

“นี่ๆ เหมือนยิงลำแสงขึ้นมาแล้ว ท่านี้ดีกว่าเนอะ”

ด้านพูดพร้อมขยับไปมาโดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำให้เพื่อนเกิดความรู้สึกแปลกๆ จากการเสียดสีของตัวเขาเอง กริชในตอนนี้หัวใจเต้นแรงและหน้าแดงขึ้นมาทีละน้อย แต่นั่นก็ไม่เท่ากับที่กริชน้อยกำลังถูกบดเบียดอยู่ด้านล่าง

“อ่ะ..เอ่อ ก็ดีนะ” การเสียดสีภายใต้ชุดที่รัดรูปทำให้กริชรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย มันเป็นความรู้สึกแบบแปลกๆ ที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน

“ทีนี้เอาขายังไงดี ไขว้แบบนี้ดีไหม”

“ดะ...เดี๋ยวต้น” กริชจะห้ามเพื่อนแต่ไม่ทันเสียแล้ว

ต้นเสียหลักล้มลงแต่มือที่จับกันอยู่นั้นไม่ได้ปล่อยออกจากกันจึงกลายเป็นว่าต้นดึงให้กริชล้มลงมาด้วยกัน ทั้งสองนอนทับกันโดยมีกริชทับอบู่ด้านบน

“โอยย ขอโทษนะกริช”

“ไม่เป็นไรต้นว่าแต่ต้นเถอะเป็นอะไรหรือเปล่าโดนทับอยู่ เดี๋ยวจะลุกขึ้นให้นะ”

ขาของทั้งสองสลับฟันปลาและบดเบียดกันโดยมีขาขวาของต้นอยู่ระหว่างขาของกริช และขาขวาของกริชก็บนอยู่กับต้นน้อยจนมันเริ่มแข็งขึ้นมาแล้ว

ต้นหน้าแดงเมื่อคิดว่ากริชต้องรู้สึกได้แน่ๆ ว่าข้างล่างของต้นแข็งตัว แต่เขามัวแต่เกร็งเพื่อนมากเกินไปจนไม่รู้สึกถึงของกริชที่ก็แข็งตัวดีดขึ้นมาผงาดไม่แพ้กัน

“อ่าห์ อืมมม”

“โอ๊ย”

“เป็นอะไรต้น”

กริชถามขึ้นมาต้นร้องขึ้นมาแล้วหลับตาปี๋

“มะ..มะ..ไม่เป็นอะไรกริช เหมือนโดนกริชกระแทกนิดหน่อยเมื่อกี้” ต้นตอบไปแบบนั้น เพราะไม่สามารถบอกความจริงได้ เพราะจากประสบการณ์บดเบียดกับครูสนที่สระว่ายน้ำ ทำให้เมื่อครู่ที่กริชพยายามจะขยับตัวและเลื่อนขาขึ้นต้นเผลอตัวอ้าขารับแรงเบียดนั้นเข้าไปเต็มๆ ทำให้เกิดสองความรู้สึกพร้อมๆ กันคือเสียวจากการโดนเบียดตรงส่วนหัวและจุกจากการโดยเบียดบริเวณก้อนเนื้อ

กริชลุกขึ้นมาและส่งมือให้ต้นจับเพื่อที่จะพยุงต้นลุกขึ้น เมื่อกี้เกิดความรู้สึกเสียววูบวาบที่บริเวณ ตรงนั้นอย่างแรงขึ้นมาแวบหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ขาของเขายังสั่นไม่หายจากความรู้สึก ใจที่เต้นแรงทำให้เขาเผลอหอบหายใจอย่างไม่รู้สึกตัว กริชคิดในใจอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ว่า ถ้าได้เบียดกับต้นอีกครั้งมันจะยังรู้สึกดีแบบเดิมอยู่อีกหรือไม่

ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นะ เขาคิดในใจ

ความรู้สึกอยากเปลี่ยนชุดเร็วๆ ค่อยๆ จางหายไปจากหัวของกริชอย่างช้าๆ ความรู้สึกอึดอัดในตอนแรกได้แปรเปลี่ยนมาเป็นความรู้สึกดีและเขาเสพติดความรู้สึกและสัมผัสที่แนบกับลำตัวแบบนี้ไปเสียแล้ว ความคิดในใจลำดับถัดมาคือ การไปนั่งอายในชุดแบบนี้ตอนประชุมก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ เขาคิดพร้อมกับที่ท่อนเนื้อด้านล่างตื่นตัวสุดขีด และความรู้สึกหน่วงๆ ในช่องท้องเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“เราใส่ชุดนี้ไปกินข้าวเย็นกันไหมต้น”

“ห๊ะ อะไรนะกริช!! ”



ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 28 กริช x ต้น

คำพูดที่ออกมาจากกริชทำให้ต้นถึงกับตกใจ ซึ่งแม้แต่กริชเองก็ดูตกใจในสิ่งที่ตนเองพูดเช่นเดียวกัน

“อะ..เอ่อ..คือจะบอกว่าถ้าเราไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวมันจะนานไปน่ะ มันจะมืดเสียก่อน” กริชรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน

“โอเค”

“ห๊ะ”

“ก็ไปกันทั้งชุดนี้ไง มันใส่ยาก ไว้ค่อยไปถอดที่ห้องก็ได้” ต้นตอบโดยที่ไม่มีความเขินอายแม้แต่น้อย

กริชหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ มันจริงอยู่ที่เขาเสนอไปด้วยความพลั้งปาก แต่ตอนนี้เขากลับคิดได้ว่าหากไปกินข้าวชุดนี้ คนอีกมากมายก็จะเห็น แต่อีกใจหนึ่งกลับอยากลองอะไรแบบนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“เดี๋ยวเราลองพูดตามบทที่เขาให้มาดูไหม”

“ดะ..ดะ...ดะ..ได้ๆ” กริชลนลานรับคำ เพราะเพิ่งหลุดจากภวังค์ความสับสนในใจ

แม้ว่าจะดูนิ่งๆ แต่ในใจต้นกลับตื่นเต้นไม่แพ้กัน แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์น่าอายหลายอย่างตอนรับน้อง แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดซ้ำบ่อยๆ แล้วจะชินง่ายๆ การตอบตกลงคำชวนของกริชทำให้ต้นทั้งรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตัวไม่น้อย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ต้นรู้สึกชอบความรู้สึกที่เกิดขึ้นแบบนี้ ตื่นเต้น หน่วง กังวล และอายในเวลาเดียวกัน

ทั้งสองผลัดกันพูดบทด้วยความเขินอาย เพราะทั้งสองไม่เคยใช้คำพูดแบบนี้มาก่อน เมื่อถึงช่วงที่มีเสียงกรีดร้องจากการโดนกระแทกก็ทำเอาทั้งต้นและกริชหน้าแดงขึ้นมาพูดต่อไม่ได้

ทั้งสองนั่งมองหน้ากันอยู่สักพัก

“มันนานแล้วเรากลับไปต่อกับพวกนั้นกันไหม”

“ไปกัน” ต้นรับคำและลุกขึ้น”

อากาศยามเย็นไม่ได้ร้อนอบอ้าวเท่าตอนกลางวัน แต่ด้วยความที่ชุดมันทับซ้อนกันหลายชั้น ก็ทำให้ทั้งสองรู้สึกร้อนขึ้นมาบ้าง และอึดอัดเล็กน้อย เพราะเหงื่อที่ซึมกับความรัดรูปของชุดที่ใส่ แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ทั้งสองก็ชินและลืมความรู้สึกนั้นไป

แม้ว่าจะอยู่มานานสักพักแล้ว แต่การกลับมาเจอผู้คนอีกรอบก็ทำให้ต้นและกริชบังเกิดความรู้สึกเขินอายขึ้นมาอีกครั้ง บริเวณที่นักแสดงยืนอยู่ มีเก่งเข้ามายืนคุยด้วย

“เอ่อ พวกนายทั้งสอง ระหว่างที่พวกนายไปซ้อมกันอยู่มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยนะ” คนที่เป็นผู้กำกับเข้ามาคุยด้วยเมื่อต้นและกริชเดินเข้ามาถึง

“อ่ะ หา อะไรเหรอ”

“บทของสีแดงมีการเปลี่ยนตัวนิดหน่อย เพราะเราขาดคนตัดเสียงคนที่เล่นบทนี้จึงอาสาไปตัดเสียงให้”

“เราเลยได้ เก่งจากห้องพวกนายมาเล่นให้”

เก่งหันมาโบกมือยิ้มให้ทั้งสอง

“เดี๋ยวเราลองมาต่อบทกันเลยนะ เอาคร่าวๆ พอ”

ก่อนที่การต่อบทจะเริ่มขึ้น ต้นสังเกตว่าชุดของกริชมันไม่เข้าที่เนื่องจากการล้มลงไปเมื่อครู่นี้

“กริช แป๊บนะ ชุดมันไม่เข้าที่”

ต้นเดินเข้าไปที่ด้านหลังของกริชและขยับบริเวณเข็มขัดของกระโปรงจากด้านหลัง ซึ่งต้นเผลอเกี่ยวชุดว่ายน้ำทางด้านหลังไปด้วย จึงทำให้แทนที่กระโปรงจะถูกเลื่อนอย่างเดียว กลับกลายเป็นชุดว่ายน้ำถูกขยับและดึงจากด้านหลังไปด้วยพร้อมกัน

“อึ๋ย อึ๊บ” ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ที่หัวของกริชค่อยๆ เปิดออกมา และตอนนี้ด้วยความบังเอิญที่ต้นขยับชุดของกริช ก็ทำให้ตอนนี้หัวที่เปิดออกมาเล็กน้อยได้สัมผัสกับเนื้อกางเกงในไปแล้วเรียบร้อย

“เป็นอะไรหรือเปล่ากริช ต้นถามเมื่อได้ยินเพื่อนส่งเสียงแปลกๆ”

“ปะ.เปล่าต้น อึ๊ก” จังหวะจัดครั้งสุดท้ายพอดี แม้ทำให้ชุดเข้าที่แต่ก็สร้างความรู้สึกเสียวแว๊บให้เกิดกับด้านล่างของกริชอย่างรุนแรง และตอนนี้กริชตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว เพราะทุกๆ การขยับการเสียดสีกับผ้าก็จะเกิดขึ้น และมันสร้างความรู้สึกเสียวแปลบปลาบให้เกิดขึ้นเป็นระยะ และต้องขอบคุณชุดแนบเนื้อที่ปิดไปหมดทุกสัดส่วน จนทำให้กริชไม่สามารถที่จะหาเวลานอกไปจัดตรงนั้นให้เข้าที่

กริชคิดในใจว่าซวยแล้วไง เพราะเมื่อครู่แค่ขยับหลบเพื่อนแค่ก้าวเดียวเขากลับรู้สึกเสียวจนแทบยืนไม่อยู่ แล้วถ้าต้องเดินไปไหนมาไหนแบบนี้เขาต้องทนความรู้สึกนี้ไม่ไหวอย่างแน่นอน

การต่อบทอย่างคร่าวๆ เริ่มขึ้น ซึ่งกริชต้องเรียกสติทั้งหมดขึ้นมาเพื่อโฟกัสกับการต่อบทอย่างเดียวเท่านั้น เพราะความรู้สึกที่พลุ่งพล่านจากด้านล่างคอยก่อกวนเขาเป็นระยะ แต่การยืนนิ่งก็ยังสามารถประคับประคองสถานการณ์คับขันแบบนี้ไปได้บ้าง

การต่อบทเสร็จสิ้นในที่สุด ทั้งหมดตัดสินใจแยกย้ายไม่ไปรวมกับกลุ่มที่แบ่งงานแล้ว

กริชยังคงยืนอยู่ที่เดินตอนทุกคนแยกไป ต้นและเก่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็หันหน้ามาถามกริชในหัวข้อที่ว่าจะไปโรงอาหารที่ 1 2 หรือ 3 ดี

“เอ้อ เราไปเอาชุดที่ห้องน้ำก่อนไหมกริชลืมไปเลย”

“อะ เอ่อ ปะ ไป กัน”

“งั้นเดี๋ยวรอที่นี่นะ” เก่งไม่ได้เปลี่ยนชุดอะไรเลย เลยตัดสินใจว่าไม่ไปด้วย

ต้นเดินนำออกไป โดยที่มีกริชค่อยๆ เดินตามไปทีละก้าวด้วยความยากลำบาก เพราะทุกๆ ก้าวย่างมันทำให้เขาเสียวจี๊ดขึ้นมาจับใจ แต่เขาต้องอดทนเพื่อที่จะได้เข้าไปจัดระเบียบให้เรียบร้อยในห้องน้ำ

“เอ้า กริชทำไมเดินช้าจัง”

ต้นที่ล่วงหน้าไปหันกลับมา เมื่อเห็นเพื่อนอยู่ห่างออกไปหลายก้าวเลยทีเดียว

“ป๊ะๆ รีบไป” และต้นก็เดินตัวปลิวกลับมา อ้อมไปที่ด้านหลังของกริช

“ตะ ต้น ต้นอย่านะต้น”

สองมือในชุดรัดรูปของต้นจับเข้าที่บ่าทั้งสองของกริช

“ไปกันเล้ย”

ต้นออกแรงดันให้กริชเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว การถูกผลักจากด้านหลังทำให้กริชต้องขยับขาไปด้านหน้าทั้งซ้ายและขวา กลายๆ เป็นคล้ายๆ กึ่งออกวิ่งโดยมีต้นผลักอยู่ด้านหลัง

“ซี๊ดดดด โอวว ต้นๆ ต้นพอก่อนนน”

“โอววว ซี๊ดด” ความเสียวจี๊ดที่ยากจะบรรยาย เกิดขึ้นทุกย่างก้าวของกริช และมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่คนด้านหลังยังไม่รู้สึกตัวยังคงดันเล่นด้วยความสนุกสนาน

“ต้น โต้นนนน หยุ๊ดดดดด”

“ห๊ะ อะไรเหรอกริช”

กริช บังคับไม่ให้ขาของตัวเองสั่นเมื่อความเสียวซ่านจบลงจากการหยุดเดินของต้น ลมหายใจของกริชขาดห้วงเล็กน้อย เพราะการเดินด้วยความรู้สึกที่ถาโถมเมื่อครู่ทำเอาเหนื่อยไม่น้อย

“รู้สึกปวดขานิดหน่อยน่ะ”

“เอ๊า ขอโทษนะ”

ต้นทำหน้าจ๋อยๆ และทั้งคู่ก็เดินมาด้วยจังหวะที่ช้ากว่าปกติ จนมาถึงห้องน้ำ กริชเดินมาด้วยท่าทางที่แปลกๆ เพื่อที่จะลดการเสียดสีให้มากที่สุด การอ้างว่าปวดขาจึงทำให้กริชเดินแปลกๆ ได้อย่างสบายใจมากขึ้น แต่นั่นก็ยังเดินลำบากอยู่ดี

ทั้งสองเข้ามาในห้องน้ำ กริช เดินเข้าไปภายในห้องน้ำห้องหนึ่งเพื่อที่จะจัดระเบียบร่างกายตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าปวดฉี่ ซึ่งจริงๆ แล้วตอนนี้เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเป็นอะไรกันแน่ระหว่างปวดฉี่ ปวดท้อง เสียว หรืออะไร ในตอนนี้เขารู้สึกชาๆ ด้านล่าง

กริชพยายามจะปลดซิปด้านหลังชุดว่ายน้ำที่คลุมอยู่นอกสุดออกก่อน เขาจับซิปและดึงลง มันไหลลงมาเกิดเสียงดังครืดๆ และมันก็หยุดลง ซิปของชุดกริชติดจนขยับไม่ได้ ประกอบกับการเอื้อมมือมาด้านหลังทำให้เขารู้สึกเมื่อยแขน จนไม่สามารถเอื้อมไปด้านหลังได้นานๆ

เวลาผ่านไปครู่หนึ่งที่กริชพยายามจะปลดซิป ตอนนี้เขาปวดฉี่ขึ้นมาจริงๆ แล้ว

“กริช เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าๆ แต่ซิปมันติดอะไรไม่รู้ แกะไม่ได้น่ะ”

“ออกมาสิ เดี๋ยวเราแกะออกให้”

กริชเปิดประตูให้ แต่ยังไม่ทันได้ออกมาต้นก็เข้าไปเสียก่อน

“ไหนๆ เดี๋ยวดูให้”

“เหมือนว่ากริชจะไม่ดึงลงมาตรงๆ มันเลยกินเนื้อผ้าเข้าไปซิบมันก็เลยติดน่ะ”

เนื่องจากห้องน้ำค่อนข้างแคบ ต้นเลยต้องแทรกตัวเข้าผ่านประตูไป แล้วจึงปิดประตู เพื่อไม่ให้เกะกะ จนตอนนี้กลายเป็นว่า ต้นและกริชอัดกันอยู่ในห้องน้ำสองคน อากาศที่ธรรมดากลายเป็นอบอ้าวขึ้นมาแทบจะทันที

“เดี๋ยวนะ จะออกละ” ต้นยังมุ่งมั่นในการดึงซิปลงทั้งๆ ที่ตัวยังเบียดกับกริชอยู่

“อึ๊อ”

“เป็นอะไรหรือเปล่ากริช”

“.....” กริชไม่ได้ตอบอะไรออกมา ต้นจึงตั้งหน้าตั้งตาแกะต่อ ด้วยแรงเขย่าจากซิปมันสามารถส่งไปถึงด้านล่างเช่นกัน แม้ว่าจะเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้กริชรู้สึกจนด้านล่างแข็งตัว

“ออกหรือยังต้น”

“ไม่เลยมันติดแน่นมาก เหมือนว่าต้องใช้ที่กว้างกว่านี้น่ะ ออกไปข้างนอกดีกว่า ไม่รู้จะมาอัดกันในนี้ทำไมเนอะ”

“เดี๋ยวๆ กริช อย่าเพิ่งหันมา โอ๊ย”

“ขอโทษต้นเป็นอะไรไหม”

กลายเป็นว่าพอกริชหันตัวในห้องน้ำแคบที่คนเดียวเข้าไปก็แทบจะเต็มแล้วทำให้ทั้งสองประจันหน้ากัน ลำตัวส่วนบนและส่วนล่างอยู่ใกล้กันจนแทบจะชิด

“กะ..กริช อะ..เอ่อ อย่าเพิ่งขยับขานะ โอ้ววว”

หลังจากกริชพลิกตัวกลับมาต้นที่พยายามจะหลบทำให้กลายเป็นว่าต้นกางขาจนกระโปรงร่นขึ้นไปด้านบนและตัวของกริชเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างขอของต้นพอดี ทุกการขยับเลยส่งแรงกระแทกสู่ต้นน้อยอย่างเต็มที่

“ปะ แป๊บ อ๊า อย่าเพิ่งขยับ อูววว”

ในห้องน้ำที่คับแคบและชุดแนบเนื้อที่ปกคลุมทั้งสองเอาไว้ทำให้ร่างกายร้อนรุ่ม ความชื้นและเหนียวเหนอะหนะตัวกลายเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทั้งสองไม่เคยได้รับ และกระตุ้นอารมณ์ของทั้งคู่ให้แตกพล่านอย่างรวดเร็วและรุนแรง

กริชและต้นหน้าแดง หายใจไม่เป็นจังหวะหัวใจของทั้งสองเต้นแรงจนสัมผัสได้ถึงความแรงของหัวใจอีกฝ่าย ลำตัวแนบลำตัว และด้านล่างบดเบียดกัน

“เอางี้ดีกว่าต้น”

กริชไขว้ขากับต้นซึ่งแวบแรกทำให้ต้นถึงกับสะดุ้งเฮือกจากแรงเบียด และเมื่อทำสำเร็จทำให้ทั้งสองยืนเบียดกันในสภาวะที่ต้นขาซ้ายของกริชอยู่บนเป้าของต้นและขาของต้นก็อยู่บนเนื้อที่ไวสัมผัสของเขาเช่นเดียวกัน

ต้นหอบหายใจ ความรู้สึกที่คุ้นเคยหวนกลับมาอีกครั้ง ครั้งก่อนเป็นกับครูสน แต่ครั้งนี้กับเพื่อนของเขาเอง ต้นอยากจะหนีออกไปจากตรงนี้ เพราะถ้ามันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นซ้ำอีกครั้ง เขากับเพื่อนอาจมองหน้ากันไม่ติดก็เป็นได้

“กะ..กริช เปิดประตูหน่อยสิ เรามองไม่เห็น”

กริชที่อารมณ์เตลิดไปแล้ว จะเอื้อมมือไปเปิดประตูด้านหลังของต้น เขาโอบมือไปเพื่อจะควานหาตัวล็อกที่มันสับลงตอนปิดห้องน้ำ แต่กลายเป็นว่าไปเร่งให้ต้นขยับจนตัวเองต้องร้องออกมาเพื่อระบายอารมณ์ จากนั้นเขาเลยขยับขาซ้ายสวนคืนเพื่อที่จะแกล้งเพื่อนบ้าง

“นี่แนะ”

“โอะ โอ้ววว กริช ยะ อย่าทำ บะ แบบ ฮ๊า” ต้นถูกดุลเข้าไปที่ต้นน้อยทำให้รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาเช่นเดียวกัน และอารมณ์ของต้นก้พุ่งขึ้นมาแล้ว

“ทำแบบนี้ใช่ไหมได้ อึ๊อ โอ๊ะ โอ้ววว”

“อ๊า ต้น จะเอาใช่ไหมล่ะ” กริชรวบมือโอบร่างต้นเข้ามาประชิด สอดขาเข้าไปตรงระหว่างขาโดนบริเวณแท่งเนื้อที่แข็งเป็นก้อนอย่างชัดเจน จากนั้นจึงเริ่มส่งท่อนขาเข้าไปเสียดสีอย่างต่อเนื่อง แต่ตัวของเขาเองก็โดนต้นหมุนวนขาบริเวณเดิมที่โดนเสียดสีมาแล้วเช่นเดียวกัน ความหน่วงใต้ท้องน้อยยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เกมือนกริชแบกบางสิ่งบางอย่างไว้ในท้องน้อย และทุกๆ การบดคลึงมันจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนต้นจะรู้เพราะจังหวะของเขาถี่ขึ้นและขยี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นการโยกก้นเพื่อให้ด้านหน้าไปบดกับขาของอีฝั่งแทน ตอนนี้ภาพที่เห็นจึงกลายเป็นต่างคนต่างร่อนเอวเพื่อให้ระหว่างขาของตัวเองไปเบียดกับขาของอีกฝั่ง

“โอ้วว มะ มัน รู้สึกแปลกๆ ซี๊ดดดด” ใจของกริชเต้นแรงและเร็ว ความเสียวแล่นจี๊ดขึ้นมาจากตรงนั้น

“คะ ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน”

“ฮึ๊กกก อึ๋ยย ต้น เหมือนมีอะไรสักอย่างจะออก โอ๊ยย จะออกแล้ว อื๊ออ โต้นนน จะออกแล้ว จะออกแล้วววว” และกริชก็ตัวกระตุกไปหนึ่งครั้งตามมาด้วยอาการเกร็งจนสั่นไปทั้งตัวอยู่ชั่วครู่

ทั้งคู่ยืนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่เหนือกว่าสิ่งใดนั้นเมื่อกริชได้สติกลับมา ความรู้สึกผิดกลับเข้ามาเกาะกุมในจิตใจทันที

“ขอโทษนะต้น”

เขามองไปที่หน้าต้นที่ตอนนี้ไม่อาจเดาความรู้สึกใดๆ ได้ ต้นหายใจแรงออกทางจมูกเพราะความเหนื่อยจากกิจกรรมเมื่อสักครู่

ต้นนั้นรู้สึกสับสนไม่น้อย เพราะเหตุการณ์นั้นคล้ายกับของครูสนเพียงแต่ว่าครั้งนี้มันต่างออกไปเล็กน้อย

“เราขอโทษนะต้น”

“ขอโทษนะ” เมื่อเห็นเพื่อนนิ่งไม่ตอบกริชยิ่งใจหาย หัวใจของเขาหล่นวูบ เขารู้สึกกลัวที่จะเสียเพื่อนคนนี้ไปอย่างจับใจ แต่สิ่งที่เขาทำมันก็ดูช่างน่าละอายจริงๆ

“อื้อ ไม่เป็นไรหรอก”

ต้นเอื้อมมือไปปลดล๊อกด้านหลังประตูและเดินออกไป


ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 29 มากินไอติมกันเถอะ

กริชเดินตามต้นออกมา การแสดงออกของต้นมันทำให้กริชรู้สึกแย่มาก

“ต้นเราขอโทษจริง”

ต้นหันมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“อื้ม อย่าไปคิดมากเลยไม่เป็นไร” ต้นพูดพร้อมส่งยิ้มให้อย่างไม่เต็มปาก

กริชยิ่งรู้สึกผิดไปมากกว่าเดิม

“เรารู้ว่าต้นโกรธ ให้เราทำอะไรก็ได้นะ แต่ต้นยกโทษให้เราเถอะ” กริชพูดด้วยใบหน้าเศร้าหมอง จากความรู้สึกภายใน

“ไม่ ไม่ได้โกรธ”

“แค่ รู้สึกสับสนนิดหน่อยน่ะ มันบอกไม่ถูก”

“สับสนเรื่อง? ”

ต้นเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ยาว กริชเดินตามไปนั่งข้างๆ ทั้งสองเหมือนจะลืมไปแล้วว่าตัวเองอยู่ในชุดแบบไหน

“ไม่รู้สิ.....” ต้นสูดหายใจลึก

“แต่ช่างมันเถอะ เราไม่ได้โกรธจริงๆ นะ” ต้นหันมายิ้มให้กริช

“ไม่ต้องคิดมาก สบายใจได้เลย” เขาเอื้อมมือไปตบไหล่กริชเบาๆเพราะไม่อยากให้เพื่อนคิดมาก

“จริงนะ”

“อื้อ เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ไปกินข้าวกันเถอะ”

“โอเค” กริชรู้สึกดีใจปนโล่งใจไม่น้อย

“เอ่อ ว่าแต่”

“ว่าอะไรกริช”

“เราจะไปกินข้าวกันชุดนี้จริงๆ เหรอ” กริชพูดเหมือนนึกขึ้นได้

ต้นหน้าแดงขึ้นมาทันที

“อะ..อือก็คุยกันไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอ” ต้นตอบพร้อมก้มมองลงพื้น เขาเขินไม่น้อยเหมือนกัน

“อื้อ โอเคไปกันเถอะ” การที่เพื่อนหายโกรธทำให้กริชรู้สึกดีจนเรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

“รีบเก็บของเร็ว”

ทั้งสองเก็บของและเดินออกมาหน้าห้องน้ำ ต้นออกมายืนรอก่อน เพราะเก็บของเสร็จก่อนแล้ว กริชเดินตามออกมา

“ปะไปกันเถอะ”

แต่ต้นยังไม่ออกเดิน เขายกมือขึ้นมาเล็กน้อยด้วยท่าทีที่เขินอาย กริชรู้ทันทีว่าหมายถึงอะไร เขาเอื้อมมือไปคว้ามือของต้นไว้ และทั้งสองก็เดินจับมือกันเดินไปหาเก่งที่รออยู่



___________________________________________



“ดูท่าจะชอบชุดไม่เบานะ”

“ก็ไม่ยอมถอดเลยทั้งคู่ค่ะ สงสัยจะชอบจริง”

“แล้วคุณล่ะชอบหรือเปล่า”

“มะ..ไม่รู้สิ อ๊าววว ตรงนั้นเสียวมาก อ๊างงงง”

สนยังถูกนัวเนียจากน้ำฝนขณะทั้งสามนั้นยืนมองเหล่านักเรียนที่มาประชุมกันจากบนอาคารที่ไม่ได้เปิดไฟ ในตอนนี้นั้นทั้งชั้นมืดสนิท มีแต่เพียงแสงไฟจากอาคารอื่นที่สาดส่องมาให้เห็นเป็นภาพจางๆเท่านั้น

น้ำฝนที่ยังวุ่นอยู่กับการแกล้งสนก็หาจุดที่เป็นหัวเจอ และลงมือเขี่ยอยู่พักใหญ่จนสนเสียวแทบยืนไม่ติดพื้น ตั้งแต่มาถึงตอนนี้สนยังไม่ได้รับอนุญาตให้ถอดชุดรัดรูปชุดนี้ออกจนถึงตอนนี้

“ว่าแต่ครูคะ”

“ว่า”

“หนูเหมือนว่า จะอยากได้ของเล่นใหม่ขึ้นมาแล้วค่ะ”

“เด็กคนนั้นน่ะเหรอ” เขาพูดเหมือนรู้วัตถุประสงค์ของเธอ

“ใช่ค่ะ ดูแล้วหน้าตาก็ตรงสเปกอยู่ จับมาฝึกอีกนิด ก็เข้าที่แล้ว”

“มีแผนไหม”

“ไม่มีค่ะ”

“ครูมี”

และทั้งสองคนก็หันมายิ้มให้กันด้วยรอยยิ้มที่สุดบรรยาย และมีเพียงแต่คนยิ้มเท่านั้นที่จะรู้ความนัยของมัน



สนซี๊ดปากออกมาเมื่ออารมณ์ใกล้มาถึงจุดระเบิด น้ำฝนหยุดมือทันที เสียงครางอย่างสุดเสียดายลอดออกมาจากลำคอของสน

“ไม่ต้องเสียดายหรอกค่ะ วันนี้มีบทเรียนที่โอลีฟจะต้องเรียน”

น้ำฝนจิกหัวสนขึ้นมาและเลียไปที่ใบหู พร้อมกระซิบเบาๆด้วยเสียงกระเส่า

“เข้าใจไหมคะน้องโอลีฟ”

เมื่อสนโดนคนที่เด็กกว่ากระทำแบบนี้ แทนที่เขาจะรู้สึกโกรธเกรี้ยวตามปกติธรรมดา แต่ความรู้สึกที่พวยพุ่งขึ้นมามันกลับกลายเป็นความรู้สึกอย่างอื่น ทั้งสะใจ ยินยอม และมีความสุข

“ขะ..เข้าใจค่ะ” หัวใจของสนเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง

“วันนี้เดี๋ยวพี่น้ำฝนจะสอนกินไอติมนะคะ น้องโอลีฟชอบกินไหม”

“ชะ..ชอบค่ะ”

“ตอบให้มั่นใจหน่อยสิคะ! ” น้ำฝนจิกหัวสนแรงขึ้น

“ชอบค่ะ”

“เอาล่ะมากินไอติมกัน” น้ำฝนปล่อยมือ และรูดซิปที่อยู่ตรงกลางระหว่างขาออก

“ว้าว ไอติมโตขึ้นแล้ว” น้ำฝนพูดพร้อมกับช้อนแท่งเนื้อขึ้นมา มันมีสำคล้ำกว่าผิดขาวๆ ของน้ำฝนเล็กน้อย แต่ความยาวของมันน่ากลัว ซึ่งก็ยะงไม่เท่าปริมาณเส้นเลือดที่ปูดโปนออกมารอบๆ บริเวณโคนไม่มีขนแม้แต่เส้นเดียวเพราะน้ำฝนดูแลทำความสะอาดอย่างดี ไม่มีแม้แต่รอยแห้งแตก ราวกับดูแลบำรุงผิวบริเวณนี้เป็นอย่างดี

“ทะ..ที่นี่เลยเหรอคะ”

สนเกิดความประหม่าขึ้นมาทันที เพราะทั้งสามยืนอยู่บนระเบียงตึก มิสเตอร์เค กับน้ำฝนพาสนออกมาไกลจากที่พักเกินไป ถ้าเกิดมีคนมาเห็นตอนนี้ชุดที่แปลกประหลาดของน้ำฝนและสนคือสิ่งที่จะไม่สามารถแก้ตัวได้เลย

“ใช่สิคะ ก็เค้าพร้อมแล้วเนี่ย เห็นไหม” น้ำฝนกระดกแท่งเนื้อขึ้นลง ตรงบริเวณปลายมีน้ำซึมออกมาเล็กน้อย น้ำฝนทิ่มแท่งเนื้อเข้ามาตรงหน้าของสนพอดิบพอดี

“เดี๋ยวก่อน” เสียงมิสเตอร์เคพูดขัดขึ้น ทำเอาน้ำฝนต้องหยุดทิ่มเอ็น และสนรู้สึกโล่งใจขึ้นมาว่าอย่างน้อยครูเคก็ยังใจดีไม่ให้เขากินไอติมแบบเอ้าท์ดอร์แบบนี้

“เธอลืมอะไรไปหรือเปล่าน้ำฝน”

“อ๋ออ ใช่ค่ะ หนูหยิบมาด้วยนี่นา”

น้ำฝนหันกลับไปหยิบกระโปรงทูทู่ (กระโปรงบานแบบนักบัลเลต์) สีรุ้งสดใส พร้อมกับยกทรงสีแดงสด ที่ถือมาด้วยเอามายื่นให้สน

“เอ้าใส่สิ”

สนรับกระโปรงและยกทรงมาจากมือน้ำฝนและสวมมันลงไปบนตัวที่ตอนนี้มีชุดว่ายน้ำกับกางเกงรัดรูปอยู่แล้ว กระโปรงพองบานสีรุ้งดูเข้ากันกับชุดที่ใส่อยู่แล้วอย่างน่าประหลาด อารมณ์อับอายของสนยิ่งกระเจิงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาสวมยกทรงตามไปในเวลาต่อมา แม้ว่าลึกเขาก็ยังตกใจตัวเองว่าเขาที่โตมาแบบผู้ชายทั้งชีวิตกลับมาใส่ยกทรงของผู้หญิงอย่างคล่องแคล่วว่องไว

“น้องโอลีฟขา ชุดของน้องดูแรดจังเลยค่ะ” น้ำฝนพูดชมทำเอาสนทำหน้าไม่ถูก

เพี๊ยะ! เสียงตบหน้าดังขึ้น ไม่ได้แรงมากแต่ทำเอาคนโดนตบถึงกับตกใจ

“ชมแล้วต้องยังไงคะ สอนแล้ว”

สนพนมมือทั้งสองข้างไว้กลางอก ละไหว้ย่อให้น้ำฝน

“ขอบคุณค่ะ”

สนทั้งเขินและอายเกินบรรยาย น้ำฝนยิ้มด้วยความพึงพอใจ ส่วนมิสเตอร์เคยืนมองผลงานล่าสุดด้วยความพึงพอใจ อวัยวะภายในกางเกงตุงจนดันซิปโป่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“เอ้า คุกเข่า”

สนทำตามอย่างว่าง่าย และแท่งเอ็นปูนโปนไปด้วยเส้นเลือดก็จ่อมาตรงปากของเขาอีกครั้ง

“ค่อยๆ งับเข้าไปนะคะ พยายามอย่าให้ฟันโดน”

สนอ้าปากกว้าง และงับเข้าไปที่ส่วนหัวของแท่งนั้น กลิ่นหวานเลี่ยนปนออกมากับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของมันทำให้สนถึงกับหน้ายู่ แต่เมื่อผ่านไปสักพักเขาก็ปรับสภาพได้

“อืมมม อู้ววว ดีมากค่ะ ต่อไปค่อยๆ ดูดนะคะ อมให้เหมือนกินไอติมแท่งที่อร่อย ค่อยๆ ดูดมันเข้าไป อย่างนั้น ซี๊ดดดด”

สนอมและดันหัวเข้า จากนั้นค่อยๆ ดึงหัวออกช้าๆ โดยที่ปากก็เพิ่มแรงดูดเข้าไปด้วย จังหวะค่อยๆ ถูกเร่งขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนว่าสนกำลังโยกหัวดูดไอติมแท่งเล็กๆ ดด้วยความเอร็ดอร่อย เสียง ซร๊วบ จ๊วบ จ๊าบ ดังขึ้นตามจังหวะของการโยกของสน

จังหวะถูกเร่งเร็วขึ้นเรื่องๆ พร้อมๆ กับเสียงครางของน้ำฝนที่ดังขึ้น ดังขึ้น สนยิ่งได้ใจเร่งโยกหัวและเพิ่มแรงดดให้มากขึ้น หวังให้น้ำฝนเสร็จโดยเร็ว เพราะจะได้ไม่มีใครมาเห็นสภาพที่น่าอับอายของเขาในตอนนี้ แต่งชุดประหลาดน่าขายหน้า และกำลังดูดุ้นให้นักเรียนอยู่

มือทั้งสองของน้ำฝนจับเข้าที่หัวของสนเพื่อหยุดการกระหน่ำดูดไอติมในทันที

“แหม่ ได้ใจเอาใหญ่เลยนะคะ”

“แป๊บๆ ก็ดูดได้ชำนาญแล้ว แสดงว่าน้องโอลีฟก็เจนไม่เบานี่นา เป็นกะ-รี่ได้เลยนะเนี่ย” คำพูดที่รุนแรงที่แทงจี๊ดเข้าไปที่กลางใจสน จนตัวของเขาแทบอ่อนระทวย

“เมื่อดูดเป็นแล้วต่อไปก็จะเป็นเกมให้น้องเล่นนะคะ”

น้ำฝนหยิบกรรไกรขึ้นมา และก้มลงไปตัดบริเวณเป้าชุดว่ายน้ำของสน สนรู้สึกเสียวแว๊บๆ เมื่อน้ำฝนเกี่ยวโดนแท่งเนื้อของเขาและควักมันออกมา

“ฟังกติกานะคะ เกมนี้น้องจะต้องจัดการดูดไอติมของครูเคให้เสร็จ แต่ระหว่างนั้นก็ต้องทนรับการกลั่นแกล้งของพี่น้ำฝนไว้ให้ดีๆ ด้วย”

“ถ้าชนะโดยครูเคเสร็จก่อนโอลีฟก็จะได้กินน้ำของพี่น้ำฝนและของครูเคเป็นรางวัลในคืนนี้ แต่ถ้าแพ้โอลีฟโดนแกล้งจนเสร็จก่อนจะถูกลงโทษโดยการให้ใส่กางเกงดอกไม้และห้ามเสร็จเป็นเวลาห้าวัน”

“ห๊ะ ห้าวันเลยเหรอ อุ๊ฟ” แท่งเอ็นขนาดมหึมาถูกดันพรวดเข้าไปช่องปากสวยได้รูป มันแทบจะพอดีกับปากของสนเลยทีเดียว

น้ำฝนกำเข้าไปบริเวณส่วนหัวของสน และส่งแรงของการขยับนิ้วเข้าไปกระตุ้นยังส่วนอ่อนไหว สนแทบจะระทวยกองลงมาบนพื้น

“ปกติชอบครางเสียงดัง ก็มีของอุดปากแล้วนะคะ กินไอติมให้อร่อยนะคะ เกมสตาร์ท”

แค่นี้สนก็แทบจะปล่อยให้น้ำพุแห่งความหฤหรรษ์ให้พุ่งออกจากตัวเสียแล้ว ตอนนี้มัไม่ใช่การแข่งเกมอีกต่อไป เพราะเขาถูกน้ำฝนควบคุมโดยสมบูรณ์ ตอนนี้เธอแค่อยากแกล้งเขาให้ปริ่มจนแทบจะสำลักความเสียว แต่ถ้าหากเธอต้องการ เธอก็สามารถจี้จุดให้เขาเสร็จในเวลาไม่นาน เกมนี้เขาไม่มีทางชนะเลยแม้แต่น้อย

แต่แบบนั้นแหละสิ่งที่โอลีฟชอบที่สุดล่ะ

สนตั้งหน้าตั้งตาดูดไอติมแท่งนั้นพร้อมกับส่งเสียงแห่งความเสียวซ่านผ่านลำคอออกมาเป็นระยะ แม้ว่าจะอมจนเต็มปาก แต่ถ้าทั้งสองคนสังเกตสักนิดก็จะเห็นว่านั่นคือการอมที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกำหนัดแห่งอารมณ์ นั่นเอง

ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 30 กินไอติมแล้วต้องกินน้ำด้วยนะ

สนตั้งหน้าตั้งตาดูดท่อนเนื้ออย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะในตอนนี้น้ำฝนเร่งได้ตัดชุดด้านล่างของสนออกเปิดเผยแท่งเนื้อของเขาออกมาแล้ว ขณะที่ปากบนของสนยังทำงานอยู่ อีกหนึ่งปากก็กำลังทำงานกับด้านล่างของสนเช่นเดียวกัน เขาแทบทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะความเสียวซ่าน

“ถ้าแตกก่อนโอลีฟจะต้องกินน้ำตัวเองด้วยนะ พี่จะเอาไปป้อนให้ถึงปากเลย จ๊วบบ” เสียงหลังสุดเกิดจากการสูดปากเอาท่อนเนื้อเข้าไป ด้วยทักษะที่ต่างกันทำให้สนตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามส่งแรงไปอมและดูดแท่งไอติมมากเพียงในก็ดูเหมือนกับว่ามิสเตอร์เคไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย แตกต่างจากเขาที่ส่งเสียงครางออกมาจากลำคอเป็นระยะ แม้ว่าจะมีสิ่งอุดปากอยู่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นเสียงแห่งความรู้สึกของเขาได้

“โอ๊ยย อย่านะตรงนั้นมัน สะ สะ เสียววว อ๊ายยย”

สนเสียวจนต้องหนีบขาแต่ก็โดนดันให้กางออกใหม่เพราะน้ำฝนอยู่ตรงนั้น

คนที่อยู่ด้านล่างเปลี่ยนวิธีการไปใช้มือแทน น้ำฝนกำแท่งเอ็นนั้นไว้อย่างถนัดมือและใช้ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งคลึงลงไปบริเวณส่วนหัวที่มีสีชมพูอย่างแผ่วเบา ความมวนๆ เสียวซ่านค่อยเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และน้ำฝนก็ค่อยๆ เพิ่มความเร็วและแรงกดของฝ่ามือขึ้นเรื่อยๆ

สนถึงกับต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเสียวสะท้านเกินทานทน

“อ๊า เสียวสุดๆ ไปเลย พอก่อน พอก่อนเถอะนะ จะขาดใจตายแล้ววว ไม่ไหวแล้ววว” สนทรุดลงกับพื้น

“แหม่ อย่าเพิ่งรีบสิความสนุกเพิ่งจะเริ่มเอง” มิสเตอร์เคช้อนร่างที่อ่อนระทวยของสนขึ้นมา น้ำฝนยังไม่ยอมหยุดการคลึงของมือ จนสนในตอนนี้ได้แต่ส่งเสียงร้องหงิงๆ ออกมาจากลำคอ

เขาสำรวจปากทางเข้าด้านหลังของสน เมื่อเย็นเขาได้สั่งให้สนดีท๊อกซ์ตัวเองไว้แล้ว ตอนนี้ช่องทางของสนน่าจะสะอาดดี เขาส่งนิ้วเข้าไปทะลวงช่องทางนำร่องทันที

“โอ้วววว ฮือออ แบบนี้มันเกินไปแล้ว อื้อ จะแตกแล้วว จะแต..” น้ำฝนหยุดมือก่อนที่อารมณ์ของสนจะเตลิดจนฉุนไม่อยู่

“ฮื้อออ” สนร้องออกมาด้วยความเสียดายที่พลาดตกจากสวรรค์เพียงแค่เอื้อม การไม่ยอมให้เขาเสร็จเป็นวิธีการที่ทั้งสองคนใช้กับเขาบ่อยๆ ซึ่งมันก็ได้ผลมากๆ เพราะเมื่อถึงที่สุดแล้วเขาก็จะทนไม่ไหวจนยอมทำทุกอย่างตามที่เขาสั่ง

การที่สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้อย่างอิสระเหมือนเมื่อก่อนเป็นดังภาพที่รางเลือน เพราะทุกวันนี้ความสุขเล็กๆ น้อยๆ อย่างการช่วยตัวเองกลับกลายเป็นของที่หายาก เพราะเขาต้องร้องขอขอนุญาตด้วยความอับอายและอัปยศ เพื่อที่จะได้รับอนุญาตให้ถึงจุดสุดยอดในแต่ละครั้ง

“ขอหนูเสร็จนะคะ ขอหนูเสร็จเถอะค่ะ ขอหนูเสร็จ” สนพูดร้องขอด้วยอารมณ์ที่แตกซ่าน น้ำเสียงปนไปด้วยความอยากสุดขีดผสมไปกับความอับอายด้วยสัดส่วนที่เท่ากัน

“อ๊างงง โอ้วววววววว” สนหยุดร้องขอทันทีเมื่อท่อนเอ็นขนาดมหึมาค่อยเคลื่อนตัวเข้าไปในช่องทางทางด้านหลัง

สนตาเหลือกค้างเมื่อมันครูดผ่านบริเวณที่ก่อให้เกิดความกำหนัด เขารู้ว่านี่คือจุดอ่อน ท่องเอ็นถูกถอดออกอย่างช้าๆ และเสียดสีบริเวณเดิมอีกครั้ง

“หงิงง จะ ขะ ขะขาดใจตาย แล้วโอววววว” น้ำลายไหลย้อยออกมาจากมุมปากอย่างควบคุมไม่ได้

“ฮื้อออออ ซ็ดดด อย่าทำ บะ แบบ นั้น อ๊ากกก” นำฝนเข้ามาบดหัวของแท่งเอ็นน้อยของสนอีกครั้งพร้อมๆ กับที่คนด้านหลังดันแท่งเอ็นสวนกลับเข้าไปในร่างของสนอีกครั้ง นำมาซึ่งความรู้สึกอันยากที่จะบรรยาย ราวกับความร้อนแรงของด้านหน้าและด้านหลังมันปะทุจนถึงจุดเดือดและผ่านไปที่สมองของเขาจนแทบจะทำให้สมองระเหยกลายเป็นไอ

“ฮัก อึ๊ก โฮ้วววววววว เสียวมากค่ะ โอลีฟ เสียวมากค่ะ ไม่ไหวแล้ววว” สนปลดปล่อยทุกอย่างออกมาอย่างอดกลั้น เพราะโดนจู่โจมทั้งด้านหน้าด้านหลัง

เขาเหมือนนักแข่งรถผู้โชคร้ายที่ไม่ได้เป็นผู้บังคับรถเอง มันทั้งฉวัดเฉวียน บ้าคลั่ง และหยุดไม่อยู่ ความรู้สึกเมื่อมาถึงปลายทางดั่งรถที่พุ่งทะยานเข้าหากำแพง และสิ่งที่เขาทำได้คือการมองดูกำแพงและยินยอมให้รถแข่งแห่งความรู้สึกนั้นพุ่งเข้าใส่กำแพงให้ย่อยยับไปพร้อมกัน

“จะถึงแล้วว จะถึงแล้วค่ะ”

“ขออนุญาตเสร็จนะคะ ให้หนูเสร็จเถอะค่ะ ได้โปรด ได้โปรดดดดดด”

มิสเตอร์เคกระหน่ำโยกเอวจนตัวของสนสั่นไปทั้งตัว สนเกร็งจนตัวเองชักกระตุกอย่างควบคุมไม่อยู่ แต่น้ำฝนที่ไวมากก็อ้าปากและงับปลายแท่งเอ็นได้ทันจังหวะที่น้ำสีขาวพวยพุ่งออกมาได้อย่างพอดิบพอดี เธอดูดทุกหยาดหยดเข้ามาเก็บไว้ในปาก

มิสเตอร์เคกระแทกต่ออีกสีห้าครั้งก่อนที่จะครางฮึมขึ้นมาเบาๆ และนิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ ถอดแท่งเอ็นออกมาจากช่องทางพร้อมทั้งน้ำเหนียวข้นไหลตามออกมาเป็นทาง

“ขอบคุณค่ะที่ให้หนูเสร็จ” สนต้องขอบคุณตามมรรยาท เพราะถูกน้ำฝนฝึกสอนมาอย่างเข้มข้น

น้ำฝนจับใบหน้าของสนตรึงไว้และบีบปากของเขาให้อ้าออก น้ำขาวข้นผสมกับน้ำลายในปากน้ำฝนถูกปล่อยให้ไหลยืดยาวเป็นเส้นเข้าไปในปากที่ถูกอ้าออกของสน น้ำฝนปล่อยทุกหยาดหยดของน้ำนั้นเข้าปากของสนจนหมด

“อย่างเพิ่งกลืนนะคะ ของอร่อยต้องค่อยๆ กิน” น้ำฝนเอามือมาปิดปากของสน ซึ่งสนก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดได้แต่ยอมทำตามแต่โดยดี

“เคี้ยวหน่อยค่ะเคี้ยว”

เขาเคี้ยวของเหลวในปากตามที่บอกแม้จะไม่มีอะไรให้เคี้ยว

“กลั้วคอนิดนึง”

คนกลั้วคอและทำท่าราวกับว่าดื่มด่ำในรสชาติของน้ำตัวเองที่อยู่ในปากนั้น

“ทีนี้ของดุลให้น้ำมันไหลออกจากไรฟันค่ะ แบบนั้นแหละดีมากกก” น้ำฝนชม เมื่อเห็นสนทำตามที่เธอสั่งอย่างโดยดี แม้จะแสดงออกว่าขยะแขยง ซึ่งความตรงข้ามของอารมณ์ในตัวสนนี่เอง ปลุกอารมณ์ของน้ำฝนไม่น้อยเช่นกัน

“ทีนี้พูดตามค่ะ จะกินแล้วนะคะ”

“จะ...กะ กินแล้วนะคะ”

“ไม่เอาเสียงแข็งแบบนั้นค่ะ ต้องเป็นเสียงแบบสาวน้อยกำลังจะกินของอร่อย เอาใหม่อีกครั้งค่ะ”

“จะกินแล้วนะค้า” สนกลั้นใจฝืนพูดให้ร่าเริงทั้งๆ ที่น้ำของเขายังอยู่เต็มปาก

“กลืนลงไปค่ะ”

สนหลับตาปี๋รวบรวมแรงฮึด แล้วกลืนน้ำของเขาเข้าไปดังเอื๊อก เป็นเรื่องที่ยากและน่าพะอืดพะอมที่สุดที่เขาเคยทำแต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก

“อร่อยมากค่ะ” สนพูดพร้อมยิ้ม นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่ถูกฝึกมาเช่นเดียวกัน ทำแล้วสนรู้สึกตกต่ำและอับอาย แต่กลับสะใจจนขนลุก

“ร่านมากค่ะ หนูโอลีฟ พรุ่งนี้เช้าพี่น้ำฝนจะไปหาที่ห้องนะคะ หนูต้องไม่ลืมว่าหนูแพ้เกมพรุ่งนี้พี่จะไปใส่กางเกงในดอกไม้ให้ค่ะ” เธอก้มลงพูดข้างๆ หู

“ค่ะ” สนรับคำอย่างอ่อนแรง

สนลุกขึ้น ในขณะที่มิสเตอร์เคแต่งตัวเรียบร้อยยืนรอเขาอยู่แล้ว เขาเดินเข้าไป และวางตำแหน่งของดุ้นเนื้อน้อยไว้ใกล้ๆ มือของมิสเตอร์เค โดยที่ไม่ต้องให้อีกฝ่ายบอก

มิสเตอร์เคจับแท่งเอ็นนั้น และจูงสนออกเดินราวกับว่านั่นคือสายจูงสุนัข ทั้งสามเดินไปตามทางเดินของตึกและเมื่อไปได้ครึ่งทาง ของสนที่อ่อนตัวก็ค่อยๆ แข็งขึ้นสู้มืออีกครั้ง

____________________



ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจ้าในวันหยุด กลุ่มของเด็กใหม่ ระดับม.5 ได้นัดกันมาเพื่อซ้อมบทละครที่ตัวเองจะแสดงในอีกสามวันข้างหน้า กลุ่มที่เป็นนักแสดงหลักก็แยกมาซ้อมเช่นเคย

“เก่งๆ”

“ว่าไงต้น”

“เก่งดูตรงนี้สิ”

ต้นเปิดบทให้เก่งดู ช่วงการแสดงตรงนี้บทของต้นและเก่งที่จะเล่นด้วยกันมีเยอะพอสมควร แต่สิ่งที่ทำให้ต้นเป็นกังวลคือในนั้นมีบทที่ต้องจูบกันด้วย ต้นเขินจนหน้าแดงเมื่อเอาให้เก่งดู

“เอ่อ เพิ่งเห็นเหมือนกัน มันต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เดี๋ยวลองไปถามดูว่าจะแก้ได้ไหม”

“ไม่ต้องๆ เก่ง อย่าเลย” ต้นร้องห้าม เพราะไม่อยากทำตัวมีปัญหา ในครั้งก่อนเขาและกริชก็มีปัญหาในทำนองนี้มาก่อน และอีกฝ่ายก็ดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่หากจะต้องมีการแก้บท

“เอ้า แต่ต้นไหวเหรอ”

“ได้อยู่หรอก เป็นเก่งเล่นใช่ม้า เพราะงั้นไม่มีปัญหาหรอก เพื่อนกันนี่นา เป็นคนอื่นนี่เขินตายเลย” และต้นก็หัวเราะออกมาแบบเขินๆ ซึ่งทำให้เก่งเสียอาการไม่น้อย

“อะ อะ เอ่อ อะ เอ่อ เนาะ ฮ่าๆ ๆ ๆ” เก่งถึงกับพูดอะไรต่อไม่ได้

“คุยอะไรกันน่ะทั้งสองคน” กริชที่แยกออกไปซื้อน้ำ เดินกลับเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง

“เปล่าซะหน่อย” เก่งยังไม่หายจากที่เสียอาการเมื่อครู่

กริชส่งน้ำที่ฝากซื้อให้ต้น ต้นรับมา ซึ่งจากมุมมองของเพื่อนอย่างเก่ง เขารู้สึกว่าสองคนนี้มีบางอย่างที่เปลี่ยนไป เหมือนสนิทกันมากขึ้น รู้ใจกันมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ต้องเล่นละครด้วยกัน และบทคล้ายกันก็เป็นได้

“เอ้อ เหมือนว่าวันจันทร์ พวกนี้จะให้เรามาซ้อมกันช่วงคาบแรกคาบสอง เพราะตอนนั้นเหมือนจะว่างตรงกัน” เก่งบอกกับทั้งสองในเรื่องที่เขาเพิ่งรู้

“โอ้ย จะซ้อมอะไรกันเยอะกันแยะนะ คาบว่างหายไปอีกแล้ว” กริชโวยวายตามประสา

“เห็นว่าซ้อมแบบรันจริง คือใส่ชุดให้พร้อมเลย”

“โอ้โห จริงจังกันขนาดนั้นเลยเชียว”

“ใช่ๆ เอ้อ แล้วต้นกับกริช อย่าลืมไปคุยกับช่างแต่งหน้าด้วยนะ ไอ้ผู้กำกับมันบอกมา”

“ห๊ะ ต้องแต่งหน้าด้วยเหรอ” กริชตกใจจนแก้วน้ำแทบจะหลุดออกจากมือ

“เอ้อ นั่นสิ ต้องแต่งหน้าด้วยเหรอเนี่ย มันจะจริงจังเกินไปแล้ว” ต้นมีเรื่องทำให้ใจเต้นแรงอีกจนได้ เพราะในชีวิตเขานั้นไม่เคยแต่งหน้ามาก่อนเลยในชีวิต

“แต่จะว่าไปดุจากชุดที่แจกมาแล้วมันก็ไม่ธรรมดาจริงๆ นั่นแหละ” ต้นพูดพลางนึกไปถึงชุดที่เขากับกริชได้ ที่ตอนนี้อยู่ที่ร้านซักรีด เพราะเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันยังไง เมื่อทั้งสองคนทำชุดเลอะทั้งคู่

ต้นไม่รู้ว่ากริชทำชุดเลอะไปกี่ครั้ง แต่สำหรับต้น เขาทนสายตาที่คนอื่นๆ มองเขาในโรงอาหารได้ไม่นานเท่าไหร่ก็แทบจะละลายด้วยความอับอายอยู่ตรงนั้น ยิ่งมีกริชมาใส่ชุดเป็นคู่ยิ่งเป็นเป้าสายตาทวีความตื่นเต้นจนน้ำใสๆ ไหลออกจากตรงนั้นมาเนืองนองโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

แล้วนี่ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะมีสมาธิแสดงได้จนจบเรื่องหรือเปล่ากับสถานการณ์อย่างนี้



ขณะที่ต้นกำลังคิดอยู่นั่นเอง เขาก็มองไปเห็นเงาที่ตามมาหลอกหลอนเขาอยู่ตลอดเวลา โจนั่นเอง เขามาแอบๆ มองและส่งสัญญาณบางอย่างให้ต้นเห็น

ต้นบอกกับเพื่อนว่าเขาจะขอไปเข้าห้องน้ำและเดินหลบออกมา



“มีอะไรเหรอครับพี่โจ” ต้นถามโดยพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกไม่อยากเจอหน้าเอาไว้

“เรื่องที่เราตกลงกัน ขอเป็นวันพรุ่งนี้ได้ไหม”

“อะ เอ่อ” ต้นตกใจเพราะไม่มีเวลาเตรียมตัว

“ไปแค่ห้างใกล้ๆ นี่เอง”

“กะ ก็ได้ครับ เจอกันที่ห้างเลยใช่ไหมครับ”

“ใช่ๆ พอต้นถึงห้างแล้วก็โทรหาพี่นะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย เดี๋ยวพี่เลี้ยงเองถ้าอยากจะดูหนังก็ได้นะ พี่พร้อมเลี้ยงน้องต้นเหมือนกัน” เขาเสนออย่างใจป้ำ

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ”

“เอ่อ.. พี่โจครับ”

“ว่าไงน้องต้น”

“มีเรื่องสำคัญจะถามครับ คือที่ให้ผมไปห้างด้วยเนี่ย... ผมใส่ชุดปกติไปใช่ไหมครับ”


ออฟไลน์ ebonyz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่ 31 การออกเดตกับโจ  ตอนต้น

แน่นอนว่าการที่โจให้ต้นแต่งชุดตามปกติ นี่จะทำให้ต้นรู้สึกเบาใจไปได้มาก แต่วัดจากการกระทำของโจตลอดเวลาที่ผ่านมาแล้วนั้นทำให้ต้นไม่ได้รู้สึกไว้วางใจในตัวรุ่นพี่คนนี้เลยแม้แต่น้อง แต่อย่างไรซะ ในห้างตอนกลางวันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายหากโจคิดจะทำอะไรที่เขาอยากจะทำ

ต้นไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร ทั้งกริชและต่อ เพราะไม่อยากให้กริชลำบาก และจากวันนั้นตนก็ไม่ได้คุยกับต่ออีกเลย ได้แต่ส่งสายตาแบบเย็นชืดให้กันก็เท่านั้น

เมื่อนึกถึงต่อ ก็ทำให้ต้นลำบากใจไม่แพ้กัน เพราะจริงๆ แล้วต้นก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมันต้องมากลายเป็นแบบนี้ น่าอึดอัดมาก แต่ว่าต่อเองก็เถอะ ไม่เคยจะเข้าใจความหวังดี หรืออะไรต่างๆ สักอย่างเดียว เป็นคนที่น่าโมโหจริงๆ

เขาคิดเรื่อยเปื่อย จนรถโดยสารมาส่งยังทางเข้าห้าง

แดดช่วงเที่ยงร้อนจนแสบผิว ต้นรีบเข้าไปในห้าง เขาเริ่มหิวข้าวขึ้นมาบ้างแล้ว

ต้นกดโทรหาโจทันทีเมื่อเข้ามาภายในห้าง

“มาถึงแล้วเหรอน้องต้น”

“มาถึงแล้วครับให้ผมรอที่ไหนครับ”

“ไม่ๆ น้องต้น ขึ้นมาที่ชั้นห้าเลยนะ จากหน้าลิฟต์ เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอร้านอาหาร ร้านที่สองเลย คิดว่าน่าจะหิวแล้วพี่ก็เลยขึ้นมาร้านอาหารรอ เผื่อจะได้สั่งเลย จะกินอะไรหรือเปล่าล่ะพี่จะได้สั่งไว้ก่อน”

ต้นถามเมนูอาหารจากโจ และสั่งอาหารที่อยากจะกินเสร็จเรียบร้อย จึงได้วางสายและเดินไปหาลิฟต์ตัวที่ว่า ดูจากเสียงแล้ว ต้นจับไม่ได้ว่ารอบๆ นั้นมีคนอยู่กี่คน เพราะเสียงมันดูอึกทึกและวุ่นวาย เขาอาจมาคนเดียว หรือพากลุ่มเพื่อนมาด้วยอย่างเช่นทุกครั้งก็เป็นได้



ต้นเดินจนมาถึงร้านที่ว่า มันมีชื่อร้านว่า maid miracle ต้นถึงกลับแปลกใจว่า นี่มันใช่ร้านที่โจนัดมาจริงๆ หรือเปล่า เพราะหน้าร้านเป็นหญิงสาวสองคนที่ใส่ชุดเมดหน้าตาสุดน่ารัก กำลังเชื้อเชิญคนให้เข้าไปนั่งในร้านด้วยท่าทางสุดน่ารัก และเสียงที่ดัดจนโมเอะ และรูปประโยคแปลกๆ ซึ่งต้นเพิ่งเคยเจอ

“เชิญนายท่าน และนายหญิงเข้ามาทดลองใช้บริการที่เมดคาเฟ่ได้นะคะ วันนี้มีโปรโมชั่น สั่งครบ 400 บาทเช่าชุดเมดและถ่ายรูปคู่กับเมดฟรีด้วยนะคะ” เธอพูดเชื้อเชิญคู่รักคู่หนึ่งที่เดินผ่าน ดูท่าทางผู้ชายจะสนใจไม่น้อย เพราะคงอยากเห็นแฟนตัวเองใส่ชุดเมด แต่แฟนสาวคงไม่เอาด้วย เพราะที่สุดแล้วทั้งสองก็เดินผ่านไป

เหมือนเมดทั้งสองมองเห็นต้นที่ยืนลังเลอยู่หน้าร้านจึงพุ่งตรงเข้ามาหาทันที

“นายท่าน สนใจลองเข้าเมดคาเฟ่ดูไหมคะ”

“หน้าตาน่ารักแบบนายท่านเหมาะแก่การใช้บริการที่นี่มากเลยค่า เหล่าเพื่อนๆ เมดจะต้องยินดีรับใช้นายท่านอย่างแน่นอน”

“หรือนายท่านอยากจะลองใส่ชุดเมดดูก็ได้นะคะ เพราะมันต้องเหมาะสมและเข้ากับนายท่านเป็นที่สุด เพียงสั่งอาหารให้ครบ 400 บาท ก็จะสามารถเช่าชุดฟรี 2 ชั่วโมงด้วยนะคะ”

“อะ เอ่อ คือผมไม่ได้จะมากินที่นี่ครับ และก็ไม่ได้อยากจะแต่งชุดเมดด้วย” ต้นปฏิเสธด้วยความขวยเขิน เพราะทั้งสองรุกเข้าประชิดไวมาก

“แหม่ ไม่น่าใจร้ายนะคะนายท่าน เข้าไปหาอะไรเย็นๆ กินรอแฟนก็ได้ค่า”



“เอ้า น้องต้น มาถึงแล้วก็ไม่โทรหาพี่” เสียงของโจพูดขึ้นทำลายความกระอักกระอ่วนที่ต้นกำลังเจอพอดิบพอดี

“น้องๆ ครับ พี่คนนั้นเขามีโต๊ะนั่งแล้วครับ”

“ป่ะ ต้นตามพี่มา”

แล้วโจก็เดินเข้าไปในร้าน พร้อมๆ กับเมดสาวทั้งสองคนก็ผละออกจากต้น เพื่อไปหาลูกค้าคนอื่นต่อ

ต้นเดินตามเข้าไปในร้าน ซึ่งในร้านนั้นตกแต่งออกมาได้น่ารักลงตัวสไตล์ญี่ปุ่น และก็สะอาด เพราะเป็นร้านอาหาร ภายในร้านมีโต๊ะอยู่หลายตัวตามสัดส่วนของร้าน โดยมีตรงกลางร้านเป็นเวทีวงกลมยกพื้นสูงกว่าปกติ คนในร้านค่อนข้างหนาตา เพราะมีหลายโต๊ะที่มีคนนั่งอยู่แล้ว สาวเสิร์ฟในชุดเมดกระจายอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ออกท่าทางและเสิร์ฟอาหารด้วยความน่ารักตามคอนเซปของร้าน

ต้นเห็นโจนั่งอยู่ที่มุมของร้าน และตามคาด เขาไม่ได้มาคนเดียวที่โต๊ะมีคน นั่งอยู่ถึงสามคนนอกเหนือจากโจ และเป็นคนที่ต้นคุ้นหน้าทั้งนั้น

“มาๆ น้องต้น อาหารใกล้จะมาแล้ว”

“เอ่อ ให้ผมนั่งตรงไหนครับพี่”

ที่ต้นถามแบบนั้นเพราะต้นเห็นว่าโต๊ะที่โจเลือกเป็นโต๊ะสำหรับสี่คน และตอนนี้ทุกคนนั่งประจำที่ของตัวเองเต็มไปหมดแล้ว

“งั้นเดี๋ยวผมขอเก้าอี้เสริมนะครับ” ต้นหันไปจะเรียกเมดเพื่อขอเก้าอี้ แต่โจหยุดไว้ก่อน

“ไม่ต้องๆ น้องต้นมานั่งตรงนี้” โจลุกขึ้นสละที่ให้ต้นนั่ง

“ขอบคุณครับพี่โจ แต่เดี๋ยวผมนั่งเก้าอี้เสริมก็ได้ครับ” ต้นพูดพร้อมเข้าไปนั่งแทนที่โจ บริเวณเก้าอี้ยาวยังอุ่นจากเจ้าของเดิมอยู่ แล้วโจก็ทำให้ต้นรู้สึกตกใจ ปนประหลาดใจ

เขาดันตัวเองต่อจากต้นทันทีและเบียดต้นจนเข้าไปติดกับเพื่อนอีกคน จนกลายเป็นว่าต้นถูกอัดแน่นอยู่ตรงกลางระหว่างชายร่างใหญ่สองคน

“เห็นไหม นั่งได้แล้ว”

“เอ่อ คือว่า ผมเกรงใจพี่เขาน่ะครับ อึดอัดแย่” ต้นพูดกับโจ โดยหมายถึงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กับตัวเขาและผนังร้าน

“พี่ไม่มีปัญหาครับ น้องต้นตามสบายเลย” พี่คนที่อยู่ในสุดพูดพร้อมยิ้มมาให้

“งั้นก็ไม่มีปัญหาล่ะเนาะ”

ต้นไม่รู้จะพูดอะไรเลยเงียบไว้ สถานการณ์ยิ่งน่าอึดอัด ต้นอยากจะให้วันนี้มันจบลงไปเร็วๆ ที่สำคัญคือ คนที่อยู่ด้านในสุดนั้น ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือบังเอิญ แต่มือของเขาวางอยู่บนเป้าของต้นมาได้สักครู่แล้ว

“ว่าแต่แนะนำตัวกันก่อนไหม น้องต้นจะได้รู้จัก เพราะน้องต้นรู้จักกูกับไอ้วินแล้วพวกมึงแนะนำตัวกันเลย”

“พี่ชื่อโชตินะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” คนตัวอวบๆ ที่นั่งเบียดกับต้นเริ่มแนะนำตัวก่อน แต่มือของเขาก็ขยับบีบๆ เป็นจังหวะเช่นเดียวกัน ต้นเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเสียแล้ว เพราะร้านมีคนเดินไปเดินมาตลอดเวลา การที่ผู้ชายสามคนมานั่งเบียดกันแบบนี้มันดูเป็นจุดเด่นพอควร

ขณะที่คนด้านตรงข้ามที่นั่งข้างคนชื่อวินกำลังจะแนะนำตัวอาหารก็เข้ามาเสิร์ฟพอดี

“อาหารมาแล้วค่านายท่าน”

“ก่อนที่จะเริ่มรับประทานอาหาร จำเป็นที่จะต้องร่ายมนตร์ใส่อาหารเพื่อเพิ่มความอร่อยก่อนนะคะ” เธอพูดพร้อมหยิบ หูแมวขึ้นมาห้าอัน

“น้องๆ ไม่ต้อง อันเดียวก็พอแล้ว” โจพูดขัดก่อน และหยิบหูแมวจากพนักงานมา และสวมลงบนหัวของต้นโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

“นี่ไงน่ารักมาก ต่อเลยน้อง”

“เดี๋ยวขอให้เหล่านายท่านวาดรูปหัวใจ พร้อมพูดตามนะคะ ว่าจงอร่อยขึ้น”

“เอ่อ แปบนึงนะน้อง โปรโมชั่นที่ว่ายังอยู่ไหม” โจขัดขึ้นก่อนที่จะพูดจบประโยค

“อ่อ ยังอยู่ค่า ว่าแต่นายท่านคนใดจะเป็นคนรับโปรโมชั่นคะ” เหมือนคนพูดจะรู้อยู่แล้วแค่ถามให้แน่ใจเท่านั้น

ทุกคนบนโต๊ะชี้มาที่ต้นโดยพร้อมเพรียง

“เอ่อ อะไรกันครับทุกคน” ต้นถึงกับเหวอเพราะงงในสิ่งที่ทุกคนกำลังคุยและทำกันอยู่

“ขอเชิญนายท่านตามมาเลยค่ะ เอ หรือต้องเรียกนายหญิงดีล่ะคะ” เธอพูดพร้อมยิ้ม ยิ่งทำให้ต้นสับสนยิ่งกว่าเดิม

“เอ้าน้องต้น ตามน้องเค้าไปเลย” โจลุกให้ต้นสามารถออกได้

“นี่มันอะไรครับพี่ ผมงงไปหมดแล้ว”

“เดี๋ยวน้องเข้าก็บอกเองล่ะน่า เอานี่ไปด้วยนะ” โจยื่นถุงบางอย่างเล็กๆ ให้ต้นถือไปด้วย

เมดสาวเดินนำทางต้นเข้าไปยังอีกด้านหนึ่งของร้าน ที่นี่มีฉากกั้นและมีห้องที่กั้นขึ้นมาคล้ายๆ ห้องลองชุดสองห้อง และนอกเหนือจากนั้น ยังมีชุดสาวใช้หรือว่าชุดเมด แขวนเรียงหลายอยู่หลายชุด ซึ่งบางชุดก็ดูคล้ายกับชุดที่พนักงานใส่ และบางชุดก็ดูแปลกตาเพราะมีส่วนเว้าที่เยอะกว่า และความสั้นยาวที่แตกต่างกัน

“โปรโมชั่นของทางร้านค่ะ ถ้าสั่งอาหารครบสี่ร้อยบาท จะสามารถเช่าชุดเมดใส่ได้ฟรี 1 ชั่วโมง”

“อะ เอ่อ แล้ว” ต้นถึงกับพูดไม่ออกเพราะเข้าใจแล้วว่าตัวเองต้นทำอะไร

“นายหญิงเลือกชุดที่จะใส่ได้เลยค่ะ พนักงานเปลี่ยนคำเรียกทำเอาต้นถึงกับหน้าแดงด้วยความอาย

เขาเลือกชุดด้วยมือที่สั่นเทา ไม่เคยเห็นชุดแบบนี้มาก่อน บางตัวก็ดูรุ่มร่ามและมีผ้าพันไปมาดูน่างุนงง เขาตัดใจเลือกมาหนึ่งดูที่ดูเรียบที่สุด

“เชิญนายหญิงเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องลองได้เลยค่ะ” เธอพูดพร้อมผายมือ

ต้นเดินตามที่บอกอย่างเสียมิได้ เพราะมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาได้แต่ยอมให้มันจบๆ ไป จะได้ไม่มีอะไรค้างคากันเสียที ต้นถือชุดเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า ก่อนที่จะแขวนชุดไว้ และเปิดดูถุงที่โจให้มา

ด้านในเป็นกางเกงในผ้าฝ้ายสีขาว และกางเกงซับในที่มีรูปร่างคล้ายๆ กางเกงในสีขาวมีระบายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งถุงน่องและสปอร์ตบราสีขาวทั้งคู่

ในนั้นมีจดหมายเล็กๆ แนบมาด้วย

“ใส่ให้หมดนะน้องต้น”

เขาสถอนหายใจและค่อยๆ ถอดชุดออก ใจค่อยๆ เต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เป็นครั้งที่สองแล้วตั้งแต่มาที่นี่ที่ต้นได้ใส่ชุดของผู้หญิงอีกครั้ง มันช่างน่าอับอาย ตื่นเต้น และแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน

ต้นถอดกางเกงในออกและสวมกางเกงในของผู้หญิงเข้าไปแทนที่ความตื่นเต้นดันจนกางเกงในผ้าฝ้ายนั่นโป่งพองออกมา




ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด