★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 165922 ครั้ง)

ออฟไลน์ baka_bunny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ชวินต้องเคยทักทายเจ้าเด็ก AEC สมัยที่น้องยังมีชีวิตอยู่แน่เลย ในส่วนข่าวของสิงหานั้นจะทำอย่างไรหล่ะทีนี้

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
น้องเออีซี ยังไม่จบ เรื่องเอดส์มาอีกละ สงสารสิงหากะปิงจัง
เขาเป็นแฟนกันแล้ว จ้า ไม่เคยแอบเหอะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
แงแง ใจพี่นี่เตลิดไปไกลมากแล้วจ้า ดีที่ชวินแค่ช็อคไม่ล้มตึง
ไม่งั้นอาจจะหนักกว่าแค่หลอนก็ได้

ยังงงใจว่าทำไมต้องเป็นชวิน พอบอกว่าเหมือนคุ้น คุ้นยังไงล่ะทีนี้
เพราะคุ้นหรอ เค้าถึงมาหา มาชวนไปเล่นด้วยกัน หลอนมากค่ะ
มีจับมือถือแขน เย็นยะเยือกไปถึงปอดเลย ไม่ต้องมีฮอลคูลใดๆ

แล้วหนักกว่าอะไร คือกลางวันไง กลางวันจะออกมาเล่นแบบนี้ไม่ได้
สิงหากับโบ้ก็โน่นเลยจ้า แชมป์นักวิ่งห้าสิบเมตร เส้นชัยคือลิฟต์

สงสารทีมสิงหาน่ะ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน หลอนกันตาตั้ง
รอพ่อชวินมาค่ะ ไม่รู้จะช่วยได้ไหม ต้องมีอะไรเชื่อมโยงน่ะ

ตลกปิง เอ็นดูด้วย อยากรู้ก็อยาก แต่ถ้ามากไป ไม่ต้องแล้วก็ได้
ชอบความแหย่กันของสมุทรปิง แต่ก็ห่วงน้องมาก มีหวงเบาๆ


ออฟไลน์ mildmildss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นี่ก็กลัวจนหน้าซีดเหมือนกันขนาดแค่อ่านเนี่ย :hao5:

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
คือมาอ่านตอนเที่ยงคืน ยิงยาวยันตีห้า กรี๊ดแรงมากค่ะ ตาสว่างมากกกก ฮือออออออ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
น้อง AEC เข้าใจตั้งชื่อให้นะ ชวิน  :m20:
โดนจนได้ สำหรับสิง  :ling3:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ น้องจี :L2:
ปล. น่าจะหลอนอีกหลายตอน  :z1:

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาแบบโบ้ม ๆๆ มาก ฮืออออ สงสารคุณชวิน

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อ่าวๆๆๆๆ ความผียังไม่ทันหาย ความอะไรเข้ามาแทรกเนี่ย

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่สิงหา ชวิน พี่โบ้ พี่เต้ เค้าขอโทษ

เค้าขำอ่ะที่พี่โดนผีหลอก

เค้าขอโทษ มันอดขำไม่ใหวจริงๆ55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
สิงหาจะยังไงดีล่ะครับทีนี้ เริ่มมีรูปลงโซเชียลแล้ว

ออฟไลน์ iNklaNd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
อ่านไปแบบทั้งกลัว ทั้งขำ ชวินเราขอโทษ ~~~ 555

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ชวินนนน เด็กคนนั้นเป็นใครกัน
ความเออีซีไม่ทันหาย รูปถ่ายมาอีกแล้วค่ะ
กำลังลุ้นเลย รอค่ะ

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ผีหลอนยางจากตอนั้นทีายันตอนล่าสุด
แต่คิดว่ามีจะเกี่ยวข้องกับชวินแน่ๆ

สิง จบเรื่องนั้นต่อเรื่องนี้ิ
ข่าวแบบนี้น่าจะโดนไม่น้อยแน่ๆ
แต่ตามสไตล์สิงก็จะเงียบๆผล่อยให้จบไปเอง

Sent from my HMA-L29 using Tapatalk


ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/


18. พยู



ในยุคที่สื่อโซเชียลมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวัน การกระทำต่างๆ ทุกคนเริ่มแสดงออกผ่านช่องทางส่วนตัวออนไลน์ แต่มันส่วนตัวจริงหรือในเมื่อมีผู้คนอีกมากมายสามารถมองเห็น คำพูดบางคำที่ไม่กล้าพูดต่อหน้าคนอื่นในชีวิตจริง กลับถูกพิมพ์แล้วส่งออกไปอย่างง่ายดายโดยไม่มีการหยุดคิดสักนิดว่าควรไม่ควร จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ การคิดในใจเป็นเรื่องยาก การโพสต์ระบายความในใจกลับง่ายดายเพียงปลายนิ้ว แล้วเรียกการกล่าวหาประณามแสดงความคิดเห็นต่อคนที่ไม่สนิทว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว...ไม่มีคำว่าส่วนตัวในโลกของโซเชียล

“ฝากขอโทษพ่อแม่ปิงด้วยนะที่ทำให้เดือดร้อน เดี๋ยวผมเข้าไปขอโทษด้วยตัวเองอีกที” สิงหาโทรหาคนรักทันทีที่รู้เรื่องรูปหลุด เขามีธุระยุ่งหลายอย่างเลยไม่ได้เช็กข่าวสารอะไร ฝ้ายเป็นคนโทรมาบอกเรื่องนี้รวมถึงทิศทางคำวิจารณ์ที่เป็นลบมากกว่าบวก โชคดีที่รูปนั้นมองไม่เห็นใบหน้าของน่านนที มีเพียงคนสนิทที่รู้เรื่องอยู่แล้วเท่านั้นที่มองออกว่าเป็นรูปของใคร

“คุณสิงไม่ต้องคิดมากนะ รูปนั้นก็ไม่ค่อยเห็นหน้าปิงเท่าไร พ่อแม่ปิงโอเค พี่หมุดก็มีแซวนิดหน่อยแต่แค่ขำๆ ไม่ต้องเครียดนะครับ” น่านนทีปลอบคนที่งานยุ่งจนเขาคิดว่าจะไม่รู้ข่าวนี้ ตัวเขาเองก็เพิ่งรู้จากออมเหมือนกัน

“ผมกลัวต่อไปมันจะลงรูปปิงแบบเห็นหน้าชัดๆ นี่สิ”

“...แต่ปิงไม่ใช่ดารานะ”

“กลัวไหมครับ” สิงหาจับน้ำเสียงที่ค่อนข้างกังวล ไม่สดใสเหมือนทุกครั้งได้ น่านนทีไม่ใช่คนในวงการ การอ่านข่าวกับการเป็นข่าว ความรู้สึกมันต่างกันเยอะ

“....นิดหน่อย ทำตัวไม่ถูกมากกว่า” น่านนทีก็ไม่ได้รู้สึกดีกับรูปหลุดครั้งนี้นัก เขาไม่คิดว่าจะมีคนแอบถ่ายแม้แต่ในโรงพยาบาล แถมยังวิจารณ์เกินจริงไปมาก

“ผมขอโทษนะที่ทำให้เดือดร้อน”

“ไม่ต้องขอโทษปิงแล้ว ถึงปิงจะเอ๋อๆ หน่อยแต่ก็แยกแยะได้นะว่ามันไม่ใช่ความผิดของคุณสิงเลย ตั้งแต่เริ่มคุยกันปิงก็ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะต้องมีข่าวสักวัน ไม่ต้องห่วงเรื่องปิงหรอก ห่วงตัวเองก่อน มันจะมีผลกับงานรึเปล่า”

“ก็มีบ้าง โชคดีที่หนังยังไม่เสร็จ ถ้าเจอข่าวช่วงหนังเข้าฉายคงแย่เหมือนกัน”

“แล้วคุณสิงจะทำไงต่อ ปิงว่าคุณต้องออกมาพูดอะไรบ้างนะ อย่าเงียบเหมือนเมื่อก่อน ไม่ใช่เพราะปิงกลัวข่าวเสียหายมาถึงตัวเองนะ แต่เพราะว่ามันไม่แฟร์กับคุณสิง กว่าจะลดน้ำหนักจนผอมได้เท่านี้มันยากแค่ไหน อยู่ดีๆ หาว่าป่วยเป็นโรคนั่นนี่ ไม่รู้ถึงความทรมานตอนอดอาหารของคนอื่นบ้างเลย” น่านนทีบ่นอย่างเห็นใจ ส่วนคนฟังได้แต่ยิ้มขำ พยายามกลั้นเสียงหัวเราะไม่ให้หลุดเข้าหูคนเป็นห่วง

“เดี๋ยวผมลองปรึกษานักรบมันก่อน ไม่ค่อยอยากให้ข่าวเกี่ยวกับหนังหลุดออกไปก่อนเริ่มโปรโมต อาจให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แทน”

“ก็ดีครับ ถ้าจะออกข่าวเมื่อไรบอกปิงก่อนนะ มีแฟนคลับรุ่นใหญ่รอเชียร์อยู่ที่บ้านหนึ่งคนถ้วน” คนพูดหัวเราะคิกคักที่ได้แอบแซวแม่ตัวเอง รายนั้นเป็นห่วงลูกและสงสารพระเอกขวัญใจของตัวเอง อยากจะโพสต์บอกทุกคนว่าเป็นคนทำปิ่นโตลดน้ำหนักส่งให้แทบทุกวัน แต่ก็เกรงใจเลยให้เขามาแอบๆ ถามก่อนว่าแม่โพสต์ได้ไหม ตอนนี้ก็รู้แล้วว่ายังไม่ได้ ไว้สิงหาให้สัมภาษณ์เมื่อไรค่อยดูกระแสอีกที

“หนึ่งคนเองเหรอ” สิงหาถามย้ำถึงจำนวนแฟนคลับ แม่ก็ส่วนแม่นะ

“มีแฟนคลับหนึ่ง แฟนครับอีกหนึ่ง พอใจหรือยังครับ”

“น่ารัก”

“ไม่ต้องชมเลย ไปทำงานได้แล้วครับ ปิงทำงานต่อละ” น่านนทีให้กำลังใจคนที่กำลังเตรียมเข้าฉากสุดท้าย วันนี้ก็จะมีกินเลี้ยงปิดกล้อง พรุ่งนี้ก็ยังต้องตื่นเช้าเข้าร้านทีไทม์ที่จะทดลองเปิดวันแรก หลังจากรู้จักกันมากขึ้น เขารู้แล้วว่าสิงหาเป็นคนไฮเปอร์คนหนึ่ง อยู่ว่างไม่ได้ต้องหางานให้ตัวเองทำตลอดเวลา ตรงข้ามกับเขาที่อยากนอนนิ่งๆ อยู่บนเตียงทั้งวัน



เสียงปรบมือดังรอบสถานที่ถ่ายทำฉากสุดท้าย สิงหายกมือไหว้ขอบคุณทีมงานทุกคนรอบตัว วันนี้มีเขาเข้าฉากเพียงลำพัง หลังการถ่ายทำเสร็จสิ้น ทีมงานทุกคนรีบเก็บของเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงปิดกล้องที่ร้านอาหารของนักรบ นักแสดงในเรื่องทยอยกันเดินทางมาร่วมงาน นักแสดงหลายคนผลัดกันขึ้นไปร้องเพลงสร้างความสนุกสนาน แม้แต่สิงหาก็ยังถูกบังคับให้ร้องสักหนึ่งเพลง แต่เมื่อทุกคนได้ฟังเสียงที่นำดนตรีไปหลายจังหวะเลยผลักพระเอกไปยืนเต้นเป็นแดนเซอร์แทน

“เสียงร้องมึงแม่งห่วยเหมือนเดิมไอ้เหี้ย คนอะไรจับจังหวะไม่เคยได้” นักรบหัวเราะเพื่อนที่เพอร์เฟกต์ไปแทบทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้ที่ไม่เคยพัฒนาขึ้นเลย

“ดนตรีแม่งช้าเอง กูไม่ผิด” สิงหาหัวเราะขำกับข้ออ้างของตัวเอง ถ้าร้องตรงจังหวะ คีย์ก็เพี้ยน พอถูกคีย์จังหวะก็เพี้ยนอีก

“ไหนว่าจะชวนแฟนมาด้วย กลัวรูปหลุดอีกเหรอวะ” ตอนนี้ที่โต๊ะมีเพียงเขากับสิงหาสองคน เลยไม่ต้องกังวลที่จะพูดเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย

“พรุ่งนี้เขาทำงานหกโมงเช้าโน่น พามาไม่ไหวว่ะ เลิกดึกเกิน” สิงหาชวนน่านนทีแล้ว ตอนแรกอีกฝ่ายก็อยากมาเมื่อรู้ว่าจะพามาเปิดตัวกับเพื่อนอีกคน แต่ต้องทำงานตอนเช้าสิงหาเลยห้ามไว้ก่อน

“ว่างๆ ก็พามา คนนี้ตัวจริงนะ”

“มีคนเดียวเว้ย น่ารัก เดี๋ยวค่อยนัดกันอีกที”

“แล้วเรื่องข่าวเอาไง พวกรายการบันเทิงเริ่มพาดพิงถึงหลายช่องแล้วนะ เรื่องหนังกูคงไม่ค่อยกระทบเท่าไรเพราะยังไม่ได้เริ่มตัดต่อเลย แต่ผู้ใหญ่เขาก็ไม่ค่อยโอเคหรอก กูเองก็เป็นห่วงมึงด้วย” ตัวนักรบเองไม่ได้กังวลเรื่องข่าว แต่ผู้ใหญ่ที่เป็นสปอนเซอร์กังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อหนัง ถึงจะยังไม่ได้เข้าฉายวันนี้พรุ่งนี้ แต่ถ้าไม่แก้ปัญหาก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าวันเข้าฉาย หนังจะไม่ถูกโจมตีด้วยการขุดข่าวนี้ขึ้นมาอีก

“ว่าจะให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่ะ ไม่อยากไปออกกล้อง”

“ดีแล้ว กูไม่อยากให้คนเห็นมึงช่วงนี้ด้วย เอาไว้น้ำหนักเท่าๆ เมื่อก่อนค่อยออก กูยังอยากให้รายละเอียดหนังยังเป็นความลับอยู่” หนังเรื่องนี้นักรบทุ่มเทกับมันไปมาก เขาคาดหวังไกลว่าเรื่องรายได้ หากตัดต่อเสร็จทันเขาจะส่งประกวด ได้รางวัลก็ดี ถ้าไม่ได้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์

“เสียดายรูปที่หลุดออกไปเหมือนกันนะ คนคงเห็นแล้วล่ะว่ากูผอมลงมาก”

“แค่รูปสองรูปไม่เป็นไรหรอก คนยังไม่ติดตามาก อย่ามีเป็นคลิปแล้วกัน”

“มึงมีรายการไหนแนะนำไหมวะ ขอที่ถามดีๆ ไม่จี้กูเยอะ กูยังไม่อยากพาดพิงคนอื่น”

“พวกรายการข่าวเช้าไง เอาที่ไม่ใช่รายการบันเทิงข่าวบันเทิงนะ ถ้าข่าวช่วงเช้าคนทำงานแม่บ้านจะดูเยอะ คำพูดนักข่าวก็จะไม่แรงมาก อย่าไปพวกรายการเย็นๆ ค่ำๆ พวกนั้นชอบจี้ให้มึงตอบพาดพิงไปถึงคนอื่น ว่าแต่มึงรู้แล้วเหรอว่าฝีมือใคร”

“คนจ้องหาเรื่องกูมีไม่เยอะนะ น่าจะพวกเดิมแต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวทำเองหรือพวกแฟนคลับที่ไม่ชอบกูอยู่แล้ว” สิงหายังไม่ได้ให้เพื่อนช่วยสืบ ตอนนี้ปัญหาเกิดจากใครไม่สำคัญเท่าจะแก้ไขยังไง

“ได้ข่าวว่าคู่นั้นถอนหมั้นกันเงียบๆ ไปแล้วนี่ กูว่าพีทมันเริ่มเปิดตัวนะ ควงนายแบบไปงานปาร์ตี้บ่อย ตอนงานประกาศรางวัลเดือนที่แล้วกูก็เจอ เดินเข้างานคู่กันกับมีนา แต่หลังงานเลิกไปปาร์ตี้กับนายแบบที่มันกำลังดัน กอดซบกันทั้งงาน” นักรบเองก็พอจะรู้จักพีทแฟนเก่าสิงหา ยิ่งกับมีนานี่เคยได้ร่วมงานกันด้วยซ้ำ พอเขามาทำเบื้องหลัง ข่าววงในต่างๆ เหมือนจะรู้ลึกยิ่งกว่าเดิมเพราะทำงานพบปะผู้คนหลายกลุ่มมากขึ้น เส้นสายก็เริ่มมีเยอะขึ้นตามไปด้วย

“แล้วมีนาไม่วีนแย่เหรอ” สิงหาไม่ได้สนใจคู่นั้นนานแล้ว พวกนั้นก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับเขา พีทเคยส่งข้อความแล้วก็พยายามโทรมาบ้าง แต่พอเขาไม่ตอบกลับก็เงียบหายไปเอง

“กูไม่เห็นในปาร์ตี้นะ น่าจะไม่ได้ไป เขาลือว่ากำลังจะไปเป็นบ้านเล็กคนใหญ่คนโต ตอนแรกที่ยื้อคู่หมั้นไว้คงเพราะยังหาทางไปไม่ได้นี่แหละ ผู้ใหญ่เขาว่าเส้นใหญ่อยู่ เร็วๆ นี้คงมีผลงานใหม่ๆ ออกมาเยอะอยู่หรอก”

“กูไม่ได้ข่าวเลยว่ะ บ้านพีทมันยอมให้เปิดตัวด้วยเหรอ”

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ข่าวไม่ออกนะ เห็นได้ตามงานเฉยๆ คงช่วยๆ กันปิดอยู่มั้ง ช่วงนี้มีนาคงพยายามขุดกระแสมึงกับพีทขึ้นมาให้ตัวเองน่าสงสารเหมือนเดิม รูปหลุดมีไม่เยอะอาจเพราะบ้านพีทมันช่วยตามเก็บให้ก็ได้ กลัวไปพาดพิงลูกสุดที่รัก”

“เฮ้อ...แม่งจะคบจะเลิกก็ยังมาสร้างความเดือดร้อนให้กูเหมือนเดิม เซ็งว่ะ”

“กูบอกตามตรงนะสิง ถึงสมัยนี้คนจะเปิดรับมากขึ้น ซีรีส์เกย์มีเยอะ นักแสดงเพศที่สามก็เข้ามามีบทบาทในวงการมากขึ้น แต่ในวงการการแสดง คนกลุ่มนี้ก็ยังได้รับแค่บทตลกหรือตัวร้ายอยู่ดี ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นจริงๆ ก็ได้แสดงซีรีส์เฉพาะกลุ่มไป ไม่มีใครเอาเกย์จริงๆ ไปแสดงซีรีส์เกย์ เพราะเขากลัวคนจะไม่ดู ส่วนนักแสดงหน้าใหม่ที่เกิดจากซีรีส์พวกนั้นก็ไม่มีสักคนได้ก้าวเข้ามาเล่นละครปกติ ยกเว้นจะเลิกรับงานซีรีส์ วงการนี้มันไม่ได้เปิดกว้างจริงๆ หรอก มันแค่เปิดอีกประตูให้เดินเข้าไปในห้องที่เล็กกว่าเดิม”

“กูรู้ คนแบบกูมันเป็นกลุ่มคนส่วนน้อย คนที่ชอบจริงๆ รับได้จริงๆ ก็มีน้อย ละครบางเรื่องมีตัวแสดงเป็นเกย์แต่ก็เป็นแค่บทน้องพระเอกบ้าง หลานพระเอกบ้าง หรือลูกตัวร้ายไปเลย กูเข้าใจนะว่ามันยากในวัฒนธรรมของเรา สังคมของเรา เขาไม่อยากให้ทำออกมาแล้วกลายเป็นส่งเสริมหรือเป็นตัวอย่างไม่ดี อันนี้กูเข้าใจ แต่นักแสดงบางคนที่เปิดตัวว่าคบเพศเดียวกันทำไมถึงโดนดอง จากนางเอกพระเอกก็กลายไปเป็นบทพระรองบ้าง ตัวประกอบบ้าง เผลอๆ ก็หายหน้าจากวงการไปเลย ฝีมือมันไม่เกี่ยวกับเรื่องรสนิยมทางเพศไม่ใช่เหรอวะ ทำไมพอบอกว่าชอบผู้ชายต้องให้ไปแสดงเป็นกะเทย หนังต่างประเทศพอเข้าไทยมีบทเพศที่สามต้องพากษ์เสียงแหลมๆ มันไม่ใช่นะเว้ย แค่เป็นเกย์ไม่ได้มีปัญหากล่องเสียง จะทำเสียงแหลมทำเหี้ยอะไร”

“บางคนแม่งก็ยังไม่เข้าใจว่าอะไรคือการเหยียดคนอื่น ตีตราคนอื่น เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนรูปแบบความคิดดั้งเดิมออกไป พวกซีรีส์หรือหนังเฉพาะกลุ่มพวกนี้มันก็ดี ถึงกลุ่มคนดูจะแคบแต่ก็ยังดีที่มีให้เห็น ให้ความคิดคนมันได้งอกเงยไปในทิศทางอื่นบ้าง”

“ถ้ามึงไม่คิดอะไร กูอยากให้มึงลองๆ หาบทหนังเกี่ยวกับเพศที่สามสักเรื่อง เกย์ กะเทย ทอม อะไรก็ได้ ทำให้มันดีให้มันถูกต้องในโลกจริงๆ แล้วกูจะมาแสดงให้ บทอะไรก็ได้”

“ชัวร์รึเปล่า พูดแล้วของขึ้นเลยนะเนี่ย อยากลองเหมือนกัน” นักรบรู้สึกไฟลุกท่วมกับความคิดของสิงหา เขาได้ตามข่าวหนังไทยเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับคู่รักเกย์ ได้รางวัลจากต่างประเทศ แต่ในประเทศเราเองเข้าฉายเพียงบางแห่งเท่านั้น บางจังหวัดไม่มีให้ชมเลยด้วยซ้ำ

“เออจริง รีบๆ หน่อยแล้วกัน เผื่อกูต้องลาวงการอีกรอบ”

“ไอ้ห่า เอะอะจะหนีอย่างเดียว เดี๋ยวต่อยคว่ำเลย สู้สิวะสู้”

“เออ สู้อยู่แล้ว คราวนี้มีคนต้องปกป้อง ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว ค่อยมีแรงสู้หน่อย” เขาพูดแล้วฉีกยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงคนที่ตัวเองต้องปกป้อง คนแก้มนิ่มๆ ที่ห่วงเขาเหลือเกิน กลัวว่าคนจะไม่เข้าใจความลำบากในการอดอาหารของเขา

“คิดได้ก็ดี ไอ้ห่า ไม่สู้เพื่อตัวเองก็ยังดีที่สู้เพื่อแฟน มึงนี่มันขี้อวดเหมือนกันนะ” นักรบเอ่ยแซวเพื่อนที่รับมือกับปัญหาครั้งนี้ได้ดีกว่าเดิม ทั้งคู่มีเวลานั่งคุยกันเพียงลำพังไม่นานก็ถูกนักแสดงและทีมงานลากออกไปร้องเพลงอีกรอบ ไม่มีใครสงสัยในตัวสิงหาเกี่ยวกับข่าวเลย ทุกคนรับรู้และเห็นมาตลอดว่าพระเอกคนนี้ทุ่มเทมากแค่ไหน อดทนมากแค่ไหน หลายคนอดสงสารไม่ได้ที่สิงหาไม่ได้รับความยุติธรรม หลายคนอยากออกไปช่วยโต้ตอบ แต่รายละเอียดการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ต้องเก็บไว้เป็นความลับ ทุกคนเลยทำได้เพียงให้กำลังใจและเฝ้ารอวันที่คนอื่นจะรู้ความจริง



เรื่องข่าวครั้งนี้แทบไม่มีผลกระทบอะไรกับน่านนทีเลย พ่อแม่เป็นห่วงอยู่บ้างแต่เชื่อมั่นในการตัดสินใจของลูก เมื่อลูกเข้มแข็งและยืนยันว่ารับได้ไม่มีปัญหา ทุกคนในครอบครัวก็ได้แต่ให้กำลังใจและคอยเฝ้าดูอยู่ข้างหลัง เพื่อนร่วมงานที่รับรู้ตั้งแต่เริ่มจีบกันก็รู้ความจริงทุกอย่างอยู่แล้ว โดยเฉพาะโจที่รู้ว่าทำไมสิงหากับน่านนทีถึงไปอยู่ที่โรงพยาบาล เรื่องนี้เขารายงานถึงผู้จัดการคอนโดฯ เรียบร้อย ทางนั้นก็กำลังหนักใจกับปัญหานี้เหมือนกันแต่ยังไม่มีโอกาสเข้าไปคุยกับสิงหาเป็นการส่วนตัว น่าจะเป็นเพราะยังหาทางช่วยลูกบ้านคนนี้ไม่ได้เช่นกัน แต่ก็ยังมีคนสองจำพวกที่ดูจะเป็นเดือดเป็นร้อนมากกว่าเจ้าของเรื่อง หนึ่งคือกลุ่มเพื่อนเก่าอย่างภัทรและแพน ทั้งส่งข้อความทั้งโทรมา เขาอาจจะรับสายถ้าไม่บังเอิญไปเห็นท็อปคอมเมนต์ที่มีคนกดไลก์มากที่สุด


คนในรูปน่าจะเป็นเพื่อนเราเอง เคยเห็น ส. ขับรถมารับดึกๆ ไม่รู้ไปไหนกัน เห็นชอบนัดเจอกันตอนดึกบ่อยๆ




น่านนทีอ่านแล้วอยากจะตอกกลับให้แสบ แต่ถ้าพิมพ์อะไรลงไปก็จะเป็นการชี้ทางให้คนอื่นตามมาวุ่นวายกับเขาแทนเลยได้แต่นิ่งเฉยไว้ แน่นอนว่าแม่ของเขาเองก็ได้อ่านข้อความนี้แล้วและรู้ว่านี่คืออดีตเพื่อนที่ไม่เจอกันนาน เขาเลยรีบฟ้องว่าสองคนนั้นเคยทำอะไรกับเขาไว้บ้าง ต่อไปถ้าบุกมาหาที่บ้านอีกให้ไล่ไปเลย บอกว่าเขาไม่อยู่ไม่ว่างอะไรก็ได้ ส่วนอีกพวกที่เดือดร้อนหนักว่าเพื่อนเก่าของเขาก็คือสองคนตรงหน้าตอนนี้

“ทำเป็นเชิด ขึ้นห้องลูกบ้านเป็นว่าเล่น ที่ไหนได้...” หงส์ลุกขึ้นจากที่เก้าอี้ทำงาน คล้องแขนสาเพื่อนสนิทตรงมาหาน่านนทีทันทีที่อีกฝ่ายเดินเข้ามาในห้องทำงานนิติบุคคลคอนโดฯ

“พวกหาจ็อบเสริมให้คนอื่นหิ้วขึ้นห้องง่ายๆ มันก็มีจุดจบแบบนี้ล่ะ ไม่รู้ใครเอาโรคมาติดใคร” สารับลูกต่อจากเพื่อนอย่างรู้ใจ ยกยิ้มให้กันเมื่อเห็นน่านนทีนิ่งเงียบเถียงไม่ออก

“น่าจะพอๆ กันนะ ก่อนมาอยู่นี่ได้ข่าวว่าไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปี คงมั่วตั้งแต่ที่นั่นแล้วกลับมาหาเงินไปรักษาตัวมั้ง ส่วน.....นี่ ก็เคยทำงานโรงแรมมาก่อน คงขึ้นห้องกับแขกบ่อยไม่ต่างจากที่ทำอยู่ที่นี่หรอก”

“พูดจบหรือยัง” น่านนทีวางเอกสารที่นำมาส่งลงในถาดต่างๆ จนเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมองคู่ซี้ที่หลอนกว่าผีบนห้องสิงหา นึกแล้วไม่มีผิดว่าถ้าเข้ามาห้องนี้จะได้รีบเข้ามาพูดแขวะ

“ทำไม แค่นี้ทนฟังไม่ได้” สาสะบัดเสียงถามเพราะไม่พอใจสีหน้าท่าทางของน่านนทีที่ทำเหมือนไม่เดือดร้อนอะไร

“เปล่า ถ้าพูดจบแล้วจะได้กดปิด เวลากดอัดอะไรที่มันไร้สาระมันจะเปลืองเมมฯ นะรู้เปล่า” เขายกโทรศัพท์มือถือที่ยังแสดงว่าบันทึกเสียงให้สองคนตรงหน้าดู หนึ่งในนั้นรีบเอื้อมมือออกมาจะคว้าไปเมื่อรู้ตัวว่าถูกอัดเสียงที่พูดเมื่อครู่

“อ๊ะๆ อย่านะ จะขโมยของเหรอ ขโมยของโดนไล่ออกนะบอกไว้ก่อน” เขารีบยกมือหนีจนอีกฝ่ายคว้าไม่ทัน เพื่อป้องกันการขโมยเลยเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเอาไว้อย่างรวดเร็ว ถ้ากล้าล้วงเขาจะแจ้งข้อหาลวนลาม

“อัดไปก็เท่านั้น ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด” หงส์กอดอกเถียง เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ที่พูดไปทั้งหมดใครๆ ก็พูดกัน ถ้าจะเอาเรื่องพวกเธอก็ไปเอาเรื่องคนในอินเทอร์เน็ตโน่น

“หมิ่นประมาทผู้อื่นโทษตามกฎหมายนะรู้รึยัง” น่านนทีพูดอย่างเป็นต่อ เขาคิดอยู่แล้วว่าอาจต้องถูกร้องเรียนหรือถูกสองคนนี้มาหาเรื่อง ออมกับพี่นิดเลยแนะนำให้จัดการอย่างนี้ พวกนี้จะได้กลัวแล้วเลิกยุ่งสักที

“พวกเราพูดความจริง แกขึ้นห้องลูกบ้านจริงๆ ใครๆ ก็เห็น” สาเถียงอย่างไม่ยอมแพ้

“ก็ไม่ได้ผิดกฎหมายนี่ อย่างมากก็โดนไล่ออก แต่พวกทำผิดกฎหมายนี่มีสิทธิ์ติดคุกนะ ถึงไม่ติดก็ต้องขึ้นศาล เตรียมเงินจ้างทนายไว้หรือยัง ผมมีทนายส่วนตัวนะบอกไว้ก่อน อายุก็ไม่น้อยแล้ว แค่น้องตัวเองเข้าทำงานที่นี่ไม่ได้ไม่เห็นต้องพาลคนอื่นเลย โตๆ กันแล้ว”

“ถ้าแกไม่เข้ามาน้องฉันก็ได้มาทำไปนานแล้ว ใช้เส้นไหนเข้ามาหรือเปล่าก็ไม่รู้ พวกชอบใช้ทางลัด” สากำมือแน่น พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ก่อเรื่องในที่ทำงาน ยิ่งตอนนี้น้องสาวเธอต้องไปทำงานโรงแรมเหมือนที่เธอเคยดูถูกน่านนทีเอาไว้ก็ยิ่งเพิ่มความเจ็บใจมากขึ้น

“ประสาทหรือเปล่าถามจริง ตอนเข้ามาตอนแรกปิงยังไม่รู้จักใครเลยจะใช้เส้นได้ยังไง แล้วพอย้ายมาคอนเซียซปิงก็ต้องสอบสัมภาษณ์เหมือนคนอื่น พอตำแหน่งที่แผนกพี่ว่างทำไมไม่เอาน้องตัวเองมาล่ะ อ้อ ทำไม่ได้สินะ เพราะสมัครแล้วแต่ผู้จัดการไม่รับ เขาดูกันที่ความสามารถไง เขาไม่รับเด็กเส้น”

“อย่างน้อยน้องฉันก็ทำตัวดีกว่าคนบางคนดีแต่ทำเรื่องเสียหาย คราวนี้เป็นข่าวออกทีวีขนาดนี้ แกโดนไล่ออกแน่”

“ใช่ เราอย่าไปเสียเวลากับพวกไม่ดูเงาหัวตัวเองเลย จะตกงานอยู่แล้วยังปากดี” หงส์กอดแขนเพื่อนสนิทไม่ให้ส่งเสียงดังไปกว่านี้ แค่นี้ทุกคนในห้องก็หันมามองหมดแล้ว เธอเดินกลับไปส่งเพื่อนที่โต๊ะทำงานอีกฝ่ายแล้วก้มลงซุบซิบกันต่อ น่านนทีมองส่งด้วยความโมโห เรื่องเดียวที่เขากลัวก็คือเรื่องงาน ในโซเชียลจะว่าอะไรก็ไม่กระทบกับชีวิตเขา แต่ถ้าที่ทำงานไล่ออกนี่สิปัญหาใหญ่แน่ๆ แม้พี่โจจะบอกให้เขาสบายใจว่าผู้จัดการรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วและไม่ได้เรียกพบเขาก็ตาม





ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/

หลังจากสิงหาขอคำแนะนำจากเพื่อนและผู้ใหญ่หลายคนก็ให้ฝ้ายตอบตกลงรับการขอสัมภาษณ์จากรายการข่าวยามเช้าของช่องดังช่องหนึ่ง เดิมทีทางรายการต้องการให้ไปนั่งอ่านข่าวร่วมรายการด้วยแต่สิงหาได้โทรไปอธิบายถึงความจำเป็นเกี่ยวกับหนังของนักรบที่ยังต้องเก็บตัวจนกว่าน้ำหนักจะกลับมาปกติ

“พรุ่งนี้ผมจะให้สัมภาษณ์แล้วนะ ชวินบอกให้ไปนอนค้างบ้านมัน ไอ้เต้ก็ไป มันบอกจะร่วมเป็นสักขีพยานการลุกขึ้นสู้ครั้งแรก บ้าไหมล่ะ” หลังจากปิดกล้องสิงหาก็วุ่นอยู่ที่ร้าน วันนี้เป็นวันแรกที่ได้กลับมาทำหน้าที่ขับรถไปส่งน่านนทีกลับบ้าน

“โหหหห พูดซะปิงอยากไปด้วยเลย”

“ปิงงงงง เว่อน่า”

“ฮ่าๆๆ ก็ปกติคุณชอบทำชิลๆ ทำไมล่ะ มีปัญหาอะไรมาก็ทำเหมือนเป็นเรื่องคนอื่น ง่ายๆ สบายๆ ไม่เดือดร้อน ขนาดห้องผีสิงยังทนอยู่ได้ตั้งหลายเดือน ปิงจะบอกให้แม่อัดคลิปเก็บเอาไว้” น่านนทีพูดอย่างหมายมั่นว่าต้องทำให้ได้ คนขับรถวันนี้เลยผลักหัวเบาๆ ไปหนึ่งที

“ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย”

“ขนาดนั้นเลยยยยย แล้วทำไมครั้งนี้ถึงตัดสินใจแบบนี้ล่ะครับ”

“เพราะปิงไง”

“ฮะ! ปิงเนี่ยนะ”

“ใช่ ก็กลัวพ่อแม่แฟนไม่ปลื้มไง แล้วยังพี่แฟนอีก เพิ่งรู้ว่าพี่หวง” สิงหาเหล่มองน้องสุดหวงของพี่ชาย คืนก่อนเขาโทรไปตอนน่านนทีกำลังอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ได้ยินเสียงพี่ชายบ่นเสียงดังให้ได้ยินตลอดว่าให้รีบวางสายบ้างล่ะ ดึกแล้วให้รีบไปนอนบ้างล่ะ หนักๆ เข้าก็แย่งโทรศัพท์น้องมาพูดแทนว่าขอนัดเจอ...เหมือนจะนักเลงหน่อยๆ ยังไม่ทันตอบอะไรน่านนทีก็แย่งโทรศัพท์คืนแล้วก็รีบบอกลาก่อนวางสายไป

“เอาจริงๆ สิครับ ไม่พูดเล่นนะ”

“พูดจริงๆ คราวนี้มันไม่ใช่ปัญหาของผมคนเดียว ไม่เหมือนคราวก่อนๆ นะ ตอนนั้นมันไม่มีอะไรให้ห่วงให้กังวล ใครจะคิดยังไงด่ายังไงผมก็เฉยๆ แต่ถ้ามันกระทบคนอื่นมันก็อีกเรื่อง อย่างเคยมีรูปหลุดกับดาราคนอื่นผมก็ออกมาเคลียร์ ยิ่งคราวนี้คนนั้นคือแฟนเราเอง ใครจะไปทนได้จริงไหมครับ”

“ดีใจนะเนี่ย...ฮืออออ...ซึ้งอะ” น่านนทีรู้สึกตื้อๆ ในอกจึงแกล้งส่งเสียงร้องไห้ออกมากลบเกลื่อน คนที่ไม่ค่อยทำอะไรเพื่อตัวเองเท่าไร ยอมทนให้คนอื่นเข้าใจผิด ยอมให้คนอื่นด่าว่า ยอมจากไปไกล แต่ครั้งนี้มาบอกว่าทำเพื่อเขา...ก็ดีขนาดนี้แล้วจะไม่ให้รักได้ไง

“แต่ก็แอบเกร็งๆ นะ ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไร กลัวเขาถามอะไรที่ไม่อยากตอบ”

“เขาไม่ส่งสคริปต์ให้ก่อนเหรอ”

“ส่ง แต่มันรายการสดไงครับ ไม่ได้ออกรายการสดนานแล้ว ไม่รู้ผลตอบรับจะเป็นยังไงด้วย”

“สู้ๆ คุณสิงทำได้อยู่แล้ว อะไรจะเกิดก็เกิด คุณสิงไม่ต้องคิดมากนะ ไม่ต้องคิดแทนปิงด้วย ถ้าปิงบอกว่าไม่เป็นไรก็คือไม่เป็นไรจริงๆ” น่านนทีส่งยิ้มให้คนคิดมาก สิงหาจับมืออีกฝ่ายกุมไว้บนตักตัวเอง ใช้ปลายนิ้วนวดหลังมือที่กุมไว้เบาๆ

“ปิงไม่เป็นแต่ผมเป็นนี่ อยากได้กำลังใจ”

“ตอนเช้าปิงจะรีบโทรหาเลย”

“อยากได้ตอนนี้ด้วย”

“.....ไม่น่าจะใช่อย่างที่ปิงคิดเนอะ” น่านนทีเอียงคอมองหน้าคนที่อมยิ้มส่งสายตาวิบวับ มือนี่ก็ไม่หยุดลูบสักที

“น่าจะใช่เนอะ” สิงหาเลี้ยวเข้าซอยแล้วซ้อนมอเตอร์ไซต์ที่จอดอยู่ เย็นๆ แบบนี้ในซอยหาที่จอดยาก หน้าบ้านน่านนทีที่เคยว่างก็มีรถของสมุทรจอดอยู่ วันนี้คงไม่ได้ลงไปไหว้ผู้ใหญ่อีกเช่นเคย

“อะไรอ่าาาา...ไม่ต้องทำตาวิบวับเลย ถึงบ้านปิงแล้ว” เขาพยายามดึงมือตัวเองกลับแต่สิงหาไม่ยอมปล่อย แถมดึงรั้งจนแทบเอนไปทั้งตัวอีก

“ขอจูบหน่อยครับ นะ คิดถึง”

“ไม่เอา คนเดินเต็มเลยเห็นไหมเนี่ย จอดนานไม่ได้นะ” พยายามมองซ้ายมองขวา คนอื่นเห็นไม่เท่าไร แต่กลัวพี่ชายที่อยู่บ้านเดินออกมาเห็นนี่สิ

“หอมแก้มก็ได้ เร็วๆ เลย” สิงหาเอียงแก้มข้างซ้ายรอ แต่น่านนทีก็ยังไม่ยอม ส่ายหน้าจนผมยุ่ง มือถูกปล่อยเป็นอิสระแต่เอวดันถูกจับไว้แทน

“ไม่เอา คนเยอะ คุณสิงอะ ปล่อยมือเลยยยยย”

“หอมก่อน”

“ไม่เอา คนมันเยอะ ดูดิ นะๆๆ”

“มันเขี้ยวว่ะ อย่าอ้อนบ่อยเดี๋ยวผมใจแตก แค่นี้ก็ได้” แค่นี้ของสิงหาคือยกมือที่ฝ่ายมาหอมรัวๆ แล้วจบด้วยจูบหนักๆ แช่ไว้ที่หลังมือ ก่อนจะยอมปล่อยเจ้าของมือเดินหน้าแดงลงจากรถ ได้ยินเสียงบ่นเบาๆ จับใจความไม่ได้แต่ให้ความรู้สึกคันยิบๆ ในหัวใจ...น่ารักขึ้นทุกวันเลย



พิธีกรในรายการมีนักข่าวของทางสถานีสองท่านและนักแสดงที่กำลังมีผลงานละครตอนนี้อีกหนึ่งท่านเป็นแขกรับเชิญ ทั้งสามอ่านข่าวประจำวันช่วงเช้า อัปเดตสถานการณ์ประจำวัน มีศิลปินวงดังที่กำลังจะมีคอนเสิร์ตมาร้องเพลงโชว์ก่อนจบช่วงเบรก หลังจบโฆษณาก็จะเป็นช่วงสุดท้ายของรายการซึ่งจะมีการโทรหาสิงหาในช่วงนี้

กลางห้องนั่งเล่นหรูภายในบ้านของชวินกลายเป็นฐานบัญชาการหลักของกลุ่มเพื่อนที่มาคอยให้กำลังใจอย่างพร้อมหน้า แม้โบ้จะมาไม่ได้ก็ยังอุตส่าห์วิดีโอคอลมาขอมีส่วนร่วม รวมถึงพ่อแม่สิงหาที่ส่งข้อความมาให้กำลังพร้อมรอชมรายการผ่านทางออนไลน์ที่ต่างประเทศ

“เอาล่ะค่ะ มาถึงอีกข่าวที่กำลังเป็นประเด็นในทวิตเตอร์” นักข่าวสาวเกริ่นนำก่อนเข้าสู่หัวข้อข่าว สิงหาสบตบกับเพื่อน ถือสายที่ได้รับการติดต่อจากรายการเอาไว้ สามหนุ่มจดจ่ออยู่กับรายการบนหน้าจอโทรทัศน์เพื่อจะได้เห็นความเป็นไปในรายการด้วย

“จริงๆ ผมว่ามันลามไปทั้งโซเชียลแล้วนะข่าวนี้ มีลงข่าวด้วยเมื่อวาน แต่ของสำนักพิมพ์อะไรผมไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน เพราะเขาใช้อักษรย่อ รูปก็เซนเซอร์”

“แต่ในเน็ตนี่ไม่มีเซนเซอร์เลยนะคะ พูดถึงตอนนี้หลายคนพอจะรู้แล้วแต่ก็ต้องอธิบายก่อนเผื่อมีคนไม่รู้ คือรูปเนี่ยมันถูกปล่อยลงในเพจกระซุบกระซิบเพจไม่ได้เอารูปมาลงนะคะ เป็นแฟนเพจคนหนึ่งเอารูปมาลง” แขกรับเชิญช่วยอธิบายถึงที่มาที่ไปของรูป โดยมีนักข่าวชายช่วยเสริมข้อมูล

“เพจนี้ปกติเขาจะลงข่าวดารานักแสดงอยู่แล้วนะต้องบอกให้ท่านผู้ชมรู้ก่อน เหมือนเพจที่คอยอัปเดตข่าวบันเทิงในประเทศ พวกอักษรย่อนี่ก็ลงบ่อย คนอ่านก็ชอบเข้าไปเดา”

“ใช่ค่ะ คราวนี้เขาก็ลงข่าวอื่น แต่มีคนที่ติดตามเพจนี้เนี่ย เอารูปที่เป็นประเด็นมาลง แล้วก็มีข้อความว่า ดาราอักษรย่อ ส.เสือ ย่องควงแฟนหนุ่มตรวจเลือดที่โรงพยาบาล เป็นข้อความที่แรงมากๆ เลยนะคะ” นักข่าวสาวเริ่มพูดเข้าประเด็น ใจของสิงหาและเพื่อนเต้นแรงขึ้นเพราะความตื่นเต้น

“ใช่ครับ ในรูปก็เห็นหน้าชัดมากด้วยว่าดาราคนนั้นคือใคร เราพูดชื่อเลยแล้วกันว่าคนถูกกล่าวหาคือคุณสิงหา หล่อมากๆ นะครับคนนี้ หนังเรื่องล่าสุดที่เขารับบทคีตะนี่ภรรยาผมนั่งร้องไห้เลย ผมว่าหลายคนน่าจะยังจำได้”

“ใช่ค่ะ หนังดีมาก พิณเป็นแฟนหนังพี่สิงหาเลยค่ะ หล่อกว่าเมื่อก่อนด้วย” แขกรับเชิญเอ่ยชมนักแสดงรุ่นพี่ที่เคยร่วมงานตอนเธอเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ

“ครับ แล้วรูปที่หลุดมาเนี่ยมองเห็นหน้าคุณสิงหาชัดมากนะ แต่อีกคนเนี่ยมองไม่เห็นหน้า รูปมีสองรูปแค่นั้นนะครับ หลังๆ มีคนขุดรูปเก่าๆ หลายปีมาแล้วอันนั้นไม่เกี่ยวเลยนะ มีรูปในหนังในละครสมัยก่อนบ้าง มั่วไปหมด รูปหลุดจริงๆ มีแค่สองรูปนี้นะ”

“ในรูปเราจะเห็นเลยว่าคุณสิงผอมมาก ผอมกว่าตอนเล่นเป็นคีตะอีก บวกกับที่หาว่าไปตรวจเลือด ข่าวมันก็เลยแรง คนแชร์รูปต่อๆ กันเยอะมาก วันนี้เราก็เลยติดต่อคุณสิงหาไปเพื่อถามเรื่องรูปนี้ให้ทุกคนหายสงสัย”

“ครับ สวัสดีครับคุณสิงหา” นักข่าวชายกล่าวทักทายสิงหาที่ทีมงานเปิดเสียงเข้ามาในห้องส่งเรียบร้อย

“...สวัสดีครับ สวัสดีแฟนรายการทุกคนด้วยนะครับ” สิงหาส่งสัญญาณให้ชวินปิดโทรทัศน์เพราะสัญญาณแทรกกับโทรศัพท์ที่คุย

“ค่ะ สวัสดีค่ะคุณสิง เป็นยังไงบ้างคะ สบายดีนะคะ” นักข่าวสาวกล่าวทักทาย ลึกๆ เธอเองก็ตื่นเต้นที่ได้คุยกับพระเอกขวัญใจคนหนึ่งของเธอ

“ครับ ขอบคุณครับ ผมตื่นเต้นนะเนี่ย ไม่ได้สัมภาษณ์รายการสดนาน”

“ฮ่าๆๆ เพื่อไม่ให้ตื่นเต้นนาน ผมเข้าเรื่องเลยแล้วกัน เรื่องรูปน่ะครับ ตกลงยังไง ใช่รูปคุณสิงหาจริงๆ หรือเปล่าครับ”

“อ้อ ใช่ครับๆ คนในรูปคือผมจริงๆ” สิงหาปรับอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็ว ตั้งใจฟังคำถามอย่างมีสติ

“โห ผอมมากเลยนะคะ คีตะยังติดตาพิณอยู่เลยค่ะ” แขกรับเชิญอุทานออกมาด้วยความตกใจ เธอพอจะรู้บ้างว่าตอนสิงหารับบทคีตะเป็นการถ่ายเสริมเข้าไป ระยะเวลาจากตอนนั้นถึงตอนนี้ไม่กี่เดือนแต่สิงหาผอมลงไปเยอะมาก

“ครับ พอดีน้ำหนักลงมาเยอะมากเหมือนกัน”

“ทำไมผอมลงล่ะครับ ป่วยตามที่ข่าวบอกหรือเปล่า”

“ไม่ได้ป่วยเลยครับ คือผมลดน้ำหนักเพื่อแสดงหนังเรื่องใหม่ ช่วงก่อนนี้ก็เลยเก็บตัวถ่ายหนัง ตอนนี้กำลังทำน้ำหนักให้กลับมาเท่าเดิมให้เร็วที่สุดเพราะรับอีกงานไว้เหมือนกัน ถ้าป่วยก็คงป่วยเพราะท้องอืดเพราะต้องกินเยอะมากช่วงนี้” สิงหาให้ข้อมูลเกี่ยวกับหนังเท่าที่นักรบบอกให้เปิดเผยได้

“ตกลงไม่ป่วยนะครับ สุขภาพแข็งแรงดี” นักข่าวชายถามย้ำ

“ครับ แข็งแรงดีครับ ตอนลดน้ำหนักก็มีนักโภชนาการมีเทรนเนอร์คุมตลอด”

“งั้นขอถามได้ไหมคะว่าทำไมไปที่โรงพยาบาล คือรูปที่สองตอนเดินมันเห็นป้ายโรงพยาบาลพอดี คนเลยเข้าใจไปตามคนที่เอารูปมาลง”

“ไปโรงพยาบาลจริงครับ พอดีเพื่อนสนิทผมป่วยก็เลยพาส่งโรงพยาบาลแล้วก็นอนค้างที่นั่น สภาพก็เลยโทรมๆ หน่อยเพราะอดนอน ชุดที่ใส่ก็ใส่ซ้ำข้ามวัน เรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้ครับ มีพยานเป็นคนป่วยที่มานั่งอยู่ข้างๆ ผมด้วยตอนนี้” สิงหาส่งโทรศัพท์ให้ชวินรับช่วงต่อตามที่ตกลงกันไว้ ชวินขอมีส่วนร่วมด้วย

“สวัสดีครับ ผมชวิน xxxxx นะครับ”

“อ๋อออ คุณชวิน ลูกชายคุณxxxxxx ใช่ไหมคะ สรุปคือคนป่วยคือคุณชวินหรือคะ” นักข่าวสาวทวนประวัติเพื่อให้ผู้ชมทางบ้านรับรู้ด้วย หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่นักข่าวหรือคนในวงการยังพอจำได้เพราะทั้งคู่เคยออกงานสังคมด้วยกันบ่อย

“ใช่ครับ จริงๆ ตอนนั้นเพื่อนๆ นัดกันไปนอนที่คอนโดฯ สิงหา แล้วผมป่วยพอดี อันที่จริงคือหมดสติน่ะครับ สิงกับเพื่อนๆ ก็เลยพาส่งโรงพยาบาล มีการเรียกรถพยาบาลมารับถึงคอนโดฯ มีหลักฐานตรงนี้เป็นข้อพิสูจน์ได้ ผมป่วยคนเดียว ไม่มีใครตรวจเลือดอะไรนอกจากผมที่โดนตรวจ คนอื่นแค่ไปนอนเฝ้าไข้เฉยๆ” นอกจากเขาอยากช่วยสิงหา เขาก็อยากช่วยตัวเองด้วย ถ้าใครเกิดเจาะลึกลงไปจนพบว่าเขานอนป่วยเพราะอาการช็อก แถมยังได้รับยาคลายเครียดกลับมารักษาตัวต่ออีกคงไม่ดีต่อหน้าตาตัวเองเท่าไร

“สรุปคนป่วยคือคุณชวินเหรอครับ ตอนนี้หายดีแล้วใช่ไหมครับ ผมถามได้ไหมว่าป่วยเป็นอะไร”

“ตอนนี้แข็งแรงดีครับ น่าจะโหมงานหนักไป เครียดๆ เรื่องงาน พักผ่อนน้อยด้วย พอจะนัดรวมตัวกับเพื่อนเลยพยายามเคลียร์งาน กลายเป็นโหมงานหนักกว่าเดิม พอหยุดพักจริงๆ เลยวูบไปเลย เพื่อนก็ตกใจกันหมด แต่ตอนนี้ปกติดีทุกอย่างแล้วครับ ผมก็แปลกใจนะว่าเรื่องแค่นี้ทำไมเป็นข่าวใหญ่โต” ชวินพูดอย่างลื่นไหล แต่เท้าทั้งถีบทั้งยันเต้ที่นอนปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะจนตัวสั่นอยู่บนพื้น ขนาดโบ้ที่โผล่หน้าในโทรศัพท์ยังหัวเราะจนภาพสั่น...โดนผีเล่นงานหนักเลยวูบมากกว่า

“นั่นสิคะ อาจเป็นเพราะคุณสิงดูผอมไปมาก คนไม่เชื่อก็มีนะคะ แต่ก็จะคิดว่าป่วยเป็นอย่างอื่นแทน สรุปคุณสิงหาไม่ป่วยนะคะ”

“ครับ ผมสบายดีครับ คนป่วยตัวจริงก็แข็งแรงดีแล้วเหมือนกัน” สิงหารับโทรศัพท์กลับคืนมาจากชวิน

“โอเคค่ะ แฟนคลับทุกคนหายห่วงได้แล้วนะคะ แถมยังไปแอบมีผลงานใหม่ให้รอชมอีก คุณสิงคะ หนังที่ว่านี่ถ่ายเสร็จหรือยัง ต้องรออีกนานไหมคะ หรือมีผลงานอะไรเร็วๆ นี้ให้ติดตามบ้างไหม”

“หนังเพิ่งถ่ายทำเสร็จครับ แต่จะเข้าฉายเมื่อไรต้องรอทางทีมงานแจ้งข่าวอีกที ส่วนผลงานอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่มีนะครับ แต่มีธุรกิจส่วนตัวที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนอีกสามคนเปิดร้านชาเล็กๆ ตอนนี้ยังเป็นช่วงทดลองเปิดอยู่ ถ้าใครมองหาคาเฟ่ บรรยากาศสบายๆ จิบชาชิมเค้กกลางสวน หรือชอบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านสไตล์อังกฤษ แวะไปที่ร้านทีไทม์กันได้นะครับ ที่อยู่ร้านเข้าไปดูในแฟนเพจ TeaTime ได้เลย”

“โอเคค่ะ หนังอาจจะต้องรอเปิดตัวกันอีกที แต่ระหว่างรอก็แวะไปอุดหนุนกันได้นะคะ ขอบคุณนะคะคุณสิง”

“ครับๆ ขอบคุณมากครับ” สิงหากดวางสาย หันมองหน้าเพื่อนทีละคน ต้องขอบคุณทั้งสามคนช่วยเขาผ่านช่วงเวลาน่าอึดอัดนี้ไปได้ ไหล่หนาเอนพิงโซฟา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ระบายความตื่นเต้นและอึดอัดออกไปจนหมด...โชคดีที่พิธีกรไม่ถามนอกสคริปต์เลย

“โล่งเลยสิ กลัวอะไรขนาดนั้นวะ” เต้ถามสิงหาที่นั่งทำท่าหมดแรง

“กูไม่อยากให้ปิงวางตัวลำบาก แล้วก็ไม่อยากโกหกว่าปิงเป็นเพื่อนด้วย”

“ดีแล้ว โซเชียลแม่งน่ากลัว เป็นโลกที่ไม่มีศีลธรรมเท่าไร” ชวินเห็นด้วยกับสิงหา ถ้าไม่จำเป็นไม่มีใครอยากเป็นจุดศูนย์กลางของข่าวหรอก

“เออจริง แต่กูว่าเดี๋ยวแม่งก็ขุดกันต่ออยู่ดีว่าอีกคนในรูปคือใคร” เต้รู้เหมือนกับที่เพื่อนทุกคนรู้ คนนอกมักอยากรู้เรื่องคนอื่นเสมอ ยิ่งเรื่องที่ปิดไว้มากๆ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้คนอยากขุดคุ้ย คนที่ทำดีมากๆ จะยิ่งถูกจับผิด

“อย่างน้อยกูไม่เป็นเอดส์ คนในรูปก็ต้องไม่เป็น แค่นี้ก็พอแล้ว จะขุดเจอไม่เจอก็ช่างมัน เดี๋ยวกูโทรหาพ่อแม่ก่อน ดูข่าวจบแล้วแน่ๆ เลย” สิงหาลุกขึ้นไปโทรศัพท์หาครอบครัวที่หน้าบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัว รอสายไม่นานพ่อก็กดรับวิดีโอคอลจากเขา รอยยิ้มจากพ่อและแม่ที่ส่งมาทำให้เขาสบายใจและรู้ว่าสิ่งที่ทำถูกต้องแล้ว

“สิงเก่งมากๆ ลูก พ่อภูมิใจในตัวสิงมาก”

“แม่ด้วย แม่รักลูกนะ ขอบคุณที่ครั้งนี้ลูกตัดสินใจออกมาพูด ลูกไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังเลย”

“ขอบคุณครับ ขอโทษที่ครั้งนั้นผมไม่ได้ปกป้องตัวเองเลย ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะครับ” เขานึกถึงหลายปีก่อนที่เก็บกระเป๋าไปอยู่ต่างประเทศ มันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่จะไปอยู่กับครอบครัวพร้อมหน้ากัน แต่มันไม่ถูกต้องเมื่อเขาทิ้งปัญหาไว้ข้างหลัง เขาอาจจะไม่แคร์กับข่าว แต่มีคนแคร์และเสียใจแทนเขา

“ไม่เป็นไรเลย พ่อชอบดูสิงในทีวี แค่เสียงยังหล่อมาก ดีมากๆ” ลีโอยิ้มกว้างอย่างภูมิใจในลูกชายคนเดียวของตัวเอง ไม่ว่าสิงหาจะตัดสินใจทำผิดหรือถูก เขาไม่เคยทำร้ายคนอื่น เป็นสุภาพบุรุษและรักครอบครัว แค่นี้ก็พอแล้ว

“ไม่ต้องคิดมากนะลูก บางครั้งสิงก็คิดถึงคนอื่นมากไป ใส่ใจตัวเองน้อยไป พอห่างกันแม่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าจะทำอะไรเกินตัว แม่อาจจะสอนให้เราเข้มแข็งอดทนมากจนเกินคนปกติไปล่ะมั้ง กับบางเรื่องหรือบางคน เราไม่ต้องทนมากก็ได้ เข้าใจไหมคะ”

“ครับ ผมรักพ่อกับแม่มากนะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมเข้มแข็งดีแล้ว อยากให้พ่อแม่มาอยู่ด้วยกันเร็วๆ จะได้พาปิงมาแนะนำด้วย”

“ย่ะ อยากอวดแฟนก็บอก เห่อเหลือเกิน” แม่สะบัดเสียงใส่อย่างหยอกล้ออาการเห่อแฟนของลูก มีการส่งรูปถ่ายให้ดูแล้วก็เห็นว่าหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู วีรกรรมต่างๆ ที่ได้ฟังก็ดูจะเป็นคนอารมณ์ดี ทำให้สิงหามีความสุขมากกว่าเดิม

“แม่เขาน้อยใจ เธอกำลังจะตกกระป๋องนะ รู้หรือเปล่า” เขาเอ่ยแซวภรรยาที่ชอบกังวลถึงคนรักของลูก กลัวว่าจะหักอกสิงหาอีก กลัวว่าจะดีได้ไม่นาน ยิ่งสิงหาพูดถึงคนรักบ่อยแค่ไหนพ่อแม่ก็ยิ่งห่วง แต่ในความเป็นห่วงก็มีความสุขที่เห็นลูกชายเปิดใจมีความรักครั้งใหม่ และดูจะมีรอยยิ้มมากขึ้นทุกวัน

“คุณสิตก ไปๆ ดึกแล้ว พ่อแม่ไปนอนก่อนนะลูก”

“ครับ ฝันดีนะครับ รักแม่นะ รักพ่อด้วย”

“รักลูกเหมือนกัน” ลีโอส่งยิ้มให้ลูกชายก่อนวางสายแล้วหันมายิ้มให้คู่ชีวิต โอบกอดยอดหญิงของเขาเข้านอนเหมือนเช่นทุกค่ำคืน เฝ้ารอวันที่จะกลับไปอยู่พร้อมหน้าอีกไม่นาน




สิงหาเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง กลางโซฟาตัวใหญ่มีชวินและคุณกฤษณะ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ของประเทศนั่งเคียงข้างลูกชายที่กำลังทำหน้าบึ้ง ท่าทางจะโดนพ่อบ่นอะไรอีกเช่นเคย

“พ่อตื่นเช้าจังครับ” สิงหานั่งลงข้างเต้ เหลือบตามองโทรศัพท์ก็ยังมีภาพของโบ้นั่งหน้านิ่งอยู่ ยังไม่ได้วางสายไป

“ปกติตื่นเช้ากว่านี้อีก แต่เมื่อคืนกลับดึกเลยสายหน่อย สิงโอเคใช่ไหม สัมภาษณ์อะไรนั่นน่ะ” เขามองหน้าเพื่อนลูกที่ไม่ค่อยได้เจอหน้าเลยตั้งแต่กลับมา สิงหาเคยเป็นเด็กหนุ่มที่ผู้ใหญ่หลายคนให้ความเอ็นดู มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมถ่อมตน เรื่องฝีมือการแสดงไม่ต้องพูดถึง กวาดรางวัลไปแทบทุกเวที แต่วงการบันเทิงไม่ได้ต้องการคนดี มันเป็นโลกที่มีกฎของมันเอง มีกลไกของมัน เขาเป็นนักธุรกิจที่ไม่ยอมให้ลูกชายเข้าไปในโลกใบนั้นเด็ดขาด

“ดีเลยครับ พิธีกรเขาไม่นอกสคริปต์เลย ฟีดแบ็กจะเป็นยังไงก็ช่างมัน ถือว่าได้ออกมาอธิบายชัดเจนแล้ว ถ้าใครยังเล่นข่าวติดโรคอะไรอีกก็คงต้องใช้ทนาย” สิงหาได้ปรึกษาทนายไว้บ้างแล้วในการเอาผิดคนที่โพสต์รูปนั้นลง

“ดีแล้ว เมื่อก่อนไม่ค่อยมีใครกล้าฟ้องรายการทีวี เดี๋ยวนี้ถ้ารายการไหนดังจริงต้องโดนฟ้อง ความคิดคนมันเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่โดนฟ้องถือว่าเจาะข่าวไม่ลึกพอ รายการไม่ดังพอ บ้าบอกันไปหมด”

“แล้วนั่นชวินมันเป็นอะไร นั่งหน้าหงิก อีกนิดมันคงสะบัดหน้าให้พ่อแล้ว” สิงหามองเพื่อนที่ทำท่าทางประหลาดไม่หยุด

“ฮ่าๆๆ กำลังจ้องมันอยู่เนี่ยว่าเมื่อไรจะหยุดทำ ไม่ได้น่าดูเลย” เต้หัวเราะเพื่อนที่ยังไม่หยุดเหล่ตามองพ่อตัวเอง พอพ่อหันไปมันก็สะบัดหน้าใส่

“อย่าไปสนคนปัญญาอ่อนเลยลูก ขี้กลัวก็เท่านั้น ปัญหาขี้ปะติ๋วหาทางแก้ไม่ได้”

“เรื่องผีที่ห้องผมน่ะเหรอครับ” สิงหาเดาว่าเพื่อนคงเล่าเรื่องให้ฟังบ้างแล้ว และพ่อชวินน่าจะมีทางออกที่ดีให้

“ใช่สิ พ่อก็ถามตั้งหลายวันแล้วว่ามีปัญหาอะไรให้มันเล่าก็ไม่เล่า บอกรอเล่าพร้อมเพื่อน เมื่อกี้เจ้าเต้เลยเล่าให้ฟัง โถ โดนผีเด็กหลอกจับไข้เลย ไอ้ลูกตัวแดงๆ ของพ่อ ทำแม่วุ่นวายตุ๋นไก่ให้กินตั้งหลายหม้อ” กฤษณะแกล้งหยิกแก้มลูกแรงๆ ตัวก็โตไม่ได้น่ารักเหมือนเด็กๆ ยังทำท่าทางประหลาดให้เพื่อนหัวเราะอีก

“ผีมันเด็กแต่ฝีมือการหลอกมันไม่เด็กนะพ่อ ลองพ่อไปเจอแบบผมมีหวังช็อกตาตั้งคาห้องน้ำไปแล้ว”

“แล้วเอ็งไม่ช็อกเรอะ ทำมาคุย โทรไปอ้อนให้แม่รีบกลับ ไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียว มันน่าจับไปนอนกินนมใหม่นะแบบนี้ เอาเปลไหมลูก เอ่เอ๊ๆ”

“โหย พ่อ! เกินไปๆ ไม่ได้ขนาดนั้นสักหน่อย ไอ้พวกนี้มันไม่โดนมันก็หัวเราะออกสิ ไม่เชื่อถามเลย ตอนนั้นมีใครไม่กลัวบ้าง ขนาดไอ้สิงยังอุ้มแฟนวิ่งหนีผีเลย” ชวินรีบโยนไปทางเพื่อนบ้าง เขาไม่ได้กลัวคนเดียว เพียงแค่โดนหนักอยู่คนเดียวเลยอาการหนักสุด

“ก็...ตอนนั้นแฟนอยู่ด้วย เป็นห่วงแฟนไง”

“พอๆ ไหนเล่ามา ตกลงมีอะไร มันเรื่องใหญ่ขนาดจะไปรบกวนพระอาจารย์เลยเหรอ” กฤษณะถามจบ สามหนุ่มก็เริ่มช่วยกันเล่าเรื่องต่างๆ ที่ได้ประสบมากับตัว ส่วนคนที่เจอมาหนักที่สุดกลับเอ่ยถึงน้อยที่สุด เขามีความเชื่อส่วนตัวว่าการพูดถึงเออีซีบ่อยๆ จะช่วยเพิ่มพลังให้กับมัน ถ้าต้องเจอกันอีกครั้งหน้าอาจจะหลอกหนักกว่าเดิม




ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/


หลังจากทุกคนผลัดกันเล่าเรื่องจนจบ ผู้อาวุโสเพียงคนเดียวในห้องก็นิ่งเงียบไป เขาเองก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ลูกและเพื่อนไปเจอมาจะหนักหนาขนาดนี้ โชคดีที่ลูกชายเขาไม่เป็นอะไรมาก

“เนี่ย ขนาดพ่อฟังยังอึ้งเลย” ชวินพูดข่มพ่อตัวเองที่ยกกาแฟดื่มจนหมดแล้วเมื่อฟังจบ นั่งอึ้งไปเลย

“...ก็งั้นๆ แล้วนี่คือยังไม่ได้เปิดกล้องดู”

“ยังครับ โบ้มันให้รอก่อน ช่วงนี้มันไม่ว่างมาค้างด้วย” สิงหาตอบแทนโบ้ที่ไม่สามารถส่งเสียงได้เพราะทำงานอยู่ แต่ยังฟังบทสนทนาของทุกคนตลอดเวลา

“พ่อว่าไงอะ มีทางไล่ผีเปล่า พระหรือซินแสก็ได้”

“ฮื่อ พระอาจารย์ท่านไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้หรอกน่า เรื่องแบบนี้ต้องหาพวกหมอผี คนทรงเจ้าอะไรพวกนั้น” เขาส่ายหน้าให้ลูก แม้เรื่องมันจะใหญ่แต่จะให้พระชั้นผู้ใหญ่แบบนั้นมาไล่ผีเนี่ยเหรอ ไม่มีใครเขาทำกันหรอก

“แต่พ่อแน่ใจนะว่าตอนสร้างไม่มีเด็กตายที่ตึกเราน่ะ”

“เอ็งก็คอยคุมงานอยู่ มีไม่มีจำไม่ได้หรือไง อีกอย่างพ่อว่ามันไม่น่าเกี่ยวกับตึกนะ พวกเราคงกลัวกันจนหลงทิศกันหมดแล้วใช่ไหมเนี่ย” เขามองสบตาเพื่อนลูกไล่ไปทีละคน แต่ไม่มีใครดูจะเข้าใจความหมายที่สื่อถึงเลย

“หาว่าผีคือใครมันยาก หาว่าทำไมมันสิงอยู่ในตู้ง่ายกว่า” เขาเฉลยเมื่อทุกคนนิ่งเงียบ

“.....จริงด้วย ทำไมมันชอบอยู่ในตู้” สิงหานึกทวนแล้วพบว่าจริง ในเมื่อตู้มีผี จะมัวเสียเวลาว่าผีมาจากไหนทำไมในเมื่อไม่รู้จักผี หาว่าตู้มาจากไหนง่ายกว่า

“แต่มันตู้บิวท์อินนะ ไม่ใช่พวกตู้เก่าอะไร ผมสั่งบิวท์อินให้สิงมันเอง” ชวินไม่คิดว่าตู้จะมีผี เพราะมันสั่งทำขึ้นไม่ใช่ของมือสอง

“ก็นั่นล่ะ ไปดูที่ร้านนั้นเลย ตู้ทำจากไหน ไม้ของตู้มาจากไหน ตามตู้ไปเดี๋ยวเจอเอง” กฤษณะยกข้อมือดูเวลา เห็นภรรยาที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินมาผ่านหน้าห้องไปก็รู้ว่าได้เวลาออกไปธุระแล้ว

“ทำไมพวกเราคิดกันไม่ได้วะเนี่ย” เต้บ่นความโง่ของตัวเอง เข้าถ้ำผีตั้งหลายรอบดันคิดไม่ออก พาตัวเองไปซวยแท้ๆ

“เรามัวแต่จะไล่ผีไง หาแค่ว่าผีคือใคร ไม่ได้คิดว่ามันมาจากไหน” สิงหาตอบกึ่งบ่นตัวเอง ตอนแรกก็มีคนเสนอให้เอาตู้ออกเหมือนกัน แต่เขาคิดว่ามันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ไม่ได้คิดตามรอยตู้เลย คิดแต่จะไล่ผีออกไปอย่างเดียว

“กูว่าเรามัวแต่กลัวผีขึ้นสมองมากกว่า” ชวินรู้สึกแย่ที่สุดในสามคน เขามั่นใจมากว่าไม่เกี่ยวกับตู้ แต่พอมันอาจเกี่ยวเลยรู้สึกหงุดหงิด ในใจลึกๆ ยังคิดค้านอยู่ ถ้ามันอยู่แค่ในตู้จะไม่ว่าอะไรเลย นี่มันเพ่นพ่านทั่วห้องแล้ว จะใช่เพราะตู้จริงๆ เหรอ

“ตกลงไปตามร้านบิวท์อินก่อน ได้เรื่องยังไงมาเล่าให้พ่อฟังด้วย พ่อออกไปทำงานก่อนล่ะ” ผู้ใหญ่ที่ชี้ทางสว่างให้แก๊งล่าผีเดินจากไปนานแล้ว สามหนุ่มยังนั่งนิ่งนึกทบทวนความทรงจำตัวเองว่าเคยมีสักครั้งไหมที่คิดจะไปตามรอยตู้บิวท์อิน

“ทำไมเราไม่เคยไปตามตู้เลยวะ ตามแต่ผี ทำไมโง่ได้พร้อมเพรียงกันสุดๆ” เต้งงกับความโง่ของทุกคนรวมทั้งตัวเอง

“นั่นดิ ไอ้สิงมึงอะ ก็รู้ตั้งแต่แรกว่าผีมาจากตู้ ทำไมถามกูแต่ว่ามีคนตายในห้องไหม ทำไมไม่คิดถึงตู้ก่อนวะ” ชวินโบ้ยให้เพื่อนเจ้าของความคิดตามหาผี แต่สิงหาใช่ว่าจะยอมรับ

“มึงเลยไอ้เหี้ย ห้องกูทุกห้องมึงเป็นคนแต่งให้ ตู้นั่นมึงก็สั่งทำ ไปเอาไม้อะไรมาทำให้กูวะ”

“มิน่าผีตามแต่ไอ้ชวิน มึงไปตัดบ้านใครมาทำตู้ใช่ไหม” เต้ขยับเบียดกับสิงหา แกล้งให้ชวินกลัวเล่น แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่อเพื่อนที่นั่งคนเดียวย้ายฝั่งมานั่งแทรกกลาง

“ไอ้พวกเหี้ย กูไม่ใช่ช่างไม้ แค่สั่งทำ...แม่ง พอพ่อบอกกูก็เหมือนจะนึกอะไรได้เลยว่ะ”

“อะไร/อะไร”

“เด็กเออีซีนั่นไง...กูว่ากูเคยเจอจริงๆ ด้วย ถ้าเป็นเด็กคนเดียวกับที่กูคิดน่ะนะ....แต่แม่ง น้องมันตายแล้วเหรอวะ” ชวินหน้าสลดลงเมื่อนึกไปถึงใครบางคนที่เคยได้รู้จักกัน

“ร้านที่ว่าอยู่แถวไหน ออกไปดูกันเลยดิ กูโดดงานทั้งแล้ว” เต้ชวนเพราะไหนๆ วันนี้ก็ว่างทั้งวัน สิงหาช่วงนี้ก็รับหน้าที่เฝ้าร้านก่อนเริ่มถ่ายหนังสั้นอีกสองอาทิตย์

“ไอ้โบ้ มึงว่าไงล่ะ ทำเงียบนะมึง สายก็ไม่ตัด” ชวินมองเพื่อนในหน้าจอโทรศัพท์ นั่งเงียบฟังคนอื่นคุยกัน งานยุ่งก็แทนที่จะทำงานแล้วค่อยมาเสือกย้อนหลังก็ได้

“เออๆ กูคุมเด็กซ้อมอยู่ พวกมึงไปกันเลย แล้วไม่ต้องโทรมาเล่านะ กูอยู่ในป่า ไม่อยากรู้” โบ้พูดจบก็รีบตัดสายไปทันที เขาต้องทำหน้าที่คุมเด็กนักกีฬาโรงเรียนมาเข้าค่ายฝึกซ้อมร่วมกับโรงเรียนอื่นโดยทำการติดต่อค่ายทหารเอาไว้เพื่อขอยืมสถานที่พัก และรอบบริเวณก็มีแต่ต้นไม้....เขาไม่พร้อมฟังการตามรอยผีครั้งนี้เท่าไร เอาไว้กลับเข้าเมืองค่อยให้เพื่อนเล่าให้ฟัง



สามหนุ่มอาศัยรถของชวินมายังสถานที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน เดิมทีที่คอนโดฯ มีการจ้างงานตกแต่งแบบเหมากับบริษัทฯ ที่มีร่วมงานกันประจำอยู่แล้ว แต่ห้องของสิงหาเป็นการตกแต่งเพิ่มเติมภายหลังพร้อมๆ กับห้องของชวินเอง ชวินเลยเลือกใช้อีกบริษัทฯ ที่รับงานหน่วยเล็กกว่าแต่คุณภาพไม่เล็กเลย ปกติก็คุ้นเคยกันดีเพราะบางทีก็แนะนำให้ญาติให้เพื่อนประจำ งานละเอียด มีงานไม้แท้ให้เลือกใช้ วัสดุมีคุณภาพ ทำงานเร็วไม่เบี้ยวงาน ชวินขับรถไปที่บริษัทฯ โดยไม่ได้โทรไปบอกก่อน เขาขับรถเข้าซอยเลี้ยวเข้าไปทางประตูข้าง สำหรับรถบรรทุกขนสินค้าเข้าออกจากโกดัง สายการผลิตและโกดังจะอยู่ด้านหลังของอาคารสองชั้นเล็กๆ นี้

“ทำไมมันดูเงียบๆ วะ เขาหยุดหรือเปล่า” สิงหามองผ่านประตูเข้าไปข้างใน ไม่เห็นมีคนเลยแม้แต่คนเดียว

“ประตูเปิดอยู่นะ ไม่ปิดหรอก บริษัทฯ มันเล็กไง สงสัยกิจการไม่ค่อยดี” เต้สำรวจแล้วน่าจะเปิดทำการอยู่ ไม่งั้นคงปิดประตูไปแล้ว แต่ทำไมไม่มียามเฝ้าหน้าประตูเลย

“เออ แต่...โกดังหายไปไหนวะ กูจำได้ว่ามันอยู่ติดประตูเลยนะ” ชวินมองบรรยากาศเงียบเหงากว่าที่เขาจำได้ ไม่ได้แวะมานานแล้วอะไรๆ ก็เปลี่ยนได้ แต่โกดังสินค้าหายไปไหน ไม่เห็นเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นเลย

“เขาย้ายแล้วหรือเปล่า ใช่บริษัทฯ เดิมที่มึงจ้างไหม อ่านป้ายดูดิ๊” เต้ที่นั่งคู่คนขับชี้ให้ชวินอ่านป้ายบริษัทฯ ดูจากภายนอกที่นี่ไม่น่าใช่บริษัทฯ รับทำเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินเลย

“.....ไม่ใช่ว่ะ” นี่ไม่ใช่ชื่อบริษัทฯ ที่เขารู้จัก

“เอาไงล่ะ มาถึงแล้ว ลงไปถามคนแถวนี้ดีไหมว่าเขาย้ายไปไหน” สิงหาเสนอ ชวินเลยขับรถตรงเข้าไปในซอย พยายามมองหาคนผ่านไปผ่านมาแต่ช่วงเที่ยงแดดร้อนๆ

“พี่ครับๆ ขอโทษนะครับ ผมขอถามอะไรหน่อย” ชวินรีบจอดรถเปิดกระจกเรียกวินมอเตอร์ไซต์ที่ขับผ่านมา

“ครับ ว่าไง”

“บริษัทฯxxxx ที่เขารับทำบิวท์อิน เมื่อก่อนเขาอยู่ตรงนั้นน่ะครับ ตอนนี้ไปไหนแล้วเหรอ”

“อ๋อ ย้ายไปท้ายซอยโน่นเลย ลึกหน่อยนะ”

“เขายังทำอยู่ใช่ไหมพี่ ยังไม่เจ๊ง”

“ทำอยู่ๆ แต่เล็กลง ทำที่บ้านเขาเอง”

“ผมจ้างพี่ขี่นำไปหน่อยได้ไหม ผมไปไม่ถูก”

“ได้ๆ” วินมอเตอร์ไซต์รีบกลับรถตัวเองแล้วขี่นำเข้าไปในซอย ที่บอกว่าลึกคือเกือบสุดซอยและเลี้ยวหลายรอบ โชคดีที่ชวินให้คนนำเข้ามา หลังจ่ายค่าจ้างเรียบร้อยทั้งสามคนยืนมองป้ายเล็กๆ หน้าโกดังขนาดใหญ่ ท่าทางกิจการจะไม่ดีเลยลดขนาดลงเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น มองจากประตูใหญ่เข้าไปเห็นโต๊ะตู้เตียงตั้งโชว์อยู่เต็มไปหมด มีป้ายบอกราคา แต่มองดูดีๆ ก็ยังมีเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ใช่แบบสำเร็จพร้อมขายกำลังขึ้นโครงอยู่ น่าจะมีลูกค้าสั่งทำ รายละเอียดและความสวยงามของงานเทียบเท่างานตามศูนย์การค้าใหญ่ๆ ได้เลย

ชวินเดินนำเข้าไปหาคนงานในร้านที่กำลังเลื่อยไม้อัด เสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ทำให้หนุ่มร่างผอมเงยหน้าขึ้นมอง

“มาสั่งของเหรอครับ ติดต่อตรงนั้นได้เลยนะครับ หรือเดินชมก่อนก็ได้ มีที่ทำเสร็จแล้วตรงโน้น” เขาชี้มือไปทางด้านหลัง ตู้คอนเทนเนอร์หนึ่งตู้มีป้ายติดไว้ว่าสำนักงาน

“ผมมาหาลุงโชค อยู่ไหมครับ” ชวินถามถึงเจ้าของบริษัทฯ ที่เขายังจำชื่อได้ ชายแก่อายุมากกว่าพ่อเขา รูปร่างใหญ่แต่ใจดี

“มาหาพ่อเหรอครับ อยู่ในบ้าน เดี๋ยวผมไปตามให้ ให้บอกว่าใครมาหาครับ” คนที่ชวินคิดว่าเป็นคนงานกลับเป็นลูกชายเจ้าของร้าน

“บอกว่าชวินแวะมาหา เคยเป็นลูกค้าประจำนานแล้ว”

“ได้ครับ พี่ไปรอในสำนักงานก็ได้ ตรงนี้ฝุ่นมันเยอะ” ชายหนุ่มที่ชวินคิดว่าเป็นคนงาน ที่แท้คือลูกชายเดินไปสั่งงานลูกน้องให้มาทำต่อแล้วเดินไปทางบ้านหลังใหญ่ สามหนุ่มมองหน้ากันแล้วเดินไปยืนรอหน้าสำนักงานเพราะไม่อยากถือวิสาสะเปิดเข้าไปเอง

รออยู่ไม่น่านชายหนุ่มคนเดิมก็เดินมาตะโกนเรียกพวกเขาให้ตามเข้าไปที่บ้าน ทุกคนค่อยโล่งอกที่มาถูกที่จริงๆ เสียที แต่ลึกๆ ก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะได้รู้หรืออาจจะไม่รู้อะไรเลยก็ได้ ทั้งเต้และสิงหาไม่ได้สังเกตว่าชวินเงียบขรึมลงตั้งแต่มาถึง ตั้งแต่จอดรถจนเข้ามาด้านใน ชวินพยายามกวาดตามองหาคนที่เคยรู้จัก...เด็กเล็กๆ คนหนึ่ง แต่ก็ไม่พบ....เสียงที่เคยพูดกับเขานานมาแล้ว กับเสียงในคืนนั้นเริ่มซ้อนทับกัน เขาอยากปฏิเสธว่าไม่จริง ไม่ใช่ แต่...เด็กคนนั้นอยู่ไหนกัน

ในห้องรับแขกบนโซฟามีชายร่างผอมนั่งรออยู่ เมื่อเห็นชวินเขาก็ยิ้มอย่างดีใจที่ลูกค้าเจ้าใหญ่เจ้าเก่าแวะเวียนมาหา บางทีอาจจะมีงานใหม่มาให้เหมือนเดิม

“สวัสดีครับลุงโชค จำผมได้ไหมครับ”

“สวัสดีครับๆ นั่งเลยนั่งๆ จำได้สิครับ คุณชวินเจ้าสัวน้อยไง ลุงขาไม่ค่อยดีเดินมากไม่ได้เลยต้องให้เดินมาถึงบ้าน ขอโทษด้วยนะหนุ่มๆ” โชครับไหว้เด็กรุ่นลูกทั้งสามคน บอกให้ทวีลูกชายเอาน้ำเอาขนมมาเสิร์ฟแขก

“ไม่เป็นไรครับ ผมมารบกวนถึงที่ก็เกรงใจแล้ว” สิงหากล่าวอย่างเกรงใจ แต่ทวีเดินไปแล้ว

“ลุงสบายดีไหมครับ ทำไมผอมจนผมเกือบจำไม่ได้”

“ก่อนนี้ป่วยนิดหน่อย ตอนนี้แข็งแรงแล้วแต่ขามันเคยหัก พอหายก็เดินไม่ค่อยไหว คุณชวินมาหาถึงที่ มีงานอะไรอีกหรือเปล่า เห็นร้านเล็กๆ แต่ยังรับงานไหวนะ”

“เอ่อ...ตอนนี้ยังครับ พอดีผมมีเรื่องอยากถามคุณลุงหน่อย” ชวินรู้สึกอึดอัดที่พูดทำลายความหวังของคนตรงหน้า เขารับรู้ได้ถึงความยากลำบากกว่าเดิม กิจการคงไม่ดีเท่าเมื่อก่อน ประกายแห่งความหวังในตาถูกส่งมาอย่างชัดเจน

“อ้อ แหม ลุงก็นึกว่าจะได้งานใหญ่นะเนี่ย ไม่เป็นไรๆ แต่ถ้ามีงานนึกถึงลุงบ้างนะ งานยังเนี้ยบเหมือนเดิม มีอะไรอยากถามพูดมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ” โชคเสียใจนิดหน่อยที่ความหวังดับวูบ แต่อย่างน้อยก็ยังมีคนนึกถึง วันข้างหน้าอาจจะมีงานมาให้ก็ได้

“คือ...ประมาณสองปีก่อนผมเคยจ้างลุงทำบิวท์อินให้ห้องผมที่คอนโดฯ กับห้องเพื่อน ลุงจำได้ไหมครับ” เกือบเจ็ดปีที่บ้านสิงหาจากไปในช่วงที่คอนโดฯ ยังสร้างไม่เสร็จ หลังจากสร้างเสร็จแล้วเขาก็ไม่ได้กลับมาดู ห้องนอนที่ตั้งใจจะทำเป็นห้องทำงานจึงไม่ได้รีโนเวตตามที่สิงหาสั่งไว้ตั้งแต่ซื้อเพราะชวินไม่แน่ใจว่าเพื่อนจะกลับมาอยู่ที่นี่อีกหรือเปล่า ถ้าต้องการขายคอนโดฯ ห้องที่มีสองห้องนอนจะขายได้ง่ายกว่าเขาเลยไม่ได้รีโนเวตตามความต้องการสิงหา จนเมื่อสิงหาบอกให้ทำเพราะว่ามีแพลนจะกลับมาจึงได้เริ่มรีโนเวตห้องใหม่ พร้อมกับห้องของชวินที่อยากตกแต่งใหม่ด้วย

“....จำได้สิ จำได้” เสียงพูดของลุงโชคแหบพร่าอยู่ในลำคอ เขาจำได้...ไม่มีวันลืม มือเหี่ยวย่นที่เต็มไปด้วยริ้วรอยสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมา

“คือ ผมอยากรู้ว่าตู้หนังสือที่เคยสั่งบิวท์อินไป มัน....มีอะไรผิดปกติไหมครับ” ชวินไม่ได้สังเกตเห็นอาการผิดปกตินี้ แต่สิงหากับเต้มองเห็น ทั้งสองคนสบตากัน รู้สึกว่ามาถูกที่แล้ว

“พวกคุณหมายความว่าไง จะบอกว่าเราทำของไม่ดีส่งขายเหรอ” ทวีวางถาดใส่แก้วน้ำลงบนโต๊ะ แล้วรีบไปยืนข้างพ่อ ท่าทางพร้อมช่วยเหลือและปกป้องเต็มที่

“ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่แบบนั้น อืม....งั้นผมถามเรื่องอื่นก่อน ผมจำได้ว่าตอนมาที่นี่ หมายถึงตรงบริษัทฯ เดิมที่หน้าซอยน่ะครับ ลุงมีคนงานเป็นพม่าคนหนึ่งกับลูกชายตัวเล็ก ผมจำชื่อเด็กไม่ได้แล้ว ตอนนี้ยังอยู่ไหมครับ ผมไม่เห็นเลย”

“......ไม่อยู่แล้วล่ะ ไม่อยู่ทั้งคู่เลย” โชคก้มหน้าหลบตาคนถาม ทวีลูบหลังพ่อเบาๆ อีกมือนวดหน้าอกพ่อด้วยความเป็นห่วง

“ผมว่าพอแค่นี้ดีกว่า พ่อผมเป็นโรคหัวใจ อย่าถามต่อเลยครับ”

“แต่ว่า....” ชวินอยากถามต่อ แต่ก็กลัวคนตรงหน้าจะเป็นอะไร ลูกชายลุงโชคพยายามกระซิบปลอบพ่อตัวเองเสียงเบา

“แสดงว่ามีเรื่องอะไรใช่ไหมครับ....เรื่องแปลกๆ...เกี่ยวกับตู้” โชคถามเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน

“ใช่ครับลุง ผมเป็นเจ้าของห้องที่มีตู้นั้นอยู่” สิงหาตอบในฐานะเจ้าของ เรื่องนี้มีลับลมคมในบางอย่าง และสองพ่อลูกนี้ก็รู้ด้วย

“พ่อครับ พ่อไปพักเถอะ เดี๋ยวผมคุยต่อเอง พ่อไม่ต้องพูด” ทวีพยุงโชคลุกขึ้น

“....พูดกับคุณเขาดีๆ นะ เราผิดนะลูก อย่าโกหกนะเข้าใจไหม”

“ครับๆ ผมพาพ่อไปนอนในห้องนะ ไม่เครียดนะเดี๋ยวความดันขึ้น เอายาไหม” ลูกชายช่วยประคองพ่อที่เดินกะเผลกขึ้นไปบนบ้านชั้นสอง ปล่อยสามหนุ่มนั่งรอที่ห้องรับแขก

สิงหามองเพื่อนสนิทที่เอาแต่นิ่งเงียบ สองมือกำแน่น เคร่งเครียดผิดปกติ

“มึงเป็นอะไรหรือเปล่า”

“กูจำเด็กนั่นได้แล้ว...กูว่าใช่...เมื่อก่อนเคยวิ่งเล่นช่วยพ่อทำงานที่นี่แหละ เป็นคนงานพม่า ลูกชายอายุแปดเก้าขวบ ตัวขาวๆ คอยวิ่งเอาน้ำมาเสิร์ฟ....เหี้ย แม่ง กูพยายามมองหาแล้วนะ แต่ไม่เจอเลย กูไม่อยากให้เป็นเด็กนั่นเลยว่ะ”

“คุณหมายถึงพยูเหรอ” ทวีลูกชายลุงโชคเดินกลับมานั่งแทนที่พ่อ

“ใช่ๆ พยู เมื่อก่อนเคยล้อว่าชื่อเหมือนพยูนบ่อยๆ” ชวินอมยิ้ม นึกถึงเด็กที่ครั้งหนึ่งเคยเกาะขาพ่อส่งยิ้มอายๆ แนะนำตัวเองว่าชื่อพยู...แปลว่าขาว

“มันตายแล้ว ทั้งพ่อทั้งลูกนั่นแหละ”

“เหี้ย!....โทษที” เต้หลุดปากออกมาเมื่อคนเล่าไม่เกริ่นนำให้ได้เตรียมใจกันเลย

“เล่าได้ไหม” สิงหาถาม

“คุณต้องบอกมาก่อนว่ามาทำไม ถามถึงพยูทำไม”

“ห้องทำงานผมมีตู้หนังสือบิวท์อินจากที่นี่ ผมอยู่ได้เกือบปีแล้ว แรกๆ ตู้มันก็แค่เปิดเองได้ มีเสียงเปิดนั่นนี่ แต่ล่าสุดเราเห็นเด็กคนหนึ่ง ก็ผีเด็กนั่นล่ะ เอาเป็นว่าทำจนผมอยู่ห้องตัวเองไม่ได้ ชวินก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเพราะโดนหนักกว่าเพื่อน อาจจะเพราะมันรู้จักเด็กคนนั้นก็เลยหนักหน่อย” สิงหาเป็นคนเล่าเอง เพราะชวินมัวแต่นั่งก้มหน้า มือข้างหนึ่งกุมมือตัวเองแน่น มือข้างนั้นที่ผีเด็กเคยจับมันในห้องน้ำ

“ผมขอร้องอะไรสักอย่างก่อนที่ผมจะเล่าได้ไหม”

“ถ้าไม่เกินไปก็ได้ พวกเรามาที่นี่แค่อยากรู้เด็กนั่นต้องการอะไรแค่นั้น” สิงหามองหน้าเพื่อนที่พยักหน้าตอบรับเช่นกัน

“ถ้าฟังจบแล้วพวกคุณอย่าเอาผิดกับพ่อผม ที่พ่อทำไปเพราะไม่มีทางเลือกและไม่คิดว่าจะมีปัญหาอื่นตามมา”

“ก็....ถ้าไม่ร้ายแรงผิดกฎหมายก็โอเค เล่ามาเถอะ”

“ที่บริษัทฯ เก่าพวกคุณคงเคยเห็นกันมาแล้ว ด้านหลังจะมีโกดังไว้กินสินค้าที่สำเร็จพร้อมนำไปติดตั้ง ปกติพยูกับพ่อจะนอนเฝ้าโกดัง จริงๆ มันมีห้องพักเล็กๆ ข้างหลังให้นอนแต่เด็กมันก็ชอบมานอนเล่นกับพ่อในโกดัง เดินทำตัวเป็นยามน้อยตรวจรอบๆ...แล้วคืนหนึ่ง...มันก็มีขโมยจะเข้ามา ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในคืนนั้นเพราะผมกับพ่อนอนกันที่นี่ เรารู้ตัวอีกทีตอนมีคนมาเรียกบอกว่าไฟไหม้โกดัง กว่าไฟจะดับของในโกดังก็ไหม้เกินครึ่ง น้าโพนพ่อพยูโดนทุบตายอยู่ข้างหลังโกดัง เราเจอศพตอนไฟดับหมดแล้ว ส่วนพยู....ตายอยู่ในตู้หนังสือของคุณ ชั้นล่างสุด....เด็กมันคงเข้าไปแอบ พอควันไฟมันเยอะก็ขาดอากาศหายใจ พยูมันซื่อ พ่อมันคงบอกให้แอบไว้ พอควันเยอะมันก็ยิ่งไม่กล้าออกมา ตอนนั้นลูกค้าที่รู้ข่าวก็ไม่ยอมรับของที่ทำเสร็จแล้ว บางคนก็ขอเงินคืนครึ่งหนึ่งหรือไม่ก็ต้องทำใหม่ส่งให้ เครื่องมือบางอย่างก็โดนขโมยไปบางอย่างก็พัง ไฟมันลามไปบ้านข้างๆ ต้องเสียเงินให้เขาอีก พ่อผมเกือบจะฆ่าตัวตายแล้ว เราไม่มีทางเลือก อะไรทำเงินได้ก็ต้องเอาไว้ก่อน ตอนนั้นตู้ของคุณมันถึงกำหนดส่งพอดีเราเห็นว่ามันไม่เสียหายอะไรก็เลยเอาไปติดตั้งให้ อย่างน้อยก็จะได้มีเงินก้อนมาหมุน พ่อผมไม่ได้ตั้งใจ แต่มันจำเป็น ผมขอโทษแทนพ่อด้วยนะครับ” ทวียกมือไหว้สิงหาและชวิน เขาร้องไห้ทุกครั้งเมื่อนึกถึงเด็กตัวเล็กที่เคยวิ่งเล่นสร้างเสียงหัวเราะให้คนงาน แรงงานต่างด้าวที่ซื่อสัตย์ขยันขันแข็ง ทั้งสองคนไม่มีญาติที่นี่ เขากับพ่อเลยช่วยจัดงานศพเล็กๆ ให้

“.....แม่ง ไม่รู้จะพูดอะไรเลยว่ะ” เต้ฟังแล้วได้แต่สงสารคนตาย รู้สึกไม่ดีที่เอาตู้ที่มีคนตายมาขายให้เพื่อนเขา แต่ก็รู้สึกสงสารลุงโชคที่ต้องเจอปัญหานี้อีก

“กูเคยมานั่งคุยเรื่องแบบบ่อยๆ บางทีก็ซื้อของเล่นมาฝากเด็กมัน ช่วงนั้นมาบ่อยจนสนิท เวลามาถึงพยูก็จะวิ่งเอาน้ำมาให้ เขย่ามือแล้วก็...ไปเล่นกันเถอะ....ใช่...ทำไมเพิ่งจะจำได้วะ” ชวินนวดหัวตา เช็ดน้ำตาตัวเองออก เพราะถูกควันไฟผิวเลยดำๆ แปลกๆ รองเท้าไม่ใส่ แต่...เด็กมันก็ยังจำเขาได้ จำว่าเคยซื้อของเล่นมาให้ เคยเล่นด้วยกัน มันไม่ได้ตั้งใจหลอก แค่วิ่งมาหาเหมือนทุกครั้ง


“น้องมันไม่รู้ตัวหรือเปล่าว่าตายแล้ว” สิงหาฟังแล้วได้แต่เดาถึงความเป็นไปได้

“ก็อาจจะ คงจำชวินได้เลยมาหาแต่มัน” เต้ลูบไหล่เพื่อนเบาๆ เรื่องนี้คงสะเทือนใจมันมาก อาจจะไม่ได้สนิทอะไรกับเด็กที่ตาย แต่เป็นความสงสารในความบริสุทธิ์ของเด็กคนหนึ่ง เพราะไม่รู้ว่าตายแล้ว พอเห็นคนรู้จักเลยทำอะไรแบบเดิม

“แล้วเราจะทำยังไงต่อดี” สิงหาเองก็เริ่มไปต่อไม่ถูก รู้สึกสงสารเด็กที่ไม่เคยเห็นหน้าเช่นกัน

“ความจริงที่เราย้ายมาทำตรงนี้ไม่ใช่แค่เพราะขาดทุนตอนไฟไหม้อย่างเดียวนะ...แต่เราอยู่ที่นั่นต่อไม่ได้” ทวีเอ่ยขึ้นมาขัดจังหวะสามหนุ่มที่กำลังช่วยกันวางแผนขั้นต่อไป

“อย่าบอกนะว่าเด็กพยูนั่นก็มาหลอกที่นี่เหมือนกัน” เต้รีบถาม

“ดึกๆ บางคืน...ที่นั่น...จะได้ยินเสียงคนทุบประตู เสียงตะโกน...เสียงพ่อของพยู”



—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—






ออฟไลน์ @rnon

  • ร่มเย็นเป็นสุข
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
โอยยยย สงสารพยูเลยอ่ะ

เด็กน้อยคงเหงา คงอยากเล่นกับชวิน อยากคุยด้วยเท่านั้นเอง

เอาล่ะสิ พอรู้แล้วจะทำไงต่อดี

 :ling3:

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โ๊อ๊ยหลอนนนน
ทั้งพ่อทั้งลุกเลยหรอ
พยูเดียวก็นอนไม่ได้แล้วง่าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น้องคงเหงาซินะ แถมหาพ่อไม่เจออีกด้วย ความสงสารมาแทนความกลัวแล้วใชป่ะ ชวิน  :sad4:

ออฟไลน์ janehsih

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารน้องพยู แงงงงง
แต่ก็ขนลุกตอนท้าย โอ้ยยยย

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
สงสารเด็ก ส่วนพ่อก็อาจยังห่วงลูกเลยไม่ไปไหน ยังรอและตามหาลูกอยู่ :mew6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สะเทือนใจ

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :sad4:  แล้วเรา---ดันมาอ่านช่วงดึกด้วยนะเนี่ยะ..

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทั้งกลัวทั้งสงสารพยูกับพ่อ :z3:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ใจหายตอนเห็นรูปนี่แหละ
ทำบุญให้เขาซะนะ TT

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :mew6: สงสารพยู .. น้องคงไม่ได้อยากทำร้ายใคร แค่น้องไม่รู้จะทำยังงัยอยู่แต่ในตู้มาตลอด ฮือออ พยูหนูก็อย่าหลอนพี่ๆเค้าน้า //ส่วนข่าวพี่สิง ใครมือปล่อยรูปเนี่ย แอบพันธมิตรกับพยูให้ไปหลอนเลย

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ฮือออออออ สงสารน้อง สงสารทุกคนเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด