★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 165413 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tuffina

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตื่นเต้นนนนเมมโมรี่กล้องอีกตัวต้องมีอะไรแน่ๆ รอค่ะรออ

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
เออ คิดได้ก็ดี กูรู้ว่าเรื่องแค่นี้ทำอะไรมึงไม่ได้หรอก แต่พอมึงไม่เปลี่ยนเบอร์ไม่ติดต่อพวกกูเลยแม่งก็ลังเลเหมือนกันนะว่ามึงจะสติแตกไปหรือเปล่า ไอ้ชวินก็ไม่อยู่กับล่องกับรอยเอาแต่โทษตัวเอง”
   แก้คำค่ะ   อยู่กับร่องกับรอย หรือเปล่าคะ
สนุกมาก ทั้งลุ้น ทั้งน่ารัก(น่านนที) ทั้งละมุน(สิงหา อยากได้ผช.แบบนี้)

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เหมือนว่ามันจะมีอะไร บรึ๊ยยยย

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เรื่องโทรศัพท์ดังหรือเรื่องถูกถ่ายตอนนอนน่าจะเป็นฝีมือของพีทมั๊ย

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
พีทนี่แค่เปิดตัวก็น่าหมั่นไส้เสียแล้ว ถ้ารู้เรื่องความหลังที่เคยเกิดขึ้น จะน่าตบซักขนาดไหนนะ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อ๋อยยยย ห้องทำงาน ... จะเห็นจะๆเลยไหมเนี่ย?

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อยากส้มตำเลย คุณสิงอ้อยเก่ง กล้องตัวสุดท้ายจะเป็นยังไง

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
กล้าดูคนเดียวเนาะ บรื่ออออ

ออฟไลน์ iNklaNd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
พีททำไมด้านจัง ทำไม่ดีกับเขาไว้ ยังคิดว่าเขาจะให้อภัยง่ายๆ หรอ
แต่เอาจริงๆ เจ็บกว่าเกลียดคือการไม่รู้สึกอะไรด้วยเลย
ซึ่งสิงแสดงออกชัดเจนนะ
แต่คิดว่าพีทคงมีบทอีกเรื่อยๆ
แต่อิผีในห้องเนี่ย เฉลยซักทีนะคะคุณจี
อยากรู้ว่าผีหรือคน >..<

ออฟไลน์ In_trawry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เปิดตัวพีทมาดาเมจความน่าหมั่นไส้ พุ่งแรงมากค่ะ ปิงน้อยน่ารักกว่าเธอเยอะ :z6: :serius2: :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
คุณสิงนี่ก็ต้อนน้องตลอดดดดด

ออฟไลน์ mink2538

  • เว็บสำหรับคนพันธุ์ Y
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ติดตามนะคะคุณ G เรื่องแนวนี้ถูกใจเลย ลึกลับดี

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อู้ยยยย... รอๆๆๆๆๆ...
ไรท์รีบมานะคะ..  :katai4:
ลุ้นนนมากกก...  :hao5:

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
สิงอ่อยปิงเก่งมากค่ะ
พีทนี่ร้ายจริงๆ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
คุณสิงจีบเก่งมาก หน้าตาดี พูดไพเราะ น้องปิงรีบเกาะแน่นๆ นะ เดี๋ยวหมาพีทจะคาบไปแดรก

ออฟไลน์ jin_kazu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก แอบหลอนด้วยตกลงใครแอบถ่ายพี่สิงงงง คนหรือผี  :serius2:
ส่วนน้องปิงน่ารักมากกกกก พี่สิงก็รุกน้องหนักมากกกก  :-[
ส่วนพีทนี่น่ากลัวดูจิตๆ หวังว่าจะไม่ทำไรน้องปิงนะ
รออ่านตอนต่อไปค่าาาา

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
มันจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากผีค่ะ แงงงงง

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ลุ้นมากกก อยากรู้แล้วว่าเป็นคนหรือผี :ling1:

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
เป็นกำลังใจให้คุณ G_wa นะครับ ดีใจที่ได้อ่านผลงานคุณอีกครั้ง :)
คุณสิงอ้อนน้องปิงบ่อยๆนะครับ 55555 น้องปิงน่ารักเนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คุณสิงเจออะไรอีกแล้วแน่เลย

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอยยย ใจเต้นตุบตับเลยจ้า คุณสิงเห็นอะไรในกล้องคะ
ในห้องทำงานที่นั่งอยู่ตอนนี้ไปอีก ใจจะวายแล้วนะ

สิงหาเป็นคนชัดเจนดี อดีตทำให้เราได้รู้ว่าใครดีไม่ดี
มิตรแท้ หรือศัตรู ก็ดูออก รอบข้างเป็นยังไง
และที่สำคัญทำให้รู้ว่า ครอบครัวรักเรามาก

เอ็นดูปิง จริงๆ อยากทำงานให้ใช่ไหมล่ะ
ยังไงไว้ให้พี่ฝ้ายมาเทรนต่อสิ เผื่ออนาคต
ชอบความถ่อมตัวของปิง

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
สิงอ่อยปิง แต่ตกเมียมโนจากคนอ่านไปได้หลายคนแล้ว ฮ่าๆๆ ๆ ๆ ๆ

ชอบที่สิงบอกพีท ไม่เคยเป็นเพื่อน กลับไปเป็นเพื่อนไม่ได้หรอก มันโคตรจริง

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ระทึก ลุ้นจริงๆ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
หยอดไปเรื่อย ๆ  :hao6:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:

ออฟไลน์ Anyann

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 526
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
ลุ้นแทนคุณสิง ใจนึงก็อยากให้ไม่เจออะไร อีกใจก็อยากให้โผล่ๆมาเลยจะผีหรือคนก็เถอะ
เอาใจช่วยคุณสิงและรักน้องปิงเสมอ อิอิ

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
คิดถึงคุณสิง น่านนที และห้องที่ทำให้ลุ้น นะคะ

ออฟไลน์ prueksa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :mew6:อยากอ่านแล้ว รอ รอ รอตอนต่อไป :pig4:

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/


9. ขอโอกาส



ในห้องทำงานส่วนใหญ่เป็นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ตู้หนังสือติดผนังด้านหนึ่ง อีกด้านเป็นโต๊ะทำงานยาวเกือบครึ่งของผนัง  มีชั้นสำหรับวางของติดผนังด้านบน เก้าอี้ตัวโปรดที่มักนั่งอ่านหนังสือประจำอยู่ตรงมุมห้องติดกระจกซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเล็กๆ ข้างตู้หนังสือ ตามผังห้องของคอนโดฯ เดิมห้องนี้คือห้องนอนเล็กแต่สิงหาให้ชวินแต่งใหม่เป็นห้องทำงาน ส่วนที่เป็นวอร์คอินคลอเซ็ทหน้าประตูเขาก็ปรับเป็นตู้เก็บของ จะว่าไปแล้วครั้งแรกที่เขาเจออะไรแปลกๆ ก็เกิดขึ้นตอนนั่งจัดของในห้องนี้


ดูคลิปจากกล้องหมดไปสองอันเขาก็พักสายตาเดินเอาชามไปล้าง อาบน้ำเตรียมตัวนอน หยิบแล็ปท็อปมานั่งดูบนเตียงในห้องนอน ไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากจะเลื่อนเวลาเปิดคลิปที่เหลือออกไปเรื่อยๆ เหมือนมีสัญญาณเตือนภัยในหัวว่าอย่าเปิดดีกว่า ไว้ดูตอนเช้าดีกว่า แต่สุดท้ายเขาก็เลือกจะเปิดมัน ระหว่างเปิดคลิปแรกก็โทรหาพนักงานตัวน้อยด้านล่างสักหน่อย

“คุณสิงยังไม่นอนอีกเหรอ”

“กำลังจะนอนครับ อยู่บนเตียงแล้วตอนนี้ ปิงล่ะทำอะไรอยู่”

“ดูคลิปเที่ยวไต้หวันอยู่ครับ พาไปกินนั่นกินนี่ ปิงชอบดู มันเพลินดี แล้วคุณทำอะไรอยู่ทำไมยังไม่นอนครับ”

“ดูคลิปเหมือนปิงเลย” ถึงปากจะพูดแต่สองตายังคงจ้องภาพที่เล่นด้วยความกว่าปกติหลายเท่า ภายในห้องไม่มีอะไรผิดปกติ เขาคอยมองที่มุมหนึ่งของห้องเสมอ ตู้หนังสือติดผนังที่ชั้นล่างเป็นส่วนที่มีบานพับเปิดปิด ด้านในยังว่างเปล่าไม่มีอะไร แต่หลายครั้งเขาพบว่ามันเปิดค้างไว้

“คลิปอะไรเหรอครับ”

“เอ่อ...ก็...คลิป...คลิปเรื่องงานน่ะครับ ดูๆ ไว้เผื่อตอนร่วมงานจะได้ง่ายขึ้น” สิงหาไม่กล้าบอกว่าดูคลิปจากกล้องวงจรปิด ขี้กลัวขนาดนั้นไม่รู้ว่าถ้าพูดไปจะมีปฎิกิริยาอย่างไร เผลอๆ อาจงอแงขอให้ลงไปอยู่เป็นเพื่อนหรือลางานกลับบ้านเลยก็ได้ คิดแล้วก็ได้แต่แอบขำโดยที่ไม่รู้เลยว่าการตอบแบบอ้ำๆ อึ้งๆ ของสิงหาทำให้คนฟังคิดไปไกล แก้มขาวใสซับสีเลือดฝาดบางๆ ผู้ชายดูคลิปบนเตียงดึกๆ จะเป็นคลิปประเภทไหนได้อีกถ้าไม่ใช่ 18+

“ปิงครับ”

“ครับ” น่านนทีขานรับในลำคอเบาๆ ไม่กล้าส่งเสียงดังรวมถึงไม่กล้าเอาโทรศัพท์แนบหูด้วย กลัวจะได้ยินอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร แบบอื้อๆ อ้าๆ น่ะ คุณสิงก็เหลือเกินเลย จะโทรก่อนหรือหลังจากนี้ก็ไม่ได้

“เดี๋ยวผมต้องวางแล้วนะ ปิงก็สู้ๆ นะครับ”

“ครับ คุณสิงก็ฝัน...เอ่อ...ฝันดีนะครับ” แก้มเนียนแดงเรื่อกว่าเดิมเมื่อนึกถึงไปฝันอื่นที่ไม่ใช่ฝันดี ให้ตายเถอะ คิดดีไม่ได้จริงๆ

“ครับ ฝันดีล่วงหน้าเช่นกันครับ” สิงหารอจนสัญญาณตัดไป ไม่ได้สังเกตว่าทำไมอีกคนพูดตะกุกตะกักไม่เหมือนทุกวัน สายตาเขาจ้องภาพตรงหน้าที่กดหยุดค้างไว้ ลังเลชั่วขณะก่อนย้อนกลับไปช้าๆ แล้วกดหยุดอีกครั้ง



ตู้หนังสือหลังเก้าอี้ทำงานที่เขาเพิ่งลุกออกมาเมื่อครู่มีบางสิ่งไม่ปกติ บานพับที่ปิดสนิทด้านล่างค่อยๆ แง้มออกช้าๆ แล้วเปิดจนสุด ค้างไว้เหมือนที่เขาเห็น สิงหากดหยุดแล้วย้อนกลับไปใหม่ วนดูสองสามรอบพบว่าเป็นการเปิดออกจริงๆ ไม่ใช่แม่เหล็กที่บานพับเสียแน่นอน เขามองหาความผิดปกติรอบห้องต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่พบอะไร ขณะที่กำลังจะกดเร่งความเร็วไปข้างหน้าโคมไฟในห้องสว่างขึ้น แล้วดับลง ก่อนจะสว่างขึ้นอีกครั้ง คราวนี้สว่างนานถึงหลายนาทีก่อนจะดับลง สิงหานั่งมองต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก เขาเร่งความเร็วคลิปต่อไปจนหมดทุกคลิปก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเพิ่มขึ้นจากเดิม เขาอาจจะไม่ใช่คนเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติมากนัก แต่เรื่องแปลกๆ ที่เจอมากับตัวเห็นมากับตาหลายครั้งเข้าเขาก็ไม่กล้าหาเหตุผลมาเถียงตัวเองได้อีก คืนนี้เป็นคืนแรกที่เขาเปิดไฟนอน



“เงินดีนะพี่ฝ้าย ช่วงนี้เขายังรับงานไม่เยอะมากพี่น่าจะไม่ยุ่งอะไร แต่พวกร้านหรือบ้านเขาที่กำลังสร้างพี่คงต้องคอยตามงานแทนแค่นั้นแหละ พี่ว่าไงล่ะ” น่านนทีรีบโทรหาพี่สาวคนสนิททันทีที่เลิกงานกลับมาถึงบ้าน แม้จะเริ่มง่วงแต่อยากให้เชียร์ให้อีกฝ่ายทำงานนี้จริงๆ นอกจากเงินดีเจ้านายยังใจดีด้วย

“เออก็น่าลอง ลูกยังไม่ขวบพี่ก็ไม่อยากไปทำงานเต็มตัวหรอก ช่วงนี้ดีหน่อยบ้านแม่สามีติดหลาน ช่วยเลี้ยงเกือบทุกวัน”

“พี่ลองคุยกับแฟนพี่ดูนะ เขาจะว่าหรือเปล่าออกมาทำงานน่ะ”

“พี่เคยคุยๆ แล้วเขาก็ไม่ค่อยอยากหรอก แต่ถ้างานแบบนี้เขาน่าจะโอเคนะ พี่ขอโทรคุยกับว่าที่เจ้านายอีกทีก่อน”

“อยากคุยกับดาราล่ะสิ ปิงรู้ทันหรอก”

“ย่ะ ขอฟังเสียงเก็บไปฝันก่อนไม่ได้เหรอ ทำไม่ทำค่อยว่ากัน” ฟังคำพูดทะเล้นของพี่ฝ้ายแล้วน่านนทีก็แกล้งขู่จะฟ้องพี่เขย พูดเล่นกันอีกไม่กี่คำก็ขอตัวไปนอนพัก แต่ไม่ลืมย้ำอีกครั้งว่าอยากให้รับงานนี้จริงๆ



ผ่านไปสองวันหลังจากดูคลิปจากกล้องวันนั้นสิงหาก็ไม่ได้เปิดดูอีก เขาลังเลว่าควรทำอย่างไรต่อ ใจหนึ่งเขานึกถึงน่านนทีก่อน อยากโทรไปเล่าแต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงตกใจแน่นอนเลยยั้งตัวเองไว้ นึกถึงเรื่องที่อีกฝ่ายเคยบอกว่าให้ทำบุญเลี้ยงพระเหมือนทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่าจะอยู่ไม่นาน ถ้าบ้านสร้างเสร็จก็จะขายคอนโดฯ หรือปล่อยเช่าแต่อยู่มาสักระยะเขาก็เริ่มชอบที่นี่เหมือนกัน ปัญหานี้บางทีอาจต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยจริงๆ ไม่ว่าจะได้ผลหรือไม่ก็เพื่อความสบายใจของตัวเอง



“คุณสิง....ฮือ” มุมปากคนพูดคว่ำลง คิ้วขมวด ทำหน้าตาได้น่าสงสารที่สุด สิงหากำมือปิดปากที่พยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ เขาลืมคิดไปว่าถ้าถามน่านนทีเรื่องทำบุญห้อง คนขี้กลัวจะต้องคิดโยงถึงสาเหตุได้ทันที

“อย่าทำเสียงอย่างนี้สิ ผมอุตส่าห์ไม่พูดอะไร แค่อยากให้ช่วยนิมนต์พระเฉยๆ เอง”

“แค่พูดถึงพระปิงก็โยงเรื่องได้หมดแล้ว แสดงว่ากล้องที่เพิ่งติดต้องถ่ายอะไรได้แน่ๆ เลยใช่ไหมครับ ฮือๆ”

“โธ่ปิง จะทำเสียงร้องไห้ทำไมล่ะครับ ผมนอนห้องนั้นทุกวันนะครับ มันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอก”

“ถ้าไม่กลัวคุณจะให้พระมาทำไมล่ะ มันถึงช่วงไคลแม็กแล้วใช่ไหม”

“ฮ่าๆๆ ปิง! ไม่ใช่หนังผีนะ จะมีช่วงอะไรแบบนั้นได้ไง”

“เฮ้อ...คุณสิงน่ะ ทำไมไม่เครียดเลยนะ ปิงกลัวแทนจะแย่ แล้วนี่ปิงต้องแจ้งให้ผู้จัดการฟังหรือเปล่าก็ไม่รู้ ปกติถ้าลูกบ้านมีปัญหาก็ต้องแจ้งทุกเรื่อง คุณสิงว่าไงดีครับ”

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก ถ้าถึงไคลแม็กจริงๆ ผมบอกชวินก่อนดีกว่า” ยังไงคอนโดฯ นี้ก็เป็นกิจการครอบครัวชวิน ถ้ามีข่าวลืออะไรแปลกๆ ออกไปจะเป็นเรื่องยุ่งยากมากแค่ไหนเขาก็ไม่กล้าเดาเอง

“ก็แล้วแต่คุณสิงนะครับ ตกลงคือนิมนต์พระทำบุญขึ้นบ้านใหม่นะครับ เอาพระกี่รูปดีแล้วพวกอาหารของถวายคุณสิงจะเตรียมเองหรือให้ปิงจัดให้ดีครับ”

“ปิงจัดให้แล้วกัน ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เรื่องอาหารถวายพระอยากให้แม่ปิงทำได้ไหมครับ”

“ได้ครับ แล้วเรื่องวันนี่เอาสะดวกหรือฤกษ์ดี”

“เอาฤกษ์ดีๆ ดีกว่าครับ ปิงจัดได้เต็มที่เลย อืม เดี๋ยวผมดูคิวงานก่อน ขอแค่ไม่ตรงกับงานสำคัญก็พอ” สิงหาหยิบโทรศัพท์มากดดูสักพักก็บอกให้น่านนทีจดวันที่เขามีงานเอาไว้ คุยเรื่องรายละเอียดเพิ่มอีกนิดหน่อยสิงหาก็ตอบอะไรไม่ได้แล้วเพราะเขาไม่เคยจัดงานแบบนี้เอง จำนวนพระ ของที่ต้องเตรียม จำนวน ราคา เขาให้น่านนทีจัดการตามความเหมาะสมได้เลย

“เรื่องผู้ช่วยคุณสิงว่าไงบ้างครับ ปิงไปคุยกับพี่เขาแล้ว เขาบอกจะโทรหาคุณสิงอีกที”

“อ๋อ โทรมาแล้วครับ ก็มีรายละเอียดงานที่ต้องปรับเปลี่ยนกันนิดหน่อยเพราะมีลูกเล็ก อาจจะขับรถออกไปทำธุระให้ผมไม่ได้ทุกวัน แต่โดยรวมที่คุยก็โอเคนะครับ จัดตารางการทำงานคร่าวๆ ของตัวเองให้ผมฟังแล้วถือว่าดีเลย อีกสักอาทิตย์ก็จะเริ่มไปเรียนงานกับพี่อ้วนน่ะครับ ต่อไปปิงคงได้เจอคุณฝ้ายบ่อยขึ้นแน่นอน”

“ดีจัง เดี๋ยวต้องไปบอกให้เลี้ยงข้าวสักหน่อยแล้ว เงินเดือนดีกว่าปิงอีก”

“ตำแหน่งยังว่างสำหรับปิงนะครับ”

“ไม่เอา ปิงทำงานนี้ดีอยู่แล้ว คุณสิงรีบขึ้นไปกินข้าวสิครับ สายแล้วนะ” น่านนทีแกล้งไล่เพราะคนหน้าตาดีเริ่มโชว์สกิลอ่อยอีกแล้ว รู้ว่าเขาขี้เขินก็ชอบแกล้งให้เขินอยู่ได้

“เดี๋ยวปิงจะเลิกงานแล้วใช่ไหม เกือบเก้าโมงแล้ว”

“ครับ พี่นิดเพิ่งมาเมื่อกี้เอง สงสัยไปนั่งกินข้าวข้างใน เดี๋ยวพรุ่งนี้ปิงบอกเรื่องทำบุญอีกทีนะครับ ขอไปดูฤกษ์ยามดีๆ ก่อน”

“ได้ครับ มีอะไรโทรได้ตลอดนะ กลับบ้านดีๆ นะครับ”

“ครับ” น่านนทีโบกมือส่งยิ้ม ถึงจะอยู่ทำงานโต้รุ่งมาทั้งคืนแต่เจอคนหล่อออร่าพุ่งแต่เช้าก็ชวนให้สดชื่นดีเหมือนกัน ระยะนี้มีข่าวซุบซิบในกลุ่มลูกบ้านบ่อยๆ ว่าถ้าอยากตื่นเช้ารับวันใหม่แบบสดชื่นสดใสให้ไปออกกำลังกายห้องฟิตเนสตอนเช้า เพราะสิงหามักจะไปใช้ห้องช่วงนั้นประจำ ห้องฟิตเนสเลยได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ขนาดที่ว่าบางวันห้องเต็มก็มี เฮ้อ...อยากบอกคุณสิงจังเลยว่าให้เลิกใส่เสื้อกล้ามโชว์ผิวขาวๆ อกแน่นๆ กับกล้ามท้องที่เห็นชัดทุกครั้งเวลาเสื้อชุ่มเหงื่อแนบลงไป ยิ่งวันนี้ใส่กางเกงขาสั้นอีกแล้ว ถ้ามีคนเลือดกำเดาไหลคาห้องฟิตเนสเขาจะไม่แปลกใจเลย



หลังจากปรึกษากับพี่โจแล้วได้ข้อสรุปเรื่องทำบุญว่าให้บัตเลอร์กับแม่บ้านเป็นคนดูแลเรื่องเตรียมสถานที่ เครื่องสังฆทานและของใช้อื่นๆ คอนเซียสจะเป็นฝ่ายติดต่อกับทางวัดให้ทั้งเรื่องนิมนต์พระ จัดเตรียมรถรับส่ง หรือแม้แต่การยืมของวัดอย่างเช่นอาสนะ โต๊ะหมู่บูชา ส่วนเรื่องอาหารครอบครัวน่านนทีรับไปจัดการเอง คนที่มีประสบการณ์ในการเตรียมงานนี้นอกจากพี่โจก็คือทีมบัตเลอร์ที่เริ่มงานตั้งแต่คอนโดฯ เปิดให้เข้าอยู่

“แม่ก็คิดๆ เมนูมาแล้วกัน เดี๋ยวปิงบอกคุณสิงอีกทีเผื่อเขาอยากเพิ่มอะไร”

“แล้ววันงานแม่ต้องไปด้วยไหม ไม่รู้จะตัดชุดทันหรือเปล่า”

“แม่ๆ เขาแค่จ้างทำกับข้าว ไม่ใช่ญาติเขาซะหน่อยจะไปทำไมเล่า”

“ปากเสีย ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติไหม ให้ข้าวให้น้ำกันมานานขนาดนี้ ผู้ชายตัวคนเดียวจะทำอะไรเป็น ใครจะคอยดูคอยช่วย เราช่วยเขาได้ก็ต้องช่วยนะปิง อย่าทำแค่เพราะเป็นหน้าที่หรือเพราะเงิน”

“โหแม่ พูดซะปิงดูแย่เลย คุยกันทุกวันจนเหมือนเพื่อนคนหนึ่งไปแล้ว ไม่ได้ทำเพราะหน้าที่อย่างเดียวสักหน่อย แล้วให้ข้าวให้น้ำของแม่คืออะไร คนหรือหมา เดี๋ยวจะไปฟ้อง”

“ไม่ต้องมาใส่ร้ายแม่เลย เรานั่นแหละไปถามๆ ให้แม่ด้วยว่าแม่ต้องไปด้วยไหม ไปช่วยจัดสำรับไง”

“อยากไปก็บอก พ่อออออ แม่อยากขึ้นห้องผู้ชายยยยย” น่านนทีแกล้งโวยวายเสียงดังแล้ววิ่งหนีฝ่ามือแม่ขึ้นห้องนอน



นานแล้วที่น่านนทีไม่ได้คุยกับกลุ่มเพื่อน หลังจากตื่นนอนเกือบหกโมงเย็นเขาหยิบโทรศัพท์มาเช็คดูแจ้งเตือนที่ดังรัวๆ ตอนกำลังนอน เห็นไลน์กลุ่มของเพื่อนร่วมรุ่นที่คณะกำลังคุยกันเรื่องวันเลี้ยงรุ่น ประธานรุ่นขอคำตอบภายในพรุ่งนี้จะได้เตรียมตัวจอง แล้วก็ให้เริ่มโอนเงินสำหรับคนที่ไปร่วมงานให้เหรัญญิกของรุ่นด้วย เขาเลื่อนอ่านข้อความเจอเพื่อนสนิททั้งแพน เป๊บ ภัทร ช่วยกันเสนอความเห็น แต่กว่าเขาจะตื่นมาอ่านไลน์กลุ่มทุกคนก็หยุดคุยกันไปแล้ว มาทีไรตลาดวายทุกที เอาไว้ได้เวลาสถานที่แน่นอนค่อยโทรถามพวกนั้นว่าจะไปกันกี่โมงหรือนัดเจอกันที่ไหนก่อน หรือ...อาจไม่ไป

“ทำไมวันนี้หน้าบึ้งจังครับ ไม่ค่อยยิ้มเลย” สิงหาเพิ่งกลับจากงานเลยแวะทักทายพร้อมรับปิ่นโตเถาใหม่เหมือนทุกวัน ต่างกันตรงที่ร่างเล็กดูไม่ร่าเริง ยิ้มแต่ปากตาไม่ยิ้มเลยสักนิด

“มีเรื่องเครียดๆ นิดหน่อยน่ะครับ คุณสิงเพิ่งเสร็จงานเหรอ”

“ครับ ปิงมีปัญหาอะไรคุยกับผมได้นะ อาจช่วยไม่ได้แต่ยินดีรับฟังนะครับ”

“มันก็ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องไร้สาระน่ะ ปิงคิดเวิ่นเว้อไปเอง” น่านนทีพยายามทำตัวให้ร่าเริงมากขึ้นแต่เห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าไม่เชื่อถือก็เลยห่อไหล่ถอนหายใจหนักๆ ออกมาแทน

“มีอะไรเหรอครับ ถึงจะไร้สาระแต่ถ้าทำให้ปิงคิดมากขนาดนี้มันคงสำคัญกับปิงจริงๆ”

“ก็...นิดหน่อย เรื่องเพื่อนน่ะครับ”

“ทะเลาะกับเพื่อนมาเหรอ”

“เปล่าครับ ปิงเพิ่งเห็นว่าเขาจะจัดเลี้ยงรุ่นกัน พรุ่งนี้น่าจะตกลงวันกันได้ แต่ปิงไม่ค่อยอยากไปยังไงไม่รู้ มันก็อยากไปเจอเพื่อนนะแต่อีกใจก็ไม่อยาก คุณสิงเคยเป็นไหม”

“ถ้ากับเพื่อนสนิทเลยไม่ค่อยเป็นครับ แต่เพื่อนที่ไม่ได้สนิทมากก็จะเป็นเหมือนกัน บางทีไปแล้วมันอึดอัดก็ไม่ค่อยอยากไป”

“อย่างคุณสิงยังอึดอัดอีกเหรอ”

“ผมก็คนธรรมดานะ ยิ่งทำงานในวงการแบบนี้ก็ยิ่งวางตัวลำบาก บางทีเราแค่อยากไปนั่งคุยกับเพื่อนสบายๆ แต่มีคนเดินมาขอถ่ายรูปไม่หยุด สำหรับผมมันก็ไม่เป็นไรแต่เพื่อนจะรำคาญมากกว่า ถ้าผมบอกว่าขอไม่ถ่ายนะครับ ขอความเป็นส่วนตัว ข่าวก็จะไปลงว่าหยิ่งบ้าง ติสท์บ้าง ส่วนใหญ่ผมเลยเลือกอยู่ในที่ที่ตัวเองสบายใจมากกว่า” สิงหานึกถึงเรื่องเก่าๆ อาจจะเพราะเขามีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยเข้างานสังคมเท่าไร พอเกิดเรื่องเลยไม่มีคนออกหน้าแทน แรงโจมตีทั้งหมดเลยต้องแบกรักคนเดียวเต็มๆ ไม่มีใครแบ่งทอนมันไป ถึงจะทำงานมาหลายปี อายุก็ไม่น้อย แต่ชีวิตคือการเรียนรู้ที่ไม่จบสิ้น เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง

“ปิงรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเพื่อนยังไงไม่รู้ คือตอนเรียนเราก็เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมนะ อาจไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันแต่พอเข้ามหาฯลัยเรียนคณะเดียวกันก็เลยมาสนิทกัน กลุ่มปิงมีสี่คนแต่อีกสองคนเขาคบเป็นแฟนตอนปีสอง แล้วเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่เหลือปิงก็ไม่ค่อยสนิท แล้วเขาก็มีแฟนต่างคณะ ไม่ค่อยไปไหนกับกลุ่ม พอช่วงทำโปรเจ็คจบปิงอยู่กับกลุ่มอื่นเพราะลงเรียนไม่เหมือนกัน มันเลยมีช่วงห่างๆ บ้าง แต่สามคนนั้นทำไมเขายังสนิทได้เหมือนเดิมปิงก็ไม่รู้ เหมือนปิงห่างออกมาคนเดียว อาจเพราะปิงไม่ค่อยไปเที่ยวด้วยแหละมั้ง พอเรียนจบทำงานคนละเวลาก็ยิ่งไม่เจอกันเลย แต่ปิงส่องเฟสฯ เพื่อนก็เห็นเขาคุยกันเฮฮาไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันด้วย พอจะมีงานเลี้ยงรุ่นปิงเลยงงๆ ตัวเองว่าจะไปดีไหม ถ้าไปจะนั่งคุยกับใคร หรือไม่ไปดี แต่เดี๋ยวเพื่อนจะหาว่าโลกส่วนตัวสูงไม่ร่วมกิจกรรมอีกหรือเปล่า เฮ้อ...คุณสิงว่าปิงทำไงดี” น่านนทีนั่งเท้าคางคิ้วขมวดมุ่น สิงหาที่เดินมานั่งข้างกันยิ้มเบาๆ เมื่อได้รู้ปัญหาที่ไม่ได้เรียกว่าใหญ่ แต่เป็นปัญหาโลกแตกที่ทุกคนต้องเคยเจอ

“ผมไม่รู้ว่าสำหรับปิงเพื่อนคืออะไรนะ แต่เพื่อนของผมต้องเป็นคนที่ใส่ใจกัน จริงใจต่อกัน ไม่มีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยว ถ้าเป็นเพื่อนสนิทก็อาจพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องถึงกับรู้ความลับทุกอย่างก็ได้แต่ต้องคุยได้ ก่อนนี้ผมมีเรื่องโกรธชวินมันก่อนไปเมืองนอก ผมทิ้งโทรศัพท์ไม่ให้ใครติดต่อได้ ไม่คุยเลยหลายเดือน จนอารมณ์เย็นลง เคลียร์ความรู้สึกตัวเองแล้วก็ติดต่อกลับมาหามัน ตอนนั้นเราไม่เคยพูดเรื่องปัญหาเลย มันแค่บอกผมว่าขอโทษ ผมก็ขอโทษ แค่นั้นพอ เราอาจจะไม่ได้เคลียร์ใจอะไรกันเป็นคำพูดเยิ่นเย้อแต่เราเข้าใจกันว่ากูโอเคนะ ขอโทษนะ หลังจากนั้นถ้าอยากฟังคำอธิบายก็ค่อยว่ากัน ถ้าเขาเห็นเราเป็นเพื่อนเขาจะไม่ทำให้เราะอึดอัดในการอยู่ตรงนั้น ผมไม่ได้จะว่าร้ายเพื่อนปิงนะ แต่ผมเข้าใจเวลาเพื่อนในกลุ่มเป็นแฟนกันเนี่ย ถ้าจัดการมันดีมันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้แหละ แล้วพอทิ้งไว้ไม่สนใจมันจะยิ่งห่างกัน ผมว่าปิงมีคำตอบในใจตัวเองนั่นแหละว่าปิงรู้สึกยังไง เพียงแต่ปิงอยากได้คำตอบชัดๆ จากคนอื่นแค่นั้น”

“อืม ปิงอยากรู้ว่าปิงไม่ดียังไงเหรอ ปิงอาจเป็นคนคุยกับคนอื่นไม่เก่งแต่กับเพื่อนปิงก็คุยสนุกตลอด เคยทำให้เพื่อนหัวเราะ ปิงไม่เที่ยวกลางคืนเพราะต้องช่วยแม่ขายของตอนเช้า แต่ถ้าไปกินพวกร้านหมูกระทะหรือเที่ยวตอนกลางวันดูหนังอะไรงี้ปิงก็พยายามไปตลอดถ้ามีเงินพอ แต่เหมือนมันจะไม่พอสำหรับทุกคนเลย ปิงเป็นเพื่อนที่ไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า ทำไมเพื่อนถึงไม่ค่อยคิดถึงปิงเลย”

“ปิงครับ อย่าคิดมากเลย บางคนเขาก็แค่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเข้ามาอยู่ในโลกเดียวกับเรา อาจอยู่ด้วยกันนานหน่อยแต่ถึงเวลาก็โคจรผ่านออกไป ปิงไม่ได้ผิดอะไร พวกนั้นก็อาจจะผิดหรือไม่ผิด คำว่าทำไมมันเป็นคำถามที่ไม่น่าถามตัวเอง เพราะคำตอบมันไม่มีวันจบสิ้น ปิงแค่ถามตัวเองพอว่ามีความสุขหรือเปล่า ผิดหรือเปล่าพอ ถ้าไปงานเลี้ยงรุ่นปิงจะสนุกไหม จะมีความสุขกว่าไม่ไปรึเปล่า หรือแม้แต่กับเพื่อนก็ตาม ปกติผมเห็นปิงร่าเริงมีความสุขทุกวัน ดึกแค่ไหนตาก็ใสแป๋วตลอดเวลา ยิ้มให้ทุกคน แต่กับเรื่องคนไม่กี่คนทำให้รอยยิ้มปิงหายไปเยอะเลย เพื่อนสมัยเรียนบางครั้งก็ไม่ต้องคบกันจนตายนะ แค่จำแต่เรื่องดีๆ แล้วไม่ทำลายมันลงก็พอ”

“คุณสิงพูดเหมือนอยากให้ปิงเลิกคบเพื่อนเลย”

“มันไม่ได้เรียกว่าเลิกคบหรอก ถ้าเราไม่ได้เกลียดกัน อาจจะห่างกันไป ไม่ได้เรียกว่าเพื่อนสนิท แต่ถ้ามีโอกาสได้เจอได้ทักทายเรายังเรียกเขาว่าเพื่อนได้เสมอนี่ครับ ดีกว่าจำไว้ตลอดว่าเขาคือเพื่อนสนิทแต่มีคำถามตลอดเวลาว่าทำไมๆๆ เพื่อนวัยเด็ก เพื่อนสมัยเรียน เพื่อนข้างบ้าน ทุกคนก็คือเพื่อนที่มีความทรงจำดีๆ กับเราช่วงเวลาหนึ่งทั้งนั้น อาจฟังเหมือนตีกรอบ ห่างเหินไปบ้าง แต่มันคือความจริง พอปิงโตขึ้น สังคมกว้างขึ้น จะมีอีกหลายคนที่ค่อยๆ เดินห่างเราไปเรื่อยๆ เราไม่ต้องถามเขาหรอกว่าเขาไปไหน แค่จำเขาไว้ก็พอ”

“...แต่ปิงก็จะไม่มีเพื่อนเลยนะ”

“ทุกวันนี้ปิงมีความสุขไหมครับ มีคุณโจ คุณนิด ออม ถึงจะทำงานร่วมกันแต่กับออมผมเห็นมีเรื่องเมาท์กันตลอดนี่นา หรือคุณฝ้ายที่ไม่ได้ทำงานด้วยแต่ก็ยังติดต่อเสมอจริงไหม มันอาจจะเริ่มจากเพื่อนร่วมงานก็จริงแต่ปิงก็ไม่ได้คุยแค่เรื่องงานกับทุกคนนี่ แถมมีนัดไปดูหนังไปซื้อของกันหลังเลิกงานหรือวันหยุดอีก ผมว่าไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานหรอก คนพวกนี้ก็คือเพื่อนใหม่ปิงไงครับ”

“อืม ถ้าคิดแบบนี้ปิงก็มีเพื่อนเยอะกว่าเมื่อก่อนอีก รวมคุณสิงไปด้วย” น่านนทียิ้มทะเล้นให้ แต่สิงหาเริ่มไม่อยากยิ้มแล้ว

“ก็ถือว่าได้ครับ เอาไว้มากกว่าเพื่อนค่อยว่ากันอีกที”

“....คุณสิงก็ชอบพูดอย่างนี้ตลอด อย่าแกล้งบ่อยนักสิครับ ปิงเบื่อโดนคนอื่นแซวแล้วนะ”

“ถ้าปิงสัญญาว่าจะไม่แกล้งซื่อใส่ผมอีก ผมก็จะไม่แกล้งหยอดต่อหน้าคนอื่น”

“ปิงไม่ได้แกล้งซื่อ”

“แสดงว่าซื่อจริงๆ ที่ผมโทรหาทุกวันบอกฝันดีทุกคืนมาเป็นเดือนคือปิงไม่เข้าใจว่าผมทำอะไรอยู่ งั้นเหรอครับ”

“ก็....คุยกันแบบเพื่อนใหม่ไง”

“ถ้าผมบอกตรงๆ ปิงยังจะแกล้งไม่รู้อยู่หรือเปล่า เอาไงดีครับ”

“...ปิงเป็นคนธรรมดาเองนะ หน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไรด้วย”

“ครับ ผมรู้” สิงหาพูดจบน่านนทีอ้าปากเหวอน้อยๆ ถึงเขาจะพยายามทำเป็นไม่สนใจแต่เวลานี้สิงหาไม่ควรตอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ มันน่าจะพูดว่า ‘ไม่จริง ปิงก็หน้าตาดี’ หรืออะไรทำนองนี้นี่ ตามพล็อตละครไง ทำไมย้ำว่าเขาหน้าตาไม่ดีแทนล่ะ

“ก็ในเมื่อรู้แล้วมายุ่งกับปิงทำไมล่ะ”

“ก็ไม่ได้ชอบคนหน้าตาดีนี่ครับ”

“โห คุณสิง ไม่ต้องย้ำนักก็ได้ว่าปิงหน้าตาไม่ดีน่ะ แกล้งปิงอยู่หรือเปล่าเนี่ย”

“ฮ่าๆๆ แซวเล่น จริงๆ ปิงก็ไม่ได้หน้าตาแย่ ก็น่ารักใสๆ เทรนเกาหลีไง แต่ผมไม่ได้มองปิงที่หน้าตาไงครับ ผมแค่รู้สึกสนใจ อยากคุยด้วยบ่อยๆ พอคุยกันบ่อยๆ ก็อยากให้มันพัฒนามากขึ้น ผมพูดแบบนี้ไม่ได้เร่งอะไรปิงนะ แค่บอกให้รู้ไว้ แล้วก็เลิกแกล้งไม่รู้ได้แล้ว ถ้าปิงไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเลย หรืออึดอัดก็บอกผมได้ ถ้าไม่กล้าพูดส่งไลน์มาก็ได้ ผมบอกตามตรงว่าตอนนี้ผมสนใจปิง ชอบ ยังไม่ได้ถึงกับรักอะไรแบบนั้น ผมแค่อยากให้เราค่อยๆ เริ่มเรียนรู้กันมากขึ้น ถ้าต่อไปปิงไม่โอเค คุยกันมากขึ้นแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรก็บอกผมได้ตลอด ถ้าปฏิเสธช่วงนี้ผมก็ยังไม่ถือว่าอกหัก อาจจะเสียใจนิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร ปิงว่าไงครับ”

“...คุณสิงพูดเหมือนขอจีบเลย”

“อืม ก็ถ้าบอกแบบนั้นจะกดดันปิงไปหรือเปล่า ผมไม่อยากกดดันนะ ไม่ได้อยากคาดหวังว่าต่อไปเราจะเป็นยังไงด้วย แค่อยากรู้จักกันมากกว่านี้ก่อน เรียกจีบหรือเปล่าครับ”

“...ไม่กดดันแน่นะ”

“แน่ครับ”

“ถ้าสมมติว่าไม่ได้คบกันก็จะไม่โกรธปิงนะ ไม่แบบ...หายไป”

“ถ้าปิงไม่ได้ทำเรื่องร้ายแรงจนผมเกลียด ต่อให้ไม่ได้คบกันเราก็เป็นเพื่อนกันได้ แต่อาจขอเวลาไปทำใจนิดหน่อย”

“งั้น...ก็แล้วแต่คุณสิง ปิงไม่รู้เหมือนกัน”

“ถ้าแล้วแต่ผม ปิงก็ต้องให้เวลากับผมมากขึ้นนะ บางวันเราอาจออกไปหาอะไรกินกัน ดูหนัง หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นมากกว่าแค่โทรคุยกัน ได้ไหมครับ”

“ก็ได้ ถ้าปิงว่างนะ คือบางทีปิงว่างแต่ปิงก็ขี้เกียจออกจากบ้าน คุณสิงอย่าชวนเที่ยวบ่อยนะ”

“ได้ ผมก็ไม่ค่อยชอบไปเที่ยวไหนเหมือนกัน”

“ปิงว่าคุณสิงขึ้นห้องไปได้แล้วครับ จะได้รีบนอน”

“ผมยังไม่ค่อยง่วงเลย นั่งเป็นเพื่อนปิงได้สบาย”

“ขึ้นไปเถอะครับ...ปิงอยากนั่งอายคนเดียว”

“....ฮึๆๆ โอเคครับ งั้น...ค่อยๆ อายไปนะ ผมขึ้นไปนอนก่อน ฝันดีล่วงหน้านะครับ” สิงหาลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ พยายามกลั้นหัวเราะ คนที่พยายามนั่งก้มหน้าคางชิดอกแต่ก็ยังปิดหูและแก้มแดงๆ ไม่มิดได้ยินก็หันมามองค้อนแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่นก่อนพูดตอบด้วยคำเดิมๆ แต่มีความหมายมากกว่าเดิม

“ฝันดีเช่นกันครับ”



ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/




ไม่รู้เป็นเพราะบรรยากาศอุ่นๆ หวานๆ ยามย่ำคืนที่ผ่านมาหรือเปล่า เรื่องดีๆ เลยเกิดขึ้นกับน่านนทีโดยไม่ทันตั้งตัว เช้าวันถัดมาขณะกำลังกลับบ้าน เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นแต่เขาไม่ได้สนใจจนกลับถึงบ้าน ข้อความจากเพื่อนที่แทบไม่เคยทักเขามาก่อน

‘ปิงจะไปงานเลี้ยงรุ่นเปล่า แพนมันนัดไปพร้อมกันหนึ่งทุ่มนะ เจอกันหน้าร้านก่อนค่อยเข้าไปพร้อมกัน’ ข้อความจากภัทรที่ส่งมาทำให้น่านนทีดีใจแล้วรีบตอบตกลงไปทันที ลืมความตั้งใจที่จะไม่ไปร่วมงานไปเสียสนิท เขาบอกกับตัวเองว่าต้องลองดู ช่วงนี้งานสบายขึ้นมีเวลาว่างกว่าเมื่อก่อนที่เปลี่ยนงานบ่อย ถ้าเพื่อนชวนไปไหนเขาก็จะลองไปดู ไหนๆ คบกันมาตั้งหลายปี จะหายหน้ากันเฉยๆ เหมือนลืมๆ กันไปมันก็รู้สึกไม่ดี



ในห้องประชุมของบริษัทฯ นักรบ วันนี้มีทีมงานหลักที่ลงตัวเรียบร้อยแล้วเข้ามาประชุมความคืบหน้า สิงหาได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมด้วย คนเขียนบทหรือเจ้าของเรื่อง ผู้ช่วยผู้กำกับ ทีมงานฝ่ายต่างๆ ที่สำคัญก็ร่วมประชุมด้วย นักรบพูดเรื่องการเตรียมงานในขั้นตอนต่อไป การคัดเลือกนักแสดงบทอื่นๆ โดยยินดีรับฟังความเห็นทุกคนหากมีใครอยากเสนอคนที่เหมาะกับบท

“เรื่องตารางถ่ายทำเดี๋ยวให้พี่อ้วนแจ้งอีกทีนะสิง แต่ต้องเริ่มลดน้ำหนักลงได้แล้วนะ พยายามอย่าโดนแดดด้วยช่วงนี้ เอาขาวๆ ซีดๆ ไว้” นักรบหันมากำชับสิงหาอีกครั้ง ที่เขาเรียกให้สิงหาเข้าประชุมด้วยเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายสนใจงานเบื้องหลังเหมือนกัน

“ได้ แล้วตกลงบทพี่สาวนี่ใครเล่น เผื่อนัดไปเวิร์คช็อปด้วยกัน”

“ได้พี่แหม่มมาเล่นให้ โชคดีไป แต่เรื่องเวิร์คช็อปนี่เดี๋ยวดูอีกทีนะ พี่เขาคิวแน่นอยู่ จะพยายามให้ได้ก่อนเปิดกล้องสักครั้งสองครั้งก็พอ แล้วสิงไปติดต่อครูสอนภาษามือแล้วใช่ไหม เริ่มเรียนหรือยัง”

“มะรืนเริ่มวันแรก ส่วนโรงฯบาลพี่อ้วนบอกจะติดต่อให้เข้าไปสักสองสามครั้ง ต้องคุยกับทางหมอก่อน”

“พี่อ้วนว่าไงครับ คุยมาหรือยัง”

“หมอเขาให้ดูได้เป็นคนๆ นะ ตอนนี้ยังบอกว่ากี่คนต้องรอให้ญาติคนป่วยอนุญาตก่อน แต่ถ้าคุยแค่กับหมอนี่กี่ครั้งก็ได้แค่แจ้งล่วงหน้าไปหน่อยก็พอ”

“โอเค พี่อย่าลืมดูให้ตรงเคสเดียวกับบทหน่อยนะ”

“ได้จ้ะ อ้อแล้วก็สิง เรื่องลดน้ำหนักเดี๋ยวพี่พาไปคุยกับนักโภชนาการอีกทีนะ อย่าเพิ่งโหมลดเอง”

“คุณสิงอย่าตัดผมด้วยนะครับ ให้มันยาวอีกหน่อยดูยุ่งๆ จะดีกว่า ตอนนี้มันสั้นไป” ทั้งคนเขียนบทและพี่อ้วนผลัดกันกำชับการเตรียมพร้อมคนละอย่างสองอย่าง นักรบเลยนั่งคุยกับผู้ช่วยผู้กำกับเรื่องโลเคชั่นที่อยากได้ กว่าจะเลิกประชุมก็เกือบบ่าย ออกจากบริษัทฯ ได้ก็ตรงไปร้านอาหารที่นัดเพื่อนเอาไว้เพื่อคุยเรื่องร้านต่อ แต่ไม่ว่างานจะยุ่งมากแค่ไหนเขาก็ไม่ลืมส่งข้อความหาน่านนทีเพื่อบอกเล่าให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังทำอะไร เบื่อรถติด หิวข้าว อยากได้กำลังใจ และอีกฝ่ายก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แม้จะไม่ได้ตอบอะไรมากมายแต่ก็มีสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนส่งกลับมา บางครั้งก็มีคำพูดที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจเช่น ทำไมไม่กินครับ ทำไมไม่หาอะไรรองท้องก่อน รถติดมากเลยเหรอ ขับรถดีๆ นะครับ แถมอีกฝ่ายก็เริ่มพูดเรื่องส่วนตัวกับเขามากขึ้นโดยที่เขาไม่ต้องถามเอง อย่างเช่นเรื่องงานเลี้ยงรุ่นที่ตกลงจะไปเพราะเพื่อนชวน น้ำเสียงดีใจตอนเล่าทำให้เขาเป็นห่วงนิดหน่อย การอยู่กลุ่มเดียวกันไม่จำเป็นต้องสนิทเท่ากันทุกคน และหลายครั้งในกลุ่มเพื่อนมักจะมีคนหนึ่งที่สนิทน้อยที่สุด ในสถานการณ์นี้น่านนทีคือคนๆ นั้น แม้แต่กลุ่มเพื่อนของสิงหาเองก็มีเรื่องแบบนั้น ยิ่งตอนที่เขาคบกับพีท ความห่างเหินในกลุ่มก็ยิ่งมาก โบ้เป็นเพื่อนต่างคณะทำให้ไม่ค่อยได้เจอ ส่วนเต้ตอนแรกก็ยังดีๆ แต่พอเขาเริ่มทะเลาะกับพีทบ่อยเต้ก็เริ่มไม่ชอบพีท ถึงพีทจะมีเพื่อนสนิทอีกกลุ่มแต่งานของสิงหาทำให้มีเวลาว่างไม่มาก ถ้าว่างก็จะนัดเจอพร้อมๆ กัน ชวินที่เป็นคนกลางก็พลอยอึดอัด สถานการณ์แย่ๆ แบบนี้เกิดได้กับทุกคน อยู่ที่ว่าจะจัดการยังไง สิงหาพยายามประคับประคองความสัมพันธ์กับทุกคนให้ดีที่สุดเพราะทุกคนล้วนเป็นคนสำคัญ เพื่อนทุกคนก็ให้ความร่วมมือ ไม่มีการชวนกันไปไหนแล้วไม่ชวนอีกคนหรือห้ามอีกคนมา ทุกครั้งที่มีปัญหาก็จะพูดตรงๆ เพื่อเคลียร์ให้จบไม่ติดใจกัน มันไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินกว่าจะพยายาม แต่จากที่ฟังน่านนทีเล่า เหมือนจะไม่มีใครพยายามประสานความสัมพันธ์นี้เท่าไร แม้แต่ตัวน่านนทีเองก็อาจจะมีแค่การตั้งคำถามโดยไม่พยายามหาคำตอบและแก้ไขมัน จนเริ่มห่างเหินกันเหมือนทุกวันนี้



การติดต่อวัดหาฤกษ์สำหรับทำบุญขึ้นบ้านใหม่โจเป็นคนรับหน้าที่ โดยมีคำกำชับของน่านนทีที่ระบุให้หาวัดหรือพระที่มีของดีปราบผีเก่งๆ ตอนที่โจได้ยินแทบจะยกมือตบหัวลูกน้อง ถามไปถามมาถึงได้รู้ว่าปัญหาที่เกิดนอกจากโทรศัพท์วันนั้นยังมีอย่างต่อเนื่องและมากกว่าที่คิด คนที่ออกความเห็นให้ทำบุญก็คือลูกน้องตัวดีตรงหน้านี่เอง แต่จะให้เขาไปหาวัดดังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ง่าย เขาเลยเลือกวัดที่ใกล้ที่สุดเพราะเดินทางสะดวกและก็เป็นวัดดังที่คนนับถือมากอยู่แล้ว เป็นการตัดสินใจที่ไม่ค่อยได้รับการตอบรับจากคนที่นั่งข้างๆ

“เอาพระมาทั้งทีถ้าไล่ผีไม่ออกเราเสียชื่อเลยนะพี่โจ ปิงบอกให้หาวัดดังๆ หน่อย ไปไกลหน่อยก็ได้ไม่เป็นไรหรอก”

“ไอ้ปิง เราเป็นคอนเซียซไม่ใช่คนไล่ผีนะ จะมาเสียชื่ออะไร แล้ววัดนี้ก็ดังมันต้องมีดีบ้างสิ อย่าไปทำท่าขี้กลัวอย่างนี้ให้คุณสิงเห็นล่ะ เดี๋ยวเขาจะยิ่งคิดมาก บางทีมันอาจไม่มีอะไรก็ได้ ทำบุญสักหน่อยก็หาย”

“พี่โจก็พูดได้สิพี่ไม่ได้อยู่ห้องเขานี่ ปิงเห็นรูปถ่ายผี เอ้ย ไม่ใช่สิต้องรูปผีถ่าย มีตั้งหลายรูป คุณสิงตั้งกล้องถ่ายในห้องเลยนะแต่ปิงไม่กล้าดูหรอก เขาเจอมาหนักนะ เราต้องช่วยเขาสิพี่ ไหนตอนแรกบอกปิงว่าคอนเซียซต้องทำได้ทุกอย่างเพื่อความสุขของลูกบ้าน เนี่ย ลูกบ้านโดนผีหลอกก็ไม่เห็นช่วยได้เลย เอาพระมาหลอกคุณสิงทำบุญเฉยๆ มากกว่า”

“นี่ไอ้ปิง พระจริงนะเว้ยไม่ใช่พระปลอม พูดซะเสียหายกันหมด แล้วต่อให้ไปหาพระดังเรื่องปราบผีก็ไม่รู้จะช่วยได้จริงหรือเปล่า อาจมาหลอกคุณเขาเปล่า  เราเป็นพุทธก็แก้แบบสายกลางไปก่อน ทำบุญให้ไปก่อนเผื่อเขาได้แล้วจะไปเกิด จบปัญหากันไป”

“แต่...”

“พอๆ ไม่ต้องพูด พี่ได้ฤกษ์มาแล้ว นิมนต์พระไว้แล้ว ศุกร์หน้า เลี้ยงเพล ไปบอกคุณสิงด้วย” โจพูดจบก็หันหลังหนี หยิบแฟ้มงานมานั่งอ่าน พยายามไม่สนใจเสียงบ่นพึมพำของคนอยากปราบผี เห็นท่าทางแบบนี้แล้วเขายิ่งนึกไม่ออกว่าอะไรทำให้ดาราหนุ่มหล่อขนาดนั้นมาสนใจได้ หรือว่าโดนของ



ยิ่งใกล้วันนัดเลี้ยงรุ่นน่านนทียิ่งตื่นเต้นและกังวล แต่ก็ไม่ยกเลิกแน่นอน เมื่อวันเสาร์มาถึงน่านนทีที่เพิ่งกลับมานอนเกือบเที่ยงก็รีบตื่นตั้งแต่ห้าโมงเย็น เตรียมชุดทำงานใส่กระเป๋าเพราะต้องเข้างานตอนห้าทุ่มครึ่ง ร้านที่จัดเลี้ยงเป็นร้านอาหารมีห้องคาราโอเกะหรืออยากฟังดนตรีสดก็มีเหมือนกัน แต่ทุกคนลงความเห็นให้จองห้องคาราโอเกะจะได้เป็นส่วนตัว เสียงดังได้ไม่ต้องเกรงใจใจ เขามาถึงก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง มีเพื่อนบางคนเริ่มมาถึง ชักชวนให้เข้าไปในงานด้วยกันแต่เขายืนยันจะรอเพื่อนในกลุ่มก่อน

“วันนี้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง คืนนี้ปิงจะไหวไหมเนี่ย” สิงหาเพิ่งกลับถึงห้องเลยโทรมาให้กำลังใจอีกฝ่าย เมื่อคืนน่านนทีแอบบ่นกับเขาว่าร้องเพลงไม่เป็น แต่เพื่อนในกลุ่มชอบ มีคาราโอเกะแบบนี้สงสัยมีแย่งไมค์กันแน่ๆ แต่เจ้าตัวก็กังวลว่าจะมีใครยื่นไมค์มาให้ร้องเหมือนกัน ถ้าปฏิเสธไม่รู้จะทำงานกร่อยหรือเปล่า หัวเล็กๆ ไม่รู้คิดอะไรฟุ้งซ่านไปหมด

“ไหวครับ แต่อาจงีบหลับสักชั่วโมง ไม่มีใครจับได้แน่นอน”

“จะออกจากงานกี่โมง ให้ผมไปรับดีไหม จะได้นอนบนรถด้วย”

“ไม่ต้องหรอก ปิงไปเองได้ เดี๋ยวนั่งบีทีเอสไปแป็บเดียวถึง”

“แน่ใจนะ ผมไปรอรับได้นะ ร้านที่ปิงไปผมก็รู้จัก”

“ไม่เอา ปิงกลับเอง คุณสิงห้ามมานะ”

“โอเคๆ แต่ถ้าเปลี่ยนใจโทรมาได้ตลอด ห้ามเกรงใจกัน”

“ได้ครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะ เพื่อนปิงเดินมาแล้ว”

“ครับ ขอให้สนุกนะ”

“ขอบคุณครับ”



คำอวยพรของอีกสิงหาเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล รอยยิ้มที่มีเมื่อได้เจอเพื่อนๆ ตอนแรกเริ่มค่อยๆ ตกลงเมื่อบรรยากาศวันเก่าๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง แพนกับเป๊บคู่หนุ่มหล่อสาวสวยยังคงตัวติดกันเหมือนเดิม เพื่อนร่วมรุ่นแซวตั้งแต่ก้าวเข้างาน แต่เหมือนบรรยากาศระหว่างทั้งคู่จะแปลกๆ เป๊บค่อนข้างติดโทรศัพท์ ส่วนแพนก็นั่งกอดอกหรือไม่ก็หันมาคุยกับภัทร แน่นอนว่ากระซิบกันแค่สองคน น่านนทีพยายามปล่อยวางความรู้สึกโดดเดี่ยวทิ้งไป สนุกกับเพื่อนคนอื่น ใครถามอะไรก็ตอบหรือไม่ก็เป็นฝ่ายชวนเพื่อนที่นั่งใกล้ๆ คุย แต่บทสนทนาไม่ค่อยรื่นไหลเท่าไร ไม่นานก็หมดหัวข้อคุยเพราะส่วนใหญ่คุยกันแต่เรื่องสมัยเรียน กิจกรรมที่เคยร่วมกันทำในวันเก่าๆ ที่เขาแทบไม่เคยมีส่วนร่วม ครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง แถมมีลูกสามคนอายุใกล้ๆ กัน ค่าใช้จ่ายมันสูง คณะที่เขาเลือกเรียนมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด งานก็น้อย มีเวลาว่างช่วยงานที่บ้านได้ เขารู้ว่าเงินมันหายากและพ่อแม่ก็ลำบากอยู่ เวลาใครชวนไปเที่ยวเขาก็เลยไม่ค่อยไป เพื่อนในห้องเคยนัดไปเที่ยวทั้งห้องที่เวียดนามเขาก็ไม่ไป หรือไปแค่ต่างจังหวัดแบบเหมารถค้างคืน เขาก็ไม่ได้ไป มันไม่ได้ผิดที่เพื่อนหรอกที่จะสนิทกันอยู่สองสามคน เขาเองที่ทำตัวแปลกแยก แต่มันก็ผ่านมาถึงตอนนี้ แก้ไขอะไรไม่ได้ ก็คงต้องปล่อยมันไปอย่างที่สิงหาบอก เพียงแต่...เสียดายเหมือนกันนะ



งานเริ่มไปได้เกือบสามทุ่มน่านนทีก็ขอตัวกลับก่อนด้วยข้ออ้างว่าต้องไปเข้างานต่อ แต่เพื่อนก็ไม่ถามอยู่ดีว่าเข้างานกี่โมง ภัทรกับแพนเดินออกมาส่งเขาหน้าร้าน แต่เหมือนหาโอกาสออกมาคุยกันลับตาคนอื่นมากกว่า เขาเดินนำจนพ้นร้านมาถึงริมถนน หันไปมองเพื่อนสองคนเดินควงแขนคุยกันสีหน้าเคร่งเครียด ภัทรเป็นคนที่หันมาเห็นว่าเขามองอยู่

“ไปแล้วนะ กลับเข้าไปเถอะ เดี๋ยวเรายืนเรียกรถตรงนี้แหละ”

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวยืนเป็นเพื่อน แกน่าจะอยู่นานๆ หน่อย ทีหลังลางานไปเลยจะได้อยู่ดึกๆ กัน เผื่อไปเที่ยวไหนต่อ”

“ไว้คราวหน้านะ ไปเถอะ เดี๋ยวยืนคนเดียวได้ ยุงกัดเปล่าๆ”

“เออๆ โชคดีนะแก ไว้เจอกันใหม่”

“บายนะปิง ยังไม่ค่อยได้คุยกันเลยว่ะ ไว้นัดเจอกัน”

“เออ บ๊ายบาย” เขาโบกมือลาเพื่อนแล้วหันหลังให้ เตรียมมองหารถแท็กซี่ที่ผ่านมา ไม่ได้สนใจว่าเพื่อนจะเดินไปหรือยัง

ปริ๊น ปริ๊น

เสียงแตรรถดังมาจากคันที่กำลังขับออกจากร้านพอดี ทั้งเขาและเพื่อนรีบหลบให้พ้นทางทั้งที่ความจริงก็ไม่ได้ขวางอยู่แล้ว ปากที่หุบยิ้มไปนานแล้วเม้มแน่น คนยิ่งหงุดหงิดยังมาบีบแตรใส่อีก แถมยังจอดแช่ไม่ขับไปพ้นๆ สักที เขาพยายามชะเง้อผ่านหน้ารถมองหาแท็กซี่ ถ้าเผื่อมีคันว่างๆ มาตอนนี้แล้วคันนี้พุ่งออกไปพอดี แท็กซี่ไม่จอดเขาจะทำยังไง กำลังสองจิตสองใจว่าจะเดินห่างๆ ไปอีกหน่อยดีหรือเปล่า โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นซะก่อน เขาหยิบมาดูเห็นชื่อคนโทรรีบหันขวับมองเพื่อนที่ยืนห่างออกไปไม่กี่ก้าว คงไม่เห็นรูปใช่ไหม ไม่น่าเอารูปที่ถ่ายด้วยกันบันทึกตรงเบอร์เลย

“ครับคุณสิง”

“คุยกับเพื่อนเสร็จหรือยังครับ ผมจอดนานไม่ได้นะ”

“ห๊ะ อะไรนะครับ”

“ปิงลาเพื่อนเสร็จยัง ผมจอดนานไม่ได้มีรถกำลังจะออก”

“อย่าบอกนะว่าที่จอดหน้าปิงนี่รถคุณ”

“ใช่สิครับ ขึ้นรถเร็วๆ เลย มีรถมาจ่อแล้ว”

“อ้อ ครับๆ ไปนะพวกแก” เขารีบหันไปลาเพื่อนที่ยังยืนคอยอยู่ แล้วรีบเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับทันที เปิดเร็วปิดเร็ว ไฟรถติดแป๊บเดียวน่าจะยังไม่ทันเห็นว่าใครขับ น่านนทีรีบเหลียวไปมองเพื่อนเห็นทั้งคู่มองเข้ามาในรถด้วยความสงสัย แต่คงไม่ทันเห็นอะไรหรอก คงงงว่ามีคนมารับแล้วจะยืนโบกรถทำไมมากกว่า

“คุณสิงมาได้ไง แล้วมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”

“คุยกับปิงเสร็จก็กินข้าวแล้วขับมาเลย โชคดีได้ที่จอดใกล้ทางออกพอดี ถ้าไม่เห็นปิงนี่คงรอเก้อเลย”

“ปิงบอกว่ากลับเองได้ไงครับ คราวหลังคุณสิงอย่าทำอีกนะ มันทำให้ปิงรู้สึกไม่ดีเลย” น่านนทีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนสิงหาเริ่มหุบยิ้มลง นึกทวนคำพูดและท่าทางของอีกฝ่าย เป็นครั้งแรกที่เห็นน่านนทีโกรธ

“ขอโทษนะครับ สัญญาว่าต่อไปจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก ไม่โกรธนะ”

“ไม่ได้โกรธนะแค่ไม่พอใจนิดหน่อย มันดูเหมือนปิงไม่ได้เรื่องต้องให้คนอื่นคอยช่วยตลอด ปิงไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้”

“โอเคครับ ผมเข้าใจแล้ว จริงๆ แค่เป็นห่วงเฉยๆ แล้วก็ว่างด้วย ถ้าพรุ่งนี้มีงานต่อให้ห่วงก็คงไม่ออกมาหรอกครับ สัญญาว่าครั้งหน้าจะไม่ทำอะไรตามใจแบบนี้อีก ผมกลัวมาดักรอเก้อเหมือนกัน”

“ขอบคุณนะครับ อย่าโกรธปิงนะที่พูดแบบนี้ ปิงชอบที่มีคนคอยห่วงแต่ไม่ชอบทำตัวให้คนอื่นห่วง คราวหน้าคุณสิงแค่โทรมาก็พอนะครับ”

“ได้ ดีกันแล้วนะ”

“ครับ เพิ่งสามทุ่มเอง ถึงคอนโดฯ ก่อนเวลาเยอะแน่เลย ปิงจะได้งีบก่อนสักชั่วโมง”

“จะไปแอบงีบตรงไหน ไปห้องผมไหม”

“ไม่ดีหรอกครับ ขึ้นห้องลูกบ้านบ่อยๆ เดี๋ยวโดนร้องเรียน ปิงนอนห้องพักพนักงานได้ มีเสื่อของพี่แม่บ้านเอามาปูก็นอนได้แล้ว”

“ยังไม่ถึงเวลางานนี่ครับ นอนห้องผมสบายกว่า นะ”

“ไม่เอา”

“ไม่เอาเพราะเกรงใจหรือกลัวผี”

“คุณสิงน่ะ! พูดอย่างนี้แล้วใครจะอยากไปล่ะ”

“ไปเถอะครับ นะ ผมอยากอยู่ด้วยนานๆ ไหนบอกจะให้โอกาสกันไง”

“ก็...”

“นะครับ ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวผมนั่งเฝ้ารับรองความปลอดภัยให้ ไปนะ”

“ก็ได้ครับ” น่านนทีตอบรับเบาๆ รู้สึกเหมือนแพ้ทางยังไงไม่รู้ น้ำเสียงนุ่มๆ อ้อนๆ แบบนี้ทำเอามือกระตุกอยากหาพวงมาลัยมาคล้องคอให้จริงๆ



น่านนทีกำลังนั่งคิดอย่างหงุดหงิด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เมื่อคืนก่อนไม่น่าขึ้นไปนอนบนห้องสิงหาตามคำชวนเลย ถามว่าเจอผีหรือเปล่า คำตอบคือไม่ แต่น่ากลัวกว่าและจัดการยากกว่า นั่นก็คือ...ผู้จัดการคอนโดฯ หลังจากนอนพักผ่อนวันอาทิตย์แล้วตื่นมาทำงานเช้าวันจันทร์อย่างสดชื่น รอยยิ้มเบิกบานที่มอบให้ลูกบ้านสุดหล่อพร้อมปิ่นโตยามเช้าเป็นรอยยิ้มครั้งสุดท้ายของวัน เพราะตอนสิบโมงอยู่ดีๆ ผู้จัดการก็โทรมาเรียกไปพบที่ห้องทำงาน ถึงผู้จัดการจะค่อนข้างใจดีแต่ก็เข้มงวดมาก ข้อห้ามสำหรับพนักงานต่างๆ ต้องทำให้ได้ ห้ามฝ่าฝืน ที่เขาบอกบ่อยๆ ว่าขึ้นห้องลูกบ้านไม่ได้เพราะกลัวโดนร้องเรียนก็ไม่ใช่ข้ออ้าง วันนี้เขาโดนร้องเรียนจริงๆ

“หน้าหงิกทั้งวันเลย อย่าไปคิดมาก เขาก็แค่เตือนๆ ปิงก็ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดสักหน่อย” ออมเอ่ยปลอบเมื่อรู้ว่าเพื่อนโดนเรียกไปตักเตือน

“ก็รู้ แต่ไม่ชอบคำว่าหาผลประโยชน์จากหน้าที่นี่ เราไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะ แม่ง โคตรเซ็งเลย” จริงๆ ในใบร้องเรียนยังมีคำว่าพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วย รวมๆ ทั้งสองข้อหายิ่งทำให้หงุดหงิด

“แล้วใครร้องเรียนไปแกรู้ไหม พวกห้องนิติฯ น่ะชัวร์แต่ใครวะ ดึกขนาดนั้นยังไปแอบเห็นอีก”

“น้าสิทธิ์บอกว่าคืนนั้นพวกพี่สากินเลี้ยงกันที่ร้านหน้าซอยเนี่ย น้าเขาบอกว่าจอดรถทิ้งไว้แล้วนั่งคันอื่นออกไปกัน คงเห็นตอนปิงให้คุณสิงแวะร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย มันติดกับร้านเหล้าใช่ไหมล่ะ คุณสิงก็ลงมายืนด้วย ซวยโคตร”

“ยังดีที่มันไม่รู้ว่าแกขึ้นไปนอนบนห้องเขาด้วย ไม่งั้นคงยิ่งกว่านี้”

“ที่โดนเรียกเพราะเรื่องขึ้นห้องนี่แหละ ไม่รู้ว่ารู้ได้ไงเหมือนกัน สงสัยแอบตามเข้ามาด้วย ถ้าเห็นแค่ไปซื้อของข้างนอกก็ร้องเรียนไม่ได้หรอก นี่คำร้องเหมือนกล่าวหาลอยๆ ว่าให้ลูกบ้านหิ้วขึ้นห้องอะ ผู้จัดการเขาเลยถามอ้อมๆ ไงว่าสนิทสนมแค่ไหน แล้วก็เตือนว่าถึงสนิทก็อย่าขึ้นห้องลูกบ้านในเวลางานนะ” น่านนทีบ่นต่ออีกนิดหน่อยก็รีบปรับสภาพจิตใจให้กลับมาแจ่มใสเพื่อรับมือกับงานต่อไป แต่ก็เหมือนความวุ่นวายยังไม่จบสิ้น เพื่อนที่เขาเริ่มปลงว่าจะห่างๆ กันไปกลับเป็นฝ่ายติดต่อมาด้วยข้อความชวนให้โมโห

‘วันนั้นใครมารับปิงน่ะ หน้าคุ้นๆ เหมือนดาราเลย’

เขาพยายามคิด ว่าช่างมัน ถือว่าเป็นวันแย่ๆ วันหนึ่งก็พอ โดยที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่คิดตรงกับใจสิงหาตอนนี้เหมือนกัน



—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—


ถามว่าติดกล้องช่วยอะไรได้ไหม คำตอบคือ...ช่วยให้หลอนกว่าเดิม   :z3: :z3:
แต่ที่แน่ๆ คือ เขาจะจีบกันแบบเป็นทางการกันแล้วค่ะคุณณณณณณณณ :impress2:

เจอกันตอนหน้าค่าาาา :katai5:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด