Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"  (อ่าน 18053 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ขอให้ดีแบบนี้ไปตลอดนะ อย่าเป็นผีบ้าไร้สตินะคุณชาย

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
            Hydrangea 15

 

 

            ไล่กว้านหลินนั่งมองภัทรจัดนู่นเรียงนี่ในห้องของเขา เด็กน้อยรับเสื้อผ้าที่ซักและรีดอย่างเรียบร้อยแล้วจากศลัยมาจัดเรียงตามสีและประเภทของเสื้อผ้าเข้าตู้อย่างเงียบๆ แม้จะไม่ได้พูดคุยอะไรกันเท่าไหร่แต่บรรยากาศก็ไม่อึดอัดเท่าเมื่อก่อน ภัทรเป็นเด็กที่ทำงานละเอียดรอบคอบอย่างน่าทึ่ง ณภัทรจัดแยกเสื้อผ้าแต่ละประเภท ชุดชั้นในของกว้านหลินถูกพับเก็บอย่างเป็นระเบียบ แยกกับบ๊อกเซอร์ ทำความสะอาดห้องในขณะที่เจ้าของห้องนอนอ่านข่าวในแลปท็อปอย่างเงียบๆ ราวสองชั่วโมงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย

 

            “เบื่อมั้ย?”เอ่ยถามเมื่อภัทรเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว

 

            “ก็นิดหน่อยครับ”ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสร้งพูดว่าไม่เบื่อ การอยู่แค่ในบ้านมีเพียงทีวีเอาไว้ดูรายการต่างๆซึ่งภัทรไม่ใช่คนติดทีวีขนาดนั้นมันก็ออกจะน่าเบื่อ กว้านหลินเก็บแลปท็อปไว้ที่หัวเตียงก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง

 

            “ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ”

 

            “เดี๋ยวผมค่อยอาบก็ได้ครับ ยังไม่ได้ทำอาหารกลางวันเลยครับ”ภัทรปฏิเสธด้วยน้ำเสียงซื่อๆ กว้านหลินส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะลุกเดินมาหาเด็กในปกครอง ยื่นมือไปบนศีรษะของภัทร เด็กน้อยสะดุ้งเฮือกหลับตาปี๋เพราะคิดว่ากว้านหลินจะตบตน หากแต่สัมผัสแผ่วเบาบนศีรษะที่กำลังจับตนเองโยกหัวไปมานั้นกลับทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างน่ากลัว

 

            “ไม่ต้องทำ วันนี้จะพาไปเที่ยวห้าง อยากกินอะไรคิดไว้ด้วยนะ อยากทำอะไรก็นึกไว้เลย วันนี้จะตามใจทุกอย่าง”น้ำเสียงอบอุ่นที่ส่งมาให้ทำเอาภัทรกลั้นยิ้มสุดความสามารถ

 

ชอบ...ชอบที่กว้านหลินดีแบบนี้ เหมือนกว้านหลินเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิดเลย

 

ชอบมากๆ อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป

 

            ณภัทรในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กวัยรุ่นนับร้อยนับพันคนในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เลยซักนิด เด็กน้อยใส่เสื้อตัวหลวมสีเหลืองอ่อนกับกางเกงยีนส์สีซีด ในขณะที่เขาแต่งตัวเต็มยศราวกับเพิ่งหลุดมาจากแมกกาซีนแฟชั่นเล่มแพงสำหรับอัพเดทเทรนด์การแต่งตัวของผู้ชาย ภัทรเดินดูร้านนั้นทีร้านนี้ทีอย่างตื่นตาตื่นใจ การที่ต้องอุดอู้อยู่แค่ในบ้านทำให้โอเมก้าตัวน้อยตื่นเต้นไปเสียทุกสิ่ง

 

            “มานี่”กว้านหลินคว้ามือภัทรที่ทำท่าจะเดินตามใครซักคนไปเข้าร้านไอศกรีม

 

            “แต่ผมอยากกินไอติมนี่ครับ”ภัทรทำเสียงเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่ร้องท้วงยามเจ้านายหนุ่มยึดชามนมไว้

 

            “เธอต้องกินข้าวก่อนสิ นี่มันจะเย็นแล้วนะไม่หิวเหรอ?”กว้านหลินดึงมือเด็กที่ทำท่าจะดื้อเล็กน้อยให้ตามมา เลือกร้านอาหารญี่ปุ่นเลือกโต๊ะในสุดเพื่อความเป็นส่วนตัว เมนูถูกยื่นให้กับภัทร เด็กน้อยมองราคาอาหารแล้วก็ได้แต่นั่งนิ่ง

 

แพงทุกอย่างเลย

 

กว้านหลินมองท่าทางอึกอักลังเลของภัทรแล้วได้แต่กระตุกยิ้ม ดวงตากลมที่มองภาพประกอบเป็นประกายหากแต่ก็สะกดจิตสะกดใจไว้

 

ถ้าเลือกตามใจตัวเองหนี้สินที่กัดฟันทำงานคงไม่แคล้วจะงอกเป็นดินพอกหางหมูแน่ๆ

 

            “เลือกสิ ฉันเลี้ยงเอง”กว้านหลินที่นั่งดูเมนูอยู่บอกด้วยท่าทางสบายๆ บรรยากาศโดยรอบทำให้ภัทรผ่อนคลายขึ้น ตากลมกวาดมองเมนูที่อยากกินก่อนจะสั่งเบนโตะเซ็ตแค่อย่างเดียว

 

ถึงแม้กว้านหลินจะออกปากว่าเลี้ยงแต่ภัทรก็ไม่ใช่เด็กที่จะถือโอกาสสั่งอะไรเยอะแยะ เบนโตะเซ็ตเองก็รวมทุกอย่างที่อยากกินไว้แล้วดังนั้นภัทรจึงสั่งเมนูง่ายๆนี้ไป อัลฟ่าหนุ่มเห็นดังนั้นจึงสั่งอาหารไปอีก 3-4 อย่าง

 

            “สั่งมาเยอะจะทานหมดเหรอครับ”เมื่อพนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟเด็กน้อยก็อดไม่ได้ที่จะถาม

 

มันค่อนข้างเยอะจนเกือบเต็มโต๊ะ

 

            “สั่งมาให้เธอกิน กินเยอะๆตัวเธอผอมมากเลย ผอมมากกว่าครั้งก่อนที่ฉันจับเอวเธอ”กว้านหลินคีบซูชิใส่จานให้กับภัทร เด็กน้อยแก้มแดงเรื่อด้วยเลือดฝาดที่แล่นขึ้นมาหล่อเลี้ยงยามใบหน้าร้อนผ่าว เอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงแสนเบา ภัทรคีบแซลม่อนย่างใส่จานให้กว้านหลินอย่างกล้าๆกลัวๆ กลัวว่ากว้านหลินจะรังเกียจอาหารที่ตนคีบให้ ดวงตากลมหลุบต่ำหลบยามที่กว้านหลินเหลือบมอง

 

            “คือ มันอร่อยครับผมเลยอยากให้คุณลองชิม”กว้านหลินไม่ได้ว่าอะไรชายหนุ่มคีบปลาชิ้นนั้นเข้าปากหากแต่สายตายังไม่ยอมละจากใบหน้าที่แดงเรื่อชวนมองแม้แต่น้อย

 

            “คราวหลังถ้าอยากให้ฉันลองชิมอะไรก็ป้อนมาสิ...”คราวนี้ไม่ใช่แค่หลุบตาต่ำหากแต่ภัทรก้มหน้างุดจนแทบจะมุดลงไปใต้โต๊ะเลยทีเดียว อาหารกลางวันจบลงอย่างเรียบง่ายกว้านหลินจ่ายเงินแล้วจูงมือเด็กในปกครองออกมา พาเดินกลับไปยังร้านไอศกรีมที่ภัทรอยากกินในตอนแรกเด็กน้อยยิ้มกว้างอย่างดีใจร่างบางเกาะแขนอัลฟ่าหนุ่มอย่างลืมตัวกว้านหลินสั่งเพียงกาแฟร้อนมากินรอในขณะที่ภัทรหลับตาพริ้มยามส่งไอศกรีมเนื้อเย็นเข้าปากสีหน้าบ่งบอกว่าตนเองมีความสุขมากแค่ไหน วิปครีมสีขาวละเอียดถูกละเลียดทีละนิดอย่างกลัวมันจะหมดริมฝีปากเปื้อนเพราะไม่ทันระวังหากแต่กว้านหลินก็เอื้อมมือไปเช็ดให้ก่อนจะส่งเศษวิปครีมที่ปลายนิ้วเข้าปากตัวเองสายตาที่มองมานั้นเหมือนมีเปลวไฟกองใหญ่โลดแล่นอยู่ในนั้นจนเด็กน้อยแทบจะละลาย

 

            “อยากดูหนังเรื่องอะไรมั้ย เห็นว่ามีหนังใหม่น่าดูเข้าหลายเรื่องเลย”

 

            “คุณกว้านหลินจะพาผมไปดูหนังด้วยเหรอครับ”ภัทรถามด้วยความดีใจ ปกติเด็กน้อยชอบดูหนังมากๆแต่ตั้งแต่ถูกกว้านหลินจับไปเขาก็ได้ดูหนังจากแผ่นแค่ไม่กี่ครั้งส่วนมากเป็นหนังเก่าที่เขาเคยดูแล้ว คุณชายสามพยักหน้าพลางจิบกาแฟรอเด็กที่เร่งความเร็วในการกินไอศกรีมมากขึ้น ที่สุดทั้งคู่ก็มาหยุดยืนหน้าโปรแกรมหนัง ภัทรเลือกหนังแอคชั่นสงครามที่ตัวเองอยากดูและคิดว่ากว้านหลินจะไม่เบื่อโดยกว้านหลินทำหน้าที่เลือกที่นั่งโชคดีที่รอบที่จะดูนั้นอีกไม่นานกว้านหลินจึงพาเด็กน้อยไปซื้อของกินแล้วเข้ามาในโรงภาพยนตร์ ที่นั่งของทั้งคู่เป็นแบบโซฟามีหมอนและผ้าห่มไว้ให้ กว้านหลินคลี่ผ้าห่มคลุมร่างของเขาและภัทรไว้ร่างบางถูกดึงให้มานอนในอ้อมแขนแข็งแรงนั่น โชคดีที่หนังเป็นหนังที่ใกล้ออกจากโปรแกรมแล้วจำนวนคนดูในโรงมีไม่เยอะและนั่งกระจายลงไปด้านล่างๆทำให้ตอนนี้อัลฟ่าหนุ่มครองที่นั่งสุดพิเศษนี้แต่เพียงผู้เดียว แอบมองเจ้าตัวเล็กที่ซุกกายในอ้อมแขนของเขาดวงตากลมสนใจที่ตัวละครในหนังแล้วก็นึกเอ็นดู เหมือนตอนภัทร 7-8 ขวบไม่มีผิด ยามเปิดการ์ตูนให้ดูก็จะตั้งอกตั้งใจดูเสียเหลือเกินไม่ว่าจะแกล้งหรือทำอะไรก็ไม่ได้สนใจเลยซักนิด ความคิดซุกซนผุดเข้ามาในหัวก่อนจะค่อยๆล้วงมือเข้าไปในเสื้อของเด็กน้อยแล้วแตะลงบนยอดอกเม็ดเล็กบีบบี้เบาๆจนร่างในอ้อมกอดสะดุ้งโหยง

 

            “อ๊ะ!!”

 

            “ชู่ว...เดี๋ยวคนอื่นได้ยินเสียงร้องแล้วเปลี่ยนมาดูเราแทนนะ”แกล้งเอ่ยกระซิบชิดหูยามที่ภัทรตะครุบมือของเขาให้หยุดการกระทำแสนน่าอายนั้นฉวยจูบอย่างรวดเร็วก่อนผละออก ร่างบางห่อตัวเข้าหากันอย่างปกป้องตนเองแต่มีหรือที่คนอย่างไล่กว้านหลินจะยอมเขาดึงมือของเด็กน้อยออก

 

            “เธอดูหนังไปสิ ส่วนฉันจะดูเธอ เก็บเสียงร้องให้ดีๆนะคนอื่นได้ยินไม่รู้ด้วย”ภัทรกัดปากแน่นเมื่อกว้านหลินเริ่มกระทำการเอาแต่ใจอีกครั้งยอดอกเริ่มทำปฏิกริยาสู้มือของอัลฟ่าหนุ่มที่บางครั้งก็แค่ลูบเบาๆสบัลกับบีบบี้จนรู้สึกซ่านเสียว โอเมก้าเด็กหลุดเสียงร้องสั้นๆเมื่อกว้านหลินเปลี่ยนเป้าหมายจากหน้าอกมาเป็นการสอดมือเข้ามาในกางเกงของเขา

 

น่าอาย น่าอายเหลือเกิน ภัทรกลัวว่าพนักงานหรือใครซักคนจะรู้ว่าตอนนี้อัลฟ่าหนุ่มกำลังทำอะไรตนอยู่ ปลายผ้าห่มถูกดึงขึ้นมากัดกลั้นเสียงยามกว้านหลินใช้หลังมือลูบไล้ลงบนกลางกายของเขาผ่านเนื้อผ้าของกางเกงชั้นในสลับกับรูดรั้งตามความยาวจนอะไรๆที่เคยสงบเริ่มตื่นตัว เหมือนกว้านหลินอยากจะแกล้งให้เด็กน้อยมาสนใจตัวเองมากกว่าหนังที่กำลังระเบิดกันตูมตามจนหูแทบจะแตกภัทรกอดเอวของเขาแน่นกระตุกกายเข้าหายามความเสียวแล่นวูบแม้จะไม่ได้ถูกสัมผัสโดยตรงหากแต่ความรู้สึกที่ได้แสนจะจริง สมองพร่าเบลอไปหมดจนดูหนังไม่รู้เรื่อง เสียงครางดังเบาๆยามใบหน้าหวานซุกลงบนอกของกว้านหลินเด็กน้อยกัดลงบนอกของอัลฟ่าหนุ่มอย่างทำโทษที่กลั่นแกล้งจนไม่สามารถดูหนังได้รู้เรื่อง กว้านหลินเพิ่มจังหวะในการลูบไล้มากขึ้นเร็วขึ้นเรื่อยๆจนจุดกลางกายแข็งตัวเต็มที่

 

            “หึหึ”ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะดึงมือออกแล้วทำท่าสนใจกับหนังตรงหน้าเสียเต็มประดาทิ้งให้ภัทรค้างเติ่งกลางทาง เด็กน้อยรีบลุกขึ้นนั่งพยายามจัดการกับอารมณ์ที่ถูกปลุกปั่นจากคนนิสัยเสีย แต่อย่างว่าเมื่ออารมณ์มันขึ้นมาแล้วถ้าไม่จัดการก็จะค้างคาอยู่เช่นนั้น

 

                        “ผ...ผมไปห้องน้ำก่อนนะครับ”ลุกขึ้นโดยไม่รอคำอนุญาตเลยซักนิดหากแต่ข้อมือสวยกลับถูกดึงรั้งไว้

 

            “ให้ไปช่วยมั้ย?”คำถามแสนหน้าด้านถูกเปล่งออกไป ภัทรไม่เคยรู้สึกอยากทุบกว้านหลินให้ตายเหมือนเช่นตอนนี้มาก่อนเลยซักนิด

 

ก็เพราะเขารู้ความหมายของคำว่าช่วยดีน่ะสิ

 

ถ้าให้กว้านหลินไปด้วยหนังที่เพิ่งดำเนินได้ครึ่งเรื่องคงไม่ได้กลับมาดูอีกแน่ๆ เด็กน้อยจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะดึงมือตัวเองออกผลุนผลันตรงไปยังห้องน้ำภัทรเลือกห้องในสุดโชคดีเหลือเกินที่มันว่างทุกห้องจัดการปลดกางเกงและชั้นในลงก่อนจะจัดการกับความค้างคาที่กว้านหลินจุดไว้ให้ ลมหายใจหอบกระชั้นยามความรู้สึกทั้งหมดถูกปลดปล่อยเด็กน้อยนั่งควบคุมลมหายใจและสติของตัวเองอีกหลายนาทีถึงจะแต่งตัวให้เรียบร้อยออกไปล้างมือล้างหน้าแล้วจึงเดินกลับไปหากว้านหลินในโรงหนัง หากแต่ตอนนี้อัลฟ่าหนุ่มกลับไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

 

หายไปไหน?...

 

 

 

 

            ณภัทรหันมองรอบๆภายในโรงหนังแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของไล่กว้านหลิน ตัดสินใจกลับมานั่งรอเพราะคิดว่าอาจจะสวนกันตอนไปเข้าห้องน้ำ แต่รออยู่อีกหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววที่กว้านหลินจะกลับมา ใจของเด็กน้อยเริ่มเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ

 

หรือกว้านหลินแกล้งเขาโดยเอาเขามาทิ้งไว้ทั้งๆที่ก็รู้ว่าภัทรนั้นไม่มีเงินติดตัวและไม่รู้เรื่องถนนหนทางในกรุงเทพมากนักเนื่องจากถูกพ่อส่งไปเรียนที่อังกฤษเสียหลายปี เด็กน้อยเริ่มผุดลุกผุดนั่งอย่างร้อนรนจนในที่สุดก็ตัดสินใจออกมาด้านนอก ดวงตากลมกวาดมองไปรอบๆพร้อมๆกับใจที่เสียไปเรื่อยๆ

 

จะทิ้งกันจริงๆเหรอ

 

คุณจะใจร้ายทิ้งผมแบบนี้จริงๆเหรอครับ

 

ณภัทรเดินไปหาในห้องน้ำรอจนคนหมดก็ไม่พบ

 

เขาควรจะไปยืนรอหน้าโรงหนังอีกครั้งหรือจะหนีดี ยังไงตอนนี้กว้านหลินก็ไม่ได้อยู่กับเขาเป็นโอกาสที่จะได้หนีไปจากกรงขังที่กว้านหลินสร้างมาพันธนาการเขาเสียที เด็กน้อยเดินออกจากห้องน้ำอย่างลังเลก่อนจะตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วก้าวเดินออกจากตรงนั้นทันที

 

 

 

            ไล่กว้านหลินกลับมาที่โรงหนังอีกครั้งหลังจากที่ออกไปหามุมสงบคุยกับคริสที่โทรมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของจิรนุช

 

จิรนุชไปฟ้องพ่อของเธอจริงๆและพ่อของเจ้าหล่อนก็โทรไปโวยวายกับแม่ใหญ่ของเขา ทางนั้นจึงโทรมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง กว้านหลินถูกพี่ชายด่าเรื่องความโลเลและให้ความหวังจิรนุชมาตั้งหลายปีเสียยกใหญ่สองพี่น้องหาทางแก้ไขปัญหาที่จะตามมาไม่ช้านี้อยู่เป็นนานสองนานถึงจะได้วางสายกันได้

 

และเมื่อกลับมาที่โรงหนังก็ได้พบว่าหนังจบไปได้ซักพักแล้ว รอบๆบริเวณนั้นไม่ปรากฏร่างของโอเมก้าเด็กของเขาเลย กว้านหลินรีบสาวเท้าไปสอบถามพนักงานบอกถึงรูปร่างหน้าตารวมทั้งลักษณะปลอกคอที่ภัทรสวมใส่อยู่

 

ไม่มีใครสังเกตเห็นภัทรเลยซักนิด และเพราะเป็นวันหยุดผู้คนจึงมากมายไม่ว่าจะกวาดตามองไปทางไหน

 

ไม่มี

 

ไม่เจอ

 

ใจของอัลฟ่าหนุ่มราวกับถูกเตะกระเด็นกระดอนไป

 

เขาคิดว่ายังไงเสียถ้าไม่เจอภัทรก็ยังจะยืนรอเขาที่หน้าโรงหนัง

 

กว้านหลินลืมไปเสียสนิทว่าเชลยของเขาอาจจะถือโอกาสนี้ที่ไม่ได้อยู่ใต้การปกครองของเขาหนีไป

 

ความกรุ่นโกรธเริ่มครอบงำจิตใจมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนก้อนเมฆดำที่ค่อยๆบดบังกลืนกินดวงอาทิตย์ในยามหน้าฝนทีละนิดๆ เมื่อเดินตามหาทั้งนอกและในห้องน้ำก็ไม่เจอ

 

ณภัทรกล้าหนีเขาอย่างนั้นเหรอ ทั้งๆที่เขาตั้งใจว่าจะทำดีกับเด็กนั่นให้มากกว่าเดิมแล้วแท้ๆ แต่ณภัทรกลับทรยศความเมตตาของเขา สาบานเลยว่าถ้าเขาตามล่าหาเด็กนั่นเจอเมื่อไหร่เขาจะตีให้เจ็บให้จำว่าอย่าบังอาจคิดหนีเขาอีก ใบหน้าขาวจัดของกว้านหลินค่อยๆแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆเพราะความโกรธ โกรธจนเหมือนมีกองไฟสุมเร้าอยู่ภายในกายที่พร้อมเผาไหม้และระเบิดได้ทุกเวลา

 

ไล่กว้านหลินโกรธจนควันออกหู อัลฟ่าหนุ่มยกโทรศัพท์จะกดโทรหาอี้เฉินให้เรียกการ์ดมาช่วยตามหาภัทรหากแต่ต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงประกาศของทางห้างสรรพสินค้าดังขึ้น

 

            “ขออภัยคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ ขอความกรุณาคุณไล่กว้านหลินมารับน้องชายที่พลัดหลงกันที่ประชาสัมพันธ์บริเวณชั้นหนึ่งค่ะ น้องชายรออยู่ ขอบคุณค่ะ”มือที่กำลังจะกดโทรหาเลขาคนสนิทชะงักลงทันที หัวใจที่เต้นแรงด้วยความโกรธเหมือนจะสงบลงได้ อัลฟ่าหนุ่มยังคงปรับสีหน้าบึ้งตึงไม่ได้หัวคิ้วขมวดเข้าหากันบ่งบอกว่าตนเองนั้นอารมณ์ไม่ดีขั้นสุด ขายาวก้าวเร็วๆลงบันไดเลื่อนเพื่อนตรงไปยังชั้นหนึ่งแล้วเดินตรงไปยังส่วนประชาสัมพันธ์ ร่างสูงก้าวแทบจะวิ่งไปหาภัทรที่ชะเง้อมองหาเขา ทันทีที่เห็นกว้านหลินเด็กน้อยก็ยิ้มร่าอย่างดีใจ สีหน้ากังวลเมื่อครู่หายไปในทันทีหากแต่ข้อมือบางกลับถูกดึงอย่างแรงจนเจ็บ

 

            “โอ้ย!!”

 

            “ทำไมไม่รอหน้าโรงหนัง รู้มั้ยฉันตามหาเธอจนแทบบ้า ฉันนึกว่าเธอหนีไปแล้ว”กว้านหลินกระซิบเสียงเบาแต่น้ำเสียงดุจนภัทรต้องย่นคอหนี เด็กน้อยลูบมือลงบนอกเสื้อของกว้านหลินเบาๆช้าๆราวกับผู้ใหญ่ที่กำลังกล่อมเด็กโกรธให้ใจเย็นลง

 

            “อย่าโมโหเลยนะครับ ผมไปรอคุณกว้านหลินแล้วแต่รอตั้งนานคุณไม่กลับมา ผมคิดว่าคุณทิ้งผมไปแล้วด้วยซ้ำ ผมกลัวแทบแย่ กลัวว่าคุณจะแกล้งพาผมมาปล่อยทิ้งไว้จริงๆ อย่าโกรธผมเลยนะครับ ผมไม่รู้จะหาคุณที่ไหนเลยลงมาให้พี่ประชาสัมพันธ์ประกาศให้ อายจะแย่อยู่แล้วนะ”เด็กน้อยก้มหน้างุดหลบสายตาสอดรู้ของพนักงานตรงจุดประชาสัมพันธ์ กว้านหลินหันไปก้มหัวเป็นเชิงขอบคุณก่อนจะจูงมือภัทรเดินออกมาจากจุดนั้น อัลฟ่าหนุ่มเดินดุ่มๆตั้งใจจะพาภัทรกลับบ้าน ความกลัวเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาทำให้เขาไม่มีอารมณ์จะเที่ยวเล่นอีกต่อไปหากแต่เด็กน้อยในปกครองกลับรั้งข้อมือของเขาไว้แน่น

 

            “ทำไม?”ถามเสียงเขียวอย่างหงุดหงิด

 

            “ยังไม่อยากกลับนี่ครับ อยากเล่นเกม”เด็กน้อยชี้มือไปทางโซนเครื่องเล่นต่างๆ มีทั้งตู้เกมและตู้คีบตุ๊กตารวมทั้งโซนขายอาหารขนมหลากหลายชนิด

 

            “ไม่เอา กลับได้แล้ว”หากแต่กว้านหลินกลับปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

 

            “ไหนว่าวันนี้อยากทำอะไรจะตามใจผมไงครับ”เด็กน้อยช้อนตาขึ้นสบอย่างตัดพ้อ

 

คุณกว้านหลินโกหกอยู่เรื่อยเลย พูดอะไรไม่เคยทำได้ตามที่พูดเลยซักครั้ง

 

อัลฟ่าหนุ่มเห็นสายตาตัดพ้อนั้นก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เล่นมองแบบนั้นใครจะไปปฏิเสธได้ แถมเขาเป็นคนออกปากเองว่าจะตามใจภัทรเองดังนั้นร่างสูงจึงพยักหน้าอย่างขอไปที ภัทรราวกลับกลายเป็นคนละคนเด็กน้อยร้องเย้กระโดดโหยงแหยงแล้วกดปลายจมูกลงบนซีกแก้มซ้ายของกว้านหลินอย่างดีใจก่อนจะหันหลังวิ่งไปยังตู้เกมทันที

 

            “ผมอยากเล่นอันนี้ครับ”ชี้ไปที่เกม danz base กว้านหลินหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาก่อนจะหยิบธนบัตรภายในออกมาจำนวนหนึ่งยื่นให้เด็กน้อย

 

            “ไปแลกเงินมาเล่นสิฉันจะยืนรอตรงนี้”ภัทรรับเงินมาถือก่อนจะวิ่งปร๋อไปที่จุดแลกเหรียญเมื่อได้ก็รีบกลับมาอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยเลือกเพลงแล้วหยอดเหรียญก่อนจะเริ่มออกลีลาตามเกมอย่างสนุกสนาน กว้านหลินมองเด็กในปกครองของเขาที่มีสีหน้ามีความสุขแล้วก็อดที่จะยิ้มขำไม่ได้ ภัทรเต้นตรงบ้างพลาดบ้างแต่ท่าทางในยามนี้ดูผ่อนคลายสดใสสมวัย

 

            “คุณกว้านหลินมาเล่นด้วยกันสิครับ”เมื่อจบเพลงเด็กน้อยที่ดูท่าจะไฟติดก็มาลากกว้านหลินหวังจะให้ชายหนุ่มเล่นเกมด้วยกัน แต่กว้านหลินปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

 

            “ไม่เอา”

 

            “โธ่ นะๆ แข่งกันๆ”

 

            “ไม่เอา”

 

            “ไหนบอกว่าจะตามใจผมไงครับ”

 

            “...”

 

ในที่สุดกว้านหลินก็มาเต้นแร้งเต้นกาด้วยท่าทางเก้กังข้างๆภัทร เขารู้สึกเหมือนแขนขาของตัวเองมันยึดมันติดไปเสียหมดในขณะที่ภัทรเต้นได้อย่างสบายๆ กว้านหลินอยากกระชากเจ้าเด็กที่ดื้อตาใสมาฟาดลงบนก้นให้สมกับที่มาทำให้เขาอับอายจากสายตาผู้คนนัก เวลาแค่ไม่กี่นาทีเหมือนเดินไปซักสิบปีกว่าจะจบเพลงก็เล่นเอาอัลฟ่าหนุ่มเหงื่อหยด

 

            “อีกเพลงมั้ยครับ”ภัทรหันมาถามอย่างมีความหวังแต่ครั้งนี้กว้านหลินไม่ยอมโอนอ่อนตามอัลฟ่าหนุ่มยื่นคำขาดให้เลิกเล่นเกมบ้านี่ซักทีไม่งั้นจะพากลับบ้าน ภัทรยู่ปากอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ยอมละออกจากเกมเต้นก่อนเบนความสนใจไปที่เกมชู้ตบาส และแน่นอนเขาท้ากว้านหลินแข่งอีกครั้ง เกมนี้ทั้งคู่ฝีมือสูสีกันแต่ในที่สุดกว้านหลินก็ชนะไป ภัทรเบะปากทำหน้าเซ็งแล้วท้ากว้านหลินเล่นเกมต่อยและแน่นอนโอเมก้าไม่สามารถเอาชนะพละกำลังอันมหาศาลของอัลฟ่าได้ กว้านหลินต่อยเบาๆตัวรับหมัดก็แทบจะพัง ทั้งคู่เปลี่ยนไปเล่นเกมแข่งรถ และเช่นเดิมไล่กว้านหลินที่มีงานอดิเรกคือขับรถแข่งสมัยอยาอเมริกาแทบจะหลับตาขับได้ ส่วนภัทรชนนู่นชนนี่หลุดโค้งเกือบทั้งเกม

 

            “ฉันจะไม่มีวันนั่งรถที่เธอขับเด็ดขาด ยังไม่อยากตายก่อนที่จะแก่”กว้านหลินยิ้มเยาะเด็กที่เล่นเกมแพ้เขาอีกครั้ง ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูตัดสินใจว่าควรจะกลับซักที

 

            “คุณกว้านหลินครับ ผมอยากได้ตุ๊กตา”ภัทรดึงชายเสื้อของอัลฟ่าหนุ่มก่อนจะชี้ให้ดูตุ๊กตาหมาตัวเล็กๆในตู้คีบ

 

            “ไม่เห็นจะสวยเลย”ย่นจมูกทำสายตาดูถูกกับตุ๊กตาราคาถูกที่น่าจะเหมามาจากโรงงาน

 

            “แต่ผมอยากได้ครับ”

 

            “งั้นก็ไปคีบเองสิฉันจะรอ”กว้านหลินตัดรำคาญด้วยการบอกให้ภัทรเป็นคนไปคีบเอาเองแต่โอเมก้าในปกครองกลับส่ายหน้าพลางชี้มาที่เขา

 

            “ผมอยากให้คุณกว้านหลินคีบให้ครับ”

 

            “ไร้สาระจริงเชียว”บ่นด้วยสีหน้าบึ้งตึงแต่ก็ยอมเดินตามแรงลากของภัทร กว้านหลินรอให้ภัทรหยอดเหรียญลงไปก่อนจะค่อยๆขยับคันบังคับไปให้ตรงกับจุดที่ตุ๊กตาอยู่

 

วืด...ครั้งแรกพลาดไปอย่างไม่เห็นวี่แววว่าจะได้ ภัทรตวัดสายตามองหน้าเขาอย่างผิดหวังทันที

 

            “อันนี้ลองมือเฉยๆ”เอ่ยแก้ตัวยามเห็นสายตาผิดหวังฉายชัด ภัทรหยอดเหรียญลงไปอีกครั้ง ตากลมจ้องอย่างลุ้นๆเมื่อกว้านหลินเริ่มขยับคันโยกอีกครั้ง

 

            “โอ้ย!!!”ร้องออกมาอย่างผิดหวังเมื่อตุ๊กตาที่กว้านหลินคีบร่วงหล่นก่อนถึงจุดปล่อย

 

            “หยอดใหม่”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเริ่มมีน้ำโหจนในที่สุดหลังจากผ่านการหยอดแล้วหยอดเล่าหมดไปหลายร้อยบาทณภัทรก็ได้ตุ๊กตาหมาชิบะตัวเล็กเท่าฝ่ามือมาครอบครอง กว้านหลินแย่งมาส่องหน้าตาของมันแล้วก็บ่นว่าจริงๆไปซื้อเอาตามตลาดขายของข้างทางก็ได้ไม่เห็นจะต้องให้เขาลำบากลำบนและเสียเงินมากมายเพื่อให้ได้มันมาเลยซักนิดแถมทำท่าจะโยนทิ้งลงถังขยะจนภัทรต้องแย่งคืนมาด้วยท่าทางงอนๆ

 

ถึงจะเป็นแค่เพียงตุ๊กตาหน้าตาโง่ๆตัวหนึ่งแต่ณภัทรก็หวงเสียเหลือเกิน เพียงเพราะไล่กว้านหลินเป็นคนคีบให้

 

 

#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.

 

...................................................

 

คูมตำหนวดคะมีคนเล่นกันในโรงหนังค่ะมาจับมันเยย

 

ขอบอกว่าครั้งนี้ชายไม่เค็มนะจ๊ะ อิอิ

 

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โอ๊ยยย จะดีทั้งตอนไม่ได้สินะคุณชายไล่
ในโรงหนังนี่น้องอายจะแย่อยู่แล้ววว
แล้วน้องหายไปก็คิดเป็นตุเป็นตะว่าเค้าจะหนี
เด็กมันถวายให้ทั้งตัวทั้งใจแล้วพ่ออ ทำดีกับน้องมันเยอะๆ
เผื่อกุศลจะทำให้มีลูกอีกคนได้นะ  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
 



            Hydrangea 16


 

 

           “ดูมีความสุขกันดีนะคะ”กว้านหลินและภัทรที่กำลังเดินกลับไปที่รถชะงักกับเสียงทักทายนั้น กลิ่นดอกกุหลาบหอมเข้มขึ้นมากกว่าทุกครั้งเป็นเพราะเจ้าของกลิ่นตั้งใจที่จะแผ่อำนาจกดโอเมก้าตรงหน้า ภัทรถอยไปหลบข้างหลังกว้านหลินโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกับที่กว้านหลินใช้ร่างกายกำยำของตนเองปกป้องร่างบางด้านหลังไว้โดยสัญชาติญาณ จิรนุชแค่นยิ้มให้กับท่าทางนั้นของผู้ชายที่หล่อนหมายมั่น

 

รู้จักกันมาหลายปีไม่เคยมีซักครั้งที่กว้านหลินจะทำแบบนี้กับหล่อน  อันที่จริงหญิงสาวไม่คิดว่าจะมาเจอคนทั้งคู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ หล่อนแค่มาเพื่อระบายความเครียดด้วยการใช้เงินซื้อทุกอย่างที่อยากจะซื้อ มาทำผมทำเล็บแต่พอเดินผ่านโซนเครื่องเล่น จิรนุชก็เห็นภาพที่ชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้เห็น ไล่กว้านหลินกำลังคีบตุ๊กตากระจอกๆให้กับภัทร ในอกของหล่อนร้อนราวกับถูกเหล็กที่เผาไฟจนกลายเป็นสีแดงฉานนาบลงมา

 

อิจฉา ทั้งๆที่ตามระบบชนชั้นแล้วหล่อนคือคนที่ควรถูกโอเมก้าอิจฉาแต่ในตอนนี้กลายเป็นว่าคนที่อยู่บนยอดสุดของชนชั้นเช่นหล่อนต้องมาอิจฉาชนชั้นต่ำสุดเพราะคนที่หมายปองเทใจไปให้

 

เกลียดที่จะต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่กว้านหลินมองไปที่ภัทรสายตาของอัลฟ่าหนุ่มนั้นบ่งบอกชัดเจนว่ารักเด็กคนนั้นมากแค่ไหน

 

ยอมละทิ้งภาพลักษณ์เพื่อตั้งใจคีบตุ๊กตาปัญญาอ่อนนั่นโดยไม่สนสายตาใคร

 

เกลียดเวลาที่กว้านหลินเอาแต่จ้องหน้าของภัทรที่ยิ้มกว้างอย่างดีใจยามที่ตุ๊กตาตัวนั้นหล่นลงมาในช่องรับ

 

คบกันมาตั้งหลายปีกว้านหลินไม่เคยให้อะไรหล่อนเลย

 

กุหลาบดอกเดียวก็ไม่เคยได้

 

            “ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะนุช”กว้านหลินยกมือขึ้นเสยผมอย่างคนที่อารมณ์ไม่ดีเต็มขั้นแขนข้างหนึ่งถูกภัทรจับไว้ โอเมก้าเด็กบีบแขนของเขาเบาๆ

 

            “รู้เรื่อง? รู้เรื่องอะไรคะ? คุณพูดอยู่ฝ่ายเดียวเข้าใจอยู่คนเดียวรู้เรื่องอยู่คนเดียวฉันไม่ได้ตกลงด้วยซักหน่อยนะกว้านหลิน”

 

            “คุณก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผมไม่ได้ชอบคุณ ผมก็บอกไปแล้วคุณยังจะเอาอะไรอีกจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากทำไม?”

 

            “คุณเลือกทิ้งฉันเพื่อมากินของต่ำๆแบบนี้น่ะเหรอกว้านหลิน คิดดูอีกครั้งให้ดีๆนะคะ ระหว่างมันกับฉันใครที่จะทำให้ชีวิตคุณมั่นคงกว่ากัน”หญิงสาวปรายตามองภัทรที่ก้มหน้าไม่ยอมมองมาที่หล่อน

 

พวกชั้นต่ำก็คือชั้นต่ำอยู่วันยันค่ำ เอาหน้าที่ไหนมาเผยอเหนือกว่าหล่อน ประโยชน์อะไรไม่มีเลยซักนิดทำได้เพียงบำบัดความใคร่ให้กับอัลฟ่าอย่างพวกหล่อนเท่านั้นแหละ

 

             

            “อย่างเธอน่ะก็แค่ของเล่นแก้ขัดแก้อยากไปวันๆเท่านั้นแหละ คิดดูให้ดีๆนะ เขาน่ะมีแต่ได้กับได้ ส่วนเธอน่ะมีแต่เสียกับเสีย คิดว่าคนแบบเขาจะรักเธอจริงเหรอ? คนที่กล้าฆ่าพ่อเธอต่อหน้าต่อตาเธอน่ะ แบบนั้นน่ะเหรอคือคนที่เธอจะฝากชีวิตด้วย”หญิงสาวยิ้มเยาะให้กับโอเมก้าเด็กที่ตวัดสายตาขึ้นมองจ้องหล่อนทันที่ที่ประโยคบาดหัวใจนั้นหลุดออกมาจากปากของหล่อน มือที่เกาะเกี่ยวต้นแขนของกว้านหลินถูกคลายออกในทันทีเช่นเดียวกับที่กว้านหลินก็คว้ามือนั้นมากุมไว้แน่นอย่างหวงแหน หญิงสาวเบะปากให้กับภาพนั้น

 

              "ถึงไลเซนทัสจะคล้ายดอกกุหลาบมากแค่ไหนแต่มันก็แทนกันไม่ได้หรอกนะคะ"

 

            “หยุดพล่ามซักทีก่อนที่ผมจะหมดความอดทน"น้ำเสียงทุ้มที่กดต่ำบ่งบอกว่าไล่กว้านหลินในตอนนี้จะไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนอีก ชายหนุ่มก้าวเข้าไปยืนประชิดหญิงสาวส่งสายตากดดันและปล่อยกลิ่นฝนของตนเองเพื่อเปิดสงครามกับเจ้าหล่อน

 

เขาเกลียดคนพูดมาก พูดยกตนข่มท่านแบบจิรนุชที่สุด

 

“คุณเอาอะไรมาวัดว่าใครสูงใครต่ำ ถ้าเอาศักดิ์ศรีความเป็นคนมาวัดกันแล้วล่ะก็พวกเขามีค่าเท่ากับเรา เลิกเอาความคร่ำครึมาพูดอวดเบ่งข่มคนอื่นซักทีจิรนุช พอซักทีอย่าให้ผมต้องรู้สึกแย่กับคุณมากไปกว่านี้เลย เลิกให้พ่อของคุณโทรไปข่มขู่แม่ใหญ่ของผมด้วย คุณคิดว่าจะทำอะไรผมได้เหรอ? พ่อของคุณกำลังจะเล่นการเมืองต้องการเงินสนับสนุนจำนวนมาก ถ้าผมเปลี่ยนใจไม่ช่วยขึ้นมาคิดดูเอาเองก็แล้วกันว่าใครกันแน่ที่จะเดือดร้อน”ชายหนุ่มก้าวเข้าหาหญิงสาวอีกก้าวอย่างคุกคาม ดวงตาที่เคยราบเรียบดุจผิวน้ำบัดนี้วาวโรจน์

 

หากไล่กว้านหลินโกรธแล้วล่ะก็อะไรก็มาดึงรั้งไว้ไม่อยู่

 

            “ผมจะบอกอะไรคุณไว้อีกอย่างนะ”ชายหนุ่มส่งยิ้มเย็นให้กับหญิงสาวพลางดึงมือภัทรให้ขึ้นมายืนเคียงข้าง ภัทรพยายามรั้งตัวเองไว้หากแต่สุดท้ายก็สู้ไม่ได้อยู่ดี

 

            “บางครั้งผมอาจจะเอาดอกกุหลาบมาเป็นตัวแทนไลเซนทัสก็ได้เพราะว่าลักษณะมันใกล้เคียงกัน บอกตามตรงผมเกลียดกลิ่นฉุนของดอกกุหลาบที่สุด”จิรนุชหน้าชาราวกับถูกตบ พอๆกับที่ภัทรเงยหน้าขึ้นมองอัลฟ่าหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ หัวใจเต้นรัวราวกับจะทุลุออกจากอก

 

คุณกว้านหลินหมายความว่ายังไง

 

เอากุหลาบมาแทนไลเซนทัสงั้นเหรอ? เด็กน้อยยกมือข้างที่เป็นอิสระมากุมอกตัวเองกว้านหลินมองภาพนั้นด้วยความเอ็นดูก่อนจะสวมกอดเอวของภัทรให้มาแนบกายมากขึ้น จิรนุชกำลังโกรธ กลิ่นดอกกุหลาบหอมจนฉุนฟุ้งกระจาย

 

ตั้งแต่เกิดมาหล่อนไม่เคยเสียหน้าขนาดนี้มาก่อน มีอัลฟ่ามากมายพยายามสร้างสัมพันธ์กับหล่อน แต่หล่อนก็เลือกที่จะเขี่ยทุกคนออกให้พ้นทาง

 

ไล่กว้านหลินสำหรับหล่อนแล้วมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งเงินทอง หน้าตา การศึกษา รวมทั้งชื่อเสียง เป็นคนที่หล่อนเลือกแล้วว่าจะสามารถเชิดชูหล่อนให้ดูสูงส่งและมีค่ามากกว่าผู้หญิงทุกคน

 

แล้วนี่อะไร?

 

ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองคือตัวจริงมาตลอด อยู่เหนือใครๆ แต่ชายหนุ่มกลับบอกว่าคบกับหล่อนเพื่อหวังให้มาแทนใครอีกคน คนที่ชั้นต่ำกว่าและไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรสู้หล่อนได้ซักนิด ทั้งฐานะ การศึกษาแถมยังมีชนักติดหลังเรื่องที่พ่อเป็นคนขี้โกงอีกด้วย

 

            “หึ...คุณจะบอกว่าคุณเลือกไอ้เด็กที่คุณเพิ่งจะเป่าหัวพ่อของมันตายไปต่อหน้าต่อตางั้นเหรอคะ?”หล่อนปรายตามองภัทรที่หน้าซีดเผือดไปทันตาอย่างสะใจ

 

            “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอทนอยู่กับคนที่ฆ่าพ่อเธอได้ยังไงณภัทรต้องเป็นลูกอกตัญญูขนาดไหนนะถึงอยู่ด้วยกันได้อย่างไม่รู้สึกรู้สา ถ้าเป็นฉันนะคงรู้สึกอยากกลั้นใจตายทุกสามนาทีแน่ๆ เธอคิดว่าเขารักเธอจริงๆงั้นเหรอ ถามจริงๆเถอะทุกวันนี้เธอทนนอนหลับลงได้ยังไงโดยไม่ฝันร้าย ไม่มีใครทนใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ฆ่าพ่อตัวเองโดยไม่ฝันร้ายได้หรอก”

 

            “ผมบอกให้คุณหุบปากไง!!”จิรนุชกระเด็นล้มลงกับพื้นทันทีที่กว้านหลินพูดจบ ใบหน้าสวยเหยเกพอๆกับใบหน้าของไล่กว้านหลินที่บึ้งตึงบ่งบอกว่าเขาโกรธขั้นสุด อัลฟ่าหนุ่มทำท่าราวกับจะกระโจนเข้าใส่หญิงสาวที่ล้มลุกคลุกคลานถดตัวหนีด้วยความตกใจ

 

ต่อให้โกรธมากขนาดไหนกว้านหลินก็ไม่เคยทำร้ายหล่อนซักครั้ง รังสีคุกคามแผ่ซ่านจนหญิงสาวนึกกลัว หล่อนเคยเชื่อมั่นมาเสมอว่าต่อให้ไม่พอใจหรือหล่อนจะทำให้เขาโกรธขนาดไหนกว้านหลินก็จะมีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ทำร้ายกัน

 

แต่ตอนนี้หล่อนคิดว่าตัวหล่อนนั้นน่าจะคิดผิด

 

            “คุณกว้านหลิน  พอเถอะครับ ผมอยากกลับบ้าน”ภัทรรั้งต้นแขนของกว้านหลินไว้อีกครั้ง น้ำเสียงแสนเศร้าเอ่ยปากร้องขอกับอัลฟ่าหนุ่ม ขอบตาร้อนผ่าวเพราะหยาดน้ำใสเริ่มเข้ามาเติมเต็มจนใกล้จะล้นเต็มที กว้านหลินฮึดฮัดแต่เมื่อเห็นน้ำใสที่กลิ้งหล่นจากขอบตาของภัทรก็จำต้องหยุดตัวเองไว้

 

            “ผมจะให้โอกาสสุดท้ายกับคุณนะจิรนุช ไปป่าวประกาศกับใครต่อใครได้เลยว่าคุณเป็นคนทิ้งผมเอง คุณจะได้ไม่เสียหน้า จากนั้นเราก็เล่นละครซักครั้งสองครั้งประกาศเหลือความสัมพันธ์ไว้แค่เพื่อน แต่ถ้าคุณยังไม่หยุดก็ไปบอกพ่อของคุณว่าให้หาคนสนับสนุนใหม่ก็แล้วกัน ส่วนเรื่องธุรกิจอย่าหวังว่าผมจะแคร์ขาดพ่อคุณไปผมก็แค่ลงทุนในส่วนนั้นเอง เราต่างคนต่างไม่ใสสะอาดทั้งคู่ผมไม่มีอะไรจะเสียหรอกคุณก็น่าจะรู้ดีนี่ คุณเปิดโปงผม ผมก็เปิดโปงพ่อของคุณ ผมแค่ค้าอาวุธแต่พ่อคุณน่ะค้ามนุษย์อะไรมันจะเลวไปกว่ากัน”ไล่กว้านหลินเดินผ่านจิรนุชไปราวกับหล่อนเป็นอากาศธาตุไม่สนใจเสียงเรียกชื่อเขาของหญิงสาว ขาวยาวก้าวเร็วจนคนเด็กกว่าต้องเร่งฝีเท้าตามให้เร็วขึ้น

 

บรรยากาศในรถต่างจากตอนมาอย่างเห็นได้ชัด ณภัทรกอดตุ๊กตาไว้ในอกสายตามองไปด้านนอกอย่างเลื่อนลอยไร้จุดหมาย ในขณะที่กว้านหลินเองก็เงียบจนน่าอึดอัด

 

ความสัมพันธ์ของเขากับจิรนุชยากที่จะกลับมาต่อกันจนติดอีกต่อไปแล้ว

 

และความสัมพันธ์ของเขากับภัทรก็ดูจะมีอุปสรรคเสียเหลือเกิน

 

ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าอุปสรรคนั้นเกิดจากตัวของเขาเอง

 

เขาใจร้อนเองที่เอาความแค้นไปสะสางต่อหน้าภัทร

 

หลายครั้งที่รู้ตัวว่าเราต่างรักกันแต่ก็ไม่สามารถจูงมือกันเดินไปให้ถึงปลายทางได้ เพราะทางข้างหน้ามืดมนจนมองไม่เห็นอะไรเลย

 

ถ้าฝืนเดินต่อไปเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเจออุปสรรคอะไรบ้าง

 

ทางข้างหน้าอาจเป็นทุ่งหญ้าสวยงามหรือถ้าโชคร้ายอาจจะเป็นหุบเหวลึกที่หยั่งไม่ถึงก้นเหว

 

และกว้านหลินก็กลัว กลัวว่ามันจะเป็นอย่างหลัง

 

และเหวนั้นก็คือเหวที่เขาขุดไว้เองตั้งแต่ต้น

 

 

 

 

            ภัทรก้าวเท้าลงจากรถปิดประตูแล้วเดินนำกว้านหลินเข้ามาในบ้านโดยไม่ได้หยุดรอ ชายหนุ่มสาวเท้าตามมาติดๆ ในใจมีความคิดต่างๆมากมายตีรวนอยู่เต็มไปหมด

 

ทั้งๆที่บรรยากาศระหว่างเขากับภัทรดีขึ้นแล้วแท้ๆเชียว แต่พอจิรนุชเข้ามาหล่อนเหมือนพาเมฆก้อนใหญ่ดำทะมึนให้เข้ามากล้ำกรายพื้นที่ของเขาทั้งสองคน

 

            “เดี๋ยวสิ...”กว้านหลินคว้าต้นแขนของภัทรไว้ ตุ๊กตาตัวน้อยที่ถืออยู่หลุดมือร่วงลงกับพื้น ภัทรสูดลมหายใจลึกเข้าปอด กล้ำกลืนความรู้สึกเจ็บปวดในอกไว้อย่างเชื่องช้า

 

จิรนุชพูดถูก ไม่มีใครนอนหลับสนิทได้โดยไม่ฝันร้ายหรอกถ้าต้องเห็นพ่อตัวเองถูกยิงหัวต่อหน้าต่อตาด้วยน้ำมือคนที่ตนเองปักใจรัก

 

ไม่มีคืนไหนหลับได้อย่างสนิทโดยไม่ต้องสะดุ้งหรือผวาตื่นหรอก

 

ทุกสัมผัส ทุกความรู้สึกยังคงฝังตรึงอยู่ในใจเสมอไม่เคยลืมเลือน หากแต่ภัทรคิดเพียงว่าคนเราควรมีโอกาสรับการให้อภัย

 

และเขาให้อภัยกว้านหลินซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

            “เป็นอะไร? อย่าบอกนะว่าเธอยังเก็บเอาคำพูดผู้หญิงคนนั้นมาคิดอยู่”กว้านหลินเอ่ยถามเด็กน้อยที่กระพริบตาไล่หยาดน้ำที่ทำท่าจะเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง

 

            “คุณกว้านหลินครับ...”เด็กน้อยตัดสินใจที่จะเอ่ยถึงเรื่องของพ่ออีกครั้ง

 

            “เรื่องพ่อของเรา...”

 

            “ขึ้นไปอาบน้ำเถอะ ฉันเหนียวตัวแล้ว เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก ฉันไม่อยากฟัง”อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยตัดบททันทีก่อนจะเดินมาก้มลงเก็บตุ๊กตายื่นให้กับภัทรแล้วเดินนำเข้าบ้านไป ภัทรมองตามร่างสูงเดินหายขึ้นไปด้านบนด้วยหัวใจที่เจ็บร้าว

 

จริงสินะ แล้วเราจะรักกันได้ยังไงในเมื่อภายในใจของเราทั้งสองคนไม่ได้ลืมเลือนเรื่องที่แล้วมาเลยซักนิด

 

คล้ายแผลที่เริ่มตกสะเก็ดและทิ้งร่องรอยไว้เพื่อเตือนความทรงจำอันเลวร้ายให้ฝังตรึงตราบชั่วชีวิต

 

การพยายามทำอะไรซักอย่างอยู่ฝ่ายเดียวแล้วผลที่ได้รับมันไม่ตรงตามที่ต้องการนั้นเหนื่อยแสนเหนื่อย เหนื่อยจนแทบขาดใจจริงๆ เหมือนภัทรมีชีวิตแค่ปัจจุบันและอดีตแต่ไม่มีอนาคตรออยู่เลย เด็กน้อยไม่รู้ว่าวันข้างหน้าตนเองจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง ขาเรียวก้าวขึ้นบันไดแต่ละขั้นอย่างไตร่ตรองทบทวน

 

หรือที่พยายามมาเป็นสิ่งที่ผิดกันนะ

 

ผิดทั้งกับบิดาผู้ล่วงลับและผิดกับหัวใจตนเอง

 

ผิดที่ใช้ชีวิตไปวันๆโดยทิ้งแม่และน้องๆไว้เบื้องหลัง

 

การมีชีวิตอยู่ของภัทรในตอนนี้คืออะไรกันนะ?

 

เราต่างคนต่างเงียบใส่กัน แยกกันไปอยู่ในที่ของตน ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างช้าๆ ล้มตัวลงนอนตอนที่พระจันทร์ใกล้จะลับขอบฟ้า

 

และทุกอย่างก็ยังคงวนๆซ้ำๆย่ำอยู่ที่เดิม ราวกับดักที่เผลอพลั้งพลาดท่าเหยียบลงไปติดอยู่อย่างนั้น อ้อนวอนร้องขอความเห็นใจแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความว่างเปล่า

 

            อากาศในยามเช้าตรู่หนาวนิดๆ บรรดาคนงานต่างช่วยกันกวาดเศษใบไม้แห้งที่ร่วงลงมาจนเกลื่อนพื้น กว้านหลินออกไปทำงานหลังจากกินกาแฟที่ภัทรเตรียมไว้ให้ ต่างคนต่างลอบมองหน้ากันยามที่อีกฝ่ายเผลอ คำพูดมากมายที่เคยคิดจะหยิบยกมาพูดกันถูกพับไปโดยไม่มีใครเอ่ยปาก

 

ทุกอย่างยังคงเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนเวียนราวม้าหมุนที่ไม่มีวันหยุด ภัทรใช้ชีวิตอย่างน่าเบื่อหน่ายเหมือนเช่นทุกวัน

 

คิดถึงแม่ คิดถึงน้อง คิดถึงโรงเรียนแต่สุดท้ายสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือเดินขึ้นไปบนห้องแล้วหยิบถุงไหมพรมออกมาเลือกไหมสีเทาเข้มม้วนใหญ่และไม้นิตติ้งเดินลงแล้วตรงไปยังห้องสวนกระจก ภายในอบอุ่นเพราะปรับอุณหภูมิให้พอดีเพื่อที่ต้นไม้เขตร้อนต่างๆที่เลี้ยงไว้จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ความเขียวขจีทำให้ภัทรมีรอยยิ้มแรกของวัน เด็กน้อยตรงไปนั่งที่เก้าอี้โยกตัวโปรดที่ขอให้คนงานยกมาตั้งให้เมื่อสองเดือนก่อน เริ่มลงมือถักสเวตเตอร์อย่างช้าๆ เด็กน้อยไม่ยินดียินร้ายกับเข็มนาฬิกาที่ล่วงเลย ไม่สนใจมื้ออาหารยามเที่ยงที่ศลัยพร่ำเรียกให้วางมือจากไหมพรมก่อน ภัทรเริ่มขังตัวเองอยู่ในโลกส่วนตัวที่ไม่เคยมีใครรู้ว่าเจ้าตัวเก็บอะไรไว้ในนั้นบ้าง จากไหมพรมแถวเล็กๆเริ่มทยอยสูงชั้นขึ้นเรื่อยๆทีละนิดทีละน้อยพร้อมกับสิ่งที่สุมแน่นในใจที่เริ่มถูกนำมาทบทวน

 

น้ำตาค่อยๆไหลรินออกจากขอบตาทีละนิดจนกระทั่งเหมือนทำนบแตก ก่อนจะกลายเป็นร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างคนร้าวระทมในหัวอก

 

ไม่มีทางเลย

 

ไม่มีทางที่ตราบาปของเราทั้งสองคนจะจางหายไปได้ กายบางสั่นราวกับกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางหุบเขาน้ำแข็ง ความเย็นยะเยือกเหมือนเกล็ดน้ำแข็งค่อยๆเกาะกุมหัวใจทำให้ฝืนทนเข้มแข็งต่อไปไม่ไหว มือเล็กวางกลุ่มไหมพรมลงกับตักก่อนจะก้มหน้าร้องไห้กับอุ้งมือของตัวเอง

 

สะอึกสะอื้นให้กับหนทางมืดมนในวันข้างหน้า

 

เจ็บปวดกับสิ่งที่แสร้งทำเป็นลืม ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าตนเองนั้นย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าใครคือคนที่พรากลมหายใจของผู้เป็นพ่อไป

 

ครอบครัวที่ต้องแตกสลายเพียงเพราะน้ำมือของคนที่ไม่เคยคิดจะปล่อยวางความแค้นนี้ลงไปเลยซักนิด

 

เจ็บจนร้าวไปทั้งอก...

 

พลันร่างบางต้องสะดุ้งเฮือกยามที่มือฝ่ามืออุ่นวางลงบนกลุ่มผมของตนอง ภัทรเงยหน้ามองอย่างตกใจหากแต่เด็กน้อยก็ค่อยโล่งอกเมื่อคนที่แตะต้องตนอย่างเงียบเชียบนั้นไม่ใช่ไล่กว้านหลิน

 

                “พี่อี้เฉิน...”

 

                “ร้องไห้อีกแล้วนะเรา เด็กขี้แย”อี้เฉินย่อตัวลงมาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับภัทรก่อนจะค่อยๆไล้ปลายนิ้วเช็ดคราบน้ำตาให้เด็กน้อยแสนน่าสงสารตรงหน้าอย่างอ่อนโยน

 

                “มาได้ยังไงครับ?”ภัทรถามอย่างสงสัยเพราะนี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลย

 

                “คุณกว้านหลินแวะมาเอาของน่ะ เดี๋ยวก็จะออกไปต่อวันนี้มีนัดคุยกับลูกค้าพี่เลยกะจะแวะมาทักทายเราแต่ก็เห็นเด็กขี้แยร้องไห้ซะก่อน”จบประโยคคำตอบของอี้เฉินภัทรก็ลุกขึ้นยืนทันทีเพื่อที่จะไปปรนนิบัติกว้านหลินหากแต่อี้เฉินกลับจับแขนของภัทรไว้ เบต้าหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ

 

                “ไม่ต้องไปหรอกคุณชายบอกขอเวลางีบซักแป๊บวันนี้ดูเหนื่อยๆ อยู่คุยกับพี่ที่นี่แหละ เราเองหน้าตาก็ดูล้าๆได้นอนหลับพักผ่อนมั่งหรือเปล่า?”

 

                “ผมนอนไม่หลับครับ”ภัทรตอบตามตรงก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตาแสดงความเป็นห่วงของอี้เฉิน

 

                “ไม่เหนื่อยเหรอ? ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เหนื่อยมากมั้ยภัทร ถ้าเหนื่อยมากๆบอกพี่ก็ได้นะพี่จะได้หาทางช่วย”โอเมก้าเด็กหันกลับมามองอี้เฉินอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดนั้น

 

                “เจอเรากี่ครั้งสีหน้าก็อมทุกข์ตลอด ร้องไห้ตลอด  มีความสุขบ้างมั้ย ที่ผ่านมาน่ะ พี่เห็นเราทุกข์เห็นเราร้องไห้ไม่ได้รู้สึกดีเลย”

 

                “ขอโทษครับที่ทำให้เป็นห่วง”ภัทรโค้งให้กับเบต้าตรงหน้าจนอี้เฉินต้องรั้งร่างบางมากอดไว้ ภัทรตกใจกับการกระทำนั้น ร่างบางดิ้นขลุกขลักเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดนั้นหากแต่กลับต้องนิ่งลงเมื่ออี้เฉินเอ่ยคำพูดที่ให้ให้ใจดวงน้อยรู้สึกอุ่นขึ้น

 

                “ภัทรอาจคิดว่าภัทรไม่มีใครแต่เรายังมีพี่นะ  เวลามีความทุกข์ที่ไม่สามารถบอกกับใครได้แต่ภัทรบอกกับพี่ได้นะ”อี้เฉินกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

 

เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงการมีตัวตนทั้งของตัวเองและของภัทร

 

แม้จะรู้ดีว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่สมควรแต่เขาก็อยากให้ภัทรรับรู้ความรู้สึกของเขาบ้าง แม้หลังจากนี้ภัทรจะหมดความไว้เนื้อเชื่อใจตนก็ตาม

 

                “พี่รักภัทรนะ พี่รู้ดีว่ามันไม่เหมาะและเป็นไปไม่ได้ แต่พี่ก็อยากให้ภัทรรับรู้ไว้ ไม่ว่าภัทรจะรู้สึกกับพี่แบบไหนพี่ก็พร้อมยอมรับได้ เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าภัทรไม่มีใคร ภัทรยังมีพี่ ภัทรมีอะไรไม่สบายใจก็บอกกับพี่ระบายกับพี่ได้ อย่าแอบมาร้องไห้คนเดียวรู้มั้ย  พี่อยากเป็นคนดูแลภัทรนะ ไม่อยากให้ภัทรเศร้าอีกแล้ว”

 

                “ไม่จำเป็นมั้งหวังอี้เฉิน คนของฉัน ฉันดูแลเองได้”

 

“!!!”

 

“คุณกว้านหลิน!!!”

 

 

 

 

 

#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.


 

............................................

 

ผ่ามมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!

 

ชิบหายแน่นอนนนนนนนน

 

ขออัญเชิญผีกลับเข้าร่างชายสามเจ้าค่ะ

 

เตรงเตร๊งเตรงเตรงเตรงเตร๊งเตร่งเตร๊ง...

 

ฉันไม่ได้คนอื่นก็อย่าหวังว่าจะได้คุณไปครอง!!

 

วางระเบิดเก่ง

 

เสี้ยมเก่ง

 

 

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จ้าาา หวงเก่งหึงเก่งทำลายเก่งทำร้ายเก่ง แต่แสดงความรักคือศูนย์เลย เชียร์คุณเลขาค่า :3123:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อืมครึมฝนตกมาทั้งตอน ฟ้ามาผ่าเอาตอนสุดท้ายจ้ะ  :a5: :a5:
ผีอย่าเพิ่งเข้าแรงนะคะ //สาดน้ำมนต์  :z6:

มีแว๊บนึงที่คิดว่ากว้านหลินควรปล่อยน้องไปอ่ะ

ถ้าจะปล่อยเบลอเรื่องพ่อขนาดนี้ เดี๋ยวพี่ก็ไปตามกลับมาได้อยู่ดีแหละค่ะ
ใช้เวลาช่วยหน่อยย  :amen: :amen:

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
 

 

 

Hydrangea 17

 

 

 

            หวังอี้เฉินและณภัทรผละกายออกจากกันทันทีราวกับแม่เหล็กคนละขั้วที่ผลักกันไปคนละทิศคนละทาง

 

ใบหน้าของไล่กว้านหลินในตอนนี้ราวกับมีเมฆสีคล้ำคร้ามบดบังกลืนกินจนมองไม่เห็นความขาวที่เคยมี มือที่ประกอบด้วยนิ้วเรียวสวยกำเข้าหากันแน่น สายตาที่มองมายังคนทั้งคู่แดงฉานด้วยความกรุ่นโกรธ อัลฟ่าหนุ่มขบฟันจนกรามขึ้นสันชัดเสียงบดเบียดของฟันกรามดังออกมาให้ได้ยินชัดเจน

 

            “แอบมาเจอกันโดยที่ฉันไม่รู้กี่ครั้งแล้ว? ที่ขอแยกห้องนอนเพราะจะได้สะดวกกับการเอาชู้มานอนด้วยสินะ”

 

            “มันไม่ใช่แบบที่คุณชายคิดนะครับ เราสองคนไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น”

 

            “แต่แกเพิ่งบอกรักเด็กนี่ไป คิดว่าฉันโง่นักเหรอ จ้องจะแย่งเด็กนี่ไปอยู่ตลอดเวลานี่นะ ถ้าไม่ได้คิดอะไรคงไม่กล้ามากอดกันตัวกลมดิกแบบนี้ในบ้านฉันหรอก พวกกินบนเรือนขี้บนหลังคา”

 

 

กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เคยบอกกับอี้เฉินว่าอย่ามายุ่งกับภัทร ห้ามกระทั่งห้ามไม่ให้อี้เฉินมาที่บ้านโดยไม่ได้สั่ง อี้เฉินเคยรับปากเขาอย่างดี และหลายวันมานี้ความสัมพันธ์ของเขากับภัทรก็ดีขึ้น

 

แล้วนี่อะไร

 

            “คุณชายครับผมอธิบายได้”เบต้าหนุ่มรีบเอาตัวเข้ามาขวางทันที่ที่กว้านหลินพุ่งเข้าหาภัทร อารมณ์ที่ครุกรุ่นอยู่แล้วกับยิ่งเหมือนมีน้ำมันราดลงมาบนไฟกองใหญ่จนระเบิด หมัดซ้ายลุ่นๆกระแทกมุมปากของอี้เฉินอย่างพอดิบพอดี กลิ่นคาวเหมือนกลิ่นสนิทคลุ้งอบอวลในมุมปาก ความเจ็บจากรอยแผลปริร้าวทำให้โลหิตสีแดงไหลซึม ภัทรรีบเข้าไปประคองอี้เฉินด้วยความห่วงใยทันที แต่ภาพนั้นกลับทำให้พายุอารมณ์ของอัลฟ่าหนุ่มกระพือโหมชายหนุ่มง้างเท้าเตะลงไปที่ร่างของอี้เฉินด้วยโทสะทันที

 

            “อั่ก!!!”

 

หากแต่คนที่ลงไปนอนกุมท้องกองกับพื้นกลับกลายเป็นภัทรที่เอาตัวเข้ามาขวางไว้ ความเจ็บและจุกส่งผลให้คนตัวเล็กหมดแรงปล่อยน้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น อัลฟ่าหนุ่มหน้าถอดสีผลักอี้เฉินที่ประคองภัทรไว้ด้วยความตกใจออกก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน

 

            “ไสหัวออกไปจากบ้านฉันซะก่อนที่ฉันจะฆ่าแกอี้เฉิน”กว้านหลินอุ้มภัทรเข้าไปในตัวบ้านทิ้งหวังอี้เฉินไว้เบื้องหลัง ร่างสูงเปิดประตูห้องก่อนจะใช้เท้าปิดจนเกิดเสียงดังปังใหญ่ก้าวยาวๆมาที่เตียงแล้วโยนร่างที่ยังคงงอตัวด้วยความเจ็บลงบนเตียงอย่างไม่ใยดีก่อนจะตามลงไปคร่อมกักไม่ให้ภัทรคิดหนี มือแกร่งกระชากเสื้อของภัทรโดยไม่ออมแรง

 

            “อย่า คุณกว้านหลิน อย่าทำแบบนี้!!”โอเมก้าเด็กรั้งเสื้อของตนไว้ส่งเสียงร้องห้ามอย่างอ้อนวอนร้องขอความปราณี แต่ไล่กว้านหลินในตอนนี้ไม่อยู่ในจุดที่จะรับฟังอะไรอีกแล้ว

 

            “เห็นฉันเป็นตัวอะไร เป็นควายเหรอถึงสวมเขาให้ฉันน่ะ ร่านนักใช่มั้ย มีฉันคนเดียวไม่พอต้องเที่ยวเร่ไปอ่อยไอ้กระจอกนั่น ที่ทำให้เมื่อคืนก่อนไม่พอ? อยากได้วันละกี่รอบก็บอกมาสิจะเอาซักสิบรอบฉันก็ทำให้ได้”

 

เพี๊ยะ!!

 

กว้านหลินหยุดคำพูดนั้นไว้ทันที่ที่ซีกหน้าถูกฝ่ามือนุ่มของคนเด็กกว่าฟาดมากระทบเต็มๆอัลฟ่าหนุ่มผ่อนลมหายใจออกทางปากอย่างระงับอารมณ์ของตนเองเต็มที่ ใช้ปลายลิ้นแตะลงบนมุมปากที่มีคราบเลือดติด เมื่อหันกลับมาก็พบว่าโอเมก้าเด็กจ้องหน้าของเขาด้วยดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อล้น

 

            “ในหัวของคุณ มีแค่เรื่องพวกนี้เหรอ? เคยคิดจะรับฟังคนอื่นบ้างมั้ย? ผมกับพี่อี้เฉินไม่ได้เป็นอะไรกัน เลิกยัดเยียดให้เราสองคนเป็นคนเลวซักที”

 

            “ทำไม เธอจะบอกว่ามันเป็นคนดี อย่างงั้นคนที่เลวก็คือฉันสินะ ก็ดี...ฉันมันก็เลวมาตลอดไม่เคยจะเป็นคนดีในสายตาเธออยู่แล้วนี่ ต่อให้ฉันจะทำดีกับเธอเท่าไหร่มันก็ไม่มีประโยชน์ ต่อไปนี้ก็ทำหน้าที่ของเธอให้ดีๆจะได้หมดหนี้เร็วๆแล้วจะไปไหนก็ไป ส่วนเรื่องไอ้อี้เฉินฉันจะเลวเพิ่มอีกหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอก ขอโทษด้วยนะเธอคงไม่มีโอกาสได้บอกลามันหรอก ฉันจะส่งมันไปอยู่ในที่ๆเหมาะกับมันก็แล้วกันจะได้รู้ว่าคนอย่างไล่กว้านหลินไม่ยอมให้ใครมาหยามได้ง่ายๆ”กว้านหลินลุกขึ้นยืนข้างเตียงด้วยความโมโห ภัทรรีบลุกขึ้นมาจับข้อมือของเขาไว้ ดวงตากลมฉายชัดถึงความตื่นตระหนก

 

            “คุณ...คุณจะทำอะไรเขา อย่านะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดคุณไม่มีสิทธิ์จะฆ่าใครทั้งนั้น”

 

            “ทำไม? รักมันมาก ห่วงมันมากเลยเหรอ รู้ไว้เถอะที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ ถ้ามันต้องตายก็เพราะเธอ”ไล่กว้านหลินสะบัดข้อมือที่ถูกเกาะกุมอยู่ออกหากแต่ปลายนิ้วกลับตวัดโดนใบหน้าของภัทรเต็มแรงจนเด็กน้อยฟุบลงกับพื้นเตียงด้วยความเจ็บ แม้จะอยากเข้าไปดูหากแต่ความน้อยใจที่เขามีก็ทำให้เขายิ้มเยาะใส่ให้ภัทรเสียใจก่อนจะหันหลังออกไปจากห้องไม่เหลียวกลับมามองภัทรที่พยายามร้องเรียกอ้อนวอนไม่ให้เขาทำร้ายอี้เฉินเลยซักนิด ขายาวก้าวเข้าห้องทำงานก่อนจะหยิบโทรศัพท์ต่อสายตรงหาพี่ชายคนโตทันที

 

            “พี่ใหญ่ ส่งเสี่ยวป๋ายมาเป็นเลขาของผมแล้วพี่เอาไอ้อี้เฉินไปทำงานกับพี่ที”

 

            “เกิดอะไรขึ้นวะไอ้สาม”

 

            “มันจะมาเป็นชู้กับเมียผม ถ้าไม่ติดว่าพ่อเคยบอกให้เลี้ยงมันไว้ผมฆ่ามันตายไปแล้ว”

 

            “อี้เฉินเนี่ยนะ เป็นไปได้เหรอวะ รายนั้นซื่อสัตย์จะตายไป”

 

            “มันเป็นไปแล้ว มันมาบอกรักมากอดเมียผมถึงในบ้าน ถ้าพี่ไม่เอามันไปผมไม่รับรองว่ามันจะมีชีวิตเกินสามวันมั้ย แค่พูดชื่อมันผมก็อยากจะฆ่ามันแล้ว”กว้านหลินกัดฟันอย่างข่มโมโห ยิ่งคิดถึงภาพที่คนทั้งคู่กอดกันในสวนกระจกก็ยิ่งโกรธ

 

            “เออๆ แกใจเย็นๆเดี๋ยวฉันให้ลีโอจัดการให้ แกนี่หาเรื่องให้ฉันปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน”คริสบ่นน้องคนเล็กด้วยน้ำเสียงไม่จริงไม่จังนัก สองพี่น้องคุยกันอีกไม่กี่คำก็วางสาย ชายหนุ่มถอนหายใจแรงๆหันรีหันขวางอย่างคนหาที่ระบายอารมณ์จนในที่สุดสองมือก็กวาดของบนโต๊ะลงกับพื้น ที่เขี่ยบุหรี่เนื้อดีตกแตกกระจาย แผ่นกระดาษแฟ้มเอกสารหล่นเกลื่อน

 

เขาเหนื่อย

 

เหนื่อยกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

 

เหนื่อยกับสิ่งที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน ดังนั้นภัทรจึงเป็นเหมือนแหล่งพลังงานของเขาที่จะกลับมาเจอในทุกวัน แค่เห็นหน้าของเด็กนั่นเขาก็หายเหนื่อยแล้ว

 

แต่พอมีคนอื่นมายุ่งกับเด็กนั่นก็ไม่ต่างกับเขากำลังจะโดนแย่งความสุขเล็กๆน้อยๆที่มีไป

 

อัลฟ่าหนุ่มนั่งสงบสติอารมณ์ของตนเองในห้องทำงานราวหนึ่งชั่วโมงจนกระทั่งโทรศัพท์ส่งเสียงแจ้งเตือนว่ามีคนเรียกเข้า แค่เห็นว่าเป็นใครส่งมาความโกรธก็เหมือนจะกลับมาอีกหนแต่ก็จำเป็นต้องระงับไว้ ตัดสินใจกดรับโดยไม่ได้พูดอะไรออกไป อี้เฉินเห็นว่าเจ้านายรับแล้วก็ส่งเสียงกลับมา

 

            “ใกล้ได้เวลานัดแล้วเตรียมตัวแล้วออกมาได้แล้วครับ ข้อมูลต่างๆผมเตรียมไว้ให้ในกระเป๋าเอกสารแล้ว แล้วก็เรื่องนั้น ผมแค่รักข้างเดียวครับ ภัทรไม่ได้ชอบผมเขาคิดกับผมแค่พี่ชายคุณชายอย่าไปโกรธเด็กนั่นเลยนะครับ ถ้าจะโกรธผมก็ขอรับไว้คนเดียว”

 

            “พล่ามเสร็จแล้วใช่มั้ย เตรียมตัวย้ายไปทำงานกับพี่ใหญ่ที่อเมริกา ฉันให้เวลานายเตรียมตัวสามวัน”

 

            “แต่คุณชายครับ...”กว้านหลินกดตัดสายโดยที่อี้เฉินยังไม่ทันจะพูดจบ รอยยิ้มเย็นปรากฏที่มุมปาก

 

ในเมื่อเขาห้ามดีๆหวังอี้เฉินไม่ฟังกันแถมยังคิดไม่ซื่อกับภัทร เขาก็จะส่งเสี้ยนหนามหัวใจให้ไปไกลจนไม่สามารถมาวอแวกับเมียของเขาได้

 

อย่าโทษใคร โทษตัวเองที่คิดไม่ซื่อก็แล้วกัน

 

ของๆใคร ใครก็หวง และเขายอมรับว่าเขาหวงภัทรมากและจะไม่ยอมเสียภัทรให้ใคร

 

ถ้าอยู่กันดีๆไม่ได้ก็กล้ำกลืนฝืนทนอยู่กันไปจนกว่าจะหมดหนี้แล้วกัน

 

 

 

 

 

 

            หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของภัทรและกว้านหลินก็ลดระดับกลับไปอยู่ในจุดที่ไม่พูดคุยกันอีกครั้งกว้านหลินไม่ได้ตบตีภัทรอีกหากแต่ชายหนุ่มใช้วิธีทรมานเด็กน้อยด้วยเซ็กส์ที่รุนแรง ยาระงับฮีทของภัทรหมดไปนานแล้วและช่วงเวลาที่โอเมก้าเด็กฮีทและช่วงที่กว้านหลินรัทถือเป็นช่วงที่ทรมานที่สุด

 

กว้านหลินไม่อ่อนโยนกับภัทรเลยซักนิด

 

ในระหว่างนั้นตามข่าวหน้าสังคมมีข่าวจิรนุชสะบั้นรักลดระดับความสัมพันธ์กับอัลฟ่าหนุ่มตระกูลไล่แพร่สะพัดออกไปจนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปนานหลายสัปดาห์ ไม่มีใครไม่พูดถึงเรื่องนี้ จิรนุชให้สัมภาษณ์ตามนิตยสารและรายการทีวีว่าทัศนคติของหล่อนและกว้านหลินไม่ตรงกัน หล่อนจึงตัดสินใจขอลดความสัมพันธ์เหลือแค่เพียงเพื่อนแม้ว่ากว้านหลินจะไม่ยอมในตอนแรกก็ตามที

 

อี้เฉินถูกส่งตัวไปสหรัฐอเมริกาได้เกือบสามเดือนแล้ว เสื้อสเวตเตอร์สีเทาที่ตั้งใจถักให้กว้านหลินเอาไว้ใส่ยามเดินทางกลับไปที่จีนเสร็จนานแล้ว หากแต่ภัทรก็ไม่มีโอกาสได้มอบให้ มันถูกเก็บไว้มุมในสุดของตู้เสื้อผ้าและไม่ถูกนำออกมาดูอีกเลย

           

            “สวัสดีครับคุณภัทร”เฉินเสี่ยวป๋ายเอ่ยทักทายเด็กที่ช่วยสาวใช้ทำความสะอาดห้องรับแขกภัทรส่งยิ้มให้กับเลขาคนใหม่ของกว้านหลิน เสี่ยวป๋ายเป็นเบต้าที่มีใบหน้าเรียบนิ่งแล้วจะออกแนวดุ ครั้งแรกที่เจอโอเมก้าเด็กรู้สึกถึงความน่าเกรงขามราวกับว่าเสี่ยวป๋ายนั้นมีรังสีของอัลฟ่าหลังจากรู้จักกันได้ซักพักจึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วเสี่ยวป๋ายเป็นคนซุ่มซ่ามและมีนิสัยน่ารักคนหนึ่ง แต่ภัทรก็ไม่ได้ให้ความสนิทสนมมากเท่าอี้เฉินไม่ใช่ว่าไม่อยากสนิทแต่เด็กน้อยกลัวว่าถ้าสนิทกันมากเกินไปแล้วจะซ้ำรอยเดิม ภัทรกลัวว่าตนเองจะทำให้เสี่ยวป๋ายเดือดร้อน

 

            “วันนี้มาเอาอะไรครับ?”

 

            “พอดีคุณชายสามให้เอาของมาเก็บครับ เดี๋ยวอีกซักพักคุณชายจะตามมา”

 

            “งั้นวันนี้รับข้าวเย็นที่นี่เลยมั้ยครับ?”ภัทรเอ่ยถามพลางรับกระเป๋าเอกสารจากเสี่ยวป๋ายมาถือเอง

 

            “ก็ดีครับ ขี้เกียจกลับไปทำกินเองที่คอนโด เอ้อ ผมเห็นไฮเดรนเยียเริ่มออกดอกแล้วนี่ครับ”เสี่ยวป๋ายถอดสูทออกมาพาดไว้กับท่อนแขนตัวเอง ภัทรยิ้มรับ ไฮเดรนเยียที่ปลูกไว้เริ่มออกตุ่มดอก บางต้นดอกเริ่มบานแล้วรั้วบ้านเริ่มมีสีสันน่าดู เสี่ยวป๋ายไม่ได้วอแวหรือเซ้าซี้ที่จะชวนคุย เขารู้ดีว่าคนเป็นนายน่ะหวงเด็กในปกครองของตัวเองมากขนาดไหน ไม่นานหลังจากนั้นกว้านหลินก็กลับมาถึงบ้าน ภัทรออกมารับเสื้อสูทที่กว้านหลินโยนให้ ทั้งสองคนไม่มองหน้าไม่พูดคุยกันแต่ทุกอย่างที่ทำให้กันนั้นสมบูรณ์แบบ อาจจะเป็นเพราะความเคยชิน เฉินเสี่ยวป๋ายชินกับท่าทางหมางเมินของคนทั้งคู่บ่อยครั้งที่เลขาคนใหม่รู้สึกสนุกกับละครชีวิตของคนทั้งคู่ เบต้าหนุ่มไม่แปลกใจนักที่หวังอี้เฉินจะชอบเด็กคนนี้ ก็ภัทรน่ะน่ารักและน่าสงสารแถมเป็นเด็กที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นไปทั่วทั้งที่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดแท้ๆ ชายหนุ่มขึ้นไปนั่งรอในห้องทำงานของกว้านหลินในขณะที่ภัทรกลับลงไปด้านล่างเพื่อเตรียมอาหารค่ำสำหรับวันนี้ เสี่ยวป๋ายหยิบเอกสารการประชุมของวันนี้มาวางไว้บนโต๊ะก็เห็นสมุดปกสีแดงเลือกนกวางอยู่บนโต๊ะ อดไม่ได้ที่จะเปิดดูแล้วก็ขำพรืดออกมา ด้านในจดรายละเอียดการใช้หนี้ของภัทร ส่วนมากหนี้ที่ลดเกิดจากการนอนด้วยกัน รายละเอียดต่างๆถูกจดไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์และมีลายเซ็นกำกับไว้อย่างแน่นหนา

 

            “ฉลาดแกมโกงจริงๆ”ส่ายหน้าให้กับบัญชีของเจ้านาย ดูตัวเลขก็รู้แล้วว่าเจ้านายคนเล็กของเขาน่ะเอารัดเอาเปรียบโอเมก้ายิ่งกว่าแรงงานทาสเสียอีก

 

            “อะไรน่ะ? ตั้งท้องลูกคนแรก(แท้ง) นี่ทั้งสองคนเคยมีลูกด้วยกันมาแล้วด้วยเหรอ?”เสี่ยวป๋ายพึมพำออกมาเบาๆอย่างคาดไม่ถึง ถ้าป่านนี้ไม่แท้งตอนนี้คงมีคุณหนูตัวน้อยออกมาลืมตาดูโลกแล้วสินะ  ช่างน่าเสียดาย ดูจากหน้าตาพ่อแม่แล้วลูกของทั้งคู่ต้องได้ยีนส์ดีๆจากพ่อแม่ไปอย่างครบถ้วนแน่ๆ ชายหนุ่มวางสมุดบัญชีไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาเปิดดื่มเองอย่างถือวิสาสะ จริงๆเขาสนิทกับกว้านหลินมากกว่าอี้เฉินเพราะรู้จักกันมาหลายปีถ้านอกเวลางานเขาก็สลัดคราบลูกจ้างออกและกลายเป็นเพื่อนรุ่นพี่โดยที่กว้านหลินไม่ถือสา ต่างกับอี้เฉิน รายนั้นน่ะทำตัวเป็นลูกจ้างตลอด 24 ชั่วโมง มือเรียวคลายเน็คไทด์ให้หลวมขึ้นรอไม่นานกว้านหลินก็กลับมาถึงบ้าน ทั้งสองคนนั่งคุยเรื่องงานจนเกือบหนึ่งทุ่มอาหารเย็นก็เสร็จเรียบร้อย ภัทรเดินมาตามกว้านหลินให้ไปอาบน้ำแล้วออกไปโดยไม่พูดอะไรอื่น บรรยากาศมึนตึงยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม หลังจากกว้านหลินอาบน้ำเสร็จก็ลงมาข้างล่างเพื่อกินข้าวแต่ที่โต๊ะเหลือเพียงเสี่ยวป๋ายโดยมีศลัยทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารอยู่ใกล้ๆ

 

            “ภัทรไปไหน?”

 

            “คุณภัทรไม่ค่อยสบายค่ะเลยขอขึ้นไปพักก่อน”

 

            “เป็นอะไรมากหรือเปล่า แล้วกินข้าวแล้วหรือยัง”

 

            “เวียนหัวไม่ค่อยมีแรงค่ะ ทานข้าวไปแล้วค่ะ”ศลัยรายงานก่อนจะถอยออกไปยืนรอเงียบๆ

 

            “ผมว่าพาแกไปหาหมอหน่อยก็ดีนะครับ”

 

            “ไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้งเค้าชอบออกไปเดินชมนกชมไม้โดนลมโดนน้ำค้างอากาศเปลี่ยนเลยป่วยง่าย กินเถอะเดี๋ยวอาหารจะเย็น”แม้ปากจจะพูดไปแบบนั้นแต่สีหน้าและสายตานั้นบ่งบอกถึงความเป็นห่วงอยู่ลึกๆ เสี่ยวป๋ายลอบยิ้มกับท่าทางนั้น ชายหนุ่มแกล้งละเลียดกินอาหารอย่างช้าๆเพราะรู้ว่าคนเป็นนายตอนนี้ร้อนรนขนาดไหน

 

ใจคงขึ้นไปอยู่กับคนป่วยแล้วมั้ง

 

            ประตูห้องนอนเด็กเปิดออกอย่างช้าๆ ภายในห้องมีเพียงแสงสลัวจากโคมไฟดวงน้อย ภัทรยังคงอยู่ในชุดเดิมบ่งบอกว่าเจ้าตัวยังไม่ได้อาบน้ำแต่คงผล็อยหลับไปก่อน กว้านหลินนั่งลงบนขอบเตียงเบาๆก่อนจะยื่นหลังมือไปเพื่อแตะหน้าผาก หากแต่ภัทรกลับสะดุ้งตื่นเสียก่อนและรีบถอยหนีเขา

 

            “จะทำอะไรครับ วันนี้ผมไม่ไหวหรอกนะ”ภัทรรีบเอาผ้าห่มขึ้นมาปิดตัวเองอย่างร้อนรน กว้านหลินมองคนตรงหน้าด้วยสายตาตัดพ้อวูบหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างตามเดิม

 

            “เห็นศลัยบอกว่าไม่สบายเลยขึ้นมาดูว่าตายหรือยัง ดูท่าทางน่าจะสำออยมากกว่า อย่าเพิ่งรีบตายล่ะ หนี้ยังใช้ไม่หมด”พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างไม่ใยดี ภัทรถอนหายใจอย่างโล่งอกเขาเหนื่อยเกินกว่าจะมาทะเลาะเบาะแว้งกับกว้านหลิน

 

รุ่งเช้าณภัทรก็ยังไม่มาดูแลกว้านหลิน อัลฟ่าหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มอาบน้ำและแต่งตัวเตรียมออกไปทำงานด้วยตัวเองหากแต่ประตูห้องกลับถูกเคาะอย่างแรง

 

            “คุณชายคะ คุณชาย”กว้านหลินเดินไปเปิดประตูห้องอย่างไม่สบอารมณ์นัก

 

            “มีอะไร?”

 

            “คุณภัทรค่ะ คุณภัทรเป็นลมอยู่ในครัว”กว้านหลินแทบจะวิ่งลงมาจากบนห้องเมื่อเข้าไปในครัวบรรดาสาวใช้ต่างพากันประคองและพัดให้ภัทรด้วยสีหน้าตื่นๆ

 

            “ศลัยเอากุญแจรถมา”เขาหันไปสั่งศลัยก่อนจะอุ้มร่วงปวกเปียกของภัทรขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เด็กน้อยหายใจหอบใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ เหงื่อชื้นเปียกชุ่มตามไรผม ศลัยเปิดประตูรถรออย่างรู้งานก่อนจะเข้าไปนั่งเพื่อให้ภัทรนั่งพิงไหล่ตน กว้านหลินขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับแล้วออกรถไปอย่างรวดเร็ว

 

            “โทรหาหมอนนท์”เขาโยนมือถือให้ศลัย สาวใช้คนสนิทของภัทรเลื่อนหารายชื่อของหมอนนท์อย่างรวดเร็วรายละเอียดคร่าวๆถูกส่งมอบกับคุณหมอหนุ่มใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงกว้านหลินก็พาภัทรมาถึงโรงพยาบาล เด็กน้อยอาการดีขึ้นแล้วขั้นตอนการตรวจร่างกายของภัทรดำเนินไปเรื่อยๆโดยที่กว้านหลินนั่งรออยู่ด้านนอกจนกระทั่งห้องตรวจเปิดออกกว้านหลินจึงผุดลุกขึ้นยืน ภัทรเดินออกมาตามหลังด้วยหมอนนท์

 

            “เป็นอะไร?”น้ำเสียงห้วนเอ่ยถามพลางทำเสียงราวกับเยาะ

 

            “เป็นมะเร็ง เป็นโรคหัวใจ ไตหรือแค่กระเพาะ?”

           

            “ผมท้อง”ภัทรสวนกลับด้วยน้ำเสียงเรียบตึงหากแต่คำตอบนั้นกลับทำให้หัวใจอัลฟ่าหนุ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ หากแต่สายตาว่างเปล่าที่ภัทรส่งมาให้ทำให้ทิฐิในใจตีรวนกลับขึ้นมาอีกครั้ง คำถามแสนร้ายกาจเชือดเฉือนจึงถูกตอกกลับไปอย่างไม่ไว้หน้า

 

            “กับใครล่ะ?”

 

ภัทรเม้มปากให้กับคำถามนั้น เขาไม่เคยคิดว่ากว้านหลินจะมีหัวใจที่ด้านชาและใจร้ายมากถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่เคยมั่นใจว่ากว้านหลินจะเป็นคนที่รู้จักตนเองมากที่สุดแท้ๆ

 

แต่เหมือนเวลาที่ผ่านมาเป็นเพียงเรื่องโกหก เด็กน้อยปรายตาเมินแล้วเดินผ่านกว้านหลินไปราวกับชายหนุ่มเป็นอากาศธาตุ หมออนลเห็นการกระทำของคนทั้งคู่แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

 

            “ดูแลเขาให้ดีๆหน่อยเดี๋ยวก็ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรอกคุณชาย”อดไม่ได้ที่จะบอกกับกว้านหลิน หากแต่อัลฟ่าหนุ่มกลับกระตุกยิ้มอย่างประชด

 

            “รอเด็กคลอดแล้วตรวจดีเอ็นเอแล้วกันเพราะผมไม่มั่นใจว่าเด็กนั่นมันเป็นลูกผมหรือลูกชู้กันแน่”

 

คุณหมอหนุ่มอยากจะทุบกว้านหลินให้กระอักเลือดกับคำพูดแสนดูถูกนั้น ถ้าต่างคนต่างแบกต่างคนต่างไม่ปล่อยวาง เขาไม่ต้องไปพนันกับใครก็พอเดาได้ว่าครอบครัวนี้คงจะมีแต่พังกับพังเท่านั้น

 

และคนที่ทำพังก็ไม่ใช่ใครเลย

 

ไอ้คุณชายสามหน้าโง่นี่แหละ

 

            “ปากดีแบบนี้เมียหอบลูกหนีจะไม่ปลอบเลยซักคำ”

 

 

 

 

 

#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.

 

........................................

 

ของๆใครของใครก็ห่วง ของใครๆก็ต้องหวง ห่วงใยรักใครถนอม

 

ชายไม่ได้เป็นไบโพล่าร์จ้า ชายเป็นบ้า

 

จางหลง เจ้าหู่ หวังเฉา หม่าฮั่น ถอดเกือกมาตบปากมันตามจำนวนส่วนสูง!!!!!

 

 

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ปากดีแบบนี้ขอให้ภัทรหนีไปเลย

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ช่วยด้วยจ้าา พระเอกเป็นบ้าา  :beat: :beat: :beat:
ใครก็ได้ตบเรียกสตินางที
ขอเชิญพี่ใหญ่พี่รอง มาเทศนาน้องสามทีจ้า
 :z6: :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
บวกคุณหมอจ้า ปากดีปากเก่งจริงๆเลย :angry2: อยากให้น้องหนีไปจริงๆ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


โอ้ยยยย.  คนปากไม่ตรงกับใจ ตากว้านหลินเอ้ยยยยย

ทั้งรัก ทั้งหวง ทั้งห่วง ทั้งหึง.  แต่ไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเอง

แล้วภัทรจะทนไปได้อีกนานแค่ไหนนะ


 :z3:  :z10:  :z13:  :z3:  :z10:  :z13:


…………

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
            Hydrangea 18

 

            ณภัทรเผชิญช่วงเวลาของการแพ้ท้องอย่างยากลำบากเพียงลำพัง ทุกเช้าเด็กน้อยแทบจะหมดแรงอยู่หน้าโถส้วมโดยไร้การเหลียวแลจากกว้านหลิน

 

เมื่อครั้งเริ่มโตและเรียนรู้ในอนาคตตนเองจะต้องมีคู่ครองซักคนและคนที่ต้องรับหน้าที่อุ้มท้องก็คือโอเมก้าอย่างตนภัทรก็วาดฝันไว้อย่างสวยงามว่ายามแพ้ท้องอาเจียนตนจะมีสามีที่อบอุ่นคอยลูบหลัง ยามอ่อนเรี่ยวสิ้นแรงสามีของตนจะโอบอุ้มประคับประคองด้วยความห่วงใย ยามแพ้หนักเหม็นกลิ่นอาหารสามีจะคอยเอาอกเอาใจคอยสรรหาอาหารที่ดีมีประโยชน์มาบำรุงตนและเจ้าตัวน้อยในท้อง

 

หากแต่ณภัทรในตอนนี้แสนโดดเดี่ยว  ไม่เคยมีซักครั้งที่กว้านหลินจะเข้ามาเหลียวแล ภัทรทำทุกอย่างด้วยตัวเองโดยมีศลัยคอยช่วย

 

            “คุณกว้านหลินครับ”เย็นวันหนึ่งภัทรก็ทำใจกล้าเดินเข้าไปหากว้านหลินในห้อง อัลฟ่าหนุ่มมองร่างซูบเซียวนั้นด้วยสายตาเรียบนิ่ง เขาไม่แม้แต่จะขานรับยังคงนอนสูบบุหรี่บนเตียงนิ่ง ภัทรเดินมาชิดขอบเตียงมือทั้งสองข้างกำชายเสื้อตัวเองไว้แน่นอย่างประหม่า

 

หลังจากกลับจากโรงพยาบาลในตอนนั้นเขาไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกเลย ต่างคนต่างหันหลังให้กัน หากแต่ในวันนี้ภัทรจำเป็นต้องเข้าหากว้านหลินก่อน

 

อัลฟ่าหนุ่มมองโอเมก้าที่ยืนกดคางจนแทบจะชิดอกก็ให้รำคาญใจ

 

           “ มีอะไรก็รีบๆพูดมา มายืนอ้ำอึ้งอยู่ทำไมน่ารำคาญว่ะ”ณภัทรช้อนสายตาขึ้นมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกอย่างตัดพ้อ ก้อนความน้อยใจแสนน่ารำคาญที่มีความรุนแรงมากขึ้นทุกวันหล่นทับจนเจ็บจุกไปหมด

 

อดทน เพื่อลูก ยังไงเสียช่วงนี้ภัทรก็ต้องพึ่งพิงอัลฟ่าหนุ่ม การที่ลูกมีพ่อที่ร่ำรวยนั่นก็การันตีได้อย่างหนึ่งว่าลูกน้อยของตนจะไม่ลำบาก

 

            “วันมะรืนผมต้องไปฝากท้องนะครับ หมอนนท์บอกว่าให้คุณไปด้ว...”

 

            “เดี๋ยวฉันจะให้เสี่ยวป๋ายมารับ”กว้านหลินพูดขัดขึ้นมาอย่างไม่แยแสจนเด็กน้อยใจกระตุก

 

            “แต่หมอนนท์...”

 

            “หมดธุระแล้วก็ออกไปได้แล้วฉันจะนอน”กว้านหลินล้มตัวลงนอนโดยหันหลังให้กับภัทรไม่สนใจขอขอร้องของคนเด็กกว่าเลยซักนิด ภัทรมองแผ่นหลังกว้างด้วยสายตาตัดพ้อผิดหวัง

 

ทั้งๆที่ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะเจอเหตุการณ์นี้หากแต่เมื่อต้องเจอจริงๆหัวใจกลับเจ็บปวดราวกับไม่ได้เตรียมใจมา

 

พังหมดแล้ว ใจของเขาพังจนไม่เหลือชิ้นดี

 

กว้านหลินลืมตาขึ้นหลังจากเสียงประตูห้องถูกเปิดและปิดลงเบาๆ ในดวงตาฉายแววอ่อนล้าเจ็บปวดชัดเจน

 

            “เด็กแข็งแรงดีนะครับ ไม่มีอะไรน่าห่วงคุณแม่พักผ่อนเยอะๆอย่ายกของหนักอย่าทำอะไรที่เร็วเกินไป ทานยาที่หมอจ่ายให้ครบก็พอ อาการแพ้ดีขึ้นมั้ยครับ?”

 

            “ก็ยังมีเวียนๆหัวตอนเช้ากับอาเจียนอยู่บ้างครับ”

 

            “เดี๋ยวก็หายครับ แล้วทานอะไรได้บ้างครับเนี่ย?”

 

            “ปกติทานข้าวได้นิดหน่อย เวลาคลื่นไส้ก็ฝานมะนาวจิ้มเกลือกินครับ ไม่ก็กินแตงกวาดองกับพวกผลไม้เปรี้ยวๆที่พี่ศลัยซื้อมาให้จากตลาดครับ”

 

            “อย่ากินเกลือมากนะครับมันเค็ม แล้วนี่เค้าไม่ยอมมาด้วยเหรอครับ”ภัทรหน้าเศร้าลงทันทีที่หมอนนท์ถามคำถามนั้น อนลอยากจะตบปากตัวเองนักที่เผลอถามคำถามโง่ๆออกไป

 

            “ผมขอโทษ”

 

            “ไม่เป็นไรครับ คุณกว้านหลินน่าจะติดงานที่บริษัทเลยมาไม่ได้ แต่ก็ให้คุณเสี่ยวป๋ายมาแทน”

 

            “โอเคครับ เดี๋ยวไปรับยาแล้วก็กลับบ้านได้นะครับ”อนลเดินออกมาส่งภัทรที่หน้าห้องก็พอดีกับที่เสี่ยวป๋ายเดินถือแก้วกาแฟร้อนกรุ่นส่งกลิ่นหอมฉุยกลับมาถึงพอดี

 

            “ขอบคุณสำหรับกาแฟนะครับแหมรู้ใจจริง”อนลคว้าหมับเข้ากับแก้วกาแฟที่เสี่ยวป๋ายไม่ทันได้ตั้งตัว เลขาหนุ่มของกว้านหลินยืนอึ้งกว่าจะรู้ตัวอนลก็ปิดห้องตรวจโดยจิบกาแฟที่เขาซื้อมากินเอง

 

            “อ...ไอ้บ้านี่ ใครซื้อมาให้อ่ะ นี่เป็นหมอจริงเหรอหน้าด้าน!!”ภัทรเข้ามาจับแขนเสี่ยวป๋ายพลางลูบหลังให้คุณเลขาใจเย็นๆด้วยสีหน้าขบขัน แทบจะเป็นยิ้มแรกของวันเลยก็ว่าได้

 

            “ให้เขาไปเถอะครับ เรากลับบ้านกันเถอะผมอยากพักแล้ว”

 

            “แวะห้างมั้ยครับ?”หลังจากรับยาเรียบร้อยเสี่ยวป๋ายก็ขับรถออกมาจากตัวโรงพยาบาล เลขาหนุ่มเอ่ยถามว่าที่คุณแม่ที่หลับตานั่งเงียบๆ ภัทรส่ายหน้าปฏิเสธ

 

            “ผมไม่มีเงินหรอกครับ”

 

            “เรื่องเงินไม่ต้องห่วงครับ เมื่อวานคุณชายใหญ่กับคุณชายรองส่งเงินมาให้บอกว่าให้พาคุณไปซื้อของให้ คุณหนูคุณวิคตอเรียก็บอกว่าถ้าไม่พอให้โทรไปบอกเดี๋ยวเธอจะโอนมาเพิ่มให้ทันที คุณชายสามเองเธอก็ให้เงินไว้ส่วนหนึ่งเหมือนกันเพราะฉะนั้นอยากได้อะไรซื้อเลยครับ”

 

            “ผมไม่รู้เลยครับว่าต้องซื้ออะไรบ้าง”ภัทรตอบอย่างคนจนปัญญา ใจดวงน้อยอุ่นขึ้นมาบ้างจากน้ำใจพี่ๆของกว้านหลิน เด็กน้อยมองข้ามประโยคที่บอกว่ากว้านหลินก็ให้เงินมาก้อนหนึ่ง

 

เดี๋ยวก็คงหักกับเงินเดือนของเขานั่นแหละ วิคตอเรียเองยังคงเป็นพี่สาวที่ใจดีเสมอ หลังจากรู้ว่าตนเองท้องภัทรโทรทางไกลไปหาวิคตอเรีย หญิงสาวดีใจมากที่ภัทรจะมีลูกให้กว้านหลิน ข้อแนะนำต่างๆถูกถ่ายทอดให้ภัทร ทั้งสองคนสนิทกันจนนับเป็นพี่เป็นน้อง เด็กน้อยรักวิคตอเรียมาก เพราะในการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในบ้านหลังนี้ภัทรไม่มีใครเลยนอกจากศลัย แต่หญิงสาวเองก็ไม่เคยมีลูกดังนั้นยามมีปัญหาอะไรภัทรจึงเลือกที่จะปรึกษาวิคตอเรียเป็นคนแรก

 

            “เดี๋ยวผมช่วยเลือก พวกเตียงเด็กของใช้เด็กซื้อเข้าไปเลยมั้ยครับ”

 

            “ใกล้คลอดค่อยซื้อก็ได้ครับ ไปเดินเล่นก็ได้ ผมไม่ได้ออกมาข้างนอกนานแล้วคุณเสี่ยวป๋ายรีบกลับบริษัทมั้ยครับ”

 

            “ไม่รีบครับวันนี้ผมมีเวลาให้คุณภัทรทั้งวันเลย”

 

            หลังจากวันนั้นข้าวของในห้องของภัทรก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเข้าสู่เดือนที่ 8 ที่ภัทรตั้งท้อง เปลเด็กก็ถูกยกเข้ามาไว้ในห้องนอนเด็กโดยที่เสี่ยวป๋ายเป็นคนควบคุมการประกอบด้วยตัวเอง เลขาหนุ่มกลายเป็นเพื่อนสนิทกับภัทรไปอีกคนเพราะทุกครั้งที่มีนัดที่โรงพยาบาลคนที่พาภัทรไปหาหมอทุกครั้งก็คือเสี่ยวป๋าย เลขาหนุ่มกับคุณหมอนนท์ลับฝีปากกันทุกครั้งที่เจอกันจนภัทรหน่ายใจกับความปากร้ายสูสีกันของคนทั้งคู่ โมบายอันเล็กๆน่ารักจากฝีมือของภัทรถูกนำมาแขวนไว้ โอเมก้าท้องแก่ยิ้มให้กับความน่ารักนั้นอย่างถูกใจ ตู้เสื้อผ้าไม้อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าและของใช้เด็กที่วิคตอเรียสั่งให้เสี่ยวป๋ายไปซื้อมาเตรียมไว้ ศลัยจัดของลงตะกร้าตามคำสั่งเผื่อว่าภัทรจะเจ็บท้องกะทันหัน

 

            “คุณภัทรไปเอนหลังก่อนเถอะค่ะ พักนี้ขยันเดินจริง ท้องก็ใหญ่ขึ้นทุกวันไหนเค้าบอกท้องแรกจะไม่ใหญ่มาก”

 

            “สงสัยลูกจะอ้วนน่ะครับ เด็กผู้ชายก็แบบนี้ตัวใหญ่แถมท่าจะแสบใช่เล่นเวลาได้ยินเสียงคุณกว้านหลินน่ะถีบแรงมากเลย”ภัทรลูบท้องเบาๆน้ำเสียงเอ่ยถึงลูกชายในท้องอย่างเอ็นดูจนศลัยอดขำไปด้วยไม่ได้ ภัทรละมือจากเปลเด็กทำท่าจะเดินออกไปนอกห้อง

 

            “จะไปไหนคะ?”

 

            “ไปตัดดอกไฮเดรนเยียมาปักแจกันให้คุณกว้านหลินครับ”

 

            “ท้องแก่อุ้ยอ้ายแล้วงดๆไปบ้างก็ได้ค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวพี่ไปตัดให้ดีมั้ยคะ?”ศลัยเสนอด้วยความเป็นห่วง เพราะหล่อนรู้ดีว่าการตัดดอกไฮเดรนเยียมาปักแจกันให้กว้านหลินนั้นกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว และกว้านหลินก็ไม่ได้ปาทิ้งเหมือนตอนปักด้วยดอกกุหลาบ

 

            “ไม่เป็นไรครับ ผมอยากทำให้เขาด้วยตัวเอง”ภัทรว่าก่อนจะหยิบกรรไกรตัดกิ่งที่มักพกติดมือกลับมาเก็บไว้ในห้องด้วยความเคยชิน ตะกร้าหวายใบเล็กถูกคล้องใส่มือ บรรดาแม่บ้านทักทายคนท้องด้วยสีหน้ายิ้มๆ อคติที่เคยมีต่อภัทรบัดนี้จางหายไปแล้ว ที่มีในตอนนี้คือความเอ็นดูและเห็นใจ ภัทรทักทายกลับก่อนจะเดินไปยังริมรั้วที่มีดอกไฮเดรนเยียออกดอกสดใสสวยงามหลากสีสัน โอเมก้าท้องแก่บรรจงตัดช่อที่สวยที่สุดอย่างใส่ใจ

 

ว่ากันว่าไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้แห่งหัวใจที่ด้านชาแทนคำตัดพ้อถึงความใจร้ายของผู้รับ ซึ่งตลอดเวลาหลายเดือนมานี้ภัทรใช้ดอกไม้ชนิดนี้สื่อสารความในใจให้กับกว้านหลินเสมอมา

 

ใจร้ายใจดำเสียเหลือเกิน แต่กว้านหลินก็ยังคงเป็นกว้านหลิน  ชายหนุ่มไม่รับรู้อะไรยังคงเมินเฉยกับเขาเสมอ พูดจานับคำได้ ถ้ากว้านหลินคิดได้ซักนิดหรือมีความเชื่อใจกันซักหน่อยกว้านหลินคงไม่ใจร้ายปรักปรำและยัดเยียดข้อกล่าวหาแสนน่าอายนั้นให้กับตน โอเมก้าเด็กนิ่วหน้าเมื่อเจ้าตัวน้อยในท้องถีบจนรู้สึกจุก

 

            “ทำไมครับ เตะแม่ทำไมลูก ไม่อยากให้แม่คิดถึงพ่อเหรอครับ อย่าเกลียดพ่อเลยนะเค้าแค่เข้าใจแม่ผิด ลึกๆแม่เชื่อว่าพ่อเค้าก็รักหนูนะครับ เป็นเด็กดีกับคุณพ่อนะลูกนะ”ภัทรส่งเสียงพูดคุยกับลูกเบาๆไม่นานแรงถีบนั้นก็หยุดลงเจ้าตัวน้อยพลิกตัวในท้องจนรู้สึกภัทรยิ้มเอ็นดูกับลูกแม้ไม่รู้ว่าลูกจะเข้าใจที่ตัวเองพูดด้วยมั้ยแต่ก็มีความสุข

 

เด็กน้อยรู้ว่าลูกคนนี้จะไม่ดื้อกับตนเองแน่ๆเพราะเวลาคุยด้วยลูกจะสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ ภัทรจัดแจกันดอกไม้ไปวางบนโต๊ะอาหาร ในห้องรับแขกรวมทั้งห้องนอนของกว้านหลิน ความอ่อนเพลียทำให้ภัทรถือวิสาสะนั่งลงบนเตียงนอนของกว้านหลินเอาหมอนมาหนุนหลังแล้วผลอยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

 

            “พรุ่งนี้อย่าลืมเตรียมสัญญาให้พร้อมนะเสี่ยวป๋าย งานครั้งนี้พลาดไม่ได้แม้แต่จุดเดียว”ไล่กว้านหลินยื่นเสื้อตัวนอกให้สาวใช้ในขณะที่คุยโทรศัพท์ไปด้วย ร่างสูงกวาดตามองหาภัทรแต่ไม่พบจึงก้าวยาวๆขึ้นไปบนห้อง ความเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศรวมทั้งร่างบวมๆของคนท้องที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงทำให้หัวใจของอัลฟ่าหนุ่มกระตุกวูบไปชั่วขณะ

 

            แค่นี้ล่ะ”ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ก่อนจะเก็บเครื่องมือสื่อสารนั้นใส่กระเป๋า กลิ่นดอกไลเซนทัสหอมกรุ่นฟุ้งอยู่ในห้องของเขา ร่างสูงก้มลงไปมองใบหน้าอวบอิ่มของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของลูก แพขนตายาวนั้นนิ่งสนิทบ่งบอกว่าภัทรนั้นหลับลึก เรือนผมสีน้ำตาลเข้มดูน่าลูบไล้จนอดใจไม่ไหวต้องวางมือลงบนกลุ่มผมนิ่มนั้น แก้มที่เคยตอบเมื่อตอนแพ้ท้องบัดนี้ดูนุ่มฟูไปหมด

 

ภัทรในตอนนี้เหมือนมาชเมโล่ขาวๆฟูๆไม่มีผิด ไล้มือลงบนผิวแก้มเนียนลื่นก่อนจะค่อยๆยื่นปลายจมูกไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หากแต่ก่อนที่ปลายจมูกจะฝังลงบนผิวแก้ม กลิ่นฝนที่เข้มข้นก็ทำให้เปลือกตาของภัทรค่อยๆเปิดขึ้น

 

ไล่กว้านหลินชะงักตัวยามที่สายตาประสานกัน

 

ราวโลกหยุดหมุน

 

เกิดความเงียบครอบคลุมคนทั้งคู่ไว้ ลมหายใจของทั้งสองรินรดซึ่งกันและกัน ภัทรทำใจกล้าคล้องคอของกว้านหลินไว้ก่อนจะยื่นหน้าขึ้นไปกดจูบกับริมฝีปากอุ่นของอัลฟ่าเจ้าชีวิตแล้วผละออก กว้านหลินมองโอเมก้าที่ส่งยิ้มหวานมาให้ตนด้วยความสับสน

 

ปกติภัทรจะต้องหลบหน้าหลบตาเขาสิ

 

แต่ทำไมวันนี้กลับต่างออกไป

 

            “กลับมาแล้วเหรอครับ”แทนคำตอบกว้านหลินก็คร่อมร่างอุ้ยอ้ายนั้นอย่างอดใจไม่ไหว

 

เพราะตั้งแต่ภัทรตั้งท้องกิจกรรมบนเตียงก็งดไปโดยปริยายดังนั้นเมื่อมาเจอภัทรในตอนที่นุ่มนิ่มไปหมดทั้งตัวชายหนุ่มจึงไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป

 

จมูกโด่งสูดดมทุกกลิ่นหอมหวานทุกพื้นที่บนร่างกายของภัทร

 

เป็นครั้งแรกที่ภัทรได้รับความทะนุถนอมและอ่อนโยนจากกว้านหลิน ความหอมหวานมอมเมาจนเผลอคิดว่านี่คือความสุขที่แท้จริงจนกระทั่งทุกอย่างจบลงกว้านหลินก็นอนหันหลังให้ตนทันที

 

นั่นแหละภัทรจึงรู้ว่าความฝัน ต่อให้สวยงามมีความสุขแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องตื่นอยู่ดี เด็กน้อยแต่งตัวแล้วเดินกลับไปนอนร้องไห้ในห้องนอนของตัวเองเงียบๆ

 

            “ขาบวมแล้วนะคะ น่าจะใกล้คลอดเต็มที”ศลัยกดนิ้วลงบนขาของภัทรที่บวมมากขึ้นเรื่อยๆ อาทิตย์หน้าก็ได้กำหนดคลอดแล้ว ร่างที่อุ้ยอ้ายก็ยิ่งบวมหนักเข้าไปใหญ่จนทำอะไรแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว

 

            “หมอนัดคลอดอาทิตย์หน้าครับคงไม่มีอะไรหรอก”ภัทรวางหมวกไหมพรมใบเล็กที่เพิ่งถักให้ลูกเสร็จลงในตะกร้า ศลัยรับมาเก็บใส่ชั้นก่อนจะช่วยประคองให้เด็กน้อยนั่งได้ถนัดขึ้น

 

            “พี่ว่าพี่ขึ้นมานอนเฝ้าคุณภัทรดีมั้ยคะ เผื่อเจ็บท้องจะได้รู้”

 

            “เอางั้นก็ได้ครับก็ดีเหมือนกันจะได้นอนคุยกันด้วย”ภัทรตกลงอย่างว่าง่าย เขาเองก็กลัวเหมือนกันว่าจะเกิดเจ็บท้องขึ้นมากะทันหัน

 

            “แล้วนี่ตั้งชื่อให้คุณหนูหรือยังคะ?”ศลัยเอ่ยถามเพราะหล่อนไม่เห็นว่าภัทรจะเรียกชื่อลูกเลยซักครั้ง เด็กน้อยยู่ปากส่ายหน้า

 

            “อยากให้พ่อเค้าตั้งมากกว่าครับ โอ๊ะ!!”ภัทรกุมท้องเมื่อความเจ็บเข้าจู่โจม ใบหน้าหวานซีดจนเห็นได้ชัด

 

           " ลูก ทำไมวันนี้เตะแม่แรงแบบนี้ล่ะครับ?”เอ่ยถามเจ้าลูกชายในท้องอย่างตัดพ้อแต่คราวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆคือความเจ็บบีบรัดมากขึ้นจนต้องงอท้อง

 

            “โอ้ย...เจ็บ”

 

            “ว้ายตายแล้ว คุณภัทรคะ”หญิงสาวรีบประคองโอเมก้าเด็กที่มีสีหน้าเจ็บปวด ที่กางเกงตัวหลวมมีคราบน้ำเปียกจนชุ่ม ทั้งสองคนเงยหน้ามองกันด้วยความตกใจ

 

            “เจ็บท้องจะคลอดหรือเปล่าคะ??”

 

            “ผม...ผมไม่รู้”ภัทรตอบด้วยความไม่รู้จริงๆ เขาไม่เคยคลอดลูกไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ แต่ความเจ็บที่บีบในท้องเรื่อยๆนั่นก็อาจจะเป็นสัญญาณว่าเจ้าตัวน้อยอยากจะออกมาลืมตาดูโลกเต็มที ศลัยคว้าโทรศัพท์มากดหาเจ้านายหนุ่มทันที

 

            “คุณชายคะคุณภัทรเจ็บท้องค่ะ”หญิงสาวกรอกเสียงลงไปทันทีที่กว้านหลินรับสาย

 

            “ออกไปเรียกแท็กซี่มารับไปโรงพยาบาลแล้วกันฉันติดงานอยู่”เสียงตอบกลับของกว้านหลินทำเอาศลัยหมดแรงจะถือโทรศัพท์ทันที หล่อนปล่อยมันตกลงข้างตัวก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆแล้ววิ่งออกไปตามคนให้ขึ้นมาดูแลภัทรส่วนตัวหล่อนเองวิ่งออกไปด้านนอกเพื่อเรียกแท็กซี่มารับคนเจ็บท้องไปโรงพยาบาล อนลพาภัทรเข้าไปห้องคลอดทันทีหลังตรวจอาการเด็กน้อยที่นอนหน้าซีดเหงื่อซึมเต็มดวงหน้า อดจะก่นด่าและสาปแช่งคนเป็นพ่อถึงความใจจืดใจดำไม่ได้

 

            “เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นพ่อที่ไหนใจร้ายได้ขนาดนี้ ขอให้ลูกไม่รักคนบ้าเอ้ย”

 

 

 

 

 

          ณภัทรถูกย้ายมานอนในห้องพักฟื้นที่เสี่ยวป๋ายตามมาจัดการให้หลังเลิกประชุมผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พยาบาลพิเศษถูกจ้างเพื่อให้มาดูแลภัทรและลูกตลอด 24 ชั่วโมงนั่งเฝ้าอยู่มุมห้อง ศลัยกลับมาจากดูหน้าคุณหนูด้วยดวงตาเป็นประกาย คุณหนูของหล่อนผิวขาวตัวใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆน้ำหนักแรกคลอด 3800 กรัม ไม่แปลกใจเลยซักนิดว่าทำไมถึงเตะคนเป็นแม่แรงนัก ภัทรไม่ได้หลับอย่างที่หล่อนคิดโอเมก้าแม่ลูกอ่อนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงเพื่อรอเวลาที่พยาบาลจะเอาลูกมาเข้าเต้า

 

            “ไม่นอนพักก่อนล่ะคะ? หรือว่าหิว?”

 

            “เปล่าฮะ ผมตื่นเต้นอยากกอดลูกแล้ว พี่เห็นแกแล้วใช่มั้ยครับ ตอนหมอเอาออกมาแกร้องเสียงดังลั่นเลย คุณหมอนนท์แกล้งตบก้นแกเสียหลายทีตลกมากๆเลย”ภัทรคุยอวดถึงความน่ารักของลูกชายให้พี่เลี้ยงสาวฟังอย่างมีความสุข ลืมความน้อยอกน้อยใจที่กว้านหลินไม่มาดูดำดูดีตนเลยซักนิดไปเสียสนิท เหมือนที่คนแก่เคยบอกไว้ว่าคนเรายามแต่งงานมีครอบครัวเมื่อแรกความสำคัญจะถูกมอบให้กับคู่ของตนแต่พอมีลูกด้วยกันแล้วความสำคัญจะถูกส่งมอบให้กับลูกจนเกือบหมด

 

            “เห็นแล้วค่ะเห็นแล้ว ตัวแกอ้วนจ้ำม่ำกว่าใครหน้าบวมยังกับนกฮูกเลยค่ะ จมูกโด๊งโด่ง เวลาร้องก็เสียงดั๊งดังนะคะ”ศลัยเอ่ยถึงคุณหนูตัวน้อยด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ทั้งสองคุยกันอีกซักพักเสี่ยวป๋ายก็กลับมาอีกหนพร้อมตะกร้าเสื้อผ้าเด็กที่พอถึงเวลาคลอดจริงๆทั้งแม่ทั้งพี่เลี้ยงก็ลืมหิ้วมาจนเลขาหนุ่มต้องขับกลับไปเอาให้

 

            “ผมขอไปดูคุณหนูก่อนนะครับอยากเห็นใจจะขาดแล้ว”

 

            “แล้ว...”

 

            “คุณชายอยู่ที่ห้องเด็กครับ”เสี่ยวป๋ายยิ้มอ่อนๆให้กับภัทรที่มีท่าทางอึ้งๆไป

 

ณภัทรยกมือขึ้นมากุมอกของตัวเอง

 

มันเต้นเร็วและแรงมากจนได้ยินเสียงบางๆมาด้านนอก

 

ความปลิ้มปิติเกิดขึ้นในใจ

 

อย่างน้อยกว้านหลินก็ยังมาดูลูกที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง

 

ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกยังคงมีอยู่ใช่มั้ยนะ?

 

หรือจริงๆแล้วลึกๆในใจของกว้านหลินเองก็ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์อะไรลูกหรอก

 

คุณชายสามแค่เพียงปากร้ายไปเอง...

 

            “น่ารักดีนะครับ”เสี่ยวป๋ายเดินมาหยุดยืนข้างเจ้านายหนุ่มที่ยืนเอามือไพล่หลังมองทารกน้อยตัวอ้วนในห้องเด็กที่มีกระจกบานใหญ่ล้อมรอบ กว้านหลินไม่ได้พูดอะไรดวงตาคมยังคงจับจ้องไปที่ลูกชายตัวน้อยที่เริ่มจะส่งเสียงร้องไห้อีกครั้งพาให้เด็กเตียงอื่นๆส่งเสียงร้องตามอีกหลายเตียง

 

            “โตไปคงเป็นหัวโจก ขอให้เป็นอัลฟ่าทีเถอะ”คุณหมอนนท์ที่ออกเวรแล้วเดินมาหยุดยืนข้างๆเลขาหนุ่ม

 

            “ตอนคุณภัทรเจ็บท้อง แกร้องเรียกคุณด้วยนะคุณกว้านหลิน น่าจะมาอยู่ใกล้ๆแกหน่อย”คุณหมอหนุ่มส่งสายตาต่อว่าไปที่อัลฟ่าหนุ่มอย่างไม่ปิดบัง

 

            “ผมติดประชุมผู้ถือหุ้นจะให้เสี่ยวป๋ายมาก็ไม่ได้นี่ก็รีบมาที่สุดแล้ว”

 

            “คุณเหมือนคนที่จัดระบบความสำคัญไม่เป็นนะคุณกว้านหลิน วันที่เมียคลอดลูกน่ะเขาต้องการกำลังใจจากสามีที่สุดแต่ภัทรมีแค่สาวใช้ แกน่าสงสารนะ”

 

            “พี่ ผมต้องรับผิดชอบงาน ถ้าแม้แต่เรื่องงานยังดูแลให้เรียบร้อยไม่ได้แล้วผมจะดูแลครอบครัวได้ยังไง ผมก็...เป็นห่วงเขาเหมือนกัน”

 

            “แล้วเคยแสดงให้เขาเห็นบ้างมั้ยว่าคุณก็เป็นห่วง แค่ออกเงินค่ารักษา ซื้อของให้โดยผ่านเลขามันไม่พอหรอกนะ แล้วหลังคลอดเขาอาจจะเกิดภาวะ Postpartum blue ใครจะดูแลเขา ผมเชื่อว่าจริงๆในใจของคุณก็รู้ว่าแกเป็นลูกคุณ ภัทรไม่เคยมีชู้ หัวใจคนมันอาจจะห้ามไม่ได้ที่จะรักใครชอบใครแต่คุณควรมีความมั่นใจว่าเขาเป็นภรรยาเป็นแม่ของลูกคุณ เด็กนั่นน่ะซื่อสัตย์กับคุณยิ่งกว่าหมาที่รักเจ้าของเสียอีก แค่ให้ข้าวให้น้ำมันไม่พอหรอกนะคุณต้องให้ความรักกับเขาด้วย อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยวางซะบ้าง ผมมองในฐานะคนนอกนะ พ่อคุณกับพ่อเขาต่างจากไปแล้วทั้งคู่คนที่อยู่ก็ไม่ควรต้องมารับกรรมจากคนที่ตายไปแล้ว”

 

            “พูดมากจังน่ารำคาญว่ะ”กว้านหลินหันมาทำหน้าอึนใส่หมอนนท์ก่อนจะเดินไปทางห้องพักของภัทร เสียงเลขาหนุ่มหัวเราะในลำคอข้างๆเรียกความสนใจจากหมอนนท์ให้กลับมามอง

 

            “ขำ...ขำมากมั้ยครับ”

 

            “ก็ตลกดี ทำคลอดดีๆไม่ชอบริอาจจะทำตัวเป็นบาทหลวง”

 

            “อยากลองมีลูกมั้ยล่ะครับ? นอกจากผมจะทำคลอดเป็นผมก็ทำลูกเป็นเหมือนกันนะครับคุณเลขา”อนลแกล้งยื่นหน้าเข้าไปทำตาแป๋วใกล้ๆใบหน้าของเสี่ยวป๋ายจนคุณเลขาถึงกับกลั้นใจ

 

            “ไปเล่นตรงนู้นครับ ผมไม่ตลกด้วย”

 

            “ไม่ไปครับอยากเล่นตรงนี้ ตรงไหนมีคุณอยู่ผมจะตามไปเล่นด้วย”

 

            “คนเขาไล่ยังจะหน้าด้าน”เสี่ยวป๋ายด่าใส่หน้าคุณหมอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

            “สนใจมาช่วยทาครีมมาร์กหน้าให้ตอนว่างๆมั้ยล่ะครับ”

 

            “เฮ้อ พูดกับหมาๆเลียปากจริงๆ”เสี่ยวป๋ายแสร้งทำเสียงเหนื่อยหน่ายใจก่อนจะทำท่าเดินตามพยาบาลที่เข็นลูกของภัทรออกมาหากแต่อนลจับข้อมือไว้ทันที

 

            “จะตามไปทำไมปล่อยให้พ่อแม่ลูกเขาอยู่ด้วยกัน พยาบาลจะเอาเด็กไปกินนมคุณจะไปนั่งดูนมคุณภัทรเหรอ ทะลึ่งนะเราน่ะ”

 

            “จะบ้าเหรอ ผมไม่รู้นี่!!”เสี่ยวป๋ายตวาดใส่หมอนนท์กลบความเขินอายทันที

 

            “ไปๆ ไปหาข้าวกินกับผมดีกว่า หิวจนจะกินคุณเข้าไปได้ทั้งตัวแล้ว”อนลเนียนโอบไหล่ของเสี่ยวป๋ายพารั้งเดินตามตนไปทันทีแม้เสี่ยวป๋ายจะร้องปฏิเสธยังไงก็ตามที

 

           

            ประตูห้องพักของภัทรเปิดขึ้น กลิ่นฝนหอมชื่นใจกระจายทำให้ภัทรที่เพิ่งล้มตัวลงนอนลืมตาขึ้นมอง

 

ไร้เสียงทักทายหรือพูดคุย กว้านหลินมองเมินก่อนจะไปนั่งบนโซฟา แสร้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข่าวผ่านเว็บไซด์ ภัทรเองก็เมินมองไปอีกทาง บรรยากาศอึมครึมจนพยาบาลสาวที่ถูกจ้างมาเฝ้ารู้สึกได้

 

            “อ๊ะคุณหนูมาแล้ว”ศลัยที่กำลังหาทางเลี่ยงร้องออกมาเสียงดังเมื่อพยาบาลเข็นเตียงเด็กเข้ามา ภัทรผุดลุกขึ้นมาทันทีโดยลืมไปว่าแผลผ่าตัดยังใหม่อยู่นิ่วหน้าร้องออกมาด้วยความเจ็บ

 

            “จะรีบทำไมยังไงก็ได้อุ้มอยู่ดี โง่จริงๆ”ภัทรเหลือบตามองคนที่ยังคงนั่งจ้องโทรศัพท์แต่ส่งเสียงด่าตนด้วยสายตาไม่พอใจก่อนจะละความสนใจไปที่เจ้าตัวกลมที่พยาบาลอุ้มมาให้ ลูกชายของเขาบิดตัวส่งเสียงเบาๆในลำคอภัทรยิ้มให้กับท่าบิดขี้เกียจนั้นเจ้าตัวน้อยตัวแดงเป็นจ้ำตัวล่ำจ้ำม่ำจมูกโด่งริมฝีปากอิ่มหนา

 

            “หล่อจัง ลูกใครเนี่ย ลูกแม่เนอะ”ภัทรพูดหยอกกับลูก กว้านหลินเหลือบตามองอย่างหมั่นไส้

 

โอเมก้าแม่ลูกอ่อนฟังคำแนะนำของพยาบาลที่สอนวิธีเข้าเต้าให้อย่างตั้งใจ วินาทีที่ลูกดูดนมจากอกน้ำใสก็กลิ้งหล่นลงบนผิวแก้มเต่งขอลูกจนภัทรต้องรีบเช็ดออกอย่างแผ่วเบา

 

ลูกของเขาไม่ควรต้องแปดเปื้อนกับน้ำตา ทารกน้อยกินเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่ออิ่มแล้วก็ตบหลังเบาๆจนกระทั่งทารกน้อยเรอเอาลมออกมา ศลัยรับคุณหนูไปอุ้มอย่างรักใคร่ก่อนจะเดินมาหยุดที่เจ้านายหนุ่ม

 

            “ไม่ลองอุ้มคุณหนูหน่อยเหรอคะ ดูสิแกน่าเกลียดน่าชังมากๆเลยนะคะ”ศลัยมองคุณหนูตัวน้อยด้วยความรักใคร่เอ็นดู

 

            “ไม่ล่ะ ฉันกลัวจะอดใจไม่ไหวทุ่มมันทิ้งลงพื้นเดี๋ยวจะมาหาว่าฉันใจร้าย”ภัทรได้ยินคำตอบนั้นก็ให้นึกโมโห ความไม่พอใจตีรื้นขึ้นมาทันที

 

            “เขาไม่อุ้มก็เอามาให้ผมครับ ลูกของผมๆอุ้มเองได้”ศลัยรีบอุ้มทารกน้อยไปคืนคนแม่ที่ตาเขียวปั้ดราวเสือที่หวงลูกและพร้อมจะตะปบทุกคนที่บังอาจมาคิดร้ายกับลูกของตน ศลัยเห็นบรรยากาศมาคุก็รีบขอตัวออกไปหาอะไรกิน ทารกน้อยส่งเสียงร้องไห้ขึ้นมาทันทีจนคนเป็นแม่ต้องอุ้มมากอดแนบอก กว้านหลินวางโทรศัพท์ลงก่อนจะก้าวมาหาภัทรช้าๆ

 

          “ฉันถามอีกครั้งว่าเด็กนี่ลูกใคร?”

 

            “ลูกของผม ของผมคนเดียว!!”ณภัทรสุดที่จะทนกับกว้านหลินร่างบางตะโกนใส่หน้าอัลฟ่าหนุ่มก่อนจะโอ๋ลูกน้อยในอ้อมอกที่แผดเสียงร้องอย่างตกใจ

 

            “เสียงดังทำไมลูกตกใจแล้วเนี่ย”กว้านหลินทำเสียงดุใส่ก่อนจะลูบลงบนศีรษะเล็กของทารกน้อย

 

            “อย่ามาจับ ไม่เห็นเป็นลูกก็อย่ามาจับ”ภัทรปัดมือของกว้านหลินออกอย่างโมโหหากแต่กว้านหลินทำเป็นไม่สนใจ

 

            “ตั้งชื่อแล้วหรือยัง?”เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ภัทรเมินหน้าไปอีกทางด้วยความน้อยใจ

 

            “ยัง รอพ่อเค้ามาตั้งแต่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นลูกก็จะตั้งเอง”

 

            “ซวี่ซี”ณภัทรหันมามองกว้านหลินอย่างไม่เชื่อหู

 

            “อะไรนะครับ?”

 

 

            “ลูกของฉันต้องมีชื่อจีน ให้ชื่อว่าซวี่ซี ชื่อกลาง ลูคัส”

 

           

 

 

 
#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.

 

 

..............................................

 

เออ ไม่ใช่ลูกแกแล้วไอ้สาม กินฟางมากขาดโปรตีนไปเลี้ยงสมองเรอะถึงได้โง่ถึงเพียงนี้!!

 

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
เป็นไบโพล่าร์รึเปล่าวะเนี่ยยยยยยยยยยยยย :ling1:

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เหนื่อยใจกับพระเอก :katai1: :m31:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พระเอกเรื่องนี้ผีเข้าผีออกจริงๆ ควรไปให้หมอรักษานะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: เฮ้ออออออ เมื่อไหร่จะโตซะทีพระเอกของเราเนี่ย

ออฟไลน์ fahdekkom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หมั่นไส้พระเอกเหลือเกิน อยากตบปากวันละสิบรอบ

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
 

Hydrangea 19

 

 

     

 

            ภัทรพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลอีกไม่กี่วันเรียนรู้การอุ้มลูกการอาบน้ำให้ลูกและร่างกายฟื้นตัวดีก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ กว้านหลินเป็นคนขับรถมารับด้วยตัวเองในตอนบ่ายแก่ๆ ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทโยนไว้ที่เบาะหลังถกแขนเสื้อเชิ้ตเพื่อความทะมัดทะแมงโดยมีภัทรอุ้มลูกนั่งเคียงข้างอยู่ ส่วนศลัยขอกลับพร้อมรถของเสี่ยวป๋ายและพยาบาลพิเศษที่กว้านหลินจ้างมาช่วยดูแลลูคัส ทารกน้อยในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่หลับสนิทราวกับตุ๊กตาตัวเล็กๆมือเล็กที่ภัทรถอดถุงมือให้กำนิ้วคนเป็นแม่แน่น ภัทรไม่ได้ให้ความสนใจกว้านหลินหากแต่เอาแต่จ้องหน้าลูกน้อยด้วยความรักที่ล้นอก เลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อยช่างน่ารักน่าชังนัก ลูคัสเป็นเด็กเลี้ยงง่ายเสียเหลือเกิน ยามหิวก็จะร้องให้รู้ว่าหิวแล้วนะ เมื่ออิ่มก็เพียงแค่ตบหลังให้เรอแล้วเจ้าตัวน้อยก็จะใช้เวลาส่วนมากในการหลับ หากอึดอัดยามขับถ่ายก็จะร้องงอแงบ้าง บางครั้งหลับๆอยู่ก็ส่งยิ้มเอาดื้อๆก็มี

 

            “กลัวจำหน้ามันไม่ได้หรือไงมองอยู่นั่นแหละ”ทันทีที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อลูคัสน้อยที่หลับอยู่ดีๆก็สะดุ้งก่อนจะบิดตัวแล้วส่งเสียงร้องจ้าขึ้นมาทันที ภัทรหันมามองผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกด้วยดวงตาเขียวปั้ด

 

            “ถ้าพูดแล้วไม่มีประโยชน์ไม่ต้องพูดก็ได้นะครับ ดูสิลูกตกใจเสียงคุณร้องไห้แล้วเห็นมั้ยครับ”กว้านหลินถึงกับสตั๊นท์ไปชั่วขณะด้วยไม่คิดว่าโอเมก้าที่เคยยอมลงให้กับเขาทุกเรื่องจะกล้าว่าเขาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดขนาดนั้น อัลฟ่าหนุ่มพรูลมหายใจออกจากปากอย่างระงับสติอารมณ์ เสียงทารกน้อยร้องลั่นรถจนปวดหูไปหมด

 

            “เอานมยัดปากมันไปสิจะได้หยุดร้อง”

 

            “คุณเงียบๆไปเถอะครับลูกร้องก็เพราะได้ยินเสียงคุณนั่นแหละ”ภัทรหันไปเถียงแบบลืมไปเลยว่าเคยกลัวคนข้างๆมากแค่ไหน กว้านหลินจับพวงมาลัยแน่น นี่ถ้าไม่ติดว่าอุ้มลูกอยู่เขาจะทำโทษเสียให้เข็ดที่กล้ามาปากดีใส่เขา

 

            “แล้วก็ขับให้มันช้าลงกว่านี้ด้วยครับกระแทกมากเดี๋ยวลูกไม่นอน” ถึงแม้จะไม่พอใจแต่กว้านหลินก็ลดความเร็วของรถลงอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มขับรถเงียบๆจนกระทั่งถึงบ้านเมื่อจอดรถเสร็จก็เดินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งที่ภัทรนั่งให้ด้วยสีหน้านิ่งๆ แม่ลูกอ่อนค่อยๆก้าวลงรถทารกน้อยหลับไปแล้วหลังจากได้ดื่มนมจนเต็มอิ่ม กว้านหลินมองภาพของภัทรที่อุ้มลูกเดินขึ้นไปด้านบนแล้วจึงเปิดท้ายรถหยิบตะกร้าของใช้หิ้วตามขึ้นไป ภัทรพาลูกเข้ามาในห้องนอนเล็กของตัวเองวางทารกน้อยในอ้อมอกลงในเปลที่ตกแต่งอย่างน่ารัก ลูคัสบิดตัวเล็กน้อยส่งเสียงร้องชั่วอึดใจยามที่ห่างจากอกแม่ภัทรรีบตบเบาๆที่หน้าอกลูกไม่นานเด็กน้อยก็สงบตามเดิม กว้านหลินเดินเข้ามาในห้องก่อนจะวางตะกร้าของลูกลงบนเตียงนอนหลังเล็กแล้วก็ถือวิสาสะนั่งปักหลักอยู่อย่างนั้น

 

            “ชื่นชมอะไรนักหนาตัวเหี่ยวยังกับหนอน”อดไม่ได้ที่จะแขวะภัทรที่มีรอยยิ้มประดับมุมปากอยู่เสมอยามมองลูกน้อยของตัวเอง อารมณ์ที่ยังไม่คงที่ดีของภัทรเริ่มประทุราวกับกระแสไฟฟ้าที่มีประกายจากประจุไฟฟ้า โอเมก้าแม่ลูกอ่อนหันมามองกว้านหลินด้วยดวงตาแข็งกร้าวต่างจากภัทรคนก่อนอย่างเห็นได้ชัด

 

            “ลูกเพิ่งจะคลอดไม่กี่วันคุณจะให้แกอ้วนจ้ำม่ำอะไรขนาดไหนครับ แล้วมาว่าลูกเป็นหนอน คุณนี่มันจริงๆเลย”ภัทรอยากจะคว้าขวดนมของลูกเขวี้ยงกว้านหลินนัก

 

ลูกออกจะน่ารักน่าชังดันมาว่าลูกเหี่ยวเหมือนหนอน คนอะไรปากเปราะยิ่งกว่าหมาที่เห่าพร่ำเพรื่อ

 

            “ก็มันน่าเกลียดจริงๆนี่”ยังไม่วายจะเถียงกลับอย่างเอาชนะ กว้านหลินไม่รู้ว่าตัวเองนึกสนุกอะไรถึงได้มานั่งต่อล้อต่อเถียงภัทรแบบนี้ บรรยากาศระหว่างเขากับภัทรไม่ได้อึมครึมแบบหลายเดือนที่ผ่านมา เขารู้สึกผ่อนคลายจนกระทั่งล้มตัวลงนอนเอกเขนกบนเตียงของภัทรอย่างถือวิสาสะ หยิบของเล่นชิ้นเล็กที่ภัทรซื้อมาไว้ให้ลูกขึ้นมาบีบเล่นจนเกิดเสียงดัง

 

อัลฟ่าหนุ่มใจหายวูบยามที่ลูคัสเริ่มส่งเสียงอี๊ดอ๊าดในลำคอจนภัทรต้องตบลงบนหน้าอกลูกอีกรอบ

 

            “ถ้าพูดแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็เงียบๆครับ กลับห้องคุณไปเลยก็ได้ลูกจะนอน”โอเมก้าที่เคยหงอให้มาตลอดหันไปพูดเสียงเขียวใส่

 

            “ไม่ไป จะนอนที่นี่ ขี้เกียจเดิน”

 

            “ถ้างั้นก็เงียบๆครับ”ภัทรไม่ได้สนใจกว้านหลินอีก ความสนใจทั้งหมดเพ่งไปที่ลูกชายตัวน้อยเพียงคนเดียว กว้านหลินนอนดูภัทรร้องเพลงกล่อมลูกเบาๆจนในที่สุดตัวเองก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

 

ไล่กว้านหลินสะดุ้งตื่นตอนที่ได้ยินเสียงเด็กร้อง หัวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากันในขณะที่ตายังไม่ลืมขึ้นเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งเสียงร้องชัดเจนขึ้นอัลฟ่าหนุ่มถึงได้เด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างมึนงง

 

            “แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เจ้าหนอนน้อยลูคัสดิ้นกระแด่วอยู่ในเปลไร้เงาของภัทรและพี่เลี้ยง กว้านหลินเลิกลั่กทำตัวไม่ถูก ชายหนุ่มเดินไปยืนหันรีหันขวางที่หน้าเปลลูก เจ้าตัวน้อยเริ่มส่งเสียงร้องพลางดีดขาไปมาอย่างเอาแต่ใจจนผ้าอ้อมที่พันท่อนล่างไว้หลุดลุ่ยเห็นพวงจำปีดอกน้อยและสายสะดือที่ยังไม่แห้งดี ลิ้นเล็กแดงก่ำ แดงไปทั้งตัว  เสียงอุแว้ถี่ขึ้นราวกับว่ากำลังโกรธกับอะไรเสียเต็มประดา

 

 

            “เฮ้ย...ร้องทำไมอ่ะ?”ทำใจดีสู้เสือตบลงบนอกลูกเบาๆเลียนแบบภัทรหากแต่กลับไม่ได้ผล

 

            “หิวหรือไง นี่ลูกคนหรือลูกปอบก่อนแกหลับฉันเห็นแกกินนมแม่แกจนแห้งแล้วนี่”กว้านหลินมองหาขวดนมก็ไม่มีลูคัสร้องหนักขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดกว้านหลินก็ตัดสินใจช้อนร่างจ้อยร่อยของลูกชายขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ

 

ตัวเบาจัง...สิ่งแรกที่รับรู้หลังจากได้อุ้มลูกเป็นครั้งแรกคือลูคัสตัวเบากว่าที่คิดไว้

 

ไหนหมอนนท์บอกว่าเด็กหนักตั้งสามโลแปดไงวะ

 

นี่เบายังกับนุ่น แต่เสียงร้องไม่เบาแบบตัวเลย กว้านหลินเริ่มเหวี่ยงลูกไปมาเบาๆก่อนจะนึกเพลงที่ภัทรชอบร้อง

 

            “เดี๋ยวก่อนสิ เงียบก่อน นึกอยู่ว่าร้องยังไง”กว้านหลินดุลูกเมื่อเจ้าเด็กน้อยดิ้นขลุกขลักยามเขาหยุดร้อง เด็กน้อยดูดหมัดตัวเองดังจ๊วบๆตาก็มองพ่อไปด้วยพอเพลงหยุดก็เบะปากทำท่าจะร้องขึ้นมาอีก กว้านหลินเลยดำน้ำมั่งร้องมั่งจนลูคัสเงียบเสียงลง

 

            “ไม่มีอะไรที่คนอย่างฉันทำไม่ได้”ออกจะภูมิใจตัวเองนิดหน่อยที่ปลอบเจ้าเด็กย่นนี่ให้หยุดร้องได้ ไล่กว้านหลินยิ้มให้กับความเก่งกาจของตัวเองพลันใบหน้าหล่อก็หุบลงราวต้นไมยราพที่ถูกเขี่ย

 

ความอุ่นวาบพุ่งใส่ใบหน้าบริเวณคางของเขาพร้อมเจ้าลูคัสน้อยในอ้อมกอดขยับตัวดุ๊กดิ๊กอีกครั้ง น้ำใสอุ่นเปียกแฉะไหลหยดลงบนอกเสื้อรวมทั้งกระเด็นใส่หน้าเจ้าตัวที่หัวสั่นหัวคลอนยามฉี่เสร็จ

 

ไล่กว้านหลินกลั้นใจอย่างสะกดกลั้นตัวเอง มองหน้าเด็กน้อยที่จ้องหน้าเขาตาแป๋วแถมแลบลิ้นออกมาราวกับกำลังเยาะเย้ยคนเป็นพ่อ ศลัยที่ลงไปล้างขวดนมหิ้วตะกร้าใส่ขวดพร้อมเครื่องนึ่งขึ้นมาชะงักค้างกับภาพที่เห็นทันที หญิงสาวหันไปหาภัทรที่เดินตามมารายงานด้วยน้ำเสียงตื่นๆ

 

            “ตายแล้ว คุณหนูลูคัสฉี่ใส่หน้าคุณพ่อค่ะคุณภัทร”

 

            ไล่กว้านหลินรู้สึกว่าชีวิตหลังจากภัทรคลอดลูกของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทุกวันพอใกล้เวลาเลิกงานเขาจะเอาแต่จดจ้องนาฬิกา พอถึงเวลาเลิกงานก็แทบจะถลากลับบ้าน แม้ว่าไม่รู้จะรีบกลับไปทำไมแต่พอเห็นภัทรเอาลูกลงมานั่งเลี้ยงข้างล่างก็พาลให้เขาอยากดูทีวีในห้องรับแขกตรงจุดที่ภัทรเล่นกับลูกเสียอย่างนั้น ทารกน้อยลูคัสค่อยๆเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งผิวหนังที่เหี่ยวย่นราวคนแก่อวบตึงขึ้นด้วยเจ้าตัวกินเก่ง ภัทรเลี้ยงด้วยนมแม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ยามลูกหลับกว้านหลินมักจะเห็นโอเมก้าแม่ลูกอ่อนนั่งปั๊มนมใส่ถุงแล้วจดรายละเอียดของแต่ละถุงแช่ช่องฟรีซไว้ คุณแม่ลูกอ่อนในตอนนี้ตัวอวบขึ้นเพราะเจ้าตัวกินทุกอย่างที่คิดว่ามีประโยชน์กับลูก งานที่ต้องคอยดูแลเขานั้นภัทรแทบจะไม่มีเวลามาทำให้ เขาได้ยินลูคัสร้องกลางดึกอยู่บ่อยๆนั่นแปลว่าคนเป็นแม่ต้องตื่นมาให้นมลูก ภัทรเลี้ยงลูกเองตลอด 24 ชั่วโมงในเดือนที่ 2 หลังจากเริ่มเลี้ยงลูกได้คล่องขึ้นทำให้ไม่จำเป็นต้องจ้างพยาบาลมาช่วยดูแล

 

อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่ายามที่ภัทรนั่งชันเข่าแล้วเอาลูกวางไว้ส่งเสียงพูดคุยกับลูกที่เอาแต่บิดไปมาทำเสียงเอ๊าะแอ๊ะราวกับคุยกันรู้เรื่องนั้นก็น่าบันเทิงดี หากแต่ลูคัสยังคงมักจะแผดเสียงร้องยามเขาเข้ามาใกล้ภัทรและเจ้าตัวเสมอ คนเป็นแม่ต้องปลอบกันพักใหญ่เด็กน้อยถึงจะหยุด

 

            “คุณกว้านหลินครับ ผมฝากคุณดูลูกแป๊บหนึ่งได้มั้ยครับผมอยากอาบน้ำ”ภัทรหันไปถามคนที่นั่งดูข่าวด้วยท่าทางเรียบขรึมเบาๆ กว้านหลินปรายตามองแม่กับลูกก่อนจะเบือนหน้ากลับไปจ้องทีวีอีกครั้งราวกับสนใจภาพในจอเสียเต็มประดาทั้งๆที่มันก็เป็นเพียงโฆษณาร้านขายไก่ทอดชื่อดัง

 

            “จะไปก็ไปสิ มันคงไม่แหกปากร้องหรอกมั้ง”ภัทรถอนหายใจเบาๆกับสรรพนามที่กว้านหลินใช้เรียกลูก หากแต่ในยามที่ลูคัสนอนเล่นโมบายเล็กๆแบบนี้แหละเป็นโอกาสอันดีที่คนเป็นแม่จะได้ปลีกตัวไปอาบน้ำกินข้าวเติมพลังเพื่อรับมือกับลูกในยามค่ำคืน ภัทรบอกกับลูกว่าตนจะไปอาบน้ำทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าลูกจะฟังรู้เรื่องมั้ย เด็กน้อยส่งเสียงอื้ออึงในลำคอบ้างก็มีเสียงกลั้วน้ำลายเอิ๊กอ๊ากคุยกับโมบายจนกระทั่งเริ่มเบื่อและไม่มีคนสนใจก็เริ่มส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้ง กว้านหลินถอนหายใจพรืดก่อนจะจำต้องย้ายสารร่างตัวเองมาหยุดตรงเบาะนอนลูก

 

            “อะไรอีกล่ะ เอะอะร้องเดี๋ยวก็ทุบเข้าให้”ปากข่มขู่ลูกวัยสามเดือนแต่มือทั้งสองข้างก็อุ้มลูกเข้ามาไว้ในแขนก่อนจะหยิบขวดนมในตะกร้าเปิดฝาจุกยัดใส่ปากแล้วเดินไปเอนตัวนั่งบนเก้าอี้โยกที่ภัทรมักจะใช้นั่งให้นมลูกอย่างเคยชิน

 

จะไม่ชินได้อย่างไรก็ในเมื่อทุกครั้งที่ภัทรขึ้นมาดูลูกไม่ทันน่ะ เขาก็เป็นคนป้อนนมลูคัสเองจนชำนาญ

 

ไม่ได้รักได้ใคร่อะไรเด็กคนนี้หรอก แค่รำคาญเสียงร้อง หนวกหู เลยช่วยป้อนนมให้เด็กเวรนี่จะได้เลิกร้องซักที

 

 

 

            กว้านหลินกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น เสียงหัวเราะดังออกมาจากตัวบ้านมีทั้งเสียงของภัทรและเจ้าลูคัสน้อยรวมทั้งเสียงศลัยที่กำลังส่งเสียงดังราวกับเชียร์กีฬาระดับโลก ขาเรียวยาวก้าวเข้าไปในตัวบ้านก็พบว่าคุณแม่กับลูกชายวัยห้าเดือนกำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากโดยที่เจ้าลูคัสเด็กยักษ์ขาล่ำเป็นปล้องๆกำลังพยายามสุดแรงที่จะคืบมาหาคนเป็นแม่โดยมีกองเชียร์คือบรรดาสาวใช้ให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ลูคัสที่ดูตัวใหญ่กว่าเด็กทั่วไปในยามนี้เหมือนกำลังเลียนแบบพวกฮีโร่ที่บินได้ แขนปล้องเหยียดตรงไปด้านหลังในขณะที่ขาก็ออกแรงถีบเบาะด้วยพลังที่มีจนสุดแรงทำให้ร่างกลมๆนั้นเคลื่อนไปไปข้างหน้าระยะประมาณ...ครึ่งคืบ...

 

            “อุ้ย คุณผู้ชายมาแล้ว”แม่บ้านคนที่อยู่ด้านหน้าภัทรสังเกตเห็นถึงการมาของเจ้าของบ้าน  บรรดาสาวใช้เห็นดังนั้นก็สลายร่างเข้าไปจัดเตรียมอาหารในครัวรวมทั้งศลัย ภัทรเหลือบตามองกว้านหลินเพียงเล็กน้อยก่อนจะหันไปตบมือเรียกชื่อลูกชายให้ลูกคืบมาหาตนอีกครั้ง

 

            “ไงไอ้หนอนอ้วน”กว้านหลินเดินไปหยุดอยู่ข้างๆภัทรแล้วเอ่ยทักเด็กที่กำลังพยายามคืบเข้าหาแม่ ลูคัสเมื่อได้ยินเสียงพ่อก็หยุดการดีดขาของตัวเองก่อนจะค่อยๆกระเสือกกระสนดุ๊กดิ๊กและหันหนีไปอีกทางได้สำเร็จ

 

            “ขึ้นไปอาบน้ำเถอะครับ ลูกคงไม่อยากเล่นกับคุณ”

 

            “จองหองจริงๆนะ เวลาหิวแล้วไม่มีคนอยู่ยัดนมให้ก็อย่ามาร้องให้ฉันป้อนให้ก็แล้วกัน น่ารำคาญทั้งแม่ทั้งลูกเลย”

 

            “ถ้ามันลำบากนักคุณก็บอกผมดีๆก็ได้ครับไม่เห็นต้องว่าลูกเลย แกยังเด็กจะไปรู้ประสาอะไรคุณไม่ได้เล่นกับแกคุยกับแกดีๆแกอาจจะกลัวคุณมันก็เรื่องธรรมดามั้ยล่ะครับ”ภัทรในยามนี้เหมือนแม่ไก่ที่กางปีกปกป้องลูกอย่างเต็มที่ โอเมก้าแม่ลูกหนึ่งไม่ชอบใจเลยซักนิดที่กว้านหลินชอบพูดจาไม่ค่อยดีใส่ลูก

 

ลูคัสยังเด็กและบริสุทธิ์นัก เขาไม่รู้หรอกว่าลูกจะรู้ถึงสิ่งที่พ่อพูดมั้ยแต่ภัทรก็อยากให้ลูกได้ฟังแต่เรื่องดีๆ

 

            “แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยเหรอ ตกลงแกหรือฉันกันแน่ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้”เมื่อโดนคนเด็กกว่าด่าก็ทำให้คนที่ทิฐิเยอะเริ่มพาล โดยสนามอารมณ์ของเขาก็คือเจ้าเด็กที่กำลังกัดของเล่นยางจนหัวสั่นหัวคลอนอดจะหมั่นไส้ไม่ได้จึงนั่งลงแล้วใช้ปลายนิ้วดันศีรษะลูกจนลูคัสกลิ้งหงายหลัง เด็กน้อยที่กำลังเล่นเพลินถึงกับตกใจส่งเสียงร้องไห้จ้าทันที ภัทรรีบเข้าไปคว้าลูกมากอดแนบอกพร้อมๆกับลูบหลังลูกเบาๆ ดวงตากลมโตวาวโรจน์ราวนางเสือในขณะที่กว้านหลินเองก็ตกใจไม่แพ้กันที่ตัวเองทำกับลูกแรงไปชายหนุ่มรีบเข้ามาดูลูกมือหนาลูบหัวลูกเบาๆอย่างรู้สึกผิด

 

            “มีซักครั้งมั้ยครับที่คุณจะแทนตัวเองกับลูกว่าพ่อ”ภัทรเบี่ยงตัวพาลูกหลบจากสัมผัสของกว้านหลิน น้ำเสียงของความน้อยใจล้นปริ่มอยู่เต็มอก

 

                         “ถ้ามันฝืนใจก็ไม่ต้องทำก็ได้ครับ ลูกมีผมคนเดียวก็พอ”ชายหนุ่มชะงักกับคำพูดนั้นก่อนจะสะบัดมือออกมาอย่างโมโห น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยประโยคที่ทำให้หัวใจของภัทรเจ็บเหมือนถูกบีบ

 

            “อย่าติดกันให้มากนักเลย วันหนึ่งหมดหนี้เธอก็ต้องไปอยู่ดี ยังไงเธอก็ต้องทิ้งลูกไว้ให้ฉันลืมแล้วหรือไง?”ภัทรสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดด้วยรู้สึกถึงความโหวงๆในช่องอก

 

จำได้สิ

 

เขาจำได้ตลอดเวลานั่นแหละ ย้ำกับตัวองทุกวันว่าจะสามารถเลี้ยงดูอุ้มชูลูกได้ก็เฉพาะตอนนี้ ตอนที่ยังชำระหนี้ให้กว้านหลินไม่หมด

 

            “ผมจำได้ จำได้ทุกขณะจิตเลยไม่ต้องมาย้ำ”

 

            “ก็ดี จำได้ก็ดี เพราะฉะนั้นอย่าเป่าหูลูกให้เกลียดพ่อ บอกกับมันบ้างว่าใครเป็นพ่อมัน ไม่ใช่เจอหน้าก็เอาแต่กลิ้งหนี ฉันไม่ชอบ”

 

            “แน่ใจแล้วเหรอครับว่าเป็นพ่อ? ไม่คิดว่าเป็นลูกชู้แล้วเหรอครับ?”ภัทรเลิกคิ้วสูงอย่างเยาะเย้ยจนกว้านหลินได้แต่ยืนอึ้ง

 

            “ยัดเยียดตำแหน่งลูกชู้ให้แกมาตลอดตั้งแต่อยู่ในท้อง ด่ากรอกหูอยู่ทุกวันลูกถึงได้กลัวคุณแล้วทีนี้จะมาบ่นว่าลูกไม่รัก คุณก็คิดดูเอาแล้วกันว่าผมเป่าหูลูกหรือคุณแสดงออกให้แกเห็นเองว่าคุณไม่รักลูกกันแน่”

 

            “ฉันก็มีวิธีแสดงออกของฉัน นี่มันลูกชายจะให้เอาอกเอาใจแบบเด็กผู้หญิงได้ยังไง”

 

            “แต่ตอนนี้แกยังเด็กแกต้องการความรักการดูแลการเอาใจใส่ไม่ใช่คำพูดแย่ๆหรือการกระทำที่ทำให้แกรู้สึกไม่ปลอดภัยแบบที่คุณทำนะครับ”ภัทรไม่ลดละที่จะปกป้องลูก อัลฟ่าหนุ่มสูดหายในแรงๆอีกครั้งมองภัทรที่พาลูกหนีขึ้นห้องไปด้วยดวงตาร้าวราน

 

ทุกคำพูดของเขาภัทรที่ทำท่าทางนิ่งเฉยตลอดจดจำไว้ในใจตลอดมา แม้จะไม่แสดงออกหากแต่ความโกรธความเสียใจคงค้างคามาตลอดสินะ อัลฟ่าหนุ่มไม่มีอารมณ์แม้แต่จะกินข้าวซักคำชายหนุ่มกลับขึ้นห้องปิดประตูเงียบก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายถึงพี่ชายคนรอง

 

            “พี่รอง ผมจะทำยังไงดีวะ”

 

            “เรื่อง?”

 

            “เดิมๆ”

 

            “พวกฉันเคยเตือนแกแล้วมั้ยล่ะไอ้สามว่าอย่าร้ายใส่เค้าให้มากนัก แล้วเป็นไงมาบ่นอยู่ได้ทุกวันว่าลูกไม่รัก”

 
((ต่อด้านล่าง))

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2



            “โธ่ เฮีย แล้วจะให้ผมทำยังไง ถ้าไม่ร้ายใส่เค้าแม่ใหญ่ก็เพ่งเล็งผมอีกว่าจัดการเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้”

 

            “ฉันก็บอกแกแล้วว่าเรื่องที่แม่ใหญ่กดดันแกให้แกจัดการกับบ้านของณภัทรน่ะพี่ใหญ่จะช่วยพูดให้ แกก็ไม่ฟังแล้วยังไงพอทุกอย่างพังก็มาขอคำปรึกษา ตอนนี้แม่ใหญ่ก็ไม่ได้อะไรด้วยแล้วพอเถอะ รีบทำดีกับเขาก่อนที่เขาจะหมดใจให้แก”

 

            “แต่พี่รอง ตอนนี้เขาคงจะเกลียดผมแล้วแหละ ตั้งแต่คลอดลูกมาภัทรกล้าด่าผมกล้าสู้ผมมากขึ้นจนเห็นได้ชัดเลย”

 

            “ก็เพราะเขาเป็นแม่คนแล้วไง คนเป็นแม่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือลูก แกชอบพูดจาไม่ดีใส่ลูกเขาก็ต้องไม่พอใจเป็นธรรมดา คำก็ลูกชู้สองคำก็ลูกชู้ถ้าฉันเป็นซวี่ซีฉันก็เกลียดอกเหมือนกัน เรื่องอื่นแกทำได้ดีมากเลยนะกว้านหลิน เรื่องงานแกทำได้ละเอียดรอบคอบแต่ดันมาสอบตกเรื่องครอบครัวซะอย่างงั้น”จอห์นนี่บ่นน้องชายที่ไม่ยอมฟังคำเตือนของเขากับคริสตั้งแต่แรกเรื่องที่ให้ทำตัวดีๆกับภัทร น้องคนเล็กของเขาอยากได้รับความไว้วางใจจากแม่ใหญ่จนลืมคิดถึงผลที่จะตามมา จริงอยู่ว่าตอนเกิดเรื่องใหม่ๆทุกคนต่างช็อกและเสียใจ รวมทั้งโยนความโกรธแค้นทั้งหมดไปให้คนบ้านณภัทร แม่ใหญ่ลั่นวาจาให้กว้านหลินจัดการเรื่องนี้ให้ได้ซึ่งตอนนั้นคริสและเขาเองก็ไม่ได้เอ่ยทักท้วงกว้านหลินเองก็ทะเยอทะยานอยากได้รับการยอมรับจากผู้คนรอบข้างจนลืมไปว่าณภัทรก็มีหัวใจ ลืมไปว่าตัวเองก็มีความรู้สึกเช่นกัน

 

เมื่อวันเวลาผ่านไปความแค้นเคืองเริ่มจางหายความรู้สึกรักเข้ามาแทนที่กว้านหลินจึงตกอยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกราวกับอมของร้อนไว้ในปาก ถ้าคายก็กลัวแม่ใหญ่จะโกรธ ถ้ากลืนก็กลัวว่าสิ่งที่กลืนจะเข้าไปทำลายหัวใจ

 

พอถึงวันนี้วันที่อยากได้รับความรักจากลูกเมียบ้างเมียก็หน่ายลูกก็หนีต้องโทรมาปรับทุกข์กับเขาด้วยน้ำเสียงเหมือนหมาหงอยแบบนี้

 

            “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องระหว่างแกกับภัทรมันถึงทางตันแล้วหรือยัง”

 

            “ผมก็ไม่ได้อยากให้มันเลวร้ายไปกว่านี้แล้วเหมือนกันนะพี่ ผมก็อยากกลับบ้านมาเจอลูกเมียรออยู่ แต่ทุกวันนี้ผมกลับบ้านมาลูกเมียพากันหนีหน้าหมดเลยแล้วจะให้ผมทำยังไง”

 

            “เรื่องนี้มันอยู่ที่ใจของแกแล้วว่ะไอ้สาม เรื่องพ่อน่าจะเป็นประเด็นใหญ่ ปล่อยวางได้มั้ยล่ะ ปล่อยวางเรื่องของพ่อเราไป”

 

            “..............”

 

 

            ประตูของห้องนอนเล็กถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา ก่อนที่นอนข้างตัวของภัทรที่นอนให้นมลูกอยู่จะยุบฮวบลงไปเบาๆโอเมก้าแม่ลูกอ่อนหันไปมองคนที่มานั่งด้านหลังก่อนจะละความสนใจหันกลับมามองลูกอีกครั้ง

 

ความกรุ่นโกรธยังคงอยู่ในใจไม่จางหายแต่กลับถูกความรู้สึกแปลกใจเข้ามาแทนที่เมื่ออัลฟ่าหนุ่มกดจูบลงบนต้นแขนก่อนจะไล่ขึ้นไปตามแนวไหล่ช้าๆ

 

            “อย่ากวนครับลูกกินนมอยู่”ภัทรส่งน้ำเสียงหมางเมินให้กับคนที่ฝังปลายจมูกลงบนซอกคอของตน ขยับคอหนีเล็กน้อยจนกว้านหลินต้องตามมากดจูบที่ต้นคอเบาๆ

 

            “ยังโกรธอยู่เหรอ?”น้ำเสียงที่ถามออกมาไม่มีความกระโชกโฮกฮากหากแต่กลับแผ่วเบาราวกับลอยมากจากที่ไกลแสนไกล พวงแก้มถูกกดจูบลงไปก่อนที่ปลายจมูกโด่งจะคลอเคลียที่ข้างหู

 

            “ขอโทษนะ...”ภัทรชะงักกับคำขอโทษนั้น ใจดวงน้อยเต้นรัวหากแต่คำถามหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว

 

ไล่กว้านหลินจะมาไม้ไหน?

 

เพราะความผีเข้าผีออกหลายครั้งที่ผ่านมาทำให้ภัทรไม่กล้าที่จะเชื่อใจอะไรอีก เด็กน้อยสงบจิตสงบใจของตัวเองไม่ได้เอ่ยคำพูดอะไรออกไป

 

เขาไม่มีความมั่นใจในอารมณ์และคำพูดของกว้านหลินเลย

 

หลายครั้งที่อัลฟ่าหนุ่มทำดีด้วยแต่สุดท้ายไม่เคยข้ามวันเลยซักครั้งเขาสองคนกกลับมาทะเลาะกันเหมือนเดิมด้วยเรื่องเดิมๆ

 

            “มะรืนหมอนัดฉีดวัคซีนให้ลูก ผมอยากให้คุณไปด้วยจะได้ตรวจดีเอ็นเอให้รู้กันไป ถึงวันที่ผลออกถ้าเป็นลูกคุณก็ขอร้องให้ช่วยทำดีกับแกหน่อย”

 

            “ได้..ฉันจะไปด้วย แต่ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ”

 

            “ทำไมล่ะครับ? ในเมื่อคุณกลัวว่าลูคัสจะไม่ใช่ลูกคุณก็มาตรวจให้มันจบๆไปคุณจะได้เลิกแคลงใจซักที”

 

            “เธอมั่นใจมั้ยล่ะว่าเขาเป็นลูกฉัน?”

 

            “เขาเป็นลูกของคุณ...ผมกับพี่อี้เฉินเราไม่เคยเกินเลยต่อกัน วันนั้นคุณเข้าใจเราผิด”

 

            “ฉันรู้...รู้มาตลอดว่าเธอซื่อสัตย์ แต่ตอนนั้นฉันโกรธ จะให้กลับคำมันก็เสียหน้า เลยปล่อยเลยตามเลยมาเรื่อยๆ คิดแค่ว่าพูดยังไงก็ได้ให้เธอเสียใจ แต่พอมาถึงวันนี้ฉันไม่มีความสุขเลย ยิ่งลูกหนีฉันไม่เล่นไม่หัวเราะให้ฉันทั้งๆที่ฉันเป็นพ่อฉันก็เจ็บ ยกโทษให้ฉันนะภัทร ต่อไปจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”กว้านหลินล้มตัวลงนอนซ้อนกอดภัทรจากด้านหลัง

 

            “ผมจะเชื่อคุณได้ยังไง ผมไม่อยากเสียใจซ้ำๆอีกแล้วนะครับ”

 

            “เชื่อได้สิ ฉันสามารถกลับไปเป็นพี่กว้านหลินเมื่อสิบปีก่อนให้เธอได้นะภัทร ขอแค่เธอให้โอกาสฉันอีกครั้ง”

 

            “มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ ในเมื่อเดี๋ยวพอเราหมดหนี้หมดสินกันผมก็ต้องไปอยู่ดี”ภัทรกลั้นก้อนสะอื้นที่เริ่มตีรื้นขึ้นมาจุกอยู่ในลำคอ ขอบตาร้อนผ่าวมองลูกน้อยที่หลับสนิทอยู่ในอ้อมอก

 

ความจริงอันร้าวรันทดบั่นทอนจิตใจของเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

 

            “ไม่ไปได้มั้ย?...ไม่เก็บหนี้แล้ว แต่อย่าไปได้มั้ย? อยู่ด้วยกัน เป็นครอบครัวกันพ่อแม่ลูกจะได้มั้ย?”น้ำเสียงเว้าวอนร้องขอทำให้ภัทรปล่อยเสียงสะอื้นออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ กว้านหลินซุกปลายจมูกกับต้นคอหอมพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

 

            “สัญญา ต่อไป ถ้าเธอจะร้องไห้ เธอต้องร้องไห้เพราะมีความสุขเท่านั้น ต่อไปฉันจะเป็นพ่อที่ดีของลูก เป็นสามีที่ดีของเธอ ดีมั้ย ฉันจะช่วยเธอเลี้ยงลูก จะพูดดีๆกับลูก เธอว่าดีมั้ย?”

 

หมดแล้ว...กำแพงที่สร้างขึ้นมาทีละช้าๆของภัทรพังหมดแล้ว โอเมก้าเด็กพยักหน้าอย่างดีใจ

 

ยอม ยอมทุกอย่างจริงๆ

 

เหมือนเขาวิ่งตามหาตุ๊กตาตัวโปรดที่หายไปมาเนิ่นนาน

 

สุดท้ายเขาพบแล้ว

 

เป็นคืนแรกที่ภัทร กว้านหลินและลูคัสได้นอนหลับไปด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก

 

ความสัมพันธ์ของกว้านหลินและภัทรดีขึ้นหลังจากที่เปิดใจคุยกัน ชายหนุ่มเอาสมุดบัญชีโยนทิ้งถังขยะอย่างไม่ใยดี ประกาศต่อหน้าสาวใช้ว่าภัทรคือนายอีกคนของบ้าน ยามที่ลูกมีนัดไปหาหมอกว้านหลินจะให้เสี่ยวป๋ายจัดตารางงานไม่ให้ชนกันเพื่อที่จะไปกับลูกด้วยชายหนุ่มขอร้องให้ณภัทรกลับมานอนที่ห้องใหญ่กับเขาแต่ภัทรปฏิเสธ

 

            “ห้องของคุณสีมันทึมเกินไปเดี๋ยวลูกไม่สดใส”

 

            “ลูคัสโตพอที่จะหัดนอนคนเดียวได้แล้ว”

 

            “ไม่ได้ ลูกยังเล็กจะทิ้งแกนอนคนเดียวได้ยังไงกันครับ ถ้าแกตื่นกลางดึกแล้วร้องล่ะ?”ภัทรค้านหัวชนฝาทันทียังไงเสียเขาก็ไม่ยอมให้ลูกต้องตื่นมากลางดึกอย่างโดดเดี่ยวหรอก

 

            “เท่าที่สังเกตลูคัสเวลาหลับก็จะหลับยาวนะ อีกอย่างเราก็ตั้งกล้องไว้ในห้องลูกสิ มันมีอุปกรณ์นะเวลาลูกร้องเราก็ได้ยินก็เดินมาหาลูกได้”

 

            “แต่ผมก็ยังห่วงอยู่ดีตั้งแต่แกเกิดมาไม่เคยห่างกันเลย เอาไว้ก่อนแล้วกันนะครับรอแกโตกว่านี้ก่อน”

 

ไล่กว้านหลินรอลูคัสโตกว่านี้ก่อนเดือนแล้วเดือนเล่าผ่านไป จนเข้าเดินที่ 10 ลูคัสเริ่มพูดได้เป็นคำสั้นๆ เช่นเรียกแม่ได้ หม่ำๆได้ยามหิว หรือคำว่าไปเวลาชี้ชวนให้เขาอุ้มออกไปดูปลาหน้าบ้าน

 

            “ไหนเรียกพ่อซิ๊”ชายหนุ่มพยายามสอนให้ลูกเรียกตนเองว่าพ่อตอนที่กำลังป้อนข้าวลูก ลูคัสเบือนหน้าหนีพลางยกมือป้อมๆอุดหูตัวเองจนกว้านหลินต้องจ่อช้อนไปล่อที่ปากลูก เจ้าเด็กล่ำงับอาหารเข้าปากเคี้ยวจนแก้มพอง

 

            “พ่อออออออออ...ไหนเรียกพ่อสิลูก”

 

พรู๊ดดดดดดดดดดด....นอกจากจะไม่ยอมทำตามที่คนเป็นพ่อบอกแล้วเจ้าเด็กอ้วนยังพ่นข้าวใส่หน้ากว้านหลินอีกต่างหาก มือป้อมตบเข้าหากันพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ

 

ลูกเวรลูกกรรมจริงๆ

 

 

 

            “แอ๊ะๆ”ลูคัสวัยขวบครึ่งกำลังออกฤทธิ์ด้วยการโน้มตัวออกจากอ้อมอกของคุณเลขาหนุ่มที่รับอาสาอุ้มเด็กน้อย แผนกของเล่นเด็กช่างน่าตื่นตาตื่นใจเสียเหลือเกินสำหรับเด็กเล็กๆอย่างเขา วันนี้กว้านหลินติดงานต้องพาลูกค้าไปเลี้ยงดังนั้นเจ้านายหนุ่มจึงให้เขามาทำหน้าที่พาลูกเมียมาช็อปปิ้งแทน

 

และแน่นอน ภัทรก็ยังคงเป็นภัทรโอเมก้าผู้แสนจะเจียมตัว เด็กน้อยวัย 19 ปีที่พ่วงตำแหน่งภรรยาของกว้านหลินยังคงไม่อยากได้ใคร่ดีกับของแพงๆ ภัทรให้ความสำคัญกับลูกมากกว่า และตอนนี้เจ้าตัวดีกำลังดีดดิ้นขอลงกับพื้นเมื่อเจอรถคันที่ถูกใจ

 

ลูคัสเดินเตาะแตะไปหามอเตอร์ไซค์ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยแบตเตอรี่คันสีแดงสดรูปทรงเฟี้ยวฟ้าวก่อนจะพยายามใช้ขาสั้นๆป้อมๆยกขึ้นเพื่อนคร่อมตัวรถ เป็นภาพที่น่าขบขันสำหรับคนเป็นแม่และคนเป็นเลขาจนอดจะหัวเราะออกมาไม่ได้

 

            "ไม่เอาลูก เอารถยนต์ดีกว่านะครับ นี่มีแบตมีเพลงมีไฟหนูจะได้นั่งได้สบายๆดีมั้ยลูก”ภัทรเข้าไปดึงลูกออกจากรถมอเตอร์ไซค์หากแต่ลูคัสกลับจับแฮนด์รถไว้แน่นไม่ยอมปล่อยพร้อมทำหน้ามุ่ยร้องอืออาเสียงดังอย่างประท้วงคนแม่จนภัทรเหนื่อยใจ

 

                        "ทำยังไงดีล่ะครับพี่เสี่ยวป๋าย ตาหนูจะเอามอเตอร์ไซค์อย่างเดียวเลย นั่งยังไม่แข็งเลยด้วยซ้ำ”

 

            “ก็คงต้องซื้อให้แกแหละครับ ล็อกเป้าซะขนาดนั้นแล้วนี่”

 

สุดท้ายลูคัสก็ได้มอเตอร์ไซค์ไปเล่นที่บ้านสมใจ เด็กน้อยเมินไม่มองรถยนต์แบตที่แม่พยายามโน้มน้าวเลยด้วยซ้ำ

 

 



#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.

 

..................................

 

 

ไม่ได้รักได้ใคร่อะไรลูกชู้หรอกแค่รำคาญเฉยๆ จริงจริ๊งงงงงง

 

 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ถ้าจะให้คุณชายสามเป็นแบบนี้นานๆต้องไปบนที่ไหนคะ

โอยย ไม่ไว้ใจพระเอกผีเข้าผีออกเลย

ส่วนลูคัสทำดีมากลูก หนูคือตัวแทนของคนอ่านในการเอาคืนคุณพ่อ
เมินต่อไปนานๆ ฮ่าๆๆ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ตาหนูนี่น่าจะเกิดมาเพื่อฆ่าพ่อ :hao7:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จะดีไปได้นานแค่ไหนนะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ลูคัสสู้ๆนะลูก ช่วยแม่ดัดนิสัยพ่อให้เข็ดไปเลย

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2

 
Hydrangea 20

 
                 
 
            ภัทรมองสองพ่อลูกที่หลับสนิทอยู่ในคอกเด็กโดยที่เท้าเล็กๆของลูคัสพาดอยู่บนหน้าผู้เป็นพ่อแล้วส่ายหน้าอย่างขำๆ
 
คงจะเล่นหรือจะเรียกให้ถูกคือทะเลาะกันจนเหนื่อยหลับไปนั่นแหละโอเมก้าแม่ลูกหนึ่งวางช่อดอกไฮเดรนเยียที่ออกไปตัดมาลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปล้างมือแล้วกลับมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆสามีและลูกชาย กลิ่นหอมประจำกายทำให้กว้านหลินสูดหายใจเข้าปอดแล้วรู้สึกตัวตื่นขึ้นในเวลาต่อมา ชายหนุ่มหยิบเท้าลูกออกจากสันจมูกของตนเองแล้วขยับตัวขึ้นมานอนบนตักภรรยากอดเอวบางแล้วกดจูบลงบนหน้าท้อง
 
          “ไปอาบน้ำสิครับจะได้สบายตัว”ภัทรลูบกลุ่มผมสีซีดของผู้ที่ได้ชื่อเป็นสามีเบาๆกว้านหลินฉวยเอามือนุ่มมากดจูบลงบนหลังมือและก้านนิ้วทีละนิ้ว ดวงตาพราวระยิบจนคนถูกกระทำเริ่มรู้สึกแปลกๆ
           
            “ภัทร ขอลูกให้ฉันอีกคนจะได้มั้ย?”นั่นปะไรล่ะคิดอะไรไว้ไม่มีผิดเลยซักนิด
 
            “แต่ลูคัสยังเล็กอยู่เลยนะครับ”หาทางบ่ายเบี่ยงเพราะตนเองกับกว้านหลินก็ห่างหายจากการมีเซ็กส์กันมานานตั้งแต่ลูคัสคลอด เวลาทั้งหมดของภัทรทุ่มให้กับลูกชายไปจนหมดสิ้น แค่เลี้ยงลูกที่ยิ่งโตยิ่งซนภัทรก็เหนื่อยจนหมดพลังแล้ว กว้านหลินเองก็รู้ดีเพราะเลิกงานหรือวันหยุดอัลฟ่าหนุ่มก็ช่วยเลี้ยงลูกอยู่ตลอด
 
            “จะสองขวบแล้ว มีอีกคนจะได้เป็นเพื่อนเล่นกันนะ นะที่รัก ขอลูกให้พี่อีกคนจะได้มั้ยครับ”
 
            “ก...ก็ได้ครับ”ภัทรเอียงหน้าหลบสายตาอันพราวระยิบของกว้านหลิน ความเห่อร้อนแล่นริ้วขึ้นสองพวงแก้มจนน่าเอ็นดูไปหมด กว้านหลินยืดตัวขึ้นก่อนจะฝังปลายจมูกโด่งลงบนสองแก้มฟูนั้นจนดังฟอดใหญ่ ภัทรรีบใช้มือทั้งสองข้างดันอกกว้านหลินไว้
 
            “เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนครับ”
 
            “ทำไม?”
 
            “เดี๋ยวลูคัสตื่นมาเห็น มันไม่ดี...”ภัทรมองไปยังเจ้าตัวกลมที่หลับสนิทจนแก้มยู่ไปกับพื้น
 
            “งั้นเดี๋ยวพี่เอาลูกไปนอนที่เตียงก่อนแล้วเราไปนอนห้องใหญ่กันดีมั้ย?”
 
            “ถ้าลูกตื่นล่ะครับ”
 
            “ไม่ตื่นหรอกลูคัสหลับนาน แต่ถ้าเป็นห่วงเดี๋ยวเรียกศลัยขึ้นมานอนเฝ้า”กว้านหลินเสนอทางแก้ปัญหาห่วงลูกของภัทรได้อย่างรวดเร็วจนคนเด็กกว่าอดทึ่งไม่ได้ เมื่อคนเป็นภรรยาไม่มีข้อทักท้วงอะไรแล้วอัลฟ่าหนุ่มก็อุ้มลูกชายตัวน้อยขึ้นไปนอนบนเตียงสำหรับเด็กห่มผ้าเสร็จสรรพ ลูคัสไม่ได้มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาตามที่กว้านหลินบอกภัทรก็วางใจ เมื่ออุ้มลูกนอนเรียบร้อยแล้วกว้านหลินก็หันกลับมาอุ้มคนแม่ขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนด้วยท่าเจ้าสาว ภัทรคล้องคอกว้านหลินไว้สายตาที่แสดงความรักใคร่ฉายชัดโดยไม่ปิดบังจนอดไม่ได้ที่จะกดจูบลงไปบนกลีบปากอิ่มนั้นและเป็นครั้งแรกตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาที่ภัทรจูบสู้กับเขา
 
มันทั้งละมุนราวกับกำลังละเลียดไอศกรีมรสอร่อย มอมเมาคล้ายกับว่าในไอศกรีมนั้นผสมเหล้ารัม กว้านหลินถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งก้าวเท้าพาภรรยาของเขาออกจากห้องนอนเล็กโดยที่ภัทรช่วยปิดประตูให้อย่างแผ่วเบา
 
กว้านหลินวางร่างบอบบางของภรรยาลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ลูบเรือนผมนิ่มอย่างทะนุถนอม
 
ถนอมแบบที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำกับภัทรเลยนับจากจับตัวมา
 
ในใจของอัลฟ่าหนุ่มเจ็บปวดเสมอยามที่ทำร้ายร่างกายของภัทร เขาไม่รู้ว่าเขาทำลงไปได้อย่างไง หลายๆครั้งที่ทุกอย่างมันเริ่มจะดีแต่กลับเป็นเขาเองที่ทำมันพังลงไปหมด เหมือนภัทรสร้างปราสาททรายทีละเล็กทีละน้อยแล้วขายื่นมาเข้ามาช่วยสร้างแต่สุดท้ายเขาทั้งคู่เถียงกันด้วยเรื่องเล็กน้อยและเป็นกว้านหลินเองที่ไม่ทน ชายหนุ่มเลือกที่จะกระทืบปราสาททรายหลังนั้นทิ้งแล้วทำร้ายภัทร
 
ครั้งแล้วครั้งเล่า
 
และก็เป็นภัทรที่ให้อภัยเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน
 
            “ภัทร...”กว้านหลินเอ่ยเรียกคนใต้ร่างที่ยังคงมองเขาด้วยความรักที่ไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าเขาจะทำร้ายจนเกือบตายมาหลายครั้งแล้ว เด็กน้อยของเขายังคงขานรับเหมือนเช่นที่ผ่านมา
 
            “ครับ?”
 
            “ที่ผ่านมา ขอโทษนะ”กุมมือที่เล็กกว่ามือของตนเองไว้พลางพรมจูบทีละนิ้ว ภัทรส่งยิ้มมาให้ส่ายหน้าให้กับความผิดทั้งหมดทั้งมวลที่กว้านหลินเคยทำ
 
ไม่เป็นไร
 
ไม่เป็นไรเลยซักนิด แม้ตอนนั้นจะเสียใจ น้อยใจ ร้องไห้เพราะความเจ็บปวด
 
แต่ในยามนี้ ตอนที่เห็นไล่กว้านหลินเป็นคนที่ดีขึ้น
 
เป็นพ่อที่ดีและเป็นสามีที่น่ารักแค่นี้ณภัทรก็ดีใจแล้ว
 
สำหรับโอเมก้าอย่างเขาการมีครอบครัวที่อบอุ่นถือเป็นความสุขสูงสุดในชีวิตแล้ว ภัทรลูบใบหน้าของกว้านหลินอย่างแผ่วเบาก่อนจะยืดตัวขึ้นไปจูบอย่างเชิญชวน ไร้ซึ่งคำพูดมีเพียงร่างกายของกว้านหลินที่ทาบทับลงมา เสื้อผ้าที่เคยติดเรือนกายถูกปลดเปลื้องไปจนหมดสิ้น ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำเอาขนบนร่างกายลุกซู่ก่อนจะถูกความอบอุ่นจากฝ่ามือหนาเข้ามาแทบที่ไปทุกส่วนของร่างกาย
 
            “จะเอาลูกสาวต้องทำท่าไหนนะ...”คำถามกลั้วเสียงหัวเราะดังขึ้นขัดกับความเงียบที่เริ่มโอบรัดจนภัทรหลุดหัวเราะ
 
            “ทำไมอยากได้ลูกสาวล่ะครับ”
 
            “เด็กผู้หญิงว่านอนสอนง่ายดี เอาไว้ดูแลเรายามแก่เฒ่า นะขอลูกสาวให้พี่ซักคน”
 
            “อันนี้ไม่ได้อยู่ที่ผมแล้วล่ะครับ อยู่ที่คุณกว้านหลินแล้วล่ะว่าจะมีฝีมือแค่ไหน”คนเด็กกว่าที่นอนอยู่ใต้ร่างต่อล้อต่อเถียงจนอดที่จะหมั่นเขี้ยวไม่ได้
 
            “เดี๋ยวนี้เถียงเก่ง”เขี่ยปลายนิ้วกับริมฝีปากนิ่มเบาๆจนคนโดนแกล้งยู่ปาก
 
            “อย่างอื่นก็เก่งแล้วนะครับ”เอ่ยตอบอย่างท้าทาย รอยยิ้มซุกซนที่เพิ่งเคยได้เห็นอดทำให้ใจสั่นไม่ได้
 
เป็นเด็กร้ายๆแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ  กว้านหลินไม่ปล่อยเวลาไว้เนิ่นนานอะไรนักชายหนุ่มค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปหาคนใต้ร่างใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดเปลือกตาของภัทรก็ปิดลง ยามที่ริมฝีปากของเขาถูกแนบทับลงมาอีกหน
 
เราจูบกันครั้งแล้วครั้งเล่า
 
เราต่างช่วงชิงลมหายใจของกันและกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
 
เราสร้างท่วงทำนองของบทรักที่เป็นของเราสองคนโดยเฉพาะ
 
สอดประสานอย่างเข้าอกเข้าใจ นุ่มนวลแต่ทว่าซ่านเสียว ทุกตารางนิ้วของร่างกายถูกตีตราจนแทบไม่เหลือผิวขาวๆแบบที่เคย จนในที่สุดเส้นทางสายดอกไม้ที่พาทั้งคู่ก้าวเดินสู่สรวงสรรค์ก็สิ้นสุดลงหลังจากพากันทะยานสู่ฝืนฟ้ากว้าง กลิ่นฝนและไลเซนทัสผสมผสานกันอย่างน่าเหลือเชื่อ กว้านหลินทิ้งตัวลงนอนข้างๆภัทรที่พวงแก้มและริมฝีปากแดงระเรื่อ วาดแขนกอดเอวคอดแล้วรั้งมาชิดตัว
 
หัวใจของโอเมก้าที่เพิ่งเข้าสู่วัยหนุ่มได้ไม่นานเต้นรัวราวกับมีกลองนับร้อยใบดังรัวอยู่ในอก
 
น้ำตาไหลอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อกว้านหลินพูดประโยคหนึ่งออกมา
 
            “พี่รักภัทรนะ แต่งงานกันเถอะ มาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์จริงๆซักที”
 
            ณภัทรรู้สึกหูอื้อไปหมดกับสิ่งที่ได้ยิน เด็กน้อยได้แต่พยักหน้าและสวมกอดกว้านหลินไว้ ปล่อยน้ำตาแห่งความดีใจให้ไหลอย่างไม่อาย กว้านหลินยิ้มให้กับท่าทางน่ารักนั้น
 
อำนาจหรือเงินทองที่มีอย่างมากมายไม่ได้ช่วยให้เขามีความสุขได้เท่ากับการกลับบ้านมาเจอลูกกับเมียรออยู่เลยซักนิด
 
เขาเพิ่งรู้ว่าเขาโง่ปล่อยให้รอยยิ้มนี้หายไปเสียเกือบสามปี
 
กว่าจะตามหาเจอก็เกือบจะเสียภัทรไปหลายหน
 
ความโง่ของเขาสังเวยด้วยชีวิตลูกคนโตไป
 
นั่นคือสิ่งที่เขารู้สึกผิดในใจเสมอมา
 
อยากชดเชยกับสิ่งร้ายๆที่เคยทำลงไป
 
 
            ลูกคนที่สองของกว้านหลินมาเร็วกว่าที่คิดไว้ เมื่อฝนแรกของปีร่วงหล่นณภัทรก็ถูกพาไปโรงพยาบาลอีกหนเมื่อโอเมก้าตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วหน้ามืด คราวนี้กว้านหลินเป็นคนพาภัทรมาหาหมอด้วยตัวเอง
 
ผลตรวจเลือดที่ออกมาทำให้หมอนนท์ยิ้มให้กับสองสามีภรรยาด้วยความยินดี
 
            “คุณกว้านหลิน สงสัยงานแต่งต้องเลื่อนไปก่อนนะ”
 
            “ทำไมล่ะพี่ หรือภัทรป่วย? ร้ายแรงมั้ยอ่ะ ต้องรักษาที่ไหนถึงจะหาย บอกผมมาเลยผมจะพาไปรักษา”อัลฟ่าหนุ่มที่กำลังมึนงงสับสนกับอาการป่วยของภัทรรัวคำถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
 
            “ใจเย็นๆก่อน เรื่องนี้ผมว่าภัทรน่าจะเดาได้นะว่าตัวเองเป็นอะไร”กว้านหลินรีบหันไปหาภรรยาตัวน้อยของตนเองทันที ณภัทรมองหน้าหมอนนท์ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาในทันทีที่อนลพยักหน้าให้ มือเรียวถูกจับแล้วบีบราวกับกำลังปลอบประโลมตน
 
            “เป็นอะไร ทำไมไม่บอกกัน?”น้ำเสียงห่วงใยไถ่ถามจนต้องหันกลับไปหาผู้เป็นสามีพลางส่ายหน้า
 
            “ไม่ได้เป็นอะไรครับ เพียงแต่ต่อไปนี้ ซัก 6-7 เดือน เราสองคนคงได้แค่นอนจับมือกันเฉยๆไปก่อนนะครับ”
 
            “ทำไมล่ะ...หรือว่า”กว้านหลินจ้องตาภัทรที่ตอนนี้ยิ้มจนตาจะกลายเป็นรูปสระอิอยู่แล้ว และภัทรพยักหน้ารับ
 
กว้านหลินไม่รู้หรอกว่าเขาเคยดีใจกับอะไรมากๆมั้ย แต่ในตอนนี้เอาส่งเสียงดังด้วยความดีใจพลางลุกขึ้นยืนรวบร่างภัทรมากอดแล้วจับหมุนไปหมุนมาจนคุณหมอหนุ่มต้องส่งเสียงดุ ว่าที่คุณพ่อลูกสองถึงจะสงบลงได้
 
            “เตรียมตั้งชื่อไว้ด้วยนะครับว่าถ้าเป็นลูกสาวจะให้ชื่ออะไร ถ้าเป็นลูกชายจะให้ชื่ออะไร”
 
            “ตั้งไว้แล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงจะให้ชื่อลิซ่า ถ้าผู้ชายจะให้ชื่อโลแกน แต่ขอลิซ่าเถอะนะอยากได้ลูกสาว”
 
            “ทำยังกับเลือกได้ อันนี้มันก็อยู่ที่น้ำยาของคุณแล้วล่ะคุณกว้านหลิน เอ้านี่ ใบสั่งยา แล้วเดี๋ยวหมอนัดคราวหน้าอีกทีเนอะ หลังจากนี้อะไรที่กระทบกระเทือนก็เลี่ยงๆไปก่อนนะครับ แล้วก็เหมือนเดิมอย่ายกของหนักอย่าเคลื่อนไหวเร็วไป เลี่ยงได้ก็อย่าอุ้มลูคัสหรืออย่าให้แกพุ่งเข้าใส่ท้อง คุณกว้านหลินช่วยดูแลภรรยาด้วยนะครับ”
 
            “ได้เลยพี่ คราวนี้ผมจะดูแลแบบยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยขึ้นห้องก็จะอุ้มขึ้นไปเลยด้วย”
 
            “สรุปตกบันไดตายทั้งผัวทั้งเมีย”หมอนนท์ค่อนขอดด้วยความหมั่นไส้แต่ก็อดดีใจไปกับภัทรด้วยไม่ได้
 
ท้องครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆมาก เด็กตรงหน้านี้ยิ้มเยอะขึ้นดูมีความสุขมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีเสียเหลือเกินสำหรับคนท้อง ตอนนี้ครอบครัวของคุณชายสามดูเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมและอบอุ่นเสียเหลือเกิน
 
อบอุ่นราวกับที่ผ่านมาเป็นแค่ภาพลวงตา ราวกับว่าเหตุการณ์ร้ายๆนั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลยซักนิด
 
และหมอนนท์หวังว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ตลอดไป
 
           
 
 
                        ในที่สุดเพราะแพ้ท้องหนักมากภัทรก็ต้องย้ายมานอนห้องใหญ่กับกว้านหลินโดยลูคัสถูกฝึกให้นอนคนเดียว ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เด็กน้อยจะตื่นกลางดึกเป็นครั้งคราวหากอึออกมากลางดึกซึ่งก็เป็นกว้านหลินที่วิ่งจากห้องใหญ่ข้ามฝั่งมาหาลูกด้วยความเร็วแสงจนตอนนี้ชายหนุ่มเลี้ยงลูกได้คล่องแคล่วต่างจากตอนลูคัสยังแบเบาะ อย่างเช่นตอนนี้กว้านหลินอุ้มเด็กยักษ์เหวี่ยงตัวไปมาเบาๆ บนไหล่พาดผ้าอ้อมในปากของลูกชายมีขวดนมคาอยู่ เสียงเพลงกล่อมเด็กดังท่ามกลางแสงสลัวเบาๆจนเจ้าลูกชายหลับสนิทคุณพ่อมือใหม่ก็เอาลูกลงนอนตามเดิมก่อนจะเดินออกจากห้องนอนลูกหากแต่กว้านหลินกลับไม่ได้เดินเข้าห้องนอนของตัวเอง ชายหนุ่มตรงไปยังห้องทำงาน นั่งสะสางงานจนเข็มนาฬิกาเลยเลขสามของเช้าวันใหม่ไปเกือบครึ่งชั่วโมง
 
กริ๊ก...อัลฟ่าหนุ่มเงยหน้ามองก็พบว่าภัทรในชุดนอนตัวหลวมโครกยืนมองเขาด้วยสายตางัวเงีย ชายหนุ่มรีบเดินไปประคองหลังภรรยาที่ตั้งท้องได้ห้าเดือนแล้วให้มานั่งที่โซฟา
 
            “เดินมาทำไม เดี๋ยวลื่นล้มไปทำยังไง?”
 
            “จะตีสี่แล้วนะครับ ทำไมไม่นอน ผมตื่นมาไม่เจอคุณกว้านหลินเดินไปดูที่ห้องลูกก็ไม่มีเลยคิดว่าคงอยู่ห้องทำงาน”
 
          “มีงานต้องเคลียร์นิดหน่อยน่ะเพราะเดี๋ยวแม่ใหญ่จะเรียกตรวจสอบบัญชีอาทิตย์หน้าต้องจัดการให้เรียบร้อย”กว้านหลินจับภัทรให้นั่งลงบนตักของตนเอง โอเมก้าแม่ลูกอ่อนคล้องแขนกับลำคอของผู้เป็นสามี
 
            “ไม่เห็นต้องหักโหมเลยครับ ไปนอนก่อนนะครับ”
 
            “อยากทำให้มันเสร็จ อีกนิดเดียวเอง”
 
            “แต่ผมอยากให้คุณกว้านหลินไปพักนี่ครับ นอนคนเดียวผมหลับไม่สนิทเลย”ภัทรเอียงคอซบศีรษะลงบนไหล่ของสามีอย่างอ้อนๆจนกว้านหลินอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
           
            “รู้ตัวมั้ยว่าตั้งแต่ท้องอ้อนเก่งขึ้นเยอะเลย โอเคครับไปนอนแล้ว”กว้านหลินปิดคอมพ์แล้วโอบประคองภรรยากลับไปนอนที่ห้อง
 
การมีกว้านหลินนอนเคียงข้างโอบกอดกันด้วยความรักเป็นเหมือนยานอนหลับชั้นดีของภัทรเลยแหละ กลายเป็นว่าคืนไหนที่กว้านหลินกลับดึกภัทรจะหลับไม่สนิทจนกว่าผู้เป็นสามีจะกลับมานอนกอดไว้แนบอก
 
            “ครั้งนี้ท้องใหญ่กว่าครั้งที่แล้วนะคะ”ศลัยเอ่ยทักคนเป็นนายที่เดินตัดแต่งกิ่งไฮเดรนเยียอย่างคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่งๆ ช่อดอกสวยๆถูกเลือกไว้เพื่อเอาไปจัดแจกันในบ้านส่วนที่ไม่ค่อยสวยก็ทิ้งไป ใครๆต่างก็ว่าภัทรเป็นคนมือเย็นปลูกอะไรก็งามไฮเดรนเยียกองามอวดโฉมออกไปนอกรั้วเหล็ก  บ้านที่เคยดูทื่อๆสวยขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ภัทรลูบหน้าท้องนูนยื่นอายุครรภ์ห้าเดือนกว่าเบาๆ
 
            “น่าจะเพราะกินเก่งครับ”
 
            “ดิฉันว่าคุณเดินให้น้อยลงทำงานบ้านให้น้อยลงเถอะค่ะ พักผ่อนบ้าง”ศลัยเอ่ยด้วยความห่วงใยเพราะภัทรนั้นไม่ได้อยู่นิ่งเลยเจ้าตัวมักจะหานู่นหานี่มาทำแทนที่จะนั่งๆนอนๆพักผ่อนเหมือนคนท้องทั่วไป
 
            “ผมพักจนเบื่อแล้วล่ะครับ อ๊ะ!!”ภัทรส่งเสียงร้องเมื่อตนเองเหยียบลงบนหญ้าที่เปียกน้ำค้างจนลื่นโชคดีที่เจ้าตัวประคองตัวได้จึงไม่ล้ม ศลัยร้องว้ายออกมาอย่างตกใจก่อนจะวิ่งมาประคองผู้เป็นเจ้านายไว้
 
            “พอเลยค่ะ เข้าบ้านเถอะที่เหลือเดี๋ยวให้คนสวนมาทำต่อ”หญิงสาวเอ่ยอย่างดุๆให้กับคนที่ดื้อ ภัทรรู้สึกหน่วงๆในท้องจึงพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย โอเมก้าท้องโตย้ายตัวเองไปนั่งในบ้าน ลูคัสที่อยู่กับพี่เลี้ยงกำลังเล่นรถมอเตอร์ไซค์ไปกินข้าวตุ๋นที่พี่เลี้ยงป้อนไปรีบปีนลงจากรถมาหาผู้เป็นแม่
 
            “ม่ะม๊า..”เสียงเรียกแม่สั้นๆตามที่เคยสอนทำให้ภัทรยิ้มอย่างเอ็นดู เด็กน้อยสมบูรณ์แข็งแรงและตัวโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ที่สำคัญยังคงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกว้านหลินอย่างแก้ไม่หาย ภัทรรับถ้วยข้าวของลูกชายมาป้อนด้วยตัวเอง ภัทรยังคงดำเนินชีวิตไปตามปกติจนกระทั่งกว้านหลินกลับมาถึงบ้าน อัลฟ่าหนุ่มกดจูบลงบนกลีบปากอิ่มของภรรยาและทะเลาะตบตีกับลูคัสก่อนจะกินข้าวแล้วพาลูกเข้านอน กว้านหลินกลับมาที่ห้องอาบน้ำแล้วเดินขึ้นเตียงมานอนกอดภัทรจากทางด้านหลังมือหนาลูบท้องภรรยาก่อนจะขมวดคิ้วอย่างสงสัย ปกติท้องของภัทรจะนิ่มกว่านี้หากแต่วันนี้ท้องของภัทรกลับแข็งกว่าปกติ แข็งจนรู้สึกได้
 
            “ภัทร ทำไมวันนี้ท้องแข็งจัง”
 
            “ไม่รู้เหมือนกันครับ”ภัทรที่ไม่ได้สังเกตท้องตัวเองเริ่มลูบบ้างแล้วก็พบว่ามันจริงอย่างที่กว้านหลินบอก หน้าท้องนูนของเขาแข็งมาก
 
            “มันแข็งเหมือนวันที่คลอดลูคัสเลยครับ”ไล่กว้านหลินไม่ปล่อยให้ความผิดปกติผ่านไป ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาหมอนนท์เล่าอาการของภัทรอย่างคร่าวๆให้หมอประจำบ้านฟัง
 
            “พาคุณภัทรมาโรงพยาบาลด่วนเลยคุณชาย”
 
ไล่กว้านหลินกำลังรอผลการตรวจด้วยใจจดจ่อ ภัทรถูกนำเข้าไปตรวจในที่สุดพยาบาลก็เรียกให้กว้านหลินเข้าไปฟังผลการตรวจของภัทร ด้านในคุณหมอนนท์กับภัทรที่นอนอยู่บนเตียงตรวจมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
 
            “ว่าไงพี่ ภัทรเป็นอะไรมากหรือเปล่า?”กว้านหลินจับมือภรรยาไว้ สีหน้าที่แสดงออกตอนนี้มีแต่ความห่วงใยและกังวล
 
          “คุณภัทรมีภาวะแท้งคุกคามครับ ต่อไปนี้ถ้าอดทนไหวทำตามที่หมอบอกประคับประคองให้มีอายุครรภ์ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้โอกาสรอดของเด็กก็จะมีมากขึ้น”
 
          “อะไรนะ? คือพี่ช่วยอธิบายหน่อยผมไม่เข้าใจ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะผมก็ดูแลดีทุกอย่างทำไมถึงมีภาวะแท้งคุกคามอีกล่ะ?”
 
            “อาการแท้งคุกคาม ท้องแข็งแบบนี้หมายความว่าร่างกายเตรียมที่จะคลอด หมอจะทำการตรวจร่างกาย และการรักษาของเด็กที่จะคลอดก่อนกำหนดคือคุณแม่ต้อง Absolute bed rest หมายถึงการนอนราบ ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณภัทรต้องนอนราบอยู่บนเตียงนิ่งๆ โดยงดกิจกรรมทุกอย่าง สิ่งที่ทำได้คือนอนอย่างเดียวกินนอนขับถ่ายบนเตียง ต้องมีการเจาะเลือดไปตรวจทุกวันและให้ยาระงับคลอดเข้าเส้นเลือดตลอดเวลาร่วมกับ Dexamethasone ทุกสี่ชั่วโมง ยาตัวนี้ช่วยเรื่องการทำงานของปอดเด็กในท้อง เราต้องดึงเด็กไว้ไว้ให้ได้นานที่สุดเพราะถ้าต่ำกว่า 28 สัปดาห์นั่นหมายความว่าแท้ง ต่ำกว่า 7 เดือนโอกาสรอดแค่ 20% และมีโอกาสพิการ อาจจะตาบอด ปอดอาจจะไม่ครบ หรืออาจจะพิการทางสมองได้ เข้าใจมั้ยครับ”อนลอธิบายอย่างง่ายๆให้กว้านหลินและภัทรฟัง สองสามีภรรยาบีบมือกันโดยอัตโนมัติ ภัทรร้องไห้ออกมาเงียบๆในขณะที่กว้านหลินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเคว้งคว้างอยู่ในทะเลที่พายุกำลังโหมใส่
 
ทำไมต้องเป็นแบบนี้
 
หรือเพราะนี่คือบทลงโทษจากพระเจ้าจากการที่เขาทำเรื่องแย่ๆมาตลอด แต่มันก็ไม่ยุติธรรมกับภัทรเลยซักนิด กว้านหลินไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตาของเขาไหลออกมาตอนไหนรู้ตัวอีกทีคือภัทรยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้เขา รอยยิ้มอบอุ่นจากคนที่ควรจะอ่อนแอมากกว่าเขาถูกส่งมาให้อย่างแสนซื่อ
 
            “ไม่เป็นไรนะครับ ไม่ต้องร้อง เราต้องผ่านมันไปได้สิ หนักกว่านี้ก็ผมก็เคยผ่านมาแล้ว”กว้านหลินฝืนยิ้มให้กับภัทรก่อนจะรวบร่างบางมากอดไว้ ในที่สุดภัทรก็ถูกนำมาพักที่ห้องพักฟื้นและเริ่มต้นกระบวนการรักษาตั้งแต่คืนนั้น เด็กหนุ่มถูกเจาะเลือดรวมทั้งให้ยาระงับคลอดผ่านเส้นเลือด แม้ตอนเด็กๆสมัยที่แม่ปลุกให้ไปเรียนในตอนเช้าณภัทรเคยฝันว่าอยากจะนอนโง่ๆอยู่บนเตียงแต่ว่าตอนนี้หลังจากผ่านไปห้าวันภัทรก็รู้ล้วว่ามันไม่ได้สบายอย่างที่คิดเลย กว้านหลินปักหลักนอนที่โรงพยาบาลกับเขาโดยกลางวันศลัยพาลูคัสมาหาคุณแม่ตอนเย็นเสี่ยวป๋ายมารับกลับ ลูคัสงอแงจนน่าสงสารเพราะตั้งแต่เกิดมาเด็กน้อยก็อยู่กับแม่ตลอด ภัทรสงสารลูกจนร้องไห้ตามไปหลายหนจนในที่สุดกว้านหลินเลยตัดสินใจไม่ให้พาลูคัสมาที่โรงพยาบาลอีกแม้ตอนแรกภัทรจะท้วงเต็มที่เพราะตนเองคิดถึงลูก
 
            “โรงพยาบาลมีแต่เชื้อโรคลูคัสอาจจะป่วยได้ อีกอย่างลูกมาก็กอดไม่ได้อุ้มไม่ได้สุขภาพจิตจะเสียซะเปล่าๆ”กว้านหลินบิดผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้ภัทรเบาๆ กลายเป็นงานประจำที่อัลฟ่าหนุ่มทำจนเริ่มคล่องเนื่องจากภัทรไม่สามารถลุกขึ้นไปอาบน้ำหรือขับถ่ายได้ตามปกติดังนั้นหน้าที่นี้เขาจึงเป็นคนทำเองโดยไม่รังเกียจเลยซักนิด เมื่อวันที่สองภัทรลองทำใจกล้าลุกไปเข้าห้องน้ำเองปรากฏว่ามีเลือดออกมาทำให้เป็นที่ตกอกตกใจของกว้านหลินและหมอนนท์มากคนป่วยถูกดุไปจนหูชา แต่อะไรก็ไม่น่าอายเท่ากับเวลาที่เขาปวดหนักกว้านหลินเป็นคนเอากระโถนมาให้เขา รอเช็ดทำความสะอาดแล้วเอาไปทิ้งไปล้าง
 
สงสาร...ในชีวิตของโอเมก้าชั้นต่ำต้อยอย่างเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนระดับอัลฟ่าจะมาปรนนิบัติเขาอย่างนี้ ทั้งๆที่กว้านหลินมีเงินมากมายมากพอที่จะจ้างพยาบาลดูแลเขาได้ทั้งวันทั้งคืนแท้ๆหากแต่กว้านหลินกลับเลือกที่จะจ้างแต่ช่วงเช้าถึงเย็นและมาเฝ้าเขาเองในช่วงหัวค่ำจนถึงเช้า หลายต่อหลายครั้งที่กว้านหลินหอบงานกลับมาทำที่โรงพยาบาลบางคืนแทบจะไม่ได้นอนหลับพักผ่อน
 
กว้านหลินแสดงให้เห็นถึงความรักอันเหลือล้นในหัวอกที่มีต่อลูกเมีย กลางคืนยามจะนอนอัลฟ่าหนุ่มจะขึ้นมานอนกอดและกล่อมเขาบนเตียงแคบๆ พูดให้กำลังใจอย่างไม่รู้เบื่อเลยซักนิด
 
            “อดทนนะ”
 
            “ครับ ผมจะอดทน”
 
แต่เหมือนเบื้องบนยังคงสร้างบททดสอบมาให้กับสองสามีภรรยาเรื่อยๆ เมื่ออยู่ๆภัทรที่นอนดูทีวีอยู่รู้สึกหายใจไม่ออกเหมือนกำลังจมน้ำ เด็กหนุ่มควานหาออดก่อนจะกดเรียกพยาบาล
 
            “ช่วยด้วยครับ ผมหายใจไม่ออก”
 
ไล่กว้านหลินเดินเร็วจนแทบจะวิ่งกลับมาที่ห้องพักของภัทร อนลโทรไปแจ้งเรื่องที่ภัทรหัวใจวายเมื่อตอนบ่ายทำให้อัลฟ่าหนุ่มทิ้งงานออกมาทันที เมื่อเปิดห้องพักเข้าไปก็เห็นหมอนนท์ยืนคุยกับภัทรอยู่ ชานหนุ่มรีบเข้าไปดูภรรยาที่ส่งยิ้มมาให้ทันที
 
            “เป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง”
 
            “ไม่เป็นไรแล้วครับ ไม่ต้องตกใจไปนะ”
 
            “พี่ทำไมภัทรถึงหัวใจวายได้?”กว้านหลินหันไปถามหมอนนท์ทันที
 
            “คือยาระงับคลอดมันมีผลข้างเคียงทำให้หัวใจเต้นเร็ว”
 
            “แล้วแบบนี้กว่าลูกจะคลอดไม่ต้องหัวใจวายซ้ำๆเหรอ?”
 
            “มันก็มีความเสี่ยง แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้หรอกนะคุณกว้านหลิน”
 
ไล่กว้านหลินไม่เคยรู้สึกถึงความท้อแท้ขนาดนี้มาก่อนเลย เขาสงสารภัทร เด็กคนนี้ยังต้องอดทนกับความทุกข์ทรมานและความเป็นความตายอีกซักกี่ครั้ง
 
ยิ่งคิดหัวใจของเขาก็ยิ่งเจ็บปวด
 
เพราะความเป็นความตายทุกครั้งที่ภัทรต้องเผชิญนั้น ต้นเหตุก็คือเขาเองทั้งสิ้น มองหน้าภัทรแล้วก็ยิ่งสงสาร ชายหนุ่มจรดริมฝีปากลงบนหลังมือของภัทรอย่างแสนรัก
 
            “ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเราจะอยู่ด้วยกัน เราจะผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากไปด้วยกันพี่จะไม่ทิ้งให้ภัทรต้องเผชิญมันแค่เพียงลำพังเด็ดขาด เชื่อใจพี่นะ”
 
          “ครับ ผมเชื่อใจคุณกว้านหลินครับ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ลูกเราจะต้องรอด”ณภัทรส่งยิ้มให้สามีอย่างให้กำลังใจ เป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้า เศร้าจนน่าสงสาร เขาเองก็รู้ดีว่าภัทรก็สู้ที่สุดแล้ว
 
ในตอนนี้ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าลูกของพวกเขาจะรอด แล้วถ้ายิ่งดึงไว้แล้วภัทรต้องหัวใจวายอีกเขาเองก็รับไม่ไหวเหมือนกัน ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกอย่างตัดสินใจ
 
            “ภัทร ถ้าถึงที่สุดแล้วไม่ไหว เราก็ปล่อยเค้าไปเถอะนะ”
 
            “ไม่ครับ จะไม่มีใครตายทั้งนั้น ทั้งลูก ทั้งผม คุณกว้านหลินบอกให้ผมเชื่อใจผมก็เชื่อใจคุณกว้านหลิน ต่อจากนี้ขอให้คุณกว้านหลินเชื่อมั่นในตัวผมนะครับ ผมจะสู้ให้ถึงที่สุด จะเอาลูกสาวมาให้คุณกว้านหลินให้ได้ อย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งถอดใจนะครับ ผมจะสู้เพราะฉะนั้นคุณกว้านหลินต้องเป็นกำลังใจให้ผมนะครับ”อนลมองภาพสองสามีภรรยาที่พูดเติมกำลังใจให้กันด้วยหัวใจที่ตื้นตัน
 
ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอแม้ว่าจะเจออุปสรรคไปบ้าง
 
เขาก็อยากให้คนไข้ของเขาเชื่อมั่นในการรักษาของเขาเช่นกัน
 
ไม่ว่ายังไงเด็กน้อยในครรภ์ที่ก็คงกำลังสู้ไปกับพ่อแม่ต้องได้ออกมาลืมตาดูโลกที่เต็มไปด้วยความรักนี้ให้ได้
 
เขาขอสัญญาด้วยหน้าที่แพทย์ที่มี
       


#ไฮเดรนเยีย

TBC.


.....................................


สู้ๆนะภัทร กว้านหลิน





ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
สู้ๆนะภัทร โห้ยยสงสารเลย ทุกอย่างกำลังจะดี คิดว่าจะราบรื่น ต้องผ่านมันไปให้ได้นะภัทร สนุกกกดีอ่ะ อ่านรวดเดียวแบบวางไม่ลงเลย จะเป็นบ้ากับกว้านหลินผีเข้าผีออกมาก ประสาทแดกแทน กว่าจะคิดได้คิดเป็นคือเกือบจะสายไปแล้ว โคตรโมโหให้เลย ไอ้คุณพี่กว้านหลิน ไอ้เวรเอ๊ยยย!! อยากด่ามาหลายตอน 555 ดีนะที่ภัทรให้อภัยได้ซ้ำๆก็เพราะว่ารักมาก ถ้ายังทำผิดอีกคือ.... ต่อจากนี้ก็ดูแลภัทรดีๆละ ขอให้คลอดออกมาปลอดภัยทีเถอะ -/\-

สนุกกกกมากค่ะ ชอบบบ ขอบคุณนะคะที่แต่งและมาอัพในนี้ให้ได้อ่านกัน รอตอนต่อไปเลยค่ะ สนุกๆ

ปล.อัพตอนแล้วลงวันที่อัพด้วยจะดีมากเลยค่ะ เพราะบางทีจำชื่อจำนวนตอนไม่ได้ จะดูวันที่อัพเอาและจะได้รู้ว่าปัจจุบันยังอัพอยู่

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ลุ้นว่าเด็กน้อยในท้องจะปลอดภัยไหม

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เจ้าตัวเล็กหนูต้องสู้นะลูกกกก :hao5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนนะ ขอให้ภัทรและเจ้าตัวเล็กคลอดออกมาอย่างปลอดภัยนะ

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
แงง อุปสรรคพิสูจน์ใจมากๆ

เชื่อว่าน้องภัทรต้องผ่านไปได้

ส่วนลูคัส ทำดีที่สุดแล้วคับบ ทะเลาะกับคุณพ่อไปเรื่อยๆ 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด