❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]  (อ่าน 45632 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เล่นอะไรกันเนี่ยพวกแก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขอทีเถอะ ฐานของ สว. ใจเสีย  :fcuk:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ต๋องดีนะที่ไอร์ไม่โกรธมาก แต่งงานกันดีแล้ว

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แบบว่า ทำให้เสียใจแล้วมาขอแต่ง แห่ขันหมาก..
มันจะสุขแต่ก็ไม่สุด..
แบบ ยังงง กะความคิด อิต๋องนะเนี้ย
ถ้าเป็น นุ้นไอร์นี้คือจะงอนไม่แต่งนะ.. 55+
ให้แห่ขันหมากเก้อไปเรยยย..

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
:: ๑๙ ::
ห้องหอ


พิธีมงคลสมรสผ่านไปอย่างราบรื่น ท่ามกลางรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขใจของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะคู่บ่าวสาวที่โปรยยิ้มตลอดทั้งวันไม่มีเหน็ดเหนื่อย แขกเหรื่อที่มาร่วมงานรวมถึงพ่อกับแม่และญาติๆ ของฝ่ายชายกลับไปจนหมดแล้ว จะเหลือก็แค่เจ้าบ่าวที่ต้องอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อในฐานะลูกเขยอย่างเป็นทางการ

กว่าจะเคลียร์งานเสร็จก็ตกเย็นแล้ว ทว่าปิ่นแก้วก็ตั้งใจลงมือทำกับข้าวเลี้ยงต้อนรับลูกเขยคนใหม่อย่างสุดฝีมือ

“วันนี้แม่ตั้งใจโชว์ฝีมือต้อนรับลูกเขยคนใหม่เลยนะต๋อง” ทุกคนกำลังนั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเย็นอย่างพร้อมหน้า หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน

“ขอบคุณครับแม่มากนะครับที่ดีกับผมมาตลอด ต่อไปนี้ผมสัญญาว่าจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุดครับ”

“ได้ยินอย่างนี้แม่ก็อุ่นใจ มีคนดูแลลูกหลานวันข้างหน้าจะได้นอนตายตาหลับ”

“แม่ก็พูดไปอย่าลืมนะว่าลูกชายคนนี้เป็นหมอ ผมไม่ยอมให้แม่เป็นอะไรไปง่ายๆ แน่นอน”

“อันดาโตขึ้นอยากเป็นหมอเหมือนคุณแม่จะได้ช่วยดูแลคุณยายด้วย”

“สงสัยคงจะอยู่เกินร้อยปีมั้งเราลูกกับหลานพูดซะขนาดนี้” พูดแล้วก็ขำออกมาเบาๆ ก่อนจะตักกับข้าวให้หลานสาวตัวน้อย “กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ ก่อนจะได้มาดูแลยายอันดาอาจจะได้เลี้ยงน้องก่อนนะลูก” ปิ่นแก้วส่งยิ้มให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวมือใหม่

“เย้! อันดาจะได้มีน้องแล้ว” เมื่อรู้ว่าจะได้มีน้องเด็กหญิงก็มีท่าทีตื่นเต้นดีใจยกใหญ่

“คุณแม่ก็พูดให้ความหวังหลาน มีคนเดียวก็พอแล้ว แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่แล้วเนี่ย” ไอร์หันไปมองหน้าลูกสาวแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“อ้าว! ทำไมพูดตัดความหวังลูกอย่างนั้นล่ะครับ” มองหน้าคนรักแล้วหันไปเอ่ยกับลูกสาวอีกที “อันดาไม่ต้องห่วงนะลูก พ่อสัญญาว่าอีกไม่นานหนูจะได้อุ้มน้องแน่นอน” พูดแล้วก็หันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่กลับได้สายตาพิฆาตคืนมา

“คุณพ่อพูดแล้วห้ามผิดสัญญาเด็ดขาดนะคะ”

“คร้าบบลูกพ่อ”

วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกชายและคนรักจะได้เข้าเรือนหอ ปิ่นแก้วจึงอยากเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้มีเวลาพูดคุยและอยู่ด้วยกันตามประสาคนเพิ่งแต่งงาน จึงจะพาหลานสาวไปนอนที่ห้องด้วยสักคืน

“คืนนี้น้องอันดาไปนอนกับยายนะจ๊ะ”

“ทำไมล่ะคะคุณยาย” เจ้าตัวน้อยหันไปมองยายด้วยท่าทีฉงน

“นั่นสิครับแม่ทำไมต้อง.....” พูดไม่ทันจบผู้เป็นแม่ก็เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน

“วันนี้ลูกทั้งสองต้องเข้าเรือนหอไงล่ะ ให้อันดาไปนอนกับแม่ล่ะดีแล้ว เอาตามนี้แล้ววันหลังค่อยว่ากันใหม่”

“น้องอันดาวันนี้ไปนอนกับคุณยายก่อนนะลูก วันนี้พ่อกับแม่จะทำน้องให้หนูก่อน” ต๋องเอ่ยกับลูกสาวแล้วยกยิ้มอย่างพอใจ วันนี้ล่ะเขาจะทำทุกอย่างตามที่ใจต้องการ คิดแล้วก็นึกถึงเรือนร่างสมส่วน ผิวขาวนวลเนียนที่เคยสัมผัสในคืนนั้นเมื่อหลายปีก่อน แม้ช่วงเวลานั้นจะผ่านมานานแล้วแต่ก็จำได้ไม่เคยลืมเลือน

“ค่ะคุณพ่อ แล้วอย่าลืมที่สัญญานะ อันดาอยากอุ้มน้องเร็วๆ”

“ครับ...พ่อสัญญา”

เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกันขนาดนี้แล้วมีหรือที่ไอร์จะโต้แย้งได้อีก เจ้าตัวเอาแต่นั่งเงียบและพยายามทำใจว่าคืนนี้คงต้องเจอศึกหนักอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ต๋องส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้หลายต่อหลายครั้ง สื่อว่าอีกฝ่ายคงไม่ปล่อยให้ได้หลับได้นอนเป็นแน่



หลังจากทานมือเย็นเรียบร้อยแล้ว ไอร์ก็พาลูกสาวขึ้นมาอาบน้ำและเปลี่ยนชุดนอน ก่อนจะพาไปที่ห้องนอนของแม่แล้วเดินกลับมาที่ห้องอีกครั้ง เมื่อก้าวขาเข้าไปในห้องก็เห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งหล่ออยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยท่อนบน มีเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ที่ปกปิดส่วนล่างเอาไว้เท่านั้นเอง เห็นอย่างนั้นก็ใจเต้นตึกตัก ราวกับกับเด็กวัยรุ่นที่กำลังจะมีเซ็กส์ครั้งแรกซะอย่างนั้น

“มึง...อาบน้ำแล้วเหรอ” เดินเกาหลังคอแก้เขินไปนั่งอีกฝั่งของเตียง

“อาบแล้ว..และก็พร้อมแล้วด้วย” พูดแล้วข้ามฝั่งไปนั่งข้างๆ แล้วยิ้มหวานให้

“พะ...พร้อมอะไรวะ” คนพูดหน้าแดงก่ำ หัวใจเต้นแรง มือไม้สั่น ยิ่งถูกมือหนามาเกี่ยวที่เอว ยิ่งทำให้เลือดลมสูบฉีดอย่างบอกไม่ถูก

“อย่ามาทำเป็นอินโนเซ้นท์ มึงก็รู้ว่ากูหมายถึงอะไร” ว่าแล้วใบหน้าคมเคลื่อนเข้าไปใกล้ๆ จนริมฝีปากสัมผัสที่แก้มขาว แล้วสูดกลิ่นกายที่หอมหวนรัญจวนใจ

“มึง...จะเอาจริงดิวะ”

“เออสิวะ! มึงรู้ป่ะว่ากูรอวันนี้มานานแค่ไหน ก่อนหน้านี้เวลาช่วยตัวเองก็นึกถึงแต่หน้ามึง วันนี้คือฝันที่เป็นจริงของกูแล้ว หึๆ” พูดแล้วก็ผลักอีกฝ่ายนอนราบลงบนเตียงก่อนจะคร่อมตัวไว้ ส่งสายตาหื่นปานจะกลืนกินไปทั้งตัว

“มึงนี่โรคจิตอ่อนๆ เลยนะ ทำไปได้ไง”

“ต่อไปนี้กูจะเลิกเป็นโรคจิตแล้วล่ะ เพราะมึงอยู่ตรงหน้ากูแล้วนี่ไง” เสียงกระเส่าเอ่ยข้างใบหู พร้อมกับมือทั้งสองข้างที่สอดประสานกันตรึงไว้เหนือศีรษะ

“กูบอกตรงๆ มัน...ตื่นเต้นว่ะ เราไม่ได้มีอะไรกันนานแล้วกูกลัวเจ็บอ่ะ” เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเหนียมอายเพราะห่างเรื่องนี้ไปเสียนาน

“ไม่ต้องห่วงกูจะทำให้เบาที่สุด ไม่ให้มึงต้องบอบช้ำแม้แต่น้อย” ว่าแล้วก็ค่อยๆ บรรจงประกบจูบอย่างนุ่มนวล หลังจากนั้นก็ส่งลิ้นเย็นเข้าไปลิ้มรสชาติความหอมหวาน ขณะริมฝีปากทั้งสองบดเบียดกัน มือเรียวก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้วเปลี่ยนมาคล้องที่คอของอีกฝ่ายไว้ ส่วนมือหนาก็ค่อยๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ ที่ปกปิดเรือนร่างขาวนวลออกให้พ้นทาง

ร่างเปลือยเปล่าทั้งสองกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนุ่มอย่างเร่าร้อน ต่างฝ่ายต่างปลดปล่อยอารมณ์ที่โหยหามาตลอด แต่เมื่อกำลังจะโดนลุกล้ำของสงวนไอร์ก็นึกอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน

“ดะ...เดี๋ยว” มือเรียวดันอกแกร่งเอาไว้ ขณะที่อีกฝ่ายเตรียมพร้อมจ่อเจ้าโลกไปที่ช่องทางแล้ว ต้องขมวดคิ้วมองหน้าด้วยความสงสัย

“อะไรอีกวะกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้วเชียว” จิ๊ปากอย่างเสียดาย

“มึงใส่ถุงยางได้ป่ะวะกูกลัวท้อง”

“ไม่เอากูสัญญากับอันดาแล้วว่าจะทำน้องให้ กูต้องรักษาสัญญาสิวะ” จับมือเรียวที่กำลังดันอกตัวเองแล้วตรึงไว้บนเตียงแทน

“ไม่เอ้า!! อีกสักปีนะค่อยมีก็ได้ กูยังไม่พร้อมมม...” คนที่นอนอยู่ใต้ร่างยังดึงดันที่จะทำตามความต้องการของตัวเอง

“ไม่เอากูจะมีมึงห้ามกูไม่ได้หรอกโว้ยย” ต๋องพยายามจับน้องชายที่กำลังแข็งตรงจ่อไปที่ทางเข้า แม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามขยับตัวหนีก็ตาม

“ไอ้ต๋องมึงหยุดเลยยยย! ถ้าไม่ใส่ถุงก็ไม่ต้องมาเอากูเลย!”

“กูไม่เคยพกถุงยางเลยนี่หว่า แล้วมึงจะให้กูเอามาจากไหนล่ะ” เริ่มหงุดหงิดที่อีกฝ่ายไม่ยอมเสียที

“ถ้างั้นก็หยุดเลยไม่ต้องเอามันเข้ามาในตัวกู”

“มึงคิดเหรอว่ากูจะยอมง่ายๆ น้องชายกูมันพร้อมสู้ขนาดนี้แล้ว เตรียมตัวรับน้ำเชื้อกูได้แล้วไอ้ไอร์!” เจ้าตัวตรึงร่างอีกฝ่ายไว้แล้วจัดการยัดเยียดความเป็นชายเข้าไปอย่างช้าๆ

“อ๊ากกก!! ไอ้ต๋องไหนมึงบอกว่าจะทำเบาๆ ไงวะ กูเจ็บบบบบ!!!”

“ก็มึงไม่ยอมเองนี่หว่า เราจะมีลูกกันอีกคนนะครับที่รัก” เสียงกระเส่าเอ่ยข้างใบหู ขณะส่วนที่เชื่อมต่อกันยังคงถูกลุกล้ำอยู่เนืองๆ

“ไอ้เหี้ยต๋องงงงง!!!! อ๊ะๆ ๆ”



เช้าวันต่อมา

“ตื่นแล้วเหรอครับที่รัก”

ลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าก็เห็นใบหน้าหล่อกำลังจ้องมองมาอยู่ก่อนแล้ว เห็นอย่างนั้นเจ้าตัวก็รีบหันหลังให้ทันที เพราะเมื่อคืนโดนอีกฝ่ายเล่นงานไปซะหลายรอบ จนรู้สึกเพลียและปวดเมื่อยไปทั่วทั้งร่าง ทั้งที่สัญญาว่าจะไม่ทำรุนแรง

“อย่ามาปากหวานแต่เช้าไอ้คนเลว” พูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ

ต๋องไม่รอช้ารีบเขยิบตัวมากอดคนรักจากด้านหลัง แล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว ก่อนจะงับที่ติ่งหูเบาๆ เพื่อหยอกล้อเล่น

“อย่างอนสิครับที่รัก ผัวขอโทษนะที่ทำให้เมียเจ็บตัวไปซะหลายรอบ” พูดแล้วก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ก่อนที่มือหนาจะสะกิดยอดอกเล่นอย่างสนุกสนาน ทำให้น้องชายที่กำลังนอนหลับใหล เริ่มตื่นตัวและดุนที่ก้นของอีกฝ่ายเสียแล้ว

“ตื่นเช้ามาก็กวนตีนกูแต่เช้าเลยนะมึง เอามือมึงออกจากหัวนมกูเดี๋ยวนี้”

“ไม่!” ยังคงทำหน้าละเล้นแล้วหอมแก้มอีกฝ่ายไปหลายฟอดอย่างไม่เกรงกลัว

“ไม่หยุดใช่มั้ยยยย” ออกแรงหยิกมือหนาที่กำลังก่อกวนด้วยความหมั่นไส้

“โอ๊ยยย!!! เจ็บนะคร้าบบบบตัวเอง” ยอมหยุดแต่กลับเปลี่ยนเป็นกระชับกอดอีกฝ่ายแทน

“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเพราะเลย”

“ต่อไปนี้เราควรเปลี่ยนจากคำว่ากูมึง เป็นเค้ากับตัวเองนะ จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก”

“ไม่เอากูไม่ชิน อีกอย่างจะให้พูดเพราะๆ กับคนขี้กวนอย่างมึงคงไม่ไหวว่ะ”

“ถ้าไม่ยอมก็จะนอนกอดอย่างนี้เรื่อยๆ” พูดแล้วก็กดจมูกไปที่เรือนผมของคนรักแล้วสูดดมเข้าเต็มปอด “ขนาดผมยังหอมเลยนะเนี่ย”

“ทำไมถึงได้ดื้ออย่างนี้นะมึงอ่ะ” พยายามขยุกขยิกตัวในอ้อมกอด นั่นทำให้เจ้าของวงแขนแกร่งอมยิ้มด้วยความสะใจ

“ยังๆ ยังไม่หยุดอีกบอกให้เรียกว่าตัวเองไงล่ะ อย่างนี้ต้องโดนทำโทษ”

ฟอดดด!!!

“ไม่อาววว ก็บอกว่ามันไม่ชินนนน...”

“ไม่ชินก็ต้องพูด ลูกจะได้ไม่ต้องเอาคำหยาบจากเราไปใช้ไง หรือตัวเองอยากให้ลูกพูดไม่เพราะ”

“ก็ไม่อยากกก”

“ไม่อยากก็ต้องพูด..เร็วๆ เดี๋ยวจะปล่อยสัญญา” ไอร์เอียงหน้าไปจ้องตากับคนรัก ก่อนจะเอ่ยคำที่อีกฝ่ายต้องการได้ยินออกมา

“ตัวเองปล่อยเขาเถอะนะ” คนที่ได้ฟังยิ้มกริ่มแล้วโน้มใบหน้าไปหอมแก้ม

“พูดอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย ปล่อยก็ได้แต่หลังจาก...แล้วนะ” ร่างสูงใช้สายตาโลมเลียไปที่เรือนร่างขาวนวล สื่อว่ากำลังต้องการทำเหมือนเมื่อคืนอีกครั้ง

“ไอ้คนไม่รักษาสัญาปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ” เมื่อรู้ว่าโดนอีกฝ่ายแกล้ง ก็รัวหมัดไปที่สีข้างอย่างเต็มแรง

“มีแรงแค่นี้รึไง” ต๋องพลิกตัวอีกฝ่ายนอนราบลงบนเตียงแล้วตรึงแขนทั้งสองข้างไว้ ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไป ใช้ปลายลิ้นสัมผัสกับยอดอกสีกลีบกุหลาบ

“อ๊ะ...ตะ..ต๋อง” เสียงกระเส่าดังขึ้นเมื่อโดนลิ้นเย็นเลียวนอยู่อย่างนั้น

แผล็บๆ ๆ

ยิ่งได้ยินอย่างนั้นยิ่งได้ใจ ไม่ยอมให้ขาดช่วงแม้แต่วินาทีเดียว

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“คุณพ่อคุณแม่คะตื่นรึยัง”

เมื่อได้ยินเสียงลูกสาวดังมาจากหน้าห้อง ทั้งสองคนก็รีบผละตัวออกจากกันทันที

“กะ..กูจะไปอาบน้ำก่อน” ทำหน้าเหรอหราแล้วรีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนต๋องก็รีบใส่เสื้อผ้าและพยายามควบคุมเจ้าโลกให้สงบลง หลังจากนั้นก็ไปเปิดประตูให้ลูกสาว

“ว่าไงครับคนดีของพ่อ”

“ทำไมเปิดช้าจังคะ น้องอันดารอตั้งนาน” เดินเข้ามาแล้วมองหาผู้เป็นแม่ “แล้วคุณแม่ไปไหนคะ”

“คุณแม่อาบน้ำอยู่ครับลูก แล้วหนูอาบน้ำรึยัง” เอ่ยถามขณะเจ้าตัวเล็กนั่งอยู่บนเตียงนอน

“อาบตั้งนานแล้วค่ะ คุณยายให้อันดามาเรียกไปคุณพ่อกับคุณแม่ไปกินข้าว”

“อ่อ...ลูกลงไปก่อนนะเดี๋ยวพ่อกับแม่ตามลงไป”

“ค่ะ...แล้วเมื่อคืนนี้คุณพ่อได้ทำน้องให้อันดารึเปล่าคะ” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยถามด้วยความใสซื่อ

“เอ่อ..ทำสิลูกอีกไม่นานอันดาจะได้อุ้มน้องแน่นอนค่ะ”

“เย้ๆ ๆ น้องอันดาลงไปบอกคุณยายก่อนนะคะ” ว่าแล้วก็รีบวิ่งลงไปหาผู้เป็นยายที่ชั้นล่าง

เห็นกล้าๆ อย่างนี้ต๋องเองก็รู้สึกเขินอายอยู่เหมือนกัน ลงไปข้างล่างไม่รู้จะมองหน้าแม่ยายยังไงดี คิดแล้วก็ตลกตัวเอง

“เสร็จเร็วจัง” ไม่นานคนรักก็นุ่งผ้าขนหนูสีขาวออกมาจากห้องน้ำ เปลือยท่อนบนโชว์ผิวที่ขาวสะอาดชวนมอง

“ก็ไม่ช้าไง” ตอบกวนๆ ขณะใช้ผ้าเช็ดผมไปด้วย

“กวนตีนจังครับที่รัก” เดินตรงไปหาหมายจะสวมกอดแต่โดนมือเรียวดันที่อกไว้ก่อน

“หยุด! ..รีบไปอาบน้ำจะได้ลงไปกินข้าว แม่กับอันดารอนานแล้ว”

“คร้าบบบเมีย” ต๋องเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าแล้วเข้าไปในห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี



หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็ลงมาข้างล่างพร้อมกัน โดยที่สำรับถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ส่วนสองยายหลานกำลังนั่งดูทีวีรออยู่อีกฝั่ง

“เพราะมึงคนเดียวเลยถึงลงมาช้าอย่างนี้” ก่อนหน้าไอร์ไม่เคยให้แม่ต้องมานั่งรออย่างนี้เลย แถมยังไม่ได้ลงมาช่วยทำกับข้าวอีกต่างหาก

“ไหนสัญญาว่าจะเลิกพูดกูมึงแล้วไง”

“ลืมตัวอ่ะ เอาเป็นว่าเราพูดเฉพาะอยู่ต่อหน้าลูกละกัน”

“ก็ได้ครับที่รัก”

ยิ้มกริ่มแล้วจับมือเรียวไว้แน่นเดินตรงไปหาแม่ยายและลูกสาว ที่กำลังส่งยิ้มมาให้เช่นเดียวกัน

“ขอโทษครับแม่ที่วันนี้ไม่ได้ลงมาช่วยทำกับข้าวแถมยังให้รออีกต่างหาก” เดินมาถึงก็กล่าวคำขอโทษผู้เป็นแม่ก่อนเป็นอันดับแรก

“ไม่เป็นไรจ๊ะแม่เข้าใจ ข้าวใหม่ปลามันก็อย่างนี้ล่ะ อีกไม่นานแม่คงได้อุ้มหลานอีกคนแล้วสินะ” ปิ่นแก้วเอ่ยแซวพร้อมกับยิ้มให้ทั้งสองคน

“รับรองครับแม่อีกไม่เกินสองเดือนรู้ผล” ต๋องได้ทีก็กระชับกอดคนรักแล้วพาเดินไปที่โต๊ะสำรับ

“ต่อไปอันดาจะไปนอนกับคุณยายทุกวันเลย”

“ไม่เอานะลูกนอนกับแม่นี่ล่ะ” เอ่ยกับลูกสาวขณะคดข้าวใส่จานให้กับทุกคน

“ก็อันดาอยากมีน้องเร็วๆ นี่คะ” เจ้าตัวน้อยไม่ยอมหยุด ยื่งนานวันความฉลาดหลักแหลมยิ่งเพิ่มมากขึ้น แถมยังมีแววเจ้าเล่ห์เหมือนพ่ออีกต่างหาก

“เริ่มแก่แดดขึ้นทุกวันนะเรา”

“แก่แดดคืออะไรคะคุณแม่” เจ้าตัวน้อยมองตาแป๋วแล้วยิ้มให้

“นั่นไงไม่ใช่แก่แดดอย่างเดียวแล้ว ตอนนี้เริ่มซึมซับนิสัยกวนโอ๊ยจากพ่อมาอีกด้วย” พูดแล้วก็หันไปทำหน้าดุใส่สมาชิกใหม่ของบ้าน

“อ้าว! เกี่ยวอะไรกับเค้าอ่ะตัวเอง” ต๋องทำหน้างง จู่ๆ ก็มาโทษกันซะอย่างนั้น

“เกี่ยวสิที่อันดาเป็นอย่างนี้เพราะตัวเองไงล่ะ ข้าวตักเองเลยไม่ทำให้แล้ว” ทำหน้าบึ้งแล้ววางโถข้าวไว้ให้ข้างจาน เมื่อว่าลูกไม่ได้ก็ขอว่าพ่อละกัน

“แม่ดูสิครับอยู่ๆ ก็มางอนผมซะงั้น” เสียงเข้มเอ่ยประท้วงคนรัก

“งอนกันบ่อยๆ ก็ดีนะแม่ว่า” ปิ่นแก้วยิ้มอ่อนให้ลูกเขย

“อ้าว! ไหงเป็นงั้นล่ะครับแม่” เจ้าตัวนึกว่าแม่ยายจะเข้าข้างเสียอีก

“ยังไงซะแม่ก็ต้องเข้าข้างลูกอยู่แล้ว...ใช่ไหมครับแม่” ไอร์ยิ้มเยาะอีกฝ่าย ก่อนจะตักกับข้าวใส่จานให้ลูกสาวอย่างอารมณ์ดี

“แม่ไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น ที่บอกอย่างนั้นเพราะเขาว่าผัวเมียง้อกันบ่อยๆ จะทำให้มีลูกดกไงล่ะ”

“อ๋อเข้าใจล่ะครับ” ต๋องพยักหน้าสื่อว่าเข้าใจแล้วหันไปเอ่ยกับคนรัก “ต่อไปตัวเองก็งอนบ่อยๆ นะ เค้าจะง้อซะให้เข็ดเลย ฮ่าๆ ๆ”

“ชิส์!”

ไอร์ชักสีหน้าพร้อมกับเบ้ปากใส่อีกฝ่าย แล้วตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารโดยไม่สนใจ ส่วนต๋องก็เอาอกเอาใจคนรักด้วยการตักกับข้าวใส่จานให้อยู่เนืองๆ ไม่นานนักอาการงอนก็หายเป็นปลิดทิ้ง ความเป็นพ่อแง่แม่งอนของคนทั้งสอง ทำให้ปิ่นแก้วมองแล้วยิ้มตามอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็ทำให้การรับประทานอาหารเช้ามื้อนั้น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและอบอวลไปด้วยความสุข



---------------------------------------------

ตอนหน้าก็จะจบแล้วนะครับ อิอิ

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
มดขึ้นแล้ววว  :z13: :z13: :z13:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พักนี้ต๋องกินเครื่องในเก่งนะ  :hao3:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
แอบหื่นนะเรา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ตัวเอง เค้า โอ้ยยยจะหวานไปไหน

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จะจบแล้วเหรอ?

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 o18 อันดาเตรียมอุ้มน้องเลยลูก

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องอันดาาาาาาาา เดี๋ยวน้องมาช้านะลูกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หวานกันเหลือเกิน

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
:: ๒๐ ::
อวสาน


“เสร็จรึยังคร้าบบที่รัก”

“เสร็จแล้วคร้าบบ”

ไอร์จูงมือลูกสาวตัวน้อยลงมาจากห้องด้วยความเร่งรีบ วันนี้ทั้งสามคนจะรวมทีมไปตระเวนเที่ยวที่หัวหิน ถ้าจะบอกว่านี่คือการไปฮันนีมูนหลังจากแต่งงานก็คงจะใช่

“ว้าว! วันนี้ลูกพ่อน่ารักที่สุดๆ เลย” เอ่ยปากชมเมื่อเห็นลูกสาวสวมเสื้อยืดคอกลมสีชมพูลายดอกไม้ พับแขนให้ดูเท่ห์เข้าคู่กับกางเกงยีนสีคราม สะพายกระเป๋าใบเล็กๆ ลายตุ๊กตาบาร์บี้เดินยิ้มลงมา

“วันนี้คุณพ่อก็หล่อที่สุดเลยค่ะ”

“แล้วแม่ล่ะไม่หล่อบ้างรึไง” เห็นสองพ่อลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก็อยากมีส่วนร่วมขึ้นมาบ้าง

“คุณแม่ไม่หล่อ แต่คุณแม่สวยยยย” เจ้าตัวน้อยตอบลากเสียงยาวขณะโดนผู้เป็นพ่ออุ้มไว้

“พ่อเห็นด้วยวันนี้คุณแม่สวยที่สุดเลย” ยิ้มพร้อมกับส่งจูบให้คนรัก จนไอร์ต้องแลบลิ้นตอบกลับแก้เขิน ก่อนจะยิ้มกว้างตามมาทีหลัง

ก่อนจะออกเดินทาง ไอร์ไม่ลืมที่จะเดินไปหาผู้เป็นแม่ ซึ่งมายืนรอส่งอยู่หน้าบ้าน

“แม่ไม่ไปกับพวกเราจริงๆ เหรอครับ” ถามย้ำอีกครั้งเผื่อผู้เป็นแม่จะเปลี่ยนใจ

“ไปกันเถอะแม่แก่แล้วคงเดินเที่ยวด้วยไม่ไหว ไปเที่ยวให้สนุกนะลูก” เอ่ยกับลูกชายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเหมือนทุกครั้ง

“ครับแม่เดี๋ยวผมจะซื้อของมาฝากละกัน ดูแลตัวเองด้วยนะครับ” ว่าแล้วก็โผเข้ากอด ผู้อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เขามีทุกวันนี้

“จ๊ะ เดินทางปลอดภัยนะลูก”

“ครับแม่” เอ่ยกับแม่แล้วหันไปหาลูกสาว “อันดามาไหว้คุณยายก่อนสิลูก”

ต๋องได้ยินก็อุ้มลูกสาวเดินมาหา ก่อนจะวางเจ้าตัวเล็กลงที่พื้น แล้วเข้าไปกอดผู้เป็นยาย

“อันดาจะเอาน้ำทะเลมาฝากคุณยายนะคะ”

“จ้าหลานรักของยาย อย่างอแงเอาแต่ใจมากนักล่ะเข้าใจไหม”

“ค่ะคุณยาย”

“ไปกันเถอะลูกจะได้ถึงเร็วๆ”

ทั้งสามไหว้ผู้อาวุสโสประจำบ้าน หลังจากนั้นก็ขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังหัวหินทันที



ขับรถเกือบสามชั่วโมงก็ถึงที่หมาย หลังจากนั้นก็เข้าไปเช็คอินในรีสอร์ทที่ได้โทรจองไว้ก่อนหน้านี้ รีสอร์ทแห่งนี้อยู่ติดชายทะเล เดินลงไปจากบ้านพักเพียงไม่กี่ก้าว ก็จะได้สัมผัสกับหาดทรายขาวและน้ำทะเลที่ใสจนมองเห็นผืนทรายด้านล่าง เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง

“เฮ้อ! ถึงซะที” ไอร์วางกระเป๋าลงที่พื้นแล้วนอนแผ่หราลงบนเตียงพร้อมกับลูกสาว

“นอนพักเอาแรงก่อนแล้วค่อยลงไปเล่นริมหาดกัน” ต๋องบอกกับลูกและเมีย

“แต่น้องอันดาอยากไปเล่นน้ำทะเลแล้วนี่นา” เด็กหญิงอันดาลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยกับผู้เป็นพ่อ

“นอนเอาแรงก่อนนะลูกตอนนี้แดดกำลังจ้า เดี๋ยวตอนเย็นๆ แม่จะพาหนูไปแน่นอน” ไอร์บอกกับลูกสาวตัวน้อย

“ค่ะคุณแม่” แม้จะดูร่าเริงแค่ไหนก็ตาม แต่ไอร์ก็ดูออกว่าเจ้าตัวเล็กอ่อนเพลียจากการนั่งรถอยู่ไม่น้อย เลยอยากให้นอนเอาแรงเสียก่อน

“เดี๋ยวแม่จะนอนเป็นเพื่อน”

“พ่อด้วย” ต๋องรีบขึ้นมานอนข้างลูกสาวแล้วจับมือไว้

แม้จะมีลูกสาวตัวน้อยนอนคั่นอยู่ตรงกลาง แต่คนทั้งสองก็ส่งยิ้มให้กันจนหลับไปในที่สุด



ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว ทั้งสองจึงทำตามสัญญานั่นคือพาลูกสาวลงไปเล่นน้ำทะเล ทั้งหมดเปลี่ยนชุดลำลองเดินจูงมือกันลงไปยังริมชายหาดด้วยรอยยิ้ม บริเวณริมหาดมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแต่ก็ไม่มากนัก บ้างก็มาแบบคู่รัก บ้างก็มากันเป็นครอบครัวใหญ่ บ้างก็มาคนเดียวตามประสาคนโสด แต่สิ่งที่เหมือนกันนั่นคือรอยยิ้มและความสุข ที่ได้จากการมาท่องเที่ยวในครั้งนี้

“คุณพ่อคุณแม่ลงไปเล่นน้ำกันเถอะค่ะ” ดูท่าทางอันดาจะรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อเห็นน้ำทะเลใสๆ ที่กำลังถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งเป็นระรอกอยู่ตรงหน้า

“ถ้างั้นก็ไปกันเล้ยย” สามคนพ่อแม่ลูกจับมือกันวิ่งลงไปยังน้ำทะเลอย่างไม่กลัวเปียกปอน เจ้าตัวน้อยลอยคอเล่นอยู่บริเวณน้ำตื้น โดยมีผู้เป็นพ่อและแม่คอยพยุงตัวไว้ไม่ห่าง

“สงสัยกลับบ้านคราวนี้ต้องให้ไปเรียนว่ายน้ำซะแล้วมั้ง...ดีไหมตัวเล็ก”

“ดีเลยค่ะคุณพ่อน้องอันดาอยากว่ายน้ำเก่งๆ” ดูท่าทางเด็กหญิงตัวน้อยจะชื่นชอบการว่ายน้ำเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่ลงมายังไม่ยอมขึ้นฝั่งเลย

“เคยคิดจะพาไปเรียนแต่พอดีช่วงนั้นไม่ค่อยว่างอ่ะ” ก่อนหน้าจะเจอกับต๋องอีกครั้งเคยคิดไว้ว่าจะพาลูกสาวไปเรียนว่ายน้ำอยู่เหมือนกัน แต่ติดตรงที่ยังไม่มีเวลาเพราะแค่รักษาคนไข้ก็เกือบจะหมดวันแล้ว

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเค้าพาลูกไปเองไม่ต้องห่วงนะ” ต๋องเอ่ยกับคนรักแล้วยิ้มกริ่มให้

“มีสามีดีๆ อะไรก็ดีไปหมด” พูดแล้วยิ้มตอบ

“มีภรรยาน่ารักอย่างนี้ยอมทุกอย่างเลยคร้าบบ” ยิ้มหน้าระรื่น

“ยอมทุกอย่างจริงอ่ะ” ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ใส่อีกฝ่าย

“จริ้ง”

ไม่รอช้าไอร์รีบขึ้นไปขี่หลังแล้วกอดคอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ถ้างั้นขออยู่บนนี้สักชั่วโมงนะ ฮ่าๆ ๆ”

“เอางี้เลยเหรอ”

“เอางี้ล่ะถ้ารักกันจริงก็อย่าปล่อยลงเด็ดขาด”

“น้องอันดาอยากขี่หลังคุณพ่อบ้าง” เมื่อเห็นอย่างนั้นอันดาก็เกาะแขนอ้อนผู้เป็นพ่อ

“ถ้าน้องอันดาอยากขี่หลังพ่อ ต้องหาทางเอาคุณแม่ลงมาให้ได้ก่อนนะคะ” ต๋องยืมมือลูกสาวจัดการกับอีกฝ่าย

“คุณแม่ลงมาเดี๋ยวนี้เลยน้า” อันดาพยายามดึงขาผู้เป็นแม่ให้ลงมา แต่ไอร์ยังคงกอดคอคนรักเอาไว้แน่น อยากจะแกล้งทั้งพ่อทั้งลูกพร้อมๆ กัน

“แม่ไม่ลง”

“โหวว ใจร้ายกับลูกจริงๆ เลยเนี่ย”

“ใจร้ายตรงไหน ตัวเองหนักก็บอกเถอะไม่ต้องเอาลูกมาอ้าง” ว่าแล้วก็ดึงหูอีกฝ่ายจนร้องเสียงหลงออกมา

“โอ๊ยๆ ๆ เจ็บนะคร้าบบเมียย”

“คุณแม่ลงมาเดี๋ยวนี้น้องอันดาจะขี่หลังคุณพ่อ” เด็กหญิงอันดายังคงดึงขาผู้เป็นแม่ไม่ยอมหยุด ทำให้ต๋องเดินเซแล้วลมลงไปในน้ำ

ตูมมม!!!

มือเรียวที่เคยเกาะกุมบริเวณต้นคอค่อยๆ คลายออกมา แล้วจับลูกสาวตัวน้อยขึ้นขี่หลังคนรักแทน หลังจากนั้นทั้งหมดก็ขึ้นฝั่งแล้วเปลี่ยนไปเดินเล่นบริเวณริมหาด ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงเมื่อถึงยามเย็น ทำให้ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับกลายเป็นสีส้มแดงและสะท้อนเงาลงบนผิวน้ำ ทำให้มีบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก

“บรรยากาศดีจังเลยเนาะ” เอ่ยขณะเดินเคียงข้างคนรัก ทอดสายตามองชายหาดที่ยาวสุดลูกหูลูกตาอย่างสบายใจ ส่วนเจ้าตัวน้อยก็นิ่งเงียบอยู่บนหลังผู้เป็นพ่อ

“อยู่สักเดือนดีไหมล่ะถ้างั้น”

“บ้าแล้ว...ใช่สิตัวเองอยู่ได้แต่เค้าต้องไปรักษาคนไข้น่ะสิ”

“แต่อันดาอยากอยู่ที่นี่นานๆ” จากที่นิ่งเงียบมานาน เด็กหญิงก็เอ่ยขึ้นบ้าง

“อันดาก็ต้องกลับไปเรียนไงลูก เอาไว้ช่วงปิดเทอมพ่อกับแม่จะพามาใหม่นะคะ” เอื้อมมือเรียวไปลูบศีรษะลูกสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

“คุณแม่สัญญาแล้วนะคะ”

“จ้าแม่สัญญา”

“อันดาจะไปเรียนว่ายน้ำให้เก่งๆ แล้วเราสามคนมาแข่งว่ายน้ำกันนะคะ”

“ได้เลยลูกรัก ว่ายน้ำเก่งตอนไหนพ่อจะพามาตอนนั้นเลยดีไหม” เอ่ยเอาใจลูกสาวสุดที่รัก

“ดีเลยค่ะ” ดีใจจนชูกำปั้นน้อยๆ ขึ้นข้างหนึ่ง

เดินเล่นริมหาดไปได้สักพักก็ต้องกลับมาที่รีสอร์ท นั่นเพราะดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับของฟ้าทำให้ทัศนวิสัยเริ่มมืดลงเรื่อยๆ มาถึงห้องพักแล้วทั้งหมดก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ หลังจากนั้นก็สั่งอาหารทะเลมาทานที่ระเบียงหน้าห้องนั่งชมแสงจันทร์ในยามค่ำคืน ลมโกรกโชยพัดมาอยู่เนื่องๆ ทำให้อากาศเย็นกำลังดี เหมาะแก่การนั่งดินเนอร์ใต้แสงเทียนเป็นที่สุด

“ค่อยๆ กินนะลูกเดี๋ยวจะติดคอเอา” ไอร์นั่งแกะเปลือกกุ้งเผาตัวโตส่งให้ลูกสาวอย่างไม่ขาดช่วง เจ้าตัวน้อยพยักหน้ารับ ดูท่าทางจะสนุกกับการกินมากเหลือเกิน

“แกะให้แต่ลูกแกะให้พ่อมั่งดิครับ” ต๋องนั่งมองคนทั้งสองอย่างมีความสุข ก่อนจะเรียกร้องความสนใจจากคนรักบ้าง

“มีมือก็แกะเองดิ โตแล้วนี่นา”

“ไม่เอาเค้าจะให้ตัวเองแกะให้” ทำสีหน้าท่าทางออดอ้อนซะเต็มที่

“สงสัยมาเที่ยวคราวนี้จะมีลูกสองคนมั้งเนี่ย” ปากก็เอ่ยไปอย่างนั้นแต่มือกลับยื่นกุ้งที่แกะแล้วให้คนรัก “อ่ะ”

“ไม่อาวว...อยากให้ป้อน” ต๋องทำตัวยังงอแงอย่างกับเด็ก

“ขนาดลูกยังกินเองได้เลย อย่าเยอะ!”

“นะๆ ๆ”

เมื่อเห็นใบหน้าหล่อที่ยื่นเข้ามาใกล้ก็ต้องใจอ่อน ไอร์หยิบกุ้งขึ้นไปป้อนให้คนรักแล้ว แต่โดนอีกฝ่ายจับมือเอาไว้ แล้วจุมพิตที่หลังมือตอบแทนก่อนจะปล่อยคืนมา

“พอใจรึยัง”

“พอใจที่สุดคร้าบบ” ยิ้มหวานให้อีกฝ่าย แต่ได้รับการแยกเขี้ยวกลับคืนมา

“อันดาเอาอีกไหมลูก”

“ไม่ค่ะอันดาท้องป่องแล้วเนี่ย” พูดแล้วก็ลูบที่ท้องตัวเองให้ผู้เป็นแม่ดู ไอร์เห็นอย่างนั้นก็หัวเราะออกมา

“ถ้างั้นก็เข้าไปล้างมือในห้องแล้วค่อยออกมานะลูก” ไอร์บอกกับลูกสาว

“ค่ะ” เจ้าตัวเล็กตอบรับแล้วดื่มน้ำจนหมดแก้ว หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปล้างมือตามคำสั่งของผู้เป็นแม่

เมื่อลูกสาวเดินไปแล้วต๋องก็เอ่ยประโยคสำคัญ ที่อยากจะบอกกับคนรักตั้งแต่เช้าแล้ว

“คืนนี้ขอนะ” ทำหน้าเจ้าเล่ห์พร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก

“จะบ้าเหรอลูกก็อยู่” คนที่ได้ยินทำหน้าเหวอเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเอ่ยประโยคนี้ออกมา

มาเที่ยวกับลูกยังจะคิดเรื่องนี้อยู่อีกไอ้คนลามก

“ก็รอให้ลูกหลับก่อนไง”

“แล้วถ้าลูกตื่นขึ้นมาเจอพอดีจะทำยังไง ไม่ต้องเอาปี๊บคลุมหัวเวลาคุยกับลูกเหรอวะ”

“ในห้องน้ำก็ได้”

“มึงนี่หื่นไม่เลือกที่เลยจริงๆ” ว่าให้อีกฝ่าย

“สรุปได้ป่ะละ” ทำหน้าหงอยเพราะคิดว่าคนรักคงไม่ยอมเป็นแน่

“อืม...ก็ได้แต่รอให้ลูกหลับก่อนนะช่วงดึกๆ โน่น” ในที่สุดเจ้าตัวก็ไม่อาจทนการรบเร้าของไอ้คนหน้าหล่อตรงหน้านี้ได้

“น่ารักที่สุดเลยคร้าบบบ” เอื้อมมือหนาไปหยิกเบาๆ ที่แก้มนุ่มด้วยความดีอกดีใจ ในเมื่อคนรักยังไม่มีวี่แววว่าจะท้อง เขาจะไม่ละทิ้งความพยายามอย่างแน่นอน

และคืนนั้นก็เป็นไปตามที่ได้พูดคุยตกลงกันไว้

ช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสามคนตระเวนเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในหัวหินได้สามวัน ต๋องก็พาลูกเมียเดินทางกลับมากรุงเทพมหานคร



หนึ่งเดือนผ่านไป

การใช้ชีวิตคู่เริ่มลงตัวมากขึ้น ทุกๆ วันผ่านพ้นไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม ไอร์กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลและเปิดคลีนิคควบคู่ไปด้วย ส่วนต๋องก็ตั้งใจทำงานจนเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่สามารถสร้างกำไรให้บริษัทได้เป็นกอบเป็นกำ และก็ไม่ลืมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีควบคู่ไปด้วย

ขณะนั่งทำงานอยู่ในห้องก็มีสายโทรเข้ามา ต๋องผละจากการอ่านเอกสารปึกใหญ่บนโต๊ะ แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูที่หน้าจอ ก่อนจะยิ้มกริ่มออกมาเมื่อรู้ว่าเป็นใคร

“ว่าไงครับที่รัก” รับสายแล้วหยอดคำหวานให้ทันที

[“วันนี้ไม่ต้องไปรับอันดาที่โรงเรียนนะ เดี๋ยวเค้าจะไปรับลูกเอง”] ปลายสายเอ่ย

“อ้าว! ทำไมล่ะ”

[“เอาน่า...อย่าถามเยอะเดี๋ยวจะไปรับเอง”]

“โอเค...ถ้างั้นเจอกันที่บ้านนะครับที่รัก”

[“ไม่ใช่ที่บ้านแต่ที่เดิมของเราต่างหากล่ะ”]

“ที่เดิมงั้นเหรอ..” เอ่ยพลางคิดไปด้วย ใช่สินะวันนี้เป็นวันที่ไอร์เคยสัญญาไว้นี่นา

[“อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้”]

“จำได้สิคร้าบบ ถ้างั้นเจอกันที่นั่นนะครับ”

[“เคๆ แล้วเจอกันนะ”]

วางสายไปแล้วต๋องก็ยกยิ้มออกมา นั่งนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์จะพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้ และรู้สึกโชคดีที่คู่ชีวิตคือไอ้เพื่อนรักคนนี้ คนที่รักและเข้าใจเขาทุกอย่าง มันคือพรหมลิขิตจริงๆ



เมื่อมาถึงต๋องก็ยืนรอลูกกับเมียอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ยืนทอดสายตามองดูทิวทัศน์ที่งดงามของวัดอรุณราชวราราม ในช่วงที่ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงมาบรรจบที่ยอดพระปรางค์ ท้องฟ้าที่เคยมีสีครามสดใสเปลี่ยนเป็นสีทองผ่องอำไพ ยิ่งตกกระทบลงบนผื้นน้ำเจ้าพระยายิ่งทำให้เกิดความงดงามเหลือคณานับ บวกกับเสียงเรือหางยาวที่ดังแว่วมาเป็นระยะๆ ยิ่งทำให้ผืนน้ำแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

“คุณพ่อคะ” ได้ยินเสียงที่คุ้นหูของลูกสาว ก็หันกลับมามองแล้วยิ้มให้ พร้อมอ้าแขนรอรับเจ้าตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด

“คิดถึงจังเลยเจ้าตัวเล็กของพ่อ” ว่าพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวทั้งสองข้างสลับกันไปมา ด้วยความหมั่นเขี้ยว

“น้องอันดาก็คิดถึงคุณพ่อค่ะ”

“รอนานไหมอ่ะ”

“จะให้รอตลอดชีวิตก็รอได้” โปรยยิ้มให้อีกฝ่าย

“แหวะ! เลี่ยนจะแย่” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปยืนข้างๆ ขณะอีกฝ่ายยืนจับมือลูกสาวไว้

“ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน ที่นี่ก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยเนาะ” ไอร์ทอดสายตามองไปอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อชมความงดงามของวัดอรุณราชวรารามเหมือนเช่นเคย

“ใช่สวยเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เหมือนมึงที่ยังอยู่ข้างๆ กูตลอดไม่เคยหายไปไหนเหมือนกัน”

“ไหนบอกว่าเวลาอยู่ต่อหน้าลูกจะไม่พูดกูมึงไงล่ะ” หันไปมองหน้าคนรักแล้วยิ้มกริ่มให้

“พ่อขอพูดไม่เพราะวันนึงนะลูก” ต๋องก้มลงมาเอ่ยกับลูกสาวตัวน้อย ที่กำลังยืนจับแผงรั้วเหล็กชะโงกหน้ามองไปยังผืนน้ำกว้างอย่างตั้งใจ

“น้องอันดาอนุญาตค่ะ” ยิ้มให้ผู้เป็นพ่อแล้วหันไปสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าต่อ

“ต๋อง...กู....มีเรื่องจะบอก” ถอนหายใจเสียงดังแสดงสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำให้คนที่เห็นใจคอไม่ดีเอาเสียเลย

“เรื่องอะไรวะ? ทำไมมึงทำหน้าอย่างนั้นกูใจคอไม่ดีเลย” ขมวดคิ้วมองคนรักด้วยความเป็นห่วง

“ตอนนี้กู....ท้องได้สี่สัปดาห์แล้วว่ะ” พูดจบก็ยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย

“จริงดิ! เยสสส!! ในที่สุดกูก็ทำสำเร็จ” เมื่อได้ยินว่ากำลังจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกคน ต๋องก็ดีใจยกใหญ่แล้วสวมกอดคนรักเอาไว้แน่น

“ปล่อยก่อนดิวะอึดอัด”

“โทษทีๆ กูดีใจไปหน่อย” ว่าแล้วก็หันไปเอ่ยกับลูกสาว “อันดาครับหนูจะได้อุ้มน้องแล้วนะดีใจไหม”

“เย้ๆ ๆ ๆ ! อันดาจะได้อุ้มน้องแล้ว” เจ้าตัวเล็กก็ดีใจไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อ กระโดดโลดเต้นเสียยกใหญ่

“สงสัยคงจะเป็นคืนนั้นในห้องน้ำแน่ๆ รู้อย่างนี้กูพาไปค้างนอกสถานที่ตั้งนานแล้ว”

“อย่ามโนมันอาจจะไม่ใช่ครั้งนั้นก็ได้เว้ย” ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย

“กูสัญญาว่าจะดูแลมึงกับลูกให้ดีที่สุด จนคนอื่นต้องอิจฉาเลยล่ะ” สัญญากับคนรักด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ กูแค่ขออย่างเดียวก็พอ”

“อะไรวะ”

“ขอแค่มึงอย่าลืมกูกับลูกเหมือนคราวนั้น”

“กูสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน”

ทั้งสองมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ก่อนจะหันไปมองทิวทัศน์สวยๆ ของผืนน้ำเจ้าพระยา มือน้อยๆ ของอันดาถูกพ่อกับแม่จับไว้คนละข้างอย่างมั่นคง สื่อว่าคนทั้งสองจะอยู่เคียงข้างลูกสาวคนนี้ตลอดไป



The End.


ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ ในที่สุดก็จบแล้วแบบ Happy Ending เรื่องนี้มีขายในรูปแบบอีบุ๊กด้วยน้า อยากได้เก็บไว้อ่านโหลดได้ที่ www.mebmarket.com พิมพ์ชื่อเรื่องได้เลยจ้า

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4: จบแล้ววววววว
 :L1:ขอบคุณผู้แต่งค่ะ ในที่สุดบ้านนี้ก็มีความสุขซะที

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ยินดีด้วยนะอันดา ที่จะมีน้อง  :mc4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
มีน้องอีกคนแล้วววววววว  :katai2-1:
 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด