"ชื่อมินครับ เนมิน แต่รับรองว่ากินแล้วไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลแน่นอน กินหน่อยนะครับ"สีหน้าและน้ำเสียงเว้าวอนทำให้คนฟังใจอ่อน ไม่ว่าใครเจออาการแบบนี้ของเนมินเป็นต้องโอนอ่อนคล้อยตามเสมอ
"ชื่อคล้ายพี่เลยครับ พี่ชื่อภูริ เรียกพี่ภูก็ได้"คนพูดยิ้มหวานแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ
"............"คนที่ถูกกล่าวว่าชื่อคล้าย นั่งทบทวนระหว่างสองชื่อแต่ก็ไม่เห็นมีอักษรตัวใดคล้ายกันอย่างที่บอก พอเงยหน้าทำท่าจะถามย้ำเกี่ยวกับชื่อก็เห็นเพียงรอยยิ้มสดใสส่งผ่านมาให้
"ชิ้น ไหนหวานน้อยสุดล่ะครับ"ชื่อนามไพเราะน่ารักสมตัวทำให้คนฟังนั่งยิ้มกับท่าทางน่าเอ็นดู เขายังเหลือเวลาหยอกล้อร่างบางนี้อีกพักใหญ่ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าการนั่งรอเวลาที่ร้านกาแฟเงียบๆ จะมีอะไรน่าสนใจขึ้นมา
" อืม...อันนี้รสกาแฟครับ มีรสขมของกาแฟหน่อยๆ"เนมินใช้ปลายนิ้วเล็กๆ หยิบชิ้นที่พูดถึงยืนให้ตรงหน้าเพื่อบังคับทางอ้อม แต่คนถูกบังคับโดยไม่รู้ตัวกลับคิดเป็นอย่างอื่น เขาแกล้งอ้าปากช้าๆ รอดูปฏิกิริยาร่างบางว่าจะทำอย่างไร
"อั้มมม....อร่อยมั้ย"เนมินไม่ ได้รู้ถึงสายตารอบข้างที่พากันมองตาค้างกับการป้อนคุ้กกี้ให้ถึงปาก ดูจากคนภายนอกแล้วเหมือนการออดอ้อนของคู่รัก ซึ่งความจริงแล้วคนที่นั่งยิ้มบางๆ พร้อมละเมียดเคี้ยวคุ้กกี้ชิ้นเล็กๆ ก็จงใจทำให้คล้ายอย่างนั้น แต่ไม่คิดว่าร่างบางจะป้อนให้จริงๆ
ดวงตากลมโตจ้องมองอย่างจดจ่อ รอคอยคำชมที่คาดว่าจะได้ยิน ตรงข้ามกับอีกคนที่พยายามยื้อเวลาร่วมนาทีกว่าจึงจะพูดออกมา
"ก็........อืม....มินอายุเท่าไหร่ครับ"
"......"
"พี่จะเทียบฝีมือทำขนมกับอายุไง ว่าไงครับ"
"ยี่สิบสามครับ"เนมินตอบไปทั้งๆ ที่รู้สึกคาใจกับคำอธิบาย
"เพิ่งจบเหรอครับ"
"อ่า....ครับ แล้ว....ตกลงว่าไงครับ คุ้กกี้น่ะ"ร่างบางเริ่มหงุดหงิดที่ไม่ได้ฟังคำตอบสักที น้ำเสียงห้วนสั้นทำให้คนถูกถามยิ้มล้อก่อนจะตอบเพื่อยืดเวลาคุย
"อร่อยดีครับ"
"นั่นไง บอกแล้วว่าอร่อย งั้นทานให้หมดเลยนะครับ"
"หมดนี่คงไม่ไหวจริงๆ กินมากๆ แล้วมันฝืดคอนะครับ"ภูริตอบตามตรง โดยนิสัยแล้วเขาไม่ใช่คนกินจุบจิบสักเท่าไหร่
"...........ฝืด...คอ"เนมินครางในลำคอถามย้ำเบาๆ....คำดูถูกคำใหม่ปักลงกลางใจทำให้หน้าเสียและส่อแววน้อยจนจนภูริสงสัย แต่ก็ไม่เข้าใจท่าทางของเนมินเลยสักนิดเดียว
"ครับ ฝืดคอ พี่ไม่ค่อยกินขนมพวกนี้เท่าไหร่ แต่กินคู่กับกาแฟก็อร่อยดีเหมือนกัน ขอบคุณนะครับ"
"....งั้นผมไม่รบกวนแล้วกัน เชิญทานตามสบายนะครับ เอ่อ....ทานอีกสักชิ้นสองชิ้นก็ยังดีนะครับ"ก่อนเดินจากไปเนมินยังวิวายกล่าวย้ำอีกรอบ
"เดี๋ยวก่อนครับมิน"
"ครับ"
"ขอเบอร์ติดต่อได้ไหม เผื่อว่าพี่กลับไปแล้วไม่สบายจะได้โทรตามเจ้าของไข้ถูก"
"เอ่อ...ได้ครับ เบอร์ 08..."
"พี่มินมากวนอะไรลูกค้าตรงนี้คะ"ร่างเล็กบางยืนหน้าบึ้งท้าวเอวถามเจ้านายเสียงดังกว่าปกติ
"เปล่านะจอย พี่เอาคุ้กกี้มาให้เฉยๆ ไม่ได้กวนเลย"
"อู้งานก็บอกมาเถอะ มาทำโกโก้ร้อนให้กินหน่อยสิ ฝ่าฝนมาหนาวมากๆ เลย"
"ได้จ้าได้ ผมเปียกมั้ยเนี่ย ไปเช็ดให้แห้งๆ ด้วยนะ กินยาแก้ไข้กันไว้ดีมั้ย"สองคู่ซี้เดินกลับไปหลังเคาน์เตอร์พูดคุยหยอกล้อกันจนลืมหนึ่งลูกค้าไว้เบื้องหลัง ภูริอมยิ้มกับท่าทางลูกน้องที่ทำตัวเป็นเป็นแม่ไก่ปกป้องลูกเจี๊ยบ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจขัดจังหวะ แต่....ยากหน่อยก็ดี เขากำลังว่างและอยากหาอะไรสนุกๆ ทำ
"พี่ไปคุยอะไรกับเขาตั้งนานน่ะ ไม่ได้ไปหาเรื่องใช่มั้ย"จอยถามสิ่งที่คาใจ เธอเข้ามาเห็นท่าทางลูกค้ารูปหล่อที่ส่งสายตาหวานเยิ้มโปรยเสน่ห์ในเนมินเต็มที่ เธอรู้ดีว่ารุ่นพี่คนนี้เป็นคนน่ารัก ใครก็อยากทำความรู้จักและสร้างความสนิทสนม ซึ่งเนมินก็มอบไมตรีให้ทุกคนเท่าๆ กัน เขาชอบมีเพื่อนเยอะ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนรอบๆ ตัวหวังความสัมพันธ์ในรูปแบบที่เกินเพื่อน
"ก็เอาคุ้กกี้ให้กินไง ตอนแรกไม่ยอมกิน พี่ต้องบังคับตั้งนานกว่าจะยอม"เนมินพูดด้วยท่าทาแข็งขัน ถ้าจอยได้เห็นตั้งแต่ต้นก็คงจะรู้ว่า...คำว่าบังคับ...กับ...อ้อน....เนมินแสดงออกมาไม่ต่างกันเลย
"แล้วเขาว่าไงล่ะ อร่อยใช่มั้ย"
"ใช่ แต่ดันต่อท้ายด้วยว่ากินมากแล้วฝืดคอ อยากจะยกโต๊ะขึ้นมาทุ่มมากๆ เลยนะ แต่พี่คงยกคนเดียวไม่ไหว จอยน่าจะมาเร็วกว่านี้"น้ำเสียงจริงจังจนรุ่นน้องไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดเล่นหรือจริง
"เขาอาจไม่ชอบคุ้กกี้ก็ได้ แต่ยังไงก็บอกว่าอร่อยแล้วนี่ ช่างเขาเถอะ"
"แต่....ฝืดคอเลยนะจอย ฝืดคอน่ะ เข้าใจใช่มั้ย"
"ไม่ต้องสนเขาหรอกน่า คนอื่นติดใจกันทั้งนั้น กับแค่ลูกค้าหนึ่งคน ไม่ต้องใส่ใจหรอก"จอยพยายามเบนความสนใจ เธอไม่อยากให้รุ่นพี่ทำอะไรที่สร้างความใกล้ชิดกับอีกฝ่ายมากกว่านี้ เดิมที่ก็คิดว่ารูปร่างหน้าตาสุภาพ เกือบจะเรียกว่าเงียบขรึมด้วยซ้ำ แต่จากท่าทางเมื่อครู่ดูแล้วก็ต้องกลับคำพูดและเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ท่าทางจะเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวไม่เบาทีเดียว
"ผมเปียกนี่ ในห้องเก็บของมีไดร์อยู่ ไปนั่งเป่าให้แห้งก่อนไป เดี๋ยวพี่ชงโกโก้รอ"เนมินจับปลายผมเปียกชื้นเบาๆ ก่อนจะรุนหลังรุ่นน้องให้เดินไปด้านหลังร้าน
ช่วงขณะที่อยู่คนเดียวเขาก็กลับมาคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ ความจริงตอนที่รู้ว่าภูริไม่ชอบรสหวาน เขาก็คิดจะทำคุ้กกี้ที่มีรสออกขมเพิ่มหลายๆ ชนิด แต่นี่ไม่ชอบคุ้กกี้ แถมยังบอกว่าฝืดคออีก เขาคงต้องหาอะไรมาแก้ฝืดอีกแล้วล่ะมั้ง ถ้าเป็นเค้กนุ่มๆ ก็น่าจะใช้ได้ เค้กช็อคโกแล็ตคงเหมาะ แต่มันก็มีส่วนผสมของแป้งที่ดูดซึมน้ำเหมือนกัน กินไปแล้วอาจบอกว่าฝืดอีกก็ได้ ถ้าอย่างนั้นคัสตาร์ดคงเข้าท่ากว่า รสชาติไม่หวานมากแล้วก็ไม่ฝืดคอด้วย
"....น....มิน.....มินครับ"เสียงเรียกครั้งที่สามดังอยู่ตรงหน้าเรียกเอาสติของคนที่เหม่อลอยกลับมา
"อ๊ะ...ครับ เรียกผมเหรอ"
"ครับ ก็....เอาค่ากาแฟกับคุ้กกี้มาจ่าย พอดีมีธุระคงต้องไปแล้ว"
"ค่ากาแฟอย่างเดียวก็พอครับ ทั้งหมดสามสิบห้าบาทครับ"เนมินรับเงินมาตรงจำนวนที่บอกแต่คนตรงหน้าก็ยังไม่จากไป เขายื่นใบเสร็จให้เพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงรอหลักฐานการชำระเงินอยู่
"แล้วเบอร์ล่ะครับ เผื่อพี่เป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ"
"อ๊ะ! ขอโทษครับ ลืมไปเลย นี่ครับนามบัตรของร้าน"เนมินหยิบนามบัตรสีเอิร์ธโทนในกล่องไม้บนเคาน์เตอร์ส่งให้ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งรับไปไล่สายตาอ่านพบเบอร์โทรของร้านและเบอร์มือถือเจ้าของร้านก็ฉีกยิ้มกว้างพร้อมขยิบตาให้ร่างเล็กที่มองด้วยอาการมึนงงกับท่าทางดีใจแบบนั้น
"ขอบคุณนะครับ เจอกันพรุ่งนี้ครับ"
*******************************************
คาดว่า....อีกไม่เกินสิบตอนก็จบแล้วนะ
คิดถึงคนอ่าน
