[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 267991 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ sweetie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรื่องปากท้องสำคัญเสมอ  :laugh:  จะไปไหนก็แอบแง้มๆบอกใครไว้สักคนนะน้องอัยย์  อันตรายยย

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ดลจะเป็นตัวแปรอะไรไหมหนอ

ออฟไลน์ pearlluv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องอัยย์จะไปไหนนนนน  รอตอนนหน้าเลยๆๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
จะยังไงเนี่ย
จะโดนดลหลอกไหมอัยย์

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ขู่ฟ่อๆเลย อิพิษษษษ / วันนี้เด็กชายพิษฌาณ อายุ 3 ขวบ ได้ขิงอวดความว่ายน้ำเก่งของตัวเองไปอีก 1 เรื่อง 55555 เอ็นดูท่านหัวหน้าพรรค

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สงสารคนแพ้ท้องแทนเมีย
ส่วนคุณดลอะไรนี่จะมาดีหรือมาร้ายกันแน่

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
บ.จัดหางานนี่กลัวว่าจะหลอกอ่ะ อย่าไปสมัครสุ่มสี่สุ่มห้านะน้องอัยย์ ถ้าจะหนีตาพิษอยากให้ไปหาอคินทร์มากว่า

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ปากแข็ง คดีเก่าก็ยังไม่เคลียร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จะทำอะไรต่อเนี่ยอัยย์ TT

ออฟไลน์ Chakaimook

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณพิษเริ่มยอมรับใจตัวเองแล้ว แต่น้องอัยย์นี่สิ จะเริ่มหันมารักคุณพิษได้ไหมหนอออ~  :katai1: :katai2-1: :katai5:

ออฟไลน์ lalilali

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ฌาณแพ้ท้องหรือเปล่าน้า ดูอาการไม่ปกติ
คงรักอัยย์มากอะเนาะ ถึงมีอาการแทนแบบนี้
แหมมม หวงล่ะสิ มาทำเข้มทำขู่เค้าน่ะ

อัยย์น่าเอ็นดูมากเลยน้า แค่ดูแลใส่ใจน้องบ้าง
ไม่ได้เรียกร้องไรมากเลย มีของกิน พาเที่ยว
แค่นี้เจ้าบู้บี้ แม่เด็กน้อยก็พอใจแล้ว

แล้วดูสิ เข้าใจผิด ฟังเพี้ยน จนเคืองและงอแงเลย
สงสารน้อง ต้องมาเจอเรื่องเดิมๆ


ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
จัดการแบบไหน

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ขอให้ท้องๆๆ ^^

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
รักกันไม่รู้ตัวแล้ว

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
อัยย์ตามมาจับผิดสามีเหรอคะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
พิชช์ฌาณหึงอัยย์ใช่มั้ย

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 21



 

 

 

 

          อาคิราห์เหลือบมองผู้ชายตัวใหญ่ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ  พิษฌานไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำตั้งแต่พาเขามาจากร้านคาเฟ่แห่งนั้น  อีกฝ่ายกำข้อมือของเขาเอาไว้แน่น  และเขาก็ไม่กล้าสะบัดออก

            ถ้าถามว่าเป็นเพราะอะไร...บางทีอาจจะเป็นเพราะแววตาคมกริบนิ่งสนิทคู่นั้นที่บอกชัดว่าเจ้าตัว ‘เอาจริง’ ก็ได้กระมัง  ขืนทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าอาจจะโดนเตะไส้แตกก็ได้...ความรู้สึกประมาณนั้น

            เขาเลยไม่กล้าขัดขืนนอกจากเดินตามอีกฝ่ายกลับไปที่โรงแรมและเข้ามายืนจ้องตัวเลขบอกชั้นในลิฟต์...มาถึงชั้นบนสุดจนได้  อัยย์เกือบจะถอนหายใจออกมาเลย

            อึดอัดชะมัด..

            ดาดฟ้าโล่งๆก่อนหน้านี้ถูกตกแต่งเอาไว้ด้วยดอกกุหลาบสีแดงสดอย่างมีศิลป์  โต๊ะอาหารถูกจัดเตรียมเอาไว้สวยงามพร้อมกับเทียนกลางโต๊ะ  ดูเหมือนจะมีใครบางคนลงทุนกับอาหารมื้อนี้พอสมควร

            “...............”  พิษฌานไม่ได้พูดอะไรเลยตอนที่พาเขามาที่โต๊ะแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้  อาคิราห์เม้มปาก ทรุดตัวลงนั่งเงียบๆ อีกฝ่ายเดินอ้อมไปนั่งยังฝั่งตรงข้าม

            แสงเทียนสีส้มสะท้อนเข้ากับเสี้ยวหน้าคมกริบเพียงครึ่งเดียวแต่ก็มากพอที่จะมองเห็นความเครียดขรึมปนดุดันในดวงตาคมคู่นั้น  เจ้าโอเมก้าขยับตัวบนเก้าอี้  นึกเจ็บใจที่ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นเด็กเล็กๆที่เพิ่งกระทำความผิดมา  ทั้งๆที่คนผิดมันคือฝ่ายนั้นไม่ใช่หรือไง

            เขาควรจะลุกหนี  ใช่...คิดได้ดังนั้นอาคิราห์ก็ขยับตัว  บริกรเข้ามาเสิร์ฟอาหารพอดี  กลิ่นหอมๆของเครื่องเทศกับอาหารทะเลสดๆทำให้ไขว้เขวได้ทันที  ถึงจะจัดการเค้กมาแล้วแต่ว่าพอเห็นอาหารหน้าตาน่ารับประทานตรงหน้าก็พาให้รู้สึกหวั่นไหว  อัยย์ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ต่อ

            พิชช์ฌานกำลังเครียดจัด  ชายหนุ่มบอกตัวเองเป็นรอบที่ร้อยแล้วว่าอย่าใส่ใจกับความหงุดหงิดนี้ แต่ว่าทันทีที่ลูกน้องรายงานมาว่าอาคิราห์หายไปพร้อมกับนายธีรดลนั่น  หัวใจของเขาก็ร้อนรนยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า  ไม่ๆ..เขาใจเย็นพอที่จะอดทนยืนรออยู่หน้าร้านคาเฟ่แห่งนั้นอย่างสงบแทนที่จะบุกเข้าไปถล่มร้านให้พังพินาศแล้วลากตัวไอ้นักธุรกิจหน้าหยกนั่นออกมาจัดการให้สาแก่ใจ

            ชายหนุ่มสั่นหัว  ไล่ความคิดเมื่อกี้ออกไป  ธีรดลกำลังจะเป็นนายทุนคนสำคัญของพรรคเขา  ไม่ควรทำอะไรรุนแรงแบบนั้น  แต่จับมัดโยนลงทะเลไปเลยก็น่าจะดี ...พิชช์ฌานหั่นมีดลงกับเนื้อในจานแรงๆ ระบายอารมณ์  กลิ่นเนื้อกับเครื่องเทศและอะไรต่อมิอะไรตรงหน้าทำให้เขาคลื่นเหียน  นั่นทำให้อารมณ์ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม   ไหนจะเจ้าโอเมก้าที่นั่งตาปูดเพราะร้องไห้นั่นอีก  ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยหรือไง  อยากจะตะคอกแรงๆดังๆว่าจะทำอะไรหัดคิดบ้าง  หน้าอย่างไอ้ธีรดลมันน่าไว้ใจนักเหรอถึงได้กล้าเดินไปกับมันได้   ถึงมันจะรูปหล่อบ้านรวยดูนิสัยดีก็ตาม   โธ่เว้ย..มันไม่ใช่เรื่องที่คนอย่างเขาจะต้องมานั่งกังวลเลยด้วยซ้ำ

            นายธีรดลไม่มีอะไรสู้เขาได้เลย  ใช่...ใจเย็นไว้นายฌาน  อย่าเพิ่งแตกตื่น  ก็แค่อาคิราห์ไปนั่งกินขนมกับเจ้าคนนั้น  คงนั่งพูดคำหัวเราะคำเหมือนเมื่อตอนกลางวัน  ยิ้มกว้างเห็นฟันสามสิบสองซี่  เหอะ...ทีกับมันละหน้าเป็น  ทีกับเขาหน้าบูดหน้าบึ้ง

            เสียงแกร๊กๆของมีดที่กระทบกับจานดังๆทำให้อาคิราห์ละสายตาจากจานอาหารของตัวเองขึ้นมองคนตรงข้ามที่กำลังหั่นเนื้อออกเป็นชิ้นเล็กๆอย่างเมามัน  เนื้อชิ้นใหญ่ถูกหั่นย่อยลงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพร้อมกับรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากผู้ชายตัวโต

            “เอ่อ..”  อาคิราห์มองเนื้อในจานอีกฝ่ายแล้วขมวดคิ้ว   ได้ข้อสรุปกับตัวเองว่าอีกคนคงเคี้ยวไม่ออก  เนื้ออาจจะเหนียวเกินไปเลยต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  ..แก่แล้วก็แบบนี้

            พิชช์ฌานเห็นสีหน้าของเจ้าโอเมก้าแล้วก็เพิ่งรู้สึกตัว  วางมีดลงกับจานหันไปคว้าแก้วไวน์มาดื่มแทน  เหลือบมองในจานของอาคิราห์ก็เห็นเจ้าตัวแบ่งอาหารในจานออกเป็นสองส่วน  ใจหนึ่งก็อยากถามเหมือนกันว่าทำแบบนั้นทำไม  แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากพูดด้วย  ...อุตส่าห์จองดาดฟ้าทั้งชั้นเอาไว้ให้ดินเนอร์กันสองคน  เลือกดอกกุหลาบสีแดงสดเพราะจำได้ว่าอีกคนเคยบอกว่าชอบ  แต่สุดท้ายดันต้องมาทะเลาะด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอะไรก็ไม่รู้

            มันน่าโกรธไหมล่ะ  ฮึ...เขาต่างหากที่ต้องเป็นคนโกรธ ไม่ใช่อีกฝ่ายเสียหน่อย  เล่นฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด  คืนนั้นพูดไปตั้งเยอะดันไม่ได้ยิน  มาได้ยินเอาตอนที่บอกว่าเป็นของเล่น  แถมยังตีความผิดอีก  มันน่าไหมล่ะ 

            แล้วยังจะออกไปกับ ‘คนอื่น’ อีก  พิชช์ฌานคิดวนกลับไปกลับมา

            นัยน์ตากลมโตเหลือบมองเขาจดๆจ้องๆ  ริมฝีปากอิ่มเป็นมันเพราะซัดเข้าไปครึ่งจานแล้วขยับเคี้ยวไม่หยุดปาก  มือก็จิ้มอาหารเข้าปากอย่างต่อเนื่องหน้าตาเฉยจนพิชช์ฌานหงุดหงิด  ใจคอจะไม่พูดอะไรก่อนบ้างเลยเหรอ

            “คุณ.....”  อาคิราห์อ้าปาก  นักการเมืองหนุ่มก็รีบสวนกลับมาทันที

            “ไม่ต้องมาอธิบายอะไรฉัน  ฉันไม่อยากรู้”

            “...ช่วยหยิบซอสให้หน่อยครับ”  อัยย์พูดจนจบ

            พิชช์ฌานเม้มปาก  รู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย  เอื้อมมือไปหยิบขวดซอสมายื่นส่งให้ไม่พูดไม่จา

            อาคิราห์รับมาเทใส่ข้างจานเงียบๆ  เขาเริ่มจะดูออกแล้ว...ท่าทีบางอย่างของนายพิษฌาน  ตอนแรกก็ดูน่ากลัวทว่าตอนนี้  พอสังเกตดีๆแล้วมันก็น่าขันเกินกว่าที่จะเชื่อว่านักการเมืองคนดังอย่างเค้าจะเป็นคนแบบนั้น 

            อัยย์ก้มลงกินต่อ  ทำเป็นไม่สนใจอีกคนที่เริ่มงุ่นง่านหันรีหันขวางขึ้นทุกที  ตักสลัดเข้าปากเคี้ยวได้สองสามคำก็ใช้ส้อมจิ้มเนื้อชิ้นโตของตัวเองที่แบ่งเอาไว้ใส่ในจานของพิษฌาน

            เจ้าของจานชะงัก  เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว  เห็นคนให้ทำหน้าเฉยๆ ไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ขมวดคิ้ว

            “..นี่”  เสียงห้าวๆเรียก  อาคิราห์ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง  “นี่เธอ...อาคิราห์”

            “เรียกผมเหรอครับ  ผมนึกว่าเรียกบริกร”

            “เธอนี่มัน...เหลือเกิน”  ถ้อยคำมารออยู่ที่ริมฝีปากแต่ว่าพิชช์ฌานไม่ได้พูดออกไปเพราะนึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ควรทำให้อีกฝ่ายวิ่งหน้าตั้งออกไปอีก  ขี้เกียจลงไปตามแล้ว  มันเหนื่อย  เขาต้องตั้งสติให้ดีก่อนที่จะปล่อยคำพูดออกไป

            ให้ตายสิ  ขนาดตอนปราศรัยใหญ่เขายังไม่รู้สึกเครียดขนาดนี้

            “หมายความว่ายังไงครับ”  คิ้วเรียวเลิกขึ้น  ท่าจิ้มกุ้งตัวใหญ่เข้าปากช่างน่าหมั่นไส้เหลือเกินในความคิดของพิชช์ฌาน  อยากจะเอาส้อมในมือจิ้มแก้มป่องๆนั้นสักทีแล้วก็งับปากอวบอิ่มที่ขยับขึ้นลงไม่หยุดนั้นด้วย

            “เรามาคุยกันด้วยเหตุผลดีไหม  เหมือนที่คนโตๆกันแล้วเขาทำ”  ชายหนุ่มสะกดอารมณ์พุ่งพล่านของตัวเองลงให้ราบเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้

            “คุณก็พูดมาสิครับ”  อาคิราห์ตอบเมินๆ

            “เธอ...ออกไปกับธีรดลทำไม”  พิชช์ฌานอยากจะกัดลิ้นตัวเอง  เขามีคำถามหลายข้อที่อยากถามแต่ดันถามข้อที่ฟังดูน่าขัน  ช่วยไม่ได้เลยที่เขาไม่สามารถจัดการกับความอยากรู้ของตัวเองได้  ถ้าไม่ได้คำตอบก็คงจะนอนไม่หลับ

            “ผมเจอเค้าข้างหน้าลิฟต์”

            “เจอหน้าลิฟต์แล้วก็ไปด้วยกันเลยเนี่ยนะ  มันไม่เกินไปหน่อยหรือไง  เธอไม่กลัวบ้างเหรอ  หรือว่าเห็นแก่กินจนไม่สนใจอะไร  มันเลี้ยงอะไรเธอ...ขนม?”

            “ใช่  ผมมันคนเห็นแก่กิน  ใครเลี้ยงอะไรผมผมก็ไปด้วยทั้งนั้นแหละ”  อาคิราห์พูดเสียงห้วน  “จะพูดแค่นี้ใช่ไหมครับ  ผมจะได้กินต่อ”

            “อาคิราห์”  อีกฝ่ายเสียงอ่อนลง  “เธออยากกินอะไรเธอก็บอกฉันสิ  ฉันเหมาร้านขนมในเมืองนี้ให้เธอหมดเลยก็ได้”

            “.......”  คนฟังไม่ตอบ

            “แต่ฉันไม่ชอบให้เธอไปกับคนอื่น  ไม่รู้หรือไงว่าเธอ...สำคัญ”  ประโยคหลังพิชช์ฌานพูดตะกุกตะกัก  รู้สึกแปลกๆอย่างไรชอบกล

            “ถ้าผมเป็นอะไรไป  คุณคงแย่เลยนะครับ”  อาคิราห์พูดขึ้นบ้าง  “แต้มต่อสำคัญของคุณนี่นะ”

            “ไม่ใช่อย่างนั้น”  พิชช์ฌานปฏิเสธทันควัน

            “อ้อ ครับ...ผมลืมไปว่าเป็นแค่ของเล่น  ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น”  พูดไปก็น้ำตาคลอ  อัยย์สูดน้ำมูกดังฟืด

            “อาคิราห์...ถ้าเธอยังประชดฉันอยู่แบบนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่อง”  นักการเมืองหนุ่มพูดเสียงแข็งขึ้น  “ฉันพูดเรื่องของเล่นนั่นจริง  แต่ลองไปถามหมอฉัตรดูก็ได้ว่าฉันพูดเต็มๆว่าอย่างไรบ้าง  มันคนละเรื่องกับที่เธอคิดแน่ๆ”

            “ผมจะคิดยังไง  เข้าใจว่ายังไงก็ช่างผมเถอะครับ  ไม่ต้องสนใจหรอก”

            “ต้องสนใจสิ  ฉันไม่อยากลงไปตามหาเธอข้างล่างแล้วนะ  รู้หรือเปล่าว่ามื้อนี้ฉันยอมจ่ายแพงมากเพื่อแลกกับวิวสวยที่สุดบนนี้”  คนพูดหยุดไปนิดหนึ่ง  “ฉันทำเพื่ออะไร  เธอไม่รู้เหรอ..”  เขาทอดเสียงอ่อน  มองหน้าคนฟังอย่างมีความหมาย

            อาคิราห์สบตาคมเข้มคู่นั้นแวบหนึ่ง  เขาไม่ชอบแววตาของพิษฌานในตอนนี้เลย  มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ...มากๆ  เหมือนมีอะไรบางอย่างคอยกวนใจกันตลอดเวลา

            แต่ว่าเขาก็ปัดมันทิ้งไปเสียอย่างไม่ไยดี

            “คุณเป็นนักการเมืองคุณพิษฌาน  คุณมีวาทศิลป์  คุณจะพูดยังไงก็ได้เพื่อให้คนคล้อยตาม”  อาคิราห์พูด  ตักซุปเข้าปาก   เช็ดน้ำตาลวกๆ  “ผมเองก็รู้ไม่ใช่ไม่รู้ว่าถ้านั่งฟังคุณพูดต่อก็คงหลงเชื่อเหมือนเดิม  แต่รู้ไหมว่าทำไมผมถึงยังนั่งอยู่ตรงนี้  ไม่ลุกไปเสียตั้งแต่แรก”

            จู่ๆ พิชช์ฌานก็ใจเต้นขึ้นมา  เหลือบมองหน้าคนพูดอย่างมีความหวัง

            “...เพราะว่าผมรอกินของหวาน”  เจ้าโอเมก้าพูดหน้าตายทั้งที่คราบน้ำตายังค้างอยู่บนผิวแก้ม

            พิชช์ฌานเกือบสบถออกมาแรงๆ  แต่ก็กลั้นเอาไว้ได้ทัน  เขาต้องอดทนเอาไว้ก่อน  ต้องใช้เวลา...เวลาเท่านั้นที่จะช่วยได้  พิศดูแววตาของอีกฝ่ายก็รู้สึกได้ว่าเจ้าตัวอารมณ์ดีขึ้นแล้ว  ไม่ได้โกรธขึ้งหรือจ๋อยเหมือนก่อนที่จะวิ่งออกไป

            “เธอคิดถูก  ของหวานที่นี่อร่อยมาก”  ชายหนุ่มพูด  เก็บอาการเอาไว้

            “สมกับเป็นโรงแรมของคุณธีรดล”

            “ฉันจะซื้อโรงแรมนี่พรุ่งนี้”

            “คุณซื้อไม่ไหวหรอกมั้งคุณพิษฌาน  คุณธีรดลบอกผมว่าโรงแรมของเขามูลค่าหลายร้อยล้าน”

            คนฟังจุ๊ปากอย่างฉุนเฉียวแต่พอสบตากลมโตคู่นั้นแล้วก็ฝืนหัวเราะออกมาเบาๆ

            “เธอจะแกล้งให้ฉันหมดตัวหรือไง”

            “จริงๆคุณก็ดูรวยออกนะ  เรื่องแค่นี้อาจจะเล็กมากสำหรับคุณก็ได้”  อาคิราห์พูดเนิบๆ  “เจนภพบอกว่าคุณมีธุรกิจ”  หางเสียงของโอเมก้าทำให้คนฟังจับความผิดปกติได้ทัน   พิชช์ฌานเก็บความสงสัยเอาไว้ในส่วนลึก  ตอบกลับไปเรียบๆเหมือนเวลาตอบนักข่าว

            “ฉันทำงานกินเงินเดือนรัฐ  ที่เห็นเหมือนร่ำรวยก็ของตระกูลครอบครัวพ่อแม่ฉันทั้งนั้น  ไม่ใช่ของฉัน”

            “นั่นสิ  ผมก็ว่า....งั้นคุณก็รวยสู้คุณธีรดลไม่ได้  โรงแรมนี้คงเกินความสามารถของคุณจริงๆ  ...ขี้โม้จังนะคุณพิษฌาน”

            “ฉัน...”  คนแก่กว่าตาลุก  อยากจะเถียงออกไปใจแทบขาดว่าแค่นี้ขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วงหรอก  แต่ก็ทำไม่ได้เพราะถูกดักคอเอาไว้ตอนแรก  ดูเหมือนอีกฝ่ายจะสนใจเรื่องความร่ำรวยของเขาเป็นพิเศษ  “เออ  ฉันซื้อไม่ได้หรอก  ก็พูดไปอย่างนั้นเอง”  พิชช์ฌานกระแทกเสียง  รู้สึกแพ้อย่างไม่ทราบสาเหตุ

            อาคิราห์ไอออกมาหลายครั้ง  มันฟังคล้ายเสียงหัวเราะอย่างประหลาด

            “ฉันว่าคนที่ดูร่ำรวยผิดปกติน่าจะเป็นท่านไตรคุณพ่อของเธอมากกว่านะ”

            “พ่อผมเป็นนักการเมืองมือสะอาด  ใครๆก็รู้ว่าพ่อไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับใครเลย  เงินที่พ่อมีเป็นมรดกสืบทอดมาจากตระกูลอลันไตร”

            พิชช์ฌานขยับจะแย้งแต่ก็เปลี่ยนใจพูดเนิบๆ

            “ตระกูลอัลฟ่าเก่าแก่ก็ล้วนมีมรดกทั้งนั้น  เธอไม่ควรจะมาสงสัยหรือจับผิดอะไรฉัน”

            “ผมก็พูดไปงั้นเอง  เกิดเงินที่จ่ายค่าอาหารมื้อนี้เป็นเงินสกปรกขึ้นมาจะได้รู้ตัวไว้”

            “ถ้าใช่...เธอจะทำยังไง  คายออกมาเหรอ”  พิชช์ฌานถามรวนๆ

            “ไม่หรอก  กลืนลงท้องไปแล้วผมเสียดาย  แค่จะได้รู้ว่ามื้อหน้าจะไม่มีโอกาสมานั่งกินแบบนี้แล้ว  แต่ต้องไปกินในคุกแทน”

            “ติดคุกมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก”

            “ก็คงไม่ยากหรอกมั้ง”

            “พูดแบบนี้อยู่ล้างจานแล้วกัน”  พิชช์ฌานว่า  ก้มลงมองในจานของตัวเองที่มีส่วนของเขาหั่นเละกินไม่ได้กับเนื้ออีกส่วนที่อาคิราห์แบ่งให้มา   “ครึ่งนี้เอามาใส่จานฉันทำไม  กินไม่หมดเหรอ”

            “ผม...”  อาคิราห์อึกอัก  หน้าแดงขึ้นจนคนมองชะงัก

            “อิ่มแล้ว?”

            “เปล่า ...ช่างมันเถอะ  ถ้าคุณไม่กินก็เอากลับมา”

            พิชช์ฌานเงียบไปครู่  มองหน้าเรียวหวานอย่างครุ่นคิด

            “ไม่หรอก  ฉันจะกินเอง  ...อุตส่าห์ส่งมาง้อฉันทั้งที”  ชายหนุ่มพูด  ก้มลงหั่นเนื้อเป็นชิ้นขนาดพอดีคำแล้วก็จิ้มเข้าปาก  “ไม่ลงทุนเลยนะเจ้าบู้บี้”  เขาพูดทั้งที่เคี้ยวเต็มปาก  รสชาติของเนื้อชั้นดีที่เคยเป็นของโปรดของเขาแผ่ซ่านพาให้คลื่นไส้อยากอาเจียนออกมา  แต่ว่าพิชช์ฌานก็ฝืนกินเข้าไปจนหมดทั้งชิ้นตามด้วยไวน์รสดีล้างปาก

            มื้อนั้นชายหนุ่มกินเข้าไปเพียงนิดเดียวเมื่อเทียบกับเจ้าโอเมก้าที่ซัดเรียบทุกจานไม่เหลือแม้แต่ซอส  พิชช์ฌานสั่งกาแฟดำขมจัดมาดื่มต่อ  ขณะที่อีกฝ่ายสั่งน้ำผลไม้มา

            “คืนนี้...คุณว่างหรือเปล่า”  จู่ๆ อาคิราห์ก็ถามขึ้นทำลายความเงียบ  คนฟังเลิกคิ้ว

            “ทำไมหรือ”

            “ผมถามดูเฉยๆ  เผื่อว่าคุณนัดใครไว้”  ชายหนุ่มพูดเร็วปรื๋อ  พยายามเก็บพิรุธเต็มที่  ในใจนึกถึงภาพหญิงสาวในคลิปขึ้นมาได้  ข้อความนั้นบอกว่าพวกเขานัดกันวันนี้  แต่เขายังไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอเลย...หรือว่าข่าวนั้นจะเป็นข่าวลวงแกล้งปั่นเขาเล่น

            “เธอหมายถึงใคร...คุณธีรดลหรอ”  พิชช์ฌานนึกปราดไปถึงนักธุรกิจหนุ่มคนนั้น  เขาหงุดหงิดขึ้นมาอีก  “อยากเจออีกหรือไง”

            “ทำไมคุณต้องหาเรื่องผมด้วย”  อัยย์ถามตรงๆ  “แล้วถ้าผมอยากเจอคุณธีรดลจริงๆ  มันเกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ”

            “อย่าลืมว่าเธอแต่งงานกับฉันแล้ว  ตั้งท้องลูกของฉันอีกต่างหาก”  พิชช์ฌานพูดเสียงห้วน  “จะทำอะไรก็เกรงใจกันบ้าง  ฉันไม่อยากให้ใครเขาว่าเอาได้ว่าโดนสวมเขา”

            “มันจะเกินไปหน่อยมั้งคุณพิษฌาน  ผมว่าคนที่ควรพูดประโยคนี้น่าจะเป็นผมมากกว่าคุณนะ”  อาคิราห์สวนกลับแล้วก็ยักไหล่  “แต่ผมก็จะไม่พูดหรอก  เพราะผมไม่ได้สนใจ”

            “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด”

            “ผมก็ไม่”  อาคิราห์ย้อนเสียงเขียวโดยไม่รู้ตัว  “แต่ถึงคุณทำ  ผมก็ไม่สนใจ...นั่นแหละที่ผมจะสื่อ”

            “เธอพูดอะไร  ฉันไม่เข้าใจ”  คนฟังเริ่มงง   “นี่พูดเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่า”

            “เฮอะ”  อีกฝ่ายพ่นลมออกมาแรงๆ  “ผมไม่สนใจก็จริง  แต่ก็อย่าให้ผมจับได้แล้วกัน  รับรองว่าชื่อเสียงคุณพิษฌานย่อยยับแน่”

            พิชช์ฌานขมวดคิ้วจนคิ้วแทบชนกัน  คิดตามที่ฝ่ายนั้นพูดอยู่อึดใจก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่  ฟังดูเหมือนเจ้าตัวขู่เขากลายๆ  หรือว่าอาคิราห์จะรู้เรื่องอะไรเข้า

            “เธอจะทำยังไงเหรอ”  เขาแกล้งถามตามน้ำไปก่อน

            “นักการเมืองแต่งงานแล้วแต่กลับมีข่าวคบชู้คงไม่น่าดูหรอก  ว่าไหมครับ  คะแนนนิยมคงตกมากๆ”  อัยย์พูดแล้วเปลี่ยนเรื่อง  “ผมอยากไปตกปลา  คุณพาผมไปได้ไหม  ผมเพิ่งซื้อเบ็ดตกปลามาใหม่”

            “อะไรนะ”  คนแก่กว่าตามไม่ทัน  “ตกปลามาเกี่ยวอะไรด้วย”

            “ไม่เกี่ยว  ผมแค่บอกว่าอยากตกปลา”

            “ตกมากินน่ะเหรอ”  พิชช์ฌานถาม  “ยังไม่อิ่มอีกหรือไง”

            “นี่คุณเห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย  เห็นแก่กินมากเลยใช่มั้ย”  คนฟังชักฉุน  ยกมือขึ้นลูบท้องตัวเองที่อิ่มจนอืด

            “ก็ไม่น้อยล่ะ  ขนาดโกรธฉันจะตายยังยอมกลับมานั่งกินข้าวเย็นต่อจนหมดได้  ฉันก็ว่าน่าจะเอาเรื่องแล้ว”  พิชช์ฌานพูดแกมหัวเราะ  “แต่ฉันก็ดีใจนะที่เธออุตส่าห์เสียสละเนื้อในจานมาง้อฉัน”

            “ผมไม่ได้ง้อ”  อาคิราห์กระแทกเสียงหน้างอ  “ผมแค่ขี้เกียจเคี้ยวเลยยกให้คุณ”

            พิชช์ฌานมองหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง  เอื้อมมือมาเช็ดคราบที่ปากให้

            “กินเลอะเทอะจริง  ลุกขึ้นได้แล้ว  นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ได้”

            “จะไปไหน”  อาคิราห์งง

            “เอ้า...ก็บอกอยากตกปลาไม่ใช่เหรอ  ฉันจะพาไปตกปลาไง” พิชช์ฌานตอบ  ลุกขึ้นเดินนำเขามาที่ลิฟต์  เจนภพมือขวายืนแอบรออยู่ก่อนแล้ว  ขยับเข้ามาหาคนเป็นนายทันที   “หาเรือให้ฉันลำนึงเจนภพ”

            “คุณฌานจะล่องเรือคืนนี้เหรอครับ”  เจนภพกระซิบถาม

            “ใช่”

            “แต่ว่ามันดึกแล้วนะครับ  น่าจะอันตรายด้วย  กลางทะเลผมไม่มั่นใจความปลอดภัย”

            เจ้านายเลิกคิ้ว  ลูกน้องเลยถอนหายใจเฮือก  กระซิบตอบตามตรงอย่างเกรงใจ

            “ผมเป็นห่วงว่าคุณฌานจะไปอาเจียนกลางทะเลน่ะครับ”  เจนภพพูดเสียงเบา  แอบมองอาคิราห์ที่ยืนรอลิฟต์อยู่ไม่ไกล  “ตอนที่นั่งเครื่องมาก็ทีนึงแล้ว  ผมเป็นห่วงภาพลักษณ์ของคุณครับ”

            คนฟังคิ้วกระตุก  ถึงจะเห็นด้วยกับที่มือขวาพูดแต่ก็รู้สึกเสียหน้าเกินกว่าจะยอมรับ  พิชช์ฌานกระแอมในคอ  พูดเสียงเข้ม

            “ขอบใจมากที่เป็นห่วง  ฉันไม่ได้กลัวเรื่องจะไปอ้วกอะไรหรอกนะ  แต่เห็นด้วยเรื่องความปลอดภัย  ถ้าอย่างนั้นล้มเลิกแผนนี้ไปก่อน   ฉันจะพาอาคิราห์ไปนอน...”

            “เอ่อ..”    เจนภพอึกอักขึ้นมาอีก  “มีคนรอพบคุณฌานอยู่ครับ”

            “ใคร”

            “คุณรินลดา”  ชื่อของหญิงสาวทำให้พิชช์ฌานสีหน้าเปลี่ยนไป  ดวงตาคมตวัดมองเจ้าโอเมก้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปในลิฟต์แวบหนึ่ง

            “ฉันไม่ว่าง”

            “เธอว่ามีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับพ่อของเธอครับ”  เจนภพพูดต่อ  “คิดว่าคงมีข่าวจากคุณชาติชาย”   ชื่อของนายทุนพรรครายใหญ่ทำให้พิชช์ฌานเปลี่ยนใจ

            “บอกให้เธอรอก่อน  ฉันจะตามไปพบทีหลัง”

            “ครับคุณฌาน”  เจนภพก้มศีรษะรับคำ  มองตามหลังร่างสูงใหญ่ที่ก้าวตามคู่สมรสเข้าไปในลิฟต์อย่างครุ่นคิด

            พิชช์ฌานมองหน้าอาคิราห์อย่างอึดอัดใจ  หลังจากที่เขาบอกว่าไปตกปลาคืนนี้ไม่ได้แล้ว  รอยยิ้มบนใบหน้าอีกฝ่ายก็จางหายไปเหมือนดอกไม้เฉาแดด

            “เรือไม่มี  คนก็ไม่พร้อม  ไว้โอกาสหน้านะอาคิราห์”  พิชช์ฌานพูดเสียงอ่อน  เดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในห้องพักสุดหรูของโรงแรม

            “ถ้าคุณทำไม่ได้...ก็อย่าพูดไปก่อนสิครับ”  อาคิราห์หยุดยืนกลางห้อง  หันกลับมาพูดเสียงเรียบ  “แต่ก็ช่างเถอะ  ผมชินแล้วล่ะกับการดีใจเก้อน่ะ”

            ร่างเล็กบางเดินไปที่ระเบียงแล้วเปิดประตูกระจกออก  ลมข้างนอกพัดเข้ามาแรงจนผ้าม่านปลิวไสวเช่นเดียวกับเส้นผมและชายเสื้อของเขา

            “ถ้าคุณจะอาบน้ำก่อน  ก็เชิญเลยครับ  ผมจะนั่งเล่นอยู่ตรงระเบียง”  อาคิราห์พูดต่อมาอีก

            “ฉันจะไปคุยงานต่ออีกหน่อย  เธอพักผ่อนตามสบาย  มีอะไรก็เรียกข้างหน้าได้  ฉันให้คนอยู่เป็นเพื่อนเธอ”  เสียงห้าวๆพูดก่อนจะตามด้วยเสียงปิดประตูห้องตามหลัง

            อาคิราห์โน้มตัวลงเท้าศอกกับราวอลูมิเนียม  ชะโงกมองออกไปข้างล่างที่เป็นสวนจัดเอาไว้สวยงาม  ถัดไปเป็นที่จอดรถและร้านค้าต่างๆที่ยังเปิดไฟอยู่บ้างบางร้าน  เลยออกไปอีกเป็นแนวต้นมะพร้าวกับชายหาดยาวๆต่อกับทะเลที่ตอนนี้เป็นสีเข้มจัด

            นึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาทั้งวันโดยเฉพาะที่โต๊ะอาหารเมื่อครู่นี้  เขายอมรับว่าตัวเองสับสนกับความรู้สึกที่พิษฌานแสดงออก  ถ้าไม่เคยได้ยินเรื่องเห่อของเล่นใหม่อะไรนั่น  เขาก็คงจะคิดว่าพิษฌานพูดจริง  แล้วก็เริ่มหวั่นไหวกับนัยน์ตาคมคู่นั้นขึ้นมาแน่ๆ

            ประเด็นก็คือ  คนอย่างพิชช์ฌานเชื่อได้แค่ไหน  นักการเมืองชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทำทุกอย่างเพื่อเกมการเมือง  ดูอย่างพ่อของเขาเป็นต้น  ถึงกับขังลูกตัวเองเอาไว้ในบ้านเพียงแค่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองมีลูกเป็นโอเมก้า  ฉะนั้นถ้าพิชช์ฌานจะทำบ้างก็คงไม่แปลก  ทำเป็นเหมือนว่ามีใจให้เขาจริงๆเพื่อจะได้รั้งเขาเอาไว้  หลอกล่อให้เก็บลูกในท้อง  จากนั้นก็ค่อยเอาไปใช้ประโยชน์ทีหลัง 

            อย่างน้อยตัวเขาเองก็ยังใช้ประโยชน์ได้  เหมือนที่ตอนแรกอีกฝ่ายลักพาตัวเขามาเพื่อจะต่อรองกับบิดาไงล่ะ  คราวนี้ข้อต่อรองคงสูงขึ้นอีกเพราะมีหลานในท้องของเขาอยู่ด้วยอีกคน  พิชช์ฌานคงลืมไปหรือว่าอาจจะไม่รู้ว่ามันจะไม่มีทางได้ผล  ...พ่อไม่ได้รักเขา  และก็คงไม่มีทางรักหลานจากโอเมก้าแน่

            เกมนี้สุดท้ายแล้วคนที่เสียใจที่สุดก็น่าจะเป็นเขาเองไม่ว่ามองมุมไหน  ทางเดียวที่ทำได้ก็คือก่อกำแพงขึ้นมาป้องกันตัวเองเอาไว้จากความร้ายกาจของพิษฌานเท่านั้น  เขาจะไม่ยอมเป็นตัวหมากบนกระดานของอีกฝ่ายเด็ดขาด

            อัยย์เดินกลับเข้าไปค้นหาใบปลิวแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน  รายละเอียดบอกว่าเป็นบริษัทรับจัดหางานให้โอเมก้าทั้งในและต่างประเทศ  แถมยังสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้โดยไม่ต้องใช่วีซ่าอีกด้วย  มันเป็นไปได้งั้นหรือ...เขาสงสัยในใจ  เหลือบมองเบอร์โทรติดต่อที่อยู่แนบท้ายพร้อมกับที่อยู่

            เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรไปตามหมายเลขนั้น  รอสายครู่เดียวปลายสายก็รับ

            “สวัสดีค่ะ  บริษัทรับจัดหางานโอเมก้าค่ะ”  เสียงผู้หญิงพูดขึ้น  อาคิราห์กลืนน้ำลายลงคอ

            “สวัสดีครับ  คือผม...อยากจะสอบถามเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ  มีรายละเอียดยังไงบ้างครับ”

            .................................................................................................



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk








           “นึกว่าคุณจะไม่ยอมพบฉันเสียแล้ว”  หญิงสาวพูดขึ้น  ยิ้มอย่างพอใจที่เห็นร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในโซนสระว่ายน้ำของโรงแรม   “ว่ายน้ำด้วยกันไหมคะ”  เสียงแหบนิดๆของเธอเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับหุ่นอวบอัดในชุดว่ายน้ำรัดรูปสีทองรับกับผิวเปล่งปลั่ง  พิชช์ฌานทอดสายตามองแล้วส่ายหน้า

            “ผมไม่ค่อยสบาย  คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมก็พูดมาได้เลย”

            “ใจร้อนจังนะคะ  รีบไปไหนหรอ  หรือว่าจะไปกล่อมภรรยาเข้านอน”  รินลดาพูดเนิบๆ  ปรายตามองชายหนุ่ม  “ไหนว่าแค่เกมการเมือง  สงสัยจะไม่ใช่แล้วล่ะมั้ง”

            “ผมไม่มีเวลามาเล่นลิ้นกับคุณหรอก  ตกลงคุณพ่อของคุณมีอะไรจะบอกผมงั้นหรือ”  พิชช์ฌานถามซ้ำอย่างอดทน

            หญิงสาวดึงตัวขึ้นจากน้ำ  หยดน้ำที่เกาะพราวตามผิวหยดลงพื้นทุกก้าวที่เธอเดินเข้ามาหาเขา  รินลดายกมือขึ้นโอบรอบคอของเขาเอาไว้   กลิ่นน้ำหอมทำให้เขาเวียนหัวกว่าปกติ  ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหลบทันควัน  เหลือบมองรอบๆอย่างระวังตัว

            “ผมแต่งงานแล้ว”

            “แล้วไงคะ”

            “คงไม่สวยแน่ถ้ามีภาพเราหลุดออกไป”  พูดแล้วก็นึกถึงคำพูดของอาคิราห์ขึ้นมาได้  พิชช์ฌานเกิดเฉลียวใจขึ้นมาแวบหนึ่ง  หวังว่าคงไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้  “คุณไปสวมแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า   ไม่อย่างนั้นเราค่อยคุยกันทีหลัง”

            “อะไรกันคะฌาน  แต่งงานไม่เท่าไหร่คุณก็เปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอ”  รินลดาพูดเสียงแหลมแล้วก็เปลี่ยนท่าทีเป็นอ่อนลง “ขอโทษค่ะ  ฉันเอาแต่ใจไปหน่อย”  เธอถอยออกไปแล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวม  ชายหนุ่มมีท่าทางอ่อนลงบ้างเมื่อเห็นว่าเธอทำตามเหตุผลของเขา  รินลดาซ่อนยิ้ม  ไม่มีใครรู้จักพิชช์ฌานดีเท่ากับเธออีกแล้ว

            เขาไม่ชอบคนเซ้าซี้  เกลียดคนงี่เง่าไร้เหตุผลที่สุด  เธอรู้เรื่องนี้ดีถึงได้มีความสัมพันธ์กันได้ยาวนานยิ่งกว่าใครอื่น  พิชช์ฌานเป็นผู้ชายขี้รำคาญ  เขาไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูงนัก  และก็ชอบคนที่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามเขา  ยอมให้เขาเป็นผู้นำ

            “นั่งคุยกันดีกว่าค่ะ  อยากได้เครื่องดื่มอะไรไหมคะ”  เธอถามอย่างเอาใจ  เรียกบริกรมาสั่งเครื่องดื่มให้ชายหนุ่มด้วย  พิชช์ฌานยอมนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวใกล้ๆ  “คุณพ่อฝากมาบอกเรื่องโครงการรถสาธารณะน่ะค่ะ  เห็นว่าพรรคของคุณจะชูนโยบายเรื่องนี้”

            “ข่าวเร็วจริงๆนะ”  ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ  “ชักสงสัยแล้วสิว่าใครในพรรคผมเป็นสายให้คุณหรือเปล่า”  เขาพูดทีเล่นทีจริง

            หญิงสาวหัวเราะจนเห็นฟันขาวตัดกับริมฝีปากสีแดงสด

            “แหม  ก็พรรคของคุณเป็นที่จับตามองนี่คะ  ขยับตัวทำอะไรทีคนเขาก็ให้ความสนใจกันทั้งนั้น  คุณพ่อได้ยินแว่วๆเรื่องนี้มาเลยอยากถามว่าจะเปิดประมูลสัมปทานหรือเปล่า”

            “จะจองตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอ  ไม่เร็วไปหน่อยหรอครับ”  พิชช์ฌานพูดแกมหัวเราะ  “ผมอาจจะไม่ได้เข้าไปเป็นรัฐบาลก็ได้นะ”

            “ถ้าคุณตกลงเรื่องสัมปทาน  คุณพ่อรับปากว่าจะสนับสนุนคุณเต็มที่ค่ะ”  รินลดายิ้มหวาน  “ตกลงนะคะฌาน  ฉันรู้ว่าคุณตกลงแน่”

            “ผมต้องคุยกับกรรมการพรรคดูก่อน  โครงการนี้มันเป็นโครงการใหญ่  เกี่ยวพันกับหลายภาคส่วน  จะมายกให้เลยคงยังไม่ได้”  พิชช์ฌานพูดเนิบๆ

            “โธ่  คุณก็รับปากคุณพ่อไปเถอะค่ะ  ไม่อย่างนั้นคุณพ่ออาจจะเปลี่ยนใจลองถามอีกฝั่งนึงดูก็ได้นะคะ”  หญิงสาวว่า  “ฉันก็ไม่อยากให้คุณพ่อกับคุณผิดใจกันหรอกนะ  คราวก่อนที่คุณชิงไปแต่งงานกับโอเมก้า  ท่านก็เพิ่งหายเคืองไป”

            “ผมอยากรับปากคุณนะ  แต่ว่าผมจะมีอะไรเป็นหลักประกันล่ะว่าคุณพ่อของคุณจะสนับสนุนผม...คนเดียว”  พิชช์ฌานเน้นเสียง  “นักธุรกิจอย่างพ่อของคุณคงไม่มีทางฝากไข่ในตะกร้าใบเดียวอยู่แล้ว  ผมพูดถูกไหม”

            “คุณก็ทำให้ท่านมั่นใจสิคะ  ว่าคุณจะไม่มีทางทิ้งท่านหลังจากได้ตำแหน่งแล้ว”  รินลดายิ้มมุมปาก

            “อย่างเช่น?”

            “ดูแลลูกสาวของท่านอย่างดีคืนนี้”  เธอขยิบตาให้อย่างขี้เล่นแต่ก็ท้าทายในที  ปลายนิ้วเอื้อมมาแตะที่หลังมือของชายหนุ่มอย่างจงใจ  “คุณคิดว่ายังไงคะ”

            “งั้นให้ผมเลี้ยงเหล้าคุณสักแก้ว”  พิชช์ฌานตอบ  ดึงมือกลับมากอดอกเอาไว้  หญิงสาวจุ๊ปาก

            “คุณรู้อยู่แล้วว่าฉันต้องการการ ‘ดูแล’  จากคุณอย่างไร  ไม่ใช่แค่เหล้าแก้วเดียวแน่”

            “ภรรยาของผมนอนอยู่ข้างบน”

            “อย่าบอกว่าคุณเกรงใจโอเมก้าขึ้นมานะคะ”  รินลดาหัวเราะ  “ไม่เอาน่า  ถ้าคิดจะอ้างก็ช่วยหาเหตุผลดีๆกว่านี้หน่อยเถอะค่ะ”

            “ผมเกรงใจเค้า”  ชายหนุ่มพูดซ้ำ

            “โอเค  ฉันจะทำเป็นเชื่อคุณก็แล้วกันนะคะ”  รินลดายักไหล่พลางลุกขึ้นยืน  ปรายตามองชายหนุ่มด้วยหางตา  “คุณเป็นคนขี้ขลาดมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้”

            “ผมเป็นคนขี้ขลาด  คุณเข้าใจถูกแล้ว”  พิชช์ฌานก้มศีรษะรับ  “ผมกลัวว่าจะเสียเค้าไป  ดังนั้น...คืนนี้เราแยกกันตรงนี้ดีกว่าครับ”

            “ฉันเข้าใจล่ะ” อัลฟ่าสาวสวยพยักหน้า  “คุณกลัวจะเสียแผนสินะ  โอเค  ฉันเข้าใจแล้ว  ถ้ามีคนมาเห็นฉันกับคุณเข้าจะเสียคะแนนหมด  คุณอุตส่าห์คีพลุคเป็นสามีอัลฟ่าดีเด่นรักเมียโอเมก้ายิ่งชีพมาแล้วนี่นะ”

            “คุณเข้าใจก็ดี”

            “แต่ว่า....คุณคงรู้อยู่แล้วว่าฉันกลับมาที่ประเทศนี้ทำไม”  รินลดาพูดเสียงแหบ  สบตาเขานิ่ง  “ฉันกลับมาหาคุณ...ชาร์ล  และฉันจะรอคุณเสมอ”  ประโยคหลังเธอพูดเป็นภาษาฝรั่งเศส

            สีหน้าของคนฟังแทบไม่เปลี่ยน  ยกเว้นแววตาที่สั่นไหวเล็กน้อย  รินลดาอมยิ้ม  ก้มศีรษะให้เขานิดหนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินลับหายไปทางห้องแต่งตัว  พิชช์ฌานเดินย้อนกลับมาตามทางเดิม  เจนภพยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้วด้วยสายตาสงสัย

            “นายชาติชายอยากได้ข้อเสนอดีๆเพิ่มอีก”  ชายหนุ่มพูดเสียงห้วนจัด  “คิดว่าตัวเองเป็นต่อเลยได้คืบเอาศอก  คนโลภไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ”

          “แล้วเราจะให้ตามข้อเสนอของเขาไหมครับ”

            “ต้องกลับไปคำนวณดูก่อน  ถ้าเขาอยากได้ส่วนแบ่งเพิ่มก็ต้องจ่ายให้เราคุ้มค่าที่สุด”  พิชช์ฌานพูดเสียงเหี้ยม  “หรือไม่อย่างนั้น  ...ก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย”  เจนภพเหลือบตามองเจ้านาย  ถ้าเขาเป็นชาติชายคงไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยากแน่

            “คุณฌานจะกลับห้องไหมครับ”  คนสนิทถามขึ้นอีก  “หรือว่า...จะให้เปิดห้องใหม่”

            “รินลดาพักอยู่ห้องไหน”  ชายหนุ่มถามกลับมา  มือขวารีบท้วง

            “คุณอัยย์ก็อยู่ที่นี่ด้วยนะครับ  ผมว่าคงไม่เหมาะ”

            “จะทำไมเจนภพ  จะสั่งฉันเหรอ”

            “ไม่ใช่ครับ  แต่ว่าผมกลัวจะมีภาพหลุดออกไป  ขึ้นหน้าหนึ่งพรุ่งนี้คงแย่”  มือขวาพูดอย่างกังวล     

            “สรุปรู้ไหมว่ารินลดาอยู่ห้องไหน”   เจนภพถอนหายใจเฮือก

            “ทราบครับ”  เขาบอกเลขห้องกับชั้นให้กับอีกฝ่าย  พิชช์ฌานพยักหน้า

            “ให้คนส่งดอกไม้ไปให้พรุ่งนี้เช้า  แนบการ์ดสวยๆไปด้วยสักใบ ...แค่นั้นล่ะ  ฉันจะไปนอนแล้ว”  นักการเมืองหนุ่มก้าวเข้าไปในลิฟต์  “แล้วถ้าเป็นไปได้ล่ะก็  อย่าให้อัยย์เจอกับรินลดาเด็ดขาด”

            “ครับคุณฌาน”

            พิชช์ฌานเปิดประตูเข้าไปในห้องพักที่มืดสนิท  ชายหนุ่มเปิดไฟแล้วชะโงกเข้าไปมองหาร่างโปร่งบางบนเตียงด้วยความเคยชิน  ทว่าบนนั้นกลับว่างเปล่า   

            ชายหนุ่มใจหายวูบ  ก้าวพรวดเดียวเข้าไปยืนกลางห้องพัก  หัวใจเต้นรัว  ถลันเข้าไปดูในห้องน้ำก็ไม่เจอเงาของเจ้าโอเมก้า   กระเป๋าเสื้อผ้าก็เปิดอ้าซ่าทิ้งเอาไว้ปลายเตียงทั้งของเขาและของเจ้าตัว  เสื้อผ้าในนั้นหายไปเกือบหมดโดยเฉพาะของเขา

            พิชช์ฌานเดินออกไปที่ระเบียงอย่างลนลาน   มองหาคนที่ควรจะอยู่แต่ไม่อยู่  ระเบียงห้องว่างเปล่าน่าตกใจ  ชายหนุ่มชะโงกลงไปดูข้างล่าง  มันสูงเกินกว่าที่ใครจะโดดลงไป  เขาหมุนตัวกลับเข้ามาในห้อง  ร่างของใครคนหนึ่งหยุดยืนอยู่ข้างหลังเขาเงียบๆจนชายหนุ่มเกือบผงะถอยหลัง

            “เห้ย...”

            ร่างโปร่งบางอยู่ในชุดนอนที่ใหญ่โคร่งซึ่งเป็นชุดของเขา  แถมเจ้าตัวยังพันผ้าพันคอเอาไว้รอบศีรษะลงมาปิดหน้าไปครึ่งหนึ่งเหมือนไอ้โม่งเห็นเพียงแค่ตากลมๆใสแจ๋ว  มือกอดหมอนเอาไว้แน่น

            “กลับมาแล้วเหรอ”  เสียงอู้อี้ดังออกมาจากกองผ้าพันคอ

            “ทำอะไรเนี่ย  ทำไมไม่นอน”

            “นอนไม่หลับ”

            “อ้าว...แล้วเมื่อกี้ไปอยู่ที่ไหนมา  ทำไมไม่เห็น”

            อีกฝ่ายพยักพเยิดไปยังตู้เสื้อผ้าที่เปิดประตูค้างเอาไว้  เมื่อกี้พิชช์ฌานก็ไม่ทันได้สังเกตเสียด้วย

            “ไปหลบในตู้อีกแล้วเหรอ”

            “นอนไม่หลับ”  เจ้าโอเมก้าพูดซ้ำด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้  “นอนไม่หลับเลย”  พูดจบก็เอื้อมมือมากอดแขนเขาเอาไว้แน่นเหมือนลูกลิง

            พิชช์ฌานทำอะไรไม่ถูก  เขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน

            ...............................................................................................

            มาอัพกันต่อจ้า  ใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างคะ

            เจอกันตอนหน้านะคะ  ขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงตอนนี้ค่ะ อิอิ

            #ขอรักแค่คุณ

           

 

           

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :z3: พอเค้าเริ่มเปิดเผยความรู้สึก หนูอัยก็ดันเข้าใจผิด ไม่เชื่อซะงั่น

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หวัง​ว่า​จะ​ไม่​เกิด​อะไร​ร้ายแรง​นะ​

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เจ้าบู้บี้ น่าเอ็นดูสุดก็ตอนกินกับตอนทำรังก่อนนอนนี่แหละ ลูกเอ้ยยย อิพิษไม่หลงก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วว / หนีอีกแล้ว! คราวนี้หนักแน่อิพิษษษ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เอาแล้วไง เพราะนายพิษสร้างความไม่เชื่อใจก่อนบูบี้ของเราเลยเชื่อยากยังไงล่ะ
งานหนักตกที่นายแล้วนะนายพิษว่าต้องทำยังไงถึงจะสร้างความเชื่อใจให้บูบี้ได้

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
งานหยาบมากพิษฌาน
ชั้นเหนื่อยแทนเจ้าบู้บี้ ไหนจะพรรคนายไหนจะผู้หญิงของนาย
อิรุงตุงนังเหลือเกินพ่อ  :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เอ็นดูอัยย์ สงสารด้วย ตอนรู้ว่ารัก ก็ไม่อยากเชื่อ
แถมตอนนี้ใจก็รักเค้าไปแล้ว แต่ไม่รู้ตัว
จะเตรียมหนีไปอีก อัยย์ต้องคิดให้เยอะนะ

โอ๊ยยย มีความอ้อน นอนไม่หลับ

ฌาณเลี่ยงได้ดี และกลัวอัยย์เคืองจริงแน่นอน
มีเตรียมเซอร์ไพรส์ให้ด้วย คุณพ่อจัดหนักมาก
แต่ก็แพ้ทางคุณแม่มากเหมือนกัน 5555

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เหนื่อยแทน

เหนื่อยใจแทนอัยย์

เหนื่อยใจแทนพิชธาน

เหนื่อยใจแทนเจนภพผู้เหมือนจะรู้ใจเจ้านายแต่ไม่รู้

เหนื่อยใจแทนตัวเองเหมือนจะมองเหตุการณ์ต่างๆออกแต่ก็ไม่ออก

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอไรท์มาอัพทู๊กกกวัน..
งื้ออออ...
อัพบ่อยๆได้มั้ยยย..
คิดถุงนุ้งอัยยย์์..
ไรท์
พรีสสส

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด