☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]  (อ่าน 194935 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หลับให้สบายนะเปลว

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :กอด1: ให้กำลังใจผู้แต่งครับ^^

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
รู้แหละเรื้องเปลว แต่แง้ อดเสียใจไม่ได้ สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ไม่ไหวบอกไหวไม่ไหวแล้ว น้ำตาท่วมมากค่ะ

คนไม่ดีหนึ่งคนเสียไป ยังเสียใจไม่เท่าคนดีที่ต้องจากไปเลย

ทำงานตรงนี้ต้องยอมรับความเสี่ยง และความเจ็บช้ำ
แบกรับความหวังของใครหลายคนที่ทั้งหวังดีและหวังร้าย

เสียใจที่ต้องเสียเปลว ไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องแลก
แต่ความจริงก็ไม่ต่างกัน ความเสียใจเกิดขึ้นได้เสมอ

เอ็นดูแก้มใสมากเลยลูกเอ้ยย นอนซบพ่อซะ

เพลิงเสียใจที่พาน้องกลับบ้านแบบสมบูรณ์ไม่ได้
แต่เหมือนเนตรบอก เปลวได้กลับบ้านแล้วนะ
เพลิงโชคดีที่มีเนตรพร้อมจะดูแลและรอคอย

เปลวได้กลับบ้านละนะ พี่เพลิงพี่เนตรสัญญาแล้ว
จะดูแล เลี้ยงดูแก้มใสอย่างดีเลย หลับให้สบายนะ

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ฮือ...ฮือ...ไปทำจายยยยแปปป

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ฉันกะว่าจะรอให้ผ่านตอนนี้ไปก่อนถึงจะเข้ามาอ่าน


แต่ฉันก็รอไม่ใหว

แล้วยังไงล่ะ

นั่งน้ำตาแตกอยู่นี่

ฮือออออ เปลวไปดีเถอะนะ

ส่วนแกไอ้พ่อเฒ่านรก แกกลับไปอยู่ในขุมนรกนะ

ออฟไลน์ Mariinariiz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮือออออออออออออออออออออ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เขียนดีมากเลยค่ะ คุณคนเขียน รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17
[ 24 ]



“ผู้ช่วยถูกตั้งข้อหาว่าทำเกินกว่าเหตุครับ”

น้ำเสียงของเต็งเต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่รเณศซึ่งมองหาคนในชุดลายพรางทั้งวันได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอจะรู้มาเหมือนกันว่าการจับกุมการขนไม้เถื่อนครั้งนี้ดันไปเจอตอ เพราะผู้มีอิทธิพลในจังหวัดเกี่ยวข้องด้วยเนื่องจากมีลูกน้องของผู้มีอิทธิพลคนดังกล่าวรวมอยู่ในกลุ่มของชายฉกรรจ์ที่ถูกเพลิงและเจ้าหน้าที่ยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาถึงสามคน นอกจากนี้หนึ่งในผู้บาดเจ็บยังเกี่ยวข้องเป็นหลานชายผู้มีอิทธิพล

ฝ่ายนั้นจึงแจ้งข้อหากลับว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ พร้อมทั้งปฏิเสธว่าหลานชายและกลุ่มลูกน้องเพียงเข้าไปเดินป่าตามปกติไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด

นั่นแหละ อำนาจเงินและอิทธิพลมันน่ากลัวกว่าที่คิด

เพลิงจึงต้องเดินทางไปไปรายงานตัวและรับทราบข้อกล่าวหา

“เหอะ ทำเกินกว่าเหตุงั้นเหรอ”

พรานธีปอทำเสียงคับแค้น

“พวกเรามีแต่ปืนลูกซองพอให้ป้องกันตัวเอง ปืนที่มีอายุการใช้งานยี่สิบกว่าปี ขณะที่พวกมันเล่นอาวุธสงคราม นี่น่ะเหรอทำเกินกว่าเหตุ”

ท่าทางแกดูหัวเสีย แววตาดูเสียใจไม่น้อย

“ผู้ช่วยออกรับแทนลูกน้องทุกอย่าง”

“...”

“มันน่าเจ็บใจที่ไอ้พวกสารเลวนั่นยัดข้อหาให้คนที่ปกป้องป่าแทบตาย”

ลุงแสวงทำเสียงขุ่น

“ขณะที่พวกเราสูญเสียทั้งเจ้าหน้าที่และกำลังใจ แต่ไม่มีใครมองเห็นพวกเราเลย”

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความคับข้องใจ

“ชีวิตพวกเรามันคงไร้ค่า...แม้ทำหน้าที่จนตาย ก็ไม่มีใครเอ่ยถึง”

รเณศเม้มปากจนเจ็บ ในอกเต็มไปด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจไม่แพ้กัน “อย่าน้อยใจไปเลยนะครับ ใครไม่เห็น แต่ผมเห็น”

คนเมืองเหลือบตามองเจ้าหน้าที่ตรงหน้าด้วยแววตาขอบคุณ

“อย่างน้อยผมคนหนึ่งที่เข้าใจและระลึกถึง ขอบคุณทุกคนแทนคนอีกหลายๆ คน ขอบคุณจริงๆ ที่ดูแลรักษาผืนป่าให้เรา”

รเณศยกมือไหว้ทุกคน

“ขอบคุณนะครับ”

ทุกคนมีสีหน้าดีขึ้น

“สาธุเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขาโปรดปกป้องคุ้มครองผู้ช่วยเพลิง คุ้มครองคนดีที่ทำหน้าที่อย่างสุจริตด้วยเถอะ”

ลุงแสวงมือขึ้นจรดเหนือศีรษะ

รเณศเหม่อมองไปเบื้องหน้าก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างน้อยเพลิงก็ไม่ได้เดินทางไปรายงานตัวคนเดียว มีพลและเกิ้งไปด้วย สองคนนั้นคงพอช่วยอะไรได้บ้างหากเกิดอะไรขึ้น


.


.


แดดยามบ่ายที่กำลังแผดเผาอยู่ตอนนี้ส่งผลให้คนที่เคยชินกับชีวิตในเมืองหลวงขยับปกเสื้อไปมาเพื่อคลายความร้อน ปลายแขนเสื้อถูกพับขึ้นเหนือศอก ใบหน้าคมคายเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ซึมออกตามขมับ ชายหนุ่มเหลือบตามองไปรอบกายแล้วแบะปากกับสภาพความเป็นอยู่ของวิถีชีวิตคนต่างจังหวัด

“สภาพแบบนี้เนตรอยู่ลงไปได้ยังไงวะ”

คนพูดทำหน้ารับไม่ได้ก่อนที่มือหนาจับกระเป๋าเดินทางลากไปยังบริเวณลานจอดรถ สักพักหนึ่งรถตู้ที่เขาจ้างมาก็จอดเทียบท่า เตวิชก้าวขึ้นอย่างเร่งรีบก่อนจะสบถออกมา เขาทั้งเหนื่อยทั้งร้อน ซ้ำยังหงุดหงิดเพราะก่อนออกเดินทางนังผู้หญิงคนนั้นส่งทนายมาแจ้งว่ากำลังดำเนินการฟ้องหย่าเขา

นังผู้หญิงหิวโซ

เตวิชกัดฟันเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยๆ ของหล่อน เหอะ สวยแต่รูป ความเป็นจริงนิสัยเลวร้ายยิ่งกว่านางมารร้าย ชายหนุ่มยิ้มเครียดก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างที่เห็นเพียงต้นไม้เขียวขจีทั้งสองข้างถนน

“บ้านนอกสิ้นดี”


☘☘☘☘



บ่ายแก่ๆ วันหนึ่งหลังจากที่แดดจัดอยู่เต็มๆ สองวัน วันที่สามสภาพอากาศก็ดันวิปริตผิดเพี้ยนไปจากทุกวันเมื่ออยู่ๆ ฝนก็กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย รเณศเหลือบมองสายฝนจากในศาลาวัด งานสวดเปลววันสุดท้ายวันนี้มีคนมาช่วยงานเยอะตั้งแต่เช้ามืด

รเณศนั่งมองชาวบ้านมาช่วยทำเหรียญโปรยทานกันอย่างขะมักเขม้น น้ำใจของคนที่นี่ทำให้ป้าสมัยซึ่งนั่งรวมอยู่ในกลุ่มนั้นยิ้มออกมาได้บ้าง ช่วงสองสามวันมานี้แทบจะเห็นรอยยิ้มแกนับครั้งได้ รเณศเข้าใจดีว่าสถานการณ์แบบนี้มันยากลำบากเหลือเกินที่ก้าวข้ามมันไปได้ ยังดีที่ป้าอนงค์อยู่ข้างๆ ให้กำลังใจ ประมุขของบ้านเลี้ยงดูคนที่บ้านอย่างเป็นกันเองเหมือนครอบครัว การกระทำนั้นไม่ได้ทำให้รเณศนึกตะขิดตะขวงใจเลย ตรงกันข้ามมันทำให้เขาเข้าใจคำว่า ‘ครอบครัว’ มากยิ่งขึ้น

ในช่วงเวลาที่น่าเศร้าใจอย่างน้อยก็มีกำลังใจดีๆ จากคนในครอบครัวเดียวกัน ช่วงนี้รเณศเอาแก้มใสไปนอนรวมกับผู้สูงวัยทั้งสองในห้องนอนใหญ่ของตา และมีบางวันเพลิงซึ่งอยู่ช่วยงานที่วัดจนดึกดื่นแวะไปค้างด้วยบ้าง

เพลิงกลายเป็นสมาชิกคนคุ้นเคยของที่บ้าน รเณศรู้ดีการมาของเพลิงทำให้ผู้สูงวัยรู้สึกอบอุ่นใจ คนเมืองรู้ว่าเพลิงพยายามทำหน้าที่แทนเปลว และชายหนุ่มทำมันได้ดี แม้ช่วงนี้เพลิงจะยุ่งๆ เรื่องที่ถูกตั้งข้อหานั่น เขารู้ว่าเพลิงเหนื่อยไม่น้อยแต่ไม่เคยเห็นชายหนุ่มปริปากบ่นอะไรสักคำ เพลิงยังทำหน้าที่ของตัวเองในทุกๆ วัน และหากช่วงไหนที่มีเวลาว่าง เขาจะเห็นเพลิงมานั่งนิ่งๆ มองรูปเปลวอยู่อย่างนั้น

ไม่ต่างจากวันนี้เลย

รเณศเดินเข้าไปยืนมองแผ่นหลังกว้างสักพักหนึ่งก่อนจะทรุดตัวคลานเข่าไปตามพื้นแล้วนั่งพับเพียบเคียงข้างเพลิง

“คุณ”

รเณศเอื้อมมือไปแตะข้อมืออีกฝ่าย

“หน้าตาคุณไม่สู้ดีเลย กลับไปนอนพักที่บ้านผมก่อนมั้ย”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

ทุกคืนกว่าเพลิงจะได้กลับไปพักผ่อนก็กว่าค่อนคืนแล้ว เขาอยู่เป็นคนสุดท้ายเพื่อปิดศาลาพร้อมๆ กับสัปเหร่อนั่นแหละ

“กลับไปนอนพักก่อนนะ แล้วเย็นๆ ค่อยกลับมา”

“...”

“คุณนอนดึกมาหลายคืนแล้วนะ วันนี้พักผ่อนสักหน่อยเถอะ”

“ผมกลัวมันเหงา”

เพลิงเหลือบตามองรูปเจ้าเปลว เพราะกลัวเหงาถึงได้นั่งอยู่ที่นี่จนดึกดื่นกลับคนสุดท้ายทุกวัน เพลิงหวนนึกถึงการเจอกับเปลวครั้งแรก เด็กหนุ่มที่หลงผิดแล้วดันโชคร้ายผ่านมาในจังหวะที่เพลิงจับยึดไม้เถื่อน ใบหน้าของเปลวดูตื่นตระหนก สีหน้าหวาดกลัวจนเขานึกขัน

เด็กหนุ่มเลือดร้อนดูอ่อนโยนทุกครั้งที่พูดถึงลูกน้อยในอุทรนั่นจึงทำให้เพลิงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

‘ฉันจะช่วยถ้านายสารภาพและร่วมมือกับตำรวจ’

‘ผมเชื่อพี่ได้ใช่มั้ย’

เพลิงจำได้ดีว่าวันนั้นเขาเพียงยักไหล่โดยไม่ได้ตอบอะไรเปลว แต่เขาตอบคำถามเด็กหนุ่มด้วยการกระทำ นั่นทำให้วันหนึ่ง วันที่เพลิงจำได้ไม่ลืมว่าเด็กนั่นเดินถือขันน้ำดุ่มๆ มาล้างเท้าให้เขา

‘พี่ไม่ใช่พ่อแต่ก็เหมือนพ่อของผม พี่ให้ชีวิตใหม่กับผม ถ้าไม่มีพี่ ผมเองก็ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะเลวร้ายมากขนาดไหน พี่ให้ผมล้างเท้าพี่เถอะนะ ผมไม่มีอะไรตอบแทนพี่เลย ผมเคารพพี่เหมือนพ่อคนหนึ่งเพราะพี่สอนให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น ขอบคุณพี่มากนะครับ พี่คือแบบอย่างของผม ชีวิตผมต่อจากนี้ ผมจะอุทิศให้กับผืนป่าที่พี่ดั้นด้นมาเพื่อปกป้องรักษา’

เพลิงกระพริบตาถี่ๆ เมื่อหวนนึกถึงวันวาน

“อยู่ตั้งไกล ซ้ำยังอยู่เพียงลำพัง ผมกลัวว่ามันจะเหงา คุณรู้มั้ยว่าเมื่อก่อนมันเป็นเด็กขี้กลัว แต่พอถูกพาออกลาดตระเวนบ่อยๆ ไม่รู้ว่าไปได้ความใจกล้ามาจากไหน”

คนในชุดลายพรางยิ้มน้อยๆ

“แต่ลาดตระเวนทุกครั้งเราไปเป็นทีม” เพลิงเงียบไปก่อนจะเหม่อมองไปยังภาพเด็กหนุ่มที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า “ครั้งนี้น้องมันไปคนเดียว เดินทางไกลคนเดียว มันคงเหงา”

“...”

“อย่ากลัวนะเปลว”

เพลิงลูบกรอบรูปภาพเปลวอย่างแผ่วเบา

“น้องมันไม่เหงาหรอก”

 รเณศพูดขึ้น

“เปลวต้องเข้มแข็งแน่นอน”

เพลิงยืนมองภาพนั้นนิ่ง

“ถ้าน้องมันรู้ว่าคุณไม่ได้พักผ่อน เปลวคงไม่สบายใจ” รเณศตบหลังมืออีกฝ่าย

“คุณเข้มแข็งมากนะเพลิง เข้มแข็งเกินไปด้วยซ้ำ ผมอยากให้คุณเหนื่อยล้า อยากให้คุณอ่อนไหวบ้างนะ”

เพลิงเหลือบตามองอีกฝ่ายแล้วยิ้มน้อยๆ

“เพราะผมอยากดูแลคุณ”

เพลิงกระชับมือรเณศสอดประสานกัน

“กลับบ้านไปพักผ่อนนะครับ”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงัก รเณศจึงยิ้มกว้างก่อนจะกระตุกมืออีกฝ่ายให้ผุดลุกขึ้นแล้วพากันกลับบ้าน 

.

.

ปกติเพลิงเป็นคนนอนระวังตัว แต่คงเพราะเหนื่อยและเพลียอย่างหนัก พอหัวถึงหมอนฝ่ายนั้นจึงหลับสนิทในไม่ช้า รเณศจึงเดินไปเปิดหน้าต่างห้องนอนเพื่อให้ลมเบาๆ พัดผ่านเข้ามาในห้อง อากาศวันนี้เย็นสบายจนไม่ต้องเปิดพัดลม คนเมืองขยับเข้ามาทรุดตัวนั่งมองเพลิงอยู่ใกล้ๆ ปลายนิ้วเรียวเลื่อนไปคลี่หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นให้คลายออกก่อนจะกระซิบข้างหูฝ่ายนั้นเบาๆ ว่า

“หลับฝันดีนะครับ”

เภสัชกรหนุ่มกดจูบที่ขมับกว้าง จังหวะนั้นเด็กน้อยที่เพิ่งหันเดินได้ไม่นานก็เดินเตาะแตะมาอยู่ที่หน้าประตู โดยมีผู้ช่วยสาวลูกจ้างจากร้านยาซึ่งช่วงนี้เขาจ้างมาให้ช่วยดูแลหนูน้อยเพราะใครๆ ต่างก็ยุ่งจึงไม่มีเวลาคอยดูแลเด็กน้อยอย่างใกล้ชิด

“อุ้ม”

แก้มใสยื่นมือมาทางรเณศก่อนจะส่งเสียงดัง

“ชูว์”

รเณศยกนิ้วแตะริมฝีปากเป็นการส่งสัญญาณให้เด็กน้อยเงียบเสียง

“อุ้ม”

“ครับๆ”

รเณศหันพยักหน้าบอกเด็กสาวให้ผละออกไปก่อนที่เขาจะรวบเอาตัวหนูน้อยขึ้นอุ้มแนบอก แล้วค่อยสาวเท้าอย่างช้าๆ พาร่างนุ่มนิ่มไปวางลงข้างเตียงที่คนตัวโตนอนหลับใหล แก้มใสทำหน้าสงสัยก่อนจะค่อยคลานอย่างเชื่องช้าไปใกล้เพลิง หนูน้อยทำหน้าฉงนก่อนจะตัดสินใจทิ้งศีรษะซุกตัวลงที่แผ่นอกอีกฝ่าย

“ป้อ”

“...”

“ป้อ”

หนูน้อยงึมงำก่อนจะหลับตาพริ้มในอ้อมกอดของเพลิงซึ่งลืมตาขึ้นมาอย่างงงงวย เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กน้อยฝ่ายนั้นจึงรวบเอาเด็กน้อยไว้ในอ้อมกอด ก่อนที่ทั้งคู่จะนอนซุกกันเข้าสู่ห้วงนิทรา รเณศมองภาพนั้นแล้วยิ้มทั้งน้ำตา

แก้มใสตัวนิดเดียวเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเพลิง

ร่างสูงใหญ่ที่มีอ้อมกอดที่โอบกอดหนูน้อยเอาไว้...อ้อมกอดที่จะป้องภัยไปตลอดกาล



☘☘☘☘



เตวิชหลับๆ ตื่นๆ ไปพักใหญ่จนกระทั่งคนขับพาเขาเลี้ยวไปยังถนนลาดยางค่อนข้างแคบพอให้สวนเลนกันได้เท่านั้น ไม่นานรถก็หยุดที่บ้านเรือนไทยหลังหนึ่ง เสียงหมาเห่ากันระงมนั่นทำให้เขาคิ้วกระตุก เตวิชก้าวลงจากรถแล้วมองไปรอบๆ ก่อนที่เสียงเจ้าบ้านจะร้องห้ามปรามสัตว์สี่ขา เตวิชยืนรออยู่ตรงตีนบันไดบ้านอย่างใจเย็น เมื่อเห็นศีรษะผลุบๆ โผล่ๆ ของเจ้าบ้าน

เพียงไม่นานใบหน้าที่หวนนึกถึงมาตลอดก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

ฝ่ายนั้นยืนตะลึงก่อนจะชะงักปลายเท้า แววตาตื่นตระหนกด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนั่นบ่งบอกว่าคนตรงหน้าดูห่างไกลจากคำว่ายินดีที่ได้พบเจอ

“เนตร”

รเณศยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เนื้อตัวเขาชาวูบ ปลายเท้าเหมือนถูกหมุดตอกตรึงไว้กับพื้นไม่ให้ขยับเดิน ท่าทางประหลาดนั่นทำให้เพลิงที่เดินตามหลังมาติดๆ ฉงนใจ ชายหนุ่มเดินมาหยุดซ้อนหลังของรเณศก่อนจะมองไปยังผู้มาใหม่

ดวงตาคู่คมที่สอดประสานกับแววตาของผู้มาเยือนทำให้รอบข้างนิ่งสงัด

“ไอ้เพลิง”

รเณศยืนงงก่อนจะมองใบหน้าของอดีตคนรักกับเพลิงสลับกันไปมา

“มึงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“คุณรู้จักเพลิงงั้นเหรอ”

คำว่า “คุณ” ที่ออกจากปากรเณศบ่งบอกความห่างเหินนั่นทำให้เตวิชชักสีหน้าทันที

“รู้จักสิ”

“...”

“รู้จักดีด้วย”

เตวิชเหลือบตามองร่างสูงใหญ่ในชุดลายพราง ก่อนจะกดเสียงต่ำด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร

“ไม่เจอกันนานเลยนะน้องชาย”

“น้องชาย?”

คนเมืองมุ่นหัวคิ้วอย่างประหลาดใจ

“เนตรไม่รู้เหรอว่ามันเป็นน้องชายต่างแม่ของพี่”

รเณศยืนอึ้ง

‘ผมเป็นลูกเมียน้อย’

ครั้งหนึ่งเพลิงเคยบอกเขาแบบนั้น

รเณศตัวสั่นรู้สึกหายใจติดๆ ขัดๆ เภสัชกรหนุ่มหันไปสบตากับเพลิง ส่วนลึกเขาภาวนาให้เพลิงยืนกรานปฏิเสธหรือพูดอะไรสักอย่าง ไม่ใช่ยืนนิ่งแล้วมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้น

“เพลิง”

เพลิงไม่พูดอะไรสักคำนอกจากเหลือบตามองเตวิชด้วยใบหน้าเรียบเฉย ผู้มาเยือนมุ่นหัวคิ้วเพราะรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในปฏิกิริยาของคนทั้งสองคู่

อะไรสักอย่างสะกิดใจเขาบอกว่ารเณศและเพลิงมีอะไรบางอย่างที่ ‘พิเศษ’ ต่อกัน

“เพลิง”

รเณศไม่สนใจเตวิชแต่หันมาจ้องหน้าคนในชุดลายพราง

“คุณเป็นน้องชายของเตวิชงั้นหรือ”

“...”

“เพลิง”

“...”

“อรุณ ศศิกุลนารถคือพ่อผม”

เพลิงพูดเสียงแผ่ว ในอกเขาเสียดวาบเมื่อเห็นสายตาผิดหวังของคนรัก

“ทำไมไม่บอก”

เพลิงเม้มปากแน่น

“คุณรู้ใช่มั้ยเรื่องผมกับพี่ชายต่างแม่ของคุณ”

คนตัวโตพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ แววตาของรเณศไหวระริกก่อนจะเผลอขยับตัวถอยห่างจากคนรักที่ขยับมาหมายจะคว้าข้อมือเขา

“คุณรู้มาตลอดเหรอเพลิง”

เพลิงไม่ตอบอะไรนอกจากเม้มปากแน่น

“ทำไมไม่บอก หรือคุณไม่เคยคิดที่จะบอกความจริงข้อนี้ให้ผมรู้เลย”

รเณศพูดเสียงสั่น

“ผมไม่สนใจอดีตที่ผ่านมาของคุณ”

เพลิงพูดเสียงหนักแน่น ขณะที่เตวิชกำหมัดแน่นเมื่อได้ยินแบบนั้น นั่นหมายความว่าปฏิกิริยาประหลาดของคนทั้งคู่มันไปไกลเกินกว่าคนรู้จัก

มากกว่าคนรู้จักหรืออาจเป็นคนรู้ใจ

“คุณโกหกผมเพลิง”

“...”

“คุณไม่พูดความจริงกับผม”

“เนตร”

“คุณใจร้ายมาก”

รเณศต่อว่าอีกฝ่ายอย่างเจ็บปวด ยิ่งนึกถึงความรู้สึกที่ผ่านมา ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาความรู้สึกทั้งหมดของเขาเป็นเรื่องจริง แล้วของอีกฝ่ายล่ะ? เท็จจริงเป็นอย่างไร

“ขอโทษที่ใจร้าย”

เพลิงยื่นปลายนิ้วไปเกลี่ยรอบดวงตาคนรัก

“ขอโทษครับ”

รเณศเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ตอนที่ปล่อยให้น้ำตาเม็ดโตไหลออกมา



☘☘☘☘



เพลิงเงยหน้ามองควันสีเทาที่กำลังลอยเอื่อยๆ ไหลสู่ท้องฟ้าท่ามกลางบรรยากาศสงบ สีของมันไม่ต่างจากสีของท้องฟ้าที่มืดครึ้มในยามนี้ เมฆก้อนใหญ่สีดำทะมึนกำลังลอยต่ำคล้ายจะกับว่าสายฝนกำลังเตรียมตัวร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า บรรยากาศอืมครึมมืดมัวนั่นไม่ต่างจากใจเขาในยามนี้ เพลิงมองฝ่าผู้คนในชุดสีดำสนิทไว้ทุกข์เพื่อไว้อาลัยให้เปลวเป็นครั้งสุดท้าย ในฝูงชนนั้นเขาเห็นรเณศยืนเช็ดน้ำตาป้อยๆ โดยมีอดีตคนรักยืนเคียง

เตวิชส่งผ้าเช็ดหน้าให้คนเมือง ขณะที่รเณศส่ายหน้าปฏิเสธก่อนใช้หลังมือเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง เพลิงมองภาพนั้นแล้วได้แต่ถอนหายใจ อยากขยับเข้าไปใกล้เพื่อปลอบใจ แต่ดูเหมือนยิ่งขยับเข้าหา รเณศยิ่งถอยออกห่าง เขารู้ดีว่าตอนนี้รเณศกำลังโกรธ

โกรธมากจนไม่แม้แต่มองหน้ากัน

ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเหม่อมองไปยังรูปของเด็กหนุ่มที่ครั้งหน้าเคยยิ้มหัวให้เขา เด็กหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยเดินทางผิดแต่สุดท้ายกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วเดินเข้าสู่ทางสว่าง เด็กหนุ่มที่ขันอาสาทุกครั้งเพื่อทำภารกิจ

เด็กหนุ่มผู้หลับใหลแล้ว

‘ผมใจหายมากเลยนะพี่ ภาพที่พี่จมลงไปยังติดตาผมอยู่เลย’

เพลิงยังจำคำพูดและแววตานั้นได้ดี และเขาก็ยังไม่ลืมคำตอบของตัวเองวันนั้นเช่นกัน

‘ชีวิตในป่ามันไม่แน่ไม่นอน’

‘จงเข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลา’


เพลิงเข้าใจมันมาตลอดจนกระทั่งวันนี้ วันที่ทุกอย่างผันแปร เขาถึงได้เข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง เข้าใจแม้จะเจ็บปวดมากแค่ไหน

เข้าใจที่สุด

“เปลว”

“...”

“ผืนป่าที่เปลวอุทิศชีวิตเพื่อรักษามันยังคงอยู่นะ...” เพลิงเหม่อมองไปไกล “ไม่ต้องห่วง พี่จะดูแลมันต่อจากเปลวเอง”

“...”

“ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ”

เพลิงเงยหน้ามองควันสีเทานั่นอีกครั้ง

‘ถ้าผมเป็นอะไรไปฝากพี่กับพี่เนตรดูแลลูกผมด้วยนะ’

“สัญญาด้วยชีวิต”


.


.


เพลิงถอนหายใจขณะที่หมายจะขยับปลายเท้าไปหารเณศ แต่โทรศัพท์ในสภาพย่ำแย่ที่ฝาหลังใช้หนังยางรัดดังขึ้นมาซะก่อน ชายหนุ่มมุ่นหัวคิ้วก่อนจะตัดสินใจผละออกรับสาย ภาพแผ่นหลังกว้างที่เดินลับออกไปนั่นอยู่ในสายตาของคนที่แอบลอบมองอยู่ตลอด

คนมองถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเม้มปากแน่น

“กินน้ำหน่อยมั้ยเนตร”

รเณศส่ายหัวก่อนจะหันมาสบตากับอดีตคนรักที่ยืนข้างกายไม่ห่าง นั่นไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจนักหรอก ตรงกันข้ามเขาอึดอัดใจทุกครั้งที่สบตากับเตวิช

“พี่เต”

เภสัชกรหนุ่มสูดลมหายใจเขาลึกๆ ตอนที่เอ่ยเรียกชื่อฝ่ายนั้นตามความคุ้นชิน เตวิชถึงกับยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อเห็นท่าทางที่อ่อนลงของคนตรงหน้า

“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

“เอาสิ” ฝ่ายนั้นยิ้มกว้าง “พี่เองก็มีเรื่องจะคุยกับเราเหมือนกัน”

“งั้นเชิญครับ”

รเณศเดินนำอีกฝ่ายไปยังต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากนั้นมีริมน้ำเล็กๆ เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างสงบ ส่วนหนึ่งเพราะมันอยู่ในเขตวัด

“ยกโทษให้พี่ได้มั้ย”

ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยอะไร เตวิชก็ชิงพูดขึ้นก่อน ฝ่ายนั้นขยับมากุมมือเขาเอาไว้ แต่รเณศค่อยขืนออกอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหน้าเสียไปมากกว่านี้

“เรามาพูดความจริงกันนะครับพี่เต”

ฝ่ายนั้นทำหน้าฉงนสนเท่

“พี่คิดว่าผมโกรธพี่เลยหนีมาเหรอครับ”

“พี่กำลังจะหย่ากับนีรกุล”

“ครับ”

คนเมืองรับฟังด้วยใบหน้าสงบ รเณศมีสีหน้าเรียบเฉยดูสงบแตกต่างไปจากทุกครั้ง เป็นรเณศคนใหม่ที่เตวิชไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

“เนตร”

“ฟังผมก่อน”

รเณศยิ้มน้อยๆ

“ผมไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดพี่เลย” รเณศหวนนึกถึงความทรงจำเก่าๆ “แต่ผมเจ็บครับ ผมเจ็บที่ผมเคยรักพี่มากๆ”

“เคยรักงั้นเหรอ?”

“สามปี” เภสัชกรหนุ่มพึมพำ

“ผมอยู่ในที่มืดมาสามปี มันทำให้ผมกลัวการเดินคนเดียวในที่สว่างมากๆ มันน่ากลัวมากครับ แต่พี่รู้มั้ยว่าวันที่ผมลองเดินคนเดียว ในสภาพพื้นขรุขระโซซัดโซเซ ผมล้มเจ็บหลายครั้ง แผลผมเต็มตัวไปหมด แต่ผมดีใจมากๆ ที่ตัวเองมีแผล ดีใจมากๆ ที่ผมยังรู้สึกเจ็บ นั่นแปลว่าผมหายใจเองได้ และสามารถเดินได้เพียงลำพัง”

เตวิชทำหน้าตื่นตะลึงเมื่อได้ยินแบบนั้น

“เนตร”

“ผมไม่ได้หนีพี่เพราะความโกรธ แต่ผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่”

“แต่พี่รักเนตร พี่ขอโทษที่ยอมทุกอย่าง ขอแค่เนตรให้โอกาสพี่”

เตวิชละล้ำละลึกพูดขึ้น

“ผมรู้ว่าพี่รักผม”

เตวิชยิ้มออกมา

“แต่มันคงไม่มากพอ”

“...”

“พี่รักผม แต่พี่ก็ทำร้ายความรู้สึกผมมาตลอดสามปี”

“เนตร”

รเณศสบตากับเตวิชนิ่ง

“ผมพอแล้วพี่”

“...”

“ขอให้ผมได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้มั้ย” รเณศพูดเสียงสั่น “ถ้าพี่เตรักผมจริงๆ ปล่อยผมไปได้มั้ย”

“พี่ทำเนตรเจ็บมากเหรอ”

เตวิชเกลี่ยน้ำตาให้เขาด้วยมืออันสั่นเทา

“ครับ”

รเณศตอบเสียงสั่น

“เนตรเคยเกลียดพี่มั้ย”

“ไม่เคย”

รเณศพูดทั้งน้ำตา

“ผมไม่เคยเกลียด”

“เนตร”

“แต่ผมไม่เคยคิดที่จะกลับไปแล้วเป็นเหมือนที่แล้วมา...ไม่เคยเลย”

เตวิชชาดิกไปทั้งตัว

ความรักแท้จริงหลุดลอยไปแล้ว แววตาของรเณศบอกทุกอย่าง เขาได้สูญเสียหัวใจไปตลอดกาลแล้ว เตวิชกลืนน้ำลายที่รู้สึกขมปร่าลงคอ

“เราเริ่มกันใหม่ไม่ได้จริงๆ เหรอเนตร”

รเณศส่ายหน้าไปมา

“เนตรไม่เหลือหัวใจให้พี่เลยเหรอ”

“หัวใจของผม ผมยกให้คนอื่นไปแล้ว ผมให้เขาแล้วไม่มีวันขอคืน”

“เนตร”

“ขอโทษนะครับ”

รเณศพูดเสียงสั่น “ผมรักคนอื่นแล้ว”

“ไอ้เพลิงงั้นเหรอ”

เตวิชตาแดงก่ำ น้ำตาคลอเพราะความรู้สึกอัดอั้นที่ประทุอยู่ในอก

เขาแพ้ไอ้เพลิง...แพ้ไอ้ลูกเมียน้อย

เพลิงที่เติบโตมาท่ามกลางความรังเกียจของญาติพี่น้องฝั่งบิดา เด็กที่กระเสือกกระสนจนมาไกลได้ถึงขนาดนี้ แม้ศศิกุลนารถจะไม่เหลียวแล แต่มันยืนหยัดมาได้เพียงลำพัง เตวิชพูดไม่ออกเขาได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลริน

“เป็นไอ้เพลิงจริงๆ ใช่มั้ย”

ความเงียบของรเณศคือคำตอบของทุกอย่าง


.


.


เพลิงชะงักปลายเท้าตอนที่เห็นร่างสูงของพี่ชายต่างมารดามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า สีหน้าย่ำแย่และใบหน้าแดงก่ำนั่นดูไม่ได้ หัวไหล่ลู่ลงเหมือนคนหมดแรงสิ้นสภาพ เตวิชผู้เคยยิ่งใหญ่กลับพังภินท์ได้ขนาดนี้เชียวหรือ ฝ่ายนั้นเหลือบตามองเขาก่อนจะพูดขึ้นว่า

“กูเกลียดมึง”

แล้วเดินชนหัวไหล่เขาออกไป

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นรเณศมาหยุดยืนตรงหน้า

“กอดผมเดี๋ยวนี้”

รเณศพูดเสียงสั่น แม้เพลิงจะไม่เข้าใจแต่เขาก็ขยับไปใกล้แล้วโอบกอดคนเมืองเอาไว้แน่น

“ผมขอโทษ”

“ไม่อยากฟัง”

คนเมืองเอียงใบหน้าซบที่แผ่นอกกว้างก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้

“ขอโทษครับ”

“พูดไปเรื่อยๆ นะ พูดไปจนกว่าผมจะให้อภัย”

“ขอโทษนะเนตร”

“คุณมันใจร้าย”

“เนตร ไม่ว่าอดีตคุณจะเป็นยังไงก็ตาม ขอให้รู้ไว้ว่าผมยังเก็บรักษาดอกไม้สีแดงของคุณอยู่เสมอ แม้ว่าวันหนึ่งมันจะแห้งกรอบเป็นผุยผงและสูญสลายไปตามกาลเวลา แต่ผมยังจำความรู้สึกที่ได้รับดอกไม้สีแดงจากคุณได้ไม่ลืม”

“กอดผมให้แน่นขึ้น”

รเณสสั่งไปสูดน้ำมูกไปด้วย

“จำเอาไว้นะเพลิง”

“...”

“คุณต้องชดใช้การโกหกครั้งนี้ด้วยการดูแลผมไปทั้งชีวิต”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกดจูบที่ขมับอีกฝ่าย

“ด้วยความยินดีครับ”


☘☘☘☘


อาทิตย์แล้วป่วยค่ะ เลยหายไปหนึ่งอาทิตย์
ตอนนี้ #ป่าห่มรัก ดำเนินมาโค้งสุดท้ายแล้วน้า อีก 2 ตอนก็จะจบแล้วค่ะ สำหรับเรื่องนี้เราส่งให้สนพ.เดิม
นะคะ แพลนหนังสือออกประมาณปลายปี ในเล่มนี้แพลนตอนพิเศษในเล่มไว้ประมาณ 5 ตอนค่ะ

และเรามีโปรเจ็กต์พิเศษคือแพลนว่าจะทำมือ #ป่าห่มรัก "เล่มพิเศษ" ใครที่คิดถึงพี่ปืนน้องแรกจาก #ค่ายสร้างรัก
และ พี่ฟ้าน้องธรจาก #จุดหมายคือท้องฟ้า ทุกคนจะมาโผล่ในเล่มพิเศษเล่มนี้แล้วทำภารกิจพิเศษไปกับพี่เพลิงและน้องเนตรน้า เราแพลนคร่าวๆ ว่าเล่มพิเศษคงราวๆ 80-100 หน้า และ "รายได้ส่วนหนึ่ง" ของเล่มพิเศษเราจะบริจาคให้ "มูลนิธิสืบนาคะเสถียร" เพื่อเป็นทุนช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่า สำหรับโปรเจ็กต์นี้คาดว่าจะปล่อยช่วงปลายเดือนกันยานี้


ปล. สำหรับแพลนเล่มพิเศษยังเป็นแพลนคร่าวๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะคะ  - -"

#ป่าห่มรัก

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
ยังร้องไห้กับการระลึกถึงเปลวในทุกบรรทัด
เพราะมันไม่ใช่แค่เปลวคนเดียว แต่สื่อไปถึงผู้พิทักษ์ป่าทุกคนที่สละชีวิต ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อพวกเราเสมอ

ใกล้จบแล้ว...และขอบคุณมาก ที่ทำการบ้านเพื่อเขียนเรื่องนี้ให้เราได้เห็นภาพการทำงานอันยากลำบากของผู้พิทักษ์ป่าทุกคนค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ kik_taki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้ำตาซึมเลยตอนอ่านถึงเปลว ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละเพื่อพวกเรา

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
ดีแล้วที่เข้าใจกันและยอมรับกันและกันได้  o13

ออฟไลน์ Aimlovelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้ำตาคลอไปกับความเสียสละที่เป็นเรื่องจริงที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เหมือนประโยคขอแต่งงาน  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
นึกว่าเนตรจะโกรธ เกลียดเพลิงจนไม่กลับมามองหน้าซะอีก.   :mew2:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้ำตาไหลเป็นทางเลยจริง ๆ ตอนที่เปลวถูกยิง T^T

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ยังคิดถึงเปลวอยู่อ่ะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ไอ้พวกอิทธิพลนิ่มันเลว

ทั้งชีวิตจริงและนิยาย

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
อืม เรามองว่าเพลิงไม่ได้โกหกอะไรเนตรนะ คือเขารู้ว่าเนตรคือคนรักเก่าของพี่ชายต่างแม่ แล้วยังไง เพลิงต้องบอกเหรอว่าตัวเองมีวงศาขณาญาติอะไรที่เกี่ยวข้องกับเนตร ไม่เห็นถึงความจำเป็น แล้วตัวเนตรเองเคยถามเพลิงเหรอ เรามองแบบนี้นะ

แล้วเราก็ซึมทุกครั้งกับการสูญเสีย แก้มใสเลือกป่าป๊าเองแล้ว ป้อเปิงงง

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ทำเกินกว่าเหตุ โห...อำนาจเงินก็งี้ เห็นหลายคดีแล้ว  :seng2ped:
ใจหายแว๊บบบ เลย อีก 2ตอนจบ แล้วหรือนี้  :L2:  :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

นึกว่าเตวิชจะร้ายกว่านี้มากมาย ไหงถอยทัพไปแบบง่าย ๆ 555

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ่านทุกตอนต้องลุ้นให้ทุกคนปลอดภัย :pig4:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
เปลวเป็นเหมือนตัวเเทนถึงผู้พิทักษ์ป่าทุกคน มันสะท้อนใจกับความจริงที่เจ็บปวด...

พี่เพลิงไม่ได้ตั้งใจ เนตรก็แค่น้อยใจ แค่คำว่า ''..ขอโทษครับ'' ใจก็อ่อนยวบแล้ว ฮือออ :hao5:

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เตวิชยอมง่ายไปป่าวเนี่ย​  :hao4:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
รักผช. แบบเพลิงจัง

ออฟไลน์ Plakhem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :m15: สงสารแก้มใส  :monkeysad: สงสารเปลว  :m16: โกรธพวกเล่นพรรคเล่นพวก พวกขี้โกง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด