Kiss the Snow
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Kiss the Snow  (อ่าน 30267 ครั้ง)

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #180 เมื่อ07-04-2019 02:55:36 »

จอดเลยคำถามเดียว 555555555555555

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #181 เมื่อ07-04-2019 09:31:26 »

เจอความหนูกวางเข้าไปนานๆ

พี่ทนายฐาติก็ไปไม่เป็นเหมือนกันแหละ

เจ้าวางแผนเจ้าความคิดนัก

เจอเด็กแสบเข้าไป

หลงเด็กเลยน่ะสิ

555555555

ออฟไลน์ uniko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #182 เมื่อ07-04-2019 11:28:37 »

มีความกวางงง แสบแต่น่าร้าก :hao3:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #183 เมื่อ07-04-2019 17:23:18 »

ิอิอิ ...กวางแทงใจดำฐาติแล้ว

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #184 เมื่อ09-04-2019 10:37:03 »

สงสารคุณทีมกับคุณโจ ตอนนั้นพี่ณภัทรก็ทำเกินไปจริงๆ
แต่คุณทีมก็เอาคืนแล้ว อยากให้เลิกแล้วต่อกันไป ทั้งบ้านฐาติทั้งคุณทีมไม่อยากให้เอาคืนกันไปมาอีก

ชิรายูกิคนซื่อ น่ารักจริงๆ พี่ธามก็อย่าแกล้งน้องนัก

ส่วนกวางเด็กแสบนี่ มันน่าจับดึงให้แก้มยืดดดดดดดดด 55555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #185 เมื่อ10-04-2019 01:57:54 »

พัวพันกันยุ่งเหยิงมากเลย ไม่รู้ใครเริ่มก่อน
แต่ทีมเจ็บตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม แต่เป็นบ้านรองก็เจ็บปวดแล้ว
แล้วบ้านนั้นเค้าทำคนตายไปคนหนึ่ง เค้าไม่รู้สึกอะไรกันหรอ

ชอบความเปิดเผยของฉันท์กับพี่จังเลยค่ะ
มีอะไรก็คิดถึงพี่ จะคุยกับพี่ เรื่องนี้ไม่พลาด
ชอบฟีลนี้มาก เพราะพี่สำคัญ

ธามชัดเจนดี บอกน้องให้รู้ตัวและเตรียมใจ
แต่แกล้งน้องทำไม น้องยิ่งระแวงอยู่

5555 จบไหมฐาติ ไม่จุกเนาะ เอ็นดู
ชอบกวางค่ะ เป็นเด็กดี ฉลาด และรักพี่ฉันท์มาก

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #186 เมื่อ11-04-2019 15:30:28 »


:katai2-1: 

:katai2-1:

กวางมากินไอศกรีมกะป้ามา

 :katai2-1:

 :katai2-1:

ตอนนี้เหมือนฐาติจะโดนเอาคืนเบาๆ แต่ทำไมเราสะใจล่ะนี่   :hao3:  :hao3:




ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #187 เมื่อ22-04-2019 09:38:03 »


 :katai2-1:  :katai2-1: ชอบความหลักแหลมของเจ้ากวางสุด ๆ   :katai2-1:  :katai2-1:



ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #188 เมื่อ25-04-2019 01:13:26 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #189 เมื่อ25-04-2019 19:29:28 »

 :katai5: มารอจ้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
« ตอบ #189 เมื่อ: 25-04-2019 19:29:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ adnrak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Kiss the Snow ตอนที่11 (6/4/2562)
«ตอบ #190 เมื่อ25-04-2019 20:51:24 »

มารอน้องกวาง

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #191 เมื่อ25-04-2019 20:52:34 »

ตอนที่ 12

ในวันที่ธามันย้ายมาอยู่บ้านเดียวกับฉันท์ได้ครบ 2 เดือน นอกจากการซ่อมบ้านจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังรวมถึงการปรับปรุงสวนที่ล้อมรอบบ้านด้วย
ธามันเริ่มการทำงานส่วนนี้ด้วยการให้คนงานแผนกสวนของบริษัทมาทำรั้วแบ่งเขตบ้านกับสวน จากนั้นก็จัดการถางหญ้า และย้ายต้นที่ตายแล้วออกไป ปิดท้ายด้วยการเก็บกวาด และตัดกิ่งให้เรียบร้อยสวยงาม 
ระหว่างนั้น ฉันท์โทรไปหาคนงานที่เคยมาทำสวนให้พ่อ ว่ายังต้องการกลับมาทำสวนอีกหรือไม่ แต่ตอนนี้คนงานมีงานประจำแล้ว จึงขอมาทำเป็นรายวันและทำเฉพาะในวันหยุด
เรียกว่าสัปดาห์แรกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนแม้แต่จิโระก็ยังสนุกไปกับบรรดาคนงานคนสวนจากบริษัทของธามัน แต่หลังจากนั้นงานในสวนก็ค่อนข้างนิ่ง เพราะเพราะยังไม่มีการลงต้นไม้ใหม่
ส่วนการซ่อมร้านข้าวต้ม ต้องเลื่อนออกไปอีกประมาณ 3 เดือนเมื่อฉันท์ได้ยินว่าโครงการคอนโดฯ อีกแห่งต้องการคนงานเพิ่มเติม จึงขอให้คนงานที่จะมาทำร้านไปช่วยงานหลักของบริษัทก่อน ธามันอธิบายว่างานซ่อมร้านไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ ขอคนงานมาสัก 3 คนก็น่าจะได้ แต่เพราะนี่คือฉันท์คนที่มีความเกรงใจคนอื่นในระดับสูงมาก จึงขอเลื่อนเวลาซ่อมร้านของตนเองออกไปก่อน
ในขณะที่ชีวิตกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เรื่องราวในครอบครัวใหญ่ที่เพิกเฉยมานานก็เข้ามาย้ำเตือนว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันท์ก็ไม่สามารถหนีจากพวกเขาได้
ตลาดเพิ่มทรัพย์กำลังจะมีการทำบุญใหญ่ประจำปี จัดในช่วงเวลาเดียวกันของทุกปีมานานกว่า 30 ปีแล้ว ทำให้งานนี้นับเป็นการจัดงานรวมญาติครั้งใหญ่ของตระกูลวีนิตา
ตรุษจีน เชงเม้ง นั่นก็เรื่องหนึ่ง คนที่แยกครอบครัวออกไปแล้ว หรือกลุ่มที่อยู่ในสายรองเขาก็จะแยกไปหาผู้ใหญ่ในครอบครัวของเขา แต่ในวันนี้คือวันแรกของการเริ่มต้นทำตลาด ปู่เพิ่มจึงกำหนดให้ทุกคนมาร่วมทำบุญด้วยกัน
ในตอนที่ปู่ยังอยู่ ลูกหลานที่มางานทำบุญจึงพร้อมหน้าหนาแน่น ด้วยความรู้สึกที่ว่าตลาดแห่งนี้เลี้ยงดูพวกเราทุกคน แต่พอปู่จากไป ความแบ่งแยกเป็นสายหลัก สายรอง บ้านไกล บ้านใกล้ก็ชัดเจนขึ้น จนมาในปีหลัง ๆ คนที่มาทำบุญจะมีแต่กลุ่มที่ยังพักอยู่ในละแวกใกล้เคียง กับพวกพ่อค้า แม่ค้าในตลาด นักธุรกิจ และญาติของ ‘ป้าเกศ’
มองตามหน้างาน คนที่เป็นแม่งานนี้คือพี่เอื้อย แต่แม่งานตัวจริงคือเกศรีหรือ ‘ป้าเกศ’ เมียของลุงเอก เธอยังเป็นตัวจริงเรื่องการคุมการเงิน และการบริหารกิจการตลาดเพิ่มทรัพย์ แม้ว่าโดยปกติจะทำหน้าที่สะใภ้ใหญ่ดูแลย่าอยู่ที่บ้าน แต่งตัวสวยงาม สะอาด และในรอบ 1 ปีเธอจะมาปรากฏตัวที่ตลาดสักหนึ่งครั้งก็คือวันทำบุญก็ตาม 
เธอเป็นสายบุญ เธอเป็นคนดี
เธอมีมือซ้าย มือขวาคอยจัดการกับพ่อค้า แม่ค้าที่ค้างค่าเช่า เธอมีเจ๊ใหญ่ เจ๊เล็กเป็นเครือข่ายสาขาเก็บค่าเช่าบ้านพัก ห้องแถว บรรดานักเลงคุมตลาดเกรงใจเธอมากกว่าลุงเอกเจ้าของตลาดตัวจริงเสียอีก และเธอคือคนที่ให้คำแนะนำกับพ่อสามีว่า ‘ฉลองทำเป็นแต่สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัว สักวันคงได้กลายเป็นอาชญากร ทางที่ดีคือควรป้องกัน ถ้าเขาไปทำร้ายใครจะได้ไม่เดือดร้อนมาถึงครอบครัว และอย่าเพิ่งให้เขามีสิทธิ์อะไรในกองมรดก’
ที่มันแย่กว่านั้นก็คือพอฉลองรู้เรื่องนี้ก็ยังทำตัวพาลเกเรจนญาติระอา และหนีไปญี่ปุ่น ส่วนเรื่องราวหลังจากนั้นก็เป็นไปอย่างที่เรารู้กัน
ฉันท์รู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก และทุกครั้งที่มาช่วยทำความสะอาดสำนักงานเพื่อเตรียมทำบุญก็มักจะมายืนอยู่ที่ด้านหน้าของฝาผนังที่มีรูปของบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวในสายหลัก หรือเมียรอง ลุงเอกก็มีความสามารถไปรวบรวมมา ทำให้บนฝาผนังนี้มีทั้งรูปของคนชรา คนหนุ่มสาว และเด็ก
หากเจ้ากวางต้องการจะอธิบาย Family Tree ให้น้าฐาติฟัง แนะนำให้พาน้ามาที่ห้องนี้ สามารถบรรยายให้เข้าใจได้โดยง่าย
แต่ที่นี่ไม่มีรูปของพ่อและแม่ของฉันท์
“โอนีจัง โคะนีใค”
“คนนี้คือคุณย่า โอบะซัง” สำหรับฉันท์แล้วทุกคนในที่นี้คือญาติฝ่ายพ่อ แต่ฉันท์ก็ไม่อยากให้น้องรู้สึกว่าถูกกีดกันเป็นคนอื่นจึงบอกกับน้องแบบนี้
“โคะ นี”
“คนนี้”
“โคน นี๋”
“คุณย่า”
“คุณย่า”
“เก่งมาก”
ฉันท์หอมแก้มยุ้ยของน้องชาย แล้วช่วยกันเช็ดถูทำความสะอาดต่อไป เพราะอีก 2 วันก็จะถึงวันงาน พอ 5 โมงเย็น 2 คนพี่น้องก็กลับบ้าน แต่พอถึงวันถัดมา ที่เป็นช่วงก่อนวันงานเพียงวันเดียว ธามันก็ขับรถคันใหญ่ไปรับ 2 พี่น้องที่ตลาดเล่นเอาคนที่มาช่วยเตรียมงานพากันประหลาดใจ
ในช่วงเย็นตลาดวาย เหลือแต่พวกร้านข้าวแกง และก๋วยเตี๋ยวที่อยู่รอบนอก แต่ถ้าเข้ามาด้านใน บรรยากาศในตลาดวันนี้คึกคักผิดกับทุกวัน เพราะคณะลิเกกำลังตั้งโรงลิเกตรงลานจอดรถหลังตลาด และมีคนงานกำลังตั้งเต็นท์ยาวตลอดแนวหน้าห้องแถวที่ตั้งของสำนักงานตลาด
ธามันที่ขับรถคันใหญ่มาถึงตลาดกับงง ไม่รู้ว่าต้องจอดรถที่ไหน พอถามยาม ยามก็บอกว่าก็จอดตรงนี้แหละจะดูให้เอง แต่วันนี้คงออกตั๋วค่าจอดรถให้ไม่ได้ ธามันยิ้มขำเพราะรู้ทัน หลังจากที่จอดรถเสร็จก็มาส่งเงินให้ 100 บาทแล้วเดินไปที่สำนักงานตลาด 
ห้องแถวส่วนที่ล้อมลานจอดรถเป็นอาคารที่ปลูกต่อเนื่องนับสิบห้องแล้วเว้นวรรคเป็นถนน ตรง 3 ห้องหัวแถวที่ติดป้ายสำนักงาน เป็นห้องที่สามารถมองเห็นได้ทั้งตัวตลาด ลานจอดรถ และส่วนที่เป็นห้องแถว ช่างเป็นตำแหน่งของห้องที่ดีมากจริง ๆ
ธามันเดินผ่านคนงานหลายคนกำลังช่วยกันประกอบเต็นท์ผ้าใบ เข้าไปข้างในสำนักงานเห็นผู้อาวุโสหลายคนกำลังช่วยกันจัดชุดของแห้งใส่บาตร ทั้งหมดหันมามองในทันทีที่ธามันเดินเข้ามาแล้วไหว้ทุกคน จากนั้นก็ถามหาฉันท์กับจิโระ
อาของฉันท์คนหนึ่งชี้บอกว่าฉันท์ขึ้นไปช่วยลุงรองจัดห้องที่จะเลี้ยงพระที่ชั้น 2 แล้วบอกให้ขึ้นไปหาได้เลย ธามันก็ขึ้นไปตามที่บอก
ตึกแถวขนาด 3 ห้องติดต่อกันพอเจาะผนังโล่งทั้งหมดก็ดูกว้างขวางดี แต่ที่โดดเด่นก็คือผนังห้องด้านหนึ่งมีรูปภาพบรรพบุรุษติดอยู่เรียงราย ที่ด้านหน้าคือโต๊ะไม้ตัวยาววางต่อกันพอดีกับความกว้างของผนัง ฉันท์ที่กำลังจัดผ้าปูโต๊ะหันมามองคนที่เดินขึ้นมาแล้วหันไปแนะนำ “ลุงรองครับ นี่คุณธามครับ”
ธามันจำลุงรองของฉันท์คนนี้ได้ เพราะมาช่วยในงานศพของพ่อและแม่ของฉันท์ตั้งแต่แรก แต่เขายกให้ลุงวินัยที่อยู่กับฉันท์เป็นคนออกหน้า
ธามันเข้าใจเรื่องความเกรงใจและให้เกียรติกัน ทั้งพอจะรับรู้สถานะของฉันท์ในครอบครัวใหญ่มาบ้าง แต่อาการแตกร้าวของฉันท์ในวันนั้นมันพิสูจน์ให้เห็นว่าผู้ใหญ่ในครอบครัวไม่สามารถปกป้องหลานชายได้เลย
ลึกลงไปในใจธามันยังมีความรู้สึกไม่พอใจ และไม่ค่อยไว้ใจพวกเขา
ลุงรองรับไหว้แล้วหันไปมองนาฬิกาที่ผนัง “อ้าว 6 โมงเย็นแล้วหรือ ขอโทษทีวันนี้ดึงตัวไว้เสียเย็น ไม่ได้มองนาฬิกาเลย”
“ผมมาช่วยทำงานครับ” ธามันรีบบอก “จะให้ยกโต๊ะ หรือเช็ดถูอะไรก็ทำได้นะครับ”
ดูรูปร่างก็เชื่อว่าเป็นคนที่ไม่เกี่ยงงานอะไร แต่งานทำความสะอาดที่เหลืออยู่เอาไว้ให้พวกคนงานทำจะดีกว่า 
ธามันเหมือนจะอ่านความคิดของลุงได้ พอหันไปเห็นอาถือถังน้ำกับไม้ถูกพื้นขึ้นมา ก็อาสาเข้าไปช่วย
จิโระเดินมาหาธามัน “ฮันซะมุซัง รุไหม่ ลุงรองกาบจิโระ จือ เมือน กัน”
“เหมือนกันยังไงครับ”
“โอนีบอกว่า รองคือ Second ที่สอง จิโระแปลว่า Second Son ลูกชาย คน ที่ สอง มืน เหมื่อน เมือน กั่น”
“ที่สองกับลูกชายคนที่ 2 ไม่เหมือนกันสักหน่อย” อาหันมาแกล้งเด็กน้อย
“เมือน สิ เมือน เพราะ เพราะอะไรนะโอนี” จิโระหันไปถามพี่ชาย
โอนีไม่รู้ว่าจะตอบน้องชายว่าอย่างไรก็หันไปถามอา “ถามอาสิ”
จิโระเปลี่ยนไปถามอา อาก็แกล้งให้มาถามโอนี สุดท้ายธามคือคนที่ช่วยน้อง
“ก่อนคำว่าที่สองจะมีคำอื่นอยู่ อย่างจิโระ คือลูกชายคนที่สอง สรุปก็คือเหมือนกันครับ”
จิโระพยักหน้าหงึกหงักเหมือนคำพูดทุกคำของฮันซามุซังเป็นของตนเอง
ธามันหันไปถามลุงรองกับอา “สรุปแบบนี้ได้ไหมครับ”
อายอมแพ้เพื่อเห็นแก่ความสงบในครอบครัว ส่วนลุงรองหัวเราะ “เอาที่สบายใจเถอะ วันนี้เดินบอกคนเขาไปทั่วว่าจิโระคือ Second Son เนี่ย”
“คงอยากเป็นเหมือนลุงรอง” ธามันบอก 
“เหมือนก็ดี” ฉันท์เข้ามาช่วย “ใช่ไหม”
“อื้ม”
อาให้กำลังใจ “เด็ก 3 ขวบ 3 ภาษาถึงบางทีจะมั่ว ๆไปบ้าง แต่พูดได้ขนาดนี้ถือว่าฉลาดมากเลยนะ”
“อันนี้ผลงานเจ้ากวางเขา ชวนคุย ชวนทะเลาะกันทั้งวันจิโระก็เลยพูดเก่ง” ฉันท์ยิ้มกว้าง “ต้องไม่ล้อเลียน ไม่บอกว่าพูดผิด ให้พูดใหม่ เพราะจะยิ่งทำให้ไม่พูด”
แต่ธามันอดไม่ได้ที่จะช่วยเสริม “ฉันท์เองก็มักเล่าเรื่อง หรืออ่านหนังสือให้น้องฟังตลอดด้วยครับ”
ระหว่างทำงานกันต่อ ลุงรองก็เล่าเรื่องของฉันท์ให้ฟัง “ตอนเล็ก ๆ เจ้าฉันท์ก็ไม่ค่อยพูดเพราะพ่อกับแม่ พูดไทย ญี่ปุ่น อังกฤษ ปนกันไปหมด ก็ถูกพวกพี่ ๆ น้อง ๆ เขาน่ะแหละล้อเลียน เลยกลายเป็นเงียบ แล้วพอมาวันหนึ่งก็เลิกพูดภาษาญี่ปุ่นไปเลย น่าเสียดาย”
“สอนน้องด้วยประสบการณ์ตรงนี่เอง” ธามันพูดยิ้ม ๆ แต่พอหันไปเห็นว่าฉันท์กำลังหรี่ตามองมาทางนี้ก็เลยรีบขยายความ “สรุปความคิดของพี่เฉย ๆ ไม่ได้ล้อเลียน”
“ดีมาก”
หลังจากเสียงหัวเราะ และการลงความเห็นว่าธามันมีแนวโน้มที่ดีในการเป็นผู้นำครอบครัวที่รู้จักเชื่อฟัง ลุงรองก็เล่าต่อ “ยูกิแม่ของเขาก็ชอบอ่านหนังสือ แล้วเขามีมนุษยสัมพันธ์ดีบ้านไหนมีงานก็พาลูกชายไปตลอด ส่วนฉลองน่ะ ทั้งที่รู้กันทั่วว่ามีปัญหากับพี่น้อง แต่ถ้าเมียกับลูกจะมาช่วยงาน เขาก็จะขับรถมาส่งแล้วพองานเลิกก็มารับ”
“โตน นี่ โอนีไปกับจิโระ” ที่จริงจิโระฟังทันไม่ถึงครึ่ง แต่ใช้วิธีเดาเอาจากคำศัพท์ที่ฟังรู้เรื่อง
“ถูกต้อง ตอนนี้โอนีไปกับจิโระทุกบ้านเลย”
“ทู้ก บ้าน โลย”
ลุงหันมาถามความเห็นธามัน “เจ้าฉันท์เองก็พูดเก่งขึ้นด้วยใช่ไหม”
“ครับ ก่อนนี้ยิ้มเก่ง ตอนนี้พูดเก่งขึ้นแล้ว เพราะต้องสอนน้อง”
จิโระกระตุกมือพี่ชายให้ช่วยแปลที่ธามันพูด เด็กน้อยนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปบอกลุงหน้าตาเฉย “ฮันซะมุซัง โชม โอนีทุก ยัง และ ย๊าไป สนจัย”
“อ้าว” ธามันทำหน้าตาผิดหวัง ขณะที่ผู้ใหญ่พากันหัวเราะ “คุยกันอยู่ดี ๆ ก็ไม่สนใจกันเสียแล้ว”
“ไม่สนจัย” จิโระกอดแขนพี่ชายไว้แน่น
“มาหวงโอนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว” อาแกล้งแหย่
    “ไม่สนจัย” จิโระยืนยัน
ระหว่างที่ปล่อยให้จิโระอยู่กับพี่ชาย และอา ลุงรองก็หันมาถามธามันอย่างจริงจังว่ามาที่ตลาดบ่อยหรือไม่ ชายหนุ่มบอกว่าได้แต่ขับรถผ่าน แต่เคยพบกับญาติผู้ใหญ่หลายคนตอนที่ไปวัด ลุงจึงเตือนฉันท์ว่า ตอนทำบุญพรุ่งนี้ก็พาธามันไปไหว้ย่าใหญ่ และลุงเอก ทั้งเชื่อลุงอีก 3 คนก็คงจะพาครอบครัวมาด้วย
“พวกเขาเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของพ่อเจ้าฉันท์ เจอพวกเขาแล้ว ก็จะได้เข้าใจมากขึ้นว่าทำไม 3 คนพ่อแม่ลูกถึงได้เป็นแบบนั้น” ลุงหันไปมองเด็กน้อยทั้งรู้สึกเกรงใจบรรพบุรุษที่อยู่ในรูปชั้นบนของสำนักงาน จึงชวนให้ธามันแวะไปกินเหล้าด้วยกันที่บ้าน
เมื่อทำความสะอาดอีกรอบเสร็จก็ปิดห้องกันแมว และแมลงเข้ามาในห้องจากนั้นก็ลงมาที่ชั้นล่าง ปรากฏว่าเหลือคนงานอยู่ 2 คนที่รออยู่และบอกว่าบ้านใหญ่เอาแกงเขียวหวานกับปลาทอดมาให้บ้านของเจ้าฉันท์ กับบ้านลุงรอง
“แล้วคนที่มาฝากไว้ไปไหนเสียล่ะ” ลุงถามแบบที่ไม่ได้ต้องการคำตอบขณะที่เดินไปดูของที่บ้านใหญ่ฝากไว้
นอกจากอาหารคาว ก็มีขนมหวานและผลไม้ด้วย “จิโระกับธามกินแกงเผ็ดได้ไหม”
“ไม่ได้/ได้ครับ” 2 คนตอบพร้อมกัน แต่ไม่เหมือนกัน
อาขยี้ผมเด็กน้อยขณะที่บอกว่าเดี๋ยวไปดูที่บ้านใหญ่ให้ว่ามีแกงจืดไหม
“ไม่เป็นไรครับ จิโระกินปลาทอดได้”
“เด็ก ๆ ต้องกินอาหารให้ครบหมู่สิ จะกินอย่างเดียวได้ไง” ลุงหันไปบอกอา “ไปดูกับข้าวที่บ้านใหญ่แล้วขี่รถตามไปให้ที่บ้านเลยก็ได้ ไม่ต้องรอกัน” จากนั้นก็หันมาบอกกับฉันท์ “พรุ่งนี้มาเช้าหน่อย เพราะใส่บาตรตอนตี 5 ครึ่งเสร็จแล้วจะทำบุญเช้าต่อเลยนะ”
บ้านใหญ่ที่เป็นบ้านแม่งานหลักอยู่ในซอยที่ถัดไปจากตลาด หรือห่างจากซอยบ้านของฉันท์อยู่ 2 ซอยแต่ตอนที่ธามันกำลังถอยรถเข้าบ้าน อาก็จอดรถมอเตอร์ไซค์ส่งปิ่นโตให้ 2 เถา กวางที่มาเปิดประตูให้รีบเข้ามาขอบคุณ รับของ แล้ววิ่งตื๋อเข้าไปในบ้าน
...เรื่องรับของเก็บของนี่หนูถนัดมากเลยนะ บอกเลย 
“อาจะกลับไปนอนเฝ้าที่สำนักงานหรือฮะ” ฉันท์ที่ลงจากรถก่อน เดินมาถาม
อาพยักหน้า แต่หันมาหัวเราะจิโระที่หลับสนิทจนธามันต้องอุ้มออกมาจากรถ “วันนี้นอนไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง”
“เดี๋ยวจับอาบน้ำก็คงตื่น” ธามันบอกง่าย ๆ ทำให้ฉันท์หันมามองหน้า
“โหดจัง”
แต่จิโระงัวเงียขยี้ตาหันมาบอกพี่ชาย
“โอนี หิวแล้ว”
อาเลยโบกมือไล่ “ไปเข้าบ้านไปอาบน้ำ กินข้าว จะได้รีบเข้านอนพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
ในห้องนอนเล็กของฉันท์ ตำแหน่งที่นอนยังคงเหมือนเดิม
จิโระนอนด้านในติดผนัง ฉันท์นอนด้านนอก ส่วนธามันนอนหน้าเตียงใกล้ฉัน ส่วนกวางนอนปลายเตียงยังได้ยินเสียง 2 คนคุยกันเบา ๆ
“พี่ พรุ่งนี้น่ะ พี่คงได้เจอย่ากับลุง แล้วก็ญาติผู้ใหญ่หลายคน ถ้าเขา...”
ธามันลุกขึ้นมากระชับผ้าห่มให้คนที่นอนบนเตียง แล้วจับมือผอม ๆ ของฉันท์ขึ้นมาพลิกจูบที่หลังมือ
กวางไม่ได้ยินว่าทั้ง 2 คนคุยอะไรกันต่อ แต่เห็นธามันลูบผมของฉันท์เบา ๆ เหมือนกำลังสัมผัสแก้วบาง ๆ ที่จะแตกร้าวถ้าเขาลงน้ำหนักมือมากเกินไป
กวางหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ตื่นนอนเพราะฉันท์มาสะกิดปลุกตอนตี 4
ตอนตี 4 นี่ฉันท์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว และธามันกำลังใช้ห้องน้ำอยู่ กวางก็เลยลุกมาเก็บที่นอน พอธามันอาบน้ำเสร็จก็อุ้มจิโระไปอาบน้ำแต่งตัว
แต่งตัวให้จิโระเสร็จก็คือทุกคนในบ้านพร้อมกันหมดแล้ว
“กวัง ไม่ไป รึ” จิโระถาม
“เดี๋ยวกวางจะขี่รถตามไป”
กวางส่งทุกคนออกจากบ้านแล้วถึงได้กลับไปเก็บห้องนอนทั้ง 2 ห้อง แล้วค่อยมาอาบน้ำแต่งตัว ไม่ลืมหยิบปิ่นโตไปคืนที่บ้านใหญ่ จากนั้นค่อยตามมาที่ตลาด
ตอนที่มาถึงก็เป็นไปตามคาด  ธามันอยู่ในกลุ่มของบ้านลุงเอก แน่นอนว่าลุงเอกต้องยืนอยู่หัวขบวน ถัดมาคือย่าใหญ่ที่เป็นคนเดียวที่นั่งรอพระ ข้าง ๆ คือเกศรี ถัดไปคือลูกชายลูกสาวทั้ง 3 ส่วนเขยกับสะใภ้ยืนอยู่ด้านหลัง ที่แปลกคือตอนนี้พี่เอื้อยกำลังคุยกับธามัน
ส่วนฉันท์กับจิโระแยกไปนั่งอยู่ในกลุ่มบ้านของลุงรอง โดยฉันท์กำลังช่วยป้าจัดของ ส่วนจิโระนั่งอยู่กับอา
ก็เป็นเสียอย่างนี้ทุกทีสิน่า
กวางเดินตรงไปหาจิโระ ที่กำลังพูดอวดพี่ชายตามสไตล์เด็ก 3 ภาษาพาเพลิน แต่เพราะว่าไม่มีพี่ชายกับกวางอยู่ใกล้ ๆ คอยช่วย แต่ละคำมันจึงเข้าใจได้ยากกว่าเคย
“ฮันซะมุ ทำงัน มั่ก ๆ  กับ มาถูงบ้าน จิโระ ก็ sleep แลว weekend ก็ไปทัม งัน แล้ว ก่อ ไป นัย มัย รุ” คนฟังลุ้นกันจนเหนื่อยกว่าเด็กน้อยจะพูดจบ
“แล้วเราทำอะไรบ้างล่ะวัน ๆ น่ะ”
จิโระส่ายหน้า “เลน โอนี บ่อก ว่า ปาย เลน กาบ กวัง ปัย”
คนฟังเห็นว่ากวางมาพอดีก็เลยชี้ “นี่ไงกวางมาแล้ว”
“มา เรว จัง”
“ก็รีบไง ก็เลยมาเร็ว”
กวางพูดทวนให้จิโระพูดซ้ำ ภาษาของจิโระก็เลยเริ่มเข้าที่เข้าทาง
เพิ่ง 3 ขวบพูดไม่หยุดขนาดนี้ อีกสัก 5 ปีกวางน้อยคงต้องเอาสำลีอุดหูละมั๊งเนี่ย..
แต่พอพระมาถึงกวางก็อุ้มน้องไปหาฉันท์ขณะที่ธามันก็เดินกลับมาหาฉันท์เหมือนกัน
ผู้ชมอย่างเจ้ากวางก็ยิ้มหน้าบานไปสิครับท่าน
หลังจากใส่บาตรก็แยกย้ายกันกินอาหารเช้าระหว่างรอลุงเอกกับน้องชาย 2 คนของเขาคุยกับเจ้าอาวาส
“พี่ดื่มกาแฟกับปาท่องโก๋ไหมฮะ” ฉันท์หันไปถาม
ธามันบอกว่าขอน้ำเย็นดีกว่า แต่พอฉันท์ขยับตัวจะลุกไปหยิบน้ำเย็นกวางก็ยื่นมาให้ทั้งถาดที่มีทั้งน้ำเย็น โอวัลติน และกาแฟ
“เอากาแฟไปให้คนอื่นเถอะกวาง อย่าลืมไปดูลุงกับป้าด้วย” ฉันท์บอกขณะที่ส่งน้ำให้ธามัน และส่งโอวัลตินให้จิโระ ส่วนธามันก็หยิบน้ำส่งให้ฉันท์
กวางแอบค้อนเบา ๆ ก่อนตอบ “โห คู่นั้นเขาสบายละ ยังไม่ทันใส่บาตรป้าก็จัดน้ำเต้าหู้ให้ลุงก่อนแล้ว” หันมาถามจิโระ “กินโจ๊กปลาไหม เดี๋ยวพระสวดแล้วกินไม่ได้นะ ต้องรอนาน”
จิโระเอียงคอหันมาหาพี่ชายแล้วส่ายหน้า ฉันท์เลยบอกให้ตักมาแค่ถ้วยเล็ก ๆ ก็พอ แต่จิโระกินโจ๊กได้คำเดียวก็มองหน้าพี่ชายอีกรอบแล้วส่ายหน้า ฉันท์ลองชิมดูแล้วทำหน้าแหย
“เดี๋ยวโอนีไปปรุงให้นะ”
แต่กวางมีข้อเสนอที่ดีกว่า “หนูพาจิโระไปกินข้าวมันไก่ทอดที่ซุ้มข้างนอกได้ไหม กินเสร็จหนูพากลับมาส่ง”
พอฉันท์พยักหน้า ธามันก็ขยับตัวส่งเงินให้ 200 บาท กวางรีบรับมาก่อนที่จะยกมือไหว้แล้วรีบจูงมือน้องออกไปทันที
“ให้เยอะจัง”
“ก็เผื่อไว้ก่อนไง” ธามันยิ้มกว้าง “หิวไหม”
“ไม่ฮะ พี่จะเอากาแฟสดหรือเปล่า ผมเดินไปเซเว่นตรงริมถนนให้”
คนตัวเล็กรู้ใจว่าการที่ธามันไม่ดื่มกาแฟที่กวางเอามาให้ ก็เพราะมันคือกาแฟผงที่ชงกับนมข้นหวาน แต่ธามันดื่มกาแฟสด กับนมสดไม่ใส่น้ำตาล เป็นลาเต้แบบเข้มข้นมาก
ชายหนุ่มลืมตัวจะยกมือขึ้นลูบผมน้องด้วยความเคยชิน แต่สะดุดสายตาของคนรอบข้างก็เลยต้องเก็บมือ
“เดี๋ยวกลับไปกินกาแฟที่บ้านก็ได้”
“ไม่เดี๋ยวหรอกฮะ” ฉันท์ยิ้มจนดวงตาพราว “พิธีไทย พิธีจีนกว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยงน่ะฮะ”
เมื่อละสายตาจากน้องมองผ่านไปทางด้านหลังเห็นนักธุรกิจและนักการเมืองหลายคนที่รู้จักกันก็มาในงานทำบุญครั้งนี้ด้วย
ฉันท์หันไปมองตามสายตาของธามันแล้วหันมาบอก “ไปทักสิฮะ”
แต่ธามันคิดว่าไม่ค่อยน่าเหมาะสมสักเท่าไหร่ ฉันท์ก็เลยบอกซ้ำ “แขกจะได้ไม่เก้อ”
“แล้วถ้าเขาถามว่าพี่เป็นใครจะให้ตอบว่ายังไง” สายตาของธามันมีความแพรวพราวอยู่สูงมาก จนฉันท์ต้องกำชับ
“บอกว่าบ้านพี่อยู่ใกล้ ๆ แล้วก็มีโครงการคอนโดฯอยู่ซอยถัดขึ้นไป ก็มาผูกมิตรไงฮะ”
ชายหนุ่มผิดหวังเล็กน้อย “ทางการจริง”
แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ลุกไปช่วยรับแขกตามที่น้องบอก ผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีกลุ่มนักธุรกิจก็มีสมาชิกจำนวนเพิ่มขึ้น หัวข้อของการพูดคุยก็เป็นเรื่องทั่วไป อาทิ พักอยู่ที่ไหน และความไม่คุ้นเคยกับงานเช้า
หลังการทำบุญเลี้ยงพระเช้าเสร็จ เพื่อนนักธุรกิจของธามันก็ลาเจ้าภาพกลับไปก่อน จากนั้นจึงเป็นพิธีจีน ของเซ่นไหว้มากมายถูกยกขึ้นมาวางเรียงรายที่ด้านหน้าของผนังห้องที่เต็มไปด้วยภาพบรรพบุรุษ ทุกคนจึงออกมารออยู่ที่นอกของสำนักงาน แต่ในช่วงระหว่างรอนี้เองที่ธามันตกอยู่ในกลุ่มลุงทั้ง 3 คนของธามันที่พูดคุยด้วยเรื่องทั่วไปจากนั้นจึงมาที่เรื่องของโครงการคอนโดฯ
พวกเขาไม่ได้อยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของพวกเขา แต่เมื่อได้มาแล้วสิ่งนั้นจะต้องคุ้มค่า รวมถึงคนด้วย
ธามันก็ไม่ได้ตีราคาตัวเองไว้สูงเกินจริง แต่เชื่อมั่นว่าตนเองคุ้มราคาที่สุดแล้ว
และขณะที่ธามันกำลังเครียดอยู่กับการพูดคุยกับผู้ใหญ่ ฉันท์ก็กำลังคุยอยู่กับอาเรื่องร้านข้าวต้ม เพราะเห็นว่ามีคนงานเข้าไปกั้นพื้นที่เพื่อเตรียมซ่อม
“แค่เตรียมฮะ เพราะต้องรอคิวคนงาน”
“เจ้าฉันท์ทำเองเลย” อาสาวคนหนึ่งบอก “ตอนอพาร์ทเม้นท์เราก็ซ่อมเองอยู่แล้วนี่”
“มันไม่เหมือนกันนะฮะอา”
เมื่อพิธีจีนเริ่มขึ้นในอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา ธามันก็เดินยิ้มกลับมาหาฉันท์ที่ยืนรออยู่
“ยิ้มแบบนี้แสดงว่าสอบปากเปล่าผ่านฉลุย” อาหันมาแกล้งแหย่ ส่วนฉันท์หัวเราะเบา ๆ
“ยิ้มให้กำลังใจตัวเองต่างหากละครับอา” ชายหนุ่มทำตลกแล้วเปลี่ยนเรื่อง “พิธีจีนเราอยู่ข้างนอกได้หรือครับ”
“ได้สิ อยู่รอให้ดูคนเยอะ ๆ แบบนี้แหละ” พิธีการของจีนมีมากมายจึงไม่แปลกที่ชายหนุ่มจะไม่เข้าใจ “ปกติเคยเห็นแต่เทกระจาดใช่ไหม”
“ครับ ที่ศาลเจ้า”
การพูดคุยกับอาไม่ต้องแสดงความรอบรู้อะไร เพราะอาบอกแค่ “คนจีนไหว้บรรพบุรุษตอนตรุษจีนกับสารทจีน แต่ที่ตลาดเพิ่มวันครบรอบวันตายของปู่เพิ่มคือวันนี้ ส่วนตรุษจีนกับวันสารท ถ้าไม่ว่าง ลางานไม่ได้ หรือมีนัดไว้ก่อนหน้าจะไม่มาก็ไม่เป็นไรหรอก”
ก้องเกียรติมนตรีมีสมาชิกเชื้อสายจีนอยู่ในครอบครัว แต่ธามันไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับประเพณีนอกจากการทำไปตามที่ผู้ใหญ่บอก
ส่วนประเพณีช่วงก่อนเริ่มต้นการทำโครงการแต่ละแห่งจะเป็นประเพณีพราหมณ์ กับพุทธ
สรุปคือธามันไม่มีความรู้พื้นฐานในเรื่องนี้มากพอที่จะทำคะแนนในเรื่องนี้ ได้แต่ฟังอารองเล่าไปเรื่อย ๆ
...เป็นช่วงเวลาที่ดร.ธามันโกรธตัวเองชมัด
กวางที่พาจิโระไปห้องน้ำเรียบร้อยก็พากลับมาส่ง “โอนี กวัง บ่อก ว่า มีลีเก”
ฉันท์เช็ดมือให้น้อง “จิโระอยากดูลิเกไหม”
“อื้ม”
พี่สาวที่อยู่ใกล้ ๆ หันมาชวน  “เจ้าฉันท์ ค่ำนี้พาจิโระกับธามมาดูลิเกด้วยสิ”
“ลิเกมีตอนกลางคืนนะ” ฉันท์หันมาชวนน้องชาย
จิโระอยากรู้ว่าลิเกคืออะไรก็รีบพยักหน้าทันที วินาทีนี้บอกอะไรมาก็พยักหน้ายอมรับหมดแหละ

คนงานหลังบ้านแอบนินทากันว่า ในวันที่ทุกคนในตระกูลมากันพร้อมหน้า ถ้าจะจัดอันดับคนสวยที่สุดในตระกูลกลับต้องยกให้เจ้าฉันท์ลูกชายคนเดียวของนายฉลอง ลูกชายคนเล็กที่ถูกตัดออกจากครอบครัวตั้งแต่อายุ 14 ปีคนนั้น แถมวันนี้เจ้าฉันท์ยังพาแฟนที่เป็นผู้ชายมาด้วย ตอนที่พาแฟนไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ พวกผู้ใหญ่ก็มีท่าทางพอใจเขยคนนี้ เพราะเห็นรั้งไว้ให้อยู่ข้าง ๆ คอยหันมาชวนคุยตลอด และเห็นว่าเข้ากันได้ดี ทั้งยังช่วยรับแขกผู้ใหญ่ และนักการเมืองด้วย
ครอบครัวเจ้าของตลาดน่ะ ขอเพียงมีเงิน และทำให้เขารวยขึ้นเขาก็ชอบอยู่แล้ว
คงลืมเรื่องในอดีตไปแล้ว
งานทุกอย่างจบลงก่อนเที่ยง เมื่อลูกหลานแต่ละคนทยอยเข้าไปลาย่าใหญ่ ฉันท์เข้าไปพร้อมกับจิโระและธามัน
“ยูกิ” ฉันท์เงยหน้ารับคำเรียกนั้น “ถึงฉลองจะไม่ใช่คนดีนัก แต่เขาก็รักเธอมากเลยนะ”
ฉันท์จับมือเหี่ยวย่นแนบแก้ม กราบย่าอีกครั้งแล้วถอยออกมา
เมื่อออกมาที่ด้านหน้า จิโระเขย่ามือของพี่ชายเบา ๆ “โอนี”
ฉันท์ก้มลงอุ้มน้องชายขึ้นมา
“รอลุงกับป้าก่อนนะ”
จิโระพยักหน้าแล้วหันมากอดคอพี่ชายไว้
“โอบะซัง เรียกโอนีเป็นโอกาซัง”
“โอบะซังอายุมากแล้ว บางทีก็จำสลับกัน”
“แต่โอบะซังก็มาบ้านเรา” จิโระหมายถึงตอนที่ทำบุญครบรอบวันตายของพ่อกับแม่
“โอบะซังรักโอกาซังมาก แล้วก็เสียใจที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น” และยังทำใจไม่ได้ “ที่ผ่านมาเวลาที่โอกาซังทำขนมหรือเอาของฝากจากญี่ปุ่นไปให้ ท่านก็จะพูดขอบใจ และให้กำลังใจอยู่เสมอ”
“โอนีก็ให้เหมือนกัน”
ฉันท์พยักหน้า “เพราะนั่นคือโอบะซังไง”
จิโระไม่ค่อยเข้าใจ เพราะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแท้ ๆ ที่เป็นชาวญี่ปุ่นอยู่เลย แต่ที่บ้านมีรูปของพ่อฉลอง ที่ทุกคนบอกว่านี่คือพ่อของโอนี ซึ่งไม่ใช่พ่อของจิโระ
จิโระไม่เข้าใจ...
“โอบะซังบ่อก ว่า พ่อมั่ยดี ขาว เขาโก่ดพ่อหรือ โอบะซังที่ญี่ปุ่นก็โก่ดโอกาซังเมือนกัน โอกาซังเคยพาจิโระไปถูงบั้น ยืนรออยู่ตั้งนาน มืน มาย ม่าย ไม่มีคนมาเปิดประตู ก็เลยมาหาโอนี”
พี่ชายหอมแก้มใส น้ำเสียงสั่นเครือเมื่อนึกภาพตามที่จิโระเล่า ในตอนที่แม่พาน้องไปหาคุณตากับคุณยายแต่ไม่มีใครต้อนรับ
 “ดีแล้วไง เพราะทำให้โอกาซังพาจิโระมาหาโอนี พวกเราถึงได้อยู่ด้วยกัน”
“โอนีจัง มีโคนพืด พู อืม” เด็กน้อยส่ายหน้าพยายามพูดให้ชัด “เขาพูดว่าพ่อไม่ดีลายโคน เลย”
มันคือสัญชาติญาณของมนุษย์หรือไงนะ เวลาที่มีคนพูดดี ๆ เกี่ยวกับเรา เรามักไม่ค่อยรู้ แต่ถ้าพูดเรื่องแย่ ๆ เมื่อไหร่เรามักจะรู้
ขนาดจิโระที่มีความสามารถในการฟังภาษาไทยแบบรู้ 1 คำ เดา 1 คำก็ยังรู้ว่ามีคนพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับพ่อ
“โอกาซังสอนเสมอว่า ไม่ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไรมันก็คือความรู้สึกของเขา แต่ความรู้สึกของเรา เราจะต้องจัดการให้ดีไม่ให้ความรู้สึกไม่ดีพวกนั้นเข้ามาอยู่ในใจของเรา” ดูสีหน้าของน้องก็พอจะรู้ว่ามีหลายคำในประโยคนี้ที่น้องยังไม่ค่อยเข้าใจ “เขาไม่พอใจเรามันเรื่องของเขา แต่เราไม่ควรมีความรู้สึกแบบเดียวกันนั้นกับเขา”
“อ่า...” จิโระพยักหน้าหงึกหงัก “ถ้าเขาทำไม่ดีกับเรา”
“มันก็เรื่องของเขา และเรายิ่งควรต้องทำดีกับเขาให้มาก”
“จิโระรักโอนีจัง” น้องถูไถคางกับไหล่ของพี่ชาย
“โอนีก็รักจิโระคุงเหมือนกัน”
ธามันลูบด้านหลังศีรษะของฉันท์ทัตเบา ๆ ทำให้โดนน้องเล็กที่กำลังงอแงชี้ที่ผมตัวเอง
“นี่ด้วย นี่ นี่”
ธามันยิ้มกว้าง ขณะที่เปลี่ยนไปลูบผมจิโระ ทำให้เจ้าตัวพอใจมาก

(มีต่อ)

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #192 เมื่อ25-04-2019 20:53:42 »

(ต่อครับ)

ครู่หนึ่งลุงกับป้าที่ลาย่าเสร็จแล้วก็ตามออกมาทั้ง 5 คนกลับมายังไม่ทันจะถึงรถ กวางก็วิ่งตามมาถามว่า จะเอาแกงจากบ้านใหญ่ไหม
ฉันท์หันไปมองธามัน “พี่ถือเรื่องกินข้าวบ้านงานหรือเปล่า” ตั้งแต่มาถึงเห็นธามันดื่มแต่น้ำเปล่า
“ไม่หรอก”
“เอามาแค่มื้อเที่ยงนี้ก็พอ” ฉันท์บอก
กวางยิ้มร่า “งั้นไปรอที่บ้านได้เลย เดี๋ยวกวางน้อยจะจัดการให้เอง”
ขาไปกวางขี่รถจักรยานไป แต่ขากลับกวางเอาจักรยานใส่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เพราะพี่เอื้อยให้คนงานเอาอาหารหลายอย่างมาให้ ทั้งที่กวางบอกไปแล้วว่า พี่ฉันท์บอกว่าแค่เที่ยงก็พอ
ฉันท์เป็นคนออกไปช่วยถือของเข้ามาในบ้าน  พอรถพ่วงข้างกลับออกไปกวางก็รีบบอก “อันนี้หนูไปตักจากที่บ้านใหญ่ ไม่ได้เอาที่ตลาด รับรองว่าสะอาด”
“อ้าว เราเข้าบ้านนั้นได้หรือ” ป้าถาม
“ได้สิ คนงานที่บ้านใหญ่น่ะ เขามาบอกว่าคุณเอื้อยให้ไปเอากับข้าวกับขนมที่บ้านใหญ่ หนูก็เลยไปตักใส่กล่องใส่ปิ่นโตมาเองเลย ขากลับเขาก็มาส่งเนี่ย”
ป้านิ่งคิดไปครู่หนึ่งแล้วหันมาถามฉันท์ “ที่ห้องชั้น 2 สำนักงานน่ะมีรูปพ่อเราหรือเปล่า”
ฉันท์ส่ายหน้า แล้วหันไปมองจิโระที่ตาใสแป๋วมองเขาคุยกัน
ส่วนลุงลูบผมจิโระแล้วชวนกันไปเล่นโดมิโน จิโระก็จูงมือลุงไปทันที
ณ จุดจุดนี้ ลุงที่เป็น 1 ในคนที่ใช้นามสกุลวินีตายังไม่ถือสาและจริงจังเท่ากับป้าที่เป็นสะใภ้
ธามันก็เลยชวนเปลี่ยนเรื่องคุย “หิวกันหรือยังครับ จะได้อุ่นกับข้าว”
เป็นประโยคที่ทำให้ธามันกลายเป็นจุดรวมสายตาในทันที
“นี่ทำเป็นจริง ๆนะ”
ทุกคนยังเงียบ
“ไม่เชื่อใช่ไหม งั้นเดี๋ยวจัดการเอง”
ธามันถกแขนเสื้อท่าทางขึงขัง ฉันท์ก็เลยเข้ามาดึงมือให้ขึ้นไปอาบน้ำ
“ทั้งร้อน ทั้งเมื่อยกันมาครึ่งวันแล้ว พี่ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าสัก 11 โมงครึ่งพี่มา...อุ่นกับข้าวก็ยังทัน”
“นี่ไม่เชื่อหรือไง” ธามันพลิกข้อมือเปลี่ยนเป็นจับข้อมือฉันท์ดึงให้ตามขึ้นไปด้วยกันแบบเนียน ๆ
“เชื่อสิ” ฉันท์ที่ถูกดึงขึ้นมาถึงข้างบนลดเสียงลง “แล้วจะดึงมือมาทำไม ผมจะอาบน้ำให้จิโระ”
“หนูทำเอง” กวางตะโกนขึ้นมา แล้วก็ได้ยินเสียงลุงกับป้าดุขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ว่าจะพูดทำไม
“กวาง พาน้องไปล้างตัวก่อนเลย ป้ารอห้องน้ำอยู่”
ฉันท์หน้าแดงไปถึงหู ขณะที่ธามันหัวเราะไม่มีเสียง
“พี่อ้ะ” ฉันท์ผลักเอวธามันเบา ๆ
เมื่อเข้ามาในห้องนอนเล็ก ธามันก็เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นอย่างแรก
“มีอะไรหรือฮะ”
“ถ้าไม่อยากบอกก็บอกพี่ตามตรงนะ ว่าไม่อยากบอก”
“จะถามเรื่องพ่อหรือฮะ”
แสดงว่าธามันก็ได้ยินคนพูดนินทาลับหลังเหมือนกันสินะ
ธามันพยักหน้า “เรื่องที่ทำให้ไม่มีรูปพ่อกับแม่อยู่ที่สำนักงาน และการที่พวกเขาไม่มางานศพพ่อใช่ไหม”
ฉันท์พยักหน้าเดินไปนั่งกอดเข่าหน้าเตียง “ตอนที่พ่ออายุ 13 เขาไปมีเรื่องกับวัยรุ่นอีกกลุ่ม ยกพวกตีกันแล้วลุงเกียรติพี่ชายคนที่ถัดขึ้นไปจากเขาน่ะฮะ เป็นคนที่ไปตามพ่อออกมาจากกลุ่มเพื่อนที่ฝั่งธนฯ แต่ลุงเกียรติถูกยิงตาย ต่อมาตอนอายุ 14 พ่อไปอยู่กับพวกรถซิ่ง วันหนึ่งตำรวจมาจับตัวถึงบ้าน เพราะถูกชี้ตัวว่าอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นที่ไปก่อเหตุรุมโทรมแล้วก็ใช้ยาเสพติดด้วย ปู่ก็เลยประกาศตัดเขาออกจากครอบครัว แล้วก็สั่งห้ามทุกคนให้ใครช่วยเหลือ แล้วพออีก 3 เดือนถัดมาเขาออกมาจากสถานพินิจ เอารายงานการสอบสวนมาติดไว้ที่หน้าบ้าน ยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำผิด”
แต่ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว
ปู่ก็ยังไม่ยอมให้เขาเข้าบ้านอยู่ดี เขาก็เลยไปอยู่กับเพื่อน ตอนนั้นลุงรองรับราชการอยู่ต่างจังหวัด ให้ลุงวินัยมาตามหาแล้วรับพ่อไปอยู่ด้วยกัน พอปู่รู้ก็ส่งคนตามไปจนถึงที่ เพื่อย้ำคำสั่งที่ว่าห้ามให้ใครช่วยเหลือ หลังจากนั้นพ่อก็เลยไปญี่ปุ่น” 
รู้ว่าเรื่องที่น้องสรุปมาให้ฟังยังไม่ถึงตอนจบ แต่ความรู้สึกไม่สบายใจที่มันเอ่อท้นขึ้นมาทำให้ต้องดึงน้องเข้ามากอด แล้วก้มลงจูบหน้าผาก
“ชิรายูกิ”
คนที่จากไปแล้วก็คือจากไปแล้ว แต่รู้สึกเป็นห่วงคนที่อยู่ในอ้อมแขนสุดหัวใจ
“หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นมากมาย แล้วชิรายูกิยังเข้มแข็ง ทั้งยังสอนให้จิโระก้าวข้ามความโกรธ ความไม่พอใจแบบนั้น ทำให้พี่ภูมิใจในตัวชิรายูกิมากเลยนะ”
ฉันท์ช้อนตาขึ้นมองพี่แล้วส่ายหน้าทั้งหัวเราะเบา ๆ “สอนก็เรื่องหนึ่ง ทำให้เหมือนกับที่สอนน้องก็เรื่องหนึ่ง แต่เจตนาที่แท้จริงนั่นต่างหากที่สำคัญ”
น่าสนใจมากขึ้นทุกทีสิน่า
ทั้งที่ชิรายูกิไม่ได้พูดอะไร แต่การที่เขามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นแบบที่ไม่ได้เห็นมานานมาก ยิ่งทำให้ธามันเป็นห่วงมากกว่าเดิม
 ...ที่โอกาซังสอนว่า เขาจะคิดกับเรายังไงก็ช่างเขา สำคัญคือเราต้องไม่ยอมให้ความโกรธ เกลียด ไม่พอใจเข้ามาอยู่ในใจเรา แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมได้ยินแต่คนพูดกันว่าพ่อไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ โอกาซังพาผมไปช่วยงานทุกบ้าน แต่ไม่เคยมีใครช่วยเราสักคน แม้แต่ในงานศพพ่อกับแม่ เพราะเขากลัวว่าผมจะยืมเงินเขาไปใช้หนี้ กลัวว่าจะต้องมาเลี้ยงดูผมกับน้อง แต่ในวันที่ผมขายอพาร์ทเม้นท์ให้พี่ ลุงเอกให้คนมาตามผมไปคุยที่บ้านใหญ่ ว่าได้เงินเท่าไหร่ การทำดีกับคนที่ร้ายกับเราได้ผลตอบแทนที่คุ้มมาก สีหน้าแววตา ท่าทางประดักประเดิด ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี จะทำเป็นพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ แค่บอกว่าขอบใจมากเฉย ๆ หรือจะแก้ตัวว่าทำไมถึงไม่ไปเผาพ่อผม มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีทั้งนั้น...
ดวงตากลมคู่นั้นหันมามองพี่ตรง ๆ “ผมไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่พี่คิดหรอกฮะ...พี่ยังรักผมอยู่ไหม”
ธามันกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ก้มลงจูบผมนิ่ม
ตนเองก็มีชีวิตอยู่ด้วยการแข่งขันเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ ต้องเจอกับเสียงนินทา และความลำบากใจเมื่อต้องยืนอยู่บนทางแยกระหว่างฐาติกับธนวัฒน์
“ชิรายูกิไม่ได้เป็นคนไม่ดี อย่าคิดโทษตัวเองแบบนั้น และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่ก็รักชิรายูกิเสมอ”
น้องเงยหน้าขึ้นมองพี่ “ตอนที่มาที่วัดพร้อมกับคุณฐาติวันนั้น นอกจากเรื่องพี่ทีมแล้ว ยังมีเรื่องอื่นด้วยหรือเปล่า”
“นั่นคือเหตุผลหลัก” และก็เคยสารภาพไปแล้ว แต่มันยังมีส่วนขยายที่ไม่ได้เล่าให้ฟังอีกนิดหน่อย “เพราะว่าวันถัดมาพี่ต้องไปไซด์งานที่มาเลเซีย กลัวว่าถ้ามาเจอกัน 1 วันแล้วหายไปจะกลายเป็นทิ้งระเบิดเรื่องคุณทีมไว้หรือเปล่า”
เหตุผลของพี่ก็มีอยู่เท่านี้ แต่ที่ต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากก็เพราะรู้ว่าคนในตระกูลก้องเกียรติมนตรีไม่ธรรมดา
น้องหรี่ตามองพี่แล้วพยักหน้าช้า ๆ ความซับซ้อนของความผูกพันกับความโกรธที่ฝังรากลึกอยู่ในแต่ละครอบครัวถึงจะมีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างกัน แต่ก็มีผลต่อการกระทำของทุกคนในครอบครัว
“พี่ว่าพี่ไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะ”
“ฮะ”
แต่ก่อนที่ธามันจะผละออกไปกลับหันมาจูบน้องอีกครั้ง
“ที่เคยแยกไป ทำให้ต้องอยู่ตามลำพังถือเป็นความผิดที่พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง แต่สัญญาว่าต่อไปจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชิรายูกิ ขอแค่บอกให้พี่รู้บ้าง เพราะถ้าให้พี่คิดเอาเอง พี่อาจกลายเป็นกาวตราช้างก็ได้”
ฉันท์หลุดหัวเราะคิก “พอแล้ว ผมไม่ได้โกรธอะไรพี่หรอก”
“แกล้งอำหรือ”
“ฮื่อ ทั้งคุณฐาติ ทั้งพี่ทีมก็บอกอยู่ตลอด ผมเองก็เห็นอยู่ทุกวันว่าพี่ทำงานเยอะมาก แล้วเรื่องที่พี่แยกไป ก็เพราะไปเรียนนี่นา” และฉันท์เข้าใจเรื่องที่ธามันพร้อมที่จะถอยออกจากเรื่องนี้ หากฉันท์คบหาอยู่กับธนวัฒน์จริง ๆ “ไปอาบน้ำเถอะฮะ เดี๋ยวผมจะลงไปเตรียมอุ่นกับข้าว”
ธามันอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้นบน แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนอนใหญ่ ขณะที่ฉันท์ลงมาอุ่นกับข้าว
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าลูก” ป้าเดินมาถาม
ฉันท์หันไปมองทางห้องน้ำ เห็นว่าจิโระยังอาบน้ำอยู่ “พี่กับจิโระได้ยินคนพูดเรื่องเกี่ยวกับพ่อ เขาก็พยายามให้กำลังใจ”
ป้าถอนหายใจ “ชาวบ้าน มีปากแต่ไม่มีสมองเลยไม่รู้จักคิดก่อนพูด” หลังจากบ่นผสมด่าญาติฝ่ายสามีจนพอใจ ก็ลดเสียงลง “ลูกไม่เคยไปเที่ยวตามลำพังกับธามเลยใช่ไหม”
ตั้งแต่กลับมาก็ไม่เคยจริง ๆ
“เดี๋ยวก็จะเปิดร้านข้าวต้มกันแล้ว คงจะยุ่งอีกนาน ระหว่างนี้ถ้ามีเวลาว่างตรงกันก็นัดไปพักผ่อน ไม่ต้องห่วงจิโระหรอก”
ฉันท์ไม่แน่ใจ “จะลองถามดูนะฮะ มีอะไรหรือเปล่าฮะ”
ป้าจิ๊ปาก “เขาเป็นห่วง แต่พอจะคุยกันถ้าไม่ออกไปหน้าบ้าน ก็ต้องพาขึ้นไปข้างบนแบบนี้ เป็นเพราะเราไม่มีความเป็นส่วนตัวให้เขา อย่าลืมว่าครั้งแรกจนถึงครั้งนี้ ที่เขามาอยู่กับเราเพราะอะไร ไม่ใช่เพราะเอาแต่ใจ แต่เพราะเขารักเรา และเขาไม่ชอบคนไปยุ่งวุ่นวายชี้นำอะไรเขา ตอนนี้เจ้าฉันท์กับธามต่างก็อยู่ในวัยทำงาน ก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงิน แต่เราต้องไม่ลืมที่จะเอาใจใส่ความรู้สึกของเขา” ป้าพยักหน้าไปทางดอกไม้ในแจกัน “ตั้งแต่เขาคุกเข่าขอเป็นแฟนวันนั้น เราเคยให้อะไรเขาหรือยัง”
ฉันท์ส่ายหน้า
ป้ากลอกตา 1 รอบแล้วถอนหายใจเบาๆ

...จบตอนที่ 12...

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #193 เมื่อ25-04-2019 22:59:28 »

สงสารน้องจัง กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาเยอะแยะ
 :pig4:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #194 เมื่อ25-04-2019 23:44:41 »

ปู่ใจร้ายเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #195 เมื่อ26-04-2019 10:38:12 »


นี่คือปัญหาของครอบครัวใหญ่จริง ลำพังพี่น้องน่ะไม่เท่าไหร่เพราะว่ายังไงก็สายเลือด
แต่หากเมื่อไหร่ที่มีเขยหรือสะใภ้เข้ามาถ้าดีก็ดีไป แต่ถ้ามาร้ายนี่แหล่ะที่ทำให้ลูกปืนมันราคาถูก

แต่ตอนนี้ต้อง  :L1:  ให้คุณป้าเลยค่า
แต่แอบสงสัยนิดหนึ่งค่ะ คุณป้าคะเราว่าถ้าจิโระรู้ว่าพี่ๆจะหนีไปเที่ยวมีแผนรับมือยังไงคะ ^++++^



ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #196 เมื่อ26-04-2019 11:52:26 »

คุณป้าคะ 5555555555555
น่าสนใจจริงๆน่ะแหละฉันท์น่ะ

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #197 เมื่อ26-04-2019 14:51:09 »

กลัวใจฐาติสุด ถ้าเกิดวันนึง ธามพยามเปลี่ยนใจหรือชักจูงให้เขามองคุณทีมใหม่ แล้วจะโกรธจนกลายเป็นหันมาเอาเรื่องธามแทน

หวังว่าจะไม่นะ

เป็นกำลังใจให้ คนเขียนคนโพสจ้า


ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #198 เมื่อ26-04-2019 20:19:08 »

ครอบครัวใหญ่ มีเงินมีผลประโยชน์เป็นตัวแปร เลยยิ่งยุ่ง

ฉันท์ต้องให้พี่นะ อิอิ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #199 เมื่อ28-04-2019 12:43:40 »

 :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
« ตอบ #199 เมื่อ: 28-04-2019 12:43:40 »





ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #200 เมื่อ28-04-2019 15:22:53 »

กราบป้า

ป้าคือสาววายที่แท้จริง

ถึงน้องฉันท์กับจิโร๊ะ

จะกำพร้าพ่อ แม่

แต่หนูมีลุงมีป้าที่น่ารักแบบนี้ก็ดีแล้ว

ยิ่งตอนนี้มีพี่ธามมาดูแลแบบเต็มตัว

หนูไม่ต้องกลัวอะไร แล้วนะ

ฝั่งบ้านน้องหมดปัญหาแล้ว

ฝั่งบ้านพี่ที่ดูเหมือนจะมีสงครามใหญ่

จะข้ามผ่านปัญหาไปได้ง่ายๆใหมน๊ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #201 เมื่อ30-04-2019 01:14:44 »

ท่ามกลางความไม่ปกติ และหน่วงนิดนึง
ก็ยังมีความหวานแอบแฝงอยู่ไม่จาง

ชอบความเอาใจใส่ดูแลของธามฉันท์
ธามไม่ทิ้งความรู้สึกเล็กน้อยของน้องเลย
ฉันท์ก็มองพี่ออก รู้ใจพี่ตลอดเวลา

ชอบความคุณป้า ที่กระตุ้นฉันท์ให้เวลาพี่บ้าง

กวางเป็นเด็กบ้าบอ ที่ตลก และฉลาดร้ายมาก

เอ็นดูจิโระ เถียงเก่ง งอแงเก่ง และอ้อนพี่ชายเก่ง


ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #202 เมื่อ30-04-2019 20:22:09 »

ยิ่งอ่านยิ่งไม่ชอบบ้านใหญ่ของน้อง โดนเฉพาะเมียลุงเอก ยังกะเป็นพิไล กลัวคนมาแย่งสมบัติ
ชิรายูกิเข้มแข็งมากจริงๆ ที่ผ่านอะไรๆ มาได้ถึงวันนี้
จิโระซังน่ารักน่าชังมากกกกกกก พวกป้าๆอาๆเขาไม่หลงแย่รึ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #203 เมื่อ08-05-2019 14:22:03 »



 ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ


เรามานั่งรอว่าพี่จะพาน้องไปเที่ยว2 คนได้หรือเปล่า


เรื่องอื่นๆ ตอนนี้ตราบใดที่พี่อยู่กับน้องเราไม่กลัวแล้วว 555555


ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: Kiss the Snow ตอนที่12 (25/4/2562)
«ตอบ #204 เมื่อ08-05-2019 17:15:28 »

รอ

รอ

รอ

รอ

รอ

รอ

รอ

รอ

รอ

รอ

รอ

รอ

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Kiss the Snow ตอนที่13 (10/5/2562)
«ตอบ #205 เมื่อ10-05-2019 21:08:33 »

ตอนที่ 13

อาหารและขนมที่กวางเอามาจากบ้านงานยังอุ่นอยู่ แต่เพื่ออนามัยที่ดี ฉันท์ก็นำมาอุ่นซ้ำทั้งหมดอีกครั้ง โดยมีธามันเป็นลูกมือคอยช่วยล้างปิ่นโตและกล่องใส่อาหาร แต่คราบความมันที่ค้างอยู่ทำให้ต้องล้างซ้ำอยู่หลายรอบ
“ขอไปค้นกูเกิ้ลหาวิธีล้างกล่องกับปิ่นโตก่อนได้ไหม”
“พี่ต้องใช้ทิชชู่เช็ดก่อน หรือใช้น้ำเย็น”
คนตัวใหญ่ทำเป็นบ่น “รู้ว่าทำยังไง ก็ยังปล่อยให้เราล้างอยู่ตั้งหลายรอบ”
“ก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวผมทำเอง” ฉันท์หันไปจัดผักสด แต่พอแกงเดือดได้ที่จะหันไปหยิบถ้วย ผู้ช่วยก็รีบหยิบถ้วยมาถือรอไว้
“วางดีกว่าฮะน้ำแกงร้อน จะลวกมือเอา”
ธามันยังคงเป็นผู้ที่เชื่อฟังเป็นอย่างดีเหมือนเคย แต่ฉันท์ชะงักมือเอียงหน้ามองพี่
“พี่ทำไม่เป็นจริง ๆหรือ”
“จริง”
ฉันท์นิ่วหน้าแล้วก็ส่ายหน้า เพราะไม่เชื่อ ระหว่างที่กำลังตักแกงใส่ถ้วยก็เล่าเรื่องหนึ่ง
“ผมมีน้าผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง ชื่อน้าสาว เธอเป็นผู้หญิงเก่ง คุมโรงงานทำน้ำพริกมีคนงานมากกว่าสิบคน แต่เวลาเธอจะไปไหนมาไหน สามีจะคอยดูแลตลอด ขนาดจะไปกินข้าวกับเพื่อน สามียังขับรถไปส่งแล้วก็ไปรับ เวลาห่างกันก็จะคอยโทรถาม ผมเห็นเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ จนตอนนี้เขาก็ยังดูแลกันแบบนี้ จำได้ว่ามีญาติ ๆ ฝั่งผมนี่แหละนินทาเขาว่า น้าเขยเจ้าชู้เลยทำดีกับเมียกลบเกลื่อนหรือเปล่า”
ธามันส่งเสียงประท้วงในลำคอพอให้คนเล่าได้อมยิ้มเล็ก ๆ แล้วเล่าต่อ
“แต่ที่จริงแล้วน้าเขยเขาไม่เคยมีใคร” ”
ธามันพยักหน้าเหมือนกับว่านี่คือเรื่องเล่าของตนเอง
“แล้วก็ชาวบ้านอีกน่ะแหละที่บอกว่า เขาอาจกลัวญาติฝั่งเมียก็เป็นได้”
คราวนี้ธามันส่ายหน้าทั้งส่งเสียงคัดค้านอีกครั้ง
“น้าสาวบอกว่า ชาวบ้านไม่รู้อะไรก็พูดไปเรื่อย แต่แท้จริงแล้วน้าเขาใช้เทคนิคของชีวิตคู่”
ธามันหัวเราะเบาๆ เมื่อฉันท์พูดต่อ
“ซึ่งนั่นก็คือ...แกล้งโง่ให้ถูกเวลา”
“ก็เผื่อจะดูมุ้งมิ้งขึ้นมาบ้างไง”
ฉันท์คลี่ยิ้มกว้าง ที่ธามันอินกับเรื่องเล่านี้อย่างจริงจัง “แล้วพี่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้หรือไง”
“เหมือนกับที่ชิรายูกิรู้ทันพี่นั่นแหละ” น้องพยักหน้าอย่างเก้อเขิน พี่ก็ลดเสียงพูดให้เบาลงไปอีก “พี่ไม่มีศัพท์เทคนิคอะไรแบบนั้น ไม่รู้เรื่องเคล็ดลับหรือคู่มืออะไร รู้แต่ว่าเมื่อรักเขาแล้วก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด”
มือสวยชะงักไปเสี้ยววินาที ขณะที่แก้มใสแดงเรื่อมาจนถึงลำคอขาว ธามันก็ยิ่งไล่ต้อน
“ถึงจะรู้ว่าเขาเข้มแข็ง แต่เพราะรัก ก็จะรู้สึกไม่ค่อยวางใจ อยากดูแล อยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ถ้าทำให้รู้สึกอึดอัดใจ หรือไม่สบายใจก็บอกพี่”
“เป็นคำพูดที่ไม่เห็นจะเข้ากับพี่สักเท่าไหร่” จะเข้าหรือไม่เข้ากับพี่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าน้องเขินมาก
ธามันรู้สึกอยากจิ้มแก้มแดงเรื่อนั่นมาก แต่เกรงใจลุงกับป้า และจิโระก็นั่งอยู่ใกล้ ๆ
กวางที่เก็บเสื้อผ้าของลุงกับป้าและจิโระไปซักตากเรียบร้อย เดินกลับมามาในบ้าน เห็นลุงกับจิโระเล่นโดมิโนอยู่ด้วยกันก็ถามขึ้น 
“ทำไมยังไม่มีใครหิวกันเลยล่ะ” กลิ่นกับข้าวหอมฟุ้งเสียขนาดนี้
“โอนี กวัง เหวแลว” จิโระหันไปบอกพี่ชายทันที
“อ้าว งั้นก็มากินข้าวสิ” ฉันท์เรียก “กินข้าวเที่ยงพร้อมกับจิโระเลยดีไหม”
พี่ฉันท์ไม่ถือสาเรื่องที่หนูจะกินก่อน หรือว่ากินพร้อมกันกับทุกคน แต่เวลาที่พี่ธามอยู่ด้วยน่ะมันไม่เหมือนกัน ถึงเขาจะดูใจดี แต่เขาก็มีออร่าบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเกรงใจ
ถึงจะนานหลายเดือนแล้ว แต่หนูยังจำน้ำเสียงดุๆ ของเขาตอนที่ได้ยินจากโทรศัพท์ของน้าได้นะ
ป้ารู้ว่าทุกคนในบ้านยังมีความเกรงใจธามันอยู่ก็เลยเรียกทุกคนมากินข้าวเที่ยงพร้อมกัน
“อยู่กันพร้อมหน้าทั้งที เราก็กินข้าวพร้อมกันเสียเลยดีไหม”
“หนูอุ่นเอง” กวางยกมือแล้วรีบวิ่งมาที่ครัว แต่ฉันท์บอกว่าอุ่นเสร็จแล้ว
“กวางมาช่วยพี่เตรียมโต๊ะดีกว่า”
กวางกับฉันท์ช่วยกันจัดโต๊ะ เตรียมน้ำดื่ม จิโระก็เก็บของเล่นแล้วจูงมือลุงมาที่โต๊ะกินข้าว
“จิโระคุงเก่งมากเลย” พี่ชายหันไปชม
“อื้ม” จิโระยืดอกรับคำชมทันที
“ถ่อมตัวบ้างก็ได้” กวางแซว จิโระก็เลยหันไปถามพี่ชายว่าหมายความว่าอะไร
ฉันท์อธิบายกับน้องว่า หมายถึงการแสดงความขอบคุณด้วยการพูดว่า เราไม่ได้เก่งขนาดนั้น
“แต จิโระ เกง นี่นา” จิโระเถียง “โอนี บอก วา จิโระเกง”
“ถ้าจิโระเก่ง กวางก็เก่งเหมือนกัน” กวางไม่ยอมแพ้
“คัยบอกว่ากวังเกง”
“พี่ของกวางไงบอกว่ากวางเก่ง”
“ยัง นั่น ก่อ ถวก แล่ว” จิโระสรุป
“ช่าย ใครที่ไหนบอกว่าเราไม่เก่งก็ช่าง แต่ถ้าพี่บอกว่าเราเก่งแล้ว ก็คือตามนั้นแหละ”
“ช่าย ชาย ช่าย” จิโระเริ่มการเทียบเสียงวรรณยุคอีกครั้ง
“เอ้าคนเก่ง 2 คนนั่งลงแล้วกินข้าวได้แล้ว” จากนั้นป้าก็หันมาเรียกธามัน “มากินข้าวพร้อมกันเถอะ อย่ามัวแต่หัวเราะจิโระกับกวางอยู่เลย”
แต่พอหันมาที่โต๊ะปรากฏว่า จิโระย้ายไปนั่งท้ายโต๊ะ ซ้ายมือคือกวาง ถัดมาเป็นที่นั่งของฉันท์ และธามันอยู่หัวโต๊ะ ส่วนอีกด้านคือลุงกับป้า
ปกติลุงจะเป็นคนที่นั่งในตำแหน่งที่จิโระนั่งอยู่
“ทำไมจิโระไปนั่งตรงนั้นล่ะ” ฉันท์ถามเพราะจิโระมักนั่งติดกับพี่ชายเสมอ
“จิโระ เกง ” จิโระบอก
ลุงช่วยตอบข้อสงสัย “นั่งตามนี้แหละดีแล้ว”
ธามันค้อมศีรษะเพื่อแสดงความขอบคุณลุงที่สละที่นั่งของหัวหน้าครอบครัว แต่ยังไม่ทันจะพูดขอบคุณ  ทั้งจิโระกับกวางก็พากันต้อง ‘อ๋า’ ขึ้นมาพร้อมๆกัน
“อ๋าอะไรกัน ตัวตลก 2 คนนี้” ป้าบอกทั้งรอยยิ้ม
จิโระหันไปชี้กวาง “ตัว ตอหลก”
“จิโระต่างหากตัวตลก”
“ตอหลก ตา ตะหลก”
“เห็นป้ะ สอนคำแบบนี้อะจะพูดเร็ว ป้ากับพี่ฉันท์ไม่เชื่อหนู” กวางแย่งเอาความดีความชอบ
“ป้ะ ป้ะ ป้า ป้ะ”
“นั่นไง คำนี้มาอีกแล้ว” ป้าหันไปโบกมือเพื่อบอกกับธามันว่าไม่ต้องมากธรรมเนียมอะไร เพราะมันไม่เคยสำเร็จ ยิ่งเวลาที่จิโระอยู่กับกวางก็จะพากันออกนอกเรื่องไปตลอด
“วันนี้จิโระดีดมาก”
“ดี ดีด ดี ดีด”
“โอย จิโระป้าเวียนหัวแล้วลูก”
“กวัง เอายาดม ป้า ไม่ซา บัยแหล่ว”
กวางรีบวิ่งไปหยิบยาดมมาวางข้างมือป้าอย่างว่องไว
“ยาดมครับ ป้าอย่าเพิ่งรีบร้อนเป็นอะไรไป ช่วยอยู่หัวเราะกันไปนาน ๆ”
ป้ากุมขมับ ขณะที่ธามันหัวเราะเสียงดัง

หลังมื้อเที่ยง ลุงกับป้าแยกไปเอนหลังในห้องนอนชั้นล่าง ส่วนจิโระนอนกลางวัน แต่ตอนนี้ไม่ได้นอนในกล่องแล้ว เปลี่ยนมาเป็นเบาะเด็กที่มีมุ้งครอบอย่างเรียบร้อย 
ส่วนฉันท์กับกวางแบ่งงานกันทำ ธามันที่ไม่คอยได้อยู่บ้านสักเท่าไหร่เป็นลูกมือฉันท์ทำความสะอาดห้องครัวครู่เดียวก็เรียบร้อย
"เมื่อเช้าตื่นเช้ามาก ไม่นอนพักสักหน่อยหรือ" ธามันแกล้งชี้ไปที่รอยคล้ำใต้ตา
ฉันท์หน้าตาเหรอหรา รีบวิ่งไปส่องกระจกในห้องน้ำ ที่กวางกำลังทำความสะอาดอยู่
"ไม่เห็นจะมีเลย" ฉันท์เถียงแล้วหันมาถามความเห็นของกวางว่ามีรอยคล้ำไหม
บางทีหนูก็ไม่ค่อยเข้าใจคนมีความรักสักเท่าไหร่นะ
"พี่ธามเขาอยากให้พี่ฉันท์นอนพักไง"
"ก็ไม่ได้ง่วงนอนนี่"
"นอนเหอะ เดี๋ยวหนูล้างห้องน้ำเสร็จจะขอไปหาแม่ แล้วก็ไปตลาดต่อ พี่จะให้หนูซื้ออะไรบ้างจดไว้เลยนะ"
“แบบนี้ไม่เรียกว่าขอนะ" ธามันทำเสียงเข้มมาจากด้านหลังของฉันท์
"อ่า..." เป็นครั้งแรกเลยจริงๆ ที่ได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ แบบที่ไม่ผ่านคลื่นความถี่ ขนาดฉันท์ยังได้แต่ทำตาปริบๆ "ล้างห้องน้ำเสร็จแล้ว ขออนุญาตไปหาแม่นะครับ"
"อืม" ธามันพยักหน้า เดินไปที่โต๊ะทำงาน ฉันท์ก็เดินตามมา
"พี่ฮะ คือ..."
ธามันไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง แต่ชี้ไปที่ว่างข้างที่นอนของจิโระ
ฉันท์พยักหน้าแล้วเดินไปหยิบหมอนใบเล็กมานอนข้างน้อง
กวางที่แอบมองออกมาจากขอบประตูห้องน้ำเห็นว่าธามันกำลังยิ้มกว้าง ท่าทางมีความสุขมากที่ได้แกล้งคนอื่น
คนหล่อและรวยนี่ร้ายกาจกว่าที่คิด

ฉันท์หลับไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ตื่น แต่พอพลิกตัวมาอีกฝั่งก็พบว่าธามันกำลังหลับอยู่ข้าง ๆ และลืมตาขึ้นมาทันที
“กวางเพิ่งออกไป พี่ปิดบ้านแล้ว ชิรายูกิหลับต่ออีกหน่อยก็ได้”
“แล้วพี่ตื่นทำไมล่ะ”
“ก็ชิรายูกิตื่นไง”
“พี่ง่วงหรือเปล่า”
“ไม่เท่าไหร่ แต่บ้านเงียบมาก เห็นคนนอนสบายอยู่ 2 คนใกล้ ๆ ก็เลยนอน”
ฉันท์ยิ้มหวาน ขยับตัวซุกหน้าลงกับไหล่หนา แล้วหลับตาลง ธามันก้มหน้าลงหอมผมนิ่มแล้วหลับตาลงเช่นกัน
แต่พอได้ยินเสียงรถจักรยานของกวางจอดที่หน้าบ้าน ฉันท์ก็พลิกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับธามันอีกครั้ง
ธามันลุกไปเปิดประตูให้กวาง ส่วนฉันท์รีบไปล้างหน้า พอออกมาจากห้องน้ำกวางก็เลยถาม
“ร้องไห้หรือครับ”
“หืม” ทั้งฉันท์และธามันทำเสียงสงสัยพร้อมกัน
“ก็พี่ฉันท์ล้างหน้า หนูก็เลยสงสัย ถามว่าร้องไห้หรือครับ” กวางอธิบาย
“ล้างหน้าเพราะนอนเพิ่งตื่นต่างหาก เรานี่ถามอะไรแปลก ๆ”
กวางทำปากยื่น มองตามธามันที่เดินสวนเข้าไปในห้องน้ำ
“พี่ออกไปปิคนิคที่สวนกับพี่ธามไหม หนูช่วยจัดตะกร้า” เมื่อฉันท์หันไปมองจิโระ หันมาอีกทีกวางก็กำลังหยิบกล่องข้าวออกมาวางกับขนมปังแถว  แล้วหันไปกดเครื่องต้มกาแฟร้อนอัตโนมัติ
“ยังไม่ได้บอกว่าจะออกไปเลยนะ”
“แต่หนูแนะนำให้ออกไป พี่ 2 คนไม่ค่อยได้คุยกัน หรือได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง คุณพี่ผู้ชายเขาจะเครียดเอา” กวางบุ้ยปากไปทางห้องน้ำแล้วหลบให้ฉันท์เข้ามาทำแซนด์วิช
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ป้าก็เพิ่งพูดเรื่องคล้ายกัน
มันก็จริง พี่มีชีวิตอิสระ และเป็นตัวของตัวเองมาตลอด จู่ ๆวันหนึ่งมีครอบครัวที่มีทั้ง เด็ก คนป่วย และคนชรา ไม่เคยได้อยู่กันตามลำพัง
อย่างวันนี้ก็พอจะมองเห็นว่าพี่ชะงักมือที่อาจจะลูบผม หรือจับมืออยู่หลายครั้ง แน่ใจว่าเป็นเพราะไม่ได้อยู่ตามลำพัง
แล้วพี่เครียดหรือเปล่า...
เมื่อพี่ออกมาจากห้องน้ำกลิ่นกาแฟก็หอมไปทั้งบ้านแล้ว
“ทำอะไรกันอยู่”
กวางเป็นคนตอบ “พี่ฉันท์จะชวนพี่ธามไปปิคนิกในสวนไงครับ”
พี่ตามใจอยู่แล้ว “แล้วเก็บเสื่อไว้ที่ไหน”
“หนูไปหยิบเอง” กวางรีบวิ่งไปหยิบเสื่อพับมาจากในตู้ด้านหลังโต๊ะทำงานของธามัน แล้วมาส่งให้
ฉันท์ทำแซนด์วิชทูน่าเสร็จก็เรียงใส่กล่อง ตามมาด้วยผลไม้ และกาแฟใส่กระติก แล้วชวนกันเดินไปที่สวนผลไม้หลังบ้าน
รั้วไม้ระแนงความสูงแค่เอวกั้นแบ่งพื้นที่ระหว่างบ้านกับสวนที่โอบล้อมอยู่ น้องเปิดประตูแล้วหันไปมองพี่ที่เดินตามมา
"ยิ้มอะไร" พี่ถาม
น้องยิ้มกว้างกว่าเดิม "กำลังคิดว่า พี่เดินข้ามประตูบานนี้ได้สบาย ๆ"
พี่ไม่ได้เดินข้าม แต่ยักคิ้วแล้วเดินตามมา มือหนึ่งหอบเสื่อ อีกมือถือตระกร้า ส่วนน้องถือหนังสือเล่มที่พี่อ่านค้างอยู่ แล้วยังมีพัดกับหมอนใบเล็กให้พี่ด้วย
"ตรงใต้ต้นจำปีขาวคู่กับแก้วเจ้าจอมใกล้ริมน้ำจะร่มแล้วก็เย็นกว่าที่อื่น ไปนั่งตรงนั้นกันนะฮะ"
หนุ่มตัวเล็กเดินข้ามร่องน้ำซึ่งแห้งขอด "ที่ตรงนี้เป็นที่รับน้ำ เวลาน้ำท่วมก็ลงมาที่นี่ แล้วไหลลงคลองหลังบ้าน ตัวบ้านของเราก็เลยต้องปลูกสูงกว่าบ้านอื่น”
พี่พยักหน้า บ้านที่ปลูกริมคลองคือจุดรับน้ำโดยธรรมชาติ การก่อสร้างริมน้ำจึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง
ตอนที่เห็นบ้านหลังนี้ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน พี่มองเห็นโครงการใหญ่ที่นี่ แต่ต่อมาก็มักจะมองเห็นแต่บ้านที่อยู่ด้วยกันกับน้องเท่านั้น
“เราประหยัดค่าน้ำรดน้ำในสวนไปได้เยอะเลย" นิ้วมือสวยชี้ไปที่ถังเก็บน้ำความสูง 3 เมตรที่ตั้งเรียงเป็นแถวอยู่ในสวน "เวลาฝนตกก็เปิดฝารับน้ำ เวลาน้ำท่วมก็สูบเข้าไปเก็บไว้ถังที่พ่อทาสีแดงไว้ แต่วันก่อนคนงานที่มาทำสวนบอกว่า เหลือน้ำอยู่ไม่ถึงครึ่งถัง ผมมักจะคิดว่าตอนที่แม่ไม่อยู่พ่อก็ไม่สนใจอะไร แต่มาถึงตอนนี้ มีหลายคนช่วยกันเตือนผมอ้อม ๆว่า ผมนั่นแหละที่ไม่สนใจอะไรเลย"
ธามันให้กำลังใจ "เวลา 4 ปียังมีน้ำเหลืออยู่อีกครึ่งถังจาก 10 ถังก็นับว่ายังดีที่เหลืออยู่นะ"
"ผมหมายความว่า ต้นไม้ในสวนนี้อยู่กันอย่างตามมีตามเกิดมานานถึง 4 ปีต่างหาก" น้องเถียง "พี่อ้ะตามใจผมเกินไปแล้ว"
เพราะที่ดินแปลงนี้เป็นรูปตัวยู จึงมีแนวรั้วติดต่อกับบ้านหลายหลัง ซึ่งบางหลังก็เป็นบ้านญาติ และบ้านคนอื่น เว้นแต่ส่วนหลังบ้านที่เป็นที่ดินว่างเปล่า และมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นที่ดินของ ‘วีนิตา’
ที่ดินส่วนปลายที่ติดลำคลองตอนนี้ถูกกั้นด้วยทางเดินเลียบคลองความก้าวประมาณ 1 เมตรทอดแนวยาวตลอดลำคลอง พ่อจึงให้คนงานมาสร้างรั้วโปร่งกั้นพื้นที่ไว้ ที่ติดกับแนวรั้วคือต้นไม้ใหญ่
เมื่อเห็นว่าพี่หยุดยืนมอง ฉันท์ก็พูดขึ้นเอง
“มันดูไม่ค่อยเข้ากันใช่ไหมฮะ”
พี่เห็นด้วย
“พ่อก็ไม่ได้อยากทำรั้วตรงนี้หรอกนะฮะ แต่ถ้ามีคนเดินผ่านสวนเรา แล้วลัดเข้าไปในซอยมันจะเป็นอันตรายกับคนอื่นด้วย”
“เห็นแล้วมีความรู้สึกอยากจัดสวนใหม่” ดร.ธามัน กำลังคันมือเป็นอย่างยิ่ง
“เขียนแบบไว้ก่อนก็ได้ฮะ ที่ตรงนี้...มันยังมีปัญหาอยู่”
พี่ปูเสื่อใต้ต้นแก้วเจ้าจอม ถอดรองเท้า แล้วนั่งลงพิงต้นไม้ใหญ่ หันหน้าไปทางลำคลองน้องก็ทำตาม
ตอนที่ถือตะกร้าเดินตามน้องเข้าไปในสวน ภาพในความคิดยิ่งชัดเจนมากกว่าเดิม อยากจะทำสวนสวย อยากปลูกบ้านตรงนั้น ทำบ่อปลาตรงนี้
แต่ถ้ามีทางเดินคั่นแบบนี้ ก็ควรจัดสวนด้านในให้โปร่งขึ้น
ธามันไม่สามารถบังคับสมองของตนเองให้หยุดคิดแบบบ้านแบบสวนที่จะทำให้น้องได้เลย
เฉพาะแค่ที่คิดไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาในสวนวันนี้ก็น่าจะมากกว่า 10 แบบแล้วนะ
"ตอนนี้สวนยังรกมากอยู่เลย" น้องออกตัว
“ก็ค่อย ๆ ทำไป คนงานสวนคนนี้เขาก็ขยันดีนี่”
คุยเรื่องสวนกันอีกครู่หนึ่งน้องก็เปลี่ยนเรื่อง
"พี่ว่าญาติผมเยอะไหม"
"เยอะ เหนือความคาดหมายมาก" พี่ตอบตามตรง เปลี่ยนมานอนหนุนตักน้อง ทำให้ดวงตาสวยหันไปมองทางตำแหน่งของบ้านที่ตั้งอยู่ในทันที
ว่าแต่พี่ว่าเกรงใจสายตาคนรอบตัว น้องเองก็เกรงใจเหมือนกัน
แต่เพราะตอนนี้อยู่ห่างจากตัวบ้านมากอยู่เหมือนกัน ทั้งยังไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะมองเห็นคนที่อยู่ในบ้าน มือใหญ่จึงแตะแก้มใสให้หันกลับมา
“ร้อนไหม”
“ไม่ฮะ” น้องโบกพัดในมือ “พี่นอนอีกนิดก็ได้นะ”
“ก็นอนอยู่นี่ไง มีชิรายูกิพัดให้ด้วย สบายจริง ๆ”
น้องยิ้มกว้าง แล้วนึกขึ้นได้ “พี่เครียดหรือเปล่า”
“เรื่องงานน่ะหรือ ก็มีบ้าง” มีงานอะไรที่ไม่เครียดบ้าง
“แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ ทำให้พี่ไม่มีความสุขหรือเปล่า”
“ไม่ถึงกับไม่มีความสุขหรอกนะ แต่ทำไมรู้สึกว่าคำถามนี้ชิรายูกิรับคนอื่นมาถามพี่นะ” เพราะน้องจะไม่ถาม แต่จะนั่งอยู่ข้างกัน เพราะเขารู้ว่าความสุขของพี่คือการที่มีน้องอยู่ข้าง ๆ
แล้วก็ตามคาด เพราะน้องหัวเราะเบา ๆ ชี้ไปที่บ้าน “ป้ากับกวางน่ะ ผลัดกันมาถามคนละรอบ บอกว่าเราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง”
พี่พยักหน้า เข้าใจความหมายแฝงในประโยคนี้แล้ว มือใหญ่ยกขึ้นเกลี่ยแก้มใส
“ก็ยังอยากกอดอยู่เสมอ ยิ่งเวลาที่อยู่ใกล้กันแล้วชิรายูกิใจลอยคิดอะไรบางอย่างอยู่ ก็รู้สึกอยากกอด อยากทำให้รู้ว่าพี่อยู่ตรงนี้แล้ว”
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความต้องการให้น้องหันมามองพี่บ้างก็ยังคงอยู่
น้องยิ้มหวานยอมรับว่าตนเองมีเรื่องกังวลมากมายที่เก็บไว้ในใจ จนทำให้พี่กังวลไปด้วย “ไว้เราไปเที่ยวด้วยกันนะฮะ”
พี่ใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากน้องแล้วมาแตะที่ริมฝีปากตนเอง

จากหน้าต่างบ้าน กวางต้องซูมภาพแบบสุด ๆ ไปที่ 2 คนเพื่อถ่ายภาพ แล้วก็กดส่งภาพนั้น ได้ยินเสียงป้าเปิดประตูห้องนอน พร้อมกับจิโระลุกขึ้นนั่งแล้วเรียกหาพี่ชายในทันที
“จิโระเอ้ย จะนอน จะตื่นก็เรียกหาแต่พี่ชาย แล้วจะไปโรงเรียนกับเขาได้ไหม” ป้าบ่นขณะที่เดินไปเก็บมุ้งของหลาน “ลุกไปห้องน้ำก่อน แล้วค่อยไปหาโอนี”
จิโระเดินไปหากวางพาไปเข้าห้องน้ำ ป้าก็มายืนข้างหน้าต่างตรงที่กวางยืนอยู่เมื่อครู่ พอจิโระออกมาจากห้องน้ำ ป้าก็หันมาชวน “จิโระปั้นบัวลอยกับป้าดีกว่าไหมลูก”
“โอนี ไป ไน” จิโระเดินมาเกาะขอบหน้าต่างมองหาพี่ชาย พอเห็นว่าอยู่ในสวนก็ร้องเรียกเสียงดัง
“โอนีกำลังคุยอยู่กับพี่ธาม เราไม่ควรเข้าไปขัดคนที่กำลังคุยกันรู้ไหม”
จิโระทำปากยื่น ไม่ค่อยอยากเชื่อฟังที่ป้าเตือนสักเท่าไหร่ กวางก็เลยชวนมาทำขนม
“มาทำขนมด้วยกันดีกว่า เสร็จแล้วก็นั่งรถโอนีเอาขนมไปให้ย่ากัน”
“ยา โคน เมือ เจ๊า หรือ” จิโระถาม “เขา เรียกโอนี ชือ โอกาซัง โดย”
แม้ว่าป้าจะไม่ค่อยชอบญาติฝ่ายสามี แต่อาการหลงลืมของย่าในเรื่องนี้ต้องถือเป็นข้อยกเว้น ระหว่างที่ช่วยกันปั้นเม็ดบัวลอยอยู่ด้วยกัน ป้าก็เลยเล่าเรื่องที่ย่ามีความเมตตาต่อแม่ของ 2 พี่น้องให้ฟัง
แต่ทำขนมยังไม่ทันจะเสร็จ ฉันท์กับธามันก็กลับเข้าบ้านแล้ว จิโระรีบวิ่งไปหาพี่ชาย ชวนกันเอาขนมไปฝากย่า ส่วนธามันล้างหน้าล้างมือเสร็จถึงได้เดินไปดูโทรศัพท์ มีสายเรียกเข้าที่ไม่ได้กดรับอยู่ 3 สายจาก 3 คน ชายหนุ่มจึงทำมือบอกว่าจะออกไปโทรศัพท์ที่ด้านนอกบ้าน
ธามันโทรศัพท์อยู่นาน จนป้าตักขนมแบ่งใส่กล่องหลายใบ ถึงได้เดินกลับเข้ามา ทั้งช่วยถือกล่องขนมไปให้กับบ้านข้างเคียง
เมื่อเดินอยู่ข้างกัน ความไม่สบายใจของอีกคนก็ยิ่งชัดเจน ต่อให้ต่างคนต่างก็ทำเหมือนไม่มีเรื่องราวในใจก็ตาม
คืนนั้นธามันทำงานอยู่จนดึกเหมือนเคย ทั้งยังขึ้นนอนทีหลังเจ้ากวางเสียอีก แต่เมื่อล้มตัวลงนอนที่หน้าเตียงทีเดิมฉันท์ก็พลิกตัวหันมามอง
“พี่” ฉันท์เรียกเบาๆ
“ดึกแล้ว ทำไมยังไม่นอนอีก”  มือใหญ่เกลี่ยผมที่หน้าผากแล้วก้มลงจูบ “นอนได้แล้ว”
“พี่”
“ว่าไง”
“ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด อยากให้พี่ทำอย่างนั้นเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงผม แล้วก็...ผมอยู่ที่นี่”
ธามันก้มลงจูบแก้ม “ชิรายูกิ รักนะ”
*-*-*-*
ในที่ทำงานวันนี้ไม่มีประชุมเช้า แต่ธามันต้องเตรียมเอกสารประมูลงานที่ต้องนำเข้าที่ประชุมในช่วงบ่าย ชายหนุ่มตรวจงานทุกตัวอักษรเหมือนเคย แต่พอ 10 โมงเศษ ธนวัฒน์ก็เดินมาตามธามันถึงห้องทำงาน บอกว่าให้ไปคุยที่ห้องทำงานของบิดา
แค่เรียกให้ไปคุย โทรศัพท์มาเรียกก็ได้ ไม่เห็นจะต้องเดินมาตามด้วยตนเอง ธามันหันไปสั่งงานไว้กับลูกน้องแล้วเดินคู่กันมากับธนวัฒน์ เมื่อพ้นออกมาจากแผนก ธนวัฒน์พูดเตือน
“อย่าวู่วาม”
นั่นคงเป็นคำเตือนแบบคนที่ไม่เคยหวังดีต่อกันสักเท่าไหร่พอจะให้กันได้

ผู้ที่รออยู่ในห้องทำงานนอกจากธนาผู้เป็นบิดา ยังมีเยาวเรศมารดาของธามัน ณภัทรพี่สาวคนโตของฐาติและธาราน้องสาวคนเล็กของบ้านใหญ่
ทั้ง 3 คนนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องทำงาน
สาเหตุที่ทำให้ธนวัฒน์ต้องพูดเตือนก็เพราะอย่างนี้เอง
เมื่อธามันเข้ามาก็หันไปไหว้แม่ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงานของธนา ส่วนธนวัฒน์นั่งลงที่เก้าอี้อีกตัว
“โครงการคอนโดฯ ของธามไปถึงไหนแล้ว” มารดาถามขึ้นก่อน
ใช้เวลากับการตอบคำถามเรื่องโครงการไปประมาณ 10 นาที มารดาก็พูดถึงงานเลี้ยงวันเกิดของอลิซบุตรสาวของจอห์น ถัง นักธุรกิจใหญ่เชื้อสายฮ่องกง ซึ่งร่วมทุนกับก้องเกียรติกิจการทำโครงการที่พักอาศัยในต่างประเทศมาหลายโครงการ ขณะนี้กำลังมีโครงการร่วมกันอยู่ที่เชียงราย จอห์นเดินทางมาติดตามโครงการใหญ่ที่เชียงรายได้ 2 เดือนแล้ว อลิซจึงเดินทางตามมาหาบิดา
เธอเดินทางมาเมืองไทยหลายครั้ง ก่อนหน้านี้ธารารับหน้าที่ดูแลเธอตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ แต่เมื่อธามันกลับมา หน้าที่นี้ก็ตกมาอยู่ที่เขามาโดยตลอด
วันเกิดที่แท้จริงของอลิซคืออีก 2 เดือนข้างหน้า แต่มันคือช่วงเวลาที่อลิซจะกลับไปฮ่องกง และไม่แน่ว่าจอห์นจะเดินทางไปที่ไหนอีก ดังนั้นเมื่อพ่อลูกได้มาพบกันที่เมืองไทย จอห์นจึงคิดจะจัดงานเลี้ยง ‘เล็ก ๆ’ ให้กับลูกสาว
เรื่องอื่นน่ะจอห์นมีคนเตรียมงานให้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องการไปเดินช้อปปิ้งหรือกินอาหารเย็นกับอลิซ ทุกคนก็ลงความเห็นว่าควรจะเป็นหน้าที่ของธามัน แต่ในทางปฏิบัติ ธามันมักเกี่ยงให้ธนวัฒน์ไปทำหน้าที่นี้แทนมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ธนวัฒน์ไม่ได้สนใจความยุ่งยากของธามันอยู่แล้ว และไม่ได้อยากรู้จักกับอลิซ แต่เข้าไปยุ่งเกี่ยวก็เพราะไม่ต้องการเห็น ‘น้องฉันท์’ เป็นกังวลในเรื่องการสานสัมพันธ์แบบนี้ 
"เราตกลงกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่หรือ เรื่องที่ธามจะต้องคอยดูแลคุณหนูอลิซ" มารดาเพิ่มความจริงจังมากขึ้น "ธามบอกกับแม่ว่า เมื่อวันอาทิตย์ธามมีงานสำคัญมาก เราถึงต้องไปรบกวนให้ทีมไปดูแลคุณหนูอลิซไปเลือกซื้อของที่จะใช้ในงาน” รวมถึงเรื่องเสื้อผ้าที่จะต้องใส่คู่กันด้วย “แต่แม่เพิ่งรู้ว่าธามไปงานทำบุญที่ตลาดนั่น นั่นคืองานสำคัญมากเลยหรือ"
ธามันมองมารดา แล้วหันไปมองพี่สาวอีก 2 คนที่ทำหน้าที่รับฟังเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีความเห็นอะไรถึงได้พูดขึ้น
"คอนโดฯอยู่ใกล้ตลาด ผมไปงานทำบุญเพื่อผูกมิตรกับชุมชนนั้นก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ"
"ผูกมิตรกับชุมชนเสร็จตั้งแต่ยังไม่เที่ยงวัน ก็ควรจะมาทำหน้าที่ของตัวเองสิ นี่กลับไปนั่ง ๆนอน ๆ อยู่บ้านหลังนั้นทั้งวัน ปล่อยให้พี่ชายมาวุ่นวายดูแลผู้หญิงของตัวเอง"
เพราะณภัทรเป็นคนพูดประโยคนี้  ธนวัฒน์จึงพูดแย้ง "สำหรับผม การดูแลคุณหนูอลิซไม่ถือว่าเป็นการทำหน้าที่แทนธาม ทั้งไม่คิดว่าเป็นเรื่องวุ่นวาย"
ณภัทรและธาราขึงตาใส่ธนวัฒน์ จากนั้นณภัทรก็สะบัดหน้าหันไปมองทางอื่นไม่ต่อคำกับธนวัฒน์ แต่ธาราทำเหมือนพูดกับตัวเอง
“คิดจะแย่งผู้หญิงของน้องชายตัวเองละสิ”
ที่ธามันไม่อธิบายคำว่า ‘ผู้หญิงของธามัน’ ที่แม่และพี่สาวหมายถึงอลิซ ไม่ได้แปลว่ายอมรับ แต่เพราะรำคาญที่จะต้องชี้แจงในเรื่องเดิม ๆ 
ณภัทรกับธาราตามเยาวเรศมาคุยกับธามันในฐานะผู้สนับสนุนให้ธามันตกลงคบหากับอลิซ แต่เพราะรู้นิสัยของธนวัฒน์จึงไม่อยากพูดเรื่องเหล่านี้ต่อหน้า และรู้สึกขัดหูขัดตาไม่พอใจที่ธนวัฒน์ไม่ยอมออกไปจากห้องทำงานของธนาสักที
ตอนที่เยาวเรศขอให้ธนวัฒน์ไปเรียกธามันมาหา ก็ยังคิดว่าคนที่มักสวมหน้ากากเป็นคนดี จะไปเรียกคะแนนนิยมจากกรรมการคนอื่นด้วยการไปเตรียมงานประชุมต่อจากธามัน หลังจากที่ได้หน้าจากเรื่องที่ไปช่วยดูแลอลิซเมื่อวันอาทิตย์แล้วจอห์นนี่กลับมาพูดชมกับธนาว่าลูกชายคนโตเป็นคนช่างเอาใจ
จู่ ๆ ธามันจะมาส่งอลิซลูกสาวนักธุรกิจพันล้านให้กับธนวัฒน์ง่าย ๆ แล้วไปคบหาจริงจังกับเด็กหนุ่มคนนั้นแบบนี้ไม่ได้!
    ณภัทรและธารามีแผนสำรองรออยู่
"ธามดูแลคุณหนูอลิซมาตลอด ถ้าจะต้องมีงานอะไรที่ทำให้ไปกับเธอไม่ได้ ก็ควรเป็นงานสำคัญจริง ๆ"
ธนวัฒน์แย้งอีกครั้ง “คนที่ดูแลมาตลอดคือธาราต่างหาก”
มารดาของธามันพูดต่อ “จอห์นนี่ เป็นคู่ธุรกิจที่สำคัญของเรา และเขาพอใจธามัน นี่คือเรื่องที่สำคัญที่สุด” ไม่หรอกตอนนี้จอห์นนี่กำลังปลื้มธนวัฒน์มากกว่าธามัน
เลขาฯ ของธนาเคาะประตูห้องทำงานใหญ่อีกครั้ง จากนั้นฐาติก็เข้ามาในห้อง ยกมือไหว้ทุกคนแล้วนั่งลง

(มีต่อครับ)

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Kiss the Snow ตอนที่13 (10/5/2562)
«ตอบ #206 เมื่อ10-05-2019 21:10:09 »

(ต่อครับ)

ธามันถอนหายใจชนิดที่ทุกคนในห้องนี้ต่างก็ได้ยินกันชัดเจน ทำให้มารดาที่กำลังจะพูดต่อหยูดชะงัก แต่ธามันก็กลับหันไปผายมือให้พูดต่อ ทำให้แต่ละคนหันไปมองหน้ากัน
แต่ในขณะที่ 5 คนในห้องกำลังลังเล มีเพียงธนาที่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้รอดูท่าทีของลูกชายคนเล็ก
"พูดต่อสิครับ ผมรอฟังอยู่"
"ธาม" มารดาดุ
"ที่นี่เป็นที่ทำงาน และเราก็มีงานสำคัญรออยู่ เข้าเรื่องเร็วหน่อยก็ดีครับ"
ก่อนที่เยาวเรศจะพูดขึ้นอีก ธนวัฒน์ก็พูดขึ้น "ถ้าเป็นเรื่องของคุณหนูอลิซ"
"ผมขออนุญาตดูแลคุณหนูอลิซเอง" ฐาติแทรกขึ้นมา "ทั้งธามและคุณทีมต่างก็มีงานยุ่ง ถ้าไม่ว่าอะไรผมขออนุญาตครับ"
ธามันหันไปมองหน้าณภัทร พี่สาวคนโตของบ้านฐาติ รู้สึกว่าถ้าในที่นี้ไม่มีมารดาอยู่ด้วยก็น่าจะพูดคุยกันได้ง่ายกว่านี้
"ในเมื่อที่นี่มี 2 คนที่พร้อมจะดูแลคุณหนูอลิซ ผมขอตัวไปทำงานต่อนะครับ"
เมื่อธามันปัดปัญหาให้พ้นตัวและขยับจะลุกขึ้น คนที่ผิดหวังคือธนา
"แม่ไม่เห็นด้วย" เยาวเรศคัดค้าน โดยมีธาราให้การสนับสนุน
"ธามดูแลคุณหนูอลิซในฐานะอะไร จะมาเปลี่ยนเป็นคนนั้นคนนี้ได้อย่างไร จอห์นนี่ต้องไม่พอใจแน่ๆ"
จอห์นนี่พอใจธามัน ทุกคนในครอบครัวก็พอใจเหมือนกันตราบใดที่ไม่ใช่ธนวัฒน์แต่จะให้เป็นฐาติก็ดูไม่น่าจะเหมาะสม
"ไม่ถามคุณหนูอลิซดูก่อนละครับ ว่าอยากให้ใครดูแล" ฐาติพูดทีเล่นทีจริง "เขาอาจไม่ชอบผู้ใหญ่แบบคุณทีม ไม่ชอบคนพูดน้อยแบบธาม แต่ชอบคนร่าเริงแบบผมก็ได้"
ธามันชัดเจนมาตั้งแต่วันแรกที่รับหน้าที่นี้ว่าดูแลอลิซภายในกรอบของการทำงานเท่านั้น ด้วยเหตุผลอะไรทุกคนในครอบครัวรู้ดี แต่ถ้าธามันไม่ประกาศออกมาก่อน ก็ไม่มีใครในครอบครัวเริ่มต้นพูดขึ้นมาเป็นคนแรก
เยาวเรศหันไปมองณภัทร และธารา ไม่ค่อยพอใจทั้งคู่สักเท่าไหร่ ที่เรียกฐาติมาที่นี่ในวันนี้
ลำพังให้ธามันเลิกกับ 'เด็กคนนั้น' และกันธนวัฒน์ออกไปจากอลิซก็ยากพออยู่แล้ว นี่ยังจะมีฐาติเข้ามาเพิ่มอีกคน
หรือเธอควรกลับไปตกลงกับณภัทร และธาราใหม่อีกรอบ
ความคิดยังไม่จบลง เพียงใจแม่ของธนวัฒน์ก็เดินเข้าห้องทำงานมาอีกคน
ธามันลุกขึ้นทันที
"ผมมีงานรออยู่ คุยกันไปแล้วกันนะครับ"
"เดี๋ยว" คราวนี้เยาวเรศไม่ยอม "ธามต้องไปงานเลี้ยงกับคุณหนูอลิซวันศุกร์นี้"
ธามันหันไปมองธนวัฒน์ และฐาติ "คุณทีม กับฐาติโอเคไหม"
"ไม่/ไม่" คนที่อยู่ตรงข้ามกันมาตลอด กลับมาสามัคคีกันได้ในเวลานี้
"น่าเกลียดจริง" ธาราพูดขึ้น "ถ้าจอห์นนี่รู้เรื่องที่เราคุยกันวันนี้เขาจะรู้สึกยังไง คุณหนูอลิซใช่ว่าจะไม่มีทางเลือกอื่น พวกเธอกลับทำเหมือนเขาเป็นของเล่น"
"ผมไม่ได้มาเล่น ๆ นะครับ งานนี้ผมเอาจริง"
ฐาติพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย แต่ธามันที่มีงานรออยู่พลิกข้อมือดูนาฬิกาอีกครั้ง
"ผมอยากคุยด้วยอยู่หรอกนะ แต่งานที่รออยู่ก็สำคัญมาก หลังประชุมเย็นนี้ ถ้าไม่ติดธุระอะไร คุณทีมกับฐาติมาหาผมที่ห้องด้วย"
นี่คือคำสั่ง เพราะเมื่อพูดจบ ธามันก็เดินออกไปในทันที
ฐาติเจอท่าทีแบบนี้ของธามันมาแล้วหลายครั้ง แต่กับธนวัฒน์ที่เพิ่งโดนเป็นครั้งแรกก็ยังลืมตัวพยักหน้ารับคำสั่ง
"อะไรกัน พอพี่เข้ามา ลูกชายของเธอก็ออกไป" เพียงใจหันมาหาเยาวเรศ
"เรื่องเดิม ๆ น่ะครับ ธามไม่ยินดีกับการคลุมถุงชน" ธนวัฒน์พูดจาได้น่าหมั่นไส้เหมือนเคย และก็เป็นอีกครั้ง ที่คำพูดของเขาจุดชนวนคำพูดเสียดสีระหว่างผู้หญิง 4 คนในห้องทำงานใหญ่ของธนา
ก่อนหน้านี้ก็อยากจับคู่ธามันกับลูกสาวเศรษฐีสักคนอยู่แล้ว แต่เมื่อรู้ว่าธามันทุ่มเทให้กับ ‘เด็กนั่น’ ก็ยิ่งร้อนใจต้องการแยกทั้ง 2 คนออกจากกันให้เร็วที่สุด
*-*-*
หลังการประชุมในช่วงบ่ายก็เกือบ 5 โมงเย็นผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายทั้ง 2 คนกลับต้องเดินมาที่ห้องทำงานเล็กแคบตามคำสั่งของน้องชาย
"เมื่อไหร่มึงจะย้ายห้องทำงานวะ" ฐาติเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาก็บ่นก่อน "นี่ถ้าแม่ ๆ กับพี่สาวเข้ามาด้วย ห้องคงระเบิด"
ธามันไม่พูดอะไร รีบเก็บงานบนโต๊ะแล้วชวนให้ออกไปข้างนอกด้วยกัน
"อ้าว" ฐาติหันไปมองหน้าธนวัฒน์
"พี่ณภัทรนัดอลิซมาบริษัท"
พอธามันเฉลย ฐาติก็สบถออกมาคำหนึ่งแล้วดึงมือธนวัฒน์ให้เดินนำออกมาก่อน
เมื่อ 3 หนุ่มลงลิฟท์ไปแล้ว ณภัทรกับธาราก็ก้าวออกมาจากลิฟท์พร้อมกับหญิงสาวสวยจัดอีกคน

มันถึงเวลาที่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับอลิซให้ชัดเจน
ทั้ง 3 คนขับรถตามกันไปจนถึงสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้ที่สุด 
"เราจะคุยกันแบบพี่น้องหรือศัตรู" ธามันเริ่มขึ้นก่อน ขณะที่ทั้ง 3 คนยืนหันหน้าเข้าหากันเป็นสามเหลี่ยม
ธนวัฒน์ทำเสียงขึ้นจมูก ขณะที่ฐาติหงายมือ
"แล้วแต่สถานการณ์ มาจนถึงขนาดนี้แล้วนี่"
ความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนในเวลานี้สามารถสรุปได้ว่า ใกล้ชิดแบบพี่น้อง และเกลียดกันแบบพี่น้องที่ต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว
ธามันพยักหน้า แล้วพูดอีกครั้งเหมือนกับที่อยู่ในห้องทำงานของบิดา "ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าผมไม่ได้ชอบอลิซ แต่เรื่องวันนี้มันอะไร"
"ฉันจีบเขาอยู่" ธนวัฒน์บอก
"แล้วต้อมล่ะ" ธามันถามธนวัฒน์ แล้วหันมาหาฐาติ "มึงเองก็มีกวาง จะทิ้งคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน เพราะเจอลูกสาวเศรษฐีหรือไง"
ฐาติยักไหล่ เหมือนจะบอกว่า ถ้าได้ก็เอา
ซึ่งเป็นคำตอบที่ทั้งธามันและธนวัฒน์ไม่ชอบเลย
ธามันกอดอกมองฐาติ "กวางเชื่อฟังมึงทุกอย่าง ทำตามที่มึงบอกมาตลอด รวมถึงการถ่ายรูปกูกับน้อง ส่งไปให้มึง แล้วมึงเอาไปให้พี่ณภัทรให้เขามาเล่นงานกู เรื่องที่มึงเล่นงานกูแบบนี้กูไม่ติดใจ แต่มึงตอบแทนเด็กคนนั้นด้วยการทำแบบนี้ไม่ได้"
ฐาติอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าธามันจะรู้เรื่องรูป
"กูเห็นพวกเขา 3 คนมานั่งอยู่ด้วยกันในห้องพ่อ กูก็พอจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือมึง” เมื่ออีกคนยังไม่ชี้แจง ธามันก็ใส่ฐาติต่อ “เรื่องอลิซน่ะ กูก็แค่ตามใจเขาไปเรื่อย เขาก็เจอคนมาเยอะ เห็นว่ากูเฉย ๆ ทำอะไรเป็นทางการ เขาต้องรู้อยู่แล้วว่ากูไม่ได้คิดอะไร ถ้าเขาเจอคนที่ดีกว่าเขาก็ไปเอง กูถึงสลับให้คุณทีมไปช่วยดูแลเขาเป็นระยะ แล้วกูจะถูกแม่ ถูกพี่ ๆ บ่น แต่เขาก็ไม่เคยแท็กทีมกันมากดดันกันแบบนี้ แต่นี่เป็นเพราะกูหยุดอยู่บ้านกับน้อง ในวันเดียวกับที่คุณทีมไปดูแลอลิซแล้วจอห์นนี่พอใจคุณทีม”
ธนวัฒน์ที่กอดอกฟังเงียบๆ พูดขึ้น
“น้องฉันท์รู้เรื่องอลิซหรือยัง”
“ยังครับ”
พี่ชายขมวดคิ้ว “ถ้าเขาถามก็บอกไปตามตรงว่าเป็นเรื่องธุรกิจ”
“ครับ” น้องชายเห็นด้วย
พี่ชายตั้งข้อสงสัยต่อ “เขาอยากให้เราทะเลาะกันหรือ ตอนนี้พวกเราก็ทะเลาะกันอยู่แล้วนี่”
หนุ่มแว่นหันไปมองธนวัฒน์แล้วหันมามองธามัน ไม่ชอบใจบรรยากาศพี่น้องรักกันอย่างที่เห็นอยู่ข้างหน้า
"ใช่ตอนนี้เราทะเลาะกันอยู่” ฐาติหันมาหาธามัน “ที่กูเข้ามายุ่งเรื่องอลิซก็เพราะกูไม่พอใจที่มึงทรยศกู" ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห "มึงบอกแล้วว่าจะช่วยกูแก้แค้นให้พี่ณภัทร แต่ตอนนี้มึงกลับหันไปจับมือกับศัตรูของกูและพี่น้อง"
"เราก็แค่มีเป้าหมายบางอย่างที่เหมือนกัน” ธนวัฒน์พูดขึ้น รู้ตัวดีว่า ฐาติจัดให้ตนเองเป็นศัตรูคนสำคัญ
“เป้าหมายอะไร” ฐาติหันมาซัก
“เป้าหมายคือ เรื่องยังขัดแย้งกันอยู่ก็ขัดแย้งกันต่อไป แต่พวกเรามีความเห็นพ้องกันว่า น้องฉันท์จะต้องไม่มีจุดจบเหมือนโจ”
มีรถจักรยานยนต์หลายคันเข้ามาจอดใกล้ ๆ จากนั้นก็แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มหนึ่งมี 2 คนเดินอ้อมไปทางด้านหลังของฐาติ ส่วนอีกกลุ่ม 3 คน เดินมาอยู่ทางด้านหลังของธนวัฒน์
ธามันถอนหายใจ “ตกลงมีแต่กู เอ่อ ผมที่ไม่มีลูกน้องหรือไง”
ฐาติทำเสียงจิ๊จ๊ะ “มึงนี่น่าสงสารจริง ๆ กลับไปนี่มึงไปคัดลูกน้องมาจากพวกคนงานก่อสร้างของมึงมาคอยเดินตามสัก 2 -3 คนนะ” คนสวมแว่นหันไปบอกลูกน้อง “มึงไปซื้อเบียร์มาสักโหลสิ ท่าทางจะเรื่องยาวละวันนี้”
ลูกน้องของฐาติรับคำสั่งแล้วรีบไปซื้อของทันที
ชายหนุ่มทั้ง 3 คนเดินไปหาที่นั่งในสวนสาธารณะ บรรดาลูกน้องของทั้ง 2 ฝ่ายก็เลยแยกย้ายกันนั่งอยู่ห่าง ๆ
ฐาติมองลูกน้องของธนวัฒน์แล้วหันมาถามลูกพี่ด้วยความเคารพเหมือนตอนที่เจอกันในเวลาทั่วไป “คุณทีมมีความลับเยอะมาก ผุดขึ้นมาได้เรื่อย ๆ ไม่รู้จักหมด”
ธนวัฒน์ยกยิ้มมุมปาก ฐาติก็เลยพูดต่อ “ถ้าคุณทีมคิดจะจัดการพี่ณภัทรกับธาราก็ไม่น่าจะยาก”
ระดับนี้แล้วไม่ต้องจ้างมือปืน หรือจัดฉากฆ่าตัวตายแต่ทำให้เป็นอุบัติเหตุก็พอ
“ในช่วงหนึ่งฉันคิดอย่างนั้น แต่ตอนที่เห็นสีหน้าของพวกนายเวลาที่เจอฉัน มันให้ความรู้สึกที่ดีมากกว่า”
ฐาติกลอกตามองบน หลังจากที่เกริ่นนำเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นก็กลับมาที่เรื่องที่อยากรู้...เอิ่ม...เรื่องที่คุยค้างไว้
“เมื่อกี้ที่พูดถึงโจ โจไหนครับ เพื่อนคุณทีมตอนมัธยมน่ะหรือ”
ธนวัฒน์พยักหน้าแล้วเล่าเรื่องโจ เพื่อยืนยันว่าความร่วมมือกันของ 2 พี่น้องในครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าธามันหักหลังฐาติและพี่น้อง
ฐาติรับฟังแล้วหันไปมองหน้าธามันเป็นระยะ ยอมรับว่าเชื่อสนิทใจว่าฉันท์ทัตอาจต้องพบกับชะตากรรมแบบที่โจต้องพบเจอ
ลูกน้องที่ให้ไปซื้อเบียร์กลับมาแล้ว วางถุงลงข้างหน้าเจ้านาย เจ้านายแบ่งให้พี่น้องก่อน จากนั้นจึงส่งให้กับลูกน้องตามจำนวนคน
“คุณทีมก็เลยแค้นพี่ณภัทร” ฐาติยักไหล่ “พี่สาวผมผิดในส่วนหนึ่งก็จริง แต่...”
“ไม่ต้องรีบร้อนทำความเข้าใจเรื่องของโจก็ได้ ฉันยังอยากเห็นสีหน้าหงุดหงิดของพวกนายต่ออีกหน่อย”
ธามันจิบเบียร์ฟังพี่ชาย 2 คนคุยกัน คนหนึ่งเหมือนนักเลงคุมบ่อนโผงผางตรงไปตรงมา อีกคนเหมือนเซียนพนันที่จะเปิดไพ่เฉพาะใบที่เล็งแล้วว่าจะได้ประโยชน์เท่านั้น
ฐาติทำสีหน้าเบื่อหน่าย ท่าทางใกล้จะแพ้เซียนพนันเต็มที
“มึงส่งรูปกูกับน้องให้พี่ณภัทร หรือเขาเรียกเอาจากมึง”
“กูส่งให้เขาเอง” เวลาที่ฐาติทำตัวเป็นหัวหน้านักเลงนี่ดูไม่ค่อยน่าคบหาสักเท่าไหร่ “กูบอกแล้วว่ากูไม่อยากให้คุณทีมได้อลิซไป” บวกกับพื้นฐานดั้งเดิมของฐาติที่ไม่สนับสนุนให้ธามันคบกับฉันท์ทัต
“ก็ไม่เคยอยากได้”
ถ้าอลิซมาได้ยิน 3 หนุ่มพูดถึงเธอแบบนี้คงบอกให้บิดาถอนทุนกลับฮ่องกงแน่ๆ
“ผมไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณโจ ที่รู้ก็คือจอห์นนี่อยากได้ธามเป็นลูกเขย แต่คุณทีมคือคนที่ไปเที่ยวกับอลิซ ก็เข้าใจว่าคุณทีมแย่ง”
“ถูกครึ่งเดียว” ธามันเฉลย
พี่ชายทั้ง 2 คนรู้ดีว่าธามมั่นคงอยู่กับฉันท์ทัต เมื่อต้องไปเดินตามผู้หญิงอื่นมันเท่ากับการทรมานให้ต้องตายอย่างช้า ๆ และคงอึดอัดใจมากถึงขนาดที่ไปขอให้ธนวัฒน์มาช่วย “น้องเจออะไรที่แย่ ๆ มาเยอะ กูไม่อยากเป็นอีก 1 เรื่องแย่ ๆ ของเขา”
ฐาตินึกภาพตอนที่กำลังเดินจูงมือ...ไม่สิ ธามันไม่มีทางจับมือกับคนอื่น นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นกลุ่มคนที่อยากแยกธามันออกจากฉันท์ทัต จึงต้องเร่งเวลาลงมือ
“มึงมันพ่อบ้านกลัวเมียชัด ๆ” หนุ่มแว่นรู้สึกหมั่นไส้ เพราะตอนแรกคือ ทั้ง 3 มาคุยเรื่องอลิซ จากนั้นก็เป็นเรื่องคุณโจ แต่พอวิเคราะห์ภาพรวม กลายเป็นว่ากำลังคุยเรื่องของฉันท์ทัตอยู่ต่างหาก
ฐาติจิบเบียร์กลบเกลื่อน “ตกลงเพราะจอห์นนี่อยากได้ธามเป็นเขย หรือ เพราะอลิซอยากได้ธามเป็นผัว”
ธนวัฒน์ตอบ “อลิซ” ดวงตาสีเข้มจัดมองตรงไปข้างหน้า เป็นการเปลี่ยนท่าทีอย่างฉับพลันที่ทำให้น้องชายทั้ง 2 คนเงียบไป
“แต่ถ้าฐาติชอบอลิซ อยากจีบเขาก็บอกกันตามตรง ไม่ต้องทำเป็นซ้อนแผนอะไร”
“ผมเปล่า พวกพี่ณภัทรต่างหาก” ฐาติหรี่ตาสังเกตท่าทีฝ่ายตรงข้าม “แผนการนี้ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ที่เขาบอกผมก็คือตามนั้นแหละ เขาบอกมาเหมือนกับที่คุณธามบอก ก็คืออลิซชอบธาม แต่ธามปฏิเสธอย่างชัดเจน แล้วพอคุณทีมจีบอลิซ เขาก็เลยเอาผมมาจีบอลิซอีกคน ถ้าผมกับคุณทีมขัดแย้งกัน ธามต้องเลือกเข้าข้างผมอยู่แล้ว จากนั้นจอห์นนี่ยื่นคำขาดให้ธามกับอลิซแต่งงานกันเพื่อสลายความขัดแย้งในครอบครัว แต่ในเวลาเดียวกัน...”
“เขาจะไปหาน้องฉันท์” ธนวัฒน์สรุป
“เวลาผ่านไป พวกเขาอาจมีการเปลี่ยนแปลงแผนการให้เข้ากับสมัยก็ได้” ฐาติเปิดเบียร์อีกกระป๋อง “คุณทีมคิดจะจีบอลิซจริง ๆบ้างไหม”
“เป้าหมายของฉันไม่ใช่การแต่งงานกับใครสักคน”
พฤติกรรมที่ผ่านมาของธนวัฒน์เป็นแบบนั้น
“แล้วคิดจะหยุดอยู่ที่ใครสักคนไหม”
ธนวัฒน์เลิกคิ้วขึ้นสูง ไม่เปิดไพ่ที่ฐาติเรียก
เมื่อเขาไม่เปิดไพ่ ฐาติก็เรียกไพ่ใบใหม่ “อย่างนั้นพวกเราควรต้องแย่งกันจีบอลิซ แล้วก็ทะเลาะกัน”
คำว่า ‘เรา’ ในที่นี่ย่อมไม่ได้รวมธามัน แต่ธามันก็ยังไม่ค่อยเห็นด้วยที่ฐาติจะเข้ามาร่วมในแผนการนี้
“ไม่แน่นะ เขาอาจชอบกูมากกว่ามึง”
ธามันยกกระป๋องเบียร์ขึ้นจิบ ขณะที่ธนวัฒน์หัวเราะเสียงต่ำจมอยู่ในลำคอ

...จบตอนที่13...

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Kiss the Snow ตอนที่13 (10/5/2562)
«ตอบ #207 เมื่อ10-05-2019 21:44:25 »

 :z3:

อะไรมันจะแผนซ้อนแผนซ้อนแผนกันขนาดนี้

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Kiss the Snow ตอนที่13 (10/5/2562)
«ตอบ #208 เมื่อ10-05-2019 21:52:09 »

เนี่ยยย ฐาติ ที่กลัว มันเกิดขึ้นจริง ยังดีที่คุยกันได้

คุยกันดี บอกน้องด้วยนะพี่ธาม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: Kiss the Snow ตอนที่13 (10/5/2562)
«ตอบ #209 เมื่อ10-05-2019 22:54:23 »

ชวนปวดหัวดีแท้​  :mew5: ญาติ​เยอะ​ก็งี้แหละ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด