Final Track :⥁ Loop the Happiness
“เฮ้อ~ นึกว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่ออฟฟิศแล้ว”
“พอส! ถอดรองเท้าก่อนสิ”
เจ้าของห้องหันกลับมาขมวดคิ้วใส่ สรุปนี่มันห้องใครกันแน่เนี่ย กระนั้นก็ยอมเดินกลับไปปลดรองเท้าที่ทางเข้าแต่โดยดี ชายหนุ่มเดินโงนเงนไปล้มตัวนั่งลงบนโซฟา
“วันนี้ไม่อาบน้ำแล้ว”
“สกปรกน่า” เจตน์จุ้นจ้านใส่ มือข้างหนึ่งพยายามดึงอีกฝ่ายขึ้น “อาบก่อน จะได้นอนสบาย ๆ”
“ไม่อาววววว” เด็กโข่งงอแง “โดนด่ามาไม่มีอารมณ์อาบ”
“มันเกี่ยวกันที่ไหนล่ะนั่น”
“ไม่อยากทำไรแล้วอะ”
พลังชีวิตหดจนเหลือขีดสุดท้ายกะพริบไฟสีแดงปริบ ๆ เตือนว่าซากบนโซฟาใกล้จะสิ้นชีพเต็มทนแล้ว สาเหตุน่ะเหรอ? คำตอบอย่างพนักงานกินเงินเดือนก็คือ ‘ประชุม’ นั่นแหละ
เจตน์ผู้ผ่านโปรฯแล้วได้ลิ้มรสถึงการถูกคาดหวังในผลงานอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ทำงานให้ผ่านไปวัน ๆ แต่ต้องทำให้มากขึ้นราวกับไม่มีเพดานแห่งความสำเร็จ พร้อมด้วยวลีฮิตอย่างตัวเลขไม่เคยโกหกใคร
ฝ่ายอื่นให้ข้อเสนออุบาทว์ ๆ มาก็ต้องบากหน้าเอาไปเจรจา โดนด่ากลับมาก็รับเข้าไปเต็มตีน ตัวเขาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่คุณฝ่ายขายนี่สิ.....
“รอบนี้ฉันร่วงลงมาเป็นอันดับห้าเชียวนะ” ซากศพชูนิ้วขึ้น “ที่ห้า!!!”
“จากสี่สิบคนก็ไม่แย่นี่”
“แต่ฉันเคยอยู่ที่สามนะ!!” ชายตกอับซบใบหน้าลงกับมือ “ร่วงนิดหน่อยไอ้พี่กุ้งก็กัดจนเนื้อหลุดแล้ว”
“อ๊ะ!!” เจตน์ทุบฝ่ามือราวกับนึกอะไรขึ้นได้ “ถ้างั้นฉันจะแชร์เรื่องแย่ ๆ ของวันนี้ให้นายฟังบ้าง”
“หือ?”
“พี่เบสเผลอจ้องจมูกฉันนานมาก เหมือนจะจับผิดว่าทำมาเยอะขนาดไหน” ปลายนิ้วชี้ไปที่กลางใบหน้าของตัวเอง “แล้วก็พึมพำแนว ๆ ว่า ‘ลูกจะหน้ายังไง’ ด้วย”
“อะไรล่ะนั่น ไร้มารยาท!!!”
“เห็นไหมล่ะ มัน----”
“นายเป็นแฟนฉันไม่เห็นต้องสนเรื่องหน้าลูกเลย!!”เอ่อ....เป็นเรื่องนั้นหรอกเหรอ....ไอ้เจตน์เกาหัวแกร่ก ๆ ไอ้ที่หวังว่าพอฟังเรื่องบัดซบของเขาแล้วพอสจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เดียวดายกลับกลายเป็นอีกอย่างไปเสียได้ แถมเขายังคิดวิธีปลอบที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว ช่างเป็นคนรักที่บ้องตื้น-----
“ขอบใจนะ นายเองก็ลำบากแย่เลย”
“เอ่อ ไม่ใช่จะข่มว่าฉันลำบากกว่านายหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด” ชายหนุ่มกุมมืออีกฝ่ายไว้ “แค่จะบอกว่า...อ่า...เอ่อ....อย่าเครียดเลยเนอะ เรื่องอันดับเดือนหน้าค่อยเอาใหม่ แต่จมูกฉันมันแก้ไม่ได้แล้ว”
“ฮ่า ๆ ๆ” ได้ผลหรือเปล่าไม่รู้ แต่เห็นพอสระเบิดเสียงหัวเราะออกมาได้เจตน์ก็สบายใจ “ไม่ต้องแก้หรอก แบบนี้หล่อที่สุดแล้ว”
“อย่าปลอบคืนสิ ฉันไม่ได้คิดมากเรื่องนั้นสักหน่อย”
ตุบ!คนตัวเล็กกว่าเอียงหัวซบลงบนบ่า ไถเส้นผมเข้าหาเล็กน้อย “คบกันมาตั้งนานแล้วยังปลอบแย่เหมือนเดิมเลยน้า ~”
“ถ้าดีขึ้นแล้วก็ไปอาบน้ำสิ”
“เนี่ย! ปลอบห่วยชะมัด”
“ไม่นอนกับคนไม่อาบน้ำหรอกนะ”
“นายก็ไม่ต้องอาบสิ เจ๊ากัน!” คนเจ้าเล่ห์ต่อรอง “แล้วนี่น้องเจตน์โทรบอกคุณแม่ยังคร้าบ~ มานอนค้างบ้านเพื่อนชายเนี่ย”
“โทรตั้งแต่กลางวันแล้ว” ไอ้ลูกแหง่งึมงำ “มาบ่อยจนแม่ไม่เชื่อว่าเป็นเพื่อนแล้ว”
“เซนส์ของความเป็นแม่สินะ”
“อ๊ะ! นายชวนฉันเปลี่ยนเรื่องนี่นา” เกือบเสียรู้ไอ้ตัวแสบแล้วไหมล่ะ!! คิดได้ดังนั้นเจตน์ก็ลุกขึ้นยืน กระตุกแขนไร้กระดูกของร่างบนโซฟา “ไปเถอะ เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ยังดี”
สุดท้ายไอ้คนขี้เกียจก็แพ้ลูกตื๊อเจตน์จนได้ ถูกหิ้วปีกยัดผ้าขนหนูใส่มือผลักเข้าห้องน้ำมาแบบงง ๆ ไหนว่าแค่เปลี่ยนชุดก็พอไงวะ แต่ก็เอาเถอะอาบน้ำให้ตัวเบาขึ้นสักหน่อยก็ดี
ชีวิตรักในออฟฟิศหวานชื่นรื่นรมย์จนเริ่มมีคนสงสัยความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่การ์ด ‘เพื่อนมัธยม’ ก็ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม จะปีพ.ศ.ไหนก็เถอะ แต่การตกเป็นขี้ปากเพื่อนร่วมงานไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
“ใช้ห้องน้ำเสร็จแล้วนะ” เจ้าของห้องชะโงกหน้าออกมา ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก พอสก้าวขาหันซ้ายขวาหาเป้าหมาย ก่อนจะพบว่าหลังฉากกั้นห้องนอนมีปลายถุงเท้าสีน้ำตาลยื่นออกมา ชายหนุ่มแสยะยิ้มก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหา “พุ่งตรงมาห้องนอนแบบนี้หวังอะไรหรือเปล่า”
“พอส” ทว่าเจตน์กลับตอบเสียงเข้ม
“หือ?”
“นี่ของใคร”
จากรูปประโยคแล้ววัตถุต้องสงสัยนั่นต้องร้ายแรงระดับทำรักร้าวฉาน แนว ๆ ถุงยาง กางเกงในใช้แล้ว ของเล่นผู้ใหญ่ ทว่าเมื่อพอเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุกลับต้องรีบคลายหัวคิ้วโดยพลัน
“ของเพื่อนอะ”
“เพื่อนเล่นกีตาร์ด้วยเหรอ”
“ไม่รู้มัน” เขาเดินไปนั่งลงบนเตียง มองเจตน์ที่ลูบ ๆ คลำ ๆ เครื่องดนตรีบนพื้นไม่วาง “มาทำธุระแถวนี้แล้วก็มาฝากไว้”
“เพื่อนเยอะเนอะ”
“อะไรกัน” พสุใช้เท้าเขี่ย ๆ ตรงขาอีกฝ่าย “หึงด้วยเหรอเนี่ย”
“เปล่า” โกหกหน้าตายชัด ๆ แต่เอ๊ะ....ปกติก็หน้าแบบนี้ หรือไม่ได้โกหกกันนะ “ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว”
“อืม”
พูดจบพอสก็ทิ้งตัวนอนแผ่ลงไปบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง ดูท่าพลังชีวิตจะหมดหลอดอย่างเจ้าตัวว่าจริง ๆ ถึงได้เลิกแซวเจตน์อย่างง่ายดาย คนตัวสูงนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ออกไปอาบน้ำอย่างที่บอกเอาไว้
ใบหน้าของพอสเด่นชัดอยู่ตรงหน้า ถึงจะพยายามร่างเริงอย่างไรเจตน์รู้ดีว่าในใจยังคงหมกมุ่นกับเรื่องอันดับไม่เลิก มันเขียนอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจนทั้งความเครียดและผิดหวัง ตัวเขาเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรให้เจ้าตัวรู้สึกดีขึ้น
คนบนเตียงพลิกตัวตะแคงเงี่ยหูรอฟังเสียงจากห้องน้ำทว่ากลับไม่มี พอสขยับซุกใบหน้าลงกับหมอนอย่างเกียจคร้าน ไม่ทันจะเปิดเปลือกตาขึ้นก็ได้ยินเสียงกรีดสายกีตาร์ พร้อมน้ำเสียงทุ้มต่ำที่เขาหลงใหล
https://www.youtube.com/watch?v=17mfBbRvM90&ab_channel=cokefreshfx“หากเธอเหนื่อยล้าผิดหวัง ชีวิตไม่เป็นเหมือนที่ตั้งใจ”
ดวงตากลมเบิกโพลงขึ้นทันที นี่มัน.....
“ทุก ๆ สิ่ง และทุก ๆ อย่าง....นั้นไม่เป็นเหมือนเคยฝันไว้”
เจตน์นั่งอยู่บนพื้น โอบกีตาร์ไว้ในอ้อมแขน พระเจ้า....พอสแทบตาบอดเพราะประกายไอดอลที่เปล่งออกมา นี่มันเจย์เอทด์ในลุคแฟนหนุ่มออฟฟิศ!! สวมเสื้อเชิ้ตพับแขนถึงข้อศอก เส้นผมถูกเสยขึ้นไปลวก ๆ
“หากปล่อยชีวิตที่ผิดหวัง ให้นั่งอยู่ตรงนั้นตลอดไป วันที่เธอเฝ้ารอคอยด้วยหัวใจ นั้นคงจะไม่มาสักที....”
หัวใจแห้งเหี่ยวของซากศพพลันเต้นแรง ความอบอุ่นแผ่ซ่านเมื่อดวงตาทั้งสองสบประสานเข้าหากัน
“อยู่ที่เธอนั้นจะกล้าเปิด เปิดตาและเปิดหูและเปิดใจ” เจตน์มองตรงเข้ามาถึงกลางใจ พูดกับเขาอย่างอ่อนโยน “มองโลกด้วยมุมมองด้านใหม่ ไม่ว่าจะร้ายหรือจะดี”
อา....ไม่ไหวแล้ว ต่อให้คนทั้งโลกไม่เห็น แต่สำหรับพอสยังไงเจย์เอดท์ก็สว่างไสวที่สุด ทันทีที่มือละออกจากสายกีตาร์ร่างบนเตียงก็โผเข้ากอดจนกระแทกเข้ากับเครื่องดนตรี
แอ่ก!! “เดี๋ยวใจเย็นสิ!” เจตน์รีบปรามก่อนจะโยนกีตาร์ไปข้าง ๆ ตัว พอไม่มีอะไรขวางกั้นก็ถูกโจมตีด้วยอ้อมกอดหนุบหนับเข้าเต็มรัก ใบหน้าหมองหม่นราหูอมเมื่อครู่พลันเปลี่ยนเป็นสดใสดั่งดอกไม้บาน ดวงตาปิดจนเป็นขีด แก้มยกสูงแทบปริแตก ส่วนปากก็ยิ้มเห็นฟันแทบทุกซี่ น่ารักเสียจนเจตน์อดจะลูบหัวไม่ได้
“อ๊า! รักเจย์เอดท์ที่สุดในโลกเลย!!”
“อ้าว แล้วเจตน์ล่ะ”
“มันก็คนเดียวกันนั่นแหละ แค่มีหลายปาง”
“นี่คนหรือพระหือ?”
“อ๊ะ! จริงสิ วันนี้มัวแต่เครียดเรื่องประชุม ลืมเรื่องสำคัญที่สุดไปเลย” พูดจบพอสก็ผละออกวิ่งไปคว้ามือถือบนโต๊ะ พอกลับเข้ามาก็ทิ้งตัวนั่งลงบนตักอีกฝ่ายหน้าตาเฉย แนบแผ่นหลังเข้ากับอกไอ้เจตน์แบบไม่ปรึกษาท่อนล่างเขาสักคำ ปลายนิ้วกดลงบนหน้าจออุปกรณ์อย่างคล่องแคล่ว “รับรองว่านายจะต้องเซอร์ไพรส์”
“หือ??”
“เท่แดน~”
ขมวดคิ้วไม่ทันคลายคำเฉลยก็มาสาดแสงใส่หน้า
“ยินดีด้วยกับพันวิวนะน้องเจตน์!” “เอ๊ะ...”
เจ้าของคลิปช็อกจนแน่นิ่ง ลำบากพอสต้องชี้ตัวเลขที่มุมขวาล่างของคลิปให้ดู เขาชะโงกหน้าเข้าไปใกล้จนลูกตาแทบทิ่มเข้าจอ
พระเจ้า ถึงพันแล้วจริง ๆ ด้วย...แม้จะเป็นแม่ไปแล้วห้าร้อย พอสอีกห้าร้อยก็ตาม แต่มันถึงพันแล้วจริง ๆ....
“ดีใจด้วยนะ!! บอกแล้วว่าเสียงนายเยี่ยมที่สุดเลย”
“หึ” เจตน์หัวเราะขึ้นจมูก ไอ้ตัวแสบเอ๊ย....เป็นวิวตัวเองเกินครึ่งแล้วมั้ง
“จะว่าไปนายไม่สนใจอัพคลิปใหม่ลงบ้างเหรอ แฟนคลับเขารออยู่นะ” คนฟังเลิกคิ้วใส่ไอ้ ‘แฟนคลับ’ ที่ว่า ดูเอาเถอะคนเรา กล้าเนียนขอกันโต้ง ๆ แบบนี้เลย
“ไม่ลงแล้ว”
“ว้า~”
“ไว้ร้องให้คนแถวนี้ฟังก็พอ” อุก! ประโยคหวานทิ่มทะลุกลางใจจนพอสกระอักเลือดน็อคเอาท์คาที่ ไร้เรี่ยวแรงจนต้องไหลตัวพิงแนบแผ่นอกด้านหลัง ซบหัวลงกับคออีกฝ่าย ตายอย่างไรให้ได้ซีนพอสรู้ดีที่สุด เขายกมือขึ้นลูบปลายคางพ่อไอดอลตกอับ
“ไม่เป็นไรเนอะ นายก็เป็นหนุ่มออฟฟิศที่ร้องเพลงเพราะที่สุดเป็นไง!!”
เศษซากความฝันอันน่าอายนั้นไม่น่ามองเลยสักนิด แต่ครั้งนี้เจตน์กลับมองหน้าจอแล้วยิ้มออกมา อาจยังไม่ได้ชอบตัวเองในตอนนั้น แต่ก็ภูมิใจที่ผ่านมันมาได้ ก็ทุกคนบนโลกไม่ได้เกิดมาเพื่อประสบความสำเร็จนี่นา....
เขาหยิบมือถืออีกฝ่ายขึ้นมาเปิดดูคลิปนั้นอีกครั้งในรอบปี อ๋า....แอบเสียงไม่ถึงด้วยนี่หว่าไอ้เจย์เอดท์ ต้องฝึกอีกสักหน่อยแล้ว ตอนนั้นเองที่ดวงตาเหลือบไปเห็นความคิดเห็นด้านล่าง
คอมเม้นหลักสิบ เป็นแม่ไปแล้วสอง เพื่อนอีกห้า ทว่ากลับมีข้อความหนึ่งที่เขาไม่เคยได้ใส่ใจอ่านซ้ำ...
PausePause 1 ปีที่ผ่านมา
ขอบคุณที่ร้องเพลงนะ ได้รับกำลังใจจากเจย์เอดท์เต็มหลอดพลังไปเลย!
ไม่เคยสังเกตเห็นเลยแฮะ.... เจตน์แค่นยิ้มกับตัวเอง อา....เขายอมชอบเจย์เอดท์ขึ้นมานิดนึงก็ได้
คนบนตักหันมาถามด้วยดวงตาเป็นประกาย “คราวหน้ารีเควสเพลงอะไรดีนะ?”
“เลือกมาสิ...”
ไม่มีรางวัลสำหรับผู้แพ้หรอก
แต่เมื่อไปไม่ถึงฝัน แค่ได้รอยยิ้มของพอสก็ถือเป็นรางวัลแล้ว
“แล้วจะร้องให้ฟังจนเบื่อไปข้างเลย”END
ในที่สุดก็มาถึงตอนจบแล้วนะคะ จัดเป็นเรื่องสั้นขนาดยาวแล้วกันเนอะคะ
ขอพูดถึงเรื่องนี้หน่อยดีกว่า ตอนนี้เรากำลังพยายามเขียนเรื่องยาวเรื่องหนึ่งที่ไม่ใช่แนวที่เคยทำ เขียนมาเป็นปีได้แค่ 6 ตอนอยู่เลยยังไม่กล้าโพสต์ลงเว็บ ทีนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองเครียดมากจนอยากหาอะไรเบาสมองเขียนสักหน่อย และก็คลอดออกมาเป็น Pause&Play ด้วยประการฉะนี้ค่ะ 55555
อยากมีพระเอกสายไอดอลบ้าง แต่ไหงออกมาเป็นสายน้องก็ไม่รู้ เขียนไปก็นว้องงงงในใจ ฮือออออออ
ในขณะที่พอสก็ซื่อตรงจนน่ากลัว ดราม่าทั้งหมดก็มาจากเจตน์ล้วน ๆ แหละค่ะ คิดเยอะไปไยไอ้หนุ่มมมม!!
หวังว่าจะเอ็นดูน้องเจตน์น้องพอสบ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะ
เป็นกำลังใจให้คนทิ้งฝันและคนไร้ฝันทุกคนค่ะ
กลับมาเจอกันอีกครั้งเรื่องหน้านะคะ น่าจะภายในปีนี้แหละค่ะ
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ติดตามกันมาตลอด ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ รักสสสสสส์
//รวบกอดปอดแหลก