STEP by STEP ทีละก้าว - {END}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: STEP by STEP ทีละก้าว - {END}  (อ่าน 83272 ครั้ง)

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
น่ารักอ่ะ สายป่านหลุดพูดหรือยังไง. งือ. รอๆๆๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
สายป่านบ้าบอมากน่ะ คือเมาแล้วรั่วหรอ
แล้วอะไรคือของกู เป็นของกูไปทุกอย่างเลย
เหมามดงี้หรอ 5555

เอ็นดูมด โดนเพื่อนรุม และก็ล่อลวงง่ายเหลือเกิน
แค่มีชื่อสายป่านเข้าไปด้วย คือเรียกมดได้

ส่ยป่านแอบชอบมดอยู่หรือเปล่า

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
ก้าวที่สี่
ของฟรีไม่มีในโลก


โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  “ตกลงตามนี้ ยินดีต้อนรับ ผู้ช่วยผู้กำกับเข้าสู่ชมรมการแสดง!!!”
                  “เวอร์ไป แต่กูคงไม่ได้เข้าไปทุกวันอย่างตอนปีหนึ่งแล้วนะ เวลาว่างปีสองนี่แทบนับชั่วโมงได้เลย”
   
                  ตอนปีหนึ่งเขาได้รับเลือกจากรุ่นพี่ให้เป็นนักแสดง
   
                  “โอเค แล้ว…” โฟร์ลากเสียงยาว จงใจเว้นไว้ในฐานที่เข้าใจ
                  “ถ้าชวนมาได้ก็ได้เจอเองล่ะ”
                  “แหม ทำเป็นพูดแบบไม่สนอะไรใดๆ ที่จริงมึงอ่ะ อยากได้เขามาแสดงด้วยใจจะขาดอยู่แล้วเถอะ แกล้งแอ๊บไม่สนใจ ที่แท้ข้างในสั่นระริก”
   
                  สั่นระริกอะไรของมึง
                   อย่างที่เขาเคยบอก มีเพื่อนรู้ทันนี่มันเป็นภัยต่อตัวเองจริงๆ
   
                  “แน่ะ ไม่ต้องมากลบเกลื่อนทำโกรธ เนี่ย ก็เชียร์เพื่อนอยู่ แต่ไม่รุกสักทีเมื่อไหร่จะได้กินวะ ของเกรดเอแบบนี้ไม่ใช่อยู่ๆจะตกมาใส่มือ มึงต้องใช้เงินซื้อมา เอ๊ย ใช้ใจเข้าแลกเว้ย ใจมึงอ่ะเต็มร้อย ติดอย่างเดียว ความกล้าติดลบ”
                  “กูพยายามอยู่”
                  “แล้วเมื่อไหร่ล่ะ”
   
                  นั่นสิ แล้วเมื่อไหร่กันนะ เป็นคำถามที่ตัวเขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้
   

   





                  “วันนี้มันเป็นอะไรหรือเปล่าวะ ดูเหม่อๆตั้งแต่พักละ”
                  “นั่นสิมึง จะว่าอกหักจากใครคนนั้นก็ไม่ใช่อีก เพราะมันก็โดนหักอกแบบนี้เป็นประจำจนชินชา”
   
                  เขาจะทำเป็นไม่ได้ยินเพื่อนมายด์กับเพื่อนฟ้าที่นินทาตัวเองในระยะเผาขนอยู่ตอนนี้แล้วกัน
                  เมื่อก่อนอาการอกหักของเขามันตลกนักหรือไง
   
                  “เมนไม่มามั้ง”
                  “พ่องงง”
   
                  เขาสวนกลับจิ๊บทันที
   
                  “เออ ออกมาจากโรคเหม่อลิซึมได้สักทีนะมึง” มายด์ว่า
                  “ไม่ได้เหม่อเว้ย แค่คิดเรื่อยเปื่อยไปตามประสาคนมีความรู้”
   
                  เขาสวนกลับเพื่อนแบบจุกๆ จนได้รับมะเหงกกลับมาสามทีจากคนสามคนที่เป็นเพื่อนสนิทแบบจุกๆเช่นเดียวกัน
   
                  “เอาจริงๆดิ๊ ตกลงมึงเหม่ออะไร พวกกูเป็นห่วงนะ” ฟ้ากอดอกพูดเค้น
                  “ไม่ๆมึง ความจริงหน้ามึงตอนเหม่อแม่งโคตรตลก คนผ่านไปผ่านมายังต้องแอบหัวเราะอ่ะ” มายด์พูดพร้อมๆกับกลั้นขำไปด้วย
                  “เออ แม่ง หน้ากูตลก”
   
   
                  เอาเถอะ ไม่รู้จะตอบว่ายังไงดีแล้ว
   
                  “ตกลงเป็นอะไร”
                  “มีเรื่องหนักใจ”
                  “เล่า!!!”
   
                  เกิดวงเม้ามอยขนาดเล็กขึ้นที่ม้าหินอ่อนหน้าคณะเศรษฐศาสตร์ ประกอบไปด้วย มด ฟ้า จิ๊บ และมายด์ พวกเราคือเดอะแก๊งสี่แสบแสนซนแห่งคณะสถาปัตย์ กิตติศัพท์เลื่องลือถึงความเผือกที่กินกันไม่ลงจริงๆ
                  ขนาดเวลาเรียน แม่งยังเจียดมาเผือกได้ แล้วไม่ต้องถามถึงสถานที่ พวกเราถือคติว่าความเผือกดำรงอยู่ทุกสถานที่
                  ถุย
                  คนขี้เผือกจงเจริญ
                  เกรดเอรัวๆ
   
                  “ท้าทายมาก” จิ๊บเงยหน้าขึ้นมาจากวงเผือกเป็นคนแรก
                  “เรื่องราวใหญ่โต” มายด์เห็นด้วย
                  “ตรงๆเลยมั้ยพวกมึง” ฟ้าเงยหน้าขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย
   
                  แล้วหลังจากนั้นก็เป็นการรุมทำร้ายเขาด้วยคำพูดที่ร้ายกาจจากทั้งกลุ่มว่า
   
                  “ขี้ป๊อด!!!”
                  “เปล่าสักหน่อย แค่กำลังรอจังหวะ”
                  “จังหวะเหี้ยไรคะ กะอีแค่ชวนสายป่านมาเล่นละครเวที เป็นกูทักเฟซถามเจ้าตัวไปแล้ว”
   
                  ถ้าเขามีความกล้าแบบมายด์ก็ดีน่ะสิ แต่เขาไม่ใช่มายด์นี่
   
                  “รอจังหวะอะไรของมึงคงไม่มีวันได้ชวนจนละครเวทีเสร็จอ่ะ”
   
                  จิ๊บร่วมซ้ำเติมด้วยอีกคน ฮืออออออออ เขาจะร้องแล้วนะ
   
                  “ไม่ต้องรงต้องรออะไรทั้งนั้น โน่น เจ้าตัวเดินลิ่วมาโน่นละ ไป มด มึงต้องกล้า”
   
                  ฟ้าดุนหลังเขาให้เผชิญหน้ากับสายป่านซึ่งอยู่ไกลเกือบร้อยเมตร และกำลังเดินตรงมาทางนี้
                  เฮ้ย
                  มันเร็วเกินไป…
                  เขายังไม่พร้อมจริงๆ
   
                  “ไม่เอ๊า กูกลัว”
                  “กลัวอะไรล่ะ เข้าไปคุยกับมันเลย ในฐานะเพื่อนก็ได้”
   
                  เวลาแบบนี้ยังจะขุดวลีเด็ดในทวิตเตอร์มาเล่นอีกนะเพื่อนกู
   
                  “ไม่อาววววว พวกมึงอย่าแกล้งกูดิ”
   
                  เขาดิ้นรนให้หลุดจากมือปลาหมึกของฟ้า ที่จับไหล่เขาให้หันหน้าเข้าหาทางที่สายป่านจะเดินตรงมา โอ๊ย ดิ้นเท่าไหร่ก็ดิ้นไม่หลุดหรอก แรงควายขนาดนี้
                  ฮือ สายป่านกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
   
                  “ถ้าปล่อยจะเลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ”
                  “ทุกคน”
                  “ไม่ หนึ่งจานสามคน กินด้วยกัน เคป๊ะ”
   
                  งกไม่เข้าเรื่องอีกแล้วเขา มือปลาหมึกของฟ้ายิ่งรัดแน่นกว่าเดิมหลายเท่า
   
                  “อย่าเอาของกินมาล่อพวกกูเลย พวกกูไม่ได้เห็นแก่กิน”
   
                  แหม กล้าพูดอย่างมั่นใจว่าไม่ได้เห็นแก่กิน นี่ถ้าเขาบอกว่าจะเลี้ยงข้าวคนละจาน พวกมันปล่อยกูไปแล้ว
                  ความงกเป็นเหตุจริงๆ
   
                  “มึง ปล่อย ไม่เล่นนนนน”
   
                  เขาดิ้นสุดแรงเกิดอีกรอบ แต่ก็ไร้ผล ตกลงใครเป็นผู้หญิงใครเป็นผู้ชายกันแน่วะ ชักไม่แน่ใจในเรี่ยวแรงที่มีแล้ว
                  ฮือ
                  กะจากสายตาอีกสิบก้าวมันกำลังจะมาถึงตัวเขาแล้ว
                  ก้าวที่หนึ่ง
   
                  “เลี้ยงข้าวคนละจานเลยเอ้า”
                  “มึงบอกช้าไป กูไม่ปล่อย”
   
                  อ้าว ซะงั้น เฮ้ยยยยยย

                  ก้าวที่สอง “มิสเตอโดนัท”
   
                  ก้าวที่สาม “ไก่ทอด”
   
                  ก้าวที่สี่ “เคเอฟซี”
   
                  ก้าวที่ห้า “น้ำปั่นกรีน”
   
                  เขาไล่รายชื่อของชอบของทั้งกลุ่มมาเท่าที่จำได้ ตอนนี้เขายอมแล้ว อะไรก็ได้ที่ทำให้พวกมันปล่อยเขาให้เป็นอิสระโดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับสายป่าน
                  แม่ง กับอีแค่ทักทายเขาจำเป็นต้องกลัวใจขนาดนี้เลยเหรอ เป็นเอามากนะคนเราเนี่ย
                  ก้าวที่เจ็ด ก้าวที่แปด ก้าวที่เก้า…
                  และอีกก้าวเดียว มันกำลังเก็บหูฟังใส่กระเป๋าแล้วจะเงยหน้าขึ้น
   
                  “สายป่านนนนนนนนนน”
   
                  ตึกตัก
                  ใจเขาเต้นแรงราวกับเฉียดความเป็นความตายมายังไงยังงั้น
                  โชคยังดีที่สวรรค์เมตตา ประทานนางฟ้าลงมาช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทัน
                  เป็นนางฟ้าจริงๆครับ
                  แก๊งนางฟ้าคณะสถาปัตย์ผู้เลื่องลือนามนั่นเอง
                  กับภาพที่เห็นตรงหน้าคือ สายป่านกำลังโดนพวกนางรุมทึ้ง ไม่เคยได้ยินคำว่าโดนรุมข่มขืนกลางแจ้งก็ดูเอาไว้ซะ โดยแบ่งเป็นสองคนประกบซ้ายขวา อีกสองคนประกบหน้าหลัง
                  โอ้โห เดือนคณะเขาหนีไม่รอด
   
                  “สายป่านง่า ส้มส้มคิดถึงสายป่านจังเลย ไม่เจอกันน้านนาน”
   
                  นางฟ้าผมสีดำม่วงที่ย้อมติดบ้างไม่ติดบ้างหรือจะเรียกว่าม่วงแซมดำก็ไม่ผิดแผกไปสักนิดกระแซะสีข้างสายป่าน แล้วพูดอ้อนเสียงเข้ม
                  เอ๊ย เสียงหวาน มันได้ ถ้าฟังให้มันหวานมันก็จะหวาน ได้! ถ้าใจเราหวานแล้ว เสียงก็หวานตาม ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น
   
                  “ไอ้เจ้าความรัก ไอ้บ้าสายป่าน ไอ้เจ้าอุ๋งๆ ทำไมหล่อขึ้นว้า”
   
                  นางฟ้าอีกคนที่มีเอกลักษณ์คือไว้ผมบ๊อบเอานิ้วจิ้มๆแผ่นอกสายป่านอย่างถือวิสาสะ
                  ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเธอคงโดนเตะปลิวไปแล้ว แต่นี่คือไอ้สายป่าน ฉายาความทะเล้น ขี้เล่น เฟรนด์ลี่ ที่ถูกพูดถึงตอนปีหนึ่งเป็นยังไง ปีสองก็ยังเป็นเหมือนเดิม
                  เช่นกัน มันให้ความเคารพเพศที่สามยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น สายป่านคงเป็นผู้ชายคนเดียวในมอที่ยอมให้พวกนางฟ้าแต๊ะอั๋งได้แบบไม่คิดมากอะไร
   
                  “งื้อ ไปเพิ่มกล้ามขึ้นอีกป่ะ ทำไมตัวใหญ่ขึ้น ไหน ถอด”
   
                  แต่สายป่านก็สายป่านเถอะ จะให้ถอดเสื้อกลางแจ้งก็พักก่อนเนอะ ร่างสูงถอยกรูดหนีเหล่านางฟ้าทันที เรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างที่แอบฟังอยู่เช่นกัน
   
                  “ไปเรียนครับ มีเรียนๆ”
   
                  การลงท้ายอย่างสุภาพเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงถึงการให้ความเคารพต่อเพศที่สามของร่างสูง
                  ถ้าเขาจะรู้สึกอิจฉาพวกนางฟ้าบ้าง…
   
                  “เย็นนี้มาจอยใต้คณะหนึ่ง เคาะมั้ย”
   
                  หนึ่งข้างหลังเป็นคำสร้อยติดปากพวกเธอประมาณว่า ถ้าตอบตกลงอาจจะตอบเป็นคำว่า หนึ่ง แทนประมาณนั้น
                  เช่นตอนนี้…
   
                  “เคาะหนึ่ง”
   
                  แปลว่าสายป่านตอบตกลง
                  ภาษาเหล่านางฟ้า ที่มีเพียงคนของคณะเขาเท่านั้นที่จะเข้าใจ
   
                  “เง้อ ไอ้บ้า ไอ้คนฉีดยาเก่ง ไอ้คนหน้าหม้อ”
   
                  ฉีดยาเก่ง แปลประมาณว่าคล้ายๆกับ เอาใจเก่ง ประจบประแจงเก่ง ประมาณนี้ครับ แต่ในด้านบวกนะ
   
                  “แล้วรักป่ะครับ”
                  “ฮื่อออออออออออออ”
   
                  เหล่านางฟ้าต่างครางฮือฮา เพราะความฟินจากคำถามของสายป่าน
                  และอีกส่วนเพราะมันทำหน้าเจ้าชู้ใส่ด้วยแหละ เหล่านางฟ้าจึงเขินตัวบิดไปตามๆกัน
                  เนี่ย เขาเลยเรียกว่า ฉีดยาเก่ง = หม้อเก่ง
   
                  “ไอ้บ้า พวกเค้าไปเรียนแล้ว น่ารักมึง ทำไมโคตรน่ารักขนาดนี้”
   
                  ประโยคแรกหันมาพูดกับสายป่าน ก่อนจะหันหลังเดินจากไปพร้อมกับคุยกันถึงความน่ารักของสายป่านไปลับสายตา
                  เหล่านางฟ้าไปแล้ว
                  เขาก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน
                  ไม่ใช่อะไรหรอก นี่มันเลยเวลาเรียนมาเกือบสิบนาทีแล้ว
                  บอกให้รู้ว่า คนที่หยุดมองไอ้สายป่านกับเหล่านางฟ้าเล่นหัวกันก็มีชะตากรรมเช่นเดียวกัน นั่นคือ เอ๋ วิ่งสิเอ๋ เอ๋วิ่ง
                  โอ๊ย ชีวิตรันทด ต้องใส่เกียร์หมาเข้าให้ทันเช็คชื่อ
                  แต่ในขณะที่เขาเตรียมโกยอ้าวแบบฝีเท้าติดเทอร์โบอยู่นั่นเอง
                  หมับ!
                  ข้อมือเล็กก็ถูกใครบางคนคว้าไว้เสียก่อน
   
                  “เดี๋ยว ไปด้วยกันสิ กูไม่รู้ตึกเรียน”
   
                  ใครบางคนที่เขาเห็นไกลๆ ตอนนี้กลับอยู่ห่างแค่ไม่กี่เซนติเมตร และกำลังจับมือเขาไว้แน่น
                  สายป่าน 291 มาประชิดถึงตัวเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
   
                  “กูไปกับเพื่อนกู”
   
                  อ้าว แล้วเพื่อนเขาล่ะ
                  หายไปไหน
                  เพื่อนทั้งสามคนของเขาอันตรธานหายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ไปพร้อมกับผู้คนที่คลาคล่ำมากมายที่เมื่อครู่เรายังเดินไปทางไหนก็ต้องสวนกันแบบกระทบไหล่เพราะทางเดินตรงนี้ค่อนข้างแคบ แต่บัดนี้ทางเดินยาวกลับร้างราผู้คน เท่ากับว่าตอนนี้เหลือเขากับมันสองคนยืนอยู่
                  และเรากำลังจะเข้าเรียนสาย
                  ชั่วแวบหนึ่งเขาคิดแผนขึ้นมาได้
                  เอาแบบนี้แล้วกัน ไหนๆก็สายแล้ว เปิดเรียนวันแรก สายนิดสายหน่อยคงไม่เป็นไร
   
                  “มึงไม่รู้ตึกเรียนเหรอ”
                  “อือ”
   
                  เขาแอบยิ้มเยาะในใจ
                  เข้าแผนเป๊ะ
                  เขาจะเริ่มเข้าเรื่องแล้วนะ
   
                  “เคยได้ยินวลีเด็ดทุกยุคทุกสมัยป่ะ” เปิดมาแบบประโยคสวยๆ
                  “อะไรวะ แม่งไปเรียนสายนะเว้ย” แต่แม่งไม่สนใจเว้ย
                  “ของฟรีไม่มีในโลก กูบอกทางไปตึกเรียน มึงช่วยกูเรื่องหนึ่ง โอเคมั้ย”
   
                  เขาพูดแล้วกอดอกยักไหล่แบบชิลๆ ทีนึงให้มันดูคูลๆ
                  แต่โคตรยากเลยนะ กว่าจะทำหน้าชิลๆ กว่าจะประคองสติตัวเอง แถมยังต้องมาควบคุมส่วนที่ยากที่สุดในร่างกายซึ่งตามทฤษฎีแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมหัวใจให้หยุดเต้นแรงได้ เพราะมันทำงานอยู่นอกเหนือจิตใจก็ตามที เอาเป็นว่า กว่าเขาจะควบคุมเสียงพูดไม่ให้สั่น บุคลิกท่าทางต่างๆเมื่ออยู่ต่อหน้ามันได้ขนาดนี้ มันโคตรเกร็งเลยล่ะ
                  แม้ภายนอกจะดูเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นทั่วๆไปพูดคุยกันก็เถอะนะ
   
                  “หึ”
   
                  มันหัวเราะหึ ก่อนจะกอดอกตามเขา
   
                  “ช่วยอะไรดีน้า”
   
                  เข้าทางเล้ยยยย “ก็ช่วย…”
                  เขากำลังจะเปิดประเด็นเรื่องละครเวทีขึ้นมา แต่มันกลับชูบางสิ่งขึ้นตรงหน้าเสียก่อน หลังจากมันล้วงไปเอาในกระเป๋ากางเกงมา
                  มันเป็นกระดาษแข็งสี่เหลี่ยม
                  และมันไม่ใช่กระดาษแข็งธรรมดา
                  เพราะมันคือ…
                  บัตรนักศึกษาของเขาเอง
   
                  “แบบนี้ก็แล้วกัน มึงบอกทางไปตึกเรียนมา กูคืนบัตรมึง แฟร์ๆ เคป๊ะ”
   
                  นี่มันคงใช้คำว่า ดีลง่ายเหมือนปลอกกล้วยไม่ได้แล้วล่ะ
                  พลาดจริงๆ เขาพลาดจนได้สินะ
                  ริจะใช้ข้อต่อรองกับผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า เขานี่ไม่เจียมตัวจริงๆ
   
                  “ว่าไงครับ คุณมด ตึกเรียนวิชาตัวเมเจอร์ไปทางไหนครับ”
   
                  โอ๊ย
                  มึงแม่งโคตรกวนตีนเลย ไอ้เหี้ยสายป่าน 291
   


   
   


                  แน่นอนว่าเขากับสายป่าน เราทั้งคู่เข้าเรียนสายไปครึ่งชั่วโมง แต่เพราะการเรียนในมหา’ลัย ไม่มีหรอกอาจารย์จะมาจ้ำจี้จ้ำไช ถามว่าทำไมถึงเข้าสาย ไปไหนกันมา บลาๆ
                  ไม่มี๊ แค่ถูกแซะว่าไปดรอปดีกว่ามั้ยตอนเดินผ่านหน้าแกไปเพื่อไปหาโต๊ะเลคเชอร์นั่งเท่านั้นเอง
                  แค่นั้นเอ๊ง
                  คาบนั้นทั้งคาบเขาเลยเหมือนไม่ได้เรียนรู้อะไรเท่าไหร่ เพราะเข้าสายจนตามเนื้อหาไม่ทันส่วนหนึ่ง และอีกส่วนคือจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เอาแต่คิดถึงเรื่องละครเวทีมหา’ลัยจนหมดคาบสอน
                  ยังไงก็แล้วแต่ เรื่องโชคดีหนึ่งอย่างท่ามกลางความวุ่นวายคือ เขาได้บัตรนักศึกษาคืนมาแล้ว
   
                  “เอาง่ายๆนะมึง แค่ทักเฟซไปถาม จบ”
                  “เห็นด้วยกับฟ้า”
                  “เห็นด้วยกับฟ้าและมายด์”
   
                  เขาควรจะเห็นด้วยกับฟ้า มายด์ และจิ๊บ ถูกมั้ย
   
                  “อ่ะ ทำ”
   
                  มายด์ยื่นไอโฟนของมันมาตรงหน้า เขาบอกปัดไป แล้วหยิบไอโฟนของตัวเองขึ้นมากดเข้าแอพเฟซบุ๊ก
                  สายป่าน 291…
                  แชทของเขากับมันยังคงว่าง ตั้งแต่วันที่เพื่อนมันแกล้งแอดเขามา
                  น่าแปลก เขานึกว่ามันจะกลับไปกดอันเฟรนด์แล้วเสียอีก แต่ตอนนี้เขากับมันก็ยังคงเป็นเพื่อนกันในเฟซอยู่
                  เขาลอบมองหน้าเพื่อนในกลุ่ม ทุกคนทำหน้าจริงจัง จนเขากดดัน
   
                  “กล้าหาญ” มายด์
                  “ความกล้าคือพลัง” จิ๊บ
                  “ความกล้าชนะทุกอย่าง” ฟ้า
   
                  นี่พวกมึงกำลังคิดบทพูดของนิยายสักเรื่องอยู่ใช่มั้ยตอบ
                  ความกล้าหาญเหรอ…
                  เป็นไงเป็นกัน กล้าๆเข้าไว้ไอ้มด
                  เขาลงมือพิมพ์ข้อความ…
   
                  ตึ๊ง
   
                  เขายังไม่ทันได้กดส่งเข้าไปในช่องแชท แต่ทว่าช่องแชทที่น่าจะมีเพียงพื้นหลังสีขาวของเขากับมัน กลับมีประโยคหนึ่งปรากฏขึ้น เมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา
                  สายป่าน 291 ส่งข้อความหาเขาในช่องแชทเฟซบุ๊ก
   
                  จะให้ช่วยอะไร
   
                  ช่องแชทขึ้นว่ามันกำลังพิมพ์อยู่ เขาเลยยังไม่กดส่งข้อความของตัวเองเข้าไป
   
                  ว่าง
                  เบื่อๆ

   
                  แปลว่ามันกำลังเปิดทางให้เขาชวนไปแสดงละครเวทีของมหา’ลัยใช่มั้ย
   
                  แต่มีข้อแลกเปลี่ยน
                  ไม่ช่วยฟรี

                  
                  ข้อแลกเปลี่ยนอะไรอีก
                  
                  มีคนเคยบอกกูว่าของฟรีไม่มีในโลก
   
                  อืม เขาเอง
               
                  ไปเชียร์กูแข่งวันนี้ นัดเปิดสนาม หกโมงที่สนามมอ   
   
                  อยากจะตอบกลับไปเหลือเกินว่าถึงมันไม่บังคับเขาก็ไปดูอยู่แล้ว ก็ตอนปีหนึ่งไม่เคยมีสักครั้งเลยที่เขาพลาดไปดูมันแข่งฟุตบอล
                  บางทีเขาอาจกำลังเสพหนังในทางที่ผิดอยู่ก็เป็นได้ เพราะเขามีความคิดว่า…
                  กีฬาฟุตบอลเป็นเหมือนหนังที่เขาดูได้อย่างไม่มีวันเบื่อ ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่อง แต่เป็นเพราะคนแสดง
                  และไม่ว่าสายป่านจะเล่นบทอะไร สำหรับเขา มันคือพระเอกตลอดกาล
                  แต่ประโยคแชทต่อมา ทำให้เขาอยากเปลี่ยนบทมันเป็นตัวร้ายทันที
   
                  เชียร์แบบสันทนาการคณะ
                  ไม่จัดเต็ม ไม่ช่วย
                  แฟร์ๆ

   
                  ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ทุกคนคือสันทนาการ และขึ้นชื่อว่าสันทนาการ
                  ตั้งแต่หัวจรดเท้า…
                  ต้องจัดเต็ม!!!
                  
                  ธีมเชียร์คือธีมสัตว์
                  จะรอดูนะจ๊ะ

                  
                  ฮือ
                  ไอ้คนร้ายกาจ
                  ไอ้เหี้ยสายป่าน






                  เย็นนี้ก่อนไปเชียร์ฟุตบอล อย่าลืมมาช่วยกันทำป้ายคณะที่ใต้ตึกสามนะครับ
                  เป็นโพสต์ของประธานรุ่น ในกลุ่มเฟซบุ๊ก สถาปัตย์ปีสอง เชิญชวนเพื่อนๆทุกคนให้มาช่วยกันทำป้ายคณะ เป็นป้ายขนาดใหญ่ที่แสดงถึงความเป็นคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ซึ่งเราจะใช้ในงานโอเพ่นเฮาส์ของคณะที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้ และเลยต่อเอาไปใช้ในงาน กีฬาสถาปัตย์ – วิศวะ สี่สวนสัมพันธ์ อันประกอบไปด้วย สถาปัตย์ วิจิตรศิลป์ สังคมศาสตร์ และนิติศาสตร์ เพื่อนบ้านเรา และอีกบลาๆ ที่ปีสองจะต้องรับผิดชอบเป็นประเพณีทุกปี
                  ถ้าถามว่าทำไมเราถึงต้องรีบทำตั้งแต่แรกๆ นั่นเพราะว่าเปิดเทอมช่วงแรกทุกคนจะยังไม่มีงานของตัวเองที่ต้องทำ อาทิเช่น การบ้านในรายวิชาเรียน งานดูแลกิจกรรมอื่นๆนอกคณะ หรือการลงพื้นที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่างๆ จึงมั่นใจได้ว่าถ้านัดช่วงนี้ น่าจะมีคนมาช่วยงานเยอะ
                  แต่เขาก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ ว่าวันนี้จะมีคนไปมากพอกับที่ประธานรุ่นต้องการ
                  เพราะหลังจากถามความเห็นของกลุ่มแล้วพบว่า…
   
                  “หืม จะนัดวันนี้ไม่บอกก่อนล่วงหน้า กูนัดน้องรหัสไปเลี้ยงสาย” ฟ้า
                  “ที่บ้านขึ้นมาหาว่ะ น่าจะต้องออกไปกินข้าวเย็นกับทางโน้น” มายด์
                  “มีพาร์ทไทม์” จิ๊บ
                  เท !!!

   





                  “มด ขอบคุณที่มานะ”
   
                  จอย เฮดฉากวิ่งเข้ามาเขย่าแขนเขา ใบหน้าเธออ่อนแรงแต่มียิ้มอ่อนๆ ราวกับเห็นแสงสว่างที่ทอลงมาเพื่อปลดเปลื้องเธอจากความมืด
                  และแบ่งเบาภาระงานของเธอไป นั่นคือ…
   
                  “ไป มึงไปเลย ไปวาดฉาก”
   
                  โยนงานให้เขาเฉย อยากจะด่าว่าเหี้ย แต่มันก็ยังไม่แรงพอ ฮ่าๆ
   เขาเดินหนีจอยมานั่งจุมปุ๊กที่มุมหนึ่ง ตรงกลุ่มที่กำลังร่างฉาก คณะนี้ดีอยู่อย่าง ตอนเดินสวนกันข้างนอก ไม่ว่าจะไปเรียน กินข้าว เที่ยว บลาๆ แทบไม่ทักกัน แต่พอมาทำงานปุ๊บ เหมือนรู้จักกันมาชาติเศษได้ ไล่ทักชื่อกันเป็นว่าเล่น บางคนนี่เติมอินำหน้าแบบไม่เกรงใจกันก็มี
                  แต่เขาก็ไม่ได้มองว่าเสียมารยาทหรือไม่สุภาพ มันเป็นการล้อกันเล่นๆ สร้างสีสันและความคุ้นเคยที่จะทำให้เราทำงานด้วยกันได้มากกว่า
                  และที่สำคัญ…
                  อย่าได้ถามว่าพอมาถึงแล้วจะให้ทำอะไร จะมีงานให้ทำมั้ย หรือจะมานั่งเฝ้าเพื่อนทำเฉยๆเสียเวลา
                  โน!
                  พอนั่งได้สักพัก งานกองเต็มตักเขาเฉยเลย
                  คนนั้นเอามาให้ที คนนี้โยนมาให้ที
                  ร้องไห้ เขาอยากร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด
   
                  “เพื่อนเพื้อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”
   
                  เสียงที่ดังขึ้นหน้าทางเข้า พร้อมกับการปรากฏตัวของขบวนการเรนเจอร์ห้าสี ทำให้ทุกคนต้องละจากงานหันไปให้ความสนใจอย่างช่วยไม่ได้
   
                  “เย็นนี้…” นางฟ้าวิกสีแดงพูดขึ้น
                  “เราจะมี…” นางฟ้าวิกสีเหลืองพูดต่อ
                   “อะไรเอ่ย” และนางฟ้าวิกสีเขียวจบประโยคด้วยคำถาม
   
                  และนั่น พวกเธอกำลังเดินแปรแถวมายืนเรียงหนึ่งทั้งห้าคนแล้ว พร้อมนางฟ้าวิกสีชมพูและสีขาวชูป้ายที่เขียนว่า…
   
                  ฟุตบอลร่วมเชียร์ เราชาวเมียสายป่าน
   
                  และติดแท็ก
                  #สันฯสถาปัตย์
   
                  “เชิญชวนเพื่อนๆพี่ๆและน้องๆ มาร่วมเชียร์ทีมฟุตบอลของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์นัดเปิดสนามเย็นนี้นะคะ มาเป็นกำลังใจทีมฟุตบอลร่วมกับสนทนาการของคณะกันเถอะค่ะ”
   
                  เมื่อนางฟ้าวิกสีชมพูดพูดจบ
                  แล้วทั้งกลุ่มก็สลายตัวแล้วแยกย้ายไปนั่งตามมุมห้อง นั่งทำป้ายคณะต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
                  ด้วยเหตุผลที่ว่า “เดี๋ยวประธานรุ่นจะสาปนะคะ”
                  ทำเอาหัวเราะกันหมด
                  นางฟ้าวิกสีเขียว(ถอดแล้ว) หย่อนก้นนั่งข้างๆเขา
   
                  “กิตติ” เขาเรียกเธอ
                  “วี๊ดดดดดดดด วินดี้ค่ะวินดี้ ไม่เอากิตตินะคะมด”
                  “อ่อ โอเค วินดี้”
                  “แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” เธอถือวิสาสะเอามือมาจับแก้มทั้งสองข้างของเขาแล้วบิดส่ายไปมา
                  “อื้อ”
   
                  เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มเจ็บวินดี้ก็หยุดทำ
   
                  “คือ เรามีเรื่องให้ช่วยหน่อย”
   
                  เขากำลังจะขอให้วินดี้ช่วยแต่งหน้าให้ อาจจะเป็น หน้าแมว หน้าหมา หรือหน้าสัตว์อะไรสักตัว ตามธีมเชียร์ของสันทนาการเย็นนี้ ที่เขาต้องลำบากขนาดนี้เป็นปีแรก
                  เพราะตัวเหี้ยอย่างไอ้สายป่าน 291
   
                  “แต่งหน้าให้ใช่มั้ย”
                  “…”
                  “เป็นอะไรกับสายป่านของเรา”
   
                  เขาทำหน้างง
   
                  “สายป่านทักเรามาให้ช่วยแต่งหน้าให้มดหน่อย”
   
                  นี่มันอยากแกล้งเขาขนาดนี้เลยเหรอ
   
                  “ไม่ใช่แบบนั้นนะ คือเรามีข้อตกลงกันน่ะ”
   
                  วินดี้หรี่ตามองเขาอย่างจับผิด แล้วจู่ๆเธอก็คว้าหมับที่ข้อมือเขาแล้วจับไว้แน่น
   
                  “ของฟรีไม่มีในโลกหรอกนะ”
   
                  ประโยคนี้อีกแล้วเหรอ เขาเอียนประโยคนี้จะแย่อยู่แล้ว
   
                  “ถ้าอยากให้ช่วยก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
   
                  ข้อแลกเปลี่ยนอะไรอีก ฮือออออออ





- T B C . -




กลับมาแล้วน้า สอบเสร็จแย้ว ต่อจากนี้ก็เจอกันทุกๆวันหยุดสุดสัปดาห์จนกว่านิยายจะจบ

อย่าเพิ่งเบื่อหน้ามิวเอสเอ็นน้า

มารอดูว่าเจ้ามดจะแต่งตัวเป็นสัตว์อะไรไปเชียร์ฟุตบอล

เจอกันอีกตอนพรุ่งนี้ค่ะ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-12-2018 20:12:31 โดย MewSN »

ออฟไลน์ PAtxxkMxxn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
 :hao7:ฃ

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :laugh: :laugh: :laugh:  ประโยคที่จะทำให้มด กลัวไปอีกานแสนนาน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ข้อแลกเปลี่ยนนี่ มันน่ากลัวมากไหม  :ling3:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แลกเปลี่ยนกันวนไปจ้าา 55555555555555

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ข้อแลกเปลี่ยน เปลี่ยนกันไปเปลี่ยนกันมา

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
5555 จะโดนแกล้งอะไรไหม
หรือจะให้ไปจีบแทน เอ็นดูมด
แพ้ทุกทางเลยนะ

แล้วสายป่านนี่ยังไง อย่าบอกนะว่าชอบมด
แต่ทำเนียนว่าไม่รู้สึกอะไร

ออฟไลน์ CHOIGYK_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai5:รอเจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ไม่เบื่อหน้าคุณมิวค่า รอทุกวันเลย มาแล้วววว จะรออ่านอีกพรุ่งนี้ เย้ๆๆๆ

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
มารอน้องมดดดดดด

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ต่างคนต่างแอบชอบกันปะเนี่ย

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
ก้าวที่ห้า
นางฟ้า สถาปัตย์



โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  นางฟ้าเบอร์หนึ่ง ใครเอ่ย ใคร ใครแต่งหญิงไม่ครอบวิกคะ
                  นางฟ้าเบอร์สอง อิกิตติ อุ๊ย ลืมไปชื่อวินดี้ 555
                  นางฟ้าเบอร์หนึ่ง ใครค้า ใครแต่งหญิงไม่สมประกอบ แต่งหญิงไม่ครบสามสิบสองคะอิดอก 555
                  นางฟ้าเบอร์สี่ มึงไง อิลิลลี่ แต่งหญิงค้าประเวณี 555
                  นางฟ้าเบอร์สาม จร่ะ แหม แล้วใครแต่งหญิงสกปรก
                  นางฟ้าเบอร์ห้า กูเอง ห้ามนกกู กูนกตัวเองแล้ว
                  นางฟ้าเบอร์สี่ อิดอก ไม่ตบมุกเว่อร์
                  นางฟ้าเบอร์หนึ่ง แหม ยังมีใครในกลุ่มเราบ้างมั้ย ที่แต่งหญิงสะอาด แต่งหญิงสวยงาม
                  นางฟ้าทุกเบอร์ มี!!!
                  นางฟ้าเบอร์หนึ่ง ใคร!!!
   
                  นางฟ้าเบอร์สอง ไม่บอก อยากรู้ก็มาเจอกับพวกเราเย็นนี้นะคะ ณ ลานกว้างสนามกีฬากลาง ขอเชิญชวนเพื่อนร่วมรุ่นมากันเยอะๆนะคะ มาร่วมเป็นกำลังใจทีมฟุตบอลสถาปัตย์ด้วยกันน้า
   
                  เป็นวิดิโอหน้างานที่เร่งรีบที่สุด ตัดต่อแบบสายฟ้าแลบที่สุด และด้วยทีมตัดต่อคุณภาพที่สุด ที่ถือคติว่า เสียงไม่ชัด ซับไม่ใส่ ฮา
   
                  แหม จะให้ไปหาเวลาว่างที่ไหนมาทำกันล่ะ ทุกวันนี้งานทำป้ายคณะก็ต้องทำ งานสันทนาการเย็นนี้ก็ต้องเตรียมการ เหล่านางฟ้าตัวน้อยทั้งห้าเลยขนแล็บท็อป ขนกล้อง และอุปกรณ์ที่จำเป็น มานั่งตัดต่อกันที่ทำงานเลยนี่ล่ะ
   
                  และก่อนเริ่มงานครึ่งชั่วโมง วิดิโอก็ถูกเผยแพร่ในเฟซบุ๊กอย่างที่เห็น พร้อมกับคำขอร้องแบบนางฟ้าว่า…
   

                  “พวกมึงงงงง ช่วยกันปั่นยอดวิวด่วนจ้า”
   

                  เป็นคำขอร้องเชิงคำสั่ง และต้องทำตามเท่านั้น
                  แล้วถ้าถามว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน ทำไมถึงได้รู้ความเป็นไปของพวกเธอทั้งห้าได้
                  หึหึ
   
                  “มันปั๊วมึง มันได้มาก มันหวาน” กิตติหรือวินดี้ นางฟ้าวิกสีเขียวพูดพร้อมปัดเส้นผมที่หล่นลงมาบังหน้าเขาออก แล้วยืนเพ่งมอง ชื่นชมกับผลงานของตัวเองด้วยความอิ่มเอมใจ
   
                  “วี๊ด มด มันมาว่ะ มง(กุฏ)ลงหัวแน่ๆเย็นนี้” อุมาพร หรือเจ๊จุก(นางฟ้าวิกสีแดง) ถึงกับออกไม้ออกมือเล่นใหญ่ประกอบการชมเขา
   
                  “งานนี้ฆ่าได้ฆ่า กองเชียร์วิศวกรรมศาสตร์ต้องตาย” ชื่อในวงการลิลลี่(นางฟ้าวิกสีชมพู) ชื่อจริงๆคือสมชาย ปรบมือชื่นชมพร้อมความมั่นใจเต็มร้อย
   
                  “ถ้ารู้ว่าจะออกมาเลิศขนาดนี้ ปีหนึ่งดิชั้นบังคับมดมาทำตั้งนานแล้ว” มามี่ นางฟ้าวิกสีขาว
   
                  “ได้ ปีนี้จับมดออกทุกงาน” ลลิตา(นางฟ้าวิกสีเหลือง) มั่นหมายไว้
   

                  ทุกคนบอกว่ามดปัง ทุกคนบอกว่ามดแต่งออกมาแล้วมันโคตรเลิศ ทุกคนบอกว่ามดดูดี ชมจากใจจริง
                  แต่ทุกคนเคยถามมดมั้ยว่า…
                  มดอยากแต่งแบบนี้หรือเปล่า!!!
   
                  เขาอยากแต่งเป็นธีมสัตว์น่ะใช่ พูดจริงๆคือ เขาโดนบังคับมาอีกทีจากสายป่าน ผู้กุมอำนาจเหนือกว่าเบื้องบนด้วยข้อตกลงระหว่างเรา
   
                  เขาอยากแต่งธีมแมวเพราะแมวเป็นสัตว์น่ารักน่ะใช่ ความจริงคือวินดี้ฟินจัดอยากแต่งให้เขามีหูแบบแมวเหมียวกลายเป็นเลยตามเลยแบบนี้
   
                  ใช่สิ แต่สิ่งที่เขาไม่ได้ร้องขอ และคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ทำ แต่เพราะคำขู่ว่าจะโดนปู้ยี่ปู้ยำจากเหล่านางฟ้าเขาเลยต้องทำ
   

                  “ฮือ ไม่ออกไปข้างนอกแล้วได้มั้ย”
   

                  เขาขอร้องด้วยเสียงจะร้องไห้
                  เหล่านางฟ้าพร้อมใจกันส่ายหน้าไปมา แล้วกลับหลังเขาให้หันไปเผชิญหน้ากับกระจก
                  ฮือ ม่ายยยยยย
                  ชาตินี้จะทำอะไรก็ได้ แต่เขาจะทำแบบนี้ไม่ได้…
                  เขาจะมาแต่งหญิงเชียร์สันทนาการไม่ได้!!!
                  ฮืออออออออออออออออออออออออออออออ
                  อยากร้องไห้ให้น้ำตาท่วมโลก
                  เขามีหูแมว
                  เขาแต่งหน้าแบบแมว
                  และเขา แต่งหญิงแมวเหมียว ฮือออออออออ
                  ไม่อาววววววววว
   

                  “ทำไมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ไม่เอาค่ะลูก อย่าเพิ่งซาบซึ้งในความสวยเดี๋ยวเครื่องสำอางบนใบหน้าหลุดลอกหมด ไปค่ะ ไปเชียร์สันทนาการก่อน” วินดี้ตบไหล่เขาเบาๆ ถามจริง นี่เธอไม่รู้เหรอว่าเขาร้องไห้เพราะอะไร ทำลายศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเขาจนป่นปี้ ฮึก
   
                  “ผู้เห็นผู้ต้องโหวตค่ะ โหวตมดค่ะโหวตมด แม่จะดันลูกไปเวทีดาวเทียมมอ”
   

                  ยังจะมีมาให้แต่งอีกเหรอ ไม่เอาแล้ว เขาไม่เอาอีกแล้วนะแบบนี้
   

                  “มดคือลูกของพวกแม่ๆ แม่ภูมิใจที่ได้มีมดเป็นลูก”
   

                  วินดี้โอบกอดเขาด้วยความรัก แต่ทำไมถึงได้ยินเสียงเธอสูดลมหายใจที่ซอกคอเขาด้วยความหื่นกระหาย พร้อมคำกระซิบที่ชวนให้ขนลุกว่า “ตัวลูกมดมดหอมมากๆ”
   

                  “จริงสิ มันยังไม่เสร็จสิ้น” ลลิตาโชว์บางสิ่งที่หยิบมาจากข้างหลังขึ้นมา
   

                  มันคือชุด แต่ไม่ใช่ชุดธรรมดา…
   

                  “อย่าลืมเปลี่ยนชุดเป็นชุดสีดำแบบนางแมวยั่วสวาทด้วยยยยยย”
   

                  ม่ายยยยยยยยย
                  ยังไงก็ไม่ เขาไม่มีทางใส่ไอ้ชุดบ้าๆนี่แน่ๆ
                  ถ้าทุกคนยังไม่เก็ท ลองเสิร์ชคำว่า ชุดนางแมวยั่วสวาท ในกูเกิ้ลรูปภาพดูเอาเองเถอะ
   

                  “อ๊ะๆ อย่างมดนี่ต้องให้พวกเราสอนวิธีเก็บของยังไงไม่ให้โผล่ด้วยหรือเปล้าจ๊ะ”
   

                  มือเขายกขึ้นกุมเป้าโดยอัตโนมัติ เพราะรู้ว่าของที่ว่าคืออะไร
   

                  “อยากเห็นมดใส่ชุดนางแมวยั่วสวาทจะแย่แล้ว”
   

                  วินดี้สั่นไปทั้งตัวด้วยความฟิน
                  เหล่านางฟ้าคณะสถาปัตย์ ช่างน่ากลัวจริงๆ



                  ❤

   

                  “ไม่ต้องตื่นเต้นนะมด ทำตัวตามสบาย หายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆหายใจออกเบาๆ”
   

                  อุมาพรลูบไหล่ที่เปลือยเปล่าของเขาเพื่อให้กำลังใจ นางฟ้าคนอื่นๆก็ทำเช่นเดียวกัน
                  ข้างนอกลานกว้างมีเสียงเซ็งแซ่ของผู้คนมากมายแทรกเข้ามา บอกให้รู้ว่าไม่กี่อึดใจคงจะถึงช่วงเวลาที่รอคอย นั่นคือ ช่วงเชียร์ของสันทนาการทั้งสองคณะ ที่มีศักดิ์ศรีค้ำคอไม่แพ้การกีฬาเช่นเดียวกัน
   

                  “เพลงสันฯปกติของคณะเองมด เต้นได้น่า”
   

                  เขาเต้นเพลงสันทนาการทั้งเซตปกติและเซตพิเศษได้หมด
                  แต่ประเด็นคือ เขาจะแต่งหญิงเต้นสันทนาการไม่ได้ แถมท่ามกลางผู้คนมากมายที่มารอเป็นสักขีพยานของการจบชีวิตลูกผู้ชายของเขาในมหา’ลัยนี้ไปตลอดการ
   

                  “ไปเปลี่ยนชุดได้มั้ย”
   

                  ขอต่อรองเป็นครั้งสุดท้าย แต่นางฟ้าทั้งหลายกลับทำเมินไม่ได้ยิน
   

                  “และช่วงเวลาแห่งศักดิ์ศรีของการแข่งขันอีกอย่างกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วครับ แอบได้ยินมาว่าธีมเชียร์ของสันทนาการปีนี้คือธีมสัตว์ ใช่มั้ยครับคุณอรุณา”
   
                  “เหรอคะคุณศุตรุษณ์ ดิฉันทนรอไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ ต่อไปขอเชิญพบกับ ทีมเชียร์สันทนาการทั้งสองคณะ ได้เลยค่า!!!”
   

                  เสียงปรบมือดังเกรียวกราวแทรกด้วยเสียงกรี๊ดทำให้หัวใจเขาเต้นแรง
                  ตื่นเต้น มันตื่นเต้น
                  มันโคตรตื่นเต้นเลยเว้ย
                  ชุดนางแมวนี่ก็รัดติ้วเหลือเกิน
   

                  “ออกมาแล้วครับ ขอเสียงปรบมือให้กับ ทีมสันทนากรของคณะวิศวะด้วยครับ!!!”
   

                  วิศวะออกไปก่อน และเรียกเสียงปรบมือดังเกรียวกราวยิ่งกว่าเก่า
                  ที่เป็นแบบนี้เพราะ…
   

                  “กรี๊ดคุณศุตรุษณ์คะ ดิฉันหัวใจจะวาย” พิธีกรสาวประเภทสองกรี๊ดลั่น
                  “เพราะอะไรครับ” พิธีกรชายชงต่อบทให้
                  “มนุษย์หมาป่ากล้ามใหญ่เหลือเกินค่ะ ฮืออออออ”
   

                  ใช่แล้ว วิศวกรรมศาสตร์มาในธีม Werewolves มนุษย์หมาป่าเปลือยท่อนบนแบบกระชากใจสาวๆ
                  ตัดมาที่เขา
                  นางแมวยั่วสวาท สถาปัตย์ยังมีดีให้โชว์อีกมั้ย ถามใจดู
   

                  “แล้วคณะคู่แข่งอีกหนึ่งจะเอาอะไรมาสู้กันคะคุณ ขอเชิญพบกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่ครองแชมป์สันทนาการอันดับหนึ่งมาตลอดทุกปีค่า!!!”
   

                  กรี๊ดดดดดดดดดด
   

                  เสียงปรบมือที่ดังเกรียวกราวไม่แพ้กัน ไม่ได้ทำให้ใจเขาฮึดสู้ขึ้นมาเลย
                  และนั่น…
                  กลุ่มนักกีฬาที่ไปพักผ่อนหลังจากแข่งครึ่งแรกผ่านไป เริ่มมาออตรงลูกกรงเพื่อดูสันทนาการสองคณะแล้ว
                  นั่น ไอ้สายป่านอยู่ตรงนั้น
                  ฮือ
                  ต้องออกไปสภาพนี้จริงๆใช่มั้ย
   

                  “ไปค่ะมด เขาเรียกเราแล้ว”
   

                  คำตอบคือ ใช่
   

                  “เนี่ย คุณศุตรุษณ์ ดิฉันเป็นเพื่อนกับเหล่านางฟ้าสถาปัตย์มานาน ปีก่อนรุ่น59 ชีควักไม้เด็ดมาประชัน แล้วปีนี้ชีจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เรา ต้องรอดูนะคะคุณ”
                  “ปีที่แล้วที่เล่นดอกไม้ไฟแล้วไฟไหม้ชุดหรือเปล่าครับ”
   

                  เกิดเสียงหัวเราะดังระงม
   

                  “อ่ะ ปีนี้มาดูว่านางจะมาสายไหน สายบ้า สายฮา หรือสายสวย”
   

                  เขาสูดลมหายใจเข้าลึกที่สุด
                  แล้วก้าวเท้าเดินออกมา
   

                  “ยังไงคะคุณ ทำไมมีชะนีมายืนถือป้ายคณะ เหล่านางฟ้าหายไปไหน เกิดอะไรขึ้นกับพวกนาง หรือถึงยุคของชะนียิ่งใหญ่แล้ว”
   

                  พิธีกรสาวประเภทสองแม่งดูโคตรอินกับบทบาทมากๆ
   

                  “อ๊ะ เหล่านางฟ้าเดินตามมาข้างหลังค่ะทุกท่าน อะไรนะคะ ขอไมค์เหรอคะ”
   

                  ไมค์ถูกส่งจากมือพิธีกรชายจากเวทีแล้วให้สต๊าฟคนหนึ่งวิ่งนำมาส่งถึงมือเหล่านางฟ้า
   

                  “สวัสดีค่า พวกเรา เหล่านางฟ้าสถาปัตย์ค่า”
   

                  ทั้งหมดพูดขึ้นพร้อมกัน หนึ่งในนั้นรวมเขาไปด้วย
   

                  “ต๊ายยยยยย คุณคะ เขาไม่ใช่ชะนีค่า เขาเป็นกะเทยยยยยยยยยย”
   

                  เปล่านะ เขาไม่ใช่กะเทยสักหน่อย ฮืออออออออ
   

                  “โคตรน่ารักไอ้เหี้ย”
                  “วี๊ด นางฟ้าสถาปัตย์สวยสมคำร่ำลือจริงๆ”
                  “เหมาะกับฉายานางฟ้าโคตรๆ”
                  “นึกว่าผู้หญิงจริงๆอ่ะ”
                  “ผู้ชายเหรอวะ เสียดายแม่ง”
                  “ถ้าอยากรู้จักเขามากขนาดนี้ เราขอฟังเสียงคุณ คุณนางฟ้าปริศนาค่ะ”
   

                  ไมค์ถูกยื่นให้เขาจากเหล่านางฟ้าทั้งห้า
                  พวกเธอพยักหน้า
                  ฮือ ต้องพูดสิ่งที่เตี๊ยมมาจริงๆอ่ะ
   

                  “สวัสดีครับ เอ๊ย ค่ะ เราชื่อมดนะ ชอบวิศวะ เมี้ยว เมี้ยว เมี้ยว เมี้ยววววววววว”
   

                  พร้อมกับทำท่าเมี๊ยวๆไปเล้ยยยยยยย
                  กรี๊ดดดดดดดดดด
                  ทั้งลานกว้างเต็มไปด้วยเสียงกรี๊ด เสียงปรบมือดังระงม
                  ตอนนี้เขาอยากหารูแล้วแทรกแผ่นดินหนีไปเสียจากตรงนี้ อายก็อาย เขินก็เขิน แต่พอเหลือบไปมองไอ้สายป่าน
                  แม่ง…
                  ชูนิ้วโป้งให้กูเฉย
                  งื้อ ทำไมดีใจเพราะเรื่องแค่นี้กันนะเรา



                  ❤

   

                  “นกกระยางเดินขาถ่างอยู่กลางทุ่งนา นกกระยางเดินขาถ่างอยู่กลางทุ่งนา มองเห็นกุ้ง หอย ปู ปลา มองเห็นกุ้ง หอย ปู ปลา แล้วก็ป้าบ ป้าบ ป้าบ แล้วก็ป้าบ ป้าบ ป้าบ”
   

                  เสียงเชียร์ของสันทนาการยังดังไม่หยุดหย่อน ในขณะที่การแข่งขันก็เป็นไปอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ผู้คนทั้งงานต่างส่งเสียงเชียร์เสียงลุ้นกันยกใหญ่ เขาที่ตอนแรกมีเกร็งๆบัดนี้ปล่อยตัวเต้นไปตามจังหวะกลองและเสียงเพลงของสันทนาการแบบเขวี้ยงความหน้าบางทิ้งไว้ที่ห้องกันเลยทีเดียว แหม มาขนาดนี้จะมัวเขินอายอยู่ใย บางคนนี่ถึงกับลุกขึ้นมายืนเต้นกับทีมสันทนาการข้างล่างก็มี บอกเลย ใครไม่มางานนี้พลาด พลาดมาก พลาดที่สุด
                  แต่เพื่อนในกลุ่มของเขาอ่ะ ไม่มาน่ะดีที่สุดแล้ว เป็นโชคดีของเขาที่พวกมันแต่ละคนติดธุระนู่นนี่นั่น เลยมาไม่ได้
                  พนันได้เลยว่าหากพวกมันมาเห็นเขาในสภาพแต่งหญิงแมวเหมียว มีหวังโดนแซวยันลูกบวชแน่ๆ
                  แต่ถึงพวกมันไม่มา ก็มีคนรอต่อแถวแซวเขาไม่หยุดหย่อนอยู่แล้ว โดยเฉพาะ…
                  เฮดสันทนาการของคณะวิศวะ พร้อมเพื่อนฝูง
   

                  “ขอเต้นด้วยได้มั้ย ในฐานะคนรู้ใจก็ได้ ฮิ้วววววววววววว”
   

                  เออ มึงเล่นเองตบมุกเองกันเข้าไป
   

                  “พี่มีเสื้อช็อป พี่มีทั้งเกียร์ แต่เมียพี่ยังไม่มีนะครับ วู้วววววววว”
   

                  อ๋อ วิศวะเขาชอบผู้หญิงมีแท่งกันเหรอ หือ พิมพ์นิยม
                  ไม่ต้องถามหาความช่วยเหลือใดๆจากเหล่านางฟ้าทั้งห้า นู่น ไปเต้นยั่วพวกมนุษย์หมาป่าวิศวะโน่น ทิ้งเขาให้ยืนเต้นคนเดียวท่ามกลางความจีบความแซวแบบเล่นๆของคณะวิศวะ
                  แหม ก็สีสันงานเถอะ จงถือคติว่า อย่าได้หาความจริงใจจากปากของพวกสันทนาการ
                  มันพูดแซวเราได้ มันก็พูดแซวคนอื่นได้เหมือนกัน
                  เช่น…
   

                  “สาวมนุษย์ ถ้าไม่อยากเข่าทรุด อย่าเซมาหาพี่”
   

                  ที่มาของคำว่า ความมั่นใจให้ห้า ความมั่นหน้าให้เต็มร้อย
                  ปี๊ดดดดดดดด
                  กรรมการเป่านกหวีด เป็นสัญญาณห้ามใช้เสียงทั้งสนาม
   

                  “จบไปแล้วนะคะ กับช่วงสันทนาการ ช่วงเล่นใหญ่ เล่นเลอะเทอะ ช่วงแต่งหญิงตลกนะคะ คุณศุตรุษณ์ ขอสามคำให้กับพวกเขาหน่อยค่ะคุณ เพื่อเป็นคำขอบคุณและการนำไปปรับใช้ หรือพัฒนาต่อไปของทีมสันทนาการค่ะ”
   

                  พิธีกรชายคุณศุตรุษณ์นี่หันมามองหน้าพี่เมรีที่สวมบทบาทเป็นคุณอรุณาด้วยวิกผมสไตล์ละครที่เธอทำในเรื่องเมีย 2018 ด้วยคติที่ว่า ใครๆก็เป็นอรุณาได้ แบบ บทนี้ไม่มีในสคริปต์
   

                  “ก็ ขอบคุณทีมสันทนาการของทั้งสองคณะนะครับ ที่มาช่วยสร้างเสียงหัวเราะ แล้วก็ความสนุกสนานให้กับพวกเราในวันนี้ คาดว่านักกีฬาทั้งสองคณะคงจะได้กำลังใจจากทีมเชียร์เต็มที่แล้วนะครับ สุดท้ายนี้ ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะ น้ำใจนักกีฬาก็ถือเป็นสิ่งสำคัญนะครับ”
   

                  ปรบมือสิรออะไร
   

                  “ค่ะ ขอบคุณ คุณศุตรุษณ์นะคะ สำหรับตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะส่งต่อเวทีนี้ให้กับทีมพากย์สนามแล้วนะคะ ดิฉัน เมรี จากคณะการสื่อสารมวลชน และคุณศุตรุษณ์จากคณะศึกษาศาสตร์ ขอลาไปก่อนค่ะ แล้วพบกันใหม่เร็วๆนี้”
   

                  พิธีกรทั้งสองเดินลงจากเวที
                  จบแล้วสินะ ช่วงสันทนาการของนัดเปิดสนามรอบแรกวันนี้
                  เขาต้องไปติดแฮชแท็กในโซเชียลมั้ยว่า…
                  #สันทนาการปีสองสองปีซ้อน
                  #ครั้งหนึ่งกูเคยแต่งหญิงสันทนาการ
   
   





                  แม้ว่าทีมเชียร์จะย้ายกันออกจากลานกว้างหน้าสนามมอแล้ว แต่การแข่งขันยังดำเนินต่อไป ตอนแรกเขาว่าจะอยู่เชียร์สายป่านให้จบ แต่ด้วยสังขารที่บอกว่าไม่ไหว เลยขอติดรถทีมสันทนาการกลับมาที่คณะ แล้วมานั่งพักหายใจพะงาบๆใต้ตึกอยู่ตอนนี้ และไม่ใช่แค่เขาคนเดียวนะที่มานั่งทำอะไรแบบนี้ สนทนาการคนอื่นๆก็มีสภาพไม่ต่างกัน
                  ไม่เว้นแม่แต่ เหล่านางฟ้าขาแดนซ์
   

                  “ปีนี้ร้อนมากมึง ไม่มีบริการน้ำใดๆ คือขอติสวัสดิการสโมฯกลางรัวๆ”
   

                  วินดี้ดูดน้ำในแก้วไปบ่นไป
   

                  “ผู้ชายวิศวะปีนี้ไม่เท่าไหร่เลยค่ะ เทียบกับบริหารแล้วคืองอกง่อยไปเลย กระจอกมาก”
   

                  คนอื่นเขาบ่นร้อน แต่ไม่ใช่กับลลิตาที่บ่นเรื่องผู้ชายตั้งแต่เดินเข้ามาหน้าตึกแล้ว
   

                  “ว่าก็ว่าเถอะ ปีนี้อะไรๆก็ไม่เป๊ะเหมือนปีก่อน ที่นั่งก็ไม่มีให้คนดู ไม่ต้องถามถึงสันทนาการนะจ๊ะ แทบจะนั่งกับดินนอนกินหญ้าละ”
   

                  อุมาพรขอเม้าท์บ้าง
   

                  “ช่างมันเถอะมึง ผ่านมาแล้ว จบแล้ว ปีหน้าถ้ายังเป็นแบบนี้ คณะเราคงต้องขอถอนตัวจากสันทนาการกลางอ่ะ ไม่เห็นหัวสันทนาการ ก็ไม่ต้องมาเรียกใช้เราค่ะ เทๆๆ”
   

                  ลิลลี่บ่นหน้าเครียด
                  พอดีกับที่กลุ่มมือกลองเดินเข้ามา
   

                  “วี๊ด พี่ปืนวันนี้ขอบคุณมากที่มาช่วยตีกลองให้นะคะ”
   พี่ปืนเดือนสถาปัตย์ปีสามที่รับหน้าที่เป็นทั้งเดือนปีสาม เป็นทั้งหัวหน้ามือกลองและรุ่นสันทนาการปีสามยิ้มรับ
   

                  แต่วินดี้ไม่ได้ทำแค่ขอบคุณอย่างเดียวน่ะสิ ไวมาก เข้าไปซบพี่เขาตอนไหนนั่น ไม่ต้องพูดถึงเหล่านางฟ้าที่เหลือนะ พี่ปืนกำลังจะโดนข่มขืนแล้ว
                  ตอนเขาอยู่ปีหนึ่ง ก่อนจะได้รุ่นสันทนาการนี่เขาโคตรกลัวพี่แกอ่ะ สันทนาการก็มีรุ่นนะเออ ว้ากกันอ้วกแตกอ่ะ ไม่ใช่คำด่านะ แต่สั่งให้เต้นใหม่วนไปรัวๆอ่ะ ท่าไหนเต้นผิดไปคนเดียว รื้อใหม่หมด จนกว่าจะเต้นถูกทุกคนอ่ะ เขานี่กว่าจะผ่านมาได้หืดขึ้นคอกันเลยทีเดียว แถมพี่แกยังเป็นเฮดว้ากสันทนาการ เห็นยิ้มๆใจดี หน้าหล่อโคตรพ่อโคตรแม่แบบนี้ พอได้ว้ากทีนี่โคตรโหด ขึ้นชื่อว่าพี่ปืน ทำอะไรมีแต่คำว่าโคตรๆนำหน้าเสมอ
   

                  “มด ไหวป่ะ”
   

                  ถามเขาแล้วหัวเราะคืออะไรวะ เป็นห่วงจริงจังปะเนี่ย
   

                  “ไหวพี่ นั่งพักอีกนิดก็หายเหนื่อยละ”
                  “ไม่ใช่ พี่หมายถึงแต่งหญิงวันนี้อ่ะ ปีหน้าเอาอีกมั้ย”
                  “ไอ้พี่เหี้ย”
   

                  เพราะเป็นพี่ปืนที่เขารู้ว่าเล่นหัวได้ และพี่มันแค่หัวเราะร่วน
   

                  “วินดี้เก็บรูปไว้แล้วนะคะมดมด”
                  “ลลิตาพร้อมอัพสตอรี่แล้ว มดมดมาปั๊ว”
   

                  เอาเลย รุมเขาเข้าไป
   

                  “เห็นพี่ปีแก่โพสต์ในกลุ่มป่ะ เย็นนี้ไปมั้ย” พี่ปืนถามพวกเรา
                  “ยังเลยพี่ โพสต์อะไรอ่ะ” เขาถามกลับ
                  “หมูจุ่มๆ โคกับพวกนักกีฬา”
                  “วี๊ด ใครจะพลาดคะ วินดี้บวกหนึ่ง” แปลว่าเธอจะไป
                  “ออกเองกูก็จะไป หิว” ลลิตา
                  “อาหารไม่สำคัญเท่าผู้ชาย เงินก็เช่นกัน แม้จะเหลือในกระเป๋าสองร้อย แต่กูก็จะถลุงเงินนี้เพื่อผู้ชาย” อุมาพร
                  “จะเจอไอ้เจ้าความรักป๊ะ” ลิลลี่
                  “ขออนุญาตเลิกคบนะคะ มีเพื่อนสกปรกคิดแต่เรื่องผู้ชายแบบนี้”
   

                  มามี่เหยียดทุกคน
                  แต่…
   

                  “แล้วไปมั้ยอิมามี่ พูด”
                  “ไป!!!”
   

                  มามี่ตอบด้วยใบหน้าหื่นกระหาย



                  ❤

   

                  เขากับแก๊งนางฟ้ามาถึงร้าน พอดีกับที่พวกนักกีฬาเองก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน
   

                   “กรี๊ด สายป่านที่รักของวินดี้”
   

                  วินดี้มือไวใจเร็ว เห็นอีกที โน่น ไปยืนข้างๆคว้าแขนล่ำๆของไอ้สายป่านมากอดเรียบร้อย
   

                  “อิวินดี้!!!” เหล่านางฟ้าร่วมกันประสานเสียงด่า
                  “สกปรก” ลลิตา
                  “ต่ำมาก” อุมาพร
                  “จอยชั้นต่ำ” ลิลลี่
                  “รออะไรกะเทย จอยผู้ค่า!!!”
   

                  สิ้นเสียงของมามี่ เหล่านางฟ้าก็กรูกันเข้าหานักกีฬา ประหนึ่งอดอยากมาแสนนาน ไม่ใช่อาหารนะ…ผู้ชาย
   

                  “กล้าเหมือนกันนี่เรา”
   

                  กว่าไอ้สายป่านจะฝ่าวงล้อมของพวกนางฟ้าทั้งห้าออกมาได้ มันก็มายืนทำหน้าทำตากวนตีนข้างๆเขาแล้ว
   

                  “ชิลๆ” เขายักไหล่ประกอบคำพูด สร้างความหมั่นไส้ให้กับใครบางคน
                  “ขอจับนมหน่อย”
   

                  มันพูดหน้านิ่ง แต่หน้าเขานี่สิแดงลามจนถึงใบหู กว่าจะทำเป็นลืมภาพลักษณ์แต่งหญิงแมวเหมียวได้มันยากนะเว้ย ภาพจำเมี๊ยวๆยังติดตาติดหูไม่รู้จะหายไปจากความทรงจำของทุกคนได้เมื่อไหร่
                  แต่เขามั่นใจว่ากว่ามันจะหายไป เขาได้ถูกแซวจนพรุนไปทั้งตัวแน่ๆ
   

                  “ลืมมันไปซะ” เขาว่า อยากจะตีแขนมันนะ แต่ไม่สนิทเดี๋ยวมันไม่ติดตลกว่ะ
                  “เมี๊ยวววววววว”
   

                  ไอ้เหี้ย มันแกล้งเขา มันกำลังกวนประสาทเขา ไอ้คนกวนตีนทำท่าเมี๊ยวๆเลียนแบบเขาเมื่อเช้า แต่ทำได้น่าเกลียดกว่าหลายเท่าตัวนัก
                  มดอะไรอวยตัวเองก็เป็นด้วย มดสถาปัตย์ไง โป้ง แฮ่ ไม่เล่นละ
                  โอเค สารภาพก็ได้ว่ามันทำแล้วน่ารัก ทำใจเขากระตุกวูบ หน้าร้อนวาบไปหมดแล้วจนต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น และพบว่าตัวเองตัดสินใจผิดมากเพราะเขาหันหน้าไปหาเหล่านางฟ้า
   

                  “โอ๋ มดมดของวินดี้ ไปเต้นแร้งเต้นกาออกแดดจ้าจนไม่สบาย หน้าแดงไปหมดแล้ว มีไข้หรือเปล่าเนี่ย”
   

                  วินดี้ทำท่าจะเข้ามาหาเขา แต่อุมาพรชิงพูดขึ้นก่อนโดยไม่คิดอะไรว่า
   

                  “บ้าป่ะมึง อาการแบบนี้เขาเรียกว่าเขิน”
   

                  อุมาพรพูดแทงใจดำเขาเข้าจังงัง
   

                  “มันจะเป็นไปได้ไงคะ มดมดจะเขินใครได้วะ” วินดี้ขมวดคิ้วมุ่น ในใจเขาเต้นแรง ภาวนาไม่ให้เธอรับรู้
                  “ตั้งแต่เข้าร้านมานี่ก็ยังไม่เห็นใครเลยนะคะ นอกจาก…”
   

                  ลิลลี่หยุดชะงัก ก่อนจะมองเขาที แล้วเลยไปมองคนข้างหลังที่กำลังหันไปคุยกับเพื่อนของมันที
   

                  “อะไรมดมด เรายังไม่ทันเอ่ยชื่อเขา ไหงตามองไปที่เขาก่อนแล้วอ่า”
   

                  เธอเน้นคำว่าเขาแบบหนักๆ
                  ลิลลี่เล่นเขาแล้ว แถมยังเรียกเหล่านางฟ้าที่กระจัดกระจายอยู่ให้ล้อมวงเข้ามากดดันอีก ฮือ ไม่นะ ความลับของเขาไม่มีวันแตก แต่ความลับไม่มีในโลก เขารู้ดีที่สุด
                  แต่มันจะแตกวันนี้ไม่ได้ เขารวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย ดึงทึ้งเหล่านางฟ้าทั้งห้าออกมาที่มุมหนึ่งของร้าน
   

                  “ฮั่น มดมดไม่บอกเราอ่ะว่าแอบชอบสาย…อุ๊บ”
   

                  เขาเอามือปิดปากลลิตา ก่อนที่เธอจะโพล่งชื่อของใครบางคนออกมาจากปาก ใครบางคนที่ตอนนี้กำลังคุยกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้อยู่หน้าร้าน
   

                  “มดมดอ่า เห็นพวกเราเป็นคนอื่นคนไกลไปได้” วินดี้ตีแขนเขาเขิน เขินตัวบิด และเขาไม่รู้ว่าเธอกำลังเขินอะไรอยู่
                  “งื้อ ทำไมกูฟินวะ ทั้งๆที่ผัวสาธารณะกำลังจะโดนมดมดแย่งไป”
   

                  ลิลลี่สมทบร่วมรุมเขาอีกคน
   

                  “แย่งอะไร เราไม่ได้…”
                  “หยุด!!! อย่ามาปฏิเสธให้ยาก เซ้นส์แม่มันแรงลูกมดมด”
   

                  เขากลายเป็นลูกของวินดี้ไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่?
   

                  “ตอบแม่มา ไปรักเขาตอนไหน”
   

                  วินดี้และเหล่านางฟ้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ แล้วยิ้มกรุ่มกริ่ม
   

                  “อะไร ใครรักใครครับ”
                  “เฮ้ยยยยยย”
   

                  วงแตกทันที เมื่อคนที่ถูกนินทาดันเดินเข้ามาหาพวกเรา
                  เหล่านางฟ้านี่ไม่เท่าไหร่ แกล้งเฉไฉ มองนั่นมองนี่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
                  แต่เขานี่สิ…
   

                  “ว่าไง ใครรักกัน”
   

                  กำลังโดนไล่ต้อนอย่างหนัก อย่ามายุ่งกับกู ฮือออออออ
   

                  “ไม่มีใครรักใครทั้งนั้นแหละ” นอกจากกูที่โคตรรักมึง ประโยคนี้คงได้แค่คิดในใจต่อไปไม่สามารถพูดออกไปได้สินะ
   

                  ทว่า…
                  คำบางคำ ประโยคบางประโยค กลับถูกถ่ายทอดออกจากปากของใครบางคน…
   

                  “แต่มึงบอกรักกูไม่ใช่เหรอ ตอนปีหนึ่ง
                  อะไรนะ!
   

                  “วี๊ด”
                  “กรี๊ด”
                  “งี๊ด”
   

                  ไม่ต้องสนใจเสียงเล็ดลอดของเหล่านางฟ้า
                  โปรดสนใจหน้าเขาที่ตกใจยิ่งกว่าเพิ่งได้รู้ว่าโลกจะถล่มวันนี้เสียอีก
                  มันพูดอะไรออกมา
   

                  “มึง…”
                  “อ่ะ ล้อเล่ง ล้อเล่ง”
   

                  ไปตายซะ
                  ไอ้เหี้ยสายป่าน





- T B C . -



แฮร่ มาช้าแต่ก็มานะ(มั้ง)
เชื่อว่าความทรงจำครั้งนี้คงฝังใจมดไปอีกนานเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2019 01:26:53 โดย MewSN »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นี่จำติดตาเลย หนูมดดดดดด  :hao3:

ออฟไลน์ tweetpuen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาแล้ววว

ออฟไลน์ CHOIGYK_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ๊ยยยยยย สายป่าน เขินแทนมดเลยอะะะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
มดยังไหวอยู่มั้ย  :o8:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
 :ling3:น

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
มดมดของพี่ :z13:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สายป่านก็ชอบมดใช่มะ ทำซึนๆไปงั้นๆ

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
ก้าวที่หก
บางคำถามก็ไม่น่าตอบ


โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  “อิมามี่ มึงยังไงคะ เข้าสิคะเข้า เพื่อนบวกกันแล้วมึงใยมัวแต่ยืนกอดป้อมอยู่เล่าคะ อิควาย”
   
                  วินดี้พูดอย่างมีน้ำโห มือก็กดจึ๊กๆบนหน้าจอไอโฟนไม่เว้นช่วง บอกให้รู้ว่าเธอกำลังปฏิบัติภารกิจพิชิตโลก อย่างการเล่นเกมส์ ROV เกมส์ดี ของคนดี…ที่ไหน ฮ่าๆ
   
                  “มึงอย่าด่ากูแรง กูรอจังหวะเข้า” มามี่แก้ต่างให้ตัวเอง
                  “รอจังหวะบ้าอะไร ยืนห่างไปไกลแปดร้อยหลา อิบ้า มึงจะเข้าทันช่วยเพื่อนมั้ยคะ” ลิลลี่ร่วมเสริมทัพด่ามามี่ยับ
   
                  และในขณะที่เกมส์กำลังเป็นไปอย่างเมามัน แบบลลิตาถึงกับใช้ให้อุมาพรป้อนเหล้าเข้าปาก เสียงอีกเสียงก็ดังข้ามโต๊ะมาจากมุมหนึ่ง
   
                  “ไงจ๊ะสาวๆ ยอมแพ้ได้แล้วมั้ง ป้อมก็ไปหมดแล้ว” โต๊ะนักกีฬานั่นเองที่เอ่ยเยาะเย้ยพวกเรา
   
                  นี่เขาพลาดอะไรไปนะ อ้อ ลืมเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้าสินะ คือพวกแก๊งนางฟ้ากับนักกีฬาเขาท้าดวล ROV กัน ฟอร์มทีมแบบลวกๆ จับใครเล่นได้ก็ใส่เข้าไป แต่หนึ่งในนั้นรวมไอ้สายป่านไปด้วย ใครแพ้ก็แค่…
                  เหล้าหนึ่งลังที่อยู่ตรงมุมขวาของร้านอ่ะ ทีมแพ้ต้องช่วยกันกินให้หมด
                  ก็เท่านั้นเอง
                  เท่านั้นเอ๊งงงงง
                  จริงๆนะ
                  คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกช้างด้วยเถิด ขอให้ทีมนางฟ้าชนะที เพราะเขาน่ะ กับเรื่องเหล้าๆแม่งโคตรคออ่อนเลยครับให้ตาย
                  จำได้ลางๆตอนเลี้ยงสายครั้งแรกพี่รหัสเอาให้กิน หลังจากตื่นขึ้นมาจากความเมา เธอก็สาบานว่าสายเราจะไม่มีการเอาเหล้าใดๆมาให้กินอีกเลย
                  โถ แค่ทำงานพังไม่เท่าไหร่เอง
                  อะไรนะ ค่าปรับเหรอ จิ๊บๆ สามพันบาทถ้วน พร้อมร่วมกันหารทั้งสาย ฮ่าๆ
   
                  “ปากเหรอคะคุณพี่ คอยดูถ้าชนะแม่จะจับบ้วบๆให้หมดทุกนายเลย”
                  วินดี้กัดฟันพูด ตาก็จ้องมองจอไอโฟนอย่างเอาเป็นเอาตาย งานนี้เธอบอกไว้ว่าเสียอะไรก็เสียได้ แต่เสียศักดิ์ศรี มันเสียยากเว้ย
                  ส่วนความเป็นไปของงานเลี้ยงเหรอ คนอื่นๆก็นั่งตามโต๊ะที่ร้านจัดไว้ให้ตามจำนวนที่พวกเราบอกไว้ แต่แค่งานกีฬานัดเปิดสนามยังปิดร้านเลี้ยงขนาดนี้ ถ้าได้เป็นแชมป์นี่ไม่บินไปฉลองต่างประเทศเลยวุ้ย อันนี้ก็เว่อร์ไปป่ะ อิอิ
                  เราชาวสถาปัตย์ ชีวิตไม่ได้รันทด นอนกลางดิน กินกลางทราย มีกระดาษวาดรูปแผ่นใหญ่เป็นที่นอนอย่างใครเขาว่ากันหรอกนะ
                  ความจริงแล้ว… เรารวย !!!
                  โอเค ขอทำตัวให้ดูแพงสักวันใครเขาคงจะไม่หมั่นไส้กันหรอกนะ
                  มดเองไง ใสๆใครก็ชอบ ไม่เล่นก็ได้วุ้ย
   
                  “วี๊ด เกมส์พลิกค่ะเกมส์พลิก มันยังไงคะ ตายยกทีม ขึ้นป้อมสิคะมึง” ลลิตารีบสวมรอยเป็นแม่ทัพ พูดปลุกกำลังพลให้ฮึกเหิม พร้อมเติมไฟบุกบ้านข้าศึก ตีโต้กลับแบบเริดๆฉบับนางฟ้าสถาปัตย์
   
                  นี่ขนาดเขาไม่ได้เล่นนะ เขายังรู้เรื่องไปด้วยเลย
                  เล่นเกมส์แบบนางฟ้าสถาปัตย์ เล่นยังไงให้คนอื่นได้เล่นไปด้วย
   
                  “เล่นอะไรกันอยู่สาวๆ”
   
                  พี่ปืนนั่นเองที่เข้ามาทักทายเพียงแต่ผิดจังหวะไปเล็กน้อย เลยได้รับแค่ความเงียบตอบกลับมา กลายเป็นเขาที่ต้องตอบแทนอย่างช่วยไม่ได้ ทำให้พี่ปืนเปลี่ยนจุดหมายมาคุยกับเขา
                  พี่แกทรุดนั่งลงข้างเขา ตาเยิ้มเหมือนกรึ่มๆได้ที่ แล้วพาดแขนมาที่โซฟาเบื้องหลังเขา
   
                  “ดูสนุกกันจังเลยครับ” ทำไมต้องพูดเสียงกระเส่าชวนขนลุกแบบนี้ด้วยวะพี่
   
                  เขาค่อยๆกระเถิบตัวไปติดกับวินดี้ที่นั่งอีกฟากฝั่งของโซฟาตามสัญชาตญาณอะไรบางอย่าง ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ปลอดภัยไว้ก่อนพ่อสอนไว้
                  แล้วพี่แกจะขยับมาอีกทำไมวะ
                  เมาแล้วป่ะนี่ลุง
   
                  “มดว่าพี่หล่อป่ะ” มาถามอะไรแบบนี้ในเวลานี้
                  “โคตรฮอตอย่างพี่ก็ต้องหล่อมากๆดิ”
      
                  ตอบเอาใจแกซะหน่อย เผื่อจะเลิกแผ่ออร่าคุกคามทางเพศแปลกๆมาให้เขา มือนี่สะกิดข้อศอกวินดี้ยิกๆว่าให้มาช่วยเขาที แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการปัดรำคาญจากเธอ เพราะกำลังติดพันกับการแข่งขันระดับโลกที่มีศักดิ์ศรีเป็นเดิมพันอยู่
                  ไม่ต้องพูดถึงนางฟ้าคนอื่นๆนะ เพราะก็ทำเหมือนๆกัน คือ… ไม่สนใจเขา
                  ฮืออออออ
                  เป็นใครใครก็กลัวอ่ะ ไม่ว่าชายจริงหญิงแท้ มาดูสายตาเยิ้มๆของพี่แกตอนนี้สิ บ่งบอกว่าสติสตังของไอ้พี่ปืนไปหมดแล้ว
   
                  “พี่ปืนดื่มเยอะไปแล้วนะ”
   
                  เขารีบท้วงเพราะพี่ปืนทำท่าจะยกแก้วเหล้าเข้าปากอีกรอบ
   
                  “เป็นเมียพี่เหรอ สั่งจังอ่ะ อ้ะ หรืออยากเป็นป่ะ”
   
                  เขาก็ว่าเขามีเจตนาดีนะ แล้วไหงมันวกเข้าเรื่องนี้ได้วะ
   
                  “มึง อิทูเลน(ฮีโร่ในเกมส์)มันคึกอะไรวะ เหมือนแม่งเก่งขึ้นเป็นสิบเท่าอ่ะ”

                  เสียงของมามี่ไม่อาจดึงความสนใจของพี่ปืนได้ ตาพี่แกยังจ้องเขาแบบแผ่ออร่าคุกคามทางเพศอย่างต่อเนื่องอยู่เลย
   
                  “ตลกละอิดอก มึงไปแจกเขาเอง เล่นดีๆซิ จะแพ้ละแดกเหล้าเป็นลัง หรือจะชนะ แล้วได้อมของอีกฝ่ายจนจุกคอหอยคะ”

                  วินดี้พูดกระเส่า มีแลบลิ้นออกมาด้วย
                  นี่สินะจุดประสงค์ที่แท้จริงของการแข่งขัน จ้า
   
                  “ถ้าทีมแพ้เพราะมึงนะ เตรียมเลยค่ะ ไปขุดหลุมฝังตัวเอง” ลลิตาพูดทับถม
                  “ฮือ กูผิดอะไร”
   
                  มามี่ร้องไห้คร่ำครวญ แต่ก็ยังฝืนเล่นต่อไป แล้วเรื่องนั้นมันสำคัญยังไง กับที่ตอนนี้เขากำลังอยู่ในสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อ กลืนไม่เข้าคายก็ไม่ออกแบบนี้
                  ใครก็ได้ช่วยเขาที คนเมานี่น่ากลัวจริงๆ
   
                  “อ้ะ อิมามี่ มึงตีมันก่อนสิ มันตีฟรีนะคะ” วินดี้
                  “ถอย! ถอยก่อนค่ะ อพยพกลับบ้านด่วน อย่าบวก” ลิลลี่สั่งให้ถอย
                  “ไม่ทันแล้ว อ่ะ กูตาย” ลลิตา
                  “วี๊ดดดด กูกำลัง กูกำลังจะ กูตาย จบบบบบบ” อุมาพร
                  “วู้วววววววว”
   
                  และจบลงที่เสียงโห่ร้องอย่างยินดีของทีมนักกีฬาในชัยชนะเกมส์นี้
   
                  “ไงจ๊ะ แม่นางฟ้าตัวน้อยๆของพวกพี่”
   
                  เหล่านักกีฬาต่างยิ้ม เป็นยิ้มเยาะเย้ยที่ส่งมาแกล้งเล่นเหล่านางฟ้าสถาปัตย์
                  แต่มีเพียงคนเดียวที่คิ้วขมวดมุ่น จ้องมาทางกลุ่มเขาด้วยใบหน้าถมึงทึง ไม่รู้ไปกินผึ้งที่ไหนมา พอมันเห็นเขาจ้องอยู่ ไอ้สายป่านก็ลุกหนีไป
                  ลุกหนี…ไปยกเหล้าหนึ่งลังมาวางกลางโต๊ะของพวกเรา
                  ไอ้เหี้ย
                  มันสบตาเขาอีกรอบ แล้วยิ้มเยาะแบบเน้นๆ ย้ำว่าเน้นๆแบบเอชดี ใกล้ระดับนี้ เอาตีนเหยียบหน้าพี่เหอะน้อง
   
                  “กินให้หมดนะจ๊ะ น้องมดมด”
   
                  มึ๊งงงงงงงงงง
                  ฟอหอกอดอเอกอาสอวอ
                  ใครจะว่าสายตามันทรงเสน่ห์อะไรก็ช่าง แต่เวลานี้สายตายียวนนั่นโคตรกวนตีนมากๆเลยครับ



                  



                  “พวกมึงไม่รู้อะไร ที่จริงกูไม่ได้อยากเป็นกะเทยสักหน่อย”
   
                  มามี่ที่หัวหมุนได้ที่(จากการดื่มเหล้าไปสามแก้วใหญ่)เริ่มเปิดประเด็นขึ้นมากลางวงเหล้าที่ตอนแรกมันเป็นโต๊ะอาหาร
   
                  “เอ๊า อินี่ ละมึงมาแต่งหญิงทำไมคะ”

                  วินดี้ที่ดื่มไปปลายแก้วก็มีอาการไม่แพ้กัน แต่ยังต่อบทสนทนากันได้อยู่นะเออ ไม่รู้คุยกันรู้เรื่องได้ยังไง
   
                  “แล้วมึงอยากเป็นอะไรคะ”
                  “อ้าว ถามกูกลับซะงั้น แต่กูอยากเป็นตุ๊ดเหมือนเดิม”
   
                  วินดี้ยิ้มกริ่ม แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นซดต่ออึกใหญ่ “อ่าส์ เหล้าที่รัก” แล้วเธอก็หันไปกอดขวดเหล้าไม่พูดจากับใครอีกเลย
                  เขาว่าตอนแรกพวกเราไม่ได้เต็มใจจะดื่มสักเท่าไหร่ แต่พอยกซดไป เทให้กันมา กลายเป็นว่าพวกเราถูกมันล่อลวงให้ดื่มหนักเข้าๆซะงั้น นี่สินะ ฤทธิ์ร้ายกาจของสุรา ทำให้คนปกติกลายเป็นคนบ้า และทำให้คนบ้า ยิ่งบ้าเข้าไปอีก
                  ยกตัวอย่างเช่น…
                  เหล่านักกีฬาชายแท้เมื่อเช้าที่นั่งเล่นเกมส์กับเหล่านางฟ้าและเป็นผู้ชนะ ซึ่งกำลังถูกเหล้าครอบงำอยู่ตอนนี้
   
                  “พี่ชาย กอดแน่นไปแล้ว อ๊าวววววว”
                  “ไอ้พวกบ้า ปล่อยเค้าน้า”
                  “อย่าดื้อกับพี่สิจ๊ะน้องๆ”
                  “มามะ มาให้พี่กอดซะดีๆ” ประโยคยอดนิยมแห่งยุคก็มา
   
                  พวกนี้ที่ตอนปกติกลัวเหล่านางฟ้าจนไม่กล้าเข้าใกล้ พอเหล้าเข้าปากเหมือนเห็นก้อนกรวดเป็นทองคำ วิ่งไล่ปล้ำนางฟ้าสถาปัตย์แบบเอาเป็นเอาตายซะงั้น ท่ามกลางการวิ่งหนีแบบนางเอกหนังอินเดียของเหล่านางฟ้า(ผู้ร่วงโรย)
   
                  “เบื่อๆโว้ย แม่อารมณ์เสีย”
   
                  วินดี้ที่กอดขวดเหล้าอยู่เริ่มโวยวาย
   
                  “น้องวินดี้ ไม่เอาอย่าโมโห มาเล่นจ้ำจี้กับพี่ดีกว่าครับ”
   
                  เขาจำชื่อนักกีฬาคนนี้ได้ พี่แกอยู่ปีสามชื่อพี่แทนพูดกับวินดี้ตาเยิ้ม ปกติพี่แกเงียบขรึม และชีวิตประจำวันคือคอยหลบให้รอดพ้นเงื้อมมือวินดี้ เพราะมักจะถูกเธอล่อลวงไปข่มขืนทางสายตาบ่อยๆ พอเมากลายเป็นว่าทั้งคู่สลับบทบาทกันแบบหน้าผากับหุบเหวสุดๆ เป็นวินดี้ที่ไม่ยี่หระ และมีพี่แทนตามตื้อ
                  เหล้าหนอเหล้า ทำคนดีๆไปหมดแล้ว
   
                  “พี่แทนเลิกยุ่งกับวินดี้ได้ป่ะ รำคาญ”

                  เราจะปล่อยให้เขาทั้งคู่ต่อบทพระนายกันไปแล้วกันนะครับ ตอนนี้เรื่องคนอื่นๆช่างหัวมันไปก่อน เอาเรื่องตัวเองให้รอด เขาจะทำยังไงกับขวดเหล้าทั้งหมดที่เหลืออยู่ ราวๆห้าหกขวดพวกนี้ เพราะดูจากสภาพแล้วไม่น่ากินกันหมดได้ แหม สี่ห้าขวดสังขารแต่ละนายก็ไปแล้ว นี่ขนาดว่ามีพวกนักกีฬาที่เป็นฝ่ายชนะมาช่วยแจมบ้างนะ
                  ตอนแรกเขาก็กะจะแอบเอาไปเททิ้ง แต่นึกไปนึกมาแม่งโคตรเสียของ นี่เหล้านะ ในหมู่นักศึกษาวัยคึกคะนอง โดยเฉพาะคณะเรายิ่งแล้วใหญ่ เคยได้ยินวลีเด็ดจากปากเด็กสถาปัตย์มั้ยล่ะว่า เหล้าเปรียบดั่งทอง
                  แต่…คงจะเป็นความโชคดีในความโชคร้ายอยู่อย่างที่ไอ้พี่ปืนแม่งหายลับเข้ากลีบเมฆไปแล้ว จะมาก็มา จะไปก็ไปเฉยเลย แต่เขาบอกตรงๆว่าโคตรโล่งใจ รู้สึกหายใจได้ทั่วท้องอีกครั้ง และสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีทางไปกินเหล้ากับพี่ปืนอีกเป็นครั้งที่สอง คนอะไร เมาแล้วออร่าคุกคามทางเพศโคตรรุนแรง
   
                  “เถิบไปดิ๊”
   
                  หึ เสียงยียวนกวนตีนและขอกันดีๆไม่เป็นแบบนี้ไม่ต้องเดาให้ยากว่ามันก็คือ…ไอ้สายป่าน 291 
                  แม่ง ถือแก้วเหล้าแล้วโคตรเท่ เอ๊ะ นี่เขาเมาสุราจนเป็นบ้าไปอีกรายแล้วเหรอ
                  พรึบ!
   
                  “สติครับ แม่งมองกูตาเยิ้มเลย พี่ไม่ให้ปล้ำนะไอ้น้อง”
   
                  มันยักคิ้วหลิ่วตา เห็นแล้วอยากพุ่งเข้าไปจูบ เอ๊ย เตะให้หายหมั่นไส้ต่างหากเล่า
                  เขาส่ายหัวไปมา ประมาณว่าไล่ความเมา(หรือความหื่น)ของตัวเองออกไป หน้าร้อนจังแฮะ สงสัยดื่มหนักไปหน่อย รู้สึกพื้นมันเอียงๆ ไหวไหมเนี่ยเรา
   
                  โป๊ก
   
                  “โอ๊ย มามี่มึงอย่าเอาขวดเหล้ามาเคาะหัวกูซิ อิเวง”
   
                  เสียงบ่นจากคนรอบข้างดังเข้ามาเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้ทำให้เขาละความสนใจไปจากมันเลย ทำไมกันนะ ใช่ ต้องเป็นเพราะเหล้าที่กินเข้าไปครึ่งขวดแน่ๆ ที่ทำให้วันนี้เขาแม่งยิ่งคิดว่าหน้าหล่อๆของมันโคตรมีเสน่ห์กว่าที่เคย เวลาที่มันค่อยๆยกแก้วเหล้าที่ใส่น้ำแข็งขึ้นจิบแบบละเลียดละไม ทำไมเขาต้องกลืนน้ำลายเพราะคิดไปไกลกับริมฝีปากแดงระเรื่อของคนที่นั่งข้างๆด้วยนะ
                  ไม่นะมด ควบคุมสติหน่อย
   
                  “เป็นอะไร แมลงเข้าตาเหรอ” มันชะโงกหน้าเข้ามาใกล้เขา ฮึ่ยยยยยยย
   
                  ความหล่อมึงน่ะสิเข้าตากู เอ๊ย สติ!!! เกือบหลุดตอบไปอย่างใจคิดแล้วสิเรา
   
                  “ห้ามแกล้งมดนะยะ ถึงจะเป็นผัวเรา เราก็ไม่ยอมให้รังแกมดน้า”
   
                  วินดี้ที่คลานมาจากไหนไม่รู้เอื้อมมือมาผลักอกสายป่านให้ถอยออกห่างจากเขา ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่น แต่ไม่ว่าอะไร แถมค่อยๆจับมือของเธอออกอย่างนิ่มนวล ความสุภาพบุรุษเนี่ยที่หนึ่ง ไม่เคยหายไปจากสัญชาตญาณ
                  ใจดีกับทุกคน แล้วมากวนตีนกับเขาคนเดียว เยี่ยม
   
                  “เล่นเกมส์กันเถอะค่ะ กูเหงาอิดอก วงเหล้ามันต้องมีเกมส์”
   
                  ประโยคเมื่อครู่ของลลิตาเหมือนจุดประเด็นร้อนขึ้นมาในกลุ่ม
   
                  “เอาเบสิคๆ แบบนอมอล ธรรมด๊าธรรมดา หมุนขวดเหล้าเล่าความจริง”
   
                  แม้หลายคนในที่นี้จะเคยเล่นเกมส์แบบนี้ แนวนี้ หรืออะไรประมาณนี้มาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เมื่อไหร่ที่มีปาร์ตี้เป็นต้องหยิบมาเล่นเสมอ แต่สิ่งที่การันตีความสนุกของมัน คือสีหน้าของทุกคนตอนนี้ที่ทำให้เขารู้ว่า แม้จะเล่นมาแล้วกี่รอบต่อกี่รอบ เกมส์ๆนี้ก็ยังคงฮิตตลอดกาล
   
                  “หัวขวดชี้ที่ใคร ถามได้หนึ่งคำถาม ยกมือก่อนได้สิทธิ์ถาม เคป่ะ”
   
                  วินดี้แจกแจงกติกา
                  ความสนุกจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้สินะ
                  เราจัดแจงที่นั่งให้เป็นระเบียบ โดยการเคลียร์ของกินเหล้ายาปลาปิ้งทั้งหลายที่เกลื่อนกลาดออก ให้บนโต๊ะมีเพียงขวดเหล้าเปล่าที่ตอนนี้นอนแอ้งแม้งรอคนหมุนเรียบร้อยแล้ว เห็นหัวขวดกำลังชี้มาทางเขาแล้วพามวนท้องปั่นป่วนแบบรู้สึกทะแม่งๆยังไงชอบกลแฮะ ไม่เอาน่า วันนี้มันคงไม่มีอะไรจะเลวร้ายกว่าไอ้พี่ปืนอีกแล้ว หรือเขาจะคิดผิดกันนะ
   
                  “จะเริ่มแล้วน้า”

                  มามี่ให้สัญญาณเป็นคำพูด ก่อนมือของเธอจะจับหมับที่ขวดเหล้าบนโต๊ะ แล้ววางท่าเต็มที่เตรียมหมุนขวด
   
                  “หัวขวดหยุดอยู่ที่ใคร ต้องทำตามกติกานะจ๊ะ นอกจากนี้ ขอให้โชคดี ขวดหมุนแล้ว!”
   
                  พรึบ!
   
                  ขวดเหล้าบนโต๊ะหมุนติ้ว ทุกคนมองตามทิศทางของหัวขวดดั่งหัวลูกศรนำทาง ไม่รู้ว่ามันจะหยุดที่ไหน แต่รู้เพียงว่าหากมันหยุดอยู่ที่ใคร
                  บอกได้ว่า…คืนนี้คนนั้นซวยแน่นอน!!!
   
                  “ขวดเหล้าใบเปล่าๆ ขวดมันยาว หัวขวดมันยาว ว้าว ว้าว ว้าว จะหยุดที่ใคร”
   
                  เป็นเนื้อร้องแบบกากๆของเด็กสถาปัตย์เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมส์นี้ให้ครึกครื้น และพาขวัญเสียไปอีกสองเท่า
   
                  “แม่ง ทำไมใจสั่นเหมือนจะหยุดที่… กู!!! ม่ายยยยยยย อิพวกเวง”
   
                  ลลิตายังไม่ทันพูดจบ และเป็นอย่างที่ลางสังหรณ์เธอบอกไว้ หัวขวดหยุดตรงที่เธอพอดี
   
                  “ใครอยากถาม ยกมือออออออออ ขึ้น!!!”
   
                  พรึ่บบบบบบบบบ
   
                  “อุมาพรยกก่อน ได้สิทธิ์ถามค่า”
   
                  ยกช้าไปนิดเดียวเอ๊ง
   
                  “อิอิ ลลิตาเพื่อนรักของกู” อุมาพรเผยรอยยิ้มร้ายกาจ
                  “หยุด กูรู้มึงจะถามอะไร” ลลิตาเบรกไว้เพื่อเซฟตัวเอง
                  “มึงรู้เหรอ ว่ากูจะถาม อุ๊บส์”

                  ก่อนที่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจะทันได้พูดอะไรต่อจากนั้น อุมาพรก็ถูกลลิตาชิงเอามือปิดปากไว้เสียก่อน
   
                  “ผิดกติกา ผิดกติกาค่ะคุณ ดิชั้นจะถามไม่ได้ถาม เอามือมันออกซิ อุ๊บ อี๊ด อ้ายยยยย เค็มมมมม”
   
                  เกิดสงครามเอามือปิดปากและงัดมือมัน(ลลิตา)ออกจากปากขนาดย่อมขึ้นตรงมุมขวาของโต๊ะ จนนางฟ้าคนอื่นๆต้องไปช่วยกันแงะมือลลิตาออก
   
                  “แฮ่กๆ ขอถามคุณลลิตาค่ะ วันที่ม่อนเดือนคณะเกษตรเมาตอนเราอยู่ปีหนึ่ง คุณได้กระทำการอนาจารกับม่อนจนเป็นผลให้ม่อนหลบหน้าคุณมาจนถึงทุกวันนี้ใช่หรือไม่”
   
                  แค่คำถามแรกทุกคนก็กลืนน้ำลายเอื๊อกแล้ว ดีนะที่ลลิตาเป็นผู้รับชะตากรรมคนที่หนึ่งน่ะ ไม่อยากคิดเลยว่าคนที่เหลือจะโดนคำถามแบบไหนในครั้งต่อไปที่หายนะของหัวขวดหมุนไปหา
                  และสำหรับตัวเอง ที่เขากลัวมีเพียงคำถามเดียวเท่านั้น
   
                  “ไม่ใช่” ลลิตายืนยันคำตอบ
                  “ให้โอกาสแก้ตัว เล่าความจริงมา”
   
                  นั่นถือเป็นกฎของเกมส์ สำหรับใครที่ตอบว่าไม่ใช่ ก็ต้องมีข้อแก้ตัว หรืออาจจะเล่าความจริงที่เป็นข้อเท็จจริงจริงๆออกมา
   
                  “วันนั้นที่งานเลี้ยงหลังประกวดดาวเดือนเสร็จที่พวกมึงบอกว่าอิเจ๊มันจะพาพวกเราที่เป็นสต๊าฟคอยช่วยงาน และเหล่าเด็กๆของมันซึ่งก็คือดาวเดือนลูกรักไปเลี้ยงใช่ป่ะ มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบพวกกะเทยแก่ที่เห็นเราเป็นทาสและเห็นผู้ชายเป็นยิ่งกว่าทอง ก็คือคนขุดทองให้มัน อิดอก ฮ่าๆ”
   
                  เอ่อ พี่แกพูดเองเส้นตื้นไปเองนะ เขาไม่เกี่ยว
   
                  “แล้วยังไงต่อวะ”



มี ต่อ นะ

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
ต่อ ตรง นี้ จ้า


                  มามี่เริ่มอยากรู้หนักเข้าไปอีก บุคคลที่สามที่พวกนางฟ้าพูดถึงน่าจะหมายถึงเจ๊นางฟ้ายุคแรกๆ ที่ตอนนี้ค่อยๆเกษียณ(หรือพูดให้ถูกคือจบออกไป)หายไปทีละคนๆแล้ว ว่ากันว่าเมื่อก่อนระบบนางฟ้าเป็นระบบแบบเคารพรุ่นน้องรุ่นพี่ ประมาณว่ารุ่นน้องต้องทำตามคำสั่งรุ่นพี่กะเทย ถ้ารุ่นไหนได้รุ่นพี่ดีก็ดีไป รุ่นไหนได้รุ่นพี่ร้ายๆเอาแต่ใจหน่อย อย่างรุ่นนางฟ้า 60 ปีนี้ ก็ซวยไปถือว่าฟาดเคราะห์ และจะนำไปปรับปรุงไม่ใช้กับรุ่นต่อๆไปอย่างแน่นอน สังเกตจากความมีเหตุผลของพวกเธอทั้งห้า ที่เอาจริงๆถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีก็ตาม
   
                  “คือ กูต้องเล่าให้หมดถูกมั้ย” ลลิตาถามย้ำกับทุกคนบนโต๊ะ แต่เป็นวินดี้ที่ยืนยันคำตอบของเธอว่า “อืม”
   
                  แล้วทุกคนก็พยักหน้ายืนยันอีกที ต้อนแรกมีแค่เหล่านางฟ้านะที่อยากรู้ ไหงกลายเป็นว่าทั้งโต๊ะแม่งตั้งใจเงียบฟังแบบถ้าให้พูดตรงๆก็คือ ช่างเสือก…ดีจริงๆ
   
                  “คืองี้ พวกมึงไม่รู้อะไร อิเจ๊แก่ๆอ่ะ มันก็เอาเหล้ามามอมผู้ชาย แล้วหนึ่งในนั้นก็ไม่พ้นอิม่อน กูสงสารไง เห็นมันดูแบบใสๆ ตี๋ๆ ล่ำๆ น่าจับกิน เอ๊ะ เผลอพูดความในใจไปสินะ”
   
                  เดี๋ยวนะ ประโยคสุดท้ายนี่ไม่ใช่แล้ว
   
                  “กูก็เลยลากไป…” ลลิตาบอก
                  “มึงก็เลยลากไปแล้วเอาม่อนไปมอมเอง” วินดี้เสริม
                  “ใช่ กูก็เลยลากไปแล้วยัดเหล้าให้อิม่อน รอมันเมา เพื่อกูจะได้จับข่มขืน ถุยยยยยย อิวินดี้อิกะเทยควาย อยากรู้มั้ยคะ”
                  “โอ่ๆ กูล้อมึงเล่นเองเพื่อนรัก”
                  “จากนั้นยังไงต่อ” อุมาพรพาทุกคนกลับเข้าเรื่อง
                  “ตอนที่กูลากน้องออกมา ม่อนมันก็เมาแล้ว ละทีนี้ มันก็ร้องไห้ฟูมฟายออกมา แบบ กูทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ชีวิตนี้กูยังไม่เคยเห็นคนหล่อร้องไห้มึงเข้าใจใช่มั้ย กูเลยจำวิธีที่ใช้ปลอบมึงมาใช้กับน้อง” ลลิตาหันไปหามามี่
   
                  พวกเธอสองคนจ้องหน้ากันอย่างมีเยื่อใย แล้วมามี่ก็พูดขึ้นว่า
   
                  “มึงหอมแก้มม่อนเหรอ”
                  
                  !!!
   
                  “ฮะ มึงปลอบกันแบบนี้เหรอ อิมามี่มึงเบี้ยนกันป่ะเนี่ย” วินดี้คือตัวแทนความในใจของทุกคน
                  “พ่อมึงตาย อิมามี่ กูบอกแล้วไงตอนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ” ลลิตาพยายามแก้ต่าง และล้างมลทินของเธอ
                  “แต่มึงกอดกูด้วยความอบอุ่น” มามี่พูดด้วยเสียงที่ฟินโคตร หยึย
                  “พอที สรุปมึงกอดน้องถูกป่ะ” เป็นอุมาพรที่พาทุกคนที่ออกทะเลไปไกล กลับเข้ามาอีกครั้ง
                  “บ้าสิ กูก็ลูบหลังมันธรรมดา แต่กูคงลูบผิดเวลา เพราะแม่ง อิเหี้ย อิม่อนมันอ้วกใส่กระโปรงชุดโปรด ที่กูเอาไว้ใช้แต่งหญิงสวยงามแบบไม่สกปรกเหมือนพวกมึงในทุกงาน พระเจ้า ถ้าไม่หล่อนะ แม่จะถอดส้นสูงขึ้นมาฟาดหน้า เมาก็เมาเถอะค่ะ”
                  “…”
                  “จากนั้น มันก็หยุดร้อง แล้วเริ่มสาธยายว่าเพิ่งเลิกกับแฟนมา เคยไปรับมันไปนั่นนี่ ไปส่งมันไปนี่นั่น กินข้าวด้วยกันชื่นอุรา บลาๆๆๆๆๆๆๆ แบบกะเทยแทบทนฟังไม่ได้ แล้วจบที่ตรงไหนรู้มั้ย”
   
                  ทุกคนเหมือนถูกริมฝีปากของลลิตาสะกด ตั้งใจฟังยิ่งกว่าการเรียนในเซคของอาจารย์สมรศรีที่โหดโคตร ตำนานที่ยังมีลมหายใจ โดยถูกจารึกชื่อเอาไว้ เมื่อพูดถึงคุณก็รู้ว่าใครเด็กสถาปัตย์รู้ดี
                  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ไคลแมกซ์มันต่อจากนี้ต่างหาก
   
                  “ม่อนมันหลุดปากบอกสาเหตุที่แฟนมันขอเลิกเว้ยแก” ลลิตาทุบโต๊ะดังปั้ง ทุกคนตกใจ
                  “ที่แฟนมันขอเลิกมันก็คือ…”
   
                  พวกเรายิ่งเบิกตากว้างขึ้น อยากรู้เต็มแก่แล้วจะลากยาวทำไม
   
                  “ไอ้ม่อนมันหลั่งเร็ว”
   
                  !!!
   
                  ช็อคซีนีม่า
                  โอ้ มายด์ ก็อด
   
                  “แป๊บนะ แล้วมันเกี่ยวกับที่ม่อนเมินมึงตรงไหน ตรงไหนคือคำตอบของคำถามกู” อุมาพรที่เป็นผู้เดียวในโต๊ะที่จริงจังกับทุกเรื่องตั้งข้อสงสัย
                  “ก็พอมันตื่นมา แล้วจำเหตุการณ์ได้ มันก็เสียเซลฟ์ไปเลยอ่ะ แหม กูก็เข้าใจนะว่าเป็นใครก็รู้สึก แต่อย่าเมินกูได้ม้ายยยยยย ขอร้อง...เพลง"
   
                  วินดี้ยื่นไมค์ให้ลลิตา
   
                  “เจ็บที่ยังรู้สึก เจ็บที่ยังเสียใจ เจ็บที่ยังรัก ยังมีแต่เธอ”
   
                  ลลิตาผู้สามารถร้องท่อนฮุกได้โดยไม่มีเสียงดนตรี
   
                  “อยากดูแลแต่เธอเรื่อยไป เจ็บที่นานสักเท่าไร จากมั่นใจว่าเคยแข็งแรง แต่สุดท้ายพบเธอถึงได้เข้าใจ ว่าฉันไม่เคยหยุดรักเธอ* ฮือออออออออออออออออออออออ ม่อนนนนนนน”
   
                  ไว้อาลัย แด่ลลิตาผู้เสียสติไปแล้ว
   
                  “เอาล่ะๆ รอบต่อไป ขวดเริ่มหมุนแล้วจ้า”
   
                  ลลิตาที่คลุ้มคลั่งไปสามวินาทีกลับมาควบคุมสติได้ภายในหนึ่งวินาที แล้วขวดก็เริ่มหมุนเมื่อเธอออกแรง
                  ณ มุมมองความคิด เขามองว่าหัวขวดที่แสนน่าเกลียดกำลังแสยะยิ้มร้าย และมันกำลังเล็งจะหยุดที่เขา
                  แต่…
                  มันหยุดที่ไอ้สายป่านเว้ย ฮู้ โล่งงงงงง
   
                  “สายป่าน มึงไม่รอดดดดดดด” พวกนักกีฬาโห่แซว
                  “จะปกปิดความลับอะไรกันน้า” วินดี้ผู้แย่งบทพูดทุกงาน
                  “วี๊ด ท็อปซีเคร็ทของหนุ่มหล่อ” มามี่กรี๊ดกร๊าด
                  “ถ้าพร้อม ยกมือ!!!”
   
                  พรึบ พรึบ พรึบ
   
                  ถ้าเขาเป็นสายป่านเขาปาดเหงื่อไปแล้ว ทำไมทั้งโต๊ะต้องอยากถามมันขนาดนี้ด้วย โอ้ ชิท โชคดีนะมึง
                  มีเพียงเขาที่ไม่ยกมือ และมันกำลังมองมาด้วยคิ้วขมวดมุ่น
                  อะ…อะไรวะ อย่าจ้องกันด้วยสายตาคมกริบแบบนั้นสิ มัน…เขินนะ
   
                  “มึงไม่อยากรู้เรื่องกูเหรอ”
                  “เปล่า ยกไม่ทันๆ”
                  มันยักไหล่ “อะแฮ่มๆ” วินดี้กระแอมไอเบาๆ “คือ วินดี้ยกก่อนนะคะ”
                  “วินดี้ถามเลยครับ”
   
                  แหม พอเป็นคนอื่นล่ะยิ้มหล่อเลยนะ
                  เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อสายตาชวนพาให้ร่างร้อนวูบวาบเบนไปทางอื่นแทน
   
                  “เนื่องจากสามีของเรามีคนอยากรู้เต็มโต๊ะขนาดนี้ ขอเปลี่ยนกติกาเป็นถามได้สามคน ใครเห็นด้วยบ้าง”
   
                  วินดี้ใช้ช่องทางโกงแบบที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ แหม ใครล่ะจะคัดค้าน ในเมื่อตนเองก็ได้ประโยชน์ เท่ากับว่ายังมีโอกาสอีกสองครั้ง ที่จะยกมือก่อน แล้วได้ถามสายป่าน คือ เขาต้องร่วมด้วยมั้ยเนี่ย
   
                  ชิ้ง
   
                  จากสายตาคมกริบ บอกว่าครั้งนี้เขาต้องยกมือเพื่อไม่ให้เหยี่ยวตัวใหญ่ข้างๆสงสัยเอา
                  ก็…เรื่องของมันเท่าที่เขาอยากรู้ ก็ไม่มีแล้วมั้ง
   
                  “นับ หนึ่ง สอง และยกมือค่า!”
   
                  พรึบ!
   
                  “ลลิตา กับ มดๆ ของเราได้สิทธิ์ถามหนึ่งคำถามนะคะ”
   
                  ไหงยกมือได้เฉยเลย งื้อ เขาไม่มีคำถามจะถามมันหรอกนะ
   
                  “คนแรกใครดี อ๊ะๆ เราเอง”
   
                  คือ ถามเพื่ออะไรวินดี้
   
                  “ขอถามคุณสายป่านค่ะว่า เร็วๆนี้ที่มีข่าวกุ๊กกิ๊กกับดาวทันตะ หลังเลิกกับดาวคณะเราไปแล้ว จริงหรือเท็จยังไงคะ”
   
                  มีเสน่ห์เหลือเกิน เขาแอบเบะปากมองบน
   
                  “ต้องตอบใช่มั้ยครับ”

                  ไงล่ะ เจอคำถามแฉเข้าไป ยิ้มแห้งเลยล่ะสิ เขาจะไม่บอกหรอกนะว่าตอนนี้โคตรรู้สึกหมั่นไส้คนข้างๆอีกหลายเท่าตัว อะไรนะ เขาไม่ได้หึงหรือน้อยใจ หรืออะไรทำนองนั้นแน่ เพราะเขาจะเอาสิทธิอะไรไปทำแบบนั้นกัน
   
                  “คบกันครับ…”
                  “นั่นไง!”
   
                  เขาพยายามคิดว่าตัวเองหูฝาด หรือได้ยินอะไรทำนองว่าไม่ แต่ฟังยังไง มันก็ไม่มีคำไหนในประโยคที่เป็นปฏิเสธเลย
   
                  “คบแล้ว เลิกไปแล้วครับ”
      
                  !!!
   
                  “ได้ยังไง ไหนข่าวบอกเพิ่งคบไม่กี่วัน” ลลิตาเถียงคอเป็นเอ็น
                  “ครับ เลิกแล้วครับ”
                  “ทำไมคะ” วินดี้ถามขึ้น แต่… “อันนี้ข้อสองแล้วนะครับ วินดี้มีสิทธิเดียว ผมเข้าใจถูกมั้ย” ร่างสูงค้านเสียก่อน
   
                  โธ่ จากตอนแรกที่ไม่อยากรู้ แต่ไหงตอนนี้มาเสียใจที่จะไม่ได้รู้เสียได้
   
                  “แต่ลลิตาถามได้ถูกมั้ยคะ”
   
                  ลลิตามองสายป่านด้วยดวงตาชั่วร้ายของปีศาจ รอยยิ้มของเธอราวกับกำลังแสยะดีใจเมื่อได้เห็นเหยื่ออย่างสายป่านที่หลุดเก๊ก
   
                  “ขอถามต่อจากวินดี้ค่ะ คุณสายป่าน คุณเลิกกับดาวทันตะเพราะอะไรคะ”
   
                  เกิดการหูผึ่งอีกรอบของทุกคน ณ ที่นี้ แหม ไม่ค่อยมีใครอยากรู้เรื่องนี้เลยจริงๆนะ จริง จริ๊งงงงงง
                  สายป่านอึกอัก ท่าทางแบบนั้นทำให้เขาอยากรู้เข้าไปอีก และคงจะเผลอแสดงออกมากไป มันเลยหันสายตามาทางเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ
                  เอ่อ แกล้งยกน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มแป๊บ
   
                  “เร็วสิคะ กฎก็คือกฎนะคะ”
   
                  แต่กฎที่ว่า แม่งโคตรไม่ยุติธรรมกับมันเล้ยยยยย
                  แล้วเขาไปเดือดร้อนแทนทำไม เพราะจริงๆแล้วเขาก็โคตรอยากรู้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
   
                  “ชอบคนใหม่แล้วครับ”
   
                  อะไรนะ มันพูดเบาไป ขนาดเขาที่นั่งข้างๆยังไม่ได้ยิน
   
                  “ดังกว่านี้ได้มั้ยคะ”
                  “ชอบคนใหม่แล้วครับ!”
   
                  และเพราะเขาอยู่ใกล้มันที่สุด ถ้าไม่นับฝั่งขวาที่เป็นพี่ปืนนะ เสียงมันกระแทกรูหูเขาเต็มๆ ดังเกิ๊น
   
                  “ใครคะ!!!” ลลิตากระตือรือร้นรีบถามออกไป แต่คงลืมไปว่า
                  “หมดสิทธิแล้วครับ”
   
                  เหลือแค่เขา ที่จะไขข้อข้องใจของทุกคนได้ และเขา…
   
                  “แล้วตอนนี้เป็นแฟนกันอยู่?”
   
                  ไม่เลือกที่จะอยากรู้ว่าเป็นใครให้มันมาทำร้ายหัวใจของตัวเอง แต่เลือกที่จะถามคำถามที่ทำลายหัวใจให้เป็นชิ้นๆไปเลยต่างหากล่ะ
                  แค่ตอบว่าใช่ เขาก็หมดหวัง ก็แค่นั้นเอง
                  แค่นั้นเองที่ว่า ก็แค่เจ็บมากๆแค่นั้นเอง
   
                  “เปล่า ยังไม่ได้เริ่มจีบ”
                  “แล้วจะจีบมั้ย” เขาถาม
                  “หมดสิทธิแล้ว”
   
                  นั่นไง นึกว่าจะหลงกลตอบ เสือกมีสติดีอีกนะ
   
                  “ต่อไปผมหมุนถูกมั้ยครับ” มันหันไปถามวินดี้ เมื่อเธอพยักหน้ามันจึงเริ่มหมุนขวด
   
                  และคราวนี้ โชคไม่ได้เข้าข้างเขาอีกต่อไป ในเมื่อหัวขวดมาสะดุดหยุดกึกตรงหน้าเขาพอดี แบบเป๊ะๆ พร้อมกับรอยยิ้มเย็นยะเยือกของคนที่นั่งข้างๆ จนพาใจเขาหวั่น
                  ไอ้สายป่าน มันต้องหาเรื่องแกล้งเขาแน่ๆเลย
   
                  “ใครจะถาม ยกมือขึ้น!!!”
   
                  พรึ่บ!!!
                  
                  แหม แม้จะไม่ได้ยกครบทุกคนแบบไอ้สายป่าน แต่เขาควรดีใจมั้ย ที่คนที่ยกมือไวที่สุดคือไอ้สายป่าน
   
                  “ห้ามเปลี่ยนกติกานะ”
   
                  ครั้งนี้เขาต้องปกป้องสิทธิของตัวเองด้วยการเบรควินดี้ไว้ก่อนที่เธอจะทันได้ตั้งกฎใหม่ขึ้นมาอีก
   
                  “บ๊าย แค่สายป่านได้ถามมดมด ก็รู้สึกสะใจเบาๆแล้ว”
   
                  วินดี้ยักไหล่ไม่ยี่หระ แล้วยิ้มร้ายส่งมาให้เขาลับๆ
   
                  “ขอถามคุณมดมด…” แม่ง มันยังกวนตีนไม่เลิกโดยเรียกชื่อเขาตามเหล่านางฟ้า
                  “คุณกำลังแอบชอบใครอยู่ครับ”
   
                  !!!
   
                  บางคำถามก็ไม่น่าตอบ และบางคำถามก็ไม่น่าถามขึ้นมาเลยจริงๆ
                  …แล้วเขา จะแก้ตัวว่ายังไงดี




T B C


มดมดของทุกท่านกลับมาแล้วจ้า
งื้ออออออออ ฝากแก้คำผิดด้วยน้า 555
 
เจอกันพรุ่งนี้จ้า.

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
หมั่นไส้สายป่านเบาๆไม่รู้ทำไม  อาจจะหล่อเกินไป 555 ตัดได้ทำร้ายใจมาก อยากรู้ตอนต่อไปแล้วว

ออฟไลน์ tweetpuen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
วี๊ดดดด

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :3123:
 :pig4:

ออฟไลน์ องศาวาย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ดว่าจะก้าวได้นานมากกกกกก ชอบใครตอบมาค่ะคุณมดมด :katai2-1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขอคำตอบด้วยจ้า  :m28:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จะตอบได้มั้ยน้าาาาาาา

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด